กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวค่ะ คือเรื่องการติดตามความคืบหน้า ของการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานหินเขางู สืบเนื่องจากว่าเมื่อคราวที่แล้วที่ดิฉัน ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมาได้มีการนำประเด็นนี้มาหารือในสภา โดยขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน ซึ่งภายหลังจากที่ได้มีการหารือในสภาแห่งนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีการดำเนินการ จัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะคะ อาทิ สำนักจัดการป่านันทนาการ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมโยธาธิการและผังเมือง และเทศบาลตำบลเขางู โดยพื้นที่ของอุทยานหินเขางูแห่งนี้มีเนื้อที่ที่จะสามารถพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ประมาณ ๗๔๙ ไร่ แต่ว่าเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ 1A ทำให้มีขั้นตอน ในการขออนุญาตที่ค่อนข้างยุ่งยากมากกว่าพื้นที่ปกติอื่น ๆ นะคะ จึงทำให้การพัฒนา ค่อนข้างล่าช้า โดยในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปและได้ Promote พื้นที่ ที่เป็นหุบลับของอุทยานแห่งนี้ที่เรียกว่าภูผาแรด โดยพื้นที่แห่งนี้เกิดจากการขุดเจาะระเบิด หินลงใต้ดินจนไปทะลุถึงชั้นน้ำใต้ดินเกิดเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก โดยเมื่อมี การแชร์ภาพต่าง ๆ ลงในสื่อ Social ไม่ว่าจะเป็น IG Facebook TikTok นะคะ ก็ทำให้มี นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก โดยท่านนายกสัญชัย ไวคกุล ท่านนายกเทศบาล ตำบลเขางูแจ้งมา ณ ขณะนี้ว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเดือนหนึ่งประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าคน และในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้มีการเปิดให้โหวตแหล่งท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ของประเทศนะคะ โดยภูผาแรดแห่งนี้ ได้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ของประเทศด้วย และเมื่อสถานที่แห่งนี้เริ่มเป็นที่รับรู้ของนักท่องเที่ยวนะคะก็ย่อมมีคนมาเยี่ยมชม เป็นจำนวนมาก แต่ทางเทศบาลตำบลเขางู ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลก็ทำได้ แต่ขึ้นป้าย Vinyl แล้วบอกว่ายังไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ เพราะมีประเด็นในเรื่องของ ความปลอดภัยที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากน้ำในบริเวณนี้ค่อนข้าง มีความลึกมาก บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่เข้าไปและพบว่ามีนักท่องเที่ยวไปเล่นน้ำนะคะ ก็ได้แต่ ว่ากล่าวตักเตือน อีกทั้งถนนทางเข้าที่เข้ามาในภูผาแรดแห่งนี้ยังไม่สามารถปรับปรุงได้ ยังเป็นถนนหินคลุกอยู่ ไฟฟ้าแสงสว่างก็ติดตั้งไม่ได้ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยก็ติดตั้งไม่ได้ อุปกรณ์ที่จะอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวก็ติดตั้งไม่ได้ หรือแม้กระทั่งถนน และไฟฟ้าแสงสว่างที่ได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วในส่วนของพื้นที่อุทยานหินเขางูที่ดำเนินการ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง เมื่อ ๑๐-๒๐ ปีก่อนนี้ ตอนนี้ชำรุดเสียหายก็ดำเนินการ ปรับปรุงไม่ได้ เนื่องจากติดข้อบังคับทางด้านกฎหมาย ทำให้ทางท้องถิ่นและผู้นำในชุมชน เสียโอกาสในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และบ่อยครั้งที่ผู้นำ รวมถึงตัวดิฉันเองก็ถูกตำหนิว่า ทำไมไม่เข้าไปช่วยดำเนินการ ดิฉันจึงขอฝากท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดเร่งรัดการดำเนินการ ตัวดิฉันขอเสนอให้มีการเซ็น MOU ในระดับกรม ไม่ว่าจะเป็น ท่านอธิบดีกรมป่าไม้ กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมช่วยกันค่ะ ไม่อย่างนั้นเมื่อหน่วยงานหนึ่งเริ่มดำเนินการก็จะติดหลักเกณฑ์ของอีกหน่วยงานหนึ่ง ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตกราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพนะคะ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธาน เพียงเรื่องเดียวนะคะ
สืบเนื่องจากว่าดิฉันได้รับการร้องเรียน จากท่านนายกประยงค์ พิมพ์เพราะ ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูบัว ท่านนายก พินิจ ด้วงพิบูลย์ ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไร่ ท่านนายกวสันต์ กลิ่นสุคนธ์ ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนตะโก อำเภอเมืองราชบุรี ถึงความเดือดร้อน ของพี่น้องที่สัญจรบนถนนเส้นเลียบคลองอู่เรือ เนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นถนนเลียบคลอง ระบายน้ำ ๘ ขวาแม่กลอง ซึ่งอยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา โดยคลองนี้จะรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง และส่งให้กับพี่น้องในเขตชลประทาน ผ่านตำบลอ่างทอง ตำบลดอนตะโก ตำบลคูบัว และจะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำแม่กลอง ที่ตำบลบ้านไร่ ระยะทางทั้งสิ้น ๑๕ กิโลเมตร โดย ณ ขณะนี้ถนนเลียบคลองดังกล่าว มีการทรุดตัวเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะช่วงประมาณกิโลเมตรที่ ๓+๖๐๐ บริเวณหน้า หมู่บ้านปัญญทร หมู่ที่ ๑ ตำบลคูบัว เกิดการทรุดตัวพังทลาย ความเสียหายเริ่มขยาย เป็นวงกว้างตาม Clip ที่ได้นำเสนอนะคะ ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ตกไป ข้างทางเป็นประจำ ดิฉันจึงได้ลงพื้นที่ร่วมกับท่านผู้นำ พร้อมทั้งท่านผู้แทนจากโครงการ ส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดราชบุรี ท่านปลัด อำเภอเมือง ท่าน สจ. ประภาส มากสิน โดยดิฉันได้ขอหารือท่านประธานผ่านไปยังในส่วน ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้กรุณาจัดสรรงบประมาณ ในการก่อสร้างกำแพงกันดิน Slide พร้อมทั้งปรับปรุงถนนเลียบคลองส่งน้ำเช่นนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องด้วยนะคะ แล้วก็รูปล่าสุดบน Slide นะคะ นอกเหนือจากการก่อสร้างกำแพงกันดิน Slide บริเวณคลองดังกล่าวแล้วดิฉันขอเสนอแนะ เพิ่มเติม โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงคลองระบายน้ำคลองปากเตย ซึ่งอยู่ในช่วงหมู่ที่ ๒ ตำบลบ้านไร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงหน้าฝนให้กับ พี่น้องในชุมชนเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ดังที่ท่านอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ลงพื้นที่ มาตรวจราชการ เมื่อวันที่ ๖ กันยายนที่ผ่านมา ดิฉันพอมีเวลาเหลืออีกนิดหนึ่งนะคะ ในส่วนขององค์การจัดการน้ำเสีย กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจในการบำบัดน้ำเสียในชุมชน ขอให้ท่านได้ลงพื้นที่ในส่วนของตำบลเจดีย์หัก เทศบาลตำบลเขางู และเทศบาลตำบล หลักเมือง อำเภอเมืองราชบุรี ด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวนะคะ
สืบเนื่องจากว่าวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม ในพื้นที่เทศบาลเมืองราชบุรีตั้งอยู่บนเกาะ ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนมาเป็นเวลานาน จนกลายเป็นเกาะกลางน้ำในแม่น้ำแม่กลอง โดยภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวม ศิลปวัตถุสมัยทวาราวดีที่อยู่ตามท้องน้ำในแม่น้ำแม่กลอง ที่ถูกกระแสน้ำพัดพามาติดอยู่ รอบ ๆ เกาะ ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งช่วงบริเวณหัวเกาะไปแล้ว ๓๒๐ เมตร คือเส้นสีแดง แต่ยังไม่เต็มพื้นที่ โดยต้องขอขอบคุณในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมืองที่ในปี ๒๕๖๖ นี้ได้จัดสรร งบประมาณมาอีก ๑๙๕ เมตร ทำช่วงท้ายเกาะก็คือเส้นสีเหลือง ซึ่งตอนนี้ผู้รับจ้าง จะเข้าทำงานแล้ว แต่ก็ยังคงไม่เต็มพื้นที่เพราะพื้นที่รอบเกาะจากการที่ดิฉันได้ลงพื้นที่ สำรวจร่วมกับท่านผู้นำและกรมโยธาธิการและผังเมือง ความยาวทั้งสิ้นรอบเกาะ ๘๑๕ เมตร ยังขาดอีก ๓๐๐ เมตร เส้นสีเขียว พร้อมทั้งขอให้มีการปรับปรุงสะพานข้าม วัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม เนื่องจากปัจจุบันสะพานมีความแคบมาก รถสัญจร ได้แค่เพียงช่องทางเดียว นอกเหนือจากพื้นที่รอบเกาะแล้วด้านฝั่งชุมชนที่เป็นบ้านเรือนของ พี่น้องคือเส้นสีน้ำเงินก็ถูกน้ำกัดเซาะ ซึ่งมีโอกาสที่ตลิ่งจะพังทลายก่อให้เกิดความเสียหายได้ โดยจุดดังกล่าวคือช่วงตั้งแต่วัดศรีชมภู ชุมชนมนตรีสุริยวงศ์ถึงวัดเทพอาวาส ชุมชนเทศบาล ๓ ระยะทางประมาณ ๑,๒๐๐ เมตรซึ่งการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณนี้จะสอดคล้อง กับแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมเมืองราชบุรี ที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดสรรงบประมาณในระยะที่ ๑ มาแล้ว ๒๒๐ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๖ ที่ผู้รับจ้างจะเข้าดำเนินการในเร็ววันนี้ ดิฉันจึงขอหารือท่านประธานผ่านไปยัง กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้กรุณาจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่รอบวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม พื้นที่ ส่วนที่เหลือและบริเวณฝั่งบ้านเรือนของชุมชนที่อยู่ตรงข้ามวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม เพื่อป้องกันตลิ่งพัง โดยหลังจากนี้เทศบาลเมืองราชบุรี โดยท่านนายกศักดิ์ชัย พิศาลผล จะได้ผลักดันพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ตลาดน้ำชุมชน เพื่อสร้างรายได้ ให้กับคนในชุมชนต่อไป ขอบพระคุณค่ะ
จำนวนสมาชิกที่มาประชุมทั้งหมดที่ลงชื่อไว้เมื่อเลิกประชุม ๔๖๓ คน
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ในพื้นที่เทศบาลเมืองราชบุรีและพื้นที่ข้างเคียง ได้แก่ ตำบลดอนตะโก ตำบลเจดีย์หัก
สืบเนื่องจากพื้นที่เขตเทศบาล เมืองราชบุรีและพื้นที่โดยรอบมีอัตราการเกิดของบ้านพักอาศัยในรูปแบบของบ้านจัดสรร เป็นจำนวนมาก ประกอบกับได้มีโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งเป็นอุปสรรคส่วนหนึ่ง ในการระบายน้ำในเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าว โดยเมื่อเกิดภาวะช่วงหน้าฝนผลที่ตามมา คือน้ำท่วมขังบ้านเรือนพี่น้องในชุมชนตาม Clip ที่ได้นำเสนอท่านประธาน โดยในห้วงเวลา ที่ผ่านมาดิฉันได้รับเรื่องร้องเรียนและได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางน้ำร่วมกับท่านผู้นำในชุมชน และได้ประสานความเดือดร้อนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยต้องขอขอบคุณในส่วนของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ที่ได้จัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๖๖ วงเงินงบประมาณ ๒๒๐ ล้านบาท ในการก่อสร้างโครงการป้องกันน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ อยู่ในช่วงของการประมูลงานหาตัวผู้รับเหมา โดยเป็นงานวางท่อขนาดใหญ่ ขนาด ๒.๔๐ เมตร บริเวณแนวถนนอุดมศิริ หน้าสำนักงานทางหลวงชนบทราชบุรี เพื่อนำน้ำบางส่วน จาก Zone เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต ๑ นำน้ำบางส่วนจาก Zone ด้านหลัง ตลาดศรีเมือง นำน้ำบางส่วนจาก Zone ชุมชนแม้นรำลึก เทศบาลเมืองราชบุรี ออกทางแยก โรงแรม D1 ไปยังจุดรวมน้ำสะพานรถไฟ กิโลเมตรที่ ๑๐๑+๗๔๕ ที่ดิฉันต้องใช้คำว่า นำน้ำบางส่วนออกนั้นเป็นเพราะว่าการนำมวลน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวออกจากเส้นทาง วางท่อที่ดิฉันได้กล่าวถึงไม่รวดเร็วพอที่จะนำน้ำออกได้ทันการณ์ โดยที่ผ่านมาได้มี การประชุมหารือร่วมกับท่านผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นท่านนายกศักดิ์ชัย พิศาลผล จากเทศบาล เมืองราชบุรี ท่านนายกวสันต์ กลิ่นสุคนธ์ จากทางตำบลดอนตะโก ทางสำนักงานโยธาธิการ และผังเมืองจังหวัดราชบุรี และตัวของดิฉันเองได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางน้ำอีกหลายจุด จึงได้ข้อสรุปว่าแนวทางระบายน้ำออกอีกเส้นทางหนึ่งที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ได้รวดเร็วขึ้น นั่นคือการวางท่อตามแนวถนนหลังโรงเรียนดรุณาราชบุรีวิเทศศึกษา ผ่านพื้นที่ ศูนย์แพทย์แผนไทยของโรงพยาบาลราชบุรี ออกไปยังซอยจอมปลวกข้างร้านอาหาร หนามหญ้า และไปออกที่จุดรวมน้ำสะพานรถไฟ กิโลเมตรที่ ๑๐๑+๗๔๕ โดยการวางท่อ เพิ่มเส้นทางระบายน้ำจุดนี้ นอกจากพื้นที่ที่ดิฉันได้กล่าวถึงจะได้รับประโยชน์ แล้วพี่น้อง อีกฝั่งหนึ่งก็คือ Zone หมู่บ้านคอกควาย หมู่ที่ ๓ ตำบลดอนตะโก และภายในพื้นที่บริเวณศูนย์แพทย์แผนไทยซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของบุคลากรทางการแพทย์ อนาคตจะมีการก่อสร้างอาคารชุดที่พักอาศัยเพิ่ม ที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ด้วยเช่นกันก็จะได้รับประโยชน์ด้วย ดิฉันจึงขอหารือท่านประธานผ่านไปยังกรมโยธาธิการ และผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้โปรดดำเนินการตั้งงบประมาณประจำปี ๒๕๖๗ ที่จะถึงนี้เป็นโครงการวางท่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในพื้นที่เขตเทศบาล เมืองราชบุรีและตำบลข้างเคียง โดยเป็นโครงการต่อเนื่อง ระยะที่ ๒ เพื่อแก้ไขปัญหา น้ำท่วมขังตรงนี้ให้จบสิ้นและยั่งยืนต่อไป ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทยสร้างชาติ ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวค่ะ
คือเรื่องแนวทางการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ในความดูแลของกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เนื่องด้วยตามมติ ครม. เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ และวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่จะเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ภายในพื้นที่ของตัวเองที่มีร่องรอยการรุกล้ำ และทำประโยชน์อยู่ก่อน ต้องยื่นขอผ่อนผันตามมติ ครม. ภายใน ๑๒๐ วันกับกรมป่าไม้ นั่นหมายความว่า ณ ขณะนั้น ท้องถิ่นใดถ้าต้องการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า เช่นปรับปรุง ซ่อมแซมถนนลาดยางเดิมหรือถนนคอนกรีตเดิมในหมู่บ้าน ถ้าไม่ได้ยื่นขอผ่อนผันไว้ภายใน ห้วงเวลา ๒๐ วันตามมติ ครม. ดังกล่าว ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในแต่ละภูมิภาค อย่างเช่น จังหวัดราชบุรีเป็นเขต ๑๐ จะไม่สามารถเข้าตรวจสอบและอนุมัติโครงการให้กับ ท้องถิ่นได้เลย โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี ๒๕๖๔ ก็ได้มีการเลือกตั้งนายกท้องถิ่นใหม่ ทั้งประเทศ ท่านนายกที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ก็มารับช่วงต่อจากนายกท่านเก่า บางท้องถิ่นนายกท่านเก่าก็ไม่ได้มีการยื่นคำขอผ่อนผันไว้ ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตู ตัวเอง ทำโครงการอะไรไม่ได้เลย บางท้องถิ่นนายกท่านเก่ายื่นคำขอไว้ แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบไม่ทัน จังหวัดราชบุรีมีความกระตือรือร้นค่ะท่านประธาน จังหวัดเดียว มีการยื่นคำขอผ่อนผันตามมติ ครม. ไว้ถึง ๕,๐๐๐ คำขอ ติด Top Ten ๑ ใน ๑๐ ของกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ก็ลงตรวจสอบไม่ทัน สิ่งที่เกิดขึ้นนะคะ คืออุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่เกิด ความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน บางท้องถิ่นกันเงิน งบประมาณรอไว้จนงบประมาณตกไป ท่านนายกท้องถิ่น นายกเล็ก นายกใหญ่ โดนชาวบ้าน ต่อว่าค่ะว่าเป็นนายกมาเกือบจะ ๒ ปีไม่มีผลงานในพื้นที่ใด ๆ เลย ดิฉันจึงขอหารือ ท่านประธานผ่านไปยังกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึง ความเป็นไปได้ในการเสนอขอให้แก้ไขทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ จากที่กำหนดให้ยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ภายใน ๑๒๐ วัน ให้แก้ไขเป็น ให้ยื่นคำขอ อนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้หากยังมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ต้อง ระบุห้วงเวลาค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทย สร้างชาติ ขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ๒ ท่านนะคะ ๑. นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ๒. นายชนาธิป สุพัฒน์ศิริ ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน กุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๑ พรรครวมไทย สร้างชาติค่ะ ดิฉันมีเรื่องขอหารือท่านประธานเพียงเรื่องเดียวค่ะ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ อุบัติเหตุรถชนราวสะพานแล้วตกลงแม่น้ำแม่กลอง เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บนสะพานธนะรัชต์ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ตามที่ปรากฏในสื่อหลาย ๆ สำนักนะคะ ก็ได้มีการตั้งคำถามจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถึงความปลอดภัย ความแข็งแรง ของโครงสร้างสะพาน
โดยหลังจากที่เกิดเหตุ ดิฉันเองก็ได้ ลงพื้นที่ร่วมกับทางท่านหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดและท่านผู้นำในท้องที่ โดยเฉพาะ ต้องกราบขอบพระคุณทางแขวงทางหลวงราชบุรี ท่าน ผอ. ปิยวัฒน์ ไทรงาม ที่ได้ดำเนินการ อย่างเร่งด่วนในการติดตั้ง Barrier พร้อมทั้งนำแผ่น Guardrail หรือราวกันตก และนำ กรวยยางติดตั้งตั้งแต่หน้าอุโมงค์ศาลคุณตาหลักเมืองจนถึงบริเวณคอสะพาน เพื่อเป็น การบังคับทางเดินรถและในการลงพื้นที่ก็ได้ขอให้แขวงทางหลวงได้เพิ่มในเรื่องของงาน อำนวยความปลอดภัย งานปรับปรุงจุดเสี่ยง เช่น ตีเส้นแบ่งช่องทางเดินรถให้ชัดเจน ตีเส้นชะลอความเร็ว ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายสัญญาณสะท้อนแสง ไฟกระพริบ แต่สิ่งที่พี่น้อง ร้องถามกันมามากก็คือการแก้ไขปัญหาในอนาคตค่ะท่านประธาน โดยเมื่อปลายปี ๒๕๖๒ รัฐบาล ณ ขณะนั้นอยู่ภายใต้การนำของท่าน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้มีการประชุม ครม. สัญจร ครั้งที่ ๑ ที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้มีการลงพื้นที่มาตรวจราชการที่จังหวัด ราชบุรี โดย ณ ขณะนั้นทางจังหวัดเองก็ได้มีการนำเสนอขอให้ทำการสำรวจ ออกแบบ และปรับปรุงสะพานธนะรัชต์ บนถนนทางหลวงหมายเลข ๓๓๐ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ แม่กลองสร้างสมัย จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีอายุเก่าแก่กว่า ๖๓ ปี ฉะนั้นจึงขอหารือ ท่านประธานผ่านไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ขอให้เร่งรัดการปรับปรุง การก่อสร้างเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างสะพานเดิมที่ชำรุดเสียหาย ที่มีอายุ เกินกว่า ๖๓ ปีนี้ โดยเฉพาะการออกแบบ ขอให้เสริมความแข็งแรงของราวสะพาน และเสริม อุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ ที่จำเป็น โดยเฉพาะช่วงที่เบียดขึ้นสะพาน จะถูกบีบเลนจาก ๔ เลน เหลือแค่ ๒ เลน ซึ่งถือว่าอันตรายมาก โดย ณ ขณะนี้อยู่ในห้วงของการจัดทำ งบประมาณ ปี ๒๕๖๘ พี่น้องชาวราชบุรีก็มีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะถูกจัดอยู่ ในอันดับความสำคัญอันดับต้น ๆ ของกรมทางหลวง ในการทำงบประมาณในปีต่อไป ขอบพระคุณค่ะ