นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

  • ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ขออนุญาตได้ตอบกระทู้ถามสด ของท่านรอมฎอน ปันจอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ที่ให้ความสนใจ ในเรื่องของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และมีคำถามที่เกี่ยวข้อง กฎอัยการศึก และกฎหมายความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร ต้องเรียนว่าในเรื่องของการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ รัฐบาลนี้ได้มารับภาระหน้าที่ ต่อจากรัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลที่แล้วก็ดำเนินการในเรื่องของการกำหนดพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก. ดังกล่าวนั้น ทั้งหมดรวมแล้ว ๓๐ อำเภอ ใน ๓ จังหวัด ในการทำงานและการดำเนินการผมอยากได้ทำความเข้าใจกับท่านสมาชิกว่าการกำหนด พื้นที่ไม่ได้ทำขึ้นมาโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เป็นการดำเนินการบริหารบูรณาการ โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเลขาธิการเป็นพลเรือน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งมีเสนาธิการทหารบกเป็นเลขาธิการอีกตำแหน่งหนึ่ง การดำเนินการและกำหนดพื้นที่ซึ่งมีเป้าหมายจะยกเลิกพื้นที่ทั้งหมดนี้ในปี ๒๕๗๐ ก็มีขั้นตอนในการดำเนินการต่าง ๆ และมีตัวชี้วัด เป้าหมายอย่างน้อยในปี พ.ศ. หนึ่ง ประมาณ ๒ อำเภอ แล้วในปี ๒๕๗๐ ก็จะปรับลดเงื่อนไขทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ที่ท่านได้ถาม ในประกาศกฎอัยการศึกนั้นก็ประกาศโดยกระทรวงกลาโหม ซึ่งการปรับลดต่าง ๆ เหล่านั้น ก็ได้มีการพูดคุย ซึ่ง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีก็ได้ให้แนวและนโยบายในการปรับลดทั้งพื้นที่ ทั้งหมดอย่างไร ซึ่งคำถามของท่านก็ถามว่าในระยะเวลา ๓๐ วันนี้ให้นำกลับเอาเข้ามา เพราะโดยปกติแล้วการขยายอายุในเรื่องของ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนั้นแต่ละครั้ง ๓ เดือน ในรัฐบาล ดั้งเดิมที่ได้ทำการทุก ๆ ระยะ ๓ เดือน คือต้องต่อระยะเวลาในอำเภอที่เหลืออยู่ ๒๒ อำเภอ หรือ ๒๓ อำเภอ ทุก ๓ เดือน แล้วในช่วงไหนที่สามารถลดได้ก็จะมาปรับลดระยะเวลา แนวทางต่าง ๆ จากการดำเนินการเรามาถึงในยุคนี้สมัยนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้ผมเมื่อวันที่ ๑๘ ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการจากวันที่ ๑๘ จนถึงวันนี้ท่านก็รู้แล้วว่าเพียง ๒-๓ วัน วันที่ ๑๙ ผมก็ได้เดินทางไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปที่ปัตตานี ยะลา ก็ได้ทำการพูดคุย กับผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศอ.บต. แล้วก็พี่น้องประชาชนที่มีโอกาสได้พบปะ กันว่าในความรู้สึกหรือการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินในพื้นที่แต่ละจังหวัดนั้นความเห็นก็ยัง ไม่เด็ดขาดอย่างไร บางคนก็บอกว่ามันต้องมีแผนรองรับให้ชัดเจนเหมือนท่านรอมฎอนได้พูด ได้ถาม บางคนก็บอกว่าในขณะนี้ถ้ายกเลิกไปแล้วความปลอดภัยของผู้คนเหล่านั้นเขาจะทำ อย่างไร เขามีความวิตกกังวลในสังคมพหุนั้นมีความเห็นอย่างไร ในการปรับลดแนวทางโดยที่ มีหน่วยงานใหญ่ ๆ ๒ หน่วยงานที่ได้กำหนดตัวแผนเข้าไว้ การดำเนินการที่ผมได้ให้แนวทาง ในส่วนของท่านเลขาธิการของ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน คณะกรรมการซึ่งผมเป็นประธาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเพิ่งบอกให้เมื่อวันที่ ๑๘ ผมก็ให้แนวทางว่าเราเป็นรัฐบาลที่มาจาก การเลือกตั้ง เราฟังการทำงานแต่เดิมในส่วนของการดำเนินการจะมี กอ.รมน. ภาค ๔ ส่วนหน้า ตำรวจภูธรภาค ๙ กรมการปกครอง ในหน่วยงานต่าง ๆ เป็นหน่วยงานส่วนใหญ่เราจะฟังจากทางราชการเป็นส่วนใหญ่ ศอ.บต. ผมก็ได้บอกว่าการดำเนินการแล้วจัดการรับฟังความคิดเห็นของผู้คนทั้งหลายให้เสร็จภายใน ๒ สัปดาห์ แล้วเราจะมาพิจารณากันว่าการปรับลดนั้น และแผนในการดำเนินการที่จะต้อง ทำอย่างไร ผมบอกว่าในแต่ละอำเภอให้ฟังท่าน สส. ให้ฟังท่าน สจ. ฟังท่านผู้นำทางศาสนา โรงเรียน ผู้บริหารการศึกษาหรือท้องถิ่นทั้งหลายให้ฟังความคิดเห็นให้หมดว่าเขาอยู่กันแล้ว เขามีความสุขอย่างไร เขาไม่ต้องการอะไร อย่างไร ให้ฟัง เพราะว่าเรามาจากรัฐบาล ของการเลือกตั้งเราก็ต้องฟังผู้คน แล้วเราจะบริหารจัดการในแนวทางต่าง ๆ คือรับฟัง แผนอะไรต่าง ๆ ท่านต้องเรียนว่าผมมารับตำแหน่งงาน ทำหน้าที่ตรงนี้เพียง ๒ วัน และวันนี้ ก็เป็นวันที่ต้องมาตอบกระทู้ถาม ผมได้สั่งการในเบื้องต้นแล้วว่าเราต้องรับฟังเสียงของพี่น้อง ประชาชนหรือผู้คนต่าง ๆ ในพระราชบัญญัติต่าง ๆ ที่ท่านบอกไว้ว่า ๓ พี่น้อง สุดท้าย การยกเลิกอำเภอทั้งหมดแล้วมันก็จะต้องลงไปถึงพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร ปี ๒๕๕๑ ท่านบอกว่ามาตรา ๒๑ โครงการพาคนกลับบ้าน มันเหมือน โครงการเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหาเสียงอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น ผมคิดว่าเราอย่าไปมองว่า มันเป็นเรื่องของการเมืองหาเสียงอะไรต่าง ๆ แต่ว่าถ้าเราทำเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เกิด ความสงบหรือปรองดองในทุกสิ่งทุกอย่างแล้วในแนวทางต่าง ๆ ซึ่งผมก็เป็นผู้แทนราษฎร เหมือนกับท่านนะครับ ในฐานะผู้แทนราษฎรผมอยากให้พี่น้องประชาชนหันหน้าพูดคุย ทำความเข้าใจกัน ท่านก็ได้มีการอภิปรายถึง ศอ.บต. สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นผมก็ได้ดูนะครับ วันนี้ ศอ.บต. แนวทางของการทำงานผมมั่นใจว่าที่เข้าไปดูผมจะใช้เวลาในการบริหารจัดการ เพราะท่านนายกรัฐมนตรีให้กำกับและสั่งการได้ด้วย ตรงนี้จะช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ แล้วจะฟังเสียงจากผู้นำทั้งหลาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง ๓ จังหวัด ๕ จังหวัดตรงนั้นช่วยกันแนะนำ และผมก็ดูแล้วในครอบครัวต่าง ๆ จากข้อมูล ที่ได้รับฟังมาประมาณ ๔๐๐,๐๐๐-๕๐๐,๐๐๐ คนยังมีรายได้ต่ำ และในส่วนของนับเป็น ครอบครัวก็ประมาณ ๕๐,๐๐๐ ครอบครัว ตรงนี้ผมคิดว่าในรูปแบบแนวทางผมพอนึก ออกว่าผมจะต้องช่วยเสริมนโยบาย ปรับนโยบายในเรื่องรายได้ของพี่น้องประชาชน ได้อย่างไร ตรงนี้ผมคิดว่ามันจะช่วยเสริมทำให้เกิดความแข็งแกร่งแล้วก็หันหน้าพูดคุยกันได้ อย่างมีความสุขและสันติภาพในสังคมพหุ ตรงนี้ผมคิดว่าจะไปด้วยกันได้ แล้วก็ต้องขอเวลา ในส่วนของแนวทางต่าง ๆ ซึ่งมันอาจจะเป็นคำตอบที่ไม่ได้พออกพอใจของท่านรอมฎอนเลย เพราะเราต้องบอกว่าท่านนายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้ดำเนินการโดยรวดเร็ว และผมก็คงไม่ตอบ ในรายละเอียดลึกลงไปกว่านี้ ผมต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๓๐ วัน ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ให้ส่งเรื่องหรือรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้ให้ ครม. ได้พิจารณาต่อครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับ ก็ต้องฟังครับ ถ้าคุณรอมฏอนจะช่วยด้วยก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะว่าเราอยากรับฟังอย่างหลากหลาย แล้วช่วยกันครับ หนทางมันจะเดินไปด้วยดี ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพครับ ในเรื่องพระราชบัญญัติเป็นเรื่องที่รัฐบาลแล้วก็ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายจะต้องดูในรายละเอียด ผมอาจจะไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ท่านถามอย่างลึกซึ้ง เพราะพูดอะไรเดี๋ยวจะผิดพลาด เพราะเรื่อง พระราชบัญญัติมันเกี่ยวข้องกับเรื่องของสภา อยากจะให้สภาได้พิจารณา ในส่วนที่ ท่านรอมฎอนจะไม่ค่อยสบายใจ แต่ขอให้ท่านสบายใจเพราะว่าผมทำงานตรงไปตรงมา ในขณะที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ผ่านมา ผมก็ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ การป้องกันการทรมาน ทำให้บุคคลสูญหายต่าง ๆ เหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งได้รับ คำกล่าวขานกันว่าเรากล้าทำในสิ่งที่จะช่วยพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เฉพาะใน ๓ จังหวัด ๕ จังหวัดภาคใต้ แต่เรา ได้ดำเนินการไปทั่วประเทศในเรื่องของการบันทึกเสียงทั้งภาพ และ Video ต่าง ๆ เหล่านั้น ทำให้เกิดความสบายใจและปลอดภัยกับทุกฝ่าย แล้วผม เชื่อมั่นว่าในส่วนของภาคราชการและราชการที่เกี่ยวข้องที่จะต้องปฏิบัติและดำเนินการ เขาคงเป็นทุกข์มากกว่าในขณะนี้ที่เขาจะต้องมีมาตรการใหม่ ๆ ที่พวกเราสภาผู้แทนราษฎร ได้ช่วยกันดำเนินการที่ผ่านมา ในสมัยที่แล้วท่านอาจจะยังไม่ได้เข้ามา แต่ว่าท่านอื่น ของทุกพรรคการเมืองได้ดำเนินการกันอย่างเรียบร้อย แล้วผมเชื่อมั่นว่าในกฎหมาย ลักษณะนั้นจะได้ช่วยทำให้ความสบายใจของผู้คนแล้วก็ของท่านทั้งหลายได้มากขึ้น ขอบคุณ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ขออนุญาตกระผม ได้รับมอบหมายจากท่านนายกรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้ถามสดแทน ซึ่งการทำงานและ การดำเนินการในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่าไม่ได้มาตอบกระทู้ถามแทน ซึ่งในครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีต้องเดินทางไปประชุมต่างประเทศที่ประเทศญี่ปุ่น ASEM พิเศษ ในขณะที่เราตอบกระทู้ถามพูดคุยซักถามกันอยู่นี้ ท่านนายกรัฐมนตรีอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งได้เตรียมการดำเนินการในเรื่องของ ASEM นี้ไว้ก่อนนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเริ่มดำเนินการ เมื่อวานนี้หรือวันนี้อย่างไร แต่สำหรับกระทู้ถามของเราเป็นกระทู้ถามสด ซึ่งเป็นเวลากระชั้นชิด ท่านนายกรัฐมนตรีไม่สามารถจะมาตอบท่านได้จริง ๆ จากเหตุผลและหลักฐานที่ผมจะมอบ ให้ท่านประธาน ในตารางการเดินทาง ตารางการบินต่าง ๆ ผมจะมอบให้กับท่านประธาน ที่เคารพไว้เป็นหลักฐานต่อไป

    อ่านในการประชุม

  • ท่านรังสิมันต์ โรม ได้เรียนกับที่ประชุมว่าผมได้มาตอบกระทู้ถาม ในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ประเทศที่ท่านเป็นประธานอยู่ เป็นข้อเท็จจริงครับผมได้มาตอบกระทู้ถาม ผมได้พยายาม ตอบคำถามทั้งหมด แต่คำถามที่ท่านถามนั้นมันอาจจะลึกเกินไปสำหรับผู้บริหารที่จะไปล้วงลูก เพราะในกรณีเรื่องของการทำงาน การโยกย้าย แต่งตั้งเหล่านั้น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถที่จะไป ล้วงลูกในการดำเนินการในการโยกย้าย แต่งตั้ง แม้แต่ท่านนายกรัฐมนตรีเอง ตาม พ.ร.บ. ใหม่ ของตำรวจ ก็มีสิทธิที่จะเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งได้เพียงบุคคลเดียวคือ ตำแหน่ง ผบ.ตร. เท่านั้น ในส่วนนายพลอื่น ๆ ผบ.ตร. เป็นผู้นำเสนอ ทั้ง ๆ ที่นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก.ตร. แล้ววันนั้นผมก็ได้พยายามอธิบายความว่าพระราชบัญญัติตำรวจ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ นี้ได้บัญญัติขึ้นใหม่ในสภาผู้แทนราษฎรของเรานี้ ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ก็ได้ดำเนินการ มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจที่เรียกว่า ก.ตร. และมีคณะกรรมการ พิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ก.พ.ค.ตร. และคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ของตำรวจ ก.ร.ตร. ซึ่งกรรมการได้ถูกคัดสรร หรือสอบบางส่วนของคณะกรรมการแต่ละชุดนั้น ได้อธิบายความไว้อย่างชัดเจน และถ้าหากว่าใครถูกใจ ไม่ถูกใจ ก็สามารถที่จะไปร้องเรียน ในคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิดังกล่าวได้ สืบเนื่องจากคำถามของท่านรังสิมันต์ โรม พูดถึง ในกรณีวันที่ ๒๑ พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่เป็นคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าเรา ไปสอบสวนทวนความดูเอกสารทั้งหมดในการประชุม ก.ตร. ครั้งแรกที่ท่านนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมประธาน ก.ตร. แล้วท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้ตอบคำถามในส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ทีนี้ การพูดคุยหรือการตอบคำถาม ผมก็บอกแล้วว่าผู้ฟังอาจจะฟังในมุมมองที่แตกต่างกัน จากคำถามและคำตอบ แต่ถ้าเราหาหลักฐานมาประกอบในการพูดคุยหรืออธิบายและ มีเวลามาก ๆ ผมก็จะพยายามพูดคุยอีกครั้งหนึ่งว่าเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีพูดแบบกระชับ อาจจะทำให้สังคมเข้าใจไปอีกทิศทางหนึ่ง และมีการนำไปขยายผลในทางการเมืองที่เป็น เชิงลบ จากคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรีได้อธิบายชัดเจนว่าไม่มีการให้ความช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะในประโยคแรกที่กล่าวว่ามั่นใจว่ามีผู้ผิดหวัง สะท้อนว่าไม่มีการช่วยเหลือ จึงมั่นใจว่ามีผู้ผิดหวังอย่างแน่นอน ส่วนคำพูดที่ว่าขอตำแหน่งเพราะมันเยอะเหลือเกินนั้น ข้อเท็จจริงเป็นการปรึกษาหารือของ สส. ในพื้นที่ที่เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะต้องการ คนที่เหมาะสมเข้ามาพัฒนาในพื้นที่ของตนเอง และแก้ปัญหาอาชญากรรมหรือ Mafia หนี้นอกระบบ รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้ยืนยัน หลังจากนั้นอีกวันหนึ่งคือวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เรื่องการแต่งตั้งตนเองไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ ๒๕๖๕ มาตรา ๕๖ (๑) ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งแต่งตั้ง แต่ว่ายศพลตำรวจตรีขึ้นไปเท่านั้น ต่ำกว่านั้นลงมา เป็นอำนาจของ ก.ตร. ซึ่งท่านไม่สามารถก้าวล่วงในส่วนนี้ได้ แล้วเรามาดูคำสัมภาษณ์ของ ท่าน ผบ.ตร. ในวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ เชียงใหม่ ว่าเรื่องนี้เป็นกระแสข่าวที่อยู่ในสังคมแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ตนยืนอยู่ในตำแหน่งนี้ ยังไม่มีใครเอาตั๋วมาให้ ท่านนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยโทรมา และตนก็ยืนยันว่าไม่มี สส. คนไหน มาทั้งสิ้น ตนเดินสายการเมืองมาหรือเปล่า นี่เป็นคำพูดของท่าน ผบ.ตร. นะครับ เขาก็รู้ว่า ของตนไม่ได้มีแน่นอน แล้วให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ สิ่งนี้นะครับเป็นคำพูดที่ในเหตุการณ์ ในช่วงเวลานั้น เราย้อนหลังลงไปอีกเกือบ ๒ เดือน การประชุม ก.ตร. ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ ๑๐ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๖ คำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี ในตอนหนึ่งก็ได้เรียนว่า รัฐบาลจึงต้องฟังข้อมูลจากตัวแทนประชาชนทุกพื้นที่ และข้อมูล ปัญหามักจะมาพร้อมข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายที่มีประสิทธิภาพ มีความซื่อสัตย์ สุจริตมาทำหน้าที่แก้ปัญหาในทุกพื้นที่ แต่เป็นการเสนอขอในลักษณะภาพรวมในการจัด บุคลากร เพื่อไปดำรงตำแหน่งให้มีความเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาในแต่ละสภาพพื้นที่ มิได้เป็นการขอบุคคลใด รายใดรายหนึ่งให้มาดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด ซึ่งต้องยอมรับว่า การจัดสรรบุคลากรดังกล่าวมีข้อกำหนด มีข้อจำกัดในเรื่องของคุณภาพของบุคลากร ซึ่งอาจมีความแตกต่างในเรื่องศักยภาพการทำงาน การเข้าไปแก้ไขปัญหา บางคน มีศักยภาพสูงกว่าหรือต่ำกว่าที่คาดหวัง ซึ่งเมื่อได้พิจารณาจัดสรรบุคลากรให้ปฏิบัติหน้าที่ ในแต่ละส่วนราชการแตกต่างแล้ว อาจก่อให้เกิดความแตกต่าง บางพื้นที่อาจได้บุคลากร คุณภาพตามที่ผู้แทนคาดหวัง ความคาดหวังในขณะที่บางพื้นที่ยังต้องรอความหวังต่อไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ให้รัฐได้ตอบสนองความต้องการ ของประชาชน และแก้ปัญหาของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ขอให้ ก.ตร. ได้ช่วย ทำหน้าที่ เพื่อให้ได้ข้าราชการตำรวจที่ดีเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ตามที่ประชาชนต้องการ อย่างต่อเนื่องเช่นนี้ต่อไปครับ ขอบคุณครับ นี่คือคำกล่าวการเปิดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ ๑๐ ที่นายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ได้กล่าวในที่ประชุม ก.ตร. ก็เป็นความชัดเจน แล้วก็ สืบเนื่องมาจากคำพูดหรือการเปิดประชุม ก.ตร. ครั้งนั้น ก็ยังมีคำพูดที่พูดมาถึงที่ประชุมของ พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ ๒๑ แล้วนำเอาไปตีความในทิศทางที่ไม่ได้เกิดประโยชน์กับพี่น้อง ประชาชนในส่วนร่วม ซึ่งตรงนี้ผมเห็นหลักการแนวทางและเอกสารที่เป็นเครื่องพิสูจน์ ความชัดเจนที่ท่านนายกรัฐมนตรีตั้งใจจะแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่ว่าปัญหาประเด็นของคำพูด คำจาตรงนี้ ต้องเรียนว่ามันอาจจะมองไปในทิศทางแล้วแต่คนที่จะมองและตีความ แต่ผม มั่นใจและชัดเจนครับว่า ความตั้งใจของท่านนายกรัฐมนตรีและดูจากการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ ๑๐ นี้เป็นเรื่องหลัก จึงขออนุญาตได้เรียนตอบคำถามคุณโรมเป็นวาระแรกเพียงเท่านี้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ ผมขออนุญาตตอบคำถามเป็นรอบที่ ๒ ในเรื่องของการแต่งตั้ง คุณรังสิมันต์ โรม ได้คาดคั้น ให้ผมตอบทีละบรรทัดหรือทีละวรรค ที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้กรุณาพูดบันทึกเทปมา ผมต้องเรียนอย่างนี้นะครับว่าการตอบคำถามเป็นทีละบรรทัดหรือทีละประโยค อย่างที่ คุณรังสิมันต์ต้องการนั้น มันก็เป็นเรื่องที่ผมได้ชี้แจงไปครั้งหนึ่งแล้ว ว่ามันก็แล้วแต่ คนฟังจะคิดนะครับว่าเป็นอย่างไร แต่ในภาพรวมที่ผมได้พยายามนำเอาเอกสารคำพูดของ ท่านนายกรัฐมนตรีแต่ละเวทีเอามาประกอบการชี้แจง ตรงนี้ผมก็มั่นใจว่าท่านนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีเจตนาอะไรทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับจะทำในเรื่องของการใช้ตั๋วหรืออะไรทั้งสิ้น ก็เป็นเรื่องที่ แล้วแต่ผู้ฟังและผู้ชมหรือพี่น้องประชาชนจะตัดสิน แต่ผมเรียนว่าการแต่งตั้งโยกย้าย ที่บอกว่าบางคนสมหวังบ้าง ไม่สมหวังบ้าง ก็มีหลายคนครับ อย่างนายตำรวจติดตามผม ก็ไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง ก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่งว่าไม่ใช่ว่าคนที่อยู่ใกล้ชิด หรือคนที่รู้จัก ท่านนายกรัฐมนตรีจะได้รับการ Promote ไปเสียหมด คนที่ผมคุ้นเคยอยู่ก็ถูกโยกย้าย ไปในสิ่งที่ตัวเขาไม่ต้องการ อันนี้มันเป็นเรื่องของความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสม ไปตามแนวทางของกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ แล้ววันนี้คำถามที่ท่านว่าเกี่ยวกับเรื่องของ พนักงานสอบสวนบ้าง ลาออกบ้าง อะไรต่าง ๆ ผมมาดูตัวเลขในจำนวนตำแหน่งที่จะต้อง รับการบรรจุแต่งตั้งของตำรวจ จำนวนเต็มทั้งหมดนี้มันก็ควรจะมีถึง ๓๐๘,๐๐๐ คนเศษ แล้วข้าราชการตำรวจก็ถูกบรรจุแต่งตั้งไม่เต็มจำนวน มีแค่ ๒๑๓,๐๐๐ คนเศษเท่านั้นเอง แล้วในส่วนของพนักงานสอบสวนในขณะนี้มีบรรจุในตำแหน่ง ๑๒,๐๑๐ คน ทั้ง ๆ ที่อัตรา มีถึง ๑๘,๕๙๐ คน ในส่วนนี้คำตอบ ก.ตร. ก็พยายามเกลี่ย พยายามดำเนินการให้เป็นไปตาม งานที่ยังคั่งค้างอยู่

    อ่านในการประชุม

  • สำหรับการโยกย้ายในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นประเด็นคำถาม แล้วก็ มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน ผมเข้าใจว่าผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาโดยตลอดนั้นอาจจะยังมีข้อมูล ไม่ครบถ้วนนะครับ ในกฎเกณฑ์ของการโยกย้ายแต่งตั้งนั้นก็จะดูถึงความรู้ ความสามารถ ความเหมาะสม ในทิศทาง แนวทางและการครองตำแหน่ง บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างนั้น ขออนุญาตเอ่ยนามนะครับ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร เป็นข้อเท็จจริงที่ควรจะรู้กันโดยทั่วไป พันตำรวจเอก ธเนศ สุขชัย เป็นผู้กำกับ ตม. จังหวัดภูเก็ต ในคำสั่งได้ถูกแต่งตั้งสับเปลี่ยน หมุนเวียนไปเป็นผู้กำกับ ตม. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง พันตำรวจเอก ธเนศ สุขชัย ก็ได้ลาออก และคนที่ได้รับการสับเปลี่ยนโยกย้ายมาแทน พันตำรวจเอก เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผู้กำกับ ตม. จังหวัดนครพนม ถ้าเรามาดูอาวุโสกันแล้ว คุณธเนศมีอาวุโส ๖ ปี แต่คุณเกรียงไกร อาริยะยิ่ง มีอาวุโส ๑๕ ปี และอีกท่านหนึ่งที่อาจจะถูกกล่าวขานถึงว่ามีเส้นสาย หรือไม่อย่างไร ที่พูดกันในสื่อ พันตำรวจเอก พัดธงทิว ดามาพงศ์ ผู้กำกับฝ่ายอำนวยการ สำนักงาน ตม. ได้รับการแต่งตั้งสับเปลี่ยนโยกย้ายเป็นผู้กำกับ ตม. ท่าอากาศยานภูเก็ต ก็ไม่ใช่ ตม. ของจังหวัดภูเก็ต คนละตำแหน่งกันนะครับ ที่มีการพูดคุยกัน แต่ว่าที่ผมนำมากล่าวอ้าง อาวุโสของคุณพัดธงทิว ดามาพงศ์ ยังมากกว่าอาวุโสใน ตม. ของธเนศ สุขชัย อีกนะครับ ซึ่งการสับเปลี่ยนโยกย้ายตรงนี้ถ้าจะดูถึงความอาวุโสและ อายุราชการในส่วนต่าง ๆ ตรงนี้ของคุณเกรียงไกรที่ย้ายมาแทนผู้กำกับ ตม. จังหวัดภูเก็ต มีถึง ๑๕ ปี ไม่เป็นที่น่าสงสัยหรือเป็นสิ่งที่น่าผิดปกติอะไรเลยนะครับ ความรู้ความสามารถ ซึ่งตรงนี้มันปรากฏชัด ผมเลยขออนุญาตนำเอาข้อมูลนี้มาชี้แจงให้สภาได้รับทราบ เพื่อความแคลงใจต่าง ๆ เหล่านั้นจะได้หมดไปกับประเด็นปัญหานี้ แต่สำหรับคำพูดของ ท่านนายกรัฐมนตรีที่คุณรังสิมันต์ โรม ให้ผมพูดโดยละเอียดตรงนั้น ผมก็เรียนยืนยันแล้วว่า ผมจะพูดในภาพรวม ส่วนรายละเอียดพี่น้องประชาชนได้รับฟังและพิจารณาตัดสินใจเอง ว่าอะไรเป็นอะไร ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับท่านประธาน ท่านรังสิมันต์ โรม ก็คาดคั้นให้ผมตอบว่าไม่ได้รับการ Brief ใช่หรือไม่ ผมกราบเรียนว่า ท่านนายกรัฐมนตรีขึ้นเครื่องไปกะทันหันที่ผมได้รับมอบหมาย ซึ่งจริง ๆ วันนี้ผม ลาสภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องมาประชุมด้วยนะครับ แต่ว่าเป็นเรื่องที่คุณรังสิมันต์ โรม เป็นคน ซักถามก็เป็นการให้เกียรติ ผมก็ลุกจากที่นอนแล้วก็มา เพราะไม่ค่อยสบายเท่าไร แต่ว่า เป็นเรื่องที่เป็นการให้เกียรติกัน และจริง ๆ แล้วท่านนายกรัฐมนตรีก็ตั้งใจในการทำงาน อย่างเต็มที่ แต่ในเรื่องเหล่านี้ก็คงคิดว่ามันสมควรกับคำถาม คำตอบ และเวลาทั้งหมดที่เรา ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ ๒๑ เดือนที่แล้วนะครับ และพี่น้องประชาชนก็ลงความเห็นแล้ว แล้วในเรื่องขององค์กรตรวจสอบต่าง ๆ เขาก็ได้มีการร้องเรียนไปถึงขั้นตอนของ ป.ป.ช. หรืออะไรต่าง ๆ เหล่านั้น เรื่องทั้งหลายนี้มันจบไปที่ตรงนั้น ผลการพิจารณาจะออกมา เป็นอย่างไรมันก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่เราก็คิดว่ามันสมควรแก่เหตุที่เราควรจะเพียงพอตรงนี้ ได้แล้ว ขอขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหาร ราชการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงาน ป.ป.ท. ในนามคณะรัฐมนตรี ขอเสนอร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหาร ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณารับ หลักการ โดยพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้จัดตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ท. และสำนักงาน ป.ป.ท. ขึ้น เพื่อที่จะให้มี ส่วนราชการในฝ่ายบริหารรับผิดชอบนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยตรง ทำให้รัฐบาลสามารถกำกับและผลักดันนโยบายดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้นมีภารกิจในความรับผิดชอบจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา ได้ถูกแก้ไขปรับปรุงจำนวน ๒ ครั้ง กล่าวคือแก้ไขครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อปรับปรุง กระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงและการดำเนินการที่ล่าช้าและก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์และรูปแบบการทุจริตที่ซับซ้อนขึ้น ต่อมาได้แก้ไข ครั้งที่ ๒ ใน พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐมีอำนาจหน้าที่ รองรับภารกิจของรัฐในเรื่องการส่งเสริม สนับสนุนและให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตราย ที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ส่งเสริมให้ประชาชน รวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ ต่อต้าน หรือชี้เบาะแส โดยได้รับ ความคุ้มครองจากรัฐร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) โดยมี จำนวน ๒๒ ร่างมาตราเป็นการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหาร ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงหน้าที่ อำนาจและการปฏิบัติงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐให้สอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและการปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนที่เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบให้ครอบคลุมการตรวจสอบการกระทำความผิดของ เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกมิติ โดยให้เป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตภาครัฐและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตในภาครัฐ เพื่อให้สำนักงาน ป.ป.ท. สามารถดำเนินการเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ปฏิบัติ ให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานที่ไม่ควบคุมการปฏิบัติ ดำเนินการตาม กฎหมายอันเป็นการควบคุมความประพฤติของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุทุจริต รวมถึง เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามมาตรการของฝ่ายบริหารไปใน คราวเดียวกัน และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือต่อภาพลักษณ์การปฏิบัติราชการของ ข้าราชการ เพราะมีหน่วยงานและฝ่ายบริหารเข้ามาให้ความสำคัญ คอยกำกับควบคุมดูแล มากกว่าที่เคยผ่านมา ที่ให้เพียงหัวหน้าส่วนราชการมีอำนาจในการดำเนินการดังกล่าว โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ ในประเด็นสำคัญสำคัญ ดังนี้

    อ่านในการประชุม

  • ๑. แก้ไขนิยาม คำว่า ประพฤติมิชอบ โดยกำหนดให้สำนักงาน ป.ป.ท. มีอำนาจดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกเรื่องที่ไม่ใช่คดีทุจริตเช่นเดิม ประพฤติ มิชอบคือความผิดเกี่ยวกับเงินหรือทรัพย์สินของแผ่นดินเท่านั้น แต่ร่างพระราชบัญญัตินี้ แก้ไขให้ประพฤติมิชอบครอบคลุมความผิดวินัยของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกเรื่อง

    อ่านในการประชุม

  • ๒. เพิ่มอำนาจหน้าที่ไต่สวนประพฤติมิชอบ โดยมีอำนาจและหน้าที่คือ ๑. รับเรื่อง ๒. ไต่สวน ๓. ชี้มูลความผิด ๔. มอบหมาย และ ๕. กำกับดูแล

    อ่านในการประชุม

  • ๓. ปรับปรุงกฎหมายในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีมาตรฐาน เช่นเดียวกับกระบวนการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ เช่น การเพิ่มอำนาจขอศาลออกหมายจับ ผู้ถูกกล่าวหาภายหลัง คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิด การเพิ่มสิทธิการชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาให้สามารถทำได้จนกว่าจะมีมติชี้มูลความผิด การให้สิทธิ ในการขอทบทวนมติชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ท. กรณีมีพยานหลักฐานใหม่ อันเป็นสาระสำคัญ

    อ่านในการประชุม

  • ๔. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอันเป็นการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อสกัดกั้นปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบของไทย ตรวจสอบและลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำมิชอบได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ อันจะส่งผลต่อการยกระดับค่าคะแนน CPI ของไทยที่ปัจจุบันได้คะแนน ๓๖ คะแนน จัดอยู่ในลำดับที่ ๑๐๑ ของโลก ให้มีลำดับ ที่ดีขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้ แก้ให้เกิดความรวดเร็ว ลดขั้นตอนกระบวนการให้น้อยลง นั่นคือ ป.ป.ท. สามารถเริ่มตรวจสอบได้โดยไม่ต้องรอการมอบหมายจาก ป.ป.ช. และเริ่ม ไต่สวนได้ตามกฎหมายโดยไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน สอดคล้องกับ รัฐธรรมนูญที่ให้ลดการมีคณะกรรมการ กำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ๒ ปี และขยายได้ไม่เกิน ๓ ปี ทำให้การทำงานสำเร็จเร็วขึ้นภายในกรอบเวลา นำมาซึ่งการลงโทษ ผู้กระทำผิดที่รวดเร็วทันการ กำหนดการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนสามารถเข้าถึง ข้อมูลได้มากขึ้น กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. ไต่สวนและชี้มูลความผิด ผู้ร่วมกระทำ ความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ และประพฤติมิชอบได้ทั้งหมด กระผมจึงขอกราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการของ ฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอมานี้ ขอขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผมต้องขอขอบคุณท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่ให้การอภิปราย และโดยส่วนใหญ่ ให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวนี้ชอบมากเลย เพราะเป็นเรื่องของการพยายามที่จะลดการทุจริตคอร์รัปชันในประเด็นสำคัญ นั่นคือสิ่งที่ เรามองดูในขณะนี้ อะไรที่เราจะมองเห็นว่ามันจะสามารถลดทุจริตคอร์รัปชันได้ในหลักการ ของ พ.ร.บ. คือการดำเนินการในขั้นตอนตั้งแต่เริ่มที่เรารู้เห็นว่ามันเริ่มจะมีอะไรที่ผิดปกติ แล้ว ป.ป.ท. ก็จะเข้าไปดำเนินการในลักษณะของการตรวจสอบหรือการตักเตือน หรือการให้ ความรู้ต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่เอาให้ตายเลยนะครับ ถ้าเราปล่อยให้เรื่องของ ทั้งหมดนี้เกิดการ ทุจริตแล้วเราไปจับกุมหรือดำเนินการอย่างนี้เป็นไปในทั่วประเทศของเราทั้งหมด สิ่งที่เสียหายในภาพรวมนั้นก็คือตัวชี้วัด ตัวชี้วัดที่เรียกว่า CPI องค์กรโปร่งใสนานาชาติ Transparency International ที่จัดทำดัชนีที่เป็นตัวชี้วัด Corruption Perception Index ซึ่งตรงนี้ต้องเรียนว่าที่ผ่านมานี้ประเทศไทยได้คะแนนแค่ ๓๖ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๑๐๐ เราดูจากไหนครับ เราดูจากหน่วยงานที่มาจัดทำดัชนีเช่น World Economic Forum World Justice Project ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ เหล่านี้ที่เรามาคิดคำนวณดูแล้วเราได้คะแนน เพียง ๓๖ คะแนน แต่ว่าถ้าเราช่วยกันป้องกันไม่ให้มีทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นเราได้คะแนน เพิ่มอีกสัก ๓๖ คะแนน เราก็จะติดตัวชี้วัด CPI เป็นในลำดับ ๑-๒๐ เราต้องการที่จะให้เป็น แนวทางตรงนี้ เรามาช่วยกันนะครับ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อภิปรายหลายประเด็น ล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างสรรค์ ผมต้องขอกราบขอบพระคุณท่านประธานสภาส่งไปยัง ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วเราร่วมกันดำเนินการในส่วนของการแปรญัตติหรือ การดำเนินการในวาระที่ ๒ มีส่วนสำคัญ ๆ ที่สมาชิกผู้ทรงเกียรติจากพรรคเพื่อไทย ท่านอาจารย์ชูศักดิ์ได้พูดถึงข้อความสำคัญที่เกี่ยวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วก็วุฒิสภา ที่ได้รับรายงาน คนที่จะได้รับรายงานตรงนี้เราก็สามารถแปรญัตติเพิ่มเติมได้นะครับ ผมเห็นว่า เป็นสิ่งที่ควร ขอบคุณครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ขอเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี จำนวน ๖ ท่าน ดังนี้ ๑. นายภูมิวิศาล เกษมสุข ๒. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช ๓. นายวิชญ์พล ฉวีวรรณ ๔. นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ๕. นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ๖. นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีได้รับ มอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สมรสเท่าเทียม ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี หลักการและเหตุผล ดังนี้

    อ่านในการประชุม

  • หลักการ ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ บางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้คู่รัก ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ก็ตามสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิงในปัจจุบันทุกประการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวที่สอดคล้องกับบริบทสังคมในปัจจุบัน

    อ่านในการประชุม

  • เหตุผล โดยที่สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญ ในการพัฒนาสังคมและ การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่การก่อตั้งครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคม ในปัจจุบันที่มีอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลที่มีเพศเดียวกันด้วย ซึ่งมีการอุปการะ เลี้ยงดูและมีความสัมพันธ์ในด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง

    อ่านในการประชุม

  • สาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติประกอบด้วยบทบัญญัติ ๖๘ มาตรา โดยสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำนวน ๗๔ มาตรา ดังนี้

    อ่านในการประชุม

  • ๑. แก้ไข คำว่า ชาย หญิง สามี ภริยา เป็นบุคคลคู่หมั้น ผู้รับหมั้น และแก้ไข คำว่า สามี ภริยา เป็นคู่สมรส เพื่อให้มีความหมายครอบคลุมทุกเพศ

    อ่านในการประชุม

  • ๒. แก้ไขบทบัญญัติให้ชัดเจนขึ้น ในกรณีที่โดยลักษณะทางธรรมชาติใช้กับ เฉพาะหญิงหรือชายโดยกำเนิดเท่านั้น เช่นบทบัญญัติที่เชื่อมโยงกับการมีครรภ์จะระบุให้ ชัดเจนว่าใช้เฉพาะกรณีการสมรสระหว่างชาย-หญิงเท่านั้น รวมถึงเพิ่มเหตุฟ้องหย่าให้ สอดคล้องกับลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกัน

    อ่านในการประชุม

  • ๓. กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนกฎหมายในความรับผิดชอบให้ สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วภายใน ๑๘๐ วัน

    อ่านในการประชุม

  • ๔. ร่างพระราชบัญญัติเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ไม่ใช่การออกกฎหมายใหม่ ดังนั้นจึงไม่กระทบกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจาก พระราชบัญญัติว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้ยกเว้นการบังคับใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ บรรพ ๕ โดยให้นำกฎหมายอิสลามมาใช้แทนในส่วนของครอบครัวและมรดก รวมถึงสอดคล้องกับหลักกฎหมายเฉพาะ ยกเว้นกฎหมายทั่วไป โดยได้มีการบัญญัติ เรื่องดังกล่าวไว้อย่างชัดเจนในมาตรา ๖๖ ของร่างพระราชบัญญัติ

    อ่านในการประชุม

  • สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ ถึงวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑๕ วัน โดยได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นในรูปแบบ Online และประชุมร่วมกับผู้นำทางศาสนา ส่วนราชการและภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยผลการรับฟังความคิดเห็นสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๖.๖ เห็นด้วยกับ ร่างกฎหมายดังกล่าว

    อ่านในการประชุม

  • ประโยชน์ของร่างพระราชบัญญัติ

    อ่านในการประชุม

  • ๑. เป็นการยืนยันเจตนารมณ์และนโยบายของรัฐบาลในการเคารพและ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยการปรับปรุงกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเพื่อเป็นหลักประกันว่าบุคคล ทุกคนจะได้รับสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวอย่างเสมอภาค เท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อด้านสิทธิมนุษยชนให้กับประเทศไทย สร้างการยอมรับ และความเชื่อถือจากประชาคมระหว่างประเทศ

    อ่านในการประชุม

  • ๒. เป็นเครื่องมือทางกฎหมายในการจัดการกับความสัมพันธ์ทางครอบครัว และขจัดปัญหาความไม่เป็นธรรมที่อาจเกิดขึ้นภายในครอบครัวที่หลากหลายทางเพศ เช่น การที่ไม่สามารถจัดการทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน สิทธิในการเป็นทายาทโดยธรรม สิทธิในการจัดการแทนผู้เสียหายและสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล

    อ่านในการประชุม

  • ๓. เป็นเครื่องมือช่วยสร้างกระบวนการเรียนรู้ทางสังคมให้ทุกภาคส่วนได้รู้จัก เข้าใจและให้ความเคารพในความแตกต่างและเรียนรู้ที่จะร่วมกันในสังคมด้วยความเคารพ ในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกันและกันต่อไป

    อ่านในการประชุม

  • สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผมอยากจะขอเพิ่มเติมและพูดถึงในส่วนที่มีความ ยุ่งยากในการดำเนินการ เพราะกฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ได้มีการนำเสนอในรัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่สามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จ การพิจารณาในวันนี้มีกฎหมายถึง ๔ ฉบับของรัฐบาล พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์และของประชาชน เราใช้เวลามาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยรัฐบาล ที่แล้ว กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอให้ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกภาคส่วน ทุกพรรค ได้ช่วยกันผ่านกฎหมายฉบับนี้ โดยอย่าคิดว่าเป็นกฎหมายของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราควร ร่วมใจกันทำกฎหมายให้สำเร็จเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม และเราใช้เวลากับเรื่องนี้มา พอสมควรแล้ว กระผมในนามของรัฐบาลจึงขอกราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สมรสเท่าเทียมที่เสนอมานี้ ขอขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ได้รับ มอบหมายจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้ถามสดของท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส. จังหวัดนราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นความห่วงใยของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ในที่ประชุมให้ ศอ.บต. บูรณาการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ผมรวบรวมได้แล้วนี้ ๖ กระทรวงให้บูรณาการในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกส่วน ในเรื่องของเร่งด่วน ในระยะกลางและระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้มีอุทกภัยน้ำท่วมหรือสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของธรรมชาติเราอาจจะได้ข้อมูลในระดับหนึ่งในเรื่องของ การป้องกันการพยากรณ์อากาศในส่วนของสถานการณ์ในสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงวันเดือนปี ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง เพราะลักษณะของการพยากรณ์อากาศนั้นได้ดูสถิติทั้งหลาย ในช่วงวันเวลาใกล้เคียงกันว่าเคยมีฝนฟ้าหรือมรสุมอย่างไรบ้างที่เข้ามาในช่วงระยะเวลา ดังกล่าวนั้นได้เก็บสถิติ ๒๐ ปี ๓๐ ปี ๔๐ ปี ๕๐ ปีอะไรต่าง ๆ ท่านจึงรู้ว่าในรอบ ๕๐ ปีนั้น มีปริมาณน้ำฝนในช่วงของวันที่ ๒๒-๒๕ ช่วงฝนตกในบางพื้นที่ในจังหวัดนราธิวาสของ ท่านนี้มีถึง ๖๖๓.๕ มิลิเมตร ๖๖๓.๕ มิลลิเมตรนี้มันสูงเท่าไร ถ้าเอาน้ำมาเรียงรวม ๆ กันแล้วก็คงประมาณ ๗๖ เซนติเมตร ในช่วงระยะเวลา ๓ ปีปริมาณน้ำ รวมกัน ๗๖ เซนติเมตร ประกอบกับว่าจังหวัดนราธิวาสของท่านนี้มีแม่น้ำหลายสาย ที่ไหลผ่าน เช่น แม่น้ำโก-ลก ซึ่งมีความยาวประมาณ ๑๐๓ กิโลเมตร แม่น้ำสายบุรี ๑๘๔ กิโลเมตร แม่น้ำบางนรา ๕๕ กิโลเมตร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ในขณะที่ ฝนตกในช่วงถึงวันที่ ๒๕ นั้นอาจจะยังไม่รุนแรงเท่าไร แต่ว่าเวลาน้ำจากแม่น้ำมันไหลมา ประเดประดังรวมกันแล้วจากที่จังหวัดอื่น ๆ ด้วย เพราะในฝั่งด้านขวาด้านตะวันตกของ ประเทศไทยในบริเวณนั้นเทือกเขาสันกาลาคีรี เป็น Watershed ที่รับน้ำตรงนั้นออกมา มันก็เป็นแนวทางที่เราต้องคิดถึงในเรื่องของการบริหารจัดการในวันข้างหน้า ถ้าหากว่ามี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจะต้องทำอย่างไร ในขณะนี้ สทนช. เป็นหน่วยงานที่จะต้องไปถอด บทเรียนที่เกิดขึ้นแล้วเราก็มาคิดและวางแผนให้ข้อมูลดังกล่าวนี้ไปถึง Consultant ในการที่ จะดำเนินการวางแผนในระยะยาวว่าจะทำอะไร อย่างไรบ้าง ผมอยากจะลำดับความให้ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ตลอดจนถึงผู้ฟังที่อยู่ทางบ้านว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมีความ ห่วงใย นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๖ อำเภอระแงะ จังหวัด นราธิวาส และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้มีผู้สูงอายุ และเด็กมากกว่า ๒๐๐ คน แล้วในช่วงของวันที่ ๒๘ ผมได้ลงพื้นที่ในจังหวัดยะลา จังหวัด ปัตตานี ตามที่ท่านกมลศักดิ์ได้เรียนท่านประธานทราบ เพื่อตามดูในสถานการณ์และเห็นน้ำ ไหลรุนแรงในสวนของยางพาราข้ามถนน ในขณะที่ผมไปตรวจดูสถานการณ์ตรงนั้นไม่มีน้ำ แต่เวลาขณะรถวิ่งไปถึงบริเวณดังกล่าวน้ำไหลข้ามถนนมีความรุนแรง มีความเสียหาย ที่เกิดขึ้น ในสิ่งต่าง ๆ แล้วในวันที่ ๒๘ นั้น ผมก็ได้เป็นประธานอนุมัติข้าวของถุงยังชีพ ๕๓,๐๐๐ กว่าถุง ในเรื่องของการดำเนินการเยียวยา ท่านนายกรัฐมนตรีในวันที่ ๒ เป็นวัน ประชุมคณะรัฐมนตรี ท่านสั่งการให้ ศอ.บต. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เร่งฟื้นฟู เยียวยาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว ในหน่วยงานที่บูรณาการ มีกระทรวง มหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการ การชีวศึกษา คือกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงยุติธรรม มีงานอย่างหลากหลาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นี้เขาก็ดูไม่ใช่เฉพาะ ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้ เขาไปถึง ๑๑ จังหวัดว่ามีผลกระทบมีความเสียหายในบ้านเรือนดังกล่าว ก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้นมาอีกอันนี้ก็ขอได้กราบเรียนให้ท่านประธานผ่านไปยังท่านสมาชิกว่า ทุกหน่วยงานที่นายกรัฐมนตรีได้กรุณาสั่งการนั้นได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน อะไรที่มันเป็น เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้ก็ได้ทำไปแล้ว และอะไรที่ควรจะทำในระยะกลาง หรือระยะยาว ต่าง ๆ นั้นก็กำลังรวบรวม เข้าใจว่าในวันนี้พรุ่งนี้การสำรวจทั้งหมดก็จะเสร็จเรียบร้อยเป็น ตัวเลขที่ชัดเจนขึ้น แต่ในขณะนี้ก็เป็นตัวเลขที่เกือบจะชัดเจน ในหลักเกณฑ์การเยียวยา ผู้ประสบภัยของกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำนักนายกรัฐมนตรี คือ ๑. การเยียวยา เบื้องต้น มอบถุงยังชีพผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ๒. การเยียวยาในกรณีเสียชีวิตรายละ ๕๐,๐๐๐ บาท และเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัว ผู้เสียชีวิต ๓๐,๐๐๐ บาท ในการเยียวยาบ้านเรือนเสียหายไม่เกิน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่เกินหลังละ ๑๕,๐๐๐ บาท ถ้ามีความเสียหายไม่เกิน ๗๐ เปอร์เซ็นต์ คือมากกว่า ๓๐ เปอร์เซ็นต์ในแบบระยะแรกก็ไม่เกินหลังละ ๗๐,๐๐๐ บาท และมากกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ก็ไม่เกินหลังละ ๒๓๐,๐๐๐ บาท ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติอาจจะเห็นว่า มันน้อยเกินไปหรือเปล่า เพราะพี่น้องประชาชนบ้านบางหลังนี้มันใหญ่โตมากมายกว่านั้น แต่ได้แค่นี้เราก็มีแนวทางในการช่วยเหลือเรื่องของภาคเอกชนที่จะตามมาในวันข้างหน้า อาจจะมีการจัดกิจกรรมหรือในส่วนอื่น ๆ เพื่อขอความร่วมมือในแนวทางต่าง ๆ เหล่านั้น ก็เป็นเรื่องที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ในส่วนของรัฐบาลของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราไม่ได้จำกัดจำนวนเงิน แต่ว่าในส่วนของหลักเกณฑ์ กฎเกณฑ์ดังกล่าวนั้นก็เป็นดังที่ ผมว่านะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในเรื่องของการซ่อมแซมเกี่ยวกับเรื่องเครื่องไฟฟ้า รถยนต์ หรือสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีตัวเลข ปริมาณ หรือจำนวนอีกมากมาย ก็คิดว่าคงไม่ต้องชี้แจงในที่ประชุมแห่งนี้ แล้วท่านสมาชิกมารับเอาด้านหลังก็ได้นะครับ ถ้าหากว่าท่านอยากจะดูตัวเลขทั้งหมด หรือเอาหน่อยก็ได้นะครับ ผู้ประสบภัยและได้รับผลกระทบ ๕๒๖,๘๗๒ คน นับเป็น ครอบครัว ๑๓๘,๘๑๕ ครัวเรือน เสียชีวิตไป ๒๑ คน และบ้านเรือนสรุปความเสียหายและ ความสูญเสียหลังจากอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ บ้านเรือน ๒๒๒ หลัง ที่เสียทั้งหลังนะครับ แล้วบางส่วนนี้ ๑,๗๓๒ หลัง ถนน ๔๔๙ สาย สะพาน ๑๔ แห่ง ในพื้นที่การเกษตร ๒๑,๐๖๑ ไร่ และพวกปศุสัตว์ ๓๖๘,๔๑๒ ตัว บ่อปลา ๑๘๓ ไร่ เป็นปริมาณดังกล่าวตรงนี้ ถ้าหากว่าจะดู ภาพสักนิดหนึ่งนะครับ ขอภาพ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน เมื่อวันที่ ๒๖ ลงที่พื้นที่ตามสถานการณ์อุทกภัยช่วยเหลือพี่น้อง

    อ่านในการประชุม

  • แล้วก็ภาพต่อไปลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ณ ศอ.บต. จังหวัดยะลา ไปประชุมเตรียมการอย่างเต็มที่ และภาพต่อไปเรื่องที่บ้านจางา ตำบลปะกาฮะรัง จังหวัดปัตตานี ในส่วนของการดำเนินการ เราก็แบ่งงานออกเป็น ๓ กลุ่ม แบ่งตามศูนย์บูรณาการการร่วมใจช่วยเหลืออุทกภัยชายแดน ภาคใต้ปฏิบัติการ ๓ ชุดหลัก

    อ่านในการประชุม

  • ชุดที่ ๑ มีกรมราชทัณฑ์ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานคณะกรรมการ อาชีวศึกษาจะปฏิบัติด้านการบูรณาการฟื้นฟูซ่อมแซมศาสนสถาน บ้านเรือนประชาชน ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

    อ่านในการประชุม

  • ชุดที่ ๒ หน่วยงานทหารพัฒนากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ จะปฏิบัติการซ่อมแซมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคมเพื่ออำนวยความ สะดวกให้แก่ประชาชนต่อไป

    อ่านในการประชุม

  • ชุดที่ ๓ ศอ.บต. จะปฏิบัติด้านประชาสัมพันธ์สื่อสารสร้างความเข้าใจ เพื่อประสานงานช่วยเหลือในชีวิตทรัพย์สิน รวมถึงการปฏิบัติการด้านปฏิบัติการประเมิน ผลงานต่าง ๆ ในส่วนของการประเมินต่าง ๆ ก็ต้องฝากท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าอะไรยังหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ขอให้แจ้งที่ ศอ.บต. จะเป็น ศูนย์กลางในการบูรณาการข้อมูลทั้งหลาย และในขณะนี้การประเมินความเสียหายที่ไม่ใช่เหตุการณ์ตรงเรื่องของการดูแลเยียวยา เร่งด่วนนั้น ในส่วนของ ศอ.บต. ก็จะเป็นผู้ประเมินร่วมกับหน่วยงานทั้งหลาย แล้วก็เป็น บูรณาการของบประมาณให้ในส่วนที่จะต้องตามมา ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง เพราะยังสรุป ไม่เสร็จ คิดว่าวันนี้พรุ่งนี้ก็คงสรุปเสร็จ ขอบคุณครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับท่านประธาน ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ได้เรียนกับท่านประธานผ่านไปยังท่านสมาชิกในเรื่องของ การถอดบทเรียนต่าง ๆ สทนช. กำลังดำเนินการเพื่อให้การประชาสัมพันธ์หรือด้านอื่น ๆ ที่บกพร่องให้สมบูรณ์แบบ แต่คิดว่าก็ดีมากที่ได้ทำไป แต่เราก็ต้องเตรียมว่าไม่ให้มันมี ร่องรอยที่บกพร่องหรือหลงเหลืออยู่นะครับ เรื่องของเงินเยียวยาที่ไม่ได้มาก ก็เห็นด้วยว่ามัน ก็ควรที่จะมีกิจกรรมอะไรต่าง ๆ ดำเนินการก็จะได้นำเอาไปปรึกษาทาง ศอ.บต. ต่อไปครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในส่วนเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการถ้าหากมันมีความเสียหายก็เป็นเรื่อง ของระยะปานกลางและระยะยาวที่จะได้ซ่อมแซมดูแล ในขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหาย กันอยู่ ในส่วนของดินโคลนที่มีอยู่หน้าโรงเรียนก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ให้ท่านช่วยแจ้งไปยังศูนย์ของ ศอ.บต. ซึ่งมีเครื่องจักรรถแบคโฮ เรื่องของหน่วยงานทางราชการของกระทรวงกลาโหมอะไร ต่าง ๆ ก็ยังอยู่ในพื้นที่ที่จะช่วยดำเนินการ ไม่ต้องเสียสตางค์ของครูบาอาจารย์ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพครับ ในจังหวัดนราธิวาสของท่านนี้มีแม่น้ำสายยาว ๆ ตรงนี้ก็เป็นปัญหา เพราะว่าแม่น้ำนั้นไหลช้า การท่วมมันก็อาจจะยืดระยะเวลาของการท่วมมากกว่าแม่น้ำสายสั้น ซึ่งในจังหวัดใกล้เคียง กันนะครับ ในส่วนของการดำเนินการตรงนี้ผมขอสไลด์อีกภาพหนึ่งนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมเดินทางไปที่ประเทศ มาเลเซียนะครับ ผมไปพบกับท่านรองนายกรัฐมนตรีด้วยประเด็นเรื่องของความมั่นคง ด้านอื่นครับ ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี ท่านบอกว่าท่านเป็นรอง นายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลในเรื่องของน้ำ ท่านบอกว่าฝนตกที่ท่วมตอนเหนือของประเทศ มาเลเซียแล้วตอนใต้ของเรามันมีความสัมพันธ์ร่วมกัน เป็นไปได้ไหมแม่น้ำสายต่าง ๆ ที่เรา มาทำงานร่วมกัน พูดคุยกันนี่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็เป็นสิ่งที่ดี ผมก็บอกผมเป็น รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สทนช. ตรงนี้ถ้าหากว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นข้อมูลที่เราจะ วางแผนร่วมกัน เราก็จะทำด้วยกันนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งนะครับ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของ การประชาสัมพันธ์จะเป็นเรื่องใหญ่ แต่พี่น้องประชาชนก็ต้องยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ บางท่านก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง อย่างที่การพยากรณ์อากาศก็ตกบ้างไม่ตกบ้างมันคงไม่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่แม่น้ำในจังหวัดภาคใต้หรือในจังหวัดของท่านนี้ถ้าผลีผลามหรือใจเย็น เย็นเกินไปเย็นวันหนึ่งน้ำจะท่วม อาจจะเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นการประชาสัมพันธ์ ที่ท่านติติงและแนะแนวมานั้นก็เป็นเรื่องประเด็นสำคัญ เราจะต้องทำแผนและถอดบทเรียน ให้ดำเนินการต่าง ๆ ให้ชัดเจน แล้วเราก็มีแผนระหว่างประเทศที่คุยกัน เพราะว่าแม่น้ำทั้ง ๒ ฝั่งมันคนละประเทศ แต่แม่น้ำเดียวกันอย่างนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะต้องนำมาคิดด้วย ขอบคุณครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกระทู้ถามสดของท่าน สส. สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ สส. กานต์ ขวัญใจประชาชนคนอีสาน ที่พี่น้องประชาชนหรือผู้คน เขาเรียกกันให้ฉายาของท่านอย่างนั้น ก็ต้องขอบคุณครับที่ได้เอาคำถามตรงนี้มาถามใน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งความเกี่ยวข้องกับเรื่องของวัวนั้นถ้าจะรู้ให้จริงจังแล้วมันคงมีความ เกี่ยวข้องในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลี้ยงวัวในภาคใต้กี่อีกส่วนหนึ่ง ที่เรื่องสด ๆ ร้อน ๆ ว่ามันมี เรื่องความไม่ชอบมาพากล ในส่วนนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ได้ออกไปตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลในมือผม ก็ยังมีส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่มีการส่งเสริมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัด ภาคใต้ ซึ่งการเลี้ยงโคตรงนั้นในรายละเอียดเขาบอกว่าจะเลี้ยงประมาณ ๑,๐๐๐ กลุ่ม กลุ่มละ ๑๐ คนเป็นวิสาหกิจชุมชน แล้วก็ได้ตรวจสอบดูว่าเพิ่งเริ่มโครงการไปได้ในระดับหนึ่ง ที่เห็นความผิดพลาดที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ไปตรวจสอบ ก็มีอยู่ประมาณ ๒ กลุ่ม ก็เป็นโครงการที่ดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่การบริหาร จัดการเรื่องทั้งหมดที่จะต้องทำถึง ๑,๐๐๐ กลุ่มตรงนั้น แล้วก็ ๓ จังหวัดในพื้นที่ชายแดน ภาคใต้นี้ผมกำกับดูแลอยู่ด้วย ก็เลยขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้ได้กล่าวถึงเรื่องนี้สักเล็กน้อยว่า เป็นโครงการที่ดีที่แก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ว่าในโครงการดังกล่าวนั้น ก็มีโครงการนำร่องทั้งหมดที่จะทำประมาณ ๖๐ กลุ่ม ในระยะต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีความ ผิดพลาดที่เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานี ในขณะนี้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการก็ได้ตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบในข้อเท็จจริง ในโครงการของกองทุนหมู่บ้านต้องเรียนว่าการจัดหาหรือการที่จะ นำเอาโคมาเลี้ยงนั้นซึ่งแตกต่างกว่าโคบาลแดนใต้บ้าง การจัดหาตรงนี้จะไม่มีปัญหาที่มันจะ เกิดขึ้นในเรื่องของความไม่ชอบมาพากล เพราะว่าในแนวทางของกองทุนหมู่บ้านจะให้พี่น้อง สมาชิกกองทุนหมู่บ้านได้กู้จากกองทุนหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้านก็กู้จากธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งมี ดอกเบี้ย เมื่อพี่น้องประชาชนหรือสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านที่จะไปซื้อวัวเป็นคนจัดหาเอง ครอบครัวหนึ่งก็จะให้เลี้ยง ๒ ตัวเป็นตัวเมีย จัดซื้อเอง เงินมาถือไว้เอง แล้วเลือกเองว่ามันจะ เป็นวัวสายพันธุ์ที่ชอบอย่างไร ซึ่งการเลี้ยงโคในขณะนี้กระผมเห็นจุดแข็ง ถ้าวัวราคาตกต่ำ คนที่จะเข้ามาเลี้ยง หรือเกษตรกร หรือกองทุนหมู่บ้าน สมาชิกที่มาเลี้ยงตัวนี้ได้ซื้อวัวถูก ซึ่งเราตั้งใจว่าจะให้กู้ยืมไป ๕๐,๐๐๐ บาท แทนที่จะซื้อได้ ๒ ตัวถ้าวัวแพง ก็อาจจะได้ ๓ ตัว หรือมีแม่วัว ๒ ตัวมีลูกติดท้องไปอีก หรือมีลูกติดแม่ตามมาอีกก็จะได้ของถูก มันเป็น ประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร แต่ถ้าโครงการของกองทุนหมู่บ้านนี้เกิดขึ้น การจัดหาหรือการ ซื้อวัวของเกษตรกรก็หาซื้อวัวพร้อม ๆ กัน ท่านเห็นไหมครับ Demand มันเกิดขึ้นราคาวัว ที่มันตกต่ำมันจะขึ้น อันนี้ส่วนหนึ่งเป็นทางตรงเลยเวลาวัวมันจะขึ้น แล้วในส่วนทางตรงอีกส่วนหนึ่งซึ่งผมได้ให้สำนักงานที่ผมกำกับดูแลอยู่ ชื่อสำนักงาน ป.ย.ป. ได้ร่างกฎหมาย ป.ย.ป. ชื่อเต็ม ๆ ของเขานะครับ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นเลขาธิการ ซี ๑๑ ได้ร่างกฎหมายการส่งเสริมปศุสัตว์ ตรงนี้ส่งเสริมอย่างไรครับ ส่งเสริมในเรื่องของการพัฒนา พันธุ์ การแข่งขัน อย่างเช่นการที่เกษตรกรได้เลี้ยงวัวเนื้อธรรมดาในหมู่บ้าน แต่ถ้าเปลี่ยน จากวัวเนื้อธรรมดาในหมู่บ้าน แต่เป็นวัวเนื้อเหมือนกัน แต่สามารถเป็นนักกีฬาได้ เห็นไหม เป็นนักกีฬาได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นนักกีฬาแล้วเรามีกฎหมายแข่งขัน อย่างเช่นในประเทศ สหรัฐอเมริกาหรือยุโรปมีการเลี้ยงม้า ม้าเป็นกีฬาหรือเป็นการพนันประเภทที่ ๒ ถ้าเราทำให้ วัวหรือไก่ตามที่ท่าน สส. จังหวัดพะเยาได้มีการอภิปรายไปก่อนหน้านั้นนะครับว่าในเรื่อง ของกฎหมายที่ล้าสมัย ใช่ครับกฎหมายล้าสมัย แต่กฎหมายที่กำลังจะทันสมัยในรัฐบาลนี้ กำลังได้เตรียมการร่างอยู่ แล้วก็กฎหมายนี้ต้นร่างก็จะเสร็จเพื่อจะให้ท่านสมาชิกมาดู ทำการ วิพากษ์วิจารณ์ได้ประมาณเมษายน พฤษภาคม กฎหมายดังกล่าวนั้นการส่งเสริมการ เพาะเลี้ยงให้ถูกต้อง มีเรื่องของปศุสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้อง การแข่งขันต่อมาก็มีมาตรฐาน อุตสาหกรรมที่จัดทำสนามแข่งขัน มีกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของ ความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ กีฬา และในเรื่องของ พ.ร.บ. การพนันที่เกี่ยวข้องกับ หลายกระทรวงที่ผ่านมาที่ผมได้กราบเรียนตรงนี้ มันเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง แต่ถ้าเรา ทำการแข่งขันแล้วทำให้สิ่งที่รัฐก็อนุญาตอยู่แล้วในเรื่องของการแข่งขันและการพนัน ชนโค ชนไก่ แต่เก็บภาษีได้น้อยมาก ได้ค่าธรรมเนียมไม่กี่บาท ไม่กี่ร้อย ซึ่งต่าง ๆ ตรงนี้ถ้าเอาขึ้นมา อยู่บนโต๊ะแล้วผมก็เห็นว่าวัวก็จะมีราคาแพงขึ้น เพราะเราเลี้ยงได้ใน ๒ มิติ มิติ ๑ วัวเป็น โปรตีน เป็นเนื้อสำหรับมนุษย์ เป็นโปรตีนสำหรับมนุษย์ หรือถ้าเป็นนักกีฬาเขาก็มีราคา อย่างม้าบางตัวราคา ๑๐ ล้านเหรียญ ที่ชนะที่เป็นข่าวราคา ๑๐ ล้านเหรียญ วัวถ้าเรามี กฎหมายในลักษณะเดียวกับการแข่งขันม้าผมมั่นใจครับว่าวัวราคาตัวละ ๑๐ ล้าน ๒๐ ล้าน จะเกิดขึ้นแน่นอน แล้วในเรื่องของการผสมเทียมหรือการกีฬาต่าง ๆ เหล่านั้น สำหรับ เพื่อการกีฬาก็มีคนผสมเทียม เพราะจะทำให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มีราคาสูงขึ้น มันเป็นทางอ้อม แต่สำหรับในเรื่องของทางตรง ทางตรงที่วัวราคาตกต่ำ มันมีวัวเถื่อนเข้ามา ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว ที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกไปปราบปรามอยู่ ท่านไชยา พรหมา ขออนุญาตเอ่ยนาม เพราะเป็นเรื่องที่ดี ท่านได้ดำเนินการและไปปราบปรามอยู่ มีวัวเถื่อนและเนื้อเถื่อน แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่วัวเป็นชีวิต ผมดูจากสถิติการเลี้ยงวัว ในประเทศไทยแล้วมันไม่น่าเชื่อนะครับว่าวัวราคาจะตกต่ำ ท่านดูตัวเลขนะครับ จำนวน ผู้เลี้ยงวัวในประเทศ ๑,๔๒๒,๐๐๐ คนเศษ มีปริมาณประชากรวัว ๙,๗๓๙,๐๐๐ ตัว ซึ่งใน ปี ๆ หนึ่งการบริโภคเนื้อวัวของประเทศไทยมีอัตราการบริโภคตามสัดส่วน เมื่อเทียบกับฝรั่ง แล้วเราบริโภคน้อยกว่าเยอะ แต่ปริมาณที่เลี้ยงนั้นท่านเชื่อไหมครับว่าใช้ในประเทศทั้งหมด ๙๗ เปอร์เซ็นต์ มันคือใช้หมดเลย แล้วเป็นไปได้อย่างไรมีวัวออกส่งไปขายตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านปีหนึ่ง ๒๐๐,๐๐๐- ๓๐๐,๐๐๐ ตัว และผมก็ไปที่ชายแดนจังหวัดภาคใต้มีวัวที่ส่งข้ามไปขายโดยที่ไม่มีการ ขออนุญาตก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง มี Surplus มีส่วนเกินที่นั้นมาจากไหน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ตรงนี้ผมก็ ไปสืบสวนทวนความดูอีกว่านอกจากมีวัวแช่แข็งมา มีเนื้อแช่แข็งมา มีหมูแช่แข็งมา มีวัวที่ นำเข้าตามชายแดน ผมไปดูและไป Check ดูจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ หรือเป็นข้าราชการ เป็นอดีตต่าง ๆ เหล่านั้นมีหลายพื้นที่อยู่ในมือผม มีชื่อคอกหลายพื้นที่ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผม จะส่งไปให้ในส่วนของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำไปดำเนินการ ในเรื่องของการปราบปรามวัวเถื่อนตรงนี้

    อ่านในการประชุม

  • สำหรับคำถามที่ท่านถามว่า โครงการวัวแสนล้าน เป็นโครงการของกองทุน หมู่บ้านที่จะดำเนินการนั้นจะได้เริ่มดำเนินการแค่ไหน วันไหน อย่างไร ที่ผมเอามาวิพากษ์ ในวันที่มาอภิปรายในวันงบประมาณดังกล่าวนั้น ก็ต้องเรียนว่าในขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำ ความเข้าใจ เพราะในส่วนของโครงการโคชายแดนใต้ก็เหมือนกัน หรือโครงการอื่นก็เหมือนกัน ว่าล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ แต่ว่ามีความแตกต่างกันตรงไหน ซึ่งผมเรียนแล้วว่าการที่ทำ โครงการของกองทุนหมู่บ้านนั้นไม่มีใครที่จะสามารถเอาเปรียบพี่น้องประชาชนหรือ คนเลี้ยงได้ เพราะเงินมันอยู่ตรงผู้กู้คือเกษตรกรหรือสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน เมื่อกู้ไปแล้ว เขาจะเป็นผู้เลือกวัวเองตามคำแนะนำของปศุสัตว์หรือไม่ อย่างไร เขาจะเป็นคนเลือกวัวเอง เลือกแล้วอาจจะได้ติดท้องและได้ลูกตามมาอีก เพราะวันนี้วัวถูก เพราะฉะนั้นผู้ซื้อจะมี โอกาสได้ประโยชน์อย่างสูงสุด เราเพิ่มกำลังซื้อมา จะทำให้ภาพรวมส่วนกลางตรงนั้นสูงขึ้น นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในเรื่องของกฎหมายต้องขอบคุณท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพะเยา และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากร้อยเอ็ดอีกท่านหนึ่งที่พูดในปัญหาเดียวกันเลยกับ ของท่าน สส. สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ขวัญใจประชาชนคนอีสาน ก็เป็นประเด็นปัญหาที่ ร้อนแรง การเลี้ยงวัวก็มีประโยชน์อีกส่วนหนึ่ง ผมจะเรียนให้ทราบว่าวันนี้เราดูว่าเรามีปัญหา อะไรในประเทศ เรามีเรื่อง PM2.5 PM2.5 คือมีฟาง คนทำนามีฟางเท่าไรลองคำนวณดูครับ ผมมีตัวเลขมาฝากท่านสมาชิก พื้นที่ ๑ ไร่มีฟางข้าวตอซังประมาณ ๖๕๐ กิโลกรัม พื้นที่ ปลูกข้าว ๖๙ เปอร์เซ็นต์ ๔๔.๘๕ ล้านไร่ ประเทศไทยมีตอซังข้าวประมาณ ๒๙.๑๕ ล้านตัน ต่อปี หรือประมาณ ๒๙,๑๕๐ ล้านกิโลกรัม เมื่อเผาแล้วเราจะมี Black Carbon ออกมาเท่าไร Black Carbon ออกมา ๑,๗๔๙ ล้านกรัม หรือประมาณ ๑,๗๔๙ ตันต่อปี เป็น Black Carbon Black Carbon พวกนี้ถ้าเราเลี้ยงวัวเยอะ ๆ มันก็ไม่เกิดขึ้น เพราะว่าวัวจะกินฟาง ได้ประโยชน์ หลายทาง เพราะฉะนั้นวันนี้อยู่ในช่วงของการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนหรือผู้คน และอีกส่วนหนึ่งที่ล่าช้าของโครงการเกิดจากเรื่องของดอกเบี้ย ดอกเบี้ยของธนาคารไม่นิ่ง ในขณะนี้ ตอนนั้นแรกเริ่มเดิมทีก็ประมาณ ๔ เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้ดอกเบี้ยมันไหลขึ้นไป ๕.๕ เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ยังพูดคุยกับเจ้าของเงินยังไม่เรียบร้อย ถ้าเรียบร้อยเมื่อไรก็จะมาแจ้ง ให้ท่านผู้เกี่ยวข้องรับทราบ ขอขอบคุณคำถามที่ ๑ ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอท่านประธานสัก ๑ นาทีครับ Lumpy Skin มันมากับวัวข้ามชายแดนมา ถ้าเราบล็อกให้อยู่ เหมือนตอนนี้เรากำลังบล็อก ยาเสพติดอย่างนั้นมันก็จะไม่เข้ามา แต่ Lumpy Skin นี้วัวไม่ตาย แต่ว่ามันพิการ เล็บหลุดบ้าง อะไรบ้าง ตรงนี้เราก็ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง แล้วในเรื่องของการป้องกัน เรื่องของวัวเถื่อนนั้นผมจะปรึกษากับท่านรองภูมิธรรมอีกครั้งหนึ่ง เพราะท่านดูในเรื่องของ กรมการค้าภายใน ในเรื่องของราคาสินค้าที่อยู่ในตลาด และในส่วนของเรื่องข้ามชายแดนนั้น ท่านเป็นผู้กำกับดูแลในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในส่วนที่ท่านถามเรื่องของ การผสมเทียม ผมเห็นตัวอย่างที่จังหวัดอุบลราชธานี ท่านอดีต สส. ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ให้คำแนะนำผมมาก่อนแล้วในเรื่องของการอบรมสัตวบาลอาสา รองนายกรัฐมนตรี มีเงินตรวจราชการ ผมจะตั้งโครงการอบรมในพื้นที่ที่ต้องการอยากจะได้สัตวบาลอาสาไป ดำเนินการ แต่การอบรมสัตวบาลอาสานั้นทำโดยลำพังไม่ได้ จะต้องได้รับการสนับสนุนจาก กรมปศุสัตว์ด้วย อันนี้ก็จะหารือและทำไปตามแนวทางเพราะเป็นเรื่องที่ดี ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม