กราบเรียน ท่านประธาน ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท่านผู้ชี้แจง และประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุด ของประเทศนี้ที่กำลังรับชมการทำงานของพวกเราอยู่ในขณะนี้นะคะ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑๖ ผู้แทนประชาชนจากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกลค่ะ ท่านประธานคะ นับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๕๗ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แผนยุทธศาสตร์ชาติ เป็นส่วนหนึ่งของการใช้สร้างความชอบธรรมในการปฏิรูปประเทศ เสมอมา ทั้งที่จริง ๆ แล้วแผนยุทธศาสตร์ชาตินี้ไม่สมควรที่จะเรียกว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ ด้วยซ้ำไป แต่ควรจะเรียกว่าแผนยุทธศาสตร์ คสช. ที่ต้องเรียกแบบนั้นก็เพราะว่าที่มาของ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ผู้ที่แต่งตั้งคนมาร่างแผนยุทธศาสตร์ชาติ และผู้ที่อนุมัติ แผนยุทธศาสตร์ชาติล้วนมาจากการแต่งตั้งของรัฐบาล คสช. ทั้งชุด ยิ่งไปกว่านั้น กว่า ๕๗ เปอร์เซ็นต์ ของคณะกรรมการที่กล่าวมาจากกลุ่มภาคส่วนในสังคม ๒ ภาคส่วน ก็คือกลุ่มของทหาร แล้วก็กลุ่มของทุน ทั้ง ๆ ที่ยุทธศาสตร์ชาติฉบับนี้ควรที่จะทำขึ้นมา เพื่อให้ สอดคล้องกับเป้าหมายที่ครอบคลุมมากกว่านี้และพัฒนาไปทั้งประเทศ แต่นี่กลับถูกร่างขึ้นมา บนพื้นฐานของการที่จะส่งเสริมความมั่นคงให้กับ คสช. และการเติบโตของภาคเอกชน กลุ่มที่ คสช. พิจารณาว่าเหมาะสม ท่านประธานคะ ดิฉันขอตัดมาไปที่แง่ของเนื้อหา เราก็จะพบว่าแผนยุทธศาสตร์นี่เป็นการเขียนขึ้นมาแบบกว้าง ๆ ลอย ๆ ไม่ได้มีการจัดลำดับ ความสำคัญก่อนหลังใด ๆ รวมถึงขาดการกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นรูปธรรม ดิฉันขอยกตัวอย่าง แผนแม่บทในประเด็นของการต่างประเทศ ที่ได้มีการกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีเกียรติภูมิ มีอำนาจต่อรอง และได้รับการยอมรับในทางสากลมากขึ้น ซึ่งตัวชี้วัดตัวนั้นก็ให้ดูจากระดับความสำเร็จของไทยในการสร้างความเข้าใจ การยอมรับ ภาพลักษณ์ และความนิยมของไทยในสากลด้วยอำนาจแบบนุ่มนวลของไทย ตัวชี้วัดแบบนี้ดู ดีในหน้ากระดาษ ดูดีในภาษาทางวรรณศิลป์ แต่ไม่สามารถที่จะตอบโจทย์ได้เลยว่าอะไรคือ ระดับความสำเร็จที่เราจะสามารถวัดผลได้อย่างจริงจัง ส่วนใน Part ที่มันพอจะมีส่วนที่วัดได้ เป็นตัวเลขได้นี่ ก็จะอยู่ในส่วนของแผนแม่บทด้านการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน ซึ่งได้ กำหนดตัวชี้วัดไว้ว่าภายในปี ๒๕๖๕ ประเทศไทยของเรา จะต้องมีดัชนีการรับรู้การทุจริต ที่ไม่ต่ำกว่า ๕๐ คะแนน แล้วจะต้องอยู่ในอันดับที่ไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากับ ๕๔ แต่ในความเป็นจริง จากข้อมูลขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เราจะเห็นว่าคะแนนดัชนีดังกล่าว ประเทศไทยได้รับเพียง ๓๖ คะแนน และอยู่ในอันดับที่ ๑๐๑ ซึ่งนั่นห่างไกลจากการบรรลุ เป้าหมายที่เรากำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญ ท่านประธานคะ นอกจากที่มาไม่โปร่งใส KPI ไม่ชัดเจน ผลลัพธ์ก็ไม่ตรงตามเป้าหมาย กลไกที่จะเอาผิดกับรัฐบาลที่ไม่สามารถ ทำตามเป้าหมายที่เราวางไว้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น ซึ่งจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้นะคะ พวกเราควร จะตั้งคำถาม ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาตินี้ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเพิ่มค่าตอบแทน เพิ่มค่าตอบแทนเบี้ยประชุม สำหรับประธานคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ในส่วนของท่านประธาน จาก ๑๐,๐๐๐ เพิ่มเป็น ๑๒,๐๐๐ บาท ในส่วนของคณะกรรมการท่านอื่น ๆ จาก ๘,๐๐๐ บาท กลายเป็น ๙,๖๐๐ บาท ท่านประธานคะ ในยามที่เศรษฐกิจของบ้านเราเป็นแบบนี้ อยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจแสนดี ดีออกบ้าง ดีที่ยังไม่ตายบ้างแบบนี้ ประชาชนอดตั้งคำถามไม่ได้ หรอกค่ะว่าในระหว่างที่เขากำลังลำบากยากจน กำลังต่อสู้กับสถานการณ์ในชีวิต อย่างยากลำบาก มันมีกลุ่มคน กลุ่มคนหนึ่งที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมา แล้วก็นั่งประชุมกันครั้งหนึ่ง ได้เงินเป็นหมื่น ๆ เพื่อจะจัดทำแผนที่มันไม่ได้นำไปสู่การปฏิรูปประเทศอะไรขึ้นมาเลยค่ะ พวกเราในที่นี้รวมถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนทางบ้าน ทราบกันดีแก่ใจว่าการจัดตั้ง การจัดทำ ยุทธศาสตร์ชาติล่วงหน้าไป ๒๐ ปี ในวันที่โลกมีพลวัตก้าวหน้า ก้าวไกล รวดเร็วอย่างไม่เคย เป็นมาก่อนแบบนี้เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล แล้วก็ขาดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง ทุกคนทราบดี แก่ใจอยู่แล้วว่ามันเป็นการจัดตั้งขึ้นมา เพื่อที่จะผลาญเงินภาษีของประชาชนไปอย่างเปล่า ประโยชน์ ดิฉันไม่ได้มีอะไรที่จะต่อว่าท่านผู้ชี้แจงนะคะ เพราะว่าเราต่างทำหน้าที่ของเรา และดิฉันทราบดีว่าผู้ชี้แจงก็อาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับแผนยุทธศาสตร์ชาติแบบนี้ด้วยซ้ำไป แต่ดิฉันต้องทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการตั้งคำถาม เราต้องการคำตอบ จากพวกท่านว่าประชาชนได้อะไรบ้างจากการที่เสียงบประมาณส่วนนี้ไปกับการจัดทำแผน ยุทธศาสตร์ชาติ ประชาชนได้อะไรบ้างจากการเพิ่มเบี้ยประชุมของพวกท่าน ประชาชนได้อะไรบ้าง จากการทำแผนยุทธศาสตร์ที่ร่างขึ้นมาเพื่อเป็นโซ่ล่ามไม่ให้อนาคตของประเทศไทย ไปได้ไกลกว่านี้ ในวันนี้พวกเราต้องเร่งทำการพิจารณา ดิฉันจะขอจบการอภิปราย แต่เพียงเท่านี้และขอบคุณทุกท่านสำหรับความร่วมมือที่เราร่วมมือกันจนมาถึงตอนนี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภาและประชาชนผู้ทรงอำนาจของประเทศทุกท่านที่กำลังรับชม การทำงานของพวกเราในขณะนี้ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ผู้แทนประชาชน จังหวัดกรุงเทพมหานคร จากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกลค่ะ
ดิฉันขออภิปรายเพื่อสนับสนุนการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เนื่องจาก ปัญหานี้ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยคณะกรรมาธิการสามัญในด้านการศึกษาเพียงอย่างเดียว เท่านั้น ยังต้องอาศัยความร่วมมือของหลาย ๆ หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน หรือแม้กระทั่งที่คุณสกล สส. ของพรรคก้าวไกล เพิ่งอธิบายไปถึงปัญหา ของเรื่องสาธารณสุขที่เด็กกลุ่มนี้ไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ดิฉันขอย้ำถึงประเด็น ที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้อภิปรายไปตั้งแต่การประชุมครั้งที่ผ่านมาว่าเด็กรหัส G นี้ เกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาเชิงโครงสร้างในการบริหารจัดการของระบบราชการที่ยังคงพึ่งพา ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานมากจนเกินไป และหลายครั้งดุลพินิจเหล่านี้เอง ที่กลายเป็นปัญหาผลักให้ประชาชนต้องตกเป็นคนชายขอบ ตกหล่นจากการได้รับสิทธิ และสวัสดิการต่าง ๆ โดยสิ้นเชิง ความเทอะทะทางอำนาจที่ขาดการบูรณาการย่อมจะหวังถึง ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลอะไรไม่ได้มากนัก แล้วมันก็สะท้อนออกมาผ่านการที่กระทั่งรัฐเอง ก็ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนพอที่จะบอกได้ว่าปัจจุบันเรามีเด็กรหัส G อยู่ในประเทศจำนวนกี่คน กันแน่ ข้อมูลที่เรามีกันอยู่ในทุกวันนี้มักจะมาจากการที่องค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานด้าน สิทธิมนุษยชนเข้าไปทำงาน ช่วยกันรวบรวมตามแต่โอกาสที่จะเข้าถึง ยกตัวอย่างข้อมูล ที่ดิฉันจะยกมา รวบรวมมาโดยคณะทำงานขับเคลื่อนระบบบริการสุขภาพสำหรับผู้ที่ไม่มี สัญชาติไทย ซึ่งให้ข้อมูลว่าเด็กรหัส G ที่พวกเขาได้เข้าถึงและเก็บรวบรวมข้อมูลมานี้มีอยู่ที่ จำนวนประมาณ ๗๔,๕๑๑ คน ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้อง และน้อยจาก ความเป็นจริงอย่างแน่นอน นี่อาจจะเป็นเพียงตัวเลขแค่หนึ่งในสามเท่านั้นจากจำนวนลูกหลาน แรงงานข้ามชาติทั้งหมดที่มีประมาณการกันไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ ๒๐๐,๐๐๐-๓๐๐,๐๐๐ คน ด้วยกัน และจำนวนเด็กรหัส G เหล่านี้ก็จะมีเพียงแค่ ๕๒ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึง ระบบการศึกษา ยังไม่ต้องพูดถึงว่าการศึกษาที่พวกเขาเข้าถึงได้นั้นเป็นการศึกษาที่เรา สามารถพูดได้เต็มปากหรือเปล่าว่ามันมีคุณภาพมากพอที่จะเป็นแต้มต่อและสร้างความ มั่นคงให้กับชีวิตของพวกเขาในอนาคต เพราะเมื่อเด็กกลุ่มนี้หลุดออกจากระบบการศึกษา เพียงนิดเดียว สถานะเด็ก G ของเขาก็จะหลุดลอยไป
ดิฉันขอกลับไปที่ประเด็นของตัวเลขที่ไม่ตรงกันอีกครั้งนะคะ เพราะตัวเลข เหล่านี้มันสะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมารัฐไม่ได้มองเด็กเหล่านี้เป็นทรัพยากรของชาติ ไม่ได้มอง ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ทำให้ไม่มีความพยายามกระทั่งจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูล เหล่านี้ให้เป็นระบบด้วยซ้ำไป แม้เราพยายามที่จะออกกฎหมายที่จะบรรเทาปัญหาขึ้นมา หลายต่อหลายฉบับ ซึ่งเพื่อนสมาชิกหลายท่านไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็ได้ยกตัวอย่างพวก พ.ร.บ. สัญชาติ พุทธศักราช ๒๕๕๑ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๒ และ พ.ร.บ. ฉบับอื่น ๆ แต่เชื่อหรือไม่คะว่ากฎหมายเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ เด็ก ๆ กลุ่มนี้เข้าถึงโอกาสที่ควรจะมีได้เลย ขอให้ทุกท่านสมมุติว่าตนเองเป็นเด็กที่เกิดมา ห้อมล้อมด้วยคนไทย พูดภาษาไทย เรียนโรงเรียนไทย แต่ท่านกลับได้สถานะ ติดสถานะ พิเศษไม่เหมือนคนอื่น เป็นเด็กที่ยังไม่ได้รับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร์ ไม่มีสถานะ ทางบุคคลและสัญชาติที่แน่นอน ท่านคิดว่าชีวิตที่ท่านจะมีจะเป็นชีวิตที่เข้าถึงโอกาส ในการเลือกเรียนสิ่งที่รัก ได้ทำงานที่อยากทำ ได้ทำตามความฝัน ได้แสดงศักยภาพ และความสามารถที่ตัวเองมีให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมได้สักแค่ไหนกัน ท่านคิดว่าท่านจะ ได้รับการคุ้มครองทางสังคม ได้รับสิทธิทางกฎหมาย มีชีวิตที่ปลอดภัยจากความรุนแรง การเอารัดเอาเปรียบ การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ การเลือกปฏิบัติ และการค้ามนุษย์ สักแค่ไหน คำตอบคือท่านแทบจะไม่มีสิทธิเหล่านี้ในชีวิตเลยค่ะ และการที่จะเปลี่ยนสถานะ ทางทะเบียนราษฎร์ การจะขอสัญชาติไทย สิ่งที่ตั้งด่านรอท่านอยู่แล้วคืออุปสรรค นานาประการ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการขอที่ซับซ้อนและไม่สมเหตุสมผล ไม่เหมาะสมกับ ยุคสมัย ไม่สนใจบริบทสังคม เพื่อนสมาชิกของดิฉันหลายท่าน เช่น คุณธิษะณา ชุณหะวัณ คุณณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล คุณมานพ คีรีภูวดล ได้อภิปรายเหตุผลไปแล้วอย่างชัดเจน ดิฉันจะไม่พูดซ้ำและอยากให้ทุกท่านที่สนใจในประเด็นนี้ห่วงใยในอนาคตเด็กของพวกเรา ย้อนกลับไปรับฟังการอภิปรายเหล่านั้นด้วย ความพิลึกพิลั่นหลายอย่างที่ท่านจะได้พบเจอ ในเส้นทางการขอสัญชาติไทยนั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ท่านนึกไม่ถึงเลยค่ะว่าจะเกิดขึ้น ในกรณีที่เป็นเด็กที่มีพ่อแม่เป็นคนต่างด้าว แต่หลักฐานการเกิดอยู่ในไทย ท่านต้องไปยื่น คำร้องขอสัญชาติที่ทำการอำเภอ สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น สำนักบริหารงานทะเบียน แต่หากท่านเติบโตขึ้นแล้วขอเปลี่ยนสัญชาติตามคู่สมรส หรือขอเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย ท่านจะต้องยื่นคำร้องต่อตำรวจภูธรจังหวัดหรือตำรวจสันติบาล ขั้นตอนการแยกแบบนี้ ทำให้เกิดความลำบากต่อคนที่เขาต้องการได้สัญชาติมากขึ้นไปอีก นี่ยังไม่นับว่าอุปสรรค ที่ใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องของหลักฐานในการขอสัญชาติต่าง ๆ มันต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน ว่ามีเงินเดือน ๔๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน ในกรณีที่ผู้ขอมีสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนไทย และต้องมี เงินเดือน ๘๐,๐๐๐ บาทในกรณีที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคนไทย ทุกท่านคะ ทุกวันนี้ ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับเงินเดือนเริ่มต้นที่ ๑๕,๐๐๐ บาท ยังไม่หักภาษี ในภาคเอกชนหลายคนทำงานมาเป็นสิบปี ฐานเงินเดือนยังไปไม่ถึง ๔๐,๐๐๐ บาทก็มี และค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของประชากรในประเทศของเราทุกวันนี้อยู่ที่ ๗,๐๐๐ บาทต่อเดือน และด้วยอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านี้เอง อุปสรรคต่าง ๆ นานาในการเข้าถึงโอกาสของเด็กรหัส G เหล่านี้ ดิฉันนึกภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นมา ใครบ้างจะเดินไปถึงจุดที่จะได้รับ สัญชาติอย่างถูกต้องได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพากระบวนการที่จะปรากฏอยู่ในสื่อบ่อย ๆ ครั้ง ในเรื่องของการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อมาสวมสิทธิคนตาย หรือกระทั่งสวมสิทธิคนเป็น ซึ่งเจ้าตัวคนที่ถูกสวมสิทธินั้นก็ไม่ได้รับรู้ เราต้องยอมรับความจริงกันว่าประเทศชาติอันเป็น ที่รักยิ่งของเรานั้น กำลังคืบคลานเข้าสู่สภาวะที่ขาดแคลนแรงงานและเป็นสังคมของผู้สูงวัย เรามีเด็กเกิดใหม่เพียงปีละ ๕๐๐,๐๐๐ คนเท่านั้น สถิติปี ๒๕๖๕ เก็บโดยสถาบันวิจัย ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าปีที่ผ่านมาเรามีเด็กเกิดใหม่แค่ ๕๒๑,๑๐๗ คน เท่านั้นเอง และแน่นอนกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์นี้เกิดในครอบครัวที่ยากจน หากรัฐเร่งจัดการ ระบบสวัสดิการด้านการศึกษาที่มีคุณภาพให้เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม หาแนวทางแก้ไข ปัญหาเด็กติด G เพื่อให้พวกเขาได้รับการอำนวยความสะดวกในด้านการศึกษา ได้รับ สวัสดิการขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาล การทำงาน การทำธุรกรรมต่าง ๆ พวกเขา จะเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่เป็นกำลังสำคัญ สร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ สร้างหลักประกัน ทางเศรษฐกิจที่ดี กลับสู่ประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราได้ และการตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญศึกษาแนวทางในการจัดการศึกษาให้เด็กไม่มีทะเบียนราษฎร์เหล่านี้ จะเป็นก้าว สำคัญในการคืนคนที่มีศักยภาพให้กลับเข้าสู่ระบบแรงงานของประเทศไทย ขอให้ทุกท่าน พิจารณารับรองญัตตินี้มอบสิทธิคืนให้เด็ก ๆ ที่มีศักยภาพที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ ร่วมกันหาแนวทางยุติภาวะไร้สัญชาติให้พวกเขา เพื่ออนาคตของพวกเราทุกคนค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศทุกท่าน ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล เวลาเพียง ๒ นาที ไม่อาจจะนำความทุกข์ร้อนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คน ในเขตของดิฉันมาปรึกษาตรงนี้ได้หมด ดิฉันจึงนำเสนอเพียง ๓ ปัญหาเท่านั้นในวันนี้
เรื่องแรกก็คือใกล้เปิดเทอม ปัญหาที่รอเราอยู่อีกไม่นานนี้ก็คือปัญหาจราจร ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งถ้าเป็นในเขตของดิฉันก็จะเป็นถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ถนนหทัยราษฎร์ ถนนเลียบคลองสอง ถนนสามวา ถนนนิมิตใหม่ และถนนคู้บอน ซึ่งปัญหานี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ในเขตของดิฉัน แต่เกิดขึ้นกับทุกเขตในกรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งเตรียมการรับมือกับปัญหาการจราจร ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเปิดเทอมนี้ด้วย
เรื่องต่อมาเป็นปัญหาเดิม ๆ ปัญหาไฟฟ้าสาธารณะดับ เขตของดิฉันนอกจาก ปัญหาคุณภาพถนนแล้วปัญหาไฟฟ้าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยเหลือเกิน แล้วหลายครั้งเลยที่ประสานงานไปแล้ว ซ่อมไปแล้ว ผ่านไปไม่ถึง ๓ วันดับอีกแล้ว ที่แย่กว่าคือบางที่ เช่นถนนสามวาตั้งแต่สมัยดิฉันหาเสียงจนกระทั่งจะหมดสมัยประชุม ครั้งแรกแล้วก็ยังไม่เกิดการแก้ไข จึงอยากขอฝากท่านประธานไปยังการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับของกระทรวงมหาดไทยให้เร่งประสานงานปรับปรุงเรื่องของ กระแสไฟฟ้า รวมถึงตรวจสอบคุณภาพของอุปกรณ์ จัดซื้อจัดจ้างให้ได้คุณภาพคุ้มค่าภาษี ประชาชนด้วย
ประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องของการให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของ อาสาสมัครประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นครูอาสาประจำศูนย์เด็กเล็ก อาสาสมัครป้องกันภัย ฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงอาสาจราจร พวกเราในที่นี้ยกย่องผู้ที่มีจิตสาธารณะ แต่พวกเราก็สมควรที่จะ ตอบแทนความดีงามของพวกเขาด้วยความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน เพื่อที่พวกเขาเหล่านี้จะได้มี ขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่และรับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนต่อไป ดิฉันขอเสนอไปยัง หน่วยงานต้นสังกัดอย่างกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยปรับปรุงข้อระเบียบในประเด็นของเบี้ยเลี้ยงและค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ต่อการดำรงชีวิตของอาสาสมัครเหล่านี้
สุดท้ายนี้ฝากท่านประธานเร่งรัดหน่วยงานราชการนิดหนึ่งให้ตอบพวกเรา สักนิด เบอร์โทรศัพท์อยู่ตรงนี้ แล้วก็ e-Mail อยู่ตรงนี้ อย่าให้การปรึกษาหารือ ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้เป็นเพียงเวลาที่ สส. จะสื่อสารกับประชาชนในเขตโดยที่ ไม่มีการแก้ไขด้วย ขอบคุณค่ะ
เรียน ท่านประธานรัฐสภาและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศทุกท่าน ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ผู้แทนราษฎรจากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล ขอสไลด์ด้วยค่ะ
ท่านประธานคะ นั่นคือรูปของบรรดาแรงงานพลัดถิ่นในเขตของดิฉันค่ะ อยู่ในบริเวณโซนสุเหร่าคลองหนึ่ง หรืออีกชื่อก็คือย่านกีบหมู ส่วนหนึ่งของปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณนี้ซึ่งแก้ไม่หาย นอกจากเรื่องของโครงสร้างถนน ก็คือการที่นายจ้างมาจอดรถเพื่อเจรจาว่าจ้างหรือรับส่ง แรงงาน แรงงานเหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายกับการรอคอยงานที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงหรือไม่ ด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้พวกเขายิ่งไม่มีทางเลือก หางานยากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เป็นแรงงาน ข้ามชาติก็ถูกเอารัดเอาเปรียบโดนเรียกส่วย ส่วนคนพื้นที่ก็เหนื่อยหน่ายกับปัญหาของ การจราจรและปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สไลด์นี้นะคะ ชายคนนี้ คือหนึ่งในแรงงานพลัดถิ่นแล้วก็เป็นคนไร้บ้าน เมื่อเขาไม่ได้รับการว่าจ้างงานเขาก็ต้อง เดินหาทางประทังชีวิตเท่าที่เขาจะทำได้ ด้วยการลงไปในบึงน้ำแหล่งน้ำธรรมชาติในเขต คลองสามวา เพื่อจะเก็บฝักบัวมาขายประทังชีวิตต่อไป ดิฉันจึงขอใช้พื้นที่นี้ปรึกษาหารือ ผ่านรัฐสภาอันทรงเกียรติไปยังทางกระทรวงแรงงาน ให้เร่งแก้ไขปัญหาแรงงานพลัดถิ่น แล้วก็แรงงานข้ามชาติในเขตของดิฉันอย่างจริงจังและรอบคอบ ด้วยการช่วยพัฒนาทักษะ แรงงาน สร้างกลไกสนับสนุนให้พวกเขามีทางเลือกในชีวิต ปราบปรามเรื่องการค้ามนุษย์และ เอาเปรียบแรงงานให้จริงจัง รวมถึงการจัดการลงทะเบียนแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายและ มีประสิทธิภาพ เพราะหน่วยงานท้องถิ่นจะแก้ไขได้ก็ในเรื่องของการปรับปรุงถนนเท่านั้น แต่ปัญหาที่ฝังรากลึกไปกว่านั้นอยู่ในอำนาจของรัฐบาล และนี่คือปัญหาแรงงานที่ไม่เคย มีการเข้ามาดูแลส่งเสริมพัฒนาสวัสดิภาพของเขาอย่างจริงจัง ปล่อยให้พวกเขาติดกับดัก ความยากจนอยู่ที่นี่ และไม่มีทางที่จะกลับบ้านเกิดได้เลย ท่านประธานค่ะ ดิฉันเชื่อว่า หากทางกระทรวงแรงงานเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ทำงานร่วมกับดิฉันซึ่งเป็น สส. เขต และ ขยายผลไปยังพื้นที่อื่นของประเทศต่อไป ดิฉันมั่นใจว่าไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพชีวิตของ คนคลองสามวาจะดีขึ้น แต่คุณภาพชีวิตของแรงงานทั้งประเทศ และความมั่นคงทางแรงงาน ของประเทศก็จะดีขึ้นตามลำดับไปด้วย ขอบคุณค่ะ
เรียนท่านประธาน ที่เคารพ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากเขตคลองสามวา ท่านประธานคะ เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นไม่สามารถที่จะก้าวก่ายการทำงาน ของหน่วยงานราชการ รวมถึงไม่สามารถที่จะเกี่ยวข้องกับงบประมาณได้ ดิฉันจึงขอนำ ความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนคลองสามวามาปรึกษาหารือยังรัฐสภาแห่งนี้ เพื่อนำเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาแรก ก็คือปัญหาเรื่องการจราจร การจราจรในเขตพื้นที่ของดิฉัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นถนนคู้บอน หทัยราษฎร์ นิมิตใหม่ พระยาสุเรนทร์ หรือว่าเลียบคลองสอง ซึ่งเมื่อวานติดเป็นชั่วโมงเลยค่ะท่านประธาน แต่ที่หนักหนาสาหัสที่สุดจริง ๆ ก็จะเป็นบริเวณ แยกลำกระโหลก สุเหร่าคลองหนึ่ง หรือที่มีชื่อเล่นว่าเส้นกีบหมู เป็นปัญหาที่ได้รับ การร้องเรียนมาเป็นอันดับ ๑ ของเขต ยิ่งในช่วงเวลาฉุกเฉินช่วงเช้ากับช่วงเย็น จะมีพี่น้อง แรงงานพลัดถิ่น และพี่น้องแรงงานข้ามชาติที่มารอคอยงาน และผู้รับเหมาจะนำพวกเขา มาส่งบริเวณนี้ ทำให้เกิดการจราจรติดขัด มีความพยายามที่จะแก้ไขมายืดเยื้อยาวนาน แต่ไม่ได้ดีขึ้น เพราะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การกวดขันและอำนวยการจราจร การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมกับ การขยายตัวของเมืองและประชากร รวมถึงการเร่งจัดตั้งตลาดนัดแรงงาน ตามที่ท่านผู้ว่า กทม. ได้ Plan ไว้ตั้งแต่ปีก่อน รวมถึงดูแลจัดการแรงงานนอกระบบให้ได้รับสวัสดิการที่ดี มีการ Upskill Reskill เพื่อให้แรงงานเหล่านี้เป็นแรงงานที่จะสามารถพัฒนาประเทศชาติ ของเราต่อไปได้
ปัญหาต่อไป เป็นเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่เพียงพอค่ะท่านประธาน คลองสามวาเป็นเขตที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีประชากรกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คน ประชากรเยอะ ที่สุดในกรุงเทพมหานคร แต่เรามีรถขนส่งสาธารณะเพียง ๒ สาย แน่นอนว่าไม่เพียงพอกับ ความต้องการของประชาชน การสนับสนุนส่งเสริมระบบขนส่งมวลชนในเขตของดิฉัน นอกจากจะลดรายจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ก็ยังจะเป็นการลดปัญหาการจราจรในเขต ของดิฉันอีกด้วย
ปัญหาสุดท้าย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ เป็นเรื่องที่ออกข่าวไปแล้ว ช่อง ๗ เมื่อวาน คือเรื่องของการลักลอบเผาขยะ ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะในเชิงของธุรกิจ เช่น การเผายางรถยนต์ เผาสายไฟ และการเผานา เผาหญ้าในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งก่อให้เกิดอัคคีภัย ปัญหา PM2.5 มลพิษทางอากาศต่าง ๆ ส่งผลกระทบให้ประชาชน ในเขตบริเวณแบนชะโด วัดสุขใจ นิมิตใหม่ ไทยรามัญ หนองระแหง บริเวณเลียบทางด่วน จตุโชติ ซึ่งประชาชนร้องเรียนไปเท่าไรก็ไม่ได้รับความคืบหน้า ขณะที่เรามีข้อบัญญัติ ของสภา กทม. และมีข้อกฎหมายมากมายที่ควบคุมเรื่องนี้ ปัญหาเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น ทั่วประเทศ และดิฉันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนให้กับประชาชน ให้เหมือนกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับตัวท่านค่ะ
ดิฉันหวังว่าทุกปัญหาจะได้รับการแก้ไขโดยไวที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ของประชาชนผู้เสียภาษี ขอบคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภา เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เคารพ ทุกท่าน ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ ดิฉันเชื่อเสมอมาว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม และดิฉัน ยินดีอย่างมากที่เพื่อนสมาชิกในห้องนี้ล้วนแล้วแต่เห็นด้วยว่าความสวยงามของความรักนั้น ไม่สามารถที่จะมีอะไรมากีดกั้นได้ และทุกท่านได้เห็นปัญหาของกฎหมายที่บังคับใช้กับ ประชาชนทุกคนในประเทศ แต่กลับจำกัดกรอบคุณค่าของความรักและความสัมพันธ์ ของมนุษย์ ด้วยการยึดติดกับระบบเพียง ๒ เพศเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็จะเห็นได้จาก ความเจ็บปวด เป็นผลให้คนในสังคมของพวกเราจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ลูกหลาน คนรู้จักของเราบางส่วนที่ถูกกีดกันโดยกฎหมาย ไม่มีสิทธิที่จะมีความรัก หรือรักใครสักคน โดยได้รับการยืนยันและคุ้มครองทางกฎหมายได้ ไม่มีสิทธิที่จะสร้าง ครอบครัว เรากำลังฉีกกระชากความรักของพวกเขาออกไปอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งดิฉันจะขอเจาะ เข้าไปในประเด็นถึงสิทธิในการโอบรับเด็ก ๆ ที่ต้องการผู้ดูแลในสังคม ในฐานะบุพการีร่วม ท่านประธานคะ กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้จะเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้ผู้มี ความหลากหลายทางเพศได้มีโอกาสทำหน้าที่ในฐานะบุพการีผ่านการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม เติมเต็มชีวิตเด็กคนหนึ่งให้ได้รับการดูแลที่อบอุ่น มีพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ ให้เป็นไปตามช่วงวัย และนั่นไม่ได้เป็นประโยชน์แก่พี่น้องที่เป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ แต่มีประโยชน์กับคนทั้งสังคม เมื่อเราจะได้บุคลากรที่มีคุณภาพคืนกลับมาในประเทศของเรา ท่านประธานทราบไหมคะว่าเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา องค์การ UNICEF ของประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยรายงานวิจัยว่าปัจจุบันเรามีเด็กที่อาศัยอยู่นอกบ้าน ของตัวเองไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เพราะได้รับการคุกคาม ได้รับการทำร้าย ครอบครัวแตกแยก อยู่ถึง ๑๒๐,๐๐๐ ราย สิ่งนี้เป็นปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราไม่เคยมีทางออกที่ดี ที่จะคุ้มครองเด็กเหล่านี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งกายและใจได้เลย เราได้แต่ช่วย สงเคราะห์เขาเป็นครั้งเป็นคราว แล้วเราก็ปล่อยเขาตามยถากรรม กฎหมายนี้กำลังจะ เปิดโอกาสให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เข้ามาเติมเต็มรอยรั่วนี้ เข้ามาเป็นบุพการี มอบความอบอุ่นมั่นคงให้เด็กเหล่านี้ได้สัมผัสกับความรัก ให้เด็กเหล่านี้ได้มีความเชื่อมั่น ต่อสังคมของพวกเราว่าเขายังเป็นคนที่มีค่า เขายังเป็นคนที่สังคมนี้เห็นค่าและพร้อม ให้โอกาส พร้อมปกป้องเขาอยู่เสมอ นอกจากนี้นะคะท่านประธาน ในหลายประเทศที่ได้ผ่าน กฎหมายสมรสเท่าเทียมไปแล้ว ได้มีผลวิจัยเชิงบวกมากมายต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ในครอบครัวของผู้มีความหลากหลายทางเพศเองและในสังคม ที่จริงเราอาจจะไม่จำเป็นต้อง มาพูดถึงการผ่านวาระต่าง ๆ แล้วก็ได้ เพราะในความเชื่อส่วนตัวของดิฉันสิทธิพื้นฐาน ของมนุษย์ไม่ควรเป็นสิ่งที่มนุษย์ด้วยกันประมาณ ๕๐๐ คนในที่นี้จะต้องมายกมือโหวต กันเลย และร่างสมรสเท่าเทียมนี้เป็นร่างที่ประชาชน ร่างของพรรคก้าวไกล รวมถึงร่างของ รัฐบาลเดินมาด้วยกัน เติบโตมาด้วยกัน มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานแล้วไม่ได้โรยด้วย กลีบกุหลาบ เพื่อจะคืนสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับเพื่อน ๆ พี่น้องลูกหลานของพวกเราที่เขามี ความหลากหลายทางเพศ ท่านประธานคะ เพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฎรคะ ผู้มีความหลากหลายทางเพศกว่า ๗ ล้านคน ทั่วประเทศกำลังรอคอยกฎหมายนี้ รอคอยกฎหมายที่จะคืนสิทธิให้พวกเขาสามารถสร้าง ครอบครัวของตัวเองและใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี พวกเราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่โดยตรงที่จะปกป้องสิทธิให้กับประชาชนทุกคนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ แล้วก็มีหน้าที่ โดยตรงในการผ่านกฎหมายเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการปกป้องสิทธิอย่างไม่มีการเลือก ปฏิบัติ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หนึ่งในเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของพวกเราที่ในวันนี้เขาไม่ได้มี โอกาสปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่หากเขา อยู่ที่นี่ ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะตอกย้ำว่าประเทศของเรานั้นขับเคลื่อนด้วยความรัก ไม่ได้ ขับเคลื่อนด้วยความกลัว ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะยืนหยัดว่าความหลากหลายคือความสวยงาม และไม่เคยเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย ดิฉันมั่นใจว่าเขาจะลุกขึ้นยืนและพูดยืนหยัดว่าทุกคน ในประเทศนี้ไม่ว่าจะมีเพศวิถีอย่างไร พวกเขาจะต้องเสมอภาคกัน ได้รับการปกป้องจากรัฐ และมีสิทธิตามกฎหมายทุกประการเท่าเทียมกัน ท่านประธานคะ เราเฝ้าฝันที่จะสร้างสังคม ที่มีสันติ และการมอบความรักความเข้าใจให้แก่กันมาโดยตลอด แต่สังคมเหล่านั้นมันเกิดขึ้น ไม่ได้ หากพวกเราไม่ร่วมกันปลดพันธนาการทางกฎหมายนี้ด้วยมือของพวกเราที่วันนี้ จะยกขึ้นเพื่อยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกันว่าพวกเราพร้อมแล้วที่จะเป็นสังคมที่จะโอบรับ เปิดใจเรียนรู้ความแตกต่างหลากหลายที่งดงามนี้ไปพร้อม ๆ กัน ดิฉันขอให้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทุกท่านยกมือในวันนี้เพื่อขอบคุณภาคประชาชนที่สู้มาโดยตลอด แล้วพวกเขารอคอย มานานเกินไปกับสิทธิที่มันควรจะเป็นของเขาตั้งแต่แรกเกิด ดิฉันขอให้สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรทุกคนยกมือขึ้นเพื่อขอโทษพวกเขาที่ว่าเราทำหน้าที่ของเราได้ช้าเกินไป ยกมือของ พวกท่านซับน้ำตาให้แก่ครอบครัวของผู้สูญเสียและผู้ที่ไม่ได้อยู่จนถึงวันที่สมรสเท่าเทียม จะผ่าน ดิฉันขอขอบคุณทุกท่าน ขอให้ทุกท่านอยู่ร่วมกันในเย็นวันนี้สร้างประวัติศาสตร์ ร่วมกัน มาปักหมุดแห่งการสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน และดิฉันมั่นใจว่าอนาคตที่จะ มาถึงในเร็ว ๆ นี้จะเป็นอนาคตที่งดงามสำหรับประเทศของเรา ขอบคุณค่ะ
เรียนท่านประธาน รัฐสภาและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศทุกท่าน ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล ขอสไลด์ด้วยนะคะ
ภาพที่ ท่านประธาน เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพ่อแม่พี่น้องประชาชนกำลังรับชมอยู่ใน ขณะนี้ ทางด้านขวามือจะมาจากเกมและภาพยนตร์สยองขวัญ เรื่อง Silent Hill ส่วนด้านซ้ายคือความสยองขวัญในชีวิตจริงที่คนคลองสามวาต้องเผชิญ พื้นที่สีเขียวของ กรุงเทพมหานครที่โดยปกติแล้วก็จะถูกจัดให้เป็นพื้นที่ที่เป็นปอดของกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ดูเหมือนจะมีอากาศบริสุทธิ์ เพราะเป็นเขตพื้นที่ที่ไม่ใช่มีตึกระฟ้า ไม่ได้มีกิจกรรม ทางเศรษฐกิจที่หนาแน่นหรือว่าโรงงานอุตสาหกรรมใด ๆ เลย แต่ท่านก็จะเห็นแล้วว่านี่ไม่ได้ ทำให้คนคลองสามวาปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 แต่อย่างใดเลยค่ะ จากการที่เขตของดิฉันเป็น เขตที่มีขนส่งสาธารณะน้อยทำให้ประชาชนเลือกที่จะใช้รถส่วนตัว ส่งผลให้เกิดฝุ่นที่เกิดมา จากเครื่องยนต์ แล้วก็เกิดการลักลอบเผาขยะ เผาหญ้าที่แม้จะทำให้ค่าฝุ่นไม่ได้สูงอยู่ตลอดทั้งปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหานี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ในเขตของดิฉัน ไม่ใช่แค่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร แต่ฝากที่เพื่อน ๆ ทุกท่านได้ปราศรัยได้อภิปรายกันไป ในวันนี้ก็จะทราบว่านี่คือเป็นปัญหาในระดับประเทศ และเป็นปัญหาที่ทั้งโลกกำลังเผชิญอยู่ สไลด์นี้เป็นภาพเปรียบเทียบขนาดฝุ่นประเภทต่าง ๆ กับเส้นผมของมนุษย์นะคะ หากท่าน ประธานและทุกท่านดึงเส้นผมออก ๑ เส้น เส้นผมของพวกเราว่าเล็กแล้ว ฝุ่นพวกนี้เล็กกว่า เส้นผมเราถึง ๔๐ เท่าด้วยกัน ดังนั้นการแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นการฉีดพ่นน้ำด้วยเจตนาดีใด ๆ เพื่อจะบรรเทาปัญหาฝุ่นไม่ได้ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้เลยค่ะ จะช่วยลดได้เฉพาะฝุ่นขนาดใหญ่ ประเภท PM10 ที่เกิดจากฝุ่นการก่อสร้างเท่านั้นเอง แถมเครื่องยนต์ของรถที่นำมาใช้ใน การแก้ปัญหานี้ก็เป็นตัวการในการก่อมลพิษสร้างฝุ่น PM2.5 มากขึ้นไปอีก เพื่อนสมาชิก ของดิฉันท่านภัสรินได้พูดไปบ้างแล้วถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่ฝุ่น PM2.5 สามารถทำ อันตรายต่อสุขภาพได้อย่างร้ายแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ๆ สไลด์นี้จะเจาะลึกเข้าไปว่า PM2.5 สามารถทำอันตรายและส่งผลกระทบให้กับร่างกายของลูกหลานของเราได้มากน้อย แค่ไหน ที่น่ากังวลที่สุดจะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ซึ่งเป็น เหตุให้การเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ลูกหลานของพวกเราช้าลงอย่างมีนัยสำคัญ เราผ่านพ้นช่วง วิกฤติโควิด-๑๙ มาได้เกือบ ๓ ปีแล้วค่ะท่านประธาน แต่เด็ก ๆ ของเรายังไม่ฟื้นตัวจากภาวะ ความถดถอยด้านการเรียนรู้ และนี่คือความท้าทายใหญ่ในระบบการศึกษาไทยอยู่แล้ว ในการต้องปรับแผนการเรียนรู้หลังวิกฤติโควิด-๑๙ เพื่อฟื้นฟูศักยภาพ เก็บตกทักษะความรู้ พัฒนาการด้านอารมณ์และการเข้าสังคมของเด็ก ๆ ของเราให้เป็นไปตามช่วงวัย แต่การฟื้นฟู เหล่านี้อาจจะต้องชะงักงันอีกครั้งหากเราไม่เร่งหามาตรการ หาแผนงานรับมือเรื่องปัญหาฝุ่น พิษให้เป็นรูปธรรม ที่ผ่านมาพวกเราตั้งรับปัญหาป้องกันภัยจากฝุ่นมรณะให้เด็กของเราด้วย การออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการเฝ้าระวังฝุ่น ย้ำเตือนเรื่องการใช้หน้ากากอนามัย ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตกับฝุ่นเป็นคราว ๆ ให้เรียนรู้ ให้อดทน ทนแล้วทนอยู่ทนต่อโดย ไม่มีการแก้ไขปัญหาระยะยาวค่ะท่านประธาน แล้วเราก็ผลักภาระเรื่องสุขภาพของเด็ก สุขภาพของครู สุขภาพของบุคลากรทางการศึกษาให้ดูแลตัวเอง ผลักภาระค่าใช้จ่ายเรื่องของ หน้ากากอนามัยและเครื่องฟอกอากาศไปให้กับประชาชน เราจำเป็นที่จะต้องกักขังโอกาส ในการเรียนรู้นอกห้องเรียน การเล่นกลางแจ้งและการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก ๆ ซึ่งเป็น การเรียนรู้สำคัญในช่วงวัยเด็กเล็ก ซึ่งการเรียน Online ไม่สามารถมอบให้ ท่านประธานคะ นี่ยังไม่นับว่าปัญหามลพิษทางอากาศในทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่ฝุ่น PM2.5 ยังคงมี PM0.1 ที่มีอนุภาคเล็กเป็นพิเศษและมีต้นตอมาจากภาคอุตสาหกรรมและมีพิษสงไม่ได้น้อยกว่า มลพิษประเทศอื่นเลย ณ ขณะนี้ทุกผลวิจัยล้วนชี้ชัดว่ามลพิษทางอากาศและเป็นอันตรายต่อ ทุกช่วงวัยของมนุษย์ เป็นอันตรายต่อการพัฒนาประเทศและเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของ มนุษยชาติ ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะต้องเร่งออกกฎหมายที่บัญญัติให้รัฐต้องมีระบบ บริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อระบบสุขภาพและคุณภาพของชีวิตประชาชน อย่างเร่งด่วน และดิฉันหวังว่าพวกเราในที่นี้จะร่วมกันหยุดวิกฤติของประเทศ และรับมือมลพิษทางอากาศ ทุกชนิดที่เกิดขึ้นด้วยการร่วมมือกันผลักดันร่างกฎหมายที่จะครอบคลุมการแก้ปัญหา และนำ ข้อดีในแต่ละด้านทั้ง ๗ ร่างนี้มาบูรณาการร่วมกัน โดยให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมใน กระบวนการร่างกฎหมายในชั้นกรรมาธิการให้มาก สุดท้ายนี้ดิฉันขอให้พวกเราทุกคนร่วมกัน ผ่านร่างกฎหมายนี้เพื่อปกป้องพัฒนาการของเด็ก ๆ คุ้มครองชีวิตและคืนสิทธิในการมีอากาศ สะอาดให้กับประชาชน ขอบคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศที่กำลังรับชม การทำงานของพวกเราอยู่ขณะนี้ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจากเขตคลองสามวา พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ วันนี้ดิฉันขอนำเรียนปัญหาของ คนคลองสามวามายังรัฐสภาแห่งนี้เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขด้วย ขอสไลด์ด้วยค่ะ
คลิปที่ทุกท่านเห็น ในขณะนี้คือหนึ่งในเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเขตของดิฉัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ ที่ผ่านมานะคะ มีเหตุเพลิงไหม้ในเขตคลองสามวาถึง ๑๐ ครั้งด้วยกัน และเขตของดิฉันเป็น เขตที่มีประชากรมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีประชากรกว่า ๒๑๐,๐๐๐ คน มีพื้นที่กว่า ๑๑๐.๗ ตารางกิโลเมตร แต่ยังไม่มีสถานีดับเพลิงเป็นของตัวเอง และเจ้าหน้าที่ที่เราใช้ เราใช้ จากสถานีดับเพลิงกู้ภัยบางชันที่ต้องดูแล ๔ เขตด้วยกัน ทั้งเขตมีนบุรี เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม และเขตคลองสามวา ดิฉันขอยืนยันแม้ว่าทางสำนัก ปภ. จะทำหนังสือตอบดิฉันมาแล้วว่า มีการดูแลอาสาสมัครอย่างดี แต่จำนวนคน ๔๘ คน รวมธุรการอีกเป็น ๕๑ คนไม่สามารถ ที่จะทำภารกิจเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน ดิฉันยังขอยืนยันว่าเราจะต้องดูแล กลุ่มที่เสี่ยงภัยเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มากกว่านี้
เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องของยาเสพติด เขตของดิฉันตอนนี้กลายเป็นเขตที่ ๑ ชุมชนมี ๑๔ Agent ค้ายาบ้าแล้ว ยาบ้าถูกกว่าชาไข่มุก ถูกกว่ากาแฟ ดิฉันขอนำเรียนปัญหา เรื่องนี้ไปยังท่านนายกรัฐมนตรีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข ให้ทำงานร่วมกัน ปักเจตนารมณ์ให้แน่วแน่ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดว่าเราจะป้องกัน เราจะ ปราบปราม หรือเราจะบำบัด ขยายผลสืบสวนต้นตอเครือข่ายยาเสพติดในประเทศไทยให้ได้ เพื่อที่ประชาชนจะได้รู้สึกปลอดภัยว่าลูกหลานของเรานั้นห่างไกลจากยาเสพติดอย่างแท้จริง ขอบคุณค่ะ
เรียนท่านประธาน รัฐสภา เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดที่กำลังรับชม การทำงานของพวกเราอยู่ในขณะนี้ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ สังคมโลกที่เราใช้ชีวิตกัน อยู่ในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ และปัญหาที่ซับซ้อนมากมายค่ะ เราเห็นภาพข่าว ผู้ลี้ภัยต้องหนีตายจากสงคราม เราเห็นการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยรัฐต่อผู้เห็นต่าง เราเห็นการใช้นิติสงครามที่เป็นการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในการกดปราบผู้ที่ เห็นต่าง ในเวลาแบบนี้ประชาชนกำลังสิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำ การกดขี่ และความไม่เป็นธรรม เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเราต้องการสังคมที่ยุติธรรมมากกว่านี้ เท่าเทียม มากกว่านี้ และเป็นธรรมมากกว่านี้ การศึกษาที่เราควรจะดำเนินไปควรมีเป้าหมายเพื่อจะ ส่งเสริมให้คน ให้สมาชิกในสังคมของพวกเราสามารถมองไปได้ไกลกว่าแค่พรมแดนรัฐชาติ นั่นก็คือการมุ่งสร้างพลเมืองโลกที่ให้คุณค่ากับมนุษยธรรม มีความเห็นอกเห็นใจ เคารพ ความแตกต่างหลากหลาย และมีความตระหนัก มีความศรัทธาในตัวเองว่าพวกเขาสามารถ ที่จะช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ได้ แล้ววันหนึ่งเมื่อเขามีศรัทธาแบบนี้ในตัวเอง เขาจะออกไปแล้วสามารถสร้างสังคมที่ดีขึ้น กว่าสังคมที่วันนี้เราได้มอบให้พวกเขาได้ แต่แนวคิดในการสร้างพลเมืองโลกแบบนั้นไม่ได้มี อยู่ในหลักการและเหตุผลของญัตติ เรื่อง การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพเลยค่ะ หากเปิดมาหน้าแรกที่เป็นบทสรุปของญัตติ ท่านก็จั่วมาเลยว่าสังคมยุคใหม่มีแนวคิดไปกับ สังคมตะวันตกมากเกินไป
ไม่สอดคล้องกับ ความเป็นคนไทย ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ท่านอยากจะสร้างคนไทยที่พึง ประสงค์ แต่ดิฉันไม่มั่นใจว่าคนไทยที่ท่านพึงประสงค์นี้จะเป็นคนไทยในแบบที่โลกต้องการ หรือไม่ หรือเป็นคนไทยที่ท่านถูกใจเท่านั้น ประโยคลักษณะแบบนี้มีเกลื่อนไปหมดในญัตติ พวกนี้ หน้าเมื่อสักครู่ถ้าอ่านดี ๆ ตั้งท่ามาน่าจะดีอยู่ คือเน้นอยากพัฒนาคน อยากที่จะปรับ กระบวนการศึกษาให้มันมีคุณภาพ ไม่เน้นการศึกษาเชิงปริมาณหรือเน้นคุณวุฒิมากเกินไป แต่ก็มาตกม้าตายค่ะ เพราะว่ามาติดกรอบเรื่องของแนวทางใหม่ที่พวกท่านจะทำก็ยังติดอยู่ใน บริบทของความเป็นไทย ต้องสอดคล้องกับรากอารยะและวัฒนธรรมไทย การศึกษาแบบนี้ คือการศึกษาที่เราศึกษากันมาตลอด มาตั้งแต่สมัยที่เรายังมีกระทรวงธรรมการที่ตั้งขึ้น เมื่อวันที่ ๑ เมษายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๑ ปีมะโรง พุทธศักราช ๒๔๓๕ หรือเมื่อ ๑๓๒ ปี ที่แล้วนั่นเอง ท่านประธานคะ สส. หมิว สิริลภัสได้อธิบายประเด็นนี้ ความหมายของพลเมือง ความหมายของราษฎร และความหมายของประชาชน ตามราชบัณฑิตยสถานกำหนดไว้แล้ว ส่วนในนี้ดิฉันขอให้พ่อแม่พี่น้อง ประชาชน ที่รับชมอยู่ กด QR Code ด้านหน้าแล้วอ่านไป ด้วยกัน ประเด็นนิยามความหมายที่มีในญัตตินี้ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า พลเมือง คือบุคคล ที่สามารถเป็นพละกำลังให้กับบ้านเมือง ไม่เป็นภาระให้คนอื่น ราษฎร หมายถึง ผู้ที่เป็นภาระ ให้กับสังคม ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ รอการช่วยเหลือจากคนอื่นอย่างเดียว และประชาชน หมายถึง คนที่อยู่ใต้อำนาจ เป็นผู้รับคำสั่งและทำตามคำสั่ง เป็นผู้ดูและจะมองที่ผลประโยชน์ ของตนอย่างเดียว และถ้าต้องเสียผลประโยชน์ก็จะไม่ยอมเสียสละ หรือไม่มีส่วนร่วมในการ แก้ปัญหา ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในสังคม ท่านประธานคะ มาถึงตรงนี้ดิฉันไม่แน่ใจเลยว่าท่าน ผู้เสนอญัตติและผู้ที่เซ็นญัตตินี้ได้อ่านรายละเอียดในญัตตินี้ รวมถึงเอกสารที่ประกอบ การพิจารณาญัตตินี้บ้างหรือไม่ แต่ดิฉันอ่านมาทุกหน้า และในฐานะผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขตคลองสามวา จำนวน ๔๐,๑๒๖ เสียง ไม่สบายใจเลย ที่เห็นข้อความลักษณะนี้ต่อประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ในขณะที่ท่านร่างญัตตินี้ ท่านกำลังมองประชาชนด้วยสายตาแบบไหน ด้วยฐานความคิดแบบไหน ท่านกำลังจะบอก ว่าประชาชนผู้ทรงอำนาจเหล่านี้ คนที่จ่ายเงินภาษีเพื่อหล่อเลี้ยงประเทศนี้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม คนที่พยายามต่อสู้อยู่ทุกวันให้เขามีชีวิต ให้ลูกของเขาสามารถลืมตาอ้าปากและ มีอนาคต แม้ว่าสภาพสังคม สภาพการเมือง สภาพเศรษฐกิจ ไม่ได้เอื้อให้เขาจะสู้ได้อย่าง เท่าเทียมอย่างคนอื่น และด้วยทุกความพยายามทั้งหมดที่เขามีแล้ว เขาก็อาจจะมาไม่ถึง คุณสมบัติ เป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นคนที่พึงประสงค์ในระบอบประชาธิปไตยแบบที่ท่าน กำหนดด้วยซ้ำไป ดิฉันยินดีนะคะที่ได้ทราบว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางท่านในที่นี้ เคยไปเที่ยวมาแล้ว ๔๐ ประเทศทั่วโลก แต่ในประเทศไทยมีคนจำนวนมากที่ไม่เคยออกไป ไหนเลยค่ะ แม้กระทั่งเที่ยวต่างจังหวัดกับคนในครอบครัว แล้วคนเหล่านี้นับเป็นภาระของ ประเทศอย่างนั้นหรือคะ เราจะสร้างประเทศที่มีความหวัง ลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร ในเมื่อตรรกะความคิดของคนที่อยากพัฒนาประเทศ อยากพัฒนาบุคลากรในประเทศ ผิดตั้งแต่ต้น ส่วนนี้ดิฉันจะพูดถึงส่วนของบทวิเคราะห์ ในเอกสารระบุไว้ชัดเจนว่าประชาธิปไตย ในประเทศไทยที่ถูกต้องมันยังไม่ได้ฝังรากลึกในประเทศไทย และยังระบุอีกว่าปัญหาของ การเมืองการปกครองไทยมันเกิดจากการที่ประชาชนขาดสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ท่านประธานคะ เราจะไม่มาถกเถียงกันในที่นี้ว่าปัญหาของการเมืองไทย เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ แต่ดิฉันอยากให้ท่านย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ที่มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้ง ประชาชนไม่ได้ติดตามข่าวอย่างเดียวนะคะ พวกเขามาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก เขาเดินทางกลับภูมิลำเนา ไปต่อรอแถวตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะใช้สิทธิของเขา ปิดหีบแล้วบางท่าน ยัง Live สด นับคะแนน มีหลายท่านที่เข้าร่วมกับอาสาโหวต ๖๒ เพื่อรายงานผลคะแนน รายหน่วย เพราะเขาไม่ไว้ใจ กกต. ค่ะท่านประธาน หลายท่านถ่ายคลิปร้องเรียนส่งสื่อเพื่อจับการเลือกตั้งที่ทุจริต ทั้งหมดนี้หรือคะที่พวกท่าน มองว่าประชาชนในประเทศไทยยังไม่ตื่นรู้ ทั้งหมดนี้หรือคะที่พวกท่านบอกว่าพวกเขาคือ ปัญหาของประเทศ พวกเขานี้หรือคะคือประชาชนที่ขาดสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ดิฉันขอกล่าวตรงนี้เลยนะคะว่าประชาชนคนไทยไม่ได้ขาดจิตสำนึกในเรื่อง ของการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย พวกเขาตื่นรู้นานแล้วและจะยิ่งมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ สิ่งนี้ ไม่มีใครหยุดยั้งได้ อาชีพผู้แทนราษฎรเป็นอาชีพเดียวที่ประชาชนเป็นผู้แต่งตั้งพวกเราขึ้นมา เกียรติทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนมอบให้ และในฐานะที่ดิฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดิฉันไม่สามารถจะเห็นชอบต่อญัตตินี้ได้ และดิฉันขอยืนยันว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องไม่ควร จะกำหนดด้วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะต้องถูกนิยามโดยประชาชนผู้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวของผู้แทนราษฎร ขอบคุณค่ะ