นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์

  • กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ปัญหาอาชญากรรม Online นับวันยิ่งจนหนักขึ้น เปลี่ยนกลยุทธ์ตลอดเพื่อจะหลอกลวงประชาชนครับ และที่สำคัญก็คือทันสมัยมากขึ้น แนบเนียนมากขึ้น ประชาชนเองก็ตกหลุมพรางง่ายขึ้น บางคนก็โอนเงินจนหมดตัว เงินที่หามาทั้งชีวิตต้องมาหมดตัวเพราะพวกมิจฉาชีพพวกนี้ครับ หนำซ้ำกระบวนการทางราชการก็ล่าช้าไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ครับ ท่านประธาน ดังนั้นผมเห็นว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้จำเป็นอย่างมากครับ ซึ่งภายหลังจากที่ พ.ร.ก. ประกาศใช้มาตั้งแต่ปีเดือนมีนาคมปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมาก็ได้เพิ่มสิทธิให้ธนาคารสามารถ ระงับรายการที่น่าสงสัยจากบัญชีที่ตัวผู้เสียหายได้แจ้งไว้เป็นระยะเวลา ๗ วัน ซึ่งแต่ก่อน เดิมก็ต้องมีกระบวนการแล้วก็ใช้เวลาระยะยาวกว่าเจ้าหน้าที่จะจัดการแล้วก็จะสอบสวน สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านั้นต้องใช้ต้องเรียกพยานวัตถุแล้วก็ธนาคาร แล้วก็จะมีข้ออ้าง จากธนาคารครับว่าในเรื่องของกฎหมาย PDPA ไม่ยอมส่งมาให้อีกครั้งหนึ่งนะครับ แต่ในกรณีนี้มีบทบังคับให้ส่งและเปิดเผยให้กับหน่วยงาน แต่ปัญหาคือมีข้อยกเว้นของ PDPA แต่ไม่ยอมเปิดเผยตามมาตรา ๑๒ ตรงนี้อาจจะต้องระบุให้ชัดกว่านี้ครับว่าบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือใครบ้าง ถ้าเอาแค่ตามมาตรา ๔ และรวมตัวผู้เสียหายอาจจะเยอะเกินไปครับ ท่านประธาน แต่อย่างไรก็ดีผมต้องขอแสดงความห่วงใยในกรณีที่หากมีการกลั่นแกล้ง เพื่ออายัดบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มิจฉาชีพพยายามทำตัวเองให้เสมือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ บาง Case เป็นตำรวจ บาง Case เป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร บาง Case ขยับปากบ้าง ทำให้ประชาชนยิ่งหลงเชื่อ ผมเองมีความกังวลครับว่าอาจจะเกิดการจัดฉากการโอนเงิน แล้วอายัดเงินวงเงินนั้นเพื่อให้ดูสมจริงทำให้ประชาชนยิ่งตกเป็นเหยื่อ ผมเห็นว่าเราควร มีมาตรการและรายละเอียดหรือหลักฐานที่ชัดเจนก่อนอายัดบัญชีนั้น ๆ ครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องถัดมา ที่ผมอยากจะพูดถึงคือกรณีของคำนิยามว่า บัญชีม้า โดยเฉพาะ ท่านประธานจะรู้ เมื่อ ๒-๓ ปีที่ผ่านมาเราจะเจอปัญหาด้านโควิดใช่ไหมครับ ประชาชน ต้องทำธุรกรรม Online มากขึ้นทำให้ข้อมูลถูก Hack บ้าง ถูกขาย Database ไปบ้าง และมิจฉาชีพเหล่านั้นก็เอาข้อมูลของเราไปขาย แล้วที่แย่ไปกว่านั้นคือเอาข้อมูลไปสมัคร เป็นบัญชีม้าครับท่านประธาน ประชาชนเมื่อรู้ทีหลังก็สายไปเสียแล้วว่าบัญชีม้าแบบนี้ ผมอยากให้เราให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความละเอียดขององค์ประกอบของคำว่า บัญชีม้า ที่ชัดเจนเพื่อให้คนบริสุทธิ์ได้รับการปกป้องจาก พ.ร.ก. ฉบับนี้ครับท่านประธาน ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัด กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นเลยครับท่านประธานปัญหายาเสพติดส่วนใหญ่ ทุก ๆ รัฐบาลก็จะบอกว่าเป็นปัญหาวาระระดับชาติ แต่สิ่งที่มันย้อนแย้งในวาระระดับชาติ ก็คือยาเสพติดถูกลง ความรุนแรงมากขึ้น ทุก ๆ ครั้งที่ผมไปพบปะประชาชนในพื้นที่เขต ๑ จังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านก็จะเข้ามาหาผม แล้วก็อยากให้ผมช่วยกระตุ้นรัฐบาล ในการแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ซึ่งต้องบอกกับท่านประธานว่าปัจจุบันนี้ปัญหายาเสพติด รุนแรงมากครับ นอกจากยาเสพติดจะถูกแล้วนะครับท่านประธาน ยาเสพติดยังหาง่าย ในทุกบ้าน ในทุกหลังคาเรือน มันง่ายจนมีราคาถูก วันนี้ผมต้องขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. ที่เข้ามารายงานผลการปฏิบัติงาน ซึ่งผมได้อ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว อยากให้เพื่อนสมาชิก ทุกท่านดูในหน้าที่ ๔๒ ขอ Slide ด้วยนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ก่อนที่จะไปหน้า ๔๒ นะครับ ตามที่รายงานการค้ายาเสพติดฉบับใหม่ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติหรือ UNODC ระบุชัดเลยว่าประเทศไทยตอนนี้เป็นอันดับ ๑ ของ ASEAN ที่มีการจับกุมทั้งยาบ้าและยาไอซ์มากที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณที่อันตรายมาก ๆ ครับ พอเรา มาดูรายงานของ ป.ป.ส. ในหน้าที่ ๔๒ เราก็จะเห็นเลยว่าในปี ๒๕๖๓ มีการดำเนินคดีไป ๓๒๔,๕๕๒ คดี ในปี ๒๕๖๔ มีการดำเนินคดีไป ๓๓๗,๑๘๖ คดี แต่เมื่อลงลึกครับท่านประธาน เราจะเห็นว่ามาตรการการยึดทรัพย์กลับมีมาตรการการยึดทรัพย์ได้เพียง ๒,๐๐๐ คดี ใน Slide ต่อไปครับ และในปีที่แล้ว ป.ป.ส. ยึดทรัพย์ได้เพียง ๙๓๔ ล้านบาท ซึ่งถือว่า น้อยมาก ๆ และปัจจุบันเป็นเรื่องที่หนักเอามากเลยที่กลุ่มนักค้ายาเสพติดเปลี่ยนวิธีการฟอกเงิน เป็นวิธีการโอนผ่าน Cryptocurrency เพื่อฟอกเงินให้ง่ายที่สุด และการอายัดของ ป.ป.ส. ก็จะยากเข้าไปอีก ดังนั้นผมเองอยากเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกท่านช่วยกันต่อสู้ ผมรับรู้ได้ว่านี่คืออำนาจมืดที่เจ้าหน้าที่รัฐทุกท่านจะต้องใช้ความกล้าหาญสักเพียงใดครับ แต่เพื่ออนาคตลูกของพวกเรา ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ข้าราชการโดยเฉพาะ ป.ป.ส. ควรจะกระทำ และมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย มีเรื่องปรึกษาหารือกับท่านประธานถึง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีอยู่ ๒ เรื่องครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรกคือปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชนเมืองครับ เป็นปัญหาที่เกิดผลกระทบ ครอบคลุม อปท. หลายแห่ง เริ่มจากน้ำป่าไหลบ่าผ่านทางภูเขา จาก อบต. แก่งเสี้ยน มาจากภูเขาตอง เทศบาลเมืองปากแพรก ไหลบ่าเข้าสู่ชุมชนเมืองครับ เขตเทศบาลตำบล ท่ามะขาม เทศบาลตำบลแก่งเสี้ยน และเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่รองรับ การไหลของน้ำบ่า จนทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมขัง รอการระบายในเขตพื้นที่ชุมชน เทศบาล เมืองกาญจนบุรี และเทศบาลเมืองปากแพรก ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากครับท่านประธาน เป็นปัญหาที่พี่น้องคนเมืองกาญจน์ได้ประสบพบเจอกันเป็นประจำ และจำเป็นที่ทางรัฐบาล ต้องรีบเข้ามาแก้ไขโดยด่วน โดยสมัยก่อนกว่าน้ำจะท่วมต้องใช้เวลานาน แต่ปัจจุบันฝนตก ๒-๓ ชั่วโมงก็น้ำท่วมแล้วครับท่านประธาน ทำให้ประชาชนเดือดร้อนนะครับ โดยพื้นที่ มีดังต่อไปนี้ครับ ๑. คือถนน Bypass เลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ๒. ถนนพัฒนาการตลอดเส้น ๓. บริเวณตลาดเรดซิตี้ หมู่บ้านจงเจริญ ๔. หมู่บ้านร่วมพัฒนา ๕. ชุมชนชุกโดน ๖. ชุมชน สัมพันธ์นิเวศน์ ๗. ชุมชนอู่ทอง-สี่แยกวังสารภี ๘. ชุมชนบ้านบ่อ และ ๙. คือถนน ๓๒๓ แสงชูโต อีกทั้งการสัญจรที่เป็นไปได้อย่างลำบากก็เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่พื้นที่พวกนี้ ยังคงมีความซับซ้อนของพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องขอความอนุเคราะห์ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ในอนาคตครับ และได้บรรเทาสิ่งเหล่านี้ให้กับประชาชนในวันที่ฝนตกหนักครับท่านประธาน ผมจึงขอ อนุญาตกราบเรียนไปยังท่านประธานผ่านไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กรมทางหลวง การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาหารือครับ

    อ่านในการประชุม

  • ปัญหาที่ ๒ เป็นปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ซึ่งเป็นปัญหามาอย่างยาวนานครับ กาญจนบุรีมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศไทย แต่ใช้จริงได้เพียง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ครับท่านประธาน พื้นที่เหล่านี้ถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมาย เช่น พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตหวงห้ามที่ดินในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอวังขนาย อำเภอบ้านทวน จังหวัดกาญจนบุรี พุทธศักราช ๒๔๘๑ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ ประชาชน ไม่สามารถขอน้ำ ขอไฟได้ แล้วก็พื้นที่ทางทหารนะครับ ดังนั้นผมอยากจะขอ เรียนท่านประธานนะครับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหมเข้ามาช่วย หาแนวทางในการช่วยให้ประชาชนสามารถขอน้ำ ขอไฟได้ครับ ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณคณะผู้มาชี้แจงในวันนี้นะครับ ผมได้ทำความเข้าใจ ถึงที่มาในบทบาทหน้าที่ของกองทุน สสส. ก่อนว่ามีที่มาอย่างไรนะครับ ก่อนที่จะอธิบาย ประเด็นถึงความสำคัญที่ผมคิดว่า สสส. เองอาจจะต้องให้ความใส่ใจเพิ่มมากขึ้น และโฟกัส ไปที่ปัญหานี้เพิ่มขึ้น ผมคิดว่าสิ่งที่ สสส. ทำรายงานประจำปีมาในหนังสือเล่มนี้ได้ระบุ รายละเอียดที่ชัดเจนถึงทิศทางแล้วแนวทางของปัญหาต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่า สสส. จะเน้นไปในโครงการเมาไม่ขับเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็เป็นผลงานที่เป็น ประจักษ์และเด่นชัดมากที่สุดของ สสส. เพียงอย่างเดียวที่ผมรับรู้ ผมเข้าใจดีครับว่า สสส. มิได้เป็นหน่วยงานที่เป็นหน่วยกำกับดูแลเรื่องยาเสพติดโดยตรง แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ปัจจุบันยาเสพติดเป็นปัญหาที่ทุกคนในที่นี้รับรู้ได้ว่าเป็นปัญหาในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด ตรงกับรายงานของท่านเองที่บอกว่า สถานการณ์ของคนไทยที่มีแนวโน้มการสูบบุหรี่ลดลง การดื่มแอลกอฮอล์มีสถานการณ์ที่คงที่และมีแนวโน้มที่ลดลงเช่นกัน แต่สำหรับยาเสพติด เป็นสิ่งที่สวนทางกันเป็นอย่างมาก ยาเสพติดในยุคปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่ แพร่หลายอย่างมากในทุกช่วงวัยและทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการศึกษาที่เด็กยังเล็ก ยังสามารถหาซื้ออุปกรณ์เสพได้ตามหน้าโรงเรียน

    อ่านในการประชุม

  • นอกจากปัญหาเรื่องของการเข้าถึงยาเสพติดได้ง่ายปัญหาของผลกระทบ ที่เกิดจากยาเสพติดก็มีไม่แพ้กันครับท่านประธาน จากข้อมูลสถิติของกรมสุขภาพจิต ในรอบ ๓ ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยจิตเวชที่มีสาเหตุ จากสารเสพติดมีแนวโน้มการเกิดเป็นผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มขึ้นในช่วงอายุประมาณ ๑๒-๑๕ ปี และยังแพร่ระบาดเข้าไปในโรงเรียน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยจิตเวชมีการใช้สารเสพติดร่วมด้วย ผู้ที่ใช้สารเสพติดจนก่อให้เกิดโรคจิตเวชนั้นมีมากขึ้นครับ และพฤติกรรมมีความรุนแรง เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน ผู้ที่มีอาการป่วยจิตเวชก็ไปก่อปัญหารุนแรงให้กับครอบครัว เห็นได้ชัด ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี ๒๕๖๕ จนถึงปัจจุบัน การสำรวจสถิติของความรุนแรงในครอบครัว ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่าผู้ที่ก่อเหตุส่วนใหญ่มาจากสาร เสพติดที่ไปกระตุ้นจนทำให้เกิดเป็นผู้ป่วยจิตเวช และก่ออันตรายต่อทรัพย์สิน และครอบครัวเป็นสาเหตุหลัก ๆ มากถึง ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ผมขออนุญาตนำสถิติของ การปฏิบัติงานเพื่อป้องกันและการกระทำรุนแรงในครอบครัวของจังหวัดกาญจนบุรีมา ยกตัวอย่างนะครับ ขอ Slide ที่ ๑ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • จากการรายงานสถิติ ประจำเดือนมิถุนายน ปี ๒๕๖๖ พบว่ามีปัญหาความรุนแรงทางครอบครัว ๘ ราย มาจาก สุราและยาเสพติด ๓ ราย ขอ Slide ที่ ๒ ครับ ต่อมาเป็นสถิติความรุนแรงในครอบครัว ของจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๕ จนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖ สถิติรวม ๙ เดือนที่ผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรีพบปัญหาความรุนแรงของครอบครัวถึง ๔๕ ราย มาจากสุรา และยาเสพติด ๑๗ ราย ข้อมูลนี้เฉพาะปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่พบในจังหวัด กาญจนบุรี ยังไม่รวมถึงกรณีอื่น ๆ ขอ Slide ที่ ๓ ครับ นี่เป็นสถิติความรุนแรง ของครอบครัวประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ ในประเทศไทยซึ่งปัจจุบันสารเสพติดก่อปัญหา เป็นอันดับที่ ๑ ข้อมูลเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากการใช้สารเสพติดที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น ผู้ที่ก่อเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาของยาเสพติดไปกระตุ้นจนทำให้เกิดปัญหาของผู้ป่วยจิตเวช และก่ออันตรายต่อคนและทรัพย์สินของครอบครัว จากการที่ผมได้พูดคุยกับคุณหมอ จิตแพทย์ประจำแผนกจิตเวช โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า การใช้สารเสพติดในปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายและหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ป่วยจิตเวช กลายเป็นผู้ป่วยที่มีอายุน้อยถึง ๙ ปี ปัจจุบันที่ผ่านมาครับมีผู้ป่วยจิตเวชที่เป็นผู้ป่วยนอก ประมาณ ๓,๐๐๐ ราย เด่นสุดคือผู้ที่เสพยาบ้ามีประมาณ ๕๐๐ ราย แต่ในปีนี้ครึ่งปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยนอกไปแล้ว ๒,๐๐๐ ราย บางวันมีผู้ป่วยนอก ๑๐๐ กว่าราย แพทย์ที่ต้อง ทำการรักษาบอกกับผมว่าในปี ๒๕๖๔ ประเทศไทยมีผู้ป่วยเสพยาเสพติด รวมทั้งสิ้น ๖๐๐,๐๐๐ กว่าราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มยาเสพติดที่มีความเสี่ยงรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรได้รับ การบำบัดทางร่างกายและจิตใจทางสังคมอย่างต่อเนื่องมีจำนวนประมาณ ๕๐,๐๐๐ กว่าราย สถิติผู้ป่วยจิตเวชทางยาเสพติดที่ก่อให้เกิดความรุนแรงรายใหม่ในปี ๒๕๖๓ มี ๑,๔๖๓ ราย ปี ๒๕๖๔ มี ๒,๗๘๓ ราย และปี ๒๕๖๖ มี ๓,๕๒๗ ราย อีก ๑ ปัจจัยของการใช้ยาเสพติด มาจากความเข้าใจของผู้ใช้ยาเสพติดที่ผิด ๆ กลับกลายเป็นหนึ่งในปัญหาของยาเสพติด จนกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่แสดงให้เห็นว่าการประชาสัมพันธ์การให้ข้อมูลยังไม่ทั่วถึง และยังสู้ Social ทั่วไปไม่ได้ หากการนำงบประมาณมารณรงค์เรื่องยาเสพติดให้ติดหูติดตา อย่างกรณีเรื่องของเมาไม่ขับอาจจะทำให้ปัญหาผู้ป่วยจิตเวชที่เกิดจากการใช้ยามีจำนวน ลดน้อยลง ปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวอาจจะน้อยลงตามมา เมื่อพิจารณา ภาพรวมของประเทศได้สะท้อนถึงการทำงานของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ สะท้อนไปถึงงบประมาณที่จะจัดสรรมาเพื่อใช้กิจการป้องกันและรณรงค์เรื่องยาเสพติด อาจมีน้อยเกินไป ทั้ง ๆ ที่เป็นปัญหาหลัก ปัญหาขั้นพื้นฐานในครอบครัวที่จะทำให้เกิด ปัญหาใหม่ในสังคม ผมจึงอยากฝากไปถึงผู้บริหารงบประมาณในส่วนนี้ต้องมาช่วยกัน ใส่แว่นขยายให้กับปัญหานี้เพื่อให้ปัญหานี้ลดน้อยลงและไม่ให้เกิดปัญหาเป็นปัญหา ระดับชาติต่อไป ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมมีเรื่องหารือที่จะต้องเรียนผ่านไปยังท่านประธานถึงปัญหาของ พี่น้องคนเมืองกาญจนบุรี ถึงที่ดินทำกินของชาวกาญจบุรีที่ยังไม่ได้รับแก้ไขครับท่านประธาน ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนผ่านกระผมเป็นจำนวนมาก ถึงปัญหาของที่ดินทำกินของชาวกาญจนบุรี กาญจนบุรีมีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของประเทศไทย แต่เราใช้ประโยชน์ได้จริงเพียง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด และใน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมดก็มีภาครัฐเป็นเจ้าของครับ พื้นที่ส่วนใหญ่ของ กาญจนบุรีก็เป็นพื้นที่ทหาร การขอเอกสารสิทธิต่าง ๆ มีความเป็นไปได้ยากลำบาก ผมอยากจะขอปรึกษาไปยังท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถอนุโลม หรือช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ให้สามารถขอน้ำขอไฟได้ไหมครับ เพราะปัจจุบันประชาชนพอไม่มีบ้านเลขที่ก็ไม่สามารถขอน้ำขอไฟได้ ต้องไปพ่วงจากบ้าน หลังหนึ่ง บางทีพ่วงเป็นสิบ ๆ หลัง ซึ่งผมอยากให้ได้รับการแก้ไขโดยด่วน ให้บรรเทา ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่จะสามารถขอไฟ ขอน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่ ทางทหาร หรือพื้นที่ ภ.บ.ท. ๕ ซึ่งสมัยก่อนผู้ถือครองสิทธิเหล่านี้ก็สามารถขอน้ำขอไฟ ได้ครับ แต่มาปรับเปลี่ยนภายหลังจากผลพวงจากคำสั่งของ คสช. ผมอยากหารือไปยัง ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหมที่ดูแลพื้นที่เหล่านี้ให้ช่วยอนุโลม และแก้ไขให้กับพี่น้องให้สามารถเข้าถึงไฟฟ้าและน้ำประปาได้ง่ายขึ้น ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกว่าผมสนับสนุนที่เราจะตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งรวมทั้งธุรกิจจากกาสิโนถูกกฎหมาย

    อ่านในการประชุม

  • วันนี้หากต้องเน้นไปเรื่อง ธุรกิจกาสิโนที่ถูกกฎหมายครับ สิ่งที่ผมคิดว่าเราเสียไปก็คือเวลา โอกาส รายได้ เพราะเรื่องนี้ เราพูดกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ซึ่งปัจจุบันผ่านมา ๒๐ ปีแล้วครับท่านประธาน เกี่ยวกับ Entertainment Complex แล้วก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ แน่นอนครับผมเข้าใจว่าสังคมประชาธิปไตยย่อมมีความหลากหลายด้านความคิด และไม่มีทางอื่นเลยที่จะคิดเหมือนกัน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับความจริงและเป็นสิ่งที่ เราหลีกหนีไม่ได้ มันถึงเวลาแล้วครับที่เราจะมี Entertainment Complex ในประเทศไทย สักที แต่ในขณะที่สังคมเรากำลังถกเถียงมาหลายปี แต่ประเทศเพื่อนบ้านของเราทั้งหมด มีกาสิโนที่ถูกกฎหมายอยู่รอบประเทศไทย แม้กระทั่งประเทศมาเลเซียครับท่านประธาน ซึ่งเป็นคนนับถือศาสนาอิสลามมากกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ยังมีกาสิโนที่ถูกต้อง มีคนไทย จำนวนมากที่นำเงินออกไปเล่นตามบ่อนเหล่านี้และมักจะเพิ่มขึ้นเรื่อยทุกปีอย่างมีนัยสำคัญ ผมถึงบอกว่าประเทศไทยเรานี่ครับ ได้เสียโอกาสอย่างที่ไม่ควรจะเป็น เราต้องเอาความจริง มาพูดกันครับวันนี้ว่าเรามีบ่อนการพนันทั้งภายในและภายนอก ผมเองจึงหวังว่าการที่เรามี รัฐบาลของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้ตัดสินใจลงมือทำเรื่องนี้ อย่างจริงจัง และหวังว่า Entertainment Complex จะเกิดขึ้นจริงในสมัยของท่าน ผมเชื่อว่าธุรกิจกาสิโนจะทำให้เงินไม่ไหลออกนอกประเทศไปมากกว่านี้ และยังสามารถ สร้างเงิน สร้างงานให้กับคนในพื้นที่นั้นได้ ผมเชื่อว่าในหลายจังหวัดก็พร้อมที่จะเสนอตัว ให้จังหวัดนั้น ๆ มี Entertainment Complex ผมจึงอยากขอโอกาสนี้เทียบเคียงกับ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาเขาเริ่มต้นจากการทำพื้นที่ที่แห้งแล้ง กันดาร ไร้ความเจริญ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยทะเลทราย พื้นที่ที่ยากต่อความเจริญในทุก ๆ ด้านครับ แต่สหรัฐอเมริกา ก็สามารถสร้างความเจริญนั้นได้ด้วย Entertainment Complex แบบครบวงจร ดังเช่น ปัจจุบันลาสเวกัสไม่ได้เป็นแค่กาสิโนนะครับท่านประธาน แต่ยังเป็นศูนย์รวมของโชว์ดี ๆ ทั่วโลก มีนักร้องดังๆ ที่มักจะเปิดคอนเสิร์ตในลาสเวกัส และลาสเวกัสจึงไม่ใช่แค่บ่อนกาสิโน แต่กลับกลายเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลอีกต่อไปหลังจากมี Entertainment Complex ภาพต่อไปนะครับ เราจะเห็นว่า GDP ของลาสเวกัสเติบโตขึ้นทุก ๆ ปีถึงแม้ว่าปีที่เกิดโควิด อาจจะลดลงแต่มันก็เป็นผลกระทบทั้งโลกครับ แต่ในปีถัดไปเราจะเห็นได้ว่า GDP ก็กระเด้ง กลับมาโตเท่าก่อนโควิด ผมเองในฐานะ สส. เมืองกาญจนบุรีก็ยังมีความเห็นว่ากาญจนบุรี ก็เป็นจังหวัดที่ควรจะมี Entertainment Complex เนื่องจากจังหวัดของเราเป็นจังหวัด ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว แล้วก็ใกล้กรุงเทพฯ มาก และในไม่ช้าครับ การเปิด M81 ก็ทำให้ จากกรุงเทพฯ ไปเมืองกาญจนบุรีนี่จาก ๓ ชั่วโม งเหลือ ๕๕ นาที ผมเชื่อว่า การมี Entertainment Complex ในเมืองกาญจนบุรีเองก็ทำให้เศรษฐกิจในกาญจนบุรี และภาคตะวันตกมีความคึกครื้นมากขึ้น ผมจึงเห็นว่าวันนี้ไม่ว่าเราจะศึกษาอย่างไร ผลการศึกษาต่าง ๆ ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า Entertainment Complex เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้ ควรจะทำให้เกิดขึ้นจริงสักที แต่อย่างไรก็ตามครับ เราควรต้องมีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการให้รัดกุม ไม่ใช่จำกัดเพียงแค่อายุ แต่อาจจะต้องรวมถึง มาตรการด้านอื่น ๆ ด้วยเพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัด กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นต้องขอบคุณท่านประธานครับที่บรรจุกระทู้ที่ ๐๗๕ ให้กับ กระผม แล้วก็ต้องขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีทรงศักดิ์ ทองศรี ที่เสียสละเวลามาตอบกระทู้ ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรีด้วยตนเอง ท่านครับ ผมเป็น สส. กาญจนบุรีสมัยแรก สิ่งแรกที่ประชาชนเข้ามาหาผมแล้วก็พูดอยู่เสมอ ก็คือน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ของเขตเทศบาล เมืองกาญจนบุรีครับ ท่านครับกาญจนบุรีมี M81 ซึ่งเพิ่งเปิดทดลองใช้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา การจราจรติดขัดมากครับ หนำซ้ำยังมีน้ำท่วมเกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี

    อ่านในการประชุม

  • ซึ่งผมเองในฐานะที่เป็น สส. แล้วก็เป็นคนเมืองกาญจน์เห็นความลำบากของพี่น้องประชาชนมาตลอด ๒๐ ปี น้ำท่วม ในเขตเทศบาลเมืองไม่เคยได้รับการแก้ไขสักครั้งเดียวครับท่านประธาน อปท. ที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีงบประมาณที่เข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับคนเมืองกาญจน์ ผมทราบครับว่ากรมโยธาธิการ และผังเมืองได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ทราบด้วยครับว่า งบประมาณที่ใช้เกือบ ๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งปัญหาน้ำท่วมจะถูกรับการแก้ไขก็คือการที่ รัฐบาลแล้วก็กระทรวงมหาดไทยให้การสนับสนุนงบประมาณให้เกิดรูปธรรมที่ชัดเจน กระผม จึงอยากจะสอบถามท่านรัฐมนตรีครับว่ากระทรวงมหาดไทยมีการจัดสรรงบประมาณในการ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้กับพี่น้องคนเมืองกาญจน์โดยเฉพาะเขต ๑ อย่างไร และหาก งบประมาณไม่เพียงพอ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมงบประมาณ อย่างไร ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมอัครนันท์ครับ คำถามที่ ๒ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จริง ๆ ได้ออกแบบเรียบร้อยแล้ว แต่มัน ติดปัญหาที่งบประมาณครับ แล้วก็กระทรวงมหาดไทยจะมีแนวการเร่งรัดการดำเนินการ เรื่องนี้ได้อย่างไรครับ เพราะว่าปัญหาเรื่องน้ำท่วมเป็นมาหลาย ๑๐ ปีแล้ว ซึ่งผมเองอยากให้ กระทรวงมหาดไทยช่วยเข้ามาเร่งรัดในการจัดสรรงบประมาณเรื่องนี้ครับ ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในฐานะ สส. กาญจนบุรีครับ ต้องขอบคุณท่านรัฐมนตรี ท่านทรงศักดิ์ ทองศรี ที่มาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง แล้วผม ขอขอบคุณแทนพี่น้องชาวเมืองกาญจนบุรีที่ได้ฟังแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าการแก้ปัญหาของ พี่น้องคนเมืองกาญจนบุรีจะได้ถูกรับการแก้ไขในสมัยของท่าน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทยครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณท่านประธานที่บรรจุกระทู้ถามแยก ฉบับที่ ๑๓๒ แล้วก็ต้องขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ท่านมาตอบด้วยตัวเองครับ ถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนของคนเมืองกาญจนบุรีครับ กระผมเองต้องกราบถาม ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดังต่อไปนี้ครับ กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็น อันดับ ๓ ของประเทศไทย แต่ด้วยสภาพประเทศของจังหวัดกาญจนบุรีทำให้สามารถ ใช้ประโยชน์ได้จริงเพียง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ครับท่าน โดยร้อยละ ๓๐ ก็เป็นพื้นที่ที่ถูกจำกัดด้วย ข้อกฎหมายหรือบางพื้นที่ก็เป็นเขตทับซ้อนที่ดินที่มีภาครัฐเป็นเจ้าของ โดยพื้นที่เหล่านี้ มีประชากรอาศัยอยู่เป็นระยะเวลานาน มีความเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้ครอบครองที่ดินเหล่านี้ รวมทั้งประชาชนบางส่วนยังได้ยื่นเสียภาษีบำรุงท้องที่หรือเรียกว่า ภ.บ.ท. ๕ ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนเป็นแบบบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภ.ด.ส. ๕ โดยไม่มีหน่วยงานใด แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ทราบ และที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของรัฐ และมีข้อห้ามตามกฎหมาย ที่ไม่สามารถครอบครองหรือมีเอกสิทธิ์ได้ ต่อมาได้มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. มีหน้าที่กำหนดนโยบายบริหารราชการแผ่นดิน ตามนโยบายเฉพาะหน้าและนโยบายระยะยาว เพื่อให้ส่วนงานระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ในระดับปฏิบัตินำไปดำเนินการให้เป็นไป ตามนโยบายที่กำหนดไว้ รวมทั้งได้มีการออกมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ เรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ในการดำรงชีวิต ทำให้ประชาชนในพื้นที่ของกระผมได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถขอไฟ ขอน้ำในพื้นที่ดังกล่าวได้ รวมทั้งประชาชนที่ไม่มีบ้านเลขที่และไม่สามารถขอน้ำ ขอไฟ ได้เช่นกัน ทำให้เกิดการต่อพ่วงไฟฟ้าจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง ซึ่งบางครั้งทำให้ไฟฟ้า ต้องใช้ในหลายครัวเรือน ดังนั้นเรื่องนี้ควรจะเร่งดำเนินการให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชน สามารถขอน้ำขอไฟได้ โดยเฉพาะพื้นที่ทหารหรือผู้ถือครองสิทธิตาม ภ.บ.ท. ๕ ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ถือครองสิทธิเหล่านั้นสามารถขอน้ำขอไฟได้ ผมจึงเรียนถามว่ากระทรวงกลาโหมมีนโยบาย นำเรื่องที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ทางทหารหรือผู้ครองสิทธิตาม ภ.บ.ท. ๕ ในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี โดยหารือกับคณะรัฐมนตรีเพื่อขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการ บริหารราชการแผ่นดินตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียด ในคำถามที่ ๑

    อ่านในการประชุม

  • ครั้งที่ ๒ ก็คือจริง ๆ ท่านรัฐมนตรี ตอบมาบ้างบางส่วนแล้วครับ แต่ผมอยากย้ำเรื่องปัญหาของชาวบ้านครับท่านรัฐมนตรี ว่าปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าพื้นที่เมืองกาญจนบุรีนอกจากเป็นพื้นที่ทหารแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็น พื้นที่ที่ชาวบ้านทำมาหากินด้วยครับ แน่นอนครับ ตอนนี้สิ่งที่ชาวบ้านมาเรียกร้องผมในฐานะ สส. ของเขาก็คือการที่พวกเขาก็ถูกทิ้งในทุกยุค ทุกสมัย จนบางคนก็ต้องโยกย้ายถิ่นฐานครับ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่ Fair สำหรับประชาชนที่เขาอยู่ทำมาหากินมาก่อน แล้วผมก็คิดว่า อันนี้มันเป็นสิทธิโดยพื้นฐานอันชอบธรรมของประชาชนที่ควรจะได้รับ เขาไม่ได้เรียกร้องไป มากกว่าการขอน้ำ ขอไฟ ฉะนั้นผมในฐานะ สส. ของกาญจนบุรี เขต ๑ ซึ่งเป็นพื้นที่ทหารด้วย ก็อยากวิงวอนผ่านไปยังท่านรัฐมนตรีครับ ให้เข้ามาจัดการดูแลแล้วก็แก้ไขปัญหานี้ เพราะผมเองเชื่อว่ารัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรีพยายามที่จะทำเรื่องนี้ให้กับประชาชน ดังนั้นคำถามที่ผมอยากจะถาม แล้วก็อยากตอกย้ำไปก็คือท่านจะสามารถอนุโลม หรือช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องขอน้ำ ขอไฟ ให้กับประชาชน คนเมืองกาญจน์ได้อย่างไรครับท่าน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ยินดีครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท้ายนี้ผมต้องขอบคุณ ท่านรัฐมนตรีนะครับ พอดีได้ฟังท่านแล้วผมรู้สึกเป็นความหวังให้กับชาวเมืองกาญจน์ครับ เพราะว่าต้องบอกว่าวันนี้จังหวัดกาญจนบุรีประชาชนเองลำบาก แล้วก็อย่างที่ผมมาเป็น สส. สมัยแรกด้วย สิ่งแรกที่เขาขอไม่ได้ขออย่างอื่นเลยครับ ขอแค่น้ำกับไฟฟ้า ฉะนั้นวันนี้ ผมเองก็มาทำหน้าที่ สส. ให้กับพวกเขานะครับ ก็อยากเรียนเชิญท่านรัฐมนตรีครับ ผ่านไปยังท่านประธานว่าอยากจะให้เข้ามาแก้ไขในอำนาจที่ท่านมีครับ เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่เราทำวันนี้ เราเป็นนักการเมือง เราทำเพื่อประชาชน วันนี้ท่านเองก็มาจากภาคของ การเมืองด้วย ฉะนั้นผมเองเชื่อว่าท่านก็มีใจที่จะรักประชาชนเหมือนเช่นเดียวกับผม แล้วสิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้สั่งการครับ ผมก็ขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีในที่นี้ แล้วก็ขอบคุณแทนพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีที่จะมีไฟฟ้า มีน้ำประปาในอนาคตครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๑ พรรคเพื่อไทย เรื่องราวของกฎหมายสมรสเท่าเทียมเดิมมีแนวคิดเสนอให้ คนรักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้ตั้งแต่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยครับ แต่ในยุคนั้น สังคมยังไม่ได้เปิดเผยเหมือนกับยุคนี้ ข้อเสนอนั้นก็ยุติไปครับท่านประธาน จนมีเหตุการณ์ สำคัญในปี ๒๕๖๖ ก็คือคู่รักเพศเดียวกันได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อขอจดทะเบียนสมรส แต่นายอำเภอแจ้งว่าไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เพราะว่าขัด ต่อกฎหมาย

    อ่านในการประชุม

  • ซึ่งขณะนั้นนายกรัฐมนตรีคือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทำการศึกษาข้อกฎหมายว่าด้วยการแต่งงานของคู่สมรสที่เป็น เพศเดียวกัน แต่ก็เกิดรัฐประหาร แนวคิดนั้นก็ไม่ได้สานต่อครับท่านประธาน ๑๑ ปีผ่านไป ร่างกฎหมายที่จะให้สิทธิคู่รักเพศเดียวกันก็สามารถสมรสกันได้ หรือสมรสเท่าเทียมกำลังจะ สำเร็จในวันนี้ ผมจึงขออภิปรายว่าทำไมประเทศไทยจึงต้องมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สถาบันครอบครัวถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของ ประชาชน แต่การก่อร่างสร้างตัวจำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ซึ่งไม่สอดคล้อง กับสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีอยู่ของบุคคลที่เป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิด ท่านประธานครับ ความรักนั้นไม่ได้แบ่งเพียงชายหรือหญิงเพียงอย่างเดียว มันยังมีความหลากหลายทางเพศ ที่การได้อยู่ร่วมกัน การดูแลกัน การช่วยเหลือกันที่ไม่ต่างชายและหญิง และหากทุกท่าน หันมองไปรอบๆ ตัวของเราทุกท่าน นึกถึงคนที่อยู่รอบตัวท่านในทุก ๆ เวลาเราจะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมันไม่ได้มีเพียงแค่สีฟ้า หรือสีชมพูอีกต่อไป มันไม่ได้มีเพียงคำว่าชายหรือหญิง อีกต่อไป และด้วยวัฒนธรรมประเพณีและบรรทัดฐานทางสังคมทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ส่งผลให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับสิทธิที่ควรจะได้รับ และก่อให้เกิดปัญหาการล้อเลียน รังแกไปจนถึง การโดนปฏิเสธเข้าทำงานหรือไม่ได้รับสิทธิในการรักษาสุขภาพที่เหมาะสม การถูกปฏิบัติตัว อย่างไม่เป็นธรรม มีให้เห็นมากมาย และมีความรุนแรงแตกต่างกันไปจนอาจถึงขั้นเสี่ยงต่อ ชีวิตได้ และการที่กฎหมายยังไม่มีการรับรองสิทธิและหน้าที่ของคู่รักเพศเดียวกัน ก่อให้เกิด ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น สิทธิในการตัดสินใจในการรักษาพยาบาล สิทธิใน การอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน สิทธิในการจัดทรัพย์สินร่วมกัน และสิทธิในการรับมรดก ในเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้สร้างประวัติศาสตร์ต่อรัฐสภา เนื่องจากมีประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็นมากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน มาตรา๗๗ ในกรณีเรียกร้องสมรสเท่าเทียมมากกว่า ๕๔,๐๐๐ คน และการสำรวจจาก Kid for Kids โดย 101 PUB ร่วมกับ สสส. ครับ มีประชาชนมากกว่า ๑๗,๐๐๐ คนมีความ คิดเห็นว่าควรสนับสนุนสิทธิของ LGBTQ ในด้านต่าง ๆ อีกทั้งคนไทยยังมีความสนใจในเรื่องความหลากหลายในหัวข้อ LGBTQ เพิ่มขึ้นถึง ๑๑๐ เปอร์เซ็นต์ และสมรสเท่าเทียมเพิ่มขึ้นถึง ๘๐๐ เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี ๒๐๒๒ และสิ่งเหล่านี้ถ้าหาก ไม่ได้รับการแก้ไขและยังคงเป็นเฉกเช่น ณ ปัจจุบันจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้ครับท่านประธาน ผมมีประชาชนที่ประสบปัญหาโดยตรงจากคำจำกัดความเพียงแค่สามีภรรยา ท่านแรกครับ คุณดาว เพิ่มทรัพย์ คู่ชีวิตจะต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอุบัติเหตุ แต่กลับไม่สามารถเซ็น ยินยอมรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินได้เฉกเช่นสามีภรรยาตามกฎหมายบัญญัติ แล้วทำไมเขา ถึงไม่มีสิทธิที่จะปกป้องคนรัก คุณดลญาดาสูญเสียคนรักจากโรคมะเร็ง เพียงเพราะการเข้า ไม่ถึงสิทธิสมรสตามกฎหมายจึงทำให้เกิดการสูญเสีย ผมถามว่า ๒ เคสเขาผิดอะไรครับ ท่านประธาน การที่ประชาชนจะต้องเผชิญหน้ากับคำจำกัดความเหล่านี้ ก่อให้เกิดความสูญเสีย พวกเขาเพียงต้องการเติมพื้นที่ให้เต็ม ให้ทุกคนสามารถยืนให้เท่ากันด้วยสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยไม่ลดทอนพื้นที่ของใคร ผมเชื่อว่าสมรสเท่าเทียมคือก้าวแรกของการสร้างบรรทัดฐาน ของสังคมไทยให้เปิดรับความแตกต่างนำไปสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติการรับรองสิทธิของบุคคลว่าบุคคล ย่อมเสมอกัน ในกฎหมายมีสิทธิเสรีภาพและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลไม่ว่าด้วยเหตุผลความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา อายุ ความพิการจะกระทำมิได้ แต่วันนี้การที่รัฐธรรมนูญได้เขียนข้อกำหนด ไว้เช่นนี้ก็เพื่อขจัดอุปสรรคและส่งเสริมให้บุคคลสามารถมีสิทธิและเสรีภาพ จึงสมควรแก้ไข เพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อรับรองคู่สมรสเพศ เดียวกันให้สามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเพศใดครับ โดยการแก้ไขกฎหมายอยู่ภายใต้ ๓ แนวคิด คือ ๑. ความเท่าเทียม ๒. ไม่ลดทอนความศรัทธา ๓. สิทธิในการเลือกใช้ ในมาตรา ๖๖ ผมเข้าใจดีครับท่านประธาน ว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมอาจจะทำให้พี่น้อง บางคนไม่สบายใจในเรื่องของหลักศาสนาและในเรื่องของความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเรา ไปดูในเอกสารประกอบร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่เสนอโดยรัฐบาล ได้มีการรับฟัง ความเห็นจากผู้แทนกลุ่มศาสนาที่มีต่อร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้และร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้ โดยจะมีการระบุว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่แก้ไขเพิ่มเติม จะมิใช่ข้อบังคับแก่ กรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่องของครอบครัวหรือมรดกไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ที่มีหลักความเชื่อทางศาสนาเฉพาะตน โดยจะไม่ กระทบต่อวัฒนธรรม วิถีชีวิต พิธีกรรมทางศาสนา ความรู้สึก เพราะกฎหมายฉบับนี้ เปรียบเสมือนกฎหมายทางเลือกให้คนได้เลือกใช้ และหากจะดูการแก้ไขจะเห็นได้ว่าเราได้มี การเปลี่ยนการบัญญัติของกฎหมายให้ครอบคลุมต่อทุกคนในทุก ๆ ด้าน ท่านประธานครับ สมรสเท่าเทียมนั้นดีจริงหรือ ผมจะมาอธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งขออนุญาตยกตัวอย่างจากประเทศที่มีการปลดล็อกกฎหมายนี้ ปัจจุบันประเทศที่มี กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีทั้งหมด ๓๔ ประเทศ และมีประเทศในการรณรงค์เรื่องนี้ ๕ ประเทศ และหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย แล้วเราจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อครั้งที่มีการรณรงค์และมี การออกกฎหมายในเรื่องของสมรสเท่าเทียมในปี ๒๐๑๕ จะเห็นได้ว่าอัตราการยอมรับสมรส เท่าเทียมมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น ๖๑ เปอร์เซ็นต์ และอัตราการยอมรับในสมรสเท่าเทียมจาก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง ๓๑ เปอร์เซ็นต์ ในปี ๒๐๑๙ อีกทั้งการปลดล็อกสมรสเท่าเทียม ยังมีส่วนทำให้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสลดลงร้อยละ ๒๙ จากเดิม ๔๕ โดยเทียบกับช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม นอกจากนั้นสมาคมจิตเวช จิตวิทยา สหรัฐอเมริกา ยังชี้ให้เห็นว่าการปลดล็อกนี้มีผลต่อการยอมรับทางสังคมเป็นประโยชน์ต่อ สุขภาพกายและใจอีกทั้งทำให้คู่ชีวิตยืนยาวขึ้น และจาก Think Forward Center ชี้ว่าแรงกระทบ ของสมรสเท่าเทียมนั้นไม่เพียงแต่ช่วยเหลือประเด็นที่กล่าวมา ยังลดสถิติเด็กกำพร้า ในประเทศลง อีกทั้งช่วยทำให้เศรษฐกิจเติบโตอีกด้วย

    อ่านในการประชุม

  • จะจบแล้วครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นการปลดล็อกสมรสเท่าเทียมล้วนมีประโยชน์ไม่เพียงแต่ประชาชน แต่ในเชิง เศรษฐกิจก็สามารถเป็นแรงขับเคลื่อน ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBT เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียกว่า ๖.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ในฐานะประชาชน คนหนึ่ง ขอขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทุก ๆ ภาคส่วน และเหนือสิ่งอื่นใดคือ พี่น้องประชาชนทุกคน ที่ช่วยเหลือผลักดันที่จะทำให้เกิดขึ้น ที่จะทำให้มนุษย์คน ๆ หนึ่ง สามารถรักมนุษย์อีกคนได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไป ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต ๑ เขตอำเภอเมือง แล้วก็ตำบลหนองกุ่มครับ

    อ่านในการประชุม

  • วันนี้ผมมีเรื่องราวร้องเรียน ถึงความลำบากของพี่น้องชาวตำบลหนองกุ่มครับท่านประธาน ผมได้รับรายงานจาก ท่านนายกธงชัย อินทร์ประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุ่ม และท่านผู้ใหญ่ นายรักษ์ หรีหร่อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๖ บ้านท่าแจง ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในช่วงฤดู รวมทั้งยังประสบปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากเข้ามาท่วมบ้านเรือนและ พื้นที่เกษตรกรในช่วงฤดูฝน พูดง่าย ๆ พื้นที่ตำบลหนองกุ่มเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งครับ และกระผมก็สงสารประชาชนที่ต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้ครับท่านประธาน จากการที่เรา มีฝาย แต่กลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ผมอยากจะวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้รีบจัดสรรงบประมาณเพื่อทำให้ ประตูระบายน้ำท่าแจง เพื่อให้การจัดการบริหารน้ำจากลำน้ำห้วยตะเพินสามารถช่วย บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวตำบลหนองกุ่มของกระผมได้ ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดกาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาระเบียบวาระ ผมขอหารือท่านประธานผ่านไปยัง ผู้เสนอร่างด้วยความเคารพครับ ถึงร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ คำนำหน้า และการ คุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยหลักการกระผมและพรรคเพื่อไทยสนับสนุน ความเท่าเทียมทางเพศ แล้วก็ยินดีมาก ๆ ถ้าพรรคก้าวไกลมีแนวคิดในการเสนอกฎหมาย ฉบับนี้เข้ามา ซึ่งรัฐบาลเองก็มีแนวทางในการสนับสนุนเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เช่น ในเรื่องของกฎหมายสมรสเท่าเทียม อย่างไรก็ดีกระผมได้รับทราบมาว่ามีภาคประชาชนที่มี แนวคิดที่จะเสนอร่างคล้าย ๆ กันที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาถึง ๒ ฉบับ ของคณะกรรมการ GEN-ACT ซึ่งอยู่ในระหว่างการระดมรายชื่อให้ครบ ๑๐,๐๐๐ รายชื่อตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้ แล้วก็ ๒. คือร่างของกลุ่มบุคคลที่เป็น Intersex และ Nonbinary ในนาม Intersex Thailand ท่านประธานที่เคารพครับ หัวใจในการออกกฎหมายคือการรับฟังเสียง ของประชาชน ถ้าภาคประชาชนมีความประสงค์ที่จะเสนอร่างกฎหมาย และมีการดำเนินการ ไปแล้ว กระผมคิดว่าหากเราจะรอให้ร่างกฎหมายของภาคประชาชนได้มีโอกาสเข้ามา พิจารณาสู่สภา ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเป็นอย่างมากครับ ผมคิดว่ามี ความจำเป็นที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นข้อกังวลต่าง ๆ จากทุกภาคส่วนที่อยู่ในกลุ่ม LGBTQ และที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม LGBTQ เพื่อให้กฎหมายเป็นของทุกกลุ่ม ไม่ให้กฎหมายเกิดข้อกังขาว่า อาจจะนำไปสู่การลดทอนสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่ ดังนั้นผมจึงขอเสนอ เจ้าของร่างได้พิจารณาถอนร่างฉบับนี้ออกไปก่อน เพื่อให้ร่างกฎหมายจากภาคประชาชน และภาคส่วนอื่น ๆ ได้มีโอกาสเข้ามาพิจารณาร่วมกัน รวมถึงให้มีเวลาการทำงาน ระดม ความคิด รับฟังเสียงสะท้อนจากภาคประชาชน ทั้งจากส่วนที่อยู่ในกลุ่ม LGBTQ และกลุ่มที่ ไม่อยู่ LGBTQ ครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัด กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นเลยผมต้องขอยืนยัน ผมและพรรคเพื่อไทยขอยืนยัน ในการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งรัฐบาลเองก็มีแนวคิดในการสนับสนุนความเท่าเทียม ของคนทุกเพศ ดังเช่นการเสนอร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายสมรส เท่าเทียมก็มีร่างถึง ๔ ร่าง จากรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสำคัญยังมีร่างของภาคประชาชนที่ได้ เข้าสู่การพิจารณาพร้อมกัน และสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ยังได้ผ่านร่างกฎหมายทั้ง ๔ ฉบับ และในขณะนี้ร่างทั้ง ๔ ฉบับก็อยู่ในชั้นกรรมาธิการ แล้วก็พิจารณาใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งผมเอง ก็อยู่ในกรรมาธิการนี้ด้วย ซึ่งการที่เรามีกฎหมายจากภาคประชาชน ตัวแทนจากภาคประชาชน ที่ยังมีโอกาสมานั่งเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนของภาคประชาชนในจำนวนที่มากขึ้น แล้วก็ ส่งผลดีต่อการทำงานของกรรมาธิการเอง เนื่องจากประสบการณ์ที่ผมนั่งกรรมาธิการนี้ ผมรับทราบข้อมูลและการสะท้อนถึงความจริงที่ภาคประชาชนได้สะท้อนถึงความจริงที่ เกิดขึ้นในสังคมนี้ แล้วผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ หากกฎหมายที่เรากำลังทำขึ้นได้ให้ พวกเขาได้ออกมาแสดงสิทธิ แสดงความเห็น และได้มีโอกาสที่จะออกแบบกฎหมายไป พร้อม ๆ กับเรา อย่างไรก็ดีตามที่ผมนำเรียนหารือไปก่อนหน้านี้ ภาคประชาชนมีแนวคิด ที่จะเสนอร่างกฎหมายที่มีหลักการคล้าย ๆ กับที่เรากำลังพิจารณาอยู่ถึง ๒ ฉบับ อันได้แก่ ๑. ของคณะกรรมการ GEN-ACT ซึ่งอยู่ในระหว่างการระดมรายชื่อให้ครบ ๑๐,๐๐๐ รายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญ ๒. ก็คือร่างของกลุ่มบุคคลที่เป็น Intersect และ Non-Binary ในนาม Intersect Thailand ซึ่งรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ระบุไว้ว่าหากมีการนำร่างพระราชบัญญัติที่เสนอ โดยภาคประชาชนเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการจะสามารถมีสัดส่วนกรรมาธิการที่มีภาคประชาชน มากถึง ๑ ใน ๓ ทำให้ตัวแทนภาคประชาชนมีบทบาทในการพิจารณากฎหมายมากขึ้น ผมจึง เห็นว่าการที่เรารอร่างจากภาคประชาชนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเป็นอย่างมาก และในช่วงเวลานี้ผมคิดว่ามีความจำเป็นที่ต้องมีการทำงาน รับฟังความเห็นต่อข้อกังวลต่าง ๆ จากทุกภาคส่วน จะเป็น LGBT หรือไม่ใช่ LGBT เพื่อให้กฎหมายเป็นของคนทุกกลุ่มครับ และไม่ให้กฎหมายเกิดข้อกังขาว่าอาจจะนำไปสู่การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของคนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งหรือไม่ ดังนั้นผมจึงขอเรียนท่านประธานว่าการลงมติในวันนี้ของพวกเราไม่ได้ หมายความว่าเราไม่ได้เห็นด้วยในหลักการของกฎหมายฉบับนี้ แต่เพื่อความรอบคอบและ ประโยชน์สูงสุดในการออกกฎหมาย จึงเห็นว่าการมีร่างของภาคประชาชนและภาคส่วน อื่น ๆ มาร่วมพิจารณาจะเกิดประโยชน์สูงสุดและนำไปสู่การตกผลึกทางความคิด ทั้งจาก กลุ่ม LGBTQ และกลุ่มที่ไม่ใช่ LGBTQ ได้มีโอกาสแสดงความเห็นอย่างรอบด้านมากที่สุด ขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม