ข้อมูลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ 26
ปีที่ 1
สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง
ครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 10.55 - 19.15 นาฬิกา
เอกสารต้นฉบับ: บันทึกการประชุมบันทึกการออกเสียงและลงคะแนนรายงานการประชุม
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ท่านสมาชิกครับ ก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ผมจะอนุญาตให้ท่านสมาชิกได้ปรึกษาหารือตาม ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช ๒๕๖๖ โดยให้ท่านใช้เวลาท่านละ ๒ นาที ท่านแรกขอเชิญท่านภัสริน รามวงศ์ ครับ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพค่ะ ดิฉัน ภัสริน รามวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล เขตบางซื่อ เขตดุสิต เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี วันนี้ก็ขอเอาเรื่องความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้อง ชาวเขตบางซื่อ เขตดุสิตให้ได้รับการแก้ไขดังนี้ค่ะ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ เนื่องด้วยเดือนธันวาคมนี้เป็นเดือนของคนพิการสากลและในเขต บางซื่อพื้นที่ของดิฉันค่ะ มีผู้พิการ คนพิการจำนวน ๒,๒๙๕ คน แล้วก็เขตดุสิตจำนวน ๑,๓๕๗ คน ทั้งนี้ยังมีความต้องการในการใช้ล่ามภาษามือเป็นจำนวนมาก ขอให้มีการฝึก อาชีพให้อย่างจริงจัง มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลขั้นพื้นฐานแล้วก็การศึกษาอย่างเท่าเทียม แล้วก็ขอให้รัฐมีแนวทางการเพิ่มล่ามภาษามืออย่างเป็นรูปธรรมค่ะ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เป็นความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องชาวชุมชนบ้านพักริมทางรถไฟ ไม่สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ ชาวบ้านกว่า ๓๐๐ หลังคาเรือนในเขตบางซื่อ ต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่า Rate ปกติหลายเท่า จึงขอให้การไฟฟ้าอนุญาตติดตั้งไฟฟ้าของชุมชน เป็นการชั่วคราวเพื่อบรรเทาค่าน้ำค่าไฟแพงค่ะ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ผู้สูงอายุในเขตบางซื่อนี้ใช้สิทธิบัตรทองต้องไปใช้สิทธิใน โรงพยาบาลที่ค่อนข้างไกลมากนอกเขต ค่าใช้จ่ายครั้งหนึ่ง ๓๐๐-๔๐๐ บาท ผู้ไปรับ การรักษาก็ไม่สามารถเดินทางไปรถประจำทางสาธารณะได้ ฝากท่านประธานให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทำให้สามารถย้ายสิทธิกลับมาใช้สิทธิรักษาที่โรงพยาบาลในเขตบางซื่อได้ค่ะ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๔ ฝุ่นตรงการก่อสร้างหน้ารัฐสภาเรานี้เอง เป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงเป็นปัญหาอย่างมาก ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องฝุ่น ฤดูหนาวนี้ฝุ่นพิษอย่าง PM2.5 นี้ทำร้ายสุขภาพเราอย่างมาก ขอให้ท่านประธานกำชับไปยังหน่วยงานการรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยว่าเพิ่มมาตรการในการลดฝุ่นจากการก่อสร้าง แล้วก็ให้ มาตรการนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดค่ะ ไม่ให้ปัญหาฝุ่นสาหัสไปมากกว่านี้ ขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณศุภโชค ศรีสุขจร ครับ
นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายศุภโชค ศรีสุขจร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ ๑ พรรคชาติไทยพัฒนา ท่านประธานครับ วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะนำเรียนกับท่านประธาน อยู่ด้วยกัน ๑ ประเด็นครับ
นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ
เนื่องจากผมได้รับหนังสือร้องทุกข์จาก โรงเรียนวัดหนองเสือ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัด นครปฐม อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต ๑ ผมจึงได้ลงไปสำรวจและรับฟังถึงปัญหาของทางโรงเรียนครับ โรงเรียนวัดหนองเสือ เป็นโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียนอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น ๓๕๗ คน มีบุคลากรทางการศึกษากว่า ๒๕ คน ในปี ๒๕๖๓ ทางสำนักการโยธาธิการและผังเมืองได้มีการสำรวจอาคารของโรงเรียนวัดหนองเสือ ซึ่งเป็น อาคารไม้ ๒ ชั้น มีห้องเรียนอยู่ด้วยกัน ๑๒ ห้องเรียน ทางสำนักการโยธาธิการและผังเมืองได้ ให้ความเห็นว่าอาคารดังกล่าวมีสภาพที่ชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากผ่านการใช้งานมานานกว่า ๕๐ ปี ควรที่จะรื้อถอนและก่อสร้างอาคารใหม่ ทั้งนี้ทางโรงเรียนจึงมีความจำเป็นต้อง ดัดแปลงและใช้อาคารอื่นเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและคุณครูครับ โดยอาคารอื่น ๆ ที่ใช้ อย่างเช่น ห้องสมุด ห้องผู้อำนวยการ ลานจอดรถจักรยานของนักเรียน หรือแม้กระทั่งห้องกำจัดขยะ ผมเองได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม ต่อการเรียนการสอน อาจส่งผลต่อพัฒนาการในการเรียนรู้ของน้อง ๆ นักเรียน รวมไปถึง สภาพจิตใจ ทั้งนี้ทางท่านผู้อำนวยการไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านเองได้ทำหนังสือขอจัดสรร งบประมาณไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ การจัดสรรงบประมาณมา ผมจึงอยากนำเรียนท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างโรงเรียนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้แก่ ชาวจังหวัดนครปฐมครับ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอเชิญ คุณมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ครับ
นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ด้วยความเคารพนะคะ ดิฉัน นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต ๘ พรรคภูมิใจไทย ขออนุญาตนำเรียนท่านประธาน เรื่องความก้าวหน้าของการซ่อมในรอยสร้างถนนสาย ๔๑๘๙ ระหว่างตำบลเขาพระ อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงอำเภอนบพิตำ
นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
สืบเนื่องมาจากการหารือ ต่อสภาเมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ เพื่อขอซ่อมในรอยสร้างถนนเส้นนี้โดยกรมทางหลวง และแขวงทางหลวงจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ ๑ พร้อมคณะ กอ.รมน. ภาค ๔ ได้เคยร่วมกัน สำรวจมาแล้วนั้น ผ่านมาถึงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ได้มีโอกาสร่วมลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง โดยท่านวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายอำเภอพิปูน ท้องที่ ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการที่ท่านเลขาธิการสำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดินมาในครั้งนี้เพื่อร่วมการรับฟังข้อเท็จจริงจากรายงานการร้องเรียนของ พี่น้องประชาชนในพื้นที่เมื่อปี ๒๕๖๕ โดยนายสิทธิพงศ์ ทองจันทร์ เป็นตัวแทนนำรายชื่อถึง ๑๐,๐๐๐ กว่าคน เพื่อขอคืนถนนเส้นนี้ ซึ่งเป็นถนนพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้ร้องไปยังหน่วยงานต่าง ๆ จากวันนั้นมีการสรุปผลในการลงพื้นที่ในวันที่ ๒๔ วันรุ่งขึ้น ท่านวทัญญู ทิพยมณฑา ได้สรุปรายงานการประชุมดังนี้ ในความเห็นของอุทยานแห่งชาติ เขาหลวงไม่เห็นด้วยในการซ่อมแซม ในขณะที่ความเห็นของ กอ.รมน. เห็นด้วยที่จะให้มี การซ่อมแซม เพราะว่าเป็นถนนในโครงการพระราชดำริและร่องรอยของถนนยังคงสภาพอยู่ ประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นก็เป็นความต้องการอันสูงสุดของพี่น้องประชาชนค่ะ ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่บนถนนเป็นต้นไม้เนื้ออ่อนเกือบทั้งหมด เกิดจากดินสไลด์ลงมาเมื่อปี ๒๕๓๑ ด้วยความมั่นคงมีหลายมิติ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านคุณภาพชีวิตของพี่น้อง ประชาชน การเดินทางของประชาชนจากฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทย ส่วนในความเห็นของ กรมทางหลวง เห็นด้วยในการซ่อมแซม ถ้าอุทยานแห่งชาติอนุญาตให้เข้าไปดำเนินการจะมี การออกแบบก่อสร้างซ่อมแซมถนนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้สัตว์ป่าลอด อุโมงค์ได้หรือเดินสะพานข้ามได้ ขออนุญาตท่านประธานอีกนิดเดียว โดยความเหมาะสม ตามธรรมชาติและส่งเสริมการท่องเที่ยว แล้วก็อนุเคราะห์ให้หลายอำเภอได้ผ่านเส้นทางนี้ ประชาชนหลายอำเภอสร้างคุณภาพชีวิตและกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างเกลอเขา-เกลอเล ดิฉันจึงขอนำเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังกรมอุทยานแห่งชาติเขาหลวงได้กรุณาทบทวน เพื่ออนุญาตให้มีการซ่อมแซมในรอยสร้างถนนสาย ๔๑๘๙ ต่อไป กราบขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ ครับ
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรียนท่านประธาน ที่เคารพ ผม สุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒๒ กรุงเทพมหานคร ผู้แทนชาวเขตสวนหลวง เขตประเวศ เฉพาะแขวงหนองบอน พรรคก้าวไกลครับ ขอปรึกษาหารือถึงความเดือดร้อนของพี่น้องในเขตสวนหลวง เขตประเวศ แขวงหนองบอน ๓ เรื่องด้วยกันครับ ผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลแก้ไขปัญหากับพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนต่อไปครับ
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ปัญหาที่ ๑ ปัญหาทางเดินริมคลอง คสล. ที่เสื่อมสภาพหักพังไร้การเหลียวแล ชาวบ้านต้องเอาไม้เอาปูนมาซ่อมเองเพื่อให้ใช้ได้ชั่วคราว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยวางโครงการระยะยาว สร้างให้ได้มาตรฐาน ความแข็งแรง ความกว้างและราวกันตกของ คสล. เพื่อคืนคุณภาพชีวิตของพ่อแม่พี่น้องริมคลอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวมุสลิมนับ ๑,๐๐๐ หลังคาเรือน
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ปัญหาที่ ๒ ปัญหาไฟตกในหมู่บ้านจัดสรร ชุมชน สาเหตุมาจากหม้อแปลงไฟ มีขนาดเล็ก เมื่อขอเพิ่มขนาดของหม้อแปลงก็เป็นไปได้ยากลำบาก ล่าช้า มีค่าใช้จ่ายสูง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจการใช้ไฟที่มีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้นมากของพ่อแม่พี่น้อง ประชาชน อย่ารอให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ต้องเสียหายไปมากกว่านี้
นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ปัญหาที่ ๓ ปัญหาการก่อสร้างอาคารรับน้ำหนองบอนที่ไม่แล้วเสร็จ และไม่รู้ จะแล้วเสร็จเมื่อไร ไม่มีป้ายโครงการผู้รับผิดชอบใด ๆ ที่จะให้คำตอบกับพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนได้ สภาพปัจจุบันใช้พื้นผิวถนนเป็นที่กองวัสดุ กองหิน กองดิน กองทราย และเครื่องจักรขนาดใหญ่ ส่งผลให้การจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนเป็นอย่างมาก ฝากท่านประธานดูแลปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวเขตสวนหลวงและชาว เขตประเวศ แขวงหนองบอนของผมด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ครับ
นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ระนอง ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง พรรคภูมิใจไทย วันนี้กระผมขอหารือต่อท่านประธานติดตามความคืบหน้า เรื่อง ปัญหาที่ดินที่ทำกิน ในจังหวัดระนอง เช่น ปัญหาที่ดินชุมชนเมืองระนองบริเวณเช่า อบจ. ระนอง เทศบาลเมือง ระนองทั้งหมด ๕๐๐ กว่าไร่ ซึ่ง คทช. คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ โดยมี ท่านนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าเลน ซึ่งจากการประชุม คทช. ครั้งล่าสุดที่ประชุมมีมติให้ธนารักษ์เข้าไปดูแล แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และยังได้รับความคืบหน้า และยังมีที่ดินอีกประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าไร่ที่รอการแก้ไขลักษณะ เดียวกัน ซึ่งได้แปรสภาพเป็นเมืองเล็ก ๆ เป็นเมืองเศรษฐกิจของจังหวัดระนองแล้วเช่นกัน ปัญหาที่ดินในเขตป่าต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ๔ อำเภอที่ยังรอรับการแก้ไขปัญหาครับ
นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ระนอง ต้นฉบับ
ปัญหาต่อไปเรื่องน้ำ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่บ้านสองแพรก ตำบลลำเลียง และเทศบาลตําบลน้ำจืด อําเภอกระบุรี น้ำกัดเซาะตลิ่งและพังทลาย และบริเวณริมคลอง บางนอน ตำบลบางนอน และปัญหาฝายคลองบางริ้นพังทลาย ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการใช้น้ำอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะปัญหาน้ำ กัดเซาะชายฝั่งที่บ้านทะเลนอก หาดประพาส อำเภอสุขสำราญ และนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นและ ปัญหาถนนเพชรเกษมต่าง ๆ ถนนหมายเลข ๔ ที่รอการขยาย ๔ เลน ตั้งแต่เมืองระนองไป ถึงจังหวัดพังงาที่ยังไม่ได้รับการขยายเพื่อให้สอดรับกับโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่ง ทะเลภาคใต้ หรือ Thailand Riviera เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว
นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ระนอง ต้นฉบับ
อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญก็คือปัญหาการประมงที่รอการแก้ไขเช่นกัน ปัญหา เหล่านี้เมื่อรอรับการแก้ไขแล้วก็จะนำความพร้อมไปถึงพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC ซึ่งเป็นโครงการแลนด์บริดจ์โดยส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้กระผม ขอฝากท่านประธานไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน เพื่อให้ทราบถึงปัญหาของ พี่น้องชาวจังหวัดระนอง และหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ในการประชุม ครม. สัญจรครั้งต่อไป ในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๗ จัดขึ้นที่จังหวัดระนองนะครับ ถ้าปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว ก็จะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระนอง และพี่น้องชาวจังหวัด ระนองดีใจ และพร้อมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีด้วยความยินดี เป็นอย่างยิ่งครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณเฉลิมพงศ์ แสงดี ครับ
นายเฉลิมพงศ์ เเสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต ๒ พรรคก้าวไกล ผมขอนำเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาหารือต่อท่านประธาน เพื่อให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้แก้ไข ๓ เรื่อง
นายเฉลิมพงศ์ เเสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ
เรื่องแรก ปัจจุบันพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีการเจริญเติบโตของเมืองขยายตัวไป ทุกทิศทางส่งผลให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวประสบปัญหาการจราจรติดขัดอย่างรุนแรง ทั้งในเวลาปกติและในเวลาชั่วโมงเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นถนนสายหลัก ถนนเทพกระษัตรี ถนนสายกะทู้-ป่าตอง ถนนสายกมลา-ป่าตอง ถนนสายเชิงทะเล รวมไปถึงบริเวณ วงเวียนห้าแยกฉลอง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเมืองภูเก็ต มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและ ความเป็นอยู่ของประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งในด้านการจราจรที่ไม่สะดวกรวดเร็ว อุบัติเหตุ และภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ ขอให้ท่านประธานหารือไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาการคมนาคมในจังหวัดภูเก็ตเป็นวาระเร่งด่วน ฝากท่านประธานหารือไปยังกระทรวงคมนาคมครับ
นายเฉลิมพงศ์ เเสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ขอความอนุเคราะห์ท่านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในการพิจารณา ศึกษาโครงการก่อสร้างสะพานบริเวณปากคลองมุดงเชื่อมต่อตำบลวิชิตไปยังตำบลฉลอง ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเร่ง ระบายการจราจรจุดต่าง ๆ และช่วยร่นระยะทาง ๕-๖ กิโลเมตร เชื่อมต่อไปยังชุมชน ฝากท่านประธานหารือไปยังกระทรวงคมนาคมครับ
นายเฉลิมพงศ์ เเสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ
เรื่องสุดท้าย เนื่องจากประชาชนร้องเรียนมาถึงปัญหาสาหร่ายจำนวนมาก ที่ขึ้นมาเกยตื้นบริเวณหาดป่าตอง โดยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดการพัดพามาจาก การเดินเครื่องของเรือสำราญที่เข้ามาจอดลอยลำบริเวณหาดป่าตอง ดังนั้นจึงขอให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดภูเก็ตเข้าไปตรวจสอบถึงผลกระทบที่คาดว่า อาจมาจากเรือสำราญดังกล่าว เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ฝากท่านประธาน หารือไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ครับ
นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นครพนม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครพนม ด้วยพี่น้องชาวจังหวัดนครพนมร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อนในความรับผิดชอบของ กระทรวงมหาดไทย ถนนในหมู่บ้านเป็นหลุมเป็นบ่อและขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร มาหลายปี จึงขอขุดลอกห้วยมันปลาและขุดลอกห้วยกอกที่ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า ขอขุดลอกห้วยผักมะแลน หมู่ ๖ บ้านกุดน้ำใส ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า ขอถนนคอนกรีต เสริมเหล็กและไฟฟ้าส่องสว่างจากบ้านโนนห้วยแคน หมู่ที่ ๑๔ ตำบลนาหว้าถึงบ้านกุดน้ำใส หมู่ที่ ๖ ตำบลนางัว อำเภอนาหว้า ขอถนนคอนกรีตเสริมเหล็กและไฟฟ้าส่องสว่าง จากบ้านนาดี หมู่ที่ ๕ ไปบ้านแสนสำราญ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลหนองซน อำเภอนาทม ๓ กิโลเมตร ขอถนนคอนกรีตเสริมเหล็กและไฟฟ้าส่องสว่างจากในหมู่บ้านหนองผือ หมู่ที่ ๑๑ ตำบลบ้านเอื้อง อำเภอศรีสงครามไปวัดป่าโนนสาวเอ้ ในระยะทางเพียง ๘๐๐ เมตร เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเดินทางลำบากมาก และพี่น้องชาวบ้านคำพอก หมู่ที่ ๑๐ ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง ขอขุดลอกหนองหอย เนื้อที่ ๒ ไร่ ขอขุดลอก หนองหัวช้าง เนื้อที่ ๔ ไร่ ขอไฟฟ้าส่องสว่างและซ่อมแซมถนนเส้นทางบ้านนาข่า ไปบ้านคำพอกระยะทาง ๑,๕๐๐ เมตร เนื่องจากถนนชำรุดเสียหายมาก และขอไฟฟ้า ส่องสว่างตามทางแยกถนนในหมู่บ้านบ้านคำพอก ตำบลหนองแวง อำเภอบ้านแพง กระผม ในนามชาวจังหวัดนครพนมขอขอบพระคุณ ท่านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรม ท่านดอกเตอร์มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ และทุกหน่วยงานได้บูรณาการ ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมปราบยาบ้า ยาเสพติดอย่างเข้มแข็งจริงจัง ขอกราบขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณเซีย จำปาทอง ครับ
นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนประธานสภาที่เคารพ ผม เซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้ แรงงาน ขอสไลด์ด้วยครับ
นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ผมมีเรื่องจะปรึกษาท่านประธานอยู่ ๒ เรื่องนะครับ
นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ก็คือเรื่องปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อ เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ ทะเบียนเลขที่ สบ. ๑๑ ยื่นคำเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างต่อบริษัท ไทยอคริลิค ไฟเบอร์ จำกัด เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ทั้งสองฝ่ายเจรจากันทั้งหมด ๑๔ ครั้ง แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ สหภาพแรงงานได้แจ้งข้อพิพาทแรงงาน พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานได้ไกล่เกลี่ย ข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งไม่สามารถตกลงกันได้ แล้วก็สหภาพแรงงานได้แจ้งนัดหยุดงาน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ธันวาคม หลังจากพนักงานประนอมไกล่เกลี่ยแล้ว สหภาพแรงงานแจ้งนัดหยุดงาน พนักงานประนอม ข้อพิพาทแรงงานได้ลงไปไกล่เกลี่ย เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ วันนี้จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ตกลงกันไม่ได้อีกครั้ง ก่อนหน้านี้สถานประกอบการ แห่งนี้เป็นสถานประกอบการที่มีแรงงานสัมพันธ์ดีเด่น ต่อมาทราบว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลง ผู้บริหารเกิดความไม่เข้าใจกันหลายเรื่องนำไปสู่ข้อขัดแย้ง ผมจึงขอเรียนท่านประธานไปยัง กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง ที่เดือดร้อนจากข้อขัดแย้งและสร้างความเข้าใจกันอย่างเร่งด่วน เพื่อมิให้เกิดปัญหากับ ลูกจ้างและนายจ้าง และส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการพัฒนาประเทศในอนาคต
นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เรื่องการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ปัจจุบันสำนักงาน ประกันสังคมมีผู้ประกันตนทั้งหมด ๒๔ ล้านกว่าคน เป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเงินกองทุนที่มั่นคงแล้วก็มั่งคั่งถึง ๒.๔ ล้านล้านบาท เป็นเงินที่สะสมจากลูกจ้าง นายจ้าง แล้วก็รัฐบาล ที่ผ่านมารัฐบาลก็มีการค้างจ่ายเงินเข้ากองทุนนี้อยู่หลายหมื่นล้านบาท วันที่ ๒๔ ธันวาคมนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการก่อตั้งกองทุนประกันสังคม ซึ่งจะมี การจัดให้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ผู้ประกันตนจะได้ใช้สิทธิ ๑ สิทธิ ๑ เสียง เลือกตัวแทน ของลูกจ้างเข้าไปดูแลและเรียกร้องสิทธิที่คนงานทุกคนพึงได้รับ เป็นครั้งแรกในรอบ ๙ ปี ที่จะมีการจัดให้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ผมจึงขอเชิญชวนผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนแล้ว อย่าลืมไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกคนที่ท่านมั่นใจว่าจะเป็นปากเสียงให้ท่านได้ แล้วก็เข้าใจ แล้วก็ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนให้ดีขึ้นได้ ผมจึงขอเรียนท่านประธานไปยัง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานสั่งการไปยังสำนักงาน ประกันสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนแล้ว ออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด และช่วยกำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ ยุติธรรมตรวจสอบได้ เพื่อให้บอร์ดประกันสังคมเป็นตัวแทนของผู้ประกันตนและของ นายจ้างที่มาทำหน้าที่บริหารกองทุนประกันสังคมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้ง กองทุนประกันสังคมต่อไป ขอบคุณครับท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ครับ
นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ผมได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องชาวจังหวัดมหาสารคามมีเรื่องหารือ ดังนี้
นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ผมได้รับการประสานงาน จากผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าสองคอน นายมงคลศิลป์ ป้องจันทร์ และคณะ ซึ่งมา ร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องว่าโรงเรียนท่าสองคอนนี้เป็นโรงเรียนขยายโอกาส ปกติโรงเรียนอยู่ชิด กับเขตเมืองมหาสารคาม ปกติโรงเรียนที่ชิดเขตเมืองนี้นักเรียนน้อยลงเพราะจะเข้ามาเรียน ในเมือง แต่ปรากฏว่าโรงเรียนบ้านท่าสองคอน ได้มีการพัฒนาจนนักเรียนเพิ่มขึ้น จาก ๑๐๐ กว่าคน เป็น ๒๐๐ กว่าคน แต่ปัญหาเกิดขึ้น คืออาคารเรียนชำรุดทรุดโทรมตามที่ เห็นในภาพนะครับ ซึ่งโรงเรียนบ้านท่าสองคอน จัดการศึกษาตั้งแต่อนุบาล ๒ ถึงมัธยมศึกษา ปีที่ ๓ อาคารเรียนไม่ได้รับการแก้ไข จึงขอให้ สพฐ. ซึ่งมีท่านทนุ วงษ์จินดา และรัฐมนตรี เพิ่มพูน ชิดชอบ ได้แก้ไขโดยการให้งบประมาณในการสร้างอาคารโรงเรียนใหม่ รวมทั้ง โรงอาหารโรงเรียนด้วย
นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ผมได้รับการร้องเรียนจาก นายนพวิศก์ วิระกิจมั่นคง ท่านกำนัน ตำบลเกิ้ง และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๖ นางเพทาย ลันขุนทด และผู้ใหญ่บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ ๑๐ ทั้ง ๒ หมู่บ้านเกิดมีปัญหาน้ำท่วมทุกปี โดยปี ๒๕๖๒ มีน้ำท่วมถึงเรียกว่าล้นตลิ่ง ทำให้อาคารบ้านเรือนพี่น้องได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากเป็นระยะทาง ๑,๒๐๐ เมตร และแนวทางป้องกันการทรุดตัวของตลิ่งยังไม่มีการทำงาน จึงขอให้กรมโยธาธิการ และผังเมือง และสำนักงบประมาณ ได้สนับสนุนงบประมาณไปแก้ไขปัญหานี้ โดยขอ งบฉุกเฉิน หรืองบกลาง หรืองบของกรมโยธาธิการและผังเมืองในงบปี ๒๕๖๘ ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ
-๖/๑
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณมานพ คีรีภูวดล ครับ
นายมานพ คีรีภูวดล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม มานพ คีรีภูวดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนชนชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองครับ ขอหารือกับท่านประธานไปยังกรมโยธาธิการ และผังเมือง กระทรวงมหาดไทย แล้วก็สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ท่านประธานครับ เมื่อวันที่ ๑๖ ที่ผ่านมานี้ก่อนที่ผมจะไปร่วมงานคริสต์มาสที่อมก๋อย ผมได้รับเรื่องร้องเรียนที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ โดยท่านนายกลัดดา ชัยชนะ โดยการประสานงานของคุณสมเกียรติแล้วก็คุณออยนี้ครับ ผมอยากให้ขึ้นรูปนี้ครับ ท่านประธาน
นายมานพ คีรีภูวดล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
อันนี้เป็นความรับผิดชอบ ของกรมโยธาธิการและผังเมืองนะครับ ตลิ่งที่มันทำเสร็จเรียบร้อยอยู่อำเภอสันป่าตอง ฝั่งที่ไม่ได้ทำนี้อยู่อำเภอดอยหล่อครับท่านประธาน ลำน้ำตรงนี้เขาเรียกว่าลำน้ำขานนะครับ ซึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง คือในฤดูกาลนี้หน้าฝนที่จะมานะครับท่านประธาน ถ้าเราไม่แก้ปัญหา ถนนเส้นนี้ที่ผมยืนอยู่พร้อมกับที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนก็จะหายไปเลย เพราะฉะนั้น คือเวลาทำเรื่องนี้ อันนี้อยากจะฝากไปทางกรมโยธาธิการและผังเมืองว่าเวลาทำนี้มันอยู่ คนละอำเภอก็จริง แต่ว่าน้ำนี้ไม่ได้แยกอำเภอครับท่านประธาน เพราะนั่นคือเวลาทำฝั่งหนึ่ง ก็ต้องทำฝั่งอีกหนึ่ง ถ้าไม่ทำ ในฤดูกาลหน้าฝนปีนี้ฝั่งอำเภอดอยหล่อก็จะเจอกระแสน้ำขาน พัดพาหายไป ก็อยากจะฝากนะครับ และเป็นการเร่งด่วนเลย ผมคิดว่าท่านจะหางบประมาณ ตรงไหนก็ได้ งบฉุกเฉินตรงไหนก็ได้ ถ้าไม่ทำฝั่งอำเภอดอยหล่อนี้จะหายไปเลย
นายมานพ คีรีภูวดล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ อันนี้เป็นการหารือแบบเร่งด่วน ท่านประธานครับ ผมทราบเมื่อเช้านี้ ว่าสภาองค์กรชุมชนประเทศไทยจะมาขอใช้พื้นที่ของรัฐสภา คือชั้น B1 ท่านประธาน ไม่อนุญาต ผมคิดว่าเป็นการจัดเวทีของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมก็ไม่ทราบว่า ท่านประธานไม่อนุญาตด้วยเหตุผลอะไร ผมได้รับเรื่องเมื่อเช้านี้จริง ๆ ขอบคุณมากครับ ท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอชี้แจงที่ คุณมานพ คีรีภูวดล ได้พูดถึงว่ามีสภาชุมชนขออนุญาตใช้ชั้น B1 ผมได้อนุญาตตั้ง ๒-๓ วัน เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากว่าเป็นการขอใช้วันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผมคิดว่ากลัวจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ เพราะว่าคนมาประชุม ๒๐๐ กว่าคน ที่จอดรถและ ความสะดวกอื่น ๆ จะเป็นปัญหาทั้ง ๒ ฝ่าย ผมเลยบอกว่าขอให้ประชุมวันศุกร์หรือวันที่เรา ไม่ได้ประชุมสภาเพื่อจะได้เป็นตัวอย่างกับคณะอื่นที่ประชาชนมาขออย่างเป็นทางการ ได้ปฏิบัติเหมือนกัน ถ้าวันพุธ วันพฤหัสบดีที่มีการประชุมสภามันจะขัดข้องทั้ง ๒ ฝ่าย คิดว่าถ้าเขาเตรียมตัวมาพร้อมน่าจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ เพราะผมมีนโยบายว่าอะไร ที่เป็นเรื่องของภาคประชาชนที่เป็นเรื่องของส่วนรวมขอมาได้ ชั้น B1 เรามี ๒-๓ ห้อง แล้วแต่ขนาดขอ แต่ต้องขอความกรุณาว่าถ้าวันประชุมสภาผมคิดว่าจะมีปัญหาประเด็นเรื่อง ความสะดวกสบาย ความจริงได้แจ้งไว้ ๒-๓ วันแล้ว คิดว่าเขาคงจะเลื่อนไปจัดในวันหลัง แต่บางคนเขาก็แจ้งล่วงหน้าก็อาจจะบอกว่าเราไม่อนุญาต ความจริงขออนุญาตครับ อนุญาตตั้งแต่แรกเลยครับ ขอบคุณมากครับที่คุณมานพ คีรีภูวดลพูดถึงครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ขออนุญาตนิดเดียวครับประเด็นต่อเนื่องที่ท่านประธานชี้แจงครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เชิญครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ขออนุญาตท่านประธานและเพื่อนสมาชิกรบกวนเวลา สักเล็กน้อยครับ เนื่องจากว่าข้อมูลที่ท่านประธานแจ้งนั้นคลาดเคลื่อน ท่านประธานครับ สภาองค์กรชุมชนขออนุญาตมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖ ท่านประธานอนุญาตแล้วจริงครับ เมื่อวานนี้สภาองค์กรชุมชนจากทั่วประเทศเขามาเช่าโรงแรม เขามาเช่าที่พักนอนกันอยู่ เมื่อวาน แล้ววันนี้เขาเตรียมว่าจะเข้ามาประชุมที่สภาชั้น B1-1 ท่านประธานได้มี ดำริบอกว่าไม่ให้ใช้ห้องเมื่อวานนี้ครับ และเมื่อวานนี้ก็ได้แจ้งไปถึงพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนเมื่อคืนทั้งคืนแทบไม่ได้นอนหาที่ประชุมใหม่ครับ แล้ววันนี้หลาย ๆ คนก็ต้อง มาที่นี่ครับ สุดท้ายแล้วถ้าท่านประธานบอกว่าจะไม่ให้มีการประชุมซ้อนกันในวันประชุม เนื่องจากเหตุผลใหญ่คือไม่มีที่จอดรถ ท่านประธานครับ คณะนี้ ๒๐๐ คนเขาเหมารถเมล์มา แล้วรถเมล์ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดด้วยครับ เพราะเขาวนมาส่งแล้วก็ไปขับต่อ แล้วตอนเย็น เขาวนมารับ เขาไม่มีสตางค์เช่ารถ Bus มา นี่คือข้อเท็จจริงครับ และถ้าเกิดท่านประธาน บอกว่าเป็นกังวลเรื่องสภาองค์กรชุมชนมา ๒๐๐ คนในวันประชุมจะเกิดความวุ่นวาย ผมเห็นหลาย ๆ หน่วยงาน หลาย ๆ กิจกรรมจัดมากกว่า ๒๐๐ คนแต่จัดวันประชุมได้ ผมคิดว่าการตัดสินใจของท่านประธานครั้งนี้ไม่สมเหตุสมผลถ้าเป็นเรื่องที่จอดรถ กับความวุ่นวาย อันนี้ประเด็นที่ ๑
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ วันนี้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว คือพี่น้องประชาชน ๒๐๐ คน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสภาไม่ใช่เป็นพื้นที่ของประชาชน ทั้ง ๆ ที่ชั้น B1-1 ว่าง ท่านประธานครับ เรื่องนี้ผมคิดว่าท่านประธานต้องชี้แจงให้ชัดเจนและต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนครับว่า ที่แท้จริงแล้วที่ไม่อนุญาตเพราะอะไรกันแน่ ผมคิดว่าปัญหาเรื่องที่จอดรถกับความวุ่นวาย ในวันประชุมไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่จะตอบประชาชนเลย เราจะสร้างสภาใหญ่โตไปทำไม ถ้าเกิดไม่มีพื้นที่ให้ประชาชน ๒๐๐ คนมาชุมนุมกัน มาพูดคุยกันในพื้นที่ที่สภาจัดให้ยังทำ ไม่ได้ อันนี้เป็นข้อน่ากังวลมากครับ สภาที่แล้ว ชุดที่ ๒๕ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลยครับ ท่านประธาน อันนี้เป็นข้อกังวลอย่างสูง ท่านประธานต้องแก้ไขเรื่องนี้ และต้องชี้แจงให้ เจ้าหน้าที่หลาย ๆ คนที่มีความเห็นในด้านนี้ที่ส่งไปยังท่านประธานแล้วทำให้เกิดเหตุการณ์ การยกเลิกกะทันหันทำให้พี่น้องประชาชนต้องชุลมุนวุ่นวายกันเช้าวันนี้ และต้องขอโทษ พี่น้องประชาชนอย่างเป็นทางการจากสภาไปด้วยครับ เพื่อไม่ให้สภาเราได้เสื่อมเสียชื่อเสียง ไปมากกว่านี้ ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ประการแรก ผมต้องขอโทษที่เป็นความเข้าใจผิด ความจริงเรื่องนี้อย่างที่ท่านสมาชิกได้บอกว่าส่งมา เดือนพฤศจิกายน แต่เรื่องนี้มาถึงผมในตอนช่วงต้นเดือนนี้นะครับ แล้วก็มีการประชุม ในระดับเจ้าหน้าที่ พอเรื่องมาถึงก็มาถึงผมครับ ระดับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งได้แจ้งให้ รองประธานสภา คนที่หนึ่ง ด้วย เจ้าหน้าที่เขาประชุมแล้วบอกว่าตามระเบียบแล้วก็ไม่สามารถ จะให้ประชาชนทั่วไปใช้ได้ เขาบอกอ้างระเบียบเดิม ๆ เมื่อมาถึงผมแล้วผมบอกว่าแต่มี ข้อยกเว้นถ้าประธานสภาอนุญาต ผมบอกนโยบายผมชัดเจนนะครับ จะอนุญาตสภานี้ ให้ประชาชนใช้ได้ ยกเว้นห้องประชุมใหญ่ทั้ง ๒ ห้อง ของวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎร ก็ให้ ใช้เฉพาะในการประชุมสมาชิกสภาทั้งสองเท่านั้น ส่วนห้องอื่น ไม่ว่าจะเป็นห้องกรรมาธิการ ห้องอะไรถ้าเหมาะสมแล้วก็ผ่านฝ่ายสถานที่ ผ่านฝ่ายความปลอดภัยแล้วก็มาถึงผม ผมจะ อนุญาตให้ทุกราย รวมทั้งกรณีนี้ด้วย เมื่อมาถึงผม ผมอนุญาต แต่ว่าผมเห็นอย่างที่ว่านี้ครับ ไม่ได้มีประเด็นเรื่องความวุ่นวาย ผมรู้ว่าผู้ประชุมไม่ก่อ แต่ประเด็นเรื่องที่จอดรถ หลังจากที่ ผมแทงว่าขอให้ประชุมไม่ใช่วันประชุมจะได้ไม่มีปัญหา ก็ไม่มีคนมาชี้แจงเพิ่มเติมว่าเหมา รถ Bus มาด้วย ไม่มีใครเอารถยนต์มา ไม่อย่างนั้นผมก็อนุญาตได้ครับ เพราะฉะนั้นผมต้อง ขอโทษด้วย ที่เป็นความผิด ถ้ามาชี้แจงประเด็นอย่างที่ท่านสมาชิกได้ชี้แจงก็ไม่มีปัญหา ก็เข้าใจตรงกันว่านโยบายของสภา และระเบียบเดิมถึงแม้ว่าจะมีปัญหาอย่างนี้ ผมคิดว่า ระเบียบเราแก้ไขได้ก็อนุญาต แล้วต้องขออภัยด้วยครับ จริง ๆ ไม่อยากจะสร้างความ เดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ผมไม่ทราบว่าได้มา เพราะว่าผมแจ้งตั้งแต่วันจันทร์ หนังสือ ก็ไปดูได้ครับ ได้แจ้งจากสภาตั้งแต่วันจันทร์ไปว่าขอให้เป็นวันศุกร์เถอะ หรือวันอะไรก็ได้ เพราะผมเข้าใจว่ามีสมาชิกในรอบกรุงเทพมหานครนี้เอารถมาด้วยก็จะได้ไม่มีปัญหาเรื่อง ที่จอดรถ เพราะวันอื่นก็จัดได้อีกหลายวัน อันนี้ต้องขออภัย แต่ถ้าแจ้งว่ามาด้วยรถ Bus ๒ คัน อย่างนี้ก็ไม่ได้มีประเด็นความวุ่นวายผมก็เชื่อว่าไม่เกิดขึ้น เพราะว่าคนมาประชุมด้วยเจตนาดี ความจริงสภาถือว่าเป็นเกียรติด้วยซ้ำไปครับ การที่พี่น้องประชาชนมาใช้สภาโดยไม่ซ้ำซ้อนกัน ที่เราต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาก่อนก็คือเรื่องความซ้ำซ้อน และมีข้อห้ามอะไรบ้าง ในที่สุด ก็นโยบายประธานและรองประธานทั้ง ๒ คน ก็มีนโยบายว่าเราเปิดกัน วันรัฐธรรมนูญ เราก็เปิด วันอะไรก็เปิดครับ มีปัญหาเราต้องแก้ปัญหาไป อย่างวันนี้ถ้าชี้แจงว่ามาด้วยรถ Bus ไม่เกี่ยวกับที่จอดรถของสภา สมาชิกสภา ไม่ได้มีปัญหากระทบกระเทือนต่อเจ้าหน้าที่ หรืออะไรต่ออะไร เพราะเราเลื่อนวันได้ก็ไม่มีปัญหาครับ ต้องขออภัยท่านสมาชิกและผู้ร่วม ประชุมด้วย ถ้าท่านสามารถจะมาประชุมได้ในวันดังกล่าวนี้ หรือช่วงบ่ายนี้ถ้าท่านมาพร้อม แต่ผมว่าไม่ทัน เพราะว่าฝ่ายสภาเองก็ต้องจัดให้มันสมเกียรติ ที่นั่ง ไมโครโฟนอะไรต่าง ๆ ถ้าเป็นวันพรุ่งนี้อย่างที่ผมแทงไปว่าเป็นวันศุกร์หรือวันอื่นได้นี้ก็มาได้ แต่ต้องแจ้งภายในวันนี้ เพราะต้องเตรียมพอสมควร ท่านสมาชิกต้องเข้าใจครับ เดี๋ยวมาฉุกละหุกก็ว่าสภาไม่เต็มใจ เป็นความคลาดเคลื่อนครับ ก็ต้องขออภัยจริง ๆ ไม่มีนโยบายขัดขวางว่าสภานี้ไม่ใช่ใช้ เฉพาะสมาชิก อยากให้ประชาชนมาใช้ และถ้าเป็นองค์กรอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเกียรติกับ สภานะครับ สมาชิกจะได้ไปนั่งฟังด้วย เชิญอีกครั้งหนึ่งได้ครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ครับ ถ้าท่านประธานดำริอย่างนี้เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่แสดงว่า เมื่อวานนี้มีการประสานกันจนถึง ๑ ทุ่ม ผมคิดว่าเรื่องนี้ท่านประธานต้องหาคนรับผิดชอบครับ ท่านประธานต้องเรียกท่านรองเลขาธิการสภามาชี้แจง ว่าเหตุใดเมื่อวานนี้ถึงตอบอย่างนั้น เมื่อวานนี้และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะว่าการตอบของเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้สร้าง ความเสียหายต่อประชาชน ๒๐๐ คน ที่มาจากทั่วประเทศ มาเช่าโรงแรมนอนกันอยู่เมื่อคืนนี้ แล้ววันนี้ต้องกลับบ้าน นี่คือความเสียหาย และเขาวิพากษ์วิจารณ์สภาไปไกลมาก วิพากษ์วิจารณ์ท่านประธานไปไกลมากครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดท่านประธานมีดำริอย่างนี้ คือเรื่องที่เหมาะสมเลยนะครับ และผมเห็นด้วยตรงกับท่านประธานมากครับ แต่เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เกิดความเสียหายไปแล้ว ผมคิดว่าเราต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดเมื่อวานนี้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาชี้แจงว่าเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องปฏิเสธ พี่น้องประชาชนถึง ๒๐๐ คน ให้เขาเคว้งคว้างที่มาจากทั่วประเทศ แล้วก็ดำริของ ท่านประธานวันนี้ก็เป็นแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว แต่การกระทำเมื่อวานนี้ กับสวนทาง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องหาคำตอบให้พี่น้องประชาชนให้ได้ครับท่านประธาน ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ก็คงต้องสอบถาม เพื่อไม่ให้เกิดกรณีอย่างนี้อีก แต่ว่าเอกสารทุกอย่างที่ผมแทงไปวันไหน เขียนว่าอนุญาตให้ใช้ ชั้น B1 ได้ แล้วก็ไม่ควรใช้วันประชุม ตั้งแต่วันจันทร์แล้วนะครับ แล้วผมก็ติดตาม วันอังคาร วันพุธ ผมติดตามเจ้าหน้าที่ว่าแจ้งให้เขาทราบหรือยัง เขามีปัญหาอะไรไหม ก็ไม่มีคนมาแจ้ง ให้ทราบ ผมเลยเข้าใจเอานะครับว่าแจ้งให้ทราบแล้ว ทางผู้จัดการประชุมคงจะไปเลื่อน ผมจะถามว่าวันศุกร์หรือเปล่า หรือวันอะไร ผมเป็นห่วงอย่างที่ท่านสมาชิกเป็นห่วง กลัวจะเกิดความเข้าใจผิด แต่อย่างไรก็ตามผมจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ว่าทำไมจึงเกิดขึ้น แต่ท่านสมาชิกสงสัย มีเอกสารทุกอย่างพร้อมเลยว่าผมเขียนตั้งแต่วันที่เท่าไร แทงว่าอย่างไร อนุญาตให้อย่างไร อันนี้จะเป็นเอกสาร ไม่ได้มาแก้ตัว แต่ต้องการสร้างความเข้าใจและ ประชาชนที่รับฟัง ถ้ามาถูกต้องมาเป็นองค์กรเข้าตามหลักเกณฑ์แล้ว ก็จะอนุญาตให้ เป็นนโยบายของสภาครับ ก็ดี ขอบคุณมากทั้ง ๒ ท่าน ที่ได้สอบถามเราจะได้เข้าใจ ไม่อย่างนั้น ออกไปมันก็จะเป็นการเสียหาย เสียหายผมไม่เป็นอะไร แต่เสียหายสภาว่าสภานี้ไม่เปิด โอกาสให้ประชาชนอย่างที่สมาชิกว่า เดี๋ยวผมจะติดตามเรื่องนี้ แล้วก็จะรู้ว่าเรื่องมันเป็น อย่างไร แต่ก่อนอื่นช่วยขอโทษประชาชนด้วย แล้วชี้แจงให้เข้าใจตามนี้ ถ้าท่านไม่เข้าใจ ก็ไปดูจากหนังสือที่ผมแทง ผมไม่มีปัญหาอะไร ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญคุณธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ครับ
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ ดิฉัน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดเพชรบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านประธานคะ จากการที่ดิฉันได้ลงพบปะพี่น้อง ชาวนาในพื้นที่เขต ๑ จึงได้ทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะปลูก ข้าวนาปี ประจำปีที่เกิดขึ้นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ จังหวัด เพชรบุรีมีเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวจำนวน ๑๖,๐๐๐ ครัวเรือน รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกข้าว ๒๕๐,๐๐๐ ไร่ พี่น้องเกษตรกรผู้ที่อาศัยอยู่พื้นที่กลางน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น เขตอำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลมต่างได้รับผลกระทบ เนื่องจากชลประทานมีการปรับ ปริมาณการส่งน้ำเข้าคลองสาย ๑ ในช่วงเดือนธันวาคม ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรประสบกับ ปัญหาการขาดแคลนน้ำในการทำนาในช่วงเดือนดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานชลประทาน ได้แจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกรแล้วถึงสถานการณ์น้ำที่กักเก็บอยู่ในพื้นที่แก่งกระจานว่า มีแนวโน้มที่จะลดลง จึงทำให้ส่งผลให้แค่อุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น และตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ได้หารือกับกลุ่มประเทศอาเซียน ในการประชุม ว่าทางประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนามได้แสดงความประสงค์ที่จะ รับซื้อข้าวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากชาวนาได้ทำนาเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะส่งผลให้พี่น้อง ชาวนาเรามีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นดิฉันจึงขอนำเรียนต่อท่านประธานสภาไปยัง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ช่วยเร่ง ดำเนินการดังนี้
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ
๑. ขอพิจารณากำหนดแนวทางการส่งน้ำให้ครอบคลุมไปจนถึง เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และจะได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ
๒. ขอเพิ่มพื้นที่ในการกักเก็บน้ำเพื่อให้เกษตรกรมีน้ำได้ใช้เพาะปลูกตลอด ทั้งปี
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ
๓. ปรับปรุงคลองชลประทานในช่วงอำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลม ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เกษตรกรใช้ในการปลูกข้าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำและ การทำการเกษตรให้ดียิ่งขึ้น โดยการขยายคลองให้รองรับปริมาณน้ำและทำหน้าที่ เป็นแก้มลิงในตัว โครงการดังกล่าวนี้ได้มีการจัดงบประมาณไปแล้วเมื่อปี ๒๕๖๔ จึงขอนำ เรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามโครงการและรีบแก้ไขปัญหาน้ำให้พี่น้อง ชาวเกษตรกรของเราด้วยนะคะ
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ
อีกประเด็นหนึ่งที่ดิฉันขอติดตามความคืบหน้า คือเรื่องเกี่ยวกับโครงการ สร้างสะพานทางข้ามรถไฟฟ้ารางคู่บริเวณพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี จำนวน ๒ จุด ที่ดิฉันได้นำปัญหาเข้าหารือไปแล้วนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามและเร่งรัด โครงการนี้ด้วยนะคะ ขอขอบพระคุณมากค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณเชตวัน เตือประโคน ครับ
นายเชตวัน เตือประโคน ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม เชตวัน เตือประโคน สส. พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี พื้นที่เทศบาลเมืองคูคต เมืองลำสามแก้วและเมืองลาดสวายครับ ผมมีเรื่องมาปรึกษาหารือฝากท่านประธานไปถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายเชตวัน เตือประโคน ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ฝากไปถึงแขวงทางหลวงชนบท การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สถานี ตำรวจภูธรคูคต ปัญหาอุบัติเหตุบนถนนไสวประชาราษฎร์ อันเนื่องมาจากถนนเส้นนี้ ในบางช่วงไม่มีไฟส่องสว่างครับ ปัญหานี้เกิดมาจากการที่ประชาชนส่งรูปภาพอุบัติเหตุ มาให้ผมเยอะมาก ๆ นะครับ หลายกรณีมากมีอุบัติเหตุตรงช่วงนี้ ช่วงที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ริมถนน ตลอดทั้งเส้นมีไฟส่องสว่าง แต่ตรงช่วงนี้ไม่มี สาเหตุเกิดจากการที่มีสถานีจ่ายไฟของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตั้งอยู่นะครับ แขวงทางหลวงชนบทจังหวัดปทุมธานีเคยมีโครงการที่จะ ขอติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณนี้ แต่ก็ปรากฏว่าทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้เหตุผลว่า ไม่สามารถติดบนเสาได้ เพราะถ้าไฟดับจะทำให้เกิดไฟดับในวงกว้าง เพราะมีสถานีจ่ายไฟอยู่ โครงการต่าง ๆ มีเกิดขึ้น โครงการต่าง ๆ กำลังจะผลักดัน แต่ทว่าก็ไม่ได้เกิดขึ้นนะครับ ขณะที่ปัญหาของประชาชน อุบัติเหตุต่าง ๆ ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง นี่คืออยากฝากถึง ท่านประธานไปถึงหน่วยงานที่เอ่ยมานั้นได้ช่วยบูรณาการปัญหาต่าง ๆ แล้วแก้ปัญหาให้ ประชาชน
นายเชตวัน เตือประโคน ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรื่องต่อมา ฝากถึงกรมทางหลวงนะครับ ปัญหาหลุมบ่อบริเวณหน้าสี่มุมเมือง ยาวไปจนถึงชุมชนซอยวัดประยูรธรรมาราม ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม คุณณัฐวุฒิ บัวประทุม เคยช่วยหารือเรื่องนี้ตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว มาจนกระทั่งวันนี้สภาชุดนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาหลุมบ่อหน้าสี่มุมเมืองยาวไปจนถึงหน้าเมืองเอกเลยยังอยู่ แถมมีปัญหาใหม่เกิดขึ้น ด้วยครับ นั่นก็คือเรื่องของไฟบนสะพานลอยที่กรมทางหลวงอาจจะต้องไปดูแลประชาชน นะครับ
นายเชตวัน เตือประโคน ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรื่องสุดท้ายครับ ขอบคุณเทศบาลเมืองลาดสวายที่ช่วยสร้างในส่วนของ สะพานข้ามแยกโชติเวชไปขจรเนติยุทธให้ประชาชนได้ใช้สัญจรสะดวกขึ้น ขณะนี้อยู่ใน ระหว่างการก่อสร้าง และอยากจะฝากอีกเรื่องหนึ่งถึงเทศบาลลาดสวาย นั่นคือเรื่องของ การหาเส้นทางลัดใหม่ ๆ เชื่อมระหว่างคลองสามกับคลองสี่ให้ประชาชนได้ใช้สะดวกขึ้น ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณคอซีย์ มามุ ครับ
นายคอซีย์ มามุ ปัตตานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายคอซีย์ มามุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี เขต ๒ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผมมีประเด็น ความเดือดร้อนในเรื่องการใช้เส้นทางคมนาคมในเขตอำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จำนวน ๓ จุด โดยต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กรมทางหลวง ดำเนินการก่อสร้างเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีข้อเสนอจากหน่วยงานระดับ พื้นที่แล้ว
นายคอซีย์ มามุ ปัตตานี ต้นฉบับ
จุดที่ ๑ ขอให้เร่งรัดการก่อสร้างทางแยก ต่างระดับบริเวณทางหลวง หมายเลข ๔๒ และทางหลวงหมายเลข ๔๓ สี่แยกตัดกันหรือ ที่เรียกกันว่า สี่แยกดอนยาง ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก ที่ผ่านมาสี่แยกดังกล่าว มีอุบัติเหตุตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ ถึงปี ๒๕๖๖ จำนวน ๒๙ ครั้ง ท่านนายกเทศมนตรีตำบลบ่อทอง พันจ่าเอก มาหามุ หวังจิ ได้เคยหารือร่วมกับหน่วยงานทางหลวงระดับพื้นที่ในการแก้ไข ได้เคยหารือร่วมกับหน่วยงานทางหลวงระดับพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย การก่อสร้างทางแยกต่างระดับ ขณะนี้รอเพียงการจัดสรรงบประมาณ จึงขอให้มีการเร่งรัด เป็นกรณีเร่งด่วนครับ
นายคอซีย์ มามุ ปัตตานี ต้นฉบับ
จุดที่ ๒ ขอให้เร่งรัดการขยายผิวจราจรตอนนาจวก-ดอนยางช่วงบริเวณ แยกนาเกตุถึงศูนย์วิจัยข้าวปัตตานี อำเภอโคกโพธิ์ เนื่องจากกรมทางหลวงได้มีการขยาย ช่องทางหลวงถนนเดิม จาก ๒ ช่องทางจราจรเป็น ๔ ช่องจราจรแล้ว บริเวณหน้าสนามบิน บ่อทอง แต่ช่วงดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินการ
นายคอซีย์ มามุ ปัตตานี ต้นฉบับ
จุดที่ ๓ ขอให้เร่งรัดการขยายผิวจราจรถนนสาย ๔๐๙ เป็น ๔ ช่องจราจร บริเวณแยกนาเกตุถึงนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ถนนสายดังกล่าวมีประชาชน ใช้สัญจรจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นทางไปวัดช้างไห้ น้ำตกทรายขาว มัสยิด ๓๐๐ ปี และเป็นเส้นทางสายเก่าไปยังจังหวัดยะลา กระผมจึงขอนำเรียนต่อท่านประธานสภาผ่านไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ท่านสั่งการให้กรมทางหลวงเร่งรัดดำเนินการ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อไป จึงขอนำเรียนต่อท่านประธานสภาผ่านไปยังผู้เกี่ยวข้อง ด้วยความเคารพครับ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ครับ
นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ศรีสะเกษ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย อำเภออุทุมพรพิสัย อำเภอห้วยทับทัน อำเภอเมืองจันทร์ วันนี้ผมมีเรื่องมา ปรึกษาหารือท่านประธานเกี่ยวกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดังนี้ครับ
นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ศรีสะเกษ ต้นฉบับ
ตามที่ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้มีนโยบายให้กรมที่ดินดำเนินโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้กับพื้นที่ที่ไม่มี เอกสารสิทธิทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนเป็น อย่างมาก เนื่องจากว่าปัจจุบันพี่น้องคนยากคนจนที่ไม่มีเอกสารสิทธิได้ทำไร่ทำนามา ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายหลายสิบปี บางรายเป็น ๑๐๐ ปี แต่ไม่มีเอกสารสิทธิใด ๆ โครงการเดิน สำรวจออกโฉนดที่ดินนี้จะสร้างประโยชน์ให้กับคนยากคนจนเหล่านี้ เพราะสามารถจะมี เอกสารสิทธิในอนาคตต่อไป ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมายึดครองที่ดิน ทำไร่ทำนาเขาตั้งแต่ รุ่นปู่ย่าตายาย แต่ท่านประธานครับ ปรากฏว่าจังหวัดศรีสะเกษเป็นหนึ่งในหลาย ๆ จังหวัด ที่ทางสำนักงาน ส.ป.ก. ได้ประกาศให้ทั้งอำเภอเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ยกตัวอย่างเช่นจังหวัด ศรีสะเกษมีทั้งสิ้น ๒๒ อำเภอ แต่มีจำนวนมากถึง ๑๑ อำเภอ หรือ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษที่ได้ประกาศเป็นเขต ส.ป.ก. ทั้งอำเภอ แม้กระทั่งในเขตเลือกตั้งของผม ก็คือตำบลห้วยทับทัน และตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน ก็อยู่ในเขตประกาศทั้งตำบล ของ ส.ป.ก. ซึ่งการประกาศเขต ส.ป.ก. ดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง เนื่องจาก กรมที่ดินไม่สามารถดำเนินโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้กับพี่น้องคนยากคนจน เหล่านี้ได้ ผมจึงขออาศัยเวทีสภาแห่งนี้กราบเรียนท่านประธานสภาผ่านไปยังเลขาธิการ ส.ป.ก. ขอให้ดำเนินการยกเลิกการประกาศเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ รวมทั้งตำบลห้วยทับทัน และตำบลปราสาท อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ และขอให้ประกาศเขต ส.ป.ก. เป็นรายแปลงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์จะได้ตกอยู่กับพี่น้องประชาชนคนยาก คนจนอย่างแท้จริง ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานครจากพรรคก้าวไกล จากพี่น้องชาวบางบอน บางขุนเทียน ท่านประธานครับ วันนี้มีเรื่องหารือท่านประธานจากปัญหาในพื้นที่ครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องแรก เรื่องปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินเข้าในถนนพระราม ๒ ซอย ๖๙ และซอยอื่น ๆ อีกมากมายที่บรรทุกอิฐหินปูนทรายเข้าไปส่งใน Plant ปูน วันนี้หน่วยงาน ที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ดี หรือหน่วยงานท้องที่ หรือสำนักงานเขตเอง ก็ดีก็ยังไม่มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนที่จะสามารถจับกุมได้ เนื่องจากว่ามีกฎหมายใหม่ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ ทำให้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งไปยังกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรมการขนส่งทางบกก็ไม่มีศักยภาพที่จะไปตามจับได้ทั้งหมดทำให้เกิดความเสียหายและ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งนะครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เรื่องสะพานลอย ๓ จุดในถนนบางขุนเทียนชายทะเลได้ทำ ประชาพิจารณ์ไปแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะก่อสร้างเมื่อไรนะครับ วันนี้พี่น้อง ประชาชนอยากทราบความคืบหน้าครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ เรื่องน้ำเสียในคลองทั้ง ๑๙ คลองที่ได้ยื่นเรื่องไป วันนี้ยังไม่มี แนวทางในการแก้ไขปัญหา และยังไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจน อยากให้ทางรัฐบาล ได้สนใจเรื่องปัญหาน้ำเสียและขยะในลำคลอง เพราะวันนี้มันเลยออกไปนอกทะเลแล้วส่งผล กระทบต่อพี่น้องประชาชนอย่างมากครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๔ เรื่องถนนคลองสหกรณ์ หารือในสภาแห่งนี้เป็นครั้งที่ ๕ แล้ว ถ้าท่านประธานทำหนังสือไปขออนุญาตดอกจันไป ๕ ครั้งด้วยว่าตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว จนถึงรัฐบาลนี้ ฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ครับ เนื่องจาก กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นเจ้าของพื้นที่หลักก็อยากให้ดำเนินการทำถนนให้กับพี่น้อง ประชาชนให้แล้วเสร็จครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๕ เรื่องคลองสนามชัยครับ ทำเขื่อนป้องกันเพื่อไม่ให้เวลาน้ำขึ้นสูงนั้น ท่วมชุมชนบางกระดี่ หมู่ที่ ๘ หมู่ที่ ๙ นะครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๖ ชุมชนซอยวัดสิงห์ทำสะพานทางเดินเลียบทางรถไฟครับ นักเรียน ใช้เยอะ ตอนนี้ชำรุดทรุดโทรมยังไม่ได้รับการแก้ไขครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๗ เรื่องถนนหลังหมู่บ้านพระปิ่น ๕ ไฟฟ้าส่องสว่างขาดแคลน แล้วก็เส้นทางก็อันตราย อยากให้ซ่อมแซมครับ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรื่องสุดท้ายครับท่านประธาน ซอยเทียนทะเล ๒๐ วันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข และน้ำขึ้นทุกครั้งก็ท่วมทุกครั้ง ถ้าเกิดแก้ไขไม่ได้เปลี่ยนชื่อซอยไปเลยครับ เป็นทะเลเทียน ไปเลยครับจะได้รู้แล้วรู้รอด จะได้ซื้อเรือใช้กันเลยครับ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ปัญหาที่ คุณณัฐชาพูดถึงว่าหารือไป ๕ ครั้งก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ผมอยากจะเรียนต่อหน่วยงานของรัฐ ทุกแห่งนะครับ เมื่อได้รับหนังสือจากสภาว่าได้มีการหารือแล้ว ขอให้ตอบในวาระแรกที่ท่าน สามารถจะตอบได้ทันทีนะครับ ไม่ใช่ ๕ ครั้งแล้วไม่ตอบ คือไม่ได้หมายความว่าไปทำ หรือไม่ทำ แต่ตอบให้สมาชิกได้ทราบ เพราะเป็นเรื่องความทุกข์ร้อนของประชาชนว่าขัดข้อง เรื่องใด จะทำได้เมื่อไร และท่านสมาชิกถ้าเป็นประเด็นที่ว่าเรื่องเดียวกันถามไปหลายครั้ง ไม่ตอบ ก็แจ้งมาสภาด้วยนะครับ แล้วสภาก็จะมีการประเมินด้วยนะครับ หน่วยงานใด ที่ถูกถามแล้วไม่ตอบกี่ครั้ง ตอบกี่ครั้ง ทำไปเสร็จแล้วกี่ครั้ง จะแบ่งเป็นช่อง ๆ เลยครับว่า ตอบไปให้สมาชิกแล้ว กำลังดำเนินการและทำเสร็จแล้วจะให้เจ้าหน้าที่ทำนี้อาจจะเป็น เดือนละครั้ง ก็ไม่ได้มีข้อตำหนิอย่างไร แต่ต้องการให้มีตัวชี้วัดว่าการหารือในสภานี้ เดือนหนึ่งได้กี่ร้อยเรื่อง หน่วยงานไหนที่สนใจเรื่องของประชาชน ตอบไปแล้วกี่เรื่อง กำลังดำเนินการกี่เรื่อง ยังไม่ได้ดำเนินการกี่เรื่อง เพราะฉะนั้นขอฝากหน่วยงานของรัฐบาล กรุณาตอบครับ ไม่ใช่เรื่องที่ว่าสมาชิกมาถามกันเล่น ๆ เป็นเรื่องความเดือดร้อนของ ประชาชน ท่านก็จะได้มีผลงานด้วย ขอบคุณมากครับ ต่อไปคุณนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล ครับ
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต ๑๒ อำเภอปักธงชัยและอำเภอวังน้ำเขียว
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ไข้หวัดใหญ่ที่กำลัง ระบาดหนักอยู่ทั่วประเทศครับ แล้วก็ในพื้นที่ที่ผมรับผิดชอบ ได้แก่ โรงพยาบาลปักธงชัย และโรงพยาบาลวังน้ำเขียวที่ยังขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ อยากให้ทาง กระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดหาวัคซีนฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายด้วยครับ
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ถนนที่ชำรุดเสียหาย ถนนเส้นที่ ๑ บริเวณบ้านเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย ถึงบ้านบุตาสง ตำบลมะเกลือเก่า อำเภอสูงเนิน
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เส้นที่ ๒ ประสานมาโดยท่านนายกประเทือง ภัคเกษม นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลสำโรง คือถนนบริเวณบ้านหนองประดู่ ตำบลสำโรง ถึงถนน รพช. ๓๐๐๒ เขตของ อำเภอครบุรี
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เส้นที่ ๓ คือถนนบริเวณบ้านหนองนมนาง ตำบลตะคุ ถึงบ้านหนองพะยอม ตำบลหนองตะไก้ อำเภอสูงเนินครับ ทั้ง ๓ เส้นที่กล่าวมาเมื่อสักครู่เป็นถนนที่เกินศักยภาพ ของท้องถิ่นนะครับ ฝากท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยพิจารณาอนุมัติ งบประมาณให้ด้วยครับ
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เส้นที่ ๔ คือถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ทช. ๕๐๖๙ บ้านท่าวังไทร โนนสาวเอ้ ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียวเส้นนี้เคยหารือในสภาไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ว่า ยังไม่ได้รับการแก้ไขนะครับ
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ คือเรื่องของไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณสี่แยกระหว่างทางหลวง หมายเลข ๒๐๗๒ ตัดกับทางหลวงหมายเลข ๒๔๒๑ เป็น ๒ จุดบริเวณ กม.๔ ถึง กม.๖.๖ แล้วก็ กม.๑๑ ถึง กม.๑๔ บริเวณบ้านบุชะอมถึงบ้านเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ สี่แยกทั้ง ๒ จุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๔ ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค บริเวณตำบลตูม อำเภอปักธงชัย คือต้องการประตูชะลอน้ำเพื่อจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่บ้านบุโพธิ์นะครับ
นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๕ คือสะพานที่ชำรุดเสียหาย บริเวณบ้านหนองใหญ่ ตำบลโคกไทย อำเภอปักธงชัย เชื่อมบ้านบุตาล ตำบลชัยมงคล ของอำเภอเมืองครับ สะพานเส้นนี้เคยเป็น สะพานที่ใช้ขนส่งพืชผลทางการเกษตร แต่ว่าปัจจุบันนี้ชำรุดเสียหายไปเรียบร้อยแล้ว จึงอยากจะขอฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดสรรงบประมาณในการ ก่อสร้างให้ด้วย ขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณกิตติพงศ์ พิภพภิญโญ ครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
ชุติพงศ์นะครับท่านประธาน เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ผม ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดระยอง พรรคก้าวไกล อำเภอบ้านค่าย อำเภอปลวกแดง อำเภอวังจันทร์ วันนี้ขอหารือผ่าน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้ครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องแรก หลังการรอคอยอย่างยาวนาน ของชาวมาบยางพร-สะพานสี่กับถนนเจ็ดชั่วโคตรที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนในการสัญจรมา หลายปี เร่งรัดอย่างไรไม่ได้ผลจะยกเลิกสัญญาหาผู้รับเหมาใหม่ก็ไม่ยอมทำ ปล่อยให้ ชาวบ้านลำบากไม่จบไม่สิ้น ในที่สุดหลังจากผมตั้งกระทู้ถามกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรี ได้มาตอบกระทู้ ในที่สุดหน่วยงานก็ได้มีมติให้มีกระบวนการยกเลิกสัญญาเดินหน้าผู้รับเหมา ใหม่มาจบงานเสียที ต้องขอบคุณด้วยนะครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ขอให้แขวงทางหลวงระยองเพิ่มจุดกลับรถให้กับถนนหมายเลข ๓๔๗๑ สายบางบุตร-วังจันทร์ บริเวณวัดเนินสว่างจนถึงทางเข้าซอยชากเล็กบน เนื่องจาก ชาวบ้านแถวนั้นร้องเรียนว่าแต่เดิมมีจุดกลับรถ แต่หลังการก่อสร้างต้องไปกลับรถไกลมาก จะข้ามฟากทีต้องขับรถอ้อม ๓ กิโลเมตร เดี๋ยวถ้าเกิดการย้อนศรจะอันตรายต่อประชาชน ฝากเพิ่มจุดกลับรถด้วยนะครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ฝากถึงแขวงทางหลวงจังหวัดระยองเช่นกัน ถนนสาย ๓๕๗๔ บ้านค่าย-บ้านบึง ตลอดทั้งเส้นมีปัญหาถนนพังแล้วไฟดับทั้งสาย เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบริเวณตำบลบางบุตรและตำบลหนองบัว ฝากแก้ไขด้วยนะครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๔ อันนี้ขอเป็นคลิปนะครับ ชาวบ้านรอบสนามฟุตซอลแห่งหนึ่งหลังห้างใหญ่ CK Plaza ในอำเภอปลวกแดงมีปัญหา เรื่องเสียงดังจากกิจกรรมของสนามแห่งนั้นครับ กลางวันแข่ง Futsal กลางคืนจัด Concert ชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ร้องเรียนไปทางอำเภอแล้วก็ยังดังอยู่ ฝากด้วยนะครับ
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๕ ผนังดาดคอนกรีตเลียบแม่น้ำระยองริมทางหลวงหมายเลข ๓๕๗๕ ระยอง-บ้านค่าย ที่ผมปรึกษาหารือในสภาไปคราวที่แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบซ่อมแซมด้วยนะครับ จะรอให้เสาไฟฟ้าล้มทับคนตายก่อน ถึงจะมาทำหรืออย่างไร
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๖ ฝากถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอวังจันทร์ ผมได้รับเรื่องร้องเรียน จากกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนจังหวัดระยองถึงข้อกังวลต่อการขาดแคลนน้ำในช่วงเพาะปลูกว่า อยากให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคช่วยเร่งรัดเข้าตรวจสอบระบบเพื่อจ่ายไฟฟ้าของโรงสูบน้ำ แห่งใหม่ที่อ่างเก็บน้ำประแสร์ เนื่องจากเดิมมีกำหนดส่งน้ำในวันที่ ๑๐ มกราคมปีหน้า ขาดแต่ยังไม่ได้การอนุมัติให้ปล่อยกระแสไฟฟ้าจึงทำให้ถูกเลื่อนการส่งน้ำออกไป เกษตรกร ชาววังจันทร์จะไม่มีน้ำใช้เอานะครับ แล้วเราจะไม่มีทุเรียนกินกัน
นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ
เรื่องสุดท้าย การกระจายอำนาจเป็นสิ่งสำคัญนะครับท่านประธาน หากว่า เรากระจายอำนาจได้สำเร็จเรื่องเกือบทั้งหมดที่ผมพูดมาในการปรึกษาหารือท้องถิ่น จะจัดการได้ด้วยตัวเอง เราจะได้เอาเวลาของสภาไปทำเรื่องอื่นที่มีประโยชน์ต่อประชาชน มากขึ้น ขอขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณษฐา ขาวขำ ครับ
นายษฐา ขาวขำ นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
กราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายษฐา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช เขตอำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอบางขัน ตำบลเขาขาว อำเภอทุ่งสง พรรคภูมิใจไทย ขอปรึกษาหารือท่านประธานเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเพื่อประสาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการจำนวน ๒ เรื่องดังนี้
นายษฐา ขาวขำ นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ขอให้ขยายช่องทางจราจร พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างทางหลวงชนบทจำนวน ๓ สาย สายที่ ๑ น.ส. ๒๐๓๘ จากแยก ทางหลวง ๔๑ ถึงบ้านไสหร้า อำเภอถ้ำพรรณรา ถึงอำเภอทุ่งใหญ่ สายที่ ๒ น.ส. ๔๑๐๑ จากแยกทางหลวง ๔๑๑๐ ถึงบ้านภูเขาหลักอำเภอทุ่งใหญ่ สายที่ ๓ น.ส. ๔๑๐๐ จากแยกทางหลวง ๔๑๑๐ ถึงบ้านพร้อมเพียงอำเภอทุ่งใหญ่
นายษฐา ขาวขำ นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เรื่องสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนหรือสมาชิก อส. ซึ่งเกิดขึ้นมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นกำลังที่จะช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครอง ในเรื่องของการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งในระดับจังหวัดและระดับอำเภอ อดีตเป็นกำลังกึ่งทหารที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่ในปัจจุบันครับท่านประธาน ได้ปรับเปลี่ยนภารกิจมาเป็นเรื่องของการจัดระเบียบสังคม ในเรื่องของยาเสพติด ทั้งเรื่องของการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดฟื้นฟู การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในเรื่องของอุทกภัย เรื่องภัยแล้ง แต่ปรากฏว่าในเรื่องของสวัสดิการครับท่านประธาน ยังมีการจัดสวัสดิการยังไม่เหมาะสมกับภารกิจที่รับมอบหมาย ดังนั้นเพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกของ อส. จึงขอให้มีการพิจารณาทบทวนเรื่องของ การเพิ่มสวัสดิการให้แก่สมาชิก อส. ทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่จำนวนขณะนี้ประมาณ ๒๖,๖๐๐ คน ขอบคุณครับท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอเชิญ คุณศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ครับ
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๔ พรรคเพื่อไทย วันนี้มีเรื่องหารือ ๔ เรื่องครับ
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ได้รับแจ้งจากนายมงคล โพธิ์พันธุ์ นายก อบต. ตำบลหนองปลิง อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรีว่าถนนสายหนอง มะสัง-บ้านหนองใหญ่ ตำบลหนองปลิง อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เวลากลางคืน ถนนสายนี้ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างประชาชนที่สัญจรไปมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อยากให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งไปดำเนินการติดไฟฟ้าส่องสว่างเส้นนี้ด้วยครับ
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ได้รับแจ้งจากนายสมชาย อินชา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑๕ ตำบล หนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี ว่าถนนสายหนองใหญ่ หมู่ที่ ๑๑ บ้านเขาสน หมู่ที่ ๑๕ ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี เวลากลางคืนไม่มีไฟฟ้า ส่องสว่าง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งรัดไปดำเนินการ ติดไฟฟ้าส่องสว่างถนนสายนี้ด้วยครับ
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ได้รับแจ้งจากนายกสิริมงคล สืบเนียน อดีตนายกเทศบาลตำบล ห้วยกระเจาว่าถนนทางเข้าหมู่บ้านสระตาโล หมู่ที่ ๑๒ ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรีเชื่อมต่อไปยังบ้านโกรกสมอ ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ยังเป็นถนนลูกรังประชาชนสัญจรไปมาลำบากมาก อยากให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าไปปรับปรุงแก้ไขถนนสายนี้ด้วย
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ วันนี้ราคาสุกร โคเนื้อตกต่ำมากครับ ผู้เลี้ยงสุกรและโคเนื้อ ถือว่าขาดทุนย่อยยับครับ เพราะว่ามีสินค้าจากต่างประเทศนำเข้ามาและยังมีโคเนื้อ และสุกรเนื้อไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ครับ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูแลผู้เลี้ยงสุกรเนื้อและโคเนื้อของ เกษตรกรคนไทยด้วยครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เชิญคุณคำพอง เทพาคำ ครับ
นายคำพอง เทพาคำ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม คำพอง เทพาคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จากภาคอีสานนะครับ
นายคำพอง เทพาคำ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ปัญหาของตลาดน้อยเทศบาลนครอุบลราชธานีครับ ตอนนี้สำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งให้เทศบาลไปชำระค่าเช่าล่วงหน้าเกือบ ๑๐๐ ล้านบาทนะครับ เพื่อที่จะให้ดำเนินกิจการสาธารณะต่อเทศบาลนะครับ มันไม่ใช่เอกชนที่จะไปหากำไร แต่ที่สำคัญคือผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งทำมาหากินที่บริเวณนั้นเป็นหลายช่วงอายุคนแล้ว นะครับ ฝากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดูสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วยว่าไป ทำตามระเบียบหรือเปล่านะครับ คุณอรนุช ผลภิญโญ คณะทำงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ชัยภูมิ บอกว่าพี่น้องชาวบ้านแท่น ภูเขียวแล้วก็คอนสารร้องขอให้มีการยกเลิก ถอน พ.ร.ก. ปฏิรูปที่ดินให้มีการเดินสำรวจออกโฉนดให้พี่น้องเกษตรกรให้เรียบร้อยนะครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
นายคำพอง เทพาคำ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
อีกเรื่องหนึ่ง ต้นเดือนที่ผ่านมาผมได้ไปบุญกุ้มข้าวใหญ่ที่อำเภอสำโรง จังหวัด อุบลราชธานี งานเขาดีนะครับท่านประธาน กำนันตำบลสำโรงและผู้ใหญ่คิด แก้วคำชาติ บอกว่าถนนทางเข้าที่ว่าการอำเภอมันแคบครับ รถติดกลางทุ่ง อยากให้เป็น ๔ ช่องจราจร ได้หรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการครับ
นายคำพอง เทพาคำ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
สาธารณูปโภคเข้าโครงการบ้านมั่นคงของพี่น้องที่อยู่ที่จะละแม จังหวัด อุบลราชธานี แล้วก็นครอุบลราชธานีรอสาธารณูปโภค ถนนไฟฟ้าประปามานานแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไรทั้ง ๓-๔ หน่วยงานนี้จะบูรณาการกัน แล้วก็ทำให้กับพี่น้องด้วยนะครับ
นายคำพอง เทพาคำ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องขอให้ตรวจสอบการดูดทรายที่แม่น้ำมูล แม่น้ำชีนะครับ เพราะว่าตอนนี้ ไม่รู้ว่ารุกล้ำออกไปจากนอกเขตสัมปทานหรือไม่ ตลิ่งก็พังนะครับ ชาวบ้านบริเวณนั้นก็ได้รับ ผลกระทบ ถนนทางไปแหล่งท่องเที่ยวผามะนาว ที่ตำบลแนงมุด โคกตะเคียน กาบเชิงเป็น ลูกรัง ชาวบ้านนักท่องเที่ยวก็ได้รับความเดือดร้อนก็ทำเป็นลาดยางหรือคอนกรีตเสียนะครับ เจ้าหน้าที่ตระเวนป่าอุทยานแห่งชาติเบี้ยเลี้ยงเดือนละ ๒๗๐ บาทนะครับท่านประธาน ขอสักวันละ ๒๔๐ บาทได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณสยาม เพ็งทอง ครับ
นายสยาม เพ็งทอง บึงกาฬ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพและ เพื่อนสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ผม สยาม เพ็งทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด บึงกาฬ เขต ๑ พรรคภูมิใจไทย เรื่องที่จะขอหารือวันนี้เป็นเรื่องความมั่นคงชายแดนของไทย ในพื้นที่ดอนโคราชบริเวณแม่น้ำโขง อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬครับ
นายสยาม เพ็งทอง บึงกาฬ ต้นฉบับ
ในสนธิสัญญา TRACE ปี ๒๔๓๖ สรุปได้ว่า ในแม่น้ำโขงถ้ามีแม่น้ำสายแยก แยกออกเป็นหลายสายให้ใช้ร่องน้ำลึกที่ติดกับฝั่งไทยที่สุด เป็นเส้นแบ่งเขตแดน หมายความว่าเกาะแก่งในแม่น้ำโขงจะเป็นของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมด ซึ่งสัญญาฉบับนี้ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบเป็นอย่างมากครับท่านประธาน โดยเฉพาะในปัจจุบันสภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนไป หลายพื้นที่ที่เป็นสายแยกของแม่น้ำโขง ที่ติดกับฝั่งไทยไม่ได้เป็นร่องน้ำลึกครับ เป็นเพียงแค่ทางน้ำผ่าน ร่องน้ำตื้นเขินเรือขนาดใหญ่ ไม่สามารถสัญจรได้ บางพื้นที่กลายเป็นแผ่นดินติดกับประเทศไทยแล้ว เช่นที่ดอนโคราชของ จังหวัดบึงกาฬครับ แต่ในพื้นที่ดอนโคราชกลับมีพลเรือนและกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบ ฝ่ายมาสร้างถิ่นฐานและที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นแผ่นดินที่ติดกับตลิ่งของไทย แต่ทำไมเรากลับปล่อยปละละเลยให้ประเทศอื่นมาอยู่อาศัย พื้นที่ตรงนี้มันไม่ควรจะเป็นของ ประเทศอื่นครับ มันควรจะเป็นของประเทศไทยครับท่านประธาน แล้วยังทราบมาอีกครับว่า น่านน้ำบริเวณดอนโคราชมีการเรียกเก็บค่าผ่านทางจากเรือของไทยประมาณเที่ยวละ ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติครับ เป็นแม่น้ำสากลที่ใช้ร่วมกัน ระหว่างนานาประเทศ การที่มีกลุ่มคนมาอาศัยอยู่และเรียกเก็บค่าผ่านทางแบบนี้เป็นเรื่องที่ ถูกต้องหรือไม่ครับท่านประธาน ท่านประธานครับ จังหวัดบึงกาฬยังมีปัญหาสำคัญอีกเรื่อง คือเรื่องของยาเสพติดที่ระบาดไปทั่วทั้งจังหวัด และตรงพื้นที่ดอนโคราชอาจจะเป็นจุดเสี่ยง สำคัญในการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับแผ่นดินไทย ทำให้การลักลอบสามารถทำได้โดยง่าย จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหา อย่างเร่งด่วน เพราะถ้าไม่แก้จะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียดินแดนอีกมาก โดยเฉพาะ จังหวัดที่ติดกับแม่น้ำโขง และถ้าเราแก้ปัญหานี้ได้จะทำให้ประเทศไทยได้ดินแดนเพิ่มอีก หลายพันไร่และสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ครับ เอาไปแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกินให้ กลุ่มสมัชชาคนจนหรือเกษตรกรผู้ยากไร้ก็ได้ครับ จึงอยากฝากท่านประธานไปยัง ท่านนายกรัฐมนตรีและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม โดยท่านสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งท่านเป็นคนอีสานเหมือนกันครับ และเชื่อว่าท่านมีความเข้าใจเรื่องความมั่นคงชายแดนเป็นอย่างดี ขอให้ช่วยเร่งตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของชาติและพี่น้องคนบึงกาฬด้วยครับ ด้วยความ เคารพครับท่านประธาน ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณณัฐวุฒิ บัวประทุม ครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านประธาน ที่เคารพ ผม ณัฐวุฒิ บัวประทุม สมาชิสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คนจังหวัดอ่างทองครับ ท่านประธานวันนี้ผมขออนุญาตเป็นมวยแทนครับ แล้วก็พูดแทน พี่น้องประชาชนทั้งประเทศในหลายประเด็นด้วยกันครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๑ เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับถนนทางหลวงหมายเลข ๓๑๙๖ เส้นทางระหว่างลพบุรี-บ้านหมี่ จากสะพาน ๖ ถึงแยกโคกกะเทียม พื้นที่ตำบลทะเลชุบศร ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเรื่องของสะพานชำรุด ไม่มีไฟส่องสว่าง อยากจะฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมได้เร่ง ดำเนินการแก้ไขครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนในจังหวัดพะเยาที่เกี่ยวเนื่อง กับเรื่องของการสร้างฟาร์มเลี้ยงสุกรหรือฟาร์มหมูใน ๒ พื้นที่ด้วยกัน พื้นที่หนึ่งคือหมู่ที่ ๑๓ ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว รอยต่อกับตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา อีกพื้นที่หนึ่งคืออยู่ในตำบลห้วยแก้ว อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา ปรากฏว่าบางอัน กำลังสร้าง บางอันถูกระงับไม่ให้สร้าง แต่ท้ายที่สุดส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต โดยเฉพาะน้ำที่ไหลลงร่องปอและแม่น้ำอิงซึ่งเป็นสายน้ำหลัก ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพะเยา ก็ขอให้ท่านประธานฝากไปยังกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนจังหวัดพะเยาได้เร่งดำเนินการแก้ไขด้วยครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ พี่น้องประชาชนผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่ของเขตอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ได้ร้องเรียนมายังพรรคก้าวไกลให้พิจารณาการปรับแก้ผังเมือง แล้วก็กรณีของ สถานบันเทิงหรือสถานบริการที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดแพร่ เนื่องจากว่าการกำหนด Zoning ไปกำหนดที่พื้นที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ แต่สถานบันเทิงส่วนใหญ่นั้นอยู่ในพื้นที่ เขตอำเภอเมือง ซึ่งไม่สามารถเปิดและดำเนินการได้ครับ จึงอยากฝากท่านประธานไปยัง กระทรวงมหาดไทยได้เร่งปรับแก้เรื่องผังเมือง ตลอดจนการกำหนด Zoning ในพื้นที่ของ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ให้สอดคล้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๔ เป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอ่างทอง จากกรณีของฝุ่น PM2.5 ซึ่งสูงขึ้น เคยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของของประเทศนะครับ ทางพรรคก้าวไกล จังหวัด อ่างทอง ได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ๕ ประการด้วยกัน ๑. คือเรื่องการวัดค่า ๒. คือเรื่องการเตือนภัย ๓. คือเรื่องของการดูแลกลุ่มเปราะบาง ๔. คือเรื่องการหาสาเหตุ ๕. คือเรื่องการป้องกัน อยากฝากท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดอ่างทอง ได้เร่งดำเนินการแก้ไขด้วยครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๕ เป็นประเด็นเรื่องของศูนย์เด็กเล็กครับ ทราบมาว่ามีการเบิกเงิน รายหัวให้กับค่าอาหารนี้นะครับ ถ้าเด็กน้อยกว่า ๔๐ คน ได้ ๓๖ บาท แต่ถ้าเด็กมากกว่า ๔๐ คนเมื่อไร เหลือแค่ ๒๗ บาทต่อคนครับ เรื่องนี้ต้องแก้ทั้งระเบียบกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเกี่ยวข้องกับศูนย์เด็กเล็กทั้งประเทศ ฝากท่านประธานไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณสมศักดิ์ บุญประชม ครับ
นายสมศักดิ์ บุญประชม อุบลราชธานี ต้นฉบับ
เรียนประธานสภาที่เคารพ กระผม สมศักดิ์ บุญประชม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑๐ อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยรวมพลัง มีเรื่องหารือท่านประธาน ๓ เรื่องครับ
นายสมศักดิ์ บุญประชม อุบลราชธานี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ได้มีผู้ใหญ่บ้านทองใบ เบียนปัง บ้านตาโองเหนือ หมู่ที่ ๑๓ ผู้ใหญ่บ้านคำพา เบ็ญพันธุ์ และท่าน สท. สายศิลป์ วังปลื้ม ร้องทุกข์มายังกระผมว่าถนนทางหลวงชนบทสาย ๔๐๔๘ ระหว่างบ้านตาโองเหนือ หมู่ที่ ๑๓ ตำบลขี้เหล็ก อำเภอน้ำขุ่น ถึงบ้านปลาขาว ตำบลยาง อำเภอน้ำยืน ถนนสายนี้ ชำรุดเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นถนนเชื่อมระหว่าง ๒ ตำบล มีพี่น้องสัญจรเป็นจำนวนมากครับ
นายสมศักดิ์ บุญประชม อุบลราชธานี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ นายวิไล พานัส ผู้ใหญ่บ้านบ้านมหาชัย และนางวรรณิพร คาลิโส รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลยางใหญ่ อำเภอน้ำยืน ร้องทุกข์มายังกระผมว่า ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ๔๐๑๕ ระหว่างบ้านยางใหญ่-บ้านมหาชัย และบ้านดงกระชู ถนนชำรุดเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อจำนวนมาก ท่านประธานครับ พี่น้องประชาชนต้องใช้รถ ใช้ถนนอย่างลำบากรถเล็กรถใหญ่วิ่งสายนี้ และยังมีขนข้าว ขนมันสำปะหลัง พืชทางเกษตร ไปขายและยังมีรถนักเรียนของโรงเรียนสวายน้อยวิทยา ใช้ถนนเส้นนี้ด้วยครับ ผมจึงอยาก ฝากท่านประธานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยจัดสรรงบประมาณไปให้กับถนนทั้ง ๒ สาย ดังกล่าวนี้ให้กับพี่น้องประชาชนด้วยครับ
นายสมศักดิ์ บุญประชม อุบลราชธานี ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ด้วยโรงเรียนบุเปือยวิทยาคาร ตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืนสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๕ จัดการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน ๖๗๕ คน ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนได้ประสานมายัง กระผมให้ช่วยติดตามงบประมาณ เรื่องสร้างโรงอาหารของโรงเรียน เพราะหลังเก่าชำรุด ทรุดโทรมมากครับท่านประธาน เวลาเด็กนั่งรับประทานอาหารกลัวพังลงมาทับเด็ก ผมไม่อยากให้เกิดเหตุแล้วแก้ไขทีหลัง ซึ่งทางโรงเรียนได้เสนอของบประมาณตามลำดับ ขั้นตอนของทุกปี ตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ กระผมเองอยากฝากท่านประธานไปถึงสำนักงบประมาณ ช่วยพิจารณาจัดสรรงบประมาณไปสร้างโรงอาหารหลังใหม่ให้กับเด็กนักเรียนด้วยครับ ขอขอบคุณครับท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ครับ
นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เชียงใหม่ ต้นฉบับ
กราบเรียนประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวไกล จากประชาชนชาวเชียงใหม่ เขต ๑ ขอสไลด์ด้วยนะคะ
นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เชียงใหม่ ต้นฉบับ
วันนี้ดิฉันมีเรื่องปรึกษาหารือ ต่อประธานสภา จำนวน ๓ เรื่องด้วยกันค่ะ
นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เชียงใหม่ ต้นฉบับ
เรื่องแรก คือเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนระหว่างประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย เลขที่ ทส ๐๙๐๖.๗๐๔/๕๒๘๔ ลงวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙ และพื้นที่จัดตั้ง สุขาภิบาลตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๓ จากการแบ่งเขตทั้ง ๒ ประกาศนี้ทำให้พี่น้องประชาชน หมู่ที่ ๑ บ้านช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กว่า ๒๒๐ หลังคาเรือน เป็นพื้นที่สุญญากาศ ไม่สามารถขอบริการสาธารณะใด ๆ ได้ จึงฝากประธานสภาผ่านไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติในการพิจารณาหาแนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เชียงใหม่ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ กรณีที่กระทรวงมหาดไทยมีประกาศลงวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ ในเรื่องของกำหนดเวลาเปิด-ปิดของสถานบริการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในวันรุ่งขึ้นของ วันที่ ๑๖ เมื่อเวลาประมาณ ๐๓.๕๙ นาฬิกา เกิดอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติเมาแล้วขับ บริเวณถนนคชสาร บริเวณคูเมืองจังหวัดเชียงใหม่ นโยบายดังกล่าวของรัฐบาลเป็นนโยบาย ที่ดีค่ะ แต่ควรมีนโยบายหรือว่ามีมาตรการที่รองรับนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยค่ะ จึงฝากประธานสภาผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการที่ดี และไม่หละหลวมแบบนี้ ประกอบฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง ที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว ในจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทยมากขึ้น อย่าให้นโยบายที่ดีของรัฐบาลแบบนี้คร่าชีวิต พี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวจังหวัดเชียงใหม่ของพวกเราด้วยค่ะ
นางสาวเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู เชียงใหม่ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ เป็นเรื่องที่ดิฉันได้ปรึกษาหารือต่อประธานสภาเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายนที่ผ่านมา ในโครงการนำสายไฟลงดินแต่เกิดเหตุรถปูนตกหลุมตอนเย็นเมื่อวาน ที่ผ่านมา ซึ่งดิฉันได้ปรึกษาหารือต่อประธานสภาไปแล้วว่าการดำเนินงานของผู้รับเหมา และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่มีความเรียบร้อยในการดำเนินงานและการก่อสร้าง จึงฝาก ประธานสภาผ่านไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไข สถานการณ์ดังกล่าว เพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึงด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณธีระชัย แสนแก้ว ครับ
นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย กระผมขอหารือ ๓ เรื่องด้วยกัน ขอให้ฝ่ายโสตเปิดสไลด์และคลิปด้วยครับ
นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ
ข้อที่ ๑ ปัญหาทางระบายน้ำของตำบล ท่าลี่ อำเภอกุมภวาปี ประตูระบายน้ำไม่สามารถที่จะเปิดปิดใช้ได้ตามปกติ ชำรุดทรุดโทรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าไปซ่อมแซมมานานหลายปี ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้ และฤดูฝนก็ไม่สามารถบริหาร จัดการน้ำในลำน้ำปาวได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันจากหนองหาน พอมีปริมาณน้ำขึ้นมากหน่อย พี่น้องประชาชนในตำบลท่าลี่และใกล้เคียงก็จะได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเอ่อล้น สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องเกษตรกรและพื้นที่เกษตรกรอย่างแสนสาหัส กระผมขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกรมชลประทานเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย และจัดงบประมาณ ไปบริหารจัดการเรื่องนี้ด้วย เพราะมันจะเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนิโญ ซึ่งจะสร้างความเสียหาย ให้กับพี่น้องประชาชนและเกษตรกรอย่างวงกว้าง
นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ
ข้อที่ ๒ ปัญหาความชำรุดทรุดโทรมของสะพานข้ามลำห้วยทรายดูน สะพาน แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณบ้านท่าแร่ ตำบลท่าลี่ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เป็นเส้นทางสัญจร ไปมาระหว่างพี่น้องประชาชนตำบลท่าลี่เชื่อมกับบ้านโคกกลาง ตำบลกุดจิก อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ สะพานแห่งนี้ก่อสร้างมาประมาณ ๔๐ กว่าปี และเป็นเส้นทางสัญจรไปมา ระหว่างพี่น้องประชาชนทั้งสองจังหวัด ไม่เคยบูรณะซ่อมแซม สภาพปัจจุบันชำรุดทรุดโทรม เป็นอย่างมาก เป็นหลุมเป็นบ่อ ปูนแตก ราวสะพานหัก ไม่ปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางสัญจรไปมา ทำให้พี่น้องประชาชนไม่กล้าที่จะขนผลผลิต ไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา เพราะเกรงจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน กระผมขอให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทางหลวงชนบทและกรมโยธาธิการและผังเมืองไป ดำเนินการโดยด่วน
นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ
ข้อที่ ๓ ปัญหาความตื้นเขินของหนองหาน ภุมภวาปี ซึ่งเป็นแหล่งทะเลบัวแดง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว หนองหานซึ่งมีพื้นที่อยู่ ๒๘,๐๐๐ ไร่ เป็นแหล่งที่มีความสำคัญ ในพื้นที่เกษตรกรรมและอุปโภคบริโภคของน้ำ และยังเป็นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ และเป็นปัญหา ต่อหนองหาน และตะกอนทับถมเป็นจำนวนมาก วัชพืชหนาแน่นมาก จอกแหนเยอะแยะ ไปหมด ขอให้ทางกรมชลประทานและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการในการจัดขุดดิน ตะกอน เร่งกำจัดวัชพืชพื้นที่ปกคลุมบึงหนองหานเป็นการเร่งด่วน เพื่อเป็นที่รองรับน้ำเพื่อ เกษตรกรของพี่น้องประชาชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของทะเลบัวแดงอันเป็นที่ลือชื่อของ ประเทศ ณ เวลานี้ ขอขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
สภาผู้แทนราษฎร ยินดีต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการผู้นำศาสนา และทัศนศึกษาดูงาน โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพ และศึกษาดูงานผู้นำองค์กรชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ให้กับท้องถิ่น ประจำปี ๒๕๖๗ จากองค์การบริหารส่วนตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ขณะนี้กำลังฟังอยู่ด้านบนครับ ขอต้อนรับทุกท่านครับ ต่อไปขอเชิญคุณจำลอง ภูนวนทา ครับ
นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจำลอง ภูนวนทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต ๓ อำเภอห้วยเม็ก อำเภอหนองกรุงศรี อำเภอท่าคันโท ผมมีเรื่องจะกราบเรียนท่านประธานด้วยความเคารพอยู่ ๒ เรื่องนะครับ
นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
เรื่องแรก สืบเนื่องจากผมได้รับการร้องเรียนจากนายกเทศบาลตำบลกุดจิก นายสมชาย พิมพัฒน์ บอกว่า ณ สี่แยกตัดถนนสาย ๒๓๒๑ กับถนนสาย ๔๐๕๙ ช่วงบ้านกุด-ขอนแก่น เป็นสี่แยกวัดใจ อันเกิดจากการสัญจรที่ทำให้ประชาชนประสบ อุบัติเหตุ มีการล้มตายบ่อยถนนเส้นนี้นะครับท่านประธานเป็นทางลัดจากอีสานกลางไปสู่ อีสานเหนือไปลุ่มแม่น้ำโขงได้นะครับ แล้วก็คนสัญจรจากกรุงเทพมหานคร ก็ชอบใช้เส้นทางนี้ ไปทางนครพนม รถเยอะมากครับท่านประธาน แล้วก็ไม่มีไฟแดง นายกสมชาย พิมพัฒน์ นายกเทศบาลกุดจิกจึงร้องขอผ่านผม ร้องเรียนความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนในการ สัญจรผ่านผม เพื่อขอให้ทางหลวงแขวงการทางไปติดตั้งไฟแดง ณ สี่แยกตรงนี้นะครับ ท่านประธาน หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากท่านประธานครับ
นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่มีความเดือดร้อนอันเกิดจากภัยแล้งนะครับ ตอนนี้โครงการที่เสนอเกี่ยวกับน้ำ ที่จะลงทะเบียนระบบ Thai Water Plan ความประสงค์ของ อปท. หรือว่าผู้เดือดร้อน ต้องการ เมื่อมีการจดทะเบียนระบบ Thai Water Plan แล้วมันไม่ทันครับท่านประธาน จึงอยากฝากกราบเรียนผ่านท่านประธานด้วยความเคารพอย่างยิ่งเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชน อยากให้ สทนช. ขยายระบบการลงทะเบียน Thai Water Plan ครับ กราบเรียนมาด้วยความเคารพท่านประธาน ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ครับ
นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ พิษณุโลก ต้นฉบับ
กราบเรียนท่าน ประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพิษณุโลก เขต ๔ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานคะ วันนี้ดิฉันขอนำเสนอปัญหา ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากถนนหลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ในช่วงกลางคืนมืดสนิททำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอความอนุเคราะห์งบประมาณ ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างทั้งหมด ๓ สายทาง
นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ พิษณุโลก ต้นฉบับ
๑. ถนนทางหลวงหมายเลข ๑๐๖๕ พรานกระต่าย-หนองกุลา กม.๓๓+๘๐๐ ถึง กม.๓๕+๕๐๐ บริเวณบ้านนาดง หมู่ที่ ๑๔ ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ ซึ่งมีบ้านเรือน หนาแน่นและในช่วงกลางคืนจะมีรถสัญจรข้ามจังหวัดระหว่างพิษณุโลกและกำแพงเพชร ปริมาณมากค่ะ
นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ พิษณุโลก ต้นฉบับ
๒. ถนนทางหลวงหมายเลข ๑๒๘๑ สายบางระกำ-บ่อทอง กม.๐+๕๐๐ ถึง กม.๑+๙๕๐ บริเวณแยกคลองน้ำเย็นจุดป้อมตำรวจสามแยกบางระกำ ไปปลักแรดจนถึง แพล้นท์คอนกรีต และ กม.๒+๔๐๐ ถึง กม.๓+๘๐๐ ได้รับแจ้งจากท่านผู้ใหญ่สมบัติ บ้านตาโม่ หมู่ที่ ๕ ตำบลบางระกำว่า เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และ กม.๙+๒๕๐ ถึง กม.๑๐+๒๐๐ เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวตำบลปลักแรด ในพื้นที่ว่าในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลปลักแรด บริเวณโรงสีข้าวท่านกำนันศักดิ์ไปจนถึงสี่แยกไปบ้านพันเสาไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเพียงพอ และ กม.๑๑+ ถึง กม.๑๒+๓๐๐ เนื่องจากได้รับแจ้งจากท่านผู้ใหญ่บ้าน ท่านกำนันทวิช ย่อมแอ่น ตำบลบ่อทอง ว่าบริเวณวัดหนองแขมไปจนถึงบ้านดอนอภัย ตำบลบ่อทอง ถนนมืดสนิทและเป็นเส้นทางโค้งมาก และ ๓ ถนนทางหลวงหมายเลข ๑๓๐๓ สายปลายนา-หนองตูม กม.๑๒+๔๐๐ ถึง กม.๑๕+๑๐๐ หมู่ที่ ๓ บ้านใหม่เจริญธรรม หมู่ที่ ๑๒ บ้านบ่อไทรงาม มีบ้านเรือนหนาแน่น ๒ ข้างทาง ซึ่งกลางคืนมืดมาก จึงขอเร่งรัด ให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พิจารณาให้แขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ ๑ ดำเนินการ อนุเคราะห์งบประมาณติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่ดังกล่าวให้กับพี่น้องประชาชน โดยเร็ว เพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ขอบคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
สภาผู้แทนราษฎร ขอต้อนรับคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านควน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ซึ่งมา นั่งฟังประชุมอยู่ข้างบนนะครับ ต่อไปขอเชิญพลตำรวจตรี สุรินทร์ นะครับ
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สงขลา ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ มีเรื่องจะหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ๓ เรื่องครับ
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สงขลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ได้รับการร้องเรียนจากนายศิริวุฒ หมัดกะเสม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑๐ ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาว่า ด้วยถนนสายจะนะ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ผ่านบ้านปึก บ้านบ่ออิฐ เป็นถนนเลียบชายทะเลเชื่อมระหว่างอำเภอจะนะกับอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในฤดูมรสุมถูกคลื่นซัดหินดินทรายมาทับถนน ทำให้ประชาชนไปมาสัญจร ไม่ได้เป็นเวลาถึง ๓ เดือน และเป็นอย่างนี้ทุก ๆ ปี ขอให้แก้ไขโดยด่วนนะครับ
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สงขลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ บริเวณสี่แยกวงเวียนหอนาฬิกา วงเวียนนกเขา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ช่องถนนทางออกสู่ถนน ๔ เลน คับแคบมากขอให้ทางหลวงแผ่นดินช่วยแก้ไข ให้ด้วยครับ
พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สงขลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ได้รับการร้องเรียนจากนายอับดุลรอเซะ เบ็นและแนะ นายกสมาคม ตาดีกาจังหวัดสงขลา ว่าหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียนตาดีกาใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยได้รับการสนับสนุนมาตลอด ตอนนี้ ๓ เดือนแล้วยังไม่ได้ ไม่ทราบสาเหตุอะไร ขอให้ประธานช่วยเร่งรัดทางรัฐบาลให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณอับดุลอายี สาแม็ง ครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต ๓ เขตอำเภอกรงปินัง เขตบันนังสตา เขตอำเภอธารโต เขตอำเภอเบตง พรรคประชาชาติครับ ผมขอหารือกับ ท่านประธาน ๓ เรื่องครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๑ ก็ได้รับการร้องเรียนจากราษฎร หมู่ที่ ๔ ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สืบเนื่องจากที่นายพรชัย มงคลรัตนมณี ได้เคยมีการถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ ตามหนังสือฉบับ วันที่ ๒๐ เดือน ๙ ๒๕๖๐ นะครับ ขอความช่วยเหลือในเรื่องขอถนนทางเข้าหมู่บ้านขยาย ไฟฟ้า ซึ่งมีราษฎรอยู่ในพื้นที่ตรงนี้บ้านซาโห่ มีประมาณ ๑๕๐ หลังคาเรือน แล้วมี สำนักสงฆ์มีโรงเรียนถึงขนาดนี้เข้าไปไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ตรงนี้เกือบ ๑๐๐ ปีแล้ว แต่ยังไม่มี ถนน ยังไม่มีการขยายไฟฟ้าให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ก็ขอให้ท่านประธานได้ประสานไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ เรื่องดินสไลด์ดินถล่ม เนื่องจากว่าเขตอำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีพื้นที่เป็นที่ดินที่มีด้านธรณีวิทยาที่ไม่สามารถที่จะยึดเกาะในตัว มันได้เมื่อมีการอมน้ำเป็นจำนวนมากระหว่างฤดูฝนตกก็จะทำให้ดินสไลด์ดินถล่ม ซึ่งไป กระทบต่อบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนถึงขนาดว่ามีการเสียชีวิตเกือบทุกปี ก็อยากจะให้ ท่านประธานได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นกรมธรณีวิทยา กรมพัฒนาที่ดิน แล้วกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อหามาตรการป้องกันและระวังภัยในระหว่าง ที่เกิดเหตุ ในช่วงฤดูฝนนะครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา เขตอำเภอเบตงว่ามีเขตตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลาก็ได้รับความ เดือดร้อนในหน้าแล้งไม่มีน้ำในการที่จะใช้อุปโภคบริโภคหลายหมู่บ้านนะครับ ในของตำบล ตาเนาะแมเราะ เพราะเหตุผลว่า ณ ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้มีการทำ โครงการอ่างเก็บ น้ำขนาดใหญ่ซึ่งมีการบรรจุน้ำถึง ๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ของตำบลยะรม จังหวัดยะลา ตรงนี้ก็มีการเดินท่อเพื่อขยายพื้นที่การใช้น้ำ แต่ไม่ครอบคลุมของตำบลที่ผมกล่าวถึง ที่ว่าเมื่อสักครู่นี้ก็อยากจะให้ท่านประธานประสานไปยังกรมชลประทานเพื่อขยายเรื่องของ การเดินท่อน้ำเพื่อคครอบคลุมพื้นที่ความเดือดร้อนดังกล่าวด้วยนะครับ ขอขอบคุณ ท่านประธานครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ครับ
นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ
ดิฉัน นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ เขต ๕ พรรคพลังประชารัฐ ดิฉันได้รับ การประสานงานจากผู้บริหารของ อบต. ท่าแดง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอให้ประสานงานไปที่กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเร่งรัดขอทราบ ความคืบหน้าในการทำโครงการ ๓ โครงการ คือฝายคลองลำกง-บ้านถ้าเยี่ยม ตำบลท่าแดง ๒. ฝายบ้านท่าสวาย ตำบลท่าแดง ๓. แก้มลิงบึงไผ่ขวาง-บ้านเนินคนธา พร้อมอาคาร ประกอบ ตำบลท่าแดง อำเภอหนองไผ่ ทั้ง ๓ โครงการนี้ กรมชลประทานได้ออกแบบสำรวจ แล้วก็นำเสนอเพื่อจะพิจารณาในการก่อสร้างต่อไป แต่ว่าพี่น้องประชาชนไม่ทราบว่า ความคืบหน้าในการดำเนินงานนี้จะได้งบประมาณมาแก้ไขปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนได้เมื่อใด จึงฝากให้ดิฉันเรียนถามว่าทั้ง ๓ โครงการนี้ ยังดำเนินการที่จะก่อสร้างให้ หรือไม่ แล้วก็ถ้าหากว่าจะดำเนินการจะดำเนินการให้สักเมื่อใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเดือดร้อนในช่วงปัจจุบันก็คือ โดยเฉพาะฝายบ้านท่าสวาย ตอนนี้การประปาหนองไผ่ ซึ่งใช้เป็นแหล่งน้ำดิบในการนำไปผลิตเป็นน้ำประปาหล่อเลี้ยงพี่น้องชาวอำเภอหนองไผ่ ก็ขออนุญาตที่จะเรียนผ่านท่านประธานสภาขอเร่งรัดในการดำเนินการโครงการทั้ง ๓ โครงการนี้ไปถึงกรมชลประทานขอทราบความคืบหน้าค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณเทอดชาติ ชัยพงษ์ ครับ
นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม เทอดชาติ ชัยพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เขต ๕ เขตอำเภอเทิง เขตอำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และตำบลบุญเรือง อำเภอเชียงของ ผมได้รับปัญหา จากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงขอหารือท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒ ประเด็น หลัก ๆ
นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ
เรื่องแรก คือการปรับปรุงถนนและ ซ่อมแซมถนนสายหลัก
นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ การติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างตามแนวถนน ๑. ขอให้ปรับปรุง ถนนสายคอขวดไหล่ทาง ถนนสายเชียงราย ๔๐๐๒ แยกทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๐ บ้านหนองสองห้อง อําเภอเทิง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย ๒. ขอให้ซ่อมบำรุงถนน ทางหลวงชนบท สายเชียงราย ๔๐๐๘ แยกทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๐ บ้านศรีสะอาด ไปยังอำเภอขุนตาล อำเภอพญาเม็งราย ถนนสายเชียงราย ๔๐๐๕ แยกทางหลวงชนบท หมายเลข ๑๐๒๐ บ้านแม่ลอยไร่ อำเภอป่าแดด และสะพานเวียงหนองแรด และสะพานข้าม ลำน้ำอิง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย รวมทั้งขอให้ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างทางหลวงหมายเลข ๑๑๕๒ โป่งเกลือ-บ้านปล้อง ถนนสาย ๑๐๒๐ บ้านปล้อง-ชมภู ถนนสาย ๑๑๗๔ บ้านป่ามื่น-บ้านแม่ต๋ำน้อย ถนนสาย ๑๓๘๕ บ้านแม่ต๋ำน้อย-ชมภู ถนนสาย ๑๑๕๕ บ้านปี้-ทรายกาด ถนนสาย ๑๐๙๓ ขุนห้วยไคร้-ผาตั้ง ถนนสาย ๑๐๒๐ ชมภู-เชียงของ ถนนสาย ๑๒๒๒ บ้านหงาว-บ้านเหล่า ๔. ขอให้กรมทางหลวงก่อสร้างและยกระดับชั้น ทางสายเชียงราย ถนนสาย ๔๐๑๒ บ้านหนองเสา อำเภอเทิง ๕. ขอให้กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนเชื่อมระหว่างหมู่บ้านเพื่อการสัญจรที่ปลอดภัยและเป็นเส้นทางการเกษตร ของเกษตรกร ในตำบลยางฮอม และตำบลเวียง เส้นทางบ้านน้ำแพร่ถึงบ้านห้วยสัก อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย จึงกราบเรียนท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการต่อไป ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณชาตรี หล้าพรหม ครับ
นายชาตรี หล้าพรหม สกลนคร ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม ชาตรี หล้าพรหม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร เขต ๒ สส. ลูกชาวนา พรรคประชาธิปัตย์ ผมมีเรื่องที่จะหารือท่านประธานอยู่ ๑ เรื่อง
นายชาตรี หล้าพรหม สกลนคร ต้นฉบับ
สืบเนื่องจากผมได้รับเรื่องร้องเรียนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจาก ท่านนายกประเสริฐ ลีนาลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแมดนาท่ม อำเภอโคกศรีสุพรรณ ด้วยปัจจุบันทางหลวงชนบท สายสกลนคร-นาแก ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๒๓ เป็นถนนสายหลักในการสัญจรไปมา และมียานพาหนะสัญจรไปมาจำนวนมากระหว่าง จังหวัดสกลนครไปอำเภอธาตุพนม จังหวัดมุกดาหาร จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทางถนนสูง โดยเฉพาะจุดกลับรถโรงเรียนบ้านโพนทองประชาอุทิศ บริเวณทางแยก บ้านดงน้อย ตำบลเหล่าโพนค้อ เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุทางจราจรบ่อยครั้ง เนื่องด้วยเป็นจุด ทางเข้าโรงเรียนบ้านโพนทองประชาอุทิศ ซึ่งมีการเลี้ยวกับรถส่งบุตรหลานและมีการขับรถ ย้อนศรทางแยกบ้านดงน้อย ทางที่จะไปอำเภอโพนนาแก้ว ตำบลเหล่าโพนค้อ ซึ่งปัจจุบัน ขาดสัญญาณไฟจราจรและป้ายเตือน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต จำนวน ๖ ราย ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๔ ที่ผ่านมา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ดังกล่าว กระผมขอฝากท่านประธานผ่านไปไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แขวงการทางสกลนคร หมวดการทางอำเภอโคกศรีสุพรรณ ได้โปรดดำเนินการเร่งรัดให้ หน่วยงานดังกล่าวออกไปสำรวจเพื่อติดตั้งสัญญาณไฟจราจร พร้อมป้ายเตือนบริเวณทาง แยกบ้านโพนทองประชาอุทิศ ตำบลแมดนาท่ม อำเภอโคกศรีสุพรรณ และบริเวณทางแยก บ้านดงน้อย ตำบลเหล่าโพนค้อ อำเภอโคกศรีสุพรรณ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องประชาชนดังกล่าวด้วย ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณปรีดา บุญเพลิง ครับ
นายปรีดา บุญเพลิง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายปรีดา บุญเพลิง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคครูไทย เพื่อประชาชน การศึกษานำการเมือง ครูพัฒนาคน ประชาชนพัฒนาชาติ รากฐานของตึก คืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา ขอกราบเรียนท่านประธานผ่านไปยังรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการดังนี้ครับ
นายปรีดา บุญเพลิง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
จากกรณีที่เลขาธิการ กพฐ. ได้มีนโยบายการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนไม่เกิน ๖๐ คน เพื่อลดภาระงานให้กับครูผู้สอนและช่วยลดปัญหาความเสี่ยง ในการจัดซื้อจัดจ้างที่อาจจะไม่ครบถ้วนถูกต้องจึงปรับปรุงคำสั่งมอบอำนาจให้ ผอ. เขตพื้นที่ การศึกษาเป็นผู้ดำเนินการแทนโรงเรียนขนาดเล็ก ในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐทั้งเงินในงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินรายได้สถานศึกษาฟังดูแล้วดูดีมีเหตุผล แต่ในความเป็นจริง ท่านรู้ข้อเท็จจริงหรือไม่ว่าโรงเรียนขนาดเล็ก ผู้บริหารโรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ชุมชนเขาดูแลลูกหลานกันอย่างไร โรงเรียนจึงเคียงคู่กับชุมชนมาจนถึงทุกวันนี้ ปัญหาครูไม่ครบชั้น นักการภารโรงไม่มี ค่าน้ำค่าไฟฟ้าไม่เพียงพอ งบประมาณที่รัฐอุดหนุน ไม่เพียงพอตลอดทั้งปีนโยบายปรับลดภาระงานครู กำลังสร้างปัญหาให้กับโรงเรียน โดยการดึงเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนไปทำงานที่เขต ปัญหาตามมามากมาย โปรดดูขั้นตอน ในการจัดซื้อจัดจ้างใครรับผิดชอบในการตรวจรับ ใครรับผิดชอบในการเบิกจ่ายเงิน น่าเป็นห่วงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสนามฟุตซอล ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ขอเสนอแนะสิ่งที่ กระทรวงศึกษาธิการนี้ควรจะทำก็คือ
นายปรีดา บุญเพลิง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๑. ผลักดันจัดสรรตำแหน่งครูให้ครบทุกชั้นเรียน ๒. เจ้าหน้าที่การเงินพัสดุ นักการภารโรงให้ครบทุกโรงเรียน ยกเลิกโครงการต่าง ๆ ใน สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการที่มี มากมายซ้ำซ้อนและกระจายอำนาจการบริหารจัดการสถานศึกษาให้โรงเรียนอย่างมีอิสระ ในการบริหารจัดการทุก ๆ ด้าน โดยมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาและชุมชน อย่างแท้จริง แก้ไขระเบียบข้อบังคับที่มีปัญหาในการบริหารจัดการ
นายปรีดา บุญเพลิง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๒. เรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการ อยู่ในขณะนี้ ก็เห็นดีครับ เพราะว่าพรรคครูไทยเพื่อให้ประชาชนได้เสนอตั้งกรรมาธิการ ศึกษาแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาและการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ กระทรวงศึกษาธิการกำลังดำเนินการ แต่ในขณะเดียวกันเห็นเร่งรัดอยู่ใน กพฐ. เท่านั้น ใน สกอ. ก็ดี อาชีวะ เอกชน กศน. ครูซึ่งอยู่ในทุกสังกัดในกระทรวงศึกษาธิการ ก็ควรได้รับ การเยียวยาในการแก้ไขปัญหานี้ด้วย ก็ฝากไว้เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งดำเนินการ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณวรวงศ์ วรปัญญา ครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายวรวงศ์ วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี เขต ๕ พรรคเพื่อไทย ผมขออนุญาตใช้สภาอันทรงเกียรตินี้ในการหารือปัญหาพี่น้องประชาชนนะครับ ผมได้ส่ง สไลด์ไว้ ขอเจ้าหน้าที่เอาสไลด์ขึ้นด้วยนะครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ปัญหาแรก ผมได้รับการร้องเรียนจาก เทศบาลตำบลท่าหลวงผ่านท่านนายก ภิรมย์ ผดุงกลิ่น ซึ่งสถานที่ตรงนี้เป็นสถานที่สำคัญ เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ออกกำลังกาย เป็นบริเวณติดสันเขื่อน ซึ่งเป็นเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่ครับ แล้วมีประชากรจำนวนมากมาใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน ออกกำลังกาย หรือวิ่งออกกำลังกาย แต่จากรูปที่เห็น เรามีพื้นที่ที่ดีอยู่แล้วครับ แต่ว่ามีปัญหาในเรื่องของไฟฟ้าส่องสว่างซึ่งทำให้เกิดการมั่วสุมของ กลุ่มวัยรุ่นบ้าง หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีบ้าง มาทำพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายบ้าง ก็เป็นปัญหาสำคัญ ในพื้นที่ อยากจะลดแหล่งมั่วสุม ก็ขอกราบเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากได้ไฟฟ้า แสงสว่างเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ ผมได้รับการร้องเรียนจากท่าน สจ. กิ่งศักดิ์ สิงห์สนอง สมาชิก องค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ในส่วนของอำเภอท่าหลวงครับ ก็เป็นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๒๒๕๖ บริเวณนี้ก็เช่นกันยังเป็นบริเวณชุมชนขนาดใหญ่ แต่ว่าขาดในส่วนของ ไฟฟ้าส่องสว่าง เวลาพี่น้องสัญจรไปมาบางครั้งมีพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้องที่อยู่ในบริเวณนี้ เป็นประจำอยู่แล้ว เป็นพี่น้องพลัดถิ่นครับ ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ้าง ทำให้เกิดอันตราย ในการจราจรบ้าง ก็อยากจะหารือไปยังหน่วยงาน แล้วก็ของบประมาณมาช่วยในส่วนของ การแก้ไขปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ประเด็นสุดท้าย เป็นในส่วนของทางหลวงชนบท เป็นทางหลวงสาย ลบ. ๔๐๒๒ เป็นบริเวณบ้านทะเลวังวัด แล้วก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสะพานแขวนบึงบัวหลวงใช้ชื่อว่า บริเวณโค้งอันตราย ชาวบ้านก็เรียกกันว่าโค้งอันตราย ชื่อก็บอกอยู่ เช่นกันครับก็เป็นปัญหา ไฟฟ้าส่องสว่าง แต่บริเวณนี้ก็ยังมีผิวถนนที่สึกหรอไปทำให้เกิดอันตรายสำหรับพี่น้องที่ใช้ รถจักรยานยนต์ ก็อยากจะของบประมาณในส่วนของการเข้ามาเร่งแก้ไขทั้งในส่วนของไฟฟ้า ส่องสว่าง แล้วก็แก้ไขในส่วนของผิวจราจรที่เสียหายครับ ขอบคุณท่านประธานครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปขอเชิญคุณวิภาณี ภูคำวงศ์ ครับ
นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต ๘ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันขอปรึกษาปัญหาหารือพื้นที่ค่ะท่านประธาน ขอสไลด์ค่ะ
นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๑ ดิฉันได้รับเรื่องจาก นายธนกร รังสิมานพ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนหัน เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ ติดตามประสานโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำชี บ้านเหล่านกชุม หมู่ที่ ๔ และบ้านเหล่าพัฒนา หมู่ที่ ๑๒ ตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อประสานไป ยังกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ซึ่งในพื้นที่บริเวณปัจจุบันมีบ้านเรือนเป็นจำนวนมากที่ติด อยู่กับตลิ่งเกิดความเสียหายเนื่องในพื้นที่ได้ถูกแม่น้ำชีกัดเซาะเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ บ้านเรือนตอนนี้อยู่ในจุดวิกฤติสามารถพังทลายลงมาได้ ดิฉันจึงอยากขอฝากท่านประธาน ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วยค่ะ
นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ ดิฉันได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายพยุงศักดิ์ แก่นโสม ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอนเงิน หมู่ที่ ๑๓ เรื่อง ขอใช้น้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค ด้วยขณะนี้ชาวบ้าน หมู่ที่ ๑๓ บ้านดอนเงิน ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ประสบปัญหาขาด แคลนน้ำอย่างหนัก เพราะน้ำประปาที่ใช้ปัจจุบันเป็นน้ำบาดาลที่ขุดเจาะเอง เป็นน้ำเค็ม และไม่สะอาด และปริมาณน้ำก็ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ดิฉันจึงอยากขอฝาก ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็คือการประปาส่วนภูมิภาค เขต ๖ เข้ามาดูแล อย่างเร่งด่วน ซึ่งในพื้นที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองยังประสบปัญหาแบบนี้อยู่ ชาวบ้านเดือดร้อน มาเป็นเวลานาน รอการแก้ไขเพื่อขอใช้น้ำประปาอย่างมีคุณภาพค่ะ
นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๓ ดิฉันได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายอภินันท์ อันภักดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ ๑ และนายวิรัช ดอนประจุง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๑๔ บ้านหนองไห่ ตำบลหนองแปน อำเภออำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ขอเอกสารสิทธิที่อยู่อาศัย เนื่องด้วยชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อาศัยในพื้นที่เป็นเวลานาน ตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย หลายชั่วอายุคนแล้ว ยังไม่มีเอกสารสิทธิใด ๆ และได้ติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใด ๆ เข้ามาดำเนินการให้ค่ะ ดิฉันจึงอยากขอฝากท่านประธานผ่าน ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็คือกรมที่ดินให้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างเร่งด่วนด้วยค่ะ ขอขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปขอเชิญ คุณรัชนก สุขประเสริฐ ครับ
นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
กราบเรียนประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัด สมุทรปราการ ขอสไลด์ด้วยค่ะ
นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานค่ะ เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคมเวลา ๐๗.๕๐ นาฬิกา ขณะเกิดเหตุไฟไหม้บริเวณโรงงานแห่งหนึ่ง ย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู โรงงานแห่งนี้มีการเก็บสารเคมี ซึ่งจริง ๆ แล้วดูด้วยตาเปล่า ก็เห็นได้ว่าการจัดเก็บสารเคมีนี้ไม่ได้มาตรฐาน และหนำซ้ำมากกว่านั้นคือบริเวณที่จัดเก็บอยู่ ภายนอกพื้นที่บริเวณของนิคมอุตสาหกรรม และหนำซ้ำยิ่งไปกว่านั้นอีกค่ะ ใกล้บ้านชาวบ้าน แบบระยะประชิดดูด้วยตาเปล่านี่ก็คือห่างจากบ้านไม่น่าเกิน ๑๐๐ เมตร ท่านประธาน ส่งผลให้ ชาวบ้านได้รับผลกระทบกับสุขภาพของการใช้ชีวิตในประจำวันและส่งผลต่อสุขภาพ ในระยะยาวของชาวบ้านค่ะ
นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ บริเวณถนนสุขุมวิท บางปู-ตำหรุ ถนนสุขุมวิทบางปูมีพื้นผิว การจราจรสภาพที่ย่ำแย่มาก ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนนเส้น ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดิฉันได้เคยพูดหารือเรื่องนี้กับท่านประธานไปแล้ว ๑ รอบค่ะ และดิฉันได้ยื่นกระทู้ถามไปเมื่อวันที่ ๖ กันยายน แต่จนถึงวันนี้ปัญหานี้ของดิฉันก็ยังไม่ได้รับ การแก้ไข แต่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนกลับปัญหานี้เพิ่มขึ้นทุกวันค่ะท่านประธาน
นางสาวรัชนก สุขประเสริฐ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๓ ปัญหาเรื่องเวลาการวิ่งของรถบรรทุก ถนนพุทธรักษา เดิมเรียกว่า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๑๑๖ สามแยกทางหลวงหมายเลข ๓ ถนนเส้นนี้ ไม่มีเวลากำหนดการวิ่งของรถบรรทุก ทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนี้มีชุมชนหนาแน่น มีโรงเรียน ขนาดใหญ่อยู่หลายโรงเรียน มีวัด แล้วก็มีหมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นเยอะมาก ทำให้ถนนเส้นนี้ ได้รับความเสียหายเป็นหลุมเป็นบ่อ และแถมยังทำให้รถติดในชั่วโมงเร่งด่วนอีกด้วยค่ะ ฝากผ่านท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดิฉัน กล่าวมาทั้งหมดนี้ด้วย ขอบคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ท่านสุดท้ายครับ คุณกุลวลี นพอมรบดี
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ราชบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวค่ะ
นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ราชบุรี ต้นฉบับ
คือเรื่องแนวทางการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ในความดูแลของกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เนื่องด้วยตามมติ ครม. เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ และวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่จะเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ภายในพื้นที่ของตัวเองที่มีร่องรอยการรุกล้ำ และทำประโยชน์อยู่ก่อน ต้องยื่นขอผ่อนผันตามมติ ครม. ภายใน ๑๒๐ วันกับกรมป่าไม้ นั่นหมายความว่า ณ ขณะนั้น ท้องถิ่นใดถ้าต้องการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า เช่นปรับปรุง ซ่อมแซมถนนลาดยางเดิมหรือถนนคอนกรีตเดิมในหมู่บ้าน ถ้าไม่ได้ยื่นขอผ่อนผันไว้ภายใน ห้วงเวลา ๒๐ วันตามมติ ครม. ดังกล่าว ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในแต่ละภูมิภาค อย่างเช่น จังหวัดราชบุรีเป็นเขต ๑๐ จะไม่สามารถเข้าตรวจสอบและอนุมัติโครงการให้กับ ท้องถิ่นได้เลย โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี ๒๕๖๔ ก็ได้มีการเลือกตั้งนายกท้องถิ่นใหม่ ทั้งประเทศ ท่านนายกที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ก็มารับช่วงต่อจากนายกท่านเก่า บางท้องถิ่นนายกท่านเก่าก็ไม่ได้มีการยื่นคำขอผ่อนผันไว้ ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตู ตัวเอง ทำโครงการอะไรไม่ได้เลย บางท้องถิ่นนายกท่านเก่ายื่นคำขอไว้ แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบไม่ทัน จังหวัดราชบุรีมีความกระตือรือร้นค่ะท่านประธาน จังหวัดเดียว มีการยื่นคำขอผ่อนผันตามมติ ครม. ไว้ถึง ๕,๐๐๐ คำขอ ติด Top Ten ๑ ใน ๑๐ ของกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ก็ลงตรวจสอบไม่ทัน สิ่งที่เกิดขึ้นนะคะ คืออุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่เกิด ความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน บางท้องถิ่นกันเงิน งบประมาณรอไว้จนงบประมาณตกไป ท่านนายกท้องถิ่น นายกเล็ก นายกใหญ่ โดนชาวบ้าน ต่อว่าค่ะว่าเป็นนายกมาเกือบจะ ๒ ปีไม่มีผลงานในพื้นที่ใด ๆ เลย ดิฉันจึงขอหารือ ท่านประธานผ่านไปยังกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึง ความเป็นไปได้ในการเสนอขอให้แก้ไขทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จากที่กำหนดให้ยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ภายใน ๑๒๐ วัน ให้แก้ไขเป็น ให้ยื่นคำขอ อนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้หากยังมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ต้อง ระบุห้วงเวลาค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ครับจบการหารือ นะครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
จำนวนสมาชิกที่มาประชุมทั้งหมดที่ลงชื่อไว้เมื่อเลิกประชุม ๔๖๓ คน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ท่านสมาชิกครับ ขณะนี้มีสมาชิกมาลงชื่อเพื่อเข้าประชุม ๓๕๒ ท่านแล้วนะครับ ถือว่าครบองค์ประชุม ผมขอเปิดการประชุมและดำเนินการประชุมตามวาระต่อไปนะครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เรียนท่านสมาชิกครับ ก่อนที่จะมีการถามตอบกระทู้ ตามระเบียบวาระ กระทู้ถาม ผมอยากจะเรียนต่อที่ประชุมทราบว่า สำหรับการพิจารณากระทู้แยกเฉพาะได้ไป ดำเนินการถามและตอบในห้องประชุมกระทู้ถามแยกเฉพาะ ในบริเวณห้องกระทู้ถาม ชั้น ๑ นะครับ ซึ่งดำเนินการไปพร้อมกับการดำเนินการกระทู้ถามสดและกระทู้ถามทั่วไป ในห้องนี้ด้วยนะครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
๑.๑ กระทู้ถามสดด้วยวาจา
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
๑. กระทู้ถามที่ ๐๒๒ ส. (นายอลงกต มณีกาศ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขณะนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพร้อมที่จะมา ตอบท่านแล้วนะครับ ขอเชิญคุณอลงกต มณีกาศ ครับ
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายแพทย์อลงกต มณีกาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต ๓ พรรคภูมิใจไทย ท่านประธานครับ การส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเป็น การส่งเสริมให้คนไทยได้มีงานทำ ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการว่างงาน ภายในประเทศแล้ว การทำงานในต่างประเทศยังสามารถสร้างรายได้ในอัตราที่สูง ครับท่านประธาน ซึ่งการทำงานในต่างประเทศนั้นปี ๆ หนึ่งเงินตราเข้าประเทศเราหลาย แสนล้านบาทนะครับ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาความรู้และทักษะฝีมือให้กับแรงงานไทย ซึ่งจะสามารถนำทักษะดังกล่าวนี้กลับมาใช้ในการพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี แต่ทว่า ช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาครับท่านประธาน แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศ มีปัญหาไม่น้อยครับ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลที่ต้องเดินทางกลับประเทศ เราอย่างกะทันหัน เนื่องจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่ม Hamas หรือว่าแรงงานไทย ในเกาหลีใต้นะครับ ซึ่งความเป็นอยู่ค่อนข้างที่จะลำบาก นอกจากนั้นแล้วก็ยังได้รับ ผลกระทบจากเรื่องของผีน้อย ซึ่งลักลอบไปทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้อีกด้วยครับ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา แรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่อิสราเอลได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต การบาดเจ็บหรือว่าถูกจับเป็นตัวประกัน รวมถึงยังมีความกังวล เกี่ยวกับเรื่องของค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับจากนายจ้าง และยังมีความกังวลต่อว่าอาจจะไม่สามารถ เดินทางกลับประเทศอิสราเอลเพื่อไปทำงานต่อหลังจากสถานการณ์สงบลงนะครับ ผมเอง ต้องกราบขอบพระคุณคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงาน ซึ่งมีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยา จำนวน ๗๕๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการ เยียวยาแรงงานไทยจากประเทศอิสราเอลจากสถานการณ์ความไม่สงบในครั้งนี้นะครับ
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
คำถามแรกที่จะเรียนถามท่านรัฐมนตรี ว่านอกจากเงินชดเชย ๕๐,๐๐๐ บาท ต่อรายแล้ว ทางภาครัฐได้มีการช่วยเหลืออะไรอย่างอื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนี้สินที่ยัง ค้างอยู่หรือว่าแรงงานไทยยังต้องการที่อยากจะกลับไปอิสราเอลอีกรอบหนึ่ง ในพื้นที่ ของผมเองที่จังหวัดนครพนมขณะนี้ทราบว่าแรงงานบางส่วนเริ่มทยอยกลับไปทำงาน ที่ประเทศอิสราเอลแล้ว แต่ไม่ทราบว่าทางกระทรวงหรือทางรัฐบาลเรามีการประเมิน สถานการณ์อย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันมีแผนสำรองอย่างไรบ้าง ถ้าเกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่น วันที่ ๗ ตุลาคมอีกครั้งหนึ่ง ขออนุญาตถามคำถามแรกครับท่านประธาน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอเชิญ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพและสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ก็ขอบคุณมากครับ สำหรับคำถาม ที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้ถามมา ในเรื่องของการส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศ อิสราเอลนะครับ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา แรงงานไทย ที่ไปทำงานในอิสราเอลก็ประมาณ ๒๙,๙๐๐ คน และมีเดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยแล้ว ๙,๖๕๘ คน แล้วยังไม่ได้เดินทางกลับ ก็คือถึงขณะนี้ที่ยังไม่ยอมเดินทางกลับก็ประมาณ ๒๐,๒๔๒ คน เรามีความเสียหายจากการที่แรงงานของคนไทยหรือเพื่อน ๆ คนไทยเสียชีวิตไป ๓๙ คน ถูกจับเป็นตัวประกันทั้งหมด ๓๑ คน ก็ได้เดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยแล้ว ๒๓ คน ขาดอีก ๘ คน ซึ่งยังไม่ได้รับการปล่อยตัว ส่วนมีการบาดเจ็บทั้งหมด ๑๘ คน เดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้ว ๑๕ คน ยังรักษาพยาบาลอยู่ที่ประเทศอิสราเอลอีก ๓ คน ส่วนที่เสียชีวิตไปแล้ว ๓๙ คน ได้ส่งเดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยครบแล้วทุก ๆ คน ซึ่งการดูแลของรัฐบาลก็ด้วยความกรุณาของท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน กรุณาอนุมัติงบกลางให้กับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยทุกคน คนละ ๕๐,๐๐๐ บาท แล้วก็มีการดูแลเรื่องของหนี้สิน หากเพื่อน ๆ แรงงานที่ไปทำงาน ในประเทศอิสราเอลเป็นหนี้สินในวงเงินไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ก็สามารถพักต้นพักดอก และถ้าหากว่าเป็นหนี้สินนอกระบบ ก็ขอให้สัญญากับทางธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์หรือธนาคารของรัฐ หรือธนาคารพาณิชย์ก็สามารถโอนย้ายมาที่ธนาคารของรัฐได้ ในวงเงินไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท พักต้นพักดอกเป็นระยะเวลา ๓ ปี ส่วนแรงงานไทย ที่ไม่ได้เดินทางกลับมาก็ต้องขอแจ้งให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติได้รับทราบนะครับว่าโดยส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เกิดกรณีพิพาทหรือเกิดสงคราม ก็จะเป็นทางตอนส่วนเหนือหรือตอนใต้ จากทางฉนวนกาซาลงไปอีกประมาณสัก ๑๐๐ กว่ากิโลเมตร ซึ่งในพื้นที่ตรงนั้นไม่มีการเกิด สงครามหรือการสู้รบกัน เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ที่ทำงานในประเทศอิสราเอลก็ไม่มีความจำนง ที่จะขอเดินทางกลับ ส่วนที่มีความเป็นห่วงนะครับว่าแล้วเมื่อไรที่ทางรัฐบาลไทยหรือทาง รัฐบาลอิสราเอลจะรับแรงงานเพื่อน ๆ ของเรากลับไปทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ขอเรียนให้ เพื่อน ๆ สมาชิกผู้ทรงเกียรติได้รับทราบว่า ขณะนี้ก็อย่างที่ท่านได้กล่าวแล้วครับ มีเพื่อน ๆ คนไทยเราเดินทางกลับไปทำงานในประเทศอิสราเอลบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วทางรัฐบาลไทย ยังไม่ได้อนุญาตให้เดินทางกลับไปทำงานในประเทศอิสราเอล แต่ในขณะนี้ตัวผมเอง ก็ได้หารือกับทางกระทรวงแรงงานอิสราเอล แล้วโดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยเขาพร้อมที่จะรับคนไทยที่เดินทางกลับมาสู่ประเทศไทย กลับไปทำงาน ในประเทศอิสราเอลเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นความพร้อมตรงนี้เมื่อทางรัฐบาลหรือ การต่อสู้หรือความไม่สงบในประเทศอิสราเอลเรียบร้อย แรงงานไทยทุกคนที่เดินทางกลับมา สู่ประเทศไทยก็สามารถเดินทางกลับไปทำงานในประเทศอิสราเอลต่อไปได้ ขอบคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอเชิญ คุณอลงกต ถามเป็นครั้งที่ ๒ ครับ
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
ขอบคุณท่านประธานครับ กราบเรียน ท่านประธานอย่างนี้ครับว่าประเทศเกาหลีใต้เป็นอีก ๑ ประเทศ ที่แรงงานไทยมีความ ต้องการที่อยากจะไปทำงาน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดปัญหาก็คือในเรื่องของการสอบ ทักษะภาษาของเกาหลีไม่ผ่าน ก็เลยทำให้เกิดการลักลอบไปทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ การเป็นแรงงานเถื่อนในประเทศเกาหลีใต้เกิดความเหลื่อมล้ำ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่สามารถ ที่จะดูแลตัวเองหรือว่ามีสวัสดิการใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ ขณะเดียวกันผมทราบมาจากสื่อว่า แรงงานไทยที่ไปเป็นผีน้อยมีอยู่จำนวนเป็นแสน ๆ ราย สิ่งหนึ่งที่ได้ทราบมาว่ามีโครงการ วีซ่า E-7 ครับท่านประธาน โครงการวีซ่า E-7 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับช่างเชื่อมของไทยเข้าไป ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือของเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องทดสอบทักษะภาษาเกาหลี นะครับ หรือโครงการวีซ่า E-8 ซึ่งเป็นโครงการทำงานภาคการเกษตรในประเทศเกาหลีใต้ โดยไม่ต้องสอบทักษะภาษาเกาหลีเช่นกัน ซึ่งทราบมาว่าโครงการดังกล่าวมีการลงนามไป แล้วอยู่ที่เมืองจินอันนะครับ ก็อยากจะสอบถามท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับว่า มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการลักลอบในการไปทำงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้อย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันทางกระทรวงได้มีการขยายตลาดแรงงานในเกาหลีใต้หรือในญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง เพราะว่าในประเทศญี่ปุ่นก็มีลักษณะคนงานเป็นผีน้อยเช่นกัน
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
อีกคำถามหนึ่ง การเพิ่มพูนทักษะด้านภาษาเกาหลีให้กับแรงงานไทยที่มี ความประสงค์จะไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น ทางกระทรวงได้มีแนวทางที่จะเพิ่ม การเรียนการสอนสอนภาษาหรืออบรมภาษาอย่างไรบ้าง แล้วก็มีการสอนทาง Online โดยทางกระทรวงแรงงานหรือเปล่าครับ ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เชิญท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานตอบครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรตินะครับ จากคำถามที่ ๒ ก็คือแรงงาน ที่ไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ จริง ๆ ขณะนี้เรามีแรงงานที่ไปทำงานอย่างถูกต้องใน ประเทศเกาหลีใต้จำนวน ๑๘,๙๖๒ คน แล้วในประเทศญี่ปุ่นจำนวน ๘,๕๗๐ คน ก็ไม่เถียง นะครับว่าเรามีแรงงานที่ไปทำงานอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็เท่าที่ทราบในขณะนี้ตัวเลข ไม่เป็นทางการก็น่าจะมีตัวเลขเป็นหลักประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คนเศษนะครับ ทั้งในประเทศ เกาหลีใต้และในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางานเราพยายาม ทุกวิถีทางที่จะนำเพื่อน ๆ คนงานที่ไปอย่างไม่ถูกต้องและมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องเหมือนกับ ที่ขณะนี้ประเทศไทยเราพยายามเอาแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ซึ่งในสิ่งตรงนี้ก็เป็นประเด็นที่ทางกระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานได้ไปทำการลงนาม ใน MOU เพิ่มขึ้นนะครับ แต่ปัญหาที่สำคัญก็อย่างที่ท่านกล่าวว่าไม่ได้ผิด ก็ถูกต้องนะครับ ก็คือปัญหาการทดสอบเรื่องภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาเกาหลีใต้หรือภาษาญี่ปุ่น ขณะก่อนที่จะ ไปทำงานเมื่อทดสอบภาษาไม่ผ่านก็จะไม่ได้รับการส่งอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นก็มีบริษัท จัดหางานซึ่งจะมาทำการติดต่อและนำคนไทยเหล่านี้ไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งพวกเรา ก็จะเห็นในหน้าสื่อทั่ว ๆ ไป เห็นได้บ่อย ๆ นะครับ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานเราได้มี การทำเรื่องของการประชาสัมพันธ์ในการที่จะจัดอบรมในเรื่องของการฝึกภาษา โดยเฉพาะ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลีใต้ ภาษาญี่ปุ่น ใน ๔ ภาษานี้เป็นภาษาหลักที่กระทรวง แรงงานกำลังจะจัดให้มีการอบรมนะครับ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของการทำเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ก่อนหน้านี้เราก็มีการจัดอบรมเป็น Course สั้น ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับแรงงานของคนไทยที่จะไปทำงานในต่างประเทศ และขณะนี้เราก็มีแรงงานที่มีเซ็น MOU กับประเทศเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของช่างเชื่อมเรามี MOU และขณะนี้เราก็มี การส่งแรงงานไปบ้างแล้ว นอกเหนือจากที่เป็นช่างเชื่อม เรายังมีการประสานเรื่องเกี่ยวกับ แรงงานของเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการทำเรื่องของการเก็บพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลใช้เวลา ประมาณ ๖-๘ เดือน แล้วประเด็นสำคัญต่อมาในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการทำ MOU ซึ่งกระทรวงแรงงานและกระทรวงเกษตรได้มีความร่วมมือกัน โดยกรมการจัดหางานและ กรมประมง เราได้ทำการฝึกอบรมผู้ที่จะไปทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น เลี้ยงปลาไหลญี่ปุ่น เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอยเป๋าฮื้อและอีกหลาย ๆ ชนิด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็อยู่ในช่วงเหมือนกับ เป็นการฝึกอบรม เมื่อเราอบรมเสร็จแล้วคาดว่าหลังฤดูหนาวในปีหน้าก็คือหลังจาก เดือนมีนาคมเป็นต้นไป เราก็สามารถที่จะส่งเพื่อน ๆ แรงงานเหล่านี้อีกประมาณสักใกล้เคียง ๑๐,๐๐๐ ตำแหน่ง ไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนอกเหนือจากประเทศเกาหลีใต้แล้ว ก็ยังมีประเทศญี่ปุ่น ประเทศออสเตรเลีย แล้วก็มีประเทศไต้หวัน ประเทศฮ่องกง ประเทศ สิงคโปร์และประเทศมาเลเซีย ซึ่งกระทรวงแรงงานเรามีทูตแรงงานอยู่ใน ๑๑ ประเทศ ๑๒ สาขา ซึ่งทั้ง ๑๑ ประเทศ ๑๒ สาขาเรามีความพยายามที่จะต่อยอดไปในประเทศอื่น ๆ ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ขอแจ้งให้เพื่อน ๆ ที่เป็นสมาชิกผู้ทรงเกียรติ แล้วก็ให้พี่น้อง คนไทยทุก ๆ คนได้รับทราบว่าหากใครมีความประสงค์ที่จะไปทำงานในต่างประเทศ ทั้งเพื่อน ๆ ที่กลับมาจากประเทศอิสราเอล และไม่อยากกลับไปประเทศอิสราเอลต้องการไปทำงาน ในประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานเราได้เตรียมความพร้อมสำหรับการไปทำงาน ในประเทศอื่นในเรื่องภาคเกษตรกรรม เช่น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งตัวผมเองก็คงจะเดินทาง ไปลงนามใน MOU เดือนมกราคม ปี ๒๕๖๗ ส่วนในประเทศอย่างอื่นตรงนี้ก็ขอแจ้งไว้ ให้ทราบ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
ส่วนกรณีนี้ผมก็ขอรายงานเพื่อความเข้าใจนะครับ ตัวผมเองได้เดินทางไป ประเทศซาอุดีอาระเบียทำการประชุมกับรัฐมนตรีแรงงานของ ๒๐ ประเทศที่เมืองริยาด ซึ่งตรงนี้จากการประชุมประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศในตะวันออกกลางมีความต้องการ แรงงานไทยมากพอสมควร ซึ่งแรงงานที่ไปนี้ก็ต้องขอเรียนให้เพื่อน ๆ สมาชิกผู้ทรงเกียรติ และเพื่อน ๆ คนไทยให้รับทราบว่าแรงงานที่ไปขอให้เป็นแรงงานที่มีทักษะ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นแรงงานระดับล่างเราไม่สามารถไปสู้แรงงานของเอเชียใต้ ก็คือประเทศอินเดีย ประเทศบังกลาเทศ และประเทศปากีสถาน ซึ่งเป็นค่าแรงเท่า ๆ กับประเทศไทย เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีทักษะฝีมือเราก็ควรจะแจ้งความจำนงที่กรมการจัดหางาน ซึ่งก็ขอให้ทราบและ ขอแจ้งเพื่อทราบสำหรับท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอเชิญคุณอลงกต มณีกาศ เป็นครั้งที่ ๓ ครั้งสุดท้ายครับ
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
ผมได้ติดตามนโยบายของท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในเรื่องของแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศนะครับ มีอยู่ข้อหนึ่งครับ ท่านวางนโยบายไว้ว่า จะมีการส่งเสริมและขยายตลาดแรงงานไทย ในต่างประเทศทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ อัตรา ภายในปี ๒๕๖๗ ซึ่งประเทศซาอุดีอาระเบียนี้แต่ก่อนแรงงานไทยในภาคก่อสร้างเคยสร้างชื่อเสียงไว้เป็น อย่างมาก แต่ว่าได้หยุดการส่งแรงงานไทยไปนานถึง ๓๓ ปี เป็นโอกาสดีที่ท่านรัฐมนตรีได้ กล่าวเมื่อสักครู่นี้ว่าจะเป็นการเปิดตลาดแรงงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียอีกครั้งหนึ่งนะครับ
นายอลงกต มณีกาศ นครพนม ต้นฉบับ
คำถามสุดท้ายที่อยากจะถามท่านรัฐมนตรีครับว่า การไปทำงานต่างประเทศ ทำอย่างไรที่จะไม่ให้บริษัทเอกชนจัดเก็บเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขณะเดียวกัน ทำอย่างไรที่จะปราบในเรื่องของสายเถื่อน นายหน้าที่ผิดกฎหมายหรือว่าหลอกให้ไปทำงาน ต่างประเทศ แต่ว่าไปแบบผิดกฎหมายครับ ขอบพระคุณครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงานตอบเป็นครั้งสุดท้ายครับ ท่านมีเวลาตอบ ๓ นาที ๕๔ วินาทีครับ เชิญครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
กราบขอบพระคุณมากครับท่านประธาน กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพและ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรตินะครับ จากนโยบายที่ผมเข้าทำงานในกระทรวงแรงงานวันแรก ผมได้ประกาศว่าจะขยายแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ ในปี ๒๕๖๗ ไม่น้อยกว่า ๑๐๐,๐๐๐ อัตรา ซึ่งจากการที่เรามีการประกาศและเป็นนโยบายตรงนี้ ตัวผมเองก็ได้ทำ การบ้านมาพอสมควรนะครับ เพราะฉะนั้นจากการที่ได้ทำงานมาประมาณ ๓ เดือน ตัวผมเองก็ได้เดินทางไปมาแล้ว ๓-๔ ประเทศ ซึ่งประเทศอย่างที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ได้กล่าว ก็คือผมไปในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งก็ต้องขอเรียนนะครับ ขอให้พวกเราไปใน เรื่องของค่าแรงที่ไม่ใช่ค่าแรงขั้นต่ำต้องมีทักษะ ซึ่งถ้ามีทักษะก็ต้องเรียนได้เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นช่างเชื่อม ช่างฉาบ แล้วก็ที่สำคัญคือช่างติดตั้งกระจก แล้วก็ประเด็นสำคัญ อีกประเด็นหนึ่งก็คือ หมอนวดแพทย์แผนไทยและพนักงาน Chef หรือพนักงานเสิร์ฟ ในร้านอาหาร ซึ่งตัวผมเองก็ได้มีการไปคุยในร้านอาหารบางส่วน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
อีกส่วนหนึ่งก็เป็นในประเทศ UAE ก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน ซึ่งประเทศ ในตะวันออกกลางขณะนี้มีการก่อสร้าง มีการขยายความเจริญมาก เพราะฉะนั้นการต้องการ แรงงานไทยก็ขอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน กรมการจัดหางานที่จะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ก็ขออนุญาตอธิบายเล็กน้อยสำหรับเพื่อน ๆ ที่จะไปทำงานในตะวันออกกลาง ทางกระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางานไม่สามารถที่จะเป็นการส่งโดยตรงระหว่าง รัฐต่อรัฐ ซึ่งประเทศในภาคตะวันออกกลางนี้ก็ขอให้จัดส่งผ่านบริษัทตัวกลาง เพราะฉะนั้น ประเทศในตะวันออกกลางก็ขอแจ้งให้ทราบว่าต้องผ่านบริษัทเท่านั้น ส่วนในประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ หรือประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ทางกรมการจัดหางานเราได้มีการลงนามใน MOU และเป็นการส่งแรงงานของเราออกไปใน ระบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งการส่งระบบรัฐต่อรัฐเราไม่มีหัวคิวเราจะมีค่าเฉพาะการตรวจร่างกาย นะครับ การซื้อบัตรโดยสาร การขอ VISA แล้วก็ที่สำคัญที่สุดก็คือเมื่อคุณไปถึงประเทศ ในแต่ละประเทศ เราต้องไปเหมือนลักษณะไปเข้าสู่ประกันสังคมในแต่ละประเทศ ตรงนั้น ก็อาจจะต้องเสียเงินในบางส่วน อย่างกรณีประเทศอิสราเอลคุณต้องเตรียมเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท เมื่อไปถึงประเทศอิสราเอลคุณต้องวางประกันหรือไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้กับกระทรวง แรงงานของประเทศอิสราเอล ๔๐,๐๐๐ บาท ตรงนั้นเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งไม่ใช่บริษัท หรือกรมการจัดหางานของกระทรวงแรงงานเป็นผู้เก็บ แต่รัฐบาลอิสราเอลเป็นผู้เก็บ เพราะฉะนั้นเบี้ยบ้ายรายทาง หรือค่าแป๊ะเจี๊ยะ หรือค่า Fee ต่าง ๆ ถ้าเป็นเรื่องของ กรมการจัดหางาน ตรงนี้เราไม่มีการบวกเข้าไปในตรงนั้น ส่วนการที่จะผ่านบริษัทจัดหางาน แน่นอนครับ ในตะวันออกกลางเขาก็ยังเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทจัดหางาน ซึ่งตรงนี้อาจจะ มีการบวก ซึ่งการเจรจาต่อรองโดยกระทรวงแรงงานกรมการจัดหางานเราจะพยายามต่อรอง ให้ดีที่สุดนะครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
ส่วนในประเด็นที่ ๑๐๐,๐๐๐ อัตราตรงนี้ก็ไม่ใช่ประเทศที่เรามีอยู่ ๑๑ ประเทศ คงจะต้องมีการขยายประเทศไปมากกว่าที่เรามีตัวแทนเอกอัครราชทูตแรงงาน ประจำประเทศ ๑๑ ประเทศ เราคงจะต้องขยายไปให้ได้ไม่น้อยกว่า ๓๐-๔๐ ประเทศ เพราะฉะนั้นอัตรา ๑๐๐,๐๐๐ อัตรา เราคงส่งไปไม่ครบ เพราะฉะนั้นก็ขอเรียนให้กับสมาชิก ผู้ทรงเกียรติได้รับทราบและกราบเรียนท่านประธานสภารับทราบ ขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบพระคุณ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมากครับ ท่านตอบได้ชัดเจน ก็เป็นประโยชน์กับ สมาชิกสภาและพี่น้องประชาชนที่ฟังข้างนอก เพราะว่ามีความชัดเจนตามคำถามทุกประเด็น คิดว่าคุณอลงกตคงไม่มีประเด็นอะไรแล้วล่ะครับ ขอบคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ต่อไปเป็นกระทู้ถามสดที่ ๓ แล้วเดี๋ยวกระทู้สดที่ ๒ ซึ่งถามเรื่องพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำลังเดินทางมา จะขออนุญาตไปกระทู้สดที่ ๓ ก่อนนะครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
๒. กระทู้ถามที่ ๐๒๔ ส. (นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม ท่านนายกรัฐมนตรี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้สดเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีบัญชามอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนนะครับ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กลับมากระทู้สดด้วยวาจา วันนี้มี ๓ กระทู้ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็มาตอบทุกกระทู้ครับ กระทู้สดด้วยวาจานี้ต้องถาม ต่อหน้า เพราะว่าไม่ได้ถามล่วงหน้า ถามมาตอบไปนะครับ ไม่ต้องมีคำบรรยายมาก ใช้เวลา ๓ ครั้ง ฝ่ายผู้ถาม ๑๕ นาที ฝ่ายผู้ตอบ ๑๕ นาทีนะครับ ตอนนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ยุติธรรมมาแล้วนะครับ ผมขอเชิญคุณชลธิชา แจ้งเร็ว ครับ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นสัญญาต่อที่ประชุม สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่าจะสร้างความเข้มแข็งให้กับหลักนิติธรรม และหลักประกัน ว่ากฎหมายจะเป็นธรรมบังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาค วันนี้ดิฉันจึงขอใช้โอกาสนี้ ในการตั้งคำถาม ถึงความเป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมายและนโยบายต่อผู้ต้องขังใน ๒ ประเด็น หลักเพื่อให้รัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่มาชี้แจงในวันนี้ได้แสดงออกถึงความจริงจังและ ความจริงใจของรัฐบาลที่มีต่อคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในเวทีนานาประเทศ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๑ ที่ดิฉันอยากจะสอบถามเรื่องของสิทธิในการรับการรักษาพยาบาล ของผู้ต้องขัง ท่านประธานคะ ดิฉันขอย้ำในที่นี้ผู้ต้องขังทุกคนต้องมีสิทธิในการเข้าถึง การรักษาพยาบาลที่เหมาะสม กรณีของคุณทักษิณ ชินวัตร เองนั้นหากมีอาการเจ็บป่วย ที่เกินกำลังเกินศักยภาพของสถานพยาบาลเรือนจำ ก็ย่อมต้องได้รับการส่งต่อไปยัง โรงพยาบาลด้านนอกที่มีศักยภาพที่เพียงพอเช่นเดียวกัน แต่วันนี้ที่ดิฉันตั้งคำถามในประเด็นนี้ ไม่ใช่เพราะว่าดิฉันไม่ต้องการให้คุณทักษิณ ชินวัตร ได้รับสิทธินี้ ดิฉันต้องถามถึงเกณฑ์ใน การพิจารณาเรื่องนี้ที่มีบรรทัดฐานว่าสุดท้ายแล้วกรมราชทัณฑ์จะมีเกณฑ์ในการพิจารณา การให้สิทธิของผู้ต้องขังในการออกไปรับการรักษาพยาบาลด้านนอกอย่างไร เพื่อไม่ให้สังคม เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ตลอดจนไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมอีก ก็คือเรื่องนี้ร่วมกัน อย่างมีวุฒิภาวะ และมีเหตุและผลไปด้วยกัน อย่างที่หลายท่านทราบกันดีว่า ณ วันนี้ คุณทักษิณ ชินวัตร เข้าเรือนจำไม่ถึง ๑ วัน ก่อนที่จะถูกส่งตัวออกมารับการรักษาด้านนอก ที่โรงพยาบาลตำรวจ จนถึงเวลานี้ก็เป็นเวลาเกินไปกว่า ๑๒๐ วัน และในช่วงที่ผ่านมา สังคมไทยก็ได้เกิดการตั้งคำถามเรื่องของเกณฑ์ในการพิจารณาการส่งตัวผู้ต้องขังออกไป รักษาด้านนอกของเรือนจำ เพราะที่ผ่านมาค่ะท่านประธาน การเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังโดยทั่วไป มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่ายังคงมีปัญหาอยู่มาก เป็นการยากลำบากมาก ๆ สำหรับผู้ต้องขัง ในการที่เขาจะได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลด้านนอกของเรือนจำนะคะ ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีเพียงแค่ผู้ต้องขัง ๔ คนเท่านั้นที่ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาล ด้านนอกเรือนจำเป็นระยะเวลาเกินกว่า ๑๒๐ วัน เฉกเช่นเดียวกับกรณีของคุณทักษิณ วันนี้ดิฉันขอยกกรณีตัวอย่างของคุณเอกชัย หงส์กังวาน ผู้ต้องขังในคดีทางการเมืองที่ตรวจ พบฝีที่ตับหลังรับการรักษาแล้ว โดยเขาได้แจ้งกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้พยายามเร่งส่งตัวเขากลับเข้าสู่เรือนจำอีกรอบหนึ่ง ทั้งที่ยังอยู่ใน ระหว่างการรักษาพยาบาลแล้วก็รับยาฆ่าเชื้อ แล้วแพทย์เองก็ได้มีความเห็นออกมาว่า การติดเชื้อฝีในตับของคุณเอกชัยนั้นก็มีสาเหตุมาจากสภาพของเรือนจำที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งแนวการปฏิบัติของราชทัณฑ์ระหว่างกรณีของคุณทักษิณและของคุณเอกชัยนั้นต่างกัน อย่างสิ้นเชิงค่ะท่านประธาน ในประเด็นนี้ดิฉันจึงมีคำถามที่ขอคำชี้แจงจากท่านรัฐมนตรี ให้ชัดเจนแก่สังคมไทยในประเด็นนี้ค่ะ ขอสไลด์ขึ้นด้วยนะคะ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
โดยปกติแล้วค่ะท่านประธาน ตามขั้นตอนปกติของการอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวด้านนอกของเรือนจำก็จะเริ่ม จากการที่ ๑. เมื่อผู้ต้องขังมีอาการเจ็บป่วยนะคะ แพทย์หรือว่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ จะต้องทำการแจ้งพัศดีและทำรายงานส่งไปยัง ผบ. เรือนจำ โดยจะต้องมีการแจ้งสาระสำคัญ นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ แล้วก็ยังจะต้องรวมไปถึงอาการเจ็บป่วยอย่างไร เรือนจำ มีศักยภาพในการดูแลผู้ต้องขังได้หรือไม่ และควรรักษาตัวนอกเรือนจำเป็นที่ใด อันนี้ ก็เป็นหลักในการพิจารณาของคณะแพทย์ที่ส่งให้กับทางพัศดีและ ผบ. เรือนจำ ดิฉันจึงมี คำถามเขาว่า หากเราเปรียบเทียบในขั้นตอนปกติของการอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกไปรักษาตัว ด้านนอกของเรือนจำ กับกรณีของคุณทักษิณนั้นที่ถูกส่งตัวออกไปรับการรักษาพยาบาล ด้านนอกที่โรงพยาบาลตำรวจได้ผ่านความเห็นชอบในทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ทางการแพทย์ ตลอดจนการอนุมัติของพัศดีและ ผบ. เรือนจำตามระเบียบตามมาตรการ ปกติหรือไม่ และเพื่อความโปร่งใสในเรื่องนี้อย่างที่เราทราบกันดีว่า ณ วันนี้สังคม ได้ตั้งคำถามกับเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง และดิฉันเองนี้ไม่อยากให้กระบวนการยุติธรรม ของบ้านเราถูกตั้งคำถามหรือถูกลดความไว้วางใจความเชื่อมั่นจากสังคมไปมากกว่านี้ ดิฉัน จึงคาดหวังว่าอยากฝากไปทางท่านรัฐมนตรีให้ช่วยชี้แจงรายละเอียดของการส่งตัวผู้ต้องขัง กรณีของคุณทักษิณ ชินวัตร นะคะ และหากสามารถชี้แจงรวมถึงการแสดงพยานหลักฐาน ที่ชัดเจนในเรื่องนี้ก็จะยิ่งทำให้สังคมช่วยคลายความเคลือบแคลงสงสัยในประเด็นนี้ด้วย นั่นรวมไปถึงชื่อและตำแหน่งของผู้ที่ทำการวินิจฉัยและผู้ที่อนุมัติด้วยนะคะ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ค่ะท่านประธาน อย่างที่เราทราบกันดีว่า ณ วันนี้คุณทักษิณรับการรักษาอยู่ที่ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเราทราบกันดีว่า ชั้น ๑๔ เป็นชั้นผู้ป่วยระดับ VIP ของโรงพยาบาลตำรวจ ดิฉันจึงอยากจะสอบถามว่า มีความเหมาะสมหรือความจำเป็นทางการแพทย์อย่างไร เนื่องจากว่ากฎกระทรวงการส่งตัว ผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำได้ระบุห้ามผู้ต้องขังอยู่ห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยโดยทั่วไป และโดยปกติแล้วนี้การส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรับการรักษาด้านนอกเรือนจำก็จะใช้สิทธิตาม สปสช. นะคะ ดิฉันจึงคิดว่าเรื่องนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องออกมาตั้งคำถาม แล้วก็ขอความ ชัดเจนจากท่านรัฐมนตรีว่ามีกระบวนการในการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไรที่จะเป็นการประกัน หลักการไม่เลือกปฏิบัติที่จะเกิดขึ้นในกรณีของการส่งตัวผู้ต้องขังค่ะ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ประเด็นที่ ๒ ก็จะ เกี่ยวข้องกับเรื่องของระเบียบราชทัณฑ์และการคุมขังในสถานที่อื่นนอกเรือนจำ โดยเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง เพิ่งจะมีระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับ การคุมขังในสถานที่คุมขัง ปี ๒๕๖๖ ออกมา ระเบียบนี้ได้เปิดทางให้ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติ ตามเกณฑ์สามารถถูกคุมขังในสถานที่อื่นที่ราชทัณฑ์กำหนดแทนไว้ได้ คือดิฉัน มองว่านี่คือก้าวที่สำคัญของระบบราชทัณฑ์ไทยนะคะ แล้วก็ขอชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะโดยหลักการในเรื่องนี้แล้ว การนำมาตรการอื่นใดแทนการคุมขังมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหา ความแออัดในเรือนจำเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมนะคะ ซึ่งเรือนจำไทยในช่วงที่ผ่านมาอย่างที่เรา ทราบกันดีว่าติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ ของเรือนจำที่มีความแออัดสูงสุดของโลกมาโดยตลอด
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
แต่อย่างไรก็ตาม ระเบียบใหม่นี้ก็ยังมีข้อกังวลอีกหลายประการ นอกจากกรณี ของคุณทักษิณเองที่ ณ วันนี้สังคมหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า คุณทักษิณได้เอื้อผลประโยชน์ หรือตัวระเบียบนี้ได้เอื้อประโยชน์ให้กับกรณีของคุณทักษิณมากน้อยเพียงใดแล้ว แต่วันนี้ ดิฉันอยากจะมาชวนให้เราตั้งคำถามที่ไปไกลมากกว่าแค่กรณีของคุณทักษิณที่จะได้รับ ประโยชน์จากระเบียบนี้ แต่ยังจะต้องรวมไปถึงการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการที่จะใช้ ระเบียบนี้ในการแก้ไขปัญหาเรือนจำแออัด เพราะนี่คือประเด็นหลักที่ระเบียบนี้ออกมาใน ขั้นต้น และที่สำคัญเรายังจะต้องช่วยกันตั้งคำถามถึงการบังคับใช้ระเบียบใหม่ฉบับนี้และ การพิจารณาเกณฑ์ของผู้ที่เป็นผู้ถูกคุมขังที่จะเข้าตามระเบียบนี้อีกเช่นเดียวกัน วันนี้ดิฉัน จึงมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องของระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
ประเด็นแรกเลยค่ะ ทางท่านรัฐมนตรี และที่สำคัญคือสังกัดที่อยู่ภายใต้ กระทรวงของท่านอย่างกรมราชทัณฑ์ได้ประเมินความเป็นไปได้ในการนำระเบียบฉบับนี้มาใช้ ในการลดปัญหาเรือนจำแออัดอย่างไรบ้าง ผู้ต้องขังที่จะเข้าเกณฑ์ระเบียบนี้มีจำนวนเท่าใด และที่สำคัญคือระเบียบนี้จะช่วยลดความแออัดในเรือนจำได้มากน้อยเพียงใด
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
อีกคำถามหนึ่งที่สำคัญ อย่างที่เราทราบกันดีว่าหลายคนก็สงสัยเช่นเดียวกัน หลังจากที่ประกาศฉบับนี้ออกมาก็คือว่า ตัวระเบียบใหม่นี้จะครอบคลุมผู้ต้องขังประเภทคดี ใดบ้าง ซึ่งในระเบียบนี้หลักเกณฑ์การพิจารณาไม่ได้ชัดเจนมากเพียงพอ แล้วผู้ต้องขัง กลุ่มใดบ้างที่จะเข้าสู่ระเบียบนี้ ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทางท่านรัฐมนตรีจะต้องให้ความ ชัดเจนแก่สังคมไทย และที่สำคัญคือหลักเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ต้องขังจะวางอยู่บนหลักการใด ที่จะเป็นการการันตีประกันว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในทางที่จะเอื้อประโยชน์ ให้แก่ผู้ต้องขังที่ร่ำรวยหรือผู้ต้องขังที่มีอิทธิพลส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อระเบียบฉบับนี้ ได้ให้อำนาจในการพิจารณาแก่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
คุณชลธิชาครับ อันนี้เป็นกระทู้ถามสด คือท่านต้องถามในคำถามที่อยากจะถาม ไม่ใช่เป็นการบรรยาย ผมคิดว่าท่านใช้เวลาพอ เดี๋ยวให้รัฐมนตรีตอบก่อน คุณชลธิชามีเวลาถามได้อีก ๒ ครั้ง ดีไหมครับ เดี๋ยวท่านรัฐมนตรีจะได้ตอบ ถ้ายังไม่หมด เพราะท่านยังมีเวลาจะถามได้อีก ๒ ครั้ง แต่เวลาเหลืออีก ๕ นาทีครับ ต่อไปขอเชิญท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ตอบครับ มีเวลาให้ ๑๕ นาทีนะครับ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณที่ได้ตั้งคำถามของสังคม ไม่ใช่คำถามที่จะเกิดขึ้นในสภา ผมทราบว่าสังคมก็มีการตั้งคำถาม ก่อนอื่นอยากจะเรียนว่า ท่านอดีตนายกทักษิณท่านเดินทางเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ ขณะนั้นรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาล รัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ได้เข้ามาแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ เหตุการณ์ล่วงมาประมาณเกือบ ๒๐ วัน ก็ต้องเรียนว่าในกระบวนการของท่านอดีตนายก ทักษิณก็เป็นกระบวนการแรกที่รัฐบาลนี้ไม่ได้รับรู้ แต่ก็ต้องรับรู้เหมือนประชาชน คือรับรู้ ตามข่าว อยากจะกราบเรียนท่านสมาชิกที่ทรงเกียรติแล้วก็ประชาชน ท่านได้กรุณาเรียนว่า รัฐบาลจะฟื้นฟูหลักนิติธรรม แล้วก็จะยกระดับการบริหารบ้านเมือง จะทำให้หลักนิติธรรม ที่เป็นการยอมรับของนานาชาติ ผมเองเมื่อเข้ามาบริหารกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ ปี ๒๕๖๐ พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ ปี ๒๕๖๐ ก็ไม่ได้เกิดในรัฐบาลของปัจจุบัน ก็เกิดในรัฐบาลที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ยืนยันเรื่องหลัก นิติธรรม ถ้าจะให้จับใจความได้ง่าย ๆ หลักนิติธรรมคือหลักที่รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด หรือมีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด กฎหรือกฎหมาย หรือการกระทำที่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่าจะใช้บังคับไม่ได้แล้วยังเป็นการขัดหลักนิติธรรม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ การธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญหรือหลักนิติธรรม ก็คือการใช้กฎหมายต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย กฎหมายราชทัณฑ์ ปี ๒๕๖๐ เราเขียนเจตนารมณ์ไว้ชัดเจน ถ้าท่านสมาชิกมีโอกาสเปิด พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ อยากให้ไปดู ในหน้าสุดท้าย ปกติการจะดูเจตนารมณ์จะไปดูที่หมายเหตุ เขาจะมีเหตุผลในการแก้ไข พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ไว้ชัดเจน ก็คือ พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ ปี ๒๔๗๙ ที่ใช้บังคับเป็นเวลานาน และมี บางประการไม่สอดคล้องกับนโยบายอาญาของประเทศ ประกอบกับมีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักสากล ที่สำคัญที่สุดผมได้มาตรวจดู ว่าเหตุผลการออกกฎหมายก็เป็นเรื่องที่เราถูกตราหน้าจากสังคมโลก อย่างท่านที่อภิปราย ก็คือเรามีเรือนจำที่มีนักโทษล้นคุก เรามีเรือนจำที่เปรียบเสมือนการทรมาน แล้วในกฎหมาย ได้เขียนเจตนารมณ์ดังกล่าว เพราะว่าเหตุที่ต้องออกกฎหมาย คือไม่สามารถจะจัดการและ บริหารโทษของผู้ต้องขังเฉพาะรายหรือเฉพาะคดีได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติ ให้อำนาจและไม่สามารถดำเนินการให้มีสถานควบคุม หรือคุมขังประเภทอื่นนอกจากเรือนจำ ซึ่งทำให้ระบบพัฒนาพฤตินิสัยและการบริหารเรือนจำไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ สมควรที่จะ มีคณะกรรมการราชทัณฑ์ ซึ่งมี ๒๙ คน ๑๖ คนเป็นคนภายนอกหมด เช่น เลขาธิการ สำนักงานศาลยุติธรรม มีผมเป็นประธาน ก็คือเพื่อที่จะให้มีนโยบายในการบริหารงาน ราชทัณฑ์และปรับปรุงกฎหมาย การที่กฎหมายการคุมขังที่ไม่ใช่เรือนจำกฎหมายเขียนไว้ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ แต่บุคคลที่ไม่ไปออกกฎหมายรองที่เขียนไว้ในมาตรา ๓๓ และระเบียบ ที่เขียนไว้ตามมาตรา ๓๔ จึงทำให้กฎหมายดังกล่าวคือการที่รัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คือกฎหมายก็สั่งให้เขียนกฎหมายรอง อันนี้ผมคิดว่าเป็นการไม่ธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
ประการต่อมาก็ทำให้สถานที่ควบคุมเป็นที่เลวร้าย เป็นที่แออัด นี่คือที่มา อยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่าผมในสมัยที่เป็นสมาชิกเราก็อภิปรายเกือบตลอดว่าเรือนจำ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมา ก็คือสถานที่ทรมานของคน ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของปวงชนชาวไทยย่อมได้รับการคุ้มครอง อันนี้คือประเด็นที่อยากจะกราบเรียนให้เข้าใจ ผมได้เข้าไปดูคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่ผม บอกไปแล้ว ๑๙ คน พบว่าในปีที่ผ่านมาไม่มีการประชุมเลย กฎหมายออกแบบเพื่อให้ คณะกรรมการกำหนดนโยบาย ผมก็ได้มีการจัดประชุมในเดือนพฤศจิกายน แล้วก็บอกว่า กฎหมายลูกที่ออกระเบียบดังกล่าวก็ให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อออกระเบียบ ซึ่งก็เป็น ระเบียบที่ออกไปข้างต้น คราวนี้กลับมาสู่ประเด็นที่ท่านอดีตนายกทักษิณ เราเรียกร้องให้ ท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผมก็ไปดูในเรื่องกระบวนการ วันนี้ในหน้าที่ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเมื่อมีการรักษาพยาบาลเกินกว่า ๑๒๐ วัน จะต้องมีหนังสือ ความเห็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมความเห็นของแพทย์ อันนี้สำคัญ ผู้ที่รักษาและ หลักฐานที่เกี่ยวข้องรายงานให้รัฐมนตรีทราบ ผมทราบว่าวันนี้เป็นเวลาครบ ๑๒๐ วัน เมื่อวานผมได้ตามกับท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพราะเรื่องนี้ผมจะพูดข้อเท็จจริงก็ต่อเมื่อมี พยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงใดที่ไม่มีพยานหลักฐานมันจะถือว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง แล้วมันจะทำ ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ซึ่งผมเองก็รอ ซึ่งทราบจากท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่าน่าจะวันนี้ หรือเมื่อไร แต่ว่าถึงเมื่อวานเอกสารยังไม่มา แต่ส่วนรายงานผมก็พยายาม ถ้าพูดแค่นี้มัน เหมือนศรีธนญชัย คือเป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบตามกฎหมายก็ไม่ได้ติดตามหรือ เมื่อสักครู่ มีตัวแทนของโรงพยาบาลตำรวจ คุณหมอ ไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน ไปเข้าคณะกรรมาธิการ การตำรวจ ผมก็ถามว่า คุณหมอพบว่าในกฎหมายราชทัณฑ์นี้เราเขียนเรือนจำ หมายถึงที่ใช้ ควบคุมขังและคุมขังผู้ต้องขังกับทั้งสิ่งที่ต่อเนื่อง สิ่งที่ท่านอยู่ในทางกฎหมายก็ถือว่าท่านก็อยู่ ในเรือนจำ ท่านจะออกไปไหนไม่ได้ แล้วก็ถามจากคุณหมอแบบตรง ๆ คุณหมอยังอยู่ข้าง หลังนี้เลย ยืนยันว่าท่านป่วยจริง ท่านมีหลักฐานตามที่ปรากฏจริง แล้วก็ในประเด็นดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่มีการรายงานก็พบว่า ถ้าผมอ่านจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำมาก็เป็นเหมือน เรื่องเดิม ก็คือพบว่าผู้ป่วยเป็นหลายโรค มีกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีความดันโลหิตสูง ไล่ ๆ มาหมด แล้วก็เป็นความเห็นของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อเช้าผมก็คุยกับแพทย์ ก็เป็นความเห็นของแพทย์ แล้วก็ได้มีการส่งไป อยากจะเรียนว่ากฎหมายราชทัณฑ์แล้วก็ กฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องเรียนว่า พ.ร.บ. เกี่ยวกับทางการแพทย์เราไม่สามารถที่จะดูผล ถ้าผู้ป่วยไม่ยินยอม เมื่อสักครู่นี้ผมสรุปหมอ แต่หมอยืนยันว่าในการตรวจนี้ท่านป่วยจริง สำหรับผมถามคำถามวันนี้ ถ้าผมได้รับรายงานจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่ผ่านปลัดกระทรวง ในหนังสือดังกล่าวที่จะมาหาผม ผมเพียงแค่ทราบนะครับ หลังจากทราบแล้ว ไม่ใช่ผู้อนุมัติ ผู้อนุมัติคืออธิบดี แต่ผมก็จะได้รับความเห็นของแพทย์และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ผมยัง ไม่มีหลักฐานถึงขนาดนี้ แต่กระบวนการตรวจสอบท่านอดีตนายกทักษิณ กระบวนการ ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมเยอะมาก เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ต้องมา ชี้แจงกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ของวุฒิสภา ตลอดจนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ได้เข้าไปตรวจเข้าไปดูหมด ซึ่งถ้าองค์กรอย่างนั้น ก็น่าจะยอมรับได้ ถ้าผมมาพูดก็เหมือนผมจะมาแก้ตัวให้ ก็อยากจะให้เรียนว่านี่คือในหนึ่ง กระบวนการ สำหรับคนอื่นที่ป่วยมีอย่างนี้บ้างหรือไม่ ก็มีรายงาน แล้วมีจำนวนมากด้วยครับ ซึ่งในกรณีดังกล่าวก็อยากจะเรียนว่าเป็นเรื่องปกติครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
เรียนท่านรัฐมนตรีครับ เนื่องจากว่าท่านเหลือเวลาอีก ๑ นาที ๕๒ วินาที เอาไว้ตอบประเด็นหลัง เผื่อว่าผู้ถาม จะได้ถาม สำหรับคุณชลธิชา ท่านมีสิทธิที่จะถามได้อีก ๒ ครั้ง เวลาเหลืออีก ๕ นาทีพอดี ท่านจะถามทีเดียวหมดหรือจะแบ่งเป็น ๒ ครั้ง ก็ได้แล้วแต่นะครับ แต่ท่านรัฐมนตรีก็มีเวลา ๑ นาที ๕๒ วินาที ในการตอบ คือประมาณ ๒ นาที เชิญคุณชลธิชา ถามครั้งที่ ๒ ครับ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉันขอย้ำสั้น ๆ สักนิดเดียว ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นก่อนรัฐบาลจะเข้ามาหรือว่าท่านเข้ามา เป็นรัฐมนตรี แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ในฐานะของการที่ท่านเป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ดิฉันคิด ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องทราบข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถาม
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
ดิฉันขอถามท่านย้ำอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากว่าคำถามที่ดิฉันถามไปในรอบแรก ยังไม่ได้รับคำตอบ ดิฉันขอย้ำอีกรอบหนึ่ง คำถามในประเด็นแรกเลย กรณีของคุณทักษิณนั้น การอนุญาตออกไปรับการรักษานอกเรือนจำ คือท่านได้มีการตรวจสอบไหมว่าการออกไป รักษาด้านนอกจากเรือนจำเป็นไปตามหลักการปกติหรือไม่ อันนี้คือเรื่องหนึ่งที่ดิฉันขอ ความชัดเจน แล้วก็ที่สำคัญคือกรณีของการที่คุณทักษิณนั้นเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น ๑๔ ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นชั้น VIP อันนี้เป็นคำถามจากรอบแรกที่ยังไม่ได้รับคำตอบ แล้วดิฉันขอย้ำว่าในฐานะของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ดิฉันคาดหวังว่าท่านจะต้องมีคำตอบ แล้วก็ข้อมูลในเบื้องต้นสำหรับกรณีดังกล่าว
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
อีกประเด็นหนึ่ง ก็คือเรื่องของระเบียบฉบับใหม่ที่ออกมา คำถามของดิฉัน คือว่าบุคคลใดบ้างที่จะเข้าสู่ระเบียบฉบับใหม่ดังกล่าวนี้ คดีใดบ้างที่จะเข้าสู่ระเบียบฉบับใหม่ ดังกล่าวนี้ ดิฉันคิดว่าในตัวระเบียบฉบับใหม่นี้ออกมาในยุคที่ท่านเองก็เป็นรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นแล้วท่านจะต้องตอบคำถามในประเด็นนี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบคุณมากครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ ท่านมีเวลาประมาณ ๒ นาทีนะครับ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
ประเด็นแรก ก็เท่าที่ได้รับรายงานจากท่านปลัด ท่านอธิบดีนี้เป็นไปตามหลักการตามปกติของท่านอดีต นายกรัฐมนตรี แล้วก็ที่ระบุว่าโรงพยาบาลก็มี เป็นเรือนจำที่ต่อเนื่องก็มีผู้ควบคุมก็ไม่สามารถ จะไปไหนได้ การเยี่ยมคนอื่นก็ไปเยี่ยมไม่ได้ นอกจากมี ๑ ใน ๑๐ คือมีระเบียบปฏิบัติเหมือน เรือนจำทุกอย่าง แล้วก็ในกรณีอย่างนี้ก็มีบุคคลอื่นซึ่งมีเหมือนกัน
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
กรณีที่ถาม คำถามข้อ ๒ ก็คือระเบียบที่ออกมามันต้องมีแนวทางปฏิบัติ คือจะมี ๔ ประเภทหลัก ๆ คือการจำแนกและแยกขังนี้ประมาณ ๑๘,๐๐๐ คน ก็จะเป็น เกณฑ์ปกติ ไม่ใช่เกณฑ์สำหรับท่านทักษิณ แล้วกรณีที่พัฒนาพฤตินิสัยคือเรื่องจิตใจ เรื่องอะไรนี้ ก็มีประมาณ ๑๖,๐๐๐ คน ที่เขาออกระเบียบ คือผู้ป่วยอันนี้ก็ไปอยู่ ก็มีประมาณ หลายพันคน แล้วผู้เตรียมการก่อนปล่อยก็มี ซึ่งระเบียบดังกล่าวยังไม่จบ เพราะจะต้องมี การประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ซึ่งผมเป็นประธาน คือพอออกระเบียบเสร็จก็ต้องมา เข้าประชุม ผมก็ตั้งใจว่าต้นเดือนมกราคมซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น เพราะมีงานวิจัยรองรับ จำนวนมาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ไปวิจัยเรื่องการขังนอกพื้นที่ นอกจากนั้นผมยังมีออก กฎกระทรวงกำลังเปิด ก็คือ ๘๙/๑ คดีอยู่ระหว่างสอบสวน แล้วระหว่างการพิจารณานี้ เพื่อให้ออกไปอยู่ข้างนอกเหมือนกัน โดยให้ศาลเป็นผู้ไต่สวนก็ไม่มีอภิสิทธิ์สำหรับใครคนใด คนหนึ่งครับ เป็นการปฏิบัติเพื่อสร้างหลักนิติธรรมจากคะแนนที่ ๐.๒๕ ที่คะแนนเต็ม ๑ เพื่ออยากให้ได้ ๐.๕ เหมือนประเทศอื่น ๆ เขา อันนี้คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบพระคุณ ท่านรัฐมนตรีครับ คุณชลธิชามีเวลา ๓ นาที ๒๒ วินนาที ถามได้อีกครั้งสุดท้ายนะครับ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉันขออนุญาต ถามท่านย้ำอีกรอบหนึ่งนะคะ เพื่อความกระจ่างแก่สังคมไทย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของ ชั้น ๑๔ อย่างที่ท่านรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าชั้น ๑๔ ในกรณีของคุณทักษิณนั้นก็ใช้เกณฑ์ปกติ แล้วก็ปฏิบัติเหมือนเรือนจำโดยทั่วไป แต่ดิฉันขอย้ำว่าเท่าที่ดิฉันไปตรวจสอบมานะคะ ท่านประธาน ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำปี ๒๕๖๓ เขาได้ระบุห้ามผู้ต้องขังอยู่ห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยโดยทั่วไป ดังนั้นแล้วดิฉันคิดว่า ประเด็นนี้ค่อนข้างชัดเจนค่ะท่านประธานว่า มีกฎของกระทรวงที่ระบุเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ดิฉันจึงขอย้ำอีกรอบหนึ่งว่า ท่านรัฐมนตรีได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร ที่จะทำให้สังคมนั้น ได้มั่นใจว่าจะไม่นำไปสู่การเลือกปฏิบัติในประเด็นนี้
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
สุดท้ายค่ะท่านประธาน ดิฉันคิดว่า ณ วันนี้เรามีเวลาอย่างค่อนข้างจำกัด ดิฉันจึงขอฝากให้ท่านรัฐมนตรีได้ช่วยส่งเอกสารรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารที่ท่านได้แจ้งไว้ว่าท่านรออยู่จากทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แล้วก็ ขอให้ท่านรับปากว่าจะส่งเอกสารดังกล่าวมาชี้แจงค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบคุณมากครับ
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ดิฉันยังมีเวลา เหลืออยู่ประมาณ ๒ นาที อาจจะขอยกเวลาในส่วนของดิฉันให้กับท่านรัฐมนตรีได้ชี้แจง เพื่อความกระจ่างแก่สังคมไทย เพราะประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นค่ะ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ได้ครับ ขอบคุณคุณชลธิชามากครับ เพราะประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญ คนทั่วประเทศก็สนใจ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นผมจะขออนุญาตให้ท่านรัฐมนตรีตอบ คุณชลธิชาอนุญาตเวลาของ ท่าน ๒ นาทีก็ให้ท่านรัฐมนตรีตอบภายในเวลา ๒ นาที เพราะว่าวันนี้กระทู้สดมาครบทุกคน ๓ กระทู้หมดเลย เพราะฉะนั้นจะอนุญาตให้เกินมากกว่ากระทู้ละครึ่งชั่วโมงน่าจะไม่ถูกต้อง แต่อันนี้คุณชลธิชาได้กรุณาให้ ขอบคุณมากครับ เพราะว่าเป็นที่สนใจของประชาชน ทั่วประเทศ เหลือเวลา ๒ นาที เชิญท่านรัฐมนตรีตอบได้ครับ
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้นฉบับ
ก็เรียนว่า ตามรายงานที่ปรากฏมาให้ผมนี้ ชั้น ๑๔ ไม่ใช่เป็นชั้นพิเศษ แต่ว่าวิธีการเรื่องความปลอดภัย ก็มี ผมยังพบเป็นผู้ใหญ่เลยก็ไปเยี่ยมญาติอยู่ชั้น ๑๔ เหมือนกัน แต่ว่าเป็นคนละส่วน แต่ว่าเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยของกรมราชทัณฑ์มี อันนี้คือสิ่งที่ได้รับการยืนยัน จากเอกสาร กรณีที่จะถามว่าหลังจากผมได้รับรายงานจะให้ได้ไหม แต่ผมขอสงวนอยู่อันหนึ่ง มันมีพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติเรื่องอาการป่วยนี้ พระราชบัญญัตินี้แข็งมากก็คือว่า จะต้องเป็นความลับ ผมผิดกฎหมายด้วย และไม่มีกฎหมาย แล้ว พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล ปี ๒๕๖๒ มาตรา ๒๗ แต่ว่ารายละเอียดอื่น ๆ จะมอบให้ครับ ขอบพระคุณมากครับ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
ขอบคุณ ท่านรัฐมนตรีและคุณชลธิชามากครับ ต่อไปเป็นกระทู้สดที่ ๓ ซึ่งรัฐมนตรีก็มาแล้วครับ เชิญครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เดี๋ยวผู้ถาม รอสักครู่นะครับ รอท่านรัฐมนตรีเข้าประจำที่ก่อนนะครับ ตอนนี้ท่านรัฐมนตรีผู้ตอบ เข้าประจำที่แล้วนะครับ ผมขอเข้ากระทู้ถามสดด้วยวาจา ๑.๑.๒ ของท่านศุภโชติ ไชยสัจ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถามท่านนายกรัฐมนตรี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
๓. กระทู้ถามที่ ๐๒๓ ส. (นายศุภโชติ ไชยสัจ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม นายกรัฐมนตรี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้หนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีบัญชามอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็น ผู้ตอบกระทู้ถามแทน ขอเชิญท่านศุภโชติครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม ศุภโชติ ไชยสัจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต้องบอกว่าอย่างนี้ ว่าวันนี้ผมมีความตั้งใจที่จะตั้งกระทู้สดถามท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะ ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ แต่การที่ท่านนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาตอบแทนนี้ ผมไม่สามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจเลยครับว่า ท่านรัฐมนตรีมีอำนาจมากพอในการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าไฟให้กับพี่น้องประชาชน เพราะว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกครับท่านประธานที่ผมมีความพยายามจะตั้งกระทู้ถามสดขึ้น เมื่อเดือน กันยายนที่ผ่านมา ผมก็ได้ตั้งกระทู้ถามสดถามท่านรัฐมนตรีโดยตรง แต่ท่านบอกว่า ติดภารกิจซึ่งผมก็เข้าใจได้ครับ แล้วก็ยังดีครับที่ท่านได้เชิญผมเข้าไปคุยที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาทางออกให้กับประเทศทางด้านพลังงาน ซึ่งทางพวกผมพรรคก้าวไกลก็ได้เสนอ มาตรการแก้ไขไปหลายวิธี ซึ่งท่านก็ได้ตกปากรับคำเสียดิบดีว่าจะนำไปพิจารณาต่อ แต่นี่ผ่านมาเกือบ ๔ เดือนแล้ว กลับไม่มีมาตรการอะไรที่ท่านพูดไว้กับผมในวันนั้นออกมา แม้แต่นิดเดียว ผมจึงไม่อาจเชื่อได้ว่าท่านจะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้กับ พี่น้องประชาชน แต่ไม่เป็นอะไรครับ ในเมื่อท่านได้ให้เกียรติกับสภาแห่งนี้แล้ว ผมอยากจะ ขอถามท่านดังต่อไปนี้
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการแรก เรื่องมาตรการเร่งด่วน เรื่องปัญหาโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ที่ไม่เป็นธรรม นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราได้พูดคุยกันหลายรอบสำหรับประเด็นนี้ ทั้งในสภา แห่งนี้แล้วก็ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งท่านก็ทราบดีว่าไฟฟ้าของบ้านเรานี้ส่วนใหญ่มันผลิตมาจาก ก๊าซธรรมชาติมากกว่าครึ่งหนึ่งทั้งหมด แล้วการที่นำก๊าซธรรมชาติแบบเหลวหรือ LNG มาใช้ ในการผลิตไฟฟ้า ส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนเรื่องค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนแพงขึ้น แต่กลับ มีการนำก๊าซในอ่าวไทยที่ถูกกว่ามากไปให้กลุ่มอุตสาหกรรมเอกชนก่อน ถ้าถามว่าราคา ต่างกันแค่ไหน เดี๋ยวผมจะบอกตัวเลขให้ฟังนะครับ ราคาก๊าซธรรมชาติแบบเหลวหรือ LNG มีราคาสูงกว่า ๕๐๐ บาทต่อหน่วย MMBTU ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติที่เอกชนซื้อนี้ เขาซื้อกันที่ราคา ๒๐๐ บาทต่อหน่วย MMBTU ทำไมละครับท่านประธาน ทำไมประชาชน ถึงต้องจ่ายแพงกว่ากลุ่มธุรกิจเกือบเท่าตัว เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่พูดถึงการปรับโครงสร้าง ราคาก๊าซธรรมชาตินี้เราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนได้เลย ผมได้มีโอกาสติดตามฟังคำแถลงของท่านเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ได้กลับไม่มีการลง รายละเอียดถึงวิธีการที่จะลดค่าไฟฟ้าให้เหลือ ๔.๒ บาทเลย ท่านพูดแค่ว่าหวังว่าจะรอราคา ก๊าซของโลกปรับตัวลงอย่างเดียว เมื่อวันที่ ๑ มกราคมปีหน้า การที่ท่านอ้างว่าการปรับ โครงสร้างราคาต้องใช้เวลา มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายตัว ท่านครับ ราคาก๊าซธรรมชาติ ถูกกำหนดจากประกาศของ กกพ. ท่านไปดูได้ครับ เรื่องหลักเกณฑ์การกำหนดอัตรา ค่าบริการก๊าซธรรมชาติ ปี ๒๕๖๔ สิ่งที่ท่านต้องแก้มีแค่บรรทัดเดียวก็จะช่วยประชาชน ได้ทั้งประเทศ แทบไม่ต้องแก้กฎหมายอะไรเลย หรือท่านต้องให้ผมบอกไหมครับว่า อยู่หน้าไหน เดี๋ยวผมชี้ให้ครับ ในเรื่องนี้เอง กกพ. ก็ยอมรับและเห็นด้วย ยังเคยทำหนังสือถึง ทางรัฐมนตรีด้วยครับ เสนอในแนวทางเดียวกันครับ เหลือแค่พวกท่านออกเป็นมติให้มี การดำเนินการต่อไป นี่ยังไม่รวมกันผลักภาระให้กับประชาชนที่จะต้องแบกรับต้นทุนจาก การบริหารที่ผิดพลาดในการเปลี่ยนสัมปทานการขุดก๊าซในอ่าวไทย เป็นอย่างที่พวกเรารู้กัน ในช่วงรัฐบาลท่านประยุทธ์มีการเปลี่ยนจากเอกชนเจ้าหนึ่งมาเป็นเอกชนอีกเจ้าหนึ่งครับ แต่ว่าเกิดปัญหาทำให้ปริมาณก๊าซในอ่าวไทยที่ผลิตได้ลดน้อยลง แล้วเราก็ต้องนำเข้าก๊าซ LNG เพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ปตท. ได้มีการปรับเงินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท จากผู้ผลิตเรียบร้อยแล้วที่ไม่สามารถส่งก๊าซได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา แต่ปัญหามันอยู่ที่เงิน ตรงนี้แทนที่จะเอามาช่วยโปะเรื่องค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนกลับไม่มีครับ ทำให้สุดท้าย ประชาชนต้องแบกรับต้นทุนที่นำเข้าเชื้อเพลิงที่แพงกว่าเรื่องก๊าซธรรมชาติยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องของค่าผ่านท่อที่ถูกสร้างมาแล้วแต่ในความเป็นจริงไม่ได้มีก๊าซส่งผ่านท่อนั้นเลย แต่ประชาชนยังต้องแบกรับต้นทุนด้วย ที่ผมพูดมาทั้งหมดทั้งเรื่องการปรับโครงสร้างราคา ค่า Shortfall หรือค่าผ่านท่อเองก็ต้องเป็นคำถามกลับไปที่ทางท่านว่าท่านจะทำไหม ในมาตรการต่าง ๆ ที่ผมพูดไป แล้วท่านจะทำเมื่อไร ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอเชิญท่านรัฐมนตรีใช้สิทธิตอบในรอบที่ ๑ ครับ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่เคารพครับ ผม พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานครับ วันนี้ผมได้รับ มอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้มาตอบเรื่องนี้ ความจริงท่านผู้ตั้งกระทู้ถามก็ได้มีโอกาส คุยกันมาแล้วเหมือนที่ท่านว่า แต่ที่ท่านบอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรเลยนั้น ไม่จริงนะครับ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ก็คือว่าความเชื่อแต่ละบุคคลก็ห้ามกันไม่ได้ ท่านบอกท่าน ไม่เชื่อว่าผมจะสามารถดำเนินการได้ อันนั้นก็เป็นความเชื่อของท่าน แต่ในความเป็นจริง ผมทำครับ แล้วก็ทำแล้ว ผมก็ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ท่านเตรียมมาถามนี้ ท่านเตรียมมาเมื่อไร แต่ทั้งหมดที่ท่านถามผมนั้นมันล้าสมัยไปหมดแล้วครับ เพราะว่าในช่วงที่ผมเข้ามารับ ตำแหน่ง ผมก็ไม่ต่างจากท่านนะครับ ผมก็เป็นประชาชน ผมก็จ่ายค่าไฟฟ้าเหมือนท่าน เหมือนพี่น้องประชาชน เราก็รู้แต่ว่าทำไมค่าไฟฟ้ามันขึ้น มันขึ้น ทำอย่างไรจะให้มันลง ที่มันขึ้นนี้มันถูกหรือมันไม่ถูก หมายความว่าขึ้นอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะฉะนั้นเมื่อผมมา รับตำแหน่งหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานด้วยนี้ ผมไม่เคยนิ่งนอนใจเลยครับ เพราะผมตระหนักอยู่เสมอว่าผมมาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน ผมก็มีความสงสัยเหมือน ที่ท่านสงสัยมานานแล้วครับ ว่าเรื่องของแก๊สในอ่าวไทยกับความต้องการแก๊ส กับความที่ต้อง ไปสั่งแก๊สเข้ามามันเป็นอย่างไร ผมก็ได้ยินได้ฟังเหมือนที่ท่านพูดมาตั้งแต่นานแล้วเหมือนกัน ว่ามันไม่ถูกต้องเลยที่จะทำให้ค่าต้นทุนของผู้ใช้แก๊สจากอ่าวไทย ซึ่งถือว่าเป็นทรัพยากร ธรรมชาติของคนไทยทั้งประเทศนี้ไปทำธุรกิจ ไปหากำไร ทำไมมันถึงเป็นต้นทุนที่เท่ากับ ราคาแก๊สที่ประชาชนต้องเอามาใช้ในการดำรงชีวิต ในการประกอบอาชีพ ผมก็มีข้อสงสัย เหมือนกันท่าน ไม่ได้ได้ต่างกับท่านเลยครับ ต่างกันเพียงที่ว่าวันนี้ผมได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ ตรงนี้ เพราะฉะนั้นผมเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้พร้อมกับแบกความสงสัย และแบกความต้องการ แก้ไขปัญหาไม่ต่างจากท่าน ผมก็ไม่ทราบว่าในอดีตเขาทำกันอย่างไร แต่เอาเป็นว่า ในยุคสมัยที่วันนี้ผมดำรงตำแหน่งตรงนี้อยู่ แล้วก็หลังจากที่ได้เคยมีโอกาสคุยกับท่านวันนั้น ที่ท่านพูดถึงนะครับ ความจริงก่อนที่จะคุยกันผมก็ได้เริ่มศึกษาหาคำตอบ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
ประการแรก ผมก็ได้คำตอบมาว่าแก๊สที่ผลิตขึ้นมาจากอ่าวไทยนี้มัน ไม่สามารถที่จะเอามาใช้เป็นแก๊สหุงต้มได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ภาษาทางของเขานี้เขาเรียกว่า เป็นแก๊สเปียกต้องไปเข้าโรงแยกเมื่อไปเข้าโรงแยกเสร็จ พอออกมามันก็เป็นเหมือน กลั่นน้ำมัน ได้เป็นระดับ เป็น C1 C2 C3 C4 C5 แก๊สที่จะสามารถเอามาทำแก๊สหุงต้มได้มัน ก็มีอยู่แค่จำนวนหนึ่ง ไม่สามารถเอาทั้งหมดมา แต่ว่าที่ผ่านมานี้บริษัทเอกชนเขาเป็นคน ดำเนินการ เขาเป็นคนตกลงซื้อขายกัน แล้วก็ไม่เคยมีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากมายเหมือนที่ ท่านพูด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลยตรงนี้ผมไม่เถียงอะไรเลยครับ แต่ผมก็สงสัยเหมือนท่าน แล้วทำไมไม่มีการดำเนินการ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ผมรับตำแหน่งและได้มีโอกาสคุยกับ ท่าน แล้วก็ไปดำเนินการต่อผมขอเรียนท่านว่ามติคณะกรรมการ กพช. เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่นำเสนอโดยคณะกรรมการ กบง. ที่ผมเป็นประธาน ตอนนี้เราดำเนินการตามที่ ท่านพูดเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นที่ท่านบอกว่าเอาไปใช้ในทางธุรกิจอะไรนั่นนะครับ เวลานี้แยกมาอยู่ในราคาเท่ากับอุตสาหกรรมทั่วไปแล้วครับ ราคาที่ถูกประมาณ ๒๑๙ บาท อันนี้คงไว้ให้กับแก๊ส LPG ของพี่น้องประชาชนเท่านั้นเอง ส่วนที่เหลือไปเป็นราคาเฉลี่ย เท่ากันหมดกับอุตสาหกรรมอื่นเหมือนที่ท่านพูดเมื่อสักครู่ อันนี้เป็นมติเรียบร้อยไปแล้ว
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ก็คือว่าค่าปรับในการที่ไม่สามารถส่งแก๊สขึ้นมาได้ที่ท่านว่านี้ ตอนนี้ก็เรียกเก็บมาแล้ว แล้วก็ ๒ ส่วนนี้เป็นส่วนที่สามารถมาช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับ พี่น้องประชาชนในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องท่อแก๊สที่ท่านพูดถึง อันนี้เรียนท่านตรง ๆ ครับ ผมยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจน การที่จะได้ข้อมูลแต่ละเรื่องมันไม่ใช่ง่ายเลยนะครับ ขนาดผมเป็น รัฐมนตรีต้นทุนน้ำมันวันนี้ยังไม่สามารถจะดำเนินการได้เลย ก็พยายามครับ ไม่ใช่นั่งอยู่เฉย ๆ เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ผมดำรงตำแหน่งภายใต้โครงสร้างพลังงานที่เป็นอยู่ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือแก๊ส ผมเรียนท่านเลยครับ ผมก็ไม่เห็นด้วย ผมคิดว่ามันไม่ใช่ แค่ปรับเหมือนที่เราพูดนะครับ ผมเห็นปัญหาต่าง ๆ แล้วผมคิดว่าเราต้องรื้อระบบพลังงานเลย ไม่ใช่ปล่อยให้ถูกกดโดยตลาดโลกอย่างเดียว เราต้องมานั่งคิดครับ มานั่งคิดว่าเราจะทำ อย่างไรเพื่อจะรับมือกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่ยอมจำนนกับราคาตลาดโลก แล้วสุดท้าย พี่น้องประชาชนเป็นคนแบกปัญหาทั้งหมด เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมกำลังทำอยู่ครับ เพราะฉะนั้นประการแรกที่ท่านถาม ผมเรียนเลยครับว่าเรื่องการปรับสัดส่วนที่ถูกต้องของ โครงสร้างในส่วนของแก๊สที่ขุดขึ้นมาจากอ่าวไทย ตอนนี้ดำเนินการตามที่ท่านพูดเรียบร้อย เป็นมติ กพช. ไปเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคมนี้นะครับ กรณีที่เขาเรียกว่า Shortfall ค่าปรับ ๔,๐๐๐ กว่าล้านบาท ก็เรียกเก็บแล้วนะครับ เหลือแต่เรื่องแก๊ส ท่อแก๊ส ซึ่งผมกำลัง ดำเนินการอยู่ แล้วกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่าผมก็จะแก้ไขต่อไปครับ อันนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้น ตอบคำถามที่ท่านถามครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณรัฐมนตรีครับ ขอเชิญท่านศุภโชคใช้สิทธิในรอบที่ ๒ ครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ก็ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี นะครับ ที่ลุกขึ้นมาชี้แจงสำหรับคำถามแรกครับ แต่ก็เป็นคำถามต่อเนื่องเช่นกันครับ ถ้าท่านบอกว่าล้าสมัย แต่ว่า กกพ. ได้เสนอแนวทางนี้เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ปี ๒๕๖๖ ก็ไม่ได้นานมากขนาดนั้น ส่วนเรื่องของราคาที่ส่งเข้าโรงแยกแก๊ส ก็อยากจะให้ช่วยชี้แจงว่า ราคาอยู่ที่เท่าไรครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ส่วนประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากจะถามต่อมาในคำถามที่ ๒ คือเรื่องของ ปริมาณโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เกินความจำเป็น อย่างที่ท่านรู้กันครับ นี่ก็เป็นอีก ๑ ประเด็นที่เรา คุยกันที่ทำเนียบในวันนั้นว่าโรงไฟฟ้าบางโรงถูกสร้างมาแล้วไม่ได้เดินเครื่องเลยตลอด ๑ ปี แต่กลับได้เงินผ่านค่าความพร้อมจ่ายไปเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา ๒๕ ปี แต่ในความเป็นจริง ๑๐ ปีโรงไฟฟ้าเหล่านี้ก็คืนทุนแล้ว โดยที่เอกชนไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงอะไรเลยครับ ผมเข้าใจดีว่าปัญหานี้มันมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดในอดีต แต่ก็ยังโชคดีที่มันมี ทางออกสำหรับเรื่องนี้ การเข้าไปแก้ไขสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนมันเป็นเรื่องยาก แต่รัฐบาลก็ควรจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับการที่ยอมให้เอกชนหลายบริษัทใช้ข้ออ้างเรื่อง โควิดเข้ามาแก้ไขสัญญาสัมปทานกับทางภาครัฐ ดังนั้นเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมาที่มีปริมาณ การใช้ไฟฟ้าลดน้อยลงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้เหมือนตอนที่คิดจะสร้าง โรงไฟฟ้าเหล่านี้ รัฐบาลก็ควรจะสามารถใช้เหตุผลเดียวกันในการขอเจรจากับเอกชนเพื่อลด ค่าความพร้อมจ่ายลง เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นคำถามที่ผม อยากจะฝากท่านประธานผ่านไปยังรัฐมนตรีนะครับ ทำไมพวกท่านถึงมองไม่เห็นปัญหา ตรงนี้ว่ามันมีเสือนอนกินที่กำลังหากินบนค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนอยู่ ท่านมีความคิด ที่จะเรียกเอกชนเข้ามาพูดคุยหรือไม่ หรือท่านมีความพยายามจะเข้าไปแก้ไขสัญญาที่ไม่ เป็นธรรมกับประชาชนหรือเปล่า ถ้ามีท่านจะทำเมื่อไร ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ก็ขอขอบคุณ ท่านผู้ตั้งกระทู้ และที่ถามเพราะว่าอย่างน้อยพี่น้องประชาชนจะได้รับฟังนะครับ ผมขออนุญาตเรียนว่าราคาแก๊สในโครงสร้างปัจจุบันนี้ เดิมในส่วนของอุตสาหกรรมที่ท่าน พูดถึงที่ใช้ไปในเรื่องของปิโตรเคมี ได้ต้นทุนเท่ากับพี่น้องประชาชนที่ใช้ราคาแก๊ส ๒๑๙ บาท แต่ตอนนี้ต้องไปรวมเฉลี่ยเท่ากับอุตสาหกรรมทั่วไป ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ ๓๖๒ บาท เท่ากัน จะมีเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ใช้แก๊สจากอ่าวไทยเพื่อการหุงต้ม เพื่อแก๊สหุงต้ม ที่เรียกว่า LPG เท่านั้นที่จะราคาต่ำสุดอยู่กลุ่มเดียวคือ ๒๑๙ บาท
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ที่ท่านถามเรื่องปัญหาต่าง ๆ ผมเรียนครับว่าสัญญาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้มันเกิดมาก่อนที่ผมมารับตำแหน่ง หลายเรื่องผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นแบบนั้น ได้อย่างไร และที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ยิ่งไปกว่าที่ท่านพูดเรื่องสัญญาไฟฟ้าพวกนั้น คือเรื่องข้อตกลงในสัญญาสัมปทาน นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่คิดว่าต้องปรับปรุงแก้ไขเรื่องของ สัมปทานด้วย ไม่อย่างนั้นผมคิดว่าภาครัฐก็จะเสียประโยชน์ต่อไปเรื่อย ๆ แต่ว่าทั้งหมดนี้ มันไม่ใช่บอกว่าทำวันนี้พรุ่งนี้เสร็จ แล้วที่สำคัญพอมาเป็นระบบราชการมันไม่สามารถที่จะ ทำเองได้หมด ตอนนี้ที่ผ่านมาทางกระทรวงพลังงานได้พยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้ แล้วก็พยายาม ประสานงานกับหน่วยงานในภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและเรื่องของการดำเนินการ ทางกฎหมายเช่นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและทางสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งทั้ง ๒ ส่วนนี้ก็บอกว่าจะดำเนินการร่วมกับเราได้ต้องเป็นนโยบายรัฐบาลหรือเป็นมติของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องออกมา ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครไปดำเนินการตรงนี้เหมือนกันครับ แต่ว่าในวันเดียวกัน กับที่ผมเรียนท่านนะครับ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคมที่ผ่านมานี้ ผมก็ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กพช. พร้อม ๆ กับ ๒ เรื่องที่ผมเรียนท่านไปเมื่อสักครู่ เพื่อขอเป็นมติว่าเราอยากจะปรับปรุง แก้ไขศึกษาสัญญาต่าง ๆ ที่ท่านพูดถึงรวมถึงสัญญาณอื่น ๆ ด้วย แล้วก็ขอให้ทาง กพช. มีมติ เพื่อทางสำนักงานอัยการสูงสุดและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เข้ามาร่วมทำงานใน ส่วนนี้ได้ อันนี้ก็เป็นมติไปพร้อมกันแล้วกับวันนั้นนะครับ เพราะฉะนั้นข้อห่วงใยของท่าน ตรงนี้ก็นำเรียนให้ทราบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ แล้วตอนนี้ก็เป็นมติไปแล้ว เพราะฉะนั้น ตรงนี้อย่างที่ผมเรียนครับ ท่านจะเชื่อมั่นในตัวผมได้หรือไม่ก็แล้วแต่ความคิดของท่าน แต่ในทางปฏิบัติผมลงมือทำและทำแล้วครับ ขอบคุณท่านประธานครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านศุภโชติมีเวลาเหลือ ๘ นาที แล้วก็การถามในรอบสุดท้ายนะครับ ของท่านรัฐมนตรีเหลือ ๕.๕๐ นาที เชิญท่านศุภโชติครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ผมก็ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี อีก ๑ รอบนะครับ แต่ผมก็ยังอยากย้ำอีกครั้งนะครับว่าอยากจะให้มีการเปิดเผยมติ กพช. ให้ประชาชนได้รับทราบครับว่าพวกท่านมีวิธีการอย่างไร เปิดในเนื้อหารายละเอียดครับ แล้วผมก็เป็นกำลังใจให้กับท่านในการเข้าไปแก้ไขสัญญาเจรจาซื้อขายไฟฟ้าครับ เพราะว่า ท่านเคยทำสำเร็จใน Hopewell แล้ว ก็หวังว่าจะทำสำเร็จอีกในครั้งนี้ แล้วก็ขอบคุณ เป็นอย่างยิ่งนะครับที่รับปากว่าจะดูแลเรื่องสัญญาของประชาชนที่ส่งผลกระทบกับพี่น้อง ประชาชนจริง ๆ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ แล้วก็โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ อย่างที่ผม ได้พูดไปครับว่าเงินที่ กฟผ. จ่ายให้กับโรงไฟฟ้าเอกชนทุกราย สุดท้ายมันก็มาเป็นต้นทุน ค่าไฟของพี่น้องประชาชนอยู่ดี แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าปัจจุบันประเทศเราก็ต้องการ สัดส่วนของพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจรวมไปถึง ลดมลภาวะของประเทศ แต่กระบวนการที่ได้มาจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ แล้วก็เป็นธรรม กับพี่น้องประชาชนครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
จากกรณีที่รัฐบาลได้มีการประกาศระเบียบการรับซื้อพลังงานทดแทนกว่า ๕,๐๐๐ เมกะวัตต์ในปีที่ผ่านมา ระเบียบที่ประกาศออกไปกระบวนการการคัดเลือก รวมไป ถึงผลลัพธ์ที่ออกมาถูกตั้งคำถามจากภาคประชาชนถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการแรก ความผิดปกติคือการที่ไม่ได้มีการประกาศหลักเกณฑ์การให้ คะแนนในการพิจารณาการคัดเลือก ซึ่งทำให้เกิดช่องโหว่ เกิดความไม่โปร่งใสและอาจมี การใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจถูกต้องไหมครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ราคารับซื้อที่สูงเกินไป การที่ กกพ. มีการตั้งราคารับซื้อเอง ตัว กกพ. จะรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็นอัตราที่ถูกที่สุดกับพี่น้องประชาชน ทั้ง ๆ ที่ในต่างประเทศ เขาให้ผู้ยื่นแข่งขันการเสนอราคากันเข้ามา แล้วผู้ที่ถูกที่สุดก็จะเป็นผู้ที่ชนะได้รับสัมปทานไป ซึ่งระเบียบการรับซื้อนี้อาจจะไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการซื้อพลังงาน ไฟฟ้าสีเขียวในราคาถูก หนำซ้ำยังเป็นการเอื้อประโยชน์เกินความจำเป็นให้กับเอกชนครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการสุดท้าย คือผลของการตัดสินที่ให้เอกชนไม่กี่ราย จากระเบียบ ทั้งหมดกว่า ๕,๐๐๐ เมกะวัตต์ ๒,๕๐๐ เมกะวัตต์เกินกว่าครึ่งถูกจัดสรรให้เอกชนเพียงแค่ ๒ รายเท่านั้น และล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองได้มีการสั่งทุเลาการเซ็น สัญญาโครงการพลังงานลม จำนวนกว่า ๑,๕๐๐ เมกะวัตต์ โดยอ้างถึงเหตุผลที่ผมเพิ่งกล่าวไป ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากยังมีการปล่อยให้ออก ระเบียบรับซื้อที่ไม่โปร่งใสนี้จะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน ต่อความน่าเชื่อถือของพวกเขา อย่างแน่นอนครับ รวมไปถึงเงินจำนวนหลายแสนล้านบาทที่ถูกจัดสรรให้เอกชนเพียง ๒ ราย แทนที่เราจะเอาเงินก้อนเดียวกันนี้ไปสนับสนุนพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการพัฒนา โครงการพลังงานทดแทนภาคประชาชนไม่ดีกว่าหรือครับ
นายศุภโชติ ไชยสัจ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
จากปัญหาผลกระทบหรือแม้แต่คำสั่งศาลที่กล่าวไปข้างต้น นายกรัฐมนตรีเอง ก็มีอำนาจในการออกมติทบทวนการเซ็นสัญญา ในฐานะประธาน กพช. หรือแม้แต่ชะลอ การเซ็นสัญญาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน อย่างน้อยก็เพื่อให้คลายข้อครหาต่าง ๆ แต่ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ ซ้ำยังปล่อยให้มีการเซ็นสัญญาไฟฟ้าระหว่างรัฐกับเอกชน โครงการพลังงานแสงอาทิตย์กว่า ๖๐๐ เมกะวัตต์ หลังจากที่ศาลเพิ่งสั่งทุเลาไม่กี่วัน และล่าสุดเมื่อวานเพิ่งมีอีก ๖๐๐ เมกะวัตต์ ทั้ง ๆ ที่มันมาจากระเบียบประกาศฉบับเดียวกัน ที่มันมีปัญหา จากความบังเอิญทั้งหมดทำให้ผมสงสัยไม่ได้เลยว่ามันคือการฮั้วการประมูล โครงการพลังงานทดแทนกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ต้องบอกอย่างนี้นะครับว่าผมและ พรรคก้าวไกลไม่ได้มีความพยายามจะเตะถ่วงไม่ให้มีการเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน แต่ผม เห็นว่าหากจะมีกระบวนการที่เกิดขึ้นจะต้องโปร่งใสและเป็นโครงการเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างแท้จริง ก็ต้องเป็นคำถามฝากท่านประธานผ่านไปยังท่านรัฐมนตรี รวมไปถึงผ่านไปยัง ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กพช. อีกครั้งหนึ่งว่าในเมื่อข้อชี้แจงจากทั้งศาลและ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันชี้ให้เห็นว่าระเบียบการรับซื้อพลังงานทดแทนกว่า ๕,๐๐๐ เมกะวัตต์ มันมีปัญหา มันส่อทุจริต และทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ ท่านจะใช้อำนาจที่มีในการ ยับยั้งตรวจสอบการเซ็นสัญญานี้หรือไม่ อย่างไร และจะทำเมื่อไร ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พลังงาน ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานครับ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ผมขออนุญาตเรียน ท่านครับ ในปัญหาเรื่องนี้ผมได้รับการร้องเรียนเหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่ผมไม่เคยเรียนรู้มาก่อน เพราะผมไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงานด้านพลังงานของประเทศ ผมพูดตามตรง เพราะว่าผมไม่ได้เคยทำงานด้านนี้โดยตรง ได้แต่ได้ยินได้ฟังหาข้อมูลทางสื่อบ้าง สอบถามผู้รู้บ้าง เหมือนที่ท่านได้ดำเนินการอยู่ เพราะว่าผมไม่ได้เคยมาอยู่ที่กระทรวงพลังงาน ผมก็มี ความคิดความสงสัยเหมือนท่านครับ ปรากฏว่าในกรณีเรื่องนี้ตามโครงสร้างกฎหมายปัจจุบัน กกพ. ไม่ใช่ กพช. นะครับ กพช. ที่ท่านพูดถึงนี้เป็นคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนคนที่รับผิดชอบดูแลระบบทั้งหมดในเรื่องไฟฟ้า ในทางปฏิบัติไม่ใช่นโยบาย คือ กกพ. คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในเรื่องที่ท่าน กราบเรียนถามผ่านท่านประธาน ในส่วนนี้คนที่ไปปฏิบัติไม่ใช่ กพช. ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็น กกพ. ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีเองก็มีความเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่ก็ให้ผมได้ตรวจสอบด้วย ผมก็ได้ ตรวจสอบสอบถามไปยัง กกพ. นะครับ เขาก็ยืนยันชี้แจงมาว่าเขาดำเนินการถูกต้อง ทุกประการ แล้วพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เพราะฉะนั้นอันนี้ผมขออนุญาตกราบเรียนว่า ภายใต้โครงสร้างกฎหมายด้านพลังงานปัจจุบันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเขามากันอย่างไร แต่อำนาจ ในการกำกับ ในการสั่งการในการอะไรต่าง ๆ ของรัฐมนตรีที่ผมดำรงตำแหน่งอยู่ก็ดี ท่านนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลแทบจะไม่มีเลยครับ อันนี้เป็นปัญหาในทางกฎหมายที่ใช้อยู่ ในกฎหมาย กกพ. วันนี้เขาก็ถือว่าเขาเป็น พูดง่าย ๆ ภาษาง่าย ๆ เหมือนกับเขาอิสระจาก การกำกับดูแลในทางบริหารจากภาครัฐนะครับ เขาเป็นเหมือนกับหน่วยงานเฉพาะที่เขาดูแล ด้านนี้ การที่เขาจะไปออกระเบียบ เขาไปทำสัญญามันอยู่เหนือการควบคุมของเราเลย เราไม่มีสิทธิที่จะไปดำเนินการอะไร แต่ถ้าหากว่าเขากระทำความผิดทุจริตหรือว่ามี การประพฤติมิชอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อันนี้เราก็สามารถเข้าไปดำเนินการ ซึ่งผมได้ตั้ง คณะกรรมการมาเตรียมการตรวจสอบเรื่องพวกนี้หมด แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากขออนุญาต ถือโอกาสนี้ผ่านท่านประธานไปยังท่านสมาชิกทุกพรรค ต่อไปจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ ทางภาครัฐ รัฐบาล หรือกระทรวงนี้สามารถเข้าไปกำกับดูแลหรือว่าเข้าไปดูแลเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ได้มากขึ้นกว่าโครงสร้างของกฎหมายปัจจุบัน เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเรามีความเห็นตรง ผมเห็นตรงกับท่านที่ท่านพูด ปีหน้านี้ผมจะพยายามยื่นกฎหมายเหล่านี้เข้ามานะครับ เมื่อทางผมยื่นกฎหมายพวกนี้เข้ามาเพื่อปรับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดีขึ้น ให้สามารถกำกับ ดูแลได้มากขึ้นเหมือนที่ท่านพูด ก็ขอความกรุณาช่วยสนับสนุนร่างของทางรัฐบาลเรื่องนี้ด้วย ก็แล้วกัน ก็ขอขอบพระคุณท่านประธาน แล้วก็เหมือนเดิมครับ ท่านมีอะไรสามารถประสาน ส่งมาได้ ผมไม่ได้ติดต่อท่านไม่ได้แปลว่าผมไม่ได้ทำงานนะครับ ทุกเรื่องที่คุยกันนี้อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ผมเดินหน้าหมดครับ เพราะฉะนั้นเราเป็นผู้แทนราษฎร ท่านเป็นผู้แทนราษฎร ผมเป็นรัฐมนตรี เราทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนเหมือนกัน ผมยินดีเปิดกว้างรับฟังทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติ เพราะฉะนั้นท่านมีข้อแนะนำ เสนอแนะอะไรผมยินดี แจ้งมาที่ผมได้นะครับ ขอบคุณท่านประธานครับ และขอบคุณ สมาชิกครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เนื้อหาสาระทั้ง ๓ รอบครบถ้วนนะครับ แต่มีเวลาเหลือเล็กน้อย ท่านจะมีอะไร ทิ้งท้ายไหมครับ หรือว่าไม่ใช้แล้ว โอเคนะครับ ขอบคุณท่านสมาชิกแล้วก็ท่านรัฐมนตรีมาก ๆ นะครับ ระเบียบวาระที่ ๑.๑ กระทู้ถามสด ก็เสร็จทั้ง ๓ คำถามแล้วนะครับ ขอเข้าสู่ระเบียบ วาระที่ ๑.๒ กระทู้ถามทั่วไป
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
๑.๒ กระทู้ถามทั่วไป
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
๑. กระทู้ถามที่ ๐๗๔ เรื่อง การแก้ไขปัญหาราคาจำหน่ายข้าวตกต่ำ แต่ราคาที่ผู้บริโภคซื้อสูง (นายพลากร พิมพะนิตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม นายกรัฐมนตรี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนครับ ขอเชิญท่านพลากร พิมพะนิตย์ ครับ ท่านรัฐมนตรีประจำตำแหน่งแล้วครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ก่อนที่ผมจะเข้าสู่เนื้อหากระทู้ถามของผมในวันนี้ ขอขอบคุณท่านประธานผ่านไปยัง ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ที่ท่านได้ให้เกียรติสละเวลามาตอบกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องกระทู้ของผมที่เป็นเรื่อง ของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในวันนี้ครับท่านประธาน ขอสไลด์ด้วยครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
ชาวนาถือว่าเป็นอาชีพที่เป็นกระดูก สันหลังของชาติและมีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสังคมไทยในหลายมิติด้วยกัน ผมขออนุญาต ยกตัวอย่างนะครับท่านประธาน ในด้านเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นผู้นำประเทศผู้ส่งออก ข้าวชั้นนำอันดับต้น ๆ ของโลก ในด้านสังคมและวัฒนธรรมเกษตรกรถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับ รากเหง้าของคนไทยมาอย่างยาวนาน มีการจัดงานเทศกาลและพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ประเพณี ทำขวัญข้าว การลงแขกเกี่ยวข้าว ซึ่งสะท้อนถึงมรดกการเกษตรที่ลึกซึ้งและจิตวิญญาณแห่งความ ร่วมมือในสังคมไทย ในด้านถัดมาคือด้านสิ่งแวดล้อม ชาวนาเองก็มีส่วนช่วยในการรักษา สมดุลระบบนิเวศในการจัดการทรัพยากรดินและน้ำ และสุดท้ายในด้านของความมั่นคงทาง อาหาร ก็คือทุกอย่างที่ทราบกันดีครับ ชาวนาเป็นกำลังหลักในการผลิตอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง คนทั้งประเทศ ซึ่งมิติต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นรากฐานที่สำคัญในการ พัฒนาประเทศทั้งหมดครับท่านประธาน แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ชาวนาได้รับผลกระทบมา โดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือ ปัญหาราคาข้าวเปลือกถูกแต่ข้าวสารราคาแพง เนื่องจากในขณะนี้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น แต่ราคาข้าวเปลือก ที่เป็นรายได้หลักช่องทางเดียวของพี่น้องประชาชนชาวนาหลายล้านคนในประเทศไม่ได้เพิ่ม ตามมา บางรายถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งซื้อข้าวตั้งราคาไม่เป็นธรรม ในทาง กลับกันราคาข้าวสารและสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ กลับมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ ท่านประธาน ทำให้ชาวนาที่ต้องจ่ายค่าต้นทุนการผลิต ใช้แรงงานในการทำนากลับเป็น ผู้ได้รับผลกระทบที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านประธานครับ จากที่ผมได้ลงพื้นที่ ไปสอบถามข้อมูลราคาข้าวกับพี่น้องประชาชนชาวเกษตรกรในพื้นที่ของผม พบว่าราคา ข้าวเปลือกอยู่ที่ ๑๑-๑๒ บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายส่งข้าวสาร ข้าวเหนียวใหม่จะอยู่ที่ ประมาณ ๒๘ บาทต่อกิโลกรัม ข้าวเจ้าอยู่ที่ประมาณ ๓๐ บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายปลีก ที่ผู้บริโภคซื้อข้าวเหนียวใหม่จะอยู่ประมาณ ๓๒ บาทต่อกิโลกรัม ข้าวเจ้าจะอยู่ที่ประมาณ ๓๕ บาทต่อกิโลกรัม ท่านประธานครับ ส่วนต่างราคาระหว่างข้าวเปลือกและข้าวสารเฉลี่ย ๒๐ บาทต่อกิโลกรัม เยอะมาก ผมทราบว่าในกระบวนการนี้จะทำให้ข้าวเปลือกกลายมาเป็นข้าวสาร จำเป็นต้องมี ต้นทุนในการผลิต แต่นอกเหนือจากส่วนของต้นทุนแล้ว สาเหตุที่ทำให้ส่วนของราคามาก เช่นนี้เกิดเป็นคำถาม ชาวนาบางส่วนถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางหรือไม่ แล้วอย่างที่ผมได้กล่าวไปครับท่านประธาน ว่านอกเหนือจากนี้ไม่เพียงข้าวสารที่ราคาแพง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ก็ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตของพี่น้องชาวเกษตรกร เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ผมขออนุญาตพาไปดูข้อมูลดัชนีผู้บริโภคทั่วไปของประเทศไทย จากภาพ ที่เห็นดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงไตรมาสที่ ๓ ปี ๒๕๖๖ ดัชนีอยู่ที่ระดับ ๑๐๘.๘ จากข้อมูลตรงนี้แสดงให้เห็นถึงราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น เท่ากับภาระและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนรวมไปถึงชาวนาสูงขึ้น ท่านประธานครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ผมเป็นกังวลใจอย่างมาก เนื่องจากทั้งในประเทศไทย รวมถึงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์เองมีพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรอยู่เป็น จำนวนมาก กล่าวคือมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าวทุกวัน เป็นเหตุให้ผมมาตั้งกระทู้ถามในวันนี้เพื่อพี่น้องประชาชนชาวนาทั้งประเทศ ผมจึงขอ กราบเรียนไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ว่าคำถามข้อแรก คือรัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำหรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กราบเรียนท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ก็ต้องขอขอบคุณที่ท่านสมาชิกมีความห่วงใยในชีวิตของเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อ ประเทศชาติ เป็นคนที่เป็นกระดูกสันหลัง เป็นคนที่อยู่เบื้องต้นในการที่จะทำให้เกิดความ มั่นคงทางอาหาร แล้วก็ทำให้ประชากรของประเทศไทยเรามีอาหารหล่อเลี้ยงได้ดียิ่งขึ้น แต่อย่างที่ท่านเรียนครับ ความห่วงใยของท่านนั้น รัฐบาลเราเองก็ตระหนักว่าเราจำเป็น ที่จะต้องดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิด แล้วปัญหาที่ท่านถามนั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมา อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่เราได้พบกัน แล้วเราก็ได้มีการดำเนินการในการแก้ไขที่ผ่านมา อย่างนี้หลายเรื่องหลายครั้ง รัฐบาลนี้เพิ่งเข้ามา ๓ เดือนนะครับ เข้ามาถึงเจอสภาพที่เกิดขึ้น อย่างที่ท่านได้กล่าวมาข้างต้น แต่ก็โชคดีสิ่งที่ท่านถามมานี้เป็นความห่วงใยตั้งแต่มันเกิด ปัญหา ท่านเอาใจใส่กับสิ่งที่เกษตรกรเป็น แต่ว่าขณะนี้มันคลี่คลายมาผมก็จะตอบในสิ่งที่ได้ ดำเนินการไปให้เกิดมีความชัดเจนขึ้นเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นมันก็จะสามารถชี้แจง แล้วก็ ให้ความเห็นอย่างเป็นรูปธรรมกับท่านได้นะครับ ก็ต้องกราบเรียนว่าคำถามที่ท่านถาม นายกรัฐมนตรีไปว่ารัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำหรือไม่ อย่างไร อยากทราบรายละเอียด ผมกราบเรียนชี้แจงผ่านท่านประธานสภาไปยังสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ก็คือว่า รัฐบาลเราได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเมื่อเราทราบปัญหา เข้ามาถึงเรารับรู้ว่า เกษตรกรกำลังมีปัญหา มีความทุกข์ร้อนอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเราได้รับทราบโดยตรงจาก ผู้แทนราษฎรในรัฐสภาแห่งนี้ โดยเฉพาะผมที่ได้มีโอกาสคุยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ พรรคเพื่อไทยซึ่งอยู่ในพรรคเดียวกัน ก็ได้รับทราบปัญหาอย่างเร่งด่วน ถูกถามในที่ประชุม พรรคตลอดเวลา ผมกราบเรียนท่านอย่างนี้ครับว่า คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน แล้วก็ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน เรารับรู้ปัญหา เราได้ไปคุยกันใน ครม. แล้วเราก็ได้มีมติเหล่านี้ เพื่อเห็นชอบของมาตรการการรักษา เสถียรภาพราคาข้าว การผลิตในปี ๒๕๖๖-๒๕๖๗ จำนวน ๔ โครงการด้วยกัน เพื่อจะช่วยดึง อุปทานช่วงออกสู่ตลาดมาก ๆ มีข้าวออกสู่ตลาดประมาณ ๘ ล้านตัน ตามที่คณะกรรมการ นโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติเสนอ มาตรการแรกที่เราไปดำเนินการทั้ง ๘ ล้านตันนี้ เราทำโครงการ ๔ โครงการ โครงการแรก ก็คือการดำเนินการให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ข้าวมันล้นตลาด ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เราก็พยายามจะดูดซับตัวข้าวทั้งหมดได้เข้ามาเพื่อทำ ให้พยุงราคาข้าว ให้รักษาเสถียรภาพราคาข้าว ดุลยภาพราคาข้าว ให้อยู่ในดุลที่เหมาะสม หรือถูกต้อง เราดำเนินการให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง หรือฝากไว้ที่สหกรณ์ในช่วงหนึ่ง ๑-๕ เดือน สำหรับเกษตรกรที่มียุ้งฉางของตัวเองเอาไปเก็บ ๑ ตัน เราให้รถ ๑,๕๐๐ บาท ส่วนเกษตรกรรายเล็ก ซึ่งเป็นคนตัวเล็กในสังคม ไม่มียุ้งฉางของตัวเองจะเก็บ เราได้ ประสานงานกับสหกรณ์การเกษตร ซึ่งก็เป็นตัวแทนของเกษตรกรที่มีอยู่เกือบทั่วประเทศ ตัวสหกรณ์เกษตรเหล่านี้เราก็พยายามจะไปดูให้เป็นสหกรณ์การเกษตรที่มีความแข็งแรง ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ก็พยายามจะส่งเสริมตรงนั้นมา ส่วนสหกรณ์การเกษตร อีกหลายส่วนเราก็ได้ให้ราชการลงไปตรวจสอบ แล้วก็ลงไปเข้มงวดเพื่อให้ทำหน้าที่ได้ อย่างเต็มที่เพื่อจะเปิดตลาดเพื่อจะรองรับเกษตรกรรายเล็กรายน้อย เราก็ได้ดำเนินการไป โดยคำนึงถึงความเป็นจริงครับ เกษตรกรรายน้อยที่ไม่มียุ้งฉางของตัวเองเอาไปฝากที่ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การเกษตรก็ได้ ๑,๐๐๐ บาทต่อตัน ตัวเกษตรกร ก็ได้ ๕๐๐ บาท ต่อตัน อันนี้ก็เป็นการทำให้การเก็บยุ้งฉางเพื่อดูดซับข้าวเข้ามาอยู่ในยุ้งฉางเพื่อทำให้พยุง ราคาข้าวได้ไปอย่างทั่วถึง แล้วตัวสหกรณ์การเกษตรเข้ามาร่วมดำเนินการนี้ก็สามารถที่จะ ดำเนินการได้โดยช่วยคนตัวเล็ก ๆ ที่เป็นเกษตรกรรายย่อย เพราะฉะนั้นในสิ่งที่เราได้ ดำเนินการไปแล้วในเวลาช่วง ๑-๕ เดือนเราก็ได้ดำเนินการไปอย่างประสบผลนะครับ สหกรณ์การเกษตรก่อนที่จะเข้ามาหรือฝากไว้ที่สหกรณ์นี้เราช่วยค่าดอกเบี้ย ๓.๕ เปอร์เซ็นต์ ตัวสหกรณ์การเกษตรจ่ายเองแค่ ๑ เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนี้รัฐดูดซับช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น ฟังก์ชันของสหกรณ์การเกษตรก็สามารถดูแลได้โดยเราให้เวลา ๑๕ เดือน ก็จะสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นเราก็สนใจทั้งสภาพปัญหา แล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะมาช่วยเหลือ แล้วเรา ก็พยายามดูแลให้มันครบวงจร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
อีกส่วนหนึ่งก็คือโรงสี โรงสีที่สามารถมีเงื่อนไขในการเก็บ Stock สินค้า เหล่านี้ได้เราก็ช่วย ค่าดอกเบี้ย ๔ เปอร์เซ็นต์ในเวลา ๒-๖ เดือน เพราะว่าโรงสีก็สามารถ เข้ามาช่วยเหลือได้ เราก็สามารถใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. เพื่อจะใช้เงินนี้มาใช้ในช่วงหมุนเวียนในการดูแลพี่น้องเกษตรกรนะครับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
ส่วนประเด็นสุดท้าย เราได้ช่วยชาวบ้านเขาเรียกว่า ค่าเก็บเกี่ยวดูแล เกษตรกรที่ดำเนินงาน เนื่องจากว่าต้นทุนการผลิตต่ำอย่างที่ท่านสมาชิกได้กล่าวถึง ก็เข้าไปดู แล้วก็ช่วยเหลือในเรื่องของต้นทุน จริง ๆ ก่อนหน้านี้เราได้มีการพยายามไปหาราคาปุ๋ย ไปหาปุ๋ยมาตอบแทน มาให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ผ่านสหกรณ์การเกษตรอยู่บ้าง ซึ่งก็จะ สามารถแก้ไขปัญหาได้ไปบางส่วน แต่ก็ยังไม่ทั่วถึงบางส่วนก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะใช้ ดำเนินการแบบนี้นะครับ เราก็ช่วยในการที่จะให้เกษตรกรต่าง ๆ ได้ค่าเก็บเกี่ยว ค่าบริหาร จัดการ เรียกว่าค่าบริหารจัดการไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท โดยไม่เกิน ๒๐ ไร่ เพราะฉะนั้นเกษตรกรที่มีการทำนาใน ๒๐ ไร่ โดยประมาณ เกินจากนี้ไม่ได้ ก็จะให้ ๒๐,๐๐๐ บาท ทั้งหมดนี้คือมาตรการ ๔ มาตรการที่เราดูแลเกษตรกรนะครับ แล้วก็ช่วยทำ ให้เกษตรกรนี้สามารถที่จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามรัฐบาลก็กังวลใจอยู่ว่า ในการดูแล เกษตรกรต้องใช้เงินมาช่วย Subsidize จำนวนมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้า เกษตรต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องดูแลเกษตรกร เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหานี้ที่จะถาวร มากยิ่งขึ้น ๑. ก็คือการปรับปรุงการผลิต โดยที่เราเองเรามีนโยบายอยู่แล้วที่จะดำเนินการให้ ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ หรือเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้ตรวจสอบ ได้มีการวิจัยแล้ว เพื่อจะเปลี่ยนแปลง การผลิตของเกษตรกรเพื่อให้อยู่ในการดำเนินการผลิตของเขาได้ต่อไร่ มีจำนวนที่มากขึ้น ปัจจุบันเราอาจจะได้ข้าวหอมมะลิก็ประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ ต่อไร่ ขณะที่เพื่อนบ้าน เขาไปไกลแล้ว ได้ ๖๐๐-๗๐๐ ต่อไร่ เพราะว่าเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ของไทยเราเองที่ผ่านมาเราไม่ได้ดำเนินการทางนี้เต็มที่มากเพียงพอ เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ ก็มีความพยายามที่จะปรับปรุงการผลิต เปลี่ยนแปลงเมล็ดพันธุ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ สามารถทำการผลิตแล้วก็ได้ผลต่อไร่มากขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็จะช่วยให้ชาวนามีปริมาณ ข้าวที่มากขึ้นก็ทำให้ต้นทุนทางการผลิตก็ลดลงนะครับ สิ่งนี้ได้พูดไปแล้ว ถ้าสมมุติว่า ในปีหน้าเราเชิญชวนให้เกษตรกรเข้ามาร่วมในการลงทะเบียนที่จะปรับเปลี่ยนการผลิต ถ้าเกิดการปรับเปลี่ยนการผลิตได้อย่างที่เราเป็นแล้วก็สามารถที่จะเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เข้ามาได้มีการเปลี่ยนแปลง อย่างที่เราบอกว่าหาตลาดให้ เปลี่ยนแปลงนวัตกรรม เพิ่มเอา เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิต สิ่งนี้ก็จะเกิดดีขึ้นนะครับ ผมก็จะกราบเรียนท่านว่าขณะนี้ เราได้เปลี่ยนแปลงอย่างนี้แล้ว แล้วก็เชิญชวนเกษตรกรมาเข้าสู่กระบวนการที่จะปรับปรุง แก้ไข โดยเราเชื่อมั่นว่าการปรับปรุงแก้ไขนั้นจะเกิดผลที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากดำเนินการ ตามนี้แล้วยังได้ผลไม่ถึงเป้าหมาย ในส่วนของรัฐที่จะต้อง Subsidize ดูแลเกษตรก็คงยังต้อง ทำต่อไป แต่ว่ามันก็จะมีปริมาณการจัดการตรงนี้น้อยลง ปีนี้ที่เราใช้ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและดูแลเกษตรกรนี้เราใช้เงินไปเฉพาะแค่เก็บเกี่ยวของเกษตรกรก็ ๕๖,๐๐๐ กว่าล้านบาท รวมทั้งหมดแล้วก็ประมาณ ๖๗,๗๐๓.๐๓ ล้านบาท ทั้งหมดนี้ ก็คือการดูแลข้าว เป้าหมายทั้งหมด ๘ ล้านตันให้อยู่ในความสามารถที่จะสร้างความสมดุล ให้เกิดขึ้น สามารถที่จะดูดซับมา แล้วก็พยุงราคาต่อไป ส่วนรายที่ยังเล็กน้อยหรือมีจำนวน ไม่มากนัก แต่ว่าก็ประสบปัญหาที่มากแล้วก็ดูแล เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราเพิ่งกดเงินผ่านเข้า บัญชีของเกษตรกรโดยตรง โดยมี ธ.ก.ส. เข้ามามีส่วนช่วยเอาเงินมาให้เกษตรกรได้หมุนเวียน เพื่อจะแก้ปัญหา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ได้ดำเนินการไปครบถ้วนทุกจังหวัดในประเทศไทยแล้ว เพราะฉะนั้นผมคิดว่าสำหรับปีนี้เราได้มีส่วนแก้ไขปัญหาแล้วก็พยายามจะประคับประคองให้ ชาวนา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของชาติได้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขมากที่สุด แล้วก็เรา กำลังจะปรับปรุงการผลิตกับเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการหลาย ๆ อย่าง แล้วผมเชื่อว่าด้วย ความตั้งใจที่ดีแล้วก็มองเห็นแบบเกษตรกรคือความสำคัญของประเทศ เราจะสามารถ แก้ไขตรงนี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีได้มากยิ่งขึ้น แก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าวสารแพง ข้าวเปลือกถูก ให้มันเข้าสู่สมดุลมากขึ้นครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ทางผู้ถามจะใช้สิทธิถามในรอบที่ ๒ ไหมครับ เชิญครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาครับ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ อย่างที่ผมได้นำเรียนไปเมื่อสักครู่ว่าส่วนต่างราคาข้าวเปลือก และราคา ขายปลีกข้าวสารที่เฉลี่ยราคาต่างกันกว่า ๒๐ บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าเยอะมากตรงนี้ ท่านประธานครับ ผมเลยมีคำถามที่ ๒ ไปถึงท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ว่ารัฐบาลมีมาตรการในการเข้าไปตรวจสอบการซื้อ ข้าวเปลือกและข้าวสารหรือไม่ รวมไปถึงรัฐบาลมีมาตรการในการควบคุมราคาขายข้าวสาร ให้สอดคล้องกับราคาข้าวเปลือกหรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอเชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
กราบขอบพระคุณครับ กราบเรียนท่านประธานครับ สมาชิกผู้ทรงเกียรตินะครับ สำหรับคำถามที่ ๒ กราบเรียนว่ารัฐบาลเองมีมาตรการในการเข้าไปตรวจสอบซื้อข้าวเปลือก และข้าวสาร มีมาตรการในการที่จะกำกับดูแลในเรื่องนี้นะครับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
ประเด็นแรก เรากำกับดูแลการรับซื้อข้าวเปลือกของผู้ประกอบการโรงสี และท่าข้าวต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เข้าไปดูว่าที่รับปากกับเราแล้วที่เรากำหนดเป็นนโยบายนั้น สามารถกระทำการได้อย่างที่ท่านสมาชิกหรือพี่น้องเกษตรกรมีความห่วงใยในเรื่องนี้ เราเข้า ไปตรวจครับ แล้วเราก็พบว่าตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ปี ๒๕๔๒ เราเข้าไปดูในที่ต่าง ๆ เรามีทั้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่จะต้องทำหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ ต่าง ๆ เหล่านั้น แล้วก็โดยส่วนกลางของกรมการค้าภายในซึ่งดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้เราก็ส่ง ทีมปฏิบัติการพิเศษในการเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนมา เราก็พบ การกระทำที่มีความผิดเหมือนกัน ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกมีการคิดค่าชั่งน้ำหนัก จากเกษตรกรเราพบอยู่ ๓ ราย ใน ๓ รายนี้เป็นการพบที่กรณีท่าข้าวจังหวัดอ่างทอง เราก็พบว่ามีการเรียกเก็บค่าชั่งน้ำหนักข้าวของเกษตรกรมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราได้ ดำเนินการแล้วก็ได้นำไปสู่การฟ้องร้องคดี ซึ่งขณะนี้ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว อันนี้พบไป ๓ รายที่ดำเนินการ ขณะเดียวกันในระหว่างที่ยังอยู่ในกระบวนการนี้อยู่เราก็ ได้มีการสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมีความเข้มข้นในการที่จะลงไปตรวจสอบแล้วก็ ติดตามอย่างใกล้ชิด สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ที่อยู่ใน จังหวัดอยู่แล้ว แล้วเขาก็พอทราบการเคลื่อนไหวในมุมมองต่าง ๆ ก็ลงไปดำเนินการ ก็ต้อง กราบเรียนว่าที่ผ่านมาเขายังมีปัญหาอยู่เหมือนกันที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในบางจุด บางพื้นที่ไม่สามารถกระทำหรือดำเนินการเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นนโยบายของกระทรวง พาณิชย์ได้เข้มข้นมากเพียงพอ ซึ่งเราก็ได้มีการประชุมแล้วก็กำชับไปแล้วว่าสำนักงาน พาณิชย์จังหวัดต้องเป็นหัวหอกในการที่จะดูแลราคาพืชผลของเกษตรกรไม่เพียงแค่ข้าว ยังเป็นพืชผักหรือผลไม้ตัวอื่น ๆ อีก เพราะฉะนั้นวันนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในส่วนของ กระทรวงพาณิชย์ก็มีการปรับกระบวนการทำงาน ปรับวิธีการทำงานหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งผมคิด ว่าที่ผ่านมาหลังจากการตรวจสอบครั้งสุดท้ายนี้เราก็พบว่ามีลักษณะการทำงานที่เข้มข้น เข้มแข็งมากขึ้น แล้วก็ยังได้ให้เขามีโอกาสในการที่จะประสานกับทูตพาณิชย์ที่อยู่ใน ๖๖ ประเทศ ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะเชื่อมโยงกันแล้วก็จะหาทางแก้ไขปัญหาของพี่น้อง ประชาชนได้เป็นอย่างดีนะครับ วันนี้ก็ดำเนินการในเรื่องนี้ตรวจสอบเข้มข้น ก็กราบเรียน ท่านให้ท่านสบายใจได้ว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากเราวางมาตรการแล้วเราก็ได้กำชับ ให้ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องออกไปตรวจสอบดำเนินการ แต่เท่าที่พบก็คิดว่ายังไม่มาก แต่ว่า กราบเรียนท่านว่าปัญหาราคาสินค้าต่าง ๆ มันมีปัญหา ซึ่งเราก็พยายามดูแลอย่างทั่วถึง ภาพเฉลี่ยโดยรวมขณะนี้ข้าวเปลือกปรับเพิ่มจากปีก่อนถึงประมาณ ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ผมเข้าใจ ว่าสิ่งที่ท่านเสนอคงเป็นช่วงแรกของการดำเนินการ แต่หลังจากการที่มีกระบวนการต่าง ๆ ในการดูแลเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้น สิ่งต่าง ๆ นี้ก็ปรับเข้ามาอยู่ในมาตรฐานที่ค่อนข้าง เหมือนกัน อาจจะมีบางส่วนบางจุดที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งผมก็รับไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำชับให้ ผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ลงไปกำกับดูแลแล้วก็ดำเนินการให้ดีที่สุด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของการติดตาม กำกับ ดูแลเครื่องชั่งตวงวัดทั่วทั้ง ประเทศ ซึ่งทั้งประเทศก็มีอยู่ประมาณ ๑,๗๓๕ เครื่อง ก็ไปดำเนินการดูว่ามีการตรวจ เครื่องวัดความชื้นข้าวทั่วประเทศในการให้ความยุติธรรมกับชาวนาหรือไม่ เราลงไปตรวจ ก็ยังพบว่าเรามีจำนวนการตรวจเครื่องวัดความชื้นมีความผิดอยู่ ๑๖ เครื่องด้วยกัน พบที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ๒ เครื่อง พบที่จังหวัดร้อยเอ็ด ๔ เครื่อง พบที่จังหวัดน่าน ๔ เครื่อง พบที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ๓ เครื่อง พบที่จังหวัดแพร่ ๒ เครื่อง และพบที่จังหวัดเพชรบุรี ๑ เครื่อง ก็พยายามที่จะใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่ตรวจสอบเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและ ความเป็นธรรมกับพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด ในการตรวจวัดเหล่านี้เราก็ได้ดำเนินการเอามาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ปัญหามันเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน วันนี้มาเป็นรัฐบาลเรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่าเป้าหมาย ของเราอยู่ที่เกษตรกร แล้วก็ผู้บริโภคชาวไทยทั้งหมด เพราะฉะนั้นการจะดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้ก็พยายามจะแก้ไขอย่างดียิ่ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
ส่วนปัญหาเรื่องราคาข้าวสาร ข้าวถุงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ยังมีความแตกต่างกัน นี่ก็เป็นประเด็นที่เป็นเป้าหมายเราในการดำเนินการ แต่ครั้งนี้เราเข้ามาในระยะรอยต่อ แล้วก็การดำเนินการผ่านช่วงไปแล้ว อย่างไรก็ดีคิดว่าปีหน้าผมได้หารือกับผู้บริหารกระทรวง พาณิชย์แล้วว่าเราจะวางแผนตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ฤดูกาลพืชผลต่าง ๆ จะออกมาควรจะต้องมี การดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วก็ได้มีการประมาณการว่าข้าวของผลิตปีนั้นมีจำนวนมากน้อย เท่าไร มีภูมิอากาศที่จะเป็นผลกระทบต่อการปลูกข้าว ต่อการได้ผลผลิตของพี่น้องเกษตรกร เท่าไร แล้วก็ให้วางแผนแต่เนิ่น ๆ ถ้ามากเกินไปเราก็จะดูดซับนะครับ ใช้กลไกต่าง ๆ ดูดซับ เพื่อจะประคองเสถียรภาพราคาให้เต็มที่ ถ้าน้อยราคาดีเราก็ต้องหาทางดูว่าจะแก้ไข สถานะการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ตรงนี้จะเป็นแผนระยะยาว เราไม่อยากเห็น การเกิดขึ้นแล้วก็ไปวิ่งตามปัญหา แล้วก็คอยแก้ปัญหาที่มันเกิดจากปลายเหตุเหมือนอย่าง ทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปเรามั่นใจแล้วเราตั้งใจว่าเราจะทำงาน ในเชิงรุก เพื่อจะหาทางออกและแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรอย่างดีที่สุด ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ก็คิดว่าใช้เวลาครบถ้วนแล้วนะครับ ท่านพลากรมีสิทธิถามได้ ๒ ครั้งนะครับ แต่จะฝากทิ้งท้ายอะไรสักนิดหนึ่งก็ได้ครับ แต่ใช้เวลาไม่เยอะนะครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ครับท่านประธาน กระทู้นี้ผมยื่นกระทู้วันที่ ๓๑ ตุลาคม ปัจจุบันพี่น้องประชาชนก็ถือว่าได้รับ ราคาที่ดีจากแต่ก่อนเยอะมาก จากต้นปีข้าวเปลือกราคาประมาณกิโลกรัมละ ๗-๘ บาท แต่รัฐบาลเข้ามาบริหารเพียง ๓ เดือนก็สามารถทำให้ขยับขึ้นมาเป็น ๑๑-๑๒ บาทได้ ผมก็ต้องขอบคุณแทนพี่น้องประชาชนครับ และหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้ราคาข้าวเปลือก ไปสู่ราคาที่พี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวนาทั้งประเทศพึงพอใจ อาจจะไปถึง ๒๐ บาทก็ได้ ครับท่านประธาน วันนี้ก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ที่ได้มาตอบกระทู้ในวันนี้ครับ ขอบพระคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบพระคุณครับ ขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ให้เกียรติทางสภานะครับ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ขอบพระคุณครับ ที่ได้ดำเนินการมาแล้วต้อง ขอบคุณท่านพลากรที่เป็นห่วงใยเกษตรกร รัฐบาลก็ให้ความมั่นใจท่านว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เราติดตามใกล้ชิดและจะไม่ปล่อยให้มันเป็นปัญหา แล้วก็หวังว่าท่านได้พบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนเป็นตัวแทนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ท่านได้พบและห่วงใย ในปัญหาที่เกิดขึ้น ท่านนำมาสะท้อนมาเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราทั้งหมดเราพร้อมที่จะ รับฟังแล้วก็นำไปแก้ไขปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สวัสดีครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบพระคุณครับ กระทู้ที่ ๑.๒.๑ ก็เสร็จเรียบร้อยนะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
๒. กระทู้ถามที่ ๐๗๕ เรื่อง ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่ไม่ได้รับการแก้ไข และเป็นปัญหาอย่างยาวนาน (นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คือท่านทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน แต่เนื่องจากในวันนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย ท่านทรงศักดิ์ ทองศรี ติดภารกิจสำคัญ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถาม ออกไปเป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอเข้าสู่ กระทู้ถาม ๑.๒.๓ นะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
๓. กระทู้ถามที่ ๐๗๖ เรื่อง ขอให้มีระบบการดูแลคนไทยที่อยู่อาศัย และประกอบอาชีพในต่างประเทศ (นายกัณวีร์ สืบแสง เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม นายกรัฐมนตรี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่า กระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคือ ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ซึ่งท่านได้เข้าประจำตำแหน่งแล้วนะครับ ขอเชิญท่านนายกัณวีร์ สืบแสง ใช้สิทธิถามในรอบที่ ๑ ครับ
นายกัณวีร์ สืบแสง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ด้วยความ เคารพครับท่านประธานครับ วันนี้ผมมีข้อกังวลจริง ๆ เพราะเนื่องจากว่าการที่ท่าน นายกรัฐมนตรีท่านได้มอบหมายให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ มาตอบคำถามในกระทู้นี้ ซึ่งกระทู้นี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบการดูแล คนไทยที่อยู่ต่างแดนทั้งระบบ และรวมถึงคนที่ไปประกอบอาชีพ มันไม่ใช่แค่มิติทางด้าน แรงงานเพียงอย่างเดียว มันเป็นมิติทางด้านความมั่นคงกันระหว่างประเทศ เรื่องเกี่ยวกับ เศรษฐกิจ และเรื่องเกี่ยวกับพี่น้องที่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน แต่อย่างไรก็ตามการมอบหมาย ครั้งนี้ของท่านนายกรัฐมนตรีมาถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคงได้มีแนวทาง ในการตอบ ในการดูแลพี่น้องไทยที่อยู่ในต่างได้แล้ว ท่านประธานครับ ในศตวรรษนี้ การเดินทางโยกย้ายถิ่นฐานแทบจะเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักของคนทั่วโลก ไม่ว่าจะ เดินทางไปเพื่อศึกษา ไปเพื่อประกอบอาชีพ ไปเพื่อเกี่ยวกับการย้ายครอบครัวแต่งงานกับ คนต่างชาติ มันเป็นการโยกย้ายถิ่นฐานแบบทั้งปกติ ก็คือการเดินทางถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าการจะมีหนังสือเดินทางหรือ Passport ไม่ว่าจะเป็นการตรวจลงตรา การขอ Visa การเดินทางผ่านการตรวจคนเข้าเมือง และรวมถึงการเดินทางโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ซึ่งก็เป็นการโยกย้ายถิ่นฐานที่ไม่เป็นตามกฎหมาย คือไม่ได้มีหนังสือเดินทาง การเดินทางเข้า ไปไม่ได้ผ่านการข้ามแดนต่าง ๆ การตรวจคนเข้าเมืองต่าง ๆ อย่างคนไทยเองนะครับ ท่านประธาน ก็มีวัฒนธรรมการโยกย้ายถิ่นฐานกันมากมายทั้งแบบปกติแล้วไม่ปกติ เอาแค่เรื่องแรงงานอย่างเดียว วันนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานท่านกรุณามานะครับ ผมก็อยากจะเรียนถามท่านว่าจริง ๆ แล้วตอนนี้จากข้อมูลเชิงสถิติจากกองบริหารแรงงานไทย ไปต่างแดนของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานเองแจ้งว่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อเดือนที่แล้วมีแรงงานที่เข้าสู่ระบบที่เป็นอยู่ต่างแดนแล้วประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ คน ซึ่งก็มี แรงงานอีกหลายแรงงานที่ไม่อยู่ในระบบที่ไปอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งท่านก็ได้ชี้แจงในกระทู้ ถามสดเมื่อเช้านี้ว่ามีอีกหลายท่าน มีอีกประมาณเป็นแสน ๆ คนไปอยู่ต่างแดน อันนี้ละครับ ท่านประธานครับ รัฐในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหาร ซึ่งก็คือรัฐบาลเราเองมีหน้าที่ให้ ความคุ้มครองต่อประชากรของตนเอง ไม่ว่าจะอยู่บนดินแดนอธิปไตยของตนเองหรืออาศัย อยู่บนดินแดนอธิปไตยของชาติอื่น โดยรัฐจะไม่สามารถปฏิเสธหน้าที่อันสำคัญอันหนึ่งได้ คือรัฐทุกรัฐต้องให้ความคุ้มครองประชาชนตนเอง ไม่ว่าจะเดินทางออกนอกประเทศถูกต้อง ตามกฎหมาย หรือว่าผิดกฎหมายเองก็ตามครับ สาเหตุที่ผมยกหน้าที่ของรัฐในเรื่องการให้ ความคุ้มครองคนไทยที่อยู่ต่างแดนนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉนวนกาซาไม่นานมานี้ เราพบว่ามีแรงงานคนไทยจำนวนมากที่อยู่ในอิสราเอล ผมติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ครับท่านประธาน พบว่ามีการขอความช่วยเหลือ ส่งข่าวตามช่องต่าง ๆ ให้กับคนไทย ซึ่งมีคนไทยที่ตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบ และรวมถึงคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และอยู่ในฝั่งฉนวนกาซา ก่อนอื่นผมขอแสดงความยินดีต่อคนไทยญาติพร้อมครอบครัว ที่ได้รับการช่วยเหลือให้กลับมาสู่ดินแดนมาตุภูมิในประเทศไทย แต่ติดใจนิดเดียวท่านประธานครับ พี่น้องที่กลับมาใส่เสื้อยืดอะไร อันนี้ละครับ แต่ว่ามันจะเป็นนอกเหนือกับกระทู้นี้ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทยกับประเทศในเวทีโลก
นายกัณวีร์ สืบแสง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
และอีกสถานการณ์คล้าย ๆ กัน เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งใกล้ ๆ กับประเทศไทย ของเราคือสถานการณ์ที่เล่าก์ก่าย รัฐฉานตอนเหนือของประเทศเมียนมา ซึ่งก็มีคนไทยหลาย คนตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และที่หนักกว่านั้นครับ ตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบ และมีข้อมูลทราบว่าถูกจับเป็นตัวประกันเช่นเดียวกัน ท่านประธานครับ ปรากฏการณ์ เหล่านี้สะท้อนถึงพลวัตรของแบบแผนการต่อสู้ของกลุ่มติดอาวุธและขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจจีนสีเทา Call Center ที่มีแนวโน้มจะใช้การจับตัวประกันชาวต่างชาติ มากขึ้น ซึ่งก็คือยุทธวิธีเพิ่มอำนาจต่อรองกับคู่ขัดแย้งและการดึงเอาประชาคมระหว่าง ประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงมากยิ่งขึ้น จากสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผมตั้ง ข้อสังเกตว่าประเทศไทยมีแบบแผนในการดูแลคนไทยที่อยู่ต่างแดนเป็นระบบหรือไม่ และหากมี มันรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร มันต้องไม่ใช่แค่แผนเฉพาะหน้าที่มุ่งเน้นแต่ การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ผมจึงขอตั้งกระทู้ถามถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง แรงงาน ซึ่งเป็นตัวแทนของท่านนายกรัฐมนตรีมาตอบประเด็นนี้ในเรื่องเกี่ยวกับว่า รัฐบาลไทยเรามีแนวทางอย่างไรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในกรณีความเสี่ยงที่คนไทย จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในต่างแดน เช่น เรามีการประเมินไหมครับ จำแนกประเภทพื้นที่เสี่ยงในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก มีระบบเตือนภัยที่รวดเร็ว มีการประเมิน ฉากทัศน์ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ กระทั่งมีแผนการซักซ้อมการเตรียมความพร้อม แผนเผชิญในต่างแดนหรือไม่ อย่างไร เป็นคำถามในช่วงแรกครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ และท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ตัวผมเองก็ขอตอบคำถาม ในส่วนแรกแทนท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้มอบหมายให้ตัวผมมาตอบคำถามท่านสมาชิก ผู้ทรงเกียรตินะครับ ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ที่ทางรัฐบาลไทยทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เรามีมาตรการ ที่จะดูแลคนไทยในต่างแดน โดยเฉพาะปัจจุบันนี้พวกเราก็คงจะทราบดี ซึ่งตัวผมเองก็ยอมรับ ว่าเรามีคนไทยที่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศมากมาย และไปอยู่ในประเทศต่าง ๆ ไม่ใช่เฉพาะ ในเอเชียหรือใน ASEAN ของเรา เราไปอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งแน่นอนกระทรวงการต่างประเทศ ก็ต้องมีมาตรการในการที่จะดูแลคนไทยในต่างแดน ซึ่งการที่จะมอบหมายให้ดูแลคนไทย ในต่างแดนก็เป็นหน้าที่ของเอกอัครราชทูตในประเทศนั้น ๆ หรือถ้าไม่มีระดับเอกอัครราชทูต เราก็คงจะต้องให้กงสุลใหญ่ในประเทศนั้น ๆ เป็นผู้ช่วยดูแล ซึ่งในช่องทางต่าง ๆ สำหรับใน แต่ละประเทศที่มีกงสุลใหญ่และระดับเอกอัครราชทูต เรามีช่องทางในการติดต่อไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram หรือช่องทางการสื่อสาร และโดยเฉพาะช่องทางที่เป็น การเฉพาะของแต่ละสถานทูตสำหรับให้คนไทยสามารถติดต่อได้ ส่วนมาตรการต่าง ๆ ที่จะเป็นการรณรงค์ให้คนไทยว่าการที่เราจะไปประเทศไหน มีความเสี่ยงอย่างไร ซึ่งต้องบอก ได้ว่าคนไทยที่ไปอยู่ในต่างประเทศหรืออยู่ในต่างแดนเราไปทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูก กฎหมาย แต่ที่มีปัญหาโดยส่วนใหญ่เราไปอย่างไม่ค่อยจะถูกกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างกรณี ของที่ทางสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ในกรณีของเล่าก์ก่าย ซึ่งผมคิดว่าคนไทยเหล่านี้ไปในลักษณะ ที่ไม่ได้ถูกกฎหมาย ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันอยู่ว่าเราถูกหลอกลวงไป แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผมคิดว่ากระบวนการสอบสวน เมื่อคนไทยเหล่านั้นกลับมาสู่ประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจมีการทำการสอบสวนเราก็คงจะต้องทราบผลข้อสรุปที่ออกมาว่าการที่พวกคุณไป พวกคุณรู้หรือไม่ว่าพวกคุณทำงานอะไร แล้วพวกคุณมีความเสี่ยงภัยหรือไม่ ขนาดไหน ซึ่งตรงนี้รัฐบาลไทย โดยท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ก็มีความเป็นห่วงและเป็น กังวลมาก แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องขอยอมรับในอีกลักษณะหนึ่งว่าวันนี้คนไทยเราก็มักจะ หลงเชื่อ ในสิ่งที่ไม่เป็นจริงหรือเขาอาจจะเรียกว่าเป็นลักษณะของ Fake News การเชิญชวน ไปทำงานในลักษณะที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งตัวผู้ไปทำงานเองอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ เรามีหน้าที่ที่จะประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้กับคนไทยได้รับรู้ว่าสิ่งที่พวกท่านกำลังจะเดินทางไป พวกท่านตรวจสอบดีแล้ว หรือยัง ประสานทางสถานทูตไทย ประสานทางกระทรวงการต่างประเทศหรือถ้าคุณจะไป ทำงาน คุณประสานทางกระทรวงแรงงานแล้วหรือไม่ว่ามีการประกาศให้ออกไปทำงาน อย่างถูกต้องจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นผมก็อยากจะประชาสัมพันธ์ว่าการที่เพื่อน ๆ คนไทย ที่จะออกไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปทำงานในลักษณะไหนก็แล้วแต่ ก็ขอให้พวกท่านได้กรุณา สอบถาม โดยเฉพาะกรมการจัดหางานของกระทรวงแรงงาน ซึ่งในช่วงต้นผมขอตอบเพียง เท่านี้ครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านกัณวีร์ ใช้สิทธิในรอบที่ ๒ ครับ
นายกัณวีร์ สืบแสง บัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานครับ ผม นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ขอบพระคุณครับ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับ ก็อยากจะขอเสนอในเรื่องเกี่ยวกับการดูแลคนไทย ทั้งระบบในต่างแดน เพราะว่าจริง ๆ แล้ว โดยมาตรการในมาตรฐานสากลที่เราใช้กันอยู่ ผมก็อยากจะขอเสนอให้กับทางรัฐบาลไทยนำไปพิจารณา เราจะมีด้วยกัน ๓ มาตรการ ในการที่ดูแลคนไทยนะครับ
นายกัณวีร์ สืบแสง บัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
มาตรการแรก Warning ก็คือการจัดทำเรื่องเกี่ยวกับการเตือนภัย ต่าง ๆ นานา เราต้องทราบว่าถ้าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นในประเทศต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยง เราจำเป็นครับ โดยที่ท่านรัฐมนตรีท่านได้ชี้แจง ก็คือกระทรวงการต่างประเทศโดย สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยเราที่อยู่ในประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องมี ระบบการ Warning ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะไปด้วยถูกกฎหมายหรือ ผิดกฎหมายก็ตาม เพราะว่าตามที่ผมเรียนไปในเบื้องต้นคือเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องดูแลให้ ความคุ้มครองประชาชน ประชากรคนไทยทั่วโลก ไม่ว่าเขาจะเป็นใครเดินทางผิดกฎหมาย หรือถูกกฎหมายก็ตามเราจะต้องทำการ Warning ให้ได้
นายกัณวีร์ สืบแสง บัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
มาตรการที่ ๒ Warden คือการจัดทำ Zoning ต่าง ๆ ต้องทราบครับว่า คนไทยที่ไปอยู่ในประเทศต่าง ๆ รอบโลกไปอยู่ที่ไหน ชื่ออะไร ทำอะไร จัดทำ Zoning ให้มีคนประสานงานแต่ละ Zoning อันนี้เป็นเรื่องที่ ๒ คือเรื่อง ๆ Warden เป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างยิ่ง
นายกัณวีร์ สืบแสง บัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
มาตรการที่ ๓ Contingency Planning เรื่องเกี่ยวกับแผนเผชิญเหตุ แผนนี้ จำเป็นจะต้องสร้างขึ้นมาและสามารถมีการฝึกซ้อมกันอย่างชัดเจน จะต้องมีการทำ ๓ อย่างนี้ ไปด้วยกัน ไปพร้อม ๆ กันไม่ว่าจะเป็น Warning Warden Contingency Planning เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้กระทรวงการต่างประเทศต้องผ่านท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผ่านไปทาง ครม. ทางรัฐบาลช่วยพิจารณาแผนนี้เข้าไปช่วยเหลือคนไทย และแถมมีข้อเสนอว่า ถ้าคนผิดกฎหมาย อันนี้ละครับเป็นสิ่งสำคัญเมื่อคนผิดกฎหมายแล้วเขาจะเข้าสู่ระบบ ได้อย่างไร เราต้องทำงานเชิงรุกเช่นกัน ท่านครับ การทำงานเชิงรุกของเราต้องชี้แจงต้องโฆษณา ให้เห็นว่าของเรานี้ถ้าเกิดปัญหาขึ้นในประเทศต่าง ๆ เขาจะสามารถติดต่อเราได้อย่างไร Facebook อย่างเดียวคงไม่พอ QR Code ต่าง ๆ นานา ตอนนี้ศตวรรษที่ ๒๑ เราสามารถ พัฒนาแนวทางการติดต่อสื่อสารของรัฐบาลไทยให้กับคนไทยทั่วโลกทราบว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้น กับชีวิตของเขา ทรัพย์สินของเขาในต่างแดน เขาสามารถติดต่อใครได้บ้าง เพราะฉะนั้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่จะเป็นความท้าทายของรัฐบาล ผมก็ขอเรียนเป็นกำลังใจให้ในการที่จะ สามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนคนไทยสามารถที่จะพึ่งพิง กับรัฐบาลไทยได้ต่อไป ในเมื่อท่านรัฐมนตรีท่านได้กรุณาพูดถึงพี่น้องคนไทยที่เดินทาง ไปข้างนอกต่างประเทศจะไปแบบผิดกฎหมายนะครับ อันนี้ผมก็จะมีคำถามถึง ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานโดยตรง ผมอยากสอบถามแนวทางของการแก้ไขปัญหา คนนอกระบบแรงงานที่อาจจะไม่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ไม่อยู่ในของรัฐบาล ผมเชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยเป็นแสนคนหรืออาจจะเป็นล้านคนเราไม่แน่ใจ เพราะว่าเราไม่มี ข้อมูลชัดเจนว่าคนที่อยู่เป็นแรงงานนอกระบบอยู่ที่ต่างประเทศนี้ อยากสอบถามในฐานะ ของเราประเทศไทยที่เป็นรัฐต้นทาง ว่ารัฐบาลเรามีแนวทางอย่างไรในการแก้ไขและพัฒนา ระบบการส่งแรงงานไปทำงานที่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับ รัฐบาลของประเทศปลายทางที่จะเชิญชวนให้กับแรงงานไทยเข้ามาอยู่ในระบบให้มากขึ้น แน่นอนครับ ไม่สามารถเอาทุกคนเข้ามาสู่ในระบบได้ก็ต้องมีเล็ดลอดบ้าง แต่ถ้าเราสามารถ เชิญชวนให้เขาเข้ามามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ตามกฎตามระเบียบต่าง ๆ นานาที่เราทำอยู่เรา ต้องไม่ใช่เป็นระบบที่ตายตัว เราจำเป็นต้องอ่อนตัวเพื่อให้พี่น้องคนไทยนี้ไม่เข้าไปสู่หลง ระบบที่มันผิดกฎหมายไม่ถูกเชิญชวนง่าย ๆ จาก Online จาก Call Center ต่าง ๆ นานา เข้าไปอย่างง่าย ๆ มันก็ผิดเราต้องเชิญชวนให้พวกเขาช่วยกลับมาพิจารณามองว่าระบบของ รัฐของเรานี้สามารถที่จะตอบรับ Absorb เขาเข้ามา ดูดซับเข้ามาอยู่ในระบบของไทยได้ อย่างไร ถ้าถามง่าย ๆ ครับท่านประธาน คือตอนนี้เรามีแรงงานไทยที่ลงทะเบียนแรงงานอยู่ แล้วที่ผมเรียนไปเบื้องต้น คือเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ คน เรารู้ดี ว่ามันมีอีกประมาณหลายแสนคนและเกือบล้านคนท่านรัฐมนตรีในฐานะเจ้ากระทรวง แรงงาน ท่านมีวิสัยทัศน์ กรอบทิศทางและแนวนโยบายอย่างไรที่จะทำให้แรงงานนอกระบบ เหล่านี้กลับเข้ามาสู่ระบบให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จะทำให้คนไทยก็จะไม่เป็นผีน้อยอีก ต่อไปที่เกาหลีใต้ คนไทยก็จะไม่ถูกนำพาและคนไทยจะไม่ถูกหลอกลวงโดยขบวนการ ค้ามนุษย์อย่างสถานการณ์เล่าก์ก่ายต่อไป ขอเรียนถามครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ และท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ก็ต้องขอขอบคุณ สำหรับข้อแนะนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องของการเตือนภัยให้คนไทยทุกคน ๆ ได้รับทราบ การจัดทำ Zoning ต่าง ๆ ในการประสานงานแบบเผชิญเหตุ แล้วก็ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย อันนี้สำหรับข้อแนะนำของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ผมก็จะนำไปทำ การหารือแล้วก็ทำตามที่ท่านแนะนำเอาไว้นะครับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
ส่วนกรณีที่เป็นคำถามว่า เราจะทำอย่างไรให้แรงงานที่ไปทำงานใน ต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ก็อย่างที่ท่านพูด ผมก็ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงนะครับ ก็เป็นความจริง ในระดับหนึ่งที่มีแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศเป็นหลักแสน ๆ คน ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ประเทศมาเลเซีย ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศอื่น ๆ ในโลกนี้ซึ่งผมคิดว่า มีมากกว่า ๑๐ ประเทศ แต่กรณีที่เรามีตัวเลขอย่างที่กระทรวงแรงงานตอนนี้เราก็มีตัวแทน ของกระทรวงแรงงานอยู่ใน ๑๑ ประเทศ ๑๒ สำนักงาน ซึ่งใน ๑๑ ประเทศ ๑๒ สำนักงาน ก็ครอบคลุม จริง ๆ แล้วก็อยู่ในเอเชียของเรา เพราะอาจจะมีไปที่ตะวันออกกลางใน ๒ ประเทศคือประเทศซาอุดีอาระเบีย และ UAE ซึ่งในอนาคตอันใกล้ก็คาดว่าน่าจะมีการไป เปิดสาขาอีกสาขาหนึ่งก็คือที่ประเทศออสเตรเลีย แต่โอเคไม่เป็นอะไรครับ ถึงแม้ว่าเราจะ ไม่มีเอกอัครราชทูตแรงงานประจำประเทศไทยนั้น ๆ เราก็คงจะต้องฝากการดูแลแรงงาน ของไทยให้กับสถานเอกอัครราชทูตในประเทศนั้น ๆ หรือสถานกงสุลใหญ่ในประเทศนั้น ๆ แต่สิ่งที่สำคัญว่าขณะนี้เรามีแรงงานที่ไปทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมายหรือเรียกว่า ผีน้อย ในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งก็อย่างที่ท่านได้กล่าว ผมก็คิดว่าน่าจะมีคนที่ไปทำงานที่ไม่ถูกต้องตาม กฎหมายในเกาหลีใต้ก็น่าจะมีไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งถามว่าทางกระทรวงแรงงานเรา อยากจะนำแรงงานเหล่านี้เข้ามาทำให้ถูกกฎหมายหรือไม่ แน่นอนครับ ตัวผมเองหลังจาก ที่เข้ามาสู่กระทรวงแรงงานสิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดก็คือ ทำอย่างไรให้มีการลงทะเบียน แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศทุกประเทศในโลกนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด แต่เงื่อนไขมีว่าในแต่ละประเทศเขาก็มีโควตาของเขาว่าสามารถที่จะรับแรงงานจากประเทศ ไทยไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้สักกี่คน แน่นอนครับ ผมไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในการที่จะไปเจรจาและลง MOU ในการขอเพิ่มปริมาณแรงงานของคนไทยที่จะไปทำงานในประเทศต่าง ๆ เช่น อย่างกรณีของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเรามีโควตาไม่มาก เราก็จะไปขออนุญาตว่าเป็นไปได้ไหม ขอเพิ่มสาขาอาชีพในแต่ละอาชีพ จากที่เรามีอัตราส่วนนี้สัก ๑๐,๐๐๐ คน หรือ ๒๐,๐๐๐ คน จะเพิ่มเป็น ๓๐,๐๐๐ คน ๔๐,๐๐๐ คน ๕๐,๐๐๐ คนได้หรือไม่ หรือโดยเฉพาะในประเทศ เกาหลีใต้ปัจจุบันนี้เรามีแรงงานที่ลงทะเบียนจริง ๆ ประมาณเกือบ ๆ ๒๐,๐๐๐ คน แต่เรามี แรงงานที่เป็นผีน้อยอีกประมาณแสนคน ก็ประมาณสัก ๔๕๐,๐๐๐ คน ซึ่งตรงนี้ในสิ่งที่ไป แบบไม่ถูกกฎหมาย ๑. คือปัญหาเรื่องของนายจ้างที่ไม่สามารถที่จะขอทำ Work Permit ให้กับแรงงานไทยเข้าไปทำงานในประเทศของเขาเองได้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ
ส่วนที่ ๒ ก็อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว ก็คือโควตาแรงงานของประเทศไทย เรายังไม่มีจำนวนพอสำหรับคนงานไทยที่จะไปทำงาน เพราะฉะนั้นตรงนี้การเจรจา เพิ่มปริมาณหรือเพิ่มโควตาของแรงงานในแต่ละประเทศก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน ที่จะต้องทำกันต่อไป แต่ที่สำคัญเราคงจะต้องให้ความรู้สำหรับแรงงานที่จะไปทำงาน ในต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษามลายู สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผมคิดว่าเราต้องมีการจัดอบรม ซึ่งขณะนี้ กระทรวงแรงงานเราได้เริ่มมีการจัดทำการอบรมในภาษาเฉพาะทางที่สำหรับแรงงาน ที่เราจะออกไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกฎเกณฑ์และเงื่อนไขของเราไม่สามารถที่เข้าไปทำ ถูกต้อง เพราะเราพูดภาษาของเขาไม่ได้ อันนี้ก็ยอมรับว่าเป็นจุดอ่อนของกระทรวงแรงงานเรา ซึ่งตรงนี้ผมก็จะพยายามพัฒนาเพื่อให้จากจุดอ่อนเป็นจุดที่มันไม่อ่อน ซึ่งตรงนี้ก็ต้อง ขอเวลาสักนิดนะครับ ตัวผมเองก็เข้ามาทำงานได้ประมาณสัก ๓ เดือนก็พยายามจะทำ แล้วเร่งให้ได้เร็วที่สุด แล้วโดยเฉพาะในปีหน้า ปี ๒๕๖๗ ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าผมจะส่ง แรงงานไทยไปสู่ต่างประเทศ ๑๐๐,๐๐๐ อัตรา การที่จะพัฒนาให้ ๑๐๐,๐๐๐ อัตรา เราต้อง พัฒนาในเรื่องภาษาที่ประเทศที่จะไปทำงานด้วย ซึ่งตรงนี้เรากำลังมีการให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัด Course อบรมภาษาเฉพาะประเทศ แต่ละประเทศว่าในแต่ละ Course เราจะรับมาจำนวนเท่าไร อย่างน้อยที่สุดการรู้ภาษา เบื้องต้น การสื่อสารเบื้องต้นเราต้องได้ แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ เราก็ไม่สามารถส่งอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ก็จะไปทำงานอย่างผิดกฎหมายอีกเช่นกัน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ขอรับไว้ นะครับว่าเป็นความยังไม่แข็งแรง ไม่เข้มแข็งของเรื่องภาษา เพราะฉะนั้นตัวผมเองในฐานะ ที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน มาดูแลกระทรวงแรงงาน ก็พยายาม จะปิดจุดอ่อนของคนไทยให้ได้มากที่สุดเพื่อจะได้นำไปสู่เป้าหมาย และนำแรงงานเพื่อน ๆ ที่ไปทำงานในต่างประเทศที่ไม่ถูกต้องกลับมาให้ถูกต้องให้ได้มากที่สุด เปรียบเสมือนกับ ขณะนี้ที่ตัวผมเองได้พยายามทำแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายให้กลับมาถูกต้อง ตามกฎหมายให้ได้มากที่สุด ถามว่าถูกต้องตามกฎหมายได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์หรือไม่ ความกว้างความยาวของชายแดนประเทศไทยประมาณ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ กิโลเมตร ตัวผมเอง ไม่สามารถที่จะป้องกันและดูแลไม่ให้เพื่อน ๆ จากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้ามาสู่ ประเทศไทยได้ แต่เมื่อคุณเข้ามาแล้วเราก็ต้องหาวิธีทำให้คุณเข้าสู่ระบบงานอย่างถูกฎหมาย เพื่อเราจะได้สำรวจ และบันทึกประวัติเอาไว้ว่ามีประเทศไหนเข้ามาสู่ประเทศไทยกี่คน และจำนวนเท่าไร ในลักษณะเดียวกันเราก็ต้อง Record ว่ามีคนไทยไปทำงานในต่างประเทศ มีจำนวนเท่าไรในแต่ละประเทศ และถูกกฎหมายเท่าไร ไม่ถูกกฎหมายเท่าไร ตรงนี้ผมก็จะ รับข้อสังเกตของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติและไปทำเป็นการบ้าน แล้วถ้าหากว่าวันไหนที่ผม มีความคืบหน้าอย่างไร ผมก็จะทำเป็นจดหมายแจ้งไปให้ทางท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้ทราบ เป็นรายไตรมาสนะครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณมากครับ ก็เป็นการถามและตอบครบทั้ง ๒ คำถามแล้วนะครับ ขอบคุณท่านผู้ถาม แล้วก็ทางท่านรัฐมนตรีมากนะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ต่อไปเป็นระเบียบวาระที่ ๑.๓ กระทู้ถามแยกเฉพาะ ซึ่งได้ดำเนินการถาม และตอบที่ห้องกระทู้ถามแยกเฉพาะบริเวณชั้น ๑ แล้วครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ก็มากระทู้ของเรานะครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๑.๓ กระทู้ถามแยกเฉพาะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ก่อนดำเนินการถามและตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ผมขอชี้แจงให้ที่ประชุม ได้ทราบดังนี้
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๑. การถามและการตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะแต่ละกระทู้ให้ถามและตอบ ได้เรื่องละไม่เกิน ๒ ครั้ง และต้องถามและตอบให้แล้วเสร็จภายใน ๒๐ นาที ตามข้อบังคับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๑๗๒ และ ข้อ ๑๗๓ ประกอบ ข้อ ๑๖๗
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๒. กระทู้ถามแยกเฉพาะได้มีการอนุญาตให้ประชาชนได้เข้าร่วมรับฟัง แล้วก็ ขอความร่วมมือผู้ที่ได้รับอนุญาตกรุณาปฏิบัติตามระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วย การอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าฟังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๔ และข้อ ๕ ซึ่งกำหนดให้ผู้รับอนุญาตต้องรักษามารยาท ประพฤติตนให้เหมาะสมอยู่ใน ความสงบ ห้ามแสดงกิริยาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือกล่าววาจาหรือส่งเสียงใด ๆ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวน ขัดขวางการประชุม และห้ามใช้เครื่องมือวัสดุหรือ อุปกรณ์สื่อสารใด ๆ เพื่อบันทึกภาพ บันทึกเสียงหรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการถ่ายทอด การประชุมสู่บุคคลภายนอก โดยหากมีการฝ่าฝืนจะให้ออกจากห้องประชุม ก็แจ้งให้ ที่ประชุมทราบ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
สำหรับการพิจารณากระทู้ถามแยกเฉพาะในวันนี้ผมเห็นว่าเพื่อประโยชน์ ในการถามและตอบกระทู้ของผู้ตั้งกระทู้ถามและขอให้ท่านรัฐมนตรี ผมสลับลำดับคำถาม คำตอบกระทู้ถาม ดังนี้
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๑ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๗ ของท่านภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๒ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๔ ของท่านพลากร พิมพะนิตย์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๓ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๕ ของท่านพลากร พิมพะนิตย์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๔ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๖ ของท่านภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๕ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๘ ของท่านวิชัย สุดสวาสดิ์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ตั้งแต่หน้า ๑๑๐-๑๔๖
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ลำดับที่ ๖ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๙ ของท่านพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ อันนี้ก็ขอเลื่อนไปก็เหลืออยู่ ๕ กระทู้นะครับ ทุกท่านไม่ขัดข้องนะครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๑. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๗ เรื่อง ขอให้รัฐบาลชี้แจงนโยบาย ดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท (นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีบัญชามอบหมายให้ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง ได้มอบหมายให้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ท่านจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตอบกระทู้ถามแทน ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะคือ ท่านเอม เจริญทองตระกูล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาโครงสร้างระบบภาษี สำนักงานเศรษฐกิจ การคลัง เชิญ ท่านภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ถามได้ ๒ ครั้งนะครับ
นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นครพนม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครพนม เขต ๑ ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้ให้เกียรติมาตอบกระทู้ที่ผมจะถาม เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของพี่น้อง ประชาชนเป็นอย่างมาก เวลาลงพื้นที่พี่น้องประชาชนมีความหวังกับนโยบายเงิน Digital ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศหรือลูกหลานตกงานกันมากขึ้นเกี่ยวกับ นโยบาย ๑๐,๐๐๐ บาท พี่น้องประชาชนก็ฝากมาถามเมื่อไรจะได้ ผมก็เรียนตอบไปแล้ว ประมาณเดือนพฤษภาคม แต่อยากได้ข้อมูลชัดเจนมากขึ้น เพราะว่าผมเป็นรองประธาน คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งชาติหรือหน่วยงานอื่น ๆ มาชี้แจง ก็ไม่ชัดเจนนะครับ แล้วก็ตอบผิดพลาดเยอะ อย่างเช่น บอกว่าต้องกลับไปใช้เงิน ที่ทะเบียนบ้านอยู่หรือบัตรประชาชนอยู่ ก็เลยสงสัยว่าจะเอาบัตรประชาชนเป็นหลักหรือ ทะเบียนบ้านเป็นหลัก สาเหตุที่รัฐบาลทำนโยบายแบบนี้ผู้มาชี้แจงก็บอกว่าอยากให้ รถรับจ้าง รถโดยสารได้มีรายได้มากขึ้น ซึ่งผมเข้าใจว่าไม่ตรงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ของรัฐบาลเพื่อให้พี่น้องประชาชนกลับไปสู่ถิ่นฐานบ้านเกิดหรือทะเบียนบ้านอยู่เพื่อให้ เศรษฐกิจในหมู่บ้านกระเตื้องขึ้น ให้ในหมู่บ้านมีการซื้อการขาย ให้ลูกหลานหรือคนว่างงาน ตกงานได้มีงานทำ ก็เลยอยากจะเรียนถามท่านรัฐมนตรีว่านโยบายเงิน Digital ๑๐,๐๐๐ บาทนี้น่าจะเป็นรูปธรรมเมื่อไรจะเร็วกว่าเดือนพฤษภาคมได้ไหม หรือว่าหน่วยงานภาครัฐได้ ศึกษาข้อมูลหรือนโยบายเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพราะว่าปัจจุบันนี้เห็นแต่ท่านรัฐมนตรีออกมา ตอบคำถามนี้เองหรือท่านนายกมาตอบเอง ส่วนหน่วยงานราชการไม่ค่อยได้ชี้แจง ซึ่งพี่น้อง ประชาชนก็อยากให้หน่วยงานราชการออกมาชี้แจงด้วย แล้วก็ชี้แจงด้วยข้อมูลที่ชัดเจน แม้กระทั่งการซื้อการขายหรือร้านค้าเขาจะขายสินค้าไปแล้วจากเงิน Digital ๑๐,๐๐๐ บาท เมื่อไรที่เขาจะไปเบิกเงินสดได้หรือว่าต้องใช้เงิน Digital นี้ไปซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือหลาย ๆ ครั้ง นั่นคือข้อสงสัยอยากกราบเรียนถามท่านรัฐมนตรีครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ ผม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนะครับ ตอบคำถามของ ท่านภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมสงสัย กราบขอบพระคุณ ที่ได้ให้โอกาสกับทางรัฐบาลได้ชี้แจงนะครับ ท่านนายกรัฐมนตรีได้นำแถลงนโยบายต่อ รัฐสภามา เราอยู่มาด้วยกันในช่วง ๓-๔ เดือนที่แล้ว นโยบายนี้เป็นนโยบายหนึ่งซึ่งทาง รัฐบาลได้นำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมก็มีมติรับทราบนะครับ ให้รัฐบาลเดินหน้า หลังจากนั้นท่านนายกรัฐมนตรีได้มีมติผ่านมติ ครม. ในการตั้ง คณะกรรมการนโยบายเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet เรื่องชื่อนี้ผมขออนุญาต นำเรียนชี้แจงต่อท่านสมาชิกด้วย ถ้าเราใช้คำว่า Digital Wallet ๑๐,๐๐๐ บาท มันทำให้ เกิดความสับสนในบางครั้งว่าสรุปแล้วมันคือเงินในรูปแบบใด มันคืออะไร แต่จริง ๆ แล้วมัน คือการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท เพราะมันคือเงินบาท เติมผ่าน Digital Wallet นะครับ หลังจากนั้นทางคณะกรรมการนโยบายก็ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย นั่นก็คือเป็นชุดอนุกรรมการ ซึ่งมีผมเป็นประธานก็ได้มีการประชุมกันหลายครั้งครับ มีการเชิญส่วนงานราชการเข้ามาทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อที่จะมาแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น แล้วก็พยายามที่จะเดินหน้าในเรื่องของตัวนโยบาย ซึ่งต้องเรียนด้วยความ เคารพถ้าเกิดว่าจะเอาข้อเท็จจริงมันมีความยากอยู่นะครับ เพราะนโยบายนี้ไม่ใช่เพียงแค่ ประเทศไทย แต่เป็นนโยบายที่มันใหม่แกะกล่อง ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือต่างประเทศ ก็ตาม คือต่างประเทศมีกลไกในการทำนโยบายในลักษณะของการเติมเงินผ่านประชาชน เช่นเดียวกัน แต่ที่เคยมีก็มีใน ๒ ลักษณะหลัก ๆ ๑. ก็คือการเติมเป็นเงินสด ๒. ก็คือใช้เป็น ลักษณะคูปองอันนี้เราเคยเห็นมา แต่ครั้งนี้เราจะใช้กลไกที่มันเป็นลักษณะของทั้ง Blockchain ทั้งเรื่องของเป็นรูปตัวเงินในระบบ Digital นะครับ ซึ่งข้อดีของมันผมต้องเรียน ว่านโยบายนี้มันหลักคิด โดยหลักมันไม่ใช่นโยบายเรื่องของการสงเคราะห์หรือช่วยเหลือ ประชาชนเหมือนในอดีต แต่เป็นนโยบายในวันที่มีการเลือกตั้งต้องมีการนำเสนอนโยบายต่อ สังคม ทุกพรรคการเมืองก็บอกตรงกันหมดว่าขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่มันวิกฤตมันตกต่ำ เราเติบโตไม่ได้ตามศักยภาพนะครับ ทางรัฐบาลเองก็มีการนำเสนอนโยบายนี้ในช่วงที่มี การเลือกตั้งพี่น้องประชาชนให้ความเห็นชอบ จนกระทั่งมีโอกาสเป็นพรรคแกนนำในการ จัดตั้งรัฐบาล ก็นำเสนอนโยบายนี้ต่อพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อเป็นนโยบายหลักนโยบายหนึ่ง เป็น ๑ ในนโยบายหลักของเรา ซึ่งนโยบายนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้ประชาชน เป็นเครื่องมือกลไก ประชาชนมีหน้าที่เดียวครับคือเติมเงินเข้าไป ๑๐,๐๐๐ บาท มีหน้าที่ใช้ให้หมดโดยเร็ว ถึงได้มีการกำหนดกรอบและขอบเขต เช่น ในเบื้องต้นคือ กรอบระยะเวลาการใช้ครั้งแรกภายใน ๖ เดือน ๒. ก็คือในเรื่องของขอบเขตระยะทาง ในเบื้องต้นเราเคยกำหนดกันว่าจะให้เป็น ๔ กิโลเมตร รอบทะเบียนบ้านเป็นทะเบียนบ้าน แต่สุดท้ายแล้วเมื่อมีเสียงจากสังคมสะท้อนเข้ามาในในระดับหนึ่งเราก็รับฟัง คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายจึงมีมติในการเปลี่ยนขอบเขตจาก ๔ กิโลเมตร เป็น ๑ อำเภอ หมายความว่าถ้าทะเบียนบ้านของท่านอยู่ในอำเภอใดท่านสามารถใช้ ในร้านค้าในอำเภอนั้นได้อย่างครอบคลุม สาเหตุที่เปลี่ยนหลักคิดคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฐานรากในแต่ละชุมชนให้มีการเจริญเติบโตในความเท่าเทียม เพราะเรามีประสบการณ์ ในอดีตในการที่รัฐอุดหนุนเงินลักษณะนี้ไปยังพี่น้องประชาชนแล้ว สุดท้ายเงินลักษณะนี้ จะไหลไปอยู่ในเมืองใหญ่ พวกเราเป็น สส. ต่างจังหวัด เราจะเห็นเงินไปโตอยู่ในอำเภอเมือง ในอำเภอเมืองบางครั้งก็จะไหลเข้าไปสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ก็จะไปกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ ซึ่งมีความหนาแน่นทางเศรษฐกิจไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของเรา เราต้องการให้มันเจริญเติบโตอย่างทั่วถึง อันนี้เป็นกลไกในการที่เราจะสร้างเศรษฐกิจให้มันมี ความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำ ในเรื่องของระยะทางในเมื่อเปลี่ยนจาก ๔ กิโลเมตร เป็นระดับอื่นแล้ว สิ่งที่เรานำมาพิจารณาก็คือความครอบคลุมของจำนวนร้านค้าคือจะต้องมี ผลิตภัณฑ์ให้พี่น้องประชาชนเลือกซื้อเลือกใช้ได้อย่างครอบคลุมและครบถ้วน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จึงเป็นตัวเลือกแรกนะครับในระดับพื้นที่ก็คือในระดับตำบล เราก็เห็นว่า ในหลายพื้นที่ในทั่วประเทศไทยตำบลขนาดเล็กมีครับ และตำบลเหล่านั้นไม่มีร้านค้า เพียงพอที่จะรองรับการจับจ่ายใช้สอย พอมันเหลือระดับอำเภอกับระดับจังหวัดแล้ว ถ้าเรา เลือกเป็นระดับจังหวัดเราก็จะรู้ว่าสุดท้ายเงินจะไหลเข้าไปสู่อำเภอเมือง สุดท้ายตัวเลือกก็ เลยกลายเป็นระดับอำเภอ ต่อมาเราก็มาพูดคุยกันในเรื่องของจำนวนคนที่จะเข้าสู่โครงการ ในเบื้องต้นคือ ๕๖ ล้านคน แต่เมื่อไปดูตัวเลขจริงแล้วประชากรที่อยู่ในวัย ๑๖ ปีขึ้นไปที่อยู่ ในเกณฑ์ทั่วประเทศ ข้อมูลจากทางกระทรวงมหาดไทยอยู่ที่ ๕๔.๘ ล้านคน แต่มีเสียง สะท้อนมาในหลายส่วนครับ บางส่วนบอกว่าไม่ควรทำโครงการนี้เลย บางส่วนบอกว่าให้แจก เฉพาะกลุ่มที่เป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือบัตรคนจนบางส่วนบอกว่าตัดคนรวยออก ซึ่งเป็น ข้อเสนอจากส่วนงาน อย่างเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยเองก็พูดนะครับ ทางส่วนงาน ในกระทรวงการคลังบางส่วนก็มีข้อแนะนำ ด้วยเหตุใดที่เราจึงมีการปรับเปลี่ยนต้องเรียน อย่างนี้ครับว่าเรามีความประสงค์จะให้ทุกคนตามที่ได้มีการนำเสนอต่อรัฐสภา แต่เมื่อฟัง เสียงสะท้อนแล้วกลไกของเราคือการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหัวใจหลักของนโยบาย เมื่อมี ข้อท้วงติงในเรื่องของกลไกการกระตุ้นเศรษฐกิจเราต้องรับฟัง มีตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์ ที่มันชี้ชัดได้ นั่นก็คือกลไกในการเติมเงินเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่ม Top Tier คือกลุ่ม คนรวยที่สุด ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขเขาเรียกว่าการบริโภคขั้นสุดท้ายมัน Drop อย่างรุนแรง มันตกอย่างรุนแรง หมายความว่าถ้ากรณีเป็นแจกเงินปกติ ถ้าผมให้แบงก์พันกับ ท่านภูมิพัฒน์ ๑ ใบ ถ้าท่านภูมิพัฒน์มีรายได้เฉลี่ยเป็นกลุ่มล่างเป็นผู้ที่มีความยากไร้โอกาส ที่ท่านจะเอาเงิน ๑,๐๐๐ บาทนั้นไปอยู่ที่ประมาณ ๐.๘ เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าจะใช้ ๘๐๐ กว่าบาท ๙๐๐ บาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้นฉบับ
กลุ่มถัด ๆ มาก็จะลดหลั่นลงไปจุด ๐.๘ เปอร์เซ็นต์ ๐.๗ เปอร์เซ็นต์นะครับ แต่สุดท้ายพอมากลุ่มบนสุด ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขทางเศรษฐศาสตร์มันชี้ชัดว่า Marginal Propensity to Consume หรือการบริโภคขั้นสุดท้ายของท่านจะตกลงไปเหลือ ๐.๒ เปอร์เซ็นต์ คือหมายความว่าถ้าคนรวยเราตอบอย่างนี้ครับ ในกรณีที่คนรวยเราบังคับให้ ใช้ภายใน ๖ เดือน เราบังคับให้ใช้ต้องใช้ให้หมด แต่เมื่อท่านใช้ไปแล้ว ท่านมีค่าใช้จ่ายต่อ เดือนอยู่ที่ยกตัวอย่าง ๑๐๐,๐๐๐ บาท ท่านใช้เงินหมื่นที่เติมใส่ Digital Wallet ไป ๑๐,๐๐๐ บาท แต่ท่านจะเก็บเงินสดส่วนตัวเข้ากระเป๋าเป็นการออม ๑๐,๐๐๐ บาท นั่นคือ มันไม่เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจที่เราต้องการนะครับ เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้มาทาง คณะกรรมการรับฟัง สุดท้ายจึงมีการพิจารณาแล้วว่ากลุ่มคนบนสุดที่ว่าเราสามารถ Define หรือเราสามารถอธิบายคำจำกัดความเขาได้อย่างไร คนที่มีรายได้กลุ่มบนสุดจะมีเงินเดือน เฉลี่ยอยู่ที่ ๖๗,๐๐๐ บาท เราจึงตัดคนที่มีรายได้อยู่ในกรอบ ๗๐,๐๐๐ บาทขึ้นไปมีเงินออม อยู่ในบัญชีราว ๕๐๐,๐๐๐ บาท ขึ้นไปออกจากกลุ่มที่จะได้รับสิทธิ แต่เราก็เติมสิทธิอื่น ๆ ให้เขาผ่านทางกลไกอื่นของภาครัฐ เช่น ในเรื่องของนโยบาย Easy e-Receipt ซึ่งเพิ่งจะมีผล บังคับใช้เมื่อวาน แล้วก็จะเริ่มกันในช่วง ๑ มกราคม ถึง วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ เป็นนโยบายใน การกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือหากท่านสามารถเอาเงินไปจับจ่ายใช้สอย สามารถหักภาษีเงินได้ในช่วงสิ้นปีได้ถึง ๕๐,๐๐๐ บาท แล้วถ้าย้อนคิดมา ๕๐,๐๐๐ บาทนี้ คิดมาจากไหน ถ้าท่านอยู่ในตะกร้าคนที่มีรายได้ ๗๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป ท่านจะเสียภาษีอยู่ใน Rate ๒๐ เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าถ้าท่านใช้ ๕๐,๐๐๐ บาท ในช่วง วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ช่วงสิ้นปีท่านจะได้ชดเชยภาษีคืนได้หักลดหย่อน ๑๐,๐๐๐ บาท เท่ากับเงิน Digital Wallet นี่ก็เป็นกลไกที่เราคิดว่าอย่างน้อยทุกคนก็มีสิทธิได้สิทธินี้ เหมือนกัน แต่เพียงแต่ว่าถ้าท่านเป็นคนรวยอย่างน้อยท่านต้องนำเงินมาช่วยในการกระตุ้น เศรษฐกิจมาหมุนในเศรษฐกิจก่อน จึงจะได้รับสิทธิเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเรายังมีกลไกอื่น ๆ ที่จะเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่น การเติมเงินในกองทุน เช่น กองทุนพัฒนา อุตสาหกรรมแห่งอนาคตเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราได้วางกรอบไว้และจะอยู่ในงบประมาณปี ๒๕๖๗ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่สภาในช่วงต้นปีนะครับ กลไกทั้งหมดนี้เราได้ยืนยัน ๑. คือนโยบายนี้เป็น การเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet เติมใส่เข้าไปใน Digital Wallet เราจะ พัฒนา Application ที่มีอยู่แล้วสุดท้ายนะครับก็คือตัว Application เป๋าตัง แต่เราจะเติม เรื่องของ Blockchain Blockchain ไม่ได้มีหน้าที่ในการทำ Transaction Blockchain มีหน้าที่ในการเป็นฐานข้อมูลที่จัดเก็บข้อมูลและมีความมั่นคงปลอดภัย มั่นใจได้ว่าข้อมูลของ พี่น้องประชาชนจะไม่สูญหายและถูกแก้ไข เราจะใช้ตัว Application ที่พัฒนามาในการที่จะ แลกเปลี่ยนซื้อขายโดยมอบหมายให้ธนาคารในกำกับของรัฐ คือธนาคารกรุงไทย เป็นผู้ดำเนินการ จากการพูดคุยทั้งหมดแล้วเราเชื่อว่าตัว Application จะเสร็จในช่วง เดือนเมษายน ถามว่าทำไมช้ากว่าที่กำหนดในช่วงต้นที่เรากำหนดไว้เดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุ ก็เพราะว่ากลไกในการทำ Application ลักษณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการทดสอบเพื่อให้มั่นใจ ได้ว่าตัวโปรแกรมตัว Application มันมีความมั่นคงปลอดภัยเพียงพอที่จะใช้แลกเปลี่ยน เงินตราให้กับพี่น้องประชาชนนะครับ ในส่วนของแหล่งเงินเราก็มีการพูดคุยกันหลายส่วนครับ เราเคยคิดแม้แต่กระทั่งเรื่องของมาตรา ๒๘ อันนี้ก็ตอบตรง ๆ มาตรา ๒๘ ของ พ.ร.บ. วินัย ทางการเงินการคลังคือใช้ออมสินเราไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้ออมสินทั้งหมด แต่กลไกโจทย์แรกที่เราได้รับมาจากท่านนายกรัฐมนตรีคืออยากจะให้เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ กลไกอื่น ๆ ไม่มีทาง เพราะว่างบประมาณแผ่นดินยังไม่เริ่ม มันก็เหลือแต่กลไกในเรื่องของ การใช้ มาตรา ๒๘ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจแล้วก็สอบถามส่วนงานที่เกี่ยวข้องว่าไม่สามารถ ดำเนินการได้ เราถึงได้เลื่อนวันเริ่มโครงการเป็นเดือนพฤษภาคมด้วยนี่คืออีกหนึ่งสาเหตุ สุดท้ายเราจะใช้งบประมาณผ่านพระราชบัญญัติการกู้เงิน ซึ่งก็คือการออกกฎหมายโดยให้ สภาเป็นผู้พิจารณาก่อน สาเหตุที่ให้ใช้กลไกนี้ เพราะมีความโปร่งใสที่สุดนำเข้าสู่สภามา ถกกันทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลมีโอกาสได้มาพิจารณามาติดตามตรวจสอบ ชอบ ไม่ชอบ โหวต ไม่โหวต จะแก้ไขอย่างไรเป็นสิทธิของสมาชิก แล้วจึงผ่านมีผลบังคับใช้ แล้วก็จะเริ่มโครงการ ซึ่งกฎหมายนี้ใช้เวลาพิจารณา ๓ เดือนอาจจะฟังดูว่าเร็ว แต่ในข้อเท็จจริง พ.ร.บ. ลักษณะ ของ พ.ร.บ. กู้เงินเหล่านี้มีราว ๖-๗ มาตรา เนื้อหามันก็ไม่มีโครงการประกอบว่าจะต้องมาทำ โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จุดใด ๆ ที่จะต้องไปตรวจสอบ แต่มันเป็นโครงการ ภาพรวมซึ่งน่าจะดำเนินการได้ทันในกรอบเวลา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นแหล่งเงิน ไม่ว่าจะ เป็นเรื่องของการพัฒนาตัว Application ก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นว่าในเดือนพฤษภาคมจะ สามารถเดินหน้าตัวโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ให้กับพี่น้อง ประชาชนได้ก็ขอกราบขอบคุณท่าน สส. ที่ถามคำถามนี้ครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ยังมีเวลาเหลืออีก ท่านถามเหลืออีก ๕ นาทีรวมกัน เชิญครับ
นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นครพนม ต้นฉบับ
ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติม เพราะว่าปัจจุบันนี้พี่น้องประชาชนเขาก็เตรียมการที่จะใช้เงินนี้ แต่อีกหลายคนที่เป็นหนี้ เป็นสินเยอะก็จะใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ผิดประเภท เพราะบางคนก็เตรียมที่จะใช้ Application เป๋าตัง ไปจ่ายโดยไม่รับสินค้า ซึ่งอาจจะไปจ่าย ๑๐,๐๐๐ บาท แต่รับเงินสด มา ๕,๐๐๐ บาท หรือ ๘,๐๐๐ บาท ผมอยากจะเรียนถามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไร เพื่อให้เงิน ๑๐,๐๐๐ บาทนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลครับ ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพครับ ผม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ผมเรียนต่อท่านประธานผ่านไปยังท่านสมาชิก ท่านภูมิพัฒน์อย่างนี้ครับ นโยบายนี้มีข้อกำหนดสาเหตุที่เป็นเงินในรูปแบบ Digital อันนี้เป็น จุดสำคัญที่เป็นประโยชน์ แล้วก็จะเป็นกลไกที่แตกต่างจากเดิมในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลเวลา จะอุดหนุนเงินให้กับพี่น้องประชาชนไม่สามารถกำกับได้ว่าจะใช้หรือไม่ใช้อย่างไร และใช้ อะไรเพราะเป็นเงินสด แต่ในลักษณะนี้จะเป็นเงินที่มีอยู่ในรูปแบบ Digital จะสามารถ กำหนดได้ว่าต้องใช้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด จะต้องใช้ในสินค้าประเภทใดขึ้นกับร้านค้า ที่ขึ้นทะเบียนกลุ่มใดบ้าง สิ่งที่เป็นสินค้าที่ทำได้ก็คือเรื่องของสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม การบริโภค สิ่งที่ใช้ไม่ได้ผิดเงื่อนไขจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า Fraud ก็คือเรื่องของการผิด วัตถุประสงค์ทั้งหมด เช่น เรื่องของการออมทำไม่ได้ เรื่องของการจ่ายหนี้สินทำไม่ได้ เรื่องของการไปซื้อสุรา เหล้า เบียร์ ไม่ได้ เอาไปใช้เล่นการพนัน ยาเสพติดไม่ได้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นกลไกที่ยืนยันว่าเม็ดเงินของเราจะเกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจมากกว่า เงินสดทั่วไปนะครับ เพราะตัวที่ได้เรียนเมื่อสักครู่นี้คือตัวการหยุดการหมุนทางเศรษฐกิจ ทั้งสิ้น เช่น การออม เช่น กันใช้หนี้สิน เมื่อเงินเข้าไปอยู่ในกระเป๋าการออมมันก็หยุดหมุน แต่กลไกของเรายืนยันว่ามันจะต้องลงไปอยู่ในสิ่งที่เกิดการผลิต การบริโภค การผลิต การจ้างงาน จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน อันนี้เป็นข้อจำกัด ที่กำหนดไว้ ส่วนสิ่งที่เรียกว่า Fraud เกิดขึ้นได้หรือไม่ เกิดขึ้นได้ครับ โครงการของรัฐในอดีต ที่ผ่านมาต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าในการดำเนินนโยบาย เราดำเนินนโยบายกับคน ๕๐-๖๐ ล้านคน ถามว่าจะมีสักร้อยสักพันไหมที่ดำเนินการผิดวัตถุประสงค์จะโดยจงใจ หรือไม่ก็ตาม มีครับ แต่กลไกที่เราใช้คือเรื่องของ Blockchain เป็นฐานข้อมูลนั้นจะยืนยัน ได้ว่าไม่ว่าท่านใดจะทำการที่ผิดวัตถุประสงค์ก็ตาม ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่หายไปไหน แล้วเรา จะสามารถติดตามตรวจสอบได้โดยเร็วนะครับ ในนโยบายในอดีตที่ผ่านมาเรื่องของการที่เข้า ไปอุดหนุนเงินให้กับประชาชนเช่นนี้ มีกลไกที่เกิดขึ้นในอดีตก็มีเหตุการณ์อย่างที่ท่านได้เรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแลกซื้อเงินสดอะไรต่าง ๆ สุดท้ายทางส่วนงานของรัฐดำเนินคดี ทั้งสิ้น เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันก็ฝากบอกผ่านไปยังพี่น้องประชาชนว่าไม่ควรทำใน ๒ ส่วน ส่วนแรกผิดกฎหมายและท่านจะถูกดำเนินคดี ส่วนที่ ๒ ในกรณีที่ท่านคิดว่าจะเอาเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ไปแลกเป็นเงินสด ๕,๐๐๐ บาท ๘,๐๐๐ บาท ก็เท่ากับ ท่านไม่ฉลาด เพราะเงินนี้สามารถจับจ่ายใช้สอยได้เท่ากับเงินบาทปกติ มันจะสามารถไปซื้อ ของที่ร้านสินค้าอุปโภคบริโภคใด ๆ ก็ได้ในราคาเต็ม จึงไม่มีเหตุใด ๆ ที่จะออกมาเป็นเงินสด จึงไม่เป็นเหตุใด ๆ ที่จะจูงใจให้กับพี่น้องประชาชนไปแลกเป็นเงินธนบัตรออกมาจะไม่เกิด ประโยชน์และขาดทุนนะครับ เพราะฉะนั้นเรามีความเชื่อมั่น ๑. ก็คือในกลไกที่เราสร้าง ๒. ก็คือในเรื่องของการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้นผ่านทางกลไกของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของ Application ซึ่งจะมี Blockchain เอง เรื่องของบุคลากรของภาครัฐและสุดท้ายได้มีมติ ในคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่ในการที่จะต้องตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ โดยมี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกระทรวงดีอีเอส มีกระทรวงการคลังเป็นองค์ประกอบ ซึ่งจะมี หน้าที่ในการติดตามเรื่องของ Fraud เรื่องของการใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ที่ท่านได้นำเรียน ต่อสังคมต่อไป แล้วก็จะติดตามทุกบาททุกสตางค์ให้อยู่ในกรอบของกฎหมายครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
หมดเวลาพอดี ก็ต้องขอบคุณท่านรัฐมนตรี ขอบคุณท่านผู้ยื่นกระทู้ถามนะครับ ขอบคุณมากครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๒. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๔ เรื่อง ขอให้มีการขยายช่องทาง การจราจรเส้นทางหลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ เขื่อนลำปาว (นายพลากร พิมพะนิตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม ได้มีหนังสือแจ้งว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนนะครับ ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูล ในการตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะดังนี้ ท่านที่ ๑ ท่านสุรชัย อัมภวาสุวรรณ วิศวกรโยธา ชำนาญการพิเศษ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ท่านที่ ๒ ท่านปรมินทร์ เอนกแสน วิศวกรโยธาชำนาญการ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม และผมได้อนุญาตให้ประชาชน ผู้มีส่วนร่วมเข้าร่วมรับฟังในการตอบกระทู้ถาม ดังนี้ คุณแววปราชญ์ อุลิศ ท่านอนุรักษ์ สุภานนท์ ท่านนิตยา ตรีสิริ ท่านอรรถกฤษณ์ เอมะพัฒน์ เชิญ ท่านพลากร พิมพะนิตย์ ได้ถาม ๒ คำถามภายใน ๒๐ นาทีนะครับ ทั้งถามทั้งตอบ เชิญครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ก่อนอื่นก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านประธานที่ได้บรรจุกระทู้ถาม แยกเฉพาะในเรื่องการขยายช่องทางจราจรทางหลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ ทางเข้าเขื่อน ลำปาวที่ตั้งอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ และต้องขอขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคมท่านมนพร เจริญศรี เป็นอย่างยิ่งที่สละเวลามาตอบกระทู้เพื่อประโยชน์ของพี่น้อง ประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันนี้ครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ จากภาพนี่คือ ถนนเส้นทางหลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ ซึ่งในปัจจุบันทางหลวง กส. ๒๔๑๖ นี้ประชาชนใน พื้นที่นักท่องเที่ยวทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงใช้เป็นประจำ เพราะว่ามีแหล่ง ท่องเที่ยวทั้งเขื่อนลำปาว หาดดอกเกด ตลอดไปจนถึงพิพิธภัณฑ์สิรินธร สะพานเทพสุดา และวัดต่าง ๆอีกทั้งยังเป็นทางขนส่งสินค้าทางการเกษตร ซึ่งมีพืชหลัก อย่างเช่น อ้อย ข้าว มันสำปะหลัง กุ้งก้ามกราม ซึ่งในปัจจุบันมีความคับแคบทำให้การจราจรติดขัดทั้งที่เดิมถนน กส.๒๔๑๖ เป็นถนนที่มีเพียง ๒ ช่องจราจร แต่ว่ามีการปรับปรุงทุกปี แต่ว่าปรับปรุงเพียงแค่ ระยะทางปีละ ๑ กิโลเมตร ซึ่งถนนเส้นนี้มีระยะทางกว่า ๒๐ กิโลเมตร อาจจะต้องใช้เวลาถึง ๒๐ กว่าปีครับท่านประธานกว่าจะเป็นถนน ๔ ช่องจราจรเพื่อประโยชน์พี่น้องประชาชน ท่านประธานครับ ถนนทางหลวงหมายเลข ๑๒ ซึ่งให้เป็น ๔ ช่องจราจรเสร็จแล้วเชื่อมกับ เขื่อนลำปาวจะพบถนนที่มี ๒ ช่องจราจรเดิมที่มีลักษณะเป็นคอขวดและไม่สามารถแก้ ปัญหาอันนี้ได้ หากมีการขยายช่องทางจราจรของถนนทางหลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ ถึงเขื่อนลำปาวจะทำให้การแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจในท้องถิ่นและสร้างรายได้เพิ่มให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ผมจึงมองเห็นถึง ความสำคัญและมีความประสงค์ที่อยากจะผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อขยายช่องจราจร เป็น ๔ เลน เพื่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงขอเรียนถามท่านรัฐมนตรีช่วยว่า การกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี ใน ๒ คำถามในครั้งเดียวเลยนะครับ ท่านประธาน
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
คำถามที่ ๑ กระทรวงคมนาคมจะสนับสนุนการขยายช่องทางจราจร เส้นทาง หลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ ถึงเขื่อนลำปาวได้หรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียด
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
คำถามที่ ๒ กระทรวงคมนาคมมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาการจราจร คับคั่ง โดยการขยายช่องทางจราจรเป็น ๔ ช่องทางจราจรตลอดสายในการเดินทางไป สถานที่ท่องเที่ยวเขื่อนลำปาวได้อย่างไร ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วันนี้ ดิฉันได้รับมอบหมายจาก ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้มา ตอบกระทู้ของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ เนื่องจากวันนี้ท่านสุริยะได้มีการประชุมเรื่องของ ติดตามโครงการในรอบปีงบประมาณ ๒๕๖๘ แล้วก็งบประมาณที่จะเข้าสู่การพิจารณา ของสภางบประมาณของปี ๒๕๖๗ ต้องขอขอบคุณท่านสมาชิก ท่านสมาชิกเป็น สส. สมัยแรก อาทิตย์ที่แล้วท่านก็ได้ถามเรื่องความคืบหน้าของการก่อสร้างสนามบินจังหวัด กาฬสินธุ์ ในอาทิตย์นี้ท่านก็มีคำถามมีกระทู้อีก ๒ กระทู้ ซึ่งดิฉันขอชื่นชมในความใส่ใจของ ท่านสมาชิกทุกปัญหาของพี่น้องประชาชน ท่านสมาชิกไม่เคยละเลยแล้วก็หยิบขึ้นมา ตั้งกระทู้ถามต่อฝ่ายบริหาร ต้องขอถือโอกาสขอบพระคุณท่านสมาชิกท่านประธาน
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
คำถาม ของท่านสมาชิก ก็ขออนุญาตคำถามว่า ถนนทางหลวงหมายเลข กส. ๒๔๑๖ จุดเริ่มต้น ที่ท่านสมาชิกได้ถามอยู่ที่ตำบลอุ่มเม่า อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ไปสิ้นสุดที่ เขื่อนลำปาว ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นั้น เป็นเส้นทางหลักที่พี่น้อง ประชาชนใช้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมากเพื่อขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและเดินทางสู่ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ คือเขื่อนลำปาว โดยกรมทางหลวงได้จัดลำดับ แผนดังกล่าวเป็นลำดับต้น ๆ นั่นคือเส้นทางดังกล่าวเราเรียกว่าเป็นทางหลวงชั้นที่ ๔ ชั้นที่ ๔ หมายถึงอะไรคะ นั่นคือเป็นทางหลวงที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอสู่อำเภอ ทางหลวง จะมีแต่ละระดับการแบ่งระดับของทางหลวง เช่น อำเภอต่ออำเภอ จังหวัดต่อจังหวัด ในทาง หลวงเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลวงชั้นที่ ๔ ก็คือระหว่างอำเภอต่ออำเภอ โดยมี ระยะทางทั้งสิ้น ๒๖๐ กิโลเมตรค่ะ ต่อไปไปดูสไลด์ที่ ๓ จะเห็นไหมคะว่าในเส้นทางดังกล่าว เป็นบริเวณย่านชุมชน ซึ่งมีช่วงต้นทางเรียกว่าอำเภอยางตลาดเป็นทางหลวงที่มีผิวลาดยาง Asphaltic Concrete ขนาด ๔ ช่องจราจรเป็นระยะทางเพียง ๕.๖๕ กิโลเมตร ส่วนที่เหลือ คือตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาดยาวไปจนถึงเขื่อนลำปาว ท่านสมาชิกเห็นไหมคะยังคง เป็นถนน ๒ ช่องจราจรเป็นระยะทาง ๒๐ กิโลเมตร ๓๕ เมตร แล้วก็ผิวจราจรคับแคบมาก ดังที่สมาชิกได้ตั้งกระทู้ถามก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งค่ะ กระทรวงคมนาคมโดย กรมทางหลวงก็ได้รับทราบปัญหานี้เป็นอย่างดีจากที่ท่านสมาชิกได้นำเสนอตอบปัญหาการใช้ รถใช้ถนนของพี่น้องประชาชน ในปี ๒๕๖๗ จากคำถามของท่านสมาชิกในคำถามดังกล่าว เมื่อกรมทางหลวงได้รับทราบปัญหาเราก็นำปัญหาเหล่านี้ไปบรรจุอยู่ในกรอบของ งบประมาณปี ๒๕๖๗ ซึ่งประมาณ วันที่ ๓ วันที่ ๔ วันที่ ๕ นี้ท่านสมาชิกก็จะต้องเข้าไปรับ การพิจารณาร่างงบประมาณในปี ๒๕๖๗ ขอฝากท่านสมาชิกได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ด้วยนะคะ เพราะมีถนนเส้นทางดังกล่าวนี้อยู่ แต่เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วค่ะ ท่านประธาน เราก็จะดำเนินการขยายเป็นถนน ๔ ช่องจราจร โดยใช้งบประมาณช่วงแรก ๕๐ ล้านบาท ทำไมเป็นเพียง ๕๐ ล้านบาท เนื่องจากว่าในกรอบงบประมาณปี ๒๕๖๗ เรายังมีระยะเวลาของการใช้เงินงบประมาณนี้เพียงแค่ ๕ เดือน จึงได้จัดสรรงบประมาณ เริ่มต้นอยู่ที่ ๕๐ ล้านบาท ในช่วงตำบลบัวบานและจะใช้งบประมาณอีก ๓๐ ล้านบาท ในช่วงของตำบลนาเชือกเป็นการใช้งบประมาณพัฒนาจังหวัดอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งงบประมาณ ในการก่อสร้างมาหลายช่องทาง ช่องทางแรกคืองบประมาณฟังก์ชัน โดยตรงจากกระทรวง คมนาคม งบประมาณอีกส่วนหนึ่งเป็นงบของบูณาการจังหวัดจากทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะฉะนั้นในส่วนที่เหลือที่ยังคงเป็น ๒ ช่องจราจร เราก็จะดำเนินการบรรจุไว้ในแผนของ ปีงบประมาณ ๒๕๖๘
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
เนื่องจากท่านสมาชิกเองได้รวบคำถามทั้ง ๓ คำถามเป็นเพียงคำถามเดียวนะคะ ดิฉันจะขออนุญาตตอบในคำถามที่ ๒ แล้วก็คำถามที่ ๓ ไปในคราวเดียวกันเลยนะคะ ท่านประธาน ท่านประธานที่เคารพค่ะ กระทรวงคมนาคมโดยเฉพาะสถานที่สำคัญคือ เขื่อนลำปาวเป็นเขื่อนดินสูงที่สูงจากบริเวณผิวน้ำ ๓๓ เมตร สันเขื่อนมีความยาวถึง ๗.๘ กิโลเมตร กว้าง ๘ เมตร ซึ่งสามารถกักน้ำได้ ๑,๙๘๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนลำปาว ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง ๒ จังหวัด คือจังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วก็จังหวัดอุดรธานี แล้วก็เขื่อนลำปาวนี้ ดังในภาพ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลางและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเยี่ยมชมเขื่อนลำปาวและเป็นแหล่งพลังงานสำคัญใน ๒ จังหวัดนี้ แล้วก็เป็นแหล่ง ที่เก็บกักน้ำให้พี่น้องเกษตรกรได้ใช้น้ำในยามฤดูแล้ง ดิฉันขอไปที่สไลด์ที่ ๗ จะเห็นว่าการเดิน ทางเข้าสู่เขื่อนลำปาวนั้นที่เดินทางมาจากอำเภอยางตลาดก็จะผ่านทางหลวงหมายเลข ๒๔๑๖ จะเป็นทางหลวงแผ่นดิน แล้วก็จะเชื่อมต่อกับเส้นทางของทางหลวงชนบท ทางหลวง ชนบทจะเป็นเส้นทางของทางหลวงชนบทสายที่ กส. ๒๐๗๑ ดิฉันทำภาพออกมาให้เห็นว่า ช่วงหนึ่งจะเป็นของกรมทางหลวง อีกช่องที่เข้าไปสู่ในเขื่อนลำปาวจะกลายเป็นเส้นทางของ ทางหลวงชนบท เมื่อผ่านบริเวณดังกล่าวก็จะผ่านบริเวณอาคารของอาคารระบายน้ำล้น เขาเรียก ก็คือ Spillway ของเขื่อนลำปาวก็จะเป็นการเดินทางเข้าสู่เมืองกาฬสินธุ์ซึ่งมีเพียง แค่ ๒ ช่วงจราจร เพราะฉะนั้นการก่อสร้างใด ๆ ที่เราจะสามารถเข้าไปที่สร้างเขื่อนลำปาวนั้น จึงเป็นเรื่องยาก เพราะว่าถนนมาทีหลังเขื่อน เขื่อนมีการสร้างก่อนถนน เพราะฉะนั้น ท่านประธานที่เคารพค่ะ สำหรับทางหลวงหมายเลข ๒๔๑๖ ตรงที่ทางเข้าเขื่อนลำปาว โฟกัสกลับไปที่ภาพอีกครั้งหนึ่งค่ะ เพื่อให้ท่านประธานได้เห็นว่ามันมีเส้นทางบางส่วนที่ต้อง ตัดเข้าพื้นที่ของป่าดงระแนง ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่เป็นเป็น Zone เขาเรียกว่า Zone C ก็คือเป็น Zone ของพื้นที่อนุรักษ์ ในพื้นที่ดังกล่าวสิ่งที่เราจะดำเนินการก่อสร้าง จึงมีความจำเป็น ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานของกระทรวงอื่น คือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จึงจะต้องมีการศึกษาแล้วก็ทำ EIA เพราะว่าเขื่อนลำปาวบางส่วนอยู่ในเขต ห้ามล่าสัตว์ แล้วก็การทำ EIA เหล่านั้นก็จะนำมาซึ่งการพิจารณาตั้งงบประมาณภายหลัง หลังจากที่เราทำ EIA เสร็จแล้วค่ะ ท่านประธานที่เคารพค่ะ กระทรวงคมนาคมเราได้ใส่ใจใน ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวงหรือว่ากรมทางหลวงชนบท เมื่อเราได้รับผลการศึกษาจาก EIA แล้วก็จะนำมาพิจารณาในการตั้งงบประมาณในโอกาสต่อไปค่ะ นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่จะ นำเรียนถึงท่านสมาชิกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของเส้นทางดังกล่าว กระทรวงคมนาคมไม่นิ่งนอน ใจ นอกจากกระทรวงของเราแล้วเรายังได้ประสานว่าเส้นทางที่มันเป็นความเดือดร้อนจริง ๆ ก็ยังประสานในงบของทางกระทรวงมหาดไทย งบของผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นกลุ่มจังหวัด เพื่อจัดสรรลงมาช่วยกันในการสร้างเส้นทางดังกล่าวให้พี่น้องประชาชนมีความสะดวกแล้วก็ สัญจรไปมา ดิฉันต้องถือโอกาสขอบพระคุณในกระทู้ถามนี้ ดิฉันขอรวบยอดตอบทุกคำถาม ของท่านสมาชิกทั้ง ๓ คำถาม ขอบพระคุณค่ะท่านประธาน
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ กระทู้ต่อไปเลยนะ หมดคำถามนะครับ ท่านรัฐมนมตรีตอบดีมากนะครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๓. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๕ เรื่อง ขอให้มีการขยายช่องทางจราจร เส้นทางหลวงหมายเลข กส. ๒๑๑๖ (นายพลากร พิมพะนิตย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านรัฐมนตรีติดภารกิจมอบหมายให้ ท่านมนพร เจริญศรี ท่านรัฐมนตรี ช่วยว่าการมาตอบแทนนะครับ ก็เพื่อประโยชน์ในการตอบคำถามแยกเฉพาะ ผมได้อนุญาต ให้ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนนะครับ เป็นท่านเดิมใช่ไหมครับท่านเดิม ทั้ง ๒ ท่านอยู่ในห้องประชุมแล้วนะครับ อนุญาตให้ประชาชนผู้มีส่วนร่วมได้เข้าร่วมฟัง การตอบกระทู้ ท่านแววปราชญ์ อุลิศ คณะเดิมนั่งฟังเพื่อเป็นพยานหลักฐานนะครับ เชิญท่านพลากรครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ครับท่านประธาน เช่นเดิมครับก่อนอื่นก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านประธานที่ได้บรรจุกระทู้ ถามแยกเฉพาะนี้และขอกราบขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี อีกครั้งครับที่ได้สละเวลามาตอบกระทู้ผมในวันนี้
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
ในส่วนกระทู้นี้เป็นอีกหนึ่งประเด็น ของปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ครับท่านประธาน จากภาพที่เห็นครับท่านประธาน นี่คือภาพมุมสูงของถนนทางหลวงหมายเลข กส.๒๑๑๖ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อจากแยกอำเภอยางตลาดไปจนถึงแยกหนองแปนครับ เส้นทางหลวง หมายเลข กส. ๒๑๑๖ เป็นอีก ๑ ถนนที่เป็นทางแยกออกมาจากทางหลักถนนทางหลวง หมายเลข ๑๒ ซึ่งเป็นเส้นถนนหมายเลข ๒๑๑๖ มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจร ที่มาจากจังหวัดขอนแก่น แล้วมาจากจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด แล้วยัง สามารถเดินทางต่อไปจังหวัดอื่น ๆ ได้ ทำให้มีพี่น้องประชาชนหลายจังหวัดร่วมกันสัญจร โดยใช้เส้นทางนี้จำนวนมากครับ นอกจากทางหลวงเส้นทางนี้ใช้ขนส่งสินค้าทางการเกษตร ยังนำไปสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายอย่างทางประวัติศาสตร์ อย่างเช่น พระธาตุยาคูเมือง ฟ้าแดดสูงยาง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทางหลวงเส้นนี้ ท่านประธานครับ นอกจากนี้บริเวณสี่แยกยางตลาดซึ่งเป็นทางเข้าถนนหลักหมายเลข ๒๑๑๖ ที่มาจากจังหวัด ขอนแก่นก็เป็นถนน ๖ ช่องจราจรและหมายเลข ๒๑๓ ที่มาจากมหาสารคามก็เป็น ๔ ช่องจราจร เมื่อเข้าสู่ถนนเส้นนี้ก็จะเหลือเพียง ๒ ช่องจราจรทำให้เกิดคอขวด ด้วยเหตุ นี้เองครับท่านประธาน กระผมจึงอยากเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัด กาฬสินธุ์ รวมถึงพี่น้องประชาชนที่มีโอกาสใช้เส้นทางดังกล่าวในการผลักดันให้มี การพิจารณาขยายช่องทางจราจรทางหลวงหมายเลข กส. ๒๑๑๖ จึงขอเรียนถามท่าน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี ใน ๒ คำถามนี้ครับในครั้งเดียว ครับท่าน
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
คำถามที่ ๑ กระทรวงคมนาคมจะสนับสนุนการขยายช่องทางจราจรเส้นทาง หลวงหมายเลข กส. ๒๑๑๖ แยกอำเภอยางตลาดไปจนถึงตำบลหนองแปนได้หรือไม่ อย่างไร และกระทรวงคมนาคมมีแผนรองรับในการเชื่อมถนนสายรองและถนนสายทางหลวง หมายเลข กส.๒๑๑๖ ให้สอดคล้องกับการสร้างการขนส่งระบบรางในอนาคตหรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
คำถามที่ ๒ หากกระทรวงคมนาคมมีแผนในการสร้างขยายถนนทางหลวง หมายเลข กส. ๒๑๑๖ อยู่แล้วสามารถระบุแผนการสร้างขอบเขตและระยะเวลาของ โครงการได้หรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านรัฐมนตรี เชิญครับ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วันนี้ ดิฉันได้รับมอบหมายในการมาตอบกระทู้ของท่านสมาชิกจาก ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมค่ะ เนื่องจากวันนี้ท่านสุริยะติดประชุมเรื่องของการติดตาม นโยบายและการพิจารณากรอบงบประมาณ ในวันนี้ต้องขอถือโอกาสขอบพระคุณ ท่านสมาชิกที่ท่านได้ให้ความใส่ใจ สนใจต่อปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ท่านประธานที่เคารพค่ะ ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของถนน หนทาง เรื่องของการก่อสร้างสนามบิน เรื่องของปัญหาน้ำกิน น้ำแล้ง น้ำใช้ ฉันขอ ชื่นชมท่านสมาชิกว่าท่านได้ตั้งใจทำหน้าที่ตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วก็อยากจะให้เป็นต้นแบบเป็นตัวอย่างให้กับสมาชิกท่านอื่น ๆ ว่าเวทีของสภา ผู้แทนราษฎรเป็นเวทีที่เป็นเงาสะท้อนประชาชน เราเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ท่านก็ มีคำถามมากมายค่ะ คำถามของท่านสมาชิกดิฉันขอขมวดตอบเช่นเดียวกัน เนื่องจาก ท่านสมาชิกรวบคำถามเป็นเพียงคำถามเดียว ฉันขอขึ้นสไลด์ในภาพของเส้นทางทางหลวง สาย ๒๑๑๖ ซึ่งเป็นสี่แยกยางตลาดไปจนถึงดอนตาลมีจุดเริ่มต้นที่อำเภอยางตลาด จังหวัด กาฬสินธุ์จะผ่านไปจากจังหวัดร้อยเอ็ดจะยาวไปถึงจังหวัดยโสธร แล้วก็ไปสิ้นสุดที่อำเภอ ดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร มีระยะทางทั้งสิ้น ๑๙๑.๕ กิโลเมตร โดยกรมทางหลวง ได้จัดลำดับทางหลวงเส้นดังกล่าวเป็นทางหลวง ชั้นที่ ๓ ซึ่งสักครู่ที่ฉันตอบกระทู้ของ ท่านสมาชิกไปเขาเรียกว่าทางหลวง ชั้นที่ ๔ ก็คือระหว่างอำเภอต่ออำเภอ แต่นี่คือเป็น เส้นทางที่มีขนาดยาวผ่านหลายจังหวัด เราจึงเรียกทางหลวงเส้นนี้ว่าเป็นทางหลวง ชั้นที่ ๓ นั่นหมายถึงเป็นทางหลวงที่เชื่อมระหว่างจังหวัดกับจังหวัด ซึ่งเป็นทางหลวงขนาดใหญ่ แต่มีเพียง ๒ ช่องจราจรเท่านั้น โดยมีการปรับปรุงช่วงที่ผ่านมาย่านชุมชนเป็น ๔ ช่องจราจร เป็นช่วง ๆ โดยช่วงแรกจะเป็นช่วงของยางตลาดไปจนถึงสี่แยกหนองแปน จากตำบล ยางตลาด อำเภอยางตลาดไปที่หนองแปน ตำบลกมลาไสย ตรงนี้จะมีระยะทาง ๒๑.๙ กิโลเมตร เป็นทางหลวงที่มี ๔ ช่องจราจรผิวลาดยาง Asphaltic Concrete แล้ว ๖.๙๐ กิโลเมตรดังท่านสมาชิกเห็นในภาพ ต่อมาเส้นทางดังกล่าวบางช่วงยังคงเป็น ๒ ช่องจราจร แล้วก็ไม่มีเกาะกลางซึ่งแบ่งพื้นผิวจราจรอยู่ในระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ซึ่งเป็น ถนนที่สามารถรองรับการจราจรได้ระดับหนึ่ง นอกจากมีการก่อสร้างทางแล้วสิ่งสำคัญ นั่นก็คือความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ระยะทางทั้งหมดของหมายเลข ๑๒ นั้น ที่ท่าน สมาชิกได้ถามยังเป็นเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจสายตะวันออกเชื่อมต่อไปยังตะวันตก หรือ East-West Economic Corridor และเป็นเส้นทางหลวงสายหลัก ลำดับที่ ๑ นี้ หมายถึงว่าเป็นเส้นทางหลวงที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศเป็นสายทางหลักที่รองรับ การเดินทาง ซึ่งถนนสายนี้จะไปเชื่อมโยงกับเส้นทางสายหลัก อย่างไรก็ตามท่านประธาน ที่เคารพว่าการดำเนินการก่อสร้างเส้นทางหลวงเส้นสายที่ ๒๑๑๖ ยังเป็นทางหลวงของ ๔ ช่องจราจร เราเองยังจำเป็นจะต้องศึกษาและรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือทำ EIA เสียก่อน เนื่องจากทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่มีแหล่งโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว นั่นก็คือสถานที่ใบเสมาบ้านหนองแปน ขอสไลด์สถานที่ด้วยค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดหนองแปน ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นใบเสมาหินทรายที่มีภาพของ การสลักชาดก แล้วก็พุทธประวัติของพระพุทธเจ้าเป็นจำนวนมาก แล้วก็มีการขุดพบเจอ ที่บริเวณหมู่บ้านหนองแปน ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองคูกำแพงเมืองฟ้าแดดสูงยางอำเภอทาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ห่างออกมาอีกประมาณ ๓.๕๐ กิโลเมตร แล้วก็สถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่ง โบราณสถานที่มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ก็จะเห็นว่านี่คือปัญหาและอุปสรรคเช่นเดียวกัน ถ้าเราได้มีการศึกษา EIA แล้วก็มีความเหมาะสมทั้งพี่น้องประชาชนทั้งกฎหมายที่เปิดโอกาส ให้เราได้ดำเนินการก่อสร้าง อุปสรรคเหล่านี้เราก็จะต้องแก้ด้วยกฎหมายก็จะนำเรียนถึง ความคืบหน้าหลังจากเราทำ EIA เสร็จเรียบร้อยแล้วท่านสมาชิกค่ะ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
ต่อมาท่านสมาชิกถาม เรื่องของว่ากระทรวงคมนาคมมีแผนรองรับการเชื่อม ถนนสายรองและเส้นทางหลวงสาย ๒๑๑๖ ให้สอดคล้องกับระบบการขนส่งในอนาคต หรือไม่ ก็ขออนุญาตตอบแล้วก็ขยายความถึงความคืบหน้าของโครงการเส้นทางดังกล่าว ต่อท่านประธานต่อไปยังท่านสมาชิกว่าขณะนี้จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วก็เส้นทางดังกล่าวเรามี โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่แนวใหม่เริ่มจากสายบ้านไผ่-ขอนแก่น-นครพนม ซึ่งเป็นหนึ่ง ในโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางรางที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม ซึ่งปัจจุบันโครงการ ดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างโดยมีระยะทางทั้งสิ้น ๓๕๕ กิโลเมตร มีสถานีย่อยแต่ละสถานี ทั้งสิ้น ๑๘ แห่ง มีลานจอดตู้สินค้าจำนวน ๓ แห่ง โดยแบ่งโครงการก่อสร้างเป็น ๒ ช่วง คือ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
ช่วงที่ ๑ ช่วงบ้านไผ่ถึงอำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งในโครงการ ช่วงแรกจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๒๗,๐๐๐ ล้านบาท โดยมีแผนงานก่อสร้างแล้วเสร็จตอนนี้ ประมาณ ๒.๓๔ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างก็จะเป็นความหวังแล้วก็เป็น เส้นทางรองรับในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบขนส่งทางบก แล้วก็ระบบรางที่ท่านสมาชิก ได้มีความห่วงใย
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
ช่วงที่ ๒ จะเป็นช่วงของโพนทองไปยังจังหวัดร้อยเอ็ดจะยาวไปถึงสะพาน มิตรภาพ แล้วก็แห่งที่ ๓ ของจังหวัดนครพนมจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๒๘,๓๐๐ ล้านบาท ขณะนี้มีผลงาน แล้วก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วซึ่งถ้าโครงการ ๒ โครงการนี้ ๒ ช่วงนี้ แล้วเสร็จก็พร้อมที่จะเปิดบริการให้พี่น้องประชาชนในปี ๒๕๗๑ ซึ่งท่านสมาชิกก็สามารถ เดินทางไปเยือนนครพนมได้โดยใช้ทางรถไฟสายบ้านไผ่-ขอนแก่น
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
คำตอบต่อมาที่ท่านสมาชิกได้ถาม ฉันก็จะพูดถึงเรื่องของว่าขณะนี้ กรมทางหลวงอยู่ในระหว่างการจ้างที่ปรึกษา ศึกษาถึงความเหมาะสมว่าการพัฒนา ระบบเครือข่ายของกระทรวงคมนาคมที่จะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่แนวใหม่ สายบ้านไผ่-ขอนแก่น จะช่วยสนับสนุนระบบคมนาคมขนส่งทางรางสายใหม่ ซึ่งเราเรียกว่า สายบ้านไผ่-นครพนม ส่วนทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๖ กับสายอื่น ๆ ซึ่งเป็นถนนสายรอง ก็จะควบคู่ไปกับเส้นทางของรถไฟเส้นทางใหม่นี้ เขาเรียกว่าถนนทางคู่ที่อยู่ระหว่างมีราง รถไฟแล้วก็มีถนนควบคู่กันไป กระทรวงคมนาคมเมื่อได้ศึกษาเส้นทางดังกล่าวเราก็จะเร่งรัด ดำเนินการก่อสร้าง ที่ขออนุญาตพูดถึงเส้นทางรถไฟ เพราะว่าท่านสมาชิกจะได้เห็นภาพว่า เมื่อมีทางรถไฟมา ถนนเส้นนี้ก็จะได้รีบเริ่มทำการก่อสร้าง
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
นอกจากนั้นท่านสมาชิกมีคำถามในคำถามที่ ๓ ประเด็นที่ดิฉันจะตอบคือ ประเด็นของคำถามที่ ๓ รวบกันว่า การจัดสรรงบประมาณหลังจากเรามีการสำรวจออกแบบ EIA แล้ว ในงบประมาณปี ๒๕๖๘ กรมทางหลวงกับจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างที่ดิฉันได้ตอบ คำถามท่านสมาชิกสักครู่เรื่องอีกเส้นทางหนึ่ง แต่ในเส้นทางดังกล่าวก็จะขอตอบยาวไปถึง ปี ๒๕๖๘ ว่ากรมทางหลวงร่วมกับจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ได้ทำการเสนอแผนงบประมาณ โดยใช้งบของกลุ่มพัฒนาจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนที่เราเรียกว่า ร้อยแก่นสารสินธุ์ ร่วมกับทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในการขยายช่องจราจรจาก ๒ ช่องจราจรให้เป็น ๔ ช่องจราจรในบริเวณที่ตำบลยางตลาดถึงตำบลหัวงัว อำเภอยางตลาด ระยะทางอีก ๒.๑๙ กิโลเมตร ในวงเงิน ๕๐ ล้านบาท นอกจากนั้นในช่วงที่เป็น ๒ ช่องจราจร กระทรวง คมนาคมโดยกรมทางหลวงก็จะเร่งรัดในการจัดสรรงบประมาณในปี ๒๕๖๘ เมื่อขณะนี้อยู่ใน ระหว่างการทำแผนงบประมาณปี ๒๕๖๘ ไปควบคู่กันก็ขอให้ท่านสมาชิกได้รวบรวมปัญหา เส้นทางพี่น้องประชาชนที่ต้องใช้สัญจรไปมาลำบาก แล้วก็ขอเสนอแผนไปยังกรมทางหลวง ชนบทหรือว่าเสนอแผนไปยังทางหลวงชนบทจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ท่านอยู่ในพื้นที่ ท่านประธานที่เคารพค่ะทุกปัญหาของกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะการใช้เส้นทางทางหลวง การใช้เส้นทางของกรมทางหลวงชนบททั้ง ๒ หน่วยงานก็ตาม กรมทางหลวงชนบทเอง ซึ่งไม่ได้มาตอบในกระทู้นี้ แต่ว่าท่านก็ได้ฝากมาว่าอะไรที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของ พี่น้องประชาชน ๒ หน่วยงาน แล้วก็หน่วยงานทุกหน่วยงานในกระทรวงคมนาคมเราจะ ทำงานควบคู่กัน แล้วก็พัฒนาความเจริญให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ขอบคุณท่านสมาชิก ที่ได้ตั้งกระทู้ถาม ขอบพระคุณท่านประธานค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
สงสัยไหมครับ
นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ก็รู้สึกตั้งแต่กระทู้อาทิตย์ที่แล้วอาทิตย์นี้ก็จะมีเรื่องของ EIA มาเกี่ยวข้อง อยู่เป็นประจำ แต่ว่าไม่เป็นอะไรครับท่านประธาน ท่านรัฐมนตรีก็ได้ตอบคำถามได้กระจ่าง ให้กับตัวกระผมและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ให้มีความหวัง ความฝันรอต่อไป แบบมีความหวังครับท่านประธาน เพราะว่าชัดเจนว่าถนนเส้นล่าสุด ๒๑๑๖ ก็จะมี การจัดสรรงบประมาณในปี ๒๕๖๘ และกระทู้ถามที่แล้วทางเข้าเขื่อนลำปาวก็จะมี การจัดสรรงบประมาณในปี ๒๕๖๗ ก็ขอบคุณแทนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ครับ ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี ด้วยครับ ขอบพระคุณท่านประธานครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับท่านรัฐมนตรีครับ แล้วก็ผู้ตั้งกระทู้
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๔. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๖ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าว ตกต่ำอย่างถาวร (นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีหนังสือแจ้งว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านติดภารกิจ จึงมอบหมายท่านรัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์) เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการ ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะดังนี้ ๑. ท่านคณิต พระเพชร นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มแผนงานและงบประมาณ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักนโยบายและ ยุทธศาสตร์ข้าว กรมการข้าว ท่านที่ ๒ ท่านเยาวลักษณ์ แสนคำ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย และยุทธศาสตร์ข้าว กรมการข้าว ยินดีต้อนรับครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ต่อไปเชิญท่านภูมิพัฒน์ ได้ถามคำถาม ถามได้ ๒ ครั้ง ภายใน ๒๐ นาที ถามตอบ เชิญครับ
นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นครพนม ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นขอขอบพระคุณท่านประธานที่ได้บรรจุกระทู้ถามแนวทางการแก้ไข ปัญหาราคาข้าวตกต่ำอย่างถาวร และขอกราบขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้เสียสละเวลามาตอบกระทู้ในครั้งนี้ ด้วยประเทศไทยของเราพี่น้องชาวเกษตรกรได้ปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก แล้วก็มีปัญหา เป็นหนี้เป็นสินกันมากยิ่งขึ้น แล้วก็ขาดทุนอยู่ตลอดทุกปี แล้วก็ต้องยืมเงิน ธ.ก.ส. และโชคดี ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของเราได้มีนโยบายเงินบริหารจัดการข้าวให้พี่น้องชาวไร่ชาวนา ไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท ได้สูงสุดถึง ๒๐,๐๐๐ บาท ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ และพี่น้องที่เป็น ชาวนาที่ปลูกข้าวก็น้ำท่วมอีก ก็ต้องเรียกร้องปัญหาเงินชดเชยราคาปลูกข้าวน้ำท่วม เนื่องจากที่ผ่านมาข้าวของประเทศไทยของเราก็นิยมไปทั่วโลก หลายประเทศสั่งซื้อข้าวจาก ประเทศไทย เพราะคุณภาพดี มีกลิ่นหอม ยาฆ่าแมลงน้อยหรือไม่มีเลย หลาย ๆ ประเทศ นิยมข้าวไทย แต่กลับตรงกันข้ามพี่น้องชาวไร่ชาวนายังยากจน แล้วก็การปลูกข้าวผลผลิตลด น้อยลง ปัจจุบันนี้พี่น้องชาวจังหวัดนครพนมต้องปลูกข้าวเพื่อใช้ไว้กินเอง เพราะจะขาย หรือจะไปขายให้โรงสีก็ได้ราคาต่ำ บางวันโรงสีติดป้ายไว้บอกข้าวเปลือกหอมมะลิกิโลกรัมละ ๑๑ บาท พอไปถึงหน้าโรงสีลดราคาลงเหลือ ๘ บาท ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบพี่น้องชาวนา ผมก็เลยมีคำถามท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราจะมีมาตรการ อย่างไร หรือว่ากระทรวงจะมีการเสนอกฎหมายให้ชาวนาเป็นผู้ตั้งราคาขาย หรือมี พ.ร.บ. ที่มีคณะกรรมการตัวแทนชาวไร่ ชาวนาเป็นผู้ตั้งราคาขาย ถ้าเรายังให้พ่อค้าหรือโรงสีตั้งราคา แบบนี้เหมือนท่านรัฐมนตรีเคยให้คำแนะนำผม คนซื้อก็อยากจะซื้อราคาถูกราคาต่ำ ที่พี่น้อง ชาวนายังปลูกข้าวก็ยังจะขาดทุนลักษณะอย่างนี้แบบนี้ตลอดไป ก็อยากจะเรียนถามท่าน รัฐมนตรีว่ามีแนวโน้มหรือมีวิธีการอย่างไรที่จะแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำอย่างถาวรได้แก้ไข ให้พี่น้องชาวไร่ชาวนาและจะมีพันธุ์ข้าว หรือมีระบบน้ำ ระบบชลประทานที่มีน้ำแล้ง น้ำท่วม หรือมีสวัสดิการอย่างไรให้กับพี่น้องชาวไร่ชาวนาของเราอย่างไรบ้าง กราบขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรีตอบครับ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์นะครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณท่านประธาน กราบขอบคุณท่านภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดนครพนม พรรคเพื่อไทย สิ่งที่ท่าน ถามนั้นนับว่าเป็นความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับประเทศของเรา ประเทศของเราชาติพันธุ์ ของเราคือเกษตรกร พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๗ บอกว่าคนไทยส่วนใหญ่มีอาชีพ เกษตรกร เพราะฉะนั้นอาชีพเกษตรกรเราต้องบอกว่ามีตั้งแต่บรรพบุรุษ เรื่องนี้ถ้าพูดกันคง พูดกันยาวมากกับท่าน สส. เดี๋ยวเราคงต้องมาร่วมกันทำในสิ่งที่สำคัญของประเทศ เรามีอาชีพเกษตรกร โดยเฉพาะนาข้าวบ้านผมที่จังหวัดชัยนาท เพาะปลูกข้าวเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ คนบ้านผมพึ่งข้าวเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลย แทบไม่มีอย่างอื่นเลย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดของคนไทย ข้าวคือปัญหาหลักของประเทศ ของเรา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่มา ๑๐๐ กว่าปี พี่น้องชาวไร่ชาวนาก็ยังอยู่ ในภาวะที่เป็นอย่างที่ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่านพูดมาว่า ชาวนายังลำบากยัง เป็นหนี้เป็นสิน ผ่านมากี่ยุคกี่รัฐบาล กี่องค์กร หลาย ๆ อย่าง พวกเราอยากเห็นพี่น้องชาวไร่ ชาวนาลืมตาอ้าปากได้มาเป็น ๑๐๐ กว่าปี เพราะฉะนั้นถ้าเรายังเป็นแบบเดิม คิดแบบเดิม อีก ๑๐๐ กว่าปีข้างหน้าเราคงพยากรณ์ได้ถึงอนาคตของพี่น้องชาวไร่ชาวนาของเรา เฉกเช่นเดียวกัน ผมคิดว่าทุกท่านในที่นี้คงคิดเหมือนกัน อีก ๑๐๐ กว่าปีข้างหน้าชาวไร่ ชาวนาของเราจะเป็นอย่างไรข้าวของเราผลิตได้ ๒๐ ล้านตันข้าวสาร ประมาณ ๓๐ ล้านตัน ข้าวเปลือก ตลาดของประเทศของเราบริโภคภายในประเทศ ๑๐ ล้านต้น ส่งออก ๑๐ ล้านตัน ข้าวทั้งโลกมีอยู่ ๔๐๐ กว่าล้านตัน แต่มีการซื้อขายกันเพียงแค่ ๓๐-๔๐ ล้านตัน ในโลกใบนี้ เรากินส่วนแบ่งตลาดไปแล้ว ๑๐ ล้านตัน เพราะฉะนั้นราคาข้าวขึ้นอยู่กับตลาดโลกใบนี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ข้าวเป็นสินค้าตัวประกัน ข้าวนี้เป็นสินค้าตัวประกัน ข้าวแพงคนกินบ่น เวลาค่าครองชีพแพงกระทรวงพาณิชย์พยายามกดราคา ไข่แพงก็บ่น อะไรแพงก็บ่น เพราะฉะนั้นเกี่ยวกับอาชีพเกษตรกรทั้งนั้นเลย เกษตรกรไทยไม่เคยหลุดพ้นเลยครับ เพราะยังอยู่กับสินค้าตัวประกันอยู่ เราเคยคิดนะครับ กระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์คิดว่า ทำอย่างไรถึงจะให้พี่น้องมีกำไรมากขึ้น ไม่ว่าทฤษฎีใหม่ นวัตกรรมใหม่ หลาย ๆ อย่างผ่าน กระบวนการ มีการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมโดยการ เขาเรียกว่า Subsidize ไม่ว่าจะเป็นโครงการ รับจำนำที่มีมาหลายยุค ไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันราคาข้าวที่มีมาหลายยุค สุดท้าย บทสรุป สิ่งที่เราเห็นอยู่ก็ยังเป็นเฉกเช่นปกติว่าพี่น้องชาวไร่ชาวนาไม่หลุดพ้น ผมอยากให้ เห็น GDP ข้าวของเราครับ ข้าวของเรา ๒๐ ล้านตัน ขายทุกเมล็ด เป็นเงิน ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่ใช้กับคนจำนวนมากของประเทศ เป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ ผมอยากให้พี่น้องชาวไร่ ชาวนามีเงินครับ จะได้ผลิตเงินบาทแรกของประเทศ มาเป็นกำลังซื้อให้ลูกหลานไทยที่อยาก ค้าขายแล้วอยากเจริญเติบโต เพราะเขาขาดกำลังซื้อครับ เพราะชาวไร่ชาวนาไม่มีเงินครับ เพราะฉะนั้นในสิ่งที่เกิดขึ้นในแผ่นดินเรา เราต้องยอมรับว่าสิ่งเราขายข้าวทั้งประเทศ ๒๐ ล้านตัน คือ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ให้เราเป็นเทวดาเพิ่ม GDP ข้าวอีก ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ได้แค่ ๔๘๐,๐๐๐ ล้านบาท มันไม่พอประทังชีวิตพี่น้องชาวไร่ชาวนาหรอก ไม่มีทางครับ เราต้องช่วยกันคิดใหม่และทำใหม่ครับ ผมบอกนโยบายให้กรมการข้าวว่าให้ผลิตข้าวให้ได้ เพิ่มอีก ๑ เท่า ทำพันธุ์ข้าวให้เพิ่มอีกเท่าหนึ่ง เพื่ออะไรครับ เพื่อเราจะได้แบ่งพื้นที่นา ส่วนหนึ่งทำการเกษตร สมมุติ ๑๐ ไร่ ทำนาข้าว ๕ ไร่ ก็ได้ผลผลิตเท่าเดิม เพราะผมบอกว่า ท่านทำพันธุ์ข้าวชนิดที่ดีเพิ่มขึ้นอีก ๑ เท่า เท่ากับอะไรครับ เรามีข้าวอยู่ ๒๐ ล้านตัน จะกลายเป็น ๔๐ ล้านตัน โลกใบนี้ต้องการข้าวเพียงแค่ ๔๐ ล้านตันเท่านั้นเอง ในการส่งออก แล้วจะไปขายให้ใครครับ ขายให้ใครครับ ฟังดูเหมือนดีฟังดูเหมือนเท่ ผลิตข้าวอีก ๑ เท่า แต่ กลายเป็น ๔๐ ล้านตัน นั่นคือปัญหาใหญ่ที่มันเป็นวัวพันหลัก เพราะฉะนั้นเราบอกว่าเราจะ ผลิตข้าวเพิ่มอีกเท่าหนึ่ง เอาล่ะมีที่ ๑๐ ไร่ แบ่งที่ครึ่งหนึ่ง ๕ ไร่ ผลิตข้าวได้เท่าเดิม ถูกไหมครับ ได้เท่าเดิม แต่อีก ๕ ไร่เอามาผลิตสินค้าอย่างอื่นเพื่อให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะอะไรครับ เพราะว่าถ้าหากเรายังติดกับดักเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ ทฤษฎีใหม่อะไรต่าง ๆ เราผ่านมาเป็น ๑๐๐ ปี ถ้าเรายังพูดคำเพราะ คำหวาน ชาวนาของ เราก็ยังมองเห็นอนาคตเหมือนเดิมคือเป็นหนี้เป็นสิน เพราะฉะนั้นอีก ๕ ไร่ที่เพิ่มเราจะทำ อะไรเพื่อให้เขาหลุดพ้นจากหนี้สินและความยากจน เช่น พืชหลังนา ทำปศุสัตว์ ทำประมง ทำสัตว์น้ำขายหรือทำแมลงขายเหล่านี้ เป็นต้น อะไรที่เราต้องมาช่วยกันคิด ว่าอะไรที่จะ สร้างเศรษฐกิจตัวใหม่ให้กับพี่น้องชาวไร่ชาวนาเพื่อให้เขาลืมตาอ้าปากได้จริง ๆ เพื่อให้เขา หลุดพ้นจริง ๆ เพื่อให้ลูกหลานเราที่ไม่เคยกลับไปอยู่บ้าน มองไม่เห็นอนาคตกับไร่กับนา ได้กลับไปอยู่บ้านเพื่อมีอนาคตที่เขาจะรวยขึ้นได้ ลูกหลานไทยไม่มีอนาคตครับ ลูกหลานไทย ๙๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นอะไรครับ คนกินเงินเดือนกับแรงงาน ๙๐ เปอร์เซ็นต์ของลูกหลานไทย นะครับ เราจะปล่อยให้ลูกหลานไทยเป็นอย่างนั้นหรือเคยมีคนอยู่คนหนึ่งพูดจะนำลูกหลาน กลับไปสู่ชนบท จะไปสร้างนิคมอุตสาหกรรมในชนบท ผมถามครับไปสร้างนิคมเอาลูกหลาน ไทยไปเป็นอะไรครับ ก็กลับไปเป็นแรงงานในบ้านตัวเองได้เท่านั้นหรือครับ เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้นวิถีชีวิตชาติพันธุ์ของเราเกษตร เราต้องใช้เกษตรของเราให้เกิดประโยชน์ ผมเห็น ด้วยกับท่าน สส. ผมสะท้อนใจจากท่าน สส. ท่าน สส. ทรงคุณค่ามากครับสิ่งที่ท่านถามนี้ สิ่งที่เราจะแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกรคือเรื่องสำคัญของพวกเราที่เป็นผู้แทนราษฎร ผมก็เป็น ผู้แทนราษฎรที่อยากแก้ปัญหานี้ของประเทศที่ผ่านมา ๑๐๐ ปี เราจะแก้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ ผมอยากสะท้อนถึงท่านประธาน ถึงท่านสมาชิก ถึงท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผ่นดินผืนนี้ว่า เงินจากไร่จากนา คือเงินบาทแรกของแผ่นดินที่มีความสำคัญมาก ถ้าท่านไม่มีเงินตรงนี้ อย่าหวังว่าประเทศนี้จะมีความสุข ท่านอย่าฝันเลยครับประเทศนี้จะมีความสุข ไม่มีทางครับ ให้ GDP โตขนาดไหนก็ช่าง ถามคนบ้านท่าน คนบ้านผม ใช้เงินจากการท่องเที่ยวไหมครับ มีนักท่องเที่ยวไปซื้อของในบ้านท่านไหมครับ แต่เป็น GDP ตัวใหญ่ครับ มีภาคอุตสาหกรรม ไปซื้อของในบ้านท่านไหมครับ ไม่มีครับ เป็นอย่างนี้เกือบ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ของประเทศ นั้น เพราะฉะนั้นกำลังซื้อหลักอยู่ที่ภาคเกษตรครับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็น กระทรวงที่สำคัญที่สุด สิ่งที่ท่านพูดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศนี้ เพราะมันคือเม็ดเงิน ส่วนใหญ่ที่คนทั้งประเทศใช้ นั่นคือกำลังซื้อหลักครับ ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ต้องการเม็ดเงิน ตัวนี้ ลูกหลานไทยทุกคนต้องการเม็ดเงินตัวนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่กระทรวงเกษตรพยายามคิด อย่างเช่น ยกตัวอย่างเรื่องข้าว ส่วนหนึ่งถ้าหากว่ารัฐ Subsidize ได้ Subsidize เลยครับ นั่นคือ Quick Win แต่ไม่ใช่ระยะยาวแน่นอน เพราะว่าเราผ่านมาทุกยุคทุกสมัย เป็นอย่างนี้ มาเป็น ๑๐๐ ปี นะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องคิดใหม่คืออะไรที่จะสามารถสร้างชีวิตใหม่ ให้กับลูกหลานไทย อะไรที่จะสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้กับเกษตรกรไทยนั่นคือวิธีคิดแบบใหม่ นอกกรอบเดิม ๆ ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรอบอะไรก็แล้วแต่ ผมอธิบายได้หมด ไม่ว่าจะเป็นนา แปลงใหญ่ ท่านลองคิดดูปี ๒๕๕๘ ถึงปีปัจจุบันทำได้ ๒๐๐,๐๐๐ ไร่ เฉลี่ยปีหนึ่ง ๒๐,๐๐๐ ไร่ ๑๐ ปีได้เท่าไรครับ ๒๐๐,๐๐๐ ไร่ ๑๐๐ ปี ได้เท่าไรครับ ๒ ล้านไร่ เรามีนาทั้งหมด ๖๐ ล้านไร่ เท่ากับเท่าไรครับ ถ้าคิดบัญญัติไตรยางค์ ๓๐ ล้านไร่ ๑๐๐ ปีครับ ไม่มีทางครับประเทศนี้ไม่ มีทางไปได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นปลูกผสมผสาน ไม่มีทางครับ เพราะอะไรครับ ท่านจะได้เงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท จากปลูกผสมผสานท่านต้องมีอะไรครับ ดินดี น้ำดี คนเก่ง ตลาดท่านต้องมี ทุกวัน ไม่มีใครมากินเงินเดือนหรอกครับ ไร่ละแสนไร่ ได้เท่าไรครับ ๑๐ ไร่ก็ได้ล้าน เห็น ๆ เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้นนี่คือข้อเท็จจริงที่เป็นคณิตศาสตร์ ถ้าเราหนีคณิตศาสตร์ เราพูด แต่จินตนาการประเทศหลุดพ้นครับ ไม่มีทางครับ คนไทยไม่มีวันหลุดพ้น เราต้องดึงคนไทย กลับมาด้วยชาติพันธุ์ของเรา เราจะต้องเป็นเกษตรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ ถ้าเป็น Nick นะครับ เราไม่มีเทคโนโลยีของเราแม้แต่อย่างเดียว อย่างเดียวยังไม่มีเลยนะครับ เพราะบ้าน เราคือเกษตร ชาติพันธุ์เราคือเกษตร เราต้องสร้างเม็ดเงินจากเกษตรให้ได้ แต่ด้วยตัวใด เดี๋ยวค่อยมาช่วยกันคิด ต้องขอบคุณท่าน สส. เป็นอย่างยิ่งนะครับ ผมอยากช่วยกัน ขอบคุณท่าน สส. ครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เหลืออีก ๑ คำถาม มีใช่ไหมครับ เชิญครับ ยังมีเวลานิดหนึ่ง
นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นครพนม ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครพนม เขต ๑ ผมมีคำถามที่ ๒ อยากจะเรียนถามรัฐบาล แล้วก็รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ารัฐบาล มีนโยบายที่จะแก้ไขเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ น้ำเพื่อการเกษตรให้พี่น้องเกษตรกร พี่น้องที่อยู่ ในชนบท และถนนเพื่อการเกษตร ปัจจุบันถนนเป็นหลุมเป็นบ่อทำการเกษตรไม่ได้ แล้วก็ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรก็ขาดแคลน หลายครอบครัว หลายเกษตรกรอยู่มา ๒๐ ปี ๓๐ ปี ก็ยังไม่มีไฟฟ้าแล้วก็ทำให้เกิดปัญหา ต้องเดินทางจากบ้านไปสู่สวน สู่ไร่นา ๒๐ กิโลเมตร ๓๐ กิโลเมตรไปเช้าเย็นกลับ ค่าน้ำมันก็แพงมันก็เลยทำให้เป็นการเพิ่มต้นทุนในการทำ การเกษตร ก็เลยอยากจะให้รัฐบาลมีนโยบายที่แก้ไขอย่างยั่งยืนถาวร มีระบบสาธารณูปโภค ให้พี่น้องชาวไร่ชาวนา พี่น้องเกษตรกรของเรา เพราะทุกวันนี้การอภิปรายหารือตอนเช้าก็มี แต่เรื่องน้ำกิน น้ำใช้ ถนนหนทาง ไฟฟ้าเพื่อการเกษตรกันอยู่ทุกวัน วันละหลายสิบคน ซึ่งเป็นการเสียเวลามาก ก็อยากจะรบกวนท่านรัฐมนตรีได้มีข้อเสนอแนะกับรัฐบาล ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรของเรา กราบขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
ขอบคุณท่าน สส. ท่านภูมิพัฒน์เป็นอย่างยิ่งนะครับ ด้วยความห่วงใยของพี่น้องซึ่งเป็น คนฐานรากของแผ่นดินนั้นเป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง ในเรื่องของถนนหนทางก็คงต้องฝากทาง กระทรวงคมนาคม พอดีท่านรัฐมนตรีอยู่ที่นี่พอดีนะครับ ต้องฝากท่านรัฐมนตรีในส่วนของ กระทรวงคมนาคม แม้กระทั่งท้องถิ่น เพราะอาจจะเกี่ยวข้องอยู่ ๒ ส่วนที่เป็นหลัก ก็คือทางท้องถิ่น ถนนที่อยู่ในความดูแลของท้องถิ่น แล้วก็ถนนที่อยู่ในความดูแลของ กระทรวงคมนาคมนะครับ ส่วนปัญหาเรื่องไฟก็คงจะอยู่ที่กระทรวงพลังงาน ผมก็พยายาม ที่จะไปประสานแล้วขอความร่วมมือนะครับ ในส่วนของพี่น้องเกษตรกรที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น เราจะเห็นนะครับว่าหลักคือ ปุ๋ย ยา ที่มันเป็นเงาตามตัวของพี่น้องเกษตรกรมาทุกยุคทุกสมัย ข้าวขึ้น ปุ๋ยขึ้น ยาขึ้น มันจะเป็นแบบนี้ในวงจรของธุรกิจนะครับ ข้าวคือผลผลิตทาง การเกษตรที่เกี่ยวขึ้นมา ท่านไม่สามารถที่จะเก็บมันไว้ได้ เพราะอะไรครับ มันเน่า มันเสีย มันบูด มันเปื่อย นี่คือประเด็นปัญหาของพี่น้องเกษตรกรไทยที่เราต้องยอมรับความจริงว่า ข้าวคือสินค้าที่พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกขึ้นมาแล้วไม่สามารถที่จะเก็บรักษามันไว้ได้ เพื่อเรียก ราคาหรือต่อรองราคากับพ่อค้า แล้วพ่อค้าคนไทยก็ไม่เห็นอกเห็นใจเกษตรกรอย่างที่ ท่านบอกว่าถึงเวลาก็เอารัดเอาเปรียบพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ซึ่งเราต้องช่วยกัน แก้ไขในส่วนนี้ ผมก็จะสะท้อนไปถึงรัฐบาล ในส่วนของข้าวมีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเรื่องของนโยบายข้าว ผมก็จะสะท้อนสิ่งที่ท่าน สส. ได้พูด ในส่วนของราคาผลผลิตทาง การเกษตรนะครับ โดยเฉพาะเรื่องข้าวก็จะอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ขาย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ผลิต เป็นผู้พัฒนาพันธุ์ในการที่จะทำให้เกิด หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในมิติใหม่อย่างที่ผมบอกท่านไปว่า สิ่งที่ผมคิดให้กับกรมการข้าว ยุคใหม่ ไม่ใช่คิดเพียงแค่สิ่งที่มองเห็นเป็นรูปธรรมหรือเป็นความฝัน แล้วพอจบกระบวนการ เกษตรกรตายเหมือนเดิมนะครับ ให้ปลูกได้ข้าวเท่าหนึ่ง แล้วจะเอาข้าวไปไหน ในส่วนของ กรมพัฒนาที่ดินที่ผมดูแลก็ทำ Agree Map เพื่อในสิ่งที่ท่านบอกว่าเรื่องน้ำ กรมชลประทาน ก็พยายามทำในเรื่องน้ำปีหนึ่งเป็นเงินเป็นแสนล้าน แต่ทั่วประเทศของเรา เราต้องยอมรับว่า ทุกส่วนการทำเกษตรมันรอฟ้า รอฝน รอน้ำ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่เราพยายามทำมา ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันนี้มันก็ยังเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ เรื่องน้ำก็ไม่จบไม่สิ้นที่จะทำให้พี่น้อง คนไทยทุกคนได้ประโยชน์จากการใช้น้ำ อันนี้เราก็ต้องเห็น สิ่งที่ต้องมาช่วยกันสร้างคืออะไร ครับให้ลูกหลานไทยรวยให้ได้ครับ ถ้าลูกหลานไทยรวยนะครับ ตรงนี้ปัญหาทุกอย่างจะจบ หมดเลยครับ SDG ๑๗ ข้อ ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ เกิดขึ้นเพราะอะไรครับ เกิดขึ้น เพราะปัญหาเดียวที่เราต้องมุ่งเป้าไปสู่การแก้ไขคือปัญหาความยากจน ความไม่มีกิน ความเป็นหนี้สิน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ความเหลื่อมล้ำที่อยู่อาศัย ความเหลื่อมล้ำ ทางสาธารณสุข จะหมดไปครับ ถ้าเราช่วยกันแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาความยากจน ของคนไทยคืออะไร คือทำเกษตรไม่มีมูลค่า ถ้าเรายังพูดกันเป็นภาพสวยหรูอีก ๑๐๐ ปี เราก็จะเจอแบบเดิม แต่ถ้าเรามาช่วยกันแก้ไขให้พี่น้องจริง ๆ นั่นแหละลูกหลานไทย จะกลับมาเป็นผู้ที่มีรายได้ อย่างที่ผมบอก ผมไป Debate ที่ภาคอีสาน ผมบอกว่าลูกหลานไทย เกี่ยวหญ้าเป็นก็รวยได้แล้ว ถ้าเรามาช่วยกันแค่นี้เขาก็ช่วยพ่อแม่เขาที่เป็นชาวนาได้แล้ว เขาสามารถหลุดพ้น เขาสามารถเลือกเรียนได้เอง เขาสามารถเลือกกินได้เอง เลือกที่จะ จับจ่ายใช้สอยได้เองเลือกที่จะมีไฟฟ้าใช้เอง เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามแก้ปัญหาที่ต้นสาย ปลายเหตุ คือคนไทยยังจนอยู่ ถ้าเราทำให้หลุดพ้นจากความยากจน ปัญหาทุกปัญหาจะ ผ่อนคลาย แล้วท่าน สส. จะสมหวัง ในประเทศนี้ท่านจะมีความสุขในประเทศนี้ ถ้าเรา ช่วยกันแก้ปัญหาความยากจน ช่วยกันแก้ไขปัญหาชีวิตพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพราะทุก รัฐบาลพยายามที่ Subsidize ทุกรัฐบาลพยายามที่ช่วยส่งงบประมาณลงไปเพื่อจะทำ แต่สิ่ง ที่เราเป็นคนจำนวนมากหรือประเทศเรามีปัญหาที่ค้างคามาเป็นจำนวนมาก งบประมาณ แต่ละปีมันลงไปมันไม่ทั่วถึงเพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันเป็นกำลังในการที่จะเปลี่ยนแนวคิด หรือเปลี่ยนนโยบายสิ่งที่ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ผมก็ฝากท่าน สส. เดี๋ยวมาช่วยกันทำ ผมเห็นด้วยกับ ท่าน สส. อย่างยิ่งที่ท่าน สส. เป็นห่วงในมิติของพี่น้องเกษตรกร ตรงกับผมเลยครับ เพราะผมต้องการสร้างเงินบาทแรกของแผ่นดินนี้ให้ได้ เงินบาทแรกของแผ่นดินนี้คือเงิน จากดิน เงินจากน้ำ เงินจากหญ้า ซึ่งสำคัญกว่าเงิน GDP ตัวใหญ่ ผมยกตัวอย่าง Elon Musk เกิดเมืองไทย Elon Musk กินข้าว ๓ มื้อเหมือนกับพี่น้องเกษตรกร Elon Musk ไม่ได้ไป ทานข้าวบ้านท่านแต่ Elon Musk รวยมหาศาล แต่บ้านท่านลูกหลานจะขายของได้ ท่านต้อง ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีเงินมันถึงจะเป็นกำลังซื้อถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นตัวเลข GDP ไม่มีความสำคัญเท่ากับตัวเลขที่ท่านกำลังคิดจะทำอยู่ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย ที่จะต้องช่วยกันแก้ในฐานะที่เราเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมเป็นรัฐมนตรี ผมคิดเรื่องนี้ อย่างจริงจังเลยครับท่านจะเห็นได้แน่นอน ผมไปทุกเวทีพูดเรื่องนี้กับเงินบาทแรกของ แผ่นดิน ขอบคุณครับท่านประธาน ขอบคุณท่าน สส. ครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับท่านรัฐมนตรี โอเคนะครับ ขอบคุณท่านผู้ยื่นกระทู้ถาม แล้วก็รัฐมนตรีนะครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๕. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๘ เรื่อง นโยบายการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน (นายวิชัย สุดสวาสดิ์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม) ถาม นายกรัฐมนตรี
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่า กระทู้ถามเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีบัญชามอบหมายให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการ ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ดังนี้นะครับ ๑. ท่านวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ท่านเลขาธิการ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ท่านที่ ๒ ท่านเกียรติยศ ทรงสง่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดที่ดิน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อ เกษตรกรรม
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ทั้งนี้ผมได้อนุญาตให้ประชาชนผู้เข้าร่วมรับฟังการตอบกระทู้ถาม คือท่านทชากร ศักดาบูรณะโภคิน ท่าน สส. จากพะเยาท่านได้มาสังเกตการณ์ด้วยนะครับ ก็เชิญท่านวิชัย สุดสวาสดิ์ ท่านถามได้ ๒ ครั้งนะครับ ภายใน ๒๐ นาที ถามตอบ เชิญครับ
นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม วิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ กระผมขอกราบขอบพระคุณท่านประธานที่ให้โอกาส แล้วก็กราบขอบพระคุณท่านรัฐมนตรี ที่ได้มาด้วยตัวเองในวันนี้นะครับ ด้วยปัจจุบันเกษตรกรจำนวน ๑ ล้านคน ขาดเอกสารสิทธิ หรือโฉนดที่ดินที่เป็นของตนเอง อยู่อาศัยและทำมาหากินเนื่องจาก ส.ป.ก. เป็นเอกสารสิทธิ ถือครองที่มีข้อจำกัดในการเปลี่ยนมือการถือครองไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ ยกเว้นแต่การโอน ตามมรดกให้กับทายาท และยังมีเงื่อนไขอีกหลายประการ ทำให้เกษตรกรถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะที่ดินที่เป็น ส.ป.ก. นั้นเข้าได้ธนาคารเดียว ก็คือ ธ.ก.ส. ธ.ก.ส. แล้วก็ได้สินเชื่อเพียง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินที่ดิน เกษตรกรรม ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. จึงมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลให้ผลตอบแทนทาง การเกษตรลดลงกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ต้องไปซื้อไปกู้เงินนอกระบบแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรขาดแรงจูงใจในการลงทุนในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว และไม่มีทางเลือกในการโอนสิทธิขายที่ดินเพื่อย้ายถิ่นฐานไปประกอบอาชีพใหม่นะครับ นอกจากนี้ข้อกำหนดของ ส.ป.ก. ที่ใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรเท่านั้น ทำให้เกษตรกรไม่สามารถ ต่อยอดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น เปิดร้านค้า แล้วก็เปิด Farm Stay ในพื้นที่ ส.ป.ก. ได้ ทายาทที่สำเร็จการศึกษา โดยเฉพาะรับราชการก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับโอนจากสิทธิของ ส.ป.ก. ได้ เพราะฉะนั้นแล้วที่ดิน ส.ป.ก. นั้นเป็นที่ดินที่ตกมาอยู่หลายปี หลายสิบปีแล้ว ผมก็ขอนำเรียนท่านประธาน ดีใจที่ท่านรัฐมนตรีมีนโยบายอย่างชัดเจน แล้วก็มีนโยบาย หลาย ๆ พรรคที่เอามาหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในเรื่องของการหาเสียง กลายมาเป็น นโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติเองนะครับ พวกเราได้รู้ โดยเฉพาะ ท่านหัวหน้าเอง ท่านพีระพันธุ์ได้รู้แล้ว ทราบปัญหามาตลอด ลงพื้นที่ครั้งไหน ก็มีผู้ร้องเรียน เรื่องนี้มาตลอดเวลา วันนี้เกษตรกรจะได้ลืมตาอ้าปากได้ โดยเฉพาะผู้ถือครองเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ได้ก็อยู่ที่ท่านรัฐมนตรีครับ ขอนำเรียนท่านประธานด้วยความเคารพ
นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ
คำถามแรกที่ผมอยากจะถาม ก็คือรัฐบาลมีนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ที่ดินหรือไม่ หากมีนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดินจะมีมาตรการหรือแนวทางในการ ดำเนินการอย่างไร มีกฎหมายใดรองรับและครอบคลุมถึงพื้นที่อ้างสิทธิประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ ส.ป.ก. ด้วยหรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญรัฐมนตรีครับ
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ท่านสมาชิกท่านวิชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด ชุมพร วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีติดภารกิจนะครับลาพักร้อน ท่านมอบหมายให้ผมมาตอบ กระทู้ถามที่เพื่อนสมาชิก ท่านวิชัย สุดสวาสดิ์ ได้ตั้งกระทู้ถามถึงประเด็นเรื่องที่ดินประเภท ส.ป.ก. ซึ่งจากการตั้งกระทู้ถามของท่านวิชัย ผมในนามของพี่น้องครอบครัว ส.ป.ก. ต้องขอขอบคุณท่านวิชัยที่ได้ตั้งประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งถือว่า เป็นพื้นที่เกือบ ๔๐ ล้านกว่าไร่ ที่พี่น้องเกษตรกรเข้าทำกิน ด้วยปัญหาต่าง ๆ ตามที่ท่านผู้ตั้ง กระทู้ถามว่าพื้นที่ที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน ในการเปลี่ยนมือ ในการตกทายาท ในการประกอบธุรกิจที่เป็นเฉพาะเกษตรเท่านั้น ตามข้อเท็จจริงที่ท่านได้ นำเสนอ ก่อนอื่นต้องขอกราบเรียนท่านประธานว่า สำนักงานปฏิรูปที่ดินที่เราเรียกว่า ส.ป.ก. มีวัตถุประสงค์ตั้งแต่ในยุคที่ท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี มีพี่น้องประชาชนได้เข้ามาร้องเรียนรัฐบาลในยุคนั้นว่า มีความไม่เป็นธรรมในสังคม เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมในเรื่องของการจัดที่ดินในการทำกิน มีพี่น้องคนไทย จำนวนมากที่ไม่มีที่ดินทำกิน ดังนั้นในปีนั้น ตั้งแต่ปี ๒๕๑๕ จนถึงปี ๒๕๑๘ จึงเป็นที่มาของ การตั้งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๘ มีการสถาปนา สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อแก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ให้กับพี่น้องเกษตรกร และในปีนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระองค์ ทรงพระราชทานที่ดินที่เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์เป็นที่ดินแปลงแรก และเป็น ส.ป.ก. แปลงแรก ประกาศให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินมาจัด มาปฏิรูปที่ดินเพื่อให้กับพี่น้องเกษตรกร ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังนั้นจะขออนุญาตกราบเรียนท่านประธานว่าคำว่า ปฏิรูปที่ดิน หมายถึง การนำที่ดินซึ่งเป็นของรัฐมาปฏิรูปให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้เข้ากับบริบทความเป็นจริงตามกาลเวลา และสภาพความเป็นจริงของสังคมในแต่ละ ยุคแต่ละสมัย ดังนั้นตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ ปีนี้ ๒๕๖๖ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงของบริบทของบ้าน ของเมือง ของพื้นที่แต่ละพื้นที่ก็เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ดังนั้นพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับ อนุญาตเข้าทำประโยชน์ทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. ตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ มาเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่แล้ว มากกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์เป็นผู้สูงอายุ ปัญหาของการครอบครองการทำกินที่ดินผู้สูงอายุที่ไม่ สามารถทำภาคการเกษตรได้ มีอย่างเดียวคือตกถึงทายาทลูกหลาน ลูกหลานบางท่านของ บางครอบครัวก็ไม่ประสงค์ที่จะทำภาคการเกษตร ดังนั้นที่ดินเหล่านี้กลับกลายมีปัญหา ไม่สามารถที่จะเดินหน้าของสำนักงานปฏิรูปที่ดินได้ ด้วยนโยบาย ตั้งแต่นโยบาย ครั้งนโยบายชุดที่แล้วซึ่งทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็เป็นหนึ่งในนโยบายนั้น ในนามของ พรรคพลังประชารัฐ ในการประกาศจะทำที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดทองคำ ดังนั้นในยุคนั้น ผมได้เปลี่ยนแก้ระเบียบการ ๒ ระเบียบการออกมาเป็นประกาศของคณะกรรมการปฏิรูป ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในเรื่องของการใช้ที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก. สำหรับกิจการที่ต่อเนื่องกับ ภาคการเกษตร กิจการที่เป็นการสนับสนุนภาคการเกษตรนะครับ ถามว่าการออกประกาศ ทั้ง ๒ ฉบับซึ่งเป็นที่มาที่ไป ผมถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าไปเอื้อกลุ่มทุน ซึ่งกิจการ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร การเปิด ปั๊มน้ำมัน การทำอะไรที่เกี่ยวกับขายวัสดุก่อสร้าง วัสดุที่เกี่ยวกับภาคการเกษตรสามารถ ทำได้ นอกจากนั้นกิจการที่สนับสนุนการเกษตรก็อย่างที่มีในประกาศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันมี ปรากฏในประกาศทั้ง ๒ ฉบับ ถามว่าเพียงพอและตอบโจทย์หรือยัง ยังครับ ดังนั้นปัญหา ที่เพื่อนสมาชิกได้ตั้งกระทู้ถามว่า ถึงเวลาหรือยังที่เราจะเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด ที่ดิน คำว่า โฉนดที่ดิน คือโฉนดที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมที่ดินกำกับดูแล แต่ภายใต้ เงื่อนไขพระราชบัญญัติ ส.ป.ก. ปี ๒๕๑๘ ประกอบกับฉบับปรับปรุงแก้ไขมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ดิน ส.ป.ก. เป็นที่ดินบางแปลงที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ดิน บางแปลงเป็นที่ดินที่เราได้รับมอบหมายจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ โดยมีเงื่อนไขผูกพัน ผูกมัดว่าจะต้องเป็นที่ดินของรัฐ แต่มีวัตถุประสงค์ในการให้พี่น้องเกษตรกรเข้าทำกิน ดังนั้น ด้วยระเบียบนะครับตาม พ.ร.บ ปี ๒๕๑๘ ประกอบกับระเบียบที่เราปรับปรุงหลาย ๆ ระเบียบ การเปลี่ยนแปลง ส.ป.ก. ๔-๐๑ เราทำได้เพียงแค่เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งยัง กำกับดูแลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน แต่ถามว่าโฉนดเพื่อการเกษตรคืออะไร เพื่ออะไร เป็นสิ่งที่ผมจะนำเรียนท่านประธานนะครับ เพื่อให้ท่านสมาชิกผู้ตั้งกระทู้ถามได้ไปบอกพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะกระจาย ข่าวถึงพี่น้องประชาชน
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
๑. ปัญหาไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ เราแก้โดยใช้ระเบียบตามที่ผมได้นำเรียน คือ พ.ร.บ. ส.ป.ก. ตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ ฉบับต้องปรับปรุงและระเบียบต่าง ๆ ๑. เราสามารถ เปลี่ยนมือโดยตกสู่ทายาท ซึ่งของเดิมทำได้อยู่แล้ว ๒. การเปลี่ยนมือไปยังเกษตรกรด้วยกัน ที่จะทำภาคการเกษตร ถามว่าการเปลี่ยนมือทั้ง ๒ อย่างนี้ ต่อไปเมื่อเกษตรกรที่มีปัญหา ณ เวลานี้ผู้สูงอายุไม่สามารถทำภาคการเกษตรได้ การเปลี่ยนมือจากนาย ก นาย ข ทำอย่างไรครับ ท่านต้องมาเปลี่ยนที่ ส.ป.ก. ท่านต้องแจ้ง ส.ป.ก. แต่ละจังหวัดว่าท่าน ขอสละสิทธิในการครอบครอง ส่วนจะสละสิทธิให้นาย ก นาย ข อย่างไร ก็ไปแจ้งที่ ส.ป.ก. หรือปฏิรูปที่ดินแต่ละจังหวัด ปฏิรูปที่ดินแต่ละจังหวัดก็จะเปลี่ยนกรรมสิทธิ เปลี่ยนสิทธิจาก นาย ก ให้นาย ข ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นการตกลงระหว่างนาย ก นาย ข และสำนักงาน ปฏิรูปที่ดินจะทำกันตามลำพังไม่ได้เด็ดขาด โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลที่จะรับสิทธิแทน คุณต้อง ทำภาคการเกษตรเท่านั้น คำว่าคำถามว่า ทำภาคการเกษตรแล้วจะไปทำปั๊มน้ำมันได้ไหม หอพักได้ไหม หรือสถานที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับเกษตรได้ไหม ตามที่ท่านถาม ๑ ๒ ๓ เมื่อสักครู่ ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ครับ ภายใต้ประกาศ ๒ ฉบับ ที่ผมประกาศไปปี ๒๕๖๔ อันนั้นทำได้
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
๒. ปัญหาการต่อยอดเข้าถึงแหล่งทุนจะทำอย่างไร ที่ผ่านมา ส.ป.ก. สามารถ เข้าถึงแหล่งทุนของรัฐได้เพียงแหล่งเดียวคือ ธ.ก.ส. ปัญหาต่อมาคือเวลา ธ.ก.ส. ประเมิน มูลค่าทรัพย์สิน ประเมินอย่างไร ประเมินกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นประเมินแค่ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ หรือน้อย กว่านั้น นั่นคือปัญหา ดังนั้นการเปลี่ยน ส.ป.ก. ๔-๐๑ ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร วัตถุประสงค์สำคัญคือ สามารถเข้าถึงแหล่งทุนที่เป็นสถาบันการเงินของรัฐ ดังนั้นผมได้ มอบหมายให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ไปเซ็น MOU กับกระทรวงการคลังในการเข้าถึง ไม่ใช่ ธ.ก.ส. อออมสิน กรุงไทย หรือธนาคารที่เป็นธนาคารของรัฐทั้งหมด นอกจากนั้น กองทุน ส.ป.ก. ซึ่งมีรายได้จากการจัดเก็บค่าเช่าของพี่น้องเกษตรกร ในที่ดินบางประเภท ที่ผมกำลังจะตอบต่อไป นำมาเป็นกองทุน ส.ป.ก. กองทุนเหล่านี้พี่น้องเกษตรกรสามารถกู้ นะครับ และนอกจากนั้นยังประสานไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการที่จะกู้เงินจากสหกรณ์ ต่าง ๆ ถามว่าเงินกู้สหกรณ์มีจำนวนมากไหม มากกว่าธนาคารบางธนาคารด้วยซ้ำไป ดังนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพี่น้องเกษตรกรที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ มันก็จะสามารถเข้าถึง แหล่งทุนได้ ถามว่าราคาประเมินทรัพย์สินที่ดินเหล่านั้นประเมินอย่างไรครับ เราจะใช้ กรมธนารักษ์ประเมินเหมือนโฉนดที่ดินทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องเซ็น MOU กับกระทรวงคลัง ส.ป.ก. จะต้องเซ็น MOU กับกระทรวงการคลัง โดยกรม แต่ละกรมที่รับผิดชอบหน่วยงานนั้น ๆ
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
นอกจากนั้นนะครับ เรายังจะเซ็น MOU กับกระทรวงยุติธรรม ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการที่จะใช้เป็นหลักประกันผู้ต้องหา สิ่งเหล่านี้กำลังเป็นสิ่งที่เรา กำลังเดินหน้า วันที่ ๘ ธันวาคม ที่ผ่านมา ผมได้ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาในการ เปลี่ยน ส.ป.ก. ๔-๐๑ ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรเรียบร้อยแล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ถือครอง ต้องมากกว่า ๕ ปี เพื่อการเกษตรไม่เกิน ๕๐ ไร่ ภาคการอุตสาหกรรมไม่เกิน ๑๐๐ ไร่ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนมือจะต้องถือครองโฉนดไม่ต่ำกว่า ๒ ปี นันคือเงื่อนไขต่าง ๆ ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ มีปรากฏในราชกิจจา ฉบับวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามที่ผมได้ ลงนามไป ก็ฝากเรียนท่านประธานถึงท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติว่า เราได้เปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็น โฉนดเพื่อการเกษตรเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณท่านรัฐมนตรี มีคำถามอีกไหมครับ เชิญครับ
นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานครับ ผม วิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดชุมพร พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ยังมีอีก ๑ ประเด็นที่เป็นข้อสงสัย แล้วก็เป็นที่หวังของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะที่ผมเองได้ ยื่นกระทู้ถึงท่านนายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะให้ได้ทราบข่าวในเรื่องของคนที่นอกเหนือจาก ส.ป.ก. ตัว ส.ป.ก. เองที่ผ่านมานี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ในเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินนะครับ โดยเฉพาะใน เรื่องของพื้นที่ซ้ำซ้อนในพื้นที่ Zone C ซึ่งเป็นที่ ส.ป.ก. ครอบคลุมหมดแล้ว แต่เป็น Zone C ที่ยังไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ยกตัวอย่างหมู่บ้านหนึ่งติดชายเขาบ้าง โดยเฉพาะในแหล่งของเกษตรจริง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชุมพร พื้นที่ที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ รัศมีเขาอยู่ประมาณสัก ๒๐๐ เมตร ๓๐๐ เมตรอย่างนี้ครับ ติด Zone C ทั้งหมดเลย ออกเป็น ส.ป.ก. ไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วก็ขอนำเรียนเป็นประเด็นที่ ๒ ก็คือ
นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ
๑. ในเมื่อ ส.ป.ก. เปลี่ยนเป็นเป็นโฉนดแล้ว รัฐบาลยังจะมีการแก้ไขปัญหา ให้พี่น้องประชาชนที่ถือสิทธิครอบครอง หรือว่าครอบครองในที่ดินทำกินของทุ่งเลี้ยงสัตว์ แล้วก็อื่น ๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้เข่าข่ายในของ ส.ป.ก. ผมขอนำเรียนท่านประธานฝากถึง ท่านรัฐมนตรีช่วยตอบประเด็นนี้ให้พี่น้องประชาชนผมได้สบายใจนิดหนึ่งนว่าในส่วนของ ที่ดินที่มีปัญหา ผมดีใจวันนี้ได้มาฟังท่านรัฐมนตรีได้ตอบเรื่องประเด็นของ ส.ป.ก. พี่น้อง ชาวเกษตรกร พี่น้องชาว ส.ป.ก. ซึ่งผมเองก็อยู่ในพื้นที่นั้น แต่ไม่มีที่ ส.ป.ก. นะครับ มีอยู่ในที่ดินนั้นเยอะนะครับ ไม่ใช่เป็นของผมแต่เป็นของพี่น้องประชาชนของผมนะครับ ทีนี้ผมถามนิดหนึ่งว่าในเมื่อท่านแปรนโยบายอย่างนี้แล้ว เป็นผลประโยชน์กับพี่น้อง ประชาชนและพี่น้องประชาชนคาดหวังมานานมากพอสมควร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ ผมเกิดได้ แค่ ๖ ปี เองครับ เป็น ส.ป.ก. แล้ว เพราะฉะนั้นแล้วผมนำเรียนด้วยความเคารพว่าวันนี้ พี่น้องชาว ส.ป.ก. ความคาดหวังของพี่น้องชาว ส.ป.ก. เข้าถึงแหล่งเงินทุนและจะได้ลด ในเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคม เข้าถึงแหล่งเงินทุนพอที่จะได้เอาเงินทุนนั้นมา เพื่อพัฒนาเกษตร แล้วอีกตัว ๑ ก็คือในเรื่องของลูกหลานที่เรียนจบมา แล้วรับราชการ เป็นข้าราชการ พ่อแม่จะเสียชีวิต พ่อแม่จะสละให้ลูก แต่ไม่มีโอกาสเพราะลูกไม่ได้ทำ การเกษตรตามระเบียบของปฏิรูปที่ดิน ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรี มีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เป็นครูก็เอาไม่ได้ เป็นพยาบาลก็เอาไม่ได้ เป็นตำรวจ เป็นข้าราชการทั้งหมดรับไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วพี่น้องประชาชนที่ยืนอยู่ตรงนี้นะครับ เป็นปัญหาหลักและเป็นปัญหาที่หนักใจกันมาตลอด ทีนี้ในเรื่องของการเปลี่ยนมือมีหลาย ภาคส่วน โดยเฉพาะนักวิชาการเขามองว่า เราจะไปเอื้อให้กับทุนแต่ผมเองผมได้มองเห็นแล้ว ว่าท่านรัฐมนตรีมองเป้าหมายว่าไม่เกินคนละ ๕๐ ไร่ เพราะฉะนั้นแล้วก็เป็นสิ่งที่ดีของพี่น้อง ประชาชนผมเห็นด้วยนะครับ พรรคร่วมสร้างชาติเองนั้นก็เห็นด้วย และดีใที่มีรัฐมนตรี ที่มีความคิดเหมือนกับเผือกร้อนเลยครับ ส.ป.ก. แต่ท่านเองยังมีความมุ่งมั่นในการที่จะทำ นะครับ ผมเองก็ขอนำเรียนด้วยความเคารพ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ประเด็นคำถามก็คือ
นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ
อยากจะรู้ว่านอกจาก ส.ป.ก. นะครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
คือว่าคนที่ไม่ใช่เกษตรกรเป็นข้าราชการ หรือเป็นเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในอาชีพเกษตร พ่อแม่ ก็ตายแล้ว ทีนี้สมบัติอันนั้นรับไม่ได้ ท่านรัฐมนตรีพอจะมีแนวทางแก้ไขไหมครับ เพราะว่า ทุกวันนี้ปัญหาว่ารับมรดกไม่ได้นะครับ
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
ต้องขอบคุณท่านประธานผ่านไปยังท่านสมาชิกได้ตั้งคำถามที่ดีมากนะครับ นั่นแสดงเห็น ได้ท่านเป็น สส. ที่ลงพื้นที่แล้วรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จังหวัดชุมพรถือว่าเป็น จังหวัดที่มี ส.ป.ก. เยอะ และเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ที่เป็นทุ่งเลี้ยงหญ้า ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสภาพ ณ เวลานี้สภาพทุ่งเลี้ยงสัตว์มันไม่ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นคำถามที่ท่านถามประธานผ่านไปยัง ท่านนายกรัฐมนตรีนะครับว่า ที่ดินที่ไม่อยู่ในพื้นที่ที่ ส.ป.ก. สามารถบริหารจัดการได้รัฐบาล มีนโยบายอย่างไร ผมขออนุญาตตอบท่านประธานว่า หลังจากที่มีการส่งมอบพื้นที่ให้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินที่เป็นที่ดินของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ หรืออุทยานหรือที่ดินอื่น ๆ ทุกประเภทที่มอบให้สำงานดินมาปฏิรูปเพื่อการเกษตร การประกาศเขตปฏิรูปที่ดิน สมัยก่อนประกาศทั้งอำเภอ ถามว่าการประกาศทั้งอำเภอ ผมยกตัวอย่างที่จังหวัดที่โคราช ในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ยิงกัน ตึก Terminal อันนั้นเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. นะครับ เพราะว่า การประกาศครอบทั้งอำเภอ ผมจำไม่ได้อำเภออะไรตอนนั้น สมัยนั้น เป็นประกาศครอบ ส.ป.ก. ทั้งอำเภอเมือง ในบริบทมันเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้น ส.ป.ก. นำที่ดินมาปฏิรูปที่ดินได้ เพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือกลายเป็นเอกสารที่ไม่เป็นเอกสารสิทธิ อยู่กันแบบเถื่อน ๆ ที่จังหวัดบ้านท่านสมาชิกผู้ตั้งกระทู้ถามว่าเช่นเดียวกันครับ มีที่ดินเถื่อนเยอะมาก แต่เป็น ที่ดินที่พี่น้องประชาชนเข้าอยู่อาศัยและทำกิน รวมทั้งที่ดินที่ทหารขอไปใช้ทำประโยชน์ อย่างที่ผมไปตรวจราชการที่กาญจนบุรีกับท่านนายกรัฐมนตรี มีพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรี ถามว่าจะทำอย่างไรทหารขอใช้ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด ถึงเวลานี้ไม่ได้มีการฝึกแล้ว ที่ดินเหล่านี้ ไม่มีเอกสารสิทธิรัฐมีนโยบายอย่างไร นั่นถือว่าเป็นคำถามที่ดีมากครับท่านประธาน ที่บ้าน เราก็เหมือนกันเชียงราย พะเยา ก็มีเหมือนกัน ตอบว่าพื้นที่ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินไม่สามารถ มาจัดที่ดินได้ในลักษณะของปฏิรูปที่ดิน รัฐมีหน้าที่ต้องทำอย่างไร รัฐบาลหลายยุคพยายาม จะแก้ปัญหาที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งที่สำหรับรูปดินที่จะต้องทำ คือเรา ต้องการยื่นการยกเลิกกฤษฎีกา ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ ถามว่าอำเภอที่ได้รับ ผลกระทบมากไม่ต่ำกว่า ๑๑๒ อำเภอ ไม่ต่ำกว่า ๒๑ จังหวัด เพราะฉะนั้นเราต้องถอนยกเลิก พระราชกฤษฎีกาตัวนี้ให้ได้ สิ่งเหล่านี้เป็น Step ต่อไปที่ผมกำลังจะทำ นำเสนอ ครม. ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งจังหวัด ทั้งอำเภอ ถามว่าเมื่อเรา ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเหล่านี้ทั้ง ๒๑ จังหวัด ประโยชน์จะเกิดอย่างไรต่อครับ พี่น้อง ประชาชนสามารถยื่นคำร้องออกโฉนดที่ดิน อันนี้คือ Step ต่อไปที่ผมจะทำต่อไป ไม่ใช่ผม หรอกครับ รัฐบาลกำลังจะทำต่อไป นอกจากนั้นที่ดินที่เป็นที่ดินของทหาร ที่ดินที่เป็น ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ที่ดินประเภทอื่นก็เช่นเดียวกัน เรามีนโยบายที่จะประกาศยกเลิกมติ ครม. หากเป็นพระราชกฤษฎีกาก็จะยกเลิกพระราชกฤษฎีกา แล้วนำที่ดินเหล่านี้ไปออกโฉนด ให้กับพี่น้องที่อยู่อาศัยที่ทำกิน หากยังเป็นที่ว่างเราก็จะจัดสรรให้กับพี่น้องเกษตรกรต่อไป อันนี้คือนโยบายที่รัฐบาลกำลังจะทำ โดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องขอยกเลิกพระราชกฤษฎีกาเหล่านี้ เราคาดว่าเราจะทำ ในปี ๒๕๖๗ นี้นะครับ
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
ที่ท่านตั้งคำถามว่า แล้วลูกหลานพี่น้องเกษตรกรที่ไปมีอาชีพเป็นครู เป็นตำรวจ เป็นทหาร หรือทำงานที่มีรายได้อย่างอื่นที่ไม่ใช่เกษตรกรสามารถกลับไปทำ ได้ไหม เรากำลังจะแก้กฎหมายตรงนี้ เพื่อครอบคลุมการออกโฉนดเพื่อการเกษตร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านตั้งกระทู้ถามวันนี้ ตั้งแต่การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดการใช้พื้นที่ ที่ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่ดินอื่น ๆ ให้เป็นโฉนดที่ดินที่กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล การเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก. ที่เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรในการที่จะให้ลูกหลาน ที่ต้องการทำภาคเกษตร ลูกหลานคนรุ่นใหม่อยากทำภาคเกษตร เราจะเปิดช่องตรงนี้ให้ อยากจะกราบเรียนท่านประธานด้วยความเคารพว่า ผมกำลังจะนำเข้าประชุมคณะกรรมการ ปฏิรูปดินตอนบ่ายนี้ ในเรื่องของการประกาศเขตที่พื้นที่ บริบทมันเป็นพื้นที่ชุมชน พื้นที่เมือง ประกาศเป็นพื้นที่ชุมชน แล้วให้พี่น้องที่อาศัยในเขตพื้นที่ชุมชนทำการเช่ากับ ส.ป.ก. ให้ถูกต้องในอัตราที่กรมธนารักษ์กำหนด ซึ่งไม่แพง สิ่งเหล่านี้จะแก้ปัญหาที่ดินที่ทุกวันนี้ บริบทมันกลายเป็นเมือง ผมยกตัวอย่างพื้นที่ที่จังหวัดภูเก็ตเรากาง ๕ นิ้วมันเป็นโรงแรม ๕ ดาว ๔ ดาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปหมดแล้ว ส.ป.ก. ไม่มีนโยบายที่จะไปไล่ทุบไล่รื้อ เหมือนอดีตที่ผ่านมาสร้างปัญหามากมายนะครับ สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องเกษตรกร ที่เคยเป็นเกษตรกร แต่วันนี้เขาเปลี่ยนอาชีพแล้วไปทำมาหากินอย่างอื่นแล้ว เราประกาศ เป็นพื้นที่ชุมชน เขาสามารถเช่านำเงินเข้ากองทุน ส.ป.ก. กองทุน ส.ป.ก. สามารถเงินใช้เงิน เหล่านี้ไปแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกรเหมือนกัน วัตถุประสงค์เหมือนกัน ดังนั้นต่อไปนี้ที่ดิน เถื่อนก็จะไม่มี ที่หน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงของท่านประธาน ท่านก็สามารถให้เขาอยู่ แบบถูกต้อง ที่หน้ามหาวิทยาลัยพะเยาที่บ้านผมก็เช่นเดียวกัน เราให้เขาอยู่แบบถูกต้อง ที่บ้านท่านสมาชิกก็เช่นเดียวกัน นี่คือสิ่งที่เราต้องปฏิรูปที่ดิน ชื่อบอกชัดเจนว่าต้องปฏิรูป ที่ดินให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องคนไทย ต้องให้เข้ากับบริบทความเป็นจริงของสังคม ไม่ใช่ รักษาไว้เหมือนเดิม ๆ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ นะครับท่านประธาน ผมได้ตอบคำถามครบถ้วน นะครับ ขอบคุณท่านประธานครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ฝากรัฐมนตรี อัตราค่าเช่านะครับ เพราะว่าเวลาเราเช่าจากราชพัสดุมันแพงมากนะ ขอให้ เป็น Rate ของ ส.ป.ก. อัตราของ ส.ป.ก. โดยเฉพาะนะครับ มันต้องมีข้อยกเว้นนะครับ ถ้าเกิดว่าทุกวันนี้ค่าเช่ายังสูงอยู่ ถ้ารวม ๆ กันนะ แต่ถ้าแยกเป็นเฉพาะ ส.ป.ก. ขอให้เป็น Rate เกษตรกรนะครับจะได้ถูก ๆ หน่อย
นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้นฉบับ
อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ผมได้ให้นโยบายไปว่าต้องไม่เหมือนกับกรมธนารักษ์
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ใช่ครับ วันนี้ได้ประโยชน์นะครับ ติดทะเลมีเยอะไหม ไม่มีนะ ตอนนี้ยังไม่มี เขาห้ามมีนะ สส. ต้องขอบคุณท่านรัฐมนตรีนะครับ ขอบคุณท่าน สส. ที่ถามตอบในเรื่องที่เป็นประโยชน์ วันนี้ได้หลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน สภาผู้แทนก็คงจะได้เผยแพร่ในการ ถามตอบในครั้งนี้ผ่านทีวีรัฐสภาและสื่อต่าง ๆ ด้วย ขอบคุณท่านรัฐมนตรีครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
๖. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๓๙ เรื่อง การแก้ไขปัญหาขยะอาหาร (Food Surplus) (นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม) ท่านขอเลื่อนไปวันพฤหัสที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ นะครับ ก็ถือว่า หมดกระทู้ถามนะครับ ขอปิดประชุมครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เรียนท่านสมาชิกครับก่อนที่ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องตามระเบียบวาระต่อไป ผมขอปรึกษา ที่ประชุมเพื่อขอนำเรื่องการตั้งกรรมาธิการแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งยังไม่ได้บรรจุในระเบียบ วาระขึ้นมาพิจารณาก่อน ใช้เวลาไม่มากครับ จะมีสมาชิกท่านใดเห็นแย้งไหมครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ถ้าไม่มี ผมขอดำเนินการนะครับ จะมีการตั้งกรรมาธิการสามัญในคณะกรรมาธิการ การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา แทนตำแหน่งที่ว่างลง ๑ ตำแหน่ง เพราะลาออกครับ ผู้ที่ลาออกคือ ท่านพิพิธ รัตนรักษ์
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา ท่านประมวล พงศ์ถาวราเดช ได้มีหนังสือแจ้งว่าขอให้ตั้งกรรมาธิการแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจาก ท่านพิพิธ รัตนรักษ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมาธิการ จึงเป็นอันพ้นจากการเป็นกรรมาธิการตามข้อบังคับ ข้อ ๑๐๘ (๓) ตำแหน่งที่ว่างลง เป็นสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเชิญเสนอชื่อกรรมาธิการ พร้อมขอผู้รับรอง และช่วยพิจารณาด้วยว่าไม่ได้เป็นกรรมาธิการเกินกว่า ๒ คณะตามข้อบังคับ ข้อ ๙๐ เชิญเสนอชื่อครับ
นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม อนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ จากกรุงเทพมหานคร ผมขอเสนอ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นกรรมาธิการใน คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา แทน นายพิพิธ รัตนรักษ์ ขอผู้รับรอง ด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอสมาชิกช่วยกันรับรองด้วยนะครับ เรามีสมาชิกค่อนข้างบางตานะครับตอนนี้ ขอบคุณครับ ก็เป็นไปตามมตินี้นะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ไม่มี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ระเบียบวาระที่ ๓ รับรองรายงานการประชุม ไม่มี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ไม่มี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ต่อไปจะเป็นการพิจารณาเรื่องด่วนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องด่วน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
- พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ)
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เนื่องจากมีร่างพระราชบัญญัติทำนองเดียวกันซึ่งบรรจุระเบียบวาระแล้ว จำนวน ๒ ฉบับ คือ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
- ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กับคณะเป็นผู้เสนอ) มีอยู่ในระเบียบวาระที่ ๕.๑๙ และอีกฉบับ คือ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
- ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน ๑๑,๖๑๑ คน เป็นผู้เสนอ) ซึ่งอยู่ในวาระที่ ๖.๑ และนอกจากนี้เรายังมีร่างพระราชบัญญัติ ทำนองเดียวกัน ซึ่งยังไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระอีกจำนวน ๑ ฉบับ คือ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
- ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายสรรเพชญ บุญญามณี กับคณะเป็นผู้เสนอ) ซึ่งร่างนี้ผ่าน การตรวจสอบแล้วไม่พบข้อบกพร่อง จึงนำเข้ามาพิจารณาในการประชุมครั้งนี้ด้วยครับ เพราะฉะนั้นต้องขอว่าทางที่ประชุมเห็นชอบไหมที่จะให้มีการพิจารณาทั้ง ๔ ร่างนี้ รวมถึง ร่างของท่านสรรเพชญ ซึ่งยังไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระ เพราะว่าข้อบังคับ ข้อ ๒๘ กำหนด ให้ที่ประชุมต้องพิจารณาเฉพาะเรื่องที่อยู่ในระเบียบวาระประชุม เว้นแต่ที่ประชุมจะลงมติอย่างอื่น
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ไม่มี ท่านใดเห็นแย้งนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอนำร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการคล้ายคลึงกัน ทำนองเดียวกันทั้งหมด ๔ ฉบับ มาพิจารณาพร้อมกันตามข้อบังคับ ข้อ ๕๕ (๒) และข้อ ๒๘ และจะเป็นการลงมติในวาระที่ ๑ รวมกันของทั้ง ๔ ฉบับ ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๑๗ วรรคสาม มีสมาชิกท่านใดเห็นเป็นอย่างอื่นไหมครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ถ้าไม่มี ผมขอดำเนินการตามนี้นะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ด้วยผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ ได้เสนอเข้ามาแล้ว ร่างของ คณะรัฐมนตรี และร่างของท่านธัญวัจน์ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นทางกฎหมายแล้ว เพื่อประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายตาม รัฐธรรมนูญมาตรา ๗๗ รายละเอียดทั้งหมดสมาชิกได้รับแล้วนะครับ ส่วนสำหรับฉบับของ ท่านสรรเพชญ เชิญเจ้าหน้าที่แจกเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาได้เลยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ผู้แทนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเข้าชื่อเสนอ ร่างพระราชบัญญัติจะเป็นผู้เสนอและชี้แจงต่อที่ประชุมตามข้อบังคับ ข้อ ๑๑๓ วรรคสอง ขอเชิญผู้ที่มีรายชื่อต่อไปนี้เข้าร่วมแถลงและชี้แจงในที่ประชุมนะครับ ๑. นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ๒. นางสาวอาทิตยา อาษา ๓. นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ๔. นายรฐนนท์ คุ่ยยกสุย ๕. นายณชเล บุญญาภิสมภาร
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
แล้วก็ในการนี้ผมอนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจง ข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมตามข้อบังคับ ข้อ ๗๖ ด้วยครับ ขอเชิญผู้มีรายชื่อต่อไปนี้เข้าร่วม ชี้แจงในที่ประชุมครับ ๑. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและ เสรีภาพ ๒. นางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ตอนนี้ผู้เสนอทั้ง ๔ ร่าง ก็อยู่ในที่ประชุมแล้วนะครับ ลำดับการแถลงหลักการและเหตุผลจะเป็นไปตามนี้นะครับ ร่างแรก โดยของคณะรัฐมนตรี ร่างที่ ๒ โดยท่านธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ร่างที่ ๓ คือท่านอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แล้วก็ลำดับที่ ๔ จะเป็นของท่านสรรเพชญ บุญญามณี กับ คณะ ทั้ง ๔ ร่างพร้อมนะครับ ถ้าพร้อมแล้วผมขอร่างที่ ๑ ก่อนครับ ร่างของคณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอเชิญท่านรัฐมนตรีครับ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีได้รับ มอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สมรสเท่าเทียม ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี หลักการและเหตุผล ดังนี้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
หลักการ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ บางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้คู่รัก ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ก็ตามสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิงในปัจจุบันทุกประการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวที่สอดคล้องกับบริบทสังคมในปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
เหตุผล โดยที่สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญ ในการพัฒนาสังคมและ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่การก่อตั้งครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคม ในปัจจุบันที่มีอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลที่มีเพศเดียวกันด้วย ซึ่งมีการอุปการะ เลี้ยงดูและมีความสัมพันธ์ในด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
สาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติประกอบด้วยบทบัญญัติ ๖๘ มาตรา โดยสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำนวน ๗๔ มาตรา ดังนี้
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๑. แก้ไข คำว่า ชาย หญิง สามี ภริยา เป็นบุคคลคู่หมั้น ผู้รับหมั้น และแก้ไข คำว่า สามี ภริยา เป็นคู่สมรส เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมทุกเพศ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๒. แก้ไขบทบัญญัติให้ชัดเจนขึ้น ในกรณีที่โดยลักษณะทางธรรมชาติใช้กับ เฉพาะหญิงหรือชายโดยกำเนิดเท่านั้น เช่นบทบัญญัติที่เชื่อมโยงกับการมีครรภ์จะระบุให้ ชัดเจนว่าใช้เฉพาะกรณีการสมรสระหว่างชาย-หญิงเท่านั้น รวมถึงเพิ่มเหตุฟ้องหย่าให้ สอดคล้องกับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๓. กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนกฎหมายในความรับผิดชอบให้ สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วภายใน ๑๘๐ วัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๔. ร่างพระราชบัญญัติเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ไม่ใช่การออกกฎหมายใหม่ ดังนั้นจึงไม่กระทบกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจาก พระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้ยกเว้นการบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ บรรพ ๕ โดยให้นำกฎหมายอิสลามมาใช้แทนในส่วนของครอบครัวและมรดก รวมถึงสอดคล้องกับหลักกฎหมายเฉพาะ ยกเว้นกฎหมายทั่วไป โดยได้มีการบัญญัติ เรื่องดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนในมาตรา ๖๖ ของร่างพระราชบัญญัติ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑๕ วัน โดยได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในรูปแบบ Online และประชุมร่วมกับผู้นำทางศาสนา ส่วนราชการและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยผลการรับฟังความคิดเห็นสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๖.๖ เห็นด้วยกับ ร่างกฎหมายดังกล่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
ประโยชน์ของร่างพระราชบัญญัติ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๑. เป็นการยืนยันเจตนารมณ์และนโยบายของรัฐบาลในการเคารพและ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยการปรับปรุงกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเพื่อเป็นหลักประกันว่าบุคคล ทุกคนจะได้รับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวอย่างเสมอภาค เท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อด้านสิทธิมนุษยชนให้กับประเทศไทย สร้างการยอมรับ และความเชื่อถือจากประชาคมระหว่างประเทศ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๒. เป็นเครื่องมือทางกฎหมายในการจัดการกับความสัมพันธ์ทางครอบครัว และขจัดปัญหาความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้นภายในครอบครัวที่หลากหลายทางเพศ เช่น การที่ไม่สามารถจัดการทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน สิทธิในการเป็นทายาทโดยธรรม สิทธิในการจัดการแทนผู้เสียหายและสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
๓. เป็นเครื่องมือช่วยสร้างกระบวนการเรียนรู้ทางสังคมให้ทุกภาคส่วนได้รู้จัก เข้าใจและให้ความเคารพในความแตกต่างและเรียนรู้ที่จะร่วมกันในสังคมด้วยความเคารพ ในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกันและกันต่อไป
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผมอยากจะขอเพิ่มเติมและพูดถึงในส่วนที่มีความ ยุ่งยากในการดำเนินการ เพราะกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ได้มีการนำเสนอในรัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่สามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จ การพิจารณาในวันนี้มีกฎหมายถึง ๔ ฉบับของรัฐบาล พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์และของประชาชน เราใช้เวลามาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยรัฐบาล ที่แล้ว กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอให้ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกภาคส่วน ทุกพรรค ได้ช่วยกันผ่านกฎหมายฉบับนี้ โดยอย่าคิดว่าเป็นกฎหมายของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราควร ร่วมใจกันทำกฎหมายให้สำเร็จเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม และเราใช้เวลากับเรื่องนี้มา พอสมควรแล้ว กระผมในนามของรัฐบาลจึงขอกราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สมรสเท่าเทียมที่เสนอมานี้ ขอขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญท่านธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ครับ
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาค่ะ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ธัญขออนุญาตอ่านบันทึก หลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
หลักการ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังต่อไปนี้
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๑. ให้ชาย หญิง หรือบุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันสามารถหมั้น สมรสกัน ได้ตามกฎหมาย เป็นคู่หมั้น คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยแก้ไขเพิ่มเติมบรรพ ๕ ลักษณะ ๑ หมวด ๑ และหมวด ๒ (มาตรา ๑๔๓๕ มาตรา ๑๔๓๗ มาตรา ๑๔๓๙ มาตรา ๑๔๔๐ มาตรา ๑๔๔๑ มาตรา ๑๔๔๒ มาตรา ๑๔๔๓ มาตรา ๑๔๔๕ มาตรา ๑๔๔๖ มาตรา ๑๔๔๗/๑ มาตรา ๑๔๔๘ มาตรา ๑๔๔๙ มาตรา ๑๔๕๐ มาตรา ๑๔๕๒ มาตรา ๑๔๕๘ และมาตรา ๑๔๖๐)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๒. หมวด ๓ ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา โดยแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๓ ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติม และยังกำหนดให้ตัด คำว่า สามีและภริยา และให้เพิ่มคำว่า คู่สมรส ในบรรพ ๑ หลักทั่วไปลักษณะ ๒ บุคคล ส่วน ๓ ภูมิลำเนา (มาตรา ๔๓) และลักษณะ ๖ อายุความ หมวด ๑ บทเบ็ดเสร็จทั่วไป (มาตรา ๑๙๓/๒๒) เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขในหมวดนี้
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๓. หมวด ๓ ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา โดยแก้ไขเพิ่มเติมเป็นหมวด ๓ ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติม และกำหนดให้ความสัมพันธ์ ระหว่างคู่สมรส ซึ่งบุคคลสองคนสมรสกันให้มีสิทธิหน้าที่และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยแก้ไขเพิ่มเติม บรรพ ๕ ลักษณะ ๑ หมวด ๓ (มาตรา ๑๔๖๑ มาตรา ๑๔๖๒ และมาตรา ๑๔๖๓)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๔. หมวด ๔ ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา โดยแก้ไขเพิ่มเติมหมวด ๔ ทรัพย์สิน ระหว่างคู่สมรส เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติม
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๕. สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมายจัดการทรัพย์สินและหนี้สิน ร่วมกัน โดยแก้ไขเพิ่มเติมบรรพ ๕ ลักษณะ ๑ หมวด ๔ (มาตรา ๑๔๖๕ มาตรา ๑๔๖๙ มาตรา ๑๔๗๐ มาตรา ๑๔๗๕ มาตรา ๑๔๗๖ มาตรา ๑๔๗๖/๑ มาตรา ๑๔๗๗ มาตรา ๑๔๗๙ มาตรา ๑๔๘๑ มาตรา ๑๔๘๒ มาตรา ๑๔๘๓ มาตรา ๑๔๘๔ มาตรา ๑๔๘๔/๑ มาตรา ๑๔๘๕ มาตรา ๑๔๘๖ มาตรา ๑๔๘๗ มาตรา ๑๔๘๘ มาตรา ๑๔๘๙ มาตรา ๑๔๙๐ มาตรา ๑๔๙๑ มาตรา ๑๔๙๒ มาตรา ๑๔๙๒/๑ และมาตรา ๑๔๙๓)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๖. การสิ้นสุดการสมรส การเพิกถอนการสมรส การหย่าขาดจากการสมรส การจัดการทรัพย์สินหลังสิ้นสุดการสมรส การเรียกค่าทดแทนค่าอุปการะเลี้ยงดู หลังการสิ้นสุดการสมรส โดยแก้ไขเพิ่มเติมบรรพ ๕ ลักษณะ ๑ หมวด ๕-๖ (มาตรา ๑๔๙๘ มาตรา ๑๔๙๙ มาตรา ๑๕๐๔ มาตรา ๑๕๐๘ มาตรา ๑๕๑๕ มาตรา ๑๕๑๖ มาตรา ๑๕๑๗ มาตรา ๑๕๒๐ มาตรา ๑๕๒๒ มาตรา ๑๕๒๓ มาตรา ๑๕๓๐ มาตรา ๑๕๓๒ และมาตรา ๑๕๓๓) และแก้ไขลักษณะ ๒ หมวด ๓ ความปกครอง (มาตรา ๑๕๙๘/๑๕ มาตรา ๑๕๙๘/๑๗ และลักษณะ ๓ ค่าอุปการะเลี้ยงดู (มาตรา ๑๕๙๘/๓๘)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๗. ให้คู่สมรสซึ่งเป็นเพศเดียวกันซึ่งจดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรสด้วยกันตามบรรดา กฎหมาย กฎ กระทรวง และระเบียบใดที่บัญญัติให้สิทธิและหน้าที่แก่สามีภริยา หรือสามี หรือภริยา หรือคู่สมรสแล้วแต่กรณี (เพิ่มเติมในมาตรา ๑๕๙๘/๔๒)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๘. ให้กรณีคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นผู้ฆ่าคู่สมรสของตนเป็นผู้ถูกจำกัด มิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ไม่สมควรได้รับมรดก (ตามมาตรา ๑๖๐๖ (๓))
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๙. คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคู่สมรสที่ร้างกัน หรือแยกกันอยู่โดยยัง มิได้อย่าร้างขาดจากกันตามกฎหมาย เป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิในการรับมรดกของคู่สมรส อีกฝ่ายที่เสียชีวิต (มาตรา ๑๖๒๕ (๑) และมาตรา ๑๖๒๘)
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๑๐. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐรับผิดชอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ตาม กฎหมายว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ดำเนินการทบทวนกฎหมายในความรับผิดชอบที่กำหนดสิทธิหน้าที่ สถานะทางกฎหมาย หรือเรื่องอื่นใดที่เกี่ยวข้องให้แก่คู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับเพศสภาพของคู่สมรส
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๑๑. การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในเรื่องอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิหน้าที่ สถานะทางกฎหมาย และความสัมพันธ์ของชายหญิง หรือบุคคล สองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกัน นอกจากแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามข้อ ๑ ถึงข้อ ๙ ตามที่กล่าวไปในบรรพ ๕ ครอบครัวและบรรพ ๖ มรดก ก็ให้สามารถ กระทำได้
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
อันนี้คือหลักการและเหตุผลทั้งหมดของสมรสเท่าเทียม หรือร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สิ่งที่ธัญอยากจะกล่าวต่อไปก็คือธัญ อยากจะบอกกับทุก ๆ ท่านและในสภาแห่งนี้ว่า ธัญเกิดมาเป็นกะเทยค่ะ แล้วธัญก็เป็น กะเทยทุกวัน เป็นมาตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้ สิ่งเดียวที่ธัญต่อสู้ ไม่ว่าธัญจะใช้ชีวิตแบบใด ก็แล้วแต่ ไม่ว่าธัญจะหัวเราะหรือร้องไห้ความเป็นกะเทยก็จะยังคงติดตัวอยู่กับธัญเสมอ และการที่ธัญบอกว่าธัญเป็นกะเทยนั้น สิ่งหนึ่งที่จะตามมาติดตัวของกะเทยทุกคนในประเทศนี้ ก็คือความเป็นไปไม่ได้ค่ะ ไม่ว่าธัญจะหลีกเลี่ยงอย่างไร และใช้ชีวิตอย่างไรก็แล้วแต่ ธัญตระหนักรู้ดีเมื่อเติบโตขึ้นมาว่ากะเทยนั้นคือสิทธิมนุษยชน กะเทยมีตัวตนในสังคมและ เขามีสิทธิ มีศักดิ์ศรีและการที่จะใช้ชีวิตอย่างที่เขาอยากจะเป็น รวมถึงการดำเนินชีวิต ในครอบครัว การทำงานของสภาชุดที่แล้วธัญได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ธัญได้พบกับผู้หญิงท่านหนึ่งในขณะที่ธัญกำลังพูดคุยเสวนาวิชาการอยู่ ผู้หญิงท่านนั้นก็เดิน เข้ามาหาธัญพร้อมรอยยิ้ม แล้วเขาก็บอกกับธัญว่า ขอบคุณมากที่พูดเรื่องสมรสเท่าเทียม เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะเขาบอกว่าเขามีเพื่อนที่รักมากเลยเป็นเพื่อนที่สมัยเรียน เป็นเพื่อนที่ช่วยทำการบ้าน เป็นเพื่อนที่เรียนเก่งจบปริญญาเกียรตินิยมมีงานทำ เป็นที่รัก ของเพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเมื่อเวลาเพื่อนทุกข์ใจ เขาบอกว่า เพื่อนของเขาไม่สามารถที่จะอยู่ฟังเรื่องสมรสเท่าเทียมได้ เพราะว่าเพื่อนเขาฆ่าตัวตาย เนื่องจากพ่อแม่ไม่ยอมรับในความสัมพันธ์ที่เขารักกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง และไม่มีทาง ที่ครอบครัวเขาจะรับในสิ่งนี้ได้ เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย สิ่งที่ธัญเจอในวันนั้น ธัญไม่สามารถ ตอบอะไรได้นอกจากยืนแล้วก็นิ่งเงียบ ธัญก็อ้าแขนแล้วก็กอดเขา แล้วธัญก็ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ธัญเข้าใจว่าเพื่อนที่เขามาพูดกับธัญยังระลึกถึงเพื่อนคนนั้นเสมอ เพื่อนที่ฆ่าตัวตาย ที่ทุกเรื่องในชีวิตเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่เรื่องความรักนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ค่ะ หรืออย่างเหตุการณ์เสาร์ซาวเอ็ดที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในปี ๒๕๕๒ ในขณะนั้นก็มี การจัดงานที่เขาเรียกว่า เกย์พาเหรด ซึ่งก็มีลักษณะคล้าย ๆ กับงาน Pride ที่เราเข้าใจ ในปัจจุบันนี้ ในการจัดงานครั้งนั้นก็มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวได้จัดงานดังกล่าว พร้อมที่จะ เดินขบวนแล้วก็แสดงตัวตน แต่ก็เกิดการต่อต้านจากชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการปาถุงเลือดใส่ ปาถุงสีใส่ และการตะโกนด่าทอ เหตุผลที่ไม่อยากให้กลุ่มกะเทยเดินพาเหรดก็คือเป็นเรื่อง เสื่อมเสีย เป็นเรื่องที่ทำลายวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดี สิ่งนี้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย เมื่อปี ๒๕๕๒ ที่ LGBT แล้วก็นักเคลื่อนไหวทุกคนต่างรู้ว่า นี่คือความเจ็บปวด นี่คืออดีตของ ความเจ็บปวดของประชาชนที่เป็นกะเทย มันไม่ได้สะท้อนเพียงแค่กลุ่มคนที่เกิดขึ้นที่จังหวัด เชียงใหม่ ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานในจังหวัด เชียงใหม่ แต่มันสะท้อนถึงความเกลียดชังที่ฝังอยู่ในสังคมไทยตลอดมา วันนี้ความเป็นไปได้ กำลังจะเกิดขึ้น ธัญเชื่อว่าวันนี้เราทุกคนมีความเห็นพ้องต้องกันว่าประเทศไทยกำลังจะ เปลี่ยนแปลง เราอาจจะมีการเฉลิมฉลองที่สวยงามและตระการตา เราอาจจะมีฝนกระดาษ ที่ระยิบระยับ มีธงสีรุ้งที่โบกไสว ไม่ว่างานจะสวยงามยิ่งใหญ่เพียงใดและเฉลิมฉลอง ด้วยความยินดีปรีดาแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ธัญอยากจะย้ำเตือนก็คือ ว่าการเฉลิมฉลองนั้น คือการที่เราต้องเฉลิมฉลองการตื่นรู้ของพวกเราทุกคน การตื่นรู้คืออะไร การตื่นรู้ที่เราปล่อย ให้เวลานั้นเกิดการสูญเสียของคนที่รัก เกิดการสูญเสียของคนที่พลัดพราก เกิดการสูญเสีย น้ำตา เกิดการสูญเสียสิทธิหน้าที่การก่อตั้งครอบครัวของผู้มีความหลากหลายทางเพศ เฉลิมฉลองกับความโง่เขลาของพวกเรา กว่าจะเดินจบมาถึงวันนี้ที่เราอาจจะมองทุกอย่าง เป็นเรื่องของการเมือง แต่ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของประชาชน เฉลิมฉลองให้กับคนที่ต้อง ฆ่าตัวตายว่าวันนี้ฉันตื่นแล้ว เฉลิมฉลองให้กับเด็กนักเรียนที่เป็นกะเทยที่ Bully และฆ่าตัวตาย เพราะถูกเพื่อนล้อว่าเป็นตุ๊ด การเฉลิมฉลองที่สวยงามนั้นธัญขอให้ทุกท่านย้ำเตือนเสมอว่า จากอดีตจนถึงวันนี้เราเกิดความสูญเสียมากเพียงใด จากสภาชุดที่แล้วมีคนถามธัญเสมอว่า เธอเป็นฝ่ายค้าน เธอจะยื่นกฎหมายทำไม เสียงก็ไม่พอตอนนั้นขณะที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล แต่ธัญคิดว่าสิ่งที่เราเห็นพ้องต้องกันคือความเปลี่ยนแปลงค่ะ และวันนี้ ความเป็นไปได้กำลังจะเกิดขึ้น ธัญจึงอยากจะฝากให้ทุกท่าน มองทุกคนด้วยไมตรีจิต และความเห็นอกเห็นใจ ธัญเชื่อว่าวันนี้จะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย และประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่จะยิ่งใหญ่ไปสู่นานาชาติและทั่วโลก จะเป็นวันที่ประชาชน จะจดจำในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้ว่าเราทุกคนในที่นี้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า เราจะเดินสู่ความเท่าเทียมของคนทุกเพศ ไม่ว่าเราจะประกาศชัยชนะต่อนานาอารยะ ประเทศมากแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งชัยชนะคือของประชาชนทุกคน ในฐานะผู้แทนราษฎร ธัญต้องเป็นตัวแทนของประชาชน ประชาชนฝากบอกผู้แทนราษฎรทุกท่าน จากสภาชุด ที่แล้วที่โหวตให้สมรสเท่าเทียมผ่าน และกะเทยทุกคนที่ฝากบอกธัญมาพวกเขาขอบคุณ ด้วยหัวใจ และวันนี้ในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร ก็มีประชาชนที่เป็นกะเทยฝากมาบอกผู้แทนราษฎร ทุกท่านในที่นี้ ช่วยให้โหวตสมรสเท่าเทียมผ่านด้วยหัวใจอีกครั้ง และเราจะทำงานด้วย ความรักค่ะ วันนี้สมรสเท่าเทียมธัญเชื่อว่าทุกคนมีมติเห็นชอบร่วมกัน และธัญเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว และนี่คือจุดเริ่มของคนทุกเพศที่จะก้าวไปสู่สันติภาพและ ความเท่าเทียม ขอบคุณค่ะท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ในการประชุมวันนี้นะครับ ก็จะมีการนำเข้าวัตถุต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นธงสีรุ้งพวกนี้ แต่วันนี้อนุญาตนะครับ มีผ้าขาวม้าหลากสีด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ต่อไปเป็นส่วนของภาคประชาชนครับ เรียนเชิญท่านอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครับ
นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อ เสนอกฎหมาย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจาก การเลือกตั้งทุกท่านนะคะ ข้าพเจ้า อรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ค่ะ เป็นตัวแทนของผู้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งนับจากนี้ ต่อไปก็ขออนุญาตเรียกว่าเป็นกฎหมาย พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เหมือนที่เรารู้จักกันนะคะ พวกเรามาจากการลงชื่อของประชาชนค่ะ มีประชาชนลงชื่อกับเราซึ่งเสนอมากับ สภาผู้แทนราษฎร คือ ๑๑,๖๑๑ คน ก่อนอื่นอยากจะขอขอบพระคุณจริง ๆ กับทางฝั่งของ ท่านประธาน ท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎรนะคะ และที่สำคัญคือสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่อำนวยความสะดวกจนทำให้ประชาชนอย่าง พวกเราสามารถเดินทางมาเพื่อเสนอกฎหมายได้ในวันนี้ คิดว่านี่เป็นปรากฏการณ์สำคัญ ที่ร่างกฎหมายของประชาชนจะได้รับการพิจารณา และนี่คือปรากฏการณ์สำคัญที่ประชาชน จะส่งเสียงโดยประชาชนเอง ในฐานะประชาชนทราบไหมคะ ตลอดระยะเวลาที่เราทำงานมา อาจจะมองคร่าว ๆ ก็คือ ๑๕ ปี ที่เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องการคุ้มครองการจัดตั้งครอบครัว หลักการที่เรานำพาประชาชนเดินทางมาถึงวันนี้ เราใช้หลักการที่เสนอต่อหน้ารัฐ ต่อหน้า ระบบราชการ ต่อหน้าศาล ต่อหน้ากระบวนการยุติธรรม และต่อหน้าประชาชน ตลอดระยะ เวลาที่ผ่านมาคือหลักการของความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย นั่นก็คือ Equal Before The Law ซึ่งถูกพูดถึงครั้งแรกในงานวิทยานิพนธ์เล่มนี้ค่ะ งานวิทยานิพนธ์ของคุณชวินโรจน์ ธีรพัชรพร เล่มนี้เขียนมานานแล้ว ปี ๒๕๕๙ และได้รับวิทยานิพนธ์ดีเด่นในปี ๒๕๖๐ การมีงานวิจัยที่ดี ขนาดนี้เลยทำให้จุดตั้งต้นของเรามีความเข้มแข็ง วิทยานิพนธ์เล่มนี้ชื่อว่า สิทธิความเสมอภาค ในการสมรสของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย และแน่นอนหลักการ ของวิทยานิพนธ์เล่มนี้ก็คือ การให้พวกเราได้ใช้กฎหมายสมรสเสมอหน้ากับกฎหมายที่ทุกคน ใช้อยู่ นั่นก็คือกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทำไมต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะอยากให้ทุกคนได้ไปศึกษาอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต่างประเทศหรือ ว่าข้อมูลต่าง ๆ หลังจากนี้นะคะ อีกอย่างหนึ่งหลักการนี้เป็นหลักการเดียวกันกับที่เราประชุม และทำงานทั้งภาคประชาสังคมแล้วก็ UN ในเรื่องของหลักการยอกยาการ์ตา และหลักการนี้ก็สอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติ ข้อ ๑ ในกฎบัตรสหประชาชาติ ที่กล่าวว่า ทุกคนเกิดมามีอิสระความเท่าเทียมในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิ All Human Rights are Born Free and Equal in Dignity and Rights ต้องเน้นย้ำในเรื่อง ของ Born Free and Equal and Dignity อันนี้จะเป็นสิ่งที่พวกเราจะขออนุญาตในการที่จะ ชี้แจงตลอดระยะเวลากับเพื่อน ๆ นะคะ การเดินทางของเรา ๑๕ ปีที่ผ่านมานะคะ มาพร้อม กับคดีทางการเมืองที่มีการเรียกร้องสมรสเท่าเทียมถึง ๒๔ คน ท่านทราบไหมคะว่า ๒ ปี ที่แล้วเราไม่ได้อยู่ตรงนี้ เราไปที่ สน. หนึ่ง เพราะว่าเขาดำเนินคดีกับพวกเรา พอเราลุกขึ้นมา พูดเรื่องสมรสเท่าเทียมบนท้องถนน การเดินทางนี้มาพร้อมกับประชาชน ๓๖,๐๐๐ คนใน Website ที่เราเปิด www.support1448.org ตอนนี้สามารถที่จะเปิดขึ้นได้ว่าอยู่ตรงไหน ทำไมเราถึงเน้นย้ำการเดินทางของพวกเรา เพราะว่าการเดินทางของพวกเรามีความหมาย มากกว่านั้น การเดินทางของพวกเรามีความหมาย เพราะเราเคยเจอเรื่องเล่าและเจอชีวิตจริง อยากจะเล่า ๑ เรื่องให้ฟังค่ะ เมื่อประมาณ ๑๒ ปีที่ผ่านมาดาวทำงานกับองค์กรหญิงรักหญิง ที่ชื่อว่ากลุ่มอัญจารี ตอนนั้นเป็นเคสแรกที่เจอ เขาชื่อพี่หนิง พี่หนิงมีแฟนเป็นผู้หญิง พี่หนิง ทำหน้าที่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แฟนของพี่หนิงเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องรักษาพยาบาล อย่างฉับพลัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือพี่หนิงเดินทางไปที่โรงพยาบาลเอกชนและไม่สามารถที่จะเซ็น การรักษาพยาบาลให้กับแฟนได้ หลังจากนั้นไม่ถึง ๑๐ วันแฟนของพี่หนิงเสียชีวิต เราเจอ พี่หนิงหลังจากที่เราติดตามเคสนี้อีก ๑ อาทิตย์ สิ่งหนึ่งที่พี่หนิงบอกกับพวกเราก็คือว่าพี่เหมือน ตายตามเขาไปด้วย ถ้าวันนั้นพี่สามารถเซ็นเอกสารเพื่อรักษาพยาบาลเขาได้เขาจะรอด ใช่ไหม สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถที่จะหยุดการเดินทางของพวกเราได้ การเดินทางของพวกเราทำไมต้องเน้นในเรื่องของความเท่าเทียมและความเสมอภาค เพราะว่าจริง ๆ แล้วแม้กระทั่งหลักการที่เสนอมาทั้ง ๔ ร่างเราก็เชื่อว่ามีข้อมูลข้อความ ที่แตกต่างกัน ซึ่งวันนี้จะมีเพื่อนของเราจะมาชี้แจงตามหลักการที่แตกต่างกัน ซึ่งท่านแรก ก็อาจจะขออนุญาตเชิญคุณณชเล บุญญาภิสมภาร ในการชี้แจงค่ะ
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพและสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ดิฉัน ณชเล บุญญาภิสมภาร ตัวแทนประชาชน ผู้ชี้แจง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับประชาชน ดิฉันขออ่านหลักการและ เหตุผลของ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับประชาชนนี้ให้ทุกท่านฟังอีกครั้งหนึ่งนะคะ ประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้บุคคลเพศชายและเพศหญิงตามเพศกำเนิดเท่านั้น ที่จะจดทะเบียนสมรสเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย ทำให้บุคคลที่มีรสนิยมทางเพศแตกต่าง จากรสนิยมแบบรักต่างเพศ เช่น บุคคลรักเพศเดียวกัน บุคคลข้ามเพศ หรือบุคคลรักได้ ทั้งสองเพศ หรือบุคคลเพศหลากหลายที่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสและเป็นคู่สมรสตาม กฎหมายได้ ทำให้บุคคลเหล่านั้นประสบปัญหาจากการขาดการรับรองสิทธิต่าง ๆ ที่เกิดจาก การจดทะเบียนสมรส เช่น สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน สิทธิในการจัดการทรัพย์สิน สิทธิในการเป็นทายาทโดยธรรมในการรับมรดกจากคู่ชีวิต จึงจำเป็นต้องแก้ไขโดยใช้ภาษาที่เป็นกลางทางเพศภาวะ ในการยินยอมให้บุคคลทุกเพศ กำเนิด ทุกรสนิยมทางเพศและทุกอัตลักษณ์ทางเพศ สามารถเข้าถึงและจดทะเบียนสมรส เป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมายได้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย และหลักศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ โดยที่ พ.ร.บ. สมรส เท่าเทียมภาคประชาชนได้ถูกร่างภายใต้หลักการทั้งหมด ๖ หลักการด้วยกันค่ะ
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการแรก ให้บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักเพศ หลากหลายสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในมาตรา ๑๔๔๘
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการที่ ๒ ให้บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักเพศ หลากหลาย สามารถจดทะเบียนสมรสได้ และเมื่อนายทะเบียนได้บันทึกความยินยอมแล้วให้ บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักเพศหลากหลายเป็นคู่สมรสที่ชอบ ด้วยกฎหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในมาตรา ๑๔๕๘
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการที่ ๓ ให้บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักเพศ หลากหลายที่จดทะเบียนสมรสกันแล้วต้องอยู่กินด้วยกันฉันคู่สมรสตามมาตรา ๑๔๖๑
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการที่ ๔ ให้คู่สมรสที่รับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์เป็นบุพการีที่ชอบด้วยกฎหมายตามบรรพ ๕ ลักษณะ ๒ หมวด ๒ ซึ่งคุณนัยนา สุภาพึ่ง ในลำดับต่อไปจะอภิปรายให้ทุกท่านฟังอีกครั้งหนึ่งค่ะ
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการที่ ๕ ให้บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักเพศ หลากหลาย ซึ่งจดทะเบียนสมรสเป็นคู่สมรสตามกฎหมายสามารถรับผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และนำบทบัญญัติบรรพ ๕ ลักษณะ ๒ หมวด๒ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยสิทธิหน้าที่ของบิดามารดา บุพการี และบุตรมาบังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๑๕๙๘/๒๘
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
หลักการสุดท้าย ให้บุคคลสองคนทั้งคู่รักต่างเพศ คู่รักเพศเดียวกัน และคู่รัก เพศหลากหลาย ซึ่งจดทะเบียนสมรสเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ เช่นเดียวกับคู่สมรสชายและหญิง และบัญญัติบทเฉพาะกาลให้คู่สมรสเพศเดียวกัน ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ถือเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย บทบัญญัติใด ๆ ตามประมวลกฎหมายพระราชบัญญัติกฎกระทรวงและระเบียบอื่น ๆ ที่บัญญัติให้สิทธิแก่สามีภริยา หรือคู่สมรส หรือบิดามารดา ให้หมายความรวมถึง คู่สมรสและ บุพการีตามมาตรา ๑๕๙๘/๔๒ และมาตรา ๑๕๙๘/๔๓ ซึ่งคุณนัยนา สุภาพึ่ง จะได้อภิปราย ให้ทุกท่านทราบในลำดับถัดไป
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ดิฉันขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้รัฐสภาผู้ทรงเกียรติ ได้รับฟังค่ะ เมื่อ ๒ วันที่แล้วดิฉันได้กลับไปที่บ้านเกิดที่จังหวัดแพร่ ได้ไปนอนกอดคุณแม่ คุณแม่อายุ ๘๑ ปี ซึ่งเกิดในสมัยที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณแม่จะยอมรับดิฉันในฐานะที่ดิฉันเป็น ผู้หญิงข้ามเพศหรือกะเทย คุณแม่สอนให้ดิฉันรักมนุษย์คนอื่น ๆ โดยไม่มีเงื่อนไขของ ความเป็นเพศ คุณแม่ได้มอบตัวอย่างที่สำคัญให้กับคนทุกคนที่รู้จักคุณแม่ว่า คุณแม่ยอมรับ ในตัวดิฉันในฐานะที่เป็นลูกกะเทยและลูกที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศคนหนึ่ง หากรัฐสภาโหวตรับ ร่างหลักการ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับประชาชน เราทุกคนทั้งคนในรัฐสภาแห่งนี้ และคนทุกคนในสังคมไทยจะมีพื้นที่ในการแสดงความรักอย่างเปิดเผย จะมีพื้นที่ในการแสดง ความรักอย่างเปิดเผย ไม่แบ่งแยก และเข้าใจว่าความรักไม่มีเพศ และความรักเกิดได้กับ คนทุกเพศ ซึ่งคุณแม่ของดิฉันได้ย้ำเตือนดิฉันเสมอ
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
เรื่องที่ ๒ ดิฉันมีน้องสาวที่มีอายุห่างกัน ๑ ปี น้องสาวของดิฉันเป็นผู้หญิง ที่รักกับผู้หญิงค่ะ น้องสาวของดิฉันมีคู่รักที่ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลามากกว่า ๑๕ ปี ดิฉันไม่ได้ พูดถึงคู่รักที่ใช้ชีวิตเพียงแค่ ๑ ปีหรือ ๒ ปี แต่เขาทั้ง ๒ คนใช้ชีวิตร่วมกันถึง ๑๕ ปี หากรัฐสภาได้โหวตรับร่างหลักการ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมภาคประชาชน รัฐสภาแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะมอบความสุขให้กับคู่รักที่เป็นคู่รักเพศเดียวกัน และคู่รักที่เป็นเพศหลากหลาย เท่านั้น นั่นรวมถึงคู่รักของน้องสาวดิฉันด้วย แต่รัฐสภายังจะมอบความสุขไปให้กับคนที่เป็น พ่อคนที่เป็นแม่ คนที่เป็นบุพการี คนที่เป็นคนรอบข้าง คนที่เป็นเพื่อนของคู่รักเหล่านั้นด้วย และดิฉันคิดว่านั่นคือของขวัญรับปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๗ ให้กับประชาชนหลายคนที่กำลัง สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมภาคประชาชนนี้ค่ะ
นายณชเล บุญญาภิสมภาร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
เรื่องสุดท้าย ท่านประธานคะ ดิฉันโตมาในยุคที่ต้องต่อสู้เรียกร้องให้คนที่มี ความหลากหลายทางเพศได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคนรักตรงเพศ หากรัฐสภาแห่งนี้รับ ร่างหลักการ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมภาคประชาชน รัฐสภาแห่งนี้จะได้มอบความหวังให้กับ ประชาชนที่กำลังผลักดันนโยบายเพื่อสร้างความคุ้มครองและสิทธิที่เท่าเทียมให้กับ คนที่มีความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ ที่กำลังจะเดินสู่ประตูรัฐสภาแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ. รับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแก้ไข พ.ร.บ. ปราบปรามการค้าประเวณี และรวมถึง พ.ร.บ. ขจัดการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบซึ่งกำลังจะเดินเข้าสู่รัฐสภาแห่งนี้ หากรัฐสภาโหวตรับหลักการ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมภาคประชาชน รัฐสภากำลังมอบ ความหวังและกำลังเป็นตัวอย่างให้ประชาชนทุกคนรู้ว่ารัฐสภาเปิดอ้าแขนและโอบรับ เรื่องปากท้อง เรื่องสิทธิเท่าเทียมของประชาชนทุกคน ในวันนี้ดิฉันเพียงแค่หวังว่าสมาชิก รัฐสภาทุกคนจะได้เห็นและสัมผัสถึงความรัก ความยุติธรรม และความเท่าเทียมกับ ร่างกฎหมายที่ใช่ ใช้ได้จริง ใช้ได้เลยของร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมภาคประชาชน ในลำดับถัดไปดิฉันขอเชิญ คุณนัยนา สุภาพึ่ง มากล่าวเพื่ออธิบายถึงหลักการสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมภาคประชาชนค่ะ ขอบคุณค่ะ
นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธาน ดิฉันนัยนา สุภาพึ่ง ในฐานะผู้แทนเสนอกฎหมายภาค ประชาชนนะคะ ขออนุญาตที่จะเรียกกฎหมายฉบับนี้เพื่อให้ประชาชนที่ติดตามทางบ้านเข้าใจ ทันทีที่พูดก็คือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับภาคประชาชน เพราะว่าเข้าใจว่าขณะนี้ ประชาชนที่อยู่ข้างหลังของคุณอรรณว์ วาดดาวชุมาพร แล้วก็ประชาชนทั่วประเทศคงกำลัง ติดตามผลการประชุมในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ ดิฉันอยากจะต่อประเด็นจากคุณณชเล ในประเด็นที่ว่าร่างที่ใช่ ใช้ได้จริง ใช้ได้เลยนะคะ ซึ่งเป็นการขยายความเข้าใจในหลักการและ เหตุผล ในข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๖ ที่คุณณชเลได้พูดถึงเรื่องของคู่สมรสที่รับผู้เยาว์เป็นบุตร บุญธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้เป็นบุพการีที่ชอบด้วยกฎหมายตาม บรรพ ๕ ลักษณะ ๒ หมวด ๒ ข้อ ๔ เนื่องจากว่าคู่สมรสที่รับบุตรบุญธรรมแล้ว บทบาทของ การเป็นพ่อแม่บุพการีตามกฎหมายอื่น ๆ อีกมากมายในประเทศนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักประกันเรื่องประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเมื่อกฎหมาย ฉบับนี้ได้รับการแก้ไขตามเจตนารมณ์ของรัฐสภาที่ต้องการให้คู่สมรสทุกคู่ได้รับการคุ้มครอง ตามกฎหมายเสมอหน้าเท่าเทียมกันนี้ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะว่าเมื่อเวลาที่คู่สมรสที่เป็นคู่รักเพศเดียวกัน ไปโรงเรียน ไปโรงพยาบาล สิ่งที่จะต้อง ถูกถามโดยทันทีทันใด ยกตัวอย่างเมื่อสักครู่นี้ที่บอกว่ามีอุบัติเหตุแล้วก็ป่วยต้องได้รับ การรักษาในทันที ทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาล ถ้าเขาเห็นเราเป็นผู้หญิงเขาก็จะถามว่าเราเป็น อะไรกับคนป่วย ถ้าเราบอกว่าเราเป็นคู่สมรสกัน เขาก็จะบอกว่าคุณเป็นภรรยาหรือ คุณเป็น สามีหรืออะไรอย่างนี้ ซึ่งคู่สมรสที่เป็นคู่รักเพศเดียวกันก็จะไม่ยินดีที่จะให้พูดว่านี่คือสามี หรือภรรยา เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ผลิตซ้ำความรุนแรง แล้วก็ทำให้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมกันนี้กลายเป็นเครื่องมือให้บุคลากรของรัฐ ซึ่งทำหน้าที่ให้บริการ ประชาชนอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ นั้น เลือกปฏิบัติ หรือละเมิดสิทธิหรือใช้ความรุนแรง โดยไม่รู้ตัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นถ้อยคำในกฎหมายที่จะระบุในเรื่องของบทเฉพาะกาล ต่อไปนี้ จะต้องมีระยะเวลาใช่ไหมว่าหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไปนี้ ก็จะมี ระยะเวลาที่จะให้หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายลำดับรอง ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย หลายฉบับนี้ จะต้องเสนอร่างกฎหมายมาเพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายฉบับนี้ ก็จะต้องใช้เวลาอีกเกือบปีเพื่อที่จะให้กฎหมายหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ นั่นหมายความว่าจะมีคนที่จะต้องสูญเสียชีวิต หรือรู้สึกว่าจะต้องตายตามไป ด้วยอีกกี่คน แล้วหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นหลักการ และเหตุผลของฉบับภาคประชาชนก็คือ เมื่อสักครู่นี้คุณณชเลใช้คำว่า ร่างที่ใช่ ใช้ได้จริง ใช้ได้เลย นั่นหมายความว่าหลักประกันเรื่องบุพการี จะต้องหมายถึง อย่างภาษาอังกฤษ เขาใช้คำว่า Parent ใช่ไหมคะ ซึ่งเขาจะไม่ได้แยกเพศเลย ไปโรงเรียนก็ไม่มีใครจะต้องมา ถามว่าใครคือพ่อ ใครคือแม่ แต่ภาษาไทยเรามีคำว่า บิดามารดา มีคำว่า สามีภรรยา เพราะฉะนั้นในทุก ๆ ที่ ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับนี้แก้ไขจะต้องระบุไปเลย ว่าในบรรดากฎหมายลำดับรอง ๆ ลงไปที่จะต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับนี้จะต้อง หมายรวมถึงบุพการีตามประมวลกฎหมายนี้ในทันที เพื่อที่จะทำให้หลังจากประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาแล้ว แผ่นดินนี้จะได้ไม่มีใครกระทำความรุนแรงในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่การศึกษา พื้นที่การทำงาน พื้นที่ในการรักษาพยาบาล อันนี้เป็นหลักการและเหตุผล ที่เกี่ยวข้องกับ ข้อ ๔ ข้อ ๕
นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อเสนอ กฎหมาย ต้นฉบับ
ต่อไปเป็นหลักการ ข้อ ๖ เท่าที่ติดตามร่างของรัฐบาล แล้วก็ร่างของ พรรคก้าวไกล แล้วก็ล่าสุดนี้ได้ทราบว่ามีร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งดิฉันเห็นว่า ล้วนแล้วแต่มีเรื่องของบทเฉพาะกาลที่จะต้องพูดเรื่องระยะเวลาที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย การที่ดิฉันเองเป็นนักกฎหมายแล้วได้มีโอกาสที่จะต้องผลักดันให้กฎหมายลำดับรองลงไปนี้ แก้ไขให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เป็นหลักการนี้ พบว่ามันต้องใช้เวลานานมาก แล้วบางครั้ง ก็ไม่สามารถที่จะลุล่วงไปได้ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้นในโอกาส ที่สภาแห่งนี้ ดิฉันคิดว่าตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้มีโอกาสรับรู้ รับทราบว่าเจตนาในการที่เราจะสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และลดความรุนแรงของ กฎหมาย เพราะว่ากฎหมายในประเทศนี้เป็นกฎหมายที่เลือกปฏิบัติและกระทำความรุนแรง ต่อประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ปฏิบัติตามกฎหมายก็ยืนยันว่าต้องทำตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นละเว้นมีความผิดอีก เพราะฉะนั้นไม่อยากเห็นเลยว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สมรสเท่าเทียมหรือ แก้ไขสมรสเท่าเทียมแล้วหลังประกาศราชกิจจานุเบกษาเราจะได้รับฟังคำร้องที่บอกว่า ไปจดทะเบียนที่นั่นก็ไม่ได้ ไปโรงเรียนแล้วก็ถูกถามว่าคนไหนพ่อ คนไหนแม่ ไปโรงพยาบาล ก็ถูกถามว่าคนไหนสามีหรือภรรยา ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำความรุนแรงต่อหน้ากฎหมาย ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นรายละเอียดของภาคประชาชนตรงจุดนี้ก็อยากจะให้เพิ่มเติม หลักการสำคัญไว้ว่าเมื่อมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้มีผลบังคับใช้ได้เลย และระหว่างนี้ดิฉันคิดว่าในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้นำในการนำร่างนี้เข้าสู่การพิจารณา รัฐบาล สามารถมีบัญชาที่จะให้หน่วยงานรัฐราชการเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ภายหลังประกาศราชกิจจานุเบกษาได้โดยพลัน ซึ่งตัวอย่างมีแล้วในสหรัฐอเมริกาสมรส เท่าเทียมเขาเกิดมาเกือบ ๑๐ ปีแล้ว โดยพลันที่มีคำสั่งให้สมรสเท่าเทียมได้ทุกเพศนี้ ประชาชนไปจดทะเบียนสมรส เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจสูงสุด ในกระทรวงยุติธรรมที่จะให้ออกระเบียบกฎเกณฑ์มาให้กลุ่มหลากหลายทางเพศจดทะเบียน สมรสได้ จึงไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ผู้แทนประชาชนยกหูโทรศัพท์ถึงผู้มีอำนาจสูงสุด ในกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา ผู้แทนมีอำนาจสูงสุดของกระทรวงยุติธรรม ติดต่อไป ยังประธานาธิบดี วันรุ่งขึ้นรองประธานาธิบดีมาดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้ด้วยตัวเอง พร้อม ๆ กับเจ้าหน้าที่ อันนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะฉะนั้นดิฉันคิดว่าในฐานะที่รัฐบาลซึ่งเป็น ผู้นำในการบริหารประเทศ ในระหว่างที่มีการพิจารณาในวาระต่อ ๆ ไปสามารถที่จะดำเนินการ ในทางบริหารได้เลยเพื่อเป็นหลักประกันว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังค่ะ อยากขอสรุปตรงนี้ ว่าหลักการเพิ่มเติมของภาคประชาชน ก็คือเราต้องการร่างแก้ไขประมวลกฎหมายที่ใช่ กฎหมายที่มีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้จริงทันที และใช้ได้เลย ขอบพระคุณค่ะ
นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อ เสนอกฎหมาย ต้นฉบับ
ขอบคุณ คุณนัยนานะคะ แล้วก็ขอขอบคุณ คุณณชเลด้วยนะคะ สำหรับ การช่วยสนับสนุนเรื่องของหลักการและเหตุผล ท่านประธานคะ จริง ๆ ก็อาจจะ ขออนุญาตสรุป อย่างที่บอกไปว่าทางเดินของเราคือเส้นทางของความเท่าเทียม ในปี ๒๕๖๔ ที่เคยเล่าให้ฟัง พวกเราในนามภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม เราเห็นความยากลำบากในสภา มากว่าจะรับหลักการประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ และหลายคนที่เราไปเจอเขา ก็จะบอกว่าประเทศไทยอาจจะยังไม่พร้อมและอย่างที่เล่าให้ฟังว่าเราได้เปิดเว็บไซต์ www.support1448.org ตรงนี้ ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ว่าตอนนี้มีคนลงรายชื่อจำนวนเท่าไร นี่คือเสียง Voter ของทุกท่าน ทราบไหมว่าภายใน ๑ ชั่วโมงเราได้รับรายชื่อ ๑๐๐,๐๐๐ คน ทันที และนี่คือปรากฏการณ์ที่พวกเราสร้างร่วมกัน การเดินทางของเราอย่างที่บอกไปว่าเรา เดินทางมาจากท้องถนน เสียงสมรสเท่าเทียมที่เกิดขึ้นอย่างที่ สส. ครูธัญวัจน์ได้แจ้งว่า ในปี ๒๕๕๒ มีงาน Pride ที่จังหวัดเชียงใหม่ เขาเรียกว่าเกิดความรุนแรงที่จัดงาน Pride ต่อไม่ได้ ในปี ๒๕๖๒ ก่อนการเลือกตั้งไม่นาน เดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๒ คำว่า สมรส เท่าเทียม ได้ตะโกนในงาน Chiang Mai Pride ซึ่งทุกคนอาจจะเห็นภาพเยอะแยะมากมาย และส่งต่อธงรุ้งไปสู่เยาวชนในปี ๒๕๖๓ ท่านคะ ปรากฏการณ์แห่งนี้เป็นปรากฏการณ์ของ สังคมและปรากฎการณ์ของชุมชนจริง ๆ คนเหล่านี้ที่นั่งอยู่กับดิฉันที่ต่อสู้มา ๑๕ ปี และคน เหล่านั้นที่ร่วมกันในนามภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียมนั่นแหละ ที่จัดงาน Pride ทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้รู้สึกถึงการเฉลิมฉลอง คนเหล่านี้นี่แหละที่สร้างขบวน Bangkok Pride อย่างยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน การเสนอ ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมวันนี้เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่มี ๔ ฉบับ เสนอหลักการเดียวกัน นั่นก็คือการเสนอประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้สิทธิของทุกคนเท่าเทียมกันอย่างที่ ดิฉันได้เสนอว่าควรจะได้รับความเสมอภาคกันตามกฎหมาย ท่านคะ สิ่งที่เราอยากจะพูด อันสุดท้ายเราก็เชื่อว่าวันนี้เราจะได้รับฟังข่าวดีก่อนปีใหม่ใช่ไหมคะคุณณชเล และเราก็เชื่อว่า หลังจากนั้นเราจะร่วมกันพิจารณาร่างที่ดีที่สุดเพื่อที่ในช่วงวัน Valentine เราจะมีโอกาสได้ เห็นการพูดถึงเรื่องเหล่านี้ในรัฐสภาอีกครั้งเพื่อให้เดือน Pride Parade ในปี ๒๐๒๔ ในงาน Bangkok Pride และงาน Pride ทั่วประเทศจากหลาย ๆ จังหวัด เป็นการเฉลิมฉลอง ของประเทศนี้ในเรื่องสมรสเท่าเทียมอย่างแท้จริง หลายคนอยากจะได้งานระดับโลกอย่าง World Pride World Conference แต่มันจะน่าอายมากถ้าหากว่าวันนั้นเราอยากจะเฉลิม ฉลองให้ทั่วโลกมา แต่กฎหมายเรื่องสมรสเท่าเทียม กฎหมายเรื่องการรับรองเพศสภาพ และ Sex Work ยังคงถูกจับจาก พ.ร.บ. การปราบปรามการค้าประเวณีทุก ๆ วัน การผ่าน กฎหมายสมรสเท่าเทียมและการผ่านกฎหมายต่าง ๆ เราถือว่าเป็นคำขอโทษอย่างเป็น ทางการจากรัฐที่พรากสิทธิการต่อต้านครอบครัวและพรากสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์จากประชาชน คำขอโทษเหล่านี้จะกลายเป็นคำมั่นสัญญาที่หนักแน่นที่สุด ที่รัฐจะประกาศให้กับเยาวชนเพศหลากหลายให้กับครอบครัวเพศหลากหลาย และให้กับ ทุกคนที่ต้องการอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ด้วยความสุข ความเสมอภาค และความเป็นธรรม และเราเชื่อว่าเสียงโหวตของท่านคือพลังหนึ่ง เพราะท่านคือคนที่เราเลือกมา ท่านมาจาก ประชาชน ขอบคุณมากค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ทางร่างที่ ๓ ของภาคประชาชนก็เสนอเสร็จแล้วนะครับ ต่อไปจะเป็นการเสนอ ในร่างสุดท้ายจากท่านสรรเพชญ บุญญามณี เชิญครับ
นายสรรเพชร บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนอื่นผมต้องถือโอกาสนี้ขอขอบคุณ คุณวทันยา บุนนาค และเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจากหลายพรรคการเมืองที่ได้ร่วมลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ว่าด้วยการสมรสหรือร่างกฎหมาย สมรสเท่าเทียมในวันนี้
นายสรรเพชร บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ ร่างกฎหมาย สมรสเท่าเทียมเป็นชื่อที่สังคมทั่วไปใช้เรียกกฎหมายที่รับรองการสมรสของผู้ที่มี ความหลากหลายทางเพศที่นอกเหนือไปจากการสมรสของเพศชายและเพศหญิง และมัน สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม การจำกัดสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคแห่งการสมรสของ สังคมไทยในปัจจุบัน ท่านประธานครับ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นพื้นฐานของทุกชีวิต ทุกชีวิตเกิดมาย่อมจะต้องสัมผัสกับความรัก โดยมีความรักเป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ ทั้งความรักของครอบครัว ความรักของพ่อแม่ ความรักของญาติพี่น้อง ความรักของเพื่อน ความรักของคนรัก ซึ่งเคยมีคนกล่าวไว้ว่า ความรักเป็นบ่อเกิดแห่งการปลูกฝังความเป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ คนเราทุกคนต่างมีความรักและใช้ความรักเป็นแรงในการขับเคลื่อนชีวิต กระผมเองเชื่อว่าความรักของมนุษย์ ไม่มีข้อจำกัดและไม่ควรมีกำแพงใด ๆ มากีดกั้นหรือเส้น กำหนดความรักระหว่างคน ๒ คน มนุษย์เราไม่ได้แตกต่างกัน มนุษย์เราไม่ได้หลงรักใคร เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง มนุษย์เราเพียงหลงรักใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้นเอง ท่านประธานที่เคารพครับ ท่านเคยได้ยินไหมครับว่า เพราะความรักไม่ได้เลือกเวลาเกิด ประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าความรักเป็นเพียงเรื่องของความรู้สึกดี ๆ ที่คน ๒ คน มีให้แก่กัน มีความคิดเห็นระหว่างบุคคล ๒ คนที่เห็นตรงกันว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ประคับประคองซึ่งกันและกัน หรือแยกจากกัน นั่นคือเรื่องส่วนบุคคลที่เราควรเคารพ ซึ่งสังคมไทยของเราในปัจจุบันมีการเปิดกว้าง แต่ยังไม่เปิดรับ การเปิดกว้าง คือการเป็น ที่ยอมรับสำหรับการแสดงตัวเป็นบุคคลที่มีรสนิยม มีการแสดงออกตามเพศวิถี หรือสร้าง ตัวตนแบบใดแบบหนึ่งอย่างกว้างขวาง แต่สังคมยังไม่ได้เปิดรับครับ คือยังไม่ได้ให้สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคในฐานะความเป็นคนที่เท่าเทียมกัน โดยการนำข้อจำกัดเรื่องเพศ เข้ามาเป็นตัวชี้วัดความรัก และการสร้างครอบครัวอย่างถูกกฎหมายของประชาชนทั่วไป สิทธิเสรีภาพความเท่าเทียม รวมถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะคอย เตือนเราว่าความรักไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเพศชายและเพศหญิง หรือเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มใด เป็นพิเศษ แต่ความรักเป็นเรื่องของบุคคล ๒ คนซึ่งมีให้กันและกัน สิทธิเสรีภาพในข้อนี้ จึงควรเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนของประเทศควรได้รับอย่างเท่าเทียม โดยเสมอภาคกัน และมีศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์คนหนึ่งอย่างเท่ากัน วันนี้หลายประเทศทั่วโลก ท่านประธานครับ ได้ปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ผ่านกฎหมายการสมรสเท่าเทียม เพราะเป็น สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในการสร้างครอบครัวโดยไม่จำกัดเพศไปแล้ว ปัจจุบันกว่า ๓๔ ประเทศทั่วโลก มีการรับรองการสมรสอย่างเท่าเทียม โดยประเทศล่าสุดคือประเทศ อันดอร์ราที่บังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศไต้หวันเป็นที่แห่งเดียวในเอเชียที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมในปี ๒๕๖๒ นั่นเท่ากับว่าหากสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ให้การอนุมัติร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เราก็จะ เป็นแห่งที่ ๒ ของเอเชีย ที่มีการมอบสิทธิเสรีภาพแห่งการสมรสนี้ให้ผู้ที่มีความหลากหลาย ทางเพศ ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่กระผมและเพื่อนสมาชิกผู้ร่วมเสนอได้เห็นพ้องต้องกัน ว่าเราควรแก้ไขในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดต่าง ๆ ในการ สมรส จดทะเบียนสมรส และการใช้ ชีวิตคู่เป็นคู่สมรส ไม่ว่าบุคคลเพศสภาพใด เมื่อสมรสกัน ก็จะได้สิทธิประโยชน์ที่กฎหมายรองรับ โดยไม่จำเป็นว่าคู่สมรสนั้นต้องเป็นเพศกำเนิด ชายและหญิงเท่านั้น อาทิ ให้คู่ระหว่างบุคคล ๒ คนมีสถานะทางกฎหมายเป็นคู่สมรส อายุขั้นต่ำในการจดทะเบียนสมรสคือ ๑๘ ปี สามารถจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ ได้สามารถจัดการทรัพย์สินร่วมกันได้ สามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้ สามารถรับมรดก ของคู่สมรสในกรณีที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมได้ สามารถจัดการทั้งคู่สมรสในกรณีเป็นผู้เสียหาย ในทางคดีอาญาได้ สามารถใช้นามสกุลของคู่สมรสได้ ไม่ต้องเสียภาษีมรดกกรณีรับมรดก จากคู่สมรสที่เสียชีวิต และสามารถตัดสินใจในทางการแพทย์ได้ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ครับท่านประธาน ภายใต้นิยามของการสมรสเรา ๆ ท่าน ๆ ทุกท่านในที่นี้และพี่น้องประชาชน ทุกคนจะมีสถานะเป็นปัจเจกบุคคล เป็นคนเท่ากันเหมือนกัน โดยมิได้แบ่งแยกเพศ ซึ่งการสมรสของชายหญิงในอดีตมีสิทธิอย่างไร ร่างกฎหมายสมรสฉบับนี้ก็จะมอบสิทธิ เหล่านั้นให้ทุกคนเช่นเดียวกัน ท่านประธานที่เคารพครับ กระผมขออนุญาตหยิบยกตัวอย่าง กรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงปลายปี ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา สุดแสนจะทรมานใจครับ ข้าราชการครู LGBTQ+ ท่านหนึ่งเป็นข้าราชการได้ใช้สิทธิเบิกค่ารักษาช่วยคู่ชีวิตของตนเอง ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับไม่ได้ หลังจากแต่งงานกันมา ๕ ปี เพราะอะไรครับ เพราะว่า กฎหมายไม่รองรับอย่างไรครับ เมื่อกฎหมายไม่เปิดช่อง คุณครูท่านนั้นจึงถูกจำกัดสิทธิพึงมี ไปโดยปริยาย สุดท้ายคู่ชีวิตของคุณครูท่านนั้นต้องจบชีวิตลง อย่างไรก็ดีครับท่านประธาน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของฐานะทางการเงิน แต่เรื่องนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงสิทธิที่บุคคลควรได้รับ แต่กลับไม่ได้รับเพียงเพราะข้อจำกัดทางกฎหมาย นี่จึงเป็นตัวอย่างและเหตุผลสำคัญที่เรา ควรช่วยกันผลักดันร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้ได้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุดครับ ต่อจากนี้ เราควรช่วยกันสร้างสังคมที่ยอมรับและเปิดรับความหลากหลายทางเพศ โดยไม่กำหนด กรอบและสร้างบรรทัดฐานทางเพศให้ใคร แต่ควรให้บุคคลนั้นเป็นผู้กำหนดตัวเอง เลือกแนวทางของตนเอง สร้างวิถีความเป็นตัวเองอย่างถูกต้อง และสร้างความเสมอภาคกัน ทางสังคมตามมาตรา ๒๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ว่าบุคคลย่อมเสมอกัน ในกฎหมาย มีสิทธิเสรีภาพและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ท่านประธาน ที่เคารพครับ กระผมเชื่ออย่างยิ่งว่าในสังคมประชาธิปไตยเราเชื่อว่ากฎหมายที่ดีต้องมุ่ง รองรับคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้คน โดยการขยายสิทธิเสรีภาพเหล่านั้นให้กว้างขึ้น มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิทธิเสรีภาพใหม่ ๆ ตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป แน่นอนครับ ผมกำลังอภิปรายถึงอำนาจนิติบัญญัติของสภาแห่งนี้ ที่ท่านกำลังจะทำหน้าที่ในการรับรอง และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้แก่คนไทยทุกคน วันนี้ผมขอถือโอกาสว่าสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแห่งนี้กำลังจะมอบของขวัญปีใหม่อันล้ำค่าให้กับพี่น้องคนไทยที่มีความหลากหลาย ทางเพศรวมถึงพี่น้องคนไทยทุกคน และผมเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สภาของเราจะได้ร่วมกัน อนุมัติร่างกฎหมาย พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่ทันโลก ทันสมัยที่สุดแห่งยุคของพวกเรา ผมขอเชิญชวนเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ทุกพรรคการเมือง มาหลอมรวมเป็น หนึ่งเดียวเพื่อช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์อันน่าภูมิใจในฐานะที่เราเป็นคนเท่ากัน มีศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์เสมอกันในครั้งนี้ให้สำเร็จด้วย กราบขอบพระคุณท่านประธานครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านสมาชิกครับ มีท่านสมาชิกแสดงเจตจำนงที่จะอภิปราย ฝ่ายค้าน ๑๗ ท่าน ฝ่ายรัฐบาล ๓๒ ท่าน รวมแล้วก็ประมาณ ๕ ชั่วโมงกว่า ๆ ถ้าจะ ๕ นาทีได้ไหม หรือว่าจะเอา ๗ นาที ตามปกติ ท่านณัฐวุฒิครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ ผม ณัฐวุฒิ บัวประทุม เนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญ และพี่น้องประชาชนติดตามกันเป็น จำนวนมาก เพื่อนสมาชิกส่วนใหญ่จะเตรียมเนื้อหากันมา ๗ นาที มีบางท่านขอ ๑๐ นาทีด้วย ๑๕ นาทีด้วย ผมคิดว่าเดินไปแบบนี้ก่อนดีกว่าครับท่านประธาน แล้วเดี๋ยวไปค่อนทาง อย่างไร ประเด็นซ้ำกัน ซึ่งท่านประธานก็จะแนะนำอยู่เสมอ เดี๋ยวค่อยหารือดูกันอีกทีหนึ่ง แต่ขออนุญาตเบื้องต้นเป็น ๗ นาทีต่อท่านไปก่อนครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านสมาชิกที่อภิปรายท่านแรก ท่านอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ท่านที่ ๒ ท่านฐากร ตัณฑสิทธิ์ ท่านที่ ๓ ท่านขัตติยา สวัสดิผล เชิญท่านอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ครับ
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย เรื่องราวของกฎหมายสมรสเท่าเทียมเดิมมีแนวคิดเสนอให้ คนรักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยครับ แต่ในยุคนั้น สังคมยังไม่ได้เปิดเผยเหมือนกับยุคนี้ ข้อเสนอนั้นก็ยุติไปครับท่านประธาน จนมีเหตุการณ์ สำคัญในปี ๒๕๖๖ ก็คือคู่รักเพศเดียวกันได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อขอจดทะเบียนสมรส แต่นายอำเภอแจ้งว่าไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เพราะว่าขัด ต่อกฎหมาย
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
ซึ่งขณะนั้นนายกรัฐมนตรีคือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำการศึกษาข้อกฎหมายว่าด้วยการแต่งงานของคู่สมรสที่เป็น เพศเดียวกัน แต่ก็เกิดรัฐประหาร แนวคิดนั้นก็ไม่ได้สานต่อครับท่านประธาน ๑๑ ปีผ่านไป ร่างกฎหมายที่จะให้สิทธิคู่รักเพศเดียวกันก็สามารถสมรสกันได้ หรือสมรสเท่าเทียมกำลังจะ สำเร็จในวันนี้ ผมจึงขออภิปรายว่าทำไมประเทศไทยจึงต้องมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สถาบันครอบครัวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ประชาชน แต่การก่อร่างสร้างตัวจำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งไม่สอดคล้อง กับสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีอยู่ของบุคคลที่เป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิด ท่านประธานครับ ความรักนั้นไม่ได้แบ่งเพียงชายหรือหญิงเพียงอย่างเดียว มันยังมีความหลากหลายทางเพศ ที่การได้อยู่ร่วมกัน การดูแลกัน การช่วยเหลือกันที่ไม่ต่างชายและหญิง และหากทุกท่าน หันมองไปรอบๆ ตัวของเราทุกท่าน นึกถึงคนที่อยู่รอบตัวท่านในทุก ๆ เวลาเราจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมันไม่ได้มีเพียงแค่สีฟ้า หรือสีชมพูอีกต่อไป มันไม่ได้มีเพียงคำว่าชายหรือหญิง อีกต่อไป และด้วยวัฒนธรรมประเพณีและบรรทัดฐานทางสังคมทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ส่งผลให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับสิทธิที่ควรจะได้รับ และก่อให้เกิดปัญหาการล้อเลียน รังแกไปจนถึง การโดนปฏิเสธเข้าทำงานหรือไม่ได้รับสิทธิในการรักษาสุขภาพที่เหมาะสม การถูกปฏิบัติตัว อย่างไม่เป็นธรรม มีให้เห็นมากมาย และมีความรุนแรงแตกต่างกันไปจนอาจถึงขั้นเสี่ยงต่อ ชีวิตได้ และการที่กฎหมายยังไม่มีการรับรองสิทธิและหน้าที่ของคู่รักเพศเดียวกัน ก่อให้เกิด ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น สิทธิในการตัดสินใจในการรักษาพยาบาล สิทธิใน การอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน สิทธิในการจัดทรัพย์สินร่วมกัน และสิทธิในการรับมรดก ในเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้สร้างประวัติศาสตร์ต่อรัฐสภา เนื่องจากมีประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นมากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน มาตรา๗๗ ในกรณีเรียกร้องสมรสเท่าเทียมมากกว่า ๕๔,๐๐๐ คน และการสำรวจจาก Kid for Kids โดย 101 PUB ร่วมกับ สสส. ครับ มีประชาชนมากกว่า ๑๗,๐๐๐ คนมีความ คิดเห็นว่าควรสนับสนุนสิทธิของ LGBTQ ในด้านต่าง ๆ อีกทั้งคนไทยยังมีความสนใจในเรื่องความหลากหลายในหัวข้อ LGBTQ เพิ่มขึ้นถึง ๑๑๐ เปอร์เซ็นต์ และสมรสเท่าเทียมเพิ่มขึ้นถึง ๘๐๐ เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี ๒๐๒๒ และสิ่งเหล่านี้ถ้าหาก ไม่ได้รับการแก้ไขและยังคงเป็นเฉกเช่น ณ ปัจจุบันจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้ครับท่านประธาน ผมมีประชาชนที่ประสบปัญหาโดยตรงจากคำจำกัดความเพียงแค่สามีภรรยา ท่านแรกครับ คุณดาว เพิ่มทรัพย์ คู่ชีวิตจะต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอุบัติเหตุ แต่กลับไม่สามารถเซ็น ยินยอมรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินได้เฉกเช่นสามีภรรยาตามกฎหมายบัญญัติ แล้วทำไมเขา ถึงไม่มีสิทธิที่จะปกป้องคนรัก คุณดลญาดาสูญเสียคนรักจากโรคมะเร็ง เพียงเพราะการเข้า ไม่ถึงสิทธิสมรสตามกฎหมายจึงทำให้เกิดการสูญเสีย ผมถามว่า ๒ เคสเขาผิดอะไรครับ ท่านประธาน การที่ประชาชนจะต้องเผชิญหน้ากับคำจำกัดความเหล่านี้ ก่อให้เกิดความสูญเสีย พวกเขาเพียงต้องการเติมพื้นที่ให้เต็ม ให้ทุกคนสามารถยืนให้เท่ากันด้วยสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยไม่ลดทอนพื้นที่ของใคร ผมเชื่อว่าสมรสเท่าเทียมคือก้าวแรกของการสร้างบรรทัดฐาน ของสังคมไทยให้เปิดรับความแตกต่างนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติการรับรองสิทธิของบุคคลว่าบุคคล ย่อมเสมอกัน ในกฎหมายมีสิทธิเสรีภาพและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลไม่ว่าด้วยเหตุผลความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา อายุ ความพิการจะกระทำมิได้ แต่วันนี้การที่รัฐธรรมนูญได้เขียนข้อกำหนด ไว้เช่นนี้ก็เพื่อขจัดอุปสรรคและส่งเสริมให้บุคคลสามารถมีสิทธิและเสรีภาพ จึงสมควรแก้ไข เพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อรับรองคู่สมรสเพศ เดียวกันให้สามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเพศใดครับ โดยการแก้ไขกฎหมายอยู่ภายใต้ ๓ แนวคิด คือ ๑. ความเท่าเทียม ๒. ไม่ลดทอนความศรัทธา ๓. สิทธิในการเลือกใช้ ในมาตรา ๖๖ ผมเข้าใจดีครับท่านประธาน ว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมอาจจะทำให้พี่น้อง บางคนไม่สบายใจในเรื่องของหลักศาสนาและในเรื่องของความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเรา ไปดูในเอกสารประกอบร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่เสนอโดยรัฐบาล ได้มีการรับฟัง ความเห็นจากผู้แทนกลุ่มศาสนาที่มีต่อร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ โดยจะมีการระบุว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่แก้ไขเพิ่มเติม จะมิใช่ข้อบังคับแก่ กรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่องของครอบครัวหรือมรดกไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ที่มีหลักความเชื่อทางศาสนาเฉพาะตน โดยจะไม่ กระทบต่อวัฒนธรรม วิถีชีวิต พิธีกรรมทางศาสนา ความรู้สึก เพราะกฎหมายฉบับนี้ เปรียบเสมือนกฎหมายทางเลือกให้คนได้เลือกใช้ และหากจะดูการแก้ไขจะเห็นได้ว่าเราได้มี การเปลี่ยนการบัญญัติของกฎหมายให้ครอบคลุมต่อทุกคนในทุก ๆ ด้าน ท่านประธานครับ สมรสเท่าเทียมนั้นดีจริงหรือ ผมจะมาอธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งขออนุญาตยกตัวอย่างจากประเทศที่มีการปลดล็อกกฎหมายนี้ ปัจจุบันประเทศที่มี กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีทั้งหมด ๓๔ ประเทศ และมีประเทศในการรณรงค์เรื่องนี้ ๕ ประเทศ และหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย แล้วเราจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งที่มีการรณรงค์และมี การออกกฎหมายในเรื่องของสมรสเท่าเทียมในปี ๒๐๑๕ จะเห็นได้ว่าอัตราการยอมรับสมรส เท่าเทียมมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น ๖๑ เปอร์เซ็นต์ และอัตราการยอมรับในสมรสเท่าเทียมจาก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง ๓๑ เปอร์เซ็นต์ ในปี ๒๐๑๙ อีกทั้งการปลดล็อกสมรสเท่าเทียม ยังมีส่วนทำให้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสลดลงร้อยละ ๒๙ จากเดิม ๔๕ โดยเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม นอกจากนั้นสมาคมจิตเวช จิตวิทยา สหรัฐอเมริกา ยังชี้ให้เห็นว่าการปลดล็อกนี้มีผลต่อการยอมรับทางสังคมเป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพกายและใจอีกทั้งทำให้คู่ชีวิตยืนยาวขึ้น และจาก Think Forward Center ชี้ว่าแรงกระทบ ของสมรสเท่าเทียมนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเหลือประเด็นที่กล่าวมา ยังลดสถิติเด็กกำพร้า ในประเทศลง อีกทั้งช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตอีกด้วย
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
สรุป ๆ เลยนะครับ
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
จะจบแล้วครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นการปลดล็อกสมรสเท่าเทียมล้วนมีประโยชน์ไม่เพียงแต่ประชาชน แต่ในเชิง เศรษฐกิจก็สามารถเป็นแรงขับเคลื่อน ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียกว่า ๖.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ
สุดท้ายครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ในฐานะประชาชน คนหนึ่ง ขอขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทุก ๆ ภาคส่วน และเหนือสิ่งอื่นใดคือ พี่น้องประชาชนทุกคน ที่ช่วยเหลือผลักดันที่จะทำให้เกิดขึ้น ที่จะทำให้มนุษย์คน ๆ หนึ่ง สามารถรักมนุษย์อีกคนได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไป ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ก็ถือว่าทุกท่านจริงจังต่อเรื่องนี้นะครับ ก็ให้เลยเวลานิดหน่อย สภาผู้แทนราษฎร ขอต้อนรับคณะผู้บริหาร คณะครู และกรรมการนักเรียนโรงเรียนดรุณสิกขาลัย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สภาผู้แทนราษฎรยินดีต้อนรับ แล้วก็สภาผู้แทนราษฎร ยินดีต้อนรับคณะครู นักเรียน นักศึกษา สาขาวิชาการจัดการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี สภาผู้แทนราษฎรยินดีต้อนรับครับ ท่านสมาชิกครับ เนื่องจากว่านาฬิกาจับเวลาของเราข้างหน้านี้เสีย ฉะนั้นขอให้ท่านสมาชิก ที่อภิปรายดูที่จอทั้ง ๒ ข้างนะครับ ตัวเลข ๗ นาที ถ้าเป็นสีแดงก็คือว่าเลยเวลา ๗ นาที ท่านรักษาเวลาด้วยนะครับ เพราะว่ามีอยู่ร่วม ๔๐ กว่าท่าน เกือบ ๕๐ ท่านนะครับ รักษา เวลาด้วยครับ ต่อไปท่านฐากร ตัณฑสิทธิ์ เชิญครับ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทยครับ ผมขออภิปรายร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมดังนี้ครับ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ก่อนอื่นผมรู้สึกดีใจที่ได้เห็นร่าง กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ถูกนำเข้าสู่การอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเสียที ผมเห็นด้วย อย่างยิ่งกับการบัญญัติกฎหมายรับรองสิทธิของบุคคล ไม่ว่าจะมีเพศกำเนิด เพศสภาพ เพศวิถี หรืออัตลักษณ์ หากเพศใดที่จะสมรสกันตามกฎหมาย ในสภาพสังคมปัจจุบันที่ผู้คนเลือกอยู่โสดกันมากขึ้นจนเป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อคนไทย ไม่อยากมีลูกหรือมีลูกน้อยอย่างน่าตกใจ กฎหมายฉบับนี้จะเป็นแรงสำคัญที่ส่งเสริมให้ สถาบันครอบครัวเข้มแข็งยิ่งขึ้น สำหรับผมการมีคู่ชีวิตและการมีครอบครัวที่ดี คือปัจจัย ที่สำคัญที่ผลักดันให้ชีวิตเราทุกคนมีความสุขและมีทุกวันนี้ได้ ผมจึงอยากเห็นลูกหลานของ เราทุกคนได้รับโอกาสนี้ การมีสิทธิในการสร้างครอบครัวดังเช่นที่เราทุกคนเคยได้รับกันมา เช่นกัน กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญเป็นเครื่องมือเดียวที่ให้สิทธิในการสร้างครอบครัวให้เกิด เป็นรูปธรรม และให้เกิดเป็นสิทธิที่บุคคลทุกคนสามารถเข้าถึงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์บัญญัติเงื่อนไขแห่งการสมรสไว้เฉพาะชายและหญิงเท่านั้น ทำให้กลุ่มบุคคล หลากหลายทางเพศที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว แต่ได้เลือกใช้ชีวิตร่วมกันอย่างคู่ชีวิตและปฏิบัติ ต่อกันในทางพฤตินัย ดังเช่นคู่สมรสตามความมุ่งหมายของกฎหมายทุกประการ ต้องถูกกัน ออกจากระบบการจดทะเบียนสมรส ทำให้ความสามารถในการเข้าถึงสิทธิในการสร้าง ครอบครัวของพวกเขาต้องถูกบั่นทอนลง เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีชายหญิงที่ได้จดทะเบียน สมรสแล้ว ทำให้เกิดสิทธิตามกฎหมาย เช่น สิทธิในการเป็นทายาทโดยธรรม สิทธิใน การจัดการทรัพย์สินร่วมกัน สิทธิในการดำเนินคดีร่วมกันหรือแทนกัน สิทธิในการรับบุตร บุญธรรมร่วมกัน และสิทธิอื่น ๆ อีกมากมาย หากขาดการรับรองสิทธิในการจดทะเบียน สมรสตามกฎหมาย กลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศย่อมไม่สามารถเข้าถึงสิทธิเหล่านี้ได้ มีผลเป็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุของเพศกำเนิด เพศสภาพ อัตลักษณ์ทางเพศและเพศวิถี ไปโดยปริยาย กลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศรอคอยกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้มาเนิ่นนาน ผมต้องขอชื่นชมและขอขอบคุณทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน ภาคการเมือง หรือภาคราชการที่ได้ร่วมกันผลักดันรับรองสิทธิในการสมรสของกลุ่มบุคคลหลากหลาย ทางเพศ นับแต่ที่ได้มีความพยายามเสนอแก้ไขกฎหมาย ไม่ว่าจะโดยการเสนอร่าง พระราชบัญญัติคู่ชีวิตหรือการเสนอร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของท่านสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจากพรรคก้าวไกลก็ตาม จนถึงเวลานี้คณะรัฐมนตรีมีมติให้เสนอร่างกฎหมายนี้ ต่อสภาผู้แทนราษฎร แม้จะเห็นได้ว่าร่างกฎหมายแต่ละฉบับที่เสนอโดยแต่ละภาคส่วนจะมี ความแตกต่างในรายละเอียดอยู่บ้าง แต่ก็ต้องกล่าวว่าทุกเรื่องราวที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็น อย่างกระจ่างแจ้งว่า สังคมไทยได้มีฉันทามติร่วมกันแล้วว่าถึงเวลาเสียทีที่ประเทศไทยจะเลิก เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศ และให้การรับรองสิทธิในการสมรส อย่างเท่าเทียม ฉะนั้นแม้ว่าแต่ละฝ่ายจะมีความเห็นแตกต่างกันบ้างในประเด็นรายละเอียด ผมก็อยากจะขอให้ทุกคนร่วมกันรับฟัง โดยละทิ้งอคติทางการเมือง แล้วร่วมกันผลักดัน กฎหมายนี้ให้สามารถคลอดออกมาได้โดยเร็วทันที เพราะสุดท้ายแล้วยังมีคนอีกมากมาย ที่รอคอยจะสร้างครอบครัวอยู่และพวกเขาเหล่านั้นก็รอคอยกันมาเนิ่นนานแล้วเช่นกัน ในฐานะที่ผมเป็นนักกฎหมาย ผมเห็นชอบอย่างยิ่งกับบทบัญญัติของร่างกฎหมายฉบับนี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการแรก บทบัญญัติแห่งร่างกฎหมายฉบับนี้มีหลักการแก้ไขถ้อยคำ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ ๕ ลักษณะ ๑ การสมรสจากเดิมที่กฎหมายใช้ คำว่า ชาย หญิง สามี ภริยา ตลอดจนลักษณะทำให้เกิดเงื่อนไขว่าผู้ที่จะสมรสกันได้จะต้อง เป็นชายและหญิงเท่านั้น ร่างพระราชบัญญัตินี้ได้แก้ไขถ้อยคำดังกล่าวเป็นคำว่า บุคคลและ คู่สมรสแทน จากนั้นจึงได้แก้ไขบทบัญญัติในส่วนอื่นให้สอดคล้องกับการแก้ไขในส่วน ดังกล่าวตามไปด้วย ผมเห็นว่าการแก้ไขถ้อยคำดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอและ ไม่ต้องเกิดข้อสงสัยกันว่า คู่สมรสที่มิได้มีเพศกำเนิดเป็นเพศชาย เพศหญิงหรือไม่ เพราะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ได้แก้ไขตามร่างกฎหมายนี้ให้สิทธิต่อคู่สมรสหลากหลาย ทางเพศอย่างเท่าเทียมอย่างแน่นอน ผมเองยังรู้สึกทึ่งกับของร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าเพียง แก้ไขถ้อยคำเท่านั้นกลับสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนได้มากมายเหลือเกินครับ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ผมขอชื่นชมที่ร่างกฎหมายฉบับนี้เล็งเห็นถึงปัญหาที่อาจ เกิดจากกฎหมายประเภทอนุบัญญัติหรือกฎหมายลำดับรอง จึงบัญญัติในมาตรา ๖๗ ให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดำเนินการทบทวนกฎหมายในความรับผิดชอบเพื่อรับรอง สิทธิ หน้าที่ สถานะทางกฎหมาย หรือเรื่องอื่นใดที่เกี่ยวข้องให้แก่คู่สมรสตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามร่างพระราชบัญญัตินี้ด้วย และเสนอผลต่อ คณะรัฐมนตรีภายใน ๑๘๐ วัน นับแต่วันที่ร่างพระราชพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การบัญญัติ เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับการรับรองสิทธิของครอบครัวหลากหลายทางเพศ อย่างแท้จริง ซึ่งหากพิจารณาจากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด ๑๒๐ วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อรวม ๒ ระยะเวลาเข้าด้วยกัน ผมเชื่อว่า เป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง และเวลาที่ไม่เนิ่นนานไปสำหรับผู้ที่รอคอย แม้แต่ผม ยินดีอย่างไรกับการที่จะได้เห็นร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ถูกนำมาอภิปรายในสภาในวันนี้ ผมยังมีข้อกังวลว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ยังขาดบทบัญญัติที่ชัดเจนในการที่จะรองรับสิทธิ ในการมีบุตรของคู่สมรสความหลากหลายทางเพศ
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการแรก จะเห็นได้ว่าร่างพระราชบัญญัตินี้กับร่างพระราชบัญญัติที่เสนอ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล มีหลักการที่สอดคล้องกัน แต่แตกต่างกันที่ ร่างฉบับของพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการแก้ไขบทบัญญัติมาตรา ๑๕๙๘/๔๒ ความว่า ให้คู่สมรสที่จดทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายนี้มีสิทธิรับรองบุตรอื่น เป็นบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ จากการศึกษาประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผมเชื่อว่า สาเหตุที่ร่างกฎหมายฉบับนี้มิได้เสนอบทบัญญัติเพิ่มเติมดังกล่าว เป็นเพราะบทบัญญัติ ในมาตรา ๑๕๙๘/๒๖ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้สิทธิในการที่คู่สมรสจะได้รับบุตรบุญธรรม ร่วมกันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มบทบัญญัติใด ๆ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อีก แต่อย่างไรก็ตาม หากกรณีเป็นดังที่ผมเข้าใจอย่างที่อภิปรายไปนั้น ขอให้ผู้เสนอร่างกฎหมาย นี้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในข้อกฎหมายในส่วนนี้จะได้ไม่เกิดความสับสนกับคู่สมรส หลากหลายทางเพศ จะได้รับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้หรือไม่ อย่างไร
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านฐากร ท่านฟังหน่อยสิครับ ท่านอย่ามัวแต่ดูเอกสาร มันเลยเวลา เพราะว่ามีทั้ง ๕๐ ท่านนะครับ ท่านเอาเวลาให้คนอื่นบ้างนะครับ ขอบคุณครับ ต่อไปท่านขัตติยา สวัสดิผล ขอให้รักษาเวลา เพราะว่ามีตั้ง ๕๐ ท่าน เชิญครับ
นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
จะพยายามค่ะ ท่านประธาน ที่เคารพ ดิฉัน นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ดิฉันขอใช้เวทีสภาแห่งนี้อภิปรายยืนยันในหลักการ ว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้อง มีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อให้สิทธิแก่บุคคลที่อยู่ในเพศใดก็ตาม สามารถแต่งงานกันได้ หรือที่เราเรียกว่าสมรสเท่าเทียม โดยก่อนอื่นเราต้องไม่ปฏิเสธว่า ความหลากหลายทางเพศนั้นมีอยู่จริง และคนที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นก็คือมนุษย์ คนหนึ่งที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีสิทธิที่จะรักและมีสิทธิที่จะได้รับความรักไม่ต่างจากทุกคน ในสังคม ดังนั้นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศจึงไม่ใช่ผู้ที่ไม่มีตัวตนหรือผู้ที่มีความผิดแผก แต่อย่างใด อันจะเป็นข้ออ้างที่ทำให้เขาเหล่านั้นไม่สามารถเข้าถึงสิทธิที่เขาควรได้รับ อย่างไรก็ดีกฎหมายที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันมันยังพัฒนาไปไม่ทันกับวิวัฒนาการของสังคม และการตระหนักรู้ถึงการมีชีวิตอยู่ของความหลากหลายทางเพศ กฎหมายของเราจึงยัง ไม่สามารถทำหน้าที่ที่จะคุ้มครองสิทธิของประชาชนได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งเมื่อเรา ไปดูประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มันประกอบไปด้วยบทบัญญัติทั้งหมด ๖ บรรพ ด้วยกัน ล้อไปตามช่วงชีวิตของมนุษย์ที่ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมตั้งแต่เกิดเป็นบุคคล สร้างครอบครัว มีลูกไปจนตาย และไปจนถึงการจัดการมรดก โดยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เริ่มมีผลใช้บังคับในครั้งแรกเมื่อปี ๒๔๖๘ และกฎหมายฉบับนี้ก็ได้รับการแก้ไขเรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบัน ดิฉันขอเน้นบรรพ ๕ ที่ว่าด้วยเรื่องของครอบครัวอันเกี่ยวกับการสมรสค่ะ ซึ่งก็เคยมี การแก้ไขด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นการแก้ไขในปี ๒๕๑๙ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้อง กับแนวคิดและค่านิยมที่ว่าชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์นั้นมีพลวัตรตามสังคมอยู่ตลอด แต่บรรพ ๕ ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันค่ะ ก็ยังไม่อาจเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม วิถีชีวิต ค่านิยมที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป อย่างมาก ดังนั้นการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อีกครั้งก็จะเป็นประโยชน์กับ ประชาชน และถือเป็นวิวัฒนาการของกฎหมายที่พัฒนาไปตามวิถีชีวิตของประชาชน ท่านประธานคะ มีประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง นั่นคือประเด็นทางด้านศาสนา ซึ่งดิฉันเข้าใจและเคารพในความเชื่อและความศรัทธาตามหลักศาสนาของเพื่อนสมาชิก บางท่านที่ไม่อาจสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกการสมรสเท่าเทียมได้ แต่หากเรา มองว่าสมรสเท่าเทียมเป็นประเด็นทางกฎหมาย การจดทะเบียนสมรสก็เป็นสัญญาหนึ่ง ที่เหมือนนิติกรรมสัญญาอื่น ๆ ที่คู่บุคคล ๒ คน มีอิสระที่จะตกลงกันในข้อสัญญาต่าง ๆ ซึ่งทางกฎหมายเรียกว่า หลักอิสระทางแพ่งและหลักเสรีภาพในการทำสัญญา ซึ่งสิ่งนี้ อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาหรือพิธีกรรมทางศาสนา การรับสิทธิตามกฎหมายจาก การจดทะเบียนสมรสจึงไม่เกี่ยวข้องกับการรับสินสมรสทางจิตวิญญาณ รัฐไทยเราเป็นรัฐ ฆราวาส หรือเรียกว่า Secular State ที่กฎหมายต้องไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง แต่กฎหมายจะต้องบังคับใช้ได้กับประชาชนทั้งประเทศที่เต็มไปด้วยความเชื่อ และศาสนา รวมถึงพื้นที่ไม่มีศาสนาด้วย เช่นในโลกของศาสนาคริสต์ หลายประเทศที่มี คริสต์ศาสนิกชนได้ออกกฎหมายห้ามรักเพศเดียวกัน หรือที่เรียกว่า Sodomy Law โดยมี ที่มาจากพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งมีโทษจำคุกไปจนถึงประหารชีวิต แต่เมื่อสังคมและเพดาน ความคิดความเข้าใจของรัฐในเรื่องสิทธิเสรีภาพมีสูงขึ้น Sodomy Law จึงถูกยกเลิกไปใน โลกตะวันตก รวมถึงประเทศต่าง ๆ ที่เคยอยู่อาณานิคม เมื่อ ๒ วันก่อนเราจะเห็นข่าวความ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อโป๊ปฟรานซิส พระสันตะปาปา เป็นองค์แรกในประวัติศาสตร์ คริสตจักรที่ประทานอนุญาตให้บาทหลวง สามารถอำนวยพรให้แก่คู่รักเพศทางเลือกได้แม้ว่า จะยังทำพิธีศีลสมรสไม่ได้ก็ตาม ท่านประธานคะ ดิฉันขอพูดถึงมิติทางเศรษฐกิจค่ะ มีงานวิจัยของต่างประเทศที่ได้จากการสำรวจ ๑๓๒ ประเทศ และสำรวจมาตั้งแต่ปี ๑๙๖๖ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิทธิทางกฎหมายและการเติบโตทางเศรษฐกิจใน ประเทศ หรือ GDP นั้นแปรผันไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือถ้ากฎหมายคุ้มครองสิทธิมากขึ้น เศรษฐกิจก็มีแนวโน้มจะพัฒนามากขึ้น ประเทศที่พัฒนาทางเศรษฐกิจแล้วประชาชนมีรายได้ ต่อหัวสูงขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิบุคคลรวมถึง LGBTQ+ มากขึ้น ซึ่งนั่น เป็นตัวบ่งชี้ถึงวัฒนธรรมพื้นฐานที่เปิดกว้างและเอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์นำไปสู่การลงทุน จากต่างชาติ ในทางตรงกันข้ามประเทศที่มีอคติทางเพศและการเลือกปฏิบัติ จำกัดสิทธิ เสรีภาพ เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ช้ากว่า ยกตัวอย่างในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ปี ๒๐๑๙ ประเทศไต้หวันเป็นที่แรกในเอเชียที่ออกกฎหมายรับรองการสมรสของคนเพศ เดียวกัน ซึ่ง ณ ตอนนั้นบริษัทข้ามชาติรายใหญ่หลายแห่งได้พูดถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของประเทศไต้หวันจากผลของการรับรองกฎหมายนี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มี การเปรียบเทียบว่าก่อนจะมีการสมรสเท่าเทียมในสหรัฐอเมริกาคู่รักเพศเดียวกันต้องแบก รับภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตมากกว่าคู่รักต่างเพศถึง ๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ นั่นเพราะอาจไม่สามารถทำประกันคู่สมรสที่ทำงานได้ จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการพบแพทย์ เมื่อเจ็บป่วย นำไปสู่ค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ต้องรักษาโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังในภายหลัง และเมื่อศาลสูงของสหรัฐอเมริกาได้ตัดสินให้การสมรสของคู่รักเพศเดียวกันถูกกฎหมาย ครอบคลุม ๕๐ รัฐทั่วประเทศ ก็มีรายงานตัวเลขว่าภายใน ๕ ปี คือตั้งแต่ปี ๒๐๑๕ ถึงปี ๒๐๒๐ นั้น มีคู่รักเพศเดียวกันกว่า ๓,๐๐๐ คู่ได้จดทะเบียนสมรสและใช้จ่ายเกี่ยวกับ การแต่งงานเป็นจำนวนกว่า ๓,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำไปสู่การจ้างงานกว่า ๔๕,๐๐๐ ตำแหน่งค่ะ เพราะการจัดงานแต่งงานย่อมมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เช่น ค่าโรงแรม ค่าดอกไม้ ค่าชุดแต่งงาน ค่าอาหาร ซึ่งการบริโภคเหล่านี้มันช่วยกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากภาษีการขายและนำภาษีมาสู่รัฐและท้องถิ่น และสำหรับคู่แต่งงาน เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเวลาอยู่ตัวคนเดียว การครองเรือนด้วยกันยังช่วยลดต้นทุนค่าครอง ชีพอย่างมาก เพราะมันมีทรัพยากรที่สามารถใช้ร่วมกันได้ เช่นค่าเช่าบ้านหรือว่าค่าสาธารณูปโภค ดังนั้น การที่คู่รักเพศเดียวกันได้จดทะเบียนสมรสเหมือนคู่รักต่างเพศมันเป็นการยืนยันถึง การเคารพในศักดิ์ศรีของทุกเพศสภาพและเพศวิถีอย่างเสมอภาคกัน และแม้การจดทะเบียน สมรสจะเป็นทางเลือก แต่การมีทางเลือกย่อมดีกว่าการถูกปิดกั้นทางเลือกและตัดโอกาส เช่นเดียวกันการสมรสเท่าเทียมไม่ใช่เรื่องของ LGBTQ+ แต่เป็นเรื่องของประชาชน ทุกอัตลักษณ์และรสนิยมทางเพศที่มีคุณค่าเท่าเทียมกันค่ะ ขอต่ออีกนิดหนึ่งค่ะท่าน ในแง่ของหลักสากล ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ร่วมลงนามรับรองในหลักยอกยาการ์ตา เมื่อปี ๒๕๔๙ ซึ่งมีผลผูกพันให้รัฐภาคีต้องขจัดการละเมิดสิทธิอันเนื่องมาจากวิถีและ อัตลักษณ์ทางเพศ โดยหลักในข้อ ๒๔ ได้กล่าวไว้ว่า ทุกคนมีสิทธิในการก่อตั้งครอบครัว โดยไม่ขึ้นอยู่กับวิถีทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ และเมื่อปี ๒๕๕๙ ประเทศใดได้ให้ คำปฏิญาณโดยสมัครใจกับกระบวนการทบทวนสถานการณ์ทางสิทธิมนุษยชนว่าจะมี การทบทวนเงื่อนไขการสมรสมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ท่านประธานคะ สมรสเท่าเทียมจะยังคงเป็นประเด็นถกเถียงไปอีกนานในสังคม แต่เราไม่มีเหตุผลที่จะต้อง กีดกันการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อรอจนกว่าทุกคนในสังคมจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ขอบพระคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ เชิญครับ
นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉันทนายแจม ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๑๑ เขตสายไหม พรรคก้าวไกล แม่ลูกสองที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านการเมืองค่ะ วันนี้ ขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพราะว่านอกจากบทบาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดิฉันยังเป็นคุณแม่ของลูกอีก ๒ คนค่ะ เพื่อนสมาชิกคะ มีสถิติ บอกเอาไว้ว่า ๑ ใน ๓ ของเด็กไทยที่เป็น LGBTQ ถูกทำร้ายร่างกายเพราะตัวตนทางเพศ ร้อยละ ๓๑ บอกว่าเคยมีประสบการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย ๒๙ เปอร์เซ็นต์ ถูกทำร้ายจิตใจ ๓๖ เปอร์เซ็นต์ ถูกกระทำทางสังคม และที่น่าตกใจก็คือว่าผลวิจัยบอกไว้ในเชิงลึกว่า LGBTQ ที่เป็นนักเรียนที่ถูกรังแกร้อยละ ๗ นี้เคยพยายามฆ่าตัวตายเพราะการกระทำดังกล่าวค่ะ ท่านประธานคะ ลูกชายคนโตของดิฉันอายุ ๗ ขวบ ลูกสาวอายุ ๕ ขวบ โดยเพศสภาพ ชายหญิงในวันนี้ แต่ในอนาคตดิฉันไม่สามารถทราบได้เลยว่าลูกทั้งสองจะเลือกเพศอะไร ในอนาคตค่ะ ในความเป็นแม่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกเกิดมาลูกคือของขวัญ ลูกคือความรัก คือความสุข คือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เราอยากจะประคับประคอง อยากดูแลเขาให้ดีที่สุด เราไม่มี บุญคุณต่อกัน ลูกเกิดมาเพราะความต้องการของพ่อแม่ เราจึงมีหน้าที่ในการปกป้องดูแลเขา ให้ดีที่สุด แต่เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเราไม่สามารถปกป้องและดูแลลูกของเราไปได้ตลอดชีวิต ทุกท่านคะ ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากเห็นลูกของตัวเองถูกรังแกหรือถูกมองว่าแปลกแยก จากคนอื่น หรือถูกตีตราจากสังคม หรือถูกทำร้ายเพียงเพราะเขามีตัวตนทางเพศที่ไม่เหมือน คนอื่น หรือต้องมีความรักที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่สามารถใช้ชีวิตกับคนรักอย่างถูกกฎหมายได้ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในบ้านสำคัญค่ะ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นเพศไหน การได้รับการยอมรับ ความเข้าใจจากคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุด แต่ทุกท่านคะ การสร้างสังคม ที่โอบรับทุกความแตกต่างทั้งนอกบ้านก็สำคัญไม่ต่างกัน เพราะว่าต่อให้เราจะดูแลลูก เราดีขนาดไหน เข้าใจลูกเราขนาดไหน แต่ถ้าเขาออกไปข้างนอกเขาต้องไปเผชิญสังคม ที่แท้จริงอยู่ดี เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมตั้งแต่ตอนนี้สำคัญกับเด็ก ๆ ที่มีความหลากหลายทางเพศที่กำลังเติบโต เราจะไม่วางลวดหนามในอนาคตของพวกเขาค่ะ แต่เราจะโปรยกระดาษสีรุ้งและเฉลิมฉลอง Pride Always เพื่อพวกเขาแทน เพราะวัน ข้างหน้าหากลูกของดิฉันทั้ง ๒ คนเติบโต บทบาทความเป็นแม่ของเราก็จะเหลือแต่ว่าสอนให้ เขาใจดีกับคนอื่น สอนให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาอยากจะเป็น เขาจะเติบโตมาด้วยความกล้า ที่จะรัก กล้าที่จะแสดงออกว่ารัก และใช้สิทธิของเขาได้อย่างเต็มที่ในการตัดสินใจที่จะเลือก คู่ชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเลยว่าจะถูกกีดกันทางกฎหมายอย่างไร ในนามของสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรกฎหมายฉบับนี้อาจจะช้าเกินไปสำหรับบางคน หลายคนอาจจะเสียโอกาสอะไร หลายอย่างในชีวิตไป แต่วันนี้ดิฉันจะขอทำหน้าที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้อย่างเต็มที่ และในนามของความเป็นแม่ ผู้ใหญ่ทุกคนในวันนี้ล้วนผ่านการเป็นเด็กมาก่อนค่ะ ดิฉันหวังว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้จะสามารถ โอบกอดเด็กคนนั้นที่เติบโตมาด้วยความไม่เข้าใจของสังคมในครอบครัวและยืนหยัดในตัวตน ด้วยความกล้าหาญจนมีกฎหมายฉบับนี้เข้ามาในสภาแห่งนี้ค่ะ ท่านประธานคะ พวกเขา ต่างหากที่ปลดล็อกสังคมเราจากอคติทางเพศ และพวกเราต่างหากที่กำลังเดินช้าเกินไป ความรักเกิดขึ้นไปแล้วโดยไม่สนรูปแบบและเพศสภาพ ดิฉันหวังว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้จะเป็น ดอกไม้ที่โปรยตามทางขณะเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ของคู่สมรสทุกคู่ในอนาคต ท่านประธานคะ การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่เราจะสร้างสังคม ที่โอบรับความหลากหลาย เพื่อให้ลูก ๆ ของดิฉันทั้ง ๒ คนและเด็ก ๆ ทุกคนที่จะเติบโต ขึ้นมาในประเทศนี้มีพื้นที่ปลอดภัยให้กับพวกเขา วันหนึ่งที่เขาเติบโตขึ้นไม่ว่าเขาจะมี ความรักในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม ความรักไม่มีเงื่อนไข ความรักไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ดิฉันสอน ลูกดิฉันเสมอนะคะ และเขาจะต้องไม่เจ็บปวดที่จะไม่สามารถแต่งงานกับคนที่เขารักได้ ในอนาคต เขาจะต้องไม่เจ็บปวดกับการถูกตีตราในสังคมเมื่อเขาโตขึ้น ในความเป็นแม่ ความเป็น Mum ความเป็นมารดา การคลอดบุตรของดิฉันจะขอปกป้องลูก ๆ และเด็ก ๆ อีกหลายคนในประเทศนี้ด้วยการสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ในทุก ๆ ร่าง เพื่อสร้างสังคม ที่รองรับในทุก ๆ การเติบโต ทุก ๆ ความหลากหลาย และทุกความรักที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ พวกเขา ดิฉันขอใช้พื้นที่ในสภาแห่งนี้ขอบคุณทุกการต่อสู้ของประชาชนค่ะ ขอบคุณทุกท่าน จริง ๆ แล้วก็ขอบคุณที่ทำให้กฎหมายฉบับนี้ได้มาอยู่ในสภาได้มาพูดคุยกันในวันนี้ ขอบคุณ รัฐบาลที่เห็นความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ และขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เราจะร่วม ผ่านกฎหมายฉบับนี้ไปด้วยกัน ขอบคุณท่านประธานค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่านต่อไปนะครับ ท่านแรกท่านศาสตรา ศรีปาน ท่านที่ ๒ ท่านปารมี ไวจงเจริญ ท่านที่ ๓ ท่านธีระชัย แสนแก้ว เชิญท่านศาสตรา ศรีปาน ครับ
นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ เพื่อนสมาชิกทุก ๆ ท่าน ผม ศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เขต ๒ เด็กหาดใหญ่ พรรครวมไทยสร้างชาติครับ ท่านประธานครับ วันนี้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่วันนี้ได้มีกฎหมาย หรือ พ.ร.บ. ที่เราเรียกว่าสมรสเท่าเทียมเข้ามาเพื่อให้ สส. ได้พิจารณากัน ซึ่งส่วนตัวผมเองก็ได้ต่อสู้ในเรื่องนี้กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยที่แล้ว แล้วก็โหวตผ่านวาระ ต่าง ๆ แต่มันก็ยังไม่สำเร็จครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วอยากจะบอกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติของเรา ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเรา ก็คิดว่าวันนี้ทุก ๆ ท่านคงจะเห็นพ้องต้องกัน แล้วผมฟังจากเพื่อน ๆ ทุก ๆ คนวันนี้ไปใน ทิศทางที่ดีมากครับ และแน่นอนครับ พรรคของเราพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะโหวตให้ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมผ่าน แล้วก็หวังว่าจะได้บังคับใช้โดยเร็ววัน แต่ก็ไม่อะไรครับ วันนี้ กฎหมายฉบับนี้ก็มีความสำคัญแล้วก็ต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาในมาตราต่าง ๆ เพราะว่ามันยังมีในเรื่องของความอ่อนไหว ความ Sensitive แล้วก็เกี่ยวข้องในประเด็นเรื่อง ของสังคม ในเรื่องศาสนาเราจึงต้องพิจารณาอย่างรัดกุมนะครับ ไม่ฉาบฉวย ไม่ได้เอา เท่ ๆ แต่กฎหมายนี้ต้องบังคับใช้ได้จริงและมีประโยชน์กับคนไทยทุกเพศ คนไทยทุกคน จริง ๆ ครับ ซึ่งกฎหมายหลังจากที่ผ่านวาระที่ ๓ แล้วจะต้องมีประโยชน์ เป็นไปได้ ใช้ได้จริง แล้วก็ตามบริบทของสังคมไทยทุกมิติ ท่านประธานครับ ทั้ง ๔ ร่างนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก เมื่อผมเข้าไปเปิดอ่านดูนะครับ แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ใช้คำว่า บุคคล แทนคำว่า ชายหญิง และใช้คำว่า คู่สมรส แทนคำว่า สามีภรรยา แต่มีเรื่องที่แตกต่างกันในเรื่องประเด็นของเรื่องอายุขั้นต่ำในการหมั้นหรือว่า การสมรส ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ปัจจุบันกำหนดให้อายุอย่างน้อย ๑๗ ปีบริบูรณ์ แต่ในระดับสากลนั้นอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ได้ถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วหรือว่ามี วุฒิภาวะแล้วนะครับ ก็อยากจะฝากเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เป็นกรรมาธิการช่วยไปดูประเด็น ในเรื่องของอายุด้วย
นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ คือประเด็นของการคงไว้ซึ่งคำที่ระบุเพศ เพื่อให้สอดคล้องกับ สรีระของบุคคล ซึ่งกฎหมายของรัฐบาลยังคงให้มีอยู่ ยกตัวอย่างชายกับหญิงแต่งงานกัน เกิดลูกออกมาแล้วเลิกกัน เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมออกมาแล้ว ประเด็นนี้ซึ่งคงไว้ซึ่งคำ ที่ระบุเรื่องเพศนี้ก็จะได้ไม่มีปัญหาว่าใครเป็นพ่อเด็กหรืออะไรต่าง ๆ ที่จะตามมาเหล่านี้ ฝากเพื่อนสมาชิกที่อยู่ในกรรมาธิการช่วยไปดูในประเด็นนี้ด้วยครับ
นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๓ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติค่อนข้างที่จะคำนึงเป็นอย่างมาก ก็คือ ในเรื่องของหลักศาสนา ผู้ศรัทธาในศาสนาที่แตกต่างกันเราคงต้องเคารพในหลักศาสนานั้น เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการปฏิบัติตามหลักศาสนกิจของศาสนานั้น ๆ แล้วก็เรายัง ไม่ควรเข้าไปก้าวล่วงหรือละเมิดหลักศาสนานั้น ๆ ด้วยนะครับ เช่น เมื่อกฎหมายนี้ได้บังคับ ใช้แล้ว สมมุติว่าผู้หญิงที่แปลงเพศมาจะมาอ้างว่าฉันแปลงเพศแล้วฉันจะบวชได้ไหม ฉันจะขอบวชไปอยู่กับพระสงฆ์ อันนี้ยังทำไม่ได้นะครับ หรือการปฏิบัติศาสนกิจของศาสนา อิสลาม ถ้าจะละเมิดกฎเดิมของศาสนานี้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ ผมจึงฝากประเด็นเหล่านี้ไปยัง กรรมาธิการเพื่อพิจารณาด้วย ผมเชื่อว่าประชาชนคนไทยวันนี้ได้ฟังแล้วชื่นใจ เดี๋ยวเราจะมี กฎหมายตัวนี้หลังจากผ่านแล้ว บังคับใช้แล้วนี้ทุกคนก็จะเสมอภาคกันในเรื่องเพศอยู่ต่อหน้า กฎหมายเดียวกัน แล้วก็เดี๋ยวจะมีเพื่อนสมาชิกของผม ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่าน สส. ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ก็จะมาอภิปรายลงรายละเอียดต่าง ๆ ด้วย แล้วก็หวังเป็น อย่างยิ่งว่าทุกคนที่ได้รับประโยชน์จากกฎหมายนี้ ทุกคนจะได้รับสิทธิและโอกาสในการสมรส แล้วก็การสิ้นสุดการสมรส การเซ็นยินยอมผ่าตัด การจัดการศพ เป็นตัวแทนคดีอาญา หรือกรณีที่เป็นคนไร้ความสามารถ เป็นทายาทโดยชอบธรรมในการรับเป็นบิดามารดา สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน อันนี้ทุกคนต้องได้นะครับ รวมไปถึงการได้รับสวัสดิการ ในกรณีคู่สมรสเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน แล้วก็สวัสดิการก็จะต้องถึง คู่สมรสด้วย แล้วก็ฝากนิดหนึ่งครับ ในเรื่องของงบประมาณต่าง ๆ ตรงนี้ สมมุติว่าแต่งงาน กับข้าราชการมันก็ต้องมีงบในเรื่องสวัสดิการที่ส่งไปถึงคู่สมรสของเรา วันนี้งบประมาณ จะเพียงพอหรือไม่อย่างไร อันนี้ฝากไปในกรรมาธิการด้วยนะครับ ท่านประธานครับ วันนี้ประชาคมโลกกำลังจับตาเราทุกวินาที ทุกฝีก้าว การที่เรามีกฎหมายตัวนี้ออกมานี้ก็จะ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย ประเทศไทยก็จะเป็นแนวหน้าที่มีความเป็นสิทธิ มนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างเข้มแข็งประเทศหนึ่งของโลกทันที จะเป็น Thailand Model ครับ เป็นเบอร์ ๑ ของทวีปเอเชีย เกิดการพัฒนาในหลาย ๆ มิติผมเชื่อว่านั่นแน่นอน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในเรื่องความปลอดภัย ถ้าเราไม่มีกฎหมายตัวนี้ออกมาดูแลกลุ่มผู้มี ความหลากหลายทางเพศ คนที่จะเข้ามาประเทศเราก็จะมองว่าประเทศเราไม่ปลอดภัย เหมือนใน LGBT Travel Index วันนี้ไทยยังเป็นประเทศที่กลุ่มของผู้มีความหลากหลาย ทางเพศนี้มองว่ายังเป็นอันตราย แล้วก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง หลังจากที่มีกฎหมายตัวนี้ ขึ้นมาความเท่าเทียมเกิดขึ้น ทุก ๆ คนจะรู้สึกว่าประเทศเราปลอดภัย เข้ามาเที่ยวอาจจะเป็น การจัดงาน World Pride นำเงินเข้าประเทศหลายหมื่นล้านบาท
นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ
สุดท้ายครับท่านประธาน ผมและพรรครวมไทยสร้างชาติก็ขอสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ. ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกคน โดยเฉพาะร่างของรัฐบาล วันนี้ต้อง ขอขอบคุณครับ ที่ยกขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนให้พวกเราได้พิจารณากัน แล้วก็ผมหวังว่า เพื่อน ๆ สมาชิกทุก ๆ คนก็จะเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่ากฎหมายฉบับนี้มีประโยชน์กับ ทุก ๆ ท่าน และขอเชิญชวนทุกคนโหวตผ่านร่างนี้ และบังคับใช้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อทุกคนเพื่อประชาชนชาวไทยทุกท่าน ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านปารมี ไวจงเจริญ เชิญครับ
นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ ดิฉัน ปารมี ไวจงเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ดิฉันขออภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... วันนี้ที่ดิฉันลุกขึ้นพูด ดิฉันลุกขึ้นพูดด้วยหัวใจ ด้วยหัวใจของ ดิฉันที่ดิฉันเป็น LGBT คนหนึ่ง แล้วก็เกิดขึ้นมาในยุค ๕๐ ปีที่แล้วที่สังคมยังไม่ได้โอบรับ LGBT เท่าทุกวันนี้ และดิฉันลุกขึ้นพูดด้วยหัวใจแห่งการที่ตัวเองเป็น LGBT แล้วก็เป็นครูด้วย ดิฉันจึงไม่พูดเรื่องการกดทับสิทธิเสรีภาพของ LGBT ในสถานศึกษา ในระบบการศึกษา ในโรงเรียนไม่ได้ ก่อนอื่นที่ดิฉันจะอภิปราย ดิฉันต้องขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ขอบคุณครู ธัญวัจน์ ขอบคุณคุณกอล์ฟ ธัญญ์วาริน ขอบคุณคุณเตอร์ณธีภัสร์ และขอบคุณเพื่อน สส. พรรคก้าวไกลทุกคน รวมถึงขอบคุณทุกคนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผลักดันให้มีประวัติศาสตร์ ของ LGBT ไทยในวันนี้ และก่อนที่ดิฉันจะเข้าประเด็นเรื่องการกดทับ LGBT ในโรงเรียน ดิฉันขอเชิญชวนเพื่อน สส. ทุกท่าน วันนี้ขอให้อยู่จนถึงยกมือโหวต เพราะดิฉันกลัวว่า เนื่องจากมีผู้อภิปรายเป็นจำนวนมาก มันอาจจะเลยไปถึงดึกหน่อย กลัวว่าองค์ประชุม จะไม่ครบ ดิฉันอยากขอฝากคำเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงท่านเพื่อน สส. ทุกพรรคให้มาร่วมแรงร่วมใจ กันในวันนี้ ขอฝากถึงท่านว่าให้ท่านอยู่จนถึงยกมือ เพราะประชาชนทุกคนกำลังจับจ้องท่านอยู่ สิ่งที่ดิฉันจะอภิปรายเน้นในวันนี้ คือเรื่องเกี่ยวกับการกดทับสิทธิเสรีภาพของ LGBT ในสถานศึกษา ระบบการศึกษาไทยเราในปัจจุบันหากดูผิวเผินจะดูเหมือนเปิดกว้างรับ LGBT ในโรงเรียน จะมีครูและนักเรียนเป็น LGBT กันมากขึ้น ดูเหมือนเปิด แต่จริง ๆ แล้วยังเปิด ๆ ปิด ๆ ยังเปิดแบบแง้ม ๆ ไว้ ยังมีครูและนักเรียนอีกมากมายที่ถูกหลายโรงเรียนกดทับ เรื่องนี้ไว้ การพูดของดิฉันและการที่สภาอันทรงเกียรติของเราในวันนี้จะผ่านพระราชบัญญัติ แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วันนี้เป็นแค่บันไดขั้นแรกยังจะต้องมีการทำ ความเข้าใจต่อสังคมและแก้กฎหมายอื่น ๆ ผลักดันกฎหมายอื่น ๆ อีกหลายฉบับตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีสิทธิเสรีภาพของ LGBT ในสถานศึกษา เพราะยังมีครูและนักเรียน อีกมากมายที่เป็น LGBT ที่ถูกกดทับไม่สามารถเลือกทางเดินชีวิต ไม่สามารถเลือกสิทธิ ในการแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผมได้ตามเพศสภาพที่เขาต้องการ ดิฉันก่อนหน้านี้ได้เปิด Website ของสภา ดิฉันเห็นความคิดเห็นของประชาชนที่ชื่นชมร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ หลาย ๆ คนชื่นชมแสดงความคิดเห็นไว้มากมายว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นการประกันศักดิ์ศรี สิทธิเสรีภาพ และประกันความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน แต่กรณีการกดทับ LGBT ในสถานศึกษา หรือในโรงเรียนยังมีอยู่สูง ดิฉันขอเชิญชวนสังคมไทยและผู้เกี่ยวข้องในระบบการศึกษาไทยเข้ามาร่วมกันผลักดันต่อ หยุดอยู่แค่การแก้กฎหมายสมรสเท่าเทียมในวันนี้ไม่ได้ ดิฉันได้อ่านบทความจาก Website iLaw บทความหนึ่งที่สะเทือนใจมากว่า เพศในสถานศึกษาถูกใช้เป็นอาวุธหนึ่งที่หยิบเอามา ใช้เพื่อกลั่นแกล้ง มีความรุนแรงในสถานศึกษาที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีกมากมาย ดิฉันขอ เชิญชวนทุกท่านร่วมกันผลักดันไปกับพรรคก้าวไกล ไปกับครูธัญวัจน์และกับดิฉันจาก Website iLaw มีภาพหนึ่งที่สะเทือนใจขอสไลด์ภาพนี้หน่อยค่ะ
นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
คือภาพที่นักเรียน LGBT วาดขึ้นมาเพื่ออธิบายการถูกรังแกจากเพื่อนนักเรียนในโรงเรียน Website iLaw ผู้วิจัย และผู้เขียนบทความนี้ไปสัมภาษณ์นักเรียน LGBT ที่ถูกเหยียดหยามว่าเขาถูกเหยียดหยาม มาทั้งชีวิตไม่ว่าจะเป็นคำ จริง ๆ มีคำบางคำดิฉันเอาออกเพราะว่ามันหยาบเกินที่จะเอามาพูด แต่ดิฉันคิดว่าทุกคนคงเข้าใจได้ จุด จุด จุด ไปตายเสีย จุด จุด จุด เกิดมาเสียชาติเกิด หรือ คำพูดว่าบางทีครูหลาย ๆ คนในโรงเรียนนี้ก็จะเสียดสีนักเรียนที่เป็น LGBT หรือเสียดสีเพื่อน LGBT ด้วยกันเพื่อนครูที่เป็น LGBT ด้วยกันว่าเป็น LGBT สักพักเดี๋ยวก็หายเอง คำเหล่านี้ เป็นคำลดทอนคุณค่าความเป็นคนของเขา คำต่าง ๆ เหล่านี้ที่ดิฉันเอามาจาก Website iLaw ดิฉันบอกได้เลยอย่างหนึ่งว่าคำที่ดิฉันก็ได้ยินมาทั้งชีวิต และดิฉันปรารถนาว่าคงจะไม่มี นักเรียนหรือครู LGBT คนไหนอีกแล้วที่จะได้ยินเช่นนี้ จริง ๆ สิ่งที่ดิฉันเตรียมมาพูดสไลด์ที่ ดิฉันเตรียมมาพูดในวันนี้มีมากมายหลายประเด็น แต่ว่าเนื่องจากเวลาจำกัดดิฉันจึง จำเป็นต้องรวบรัด มีข่าวนักเรียน LGBT หรือครู LGBT ที่ต้องการจะใช้สิทธิแต่งกายตาม เพศสภาพที่เขาต้องการ สิทธิในเสื้อผ้าหน้าผมที่เขาต้องการเขาไม่สามารถทำได้ ดิฉันอยากจะ ขอให้เราทุกคนระลึกถึงบุคคลอีกมากมายที่ตกหล่นข้างทาง เพื่อน ๆ สมาชิกหลายท่าน ได้พูดไปตอนต้นแล้วว่า กว่าที่เราจะมาถึงวันนี้วันที่สภาอันทรงเกียรติของเรากำลังจะรับ หลักการ พ.ร.บ. นี้ วาระที่ ๑ มีคนมากมายต้องตกหล่นอยู่ข้างทางต้องเสียชีวิตสังเวย ไปกับความไม่เข้าใจใน LGBT ดิฉันจึงหวังว่าในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ของการที่สังคมไทยเราและวงการศึกษาของเราจะโอบรับทุกความหลากหลาย โอบรับทุกเพศ บนพื้นฐานแนวคิดถึงความเสมอภาคเท่าเทียม ดิฉันขอวิงวอนการขับเคลื่อนเรื่องสิทธิ เสรีภาพของ LGBT ไม่ได้จบแค่วันนี้ ขอวิงวอนสังคม ขอวิงวอนประชาชนทุกคนจงขับเคลื่อน และมอบความเป็นมนุษย์คืนให้กับ LGBT ทุกคนไปด้วยกัน ขอบคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านธีระชัย แสนแก้ว เชิญครับ
นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นผม ต้องขอขอบพระคุณคณะรัฐมนตรีได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติฉบับนี้ ท่านประธานครับ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี ๒๕๖๐ ที่เราใช้กันในปัจจุบันมาตรา ๑๗ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า บุคคลย่อมเสมอภาคทางกฎหมาย มีสิทธิเสรีภาพ และได้รับความ คุ้มครองเท่าเทียมกัน มาตรา ๑๗ (๒) บัญญัติว่า ชายหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และที่สำคัญ มาตรา ๒๗ วรรคสาม บัญญัติว่าการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าจะเป็น ความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพร่างกาย และสุขภาพ สถานะบุคคล สถานะทางเศรษฐกิจ สถานะทางสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดทางการเมืองอันไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญจะกระทำมิได้ มาตรานี้สำคัญมาก ท่านประธานครับ ก่อนเราเลือกตั้งเรามาทำงานในสภาชุดนี้ ชุดที่ ๒๖ พรรคเพื่อไทย ที่ผมเป็นสมาชิกพรรคอยู่นี้ได้ประกาศเรื่องรับรองสิทธิเสรีภาพ การเท่าเทียมกันของพี่น้อง ประชาชนคนไทยทุกคน ไม่ว่าท่านจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด ไม่ว่าท่านจะยากดีมีจนอย่างไร การพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ในวันนี้ถือเป็นเรื่องยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลชุดนี้ เราได้ให้ความสำคัญกับความความเท่าเทียมของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทาง กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคน ในครอบครัว ล้วนแต่มีความสำคัญและมีผลต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชน ท่านประธานที่เคารพ ทุกวันนี้โลกเราไม่ได้มีแค่ ๒ เพศ มี LGBTQ+ แล้วยังมีเพศอื่น ๆ อีก มากมาย แล้วแต่จะนิยามตัวตนว่าตนเอง แต่ไม่ว่าจะนิยามตัวตนเองว่าเป็นเพศอะไรทุกคน ย่อมมีความรักครับท่านประธาน ความรักสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยไม่ต้องมีคำว่า เพศ มาเป็นตัวกำหนด ตัวผมเองก็มีลูกหลาน ญาติพี่น้อง LGBT อีกหลายคน ผมก็เห็นว่าพวกเขา ไม่ได้เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร พวกเขาแค่อยากมีความรัก มีครอบครัว ดูแลกัน เหมือนชายหญิงทั่วไป รวมถึงสิทธิในเรื่องการจดทะเบียนสมรสที่เท่าเทียมเหมือนกันกับ ทุก ๆ คนครับท่านประธาน ตัวผมเองก็มีลูกสาว ผมไม่อายที่มีลูกสาวเป็น LGBTQ ลูกสาวผม ก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป เรียนจบปริญญาโท มีการทำงานที่ดี เป็นลูกสาวที่น่ารักของผมเสมอ แล้วเรียนได้เกียรตินิยมด้วย ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เป็นเพียงแต่เขามีความรัก กับผู้หญิงแค่นั้นเอง ผมไม่เคยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดเลยครับท่านประธาน เพราะฉะนั้น เรื่องเสรีภาพและเท่าเทียมของพี่น้องประชาชน ดูใกล้ ๆ ถ้าผมมองน่าจะเป็นทอมครับ ลูกสาว สส. นี่นะครับ ของพี่น้องประชาชนนี้ผมว่ามีความสำคัญและมีเสรีภาพเท่าเทียม เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ท่านประธานครับ การที่รัฐบาล การที่ทางเพื่อน ๆ สมาชิกฝ่ายค้านและภาคประชาชนต่างเห็นพ้องร่วมกัน ในการเสนอกฎหมายสมรสเท่าเทียม ๓ ฉบับนี้เข้ามาในสภาพวกเราชุดนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่ดีในการทำงานร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎรและภาคประชาชน ท่านประธานครับ การร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่รัฐบาลได้เสนอเข้ามาในฉบับนี้ผ่านการแสดงความคิดเห็น ได้รับเสียงความเห็นชอบจากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รัฐบาลเราชุดนี้ทั้งมีการจัด Event จัดในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนจากกลุ่ม LGBTQ เอง และพี่น้องประชาชน ที่ไม่ได้เป็นกลุ่ม LGBTQ+ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการยกร่างทุกขั้นตอนครับท่าน ตามที่ได้ติดตาม แล้วยังผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน หน่วยงาน ต่าง ๆ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลยุติธรรม และที่สำคัญ คือกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ก็ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อความรอบคอบครั้งแล้วครั้งเล่าครับ กระผมขออนุญาตจะยกตัวอย่างนิดหน่อยนะครับ หลักการบางประการของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้แก้ไขมาตรา ๑๔๓๙ และ มาตรา ๑๔๔๘ โดยการกำหนดให้บุคคล ๒ คนไม่ว่าจะเพศใดก็ตามสามารถทำการหมั้น หรือสมรสกันได้ ซึ่งการแก้ไข ๒ มาตรานี้และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขจากการจำกัด เพียงคำว่า ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ถือเป็นการเปิดประตูให้พี่น้องประชาชนเพศใดก็ได้ สามารถทำการหมั้นและทำการสมรสกันได้ โดยมีกฎหมายรับรองว่าการจดทะเบียนสมรส เป็นคู่สมรสถูกต้องตามกฎหมาย การแก้ไขมาตรา ๖๗ ที่กำหนดถึงบทเฉพาะกาลเพื่อให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการประเมินสัมฤทธิ์ผลของกฎหมาย ทำการทบทวนกฎหมาย ที่อยู่ในความรับผิดชอบและต้องดำเนินการให้เกิดความสอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยพระราชบัญญัติฉบับนี้ ท่านประธานครับ มาตรานี้มีความสำคัญมาก เพราะการบังคับใช้กฎหมายฉบับต่าง ๆ ที่อยู่ในการดูแลของหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานจะต้องแก้ไขพระราชบัญญัตินี้ให้สอดคล้อง กับพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพราะยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ยังมีการจำกัดเกี่ยวกับ สถานะเพศกำเนิดของพี่น้องประชาชนครับท่านประธาน ดังนั้นจากการที่กระผมได้กล่าวมา ทั้งหมดนี้ กระผมจึงขอสนับสนุนให้สภาผู้แทนราษฎรของเราช่วยกันลงมติ แล้วพวกเราก็รอ ในการลงมติอยู่ ณ วันนี้ เพราะฉะนั้นผมเข้าใจดีว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมมีความสำคัญ อย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามก็สมควรจะมีความรักและมีสิทธิเท่าเทียมกันทุกคนครับท่านประธาน ขอขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่านนะครับ ท่านแรก ท่านพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ท่านที่ ๒ ท่านดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ท่านที่ ๓ ท่านธิษะณา ชุณหะวัณ เชิญท่านพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ เชิญครับ
นางสาวพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภา เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เคารพ ทุกท่าน ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ ดิฉันเชื่อเสมอมาว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม และดิฉัน ยินดีอย่างมากที่เพื่อนสมาชิกในห้องนี้ล้วนแล้วแต่เห็นด้วยว่าความสวยงามของความรักนั้น ไม่สามารถที่จะมีอะไรมากีดกั้นได้ และทุกท่านได้เห็นปัญหาของกฎหมายที่บังคับใช้กับ ประชาชนทุกคนในประเทศ แต่กลับจำกัดกรอบคุณค่าของความรักและความสัมพันธ์ ของมนุษย์ ด้วยการยึดติดกับระบบเพียง ๒ เพศเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็จะเห็นได้จาก ความเจ็บปวด เป็นผลให้คนในสังคมของพวกเราจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ลูกหลาน คนรู้จักของเราบางส่วนที่ถูกกีดกันโดยกฎหมาย ไม่มีสิทธิที่จะมีความรัก หรือรักใครสักคน โดยได้รับการยืนยันและคุ้มครองทางกฎหมายได้ ไม่มีสิทธิที่จะสร้าง ครอบครัว เรากำลังฉีกกระชากความรักของพวกเขาออกไปอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งดิฉันจะขอเจาะ เข้าไปในประเด็นถึงสิทธิในการโอบรับเด็ก ๆ ที่ต้องการผู้ดูแลในสังคม ในฐานะบุพการีร่วม ท่านประธานคะ กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้จะเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้ผู้มี ความหลากหลายทางเพศได้มีโอกาสทำหน้าที่ในฐานะบุพการีผ่านการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม เติมเต็มชีวิตเด็กคนหนึ่งให้ได้รับการดูแลที่อบอุ่น มีพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ ให้เป็นไปตามช่วงวัย และนั่นไม่ได้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องที่เป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่มีประโยชน์กับคนทั้งสังคม เมื่อเราจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพคืนกลับมาในประเทศของเรา ท่านประธานทราบไหมคะว่าเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา องค์การ UNICEF ของประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยรายงานวิจัยว่าปัจจุบันเรามีเด็กที่อาศัยอยู่นอกบ้าน ของตัวเองไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะได้รับการคุกคาม ได้รับการทำร้าย ครอบครัวแตกแยก อยู่ถึง ๑๒๐,๐๐๐ ราย สิ่งนี้เป็นปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราไม่เคยมีทางออกที่ดี ที่จะคุ้มครองเด็กเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งกายและใจได้เลย เราได้แต่ช่วย สงเคราะห์เขาเป็นครั้งเป็นคราว แล้วเราก็ปล่อยเขาตามยถากรรม กฎหมายนี้กำลังจะ เปิดโอกาสให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เข้ามาเติมเต็มรอยรั่วนี้ เข้ามาเป็นบุพการี มอบความอบอุ่นมั่นคงให้เด็กเหล่านี้ได้สัมผัสกับความรัก ให้เด็กเหล่านี้ได้มีความเชื่อมั่น ต่อสังคมของพวกเราว่าเขายังเป็นคนที่มีค่า เขายังเป็นคนที่สังคมนี้เห็นค่าและพร้อม ให้โอกาส พร้อมปกป้องเขาอยู่เสมอ นอกจากนี้นะคะท่านประธาน ในหลายประเทศที่ได้ผ่าน กฎหมายสมรสเท่าเทียมไปแล้ว ได้มีผลวิจัยเชิงบวกมากมายต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ในครอบครัวของผู้มีความหลากหลายทางเพศเองและในสังคม ที่จริงเราอาจจะไม่จำเป็นต้อง มาพูดถึงการผ่านวาระต่าง ๆ แล้วก็ได้ เพราะในความเชื่อส่วนตัวของดิฉันสิทธิพื้นฐาน ของมนุษย์ไม่ควรเป็นสิ่งที่มนุษย์ด้วยกันประมาณ ๕๐๐ คนในที่นี้จะต้องมายกมือโหวต กันเลย และร่างสมรสเท่าเทียมนี้เป็นร่างที่ประชาชน ร่างของพรรคก้าวไกล รวมถึงร่างของ รัฐบาลเดินมาด้วยกัน เติบโตมาด้วยกัน มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานแล้วไม่ได้โรยด้วย กลีบกุหลาบ เพื่อจะคืนสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับเพื่อน ๆ พี่น้องลูกหลานของพวกเราที่เขามี ความหลากหลายทางเพศ ท่านประธานคะ เพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฎรคะ ผู้มีความหลากหลายทางเพศกว่า ๗ ล้านคน ทั่วประเทศกำลังรอคอยกฎหมายนี้ รอคอยกฎหมายที่จะคืนสิทธิให้พวกเขาสามารถสร้าง ครอบครัวของตัวเองและใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี พวกเราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่โดยตรงที่จะปกป้องสิทธิให้กับประชาชนทุกคนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ แล้วก็มีหน้าที่ โดยตรงในการผ่านกฎหมายเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการปกป้องสิทธิอย่างไม่มีการเลือก ปฏิบัติ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หนึ่งในเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของพวกเราที่ในวันนี้เขาไม่ได้มี โอกาสปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่หากเขา อยู่ที่นี่ ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะตอกย้ำว่าประเทศของเรานั้นขับเคลื่อนด้วยความรัก ไม่ได้ ขับเคลื่อนด้วยความกลัว ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะยืนหยัดว่าความหลากหลายคือความสวยงาม และไม่เคยเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะลุกขึ้นยืนและพูดยืนหยัดว่าทุกคน ในประเทศนี้ไม่ว่าจะมีเพศวิถีอย่างไร พวกเขาจะต้องเสมอภาคกัน ได้รับการปกป้องจากรัฐ และมีสิทธิตามกฎหมายทุกประการเท่าเทียมกัน ท่านประธานคะ เราเฝ้าฝันที่จะสร้างสังคม ที่มีสันติ และการมอบความรักความเข้าใจให้แก่กันมาโดยตลอด แต่สังคมเหล่านั้นมันเกิดขึ้น ไม่ได้ หากพวกเราไม่ร่วมกันปลดพันธนาการทางกฎหมายนี้ด้วยมือของพวกเราที่วันนี้ จะยกขึ้นเพื่อยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกันว่าพวกเราพร้อมแล้วที่จะเป็นสังคมที่จะโอบรับ เปิดใจเรียนรู้ความแตกต่างหลากหลายที่งดงามนี้ไปพร้อม ๆ กัน ดิฉันขอให้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทุกท่านยกมือในวันนี้เพื่อขอบคุณภาคประชาชนที่สู้มาโดยตลอด แล้วพวกเขารอคอย มานานเกินไปกับสิทธิที่มันควรจะเป็นของเขาตั้งแต่แรกเกิด ดิฉันขอให้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทุกคนยกมือขึ้นเพื่อขอโทษพวกเขาที่ว่าเราทำหน้าที่ของเราได้ช้าเกินไป ยกมือของ พวกท่านซับน้ำตาให้แก่ครอบครัวของผู้สูญเสียและผู้ที่ไม่ได้อยู่จนถึงวันที่สมรสเท่าเทียม จะผ่าน ดิฉันขอขอบคุณทุกท่าน ขอให้ทุกท่านอยู่ร่วมกันในเย็นวันนี้สร้างประวัติศาสตร์ ร่วมกัน มาปักหมุดแห่งการสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน และดิฉันมั่นใจว่าอนาคตที่จะ มาถึงในเร็ว ๆ นี้จะเป็นอนาคตที่งดงามสำหรับประเทศของเรา ขอบคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เชิญครับ
รองศาสตราจารย์ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานและสมาชิกทุกท่านครับ กระผม รองศาสตราจารย์ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างนี้ครับ พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า รัฐธรรมนูญก็บอกไว้แล้วว่าบุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิ มีเสรีภาพได้รับ การคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง แต่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับปัจจุบันยังมีอีกหลายส่วนที่ทำให้เราไม่เท่าเทียมกัน เรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ เรื่องของคู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นชายกับชายหรือหญิงกับหญิงที่กฎหมาย ในปัจจุบันยังไม่ได้กล่าวถึงในเรื่องของสิทธิ ในเรื่องของสวัสดิการและเรื่องของทรัพย์สินของ คู่สมรสตามกฎหมาย ในเมื่อรัฐธรรมนูญเราได้กำหนดแล้ว ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงเรามีสิทธิ เท่าเทียมกัน เรื่องของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ย่อมควรที่จะต้องแก้ไขให้ได้รับสิทธิ เท่าเทียมกัน ผมขออนุญาตยกตัวอย่างกับเรื่องราวที่ได้รับฟังมาของหลาย ๆ คนที่เป็นคู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพย์สินระหว่างใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน เรื่องของสิทธิ เรื่องของสวัสดิการที่คู่สมรสตามกฎหมายควรจะได้รับ ไม่ว่าท่านจะทำงานอยู่ในภาครัฐหรือ ทำงานอยู่ในภาคเอกชน แต่ปัจจุบันนี้คู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันและกฎหมายยังไม่ได้รับรองสิทธิ พวกเขาจะไม่มีสิทธิที่จะได้รับสวัสดิการนั้น ๆ โดยที่เขาเหล่านั้นควรที่จะได้รับสิทธิเท่าเทียม อย่างคู่ที่เป็นคู่สมรสตามกฎหมายต้องได้รับ ในเรื่องนี้ก็จะเกี่ยวข้องกับในเรื่องของทรัพย์สิน เงินทองที่ทำมาหากินมาร่วมกันตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นคู่ชีวิตกัน
รองศาสตราจารย์ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ถ้ากฎหมายปัจจุบันยังไม่รับรองสิทธิของคู่ชีวิตในเรื่องของทรัพย์สินเสมือนการเป็นคู่สมรส ตามกฎหมาย ไม่ถือเป็นสินสมรส คู่ชีวิตไม่มีสิทธิได้รับมรดกของกันและกัน เพราะไม่ใช่ ทายาทโดยธรรมตามกฎหมายที่กำหนด ถ้าในอนาคตคู่ชีวิตมีการจากไปทรัพย์สินที่หามาได้ ร่วมกันก็จะไม่ตกแก่คู่ชีวิตอีกฝั่งหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ เสมือนสามีภรรยาที่สมรสกันตามกฎหมาย ที่ทรัพย์สินจะเป็นของกันและกัน และตกทอดกันได้ตามกฎหมาย การแก้ไขปรับปรุง กฎหมายในครั้งนี้ก็จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคู่ชีวิตที่จะได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกัน สามารถ เรียกว่าเท่าเทียมกับการสมรสตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินสมรส การบริหารจัดการ ทรัพย์สินร่วมกันที่ต่างฝ่ายต้องยินยอมและรับรู้ซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุผลนี้พวกเราจึงขอ สนับสนุนการสมรสเท่าเทียม ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ต่อไปท่านธิษะณา ชุณหะวัณ เชิญครับ
นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพค่ะ ดิฉัน ธิษะณา ชุณหะวัณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรุงเทพมหานครเขต ๒ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันมาอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ซึ่งดิฉัน คิดว่าประเทศไทยเองก็ถึงเวลาอันควรแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการริเริ่มเสนอ ร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิตตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ และต่อด้วยการเสนอให้มีร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาจนถึงได้มีการเสนอ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ก็ต้องยอมรับว่าได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ล้มลุกคลุกคลานมาพอ สมควรค่ะ และล่าสุดประเทศไทยเราก็เพิ่งได้จัดงาน Pride Month ในช่วงเมื่อกลางปีที่ผ่าน มานับว่าเป็นกิจกรรมสำคัญประจำปีที่เกิดขึ้นในพื้นที่บุคคลที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Gay Lesbian Bisexual Transgender Pansexual Gender Queer หรือ แม้กระทั่ง Non-Binary และ Subculture ต่าง ๆ อย่างเช่น Drag Queen Drag King หรือ Fetish ต่าง ๆ ได้มาแสดงออกด้วยความเสรี และความภาคภูมิใจ บวกกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น กฎหมายสิทธิมนุษยชน และการปรับกลไกที่ให้มีความเสมอภาคเท่าเทียม และวิถี ในสังคมที่สอดคล้องกับประชาคมโลก และการปรับตัวของประเทศที่ใกล้เคียงทั้งหมดนี้ ก็ยังเปรียบเสมือนการสานประกายให้มีความสำคัญต่อการพิจารณากฎหมายอีกด้วยค่ะ ก่อนอื่นเลย ถ้าว่าด้วยกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนระดับสากล ๒ หลักการที่สำคัญ ๑. คือความเสมอภาคและไม่เลือกปฏิบัติค่ะท่านประธาน ซึ่งทุกคน ควรเข้าใจถึงสิทธิที่พึงมี ถูกได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมภายใต้กฎหมายที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับหลักการสากล โดยไม่พิจารณาจากรสนิยมทางเพศ เพศสภาพ อัตลักษณ์ ทางเพศ ในกรณีนี้จากข้อมูลของสหประชาชาติได้ให้คำจำกัดความของการเลือกปฏิบัติ หรือเรียกว่า Discrimination ไว้ว่า การเลือกปฏิบัติคือการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แบ่งแยก ตามอำเภอใจ โดยพิจารณาจากเชื้อชาติ เพศ ศาสนา ชาติพันธุ์ รสนิยมทางเพศ ความพิการ อายุ ภาษา แหล่งกำเนิดทางสังคม หรือสถานะอื่น ๆ เช่น สถานะทางเศรษฐกิจของบุคคลนั้น ๆ เพราะฉะนั้นตราบใดที่ประชาชนกลุ่ม LGBTQIA++ ยังไม่ได้มีสิทธิเท่าเทียมขั้นพื้นฐาน เหมือนพลเมืองทั่วไป ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบหรือสถานะใดก็ตาม หรือยังไม่ได้รับการปฏิบัติ ที่เป็นธรรมในกลไกทางกฎหมาย เราก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงค่ะท่านประธาน ณ ปัจจุบันในประชาคมโลกมี นานาอารยะประเทศที่ยังคงผลักดันกฎหมายส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลาย อย่างต่อเนื่อง อย่างที่เพื่อนสมาชิกได้อภิปรายไปแล้ว เรามี ๓๔ ประเทศทั่วโลกที่ได้มี กฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือ Same-sex Marriage เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าบางประเทศ ในแถบยุโรปนั้นได้ก้าวไปไกลในประเด็นดังกล่าวแล้วค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลากหลายประเทศที่ใกล้บ้านเราที่ปรับตัวให้สอดคล้องกับ ประชาคมโลกอยู่ค่ะ และให้บุคคลเพศสภาพเดียวกันสามารถที่จะสมรสกันอย่างถูกต้องตาม กฎหมายในปี ค.ศ. ๒๐๑๙ และลดข้อจำกัดเพิ่มเติมสิทธิให้พลเมืองด้วยค่ะ ในประเทศ ไต้หวันได้มีกฎหมายในปี ค.ศ. ๒๐๑๙ และที่ญี่ปุ่นสภานิติบัญญัติได้ผ่านกฎหมายว่าด้วย รสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศเป็นฉบับแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ความเข้าใจและมิให้มีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งอาจจะดูเป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ แต่ก็ยังเป็นก้าวที่ก้าวไปข้างหน้าค่ะท่านประธาน แม้แต่ใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี้เอง ในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่า แถบนี้ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันมากมาย ถ้าพูดในเชิงเปรียบเทียบกับในทางยุโรป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. ๒๐๒๒ กระทรวงสาธารณสุขของประเทศ เวียดนามได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าการดึงดูดต่อเพศเดียวกันและเพศที่สามนั้นไม่ใช่ สภาวะทางจิตหรือเป็นสภาวะทางสุขภาพจิต และยังส่งเสริมให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQIA+ ในด้านการแพทย์ และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องรับประกัน ความเท่าเทียมทางเพศและยุติการเลือกปฏิบัติค่ะ ซึ่งเป็นการปรับนโยบายสาธารณสุขของ เวียดนามให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านสุขภาพ และสิทธิมนุษยชนในระดับสากล
นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดิฉันจะพูดถึงก็คือ สิงคโปร์ ที่รัฐบาลเพิ่งจะยกเลิก กฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๗ เอ ที่ห้ามมิให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน เพราะเป็น มรดกตกทอดจากยุคอาณานิคมที่ตอนนี้เป็นกฎหมายที่ล้าหลังและทำให้กฎหมายของ ประเทศสิงคโปร์มีความสอดคล้องมากยิ่งขึ้นในวิถีสังคมปัจจุบัน
นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
สุดท้ายประเทศตัวอย่างที่ ๓ คือประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้มีการพยายามผลักดัน มาหลายทศวรรษกับร่างกฎหมายเท่าเทียมหรือว่า Sexual Orientation and Gender Identity Expression หรือก็คือการร่างกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ จนในปี ๒๐๒๒ ก็ได้ผ่านคณะกรรมาธิการวุฒิสภาว่าด้วยเรื่องสตรี เด็ก ความสัมพันธ์ในครอบครัว และ ความเท่าเทียมทางเพศ และมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไป ดูเหมือนว่าประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะมีความก้าวหน้าไปด้วยเช่นกัน
นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ในส่วนของประเทศไทยเรานั้นอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ก็ได้รับการขนาน นามว่าเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อ LGBTQ มากที่สุดในเอเชีย แล้วก็จากรสนิยมทางเพศ สามารถแสดงออกได้อย่างเสรี ไม่ต้องกลัวการคุกคาม ไปจนถึงการส่งเสริมด้านศิลปะ และวัฒนธรรม Drag Queen Series Boy’s love ต่าง ๆ Series Y ต่าง ๆ ที่ประเทศไทยนี้ มีความเปิดกว้างและมีความหลากหลายมากกว่าหลาย ๆ ประเทศในเอเชีย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าในเรื่องของรายละเอียดทางข้อกฎหมายที่ควรจะได้รับการปรับปรุง รวมไปถึงช่วยส่งเสริม สิทธิโดยพฤตินัยไปจนถึงการผลักดันให้ออกมาบังคับใช้ค่ะท่านประธาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การหมั้น การจดทะเบียนสมรส ไปจนถึงสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวให้กับบุคคลในทุกเพศสภาพ และการจัดแจงทรัพย์สินหรือมรดกระหว่างคู่สมรส การเซ็นยินยอมให้ผ่าตัด นอกจากนี้ยัง ต้องมีการช่วยการส่งเสริมให้ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTA+ เพื่อให้ เป็นการช่วยปรับมุมมองของสังคมและลดการละเมิดทั้งในทางวาจา กายและจิตใจ แม้แต่ใน คำแถลงของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา ได้มีการระบุไว้ว่ารัฐบาลจะผลักดันให้มี กฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของทุกกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ซึ่งดิฉันก็ เห็นว่าเป็นการดีที่จะพยายามพัฒนาก้าวไปข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตามศักยภาพและโอกาส ตอนนี้เราสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านี้ไหมคะ ซึ่งมากกว่าคู่ชีวิตคือสมรสเท่าเทียมค่ะ ทั้งนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ประเทศอื่น ตามทันและสอดคล้องกับประชาคมโลก ส่งเสริม ภาพลักษณ์ของประเทศเรา จึงจำเป็นต้องจริงจังและให้ความสำคัญมากกว่านี้ค่ะ เพราะ ประชาชนที่เป็น LGBTQIA++ เองก็ไม่ถูกปล่อยให้รออีกต่อไป เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนนี้บุคคลเหล่านี้มักถูกลืมและมองข้ามไปค่ะ ไม่มีใครควรถูกปฏิบัติเหมือน พลเมืองชั้นสอง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์กับกลุ่มเพศหลากหลาย มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นโชว์ Cabaret เรียกรายได้เข้าประเทศมหาศาลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Series Y ต่าง ๆ ขายให้กับคนรุ่นใหม่ค่ะท่านประธาน สามารถทำรายได้ให้กับประเทศเรา มหาศาล แต่การเปลี่ยนกฎหมายอาจจะไม่ได้เปลี่ยนวัฒนธรรมการเหยียดเพศไป โดยสิ้นเชิงหรือในทันที แต่จะเป็นพิมพ์เขียวที่นำสังคมไปสู่เสรีภาพและความเท่าเทียม เพราะทุกคนไม่มีเสรีภาพจนกว่าจะมีความเท่าเทียม ขอบพระคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่านนะครับ ท่านรวี เล็กอุทัย ท่านเอกราช อุดมอำนวย ท่านนพพล เหลืองทองนารา เชิญท่านรวี เล็กอุทัย ครับ
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม นายรวี เล็กอุทัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต ๓ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ พระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมเป็นการแสดงออกถึงการมีแนวคิด ที่คำนึงถึงความเท่าเทียมของประเทศไทยและสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ผมในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขอสนับสนุนพระราชบัญญัติฉบับนี้ครับ เพราะนี่เป็นเรื่องของสิทธิ มนุษยชนและรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงผมเห็นควรในการท้าทายเกี่ยวกับ ค่านิยมและกฎหมายไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นผมจึงขออนุญาตเสนอประเด็นที่ต้องคำนึงถึง หลักการเพื่อนำไปพิจารณากำหนดรายละเอียดในกฎหมายต่อไปใน ๓ ประเด็นครับ ขอสไลด์ ถัดไปครับ
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
นั่นคือ ๑. ประเด็นความเท่าเทียม ๒. ประเด็น การรับรองให้ถูกกฎหมาย และ ๓. ประเด็นข้อใส่ใจที่อาจเกิดผลกระทบต่อสังคม
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
ประเด็นแรก คือความเท่าเทียมครับท่านประธาน โดยข้อเท็จจริงพื้นฐาน คนเราที่เกิดขึ้นมามีชีวิตเป็นบุคคลหรือมนุษย์ไม่ว่าจะในแง่ของบริบทตามธรรมชาติ หรือคลอดและอยู่รอดเป็นทารกตามข้อกฎหมาย เราทุกคนไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเกิด มาเป็นเพศอะไร อยู่ในครอบครัวแบบไหน แต่เมื่อเกิดและมีชีวิตมาแล้วเราต่างเป็นคนที่มี ความเท่าเทียมกันและไม่ควรจะมีข้อจำกัดใดที่จะขึ้นมาว่าเราเป็นคนที่ไม่เท่ากันตามเพศสภาพ ที่มีเพียงชายและหญิง ดังนั้นบุคคลไม่ว่าจะเพศใดควรจะมีสิทธิที่จะเลือกใช้ชีวิต ตามวิถีที่แต่ละคนปรารถนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการสมรสเพื่อมีชีวิตครอบครัวและ การมีคนดูแลเป็นคู่ชีวิตร่วมกัน ซึ่งเพศกำเนิดไม่ควรถูกนำมาเป็นข้อจำกัดทางกฎหมาย ที่สร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมขึ้นมา ซึ่งผมดีใจที่เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็มี การคำนึงและให้ความสำคัญต่อบริบทดังกล่าวอย่างมาก และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อนสมาชิกทุกท่านในที่ประชุมแห่งนี้จะให้การสนับสนุนและช่วยกันพิจารณาถึงความก้าวหน้า ในทางสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมไทย ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะให้ การรับรองบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การมีพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พุทธศักราช ๒๕๕๘ เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลทางเพศ แต่ประเทศไทยควร จะต้องมีกฎหมายที่เป็นรูปธรรมที่สอดคล้องตามพันธสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับนานาอารยประเทศ ตามหลักการของสิทธิมนุษยชนด้วยครับ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะมีส่วนสำคัญที่เราจะสามารถ ทำให้เกิดผลขึ้นจริงได้ แล้วจะก่อให้เกิดผลดีต่อความเชื่อมั่นที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ของประเทศไทยที่เคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
ประเด็นถัดมา คือประเด็นการรับรองให้ถูกกฎหมาย ในประเด็นแรกที่ผม ได้อภิปรายวางกรอบเริ่มจากบุคคลที่ไม่ว่าจะเกิดมีเพศสภาพแบบใดก็สามารถที่จะสมรส และมีชีวิตคู่ร่วมกันได้ อันเป็นสิทธิที่บุคคลพึงได้รับการรับรองจากรัฐ หลังจากที่มีสิทธินี้ ขึ้นมาแล้ว กฎหมายพึงจะต้องทำให้สอดคล้องกับจุดเริ่มต้นด้วย เช่น การปรับเปลี่ยนคำที่มี นัยในทางกฎหมายให้มีความสอดคล้องกัน แต่ผมเห็นด้วยที่จะต้องมีคำที่ระบุเพศ ในบางบริบท เช่นเพื่อให้พิสูจน์ทราบได้ในทางอัตลักษณ์กำเนิด ซึ่งย่อมมีผลต่อความสะดวก ในการจัดทำบริการสาธารณะต่าง ๆ ที่รัฐพึงจะจัดให้ หรือการพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์ของ บุคคลที่มีผลในแง่ของความมั่นคง นอกจากการมีสิทธิในการสมรสแล้วกฎหมายฉบับนี้ ยังได้กำหนดหน้าที่ที่คู่สมรสต้องมีเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ขอชื่นชมว่าคณะผู้ร่างได้พยายามคิด มาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการหมั้น เหตุแห่งการฟ้องหย่า การถือครองทรัพย์สิน การพิสูจน์สิทธิในตัวบุตร อย่างไรก็ตามครับ สภาแห่งนี้จะได้มีส่วนสำคัญในการมีส่วนร่วม พิจารณาให้เกิดความรอบคอบมากยิ่งขึ้น
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
ประเด็นสุดท้าย คือข้อใส่ใจที่กฎหมายฉบับนี้อาจส่งผลกระทบต่อสังคม แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะเป็นจุดที่สวยงามทั้งในเชิงหลักการและความปรารถนาที่จะทำให้ประเทศไทย เป็นสังคมที่มีความเท่าเทียม แต่ในทางปฏิบัติการใช้ชีวิตร่วมกันของบุคคลในครอบครัวจะมี แต่ความสุขสงบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ความรักและความสัมพันธ์ที่มีลักษณะเฉพาะในครอบครัว นั้น ๆ ย่อมมีทั้งทุกข์และสุขครับ ซึ่งรัฐควรจะต้องให้ความรับรองโดยพื้นฐานของกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อปัจเจกบุคคล ตลอดรวมไปถึงความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อบุตร ในบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการจัดทำบริการสาธารณะ เช่น ในมิติของการศึกษา ที่จะต้องก่อร่างสร้างฐานความเข้าใจชุดใหม่ที่จะทำให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเคารพ สิทธิซึ่งกันและกัน ในส่วนที่มีความสอดคล้องไปกับประเด็นสมรสเท่าเทียมนี้ภายใต้ของ กฎหมายอื่น ๆ โดยเฉพาะความมั่นคงและความเชื่อทางศาสนา เราอาจจะต้องให้ความสนใจ และใส่ใจในการร่วมกันพิจารณาเพื่อให้กฎหมายเมื่อมีผลบังคับใช้แล้วสามารถปฏิบัติได้ โดยมีผลกระทบน้อยที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน
นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ
สุดท้ายนี้ครับท่านประธาน ผมขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติสมรส เท่าเทียมฉบับนี้บนฐานที่เชื่อว่าคนเรามีความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเกิดมาในเพศอะไรก็ตาม ตามธรรมชาติ ทุกคนควรมีสิทธิที่จะเลือกใช้ชีวิตสมรส สร้างครอบครัวกับบุคคลที่รัก โดยมี กฎหมายที่เป็นธรรมให้การรับรอง ซึ่งขณะเดียวกันจะต้องมีหน้าที่ที่พึงร่วมกันรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเองและสังคมด้วย ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านเอกราช อุดมอำนวย เชิญครับ
นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม จอจาน เอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คนดอนเมือง พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ จากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทยใช้ประมวล กฎหมายนี้มาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๘ จนวันนี้ ๙๘ ปีมาแล้วที่กลุ่ม หลากหลายทางเพศ ต้องผ่านคืนวันที่โหดร้าย ๙๘ ปีที่ไม่มีสิทธิในการจัดตั้งครอบครัวจาก บทบัญญัติเดิมบุคคลจะสมรสกันได้ก็ต่อเมื่อชายหญิงเขียนไว้แบบนี้ครับ มีอายุ ๑๗ ปี บริบูรณ์ซึ่งทำให้ บทบัญญัติเรื่องของการสมรสนี้เป็นเฉพาะชายและหญิงในทุกร่างที่เสนอ ในวันนี้ เขาเสนอแก้ง่าย ๆ เลยครับ ถ้าผู้ชมฟังแล้วก็เข้าใจเขายกกล่องเพศออก บัญญัติใหม่ เป็นการสมรสจะทำได้ก็ต่อเมื่ออายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ในร่างของพรรคก้าวไกลหรือ ๑๗ ปี บริบูรณ์ในร่างของ ครม. ซึ่งแตกต่างกันนิดเดียว แต่หลักการที่เพื่อนทุกคนอภิปรายมานี้ก็จะ เห็นตรงกันว่าบุคคลจะสมรสกัน คำว่า สมรส คือการให้สิทธิในการจัดตั้งครอบครัวกับบุคคล นั้น ๆ การจดทะเบียนสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายมีทั้งสิทธิ หน้าที่และศักดิ์ศรีที่พึงมีต่อกัน ในการใช้ชีวิตร่วมกัน ผู้ที่ออกกฎหมายสมัยนั้นอาศัยอะไรครับ ความเชื่อสืบต่อกันมาว่า การสมรส รักกันรับรองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวนี้สามารถกระทำได้เฉพาะชายหญิงความ เชื่อนั้นมาจากไหน ใครเป็นคนบอก การศึกษาหรือ สังคมหรือ จารีตหรือ ต่างบอกแล้วว่าต้อง เป็นชายนะ ต้องเป็นหญิงนะ แต่แบบนั้นมันไม่ใช่ตัวเรา การจะอ้างว่าประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติและเป็นจารีตที่ทำมานานเพื่อให้อยู่กินฉันสามี ภรรยา สร้างสถาบันครอบครัวมีบุตรดำรงเผ่าพันธุ์ตามธรรมชาติ สืบทอดทรัพย์สมบัติมรดก ส่งต่อความผูกพันระหว่างพ่อ น้อง ลุง ป้า น้า อา การสมรสระหว่างผู้ที่มีความหลากหลาย ทางเพศก็สามารถสร้างความผูกพันที่ละเอียดอ่อนดังกล่าวได้เฉกเช่นเดียวกัน ไม่ต่างกันเลยครับ สิทธิในการก่อตั้งครอบครัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ท่านประธานครับ ประเทศไทยให้คำปฏิญาณ โดยสมัครใจกับกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน UPR ตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ ว่าจะทบทวนเงื่อนไขการสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่จำกัดสิทธิการสมรส เอาไว้ ปัจจุบันหาการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้สำเร็จ แน่นอนว่าประเทศไทยก็จะเป็นที่ยอมรับ จากนานาชาติไปโดยปริยาย และถือเป็นการปฏิบัติตามคำสัญญาพันธกรณีระหว่างประเทศที่ลงนามรับรองไว้ด้วย ถ้าท่าน สมาชิกท่านใดจะกังวลถึงประเด็นสวัสดิการของรัฐว่าในกรณีที่ไม่ได้กำหนดเพศสำหรับ การสมรสไว้ อาจจะเกิด เช่น สามีเบิกค่ารักษาพยาบาลมะเร็งปากมดลูก ภรรยาเบิกค่ารักษา ต่อมลูกหมาก หรือสามีเบิกค่าทำคลอดต้องให้พิสูจน์นะครับ ทั้งสภาพเพศและมีใบรับรอง แพทย์ทุกกรณี เมื่อคำนึงถึงสัดส่วนที่พึงจะเกิดขึ้น หรือว่าจะอ้างว่าเป็นการเพิ่มภาระของรัฐ ทำให้สิทธิของสามีภรรยาที่เป็นชายหญิงจริงนี้ ซึ่งเป็นมหาชนต้องถูกตรวจสอบด้วย ฟังไม่ขึ้นครับ แล้วทำไมคนที่เป็นข้าราชการสักคนหนึ่ง ถ้าไม่ได้แต่งงานกับเพศที่ตัวเอง ไม่ได้ชอบก็หมดสิทธิในการดูแลครอบครัวเขาอย่างนั้นหรือ แบบนี้เสมอภาคตรงไหน ท่านประธานครับ ผมได้ยินเพลงหนึ่ง เขาบอกจะมีแต่เธอที่แสนดีร่วมทางตราบวันจนสิ้นใจ มันเป็นจริงได้ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ให้โอกาสพวกเขาได้สมรสกัน ได้ดูแลกันยามแก่เฒ่า ไม่ต้อง กลัวครับว่าเขาจะมาหวังประโยชน์ในสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ มันเป็นสิทธิของเขาอยู่แล้ว จะบอกว่าประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีหรือครับ ผมยิ่งคิดว่าในประเทศไทยในขณะนี้ ประสบปัญหาอัตราการเกิดน้อยลงและก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตแห่งชาติลดลง การเปิดให้เพศทางเลือกแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คำว่า แต่งงาน นี้ไม่ใช่จัดงาน แต่งนะครับ เพราะไม่มีกฎหมายนี้เขาก็จัดงานแต่งกันได้ คำว่า แต่งงาน คือจดทะเบียนสมรส ที่ไปจดกันต่อหน้านายทะเบียน รัฐให้การรับรอง คือการยอมรับความแตกต่างในสังคม ย่อมดึงดูดให้คนเข้ามาอาศัยทำงานนำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น ในปี ๒๐๒๐ เขาบอกว่า ผู้ที่สมรสเพศเดียวกันสามารถกระตุ้นทางเศรษฐกิจท้องถิ่นได้ราว ๓.๘ พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ เพราะมีจำนวนเจ้าภาพและแขกที่ต้องใช้จ่ายเกี่ยวกับงานแต่งมากขึ้น หรือ ชาวต่างชาติที่อาจจะหวังว่าเขาจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เช่น นักการทูต เจ้าหน้าที่ก็สามารถได้รับความคุ้มครองและมีศักดิ์ศรีตามที่เคยได้รับในประเทศ ต้นทางที่มีกฎหมายความเสมอภาคในเรื่องการสมรสเช่นเดียวกัน ท่านประธานครับ จากบุคคลคนหนึ่ง ความรู้สึกส่วนตัวจากรักแห่งสยาม หนังที่สะท้อนฉายสังคมเมื่อ ๑๖ ปีที่แล้ว ปัญหาการยอมรับตัวตนจนมาสู่กระแสสูง วันที่๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ ฝ่ายนิติบัญญัติ โดยพรรคก้าวไกลเสนอร่างแก้ไขสมรสเท่าเทียมนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎร เปิดรับฟัง ความคิดเห็น มีผู้แสดงความคิดเห็นมากกว่า ๕๐,๐๐๐ คน และมีคนเข้ามารับชมร่างดังกล่าว สูงถึง ๑,๓๐๐,๐๐๐ คน นับเป็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนต่างให้ความสนใจและกระตือรือร้น ในการแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก การสมรสเท่าเทียมในมุมมองหลาย ๆ ท่านที่เข้าใจ และยอมรับ ผมขอบคุณด้วยหัวใจที่ท่านเห็นถึงความสำคัญและเคารพในความหลากหลาย ซึ่งกันและกัน แล้วหลายท่านที่ยังไม่เปิดใจมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับ ประเทศไทย ยากที่จะยอมรับ แต่ทุกท่านครับ หลายประเทศก็พากันผ่านกฎหมายแล้ว ล่าสุดประเทศเอสโตเนียก็ยอมรับกฎหมายนี้และเขาจะบังคับใช้วันปีใหม่ปีหน้านี้ ปี ๒๕๖๗ นั่นเป็นจุดเปลี่ยนแปลงคู่ชีวิตที่จะมั่นคงขึ้น คู่สมรสที่จะอยู่กันได้อย่างสมบูรณ์ วันนี้เรามี ๔ ร่างเข้าสภาย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประเทศไทย ทั้งมิติสังคมและการสร้าง ครอบครัว ทำให้เกิดการยอมรับทางกฎหมาย ง่าย ๆ เลยครับ ใครบอกว่ามันคือการขยายสิทธิ ท่านต้องเข้าใจใหม่ มันคือการคืนสิทธิที่รัฐพรากเขาไป การสมรสเท่าเทียม หรือการสมรส ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทุกบุคคลในประเทศไทย ไม่ใช่การเรียกร้องสิทธิที่ได้เหนือมากกว่าใคร เขากลุ่มนี้แค่ต้องการอะไรที่ทุกคนทำมาก่อน ให้สิทธิทุกคนเท่ากันอย่างเท่าเทียม ฝากสภา ชุดที่ ๒๖ ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เชิญครับ
นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่าน ประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ดิฉันขออภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. สมรส เท่าเทียมที่รัฐบาลได้นำเสนอและบรรจุเข้าสภาในวันนี้ ท่านประธานที่เคารพ การสมรส เท่าเทียมนั้นมันคือสิทธิที่ทุกคนควรจะได้รับ กฎหมายฉบับนี้สามารถทำให้คนเพศเดียวกัน สามารถหมั้น แต่งงาน มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางสังคมครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรส ชายและหญิง และยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่มีความหลากหลาย ทางเพศค่ะ เรื่องการสมรสเท่าเทียมนี้สังคมวันนี้ให้ความสนใจ สังคมได้รับความยินดีที่วันนี้รัฐบาลได้นำ กฎหมายฉบับนี้เข้ามาในสภา เพราะมันแสดงถึงการปรับตัวของภาครัฐต่อการเปลี่ยนแปลง ของโลก ในขณะที่พวกเราผู้ใหญ่มีความยินดีกับความคืบหน้าของกฎหมายฉบับนี้ ดิฉันขอ ฝากประเด็นให้สังคมและตัวแทนกรรมาธิการพิจารณาถึงว่าเราจะปกป้องเด็กที่จะเติบโตมา ในครอบครัวที่มีเพศเดียวกันภายใต้ พ.ร.บ. ฉบับนี้อย่างไร ดิฉันเชื่อว่าในฐานะคนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ไม่ว่าเพศใดก็ตาม ไม่มีใครอยากเห็นลูกตัวเองถูกล้อหรือถูกโดนรังแก ได้รับผลกระทบ ทางจิตใจจากสังคม เด็กที่มาจากครอบครัวที่มีพ่อแม่เพศเดียวกันควรที่จะได้รับการคุ้มครอง และควรที่จะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อให้เด็กเติบโตมามีพัฒนาการที่สมบูรณ์ แข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ สิทธิที่เด็กที่เกิดจากครอบครัวเพศเดียวกันจะได้รับภายใต้ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมนี้ของไทยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ สิทธิในการได้รับนามสกุลของพ่อแม่ สิทธิในการได้รับมรดกจากพ่อแม่ หรือสิทธิในการได้รับ สวัสดิการและความช่วยเหลือของภาครัฐ สิทธิเหล่านี้ค่ะท่านประธาน มันจะช่วยให้เด็กที่เกิด จากครอบครัวในประเภทเดียวกันเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย ท่านประธานที่เคารพคะ กฎหมายอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องเด็กที่เติบโตมา เหล่านี้จากการถูกล้อหรือถูกรังแก เราจำเป็นที่จะต้องมีการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้กับความหลากหลายทางเพศให้กับสังคมไทย เพื่อไม่ให้ผู้คนนั้นตื่นตระหนกว่าทุกคนนั้น มีสิทธิที่จะเลือกคู่ครองและใช้ชีวิตตามรสนิยมทางเพศของตัวเอง โดยไม่ได้รับการรังแกหรือ ถูกเหยียดหยามในสังคม นอกเหนือจากนี้ดิฉันขอส่งข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลแล้วก็ กรรมาธิการผู้ที่เป็นตัวแทนของรัฐสภา ว่ารัฐบาลควรมีมาตรการที่จะช่วยเหลือป้องกันเด็ก จากการโดนถูกล้อหรือถูกรังแกอย่างไร การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลาย ทางเพศให้กับเด็กและเยาวชนตั้งแต่ในวัยเยาว์ในสถานศึกษา ในโรงเรียนเป็นสิ่งที่จำเป็นค่ะ การที่โรงเรียนและสถานศึกษามีนโยบายที่เปิดกว้างและยอมรับกับความหลากหลายทางเพศ เป็นสิ่งที่สำคัญ รณรงค์ให้สังคมไทยนั้นตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพสิทธิมนุษยชน และสิทธิในการเลือกคู่ครอง โดยสรุปแล้วค่ะท่านประธาน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมของไทย เป็นก้าวสำคัญที่จะปกป้องเด็กที่เกิดจากครอบครัวเพศเดียวกัน กฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้าง หลักประกันว่าเด็กกลุ่มนี้จะได้รับสิทธิและสวัสดิการเช่นเดียวกับเด็กที่เติบโตมาในครอบครัว ที่มีพ่อแม่ต่างเพศ ขอบคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปท่านกัลยพัชร รจิตโรจน์ เชิญครับ
นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน กัลยพัชร รจิตโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลค่ะ ขอเรียกร้องให้รัฐสภาผ่านร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมในวันนี้ค่ะ ท่านประธานคะ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศได้อาศัยอยู่ร่วมกัน เป็นครอบครัวเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ประเทศไทยเรายังขาดเครื่องมือทางกฎหมายที่จะ ดูแลความสัมพันธ์แบบครอบครัวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ลองคิดดูนะคะ หากคนที่เรารัก และใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยาเกือบ ๑๐ ปี ต้องเข้ารับการผ่าตัดประสบอุบัติเหตุ แต่เรากลับเซ็นรับรองการผ่าตัดนั้นไม่ได้ เพียงเพราะไม่มีสิทธิเป็นคู่ชีวิตตามกฎหมาย เราจะรู้สึกอย่างไรคะ หากคน ๒ คนอยากจะเริ่มชีวิตคู่และตั้งใจจะขอสินเชื่อเงินกู้ร่วม เพื่อซื้อบ้านด้วยกัน เพื่อแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน แต่ไม่สามารถทำได้โดยสะดวก เพราะกฎหมายที่มีอยู่ ไม่รับรองคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศเราจะรู้สึกอย่างไรคะ ในฐานะแพทย์ดิฉันอยากจะ ขออนุญาตแชร์เรื่องราวของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศคู่หนึ่งค่ะท่านประธาน ทั้ง ๒ คนประสบปัญหาในการขอสินเชื่อเงินกู้ร่วม จนสุดท้ายฝั่งหนึ่งต้องใช้สิทธิข้าราชการใน การกู้เพื่อนำเงินมาสร้างบ้านเองเพียงคนเดียว แต่เพียงแค่ ๑ เดือนหลังจากสร้างบ้านเสร็จ ปรากฏว่าคู่ชีวิตของเขาป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย การรักษาทำได้เพียงแค่ประคับประคอง เท่านั้น ถึงแม้ว่าฝั่งหนึ่งจะเป็นข้าราชการ และโดยทั่วไปสวัสดิการของข้าราชการก็จะเบิกได้ เต็มอัตรา แต่ในกรณีนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่รับรองว่าเขาทั้ง ๒ คนเป็นคู่ชีวิตกัน สุดท้ายผู้ป่วยจึงเลือกแจ้งกับแพทย์ว่าขอปฏิเสธการรักษาและเลือกจะกลับไปใช้ชีวิตในช่วง สุดท้ายด้วยกัน เรื่องที่ยกมาแม้จะเศร้านะคะ แต่ยังดีกว่ากรณีอื่น ๆ หลายกรณีที่ผู้ป่วย ไม่สามารถสื่อสารได้แล้ว สำหรับผู้ป่วยที่มีความหลากหลายทางเพศที่ไม่ได้ติดต่อทางบ้านมา เป็นเวลานานปัญหามักจะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อแพทย์ต้องการติดต่อพบญาติหรือญาติทาง สายเลือดเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจในการดูแลผู้ป่วยโดยไม่ทันฉุกคิดถึงมิติในการนำ คู่ชีวิตหรือคนใกล้ชิดของผู้ป่วยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดูแลผู้ป่วยและเป็นคนช่วย ตัดสินใจในการดูแลผู้ป่วย เพราะกฎหมายไม่อนุญาต ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพใน การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เนื่องจากญาติทางสายเลือดก็ไม่ทราบว่าผู้ป่วยต้องการ การดูแลแบบใด แต่คู่ชีวิตที่ใกล้ชิดของเขาต่างหากที่เป็นคนทราบความต้องการของผู้ป่วย ดีที่สุดกลับไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ท่านประธานคะ ดิฉันเชื่อว่าความรักควรเป็นเรื่อง ของการตัดสินใจร่วมกันของคน ๒ คน โดยคนนอกไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวโดยไม่จำเป็น เพราะว่า ในความเป็นจริงโลกของเรามีความซับซ้อนมากกว่านั้น รัฐไทยจึงควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ที่จะรับรอง และอำนวยความสะดวกให้การใช้ชีวิตคู่ของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศมีปัญหาและ อุปสรรคน้อยที่สุด ขอบคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบพระคุณครับ ต่อไปท่านณัฐจิรา อิ่มวิเศษ เชิญครับ
นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นครราชสีมา ต้นฉบับ
ท่านประธานสภาที่เคารพคะ ดิฉัน นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต ๔ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันต้องขอขอบคุณทางรัฐมนตรีแล้วก็รัฐบาลที่เห็นเรื่องความเท่าเทียม เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ดิฉันจึงขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายค่ะ มนุษย์ทุกคนเกิดมามีอิสระ และเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและสิทธิค่ะ ข้อความนี้ถูกระบุในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิ มนุษยชนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศค่ะ สิทธินั้น เป็นของทุกคน โดยผู้มีความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQIAN+ ต่างก็มีสิทธิที่จะได้รับ การคุ้มครอง เคารพ และเติมเต็มสิทธิมนุษยชนของพวกเขาเช่นเดียวกันค่ะ รวมไปถึง การคุ้มครองจากการเลือกปฏิบัติ แต่ที่ผ่านมาบุคคลหลากหลายทางเพศกลับเป็นกลุ่มบุคคล ที่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค บางคู่ต้องประสบปัญหาจากการที่ไม่สามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผล ไม่สามารถใช้สิทธิใด ๆ ได้เช่นเดียวกับคู่รักแบบชายหญิง นั่นถือเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ให้กับกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศเป็นอย่างมาก ดิฉันเชื่อว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามและ ไม่ควรถูกจำกัดด้วยอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกประเทศต่างให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิและ เสรีภาพ ดังนั้นสิทธิและเสรีภาพของบุคคลไม่ควรถูกจำกัดด้วยเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ ทางเพศหรือใด ๆ เพราะฉะนั้นในการสมรสของ ๒ คนที่รักกันก็ควรจะได้รับสิทธิอย่าง เท่าเทียมกันทุกคน อีกทั้งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการสร้างครอบครัวด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นถือ เป็นสิทธิที่ทุกคนพึงได้รับหลักการไม่เลือกปฏิบัติโดยกฎหมาย สิทธิส่วนบุคคลในการตัดสินใจ ที่เกี่ยวข้องกับการสมรสและเสรีภาพในการสมรส ถือเป็นสิ่งที่บุคคลไม่ว่าจะเป็นเพศใด พึงที่จะมีสิทธิที่จะได้รับอย่างเสมอภาค ด้วยเหตุนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้จะทำให้ ความหลากหลายทางเพศก็สามารถหมั้นได้และสมรสกันได้ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ อันจะส่งผลให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวที่เท่าเทียมกันกับคู่สมรสที่เป็นชายหญิง สิทธิในการจดทะเบียนสมรสก็เช่นกันค่ะ หรือสิทธิในการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส ก็มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านได้พูดถึงเรื่องสิทธิในการจดทะเบียนสมรสหรือการรักษาพยาบาล ต่าง ๆ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่นสิทธิรับประโยชน์ ทดแทนจากประกันสังคมเป็นต้น ก็อย่างที่ทราบกันดีว่ากว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะได้เข้า มาสู่ในรัฐสภาก็ใช้เวลาพอสมควร ซึ่งวันนี้ก็ได้เข้ามาสำเร็จแล้วก็ยินดีกับทุกท่านนะคะ เมย์เองก็มีเพื่อน พ่อ แม่ พี่น้อง หรือว่าญาติเป็นผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ วันนี้ก็รู้สึก ดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นหนึ่งเสียงเพื่อผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ ซึ่งเมื่อเราได้มี การเสนอร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งเป็นการดำเนินการ ตามคำแถลงนโยบายของคณะท่านเศรษฐา ทวีสิน ที่แถลงต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลจะผลักดันให้ มีกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยไม่ควรไม่มีใครไม่เท่าเทียม ขอบคุณค่ะ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่านนะครับ ท่านชลธานี เชื้อน้อย ท่านวรวงศ์ วรปัญญา ท่านภัสริน รามวงศ์ เชิญท่านชลธานี เชื้อน้อย ครับ
นายชลธานี เชื้อน้อย ลำปาง ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ชลธานี เชื้อน้อย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง เขต ๓ พรรคก้าวไกลครับ ขอส่งสารผ่านท่านประธานไปยังเพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฎรในสภาของเราที่จะร่วมพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือที่เรารู้จักกันดีว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมในวันนี้ ในฐานะน้องชายที่มีพี่สาวเป็นคู่รักที่มีความหลากหลาย ทางเพศ มันถึงเวลาแล้วครับสำหรับประเทศไทยที่การสมรสคือการวางรากฐานอนาคตไม่ใช่ แค่สำหรับชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่สำหรับคนทุกคน ผมขออภิปรายกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในประเด็นของการจัดการทรัพย์สิน ท่านประธานครับ กว่าคนเราที่จะเลือกคนรักเพื่อใช้ชีวิต ด้วยกัน เป็นครึ่งหนึ่งของกันและกัน พวกเขาต้องก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกันมากขนาดไหน แล้ววันหนึ่งพวกเขาอยากตกลงปลงใจมั่นหมายแต่งงานกัน ย่อมมีทรัพย์สินที่เกิดจาก การทำมาหากิน ย่อมมีการกู้ การทำธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคง ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า จะต้องมีมูลหนี้ครับ ในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มปล่อยกู้ให้คู่รัก LGBT สามารถ กู้ร่วมได้ เพื่อซื้อบ้าน ซื้อคอนโดมิเนียม เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างโอกาสการเติบโต แม้จะเป็น ลูกหนี้ร่วมกันแต่อสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาในฐานะคู่รัก ของ LGBT หากเกิดเหตุไม่คาดฝันทรัพย์สินจะถูกส่งต่อไปยังผู้สืบสันดานของแต่ละบุคคล ก็คือพ่อหรือแม่ตามลำดับ ซึ่งบางครั้งทรัพย์สินเกิดจากการทำงานของบุคคล ๒ คน แต่เมื่อคนใดคนหนึ่งจากไป คู่สมรสไม่ได้รับทรัพย์ของอีกคนหนึ่งมาเพื่อชำระหนี้ แต่ต้องแบก หนี้ต่อไปครับและผู้สืบสันดานที่ได้รับทรัพย์สินส่วนแบ่งไป ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มาร่วมสร้าง ทรัพย์สินกันครับ แต่ในกรณีนี้สินสมรสจะนำมาถูกชำระหนี้ก่อนสินส่วนตัวของทั้ง ๒ ฝ่าย และคู่สมรสก็จะเป็นผู้สืบสันดานอันดับหนึ่งของคู่สมรสด้วย ตัวบทกฎหมายนี้จะสร้าง ความเท่าเทียมให้คนไทยทุกคน ยกตัวอย่างเช่น การแต่งงานของชายหญิงรักต่างเพศในตัว บทกฎหมายปัจจุบันมีการรับรองไม่ว่าจะเป็นการหมั้น การแต่งงาน การจัดการทรัพย์สิน ต่าง ๆ เช่นนาย A และนางสาว B แต่งงาน สักพักเลิกรากันและมีเหตุให้ฟ้องร้องพวกเขา สามารถฟ้องร้องต่อกันเพื่อการจัดการทรัพย์สินได้ แต่คู่รัก LGBT หากคบกันแต่งงานกัน ในสักวันหากมีเหตุให้ต้องมีเหตุเลิกรา การจัดการทรัพย์สินย่อมเป็นเรื่องยาก เพราะกฎหมาย ไม่ได้โอบอุ้มคนทุกคนเท่าเทียมกัน บนพื้นฐานความสัมพันธ์มีทั้งรักกันและเลิกรา แต่สิทธิ ขั้นพื้นฐานไม่ได้โอบอุ้มคนทุกคนเท่ากัน ตามมาตรา ๑๕๓๒ กำหนดสิทธิในเรื่องของการหย่า และการจัดการสินสมรสให้มีการแบ่งสินสมรสอย่างเป็นธรรม โดยทรัพย์สินที่ทำมาหากินได้ ระหว่างร่วมสมรสจะเริ่มต้นเมื่อจดทะเบียนสมรสและสิ้นสุดลงเมื่อจดทะเบียนหย่า ทำให้คู่สมรสทราบว่าทรัพย์สินใดเป็นสินสมรสอย่างชัดเจน หากเป็นการหย่าโดย ความยินยอมก็ยึดวันที่ไปจดทะเบียนหย่า หากฟ้องร้องให้มีการหย่าก็ย้อนไปถึงวันฟ้องหย่า การผ่านกฎหมายฉบับนี้รัฐจะโอบอุ้มทุกคนเท่าเทียมกัน พวกเราขอยืนยันในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะทำให้ทุกคนเท่ากันด้วยกฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ครับ True Love Exist ครับ รักแท้มีอยู่จริงและไม่จำกัดเพศ และไม่จำกัดความแตกต่างทางสังคม ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านครูมานิตย์ มีอะไรครับ
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สุรินทร์ ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพครับ ผม ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากจังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ผมอยาก หารือกับท่านประธานแล้วก็เพื่อนสมาชิกในห้องประชุม คือเท่าที่ฟังดูนี้ก็อภิปราย ๓ ประเด็นหลัก เกือบจะทุกท่านก็คือเรื่องของความเหลื่อมล้ำ เรื่องของสิทธิ แล้วก็เลยไปถึง เป็นห่วงญาติ ผมคิดว่าน่าจะปรับลดเวลาได้ ผมไม่อยากที่จะให้บรรยากาศมันเสีย ว่าต้องขอ เสนอญัตติปิดประชุมอะไร ผมว่าน่าจะปรับเวลาลงมา เพราะว่าถ้าหลังจากนี้ไปดูจำนวน คนแล้ว แล้วก็เจ้าของญัตติอภิปรายอีกมันก็ตกไปถึง ๒-๓ ทุ่ม ประเด็นที่ผมเป็นห่วง ผมกลัว ว่ากฎหมายมันจะมีปัญหามันจะไม่ผ่านอีก ที่ไม่ผ่านเพราะผมกลัวองค์ประชุมไม่พอ เพราะว่า ทุกคนทุกฝ่ายเห็นด้วย พรรคก้าวไกลเห็นด้วย ภาคประชาชนเห็นด้วย พรรคเพื่อไทยเห็นด้วย พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย แต่ว่าดูซ้ายดูขวาแล้วมันอย่างไร ๆ อยู่ ก็เป็นห่วง เพราะว่า ถ้ามันพลาดไปจากอาทิตย์นี้ ท่านประธานที่เคารพครับ อาทิตย์หน้าก็งบประมาณอีก แล้วอาทิตย์ต่อไปแทนที่เราจะได้ตั้งกรรมาธิการแล้วก็ไปคุยในเรื่องสิทธิในเรื่องความเหลื่อม ล้ำในเรื่องของประเด็นข้อกฎหมายซึ่งผมเท่าที่นั่งฟังดูยังไม่มีใครหยิบยกมาตรานั้นมาตรานี้ ขึ้นมาเลยนะครับ จริง ๆ แล้วถ้าเป็นสมัยก่อนเขาเรียกว่าอภิปรายซ้ำ ๆ ประเด็นอยู่ ผมก็เลย อยากให้ท่านประธานได้พิจารณาวินิจฉัยครับ คือถ้าอภิปราย ๗ นาที ท่านประธานจับดูเวลา มันจะกลายเป็น ๘ เพราะมันชดเชยมาอีกมันเกิน ถ้า ๕ ผมคิดว่าอาจจะเลยไปถึง ๖ ถ้า ๖ นี้ มันก็ยังเวลาเยอะอยู่ดี แต่ก็เห็นใจหลายท่านเตรียมการมาอภิปราย แล้วก็ตั้งแต่กฎหมาย เข้าสภารู้สึกว่าญัตตินี้อาจจะมีคนเข้าชื่อกันมากที่สุด แต่ว่าเวลาสิครับ ตัวผมไม่ได้เป็นห่วง แต่ผมเป็นห่วงว่ากฎหมายมันไม่ผ่าน องค์ประชุมจะไม่ครบ พอไม่ครบแล้วมันจะกลายมาเป็น ประเด็นอีกทั้ง ๆ ที่ทุกฝ่ายมีความคิดเหมือนกันว่าอยากให้กฎหมายฉบับนี้ผ่าน โดยเฉพาะ รัฐบาล เป็นนโยบายหาเสียงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่เบื้องต้นด้วย แล้วก็พรรคก้าวไกล ก็ชูประเด็นนี้เป็นหลักมาตั้งแต่สมัยที่แล้ว ก็กราบเรียนให้ท่านประธานวินิจฉัยครับ ขอบพระคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านสมาชิกครับ ผมฟังดูแล้วประเด็นก็เริ่มซ้ำ ๆ กันแล้ว ถ้าเราอยากจะรีบ ๆ วันนี้ให้ผ่าน ผมคิดว่าพวกเราต้องเสียสละนะครับ เพราะพวกเราก็เห็นด้วยทุกคนว่าเราอยากจะให้เรื่องนี้ ผ่านไปด้วยดี แต่ถ้าเราช้า ผมเกรงว่าองค์ประชุมเราจะขาด เพราะว่าเป็นวันพฤหัสบดี ซึ่งทุกคนก็กลับบ้านลงพื้นที่นะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้พลาด วันที่ ๑๐-๑๑ ที่เราจะได้ พิจารณากันใหม่ ฉะนั้นขอให้ท่านสมาชิกที่รักในเรื่องนี้ขอให้เสียสละ แล้วก็ฟังเพื่อน ๆ พูดก็พอสมควรนะครับ แล้วเราจะได้โหวตกัน แล้วก็ตั้งคณะกรรมาธิการกันวันนี้เลย ก็ขอลดเวลาคนละ ๕ นาที เบื้องต้นนะครับ แล้วท่านใดที่คิดว่ามีประเด็นซ้ำกับเพื่อนแล้วก็ มาถอนชื่อ แล้วเราจะได้พิจารณากันให้เสร็จทันวันนี้นะครับ เชิญท่านวรวงศ์ วรปัญญา ๕ นาทีนะครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผมรักษาเวลาอยู่แล้ว ครับท่านประธาน เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เดี๋ยวสักครู่นะครับท่านวรวงศ์ ท่านซูการ์โน มีอะไรครับ
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพครับ ผม ซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต ๒ พรรคประชาชาติ ในข้อความคิดเห็นของ ท่านครูมานิตย์ก็เป็นที่เข้าใจนะครับ แต่ว่าด้วยที่พวกผมพรรคประชาชาติซึ่งยังไม่มี ใครอภิปราย แล้วก็เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เราต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศให้เข้าใจว่าในการตัดสินใจของพวกเราสมาชิกพรรคประชาชาติ เรามีเหตุและผลอะไรที่เราไม่สามารถที่จะรับหลักการและไม่เห็นด้วยกับพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับนี้ เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตท่านประธานว่าในส่วนของพรรคประชาชาติ ผมต้องขอ เวลาพิเศษจากท่านนิดหนึ่ง เพราะว่าเพื่อนสมาชิกก่อนหน้านี้ก็อภิปรายกันไป ๑๕ นาทีบ้าง ๒๐ นาทีบ้าง ที่สนับสนุน แต่ในมุมมองที่ตรงข้ามกัน มีมองอีกมิติหนึ่งของพี่น้องประชาชน ที่นับถือศาสนาอิสลาม เราต้องอธิบายผมไม่ได้โกรธ ผมไม่ได้รังเกียจกลุ่ม LGBT แต่ผมต้อง แสดงมุมมองในหลักการของผมว่าอะไร จึงเป็นเหตุผลที่ผมพรรคประชาชาติไม่สามารถที่จะ รับหลักการ แล้วก็ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ทั้ง ๔ ฉบับในวันนี้ด้วยท่านประธานครับ ขออนุญาต ในส่วนของพรรคประชาชาติว่าเวลาที่เราขอไป ขอให้ยืนอยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านซูการ์โนคิดว่าในส่วนของพรรคท่าน ท่านจะใช้เวลาสักเท่าไร เพราะว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว เชิญท่านครับ ท่านจะใช้เวลาสักเท่าไรในสัดส่วน เพราะว่าพรรคใหญ่ ๆ ก็พูดไปเยอะแล้ว นะครับ
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
คือผมก็เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลนะครับ แต่เป็นมุมมองที่เราอาจจะให้สะท้อนอีกมิติหนึ่ง ให้พวกเราที่เป็นเพื่อนสมาชิกในสภา ได้เห็นว่าเรามีเหตุผลอะไรที่จะต้องอภิปรายอย่างนี้ ฉะนั้นในส่วนตัวผม ผมยื่นไป ๑๕ นาที ส่วนที่เหลือเพื่อนสมาชิกจากเดิมเราจะอภิปรายกัน ๕ คน เราลดเหลือแค่ ๓ คน ก็อีกคนละ ๗ นาที ก็อยากขอความอนุเคราะห์ท่านประธานว่า สิ่งเหล่านี้เราต้องใช้เวลาอธิบาย เพราะมันเป็นเรื่องความรู้สึก เรื่องความละเอียดอ่อนของทางสังคม ถ้าเรามองแต่มุม ที่เห็นด้วย แต่เราไม่ยอมรับคนส่วนหนึ่งที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็จะลำบากครับ ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
ท่านสมาชิกครับ ขอโอกาสให้ทางท่านซูการ์โน ที่ท่านเสนอมาก็ ๑๕ บวก ๗ บวก ๗ ขอให้ ท่านก็แล้วกันนะครับ
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านวรวงศ์ วรปัญญา เชิญครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผม นายวรวงศ์ วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี เขต ๕ พรรคเพื่อไทย วันนี้ก็ขอบคุณทางด้านท่านนายกรัฐมนตรีและ ครม. ที่กำลังจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ในประเทศแห่งนี้ แล้วก็ได้เห็นทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แล้วก็รู้สึกดีใจ แล้วก็คาดหวังว่าเราจะเห็นประเด็นที่แตกต่างกันไป จริง ๆ เตรียมเรื่องมา เยอะก็อาจจะเป็นประเด็นที่ซ้ำกับทางเพื่อนสมาชิกที่อภิปรายไปแล้วก็อาจจะลดลง เพราะว่า ด้วยเวลาที่กำหนดลง ผมขอเล่าเรื่องในอดีตที่เป็นปัญหามาถึงปัจจุบันของพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าเราย้อนกันไปได้ ๗-๘ ปีมานี้ ๔ ปีมานี้เรามีการ พูดถึงความเท่าเทียมในชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย การที่เราจะมีทางเลือกเกี่ยวกับ เพศสภาพ การที่เราจะมีทางเลือกเกี่ยวกับเพศหรือพื้นที่ที่จะให้พี่น้อง LGBTQ+ เป็นอีกหนึ่ง ความเท่าเทียมที่ทุกคนควรจะได้รับโอกาสที่เท่ากัน เราเคยมีการถูก Bully เราเคยมี การถูกเหยียดกันในเรื่องของความแตกต่างที่ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นชนชั้น ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดที่แต่ละคนอยู่ หรือแม้แต่เพศที่แตกต่างกัน วันนี้เมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา หลายคนที่เป็นนักกีฬาระดับโลกระดับชาติ ต้องแอบในสิ่งที่อยู่ในใจเราก็คือเพศที่ไม่กล้า ที่จะแสดงออกมาเพราะกลัวว่าจะถูก Bully กลัวที่จะถูกมองว่าเห็นต่าง แต่วันนี้การที่เราจะ แบ่งแยกเพศ ผมว่ามันมีคำพูดสั้น ๆ ว่า Gender it in your head not between your leg จะสื่อไปว่าจริง ๆ แล้ว คำว่า เพศไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาเกิดมาเป็นแบบไหน คำว่า เพศไม่ได้อยู่ที่ว่า เราเริ่มต้นชีวิตมาอย่างไร แต่ทุกคนควรมีสิทธิเลือก และมีสิทธิที่จะเท่าเทียมทางเพศ ผมเป็น คนหนึ่งที่จะอยู่และสนับสนุน พ.ร.บ. นี้ แล้วก็ขอเชิญชวนทุก ๆ ท่านร่วมกันสร้างสรรค์ แก้ปัญหาเพื่อความเท่าเทียมของพี่น้องประชาชน และสิ่งสำคัญอยากให้สภาอันทรงเกียรตินี้ เราอยากใช้เวลาอย่างคุ้มค่าทุกนาที อยากให้ประเด็นที่ซ้ำกันแล้วผมก็อยากจะให้เพื่อน สมาชิกสละเวลา แล้วก็เสนอในประเด็นที่แตกต่างกันออกไป ผมคนหนึ่งที่จะยืนต่อสู้เพื่อ พี่น้อง LGBTQ มีขอสไลด์ด้วยครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
รูปสุดท้ายครับ มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ผม ซึ่งถ้าเราย้อนไปเป็น ๗-๘ ปีที่แล้ว หรือ ๑๐ กว่าปี ๒๐ ปีที่แล้วจะไม่มีน้อง ๆ ที่กล้า แสดงออกตอนอยู่โรงเรียน กลัวว่าจะถูกเห็นว่าแตกต่าง วันนี้ทุกคนออกมาในแนวทาง เดียวกันครับว่าต้องการความเท่าเทียม ผมก็ขอปิดการอภิปรายเพียงเท่านี้ครับ ท่านประธาน ขอบคุณครับ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ
เชิญท่านภัสริน รามวงศ์ เชิญครับ
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพค่ะ ดิฉัน ภัสริน รามวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เขตบางซื่อ เขตดุสิต แขวงนครชัยศรีค่ะ วันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอภิปรายแล้วก็สนับสนุนยืนยันการแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ วันนี้ดิฉันก็อยากจะขอ เสริมประเด็นเพิ่มเติมจากเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน โดยดิฉันจะพูดถึงการถูกบังคับ การแต่งงานหรือการสมรสก่อนวัยอันควรค่ะ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรที่ไม่สามารถมองข้ามได้ค่ะ ตามคำอธิบายของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ Child Early and Forced Marriage หรือว่า CEFM หรือการบังคับเด็ก แต่งงาน หรือจะเรียกว่าแต่งงานก่อนวัยเยาว์ ก่อนวัยอันควรถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่กระทบต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก ทำให้พวกเขาไม่ได้มีสิทธิอิสระเสรีภาพ ไม่ได้มี การขีดเขียนเส้นทางชีวิตของตนเอง ทำให้พวกเธอเปราะบางตัดขาดออกจากโลกภายนอก รวมถึงสุ่มเสี่ยงต่อการเลือกใช้ความรุนแรงโดยคู่ครองจนไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของ ตนเองได้
นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ
ปัจจุบัน ๑ ใน ๕ ของ เด็กผู้หญิงทั่วโลกหรืออย่างน้อยเด็กผู้หญิง ๑๔ ล้านคนที่อายุน้อยกว่า ๑๘ ปีถูกบังคับ แต่งงานในทุก ๆ ปี กล่าวคือว่าในทุก ๑ นาทีเราจะมีเด็กผู้หญิง ๒๘ คนที่ถูกบังคับให้แต่งงาน โดยตัวเลขนี้ทวีคูณในประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดมีเด็กผู้หญิงถึง ๔๐ เปอร์เซ็นต์ที่แต่งงานก่อน อายุ ๑๘ ปีและ ๑๒ เปอร์เซ็นต์แต่งงานอายุก่อน ๑๕ ปี เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ มาดูสถิติใน ประเทศไทย จากสถิติจาก Plan International ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ระบุว่า ๑๑๖ หมู่บ้านจาก ๙ อำเภอ ในจำนวนเด็ก ๑๓,๐๐๐ คนมี ๖๕ เปอร์เซ็นต์ที่แต่งงานตอนอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โดยที่สถิติการแต่งงานอายุน้อยที่สุด คือ ๑๑ ปี เด็กผู้หญิงไทยมีอัตราการแต่งงานก่อนอายุ ๑๘ ปีถึง ๒๒ เปอร์เซ็นต์ และก่อนอายุ ๑๕ ปี อยู่ที่ ๔ เปอร์เซ็นต์เราได้เห็นตัวเลขนี้น่าตกใจ และกฎหมายนี้เป็นช่องโหว่ที่ถูกใช้เป็นกลไกในการละเมิดสิทธิเด็ก ปัจจุบันกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์กำหนดให้ชายหรือหญิงมีอายุครบ ๑๗ ปีบริบูรณ์ กรณีมีเหตุสมควรศาลอนุญาตให้ ทำการสมรสก่อนที่ชายและหญิงนี้มีอายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์ได้ตามมาตรา ๑๔๔๘ เป็นช่องโหว่ ทำให้เยาวชนอาจตกเป็นเหยื่อในการถูกบังคับการแต่งงานก่อนวัยอันควร และนี่ก็เป็น เป้าหมาย เป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน อย่าง SDG ข้อ ๕ ว่าด้วยเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และข้อย่อย ๓ การขจัดแนวปฏิบัติที่เป็นภัยทุกรูปแบบ เช่น การแต่งงานเด็กก่อนวัยอันควร และการทำลายอวัยวะเพศหญิง ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์จะเป็นการพิจารณาปรับเปลี่ยนอายุที่สามารถสมรสได้ตามกฎหมายเป็น ๑๘ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป SDG เป็นก้าวแรกในการนำสังคมออกจากวังวนในการละเมิดสิทธิเด็ก โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ให้พวกเธอได้มีอำนาจในการกำหนดชีวิตของตนเอง นอกจากเป็นสิทธิ ความเท่าเทียมทางเพศต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศแล้ว ยังเป็นการยืนยันความเท่าเทียม ทางเพศต่อเด็กผู้หญิงและผู้หญิงด้วย วันนี้ถือเป็นโอกาสอันน่าชื่นชมแล้วก็เป็นนิมิตหมายอันดี ที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้นำเข้ามาสู่รัฐสภาไทย จากเสียงเรียกร้องของประชาชนตั้งแต่ รัฐบาลชุดที่แล้ว ร่วมกับการผลักดันสมาชิกผู้แทนราษฎรจากพรรคอนาคตใหม่จนมาถึง พรรคก้าวไกลที่ได้สร้างการสนทนาพูดคุยกลั่นกรองมาเป็นพระราชบัญญัตินี้ ดิฉันจะขอให้ ผู้ต่อสู้ทุกคนผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นระดับเล็ก ๆ มิติในชีวิตประจำวัน ของเราเองหรือในระดับสังคมก็ตาม วันนี้ขอให้พวกเราเฉลิมฉลองความสำเร็จนี้และขอให้ ก้าวไปด้วยความมุ่งมั่น มีผู้คนมากมายในอดีตที่ถูกกดทับ ถูกทำร้ายจากอคติสังคม ถูกกดขี่ โดยวัฒนธรรม วันนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแล้วค่ะ ดิฉันเชื่อว่ากฎหมายที่ก้าวหน้าจะพาเราก้าวไกล ไปกว่าเดิม ขอบพระคุณค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านซูการ์โน มะทา ใช้เวลา ๑๕ นาทีครับ
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ ผม ซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา เขต ๒ พรรคประชาชาติ แล้วก็เพื่อนสมาชิกจาก พรรคประชาชาติ ความจริงหลายท่านจะอภิปรายร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ทั้ง ๔ ฉบับ แต่ด้วยความเคารพในเรื่องของ เวลาเพื่อให้กฎหมายนี้ได้ผ่านพวกเราสมาชิกพรรคประชาชาติบางท่านก็ได้เสียสละเวลา เพื่อให้พวกเราเหลือแค่ ๔ ท่าน อยากเรียนท่านประธานทราบนะครับ
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตท่านประธานและเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรที่เคารพทุกท่านว่า วันนี้ผมมาทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามและพี่น้องประชาชนชาวมลายูจากจังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และ ๔ อำเภอของจังหวัดสงขลา ที่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้ให้ การสนับสนุนพรรคประชาชาติเป็นอย่างดีมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ เสียง และวันนี้ผมในฐานะ ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชาติ เราอยากเรียนผ่านเพื่อนสมาชิก ผู้ทรงเกียรติและผ่านท่านประธานถึงสมาชิกผู้ทรงเกียรติว่าในช่วงของการรณรงค์หาเสียง เลือกตั้งที่ผ่านมานั้นเราค่อนข้างมีนโยบายชัดเจนว่าเราไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องการสมรสเท่าเทียม และเราไม่สามารถ รับหลักการเนื่องจากเรามีเหตุผลหลายประการที่จะอภิปรายต่อไปนี้
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ เรื่องของ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมหรือการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และผมเชื่อว่าวันนี้เรามี ประชากรอยู่ ๖๐ กว่าล้านคน พี่น้องประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามนั้นเป็นพี่น้อง ประชาชนส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนน้อย แต่ก็เป็นคนที่ยังเป็นส่วนใหญ่ในประเทศไทยอยู่เช่นกัน ท่านประธานครับ วันนี้ถ้าเราจะมองผ่านไปเมื่อสัก ๒ ปีที่ผ่านมาพรรคประชาชาติ ซึ่งผมเอง ได้ลุกขึ้นมาเป็นผู้อภิปรายในเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แก้ไขเพิ่มเติมนี้ ผมก็ได้อภิปรายเมื่อสัก ๒ ปีกว่าเราไม่เห็นด้วย แล้วก็สมาชิกพรรคประชาชาติตอนนั้น ทั้งหมดก็ลงมติไม่รับหลักการและไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. นี้ ท่านประธานครับ สิ่งที่ผมอยากจะ บอกว่าทำไมเราถึงไม่เห็นด้วยกับหลักการและไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ ที่เสนอผ่านสภาผู้แทนราษฎรนั้น เบื้องต้นผมอยากเท้าความนิดหนึ่งว่าในประเทศไทย เรามีกฎหมายสูงสุด ก็คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่เป็น กฎหมายใหญ่ของประเทศ แล้วในความเชื่อการนับถือหลักศาสนาอิสลามนั้นเรามีฮูก่มหรือ หลักความศรัทธาอยู่ ๖ ประการ ใน ๖ ประการนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่นับถือศาสนาอิสลามนั้น เราต้องศรัทธาต่อพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน พระมหาคัมภีร์ซึ่งเป็นพระมหาคัมภีร์ของ พระองค์อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เทียบเท่าหรือเป็นธรรมนูญชีวิตของพี่น้องประชาชน คนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามหรือพี่น้องประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลก ฉะนั้น ผมก็อยากเรียนว่าในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวไว้ในซูเราะห์ที่ ๗ อายะห์ที่ ๘๐ และอายะห์ที่ ๘๑ ซึ่งมีความชัดเจนว่าพี่น้องที่นับถือ ที่เคร่งครัดต่อศาสนานั้นจะต้องยึดมั่น ในชีวิตคู่สมรส ถ้าจะเป็นคู่สมรสได้ก็จะต้องเป็นเพศหญิงกับเพศชายเท่านั้น เพื่อขยาย เผ่าพันธุ์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ท่านประธานที่เคารพ สำหรับพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้น ทำไมผมถึงบอกว่ามีความสำคัญต่อพี่น้องศาสนาอิสลามที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะว่ามัน เป็นวัจนะ เป็นพระราชดำรัสของพระองค์อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลาที่ส่งผ่านเทวาทูต มาถึงบรรดาท่านศาสดาเพื่อมาเผยแพร่ต่อพวกเราผู้ศรัทธาทั้งหลาย ฉะนั้นในคัมภีร์ อัลกุรอานเมื่อเขาห้าม ที่ห้ามเราต้องเชื่อว่าในหลักศรัทธาข้อสุดท้ายเราต้องเชื่อใน วันกัลปาวสาน หรือวันกาลอวสาน วันสิ้นโลกวันพิพากษาต้องมีอยู่ในตรงนั้น ฉะนั้นวันนี้ เหตุผลที่ผมไม่สามารถที่จะรับหลักการและเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นั้น เพราะว่าผมก็มีเหตุผลความจำเป็น ที่จะต้องบอกผ่านท่านประธานว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ เรามีมาตรา ๕ ได้บอกว่า บทบัญญัติใดของรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ๆ หรือขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ถือว่าบทบัญญัตินั้นกระทำการเป็นอันบังคับ ใช้มิได้ นี่มาตรา ๕ นะครับ ส่วนมาตรา ๒๕ ของรัฐธรรมนูญหลายท่านก็ได้กล่าวไว้ เรื่องสิทธิ เสรีภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทย ในการคุ้มครองเป็นการเฉพาะในรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ยังมีการกระทำใดที่พูดถึงสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนอย่างเท่าเทียม อันนี้ก็มีพูดถึง ในรัฐธรรมนูญ แต่ยังมีมาตราหนึ่งที่หลายท่านคงจะไม่ได้กล่าวถึง นั่นคือมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ บอกว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ ในการนับถือศาสนาและย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนา ของตน แต่ต้องไม่เป็นปรปักษ์ต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทย อันเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย ของรัฐและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของพี่น้องประชาชน ท่านประธานครับ สำหรับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้ง ๔ ฉบับ ผมขออนุญาตพูดถึงเฉพาะฉบับที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี เพราะ ๔ ปีที่ผ่านมา ผมเคยคุยกัน ในสภาแห่งนี้และเคยขอร้องท่านอาจารย์จากพรรคก้าวไกลว่า ทำไมรัฐธรรมนูญสามารถ เขียนบทเฉพาะกาลยกเว้นมาตรา ๒๗๙ สำหรับผู้ที่ทำการปฏิวัติรัฐประหารได้ ทำไมเรา ร่างกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎหมายเล็กกว่ารัฐธรรมนูญเราไม่สามารถที่จะบอกว่ากฎหมายฉบับนี้ ไม่สามารถไปบังคับใช้กับพี่น้องคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เพราะเหตุผลความจำเป็น ผมต้องบอกว่าต้องมีข้อพิเศษเฉพาะ บางคนก็บอกว่าการออกกฎหมายแล้วไม่บังคับใช้เฉพาะ บางคน ก็กฎหมายนั้นอาจจะใช้ไม่ได้ แต่ผมอยากบอกพี่น้องผ่านท่านประธานว่า ถ้าพี่น้อง ประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งเขาก็อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ ด้วย เขาไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นี้ เขาไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเขาก็อยู่ในมาตรา ๕ มาตรา ๒๕ มาตรา ๓๑ สภาผู้แทนราษฎร เราออกกฎหมายแล้วไปลิดรอนสิทธิการนับถือศาสนาของเขาหรือไม่ อันนี้ผมก็อยากตั้งเป็น ข้อสังเกต แต่สำคัญที่สุดนะครับ อยากบอกฝากผ่านท่านประธานถึงบรรดากลุ่ม LGBT หรือ กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศว่า พวกผมพรรคประชาชาติไม่เคยมีความขัดแย้งใด ๆ กับกลุ่ม LGBT แล้วก็เมื่อสักครู่ผมก็ได้คุยกับตัวแทนของพรรคก้าวไกลแล้วว่า ผมมีมุมมอง จุดยืนที่ชัดเจนว่าผมยึดมั่นในหลักคำสอนของพระองค์อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ฉะนั้น การทำหน้าที่ในฐานะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนนั้น ผมก็จะต้องทำหน้าที่ที่ต้องมีความ รับผิดชอบ ต้องมีมันมีอามานะฮุ มีคำมั่นสัญญาที่เราเคยให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชน ที่อยู่เบื้องหลังของเรา ว่าเราจะต่อสู้เรื่องนี้ถึงที่สุด แม้ว่าในการลงมติในวันนี้เราจะพ่ายแพ้ ในการลงมติ แต่ผมเชื่อว่าในโลกอาคีเราะห์เราและผู้สนับสนุนพรรคประชาชาติเป็นผู้ชนะ ในวันนั้น
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผมก็ขอพูดเฉพาะของรัฐบาล มีอยู่ทั้งหมด ๖๘ มาตรา ซึ่งในรายละเอียดนั้น ท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ และท่านดอกเตอร์วรวิทย์ บารู ท่านอับดุลอายี สาแม็ง ก็จะมาพูดเพิ่มเติมไปนะครับ ผมอยากบอกว่าสาระสำคัญที่ผมรู้สึกไม่สบายใจ ก็คือเราไม่แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยคู่ชีวิต ที่กำหนดว่าจะต้องเป็นเพศ ชายและเพศหญิงที่คนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศยึดถือปฏิบัติมาเป็นร้อย ๆ ปี แล้วเราไปออก กฎหมายตรงนี้เราไปบังคับใช้ ผมถามว่ากระทบอะไรกับพวกผมที่นับถือศาสนาอิสลาม ผมอยากเรียนผ่านท่านประธานถึงเพื่อนสมาชิกที่เคารพทุกท่านครับ เราบอกว่ากฎหมายต้อง บังคับอย่างเท่าเทียม ผมถามว่าถ้ากลุ่ม LGBT ที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ได้อยู่ในความ คุ้มครองของมาตรา ๖๖ แต่พี่น้องคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามที่อยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครองตามมาตรา ๖๖ ไปบอกว่าจะขอจดทะเบียนสมรส ระหว่างเพศชายกับเพศชาย แล้วพ่อแม่เขาไม่ให้ แล้วถามว่าเขาไปร้องต่อศาลว่าเราผู้ที่ จดทะเบียนนั้นละเว้นไม่ปฏิบัติตามมาตราก็จะกลายเป็นมาตรา ๑๕๗ และสิ่งสำคัญที่สุด พรรคประชาชาติเราตระหนักว่าเหตุผลสำคัญที่เราบอกว่า การดำเนินการของเรานั้นเรามี จุดยืนที่ชัดเจนว่าเราอยากจะบอกผ่านเพื่อนสมาชิกว่าที่เราไม่สามารถจะเห็นด้วยและรับ หลักการของกฎหมายฉบับนี้ เพราะว่าในพระวจนะของพระองค์อัลเลาะห์ซุบฮานะฮูวะตะอา ลาในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนั้นได้ระบุชัดว่า คู่สมรสนั้นจะต้องเป็นเพศชายและเพศหญิง เท่านั้น เพราะหน้าที่ของคู่สมรสคือการขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้เพิ่มมากขึ้น วันนี้เรามองเรื่อง ความเท่าเทียม เรามองเรื่องของสิทธิเสรีภาพ เรามองถึงเรื่องของโลกเสรี แต่เราลืมมองเรื่อง ของศีลธรรม ความรู้สึกสิ่งที่ยึดเหนี่ยวอยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนผู้เคร่งต่อศาสนาที่พวก เขานับถือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือแม้แต่ผู้ที่นับถือ ศาสนาคริสต์ก็ตาม ผมเชื่อว่าทุกคนก็มีความยากลำบากที่จะมาลงมติในเรื่องดังกล่าวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลักการของศาสนาอิสลามนั้น หากเราเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ทั้ง ๔ ฉบับนั้น สุดท้ายพวกเราทุกคนที่นับถือศาสนาอิสลามต้องกลับไปสู่พระองค์อัลเลาะห์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เราจะถูกพิพากษา สิ่งที่หนักที่สุดก็คือพวกเราทุกคนตระหนักว่า เราต้องการสรวงสวรรค์เพื่อโลกหน้าในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระบุชัดในซูเราะห์ที่ ๗ อายะห์ที่ ๘๐ อายะห์ที่ ๘๑ ว่าถ้าเราเห็นด้วยตรงนี้เราอาจจะไม่ได้กลิ่นสวรรค์ อันนี้ ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลามก็มีความรู้สึกไม่สบายใจ แต่วันนี้ผม ก็ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนมาอภิปรายตรงนี้
นายซูการ์โน มะทา ยะลา ต้นฉบับ
เหตุผลสำคัญอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากเรียนผ่านท่านประธานถึงเพื่อนสมาชิก ผู้ทรงเกียรติทุกท่านนะครับว่าสิ่งที่ผมอยากอธิบายให้เห็นชัดว่าสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย เพราะอะไร และสำคัญที่สุดทำไมผมถึงพูดแต่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรี เพราะในคณะรัฐมนตรีนั้น มีมาตรา ๖๖ ที่มาใช้ในจำนวน ๖๘ มาตรา ซึ่งในมาตรา ๖๖ นั้นเป็นการต่อสู้ของตัวแทน ของ ครม. หนึ่งในนั้นก็คือ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ต่อสู้ในคณะรัฐมนตรีเพื่อเพิ่มเติมว่า ในร่าง พ.ร.บ. นี้ ๖๘ มาตรานั้นได้เพิ่มไปอีก ๑ มาตราว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัตินี้ไม่บังคับแก่กรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่องของครอบครัวและมรดกไว้ เป็นการเฉพาะ อันนี้ถือเป็นวิวัฒนาการ พัฒนาขึ้นจาก ๔ ปีที่แล้ว เป็น ๔ ปีที่พวกเรา พรรคประชาชาติพยายามต่อสู้เพื่อให้เป็นทางออกให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยที่นับถือ ศาสนาอิสลาม แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ได้มาเพียงเฉพาะพี่น้องที่มีกฎหมาย มรดกและครอบครัวอยู่ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านประธานที่เคารพครับ เหตุผล สุดท้ายที่ผมอยากบอกว่า ในกรณีนี้ทำไมผมถึงบอกว่าเราไม่สามารถที่จะรับหลักการตรงนี้ได้ ก็อยากยกบทความของท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์อับดุลรอนิง สือแต ซึ่งได้กล่าวว่า ศีลธรรมที่มุสลิมมองแตกต่างกับชุดจริยธรรมโลกเสรีว่าศีลธรรมเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะผิดพลาดไปมากกว่านั้นก็คือการมองเห็นความชั่วร้ายที่อิสลามพูดถึง ก็คือการละเมิด ศีลธรรม อย่างที่คนพูด ๆ กัน การฆ่าคนหนึ่งคนเท่ากับการฆ่าคนทั้งโลก การกระทำผิดซินา หรือการผิดประเวณีมันไม่ใช่มุมมองแบบศีลธรรมทั่วไป มันคือความผิดทางเพศเท่านั้น แต่มัน หมายถึงการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นเพศหญิงที่ไม่ใช่การหลับนอนกับชายและหญิงเป็น การส่วนตัว ฉะนั้นในมุมมองของความเลวไม่ใช่ศีลธรรมที่ศาสนาที่เข้าใจ แต่มันคือ การผิดพลาดในอารยธรรมของมนุษย์ ต่อเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ท่านประธานครับ ต่อธรรมชาติ ของความดีงาม พระมหาอัลกรุอานมักเรียกว่า มะอรูฟ ซึ่งหมายถึงสิ่งที่มนุษย์รู้จักและคุ้นเคย กันดี ตามร่างคำแล้วสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจยอมรับมันได้ตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ คือการปฏิเสธมัน และสุดท้ายวันนี้หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ หลายประเทศรณรงค์ให้ประชาชนของแต่ละประเทศเพิ่มจำนวนประชากร เพราะประชากร ลดลงนั้นในทางสังคม เหตุผลหนึ่งที่เราไม่เห็นด้วยกับร่างหลักการอันนี้ก็คือว่า มีคำพยากรณ์ ว่าอนาคตอีก ๓๐ ปีประเทศไทยจะมีประชากรเหลือเพียงแค่ ๓๓ ล้านคน และ ๓๓ ล้านคน นั้นเป็นประชากรผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ตัวที่จะขับเคลื่อนอนาคตของประเทศไทยต่อไป เพราะว่าโดยหลักธรรมชาติ ครอบครัวก็คือต้องเป็นเพศหญิงและเพศชาย ขอบคุณมากครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านวาโย อัศวรุ่งเรือง ครับ
นายวาโย อัศวรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ กระผม วาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อ พรรคก้าวไกล กับการอภิปรายวันนี้ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ ผมขอ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๑๔ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยทั้งมวลนะครับ ไม่อยู่ในความผูกมัดและอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของ ประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะยึด คำแนะนำของท่านครูมานิตย์ ขออนุญาตเอ่ยนามท่านเมื่อสักครู่ วันนี้เราอภิปรายกันในเชิง กฎหมายยกมาตรา วันนี้เรามีหลายร่างครับ ขออนุญาตลงรายละเอียดว่าแต่ละร่างนี้แตกต่าง กันอย่างไร ผมเชื่อว่าวันนี้เราพูดกันไปเยอะแยะมากมายแล้วเกี่ยวกับเรื่องของความเท่าเทียม ต่าง ๆ แล้วก็แกนหลักของร่างต่าง ๆ นี้ก็มีความใกล้เคียงกันที่จะเปิดโอกาสให้กับบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็แล้วแต่สามารถที่จะสมรสกันได้ แต่ทีนี้คงจะต้องมาดูกันใน รายละเอียดของความแตกต่างกันด้วย เพราะว่าเดี๋ยวเราจะต้องลงไปพูดคุยกันต่อ ปรึกษาหารือกันต่อในชั้นกรรมาธิการด้วยนะครับ ผมศึกษามาแล้ว แล้วก็เห็นว่ามีความ แตกต่างกันในรายละเอียด ในแกนหลักนี้คือเหมือนกันเลยแต่ว่ามีความแตกต่างกัน ในรายละเอียดอยู่ประมาณสัก ๕ เรื่องหลัก ๆ ผมขออนุญาตลงรายละเอียดที่เรื่องแรก
นายวาโย อัศวรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรื่องแรกก็คือว่าร่างของเพื่อนสมาชิก ท่าน สส. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ กับทางของ ครม. มีความแตกต่างกัน ที่สำคัญคือที่มาตรา ๖๘ กับมาตรา ๖๖ ของทาง ครม. คือมาตรา ๖๘ ของทางคุณธัญวัจน์แล้วก็พรรคก้าวไกล คือมาตรา ๖๖ คือเรื่องของ อำนาจรักษาการครับท่านประธาน ของทาง ครม. บอกว่าอำนาจรักษาการให้เป็นที่ นายกรัฐมนตรี ส่วนของพรรคก้าวไกลบอกว่าอำนาจรักษาการนี้ควรจะอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งคงจะต้องอภิปรายสนับสนุนนะครับ แล้วก็ให้ความกังวล ซึ่งควร จะต้องไปว่ากล่าวกันต่อในกรรมาธิการว่าถ้าให้ท่านนายกรัฐมนตรีมาเป็นรักษาการ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. นี้ ท่านประธานเคยไป List ไหมครับว่านายกรัฐมนตรีเป็นประธาน Board กี่ร้อย Board รักษาการตามอำนาจอยู่กี่ชุด แล้วอย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้บริหารสูงสุดที่จะต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งมวลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าจะให้นายกรัฐมนตรีรักษาการทุกอย่างนี้ผมคิดว่าไม่ต้องมีรัฐมนตรีเลยก็ได้ ๓๔-๓๕ คนนี้ ของคุณธัญวัจน์ พรรคก้าวไกลเสนอว่าเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรง เพราะว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ที่ใช้อำนาจ หลัก ๆ มีเรื่องอะไรครับ สำนักงานเขตบ้าง อำเภอบ้าง การทะเบียนราษฎร์บ้าง การสมรส การเกิด การตาย เพราะฉะนั้นสมควร แล้วที่จะเป็นไปตามที่ท่านธัญวัจน์ได้นำเสนอมาว่าควรจะต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทยเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. นี้ เมื่อสักครู่มีเพื่อนสมาชิกของผมได้อภิปรายพูดถึง ในเรื่องของอายุ ในครั้งนี้พรรคก้าวไกลเราถือโอกาสว่าเราไม่ได้มาแก้ไขเฉพาะในเรื่องของ การสมรสเท่าเทียมอย่างเดียว แต่เรามาสังคายนาในเรื่องของการสมรสด้วย อายุเดิมที่ กฎหมายไทยเปิดให้สมรสได้คืออายุ ๑๗ ปี ท่านประธานครับ ซึ่งขัดกับหลักสากลนานา อารยะประเทศเป็นอย่างยิ่ง ในดังนั้นครั้งนี้ถ้าเราจะแก้ไขแล้วเราควรแก้ไขให้มีความก้าวหน้า มากขึ้น UNICEF นิยามคำว่า Child Marriage ก็คือการสมรสในเด็กว่าอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี และเขาใช้คำนี้ครับ เขาใช้คำว่า Child Marriage หรือการสมรสในเด็กเป็น Human Rights Violations เลย คือเป็นการคุกคามอย่างยิ่งต่อสิทธิมนุษยชนเลยนะครับ UN ตั้งเป้าหมาย ที่จะยุติ Child Marriage หรือการสมรสในเด็กอายุต่ำกว่า ๑๘ ปีให้หมดสิ้นไปจากโลกเรา ภายในปี ๒๐๓๐ ครับ อีกไม่กี่ปีเท่านั้นท่านประธานครับ แล้วเรามีโอกาสแก้ไม่แก้หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กก็คุ้มครองถึง ๑๘ ปี ความผิดฐานอื่น ๆ พรากผู้เยาว์ก็ ๑๘ ปี สิทธิหน้าที่ อื่น ๆ ที่เกิดขึ้น การเลือกตั้งก็ ๑๘ ปี แล้วเหตุใดเราจะไม่แก้ไขให้อายุในการแต่งงานขึ้นมา ทัดเทียมกับเรื่องอื่น ๆ ดังที่ผมว่าไปครับ
นายวาโย อัศวรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๓ เหตุหย่า พรรคก้าวไกลเรามีแก้ครับ ของทาง ครม. ไม่มีครับ ในมาตรา ๕๔ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๕๑๖ (๖) เรื่องการกระทำการเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรง ซึ่งสามารถเป็นเหตุหย่าได้ ของเดิมนี้จะต้องปฏิบัติอย่างร้ายแรงเท่านั้น ปฏิปักษ์เฉย ๆ นี้ เป็นเหตุหย่าไม่ได้ ท่านประธานครับ ขออนุญาต ๆ ยกประเด็นเรื่อง Battered Wife Syndrome นะครับ คือภรรยาที่ถูกกระทำแบบ Persistent มาเรื่อย ๆ ถึงแม้จะไม่ร้ายแรง แต่มี Persistent มีการกระทำเรื่อย ๆ เกิดเหตุน่าสลดขึ้นนะครับ เราแก้ไขได้แล้วครับ เราแก้ไขเลย
นายวาโย อัศวรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
๒ ประเด็นสุดท้ายท่านประธานครับ เรื่อง ๓๑๐ วัน ที่ว่าเด็กที่เกิดจากหญิงนี้ จะเป็นลูกใคร ของ ครม. มีแก้ พรรคก้าวไกลไม่ได้แก้ ของ ครม. แก้สามีภรรยามาเป็น คู่สมรส แต่ของพรรคก้าวไกลเราไม่ได้แก้ เพราะเห็นว่ามันไม่มีความจำเป็นครับ เพราะเรื่องนี้นี่คือ เรื่องเด็กที่เกิดจากหญิงและสมรสใหม่กับชายใหม่ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของชายหญิงโดยแท้ ไม่ได้มีความจำเป็นต้องแก้ครับ อะไรที่ทำแล้วไม่มีประโยชน์ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ต้องทำครับ
นายวาโย อัศวรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
สุดท้ายในเรื่องของบทเฉพาะกาล เมื่อสักครู่ก็มีเพื่อนสมาชิกได้พูดถึง คือมาตรา ๖๖ ของพรรคก้าวไกลคือมาตรา ๖๕ ของเรานี้เราเขียนแก้ไข เราเพิ่มเติมเป็น มาตรา ๑๕๙๘/๔๒ เลย ว่าให้คู่สมรสที่จดทะเบียนโดยชอบตามประมวลกฎหมายนี้มีสิทธิ หน้าที่ระหว่างคู่สมรสด้วยกันตามกฎหมาย และกฎกระทรวง และระเบียบใด ๆ ที่บัญญัติ ให้สิทธิหน้าที่แก่สามีภรรยา ขีดเส้นใต้นะครับ หรือสามี หรือภรรยา หรือคู่สมรส แล้วแต่ กรณี เป็นการเขียนครอบคลุมเอาไว้แล้วเพื่อปิดจุดอ่อนเมื่อสักครู่นี้ และจุดอื่น ๆ ที่อาจจะมีตามกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นครับ แต่ของ ครม. มาบอกว่าประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ. นี้ไม่ใช้บังคับแก่กรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่อง ครอบครัวหรือมรดกไว้เป็นการเฉพาะ ตอนแรกก็อ่านเหมือนจะเข้าใจ แต่อ่านไปอ่านมา ก็ดูไม่ค่อยเข้าใจ ด้วยความเคารพครับ มาตรานี้ยังไม่ค่อยรัดกุมครับ และมีเหตุผลอยู่ใน ท้ายตารางให้เราด้วยว่าจริง ๆ แล้วเจตนารมณ์ของการเขียนมาตรานี้เอาไว้ใช้ในกรณี ๔ จังหวัดที่ภาคใต้นะครับ อย่างไรก็ตามครับท่านประธานครับ หมดเวลาแล้ว ผมเห็นว่าวันนี้ ทุกท่านทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน ผมเชื่อว่าเราจะผ่านร่างกฎหมายนี้ ไปด้วยกันนะครับ เข้าสู่วาระที่ ๒ ตั้งกรรมาธิการแล้วก็ทำให้ประเทศไทยเกิดความเท่าเทียมกัน การเปิดสิทธิไม่ใช่การรอนสิทธิใครครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ครับ ขออนุญาตข้ามไปก่อนนะครับ ขอไปที่ท่านวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ พร้อมไหมครับ เรียนเชิญครับ
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ เชียงราย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย จากพรรคเพื่อไทย วันนี้ก็จะขอร่วมอภิปรายถึงร่าง พ.ร.บ. ที่ประชาชนชาวไทยและ ประชาคมโลกให้ความสนใจ ณ ขณะนี้ นั่นก็คือเรื่องของการสมรสเท่าเทียม ซึ่งต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเราพรรคเพื่อไทยให้ความสนใจมาโดยตลอด วันนี้ไม่ได้มีแค่เพียง ร่างของฝ่ายรัฐบาลแต่มีของภาคประชาชนแล้วก็ฝ่ายค้านเข้ามาด้วย และแน่นอนว่าทั้ง ๓ ร่างนี้มีจุดมุ่งหมายเฉกเช่นเดียวกัน นั่นก็คือความเท่าเทียม ความรักไม่ควรถูกตีกรอบจาก บรรทัดฐานทางด้านสังคมหรือว่าเพศสภาพ หลายคนอาจจะพูดถึงว่าเขาจะใช้ชีวิตคู่กัน อย่างไร หรือว่าเอาเรื่องของเขามาล้อเลียน มันไม่สำคัญเลยว่าเขา ๒ คนนี้จะมีเพศสัมพันธ์ กันอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะสื่อสารกันรู้เรื่องไหม จะดูแลซึ่งกันและกันและ สามารถเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่พวกเราที่ควรที่จะให้ความสำคัญคือ เราจะทำให้พวก เขาสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไร โดยที่ไม่ให้มีอุปสรรคที่เกิดจากภาครัฐหรือเกิดจาก กรอบสังคมที่เกิดขึ้นจนทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตได้เฉกเช่นดังคนคู่รักทั่ว ๆ ไป ทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็คือบุคคลคนหนึ่งเหมือนกับพวกเราค่ะ อาจจะฟังดูว่าการสมรสมันเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับพวกเขานี้มันส่งผลใหญ่หลวงกับชีวิตของพวกเขานะคะ ดิฉันจะขอยกตัวอย่าง บางประเด็นที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่จะให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญถึงการสมรสเท่าเทียมครั้งนี้
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ เชียงราย ต้นฉบับ
เคสแรกก็คือเคสที่คู่รัก LGBTQ+ ที่บ้านของพวกเขานี้ไม่ยอมรับทำให้ คู่รักคู่นี้ต้องออกมาใช้ชีวิตร่วมกัน ๒ คน ทำมาหากินจนสร้างเนื้อสร้างตัวมีทรัพย์สินเกิดขึ้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งค่ะ มีคนหนึ่งต้องเสียชีวิตลง และเมื่อครอบครัวคนนั้น เขาทราบข่าวสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สิทธิและทรัพย์สมบัติทั้งหมดตกเป็นของครอบครัวที่ไม่ได้ ให้การยอมรับในคู่ของเขาในลูกของตนตั้งแต่แรก โดยที่อีกคนหนึ่งที่เรียกว่าเป็นคู่ชีวิตและดูแล กันมาไม่สามารถเรียกร้องในทรัพย์สินใด ๆ ตรงนั้นได้เลย ทั้ง ๆ ที่นั่นคือสินสมรสที่พวกเขา สร้างขึ้นมาด้วยกัน ๒ คนค่ะ
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ เชียงราย ต้นฉบับ
อีกคู่หนึ่งก็เป็นคู่ LGBTQ+ ที่เป็นเคสเดียวกับที่หลาย ๆ ท่านในสภาได้ อภิปรายไปนะคะ ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือคู่สมรสไม่สามารถเซ็นรับรองใด ๆ ได้ ตรงนี้ลองคิดดูว่าถ้าเราไม่แก้ไขให้พวกเขาได้สมรสกันจะต้องมีอีกกี่คนที่จะต้องเสียใจและ จบชีวิตด้วยเหตุผลเช่นนี้ ดิฉันเชื่อว่าแค่เรื่อง ๒ เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดกับแค่ ๒ คู่นี้เท่านั้น แต่เกิดกับคู่รักอีกนับไม่ถ้วนเลยในสังคมเรา และยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดขึ้น แล้วหากมันจะเกิดต่อไปและไม่หยุดยั้งถ้าเราไม่ผ่านสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ การให้ผ่านสมรส เท่าเทียมนั้นไม่ได้ลิดรอนสิทธิของใครนะคะ แต่เป็นการคืนสิทธิที่พวกเขาควรได้รับต่างหาก อีกทั้งเชื่อไหมคะว่ามันยังจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยเราให้ดีขึ้นอีกด้วย หากประเทศไทยเรามีความเท่าเทียมในเรื่องนี้ก็จะทำให้เราได้รับการรองรับจากองค์กร InterPride ที่เป็นองค์กรจัดงาน World Pride ซึ่งจัดสมรสเท่าเทียมในครั้งนี้ไม่ใช่แสดงให้ เห็นแค่เท่าเทียมนะคะ แต่ยังได้ส่งเสริมในด้านมิติเศรษฐกิจอีกด้วย เพราะถ้าหากเราได้มี โอกาสจัดงานและเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน World Pride ได้นี้ จะเป็นการดึงดูดนักลงทุน นักท่องเที่ยวและเม็ดเงินมหาศาลในประเทศไทยเราอีกด้วยยกตัวอย่างสหรัฐอเมริกาได้เป็น เจ้าภาพในการจัดงาน World Pride Stonewall ในปี ๒๐๑๙ สามารถดึงนักท่องเที่ยว ทั่วโลกมาถึง ๕ ล้านคน ในปี ๒๐๒๑ World Pride ที่โคเปนเฮเกนมีนักท่องเที่ยวราว ๆ แล้ว ต่อวันเกือบ ๒๐,๐๐๐ คนเลย นับว่าเป็นการจัดงานระดับโลกที่ไม่ได้จัดง่าย ๆ เลยใช่ไหมคะ ต้องเป็นคนกลุ่มนี้เท่านั้นที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีพลังเท่านั้น แต่ทั้งนี้การให้ผ่านสมรส เท่าเทียมเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่เราต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมในประเทศนี้ ขึ้นจริง ๆ และรัฐบาลเองจะต้องทำให้เกิดการปฏิบัติเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่เพียงให้ผ่านในแผ่นกระดาษ เท่านั้น ดิฉันเชื่อว่าไม่ว่าเพศใดก็มีศักยภาพอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไปกับ พวกเราอยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น อยากเห็นสวัสดิการที่ดีขึ้น และแน่นอนจากที่ดิฉันอภิปราย มาทั้งหมด การยอมรับ LGBTQ+ และสมรสเท่าเทียมจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้นและ ยกระดับสิทธิมนุษยชน สมรสเท่าเทียมไม่ได้นำไปสู่ผลเสียแต่ประการใด มีแต่จะสร้าง การเติบโตและความสง่างามให้แก่ประเทศไทยเรา ขอบคุณค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านเบญจา แสงจันทร์ ครับ
นางสาวเบญจา แสงจันทร์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภา ดิฉัน เบญจา แสงจันทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลค่ะ ดิฉัน จะขออภิปรายสนับสนุนในส่วนของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ที่เสนอโดยภาคประชาชน คณะรัฐมนตรี และคุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกลและคณะ ซึ่ง รวมไปถึงอดีตเพื่อนสมาชิก ของดิฉัน คุณณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และคุณธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ที่เคยรวมเป็นหนึ่ง ในคณะทำงานด้านการแก้ไข พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับนี้ด้วยค่ะ ท่านประธานคะ ถึงแม้ว่า กฎหมายจะมีในส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้างในรายละเอียด แต่ว่าทุกร่างยืนยันในหลักการ เดียวกัน นั่นก็คือสมรสต้องเท่าเทียม ท่านประธานคะ ที่ดิฉันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ทุกฉบับ เป็นไปเพื่อโอบรับความหลากหลายทางเพศ ภายใต้ฐานคิดที่ว่ามนุษย์ทุกคนต้อง เท่าเทียมกันตามคุณค่าหลักการความเสมอภาค ซึ่งนี่ถือว่าเป็นหลักการขั้นพื้นฐานของ ความเป็นมนุษย์ ที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่า คน ๆ นั้นจะมีเพศ เชื้อชาติ ศาสนา พูดภาษาอะไร มีถิ่นกำเนิดใดและไม่ว่าจะมีความเชื่อทาง การเมืองแบบใดก็ตาม กฎหมายนี้จะต้องไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะเพศสภาพที่แตกต่าง ต้องไม่ถูกจำกัดด้วยเพศกำเนิด และไม่รับรองสิทธิเฉพาะแค่คู่รักเพศเดียวกัน แต่ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมต้องรับรองสิทธิของมนุษย์ทุกคนให้สมรสได้อย่างเท่าเทียมกันค่ะ ท่านประธานคะ เพื่อนสมาชิกดิฉันได้อภิปรายถึงความหลากหลายทางเพศกับมุมมองในมิติ ของสังคมไปแล้ว อีกมิติที่ดิฉันจะขอพูดถึงก็คือมิติทางเศรษฐกิจค่ะ เมื่อประเทศไทยมี กฎหมายสมรสเท่าเทียมถ้ากฎหมายมีความมั่นคงเป็นธรรมและทุกคนรู้สึกปลอดภัย ผู้มีความหลากหลายทางเพศรวมไปถึงมนุษย์ทุกคนจะมีความมั่นใจในการที่จะก่อร่าง สร้างครอบครัว ลงทุนกับสิ่งที่พวกเขารัก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อประกันหรือ ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่สร้างรายได้ ร่วมกัน รวมไปถึงการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถปลดล็อกเรื่องเศรษฐกิจให้เติบโตเพิ่มมากขึ้นอย่างเต็มศักยภาพด้วย ท่านประธานคะ ถ้าดูจากข้อมูล จาก LGBT Capital ระบุไว้ว่า มูลค่าการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มี ความหลากหลายทางเพศมีมูลค่าอยู่ทั่วโลกอยู่ประมาณ ๑๓๕ ล้านบาทต่อปี ซึ่งไทยเอง มีมูลค่ารายได้จากการท่องเที่ยวของประชากรกลุ่มนี้อยู่ที่ ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาทเลยทีเดียว นี่นับเป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวของโลกเลยทีเดียว ของไทยเรามีรายได้จากนักท่องเที่ยว กลุ่มนี้เป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียและเป็นอันดับ ๔ ของโลกเลยทีเดียว ขณะที่จำนวน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ มีอยู่ ๕๐๐ ล้านคนทั่วโลก แล้วก็อยู่ในแถบเอเชียของเราเอง ๒๒๘ ล้านคน และมีคนไทยอยู่ประมาณ ๔ ล้านคนค่ะท่านประธาน และท่านประธานคะ เมื่อ พ.ร.บ. สมรส เท่าเทียมผ่านประกาศใช้ เดือน Pride ซึ่งเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจในปีหน้านี้จะมี ชีวิตชีวาอย่างมากค่ะ ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางเป็นประเทศในฝันของคนทุกคน ที่จะได้เดินทางมาท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้คู่รักทุกเพศได้สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ให้ผู้ที่มี ความหลากหลายทางเพศสามารถที่จะยื่นกู้ร่วมเพื่อซื้อทรัพย์สิน ซื้อที่อยู่อาศัย ในนามของ คู่สมรสร่วมกัน มีกรรมสิทธิ์ในการที่จะเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยร่วมกัน ประเทศเราจะเป็น จุดหมายของการลงทุนเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่จะพักอาศัยแล้วก็ใช้ชีวิต ในบั้นปลายของชีวิต สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อีกมหาศาลค่ะ ท่านประธานคะ เพื่อนสมาชิกของดิฉันได้อภิปรายถึงสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวของมนุษย์ ทุกคน รวมไปถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ว่านี่เป็นสิทธิ ขั้นพื้นฐานของมนุษย์เพื่อนสมาชิกของดิฉันได้อภิปรายหลักการที่ว่าในหลายประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญ และตระหนักร่วมกันถึงความจำเป็นในการที่ต้องตรากฎหมาย เพื่อรับรอง สถานะการใช้ชีวิตร่วมกันของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ และกฎหมายของหลาย ประเทศเขาก้าวข้ามผ่านพ้นกรอบของการจำกัดการแต่งงานที่จำกัดไว้แค่ชายและหญิง ในหลายประเทศให้คุณค่ากับความรักของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และอนุญาตให้คู่รักที่มี ความหลากหลายทางเพศแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ท่านประธานคะ นี่จึงเป็น ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิ เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมของมนุษย์ ทุกคน และเป็นการยกระดับความก้าวหน้าของกฎหมายไทยให้สอดคล้องกับปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และอนุสัญญาอีกหลายฉบับ ซึ่งสมาชิกของเราก็ได้ลงรายละเอียดไปแล้ว เพื่อนสมาชิกของดิฉันได้อภิปรายถึงเส้นทางการต่อสู้ท่ามกลางความสูญเสียกว่าจะมาเป็น สมรสเท่าเทียม โดยได้อภิปรายถึงสิทธิ สวัสดิการรักษา การจัดการทรัพย์สินสมรสร่วมกัน สิทธิในการรับมรดกตามกฎหมาย อภิปรายและลงรายละเอียดไปแล้ว ดิฉันขอใช้เวลาส่วนนี้ ที่เหลือในการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน และสื่อสารกับสมาชิกผู้แทนราษฎรในที่แห่งนี้ สำหรับท่านที่ยังไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ ถึงเวลาแล้วว่าสังคมไทยต้องยอมรับความเป็น จริงว่าทุกสังคมในโลกใบนี้มีความหลากหลายมากเกินกว่าจะถูกครอบงำไว้ด้วย คู่แต่งงานที่เป็นเพศชายและหญิงเท่านั้น เราต้องยอมรับความจริงว่าความรักการแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ สิทธิที่จะสร้างครอบครัวไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่คู่รักชายและหญิง ขอเชิญชวน ทุกท่านจริง ๆ ค่ะ อย่าตกขบวนประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ร่วมกันรับร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ให้คนทุกคนได้อยู่อย่างเรียบง่ายบนโลกใบนี้ ให้มนุษย์ทุกคนได้สร้างชีวิต สร้างครอบครัว ได้ใช้ชีวิต และได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานทางกฎหมายอย่างไม่มีข้อจำกัด ท่านประธานคะ ดิฉันขอทวงคืนสิทธิให้กับพวกเขา คืนชีวิต คืนความฝันให้กับคนทุกคน ร่วมกันรับร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมคนต้องเท่ากันค่ะ สมรสต้องเท่าเทียม ได้เวลา ประชาชน ได้เวลาสมรสเท่าเทียม ขอบคุณค่ะท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านกิตติ์ธัญญา วาจาดี ครับ
นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี อุบลราชธานี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพค่ะ ดิฉัน กิตติ์ธัญญา วาจาดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๔ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานที่เคารพคะ ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ประเด็นของสิทธิ ความหลากหลายทางเพศได้ถูกนำมาเป็นแต้มต่อในการเมือง เพื่อดึงคะแนนเสียงจาก ประชาชนกลุ่มนี้ ซึ่งมีตัวเลขประเมินจากบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกในกลุ่มของประชากร ด้านความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBT Capital รายงานว่า ประเทศไทยมีประชากรกลุ่มนี้ ซึ่งมีความหลากหลายทางเพศมากที่สุด อยู่ที่ระหว่าง ๔.๗ ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ ๔ ในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตามนักวิชาการและสื่อหลายสำนักประเมินค่าเฉลี่ยของประชาชน กลุ่มนี้อยู่ราว ๆ ที่ ๘-๑๐ เปอร์เซ็นต์ การกระจายอยู่ในทุกชนชั้นของสังคม นั่นหมายถึง ประชากรที่เรามีอยู่ ๖๗ ล้านคน เป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมากถึง ๕ ล้านคน ประชาชนกลุ่มนี้กลับไม่ได้รับการเหลียวแลและถูกละเลยมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม การยอมรับความหลากหลายทางเพศในประเทศไทยที่มีมุมมองต่อประชากรกลุ่มนี้ ผู้เล่น ที่สำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ทำเม็ดเงินมหาศาลในแต่ในแต่ละปี LGBT Capital ได้รายงานว่า LGBT ของประเทศไทยในปี ๒๕๖๒ มีรายได้จากนักท่องเที่ยวที่อยู่ในกลุ่ม หลากหลายทางเพศมากกว่า ๖.๕ พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน ๑.๒๓ เปอร์เซ็นต์ ของ GDP ทั้งหมด ซึ่งไม่แปลกที่เราจะเห็นสีลม พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ที่เสรีภาพของ ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เบ่งบาน และในการทำงานของมดงานเล็ก ๆ ของผู้มี ความหลากหลายทางเพศนำเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งสวนทางกันกับ ความรุนแรงเชิงโครงสร้างที่ประเทศไทยได้มอบให้จากการขาดซึ่งกฎหมายคุ้มครอง รับรองสิทธิในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะสิทธิในการสร้างครอบครัว ซึ่งเป็นที่มาของการนำเสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือที่เราเรียกกันว่า พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เมื่อกฎหมายไม่มี ศักดิ์ศรีก็ไม่มา เราคงไม่ต้องถกเถียงกันอีกแล้วว่าหน้าที่ในการคุ้มครองศักดิ์ศรีของ ความเป็นมนุษย์ รัฐบาลในฐานะของผู้ที่มีความรับผิดชอบและประชาชนผู้ที่มี ความหลากหลายทางเพศในฐานะของผู้ทรงสิทธิ ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับทั้งสิทธิในการสร้าง ครอบครัว สิทธิในการกำหนดเจตจำนงในอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเอง สิทธิที่จะใช้ชีวิตโดย ปราศจากการเลือกปฏิบัติและความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การทำงานในหน้าที่ของ การคุ้มครองประชาชนในความหลากหลายทางเพศนั้นย่อมส่งเสริมการพัฒนาประเทศ ได้อย่างมีนัยสำคัญค่ะท่านประธาน
นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี อุบลราชธานี ต้นฉบับ
จากข้อมูลที่กล่าวมาเป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ถึงแม้ว่าหลายท่านจะมองเป็น เรื่องของกลุ่มคน แต่ดิฉันในฐานะของคณะกรรมาธิการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ เห็นว่าควรได้รับการแก้ไขค่ะ จึงเป็นที่มา ของการเสนอแก้ไข พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่สนับสนุนให้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้มีความรักความอยากสร้างครอบครัว ซึ่งร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เสนอโดยมีทั้ง รัฐบาล มีทั้งภาคประชาชน และยังได้รับการสนับสนุนเป็นอันดับต้น ๆ ของท่านายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ทั้งนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณแพทองธาร ชินวัตร ได้มีการสนับสนุนและ ผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกท่านที่อยู่ในห้องประชุมห้องนี้ ดิฉันคาดหวังจำเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะให้การผลักดัน แล้วผ่านร่าง พ.ร.บ. ตัวนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ท่านคะ หากรัฐสภาไทยของเราร่วมกันสร้าง ประวัติศาสตร์โดยการผ่านร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมได้จริง ไม่เพียงแค่ผลดีเพียงเฉพาะกลุ่ม ที่มีความหลากหลายทางเพศเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้กับประเทศชาติทางด้านเศรษฐกิจการ ท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาการสำรวจของ LGBT Travel Index ได้สำรวจในประเทศไทยเป็น มิตรกับ LGBT จาก ๑๕๐ ประเทศ โดยเกณฑ์ความวัดจาก A คือปลอดภัยที่สุด F คืออันตรายที่สุด เชื่อไหมคะท่านประธาน ประเทศไทยอยู่อันดับที่ ๕๓ คือ C- ซึ่งแสดงว่า นักท่องเที่ยวหรือกลุ่ม LGBT ในประเทศไทยเราเองนี้ยังขาดความคุ้มครองจากกฎหมาย เพราะฉะนั้นแล้วนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนหรืออยากใช้ ชีวิตอยู่ในประเทศไทย แต่ยังกลัวเรื่องของกฎหมายที่จะคุ้มครองเขา วันนี้ค่ะ สมรสเท่าเทียม รักเราต้องเท่ากัน ดิฉันจึงวิงวอนให้ทุก ๆ ท่านผ่านร่างข้อกฎหมาย พ.ร.บ. ฉบับนี้ กราบขอบพระคุณท่านประธานค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านปรัชญาวรรณ ไชยสืบ ครับ
นางสาวปรัชญาวรรณ ไชยสืบ จันทบุรี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน ปรัชญาวรรณ ไชยสืบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี จากพรรคก้าวไกลค่ะ ในฐานะที่ดิฉันก็เป็นบุคคลหนึ่งที่มีความหลากหลาย ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมอภิปราย เพื่อผลักดัน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม และวันนี้ดิฉันอยากเชิญชวนทุกคนยุติความเกลียดกลัว กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพวกเรามีกลุ่ม ความหลากหลายทางเพศถึงไปมีความรักกับบุคคลเพศเดียวกัน เรามีความผิดปกติทางจิต หรือเปล่า นี่เป็นมายาคติเป็นความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ในปี ๒๕๓๓ WHO ได้ถอดคนรักเพศเดียวกันออกจากกลุ่มผู้มีความผิดปกติทางจิต นั่นหมายความว่าองค์การอนามัยโลกยอมรับว่าสิ่งที่เราเป็นไม่ถือว่าเป็นโรคนะคะ ดิฉันอยาก ให้หลายคนที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ได้เข้าใจว่าเราแค่เลือกที่จะเป็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น ก็เท่านั้น แม้ในทางวิชาการจะรองรับว่าพวกเราไม่ใช่คนที่มีปัญหาทางจิตมานานแล้ว แต่ตอนนี้ยังมีเพื่อนของเราจำนวนมากที่ยังเผชิญกับความรุนแรง ความเกลียดชังทั้งทาง ร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่เด็กจนโตเราถูกเกลียดชังจากสังคม เราถูกกีดกันจากสังคม เราถูกทำ ให้รู้สึกแตกแยกแตกต่างจากทุก ๆ คน ด้วยกฎหมายที่ไม่ยอมรองรับสิทธิให้กับพวกเรา มีเหตุการณ์หนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในปี ๒๕๕๒ ตอนนั้นกลุ่มองค์กรภาคีต่าง ๆ พยายามที่จะจัด งานรณรงค์เรื่องความหลากหลายทางเพศ โดยใช้ชื่องานว่า Gay Pride แต่ก็ถูกต่อว่า ถูกคัดค้าน ถูกโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรง และบอกว่าการจัดงานแบบนี้จะทำให้เสื่อมเสีย วัฒนธรรม ในปี ๒๕๖๑ จากการเก็บข้อมูลตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ของมูลนิธิเครือข่าย เพื่อนกระเทยเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย ถูกสังหารชีวิตถึง ๒๑ คน สาเหตุก็มาจากความเกลียดชังในสิ่งที่พวกเราเป็นเท่านั้นเองค่ะ ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวที่พ่อทำร้ายลูกเพราะรับไม่ได้ที่ลูกแต่งหญิง ความรุนแรงทางด้านร่างกายก็เป็นส่วนหนึ่งค่ะท่านประธาน แต่ว่าความรุนแรงทางด้านจิตใจ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เรายังต้องเผชิญ การถูกให้ค่าเป็นได้แค่ตัวตลก เราถูกสื่อขายเพื่อเป็น ความบันเทิงมุกตลกที่เต็มไปด้วยคำเหยียดหยาม คำล้อเลียน ถูกสร้างภาพลักษณ์ให้ กลายเป็นกลุ่มคนอารมณ์รุนแรง การที่สื่อผลิตซ้ำแบบนี้ทำให้เราถูกตีตราจากสังคมว่าเราเป็น แบบที่ละคร แบบที่ภาพยนตร์ สื่อออกมาจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะ นอกจาก ความรุนแรงทางด้านร่างกาย เช่น การถูกทำร้าย ความรุนแรงจากการถูกเหยียดหยาม ถูกทำให้ เป็นตัวตลก เป็นคนน่าขำขันทั้งที่ข้างในขมขื่น อีก ๑ เรื่องที่ถือว่าเป็นความรุนแรงก็คือ ความรุนแรงที่เกิดจากรัฐค่ะ รัฐที่ควรจะดูแลคุ้มครองประชาชนอย่างเท่าเทียม กลับกีดกัน พวกเราในฐานะคู่รัก ไม่ให้สิทธิ ไม่ให้มีอำนาจในการตัดสินใจแตกต่างจากคู่รัก คู่สมรส หญิงชาย มีเหตุการณ์และเรื่องน่าเศร้ายืนยันว่าคู่รักเพศที่มีความหลากหลายไม่ได้รับโอกาส ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจทางการแพทย์ ตลอดจนเรื่องทรัพย์สินและเงื่อนไขทาง เศรษฐกิจอื่น ๆ แม้กระทั่งในวาระสุดท้ายของชีวิต ช่วงเวลาของความเป็นความตาย ที่กฎหมายยังให้สิทธิกับญาติพี่น้องที่อาจจะไม่เคยมาดูดำดูดี หรือไม่เคยติดต่อกันมานานมา ตัดสินใจแทนพวกเราคนที่เป็นคู่รักที่ยืนอยู่ตรงหน้า สังคมไทยมีการเลือกปฏิบัติ มีความไม่ เท่าเทียม และสร้างความเกลียดกลัวต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายมามากพอแล้วค่ะ ถึงเวลา แล้วหรือยังที่ทุกท่านจะช่วยกันยุติสิ่งเหล่านี้ สร้างความเข้าใจใหม่ ยอมรับว่าพวกเรามีตัวตนจริง ยอมรับพวกเราในทางกฎหมาย และยอมรับว่าพวกเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกับท่าน คำตอบ สุดท้ายที่จะทำให้เราอยู่ในสังคมด้วยสันติภาพได้ก็คือการเคารพทุกเพศและโอบรับทุก ความหลากหลายค่ะ ดังนั้นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอีกในฐานะหนึ่งคือฐานะ มนุษย์ด้วยกันนี้ดิฉันหวังว่าทุกท่านจะร่วมกันผลักดันเครื่องมือที่เรียกว่ากฎหมายเพื่อให้เกิด ความคุ้มครอง ซึ่งจะนำไปสู่การลดอคติระหว่างกัน และทำให้ความเกลียดชังและเกลียดกลัว เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพราะความแตกต่างทางเพศยุติลงสักทีค่ะ ขอบคุณค่ะท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ครับ
นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภา ดิฉัน ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยได้ยอมรับความเสมอภาคกับ ทุกคนและเคารพในสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ปราศจาก การเลือกปฏิบัติ สามารถเข้าถึงวิถีชีวิตที่ยั่งยืนทั้งทรัพย์สินทางเศรษฐกิจและทรัพยากร อย่างเท่าเทียมกัน เราเคยพูดถึงการใช้ชีวิตคู่ของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศว่าเมื่อไร ท่านจะได้ก้าวสู่ชีวิตสมรสที่สมบูรณ์ ได้อาศัยสถาบันครอบครัวจากการแต่งงานเป็นเครื่องช่วย นำทางชีวิต สามารถให้คำสัตย์ปฏิญาณที่จะผูกมัดความรักไว้ด้วยกัน สามารถดำรงตน เป็นแบบอย่าง สามารถมีบุตรที่จะช่วยให้ผูกพันกันเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มหลากหลายทางเพศ ต้องพึ่งพาตนเองในการรักษาความสัมพันธ์ของคู่รัก แต่บัดนี้สภาแห่งนี้ รัฐบาลนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการโอบอุ้มช่วยประคับประคองให้ความรัก ของทุกคนไม่ว่าจะเพศใด ๆ ดำเนินเคียงคู่กันอย่างมีความสุข จากนี้ไปเราจะได้ยินคำว่า Gender มากขึ้น มากกว่าคำว่า เพศ ที่แบ่งแค่ชายหญิง เพราะ Gender มีความหมาย ครอบคลุมทั้งหมด ท่านประธานคะ เพื่อส่งต่อสังคมไทยที่มีทัศนคติ รวมถึงวิถีปฏิบัติในสังคม ต่าง ๆ ที่จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของสังคมไทยที่เราเรียกว่า New Social Norm บทบาทจากสังคมที่เรียกว่า Gender Role จะมีการพูดถึงมากขึ้น ซึ่งแต่ละประเทศ แต่ละ สังคมอาจแตกต่างกัน การดำเนินชีวิตคู่ ครอบครัวที่สมบูรณ์จะต้องมีเรื่องบุตรเข้ามา เกี่ยวข้องเราจะต้องพูดกันต่อไปเรื่องบุตร ที่มาของบุตร การรับอุปการะบุตร เงินช่วยเหลือ จากรัฐ การศึกษา การบริการสาธารณสุข มาตรการทางด้านภาษี เป็นต้น ที่พูดมาทั้งหมดจะ เห็นได้ว่ารัฐยังคงต้องมี Infrastructure มารองรับกฎหมายสมรสเท่าเทียมอีกมาก ต้องแก้ กฎหมายอีกหลายฉบับ รวมถึงต้องรับทราบและทำความเข้าใจกับกฎหมายหลายฉบับที่มีอยู่ แล้ว เช่น พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่จะช่วยประคับประคองในกรณีที่ ยังถูกเลือกปฏิบัติอยู่ และมีศาลปกครองเป็นหลักในการดำรงความยุติธรรม มีกองทุนคอย ช่วยเหลือเยียวยา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พ.ร.บ. งบประมาณแผ่นดินที่ต้องจัดสรรโดยให้ คำนึงถึงเพศสภาพและงบประมาณที่จะต้องรองรับหลังจาก พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมผ่านสภา Budget Impact Assessment Gender Budgeting คือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึง เพศสภาพ เป็นกระบวนการที่แสดงสัดส่วนงบประมาณที่เป็นประโยชน์กับทุกท่านไม่ว่าจะ เพศสภาพใด ๆ ที่จะถูกจัดสรรอย่างเท่าเทียม ปัจจุบันมากกว่า ๔๐ ประเทศใช้ GRB คือ Gender Responsive Budgeting ซึ่งงบประมาณเหล่านี้จะเป็นงบประมาณที่ตอบสนองต่อ เพศสภาพ มอบโอกาสและรับประกันการกระจายทรัพยากร แสดงถึงความยุติธรรมต่อ เอกลักษณ์และความหลากหลาย ขอยกตัวอย่างที่ชัดเจนจากการใช้งบประมาณโดยคำนึงถึง เพศสภาพ เช่น การศึกษา All-Gender Restroom เป็นต้น ถามว่าทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเมื่อท่านมีลูก ปัจจุบันในห้องน้ำชายไม่มี Baby Station สำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อม ดังนั้น ขณะนี้ทราบว่ากรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวของกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ก็มีการศึกษาเรื่องของออก All-Gender Restroom นะคะ ยกตัวอย่างต่อไปก็คือ อย่างเช่นการสัมภาษณ์ของจากเลขาธิการ สปสช. ท่านได้ให้สัมภาษณ์ ไว้ว่าการผ่าตัดแปลงเพศเป็นสิทธิประโยชน์หนึ่งของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อันนี้ก็จะ เป็นเรื่องของการใช้ Gender Budgeting ท้ายนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ภายใต้สภาแห่งนี้จะทำให้คนไทยที่มีความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับกับครอบครัว ได้แสดงออกถึงความรัก ความกตัญญู ทำหน้าที่สอดคล้องกับบทบาทในครอบครัว ไม่ถูกกีดกัน ทั้งการศึกษาจากสื่อหรือจากกฎหมาย และการเข้าถึงสวัสดิการทางสังคมเช่นเดียวกับ คู่ที่แต่งงานกับเพศต่างเพศที่ได้รับ ขอบคุณค่ะท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญท่านพนิดา มงคลสวัสดิ์ ครับ
นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
เรียนประธานที่เคารพ ดิฉัน พนิดา มงคลสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ เขต ๑ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายสนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในมาตราที่ว่าด้วยสิทธิในการสมรสและสิทธิของคู่สมรสหรือที่เราเรียกกันว่า สมรสเท่าเทียม ก่อนดิฉันจะเข้าเรื่องดิฉันอยากจะเกริ่นถึงการเกิดขึ้นและมีอยู่ของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทั่วโลก ในปัจจุบันมีอยู่ ๓๕ ประเทศที่มีกฎหมายรับรองสิทธิการสมรสนี้ โดยประเทศแรกที่มี กฎหมายนี้คือประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านร่างกฎหมายในปี ๒๕๔๔ ๒๒ ปีที่แล้วค่ะ จากนั้น ก็มีอีกหลายประเทศตามมา เช่น ประเทศไอซ์แลนด์เมื่อ ๑๓ ปีที่แล้ว ซึ่งมีคู่สมรสคู่แรกก็คือ อดีตนายกรัฐมนตรี ๘ ปีที่แล้วประเทศลักเซมเบิร์กผ่านกฎหมายโดยสภาผู้แทนราษฎร และในเวลาต่อมานายกรัฐมนตรีของประเทศในขณะนั้นก็ได้ใช้สิทธินี้ตามกฎหมายเช่นกัน ประเทศไอร์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านกฎหมายสมรส เท่าเทียมผ่านการทำประชามติของประชาชน ศาลสูงของประเทศสหรัฐอเมริกามีคำวินิจฉัยรับรองสิทธิในการสมรสของคนทุกเพศ ประเทศ ไต้หวันเป็นที่แรกในเอเชียที่มีสมรสเท่าเทียม และล่าสุดค่ะท่านประธาน ประเทศเนปาล เพิ่งผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทีนี้มองกลับมาที่ประเทศไทยค่ะ ดิฉันไม่อาจทราบได้อย่างแน่ชัดว่าการต่อสู้ของผู้มีความหลากหลายทางเพศเพื่อทวงสิทธิ ขั้นพื้นฐานที่ถูกพรากไปนั้นเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ปี พ.ศ. ใด แต่ดิฉันมั่นใจ ไม่ว่ายุคสมัยไหน จะ ๑๐ ปี ๒๐ ปี หรือ ๙๘ ปีที่แล้วนับตั้งแต่มีการประกาศใช้กฎหมายประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์บรรพ ๕ ในปี ๒๔๖๘ ก็คงมีผู้มีความหลากหลายทางเพศรุ่นทวดเราหลายคน ตั้งคำถามว่าทำไมกฎหมายประเทศนี้ถึงไม่รับรองสิทธิของพวกเขาเลย วันนี้ดิฉันจะพา ทุกท่านย้อนเวลากลับไปดู Timeline การต่อสู้เพื่อสมรสเท่าเทียมและการถูกกดทับของผู้มี ความหลากหลายทางเพศตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ๑๔ ปีที่แล้ว เกิดการรวมกลุ่มประท้วง คัดค้านการจัดงานพาเหรด Gay Pride ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ประท้วงมีการใช้ความรุนแรงกับ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ๑๑ ปีที่แล้วมีคู่รักเพศเดียวกันไปจดทะเบียนสมรสแต่ถูก ปฏิเสธ ถึงแม้จะครองรักกันมานานกว่า ๑๙ ปี จึงได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ๓ ปีที่แล้ว ปี ๒๕๖๓ พรรคก้าวไกลยื่นร่างสมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และถูกบรรจุในวาระการประชุม เดือนพฤศจิกายน ๒ ปีที่แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญอ่าน คำวินิจฉัยโดยมติเป็นเอกฉันท์ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๔๘ ที่ให้ สิทธิการสมรสเพียงหญิงชายไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลธรรมนูญยกเหตุผลว่าการสมรส มีจุดมุ่งหมายเพื่อสืบเชื้อสายวงศ์ตระกูล การสมรสของชายหญิงจะเป็นไปโดยธรรมชาติ สอดคล้องตามจารีตประเพณีที่มีมาอย่างช้านาน ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด เดือนมิถุนายนปีที่แล้วสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับร่างสมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล ในวาระที่ ๑ แต่ร่างสมรสเท่าเทียมก็ได้ตกไปด้วยกลไกตามรัฐธรรมนูญนะคะ
นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ สมุทรปราการ ต้นฉบับ
สุดท้ายในวันนี้ค่ะท่านประธาน วันที่ ๑๒๘๑ หลังจากพรรคก้าวไกลนำเสนอ ร่างนี้เข้าสู่รัฐสภาครั้งแรก สมรสเท่าเทียมเข้าสู่วาระการพิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งร่างฉบับ ของพรรคก้าวไกล ฉบับคณะรัฐมนตรีจากกระทรวงยุติธรรมและประชาชน ทุกท่านจะเห็นได้ ว่าเราสู้เรื่องนี้กันมาอย่างยาวนาน และท่านประธานคะ ในวันนี้ดิฉันไม่ได้พูดในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งเท่านั้น แต่ดิฉันคือเสียงเรียกร้องของผู้มีความหลากหลาย ทางเพศคนหนึ่งที่เชื่อมั่นว่าหลาย ๆ ท่านในที่นี้เข้าใจในหลักการและพร้อมจะปิดฉาก ศตวรรษสังคม ๒ เพศ ที่อนุญาตให้เพียงหญิงชายเท่านั้นที่สมรสกันได้ แล้วมาร่วมกันเปิด ศักราชใหม่ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่สังคมแห่งการเชิดชูคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียม กันโดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องเพศมาเป็นกฎเกณฑ์ขวางกั้น วันนี้จึงไม่ได้มาเพื่อร้องขอค่ะ ท่านประธาน แต่อยากจะมาใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารผ่านไปยังหลาย ๆ ท่านที่อาจจะยัง ไม่เห็นด้วย หรืออาจจะยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าเห็นชอบกับหลักการนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยความคิดหรือความเชื่อ ทุกท่านค่ะ สมรสเท่าเทียมคือความเท่าเทียมที่ไม่ได้ทำให้ ท่านเสียสิทธิหรือผลประโยชน์ใด ๆ ไม่มีใครต้องเสียอะไรเลยค่ะ ท่านมีสิทธิที่จะเชื่อใน แนวคิดหรือค่านิยมของท่าน แต่ดิฉันขอโอกาสให้สังคมนี้ได้ก้าวเข้าสู่วาระแห่ง การเปลี่ยนแปลง ก้าวเข้าสู่ลู่วิ่งมีเส้นไทยคือสังคมที่ตระหนักถึงการเคารพศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์ของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ปฏิบัติกับทุกคนโดยปราศจากอคติทางเพศและเป็นสังคม ที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างดิฉันจะกล้าพูดอย่างภาคภูมิใจว่าดิฉันรักใคร พร้อมกับ การได้รับสิทธิทุกประการเหมือนกันกับคนทุกคู่ไม่ว่าจะเป็นเพศใด เพราะดิฉันเชื่อมั่นเป็น อย่างยิ่งว่าเราทุกคนเท่ากัน อย่างน้อยที่สุดท่านจะไม่ร่วมยินดีกับความรักของดิฉันเพียง สักนิดก็ได้ ขอเพียงไม่ขัดขวางหรือกีดกันสิทธิที่เราควรจะมีเหมือนกันเท่านั้นพอ ดิฉันเชื่อว่า หลาย ๆ ท่านในที่นี้คงจะเห็นสีสันของงาน Pride Month ผ่านตามาบ้าง สวยงามใช่ไหมคะ สังคมแห่งการโอบรับความแตกต่างหลากหลายก็สดชื่นสดใสสวยงามอย่างนั้นเช่นกันค่ะ ขอเพียงอย่าใช้มันเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้นเลย คืนสิทธิความเสมอภาค เท่าเทียมต่อหน้ากฎหมายเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรมให้กับพวกเราด้วย อย่าให้ผู้มี ความหลากหลายทางเพศอย่างดิฉันต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ดิฉันผิดอะไร ความรักของ ดิฉันมีคุณค่าน้อยกว่าคนอื่นตรงไหน หรือเผลอไปแม้แต่สักวินาทีเดียวที่สงสัยในความเป็นตัว ของตัวเอง อย่างประวิงเวลาไปนานกว่านี้เลยค่ะ ในระหว่างที่เรากำลังรอให้กฎหมายฉบับนี้ ผ่านสภามีผู้มีความหลากหลายทางเพศหลายคนถูกลิดรอนสิทธิในการสมรสอย่างเท่าเทียม ขาดหลักประกันในการใช้ชีวิตคู่ และบางคนก็อาจจะรอนานกว่านี้ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ดิฉันขอรับการสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนในที่นี้โหวตเห็นชอบ ในหลักการ คืนสิทธิทุกประการที่ควรจะเป็นของคนทุกคนให้กับพวกเรา ขอบคุณค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ครับ
นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ชัยภูมิ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายแพทย์โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต ๑ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ขออภิปรายร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... หรือผมขอเรียกว่า พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ก่อนอื่นเลย ขอกราบขอบพระคุณภาคประชาชนที่ท่านต่อสู้ ที่ท่านนำ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ให้เข้ามาสู่ สภาแห่งนี้ได้ ขอบคุณคณะรัฐมนตรี ขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี และขอบคุณทุกพรรค การเมืองที่ให้การสนับสนุน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมในวันนี้ ในประเด็นที่ผมจะขออนุญาตอภิปรายใน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ก็คือประเด็นทางการแพทย์ เนื่องจากว่าผมเป็นแพทย์ สิ่งหนึ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ฝากให้ผมในฐานะที่เป็นแพทย์ และเป็นบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาพูดในสภาแห่งนี้ ก็คือในภาวะวิกฤติชีวิตของคนคือ สิ่งสำคัญที่สุด คู่สมรสที่มีความไม่เท่าเทียมเวลาเข้ารับการรักษา มีเพื่อน ๆ สมาชิกหลาย ท่านพูดแล้วครับ ในยามวิกฤติเขามารับการรักษา แต่บางครั้งเขาได้แต่เพียงยืนมอง ไม่สามารถมีสิทธิตามกฎหมายเพื่อให้สิทธิการรักษาแก่คนที่เขารัก แก่คนที่เขาอยู่ด้วยมา ตลอดเวลาและดูแลกันมาตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วในทางการแพทย์ เวลาคือสิ่งสำคัญใน การกู้ชีวิตให้เขากลับมามีสติ ให้เขากลับมาทำหน้าที่ของตนเองในสังคมต่อไปได้ ช่วงชีวิตของ คนมีค่า เพราะฉะนั้นแล้วผมเชื่อว่าการที่ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม วันนี้ที่เข้ามาอยู่ในสภาจะ ผ่านไปได้ และผ่านทำให้ชีวิตคนหนึ่งคนกลับมามีชีวิตเหมือนเดิมและทำให้ชีวิตคู่ที่เขารักกัน มานานมีความสุขมากขึ้น อีกอย่างหนึ่งผมจะขอยกตัวอย่าง สิทธิการเข้าถึงสิทธิการรักษา ของคนที่มีความหลากหลายทางเพศก่อนหน้านี้ เช่น ยกตัวอย่างเลย ภาพที่เห็นชัดเจน โรคมะเร็งครับ โรคมะเร็งหากสิทธิในการรักษาของคนที่มีความหลากหลายทางเพศไม่ได้รับ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นมะเร็งเขาไม่สามารถรับยา เขาเรียกว่า ยาพุ่งเป้าเพื่อรักษามะเร็งนั้นให้หายตามสิทธิของคู่รักของเขาที่เขาอยู่กินกันมานาน ทำให้เขา ขาดโอกาสที่จะมีโอกาสหายหรือมีชีวิตยืนยาวเพื่อทำหน้าที่ต่อสังคมต่อไปได้ แต่หากวันนี้ เพื่อน ๆ สมาชิกในสภาแห่งนี้ ตกลงผ่าน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับนี้ การที่สิทธิที่จะเข้าถึง การรักษาซึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย พยายามบอกว่าสิทธิการรักษาคือสิทธิถ้วนหน้าที่ทุกคน ควรเข้าถึงและได้รับประโยชน์ถึงที่สุด เพราะฉะนั้นวันนี้ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม จะทำให้สิทธินี้ กลับคืนสู่ความหลากหลายทางเพศให้ท่านได้รับสิทธิในการรักษาเท่าเทียมกับคนอื่น
นายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ชัยภูมิ ต้นฉบับ
สุดท้ายนี้ต้องเรียนว่า พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมทำให้ทุกคนเท่ากัน ทั้งด้าน การเข้าถึงการรักษาความรวดเร็วในการรักษา ความถ้วนหน้าเท่ากัน และทำให้ทุกคนมีสิทธิ เท่าเทียมกันทางด้านกฎหมาย ทำให้ทุกคนมีสิทธิ มีหน้าที่ มีสถานะทางสังคมเท่าเทียมกับ คู่สมรสชายและหญิงอื่น ๆ ผมเชื่อว่า พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมฉบับนี้จะเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับคนที่มีความหลากหลายทางเพศให้ท่านมีความสุขตลอดต่อจากนี้ไป และสุดท้ายผมขอ สนับสนุน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม และเชื่อว่าทุกท่านในสภาแห่งนี้จะผ่าน พ.ร.บ. สมรส เท่าเทียมฉบับนี้ ขอขอบพระคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล ครับ
นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล เชียงใหม่ ต้นฉบับ
กราบเรียนประธานสภาที่เคารพ ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๓ พรรคก้าวไกล ผมจะอารัมภบทให้น้อย วันนี้มีสมาชิกหลายท่านได้พูดไปถึงเรื่องของ World Pride แต่เผื่อที่ถ้าหากหลายท่านยังไม่เข้าใจว่า World Pride คืออะไร ผมขอเล่าย้อนไปที่ คำว่า Pride เทศกาล Pride Month งาน Pride ขอสไลด์ด้วยนะครับ
นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล เชียงใหม่ ต้นฉบับ
สไลด์ต่อไปเลยครับ งาน Pride นะครับ Pride หมายถึงความภาคภูมิใจ งาน Pride มันเกิดจากเหตุการณ์ในปี ๑๙๖๙ ที่สหรัฐอเมริกา ในยุคนั้นก็คือเป็นยุคที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศนี้ถูกกดขี่ มีอยู่วันหนึ่ง ก็ทางเจ้าหน้าที่รัฐเขาก็บุกทลายผับแห่งนี้นะครับ จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็คือมีผู้มีความหลากหลายทางเพศเริ่มออกมาประท้วงเดินขบวน จากนั้นเป็นต้นมา จากเหตุการณ์ในวันนั้นก็เกิดขบวน Pride เกิดขึ้นตามหัวเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกากระจายออกมาตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเองผมหา จุดเริ่มต้นไม่ได้ว่าขบวน Pride งาน Pride มันเกิดมาตั้งแต่เมื่อไร อาจจะเกิดมาตามที่เพื่อน สมาชิกได้พูดไปก็ได้นะครับ เชียงใหม่ปี ๒๕๕๒ เราบอกไม่ได้ครับ แต่สิ่งที่เราต้องยอมรับกัน ว่าในช่วง ๓ ปีหลังมานี้งาน Pride งานที่แสดงถึงความภาคภูมิใจการแสดงถึงตัวตนของผู้มี ความหลากหลายทางเพศ การออกมาเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ มันเสียงดังขึ้นมีงาน Pride เกิดขึ้น มากขึ้นสไลด์ต่อไปเลยก็ได้ครับ
นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล เชียงใหม่ ต้นฉบับ
อันนี้เป็นรูปงาน Pride ที่เกิดขึ้น ในช่วง ๒-๓ ปีหลังมานะครับ ก็ได้รับความนิยมมีผู้มาร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ทีนี้ในสภาแห่งนี้มีหลายท่านพูดไปถึง World Pride ขอเล่านิดหนึ่งนะครับ ก็คืองาน Pride แบบนี้ แต่จัดโดยองค์กรที่รวบรวมกลุ่มองค์กร Pride ในแต่ละประเทศมาอีกทีหนึ่ง มีสมาชิกกว่า ๓๐๐ องค์กร ทีนี้ World Pride ก็จะจัดงานลักษณะนี้เหมือนกัน แต่เป็นงาน ที่จะเรียกร้องในระดับโลกเพื่อให้เสียงมันดังในระดับโลก World Pride จัดโดยองค์กร Inter Pride ซึ่งผมก็ได้ทราบข้อมูลมาว่า ณ ขณะนี้ประเทศไทยเราโดยภาคประชาชน โดยภาครัฐภาคเอกชนเองด้วยก็พยายามที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน World Pride ก็ถ้าดู ในสไลด์ว่า World Pride จัดครั้งแรกเมื่อปี ๒๐๐๐ ในหลายเมืองหลายประเทศทั่วโลก ครั้งล่าสุดคือที่เมืองซิดนีย์ หลายท่านอาจจะคิดว่างาน Pride มีแค่ขบวนพาเหรดหรือเปล่า จริง ๆ ไม่นะครับ ถ้าเป็นงาน World Pride ก็จะมีแผนที่ว่าในเมืองซิดนีย์มีจุดอะไรต่าง ๆ บ้าง มาทั้งโซนที่เป็นการแสดง โซนดนตรี โซนที่เป็นการเสวนาการประชุม Conference ระดับโลก ที่เรามาพูดกันถึงเรื่องสิทธิต่าง ๆ ผมโชคดี ผมได้ข้อมูลชุดนี้มาจาก TCEB ก็เป็นองค์กร ภาครัฐของเราที่ขับเคลื่อนเรื่อง Event ต่าง ๆ จาก Timeline นี้เรากำลังที่จะเสนอ ตัวเองเป็นเจ้าภาพ World Pride ในปี ๒๐๒๘ แต่เดือนเมษายนปีหน้านี้เราต้องทำการส่ง Proposal แล้วนะครับ หลายท่านอาจจะคิดว่าการผ่านสมรสเท่าเทียมในวันนี้จะเป็นการติด อาวุธให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพหรือเปล่า ซึ่งผมจะตอบว่าการผ่านสมรสเท่าเทียมในวันนี้ ก็อาจจะทำให้เราไม่ได้เป็นเจ้าภาพ เพราะว่า ๔ ประเทศที่ผมยกตัวอย่างมานี่คือ ๔ ประเทศ ที่เป็นคู่แข่งของเราที่พยายามจะเป็นเจ้าภาพ World Pride ปี ๒๐๒๘ ดูจากตาราง ประเทศ อาร์เจนตินา ประเทศเม็กซิโก ประเทศยูเครน แล้วก็เซาท์แอฟริกา ทั้ง ๔ ประเทศนี้มีทั้ง กฎหมายสมรสเท่าเทียม การเปลี่ยนคำนำหน้านาม การเปลี่ยนเพศในเอกสารราชการ แล้วก็ มีกฎหมายที่รับรองอัตลักษณ์ให้สิทธิต่าง ๆ ตามเพศสภาพ ส่วนประเทศไทยวันนี้สมรส เท่าเทียมเรากำลังจะมีส่วนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศอีก ๒ ฉบับนั้น ณ วันนี้ยังไม่มีนะครับ แต่ว่าก็อยู่ระหว่างทางนะครับ
นายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล เชียงใหม่ ต้นฉบับ
ทีนี้ที่ผมมาอภิปรายในวันนี้คือหลายท่านอาจจะตีความได้เช่นเดียวกันว่า ผมเอาเรื่อง World Pride มาเร่งรัดให้เราผ่านกฎหมายต่าง ๆ เพื่อที่จะเป็นเจ้าภาพ หรือเปล่า เพื่อที่เราจะสร้างเศรษฐกิจสีรุ้ง เพื่อที่เราจะดึงการท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงิน สร้างกิจกรรมสร้างเทศกาลระดับโลกหรือเปล่า มันก็ไม่ผิดที่ท่านจะคิดแบบนั้น อย่างที่ สส. เบญจาได้พูดไปเศรษฐกิจสีรุ้งมันมาแน่ครับ แล้วก็อย่างที่ สส. พนิดาได้พูดไปเหมือนกัน เราก็ไม่ควรที่จะนำเศรษฐกิจสีรุ้งมาเป็นเครื่องมือที่จะมาผลักดันการโอบรับความหลากหลาย ในประเทศเรา ที่ผมพูดวันนี้ผมอยากให้ทุกท่านได้ฉุกคิดครับ ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชน ภาคธุรกิจผู้มีอำนาจ สส. อย่างเราเองก็ตาม เรื่องนี้เราต้องหาจุดสมดุลมันให้ได้ เราต้อง นึกย้อนไปถึงสิ่งที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งอาจรวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่ม Minority ต่าง ๆ สิ่งที่เขาเรียกร้องกันมาตลอดตามประวัติศาสตร์เกือบ ๑๐๐ ปีว่าสิ่งที่เขาต้องการมัน คืออะไรนะครับ เป้าหมายของพวกเขามันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่มันคือเรื่องของ คนเท่ากัน ผมฝากไว้เพียงเท่านี้ครับ ขอบพระคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ครับ ท่านกมลศักดิ์พร้อมไหมครับ โอเคครับ พอดีมีการถอนหลายท่านของฝั่งรัฐบาลก็จะทำให้ต้องเรียกผู้ที่อยู่ในลำดับถัดไป ก็ขออภัย ด้วยนะครับ ต่อจากท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ จะเป็นท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ครับ ขอโทษครับ จากท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ จะเป็นท่านกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ เชิญท่านกมลศักดิ์ครับ
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ นราธิวาส ต้นฉบับ
ท่านณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ มาแล้ว คิวท่านก่อนผมครับ ขออนุญาตให้ท่านณัฐวุฒิอภิปรายก่อนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ได้ครับ ท่านใดพร้อมก็เริ่มได้เลย
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ นราธิวาส ต้นฉบับ
ขอบคุณมากครับ
นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สุพรรณบุรี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ต้องกราบขออภัยท่านประธานและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน มาช้าไปเล็กน้อยครับ การอภิปรายของกระผมไม่ใช่ผมจะไม่สนับสนุนหรือไม่รับหลักการ กฎหมายเท่าเทียมที่เสนอในที่ประชุมสภาในวันนี้นะครับ เพียงแต่กระผมจะมีคำถามไปถึง ผู้เสนอพระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือผู้เสนออื่น ๆ ว่าได้มีการศึกษา ผลกระทบต่อการออกกฎหมายฉบับนี้ทุกมิติ ทุกด้านแล้วหรือยัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบต่อโครงสร้างจำนวนประชากรของประเทศที่เกิดวิกฤติอัตราการเกิดลดต่ำสุด ในรอบ ๗๑ ปี หรือ ๗ ทศวรรษ นายกรัฐมนตรียังตกใจเลยว่าเด็กเกิดเพียง ๕๐๒,๐๐๐ คน ต่ำกว่าเป้าหมาย ๗๐๐,๐๐๐ คน หรือประมาณ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว ขออภัยที่เอ่ยนามครับ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ เพราะถ้าไม่แก้ไขประเทศไทยอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าประชากรลดเหลือเพียง ๓๓ ล้านคน ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ท่านซูการ์โน ขออภัยที่เอ่ยนามท่านได้พูดไปแล้ว จะส่งผลต่อศักยภาพทาง เศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างยิ่ง ท่านประธานที่เคารพ หรือเราจะต้องออกกฎหมาย ดูในอดีต จอมพล ป. พิบูลสงครามหาทางเพิ่มจำนวนประชากรของประเทศเมื่อปี ๒๔๘๗ ท่านออกกฎหมายมาฉบับหนึ่งเรียกว่า กฎหมายภาษีชายโสด อายุระหว่าง ๒๕-๔๙ ปี รายได้ ๙๖๐ บาท จะเสียภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕ ต่อปี ยกเว้นพระภิกษุ คนวิกลจริต หรือผู้ที่เกิด โรคร้ายแรงโดยเฉพาะอวัยวะเพศไม่สมบูรณ์ อันนี้ยกเว้นครับท่านประธาน หรือเราถึงเวลา แล้วจะต้องออกกฎหมายอย่างนี้ ท่านประธานที่เคารพ ถ้ายังไม่มีการศึกษาในประเด็นนี้ เมื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ ๒ นี้ก็อยากให้กรรมาธิการได้กรุณาไปศึกษาเพิ่มเติมถึง ผลกระทบในประเด็นนี้ด้วยครับ กระผมจะให้ความเห็นชอบจะรับหลักการพระราชบัญญัติ ฉบับนี้ ที่เสนอใหม่ทุกฉบับ ขอบพระคุณครับท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบพระคุณครับ เชิญท่านกฤษฏิ์ ชีวะธรรมานนท์ ครับ
นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ชลบุรี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพ กฤษฏิ์ ชีวะธรรมานนท์ ตัวแทนพี่น้อง LGBTQ+ ค่ะ ท่านประธานคะ ความหลากหลายทางเพศ มีอยู่จริง แต่ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันนั้นไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งมาถึงวันนี้เด็ก ๆ รุ่นลูก ๆ ของเราก็จะสามารถพูดคุยกับเพื่อน ๆ ได้อย่างภาคภูมิว่าพ่อแม่เป็น LGBTQ+ อย่างไรก็ขอขอบคุณสภาแห่งนี้ และขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาทุกท่านที่ช่วยสนับสนุน หลักการ อย่างไรก็ดีนะคะ ขอกราบเรียนพี่น้องชาวมุสลิมเพื่อที่จะให้สบายใจขึ้น ว่าการแก้ไขกฎหมายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ บรรพ ๖ นี้ เป็นเรื่อง เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิทางทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส และเพื่อให้คู่รักทุกเพศทุกวัยได้รับ การคุ้มครองสิทธิอย่างเสมอภาค จึงต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ดังนั้นจึงขอให้พ่อแม่พี่น้อง ชาวมุสลิมช่วยสนับสนุนรับหลักการในการแก้กฎหมายดังกล่าวนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ครับ
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ นราธิวาส ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต ๕ ประกอบด้วย อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ และอำเภอศรีสาคร พรรคประชาชาติ ท่านประธานครับ ญัตติการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่มีตัวยกร่าง ๔ ฉบับวันนี้นะครับ ผมขอ เป็นส่วนหนึ่งที่จะมีส่วนร่วมในการอภิปราย แต่ฟังดูตั้งแต่ต้นผมอาจจะเป็นเสียงส่วนน้อย ของเพื่อนสมาชิกผู้ทรงเกียรติหลาย ๆ ท่านที่ได้อภิปรายก่อนหน้านี้ ยกเว้นในส่วนของ พรรคประชาชาตินะครับ ที่เราแสดงจุดยืนของพรรคและของสมาชิกเรา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน พื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขออนุญาตท่านประธานเท้าความเพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้เข้าใจว่า จริง ๆ กฎหมายฉบับนี้จุดยืนของเรามีมาตั้งแต่พรรคประชาชาติก้าวแรกที่เราได้ เข้ามาในสภาแห่งนี้ ก็คือเมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วก็มี กฎหมายฉบับนี้เข้ามาเช่นกัน เป็นญัตติของพรรคก้าวไกลที่เสนอเข้ามาเมื่อชุดที่แล้ว แล้วทาง สภาได้โหวตวาระที่ ๑ ก็ผ่านในขั้นรับหลักการ แต่ในขณะนั้นผมจำได้ว่ามีเสียงที่ไม่เห็นด้วย ๑๕๐ กว่าเสียง เราพรรคประชาชาติก็คือหนึ่งในนั้น แต่ด้วยระยะเวลาของสภาชุดที่แล้ว มีการยุบสภาเสียก่อนจึงเป็นที่มา การตั้งรัฐบาลเองก็ล่าช้า เป็นเหตุให้ไม่อาจที่จะรับรอง ภายใน ๖๐ วัน จึงเป็นที่มาที่มีการเสนอร่างมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ผู้เสนอต่างกัน รอบที่แล้ว พรรคก้าวไกลก็เสนอ คราวนี้ก็เสนอเช่นกัน แต่คราวที่แล้วรัฐบาลไม่ได้เสนอนะครับ ตัวร่าง ของรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ได้เป็นของตัวร่างของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล แต่มาในสมัยนี้ยุคนี้นอกจากพรรคก้าวไกลเสนอแล้ว ภาคประชาชนก็เสนอเข้ามา สิ่งที่ผม ต้องอธิบายเพราะว่าให้ประชาชนที่เพิ่งรับฟัง ความเป็นมาของกฎหมายฉบับนี้ได้เข้าใจ แล้วผมจะขอความเห็นใจนะครับ เพราะฉะนั้นความแตกต่างในการเสนอเข้ามา พอมาดูใน รายละเอียดของตัวร่างก็ต่างกันบ้าง แม้จะมีหลักการและเหตุผลตรงกัน เหมือนกันกับ ชุดที่ ๒๕ แต่มีประเด็นหนึ่งก็คือร่างของรัฐบาลที่ต่างกันไม่เคยมีมาก่อน จะอย่างไรก็แล้วแต่ จุดยืนพรรคประชาติเราก็คงต้องแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเหมือนชุดที่แล้ว ก็คือเราไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ แม้ว่าจะมีข้อกฎหมายที่บัญญัติในตัวยกร่างของ คณะรัฐมนตรี มีอยู่ข้อหนึ่งครับท่านประธาน ก็คือในมาตรา ๖๖ คราวที่แล้ว ๔ ร่าง ไม่มีเลย ข้อความลักษณะอย่างนี้ก็ต้องขอบคุณ ทราบข่าวนะครับ ผมก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด พรรคประชาชาติเราติดตามเรื่องนี้มาตลอดว่าเมื่อกำลังจะเข้าสู่สภาเราพยายามทำอย่างไร ให้มีความเข้าใจเห็นอกเห็นใจพรรคประชาชาติ เพราะอยู่ในพื้นที่ที่มีความศรัทธาที่ต่างกัน นั่นก็คือในมาตรา ๖๖ ตัวร่างของคณะรัฐมนตรีมีการระบุข้อยกเว้นว่า ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ที่มีการแก้ไขไม่ให้ใช้บังคับกับพื้นที่ที่มีกฎหมายมรดกและครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว แต่ก่อนไม่มีเลยนะครับ แต่มาปีนี้มี ตอนแรกก็สบายใจอยู่บ้าง แต่มันยังไม่ครบถ้วนสำหรับ ประชาชาติ ผมลุกขึ้นมา ๑. แสดงจุดยืน แต่ดูบรรยากาศอย่างไรก็แล้วแต่ผมเชื่อว่ากฎหมาย ฉบับนี้น่าจะผ่านในวันนี้ในขั้นรับหลักการ แต่สิ่งที่เป็นห่วงอยากเสนอไปยังกรรมาธิการที่จะมี การตั้งขึ้น แล้วก็มีประเด็นคำถามที่ผู้เสนอญัตติ ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนของฝ่ายคณะรัฐมนตรี ที่มาชี้แจง ตัวแทนภาคประชาชนที่มีการยกร่างและพรรคอื่นที่ผมไม่ได้กล่าวถึงนี้ว่าในส่วน ของมาตรา ๖๖ ที่เป็นตัวร่างของฝ่ายรัฐบาลนี้ของคณะรัฐมนตรี และผมเชื่อว่าหากผ่าน ขั้นรับหลักการในวาระที่ ๑ แล้ว เดี๋ยวเราก็ต้องมานั่งดูว่าจะใช้ร่างฉบับไหนในการพิจารณา ของกรรมาธิการ แล้วผมเชื่อว่าน่าจะเป็นร่างของคณะรัฐมนตรี สิ่งที่คงจะเป็นประเด็นคำถาม แล้วก็อยากฝากไปทางกรรมาธิการ แม้มีมาตรา ๖๖ ยกเว้น ผมถือว่าการให้ความเคารพหลัก รัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๑ นั่นคือในเรื่องของการนับถือศาสนา ความเชื่อแล้วก็หลักปฏิบัติ แล้วก็กฎหมายต้องให้สิทธิเสรีภาพ ต้องไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของ ประชาชน นั่นหมายความว่าผู้ที่ศรัทธา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนาอิสลาม ต้องห้ามในเรื่องเหล่านี้ หากมีการระบุกฎหมายครอบครัวมรดกในมาตรา ๖๖ แล้วนี้ ผมถาม ว่าเป็นฉบับเดียวกันกับกฎหมายอิสลาม ปี ๒๔๘๙ ที่ว่าด้วยครอบครัวมรดกหรือไม่ อย่างไร ท่านประธานครับ หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้นะครับ ที่ผมถามอย่างนี้เพราะผมเกรงว่าจะไปขัดกับกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ท่านประธานที่เคารพครับ ในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่เฉพาะ ๓ จังหวัด สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในขณะนั้นท่านปกครอง แก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านเข้าใจ ในหลักปฏิบัติและให้ความเคารพกับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามส่วนใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ จึงมีการร่างพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๔๘๙ ว่าด้วยครอบครัวและมรดก ให้บังคับใช้กับคู่กรณีที่มีปัญหาเรื่องมรดกและครอบครัวที่ต้องขึ้นสู่ศาลให้มีดาโต๊ะยุติธรรม แล้วก็ใช้หลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวมรดกในการพิจารณาคดี นั่นหมายความว่า หากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่มีการแก้ไขวันนี้ แล้วถ้าเกิดผ่านวาระที่ ๓ ขึ้นไป ถ้าไม่มีการระบุข้อความในทำนองลักษณะเดียวกันกับมาตรา ๖๖ แล้วนี้นะครับ ขออนุญาต อีกนิดหนึ่งครับท่านประธาน เพราะว่าเป็นประเด็นสำคัญครับ หากไม่มีการระบุบัญญัติ ชัดเจนว่าในพื้นที่ที่มีประกาศใช้ครอบครัวมรดกอยู่แล้ว ระบุชัดเลยว่าเป็นพระราชบัญญัติ ปี ๒๔๘๙ มันก็จะไปขัดในพื้นที่ มันก็จะไปขัดกับกฎหมายอื่นที่มีอยู่ ผมเรียนอย่างนี้ครับ ท่านประธาน หลายท่านอาจจะยังไม่เข้าใจ กฎหมายมรดกและครอบครัว ปี ๒๔๘๙ สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในขณะนั้นทำไมเขาใช้กับ ๔ จังหวัด จังหวัดยะลา จังหวัด ปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล เพราะขณะนั้นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทย นับถือศาสนาอิสลามอยู่ ๔ จังหวัดครับ อยู่ ๔ จังหวัด ภาคอื่น ๆ ยังมีส่วนน้อย เขาเกรงว่าจะเกิดปัญหาในเรื่องของการปกครองระหว่างผู้ถูกปกครองที่มีความเชื่อศรัทธา ที่ต่างกัน สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามยังให้เกียรตินะครับ ยังเข้าใจในสภาพลักษณะ ขณะนั้น แต่ในขณะนี้ ท่านประธานครับ ในพื้นที่ ๔ จังหวัดที่ผมกล่าวถึงตาม พ.ร.บ. ๒๔๘๙ นี้ การสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนที่อำเภอเลยครับ ตอนนี้นะครับ ตอนนี้ใน ๔ จังหวัดที่ผมพูดถึงตาม พ.ร.บ. ปี ๒๔๘๙ ไม่จำเป็นต้องไปที่อำเภอ โดยใช้หนังสือ สมรสที่ไปหาโต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนาประจำมัสยิด แต่งงาน ออกใบสำคัญการสมรสแบบ ศาสนาอิสลามก็ใช้บังคับได้ ผมเกรงอย่างนี้ครับ ผมเกรงปัญหาในอนาคต นี่คือความเป็นห่วง วันข้างหน้า วันดีคืนดีมีพี่น้องลูกหลานที่นั่นที่นับถือศาสนาเดียวกันไปจดทะเบียนสมรส ที่อำเภอ และกลับมาหาโต๊ะอิหม่ามผู้นำศาสนาให้ออกใบสมรสตามหลักการศาสนาอิสลาม ปัญหาโต๊ะอิหม่ามจะทำตัวอย่างไรดีครับ ต้องคิดอย่างนี้ด้วยครับ นี่คือประเด็นที่เป็นห่วงและ มันก็จะเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ ด้วยความเคารพครับ ผมเคารพกับหลาย ๆ ท่านนะครับ เราอาจจะมีความเห็นต่างกัน แต่เรามีความศรัทธาที่ต่างกันตามหลักศาสนาที่แต่ละคนนับถือ ผมเคารพครับ แต่อย่างน้อยที่สุดผมขอความเห็นใจ ความเข้าใจในตรงนี้ด้วยครับ ผมเชื่อว่า ในชั้นกรรมาธิการเราก็คงต้องถกเรื่องนี้ และผมอยากให้ครอบคลุมถึงพี่น้องอิสลาม ทั้งประเทศ เพราะว่าตอนนี้พี่น้องอิสลามทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ ๔ จังหวัดตาม พ.ร.บ. ๒๔๘๙ แต่มันมีจำนวนมากขึ้น แล้วก็มันจะเป็นปัญหาในสังคมกับในเรื่องของความศรัทธาที่แม้จะ ต่างกัน แต่เราเคารพซึ่งกันและกัน ขอบคุณมากครับท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบพระคุณครับ เชิญท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ครับ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตมีส่วนร่วมในการอภิปรายสนับสนุนให้สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้ง ๓ ฉบับ หรือที่เราเรียกว่าร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ท่านประธานครับ ร่างกฎหมาย สมรสเท่าเทียมนั้นเป็นร่างกฎหมายที่มีหลักการอันแสนจะเรียบง่าย เป็นร่างกฎหมายที่เพียงแค่ กำลังจะบอกกับคู่รักทุกคู่ในประเทศนี้ว่าคุณแต่งงานกันได้ ใช้ชีวิตในฐานะคู่สมรสได้ เป็นร่างกฎหมายครับ ที่เพียงแค่กำลังจะบอกกับเด็กทุกคนในประเทศนี้ ไม่ว่าคุณจะเกิดมา เป็นเพศใด เติบโตขึ้นมาแล้ว มีความรู้สึกกับเพศใด อย่างไร รัฐและพวกเราทุกคนจะปฏิบัติ กับพวกคุณอย่างทัดทียมกัน เป็นร่างกฎหมายที่เพียงแค่จะบอกกับประชาชนทุกคน ในประเทศนี้ว่าความเสมอภาคจะเป็นความปกติใหม่ของสังคมไทย ท่านประธานครับ หลังจาก ผมได้ฟังคำอภิปรายของเพื่อน ๆ สมาชิกมาตลอดทั้งวันนี้ ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งครับ ว่าภาพที่เราจะเห็นในเย็นวันนี้จะเป็นภาพประวัติศาสตร์ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะลงมติ รับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมกันอย่างท่วมท้น เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เป็น ตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่สงวนจุดต่าง และหันมา ร่วมกันผลักดันกฎหมายที่ต่างฝ่ายมองว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน แต่ที่สำคัญ กว่านั้นครับ คือจะเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เราจะได้เห็นผู้สมาชิกแทนราษฎรจาก หลายพรรค หลายเพศ หลายช่วงอายุมาร่วมกันยืนยันครับว่าสิทธิสมรสนั้นไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ ที่ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นเรียกร้อง แต่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนนั้น พึงได้รับอย่างถ้วนหน้าเสมอภาค สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกที่เห็นตรงกับผม ผมเชื่อว่าเราเห็น ตรงกันว่าสิทธิสมรสนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ว่ารักนั้นเคารพความรักของคู่รักทุกอย่าง เสมอภาค แต่ยังเป็นการเปิดประตูไปสู่สิทธิทางกฎหมายอีกหลายประการครับ ที่ส่งผล กระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของคู่รักทุกคู่ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการรับมรดก สิทธิในการกู้ร่วม หรือสิทธิในการตัดสินใจแทนกันในการรักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน แต่สำหรับเพื่อน ๆ สมาชิกที่อาจจะยังเห็นต่างกับผม อาจจะด้วยเหตุผลทางศาสนา ผมต้องขอเรียนกับท่าน ด้วยความเคารพครับ ว่าผมยืนยันว่าผมรับฟัง และเคารพในเสรีภาพทางความคิดของท่าน แต่ผมและพรรคก้าวไกลก็จำเป็นต้องยืนยันเช่นกันครับว่าสิทธิสมรสอันเสมอภาคเท่าเทียม กับเสรีภาพในการนับถือศาสนานั้นเป็น ๒ สิ่งที่อยู่คู่กันได้ในสังคมไทย เพราะในมุมหนึ่งการเปิดให้ประชาชนทุกคนนั้นมีสิทธิอย่างเท่าเทียมกันในการเป็นคู่สมรส ตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการบังคับใครให้ต้องมาแต่งงานกัน หากพิธีดังกล่าวอาจจะขัดกับ ความเชื่อของเขา ดังนั้นด้วยเหตุผลเดียวกัน การเปิดให้แต่ละคนนั้นมีเสรีภาพในการนับถือ ความเชื่อที่อาจจะแตกต่างกัน ก็ไม่ควรจะกลายมาเป็นเงื่อนไขที่ไปจำกัดสิทธิของคนที่อาจจะ เชื่อไม่เหมือนเราในการได้ใช้ชีวิตตามที่เขาปรารถนา หรือหากผมจะลองชวนท่านประธาน และเพื่อนสมาชิกให้มองถึงความสำคัญของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้กว้างกว่าแค่เรื่อง ของการสมรส ผมอยากให้มองแบบนี้ครับ ผมอยากให้มองว่าการผลักดันกฎหมายสมรส เท่าเทียมผ่านสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณดัง ๆ ไปสู่ประชาชนทุกคน ทั่วประเทศ ว่าหากวันหนึ่งท่านตกอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตามที่ท่านกำลังเป็นคนส่วนน้อย ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุเรื่องเพศ เรื่องเชื้อชาติ หรือสถานะทางเศรษฐกิจ สังคมหรือ ด้วยเหตุทางศาสนา สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ละครับพร้อมจะปกป้องสิทธิของพวกท่านทุกคน นะครับ ดังนั้นครับท่านประธานผมอยากจะทิ้งท้ายสั้น ๆ ว่าหากสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ผลักดันให้กฎหมายสมรสเท่าเทียมนั้นสามารถผ่านความเห็นชอบออกมาได้สำเร็จ วันนี้จะ ไม่ได้เป็นแค่ชัยชนะของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศครับ แต่จะเป็นชัยชนะของพวกเรา ทุกคน วันนี้จะไม่ใช่แค่บทสรุปของการต่อสู้ที่ค้างชำระมายาวนาน แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของ คลื่นแห่งความก้าวหน้าในสังคมไทย ขอบคุณมากครับท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านวรวิทย์ บารู ครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู ปัตตานี ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพครับ ผม อาจารย์วรวิทย์ บารู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี เขต ๑ พรรคประชาชาติ วันนี้ก็เป็นความสำเร็จอันหนึ่งของมวลมนุษย์ในการที่จะแสวงหาสิทธิเพื่อให้แก่ประชาชน ก็ยินดีด้วยในการที่สภาแห่งนี้ได้ไปช่วยกันหาข้อสรุปเพื่อที่จะไปสู่ปลายสุดของการผ่าน กฎหมายอันนี้ อย่างไรก็ตามพรรคประชาชาติเป็นพรรคที่อยู่ใน ๓ จังหวัดชายแดนถาคใต้ การหาเสียงอย่างที่ท่านเลขาผม ท่านซูการ์โนพูด ไม่ได้หมายความว่าเราปฏิเสธต่อข้อเท็จจริง ของสังคมที่ยอมรับนะครับว่าศาสนาอิสลามนั้นเป็น Dean เป็นวิถีแห่งการปฏิบัติ เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่กระทบต่อชีวิตเขา แน่นอนเหลือเกินนะครับ เป็นวิถีนะครับ มันไม่ใช่เป็น ศาสนาเหมือนความเข้าใจ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ไม่ใช่ครับ เป็นวิถีที่เขาจะต้อง เดินตาม เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้นะครับพรรคประชาชาติของเราไม่ได้อยู่หรือเป็นไปใน ลักษณะไม้ซีกจะไปงัดไม้ซุง แต่เราจำเป็นที่จะต้องอธิบายนะครับ แน่นอนว่ากรอบความคิด เราที่เริ่มต้น แน่นอนต่างกัน เพราะฉะนั้นเราจะหา Core Value ที่ตรงกัน แน่นอนเป็นไป ไม่ได้ ฐานที่มา ของค่านิยมมันต่างกัน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อพี่น้อง ประชาชนของเรานะครับ ในประเด็นสิทธินี้เราแสวงหาสิทธิกันเพื่อที่ในระดับโลกนะครับ หลายองค์กรระดับโลกก็คุ้มครองสิทธิ ในขณะที่ UN ไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่อการทำลาย สิทธิขั้นพื้นฐานมนุษชนในกรุงเยรูซาเลม ในฉนวนกาซา ในขณะเดียวกันเราแสวงหาสิทธิ แต่เราละเลยต่อสิทธิอันชอบธรรมของพี่น้องประชาชนตามสิทธิที่เขาถูกคุ้มครองโดยศาสนา คุ้มครองโดยลัทธิความเชื่อของเขา นั่นก็คือตัวอย่างที่ชัดเจน หลายแห่ง โรงเรียนหลาย โรงเรียน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ศาลปกครองตัดสินไปแล้วว่าอนุญาตผ่อนปรนให้เด็ก เหล่านั้นแต่งชุดตามความเชื่อของเขา แต่แน่นอนทางโรงเรียนที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ ปฏิบัติตาม อีกหลายกรณีหลายอย่างทางรัฐบาลได้พยายามแก้ไขจุดแล้วจุดเล่า แต่ก็ยัง ไม่หมด เหล่านี้ผมอยากจะให้พี่น้องเราในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้คำนึงถึง สิทธิเหล่านี้ด้วย เพราะสิทธิเหล่านี้มีความสำคัญไม่น้อยกว่าสิทธิของเพศสภาพที่เราพูดถึง สิทธิของการที่จะ ปฏิบัติตามความเชื่อของตนเองที่ถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าสิทธิ ที่เราหวงแหนที่เราแสวงหา ณ วันนี้ เราเชื่อตามแนวทางที่ศาสนาบอก ผมยกตัวอย่างนะครับ เราเชื่อว่าดอกเบี้ยนั้นคือสิ่งที่ศาสนาห้ามอย่างรุนแรง ตอนนี้เป็นอย่างไรครับ รัฐบาลต้อง แก้ปัญหาหนี้สินนอกระบบ เราคิดไม่ถึงว่ามนุษย์จะเอาเปรียบมนุษย์ด้วยกันด้วยการโขกสับ ดอกเบี้ยจนกระทั่งรัฐบาลต้องเข้ามา และเราก็เห็นอกเห็นใจคนเหล่านั้น เหล่านี้ก็เป็นสิทธิ เหล่านี้คือสิ่งที่เป็นหน้าที่ของเราร่วมกัน ไม่ใช่เพศสภาพอย่างเดียวนะครับ ที่สำคัญที่เป็นวิถี การดำรงชีวิตในสังคมนี้มันปั่นป่วนไปหมดเช่นเดียวกัน ถ้าหากผมบอกว่าในสภาแห่งนี้ปรากฏ ว่าเรามีความอิสระ แล้วก็เมื่อสักครู่นี้ท่านณัฐวุฒิได้พูดไปแล้วว่าสิ่งที่ประเทศไทยจะต้อง เผชิญข้างหน้านี้คืออะไร ต่อการเกิดของพี่น้องประชาชน ถ้าหากว่าสภานี้เป็นพี่น้องเราตรงนี้ เป็นไปตามลักษณะที่เราแสวงหาทั้งหมด แล้วก็จะถามว่าข้างหน้านี้เราจะหาคนที่เกิดใหม่ ที่ไหน อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้เป็นห่วง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริง นี่คือสิ่งที่ความพยายาม ของมนุษย์เช่นเดียวกัน หลายอย่างที่เป็นความพยายามของมนุษย์ที่ไม่ได้สอดคล้อง กับข้อเท็จจริงนะครับ อันนี้ก็เช่นเดียวกันที่เราพยายามที่จะแสวงหาข้อเท็จจริง แสวงหา ความพึงพอใจ แสวงหาสิ่งที่ถูกต้องตามความคิดของเรา แต่แน่นอนสิ่งถูกต้องเหล่านี้ได้ปรากฏ ออกมาอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น วันนี้กรณีของผมไม่ได้โม้ สังคมไทยเราให้ความสำคัญต่อ ตัวเลขมากกว่าศีลธรรม เราให้ความสำคัญกับตัวเลข ๑๗ ปี ๑๘ ปี หรือ ๒๐ ปี แต่เราละเลย เราไม่ให้ความสำคัญต่อศีลธรรมที่มันเป็นไปในสังคมนี้ ผมถามว่าสังคมเราจะไปอย่างไร ๑๗ ปี ๑๘ ปี ๑๙ ปี ๒๐ ปี ถ้าหากว่าละเลยกล้ำกรายในเรื่องของศีลธรรม แน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ ทั้งหมด นั่นคือเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับสังคมเรา เพราะฉะนั้นในวันนี้พรรคประชาชาติขอร้อง ไม่ได้ให้ เห็นด้วยกับพรรคประชาชาติ แต่ว่าพรรคประชาชาติยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้หาเสียง แต่เป็น ข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่เขาจะต้องถาม เมื่อวิถีการดำเนินชีวิตของเขาจะถูกสิ่งเหล่านี้เข้ามา เราไม่ได้หาเสียงเพื่อว่าจะต่อต้านจะอะไร ไม่ใช่ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏใน ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ และจะปรากฏแก่สังคมมุสลิมทั่วไป เพราะมันไปกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตหรือ อดีตที่ทางศาสนานะครับ ในขณะที่เราสมาชิกที่เป็นประชาชนเป็นพี่น้องมุสลิม อย่างที่ผมบอก สิ่งที่เขายึดมั่นแน่นอน เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนชาวมุสลิมถือเป็นเรื่องสำคัญ จะไปโน่นที จะไปนี่ที เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอเรียนชี้แจงให้พี่น้องประชาชนแล้วก็ให้เพื่อนสมาชิก ได้รับทราบ ขอขอบคุณครับ ท่านประธานครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ครับ
นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธาน สภาที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๙ จังหวัด อุบลราชธานี ประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุญฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบล โนนก่อ ท่านประธานคะ ดิฉันขออภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ อยู่กับใครมีความสุขมีคุณค่าก็อยู่ต่อไป ดิฉันจะขอ อภิปราย ๓ ส่วนค่ะท่านประธานเพื่อให้ความเข้าใจถึงแนวคิดของพรรคไทยสร้างไทย ที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง
นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ
ส่วนแรก จุดยืนของพรรคไทยสร้างไทย คือสนับสนุนคนตัวเล็กและคนเพศ หลากหลายให้ได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ดังนั้นกลุ่มหลากหลายทางเพศพึงต้อง ได้สิทธิเท่าเทียมทุกคน สร้างให้เป็นจุดหมายของคนกลุ่มหลากหลายทางเพศให้ได้ การขับเคลื่อนสมรสเท่าเทียมเรามีพระราชบัญญัติ ๔ ฉบับ ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งเพื่อนก็ได้อภิปรายไปแล้วและรับทราบข้อมูลไปแล้ว ซึ่งทุกร่าง พ.ร.บ. จะมีใจความสำคัญ ที่เหมือนกันก็คือ คู่รักทุกเพศหลากหลายจะได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกันเหมือนกับคู่รักทั่วไป เช่น การรับบุตรบุญธรรม การรับมรดก การทำประกันชีวิต เป็นต้น
นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ
ส่วนที่ ๒ การต่อยอดของประเทศไทยหลัง พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้รับการผลักดัน ได้สำเร็จแล้ว ความพยายามของหลายฝ่ายที่จะพยายามทำให้ประเทศไทยของเราเป็น Destination หรือปลายทางของการท่องเที่ยวของเพศหลากหลายจากความพยายามผลักดัน Soft Power ที่เกี่ยวข้อง เช่น Series Y Cabaret Show หรือเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride ภายใน ปี ๒๐๒๘ ที่เพื่อนสมาชิกได้อภิปรายไปแล้ว ที่สอดคล้องกับการทำงาน Bangkok Pride ซึ่งเป็นงาน Pride ใจกลางกรุงเทพมหานครที่มีผู้ร่วมงานกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน ดิฉันจึงขอย้ำว่า การพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากผลักดันได้สำเร็จ ประเทศไทยของเราจะเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศจริง ๆ ค่ะ และดำเนินการตาม ความคาดหวังที่หลายฝ่ายได้วางเป้าหมายเอาไว้
นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ
ส่วนที่ ๓ จะขอฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี นั่นก็คือสิ่งที่อยากให้ดำเนินการ ต่อจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่านไปแล้ว ก็คือ พ.ร.บ. ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลทั้งฉบับของ ภาคประชาชน ซึ่งได้ร่วมลงลายมือชื่อกัน ๑๒,๐๐๐ กว่ารายชื่อมาแล้ว ซึ่งจะเป็นการเติมเต็ม ทุกความฝันของประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยสถานะของร่างกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ ที่ยังคงค้างอยู่นั้นให้ได้ ดังนั้นหากท่านนายกรัฐมนตรีเร่งรัดเรื่องนี้จะทำให้ประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงการทำงานและเข้ารับการบริการด้านต่าง ๆ จากภาครัฐได้โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งถือว่า เป็นการเติมเต็มต่อยอดความฝันของประชาชนคนไทยได้อย่างดียิ่งค่ะ
นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ
สุดท้ายดิฉันก็ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกพรรคการเมืองที่จะช่วยกันผลักดัน และผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ พรรคไทยสร้างไทยของเราพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่จะทำให้ ความร่วมมือให้เกิด พ.ร.บ. ฉบับนี้ในวันนี้ค่ะ และพร้อมจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบว่าผลงานของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ นี้สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้สำเร็จเพื่อ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเราทั่วประเทศไทย เพราะพี่น้องเราก็คงจะมีความสุขมาก ก็ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านนพพล เหลืองทองนารา ครับ
นายนพพล เหลืองทองนารา พิษณุโลก ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม นพพล เหลืองทองนารา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก คนเมืองสองแควครับ ท่านครับ ในการแก้ไข พ.ร.บ. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ฉบับนี้ว่ากันง่าย ๆ ก็คือว่า พ.ร.บ. ในเรื่องของสมรสเท่าเทียม ผมเองขอบอกเลยนะครับว่า ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ขอสนับสนุนใน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมอย่างเต็มที่ แล้วผม ก็ฝันอยากจะเห็น พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้มีผลบังคับใช้นานแล้ว เพียงแต่ว่าผมนั้นไม่เคยโวยวาย เหตุที่บอกว่าไม่เคยโวยวายก็เพราะว่าในบางครั้งการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายนี้ เราเองด้วย บริบทไม่ว่าจะสังคมไทยหรือสังคมไหนก็ตามนี้บางทีวัน เวลาและการยอมรับในทางสังคม มันมีความสำคัญ ถ้าเราไปเร่งรัดทุกอย่างเลยโดยที่สภาพสังคมนั้นยังไม่อาจที่จะยอมรับได้ มันก็ลำบากอยู่ อย่าว่าแต่ในเรื่องของเพศที่สามนี้เลยนะครับ ถ้าว่ากันตามตรง ในเรื่องของสิทธิของสตรี ยกตัวอย่างง่าย ๆ กว่าสตรีซึ่งเป็นเพศแม่ของเรา เป็นเพศที่เราจะต้องเคารพนับถือและบูชาจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้เราได้กำเนิดเกิดมา ยังต้องต่อสู้แค่เรื่องของการใช้นามสกุล การเลือกนามสกุล ในปี ๒๕๐๕ สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มีการออก พ.ร.บ. ชื่อบุคคลขึ้นมา มิได้ให้สิทธิสตรีในการเลือกเลยว่าจะใช้ นามสกุลของตนเองหรือสามี จนแม้กระทั่งในการแก้ไข พ.ร.บ. ชื่อบุคคล (ฉบับที่ ๓) ปี ๒๕๔๘ ร่วม ๔๐ กว่าปีถัดมานี้ถึงให้สุภาพสตรีสามารถที่จะเลือกใช้นามสกุลของตัวเองก็ได้ หรือว่าของสามีก็ได้ หรือจะสลับกันก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วเหรียญมี ๒ ด้าน ผมเองด้วยความ สัตย์จริง ผมตั้งใจแล้วก็หนุน พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมอย่างเต็มที่ แต่ว่าผมก็อยากให้มอง ๒ ด้านนะครับ อย่าลืมว่าด้านหนึ่งในแง่กฎหมาย แน่นอนมันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ ของกฎหมาย ไม่ว่าจะในเรื่องของสินสมรส หรือจะอะไรก็แล้วที่มันเป็นสิทธิที่เขาควรได้ แต่ว่าในส่วนของที่มีการบอกว่ามันมีการ Bully กัน อยู่โรงเรียน กะเทย ทอม ก็โดนล้อเลียน โดน Anti โดนอะไร ผมถามหน่อยครับว่าในประเด็นนั้นมันเป็นไปในแง่กฎหมายหรือ การยอมรับ การแสดงออก อย่าลืมนะครับตรงนี้มันมีอยู่ ๒ ส่วน ๑. ใช่ อีกฝ่ายหนึ่งว่าจิตใจ เขาเป็นอย่างไร เขายอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่อีกด้านหนึ่งอย่าลืมว่าอยู่ที่ตัวเราเองว่าเรานั้น แสดงออก ความเป็นกะเทยเราแสดงออกอย่างไรให้เขายอมรับนับถือ บางคนเป็นเพศที่สาม แต่กระตู้วู้ วี้ดว้าย เป็นที่รังเกียจของสังคม แล้วอย่างนี้ผมก็ว่ามันไม่ยุติธรรมนะครับ ที่บอก ว่ามีการล้อเลียนจนกระทั่งถึงขั้นฆ่าตัวตายผมก็เคยได้ยินข่าว แต่ว่าในอีกแง่มุมหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบในการเป็นเปอร์เซ็นต์อัตราส่วน ผมถามหน่อยเถอะครับว่าในส่วนที่โดน ล้อเลียนจนกระทั่งพ่อแม่รับไม่ได้ที่ลูกเป็นกะเทยเป็นอะไรนี้ กับพ่อแม่ที่เขายอมรับในความที่ ลูกเป็น ผมว่าเปอร์เซ็นต์มันห่างกันเยอะ ผมคิดว่าผ่านอยู่แล้วครับกฎหมายฉบับนี้ สำหรับ ตัวผม ผมไม่จบนะครับ แม้ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้จะผ่าน เหตุผลที่ผมบอกว่าไม่จบเพราะอะไร รู้ไหมครับ เราจะต้องสร้างความรู้สึกที่ดีที่มันไม่ใช่ในแง่มุมของกฎหมายให้คนทั้งสังคม ได้ยอมรับบุคคลในเพศที่สาม ผมเองจำได้ในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครเมื่อหลายสิบปีก่อน มันมีบุคคลที่เป็นเพศที่สามได้มาอาสา ผมเชียร์นะครับ แต่ผมมาเลิกเชียร์ตรงไหนรู้ไหมครับ อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับ บอกว่าเราจะเรียกร้องสิทธิ สิทธิกะเทย สิทธิอะไร ท่านครับ ถ้าสังคมไทยไม่ให้สิทธิ ไม่ให้ความเสมอภาคของท่าน วันนี้หลายคนก็คงไม่ได้มานั่ง อยู่ในสภานี้ คงจะมีการกีดกันมากกว่านี้ วันนี้พวกเราทุกคนในสังคมไทยเราให้โอกาสทั้งนั้น เคยได้ยินไหมครับว่า ดีนะเอาพวกเพศที่สามมาอยู่กลุ่มครื้นเครงดี อะไรดี ยังมีการชื่นชม ด้วยซ้ำ คือจริง ๆ แล้วนี้เวลาพูดอะไรผมเองก็อยากจะให้พูดในแง่ให้ทั้ง ๒ ด้าน เพราะฉะนั้น แล้วผมไม่จบสำหรับ พ.ร.บ. ฉบับนี้แม้จะผ่าน เพราะผมเองตั้งใจที่จะต้องทำให้คนในสังคมได้ ยอมรับเพศที่สามโดยดุษฎี โดยใจของตัวเอง ไม่ใช่ว่าจะมาบังคับเพราะกฎหมาย แม้ว่าจะมี กฎหมายบังคับแล้ว แต่ว่าสังคมไม่ยอมรับ แล้วตัวของเขาเองก็ไม่ทำอะไรที่มันอยู่ในร่อง ในรอย ผมว่ากฎหมายออกไปก็เท่านั้นละครับ แต่ผมยินดีสนับสนุนเต็มที่ครับ ขอบพระคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ เชิญท่านร่มธรรม ขำนุรักษ์ครับ
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม ร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้กระผม ขออนุญาตอภิปรายให้ความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ทั้ง ๔ ฉบับที่เข้าพิจารณาในวันนี้นะครับ ทั้งของท่านธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และคณะ ของคณะรัฐมนตรี ของท่านสรรเพชญ บุญญามณี และคณะ และของภาคประชาชน คือท่านอรรณว์ ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง ๑๑,๖๑๑ คน เป็นผู้เสนอ ซึ่งวันนี้ครับเพื่อนสมาชิกในสภาแห่งนี้ก็ได้มีการอภิปราย ในความเห็นหลายท่านแล้วนะครับ แต่เพื่อให้เกิดความกระจ่างและคลี่คลายข้อกังวล บางประการ ก่อนการลงมติรับหลักการของกฎหมายในวาระที่ ๑ ของร่าง พ.ร.บ. ทั้งหมดนี้ ผมมีข้อสอบถามถึงเจ้าของผู้เสนอร่างเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้ครับ
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๑ หลักการที่สำคัญของร่าง พ.ร.บ. ทุกฉบับที่พิจารณาในคราวเดียว กันนี้ คือการแก้ไขและกำหนดให้บุคคล ๒ คน สามารถสมรสกันได้ ซึ่งถือเป็นกฎหมายเพื่อ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในเรื่องชีวิตคู่ ไม่ว่าจะมีเพศสภาพใดกระผมขอ สอบถามครับ ว่าหากสภาให้ความเห็นชอบทั้งกระบวนการหมดสิ้นแล้วยังจะต้องไปแก้ไข กฎหมายอื่น ๆ อีกหรือไม่ จะต้องใช้เวลาอีกเท่าไรครับ รวมทั้งการออกกฎกระทรวงและ ระเบียบที่เกี่ยวข้องด้วย
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๒ ผมคิดว่าเราต้องการรัฐที่รับรู้ เข้าใจและเคารพในความหลากหลาย เพราะพี่น้องประชาชนและมนุษย์ทุกที่เกิดมาบนโลกนี้ต่างมีความหลากหลายและมี ความแตกต่างทั้งทางความคิด ทางความเชื่อ ทางเพศสภาพร่างกาย มีความแตกต่างในอาชีพ เชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม และไม่ว่าเขาจะเป็นคนกลุ่มใหญ่หรือชนกลุ่มน้อยในสังคม ก็ล้วนควรได้รับการยอมรับ การเคารพและการถูกปฏิบัติที่เสมอภาค และควรได้รับสิทธิ ขั้นพื้นฐานจากรัฐสำหรับทุก ๆ คน ทุก ๆ กลุ่ม ทุก ๆ พื้นที่อย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการของรัฐ ระบบสาธารณสุข การศึกษา ที่อยู่อาศัยการดำรงชีวิตและ สิทธิในด้านอื่น ๆ ตามหลักสิทธิมนุษยชน เราต้องการรัฐและภาคการเมืองที่เข้าใจโอบรับ ความแตกต่างหลากหลายรับรองสิทธิของทุกคน เพราะฉะนั้นเราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรหรือผู้แทนของประชาชนคนไทยทุกคนต้องรับฟังและเป็นปากเป็นเสียงให้กับ คนทุก ๆ กลุ่ม
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
สำหรับประเด็นในร่าง พ.ร.บ. นี้ ผมทราบว่ามีพี่น้องประชาชนหลายส่วน ได้ร่วมกันผลักดันมานานหลายปี โดยในหลาย ๆ ประเทศก็ได้มีการอนุญาตแล้วจนเป็นที่มา ให้เราได้พิจารณาในวันนี้ โดยขอทราบว่าสำหรับประเทศที่มีกฎหมายทำนองนี้บังคับใช้แล้ว เกิดปัญหาอะไรตามมาบ้างหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าเราควรจะนำตัวอย่างจากต่างประเทศเข้ามา ประกอบการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการเพื่อแก้ไขปัญหาในเชิงรายละเอียดประกอบด้วย และหากมีการพิจารณาจากรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอทราบว่าเราควรให้กฎหมายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ภายในกี่วันเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ไม่เกิด ปัญหาในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และ เพื่อความเข้าใจของพี่น้องประชาชน
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๓ ผมต้องขอคำยืนยันจากผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทุกฉบับว่ากฎหมายนี้เป็นเพียง การรับรองสิทธิการสมรสตามกฎหมาย เป็นกฎหมายภาคสมัครใจและไม่ได้บังคับพี่น้อง ประชาชนผู้ที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักความเชื่อ หลักความศรัทธาและหลักศาสนาที่นับถือ แต่เป็นสิทธิที่พี่น้องประชาชนจะใช้ได้ โดยจะไม่ได้บังคับการจดทะเบียนสมรสกับประชาชน หรือศาสนิกชนใด ๆ และไม่ได้เข้าไปแก้ไขหลักกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก ของพี่น้องชาวมุสลิมใช่หรือไม่ ซึ่งหากได้รับคำยืนยันเช่นนี้ ผมคิดว่าจะสร้างความเข้าใจและ ยืนยันให้กับพี่น้องประชาชนว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่ขัดกับหลักศาสนาและประเพณี การสมรสตามหลักศาสนาใด ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นการยืนยันการเคารพและยอมรับในความ แตกต่างและความหลากหลายของพี่น้องประชาชนในด้านความเชื่อและศาสนาอีกด้วยครับ โดยในกฎหมายนี้อาจจะมีบทบัญญัติรายละเอียดหรือบทเฉพาะกาลที่ชัดเจนในประเด็นนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจตามมาได้นะครับ
นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ พัทลุง ต้นฉบับ
ประเด็นที่ ๔ ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็น กระผมขอทราบรายละเอียดว่า มีคนเห็นด้วยเท่าไร ไม่เห็นด้วยเท่าไร มีประเด็นใดบ้างที่พี่น้องประชาชนไม่เห็นด้วยและมี ข้อโต้แย้งว่าอย่างไร ท่านประธานที่เคารพครับ ในวาระที่สภาร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมาย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิของคนที่มีความหลากหลาย ผมคิดว่าเราควรจะรับฟัง ความคิดเห็น ข้อคำถาม ข้อกังวลและข้อเสนอแนะของผู้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป และร่วมกันยืนยันและยอมรับความแตกต่างทั้งหมดครับ และผมคิดว่าคำตอบจากคำถามที่กระผมได้สอบถามไปจะทำให้พวกเราที่เป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาตัดสินใจรับหรือไม่รับหลักการในวาระที่ ๑ ได้ง่ายขึ้นและ สะดวกขึ้น ใกล้จบแล้วครับท่านประธาน และหากทางสภามีมติรับหลักการในวาระที่ ๑ ในวันนี้ไปแล้วนะครับ ผมก็หวังว่าคณะกรรมาธิการที่จะจัดตั้งขึ้นจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. นี้ อย่างละเอียดและรอบคอบ เพราะเป็นกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อน และขอได้โปรดนำ ข้อกังวลของผมไปพิจารณาด้วยนะครับ ทั้งนี้ก็เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่อยู่ร่วมกัน ในประเทศนี้ด้วยความแตกต่างหลากหลายทั้งด้านความคิด ความเชื่อ เพศ สภาพร่างกาย อาชีพ เชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม ทั้งชนกลุ่มใหญ่ ชนกลุ่มน้อย ให้อยู่ร่วมกันได้ อย่างสันติสุขต่อไป ขอบคุณครับท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเป็นท่านสุดท้ายของฝั่งรัฐบาลนะครับ ท่านอับดุลอายี สาแม็ง ครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓ จังหวัดยะลา อำเภอกรงปินัง อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต และอำเภอเบตงครับ พรรคประชาชาติก็ต้องขอขอบคุณ ท่านประธานที่ได้ให้โอกาสในการที่ผมมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของ พ.ร.บ. สมรส เท่าเทียมในครั้งนี้ด้วย สิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังเนื่องจากว่าผมเป็นมุสลิมคนหนึ่งแล้วก็มี ความยึดมั่นและเชื่อมั่นศรัทธาในหลักการของอิสลาม ซึ่งจริง ๆ แล้วผมก็มีธรรมนูญแห่งชีวิต ในการที่จะดำรงชีวิตตามแบบอย่างของท่านศาสดา แล้วก็ตามรูปแบบที่ถูกกำหนด ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่หมายความว่าผมจะมาค้านในสิ่งที่เป็นข้อเสนอตาม พ.ร.บ. ๒-๓ ฉบับในวันนี้นะครับ เป็นเรื่องของการให้ความคิดเห็นว่าทำไมวันนี้ผมจะมา ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า เราก็มีการพิจารณา พ.ร.บ. ลักษณะนี้ มาแล้ว ครั้งหนึ่งในสภาแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๕ สิ่งที่ปรากฏ ณ วันนั้นก็มีการผ่านใน วาระที่ ๑ ไปอย่างเรียบร้อย แล้วก็คนที่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ก็มีความรู้สึกว่ายินดีแล้วก็ พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่พอใจหรือไม่พอใจ เราไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่จะบอกว่าเราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพียงที่จะบอกว่าวิถีของเรา ก็จะเล่าให้สภาแห่งนี้ได้ทราบว่า โดย Timeline โดยประวัติศาสตร์ของการเป็นมุสลิมนั้น เรามีคัมภีร์อัลกุรอาน เรามีธรรมนูญแห่งชีวิตซึ่งเป็นแนวทางที่เราจะยึดมั่น ซึ่งคนทั้งโลกนี้ ก็ประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าล้านคน ก็ยังไม่มีใครสักคนที่บอกว่าเราจะต้องยกร่างคัมภีร์อัลกุรอาน ใหม่ขึ้นมา ทุกคนก็ยึดมั่นในแนวทางของที่ถูกกำหนดมานะครับ เช่นเดียวกันเรื่องนี้ถ้าโดย ประวัติศาสตร์อย่างไรก็ต้องขออภัยกับคณะบุคคลที่เห็นต่างตรงนี้ว่า เรื่องศาสนาก็เรื่องศาสนา เรื่องสิทธิมนุษยชนก็เรื่องสิทธิมนุษยชน ล้วนแล้วก็เป็นเรื่องของศาสนาทั้งสิ้น สิทธิมนุษยชน ในกรอบของศาสนานี้เป็นอย่างไร ผมจะขออธิบายนิดเดียวว่าในเรื่องของรักร่วมเพศ เอากัน ตรง ๆ อย่างนี้เลยว่าสมัยหนึ่งเมื่อ ๒,๕๐๐ ปี อันนี้ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอานว่ามีท่านศาสดา องค์หนึ่งก็คือท่านนบีลู้ฎ ก็ได้รับการบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้ไปจัดการกับพื้นที่แห่งหนึ่ง ในโลกนี้ ก็คือที่บ้านกำปงโสดม ณ ขณะนี้อยู่ที่ไหน ณ ขณะนี้ก็คือเดดซีที่ประเทศจอร์แดน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นหลุม ไม่ได้เป็นทะเลสาบ แต่เนื่องจากว่าคนที่นั่นหมู่บ้านนั้น ก็มีพฤติกรรมผิดเพศ คือผู้ชายจะไม่ชอบผู้หญิง ผู้ชายก็ชอบผู้ชาย ด้วยความได้รับการบัญชา จากพระผู้เป็นเจ้า ท่านนบีลู้ฏต้องไปที่นั่น ก็ไปพูดคุยทำความเข้าใจว่าในหลักการของ พระผู้เป็นเจ้าไม่ชอบในวิธีการอย่างนั้น แต่ไม่ได้รับการยอมรับในวิธีคิดของท่านนบีลู้ฏ วันหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าก็ได้ส่งเทวทูตแปลงเป็นมนุษย์ ๓ คนไปที่กำปงตรงนี้ คงจะเป็นรูปหล่อ หรือกระไร ก็ได้รับการรบกวนจากคนในหมู่บ้านนี้พยายามที่จะให้มาเป็นคู่ชีวิตของเขา สุดท้ายแล้วกำปงก็ได้รับโทษจากพระผู้เป็นเจ้าด้วยการล้มภูเขา ที่อยู่ระหว่างประเทศ จอร์แดนกับประเทศอิสราเอล ณ ปัจจุบันนี้ ประทับลงไปในพื้นที่หมู่บ้านก็จมอยู่ในทะเล ก็ประมาณสัก ๓๐๐-๔๐๐ เมตร ถ้าเทียบกับระดับน้ำทะเลของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ณ ปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในคัมภีร์อัลกุรอานในธรรมนูญตรงนี้ และยังไม่มีใครที่คิดจะแก้ไข ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเป็นอย่างไรกับคน ๒,๐๐๐ กว่าล้านคนในโลกนี้นะครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมบอกว่าวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๕ ในสภาแห่งนี้ผมก็เห็นว่า มีความชื่นชม มีความยินดีกับการที่ได้ผ่านวาระที่ ๑ ของตรงนี้ หลังจากผ่านวาระที่ ๑ ไปเป็นที่ เรียบร้อยแล้ว ๑ สัปดาห์เท่านั้นมันมีภัยพิบัติที่เกิดในประเทศไทย สืบเนื่องจากผู้ชายอยู่กิน กับผู้ชาย นั่นก็คือโรคฝีดาษลิงทำให้เกิดปัญหาทั้งประเทศไทย เกิดความวุ่นวายไปหมดเลย และรัฐบาลตอนนั้นไม่ได้อธิบายหรือว่าโรคนี้มาจากตรงไหน ผมก็จะบอกตรงนี้ให้ทราบว่า ผลกระทบของการคิดวิธีการที่จะต้องทำให้รักร่วมเพศมันจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของ โรคภัยไข้เจ็บทั้งหมดนะครับ เรื่องโรคฝีดาษลิงที่มันเกิดในประเทศไทยครั้งที่ผ่านมา ก็อยากจะบอกว่าเรื่องอย่างนี้นะครับ สมรสเท่าเทียมผมกลัวว่าจะมีปัญหาสักวันหนึ่ง ผมกลัวว่าพระเจ้าจะลงโทษอีกรอบหนึ่ง ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเป็นลำดับสุดท้ายของฝ่ายค้านครับ เชิญท่านณัฐวุฒิ บัวประทุม ครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านประธาน ที่เคารพ ผม ณัฐวุฒิ บัวประทุม สมาชิกผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล คนจังหวัดอ่างทองครับ ผมขออนุญาตเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรคนสุดท้ายทั้งในนามของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน แล้วก็หลังต่อจากพรรคร่วมรัฐบาลที่จะอภิปรายเห็นชอบในการรับ หลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ไม่ว่าจะเป็นในส่วนร่างของรัฐบาล ร่างของพรรคก้าวไกล ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ และร่างของภาคประชาชนครับ แต่ผมอยากจะเท้าความและชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำให้เราต้อง เดินทางมาถึงวันนี้ นับจากการแก้ไขหรือการยกร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ ตั้งแต่ปี ๒๔๗๘ ซึ่งมีเพื่อนสมาชิกของผมได้คำนวณระยะเวลา นับรวมกัน มากกว่า ๔๐,๐๐๐ วันนั้น ปัญหาในทางกฎหมายนั้นคืออะไรครับ มาตรา ๑๔๔๘ ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่มีการยกร่างมีการบัญญัติมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๗ บังคับใช้ในปี ๒๔๗๘ นั้นระบุไว้ว่าการสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ ๑๗ ปี บริบูรณ์แล้ว ความตอนท้ายผมไม่พูดถึงฉะนั้นมี ๒ เงื่อนไขด้วยกันครับ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการที่ ๑ ก็คือว่าถ้าใครก็แล้วแต่ที่อยากจะใช้สิทธิในการก่อตั้งครอบครัว ภายใต้การรับรองของรัฐนั้น จะต้องเป็นชายและหญิงเท่านั้น
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ประการที่ ๒ ก็คือว่าคุณจะเข้าถึงการสมรสกันได้ก็ต่อเมื่ออายุนั้นจะต้องเป็น อายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ถึงแม้ว่าในกรณีของเด็กนั้นอายุต่ำกว่า ๑๗ ปีเรายังเรียกว่า เป็นเยาวชน ยังไม่บรรลุนิติภาวะและอาจจำเป็นที่จะต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครอง แต่ท่านประธานครับ คำว่า ชายและหญิงนั้นมีบัญญัติอยู่ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ระบุว่า ชาย หมายความว่า มนุษย์เพศผู้ ซึ่งโดยกำเนิดมีลึงค์เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ผู้ชาย ก็ว่า หรือว่าเรียกแบบเดียวกัน หญิง หมายความว่ามนุษย์เพศเมีย ซึ่งโดยกำเนิดมีโยนี เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ผู้หญิง ก็ว่า หรือใช้เรียกคำว่า ผู้หญิงเช่นเดียวกัน แต่คำว่า เพศ นั้น ในขณะนั้นกับในปัจจุบันนั้นมันไม่ได้มีแต่เพียงเท่านั้นครับ เพราะสิ่งที่เรากำลังเขียนหรือเรา กำลังพูดถึงนั้น หมายถึงแต่เพียงเพศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ซึ่งอาจจะเรียกว่าเพศในทางชีวะ ก็ได้ ยังไม่ใช่การเป็นเพศสภาพหรือ Gender ด้วยซ้ำ เพราะว่าการเป็นเพศสภาพหรือ Gender นั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ครับ ยังไม่นับต้องพูดถึงเรื่องของเพศเพศวิถี หรือรสนิยมทางเพศ ซึ่งแน่นอนว่ามีความหลากหลาย วันนี้ผมชอบเช่นนี้อยู่ พรุ่งนี้ผมอาจจะ เปลี่ยนใจไปชอบอีกแบบหนึ่ง และแน่นอนครับเราต้องเคารพและนับรวมถึงคนที่อาจจะไม่ เลือกที่อยากจะระบุว่าตนเองเป็นเพศใด ทุกกลุ่มนั้นมีสิทธิในการก่อตั้งครอบครัว เช่นเดียวกันครับ ในที่ประชุมแห่งนี้เพื่อนสมาชิกถามหาประวัติศาสตร์ของการยกร่าง กว่าจะมาเป็นกฎหมาย ฉบับนี้ว่าเป็นอย่างไร ผมก็ต้องนำเรียนต่อท่านประธานครับว่าทั่วโลกมีกฎหมายอยู่ ๒ ระบบ ด้วยกันครับ ระบบหนึ่งคือการแก้ที่หัวใจของกฎหมายปลดล็อกเลย จากคำว่า มีเพศใด ๆ ก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของการรองรับบุคคลทุกบุคคลที่จะสมรสกันได้ แต่อีกระบบหนึ่งนั้นคือ การยกร่างกฎหมายออกไปเป็นการเฉพาะครับ แล้วระบุเรื่องของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันใน ลักษณะเป็นหุ้นส่วนหรือเอกชนในทางแพ่งที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Civil Partnership สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นี่คือเอกสารสำคัญในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๕ คุณอรรถพล จันทวี และคุณนที ธีระโรจนะพงษ์ เดินทางไปที่ที่ว่าการอำเภอเชียงใหม่ แล้วยื่นขอจดทะเบียนบันทึกทะเบียนครอบครัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการที่เจ้าพนักงาน ทะเบียนครอบครัวบันทึกว่าได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้ร้องซึ่งเป็น ฝ่ายชายทั้งคู่จึงไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้กับผู้ร้องได้ เนื่องจากไม่เป็นไปตาม เงื่อนไขแห่งการสมรสขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑๐) ดังนั้นเห็นควรแจ้งผู้ร้องทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ถ้าวันนั้นคุณนทีหยุด วันนั้น เพื่อนของพวกเราหลายคนที่วันนี้นั่งอยู่บนที่นั่งของผู้ชี้แจงหยุดครับ ก็คือการสยบยอมและ การยอมรับว่าเราคงไม่สามารถกระทำการใด ๆ ได้มากกว่านี้อีกแล้ว แต่ต้องยกเครดิตแล้วก็ ให้ความสำคัญครับ อย่างน้อยที่สุดผมยอมรับว่าคณะกรรมาธิการของสภาแห่งนี้ที่เป็นจุด ริเริ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมาธิการการกฎหมายสิทธิมนุษยชนในปี ๒๕๕๕ ซึ่งมี พลตำรวจเอก วิรุฬห์ พื้นแสน เพื่อนสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยเป็นประธานคณะกรรมาธิการ เราไม่พูดถึงเพื่อนสมาชิกอีกท่านหนึ่ง ซึ่งวันนี้ท่านล่วงลับไปแล้วนะครับ ก็คือท่านวิรัตน์ กัลยาศิริ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ครับ ๒ ท่านนี้มีบทบาทอย่างยิ่ง และในมือของผมนั้น คือร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตฉบับแรก ๒๘ มาตรา ก่อนที่จะแปลงออกมาเป็นร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ในปี ๒๕๕๖ แต่ท้ายที่สุดไม่อาจผลักดันสำเร็จ ผมคิดว่าเอกสาร ๒ ชิ้นนี้จะเป็น ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ใช้และจะไม่ใช้เอกสาร ๒ ชิ้นนี้ที่ผมเองได้มีส่วนร่วมอีกแล้ว เพราะสังคมไทยมาไกลเกินกว่าจะแพ้แล้วครับ สิ่งที่อยากจะนำเรียนท่านประธานครับ ว่าความสำคัญของการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๔๔๘ ก็คือ การปลดล็อกจากคำที่เรียกว่าชายและหญิงเป็นการเปลี่ยนว่า บุคคลและบุคคล ขณะที่ทาง รัฐสภาทำหนังสือขอรับหรือการแสดงความคิดเห็นก็ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในศัพท์ ภาษาอังกฤษซึ่งแปลงมาเป็นภาษาไทย เพราะศัพท์ภาษาอังกฤษนั้นท่านใช้คำว่า Same Sex Marriage หรือถ้าแปลงเป็นไทยคือการสมรสของคู่รักเพศเดียวกัน แต่วันนี้เราก็ปลดล็อก แล้วครับ ความเข้าใจของพวกเราก็คือว่าเรื่องนี้ไม่มีกรอบเรื่องเพศมาเป็นตัวกำหนดครับ และสิ่งที่เราควรบัญญัติใหม่ซึ่งนำไปสู่ความเท่าเทียมสอดคล้องกับคำในภาษาอังกฤษก็คือ Marriage Equality หรือการสมรสโดยที่ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เรื่องเพศเป็นการสมรสแบบ เท่าเทียมอย่างแท้จริง ผมคงไม่ย้อนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นในสภาชุดที่ผ่านมาที่เราอาจทำ ไม่สำเร็จ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่เราอาจจะทำสำเร็จในวันนี้ก็คือการปลดล็อกมาตรา ๑๔๔๘ และนำไปสู่การรับร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ รวมถึงการแก้ไขเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจจะเป็น ปัญหาอุปสรรคอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ท่านประธานครับ ผมใช้เวลา อีกนิดเดียวว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับใคร และสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวนั้นเป็นสิทธิ มนุษยชนหรือไม่ หนังสือในมือผมคือคำอธิบายกฎหมายที่ผมได้มีโอกาสสอนในมหาวิทยาลัย เขาระบุหลักการยอกยาการ์ตา ข้อ ๒๔ ทุกคนมีสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวโดยไม่ขึ้นกับวิธี ทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ ครอบครัวมีรูปแบบหลากหลาย ห้ามมิให้ครอบครัวใด ถูกเลือกปฏิบัติด้วยสาเหตุวิถีทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ ของสมาชิกคนใดคนหนึ่ง ในครอบครัว ท่านประธานครับวันนี้คงไม่ใช่การให้ของขวัญครับ วันนี้คงไม่ใช่การตั้งคำถาม ว่าคุณจะเป็น LGBT ที่ดีคุณถึงจะได้สิทธิต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่มี LGBT ไม่มีเพศใด ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ที่จะมาวัดว่าความดีนั้นเป็นตัวระบุว่าเขาควรมีสิทธิ ต่าง ๆ แต่สิ่งที่ผมอยากจะย้ำเตือนแล้วต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง อาจจะมีใครสักคน ที่ต้องขอบคุณ ก็คือขอบคุณพี่น้อง LGBT พี่น้องที่ยืนยันสิทธิมนุษยชนด้วยความเข้าใจ ด้วยหัวใจ ท่านใช้เวลายาวนานเหลือเกิน หลายประเทศใช้การต่อสู้เป็น ๑๐ ปี ๒๐ ปี ไม่ว่า จะเป็นประเทศฟินแลนด์ ประเทศคอสตาริกา ประเทศไต้หวันต่าง ๆ ๑๖ ปี แต่วันนี้นับจาก ปี ๒๕๕๕ ๑๑ ปีเต็ม แล้วผมคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ต้องขอบพระคุณพวกท่านว่า การต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเสียสละด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของท่านนั้นกำลังจะทำให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องยืนยันสิทธิเจตจำนงของราษฎรตัวจริงนั้น ยกมือสนับสนุน ผมคิดว่าวันนี้ต้องขอเสียงฉันทามติแบบเด็ดขาด และขอเสียงฉันทามติแบบเด็ดขาด อีกครั้งหนึ่ง เมื่อผ่านวาระ ๒ และวาระ ๓ เพราะเราอย่าลืมว่ากฎหมายนี้ต้องถูกส่งให้สมาชิก วุฒิสภา ซึ่งหากท่านได้ยินเสียงของผู้เสนอทั้ง ๔ ร่าง ในวันนี้ผมก็เชื่อว่าท่านจะลงมติ แบบเดียวกัน สิ่งที่เราทำนั้นมิใช่การรับรองสิทธิ สิ่งที่เราทำนั้นเกินกว่าคำจะขอโทษหรืออภัย ซึ่งเราไม่สามารถเยียวยากับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เราทำนั้นคือการยืนยันเจตจำนงในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แทนราษฎรทุกคนว่าให้เขามีสิทธิตัดสินใจในชีวิตของเขาเอง และสมรสเท่าเทียมของทุกคนจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการยืนยันสิทธิในการตัดสินใจ และสิทธิมนุษยชน ถ้าเรามั่นใจและเชื่อมั่นว่าคนเราเท่ากันจริง ๆ Respect ขอบคุณ ท่านประธานครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ทุกท่านครับ รักษาความสงบด้วยครับ สมาชิกครับ จากการอภิปรายของ เพื่อนสมาชิกเมื่อสักครู่ของท่านอับดุลอายี สาแม็ง มีประโยคหนึ่งที่ต้องขอให้ท่านถอน เนื่องจากผิดข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อ ๖๙ ที่พูดถึงเรื่องโรคฝีดาษลิงว่า เกิดจากเรื่องชายรักชาย อันนี้เป็นข้อมูลที่สร้างความเสื่อมเสียได้ แล้วไม่ตรงไปตาม ข้อเท็จจริง ท่านอับดุลอายียินดีถอนไหมครับ
นายอับดุลอายี สาแม็ง ยะลา ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม นายอับดุล อายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยะลา ก็เพื่อความเรียบร้อยในการประชุมครั้งนี้ ผมอาจจะต้องถอนคำว่า ฝีดาษลิง แต่ไม่รู้โรคอะไรสักอย่างนี้ที่มันเกิดขึ้น แล้วก็อยากจะได้ คำอธิบายจากรัฐบาล ขอบคุณครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
แต่แน่นอนโรคฝีดาษลิงไม่ได้เกิดจากชายรักชายนะครับ ขอบคุณครับ ต่อไปทางสมาชิก ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านได้อภิปรายจนครบถ้วนแล้ว ต่อไปจะเป็นการอภิปรายสรุปของ สมาชิกผู้เสนอร่าง ผมได้รับแจ้งมาทาง ครม.จะไม่ใช้สิทธิในการอภิปรายสรุป แล้วของ ท่านสรรเพชญ ก็จะไม่ใช้สิทธิในการอภิปรายสรุปด้วย ก็จะขอเริ่มจากทางร่างของ ภาคประชาชนก่อน ใช้สิทธิในการสรุปประมาณ ๕ นาที เรียนเชิญครับ
นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อ เสนอกฎหมาย ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ แล้วก็สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับสมาชิกทุกท่านที่สนับสนุนร่างสมรสเท่าเทียม และอภิปรายอย่างมีข้อมูลให้กับประชาชน แต่ขอสงวนคำขอบคุณสำหรับถ้อยแถลงในสภา ที่ยังเต็มไปด้วยการเกลียดกลัวหรือสภาวะ Phobia เพราะว่าสภาวะคือ Phobia ความรุนแรงที่ผลิตซ้ำ และพวกเราเผชิญหน้ามาโดยตลอด และนี่คือความไม่เป็นธรรม ในสังคม ขอขอบคุณสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย สิ่งที่พวกเรา เจอหลายคนไม่สามารถเดินมาถึงวันนี้ ไม่สามารถใช้สมรสเท่าเทียมได้ เพราะเขาเสียชีวิต ก่อน ต้องขออนุญาตเพิ่ม ๑ ประเด็น ว่าดาวมีเพื่อนที่ฆ่าตัวตายจริงค่ะ เขามีแฟนเป็นตำรวจ เขาเป็นโรคซึมเศร้า เขาเป็นนักกิจกรรม เขาเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์เล่มนี้ เขาฆ่าตัวตาย เขาไม่สามารถใช้เงินรักษาพยาบาลแม้ว่าแฟนเขาเป็นตำรวจได้ เขาต้องไปต่อคิว ๓๐ บาท อันนี้คือความเจ็บปวดที่พวกเรารับฟังมาโดยตลอด ท่านสมาชิกสภาคะ ท่านประธานคะ การมีครอบครัวหลากหลายคือการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของมนุษย์ค่ะ การที่มีเด็กอยู่ใน ครอบครัวที่หลากหลายมันคือตัวชี้วัดของสังคมที่มีคุณภาพ และเรารอคอยสังคมเหล่านั้น ตอนนี้มีเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์จำนวนมาก ที่สามารถเพิ่มประชากรและรองรับ ครอบครัวสมบูรณ์แบบของพวกเราได้ ทุกท่านคะ ท่านประธานคะ เราถูกตัดสินมา อย่างยาวนานค่ะ เราถูกตัดสินว่าเป็นพวกผิดปกติ เราถูกตัดสินว่าไม่ควรที่จะแต่งงาน ไม่ควร ที่จะมีครอบครัว เราถูกตัดสินอย่างนี้มาอย่างยาวนาน นับจากนี้ไปถ้าพวกเราจะจัดงาน แต่งงานเพื่อเฉลิมฉลองการสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ นี่คือศักดิ์ศรีของพวกเรา และถ้า วันหนึ่งพวกเราสามารถที่จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ อย่างเช่น World Pride จากศักยภาพของ Bangkok Pride ซึ่งคนอยู่บนเวทีนี้คือคนที่สร้าง Bangkok Pride เป็นต้นมา ก็คือศักดิ์ศรี และศักยภาพของพวกเรา นับจากนี้ไปประเทศที่มีสมรสเท่าเทียมจะเป็นประเทศที่มี ความหลากหลายเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพและจินตนาการใหม่ ๆ ที่ท่าน อาจจะไม่เคยมองเห็นในประเทศนี้มาก่อนว่าสังคมจะอยู่กันอย่างไร เพราะโดยสุดท้ายตอนที่ เราเสนอจากร่างวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ และเรานำข้อมูลความเจ็บปวดมากมายจากหนังสือเล่มนี้ มาบอกเล่า เราพยายามสร้างร่างที่ใช่ให้มีความเป็นธรรม ใช้ได้จริงจากบทเฉพาะกาล ที่สามารถใช้ได้เลย และแน่นอนให้ทุกคนอยู่ภายใต้ประเทศด้วยการเคารพศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์และเคารพความหลากหลายขอบคุณมากค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ทางคณะมีท่านใดจะชี้แจงเพิ่มเติมไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอไปที่ร่างของ ท่านธัญวัจน์ ใช้สิทธิในการสรุปนะครับ เรียนเชิญครับ
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ขอบคุณค่ะท่านประธาน ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลค่ะ เป็นผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กับคณะ และพรรคก้าวไกลนะคะ ธัญยืนยันว่าในสภาแห่งนี้พวกเรามาจาก ประชาชนที่มีสิทธิการเลือกตั้งนะคะ ทุกท่านที่เข้ามานั่งในที่นี้เป็นตัวแทนของประชาชน ๓๗๐,๐๐๐ คน ธัญเข้าใจความหลากหลายของศาสนาและความเชื่อ ธัญไม่โกรธ ธัญไม่รู้สึก ใด ๆ ในเมื่อเวลาที่ท่านลุกขึ้นมาพูดในและพูดเพื่อคนที่เลือกท่านเข้ามานั่งในสภาและทำงาน ให้ท่าน ธัญจะขอรับปากในศาสนาอิสลาม แล้วก็ สส. ที่ให้ความกังวลเกี่ยวกับเรื่องศาสนาเรา จะพิจารณาเรื่องนี้ แล้วก็เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพก็ได้ มีงานวิจัยก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเราได้ความคิดเห็นอย่างรอบด้านจริง ๆ ก็ขอให้ท่านวางใจใน ข้อนี้ว่าเราเคารพซึ่งกันและกันและทุกความเชื่อทุกคนต้องอยู่ร่วมกันได้ค่ะ
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
สำหรับกฎหมายที่เรามีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้รักษาการ หรือเรื่องของอายุหรือการหย่าที่จะต้องเว้นเวลา ๓๑๐ วันหรือไม่ในกรณีหญิงรักหญิง หรือเรื่องเกี่ยวกับ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคก้าวไกลเรากำหนดบทบัญญัติไว้ ทั้ง ๒ อย่างคือบทบัญญัติที่สามารถใช้กฎหมายนั้นได้เลยกับบทที่มีการทบทวนพิจารณา กฎหมาย ๑๘๐ วัน ก็เนื่องจากตอนที่ยื่นกฎหมายดังกล่าวนี้ ธัญท่านไม่ทราบว่าจะมีการยื่น แบบใดบ้าง ก็เลยบัญญัติไว้ทั้งสองแบบนะคะ ก็เพื่อที่จะไม่ไปเพิ่มเติมหลักการภายหลัง ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งก็ยืนยันว่าอาจจะเลือกทางใดทางหนึ่งแล้วสามารถพูดคุยกันได้ในคณะกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับความรุนแรงในครอบครัว เหตุแห่งการหย่านั้นการเป็น ปรปักษ์กับคู่สมรสก็น่าจะเพียงพอกับการที่จะเป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าได้ ซึ่งพรรคก้าวไกล ตัดคำว่าอย่างร้ายแรง ออก และส่วนเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมุสลิมที่เกิดขึ้นปี ๒๔๘๙ ธัญจะพิจารณาและเคารพทุกความเชื่อ และธัญยืนยันว่าเราจะก้าวสู่สังคมที่มีความหลากหลายค่ะ
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
สุดท้ายนี้ธัญเชื่อว่าการอภิปรายในวันนี้เป็นการอภิปรายที่ประชาชนกลุ่ม ผู้มีความหลากหลายทางเพศรอมานานและคงฟังด้วยความชื่นมื่น แล้วก็ดอกไม้บานในหัวใจ ของทุกคน เพราะว่าการอภิปรายวันนี้มีความเห็นด้วย แล้วก็มีความเห็นต่าง แล้วก็แสดง ความเคารพซึ่งกันและกัน สุดท้ายธัญก็อยากจะให้ทุกท่านอย่าเพิ่งรีบไปไหน ช่วยกันโหวต ให้ตัวเลขบนจอนี้ล้นหลาม ให้คนประเทศไทยนั้นยิ้มแย้มแจ่มใสในคืนนี้ วันพรุ่งนี้ และให้ทั่วโลกเห็นตัวเลขนี่คือความเห็นร่วมกันของความเท่าเทียมทางเพศในประเทศไทย ขอบคุณมากค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านสมาชิกครับ ทางคณะรัฐมนตรีจะใช้สิทธิในการสรุปแล้วก็กล่าวอะไรกับ พวกเรา ท่านรัฐมนตรีมนพรเชิญครับ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนของคณะรัฐมนตรีค่ะ ก่อนอื่นดิฉันต้องขอบคุณท่านสมาชิกทุก ๆ ท่านที่ท่าน ได้ใช้ที่ประชุมสภาแห่งนี้แสดงความเห็นที่มีความหลากหลาย แต่เป็นความสวยสดงดงามใน เวทีของประชาธิปไตยในร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ทุกประเด็น ทุกความเห็นที่ท่านสมาชิก ได้ให้ความเห็นในวันนี้ หลังจากเรารับร่างนี้แล้วก็จะนำไปสู่การพิจารณาในชั้นของ คณะกรรมาธิการวิสามัญ ดิฉันขอฝากทุกความเห็นไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มาจากทุกหน่วยงาน ของภาคราชการ แล้วก็ภาคประชาชนจะร่วมกันแสดงความเห็นแล้วก็ขับเคลื่อนในสิ่งที่ ร่าง พ.ร.บ. นี้จากคณะรัฐมนตรี จากท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ดิฉันขอถือโอกาส กราบขอบพระคุณท่านสมาชิก แล้วก็เราจะร่วมกันพิจารณาในชั้นของคณะกรรมาธิการ วิสามัญอีกครั้งหนึ่งค่ะ ขอบพระคุณค่ะท่านประธาน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ท่านสมาชิกครับ ต่อไปจะเป็นการลงมติว่าสภาของเราจะรับหลักการ ของร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับนี้หรือไม่ ขอเชิญสมาชิกเข้าห้องประชุมครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ก่อนลงมติผมขอตรวจสอบองค์ประชุมครับ ขอเชิญสมาชิกใช้สิทธิเสียบบัตรและกดปุ่ม แสดงตนครับ
นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สมุทรสาคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม ศิริโรจน์ หมายเลข ๓๗๒ แสดงตนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๗๒ ครับ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้นฉบับ
ท่านประธาน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หมายเลข ๖๐ แสดงตนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๖๐ ครับ
นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม อุดรธานี ต้นฉบับ
ท่านประธาน เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม หมายเลข ๐๒๙ แสดงตนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๐๒๙ ครับ
นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ประภาพร ทองปากน้ำ หมายเลข ๒๐๙ แสดงตนค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๒๐๙ ครับ
นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี อุบลราชธานี ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ กิตติ์ธัญญา วาจาดี หมายเลข ๐๒๒ แสดงตน พรรคเพื่อไทยค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๐๒๒ ครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ วรวงศ์ วรปัญญา หมายเลข ๓๒๓ แสดงตนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๒๓ ท่านสมาชิกไปเอาบัตรได้นะครับ เดี๋ยวตอนลงมติจะได้เรียบร้อย ไม่ผิดพลาด นะครับ หมายเลข ๓๒๓ แสดงตนครับ
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หมายเลข ๓๑๓ แสดงตนค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๑๓ แสดงตนครับ มีท่านใดยังไม่ได้สิทธิในการแสดงตนไหมครับ
นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ หมายเลข ๐๙๐ ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แสดงตนครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๐๙๐ ครับ คิดว่าใช้สิทธิครบถ้วนแล้วนะครับ ผมขอปิดการแสดงตน เชิญเจ้าหน้าที่ แสดงผลครับ จำนวนผู้เข้าประชุม ๓๕๓ คน ครบองค์ประชุมครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ต่อไป ผมขอถามมติจากที่ประชุมนะครับ นี่จะเป็นการโหวตในครั้งเดียวว่าจะรับหลักการของ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้ง ๔ ฉบับหรือไม่ ขอเชิญท่านสมาชิกใช้สิทธิในการออกเสียงลงคะแนนครับ ผู้ใดเห็นควรรับ หลักการโปรดกดปุ่ม เห็นด้วย ผู้ใดเห็นว่าไม่ควรรับหลักการโปรดกดปุ่ม ไม่เห็นด้วย ผู้ใดเห็นว่า ควรงดอกเสียงโปรดกดปุ่ม งดออกเสียง ขอเชิญใช้สิทธิครับ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หมายเลข ๖๐ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๖๐ รับหลักการครับ
นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม อุดรธานี ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม เกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม หมายเลข ๐๒๙ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๐๒๙ รับหลักการครับ
นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม วรวงศ์ วรปัญญา หมายเลข ๓๒๓ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๒๓ ครับ
นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี อุบลราชธานี ต้นฉบับ
ท่านประธานค่ะ ดิฉัน กิตติ์ธัญญา วาจาดี หมายเลข ๐๒๒ รับหลักการค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๐๒๒ รับหลักการครับ
นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สมุทรสาคร ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ ผม ศิริโรจน์ หมายเลข ๓๗๒ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๗๒ รับหลักการครับ
นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ ศรีสะเกษ ต้นฉบับ
ท่านประธานครับ หมายเลข ๔๙๒ อาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ พรรคภูมิใจไทย เห็นชอบครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๔๙๒ เห็นชอบครับ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ
ท่านประธานขออนุญาตครับ กราบขอโทษครับ ผม ชาดา ไทยเศรษฐ์ หมายเลข ๐๙๑ ผมไป กดบัตรผิด เมื่อสักครู่นี้ไปกดว่า เห็นด้วย จริง ๆ ผมไม่เห็นด้วยครับ ตามหลักศาสนาอิสลาม ต้องขอท่านประธานช่วยแก้ด้วยครับ เจ้าหน้าที่ช่วยแก้ด้วยครับ คือผมไม่เห็นด้วยนะครับ แต่ไปกดผิดครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เดี๋ยวงานเข้านะครับ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ
เดี๋ยวงานเข้า ใช่ครับ
นายรชตะ ด่านกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
ท่านประธาน ผม รชตะ ด่านกุล หมายเลข ๒๙๓ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เดี๋ยวสักครู่ครับ ท่านรชตะอย่าเพิ่งนะครับ เดี๋ยวขอให้เจ้าหน้าที่แก้ไขให้เรียบร้อยนะครับ มติของท่านชาดาไม่เห็นชอบนะครับ ของท่านรชตะสักครู่นะครับ
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หมายเลข ๓๑๓ รับหลักการค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
เดี๋ยวครู่นะครับ ขอ Check คะแนนของท่านชาดาก่อนนะครับ รบกวนท่านชาดากดใหม่ ได้ครับ เรายังไม่ได้ปิดการลงมติครับ เรียบร้อยนะครับ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ
ขอบคุณครับท่านประธาน เรียบร้อยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญท่านรชตะครับ ท่านรชตะแล้วก็ท่านลิณธิภรณ์นะครับ
นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
ท่านประธานคะ ดิฉัน นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หมายเลข ๓๑๓ รับหลักการค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๓๑๓ รับหลักการครับ
นายรชตะ ด่านกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ
ผม รชตะ ด่านกุล หมายเลข ๒๙๓ รับหลักการครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
หมายเลข ๒๙๓ รับหลักการครับ ท่านสมาชิกใช้สิทธิครบถ้วนไหมครับ เดี๋ยวขอเจ้าหน้าที่ แสดงผลแบบที่รวมทั้งดิจิทัล แล้วก็ที่ขานชื่อเมื่อสักครู่นี้ด้วยนะครับ เป็นคะแนนรวมเลยครับ ผมขอปิดการลงมตินะครับ จำนวนผู้ลงมติทั้งหมด ๓๘๐ รับหลักการ ๓๖๙ ไม่รับหลักการ ๑๐ งดออกเสียง ๐ และไม่ลงคะแนนเสียง ๑ ที่ประชุมมีมติรับหลักการของร่างพระราชบัญญัติ ทั้ง ๔ ฉบับครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ต่อไป จะเป็นการเสนอจำนวนกรรมาธิการเพื่อทำงานในวาระที่ ๒ ครับ เชิญที่ประชุมเสนอจำนวน กรรมาธิการเลยครับ
นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ เลย ต้นฉบับ
ท่านประธานที่เคารพ ผม ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ขอเสนอจำนวนคณะกรรมาธิการ ๓๙ ท่าน ขอผู้รับรองด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
รับรอง ถูกต้องครับ ต่อไปจะเป็นสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ๖ ท่าน สัดส่วนของผู้แทนผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง ๑๓ ท่าน สัดส่วนของพรรคการเมือง ๒๐ ท่าน ขอเชิญคณะรัฐมนตรีเสนอรายชื่อ คณะกรรมาธิการครับ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตนรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ
ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี จำนวน ๖ ท่าน ดังนี้ค่ะ ๑. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ๒. นายธนสุนทร สว่างสาลี ๓. นายมานะ สิมมา ๔. นายจิตรพรต พัฒนสิน ๕. นายสรชัด สุจิตต์ ๖. นายชานันท์ ยอดหงษ์
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญสัดส่วนของผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เสนอรายชื่อ กรรมาธิการครับ
นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ผู้แทนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเข้าชื่อ เสนอกฎหมาย ต้นฉบับ
ขออนุญาตอ่านตามเพศกำหนดนะคะ ๑. นางสาวอรรณว์ วาดดาว ชุมาพร ๒. นางสาวปลายฟ้า เคียวกะ โชติรัตน์ ๓. นายณชเล บุญญาภิสมภาร ๔. นายพงศธร จันทร์เลื่อน ๕. นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ๖. นายจรัญ คงมั่น ๗. นายรฐนนท์ คุ่ยยกสุย ๘. นายภาคภูมิ พันธวงค์ ๙. นางสาวอาทิตยา อาษา ๑๐. นายรตี แต้สมบัติ ๑๑. นายศิริทาทา นิลพฤกษ์ ๑๒. นางสาวฉันทลักษณ์ รักษาอยู่ ๑๓. นางสาวจันจิรา บุญประเสริฐ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ฝ่ายเลขานุการครับ ของร่างประชาชนต้องมีผู้รับรองในที่ประชุมไหมครับ เดี๋ยวผม Check ข้อบังคับนิดเดียวนะครับ กลัวจะพลาดนะครับ โอเคไม่ต้องมีนะครับ ต่อไป จะเป็นสัดส่วนของพรรคการเมือง เชิญพรรคก้าวไกล จำนวน ๖ ท่าน เสนอเลยครับ
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
เรียนท่านประธาน ผม สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอเสนอ รายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม จำนวน ๖ คน ดังนี้ ๑. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ๒. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ๓ นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ๔ นายเอกราช อุดมอำนวย ๕. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ๖. นายคณาสิต พ่วงอำไพ คนต้องเท่ากันสมรสต้องเท่าเทียม ขอผู้รับรองครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญพรรคเพื่อไทยครับ
นางสาวจิรัชยา สัพโส สกลนคร ต้นฉบับ
ท่านประธาน ดิฉัน นางสาวจิรัชยา สัพโส ขอเสนอรายชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ดังนี้ค่ะ ๑. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ๒. นายดนุพร ปุณณกันต์ ๓. นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ๔. นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ๕. นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ๖. นายกฤช เอื้อวงศ์ ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
มีผู้รับรองถูกต้องครับ เชิญพรรคภูมิไทยครับ
นางสาวตวงทิพย์ จินตะเวช อุบลราชธานี ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉัน ตวงทิพย์ จินตะเวช ขอเสนอรายชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย ๑. นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย ๒. นายภราดร ปริศนานันทกุล ๓. นางสาวผกามาศ เจริญพันธ์ ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ผู้รับรองถูกต้องครับ เชิญพรรคพลังประชารัฐครับ
นายอัคร ทองใจสด เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายอัคร ทองใจสด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ ในสัดส่วนของ พรรคพลังประชารัฐ ๒ ท่าน ขอเสนอ ๑. นางสาวธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ๒. นางสาวอรวิน เงินยวง ขอผู้รับรองด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ผู้รับรองถูกต้องครับ เชิญพรรคประชาธิปัตย์ครับ
นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอเสนอรายชื่อ กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ท่านสรรเพชญ บุญญามณี ขอผู้รับรองครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขออภัยครับ ผมไม่ได้อ่านของพรรครวมไทยสร้างชาติ ๒ ท่านครับ ขอเรียนเชิญครับ
นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ
กราบเรียน ท่านประธานครับ กระผม ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ขออนุญาตเสนอกรรมาธิการของ พรรครวมไทยสร้างชาติจำนวน ๒ ท่านครับ ๑. รัดเกล้า สุวรรณคีรี ๒. ดอกเตอร์วโรดม ศิริสุข ขอผู้รับรองด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ขอบคุณครับ ตอนนี้แต่ละพรรคการเมืองเสนอรายชื่อกรรมาธิการครบถ้วน และมีผู้รับรอง แล้วนะครับ ขอเชิญเลขาธิการอ่านรายชื่อกรรมาธิการทั้ง ๓๙ ท่านครับ
ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่แทน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ
รายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน ๓๙ คน ๑. นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ๒. นายธนสุนทร สว่างสาลี ๓. นายมานะ สิมมา ๔. นายจิตรพรต พัฒนสิน ๕. นายสรชัด สุจิตต์ ๖. นายชานันท์ ยอดหงษ์ ๗. นางสาวอรรณว์ ชุมาพร ๘. นางสาวปลายฟ้า เคียวกะ โชติรัตน์ ๙. นายณชเล บุญญาภิสมภาร ๑๐. นายพงศ์ธร จันทร์เลื่อน ๑๑. นางสาวนัยนา สุภาพึ่ง ๑๒. นายจรัญ คงมั่น ๑๓. นายรฐนนท์ คุ่ยยกสุย ๑๔. นายภาคภูมิ พันธวงค์ ๑๕. นางสาวอาทิตยา อาษา ๑๖. นายรตี แต้สมบัติ ๑๗. นายศิริ ทาทา นิลพฤกษ์ ๑๘. นางสาวฉันทลักษณ์ รักษาอยู่ ๑๙. นางสาวจันทร์จิรา บุญประเสริฐ ๒๐. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ๒๑. นายเอกราช อุดมอำนวย ๒๒. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ๒๓. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ๒๔. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ๒๕. นายคณาสิต พ่วงอำไพ ๒๖. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ๒๗. นายดนุพร ปุณณกันต์ ๒๘. นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ๒๙. นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ๓๐. นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ๓๑. นายกฤช เอื้อวงศ์ ๓๒. นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย ๓๓. นายภราดร ปริศนานันทกุล ๓๔. นางสาวผกามาศ เจริญพันธ์ ๓๕. นางสาวธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ๓๖. นางสาวอรวินร์ เงินยวง ๓๗. นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ๓๘. นายวโรดม ศิริสุข และ ๓๙. นายสรรเพชญ บุญญามณี
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ถูกต้องครบถ้วนนะครับ ต่อไปขอเชิญกำหนดระยะเวลาแปรญัตติครับ
นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ เลย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ขอเสนอระยะเวลาแปรญัตติ ๑๕ วัน ขอผู้รับรองด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ถูกต้องนะครับ แปรญัตติ ๑๕ วัน กรณีมีการรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมากกว่า ๑ ฉบับ จะใช้ร่างพระราชบัญญัติฉบับใดเป็นหลักในการพิจารณาในวาระที่ ๒ ขอเชิญเสนอ เลยครับ
นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ เลย ต้นฉบับ
เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ขอเสนอร่างของคณะรัฐมนตรี เป็นร่างหลัก ขอผู้รับรองด้วยครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
ที่ประชุมเห็นชอบนะครับ ไม่มีท่านใดเสนอเป็นอย่างอื่นนะครับ
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ
สมาชิกครับ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยของการพิจารณารับหลักการในวาระที่ ๑ ของร่างพระราชบัญญัติทั้ง ๔ ฉบับ สำหรับอาทิตย์หน้าเราไม่มีประชุม ท่านใดจะแปรญัตติก็ รีบแปรญัตตินะครับ เดี๋ยวจะไม่ทัน แล้วก็เราประชุมงบประมาณวันที่ ๓ วันที่ ๔ วันที่ ๕ แล้วก็มีการอบรมการวิเคราะห์งบประมาณ โดย PBO วันที่ ๒๘ ซึ่งทุกท่านก็จะได้รับ เอกสารงบประมาณทั้งในรูปแบบของกระดาษ แล้วก็รูปแบบของ PDF ภายในวันที่ ๒๗ ก็ Happy New Year ขอให้มีความสุขครับ กลับบ้านปลอดภัย เจอกันปีหน้าครับ ขอปิดประชุมครับ