กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยสร้างไทย เขต ๙ มีอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก และอำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ จังหวัดอุบลราชธานี ดิฉันขออภิปรายวาระรับทราบรายงานข้อมูลสถานการณ์ ด้านความรุนแรงในครอบครัวตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำ ด้วยความรุนแรงในครอบครัว พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประจำปี ๒๕๖๓ และปี ๒๕๖๔ ดิฉัน เห็นว่าสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวของคนไทยในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ใหญ่มากนะคะ เพราะว่ามีระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ไม่เพียงแค่ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ แต่ได้นำไปสู่ความสูญเสียถึงแก่ชีวิตนะคะ ท่านประธานที่เคารพ อย่างกรณีล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้น สด ๆ ร้อน ๆ เกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นคดีที่สามีใช้อาวุธฆ่าภรรยา ของตนเอง และบุตรชายอีก ๒ คน รวมเป็น ๓ ศพ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุอันเศร้าสลดที่เราได้รับ ข่าวนะคะ ดิฉันก็ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยนะคะ จากสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวของประเทศไทย ถ้าดูจากสถิติของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ท่านผู้ชี้แจงรายงานมานะคะ จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ความรุนแรงของ ครอบครัวมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะปี ๒๕๖๔ ที่ปรากฏในรายงานนะคะ ก็ขอชื่นชม ที่ทำข้อมูลได้รายละเอียดและชัดเจนนะคะ จากการรายงานข้อมูลสถานการณ์ ด้านความรุนแรงในครอบครัวที่ปรากฏในรายงาน มีผู้ถูกกระทำความรุนแรงมากขึ้นถึง ๑๖,๐๐๐ กว่าราย หรือคิดเฉลี่ย ๔๖ รายต่อวัน คิดว่าเป็นสถิติที่สูง แต่ที่จริงน่าจะมี มากกว่านี้นะคะ เพราะว่าชาวบ้านเวลาเกิดเหตุในครอบครัวจะไม่กล้าไปแจ้งความ จะไม่กล้า บอกใคร ก็จะเก็บเงียบไว้น่าจะมากกว่านี้นะคะ ถือว่าชาวบ้านขาดที่ปรึกษาหารือ ขาดที่พึ่ง จากหน่วยงานของรัฐนะคะ ผู้ถูกกระทำรุนแรงมากที่สุดส่วนมากจะเป็นเพศหญิงนะคะ เป็นสตรี สาเหตุที่สำคัญที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวมากที่สุด ส่วนมากก็จะเกิดจาก เมาสุรา ยาเสพติด ความหึงหวงที่เกิดขึ้นมา รองลงมาก็จะเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน ไม่มีรายได้ ครอบครัวยากจน เป็นหนี้เป็นสิน อย่างกรณีการโศกนาฏกรรม ที่จังหวัดสมุทรปราการนะคะ เป็นหนี้เป็นสิน และปัญหาสุขภาพจิต สุขภาพกายที่มาจาก การเจ็บป่วยเรื้อรัง เกิดความเครียด ดิฉันขอกราบเรียนท่านประธานสภาว่าการแก้ปัญหา ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เพียงแค่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ และผู้กระทำผิด หรือจัดรณรงค์ อบรม สร้างทัศนคติความรู้ความเข้าใจเพื่อยุติความรุนแรง ต่อเด็กและสตรี บุคคลในครอบครัว แต่จะต้องระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานลงมือ แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุโดยเร็ว โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจซึ่งขณะนี้เป็นปัญหาเรื้อรัง ของประเทศ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลไม่มีแผนกระตุ้น เศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอย่างต่อเนื่องนำไปสู่ปัญหาประชาชนมีรายได้ลดลง แต่รายจ่ายกลับ พุ่งขึ้นสวนทางกันนะคะ เวลานี้ประชาชนทั่วประเทศเดือดร้อนจากสินค้าทุกชนิดมีราคาแพง ค่าไฟแพง น้ำมันแพง ก๊าซหุงต้มแพง พี่น้องเกษตรกรของดิฉันก็ซื้อปุ๋ยแพงค่ะ แต่ข้าวราดแกงก็ยังแพงขึ้นราคาตลอดค่ะ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำประชาชนไม่มีรายได้เพียงพอ ต่อการเลี้ยงชีพ ปัญหาสังคม ความรุนแรงในครอบครัวก็ตามมา
อีกประเด็นหนึ่ง ดิฉันขอนำเรียนต่อท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้เร่งปราบปรามยาเสพติดที่กำลังแพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าในหมู่บ้าน ในชุมชน เดี๋ยวนี้ระบาดเข้าไปในโรงเรียนนะคะ เด็กนักเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนอยู่ตามชายแดน ซึ่งดิฉันมาจากชายแดนนะคะ มีการขายยาเสพติดในโรงเรียน อันนี้ก็คือเรื่องที่น่ากลัวมาก ยาเสพติดเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ซึ่งเกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ถ้ายัง ปราบไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรง ในครอบครัวจะมีสถิติเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ถ้าชาวบ้านมีบำนาญประชาชนมาช่วยจุนเจือแบ่งเบา ภาระในครอบครัว เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ก็น่าจะช่วยลดปัญหานี้ลงได้นะคะ
สุดท้าย มีเรื่องฝากจากอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อพม. ฝากถึงท่านประธานสภา ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อพม. ก็คือประชาชนที่มีจิตอาสา อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว เป็นผู้รู้ เข้าใจปัญหาสังคมในพื้นที่เป็นอย่างดี ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ตามบทบาทและภารกิจของ พม. คือเด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ และคนไร้ที่พึ่ง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ขาดบุคลากรตั้งแต่ระดับอำเภอ ตำบล ตอนนี้ในหมู่บ้านมีแล้ว แต่ขาดการเชื่อมต่อระหว่างตำบลไปหาอำเภอ จังหวัดก็มีแล้ว เพราะฉะนั้นทาง อมพ. อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบให้มี พม. ประจำอำเภอและตำบล เพื่อจะเชื่อมต่อเรื่องงาน นอกจากนี้ทาง อพม. ขออยู่ ๒ เรื่องฝากดิฉันมาว่าเขาทำงานตลอด แต่ไม่มีค่าตอบแทน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ อพม. ซึ่งทำหน้าที่อยู่ในหมู่บ้านต่าง ๆ ขอ ๑. ต้องการเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอและระดับตำบล ๒. ขอค่าตอบแทนให้ อพม. เพื่อจะให้เขามีขวัญกำลังใจได้ทำงานในจิตอาสาเช่นเดียวกับ อสม. อันนี้ดิฉันก็ขอฝาก ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอกราบขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยสร้างไทย จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ ดิฉันจะขออภิปรายวาระรับทราบรายงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กกพ. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการ พลังงาน สำนักงาน กกพ. ในฐานะองค์กรกำกับกิจการไฟฟ้าและกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย ตามภารกิจ ที่กำหนดในพระราชบัญญัติกิจการพลังงาน พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งมีรายละเอียดที่ดิฉัน จะขอนำเรียนท่านประธานดังต่อไปนี้นะคะ อย่างที่ทราบกันดีว่าค่าไฟฟ้าในปัจจุบัน มีราคาแพงมาก เวลาออกพื้นที่ตามชนบท ตามต่างจังหวัด ต่างอำเภอ ชาวบ้านก็จะบ่น ค่าไฟแพงนะคะ ก็ไม่ทราบว่าจะแก้อย่างไรดิฉันก็จะนำมาเสนอในที่ประชุมว่า หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ปรับค่าไฟฟ้าช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม โดยคิดค่าไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าผันแปร หรือว่าค่า Ft ในที่อยู่อาศัยและประเภทอื่น ๆ ๙๘.๒๗ สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย เพิ่มขึ้นที่ ๔.๗๒ บาทต่อหน่วย จากล่าสุดมีข่าวว่าจะมีมาตรการลดค่าไฟฟ้า ๔ เดือนสุดท้าย ของปี ๒๕๖๖ ในครั้งนี้ชาวบ้านก็ดีอกดีใจว่าจะได้ลดค่าไฟฟ้า แต่ที่ไหนได้ตามที่ประชาชน เรียกร้องก็ได้ฝันสลาย เพราะว่า กฟภ. ระบุว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากต้องใช้งบประมาณ จำนวนมากจะต้องรอรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ ดังนั้นตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปประชาชนก็ยังต้อง เผชิญหน้ากับค่าไฟแพงต่อไป ดิฉันขอเรียนถามท่านประธานสภาผ่านไปยังคณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการกิจการพลังงานในปัญหาค่าไฟแพง ในประเด็นดังต่อไปนี้
ประเด็นที่ ๑ ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมามีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามากแค่ไหน และมีกำลังไฟฟ้าเท่าใด เกินความต้องการของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ในแต่ละปีโรงไฟฟ้า แต่ละโรงผลิตไฟฟ้าได้จำนวนเท่าใด และมีโรงไฟฟ้าที่ไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า แต่ได้รับ ค่าตอบแทนตามสัญญาหรือไม่ ถ้าหากมี มีจำนวนกี่โรง แต่ละโรงได้รับค่าตอบแทน เป็นจำนวนเท่าใดต่อปี รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนตามสัญญาทั้งหมดเท่าใด เพราะเหตุดังกล่าวหรือไม่ที่ทำให้เกิดปัญหาค่าไฟแพงขึ้น
ประเด็นที่ ๒ ปริมาณไฟฟ้าที่จะซื้อมีปริมาณไฟฟ้าที่ส่งมอบให้การไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในแต่ละสัญญาจ้าง เงินค่าจ้างและการชำระเงินค่าจ้าง หรือแผน การใช้ไฟฟ้า หรือการสำรองการใช้ไฟฟ้า การจัดซื้อไฟฟ้าในอนาคตมีจำนวนเท่าใด
ประเด็นที่ ๓ มีวิธีและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชน หรือที่ผลิต ไฟฟ้าอย่างไร ใช้เงินจากงบส่วนใด ขอให้ กฟภ. ชี้แจงข้อมูลอย่างน้อยย้อนหลังไป ๑๐ ปี เพื่อจะได้มาเปรียบเทียบว่าเป็นอย่างไร ในประเด็นคำถามเหล่านี้ดิฉันเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้คนไทยต้องเสียค่าไฟฟ้าแพง ดิฉันก็ขอฝากเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้รับผิดชอบ ที่มาตอบคำถามในวันนี้ ก็ขอฝากท่านประธาน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล เพื่อความเป็นธรรมเท่าเทียมกันในการเสียค่าไฟ ขอกราบขอบพระคุณท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน รำพูล ตันติวณิชชานนท์ เขต ๙ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนอื่นดิฉันขอกราบขอบพระคุณพี่น้องเขต ๙ ซึ่งมีอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร ที่มอบความไว้วางใจให้ดิฉันมาทำหน้าที่แทนในสภาแห่งนี้ ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานทั้งหมด ๕ เรื่องด้วยกัน ขอ Slide ด้วยค่ะ
เรื่องที่ ๑ เป็นต้นไม้ตายซาก ใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งอยู่ทางหลวงหมายเลข ๒๒๔๘ กิโลเมตรที่ ๗๘ ซึ่งใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง และใกล้บ้านเรือนชาวบ้าน ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน พายุรุนแรงมาก แล้วถ้าเกิดว่าต้นไม้ล้มทับ หลังคาเรือนชาวบ้านใครจะรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นดิฉันอยากให้ท่านประธานพิจารณา ในปัญหานี้นะคะ
เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องน้ำท่วมซ้ำซากซึ่งเกิดในเขตชุมชนเทศบาลบุณฑริก เป็นเขตเศรษฐกิจทางหลวงหมายเลข ๒๒๔๘ ท่วมมานานนับ ๑๐ ปี ฝนตกทีไรน้ำไหลหลาก เข้าบ้านเรือนชาวบ้านและร้านค้าทุกปีตลอด ดิฉันก็เห็นมาตั้งนานจนดิฉันอายุมากขึ้น ๖๐ กว่าปีแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีการแก้ไข ทางหลวงมีระบบระบายน้ำไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นขอให้ทางหลวงช่วยแก้ไขด้วยนะคะ
เรื่องที่ ๓ ถนนนี้เป็นถนน ๑๐๐ ศพค่ะ มืดมาก ทั้ง ๆ ที่มีต้นไฟฟ้าส่องสว่าง ท่านประธานเห็นไหมคะ ต้นไม้บดบัง กิ่งไม้บดบัง แต่ทางหลวงเพิกเฉยไม่ไปตัดแต่งกิ่งไม้ เลยทำให้มืด แล้วถนนแคบไม่มีไหล่ทาง ถนนเส้นนี้เป็นถนนเชื่อมหลายอำเภอ จากอำเภอบุณฑริก ไปอำเภอนาจะหลวย ถึงอำเภอน้ำยืน ซึ่งมีรถบรรทุก ๑๘ ล้อพ่วง แล้วก็รถทัวร์วิ่งตลอด ชาวบ้านที่เทียวไปเทียวมาหลบรถพ่วงบางทีก็ลงข้างทางเกิดอุบัติเหตุ ตายหลายศพ และรถมอเตอร์ไซค์นักเรียนโดนรถใหญ่ดูดเข้าไป แรงดูดเข้าไปในล้อรถ แล้วก็เหยียบเด็กนักเรียนตายหลายศพเลยเรียกว่าถนน ๑๐๐ ศพ อยากให้กรมทางหลวง ขยายไหล่ทางและเลื่อนไฟส่องสว่างออกไปอีกเพราะอยู่ติดกับริมถนนเลย เพราะฉะนั้น อุบัติเหตุตรงนี้จะเกิดบ่อยถึงเรียกว่าถนน ๑๐๐ ศพ
เรื่องที่ ๔ ทางหลวงหมายเลข ๒๑๗๒ หน้าโรงเรียนนาโพธิ์พิทยา นักเรียน ถูกรถเฉี่ยว จะเห็นว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ถนนเส้นนี้ขาดการบูรณะซ่อมแซมมาหลายสิบปี เท่าที่ดิฉันจำได้ไม่มีการลาดผิวจราจรเลย เพราะฉะนั้นอยากให้ทางกรมทางหลวงได้ดูแลด้วย
เรื่องที่ ๕ อันนี้เป็นถนน ๒ สี ที่อุบลราชธานีมีแม่น้ำ ๒ สี แต่ที่บ้านดิฉัน มีถนน ๒ สี เพราะฉะนั้นอยากให้กรมทางหลวงดูแลด้วย โดยเฉพาะบ้านจงเจริญมีหลุม ทำ ให้เกิดอุบัติเหตุหลายราย เพราะฉะนั้นอยากได้ไฟส่องทางสำหรับถนนสายนี้ ทางหลวง สาย ๒๑๘๒ ดิฉันก็มีเรื่องหารือท่านประธานทั้งหมด ๕ เรื่อง เพื่อจะส่งไปหน่วยงาน ที่รับผิดชอบก็คือกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ขอบคุณท่านประธานค่ะ
ท่านประธานคะ รำพูล ตันติวณิชชานนท์ ๓๐๗ แสดงตนค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธรเฉพาะตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายสนับสนุนทุกญัตติที่เพื่อนสมาชิก ได้เสนอเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไข ปัญหาสิทธิที่ดินทำกินของประชาชน แก้ไขปัญหาการครอบครองและถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส.ป.ก. และที่ดินทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติของประชาชน เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนของเราทั่วประเทศไทย จะเห็นได้ว่าปัญหา ที่ทำกินจะมีทุกพื้นที่ไม่เฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ทั่วประเทศเลยเป็นปัญหาที่หมักหมม มานานทุกรัฐบาลเท่าที่ดิฉันจำได้นะคะ ทุกรัฐบาลจะพยายามแก้ไขแต่ก็ยังแก้ไขไม่สำเร็จ ดิฉันก็ขอฝากปัญหานี้ให้รัฐบาลชุดนี้และสภาแห่งนี้ช่วยแก้ไขเรื่องที่ทำกิน เรื่องที่ดิน ของประชาชน ของเราให้สำเร็จ จากที่ดิฉันได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาในจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก และอำเภอสิรินธร ตำบลโนนก่อ ว่าที่ดินที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน ไม่ว่าจะเป็นที่ไร่นาหรือที่ทำสวนไม่มีเอกสารสิทธิ การออกเอกสารสิทธิก็ออกยาก ออกไม่ได้ เพราะว่าเป็นที่ดินทับซ้อนกับที่ป่าไม้ เป็นที่ ของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอุทยานแห่งชาติ เพราะว่าพื้นที่ที่ดิฉันอยู่จะเป็นพื้นที่ป่าสงวน เป็นส่วนใหญ่ ติดกับชายแดน สปป. ลาว เพราะฉะนั้นดิฉันก็อยากให้รัฐบาลควรแบ่งเขต พื้นที่ให้ชัดเจนว่าเขตไหนเป็นเขตป่าสงวน เขตไหนเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อชาวบ้าน จะได้ทำกินไม่ถูกไล่จับ ทำไร่ทำนาก็โดนไล่จับ ติดคุกติดตะรางกันหลายราย ชาวบ้าน ยิ่งทุกข์อยู่แล้ว จนอยู่แล้ว ก็ยิ่งยากจนต่อไปอีกนะคะ โดยเฉพาะชาวบ้านในเขตชุมชนเขตที่ เจริญแล้วก็ควร จะออกเอกสารสิทธิ ก็คือปลดล็อกออกเอกสารสิทธิให้ทุกแปลง เพื่อเขาจะได้เอาไปแปลง สินทรัพย์เป็นทุน ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องในเขตตำบลนาจะหลวย อำเภอ นาจะหลวย ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลยังออกเอกสารสิทธิไม่ได้ประมาณ ๒,๗๙๖ รายในเขต ชุมชนเมืองก็ยังไม่มีเอกสารสิทธิ เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญระดับประเทศเลย พวกเราต้องช่วยกันแก้ปัญหา
อีกปัญหาหนึ่ง ปัจจุบันนี้ชาวบ้านได้ไปยื่นออกโฉนดที่ดินในที่ดินจังหวัด มี ส.ค. ๑ ออกโฉนดยากมาก ใช้เวลานาน ๗-๘ ปีเพราะว่าถ้ามี ส.ค. ๑ ที่ไปยื่นตั้งแต่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ต้องไปฟ้องที่ศาลตามมาตรา ๘ ประมวลกฎหมายที่ดิน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ชาวบ้านไปยื่น ส.ค. ๑ เพื่อออกโฉนดที่ดิน ใช้เวลา ๗-๘ ปีบางรายก็ได้โฉนดมาแล้ว บางราย เกือบ ๑๐ ปีก็ยังไม่ได้โฉนด ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร เราก็อยากให้ทางรัฐบาลแก้ปัญหาตรงนี้ และยังมีอีกหลายรายบอกว่าช่วยลดขั้นตอนในการออกโฉนดที่ดินให้เร็วขึ้นกว่านี้ได้ไหม ถ้าได้พี่น้องจะมีความสุขมาก ๆ เลย เพราะว่า ส.ค. ๑ ยังมีอีกหลายรายที่ยังรอการออกโฉนด
โฉนดสำคัญอย่างไร ๑. สร้างหลักประกันความมั่นคงชีวิตและครอบครัว ให้กับพี่น้องประชาชน ๒. แปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน เพราะฉะนั้นชาวนา ชาวบ้านจะลืมตา อ้าปากได้ถ้ามีที่ทำกิน มีเอกสารสิทธิอยู่ในมือ และจะดีใจที่สุดถ้ามีที่ทำกิน ให้ยกเลิก ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ดิฉันขอเสนอแนะให้รัฐบาลชุดนี้มีความจริงใจกับ การแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน ช่วยปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสาร ที่ดินให้กับพี่น้องเรา ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับที่ดินก็ขอให้จบที่รุ่นเรานะคะ ขอให้จบที่ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ รัฐบาลชุดนี้จะทำให้ชาวบ้านสรรเสริญเยินยอ ดิฉันก็ขอให้ กำลังใจรัฐบาลทำงานชุดนี้ให้สำเร็จพี่น้องก็คงจะมีความสุขกันทั่วประเทศ ขอขอบพระคุณ ท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจหลวย อำเภอบุณฑริก และตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ๒ เรื่องค่ะ
เรื่องที่ ๑ ที่จังหวัดอุบลราชธานีมีเรื่องคือผู้ยื่นคำขอรับค่าจัดการศพผู้สูงอายุ ตามประเพณีศพละ ๓,๐๐๐ บาท ปัญหาก็คือบางราย ๖ เดือน บางราย ๑ ปี บางราย เอกสารหาย ช้ามากค่ะท่านประธาน ช้าจริง ๆ ช้าจนลืมไป จนหมดหวังแล้วค่ะ บางท่าน ไปเกิดใหม่แล้วก็มีก็ยังไม่ได้เงิน เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่น ความเชื่อถือต่อกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะลดลงเรื่อย ๆ นะคะ ขณะนี้จังหวัดอุบลราชธานี ค้างจ่ายทั้งหมด ๔,๐๘๓ ราย งบประมาณก็มี ช้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์หรือเปล่า ช่วยแก้ไขด้วยนะคะ ขอเร็วขึ้นประมาณ ๓๐-๖๐ วันได้ไหมคะ
เรื่องที่ ๒ คือโครงการบ้านคนจน บ้านพอเพียงให้ผู้ยากจนกลุ่มเปราะบาง ให้งบเพื่อสร้างบ้านหรือซ่อมแซม ๒๐,๐๐๐ บาทต่อหลัง น้อยมากค่ะ ค่าวัสดุก็แพง ค่าแรง ก็ไม่มี บ้านไม่มีพื้น ไม่มีห้องน้ำ บ้านไม่เสร็จ ต้องขอบริจาคจากประชาชน แรงงานก็ขอจาก ชาวบ้านนะคะ พัฒนาสังคมขอเป็นบ้านพอเพียงให้พออยู่ ๒๐,๐๐๐ บาทต่อหลัง น้อยมาก ขอเพิ่มเป็น ๔๐,๐๐๐ บาทต่อหลังได้ไหมคะ ขอฝากท่านประธานถึงท่านรัฐมนตรีวราวุธ ศิลปอาชา ด้วยนะคะ
เรื่องสุดท้าย ชาวบ้านจะดีใจมากที่สุดในชีวิตก็คือเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เปลี่ยนคนจนเป็นคนรวย ๓ ล้านครอบครัว เปลี่ยนคนจนเป็นคนพอเพียง ๑๒ ล้านคน พื้นที่ทั้งหมด ๓๖ ล้านไร่เศษ ๆ ทั้งประเทศไทย รัฐบาลเพียงเปลี่ยนใบ ส.ป.ก. ๑ ใบเป็นโฉนด ๑ ใบ ฝากท่านประธานสภาถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ด้วยนะคะ ขอแรงใจจากเพื่อน สส. ๕๐๐ ท่านช่วยกันสนับสนุนด้วย ขอขอบพระคุณ ท่านประธานค่ะ
ท่านประธานคะ ดิฉัน ๓๐๗ เห็นด้วยค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย ขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย ๑ ท่าน คือ ท่านอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบล โนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีข้อหารือท่านประธานเกี่ยวกับความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชนดังนี้ค่ะ ท่านประธานคะ เรื่องนี้ด่วนมากและเป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับพี่น้อง ประชาชน เรื่องอะไรท่านประธานทราบไหมคะ เรื่องช้างค่ะ สัตว์ใหญ่ช้างชนช้างดังสนั่นป่า ในเขต ๙ จังหวัดอุบลราชธานี ท่านประธานคะ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท่านสมาชิกสภาเทศบาล อบต. ชาวบ้านในเขตตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร ตำบลคอแลน ตำบลโพนงาม ตำบลห้วยข่า อำเภอบุณฑริก ชาวบ้านตื่นกลัว ได้รับความ เสียหายจากช้างป่าในพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริกยอดมนต์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่ามีช้างป่าจำนวน ๓๐-๓๕ ตัวออกจากป่าเข้าบุกรุกสวนยางพารา สวนมันสำปะหลัง สวนกล้วย พืชผักสวนครัว ทำลายบ้านเรือนพังหลายหลังทุกวันนะคะ ยามพลบค่ำตลอดทั้งคืน พอถึงเวลาเช้าก็เดินเข้าป่าไป เช่นนี้ทุกวัน เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเกิดช้างชนช้างเสียงดังสนั่นป่า ๖-๗ ชั่วโมง ชาวบ้านกลัวมากนะคะ ล่าสุดเมื่อ วันจันทร์ที่ ๑๑ ธันวาคมที่ผ่านมา ๒ วันนี้ฝูงช้างป่าบุกรุกเข้าหมู่บ้านภูไท ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร เพื่อหาอาหารกิน เข้าไปรื้อในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นกลัวอันตราย ถึงชีวิต หาอาหารไม่เจอ ไปเจอไหปลาร้า ชาวบ้านดิฉันก็เรียกว่า ปลาแดก เอางวงล้วงกิน ปลาร้าจนไม่เหลือ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ท่านประธานคะ ปัญหาความเดือดร้อนนี้ขอฝาก ท่านประธานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนะคะ
ประการที่ ๑ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะแก้ไข ปัญหานี้อย่างไร เพราะตอนนี้เข้าสู่ฤดูแล้ง ไม่มีแหล่งน้ำและอาหารให้ช้างกินแล้ว
ประการที่ ๒ พืชไร่ บ้านเรือนเสียหาย ทางภาครัฐจะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไร ก็ควรชดเชยให้มีมูลค่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของความเสียหายนะคะ อย่าให้ชาวบ้านถูกทอดทิ้ง ช่วยเหลือตนเอง จะนำความรุนแรง ความพลาดพลั้งทำให้ช้างตายได้นะคะ
ประการที่ ๓ ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าได้จัดเตรียมแหล่งน้ำ อาหาร ให้เพียงพอสำหรับช้างไหม และเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือไม่ให้ช้างออกมาทำร้ายชาวบ้าน แล้วก็เครื่องไม้เครื่องมือควรจะมีเจ้าหน้าที่ กำลังคน อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่นไฟ Spotlight ให้เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่อย่างด่วนที่สุด ดิฉันก็ขอฝากท่านประธานไปถึงหน่วยงาน ที่รับผิดชอบด้วยค่ะ ขอบพระคุณท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธาน ๓ เรื่อง ดังนี้ค่ะ
เรื่องที่ ๑ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากท่านกำนันตำบลนาโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอนเจริญ หมู่ ๑๑ ตำบลนาโพธิ์ คณะครูโรงเรียนนาโพธิ์วิทยา ผู้ปกครองว่าได้รับ ความเดือดร้อนจากการใช้ถนนของกรมทางหลวงหมายเลข ๒๑๗๒ ซึ่งจากบ้านดอนจิก มาบ้านโนนเลียง ช่วงบ้านดอนเจริญถึงหน้าโรงเรียนนาโพธิ์วิทยา กลางคืนมืดมากค่ะ แล้วเกิดอุบัติเหตุบ่อย สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินหลายครั้ง ชาวบ้านต้องการไฟส่องสว่าง ประมาณ ๒๐ ต้นค่ะ
เรื่องที่ ๒ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากท่านกำนันจรรยา พลจันทร์ กำนันตำบลโนนก่อ ผู้ใหญ่สมัย คงยืน ผู้ใหญ่บ้านห้วยเดื่อ สมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลโนนก่อและชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ถนนทางหลวง หมายเลข ๒๓๙๖ ช่องเม็ก-หนองแสง ซึ่งเป็นช่วงบ้านห้วยเดื่อ ตำบลโนนก่อ กลางคืน มืดมากและมีรถ ๑๘ ล้อพ่วงวิ่งผ่าน เพราะว่าเป็นถนนชายแดนติดกับ สปป. ลาว และมีรถ ๑๘ ล้อพ่วงวิ่งผ่าน เพราะว่าเป็นถนนชายแดนติดกับ สปป. ลาว เกิดอุบัติเหตุบ่อย ชาวบ้านต้องการไฟส่องสว่าง ๓๐ ต้น
เรื่องที่ ๓ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านตูม อำเภอนาจะหลวย ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ ถนนของทางหลวงชนบทสาย อบ. ๔๐๓๙ ถนนมืดมากค่ะ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งสูญเสีย ชีวิตและทรัพย์สิน ต้องการไฟส่องสว่าง ๒ จุด จุดที่ ๑ กิโลเมตรที่ ๒๘ ถึงกิโลเมตรที่ ๒๙ สะพานข้ามห้วยปูนบ้านโนนแดง หมู่ ๘ ถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน บ้านโนนแดง ตำบลบ้านตูม จุดที่ ๒ กิโลเมตรที่ ๓๒ ถึงกิโลเมตรที่ ๓๕+๕๐๐ บ้านดอนเจริญ หมู่ ๑๖ ถึงสะพานบ้านคำบอน หมู่ ๓ ตำบลบ้านตูม อำเภอนาจะหลวย ดิฉันขอฝากท่านประธาน ถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร ตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีข้อหารือท่านประธานดังนี้ค่ะ
ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก ท่านวรพจน์ บุตรมาตย์ นายกเทศมนตรีตำบลบุณฑริก นางกัณหา โพธิ์ธธารินทร์ ประธาน สภาเทศบาลตำบลบุณฑริก สมาชิกสภาเทศบาลบุณฑริก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้วก็ชาวบ้าน ในเขตเทศบาลชุมชนตำบลบุณฑริกว่ามีขยะใจกลางเมือง ซึ่งเป็นทำเลเจริญที่สุดของชุมชน อำเภอบุณฑริก ขยะดังกล่าวเป็นสถานที่ราชการ ท่านประธานดูภาพไปเรื่อย ๆ นะคะ มีที่ทำงาน บ้านพัก เสาธงชาติ สวน ต้นไม้ ปล่อยปละละเลยมานานนับสิบปี บ้านพักก็ร้าง สำนักงานก็ผุพังค่ะ ไม่มีการปรับปรุงและซ่อมแซม กลายเป็นแหล่งอบายมุขในเขตชุมชน เทศบาลบุณฑริก เป็นแหล่งชุมชนที่ไม่น่าดูเลย อยู่ในเขตเทศบาล ขยะใจกลางเมืองนี้ก็คือ สำนักงานของ อบ. ๑๑ เดิม ปัจจุบันเป็นของกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนชาวอำเภอบุณฑริกขาดความเชื่อถือในหน่วยงาน ชาวบ้าน ต้องการ
๑. ขอให้ปรับปรุง ซ่อมแซม ใส่ใจพัฒนาทั้งสำนักงาน บ้านพัก สวน ต้นไม้ และปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้
๒. ลดอบายมุขต่าง ๆ โดยป้องกันแนวเขตไม่ให้ใครเข้าไปบุกรุกสำนักงาน และมีมิจฉาชีพ
๓. หากไม่มีงบประมาณที่จะปรับปรุงหรือว่าพัฒนาก็ขอคืนให้ราชพัสดุ แล้วให้ทางเทศบาลตำบลบุณฑริกจะได้จัดสรรงบประมาณพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ เป็นที่ ออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนทั้งอำเภอบุณฑริก ดิฉันก็ขอฝากท่านประธานสภา ถึงท่าน พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณท่านประธานค่ะ
ท่านประธานคะ ๓๐๗ รำพูล ตันติวณิชชานนท์ แสดงตนค่ะ
กราบเรียนท่านประธาน สภาที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๙ จังหวัด อุบลราชธานี ประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุญฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบล โนนก่อ ท่านประธานคะ ดิฉันขออภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ อยู่กับใครมีความสุขมีคุณค่าก็อยู่ต่อไป ดิฉันจะขอ อภิปราย ๓ ส่วนค่ะท่านประธานเพื่อให้ความเข้าใจถึงแนวคิดของพรรคไทยสร้างไทย ที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง
ส่วนแรก จุดยืนของพรรคไทยสร้างไทย คือสนับสนุนคนตัวเล็กและคนเพศ หลากหลายให้ได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ดังนั้นกลุ่มหลากหลายทางเพศพึงต้อง ได้สิทธิเท่าเทียมทุกคน สร้างให้เป็นจุดหมายของคนกลุ่มหลากหลายทางเพศให้ได้ การขับเคลื่อนสมรสเท่าเทียมเรามีพระราชบัญญัติ ๔ ฉบับ ซึ่งมีความแตกต่างในรายละเอียด ซึ่งเพื่อนก็ได้อภิปรายไปแล้วและรับทราบข้อมูลไปแล้ว ซึ่งทุกร่าง พ.ร.บ. จะมีใจความสำคัญ ที่เหมือนกันก็คือ คู่รักทุกเพศหลากหลายจะได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกันเหมือนกับคู่รักทั่วไป เช่น การรับบุตรบุญธรรม การรับมรดก การทำประกันชีวิต เป็นต้น
ส่วนที่ ๒ การต่อยอดของประเทศไทยหลัง พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้รับการผลักดัน ได้สำเร็จแล้ว ความพยายามของหลายฝ่ายที่จะพยายามทำให้ประเทศไทยของเราเป็น Destination หรือปลายทางของการท่องเที่ยวของเพศหลากหลายจากความพยายามผลักดัน Soft Power ที่เกี่ยวข้อง เช่น Series Y Cabaret Show หรือเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride ภายใน ปี ๒๐๒๘ ที่เพื่อนสมาชิกได้อภิปรายไปแล้ว ที่สอดคล้องกับการทำงาน Bangkok Pride ซึ่งเป็นงาน Pride ใจกลางกรุงเทพมหานครที่มีผู้ร่วมงานกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน ดิฉันจึงขอย้ำว่า การพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากผลักดันได้สำเร็จ ประเทศไทยของเราจะเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมทางเพศจริง ๆ ค่ะ และดำเนินการตาม ความคาดหวังที่หลายฝ่ายได้วางเป้าหมายเอาไว้
ส่วนที่ ๓ จะขอฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี นั่นก็คือสิ่งที่อยากให้ดำเนินการ ต่อจาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่านไปแล้ว ก็คือ พ.ร.บ. ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลทั้งฉบับของ ภาคประชาชน ซึ่งได้ร่วมลงลายมือชื่อกัน ๑๒,๐๐๐ กว่ารายชื่อมาแล้ว ซึ่งจะเป็นการเติมเต็ม ทุกความฝันของประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยสถานะของร่างกฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ ที่ยังคงค้างอยู่นั้นให้ได้ ดังนั้นหากท่านนายกรัฐมนตรีเร่งรัดเรื่องนี้จะทำให้ประชาชนทุกกลุ่ม เข้าถึงการทำงานและเข้ารับการบริการด้านต่าง ๆ จากภาครัฐได้โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งถือว่า เป็นการเติมเต็มต่อยอดความฝันของประชาชนคนไทยได้อย่างดียิ่งค่ะ
สุดท้ายดิฉันก็ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกพรรคการเมืองที่จะช่วยกันผลักดัน และผ่านร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ พรรคไทยสร้างไทยของเราพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่จะทำให้ ความร่วมมือให้เกิด พ.ร.บ. ฉบับนี้ในวันนี้ค่ะ และพร้อมจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบว่าผลงานของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ นี้สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้สำเร็จเพื่อ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องเราทั่วประเทศไทย เพราะพี่น้องเราก็คงจะมีความสุขมาก ก็ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร ตำบลโนนกอก พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธาน ก่อนอื่นดิฉันขอขอบคุณ ผอ. แขวง การทางหลวงชนบทอุบลราชธานี หมวดการทางหลวงชนบท อำเภอนาจะหลวยที่ได้ช่วย แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เรื่องถนนสาย อบ.๔๐๒๙ เกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างดับ และเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งท่านก็ได้แก้ปัญหาเบื้องต้นไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีพอ ต้องรองบประมาณ ท่านประธานค่ะ ดิฉันมีเรื่องการร้องเรียนถนนสาย อบ.๔๐๒๙ ช่วงตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอนาจะหลวย กลางคืนถนนมืดมากทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สูญเสียชีวิตและ ทรัพย์สินหลายราย ชาวบ้านต้องการไฟส่องสว่างดังนี้ค่ะ ช่วงที่ ๑ ได้รับการร้องเรียน จากนายเหรียญทอง ทาระกะจัด ผู้ใหญ่บ้านแสนสุข หมู่ที่ ๖ ตำบลโนนสมบูรณ์ และ ชาวบ้านต้องการไฟส่องสว่างช่วง กม. ที่ ๒๐ ถึง กม. ที่ ๒๑ จำนวน ๒๐ ต้น ช่วงที่ ๒ ได้รับการร้องเรียนจากนายสมคิด มงคลกาล กำนันตำบลโนนสมบูรณ์ นายอุทิศ บุตรโท ผู้ใหญ่บ้านโนนบก หมู่ที่ ๑๐ และชาวบ้านต้องการไฟส่องสว่างกิโลเมตรที่ ๒๓-๒๔ จำนวน ๒๐ ต้น ช่วงที่ ๓ ได้รับการร้องเรียนจากนายวิเชียร ทองสรรค์ ผู้ใหญ่บ้านโนนเกษม หมู่ที่ ๙ และนายสุพรรณ ปรากฏ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสมบูรณ์ และสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลโนนสมบูรณ์ ต้องการไฟฟ้าส่องสว่าง ช่วง กม. ที่ ๒๔ +๕๐๐ ถึง กม.ที่ ๒๗ ถึงหน้าโรงเรียนบ้านป่าพอก จำนวน ๕๐ ต้น ขอฝากท่านประธานถึง ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะคะ ขอบคุณท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบล โนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ก่อนอื่นดิฉันและพี่น้องชาวเขต ๙ ขอขอบคุณท่านประธานสภา และท่านอธิบดีกรมป่าไม้ขออนุญาตเอ่ยนาม ท่านสุรชัย อจลบุญ ที่หน่วยงานของท่านได้ ส่งคืนสำนักงาน อบ. ๑๑ ให้แก่พี่น้องชาวอำเภอบุณฑริกและอำเภอใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์ เป็นสวนสาธารณะ เป็นสถานที่ออกกำลังกาย สถานที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนทั่วไป ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานสภาดังนี้ค่ะ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากนายสงวน พรหมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลคอแลน สมาชิกสภาเทศบาล นายวิวัฒน์ ศรประสิทธิ์ กำนันตำบล คอแลน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากถนนสาย อบ. ๓๐๘๙ จาก บ้านโนนบากถึงบ้านห้วยทราย ระยะทาง ๑๗ กิโลเมตร
ถนนสายนี้มีสะพาน ค.ส.ล. แคบมาก จำนวน ๑๐ แห่ง สะพานแคบมาก สะพานกว้าง ๔ เมตร แต่ถนนลาดยางกว้าง ๖ เมตร เป็นสะพานวัดใจ ใครใจกล้าข้ามสะพานไปก่อน อีกฝ่ายหนึ่งต้องถอยกลับระยะยาว แต่บางครั้งถ้ารีบร้อนวัดใจกันว่าใครจะไปก่อนก็เกิดชนกันกลางสะพานเหมือนในภาพนะคะ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินหลายราย สะพานแคบ ๑๐ แห่งนี้สร้างมา นานกว่า ๔๐ ปี สมัยก่อนมีรถยนต์ไม่เกินหมู่บ้านละ ๒ คัน แต่ปัจจุบันมีรถยนต์มาก เกิน ๓๐๐ กว่าคันจาก ๒๐๐ หลังคา เดิมถนนสาย อบ. ๓๐๘๙ เป็นของหน่วยงานเร่งรัด พัฒนาชนบท ก็คือ รพช. ซึ่งยุบไปแล้ว ได้ถ่ายโอนให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี มานานกว่า ๒๐ ปี การถ่ายโอนโอนแต่งาน แต่เม็ดเงินไม่โอนให้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ดิฉันขอฝากข้อหารือนี้กับท่านประธานสภาถึงอธิบดี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ขอบคุณ ท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธาน เรื่องคนตัวเล็ก ได้รับความเดือดร้อนเป็น อย่างมากดังนี้ค่ะ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก นายไสว ใบทอง ผู้ใหญ่บ้านไร่ภูจอง หมู่ ๑๙ ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย และชาวบ้านอีก ๒๐๐ ครอบครัว เนื่องจากอุทยานแห่งชาติ ภูจองนายอย ซึ่งมีพื้นที่ ๔๒๘,๗๕๐ ไร่ ซึ่งครอบคลุมอำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย อำเภอน้ำยืน และเป็นพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป. ลาว และกัมพูชา ตั้งแต่ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๐ เป็นต้นมามีปัญหาความขัดแย้งและปะทะระหว่างชาวบ้านในเขต ป่าสงวนและชาวบ้านประมาณ ๒๐๐ ครอบครัว เป็นเรื่องปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ทำกิน ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ ซึ่งไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่อุทยานเลยนะคะ ในอดีตได้มีการแก้ไขปัญหาตาม หลักเกณฑ์ก็คือให้ชาวบ้านอยู่อาศัยและทำกินโดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ต่อมา กฎหมายใหม่ตามมาตรา ๖๙ เปิดโอกาสให้ชาวบ้านสามารถเก็บหาของป่าหากินในเขตพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ เพื่อดำรงอาชีพอย่างปกติสุข และมีข้อผ่อนปรน ทำให้คนอยู่กับป่า สามารถอยู่ ร่วมกันได้อย่างสมดุล ปัจจุบันชาวบ้านอำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย ประมาณ ๒๐๐ ครอบครัวกำลังจะอดตายค่ะ เพราะอะไรทราบไหมคะ เพราะว่ายางพาราที่ปลูกไว้ และกรีดเอาน้ำยางได้หมดอายุการให้น้ำยางแล้ว ชาวบ้านจำเป็นต้องตัดต้นยางพาราเก่า แล้วปลูกยางใหม่ทดแทน ซึ่งชาวบ้านต้องการขอผ่อนปรนตัดต้นยางพาราเก่าซึ่งอาจจะ แบ่งตัดและปลูกใหม่ทดแทน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของแต่ละครอบครัว ที่สำคัญที่สุดก็คือชาวบ้านจะได้เรียนรู้ว่าป่าและต้นไม้นั้นสำคัญและมีคุณค่า ช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตาแทน ดิฉันขอฝากท่านประธานถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทยค่ะ ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานดังนี้ค่ะ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก นายบันลือ ศักดิ์นา ผู้ใหญ่บ้านบ้านโพนงาม นายพลภัทร สัมผัส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นายทวีศักดิ์ บุปผามาลา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบุณฑริก ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในเขตเทศบาลบุณฑริก
ท่านประธานคะ ชาวบ้าน อยากให้ท่านประธานช่วยกำจัดจุดอ่อนของโรงพักบุณฑริกเก่านะคะ ซึ่งรกร้างมาเกือบ ๓๐ ปี เป็นที่เจริญที่สุดของชุมชน อยู่ใจกลางเมืองติดตลาดสด ตรงข้ามกับบ้านพักนายอำเภอ ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง เนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ปัจจุบันสถานีตำรวจภูธรอำเภอบุณฑริก ได้ย้ายไปก่อสร้างแห่งใหม่เนื้อที่ ๑๐ ไร่ แต่โรงพักเก่าก็ยังโทรมเหมือนเดิม ท่านประธานคะ ผู้นำชุมชนต้องการ
ประการที่ ๑ ขอคืนพื้นที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ให้กับราชพัสดุจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้เทศบาลตำบลบุณฑริกขอใช้พื้นที่เพื่อพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน ซึ่งการขอคืน เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๑ เป็นต้นมา
ประการที่ ๒ ของบประมาณซ่อมแซมปรับปรุงสำนักงานตำรวจแห่งใหม่ แฟลตตำรวจที่เสื่อมโทรม เสื่อมสภาพตามตามเวลา ซึ่งก่อสร้างมา ๓๐ ปี ฝ้าเพดานรั่วซึม
ประการที่ ๓ ของบประมาณสร้างบ้านพักแฟลตเพิ่มเติม ปัจจุบันสถานี ตำรวจภูธรบุณฑริกมีตำรวจ ๕๔ นาย แต่บ้านพักมีแค่ ๔๐ นาย อีก ๑๔ นายต้องออกไป เสียสละหาบ้านเช่าข้างนอก เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่อยู่ เขตอำเภอชายแดนนะคะท่านประธาน ชาวบ้านฝากชมเชยท่านผู้กำกับและนายตำรวจ ทุกนายที่ทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เป็นที่น่าพอใจของประชาชน เป็นอย่างยิ่งค่ะ ดิฉันขอฝากเรื่องหารือนี้ให้กับท่านประธานสภาไปยังท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณ ท่านประธานค่ะ
ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วย อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานฝากถึงท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจในการอนุมัติการจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ ๒๕๖๗ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำเป็น จริง ๆ ค่ะท่านประธาน พี่น้องชาวอำเภอนาจะหลวยของดิฉันขอความเมตตาจาก ท่านประธาน ดังนี้
ประการที่ ๑ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก นายศิริศักดิ์ สุบิน นายก อบต. โนนสวรรค์ พร้อมสมาชิก อบต. และชาวบ้าน ต้องการถนน คสล. สายบ้านดงสว่างไปดงชี ตำบลโนนสวรรค์ ถนนกว้าง ๔ เมตร ยาว ๑,๙๐๐ เมตร งบประมาณ ๔,๓๖๐,๔๐๐ บาท
ประการที่ ๒ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก นายณรงค์ จรรยากรณ์ นายก อบต. พรสวรรค์ พร้อมสมาชิก อบต. และชาวบ้าน ต้องการถนน ๒ โครงการ โครงการที่ ๑ ถนน คสล. สายหนองดง-บ้านบุ่งคำ ตำบลพรสวรรค์ ถนนกว้าง ๔ เมตร ยาว ๑,๑๕๐ เมตร งบประมาณ ๒,๖๖๐,๐๐๐ บาท โครงการที่ ๒ ถนน คสล. สายบ้านคุ้ม ตำบลพรสวรรค์ ไปบ้านคำบอน ตำบลบ้านตูม ถนนกว้าง ๔ เมตร ยาว ๒,๓๐๐ เมตร งบประมาณ ๕,๓๐๙,๐๐๐ บาท
ประการที่ ๓ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากนายนิรันดร์ เสมอสุข นายก อบต. โสกแสง พร้อมสมาชิก อบต. และชาวบ้าน ต้องการถนน ๓ โครงการดังนี้ ถนนที่ ๑ บ้านคำม่วง หมู่ที่ ๓ ตำบลโสกแสง อำเภอนาจะหลวยไปบ้านหนองยู ตำบลโนนค้อ อำเภอ บุณฑริก ถนนกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑,๐๐๐ เมตร งบประมาณ ๓ ล้านบาท โครงการที่ ๒ ถนน คสล. บ้านทับไฮ ตำบลโสกแสง ไปบ้านโนนแดง ตำบลบ้านตูม ถนนกว้าง ๕ เมตร ยาว ๑,๐๐๐ เมตร งบประมาณ ๓ ล้านบาท โครงการที่ ๓ ถนน คสล. จากบ้านคำม่วง หมู่ที่ ๓ ตำบลโสกแสงไปบ้านโนนแดง ตำบลบ้านตูม กว้าง ๕ เมตร ยาว ๑,๐๐๐ เมตร งบประมาณ ๓ ล้านบาท ดิฉันขอฝากเรื่องร้องเรียนเรื่องถนน ๖ โครงการ ซึ่งจำเป็นที่สุดของ พี่น้องชาวอำเภอนาจะหลวย เพราะว่าฤดูฝนน้ำท่วม ถนนขาดถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จึงขอความเมตตาจากท่านประธานสภาฝากถึงท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของพี่น้องชาวอำเภอนาจะหลวย ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ
ท่านประธานคะ รำพูล ตันติวณิชชานนท์ ๓๐๗ แสดงตนค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบล โนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ท่านประธานคะ ดิฉันขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายพิจารณา ศึกษาการพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานประชาชน ของคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ดิฉันขอชื่นชมประธานคณะกรรมาธิการ และคณะกรรมาธิการ คณะอนุ กรรมาธิการทุกท่านที่ได้ศึกษาเรื่องการพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานของประชาชน ได้เป็นอย่างดี ละเอียด ชัดเจน เสนอแนะแนวทางแก้ไขด้วยค่ะ ปัญหาระบบบำนาญแห่งชาติ ได้อย่างละเอียด ขอชื่นชมนะคะ แล้วก็รูปเล่มสีสวยมากค่ะ ผู้สูงอายุพอใจมาก มีความสุข ในสีชมพูนะคะ ก็ขอขอบคุณที่ให้สีหนังสือเล่มนี้นะคะ ท่านประธานคะ ปัญหาใหญ่ของโลก ของเราอีกปัญหาหนึ่งก็คือที่หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยของเรากำลังเผชิญ ก็คือ โครงสร้างประชากรกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัย ประชาชนที่มีอายุเกินกว่า ๖๐ ปี มีมาก เกิน ๑๒ ล้านคนแล้ว เรียกว่า ๑ ใน ๕ ของประชากรรวมทั้งประเทศ และมีแนวโน้มจะสูงขึ้น เรื่อย ๆ ในส่วนของปัญหาสังคมที่จะรุมเร้าตามมาก็คือประเทศต้องเป็นประเทศสังคม สงเคราะห์ และระบบสวัสดิการมากขึ้นกว่าเดิมนะคะ ซึ่งจะเป็นภาระให้แก่งบประมาณ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสังคมผู้สูงอายุต้องการการดูแล ต้องการการเลี้ยงชีพ ต้องการ การมีเพื่อน และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขค่ะ การพัฒนาระบบบำนาญของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหลักประกันทางสังคม เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่มีต่อประชาชน รายได้ที่เพียงพอในการดำรงชีพ เมื่อสู่วัยชรารายได้ ที่เพียงพอ เศรษฐกิจปัจจุบัน การดำรงชีพอย่างเพียงพอ ต้องเหนือกว่าเส้นความยากจนค่ะ อย่างน้อยเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ก็จะลดภาระการพึ่งพิงลูกหลาน ลดการส่งต่อ ความยากจนจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนเรื้อรังมานาน เป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจทางอ้อม อย่างน้อยปีละ ๑๒ รอบค่ะท่านประธาน และขอสนับสนุนบำนาญ แบบถ้วนหน้าให้แก่ผู้สูงอายุที่มีสิทธิ และไม่ให้เลือกปฏิบัติด้วยนะคะ ไม่ให้ใช้ดุลยพินิจด้วย ในการเลือกว่าใครจะได้รับบำนาญ ๓,๐๐๐ บาท ท่านประธานคะ ท่านทราบไหมว่าดุลยพินิจ เป็นเรื่องอันตรายมาก ใช้เส้นใช้สายใช้พวก บางครั้งอาจจะเรียกว่าระบบอุปถัมภ์ ผู้สูงอายุ บางท่านอาจตกหล่นโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ซึ่งเป็นการซ้ำเติมระบบอุปถัมภ์ของไทย เป็นสิ่งเลวร้ายเรื้อรังมาตลอด มีการเลือกปฏิบัติ ผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังก็จะตกหล่น ท้อแท้ ยิ่งเกิดปัญหาสังคมต่อไปค่ะ ท่านประธานที่เคารพคะ สังคมต่างจังหวัดของดิฉันเป็นสังคม ที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ลูกหลานต้องไปทำงานต่างจังหวัดหาเลี้ยงพ่อแม่ ปล่อยให้พ่อแม่ อยู่ตามลำพัง ดิฉันออกพื้นที่บางทีผู้สูงอายุอยู่แค่คนเดียวอีกคนหนึ่งก็ไปแล้วค่ะ ขึ้นสวรรค์ ไปแล้วเหลือตัวคนเดียว บางคนก็ป่วยติดเตียง พิการ ไม่มีคนดูแล เพราะฉะนั้นน่าเห็นใจมาก เพราะว่าผู้สูงอายุเหล่านี้ท่านสร้างคน สร้างประเทศชาติมาหลายปี พออายุ ๖๐ ปี พวกเรา ก็ควรจะไปดูแลท่าน ลูก ๆ ไปทำงานหาเลี้ยงชีพ บางเดือนไม่มีเงินที่จะส่งให้พ่อแม่ พ่อแม่ก็หากินแบบอดมื้อกินมื้อ บางครั้งต้องไปวัดค่ะ ไปวัดไปหาอาหารที่วัดทาน เพราะว่า พี่น้องไปทำบุญก็จะเหลืออาหาร แล้วก็ห่ออาหารกลับบ้าน อันนี้คือสังคมชนบทที่ดิฉันได้เจอ รัฐจ่ายเงินผู้สูงอายุปัจจุบัน เดือนละ ๖๐๐ บาท ๗๐๐ บาท ๘๐๐ บาท ๑,๐๐๐ บาท ไม่พอกินหรอกค่ะ ไม่พอกินแน่นอนค่ะ วันละ ๒๐ บาทซื้ออะไรได้คะ ส้มตำตามบ้านนอก ก็จานละ ๔๐ บาท ก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งก็ ๖๐ บาท ถ้า ๒๐ บาท ได้แค่ลูกชิ้นค่ะ แม่ค้าเขาบอก นะคะ ได้แค่ลูกชิ้น เพราะฉะนั้น ๒๐ บาท ซื้ออะไรไม่ได้ค่ะ ท่านประธานคะ ผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป ฝากความหวังมากับ สส. ไปเจอ ซอยแนเด้อท่าน สส. ยายอยากได้ ๓,๐๐๐ บาท นี่ล่ะคะ ฝากทุกครัวเรือน อันนี้คือที่อุบลราชธานี ที่จังหวัดอื่นดิฉันก็คิดว่า คงเหมือนกันนะคะ ช่วยเหลือผู้สูงอายุอย่างน้อย ๖๐ ปีขึ้นไป น่าจะได้เดือนละ ๓,๐๐๐ บาท อย่างถ้วนหน้า วันละ ๑๐๐ บาท พี่น้องพออยู่ได้ค่ะ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้สูงวัย สร้างความมั่นใจให้กับลูกหลานที่ไปทำงาน เพื่อแบ่งเบาภาระลูกหลาน แล้วให้ลูกหลานที่ไป ทำงานได้สร้างฐานะครอบครัวของตัวเองให้มั่นคง ถ้าได้บำนาญ คนละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน ผู้สูงอายุทั้งประเทศไทยจะดีใจมาก และมีความสุขอย่างมากค่ะท่านประธาน ขอบคุณท่าน ประธานค่ะ