ข้อมูลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ชุดที่ 26

ปีที่ 1

สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง

ครั้งที่ 14 วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.36 - 19.43 นาฬิกา

เอกสารต้นฉบับ: บันทึกการประชุมบันทึกการออกเสียงและลงคะแนนรายงานการประชุม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ที่ประชุมครับก่อนเริ่มวาระการประชุมจะมีโอกาสให้หารือนะครับ ขอเชิญท่านแรกเลยครับ ท่านเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ครับ

นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่ ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องหารือท่านประธาน ๑ เรื่อง

นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ผมได้รับการร้องเรียนจาก พี่น้องประชาชนตำบลเมืองจัง หมู่ที่ ๑ และหมู่ที่ ๙ เกี่ยวกับเรื่องที่ดิน ที่ดินส่วนนี้สมัยปู่ย่า ตายายเขาได้ทำมาจนไม่รู้กี่ทอดแล้ว แต่ก็ได้มีหน่วยสำรวจออกโฉนดที่ดินได้เดินออกโฉนด ที่ดิน ก็บอกว่าที่ดินของเขานี้มันอยู่ในเขตป่าสงวน แต่ความเป็นจริงแล้วที่ดินนี้กรมป่าไม้ ได้กันพื้นที่ออกมาอย่างที่เห็นในภาพ เส้นสีแดงฝั่งขวามือคือพื้นที่ป่าสงวน แล้วฝั่งซ้ายมือคือ ที่ดินที่ป่าไม้ได้กันออกมาเป็นนอกเขตป่าแล้ว แล้วชาวบ้านเขาก็มาร้องเรียนกับผมว่าให้ผม ได้ติดตามกับทางกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และกรมป่าไม้ เพื่อให้ Update ข้อมูล ให้กรมป่าไม้ส่งข้อมูลให้กับกรมที่ดิน ถ้าไม่อย่างนั้นกี่ปีมันก็ไม่ได้ออกเป็นเอกสารสิทธิสักที ครั้งนี้ทางเจ้าของที่ดินเขาก็ไม่ยอม จะต้องออกโฉนดที่ดินให้ได้ ความจริงกรมป่าไม้ ได้กันพื้นที่ออกจากเขตป่าสงวนเป็นเวลามาหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่ากรมป่าไม้และกรมที่ดิน ไม่ประสานงานกัน และไม่ Update ข้อมูล ก็ขอให้ท่านประธานได้ช่วยประสานกับกรมที่ดิน และกรมป่าไม้ให้ประสานงานกันเพื่อ Update ข้อมูลในการกันเขตพื้นที่ในป่าสงวนออกให้ ด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๙ บางเขน จตุจักร หลักสี่ พรรคก้าวไกลครับ ขอปรึกษาหารือถึงปัญหาเรื่องของถนนกำแพงเพชร ๖ หรือ Local Road ที่อยู่ภายใต้การดูแลของการรถไฟหรือ รฟท. ครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ถนนกำแพงเพชร ๖ เป็นถนน สำคัญผ่านหลายเขตในกรุงเทพมหานครยาวไปจนถึงปทุมธานี แต่ปัจจุบันถนนกำแพงเพชร ๖ ชำรุดหนักมากครับ เป็นหลุม เป็นบ่อ พังเป็นเกลียวคลื่น ซึ่งเกิดจากการสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ของผู้รับจ้าง แม้จะอยู่ในช่วงประกันผลงานของผู้รับจ้างก็ตาม แต่การรถไฟกลับไม่กระตือรือร้น เร่งรัดให้ผู้รับเหมามาแก้ไขเสียที มิหนำซ้ำยังปล่อยให้สายไฟโดนขโมยกว่า ๒๐ รอบ ระยะทางยาวประมาณ ๕ กิโลเมตร ทำให้ถนนไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างจนประชาชนเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต นอกจากจะไม่ดูแลทรัพย์สินของตัวเองแล้ว ยังทำให้ประชาชนเดือดร้อนอีกต่างหาก เพื่อน สส. ของผมอย่าง สส. จอจาน เอกราช เขตดอนเมือง หรือ สส. กู๊ดดี้ ชยพล เขตหลักสี่ อภิปรายหลายครั้งแต่กลับไม่ได้รับการแก้ไข ไม่รวมถึงถนนเทอดดำริของ สส. กานต์ ภัสริน เขตบางซื่อ และถนนกำแพงเพชร ๑ จนไปถึงกำแพงเพชร ๗ ที่อยู่ในการดูแลของการรถไฟ แต่กลับถูกปล่อยให้ทรุดโทรม พังเกือบทั้งเส้น ไฟดับ สายไฟโดนขโมยครับ นี่แสดงถึง ความไร้ศักยภาพของการรถไฟในการปกป้องรักษาทรัพย์สินเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ผมอยากเสนอให้การรถไฟนัดประชุมกับทางกรุงเทพมหานครโอนถนนของตัวเองทั้งหมด พร้อมสัญญาประกันผลงานและงบประมาณในการซ่อมแซมไปให้กรุงเทพมหานครจัดการ แทนครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ครับท่านประธาน คือความศักดิ์สิทธิ์ของการปรึกษาหารือ สมัยประชุมรอบที่แล้วเราอภิปรายกันไปกว่า ๒,๓๐๐ เรื่อง หน่วยงานตอบกลับมาแค่ ๓๐๐ เรื่องเท่านั้น นี่เป็นการไม่ให้เกียรติสภาและ สส. ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ทั้ง สส. รัฐบาลและ พรรคฝ่ายค้าน เราจะเสียเวลาปรึกษาหารือกันทำไมถ้าหน่วยงานใหม่จัดการแก้ไข ไม่ตอบ ข้อหารือของพวกเรา ผมฝากท่านประธานจริง ๆ ครับ ช่วยกันหามาตรฐาน มาตรการในการ ให้ฝ่ายบริหารและหน่วยงานต่าง ๆ ให้เกียรติ สส. และตัวแทนประชาชนให้มากกว่านี้ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เดี๋ยวฝ่ายเลขานัดสำนักนายกรัฐมนตรีเลยนะครับ อาทิตย์หน้าผมจะไปดูระบบ เรื่องการปรึกษาหารือที่สำนักนายกรัฐมนตรี ขอเชิญท่านพชร จันทรรวงทอง ครับ

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ ผม นายพชร จันทรรวงทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต ๑๓ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมขอหารือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งหมด ๓ เรื่อง ดังนี้

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ผมได้รับเรื่องร้องทุกข์ จากท่าน อบต. สมศักดิ์ นุ้ยแก้ว ว่ามีปัญหาที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ในอดีต ได้มีการสร้างเขื่อนลำตะคอง ซึ่งได้กระทบกับพี่น้องที่อยู่ละแวกนั้นเป็นอย่างมาก จึงได้มีการ จัดตั้งนิคมสร้างตนเองลำตะคองขึ้นมาเพื่อจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ แต่พอมาในปี ๒๕๔๗ ทางนิคมได้นำแผนที่ ๑:๕๐,๐๐๐ มาใช้เพื่อ ตรวจสอบแนวเขต แต่พบว่าแนวเขตของจังหวัดไม่ตรงกับแนวเขตของคณะปฏิวัติ ทำให้ ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซ้อนทับกันทั้งที่นิคม ที่ทหาร ที่ธนารักษ์ ส่งผลให้สมาชิกนิคม ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินได้ เดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผมจึงขอให้กรมธนารักษ์ กระทรวง พม. กรมที่ดิน เร่งดำเนินการพิสูจน์เพื่อจัดสรรที่ดินให้กับสมาชิกนิคมด้วยครับ

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากพี่น้องบ้านน้ำเมา อำเภอสีคิ้ว เนื่องจากทาง ที่ดินจังหวัดนครราชสีมาได้มีหนังสือสั่งการให้นำที่ดินดังกล่าวมาออก น.ส.ล. ส่งผลให้พี่น้อง ประชาชนร้อนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนได้อยู่อาศัยมาก่อนที่รัฐจะได้มีการ ขึ้นทะเบียนที่ดินสาธารณประโยชน์ มีทะเบียนบ้าน มีการเสียภาษีบำรุงท้องถิ่น ซึ่งพี่น้อง ประชาชนก็ได้คัดค้านและต่อสู้เพื่อพิสูจน์ออกโฉนดมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้รับการดำเนินการ แต่อย่างใด ผมจึงขอให้กรมที่ดิน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เร่งพิสูจน์สิทธิเพื่อออก โฉนดให้กับพี่น้องประชาชนครับ

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากพี่น้องตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว ว่าได้รับ ผลกระทบจากโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยการรถไฟได้มีหนังสือที่จะชี้แจงมูลค่า เวนคืนที่ดินให้กับพี่น้องประชาชน แต่พี่น้องประชาชนเกิดความสงสัย ที่ดินห่างกันแค่ นิดเดียว ประเภทเอกสารสิทธิเหมือนกัน แต่ทำไมมูลค่าเวนคืนกลับแตกต่างกันค่อนข้างมาก ทำให้รู้สึกว่ามีความไม่เป็นธรรม และมีที่ดินของ นายสมนึก แพ่งจันทึก ไม่ได้เงินค่าเวนคืน ๒ ไร่ เนื่องจากเดิมนายสมนึกอดีตเคยครอบครองที่ดิน ๒๑ ไร่ แต่ได้มีการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ เอกสารสิทธิออกโฉนด ซึ่งได้รับออกโฉนดเพียงแค่ ๑๙ ไร่ ซึ่งอีก ๒ ไร่ไม่ถูกออกโฉนด จึงไม่ได้รับค่าเวนคืนในส่วนของ ๒ ไร่นั้น จึงอยากขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยหรือว่า กรมธนารักษ์ได้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ ครับ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ เขต ๒ พรรคภูมิใจไทย ผมมีเรื่องหารือต่อท่านประธานครับ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

เรื่องแรก ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลอ่าวลึกใต้ ท่านนวกร สังข์แก้ว ถึงปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่หมู่ ๒ หมู่ ๔ หมู่ ๗ ตำบลอ่าวลึกใต้ มีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า ๑๐๐ หลังคาเรือน ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นมากกว่า ๒๐ ปีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงขอฝาก ท่านประธานประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยด่วนครับ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เรื่องปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ ของพี่น้องในพื้นที่ตำบล อ่าวลึกใต้ ซึ่งทาง อบต. อ่าวลึกใต้ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานชลประทานจังหวัดกระบี่ ให้สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงฝายน้ำล้นบ้านคลองสุข หมู่ ๖ ตำบลอ่าวลึกใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงขอให้ท่านประธานช่วยเร่งรัดโครงการดังกล่าวผ่านไปยัง กรมชลประทานด้วยครับ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เรื่องปัญหาความขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ ของพี่น้องตำบล อ่าวลึกเหนือที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก หลายครัวเรือนต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภค เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอฝากท่านประธานช่วยประสานไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าวด้วยครับ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม พี่น้องในเขตพื้นที่ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีพี่น้องอาศัยอยู่กว่า ๓,๐๐๐ คน มีความ ขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก ด้วยสภาพพื้นที่เป็นพื้นที่ทะเลล้อมรอบ ไม่สามารถขุดหา แหล่งน้ำจืดได้ในพื้นที่ ปัจจุบันต้องใช้รถขนน้ำจืดบริการพี่น้องประชาชนวันละ ๒๐ เที่ยว ส่งผลให้สิ้นเปลืองงบประมาณของ อบต. เป็นอย่างมาก โดยแหล่งน้ำจืดที่ใกล้ที่สุด ห่างออกไป ๖ กิโลเมตร จึงขอเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยครับ ขอบคุณมากครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ครับ

นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมุทรสงคราม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล วันนี้ผมมีความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสงครามมา ปรึกษาหารือกับท่านประธาน ดังต่อไปนี้ครับ ขอสไลด์ด้วยครับ

นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมุทรสงคราม ต้นฉบับ

เรื่องแรก จังหวัดสมุทรสงคราม มีพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวเกือบ ๗๐,๐๐๐ ไร่ คิดเป็น ๑ ใน ๔ ของพื้นที่ทั้งจังหวัด มะพร้าว จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม สถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดการ ระบาดของแมลงศัตรูมะพร้าว ได้แก่ หนอนหัวดำ แมลงดำหนาม ในพื้นที่ตำบลดอนมะโนรา ตำบลวัดประดู่ ตำบลท่าคา ตำบลปลายโพงพาง ตำบลนางตะเคียน และในอีกหลายตำบล เกือบทั่วทั้งจังหวัดเลยครับ ส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน กระผมจึงขอฝาก ท่านประธานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้รีบออกมาตรการช่วยเหลือก่อนที่การระบาด จะหนักขึ้นกว่านี้ จนทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้นครับ

นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมุทรสงคราม ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ถนนพระราม ๒ ช่วงที่ผ่านจังหวัดสมุทรสงครามตลอด ๓๐ กิโลเมตร ไม่มีสะพานกลับรถจักรยานยนต์แม้แต่แห่งเดียวเลยครับ ประชาชนที่ใช้จุดกลับรถต้องเสี่ยง ชีวิตทุกวัน ครั้นจะใช้จุดกลับรถใต้สะพานก็มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบริเวณ กม.๕๙ ตำบล บางแก้ว มีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาใช้งานเป็นพันคน รวมถึง กม.๖๔ ตำบลบางจะเกร็ง และ กม. ๗๘ ตำบลแพรกหนามแดง ที่เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต อยู่บ่อยครั้ง กระผมจึงขอให้ท่านประธานประสานไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ให้จัดสรรงบประมาณสร้างสะพานกลับรถจักรยานยนต์เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ด้วยครับ

นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมุทรสงคราม ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย ปัญหาราคาสัตว์น้ำของชาวประมงทั่วทั้งประเทศ รวมถึงจังหวัด สมุทรสงครามของผมมีราคาตกต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำอาหารทะเลจากต่างประเทศ เข้ามาเป็นจำนวนมาก หรืออาจมีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ผมจึงขอฝาก ท่านประธานให้แจ้งไปยังกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดการปัญหานี้ โดยด่วนด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านฉลาด ขามช่วง ครับ

นายฉลาด ขามช่วง ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ ผม ฉลาด ขามช่วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขต ๒ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้ขออนุญาตนำเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาหารือ เพื่อให้หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องนำไปแก้ไขปัญหาต่อไป

นายฉลาด ขามช่วง ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

เรื่องแรก ได้รับการร้องเรียนจาก ร้อยโท วีระศักดิ์ พิลาบุตร สมาชิกสภา อบต. ปาฝา อำเภอจังหาร ว่าพี่น้องเกษตรกรหลายตำบลได้รับความเดือดร้อน เนื่องจาก วัชพืชผักตบชวาได้เกิดในลำห้วยอย่างหนาแน่น ไม่ต่ำกว่า ๕๐ เซนติเมตร จึงให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไปขุดลอกกำจัดวัชพืช เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้ใช้น้ำในฤดูแล้ง หน้าฝนเกิด น้ำท่วมในลำห้วยดังต่อไปนี้ครับ ห้วยกระแจะ ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร ลำห้วยแคน ตำบล ปาฝา อำเภอจังหาร ลำห้วยกุดแสนชาติ ตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ลำห้วยเหล่านี้เป็นที่หล่อเลี้ยงของพี่น้องเกษตรกร ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปรีบกำจัด ผักตบชวาก่อนที่หน้าฝนจะมาครับ

นายฉลาด ขามช่วง ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อสร้างถนนสายบ้านธาตุจอมศรี ตำบลคำพอุง อำเภอโพธิ์ชัย ไปเชื่อมกับบ้านราษฎร์ดำเนิน อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เส้นที่ ๒ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปก่อสร้างถนนสายบ้านเชียงใหม่ ตำบลเชียงใหม่ อำเภอโพธิ์ชัย เชื่อมกับตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ดครับ

นายฉลาด ขามช่วง ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้พี่น้องเกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาทพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย พี่น้องเกษตรกรขอบคุณรัฐบาลมา แต่เนื่องจาก มีพี่น้องเกษตรกรกลุ่มหนึ่งที่มีหนี้เกินกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ได้รับความคุ้มครอง จึงขอให้ รัฐบาลสั่ง ธ.ก.ส. เพิ่มโครงการพักหนี้พี่น้องเกษตรกรที่เป็นหนี้เกินกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท ให้ได้รับประโยชน์ด้วยครับ

นายฉลาด ขามช่วง ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย เนื่องจากอำเภอโพธิ์ชัยบ้านผมมีงานประเพณีบุญข้าวจี่ ของดี เมืองโพธิ์ชัย ในวันที่ ๙ วันที่ ๑๐ นี้ครับ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวโพธิ์ชัยและพี่น้องใกล้เคียง ไปเที่ยวงานบุญข้าวจี่ งานประเพณีของพี่น้องชาวอีสานด้วยครับ ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านธนเดช เพ็งสุข ครับ

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ กระผม เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตลาดพร้าว บึงกุ่ม พรรคก้าวไกลครับ

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

วันนี้ขออนุญาตหารือกับ ท่านประธานถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวคลองตาหนัง เขตบึงกุ่ม ซอยนวมินทร์ ๑๑๑ พี่น้องประชาชนชาวคลองตาหนัง จากภาพฉายจะอยู่อาศัยกันริมคลอง เราจะพบว่ามีน้ำ ที่สีดำ แล้วก็มีทางเดินเท้าที่ค่อนข้างเล็ก ซ้ำร้ายยังไม่มีราวกั้นใด ๆ ส่งผลให้อาจเกิดอันตราย ต่อชีวิตพี่น้องประชาชน สไลด์ต่อไปนี่คือภาพฉายเวลากลางคืนของพี่น้องชาวคลองตาหนัง เฉกเช่นเดียวกันครับ ชุมชนนี้มีเด็กเล็กอยู่ค่อนข้างมาก ทราบมาว่ามีการพลัดตกก็บ่อยครั้ง อยากเรียนท่านประธานไปยังทาง กทม. ให้ช่วยเข้าพัฒนาดำเนินการติดตั้งรั้ว พร้อมขยาย ทางเดิน รวมถึงการไฟฟ้าให้ติดตั้งไฟฟ้าสืบต่อไปครับ

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ภาพต่อไปครับท่านประธาน นี่คือทางเดินเท้าที่ชาวบ้านต้องทำกันเอง เป็นทางเดินไม้รวมถึงสะพานข้าม ซึ่งไม่มีมาตรฐานใด ๆ เลยและไม่เคยมีทาง กทม. เข้าไป ชุมชนนี้ เป็นชุมชนเชื่อมระหว่างเขตบึงกุ่มและเขตบางกะปิ อยากให้ทาง กทม. เข้าดำเนินการ เป็นการด่วนด้วยครับ

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เพิ่มเติมครับ จากสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวคลองตาหนังได้รับผลกระทบทางตรง จากอุบัติเหตุแอมโมเนียที่ทางโรงงานขนาดใหญ่ทำหล่นแล้วก็ปล่อยน้ำลงคลอง อยากให้ กทม. เข้าไปเยียวยาดูแลรวมถึงตรวจสุขภาพด้วยครับ

เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สุดท้ายครับ นี่คือปัญหาของพี่น้องชาวลาดพร้าว ๗๑ ที่สะท้อนผ่าน Page Facebook Ladprao71 Station เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนหลากหลายปัญหาจริง ๆ ซึ่งผมได้รวบรวมเป็นเอกสารและจะแนบส่งให้ท่านประธานต่อไปนะครับ แต่หลัก ๆ เป็นปัญหาเรื่องรถสาธารณะจากบริเวณรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะเข้ามาบริเวณถนน นาคนิวาส ถนนโชคชัย ๔ หรือว่าลาดพร้าว-วังหินก็ตาม ทำให้ไม่มีจุดเชื่อมต่อทางรถไฟได้ ชัดเจน รวมถึงรถเมล์ ๑๕๖ อยากให้เปลี่ยนทางเดินเพื่อสะท้อนความต้องการของชีวิต พี่น้องประชาชนจริง ๆ ครับ เรียนท่านประธานไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เข้าดำเนินการด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านวิริยะ ทองผา ครับ

นายวิริยะ ทองผา มุกดาหาร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม วิริยะ ทองผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร พรรคพลังประชารัฐ วันนี้ผมมีเรื่อง หารือท่านประธานอยู่ ๒ เรื่อง

นายวิริยะ ทองผา มุกดาหาร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ผมได้รับคำร้องเรียนจากพี่น้อง ชาวอำเภอหว้านใหญ่ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของกระผม ถนนทางหลวงชนบท มห.๓๐๑๐ เส้นทางระหว่างคำป่าหลายไปยังอำเภอหว้านใหญ่ซึ่งเป็นถนนหลักในการสัญจรไปมา ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแก่งกะเบา เส้นทางดังกล่าวมีการชำรุดเป็นอย่างมาก คอสะพานทรุดตัว บางจุดยังไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง และบางจุดมีไฟฟ้าส่องสว่างแต่ไม่ได้รับ การซ่อมแซม ในฐานะตัวแทนของพี่น้องชาวอำเภอหว้านใหญ่ผมขอฝากท่านประธานไปยัง หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยแก้ไขซ่อมแซมถนนดังกล่าวด้วย

นายวิริยะ ทองผา มุกดาหาร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ผมได้รับคำถามจากพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารว่าสนามบิน มุกดาหารจะเกิดขึ้นเมื่อไร จะสร้างปีไหน ผมได้หาข้อมูลว่าตอนนี้กำลังศึกษา EIA ผมจึงฝาก ท่านประธานไปยังกระทรวงคมนาคมว่าการศึกษา EIA ใช้เวลาเท่าไร แล้วจะเสร็จเมื่อใด และจะสร้างหรือไม่ พี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารจะขอขอบพระคุณรัฐบาลที่มาจากการ เลือกตั้งถ้าได้ สร้างสนามบินให้เสร็จในสมัยท่านนายกรัฐมนตรีที่ชื่อท่านเศรษฐา ทวีสิน ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านสรพัช ศรีปราชญ์ ครับ

นายสรพัช ศรีปราชญ์ สระบุรี ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ ผม สรพัช ศรีปราชญ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต ๑ พรรคก้าวไกล วันนี้นำความ เดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่มาปรึกษาหารือ ๒ เรื่องครับ

นายสรพัช ศรีปราชญ์ สระบุรี ต้นฉบับ

เรื่องแรก ได้รับฝากเรื่องมาจากท่านจุฬนี ธนกฤตอัมพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสว่าง ติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำประปา ไหลเบาไปจนถึงไม่ไหลเลยในพื้นที่ตำบลโคกสว่าง ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบ ๒ หน่วยงาน คือการประปาส่วนภูมิภาค สาขาหนองแค การประปาส่วนภูมิภาค สาขาพระพุทธบาท ท่านประธานครับ พี่น้องประชาชนชาวตำบลโคกสว่างส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยครับ จะให้ แก้ไขปัญหาโดยการไปซื้อถังสำรองน้ำมา หรือว่าให้ไปหาซื้อปั๊มน้ำมาแก้ไขปัญหากันเองนั้น เป็นการเพิ่มรายจ่ายให้ประชาชนอย่างไม่จำเป็นเลยครับ ฝากท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้ง ๒ หน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนชาวตำบลโคกสว่างด้วยครับ

นายสรพัช ศรีปราชญ์ สระบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่จังหวัดสระบุรีมืดดับหลายจุด ซึ่งก่อให้เกิด อุบัติเหตุหลายครั้งซ้ำซากมาก ๆ จุดแรกถนนมิตรภาพ บริเวณหน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี ตรงนี้เป็นถนนที่เป็นทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร หรือจากกรุงเทพมหานครมุ่งสู่อีสาน รถที่ผ่านบริเวณนี้จะใช้ความเร็วค่อนข้างมาก หากไม่แก้ไขปัญหาจะเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ เพิ่มขึ้นอีกครับ จุดต่อมาเป็นถนนทางหลวงหมายเลข ๓๖๒ ตั้งแต่ทางแยกต่างระดับ Bypass สระบุรีไปจนถึงแยกพระพุทธฉายสายไฟส่องสว่างมืดดับ ตรงนี้เป็นเวลานานมากแล้ว และเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่เป็นจุดกลับรถ หรือบางคันขับตกถนน เพราะมองไม่เห็นทางก็มี จุดสุดท้ายถนนหมายเลข ๓๖๒ เช่นเดิม บริเวณตำบลโคกสว่าง และจุดกลับรถใต้สะพานตำบลผึ้งรวง ซึ่งจุดนี้มีพี่น้องประชาชนถูกโจรกรรมมาแล้วครับ หลังจากนั้นมีการซ่อมไฟฟ้าส่องสว่างถนนจนใช้ได้ แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็มืดดับเช่นเดิม ฝากท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนด้วย ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านราชิต สุดพุ่ม ครับ

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ ๑ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยเทศบาลนครศรีธรรมราช ตำบลปากนคร ตำบลท่าไร่ ตำบลบางจาก และตำบล ท่าเรือ พรรคประชาธิปัตย์

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

กระผมได้หารือกับดอกเตอร์กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช พบว่าผมต้องนำเรื่องดังกล่าวมาหารือผ่าน ท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอรับ การสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจให้กับเทศบาลนคร เพื่อพัฒนาด้านการศึกษา สมัยใหม่ และการจัดทำระบบน้ำประปาสะอาดให้กับพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ครับ

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

๑. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดหาครุภัณฑ์ทางการศึกษา การสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ Metaverse Classroom ขนาด ๔๕ ที่นั่งเรียน งบประมาณ ๒๖ ล้านบาทเศษ ให้กับโรงเรียนสาธิตเทศบาลวัดเพชรจริก สังกัดเทศบาลนคร ทั้งนี้ เทศบาลนครได้ทำ MOU กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ และได้ดำเนินการใช้สื่อดังกล่าวมา พบว่ามีผู้ใช้บริการประมาณ ๒๐,๐๐๐ คน และจากการ ประเมินผลในสื่อดังกล่าวพบว่ามีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาสูง มีความพึงพอใจของนักเรียน และผู้ปกครอง ที่สำคัญทำให้เด็กเรียนก้าวทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากโครงการดังกล่าวได้รับ การสนับสนุนคาดว่าจะให้บริการเด็กได้ประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน ซึ่งเทศบาลมีความพร้อม ในการให้บริการครับ

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

๒. ขอรับการอุดหนุนงบประมาณในการปรับปรุงท่อ Main จ่ายน้ำประปา จากสี่แยกนาหลวงถึงสามแยกเทิดพระเกียรติ เขตเทศบาล ระยะทางวางท่อ ๑,๗๐๒ เมตร งบประมาณ ๖ ล้านบาทเศษ เพื่อดูแลขยายเขตประปาให้เพียงพอต่อการขยายตัวของเมือง ลดความเดือดร้อนและสร้างความพึงพอใจให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้นผมจึงขอหารือผ่าน ท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้พิจารณา สนับสนุนงบประมาณดังกล่าวด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอำนาจ วิลาวัลย์ ครับ

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม อำนาจ วิลาวัลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย วันนี้ ผมมีเรื่องปรึกษาหารือกับท่านประธานต่อความเดือดร้อนของพี่น้องชาวบ้านสระมะเขือ หมู่ ๑ ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี กับกองกากอุตสาหกรรมครับ ห้องโสตทัศนูปกรณ์ขอภาพด้วยครับ

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

กับที่ไปกองอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน หมู่บ้านเป็นกากอุตสาหกรรมจากโรงงาน ทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๑ ได้ประสานงานไปยัง นายอำเภอ ถามไปยังอุตสาหกรรมจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัดบอกว่าเป็นกากอุตสาหกรรม ที่ไม่มีอันตราย ผมขออนุญาตเชื่อตามอุตสาหกรรมก่อนนะครับ เลยเป็นคำถามว่า ทางชาวบ้านอยากให้อุตสาหกรรมจังหวัดได้ลงไปทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวบ้านว่า กากอุตสาหกรรมนี้มาจากโรงงานไหน เป็นวัสดุชนิดอะไร

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ อยากสอบถามถึงรายละเอียดว่ากองวัสดุนี้จะกำจัดอย่างไร ทางบริษัทมีแนวทางที่จะกำจัดออกอย่างไร หรือว่าจะกองไว้อย่างนี้ตลอดนะครับ

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ทางอุตสาหกรรมสามารถยืนยันได้ไหมว่ากากอุตสาหกรรมที่มา กองไว้นี้จะไม่มีพิษ ไม่เป็นมลพิษต่อสภาพอากาศและสภาพน้ำ ไม่มีอันตรายต่อพี่น้อง ประชาชน

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ อยากทราบความชัดเจนว่ากากอุตสาหกรรมนี้จะนำไปใช้ประโยชน์ อะไร แล้วก็เอาออกจากพื้นที่วันไหน เวลาใด

นายอำนาจ วิลาวัลย์ ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

ส่วนข้อห่วงใจที่กระผมมี คือวงแดง ๆ นั่นก็คือพื้นที่กองกากอุตสาหกรรม ส่วนเส้นแดง ๆ นี้คือคลองหาดยางเป็นคลองหลักของชลประทานบางพลวง ซึ่งจะหล่อเลี้ยง น้ำไปถึงบางพลวง บางยาง บางตาล แล้วก็ไปถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา ผมเกรงว่าถ้าเกิดใน ฤดูฝนถ้ากองกากอุตสาหกรรมนี้ยังอยู่อาจจะทำให้ไหลไปปนเปื้อนในแหล่งน้ำได้ จึงอยาก ฝากไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ท่านอธิบดีกรมอุตสาหกรรม ท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยลงไปดูพื้นที่ แล้วก็ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แล้วก็ช่วยหาวิธีที่จะ ป้องกันไม่ให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นในอนาคตด้วยครับ กราบขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอภิชาติ ศิริสุนทร ครับ

นายอภิชาติ ศิริสุนทร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม อภิชาติ ศิริสุนทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ขอหารือท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒ เรื่องครับ

นายอภิชาติ ศิริสุนทร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายจิรวัฒน์ หนูจันทร์ พร้อมเพื่อนบ้าน ว่าถนนเข้าหมู่บ้านหลังวัดสีหราชเดโชไชย มีความชำรุด สภาพเป็นพื้นทรายหนา เป็นหลุม เป็นบ่อ คราวฤดูแล้งก็ไม่สามารถสัญจรได้ พอฤดูฝนน้ำก็ท่วมเป็นหลุมเป็นบ่อทำให้เกิด อุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้นฝากนำเรียนท่านประธานผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้หารือสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนโดยด่วน

นายอภิชาติ ศิริสุนทร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในเขตชลประทานหนองหวาย อำเภอน้ำพอง และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ผ่านนายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว อดีตผู้สมัคร สส. พรรคพรรคก้าวไกล ว่าปี ๒๕๐๙ กรมชลประทานได้ขอเวนคืนที่นาที่ทำกิน ของพี่น้องประชาชนเพื่อไปจัดทำระบบชลประทาน และบอกว่าเป็นบริเวณที่น้ำจะท่วมถึง แต่หลังจากนั้นหลังโครงการดำเนินการแล้วเสร็จไม่ปรากฏว่ามีน้ำท่วมแต่ประการใด เมื่อชาวบ้านได้รับการร้องขอให้เวนคืน ชาวบ้านก็ให้ความร่วมมือ แต่พอกรมชลประทาน ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ชาวบ้านขอคืนเพราะจะทำให้เกิดความมั่นคงในที่ดินและอาชีพ ก็กลับ เป็นเรื่องใช้เงื่อนไข โน่น นี่ นั่น ทั้ง ๆ ที่มี พ.ร.บ. เวนคืน สามารถที่จะคืนให้กับพี่น้อง ประชาชนได้ หากหน่วยงานราชการไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ดังนั้นผมขอหารือท่านประธาน ผ่านไปยังกระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ และผ่านไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และคืนที่ดินให้กับ พี่น้องประชาชนโดยด่วน ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เรียนท่านอภิชาติ ประธานกรรมาธิการ ว่าผมหารือด้านงบประมาณแล้วก็ ระเบียบของฝ่ายเลขาแล้วสามารถตั้งอนุเพิ่มได้นะครับ จะเป็น ๓ อนุ หรือ ๔ อนุ เดี๋ยวเรียน ปรึกษาทางฝ่ายประชุมได้เลยนะครับ

นายอภิชาติ ศิริสุนทร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ต่อไปเชิญท่านรุ่งโรจน์ ทองศรี ครับ

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ สส. รุ่งโรจน์ ทองศรี ผู้แทนเซราะกราว จังหวัดบุรีรัมย์ ซมกราบสวัสดี แมเอาวบองปะโอน กรุ๊ป ๆ คะเนียนะบาท แซมไซ กุนะ กุได สวัสดีครับพี่น้องบ้านเฮา เสื้อสวย ๆ ที่ผมใส่วันนี้ผ้าไหมลายเครื่องเคลือบ อำเภอบ้านกรวด และจะมีงานเครื่องเคลือบพันปี ประเพณีบ้านกรวด ในวันที่ ๑-๕ มีนาคมนี้ ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง ขอเชิญชวนทุกท่านครับ ผ้าลายดอกเสาวรส อำเภอโนนดินแดง ผ้าลายทรายผไทรวมพล อำเภอละหานทราย ผ้าภูอัคนี อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ขอนำปัญหา ความเดือดร้อนของพี่น้องสู่การแก้ไขครับ เมื่อวันก่อนมีการประชุมคณะกรรมการกรมการ จังหวัดบุรีรัมย์ครั้งแรกที่อำเภอโนนดินแดง

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๑. เร่งรัดเรื่องช่องตะโก บนทางหลวงหมายเลข ๓๔๘ ที่พี่น้องเดือดร้อน มานานมาก เชื่อมภาคอีสานและภาคตะวันออก ตอนนี้กำลังทำการศึกษาสิ่งแวดล้อม EIA รอบที่ ๕ สุดท้าย ช่วยเร่งด่วนที่สุดให้ด้วยครับ

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๒. แก้ปัญหาภัยแล้งน้ำประปาแห้งที่บ้านซับคะนิง

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๓. เรื่องที่ดินในการสร้าง Super Jumbo ประปา เพื่อพี่น้องอำเภอโนนดินแดง ละหานทราย บ้านกรวด ประคำ ขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนฤชาและคณะมาก ๆ ครับ

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

ขอขยายถนน ๔ เลนสายสำคัญที่พี่น้องเดือดร้อนและมีอุบัติเหตุตลอด ๑. สาย ๒๒๔ ละหานทราย-บ้านกรวด ๒. สาย ๒๑๒๐ ละหานทราย-โนนดินแดง ๓. สาย ๒๑๑๗ แยกตะโก-ตาเป๊ก ขึ้นเขาพนมรุ้ง ๔. สาย บร.๒๐๐๔ โคกบ้านสมจิตร บุตาพวง คลองเต้า โคกสำราญ ๕. สาย ๓๔๘ โนนดินแดง ลำนางรอง ช่องตะโก

นายรุ่งโรจน์ ทองศรี บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

ขอขุดลอกแหล่งน้ำที่ตื้นเขินแก้ปัญหาภัยแล้งและประปา ๑. หนองปลาอีด สำโรงใหม่ ละหานทราย ๒. อ่างห้วยเมฆา อ่างห้วยตาเขียว อำเภอบ้านกรวด ๓. อ่างเมือนเฮอร์ ตำบลตาเป็ก หนองปรือ หนองบัว หนองทะเล บ้านตะโก ตำบลอีสาน เขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เร่งรัด ส.ป.ก. เป็นโฉนดให้ครอบคลุมพื้นที่ด้วยครับ รุ่งโรจน์ ทองศรี ผู้แทนเซาะกราว โอมเพี้ยง สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ ขอกราบขอบพระคุณมาก ๆ ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอเชิญท่านแอนศิริ วลัยกนก ครับ

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางสาวแอนศิริ วลัยกนก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตทุ่งครุ เขตราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันมีเรื่องจะหารือ ทั้งหมด ๓ เรื่อง

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ คือปัญหาเรื่อง รถบรรทุกไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รถบรรทุกวัสดุก่อสร้างที่ขับออกมาบนท้องถนนไม่มีการ คลุมผ้าเพื่อป้องกันเศษวัสดุ ระหว่างขนส่งได้เกิดเหตุวัสดุหล่นบนท้องถนน สร้างความ เดือดร้อนให้กับพี่น้องในพื้นที่เป็นอย่างมาก นอกเหนือจากเรื่องวัสดุตกหล่นแล้วยังมีปัญหา เรื่องรถบางคันไม่มีป้ายทะเบียน และรถบางคันวิ่งในเวลาห้ามวิ่ง เป็นปัญหาที่ดิฉันได้รับ เรื่องร้องเรียนเป็นอย่างมากเลยนะคะ

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เรื่องปัญหารถโดยสารไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นสาย ๑๓๘ ๑๔๐ ๑๔๑ ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ปัญหาจำนวนรถที่ไม่เพียงพอทำให้ประชาชนต้อง รอนาน เมื่อรถมาผู้โดยสารก็แน่นจนขึ้นรถไม่ได้ ส่งผลกระทบให้ประชาชนหลายคนไป ทำงานสาย บางคนต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถสายอื่นเพื่อหาทางต่อรถเพื่อไปทำงานให้ทัน ทำให้ เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ปัญหาทางเท้าบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ เขตราษฎร์บูรณะ พื้นที่ ทางเท้าไม่เรียบเป็นหลุม เป็นแอ่ง แผ่นปูทางเดินกระดก เนื่องจากไม่ได้มีการปรับปรุงพื้น ทางเท้าเป็นเวลานาน ทำให้ประชาชนที่ใช้ในการเดินทางเท้าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดิฉัน จึงฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาให้กับพี่น้อง ในพื้นที่ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านสุเทพ อู่อ้น ครับ

นายสุเทพ อู่อ้น แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายสุเทพ อู่อ้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เครือข่าย แรงงาน มีเรื่องหารือกับท่านประธาน ขอรูปด้วยนะครับฝ่ายโสต

นายสุเทพ อู่อ้น แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

แต่เนื่องจากได้รับการแจ้งมาจาก มูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทยว่ามีโรงพยาบาลในย่านจังหวัดสมุทรปราการได้มีการ ติดประกาศเพื่อที่จะไม่ให้แรงงานข้ามชาติ หญิงมีครรภ์ ได้รับการซื้อประกัน ซึ่งเรื่องนี้ขัดกับ หลักของมนุษยชน ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำการตรวจสอบเรื่อง ของการที่จะกีดกันแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานหญิงที่จะต้องได้รับสิทธิการดูแลการตั้งครรภ์

นายสุเทพ อู่อ้น แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ก็คือผมได้ไปพบปะกับพี่น้องผู้นำแรงงานสหภาพแรงงาน กลุ่มสวัสดิการยานยนต์ ซึ่งได้รับข้อมูลว่าในปี ๒๕๖๗ นี้สถานการณ์การผลิตจะมีการลดลง ซึ่งเรื่องนั้นก็จะมีผลส่งกระทบกับการจ้างแรงงาน ดังนั้นเองอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน ลงไปทำการตรวจสอบ Check ข้อมูลเพื่อที่จะดูแลสถานประกอบการ และโดยเฉพาะดูแลการจ้างงาน ถ้ามีการ เลิกจ้างขึ้นมาคงมีแผนรองรับในแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ อยากฝากท่านนายกรัฐมนตรีเร่งรัด เพราะว่าในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเป็น อุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้ให้ประเทศชาติและมีการจ้างงานจำนวนมาก

นายสุเทพ อู่อ้น แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย เรื่องที่อยากจะฝากจากการที่ประเทศไทยนั้นเข้าร่วมกับอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๘๗ และฉบับที่ ๙๘ ผมก็มีการหารือติดตามโดยตลอดมาจะ ๕ ปีแล้ว จาก ๑๐๐ ปี ติดตามจากแรงงาน ๕ ปียังไม่มีผลความคืบหน้า อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คนปัจจุบันเร่งรัดให้มีการรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ ๘๗ ฉบับที่ ๙๘ ว่าด้วยสิทธิการรวมตัว และการเจรจาต่อรองให้กับพี่น้องแรงงานด้วยครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ สภาผู้แทนราษฎรของเรายินดีต้อนรับคณะครูและนักเรียน แผนกการเรียน นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ จากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี ยินดีต้อนรับนะครับ ต่อไปขอเชิญ ท่านสุทธิชัย จรูญเนตร ครับ

นายสุทธิชัย จรูญเนตร อุบลราชธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายสุทธิชัย จรูญเนตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย วันนี้ขออนุญาตหารือท่านประธานในสภาพปัญหาของอาคารเรียน อาคาร ประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นในโรงเรียนมัธยม อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๒ โรงเรียน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

นายสุทธิชัย จรูญเนตร อุบลราชธานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ โรงเรียนกุดข้าวปุ้นวิทยา ปัจจุบันมีอาคารอยู่ ๒ หลัง คือ อาคารเรียนแบบ ๒๑๖ ก. และ ๒๑๖ ล. มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เป็นอย่างยิ่ง โครงสร้างของอาคารเรียนอยู่ในสภาพวิกฤต เพราะมีอายุใช้งานมากกว่า ๔๗ ปี ปัจจุบันทางโรงเรียนได้ทำการขออนุญาตรื้อถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงเรียนผ่าน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง อาคารเรียนแบบ ๓๒๔ ล./๕๕ก. เพื่อทดแทนอาคารหลังดังกล่าวในปีงบประมาณ ๒๕๖๘ นี้ด้วย

นายสุทธิชัย จรูญเนตร อุบลราชธานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ โรงเรียนขุมคำวิทยาคาร อยู่บ้านดงตาหวาน ตำบลแก่งเค็ง อำเภอ กุดข้าวปุ้น สภาพของโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ลาดเอียง มีพะลานหินเป็นบริเวณกว้าง ปัจจุบัน ในช่วงฤดูร้อนต้องบอกว่าอากาศร้อนอบอ้าวมาก จึงเรียนมาเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณ ในการก่อสร้างโดมคลุมลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่เพื่อใช้ในกิจกรรมจัดการเรียนการสอน และการเรียนรู้ให้กับน้อง ๆ นักเรียน ท่านประธานครับ ทั้ง ๒ โครงการนี้เป็นโครงการที่มี ความสำคัญเร่งด่วนต่อการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็ก ๆ ในชุมชน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นอย่างดี จึงจะขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ ครับ

นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ นนทบุรี ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน ปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดนนทบุรี พรรคก้าวไกล วันนี้ขอหารือท่านประธาน ๓ เรื่อง

นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องแรก ปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนริมคลองบางแพรก ซึ่งมีความยาวตั้งแต่เรือนจำกลางบางขวางถึงบิ๊กซี ติวานนท์ ซึ่งขณะนี้มีสภาพเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นดังที่เห็นในภาพค่ะ และจะเป็นแหล่ง เพาะพันธุ์ยุงที่อาจจะทำให้มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก จะทำให้ประชาชนได้รับ ความเดือดร้อนได้ จึงขอเรียนท่านประธานผ่านไปยังเทศบาลนครนนทบุรีช่วยประสานงาน กับกรมเจ้าท่าเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วยค่ะ

นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องปัญหาน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง ภาพที่เห็นบนสไลด์นี้ เป็นชุมชนที่อยู่สุดซอยเรวดีนะคะ มีปัญหาน้ำท่วมขังเน่าเสียแบบนี้มาเกือบ ๑๐ ปีแล้วค่ะ ยิ่งในช่วงฤดูฝนน้ำไม่มีทางไป ระบายไปไม่ได้ ก็จะเกิดน้ำท่วมขังแบบนี้ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำ สูบน้ำออก เสียค่าใช้จ่ายปีหนึ่งเป็นหลายหมื่นบาทเลยค่ะ และที่นี่ยังมีผู้ที่เป็นไข้เลือดออก เสียชีวิตไป ๑ รายแล้ว ปัญหาเช่นนี้ไม่ได้มีแค่ที่สุดซอยเรวดีนี้นะคะ ยังมีพื้นที่ซอยเรวดี ซอย ๑ และซอย ๖๐ ซึ่งประชาชนได้ร้องเรียนไปยังเทศบาลนครนนทบุรี ศูนย์ดำรงธรรม มีเจ้าหน้าที่มาดูแล้วก็จากไปค่ะ บอกว่าทำอะไรไม่ได้ และยังมีหลังหมู่บ้านสวนนนท์ ๒ ในเขตเทศบาลเมืองบางศรีเมืองอีกที่เจอกับสภาพแบบนี้ ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีการ ขยายตัวของชุมชนเมือง มีหมู่บ้านเกิดขึ้นใหม่ ๆ ล้อมรอบชุมชนเดิม มีการถมดินสูงขึ้น และปิดเส้นทางระบายน้ำที่เป็นร่องสวนเดิม ทำให้ชุมชนดั้งเดิมได้รับความเดือดร้อน อย่างมาก ดิฉันขอใช้พื้นที่สภาแห่งนี้เรียนท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วย หาทางเร่งแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วยค่ะ

นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้ายเป็นปัญหาสุนัขจรจัดในพื้นที่ชุมชนหลวงพ่อแดงในเขตเทศบาล เมืองบางศรีเมือง ชุมชนหลังวัดนครอินทร์ ชุมชนซอยเรวดี และชุมชนพิบูลสงคราม ๑๑ ในเขตเทศบาลนครนนทบุรี ประชาชนร้องเรียนมายังดิฉันว่ามีสุนัขจรจัดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และไล่กัดผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ดิฉันจึงได้หารือไปกับกรมปศุสัตว์จังหวัด และได้ร่วมกัน ออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการประชาชน เพื่อแก้ไขระยะสั้นโดยการทำหมันเพื่อลดจำนวน ประชากรของสุนัข และฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หากต้องการแก้ไขปัญหาอย่างนี้ อย่างจริงจังควรจะต้องมีแหล่งพักพิงสัตว์ ซึ่งจังหวัดนนทบุรีเท่าที่ทราบมีแค่ที่เทศบาล นครปากเกร็ดเพียงที่เดียวค่ะ ดิฉันจึงขอหารือท่านประธานผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นนทบุรีช่วยกำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิภาพสัตว์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๒ และ ท้องถิ่นสามารถขอรับการอุดหนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดตามระเบียบ ของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่เห็นควร และเหมาะสมด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ครับ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ชัยภูมิ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ชัยภูมิ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ จังหวัดชัยภูมิถือเป็น แหล่งกำเนิดแม่น้ำชี ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาอ่างเก็บ น้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ครอบคลุมแทบจะทุกอำเภอในจังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้ที่ผ่าน มาอำเภอที่พบปัญหาน้ำท่วมหนักที่สุดก็คืออำเภอคอนสวรรค์ และแล้งที่สุดก็คืออำเภอ แก้งคร้อ ทั้ง ๒ อำเภอกลับไม่ค่อยได้รับงบประมาณในการพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่ เพียงพอและมีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่กักเก็บน้ำ ผมจึงขอให้กรมชลประทานเร่งพัฒนา อ่างเก็บน้ำช่องสามหมอ ซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำที่ไหลทิ้งไหลขว้างจากการผลิตไฟโดยเขื่อน ลำปะทาว ซึ่งมีน้ำหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตรถูกปล่อยออกมาในช่วงเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายนของทุกปี หากกรมชลประทานพัฒนาแหล่งน้ำดังกล่าว ประโยชน์ที่ได้รับโดยตรง มีถึง ๔ ตำบล สามารถส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรได้ ๓๐,๐๐๐ ไร่ และยังสามารถสูบส่งไปยังพื้นที่แห้งแล้งในอำเภอแก้งคร้อ เช่น ตำบลหนองไผ่ บ้านแก้ง หนองสังข์ แล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ใกล้สนามบินขอนแก่น และเป็นที่พัก Rest Area ที่ดี เพราะอยู่ใกล้ทางหลวงสายหลักมุ่งสู่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาท่าน ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงไปในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ในช่วงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา และผมในฐานะ สส. พร้อมด้วย สจ. สมปอง บัวพิมพ์ สจ. สุธิชัย พรมกุดตุ้ม และท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ช่องสามหมอ นายเสกสรรค์ จอสูงเนิน ได้ร่วมยื่นความต้องการสำหรับโครงการดังกล่าวแล้ว ฝากท่านประธานนำเรียนไปยังกรมชลประทานให้ช่วยนำโครงการดังกล่าวบรรจุในแผน Thai Water Plan และจัดสรรงบประมาณด้วย กราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ครับ

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ ผม จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องปรึกษาหารือ ๓ เรื่องไปยังแขวงการทางฉะเชิงเทรา

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

เรื่องแรก เป็นเรื่องของผิวสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข ๓๐๐๕ ที่ชำรุดแล้วก็ด้วยความที่มี รถบรรทุกที่มีน้ำหนักจำนวนมากวิ่งอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องเร่งเข้าไปจัดการแล้วก็แก้ปัญหา เรื่องผิวถนนนะครับ

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ปรับปรุงผิวถนนบางนา-ตราด ทั้งขาเข้าแล้วก็ขาออกในช่วงของ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งค่อนข้างจะมีผิวถนนที่แตกต่างจากทางในช่วงชลบุรี หรือว่าทางสมุทรปราการ ก็อยากให้ทางแขวงการทางเร่งเข้าไปดำเนินการโดยด่วนครับ

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ แขวงการทางฉะเชิงเทราอยากให้เข้าไปดูเรื่องจุดกลับรถทางหลวง หมายเลข ๓๔ บางนา-ตราด หน้าโลตัสบางวัว กิโลเมตรที่ ๔๑ มีลักษณะเป็น U-turn ซึ่งไม่มี ทางเบี่ยงให้หลบ ทำให้มันเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ก็อยากให้เร่งเข้าไปอาจจะย้ายจุดหรือว่าทำ ป้ายเตือน หรืออาจจะทำช่องเบี่ยงเพิ่มก็ได้ อันนี้อยากให้ทางแขวงการทางเข้าไปดูหน่อยครับ ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านพรเทพ ศิริโรจนกุล ครับ

นายพรเทพ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายพรเทพ ศิริโรจนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากจังหวัดนครราชสีมา เขต ๑๖ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ อำเภอคง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอขามสะแกแสง และอำเภอ พระทองคำ

นายพรเทพ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

วันนี้ขอปรึกษาหารือกับท่านประธาน เกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่มีทั้งสิ้น ๒ ประเด็นดังนี้ครับ

นายพรเทพ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค มีทั้งหมด ๓ จุดครับ จุดที่ ๑ ขอขุดลอกบ่อน้ำสาธารณประโยชน์บ้านหนองข้าม ตำบลพะงาด อำเภอสามสะแกแสง เนื่องจากตอนนี้มีสภาพตื้นเขินมากและแห้งแล้งมากครับท่านประธาน ดูจากรูปในสไลด์ นี่ถ่ายมาจากเดือนมกราคมช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าไม่มีน้ำให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ อุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอนะครับ จุดที่ ๒ ขอขุดลอกหนองน้ำสาธารณะประโยชน์ บ้านหนองใหญ่ ตำบลบ้านเหลื่อม อำเภอบ้านเหลื่อม ที่มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอครับ ซึ่งเรียนว่านอกจากที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ใช้แล้ว ก็ยังมี หน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่ใช้น้ำจากแหล่งนี้ ได้แก่ โรงพยาบาลบ้านเหลื่อม สถานีตำรวจ บ้านเหลื่อม โรงเรียนบ้านเหลื่อมพิทยาสรรพ์และอีกหลายที่เลยครับ จุดที่ ๓ ขอขุดลอก อ่างเก็บน้ำตลุกหิน บ้านบุเขว้า ตำบลหนองหอย อำเภอพระทองคำ ตามที่เห็นในสไลด์ สภาพในอ่างเก็บน้ำแทบจะไม่เหลือแล้วครับ อ่างเก็บน้ำไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้อย่าง เพียงพอเพื่ออุปโภคบริโภคได้ทั้งตำบล ผมจึงขอฝากท่านประธานไปยังสำนักทรัพยากรน้ำ ภาค ๕ กรมทรัพยากรน้ำ แล้วก็กรมชลประทานให้ช่วยจัดสรรงบประมาณเพื่อขุดลอกสระ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคให้เพียงพอได้ตลอดทั้งปี

นายพรเทพ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ปัญหาด้านการคมนาคม ขอสร้างถนน คสล. เส้นบ้านห้วยทราย ตำบลหนองมะนาว อำเภอคง เชื่อมบ้านหนองม่วงช่างพิม ตำบลโคกกระเบื้อง อำเภอ บ้านเหลื่อม ระยะทางประมาณ ๕.๑ กิโลเมตร เรียนว่าถนนเส้นนี้สภาพเดิมเป็นถนนดิน เป็นถนนที่พี่น้องประชาชนใช้สัญจรไปมาทั้ง ๒ อำเภอ ใช้ขนส่งสินค้าทางการเกษตรกรรม ยิ่งในช่วงฤดูฝนที่เด็กนักเรียนต้องเดินทางไปโรงเรียน ก็ไม่อยากนึกสภาพเลยครับว่าจะเป็น อย่างไร ซึ่งทาง อบต. โคกกระเบื้อง นำโดยท่านนายกธวัชชัย เลาวัณย์ศิริ ได้ประสานแผนไว้แล้ว ผมจึงฝากท่านประธานไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาให้ช่วยจัดสรรงบประมาณ อย่างเร่งด่วนเลยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านกฤช ศิลปะชัย ครับ

นายกฤช ศิลปชัย ระยอง ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผม กฤช ศิลปชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ วันนี้ ผมมีเรื่องขอหารือกับท่านประธาน สืบเนื่องจากกระผมกับ สส. กมนทรรศน์ กิตติสุนทรสกุล ได้ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนบริเวณใกล้กับป่าสงวนแห่งชาติ ตำบล ห้วยโป่ง จังหวัดระยอง พบว่ามีผู้ประกอบการบ่อทรายกินพื้นที่นับพันไร่ จากกรณีนี้มีพี่น้อง ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องทางน้ำสาธารณะถูกทับถมจนไม่มีสภาพเป็นทางน้ำ ขอสไลด์นะครับ

นายกฤช ศิลปชัย ระยอง ต้นฉบับ

จากการลงพื้นที่ก็ยังพบว่ามีผู้ประกอบการ หลายรายที่ขุดทรายเกินอาณาเขตของตัวเองจากที่ขออนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดไว้ โดยบางแปลงไม่มีเอกสารสิทธิในการประกอบกิจการแต่ก็ยังเข้าไปทำได้ เมื่อตรวจสอบจาก ภาพถ่ายทางอากาศทางดาวเทียมเส้นสีเหลืองนี้คือเส้นป่าสงวนแห่งชาติ อันนี้คือปี ๒๕๕๖ มีการประกอบกิจการแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้มีการรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนนะครับ อันนี้ภาพ ปี ๒๕๖๑ จะพบว่ามีการรุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนนับร้อยไร่แล้ว หลังจากนั้นก็ได้เห็น ท่านอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ได้ลงพื้นที่ไปตอนนั้น แต่ก็ยังไม่มีการหยุดประกอบกิจการใด ๆ หนำซ้ำในปีปัจจุบันพอดูจากแผนที่ดาวเทียมแล้วก็ยังพบว่าพื้นที่ป่ายังถูกรุกล้ำเข้าไปหนัก กว่าเดิมอีก ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ตรงนี้เอกสารสิทธิบางแปลง อธิบดีกรมที่ดินก็ได้มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิโดยมิชอบ แต่นายทุนกลุ่มนี้ก็ยังไม่หยุดครับ ท่านประธาน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แล้วก็คิดว่าส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ทำให้ปอด ของคนระยองหายไปเยอะมาก จึงต้องขอฝากท่านประธานประสานไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ กรมที่ดิน จังหวัดระยอง แล้วก็เทศบาลเมืองมาบตาพุดให้เข้าไปตรวจสอบโดยด่วน หากพบ ผู้กระทำความผิดต้องดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงต้องหาแนวทางฟื้นฟูป่าสงวนแห่งชาติ ที่ถูกทำลายด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านชัชวาล แพทยาไทย ครับ

นายชัชวาล แพทยาไทย ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ เพื่อนสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน กระผม นายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด เขต ๗ พรรคไทยสร้างไทย ขออนุญาตหารือท่านประธานถึงปัญหา ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวทั้งประเทศครับ ผมได้มีโอกาสนำปัญหา ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรที่มีราคาวัวตกต่ำติดต่อกันหลายปีเข้ามาตั้งกระทู้ถาม รัฐมนตรี นั่นก็คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อ ๖ เดือนที่แล้วครับ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมา ๖ เดือน ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิต อาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ปัญหาวัวล้นตลาด ปัญหาการส่งออกไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือปัญหา การลักลอบนำเข้าวัวมีชีวิต ซากวัว หรือวัวกล่องที่ผิดกฎหมายจากประเทศต่าง ๆ เข้าสู่ ประเทศไทย ผ่านมา ๖ เดือนผมจึงอยากจะใช้เวทีแห่งนี้หารือผ่านท่านประธานไปยัง หน่วยงานที่รับผิดชอบในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

นายชัชวาล แพทยาไทย ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

เรื่องต้นทุนการผลิตที่สูง เรื่องวัวที่ ล้นตลาดและหาตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ ท่านต้องดำเนินการและมีคำตอบชี้แจงต่อพี่น้องประชาชน ส่วนเรื่องการ นำเข้าวัวที่มีชีวิตที่ผิดกฎหมาย ซากวัว วัวกล่อง หรือวัวเถื่อน หน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก ๆ ๒ หน่วยงาน นั่นก็คือกระทรวงการคลังหรือกรมศุลกากร และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีอีกหลายกรมที่ต้องดูแลเรื่องนี้ และประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากฝาก ก็คือข้าราชการที่เกี่ยวข้อง กับกระบวนการการทำความผิด หน่วยงานต่าง ๆ ต้องเร่งดำเนินการเพื่อชี้แจงต่อพี่น้อง เกษตรกร

นายชัชวาล แพทยาไทย ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

ท้ายที่สุดครับท่านประธาน พี่น้องประชาชนฝากมา เงินหมื่นกะอยากได่ แต่อยากให่เบิ่งงัวก่อนแหน่ ๓ ปีสิตายแล้ว คั่นบ่แก้แม่นบ่ยัง ด้วยความเคารพครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านจีรเดช ศรีวิราช ครับ

นายจีรเดช ศรีวิราช พะเยา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทย วันนี้ได้แบกนำปัญหากีฬาไก่ชน เข้ามาพูดกันในสภาแห่งนี้อีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้เกิดความกระจ่าง สร้างความเข้าใจในเรื่อง ที่เป็นปัญหากับกีฬาไก่ชน ท่านประธานครับ สนามไก่ชนได้รับความเดือดร้อนมานาน หลายสิบปี ถึงแม้จะเป็นสนามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย แต่ก็เต็มไปด้วยระเบียบข้อบังคับ ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้

นายจีรเดช ศรีวิราช พะเยา ต้นฉบับ

ทุกสนามจำเป็นต้องฝ่าฝืนเพื่อความอยู่รอด ทำให้เจ้าหน้าที่สารพัดหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย หลายแห่ง ทนค่าใช้จ่ายไม่ไหวต้องยุบเลิกไป หรือไม่ก็กวดขันจับกุมพี่น้องชาวบ้าน วิ่งกันฝุ่นตลบ แทบทุกวัน สนามไก่ชนก็เหมือนตลาดหุ้นของคนจน เมื่อไม่มีสนามก็ไม่มีที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับไก่ ทำไมกระทรวงมหาดไทยไม่ปรับปรุงแก้ไขให้มันถูกต้อง ให้มันสอดคล้องกับบริบท ความเป็นจริง กฎหมายใดที่ใช้ไม่ได้ เป็นอุปสรรคปัญหาก็มีอยู่ ๒ ทาง ถ้าไม่แก้ไขก็ให้ยกเลิก ท่านทราบไหมครับว่าทั่วโลกให้ความสนใจไก่ชนไทยกันมาก ทั้งจากทวีปเอเชียไปจนถึงยุโรป อเมริกา เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มูลค่าการส่งออกปีละหลายร้อยล้าน วันนี้สนามกีฬาไก่ชน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมกันมาก หากรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจังให้ Go Inter มีการถ่ายทอดไปทั่วโลกเหมือนมวยไทย กีฬาไก่ชนจะเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวเข้าประเทศภายใต้นโยบาย Soft Power ของรัฐบาลที่ต้องการให้วัฒนธรรม สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ท่านประธานครับ กีฬาไก่ชนเป็นกีฬาพื้นบ้าน เป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดมานานจนกลายเป็น วัฒนธรรม เป็นเกมกีฬาของการต่อสู้ซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั่วไป เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ มันก็ต่อสู้กันอยู่แล้ว มนุษย์จึงคิดพัฒนาให้เป็นเกมกีฬาเพื่อสร้างความสนุกสนานมากว่าพันปี เหรียญมี ๒ ด้าน อย่ามองเป็นแค่การทรมานสัตว์ แล้วการที่มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด ทำลายชีวิตกี่ล้านตัวต่อวันมันไม่บาปกันทั้งโลกหรือ ผมอยากเห็นกีฬาไก่ชนไทยได้รับการ สนับสนุนที่ดีมีมาตรฐานเหมือนมวยไทย เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนชนบท สร้าง ระบบเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง แต่ชะตากรรมของกีฬาไก่ชนในวันนี้กลับซุกอยู่ในมุมมืด ถูกรังแกด้วยระบบกฎหมายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขมากว่า ๖๐ ปี

นายจีรเดช ศรีวิราช พะเยา ต้นฉบับ

สุดท้ายขอฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โปรดทบทวน แก้ไขระเบียบข้อบังคับซึ่งอยู่ภายใต้กฎกระทรวง ซึ่งท่านมีอำนาจสามารถแก้ไขได้ทันที ขอความเห็นใจให้กับพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับไก่ชนกว่า ๓ ล้านคน จะได้มีรายได้เสริมเพิ่มอีกทาง ผมจะติดตามทวงถามต่อไปจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี ครับ

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภา กระผม กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขตเลือกตั้ง ที่ ๑ คนปากน้ำโพ พรรคก้าวไกล วันนี้ขอหารือท่านประธานสภาทั้งหมด ๓ เรื่อง ขอสไลด์ครับ

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องแรก เป็นอุบัติเหตุรถไฟ ชนรถ Trailer เป็นรถ Backhoe ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ วันที่ ๑๙ มกราคม จากเหตุเป็นรถ Trailer ติดร่องขอบถนน จากภาพนี้ไม่มีการลดความเร็วเลย จะเห็นได้ว่า จากภาพนี้ไม่มีการลดความเร็ว จึงขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยทบทวนเรื่องความ ปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุเรื่องนี้ซ้ำอีก แล้วผมก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตครับ เป็นพนักงานรถไฟ ๑ ราย

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องถัดไป เป็นเรื่องของรถไฟเหมือนกัน เป็นการก่อสร้างรถไฟรางคู่ที่ล่าช้า สัญญาช่วงที่ ๒ ท่าแค-ปากน้ำโพ มูลค่ากว่า ๘,๖๔๙ ล้านบาท มีการก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์ปี ๒๕๖๑ ถึงปี ๒๕๖๔ มีการขยายเวลาให้แล้วจากโควิดถึงปี ๒๕๖๕ ตอนนี้ เดือนมิถุนายนคืบหน้าเพียง ๗๘ เปอร์เซ็นต์ และเป็นเส้นทางที่ล่าช้าที่สุดในเรื่องของ การรถไฟ

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องต่อไป เป็นเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการตั้งด่าน ที่ถี่ยิบจนประชาชนนครสวรรค์ค่อนขอดว่า นครสวรรค์เมืองร้อยด่าน หรือด่านรถเด็ดปากน้ำโพ ผมสังเกตด้วยตนเองว่าไปพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ด่านจังหวัดผมนี่เยอะกว่าทุกที่จริง ๆ ครับ และสถิติก็ไม่ได้ทำให้อุบัติเหตุลดลง จากข้อมูลอุบัติเหตุปี ๒๕๖๕ มีผู้เสียชีวิต ๑๑ ราย และปีนี้ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น ๑๕ ราย มีประชาชนร้องเรียนมาเป็นระยะเข้ามาถึงการปรับป่า ผมไม่แน่ใจความหมายนี้หมายความว่าอย่างไร วอนถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติทบทวน การทำงานของ สภอ. เมืองนครสวรรค์

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี นครสวรรค์ ต้นฉบับ

ท้ายนี้ผมขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมงานประเพณี แห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพจังหวัดนครสวรรค์ หรือ ๑๐๐ ปีมหัศจรรย์สีสันแห่งศรัทธา วันที่ ๓-๑๔ กุมภาพันธ์ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านรวี เล็กอุทัย ครับ

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ กระผม นายรวี เล็กอุทัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต ๓ พรรคเพื่อไทย ผมขอปรึกษาหารือในประเด็นปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อุตรดิตถ์ ๓ ประเด็นครับท่านประธาน

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ทาง อบต. น้ำอ่าง ขาดงบประมาณ ในการซ่อมแซมฝายสีสวาทในพื้นที่หมู่ ๙ ตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากตัวฝายได้รับความเสียหายจากผลกระทบของพายุ Depression ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำล้นฝายออกมาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงกัดเซาะถึงฐาน Spillway รวมไปถึง ผนังดินของคลอง ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า ๓๐๐ ราย และ ที่สำคัญหากฝายสีสวาทไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีจะส่งผลกระทบต่อการทำ การเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง ผมจึงขอเรียนท่านประธานไปยังส่วนราชการ เพื่อขอรับงบประมาณในการซ่อมแซมฝายสีสวาทเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วครับ

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ในประเด็นที่ ๒ เป็นในเรื่องของการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่า ตามมาตรา ๕๔ ของ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ ในกรณีขอผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ กรณีที่ปรากฏว่ายังมีหน่วยงานใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ประเด็นนี้ผมได้รับข้อมูลจาก อบต. แม่พูล ในการขออนุญาตเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อปรับปรุงถนนสายต้นขนุน โจ้โก้เก๊าแก เนื้อที่รวม ๑๗ กว่าไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ ๑๑ ตำบลแม่พูล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่พี่น้องประชาชนอำเภอลับแลใช้เป็นเส้นทางหลัก ในการสัญจร รวมถึงขนส่งผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ลางสาด และลองกอง ยิ่งไปกว่านั้นยังมี คำขอในลักษณะนี้อีกมากของอำเภอลับแล ทั้งในตำบลแม่พูล ตำบลฝายหลวง และตำบล นานกกก ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการ ทำให้พี่น้องประชาชนต้องเรี่ยไรเงิน ซ่อมถนนกันเองอยู่ ณ ปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเพื่อความ ปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ผมจึงขอเรียนท่านประธานไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ ๓ ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการช่วยพิจารณาอนุญาตให้ หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ในกรณีขอผ่อนผันตามมติ ครม. เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยเร็วด้วยครับ

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

สุดท้ายในประเด็นการแก้ไขปัญหาราคาโคกระบือตกต่ำ ซึ่งผมได้รับ ข้อร้องเรียนจากพี่น้องผู้เลี้ยงโคกระบือ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลนาอินและตำบลนายาง ในอำเภอพิชัย ว่าขณะนี้ราคาซื้อขายโคกระบือในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ก็ตกต่ำลงอย่างมาก เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังถูกกดราคารับซื้อจากพ่อค้าคนกลาง ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผมจึงขอเรียนท่านประธานไปยังกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์โปรดช่วยสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ซึ่งทราบดีว่า ท่านกำลังแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่อย่างเต็มที่ จึงขอเป็นกำลังใจและขอให้ท่านสามารถแก้ไข ปัญหานี้ให้พี่น้องประชาชนได้ครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ครับ

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ สมมุติ เบ็ญจลักษณ์ พรรคประชาชาติ อำเภอยะรัง อำเภอทุ่งยางแดง และอำเภอแม่ลาน ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ของพี่น้อง ประชาชนในเรื่องของถนนหนทาง ผมมีเรื่องสร้างแล้วก็ซ่อมอยู่ ๔ เรื่องด้วยกัน

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องแรก ก็คือขอขยายถนนทางหลวง สาย ๔๐๖๑ ยะรัง-มายอ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ตัดสาย ๔๑๐ สี่แยกไฟแดงลงมาในพื้นที่ เขตเทศบาล อบต. ตำบลยะรัง แล้วก็ที่สุดที่ อบต. ตำบลระแว้ง ซึ่งพื้นที่ตรงนี้มีอุบัติเหตุ บ่อยมาก ขอให้มีการขยายเป็น ๔ ช่องทาง มีเกาะกลางถนนพร้อมคูระบายน้ำ

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ก็คือซ่อมแซมถนนบ้านบาโร๊ะ หมู่ที่ ๒ ตำบลเขาตูม ซ่อมแซมถนน ปาฮนตือมูซู-โสร่ง-มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งเรื่องที่ ๒ นั้นอยู่ที่หมู่ที่ ๒ ตำบลเขาตูม เป็นถนน ทางหลวงชนบท ปน.๓๐๕๔

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เมื่อสักครู่นี้ก็คืออยู่ที่หมู่ ๕ ตำบลเขาตูม

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ นั้นขอให้มีการสนับสนุนโครงการซ่อมแซมสะพานสลิงชุดใหม่ ทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพ ก็คืออยู่ที่หมู่ที่ ๑ บ้านกรือเซะ หมู่ที่ ๒ บ้านยือแร ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ส่วนตรงนี้ขอกับกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพราะว่าจุดตรงนี้ คือเป็นจุดท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนตำบลยะรัง ส่วนจุดที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ นั้นก็คือ กระทรวงคมนาคม อยากจะฝากโดยเฉพาะเรื่องถนนที่ต้องซ่อม มีอุบัติเหตุบ่อย สงสาร ชาวบ้าน เกือบทุกสัปดาห์ก็จะมีเสียงขึ้นมาว่าชาวบ้านเกิดอุบัติเหตุบ่อยมากในบริเวณที่ผม กล่าวเมื่อสักครู่นี้ ขอขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านสมดุลย์ อุตเจริญ ครับ

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ ผม สมดุลย์ อุตเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๗ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอ ไชยปราการ พรรคก้าวไกล ขอหารือท่านประธาน ๓ ข้อดังนี้

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

ขอติดตามโครงการก่อสร้างสะพาน คอนกรีตเสริมเหล็กของเทศบาลตำบลแม่ข่าที่เสนอโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เลขที่ ชม ๘๑๕๐๓/๒๑ โดย นายสมาน ใจยะยอง นายกเทศบาลตำบลแม่ข่า เพื่อแก้ปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่ข่า อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ สะพานแห่งนี้ มีการแตกร้าวของคานเสาตลอดจนราวกันตก มีลักษณะปูนแตกร้าว เวลารถผ่านมีการ สั่นคลอนอยู่

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

๒. ขอแยกหมู่บ้านบ้านดอยหล่อ หมู่ ๔ ตำบลแม่ทะลบ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ มีประชากร ๒,๔๕๔ คน จำนวน ๖๙๙ ครัวเรือน ขอตั้งหมู่บ้านใหม่จะมี ประชากร ๘๙๐ คน คิดเป็นจำนวนครัวเรือนก็คือ ๓๒๒ ครัวเรือน จะชื่อหมู่บ้านโป่งจ๊อก สำหรับหมู่บ้านเดิมจะคงเหลืออยู่ ๑,๕๖๔ คน จำนวน ๓๗๗ ครัวเรือน ทั้ง ๒ หมู่บ้าน มีระยะห่างกันถึง ๖ กิโลเมตร ซึ่งทั้ง ๒ หมู่บ้านมีความแตกต่างกันด้านเชื้อชาติ ศาสนา ภาษาและวัฒนธรรม

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

ด่วนที่สุด ก็คือขอความอนุเคราะห์ยกเว้นภาษีนำเข้ามันฝรั่งของสหกรณ์ มันฝรั่งไชยปราการ-ฝาง จำกัด ที่นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ตามข้อตกลงการเกษตร WTO ที่จะสิ้นสุดภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ แต่ปรากฏว่าทางโฆษกได้แจ้งว่า ตู้ Container ที่ทำความเย็นมีปัญหา จึงได้นำซ่อมแซมระหว่างทาง ทำให้เกิดการจัดส่งล่าช้า ถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗ คือช้าไป ๑ วัน ทำให้สหกรณ์รับสินค้าจะต้อง ชำระภาษีนำเข้านอกโควตาในอัตราภาษีนำเข้า ๑๒๕ เปอร์เซ็นต์ จึงขอความอนุเคราะห์ไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วนนะครับ ย้ำโดยด่วน ยกเว้นภาษี ถ้าเกิดความล่าช้าจะทำให้ มันฝรั่งเน่าเสีย ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีการน่าเสียแล้วครับ ตามเอกสารที่จะแนบไปนะครับ ขอบคุณ ท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านปิยะนุช ยินดีสุข ครับ

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากอำเภอประทาย อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอเมืองยาง และอำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา เขต ๗ พรรคเพื่อไทยค่ะ วันนี้ดิฉัน ขอเริ่มต้นเดือนแห่งความรักด้วยการขอหารือกับท่านประธานเกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่ มีอยู่ ทั้งสิ้น ๖ ประเด็นค่ะ ขอสไลด์เรื่องแรกนะคะ

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

ขอสร้างถนน คสล. ระหว่างบ้าน หนองคอกควาย ตำบลโนนเพ็ด เชื่อมบ้านโคกพระ ตำบลวังไม้แดง ระยะทาง ๑.๕๔ กิโลเมตร งบประมาณ ๔ ล้านบาท

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เส้นที่ ๒ บ้านหนองคอกควาย ตำบลโนนเพ็ด เชื่อมบ้านโนนภิบาล ตำบล วังไม้แดง ระยะทาง ๒.๕๕๔ กิโลเมตร งบประมาณ ๖.๙ ล้านบาท

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เส้นที่ ๓ ช่วงระหว่างบ้านหัวสะพาน ตำบลโนนเพ็ด เชื่อมบ้านกุดหอยกาบ ตำบลหันโจด อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ระยะทาง ๑.๑๘ กิโลเมตร งบประมาณ ๓.๘ ล้านบาท เนื่องจากสภาพถนนเดิมทั้ง ๓ เส้นนี้เป็นถนนดิน พี่น้องประชาชนได้รับ ความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในฤดูฝน นักเรียนต้องเดินทางไปโรงเรียนด้วย ต้องเข็นรถติดดินเละ ๆ ทุกวัน ดิฉันจึงขอฝากท่านประธานไปยังกรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดให้เร่งจัดสรรงบประมาณค่ะ

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ขอซ่อมแซมปรับปรุงถนนทางหลวงชนบท หมายเลข ๔๐๕๗ เส้นอำเภอลำทะเมนชัยไปอำเภอเมืองยาง หลักกิโลเมตรที่ ๒๓-๓๐ เพราะว่าตอนนี้ถนน เกิดการทรุดตัว ผิวทางเป็นหลุม เป็นคลื่น มีจุดอับสายตาที่อันตรายมาก ดิฉันจึงขอฝากไปยัง กระทรวงคมนาคมให้เข้ามาซ่อมแซมพร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างค่ะ

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๕ ขอขุดลอกแก้มลิงบ้านหนองโน บ้านหลักหิน ตำบลหนองพลวง อำเภอประทาย เนื้อที่ ๒๔ ไร่ เนื่องจากแหล่งน้ำเดิมมีขนาดเล็ก พี่น้องประชาชนขาดแคลน น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร ดิฉันจึงขอฝากไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค ๕ กรมทรัพยากรน้ำและกรมชลประทานให้จัดสรรงบประมาณค่ะ

นางสาวปิยะนุช ยินดีสุข นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย ท่านประธานจะเห็นในรูปนี้ ท่านกำนันจรรยา พลดงนอก พร้อม ผู้นำและเจ้าหน้าที่จากทรัพยากรน้ำบาดาลได้ลงสำรวจพื้นที่ทั้ง ๓ หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโคกพระ หมู่ ๒ บ้านโนนรัง หมู่ ๗ และบ้านหนองพลวงน้อย หมู่ ๙ ตำบลวังไม้แดง อำเภอประทาย เนื่องจากบริเวณนี้ไม่มีลำน้ำธรรมชาติไหลผ่านเลย พี่น้องประชาชนต้องพึ่งพาน้ำฝนแล้วก็ น้ำบาดาล ดิฉันจึงขอฝากไปยังสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลที่ ๕ ให้จัดสรรงบประมาณก่อสร้าง ระบบประปาน้ำบาดาลให้กับทั้ง ๓ หมู่บ้านนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านสุพัชรี ธรรมเพชร

นางสุพัชรี ธรรมเพชร พัทลุง ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน สุพัชรี ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ค่ะ วันนี้ดิฉัน ขออนุญาตหารือเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ๓ เรื่องด้วยกันค่ะ

นางสุพัชรี ธรรมเพชร พัทลุง ต้นฉบับ

เรื่องแรก ขอให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมราชทัณฑ์คืนพื้นที่เรือนจำกลาง พัทลุงหลังเก่าให้กับราชพัสดุของจังหวัดพัทลุง เพื่อที่จะทำการสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ ให้กับจังหวัดพัทลุง ในตอนนี้สวนสาธารณะของเรามีอยู่แล้ว แต่เป็นสวนสาธารณะที่ขนาดเล็ก ทางจังหวัดพัทลุงเราได้มีมติที่จะสร้างสวนสาสาธารณะแห่งใหญ่ให้กับพี่น้องประชาชนได้มี การออกกำลังกาย ได้มีการพักผ่อนหย่อนใจ และที่สำคัญสร้างลานวัฒนธรรมให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนได้มีการทำพื้นที่ ทำกิจกรรม ได้แสดงความสามารถของตัวเอง โดยในขณะนี้ ทางโยธาธิการและผังเมืองของจังหวัดพัทลุงเราได้มีการออกแบบในบริเวณบางส่วนไว้แล้ว ตอนนี้ก็ยังเหลือในการขอคืนพื้นที่ของเรือนจำกลางพัทลุงหลังเก่า เพื่อที่จะจัดทำสวนสาธารณะ หลังใหญ่ให้เป็นปอดของพี่น้องประชาชนค่ะ

นางสุพัชรี ธรรมเพชร พัทลุง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ขอให้ทางกระทรวงคมนาคมได้ช่วยขยายถนน ชื่อถนนพิเศษกิจ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อเปิดทางเข้าเมืองให้ขยายกว้างขึ้น เพราะว่าถนนเส้นนี้ เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสาย Bypass เลี่ยงเมือง ผ่านไปยังเข้าเมือง เป็นถนนเลียบของ โรงพยาบาลพัทลุงไปถึงศาลจังหวัดพัทลุง ปัจจุบันถนนนี้เป็นถนน ๒ เลน ในช่วงเวลาราชการ เป็นช่วงที่พี่น้องใช้สัญจรไปมาจำนวนมากทำให้มีการติดขัด ก็เลยอยากจะฝากท่านประธาน ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอขยายไหล่ทางตรงนี้ให้กับพี่น้องประชาชนค่ะ

นางสุพัชรี ธรรมเพชร พัทลุง ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย ขอให้กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดงบประมาณซ่อมแซมขยายเขตท่อประปาภูเขาของตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ณ ตอนนี้มีหลายจุดชำรุดแล้วก็แตกหัก ของบประมาณในการจัดสร้างใหม่ แล้วก็ขยายเขตให้กับพี่น้องตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ขอกราบ ขอบพระคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านนิคม บุญวิเศษ ครับ

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายนิคม บุญวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กระผมขอนำปัญหาของพี่น้องประชาชนมาปรึกษาหารือ ๒ เรื่องครับ

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ปัญหาของประชาชน ที่ใช้ถนนจันทร์ทองเอี่ยม ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี รอดใต้ถนน กาญจนาภิเษกมีสภาพน้ำขังตลอดเวลา จนทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุม ผมได้ลงพื้นที่จริง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าบริเวณถนนจันทร์ทองเอี่ยมลอดใต้ถนนกาญจนาภิเษกนั้น เป็นถนนที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาจำนวนมาก เกิดความลำบาก เพราะถนนเส้นนี้มีน้ำขัง ตลอดเวลา รถวิ่งผ่านไปมาก็ลื่นไถล บางคันก็ต้องหลบเลี่ยงบริเวณน้ำขังจนอาจเกิดอุบัติเหตุ จากรถที่วิ่งสวนทางมา ผมตรวจสอบปรากฏว่ามีน้ำรั่วซึมออกมาจากใต้ถนนจันทร์ทองเอี่ยม น่าจะเป็นการรั่วซึมจากท่อน้ำประปา หรือท่อน้ำประปามันอาจจะแตกข้างล่างนะครับ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่าง เร่งด่วนด้วยครับ

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ปัญหาของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณตำบลคลองข่อย อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รถวิ่งเสียงดังบริเวณกลับรถใต้สะพานคลองขุนมหาดไทย เพราะผิวถนนเป็นหลุมขรุขระไม่เรียบเสมอกัน ขอคลิป ๒๒ วินาทีครับ นี่คือเรื่องที่เดือดร้อน คือเสียงดังมากในยามค่ำคืน ชาวบ้านแถวนั้นไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน มีทั้งคนท้อง มีทั้งคนแก่ มีทั้งเด็ก ผมได้ลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าพื้นดังกล่าวนั้นเป็นลักษณะ ของหน่วยงานบางหน่วยงานมาซ่อมถนนแล้วไม่สามารถที่จะปรับถนนให้ราบเรียบได้ จึงเป็น หลุมเป็นบ่อขรุขระ ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขให้พี่น้องประชาชนโดยด่วน ขอบคุณ มากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ครับ

นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๙ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก อำเภอสิรินธร เฉพาะตำบลโนนก่อ พรรคไทยสร้างไทย ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธาน เรื่องคนตัวเล็ก ได้รับความเดือดร้อนเป็น อย่างมากดังนี้ค่ะ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจาก นายไสว ใบทอง ผู้ใหญ่บ้านไร่ภูจอง หมู่ ๑๙ ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย และชาวบ้านอีก ๒๐๐ ครอบครัว เนื่องจากอุทยานแห่งชาติ ภูจองนายอย ซึ่งมีพื้นที่ ๔๒๘,๗๕๐ ไร่ ซึ่งครอบคลุมอำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย อำเภอน้ำยืน และเป็นพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป. ลาว และกัมพูชา ตั้งแต่ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๐ เป็นต้นมามีปัญหาความขัดแย้งและปะทะระหว่างชาวบ้านในเขต ป่าสงวนและชาวบ้านประมาณ ๒๐๐ ครอบครัว เป็นเรื่องปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ทำกิน ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ ซึ่งไม่ถึง ๑ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่อุทยานเลยนะคะ ในอดีตได้มีการแก้ไขปัญหาตาม หลักเกณฑ์ก็คือให้ชาวบ้านอยู่อาศัยและทำกินโดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ต่อมา กฎหมายใหม่ตามมาตรา ๖๙ เปิดโอกาสให้ชาวบ้านสามารถเก็บหาของป่าหากินในเขตพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ เพื่อดำรงอาชีพอย่างปกติสุข และมีข้อผ่อนปรน ทำให้คนอยู่กับป่า สามารถอยู่ ร่วมกันได้อย่างสมดุล ปัจจุบันชาวบ้านอำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย ประมาณ ๒๐๐ ครอบครัวกำลังจะอดตายค่ะ เพราะอะไรทราบไหมคะ เพราะว่ายางพาราที่ปลูกไว้ และกรีดเอาน้ำยางได้หมดอายุการให้น้ำยางแล้ว ชาวบ้านจำเป็นต้องตัดต้นยางพาราเก่า แล้วปลูกยางใหม่ทดแทน ซึ่งชาวบ้านต้องการขอผ่อนปรนตัดต้นยางพาราเก่าซึ่งอาจจะ แบ่งตัดและปลูกใหม่ทดแทน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของแต่ละครอบครัว ที่สำคัญที่สุดก็คือชาวบ้านจะได้เรียนรู้ว่าป่าและต้นไม้นั้นสำคัญและมีคุณค่า ช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตาแทน ดิฉันขอฝากท่านประธานถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านธีระชัย แสนแก้ว ครับ

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย ขออนุญาต ท่านประธานขอปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและปัญหาเกี่ยวกับ โอกาสที่จะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของลูก ๆ หลาน ๆ เยาวชนของพี่น้องประชาชนทั่วไปและ พี่น้องชาวชนบททั่วประเทศไทย ปัญหาความเดือดร้อนนี้คือปัญหาของโครงการบริการ โทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและการบริการสังคม หรือโครงการ USO ของ กสทช. ขอไสลด์ครับ

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

โครงการนี้เป็นโครงการขยายสื่อ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดเล็กเพื่อให้การบริการ ของโทรคมนาคมพื้นที่อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกับผู้มีรายได้น้อย เด็ก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และพี่น้องประชาชนที่ห่างไกลในชนบท โครงการนี้มีหลายหมื่นล้าน น่าเสียดายครับ โครงการฉบับที่ ๑ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๙ มีกรอบงบประมาณ ๒๐,๔๖๘ ล้านบาท โครงการฉบับที่ ๒ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ มีงบประมาณ ๔๕,๔๕๖ ล้านบาท โครงการ ฉบับที่ ๓ ปี ๒๕๖๕ มีกรอบงบประมาณ ๘,๐๐๐ ล้านบาท ฉบับที่ ๔ ปี ๒๕๖๖ มีกรอบ งบประมาณ ๘,๐๐๐ ล้านบาทเช่นเดียวกัน แล้วยังมีการแบ่ง Zone A B C และ C+ อย่างกรณี Zone A และ Zone B ในเขตเมืองและพื้นที่ศักยภาพ มี ๓๐,๖๓๕ หมู่บ้าน Zone C ห่างไกลไม่เกิน ๑๕ กิโลเมตร จำนวน ๔๐,๔๓๒ หมู่บ้าน Zone C พื้นที่ห่างไกล กว่า ๑๕ กิโลเมตร มีจำนวน ๓,๙๒๐ หมู่บ้าน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ก็คือมีหลาย ศูนย์บริการที่สร้างไม่แล้วเสร็จ ที่สร้างไม่แล้วเสร็จก็คือมีโครงหลังคาเหล็ก ผู้รับเหมาทิ้งงาน อย่างเช่นที่โรงเรียนคำยางพิทยา ตำบลผาสุก อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ที่สร้างมานาน ไม่แล้วเสร็จ แล้วก็ยังมีสร้างเสร็จแต่ถูกทิ้งร้าง ไม่ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่ปล่อย สัญญาณโทรศัพท์ ใช้การไม่ได้ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาซ่อมแซม ผมอยากจะขอฝากเรื่องนี้ไปที่ กระทรวง DE และ กสทช. เข้าไปตรวจสอบโครงการ USO โดยด่วน รวมทั้งเร่งก่อสร้างศูนย์บริการให้พี่น้องประชาชนได้รับสัญญาณทางโทรศัพท์ เพื่อให้พี่น้อง ประชาชนชาวชนบทและลูกหลานของเรา นักเรียน สามารถเข้าถึงโอกาสของการศึกษา ให้เท่าเทียมกันอย่างโลกกว้าง และเปิดโอกาสให้เท่าเทียมกับเด็กในเมืองด้วยครับ และอันที่ ๒ ขอให้บอกไปทาง ป.ป.ช. ด้วยนะครับ ขอให้ ป.ป.ช. เข้าไปตรวจสอบองค์การ USO นี้ อย่างเร่งด่วน และหากปัญหานี้เกิดขึ้นทุจริตก็เร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเพื่อให้ ไม่เป็นเยี่ยงอย่างในการทุจริตโครงการของรัฐต่อไป ขอขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล ครับ

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สุโขทัย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต ๔ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ วันนี้ขอหารือด้วยครูบาอาจารย์ด้านการศึกษาได้ขอบคุณ ผู้หลักผู้ใหญ่ด้านการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ว่าได้คืนเจ้าหน้าที่ภารโรง ตลอดจน ได้ยกเว้นครูเวร แต่ด้วยความหวังดีและคำชื่นชมแล้วก็ความดีใจของครูนั้นก็ยังก็ได้ตระหนัก ถึงความห่วงใยของอาคาร ของบุคลากร นักเรียนต่าง ๆ ที่อยู่ในโรงเรียน เนื่องด้วยว่า ไม่มีเวรครูแล้วใครจะดูค่ำคืนวันเสาร์ วันอาทิตย์ ก็เลยฝากมาถึงผู้หลักผู้ใหญ่ว่าอยากจะให้ ติดกล้องวงจรปิดทุกโรงเรียน แต่ก็มีอุปสรรคเช่นเดียวกัน คืออินเทอร์เน็ตแล้วก็สัญญาณ โทรศัพท์นั้นยังไม่เพียงพอ ก็กราบเรียนไปถึงท่านผู้หลักผู้ใหญ่ทางด้านการศึกษาหรือ กระทรวงศึกษาธิการว่าช่วยตั้งสัญญาณโทรศัพท์เพื่อจะเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตให้กับผู้นำ ท้องที่ท้องถิ่น ตลอดจนครูบาอาจารย์ทุกที่สามารถจะเปิดดูจุดมุมต่าง ๆ ซึ่งเราสังเกต ที่ผ่านมานั้นมีการข่มขืนในห้องสุขาหรือห้องน้ำเด็กนั้นมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานได้อย่างดี

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สุโขทัย ต้นฉบับ

อีกเรื่องหนึ่งครับ อาคารที่ถูกยุบไปแล้วมีเด็กเรียนน้อย หรือปัญหาก็คือ ยังไม่ยุบแต่ไปเรียนร่วมกับโรงเรียนหลัก อาคารเหล่านี้ไม่ได้ถูกยุบแล้วก็ไม่ได้คืนกรมธนารักษ์ ทำให้อาคารนี้เสื่อมโทรมเสียหายไปทุกวัน ๆ บางทีเป็นที่เรียนของนักเรียนอาวุโส ตลอดจน นักเรียนผู้สูงอายุของท้องถิ่น แต่ว่าเวลาเรียนแล้วเสียหายก็ไม่สามารถซ่อมได้ อย่างที่ผมบอก กรมธนารักษ์ไปหลายครั้งแล้วว่า หากท่านโอนอะไรช้า โดยเฉพาะ รพ.สต. ที่พูดไปแล้วว่า อบจ. ทั้งประเทศรอท่านอยู่ ไม่สามารถใช้งบประมาณปีมาซ่อมแซมได้ อย่างอาคารเรียนของ การศึกษาทุกโรงเรียนที่ยุบไม่ได้ด้วยกฎระเบียบต่าง ๆ ก็ตามแต่ ท่านช่วยรีบเร่งในการที่จะ ส่งคืนให้กับกรมธนารักษ์ แล้วก็ให้องค์กรท้องถิ่น หรือใครจะรับโอนทำให้เกิดประโยชน์ อาคารเหล่านี้น่าเสียดาย อีกที่หนึ่งก็คือห้องพัก อาคารเรียน ห้องน้ำ ตลอดจนบริเวณสถานที่ ต่าง ๆ นั้นทรุดโทรมมากครับ วันนี้การศึกษาเราก้าวไปไกล บอกว่าเด็กเราต้องได้ดี แต่เด็ก ในชนบทที่อยู่ตรงซอกเขาต่าง ๆ อยู่ที่ทุรกันดารนั้นไม่ได้รับความเท่าเทียมเท่ากับเด็กในเมือง มีความเหลื่อมล้ำมาก บ้านพักครูก็อยู่นอกโรงเรียน สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาชญากรรมที่ผ่านมานั้น แม้กระทั่งกากีเองก็ยังทำสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ห้องน้ำเป็นของโรงเรียนแท้ ๆ ก็ยังถูกรุมถึง ๔ คน สิ่งเหล่านี้จึงให้ทางการศึกษาตระหนักว่างบประมาณอะไรที่จะเอาไปซ่อมแซม ย้ายบ้านพักครูมาอยู่ที่โรงเรียนใกล้ชุมชน ตลอดจนอาคารเรียนเด็กที่ต้องพักเรียนไว้เพื่อจะ กลับใน ๑ อาทิตย์นั้นสุ่มเสี่ยงมาก ท่านต้องรีบไปแก้ไขก่อนที่มันจะเกิดเหตุการณ์ในห้องน้ำ ๔ ทรชนนั้นเข้าไปข่มขืนเด็ก อันนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากท่านไม่แก้ไข ก็กราบเรียน ถึงกระทรวงศึกษาธิการว่างบประมาณก็ได้มากพอสมควรแล้วนะครับ ท่านมองไปถึงที่ลึกว่า อาคารหรือโรงเรียนต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้รับโอนไปตบแต่งหรือไปซ่อมแซมให้เกิดประโยชน์ ในชุมชนนั้นรีบดำเนินการ ฝากกรมธนารักษ์ด้วยว่าอย่ามัวนั่งทับอำนาจนั้นอยู่ มอบหมายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นดำเนินการแทนท่านเลยครับทั่วประเทศ ท่านทำไม่ได้ครับถ้าหาก ท่านไม่มอบหมายให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูแลแทนท่าน ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านอภิชาติ แก้วโกศล ครับ

จ่าอากาศเอก อภิชาติ แก้วโกศล เพชรบุรี ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ผม จ่าอากาศเอก อภิชาติ แก้วโกศล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องขอขอบคุณท่านจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล เพราะพูดประเด็น เดียวกัน ช่วยกันพูดเพื่อแก้ไขนะครับ ก็จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายทำร้ายคุณครูที่เข้าเวร ที่จังหวัดเชียงรายนั้น ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณครูและคุณครูทุกท่าน และที่สำคัญต้อง ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่มีคำสั่งในการยกเลิกการเข้าเวรของ คุณครู แต่ล่าสุดเมื่อ ๒ วันที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด กาฬสินธุ์ได้ไปทำงานในวันหยุดซึ่งเป็นวันอาทิตย์ แล้วก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ร้าย ๆ คล้าย ๆ กับของคุณครูที่จังหวัดเชียงราย คือมีผู้ชายเข้าไปยืนหน้าห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้หญิง แล้วทำการช่วยเหลือตัวเองโชว์ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้น แต่ก็มีผู้คนเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้น จึงไม่สามารถเกิด เหตุร้ายขึ้นได้ ก็ถือว่าเป็นเหตุร้ายที่มีเหตุการณ์ต่อเนื่องเกิดขึ้นนะครับ ซึ่งผมเองได้ลงพื้นที่ พูดคุยกับคุณครูหลาย ๆ ท่านที่เกี่ยวกับปัญหาของกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นมาอย่าง ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาดแคลนบุคลากรด้านครู มีอัตราครูไม่เพียงพอกับการเรียน การสอน การขาดแคลนบุคลากรด้านการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการบัญชี หรือที่สำคัญนักการ ภารโรงที่ถูกยุบอัตราไป เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาของโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็อยากจะฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเร็ว เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีการศึกษาที่ดี มีประสิทธิภาพและโรงเรียนก็มีการบริหาร จัดการที่ดี รวมทั้งเป็นการป้องกันเหตุร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนหรือคุณครูของเรา ก็อยากจะฝากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้วยในเรื่องดังกล่าว ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ครับ

นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขอหารือประเด็นวิกฤตเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนฝากข้อมูล ไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการค่าจ้าง ขอภาพที่ ๑ นะคะ

นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

จากข่าวดังต่อไปนี้ ว่าคณะกรรมการค่าจ้างจะมีการเตรียมการประชุมเพื่อพิจารณาการกำหนดตัวเลขค่าแรง รอบ ๒ ของปีนี้ แบงก์ชาติจะมีการปรับ GDP ใหม่ การที่เราพูดถึงตัวเลขเศรษฐกิจ โดยไม่คำนึงถึงตัวเลขทางด้านสังคมจะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ ประชาชนมีความสุข รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้การพัฒนาประเทศทั้งเศรษฐกิจและสังคม ไปพร้อม ๆ กันทั้ง ๒ ด้านตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จากภาพต่อไป ข้อมูลดังต่อไปนี้ที่จะฝากไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการค่าจ้าง อัตราการ ฆ่าตัวตายสำเร็จของประชากรไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๖๔ จะเห็นได้ว่ามีความสูงขึ้น ในปีต้มยำกุ้งแล้วก็ขึ้นมาที่ปี ๒๕๔๔ และเริ่มลดลงเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นจนถึงปี ๒๕๕๐ แล้วก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ แล้วก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทาง สสส. ได้ให้สวนดุสิตสำรวจสิ่งที่ประชากรไทยพบว่าปัญหาปากท้องหรือค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ ประชาชนกังวลมากที่สุดถึงร้อยละ ๕๒.๑ ปัญหาปากท้องความเครียดที่ระเบิดออกมา จะผ่านการฆ่าตัวตายค่ะ

นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ความสุขของประชาชน สหประชาชาติได้รายงานอันดับความสุขของโลก ๑๔๐ ประเทศ ปี ๒๕๔๗ ตัวเลขเราอยู่ที่ ๓๔ แล้วก็ลดลงมาเรื่อย ๆ จนถึง ๖๑ อันนี้แสดง ให้เห็นว่าสภาพปัญหาเศรษฐกิจโควิดซ้ำเติม ทำให้เรายังไม่ได้เป็นประเทศที่มีความสุขเพิ่มขึ้น ประชากรคนไทยซึมเศร้าตัวเลขตอนนี้อยู่ที่ ๑.๕ ล้านคน เกือบจะประมาณ ๒ เปอร์เซ็นต์ เกือบจะ ๓ เปอร์เซ็นต์แล้วนะคะ ในอนาคตอาจจะไปเรื่อย ๆ ถ้าเศรษฐกิจเรายังเป็นแบบนี้ จากข้อมูลนี้ประชาชนฝากผ่านดิฉันไปอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการค่าจ้าง ให้นำไปพิจารณา และฝากกำลังใจให้รัฐบาลขอให้ทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่า Digital Wallet หรือ Megaproject Landbridge ให้สำเร็จโดยเร็ว ให้ประเทศชาติได้พัฒนา ประชาชนพ้นความยากจน มีความสุขทัดเทียมอารยประเทศค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ ๓ อำเภอกระสัง อำเภอห้วยราช ตำบลป่าชัน ตำบลโคกขมิ้นของอำเภอพลับพลาชัย พรรคภูมิใจไทย กระผมขออนุญาตปรึกษาหารือเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ใน ๒ ประเด็นดังต่อไปนี้ครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ได้รับแจ้งจากท่านณรงค์ พารื่นรัมย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองโพธิ์ อำเภอห้วยราช ว่าหนองทำนบตั้งอยู่ หมู่ที่ ๑ ตำบลห้วยราช แล้วก็หมู่ที่ ๒ บ้านปะคำ ในปัจจุบันนี้เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มี ขนาดใหญ่ ความกว้าง ๓๘๐ เมตร ยาว ๕๓๐ เมตร มีลักษณะตื้นเขิน ไม่สามารถใช้ประโยชน์ ได้เต็มที่ ในฤดูแล้งไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ ทำให้ปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอต่อการประกอบ เกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ และยังเป็นแหล่งน้ำดิบที่ผลิตน้ำประปาในการอุปโภคบริโภค จึงสร้าง ความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จึงขอ นำเรียนไปยังกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดให้การช่วยเหลือสนับสนุนงบประมาณในการขุดลอก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนด้วยครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ได้รับแจ้งจาก นายมานพ จูประโคน นายกเทศมนตรีตำบลโคกขมิ้น ว่าทางหลวงท้องถิ่น สาย ยธ.ผม.บร. ๓๕/๒๕๕๓ สายบ้านตาพระ หมู่ที่ ๕ ถึงบ้านตาแก หมู่ที่ ๒ ตำบลโคกขมิ้น อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ มีความกว้าง ๔ เมตร ความยาว ๑,๕๐๐ เมตร สภาพชำรุดทรุดโทรม ผิวจราจรแตกเป็นวงกว้าง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการซ่อมแซม ซึ่งทางตำบลโคกขมิ้นนั้นมีงบประมาณ ไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ไม่ว่าบ้านตาแก หมู่ที่ ๒ บ้านตาพระ หมู่ที่ ๕ บ้านลำเดง หมู่ที่ ๗ แล้วก็บ้านทะเมนชัย หมู่ที่ ๑๓ กว่า ๒,๐๐๐ คนได้รับ ความเดือดร้อน จึงขอนำเรียนไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดให้ความช่วยเหลือทำการปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนด้วยครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านสุดท้ายก่อนเข้ากระทู้สดนะครับ ท่านวิชัย สุดสวาสดิ์ ครับ

นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม วิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดชุมพร วันนี้ผมขอหารือท่านประธาน ด้วยกัน ๒ เรื่องครับ

นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ

เรื่องแรก เรื่องของค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศที่สุดแพง สุดโหด และสุด ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผมเองมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องเดินทางจาก ดอนเมืองไป-กลับจังหวัดชุมพร มีผู้โดยสารได้ฝากพี่น้องประชาชนหลายคนหลายท่าน ที่ได้ใช้เที่ยวบินเดินทางในประเทศ ค่าเที่ยวบินทั้งหลาย โดยเฉพาะดอนเมือง-ชุมพร ค่าเที่ยวบินเกือบครึ่งหมื่น เพราะฉะนั้นแล้วผมนำเรียนท่านประธานฝากถึงท่านรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคมช่วยดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องภายในประเทศด้วย อย่าถือว่าพวกเรานั้น เดินทางเพื่อทำธุรกิจ เดินทางเพื่อไปเยี่ยมเยือนลูกหลาน และเดินทางเพื่อดูแลพี่น้อง ประชาชน เพราะฉะนั้นก็ขอนำเรียนด้วยความเคารพ โดยเฉพาะเที่ยวบินของจังหวัดชุมพร ผมขอนำเรียนฝากท่านประธานถึงท่านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมนิดหนึ่งว่าช่วยพิจารณา เพิ่มเที่ยวบินให้กับจังหวัดชุมพรด้วย เพราะตอนนี้เรามีแต่ Flight เช้าอย่างเดียว จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดที่เป็นประตูในการสู่ภาคใต้และเป็นประตูแห่งการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมีท่าเรือ เกาะเต่า ท่าเรือเกาะพะงัน ท่าเรือเกาะสมุย ที่จะเดินทางนำพานักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติ และคนประเทศไทยด้วยกันเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยว แต่ถ้าในเมื่อเที่ยวบินเป็นอย่างนี้อยู่ ไม่สะดวกในการเดินทาง ผมก็ขอนำเรียนฝากท่านประธานนะครับ

นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ขอกราบขอบพระคุณนะครับ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ที่ผมเองนั้นได้หารือในสภาแห่งนี้หลายครั้งหลายครา หารือจนได้รับในเรื่อง ของข่าวดีมา ตั้งแต่เข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหารือถึง ๓ ครั้ง การขอใช้พื้นที่ในการ ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำคลองสวีเฒ่าในจังหวัดชุมพร โดยใช้งบประมาณขององค์การ บริหารส่วนจังหวัดชุมพรที่ผ่านมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ แล้วกันงบประมาณมาตลอดจนถึง ปี ๒๕๖๖ เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้พอปี ๒๕๖๗ งบประมาณตกเป็นเงินสะสมไปเรียบร้อย เราได้รับเรื่องจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นใบอนุญาตมา ได้นำหนังสือมามอบให้กับ ท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ท่านนพพร อุสิทธิ์ พวกเราชาวจังหวัดชุมพร ชาวองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรดีใจเป็นอย่างยิ่ง ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นแล้วผมขอฝากนำเรียนท่านประธานครับ การทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน ระหว่างท้องถิ่น ท้องที่ และกระทรวง ในเรื่องการขออนุญาตที่มีปัญหาในพื้นที่ทับซ้อนกันมา ตลอด เพราะฉะนั้นก็ฝากท่านประธานนะครับช่วยกันพิจารณา ช่วยกันดูแล และช่วยกัน แก้ไขปัญหาให้ท้องที่ของเราดำเนินการขับเคลื่อนในการก่อสร้าง

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านครับ เลยเวลานานแล้วนะครับ

นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ

ในการทำนโยบายให้กับพี่น้องประชาชน ได้อย่างชัดเจน ขอกราบขอบพระคุณครับท่านประธาน คงจะไม่เสียเวลามากครับ เรื่อง เดือดร้อนครับ ขอบคุณครับ

นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ชุมพร ต้นฉบับ

จำนวนสมาชิกที่มาประชุมทั้งหมดที่ลงชื่อไว้เมื่อเลิกประชุม ๔๗๔ คน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรียนท่านสมาชิกครับ ขณะนี้มีสมาชิกลงชื่อมาประชุมแล้วจำนวน ๓๑๓ ท่านนะครับ ครบองค์ประชุมครับ ผมขอเปิดการประชุมและดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระครับ เชิญท่านปกรณ์วุฒิครับ

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ต้องเรียนท่านประธานแบบนี้ครับว่าเรื่องที่ผมกำลังจะหารือ ก่อนหน้านี้ได้หารือกับท่านประธานวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไปแล้ว ๒ ครั้ง แล้วก็เมื่อวานนี้ ได้มีการหารือในขณะที่ ท่านพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ วันนี้ผมได้หารือกับท่านปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็ครบแล้ว ๓ ท่าน ผมคิดว่าในการประชุมครั้งหน้าหากท่านประธานและท่านรองประธานทั้ง ๓ ท่านมีโอกาส ได้ประชุมร่วมกันคงได้มีการหารือกันเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่งนะครับ เหตุผลที่ผมหารือ ในวันนี้คือเรื่องแบบนี้ครับท่านประธาน ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกัน แล้วก็อาจจะมีการบ่น กันบ้างเล็กน้อยว่าการประสานงานกันระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านค่อนข้างมีความ ขลุกขลัก แล้วผมก็ได้เอ่ยไปแล้วในหลาย ๆ ท่านของฟากฝ่ายค้านก็ได้เคยหารือไปแล้วว่า เหตุผลหนึ่ง โดยปกติแล้วในสภา ชุดที่ ๒๕ เราจะมีห้องประสานงานของวิปรัฐบาลอยู่ทาง ซ้ายมือสุดหลังบัลลังก์ แล้วก็ห้องประสานงานวิปฝ่ายค้านจะอยู่ห้องขวามือสุดด้านนี้ แต่ในขณะนี้ห้องซ้ายมือสุดเป็นของวิปรัฐบาล แต่ห้องขวามือสุดเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคหนึ่งนะครับ แล้วก็ได้หารือไปแล้วว่าให้ท่านประธานออกคำสั่งว่าให้ห้องซ้ายสุดเป็น ห้องของวิปรัฐบาล แล้วห้องขวาสุดเป็นห้องของวิปฝ่ายค้าน ส่วนห้องอื่นจะเป็นของใคร พรรคใดจะใช้ห้องไหนก็ว่ากันไปตามกรณีครับ ผมก็เข้าใจดีว่าบางท่านก็มีข้อจำกัดหรือ มีความต้องการที่จะใช้ห้องบางห้อง แต่ผมคิดว่า ณ ตอนนี้มันเกิดความไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่ง สส. ด้วยกันเองครับ เพราะว่าก่อนหน้านี้มีคนมา เจรจาครับ บอกว่าขอใช้ห้องข้าง ๆ แทนได้ไหม ถ้าอยากได้อะไรก็บอกมา อยากจะตกแต่ง แบบไหนก็บอกมา ผมบอกแบบนี้ครับว่าขนาดเล็กใหญ่ไม่สำคัญนะครับ ผมสามารถใช้งานได้ โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ แต่ผมกังวลว่าบรรทัดฐานของสภาแห่งนี้กำลังจะเสียไป เพราะอาจจะไม่ใช่แค่การให้สิทธิพิเศษกับพรรคการเมืองเดียว แต่มันเป็นการให้สิทธิพิเศษ กับ สส. ๑ คนที่ต้องการมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองอยู่หลังบัลลังก์พร้อมผู้ที่ติดตาม ผมต้อง ฝากท่านประธานจริง ๆ ว่าต้องพูดคุยกันเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้คือบรรทัดฐานของสภาผู้แทนราษฎร แล้วเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎรทั้ง ๕๐๐ คนที่จำเป็นต้องมีบรรทัดฐานที่ชัดเจนและยุติธรรม กับทุกฝ่าย แล้วไม่ใช่แค่ห้องหลังบัลลังก์นะท่านประธาน ตอนนี้ผมได้ยินมาครับว่าชั้น ๔ ที่เป็น Zone ของห้องประธานกรรมาธิการผมเข้าใจว่ามีเกิน ๓๕ ห้องแน่ ๆ น่าจะมีอยู่ ประมาณ ๔๐ ห้อง เพราะผมก็ได้ ๑ ห้องมาที่ท่านประธานได้มอบให้เป็นห้องของประธาน วิปฝ่ายค้าน ผมทราบมาว่าก็มีห้องบางห้องที่มอบให้ท่านสมาชิกที่อาจจะเป็นผู้อาวุโส แล้วก็ มีอายุค่อนข้างมากซึ่งอันนี้ผมเข้าใจได้ ไม่มีปัญหาใด ๆ เลยครับ แต่ ณ ตอนนี้ผมได้ยินครับ ว่ามีสมาชิกบางท่านไปยึดห้องที่ว่างอยู่โดยไม่ได้มีการขออนุญาตและไม่มีการได้รับอนุญาต จากทางประธานแต่อย่างใด ผมก็อยากทราบว่าตกลงสภาแห่งนี้เรามีสิทธิการครอบครอง ปรปักษ์กันได้ด้วยหรือครับ ใครมาก่อนเปิดห้องว่างเข้าไป ไม่มีใครใช้ก็เข้าไปวางของแล้วก็ ใช้งาน แล้วก็ยึดเป็นของตัวเองได้ด้วยหรือ กรณีห้องขวามือตอนนี้ก็เป็นกรณีการครอบครอง ปรปักษ์นะครับ เข้ามาแล้วพอมีการสลับฝั่งของพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านก็ไม่ยอมออก แล้วกลายเป็นว่าทั้ง ๒ ฝั่งเป็นของพรรครัฐบาล โดยที่พรรคฝ่ายค้านไม่มีห้องที่จะประสานงาน กันเลย ผมต้องฝากเรื่องนี้กับท่านประธานทั้ง ๓ ท่านจริง ๆ ครับ ต้องดูแลให้สถานที่แห่งนี้ มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกันของทุกฟากฝั่ง ขอบคุณท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เรื่องหารือเดี๋ยวผมตรวจสอบข้อเท็จจริงนะครับ เรื่องหลังบัลลังก์จบวันนี้ แน่นอนนะครับ ส่วนเรื่องของการครอบครองห้องเดี๋ยวผมขอตรวจสอบก่อนว่ามีการใช้งาน ผิดประเภทอะไร อย่างไรบ้าง แล้วก็จะกำชับ แล้วก็ให้นโยบายกับทางสำนักรักษาความปลอดภัย แล้วก็ฝ่ายอาคารสถานที่ ส่วนเรื่องห้องหลังบัลลังก์เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเลยนะครับ แล้วถ้า เป็นไปตามที่ท่านปกรณ์วุฒิพูดก็ช่วยจัดเตรียมห้องให้กับวิปฝ่ายค้านด้วย เพราะว่าห้อง หลังบัลลังก์มีไว้เพื่อการทำงานของวิป ไม่ใช่ของ สส. ท่านใดท่านหนึ่งนะครับ จบวันนี้นะครับ จะได้ไม่ต้องมีการหารือเรื่องนี้กันอีก ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรียนท่านสมาชิกครับ ก่อนที่จะมีการถามตอบกระทู้ถามตามระเบียบวาระ กระทู้ถาม ผมขอเรียนให้ที่ประชุมทราบว่าสำหรับการพิจารณากระทู้ถามแยกเฉพาะให้ไป ดำเนินการถามและตอบในห้องกระทู้ถามแยกเฉพาะบริเวณชั้น ๑ ควบคู่ไปกับการพิจารณา กระทู้ถามสดด้วยวาจาและกระทู้ถามทั่วไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๑.๑ กระทู้ถามสดด้วยวาจา

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๑. นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

กระทู้แรกจะเป็นกระทู้ถามสดด้วยวาจาของท่านสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ถามรองนายกรัฐมนตรี แล้วก็ทางท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ให้เกียรติ มาตอบในวันนี้แล้ว กราบพระคุณนะครับ ขอเชิญท่านสุดารัตน์ใช้สิทธิถามในรอบที่ ๑ ครับ

นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

ท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทยค่ะ ในวันนี้ดิฉันขอยื่นกระทู้ถามสดในปัญหาราคาวัวตกต่ำที่เป็นปัญหา ร้ายแรงในขณะนี้ของพี่น้องประชาชนค่ะ ต้องขอขอบพระคุณท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ได้มาตอบกระทู้สดตั้งแต่เช้าในวันนี้ ซึ่งดิฉันดีใจและถือว่าเป็น ความหวังของพี่น้องประชาชนอย่างมาก ซึ่งท่านเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับด้านการปศุสัตว์ เป็นอย่างมากค่ะ

นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

ปัญหาของพี่น้อง ประชาชนในปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องถนนหนทาง ปัญหาเรื่อง เศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องขยะที่เราได้พูดกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปัญหาเรื่องวัวตกต่ำนี่ก็เป็น ปัญหาที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชน ดิฉันเคยใช้สถานที่สภาแห่งนี้ ในการอภิปรายพูดแทนพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉันรวมถึงพี่น้องทั่วประเทศไทยว่า วัวคือชีวิต วัวคือลมหายใจ พี่น้องประชาชนไม่มีเงินค่ะ ขายวัว พี่น้องประชาชนไม่มีเงิน ค่าเทอมให้ลูก ขายวัวค่ะ วัวคือธนาคาร ตู้ ATM เคลื่อนที่ของพี่น้องประชาชน แต่ใน สถานการณ์ในปัจจุบันในวันนี้ทุกครั้งที่ดิฉันได้เดินทางไปที่บ่อน หรือว่าภาษาไทยเรียกว่า ตลาดนัดโคกระบือ อย่างที่เห็นในภาพ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์นอกจากเว้นว่างจากการประชุมสภา ดิฉันลงไปหาพี่น้องประชาชนที่ตลาดนัดโคกระบือเพื่อดูและให้กำลังใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ปัจจุบันนี้คือราคาวัวเป็นตัวตกต่ำมากที่สุดในประวัติการ วันนี้ราคาวัวลูกผสมจากเดิมในภาพ ที่เห็นเมื่อสักครู่ จากเดิมวัวราคาตัวละ ๕๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ตกต่ำเหลือเพียง ๓๐,๐๐๐ บาท วัว ๓๐,๐๐๐ บาทเหลือเพียงตัวละ ๑๐,๐๐๐ บาท มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรคะ และใน วันนี้พี่น้องประชาชนเริ่มหมดความหวัง ทำมาหากินยากลำบาก เลี้ยงวัวเพื่อจะเลี้ยงชีพ เพื่อจะ เป็นกองทุนของตนเองวันนี้หมดความหวังค่ะ แต่สืบเนื่องจากวันที่ ๓ มกราคมที่ผ่านมาที่ รัฐบาลได้เสนอร่าง พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี ๒๕๖๗ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ร่างงบประมาณดังกล่าวในวาระที่หนึ่ง ดิฉันเริ่มมีความหวัง เพราะได้ยินท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้านได้ขึ้นตอบคำถามแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในโครงการ ที่เรียกว่า วัวแสนล้าน โครงการนี้ดิฉันเชื่อมั่นว่าจะเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน วันนี้ ดิฉันจึงอยากจะมาสอบถามในกรณีโครงการวัวแสนล้านกับท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่าจะ สามารถเป็นทางเลือกและลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้ แต่อยากทราบว่า เมื่อไรโครงการนี้จะเกิดขึ้น เพราะนี่คือความหวังจริง ๆ ของพี่น้องประชาชนค่ะ ขอถาม คำถามแรกก่อนนะคะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ถามแล้วนะครับ ขอเชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกระทู้ถามสดของท่าน สส. สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ หรือ สส. กานต์ ขวัญใจประชาชนคนอีสาน ที่พี่น้องประชาชนหรือผู้คน เขาเรียกกันให้ฉายาของท่านอย่างนั้น ก็ต้องขอบคุณครับที่ได้เอาคำถามตรงนี้มาถามใน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งความเกี่ยวข้องกับเรื่องของวัวนั้นถ้าจะรู้ให้จริงจังแล้วมันคงมีความ เกี่ยวข้องในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลี้ยงวัวในภาคใต้กี่อีกส่วนหนึ่ง ที่เรื่องสด ๆ ร้อน ๆ ว่ามันมี เรื่องความไม่ชอบมาพากล ในส่วนนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ได้ออกไปตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลในมือผม ก็ยังมีส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่มีการส่งเสริมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัด ภาคใต้ ซึ่งการเลี้ยงโคตรงนั้นในรายละเอียดเขาบอกว่าจะเลี้ยงประมาณ ๑,๐๐๐ กลุ่ม กลุ่มละ ๑๐ คนเป็นวิสาหกิจชุมชน แล้วก็ได้ตรวจสอบดูว่าเพิ่งเริ่มโครงการไปได้ในระดับหนึ่ง ที่เห็นความผิดพลาดที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ไปตรวจสอบ ก็มีอยู่ประมาณ ๒ กลุ่ม ก็เป็นโครงการที่ดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว แต่การบริหาร จัดการเรื่องทั้งหมดที่จะต้องทำถึง ๑,๐๐๐ กลุ่มตรงนั้น แล้วก็ ๓ จังหวัดในพื้นที่ชายแดน ภาคใต้นี้ผมกำกับดูแลอยู่ด้วย ก็เลยขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้ได้กล่าวถึงเรื่องนี้สักเล็กน้อยว่า เป็นโครงการที่ดีที่แก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน แต่ว่าในโครงการดังกล่าวนั้น ก็มีโครงการนำร่องทั้งหมดที่จะทำประมาณ ๖๐ กลุ่ม ในระยะต่าง ๆ เหล่านั้นก็มีความ ผิดพลาดที่เกิดขึ้นในจังหวัดปัตตานี ในขณะนี้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการก็ได้ตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบในข้อเท็จจริง ในโครงการของกองทุนหมู่บ้านต้องเรียนว่าการจัดหาหรือการที่จะ นำเอาโคมาเลี้ยงนั้นซึ่งแตกต่างกว่าโคบาลแดนใต้บ้าง การจัดหาตรงนี้จะไม่มีปัญหาที่มันจะ เกิดขึ้นในเรื่องของความไม่ชอบมาพากล เพราะว่าในแนวทางของกองทุนหมู่บ้านจะให้พี่น้อง สมาชิกกองทุนหมู่บ้านได้กู้จากกองทุนหมู่บ้าน กองทุนหมู่บ้านก็กู้จากธนาคาร ธ.ก.ส. ซึ่งมี ดอกเบี้ย เมื่อพี่น้องประชาชนหรือสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านที่จะไปซื้อวัวเป็นคนจัดหาเอง ครอบครัวหนึ่งก็จะให้เลี้ยง ๒ ตัวเป็นตัวเมีย จัดซื้อเอง เงินมาถือไว้เอง แล้วเลือกเองว่ามันจะ เป็นวัวสายพันธุ์ที่ชอบอย่างไร ซึ่งการเลี้ยงโคในขณะนี้กระผมเห็นจุดแข็ง ถ้าวัวราคาตกต่ำ คนที่จะเข้ามาเลี้ยง หรือเกษตรกร หรือกองทุนหมู่บ้าน สมาชิกที่มาเลี้ยงตัวนี้ได้ซื้อวัวถูก ซึ่งเราตั้งใจว่าจะให้กู้ยืมไป ๕๐,๐๐๐ บาท แทนที่จะซื้อได้ ๒ ตัวถ้าวัวแพง ก็อาจจะได้ ๓ ตัว หรือมีแม่วัว ๒ ตัวมีลูกติดท้องไปอีก หรือมีลูกติดแม่ตามมาอีกก็จะได้ของถูก มันเป็น ประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกร แต่ถ้าโครงการของกองทุนหมู่บ้านนี้เกิดขึ้น การจัดหาหรือการ ซื้อวัวของเกษตรกรก็หาซื้อวัวพร้อม ๆ กัน ท่านเห็นไหมครับ Demand มันเกิดขึ้นราคาวัว ที่มันตกต่ำมันจะขึ้น อันนี้ส่วนหนึ่งเป็นทางตรงเลยเวลาวัวมันจะขึ้น แล้วในส่วนทางตรงอีกส่วนหนึ่งซึ่งผมได้ให้สำนักงานที่ผมกำกับดูแลอยู่ ชื่อสำนักงาน ป.ย.ป. ได้ร่างกฎหมาย ป.ย.ป. ชื่อเต็ม ๆ ของเขานะครับ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งหัวหน้าหน่วยงานเป็นเลขาธิการ ซี ๑๑ ได้ร่างกฎหมายการส่งเสริมปศุสัตว์ ตรงนี้ส่งเสริมอย่างไรครับ ส่งเสริมในเรื่องของการพัฒนา พันธุ์ การแข่งขัน อย่างเช่นการที่เกษตรกรได้เลี้ยงวัวเนื้อธรรมดาในหมู่บ้าน แต่ถ้าเปลี่ยน จากวัวเนื้อธรรมดาในหมู่บ้าน แต่เป็นวัวเนื้อเหมือนกัน แต่สามารถเป็นนักกีฬาได้ เห็นไหม เป็นนักกีฬาได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นนักกีฬาแล้วเรามีกฎหมายแข่งขัน อย่างเช่นในประเทศ สหรัฐอเมริกาหรือยุโรปมีการเลี้ยงม้า ม้าเป็นกีฬาหรือเป็นการพนันประเภทที่ ๒ ถ้าเราทำให้ วัวหรือไก่ตามที่ท่าน สส. จังหวัดพะเยาได้มีการอภิปรายไปก่อนหน้านั้นนะครับว่าในเรื่อง ของกฎหมายที่ล้าสมัย ใช่ครับกฎหมายล้าสมัย แต่กฎหมายที่กำลังจะทันสมัยในรัฐบาลนี้ กำลังได้เตรียมการร่างอยู่ แล้วก็กฎหมายนี้ต้นร่างก็จะเสร็จเพื่อจะให้ท่านสมาชิกมาดู ทำการ วิพากษ์วิจารณ์ได้ประมาณเมษายน พฤษภาคม กฎหมายดังกล่าวนั้นการส่งเสริมการ เพาะเลี้ยงให้ถูกต้อง มีเรื่องของปศุสัตว์เข้ามาเกี่ยวข้อง การแข่งขันต่อมาก็มีมาตรฐาน อุตสาหกรรมที่จัดทำสนามแข่งขัน มีกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องของ ความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์ กีฬา และในเรื่องของ พ.ร.บ. การพนันที่เกี่ยวข้องกับ หลายกระทรวงที่ผ่านมาที่ผมได้กราบเรียนตรงนี้ มันเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง แต่ถ้าเรา ทำการแข่งขันแล้วทำให้สิ่งที่รัฐก็อนุญาตอยู่แล้วในเรื่องของการแข่งขันและการพนัน ชนโค ชนไก่ แต่เก็บภาษีได้น้อยมาก ได้ค่าธรรมเนียมไม่กี่บาท ไม่กี่ร้อย ซึ่งต่าง ๆ ตรงนี้ถ้าเอาขึ้นมา อยู่บนโต๊ะแล้วผมก็เห็นว่าวัวก็จะมีราคาแพงขึ้น เพราะเราเลี้ยงได้ใน ๒ มิติ มิติ ๑ วัวเป็น โปรตีน เป็นเนื้อสำหรับมนุษย์ เป็นโปรตีนสำหรับมนุษย์ หรือถ้าเป็นนักกีฬาเขาก็มีราคา อย่างม้าบางตัวราคา ๑๐ ล้านเหรียญ ที่ชนะที่เป็นข่าวราคา ๑๐ ล้านเหรียญ วัวถ้าเรามี กฎหมายในลักษณะเดียวกับการแข่งขันม้าผมมั่นใจครับว่าวัวราคาตัวละ ๑๐ ล้าน ๒๐ ล้าน จะเกิดขึ้นแน่นอน แล้วในเรื่องของการผสมเทียมหรือการกีฬาต่าง ๆ เหล่านั้น สำหรับ เพื่อการกีฬาก็มีคนผสมเทียม เพราะจะทำให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์มีราคาสูงขึ้น มันเป็นทางอ้อม แต่สำหรับในเรื่องของทางตรง ทางตรงที่วัวราคาตกต่ำ มันมีวัวเถื่อนเข้ามา ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว ที่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกไปปราบปรามอยู่ ท่านไชยา พรหมา ขออนุญาตเอ่ยนาม เพราะเป็นเรื่องที่ดี ท่านได้ดำเนินการและไปปราบปรามอยู่ มีวัวเถื่อนและเนื้อเถื่อน แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่วัวเป็นชีวิต ผมดูจากสถิติการเลี้ยงวัว ในประเทศไทยแล้วมันไม่น่าเชื่อนะครับว่าวัวราคาจะตกต่ำ ท่านดูตัวเลขนะครับ จำนวน ผู้เลี้ยงวัวในประเทศ ๑,๔๒๒,๐๐๐ คนเศษ มีปริมาณประชากรวัว ๙,๗๓๙,๐๐๐ ตัว ซึ่งใน ปี ๆ หนึ่งการบริโภคเนื้อวัวของประเทศไทยมีอัตราการบริโภคตามสัดส่วน เมื่อเทียบกับฝรั่ง แล้วเราบริโภคน้อยกว่าเยอะ แต่ปริมาณที่เลี้ยงนั้นท่านเชื่อไหมครับว่าใช้ในประเทศทั้งหมด ๙๗ เปอร์เซ็นต์ มันคือใช้หมดเลย แล้วเป็นไปได้อย่างไรมีวัวออกส่งไปขายตามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านปีหนึ่ง ๒๐๐,๐๐๐- ๓๐๐,๐๐๐ ตัว และผมก็ไปที่ชายแดนจังหวัดภาคใต้มีวัวที่ส่งข้ามไปขายโดยที่ไม่มีการ ขออนุญาตก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง มี Surplus มีส่วนเกินที่นั้นมาจากไหน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ตรงนี้ผมก็ ไปสืบสวนทวนความดูอีกว่านอกจากมีวัวแช่แข็งมา มีเนื้อแช่แข็งมา มีหมูแช่แข็งมา มีวัวที่ นำเข้าตามชายแดน ผมไปดูและไป Check ดูจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์ หรือเป็นข้าราชการ เป็นอดีตต่าง ๆ เหล่านั้นมีหลายพื้นที่อยู่ในมือผม มีชื่อคอกหลายพื้นที่ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผม จะส่งไปให้ในส่วนของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำไปดำเนินการ ในเรื่องของการปราบปรามวัวเถื่อนตรงนี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ

สำหรับคำถามที่ท่านถามว่า โครงการวัวแสนล้าน เป็นโครงการของกองทุน หมู่บ้านที่จะดำเนินการนั้นจะได้เริ่มดำเนินการแค่ไหน วันไหน อย่างไร ที่ผมเอามาวิพากษ์ ในวันที่มาอภิปรายในวันงบประมาณดังกล่าวนั้น ก็ต้องเรียนว่าในขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำ ความเข้าใจ เพราะในส่วนของโครงการโคชายแดนใต้ก็เหมือนกัน หรือโครงการอื่นก็เหมือนกัน ว่าล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ แต่ว่ามีความแตกต่างกันตรงไหน ซึ่งผมเรียนแล้วว่าการที่ทำ โครงการของกองทุนหมู่บ้านนั้นไม่มีใครที่จะสามารถเอาเปรียบพี่น้องประชาชนหรือ คนเลี้ยงได้ เพราะเงินมันอยู่ตรงผู้กู้คือเกษตรกรหรือสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน เมื่อกู้ไปแล้ว เขาจะเป็นผู้เลือกวัวเองตามคำแนะนำของปศุสัตว์หรือไม่ อย่างไร เขาจะเป็นคนเลือกวัวเอง เลือกแล้วอาจจะได้ติดท้องและได้ลูกตามมาอีก เพราะวันนี้วัวถูก เพราะฉะนั้นผู้ซื้อจะมี โอกาสได้ประโยชน์อย่างสูงสุด เราเพิ่มกำลังซื้อมา จะทำให้ภาพรวมส่วนกลางตรงนั้นสูงขึ้น นะครับ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ

ในเรื่องของกฎหมายต้องขอบคุณท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพะเยา และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากร้อยเอ็ดอีกท่านหนึ่งที่พูดในปัญหาเดียวกันเลยกับ ของท่าน สส. สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ขวัญใจประชาชนคนอีสาน ก็เป็นประเด็นปัญหาที่ ร้อนแรง การเลี้ยงวัวก็มีประโยชน์อีกส่วนหนึ่ง ผมจะเรียนให้ทราบว่าวันนี้เราดูว่าเรามีปัญหา อะไรในประเทศ เรามีเรื่อง PM2.5 PM2.5 คือมีฟาง คนทำนามีฟางเท่าไรลองคำนวณดูครับ ผมมีตัวเลขมาฝากท่านสมาชิก พื้นที่ ๑ ไร่มีฟางข้าวตอซังประมาณ ๖๕๐ กิโลกรัม พื้นที่ ปลูกข้าว ๖๙ เปอร์เซ็นต์ ๔๔.๘๕ ล้านไร่ ประเทศไทยมีตอซังข้าวประมาณ ๒๙.๑๕ ล้านตัน ต่อปี หรือประมาณ ๒๙,๑๕๐ ล้านกิโลกรัม เมื่อเผาแล้วเราจะมี Black Carbon ออกมาเท่าไร Black Carbon ออกมา ๑,๗๔๙ ล้านกรัม หรือประมาณ ๑,๗๔๙ ตันต่อปี เป็น Black Carbon Black Carbon พวกนี้ถ้าเราเลี้ยงวัวเยอะ ๆ มันก็ไม่เกิดขึ้น เพราะว่าวัวจะกินฟาง ได้ประโยชน์ หลายทาง เพราะฉะนั้นวันนี้อยู่ในช่วงของการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนหรือผู้คน และอีกส่วนหนึ่งที่ล่าช้าของโครงการเกิดจากเรื่องของดอกเบี้ย ดอกเบี้ยของธนาคารไม่นิ่ง ในขณะนี้ ตอนนั้นแรกเริ่มเดิมทีก็ประมาณ ๔ เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้ดอกเบี้ยมันไหลขึ้นไป ๕.๕ เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ยังพูดคุยกับเจ้าของเงินยังไม่เรียบร้อย ถ้าเรียบร้อยเมื่อไรก็จะมาแจ้ง ให้ท่านผู้เกี่ยวข้องรับทราบ ขอขอบคุณคำถามที่ ๑ ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านรัฐมนตรีครับ พอดีเวลาในการตอบของท่านรัฐมนตรีหมดแล้วนะครับ แต่ถ้า ท่านผู้ถามถามสั้น ๆ ก็จะมีโอกาสให้ท่านรัฐมนตรีตอบเพิ่มได้ เชิญท่านสุดารัตน์ครับ

นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

ขอบพระคุณค่ะ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ได้ตอบคำถาม ซึ่งจากที่ท่านได้ตอบมาตรงใจ ดิฉันที่ดิฉันกำลังจะถามต่อไปทั้งหมดเลยค่ะ ในส่วนของโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีนะคะ เป็นโครงการที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างมากมาย ซึ่งจากที่ท่านได้แถลงเมื่อสักครู่ ก็คือจะให้ประชาชนยืมเงินครอบครัวละ ๕๐,๐๐๐ บาทจากกองทุนหมู่บ้าน และส่งคืน ภายใน ๔ ปี ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ถึง ๒๕๐,๐๐๐ บาทต่อปีต่อครอบครัว ถือว่าเป็นมูลค่า ที่สูงมาก ดิฉันขอเสนอนอกจากจะส่งเสริมให้มีโครงการวัวแสนล้านแล้ว ควรจะต่อยอด อย่างที่ท่านสมศักดิ์ได้กล่าวไปสักครู่คือการพัฒนาสายพันธุ์ เพราะเมื่อสายพันธุ์ดี เนื้อดี ราคาก็ดีตามมา การส่งเสริมนี้ก็ควรจะจัดให้มีการผสมเทียม มีอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน โดยมีน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ดีเพื่อทำให้วัวมีการขยายสายพันธุ์ มีโครงสร้างใหญ่ขึ้น มีเนื้อที่ดีขึ้น และนำสู่ผลผลิตที่ดีตามมาค่ะ

นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

แล้วสุดท้ายดิฉันขอฝากอีกเรื่องหนึ่ง คือปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากโครงการนี้ ได้สำเร็จ คือจะมีวัวเกิดขึ้นมากมาย มีวัวทุกบ้าน แต่ปัญหาที่ตามมาคือปัญหา Lumpy Skin หรือปัญหาโรคปากเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นดิฉันอยากจะฝากท่านขอให้ รัฐบาลมีวิธีการรับมือกับโรคนี้ เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะมีการระบาดอย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงของพี่น้องประชาชนตายได้ แล้วก็ยังไม่สามารถส่งออก ต่างประเทศได้ด้วย และที่ท่านได้กล่าวเรื่องเนื้อเถื่อนที่เป็นปัญหาของราคาวัวตกต่ำ ในปัจจุบันนี้ ดิฉันเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และรัฐบาลก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหานี้ ให้พี่น้องประชาชน อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทางบ้าน ขอให้มีความหวังและอดใจรอ รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยที่กำลังทำงานให้ทุกท่านอย่างเต็มที่ อย่างหนัก และโครงการนี้ ดิฉันหวังว่าจะเกิดขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนได้ในเร็ววันนี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบพระคุณครับ ท่านสมศักดิ์มีอะไรกล่าวทิ้งท้ายไหมครับ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ต้นฉบับ

ขอท่านประธานสัก ๑ นาทีครับ Lumpy Skin มันมากับวัวข้ามชายแดนมา ถ้าเราบล็อกให้อยู่ เหมือนตอนนี้เรากำลังบล็อก ยาเสพติดอย่างนั้นมันก็จะไม่เข้ามา แต่ Lumpy Skin นี้วัวไม่ตาย แต่ว่ามันพิการ เล็บหลุดบ้าง อะไรบ้าง ตรงนี้เราก็ต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง แล้วในเรื่องของการป้องกัน เรื่องของวัวเถื่อนนั้นผมจะปรึกษากับท่านรองภูมิธรรมอีกครั้งหนึ่ง เพราะท่านดูในเรื่องของ กรมการค้าภายใน ในเรื่องของราคาสินค้าที่อยู่ในตลาด และในส่วนของเรื่องข้ามชายแดนนั้น ท่านเป็นผู้กำกับดูแลในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และในส่วนที่ท่านถามเรื่องของ การผสมเทียม ผมเห็นตัวอย่างที่จังหวัดอุบลราชธานี ท่านอดีต สส. ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ให้คำแนะนำผมมาก่อนแล้วในเรื่องของการอบรมสัตวบาลอาสา รองนายกรัฐมนตรี มีเงินตรวจราชการ ผมจะตั้งโครงการอบรมในพื้นที่ที่ต้องการอยากจะได้สัตวบาลอาสาไป ดำเนินการ แต่การอบรมสัตวบาลอาสานั้นทำโดยลำพังไม่ได้ จะต้องได้รับการสนับสนุนจาก กรมปศุสัตว์ด้วย อันนี้ก็จะหารือและทำไปตามแนวทางเพราะเป็นเรื่องที่ดี ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ทางผู้ถามมีอีกรอบไหมครับ ไม่แล้วนะครับ ขอบคุณทั้งผู้ถามและผู้ตอบที่ได้ สาระครบถ้วน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๒. นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถาม เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่านชลน่าน ศรีแก้ว ได้มอบหมายให้รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่านสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนตาม ข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ขอเชิญ ท่านกัลยพัชร รจิตโรจน์ ใช้สิทธิถามครับ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน ที่เคารพค่ะ ดิฉัน กัลยพัชร รจิตโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันขอยื่นกระทู้ถามสดด้วยวาจาผ่านทางท่านประธานไปยัง ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวข้อที่ดิฉันจะพูดคือ นโยบายบัตรใบเดียวรักษา ได้ทุกที่ นโยบายบัตรใบเดียวรักษาได้ทุกที่เป็นนโยบายเรือธงตั้งแต่ตอนหาเสียงของ พรรคเพื่อไทย และปัจจุบันก็ยังเป็นนโยบายแกนหลักของสาธารณสุข ปัจจุบันได้เริ่มมีการ Kick Off นโยบายไปแล้วตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคมที่ผ่านมา ใน ๔ จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ นราธิวาส เพชรบุรี และร้อยเอ็ด ได้ข่าวว่ากำลังจะเพิ่มระยะ ๒ ภายในเดือนมีนาคมในอีก ๘ จังหวัด ที่ดิฉันทราบเพราะว่าได้เริ่มพูดคุยกับบุคลากรปฏิบัติงานหน้างานที่จังหวัดพังงา แล้วก็จังหวัดนครสวรรค์ไปบ้างแล้ว ดิฉันไม่แปลกใจเลยที่ท่านคิดนโยบายนี้ขึ้นมา ท่านต้องการให้นโยบายที่ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคเดิมยังให้ไม่ได้ ก็คือการให้ประชาชนไป รักษาได้ทุกที่ ไม่ติดโรงพยาบาลต้นสังกัดอีกต่อไป รักษาได้รวดเร็ว ทันใจ สะดวก ไม่ต้องรอ คิวนาน แต่ทว่านโยบายนี้มันซ้ำซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะถ้าหากปราศจากการเชื่อมต่อข้อมูล อย่างไร้รอยต่อแล้ว นโยบายนี้ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เวลาดิฉันกล่าวถึง ข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยหรือ Digital Medical Data ดิฉันไม่ได้หมายถึงข้อมูลการรักษา เท่านั้น ดิฉันยังหมายถึงโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ยาที่คนไข้ใช้ประจำ ประวัติผ่าตัด ประวัติคลอดบุตร ประวัติการตรวจร่างกาย ผลเลือด ผลทางห้อง Lab ห้องปฏิบัติการ ผลทางรังสีวิทยา เช่น เอกซเรย์ CT MRI หรือข้อมูลที่ทุกคนลืมจะนึกถึง ก็คือข้อมูล การเบิกจ่ายของผู้ป่วยแต่ละคน ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเหล่านี้นโยบายนี้จะไม่สามารถประสบ ความสำเร็จได้เลยในระยะยาว จะว่าไปในระยะสั้นที่ผ่านมาแค่ ๒-๓ อาทิตย์ก็เริ่มเห็น ปัญหาแล้วค่ะ ดิฉันได้เข้าไปพูดคุยกับบุคลากรสาธารณสุขหน้างาน ๔ จังหวัดนำร่องของท่าน หลายท่านกล่าวว่าต้องซักประวัติคนไข้ใหม่ทั้งหมดเลย เพราะคนไข้จำยาที่ตัวเองแพ้ไม่ได้ หลายคนกล่าวว่าผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนจำโรคประจำตัวที่เคยได้รับการวินิจฉัยประมาณ ๒๐ ปี ๓๐ ปีก่อนที่โรงพยาบาลต้นสังกัดเดิมไม่ได้ ฟังจากผู้ปฏิบัติงานแล้ว เราฟังจากผู้ป่วยที่สำคัญ ที่สุดในสมการนี้ เสียงสะท้อนจากผู้ป่วยสะท้อนดังมากไปที่หลายหน้าสื่อ และสะท้อนมาถึง หูดิฉันด้วยว่าหลังจากเสียบบัตรประชาชนเข้าเครื่องไปหน้าจอว่างเปล่า ต้องเสียเวลา ซักประวัติใหม่ทั้งหมด ตรวจร่างกายใหม่ทั้งหมด หลายท่านต้องเจ็บตัวเจาะเลือดใหม่ เป็นครั้งที่ ๒ หลายท่านที่ต้องการทำฟิล์มเอกซเรย์ก็ต้องรับรังสีกันใหม่ สรุปแล้วข้อมูล ยังเชื่อมต่อไม่ครบถ้วนใช่ไหมคะ นอกจากนั้นดิฉันยังได้พูดคุยกับผู้ประกอบการโรงพยาบาล เอกชนใน ๔ จังหวัดนำร่องของท่าน ท่านอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าเขากำลังจะถอนตัวออกจาก โครงการของท่าน ด้วยเหตุผลเดียวเลยที่ดิฉันขอพูดตามเขาเลยว่า ยังไม่รู้เลยว่าจ่ายสตางค์ กันอย่างไร ขณะนี้ท่านกำลังเพิ่มภาระงานให้บุคลากรสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลศูนย์ เพราะเป็นไปตามที่ดิฉันอภิปรายตอนอภิปรายงบทุกประการว่าเมื่อท่านเปิดให้รักษาทุกที่ คนไปโรงพยาบาลศูนย์เป็นส่วนใหญ่ Pain Point ที่ ๒ คือคนขายรอคิวนานขึ้น ตรวจซ้ำซ้อน มากขึ้น และข้อ ๓ ท่านกำลังสร้างความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในระบบเบิกจ่ายของท่านอีกด้วย ให้กับผู้ประกอบการโรงพยาบาล ยกตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่งก็ได้ค่ะ หน้าคลินิกกระดูกและข้อ หน้าโรงพยาบาลจังหวัดนำร่องแห่งหนึ่งของท่านติดป้ายไว้ว่า วันนี้คนไข้คิวเต็มแล้ว ๑๙๐ คน ขอรับเฉพาะคิวที่นัดไว้และคิวที่มีบัตรส่งตัวเท่านั้น ผู้ที่ไม่มีใบส่งตัวกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ไม่มีใบส่งตัวนี้มิใช่หรือคะคือผู้ป่วยที่ลงทะเบียนกับนโยบายบัตรใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ของท่าน สรุป ณ วันนี้นโยบายบัตรใบเดียวอาจจะรักษาได้ทุกที่ แต่จะไม่ทุกคนนะคะ เท่าที่ได้คุยกัน ในชั้นคณะกรรมาธิการแล้ว ทั้งคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ทางกระทรวงสาธารณสุขแจ้งกับดิฉันอย่าง ชัดเจนว่าการเชื่อมต่อข้อมูลการรักษากำลังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น ห่างไกลจากคำว่า พร้อม นะคะ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ดิฉันจะเข้าสู่คำถามที่ ๑ ก็คือแล้วโรงพยาบาลต่างสังกัดล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็น สังกัด อว. หรือสังกัดกระทรวงกลาโหม ท่านได้เริ่มมีการพูดคุยเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลให้ผู้ป่วย ข้ามสังกัดแล้วหรือยังคะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญรัฐมนตรีครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงเกียรติครับ จากคำถามในเรื่องบัตรประชาชนใบเดียวสามารถใช้ได้ทุกที่นั้น ก็ต้องขอนำเรียนอย่างนี้ว่า ประชาชนในจำนวน ๖๗ ล้านคน ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขมีความตั้งใจ ที่จะให้การบริการพี่น้องประชาชนให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว มั่นคง แล้วก็ให้ทันใจ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขโดยท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐานั้นได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกเรื่องของสุขอนามัยให้กับพี่น้องประชาชน แล้วก็รักษา ได้ทุกที่ ไม่ใช่ว่าบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัดแล้วมาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ยังไม่ทันได้ย้ายอะไรต่าง ๆ แล้วการรักษาก็จะเกิดความยากลำบาก เพราะฉะนั้นบัตรประชาชนจึงมีความสำคัญ เพราะว่าพี่น้องประชาชนทุกคนมีบัตรประชาชน ดังนั้นก็จึงใช้คำว่าการรักษาพยาบาลภายใต้ บัตรทอง ในเมื่อในอดีตนั้นสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเป็นบัตรประชาชนใช้ได้ทุกที่ เนื่องจากว่า บัตรประชาชนสามารถที่จะมีหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องใช้ข้อมูลตัวนี้เป็นจำนวนมาก กระทรวง สาธารณสุขได้ระดมเร่งในการดำเนินการ แน่นอนที่สุดครับ ตามที่ท่านผู้แทนได้พูดถึงว่า ในบางโรงพยาบาลในบางจังหวัดความพร้อมไม่เท่ากัน ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงนำร่อง ๔ จังหวัดที่ท่านได้พูดถึง ก็คือจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดแพร่ จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัด นราธิวาส ก็คือ ๔ ภาครัฐนั่นเอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ แล้วก็ภาคกลาง รวมถึงนราธิวาสก็คือภาคใต้ ทำไมถึงต้องใช้ ๔ จังหวัดนำร่องจาก ๗๗ จังหวัด เนื่องจากว่า การดำเนินการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่นั้นไม่ใช่ในเรื่องของการแพทย์อย่างเดียว จะมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมโยงในเรื่องข้อมูลของผู้ป่วยต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลก็มี หลายสาขา มีทุกรูปแบบ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มอบนโยบายให้แต่ละโรงพยาบาล ไปเริ่มทำข้อมูลเหล่านี้ แล้วข้อมูลเหล่านี้เราก็ยังมีเรื่องของข้อมูลส่วนตัวอะไรต่าง ๆ กระทรวงสาธารณสุขได้คำนึงถึงในเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด ดังนั้นก็ได้เปิดนำร่องไปแล้วอย่างที่ ท่านผู้แทนได้พูดถึงก็คือที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้เปิดไปแล้ว แล้วก็อีก ๔ จังหวัด เพราะฉะนั้น การดำเนินการตามที่ท่านได้พูดถึงนี้มีข้อขัดข้องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ผมยอมรับว่ามี แต่เรา มีทีมงานไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดนั้น ๆ ไปดูเพื่อนำข้อมูลที่ขาดตกเล็กน้อยหรือ ข้อมูลบางอย่างที่ระหว่างโรงพยาบาลกับคนป่วย คนไข้ ซึ่งตามที่ท่านพูดว่า ๒ ปี ๓ ปีที่แล้ว เขามาหาโรงพยาบาล ในช่วงนั้นข้อมูลมันอาจจะยังไม่ค่อยทั่วถึง หรือข้อมูลก็อาจจะยังไม่ได้ นำเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลนั้น ๆ เวลาเขามาใช้แล้วเราเข้าระบบก็อาจจะมี ข้อขัดข้องบ้าง แต่ ณ ปัจจุบันใน ๔ จังหวัดนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รับคำยืนยันว่ามีความพร้อม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อันนี้จึงเป็นการนำร่อง ๔ จังหวัด เพื่อหาดูในข้อปลีกย่อยต่าง ๆ ที่ยัง เชื่อมโยงกันไม่ได้กับพี่น้องประชาชนคนป่วย แล้วหลังจากนั้นประมาณวันที่ ๑ มีนาคมเป็น ต้นไปก็จะเริ่มอีก ๘ จังหวัด ๘ จังหวัดนั้นก็จะมีจังหวัดพังงา สระแก้ว นครราชสีมา สิงห์บุรี นครสวรรค์ อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู และเพชรบูรณ์ ขณะนี้ใน ๘ จังหวัดนี้ก็กำลังเร่งใน การทำข้อมูลในการเชื่อมโยงต่าง ๆ และเฟสที่ ๓ ก็จะเพิ่มเติมอีก ๔ เขตสุขภาพ จำนวน ๒๗ จังหวัด ก็จะเริ่มดำเนินการประมาณเดือนเมษายน ๒๕๖๗ แล้วหลังจากนั้นภายในปีนี้ ก็จะสามารถที่จะเชื่อมโยงกันได้ทั่วประเทศ และจากที่ท่านผู้แทนได้ถามว่าแล้วมันเชื่อมกับ ใครได้บ้าง ในระหว่างนี้ก็คงต้องเรียนว่าที่มีความพร้อมมากที่สุดคือข้อมูลและโรงพยาบาล ที่ขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้ระบบเบิกจ่ายของ สปสช. อันนี้ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องระบบ การเบิกจ่าย ดังนั้นการเชื่อมข้อมูลในเรื่องการเบิกจ่ายเงินอะไรต่าง ๆ ก็เกิดความคล่องตัว อยู่แล้วนะครับ และนอกเหนือจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขก็ยังมีนโยบายที่จะเชื่อมกับ ร้านขายยา แล้วก็คลินิก และโรงพยาบาลเอกชน สิ่งเหล่านี้มันก็จะต้องให้ทางโรงพยาบาล เอกชนมาขอเข้าโครงการ และกระทรวงสาธารณสุขก็จะให้หน่วยเทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูล เข้าไปให้ได้ และอย่างที่ท่านถามว่าแล้วของโรงพยาบาลของกระทรวงกลาโหม โรงพยาบาล ของ กทม. ต่าง ๆ นั้น โครงการเราเพิ่งเปิดไปเมื่อเดือนที่แล้ว ดังนั้นเรากำลังเร่ง เจ้าหน้าที่ ของกระทรวงสาธารณสุขทั้งด้านนายแพทย์และเทคโนโลยี นายแพทย์ที่รู้เรื่องเทคโนโลยี เหล่านี้ก็กำลังเจรจา กำลังร่วมกันทำข้อมูลเชื่อมกัน ไม่ว่าจะเป็นของกระทรวงกลาโหม ของกรมบัญชีกลาง และของประกันสังคม กระทรวงกำลังเร่งรีบในการที่จะเชื่อม แต่แน่นอน ที่สุดครับ ขณะนี้ยังไม่ได้เชื่อมทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นจึงจะต้องมีการนำร่อง ที่ผ่านมาคือ ๔ จังหวัด เดี๋ยวหลังจากเดือนมีนาคมไปก็จะเพิ่มนำร่องอีก ๘ จังหวัด และต่อไป อีกโครงการหนึ่ง เฟสที่ ๓ ก็จะเชื่อมอีก ๔ เขตสุขภาพ จำนวน ๒๗ จังหวัด ผมเองก็ต้อง ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าการเชื่อมโยงบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ทุกโรงพยาบาล เป็นนโยบายสุดท้าย นโยบายเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขของ ท่านนายกรัฐมนตรี ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขเห็นถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของ พี่น้องประชาชนจึงจะต้องทุ่มเท คณะแพทย์และแพทย์ที่รู้เรื่องเทคโนโลยีได้เชื่อมโยงกับ บริษัทเอกชนต่าง ๆ ในการทำเทคโนโลยี ตามที่ท่านได้พูดถึงนั้นเป็นเรื่องของเทคโนโลยี ที่จะเชื่อมโยงกัน แล้วก็อาจจะมีบางส่วนเมื่อประชาชนมาแล้วในเรื่องเจาะเลือดหรือในเรื่อง ประวัติอะไรต่าง ๆ ถ้าหากว่ายังไม่ได้เชื่อมโยงเข้าไป แน่นอนที่สุดคนนับเป็นสิบ ๆ ล้านคน ก็อาจจะมีบ้าง แต่เรามีทีมอยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ที่จังหวัด อยู่ที่อำเภอ คอยเก็บข้อมูลเหล่านี้ มาปรับปรุงเพื่อให้ทันสมัย เพื่อให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ผมมั่นใจว่าในเร็ว ๆ นี้ในแต่ละจังหวัด แต่ละเขตที่เราเปิดไปแล้วก็จะเริ่มค่อย ๆ สมบูรณ์ ๆ แล้วท้ายที่สุดก็จะใช้บัตรประชาชนใบเดียว วันนี้เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ เจ็บไข้ได้ป่วยเราก็นำบัตรประชาชนใบเดียวนี้ล่ะไปถึงโรงพยาบาล ไปเสียบ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ช่วยดูว่ามีข้อมูลอะไรต่าง ๆ ก็ช่วยกันอ่าน และในไม่ช้าประชาชนก็จะ เกิดความรู้ในเรื่องเหล่านี้ ในอนาคตเขาก็จะเสียบที่บ้านของเขาได้ จะนัดแนะที่บ้านได้

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านรัฐมนตรีขออนุญาตนะครับ พอดีผมเข้าใจว่าจะมีเรื่องถามอีกเยอะ แต่ท่านรัฐมนตรี เหลือเวลาตอบไม่เยอะครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

ก็ขอตอบเบื้องต้น ขอบคุณครับ สวัสดีครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านรัฐมนตรีเหลือ ๕ นาที ส่วนผู้ถามมี ๙ นาที ก็สามารถบริหารกันตามนี้ ขอเชิญท่านผู้ถามครับ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบ จากท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงนะคะ ซึ่งขัดจากข้อเท็จจริงที่ดิฉันได้รับจากในชั้น กรรมาธิการติดตามงบประมาณวันที่ ๑๘ มกราคมที่ผ่านมา ทางสาธารณสุขยืนยันกับดิฉัน ชัดเจนนะคะว่าเชื่อมต่อกับกระทรวงสังกัดอื่นแล้ว ติดอยู่กระทรวงเดียวคือสังกัด กระทรวงกลาโหม เพราะด้วยเหตุผลเรื่อง PDPA ค่ะ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งที่ทำไมเฉพาะ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมเท่านั้นที่มีปัญหาเรื่อง PDPA อย่างไรก็ตามดิฉันทราบดี ว่าท่านรัฐมนตรีก็ทราบว่าเราจะทำนโยบายบัตรใบเดียวนี้ให้สำเร็จได้อย่างไร โดยใช้ เครื่องมืออะไร เครื่องมือเดียวเลยที่เราจะทำได้ก็คือระบบ HIE ที่ดีหรือ Health Information Exchange การเชื่อมต่อข้อมูลข้ามสังกัด ข้ามจังหวัด ข้ามทุกระดับของโรงพยาบาล ตั้งแต่ ระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ และข้ามสังกัดด้วยเท่านั้น ซึ่งหลักฐานว่าท่านรัฐมนตรี เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีว่าเราจำเป็นต้องทำ HIE ก่อนถึงจะสามารถดำเนินงานนโยบายนี้ได้ มีปรากฏอยู่ในหนังสือราชการที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ได้เรียนส่งให้ท่านนายกรัฐมนตรีเซ็นค่ะ ดิฉันขออนุญาตอ่านหนังสือราชการฉบับนี้ ตามที่คุณหมอชลน่านเขียนสั้น ๆ นะคะ เรียนท่านรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูล บริการด้านสาธารณสุขตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุที่ก บน Digital Health Platform ของสาธารณสุข เพื่อให้สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับบริการสุขภาพ ได้ทุกหน่วยบริการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ เอกชน คลินิก หรือร้านยาใกล้บ้านที่ เข้าร่วมตามนโยบาย ท่านนายกรัฐมนตรี คุณเศรษฐา ทวีสิน หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า นอกจากเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านยังนั่งเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพ แห่งชาติอีกด้วย ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะทราบเรื่องนี้ ทราบปัญหา เหล่านี้เป็นอย่างดีใช่ไหมคะ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

คำถามที่ ๒ ของดิฉันค่ะ ท่านนายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหานี้แค่ไหน และได้ เซ็นรับรองหนังสือฉบับนี้ให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้วหรือยังคะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีใช้สิทธิตอบครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

ต้องขอตอบท่านผู้แทนว่า บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกพื้นที่ตามที่ท่านได้ถามนั้น ก็ต้องเรียนว่าเป็นความปรารถนาดีแล้วก็ความตั้งใจของท่านนายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งการให้ กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการทำโครงการนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาพยาบาล ให้กับพี่น้องประชาชนในชนบท ส่วนในเมืองนั้นก็คงไม่ยากหรอกครับ เพราะว่าทุกคนนั้น มีความสะดวกสบายอยู่แล้ว แต่ในชนบทนั้นจึงมีความจำเป็น ท่านนายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการ มาตั้งแต่ตอนที่ท่านเข้ามารับงานใหม่ ๆ มาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ ๆ นั้นได้มาสั่งการ กระทรวงสาธารณสุขรู้ครับว่าปัญหาการเชื่อมโยงในระดับเทคโนโลยีนั้นเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศไทยเราเองก็มีหลายระบบ ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขใช้ระบบ หมอพร้อม ซึ่งระบบหมอพร้อมเป็นระบบที่พร้อมที่สุดในขณะนี้ แต่แน่นอนที่สุดไม่ว่าจะเป็นระบบของกระทรวงกลาโหมก็ดี ของโรงพยาบาลกลาโหมก็ดี ระบบขององค์กรอื่น ๆ รวมไปถึงระบบของกรมบัญชีกลางก็ดีในการเบิกจ่ายนั้นมีความสำคัญ ผมทราบ เพราะฉะนั้นกระทรวงสาธารณสุขก็กำลังปรับ เชื่อมโยงระบบเครือข่ายในการ เบิกจ่ายในระบบเหล่านี้อยู่ ทั้งหลายทั้งปวงนั้นมันเป็นเรื่องยากในเรื่องเทคโนโลยีกับพี่น้อง ประชาชน ๖๗ ล้านคนเป็นเรื่องใหญ่ แต่ท่านนายกเห็นถึงความสำคัญในเรื่องสุขอนามัย การรักษาพยาบาล เจ็บไข้ได้ป่วยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ กระทรวงสาธารณสุข ได้ทุ่มเท เพราะฉะนั้นวิธีที่กระทรวงสาธารณสุขได้คิดมาแล้วนั้นก็จะมีจังหวัดนำร่อง แล้วก็ เพิ่มไป เพิ่มไป เพิ่มไป แต่ทั้งหลายทั้งปวง ๗๗ จังหวัดนั้นทุกอย่างจะเริ่มพร้อมในการทำงาน ครบทุกจังหวัดภายในสิ้นปีนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ดีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มันขาดตกบกพร่องบ้าง เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางกระทรวงเองได้ตั้งทีมงานสำหรับวิ่งเข้าไปแก้ไขในแต่ละจุด ๆ เพื่อให้ เกิดความพร้อม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพราะฉะนั้นการที่จะไปดูแลคน ๖๗ ล้านคน ๗๗ จังหวัด กับระบบของสาธารณสุขเป็นรายคน ๆ แบบนี้เป็นเรื่องยาก แต่กระทรวงสาธารณสุขสามารถทำได้และมีความตั้งใจครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ทางสภาผู้แทนราษฎรยินดีต้อนรับคณะครูและสภานักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๕ โรงเรียนเอกบูรพาวิเทศศึกษา เขตมีนบุรี กทม. จำนวน ๑๕๑ ท่าน อันนี้ถ้าผม จำไม่ผิดน่าจะเป็นผู้เข้าชมสภาอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยเปิดสภามาแล้ว ป. ๕ ยินดีต้อนรับ ทุก ๆ ท่านนะครับ ต่อไปจะเป็นการถามและตอบในครั้งสุดท้าย ขอเชิญท่านกัลยพัชรครับ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านรัฐมนตรีค่ะ ท่านยังไม่ได้ตอบคำถามของดิฉันค่ะ คำถามของดิฉันแค่ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีได้รับการเซ็น หนังสือฉบับนี้แล้วหรือยัง แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวดิฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ จากหัวหนังสือ ด่วนที่สุด สธ ๐๒๕๐.๐๓/๔๐๐๒ ลงนาม นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ อันนี้เป็นการแสดง ความชัดเจนว่าคุณหมอชลน่านเข้าใจว่าต้องเชื่อมต่อข้อมูลก่อนถึงจะ Kick Off นโยบายได้ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ ธันวาคม จนถึงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๑.๐๐ นาฬิกาที่ดิฉันพูดอยู่ตอนนี้ ท่านนายกยังไม่ได้เซ็นหนังสือฉบับนี้ นี่ท่านกำลังเริ่ม Kick Off นโยบายบัตรใบเดียวรักษาทุกที่ โดยยังไม่มีการเชื่อมต่อข้อมูลอย่างครบถ้วนใช่หรือไม่คะ ท่านกำลังเอาสุขภาพของผู้ป่วย เข้ามาสู่ความเสี่ยงเพื่อทดลองระบบของท่าน ประชาชนเป็นคนนะคะ ไม่ใช่หนูทดลองค่ะ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

คำถามที่ ๓ ของดิฉันจึงง่ายมากค่ะ ดิฉันขอถามว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะ เซ็นหนังสือฉบับนี้เมื่อไร มีกรอบเวลาไหมคะ ประชาชนจะได้รับการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ เพื่อใช้นโยบายบัตรใบเดียวรักษาได้ทุกที่กี่โมงคะ ท่านนายกติดขั้นตอนไหนถึงไม่สามารถ เซ็นหนังสือฉบับนี้ให้กับท่านได้ หรือมัวแต่ติดภารกิจต่างประเทศเลยไม่ค่อยสนใจปัญหาของ พี่น้องชาวไทยเท่าที่ควร

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

ขอบคุณ ท่านผู้แทนที่ใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหนังสือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลนั้น เดี๋ยวผมจะไปตรวจสอบว่าท่านเซ็นมาตั้งแต่เมื่อไร อย่างไร แล้วก็จะตอบท่านผู้แทนโดยตอบ ทางเอกสารให้นะครับ แต่ท่านบอกว่าการเชื่อมโยงนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตการเชื่อมโยงอะไรต่าง ๆ หรืออะไรพวกนี้ นะครับ ผมขอเรียนว่าทางกระทรวงสาธารณสุขหลังจากที่เราเชื่อมโยงในพื้นที่นำร่อง ๔ จังหวัดตามที่ได้พูดถึงแล้ว เราเชื่อมโยงในระบบของโรงพยาบาลต่าง ๆ ร้านขายยา และโรงพยาบาลต่าง ๆ นี้ได้ทำการเชื่อมโยงไปแล้วนะครับ ทั้งโรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านขายยาต่าง ๆ ขณะนี้ใน ๔ จังหวัดเราเชื่อมโยงไปแล้ว ๗๖๕ แห่ง แล้วก็ในอีก ๘ จังหวัด เราก็จะเชื่อมโยงไปเรื่อย ๆ แต่แน่นอนที่สุดในกระทรวงสาธารณสุขนั้น ในโรงพยาบาล เอกชนก็ดี หน่วยทหารก็ดี กรมบัญชีกลางก็ดี กระทรวงอื่น ๆ รวมถึงประกันสังคมก็ดี เราก็ ต้องยอมรับว่าในอดีตเรายังไม่มีโครงการนี้ พอเรามีโครงการที่จะเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับ พี่น้องประชาชนมากมายถึงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นในแต่ละกรม กอง แต่ละโรงพยาบาล ก็จะต้องมีคณะกรรมการมาเชื่อมโยงทั้งเรื่องของข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลประวัติของ พี่น้องประชาชน คนไข้ และในการเชื่อมโยงถึงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ว่า DNA มันตรงกันไหม สำหรับข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่อย่างนั้น ก็ต้องเขียนโปรแกรมให้มันเชื่อมโยงกัน ในระดับผู้ใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุขไปประสานงาน ไปติดต่อแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหมก็ดี หรือกรมบัญชีกลาง หรือกรมอื่น ๆ แม้กระทั่ง โรงพยาบาลเอกชน ทุกโรงพยาบาลก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และขณะนี้กำลังเชื่อมโยง ข้อมูลกันอยู่ ก็เรียนว่าก็คงต้องให้โอกาสกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของข้อมูลต่าง ๆ พวกนี้ ในระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงทำเป็นขั้นเป็นตอนว่าขั้นนำร่อง ๔ จังหวัด ขั้นต่อมาในเดือนหน้า ๘ จังหวัด และในเดือนเมษายนอีก ๒๗ จังหวัด และภายในสิ้นปีกระทรวงสาธารณสุขจะใช้ ทรัพยากรเท่าที่มีของกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ครบ ๗๗ จังหวัดให้จงได้ เพื่อพี่น้อง ประชาชนตามคำบัญชาของท่านนายกรัฐมนตรีที่เป็นห่วงพี่น้องประชาชนในเรื่องสุขอนามัย ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ทางผู้ถามยังมีอีกสัก ๔ นาทีก็จะหมดสิทธิถามแล้วนะครับ จะมีอะไรฝากถึง ทางสภาครับ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ก็ขอบคุณคำตอบจาก ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการค่ะ แต่ที่ตอนแรกที่ดิฉันอยากจะถามกับท่านรัฐมนตรีว่าการเลย ก็เพราะว่าในคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติที่มีคุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน คุณแพทองธารเป็นรองประธาน ท่านรัฐมนตรีชลน่าน ศรีแก้ว เป็นเลขาธิการคณะกรรมการนี้ ดิฉันเลยคิดว่าท่านน่าจะตามหนังสือฉบับนี้ได้ อย่างไรก็ตามดิฉันขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี ช่วยว่าการที่สละเวลามาตอบคำถามด้วยตัวเองในวันนี้ ดิฉันยืนยันนะคะว่าดิฉันจะเป็น ฝ่ายค้านที่ไม่ได้สักแต่จะค้านท่านอย่างเดียว อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีดิฉันพร้อมที่จะสนับสนุน แต่ว่าสิ่งที่ท่านยังทำบกพร่องอยู่ ขอให้เข้าใจว่ามันเป็นหน้าที่ของดิฉันที่จะตรวจสอบท่าน ไปถึงที่สุดนะคะ ท่านมั่นใจได้เลยว่านโยบายบัตรใบเดียวนี้ดิฉันจะตามต่อไปถึงเฟส ๒ เฟส ๓ หรือจนกระจายไปทั้งประเทศที่ท่านบอกแน่นอนค่ะ เนื่องจากเวลาเหลือดิฉันขอส่งท้าย ข้อเสนอแนะเล็กน้อยค่ะ ดิฉันพอจะทราบอยู่ว่ารัฐบาลคิดจะทำคราวเดียวเพื่อมาจัดการ ระบบข้อมูลสุขภาพของคนไข้ ข้อนี้ดิฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งนะคะ คราวเดียวมีโอกาสเสี่ยง ในการรั่วไหลของข้อมูลเป็นอย่างมาก อย่างกรณีนายเนียที่เกิดขึ้นมาแล้ว ดิฉันหวังว่า พวกท่านจะได้ถอดบทเรียนจากสิ่งนั้น รัฐไทยกำลังคิดไปผิดทาง ข้อมูลผู้ป่วยเป็นของผู้ป่วย ที่เขาต้อง Consent ให้เราเชื่อมต่อ ข้อมูลผู้ป่วยไม่ใช่ข้อมูลของโรงพยาบาล ไม่ใช่ข้อมูล ของรัฐ ไม่ใช่ข้อมูลของท่าน เพราะฉะนั้นช่วยรักษาความลับของผู้ป่วยด้วยระหว่างการ เชื่อมต่อ อีกอย่างหนึ่งก็คือมีบริษัทมากมายที่ทำการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพ บริษัท Startup รายย่อยมีเป็นหลักร้อยบริษัทเลยค่ะ ถ้าท่านเห็นแก่ความสำคัญต่อการจัดการข้อมูลจริง ๆ ดิฉันขอให้ท่านเปิดให้พวกเขา Service Provider เหล่านั้นเข้ารับการแข่งขันอย่างเสรีด้วยค่ะ มิใช่ Lock Spec ไว้ที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งอย่างที่ท่านกำลังทำอยู่อย่างเห็นได้ชัดใน ๔ จังหวัด นำร่องของท่านค่ะ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

และสุดท้ายนี้ สุดท้ายจริง ๆ ค่ะ ก่อนที่ท่านจะเปลี่ยนความคิดของนโยบาย ๓๐ บาท รักษาทุกโรคที่คุณหมอสงวนคิดมาตอนแรกเพื่อเป็น Safety Net ช่วยชาวบ้าน ช่วยคนจน มาเปลี่ยนเป็น ๓๐ บาท Plus Version พรรคเพื่อไทยปัจจุบันที่เป็นนโยบาย ประชานิยม โดยมิได้คำนึงถึงประชาชนอยู่ในสมการนี้เลย ดิฉันขอให้ท่านคิดให้รอบคอบด้วย หรืออย่างน้อยท่านเตรียมระบบให้เรียบร้อยก่อนค่อยเริ่มปฏิบัติการก็ได้ ท่านจะรีบไปทำไม ถ้ารีบแล้วมันประสิทธิภาพน้อยลงค่ะ นี่หรือคะพรรคที่คิดใหญ่ทำเป็น

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขออนุญาตนะครับ ผมให้เป็นการเสนอแนะทิ้งท้าย แต่ว่าถ้าเรื่องของกล่าววิพากษ์วิจารณ์ เพราะว่าผู้ตอบไม่มีสิทธิตอบโต้นะครับ

นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ได้ค่ะ โอเคค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญครับท่าน

นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมก็อยากให้บรรยากาศ ในสภาเป็นไปอย่างราบรื่นครับ ผม นายวรวงศ์ วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ก็ทราบดีครับวันนี้เป็นกระทู้ถามตอบ แต่การที่จะพาดพิงไปถึงทางรัฐบาล ว่าไม่ได้คำนึงถึงพี่น้องประชาชน ผมอยากให้ถอนคำนี้นะครับ การที่บอกว่าอยากจะทำรัฐสภา อยากให้เราอยู่กันแบบสร้างสรรค์ ผมว่าการเสียดสีแบบนี้ต้องลดลงเพื่อประหยัดเวลาในสภา ขอบคุณครับ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ขอประท้วงครับ ท่านประธาน ผมไม่ทราบว่าท่านผู้ประท้วง ประท้วงข้อบังคับไหนครับเมื่อสักครู่

นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ

ข้อ ๖๙ ครับท่านประธาน เสียดสีชัดเจนครับ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ

ยังไม่มีการเอ่ยชื่อพรรคการเมืองเลยครับ ท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านครับ ผมวินิจฉัยอย่างนี้ครับ ผมกล่าวเตือนแล้วก่อนที่จะมีการประท้วงนะครับว่าอันนี้ ไม่ใช่เวทีของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะฉะนั้นข้อกล่าวหาหรือว่าข้อซักถามที่เป็น ลักษณะของการโจมตีไปที่รัฐบาล อันนี้ต้องขอไม่ให้เกิดขึ้นในการใช้กระทู้แบบนี้นะครับ ขออนุญาตนะครับ ท่านคงต้องไม่มีสิทธิพูดแล้วนะครับ ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

ขอบคุณ ท่านประธานครับ ผมมีความจำเป็นต้องเรียนท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนะครับ คำว่า บกพร่อง กระทรวงสาธารณสุขรับไม่ได้ เพราะว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่มีความบกพร่อง แต่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนหรือของผู้ป่วยทุก ๆ ข้อมูล ทุก ๆ คนนั้นทางกระทรวง สาธารณสุขจะต้องให้ผู้ป่วยเหล่านั้นหรือว่าคนไข้เหล่านั้นเซ็นให้ความยินยอม ทางกระทรวง สาธารณสุขถึงจะดำเนินการนะครับ ดังนั้นสิ่งที่ท่านได้พูดบอกว่ามีข้อมูลของบางท่าน เสียบบัตรเข้าไปแล้วไม่ปรากฏข้อมูลใด นั่นแสดงว่าบุคคลผู้นั้นยังไม่ได้มาแสดงความจำนง ในการที่จะให้ข้อมูลนั้นสามารถที่จะ Link เข้ามาในระบบ เพราะว่าข้อมูลที่ Link เข้ามาใน ระบบนั้นถ้าเขาอยู่ร้อยเอ็ดแล้วเขามากรุงเทพฯ อยากจะมาโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ นั้นเขาก็ จะต้องยินยอมให้ข้อมูลเขาอยู่ในระบบนะครับอันที่ ๑ และตามที่ท่านบอกว่าทำไมไม่ทำ ระบบให้ครบถ้วน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์แล้วมาเปิดทีเดียวทั่วประเทศ มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ แล้วอันนั้นถ้าเกิดความบกพร่องระบบมันจะล่มเสียหาย ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้ ตรวจสอบและได้คำนวณอย่างดีที่สุดแล้วว่าจะต้องนำร่องเพื่อแก้ไขจุดอ่อนต่าง ๆ ทีละ ๔ จังหวัด ๘ จังหวัด แล้วท้ายที่สุดสิ้นปีก็จะครบทั้งประเทศนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านรัฐมนตรีขออนุญาตครับ คืออันนี้เกินเวลาจริง ๆ ครับ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้นฉบับ

ก็เลย เรียนให้พี่น้องประชาชนและท่าน สส. ได้ทราบด้วย ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เพื่อนสมาชิกครับ ในเรื่องของการถามตอบผมไม่ได้จำกัดนะครับว่าจะกล่าวหากันไม่ได้ เพราะว่าทุกคนมีสิทธิที่จะชี้แจง แต่ผมมีหน้าที่ในการบริหารเวลานะครับ เพราะฉะนั้นก็คง ไม่ได้แปลว่าท่านผู้ถามจะต้องถามแล้วก็ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้เลย ส่วนผู้ตอบ ก็คงต้องบริหารให้ตอบได้ทั้ง ๓ คำถามด้วย ขออนุญาตชี้แจงแบบนี้จะได้ทำตามกติกาของ กระทู้สดได้ ขอบคุณท่านรัฐมนตรีนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๓. นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามสด เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มอบหมายรัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ไม่ใช่นะครับ ขอโทษครับ ขออนุญาตครับ อันนี้จะเป็นตามที่มอบหมายคือท่านสุรพงษ์ ปิยะโชติ ท่านติดภารกิจไม่สามารถตอบกระทู้ถามได้ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามออกไปก่อน ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ท่านศุภณัฐมีอะไรไหมครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๙ บางเขน จตุจักร หลักสี่ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมไม่เข้าใจ ผมอยากรู้ครับ ทำไมทุกวันอังคารรัฐมนตรีไปประชุม ครม. ได้ แต่วันพฤหัสบดีมาตอบในสภาไม่ได้ ท่านมนพรเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่กันตรงนี้ แต่ก็ไม่อนุญาตให้ท่านตอบ ทั้งที่ท่านก็อยู่ในสภาแล้ว เรื่องที่ผมถามเป็นเรื่องใหญ่ของกระทรวงคมนาคมนะครับ ท่านประธาน กระทบกับประชาชนหลายล้านคน มันไม่สำคัญ มันไม่เร่งด่วนหรือครับ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมีถึง ๓ คนแต่ไม่ตอบผม ๓ คนเลยครับ แต่จริง ๆ ต้องบอก อย่างนี้ครับว่าเรื่องนี้ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ๑ ใน ๓ ท่านต้องตอบได้นะครับ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ของกระทรวงคมนาคมที่ประชาชนหลายล้านคนกระทบอยู่ ทีเรื่องหมอชิต ๒ เป็นเรื่องของ ท่านรัฐมนตรีสุรพงษ์ ท่านสุริยะก็ไปตอบ ทีเรื่องแลนด์บริดจ์เป็นของท่านสุริยะในฐานะ ผู้กำกับ สนข. ท่านมนพรก็เอามาตอบได้ครับ แต่เรื่องที่ผมถามกลับไม่มีใครจะตอบครับ เรื่องระบบขนส่งมวลชนท่านสุริยะก็ดูแลภาพรวมของทั้งประเทศ ท่านสุรพงษ์ดูแลขนส่ง ทางบก ท่านมนพรดูแล ขสมก. แต่ไม่มีใครตอบทั้ง ๓ ท่านเลย ผมอยากรู้ครับว่าทำไม ถึงไม่ตอบกัน แล้วโควตากระทู้ถามสดฝ่ายค้านเรามีกันแค่อาทิตย์ละ ๒ ครั้ง ท่านเล่นไม่ตอบ อันหนึ่งก็คือหายไปแล้ว ๕๐ เปอร์เซ็นต์ สัปดาห์หน้าผมก็ต้องไปแย่งเพื่อนสมาชิกคนอื่นอีก กระทบเพื่อนสมาชิกไม่พอครับ ความเสียหายของประชาชนกลับไม่ได้รับการแก้ไขครับ ท่านประธาน ผมฝากตรงนี้ครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีมนพรครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากประเด็นคำถามของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติในเรื่องของประเด็นกระทู้ถามสดด้วยวาจา ในวันนี้นะคะ เนื่องจากประเด็นคำถามของท่านที่จะถามกระทู้สดมีภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้อง คือขนส่งทางบก เนื่องจากท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมท่านสุรพงษ์วันนี้ ท่านติดประชุมเรื่องของรถไฟฟ้า แล้วท่านมีนัดหมายก่อนหน้านั้นแล้ว จริง ๆ ท่านก็ได้ถาม นะคะว่าจะมีการเลื่อนกระทู้ถามสดด้วยวาจาไปสักประมาณบ่ายโมงหรือไม่ แต่ปรากฏว่า มันเลื่อนไม่ได้ เนื่องจากเป็นกระทู้ถามสดด้วยวาจา จริง ๆ ทางกระทู้ในส่วนของกระทรวง คมนาคม ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ถามทั่วไป กระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้แยกเฉพาะ ถ้าท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมท่านติดภารกิจ ท่านก็จะมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม แต่เนื่องจากช่วงเช้าดิฉันติดกระทู้แยกเฉพาะของท่านสมาชิกจากจังหวัด ลำปางของพรรคก้าวไกล ดิฉันก็เลยบอกว่าดิฉันจะไม่สะดวกในการที่จะใช้เวลามาตอบกระทู้ ถามสดด้วยวาจา แล้วก็ดิฉันมีกระทู้ถามทั่วไปในเรื่องของท่านสมาชิกจากจังหวัดสงขลา ในเรื่องของแลนด์บริดจ์ ดิฉันจึงรับกระทู้ ๒ กระทู้นะคะ ส่วนกระทู้ของท่านสมาชิก ดิฉันทราบค่ะไม่ว่าท่านจะเป็นกระทู้ถามสดหรือว่าท่านมีการ Post แล้วก็ท่านเป็น คณะกรรมาธิการคมนาคมท่านก็ได้หยิบประเด็นเรื่องนี้ ทางกระทรวงคมนาคมก็ไม่นิ่งนอนใจ ท่านสุรพงษ์ฝากดิฉันมาค่ะว่าอาทิตย์หน้าขอหยิบกระทู้ดังกล่าวมาถามอีก ในเรื่องของการ แก้ไขปัญหาของกระทรวงคมนาคมไม่ใช่เพียงแค่ถามกระทู้ ในกระทรวงคมนาคมเองก็ได้ ริเริ่มการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของท่านสมาชิกที่ท่าน Post ใน Facebook ของท่าน แล้วก็ ได้ทำการแก้ไข แต่ว่ากระทู้ถามสดนั้นก็จะได้รับทราบกระทู้ถามที่มีประเด็นคำถามเพิ่มเติม และนำไปแก้ไขต่อไปค่ะ ดิฉันขออนุญาตตอบแทนของท่านสุรพงษ์นะคะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านศุภณัฐครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๙ ท่านประธานครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องแรก ขออภัยท่านรัฐมนตรีครับ ผมไม่ได้นั่งในกรรมาธิการคมนาคมนะครับ ต้องขออภัยด้วย อันนี้ท่านเข้าใจผิดครับ

นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

และเรื่องที่ ๒ คืออย่างนี้ครับท่านประธาน ท่านสุรพงษ์กำกับกรมขนส่ง ทางบกก็จริง แต่ท่านมนพรก็ดูแล ขสมก. ซึ่งเป็นผู้บริหารรถเมล์ครับ แล้วเรื่องที่ผมถาม คือเรื่องรถเมล์กับหมอชิต ๒ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถไฟฟ้าครับ เพราะฉะนั้นท่านมนพรจริง ๆ ในสัดส่วนที่เกี่ยวกับรถเมล์มันต้อง Link กันกับกรมขนส่งทางบก แต่กระทรวงคมนาคมใช้วิธี ที่ฉลาดครับ รัฐมนตรีท่านหนึ่งดูขนส่งทางบก อีกท่านหนึ่งดู ขสมก. เดี๋ยวรอบหน้ามาพอผม จะถาม ขสมก. เกี่ยวกับรถเมล์ท่านโยนไปที่ท่านรัฐมนตรีมนพรที่ก็คงไม่มาสัปดาห์หน้า มันก็ เป็นอย่างนี้ล่ะครับท่านประธาน เราถามว่าเราจะแก้ปัญหาอย่างไร ผมงงครับ หรือท่านสุริยะ ต้องมาตอบ ผมคิดว่าท่านสุริยะต้องมาตอบในกรณีแบบนี้ เพราะจะได้ครอบคลุมทั้ง กระทรวงเลยครับ จะได้ไม่ต้องโยนกันไปโยนกันมาครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ในเรื่องของการใช้สิทธิตอบหรือไม่ตอบเป็นสิทธิของทางรัฐมนตรีนะครับ ข้อบังคับ ไม่ได้กำกับไว้ แต่ว่าอันนี้ก็ต้องขอเรียนสมาชิกอย่างนี้นะครับ ในหนังสือที่มีการแจ้งในภารกิจ ที่ติดของรัฐมนตรีมีความแตกต่างกันมากเลยนะครับ ของทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุขชี้แจงชัดเจนว่าติดขัดภารกิจใด เพราะอะไร อย่างไรนะครับ แต่ของทางกระทรวง คมนาคมเขียนกว้าง ๆ อันนี้ก็เลยทำให้ทางสมาชิกก็จะติดใจได้ว่าเป็นเพราะเหตุใดจึงไม่มา ตอบกระทู้ อันนี้ท่านจะชี้แจงหรือท่านจะตอบกระทู้ด้วยตัวเองเลยครับ ชี้แจงนะครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาที่เคารพคะ จากประเด็นคำถามของท่านสมาชิกสักครู่ในเรื่องของการ มอบหมายงาน ถึงแม้ว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะมอบหมายงานขนส่ง ทางบกให้ท่านสุรพงษ์ ขสมก. ได้มอบหมายงานให้ดิฉัน แต่เนื่องจาก ๒ หน่วยงานนี้มีความ เชื่อมโยงกัน การลุกตอบกระทู้ใด ๆ ดิฉันไม่ได้รู้สึกกังวลใจเลยค่ะ แต่การตอบกระทู้ถามสด ด้วยวาจาถ้ามีการตอบกระทู้ที่ไม่ครบถ้วนด้วยข้อมูลก็จะทำให้พี่น้องประชาชนคลาดเคลื่อน และคำถามของท่านสมาชิกก็ไม่สามารถตอบให้กระจ่างชัด ซึ่งครั้งหน้าท่านสุรพงษ์ได้รับปาก แน่นอนค่ะว่าจะมาตอบกระทู้ของท่านสมาชิก ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ผมว่าพอสมควรนะครับประเด็นนี้

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตหารือ สักเล็กน้อยเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกระทู้ถามครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญครับ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ ระยอง ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานครับ ผม ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ พรรคก้าวไกล จังหวัดระยอง ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ผมเคยลุกขึ้นหารือ สัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับการที่กระทู้ถามของทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ ถามสดหรือกระทู้ทั่วไป มีรัฐมนตรีหลายท่านที่มาตอบกระทู้ แต่บางท่านไม่มาตอบกระทู้ เลื่อนกระทู้ แล้วก็ผมได้หารือกับทางท่านประธานรัฐสภา ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าเรา จะมีกระบวนการอย่างไรในการที่ทำให้กระทู้ถามสดที่โควตาตกไปแล้วต้องมาชิงโควตากันต่อ จะมีการงดเว้นข้อบังคับการประชุมเพื่อให้เป็นกระทู้ถามสด ๔ กระทู้ เพื่อชดเชยกับการที่ ทางรัฐมนตรีไม่มาทำหน้าที่ตอบกระทู้ได้หรือไม่ ซึ่งเท่าที่ฟังคือไม่ได้ ครั้งนี้ก็เลยทำให้ ท่านกัลยพัชรต้องมาถามใหม่ในครั้งนี้ แล้วก็ขอบคุณท่านรัฐมนตรีที่มาตอบ เช่นเดียวกัน ครั้งนี้ ถ้าเกิดเราจะเลื่อนของท่านศุภณัฐไปตอบสัปดาห์หน้าหมายถึงต้องไปกินโควตา กระทู้ถามสดสัปดาห์หน้าอีกใช่หรือไม่ ซึ่งคำถามคือทางพวกเราเป็นฝ่ายค้านมีเครื่องมือ ในการที่จะถามคำถามที่ฝากมาจากประชาชนอยู่ไม่มากนะครับท่านประธาน แล้วเล่น ไม่มาตอบ เลื่อนตอบอยู่เรื่อย ๆ อย่างนี้ ตอนนี้ผมทำการขอสถิติการไม่มาตอบกระทู้ของ ท่านรัฐมนตรีทุกท่านไว้กับทางสำนักกระทู้ของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งยังรอคำตอบอยู่ ถ้าจะให้ดีผมว่าเอาอย่างนี้ไหมครับ เพื่อตอบกลับนโยบายสภาโปร่งใสของทางท่านประธาน ผมเสนอให้มีการเปิดสถิติรัฐมนตรีที่มาตอบและไม่มาตอบกระทู้ทั้งหมดของสภาเลยว่า รัฐมนตรีท่านใดให้ความร่วมมือกับการทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากน้อยเพียงใด เพราะนี่คือหน้าที่ของท่านในฐานะรัฐบาลที่ต้องมาทำหน้าที่ตอบคำถามที่ฝากมายังพวกเรา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเรียนท่านประธานหารือว่าเปิดสถิติเลยครับว่ารัฐมนตรี ท่านใดไม่มาตอบกระทู้บ้าง ซึ่งทางท่านมนพรผมขอกล่าวชื่นชมนะครับ ท่านมาตลอด เคยถามกระทู้ตอบกันท่านก็พยายามจะตอบอย่างเต็มที่ แต่ว่ายังมีอีกหลายท่านในรัฐบาล ที่ผมเองยังไม่เคยเห็นหน้าเลยครับ เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ก็เรียนชี้แจงอย่างนี้นะครับ เรื่องของการตกลงเรื่องเวลาในการถามตอบกระทู้ ก็อยากให้ทางวิปรัฐบาลแล้วก็วิปฝ่ายค้านได้หารือกันนะครับ ในสมัยประชุมที่แล้วเราก็มี โอกาสให้เติมได้ถึง ๔ กระทู้สด ก็ยังเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ดีต้องประสานงานให้เรียบร้อย ผมไม่มีปัญหาในการที่จะอำนวยความสะดวกในการถามตอบนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ก็คือการมาตอบของรัฐมนตรีเป็นสิทธิของท่าน แล้วก็ไม่ได้มี สภาพบังคับในรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าติดภารกิจใดจึงจะไม่สามารถตอบ กระทู้สดได้ แล้วก็พี่น้องประชาชนก็รับชมอยู่ก็จะทราบเรื่องนี้เองนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องสุดท้ายเรื่องของการเปิดสถิติการตอบกระทู้ ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ถามสด ด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไปและกระทู้ที่ตอบในราชกิจจานุเบกษา จะมีการสรุปแล้วก็รวบรวม และเปิดเผยในตอนปิดสมัยประชุมนี้ครับ ขอบคุณครับ เรียนท่านสมาชิกครับ วาระของการ กระทู้ถามสดด้วยวาจาก็จบแล้วนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๑.๒ กระทู้ถามทั่วไป

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรียนท่านสมาชิกครับ เนื่องจากได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้รับมอบหมายให้ตอบ กระทู้ถามตามวาระที่ ๑.๒.๑ นั้นติดภารกิจสำคัญนะครับ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการถาม ตอบกระทู้ ผมขอปรึกษาที่ประชุมครับ ขอนำกระทู้ถามตอบตามระเบียบวาระที่ ๑.๒.๔ ของ ท่านศาสตรา ศรีปาน ขึ้นมาถามตอบก่อนครับ มีท่านใดขัดข้องในการเปลี่ยนระเบียบ ไหมครับ ถ้าไม่มีผมขอดำเนินการตามนี้นะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๑. เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานก่อสร้างโครงการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่ง ระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน นายศาสตรา ศรีปาน เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ขอเชิญท่านศาสตรา ศรีปาน ครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ เพื่อน สมาชิกทุก ๆ ท่านครับ ผม ศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดสงขลา เด็กหาดใหญ่ พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี ที่มาตอบกระทู้ผม ซึ่ง สส. ทุกท่านก็ทราบดีครับ ว่าท่านจะมาบ่อยมาก แล้วก็ให้เกียรติ สส. ทุกคนในการมาตอบกระทู้ ซึ่งในกระทู้ที่ผมตั้งไว้ เป็นแนวทางในเรื่องของการแก้ไข ซึ่งผมอยากจะแก้นิดหนึ่ง เป็นติดตามมากกว่า เพราะวันนี้ แลนด์บริดจ์หรือว่าระเบียงเศรษฐกิจระนอง-ชุมพร ก็ได้ขับเคลื่อนไปพอสมควรแล้ว ก็ถือว่า เป็นการติดตามแล้วกัน รวมถึงการถามคำถามทั้ง ๒ คำถามนี้ซึ่งพี่น้องประชาชนนั้นก็อยาก จะฟังคำตอบครับ ตัวผมเองแล้วก็พรรครวมไทยสร้างชาติได้ติดตามโครงการแลนด์บริดจ์ มาตั้งแต่ต้น เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่สำคัญ ซึ่งได้ขับเคลื่อนแล้วก็โดนผลักดันมา ตั้งแต่สมัยของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พวกเรา สส. พรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้ ผลักดันโครงการนี้ในสมัยนี้มาโดยตลอด และตัวผมเองก็อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา โครงการแลนด์บริดจ์นี้ และมากไปกว่านั้นตัวผมเองก็เป็นคนใต้ เป็นคนหาดใหญ่ เป็นลูกสงขลา และ สส. ในพรรคของผมหลาย ๆ ท่าน ก็มี สส. วิชัย สุดสวาสดิ์ ซึ่งก็เป็น สส. ในพื้นที่ชุมพร แล้วก็ทั้งนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ที่นั่งข้างหลังผมทุกคนนี้ก็มีส่วนที่จะได้รับผลกระทบ หรือว่าได้ในเรื่องของการพัฒนาในพื้นที่แทบทั้งสิ้นครับ แล้วก็ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ที่วันนี้ท่านก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะทำโครงการนี้ต่อไป เมื่ออาทิตย์ ที่ผ่านมาท่านก็ได้เดินทางไปนำเสนอโครงการนี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เข้าร่วม World Economic Forum แล้วก็ได้รับความสนใจจากหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ได้รับ ความสนใจจากคนที่มีความรู้ประสบการณ์ในเรื่องของ Logistic แล้วก็คนที่สนใจในการ ลงทุนเกี่ยวกับท่าเรือ ซึ่งได้พูดว่าโครงการนี้ถ้าสำเร็จจะเป็น Game Changer ครับ นั่นหมายความว่าโครงการนี้ถ้าสร้างเสร็จแล้วจะเปลี่ยนทิศทางการขนส่งของโลกมาที่ ประเทศไทย ประเทศไทยจะเป็นทางเลือกในการเดินเรือแห่งใหม่ของโลกทันที เพื่อที่จะให้ เห็นภาพชัดขอสไลด์ครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

สไลด์ของผม ๒-๓ สไลด์นี้ก็จะทำให้คน เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ด้านขวามือนั่นก็คือประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ด้านขวามือก็จะ ประกอบไปด้วย จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี ส่วนด้านซ้ายมือสีน้ำเงินก็จะเป็นกลุ่มผู้บริโภค รายใหญ่ที่สุดของโลก ก็จะมียุโรป Middle East เอเชียกลาง เอเชียใต้ การมีแลนด์บริดจ์จะทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตเข้าหากัน มาเจอกัน ผ่านตรงกลางนั่นก็คือ ประเทศไทยของเราครับ ที่เขาจะต้องมาที่นี่ก็มีปัจจัยสำคัญนั่นก็คือเวลาที่ลดน้อยลง ต้นทุน ที่ลดน้อยลง นั่นก็คือ Time And Cost ประเทศไทยของเราก็จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ และจะแชร์ตลาดท่าเรือ จากช่องแคบมะละกา และการตลาดการซื้อการขายของโลกที่มี มูลค่าทั้งสิ้น ๓๗.๘ ล้านล้าน U.S. Dollar ถ้าเราทำขึ้นมาและสามารถแชร์ตลาดตรงนี้ได้ ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าครับ เป็นศูนย์กลางการเงิน และจะเกิดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมใหม่ ๆ ครบวงจร ที่สำคัญภาคใต้ครับ ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้หรือที่เรียกว่า Southern Economic Corridor ภาคใต้ก็จะเกิดการลงทุนใหม่ ๆ มากมาย และจะนำไปสู่การเจริญเติบโตของ GDP ประเทศ คนไทยรวยครับ เพราะเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพอย่างมากมายมหาศาล

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

คำถามที่ ๑ กระทรวงคมนาคมมีนโยบายเกี่ยวกับงบประมาณการก่อสร้าง โครงการแลนด์บริดจ์อย่างไรบ้าง ที่มาของงบประมาณมาจากแหล่งใดบ้าง และขอทราบ รายละเอียดเพิ่มเติมเป็น Update อันนี้ตอบได้ไม่ได้ไม่เป็นอะไร แต่ให้ส่งเอกสารของผมยินดี นั่นก็คือสัดส่วนเท่าไร เพราะทราบข่าวว่าจะมีการร่วมทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย แบ่งเป็นสัดส่วนเท่าไร อย่างไร ขอทราบรายละเอียดนี่คือคำถามที่ ๑ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม วันนี้ดิฉันได้รับมอบหมายจาก ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในการมาตอบกระทู้ถามของ ท่านสมาชิก ท่านศาสตรา ศรีปาน ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติจากจังหวัดสงขลา พรรค รวมไทยสร้างชาติ แล้วก็ดิฉันถือโอกาสนี้กล่าวชื่นชมท่านสมาชิกนะคะ เพราะท่านศาสตรา ท่านเป็นสมาชิกที่ขยัน ทั้งขยันลงพื้นที่ ขยันที่จะตั้งกระทู้ถามหลายเรื่องในสภา ทั้งขยัน ในการที่จะเอาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการหารือในช่วงเช้า และใน โอกาสนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่ดิฉันได้สื่อสารถึงพี่น้องประชาชนคนไทยถึงความคืบหน้าของ โครงการแลนด์บริดจ์ค่ะ คำถามของท่านสมาชิกได้ถามว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบาย เกี่ยวกับงบประมาณในการก่อสร้างแลนด์บริดจ์อย่างไรบ้าง ขอทราบรายละเอียดนะคะ ท่านประธานที่เคารพคะ ดิฉันขอขึ้นสไลด์ที่ ๑ ค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ท่านประธาน จะเห็นว่าโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการที่ประเทศไทยหรือว่ารัฐบาลท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้เล็งเห็นถึงความได้เปรียบทางด้านยุทธศาสตร์ที่ตั้งของประเทศไทยที่อยู่ ในคาบสมุทรอินโดจีน ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาที่เป็นศูนย์กลางของการขนส่งภูมิภาค ที่เชื่อมโยงระหว่าง ๒ ประเทศ ๒ มหาสมุทร ไม่ว่าจะในฝั่งของประเทศมหาสมุทรอินเดีย ที่จังหวัดระนอง แล้วก็มหาสมุทรทะเลจีนใต้ในฝั่งของจังหวัดชุมพร หลักการของโครงการ พัฒนาแลนด์บริดจ์แห่งนี้นะคะท่านประธาน ประเทศไทยหรือว่ารัฐบาลท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา เรามองเห็นโอกาสและรูปแบบในการลงทุน เราให้เอกชนในการลงทุน ซึ่งไม่ใช่เป็น โครงการก่อสร้างพื้นฐานแบบเดิม ๆ ที่รัฐเป็นผู้ออกในเรื่องของการศึกษารายละเอียด รัฐเป็นผู้จ้างเหมา ผู้รับเหมาก่อสร้างมาทำ หรือว่าจ้างเอกชนมารับเหมาโครงการนี้นะคะ เหมือนที่ทำกันในปัจจุบันหรือว่าโดยทั่ว ๆ ไปที่ทุกกระทรวงทำอยู่ในปัจจุบันนี้ เนื่องจาก โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ แล้วก็วงเงินที่จะลงทุนการก่อสร้างถึง ๑ ล้านล้านบาท เราจึงต้องทำรูปแบบปัจจุบันโดยที่เราคำนึงถึงว่าการทำโครงการเหล่านี้จะมีผู้มาใช้บริการ หรือไม่ และโครงการนี้เมื่อไม่มีผู้มาลงทุนเราก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการโครงการต่อไปได้ แต่การพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ในครั้งนี้ ที่ดิฉันกราบเรียนตั้งแต่แรกว่าเราเอาที่ตั้ง ทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยที่เป็นยุทธศาสตร์มาทำการพัฒนา โดยให้เอกชนเห็นถึงคำว่า โอกาส แล้วก็โดยได้เชิญชวนเอกชนที่มีศักยภาพทางด้านการแข่งขัน มีความพร้อมในเรื่อง ของเงินทุน มีความรู้ความสามารถเข้ามาดำเนินการ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง การขนส่งและประตูการค้าของประเทศในภูมิศาสตร์ของทะเลจีนใต้อย่างแท้จริง เรื่องเหล่านี้ เราได้มีการพูดคุยกันเป็นระยะเวลานานมาก ถ้าดิฉันจะคาดเดาได้ประมาณ ๓๐-๔๐ ปี แต่ก็ ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเรามีปัจจัยที่กระตุ้นหรือว่าปัจจัยที่เร่งเร้าให้เกิดขึ้น โดยดิฉัน ได้นำเสนอปัจจัยที่เร่งเร้าทั้ง ๓ ด้าน นี่คือความคืบหน้าท่านประธานผ่านไปถึงท่านสมาชิก แล้วก็ดิฉันจะนำเสนอข้อมูลที่ Update แล้วก็ข้อมูลใหม่ ๆ ให้ ซึ่งปัจจัยเร่งเร้าประกอบไปด้วย ๓ ด้าน นั่นก็คือ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ปัจจัยที่ ๑ เป็นเรื่องของความคับคั่งของเรือที่เดินในช่องแคบมะละกาตามที่ สถาบันต่างชาติหลายประเทศได้คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนเรือที่อยู่ในช่องแคบมะละกาดังที่ ดิฉันขึ้นภาพสไลด์นะคะว่า ปัจจุบันช่องแคบมะละการับเส้นทางการเดินเรือได้ประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ ลำ ในอีก ๑๐ ปีข้างหน้าจะทำให้เส้นทางดังกล่าวมีการเดินเรือที่หนาแน่น จึงจำเป็น ที่จะต้องให้บริษัทเหล่านั้นหาเส้นทางในการขนส่งทางเดินเรือแบบใหม่ เพื่อรองรับปริมาณ การบริโภคและปริมาณสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น นั่นคือปัจจัยที่ ๑ ค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

พอมาดูปัจจัยที่ ๒ ในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความรุนแรงมากขึ้น ทางบริษัท เหล่านั้นจึงต้องมองหาเส้นทางเดินเรือสำรองในการขนส่งสินค้าเพื่อลดความเสี่ยง เช่น ปัญหากระทบกระทั่งของกลุ่มประเทศมหาอำนาจที่ได้เกิดผลกระทบต่อกรณีการขนส่งสินค้า ทางทะเล ดังเช่นกลุ่มของประเทศทะเลแดงที่มีปัญหาการโจมตีในเรื่องของการปล้นเรือสินค้า ในปัจจุบัน

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

หันกลับมาดูปัจจัยที่ ๓ ในเรื่องความสำเร็จในการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ ที่เรา ได้นำระบบของท่าเรืออัจฉริยะนำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารการขนส่ง สินค้า นั่นก็คือเมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่แล้วจะทำให้ลดระยะเวลาและการลดค่าใช้จ่ายของ ผู้ประกอบการในการขนถ่ายสินค้าลงในระบบต่อไปได้ค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ท่านประธานคะ นี่คือปัจจัย ๓ ปัจจัยที่เร่งเร้าให้จำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนา และเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ค่ะ อีกหนึ่งภาพที่ดิฉันได้โชว์ภาพให้ท่านสมาชิกได้เห็น นั่นคือรัฐบาลภายใต้ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม จึงได้เดินสายที่จะทำการ Roadshow เพื่อประชาสัมพันธ์และรับฟัง ความเห็นของนักลงทุนทั่วโลก เพื่อมองเห็นศักยภาพของโครงการ ดิฉันขอเน้นย้ำอีกครั้งนะคะ ว่าโครงการนี้รัฐให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโครงการดังกล่าวเราจึงต้องการ เงินลงทุนที่ประเมินไว้เบื้องต้นในระยะที่ ๑ ถึงระยะที่ ๔ รวมทั้งสิ้น ๑ ล้านล้านบาท โดยใน ระยะที่ ๑ เป็นระยะแรกของการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จะประกอบไปด้วยท่าเรือทั้งสองฝั่ง ที่จะรองรับตู้สินค้าในฝั่งของจังหวัดระนอง ๖ ล้านตู้ และฝั่งของจังหวัดชุมพรอีก ๔ ล้านตู้ นอกจากนั้นก็จะมี Motorway และรถไฟฟ้าสำหรับการเชื่อมโยงของ ๒ ฝั่งทะเลในวงเงิน ของการลงทุนในระยะที่ ๑ ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้รายละเอียดของการคืบหน้า ของการลงทุนซึ่งจะขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนของภาคเอกชน โดยรัฐจะเป็นผู้กำกับเชิง นโยบาย ย้ำอีกครั้งนะคะ จะเป็นการลงทุนของภาคเอกชนใน ๑ ล้านล้านบาท รัฐบาลจะเป็น เพียงผู้กำหนดในเชิงนโยบายของโครงการแลนด์บริดจ์ โดยรัฐบาลจะคำนึงถึงประโยชน์ของ ประเทศแล้วก็ของพี่น้องประชาชนค่ะ นอกจากนั้นอย่างไรก็ตามจากปัญหาของการดำเนินการ โครงการแลนด์บริดจ์ขณะนี้ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของ ประมงพื้นบ้าน ผลกระทบของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ได้สูญเสียในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน หรือว่า ขาดรายได้จากอาชีพที่พี่น้องประชาชนทำอยู่นะคะ รัฐบาลเองก็มีแนวทาง จากที่กรรมาธิการ วิสามัญได้ลงไปพื้นที่ จากการที่ท่านนายกรัฐมนตรีไปประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดระนอง ท่านนายกรัฐมนตรีไปฟังข้อมูลจากผู้ที่เห็นด้วยแล้วก็จากผู้ที่เห็นต่างนะคะ โดยรัฐบาลได้วาง แนวทางแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนไว้ดังนี้ค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ อาชีพประมงพื้นบ้านที่สูญเสียรายได้ รัฐบาลเองก็จะเยียวยา โดยจะทำการส่งเสริมอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาอาชีพ การพัฒนาอุตสาหกรรม การแปรรูปสินค้าทางการเกษตรและสัตว์ทะเล รวมถึงการชดเชย รายได้ที่ขาดหายไป โดยจะมีการจัดตั้งกองทุนเยียวยาขึ้นมา รวมทั้งให้ภาคเอกชนในการ ลงทุนแลนด์บริดจ์เข้ามาลงทุนโดยไม่ใช้งบประมาณของภาครัฐ ย้ำอีกครั้งไม่ใช้งบประมาณ ของภาครัฐค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน รัฐบาลหรือว่าเราจะ ใช้เงินกองทุนของภาคเอกชนเหล่านี้ ก็จะชดเชยเยียวยาทั้งที่ดินที่มีเอกสารสิทธิและที่ดินที่ ไม่มีเอกสารสิทธิในราคาที่เหมาะสมโดยไม่กระทบถึงภาวะของการครองชีพ ภาวะของความ มั่นคงของครอบครัวนั้น ๆ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ประชาชนในพื้นที่ที่ยังไม่มีสัญชาติ ซึ่งในการประชุม ครม. สัญจรที่ผ่านมา ขออนุญาตเอ่ยชื่อ มะ หรือว่าประชาชนพลัดถิ่นเหล่านั้น สิ่งที่เขาต้องการ ก็คือเขาต้องการสัญชาติไทยหรือบัตรประชาชนคนไทย ในการประชุม ครม.ท่านนายกก็ได้ไป มอบบัตรประชาชนคนไทยส่วนหนึ่งให้พี่น้องประชาชนคนไทยพลัดถิ่นที่จังหวัดระนอง ในขณะนี้ท่านนายกได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดกระบวนการเหล่านี้ ตั้งแต่การ รวบรวมข้อมูล การพิสูจน์สัญชาติ และการมอบสิทธิหรือให้สัญชาติไทย ซึ่งขณะนี้กระทรวง มหาดไทยได้ลงไปสำรวจโดยได้รับความร่วมมือจากทางพื้นที่ได้อย่างดีนะคะ แล้วก็ขอ อนุญาตว่าสิ่งไหนที่จะมีความคืบหน้าอย่างไรดิฉันจะขอ Update ข้อมูลให้กับท่านสมาชิก ขอบคุณทุกคำถาม คำถามแรกของท่านสมาชิก ท่านศาสตรา ศรีปาน ค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมครับ ต่อไปขอเชิญ คุณศาสตรา ศรีปาน ถามท่านรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ ๒ ครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานครับ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพรครับ สิ่งที่ท่านรัฐมนตรีตอบก็ค่อนข้างเคลียร์มาก ๆ แล้วก็ผมก็เห็นด้วยในหลายประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความหนาแน่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า แต่ไม่ต้องรอ ๑๐ ปีหรอกครับ วันนี้ผมเมื่อประมาณสัก ๑ ชั่วโมงที่ผ่านมา ผมก็ได้เข้าไป Check ใน marinetraffic.com ซึ่งก็จะเป็นเรดาร์เป็นดาวเทียมที่ส่องลงมาในบริเวณเส้นทางการเดินเรือของช่องแคบมะละกา ขอสไลด์ครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

นี่คือแผนที่โลก ซึ่งจุด ๆ ที่เห็นจะมีสีแดง สีเขียว สีฟ้า สีแดงคือ Tanker คือเรือบรรทุกของเหลวหรือว่าสินค้าประเภทน้ำมัน สีเขียวจะเป็น Cargo Ship หรือว่าเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป ส่วนสีฟ้าเป็น Tugboat หรือว่าเรือลากจูง ถ้าเรา Zoom เข้าไปอีกนิดหนึ่งครับ ข้างล่างก็จะเป็นช่องแคบมะละกา ส่วนสีฟ้าถ้าแลนด์บริดจ์ สำเร็จ ที่ผมพูดไปสักครู่ว่าทำไมต้องสร้างตอนนี้ และทำไมเส้นทางนี้จะเป็นที่สนใจกับ นักลงทุนทั่วโลก เพราะว่าทั้ง Cost และ Time หรือว่าเวลาและต้นทุนจะลดลง ตรงนั้นก็จะ เป็นระนอง ชุมพรในเส้นสีฟ้า ส่วนสีเหลืองที่เห็นอยู่ เห็นจุด ๆ ไหมครับ นั่นก็คือเรือบรรทุก สินค้า ทั้ง ๓ ประเภทที่ผมกล่าวไว้ นี่คือ ๑ ชั่วโมงที่ผ่านมาเองนะครับ นี่คือช่องแคบมะละกา ที่ผมวงไว้สีเหลือง จุด ๆ ที่เห็นนั่นก็คือเรือ ซึ่งวันนี้ Capacity ของท่าเรือมะละกา ช่องแคบ มะละกาได้ ๑๒๐,๐๐๐ ลำต่อปี แล้วก็เรือทุกวันนี้ ๘๕,๐๐๐ ลำแล้ว เพราะฉะนั้นก็จะเห็นว่า ถ้าอีก ๑๐ ปี วันนี้ Logistics เหมือนที่ทุกท่านครับว่าสินค้าจะเข้าหาผู้บริโภคโดยตรง ที่ท่านรัฐมนตรีบอกว่ามันจะเร่งเร้า เท่ากับว่าถ้าเราไม่สร้างตอนนี้ประเทศไทยจะเสียโอกาส ถ้าเราไม่สร้างตอนนี้เศรษฐกิจที่จะโตอย่างยั่งยืน มั่งคั่ง ในพื้นที่ชายแดนใต้ ภาคใต้ จังหวัด ต่าง ๆ ก็จะเสียโอกาสเช่นกัน นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะให้ทุกท่านเห็น ทำความเข้าใจเพิ่มเติมครับ ในเรื่องของ Geopolitics ที่ท่านพูดไปผมก็เห็นด้วยเช่นกัน เพราะว่าวันนี้มีการสู้รบกัน ระหว่างอเมริกาแล้วก็กลุ่มฮูตีที่คลองสุเอซ การขนส่งในแบบของ Container นี้ลดถึง ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องของความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนเช่นกัน ที่ทะเลบอลติกวันนี้ทำให้ มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการขนส่งน้ำมัน รวมไปถึงในภัยพิบัติด้วย ซึ่งถ้าเกิดหลาย ๆ ท่านติดตาม ก็จะมีที่ปานามาแล้วก็คลองสุเอซที่มีน้ำลดบ้าง น้ำขึ้นบ้าง จนวันนี้ที่ปานามาอาจจะต้องทำ แลนด์บริดจ์เหมือนประเทศไทยเช่นกัน ส่วนน่านน้ำไทย ไทยนี้รักสงบครับ วันนี้คนเขาอยาก มาวิ่งที่นี่ เรืออยากมาเดินที่นี่ เพราะว่าวันนี้น่านน้ำไทยสงบ การทูตเราเก่งครับ ซึ่งยังมีอีก หลาย ๆ ประเทศที่อยากที่จะมาผ่านแล้วก็ทำการค้าการขายผ่านตรงนี้ และที่บอกว่าถามว่า คุ้มไหม วันนี้เคลียร์ครับท่านรัฐมนตรี ผมขอชื่นชม เพราะว่าที่ผมติดตามข่าวมาบริษัท ยักษ์ใหญ่ Dubai World ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องการทำ Port การทำท่าเรือ หรือว่า Adani Group ซึ่งเป็นบริษัทท่าเรือ ท่าอากาศยาน ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหาร ซึ่งอยากจะ ย้ำนะครับ เหมือนคำพูดที่ท่านรัฐมนตรีพูดเลย วันนี้ผมอยากมาย้ำเหมือนกันว่าวันนี้เรามี Concept ว่าที่ดินนี้เราทำอะไรได้บ้าง เรามีแผนกว้าง ๆ ไว้ครับ เราก็มาดูว่าจะสามารถพัฒนา ไปสู่จุดใดได้บ้าง และเราจะให้ผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญที่ผมพูดถึงเมื่อสักครู่ ๒ บริษัทเอง จากอินเดีย จากดูไบ นั่นคือตัวอย่าง เข้ามาตัดสินใจว่าจะทำแบบไหน วันนี้อาจจะเป็น Single Operation ก็ได้ ก็คือเจ้าของเดียวมาทำคนเดียวตั้งแต่ Automation ในการยก มาทางเดินเรือ ถนนหนทางอะไรต่าง ๆ จะมีแก๊สหรือเปล่า มีน้ำมันหรือเปล่า อันนี้ผู้ลงทุน เขาจะตัดสินใจเอง ส่วนของเราก็ให้วิสัยทัศน์ระดับโลก อันนี้คือวิสัยทัศน์ของเรานำไปสู่ โครงการระดับโลกที่มีต่างชาติมาลงทุน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดถูกต้องไหมครับ และบนทำเลนี้ของ ประเทศไทยที่บรรพบุรุษไทย พระมหากษัตริย์ไทย รักษาไว้ให้คนไทยทุกคน และผมคิดว่า โครงการนี้ถ้าถามว่าจะต้องรีบทำเร่งทำเลยไหม ผมขออนุญาตฝากท่านประธานไปถึง นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ว่าจะต้องทำให้เร็วที่สุดครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

คำถามที่ ๒ ครับท่านรัฐมนตรี ท่านประธานสภาครับ กระทรวงคมนาคมจะมี แผนการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ในปีงบประมาณใด เพราะวันนี้เราต้องเร่ง และจะสร้างเสร็จเมื่อไร และปัจจุบันโครงการนี้ Update ไปถึงไหนแล้ว อันนี้ผมคิดว่านี้ผมก็ได้คำตอบแล้ว เอาเป็นว่า ในเรื่องของงบประมาณเมื่อไร งบประมาณปีใด แล้วก็จะเสร็จเมื่อไร ขอบคุณครับ นี่คือ คำถามที่ ๒

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมตอบเป็นครั้งที่ ๒ ครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อคำถามที่ ๒ ของท่านสมาชิกนะคะ คำถามที่ ๒ ของท่านสมาชิกได้ถามว่าแผนการ ดำเนินงานโครงการก่อสร้างแลนด์บริดจ์ในปีงบประมาณใด และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปีใด ดิฉันขอตอบคำถามของท่านสมาชิกดังนี้ว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้ทำการ ศึกษาเบื้องต้นในเรื่องของแผนธุรกิจ Business Model ได้ดำเนินการไปเกือบเสร็จแล้ว เดี๋ยวสักครู่ดิฉันจะขึ้น Chart นะคะ แล้วในส่วนของทางกรรมาธิการวิสามัญที่ตั้งโดย สภาผู้แทนราษฎรที่ท่านสมาชิกได้เป็นกรรมาธิการวิสามัญอยู่ ขณะนี้ทราบว่าผลการศึกษา เสร็จแล้ว ส่งโรงพิมพ์ เมื่อโรงพิมพ์เสร็จแล้วก็จะนำส่งให้ท่านประธานสภาบรรจุระเบียบ วาระ และท่านสมาชิกก็สามารถแสดงความเห็นในเรื่องของผลการศึกษาจากกรรมาธิการวิสามัญ ของสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยขณะนี้ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน แล้วก็ท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้นำข้อมูลของการศึกษาเบื้องต้นไป Roadshow ในเวทีระดับโลกแล้วก็นานาชาติ ซึ่งการ ประชุมที่ซานฟรานซิสโก ประชุมที่สหรัฐอเมริกา การประชุมผู้นำ ASEAN ที่ญี่ปุ่น แล้วก็การ ประชุมล่าสุด World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก็ได้รับฟัง ความเห็นของผู้ที่หลากหลาย แล้วก็มีหลายประเทศที่สนใจลงทุนที่ท่านสมาชิกได้นำเรียน ไม่ว่าจะเป็นประเทศอินเดีย ประเทศดูไบ แล้วก็ยังมีประเทศที่สนใจเข้ามาดูพื้นที่ ประเทศจีน แล้วก็ประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้ข้อมูลของการรับฟังความเห็นจากกลุ่มของนานาประเทศได้เข้า มาประสานงานในการสนใจโครงการดังกล่าว นอกจากนั้นผลการทำ Roadshow ดังกล่าว เราก็จะนำความเห็นของนักลงทุนเหล่านี้มาปรับรายละเอียดแล้วก็รูปแบบของการก่อสร้าง รูปแบบของการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อสามารถที่จะดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไปได้ ขออนุญาตขึ้น Chart ของการออกแบบรายละเอียด การศึกษาโครงการสิ่งแวดล้อมของ ท่าเรือ ของการรถไฟ แล้วก็ของ Motorway ในเรื่องของท่าเรือทั้ง ๒ ฝั่งดังขึ้นใน Chart ก็จะเป็นด้านของฝั่งอ่าวไทยที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และฝั่งอันดามันที่อำเภอเมือง ระนอง ซึ่งขณะนี้สำนักงาน สนข. ได้ออกแบบเบื้องต้นเสร็จแล้ว สนข. อยู่ในระหว่างของการ ทำ EIA คาดว่าจะเสร็จประมาณเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๖๗ ในเส้นทางที่ ๒ เป็นเส้นทางของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันบริษัทนี้อยู่ในความดูแลที่ปรึกษาของการรถไฟแห่ง ประเทศไทย กำลังออกแบบเส้นทางรถไฟ รวมถึงศึกษาในเรื่องของ EIA และอยู่ในเรื่องของ แผนการที่จะดูกรรมสิทธิ์ที่ดินและการเวนคืนที่ดิน และองค์ประกอบสุดท้ายคือเรื่องของ Motorway โดยกรมทางหลวง ขณะนี้กรมทางหลวงได้ใช้งบประมาณ ปี ๒๕๖๗ ในการ ดำเนินการออกแบบแล้วก็สำรวจสิ่งแวดล้อม EIA เช่นกัน หลังจากเราทำ ๓ ส่วนนี้เสร็จ เรียบร้อยแล้ว สนข. จะเป็นเจ้าภาพในการรวบรวม ๓ ส่วนนี้เข้ามาด้วยกัน แล้วก็ทำร่างเชิญชวน ให้ภาคเอกชน กลุ่มนานาชาติเหล่านั้นได้ทำการร่างประกวดราคา โดยจะทำการเปิดประมูล ท่าเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของท่าเรือ แล้วก็ท่าเรือของ Motorway แล้วก็การรถไฟ โดยเปิด โอกาสให้นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมการยื่นซองประมูล แล้วก็เข้าร่วมการเสนอราคาในโอกาสต่อไป สำหรับการเปิดประมูล แนวทางของ สนข. ที่ได้ วางไว้คือการเปิดประมูลเพียงสัญญาเดียว เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนเพียงรายเดียว เข้ามาบริหารโครงการ และจะทำให้เกิดการบูรณาการที่สามารถบริหารโครงการได้มี ประสิทธิภาพ การประกวดราคาตามแผนน่าจะเริ่มได้ประมาณปลาย ปี ๒๕๖๘ หรือคาดว่า ปี ๒๕๖๙ นั่นก็คือแผนการดำเนินการดังกล่าวค่ะ ท้ายที่สุดดิฉันต้องขอถือโอกาสขอบคุณ ท่านสมาชิกอีกครั้งหนึ่ง ว่าโครงการแลนด์บริดจ์เป็นโครงการและเป็นโอกาสสำคัญของ ประเทศในการขับเคลื่อนที่จะมีประโยชน์ต่อประเทศ แล้วก็ประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนใน จังหวัดระนองและจังหวัดชุมพร รวมไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกระทรวงคมนาคมเองเราให้ความสำคัญกับโครงการ ท่านนายกรัฐมนตรีวันนี้ถึงแม้ ท่านจะเดินทางไปต่างประเทศนั่นก็คือการเดินทางไปทำงาน การไปสร้างภาพลักษณ์ให้กับ ประเทศไทย การไปเชิญชวนนักลงทุนให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน รวมทั้งท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ๒ ท่านนี้พี่น้องประชาชนต่างก็ฝากความหวัง ไว้ว่าประเทศไทยในรอบ ๓๐-๔๐ ปีนี้ที่ผ่านความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน เราจะเดินหน้าสู่ ประเทศที่มีการพัฒนาในทุก ๆ มิติ ในทุก ๆ ด้านของประเทศต่อไป ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณท่าน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมนะครับ คุณศาสตรามีอะไรเพิ่มเติม เชิญครับ

นายศาสตรา ศรีปาน สงขลา ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผม ศาสตรา ครับ วันนี้ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมมนพรมากครับ ที่มาตอบ กระทู้ที่ผมได้ตั้งไว้เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ผมอยากจะฝากท่านประธานถึงรัฐมนตรี แล้วก็ ไปถึงนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ว่าวันนี้ท่านต้องหนักแน่น วันนี้ท่านต้องเชื่อมั่น คนที่ทำหน้าที่ค้านเขาก็แค่ทำหน้าที่ เขามีหน้าที่ก็ทำไป ในการตรวจสอบเขาก็ทำไป นำสิ่ง ที่ดีมาปรับปรุง มาพิจารณา แต่ผมอยากให้ท่านหนักแน่น และที่สำคัญต้องแสดงความเป็นผู้นำออกมาว่าโครงการนี้เมื่อสร้างเสร็จถ้ามันดีจะต้องทำให้ สำเร็จและทำให้จบ เมื่อสักครู่นี้เห็นปี ๒๕๗๓ พวกเราอยู่กันครบ พวกเรายังอยู่กันได้ทันใช้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะฝากบอกอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อยากให้ท่านคิดถึงคนไทยที่วันนี้ พวกเราคนยากจนที่มีเงินในกระเป๋าน้อย โครงการนี้ครับจะมาช่วยให้เศรษฐกิจโต โดยเฉพาะ ภาคใต้ ผมคนใต้ครับ ผมรักคนใต้ แล้วผมก็รักคนไทยทั้งประเทศด้วย เพราะฉะนั้นนี่คือการที่ จะทำให้เศรษฐกิจของไทยโตแบบยั่งยืน คนไทยทั้งประเทศมีงานทำ มีเศรษฐกิจใหม่ ๆ ขึ้นมา เพราะฉะนั้นผมขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาล ให้ท่านนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงคมนาคมและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุก ๆ คนได้ขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ให้สำเร็จตามเวลาที่กำหนด ขอบพระคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณ คุณศาสตรา ศรีปาน ครับ ก็เป็นอันจบการพิจารณากระทู้ถามที่ ๑

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

๒. เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการยกระดับ ทักษะฝีมือแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม นายกรัฐมนตรี

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ซึ่งกระทู้นี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ตอบแทนครับ ขณะนี้ท่านรัฐมนตรีก็เข้ามาพร้อมที่จะตอบแล้ว ขอเชิญ คุณธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ครับ

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดิฉัน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดเพชรบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงานที่เสียสละเวลามาตอบกระทู้ คำถามที่วันนี้ดิฉันจะถามเกี่ยวกับเรื่องแนวทาง การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน ด้วยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นต้นมาประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาทางด้านแรงงาน เพราะประเทศไทย มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งประชากรวัยแรงงานมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แพร่ระบาดส่งผลให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก โรงงาน ปิดตัวลง การว่างงานของแรงงานเพิ่มมากขึ้น และในปัจจุบันอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีการพัฒนานำหุ่นยนต์มาใช้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ในทุกอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ สามารถทำงานได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพิ่มความเร็วในการผลิตและมีความผิดพลาดน้อยลง ส่งผลให้แรงงานคนเสี่ยงต่อการตกงาน ซึ่งปัจจุบันแม้ว่าจะมีหลักสูตรการตลาดแบบ Online โดยการขายของแบบ Online ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ไม่สอดคล้องกับการผลิตและการบริการ ที่เป็นเป้าหมายของประเทศ อีกทั้งยังไม่มีระบบเชื่อมโยงในลักษณะการให้บริการแบบจุดเดียว ที่รวบรวมข้อมูลตลาดแรงงาน หลักสูตรฝึกอบรม ความต้องการตำแหน่งงาน ซึ่งไปสู่การพัฒนา ทักษะแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานได้อย่างแท้จริง วันนี้ดิฉันจึงขอ สอบถามท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ

คำถามที่ ๑ รัฐบาลมีมาตรการและแนวทางการส่งเสริมและยกระดับทักษะ ฝีมือแรงงาน รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานทางด้านการศึกษาและด้าน แรงงานหรือไม่ กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานออกคูปองสำหรับการฝึกอบรมและจัดตั้งศูนย์ ฝึกอบรมการเชื่อมโยงระบบการฝึกอบรมในรูปแบบของธนาคารเครดิต Credit Banking อย่างไรคะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรตินะครับ จากการที่ท่านสมาชิก ผู้ทรงเกียรติได้ตั้งคำถามถึงว่ารัฐบาลมีมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมและยกระดับ ทักษะฝีมือแรงงาน รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงหน่วยงานด้านการศึกษา ด้านแรงงาน หรือไม่ อย่างไร แล้วก็ส่วนที่ ๒ ก็คือกระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีการ สนับสนุนในเรื่องของเกี่ยวกับคูปองว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็เป็น ๒ ส่วน ๒ ข้อ แต่ผมขอตอบรวมในทีเดียวเลยว่าในลักษณะของปัจจุบันนี้ทางกระทรวงแรงงานเรามีการ พัฒนาในเรื่องของการ Reskill Upskill และ New Skill ซึ่งก็อย่างที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ได้กล่าวว่าวันนี้เครื่องจักร Robot หรือ AI เข้ามาทำงานทดแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งก็แน่นอน ส่วนใดส่วนหนึ่งตรงนั้น แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ส่วนซึ่งเราคิดว่าแรงงานคนยังมีความจำเป็น ในการที่จะต้องมีการพัฒนาให้ได้มากยิ่งขึ้น และโดยเฉพาะมีการพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจ และรองรับเรื่องของ Disruptive Technology รวมถึงการดำเนินงาน Reskill ตรงนี้ ทางกระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานของเรา เราได้มีการพัฒนาแล้วก็มีการ ลงนามใน MOU ในระหว่าง ๔ กระทรวงด้วยกัน ก็คือกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว. และกระทรวงแรงงาน ซึ่งตรงนี้มันก็จะเป็นการที่จะต่อยอดและให้ความรู้ กับน้อง ๆ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ว่าในปัจจุบันนี้เราต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับ แรงงานรุ่นใหม่ ๆ ที่จะออกมาสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะปัจจุบันนี้เรามีการลงนามว่าน้อง ๆ ที่จบหรือเข้าเรียนในมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จะต้องมีการให้ครูแนะแนวตั้งแต่ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ เมื่อน้อง ๆ จบม. ๓ ไปแล้ว น้องจะทราบเลยว่าน้องมีความสามารถและมีความต้องการใน เรื่องอะไร เพราะฉะนั้นน้องก็จะสามารถเลือกได้ว่าจะไปในสายอาชีวะหรือไปสายสามัญ หากว่าใครมีความต้องการและมีความถนัดในเรื่องของอาชีวะในวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง ตรงนั้นก็สามารถไปทางสายอาชีวะโดยมีระดับตั้งแต่ ปวช. ปวส. และต่อยอดสุดท้าย คือระดับปริญญาตรี ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผมคิดว่ามันก็จะเป็นการตอบโจทย์ว่าเด็กรุ่นใหม่ ที่จบระดับ ปวช. ปวส. หรือระดับปริญญาตรีจบออกมาแล้วทุกคนต้องมีงานทำ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับในส่วนหนึ่งว่าน้อง ๆ นักศึกษาที่จบปริญญาตรีเป็นกลุ่มที่ตกงานมากที่สุดใน ขณะนี้ ซึ่งกระทรวงแรงงานเราก็พยายามที่จะเชิญชวนน้อง ๆ ที่จบปริญญาตรีและไม่ตรงกับ สาขาที่ตัวเองอยากจะเรียนและอยากจะไปทำงาน ตรงนี้เราก็มีการเชิญน้อง ๆ มา Reskill Upskill และอบรมในวิชาชีพพี่น้องมีความสนใจ ซึ่งผมคิดว่าตรงนี้เราน่าจะแก้ปัญหาในระดับ หนึ่งได้นะครับ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ

ส่วนในเรื่องของการที่จะมีการตั้งกองทุนพัฒนาและการออกคูปองนะครับ สำหรับการฝึกอบรม เราจัดตั้งศูนย์อบรมการเชื่อมโยงการฝึกอบรม และรูปแบบธนาคาร เครดิต ก็ขอตอบรวมถึงธนาคารเครดิตไปเลยนะครับ ก็ต้องขอกราบเรียนท่านประธานสภา ไปยังท่านสมาชิกว่าเป็นเหตุบังเอิญเช้านี้กระทรวงแรงงานและกระทรวง อว. เรามีการ ลงนาม MOU ร่วมกัน ในเรื่องของธนาคารเครดิตของ ๒ กระทรวง คำว่า ธนาคารเครดิต ตรงนี้ก็คือเป็นการที่คนที่มีความสามารถและมีการทำงานมีความ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถเอาความเชี่ยวชาญตรงนั้นมาเทียบเป็นหน่วยกิตและสามารถ ไปฝาก ซึ่งทางกระทรวง อว. มีการเตรียมความพร้อม แล้วก็ขณะนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรากำลังจะทำ Platform ในเรื่องของเครดิตแบงก์ตรงนี้ ว่าใครที่อยากจะไปต่อ สมมุติว่า ผมจบ ปวส. กำลังอยากจะเข้าในหลักสูตรปริญญาตรี เราก็จะเอาความเชี่ยวชาญตรงนี้ มาเทียบเป็นหน่วยกิต และทำการศึกษาจบให้ได้ในระดับปริญญาตรี ซึ่งในส่วนตรงนี้ขณะนี้ เรามีการร่วมกับราชมงคลทั้ง ๙ แห่ง บวกอีก ๑ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในการทำเรื่อง เครดิตแบงก์ตรงนี้ ซึ่งจะมี ๒ สาขาด้วยกันก็คือสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งก็คงจะรวมเรื่อง Robot หรืออะไรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เกี่ยวกับเทคนิค แล้วอีกส่วนหนึ่งที่ร่วมกับทาง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็เป็นเรื่องของการนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร ไปจับมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าหากเราทำเรื่องเครดิตแบงก์ ตรงนั้นเรียบร้อย สำหรับคนที่จะเอาความเชี่ยวชาญไปเทียบเป็นหน่วยกิต สามารถลดได้ถึง ๓๐ หน่วยกิต และประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าหน่วยกิตประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท แล้วลดระยะเวลาการศึกษาไปได้ประมาณ ๑ ปีครึ่ง ซึ่งผมคิดว่าต่างสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะเป็น การตอบสนอง แล้วก็เป็นการทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่มีความรู้ มีความสามารถ และมีความ เชี่ยวชาญ สามารถไป Upskill ในวิชาชีพที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญให้ได้ถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งผมก็ขอชี้แจงท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับ ขอเชิญคุณธิวัลรัตน์ถามเป็นครั้งที่ ๒ เชิญครับ

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ

ขอถามท่านรัฐมนตรีอีกอย่างนะคะว่า ท่านรัฐมนตรีมีแรงจูงใจที่จะให้เด็ก ๆ เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องแรงงานหรือไม่คะ แล้วก็ มีแนวทางในการยกระดับคุณภาพวิชาการและหลักสูตรของสถาบันการศึกษาสายอาชีพ ให้ผู้เรียนมีทางเลือกในสิ่งที่ตนถนัดและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานหรือไม่คะ ขอขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงานตอบครั้งที่ ๒ ครับ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพและท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติครับ การที่จะมีการสร้างแรงจูงใจ ให้กับน้อง ๆ ที่จะเข้าสู่การทำงานหลังจากสำเร็จการศึกษา ก็อย่างที่ผมได้กล่าวเรียนไป เบื้องต้นว่าเราต้องทำความเข้าใจแล้วก็สร้างแรงจูงใจว่าน้อง ๆ ที่สำเร็จ ม. ๓ เราอยากจะ เรียนในสายวิชาชีพหรือสายสามัญ เพราะฉะนั้นการสร้างแรงจูงใจตรงนี้ก็คือหมายความว่า เมื่อคุณสำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว คุณมั่นใจได้ว่าคุณมีงานทำแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่อง ของสายวิชาชีพ ในขณะนี้การผลิตของสายอาชีวะผลิตออกมาไม่พอที่จะป้อนเข้าสู่สถาน ประกอบการต่าง ๆ แล้วโดยเฉพาะสถานประกอบการในเรื่องของโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของโรงงานในเรื่องของเทคโนโลยีเกี่ยวกับรถยนต์ เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ หรือเกี่ยวกับ สถานประกอบการอื่น ๆ ตรงนี้ก็ต้องขอเรียนเลยนะครับว่าวันนี้สิ่งต่าง ๆ ตรงนี้เราผลิตไม่ทัน แต่ถ้าหากว่าน้องอยากจะไปเรียนสายสามัญ น้องก็ต้องมีความมั่นใจว่าเมื่อจบออกมาแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ตามเพื่อน ตามที่พ่อแม่อยากได้ หรือจากการโฆษณาชวนเชื่อในสื่อต่าง ๆ ว่า วิชาสาขานี้ดี โน้นดี นี้ดี นั่นดี นั่นหมายความว่าเราต้องรู้และมั่นใจว่าสิ่งที่เราอยากจะเรียน เราต้องเรียนให้จบ ในประเด็นที่ ๑

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ก็คือหมายความเมื่อจบแล้ว เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราสำเร็จมา เราพอใจที่จะไปทำงานในวิชาชีพที่เราสำเร็จการศึกษา เพราะฉะนั้นการแนะแนวการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง อว. ตรงนี้เป็นการสร้างแรงจูงใจและเป็นการทำ ความเข้าใจให้กับน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษาในการที่จะเลือกสายอาชีพและวิชาที่น้อง อยากจะไปเรียน แต่ในส่วนที่ผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ ก็อยากจะบอกว่าวันนี้ถึงแม้นว่า เมื่อคุณเรียนไปแล้วคุณไม่มีความต้องการอยากไปทำงานในสายอาชีพก็ไม่เป็นไรครับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานของเราพร้อมที่จะเชิญชวนให้พวกท่านมาอบรมสัมมนา ทั้งของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเองและของสถานประกอบการที่กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานเราได้ไป MOU อยู่ ซึ่งผมบอกได้เลย สำหรับเป้าหมายของปีนี้ของกรมพัฒนา ฝีมือแรงงานเรามีเป้าหมายการจัดฝึกอบรมประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ ตำแหน่ง แต่เรามีการ MOU กับสถานประกอบการ โรงงานต่าง ๆ อีกประมาณสัก ๓,๕๐๐,๐๐๐ ตำแหน่ง เพราะฉะนั้นโดยภาพรวมเราก็จะมีการ Upskill Reskill ทั้งหมดนี้ใกล้เคียงเกือบ ๆ ๔ ล้าน ตำแหน่ง แต่ทั้งสิ้นทั้งปวงตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเราก็จะมีการเชิญชวนว่าคนที่ สำเร็จการศึกษาถ้ามีความรู้และทักษะในวิชาชีพโดยเฉพาะในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าเราก็ สามารถที่จะต่อยอดเพื่อส่งไปอบรมไปฝึกงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรามี MOU กับหลาย ๆ สถานประกอบการ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งน้อง ๆ ที่สำเร็จการศึกษาไปต่อยอดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็น ระยะเวลา ๓ ปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดถามว่าแรงจูงใจอยู่ตรงไหน แน่นอนกระทรวงแรงงานเรา ก็คงจะต้องทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้เด็กที่จะจบออกมาใหม่ทุกคนได้ทราบว่าสิ่งที่ ท่านเรียนจบมาท่านจะมีโอกาสก้าวไปสู่ในระดับประเทศที่เป็นวิชาชีพที่มีค่าแรงไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท สำหรับปริญญาตรีในปัจจุบันนี้ และทางนโยบายของรัฐบาลของท่านนายก เศรษฐา ทวีสิน ก็ตั้งเป้าไว้ว่าในปี ๒๕๗๐ น้อง ๆ ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีควร จะมีรายได้เดือนละ ๒๕,๐๐๐ บาท อีกส่วนหนึ่งสำหรับการที่มีนักศึกษาหรือนักเรียนหรือ น้อง ๆ อยากจะต่อยอดไปถึงการไปฝึกอบรมในต่างประเทศ ขณะนี้กระทรวงแรงงานเรา ก็พยายามที่ประสานกับสถานประกอบการต่าง ๆ ที่มีบริษัทแม่อยู่ในต่างประเทศเพื่อส่งให้ น้องเหล่านี้ได้มีโอกาสไปอบรมและฝึกงานในต่างประเทศในบริษัทแม่ที่อยู่ในประเทศต้นทาง ซึ่งผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นแรงจูงใจให้กับน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาสู่ระบบการทำงาน ในรูปแบบใหม่ คือหมายความว่ามีการวางแผนตั้งแต่ต้นจนสำเร็จการศึกษาครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานครับ เชิญครับ

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ เพชรบุรี ต้นฉบับ

ก็ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงแรงงานสำหรับคำตอบและคำแนะนำดี ๆ เพื่อที่จะให้เด็กและเยาวชนเราได้เลือก ที่จะไปเรียน และจบแล้วก็จะได้มีงานทำอย่างแน่นอน ขอขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ขอบพระคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมขอชมเชย นะครับ เรื่องที่ท่านรัฐมนตรีได้ชี้แจงเรื่องเครดิตแบงก์ โดยเอาความรู้หรือประสบการณ์ก็ได้ ทักษะก็ได้เป็นเครดิตเพื่อจะมาต่อช่วงการศึกษา ซึ่งผมคิดว่าถ้าได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ ทางมหาวิทยาลัย วิทยาลัย แล้วก็ผู้ใช้แรงงานที่มีความประสงค์อยากเพิ่มเติมความรู้ทักษะด้วย เพราะว่ามันดีทุก ๆ ฝ่าย ทั้งเรื่องคนที่อยากทำงาน คนอยากได้ปริญญาเพิ่มเติม ความรู้ เพิ่มเติม แล้วก็มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็จะได้รับคนเพิ่มเติม ส่วนผมคิดว่าอันนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ ทางด้านการศึกษาที่จะใช้ประโยชน์ ขอให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ช่วยทำ เรื่องนี้ให้เกิดความเป็นจริง ซึ่งเป็นจริงและรวดเร็วและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้ทั่วไป ขอขอบคุณในนวัตกรรมใหม่นี้ครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปเป็นกระทู้ถามที่ ๐๙๓ เรื่อง การผลักดันการจัดตั้งประปาส่วนภูมิภาค ในพื้นที่อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้ตอบครับ เดี๋ยวรอความ พร้อมนิดหนึ่งครับ ถ้ายังไม่พร้อมผมจะข้ามไปก่อนนะครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

กระทู้ต่อไปกระทู้ถามที่ ๐๙๒ เรื่อง สอบถามการแก้ไขปัญหาการดำเนินคดี ความกับพระสงฆ์ที่ขาดสมณเพศในระหว่างดำเนินการกระบวนการยุติธรรม นางสาวปวิตรา จิตตกิจ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม ท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบให้รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุณพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นผู้ตอบ เชิญครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ประทานโทษครับกระทู้ถามท่านแรกที่ถามท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ตอบนั้น ได้ถอนกระทู้ไปแล้ว ส่วนกระทู้ที่ผมทราบเมื่อสักครู่ ถามท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขอเลื่อนตอบกระทู้นี้ ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ จึงเรียนมา เพื่อทราบ ต่อไปนะครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ก่อนดำเนินการถามและตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะขอชี้แจงในที่ประชุมให้ทราบนะครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๑. การถามตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะแต่ละกระทู้ให้ถามตอบเรื่องละ ไม่เกิน ๒ ครั้ง และต้องถามตอบให้แล้วเสร็จภายใน ๒๐ นาที ตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๑๗๒ และข้อ ๑๗๓ ประกอบข้อ ๑๖๗ กระทู้ถาม แยกเฉพาะที่ได้มีการอนุญาตให้ประชาชนเข้าร่วมรับฟังและขอความร่วมมือจากผู้ที่ได้รับ อนุญาตให้เข้ารับฟังปฏิบัติตามระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยอนุญาตให้บุคคลภายนอก เข้าฟังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๔ และข้อ ๕ ซึ่งกำหนดให้ผู้ได้รับ อนุญาตต้องรักษามารยาท ประพฤติตนให้เหมาะสม ให้อยู่ในความสงบ ห้ามแสดงกิริยาเห็น ด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือกล่าววาจา หรือส่งเสียงใด ๆ หรือการกระทำใด ๆ อันเป็นการรบกวน ขัดขวางการประชุม และห้ามใช้เครื่องมือ วัสดุ หรืออุปกรณ์สื่อสารใด ๆ เพื่อบันทึกภาพ บันทึกเสียง หรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการถ่ายทอดการประชุมสู่บุคคลภายนอก โดยหากมี การฝ่าฝืนก็จะเชิญออกจากห้องประชุม ประกาศให้ทราบ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

สำหรับการพิจารณากระทู้ถามแยกเฉพาะในวันนี้เพื่อประโยชน์ในการถาม ตอบกระทู้ ผมขอสลับลำดับการถามและตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ดังนี้ ลำดับที่ ๑ กระทู้ ถามแยกเฉพาะที่ ๑๕๙ ของนายชลธานี เชื้อน้อย ลำดับที่ ๒ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๕๘ ของท่านธีรัจชัย พันธุมาศ ลำดับที่ ๓ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๕๓ ของท่านอนุชา บูรพชัยศรี ลำดับที่ ๔ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๕๗ ลำดับที่ ๕ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๖๐ ลำดับที่ ๖ กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๖๑ อันนี้ขอเลื่อนตอบไปก่อน ผู้ตั้งกระทู้ไม่ขัดข้องนะครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๑.๓ กระทู้ถามแยกเฉพาะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๑. เรื่อง ปัญหาถนนเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่องบริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ สายลำปาง-งาว อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง นายชลธานี เชื้อน้อย เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม นายกรัฐมนตรี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ การนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการ ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ดังนี้ ๑. นายอานุภาพ เจริญศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักสำรวจ และออกแบบกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ๒. นายกิตติพล ด้วงเจ้ย ผู้อำนวยการ กลุ่มงานออกแบบทางที่ ๓ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม และผมได้อนุญาตให้ประชาชน ผู้มีส่วนร่วมเข้ารับฟังการตอบกระทู้ถาม ดังนี้ ๑. นายพินิจ ทองคำ ๒. นางสาวสิรินภรณ์ คล้ายทอง เชิญท่านชลธานี เชื้อน้อย ถามท่านรัฐมนตรี เชิญคำถามแรกครับ

นายชลธานี เชื้อน้อย ลำปาง ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ผม นายชลธานี เชื้อน้อย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำปาง เขต ๓ พื้นที่อำเภอเมือง อำเภอแม่ทะ อำเภอแม่เมาะ วันนี้ขอตั้งกระทู้ถามไปยังท่านนายกรัฐมนตรี แต่วันนี้ท่านก็ได้ มอบหมายท่านรัฐมนตรีมาตอบแทน เนื่องด้วยถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายลำปาง-งาว เกิดอุบัติเหตุ ขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลให้ประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกิโลเมตร ที่ ๗๔๗+๑๐๐ และ ๗๓๖+๑๐๐ ขอสไลด์ด้วยครับ

นายชลธานี เชื้อน้อย ลำปาง ต้นฉบับ

ถ้าเกิดมองที่สไลด์จะเป็น ๒ จุด พื้นที่หนึ่ง จะอยู่ในเขตตำบลบ้านดง และอีกพื้นที่หนึ่งจะเป็นก่อนถึงกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ ๓ ของ ค่ายประตูผา พบว่าเป็นถนนที่เก่าแก่ตั้งแต่ในอดีต พื้นที่รอบข้างบางส่วนอยู่ในพื้นที่ป่า และสัดส่วนของความโค้งของถนนมีปัญหามาก ทำให้การสัญจรต้องมีการแจ้งเตือนความเร็ว ในระยะที่สอดรับกับส่วนโค้งของถนน หากมีความเร็วเกินกำหนดย่อมเกิดอุบัติเหตุสูง ประกอบกับรายงานสถิติข้อมูลอุบัติเหตุจากในสไลด์จะเห็นว่าในปี ๒๕๖๓ และปี ๒๕๖๔ ก็จะเกิดอุบัติเหตุเป็นจำนวนมาก และในปี ๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคมก็เกิดเคสมา ๓๖ เคส มาในเดือนมกราคมนะครับ คือถนนเส้นนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นในฤดูฝน แต่หากมีฝนลง เพียงนิดเดียวไม่ถึง ๕ นาทีในกลุ่มสังคม Social ของจังหวัดลำปางก็จะเห็นอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น บางทีก็จะเป็นบุคคลนอกพื้นที่ บางทีก็เป็นบุคคลในพื้นที่ ซึ่งบุคคลในพื้นที่ก็ทราบ อยู่แล้วว่าโค้งนั้นมีความโค้งต้องมีความระมัดระวังแต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผมก็ได้โชว์รูป อุบัติเหตุถนนสายลำปาง-งาว ทั้ง ๖ รูปนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง และผมก็ได้หารือ ร่วมกับหมวดทางหลวงบ้านเสด็จ แขวงทางหลวงลำปางที่ ๒ ก็ต้องขอขอบคุณที่หมวดทางหลวง ประสานงานและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ก็คือเข้าไปพูดคุยไม่ถึง ๑ อาทิตย์ก็มีป้ายเตือนเข้ามา ในการติดตั้งในจุดที่เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ แล้วก็มีการทำ Friction Tester ไปเมื่อประมาณ ๒ เดือนก่อนเพื่อทดสอบว่าความหนืดของถนนอยู่ในขั้นไหน เพราะว่าถนนนี้ก็เป็นถนน ทางหลวงหมายเลข ๑ แล้วก็มีการสร้างมาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นอยากจะขอเรียนผ่าน ท่านประธานไปยังท่านรัฐมนตรีว่ามีแนวทางในการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และพัฒนาคุณภาพของถนนหรือไม่ อย่างไร ขอทราบรายละเอียดครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีตอบคำถามแรกครับ เชิญครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคม วันนี้จากกระทู้ถามของท่านสมาชิก ท่านสมาชิกได้ถามไปที่ท่านนายกรัฐมนตรี แล้วก็ท่านนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทางกระทรวงคมนาคม ท่านประธานคะ เวลาประเด็น ของคำถามหรือว่ากระทู้ของท่านสมาชิก ก็อยากจะให้ท่านสมาชิกถามตรงมาที่กระทรวง คมนาคม เพราะว่าท่านนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเยอะมาก ซึ่งวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็ลาป่วย ท่านไม่สบาย อยากจะให้ท่านประธานได้ให้คำชี้แนะต่อท่านสมาชิกว่ามีประเด็นคำถามใด ๆ ที่ไปถึงกระทรวงใดก็อยากจะให้ถามถึงกระทรวงนั้น ๆ ต้องขอบคุณคำถามของท่านสมาชิก ที่ท่านได้มีความห่วงใยต่อการใช้รถใช้ถนนของพี่น้องประชาชน คำถามแรกของท่านสมาชิก ดิฉันเห็นว่ามีเพียงคำถามเดียว แต่จะขออนุญาตที่จะรวบทุกประเด็นในคำถาม ซึ่งถึงแม้ว่า ท่านจะมีคำถามเดียว แต่ว่าเมื่อแยกประเด็นออกมาแล้วมีอยู่ประมาณ ๓-๔ ประเด็น ขอสไลด์ในประเด็นคำถามแรกค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ดิฉันจะฉาย ให้เห็นภาพถึงความเป็นจังหวัดลำปางหรือว่านครลำปาง นครลำปางตั้งอยู่ทางภาคเหนือของ ประเทศไทย ระยะห่างจากกรุงเทพมหานครตามถนนทางหลวงหมายเลข ๑ เป็นระยะทาง ๖๐๒ กิโลเมตร ลักษณะพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มล้อมรอบด้วยหุบเขาทุกด้าน และทำให้ลักษณะ ของตัวจังหวะเป็นแอ่งกระทะ มีแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำวัง มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒,๕๓๓ ตารางกิโลเมตร แล้วก็เป็นพื้นที่ที่ใหญ่อันดับ ๕ ของภาคเหนือ รองจากจังหวัดเชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน และเพชรบูรณ์ มีประชากรในพื้นที่ประมาณ ๗๑๘,๗๙๐ คน มีรายได้ต่อหัว เฉลี่ยต่อปี ๑๔๗,๕๑๔ บาทต่อปี อาณาเขตติดต่อของจังหวัดลำปาง ทิศเหนือติดต่อกับ จังหวัดเชียงราย ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดตาก ทิศตะวันออกติดต่อจังหวัดแพร่ ทิศตะวันออก เฉียงเหนือติดต่อกับจังหวัดพะเยา ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดต่อกับจังหวัดสุโขทัย แล้วก็ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดต่อจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน นี่คือภาพรวมที่ดิฉัน ฉายภาพให้เห็นถึงความเป็นจังหวัดนครลำปาง โครงข่ายของกระทรวงคมนาคมประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข ๑ และทางหลวงหมายเลข ๑๑ ซึ่งเป็นสายทางหลัก ทางหลวงหมายเลข ๑ เริ่มจากจังหวัดลำปางที่ตำบลพระบาทวังตวง อำเภอแม่พริกถึงอำเภอบ้านร้อง อำเภองาว รวมระยะทาง ๒๓๑ กิโลเมตร ช่วงตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ ที่ท่านสมาชิกได้ยื่นกระทู้ถาม ก็เป็นทางหลวงขนาด ๔ ช่องจราจร มีผิวลาดยาง ปริมาณจราจรหมายถึงความหนาแน่นของ รถที่วิ่งต่อวันประมาณ ๑๗,๙๗๕ คัน ซึ่งทำให้มองเห็นภาพว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ปริมาณรถที่ใช้เส้นทางถนนเส้นนี้มีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ตามภาพนะคะถนนก็มีความโค้งและความชัน หากใช้ความเร็วเกินกำหนดก็จะทำให้เกิดการ ควบคุมรถที่ยากขึ้น จากสถิติของอุบัติเหตุจะเห็นว่ากรมทางหลวงได้รวบรวมสถิติปริมาณ อุบัติเหตุบนทางหลวงในช่วงเวลาดังกล่าวย้อนหลัง ๓ ปี วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗ เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด ๒๘ ครั้ง พบว่าสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุมูลเหตุ ก็คือขับรถเกินกำหนด ใช้ความเร็วเกินกำหนดถึง ๒๗ ครั้ง ขับรถย้อนศร ๑ ครั้ง จากสถิติรถ ที่เกิดอุบัติเหตุส่วนมากก็คือรถกระบะ ๔ ล้อ จากที่เราได้ทำข้อมูลสถิติปรากฏว่ารถกระบะ ๔ ล้อ ที่เกิดอุบัติเหตุส่วนมากจะเป็นรถขนส่งของที่ต้องใช้ความเร็วแล้วก็ใช้ระยะเวลาที่จำกัด เพื่อสามารถส่งสินค้าได้รวดเร็วก่อนเวลา จึงทำให้มีการเร่งความเร็วและใช้ความเร็ว เกินกำหนด ซึ่งกรมทางหลวงก็ได้รับทราบปัญหา ไม่ได้ละเลยนะคะท่านประธาน แต่เรา กลับเร่งรัดที่จะมีการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย นอกจากนั้นแล้วก็ยังได้สื่อสารไปถึงที่น้องประชาชนว่าเมาอย่าขับ ในขณะที่ห้ามใช้ ความเร็วเกินก็ใช้สื่อทุกช่องทางในการขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถใช้ถนน จะเห็นไหมคะ ว่าในช่วงที่มีฝนตกถนนลื่นผู้ขับขี่ก็ใช้ความเร็วในบริเวณดังกล่าวก็ทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง จึงต้องดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนไม่ให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนด ก็คือ ๕๐ กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็คือมาตรฐานของการขับขี่รถบนถนนทางหลวง แต่ท่านประธานคะ เนื่องจากการใช้ แนวเส้นถนน ๔ ช่องจราจร ผู้ขับขี่มักจะใช้ความเร็ว จึงดำเนินการติดตั้งเส้นชะลอความเร็วอีก เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ได้ชะลอความเร็วเมื่อเข้าพื้นที่ในโค้งบริเวณดังกล่าว ดังในภาพค่ะ เส้นทางดังกล่าวที่ดิฉันกราบเรียนตั้งแต่แรกเนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความโค้ง และมีความลาดชัน เรายังเพิ่มความปลอดภัยเข้าไปอีก นั่นก็คือติดตั้งราวกันอันตราย เพื่อลดอันตรายในขณะที่รถขับขี่ด้วยความเร็วแล้วก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในภาพก็จะเป็น ภาพของรถที่เข้าความเร็วแล้วก็ตกร่องลงข้างทาง ขออนุญาตนำเรียนท่านประธานว่าจาก ปัญหาทั้งหมดกระทรวงคมนาคมก็ได้จัดสรรงบประมาณในกรอบวงเงินของงบประมาณ ปี ๒๕๖๘ ในการติดตั้งราวกันอันตรายเพิ่มเติมในเส้นทางของทางหลวงหมายเลข ๑ ที่ตำบล บ้านเสด็จ อำเภอเมืองลำปาง ช่วงแรกก็คือ ๓.๕ ล้านบาท อีกช่วงหนึ่งก็คือบริเวณบ้านดง อำเภอแม่เมาะ อีก ๓.๕ ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาไม่ให้รถแฉลบลงข้างทาง แล้วก็เพิ่มขีดความสามารถในการที่จะลดอุบัติเหตุของกรมทางหลวงต่อไป เนื่องจากเส้นทาง ดังกล่าวเป็นเส้นทางโค้งทำให้มีระยะการมองเห็นที่จำกัด เราจึงได้ดำเนินการติดตั้งหลักล้มลุก มันก็จะเป็นแนวเพื่อให้เป็นสัญญาณเตือนที่เห็นชัดเจนไม่ว่าจะในช่วงบริเวณยามค่ำคืนเพื่อใช้ ในการนำทาง เพิ่มจุดสังเกตให้กับผู้ขับขี่อีกชั้นหนึ่ง เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทาง ที่มีความลาดชัน อย่างที่ดิฉันกราบเรียนว่าส่วนมากผู้ขับขี่รถยนต์ก็จะใช้ความเร็วเกินกำหนด เราจึงได้ดำเนินการติดตั้งกล้องอีก ภาพอยู่ขวามือนะคะ เพื่อตรวจจับความเร็ว โดยได้ ดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นการบังคับให้ใช้กฎหมาย ไม่ให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็ว เกินกำหนด แล้วก็จะเป็นการลดอุบัติเหตุอีกชั้นหนึ่ง จากการดำเนินการและสำรวจ ความเสียหายของท้องถนน อย่างที่ท่านสมาชิกได้นำเสนอประเด็นของปัญหา เราก็จะเห็นว่า ถนนนี้สร้างมาหลายปีพบว่าความเสียดทาน เราเรียกภาษาช่างว่าความเสียดทาน แต่ภาษา ที่ชาวบ้านจะเข้าใจคือความฝืดของถนน เราก็ได้ทำการสำรวจ พบว่าค่าเฉลี่ยสัมประสิทธิ์ ความเสียดทานของพื้นผิวจราจรในเส้นนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่แขวงทางหลวงในพื้นที่ ได้นำเสนอมาที่กรมว่าให้มีการปรับปรุงผิวลาดยางเป็นผิวคอนกรีตเพื่อเพิ่มความหนืด ของถนน นั่นก็คือเมื่อเพิ่มความหนืดของถนนของผิวทางแล้ว เราก็เชื่อมั่นว่าผู้ขับขี่ที่ใช้รถ ยานพาหนะ รถเหล่านั้นก็จะมีการยึดเกาะพื้นผิวที่เป็นความหนืดของถนนพื้นผิวคอนกรีต แล้วก็จะเพิ่มความเสียดทานและต้านทานการเกิดร่องล้อ ร่องล้อรถถ้าถนนด้วยความฝืด ร่องล้อก็จะชะลอความเร็วลง โดยเบื้องต้นเราได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างผิวทาง คอนกรีตในกรอบปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ช่วงตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ ในวงเงิน งบประมาณ ๑๗,๙๙๙,๐๐๐ บาท ท่านสมาชิกก็นำข้อมูลเหล่านี้ไปสื่อสารถึงพี่น้องประชาชน ในโอกาสที่ท่านได้ลงพื้นที่ด้วยนะคะ ท่านประธานที่เคารพ สุดท้ายเนื่องจากท่านสมาชิก ได้มีคำถามในกระทู้ถามดังกล่าว ดิฉันได้ขออธิบายความทั้งหมดจากประเด็นคำถาม กระทรวงคมนาคมยืนยันว่าระบบทางหลวงที่สะดวกแล้วก็ปลอดภัยเชื่อมโยงการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนน พี่น้องประชาชนคนไทยมั่นใจว่า กรมทางหลวงใส่ใจทุกการเดินทางให้ปลอดภัย ขอบคุณคำถามของท่านสมาชิกค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

มีประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังอีก ๑ ท่านว่าที่ร้อยตรี เนติพล สกุลชาห์ ต่อไปคำถามที่ ๒ เชิญครับ

นายชลธานี เชื้อน้อย ลำปาง ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผ่านไปยังท่าน รัฐมนตรี ก็ขอบคุณในความห่วงใยที่ว่าการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีควรจะตั้งคำถามไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมโดยตรง แต่เนื่องจากพื้นที่ของถนนนี้คาบเกี่ยวกับพื้นที่ของ กรมป่าไม้และกองทัพบกด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อการบูรณาการและการแก้ไขปัญหาในคราวเดียว ก็เลยตั้งคำถามไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ผมขออธิบายในส่วนของพื้นที่เนื่องจากว่ารถยนต์ ที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นรถส่วนตัว ไม่ใช่เป็นรถบรรทุก และหลังจากที่คุยกับทางกรม ก็เนื่องจากว่าถนนนี้ทำมายาวนานแล้ว ค่า Friction ที่ได้ก็คือ ๐.๓๑ ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ถ้าจะอันตรายคือ ๐.๒๙ ก็อีกนิดเดียว ก็ขอขอบคุณทางกระทรวงคมนาคมที่ห่วงใยจะแก้ไข ปัญหาในส่วนนี้ และมีอีกหนึ่งคำถามครับว่าในงบประมาณ ปี ๒๕๖๗ ที่มี ๑๗,๙๙๙,๐๐๐ นี้ ครอบคลุมทั้ง ๒ จุดไหมครับว่างบประมาณที่จัดสรรมานี้เป็นจากกิโลเมตรที่เท่าไรถึงที่เท่าไร เพราะว่าจากที่ผมตั้งกระทู้ถามจะมีอยู่ ๒ จุด ก็เลยอยากทราบความครอบคลุมในส่วนนี้ และสุดท้ายขอขอบพระคุณหมวดทางหลวง แขวงทางหลวง กรมทางหลวงที่เข้ามาหารือและ แก้ไขปัญหาให้อย่างรวดเร็ว ก็ขอเป็นคำถามนี้ครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ดิฉัน มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคม ขอบคุณสำหรับคำถามที่ ๒ นี่คือภาพของการเป็นผู้แทนราษฎรที่ท่านสมาชิก ได้ใส่ใจทุกประเด็นคำถาม ต้องขอบคุณค่ะ เวลากระทู้ถามท่านนายกรัฐมนตรีแล้วมันมี บูรณาการทุกภาคส่วน ดิฉันได้ขออนุญาตนำเรียนและขอบคุณท่านสมาชิกค่ะ

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ต้นฉบับ

ในประเด็นคำถามที่ ๒ ในเรื่องของงบประมาณปี ๒๕๕๗ เป็นแค่ช่วงเดียว แล้วก็เราจะตั้งในงบประมาณปี ๒๕๖๘ อีก ซึ่งเวลาเข้าในชั้นอนุกรรมาธิการก็ฝากท่านสมาชิก จากพรรคก้าวไกลด้วย เสนออย่าตัดโครงการนี้ ขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

มีอะไรจะฝากท่านรัฐมนตรีอีกไหม ไม่มีนะครับ เข้าใจแล้วนะครับ ปีหน้าก็ได้อีกอันหนึ่ง ขอบคุณท่านสมาชิก ขอบคุณท่านรัฐมนตรี สวัสดีครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๒. เรื่อง การบริหารจัดการในส่วนกิจการฮัจญ์ของกรมการปกครอง ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย นายธีรัจชัย พันธุมาศ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งว่ารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยได้ติดภารกิจสำคัญ มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการ ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ดังนี้ ๑. นายอิมรอน หะมะซอ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ กองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจญ์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ๒. นายวสันต์ จิสวัสดิ์ นักการข่าวชำนาญการ กองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจญ์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และผมได้อนุญาตให้ประชาชนผู้มีส่วนร่วมเข้ารับฟัง การตอบกระทู้ถาม ดังนี้ ๑. ว่าที่ร้อยตรี เนติพล สกุลชาห์ ๒. นายณัฐชรินทร์ เปียแก้ว เชิญท่านธีรัจชัย พันธุมาศ ถามคำถามที่ ๑ ครับ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ ผม ธีรัจชัย พันธุมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก มีนบุรีลาดกระบัง ขออนุญาตถามกระทู้ต่อท่านประธานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งท่าน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตอบแทน เนื่องจากในส่วนของพื้นที่หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตเลือกตั้งของผมนั้น มีพี่น้องมุสลิมโดยเฉพาะหนองจอก ประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ การที่ลงพื้นที่พี่น้องมุสลิมแต่ละท่านก็ได้มาพูดถึงการไป ประกอบพิธีฮัจญ์นั้นค่อนข้างราคาแพงและสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น การประกอบพิธีฮัจญ์นั้น พี่น้องมุสลิมเชื่อว่าจะทำให้ตัวเขานั้นเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์และปราศจากความผิดบาป ดังนั้น ใน ๑ ชีวิตควรจะไปสัก ๑ ครั้ง และต้องใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบของตัวเองเพื่อจะไปประกอบ พิธีฮัจญ์ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ท่านประธานที่เคารพครับ ในการประกอบ จัดการบริหารพิธีฮัจญ์ของประเทศไทยนั้นก็ยังมีปัญหา ก็คือค่าราคาที่ไปนั้นแพง ค่าโดยสาร เครื่องบินแพง เพราะว่ามีการผูกขาดสายการบินคือสายการบินไทยและสายการบิน ซาอุดีอาระเบีย นอกจากนั้นในส่วนของสายการบินซาอุดีอาระเบียก็ใช้สายการบิน Flyadeal ซึ่งเป็นต้นทุนต่ำมาให้บริการจึงไม่ทั่วถึง ราคาค่าตั๋วเครื่องบินที่ไปเอาที่มีทั้งหมด ๓ สนามบิน หาดใหญ่ในช่วงแรก ๕๘,๑๗๕ บาท นราธิวาส ๖๓,๑๕๐ บาท หาดใหญ่ช่วงต้น ๖๔,๘๙๒ บาท สุวรรณภูมิ ๖๘,๔๔๒ บาท นี่คือไม่เท่ากันตามแต่ละสนามบิน นั่นคือปี ๒๕๖๖ แต่ปี ๒๕๖๗ เพิ่มมาทุก ๓ สนามบินเท่ากัน คือ ๖๘,๗๐๐ บาท ประเด็นตรงนี้มันขึ้นได้อะไร มันแพงมาก และตัวที่แพงก็คือถ้าเกิดเป็นหาดใหญ่ช่วงต้นแพงขึ้นประมาณ ๒๔,๔๐๐ บาท นี่คือแพง เกินจริง ผมอยากจะให้ดูความล่าช้าอีกอันหนึ่ง ความล่าช้าในการตรวจอนุญาตที่พักของ เจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายไทยทำให้เกิดการเช่าช่วงผู้ประกอบการฮัจญ์ไทยจะไปทำสัญญาเช่าได้ บางครั้งผู้แสวงบุญได้ที่พักไกลกว่ามัสยิดอัลฮะรอมที่นครเมกกะ ความล่าช้าในการยื่น Visa ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ผลพวงจากสัญญาเช่าที่พัก การบริหารไม่มีประสิทธิภาพระหว่าง ผู้แสวงบุญอยู่ที่ทุ่งมินา รวมถึงกระบวนการขนส่งผู้แสวงบุญเคลื่อนที่ไปยังจุดต่าง ๆ ที่กล่าวมา ซึ่งมีการเก็บเงินส่วนนี้ ในปีที่แล้วก่อนที่จะไปมีการเก็บเงินขึ้น ๒๙,๐๐๐ บาท ผมไปลงพื้นที่ ที่น้องมุสลิมก็มากล่าวกับผมว่าบางคนเขาต้องเก็บแบงก์ ๒๐ กว่าจะได้เงินเป็นค่าไปก็จะต้อง หาเงินเพิ่ม ๒๙,๐๐๐ บาท ไม่รู้จะทำอย่างไร กรณีอย่างนี้มันทำให้ความฝันที่จะไปฮัจญ์ สักครั้งหนึ่งก็ช้าลงสำหรับพี่น้องมุสลิม โควตาของประเทศไทยมีประมาณ ๑๓,๐๐๐ คน แต่ไปไม่ถึง เพราะบางทีติดขัดในสิ่งเหล่านี้และแพง ผมให้ดูตารางนิดหนึ่ง ตารางการไปฮัจญ์ ของประเทศมาเลเซียกับประเทศไทย ในปี ๒๕๖๔ มาเลเซียใช้ ๑๘๑,๗๔๙ บาท ประเทศไทย ๒๕๐,๐๐๐ บาท ปี ๒๕๖๕ มาเลเซีย ๑๙๔,๑๑๖ บาท ของไทย ๒๖๐,๐๐๐ บาท มาเลเซีย ปี ๒๕๖๖ ๑๑๐,๐๐๐ บาท ของไทย ๒๗๐,๐๐๐ บาท ต่างกันถึงประมาณ ๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันไม่ควรจะแพงขนาดนั้น ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้อยากจะถามท่าน

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

คำถามแรกท่านจะแก้ไขการผูกขาดสายการบินได้อย่างไร จะปลดปล่อย สายการบินไหมครับ เพื่อจะให้มีการแข่งขันในเชิงพาณิชย์จะได้ถูกลง ท่านจะตกลงเจรจา อย่างไรที่จะให้ไม่มีการเก็บเงินล่วงหน้ากระทันหัน ๒๙,๐๐๐ บาท เพื่อให้พี่น้องมุสลิมได้มี โอกาสไปฮัจญ์ในราคาที่ถูกหรือใกล้เคียงกับมาเลเซียมากกว่านี้ คำถามแรกครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ

เรียน ท่านประธานครับ ผม ชาดา ไทยเศรษฐ์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องขอบคุณผู้ถามที่ให้การเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งของท่าน ซึ่งเป็นพี่น้อง มุสลิม แต่เรียนว่าผมก็เป็นมุสลิม ผมเองก็เห็นปัญหา ผมเองมีโอกาสไปเป็นคณะเจรจา ในครั้งนี้ ในครั้งที่จะถึงข้างหน้า แต่เอาที่ผ่านมาก่อนที่ผมเข้ามารับตำแหน่ง แต่สิ่งที่อยาก จะบอกประการแรกก็คือว่า ๒๙,๐๐๐ บาทนั้นไม่ใช่เป็นการเก็บเพิ่ม จริง ๆ แล้วเป็นการเก็บ เบื้องต้นคนละ ๘๐,๔๐๐ บาท แล้วก็เก็บทีหลังอีก ๒๙,๐๐๐ บาท มันเป็นการจ่ายในระบบ ในส่วนของกระทรวงฮัจญ์ของที่ซาอุดีอาระเบีย ในวันเจรจาก็จะไม่ทราบราคาทั้งหมด ทราบเพียงแต่ว่าของบริษัท มะชาริก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการช่วงประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวไทย ที่เสนอราคาที่ ๓,๕๖๕ ริยาล ผมเรียนอย่างนี้นะครับผมเองก็อยากให้ถูก ตอนนี้ก็พยายามจะ ทำราคากลางออกมาด้วย แล้วสิ่งที่สำคัญก็คือว่าเรื่องตั๋วเครื่องบินครับ ตั๋วเครื่องบินมันเป็น กติกาของซาอุดีอาระเบียเขา ซึ่งเราไม่สามารถได้ แล้วในหลักก็คือว่าเขาก็จะมี Flyadeal ซึ่งได้รับการรับรอง เราก็อยากจะใช้อย่างอื่น แต่เขากำหนดว่าต้องเป็นสายการบินประจำชาติ เท่านั้น ผมเรียนว่าตรงนี้มันก็มีปัญหาระหว่างที่กรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด ก็คือว่าที่ขึ้นสนามบิน หาดใหญ่ราคาจะไม่เหมือนกันอันนี้ผมเรียน แต่พูดถึงปัญหาสายการบินก่อน เรียนว่าสายการบิน เป็นเช่าเหมาลำ ตอนนี้ผมก็อยากจะได้บริษัทอื่นมาถามดูสิว่าจะทำได้ไหม คือการมารับชาวฮัจญ์ หรือไปส่งน้องที่ไปฮุจญาจมันต้องตีเปล่าขาหนึ่ง อย่างซาอุดีอาระเบียเขามาเขาก็มาตีเปล่า ไทยก็ต้องตีเปล่าเหมือนกันถ้าเวลาไปรับกลับ เวลาไปรับกลับก็ต้องตีเปล่าขาหนึ่ง แล้วก็ สายการบินอย่างประเทศไทยเราก็ไม่มีการบินใน Flight ปกติ แล้วทางซาอุดีอาระเบียเขาก็ ไม่ยอมแน่ เพราะเขาจะกำหนดว่าลงที่เจดดาห์ เสร็จแล้วก็ไปลงที่มาดีนะห์ ซึ่งต้องให้ลงที่ เจดดาห์แล้วก็ไปมักกะฮ์ ส่วนที่ไปขึ้นที่มาดีนะห์ก็ต้องขึ้นสายการบินมาดีนะห์ เราเองยังอยาก จะให้ย้อนกลับเลยนะครับ เขายังบอกไม่ได้ต้องลงที่นี่แล้วไปขึ้นที่โน่น ต้องเป็นไปตามหลัก ศาสนาซึ่งทำฮัจญ์เสร็จก็ต้องไปที่มาดีนะห์ ไปเพื่อประกอบศาสนกิจให้ครบ ๘ วัน ๔๐ ซะกาต อย่างน้อย แต่พี่น้องชาวใต้บางคนเขาก็อยู่นาน แล้วจัดคิวอะไรต่าง ๆ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ

ผมขออนุญาตตอบเลยนะครับ เพราะว่าท่านถามมารวม ๆ ผมก็ขออนุญาต ตอบรวมในส่วนนั้น ครั้งนี้ผมไปเจรจาเองก็ได้รับความเมตตา คือของเขาไม่มีทุกอย่างราคาเดิม แต่ละปีขึ้นทุกอย่าง เขาจะตั้งราคาไว้สูง สูงกว่าของเดิมประมาณ ๑๐๐ ริยาลบ้าง แล้วก็เป็น ดอลลาร์บ้าง เขาจะคิด ๒ ลักษณะ แต่จากเหตุที่ทำให้ช้าเมื่อปีที่แล้ว ฮุจญาจมีเรื่องของ วันเวลาที่ไม่ตรง อยู่ที่อารอฟะห์นานแล้วก็ในช่วงที่จะไปมีนาคมการขนส่งเขาได้ปรับ ผู้ประกอบการของเขาเป็นเงิน ๒ ล้านริยาล คือ ๒ ล้านริยาลนี้ถ้าเป็นเงินไทยก็เท่ากับ ๒๐ ล้านบาท เราจะคืนให้ผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์เมื่อปีที่แล้ว เมื่อปีที่แล้วใครไปทำฮัจญ์ ไปติดต่อได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ในส่วนของกรุงเทพฯ ก็จะต้องจัดที่ไว้ให้อีกที่หนึ่ง เรียนว่า ได้คืนคนละ ๑,๕๐๐ กว่าบาท ซึ่งทางรัฐมนตรีช่วยกระทรวงฮัจญ์แจ้งกับผมเองว่าต้องคืน ให้กับฮุจญาจ แล้วเรียนว่าผมไปก็ได้รับเกียรติ การเจรจาทุกอย่างลดลงหมด ไม่มีเพิ่มราคา ราคาไม่มีเพิ่มในปี ๒๕๖๗ นี้ที่จะทำต่อไป มีแต่จะลดลง ในส่วนของบริษัท มะชาริก เขาก็ ลดลงให้ ซึ่งปีที่แล้ว ๓,๐๐๐ ริยาล ปีนี้เขาคิดแค่ ๒,๖๐๐ ริยาล ค่าในส่วนของ บริษัท มะชาริก เรียนว่าเรื่องตั๋วเครื่องบินเหมือนกันมันกำหนดโดยสายการบินแห่งชาติ แล้วเราก็พยายาม จะเอามาถัวเฉลี่ยกัน ราคาเราพยายามที่จะคุยกับผู้ประกอบการในการถัวเฉลี่ย อย่างปีนี้ ๑,๙๐๐ กว่าคนที่จะขึ้นที่สุวรรณภูมิ เรายังต้องไปเอาพี่น้องชาวใต้มาอีก ๒๐๐ กว่าคน เพื่อให้ของเขาครบเที่ยวบิน เราก็พยายามเจรจาจะขอว่าให้เขาเอาเฉพาะสุวรรณภูมิ และเรา เอาภาคใต้ทั้งหมด เขาก็ไม่ยอม เขาก็ต้องเอา Flyadeal มา ก็ต้องเรียนว่าวันนี้ซาอุดีอาระเบีย เขาก็ส่งให้เป็นธุรกิจหมดแล้วมันเป็นเรื่องของธุรกิจไปแล้ว เขาก็ต้องมีภาระค่าใช้จ่าย ในอดีต เขาร่ำรวยเขาขาดทุนก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้เขาก็พยายามเซตทุกระบบ ไม่ว่าอาหาร ที่พัก แล้วก็ในส่วนของการโดยสารรถยนต์ไปมาระหว่างประกอบศาสนกิจอยู่ ราคาเครื่องบินเรา ถัวเฉลี่ยเอา ไม่ใช่เราไม่ต้องการที่จะใช้สายการบินอื่นนะครับ แต่ซาอุดีอาระเบียเขาไม่ยอม เราเองเป็นสายการบินไทยผมไปเจรจาคราวนี้เขายังต้องไปคุยกับฝ่ายการบินของเขา ซึ่งเขา ก็จะตรวจสอบแล้วถึงจะอนุญาตว่าสายการบินไทยเป็นสายการบินอะไร มีคุณภาพอย่างไร เขาก็ตรวจสอบทุกปีเหมือนกัน แล้วเราก็ต้องไปคุยกับฝ่ายการบินของเขาด้วย วิทยุการบิน ของซาอุดีอาระเบียเขา ก็ตอบเพียงเท่านี้นะครับ เผื่อท่านมีคำถามอื่นครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญคำถามที่ ๒ ครับ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ ผม ธีรัจชัย พันธุมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง ขออนุญาตเรียนท่านประธานไปยังท่านรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งก็คือว่า การแก้ไข เรื่องสายการบินง่ายนิดเดียว เจรจาให้มีการแข่งขันไม่ต้องเช่าเหมาลำ บริษัท Flyadeal เป็น สายการบินต้นทุนต่ำ และที่ผู้แสวงบุญชาวไทยบอกว่าไปแล้วมันเก่า ไม่ใช่สายการบิน แห่งชาติซาอุดีอาระเบีย คุณภาพไม่ได้ แต่ทำไมถึงมาแข่งขันและผูกขาดแบบนี้ ทำให้แพง

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ที่ผมอยากเรียนถามเพิ่มเติมก็คือ ในเรื่องของบริษัท มะชาริก สมัยปีที่แล้วประจำปี ๒๕๖๖ หรือ ฮ.ศ. ๑๔๔๔ เขาระบุไว้ในสัญญาตัวนี้ในข้อประกาศของ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ระบุข้อ ๑.๗ ว่า ค่าบริการอาหารและบริการเสริมในช่วงประกอบพิธีฮัจญ์เป็นเงิน ๓,๕๖๕ ริยาล ซึ่งคูณ ๑๐ ก็ประมาณ ๓๕,๐๐๐ บาท แต่ปีนี้มีการแยก ประกาศปีนี้ปี ฮ.ศ. ๑๔๔๕ ปี ๒๕๖๗ นี้ เขามี แยกค่าบริการช่วงประกอบพิธีฮัจญ์ Package ของบริษัท มะชาริก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ผู้แสวงบุญชาวไทย จำนวน ๓๕,๖๕๐ บาท แต่มาเพิ่มค่าบริการอาหารพื้นฐานตลอด ช่วงพำนักอยู่ ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอีกจำนวน ๑๐,๕๐๐ บาท การเพิ่มมาอีก ๑๐,๕๐๐ บาทนี้มาได้อย่างไร ซึ่งปีที่แล้วรวมกันในส่วนนั้น ๓๕,๐๐๐ บาท นี่คือเป็นตัวที่ แพงขึ้นใช่หรือไม่ ๒๗,๐๐๐ บาท นี่คือตามตารางนะครับ ผมเรียนว่าตรงนี้ถ้าเกิดการเจรจา ที่ดีจริง ๆ ผมเชื่อว่าเราได้ถูกลงอีกอย่างน้อย ๑๐,๐๐๐ บาท หรือค่าตั๋วเครื่องบินถ้าไม่ถัวเฉลี่ย มากเกินไป แข่งขันนี้เราคงจะอยู่ใกล้เคียงกับมาเลเซียก็ประมาณ ๒๑๐,๐๐๐ บาท ไม่ใช่ ๒๗๐,๐๐๐ บาท หรือ ๒๘๐,๐๐๐ บาทในปัจจุบันนี้ นี่คือถัวเฉลี่ยนะครับ ดังนั้นอยากให้ ท่านรัฐมนตรีซึ่งท่านไปเจรจาให้เปิดเผย MOU ที่ท่านเจรจากับทางซาอุดีอาระเบียให้ประชาชน ได้ทราบนะครับว่าท่านเจรจามีข้อตกลงอย่างไร มีความคืบหน้าและลดค่าไปบริการฮัจญ์ ได้อย่างไร แล้วตอบในข้อตกลงนี้

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีกประการหนึ่งที่ผมอยากจะเรียนเสริมขึ้นอีกคำถามหนึ่ง ก็คือในการไป ปีที่แล้ว ทราบว่าบริหารจัดการของทางซาอุดีอาระเบียนั้นผิดพลาด กรณีต้องรอรถโดยสาร ที่รับจากสถานที่ชื่อว่า มุซดะลิฟะฮ์ เพื่อกลับที่พักเวลาผิดพลาด ประมาณ ๙-๑๐ ชั่วโมง บางกลุ่มรอร่วม ๑๒-๑๕ ชั่วโมง และมีการเพิ่มเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท แต่ว่ามันไม่ได้บริการให้ดี ขึ้นมาเลย ตรงนี้คือสวัสดิภาพและการบริการที่ดี ๆ คุณภาพมันไม่ได้ ๒ ประเด็นนี้ท่านจะ แก้ไขปัญหาอย่างไร ขอถามคำถามที่ ๒ ครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

สงสัยขอถามรัฐมนตรีเพิ่มนิดหนึ่ง ถ้าคนรวยเขาไปเองได้ไหม มีสตางค์เยอะ ๆ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ

เขาไปเอง ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๖๐๐,๐๐๐ บาทครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ไปเองได้

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ

เขาเรียก เป็นฮัจญ์ VIP เขาก็จะไป อย่างผมไปผมก็ไปแพงนะครับ แต่ตอนนี้ปัญหาที่ราคามันสูงนี้ มันสูงเพราะว่ามันทำให้มุสลิมที่มีฐานะยากจนมันก็จะยืดเวลาในการเก็บไป เรียนว่าตรงนี้ กรณีที่ท่านว่าเรื่องช้า เราเอาค่าปรับมาแล้ว เอาค่าปรับมานี้เกี่ยวกับความล่าช้า เพื่อคืน ให้กับฮุจญาจในปีที่แล้ว แล้วก็เรียนด้วยความเคารพ ปีนี้ทางกระทรวงฮัจญ์รับปากมาเองว่า อย่างช้าที่สุดจะไม่ให้เกิน ๙ โมงเช้า แต่ผมก็ได้คุยกับทาง บริษัท มะชาริก ว่าในเมื่อทาง กระทรวงรับปากแล้วว่าไม่เกิน ๙ โมงเช้า ทางบริษัทให้ความมั่นใจกับพี่น้องฮุจญาจของไทย ได้อย่างไร เขาก็รับปากว่าเขาจะทำให้เสร็จก่อน ๘ โมง ถึงจะเป็นส่วนของกระทรวงฮัจญ์ เป็นไม่เกิน ๙ โมงก็จริง ซึ่งถ้าล่าช้า ปีนี้ใครก็ตามที่ทำล่าช้าจะโดนปรับมากกว่าเดิม เขาจะ ปรับมากกว่าเดิม ซึ่งเขาก็บอกแล้วว่าบริษัทขนส่งโดนปรับเยอะ อย่างที่เขาปรับมาให้เรา คนละ ๑,๕๐๐ กว่าบาท ซึ่งเดี๋ยวจะประกาศอีกทีนะครับว่าเราจะคืนให้กับฮุจญาจนี้ ประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้งหนึ่ง แล้วเรียนว่าในกรณีของมาเลเซียเขาได้เงิน อุดหนุน เขาเป็นรัฐบาลมุสลิม เขามีระบบการจัดการที่อุดหนุนให้ ของเราคงทำไม่ได้ แต่ผม เรียนว่าในฐานะที่ผมเป็นมุสลิม อย่างการไปเจรจาคราวนี้ก็ได้ลด จาก ๓,๑๐๐ บาท เขาลด ให้มาเหลือ ๒,๖๐๐ บาท ค่าเครื่องบินก็ลด แต่ก็ลดได้ไม่กี่ดอลลาร์ ซึ่งเราก็ใช้เวลาการเจรจา พอสมควรถึงขั้นขนาดต้องขอเวลานอกออกไปพักก่อนแล้วก็ค่อยกลับมาคุยใหม่ เราพยายาม ที่จะไม่ลดในส่วนของสายการบินซาอุดีอาระเบีย ที่สุวรรณภูมิเราไม่ลด เราต้องการจะขน ที่ทาง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นสายการบินไทยทั้งหมด ซึ่งราคาก็น่าจะต้องถูกลง ใช่ไหม แต่ปัญหาคือว่าเขาไม่ยอม เขาบอกกติกาเขาเป็นอย่างนี้ อย่างไรเขาก็ต้องขอ คนละครึ่งในการขนส่ง แล้วเขาก็เลยลดราคาในส่วนของสายการบิน Flyadeal ว่าเขา ลดราคาลงมาให้ ผมจำไม่ได้ว่ากี่ดอลลาร์ ในปีนี้ตอนนี้มีเงินเกือบ ๑๐,๐๐๐ บาทแล้ว ที่เรา Save ให้กับพี่น้องที่ไปทำฮัจญ์ในปีนี้ ในปี ๒๕๖๗ นี้เรามีเงินอยู่แล้วตอนนี้ คือจากการเจรจา ตกลงพูดคุยเรายอดเงินอยู่แล้วประมาณ ๖,๐๐๐ กว่าบาท ที่จะต้องลดให้กับฮุจญาจ แต่ผม เองยังไม่แจ้งบริษัท เพราะผมไม่ได้มาทำงานให้บริษัท ผมทำงานให้พี่น้องประชาชนทำให้ ฮุจญาจ เราก็เก็บไว้ว่าตรงนี้เป็นปีที่เราจะต้องไปลดตรงไหนก็ว่ากันอีกที หรืออาจจะคืน อย่างไรก็ได้ เพราะว่าการที่ท่านจะลดให้บริษัท วันนี้ทำลดปุ๊บมันไม่ได้ลดพี่น้องที่ไปทำฮัจญ์ ครับ มันกลายเป็นไปลดให้บริษัทไป ผมก็ต้องเอาเงินตรงนี้ไว้ก่อน เหมือนกับจะคืนให้แบบ ปีที่แล้วที่เราคืนให้กับพี่น้องฮุจญาจชาวไทย เรียนด้วยความเคารพครับ ผมต้องทำทุกอย่าง ในฐานะที่ผมบอกในตอนต้น ผมในฐานะมุสลิมผมพยายามที่จะทำราคากลาง ตอนนี้พยายาม จะทำราคากลางว่าราคาที่นี่เท่าไร ราคาที่มักกะฮ์นี้รัศมีกี่กิโลเมตร ที่พักที่ไม่เกินกี่กิโลเมตรได้ ราคาเท่านี้ ถ้าเกินจากนี้ไปต้องถูก ถ้าต่ำกว่าอันนั้นเป็นเรื่องที่คุณไปทำ VIP ก็ว่าไป พยายาม จะมีราคากลางออกมาก็ทำไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะบางอย่างมันก็มีเรื่องของภาษีของเขา ภาษีของ เขาผมก็ยังงง ๆ กับระบบภาษีของเขาเหมือนกัน ก็คือเราก็พยายามเจรจาทุกอย่าง วันนี้ถูก ลงแล้วครับ ถูกลงแน่นอน ผมจะทำให้ได้ถึง ๑๐,๐๐๐ บาท ตอนนี้ในกระเป๋ามี ๖,๐๐๐ บาท แล้ว เรียนท่านผู้ถามครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญครับ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประธานที่เคารพครับ ผม ธีรัจชัย พันธุมาศ ด้วยความเคารพท่านรัฐมนตรีผ่านไปยังท่านประธานนะครับ เป้าหมายก็คือว่าเราน่าจะต้องไม่ต่างจากมาเลเซีย ซึ่งประมาณ ๒๑๐,๐๐๐ บาท ถ้าเป็น อย่างนั้นได้จะเป็นเป้าหมาย ทราบว่าจากตัวเลขที่ท่านเจรจาครั้งนี้ได้ลดค่าตั๋วเครื่องบิน มาคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๑,๘๐๐ บาท ผมว่ายังไม่สูงนัก จุดสำคัญคือการที่จะให้มีการ แข่งขันสายการบินไม่ผูกขาด ไม่เช่าเหมาลำ ถ้าจะเจรจาตรงนี้ได้มันจะแข่งขันกันเอง จะลดเอง แล้วการที่สายการบินซาอุดีอาระเบียเอา Flyadeal เข้ามา ซึ่งต้นทุนมันต่ำ มันถือว่าอาจจะไม่ค่อยเป็นธรรมกับฮุจญาจหรือผู้แสวงบุญชาวไทยเท่าไรนัก อยากให้ท่าน เจรจาตรงนี้ให้ได้

นายธีรัจชัย พันธุมาศ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ จัดระบบดี ๆ เรื่องของผู้ที่จะรับไป หมายถึงแซะห์ หมายถึงผู้นำ หมายถึงบริษัททัวร์ก็ว่าได้ในส่วนนี้ที่จะพาคนไปให้การแข่งขัน ไม่ผูกขาด ถ้าไม่ผูกขาด จะมีการเสนอราคาที่ต่ำ ฮุจญาจหรือผู้แสวงบุญชาวไทยเขาจะได้ราคาที่ถูกโดยธรรมชาติ ท่านไม่ต้องเจรจามาก เพียงแต่ให้การแข่งขันกัน ทั้งสายการบิน ทั้งกระบวนการของผู้นำ ในการที่จะพาไปในส่วนตรงนี้ ถ้า ๒ ส่วนนี้ได้ผมเชื่อว่าราคาประมาณ ๒๑๐,๐๐๐ บาท เป็นไปได้ แล้วพี่น้องชาวไทยที่ประสงค์จะทำพิธีฮัจญ์ก็ทำให้ได้ถูกลง และพี่น้องที่ยากจน ผมเห็นเขาเก็บแบงก์ ๒๐ บาท รวม ๆ กันแล้วไป ผมเห็นใจ อยากให้ทุกท่านได้ไป และท่าน พยายามเจรจาเถอะครับ อย่าให้มาเก็บเงินเพิ่ม ๒๙,๐๐๐ บาทเลยครับ ราคาไหนราคานั้น แล้วก็ได้เลย แล้วในส่วนเวลาไปที่มักกะฮ์แล้ว ส่วนนี้อย่าปล่อยทิ้งให้เขารอนาน ที่พักให้ สบายขึ้น เรื่องนี้เป็นการพูดแทนพี่น้องประชาชนในเขตผม หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และทั้งประเทศ ขอบคุณท่านรัฐมนตรีมากครับ ท่านจะตอบไม่เป็นอะไรเชิญครับ

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้นฉบับ

ผมเรียน ว่ามันไม่ได้เป็นการเก็บเพิ่มขึ้นนะครับ มันเป็นการเก็บไม่หมด เขาลงมติให้เก็บ บอร์ดฮัจญ์ ให้เก็บเท่านี้ก่อน แล้วก็เก็บครั้งหลังอีก แต่มันเป็นการเก็บที่กระชั้นไป อันนี้ถูกต้อง คือครั้งที่แล้วเก็บกระชั้นไป ๒๙,๐๐๐ บาทนี้เวลาในการเก็บมันไวไป มันช้ามาก เรียกว่า เขาไม่มีเวลาเตรียมตัวนัก แล้วเรียนว่าลดค่าเครื่องบินไป ๑,๗๐๐ กว่าบาท จริง ๆ เขาลด ให้มากกว่านี้ด้วย ผมเจรจาไม่เอาด้วย แต่จะขอขนที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด ให้สายการบินของไทยเป็นผู้ขน เขาไม่ยอมครับ กติกาเขามี บางเรื่องเราเรียนด้วยความ เคารพครั้งนี้ที่ผมไปในฐานะที่ผมเป็นมุสลิมคนเดียวในรัฐบาล ผมได้รับเกียรติจากทาง กระทรวงฮัจญ์มาก เรื่องลดราคานี้คุยกับบริษัท มะชาริก หรือกับทางนี้เขาก็ลดให้ เพราะว่า ไม่มีบริษัทไหน แล้วก็ประเทศไหนที่ลด เขาเพิ่มทุกอย่าง เขาเพิ่ม ๑๐๐ บาท เพิ่ม ๒๐๐ บาท เจรจากันอย่างที่ผมบอก แล้วการไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจญ์ผมไม่ต้องรอคิว ไปทั่วโลกผมไม่ต้องรอคิว เขาเชิญเข้าไปเลย ไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจญ์ก็ได้พบเลย ซึ่งเขาให้เกียรติมาก ผมเรียนว่าผมก็อยากจะเชิญทูตทางรัฐมนตรีเขามาเที่ยวเมืองไทยบ้าง ก็จะบอกให้เป็นแขกของรัฐบาลเพื่อการเจรจา อันนี้ในฐานะที่ผมอยู่ตรงนี้ผมต้องทำให้ลดลง อย่างมาเลเซียเขาเงินอุดหนุนให้พี่น้องประชาชนของเขา ผมเองก็คงต้องหาวิธีการ แต่ทำอย่างไรต้องให้ถูกลง ในฐานะที่มาทำงานตรงนี้ก็พยายามที่เข้าใจระบบ แต่ผมตั้งมั่นว่า ผมทำให้ฮุจญาจ ทำให้ประชาชน ไม่ได้ทำให้บริษัท เพราะบริษัทผมไม่สน แต่เมืองไทยนี้มี ๙๐ กว่าบริษัท ปัญหาก็มี ปีที่แล้วก็มีบริษัทต่าง ๆ เราก็อยากจะมีมาตรฐาน เขาก็บอกไป จำกัดสิทธิ ผมเองผมก็เรียน อย่างสายการบินเหมือนกันครับ เมื่อก่อนเคยใช้สายการบิน พาณิชย์ก็มีปัญหาทิ้ง เพราะทางซาอุดีอาระเบียเขาไม่ยอม เรื่องสายการบินเขาไม่ยอม เด็ดขาด เพราะเคยใช้สายการบินพาณิชย์แล้วถูกทิ้งคาอยู่ที่สนามบินจำนวนมากหลายครั้ง ทางซาอุดีอาระเบียเขาเลยเอากติกานี้มา ก็แจ้งให้ท่านทราบ ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ก็ขอบคุณท่านสมาชิก ขอบคุณท่านรัฐมนตรีครับ วันนี้ได้ความรู้ บริการเต็มที่ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๓. เรื่อง การสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นายอนุชา บูรพาชัยศรี เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม นายกรัฐมนตรี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่ากระทู้ถามเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านภูมิธรรม เวชยชัย เป็นผู้ตอบ กระทู้ถามแทน ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ในการนี้เพื่อประโยชน์ในการตอบกระทู้ถาม แยกเฉพาะ ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนข้อมูลในการ ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะ ดังนี้ ๑. รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วีรพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม สำนักนายกรัฐมนตรี ท่านที่ ๒ นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และผมได้อนุญาตให้ประชาชนผู้มีส่วนร่วมเข้ารับฟัง การตอบกระทู้ถาม ดังนี้ ท่านที่ ๑ นางสาวฐิตารีย์ วาณิชวัฒนากุล ท่านที่ ๒ นางสาวชุลีภรณ์ กมลรัตน์ ท่านที่ ๓ สิบตำรวจโท บริรักษ์ อินธิรถ ไม่ได้มานะครับ และท่านที่ ๔ ท่านอนุสรณ์ บูรพชัยศรี เชิญท่านอนุชา บูรพชัยศรี ถามคำถามครั้งแรก เชิญครับ

นายอนุชา บูรพชัยศรี กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม อนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ จากกรุงเทพมหานคร ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณท่านประธานเป็นอย่างยิ่งที่ได้กรุณา บรรจุเรื่องกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่องของการสนับสนุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมในวาระการประชุมเช้านี้ด้วย และผมต้องขอขอบพระคุณท่านภูมิธรรม เวชยชัย เป็นอย่างสูง ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้กรุณามาตอบ คำถามแทนท่านนายกรัฐมนตรีในเช้านี้ครับ ก่อนที่จะไปถึงคำถาม ขออนุญาตที่จะให้พูดถึง เรื่องของข้อมูลพื้นฐานเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน เพราะว่ามีพี่น้องประชาชนผู้ที่ประกอบธุรกิจ ต่าง ๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับหลาย ๆ ส่วน ซึ่งในเบื้องต้น อยากจะเรียนอย่างครับว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือที่เราเรียกว่า Small Medium Enterprise หรือว่า SMEs ซึ่งจริง ๆ ตอนนี้มันก็รวมไปถึง Micro ด้วยในส่วนของ รายย่อย ถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสามารถในการ แข่งขันของประเทศ ซึ่งก็ถือเป็นยุทธศาสตร์ ๑ ใน ๖ ด้าน ที่รัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาได้ให้ความสำคัญ รวมกระทั่งรวมไปถึงถึงรัฐบาลชุดนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นยุทธศาสตร์ในด้านที่ ๒ และนอกเหนือ จากนั้นก็จะมีเรื่องของการที่ว่าบทบาทในการพัฒนา แล้วก็การสนับสนุนการเติบโตในมิติ ต่าง ๆ ที่สำคัญของ SMEs ก็มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนั้นในส่วนของ SMEs มีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงประเทศไทยอย่างเดียว แต่ว่าทั่วโลก ถือว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและของโลก ด้วยอย่างยิ่ง ถ้าเราดูในเรื่องของตัวเลข ท่านประธานครับ จะเห็นว่าจำนวนวิสาหกิจและ ปริมาณการจ้างงานในส่วนของ SMEs สูงมากถึงกว่า ๙๙.๕ เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แล้วใน ส่วนของการจ้างงานก็มีมากถึงเกือบ ๗๒ เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจากตัวเลขสถิติ จะเห็นว่า SMEs หรือว่า Micro SMEs มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเทศไทย นอกจากนั้นถ้าพูดถึงเรื่องของตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับทางด้านเศรษฐกิจเราก็จะพูดถึงเรื่องของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งประเทศก็คือ GDP Gross Domestic Product ณ วันนี้ Micro SMEs ทำผลผลิตหรือว่ามีส่วนของ GDP ถึงกว่า ๖ ล้านล้านบาท ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่ ณ ตอนนี้เกือบจะ ๓๖ เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ๓๕.๒ เปอร์เซ็นต์ตัวเลขที่ผมได้มาล่าสุด แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจ SMEs จะให้มีความเข้มแข็ง มีความยืดหยุ่นแล้วก็สามารถ ปรับตัวให้แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตอนนี้เราพูดถึงเรื่องของ Sustain Development ในการที่ จะมีการเติบโต ซึ่งก็แปลมาในส่วนของ BCG ก่อนหน้านี้ Bio Circular Green ณ วันนี้เรามา พูดถึง SDG เพื่อที่ให้มีความสากลมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าเราจะต้องมีการปรับตัวการแข่งขัน เพื่อที่จะได้มีการพัฒนาความสามารถของผู้ประกอบการ แล้วก็ยกระดับทักษะแรงงาน สมัยใหม่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภาพ แล้วก็ในส่วนประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Digital การพัฒนามาตรฐาน รวมไปถึงกันเข้าถึงช่องทางการตลาดในสมัยใหม่และในส่วน ของต่างประเทศด้วย สิ่งสำคัญก็คือรัฐบาลชุดที่เพิ่งผ่านมาให้ความสำคัญในการที่จะเดินหน้า ส่งเสริมรัฐวิสาหกิจทั้งรายย่อย รายกลาง และขนาดย่อมของไทยให้มีบทบาทเศรษฐกิจใน ทุกระดับ ซึ่งต้องบอกว่าได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ รวมถึงการจัดทำงบประมาณในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม MSMEs Micro Small and Medium Enterprise อย่างบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มากมายเลย ซึ่งในส่วนของแผนงานที่ได้ดำเนินการในรัฐบาลชุดที่ ผ่านมา ก็คือมีการตั้งเป้าหมายด้วยซ้ำไป เมื่อสักครู่ผมให้ตัวเลขท่านประธานไปครับว่า ณ ปัจจุบันนี้ในส่วนของ GDP สัดส่วนของ MSMEs มีส่วนที่จะทำให้ประเทศได้ถึงกว่า ๓๕ เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของรัฐบาลชุดที่ผ่านมามีนโยบายชัดเจนครับว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ มวลรวมของประเทศหรือว่า Micro SMEs มีต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมทั้งในน้อยกว่า ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ภายใน ๕ ปีข้างหน้า นั่นคือภายในปี ๒๕๗๐ จะต้องเพิ่มขึ้นจาก ๓๕ เปอร์เซ็นต์ขึ้นเป็น ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้จะทำให้ GDP ของประเทศกระเตื้องได้อย่างยิ่ง ในเรื่องของการที่จะ มีการส่งเสริมวิสาหกิจต่าง ๆ แนวทางผมขออนุญาตพูดถึง ๓ ประเด็นก่อนที่จะถึงคำถาม

นายอนุชา บูรพชัยศรี กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ก็คือว่าการส่งเสริมในการที่จะเติบโตครอบคลุมทุกกลุ่ม มีกลยุทธ์และแนวทางการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาธุรกิจในเรื่องของการ เริ่มต้นได้อย่างมั่นคง อันนี้เราพูดถึง Startup เราพูดถึงเรื่องของสิ่งต่าง ๆ ที่จะมีการเพิ่มขึ้น ในธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางด้าน Digital อื่น ๆ ยกระดับธุรกิจให้มี ศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลก ฟื้นฟูธุรกิจที่ประสบปัญหาให้ฟื้นตัว อันนี้สำคัญมาก หลังจากโควิด-๑๙ ที่ผ่านมา แล้วก็ช่วยเหลือธุรกิจที่ยังสามารถที่จะให้เดินต่อไปได้ อะไรที่ ไม่ได้ปรับตัวไม่เป็นอะไรครับก็ต้องปล่อยให้ล้มไป แต่อะไรที่เขาปรับตัวแล้ว แล้วเขายัง ต้องการอะไรอย่างนี้ก็มีส่วนที่จะต้องสามารถสนับสนุนเขาต่อเนื่อง นอกเหนือจากนั้น ก็จะต้องมีการสนับสนุนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับทางด้านสังคมผู้สูงอายุด้วยในอนาคต รวมถึงส่งเสริมการเกษตร ไม่ใช่ว่าเราจะทิ้งและเราไปเรื่องของสมัยใหม่ทั้งหมด คงจะต้องมี การส่งเสริมการเกษตรสู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ

นายอนุชา บูรพชัยศรี กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ คือการสร้างการเติบโตแบบมุ่งเป้าภายใต้กลยุทธ์และแนวทาง การขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของส่วนแบ่งการตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้น รวมถึงส่งเสริม เข้าสู่ระบบสากล

นายอนุชา บูรพชัยศรี กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นสุดท้ายก่อนเข้าคำถามของผม ก็คือว่าการพัฒนาสภาพแวดล้อม ให้สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโดยมีกลยุทธ์และแนวทางการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเราทราบ กันดีว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง สร้างความพร้อมของบุคลากร ไม่ว่าจะเป็น Upskill Reskill อะไรต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของการที่จะมีศูนย์กลางให้ข้อมูล Database ต่าง ๆ องค์ความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงสุดท้ายคือการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบที่มีอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ ที่เราพูดกันง่าย ๆ ว่า Ease of Doing Business ต่าง ๆ อันนี้เป็นส่วนที่จะต้องดำเนินการ ทั้งหมด คำถามของผมคำถามแรกก็ถือว่า ในรัฐบาลชุดปัจจุบันมีแนวทางในการที่จะสนับสนุน Micro SMEs ในลักษณะอย่างไรบ้าง มีการดำเนินการในลักษณะที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้เคย วางมาตรการไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งอย่างที่ว่าเรามีเรื่องของแผนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมซึ่งวางไว้ ๕ ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๖๖ นั่นคือสิ่งที่เป็นคำถามแรกที่อยากจะ ถามท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีครับ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ขอบคุณท่านอนุชา บูรพชัยศรี สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องขอบคุณที่ได้ให้ ความสำคัญและความสนใจกับธุรกิจขนาด Micro ขนาดกลาง ขนาดย่อม เพราะเห็นว่าเป็น รากฐานสำคัญอันนี้ก็เห็นด้วย ผมคิดว่าในประเทศที่เจริญแล้วเศรษฐกิจกลุ่มเล็ก กลุ่มย่อย กลุ่มกลาง เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการดูแลและการสนับสนุน เพราะเป็นรากฐานสำคัญในการ พัฒนาความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ในประเทศที่เจริญแล้วอย่างอิตาลีหรืออย่างหลาย ๆ ประเทศ SMEs เขาพัฒนาเติบโตขึ้นเป็นมูลค่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์ของการพัฒนาเศรษฐกิจของ ในประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นทิศทางที่ดีแล้ว และสิ่งสำคัญที่เรารับทราบมาส่วนหนึ่ง ก็อย่างที่ท่านอนุชาได้พูดไป เรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งมาคิดกันเดี๋ยวนี้ เรื่องนี้ได้คิดและได้ดำเนินการ มานานแล้วตั้งแต่หลายปีที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกฎระเบียบกระทรวงต่าง ๆ ให้ดำเนินการไป เพื่อให้ความสนับสนุนและส่งเสริมให้ SMEs มีประโยชน์และมีศักยภาพพอที่จะเป็นรากฐาน ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เพียงแต่ว่าในการดำเนินการในการจัดการต่าง ๆ เมื่อเราได้มาพบกับเขาแล้วได้คุยก็ยังไม่กฎระเบียบ มีอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย เนื่องจาก รัฐบาลต่าง ๆ ที่ผ่านมาแล้วได้ดำเนินการอย่างที่ท่านว่า วันนี้เราในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำหลัก ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เราคิดอย่างนี้มานานเหมือนกันครับ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ ถ้าจำไม่ผิด หรือถ้าจำกันได้พรรคไทยรักไทยเป็นคนที่ริเริ่มนิทรรศการ SMEs แล้วก็ได้เรียนเชิญ ผู้ประกอบการ SMEs มา แล้วก็ได้มีมาตรการในการที่จะดูแลมาตั้งแต่นั้นแล้ว เพราะฉะนั้น ตรงนี้ตรงกันครับ และเราก็ยังคิดอย่างนี้มาต่อเนื่องจนกระทั่งวันนี้เรามาเป็นพรรคเพื่อไทย เราก็แชร์อันนี้เป็นนโยบายที่หาเสียง เพราะฉะนั้นอยากจะกราบเรียนว่าทิศทางและ การดำเนินการเรายึดหลักอันนี้เป็นหลักเบื้องต้นในการที่จะทำงาน เห็นด้วยครับว่า ผู้ประกอบการที่ทำอยู่เวลานี้สิ่งที่สำคัญในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นตลาดใหญ่มาก แล้วก็เป็นเรื่องที่ถ้าไม่สามารถจัดการกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้ออำนวย SMEs ได้ SMEs ก็จะ สู้ไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าพลังที่มีอยู่มันสู้กับพลังของธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น วันนี้สำหรับพรรคเพื่อไทยเรายืนยันอยู่แล้วว่าเราจะเป็นรัฐที่สนับสนุน ไม่ใช่เป็นรัฐที่เป็น อุปสรรค เพราะฉะนั้นกฎระเบียบต่าง ๆ ท่านนายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่า อะไรทำได้เราทำเลย อะไรแก้ไขได้ให้เราแก้ไขเลย อะไรที่ยังแก้ไขไม่ได้ให้ไปหาวิธีการมา เพราะฉะนั้นขณะนี้เราก็พยายามดูกฎระเบียบต่าง ๆ ที่จะหาทางให้สามารถไปเอื้ออำนวยและ พัฒนา SMEs ให้มีศักยภาพสูงขึ้น อันนี้เป็นทิศทาง เป็นแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะเดินต่อ ผมกราบเรียนอย่างนี้ว่าวันนี้จริง ๆ กระบวนการที่ทำเรื่อง SMEs เราได้ทำหลายส่วนอยู่แล้ว รัฐบาลมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ SMEs มาก กระทรวงพาณิชย์ก็มี กระทรวงพาณิชย์ แต่ละกรมก็มี กระทรวงอุตสาหกรรมมี หลาย ๆ กระทรวงมีหมด แล้วยังมี สสว. วิสาหกิจ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ซึ่งเรามีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการจัดการ สิ่งที่เป็นอยู่เวลานี้ ท่านประธานครับ ก็คือต่างคนต่างทำ แล้วก็บางทีมันไม่ได้มาบูรณาการร่วมกัน แล้วไม่ได้ มาเห็นทิศทางจำเป็นสำคัญ ๆ จริง ๆ ว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไร อันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็น นโยบายหลักสำคัญที่รัฐบาลพยายามจะทำอยู่แล้วก็พยายามจะผลักดันให้ สสว. ซึ่งท่าน มีคำถามต่อ สสว. ให้ทำหน้าที่ในการที่จะประสานเชื่อมต่าง ๆ นี้ให้ได้ วันนี้ สสว. จริง ๆ เรา ก็มีการไปลงทะเบียนเป็นสมาชิกอยู่จำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ขณะนี้เราได้รวมและเรา พยายามที่จะคัดสรรตัว SMEs ทั้งหมดที่เข้ามาลงทะเบียนให้ดูว่าเป็น SMEs ที่มีศักยภาพ เช่น มีวงเงินเป็นอย่างไร มีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร เรารู้ว่า SMEs ที่สู้ไม่ได้เพราะ เข้าไม่ถึงแหล่งทุน เพราะฉะนั้นขณะนี้เราได้พยายามจะจัดทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อจะช่วยให้ SMEs สามารถดำเนินการได้ มาตรการวันนี้ที่เราทำไปบ้าง อย่างเช่น เราพยายามจะให้ แต้มต่อกับ SMEs ในการเข้ามาประมูลหรือเข้ามาเสนอตัวที่จะทำงานของภาครัฐซึ่งเป็น ภาคใหญ่มากที่สุดภาคหนึ่งในการที่จะทำงาน อย่างเช่น SMEs ที่เข้าร่วมลงทะเบียนกับ สสว. แล้วจะจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้กับ สสว. สามารถเสนอราคาได้สูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไป ไม่เกินร้อยละ ๑๐ หมายความว่าถ้าต่ำสุดของเขาเสนอได้เท่าไร SMEs สามารถเสนอได้แล้ว ก็ได้แต้มต่อ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าหากว่าผู้ประกอบการนั้นสามารถยืนยันได้ว่ามีสินค้า และบริการของตัวเองรับรองได้ว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย จากสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยก็สามารถเสนอราคาได้สูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปไม่เกินร้อยละ ๑๕ เพราะฉะนั้นนี่คือพยายามเอาแต้มต่อให้ไปสู้ ถ้าเราสู้กับบริษัทใหญ่เราสู้ไม่ได้ แต่เรามี แต้มต่อตรงนี้ทำให้โอกาสของ SMEs ในการที่จะได้งานของฝ่ายรัฐมีมากขึ้น อันนี้ก็เป็น ทิศทางที่เรากำลังทำอยู่ นอกจากนั้นยังมีบางเรื่องคือถ้ามีการจัดซื้อจัดจ้างในวงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ให้เป็นหน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ SMEs ได้เป็น ลำดับแรกก่อน ถ้าในวงเงินนี้ไม่ต้องไปแข่งกับใคร เราสามารถเลือกสรร SMEs ที่มีศักยภาพ ทำได้ เขาก็จะมีโอกาสเข้าสู่กิจการการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐได้ง่ายกว่า เร็วกว่า อันนี้ก็เป็น เรื่องที่เราพยายามทำ แล้วก็อยากกราบเรียนว่านอกจากนั้นเรายังพยายามทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ในมิติต่าง ๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะไปช่วยเหลือในการที่จะทำงานแล้วก็ พัฒนาศักยภาพของเขาให้เติบโตมากขึ้น เราร่วมมือกับแบงก์อีกหลายแห่งทั้งหมดประมาณ ๘ แบงก์ด้วยกันในการที่จะมาร่วมมือในการจัดดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้ SMEs มีโอกาส ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สามารถไปดำเนินการ แล้วก็จัดการพัฒนาศักยภาพตัวเองได้สูงขึ้น โดยรวมกราบเรียนท่านอย่างนี้ว่าอันนี้เป็นนโยบาย ถามว่าจะต่อเนื่องต่อไปหรือจะมีกรอบ ระยะเวลาเท่าไร ต้องกราบเรียนท่านว่าไม่มีกรอบระยะเวลา เพราะว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ก็คือเราจะทำต่อเนื่องจนกว่าการเปลี่ยนแปลงและเห็นศักยภาพของ SMEs มีความแข็งแรง ค่อยมาทบทวนมาตรการดูว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร มากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นวันนี้มาตรการนี้ ยังเป็นมาตรการที่ยึดถือกันมาต่อเนื่องแล้วก็ยังคงเดิม เราก็จะมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของ SMEs ให้มีความแข็งแรงขึ้นจนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแล้วค่อยทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ตอบโดยรวม ๆ เท่านี้ แต่ว่าข้อมูลรายละเอียดผมไม่ได้พูดเยอะ เพราะผมเห็นท่านได้เสนอ เยอะอยู่แล้ว แล้วก็เป็นข้อมูลจริงที่เราก็สอดรับกัน สอดคล้องกันอยู่แล้ว ถ้ามีรายละเอียด ต่าง ๆ สสว. ก็ยินดีจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบพระคุณครับ คำถามที่ ๒ เชิญครับ

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน อนุชา บูรพชัยศรี ท่านประธานครับ พอดีท่านภูมิธรรม เวชยชัย ได้พูดถึงเรื่องของแหล่งเงินทุน ซึ่งแน่นอนครับ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการที่จะทำให้ Micro SMEs สามารถที่จะเดินหน้า ธุรกิจได้ทุก คราวนี้ก็มีหลายส่วนได้มีการนำเสนอข้อมูล ท่านพูดถึงเรื่องการที่จะเข้าถึงแหล่ง เงินทุน ในปัจจุบัน Micro SMEs ส่วนใหญ่ก็จะมีแหล่งเดียวก็คือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ทางด้านสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรัฐเอง หรือว่าในส่วน ของธนาคารเอกชน หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ แต่สิ่งที่อยากจะนำเสนอก็คือในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับแหล่งเงินทุนที่เกี่ยวกับตลาดทุน ไม่ใช่เรื่องของการกู้ยืมเงินแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการที่จะสนับสนุน Micro SMEs ในลักษณะคล้าย ๆ กับต่างประเทศ คือ ในส่วนที่จะมีระดมทุนผ่านกองทุน กองทุนนี้ไม่ใช่กองทุนที่จะให้รัฐบาลมาตั้งหรืออย่างไร แต่เป็นกองทุนที่ให้เอกชนเขาสามารถดำเนินการได้พูดง่าย ๆ เหมือนกับว่าเป็น Startup Funding แล้วก็ผ่านกลไกของตลาดทุนทั่ว ๆ ไป มี ก.ล.ต. ก็คือคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ดำเนินการ แล้วก็ทำในเรื่องของการที่จะ Incubate เขา คือทำอย่างไรที่จะให้ Startup ในส่วนของ MSMEs สามารถที่จะก้าวเดินเป็นก้าวแรกได้ แล้วก็ให้เขาเกิดความเข้มแข็ง เพราะว่า ณ ปัจจุบันนี้ถ้าสมมุติว่าเกิดเรื่องของตัว Financial Sheet หรือว่า Statement อะไรต่าง ๆ ไปถึงทางด้านสถาบันการเงินแล้วสุดท้ายถ้ามัน ไม่ดีจริงก็ไม่สามารถจะเข้าแหล่งเงินทุนได้ตามที่ต้องการอยู่ดี แต่ถ้าเรามีกองทุนในลักษณะ ของ Venture Capital ที่จะให้เขา Startup ได้เดินไป แน่นอนครับมีความเสี่ยง แต่ทั่วโลก เขาก็เช่นเดียวกัน Microsoft Facebook Instagram Google อะไรต่าง ๆ ทั้งหมดเขาเริ่ม มาจากตรงนี้ครับ เขาไม่ได้เริ่มด้วยการที่ว่าเขาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่บ้านเรามันเป็น ในลักษณะแบบนั้น ถ้าจะระดมทุนผ่านทางด้านมหาชนหรือว่า Public ก็จะต้องเข้า IPO อย่างเดียว เราควรที่จะต้องคิดมาเพิ่มเติมในเรื่องของการที่จะสนับสนุนแหล่งเงินทุนจาก การที่มีการตั้งกองทุนโดยที่ไม่ใช่จากรัฐบาล แต่เป็นการตั้งกองทุนจากเอกชนเพื่อที่จะได้มี การดำเนินการให้กับทางด้าน Startup ต่าง ๆ ที่ตอนนี้ Micro SMEs มีมากมายเลยครับ ในการที่จะเข้าถึงตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย ผมขออนุญาตจะพูดซ้ำอีกทีหนึ่งเพื่อเน้นตรงนี้ว่า มีการควบคุม กำกับ ดูแล อาจจะเป็น ก.ล.ต. หรือหน่วยงานอะไรก็แล้วแต่ที่จะต้องออกแบบมา อันนี้ก็ต้องขอฝากทางด้านสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และทาง ด้านกระทรวงอุตสาหกรรมช่วยคิดออกแบบในเรื่องของวิธีการตรงนี้ด้วย ผมเหลือเวลาไว้ อีกสักนิดหนึ่งขออนุญาตที่จะปิดท้ายอีกสักเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วยครับ ท่านประธาน ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรัฐมนตรีตอบครับ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานครับ กราบเรียนท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติที่ได้ ตั้งคำถามครั้งที่ ๒ เราทราบดีว่าปัญหาที่ SMEs เผชิญในเรื่องแหล่งเงินทุน แล้วก็เป็นอย่าง ข้อเสนอที่ท่านได้เสนอมา สิ่งสำคัญที่เราเห็นตรงกันว่าเราจะดำเนินการอย่างไร ในคำถาม ที่ท่านพูดถึงที่เป็นแหล่งเงินทุนจาก LTF ซึ่งเป็นกองทุนที่จะให้ประชาชนเข้ามาในส่วนร่วม โดยมีผลประโยชน์ตอบแทนในการนำไปใช้จ่ายลดหย่อนภาษี แล้วก็ร่วมกับรัฐเพื่อเสริม สภาพคล่องผ่านสินเชื่อกับธนาคารของรัฐให้แก่ SMEs ผมกราบเรียนอย่างนี้ครับว่าจริง ๆ กองทุน LTF เป็นเรื่องที่อยู่ในสังกัดของกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลังน่าจะมีข้อมูล แล้วก็ได้คุยกับท่านได้มากกว่า อย่างไรก็ดีในส่วนของผม ผมมองอย่างนี้ครับ ผมดูแล สสว. แล้วก็ดูแล SMEs ในกระทรวงที่รับผิดชอบอยู่หลายกระทรวง ก็อยากกราบเรียนว่าปัญหา สำคัญประการหนึ่งของผู้ประกอบการ SMEs ในขณะนี้จริง ๆ ก็มีเรื่องการเข้าถึงการจัดซื้อ จัดจ้างภาครัฐโดยใช้แหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs นั้น รัฐบาลและ สสว. ได้เป็น หน่วยงานรับผิดชอบที่จะสนับสนุนให้ SMEs ดำเนินการในงานด้านนี้ การที่เราจะสามารถ ทำให้เขาเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างโดยเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนเพื่อลดปัญหาเรื่องเงินทุนให้กับ ผู้ประกอบการ โดย สสว. จะร่วมมือกับทางสถาบันการเงินต่าง ๆ เมื่อสักครู่ผมได้เกริ่น ไปแล้วข้างต้น วิธีที่เราแก้ปัญหาขณะนี้ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเราก็คือเราพยายาม จะเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนสถาบันการเงินขณะนี้ จำนวน ๘ แห่งด้วยกัน เช่น ธนาคารกรุงไทย SME Bank ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต โดยให้การสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการ เหล่านี้ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ทั้งช่วงก่อนรับงานและช่วงหลังสัญญา รวมถึงเงินทุน หมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องได้ ในปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ เราเชื่อมโยงผู้ประกอบการให้เข้าถึง แหล่งเงินทุนได้รวมทั้งสิ้นถึง ๑๕,๔๑๗.๕๐ ล้านบาท และในปี ๒๕๖๖ แค่ในช่วงมกราคม ถึงกันยายน ๒๕๖๖ เราทำได้รวมทั้งสิ้นถึง ๔,๙๓๘.๗๘ ล้านบาท เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คือ แนวทางที่เราได้ดำเนินการแล้วก็ได้เอาใจใส่ในการดำเนินงาน ทั้งนี้ยังมีการวางแนวทาง ในการช่วยเหลือ SMEs อยู่อีก เช่น แนวทางแก้ไขหนี้ในระบบเราทราบดีว่ามี SMEs จำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ กลายเป็นหนี้เสีย มีประวัติค้างอยู่ในเครดิตบูโร อันนี้เราก็มี มาตรการช่วยเหลือพักหนี้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ แล้วก็ โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจเป็นการดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ SMEs

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ แนวทางแก้ไขหนี้นอกระบบ รัฐบาลได้กำหนดให้มีโครงการลงทะเบียน เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มาตรการช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ผ่าน กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาลด้วยมาตรการสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือรองรับลูกหนี้นอกระบบ โดยธนาคารออมสินและธนาคาร ธ.ก.ส. รวมไปถึง โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชนเพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบโดยธนาคารออมสินเราก็ได้ให้ หน่วยงานเหล่านี้เข้ามารับผิดชอบและช่วยผลักดัน และแนวทางการปรับโครงสร้างระบบ การให้สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อควบคู่ไปกับการแก้ไขหนี้ อันนี้ก็ได้มีการดำเนินงาน นะครับ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น แนวทางการยกระดับการค้ำประกันสินเชื่อ โดยกระทรวงการคลังร่วมกับ ธปท. อยู่ระหว่างเสนอแนวทางดังกล่าวอยู่ ซึ่งอันนี้ถ้าผ่าน มาได้ก็จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ได้ อันนี้ก็เป็น ส่วนหนึ่ง หรือการเข้าไปดูเรื่องของเครดิตบูโรให้เพื่อจะทำให้เขาได้ผ่านพ้นสิ่งต่าง ๆ ซึ่งจะ เป็นอุปสรรคต่อการที่เขาจะทำงานต่าง ๆ ได้มากขึ้น กราบเรียนว่าขณะนี้แม้เราเองจะไม่ได้ เข้าไปดูเรื่องกองทุน LTF โดยตรง อันนั้นเป็นหน้าที่คนอื่น แต่เราก็ไม่เกี่ยงงาน เราก็พยายาม ทำหน้าที่เราให้เป็นการสนับสนุนมากขึ้น และผมเชื่อว่าถ้าเรามีการประสานงานและพูดกัน LTF และพูดกับกระทรวงการคลังที่ชัดเจนขึ้น ทิศทางมันก็จะไปในทิศทางเดียวกันแล้วก็จะมี ส่วนช่วยได้เยอะ กระทรวงอุตสาหกรรมก็เหมือนกัน กระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้เข้ามา ส่งเสริมให้ความสำคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SMEs ในการประกอบ ธุรกิจและสร้างความเข้มแข็งทางการเงินผ่านมาตรการต่าง ๆ เหมือนกัน สิ่งที่กระทรวง อุตสาหกรรมได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียนผ่านสินเชื่อระยะยาวตามสำหรับวงเงินสินเชื่อ ไม่เกิน ๕ ล้านบาท โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน ๑๐ ปี หรือสินเชื่อพิเศษที่วงเงิน สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน ๒ ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน ๕ ปี เพราะฉะนั้นกราบเรียน ท่านว่าเป็นเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของรัฐบาลและขององค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้อง และเราแบ่ง หน้าที่การทำ ส่วนไหนทำได้ก็ทำในหน้าที่ของตัวเองไป สำหรับของผมที่เกี่ยวข้องในแง่ของ สสว. แล้วก็หน่วยงานประสานงานที่อยู่ในกำกับดูแลเราพยายามจะจัดการต่าง ๆ เพื่อให้ SMEs ซึ่งเราเห็นว่าเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย รายกลางก็ดีเป็นฐานเศรษฐกิจของ ประเทศ เพราะฉะนั้นวันนี้เราประกาศตัวเป็นรัฐสนับสนุน ไม่ใช่รัฐอุปสรรค เพราะฉะนั้นเรา พยายามขจัดข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เป็นปัญหา แล้วก็พยายามจะสร้างกฎระเบีบบ ข้อบังคับที่เอื้ออำนวยให้ได้ทำ อันนี้สบายใจได้ครับ ผมคิดว่าเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลและ กำลังดำเนินงานต่าง ๆ อยู่ หากมีอะไรที่ยังขาดตกบกพร่องหรือมีข้อเสนอแนะ ผมเชื่อว่า ประชาชนด้วยกันเอง ผู้ประกอบการ SMEs หรือสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติที่ให้ความห่วงใย เสนอแนะได้ เรายินดีรับไปและนำไปฏิบัติต่อไป ขอบคุณครับ

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธาน ขออนุญาตใช้เวลา อีกนิดเดียวครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๒ คนนี้เลยแล้วนะ

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ฝากไว้นิดเดียวครับท่านประธาน ก็คือในส่วนของ SMEs ตอนนี้เรามีผู้ประกอบการกว่า ๓,๒๐๐,๐๐๐ ราย ต้องบอกว่าการจ้างงาน เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในจำนวนนี้มีการจ้างงานในส่วนของ MSMEs กว่า ๑๓ ล้านคน ต้องบอกว่าในส่วนของช่วงที่ผ่านมามีการไปทำแบบสำรวจ มีการทำ Survey ต้องบอกว่า MSMEs เขามีความกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องของสถานการณ์การจ้างแรงงานและสิ่งที่สำคัญ ก็คือเรื่องของแนวโน้มในการปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งถ้าถามว่ามีการสอบถามมาว่า จะดำเนินการอย่างไรหาก MSMEs พวกนี้ได้รับผลกระทบ เขาบอกเลยว่าเขาจะลดจำนวน แรงงานที่มีอยู่และให้ทำหน้าที่ได้หลายหน้าที่ หรือว่าจะต้องปลดออก อันที่ ๒ ก็คือจะยกเลิก สวัสดิการ ไม่ว่าจะเป็นโบนัส เงินเบี้ยเลี้ยง อาหารกลางวัน รวมกระทั่งไปถึงเปลี่ยนรูปแบบ การจ้างงานประจำให้เป็นรายวันหรือรับเหมา อันนี้ก็อยากที่จะฝากท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่อาจจะต้อง เดินหน้าด้วยความรอบคอบ เพราะว่าตอนนี้รัฐบาลเองหลังจากที่มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาแล้วก็ยังมีความประสงค์ที่จะเพิ่มเติมอีกในเรื่องของการที่จะปรับค่าแรง ซึ่งอันนี้เป็นส่วนที่ ทางด้าน MSMEs ได้สะท้อนภาพออกมาว่าอาจจะเป็นประเด็นในอนาคตในเรื่องของการที่จะ ขยับขยายหรือการสนับสนุน MSMEs ถ้าท่านประธานจะให้ท่านรองนายกรัฐมนตรีได้กรุณา ตอบตรงนี้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญ นิดหน่อยครับท่านรัฐมนตรี

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตนิดเดียว ไม่มาก พอดีได้พูดถึงเกี่ยวพัน ต้องขอบคุณนะครับที่ให้ความห่วงใย SMEs แล้วก็มีมาตรการเสนอให้รัฐบาล แต่ผม กราบเรียนยืนยันว่าท่านสบายใจได้ รัฐบาลได้คำนึงถึงอันนี้อยู่ แต่ว่าการดูเรื่องการขึ้นค่าแรง เป็นการดูในเชิงความเหมาะสม ถูกต้อง ในฐานะเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งที่ยังมีชีวิต เขาก็ต้องการ มีเงินรายได้เงินเดือนที่สูงขึ้น ผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบก็น่าเห็นใจ แต่ผมคิดว่างานนี้ต้องงานให้กว้างกว่า ถ้ามองเฉพาะส่วนการขึ้นค่าแรงงานกับคนที่จะได้ คนจะเสียนี้จะเป็นปัญหาอย่างที่ท่านพูดมาทั้งหมดแน่นอน แต่ว่ารัฐบาลนี้เห็นทั้งระบบ แล้วการที่จะสามารถทำให้ GDP ประเทศเพิ่มขึ้น การที่จะสามารถอัดฉีดบางอย่างลงไป อย่างเช่นโครงการ Digital Wallet เพื่อจะเพิ่มกำลังซื้อ มันจะไปเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มวงจร ทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่กว้างขวางขึ้นสูงขึ้น ผมคิดว่าการมองเรื่องที่รัฐบาลกำลังทำ จริง ๆ ถ้าเห็นและเข้าใจเจตนาจะเห็นภาพรวมทั้งหมด รัฐบาลต้องใช้หลายมาตรการที่จะรวมกัน หัวใจสำคัญคือทำให้เศรษฐกิจเติบโตและแข็งแรง ถ้าเศรษฐกิจเติบโตและแข็งแรงผมเชื่อว่า ผู้ประกอบการพร้อมจ่าย เพราะถ้าเศรษฐกิจเติบโตแข็งแรงกำลังซื้อของประชาชนดี กิจการ ต่าง ๆ ก็จะต้องเติบโตขึ้น กิจการต่าง ๆ เติบโตขึ้นก็ต้องการกำลังที่มาดำเนินการให้มากขึ้น ถ้ามองเห็นทั้งระบบแบบนี้จะไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าทุกอย่างหยุดนิ่งและไปเพิ่มเงินให้กับ ผู้ใช้แรงงานอันนี้เป็นปัญหาแน่ ผมคิดว่าต้องมองทั้งโครงข่ายทั้งหมดและทั้งระบบ และเห็น การเติบโตที่ทุกอย่างมีส่วนเกี่ยวพันกัน เพราะฉะนั้นถ้าทำสิ่งนี้ได้แข็งแรงขึ้น ผมว่า ผู้ประกอบการ SMEs เขาก็จะได้เติบโตขึ้น เขาคงไม่กังวลกับค่าแรงที่จะเพิ่มขึ้น เพราะต้อง ไปเพิ่มกำลังการผลิตเขาเพื่อจะตอบสนองกำลังซื้อที่สูงขึ้น อันนี้ก็จะดูอย่างรอบคอบ ต้องขอบคุณในความปรารถนาดีและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ก็จะรับไปพิจารณา ขอบคุณท่านประธานที่กรุณาให้เวลาเพิ่มขึ้นอีก

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านสมาชิก ท่านรองนายกรัฐมนตรี ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๔. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๕๗ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาคลอง ๓๐ เมตร อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายศาสตรา ศรีปาน เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มี หนังสือแจ้งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดภารกิจสำคัญ ที่ได้ในการ นัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วทำให้ไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามได้ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ ออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๗๐ วรรคสอง

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๕. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๖๐ เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาน้ำเสีย บริเวณคลองหัวลำโพง ตลาดคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร นายภัณฑิล น่วมเจิม เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มี หนังสือแจ้งว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดภารกิจที่ ได้มีการนัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามได้ จึงขอเลื่อนการตามกระทู้ ถามออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๗๐ วรรคสอง

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๖. กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ ๑๖๑ เรื่อง โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

สำนักรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งว่า รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยติดภารกิจสำคัญ มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน เนื่องจากรัฐธรรมนูญช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทยติดภารกิจสำคัญ จึงขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามออกไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ตามข้อบังคับ ข้อ ๑๗๐ วรรคสอง สำหรับวันนี้จบการพิจารณากระทู้ ถามแยกเฉพาะครับ ขอปิดการประชุมครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม ไม่มี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๓ รับรองรายงานการประชุม ไม่มี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ไม่มี

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

จากการประชุมเมื่อวานนี้ สมาชิกได้เสนอให้มีการขอเปลี่ยนระเบียบวาระ ๕.๕๐ ขึ้นมาพิจารณาก่อนในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบให้เปลี่ยนระเบียบวาระได้นะครับ ผมจึง ขอให้ดำเนินการประชุมตามที่ได้ตกลงไว้ เป็นระเบียบวาระที่ ๕

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องที่ค้างพิจารณา

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๕.๕๐ ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาแนวทางตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม นางสาวขัตติยา สวัสดิผล เป็นผู้เสนอ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอเชิญผู้เสนอแถลงหลักการและเหตุผลครับ

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพคะ ดิฉัน นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยค่ะ ดิฉันขอเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม โดยที่สภาพการณ์ในปัจจุบัน สังคมไทย มีความขัดแย้งทางความคิดที่ต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้มีนักศึกษาและประชาชนต้องถูก ดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องทางการเมืองจำนวนมาก ซึ่งแนวทางที่จะนำมาใช้ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ต้องคดีดังกล่าว ส่วนหนึ่งคือการตรากฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งกฎหมายนิรโทษกรรมในอดีตถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายบริหารที่มาจากการ ยึดอำนาจ โดยตราเป็นพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมให้กับตนเองผ่านสภาที่มาจากการแต่งตั้ง แต่ในระยะหลังได้บัญญัติ เรื่อง การนิรโทษกรรมไว้ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และได้มีการนิรโทษ กรรมการกระทำทั้งในอดีตและการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ดังเช่นตามรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ แต่บางครั้งกฎหมายนิรโทษกรรมได้นำมาใช้เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติ โดยการนิรโทษกรรมให้กับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่ออกมาต่อต้านการบริหาร ประเทศจากการยึดอำนาจของฝ่ายทหาร และล่าสุดได้มีข้อเสนอให้นำกฎหมายนิรโทษกรรม มาใช้ในรูปแบบและแนวทางเพื่อนำประเทศไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ อันเนื่องมาจาก ความแตกต่างทางความคิดและความเห็นทางการเมืองที่ต่างกัน โดยมีมูลเหตุหรือปัจจัย การกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับความคิดเห็นทางการเมือง อย่างไรก็ดีค่ะปัญหาอยู่ที่ว่า เหตุการณ์หรือการกระทำใดบ้างที่สมควรจะได้รับการนิรโทษกรรม อันจะนำสังคมไปสู่ ความปรองดองสมานฉันท์ดังกล่าวที่มิได้ก่อให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานขึ้นใหม่ และจะ นำพาประเทศไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยอีก ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ในอดีตและสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่จะเสนอและตราขึ้นใช้บังคับเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล และได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน และมีความชัดเจนในองค์ประกอบของกฎหมาย ทั้งในแง่ของเหตุการณ์และช่วงเวลาเกิดเหตุ กลุ่มบุคคลและประเภทคดีที่จะได้รับ นิรโทษกรรม ซึ่งจะทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นไปอย่างรอบคอบรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนับว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน ในอันที่จะสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองและเป็นไปเพื่อรักษา ความสงบเรียบร้อยและสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม กรณีถือเป็นเรื่องจำเป็น เร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ แต่เพื่อมิให้การตรากฎหมายดังกล่าวกลายเป็นการสร้างความ ขัดแย้งขึ้นใหม่ จึงสมควรให้มีการพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และแนวทางที่จะเป็นสาระสำคัญ ของการนิรโทษกรรมให้ได้ยุติเสียก่อนที่จะมีการเสนอเป็นร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎร แม้ในอดีตจะเคยมีการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์มาแล้ว โดย คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อสร้างความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. โดยมีข้อเสนอให้มีการนิรโทษกรรมด้วยก็ตาม แต่บริบททางการเมืองและมูลเหตุ แห่งความขัดแย้งมีความแตกต่างกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงต้องดำเนินการให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานคะ ความแตกต่างหลากหลายทางความคิดเป็นเรื่องปกติที่มีอยู่ ในทุกสังคมค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีภาพฝันของหน้าตาสังคมที่ดีไม่เหมือนกัน ความแตกต่าง เหล่านี้ค่ะที่มันนำไปสู่ความเห็นที่แตกต่างในทางการเมือง และที่ใดที่มีความแตกต่าง ที่นั่น ย่อมมีความขัดแย้งตามมา ซึ่งเมื่อมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม การมีความขัดแย้งจึงถือเป็น เรื่องปกติ เราไม่มีวันที่จะขจัดมันให้หายไปได้ ดังนั้นการทำให้ความขัดแย้งหายไป หรือการ กดความขัดแย้งนั้นไว้ไม่ให้ปรากฏจึงไม่ใช่โจทย์ของสังคมที่มีอารยะ แต่โจทย์ที่ถูกต้องของ สังคมที่มีอารยะคือการทำให้ผู้คนอยู่ร่วมกันได้กับความขัดแย้ง ทำให้คนสามารถที่จะขัดแย้ง กันได้โดยไม่ต้องฆ่ากัน ไม่ต้องทำร้ายทำลายกัน ไม่ต้องจำกัดสิทธิเสรีภาพของกันและกัน และไม่ถูกคุกคามให้เกิดความกลัวจากการมีความคิดที่แตกต่าง ท่านประธานคะ โจทย์ของ สังคมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งคือการออกแบบสภาพแวดล้อมทางการเมืองไม่ว่าจะเป็น กฎหมาย สถาบัน หรือกระบวนการทางการเมือง เพื่อให้พลเมืองสามารถที่จะเห็นต่าง ทะเลาะหรือขัดแย้งกันได้ และเพื่อให้พลเมืองสามารถที่จะตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์อำนาจ รัฐได้โดยไม่ต้องกลัวการถูกเล่นงานจากผู้มีอำนาจหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะโดยการใช้ กฎหมายปิดปาก หรือการจับไปขังในเรือนจำให้สิ้นเสรีภาพอย่างไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมา สังคมไทยผ่านช่วงเวลาของความขัดแย้งทางการเมืองแบบแบ่งขั้วอย่างรุนแรงและซึมลึก อยู่ในสังคมไทยมากว่า ๒๐ ปี ตั้งแต่สงครามสีเสื้อ การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. การรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ มาจนถึงการชุมนุมของกลุ่มคนรุ่นใหม่เมื่อปี ๒๕๖๓ และปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาของความขัดแย้งหลายระลอกที่ดิฉันกล่าวมาค่ะ มีประชาชนจำนวนมากได้ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อแสดงความคิดเห็น แล้วก็มีประชาชน อีกจำนวนมากเช่นกันที่ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนน โดยมีเหตุผลและแรงจูงใจทาง การเมือง แต่ท่านประธานที่เคารพคะ เขาเหล่านั้นกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถูกคุกคาม เพื่อปิดปากและจำกัดสิทธิเสรีภาพด้วยกฎหมายของรัฐ ซึ่งนักวิชาการสภาวะแบบนี้ว่า นิติสงคราม ภายใต้นิติสงครามที่รัฐไทยดำเนินกับประชาชนต่อเนื่องมายาวนานกว่า ๒๐ ปี ส่งผลให้ปัจจุบันมีประชาชนจำนวนมากถูกรัฐทำให้กลายเป็นผู้ต้องหาทางการเมือง นักโทษ ทางการเมือง และผู้ลี้ภัยทางการเมือง คำถามของดิฉันคือสังคมจะเดินหน้าไปอย่างมั่นคง และมีเอกภาพได้อย่างไร หากเราหันกลับไปมองข้างหลังแล้วเรายังเห็นคนไทยร่วมชาติ ถูกพันธนาการโดยโซ่ตรวนทางกฎหมายและถูกขังอยู่ในเรือนจำเป็นจำนวนมาก คำถามของ ดิฉันคือเราจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร เมื่อเราหันกลับไปมองเราเห็นเยาวชนจำนวนมาก คนที่เป็นอนาคตของชาติต้องเดินขึ้นศาลต่อสู้คดีอีกหลายปี ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อีกหลายปี ต้องลี้ภัยไปต่างบ้านต่างเมืองอีกหลายปี แทนที่พวกเขาจะได้เติบโตและใช้ ศักยภาพที่มีมาร่วมกันพัฒนาประเทศของเรา ท่านประธานที่เคารพคะ เมื่อรัฐบาลชุดนี้ เข้ามาบริหารประเทศ หนึ่งในวาระหลักที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน ก็คือจะคลี่คลาย ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและเป็นโซ่ตรวนที่พันธนาการสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งใน ความเห็นของดิฉันหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะสามารถปลดโซ่ตรวนดังกล่าวได้ นั่นก็คือการออก พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เพื่อที่จะลบล้างความผิดให้กับประชาชนทุกฝ่ายที่ออกมาแสดง ความคิดเห็นหรือเคลื่อนไหวด้วยแรงจูงใจทางการเมือง แต่กลับถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมาย ต่าง ๆ ในความเห็นของดิฉันการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมจะเป็นจุดเริ่มต้นในการ พาสังคมไทยเดินต่อไปข้างหน้าโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง บรรทัดฐานใหม่ว่าเราทุกคนสามารถทะเลาะ สามารถเห็นต่าง และสามารถขัดแย้งกันได้ ภายในกรอบกติกา โดยที่ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกคุกคามหรือปิดปากด้วยกฎหมายต่อไป ท่านประธานที่เคารพคะ ที่ดิฉันกล่าวมาคือเหตุผลที่ดิฉันในฐานะตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ขอยื่นเสนอญัตติด่วนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อที่จะพิจารณาศึกษาแนวทาง การตรากฎหมายนิรโทษกรรม แน่นอนค่ะดิฉันทราบดีว่าขณะนี้มีพรรคการเมืองบางพรรค ได้ยื่นร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับของตนเองเข้าสภา และในขณะเดียวกันในฝั่ง ของภาคประชาชนก็ได้มี Campaign รวบรวมรายชื่อของประชาชน เพื่อมาสนับสนุนร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับประชาชน อันทำให้การเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ชุดนี้ของดิฉัน อาจถูกตั้งคำถามได้ใน ๒-๓ ประเด็นค่ะ

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ฝั่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมอาจจะโจมตีว่า นี่คือ ความพยายามที่จะนำไปสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรม อันจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง บรรทัดฐานที่ผิดให้กับสังคมไทยหรือไม่ โดยกังวลว่าในอนาคตหากใครทำอะไรผิดก็ไม่ต้อง หวาดกลัวกฎหมายอีกต่อไป จะแสดงออกอย่างไรก็ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงกรอบกฎหมาย บ้านเมือง เพราะในที่สุดแล้วในอนาคตก็จะมีการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมมาลบล้าง ความผิดอยู่ดี

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้จะถือเป็นการยื้อเวลา โดยเสียงข้างมากของฝั่งรัฐบาลหรือไม่

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ คือฝั่งของญาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อที่ถูกใช้ความรุนแรง โดยรัฐ อาจมีความกังวลว่าจะมีการยัดไส้นิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สลายการ ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีการเสียชีวิตหรือไม่ ดิฉันขอตอบข้อสงสัยดังนี้ค่ะ

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นแรก การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมไม่ใช่การสร้างบรรทัดฐาน ที่ผิด ไม่ได้ทำให้คนไม่หวาดกลัวการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นการทำลายขื่อแปบ้านเมือง แต่มันเป็นการปลดโซ่ตรวนที่ทำให้สังคมไทยเดินไปข้างหน้าไม่ได้ และเป็นการสร้าง บรรทัดฐานใหม่ให้กับรัฐและสังคมว่าความเห็นต่างทางการเมืองไม่ใช่อาชญากรรมที่ต้อง ถูกลงโทษอีกต่อไป ดิฉันขอยกตัวอย่างกรณี ๖๖/๒๓ ที่มีคนไทยจำนวนมากเข้าป่าจับอาวุธ ทำสงครามกับรัฐไทย ยาวนานหลายปี โดยมีสาเหตุมาจากความเห็นต่างในอุดมการณ์ทางการเมืองและเป็น การตอบโต้ต่อความรุนแรงโดยรัฐ จนมีการบาดเจ็บและสูญเสียจำนวนมาก คนไทยจำนวนมาก ถูกตราหน้าว่าเป็นศัตรูของรัฐ มีความผิดร้ายแรงจนถึงขั้นประหารชีวิตค่ะ แต่สุดท้ายก็มี การออกกฎหมายที่เราเรียกกันว่า ๖๖/๒๓ ในสมัยรัฐบาลของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่เข้าร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ให้กลับคืนสู่สังคม เปลี่ยนให้กลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย แล้วหลังจากวันนั้นสังคมไทย ก็สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ คนจำนวนมากที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากร เป็นศัตรู ของรัฐก็ได้กลับคืนสู่สังคม กลายเป็นคนที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติในหลาย ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการและภาคประชาสังคม

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ไม่ใช่การถ่วงเวลาหรือการยื้อเวลาแต่อย่างใด แต่เป็น การใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดให้รอบคอบและระมัดระวังที่สุด โดยตั้งต้นจากข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่ใช่คนไทยทุกคนที่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะยังมีคนไทยอีกจำนวนหนึ่ง เห็นว่า ไม่ควรมีการนิรโทษกรรมให้กับคดีทางการเมือง และแม้กระทั่งในหมู่คนที่เห็นด้วยกับ การนิรโทษกรรมก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ในบางประเด็นว่าคดีใดบ้างควรจะได้รับ การนิรโทษกรรม ด้วยการตระหนักว่าเรายังมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นสำคัญเหล่านี้ ดิฉันจึงเห็นว่าแม้เราจะยังยืนยันถึงความจำเป็นในการออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมก็ตาม เพื่อเป็นการปลดโซ่ตรวนความขัดแย้งของสังคมไทย แต่เราจำเป็นต้องดำเนินการเรื่องนี้ด้วย ความระมัดระวัง และที่สำคัญเราต้องการสร้างกระบวนการเพื่อที่จะรับฟังความแตกต่าง หลากหลายจากคนกลุ่มต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดและครอบคลุมทุกมิติมากที่สุด เพื่อที่จะได้ นำไปสู่การหาฉันทามติร่วมกันที่ฝ่ายที่เห็นต่างจะยังพอรับได้เพื่อให้กระบวนการการออก กฎหมายนิรโทษกรรมสามารถที่จะเดินหน้าได้ภายในช่วงระยะเวลาของรัฐบาลชุดนี้ โดยไม่สะดุดหยุดล้ม หรือเพื่อไม่ให้เป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ อันจะพาสังคมไทย ให้เดินถอยหลังลงไปอีก ดิฉันจึงเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ขึ้นมา เพื่อเชิญชวนกลุ่มต่าง ๆ ให้มาร่วมกันหาทางออกอย่างรอบคอบ ครอบคลุมและระมัดระวัง มากที่สุด

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

และประเด็นที่ ๓ สำหรับประชาชนที่กังวลว่าจะมีการยัดไส้นิรโทษกรรม ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ที่กระทำผิดต่อชีวิต ดิฉันในฐานะผู้แทนของประชาชนและเป็นหนึ่ง ในผู้สูญเสียที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการกระทำที่รุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐ ดิฉันขอยืนยัน ในหลักการว่าจะไม่ให้มีการนิรโทษกรรมต่อความผิดที่เกิดแก่ชีวิตโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุผล ที่กล่าวไปข้างต้น ดิฉันจึงขอเสนอญัตติด่วนเพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญให้มีการศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณ คุณขัตติยา สวัสดิผล ผู้เสนอญัตตินี้นะครับ ต่อไปก็เป็นการอภิปรายของสมาชิก ซึ่งผมจะให้ อภิปรายสลับกันทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านนะครับ ท่านแรกขอเชิญ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งขอเวลาจาก ๗ นาทีเป็น ๑๐ นาที ก็ขออนุญาตเชิญครับ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วันนี้ ขอลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกของพรรคก้าวไกล ในญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ผมไม่ทราบมาก่อนครับว่าท่านประธานกรุณาให้เวลาผมถึง ๑๐ นาที แล้วก็เตรียมตัวมา สำหรับการอภิปรายสั้น ๆ ไม่ให้วนเวียนซ้ำซาก จริง ๆ ใช้เวลาแค่ ๒-๓ นาทีก็พอ แต่ถ้า ท่านประธานจะกรุณาขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรก็จะพยายามอภิปรายให้กระชับมากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้เป็นการกินเวลาสภาแห่งนี้ จึงขอเริ่มต้นด้วยการอภิปรายถึงสาระสำคัญกับสิ่งที่ อยู่ในจิตใจของผมเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม มีอยู่ ๒-๓ ประเด็นครับท่านประธาน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ผมอยากจะเรียนไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนผ่านท่านประธาน ว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย แล้วก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ากลัวเสมอไป ถ้าเรา มีเป้าหมายที่ชัดเจน ถ้าเราดูเอกสารประกอบการพิจารณาของทางสภาที่ได้เตรียมไว้ ประเทศไทยเคยนิรโทษกรรมมาแล้วทั้งหมด ๒๒ ครั้งด้วยกัน และถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เรานิรโทษกรรมเพื่อที่จะลดความขัดแย้งในสังคม เพื่อที่จะเพิ่มเสถียรภาพให้กับการเมือง เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ เพื่อที่จะคืนพ่อให้กับลูกสาวที่ยังเล็กได้ เพื่อให้คนที่อยู่ ที่ต่างประเทศที่เคยมีความเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกับรัฐได้กลับมาสู่มาตุภูมิประเทศ ของเขา ผมก็คิดว่าการนิรโทษกรรมไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว หรือมีภาพที่เป็นลบตลอดเวลา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ผมคิดว่าโอกาสในการรับนิรโทษกรรมไม่ควรจะถูกผูกขาดกับ คณะรัฐประหาร หรือคนคิดที่จะล้มล้างการปกครองเพียงอย่างเดียว ไม่ควรที่จะผูกขาดกับคนที่ ต้องการจะบ่อนเซาะ คนที่ต้องการจะทำลายระบบประชาธิปไตยในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว ที่ผมพูดอย่างนี้ผมอ้างอิงจากเอกสารของสภาครับท่านประธาน ตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ จนถึงปี ๒๕๕๗ ไม่ว่าจะเป็นครั้งไหน ผมเห็นว่าจะมีตั้งแต่ปี ๒๕๒๑ เป็นครั้งเดียวกระมังครับที่อยู่ในสมัยของ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ที่เป็นพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องในการชุมนุมในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่นอกจากนั้นนิรโทษกรรมผู้กระทำการ ปฏิวัติยึดอำนาจการปกครองประเทศ ความผิดต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรในฐานะกบฏ นี่คือสิ่งที่เราไม่ควรที่จะอนุญาตให้การผูกขาดในการนิรโทษกรรมอยู่กับคณะรัฐประหาร เพียงอย่างเดียว อันนี้เป็นประเด็นที่ ๒ ที่อยู่ในใจผม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ เรื่องการนิรโทษกรรมไม่ใช่แค่เรื่องการให้พ้นผิดทางกฎหมาย การนิรโทษกรรมภาษาอังกฤษบอกว่า Amnesty เป็นภาษามาจากภาษากรีก แปลว่า Amnēstía แปลว่า ทำให้ไม่ต้องจำ ทำให้ลืมไป ผมคิดว่าประเทศไทยต้องก้าวผ่านเรื่อง แค่การพ้นผิดทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว เราควรที่จะคิดเรื่องนี้เป็นโอกาสในการสร้าง ความยุติธรรมในเชิงสมานฉันท์ เราควรจะมีการป้องกันให้เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นอีก ทำให้เกิดความโปร่งใสเสีย หรือ Transparency ทำให้เกิดการเสาะหาข้อเท็จจริงเสีย หรือ ที่เรียกว่า Fact-Finding จนกระทั่งในที่สุดแล้วมีการแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ หรือที่เรียกว่า Public Apology แล้วทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็จะทำให้ Reconciliation หรือความ สมานฉันท์ ความปรองดองนั้นเกิดขึ้นในชาติได้จริง ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่สังคมไทยจะ สามารถก้าวเกินกว่าแค่เรื่องการนิรโทษกรรม เพราะเป็นแค่จุดจุดหนึ่งเท่านั้นในการที่จะทำ ให้ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยนั้นน้อยลงและมีเสถียรภาพ มีสมาธิพอที่จะใช้ พลังของพวกเราในการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นการเมืองเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม หรือเรื่องของการศึกษาก็ตาม เพราะฉะนั้นเราต้องยอมรับกันก่อนครับว่าเราอยู่ในช่วงความ ขัดแย้งทางการเมืองไทย อย่างน้อยนับตั้งแต่การทำรัฐประหาร ๑๙ กันยายน สร้างบาดแผล อย่างร้าวลึกในสังคมไทย ตั้งแต่สงครามสีเสื้อมาจนถึงการลุกขึ้นเรียกร้องของเยาวชน คนรุ่นใหม่ นำไปสู่ ๑๐ กว่าปีที่สูญหาย ตั้งแต่ปี ๒๕๔๙-๒๕๖๗ การเมืองไทยประสบพบผ่าน นายกรัฐมนตรี ๗ คน ไม่นับรักษาการนายกรัฐมนตรี ๒ คน รัฐประหาร ๒ ครั้ง รัฐธรรมนูญ ๔ ฉบับ ม็อบใหญ่ต้านรัฐบาล ๙ ระลอก การปะทะปราบปรามสลายม็อบ ๕ ยก คนล้มตาย เรือนร้อย บาดเจ็บเรือนพัน เศรษฐกิจเสียหายหลายแสนล้านบาท เพราะฉะนั้นการนิรโทษกรรม ของเราในครั้งนี้เราต้องไม่คิดเฉพาะคนที่ทำรัฐประหาร แต่ควรที่จะคิดที่เหยื่อของคนที่โดน ทำรัฐประหาร เราต้องคิดถึงคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายจากรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ มาจากการทำรัฐประหาร ไม่ใช่จำเป็นที่จะต้องนิรโทษกรรมเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่ออกมา เรียกร้องทางการเมืองนะครับ ทวงคืนผืนป่า ข้างหลังผมคือประธานที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม บอกผมว่าคนที่จะต้องติดคุกเพราะนโยบายของรัฐในช่วงรัฐประหาร ๘๐,๐๐๐ กว่าคดีครับ ผมสอบถามไปที่วิชาการของสภาบอกผมว่า ๓๐,๐๐๐ กว่าคดีครับ ประมง IUU ติดอยู่ ๓,๐๐๐ กว่าคดีครับ ยังไม่รวมคนคดีเหมืองอีกหลายพัน ยังไม่รวมคดี SLAPP ที่โดนรัฐฟ้องปิดปากประชาชนอีกไม่รู้เป็นจำนวนเท่าไร คราวนี้ถ้าเราตั้งหลักกันได้ ว่าเวลาที่จะนิรโทษกรรมเมื่อไร ถ้าท่านประธานฟังผมพูดอยู่ท่านประธานคงนึกออกว่า อย่างน้อยย้อนหลังไปถึงปี ๒๕๔๙ ใครได้รับการนิรโทษกรรมบ้าง สิ่งที่ผมพูดไปท่านประธาน ก็คงพอที่จะเอาออก กระบวนการที่จะทำไม่ใช่แค่บอกว่าเป็นการยุติคดีทางอาญา แต่คือ การเยียวยา คือการออกมารับผิดชอบทางสาธารณะ มีการทำ Public Apology ไม่ให้เกิด วัฒนธรรมผิดลอยนวล ไม่ได้แค่การนิรโทษกรรมของคนที่สั่งฆ่า แต่คนที่ถูกฆ่าด้วย พูดในมุม ของทนายที่ต่อสู้ในเรื่องนี้มาโดยตลอด พูดในแง่ของผู้ที่ต้องสูญเสียอิสรภาพอยู่ในคุก พูดในมุมของคนที่ต้องสูญเสียอิสรภาพในการอยู่ในประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเขา และต้องลี้ภัยไปอยู่ในต่างประเทศ เท่านั้นละครับมันถึงจะเป็นการนิรโทษกรรมที่รอบคอบ ที่ได้รับการบรรลุไปจนถึงเป้าหมายที่ประเทศไทยต้องการ ณ ปัจจุบัน ซึ่งถ้าในการทำแบบนี้ ผมคิดว่าเป็นกระดุมเม็ดแรกที่เราสามารถจะตั้งต้นได้ทั้ง ๓ อธิปไตยของประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อันที่ ๑ ทางฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรีสั่งตำรวจได้เลยครับ ชะลอคดี เราสามารถที่จะบอกว่ามีกระบวนการแบบนี้ เกิดขึ้นอยู่ในรัฐสภา การตีตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมกำลังจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ในแง่ของการบริหารสามารถมีอำนาจบริหารจัดการได้ ในฝ่ายของอัยการศาลต้องวินิจฉัยคดี ด้วยความรัดกุมรอบคอบและเป็น Fact Best ที่ฐานของข้อมูลข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ใช่เอา อารมณ์หรือเอาอย่างอื่นมาตัดสินด้วย ในฝ่ายของรัฐสภาก็สามารถที่จะเข้าสู่สภาแล้ว อภิปรายความแตกต่างของ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน และรวมถึง ข้อคิดเห็นของพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่จำเป็นว่าจะต้องให้โอกาสในการ ตีกรอบการนิรโทษกรรมอยู่แค่ผู้แทนราษฎร แต่ควรจะรวมไปถึงราษฎรด้วย เพราะฉะนั้น อันนี้ ๓ เสาหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายตุลาการ ก็สามารถที่จะสร้างบรรยากาศที่ดี สร้างบรรยากาศสมานฉันท์เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้า ต่อไปได้ หลังจากนี้ครับท่านประธาน จะมีการลงรายละเอียดของเพื่อน สส. พรรคก้าวไกล ในหลาย ๆ มิติ มิติที่ ๑ เราจะคุยเรื่องนิรโทษกรรมในมิติของอดีต ปัจจุบัน แล้วก็อนาคต จะมีเพื่อนสมาชิกมาพูดในมิติของการนิรโทษกรรมเฉพาะในประเทศไทย และตัวอย่าง ที่สำคัญ ๆ ในต่างประเทศ และมิติที่ ๓ จะมีเพื่อนสมาชิกลุกขึ้นอภิปรายในมุมมองของ ทนายสิทธิมนุษยชนที่ต่อสู้เรื่องนี้มาโดยตลอด รวมถึงพูดในมุมมองของผู้ที่ถูกฟ้องร้องในรัฐ ให้การอภิปรายในครั้งนี้เป็นไปอย่างรอบคอบรัดกุมและสามารถทำเนื้อในการอภิปรายนี้ ไปตั้งเป็นวาระในการประชุมของกรรมาธิการที่จะตั้งขึ้น ผมขอใช้เวลาเพียงเท่านี้ครับ ขอบพระคุณท่านประธานครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เชิญครับ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยค่ะ ขอสนับสนุนญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ตามที่เพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอ ต่อท่านประธานไว้ นั่นก็เพราะว่าเราเห็นว่าสถานการณ์ในทางการเมืองของบ้านเมืองเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจากมีการรัฐประหารครั้งล่าสุดนั้นมีการดำเนินคดีทางการเมือง สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดสถิติจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานยอดตั้งแต่ เริ่มการชุมนุมของเยาวชนปลดแอก ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๖ คือสิ้นปีที่ผ่านมานี้เอง มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์การชุมนุม และการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย ๑,๙๓๘ คน ในจำนวน ๑,๒๖๔ คดี ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี จำนวน ๒๘๖ ราย และจากจำนวนคดี ๑,๒๖๔ คดีดังกล่าว มีจำนวน ๔๖๙ คดีที่ดำเนินการแล้วเสร็จ แต่ท่าน ประธานทราบไหมว่ามีอีกกว่า ๗๙๕ คดีที่ยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ความขัดแย้ง ทางการเมืองไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นเพียงทศวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังฝังรากมาตั้งแต่สมัยที่มี การชุมนุมหลากสีเสื้อ ด้วยความเชื่อและอุดมการณ์ของแต่ละฝ่ายที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกฝ่ายมีแง่มุมและวิธีการที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายที่อยากเห็นประเทศไทยที่ดีขึ้น กว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช. หรือว่ากลุ่มคน เสื้อแดง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง คณะกรรมการ ประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือ กปปส. จนถึงบรรดาขบวนการนักศึกษาและ ประชาชนฝ่ายต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ขั้วต่าง ๆ เหล่านี้ถือเป็นโจทย์ ใหญ่ในทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคการเมืองและรัฐบาลในปัจจุบัน ดิฉันขอหยิบยก การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายนิรโทษกรรมของไทยระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๗๔ จนถึง พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่ตีพิมพ์ในวารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๑ มาให้ เห็นภาพว่าการนิรโทษกรรมมันไม่ได้จำกัดเพียงแค่ประเภทเดียว แต่ในรอบ ๗๐-๘๐ ปีที่ผ่าน มานี้เราแบ่งการนิรโทษกรรมออกเป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเภทแรก ได้แก่ การยกเว้นความผิดให้แก่ผู้ยึดอำนาจการปกครอง ซึ่งถือ เป็นปฏิบัติหลังการยึดอำนาจการปกครองสำเร็จค่ะ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเภทที่ ๒ เป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดด้านความมั่นคง โดยอาศัยอำนาจรัฐ อาศัยการใช้หลักกรุณาในโอกาสสำคัญต่าง ๆ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

และประเภทที่ ๓ การนิรโทษกรรมยกเว้นความผิดให้แก่ผู้เข้าร่วมการชุมนุม เรียกร้องทางการเมือง ซึ่งเป็นการยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนึ่ง การนิรโทษกรรม หรือ Amnesty มีรากศัพท์คือการลืม การลืมซึ่งเป็นแก่นแท้ของกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ตราขึ้นภายหลังการกระทำความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว มีผลย้อนหลังไปให้ช่วงกระทำความผิด เป็นการพ้นผิดเสมือนไม่ได้กระทำผิดมาก่อน หรือเราจะเรียกว่าการลืมหรือในเชิงกฎหมาย ก็ว่าได้ เพื่อไม่ให้บุคคลที่ทำการเคลื่อนไหวหรือมีความเชื่อทางการเมืองของตนเองต้องติดพัน แล้วก็พัวพันกับคดี ทำให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้งนำไปสู่ความสมานฉันท์ แต่ท่านประธาน ทราบไหมคะ ในช่วง ๒ ทศวรรษที่ผ่านมาและในช่วงแห่งการรัฐประหารที่มีการรัฐประหาร ติดต่อกันถึง ๒ ครั้ง ข้อมูลที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือคดีทางการเมืองเกิดมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในการแสดงออกในปัจจุบัน แม้กระทั่งคดีในอดีตที่ติดพันมา ดังนั้นประเด็นการนิรโทษกรรม จึงไม่เคยเลือนหายไปจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย มีความพยายามยื่นกฎหมายในช่วง ๒ ทศวรรษที่ผ่านมานี้ไม่ต่ำกว่า ๑๔ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจากภาคประชาชน กลุ่มการเมือง หรือแม้อำนาจทางการทหาร แต่กลับไม่มีร่างใดประสบความสำเร็จเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็น แล้วว่ากฎหมายนิรโทษกรรม ณ ปัจจุบันเป็นเรื่องยาก แต่มี ๒ ร่างที่ผ่านได้ ก็คือร่างของ คณะรัฐประหารเมื่อปี ๒๕๔๙ และปี ๒๕๕๗ ที่นิรโทษกรรมตนเองสำเร็จได้ การนิรโทษกรรม ในวันนี้จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่มันเป็นทางออกสำหรับความขัดแย้งในทางการเมืองไทย ที่ฝังรากลึกมานานนับทศวรรษ และนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เราจะได้เรียนรู้และจดจำ ก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน ไปสู่ความปรองดองภายใต้รัฐบาลใหม่ ซึ่งก็สอดรับกับ นโยบายของนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เคยกล่าวไว้เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ ว่า การนิรโทษกรรม การปรองดองระหว่างประชาชนทั้งประเทศ ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ในรัฐบาลชุดนี้ และจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้า ได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ ท่านประธานคะเราทุกคนในที่นี้เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เราตระหนักในหน้าที่ เราจะพบว่าแต่ละพรรคการเมือง แต่ละกลุ่มการเมืองก็มีข้อเสนอการตรานิรโทษกรรม ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่ของช่วงเวลาจะนิรโทษกรรมให้กับการกระทำในช่วงเวลา ใดบ้าง การชุมนุมครั้งไหนอย่างไร หรือแม้แต่ในแง่บุคคลและประเภทคดี สิ่งเหล่านี้ยัง ไม่ได้รับการตกผลึกเลยค่ะ ทั้งนี้เป็นสาระสำคัญของกฎหมายนิรโทษกรรม พรรคเพื่อไทย นำโดยรองชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ประกาศจุดยืนเรื่องนี้ชัดเจนว่า การนิรโทษกรรมประเด็นเหล่านี้คือทางออกที่ดีที่สุด ดังนั้นการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา ร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เห็นพ้องต้องกันมากที่สุดจึงเป็นทางออกค่ะ ดังนั้นดิฉันต้องการเน้น ย้ำเจตนารมณ์ของ สส. พรรคเพื่อไทย ต้องการให้มีการศึกษาในรายละเอียดอย่างรอบคอบ ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างกฎหมายให้เป็นไปเพื่อการจัดการปัญหาในทาง การเมืองแบบเฉพาะเจาะจง ไม่ใช่เพื่อบัญญัติกฎหมายแบบทั่ว ๆ ไป และที่สำคัญไม่ใช่เพื่อ ปลุกเร้าความเห็นต่างและก่อชนวนความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญเป็นพื้นฐาน ที่ดิฉันต้องการเรียนไปถึงท่านประธานให้สภาผู้แทนราษฎรมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาการตรากฎหมายฉบับนี้ พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ย้ำอีกครั้งค่ะ เราไม่อาจย้อนอดีต หรือลืมอดีตได้ค่ะ แต่เราแก้ไขให้ปัจจุบันดีขึ้นได้ การนิรโทษกรรมในวันนี้จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางออกสำหรับความขัดแย้งในการเมืองไทย ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่าน ท่านแรก ท่านศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ท่านที่ ๒ ท่าน อรรถกร ศิริลัทธยากร ท่านที่ ๓ ท่านกัณวีร์ สืบแสง เชิญท่านศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ครับ เชิญครับ

นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านประธานค่ะ ดิฉันศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ทนายแจม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๑๑ พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะก่อนดิฉันจะเข้าสู่การอภิปรายสนับสนุนการจัดตั้ง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในวันนี้ขออนุญาตเท้าความสั้น ๆ ทนายแจมหลายคนรู้จักดิฉันในฐานะของ ทนายความสิทธิมนุษยชน ในระหว่างหลังการรัฐประหารปี ๒๕๕๗ ดิฉันเป็นทนายความคนแรก ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่ก่อตั้งหลังการรัฐประหารเพียงแค่ ๒ วันค่ะ และหลาย ๆ ท่านในสภาแห่งนี้อาจไม่เคยทราบว่าก่อนหน้านั้นดิฉันเองก็เป็นนักเคลื่อนไหว เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองมาก่อน เคยเข้าร่วมการชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดงหลายครั้ง หลังการรัฐประหารปี ๒๕๔๙ ตอนนั้นดิฉันอายุเพียงแค่ ๑๗ ปีเท่านั้นค่ะ ๑๗ ปีผ่านมา ปัจจุบันคำนำหน้าของดิฉันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ จากแจมมาเป็นทนายแจม จากทนายแจม ปัจจุบันเป็น สส. ทนายแจม หรือ สส. แจม ดิฉันเชื่อเสมอว่าทุกความเห็นต่างจะมีความหวังดี ต่อประเทศเสมอไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ตาม แม้จะมองคนละมุมเห็นคนละอย่าง แต่ปฏิเสธ ไม่ได้เลยค่ะว่าทุกคนต่างหวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองด้วยกันทั้งสิ้น ท่านประธานคะ การทำหน้าที่ทนายความให้กับผู้ชุมนุมมาตลอดกว่าสิบปีนี้ได้ทำคดีการเมืองหลายสิบคดี ทำให้ดิฉันเห็นพลวัตรของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ชัดขึ้น ชัดขึ้น ชัดขึ้น ดิฉันสัมผัส มาแล้วทั้งสิ้นค่ะท่านประธาน ทั้งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับนักโทษคดีการเมือง อภินิหาร ทางกฎหมายต่าง ๆ การละเมิดสิทธิประชาชนโดยรัฐ ความไม่เท่าเทียมกันระหว่างรัฐผู้มีอำนาจ และประชาชนทั่วไป ในปี ๒๕๕๗ ดิฉันวิ่งไปมาหลายที่ ไปศาล ไปสถานีตำรวจ ไปเรือนจำ ไปศาลทหาร ดิฉันเจอท่านจาตุรนต์ครั้งแรกที่นั่นนะคะขออภัยที่เอ่ยนาม ดิฉันไปเยี่ยม ลูกความของดิฉันหลายครั้งค่ะ ไปเรือนจำมาก็หลายรุ่น จากรุ่นปี ๒๕๕๗ คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา จนปีประมาณ ๒๕๖๓ สรรพนามเริ่มเปลี่ยนไปจากทนายแจม เริ่มมาเป็น พี่ทนายแจม เริ่มมาเป็นทนายแม่ก็มีค่ะ ดิฉันจึงเริ่มเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าไม่ช้าหรือเร็ว ความเปลี่ยนแปลงมาถึงแน่นอน นักโทษคดีการเมืองแต่ละคนดิฉันสบตามาแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ คู่ ดิฉันนั่งกับพวกเขาข้าง ๆ ในบทบาทของทนายความมาไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ครั้ง ดิฉัน เป็นทนายความร่วมกับทนายอานนท์ นำภา มาหลายคดี พวกเขาเหล่านี้คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องทางการเมือง เพียงแค่หวังว่า ประเทศนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ ยุคทมิฬแห่งการรัฐประหารผ่านไปแล้วค่ะ แต่ยังมีผู้ต้องหาคดี ทางการเมืองจำนวนไม่น้อยที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในเรือนจำและบางคนกำลังรอการตัดสินนับถอยหลัง ที่จะเข้าเรือนจำไปทีละคน ทีละคน หากถูกตัดสินว่าผิดบางคนหลายคดีรวมกันแล้วต้องถูก จำคุกไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปี ท่านประธานคะต่อหน้าสภาอันทรงเกียรตินี้ดิฉันในฐานะของ ทนายความของพวกเขาไม่สามารถทอดทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังได้แม้แต่คนเดียว ลูกความ คนหนึ่งของดิฉันเคยบอกกับดิฉันว่าถ้าวันนี้ไม่กล้าฝันเราจะคิดถึงอนาคตวันพรุ่งนี้ได้อย่างไร ปี ๒๕๖๔ ดิฉันเคยไปเยี่ยมลูกความคนหนึ่งค่ะ ตอนนั้นเขาเป็นเด็กและเยาวชนเช่นกัน น้องผู้หญิงคนนี้บอกกับดิฉันว่า พี่คะหนูไม่เคยคิดเลยว่าผู้ใหญ่ในประเทศนี้จะใจร้ายกับพวกเขา ได้ขนาดนี้ เพียงเพราะพวกเขามีความเชื่อความฝันว่าประเทศเปลี่ยนแปลงได้ ใช่ค่ะ เพียงเพราะเขาเชื่อและฝันว่าประเทศเปลี่ยนแปลงได้ จึงถูกสิ่งที่เรียกว่าอำนาจในประเทศนี้ เฆี่ยนตี ถูกอดีตที่กลัวการมายืนของอนาคตล่ามโซ่เอาไว้ หวังว่าจะต่อเวลาชีวิตของพวกเขา อีกสักนิดไม่ให้เวลาเดินไปถึงวันพรุ่งนี้ แต่ท่านประธานคะ วันพรุ่งนี้ต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ หากยัง มีชีวิต หากยังมีคนที่เชื่อในแบบเดียวกันค่ะ การอภิปรายในวันนี้ดิฉันต้องการจะยืนยัน ในหลักการอย่างหนักแน่นว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยเหลือคนที่ทำผิด ไม่ใช่ การทำผิดให้เป็นถูก แต่เป็นการคืนความยุติธรรม คืนความปกติให้กับสังคม ให้กับประเทศ ของเรา ให้แก่ผู้ที่แสดงความเห็นทางการเมืองไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม ให้พวกเขาได้กลับมา ใช้ชีวิตในฐานะประชาชนคนหนึ่งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขอย่างที่ควรจะเป็น นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนในที่นี้ในฐานะนักการเมืองพึงกระทำ พึงปฏิบัติ โดยไม่ควรต้องคำนึงถึงข้อหาใด ๆ เพราะหากเราไม่ปิดตาข้างหนึ่ง เราก็จะรู้ว่า การยัดเยียดข้อหากล่าวหาต่าง ๆ เป็นการสร้างภาระในคดีเพื่อให้เขาหยุดเคลื่อนไหว ปิดปาก ประชาชน มูลเหตุจูงใจทางการเมืองจึงเป็นหลักการสำคัญในการพิจารณาเพื่อนำคดีเข้าสู่ คณะกรรมการตาม พ.ร.บ. ในฉบับของพรรคก้าวไกล ท่านประธานคะดิฉันอยากฝากไปยัง เพื่อนสมาชิกทุกคนในสภาแห่งนี้ ซึ่งหลาย ๆ คนในนี้เคยเป็นแรงบันดาลใจของดิฉันมาก่อน บางคนตอนนี้ก็อายุเท่าคุณปู่คุณย่า อายุเท่าคุณตาคุณยาย คุณลุงคุณป้า คุณน้าคุณอา ดิฉัน ให้ความเคารพทุกท่านจากใจ และด้วยเหตุนี้จึงอยากชวนทุกท่านค่ะ อยากชวนทุกท่านให้มอง กลับไปยังประชาชนโดยไม่ต้องแปะป้ายว่าพวกเขาใส่เสื้อสีอะไร เลือกพรรคอะไร มีความคิด การเมืองแบบไหน ต่อสู้เรื่องอะไร แต่เขาเหล่านั้นคือประชาชนที่มีความเชื่อ ความกล้าที่จะพูด และมีความเชื่อว่าประเทศเราเปลี่ยนแปลงได้ นำเสนอแนวคิดทางการเมืองด้วยความกล้าหาญ แลกมาด้วยอิสรภาพและชีวิตของพวกเขา เพราะนี่คือเหตุผลที่ทำให้พวกเรามีที่ยืนในสภา อันทรงเกียรติแห่งนี้ ทำให้สภาเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ดิฉันในนามของ พรรคก้าวไกลจึงขอร่วมสนับสนุนญัตตินี้ เพราะหลังจากการอภิปรายครั้งนี้ดิฉันยังอยาก กลับไปสบตาประชาชนได้อย่างไม่ละอายแก่ใจ สภาอันทรงเกียรตินี้ไม่ได้วัดว่าเราใส่รองเท้า อะไร แต่งตัวแบบไหน แต่ดูว่าเราได้ใช้สภาแห่งนี้พูดแทนประชาชน ทำเพื่อประชาชน และ ให้เกียรติประชาชนอย่างไร การขยับเรื่องนิรโทษกรรมของสภาในครั้งนี้จะเป็นการชำระ ประวัติศาสตร์ทางการเมือง ทำลายปีศาจในโลกยุคเก่าและเดินหน้าเข้าสู่อนาคตด้วยกัน และการอภิปรายครั้งนี้ของทุกท่านจะเป็นเหมือน Digital Footprint ที่อนาคตขอให้พวก ท่านทุกคนกลับมาดูได้อย่างไม่ละอายตัวเอง ขอบคุณครับท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านอรรถกร ศิริลัทธยากร เชิญครับ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม อรรถกร ศิริลัทธยากร สส. จากจังหวัดฉะเชิงเทรา วันนี้ขออนุญาตเป็นตัวแทนแล้วก็เป็นผู้อภิปรายคนแรกของพรรคพลังประชารัฐครับ ก่อนที่ จะเข้าสู่เนื้อหาของญัตติเพื่อนสมาชิก ท่านประธานครับ ผมต้องขออนุญาตฝากความชื่นชม ในความใจกว้างของผู้เสนอญัตติพี่สาวของผมเองครับ ท่านขัตติยา สวัสดิผล เพราะถ้าเรารู้ว่าในอดีตที่ผ่านมานี้เคยเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของท่านแล้ว แล้ววันนี้ยังมา เสนอญัตติในการนิรโทษกรรมต้องบอกว่าใจกว้างกว่าผู้ชายหลาย ๆ คนในห้องนี้ ท่านประธาน ที่เคารพครับ เอาง่าย ๆ เลยว่าการนิรโทษกรรมก็คือการยกโทษให้คนที่เคยทำผิด เคยถูก กล่าวหาว่าผิด อาจจะรับโทษไปแล้ว แต่ก็ได้รับการยกเว้นโทษ ถ้าผมจำไม่ผิดการนิรโทษกรรม เกิดขึ้นในเมืองไทยครั้งแรกก็ในปี ๒๔๗๕ ซึ่งก็คือเกือบร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่งผมก็ยังไม่เกิด แต่เท่าที่ทราบมาการนิรโทษกรรมในประเทศไทยของเราก็มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่า จะเป็นการนิรโทษกรรมเนื่องในวันที่มีความสำคัญของประเทศ ก็มีการลดโทษให้กับผู้ที่ อาจจะติดคุกอยู่ หรือไม่ก็จะเป็นการนิรโทษแก่ผู้ที่ก่อความไม่สงบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการ ปกครองของประเทศของแผ่นดินก็มี บางกรณีเป็นกรณีที่เป็นการนิรโทษกรรมหรือการ ยกโทษให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเฉพาะเจาะจงก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หรือว่ากรณีที่น่าสนใจ กรณีที่เป็นการยกโทษหรือว่านิรโทษกรรมให้กับผู้ที่มาเรียกร้องทางการเมือง พูดง่าย ๆ ก็นิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมทางการเมือง ท่านประธานครับ ผมต้องเรียนว่านิรโทษกรรม ในห้วงวินาทีนี้ ถ้าเรานำหยิบยกมาพูดกันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่อย่างไรดีขณะนี้ผมเรียน ท่านประธานด้วยความเคารพว่าประเทศไทยของเรานี้เราเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะมิติทาง การเมือง ทำไมผมถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่าหลังจากการรัฐประหารครั้งสุดท้ายในปี ๒๕๖๒ ประเทศไทยเราก็มีสภาพลเรือน แน่นอน สส. ๕๐๐ คนนี้มาจากการเลือกตั้งของพี่น้อง ประชาชน ผ่านมา ๔ ปี ปี ๒๕๖๖ ก็มีการเลือกตั้ง สภาชุดนี้ก็เป็นสภาที่ได้รับความไว้วางใจ จากพี่น้องประชาชนเหมือนกัน ใครจะว่าพรรคไหนไปจับเสียงรวมกันเป็นรัฐบาลมันขึ้นอยู่กับ ความเชื่อมั่นท่านประธานครับว่า พรรคไหนเขามีความเชื่อมั่นจากเพื่อนสมาชิกรวมเสียงกันได้ จัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นเองผมย้ำว่าขณะนี้วิกฤติทางการเมืองแทบจะไม่มี ดังนั้นเองการที่จะ บอกว่าการนิรโทษกรรมนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งในเวลานี้ ผมก็ไม่แน่ใจในคำตอบเหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญก็คือวันนี้สภาเรากำลังเริ่มเดินไปเพื่อที่จะนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการ การเปิด เวทีให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เปิดเวทีให้ผู้ที่มีความสนใจในเรื่องการนิรโทษกรรมมาถกกัน เราก็มาถกกันว่าผลกระทบต่าง ๆ ถ้ามีการทำนิรโทษกรรมใครได้ใครจะเสีย ประเทศจะได้ อะไร และจะเกิดผลอะไรจากการนิรโทษกรรมบ้าง ไม่ได้บอกว่าถ้าเราผ่านญัตติในวันนี้ จะต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม แต่มันก็เป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราจะได้รวบรวมความคิดเห็น ของบุคคลที่อยู่ในวงใน หรือแม้แต่กระทั่งวงนอกเป็นบรรทัดฐานในอนาคต ท่านประธาน ที่เคารพครับอย่างที่ผมบอกไปการนิรโทษกรรมมีอยู่หลายรูปแบบ วันนี้ผมขออนุญาตแสดง จุดยืนของตัวผมเองและของพรรคพลังประชารัฐ ในรูปแบบ ๒ รูปแบบของการนิรโทษกรรม ด้วยกัน

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

รูปแบบแรกเป็นการนิรโทษกรรมเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผมเรียนท่านประธาน ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเคยเกิดขึ้นในสังคมไทยมาก่อนก็ตาม แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ในสถานการณ์ ที่พี่น้องประชาชนคนไทย และพี่น้องประชาชนทั่วโลกจับจ้องอยู่ ผมไม่เชื่อว่าจะมีรัฐบาลไหน บ้าจี้ในการนิรโทษกรรมให้บุคคลใดบุคคลเดียว และถ้ามีการนิรโทษกรรมให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จุดยืนพรรคพลังประชารัฐเราไม่เอาครับ ชัดเจนครับ ง่ายดาย

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ นิรโทษกรรมในรูปแบบที่ ๒ น่านำมาคิด นั่นก็คือการนิรโทษกรรม ที่จะยกเว้นความผิดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะน้อง ๆ เยาวชน เรื่องนี้น่าจะนำมาพิจารณา ท่านประธานที่เคารพครับ ผมต้องบอกว่าผม เกิด กิน อยู่ มีความสุข มีความทุกข์ กับการเมือง แน่นอนผมเกิดมาในครอบครัวของนักการเมือง ผมผ่านมาหลายปี ประสบการณ์หลายอย่าง ก็ผ่านมาแล้วตั้งแต่ม็อบสีเสื้อต่าง ๆ ปิดสภาที่อู่ทองเก่า ปิดสภาที่สัปปายะสถานแห่งนี้ก็มี หรือแม้แต่กระทั่งบางทีผมจะต้องวิ่งเอาชีวิตรอดหนีจากลูกระเบิด หนีจากลูกปืนที่หน้าสนาม ราชมังคลากีฬาสถานก็เคยมาแล้ว เพื่อนสมาชิกหลายท่านในห้องประชุมแห่งนี้ก็ประสบการณ์ เดียวกับผม ผมว่าท่านประธานก็ผ่านมาเหมือนกัน ท่านประธานผ่านมามากกว่าผมอีกครับ แต่อย่างไรก็ดี สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นคนที่ก่อเหตุ คนที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งผมยืนยันว่าทุกม็อบ ทุกสีเสื้อ ทุกการเรียกร้อง ทุกการชุมนุมมันมีการทำผิดกฎหมายอยู่แล้วมากน้อยแล้วแต่ ความรุนแรง แต่เราต้องมาดูว่าใครที่ทำผิดมาก ใครที่อยู่เบื้องหลังจริง ๆ พวกนั้นเราคงจะ ไม่สามารถยกโทษให้ได้ แต่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น บางคนไปร่วมด้วย อุดมการณ์ ตื่นมาอีกทีได้รับหมายอยู่ในคุกก็มี นี่คือการตัดโอกาส ตัดอนาคต แทนที่จะไป เรียนต่อ แทนที่จะไปทำงานเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่เลี้ยงดูครอบครัว กลับมาประสบปัญหาชีวิต แบบนี้ แล้วผมยืนยันว่าทุกการชุมนุมโดยเฉพาะน้อง ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ของพวกเราไม่ได้เป็น คนเริ่มเอง ทุกการชุมนุมจะมีคนอยู่เบื้องหลัง จะเป็นผู้วางแผน จะเป็นนายทุนหรือแม้กระทั่ง ถ้าสมัยนี้เขาเรียกผู้นำลัทธิก็ได้ครับ ผู้นำลัทธิเหล่านี้อยู่เบื้องหลังครับ ไม่ต้องไปเสี่ยง ไม่ต้อง ไปปะทะกับฝั่งตรงข้าม ไม่ต้องไปปะทะกับตำรวจ ไม่ต้องไปเสี่ยงลูกปืน ไม่ต้องไปเสี่ยงระเบิด แต่บุคคลที่มีอุดมการณ์บางครั้งก็ถูกผลักไปข้างหน้า ดังนั้นผมเชื่อว่าเยาวชนไทยหลายคน ทำไปด้วยอุดมการณ์ แต่ผมเรียนท่านประธานด้วยความจริงและด้วยความสัตย์จริงครับ บางครั้งอุดมการณ์ไม่ได้เป็นทางออกของปัญหาในทุก ๆ เรื่อง ดังนั้นวันนี้ผมเชื่อว่ามันคงจะ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ที่จะเปิดโอกาสให้พวกเราได้มาหาทางออกให้กับ นักชุมนุมที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไรหรือมีความผิดน้อย ดังนั้นผมขออนุญาตเรียนท่านประธาน ด้วยความเคารพครับ ขอสรุปจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ แน่นอนครับ Slogan ของ พรรคพลังประชารัฐนำโดยท่านหัวหน้าพรรค ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เราต้องการ ที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อหาทางออกให้ประเทศในทุก ๆ มิติ แต่อย่างไรก็ดี Limit หรือ Level ของการก้าวข้ามความขัดแย้งเราไม่สามารถยกโทษให้กับคนที่ทำผิดรุนแรงได้จริง ๆ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

ดังนั้นเองผมสรุปมีอยู่ ๔ ข้อด้วยกัน แนวทางความคิดของพวกเรา ข้อที่ ๑ จะไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ถ้าเป็นการนิรโทษกรรมให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่เอา ครับ ถ้ามีคนได้แล้วคนที่สูญเสียจะไปเรียกร้องที่ไหน ข้อที่ ๒ บุคคลใดที่ทำผิดกฎหมาย ร้ายแรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ชีวิต หรือระบอบการปกครองอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคพลังประชารัฐไม่เอาครับ ข้อที่ ๓ การนิรโทษกรรม ถ้าจะเกิดขึ้นในอนาคต ผมไม่ได้บอกว่ามันต้องเกิดขึ้นนะครับ ถ้าจะเกิดขึ้นมันจะต้องเป็น ความเห็นชอบของคนทุกฝ่าย ทุกสี ทุกกลุ่ม หรือแม้กระทั่งทุกแฟนคลับของพรรคการเมือง เพราะถ้ามีการนิรโทษกรรมแล้วทำให้เป็นการเพิ่มความขัดแย้งเข้าไปในสังคมของพวกเรา ไม่ต้องมีก็ได้ครับ ข้อสุดท้าย สำคัญที่สุดพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม ให้บุคคลที่ฝ่าฝืนและทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เราไม่เอาครับ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

ดังนั้นวันนี้ผมกราบเรียนผ่านท่านประธาน ขอบคุณเพื่อนสมาชิกท่านขัตติยา สวัสดิผล ที่วันนี้ผมย้ำอีกครั้งท่านได้แสดงความใจกล้าและใจกว้างของท่านด้วยที่เสนอญัตตินี้ เข้าสู่สภาให้พวกเราได้ร่วมถกเถียงกัน ก็ฝากไว้สำหรับคนที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการ ขอให้คำนึงถึงเรื่องระดับในการนิรโทษกรรมว่าเราสามารถยกโทษให้ได้มากหรือน้อยเท่าไร ถ้ามากเกินไปก็คงจะทำไม่ได้ อย่างไรก็สนับสนุนกับญัตตินี้ครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ สภาผู้แทนราษฎรยินดีต้อนรับคณะนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย รังสิต อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี สภายินดีต้อนรับครับ ต่อไปท่านกัณวีร์ สืบแสง เชิญครับ

นายกัณวีร์ สืบแสง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ท่านประธานครับ จริง ๆ แล้ววันนี้ผมก็จะเตรียมไว้ในการพูดอภิปรายค่อนข้างจะเยอะ แต่ว่าคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คุณศศินันท์ เพื่อนสมาชิกจากก้าวไกลก็ได้พูดไว้ค่อนข้างจะ หมดแล้วนะครับ ผมก็ขอใช้เวลาช่วงนี้ในการที่จะขอเรียนว่าการเสนอญัตติในการจัดตั้ง กรรมาธิการวิสามัญในศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี และมาถูกทางแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วต่อประเด็นนี้เรื่องการนิรโทษกรรมนั้นได้มีความคิดเห็น ที่แตกต่างหลากหลายจำนวนมาก ผมขอชื่นชมที่ทางรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยมีการตัดสินใจ ที่ดีและสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง ซึ่งจำเป็นต้องมีการสร้างกลไกที่เปิดพื้นที่ต่อการ มีส่วนร่วมของกลุ่มคนต่าง ๆ ในกรอบการจัดตั้งกรรมาธิการวิสามัญอันนี้ อย่างไรก็ตาม ผมขอตั้งข้อสังเกตเพื่อประกอบการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ หากได้มีการถูก จัดตั้งขึ้นได้อย่างกระชับว่า โจทย์แรกที่สุดของภารกิจของกรรมาธิการนี้คือท่านจะต้องระบุ ให้ได้ถึงปลายทางที่เราปรารถนาของการนิรโทษกรรมว่ามันคืออะไร ท่านจะแค่ยกโทษแล้ว ทุกอย่างเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ และข้อ ๒ กลุ่มเป้าหมาย ของการได้รับนิรโทษกรรมนั้นคือใครบ้าง ผมกำลังพูดถึงเจตนารมณ์ รวมทั้งหลักการ และเหตุผลการร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าจะต้องเกิดฉันทานุมัติเห็นพ้องกันอย่างชัดเจนต่อ ๒ ประเด็นนี้เสียก่อน ในทัศนะของผมการนิรโทษกรรมควรเป็นแค่ส่วนหนึ่งของกระบวนการ ที่ใหญ่กว่านั้น ขออนุญาตเรียกสั้น ๆ ว่า การเมืองแห่งการให้อภัยและกระบวนการยุติธรรม ในระยะที่เปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ความพยายามของเราทั้งหมดในวันนี้ก็เพื่อมุ่งหวังร่วมกันที่จะออก จากความขัดแย้งรุนแรงที่ยืดเยื้อที่มันฝังรากและทิ่มลึกลงไปในความสัมพันธ์ระหว่างคนไทย ด้วยกันเอง และมากกว่านั้นยังมีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างคนจำนวนมากไม่น้อยกับรัฐ เมื่อเป็นเช่นนี้การผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจึงจะคำนึงถึงเพียงการลบล้างความผิด เพียงแค่มุมเดียวคงเป็นไปไม่ได้ แต่การศึกษาแนวทางการตรากฎหมายฉบับนี้จะต้องสามารถ คลี่คลายภาพความขัดแย้งในการเมืองไทยตลอด ๒ ทศวรรษที่ผ่านมาได้พอสมควร ซึ่งการ ตรากฎหมายฉบับนี้ต้องอยู่ภายใต้กรอบกระบวนการ ๒ กรอบดังที่ผมเสนอไว้ข้างต้นนะครับ ซึ่งก็คือปลายทางที่ปรารถนาของการนิรโทษกรรมคืออะไร และกลุ่มเป้าหมายของการได้รับ นิรโทษกรรมคือใครบ้าง ท่านประธานครับ การนิรโทษกรรมจะไม่สามารถนำไปสู่การให้อภัย ซึ่งกันและกันระหว่างคู่ขัดแย้งและก้าวไปข้างหน้าร่วมไปได้เลย หากบางเรื่องที่ยังค้างคา ในใจของแต่ละฝ่ายนั้นยังไม่ได้คลี่คลายแน่ชัด เมื่อเป็นเช่นนี้การที่จะมีการจัดตั้ง คณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือการดึงเอารายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เรื่องเหล่านี้ที่เคยจัดทำขึ้นแล้ว ก็จำเป็นต้องทำงานชิ้นนี้มาประกอบไว้ในการพิจารณายกร่าง กฎหมายด้วย อันนี้ผมขอเสนอให้กับคณะกรรมาธิการที่จะถูกจัดตั้งขึ้นนำไปพิจารณาด้วย เพราะการคืนความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสุด ๆ ที่พอจะทำให้ฝ่ายต่าง ๆ ยอมรับการลบล้างโทษ ได้นั้นตามกฎหมายของกันและกันได้ก็คือการคืนความจริงเกี่ยวกับความผิดนั้น ๆ ให้กับ สาธารณะ และ Hold Accountability หรือสิ่งที่เราเรียกว่าความรับผิดชอบของรัฐที่ใช้ อำนาจในการก่อความเสียหายหรือความสูญเสียแก่พี่น้องประชาชน และถ้าเรามุ่งหมายจะให้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้คนไทยหันหน้ามาให้อภัยซึ่งกันและกัน แล้วเดินหน้าร่วมกันใหม่ ได้จริง ๆ นั้นเราต้องสร้างความกระจ่างที่เห็นพ้องกันให้ได้เสียก่อนว่าคนแต่ละฝ่ายกำลัง จะต้องให้อภัยต่อเรื่องอะไร ครอบคลุมใครและกลุ่มใดบ้าง สังคมไทยจึงจะสามารถเดินหน้า ต่อไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้การนิรโทษกรรมก็จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับอีกหลาย ๆ ส่วน แยกมาทำเพียงเรื่องเดียวคงไม่ได้ อาทิเช่น การแสดงความรับผิดชอบต่อฝ่ายต่าง ๆ ในความ ขัดแย้ง คือคนที่ทำผิดก็ต้องออกมารับผิด มิใช่ใช้การนิรโทษกรรมเพื่อปิดช่องทางการขออภัย ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องการใช้อำนาจ หน้าที่ กฎหมาย และกำลัง ที่เข้าห้ำหั่นพี่น้องประชาชน แล้วก็ถูกนิรโทษกรรมพ้นผิดอย่างลอยนวล เป็นไปไม่ได้ครับ ใครทำผิดคดีอาญาหรืออุ้มซ้อมทรมานก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย เราก็ต้องไปดู รายละเอียดว่าใครทำผิดระดับไหนจะต้องรับผิดชอบใด ๆ บ้าง ท่านประธานครับกฎหมาย นิรโทษกรรมนี้ยังต้องครอบคลุมเรื่องการเยียวยาด้วยครับ การเยียวยาผมขอฝากไว้เรื่องการ เยียวยาทางจิตใจ ทั้งนี้ยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่จำเป็นต้องนำเข้ามาสู่การพิจารณาศึกษา เพื่อให้เห็นแนวทางที่เป็นไปได้และยอมรับร่วมกันได้ต่อการยกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะ เกิดขึ้นด้วย ผมนำเสนอทัศนะมาเช่นนี้ไม่ใช่ผมอยากจะขัดขวางกระบวนการนะครับ ท่านประธาน แต่ตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยนั้นเรามีกฎหมายนิรโทษกรรมมาแล้ว ในเอกสาร ประกอบการพิจารณา ๒๒ ฉบับ แต่ทาง iLAW บอกว่ามีทั้งหมด ๒๓ ฉบับ และแน่นอนครับ ว่าการยกเว้นโทษให้กับคณะรัฐประหารส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น แต่ก็มีอยู่ ๓ ฉบับครับ ที่บังคับใช้โดยเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองระดับชาติโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ปี ๒๕๑๖ ปี ๒๕๑๙ ปี ๒๕๓๕ ก็เห็นมีทั้งการยกโทษนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุม การยกโทษ แบบเหมาเข่งที่เกิดขึ้น ในช่วงรอยต่อประวัติศาสตร์ครับท่านประธาน และผู้ทรงเกียรติ ในสภาแห่งนี้ก็เห็นว่าต้องฝากไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญหากจัดตั้งมา ท่านจะต้องชัดเจน ว่าผู้ได้รับการยกโทษคือใคร เป็นประชาชนผู้ชุมนุมหรือนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง คำตอบ ของท่านต่อเรื่องนี้ในสถานการณ์การเมืองในวันนี้สำคัญครับ ต่อการกำหนดว่าเราจะอยู่ ในความขัดแย้งต่อไป จะมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ หรือเราจะสามารถแสวงหาทางออก จากความขัดแย้งระลอกนี้ได้อย่างยั่งยืนร่วมกัน ขอบคุณครับท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ในญัตตินี้เราปิดการลงชื่อแล้วนะครับ ต่อไปอีก ๓ ท่าน ท่านณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ท่านปิยรัฐ จงเทพ ท่านธีระชัย แสนแก้ว ท่านณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เชิญครับ

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สงขลา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เขตเลือกตั้งที่ ๗ อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย ตำบลลำไพลของอำเภอเทพา พรรคภูมิใจไทย ผมเองได้ลุกขึ้นอภิปราย เป็นคนแรกของพรรคภูมิใจไทย ขอประกาศจุดยืนสั้น ๆ ครับ ไม่แก้ ๑๑๒ ไม่ต้องพูดเยอะ ท่านประธานครับ ญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับนี้มันไม่ใช่การแก้มาตรา ๑๑๒ มันไม่ใช่ การนำร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมเข้าสภาแห่งนี้ และมันไม่ได้เอื้อประโยชน์เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการหาข้อสรุปของสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญมา ๑ คณะ พิจารณา แนวทางในการตราหรือว่าร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม นี่ก็คือการนับหนึ่งครับ แต่ประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า ๙๐ ปีนับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี ๒๔๗๕ ปัญหาความแตกแยก ทางความคิด ๒. ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย ๓. ปัญหาคอร์รัปชัน ๔. ปัญหาการรัฐประหาร ตลอดมา และ ๕. ปัญหาผู้เห็นต่าง ท่านประธานครับตลอด ๙๐ กว่าปีที่ผมกล่าวมามีการ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมไม่ต่ำกว่า ๒๒ ครั้ง แต่ปัญหาไม่จบ เพราะแก้กติกา แก้กฎหมาย แก้ พ.ร.บ. แต่ไม่แก้จิตสำนึกครับ และบาดแผลแห่งความรู้สึกของผู้ถูกกระทำและครอบครัว มันไม่ได้รับการแก้ไขครับ ขอสไลด์เลยครับ

นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สงขลา ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ประเทศไทยยังขาด การให้อภัยครับ การให้อภัยไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่การให้อภัยนั้นจะเปลี่ยนแปลง อนาคต หลวงพ่อพุทธทาสสุราษฎร์ธานี สำหรับพี่น้องมุสลิมหลักสำคัญ ก็คือ การให้อภัย พี่น้องมุสลิม การขอมาอัฟ การขออภัยนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และสำหรับพี่น้อง ชาวคริสต์การให้อภัย คือการยกโทษให้คนที่ทำผิดในคัมภีร์ สิ่งที่ผมยกตัวอย่าง ๓ ศาสนานี้ เพราะเป็นการให้อภัย สังคมไทยปัจจุบันเดินทางมาในเรื่องของกฎหมายล้วน ๆ ไม่ดูในเรื่องของ ศาสนาและการให้อภัย เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาต้องเริ่มต้นจากจิตใจที่ให้อภัยก่อน ท่านประธานครับเรายึดหลักของประเทศอยู่ ๓ อย่าง ๑. ฝ่ายบริหาร ๒. ฝ่ายนิติบัญญัติ ๓. ฝ่ายตุลาการ มันมีอีกฝ่ายครับท่านประธานมันเพิ่งมีครับ วันนี้อยู่ใน ๑ สถาบันก็คือ องค์กรอิสระ เพราะฉะนั้น ๔ องค์กร ๔ สถาบัน ณ ปัจจุบันนี้ได้ทำหน้าที่ของท่านหรือยัง ในการนิรโทษกรรม ยกตัวอย่าง ฝ่ายบริหารก็คือรัฐบาล นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ผมขอเสนอให้รัฐบาล ขับเคลื่อนในเรื่องของการนิรโทษกรรมภายในประเทศ ยกตัวอย่างครับท่านประธาน ในอดีต ๖๖/๒๓ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี นี่ก็คืออำนาจ ของฝ่ายบริหาร วันนี้ผมเองก็อยากจะเห็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี /๖๗ ลงนามโดย นายกเศรษฐา ในการแก้ปัญหาเรื่องปรองดองและนิรโทษกรรมในอนาคต เพราะฉะนั้น ปัญหาที่แตกแยกในประเทศเหล่านี้ผมบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลด้วย ไม่ใช่หน้าที่ของ รัฐสภาแค่อย่างเดียว ส่วนที่ ๒ ก็คือฝ่ายนิติบัญญัติ สส. สว. ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ ส่วนที่ ๓ ฝ่ายตุลาการ ให้เป็นธรรมทุกฝ่ายในประเด็นข้อกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติในการ พิจารณาคดีให้กับประชาชน ให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าศาลยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ สถาบันสุดท้ายที่ผมเพิ่งเพิ่มไปก็คือ องค์กรอิสระ เกิดขึ้นปี ๒๕๔๐ ไม่ว่าจะเป็น ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ป.ป.ช. และองค์กรอื่น ๆ เป็นหนึ่งในสถาบันที่สามารถแก้ไขปัญหา ของประเทศในเรื่องของความแตกแยกได้ สิ่งที่ ๔ สถาบันนี้ปัจจุบันต้องพึงระวังคืออะไรครับ ปรสิตทางการเมือง ปรสิตทางการเมืองคืออะไรครับ มันเป็นบุคคล เป็นองค์กรและเป็น หน่วยงาน ท่านต้องเรียนรู้ให้เท่าพวกนี้ วันนี้ปรสิตทางการเมืองมันมีการเติบโต มีบทบาท และมีผลประโยชน์ เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนดุลทั้งหมดของ ๔ สถาบันที่ผมกล่าวมา เพราะฉะนั้นขอให้ ๔ สถาบันกำหนดบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ให้คิดถึงประชาชนให้มาก ๆ ให้คิดถึงปรสิตทางการเมืองให้น้อย ๆ สรุปผมเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาของประเทศโดยการ ให้อภัยซึ่งกันและกัน ให้ออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ เรามาช่วยกันทำความดีครั้งนี้ เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นความดีที่เราทำให้เด็กรุ่นหลัง ได้เห็นว่านี่คือสิ่งที่พวกเราได้ทำให้กับอนาคตของพวกคุณ ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ตกลงท่านปิยรัฐก่อนใช่ไหมครับ แล้วไปท่านธีระชัย แสนแก้ว แล้วก็ท่านรังสิมันต์ โรม จะได้เตรียมตัวนาน ๆ หน่อยนะครับ เชิญท่านปิยรัฐครับ

นายปิยรัฐ จงเทพ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ปิยรัฐ จงเทพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตพระโขนง บางนา พรรคก้าวไกล กรุงเทพมหานคร วันนี้ผมขออภิปรายร่วมสนับสนุนญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา แนวทางนิรโทษกรรม ตามที่เพื่อนสมาชิกได้เสนอต่อสภาแห่งนี้ ท่านประธานครับ ผมได้ฟัง เพื่อนสมาชิกหลายท่านพูด ก็มีบางท่านก็ยังไม่เข้าใจว่าการที่ผู้ชุมนุมหรือผู้ที่ถูกดำเนินคดี หลายครั้งไม่ได้เกิดจากการที่มีผู้ที่อยู่เบื้องหลังเสียทีเดียว ไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกจัดตั้ง ไม่ได้เป็น ผู้ที่ถูกโน้มน้าวจิตใจให้ออกมาชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองเพื่อสนับสนุนผู้อยู่เบื้องหลัง ฉะนั้นผมกำลังจะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งและการถูกดำเนินคดีของพี่น้องประชาชน ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมานั้นล้วนแต่มีเหตุจูงใจทางการเมืองในความคิดความเชื่อของพวกเขา เป็นจำนวนมาก และมากเสียจนที่เราไม่สามารถที่จะนับเป็นจำนวนตัวเลขได้ เนื่องจากว่า หลายคนก็ไม่สามารถที่จะมาแสดงตนอยู่ที่นี้หรือถูกดำเนินคดีก็มีเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น ผมจะพูดถึงเรื่องเหตุผลจูงใจที่เป็นแกนหลักหัวใจสำคัญของปัญหาที่เกิดขึ้น ขอสไลด์ด้วย ครับท่านประธาน

นายปิยรัฐ จงเทพ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สไลด์ที่ท่านเห็นอยู่นี้ผมกำลังจะพูด ถึงวงจรอุบาทว์การเมืองไทย อุบาทว์นี้หมายความว่า ความไม่เป็นมงคล ตามพจนานุกรม ไม่ใช่คำรุนแรงอะไร จะเห็นว่าเราวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เรามี รัฐธรรมนูญครับท่านประธาน พอเรามีรัฐธรรมนูญเสร็จปุ๊บเรามีการเลือกตั้ง พอเรามี การเลือกตั้งเสร็จแล้วเราก็มีสภาผู้แทนราษฎรอย่างที่เรามานั่งอยู่ตรงนี้ หลังจากนั้นเราก็มี การตั้งรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีขึ้นมา สุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรีมีรัฐบาลบริหาร เกิดเงื่อนไข ทางการเมืองเกิดขึ้นทันที ถ้ารัฐบาลนั้นไม่ได้ตอบสนองต่อผู้มีอำนาจในประเทศนี้ก็จะมีการ สร้างเงื่อนไขขึ้นมาครับ แล้วสุดท้ายก็ แอ่น แอน แอ๊น รัฐประหาร รัฐบาลก็คือ การใช้อำนาจ ของทหารในการมาบังคับล้มล้างการปกครอง แล้วก็ใช้คำสั่งทางการทหารนั้น หรือตั้งองค์กร ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อพิจารณาบัญญัติโทษต่าง ๆ ให้กับผู้ที่คิดต่างทางการเมือง แล้วก็ ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาอีกฉบับหนึ่ง เพื่อเอามาประกาศบังคับใช้ วนเวียนอยู่แบบนี้หลายครั้ง หลายคราครับ ท่านประธานทราบไหมครับว่าตั้งแต่ปี ๒๔๗๕ จนถึงปัจจุบันนี้เรามีการ รัฐประหารมากกว่าสมัยกรุงศรีอยุธยาเสียอีกครับ ในขณะเดียวกันเรามีกฎหมายที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันนี้ ตราโดยสภาที่มาจากการรัฐประหาร เราจะเรียกว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เราจะเรียกว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือสภาอะไรก็แล้วแต่ ที่ตรากฎหมายให้เราใช้อยู่ทุกวันนี้ มากกว่ากฎหมายที่ถูกตราโดยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเสียอีก เรามีรัฐบาล ที่บริหารประเทศ เรามีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร ที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานกว่า การมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งเสียอีกครับ เรามีอะไรอีกครับท่านประธาน เรามี องค์กรต่าง ๆ ที่มาตัดสิน ที่มาชี้นำความผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่าง ๆ ในประเทศนี้ ที่มาจากคณะรัฐประหารมากกว่าการแต่งตั้ง หรือการสถาปนาโดยอำนาจของ สภาผู้แทนราษฎรเสียอีกครับท่านประธาน ผมจึงบอกว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้นเมื่อกระบวนการ มันผิดเพี้ยน และมันไม่สามารถนำไปสู่กระบวนการที่เรียกว่ายุติธรรมได้ ผู้คนและประชาชน จำนวนมากจึงไม่อาจจะยอมรับในกระบวนการปกครองของพวกเขาแบบนี้ได้ มันจึงเกิด ความอัดอั้น คับแค้นใจ เมื่อไม่สามารถใช้อำนาจทางตรงได้ เมื่อไม่สามารถใช้อำนาจทางอ้อมได้ อย่างผู้แทนราษฎร เขาก็จะหันหน้าไปสู่การใช้อำนาจทางตรงของพวกเขา คือการออกมา เรียกร้องหรือการชุมนุม นั่นเป็นแบบนี้มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาครับท่านประธาน เช่นเดียวกันกับตัวกระผมนี้ วันนี้ผมเดินทางมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่ากระบวนการทางอ้อม คือการใช้อำนาจทางนิติบัญญัตินี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยก็ผลักดันนโยบาย ที่ผมเชื่อ ผมศรัทธาว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง แล้ววันไหนก็ไม่ทราบจะมา ยุบพรรคนี้อีก นั่นคือเหตุผลของเราว่าถ้ามันไม่สามารถใช้เส้นทางในกระบวนการนี้ได้ แล้วจะ ให้พวกผมใช้กระบวนการอย่างไร ท่านประธานคิดว่าการที่จะให้พวกเขาไปติดคุก จำคุก ถูกคุมขัง แล้วนั่นจะทำให้พวกเขากลัว ให้พวกเขารู้สึกหวั่นเกรง แล้วสุดท้ายก็ศิโรราบ เสียทีเดียวอย่างนั้นหรือท่านประธาน ผมเชื่อว่าไม่จริงครับ เอาตัวอย่างผมก็ได้ครับ ท่านประธาน ผมอยู่ผ่านเรือนจำมาแล้วทั้งหมด ๓ เรือนจำในประเทศนี้ ติดคุกในสถานที่ คุมขัง ที่เรียกว่าสถานีตำรวจมาแล้วมากกว่า ๑๐ สถานีตำรวจ ถูกอุ้มเข้าค่ายทหารมากกว่า ๒ ค่ายทหาร และถูกขังที่ ตชด. มากกว่า ๒ ค่าย ตชด. ผมเชื่อว่าผมมากที่สุดในห้องประชุม แห่งนี้ ถามว่าผมกลัวไหม ผมไม่ได้กลัวนะครับ มิหนำซ้ำกลับคับแค้นใจเสียด้วยซ้ำ นั่นคือ เป็นตัวอย่างครับว่าการที่คนเราถูกกระทำย่ำยีด้วยกระบวนการต่าง ๆ นั้นไม่สามารถที่จะทำ ให้คนรู้สึกว่าเรายอมรับกับสภาพความเป็นอยู่นี้ได้ ผมจึงบอกว่ามีทางเดียวกัน อย่างน้อยให้ ประชาชนที่เขาออกมาเรียกร้องทางการเมือง ออกมาเรียกร้องในความคิดความเชื่อของ พวกเขานั้น ได้รับการนิรโทษกรรม ให้พวกเขาได้มีส่วนในการเสนอความเห็นของพวกเขานั้น ให้มันถูกต้องตามครรลองตามกฎหมาย และที่สำคัญคือว่าอย่างน้อยเรามีโอกาสให้อภัยกัน ในรอบนี้ เขาก็จะได้มีส่วนในการสนับสนุนนโยบายทางประชาธิปไตยต่อไปได้ โดยที่ไม่ได้หัน ไปสู่ทางอื่นที่มันนอกเหนือกว่ากฎหมายกำหนด ฉะนั้นผมเชื่อว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ทุกคน มีความหวังดีที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายไป แต่ที่ผมมาชี้ชัดให้เห็นวันนี้ก็เพื่อให้เราได้รับรู้ รับทราบร่วมกันว่ากระบวนการที่เกิดการดำเนินคดีของพี่น้องประชาชนนับพันคนนี้ ไม่ได้ เกิดจากมูลเหตุจูงใจที่มาจากการที่อยู่ ๆ นึกอยากสนุกขึ้นมา อยากโดนดำเนินคดี ไม่ใช่ครับ มันมาจากความอัดอั้น คับแค้นเป็นจำนวนมาก นับคนไม่ได้ นับสาเหตุไม่ถ้วน และที่สำคัญ คือมาจากวงจรอุบาทว์ที่ผมได้กล่าวมานี้เป็นสาระสำคัญครับ ขอบคุณมากครับท่านประธาน ครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านธีระชัย แสนแก้ว ตามด้วยท่านรังสิมันต์ โรม เชิญครับ

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย กระผมใคร่ขอ อนุญาตในการที่จะอภิปรายสนับสนุนญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาแนวทางในการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ของ สส. ขัตติยา สวัสดิผล ซึ่งเป็นผู้เสนอในวันนี้ ท่านประธานครับ คำว่า นิรโทษกรรม ในประเทศของเราถูกกล่าวมานาน หลายยุคหลายสมัย บ้างก็ว่านิรโทษกรรมมักพูดด้วยคำว่า ปรองดอง สมานฉันท์ และคำว่า ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ว่าสังคมจะใช้คำไหนก็แล้วแต่นะครับ คำเหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ สังคมมีกระแสเรียกร้อง เรียกร้องและมีหลักการบางอย่างเพื่อที่จะให้คลี่คลาย ก้าวข้าม สลายความขัดแย้งโน่น นี่ นั่น พันธนาการโซ่ตรวนจากกฎหมายที่บังคับและจองจำ ตีตรา พวกเขามีความคิดครับ คือลักษณะอย่างนี้ไม่ว่าจะมีความผิดหรือจะเป็นการบังคับใช้ กฎหมายของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ผู้พิพากษา คดีศาลทหาร ซึ่งไม่ได้มีความ เชี่ยวชาญในวิธีพิจารณาความอาญาเท่ากับผู้พิพากษามืออาชีพในศาลยุติธรรมเลยครับ และไม่มีความผิดพวกเขาต้องถูกจองจำ ถูกบังคับ ใช้กำลังประทุษร้ายทุบตี จากกฎหมายใช้ อำนาจเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและเกินขอบเขตของกฎหมาย บางครั้งบังคับใช้โดยไม่ใช้หลัก นิติธรรม นี่ละครับเป็นสิ่งที่เราเคยประสบการณ์ ที่พูดนี้มันเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่ว่า ความผิดที่เกิดขึ้นจากการตีตราพลาดพลั้งไป หรือบางเรื่องบางราวในอดีตไม่ว่าจะเป็นไปด้วย ความรุนแรงหรือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตราบาปครับ มันเป็นตราบาปครับ ท่านประธานครับ ไม่อยากเล่าประสบการณ์ ท่านเคยปีนรั้วไหมครับ ปีนรั้วสภาอู่ทองในเก่าครับ บุกเข้ามา หนังสติ๊กยิงเข้ามา มิหนำซ้ำปืนยิงเข้ามา ผมต้องย้อนหลังต้องเล่าให้ฟัง ท่านผู้เฒ่าผู้แก่สมัย นั้นต้องเอ่ย น่าสงสารท่านมาก ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ลุงชัย ชิดชอบ แก่แล้วประธานสภา ผู้แทนราษฎรต้องปีนรั้วออกมา เพราะไม่เช่นนั้นก็จะต้องเจอ มันเข่นฆ่ามันมีความแตกแยก ขัดแย้งกันถึงขนาดนั้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ในขณะนั้นคือกลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในปี ๒๕๕๑ ผมจำได้ ท่านประธานครับท่านเชื่อหรือไม่ครับ ว่าประเทศเราเขียนประกาศไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ประเทศเราปกครองด้วยระบอบ ประชาธิปไตย ไม่เว้นแม้แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวของปี ๒๕๕๗ ที่ผ่านมานี้เกิดขึ้นหลัง ปฏิวัติรัฐประหารยังเขียนในมาตรา ๒ ว่าประเทศไทยเรามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ยึดอำนาจมาแต่บอกว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย ทราบ หรือไม่ครับว่าในอดีตที่ผ่านมาเมื่อปี ๒๕๑๖ ปี ๒๕๑๗ เกิดปัญหาความขัดแย้งทางความคิด มันนานแล้วก็ต้องยึดประวัติศาสตร์ด้วย ลงมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ประวัติศาสตร์มาจนทุกวันนี้ เกิดปัญหาระหว่างรัฐกับประชาชน กลายเป็น ๑ ในประวัติศาสตร์เลือดของประเทศไทย ในขณะนั้น ปี ๒๕๑๙ ปี ๒๕๑๗ ใช้รัฐธรรมนูญคิดว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมาก ในขณะนั้น ปี ๒๕๑๙ ก็ยึดอำนาจอีกครับ เกิดความแตกแยกก็มายึดอำนาจอีกครับ ในขณะนั้น ต้องหนีเข้าป่า ระเหเร่ร่อน คนธรรมดาก็เสนอเป็นภัยสังคมหมดครับ ในครั้งนั้น มีการกวาดล้างจับกุมพี่น้องประชาชนมากมาย ชาวบ้านออกมาเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรม บุคคลสูญหาย บางรายมีหลักฐานว่าถูกฆาตกรรมแล้วนำใส่ถัง ใส่ถังแดง ๒๐๐ ลิตร ไฟเผา กลายเป็นเถ้าถ่าน ในช่วงนั้นถ้าดูแล้วว่าผู้ที่หายสาบสูญไปในขณะนั้น ๓,๐๐๐ กว่ารายครับ นั่นคือเหตุการณ์ถังแดงครับท่าน นี่เป็นเหตุที่เพียงแต่ความขัดแย้งทางความคิดเท่านั้นเอง นะครับ แต่เจ้าหน้าที่ผู้ใช้ความรุนแรง หรืออีกฝ่ายใช้ความรุนแรงไม่เคยเห็นว่าใครได้รับโทษเลยครับ ไม่เคยมี ท่านประธานครับ นิรโทษกรรมของประเทศเรามีการนิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำ รัฐประหารทั้งนั้น นิรโทษกรรมรัฐประหาร ๑๒ ครั้ง เพื่อทำให้ผู้ที่รัฐประหารไปแล้วไม่มี ความผิด แล้วประเทศเราเป็นประเทศที่มีรัฐประหารเกิดขึ้นบ่อยด้วยครับ และทุกครั้ง ผู้ยึดอำนาจสำเร็จก็จะรีบออกกฎหมายอันนี้เลยครับ เพื่อล้างมลทินตัวเอง อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานานิรโทษกรรมว่าผู้ก่อการรัฐประหารมีความปรารถนาดีต่อบ้านต่อเมือง ไม่ใช่ทำแสวงหา ผลประโยชน์ส่วนตัว พอยึดแล้ว พอมีอำนาจแล้วก็รู้ ๆ กันอยู่ ส่วนตัวทั้งนั้น ท่านครับ ใกล้ ๆ ปี ๒๕๔๙ ยึดอำนาจจากท่านทักษิณ ชินวัตร ก็ประกาศเหมือนกัน ก็ประกาศนิรโทษกรรมตัวเอง เหมือนกัน ปี ๒๕๕๗ ก็ประกาศนิรโทษกรรมตัวเองเหมือนกัน ทีพี่น้องประชาชนจะเสนอ เข้าไปเสนอเป็นพระราชบัญญัติ จะเสนออะไรก็แล้วแต่ มีความขัดแย้งเกิดขึ้น วันนี้เป็นสิ่งที่ดี ที่เราจะต้องมาช่วยกันศึกษาแล้วร่างเป็นพระราชบัญญัติเสีย แล้วยังเคยมีนิรโทษกรรมให้แก่ ผู้ก่อกบฏอีกนะครับ ท่านศึกษาดูปฏิวัติ ยึดอำนาจหรือก่อกบฏยังมีการนิรโทษกรรมให้พวก ตัวเองก็มี ก็อ้างเหตุเพื่อสามัคคีของคนในชาติบ้าง ให้โอกาสบุคคลผู้กระทำความผิดที่ได้ทำ คุณประโยชน์ จนทำให้การนิรโทษกรรมผู้ก่อรัฐประหารกบฏ กลายเป็นการสร้างวัฒนธรรม ลอยนวลพ้นผิดกับคนพวกนี้ไปแล้วครับท่านประธาน แล้วท่านจะมองว่าการนิรโทษกรรมแก่ พี่น้องประชาชนมีความผิด จากการเห็นต่างทางการเมืองจะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไรครับ ความเห็นต่างเฉย ๆ เราจะนิรโทษกรรมมันจะเป็นอะไรครับ ขอนิดเดียวครับ ผู้อภิปราย ไม่เยอะครับพรรคเพื่อไทย ขออนุญาตให้ผมได้อภิปรายเถอะครับท่านครับ แล้วที่ผ่านมา ไม่นานประเทศเราก็มีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น ที่เกิดจากความผิดพลาดตาม กฎหมายพิเศษ พระราชกำหนดกฎอัยการศึกอะไรต่าง ๆ ในสถานการณ์ฉุกเฉินเยอะแยะ ไปหมด อยากจับใคร อยากยัดเยียดอะไรยัดเยียดครับ พี่น้องประชาชนโดนคดีชุมนุมทาง การเมืองหลายคนที่ยังถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัว ยังมีพี่น้องประชาชนหลายคนตาย ในคุกครับคดีที่เกิดจากความเห็นต่างการเมืองทั้งนั้น พรรคพวกเพื่อนฝูงเดี๋ยวนี้พอคดีออกมา ก็หนีหัวซุกหัวซุน เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่พรรคพวกเพื่อนฝูงของผมนี่ครับ ท่านประธานที่เคารพครับ ที่ผ่านมาการนิรโทษกรรมได้ถูกเสนอกันมาแล้ว แต่ในอดีตเห็นภาพนักการเมืองเสนอ แต่วันนี้เวลานี้ประชาชนสังคมเรียกร้องให้มีการเสนอนิรโทษกรรม มันเป็นการรวมกันแล้ว กระผมคิดว่าเวลานี้คือจุดนิมิตหมายที่ดีที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน จากขั้วการเมืองที่ ทะเลาะเบาะแว้งเป็นคู่แข่งทางการเมืองมาตลอดระยะเวลา ๒๐ ปี วันนี้เราเห็นร่วมกันแล้ว ว่าวันนี้เรามาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันเป็นพรรครัฐบาลร่วมกัน โอกาสที่ดีในครั้งนี้จะเกิดจาก ความสำเร็จ เกิดจากพวกเราผู้มีหน้าที่และอำนาจในวันนี้ พี่น้องประชาชนผู้ถูกจองจำ พวกเขาไม่ได้มีอำนาจในการใช้โอกาสนี้ พวกเขาไม่มีอำนาจหยิบยื่นความเป็นธรรมให้กับ พวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้มีอำนาจหยิบยื่นความเป็นธรรมให้กับพ่อแม่ลูกหลานของเขา เลยครับท่านประธาน ท่านประธานที่เคารพครับ กระผมติดตามข่าวยังพบว่าทั้งพรรค ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างเสนอนิรโทษกรรมเข้ามาในสภาของเราชุดนี้ แล้วรัฐบาลกำลัง จะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเข้ามาในสภาเราพิจารณาอีกด้วย กระผมเข้าใจว่าหลายฝ่าย ยังมีความเห็นยังไม่ตกผลึกในรายละเอียด แต่เราสามารถทำบัญชีแนบท้ายได้ครับ ท่านประธาน กฎหมายนี้ใครบ้างที่จะได้รับการนิรโทษกรรม หรือใช้เวลาช่วงขัดแย้ง ช่วงใดบ้างในการที่จะนิรโทษกรรม หรือคดีใดในความผิด เรามาลงรายละเอียดอีกทีหนึ่ง กระผมคิดว่าเราสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ เราสามารถที่จะศึกษาเสียก่อน ทำเป็น ๒ ขยักก็ได้ อันนี้คิดส่วนตัวของผม เช่น ประเด็นใดทุกฝ่ายสามารถพูดเจรจาคุยกันได้ ความคิดเห็น ไปในทางเดียวกัน ทุกฝ่าย ๓-๕ ฝ่าย มันไม่เกิน ๔ ฝ่ายหรอกครับที่มันแตกแยกกันอยู่เดี๋ยวนี้ อะไรง่าย ๆ ก็เดินหน้าไปก่อน ถ้าเราเห็นว่าพี่น้องประชาชนมีคดีความเกี่ยวกับความมั่นคง ประชาชนมีความผิด การชุมนุมนิรโทษกรรมก็ปล่อยพวกเขาไปก่อนเถอะครับ ส่วนประเด็นใด ที่ไม่ตกผลึก ประเด็นใดที่หลายฝ่ายยังมีความเห็นแตกต่างก็ให้อยู่ในกระบวนการเจรจาพูดคุย กันก่อน แล้วตกผลึกร่วมกันก็นิรโทษกรรมก็ได้ กฎหมายคนเขียนครับ สภาเรา ๕๐๐ คน ทำได้ครับ ถ้าเราสามารถแบ่งเป็น ๒ ขยักได้พี่น้องประชาชน อันนี้เป็นความคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผมที่จะได้รับพวกที่มีความผิดเล็ก ๆ น้อยๆ อย่าเอาโซ่ตรวนมาใส่เขาเลยครับ ให้เขากลับมาเป็นอิสระดำเนินชีวิตอยู่กับครอบครัว อยู่กับพ่อกับแม่ของเขาเถอะ ให้เขาไปร่ำ ไปเรียน หรือถ้าเรากลัวว่านิรโทษกรรมแล้ว กลัวว่าเขาจะได้ใจและทำซ้ำอีก เราก็ทำกฎหมาย ของเราขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นรายละเอียดอีกทางหนึ่งที่เราจะต้องดำเนินการต่อไป ถึงเวลาแล้ว ที่พี่น้องประชาชนทุกคนจะได้รับอิสรภาพเพื่อนำไปสู่การสมานฉันท์และปรองดองอย่างที่ กล่าวมา ผู้หลักผู้ใหญ่ได้กล่าวมาเบื้องต้น ลูกหลานของเรายังติดอยู่ในคุกครับตอนนี้ ควรจะ ได้ออกมาเรียนมาสร้างอนาคตของเขา อย่าให้เขาไปอดอาหารในคุกครับ ควรจะได้คืนสู่ อิสรภาพ ให้ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพของเขาและให้คนลี้ภัยต่างแดนควรได้กลับบ้านอยู่กับ ครอบครัวอบอุ่นของเขาครับ อย่าปล่อยให้พี่น้องประชาชนของเรา คนหนุ่มคนสาวของเรา ซึ่งเป็นอนาคตของพวกเราต้องอยู่ติดกับดักพันธนาการแห่งคดีความ และถูกจองจำอย่าง ต่อเนื่องเลยครับ เพราะเขาพวกนั้นเขาสามารถมอบสิ่งดี ๆ ให้กับพวกเราได้ในอนาคต และทั้ง ๆ ที่พวกเราก็สามารถปลดปล่อยพวกเขาออกมาได้ ทำเถอะครับ ผมขอสนับสนุน ญัตตินี้เพื่อให้เราได้ไปศึกษาและรีบศึกษา แล้วก็คอยดูข้างนอกข้างในด้วยว่ามันมีเหตุการณ์ อะไรต่าง ๆ บ้าง เพราะเราอยากอยู่ ๔ ปี ถ้าเราอยู่ ๔ ปี เรานิรโทษกรรมได้แน่นอน เอาเร็ว ๆ นะครับเพื่อที่ให้บุตรหลานของพวกเราและคนที่มีปัญหาเรื่องนี้ได้พ้นพันธนาการโซ่ตรวน พวกนี้สักทีมันจะได้รับความเป็นธรรม ขอบคุณท่านประธานครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านรังสิมันต์ โรม เชิญครับ

นายรังสิมันต์ โรม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน ผม รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอร่วมอภิปรายการพิจารณา ของสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เราคงต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่าในช่วงเวลา ที่ผ่านมามันมีความขัดแย้งทางการเมืองจำนวนมาก มีการใช้นิติศาสตร์สงคราม มีการ ดำเนินคดี เมื่อสักครู่ท่านผู้อภิปรายสักครู่ก็ช่วยยืนยันว่ามันมีทั้งผู้ลี้ภัย มีผู้ที่ต้องไปอดอาหาร ประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ท่านประธานเราจะเห็นว่าความขัดแย้ง เหล่านี้มันเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนหน้านี้เราอาจจะเห็นคนที่มีอายุสักหน่อย ที่เรียกร้องความยุติธรรมและถูกดำเนินคดี วันเวลาผ่านไปความขัดแย้งทางการเมืองไม่สิ้นสุด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็กลายเป็นว่าวันนี้คนหนุ่มสาวจำนวนมากและรวมไปถึงคนที่เคยมี ประสบการณ์ในการต่อสู้เมื่อครั้งในอดีต วันนี้เขาก็ออกมาชุมนุมประท้วงต่อสู้ถูกดำเนินคดี พูดกันตรง ๆ การดำเนินคดีเหล่านี้ประเทศไทยของเราได้อะไร เราเอาคนนับพันไปขังไว้ใน เรือนจำ ประเทศของเราได้อะไร มันไม่มีทางที่จะได้ประโยชน์หรอกครับ แล้วเราก็ต้อง ยอมรับว่าถ้าเราต้องการแก้ปัญหาวิกฤติแบบนี้มันไม่มีหนทางอื่น เพราะถ้าเราใช้ระบบ กฎหมายที่เป็นอยู่ในวันนี้ สิ่งที่เราจะเห็นก็คือลูกหลานของเรา คนที่เราบอกว่าคืออนาคต ของชาติเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำครับ ถามว่าเข้าไปอยู่ในเรือนจำ สิ่งที่ตามมาคืออะไรครับ คนรอบตัวของเขาก็จะรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วถามว่าเชื้อไฟเหล่านี้มันจะมี วันหมดหายไปหรือครับ มันไม่มีทาง มันก็จะมีการชุมนุมประท้วงต่อไปเรื่อย ๆ มันก็จะมีการ เรียกร้องต่อไปเรื่อย ๆ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมวันนี้ไม่ใช่เพราะมีผู้คนออกมาชุมนุมประท้วง แต่เพราะมันมี ความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม ดังนั้นแนวความคิดของการที่เราจะนิรโทษกรรม สิ่งแรก ที่เราจะต้องติดกระดุมให้ถูกต้องก่อน เราไม่ควรจะเริ่มต้นด้วยการจำกัดว่าถ้าทำความผิด มาตรานี้ ข้อหานี้ จะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม ถ้าเราเริ่มต้นในการขีดเส้นแบบนั้น สิ่งที่จะ เกิดขึ้นตามมาก็คือจะมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้รับความยุติธรรมต่อไป แน่นอนครับถ้าเราไม่ได้ พูดถึงหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน เขาอาจจะเป็นคนหลักร้อย แต่สังคมกำลังรู้สึกว่าหลักร้อย ที่ว่านี้เราจะมั่นใจต่อกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงต้องเริ่มต้นในการ Design ประตูนี้ให้เปิดกว้างที่สุด ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำคืออย่าไปกำหนดว่าข้อหา อย่างเช่น ๑๑๒ ถ้ามี ๑๑๒ ถูกดำเนินคดีด้วย ๑๑๒ อย่างนี้ไม่ได้รับนิรโทษกรรม เราทำแบบนี้ ไม่ได้ สืบเนื่องจากเมื่อวานครับ เมื่อวานเราได้เห็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งแน่นอน ในฐานะของพรรคก้าวไกลเราพยายามที่จะทำหน้าที่ในการแก้วิกฤติทางการเมือง แต่เราต้อง ยอมรับว่าผลของคำวินิจฉัยเมื่อวานทำให้พื้นที่ของการหาทางออกทางการเมืองมันยากขึ้น เรื่อย ๆ แต่ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอย่างน้อยสภาแห่งนี้ เฉพาะหน้าการพิจารณาในเรื่องของ การนิรโทษกรรมจะเป็นส่วนสำคัญที่อย่างน้อยเราได้ถอนฟืนออกจากกองไฟเสียบ้าง อาจจะ ไม่ได้แก้ปัญหาวิกฤติทั้งหมด แต่อย่างน้อย ๆ ที่สุดเรากำลังคืนคนที่เป็นคนหนุ่มสาว คนที่เขา ออกไปเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งการเรียกร้องสิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะเป็นความผิดทางอาญา ให้กลับคืนสู่สังคม นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็น และนี่คือสิ่งที่กลไกของสภาควรจะทำหน้าที่ ด้วยเหตุนั้นพรรคก้าวไกลนำโดยท่านผู้นำฝ่ายค้าน เราได้นำเสนอร่างของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นร่างนิรโทษกรรม ซึ่งมีหลักการ ๔ ข้อที่ผมอยากจะนำเสนอ เป็น ๔ หลักการเพื่อ ประกอบการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งจริง ๆ ถ้าเกิดรับฟังเนื้อหาการอภิปราย ของแต่ละท่านผมนึกว่าเป็นการอภิปรายวาระหนึ่งของ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมไปแล้วนะครับ นี่ถ้าไม่ใช่วิสามัญศึกษา แต่เป็นร่างกฎหมาย วันนี้เราผ่านวาระหนึ่งไปแล้วนะครับ เพราะฟัง จากเนื้อหาหลาย ๆ ท่านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย ก็เห็นปัญหา ดังนั้นกลับมาที่หลักการที่ควรจะ มีการพิจารณาหลักการข้อที่ ๑ การจะนิรโทษกรรม ย้ำกันให้ชัดอีกครั้ง อย่าไปกำหนดว่า ถ้าผิดมาตรานี้นิรโทษไม่ได้ การจะกำหนดในลักษณะแบบนั้นจะต้องมีการจำกัดเอาไว้จริง ๆ ซึ่งนำมาสู่ข้อที่ ๒ ถ้าเราจะจำกัดกันจริง ๆ ว่าอะไรที่ห้ามนิรโทษมันควรจะมีลักษณะที่ร้ายแรง ร้ายแรงอย่างไร เช่น เป็นผู้ที่จะกระทำความผิดมาตรา ๑๑๓ เช่น เป็นบุคคลที่เคยรัฐประหาร วันที่ ๒๒ พฤษภาคม แบบนี้ไม่ควรจะได้รับการนิรโทษกรรม หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควบคุมการชุมนุม สามารถควบคุมการชุมนุมที่ไล่ระดับตั้งแต่น้อยไปหามาก แต่ปรากฏว่าไปสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ตีหัว ตีกบาลผู้ชุมนุม แบบนี้ไม่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะเป็นการกระทำ ที่เกินกว่าเหตุ หรือนำไปสู่การกระทำที่นำไปสู่การพรากชีวิต แบบนี้ไม่ควรนิรโทษกรรม แต่ที่เหลือครับท่านประธานเขาควรมีโอกาสที่ได้รับการนิรโทษกรรมได้ ถัดมาข้อที่ ๓ สิ่งที่ พรรคก้าวไกลเรานำเสนอ เรารู้ดีว่าวันนี้ความขัดแย้งทางการเมืองมันมีเวลาอย่างยาวนาน แล้วมันขัดแย้งที่แตกต่างและมีจุดยืนในหลาย ๆ กรณีที่ไม่เหมือนกัน แต่เราก็พึงตระหนักว่าคนที่ออกไปชุมนุมเขาล้วนมีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง เมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่เราควรจะทำ เราอาจจะไม่สามารถนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งกันทั้งหมดได้ เพราะระยะเวลามันกว้าง มันมีความจำเป็นที่จะต้องการกลั่นกรองว่ากรณีแบบไหนที่สมควร จะได้รับการนิรโทษกรรม การนิรโทษกรรมครั้งนี้จึงไม่สามารถจะพิจารณาแค่เฉพาะในแง่มุม ทางกฎหมายอย่างเดียวได้ด้วยซ้ำ แต่มันต้องมีมิติทางการเมือง มีหลาย ๆ มิติที่เป็น องค์ประกอบเข้ากันมา พรรคก้าวไกลเราจึงเสนอว่ามันควรจะมีคณะกรรมการให้ระยะเวลา ของ ๒ ปีในการพิจารณา ไม่ว่าจะประกอบไปด้วยประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้าน บุคคลซึ่ง ครม. เลือกมา ๑ คน สส. ข้างรัฐบาล ข้างฝ่ายค้านอย่างละ ๑ คน ผู้พิพากษา หรืออดีตผู้พิพากษาโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ตุลาการ หรืออดีตตุลาการศาลปกครอง โดยที่ประชุมใหญ่ศาลปกครอง อัยการ หรืออดีตอัยการ โดยคณะกรรมการอัยการอย่างละ ๑ คน รวมไปถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อีก ๑ คน เป็นองค์ประกอบในการพิจารณา แล้วชี้ขาดลงไปว่าใคร กรณีไหนถึงสมควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ดูจากองค์ประกอบ แบบนี้ผมมีความเชื่อมั่นว่ามันไม่ได้นำไปสู่การเข้าข้างใด เข้าข้างฝ่ายหนึ่งเพียงอย่างเดียว มากไปกว่านั้นท่านประธานเรียนกันตามตรง ถ้าเราจะนิรโทษกรรมมันต้องอาศัยเจตจำนง ทางการเมือง และในบางครั้งการแสวงหาเจตจำนงทางการเมืองมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา บางข้อหา บางมาตรา อย่างเช่นยกตัวอย่างคือ มาตรา ๑๑๒ ถ้าไม่คุยกันจบ ไม่เคลียร์กันได้ พูดกันตรง ๆ คนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา ๑๑๒ ก็คงจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม แต่อย่างน้อย ถ้าเรามีประตูบานที่มันใหญ่พอแล้วให้เวลาเพียงพอ เราอาจจะหาทางออกได้ แต่ขอร้อง อย่ารีบปิดประตูนี้ และข้อสุดท้ายท่านประธาน ผมเข้าใจดีว่ามีหลายท่านที่อาจจะเชื่อมั่น ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมและคิดว่าไม่อยากจะเข้าสู่กระบวนการของการนิรโทษกรรม เราก็เปิดช่องให้ท่านสามารถสละสิทธิ์ได้ กรณีเช่นนี้ถ้าท่านรู้สึกว่าถ้าท่านได้รับการนิรโทษกรรม ไปแล้วเดี๋ยวจะเป็น Conflict Of Interest เดี๋ยวจะเป็นการอาจจะเรียกว่าเคยต่อต้าน การนิรโทษกรรมมาก่อน แล้ววันนี้จะมาได้รับการนิรโทษกรรมเสียเอง ไม่อยากจะเข้าร่วม ไม่เป็นอะไรใช้ช่องทางนี้ทำได้ ๔ ข้อนี้ท่านประธาน เป็นหลักการสำคัญที่ผมอยากจะให้ คณะกรรมการที่จะตั้ง ซึ่งผมเชื่อว่าจะตั้งสำเร็จได้พิจารณา แล้วผมหวังว่าเราจะมี ไม่ว่า จะเป็นรายงานหรือร่างศึกษาที่ออกมาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศนี้และประชาชนอย่างจริง ๆ อย่าให้เขาว่าได้ว่ามีแต่ทหาร มีแต่คณะรัฐประหารที่สามารถนิรโทษกรรม วันนี้สภาที่มาจาก ประชาชน สภาที่ประชาชนเขาไว้วางใจ เราควรทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ขอบคุณ ท่านประธานครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปอีก ๓ ท่านนะครับ ท่านแรก ท่านนิพนธ์ คนขยัน ท่านที่ ๒ ท่านพุธิตา ชัยอนันต์ ท่านที่ ๓ ท่านวัชระพล ขาวขำ เชิญท่านนิพนธ์ คนขยัน ครับ

นายนิพนธ์ คนขยัน บึงกาฬ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ ๓ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ขออนุญาตร่วมอภิปราย เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ท่านประธานครับ หลาย ๆ ท่านได้พูดลึกมากมายแล้ว แต่ผมขออนุญาตท่านประธานว่าจะขออนุญาตไป ประเด็นนี้ครับท่านประธาน ในฐานะที่ผมเคยมีโอกาส ขอโทษเพื่อนสมาชิกด้วยครับ ได้ร่วม ชุมนุม ไม่อยากร่วมหรอก แต่ใจมันชอบนะครับ ก็เลยได้ไปร่วม

นายนิพนธ์ คนขยัน บึงกาฬ ต้นฉบับ

-๖๗/๑ จังหวัดบึงกาฬของผมตายไป ๒ คนครับ ดังนั้นเอาล่ะเมื่อเหตุการณ์มันผ่านไป ความเจ็บช้ำ ในหัวใจมีกันทุกคนนั่นล่ะ แต่วันนี้ต้องขอบคุณท่าน สส. ขัตติยา สวัสดิผล ที่กล้าเสนอญัตตินี้ ขึ้นมา ผมเห็นว่าวันนี้เราต้องร่วมกันเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ทุกภาคส่วน ส่วนใคร ปฏิบัติไม่เป็นธรรมก็ขอให้รับกรรมไป ดังนั้นวันนี้เพื่อน ๆ ที่ร่วมอุดมการณ์มาจากสีไหนก็แล้วแต่ แต่ตอนนั้นขออนุญาตท่านประธานครับผมมาในนามสีแดง มาเพราะอะไร อุดมการณ์เรา คิดว่ามันต้องเดินอย่างนี้ มันถึงเป็นที่มา ทุกสีก็คงเหมือนกันนั่นล่ะ แต่ท้ายที่สุดมีการล้มตาย กันเกิดขึ้น บางคนก็ติดคุกติดตาราง ทั้ง ๆ ที่ไม่ตั้งใจจะไปติดคุก แต่ไปกับเพื่อน บางคนก็ต้อง ระเหเร่ร่อน ที่เพื่อนสมาชิกได้พูดกันหลายท่านแล้ว ดังนั้นวันนี้ผมเชื่อมั่นว่าสภาแห่งนี้คงต้อง ได้พิจารณาร่วมกันว่าเราจะเดินให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเราได้มีความสุข ได้ร่วมหันหน้า เข้าหากันเพื่อเราจะพัฒนาประเทศบ้านเราเมืองเราให้ดีที่สุด ตราบใดถ้าเราไม่หันหน้าเข้าหากัน แล้วยังขัดแย้งกัน บ้านเมืองเราก็คงไม่มีความสุขครับท่านประธานที่เคารพ ดังนั้นเห็นด้วย อย่างยิ่งกับผู้เสนอญัตติที่จะได้มีการตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาว่าเราจะออกกรอบหรือ เราจะออกแนวใดเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายครับ อย่างเพื่อนสมาชิกหลายท่านบอกว่าคนที่ สั่งการ เอาเปรียบอะไรก็แล้วแต่ แล้วแต่กรรมาธิการศึกษาว่าจะเอาอย่างไร แต่ข้อความ อันยิ่งใหญ่ที่ผมคิดว่า เราต้องปรองดองสมานฉันท์ให้ชาติบ้านเมืองเรานี้อยู่แบบผาสุกดังที่ผม กราบเรียน ท่านประธานที่เคารพ ทุกท่านที่นำเสนอมาเพื่อหาทางออกร่วมกันในการ นิรโทษกรรมให้กับบางคนบางท่าน โดยเฉพาะไม่มีเจตนาที่จะไปคิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง แต่ก็โดนดังที่เห็นตามข่าวหนังสือพิมพ์ ทีวีต่าง ๆ ดังนั้นถึงเวลาแล้วครับที่พวกเรา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านต้องทำเพื่อประชาชน ชาติ บ้านเมืองให้มีความสุข เราอย่า ไปมองว่าวันนี้สีนั้นสีนี้ สีไหนก็แล้วแต่คนไทยด้วยกันครับ ผมพูดตลอดเวลาว่าเราจะเกิด ภาคไหนมันเลือกเกิดไม่ได้ครับท่านประธาน เมื่อเกิดเป็นคนไทยแล้ว เราจะทำอย่างไร ให้ประเทศไทยเรามีความเจริญรุ่งเรือง มีความสมัครสมานสามัคคี เดินหน้าแข่งขันกับ ประเทศทั่วโลกได้นั่นคือสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นวันนี้เห็นด้วยกับท่านที่เสนอญัตติให้ตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เพื่อความสุขและความเป็นธรรม และเพื่อผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มีโอกาสได้มีความสุข ในสังคมประเทศชาติต่อไปครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านพุธิตา ชัยอนันต์ เชิญครับ

นางสาวพุธิตา ชัยอนันต์ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน ดิฉัน พุธิตา ชัยอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ การแสดงออก ทางการเมืองของประชาชนในที่ผ่านมานั้นเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าล้วนมีมูลเหตุจูงใจที่มี ความสัมพันธ์โดยตรงกับความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเหตุให้มีการออกมาเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง แสดงความคิดเห็น จนนำไปสู่การดำเนินคดีกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ขอสไลด์ค่ะ

นางสาวพุธิตา ชัยอนันต์ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

วันนี้ ณ ที่แห่งนี้จึงจำเป็นที่จะต้อง มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม จากชุดข้อมูลเกี่ยวกับคดีความเพื่อใช้รณรงค์นิรโทษกรรมประชาชนของศูนย์ทนายความ สิทธิมนุษยชน พบว่าจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงออกและชุมนุมทางการเมือง ในหลายระลอกนั้น ตั้งแต่ช่วงปี ๒๕๕๑ จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ นี้ มีจำนวนรวมทั้งสิ้นอย่างน้อย ๓,๙๐๕ ราย ใน ๒,๖๕๗ คดี ในช่วงระลอกการชุมนุมของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี ๒๕๕๑ มีผู้ถูกดำเนินคดีอย่างน้อย ๑๙๕ คน ในปี ๒๕๕๒-๒๕๕๖ การชุมนุมของ นปช. หรือคนเสื้อแดงมีผู้ถูกดำเนินคดีอย่างน้อย ๑,๗๖๓ คน ในปี ๒๕๖๓ ถึงปัจจุบัน เริ่มตั้งแต่การชุมนุมของประชาชน เยาวชนและ คณะราษฎร ๒๕๖๓ มีผู้ถูกดำเนินคดีอย่างน้อย ๑,๙๔๗ คน ๑,๒๖๗ คดี นี่ยังไม่นับรวมคดี จากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และช่วง ๕ ปีของ คสช. ที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลของ ศูนย์ทนายความ ดิฉันจะขอยกตัวอย่างให้ละเอียดขึ้น ข้อมูลที่ทางศูนย์ทนายได้รวบรวมไว้ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ จนถึงปัจจุบัน ในจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมดอย่างน้อย ๑,๙๔๗ คนนั้น คดีเด็กและเยาวชนจากการแสดงออกและการชุมนุม ๒๘๖ คน คดีมาตรา ๑๑๖ ๑๔๗ คน คดีมาตรา ๑๑๒ ในปี ๒๕๖๓ ถึงปี ๒๕๖๗ อย่างน้อย ๒๖๒ คน ๒๘๗ คดี โดยเป็นคดีที่มี คำพิพากษาแล้ว ๑๑๙ คดี คดีถึงที่สุดแล้ว ๓๘ คดี และยังอยู่ในชั้นศาลอีก ๑๙๓ คดี นี่คือ ตัวเลขอย่างน้อยอย่างน้อยนั่นหมายความว่ายังมีอีกหลายคดีที่ยังไม่ถูกรวบรวมไว้ในระบบ ข้อมูลนี้ ยังมีอีกหลายชีวิตที่กำลังรอคอยความเป็นธรรม ในขณะที่รัฐคอยบอกว่าอยากให้ ประชาชน เยาวชนคนไทยของเราเป็นพลเมืองที่ดี ที่มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย แต่พอพวกเขาออกมาแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงใจพวกท่าน พวกท่านกลับจับกุมดำเนินคดี พวกเขา ไม่ให้พื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกทางการเมือง สร้างตราบาปด้วยคดีความมั่นคง ถ้าไม่อยู่ในคุกก็ต้องหนีออกไปนอกประเทศ จากบ้าน จากเมือง จากครอบครัว จากเพื่อน บางคนไม่มีโอกาสแม้กระทั่งบอกลาครอบครัวและคนที่เขารักด้วยซ้ำไป เวลาที่พวกท่าน ขัดแย้งผลประโยชน์กันก็ดึงประชาชนเข้าไปร่วมด้วย แต่เวลาที่พวกท่านตกลงผลประโยชน์ กันลงตัวพวกท่านกลับทิ้งให้ประชาชนตาดำ ๆ ต้องเจ็บปวดอย่างเดียวดาย ดิฉันขออนุญาต สื่อสารผ่านท่านประธานไปยังผู้มีอำนาจทั้งหลายในประเทศนี้ หากพวกท่านไม่อาจจะสร้าง ความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นได้ในสังคมนี้ หากพวกท่านจะยอมไม่ได้จริง ๆ ที่จะให้คนเท่ากัน ก็ขอให้ช่วยแสดงความเมตตาต่อ ๓,๙๖๕ ชีวิตนี้เป็นอย่างน้อย ล้างตราบาปให้กับพวกเขา และครอบครัว พาประชาชนเหล่านี้ของพวกท่านกลับสู่อ้อมกอดแห่งความสงบสุข อย่าทิ้ง ใครไว้กลางทางเพียงเพราะว่าพวกเขาไม่มีผลประโยชน์ต่อพวกท่าน นี่คือคำวิงวอนจาก ประชาชนคนหนึ่งที่มีเพื่อนที่ต้องถูกจำคุก นี่คือคำวิงวอนจากประชาชนคนหนึ่งที่มีเพื่อน ที่ต้องลี้ภัยออกไปนอกประเทศ นี่คือคำวิงวอนจากประชาชนคนหนึ่งที่มีเพื่อนที่ทำงาน ถวายตัวถวายใจให้กับพรรคการเมือง แล้วต้องกลายเป็นเหยื่อถูกบังคับให้สูญหาย ดิฉัน คิดอยู่นานว่าดิฉันจะพูดเรื่องนี้ดีไหม แต่นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่เคยพูดมาก่อน และขอให้เวทีแห่งนี้ ในสภาแห่งนี้ให้ดิฉันได้พูดเพื่อเพื่อนของดิฉัน ดิฉันมาในฐานะผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง และเพื่อนและพี่และน้องและแม่ของลูกที่เกิดมาในประเทศแห่งนี้ สุดท้ายนี้การนิรโทษกรรม ที่จะเกิดขึ้นในรอบนี้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนเท่านั้น แต่จะ เป็นการคืนความรัก ความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่ประชาชนตาดำ ๆ มีให้กับพวกท่าน ดิฉัน ขอให้พวกเราใช้สติพิจารณากันให้ดีว่าประเทศของพวกเราควรจะเดินหน้าไปอย่างไร ไม่ใช่ เพื่อใคร เพื่ออนาคตของลูกหลานของพวกท่านเอง ขอบคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านวัชระพล ขาวขำ เชิญครับ

นายวัชระพล ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม วัชระพล ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นผม ขออนุญาตเริ่มต้นด้วยคำว่า ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ ใน ๓ บริบท บริบทที่ ๑ บริบททางด้านสังคม นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ เรามีกลุ่มทางการเมืองเรา มีคนที่คิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตร กลุ่ม นปช. กลุ่ม กปปส. หรือกลุ่มคนที่สนับสนุนแนวคิดทางการเมือง แต่บริบทของสังคมได้เปลี่ยนแปลงไป ผมจะขอยกตัวอย่าง ไม่ต้องยกตัวอย่างที่ไหนไกล ยกตัวอย่างผมเอง ผมเคยมีเพื่อนที่สนิท มีเพื่อนที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันกินข้าวด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ในขณะนั้นผมสนับสนุน แนวทางในทางการเมืองในอีกทางหนึ่ง แต่พรรคพวกเพื่อนฝูงผมสนับสนุนอีกทางหนึ่ง ทำให้ เราไม่สามารถกลับมาคุยกันได้อีกเลย ไม่เคยจะปรองดองกันได้อีกเลย แล้วก็บางคนถึงขั้น เรียกว่าไม่เผาผีกันเลยครับ แต่ว่าบริบทที่เปลี่ยนไปนี้มันส่งผลกระทบมากมาย ไม่ได้ส่งผล กระทบทางด้านสังคมครับ

นายวัชระพล ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

บริบทที่ ๒ คือส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ประเทศไทย ถอยหลัง ไม่เคยเดินหน้าไปได้อย่างสุดอีกเลย แต่ก่อนเราจะได้ยินว่าเราเป็นพี่ใหญ่แห่ง ASEAN และเรากำลังจะเป็นเสือตัวที่น่ากลัวที่สุดในเอเชียผงาดขึ้นมา แต่นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ หลังจาก การรัฐประหารและการตั้งกลุ่มก๊วนทางการเมืองขึ้นมา เราก็ไม่สามารถกลับมายืนในที่ที่เรา จะควรยืนในรูปแบบของเศรษฐกิจได้อีกเลยครับ

นายวัชระพล ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

บริบทที่ ๓ บริบททางการเมือง นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มีผู้ได้รับผลกระทบ ทางการเมืองมากมาย แม้กระทั่งตัวครอบครัวผมเองที่ยังต้องขึ้นศาลทุกเดือน ในสัปดาห์หน้า คนในครอบครัวของผมก็ต้องไปขึ้นศาล ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย โทษไม่หนัก โทษสูงสุดของก่อการร้ายก็คือประหารชีวิตครับ ไม่หนักเลยครับ แต่ว่าก็ต้องไปขึ้นศาลตลอด ทุกเดือน -------------------------------------------------------------------------- แล้วอีกตัวอย่างหนึ่ง คุณพ่อของท่านสมาชิกในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ได้ถูกยิง บาดเจ็บสาหัสจากอาวุธสงคราม นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ท่านก็ไม่สามารถมีสุขภาพแข็งแรง ได้อีกเลย เรียกได้ว่าตาแทบจะมองไม่เห็น แขนยกไม่ขึ้น เดินก็เดินลำบาก เหล่านี้เป็นผลกระทบ มาจากการเรียกร้องทางการเมือง การเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งสิ้น แล้วผมก็ยังต้องขอบคุณ ท่านสมาชิกพี่สาวของผมเอง ท่านขัตติยา สวัสดิผล ซึ่งได้รวบรวมความกล้าเสนอญัตตินี้ เพราะทุกครั้งที่ผมพูดถึงพี่สาวของผม ผมก็น้ำตาไหลทุกครั้ง เพราะผมก็อยู่ในเหตุการณ์ ในวันนั้น ผมรักและเคารพคุณพ่อของท่านขัตติยา สวัสดิผล มากครับ ดังนั้นญัตตินี้ต้องศึกษา และต้องพิจารณาอย่างครบถ้วน เพราะว่าเรามีคนที่คิดอีกแบบหนึ่ง แล้วเราก็มีคนที่คิด อีกแบบหนึ่ง คิดเห็นไม่ตรงกัน แต่โดยส่วนตัวในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมมีจุดยืน ส่วนตัวในนาม สส. คือ ๑. ผมไม่สนับสนุนให้มีการนิรโทษความผิดที่เกี่ยวกับมาตรา ๑๑๒ ๒. ผมไม่สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมในความผิดที่เกี่ยวกับการทุจริต และ ๓. ผมในนาม ส่วนตัวผมไม่สนับสนุนให้นิรโทษกรรมในความผิดที่จะเปิดแผลเก่าหรือสร้างแผลใหม่หรือ สร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นมาครับท่านประธาน สุดท้ายผมไม่สนับสนุนแน่นอนให้นิรโทษกรรม ในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการประทุษร้าย ทำร้ายร่างกายให้เกิดบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ดังเช่นท่านสมาชิกหลาย ๆ ท่านในห้องนี้ที่ประสบพบกัน ดังนั้นการศึกษาการพิจารณาก็คง ต้องรอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะย้อนกลับไปเหมือนที่ผมบอกท่านประธานข้างต้นว่า ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แต่วันนี้ถ้าเราศึกษาอย่างรอบคอบ เราสามารถสร้าง ความรัก ความปรองดองและสามัคคีให้กลับมาอีกครั้งหนึ่งได้ครับ กราบขอบพระคุณ ท่านประธานครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่าน ท่านแรกท่านวรายุทธ ทองสุข ท่านที่ ๒ ท่านชญาภา สินธุไพร ท่านที่ ๓ ท่านวีรภัทร คันธะ เชิญท่านวรายุทธ ทองสุข เชิญครับ

นายวรายุทธ ทองสุข จันทบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม วรายุทธ ทองสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดจันทบุรี พรรคก้าวไกล ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่วันนี้พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลได้เสนอญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลเองก็ได้เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมไว้แล้ว และยังมีร่างกฎหมาย จากพรรคอื่น ๆ อีก เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้งยังมีร่างกฎหมายของภาคประชาชน อีก ๑ ฉบับ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการล่ารายชื่อ ปรากฏการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การเมืองทั้งในและนอกสภาในวันนี้พวกเราเห็นตรงกันในหลักการที่ว่าจะต้องมีการทำอะไร สักอย่างในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีการเมือง อย่างไรก็ตามผมทราบดีว่าในรายละเอียด ร่างกฎหมายแต่ละฉบับเสนอแตกต่างกันออกไป เช่น การระบุให้ชัดเจนถึงช่วงเวลา เหตุการณ์ ข้อหาและบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องนำไป ถกเถียงกันต่อในขั้นตอนของกรรมาธิการและการร่างกฎหมาย ประเทศไทยตกอยู่ในวังวน แห่งความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน อย่างน้อยรอบล่าสุดถ้านับตั้งแต่การรัฐประหาร ๒๕๕๗ จนถึงปัจจุบัน ก็กินเวลาชีวิตของพวกเรามาแล้วมากกว่า ๑ ทศวรรษ และถ้าย้อนกลับไปที่ รัฐประหารปี ๒๕๔๙ ก็เท่ากับว่าพวกเราอยู่กับความขัดแย้งทางการเมืองมากกว่า ๑๘ ปี เข้าไปแล้ว ผมย้อนนึกถึงตัวเองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งเมื่อ ๑๘ ปีก่อน ตอนนั้นผมยังอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อายุแค่ ๑๗ ปี ปัจจุบันผมอายุ ๓๕ ปีแล้วครับ ก็เท่ากับว่าความไม่ปกติทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่กับตัวผมมาเกินครึ่งชีวิตไปแล้ว จากคนที่ไม่สนใจการเมือง ไม่ได้อยากยุ่งกับการเมือง วันนี้ต้องกลายมาเป็นนักการเมือง กลายมาเป็นผู้แทนราษฎรอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ท่านประธานครับ สำหรับประเทศไทย การนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้ ระยะเวลา ๙๐ กว่าปีหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เราเคยออก กฎหมายระดับพระราชบัญญัติและรัฐธรรมนูญเพื่อนิรโทษกรรมเหตุการณ์ทางการเมืองแล้ว อย่างน้อย ๒๓ ครั้ง ในจำนวนนั้น ๑๑ ครั้ง เป็นการนิรโทษกรรมแก่บรรดาคณะรัฐประหาร ที่เข้ามายึดอำนาจ ซึ่งการรัฐประหาร ๒ ครั้งล่าสุดที่เป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งในปัจจุบัน ก็คือรัฐประหารปี ๒๕๔๙ และปี ๒๕๕๗ คณะรัฐประหารก็นิรโทษกรรมตัวเองไว้ในรัฐธรรมนูญ การเขียนนิรโทษกรรมของคณะรัฐประหารก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร คือมักนิรโทษกรรม การกระทำความผิดไว้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมทุกการกระทำและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ การใช้อำนาจรัฐ แล้วไม่ได้ระบุว่านิรโทษกรรมให้ความผิดฐานใดเป็นการเฉพาะ นอกจาก การนิรโทษกรรมคณะรัฐประหารที่ทำกันเป็นปกติแล้ว ในประวัติศาสตร์ของการนิรโทษกรรม ทั้งหมด ๒๓ ครั้ง ยังมีอีกถึง ๖ ครั้ง ที่มีการออกกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้ผู้พยายามทำ การรัฐประหารแต่ไม่สำเร็จแล้วกลายเป็นกบฏ ดังนั้นถ้ารวมการนิรโทษกรรมทั้งหมด ๒๓ ครั้ง จะเห็นว่ามีจำนวน ๑๗ ครั้ง ที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารที่ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ ถ้าเห็นข้อมูลเช่นนี้แล้วก็อาจจะกล่าวได้ว่าการนิรโทษกรรมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะถูกใช้ เพื่อตอบสนองและเอื้อประโยชน์ต่อชนชั้นนำ หรือผู้มีอำนาจมากกว่าการทำรัฐประหาร เพียงเท่านั้น แต่ในอดีตที่ผ่านมาก็มีการนิรโทษกรรมกับผู้ที่ถูกกลั่นแกล้งจากผู้มีอำนาจ เช่นกัน ซึ่งในอดีตมีเหตุการณ์การชุมนุมครั้งสำคัญอยู่ ๓ ครั้งด้วยกันครับท่านประธาน ที่นำไปสู่การนิรโทษกรรมให้กับประชาชน ครั้งที่ ๑ เหตุการณ์การชุมนุม ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุการณ์การชุมนุม ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ และครั้งสุดท้ายก็คือจากการชุมนุมพฤษภาทมิฬ ปี ๒๕๓๕ กฎหมายจะกำหนดขอบเขตด้านเวลาว่าหากกระทำสืบเนื่องจากการชุมนุมภายใน วันใดบ้างจึงจะถูกนิรโทษกรรม แต่ไม่มีขอบเขตด้านฐานความคิด ฐานความผิดไม่มีข้อยกเว้น ข้อหาใดเป็นพิเศษ กำหนดไว้อย่างกว้าง ๆ ว่าหากการกระทำของบุคคลผิดกฎหมายใด ให้ถือว่า ไม่ผิดกฎหมาย เช่นเหตุการณ์ชุมนุมช่วง ๖ ตุลาคมมีคดีที่กระทบกับสถาบันเบื้องสูงก็ได้รับ การนิรโทษกรรม และแน่นอนว่าทุกเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐก็จะได้รับ การยกเว้นการกระทำผิดเสมอ แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของ ผู้ชุมนุมด้วยก็ตาม ผมเข้าใจดีว่าการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้เป็นความต้องการให้ คณะกรรมาธิการพิจารณาหลักการของการนิรโทษกรรมโดยรอบคอบและรัดกุม รวมทั้งได้รับ การยอมรับทุกภาคส่วน และวางรายละเอียดการนิรโทษกรรมตามแบบฉบับที่จะต้องมีการระบุ ให้ชัดเจนถึงช่วงเวลา เหตุการณ์ ข้อหาและบุคคลที่จะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งการอภิปราย ตั้งแต่ต้นของผมก็อยากจะขอให้คณะกรรมาธิการชุดนี้ได้เห็นว่าในอดีตที่ผ่านมาการนิรโทษกรรม ที่แม้จะไม่ตรงไปตามหลักการบ้าง แต่สุดท้ายไม่ว่าจะข้อหาอะไร คดีอะไรที่เกิดขึ้นกับประชาชน ทั่วไปไม่เคยมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นจะไม่นิรโทษกรรม สุดท้ายผมหวังว่าการตั้งกรรมาธิการ ชุดนี้จะสร้างหลักประกันและพื้นที่ปลอดภัย มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและเป็นต้นทาง ในการลดความขัดแย้งและสร้างความปรองดองกันในสังคมไทยให้ได้ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านชญาภา สินธุไพร เชิญครับ

นางสาวชญาภา สินธุไพร ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน ชญาภา สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขต ๘ พรรคเพื่อไทย ดิฉันขอมีส่วนร่วม ในการอภิปรายญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาแนวทางตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ท่านประธานที่เคารพคะ จากสถานการณ์ ความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน นับเป็น ระยะเวลายาวนานถึงเกือบ ๒๐ ปี จนเกิดการสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน อิสรภาพ ของประชาชน ในห้วงเวลาดังกล่าวมีนักศึกษา ประชาชน จำนวนมากที่ถูกดำเนินคดี เกี่ยวข้องกับการแสดงออกและการเรียกร้องทางการเมือง ทั้งถูกดำเนินคดี ถูกจับกุมคุมขัง เดินเข้าออกเรือนจำ สูญเสียอิสรภาพนับครั้งไม่ถ้วนค่ะ เพียง เพราะความเห็นต่างทางความคิด และคิดต่างทางการเมืองกับผู้มีอำนาจในขณะนั้น หลายคน ต้องเผชิญชะตากรรมแสนสาหัสและเป็นช่วงชีวิตที่ลำบาก ในครอบครัวที่มีคนติดคุก ๑ คน ก็เหมือนติดคุกกันทั้งบ้าน เพราะสมาชิกในครอบครัวก็ไม่สามารถใช้ชีวิตหรือมีวิถีชีวิตได้ ตามปกติสุขอีกต่อไป ดังนั้นเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่มีต่อเนื่องมาในอดีต และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งดังกล่าว วันนี้เราต้อง เปิดใจให้กว้าง มองเห็นความแตกต่างหลากหลายของผู้คน ซึ่งเป็นความจริงที่ต้องคงดำรงอยู่ ในสังคมประชาธิปไตย แต่ยังสามารถอยู่ร่วมกันบนความหลากหลายและแตกต่างนี้ได้ค่ะ การนิรโทษกรรมจึงเป็นกระบวนการหนึ่งที่จะนำไปสู่การปรองดองสมานฉันท์เพื่อให้สังคม เดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ดีร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมทั้งจากพรรคการเมืองก็ดี และจาก ความคิดเห็นของภาคประชาชนก็ดี ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะเกิดขึ้น เพราะต่างก็คือมีหมุดหมายในการคืนชีวิตใหม่ให้แก่ประชาชน ให้สังคมได้เริ่มต้นใหม่เดินหน้า ต่อไปได้ แต่ในเนื้อหารายละเอียดที่มีความอ่อนไหวความละเอียดอ่อนทางสังคมก็จำเป็นต้อง ไปพูดคุยกันในหลายประเด็นต่อไป เพื่อให้การตรากฎหมายเกิดการยอมรับมากที่สุดจาก ทุกฝ่ายและเป็นไปอย่างรอบคอบ และไม่ให้การตรากฎหมายดังกล่าวเกิดเป็นความขัดแย้งใหม่ ขึ้นอีก และสามารถสำเร็จและเกิดขึ้นได้จริง เพื่อเป็นการปลดล็อกพันธนาการให้กับพี่น้อง ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ดิฉันจึงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าควรตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษา การตรากฎหมายนิรโทษกรรมนี้ เพื่อพูดคุยในรายละเอียดและได้ร่วมถกเถียงในรายประเด็น โดยไม่ใช่การเปิดพื้นที่ของความขัดแย้งใหม่ แต่เพื่อเปิดพื้นที่ความปลอดภัยให้เกิดการถกเถียง ในรายละเอียดได้ของทุกฝ่ายอย่างครบถ้วนค่ะ ท่านประธานที่เคารพเพื่อให้ประเทศได้ เดินหน้าสร้างความปรองดองของคนในชาติ การแก้ไขความขัดแย้งคงไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ ฝ่ายนักการเมืองหรือพรรคการเมืองเพียงเท่านั้นค่ะ แต่น่าจะกลับมาที่ฐานสำคัญที่สุดก็คือ ประชาชน เพราะเกือบ ๒๐ ปีที่ผ่านมามีความขัดแย้งทางความคิด มีการต่อสู้ทางการเมือง ของคนหลายกลุ่ม และเกิดเป็นผลกระทบมากมาย มีคนต้องคดีความจากการต่อสู้ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อบริบทของสังคมทั้งฝ่ายการเมือง พรรคการเมือง และภาค ประชาชนต่างก็หยิบยกเรื่องนิรโทษกรรมขึ้นมาถกเถียงในเวลานี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วม แสวงหาจุดร่วม และหาทางออกร่วมกันในสังคม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีประชาชนออกไป ต่อสู้เคลื่อนไหวเรียกร้องทางการเมือง ผ่านไปหลายปีก็ยังต่อสู้คดีการเมืองนี้อยู่ ถ้าเราไม่คิด หาทางคลี่คลายแก้ไข นั่นหมายความว่าสังคมนี้จะมีคนยุคหนึ่งที่อยู่กับการขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกจองจำ ถูกกักขัง ถูกทำให้ขาดอิสรภาพแบบนี้ไปอีกนานหลายสิบปี ซึ่งไม่ใช่สัญญาณบวก และจะเป็นบาดแผลทางความคิดแบบนี้ต่อไปค่ะ การคลี่คลายแก้ไขร่วมกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ความแตกต่างทางความคิดทางการเมืองกลายเป็นเรื่องของการ เผชิญหน้าหรือเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งใหม่ เราต้องช่วยกันนำพาประเทศไปยืนอยู่จุด ที่ตั้งต้นกันใหม่ มีทิศทางการเมืองที่ใครที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ เห็นแย้งกันได้ แต่อยู่ ร่วมกันอย่างสันติภายใต้กติกาที่ชอบธรรมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดิฉันจึงเห็นด้วยและ สนับสนุนญัตติด่วนในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นประตูบานแรกในการสร้างบรรยากาศ ของความปรองดองสมานฉันท์ของคนในสังคมและของชาติค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านวีรภัทร คันธะ เชิญครับ

นายวีรภัทร คันธะ สมุทรปราการ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม วีรภัทร คันธะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ อำเภอพระประแดง ยกเว้นตำบลบางจาก พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับก่อนหน้านี้ท่านประธาน ที่ปรึกษาพรรค เพื่อนร่วมพรรคของผมก็ได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้วเรื่องประวัติศาสตร์การเมือง การสร้าง ความสมานฉันท์ การคืนความยุติธรรมให้กับบ้านเมือง ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของ ประชาชนหรือแม้แต่สถิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนิรโทษกรรมไปแล้วนั้น ผมอยาก จะใช้โอกาสนี้แจ้งให้ทุกท่านถึงความน่ายินดี ๒ ประการของประเทศไทย

นายวีรภัทร คันธะ สมุทรปราการ ต้นฉบับ

ข้อที่ ๑ ประเทศไทยและพี่น้องประชาชนชาวไทยเราไม่ได้เป็นชาติหรือ ประเทศเดียวที่เผชิญกับปัญหาเหล่านี้ เราเผชิญปัญหาเหล่านี้พร้อมกันกับมวลมนุษยชาติ ในระดับโลก แค่ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างช่วงเวลากันครับ ปีนี้ครบรอบ ๒๐ ปี ของถ้อยแถลง คุณ Kofi Annan รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคง โดยเลขาธิการสหประชาชาติในยุคที่ ทั่วโลกเผชิญสงครามหลากหลายมิติ ปากท้อง ศาสนา ความเชื่อ ค่านิยม เป็นขั้วขัดแย้ง ที่ใหญ่และแทบจะครอบคลุมคนเป็นพันล้านคนทั่วโลก การจะเข้าใจยุคสมัยแห่งความขัดแย้ง เราต้องเชื่อได้ก่อนว่าสังคมจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ กระบวนการและ กลไกที่มุ่งคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมที่เพิ่งผ่านพ้นจากระบอบเผด็จการ และผ่านการละเมิด สิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความยุติธรรมและความปรองดองอย่างมีเหตุผล เป็นถ้อยแถลงแนวคิดความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน ถูกหยิบมาถกเถียงและใช้อย่าง กว้างขวางในช่วงหลังสิ้นสุดสงครามเย็น ซึ่งในขณะนั้นหลายประเทศโดยเฉพาะแอฟริกา และลาตินอเมริกาเพิ่งผ่านพ้นระบอบเผด็จการที่ใช้ความรุนแรงต่อพลเมืองตั้งแต่ระดับที่ โหดร้ายที่สุด อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การก่อสงครามกลางเมือง การสังหารหมู่ การซ้อม ทรมานและอุ้มหาย จนถึงการดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ เรื่องดังกล่าวเป็นโจทย์ใหญ่ในสังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยว่าจะจัดการกับกรณี การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลก่อนหน้าก่อไว้ และคลี่คลายความขัดแย้งที่หยั่งรากลึก ในสังคมอย่างไร ผู้ผลักดันแนวคิดความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านเชื่อว่าการจัดการกับ โจทย์เหล่านี้ มิใช่การหมกมุ่นกับอดีต แต่หากมุ่งจะคลายปมปัญหาปัจจุบันและผลักดันให้ สังคมเดินหน้าสู่อนาคตได้ ทั้งคืนความยุติธรรมให้แก่เหยื่อความรุนแรง ปลดปล่อยสังคมจาก วงจรการใช้ความรุนแรงและสมานรอยร้าว เพื่อให้สังคมนั้นเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่เคารพหลักนิติรัฐและสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้เหตุการณ์ความรุนแรงในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สะท้อนว่า หากจะสร้างความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านให้เกิดขึ้นจริง ควรมีการออกแบบ กลไกเฉพาะที่นอกเหนือไปจากกระบวนการอาญาทางปกติ เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองและนโยบายรัฐ หลายครั้งกระบวนการ ความยุติธรรมของประเทศนั่นเองก็เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลใช้ ความรุนแรงต่อพลเมืองได้ ดังนั้นกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมภายใต้โครงสร้างเดิม ของสังคม จึงไม่สามารถจัดการกับอาชญากรรมทางการเมืองที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ก่อเหตุได้ หากเจาะลงไปลึกอีกสักนิด หากคำว่า สงครามเย็น นั้นกว้างเกินขอบเขตไป ท่านก็จะพบกับ ประเทศที่เหลือเชื่อว่าพวกเขามักถูกยกเป็นตัวอย่างของเคสกฎหมายนิรโทษกรรมจากทั่วโลก ก็คือ ประเทศแอฟริกาใต้กับประเทศอาร์เจนตินา ประเทศแอฟริกาใต้มักถูกยกให้เป็นตัวอย่าง ของการสร้างความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านอย่างประนีประนอม คือไม่ดำเนินคดีกับ ผู้กระทำผิด แต่ก็ไม่ถึงกับยกเว้นความผิดและเพิกเฉยต่อความรุนแรงในอดีต บริบทความขัดแย้ง ในขณะนั้นเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายแบ่งสีผิว โดยรัฐบาลคนผิวขาวเมื่อคนผิวดำ ลุกขึ้นต่อต้านก็เกิดการปราบปราม กักขังและซ้อมทรมานจนนำไปสู่การจับอาวุธปะทะกัน ทั้ง ๒ ฝ่าย หลังจากที่แอฟริกาใต้ถูกนานาชาติคว่ำบาตร และกดดันให้ยุติการดำเนินนโยบาย แบ่งแยกสีผิว จึงได้มีการจัดการเลือกตั้งและเจรจาออกกฎหมายส่งเสริมความเป็นเอกภาพ และความสมานฉันท์ เพื่อสะสางกับเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น โดยกำหนดกลไก ๓ ข้อคือ แสวงหาความจริง นิรโทษกรรมและเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหาย พร้อมตั้งคณะกรรมการเพื่อความจริงและความปรองดอง ไม่ใช่คณะกรรมการหลอก ๆ ที่ใช้ เพื่อพวกพ้องของตัวเอง การนิรโทษกรรมใน Model แอฟริกาใต้นับเป็นการเปลี่ยนความหมาย และวิธีการนิรโทษกรรมในยุคสมัยนั้น คือไม่ใช่ลบล้างความผิดเพียงอย่างเดียว แต่กำหนด เงื่อนไขให้ผู้กระทำผิดที่ต้องการได้รับการนิรโทษกรรมจะต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ และเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของตน ส่วนคณะกรรมการ ก็มีหน้าที่ค้นหาข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่าการกระทำความผิดนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง หรือไม่ ผู้กระทำความผิดจะได้รับการปลดเปลื้องความผิดก็ต่อเมื่อคณะกรรมการได้วินิจฉัย ว่าการกระทำความผิดจริง และมีการประกาศต่อสาธารณะแล้วเท่านั้น เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ แอฟริกาใต้ค่อนข้างประสบความสำเร็จในการสร้างความยุติธรรม คือคณะกรรมการ ที่เอาจริงเอาจังเป็นที่ยอมรับสำหรับทุกฝ่ายและยึดโยงกับประชาชนโดยตรง จนได้รับการ ยกย่องให้เป็นต้นแบบของคณะกรรมการค้นหาความจริง แอฟริกาใต้ใช้วิธีการเปิดรับสมัครประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมเป็นกรรมการ จัดเวทีให้ผู้สมัคร ตอบคำถามต่อสาธารณะ จากนั้นให้ประธานาธิบดีเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อสุดท้าย และในรายชื่อ เหล่านั้นยังต้องได้รับการลงนามรับรองโดยบุคคลสำคัญในกระบวนการต่อต้านการเหยียด สีผิว อาทิ Nelson Mandela ผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น รวมถึงบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของ สังคมอีกจำนวนหนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม อีกสัก ๑ ประเทศ ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นตัวอย่างของประเทศที่พยายามผลักดันกลไกทุกข้อ แม้จะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน และเผชิญกับอุปสรรคที่ทำให้ความยุติธรรมก้าวถอยหลังไประหว่างทางบ้าง แต่ในท้ายที่สุด ก็สามารถเปิดเผยความจริงสู่สังคมและนำตัวกลุ่มทหารที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนมาดำเนินคดี และได้รับการลงโทษสำเร็จ ภายในระยะเวลา ๗ ปีที่ระบอบเผด็จการทหารครองอำนาจ ในอาร์เจนตินา มีประชาชนจำนวนมากที่เป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงโดยรัฐ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเหยื่ออุ้มหาย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารกักตัวไว้ในค่าย ถูกซ้อมทรมานก่อนที่จะถูกฆ่า และนำศพไปทิ้งตามที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนกว่า ๓๐,๐๐๐ คน การกวาดล้างประชาชนอย่างเป็น ระบบนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งรัฐบาลได้รับแรงกดดันจากนานาชาติและประสบ ปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงตัดสินใจคืนอำนาจให้กับประชาชนและออกกฤษฎีกานิรโทษกรรม ให้พวกตัวเองก่อนลงจากอำนาจ ภายใต้แรงกดดันขององค์กรสิทธิมนุษยชนและประชาชน อาร์เจนตินา รัฐบาลใหม่เริ่มต้นสะสางอดีตอันโหดร้าย ด้วยการยกเลิกกฎหมายนิรโทษกรรม ตัวเองของกองทัพ พร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อไต่สวนกรณีที่บุคคลถูกทำให้ สาบสูญ แต่เพื่อลดแรงปะทะกับกองทัพที่ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ คณะกรรมการชุดนี้ จึงถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีทั้งหมดและมีอำนาจอย่างจำกัด เช่น ไม่สามารถเรียกพยาน มาให้ปากคำได้ อย่างไรก็ดีผลงานของคณะกรรมการชุดนี้กลับสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคม เป็นอย่างมาก มีการเปิดเผยรายละเอียดของคดีทรมานฆาตกรรมและอุ้มหายโดยกองทัพ อย่างละเอียด จนทำให้เกิดกระแสเรียกร้องในสังคมให้ดำเนินคดีต่อกองทัพและฝ่ายความมั่นคง แต่ก่อนที่อาร์เจนตินาจะสามารถนำตัวนายทหารที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนมาขึ้นศาลได้ก็ต้องใช้ เวลาผลักดันกว่า ๒๗ ปี โดยมีฝ่ายกองทัพคอยกดดันและคัดค้านไม่ให้กระบวนการยุติธรรม เดินหน้าอยู่ตลอด กุญแจสำคัญของอาร์เจนตินาคือความต่อเนื่องในการผลักดันทั้งรัฐบาล และภาคประชาสังคม รวมถึงความพยายามพลิกแพลงหาช่องทางดำเนินคดี เช่น เรียกร้องให้ มีการไต่สวนความจริงในศาล เพื่อเรียกตัวพยานหรือจำเลยมาสอบสวนให้ปากคำ แม้จะ ไม่มีอำนาจตั้งข้อกล่าวหาหรือลงโทษ แต่กลไกนี้ก็ทำให้เกิดการรวบรวมหลักฐานเก็บไว้ใช้ เมื่อเงื่อนไขสังคมเปลี่ยนไป ประสบการณ์ในอาร์เจนตินาและแอฟริกาใต้ต่างเป็นเครื่องยืนยัน ว่าการแสวงหาความยุติธรรมหลังเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องในอุดมคติที่เป็นไปไม่ได้ หากสังคมร่วมกันผลักดันกลไกต่าง ๆ โดยไม่หยุดอยู่แค่การนิรโทษกรรม ความหวังที่จะ เปลี่ยนผ่านสังคมสู่ความยุติธรรมย่อมมีมาถึงเสมอ จากความน่ายินดี ข้อที่ ๑ คือประเทศเรา ไม่ได้เผชิญหน้าความท้าทายในการทำร่างนิรโทษกรรมอยู่ประเทศเดียวในโลก ก็ต้องขอแสดง ความยินดีกับข้อที่ ๒ เพราะว่าสิ่งที่ดูยากก็ยังพอเป็นไปได้ ไม่ได้หมดหวังเหมือนที่ใคร หลอกลวง

นายวีรภัทร คันธะ สมุทรปราการ ต้นฉบับ

สุดท้ายแล้วครับผ่านข้อเสนอที่สอดคล้องกับนโยบายพรรคก้าวไกลและเป็น นโยบายที่เราใช้หาเสียงใน ๓๐๐ นโยบายการเลือกตั้งที่พี่น้องประชาชนเลือกเราเข้ามา เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่สังคมประชาธิปไตยเต็มใบ และเป็นประชาธิปไตยสากล ผม สส. ในฐานะ ตัวแทนของพี่น้องประชาชนและประชาชนของประเทศในเวทีโลกขอสนับสนุนญัตติดังกล่าว ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ สภาผู้แทนราษฎรยินดีต้อนรับคณะครูนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยชลบุรี อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี สภายินดี ต้อนรับนะครับ ต่อไปอีก ๓ ท่าน ท่านแรกท่านวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ท่านที่ ๒ ท่านชลธิชา แจ้งเร็ว ท่านที่ ๓ ท่านจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ เชิญท่านวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ครับ

นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ เชียงราย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ท่านประธานคะ ประเทศไทยของเรานั้นผ่านช่วงที่ยากลำบากมาหลายครั้ง แล้วก็มีผู้ที่ได้รับผลกระทบหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหารปี ๒๕๔๙ การชุมนุม ปี ๒๕๕๒ การสลายการชุมนุมของพี่น้องเสื้อแดง การรัฐประหารปี ๒๕๕๗ รวมถึงการชุมนุมของน้อง ๆ เยาวชนที่ผ่านมา ถ้าจะถามถึงเรื่องผลกระทบ จำนวนผู้ได้รับผลกระทบไม่สามารถประเมินได้ การนิรโทษกรรมในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมีประโยชน์ เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาที่จะคลี่คลาย ความขัดแย้ง เปิดทางให้ผู้ที่เห็นต่างสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน แต่การนิรโทษกรรม ก็เคยถูกใช้แบบไม่ถูกต้อง เช่น การนิรโทษกรรมตนเองของคณะรัฐประหาร ทำให้วงจร รัฐประหารเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า การตั้งกรรมาธิการชุดนี้ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ไม่มีใครมา สามารถปฏิเสธได้ และการขอให้ตั้งกรรมาธิการชุดนี้เกิดขึ้นก็เพื่อจะให้มีการพูดถึงเนื้อหาว่า ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ว่ามีอะไรบ้าง พูดถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ ได้รับโทษ ผู้ที่เสียหาย ผู้ที่เห็นด้วย และเห็นต่างกับการแก้นิรโทษกรรม การหาจุดร่วมกัน ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าเรื่องนี้มันมีความละเอียดอ่อน กรรมาธิการชุดนี้ จึงต้องประกอบไปด้วยทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพรรคการเมือง นักวิชาการหรือว่าฝ่ายเอกชน ภาคประชาชนเองก็ตาม การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจึงควรมุ่งเน้นไปในทางการศึกษา และพิจารณาอย่างรอบคอบและเหมาะสมกับการจัดการคดีทางการเมืองและความขัดแย้ง ในสังคม อีกทั้งการพิจารณาคดีต่าง ๆ ต้องนึกถึงผลดีและผลเสียของการนิรโทษกรรม ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย และหาแนวทาง ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อสร้างความปรองดองและความสมานฉันท์ในประเทศไทยเรา อย่างไร ก็ตามเราต้องเน้นว่าการนิรโทษกรรมนั้นไม่ได้หมายถึงว่าเราจะปลดปล่อยความผิด หรือว่า การรับผิดชอบต่าง ๆ จากการกระทำผิดทุกประการ และเพื่อความเป็นธรรมการดำเนินการ ที่มีประสิทธิภาพ คณะกรรมาธิการวิสามัญควรจะถูกตั้งขึ้นศึกษาและพิจารณาในขอบเขต นิรโทษกรรมอย่างรอบคอบ ลองคิดดูว่าจะนิรโทษกรรมตามเหตุการณ์ หรือว่าจะนิรโทษกรรม ตามช่วงกรอบเวลาที่เกิดขึ้น หรือจะเป็นตามฐานความผิดที่ต่าง ๆ กันไป พิจารณาถึงสถานการณ์ และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะต้องเกิดขึ้นต่อสังคมไทย โดยรวม การตั้งคณะกรรมาธิการครั้งนี้จะช่วยให้การนิรโทษกรรมเป็นไปด้วย ความเหมาะสม และเป็นธรรม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความปรองดองให้กับชาติไทยเราอีกค่ะ เรื่องนี้ต้องถือว่า เป็นกุญแจดอกสำคัญอีกอันหนึ่งเลยที่จะไขล็อกความขัดแย้งทางการเมืองได้ และหากเรา ทำกันแบบไม่รอบคอบ ไม่ศึกษาให้ดีและไม่ครบทุกฝ่าย อาจจะนำพาถึงความขัดแย้ง อีกครั้งหนึ่งก็ได้ พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา การจัดทำนิรโทษกรรม และขอเชิญชวนเพื่อนสมาชิกผู้เป็นตัวแทนของประชาชนมาร่วม หมุนกงล้อแห่งประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน โดยที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ อย่างสูงสุด ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านชลธิชา แจ้งเร็ว ครับ

นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร ดิฉัน นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ การนิรโทษกรรมจะช่วยยกระดับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย และจะเป็นการแสดง เจตนารมณ์ที่ทรงพลังของรัฐบาลไทยใหม่ในการพลิกโฉมสิทธิมนุษยชนที่เคยถูกประณาม ในรัฐบาลก่อนหน้านี้ค่ะ และการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ก็จะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึง เจตนารมณ์ของประเทศไทยว่า เราได้ตระหนักแล้วว่าการใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการ ขจัดศัตรูทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ สำหรับดิฉันการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ มีความหมายอยู่ ๓ ความหมายด้วยกัน

นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ

ข้อที่ ๑ คือความหมายต่อรัฐบาลภายใต้การนำของคุณเศรษฐา ทวีสิน เพราะ การนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะเป็นการบ่งบอกว่ารัฐได้ตื่นรู้ถึงข้อผิดพลาดจากการใช้เครื่องมือ ทางกฎหมายในอดีตมาประหัตประหารบุคคลที่เห็นต่างทางการเมือง และแม้ว่าการละเมิด สิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของคุณเศรษฐา ทวีสิน แต่อย่างไรก็ตามการนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายแห่งเจตนารมณ์ที่บอกชัดต่อ สังคมโลกว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้

นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ

๒. คือความหมายต่อสังคมไทย นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านความขัดแย้งทาง การเมืองที่ร้าวลึกในระดับภาคประชาชนที่มีมาอย่างยาวนานไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้น ที่ไม่ใช่แค่การแสร้งยิ้ม จับมือ จูบปากกัน แต่มันคือการริเริ่มชำระล้างความอยุติธรรม และบาดแผลทางจิตใจที่ไม่ว่าประชาชนฝ่ายใดก็แล้วแต่เราล้วนแต่เจ็บปวดกับเรื่องนี้ไม่แพ้กัน

นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ

๓. เป็นเรื่องที่สำคัญคือความหมายของประเทศไทยในเวทีประชาคมโลก ท่านประธานคะการนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะพลิกโฉมหน้าสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย จากที่เละเทะย่อยยับมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ที่คนของกระทรวงการต่างประเทศของเรา จะต้องแบกรับความกดดันเวลาที่เราไปประชุมกับประชาคมโลกที่เขาต่างก็ส่ายหน้าให้กับ การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารตอน ปี ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา และที่สำคัญคือการนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะเป็นความก้าวหน้าอย่างเป็น รูปธรรมอย่างที่สุดในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติของประเทศไทย ซึ่งในเรื่องนี้ดิฉันต้องขอแสดงความชื่นชมและ ขอสนับสนุนรัฐบาลไทยในการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ และที่สำคัญเราจะได้เลิกพูดกัน สักทีนะคะว่าเรามีสิทธิมนุษยชนแบบไทย เพราะเมื่อเราเข้าไปสู่ภาคีของ UN แล้วนะคะสิทธิ มนุษยชนเป็นเรื่องของสากลเป็นแนวคิดสากล ไม่ได้มีการแบ่งว่าเป็นสิทธิมนุษยชนตาม ประเทศไทยหรือตามประเทศตะวันตก ไม่มีนะคะ แต่ว่ามันเป็นสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นกับ ทุกคน และการแสดงความเห็นต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในไทย จาก UN หรือ จากนานาประเทศนั้นก็ไม่ใช่การแทรกแซงของ UN หรืออเมริกาแต่อย่างใด แต่มันคือ การช่วยกันประคับประคองให้ประเทศสมาชิกของ UN ร่วมกันรักษามาตรฐานบรรทัดฐาน ของโลกเราไว้ อย่างที่ดิฉันกล่าวไปว่าการนิรโทษกรรมในครั้งนี้จะมีความหมายต่อประเทศไทย ในเวทีประชาคมโลกอย่างมาก และรัฐบาลไทยเองจะต้องทำงานหนักในด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ปทุมธานี ต้นฉบับ

การนิรโทษกรรมเกี่ยวอะไร ดิฉันขอพูดถึงในที่นี้นะคะ สำหรับดิฉันค่ะดิฉัน คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนิรโทษกรรมในครั้งนี้เราจะรวมคดีทางการเมืองหรือการใช้ กฎหมายและการกระทำของรัฐในการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนที่เห็นต่าง ตั้งแต่การชุมนุม ของกลุ่มพันธมิตรในช่วงปี ๒๕๔๙ เรื่อยมาจนถึงการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรในช่วง ปี ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา และหากเราค้นพบตัวเลขเราจะพบว่าตัวเลขคดีความนั้นน่าตกใจ เป็นอย่างยิ่ง ดิฉันขอยกข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โดยในช่วงปี ๒๕๖๓ เป็นต้นมาเรามีสถิติประชาชนที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา ๑๑๒ แล้วอย่างน้อยถึง ๒๖๓ คน และที่น่าหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่งในจำนวนนี้มีเยาวชนที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปีถึง ๒๐ คนด้วยกันที่ถูก ดำเนินคดีด้วยมาตรานี้ นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นใน ประเทศไทย ในขณะที่เราเข้าไปเป็นภาคีกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศด้วยกันถึง ๗ ฉบับ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ที่ระบุชัดว่าประเทศไทยจะต้องสนับสนุน ปกป้องและคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพในการ แสดงออก การแสดงความคิดเห็นแล้วก็การชุมนุมโดยสงบของประชาชน ท่านประธานคะ การจะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาตินั้น ดิฉันเชื่อว่า การนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองคือหนึ่งในบททดสอบที่นานาประเทศเขากำลังจับตามอง ประเทศไทยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมาผู้รายงานพิเศษ ของ UN ได้แสดงข้อกังวลอย่างร้ายแรงต่อคำพิพากษาลงโทษจำคุก ๘๗ ปี ลดโทษแล้วเหลือ ๔๓ ปี ๖ เดือน ในกรณีของคุณอัญชัญ ปรีเลิศ และเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินคดีการตั้ง ข้อกล่าวหากับทุกคนที่กำลังถูกดำเนินคดี โดยเฉพาะในคดีมาตรา ๑๑๒ การที่จะเข้าไปเป็น ส่วนหนึ่งของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเขาก็ได้มีการให้คำแนะนำสำหรับ ประเทศที่สนใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งและที่สมัครรับเลือกตั้ง ๑. ควรที่จะต้องมีการประกัน และมีการชดเชยการเยียวยาการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในประเทศของคุณ ๒. คือจะต้องมีแผน อุดช่องโหว่ที่เป็นข้อท้าทายต่อสิทธิมนุษยชนในประเทศของคุณ นั่นหมายถึงว่าเราจะมาอ้าง สิทธิมนุษยชนแบบไทย ๆ แล้วขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลที่ประชาคมโลกเขากำลัง พูดถึงกันไม่ได้ อย่างมาตรา ๑๑๒ ที่เราจำเป็นที่จะต้องร่วมกันหารือถกเถียงกันอย่างสร้างสรรค์บนมาตรฐาน สิทธิมนุษยชนสากล ๓. คือการปฏิญญาว่าจะยึดมั่นในการสนับสนุนแล้วก็คุ้มครองสิทธิ มนุษยชนในมาตรฐานสากล และ ๔. สุดท้าย คือการให้ความร่วมมือกับกลไกของ UN ไม่ว่า จะเป็นการเชิญผู้รายงานพิเศษของ UN เข้ามาตรวจสอบ มาติดตามสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ในประเทศไทยซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราได้ปิดกั้นในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แล้วก็ยังมีข้อเสนอแนะต่าง ๆ อีกมากมายที่ประเทศไทยควรจะต้องคำนึงถึง ซึ่งหนึ่งในนั้น ดิฉันคิดว่าเราเองรัฐบาลไทยหากให้ความสำคัญกับการเข้ามานั่งในตำแหน่งของคณะมนตรี สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เราไม่อาจเพิกเฉยต่อคำแนะนำหรือ Recordation ต่าง ๆ ที่สหประชาชาติเขาให้กับประเทศไทยไว้ โดยเฉพาะในเรื่องของการยุติการดำเนินคดี ทางการเมืองกับผู้ที่เห็นต่างของรัฐได้ ท่านประธานคะ ไม่มีเวลาอื่นอีกแล้วค่ะที่เหมาะสม ไปกว่านี้แล้วที่เราจะเริ่มแสดงคำมั่นสัญญาให้กับประชาคมโลกได้ประจักษ์เห็นอย่างชัดเจน ด้วยการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และนี่ไม่เพียง เพื่อเป็นการริเริ่มการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทยเท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสของ ประเทศไทย รัฐบาลของคุณเศรษฐา ทวีสิน ที่จะพลิกโฉมหน้าสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย และยกระดับของประเทศเราให้ไปถึงมาตรฐานสากล พร้อมกับการชิงตำแหน่งที่นั่งของ Human Rights Council ในสหประชาชาติค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ครับ

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ กระผม นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จากจังหวัดศรีสะเกษครับ ท่านประธานครับ ผมเฝ้าติดตามสถานการณ์ ในประเทศไทยตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน ด้วยความกังวลครับในช่วงประมาณ ๑๘ ปี ที่ผ่านมา ประเทศของเรามีความถดถอยในเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือในด้าน อื่น ๆ แทบทุกด้าน แต่เดิมเราเคยเป็นประเทศที่คาดว่าจะเป็นเสือตัวที่ ๕ ของ Asia สามารถ เทียบชั้นไต้หวัน เกาหลีได้ แต่ปัจจุบันผมไม่แน่ใจว่าเราจะยังเป็นเสือตัวที่ ๕ ของ ASEAN ได้ หรือไม่ ASEAN เล็กกว่า Asia เยอะนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเรายังสามารถเป็นเสือตัวที่ ๕ ของ ASEAN ได้หรือไม่ สาเหตุหลัก ๆที่เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ส่วนหนึ่งก็เกิดจาก ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยครับ ความขัดแย้งทางการเมืองและทางสังคมที่เกิดขึ้น ในประเทศเป็นสถานการณ์ที่บั่นทอนความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ผมมี ส่วนได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การชุมนุมสำคัญ ๆ หลายครั้ง สำหรับปี ๒๕๕๓ ตอนนั้นผม เป็นสมาชิกวุฒิสภาอยู่ก็ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจากับผู้ชุมนุม และต่อมาเมื่อมีการสลาย การชุมนุมแล้วก็ได้เป็นคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งตั้งโดยวุฒิสภา มีอาจารย์ โคทม อารียา มีท่านพลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ มีท่าน สว. วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ขออภัย ที่เอ่ยนามไม่ใช่เรื่องเสียหาย ท่านต่าง ๆ เหล่านี้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ แล้วก็มาเป็นรองประธาน ในคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง พวกเราได้มีโอกาสได้ศึกษาถึงข้อขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา มีโอกาสได้ศึกษาถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีการใช้อาวุธจริงกับประชาชนที่ไม่มีอาวุธหรือบุคคลบางส่วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ด้วยซ้ำไป เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้พวกเราได้ศึกษาอย่างละเอียดครับ ข้อมูลบางอย่างก็มี การตีพิมพ์สู่สาธารณชน บางส่วนก็เก็บไว้ที่วุฒิสภา ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของ ประเทศเรา แต่ว่าท่านประธานครับ แม้พวกเราพยายามที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มีการตั้ง คณะกรรมการโดยวุฒิสภาก็ดีหรือ คอป. ก็ดีหรือคณะกรรมการอื่น ๆ ก็ดีนะครับ แต่ท่านประธานก็คงเห็นนะครับว่าสถานการณ์ในวันนี้ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจครับ เรายังมี ความขัดแย้งในสังคมอยู่อย่างต่อเนื่อง ผมขออนุญาตยกตัวอย่างเหตุการณ์ในไอซ์แลนด์ เพื่อประกอบการพิจารณา ในประเทศไอซ์แลนด์ในปี ค.ศ. ๑๙๗๒ เคยเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Bloody Sunday หรือวันอาทิตย์เลือด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทหารอังกฤษสลายการชุมนุม ประชาชนชาวไอริช และมีผู้เสียชีวิตทันที ๑๓ คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก ๑ คน ในภายหลัง เหตุการณ์ดังกล่าวมีการตรวจสอบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหลายครั้ง ครั้งหลังสุด ท่านประธานเกิดขึ้น ในปี ค.ศ. ๑๙๙๘ หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ๒๖ ปี ใช้เวลา ๑๒ ปี ในการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบผมขออนุญาตไม่เอ่ยถึงก็แล้วกัน เพราะว่าจะเป็นการใช้ เวลาของสภาแห่งนี้มากเกินไป แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือว่าวิธีการที่พวกเรากระทำอยู่ ในขณะนี้ยังไม่เห็นทางออกครับท่านประธาน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นครับที่จะต้องหาวิธีออก จากความขัดแย้งอันนี้ให้ได้ ซึ่งการใช้วิธีการนิรโทษกรรม ผมก็เชื่อว่าเป็นวิธีหนึ่งซึ่งเป็นไปได้ เพราะว่าในขณะนี้ในหน่วยงานของรัฐหลาย ๆ หน่วย ได้รับการนิรโทษกรรมไปแล้วโดย กฎหมาย หรือได้รับการนิรโทษกรรมไปแล้วโดยปริยาย แต่ประชาชนผู้ชุมนุมจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ยังต้องได้รับผลกระทบกับเรื่องเหตุการณ์การชุมนุมอยู่ บางส่วนก็หนีไป ต่างประเทศยังไม่ได้กลับมาสู่ประเทศไทย บางส่วนก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง หรือมีเหตุการณ์ อื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง หรือตัดสิทธิต่าง ๆ เหล่านี้เป็น เหตุการณ์ซึ่งเกี่ยวเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองทั้งสิ้น เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จะ ไม่สามารถที่จะกลับสู่สภาวะปกติได้เลยถ้าพวกเราไม่หาวิธีดำเนินการโดยวิธีอื่น ถ้าปล่อยไป เรื่อย ๆ ผมก็ไม่แน่ใจว่าอีก ๑๐ ปี หรือ ๒๐ ปีเหตุการณ์จะกลับสู่ปกติหรือไม่ คำว่ากลับสู่ ปกตินั้น ผมหมายถึงว่าเป็นเหตุการณ์เช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษที่มีการเลือกตั้งก็เป็น การเลือกตั้งโดยปกติ จะมีการชุมนุมบ้างก็เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่ใช่ความขัดแย้งที่เอาเป็นเอาตายกันแต่อย่างไร หรือการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หรือการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่พึงประสงค์เป็นสิ่งที่ ประเทศไทยควรจะพยายามที่จะดำเนินการไปให้ได้ ดังนั้นแนวคิดวิธีการใช้ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ซึ่งครอบคลุมถึงบุคคลทุกกลุ่มและมีการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าส่วนใดควรจะได้ การนิรโทษกรรม ส่วนใดสมควรที่จะมีวิธีหรือมาตรการอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุนครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งหนึ่งที่ถ้าหากว่ามีการพิจารณา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแล้วน่าที่จะได้ พิจารณาถึงการเยียวยาผู้เสียหายที่มีอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่รับการเยียวยา รวมทั้งการเสาะหา ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของ ข้อขัดแย้งและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มานับครั้งไม่ถ้วน ก็ขออนุญาตให้ข้อมูลกับท่านประธานและขอสนับสนุนการตั้งญัตตินี้ครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านวรรณิดา นพสิทธิ์ ครับ

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน วรรณิดา นพสิทธิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พรรคก้าวไกล ดิฉันขอเข้าร่วมอภิปรายญัตติ ศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมค่ะ

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ในความเห็นของดิฉัน ถ้า พ.ร.บ. ฉบับนี้ถูกเสนอมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตามแต่ จะมีประโยชน์มากกว่าที่จะรอจนถึงวันนี้ ที่ดิฉันบอกว่ามี ประโยชน์มากกว่าที่จะรอจนถึงวันนี้ ท่านประธานทราบไหมคะว่าตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ จาก มุมมองทางการเมือง จากทัศนะทางการเมืองทำให้พี่น้องประชาชนเห็นมุมมองทางการเมือง ด้านหนึ่ง และไม่เห็นด้วยอีกด้านหนึ่ง จึงเป็นที่มาของความเห็นต่าง เขาเหล่านั้นเป็นพื้นฐาน ของฝ่ายการเมือง ซึ่งฝ่ายการเมืองได้รับผลประโยชน์โดยแท้ แต่มองลึกลงไปพี่น้องประชาชน ไม่ได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้เลย นี่เป็นเวลากว่า ๑๗ ปีแล้วค่ะท่านประธาน เขาเป็นเพียง ประชาชนที่แสดงทัศนคติและนำไปสู่การเข้าร่วม จะถูกชักจูง จะถูกชักชวน หรือจะมาจาก ทัศนคติที่มีความหวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองก็ตามแต่ค่ะ แต่ท่านประธานทราบไหมคะว่า ผลร้ายที่ตกกับผู้ชุมนุมล้วนตกกับประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้รับประโยชน์เลย แต่ถ้าวันนี้สภาจะออกกฎหมายในเรื่องนี้ ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตว่ามุ่งเน้นให้นักการเมืองได้ ผลประโยชน์ หรือประชาชนได้ผลประโยชน์ เพราะวันนี้ประชาชนติดคุกมาตั้งนานแล้ว ประชาชนบางส่วนเสียหายมาตั้งนานแล้ว ล้มตายมาตั้งนานแล้ว เสียเงินเสียทอง เสียเวลามา ตั้งนานแล้ว แต่ตัวหลักที่จะได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ. ฉบับนี้ยังไม่ได้รับโทษเลยค่ะ มันจวน แล้วใช่ไหมคะท่านประธาน จึงจะต้องออกกฎหมายฉบับนี้ในเวลานี้

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ เรื่องของการเยียวยาพี่น้องประชาชน ซึ่งควรจะมี แต่ก็ไม่มี ไม่พบใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ค่ะท่านประธาน ดิฉันทราบค่ะว่ามันจะต้องเข้าไปถูกถกเถียงในวาระ ที่ ๒ คือชั้นพิจารณา แต่ผู้เสนอกฎหมายหรือพรรคการเมืองที่สนับสนุนกฎหมาย

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

รวมทั้งรัฐบาลที่เห็นชอบและนำ กฎหมายนี้เข้า ทำไมไม่เขียนมาให้เป็นแนวทาง ให้รู้ถึงเจตนารมณ์ให้ลึกไปกว่านั้นว่าควรจะ เยียวยาหรือไม่ และจะเยียวยาอย่างไร นี่คือการชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนค่ะ ท่านประธาน

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ท่านประธานที่เคารพ ดิฉันมีความจำเป็นและควรต้องอภิปราย พ.ร.บ. นี้ เพราะดิฉันได้มีโอกาสคลุกคลีกับคนที่เกี่ยวข้อง และถูกจำคุกจากการชุมนุม บางคนหลบหนี บางคนถูกดำเนินคดี และบางคนยังมีบทบาทอยู่ในสังคม ดิฉันอยากฝาก ท่านสมาชิกในชั้นรับหลักการวาระที่ ๑ นี้ว่าหากเราพิจารณา พ.ร.บ. ฉบับนี้ต้องพิจารณาให้ ครอบคลุม ตามลำดับชั้นของผู้ได้รับผลกระทบเป็นลำดับความเสียหาย กรณีติดคุกและ พ้นโทษแล้ว กรณีต้องโทษอยู่ในเรือนจำ และกรณีกำลังจะต้องโทษ พ.ร.บ. นี้ควรจะเขียน ความเป็นธรรมอย่างเสมอภาคจากความเสียหาย เพราะวันนี้เราจะส่งเสริมสันติสุขของ ประเทศและสังคมแล้ว พ.ร.บ. นี้ยังไม่มีความชัดเจนในเนื้อหาแต่ละมาตราค่ะ

นางสาววรรณิดา นพสิทธิ์ ชลบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นสุดท้าย ดิฉันขอกราบเรียนท่านประธานที่เคารพว่าในสังคมการเมืองไทย เรามีกฎหมายนิรโทษกรรม ความผิดทางการเมืองถึง ๒๓ ฉบับแล้ว แต่ท่านประธานทราบไหม ว่ากฎหมายนิรโทษกรรมที่มองแก่ประโยชน์ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ มีเพียง ๔ ฉบับเท่านั้นค่ะ แต่ส่วนใหญ่ของการนิรโทษกรรมล้วนเป็นการยกเว้นความผิดยกเว้นโทษให้กับผู้ก่อการ ตัวการและออกแบบความวุ่นวายเหล่านี้ทั้งสิ้นค่ะ เราทุกคนในฐานะสมาชิกผู้ทรงเกียรติ และเป็นตัวแทนของประชาชน เราควรนำเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาเป็นอุทาหรณ์ทางการเมือง โดยมุ่งเน้นให้พี่น้องประชาชนเป็นหลัก ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านวีรนันท์ ฮวดศรี ครับ

นายวีรนันท์ ฮวดศรี ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม วีรนันท์ ฮวดศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล ผมขออภิปรายสนับสนุน ญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในครั้งนี้ ประเทศเราได้ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองทั้งรุนแรง มาหลายเหตุการณ์ครับ เพื่อนสมาชิกที่อยู่ในที่นี้และพี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านทราบกันดีครับว่าตลอดระยะเวลา กว่า ๒๐ ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การรัฐประหาร ปี ๒๕๔๙ หรือเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายใดก็ตาม สีเสื้อไหนก็ตาม จนมาถึงเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มเยาวชน คณะราษฎรช่วงปี ๒๕๖๓ ซึ่งถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมาความแตกแยกของ แนวคิดทางการเมืองได้สร้างปมและฝังรากของความขัดแย้งในหมู่ประชาชนและในสังคม อย่างยาวนาน นี่เป็นเรื่องยากและความท้าทายที่จะนำสังคมไปสู่ความสงบสุขและปรองดองกัน ท่านประธานครับ ก็จริงอยู่ที่ว่าการนอนอยู่บ้านเฉย ๆ การไม่ใช้เสรีภาพในการแสดงความ คิดเห็น การไม่ออกไปชุมนุมก็ไม่โดนจับก็ไม่โดนคดี แต่มันก็มีหลายคนที่ทนไม่ได้ที่เห็น สังคมนี้ไม่เป็นธรรม ที่เห็นสังคมนี้ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่เห็นสังคมนี้ไม่มีเสรีภาพในการคิด การพูด การอ่าน การเขียน จึงออกมาเรียกร้องสิทธิเหล่านี้เพื่อคืนความปกติสุข คืนความ เป็นธรรมสู่สังคมนี้ แน่นอนครับว่าตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศไทยมันไม่มีนิยาม ของคำว่า นักโทษการเมือง เราต้องกลับไปดูที่มูลเหตุของการกระทำหรือมูลเหตุของข้ออ้าง ที่อาศัยเป็นหลักแห่งการกล่าวหาในทางอาญาว่าเป็นมูลเหตุจูงใจทางการเมืองหรือไม่ เมื่อมี เหตุจูงใจทางการเมืองนั้นแล้ว นั่นละครับนักโทษคดีการเมือง การดำเนินคดีการเมืองต่าง ๆ โดยรัฐนั้นเป็นการผลักภาระและการสร้างภาระทางคดีให้กับประชาชนผู้ที่ถูกดำเนินคดีครับ การที่ผู้คนออกมาแสดงถึงความคิด ความเชื่อ ความฝัน ถือเป็นสิทธิเป็นเสรีภาพของ ประชาชนที่สามารถกระทำได้ แน่นอนครับว่ามันมีราคาที่ต้องจ่าย แต่ราคาที่ประชาชนต้อง จ่ายนั้นคือเสรีภาพของตนเองครับ คำถามของผมคือว่า โทษกับการกระทำมันได้สัดส่วนกัน หรือไม่ ท่านประธานครับ หากเราลองถอดบทเรียนในระยะสั้น ๓-๔ ปีที่ผ่านมา เราจะเห็น ถึงการใช้กฎหมายปิดปาก ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๖ มาตรา ๒๑๕ มาตรา ๒๑๖ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แม้กระทั่ง พ.ร.บ. ความสะอาด ก็ถูกหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อระงับยับยั้งประชาชนที่เข้าไปมีส่วนร่วมในทางการเมือง โจมตีผู้เห็นต่างทางการเมืองเพื่อให้ผู้คนที่ออกมาชุมนุมประท้วงหยุดการเคลื่อนไหว หยุดการ เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ สร้างพันธนาการที่ผูกรั้งด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทำให้ผู้ต้องหาที่ถูก กล่าวหาต่างต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ มากมายครับท่านประธาน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่ การงาน บางคนถูกเลิกจ้าง ถูกไล่ออก เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง เมื่อถูกเลิกจ้างก็ย่อมส่งผลกระทบในด้านอื่น ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นด้านทรัพย์สิน ชื่อเสียง กระทบไปยังเครือญาติ บางครอบครัวที่ผมประสบพบเจอถึงกับตัดญาติมิตรกันนะครับ ต่อมาความรุนแรงในครอบครัวอันเนื่องมาจากความเห็นทางการเมืองที่ผมกล่าวมาแล้วนั้น ทีนี้มันก็มีข้อเท็จจริงตามมาในภายหลังว่าในหลายคดีศาลก็ได้ยกฟ้องไป แต่ว่าสิ่งที่ ผู้ถูกกล่าวหาหรือว่าจำเลยเหล่านั้นไม่ได้รับกลับคืนมาก็คือความยุติธรรม ท่านประธานครับ ก่อนที่ผมเป็น สส. เมื่อผมเป็นทนายความที่ทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ทำงานร่วมกับ ทนายแจม ท่าน สส. ศศินันท์นี่ละครับ ผมได้ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาทางการเมืองมา หลายคดี ผมได้เห็นความทุกข์ที่พวกเขาเหล่านั้นต้องประสบพบเจอความคับแค้นใจ บางคน ต้องเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ก่อนฟ้องบางทีต้องไปรายงานตัว หลายเดือนกับทางอัยการ และค่าเดินทางมันเกินกำลังทรัพย์สินของผู้ต้องหาหรือผู้ถูก กล่าวหาเหล่านั้น ท่านประธานครับ ผู้ต้องหาทางการเมืองแต่ละคนมีต้นทุนชีวิตที่แตกต่าง กันครับ บางคนต้องหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินเดือนหรือสวัสดิการที่ดีเหมือนกับพวกเราที่อยู่ใน ที่ประชุมแห่งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาบางท่านไม่มีทุนทรัพย์ในการดำรงชีวิต การเลี้ยงดูครอบครัว ซ้ำร้ายบางท่านไม่มีเงินจ้างทนาย ไม่มีเงินในการต่อสู้คดี ไม่มีเงินในการประกันตัวก็ติดคุก ไปพลางก่อนครับ เหมือนที่ใช้งบงบประมาณไปพลางก่อนนี่ละครับ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เขาเหล่านั้นติดคุกจริง ๆ ครับท่านประธาน ใช้เสรีภาพของตัวเองจริง ๆ ตัวจริง ๆ ที่ติดคุก ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นคนเหมือนกับพวกเราครับ พวกเขาต่างมีครอบครัว ต่างมีคนรัก ต่างมีคุณพ่อ ต่างมีคุณแม่ ต่างมีคนที่รอคอยอยู่ แต่ว่าบางคนที่ไม่มีญาติมาหาก็เพราะ ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ผมได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ ติดคุกไม่สนุกแน่ ๆ ครับท่านประธาน โดยเฉพาะติดคุกโดยที่ตัวเขาเองไม่ใช่เป็นอาชญากรโดยแท้ ติดคุกเพราะการใช้เสรีภาพใน การพูด ในการคิด ในการเขียน ในการแสดงความคิดเห็น ผมเข้าใจหัวอกของญาติผู้ต้องขัง ดีครับว่าต้องเจออะไรบ้าง เจอแรงกดดันขนาดไหน มีความทุกข์ มีความคับแค้นใจแค่ไหน ในการที่คนรัก คนใกล้ชิดของเขาต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นเพียงแค่ ต้องการแสดงความคิดเห็น แสดงออก และต้องการเห็นประเทศที่มันดีขึ้น ท่านประธานครับ อีกปัญหาหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามและผมถือว่าเป็นปัญหาสำคัญครับ ยังมีผู้ต้องขัง ยังมีผู้ต้องหา ทางการเมืองอีกหลายคนที่ยังอยู่ในเรือนจำ พวกเขาถูกตัดสิน ถูกคุมขังเพราะแสดงความ คิดเห็น ความเชื่อ ความคิดทางการเมือง หลายคนที่ปัจจุบันนี้แม้แต่สิทธิในการประกันตัว ต่อสู้คดีเขายังไม่ได้รับเลยครับ ซึ่งสิทธิในการประกันตัวนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานโดยแท้ครับ ไม่นับผลกระทบด้านจิตใจที่พวกเขาได้รับเมื่อถูกพรากเสรีภาพ เพียงเพราะเขามีความ ต้องการที่จะเห็นสังคมดีงามแบบพวกเราครับ ท่านประธานครับ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกท่าน ต้องหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน หาทางออกร่วมกัน ผ่านกลไกของรัฐสภาแห่งนี้ สังคมไทย ปัจจุบันประชาชนได้ตื่นรู้ ประชาชนได้ตื่นขึ้นมาแล้วครับ เราต้องยุติความขัดแย้งที่สั่งสม มาอย่างยาวนาน คืนความยุติธรรมทั้งทางคดี ทั้งทางมิติของสังคมให้กับทุกฝ่าย ให้กับ ทุกสีเสื้อ ให้กับทุกมุ้งของการชุมนุม ทุกคนมีสิทธิที่จะยึดหลักการแนวคิดของตนเอง ไม่มีใคร ควรต้องถูกดำเนินคดีเพียงเพราะแสดงออกทางความคิดภายใต้สิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญ รองรับไว้ ผมเชื่อว่าทุกคนต่างหวังดีกับบ้านเมือง เพียงแค่เราเห็นไม่ตรงกัน ไม่ได้หมายความ ว่าเราจะต้องเอาพวกเขาเหล่านั้นเข้าคุกเข้าตะราง พวกเขาเหล่านั้นถูกพรากเสรีภาพไปจาก พวกเขา พรากพวกเขาไปจากคนรัก มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องยุติสิ่งเหล่านี้ เห็นต่างใช่ว่า จะเป็นอาชญากร เห็นต่างใช่ว่าจะไม่รักชาติบ้านเมือง สุดท้ายเมื่อเราได้ถกเถียงกันเรื่อง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคการเมืองก็ดี จากภาคประชาชนก็ดี ถกเถียงกัน อย่างจริงจังหาทางออกที่ทุกคนเข้าใจร่วมกันได้ แม้บางท่านไม่เห็นด้วยกับร่างของ พรรคก้าวไกล แม้บางท่านจะไม่เห็นชอบที่จะนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดี ๑๑๒ แต่ขอให้ สภาแห่งนี้ที่เป็นสภาของผู้แทนราษฎรรับฟังความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทางความคิดอย่าง จริงจัง เมื่อปัญหามันเกิดขึ้นจากมูลเหตุทางการเมืองก็ควรใช้การเมือง ใช้กลไกของรัฐสภา แห่งนี้คลี่คลายหาทางออกและยุติความขัดแย้งทางการเมือง คืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ต้องหา ทางการเมือง เรามาไกลเกินกลับไปนับหนึ่ง ประวัติศาสตร์ที่มันขาดครึ่งเรามาร่วมกันเขียน ผมจึงขอเป็นอีกเสียงหนึ่งที่สนับสนุนให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญนิรโทษกรรมแก่บุคคล ซึ่งได้รับความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในทางการเมืองนี้ครับ ขอบคุณครับ ท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านสหัสวัต คุ้มคง ครับ

นายสหัสวัต คุ้มคง ชลบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาครับ ผม สหัสวัต คุ้มคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๗ พรรคก้าวไกล ผมขอมีส่วนร่วมในการอภิปราย ญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ผมอยากจะเริ่มอย่างนี้ครับ เราต้องเริ่มจากคำถามว่าทำไมเรา ต้องนิรโทษกรรม คำว่า นิรโทษกรรม ดูจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวของใครหลาย ๆ คน เพราะเรื่องนี้ ถูกทำให้เป็นเรื่องของการเมืองเชิงอุดมการณ์เพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่อง ของความยุติธรรมและเป็นเรื่องของความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ เป็นต้นมาดูเหมือนว่า การพูดถึงการนิรโทษกรรมนั้นจะเป็นเรื่องต้องห้าม เป็นเรื่องน่าเกลียด น่ากลัว แต่ในความ เป็นจริงการนิรโทษกรรมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดในสังคมไทย ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง การปกครองในปี ๒๔๗๕ จนถึงปัจจุบัน มีการนิรโทษกรรมมาแล้ว ๒๒ ครั้ง แต่มีเพียง ๓ ครั้ง ที่เป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชน ส่วนอีก ๑๙ ครั้งเป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้ทำการ รัฐประหาร การนิรโทษกรรมนั้นคืออะไร ผมอยากจะย้ำตรงนี้ การนิรโทษกรรมคือการคืน ความยุติธรรมให้กับผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ไม่ใช่การลดโทษอาชญากรอย่างที่เรา คิด ๆ กัน สิ่งที่ผมอยากจะชวนคิดคืออย่างนี้ครับ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เรามีผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทั้งหมดเกือบ ๔,๐๐๐ คน คนเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่ โจรมืออาชีพ แต่คนเหล่านี้คือคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ออกมาเรียกร้อง เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมิติชีวิตของพวกเขาเอง ซึ่งรัฐธรรมนูญได้รับรองสิทธิเหล่านี้ เอาไว้ มีคดีที่ไม่สมเหตุสมผลเยอะแยะเลยครับ เช่น คดี พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่ควรจะใช้เพื่อยับยั้ง การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ แต่กลับถูกนำมาใช้เป็นคดีการเมืองครับ การออกมาเรียกร้องเหล่านี้ครับกลับถูกมองจากรัฐ โดยเฉพาะรัฐเผด็จการอำนาจนิยม มองว่าเป็นปฏิปักษ์ ก็จับกุม คุมขัง ยัดข้อหา ทำลายชีวิตเขา กดหัวให้เขาไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ ไม่กล้าเรียกร้องต่อ คดีการเมืองที่ผมพูดนั้นไม่ได้หมายถึงแค่คดี การชุมนุมทางการเมืองครับ แต่เราอาจต้องนำคดีหลาย ๆ คดีเข้ามาพิจารณาใหม่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งตั้งปี ๒๕๔๙ ที่เริ่มเกิดความแตกแยกในสังคมและเกิดการรัฐประหาร หลังการรัฐประหาร ก็เกิดความอยุติธรรมขึ้นมาก เช่นการตั้ง คตส. ขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีอดีตนายกท่านหนึ่ง และหากไปดูรายชื่อของ คตส. เอง คนเหล่านี้ก็ล้วนแต่นับได้ว่าเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงทั้งนั้น นี่เป็นความอยุติธรรมแบบหนึ่ง และแม้แต่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลายต่อหลายคน ถูกจับกุมคุมขัง โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีความด้านความมั่นคง ทั้ง ๆ ที่เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่อง ของการเมืองครับ ในปี ๒๕๕๓ ผู้ชุมนุมจำนวนมากถูกจับกุมหลายต่อหลายคนติดคุกหลายปี จนออกมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายต่อหลายคนที่ เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมครับ ปัจจุบันยังไม่ได้ความยุติธรรมเลยครับท่าน ผมเสนอว่า ในวันนี้สังคมเรามีความแตกแยกอย่างรุนแรงเช่นนี้ เพื่อที่ให้สังคมของเราเดินต่อไปได้ การนิรโทษกรรมเป็นเรื่องที่ต้องทำทันทีครับ สำหรับผู้ชุมนุมทางการเมืองคดีเหล่านี้ต้อง ได้รับการปล่อยตัวและยุติการดำเนินคดีอย่างทันทีครับ มากไปกว่านั้นคดีอื่น ๆ ที่เป็นคดี ความมั่นคงต้องนำมาพิจารณาใหม่ว่าเป็นเรื่องความมั่นคงจริงหรือไม่ และจะมีแนวทาง พิจารณาคดีอย่างไร เพื่อให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมอย่างถึงที่สุด และสำหรับคนที่เคย ติดคุก มีคดีก็ต้องมีการล้างประวัติอาชญากรรมให้ครับ และที่สำคัญครับต้องได้รับการชดเชย เยียวยาอย่างเหมาะสม ทั้งเวลาและโอกาสที่เขาสูญเสียไปในช่วงที่สูญเสียอิสรภาพครับ นอกจากคนที่สูญเสียอิสรภาพ เพื่อนพี่น้องหลาย ๆ คนต้องพรากจากบ้านต้องลี้ภัยไปอยู่ ต่างประเทศ คนเหล่านี้ก็ต้องได้รับการกลับบ้านอย่างมีศักดิ์ศรีครับ ต้องมีการล้างมลทิน ให้กับเขาครับ หลายคนที่เสียชีวิตไปแล้วแต่ยังมีมลทินติดตัว เช่น นายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง ที่ติดคุกจากคดี ๑๑๒ จนเสียชีวิต จนถึงป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มี การล้างมลทินใด ๆ ไม่มีการเยียวยา ดังนั้นแค่การล้างโทษผู้ที่อยู่ในคุกก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากการนิรโทษกรรมแล้วอีกเรื่องที่ผมอยากจะย้ำคือเรื่องของความยุติธรรม การยกเลิก โทษเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการนิรโทษกรรม เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน แต่อีกเรื่องที่ผมอยากจะย้ำอีกสักครั้งคือเรื่องของความยุติธรรม แม้หลาย ๆ คนอาจได้รับ อิสรภาพ ได้รับเงินชดเชยแล้ว แต่เราต้องไม่จบแค่นั้น สิ่งเหล่านั้นเป็นก้าวแรกครับ แต่ก้าว ต่อไปคือการคืนความยุติธรรม ความยุติธรรมที่ว่าคืออะไรบ้าง ความยุติธรรมที่ผมหมายถึง คือ การได้รับรู้ความจริงหรือต้องแสวงหาความจริง หรือเราต้องตั้ง Truth Commission หรือคณะกรรมการค้นหาความจริงขึ้นมานั่นละครับ กระบวนการค้นหาความจริงเป็นเรื่อง สำคัญ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาประเทศเราไม่เคยค้นหาความจริง การนิรโทษกรรมทุกครั้งเป็น แค่การล้างโทษ แล้วก็ลืม ๆ กันไป สิ่งที่เราต้องสร้างคือต้องสร้างประวัติศาสตร์บาดแผลครับ ทุกวันนี้เรามีประวัติศาสตร์ชัยชนะว่าเรายิ่งใหญ่กว่าใคร เราเก่งขนาดไหน เรารบชนะมา กี่ครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าจดจำ แต่เราไม่มีประวัติศาสตร์บาดแผลเลยที่จะบอกว่าเราเคย ผิดพลาดอะไรบ้าง เราเคยรบราฆ่าฟันกันเอง เราเคยมีการสังหารหมู่กลางเมือง เราจะต้อง ไม่เดินกลับไปเส้นทางนั้นอีกครับ ทุกวันนี้ญาติพี่น้องหลายคนของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ ทางการเมืองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนพรากชีวิตพ่อแม่พี่น้องลูกหลานของเขาไป หลายคน ได้รับเงินชดเชยครับ แต่เงินชดเชยก็เป็นเพียงแค่ช่วยเยียวยาปากท้องเล็กน้อย ไม่ได้ช่วย เยียวยาบาดแผล ไม่ได้ช่วยตอบความจริงว่าคนเหล่านั้นจากเราไปด้วยเหตุอันใด มีตัวอย่างจาก ต่างประเทศหลายที่ที่เรานำมาเป็น Model ได้ แต่ตัวอย่างนั้นจะไม่มีคุณค่าเลยหากเราไม่ นำมาใช้ ประเทศเราอยู่กับการโฆษณาชวนเชื่อมากเกินไป เราต้องการความจริงครับ เรา ต้องการรู้ว่าผู้สูญเสียในเหตุการณ์ปี ๒๕๕๓ ใครต้องรับผิดชอบ การเสียชีวิตของหลายท่านที่ โดนอุ้มหายในต่างประเทศ เช่น คุณวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ สุรชัย แซ่ด่าน หรือเสธแดงที่ถูก ยิงท่ามกลางสื่อมวลชน ผู้เป็นบิดาของท่านผู้เสนอญัตติ ขออภัยที่ต้องพาดพิงครับ คนเหล่านี้ ควรต้องได้รับความยุติธรรมครับ แล้วผมยืนยันว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ต้องมีความจริง เราพูดกันเสมอครับว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่พร้อมให้อภัยกัน ซึ่งผมเห็นด้วยครับ แต่ผมอยาก เห็นสังคมไทยให้อภัยกันไม่ใช่ในแบบที่เราทำกันอยู่ คือลืม ๆ มันไป แล้วบอกว่าเราก้าวข้าม ความขัดแย้ง แต่จริง ๆ แล้วในใจก็ยังขัดแย้งยังแค้นกันอยู่ การจะก้าวข้ามความขัดแย้ง จริง ๆ ได้ ต้องเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ครับ คือการขอโทษครับ แล้วไม่ใช่การขอโทษส่ง ๆ ขอโทษแล้วจบไปครับ แต่เราต้องขอโทษขอโพยกันอย่างจริงใจและยอมรับผิดอย่างจริงจังว่า ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว ผมเคยทำเรื่องเหล่านี้ ขอโทษอย่างใจจริงครับ และพร้อมรับผิดตามที่สมควรได้ครับ แบบนี้ กระบวนการให้อภัยถึงจะเริ่มกันได้อย่างจริง ๆ จัง ๆ แล้วเราถึงจะเดินหน้าต่อกันได้ แบบนี้ ถึงจะเป็นความสง่างามของการนิรโทษกรรม ผมสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา เพื่อศึกษาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม แล้วผมหวังว่าประเทศไทยจะมีการนิรโทษกรรมที่เป็น การนิรโทษกรรมให้กับประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยเวทีสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ โดยสมาชิก ทุกท่านในห้องนี้ ไม่ใช่แค่การนิรโทษกรรมให้ตัวเองคณะรัฐประหารเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมา ผมอยากเห็นการนิรโทษกรรมเป็นการนิรโทษกรรม ผมคาดหวังว่าเราจะสร้าง Amnesty Bill ขึ้นมาได้จริง ๆ ไม่ใช่ Amnesia Bill หรือความจำเสื่อมลืม ๆ กันไป การให้อภัยต้องมาพร้อม กับการจดจำ การบันทึกลงในประวัติศาสตร์ว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เพื่อให้เราเห็นว่า เราเคยทำผิดพลาดอะไรบ้าง แล้วเราต้องไม่กลับไปทำผิดพลาดซ้ำอีก ไม่ใช่หลงลืมกันไปแล้ว กลับมาทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่ต้องไม่ใช่การล้างไพ่ในกระดานครับ แต่ต้องเป็นการชำระ ประวัติศาสตร์ครับ ขอบคุณครับ

นายสหัสวัต คุ้มคง ชลบุรี ต้นฉบับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา (รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง : ขอบคุณครับ เชิญท่านธิษะณา ชุณหะวัณ ครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน ธิษะณา ชุณหะวัณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต ๒ พรรคก้าวไกล ดิฉันขออภิปรายสนับสนุนการตั้ง กมธ. วิสามัญเพื่อศึกษา พ.ร.บ. นิรโทษกรรม แก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งเป็น ร่างกฎหมายที่ภาคประชาชนและภาคประชาสังคมกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่พรรคการเมืองของดิฉันอย่างพรรคก้าวไกล แต่เราจะได้เห็นถึงการรณรงค์ นิรโทษกรรมของภาคประชาสังคมได้มีการทยอยจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและอย่างคึกคัก ในช่วงเวลาที่ใกล้จะถึงนี้ ทั้งนี้ดิฉันอยากขอนำเรียนไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านและ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ผ่านท่านประธานโดยเน้นย้ำว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ ของสังคมไทย แต่มีมานานหลายสิบครั้ง นับตั้งแต่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญ โดยมีจำนวนทั้งหมดมากกว่า ๒๓ ครั้ง อย่างน้อย ๑๑ ครั้ง และมีตัวละคร ที่เรียกว่า คณะรัฐประหาร มาเกี่ยวข้องในบทบาทของผู้ถูกนิรโทษกรรมหลังจากเข้ามาทำ รัฐประหารอยู่เสมอ ดังนั้นนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่ หากคณะรัฐประหารสามารถที่จะ นิรโทษกรรมตนเองได้ ประชาชนก็ต้องสามารถนิรโทษกรรมให้กับประชาชนได้เช่นเดียวกัน และหากร่างกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ที่เราจะมาใช้แนวทางสันติวิธีในการกำจัดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างมีอารยะ อย่างมีวุฒิภาวะ และเคารพในสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนค่ะ ทำไมต้องนิรโทษกรรม คำตอบนั้นง่ายมากค่ะท่านประธาน ไม่มีใครสมควรถูกดำเนินคดีด้วยเหตุผลที่มีความคิด แตกต่างจากคนอื่นในสังคมหรือจากรัฐบาลค่ะ นับจากการเคลื่อนไหวในการแสดงออกของ ภาคประชาชนมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ จากรายงานของศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน มีผู้ถูก ดำเนินคดีแล้วอย่างน้อย ๑,๙๓๙ คน ในจำนวน ๑,๒๖๔ คดี ยังไม่ย้อนไปถึงปี ๒๕๔๙ มีการ คาดการณ์ว่ามีการดำเนินคดีทางการเมืองแล้ว ๖,๐๐๐ คดี ซึ่งอาจจะมากไปกว่านั้น ๖,๐๐๐ คดีนี้ ไม่ใช่แค่หมายศาล แต่เป็นจำนวนของชีวิตคน จำนวนของครอบครัว จำนวน ของคนรอบข้าง พ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่า ตายายที่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวด จากการ ดำเนินคดีกำจัดผู้เห็นต่าง เพียงเพราะสมาชิกในครอบครัวของเขาออกไปแสดงความคิดเห็น ออกไปชุมนุมเพื่อสิทธิ เพื่อเสรีภาพ เพื่อความเท่าเทียม เพื่อประชาธิปไตย และสิ่งที่เขาได้รับ คือลูกกรงและคราบน้ำตาค่ะ ท่านประธานดิฉันขอถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านในนี้ ล้วนมาจากการเลือกตั้ง มาจากคุณค่าในระบอบประชาธิปไตยที่เชื่อถือในสิทธิเสรีภาพในการ แสดงออกและการมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่มีใครที่ตรวจสอบไม่ได้ ไม่มีใครที่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ได้ ไม่มีใครที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ หากพวกเราในฐานะสมาชิกผู้แทนราษฎร ในฐานะตัวแทน ของพี่น้องประชาชนไม่สามารถรักษาและปกป้องการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่อัปยศที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนของพี่น้องประชาชนค่ะ ดิฉัน อยากให้ทุกท่านตระหนักถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนในเรือนจำ ชีวิตของพ่อแม่ ชีวิตของลูก ของใครสักคนที่แฝงอยู่ในตัวเลขเหล่านี้ อีกประเด็นที่ดิฉันอยากเน้นย้ำ การนิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกลไม่ได้ตั้งอยู่บนการยกโทษ แต่เป็นการคืนความยุติธรรมให้พวกเขาที่ไม่ใช่ อาชญากร ไม่ใช่ผู้กระทำผิด ในประวัติศาสตร์โลกไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้ง เกิดสงคราม เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มักมีศาล ที่ถูกตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจหรือวิสามัญเพื่อการปรองดองการสมานฉันท์ การตามหาความจริงจาก ยุคเปลี่ยนผ่านไปสู่สันติภาพ ตัวอย่างเช่น Nuremberg Trials ศาลอาญาระหว่างประเทศ รวันดา หลังจากมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศรวันดา ในปี ค.ศ. ๑๙๙๔ ศาลอาญาระหว่าง ประเทศในอดีตยูโกสลาเวียหรือว่า ICTY ในปี ๑๙๙๓ และที่เพื่อนสมาชิกได้กล่าวถึง คือ ประเทศแอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา และชิลี ที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบค้นหา ความจริงเพื่อการปรองดองหรือที่เรียกว่า Truth And Reconciliation Commission บนพื้นฐานของหลักการคืนความยุติธรรมต่อเหยื่อเพื่อสร้างความปรองดองระหว่างผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ เคารพสิทธิมนุษยชนภายใต้อาณัติและข้อกำหนดของคณะตรวจสอบและค้นหา ความจริง โดยให้มีการเปิดให้มีการเจรจาสารภาพผิดหรือ Confession จากทุกฝ่าย เมื่อมีการ สารภาพผิดก็ต้องมีการให้อภัย รวมกับให้การสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายใต้ระบอบ เผด็จการอย่างเป็นธรรมและต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งแนวทางนี้ถูกออกแบบมา เพื่อถอดบทเรียนจากมรดกอันเจ็บปวด เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ถูกกระทำ ป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อประเทศจะได้ก้าวไปข้างหน้า คณะกรรมการตรวจสอบ และค้นหาความจริง ได้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่ดีในประชาคมโลก ดิฉันจะ ไม่พูดถึงโครงสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ เพราะเพื่อนสมาชิกได้อภิปรายไปก่อนหน้านี้ แล้ว แต่จะเน้นไปที่กระบวนการ ซึ่งใน Model ของแอฟริกาใต้ นำโดยเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandela) การสารภาพความผิดหรือ Confession เป็นปัจจัยหลักที่นำมาซึ่ง การนิรโทษกรรมของแอฟริกาใต้ เพราะนำมาซึ่งการเยียวยาทางจิตใจหรือ Closure ของ เหยื่อเป็นกระบวนการที่คล้ายคลึงกับกระบวนการศาล แต่แทนที่ผู้พิพากษาจะให้โทษ กลับกลายเป็นให้การนิรโทษกรรมกับผู้ที่สารภาพผิด หากการกระทำเป็นอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่มีเจตนารมณ์ทางการเมืองหรือ Politically Motivated Crimes เท่านั้น หรือมีเจตนารมณ์ทางการเมืองทั้งฝ่ายภาครัฐและฝ่ายภาคประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับคดี อาชญากรรมอื่น ๆ เช่น คดีโจรกรรม ทุจริตคอร์รัปชันไม่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่นการเปิดเผย ว่าการบังคับสูญหายได้เอาศพไปซ่อนไว้ที่ไหน ทำอะไรกับเหยื่อบ้าง ให้เหยื่อได้รับรู้ถึง ความเป็นจริง เพราะการที่เหยื่อจะสามารถเยียวยาทางจิตใจได้เขาต้องทราบก่อนว่าพ่อแม่ พี่น้องเขาถูกกระทำอย่างไรบ้าง เสียชีวิตได้อย่างไร ปัจจุบันในประเทศของเรา เหยื่อผู้ถูก บังคับสูญหาย ยังไม่รู้เลยว่าครอบครัวของพวกเขาถูกทำอะไรบ้างและอยู่ที่ไหน แน่นอน มันเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดสำหรับทั้ง ๒ ฝ่าย ถ้าท่านเคยดูสารคดีของกระบวนการ สมานฉันท์ในแอฟริกาใต้ ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ร้องไห้ แล้วก็สารภาพต่อความผิด แล้วก็มีความ เจ็บปวดจากผู้เสียหายและเหยื่อ แต่มันเป็นทางเดียวที่จะเยียวยาทางจิตใจหรือ Finding Closure ให้กับเหยื่อได้ คือการตามหาความจริง และการรับทราบความจริง ซึ่งของแอฟริกาใต้ ไปไกลกว่าเราด้วยซ้ำ คือทั้งฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่ายประชาชนได้รับการนิรโทษกรรมจากทั้ง ๒ ฝ่าย ร่างของพรรคก้าวไกลมีเพียงประชาชนที่ได้รับการนิรโทษกรรม แต่ของแอฟริกาใต้ เขาได้รับการนิรโทษกรรมถ้าสารภาพผิด สารภาพผิดคุณก็จะได้รับการให้อภัย เช่น ในชิลี ครอบครัวของเหยื่อที่ถูกระบุโดยคณะกรรมการในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย ที่จะคืนความยุติธรรมให้นั้นจะทำการตรวจสอบทุกเดือนตามขอบเขตอำนาจของรัฐบาลใหม่ เพื่อค้นหาความจริงและคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อและครอบครัว พร้อมมีคณะกรรมาธิการ Restrict ที่จะช่วยเสริมสร้างประเทศจากยุคเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตย ในแอฟริกาใต้ ใช้กลไกความปรองดอง โดยจัดตั้งคณะกรรมการตามหาความจริงในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ เพื่อฟื้นฟูรักษาเยียวยาเหยื่อในยุคแบ่งแยกสีผิวหรือที่เรียกว่า Segregation พระราชบัญญัติ นิรโทษกรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทางการเมืองนี้เป็นเครื่องมือสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติอย่าง พวกเราในการคานอำนาจกับกระบวนการยุติธรรมที่ไร้ประสิทธิภาพ อย่างที่ทุกท่านทราบดี ว่ามีการถกเถียงกันหลายครั้งถึงบทบาทกฎหมายต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการดำเนินคดี ทางการเมือง หลายท่านในพรรครัฐบาลดิฉันจะขอสงวนไม่อภิปราย ต่างเคยยืนยันว่าตัวบท กฎหมายไม่ได้เป็นปัญหา หากแต่ผู้บังคับใช้ต่างหากที่บิดเบี้ยวและนำกฎหมายไปดำเนินคดี กับประชาชนที่ไม่มีความผิด คำถามคือแล้วอย่างไรต่อ รัฐบาลและพรรครัฐบาลในขณะนี้เคย ได้แสดงความพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหรือไม่ หรือสนใจเพียงแต่จะช่วยผู้ป่วย ท่านหนึ่งให้ออกมาจากเรือนจำให้ได้ ความยุติธรรมของพวกเราไม่เหมือนกันหรือคะ แม้ว่า พรรคของท่านจะได้เป็นรัฐบาลมากกว่าครึ่งปีแล้ว แม้ว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรี ชื่อคุณเศรษฐา ทวีสิน แล้ว แต่ประเทศนี้ก็ยังคงมี การดำเนินคดีทางการเมืองแก่ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็นตามสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เคยลดลง ดังนั้นแล้วหากเพื่อนสมาชิกและ พรรครัฐบาลท่านอื่น ๆ ยังพอเชื่อในความยุติธรรม เชื่อในประชาธิปไตย เชื่อในความเท่าเทียม เชื่อในสิทธิมนุษยชน ดิฉันขอเน้นย้ำว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน ด้วยการลงมติเห็นชอบ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม การกระทำความผิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องทาง การเมืองนี้ค่ะท่านประธาน

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นสุดท้าย ดิฉันจะปิดท้ายคือความเปิดกว้างและการสมานฉันท์ของ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมทุกท่าน ทุกท่านจะได้เห็นความจริงใจของพวกเราพรรคก้าวไกล ในการ สมานฉันท์ปรองดองเพื่อผลักดันสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งคณะกรรมการค้นหาความจริง เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์กับการจัดการสภาพการเมืองหลังความขัดแย้ง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดรองจากการเปิดเผยความจริง โดยที่มีเหยื่อเป็นศูนย์กลางในแนวนี้ และแนวทางกระบวนการปรองดองในสังคมที่เปลี่ยนผ่านจากเผด็จการสู่ระบอบประชาธิปไตย ขอบพระคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปเป็นผู้อภิปรายท่านสุดท้ายก่อนจะเป็นการสรุปญัตติ เชิญท่านชัยธวัช ตุลาธน ครับ

นายชัยธวัช ตุลาธน แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เพื่อนสมาชิกหลายท่านก็ได้ พูดในหลายประเด็นมาแล้วก็แทบจะครอบคลุมทุกมิติ เพราะฉะนั้นผมจะใช้เวลาไม่มากนัก ในการที่จะย้ำแล้วก็เสริมอีกบางประเด็นเท่านั้นนะครับ

นายชัยธวัช ตุลาธน แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการแรก สมาชิกหลายท่านเพื่อนของเราก็ได้ทบทวนว่าประเทศไทยของเรา เคยมีการนิรโทษกรรมมาแล้วหลายครั้ง ผมขอทบทวนอีกสักครั้ง ตัวเลขอาจจะไม่ตรงกันบ้าง เท่าที่ผมรวบรวมไว้นี้เราเคยมีการนิรโทษกรรมมาแล้วทั้งผ่านกฎหมาย ก็คือในระดับ พระราชกำหนดและพระราชบัญญัติมาไม่น้อยกว่า ๒๑ ครั้ง แล้วก็ผ่านรัฐธรรมนูญอีก ๒ ครั้ง ทั้งหมดก็คือไม่น้อยกว่า ๒๓ ครั้ง แทบทั้งหมดเป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้มีอำนาจ ๑๗ ครั้ง ในบรรดา ๒๓ ครั้ง ๑๗ ครั้ง เป็นการนิรโทษกรรมให้กับการรัฐประหารหรือการกบฏ ทั้งที่สำเร็จ และไม่สำเร็จ อีก ๓ ครั้ง เป็นการนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปราบปรามพี่น้อง ประชาชนเพื่อให้ไม่ต้องรับผิด แม้ว่าจะมีการใช้อาวุธต่อประชาชนจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ หรือสูญหายจำนวนมาก ๓ ครั้ง ในเหตุการณ์วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ในเหตุการณ์วันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ และในเหตุการณ์พฤษภาคม ปี ๒๕๓๕ แล้วก็มีบ้างเล็กน้อยที่เป็นการ นิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มีความขัดแย้งครั้งสำคัญในประเทศ ก็คือ ๑ ครั้ง เป็นการ นิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ในระดับที่เข้าร่วมพรรคกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จับปืน จับอาวุธขึ้นสู้ ทำสงครามกลางเมืองจนทำให้ เจ้าหน้าที่ของรัฐเสียชีวิตจำนวนมากเหมือนกัน แล้วก็มีอีก ๑ ครั้งที่เคยนิรโทษกรรมให้กับ นักศึกษาประชาชนที่ถูกกล่าวหาในข้อหาความมั่นคงร้ายแรง รวมถึงมาตรา ๑๑๒ จาก เหตุการณ์วันที่ ๖ ตุลาคม ทีนี้เวลาเราพูดถึงการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ หรือที่หวังว่าจะเกิดขึ้น ในอีกไม่นานมันมีความสำคัญและมีความหมายอย่างไร ผมเห็นด้วยกับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ที่มองเป้าหมายตรงกันว่าการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ต้องมีเป้าหมายเพื่อที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง สร้างความสมานฉันท์ให้กับสังคมไทยซึ่งเราอยู่ในวังวนนี้อยู่มาเกือบ ๒ ทศวรรษแล้ว อย่างไร ก็ตามก็ต้องเน้นย้ำว่านิรโทษกรรมไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย และไม่ใช่กระบวนการเดียวในการที่ จะยุติหรือคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทย แต่ผมเองและพรรคก้าวไกลยืนยันว่านิรโทษกรรมเป็นประตูบานแรก ๆ ที่สำคัญมาก ๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขในการนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งและแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ให้กับ พวกเรา ท่านประธานครับ เวลาเราพูดถึงการนิรโทษกรรมมีหลายท่านปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ประเทศไทยไม่มีคดีการเมือง ทุกคดีที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากการไม่เคารพกฎหมาย ดังนั้นการนิรโทษกรรมจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด เพราะจะทำให้อนาคตจะไม่มีใครเกรงกลัวกฎหมายอีกต่อไปถูกไหมครับ แต่ผมอยากให้เรา นึกภาพให้ดี ๆ ว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการเมืองที่เราเรียกกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากความขัดแย้ง ทางการเมือง มีแรงจูงใจทางการเมือง เราไม่ควรจะมองคดีเหล่านี้เป็นอาชญากรรม หลายคน ต้องคดีถูกดำเนินคดีเพราะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง เพราะเชื่อจริง ๆ ว่าตนเองกำลังทำ ในสิ่งที่ถูกต้อง กำลังผลักดันความคิดความฝันในสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามันดีต่ออนาคตของ ประเทศของเราไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน หลายคนถูกดำเนินคดีเพราะไปแสดงออกในทางการเมือง ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อต่อต้านความอยุติธรรม เพื่อต่อต้านการรัฐประหารหรือเพื่อปกป้อง ประชาธิปไตย หลายคนถูกดำเนินคดีเพียงเพราะมีความคิดที่รัฐหรือหน่วยงานความมั่นคง ไม่อนุญาตให้คิด แค่คิดนะครับ หรือหลายคนเรียกว่าเป็นนักโทษทางความคิด ดังนั้นหลายคดี ก็เป็นการเกิดขึ้นจากการใช้กฎหมายโดยไม่ชอบธรรมของรัฐ ในแง่นี้คดีทางการเมืองที่เรา พูดถึงจึงถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้ความรุนแรงโดยรัฐต่อประชาชน มองในแง่นี้นะครับ การนิรโทษกรรมที่พวกเรากำลังจะไปพูดคุยกันผ่านกรรมาธิการวิสามัญจึงมีทั้งมิติที่เป็น การให้อภัยต่อกัน และมีทั้งมิติของการคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนจากความขัดแย้ง ทางการเมืองในรอบเกือบ ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ผมทราบดีว่าแม้โดยภาพรวมเราจะเห็น ตรงกันเกือบทั้งหมดเรื่องการนิรโทษกรรม และหวังว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมี อีกหลายประเด็นสำคัญที่เรายังมีความคิดเห็นแตกต่าง หรือยังเห็นไม่ตรงกัน หรือยังเข้าใจ ไม่ตรงกันเสียทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิธีการการนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นทั้งขอบเขตและ ข้อจำกัดที่เหมาะสมของการนิรโทษกรรมที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ทั้งกระบวนการก่อนและหลัง การนิรโทษกรรม เป็นต้น ดังนั้นผมเห็นด้วยนะครับ สนับสนุนที่จะให้สภาของพวกเราตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมคดี การเมือง แล้วมีประเด็นสำคัญที่เพื่อนสมาชิกย้ำหลายครั้งว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้จะต้อง ระมัดระวังว่าจะต้องไม่สร้างให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่นะครับ ผมก็เห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกันถ้าเรายึดเอาเป้าหมายเป็นตัวตั้ง เราก็ต้องระมัดระวังเหมือนกันว่าอย่าทำ ให้การนิรโทษกรรมที่จะเกิดขึ้นกลายเป็นการนิรโทษกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทางการเมือง ไม่สามารถนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง ไม่สามารถนำไปสู่การสร้างความ สมานฉันท์ ไม่สามารถนำไปสู่การถอดสลักระเบิดของสังคมไทยได้ในอนาคต ท่านประธานครับ จนถึงเวลานี้เราต้องยอมรับว่าบ้านเมืองของเรายังไม่ปกติ พื้นที่ในระบบ รัฐสภาของเรา พื้นที่ของสภาผู้แทนราษฎรของเราดูเหมือนจะจำกัดลงเรื่อย ๆ สูญเสียโอกาส ในการที่จะกลายเป็นพื้นที่ที่เราจะมาแสวงหาข้อยุติความคิดเห็นแตกต่างกัน สูญเสียโอกาส ที่จะกลายเป็นกลไกทางประชาธิปไตยที่จะหาข้อยุติ ความขัดแย้ง หาทางออกความขัดแย้ง อย่างมีวุฒิภาวะ แต่มันยังมีโอกาสอยู่ ผมหวังว่าท่ามกลางพื้นที่ที่จำกัดลงเรื่อย ๆ พวกเราจะ ร่วมมือกันถอดหัวโขนทางการเมืองออก หันหน้ามาพูดคุยกัน เพื่อใช้พื้นที่แห่งนี้พื้นที่ของ สภาผู้แทนราษฎรที่แต่งตั้งขึ้นมาโดยประชาชน ใช้โอกาสครั้งนี้พูดคุยกันในการแสวงหา ทางออกเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เพื่อเป็นประตูบานแรกในการเปลี่ยน ใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนการเมืองของความเกลียดชัง เปลี่ยนการเมืองที่เกิดจากความ เคียดแค้นชิงชังไม่เข้าใจกัน แล้วนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งทั้งหมดเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง การเมืองแห่งความรัก การเมืองที่สร้างความเข้าอกเข้าใจต่อกัน สร้างความปรารถนาดีร่วมกัน เพื่อให้พวกเรามีระบบการเมือง มีระเบียบสังคมที่พวกเราอยู่ร่วมกันได้ แม้ว่าจะไม่มีทางที่จะ เห็นด้วยตรงกันทุกเรื่องทั้งหมด สุดท้ายพรรคก้าวไกลยืนยันอีกครั้ง พวกเราสนับสนุน ญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่เสนอโดย คุณขัตติยา สวัสดิผล ขอบคุณมากครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้อภิปรายได้ อภิปรายจบแล้วนะครับ ตามข้อบังคับก็ให้ผู้ที่เสนอญัตติได้อภิปรายสรุปได้อีกครั้งหนึ่ง เชิญครับ

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านประธานค่ะ ดิฉัน ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยค่ะ ท่านประธานคะ จากการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกทุกท่านในวันนี้ ดิฉันคิดว่าเราเห็นต้อง ตรงกันนะคะว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ว่าอาจจะยังมี ความแตกต่างถึงรายละเอียดของการนิรโทษกรรมอยู่บ้าง สิ่งนี้ล่ะค่ะมันถึงเป็นที่มาของการ เสนอญัตติให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาในวันนี้ เพื่อที่ว่าเราจะได้หาแนวทางที่ดีที่สุด ที่ทุกฝ่ายจะสามารถหรือพอที่จะยอมรับร่วมกันได้ เพื่อให้การนิรโทษกรรมนั้นเกิดขึ้นจริงได้ และให้การนิรโทษกรรมนั้นเป็นไปตามเป้าประสงค์สำคัญ นั่นก็คือการสร้างความปรองดอง ในสังคมไทย และไม่นำไปสู่การสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่ แต่จะเป็น การสร้างบรรทัดฐานใหม่ เพื่ออำนวยความยุติธรรมและเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทย ที่รัฐไทยจะต้องไม่มองประชาชนที่คิดต่างเป็นศัตรูอีกต่อไป

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาพิจารณาการนิรโทษกรรมอย่างรอบคอบและ ครอบคลุม โดยผ่านกลไกกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อที่ว่าเราจะได้ขยายการมีส่วนร่วมให้ ผู้เชี่ยวชาญและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาร่วมในกระบวนการ และให้ประชาชนสามารถติดตาม คำอธิบายและเหตุผลของฝ่ายต่าง ๆ ได้ นั่นเพราะการพูดคุยในกระบวนการรัฐสภาจะถูก บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้เห็นว่าการนิรโทษกรรมนั้นสำคัญอย่างไร และหลักเกณฑ์ แบบใดที่จะเหมาะสม และประชาชนทุกฝ่ายเห็นพ้องยอมรับได้ และเป็นตัวเร่งค่ะ เป็นตัวเร่ง ให้สภาและทุกองคาพยพพูดถึงเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น และในขณะเดียวกันก็ให้มีการพิจารณาแนวทาง อื่น ๆ รวมด้วย เพื่อที่จะอำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว โดยไม่จำเป็น ที่จะต้องรอกระบวนการสภาให้แล้วเสร็จ และดิฉันเชื่อว่าปลายทางของเรื่องนี้จะนำไปสู่ การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่จะนำสังคมไทยไปสู่การประนีประนอมครั้งใหญ่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

สมาชิกทุกท่าน ผู้เสนอญัตติได้สรุปญัตติ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งการอภิปรายทุกท่านก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ผมจึงขออาศัยข้อบังคับ ข้อ ๘๘ เพื่อถามว่าจะมีผู้ใดเห็นเป็นอย่างอื่นไหมครับ ถ้าไม่มีผู้ใด เห็นเป็นอย่างอื่นก็ถือว่าที่ประชุมนี้เห็นชอบให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมตามที่เสนอมานี้นะครับ ก็ขอให้ท่านสมาชิกเสนอจำนวน คณะกรรมาธิการครับ เชิญครับ

นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายวรวงศ์ วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี ขอเสนอจำนวนสมาชิก จำนวน ๓๕ ท่าน ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ มีผู้เสนอเป็นอย่างอื่นไหมครับ ไม่มีนะครับ ถือว่าจำนวนคณะกรรมาธิการทั้งหมด ๓๕ ท่าน ตามสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี ๘ ท่าน สัดส่วนของกรรมาธิการของแต่ละพรรค การเมือง ๒๗ ท่าน ผมจะแจ้งให้ทราบ ๒๗ ท่านนั้นเป็นของพรรคใดบ้าง พรรคก้าวไกล จำนวน ๘ ท่าน พรรคเพื่อไทย จำนวน ๘ ท่าน พรรคภูมิใจไทย จำนวน ๔ ท่าน พรรคพลังประชารัฐ จำนวน ๒ ท่าน พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวน ๒ ท่าน พรรคประชาธิปัตย์ ๑ ท่าน พรรคชาติไทยพัฒนา ๑ ท่าน พรรคประชาชาติ ๑ ท่าน เชิญเสนอตามลำดับ พรรคก้าวไกล เชิญครับ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานครับ อิทธิพล ชลธราศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล ขอเสนอรายชื่อ คณะกรรมาธิการวิสามัญนิรโทษกรรม สัดส่วนพรรคก้าวไกล จำนวน ๘ คน ๑. นายชัยธวัช ตุลาธน ๒. นายรังสิมันต์ โรม ๓. นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ๔. นางอังคณา นีละไพจิตร ๕. หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ ๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์จันจิรา สมบัติพูนศิริ ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง ๘. นางสาวชญานิษฐ์ พูนยรัตน์ ขอผู้รับรอง ครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้องครับ ก่อนที่จะไปพรรคเพื่อไทย ผมลืมไปของคณะรัฐมนตรี จำนวน ๘ ท่าน เสนอได้เลยครับ

นายกรวีร์ สาราคำ อุดรธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายกรวีร์ สาราคำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย ผมขอเสนอ รายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี จำนวน ๘ ท่าน ๑. นายพิชัย นิลทองคำ ๒. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ๓. นางสาวนริศรา แดงไผ่ ๔. นายสมคิด เชื้อคง ๕. นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ๖. ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย ๗. รองศาสตราจารย์ยุทธพร อิสรชัย ๘. นายเจือ ราชสีห์ ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ครบ ๘ ท่านนะครับ ต่อไปพรรคเพื่อไทย ๘ ท่าน เชิญครับ

นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผมขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จำนวน ๘ ท่าน ๑. นายชูศักดิ์ ศิรินิล ๒. นายนพดล ปัทมะ ๓. นายวัฒนา เตียงกูล ๔. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ๕. นายวัชระพล ขาวขำ ๖. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ๗. นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ๘. นายเอกชัย ไชยนุวัติ ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ พรรคภูมิใจไทยครับ

นายธนา กิจไพบูลย์ชัย ศรีสะเกษ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม ธนา กิจไพบูลย์ชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต ๓ พรรคภูมิใจไทย กรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในสัดส่วนของ พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด ๔ ท่าน ได้แก่ ๑. นายประดิษฐ์ สังขจาย ๒. นายชัยอนันต์ มานะกุล ๓. นายณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ ๔. นายชัยรัตน์ มาตยานุมัตย์ ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ ต่อไปพรรคพลังประชารัฐครับ

นายอัคร ทองใจสด เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายอัคร ทองใจสด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ ในสัดส่วนของพรรค พลังประชารัฐ ๒ ท่าน ขอเสนอ ๑. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ๒. นายจำลอง ภูนวนทา ขอผู้รับรอง ด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ ต่อไปเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติครับ

นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทย สร้างชาติ ขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ นิรโทษกรรม จำนวน ๒ ท่าน ๑. นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ๒. นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ พรรคประชาธิปัตย์ครับ

นายทรงศักดิ์ มุสิกอง นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายทรงศักดิ์ มุสิกอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขอเสนอชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน ๑ ท่าน คือ นายชัยชนะ เดชเดโช ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ ต่อไปพรรคชาติไทยพัฒนาครับ

นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สุพรรณบุรี ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ กระผม เสมอกัน เที่ยงธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี จากพรรคชาติไทยพัฒนา ในสัดส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาขอเสนอ นายนิกร จำนง ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ ต่อไปพรรคประชาชาติครับ

นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ปัตตานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ พรรคประชาชาติ จังหวัดปัตตานี ขอเสนอกรรมาธิการวิสามัญ ในสัดส่วนของพรรคประชาชาติ จำนวน ๑ ท่านคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู ขอผู้รับรอง ด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ เสนอชื่อครบแล้วนะครับ เชิญเลขาธิการครับ

ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

รายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ๑. นายพิชัย นิลทองคำ ๒. นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ๓. นางสาวนริศรา แดงไผ่ ๔. นายสมคิด เชื้อคง ๕. นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ๖. ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย ๗. รองศาสตราจารย์ ยุทธพร อิสรชัย ๘. นายเจือ ราชสีห์ ๙. นายชัยธวัช ตุลาธน ๑๐. นายรังสิมันต์ โรม ๑๑. นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ๑๒. นางอังคณา นีละไพจิตร ๑๓. หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ ๑๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์จันจิรา สมบัติพูนศิริ ๑๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง ๑๖. นางสาวชญานิษฐ์ พูลยรัตน์ ๑๗. นายชูศักดิ์ ศิรินิล ๑๘. นายนพดล ปัทมะ ๑๙. นายวัฒนา เตียงกูร ๒๐. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ๒๑. นายวัชระพล ขาวขำ ๒๒. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ๒๓. นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ๒๔. นายเอกชัย ไชยนุวัติ ๒๕. นายประดิษฐ์ สังขจาย ๒๖. นายชัยอนันต์ มานะกุล ๒๗. นายณัฐพศุตม์ ภัทธิราสินสิริ ๒๘. นายชัยรัตน์ มาตยานุมัตย์ ๒๙. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ๓๐.นายจำลอง ภูนวนทา ๓๑. นายวิชัย สุดสวาท ๓๒. นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ๓๓. นายชัยชนะ เดชเดโช ๓๔. นายนิกร จำนง และ ๓๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วรวิทย์ บารู

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

รายชื่อครบ ๓๕ ท่านแล้ว ต่อไปขอเชิญเสนอกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการครับ

นายวรวงศ์ วรปัญญา ลพบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผม นายวรวงศ์ วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทยครับ ขออนุญาตเสนอระยะเวลาในการพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เป็นระยะเวลา ๖๐ วัน ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

มีผู้รับรอง ถูกต้องครับ เสนอให้เวลาพิจารณา ๖๐ วัน มีสมาชิกท่านใดเสนอเป็นอย่างอื่นไหมครับ ไม่มีเสนอเป็นอย่างอื่นก็ถือว่าให้เวลาคณะกรรมาธิการชุดนี้ประชุมพิจารณาภายใน ๖๐ วัน ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ ต่อไปก็จะเป็นการพิจารณาญัตติที่ ๕.๒

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

๕.๒ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข นายชัชวาลล์ คงอุดม เป็นผู้เสนอ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

เนื่องจากมีญัตติทำนองเดียวกันนี้อีก ๑ ฉบับ คือญัตติ เรื่อง ขอให้สภา ผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริม เยาวชนให้เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ คุณฉัตร สุภัทรวณิชย์ เป็นผู้เสนอ ซึ่งอยู่ในระเบียบวาระที่ ๖.๕ ซึ่งผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องทำนอง เดียวกัน จึงจะขอมารวมพิจารณารวมกันนะครับ ถ้าไม่มีสมาชิกท่านใดเสนอเป็นอย่างอื่น ผมขอ ดำเนินการตามนี้นะครับ ขอเชิญท่านแรกครับ คุณชัชวาลล์ คงอุดม แถลงเหตุผลครับ

นายชัชวาลล์ คงอุดม แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎร กระผม นายชัชวาลล์ คงอุดม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้กระผมขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบ ประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่าคนเป็นทรัพยากร มนุษย์ที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม จึงทำให้ทุกประเทศให้ความสนใจถึงการพัฒนาคนของชาติ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ หรือศักยภาพของคนให้ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนา ประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทยการพัฒนาคนในระบอบประชาธิปไตยนับตั้งแต่เปลี่ยน การปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ และมีคำถามมากมายว่าการพัฒนาเรามีเป้าหมายหรือการสร้าง คนที่พึงประสงค์ในระบอบประชาธิปไตยอย่างไร ทั้งในแง่ของความเป็นคนไทยและความเป็น ประชาธิปไตย รวมทั้งการพัฒนาคนให้นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมไทย ทั้งนี้ในบางส่วนบางยุค บางสมัย เราอาจจะเข้าใจไม่ตรงกันทั้งในเรื่องประชาธิปไตยที่มี ความแตกต่างในเชิงแนวคิดและหลักการ ยิ่งในสังคมยุคใหม่คำว่า ประชาธิปไตย ส่วนใหญ่ ถูกตีความอิงไปกับแนวคิดสังคมตะวันตก แต่ความเป็นคนไทยหรือพฤติกรรมของคนไทยก็ยัง มีมุมมองที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรู้ ความเข้าใจ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์และ ค่านิยมของสังคมไทยในแต่ละคราวในแต่ละช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้คนไทยในสังคมไทยมีความ ขัดแย้งทางความคิดและทางการเมืองกันอยู่ไม่น้อย แม้กระทั่งความคิดเห็นในแง่การพัฒนา ชาติไทยหรือสังคมไทยว่าจะมีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร การหาทางออกในประเด็นข้างต้น จึงเป็นที่มาของแนวทางที่จะต้องศึกษาการสร้างคนหรือการพัฒนาคนของชาติเพื่อให้เป็น พลเมืองที่มีคุณภาพได้อย่างไร เพื่อจะนำไปสู่เป้าหมายคนไทยที่พึงประสงค์ ทั้งในแง่ การพัฒนาคนที่พึงประสงค์ในระบอบประชาธิปไตย และการพัฒนาประชาธิปไตยจากฐานรากความเป็นวัฒนธรรมไทย ตลอดจนการสร้าง พลเมืองรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม แล้วก็วัฒนธรรม นอกจากนั้นอาจต้อง ทบทวนกลไกการพัฒนาคนของเราผ่านกระบวนการศึกษา กระบวนการรับรู้ ในระบบการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา ตลอดจนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อนำไปสู่ การปฏิรูปการศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัฒนธรรม เพื่อผลิตให้คนสอดรับกับแนวคิด การพัฒนาประเทศและยุทธศาสตร์ของชาติ เป็นต้น มีผลการประเมินนักเรียนในระดับ นานาชาติจากสมาชิกทั่วโลกมากกว่า ๖๕ ประเทศ เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถจาก นักเรียนอายุ ๑๕ ปี ในเรื่องการใช้ความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อเผชิญกับโลกในชีวิตจริง โดยการประเมินการสอบ ๓ ด้านคือ คณิตศาสตร์ การอ่าน วิทยาศาสตร์ พบว่าเด็กไทย มีคะแนนเป็นอันดับท้าย ๆ มาตลอด มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในทุกด้าน และคุณภาพ การศึกษาโดยทั่วไปก็ยังไม่เป็นไปตามที่พึงประสงค์ รวมทั้งผลจากการสำรวจสภาวะ การทำงานของประชากรมีภาวะการว่างงานสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาใน ระดับอุดมศึกษาในปี ๒๕๖๔ มีอัตราว่างงานสูงกว่าผู้ที่จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย กล่าวคือระดับอุดมศึกษาว่างงานรวม ๓๐๐,๐๐๐ คน ระดับมัธยมศึกษาว่างงาน ๑๕๖,๐๐๐ คน และมัธยมศึกษาตอนปลายว่างงาน ๑๔๔,๐๐๐ คน ตามลำดับ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงต้องพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องทบทวนการพัฒนา คนของชาติในทิศทางใหม่ เพื่อสร้างคนให้ไปสู่คนที่มีคุณภาพ คือการปรับกระบวนการเรียนรู้ กระบวนการศึกษาที่มีคุณภาพ ไม่ใช่การศึกษาเพื่อคุณวุฒิเชิงปริมาณดังกล่าว ดังนั้นการ สร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพจึงจำเป็น เพื่อให้มีทัศนคติและมีค่านิยมประชาธิปไตย บนบริบทของสังคมไทย สอดคล้องกับร่างอารยะและวัฒนธรรมสังคมของตนเอง เพื่อ สร้างพลเมืองที่มีความสามารถ ฉลาดคิด กล้าริเริ่ม สร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนรวม ตั้งแต่ระดับชุมชน ท้องถิ่นและประเทศ เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในการรับผิดชอบต่อ ประเทศชาติเป็นสำคัญ ทั้งนี้โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้เกิดมิติใหม่ในการสร้างคน ให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ สร้างคนและพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองคุณภาพ มีความคิด ทัศนคติ ที่ยึดโยงกับประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ จากเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว ที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีความจำเป็นจะต้องขอเสนอญัตติศึกษาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมือง ที่มีคุณภาพของประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ดังนั้นกระผมจึงขอเสนอญัตติดังกล่าวมาให้ที่ประชุมพิจารณาตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาในเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ของประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปขอเชิญคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ ครับ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ กระผม พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อความเข้าใจของท่านประธาน เพื่อนสมาชิก แล้วก็ พี่น้องประชาชนที่รับชมอยู่ทางบ้าน ก็ต้องขออนุญาตเริ่มต้นโดยการชี้แจงว่าญัตติที่ผม ร่วมเสนอในวันนี้กับญัตติที่ท่านชัชวาลล์เสนอนั้นก็อาจจะเป็นหัวข้อที่ไม่ตรงกันสักเท่าไร แต่ว่าในเมื่อหัวข้อไม่มีความเชื่อมโยงกันก็ต้องขอบคุณท่านประธานที่กรุณาอนุญาตให้ ๒ ญัตตินี้มีการพิจารณาร่วมกัน ในการอภิปรายเสนอญัตติผมขออนุญาตใช้เวลาในการ อธิบายหลักการและเหตุผลในการร่วมเสนอญัตติ เรื่อง การขอให้สภาผู้แทนราษฎรนั้น จัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน ให้เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมใน ระบอบประชาธิปไตย โดยผมนั้นจะขออนุญาตเป็นผู้อภิปรายเปิด แล้วก็ผู้ร่วมเสนอนะครับ คุณฉัตร สุภัทรวณิชย์ ก็จะเป็นผู้อภิปรายปิดในอีกทีหนึ่ง ท่านประธานครับ ในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุด เป็นของประชาชน รัฐจำเป็นที่จะต้องมองและปฏิบัติกับประชาชนทุกคนในฐานะพลเมืองที่มี สิทธิและอำนาจในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยหากเราต้องการให้ประชาชน ทุกคนนั้นใช้สิทธิพลเมืองดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในการกำหนด อนาคตประเทศ เราก็จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมดังกล่าวนั้นตั้งแต่สมัยที่ทุกคนนั้น ยังคงเป็นเด็กและเยาวชน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกของเราทุกคนในที่นี้ สัมผัสกันได้ว่าเด็กและเยาวชนนั้นได้แสดงความตื่นตัวทางการเมืองและตื่นตัวต่อประเด็น สาธารณะเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามากที่สุดในรอบหลายปีก็ว่าได้ แต่แม้เยาวชนจะได้ พยายามสะท้อนความฝันและความต้องการของเขาผ่านช่องทางหรือกลไกต่าง ๆ แค่ไหน ก็ยังมีเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่าเสียงของเขานั้นยังไม่ได้ถูกรับฟังหรือคำนึงถึงอย่าง เพียงพอในทุกกระบวนการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียนก็ดีหรือในสังคมภาพรวมก็ดี จะว่าไปแล้วท่านประธานแม้กระทั่งเหตุการณ์เมื่อวานหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานก็อาจจะทำให้เยาวชนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า อนาคตของเขาในประเทศนี้จะอยู่ ภายใต้กรอบทางการเมืองแบบใด อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่มีสุขภาพเช่นใด ดังนั้น หากเราต้องการที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว การรับฟังอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอครับ แต่เราจำเป็นที่จะต้องเปิดพื้นที่ต่าง ๆ ให้เยาวชนนั้นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้มากขึ้น พื้นที่ ที่ผมพูดถึงนี้อาจจะแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

พื้นที่ประเภทที่ ๑ ที่เราควรเปิดคือการปลดล็อกให้เยาวชนนั้นสามารถเข้ามา มีส่วนร่วมได้ในพื้นที่เดียวกันกับผู้ใหญ่โดยตรง กุญแจดอกสำคัญของเรื่องนี้คือการปรับเกณฑ์ เรื่องอายุขั้นต่ำในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในด้านต่าง ๆ ตัวอย่างที่น่าจะชัดเจนที่สุด ก็คืออายุขั้นต่ำในการลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น หากเรายึดหลัก สากลประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลกก็มักจะมองว่าหากคุณมีอายุมากพอที่จะมีสิทธิ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง คุณก็ถือว่ามีอายุมากพอที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นกัน แต่พอเรา มาดูในประเทศไทยพอคุณอายุ ๑๘ ปี คุณมีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งหรือมีสิทธิในการ โหวต แต่คุณต้องรออีก ๗ ปี จนกระทั่งอายุ ๒๕ ปี คุณถึงจะมีสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ในระดับสภาผู้แทนราษฎรก็ดี หรือสมาชิกสภาท้องถิ่น แล้วก็ต้องรออีก ๑๐ ปี จนคุณอายุ ๓๕ ปี ถึงจะมีสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะผู้บริหารท้องถิ่น

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

พื้นที่ประเภทที่ ๒ ที่เราควรเปิดนั่นคือการออกแบบพื้นที่พิเศษสำหรับ เยาวชนที่จะเป็นสะพานเชื่อมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างเยาวชนกับกลไกทั่วไปทาง การเมืองหรือทางนโยบาย จริงอยู่ครับว่าปัจจุบันเราก็มีพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้วมาเกือบ ๒๐ ปี ที่มีชื่อว่าสภาเด็กและเยาวชน แต่หากผมจะขออนุญาตยืมคำพูดของนักวิชาการท่านหนึ่งที่ได้ พยายามรวบรวมความเห็นของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เขาได้กล่าวไว้ว่าแม้สภาเด็กและ เยาวชนนั้นถูกตั้งขึ้นมาด้วยหลักการว่า เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน แต่มันก็มีความเสี่ยงว่าสภาเด็ก และเยาวชนในหลายส่วนในวันนี้อาจจะกลายเป็นสภาที่ผู้ใหญ่สั่งแล้วเด็กถูกบีบให้ทำตาม แนวทางในการปฏิรูปสภาเด็กและเยาวชนให้ตอบโจทย์เยาวชนมากขึ้นก็มีอยู่หลายข้อเสนอ ด้วยกัน ผมขออนุญาตยกตัวอย่างสั้น ๆ แค่ ๓ ข้อเสนอ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ข้อเสนอที่ ๑ คือการปรับที่มาของสภาเด็กและเยาวชนในแต่ละระดับให้มา จากการเลือกตั้งของเด็กและเยาวชนโดยตรง ด้วยการมีส่วนร่วมที่กว้างขวางขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ตอนนี้ทาง กทม. เองก็ได้มีการเปิดให้มีการเลือกตั้งประธานสภาเด็กและ เยาวชนโดยตรงผ่านการเลือกตั้ง Online ซึ่งผมเข้าใจว่าเพิ่งปิดรับสมัครผู้สมัครไปเมื่อวานนี้ การเลือกตั้ง Online แบบนี้ล่ะครับก็เป็นวิธีที่หลายประเทศนั้นใช้ในการเพิ่มการมีส่วนร่วม ของเยาวชน อย่างเช่น Youth Parliament หรือว่าสภาเยาวชนที่สหราชอาณาจักรก็มีการเปิด ให้เยาวชนอายุ ๑๑-๑๘ ปีนั้นมีสิทธิในการเลือกตัวแทนของเขาผ่านช่องทาง Online ทุก ๆ ๒ ปี เป็นต้น

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ข้อเสนอที่ ๒ คือการรับประกันความเป็นอิสระของสภาเยาวชนจากรัฐ วิธีหนึ่ง ที่เราจำเป็นต้องทำการวางเกณฑ์หรือพิจารณาเรื่องหน่วยงานที่กำกับดูแลเพื่อให้รัฐนั้น ไม่มาแทรกแซงเนื้อหาโครงการที่เยาวชนนั้นคิดค้นหรือปรับงบประมาณขึ้นลงตามอำเภอใจ เพียงเพราะว่าเยาวชนนั้นเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในยุคสมัยนั้น ๆ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ข้อเสนอที่ ๓ นั่นคือการเพิ่มอำนาจของสภาเยาวชนในการผลักดันนโยบาย ที่ต้องไม่ใช่แค่การจัดกิจกรรมครับ แต่เป็นอำนาจในการขับเคลื่อนนโยบายผ่านการเชื่อมโยง กับกลไกทางการเมืองในระบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้สภาเยาวชนนั้นมีอำนาจในการเสนอ ร่างกฎหมายมาให้สภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ได้รับไว้พิจารณา อย่างเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้ หรือไม่ว่าจะเป็นการให้สภาเยาวชนนั้นมีโควตาในการตั้งกระทู้ถามหรือเสนอแนะรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีนั้นต้องมาตอบในสภาเยาวชนก็ดี หรือตอบเป็นลายลักษณ์อักษรก็ดี อย่างเช่น ที่มาเลเซียหรือเดนมาร์ก เป็นต้น

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

พื้นที่ประเภทที่ ๓ ที่เราควรจะเปิด คือการเปิดพื้นที่สถานศึกษาให้นักเรียน และนักศึกษานั้นมามีส่วนร่วมในการออกแบบการศึกษาและกติกาในโรงเรียนมากขึ้น ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศเราจะเป็นอย่างไร ความจริงแล้วความเป็นประชาธิปไตย ในห้องเรียนเรานี่ล่ะครับจะเป็นทั้งกระจกสะท้อนสังคมและตะเกียงนำทางสังคม การส่งเสริม การมีส่วนร่วมและประชาธิปไตยในห้องเรียนก็มีอยู่หลายข้อเสนอด้วยกันครับ ขออนุญาต ยกตัวอย่าง ๓ ข้อเสนอเช่นเคย

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ตัวอย่างข้อเสนอที่ ๑ คือการกำหนดให้คณะกรรมการสถานศึกษาหรือว่า School Board นั้นมีตัวแทนนักเรียนที่มาจากการเลือกตั้งจากนักเรียนโดยตรง กลไกแบบนี้ ก็จะเป็นหลักประกันที่ดีที่จะทำให้การพิจารณานโยบายต่าง ๆ ของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการจัดการเรียนการสอนยันการเลือกอุปกรณ์การเรียน หรือแม้กระทั่งมาตรการการดูแล ความปลอดภัยของผู้เรียนนั้นก็จะคำนึงถึงเสียงของนักเรียนที่มีตัวแทนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ พิจารณาเดียวกันกับทุก ๆ ฝ่าย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เสียงดังมาจากนอกห้องประชุม

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ตัวอย่างข้อเสนอที่ ๒ คือการทำให้ธรรมนูญนักเรียนและสภานักเรียนนั้น มีความยึดโยงกับนักเรียนมากขึ้น ตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือที่โรงเรียนสาธิตธรรมศาสตร์ที่เปิด ให้นักเรียนนั้นได้มีส่วนร่วมในการเขียนและออกเสียงประชามติรับรองธรรมนูญฉบับแรก ของโรงเรียน โดยมีการกำหนดไว้ให้มีโครงสร้างสภานักเรียนที่แบ่งออกเป็นฝ่ายบริหารและ ฝ่ายที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลที่ล้วนมาจากการเลือกตั้งของนักเรียนโดยตรง และสามารถ ถูกลงชื่อถอดถอนโดยนักเรียนได้เช่นกัน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ตัวอย่างข้อเสนอที่ ๓ คือการเปิดให้นักเรียนนั้นมีส่วนร่วมในการประเมิน คุณภาพการศึกษาที่พวกเขาได้รับ ในระดับหนึ่งเราอาจจะหมายถึงการเปิดให้นักเรียนนั้นมี ส่วนร่วมในการประเมินครู เพื่อทำให้เกิดการประเมินแบบรอบทิศหรือแบบ ๓๖๐ องศา ที่จะทำให้การทำงานของครูนั้นมีความยึดโยงกับผลลัพธ์หรือผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน และความ พึงพอใจของนักเรียนมากขึ้นในฐานะผู้รับบริการการศึกษา หรืออีกระดับหนึ่งคือการเปิดให้ นักเรียนนั้นได้ประเมินและตรวจสอบโรงเรียนหรือสถานศึกษา ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ โครงการที่มีชื่อว่า Check My School ที่ประเทศฟิลิปปินส์ครับ ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนและ ประชาชนในพื้นที่นั้นมีเครื่องมือและข้อมูลในการตรวจสอบว่าการให้บริการในโรงเรียนนั้น เป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่ หนังสือเรียนที่เขาได้รับได้คุณภาพหรือไม่ ห้องน้ำ ที่โรงเรียนสะอาดเพียงพอหรือไม่ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโรงเรียนนั้นทำงานได้จริงหรือไม่ เป็นต้น

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

แต่นอกจากจะเปิด ๓ พื้นที่ประเภทนี้ให้เยาวชนเข้ามีส่วนร่วมมากขึ้นแล้ว อีกภารกิจหนึ่งที่เราจำเป็นต้องทำคู่ขนานคือการพยายามปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อช่วย ส่งเสริมให้เยาวชนนั้นได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการขับเคลื่อนการ เปลี่ยนแปลง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยบ่มเพาะทักษะให้เยาวชน ในการผลักดันการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าตรงนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เต็มที่หากเราไม่มีการ ปฏิรูปการศึกษาและจัดทำหลักสูตรการศึกษาฉบับใหม่ที่เน้นทักษะสมรรถนะ หากเราอยาก ให้เยาวชนของเราคิดค้นนโยบายต่าง ๆ จากการรับฟังความเห็นจากหลายมุมมอง เราก็ควร ที่จะเปลี่ยนวิธีการสอนวิชาประวัติศาสตร์จากการเน้นท่องจำเหตุการณ์มาเป็นการเน้น วิเคราะห์หลักฐานหรือมุมมองทางประวัติศาสตร์ที่บางครั้งอาจจะขัดแย้งกัน หากเราต้องการ ให้เยาวชนของเรานั้นมีความสามารถในการประสานความร่วมมือกับต่างประเทศได้ในการ แก้ไขปัญหาระดับโลกเราก็ควรที่จะปรับวิธีการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่ไม่ได้เน้นแค่เรื่องของ หลักภาษาและไวยากรณ์ แต่ให้หันมาเน้นเรื่องของทักษะการใช้ภาษาหรือว่าทักษะ การสื่อสารควบคู่ไปด้วย หรือหากเราอยากให้เยาวชนนั้นได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา บ้านเมืองจริง ๆ เราก็จำเป็นที่ต้องลดจำนวนชั่วโมงเรียน ลดภาระการบ้านที่มันหนักเกินไป เพื่อให้เยาวชนของเรานั้นมีเวลามากขึ้นในการทำกิจกรรมที่เขาสนใจและทดลองทำจริง นอกห้องเรียน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ คือการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างสภาพแวดล้อม ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชนในการมีส่วนร่วม ความปลอดภัยนี้ก็ครอบคลุมทั้งความปลอดภัย ในมิติของกฎหมายหรือกฎระเบียบที่คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก และเคารพสิทธิ มนุษยชนของเยาวชนทุกคน รวมไปถึงความปลอดภัยในมิติของวัฒนธรรมในห้องเรียนครับ ที่สนับสนุนให้เยาวชนนั้นสามารถตั้งคำถามและแลกเปลี่ยนความเห็นได้อย่างสนิทใจ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๓ ก็คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบไปด้วยผู้ปกครองหรือ ผู้ใหญ่ที่พร้อมจะเข้าใจและพร้อมจะวางบทบาทของตนเองเป็นพี่เลี้ยงที่ช่วยสนับสนุน เยาวชนโดยไม่ครอบงำหรือปิดกั้นเยาวชนด้วยความคิดของตนเอง ท่านประธานครับ ข้อเสนอ ทั้งหมดที่ผมได้อภิปรายในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอในการเปิด ๓ พื้นที่ก็ดี ข้อเสนอในการ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม ๓ ประการก็ดี ไม่ได้เป็นข้อเสนอที่ผมคิดเองนะครับ แต่เป็นข้อเสนอ เบื้องต้นที่ผมได้มาจากการได้ประชุมหารือร่วมกันในกรรมาธิการพัฒนาการเมืองร่วมกับ ทั้งฝ่ายวิชาการ ภาคประชาสังคม แล้วก็ตัวแทนเยาวชนบางส่วน แต่ผมเชื่อครับว่าเราจะมี ข้อเสนอที่ครบถ้วนรอบด้านพร้อมใช้งานมากกว่านี้ หากเราลงแรง ลงเวลากันอีกสักนิดหนึ่ง ผ่านกลไกของสภาและกลไกของคณะกรรมาธิการเพื่อคุยกับคนให้มากกว่านี้และจัดทำ ข้อเสนอที่กว้างและลึกกว่านี้ ดังนั้นที่ผมต้องการให้เราดำเนินการเรื่องนี้ด้วยความละเอียด รอบคอบก็เพราะผมรู้ ผมตระหนักดีว่าการเพิ่มการมีส่วนร่วมของเยาวชนอย่างมีความหมาย อย่างแท้จริงนั้นจะต้องไม่ใช่การทำอะไรกับเยาวชนแบบฉาบฉวย ปรากฏการณ์หนึ่งที่ทั่วโลก นั้นเริ่มพูดถึงแล้วก็เริ่มมีข้อกังวลมากขึ้น คือปรากฏการณ์ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Youth Washing ปรากฏการณ์นี้คือปรากฏการณ์ที่รัฐหรือองค์กรต่าง ๆ นั้นอาจจะมีความพยายาม ในการทำให้สังคมคิดว่าตนเองนั้นให้ความสำคัญกับเยาวชนหรือว่าคนรุ่นใหม่ โดยการชื่นชม โดยการให้รางวัล หรือว่าเชิญพวกเขาไปแสดงความเห็น แต่พอไปถามเยาวชนที่ผ่าน กระบวนการเหล่านี้แล้วเขากลับสัมผัสได้หรือเขากลับรู้สึกว่าองค์กรเหล่านี้ไม่เคยรับฟังจริง ๆ ถึงความต้องการของพวกเขา ไม่เคยตั้งใจจริง ๆ ในการแก้ไขปัญหาของพวกเขา แล้วก็ ไม่เคยไว้ใจพวกเขาจริง ๆ ในการเข้ามามีส่วนร่วมหรืออำนาจในการตัดสินใจ ดังนั้นผมขอ ทิ้งท้ายด้วยการบอกว่าข้อเสนอที่ผมอยากเห็นสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้เราร่วมกันจัดทำครับ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของเยาวชนอย่างมีความหมายในระบอบประชาธิปไตย ต้องเป็น ข้อเสนอที่คำนึงไว้ตลอดเวลาว่าเสียงของเยาวชนนั้นต้องไม่ใช่แค่เสียงดัง แต่ต้องเป็นสิ่งที่ถูก รับฟังอย่างจริงจัง บทบาทของเยาวชนนั้นต้องไม่ใช่ไม้ประดับ แต่ต้องเป็นเจ้าของร่วมกันของ ประเทศนี้ในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศ และท้ายที่สุดแล้วเยาวชนต้องไม่ใช่แค่ อนาคตของชาติ แต่เยาวชนต้องเป็นปัจจุบันของชาติด้วยเช่นกัน ขอบคุณครับท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปก็จะเป็นการ อภิปรายของท่านสมาชิก ซึ่งขณะนี้มีผู้มาลงชื่อเพื่อขออภิปรายแล้วจากพรรคฝ่ายค้าน ๑๑ ท่าน จากพรรครัฐบาล ๗ ท่าน ผมก็จะเรียกตามลำดับ โดยขอให้ใช้เวลาท่านละ ๗ นาที นะครับ ท่านแรกเชิญคุณภคมน หนุนอนันต์ ครับ

นางสาวภคมน หนุนอนันต์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาค่ะ ดิฉัน ภคมน หนุนอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ดิฉันขอร่วมอภิปรายญัตติ การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดิฉันขอเริ่มต้นกับที่ประชุมสภาแห่งนี้นะคะว่าการมี เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นกับการมีส่วนร่วมของประชาชนคือเรื่องเดียวกัน ไม่สามารถ แยกออกจากกันได้ค่ะ

นางสาวภคมน หนุนอนันต์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึง เรื่องของการสร้างคน ดิฉันขอย้อนถามนะคะว่าเรากำลังจะสร้างคนให้อยู่ในสังคมแบบไหน สังคมที่ผู้มีอำนาจอนุญาตให้พูดได้เฉพาะเรื่องที่อยากได้ยินใช่หรือไม่ วันนี้ดิฉันขอเป็น ตัวแทนของสื่อมวลชนอิสระ นักข่าวพลเมือง ที่เขาต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไร้เสรีภาพในหลาย ๆ เหตุการณ์ในวันที่ประเทศไทยต้องการการทำหน้าที่จากสื่อมวลชนมากที่สุดค่ะ หากเราอยู่ใน สังคมประชาธิปไตยปกติเราคงไม่ต้องมาพูดกันเรื่องนี้ แต่นี่เราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ที่สื่อมวลชนผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารข้อเท็จจริงถูกฟ้องปิดปากครั้งแล้วครั้งเล่า และเรื่องนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ดิฉันขอย้อนไปตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เมื่อนักข่าวพลเมืองกลุ่มเยาวชนฮักบ้าน เจ้าของ ที่ทำข่าวสืบสวนสอบสวนผลกระทบจากเหมืองแร่ในเมืองเลยถูกนายทุนฟ้องร่วมกับ ไทยพีบีเอสที่ออกอากาศรายการดังกล่าวเรียกค่าเสียหาย ๕๐ ล้านบาท นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งใน หลายกรณีที่เกิดจากการใช้กฎหมายฟ้องปิดปากคนทำสื่อ โดยเหตุการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นกับ สื่ออิสระ นักข่าวพลเมือง นักข่าว Online ที่ออกมาเคียงข้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะพวกเขาไม่มีสถานะทางการที่สามารถปกป้องตัวเองได้ค่ะ กรณีเดียวกันเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปี ๒๕๖๔ ตำรวจได้เข้าจับกุม Admin Page สำนัก ข่าวราษฎรและเพจปล่อยเพื่อนเราจำนวน ๒ คน เนื่องจากออกเคหสถานช่วงเวลาที่มี การห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ทั้งที่พวกเขาทำหน้าที่สื่อมวลชนค่ะ กำลัง ถ่ายทอดเหตุการณ์อยู่ เพียงแต่เขาไม่มีสังกัดอย่างเป็นทางการ ถ้านับเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นช่วง ๑ ปีกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปี ๒๕๖๕ ถึงกันยายนปี ๒๕๖๖ มีการดำเนินคดีกับ สื่อมวลชนแล้วหลายครั้ง กุมภาพันธ์ปี ๒๕๖๖ กอ.รมน. แจ้งความร้อง ๒ นักข่าวจากสื่อ Online ที่ใช้ชื่อว่า วาร์ตานี เขาเป็นสื่ออิสระพี่น้องมลายูมุสลิมในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ เขาทำหน้าที่เสนอข้อเท็จจริงปกป้องและยืนยันความชอบธรรมของพี่น้องในพื้นที่ ๓ จังหวัด ชายแดนใต้ มีนาคมปี ๒๕๖๖ Admin Page ขุนแผนแสนสะท้าน สื่ออิสระที่ติดตามสถานการณ์ การชุมนุมของเยาวชนคนหนุ่มสาวในปี ๒๕๖๔ เขาโดนจับในมาตรา ๑๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ มทบ. ๓๓ แจ้งความสำนักข่าว Lanner สำนักข่าว Online ที่ติดตามประเด็นสังคมการเมือง อย่างต่อเนื่อง เขาถูกแจ้งข้อหายุยงปลุกปั่นในมาตรา ๑๑๖ ค่ะ สมาคมนักกฎหมาย สิทธิมนุษยชนได้เผยแพร่เมื่อปี ๒๕๖๕ ได้รวบรวมสถิติเอาไว้เกี่ยวกับการฟ้อง SLAPP ใน ประเทศไทย สถิตินี้เห็นไหมคะว่าสื่อมวลชนคือ ๑ ใน ๕ ของกลุ่มคนที่ถูกฟ้องปิดปาก มากที่สุด และถ้ายังจำกันได้กรณีกลุ่มราษฎรหยุด APEC เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ ถูกสลายการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุมและยิงใส่สื่อมวลชนจนได้รับ บาดเจ็บ ทั้งที่เห็นด้วยตาเปล่าว่าเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน เขามีปลอกแขนที่ แสดงได้ชัดเจนว่าเขากำลังทำหน้าที่ของความเป็นสื่อ หลายกรณีที่ดิฉันยกตัวอย่างมาข้างต้น ชี้ให้เห็นว่าเสรีภาพในการสื่อสารของคนไทยจำนวนมากอยู่ภายใต้บริบทที่เรามีกฎหมาย ที่ล้าหลัง เอื้อให้เกิดการฟ้องปิดปากจำนวนมากค้ำคออยู่ ท่านจะคาดหวังให้พวกเขามี ส่วนร่วมกับสังคมไทยได้อย่างไรคะ ตราบใดที่เมื่อไรก็ตามที่มีความคิด มีความเห็น และ ลุกขึ้นมาแสดงความคิดเห็น และความคิดเห็นนั้นไม่ถูกใจผู้มีอำนาจรัฐ ผู้มีอำนาจทุน และผู้มี อำนาจเหนือรัฐและเหนือทุน พวกเขาก็จะถูกฟ้องปิดปากค่ะ หรือการกระทืบพวกเขา ไล่ยิง พวกเขาด้วยความสะใจ ถ้าท่านคิดว่าเรื่องเหล่านี้เราไม่จำเป็นต้องทบทวน ท่านมุ่งแต่จะสร้าง พลเมืองคุณภาพตามความเข้าใจหรือนิยามของท่าน แต่ไม่ส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ ไม่สร้าง การมีส่วนร่วมของประชาชน สุดท้ายท่านจะได้แค่พลเมืองดีแบบว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง ไม่กล้าคิดนอกกรอบ กลัวการตั้งคำถามเพราะเกรงว่าชีวิตจะเดือดร้อน คำถามของดิฉันคือ แบบนี้หรือคะพลเมืองที่ท่านอยากได้ พลเมืองแบบนี้หรือคะที่จะขับเคลื่อนประเทศใน ศตวรรษที่ ๒๑ พลเมืองดีในความหมายของท่านที่ตั้งขึ้นมามีความหมายว่าอย่างไรดิฉัน ไม่ทราบ แต่พลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยมันต้องมีสิทธิ มีเสียง มีเสรีภาพ และมีส่วนร่วม ในการสร้างประเทศนี้ค่ะ ในขณะที่ประเทศเรามีความเหลื่อมล้ำรุนแรง การที่ท่านอยากสร้าง พลเมืองคุณภาพแบบที่สนใจเพียงสายลมแสงแดด เมินเฉยต่อเสียงเรียกร้องขอความเป็นธรรม ของผู้คนที่มีอยู่ทุกพื้นที่ และยังพยายามจะสร้างกลไกสารพัดเพื่อปิดปากของคนที่เขาส่งเสียง แทนผู้เดือดร้อน และหรี่เสียงพวกเขาให้เบาลงที่สุด เห็นแบบนี้ดิฉันยากที่จะคิดเป็นอย่างอื่น ว่าความพยายามการสร้างพลเมืองดีของท่านไม่ได้ทำด้วยความหวังดีที่อยากเห็นสังคมไทย มีอนาคต แต่ท่านทำด้วยความขี้ขลาดและหวาดกลัว อยากกักขังประเทศนี้เอาไว้ในอดีตที่ ท่านได้ประโยชน์ และชะลอการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัยให้นานที่สุด ปัญหาของประเทศไทย ตอนนี้ไม่ใช่พลเมืองไม่มีคุณภาพหรอกนะคะ แต่เป็นผู้มีอำนาจต่างหากที่ไม่มีความรับผิด รับชอบต่อเสียงของประชาชน แทนที่ท่านจะเอาเวลาและทรัพยากรมานั่งศึกษากันว่า จะสร้างพลเมืองแบบที่ท่านอยากได้อย่างไร ท่านเอาเวลาและทรัพยากรไปศึกษาให้ตัวท่าน ให้เดินตามทันความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ถ้าท่านเปิดใจสักนิด รับฟัง รับรู้ ว่าภายนอก สภาแห่งนี้ เยาวชนคนหนุ่มสาว คนที่กำลังเติบโตในประเทศนี้เขาอยากเห็นประเทศก้าวหน้า ไปอย่างไร ปัญหาไม่ใช่การสร้างพลเมืองอย่างไร แต่ปัญหาคือทำอย่างไรให้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ให้นั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาลนำสิ่งที่พวกเขาเสนอมาพิจารณาอย่างจริงจัง หรืออย่างน้อยที่สุด ไม่ปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพของพวกเขาค่ะ สุดท้ายดิฉันฝากไว้ตรงนี้ค่ะ ท่านไม่สามารถ หยุดสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ ยอมรับและปรับตัวเสียนะคะ ด้วยความปรารถนาดี จริง ๆ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณวิรัช พิมพะนิตย์ ครับ

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต ๑ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมขอร่วม อภิปรายเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ภายใต้การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอพระองค์ทรงพระเจริญครับ สิ่งหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสงบสุข และเกิดสันติสุขได้คือที่ประชาชน คนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย มีหลักประชาธิปไตย ในการดำรงชีวิต ปฏิบัติตนตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และดำรงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งการสร้างความเป็นพลเมืองไม่ใช่ว่าการทำให้ประชาชนรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนมี แต่สิ่งที่จะต้องทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง สิ่งแรกคือพื้นฐานของความ เป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวว่า ประชาธิปไตยคือประโยชน์ ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้ผมมี ความสุขที่จะได้พูดเรื่องนี้

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ผมอยากกล่าวว่าครอบครัวของคนไทย สมัยที่ผมเป็นเด็กมีความสุขมาก เรามีพ่อ มีแม่ มีปู่ มีย่า มีตา มียาย ทุกอย่างเคารพกันอย่าง รักใคร่ปรองดอง เวลาหนุ่มสาวสมัยก่อนตามบ้านนอกที่เขาจะแต่งงาน เขาก็มีขันดอกไม้ มาบูชาเพื่อให้คนแก่ในหมู่บ้านนั้นสอนสั่งให้การดำรงชีวิตของตน ความสุขเช่นนี้เดี๋ยวนี้ หายไป วันนี้ด้วยระเบียบของการศึกษาวิชาหน้าที่พลเมือง วิชาศีลธรรม ไม่ค่อยมีแล้วครับ เป็นจุดเล็ก ๆ ที่เอาไปไว้ในข้อมูล หลักศาสนาต่าง ๆ ไม่ว่าทุกศาสนาไม่มีสอนในโรงเรียนแล้ว เขาเหล่านั้นประพฤติตัวในสิ่งที่ไม่มีผู้ใหญ่ ไม่มีเด็ก ท่านประธานที่เคารพครับ ผมก็ไม่ได้บอกว่า เด็กหรือผู้ใหญ่จะมีสิทธิไม่ได้เท่าเทียมกัน สภานักเรียนเป็นสิ่งที่ดี ๆ ที่โรงเรียนมี แต่สิ่งต่าง ๆ ผมอยากให้ดูที่พลเมืองของเรา เมื่อเช้านี้ผมขับรถจะมาที่สภามาจอดตรงสี่แยกตรงนี้ พ่อซึ่งมี ลูกสาวเล็ก ๆ ซ้อนท้าย พอรถติดไฟแดงยังแว็บไปแล้วก็ขับกลับมา แล้ววันนี้ลูกที่นั่งอยู่ท้าย มันจะซึมซับกับความที่จะเป็นคนดีของสังคมได้ไหม ผมบอกว่าวันหนึ่งกฎกติกา ท่านประธาน เห็นไหมครับ ผมขออนุญาตยกตัวอย่างผมไปเที่ยวแล้วประทับใจคือประเทศญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น ขนาดว่าจะข้ามถนน ไม่มีรถเลยเด็กนักเรียนของประเทศเขายังยืนคอยจนถึงไฟเขียว ที่ให้ข้ามได้ถึงเดินข้าม ผมอยากให้ประชาชนคนไทยเรามีความประพฤติ มีความคิด มีความสร้างสรรค์ มีวินัย แล้วก็รักกัน ผมเป็นประธานนักศึกษาตั้งแต่สมัยรามคำแหง แต่ก่อนประธานจะสร้างซุ้มอย่างเดียวต้องแบกไม้ก่อน แต่วันนี้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่เป็นร่วมกัน เกษตรกรของชาวบ้านในต่างจังหวัดจะมีพิธีลงแขกปลูกข้าว มีวิธีสร้างบ้านช่วยกัน สิ่งเหล่านั้น เริ่มหายไป ท่านประธานที่เคารพครับ ผมอาจจะมีอายุเริ่มสูงขึ้น ผมกำลังคิดว่าวันนี้เราจะทำอย่างไร ให้ธรรมชาติสิ่งนั้นเกิดกับคนเรา แต่ก็ต้องมีระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องมีสิทธิมีเสียง ที่เด็กและเยาวชนจะสามารถทำอะไรก็ได้ วันนี้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ท่านสร้างบ้านสร้างเมืองมาจนมีเมืองไทย ไม่ได้เป็นขี้ข้าของต่างชาติ ผมจึง บอกว่าวันนี้ฝั่งที่เราอยู่ด้วยกันเราอยู่ด้วยความรักและความสามัคคีเถอะครับ เราจะได้ทำงาน อย่ามีเสื้อสีนั้น อย่ามีเสื้อสีนี้ คนไทยอันไหนไม่ถูกต้องร่วมกันครับ ลุยด้วยกัน แต่ว่าอันไหน ถูกต้องเอาด้วยกันครับ เหมือนสภาแห่งนี้อันไหนที่ฝ่ายค้านอยากตั้งกรรมาธิการแล้วก็เป็น ประโยชน์ให้เขาตั้ง อันไหนที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งแล้วเป็นประโยชน์ก็ให้เราตั้ง อันไหนที่เป็น ประโยชน์ของคนส่วนมาก ทุกอย่างวันนี้มันไม่มีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล มันจะมีแต่คนที่เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ที่อยากจะทำงานให้บ้านเมือง เกิดประโยชน์เกิดขึ้น ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้สถาบันครอบครัวโดนยาเสพติดทำลาย หมดแล้ว ไม่มีเห็นภาพอย่างนี้แล้วครับ ภาพที่บนสไลด์อุ้มลูกจูงหลาน เดี๋ยวนี้เด็ก ๑๓ ขวบ ตั้งแก๊งแล้ว แล้วก็ไม่มีความผิด ความผิดที่เด็กทำมันต้องเริ่มจับกลุ่มแล้วก็เริ่มตรากฎหมาย ขึ้นมาบ้าง สังคมไทยวันนี้ผมบอกว่าเจ็บปวดที่สุด ยาเสพติดเข้าไปควบคุมตรงในพื้นที่ของ ชาวบ้านหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว คนอีสานโดยเฉพาะพื้นที่ที่ผมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คนถือมีดเดินเต็มบ้านเต็มเมือง ซอมบี้เดินเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะฉะนั้นวันนี้ผมทราบว่า ท่านประธานเองก็มีจิตใจที่บอกว่าอยากให้ทำบ้านเมืองตรงนี้ให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศ ก็ขอบคุณรัฐบาลผมคอยเวลาท่านอยู่ ตอนนี้มาหลายเดือนแล้ว ก็ขอให้ปราบยาเสพติดเพื่อให้ สถาบันครอบครัวมีประโยชน์ต่อไปครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ต่อไปขอเชิญคุณกัณตภณ ดวงอัมพร ครับ

นายกัณตภณ ดวงอัมพร กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม นายกัณตภณ ดวงอัมพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนของพี่น้อง ชาวพญาไท ดินแดน กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมือง ที่มีคุณภาพของประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขครับ ท่านประธานครับ ก่อนที่เราจะปลูกฝังรากลึกในการพัฒนาคนให้เป็น พลเมืองที่มีคุณภาพนั้น เราคาดหวังว่าพลเมืองในประเทศไทยจะต้องเป็นอย่างไรครับ ส่วนตัวผมมองเรื่องเล็ก ๆ แต่ที่ทำยาก ก็คือการทำให้พลเมืองเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ หรือเรียก กันว่า Active Citizen

นายกัณตภณ ดวงอัมพร กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง และตื่นรู้หรือ Active Citizen เป็นเรื่องที่ถูกต้องเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นวงกว้าง ด้วยเชื่อว่า การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดกับสังคมได้ Active Citizen ที่นิยามคือ พลเมืองที่มีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาสังคม ทั้งในระดับประเทศ สังคมโลก เชื่อว่าทุกคนจะมีความรับผิดชอบต่อทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งในการปกครองก็ตาม จริง ๆ แล้วผมมองว่าการเป็น พลเมืองตื่นรู้อาจจะต้องกระตุ้นให้ทุกคนได้รับรู้และเข้าใจเรื่องนี้เสียก่อนนะครับ วันนี้ผม อยากจะขอนำเสนอ ไม่ต้องมาจากที่ไหนไกล สถาบันนิติบัญญัติของเราเอง เรื่องนี้ทำมา ยาวนานกว่า ๒๐ ปีแล้ว สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่สนับสนุนและพัฒนาคน ในช่วงหลายวัยให้เริ่มเข้าใจหลักการประชาธิปไตย ส่งเสริมให้ประชาชนภาคพลเมือง ตัวอย่างเช่นโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่มีมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ ที่มีการนำตัวแทนเยาวชน จากทั่วประเทศ จังหวัดละ ๒ คนมาอบรมให้ความรู้ด้านประชาธิปไตยทำให้พวกเขาได้นำ ความรู้กลับไปขยายผลต่อในโรงเรียน ในชุมชน ในจังหวัดของเขา สร้างการพัฒนาด้าน ประชาธิปไตยผ่านกลไกของเยาวชน เพราะเด็ก ๆ จะเป็นกระบอกเสียงที่ดีในการสร้างสังคม ประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น จากที่ผมเองได้เคยร่วมกิจกรรมกับน้อง ๆ ยุวชนประชาธิปไตย ในช่วงปีที่ผ่านมา ผมเห็นได้เลยว่าทางผู้จัดโครงการมีความเข้มแข็งในการพัฒนาหลักสูตร ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเยาวชนที่จบหลักสูตรนี้แล้วเขาจะมี องค์ความรู้ที่ได้เข้ามาทำกิจกรรม ไปจัดกิจกรรมในโรงเรียนของเขา ในชุมชนของเขา เพราะ สิ่งที่เขาทำมันเป็นความรู้ที่ประชาชนหลาย ๆ คนเข้าไม่ถึง อันนี้ผมขอเอ่ยชื่นชมทาง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก

นายกัณตภณ ดวงอัมพร กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีก ๑ ตัวอย่าง การเลือกตั้งสภาเด็กและเยาวชนในแต่ละปี สภาเด็กและ เยาวชนที่อยู่กับ อปท. และบ้านพักเด็กที่อยู่ภายใต้สังกัด พม. เป็นอีกหนึ่งกลไกที่น่าสนใจ แต่อาจมีความลักลั่นบางอย่าง แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความเป็นพลเมืองใน เด็กและเยาวชน ความลักลั่นที่ผมเอ่ยถึงนี้คือ ในตำบลประธานสภาเด็กและเยาวชนเกิดจาก การเลือกตั้งของเด็กและเยาวชนทั้งตำบล แต่หลาย ๆ ที่มีการแต่งตั้งแทนการเลือกตั้ง ในขณะ ที่เด็กบางตำบลเขายังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของสภาเด็กและเยาวชน เพราะตาม กฎหมายแล้วเด็กทุกคนในประเทศนี้ถือเป็นสมาชิกของสภาเด็กและเยาวชน ถ้าวันนี้เราสร้าง ความตื่นรู้ให้เกิดขึ้นได้มากกว่านี้ เด็กและเยาวชนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตจะเป็นพลเมืองที่มี คุณภาพอย่างแน่นอน ทำไมวันนี้ผมต้องยกตัวอย่างเด็กและเยาวชน ท่านประธานครับ การพัฒนาคนเหมือนที่ใครเขาพูดกันว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก การที่เราจะลงทุนกับ เด็กและเยาวชนเป็นสิ่งที่ทำให้คนยุคหน้า หลังจากที่เราทุกคนเข้าสู่วัยชราแล้วล้มหาย ตายจากกันไป เขาเหล่านี้จะมาเป็นผู้นำที่มีความเข้าใจและความรู้ด้านประชาธิปไตย อย่างแท้จริง จะปลูกพืชต้องเตรียมดิน จะกินต้องเตรียมอาหาร จะพัฒนาชาติต้องเตรียม ประชาชน จะพัฒนาคนต้องพัฒนาที่จิตใจ แต่จะพัฒนาใครต้องพัฒนาตัวเราเองเสียก่อน นอกจากการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพแล้วนั้น การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะ ที่เอื้อให้เกิดประชาธิปไตยด้วย เช่น การสร้างพื้นที่ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถที่จะพูด พูดถึง เสนอความคิดเห็น ทวงถาม หรือติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ หรือแม้แต่พื้นที่ ในโรงเรียนที่ทำให้เป็นพื้นที่ Comfort Zone ที่เขาสามารถที่จะพูด แสดงความคิดเห็นได้อย่าง เต็มที่ แต่ไม่ต้องไปละเมิดสิทธิของใคร รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิที่พวกเขาแสดงออกด้วย ในการจะพัฒนาคนด้านประชาธิปไตยจะส่งเสริมความเป็นพลเมือง ให้พลเมืองที่มีความตื่นรู้ เราควรจะเริ่มจากเด็กเยาวชน ไม่ใช่แค่การส่งเสริมในโรงเรียนที่กำลังทำอยู่ การศึกษาและ ส่งเสริมประชาธิปไตยตลอดชีวิตก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้มีความทัดเทียม สากล ผมขอขอบคุณจากใจจริง ๆ สำหรับหลาย ๆ องค์กร หลาย ๆ หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และ NGO ที่กำลังร่วมพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ และหวังว่าสภาแห่งนี้จะร่วม สนับสนุนกิจกรรมดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณเทอดชาติ ชัยพงษ์ ครับ

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม เทอดชาติ ชัยพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เขต ๕ พรรคเพื่อไทย ญัตติ การสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข พี่น้องครับ พลเมืองคือใคร พลเมืองคุณภาพ หมายถึง พลเมือง หรือประชาชนที่มีสิทธิและหน้าที่ในฐานะประชาชนภายใต้การปกครองเดียวกัน และมี วัฒนธรรมเดียวกัน นี่คือคำว่า พลเมือง

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

พลเมือง นั่นก็คือ คนหรือประชาชน ในประเทศไทยทั้งหมดเรียกว่า พลเมือง เพราะฉะนั้นพลเมืองจึงมีตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงสูงวัย เหล่านี้คือพลเมืองของประเทศไทย ฉะนั้นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ตามหลักสิทธิมนุษยชนก็คือสิทธิ ๕ ด้าน สิทธิ พลเมือง สิทธิทางเศรษฐกิจ สิทธิทางการเมือง สิทธิทางวัฒนธรรม ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ ก่อนครับ ถ้าเราอยากได้พลเมืองที่มีคุณภาพนั้นเราต้องรู้จักว่าพลเมืองคือใคร และสิทธิ เสรีภาพของพลเมืองคืออะไร เสร็จแล้วประชาชนหรือพลเมืองที่ดีนั้นมีหน้าที่ในฐานะที่เป็น คนไทยอย่างไรบ้าง หน้าที่สำคัญของคนไทยตามรัฐธรรมนูญ ๑๐ ประการ ก็คือ พิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข หน้าที่ในการป้องกันประเทศ หน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย หน้าที่ในการเข้ารับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ หน้าที่ในการรับราชการทหาร ตามกฎหมาย หน้าที่เคารพและไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น หน้าที่ในการไปใช้สิทธิ เลือกตั้งหรือลงประชามติ หน้าที่ในความร่วมมือ สนับสนุน อนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หน้าที่เสียภาษีอากร และหน้าที่ในการไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชันทุก รูปแบบครับ แล้วเราจะสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องสำคัญครับ เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เป็นเรื่องของคุณภาพของประเทศ เพราะคุณภาพของประเทศนั้นมาจากคุณภาพของ ทรัพยากรมนุษย์หรือคน เพราะฉะนั้นการหล่อหลอมให้เกิดพลเมืองที่มีคุณภาพนั้น ผมเรียกว่า ต้องเริ่มต้นที่การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพนั้นเป็นการศึกษา ๓ ขาครับ

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

ขาแรก คือ ขาครอบครัว ครอบครัวที่มีลูกหลานในครอบครัวของตนเอง ที่เคารพสิทธิ มีส่วนร่วม มีบรรยากาศของการรับฟังความคิดเห็น มีบรรยากาศแห่งความรัก ความอบอุ่น ความเมตตา

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

ขาที่ ๒ คือ สถานศึกษา เพราะฉะนั้นขาแรกจะปล่อยไปขาที่ ๒ อย่างเดียว ไม่ได้ ขาแรกต้องเริ่มต้นก่อน เพราะสถาบันเล็ก ๆ เป็นสถาบันสำคัญ พอมาขาที่ ๒ สถานศึกษานั้น สิ่งสำคัญที่สุดจะให้เกิดพลเมืองที่มีคุณภาพ ก็คือหลักสูตรการจัดการศึกษา ที่มีคุณภาพ การเรียนการสอน บรรยากาศในห้องเรียน ในชั้นเรียนที่มีความเป็นประชาธิปไตย ที่ให้เกิดการมีส่วนร่วมแสดงออกความคิดเห็นได้ ภายใต้เสรีภาพและสิทธิของนักเรียน การมี กิจกรรมสำคัญในสถานศึกษา เช่น สภานักเรียนซึ่งได้ดำเนินการมานานพอสมควรแล้ว วันนี้ ก็ยังมีอยู่ และหลายสถานศึกษาก็ถือว่าเป็นความเข้มแข็งในการที่ให้มีสภานักเรียน รวมถึง กิจกรรมนักเรียน วันนี้สถานศึกษาได้เปลี่ยนบทบาทของตนเอง ครูได้เปลี่ยนบทบาทของ ตนเอง จากการสอน จากการสั่งสอนมาเป็นการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรม ให้นักเรียนทำด้วยตนเอง ให้นักเรียนรู้จากสิทธิเสรีภาพ ให้นักเรียนรู้จักหน้าที่ นี่คือหลักการ สำคัญของการสอน

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

ขาที่ ๓ คือชุมชนท้องถิ่นที่เขาอยู่ ต้องเป็นชุมชนที่มีเสรีภาพ มีบรรยากาศ สร้างสรรค์และบรรยากาศแห่งการมีส่วนร่วม

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

เพราะฉะนั้น ๓ ขาจึงเป็นหลักสำคัญ จะปล่อยขาใดขาหนึ่งให้ดำเนินการแล้ว เราจะถือว่าเราจะได้คนที่มีคุณภาพนั้นเป็นไปไม่ได้ มันต้องเกิดจากความร่วมมือซึ่งกันและ กันในการที่จะสร้างคนที่มีคุณภาพ สร้างลูกหลานที่มีคุณภาพขึ้น กระบวนการสำคัญของ ๓ ขานั้นก็คือกระบวนการสังคมประกิต ที่เราเรียกว่าการกล่อมเกลาทางสังคม ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Socialization นะครับ เริ่มจาการเลี้ยงดู การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ หลักสูตรที่มี คุณภาพ สังคมคุณภาพ สังคมที่มีความปลอดภัย สังคมที่เคารพสิทธิหน้าที่ สังคมที่มีการ เรียนรู้เชิงวัฒนธรรม และสังคมที่สงบสุข นี่เป็นสังคมที่สำคัญที่จะทำให้เกิดพลเมืองที่มี คุณภาพ เพราะฉะนั้นทั้ง ๓ ขาและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เรา ต้องช่วยกันสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพขึ้น แน่นอนครับ ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ ลูกหลาน ให้กับนักเรียน ถ้าเราเพียงแค่บอกว่าต้องอย่างโน้น ต้องอย่างนี้ แต่เราไม่ปฏิบัติตัว เป็นตัวอย่างที่ดี เขาเรียกว่า แบบอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน เพราะฉะนั้นนี่คือกระบวนการที่เขาได้เรียนรู้เชิงวัฒนธรรม เป็นสังคมประกิต เป็นการ กล่อมเกลาทางสังคม นี่เป็นเรื่องใหญ่ครับ เพราะฉะนั้นเป้าหมายสำคัญที่เราทำก็คือพลเมือง ที่มีคุณภาพนั้นต้องเป็นพลเมืองที่รู้จักสิทธิหน้าที่และเสรีภาพของตนเอง เพราะฉะนั้น หน่วยงานสำคัญที่จะต้องรับผิดชอบในการดำเนินการที่จะให้เกิดประชาชนที่มีคุณภาพ พลเมืองที่มีคุณภาพได้นั่นก็คือ หน่วยงานแรกกระทรวงศึกษาธิการ ฉะนั้นการปรับหลักสูตร การปรับเปลี่ยนการเรียนการสอน การให้นักเรียนได้มีกิจกรรม ได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรม ได้มี ส่วนร่วมแสดงออก มีบรรยากาศที่สร้างสรรค์ในสถานศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการ ยอมรับเบื้องต้น ยอมรับแล้วเพื่อจะให้เกิดการเรียนรู้ และเรียนรู้เกิดการสร้างสรรค์ แล้วเราก็ จะได้คนที่มีคุณภาพ สถาบันอีกสถาบันหนึ่งที่ผมมองก็คือ สถาบันฝ่ายนิติบัญญัติ คือรัฐสภา จำเป็นที่ต้องเข้าไปถึงประชาชน สร้างการรับรู้ สร้างพลเมืองประชาธิปไตย ปล่อยให้สถานศึกษา ให้กระทรวงศึกษาธิการอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นเราต้องมีรัฐสภาที่จะต้อง ไปตั้งในจังหวัดที่เราเรียกว่า รัฐสภาจังหวัด เพื่อจะให้มีบทบาทในการสร้างพลเมืองที่ดี มีคุณภาพของประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็น ประมุขครับ นี่คือการมีส่วนร่วมและการทำงานร่วมกันทั้งระบบ เราจะปล่อยคนใดคนหนึ่ง ขาใดขาหนึ่งไม่ได้ แต่ที่สำคัญผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ขอบคุณครับท่านประธานครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

เชิญคุณปารมี ไวจงเจริญ ครับ

นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ดิฉัน ปารมี ไวจงเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ดิฉันขออนุญาตอภิปรายญัตติสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ดิฉันเห็นด้วยในหลักการบางประการ แต่ดิฉันไม่เห็นด้วยที่จะตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพราะมันซ้ำซ้อนโดยใช่เหตุ ดิฉันเห็นว่าควรมอบหมายให้คณะกรรมาธิการการพัฒนา การเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน นำไปศึกษาจะดีกว่า จะตรงกว่า นะคะ ขอสไลด์ด้วยค่ะ

นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เพราะว่าหัวใจสำคัญของ การเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศคือการมีส่วนร่วมของพลเมือง เพราะการมีส่วนร่วม คือช่องทางสำคัญที่พลเมืองเขาจะออกแบบประเทศในฝันที่เขาอยากได้ด้วยตัวของเขาเอง การมีส่วนร่วมคือช่องทางสำคัญที่พลเมืองเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของประเทศนี้ได้จริง ๆ การรู้สึกว่าพลเมืองเขาเป็นเจ้าของประเทศนี้ได้จริง ๆ สำคัญมากนะคะ เพราะว่าถ้าเขามี ความรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของประเทศนี้จริง ๆ เขาจะเกิดความรัก ความหวงแหนประเทศ เกิดความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองให้มีคุณภาพ เพื่อจะได้นำคุณภาพตัวเองไปร่วมพัฒนา ประเทศที่เขาเป็นเจ้าของให้มีคุณภาพตามตัวเขาไปด้วย แต่ด้วยความเคารพค่ะท่านประธาน ปัญหาในประเทศเราทุกวันนี้ดิฉันคิดว่ามาจากพลเมืองเขายังไม่รู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของ ประเทศนี้จริง ๆ ทีนี้ถ้าด้วยตามหลักการที่ท่านเขียนมาในเล่มนี้เสียยืดยาว ท่านเขียนดีมาก ในเอกสารประกอบญัตติ ดิฉันเห็นด้วยกับแนวคิดการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของ ประเทศ เพราะคนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในทุก ๆ มิติ แต่ในเอกสารประกอบการพิจารณาเสนอญัตติของท่านในช่วงต้น ๆ หน้า ก หน้าต้น ๆ เลย ท่านเขียนมาว่า โดยในสังคมยุคใหม่มักมีแนวคิดอิงไปกับแนวคิดสังคมตะวันตก ซึ่งไม่สอดคล้อง กับวิถีความเป็นคนไทยหรือพฤติกรรมคนไทย ดิฉันว่าคำเริ่มต้นก็มีปัญหาแล้ว แนวคิด ประชาธิปไตยไม่มีตะวันตก ไม่มีไทยค่ะ ประชาธิปไตยมันมีหัวใจคือพลเมืองหรือประชาชน เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุด ท่านปรารถนาจะสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ท่านยิ่งต้องสร้างความตระหนักรู้ในการให้เป็นพลเมืองโลก ทุกอย่างในโลกเดี๋ยวนี้มันเชื่อมโยง กันหมดค่ะท่าน ต้องก้าวข้ามเขตแดนประเทศ เราต้องสร้างพลเมืองของประเทศเราให้เป็น พลเมืองโลกให้ได้ เป็นพลเมืองโลกที่ใส่ใจในคุณค่าที่โลกเขาให้คุณค่ากัน ทั้งเรื่องการมีส่วนร่วม ความเสมอภาค สิทธิมนุษยชน การเคารพความแตกต่างหลากหลาย หรือแม้แต่เรื่องสิ่งแวดล้อม ที่กระทบกันไปทั้งโลก ปัจจุบันเราอยู่ในยุค BANI ตามทฤษฎีของ Jamais Cascio นักวิชาการ ด้านอนาคตวิทยาและพฤติกรรมศาสตร์ ซึ่งสรุปคำว่าโลกยุค BANI เป็นคำสั้น ๆ ได้ว่าเป็นยุค แห่งความเปราะบางและเปลี่ยนแปลงง่าย ท่านคะ คุณค่าและชุดความคิดต่าง ๆ มันหยุดนิ่ง อยู่กับที่ไม่ได้ มันต้องเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ท่านจำเป็นต้องปลูกฝังให้พลเมืองที่มีคุณภาพตามญัตติที่ท่านปรารถนานี้คือความใฝ่รู้ พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ และต่อเนื่องไปอีกก็คือการจะทำให้พลเมืองที่มีคุณภาพ เกิดความใฝ่รู้ ท่านและผู้มีอำนาจรัฐต้องสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ให้กับพลเมืองทุกคน แต่ ณ วันนี้ดิฉันยังไม่เห็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ที่ท่านจะนำเสนอเลยค่ะ

นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นต่อมาที่ดิฉันพูดไม่ได้ เพราะในฐานะที่ดิฉันเป็นครูสอนสังคมศึกษา คนหนึ่ง ท่านพูดถึงการสอบ PISA ว่าผลสอบนั้นประเทศเรามีคะแนนเฉลี่ยที่ตกต่ำกว่า ค่าเฉลี่ยในทุก ๆ ด้าน ซึ่งแสดงถึงสภาพการศึกษายังไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ แต่ถามท่าน จริง ๆ เถอะค่ะ ท่านเคยเห็นข้อสอบ PISA จริง ๆ ไหมคะ ดิฉันขอนำเสนอบางส่วนของ ข้อสอบ PISA อันนี้เป็นวิชาการอ่านนะคะ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ แล้วท่านเคย เห็นหลักสูตรที่เด็กไทยเรียนกันตอนนี้ไหม ท่านเคยเห็นแบบเรียน ตำราเรียนของเด็กไทยไหม ที่สำคัญข้อสอบ PISA ไม่มีความเป็นไทยอย่างที่ท่านมุ่งหวังจะปลูกฝัง แบบที่เขียนไว้ใน เอกสารประกอบญัตติของท่านเลย ข้อสอบ PISA เป็นข้อสอบแนว Literacy หรือวัดความ ฉลาดรู้ ซึ่งจะฉลาดรู้ได้นั้นต้องรู้จักวิเคราะห์อย่างรอบด้านในทุกแง่มุม ซึ่งการศึกษา ในปัจจุบันหรือหลักสูตรไทยในปัจจุบันยังไม่เป็นแบบนั้น ดิฉันขอเสนอแนะท่านเลยนะคะ ถ้าท่านปรารถนาให้เด็กไทยได้คะแนน PISA ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงตามญัตติของ ท่านที่ว่าสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ท่านต้องมาร่วมกับดิฉันและ พรรคก้าวไกลในการเปลี่ยนหลักสูตรแกนกลางไปเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะค่ะ เพราะ หลักสูตรฐานสมรรถนะที่จะรองรับสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ เพื่อการเป็น พลเมืองโลกที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน ในหลักสูตรฐานสมรรถนะจะมีสมรรถนะที่สำคัญ จะมี ๖ สมรรถนะที่จำเป็นต่อพลเมืองในโลกยุคใหม่ แต่จะมีอยู่ ๑ สมรรถนะที่ตรงตามญัตติของ ท่านเลยค่ะ คือสมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง Civic Literacy เป็นพลเมืองโลกที่มี ความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น เคารพกติกา และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสาธารณะ อย่างมีวิจารณญาณ เคารพในความเท่าเทียม และยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย อันนี้ สำคัญมากนะคะ สมรรถนะการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งต้องเป็นไปแบบนี้ถึงจะเป็นพลเมืองที่มี คุณภาพของประเทศในโลกยุคใหม่

นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นต่อมาในเอกสารประกอบญัตติ ท่านพูดถึงการปฏิรูปวิชาสังคมศึกษา ซึ่งโดนใจดิฉันมาก เพราะดิฉันเป็นครูสอนสังคมศึกษาคนหนึ่ง ดิฉันเห็นด้วยเลยค่ะ ปฏิรูปเลย โดยเฉพาะโครงสร้างวิชาสังคมศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางปี ๒๕๕๑ มันพ้นยุคสมัยแล้วค่ะ ไปดูได้เลยค่ะท่าน ตัวชี้วัดเยอะมาก ตัวชี้วัดวิชาสังคมตั้งแต่ ป.๑ ถึง ม.๖ มี ๔๐๐ กว่าตัวชี้วัด มันเยอะเกิน มีแต่อัด อัด อัด ให้เด็กเรียน แล้ววิชาที่เรียนส่วนใหญ่ก็ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ สังคมศึกษาต้องปฏิรูป ต้องเป็นแบบใหม่แบบสับ เราต้องเรียนวิชาสมัยใหม่ วิชาแบบใหม่ ดิฉันขออนุญาตนำมาจาก Page โรงเรียนสาธิตจุฬา นี่เป็นตัวอย่างวิชาที่เราควรปฏิรูป วิชา สังคมศึกษาที่เราควรปฏิรูปให้เด็กรุ่นใหม่ได้เรียน โดยเฉพาะวิชานี้พลเมืองในวิถีประชาธิปไตย ตรงกับญัตติของท่านเลยนะคะ ชื่อวิชานี้พลเมืองในวิถีประชาธิปไตย แต่ชื่อยังไม่สำคัญ เท่าเนื้อใน ชื่อยังไม่สำคัญเท่ากับกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน ที่ต้องเปิดโอกาสให้ ทั้งครูและนักเรียนมีจินตนาการใหม่ ๆ ในการออกแบบการเรียนรู้ ครูให้นักเรียนแบ่งงาน สืบค้นสภาพของปัญหาแล้วเอามาพูดคุยกัน ถกเถียงกันในห้อง ช่วยกันออกแบบการเรียนรู้ จนตกผลึกออกมาเป็นปัญหา ต้องมีการแบ่งงานกัน ร่วมงานกัน พูดคุยกันต่อเนื่องระหว่างครู กับนักเรียนเพื่อออกแบบการเรียนรู้แนวใหม่ และจากเหตุการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ที่เกิดความ รุนแรงในสถานศึกษา กรณีนักเรียนถูกแทงเสียชีวิตในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านถนนพัฒนาการ ในกรุงเทพฯ สะท้อนถึงความรุนแรงที่สูงมากในประเทศไทย และยิ่งสะท้อนถึงองค์ความรู้ และทักษะในการจัดการตัวเองในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งสำคัญมากในโลกยุคใหม่ ซึ่งหลักสูตร แกนกลางปี ๒๕๕๑ ที่เราใช้อยู่ปัจจุบันไม่ตอบโจทย์เรื่องนี้ โรงเรียนสาธิตจุฬาดิฉันชื่นชมมาก ต้องขออนุญาตนำมาอีก ขอพูดถึงนะคะ มีวิชาที่เหมาะกับเหตุการณ์ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ ชื่อวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ฟังผิวเผินจะดูเหมือนว่ามาจากภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ไม่ใช่ วิชานี้จะส่งเสริมสมรรถนะการจัดการตนเองและการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งในมิติ แห่งความเท่าเทียมและเป็นธรรม วัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนอยู่ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แปรปรวน ไม่เอาความรู้ที่นักเรียนมีไปเอาเปรียบผู้อื่น ไม่ตกเป็นเหยื่อของอารมณ์และความเครียดของ ตนเองและของผู้อื่น นักเรียนที่เรียนวิชานี้จะได้รู้จักวิธีการปฏิเสธและการป้องกันตนเองจาก การถูกกลั่นแกล้งและถูกคุกคามในทุกรูปแบบ อันนี้นี่เลยค่ะเป็นวิชาที่เราควรจะส่งเสริมให้ เรียนกัน ซึ่งหลักสูตรแกนกลางปี ๒๕๕๑ ที่นักเรียนเรียนในปัจจุบันนี้ไม่ตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นดิฉันกำลังผลักดันหลักสูตรใหม่คือหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ ให้มีสมรรถนะและทักษะ เรียนเชิญท่านมาร่วมกับดิฉันในการออกแบบหลักสูตรใหม่ เพราะการที่ท่านจะสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศต้องเริ่มจากโรงเรียนค่ะ และโรงเรียนต้องปลอดภัยทั้งกายและใจ ดิฉันยินดีมากที่ท่านจะปฏิรูปวิชาสังคมศึกษา รวมไปถึงปฏิรูปการศึกษาไทยทั้งหมด เพียงแต่ว่าท่านต้องคิดใหม่ ทำใหม่ คิดนอกกรอบ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

อยากให้สรุป ตอนนี้ครับ เพราะเกินเวลามา ๒ นาที เชิญครับ

นายปารมี ไวจงเจริญ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

จะจบแล้วค่ะ ขออีกนิดเดียว คำว่าคิดนอกกรอบนี้เราพูดกันเยอะมาก เราต้องสนับสนุนให้เด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่กล้าคิด กล้าทำ กล้าฝัน กล้าคิดนอกกรอบ ดิฉันวิงวอนเลยนะคะ คิดนอกกรอบนี้อยากให้เริ่มที่ ตัวท่านเลย สุดท้ายดิฉันเสนอหลักการมาดิฉันอยากจะขอให้ท่านส่งไปให้กรรมาธิการ พัฒนาการเมืองทำเรื่องนี้จะถูกต้องตรงกว่า ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญคุณนิพนธ์ คนขยัน ครับ

นายนิพนธ์ คนขยัน บึงกาฬ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นิพนธ์ คนขยัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ ๓ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ขออนุญาตร่วมอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีที่มีคุณภาพ ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อนสมาชิกหลาย ๆ ท่าน ก็ต่างมุมมอง ต่างแนวคิด แต่ผมขออนุญาตท่านประธานและเพื่อนสมาชิกครับ มุมมองผม เพราะผมก็เป็นเด็กและเยาวชนมาก่อน วันนี้ก็ ๖๕ แล้วครับ วันนี้ถ้าเด็กเยาวชนจะเป็น พลเมืองดี มีวินัย อันแรกต้องมาจากการศึกษาดี หากเด็กมีการศึกษาดี อบรมบ่มนิสัย สร้างจิตสำนึก ปลูกฝังค่านิยมทางที่ดี อย่างผมเรียนบ้านนอก กลัวคุณครู กลัวนักกลัวหนา สมัยแต่ก่อน เด็กวันนี้ไม่กลัวเลย ดังนั้นต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้เด็กมีคุณภาพ การศึกษาดี มองโรงเรียนตอนนี้ครับ บางโรงเรียนได้ข่าวว่ามีครูคนเดียว อาหารกลางวันก็น้อย เอาล่ะ จะทำอย่างไรให้เด็กมีการศึกษาดี วันนี้สภาเรามีดอกเตอร์เยอะแยะไป มีอาจารย์ มีหมอ อย่างวันนี้หมอทศพรนั่งข้างหลังผม ประการต่อมา หมอทศพร เสรีรักษ์ บอกว่าสุขภาพต้องดี ท่านนิพนธ์ การศึกษาดีแล้วต้องสุขภาพดี เมื่อการศึกษาดี สุขภาพดีแล้ว เป็นเด็กดี เป็นเยาวชนที่ดีแล้ว อนาคตต้องดีครับ วันนี้เห็นไหมครับ เพื่อนก็พูดไปแล้วว่าเด็กตั้งแก๊ง ตั้งแต่ยังน้อย เพราะอะไรล่ะครับ เพราะนิสัยไม่ดี การศึกษาดีอาจจะดีก็ได้ แต่การปลูกฝัง ต้องเป็นคนดี แต่ ณ วันนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเยาวชนแล้วจะทำอะไรก็ได้ ไม่ได้ครับ ต้องอยู่ในกรอบ ต้องอยู่ในกฎหมาย ต้องอยู่ในกติกา ไม่ใช่ว่าเยาวชนของชาติต้องให้สิทธิ ยอมรับครับ ต้องให้ สิทธิ วันนี้เยาวชนแสดงออกได้ แต่อย่าไปล้ำเส้นคนอื่น อย่าไปล้ำกฎหมาย อย่าไปล้ำกติกา โดยเฉพาะวันนี้ผมเชื่อมั่นว่ารัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทยเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ผมเชื่อมั่นในท่านนายกว่าวันนี้ต้องให้สิทธิเด็กและเยาวชน อย่างญัตติวันนี้เห็นชอบอย่างยิ่ง ถ้าเยาวชนเป็นคนดีแล้ว เป็นรั้วของชาติ รับรองรั้วไม่ผุแน่ แต่วันนี้เห็นไหม ข่าวออกมาแต่ละวัน ทั้งเด็กทั้งเยาวชน ท่านประธานที่เคารพครับ ดังนั้นผมคิดของผมนะครับว่าต้องมองไปที่โรงเรียน คุณครู อย่างคุณครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ครูเมื่อก่อนโรงเรียนสมัยเก่ากับโรงเรียนสมัยนี้มันต่างกัน นะครับ ดังนั้นต้องมองด้วยว่าการศึกษาอย่างไรจะดี และเด็กต้องเป็นเด็กดี ไม่ใช่ก้าวร้าว ไม่ใช่เกเร พอเด็กไม่ก้าวร้าว ไม่เกเร โตขึ้นมาเป็นเยาวชนก็เดินตามแถวที่ดีครับ ถ้าตราบใด เด็กไม่แตกแถวตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มมาแตกแถวแล้วมันก็จะแตก แตก แตกไปเรื่อย ดังนั้นวันนี้ ฝากท่านผู้ที่จะเป็นกรรมาธิการ หรือจะเสนอรัฐบาลอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องเตรียมตัวให้ดี ตั้งแต่เด็ก ถ้าเตรียมตัวเด็กไม่ดี คุณหมอยังพูด ต้องเตรียมตั้งแต่อยู่ในท้องนะครับ คลอด ออกมาเด็กแรกเกิดถึง ๕ ปี ๖ ปี ต้องดูให้ดี ดูดีแล้วต้องโรงเรียนดี ครูดี ทุกอย่างดี เด็กก็จะ เป็นเด็กดี ถ้าสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนไม่ดี เด็กนักเรียนก็เอาตัวอย่างครับ อย่างวันนี้ไม่ได้ชม เด็กรุ่นเก่านะครับ เด็กรุ่นใหม่วันนี้ก็ดีเยอะแยะ เห็นไหมสอบ Entrance สอบเป็นนายแพทย์ เยอะแยะไป สำคัญคือพี่เลี้ยงครับ พี่เลี้ยงตรงนี้คือ ๑. ครู ผู้นำ วันนี้ผู้นำระดับชาติตั้งแต่ นายกรัฐมนตรีลงมา พวกเราสภาผู้แทนราษฎรทุกคนมองเห็นว่า อย่างไรที่จะให้เด็กและ เยาวชนวันนี้ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตมีคุณภาพ เราร่วมด้วยช่วยกัน เอาแนวคิดมาร่วมกัน บูรณาการกันว่าต้องเดินให้ถูกทาง ไม่ใช่ว่าวันนี้จะมาพูดอย่างนั้น อย่างนี้ ไม่เอานะครับ เอาดี ๆ ใส่กันเลย อันไหนไม่ดียกออกไป อันไหนดี ๆ เอาเข้ามาที่เรา ว่าดี เพื่อชาติบ้านเมืองเรา ผมเชื่อมั่นว่าทุกคน โดยเฉพาะท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกท่านมีเจตนาดี ตั้งใจดี และผมเชื่อมั่นกับรัฐบาล ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งท่านเป็น นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเป็นการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคร่วม และวันนี้ผมพูดตลอดว่า ทั้งรัฐบาล ทั้งฝ่ายค้าน สิ่งไหนว่าดีมาร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์พัฒนาให้เด็กและเยาวชน ของชาติได้เป็นเด็กที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะเป็นตัวอย่างที่ดีในอนาคต เวลาเลือกตั้งผู้แทนก็จะไม่ได้เหนื่อย เมื่อทุกคนเข้าใจใน ระบอบประชาธิปไตย ทำหน้าที่ของพลเมืองดี ชาติบ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรือง ไม่ต้องทะเลาะ เบาะแว้ง ไม่ต้องไปขัดแย้งกันอะไรนักหนา อย่างเลือกผู้แทน ๔ ปีว่ากันใหม่ใช่ไหมครับ อันนี้ มันถึงจะถูก แต่วันนี้ตราบใดลูกหลานเราคุณภาพไม่ดีแล้วไปไม่ได้ครับ ท่านประธานที่เคารพ วันนี้เห็นด้วยกับญัตติทั้ง ๒ ท่านที่เสนอมา สิ่งไหนดีเราเอามาหลอมรวม เอาสิ่งดี ๆ มาเพื่อ พัฒนาเด็ก ซึ่งจะเป็นเยาวชนและเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปขอเชิญ คุณภัสริน รามวงศ์ ครับ

นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพค่ะ ดิฉัน ภัสริน รามวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ผู้แทนคนบางซื่อ ดุสิต วันนี้ดิฉันขออภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของเยาวชนในฐานะพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ท่านประธานคะ เราถูกพร่ำสอนว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องของเด็ก นักเรียน มีหน้าที่ต้องศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เคารพและเชื่อฟังคำสั่งสอน ของครูบาอาจารย์

นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ดิฉันอยากให้ท่านประธานเห็น หนังสือแบบเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองตามหลักสูตรแกนกลาง พ.ศ. ๒๕๕๑ ระบุลักษณะ อันพึงประสงค์ของผู้เรียนไว้ดังนี้ค่ะ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน ๗. รักความเป็นไทยและ ๘. มีจิตสาธารณะ หนังสือดี ๆ มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะท่านประธาน หากโรงเรียนยังสอนหน้าที่พลเมืองที่มุ่งมั่นส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในเชิงศีลธรรม การเชื่อฟัง เป็นหลัก ไม่มีช่องทางให้ผู้เรียนได้มีโอกาสได้เรียนรู้ มีส่วนร่วมทางการเมือง นอกจากให้เขา นับวัยให้ถึง ๑๘ ปีจนถึงจะมีการเลือกตั้ง เราจะตามทันกระแสโลกเทคโนโลยีโลกนี้ไม่ทันค่ะ เยาวชนควรได้โอกาสในการซักถาม ในการแสดงความคิดเห็นได้เป็นปกติ การพัฒนาคน เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยท่านยกข้อเรื่อง PISA มาว่าสะท้อนปัญหาคุณภาพ โดยเฉพาะระบบการศึกษา แต่ไม่ได้พูดถึงปัญหาเกี่ยวกับการสร้างประชาธิปไตยเลย แต่เป็น การเสนอแนวทางพัฒนาแบบจับแพะชนแกะ ยังแสดงถึงความไม่เข้าใจประชาธิปไตยและ การพัฒนาค่ะท่านประธาน ดิฉันอยากจะแสดงให้เห็นค่ะ

นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประการแรก ประชาธิปไตยจากรากฐานวัฒนธรรมไทยดีกว่าประชาธิปไตย แบบตะวันตกจริงหรือ การมุ่งเน้นไปที่การสร้างพลเมืองดีมีศีลธรรมโดยไม่มีคำอธิบายใดเลย นอกเหนือไปจากคำว่า วัฒนธรรมตะวันตกมีลักษณะเป็นทุนนิยม มีลักษณะบริโภคนิยม ล่อแหลมกับค่านิยมประเพณีอันดีงามของไทย ดิฉันเรียนดังนี้ค่ะ วัฒนธรรมไทยเรามีชนชั้น มีเจ้าขุนมูลนาย มีอภิสิทธิสูงส่งกว่าคนอื่น เรามักถูกพร่ำสอนว่าให้รู้จักที่ต่ำที่สูง ในหนังสือเรียน ในแบบวรรณกรรม หรือแม้กระทั่งแต่ในละครไทยเองก็ตาม ทำให้เด็กเยาวชนหรือพลเมืองไทย ไม่กล้าตั้งคำถาม และบ่อยครั้งเราถูกอธิบายชีวิตของเรานี้ด้วยกฎแห่งกรรม เห็นได้ชัดจากครู นักเรียน เด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งรัฐบาลกับประชาชน เรามีพี่น้องชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น มอญ กะเหรี่ยง มาเลย์ จีน แต่เราถูกอัดอัตลักษณ์อย่างความเป็นคนไทย ผลักไสให้เขาเป็น คนกลุ่มน้อยในประเทศนี้เป็นคนอื่นมาโดยตลอด การเอาอัตลักษณ์ความเป็นคนไทยไป ครอบอัตลักษณ์อื่น ๆ นั้นเป็นความรุนแรงเชิงระบบอย่างยิ่ง การรักษาบรรพบุรุษเป็นสิ่งดี แต่ต้องไม่ใช่ Toxic Nationalism หรือชาตินิยมล้าหลังค่ะ ท่านประธานคะ ข้อเสนอญัตติ ของเพื่อนสมาชิกที่กล่าวว่ายิ่งในสังคมยุคใหม่ คำว่า ประชาธิปไตย ส่วนใหญ่ยังถูกอิงตีความ ไปกับแนวคิดเชิงตะวันตก ดิฉันขอให้สิ่งนี้ควรเป็นเรื่องของการเข้าใจและปรับตัวเสียมากกว่า

นางสาวภัสริน รามวงศ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ ประชาธิปไตยกับการพัฒนาคน สิ่งที่น่าสังเกต ท่านผู้เสนอ เชื่อมโยงกับคะแนน PISA และปัญหาอัตราการว่างงานของเด็กที่จบใหม่ไปเกี่ยวโยงกับ พัฒนาคนที่พึงประสงค์ในระบบประชาธิปไตย การพัฒนาประชาธิปไตยจากรากฐาน ความเป็นไทย ดิฉันเห็นว่าแนวทางปฏิบัติ ๒ สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกันค่ะ เพราะข้อสอบ PISA เป็น ข้อสอบสากล ไม่ได้วัดการมีทัศนคติและค่านิยมประชาธิปไตยบนบริบทของสังคมไทยค่ะ ดิฉันเห็นด้วยว่าเด็กไทยมีคะแนน PISA นี้ตกต่ำที่สุดในรอบ ๒๐ ปี เด็กใหม่ เด็กจบใหม่ ว่างงาน ไม่ใช่เพราะเด็กขาดการมีทัศนคติและค่านิยมประชาธิปไตยบนบริบทของสังคมไทย แต่เกิดจากการที่หลักสูตรล้าหลัง ปลูกฝังให้เด็กไม่มีการคิดเชิงวิพากษ์ ไม่มีเสรีภาพในการ แสดงออก โรงเรียนมีอำนาจ มีวัฒนธรรมอำนาจนิยมสูง ไม่อยู่บนฐานของการมีส่วนร่วม กับของผู้เรียน ในภาพนี้ดิฉันขอพูดแทนคนบางซื่อนะคะ เก็ท โสภณ คนบางซื่อ ที่ปัจจุบัน ยังคงอยู่ในเรือนจำ ทั้งที่เก็ทเป็นเยาวชนคนหนุ่มสาว อนาคตเป็นแพทย์รักษาคน เอาเก็ท เข้าไปติดคุก พรากอดีต เอาความฝัน เอาเวลาปัจจุบันของคนหนุ่มสาวนี้ออกไปให้ไกลจากเขา มากที่สุดค่ะ ข้อเสนอของดิฉันคือ เลิกกลัวและเปิดกว้าง ให้เยาวชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมีนิติรัฐ นิติธรรม เคารพสิทธิมนุษยชน สากลโลกยอมรับ วัฒนธรรม อำนาจนิยม การใช้อำนาจเหนือจารีตประเพณี เปลี่ยนเป็นสอน เรื่องสิทธิเสรีภาพ การเคารพ การแสดงความคิดเห็นต่าง เป็นพลเมืองโลกค่ะ การท่องจำ บทบาทเยาวชน ปฏิบัติตามผู้มีอำนาจ สมควรเปลี่ยนเป็นการคิดเชิงวิพากษ์ มีส่วนร่วม ทางการเมืองและมีกระบวนการตัดสินใจที่พวกเขามีส่วนร่วมค่ะ การปิดปาก การ Sensor ตัวเองให้เปลี่ยนเป็นส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก การปลูกฝังความรักชาติไทย ปรองดองเป็นหนึ่งเดียวกัน สมควรที่จะต้องยอมรับให้ความแตกต่างของคนในสังคมด้วยว่าเรามีกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ด้วย ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ยึดครอง ไม่กลืนอัตลักษณ์ซึ่งกันและกันค่ะ เยาวชนจะดีให้เขา ได้เบิกบานและสร้างสรรค์ แต่ถ้าการเมืองยังคงอุดมไปด้วยอำนาจนิยมในชุมชน ในโรงเรียน ในประเทศนี้กีดกัน ปิดปาก ไม่ให้เยาวชนมีส่วนร่วมทางการเมือง เรายังคงติดหล่มอุดมการณ์ การพัฒนาคนที่ล้าหลัง ถ่วงประเทศนี้ไม่ให้เจริญค่ะท่านประธาน ดังนั้นจากรายละเอียดของ ญัตติตามหลักการและเหตุผลที่ท่านผู้เสนอได้เสนอเข้ามานั้น ดิฉันมองว่ามีความย้อนแย้ง และขัดแย้งขัดกับผลประโยชน์ของชาติในปัจจุบันค่ะ ดิฉันจึงขอสนับสนุนญัตติตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอ ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมเยาวชน ในฐานะพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของ พริษฐ์ วัชรสินธุ ค่ะ และความท้าทายในวันนี้ คือการช่วงชิงความหมาย เราจะเป็นพลเมืองที่ดีแบบไหนกันคะ เป็นความท้าทายของเรา ทุกคน ท่านต้องไม่มองว่าท่านคือเจ้าของชีวิตของใคร เด็กถูกเพ่งเล็ง เด็กถูกจัดระเบียบ เด็กถูกตรวจตรา ถูกเฆี่ยนตี ด้วยสถาบันศีลธรรมมากเกินไปแล้วค่ะ อย่าผลิตเด็กออกมาจาก โรงงานเดียวเลยค่ะ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งเดียวที่คงที่และแน่นอนที่สุดในชีวิตเรา ไม่มีใคร เอาชนะกาลเวลาได้ โลกมีแต่วันพรุ่งนี้ไม่มีอดีตอีกแล้วค่ะท่านประธาน ขอบพระคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญคุณทินพล ศรีธเรศ ครับ

นายทินพล ศรีธเรศ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม ทินพล ศรีธเรศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขตเลือกตั้งที่ ๕ พรรคเพื่อไทย วันนี้ ณ เวลานี้ดีใจครับท่านประธาน ขอบคุณท่านที่เสนอญัตตินี้เข้ามา การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งกระผมคิดว่าเป็นญัตติอีกญัตติหนึ่งที่มีความสำคัญ ที่ถึงเวลาแล้วที่สภาของเราจะนำเรื่องนี้มาพูดกันในสภาแห่งนี้ครับ แนวคิดในการสร้าง ความเป็นพลเมืองให้เกิดกับประชาชนเป็นเรื่องที่ทุกประเทศในโลกต่างที่จะผลักดันให้เกิดขึ้น และให้ความสำคัญมาโดยตลอด เพราะต่างตระหนักถึงความจำเป็นแล้วก็คุณค่าของการเป็น พลเมืองที่ดีที่จะเป็นเครื่องมือนำพาประเทศให้รอดพ้นวิกฤติต่าง ๆ แล้วก็เข้มแข็ง แข็งแรง อย่างยั่งยืนตลอดไป

นายทินพล ศรีธเรศ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

การขับเคลื่อนการศึกษาเพื่อสร้าง ความเป็นพลเมืองหรือว่า Citizenship Education โดยหลาย ๆ ประเทศจัดไว้แล้วก็ปลูกฝัง ไว้ในการศึกษาภาคบังคับหรือว่า Compulsory Education บุคคลที่จะปฏิบัติตนให้เป็น พลเมืองที่ดีจะต้องปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ครับ สำหรับประเทศไทยเราการสร้างความเป็น พลเมืองที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมนั้นอาจกล่าวได้ว่าประสบความล้มเหลว คำกล่าวของผม หลาย ๆ คนอาจจะพูดว่าผมกล่าวเกินจริงหรือเปล่า กล่าวเกินไปหรือเปล่า Bully ประเทศ ตัวเองหรือเปล่า จากภาพที่ผมนำมาเป็นตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นยกพวกไล่ตีกันโดยที่ไม่ชอบ ขี้หน้ากันแค่นี้ การไล่ตีกันกลางถนน แก๊งโจ๋ยกพวกตีกัน เด็กช่างกลตีกัน ลูกแก๊งตำรวจ มีการเลียนแบบลูกแก๊งตำรวจอีก แล้วก็ความขัดแย้ง ความเห็นต่างทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นในเมืองไทยเรา ณ ขณะนี้ และมาถึงจุดที่ว่าการให้อภัยกันมันยากกว่าการแทงคอกัน เสียอีกครับท่านประธาน จากข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐบาลที่ดูแลเด็ก เยาวชน จะเห็นว่า อัตราคดีที่เพิ่มขึ้นของเด็กและเยาวชนในช่วงอายุแต่ละปีตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ ปี ๒๕๖๖ มีอัตรา ที่เพิ่มขึ้นนะครับ แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดว่ามันล้มเหลวได้อย่างไร ท่านประธานครับ ตั้งแต่ ประเทศไทยเราเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา มีรัฐธรรมนูญถึง ๒๐ ฉบับเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีอุปสรรคมากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในสังคมประชาธิปไตยประเทศอื่น ๆ โดยพิจารณาได้จากปัญหา หลาย ๆ ปัญหาที่ประเทศไทยประสบอยู่ตอนนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมที่ล้มเหลว ความเหลื่อมล้ำ และตอกย้ำด้วยปัญหายาเสพติดที่หนักหนาสาหัส การทุจริตคอร์รัปชัน อาชญากรรม ครอบครัวแตกแยก ความเบี่ยงเบนทางค่านิยมและ วัฒนธรรม ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่ประเทศไทยเราประสบอยู่ตอนนี้ แล้วก็ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่กำลังรุมเร้าแล้วก็เป็นปัญหาอย่างหนัก ก็คือความคิดเห็นทาง การเมืองที่แตกต่างกัน สำหรับหลักสูตรวิชาหน้าที่พลเมืองในปัจจุบันถึงเวลาแล้วที่จะต้อง สังคายนากันใหม่แล้วครับ วันนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป สถานการณ์โลกเปลี่ยนไป แม้แต่ ประเทศไทยเองเยาวชนเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำหน้า การเข้าถึงเนื้อหาความรู้ ที่ดีกว่า กว้างกว่า ทำให้ทัศนะในการมองสังคมเกิดการตั้งคำถามต่อหลักสูตรประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองว่า มีความถูกต้องแม่นยำ มีความเป็นกลางและความเป็นจริงมากน้อย แค่ไหน วิชาหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาที่มีปัญหาค่อนข้างมากครับ เพราะเน้นการสอนให้เด็ก แบบจำกัด และไม่เปิดกว้าง ทำให้วิชาหน้าที่พลเมืองไม่ได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น เป็นวิชาที่น่าเบื่อครับ ถามใครก็รู้ ถามเด็กคนไหนก็รู้ว่าวิชาหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาที่น่าเบื่อ หรือไม่ เป็นวิชาที่ครูมายืนอยู่หน้าห้องและสอนให้เด็กท่องจำเพื่อที่จะนำไปสอบ มันไม่ได้อยู่ ในจิตใจ มันไม่ได้อยู่ในจิตใต้สำนึกของเยาวชน ทำให้เด็กไม่อยากเรียนวิชาหน้าที่พลเมือง แล้วก็วิชาประวัติศาสตร์ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปรับปรุงแล้วก็ประเมินผลด้วยในวิชา หน้าที่พลเมืองแล้วก็วิชาประวัติศาสตร์ ควรต้องนำมาเปิดเผยชำระแล้วก็พูดคุยกัน ถ้ามี เรื่องอะไรเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ให้ทันกับยุค ทันกับสมัย เพราะการศึกษาประวัติศาสตร์และหน้าที่ พลเมืองควบคู่กันไปในปัจจุบันนั้นไม่ทันกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตที่เรียกว่า มีความ ล้าสมัยไปแล้ว ตกยุคไปแล้ว และไม่ทันกับสิ่งที่เด็กเยาวชนต้องการ มีข้อเสนอแนะนิดหนึ่ง การปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดี แน่นอนครับทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องปลูกฝังตั้งแต่ วัยเยาว์ ให้เขาฝึกวิเคราะห์ข้อมูลในแง่มุมต่าง ๆ อย่างมีเหตุมีผลและมีการแสดงความคิด อย่างเป็นอิสระและสร้างสรรค์ ในวัยเรียนก็เช่นกันก็ต้องมีการนำเสนอกิจกรรมในรูปแบบ ที่หลากหลายเพื่อไม่ให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายในการเรียนวิชาหน้าที่พลเมือง และให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วม นั่นจะทำให้เขายอมรับระเบียบ กฎเกณฑ์ ลดการต่อต้าน รู้สึกเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมในการเรียนมีไปโดยราบรื่นครับ ไม่ได้เน้นให้เด็กท่องจำ แต่จะเน้นให้การปฏิบัติ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้เข้าใจในหลักประชาธิปไตย และต้องเคารพ สิทธิขั้นพื้นฐานของตัวเองแล้วก็ผู้อื่น ปลูกฝังการยอมรับความเหมือนและความแตกต่าง ระหว่างบุคคลในเรื่องเชื้อชาติ ภาษา เพศสภาพ ความพิการ ความสามารถถิ่นกำเนิด ไม่ทำร้าย ไม่ล้อเลียนซึ่งกันและกัน แบ่งปันวิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในท้องถิ่น ร่วมกันแก้ไขปัญหา ความขัดแย้งโดยสันติวิธี สิ่งเหล่านี้อยากจะให้ทุก ๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่แต่เด็กและ เยาวชนเท่านั้นที่จะต้องเรียนรู้เรื่องหน้าที่พลเมือง ทุกเพศ ทุกวัย ทุกคนในเชื้อชาติของเรา ที่รักชาติบ้านเมืองต้องตระหนักถึงหน้าที่พลเมืองที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญครับ ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขณะนี้ทาง ฝ่ายรัฐบาลมีชื่อผู้ขออภิปราย ๓ ท่าน แต่ฝ่ายค้านมี ๗ ท่าน ผมจึงจะขอเรียกจากฝ่ายค้าน ๒ ท่าน แล้วสลับมาที่รัฐบาล ๑ ท่าน ต่อไปขอเชิญ คุณนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ ครับ

นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ นนทบุรี ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านประธานครับ เรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดนนทบุรี เขตเลือกตั้งที่ ๘ อำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย ครับท่านประธาน วันนี้ขอร่วมอภิปรายญัตติของท่าน สส. ผู้ทรงเกียรติในเรื่อง ขอให้ สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มี คุณภาพของประเทศ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ท่านประธานครับ ผมได้ยินชื่อญัตติผมก็รู้สึกขนลุกแล้วครับ ปีนี้ปี ๒๕๖๗ ปีนี้เทคโนโลยี มันไปไกล ไปไกลมาก ที่เราจะต้องมานั่งพูดว่าเราจะสร้างคน พัฒนาคนอย่างไรให้เป็นพลเมือง ที่มีคุณภาพ ทำไมหรือครับผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้จะต้องมานั่งตีกรอบ วางกรอบ ให้คน ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ถึงจะเป็นคนที่มีคุณภาพ เอาอะไรคิดกันครับท่านประธาน ผมอ่าน ญัตติยังมีการพูดถึงการสอบวัดประเมินผลเป็นข้อมูลอ้างอิงอีกว่าคนไทยอยู่ในลำดับท้าย ในเรื่องของวิชาการ ท่านเห็นไหมครับว่าพลวัตรของมหาวิทยาลัยของการศึกษาปัจจุบัน การเรียนในสถาบันการศึกษามันลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ เพราะอะไรคนถึงไม่ชอบเรียนหนังสือ ในระบบ ผมว่าเรื่องนี้ไม่ต้องมานั่งศึกษากันหรอกครับว่าจะทำอย่างไรให้คนมันมีคุณภาพ หรือจะพัฒนาคนไปในทิศทางไหน ผมว่าเรามาตรงจุดกันเลยดีกว่าว่าที่จะทำให้คนมีสมอง มานั่งคิดว่าเขาจะพัฒนาตัวเองอย่างไร หากเขาได้รับสิ่งเหล่านี้ในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ท่านลองถามประชาชนคนหนึ่ง ท่านมีสวัสดิการที่ดีพอให้เขาหรือยัง ท่านมีค่าครองชีพ ที่ประชาชนสามารถดำรงอยู่ได้หรือยัง ท่านมีที่พักอาศัยรองรับให้กับพี่น้องประชาชนที่ ปากกัดตีนถีบหรือยัง ท่านมีระบบการศึกษาที่ทันสมัย ทันโลก แล้วรองรับผู้มีรายได้น้อยหรือยัง ท่านมีคมนาคมที่ดีเพื่อรองรับประชาชนภายในประเทศดีแล้วหรือยัง สิ่งเหล่านี้มันเป็น พื้นฐานที่หากพวกท่านยังพัฒนาไม่ได้แล้ว แล้วเราจะไปพัฒนาคนได้อย่างไร หากเป็นผมเอง แทนที่วัน ๆ จะต้องมานั่งคิด มานั่งวิเคราะห์ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร ผมมานั่งคิดอย่างอื่น ไม่ดีกว่าหรือครับว่าวัน ๆ ผมจะทำมาหากินอะไร จะทำตัวให้รอดไปวัน ๆ ได้อย่างไร บางครอบครัวเด็กเกิดมายังไม่มีนมกินเลย พ่อแม่ยังต้องกระเสือกระสนทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อครอบครัวให้สามารถไปต่อได้ในแต่ละวัน ผมไม่รู้ว่าท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติเคยได้รับรู้ถึง รสชาติของความอดอยากหรือไม่ ส่วนตัวผมทราบดีครับ เคยอดมาก่อน ผมผ่านช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมาแล้วครับ ท่านประธานครับ ณ ปัจจุบันนี้การเป็นพลเมืองที่มี คุณภาพดีมันมีแต่จะถดถอยลดลงเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้สังคมใหม่จึงมีแนวคิดที่อยากจะไปเป็น พลเมืองของประเทศที่มีคุณภาพที่ไม่ใช่ประเทศไทย ท่านลองเข้าไปอยู่ในกลุ่ม Facebook Search เข้าไปเลยครับกลุ่มที่ชื่อว่า โยกย้ายส่ายสะโพกโยกย้าย ท่านจะเห็นว่าพลเมือง ประเทศอื่นเขาเป็นกันอย่างไร เขาอยู่กันอย่างไร มีรายได้เท่าไร ความเป็นอยู่และความ ปลอดภัยดีแค่ไหน ไม่ต้องศึกษาหรอกครับ ผมว่าเรื่องนี้ต่อให้คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ก็ยังสามารถตอบคำถามนี้กับท่านได้ จริง ๆ แล้วสิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพได้ดี มันคือเรื่องของ โอกาส โอกาสมันคือความหวังที่ประชาชนทุกคนอยากจะทราบเหมือนกันว่ามันคืออะไร ให้ท่านลองคิดว่าถ้าท่านไม่ได้เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรแล้วท่านจะทำมาหากินอะไรภายใน ๑๐ นาทีนี้ ผมก็อยากให้ท่านลองจินตนาการดูนะครับ ถ้าท่านยังคิดไม่ได้ว่าท่านจะทำอะไร ภายใน ๑๐ นาทีนี้ แสดงว่าโอกาสที่มันมีอยู่ในประเทศไทยมันมองไม่เห็นครับ คนบริหาร ประเทศก็มัวแต่เอางบประมาณไปสร้างถนน ไปสร้างตึก สร้างสำนักงาน งบที่ใช้พัฒนา ทางด้านอื่นแทบจะไม่เหลือ ท้ายที่สุดนี้ผมอยากจะบอกว่าท่านอย่ามาตีกรอบ อย่ามากำหนด ว่าอะไรคือการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ หากท่านยังมองว่าการทำกิจกรรมของ เยาวชน อย่างเช่น การพ่นกำแพงว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ การเล่นเกมเป็นเรื่องที่ไร้สาระ การเล่นกีฬาเป็นเรื่องที่ไม่มีอนาคต การเต้นรำเป็นเรื่องที่มองว่าไร้ประโยชน์ หรือการทำ อาชีพเกษตรกรยังมองว่าเป็นอาชีพที่ลำบากและยากจนอยู่ แล้วจะให้สถานศึกษาไปนั่งจ้ำจี้จ้ำไชสอนเด็ก ๆ สอนเยาวชนว่าโตขึ้นต้องไปเป็นหมอ ต้องไป เป็นวิศวกร ต้องไปเป็นทหาร และต้องไปเป็นตำรวจหรือเป็นครู ผมว่าเรามาปรับเรื่องพวกนี้ ดีกว่าไหมครับ อยากให้เยาวชน นักศึกษา มองเห็นว่าทุกอย่างคือโอกาส คือความหวัง และสามารถสร้างรายได้และความมั่นคงที่ดีได้อย่างไร เราไปสอนเขาในเรื่องแบบนี้ดีกว่าไหม ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วจะนำคนไปสู่การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะอยู่ ภายใต้ระบบการปกครองแบบใดก็ตาม ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปขอเชิญ คุณกรุณพล เทียนสุวรรณ นะครับ

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม กรุณพล เทียนสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคก้าวไกล วันนี้ขออภิปรายเกี่ยวกับหัวข้อพลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก่อนอื่นเราคงต้องมาเรียบเรียงกันก่อนว่าประชากร ที่มีคุณภาพนั้นคืออะไร เป็นแบบไหน หลายคนบอกว่าเด็กที่ดี ผมได้ยินมา เพื่อนสมาชิกได้ อภิปรายไปว่าประชากรที่มีคุณภาพคือคนดี คนดีในความหมายของคนแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน เราต้องตีความให้ชัดเจนก่อนว่าคนดีนี้คือประชากรที่เชื่อฟังคำสั่ง ประชากรที่ปฏิบัติตามกฎ ที่ผู้ใหญ่ตั้งไว้ แม้กฎนั้นมันจะไม่สามารถตอบโจทย์กับยุคปัจจุบันได้ใช่หรือไม่ ประชากรที่ดี เหล่านั้นคือประชากรที่ต้องเชื่อฟัง ขู่ บอก หรือบังคับ อะไรก็ตามจำเป็นจะต้องทำตาม ถึงจะเป็นประชากรที่ดีใช่หรือไม่ ผมยืนยันว่าประชากรเหล่านั้นไม่ใช่ประชากรที่มีคุณภาพ สำหรับโลกปัจจุบันและในอนาคตในวันข้างหน้า ท่านคงรู้กันแล้วนะครับว่าในยุคปัจจุบัน ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ ๒๑ มาอย่างเต็มตัวเราต้องการอะไรบ้าง เราต้องการเยาวชนที่คิดทัน ทันรู้ข่าวสารข้อเท็จจริง คิดอย่างสร้างสรรค์ และวิเคราะห์ แยกแยะ รวมถึงกล้าที่จะ วิพากษ์วิจารณ์ กล้าที่จะตั้งคำถาม รวมถึงมีทักษะในการสื่อสาร วันนี้ครับเราต้องการ เยาวชน แต่ปัจจุบันนายกรัฐมนตรียังบอกเลยนะครับว่าการเกิดของเยาวชนของลูกหลานเรา ในอนาคตน้อยลงมาก ๆ เราลืมไปหรือเปล่าครับเราต้องการแก้ไขหลักสูตรทางการศึกษา แต่เราไม่สร้างระบบนิเวศที่จะให้คนที่จะเกิดมา คนที่จะเติบโตบนแผ่นดินนี้ ได้มีระบบนิเวศ ที่สามารถสร้างคนอย่างมีคุณภาพได้ เราไม่มีสวัสดิการสำหรับเด็กแรกเกิดที่เพียงพอ เราไม่มี ความปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ เราไม่มีพื้นที่สำหรับให้นมบุตร เราไม่มีโรงเรียน เพียงพอกับลูกหลาน เราไม่มีค่าเล่าเรียนที่สามารถเจือจุนให้กับทุกคนที่ต้องการการเล่าเรียน อย่างเข้าถึง เราไม่มีงานเพียงพอกับผู้ที่จบการศึกษา เราไม่มีคุณภาพชีวิตเพียงพอให้กับ คนในวัยทำงาน และเรามีสวัสดิการเพียงน้อยนิดให้กับผู้สูงอายุ สิ่งเหล่านี้มันจะสร้าง ประชากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศไทยได้อย่างไร หากเราคิดเพียงแค่จะแก้หลักสูตร การศึกษา คิดเพียงแค่ต้องการคนที่เชื่อฟัง เราควรจะสร้างระบบนิเวศที่ดีให้กับประชากร ในประเทศไทย และแน่นอนภาครัฐควรจะต้องเป็นผู้เข้ามาดูแลตรงนี้ แต่ตลอดระยะเวลา ที่ผ่านมาหลายสิบปีเราเห็นเพียงภาครัฐต้องการที่จะสร้างกฎระเบียบที่จะควบคุมประชากร ในประเทศให้เชื่อฟัง ให้ศิโรราบ หลายครั้งเราเห็นภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการยุติธรรม กระบวนการต่าง ๆ ที่กดทับประชาชนให้เชื่อฟัง ให้ทำตามในสิ่งที่รัฐเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้สิ่งเหล่านั้นจะขัดกับหลักนิติรัฐ นิติธรรมของโลกเสรีและอารยะประเทศต่าง ๆ ถ้าประชาชนไม่กล้าตั้งคำถาม ไม่กล้าคิดต่าง ไม่กล้านำเสนอความเห็นที่แตกต่าง และความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เราจะหาประชากรของโลก ประชากร ของประเทศไทยที่เท่าทันกับโลกยุคปัจจุบันได้จากไหนหากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การที่ประชาชนออกมากดดันเรียกร้องเพราะเขาเห็นว่าสิ่งต่าง ๆ ในประเทศนี้นั้นมันไม่ถูกต้อง กลับกลายเป็นว่าเยาวชนเหล่านั้น คนเหล่านั้น ไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คนที่มีคุณภาพอย่างนั้นหรือ ผมว่าการตั้งคำถามแบบนี้คงจะไม่สามารถที่จะหาประชากรที่มีคุณภาพในประเทศนี้ได้ และแน่นอนเราจำเป็นที่จะต้องให้มีการถกเถียง มีการแลกเปลี่ยน มีการนำเสนอ และมีพื้นที่ ปลอดภัยให้กับเยาวชน ให้กับบุคคลต่าง ๆ ที่มีความเห็นที่แตกต่างกันในประเทศนี้ครับ แล้วทั้งหมดที่ผมนำเสนอมา นั่นคือแนวทางการสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพสำหรับระบอบ ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่ระบอบประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เท่านั้น แต่เป็นระบอบประชาธิปไตย ที่ทั่วโลกยอมรับ ผมในฐานะที่ทุกท่านในที่นี้ก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคงไม่จำเป็นแล้ว ที่จะบอกว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องคืออะไร เพราะทุกท่านก็มาด้วยเสียงของพี่น้องประชาชน แต่สิ่งที่ผมอยากเน้นย้ำไว้ตรงนี้คือ ประชาธิปไตยเป็นเสียงของประชาชน เจ้าของอำนาจ อธิปไตยคือประชาชน ไม่ใช่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้น การสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตยรัฐบาลต้องมีสำนึกใหม่ ไม่ใช่มองว่า ประชาชนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เหิมเกริมคิดว่าตัวเองเป็นผู้ปกครอง และประชาชนคือ ผู้ถูกปกครอง รัฐจำเป็นจะต้องทำทุกวิถีทางให้ประชาชนกลายเป็น Active Citizen เป็น ประชาชนที่ตื่นรู้ มีส่วนร่วมกับภาครัฐ มีส่วนร่วมในการวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามและ ตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าหน่วยงานนั้นจะเป็นหน่วยงานใด เพื่อสร้างรัฐที่โปร่งใส ร่วมกัน และต้องย้ำนะครับว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน การที่ประชาชนมีความเห็นต่าง ๆ ทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ เราสามารถเห็นต่างกันได้ เราสามารถเชื่อในอุดมการณ์ของสีเสื้อ ที่ต่างกันได้ แต่เราต้องรับฟังกันด้วยเหตุผล แต่เราต้องยอมรับความแตกต่าง ในสมัยที่ผม ยังเคยรับอาชีพเป็นนักแสดง ในยุคนั้นการแสดงความเห็นค่อนข้างลำบาก ใครที่มีความเห็น แตกต่างกับผู้มีอำนาจ ใครที่มีความเห็นแตกต่างกับนายทุน ย่อมไม่ได้รับการสนับสนุน ย่อมจะเสียโอกาสทางอาชีพ แต่ ณ วันนี้คนกล้าออกมามากขึ้น นักแสดงออกมามากขึ้น คนที่ มีชื่อเสียงออกมามากขึ้น วันนี้ประชาธิปไตยเบ่งบาน การแลกเปลี่ยนความเห็นมีมากมาย เราต้องการสิ่งเหล่านี้ในโลกยุคปัจจุบันครับ และผมเชื่อว่าการที่เราจะเงียบกันอยู่ ปัจจุบันนี้ มีหลายคนไม่สนใจการเมือง มีหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องห่างไกลตัว แต่ผมเชื่อว่าการที่ทุกคน มีส่วนร่วมทางการเมืองมันจะยิ่งทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นจากการส่งเสียงเรียกร้องไปถึง ผู้มีอำนาจ ไปถึงรัฐบาล เพื่อที่จะทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีกับคนทุกคนในแผ่นดินนี้ และเรา ก็จะสามารถที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเยาวชนและคนทุกคนในประเทศนี้ได้ครับ และผมเชื่อมั่นว่าคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนจะเข้าใจ สาระสำคัญของการอภิปรายในวันนี้ และเชื่อว่าคำว่า พลเมืองที่มีคุณภาพ ในนิยามของผม ก็คงจะตรงกับนิยามของคณะกรรมาธิการชุดนี้ครับ ผมจึงเห็นว่าควรจะให้กรรมาธิการชุดนี้ เป็นผู้ตัดสินแล้วก็หาทางแก้ไขเพื่อที่เราจะได้มีพลเมืองที่มีคุณภาพต่อไป ขอบคุณมากครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญคุณธีระชัย แสนแก้ว ครับ

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย กระผม ขออภิปรายญัตติ เรื่อง การสร้างคนเป็นพลเมืองให้มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งท่านชัชวาลล์ คงอุดม เป็นผู้เสนอ ญัตตินี้ ท่านประธานที่เคารพครับ มันก็ไม่พ้นที่จะเริ่มต้นอย่างไรดีล่ะครับ เริ่มต้นจากสถาบัน ครอบครัว โรงเรียน สถาบันการศึกษา ศาสนา วัดวาอารามต่าง ๆ นี่ล่ะครับ ผมอาจจะเป็น คนหัวโบราณ คำว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก ก็ไปแปลความหมายเอาก็แล้วกัน เวลานี้ ก็ออก Youtube เด็กฝาแฝดลูกดาราด้วย ก็ไปดูกันเอาเองนะครับน่ารักจะตาย เขาฝึกตั้งแต่ อยู่ในท้องจนถึงขณะนี้ แต่ผมจะไม่เอ่ยถึงขนาดนั้น หลักการสำคัญคนที่เรียกว่าตัวเองเป็น พลเมืองนั้นเขาจะไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น ไม่ละเมิดสิทธิของความเป็นมนุษย์ เขาจะเคารพ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของคนอื่นด้วย คุณลักษณะของคนเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบ ประชาธิปไตยนั้นกระผมขอกล่าวโดยสรุปครับ พลเมืองที่สำคัญในการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยมี ๓ ประการครับท่านประธาน

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประการแรก คือเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เรื่องนี้ต้องเคารพ เริ่มต้น ตั้งแต่เคารพตนเองก่อนครับท่านประธาน เพราะในขณะเดียวกันในเมื่อเคารพตนเองแล้ว ต้องเคารพคนอื่นด้วย เราเป็นมนุษย์ คนอื่นก็เป็นมนุษย์ เขาเป็นคน คนอื่นก็เป็นคน เราก็ต้อง ไม่ดูหมิ่นและไม่เหยียดหยาม ไม่ด้อยค่าคนอื่นที่กำลังเป็นปัญหาในสังคมปัจจุบัน ยกตัวอย่าง ง่าย ๆ หลายคนที่ชอบอ้างว่าตัวเองเป็นพวกหัวประชาธิปไตยชอบพูดจาเหน็บแนม พูดจา ด้อยค่าคนอื่น ด่าคนอื่น แนวความคิดจากตัวเองไม่ชอบพรรคการเมืองของตัวเอง ก็ไปด่าว่า ไม่มีอุดมการณ์ พูดจาด้อยค่า ดูหมิ่นดูเกียรติว่าคนอื่นไม่มีศักดิ์ศรี มันจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ เคารพคนอื่นก่อนครับ กระผมต้องขอถามคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ว่า เมื่อท่านเคารพศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ของตัวท่านเองท่านต้องอย่าด้อยค่าคนอื่น และเป็นพลเมืองที่เป็นวิถี ประชาธิปไตย คืออย่าโจมตีให้ร้ายป้ายสี ทุกวันนี้เกิดขึ้นมากครับ โดยเฉพาะการใช้สื่อ Social เกิดขึ้นทุกวันครับ หนักเข้าไปอีก บางคนแอบถ่ายรูปแล้วไปบิดเบือน แล้วไปเผยแพร่ สื่อ Social อันนี้เท่ากับว่าด้อยค่าศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์คนอื่น มันจะเป็นหน้าที่ พลเมืองไม่ได้ แต่นี่ผมเปรียบเทียบเฉย ๆ ผมจะเอาศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์นี่ละครับ เพราะว่ามันหลายเรื่องเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยมันกว้างเหลือเกินครับ ท่านประธาน ดังนั้นการที่เป็นพลเมืองดีเขาต้องไม่ละเมิดความเป็นมนุษย์ของคนอื่น

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ ต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพ กฎหมาย กฎกติกา จารีตประเพณี และสังคมต่าง ๆ คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดครับท่านประธาน นี่คือประเทศไทยครับ คำว่า สิทธิ คือสิ่งที่เราพึงมีพึงได้ คำว่า สิทธิ คือต้องมีกฎหมายรับรองให้ ไม่ใช่แปลว่าเราจะทำโน้น ทำนี่ตามอำเภอใจและไม่สนใจสิทธิของคนอื่น และอีกคำว่า เสรีภาพ ซึ่งหมายความว่า อิสระ เราจะทำอะไรก็ได้ ทำไมผมต้องถามเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าคนบางคนคิดว่าตัวเอง มีสิทธิเสรีภาพแบบไม่มีขอบเขต ใช้สิทธิอย่างเต็มที่ ใช้เสรีภาพอย่างเต็มที่ บางครั้งการที่ ใช้สิทธิเสรีภาพมันไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่นด้วย นี่เป็นเรื่องที่ผิดครับท่านประธาน แล้วในสังคมเราก็มีกติกา กฎสังคม กฎหมาย เพื่อป้องกันสิทธิเสรีภาพ จะไปละเมิดคนอื่นเขา ไม่ได้ อย่างกฎหมายที่เห็นได้ชัดอย่างเช่นการที่รัฐบาลห้ามดื่มเหล้า ห้ามดื่มเหล้าแล้วขับรถ เขาห้ามครับ ๗ วันอันตรายสงกรานต์ มีบางคนบอกว่ารัฐบาลเอากฎหมายอะไรมาห้าม ฉันจะดื่มเหล้า จะดื่มเบียร์เป็นสิทธิเสรีภาพของเรา ไม่ได้เดือดร้อนใครทำไมต้องห้าม เป็นความคิดที่ผิดครับท่านประธาน ที่แท้จริงแล้วเขาห้ามดื่มแล้วอย่าขับรถ ก็เพราะบางคน ชอบดื่มเหล้าดื่มเบียร์เมาแล้วขับรถไปชนคนอื่นเขาตาย นี่ก็ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น แล้วใครเดือดร้อนครับ คนเมาแล้วขับไม่เดือดร้อน แต่คนที่ถูกรถชนเขาเดือดร้อน ลูกเมีย พ่อแม่เขา ครอบครัวเขา เขาเดือดร้อนครับ ดังนั้นคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยได้ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพกติกาในสังคม และเคารพกฎหมายของบ้านเมืองด้วย

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประการที่ ๓ ความรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคม และต่อประเทศชาติ บางคนบอกว่าความรับผิดชอบต่อครอบครัวเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม แต่มนุษย์คือสัตว์สังคมนะครับ เราไม่ได้อยู่ในบ้านคนเดียว เราอยู่นอกบ้าน เราออกนอกบ้านไปพบปะสังคม ไปพบผู้คน เราออกมา หรือแม้กระทั่งในประเทศนี้จากตำบลเป็นหมู่บ้านเรามีสังคม เรามีประเทศ เรามี สส. ๕๐๐ คนมันก็ต้องมาพบปะกัน หรือความรับผิดชอบต่อครอบครัว รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง เช่น พ่อแม่มีหน้าที่ในการ ดูลูกเต้าเลี้ยงดู ให้การศึกษาแก่ลูก ปล่อยปละละเลยเมาเหล้าเมายาไม่สนใจลูก ปล่อยลูกเกเร แล้วจะเป็นภัยต่อสังคมนี้มันจะเป็นพลเมืองดีได้อย่างไร อย่างพวกเราคือรับผิดชอบใน สภาผู้แทนราษฎรก็คือรับผิดชอบเป็นพลเมืองดีทั้งหมดนี้ อย่างเช่นผมยกตัวอย่างแก๊งทรชน วัยรุ่นอายุ ๑๓-๑๖ ปี ไปฆ่าป้าบัวผันที่สระแก้วเป็นข่าวกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระผมคิดว่านอกจาก เป็นความผิดของวัยรุ่นกลุ่มนี้แล้วก็ยังเกิดความไม่รับผิดชอบของพ่อแม่ด้วยครับ พวกนี้ที่ ปล่อยปละละเลย บางคนเป็นลูกตำรวจอีกต่างหาก นี้คือเขาเข็นแล้ว พอลูกทำผิดก็ให้ท้าย ลูกอีกต่างหากอย่างที่เป็นข่าว บางคนลูกตำรวจ หลาย ๆ คนลูกเส้นใหญ่ทั้งนั้น ดังนั้น ความรับผิดชอบจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ ยกตัวอย่างจากต่างประเทศเลยครับ เยอรมันเขา ดีที่สุด ไปอ่านเอาเองก็แล้วกัน เพราะว่าเวลาหมดแล้ว ผมเกรงใจท่านประธานเหลือเกินครับ สิ่งที่กระผมอยากจะบอกกับท่านประธานวันนี้ว่า การที่เราเป็นพลเมืองดีในระบอบ ประชาธิปไตยนั้นเราจะต้องเริ่มด้วยการเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ จะต้องเคารพ สิทธิเสรีภาพ กฎหมาย และจะต้องมีความรับผิดชอบ มันไม่ได้เป็นเรื่องยากเลยครับ ความรับผิดชอบและเคารพคนอื่น แต่สิ่งที่ยากคือท่านจะรักษาความเป็นพลเมือง ได้ตลอดเวลาและติดตัวตลอดเวลาได้หรือไม่ครับ วิธีการและรักษาความเป็นพลเมืองไว้ได้ ตลอดชีวิตหรือไม่ เราต้องหมั่นฝึกตนเองเสียก่อน ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น มีจิตเป็นสาธารณะ ทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีอยู่เสมอ จนขนาดฝังเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเรา นั่นคือ หน้าที่พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย กระผมขอสนับสนุนญัตตินี้เพื่อให้ส่งไป คณะกรรมาธิการที่จะพัฒนาเรื่องนี้ ไม่ต้องตั้งกรรมาธิการ กรรมาธิการตั้งแล้วก็เยอะครับ แล้วไม่มีคน ไม่มีเวลา เพราะฉะนั้นเอาคณะกรรมาธิการที่มีแล้วเอาไปศึกษาครับ ขอขอบพระคุณครับท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

เชิญคุณสหัสวัต คุ้มคง ครับ

นายสหัสวัต คุ้มคง ลพบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม สหัสวัต คุ้มคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๗ พรรคก้าวไกล ผมขอมีส่วนร่วม ในการอภิปรายในญัตติ เรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ในอดีตของเราเรามีการพูดคุยเรื่องนี้กันมาโดยตลอด เรื่องการสร้างคน การสร้างพลเมือง การสร้างประชาชนที่เข้าใจหน้าที่พลเมืองและคำอีกมากมายครับ มีหลากหลายโครงการ ที่พยายามจะสร้างความเป็นพลเมืองแบบที่รัฐต้องการให้เป็นมาตลอด ตั้งแต่สร้างค่านิยม ๑๒ ประการ ให้มีการเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมือง หรือย้อนกลับไปมีการแต่งเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดีออกมา แล้วอีกมากมายหลายเรื่อง แต่ทั้งหมดนี้คือการกระทำซ้ำด้วยวิธีการ แบบเดิม ๆ แล้วคาดหวังผลลัพธ์ใหม่ ๆ ผมว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดคาดหวังว่าการ ทำซ้ำ ๆ นี้จะสร้างผลลัพธ์แบบใหม่ ๆ ได้ แต่ก่อนที่ผมจะพูดเรื่องการสร้างพลเมือง เรามาคุย กันก่อนว่าพลเมืองคืออะไร แนวคิดเรื่องพลเมืองเป็นแนวคิดที่มาคู่กับสังคมประชาธิปไตย อย่างน้อย ๆ ก็ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยกรีก ความเป็นพลเมืองหลายต่อหลายข้อก็ส่งต่อมา จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในแง่ของสิทธิพลเมือง ก็มีแนวคิดหนึ่งที่ผมอยากจะนำมาเสนอ ในที่นี้แล้วก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับหัวข้อนี้ คือแนวคิดเรื่องพลเมืองที่สมบูรณ์ของเพลโต (Plato) แนวคิดนี้มีหลายหัวข้อ แต่มีหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจ เพลโต (Plato) เสนอว่า พลเมืองที่สมบูรณ์ หมายถึงคนที่รู้วิธีปกครองผู้อื่น และวิธีถูกผู้อื่นปกครองด้วยความยุติธรรม อีกคนคือ อริสโตเติล (Aristotle) ครับ ที่ให้คำจำกัดความข้อหนึ่งไว้อย่างกระชับและน่าสนใจ คือคนที่ เข้ามีส่วนร่วมในชีวิตพลเมืองที่มีทั้งการปกครองและการถูกปกครองสลับกันไป นอกจากนี้ อริสโตเติล (Aristotle) ยังเสนอว่า มนุษย์จะเติมเต็มศักยภาพของชีวิตแต่ละคนได้นั้น ก็ต่อเมื่อเข้าไปร่วมกิจกรรมกับชุมชนการเมือง หรือแปลง่าย ๆ คือ ชุมชนสาธารณะนั่นล่ะครับ แน่นอนครับว่าสังคมประชาธิปไตยในกรีกโบราณเมื่อ ๒๕๐๐ ปีที่แล้วคงจะเทียบเคียงกับ ยุคปัจจุบันไม่ได้ทั้งหมด แต่จากแนวคิดที่ทั้งสองคนนี้กล่าวสะท้อนว่าอะไรครับ สะท้อนว่า พลเมืองที่ดีก็คือพลเมืองที่สามารถทำหน้าที่เป็นได้ทั้งผู้ปกครองและถูกปกครองในสังคม ประชาธิปไตย หรือพูดให้ง่าย ๆ กว่านั้นคือ ผู้ที่ยินดีมีส่วนร่วมในงานทางการเมืองอย่าง สม่ำเสมอนั่นเอง ตัวผมเองไม่ชอบเลยคำว่า พลเมืองดี หรือ Good Citizen เพราะว่าคำว่า ดี ของแต่ละคน ก็แตกต่างกันไป โดยเฉพาะความดีของสังคมไทยที่มักให้คำนิยามโดยผู้ปกครอง ซึ่งอาจจะ ไม่ตรงกับนิยามของคนส่วนใหญ่ในสังคม ในโลกนี้มีการใช้คำว่า Active Citizen หรือแปล เป็นไทยว่า พลเมืองเข้มแข็ง พลเมืองตื่นรู้ ทีนี้ผมขออ้างอิงหลักสูตรฐานสมรรถนะของ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งให้คำนิยามไว้ว่า การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งหมายถึง การปฏิบัติตน อย่างรับผิดชอบในฐานะพลเมืองไทยและพลเมืองโลก รู้เคารพสิทธิเสรีภาพของตนเองและ ผู้อื่น เคารพในกฎกติกาและกฎหมาย มีส่วนร่วมทางสังคมอย่างมีวิจารณญาณ อยู่ร่วมกับผู้อื่น ท่ามกลางความหลากหลาย เห็นคุณค่าของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีบทบาทในการตัดสินใจ และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยยึดมั่นในความเท่าเทียมเป็นธรรม ค่านิยม ประชาธิปไตยและสันติวิธี ซึ่งอันนี้เป็นนิยามที่ดีมาก ๆ โดยมีนิยามใกล้เคียงกับนิยามสากลด้วย ทีนี้เราจะสร้างพลเมืองที่เข้มแข็งหรือ Active Citizen ได้อย่างไร เพื่อน ๆ สมาชิกหลาย ๆ ท่าน ก็ได้อภิปรายในมิติเกี่ยวกับเยาวชนเอาไว้แล้ว แล้วตัวญัตติเองก็เน้นไปทางนั้น ซึ่งผมไม่ปฏิเสธ ว่าการปลูกฝังในเยาวชนเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่อย่างที่ผมพูดไว้ตอนต้น การปลูกฝังเยาวชน เป็นสิ่งที่เราทำกันมาซ้ำแล้วช้ำเล่า แล้วคาดหวังผลลัพธ์ใหม่ ๆ ท้ายที่สุดเราต้องตั้งคำถามว่า ที่เรากำลังทำกันอยู่นี้เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในการเป็นพลเมือง หรือการพยายาม ครอบงำเยาวชนแล้วจำกัดกรอบความคิดให้เขา สำหรับผมการสร้าง Active Citizen ไม่ได้หยุดอยู่แค่เยาวชน แต่เราสามารถสร้างได้กับคนทุกวัย ผ่านกลไกต่าง ๆ ในทุกมิติ แล้วกลับไปที่อริสโตเติล (Aristotle) ที่ผมยกตัวอย่าง คือต้องสร้างการมีส่วนร่วมในทาง สาธารณะให้กับประชาชนบนหลักการง่าย ๆ คือการยืนยันสิทธิอำนาจของประชาชน การกระจายอำนาจ สร้างการมีส่วนร่วม และการรวมกลุ่มของประชาชน อันดับแรก เราต้อง สร้างจิตสำนึกที่จะสลายความเป็นฉันและสร้างความเป็นเรา เราจะทำอย่างนี้ได้อย่างไร สำหรับผมการสร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวมคือต้องทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของใน พื้นที่ที่เขาอยู่ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเสียงของเขาไม่ถูกมองข้ามหรือไม่มีความหมาย ทั้งใน ระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ และนั่นคือการกระจายอำนาจ และสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการ กระจายอำนาจก็คือระบบราชการ ในฐานะ สส. เขตผมคิดว่าเพื่อนสมาชิกหลายท่านในที่นี้ ก็จะได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องในพื้นที่อยู่เสมอ ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ระบบราชการทั้งนั้นเลย เช่น ไปร้องเรียนที่นี่แล้วเรื่องไม่คืบ ไปแจ้งศูนย์นั้นศูนย์นี้แล้วเรื่องช้า ในแง่นี้พวกเราที่เป็นผู้ได้รับสิทธิจากประชาชนก็ต้องเข้าไปช่วยดำเนินการ แต่เรื่องนี้สะท้อน อะไรครับ สะท้อนว่าประชาชนของเราเองจริง ๆ แล้วก็เป็น Active Citizen อยู่ระดับหนึ่ง สนใจเรื่องปากท้อง เรื่องการเมือง เรื่องชุมชนที่เขาอยู่ แต่ความไฝ่ในการมีส่วนร่วมนี้กลับถูก กลบหายไปด้วยระบบราชการที่กินเวลายาวนาน เขาต้องมาหาผู้แทนที่เขาคิดว่าจะดำเนินการ แทนได้เร็วกว่าเขา เราจึงต้องมีการกระจายอำนาจ และต้องปฏิรูปให้หน่วยงานราชการ ทำงานแบบ Active มากขึ้น เพราะต่อให้เรามี Active Citizen แต่ถ้าเรายังมี Passive Bureaucrat ประเทศก็เดินยาก ดังนั้นต้องมีการกระจายอำนาจเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในกิจกรรมชุมชนได้มากขึ้น ต้องสร้างการมีส่วนร่วม มีการรวมกลุ่มให้เกิดสำนึกว่าเขาเป็น ส่วนหนึ่ง เขามีตัวตนและสามารถมีส่วนร่วมกำหนดสิ่งต่าง ๆ ได้ในพื้นที่ของเขา หรือถ้า กลับไปที่อริสโตเติล (Aristotle) คือมีส่วนร่วมใน Polis หรือในพื้นที่ทางการปกครองของ ประชาชน นอกจากพื้นที่ เช่น ถิ่นฐานบ้านเกิด ในการเป็นพลเมืองจิตสำนึกอื่น ๆ ก็สำคัญ เช่น จิตสำนึกทางการเมืองที่จะมีส่วนร่วมและตรวจสอบในทางการเมือง ติดตามการทำงานของ หน่วยงานราชการของผู้แทนของเขา หรือมากกว่านั้นคือเปิดกว้างให้มีการรวมกลุ่ม สร้างจิตสำนึกในการรวมกลุ่ม เช่น จิตสำนึกทางชนชั้นที่จะสร้างผ่านการสนับสนุนการตั้ง สหภาพหรือรวมกลุ่มต่าง ๆ ว่าเราทุกคนคือชนชั้นแรงงาน การรวมกลุ่มความหลากหลาย ทางเพศ ใด ๆ ก็ตามที่จะสร้างอำนาจต่อรองให้กับกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้น เหมือนกับที่กลุ่ม คนความหลากหลายทางเพศรวมกลุ่มกันจนสามารถพาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมมาถึง สภาได้ แล้วอีกหลาย ๆ กลุ่ม และที่สำคัญพวกเราพูดกันเสมอว่าเสียงประชาชนคือ เสียงสวรรค์ เราต้องเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาต่าง ๆ ของ ประเทศนี้ได้อย่างเสรีในทุกมิติ ทั้งปากท้อง การเมืองและวัฒนธรรม ไม่ได้ถูกจำกัดภายใต้ กรรมการบางชุด คนบางคน หรือผู้มีอำนาจคนใด ไม่ควรมีสิทธิจะบอกว่าประชาชนว่า เรื่องไหนพูดได้ พูดไม่ได้ ดังนั้นเราต้องสนับสนุนการรวมกลุ่มครับ เริ่มตั้งแต่ในระดับชุมชนอย่างกลุ่มปกป้องชุมชนใด ๆ ระดับประเทศ เช่น กลุ่มที่มีการผลักดันกฎหมาย ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือผลักดัน อะไรต่าง ๆ ที่จะสร้างสำนึกทางชนชั้น เช่น สหภาพแรงงาน องค์การวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อจะได้ มีส่วนร่วมในการเจรจาต่อรองกับรัฐและผลักประเทศนี้ไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อสร้าง Civil Society ขึ้นในประเทศเราครับ ให้ประเทศของเราเป็นสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยพลเมือง ดังนั้นผมเสนอว่าเราต้องตั้งกรรมาธิการเพื่อเสนอเรื่องดังกล่าว จึงควรเข้าไปอยู่ใน คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มในสังคม เกิดการกระจายอำนาจ ไม่ใช่เพียงทำงบปลูกฝังและ ล้างสมองครับ แต่ต้องเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมสาธารณะให้ประชาชนทุกคนมีจิตสำนึก ทางการเมือง มีสำนึกทางชนชั้น มีสำนึกพลเมืองให้เข้าใจว่าประเทศไทยเป็นกรรมสิทธิ์ของ ทุกคน ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแต่เพียงลำพัง ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญคุณภัณฑิล น่วมเจิม ครับ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานครับ ผม ภัณฑิล น่วมเจิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตวัฒนาและเขตคลองเตย พรรคก้าวไกล ขอร่วมอภิปรายญัตติขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ ก่อนอื่นก็อยากจะพูดถึงความ จำเป็นของการเสนอญัตตินี้ ก็ยังคุยกับเพื่อน สส. เลยว่าญัตติมันรกสภา เยอะมากเลยครับ เอาอีกแล้วหรือครับ เราจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษากันอีกแล้วหรือครับ ผลาญงบ เบี้ยประชุมกัน

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

และอีกเรื่องที่หนึ่งครับ ปัญหาหัวข้อในการตั้งญัตติก็จะต้องมีท่อนสร้อย ทุกครั้งเลย เอาสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องอีกแล้วหรือครับ นี่เรากำลังพูดเรื่องการสร้างพลเมือง ให้มีคุณภาพ แต่ต้องมีท่อนสร้อย โหนสถาบันอีกแล้วหรือครับ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทุกครั้ง ที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยก็ต้องอีแบบนี้ติดตามห้อยสอยมาทุกครั้ง คำนิยามของ พลเมืองคุณภาพเพื่อนสมาชิกก็อภิปรายกันไปหลายครั้ง ประโยชน์สาธารณะ Active Citizen ทักษะในการคิดเชิงวิพากษ์ สำคัญมาก ๆ นะครับ เราต้องเปิดให้คนคิดให้มีโอกาส ที่เขาจะสร้างสรรค์ ตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ของเขา เคารพกติกา การมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชน เห็นต่างก็อยู่กันได้ครับ อันนี้พูดไปเยอะแล้วผมคงไม่ต้องไปพูดถึงเรื่อง คุณภาพหรือคำนิยามของคนดีนะครับ ผมเห็นเลยมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็จะมีแนวคิดเก่า ๆ ที่ท่านอภิปรายกัน แล้วก็พวกผมก็อภิปรายก็เหมือนกับโลกคู่ขนาน เอาให้เป็นรูปธรรมดีกว่า เราอยากให้พลเมืองมีส่วนร่วม เราอยากให้พลเมืองมีคุณภาพผ่านการมีส่วนร่วม ที่เป็น รูปธรรมเลย ปรับเกณฑ์อายุของผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งให้เท่ากับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตอนนี้ ในสภาเราไม่มีอายุ ๑๘-๒๕ ปี หายไปหมดเลยครับ เขาจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร เขายัง ไม่สามารถลงสมัครเป็นผู้แทนได้เลย เรื่องนี้ไปแก้เลยอย่างแรกเป็นรูปธรรม

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ คณะกรรมการสถาบันการศึกษาหรือที่เราเรียกว่า School Board นักเรียน นักศึกษา เขาเรียนนะครับ เขาไม่มีส่วนร่วมในสถาบันเขาเลย ส่วนใหญ่ก็เป็นครู อาจารย์ควบคุมทุกอย่าง ผมเสนอให้มี School Board ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และชุมชน ร่วมกันตัดสินใจในเรื่องของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ขอ ๒ เรื่องที่เป็นรูปธรรมนะครับ เรื่องอื่นผมไม่ต้องพูดเยอะ สร้างโอกาสให้ เยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำระบบนิเวศให้เอื้ออำนวย ไม่อย่างนั้นท่านอย่าพูดถึงเรื่องพลเมืองที่มี คุณภาพเลยครับ อีกหน่อยท่านจะไม่มีพลเมืองเหลืออยู่ถ้าเผื่อโครงสร้างประเทศเรายังเป็น แบบนี้ สมองไหลไปหมด ไม่อยากอยู่หรอกครับประเทศนี้ สุดท้ายก็วกกลับมายึดมั่นหลักพื้นฐาน ของการออกกติกาในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ เพื่อให้มีการจัดสรรทรัพยากรสาธารณะได้ อย่างยุติธรรม แล้วเดี๋ยวคนเขาก็จะอยากอยู่แล้วก็ร่วมสร้างประเทศนี้ไปด้วยกัน ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญคุณสฤษดิ์ บุตรเนียร ครับ

นายสฤษดิ์ บุตรเนียร ปราจีนบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม สฤษดิ์ บุตรเนียร สส. นักพัฒนา แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เขต ๓ พรรคภูมิใจไทย วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมในการอภิปราย ญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเรื่องการสร้างคนให้เป็น พลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข เราจะพูดคำว่าพลเมืองที่มีคุณภาพภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มี องค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข คำว่า คุณภาพ อย่างวันนี้ประชากรเราก็ลดน้อยถอยไป นั่นเชิงปริมาณ เมื่อเราเพิ่มเชิงปริมาณไม่ได้ เราควรจะเพิ่มเชิงคุณภาพของเยาวชนของ ประเทศชาติ คำว่า คุณภาพ แปลว่าความดี เป็นคุณสมบัติอันพึงประสงค์ที่จะนำไปสู่ การพัฒนาประเทศชาติ เพราะคนเป็นพลเมืองของประเทศชาติ เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของ ประเทศ ประเทศจะก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองได้ก็เป็นที่คนนี้ล่ะครับ แต่ทุกวันนี้เราพัฒนาคน เราพูดถึงคุณภาพ เราพูดถึงการศึกษา ท่านผู้อภิปรายจำนวนมากส่วนมากจะพูดเรื่องเด็ก เรื่องโรงเรียน ควรจะเปลี่ยนแปลงหลักสูตร ควรจะเปลี่ยนกระบวนการทั้งหมดนี้ แต่ผมเชื่อ เหลือเกินว่าภายในโรงเรียนคุณครูซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในการพัฒนา เพราะในโรงเรียน ผมเชื่อว่าภายในรั้วโรงเรียนมีแต่สิ่งดี ๆ คุณครูพร่ำที่จะบอกเด็กว่าเราเป็นคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราเป็นนักเรียนจะต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ของโรงเรียนที่ดี คุณครูก็จะพร่ำบอกอยู่แล้ว เราสอนกัน เรารู้เรื่องความสมัครสามัคคี เรามี องค์กรนักเรียน เรามีประธานนักเรียน ในโรงเรียนก็สอนอยู่แล้ว แต่วันนี้อยากเพิ่มเติมว่า อย่างที่หลายท่านก็พูดเรื่องฐานสมรรถนะ จริง ๆ แล้วฐานสมรรถนะมันก็เป็นคำศัพท์ ที่เปลี่ยนแปลงกันไปเรื่อย ๆ มันก็คือ Learning by Doing เรียนรู้คู่การปฏิบัติ แต่วันนี้เรา เรียนรู้แต่ไม่ปฏิบัติ ทุกวิชามีปฏิบัติทั้งนั้นใช่ไหมครับ เช่น วิชาหน้าที่พลเมือง วิชาความดี แต่เราไปวัดกันตรง Multiple Choice นี่ล่ะครับคือฆ่าเด็กทั้งเป็นเลย ใครก็ตอบได้ ต่อให้ คนไม่ดีก็ตอบได้ว่าคนดีคืออะไร แต่เวลาปฏิบัติล่ะครับ สัมมาคารวะไม่ต้องไป Check ให้เหนื่อยหรอกครับ เพราะฉะนั้นการบูรณาการในวันนี้ภายในโรงเรียนเพียงแต่เปลี่ยน กระบวนการบ้าง ผมถึงบอกว่าวันนี้ถ้าเราจะพัฒนาศักยภาพของคน หรือความดี พลเมืองดี ของประเทศ ภายใต้การปกครองอย่างนี้ คำว่า ดี เพราะฉะนั้นเด็กแต่ละช่วงวัยไม่เหมือนกัน เราก็จะบอกว่าในช่วงตั้งแต่อยู่ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ ๐ ถึง ๑ ขวบ เกิดขึ้นมา ๑ วัน ๓ ขวบอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่วันนี้เราเลี้ยงลูก ด้วยโทรศัพท์เด็กก็อยู่นิ่ง ไม่กระดิก วันนี้แล้วใครจะเป็นคนเปลี่ยน ครอบครัวสำคัญเหลือเกิน เราต้องสอนให้ลูกรู้จักการทำงาน ทำอะไรบ้างก็ได้ เพื่อจะให้ว่างเว้นจากการใช้ Digital หรือมือถือ หรือลดภาระของโทรศัพท์นี้ เราปลูกฝังตั้งแต่แรกสิครับว่าความสำคัญของคน มันอยู่ที่ผลงาน อะไรก็ได้ที่มันสุจริต แต่วันนี้ผมอยู่กับเด็กมาตั้ง ๕๐ ปี ตั้งแต่เด็กอนุบาล ยันอนุปริญญา ปวช. ปวส. แต่วันนี้ค่านิยมในสังคมล่ะครับ เราสอนกันว่า อย่างผมเคยดู จดหมายเหตุเด็ก หนูอยากเป็นอะไร หนูอยากเป็นครู อยากเป็นทหาร อยากเป็นตำรวจ แต่ สุดท้ายเพราะอะไรล่ะครับ เราฟังเหตุผลสิ หนูอยากเป็นตำรวจเพราะคุณแม่ได้เงินทุกวัน มันแปลว่าอะไรครับ บนผ้าขาวเขาเปื้อนตั้งแต่ยังเป็นผ้าขาวอยู่ แล้วใครเป็นคนที่ทำให้ผ้าขาว มันเปื้อนขนาดนั้น ก็คือสังคมครับ เพราะฉะนั้นโรงเรียนเองทัศนคติต้องเปลี่ยน เราต้องดี เก่ง แล้วมันมีความสุข คุณภาพของคนมันวัดกันไม่ได้ แต่วันนี้สังคมเรากำหนดคนที่ต้อง ขั้นยศถาบรรดาศักดิ์ เราเอาเงินเป็นตัวตั้งกันตลอดเวลา เราไม่เคยที่สังคมจะมองว่าคนดีเป็น อย่างไร ดังนั้นสังคมก็ต้องเป็นอย่างนี้ล่ะครับ เพราะฉะนั้นศักยภาพของคน คุณภาพของคน สังคมต้องยอมรับในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะวันนี้ผมอยากจะขอร้องรัฐบาล จากท่าน ประธานสภาส่งไปที่รัฐบาลหน่อย โรงเรียนเขาทำกันดีอยู่แล้ว แต่เทคโนโลยี แต่สิ่งที่มันเป็น บนอากาศ LINE เอย Social เอย Online AI ทุกวันก็โหมกระหน่ำกัน เรามองไปแต่วัตถุ มองไปแต่สิ่งแวดล้อม อยากให้ประเทศได้ GDP มาก ๆ นำนักท่องเที่ยวเข้ามา เมืองไทยเป็น เมืองน่าอยู่ที่สุดแล้ว ไม่มีที่ใดในโลกนี้ที่จะมีความสุขเท่าประเทศไทย ไม่ต้องไปไหนหรอก นอนอยู่เมืองไทยนี่ล่ะสุขที่สุด ผมไปมากี่สิบประเทศ ที่ไหนจะถูกที่สุด มีความสุขที่สุด มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จนคนทั้งโลกจะมาตายเมืองไทยกันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยที่จะมาเถียงกัน ผมอยากจะบอกว่า เด็ก ๆ ก็เหมือนกันครับ ตอนเด็ก ๆ เราก็อยากจะเปลี่ยนโลก อยากจะไปอยู่อวกาศ อยากไปดาวอังคาร พออยู่ มหาวิทยาลัยหรือเริ่มทำงานหน่อยฉันอยากจะเปลี่ยนประเทศ ประเทศฉันต้องเป็น เหมือนกับคนนั้น เหมือนประเทศนี้ ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ พอทำงาน ก็อยากจะเปลี่ยนกระทรวง เปลี่ยนทบวง กรม อยากจะเปลี่ยนการปกครอง พอมีครอบครัว จะเปลี่ยนผัว เปลี่ยนเมีย ยังเปลี่ยนความคิดไม่ได้เลย เปลี่ยนลูกไม่ได้ ดังนั้นผมถึงบอก นี่ผมอ่าน Bible มาตั้ง ๕๐ ปีแล้ว สุดท้ายนอนลงไปบนเบาะนุ่ม ๆ ตื่นเช้ามาเปลี่ยนตัวเอง เดี๋ยวหน่วยงานก็เปลี่ยนตามเรา ขอให้เป็นคนดีเถอะครับ ขยันขันแข็ง ตั้งอกตั้งใจ ซื่อสัตย์ สุจริต เดี๋ยวนี้หน่วยงานที่ไหน ๆ เขาไม่ต้องการคนเก่งหนักหนาหรอก คนเก่งมันอยู่ในนี้ หมดแล้ว ใครจะมาเก่งเท่า Google อยากได้อะไรบอกมันเถอะ แต่ถ้าท่านเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ตรงต่อเวลา ขยันขันแข็ง ยึดมั่นหน้าที่ รู้จักสิทธิหน้าที่ เคารพต่อคนอื่น คนอื่นเขาก็ เคารพเรา เรายื่นมือให้คนอื่นเขา ให้ความรัก ดังนั้นผมอยากจะฝากในสภาแห่งนี้ ไม่ต้องไป เปลี่ยนใครหรอก เปลี่ยนตัวเรานี่ล่ะครับดีที่สุด วันหนึ่งสังคม สิ่งแวดล้อมก็จะเปลี่ยนตามที่ เราเป็น เคารพสิทธิหน้าที่ ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์สุจริต แล้วไม่ต้องไปตะโกนบอกให้ใครซื่อสัตย์ สุจริต คอร์รัปชันหรอกครับ เราทำตัวของเราดีที่สุดครับ ขอกราบขอบพระคุณมากครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณสิริลภัส กองตระการ ครับ

นางสาวสิริลภัส กองตระการ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภา ดิฉัน สิริลภัส กองตระการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากบางกะปิ วังทองหลาง กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล สืบเนื่องจากที่มีเพื่อนสมาชิกได้ตั้งญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของ ประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นางสาวสิริลภัส กองตระการ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ดิฉันขอตั้งคำถามแรกเลยนะคะ เกี่ยวกับแนวทางการศึกษานี้ว่าก่อนที่ท่าน อยากจะสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพท่านมีแนวทางในการสร้างปัจจัยในการทำให้ประชาชนเป็น พลเมืองเฉย ๆ ได้แล้วหรือยัง เรามาดูความแตกต่างกันระหว่างคำว่า ประชาชน กับคำว่า พลเมือง อ้างอิงจากสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เรื่องความหมายของคำว่า พลเมือง ได้ให้ ความหมายว่าคำว่า พลเมือง หมายถึงคนที่มีสิทธิและหน้าที่ในฐานะประชาชนของประเทศใด ประเทศหนึ่ง หรือประชาชนที่อยู่ภายใต้ผู้ปกครองเดียวกัน อนึ่งคำว่า พลเมือง มีความหมาย ต่างจากคำว่า ประชาชน ในแง่ที่เน้นสิทธิและหน้าที่มากกว่าคำว่า ประชาชน ทีนี้การที่จะ ทำให้พลเมืองมีความหมายต่างจากคำว่า ประชาชน ได้นั้น รัฐก็จะต้องให้สิทธิของเขากับ ประชาชน และประชาชนก็จะต้องทำหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการเคารพกฎกติกาของสังคม กฎหมาย หรือว่าการจ่ายภาษี เป็นต้น พลเมืองคือพละ พละคือกำลัง กำลังของเมืองที่จะ ขับเคลื่อนประเทศหรือเมืองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังนั้นดิฉันขอย้อนกลับมาที่คำถามเดิมเลยค่ะ ว่ารัฐจะสร้างปัจจัยในการทำให้ประชาชนกลายเป็นพลเมืองได้อย่างไร เพราะในสถานการณ์ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ สังคม ไม่ได้เอื้อเลยที่จะทำให้ประชาชนกลายมาเป็น พลเมือง ประชาชนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่คนหาเช้ากินค่ำนะคะ เป็นคนที่หาเช้าไม่พอที่จะกิน ตอนค่ำด้วยซ้ำ อ้างอิงจากญัตติต่าง ๆ เลยนะคะที่มีเพื่อนสมาชิกได้นำเสนอเข้าสู่สภา เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าครองชีพสูง หนี้นอกระบบ สินค้าการเกษตรตกต่ำ ปัญหาค่าไฟแพง ปัญหาความยากจน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เราเห็นว่า ประชาชนยังคงจะต้องพยายามเอาตัวรอดจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และบ้านเมืองใน ปัจจุบัน ปัญหาคุณภาพชีวิตเหล่านี้ยังคงต่อแถวจ่อรอให้ทางภาครัฐร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อยู่ ดิฉันขอยกตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมแบ่งเป็นเชิงปัจเจก ครอบครัว และสังคม ในเชิง ปัจเจกลองดูตามช่วงวัยนะคะ เด็กที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ เพราะว่าพ่อแม่ต้องไป ทำงานในที่ที่ห่างไกลเพื่อหารายได้ที่ได้มากขึ้น ทำให้เด็กถูกเลี้ยงดูมาจากปู่ย่าตายาย เกิดช่องว่างระหว่างวัยหรือว่าวิธีการเลี้ยงเด็กในวิถีเก่า ๆ การตี การลงโทษด้วยการดุด่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กไม่ได้ถูกเลี้ยงดูเติบโตขึ้นมาเชิงจิตวิทยา ไม่สามารถสร้างความฉลาด ทางอารมณ์ให้กับพวกเขาได้ ในวัยเรียนหรือวัยรุ่นปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เมื่อวานนี้ก็เพิ่งพูดเอง เรื่องของญัตติความรุนแรง เรื่องของการถูก Bully อำนาจนิยม ในโรงเรียน ความเครียดและความกดดันในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของเขา หรือวัยทำงาน ที่เป็นภาวะ Sandwich ที่ต้องดูแลพ่อแม่ที่อยู่ข้างบน หรือถ้าเกิดมีครอบครัวก็ต้องดูแล ครอบครัวของตัวเองด้วย ต้องทำงานหารายได้เพื่อมาเลี้ยงทั้ง ๒ ขานี้ให้เท่ากัน เขาไม่มีเวลา เป็นของตัวเองเลย ทำงานวนไปเป็นซอมบี้ในโลกของทุนนิยมไป หรือวัยสูงอายุ ประเทศเรามีสวัสดิการผู้สูงอายุที่เพียงพอแล้วหรือยังที่จะทำให้ผู้สูงอายุที่มีอยู่ ในปัจจุบันนี้ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นภาระของลูกหลาน สามารถดูแลตัวเองได้ ในเชิงครอบครัว เรื่องของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวเราได้เห็นข่าวกันมามากมายที่ผู้ก่อเหตุเติบโต มาจากความรุนแรงในครอบครัว อย่างเช่นเคสเด็กที่ก่อความวุ่นวาย เคสป้าบัวผัน ในข่าว ก็ให้ข้อมูลมาว่าเด็กส่วนหนึ่งเติบโตมาจากการถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัว คนเหล่านี้ล้วน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในสังคม หรือไปดูในเชิงสังคมที่ยังมีความเหลื่อมล้ำ การใช้ช่องว่างทางกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำให้กฎหมายไม่มีความ ศักดิ์สิทธิ์แล้วค่ะ ประชาชนไม่เชื่อถือในระบบกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป นอกจากนี้ เรื่องของการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนได้มีสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ทางด้านการเมือง สามารถพูดได้ แสดงความเห็นได้ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออาชีพหน้าที่การงาน ทำอย่างไร ให้คนที่จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้ไม่ต้องมีราคาที่เขาต้องจ่าย ให้การเมืองเป็น เรื่องที่พูดได้ของทุกคน สร้างบรรยากาศที่ดีในสังคม รัฐสร้างพื้นที่ปลอดภัยเหล่านี้ให้กับ ประชาชนให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมได้แล้วหรือยัง ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลในการมี ส่วนร่วมทางการเมืองที่จะทำให้คำว่า พลเมือง แตกต่างจากคำว่า ประชาชน อ้างอิงจาก งานวิจัยนะคะ ปัจจัยที่ส่งผลการมีส่วนร่วมทางการเมืองพบว่ามีหลายปัจจัยเลย ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการศึกษา รัฐต้องสร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ยิ่งประชาชนมีการ เข้าถึงการศึกษาที่ดีขึ้นก็จะช่วยเพิ่มทักษะการคิด วิเคราะห์ และเพิ่มความเข้าใจใน กระบวนการทางการเมืองของเขาได้ เรื่องเศรษฐกิจ หากปากท้องดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง ประชาชนก็มีเวลา มีเงินมากขึ้น มีรายได้มากขึ้น เมื่อมีเวลามากขึ้นเขาก็จะอยากเข้ามามี ส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น แต่ในสังคมในปัจจุบันก็ยังมีความเหลื่อมล้ำก็จะส่งผลกระทบ เช่นเดียวกัน ทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองน้อยลง หรือในสังคมที่จะลดความ หวาดกลัว ยอมรับความแตกต่างในทุกสถานะได้ เป็นสังคมที่รับฟังและเปิดโอกาสให้ ทุกความเห็นต่าง ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองมากยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้ ยังมีปัญหาสังคมที่ซับซ้อน เกิดความขัดแย้ง เกิดความไม่เท่าเทียม ทำให้ประชาชนบางส่วน รู้สึกว่าถูกผลักออกไป ไม่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เพราะฉะนั้นดิฉันย้อนมาที่คำถามอีกครั้งว่า รัฐสร้างปัจจัยเหล่านี้ได้แล้วหรือยัง ให้กับประชาชนที่จะให้เขากลายไปเป็นพลเมือง เพราะ ดิฉันเชื่อเลยว่าถ้าเกิดว่าเขามีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่มีความเหลื่อมล้ำ มีโอกาสทางการศึกษา ที่เท่ากันหรือว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ณ วันหนึ่งถ้ามันมีปัจจัยเหล่านี้ที่เอื้อให้กับเขา เขาจะมีเวลาที่จะเงยหน้าขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นว่าประเทศเรา เมืองเรา มันมีปัญหา อย่างไร แล้วเขาก็จะอยากเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น นั่นทำให้คำว่า ประชาชน กลายเป็นคำว่า พลเมือง ก่อนพลเมืองคุณภาพ เอาคำว่า พลเมืองให้ดีก่อนค่ะ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ครับ

นางสาวพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน รัฐสภา เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดที่กำลังรับชม การทำงานของพวกเราอยู่ในขณะนี้ ดิฉัน พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ สังคมโลกที่เราใช้ชีวิตกัน อยู่ในปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ และปัญหาที่ซับซ้อนมากมายค่ะ เราเห็นภาพข่าว ผู้ลี้ภัยต้องหนีตายจากสงคราม เราเห็นการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยรัฐต่อผู้เห็นต่าง เราเห็นการใช้นิติสงครามที่เป็นการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในการกดปราบผู้ที่ เห็นต่าง ในเวลาแบบนี้ประชาชนกำลังสิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำ การกดขี่ และความไม่เป็นธรรม เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเราต้องการสังคมที่ยุติธรรมมากกว่านี้ เท่าเทียม มากกว่านี้ และเป็นธรรมมากกว่านี้ การศึกษาที่เราควรจะดำเนินไปควรมีเป้าหมายเพื่อจะ ส่งเสริมให้คน ให้สมาชิกในสังคมของพวกเราสามารถมองไปได้ไกลกว่าแค่พรมแดนรัฐชาติ นั่นก็คือการมุ่งสร้างพลเมืองโลกที่ให้คุณค่ากับมนุษยธรรม มีความเห็นอกเห็นใจ เคารพ ความแตกต่างหลากหลาย และมีความตระหนัก มีความศรัทธาในตัวเองว่าพวกเขาสามารถ ที่จะช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ได้ แล้ววันหนึ่งเมื่อเขามีศรัทธาแบบนี้ในตัวเอง เขาจะออกไปแล้วสามารถสร้างสังคมที่ดีขึ้น กว่าสังคมที่วันนี้เราได้มอบให้พวกเขาได้ แต่แนวคิดในการสร้างพลเมืองโลกแบบนั้นไม่ได้มี อยู่ในหลักการและเหตุผลของญัตติ เรื่อง การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพเลยค่ะ หากเปิดมาหน้าแรกที่เป็นบทสรุปของญัตติ ท่านก็จั่วมาเลยว่าสังคมยุคใหม่มีแนวคิดไปกับ สังคมตะวันตกมากเกินไป

นางสาวพิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ไม่สอดคล้องกับ ความเป็นคนไทย ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ท่านอยากจะสร้างคนไทยที่พึง ประสงค์ แต่ดิฉันไม่มั่นใจว่าคนไทยที่ท่านพึงประสงค์นี้จะเป็นคนไทยในแบบที่โลกต้องการ หรือไม่ หรือเป็นคนไทยที่ท่านถูกใจเท่านั้น ประโยคลักษณะแบบนี้มีเกลื่อนไปหมดในญัตติ พวกนี้ หน้าเมื่อสักครู่ถ้าอ่านดี ๆ ตั้งท่ามาน่าจะดีอยู่ คือเน้นอยากพัฒนาคน อยากที่จะปรับ กระบวนการศึกษาให้มันมีคุณภาพ ไม่เน้นการศึกษาเชิงปริมาณหรือเน้นคุณวุฒิมากเกินไป แต่ก็มาตกม้าตายค่ะ เพราะว่ามาติดกรอบเรื่องของแนวทางใหม่ที่พวกท่านจะทำก็ยังติดอยู่ใน บริบทของความเป็นไทย ต้องสอดคล้องกับรากอารยะและวัฒนธรรมไทย การศึกษาแบบนี้ คือการศึกษาที่เราศึกษากันมาตลอด มาตั้งแต่สมัยที่เรายังมีกระทรวงธรรมการที่ตั้งขึ้น เมื่อวันที่ ๑ เมษายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๑ ปีมะโรง พุทธศักราช ๒๔๓๕ หรือเมื่อ ๑๓๒ ปี ที่แล้วนั่นเอง ท่านประธานคะ สส. หมิว สิริลภัสได้อธิบายประเด็นนี้ ความหมายของพลเมือง ความหมายของราษฎร และความหมายของประชาชน ตามราชบัณฑิตยสถานกำหนดไว้แล้ว ส่วนในนี้ดิฉันขอให้พ่อแม่พี่น้อง ประชาชน ที่รับชมอยู่ กด QR Code ด้านหน้าแล้วอ่านไป ด้วยกัน ประเด็นนิยามความหมายที่มีในญัตตินี้ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า พลเมือง คือบุคคล ที่สามารถเป็นพละกำลังให้กับบ้านเมือง ไม่เป็นภาระให้คนอื่น ราษฎร หมายถึง ผู้ที่เป็นภาระ ให้กับสังคม ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ รอการช่วยเหลือจากคนอื่นอย่างเดียว และประชาชน หมายถึง คนที่อยู่ใต้อำนาจ เป็นผู้รับคำสั่งและทำตามคำสั่ง เป็นผู้ดูและจะมองที่ผลประโยชน์ ของตนอย่างเดียว และถ้าต้องเสียผลประโยชน์ก็จะไม่ยอมเสียสละ หรือไม่มีส่วนร่วมในการ แก้ปัญหา ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในสังคม ท่านประธานคะ มาถึงตรงนี้ดิฉันไม่แน่ใจเลยว่าท่าน ผู้เสนอญัตติและผู้ที่เซ็นญัตตินี้ได้อ่านรายละเอียดในญัตตินี้ รวมถึงเอกสารที่ประกอบ การพิจารณาญัตตินี้บ้างหรือไม่ แต่ดิฉันอ่านมาทุกหน้า และในฐานะผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขตคลองสามวา จำนวน ๔๐,๑๒๖ เสียง ไม่สบายใจเลย ที่เห็นข้อความลักษณะนี้ต่อประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ ในขณะที่ท่านร่างญัตตินี้ ท่านกำลังมองประชาชนด้วยสายตาแบบไหน ด้วยฐานความคิดแบบไหน ท่านกำลังจะบอก ว่าประชาชนผู้ทรงอำนาจเหล่านี้ คนที่จ่ายเงินภาษีเพื่อหล่อเลี้ยงประเทศนี้ ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม คนที่พยายามต่อสู้อยู่ทุกวันให้เขามีชีวิต ให้ลูกของเขาสามารถลืมตาอ้าปากและ มีอนาคต แม้ว่าสภาพสังคม สภาพการเมือง สภาพเศรษฐกิจ ไม่ได้เอื้อให้เขาจะสู้ได้อย่าง เท่าเทียมอย่างคนอื่น และด้วยทุกความพยายามทั้งหมดที่เขามีแล้ว เขาก็อาจจะมาไม่ถึง คุณสมบัติ เป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นคนที่พึงประสงค์ในระบอบประชาธิปไตยแบบที่ท่าน กำหนดด้วยซ้ำไป ดิฉันยินดีนะคะที่ได้ทราบว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางท่านในที่นี้ เคยไปเที่ยวมาแล้ว ๔๐ ประเทศทั่วโลก แต่ในประเทศไทยมีคนจำนวนมากที่ไม่เคยออกไป ไหนเลยค่ะ แม้กระทั่งเที่ยวต่างจังหวัดกับคนในครอบครัว แล้วคนเหล่านี้นับเป็นภาระของ ประเทศอย่างนั้นหรือคะ เราจะสร้างประเทศที่มีความหวัง ลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างไร ในเมื่อตรรกะความคิดของคนที่อยากพัฒนาประเทศ อยากพัฒนาบุคลากรในประเทศ ผิดตั้งแต่ต้น ส่วนนี้ดิฉันจะพูดถึงส่วนของบทวิเคราะห์ ในเอกสารระบุไว้ชัดเจนว่าประชาธิปไตย ในประเทศไทยที่ถูกต้องมันยังไม่ได้ฝังรากลึกในประเทศไทย และยังระบุอีกว่าปัญหาของ การเมืองการปกครองไทยมันเกิดจากการที่ประชาชนขาดสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ท่านประธานคะ เราจะไม่มาถกเถียงกันในที่นี้ว่าปัญหาของการเมืองไทย เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ แต่ดิฉันอยากให้ท่านย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ที่มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้ง ประชาชนไม่ได้ติดตามข่าวอย่างเดียวนะคะ พวกเขามาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก เขาเดินทางกลับภูมิลำเนา ไปต่อรอแถวตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะใช้สิทธิของเขา ปิดหีบแล้วบางท่าน ยัง Live สด นับคะแนน มีหลายท่านที่เข้าร่วมกับอาสาโหวต ๖๒ เพื่อรายงานผลคะแนน รายหน่วย เพราะเขาไม่ไว้ใจ กกต. ค่ะท่านประธาน หลายท่านถ่ายคลิปร้องเรียนส่งสื่อเพื่อจับการเลือกตั้งที่ทุจริต ทั้งหมดนี้หรือคะที่พวกท่าน มองว่าประชาชนในประเทศไทยยังไม่ตื่นรู้ ทั้งหมดนี้หรือคะที่พวกท่านบอกว่าพวกเขาคือ ปัญหาของประเทศ พวกเขานี้หรือคะคือประชาชนที่ขาดสำนึกความเป็นพลเมืองในระบอบ ประชาธิปไตย ดิฉันขอกล่าวตรงนี้เลยนะคะว่าประชาชนคนไทยไม่ได้ขาดจิตสำนึกในเรื่อง ของการเป็นพลเมืองประชาธิปไตย พวกเขาตื่นรู้นานแล้วและจะยิ่งมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ สิ่งนี้ ไม่มีใครหยุดยั้งได้ อาชีพผู้แทนราษฎรเป็นอาชีพเดียวที่ประชาชนเป็นผู้แต่งตั้งพวกเราขึ้นมา เกียรติทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนมอบให้ และในฐานะที่ดิฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดิฉันไม่สามารถจะเห็นชอบต่อญัตตินี้ได้ และดิฉันขอยืนยันว่าประชาธิปไตยที่ถูกต้องไม่ควร จะกำหนดด้วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะต้องถูกนิยามโดยประชาชนผู้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวของผู้แทนราษฎร ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณนพพล เหลืองทองนารา ครับ

นายนพพล เหลืองทองนารา พิษณุโลก ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม นพพล เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย คนไทย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ครับ แล้วผมเองก็รักและหวงแหนแผ่นดินนี้ ผมเองไม่เคยคิดที่จะด้อยค่าประเทศที่เป็นแผ่นดินแม่ ในอดีตที่ผ่านมาในสิ่งที่ผมระลึกมาตลอดนั่นก็คือว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีวันเวลาของมัน กรุงโรมไม่ได้สร้างได้ในวันเดียว แล้วในอดีตที่ผ่านมาเท่าที่ผมจำความได้ ตั้งแต่สมัยผมเรียน หนังสือแล้ว โรงเรียนก็เปิดโอกาสในเรื่องของการมีส่วนร่วม ผมเองเป็นประธานนักเรียนมา ทุก ๆ โรงเรียนที่ผมได้เคยไปเรียน แล้วคุณครูก็ไม่เคยที่จะมาเหมือนมีพิมพ์เขียวให้พวกเรา ให้อิสระทุกอย่าง ผมเองต้องขอขอบคุณท่านผู้ที่ได้ยื่นญัตติเรื่องนี้ที่เกี่ยวกับการส่งเสริม เยาวชนให้เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย สิทธิทั้งหลาย อะไรทั้งหลาย ที่ได้มีหลาย ๆ ท่านพูดมา ผมเองเป็นคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในนี้แล้วก็ได้รับผลกระทบด้วยก็คือว่า มีการบอกกันในลักษณะที่พวกผมเหมือนกักขัง กักขังเยาวชน กักขังความคิดของเขา มันใช่หรือ อันนั้นเป็นการคิดเองเออเองหรือเปล่า ผมเองแม้ว่าจะไม่มีลูกแต่ผมก็มีหลาน ผมก็มีคนที่ ผมรักที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา และการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายพวกเรายอมรับมันอยู่แล้วว่า วันหนึ่งนั่นคือวัฏจักรของโลกนี้ อย่างไรเสียมันก็จะต้องเกิดขึ้น แต่เราจะทำอย่างไรล่ะ ทำอย่างไรให้การเปลี่ยนแปลงนั้นมันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไปในแนวทางที่ดี ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง โดยที่ทำให้เด็ก เยาวชนก้าวร้าว ที่ผ่าน ๆ มาคนไหนอาวุโสกว่าเป็นน้องแม่เราก็เรียกว่าน้า เป็นน้องพ่อก็เรียกว่าอา วันดีคืนดีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงคือไม่ต้อง ไม่ต้องเรียก เรียกชื่อกัน ธรรมดาเลย ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร เป็นน้องพ่อ เป็นน้องแม่ มันถูกหรือครับ ตรงนี้มันก็ ไม่ได้มีขีดเส้นว่าใครคิดแบบไหนถูกหรือผิด แต่ว่าสำหรับตัวผมสิ่งที่โบราณสอนมาในบางเรื่อง มันเป็นสิ่งที่เราก็ควรจะรักษาไว้ เอาเก็บไว้ มันก็ไม่ได้เสียหายตรงไหนไม่ใช่หรือครับ แล้วถามว่า ถ้าวันนี้คนในอดีตที่ผ่านมาในเมืองไทยเขาจำกัดจำเขี่ย เขาจำกัดสิทธิเสรีภาพ แล้วก็มีกรอบ ให้วางทุกอย่าง ถามว่าวันนี้เมืองไทยจะเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้หรือ ถามใจตัวเองกันให้ดี อย่าใส่ร้าย ขอโทษครับ ผมไม่ใช้คำว่าใส่ร้ายก็ได้ อย่าด้อยค่าให้คนในอดีตที่เขาตั้งใจเขาได้ เสียกำลังใจ จริงอาจจะมีบางคนเท่านั้นล่ะครับในการดุด่าว่ากล่าวเด็ก ๆ โดยไม่มีเหตุผล แต่ส่วนใหญ่แล้วกว่าพ่อแม่จะดุด่าหรือจะตีลูกแต่ละที ผมเชื่อได้ว่าน้ำตาแทบจะหลั่งริน ออกมา ไม่อยากจะทำร้ายลูกหรอก เพราะฉะนั้นแล้วผมเองยังเชื่อมั่นว่าการที่จะทำให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในแนวทางที่โบราณ ได้เคยว่ามาไว้ อดีตที่ว่ามาไว้เป็นสิ่งที่ดีแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะต้องมาปรับเปลี่ยนในบางสิ่ง บางอย่างที่มันไม่เข้ายุคเข้าสมัย การให้สิทธิเสรีภาพแน่นอนเราต้องมี เราไปจำกัดใครไม่ได้ หรอกครับ แต่ว่ามันก็ควรจะต้องมีขอบเขต ถามว่าในชาติตะวันตกที่หลาย ๆ ท่านอาจจะ ชื่นชม ในสมัยก่อนที่เขามีสภาวะประเทศเหมือนอย่างประเทศไทย ไม่ได้มีทุนมีรอนที่จะ ทำสวัสดิการอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ได้มีถนนหนทางที่ดีเลิศเลอ เมื่อก่อนเขาก็เหมือนอย่างเรา เขาก็ค่อยเป็นค่อยไป ของเรานี่ดีกว่าเขาด้วยซ้ำถ้าพูดถึง นั่นก็คือว่าการเปลี่ยนแปลงอะไร หลาย ๆ อย่างของเขานองเลือดกันทั้งนั้น มีของเราใช่บางอย่างอาจจะมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ แล้วเราก็คุยกันได้ เราก็อะลุ่มอล่วยกัน บางสิ่งมันต้องใช้เวลา ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าเราเอาตามแบบตะวันตกแล้วแน่ใจได้อย่างไรว่าทุกอย่างมันจะดี ผมอยากจะรู้เหมือนกัน แล้วคนแบบไหนที่เป็นมนุษย์ที่โลกต้องการ ผมอยากเห็นหนังสือเล่มนั้น ที่เขาเขียนคำนิยาม ว่าบุคคลที่โลกต้องการหรือแบบอย่างของคนที่โลกต้องการ ผมเองก็อยากจะนำเรียน ท่านประธานครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งในการเสนอญัตติในเรื่องนี้ ส่วนที่ว่าจะตั้งเป็น คณะกรรมาธิการวิสามัญหรือว่าจะส่งไปคณะในคณะกรรมาธิการสามัญก็สุดแล้วแต่ที่ประชุม จะเห็นชอบ เพราะผมเองถือว่าไม่ว่าจะวิสามัญหรือสามัญ ผมคิดว่าบุคลากรที่อยู่ใน คณะกรรมาธิการต่าง ๆ มีความรู้ ความสามารถ ที่จะนำพาเยาวชนทั้งหลายไปในแนวทางที่ดี ที่ถูกต้องนะครับ กราบขอบพระคุณท่านประธานอย่างสูงครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญ คุณศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ครับ

นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ท่านประธานคะ ทนายแจม ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต ๑๑ พรรคก้าวไกล อาจจะเห็นหน้ากันบ่อยหน่อย เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็ก ไม่พูดไม่ได้นะคะ สมัยเด็กก็เป็นหัวหน้าห้องเหมือนกันค่ะ อาจจะไม่ได้ใหญ่เท่าประธานนักเรียน แต่ก็เคยเป็น หัวหน้าห้องมาก่อน แต่อาจจะแตกต่างกันที่ว่าดิฉันมีลูก ๒ คน แล้วก็เลี้ยงลูกเอง ทุกครั้งที่ เวลาดิฉันเห็นญัตติฉบับนี้ที่คุณพิมพ์กาญจน์เขียนเมื่อสักครู่นี้ เรื่องราษฎรเอย การโทษ ประชาชน โทษนั่นโทษนี่ ตั้งแต่มีลูกเอาจริง ๆ นะคะ ตั้งแต่มีลูกดิฉันมองคนเปลี่ยนไปเลยค่ะ ดิฉันใจเย็นกับคนมากขึ้น เข้าใจมนุษย์มากขึ้น เพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าการสอนลูก การจะทำให้ลูกเป็นแบบไหนเราทำเป็นแบบอย่างให้เห็นได้ง่ายมาก ในนี้มีลูกเล็กวัยเดียวกัน หลายคนอยู่นะคะ เวลาเจอคนที่เอะอะก็เอาแต่โทษคนอื่น โทษนั่นโทษนี่ หรือว่าสังคมไม่ดี ก็โทษเด็ก โทษว่าพ่อแม่สอนไม่ดีบ้าง เขาอาจจะเติบโตมาแบบสมัยเด็กพ่อแม่สอนอย่างไร รู้ไหมคะ เดินเตะโต๊ะทำอย่างไรคะ โต๊ะนี่มันไม่ดีจริง ๆ มาทำลูกฉันทำไม เดินเตะเก้าอี้ ทำอย่างไรคะ เก้าอี้นี่มันมาทำลูกฉันทำไม การสอนแบบนี้มันทำให้เด็กคนนั้นเติบโตมาเป็น คนที่ไม่โทษอะไร นอกจากโทษคนอื่น แล้วดิฉันสอนลูกอย่างไรหรือคะ เวลาลูกดิฉันเดิน เตะโต๊ะดิฉันจะบอกเขาว่าเจ็บไหมลูก เจ็บเพราะอะไร เจ็บเพราะว่าหนูไม่ระวังใช่ไหม เพราะหนูไม่ระวังหนูก็เลยเดินเตะโต๊ะ เพราะฉะนั้นครั้งหน้าหนูระวังมากกว่านี้นะลูก การสอนลูก การเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชนมันไม่ยากเลยค่ะ เวลาที่เราเห็น ปัญหาในสังคมทุกวันนี้ดิฉันไม่ได้โทษพ่อแม่หรอกค่ะ แค่ทุกวันนี้พ่อแม่ทำมาหากินก็ลำบาก มากเกินพออยู่แล้ว แต่การที่เด็ก เยาวชน คนจำนวนมากมีปัญหาในทิศทางเดียวกันแสดงว่า ผู้มีอำนาจในสังคม ผู้นำในสังคมมีปัญหา ทำอย่างไรให้เด็กรู้สึกไม่เกรงกลัว ทำอย่างไรให้เด็กถึงไม่ได้มีจิตสำนึก เพราะว่าเขาเห็น ผู้มีอำนาจในสังคม เห็นนักการเมืองไม่มีจิตสำนึกหรือเปล่า ดิฉันเห็นด้วยกับท่านสมาชิก เมื่อสักครู่ที่บอกว่าเมืองไทยน่าอยู่ที่สุดในโลก จริงค่ะ เมืองไทยจะน่าอยู่ที่สุดในโลกถ้ามีเงิน ทุกคนอยากมาตายที่เมืองไทย ไม่ต้องอยากมาตายหรอก ประเทศไทยปัจจุบันตายอันดับหนึ่ง ของโลกอยู่แล้วค่ะ ขนาดนักปั่นจักรยานทั่วโลกยังมาตายที่ประเทศไทยเลยค่ะ เราควรภูมิใจ เรื่องนี้หรือคะ พูดถึงเรื่องการสอนลูกต่อดีกว่า ดิฉันเองก็ช่วงนี้สนุกกับการสอนลูกเพราะรู้สึก ว่าการมีลูก การบ่มเพาะเด็กมันง่ายมากแค่ว่าเราอยากจะให้ลูกเป็นอย่างไรเราทำแบบนั้น เช่น เวลาน้ำหกทำอย่างไรคะ แต่ก่อนเวลาน้ำหกเราก็จะตีเขาก่อน แล้วบอกว่าเดินอย่างไร ให้น้ำหก ถืออย่างไรให้น้ำหก ทุกวันนี้ดิฉันสอนลูกอย่างไรคะ น้ำหกปุ๊บดิฉันก็บอกว่าน้ำหก แล้วเราทำอย่างไรกันดีครับลูก ลูกดิฉันก็บอกว่าน้ำหกก็เช็ดครับมามี๊ เรา ๒ คนก็ไปหยิบผ้า มาช่วยกันเช็ด เราใช้สถานการณ์ที่มันเป็นสถานการณ์วิกฤติในการสอนเขาได้ ในสังคม ก็เช่นเดียวกันค่ะ ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ ทุกครั้งที่เกิดปัญหา เราต้องใช้สถานการณ์นั้นในการ สอนหรือว่าให้ความรู้คนในสังคมไปพร้อม ๆ กัน มีเยาวชนทำความผิด แทนที่เราจะมานั่ง จับผิดกันว่าพ่อแม่สอนมาอย่างไร ตำรวจทำอย่างไรถึงจับคนนั้นผิด อย่างนั้นอย่างไร ทำไม เราไม่มาหาเหตุผลว่าอะไรกันที่ทำให้เด็กกลายเป็นฆาตกร สังคมแบบไหนกันที่หล่อหลอม เยาวชนแบบนั้นมา ไม่ใช่พวกเราที่นั่งอยู่ในนี้กันทุกคนหรือคะ เราทุกคนในนี้ต่างมีส่วนร่วม ในการสร้างมนุษย์ขึ้นมาทั้งนั้น การสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศไทย พลเมืองที่มี คุณภาพของประเทศ ดิฉันอ่านญัตติแล้วก็แอบเปิดดูในโทรศัพท์มือถือว่าตอนนี้เราอยู่ยุคไหน กันแล้ว ยุคนี้เขาพูดถึงพลเมืองโลกแล้ว เราจะทำอย่างไรให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นพลเมืองโลก ที่ดี ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยพยายามจะให้ลูกเรียนในหลักสูตรธรรมดาของประเทศไทยเพื่อคิดว่า จะได้รู้กันไปว่าหลักสูตรไทยมันเป็นอย่างไร เชื่อไหมคะ เอาเข้าไป ๒ อาทิตย์เอาลูกออกเลย แล้วกลับเข้าสู่โรงเรียนเอกชนเหมือนเดิม เพราะอะไร เพราะเห็นหลักสูตรที่ลูกเรียนแล้ว เห็นหนังสือที่ลูกเรียนแล้วท้อใจ แล้วก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาจะเรียนรู้อะไรจากหนังสือ เหล่านี้ แล้วสิ่งเหล่านี้มันเกิดมาได้อย่างไร ก็ไม่ได้เกิดจากนักการเมืองหรือคะที่เราผัน งบประมาณกัน ผ่านงบประมาณกัน หรือเข้าไปนั่งในกระทรวงศึกษาธิการแก้ไขหลักสูตร การศึกษา สุดท้ายสังคมที่มันเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะพวกเราที่นั่งในนี้ด้วยกันทั้งหมดหรือคะ ดิฉันคงเข้ามาช้าไปหน่อยเป็น สส. สมัยแรก แต่อ่านงบประมาณทีไรก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจทุกที อยู่มา ๓๕ ปีไม่เคยคิดเลยว่าประเทศเราเอาเงินไปใช้กับอะไรขนาดนี้ เราอยากให้มีพลเมือง ที่มีคุณภาพ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยค่ะ เหตุการณ์เมื่อวานมันมี Hashtag หนึ่งขึ้นมาว่า ไม่อยากท้องในประเทศนี้ อย่าว่าแต่คุณภาพเลยค่ะ ทุกครั้งที่เหตุการณ์ทางการเมืองมัน อย่างนั้นล่ะค่ะ คนก็จะพูดตลอดว่าไม่อยากจะมีลูก ไม่มีลูกดีกว่า กลายเป็นว่าเหตุการณ์ ทางการเมืองแต่ละครั้งเหมือนยาคุมกำเนิดประชาชนโดยอัตโนมัติเลยค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้สังคมไทยสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพอย่างไร เรานี่ล่ะค่ะ นักการเมืองอย่างเรา ๆ นี่ล่ะค่ะที่จะต้องเป็นตัวอย่างให้กับทุกคน ดิฉันไปงานวันเด็กในชุมชน แต่ก่อนเวลาคนถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เราจะได้ยินแต่ว่าอยากเป็นตำรวจ ทหาร คุณครู นั่นนี่ เชื่อไหมคะว่า ล่าสุดมีคนบอกว่าอยากเป็นนักการเมือง อยากเป็น สส. เรากำลังทำให้ภาพของนักการเมือง ภาพของ สส. ที่ในอดีตมันดูแบบไม่อยากเป็น ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นได้ ทุกคนเป็น สส. ได้ ทุกคนเป็นนักการเมืองได้ นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่เราจะสร้างพลเมืองได้ สุดท้ายเราอยากให้สังคม เป็นแบบไหนเราต้องเป็นผู้ใหญ่แบบนั้น ผู้ใหญ่แบบหนึ่งที่น่านับถือมากค่ะ คือผู้ใหญ่ที่ เอาชนะอัตตา เอาชนะ Ego ของตัวเองสามารถฟังความคิดเห็นต่างของผู้ที่มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ น้อยกว่าตัวเองได้อย่างสงบ ใจกว้างและสง่างาม น่าเสียดายที่ผู้ใหญ่บางคนไม่ได้เติบโต มาเป็นบุคคลเช่นนั้น แต่ดิฉันหวังว่าจะไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ในสภาแห่งนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

เราขอปิดเสนอ รายชื่อแล้วนะครับ ตอนนี้ฝ่ายค้านเหลืออีก ๖ ท่าน ฝ่ายรัฐบาลเหลืออีก ๑ ท่าน ผมจะเรียก ฝ่ายค้านอีกสัก ๒ คน แล้วก็ไปที่ฝ่ายรัฐบาลคนสุดท้ายครับ ขอเชิญคุณณกร ชารีพันธ์ ครับ

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ณกร ชารีพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนพี่น้องชาวนิคมคำสร้อย หนองสูง คำชะอี ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เขต ๒ พรรคก้าวไกล ผมขออภิปรายญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเรื่องการสร้างคนให้เป็นพลเมืองคุณภาพของประเทศ ครับท่านประธาน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

พลเมืองคุณภาพคืออะไร ในมุมมองของ ผู้มีอำนาจอาจจะเป็นเยาวชนที่เชื่อง ทำตามคำสั่ง รับใช้ระบบ ก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก เพื่อเป็นผู้เสียภาษีที่ดีให้กับรัฐ ไม่มีสิทธิในการเรียกร้องใช้ชีวิตที่มีคุณภาพใช่ไหมครับ ท่านประธาน ในมุมมองของพรรคก้าวไกล พลเมืองคุณภาพ ในมุมมองของเราเยาวชนต้องมี ความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยความฝันที่หลากหลาย ร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ นำประเทศให้หลุดพ้นจากประเทศที่กำลังพัฒนาเสียที คำถามคือพลเมืองคุณภาพของเรา เราต้องการให้เป็นแบบไหน ผมขอพูดถึงพลเมืองคุณภาพโดยผ่าน ๕ ด้าน ดังนี้

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

๑. เราจะมีพลเมืองคุณภาพได้อย่างไร หากเรายังไม่มีการจะกระจายความเจริญ ไปในทุกพื้นที่ พี่น้องบ้านผมนะครับ พ่อแม่ต้องเข้ามาทำงานในเมืองหลวง ลูกอยู่กับตา กับยาย ไม่สามารถอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันได้ เด็กขาดความอบอุ่นในครอบครัว ช่องว่าง ระหว่างช่วงวัย คุณตา คุณยาย ไม่เข้าใจเด็ก ๆ เกิดปัญหาสังคมตามมา เราอยากสร้างพลเมือง คุณภาพจริง ๆ เราต้องเอาลูกกลับบ้าน เอาหลานอยู่เฮือน พ่อแม่เขาต้องกลับมาอยู่กับ ลูกหลานครับ โดยกระจายความเจริญมาทุกพื้นที่ สร้างงานในทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียมครับ

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

๒. เราต้องมีการศึกษาที่มีคุณภาพและมีความเท่าเทียม เอาแค่เรื่องอาหาร กลางวันก็แสดงให้เห็นแล้วครับว่าเราจะสร้างพลเมืองคุณภาพได้อย่างไร ในเมื่ออาหาร กลางวันเด็กเรายังโกงกันอยู่เลยครับ ความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนในเมืองและต่างจังหวัด คุณภาพต่างกันอย่างกับฟ้ากับเหว เด็กจะต่อสู้แข่งขันได้อย่างไรหากเขาเหล่านั้นยังรับอาหาร ที่มีคุณภาพไม่เท่ากัน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

๓. เราจะมีสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพได้อย่างไร เราจะสร้างพลเมืองคุณภาพ ได้อย่างไรในเมื่อกัญชา กระท่อม ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง สุญญากาศที่ไม่มีการควบคุม ทุนใหญ่ได้ประโยชน์ในการส่งออกร่ำรวย แต่ปล่อยสิ่งเหล่านี้ทำลายเยาวชนสังคมในทุก ๆ วัน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

๔. เราจะมีเสรีภาพที่แท้จริงในสังคมได้อย่างไร ถ้าเรายังใช้กฎหมายปิดปาก ประชาชน คนหนุ่มสาว อิสระในความคิด จินตนาการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ กดทับด้วย ระเบียบที่ไม่สร้างสรรค์ ปิดปากไม่ให้เขาพูด ไม่สามารถพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ อาชีพใหม่ ๆ ในประเทศนี้ครับ เอะอะไล่คนหนุ่มสาวออกนอกประเทศ ประเทศคือเยาวชน คือประชาชน เราจะเหลืออะไรหากเราให้เยาวชนเหล่านี้ออกไปนอกประเทศนี้

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

๕. เราจะมีพลเมืองคุณภาพได้อย่างไร หากรัฐธรรมนูญของประชาชน ไม่เกิดขึ้นจริงในประเทศนี้ ตลอด ๘๙ ปีที่เรายังวนอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง ฉีกรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนทุก ๔-๘ ปี เมื่อมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง บริหารดี ประชาชนลืมตาอ้าปาก ควบคุมยาก เรียกร้องมาก ผลประโยชน์ของตัวเองลดลง ก็ทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนกติกาที่เอื้อต่อพวกพ้องตัวเอง ดึงอำนาจกลับจาก ประชาชน เราจะสร้างพลเมืองคุณภาพได้อย่างไร หากผู้ใหญ่ยังส่งต่อกติกาบิดเบี้ยวให้กับ คนรุ่นหลังอยู่อย่างนี้ครับท่านประธาน คำถามคือเราจะสร้างพลเมืองคุณภาพได้อย่างไร ในเมื่อประเทศเรายังไม่มีการกระจาย ความเจริญไปในทุกพื้นที่ ไม่สามารถสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม ไม่สามารถ สร้างสิ่งแวดล้อมที่มีความปลอดภัย ไม่สามารถมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และไม่สามารถ มีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ท่านประธานครับ สุดท้ายนี้เราแทบไม่ต้องมี ญัตตินี้ด้วยซ้ำ หากผู้ใหญ่อย่างเราสร้างประเทศที่โอบรับเอื้อต่อการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ให้กับลูกหลานเรา ขอบคุณครับท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอฝ่ายค้านอีกคน นะครับ เชิญคุณเชตวัน เตือประโคน ครับ

นายเชตวัน เตือประโคน ปทุมธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ผม เชตวัน เตือประโคน สส. พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี พื้นที่เทศบาล เมืองคูคต เทศบาลเมืองลำสามแก้ว และเทศบาลเมืองลาดสวาย ผมขอร่วมอภิปรายในญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เรื่อง การสร้างคน ให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากญัตติดังกล่าวผมคิดว่าเราสามารถจำแนกประเด็น ในการพิจารณาออกเป็น ๒ ส่วน ตามชื่อญัตติเลยครับ ๑. คือเรื่องความเป็นพลเมืองที่มี คุณภาพ และ ๒. การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ผมขอเริ่มต้นในส่วนที่ ๒ ที่คำว่า การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข เพราะตรงนี้น่าจะเป็นส่วนขยายของคำว่า พลเมืองที่มีคุณภาพ ที่เราได้อภิปราย กันมาแล้วนะครับ ที่อยากจะเริ่มต้นอย่างนี้ก็เพียงที่อยากจะชี้ให้เห็นกับสถานการณ์ที่ควร จะเป็นว่า ตราบใดที่ยังเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตราบใดที่ประมุขของรัฐ คือพระมหากษัตริย์ การแก้ไขกฎหมายไม่ว่าจะเป็นระดับรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นระดับ พระราชบัญญัติ หรือไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญา ย่อมเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติตามหลักการแบ่งแยกอำนาจครับ ตรงกันข้ามการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ การปกครองของรัฐ พลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตยต้องเข้าใจเรื่องนี้ และต้อง ไม่นำเรื่องเหล่านี้ไปร้องเรียนพร่ำเพรื่อด้วยหวังผลสุดท้ายเรื่องการยุบพรรคการเมืองที่ตนเอง ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นชอบ พลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตยต้องเข้าใจด้วยครับว่า พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์แนวคิดทางการเมืองที่คล้ายกัน มีกิจกรรมทางการเมืองของพรรค พรรคส่งคนเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงในสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ควรมีใครหรือองค์กรใดมายุบพรรคการเมืองใด ๆ ได้อย่างง่าย ๆ ถ้าจะมีการยุบ พรรคการเมืองก็ควรเกิดมาจากการที่ไม่มีใครเลือกพรรคนั้น ไม่มีประชาชนให้การสนับสนุน พรรคการเมืองนั้นอีกต่อไป ท่านประธานครับ มาสู่คำว่า พลเมืองที่มีคุณภาพ พลเมืองที่มี คุณภาพเป็นแบบไหน ในที่นี้ย่อมไม่ใช่คุณภาพที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนา เรื่องความเชื่อ ศีลธรรมจรรยา มารยาทอันดีงาม ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่แน่ ๆ ครับ แต่เป็นเรื่องของการเป็น Active Citizen เดี๋ยวอาจารย์เอทจะไม่ให้ Model Citizen หรือพลเมืองที่มีความตื่นตัว ทางการเมือง เพราะการเมืองเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ตั้งแต่ตื่นนอนจนหัวถึงหมอนอีกครั้งมีอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง มีอะไรบ้างที่ไม่เป็น การเมือง ไม่มีครับ ดังนั้นพลเมืองที่มีคุณภาพจึงต้องไม่เป็นไทยเฉย แต่ต้องเป็นคนที่ติดตาม ตรวจสอบการเมือง ซึ่งหมายถึงการจัดสรรผลประโยชน์ว่าฝ่ายบริหารใช้เงินภาษีของ ประชาชนไปกับอะไร โปร่งใส คุ้มค่าหรือไม่ ว่าฝ่ายนิติบัญญัติหรือผู้แทนราษฎรที่เรา เลือกไปนั้นได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ได้ออกกฎหมายที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของ คนส่วนใหญ่มากกว่าคนไม่กี่คน ในความเห็นของผม พลเมืองที่มีคุณภาพอยู่ใน ๓ คำจำกัดความต่อไปนี้ เท่าทันตน เท่าทันโลก สันหลังตรง เท่าทันตนคือ รู้จักตนเอง รู้จักรากเหง้าความเป็นมา ซึ่งจะทำให้เรา ภาคภูมิใจในตัวเองและอยากที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ให้ดีขึ้น เท่าทันโลกคือ รู้จักความเป็นไปของสากลโลก อะไรคือสิ่งที่ประเทศอื่น ๆ กำลังมุ่งไป อะไรคือระเบียบโลกใหม่ คือคุณค่าที่สากลให้การยอมรับ ไม่ใช่เอะอะก็ไม่เหมือนใครในโลก เอะอะก็แบบไทย ๆ เช่น ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ เช่น สิทธิมนุษยชนแบบไทย ๆ กระบวนการ ยุติธรรมแบบไทย ๆ เป็นต้น แบบนี้ไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นนามธรรม เต็มไปด้วยคำถาม คือสิ่งที่สำนวนวัยรุ่นทุกวันนี้เขาใช้คำว่า อิหยังว่ะ สุดท้ายพลเมืองที่มีคุณภาพต้องสันหลังตรง คือต้องไม่สยบยอมต่อความอยุติธรรม ต่อการกดขี่เอารัดเอาเปรียบ โดยกล้าที่จะยืนหยัด อย่างมั่นคงในสิ่งที่ถูกต้อง อย่างที่ เช เกวารา (Che Guevara) ว่าไว้ หากท่านเห็นความอยุติธรรม อยู่ตรงหน้าแล้วโกรธจนตัวสั่น เราคือเพื่อนกัน พลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตย มีเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าสำคัญต่อความเป็นพลเมืองและต่อสุขภาพของประชาธิปไตยครับ นั่นก็คือเรื่องราวของการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย หลักสูตรการเรียน การสอนของไทยที่ผ่านมาแทบไม่มีเรื่องนี้เลย ซึ่งสำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ ของการสร้างประชาธิปไตยและประวัติศาสตร์ของการปกป้องประชาธิปไตย คณะปฏิวัติ รศ. ๑๓๐ เรื่องราวของบรรดานายทหารหนุ่ม ซึ่งนำโดย หมอเหล็ง ศรีจันทร์ ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง อยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้น มีรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด แต่สุดท้ายก็ถูกรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์จับได้ก่อน แทบไม่เคยมีใครรับรู้ เรื่องพวกเขาครับ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับคณะราษฎรตามมาในปี ๒๔๗๕ เรื่องราวของคณะราษฎรในปี ๒๔๗๕ ความเปลี่ยนแปลงเมื่อ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ทำให้ ประเทศไทยมีประชาธิปไตยทุกวันนี้ มีสภาผู้แทนราษฎรของทุกวันนี้ ก็แทบไม่มีใครพูดถึง เรื่องของพวกเขา ทหารที่เสียชีวิตจากการปกป้องประชาธิปไตยในเหตุการณ์ปราบกบฏ ปี ๒๔๗๖ กรณีกบฏบวรเดช วันนี้แค่อนุสาวรีย์เชิดชูพวกเขาตรงหลักสี่ก็ถูกรื้อ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ ว่าไปอยู่ที่ไหน ยังมีเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ พวกเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เหตุการณ์ พฤษภาคม ๒๕๓๕ หรือแม้แต่เหตุการณ์สลายการชุมนุมของพี่น้องเสื้อแดงที่เพียงออกมา เรียกร้องให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ เป็นต้น นิดเดียวครับท่านประธาน เหล่านี้คือสิ่งที่ ควรมีอยู่ในแบบเรียนครับ หน้าที่หลักสูตรแบบเรียนคือต้องเปิดโลก เปิดกว้างให้คนได้คิด ไม่ใช่จำกัดเพดานหรือเลือกสรรมาแต่ในสิ่งที่รัฐอยากให้ประชาชนรับรู้ อย่างนั้นไม่มีทาง สร้างพลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตยได้ ฝากด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปรัฐบาล เป็นท่านสุดท้ายแล้วครับ คุณจำลอง ภูนวนทา ครับ

นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ผม จำลอง ภูนวนทา สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เขตเลือกตั้งที่ ๓ จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านประธานครับ ผมขออภิปรายร่วม เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เรื่อง การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ของประเทศ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สังคมของประเทศจะเดินไปสู่พลวัตรที่มีคุณภาพได้ในทัศนคติของกระผมเองต้องสร้าง จิตสำนึกที่ดีให้กับมนุษย์ที่จะเป็นผลผลิตออกมาสู่สังคมไทยให้เป็นคนที่มีจิตสำนึกที่ดี จิตสำนึกที่ดีในทางที่จะเดินไปข้างหน้าได้ต้องมาจากกระบวนการกล่อมเกลาของสังคม นั่นก็คือเมื่อแรกเกิดเด็กอนุบาล สำหรับผมไม่มีบุตร แต่ว่าก็ได้เลี้ยงหลาน ผมก็คล้าย ๆ ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติที่อภิปรายไป เวลาเด็กมันจะจับไฟผมก็บอกจับดูสิ ลองดู อันนี้ก็เรียกว่าเป็นการเลี้ยงเด็กแบบมีส่วนร่วมให้เขาพิสูจน์เอง ใช่ครับ แต่พอโตขึ้นมา เข้าสู่โรงเรียนประถม มัธยม เมื่อก่อนนี้เห็นเพื่อนโดนครูลงโทษ เด็กก็จะนำมาปรับแล้วก็ แก้ไขตัวเองให้เข้าสู่ในบริบทของสังคมโรงเรียนได้โดยไม่ทะเลาะกับใคร แต่ปัจจุบันนี้ เพื่อนผมที่เป็นครูบอกว่าแม้แต่จะลงโทษเด็กก็ไม่กล้า เพราะฉะนั้นทัศนคติของผมก็คือว่า การสร้างพลเมืองให้เป็นคนดีของประเทศต้องเป็นพลเมืองที่มีจิตสำนึก การมีส่วนร่วมที่ดี ก็คือเคารพในความคิดเห็นต่าง แล้วก็เป็นพลเมืองที่เคารพต่อสถานที่ เคารพต่อบุคคลอื่น ให้เกียรติบุคคลอื่น ปัจจุบันนี้ผมเห็นต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่ต้องมากมายอะไรหรอกครับ แค่ขับรถถ้าสมมุติว่าอีกคนหนึ่งเคารพหรือว่าอีกคนหนึ่ง อยากจะไป ถ้าเขาคิดนะครับว่าเขาอาจจะรีบก็ปล่อยเขาไปแค่นี้เรื่องก็ไม่เกิด ในระบอบ ประชาธิปไตยเหมือนกันเราไม่ต้องไปโทษผู้ออกกฎหมายว่าไม่เคารพประชาชน ไม่เคารพ สิทธิของประชาชน ที่จริงถ้าเราทำตามหรือประพฤติตามกฎหมายมันก็จบครับ กระบวนการ กล่อมเกลาของสังคมก็คือสถาบันการศึกษา ผมอยากจะเห็นกระทรวงศึกษาธิการได้รับ งบประมาณเยอะ ๆ เพื่อไปอุดหนุนให้กับเด็กที่อยู่ในบริบทกำลังเจริญเติบโต ได้กินดีอยู่ดี พัฒนาระบบสมองให้ดี และครูบาอาจารย์ที่อยู่ในสังคม โรงเรียน ในมหาวิทยาลัย ที่จะอบรม บ่มนิสัยของเยาวชนของชาติ เพื่อเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพได้ กระบวนการคัดสรร กระบวนการ Recruit หรือว่าคัดเลือกผู้ที่เข้ามาสู่ระบบสถาบันการศึกษาต้องได้รับความเป็นธรรมและ เป็นการคัดเลือกที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนเรื่องระบอบประชาธิปไตย จิตสำนึกในระบอบ ประชาธิปไตย ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่ว่ามาจากการเลือกตั้งอย่างเดียว เพราะว่าประเทศ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ประเทศสังคมนิยมเขาก็มีการเลือกตั้ง แต่คำว่า ประชาธิปไตย ของสังคมในทัศนคติของผมคือว่า เป็นสังคมที่เคารพคนอื่น ไม่ว่าในทุกกรณี ไม่จำเป็นต้อง เป็นเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อยก็ได้ถ้าถูกต้อง เสียงข้างมากก็ต้องเคารพ ทีนี้การที่จะ ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพได้ต้องเป็นเยาวชนที่เคารพความเห็นต่าง เคารพสิทธิของคนอื่น เชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ ตามภาษิตที่ว่า เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ตามสังคมไทยที่ผ่านมา เมื่อก่อนนี้ผมก็เคยเป็นนักข่าวฝึกหัดอยู่รัฐสภา ปี ๒๕๒๓-๒๕๒๖ ท่านประธานครับขอพูดความหลังนิดหนึ่ง ผมก็ไม่ได้เห็นแบบทุกวันนี้ ในสภา คือไม่เห็นแบบนี้ อาจจะบอกว่าเป็นสังคมดึกดำบรรพ์หรือเป็นสังคมที่เต่าล้านปีก็ได้ แต่ว่าความเป็น Modern หรือว่าความเป็นทันสมัย สังคมที่เป็นศิวิไลซ์ได้ก็คือสังคมที่เคารพ สิทธิของคนอื่น เพราะฉะนั้นประชาชนหรือเยาวชนที่ผลิตออกมาจากสถาบันการศึกษาเข้าสู่ บริบทของสังคมไทยจะต้องเป็นเยาวชนหรือเป็นบุคลากร เป็นทรัพยากรมนุษย์ ที่คิดดี ทำดี สำนึกดี สำนึกดีก็คือมันไม่ได้เกี่ยวกับเงินนะครับ เพราะว่าบางทีคนที่มีเงินก็มีจิตสำนึกที่ไม่ดี ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นคนที่มีจิตสำนึกดีก็คือคนที่เคารพคนอื่น เคารพเพื่อนร่วมสังคม ในประเทศ เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรที่จะให้เยาวชนเหล่านี้มีคุณภาพ นั่นก็คือต้อง ปลูกจิตสำนึกตั้งแต่อนุบาล และมัธยม มหาวิทยาลัย ท่านประธานครับ ผมดีใจที่เห็นท่านผู้ทรงเกียรติเสนอญัตตินี้เข้ามาสู่สภา ส่วนจะตั้ง กรรมาธิการวิสามัญหรือไม่ผมรับได้ทั้งนั้น แต่ว่าผมอยากจะฝากและกราบเรียนท่านประธาน ว่าสังคมไทยทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราต้องปลูกจิตสำนึกของคนให้สำนึกดี สำนึกชอบ อยู่ร่วมกันแบบสันติครับท่านประธาน ขอกราบขอบคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอเชิญคุณเซีย จำปาทอง ครับ

นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ ผม เซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้ แรงงาน ผมขออภิปรายสนับสนุนญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา เรื่อง การสร้างคนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศภายใต้การปกครอง ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอสไลด์ด้วยครับ

นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมมีความ คิดเห็นต่อญัตตินี้ว่าการจะสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพได้ต้องมี ๒ อย่าง ดังนี้

นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

๑. สุขภาพกายดี นั่นคือต้องมีปัจจัยพื้นฐานที่ดำรงชีวิตที่เพียงพอต่อการ ดำรงชีพ อย่างน้อยต้องมีปัจจัย ๔ ปัจจัย ๔ มีอาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และปัจจัยอื่น ๆ อีกที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ยกตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายทางสังคม กฐิน ผ้าป่า งานบุญ งานบวช ค่าดูแลบุตร และครอบครัว ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต แฟ้บ สบู่ ยาสีฟัน นี่คือสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต

นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

๒. สุขภาพใจดี นั่นคือต้องมีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว กับเพื่อน ต้องมีเวลา สำหรับการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้

นายเซีย จำปาทอง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมจะขอพูดถึงปัญหาด้านแรงงาน ที่ผ่านมาแรงงาน มีปัญหาอะไรบ้าง แล้วค่อยพูดถึงแนวทางการแก้ปัญหา หรือพูดถึงแนวทางการสร้างคน ให้มีคุณภาพ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรวัยแรงงาน ๕๘ ล้านคน โดยเป็นผู้ที่อยู่ใน กำลังแรงงาน ๔๐ ล้านคน เป็นผู้มีงานทำ ๓๙ ล้านคน คน ๔๐ ล้านคนเป็นกำลังหลัก ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศนี้ วันนี้หากคน ๔๐ ล้านคน ไม่ทำงานพร้อมกัน ตลาดสดจะไม่มีของขาย ห้างสรรพสินค้าจะถูกปิด ขยะจะเต็มบ้านเต็มเมืองไม่มีคนเก็บ โรงงานอุตสาหกรรมจะถูกปิดหมด โรงไฟฟ้าจะถูกปิด เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีคนส่งของ ส่งอาหารให้พวกเรา ดังนั้นผู้ใช้แรงงานจึงเป็นกำลังหลักที่มีความสำคัญในการพัฒนา เศรษฐกิจของประเทศและโลกใบนี้อย่างยิ่ง ผมอยากเรียนท่านประธานแบบนี้ว่าในอดีต แรงงานทั่วโลกทำงานหนักมาก ทำงาน ๑๖-๑๘ ชั่วโมงต่อวัน สภาพการทำงานที่เลวร้าย ไร้สวัสดิการใด ๆ ตามประวัติศาสตร์ของแรงงานจึงมีการพยายามเรียกร้องต่อสู้ตลอดมา ต่อสู้กับความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ของแรงงาน วันที่ ๑ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๘๘๖ เป็นต้นกำเนิดของ วันกรรมกรสากล สหพันธ์แรงงานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา กำหนดให้วันที่ ๑ พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันนัดหยุดงานครั้งใหญ่ และให้มีการจัดชุมนุมเดินขบวนเพื่อเรียกร้อง ระบบ สาม ๘ นั่นก็คือ ทำงาน ๘ ชั่วโมง พักผ่อน ๘ ชั่วโมง ศึกษาหาความรู้ ๘ ชั่วโมง ท้ายที่สุดจึงมีการกำหนดกรอบการทำงานระบบ สาม ๘ ประเทศไทยในปัจจุบันก็เช่นกันครับ ประเทศไทยแม้จะมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานและกำหนดการจ้างงานสัปดาห์หนึ่งไม่เกิน ๔๘ ชั่วโมง วันหนึ่งไม่เกิน ๘ ชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงนั้นแรงงานไทยทำงานหนักมากครับ ท่านประธานครับ ท่านยังจำข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ได้หรือไม่ ข่าวที่มี พนักงานที่ทำงานในวงการสื่อทำงานจนเสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน และในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖ มีพนักงานร้านสะดวกซื้อทำงานหนักจนเสียชีวิตอยู่หลังร้าน นี่เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ครับท่านประธาน ชีวิตแรงงานไทยทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ด้อยสวัสดิการ นอกจากข้อมูล ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีข้อมูลยืนยันว่าแรงงานไทยทำงานหนักมาก เช่น ข้อมูลจากบริษัทด้าน การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสภาวะการทำงาน ซึ่งได้เผยแพร่ผลการสำรวจปี ๒๕๖๕ ชี้ว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองรั้งท้ายโลกด้านสมดุลการใช้ชีวิต เป็นเมืองที่ทำงานหนักอยู่ใน อันดับ ๕ ของโลก แรงงานทำงานหนักมาก ทำงานหนักขนาดนี้เราจะหวังให้พลเมืองไทย พัฒนาตนเองจนกลายเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพได้อย่างไร หากเราไม่มีเวลาให้กับสิ่งอื่นใดใน ชีวิตเลย นอกจากแรงงานอยู่กับการต้องทำงาน ทำงาน ทำงาน ไม่มีใครดิ้นรนอยากทำงานหนัก แต่ว่าสาเหตุที่แรงงานต้องทำงานหนักก็เพราะต้องการเงิน ต้องการรายได้เพื่อนำมาใช้จ่าย ในการดำรงชีวิตภายใต้สภาวะของแพงค่าแรงถูก การทำงานที่มีค่าจ้างขั้นต่ำเพียงวันละ ๓๐๐ บาทต่อวัน มันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอย่างแน่นอนครับ แม้ว่าแรงงานจะใช้ชีวิต แบบแร้นแค้นยากลำบากเพียงใดก็ไม่เพียงพอ ในนิยามของคำว่า ค่าจ้างแรงงานเพื่อชีวิต ตามงานวิจัย ปี ๒๕๖๕ ของกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ชี้ว่าค่าจ้าง ขั้นต่ำที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของคนทำงาน ๑ คน และครอบครัวขนาดเล็กท่ามกลาง ภาวะค่าครองชีพเรื่องเงินเฟ้อในประเทศไทยปัจจุบันควรอยู่ที่ ๗๒๓-๗๘๙ บาทต่อวัน ซึ่งห่างจากค่าจ้างขั้นต่ำตอนนี้อย่างมาก และเมื่อแรงงานต้องทำงานหนัก ทำงานมากขึ้น ในแต่ละวันเพื่อให้ได้เงินที่เพียงพอต่อการดำรงชีพขั้นพื้นฐาน แน่นอนว่าปัญหาต่าง ๆ ก็ตามมา เช่น ปัญหาด้านสุขภาพ มีการเจ็บป่วยก่อนวัยอันควร เกิดปัญหาครอบครัว ไม่มีเวลา ให้กับครอบครัว ไม่มีเวลาให้กับลูกหลาน ส่งผลให้เยาวชนเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา เสี่ยงต่อการติดยาติดเป็นปัญหาสังคม หากจะแก้ปัญหานี้ก็ควรแก้ที่ต้นเหตุของปัญหาครับ ควรเกาให้ถูกที่คัน วันนี้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ ๒-๑๖ บาท ถามว่าจะพอเลี้ยงชีพได้อย่างไร ทำไมกระทรวงแรงงานไม่ทำตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้ วันละ ๖๐๐ บาทต่อวัน บางคนบอกว่านั่นมันเป็นอำนาจของคณะกรรมการไตรภาคี ผมจึงถามว่า ทำไมคณะกรรมการ ไตรภาคี จึงกำหนดค่าแรงที่มุ่งทำลายชีวิตของคนทำงาน ภาพที่ปรากฏบนสไลด์ นายกฉุน ฉุนแล้วอย่างไรต่อครับ ทำอะไรได้บ้าง ทำได้หรือไม่ทำ หรือแค่การละคร เพราะฉะนั้น ผมอยากให้กรรมาธิการวิสามัญชุดที่จะตั้งขึ้นนี้ตั้งคำถามและหาข้อมูลที่เป็นต้นตอของปัญหา ที่แท้จริงให้ปรากฏ เพื่อนำปัญหานั้นมาแก้ไขต่อไป หากแค่พูดแค่ปลายเหตุเหมือนเกา ไม่ถูกที่คัน คันที่หลังแต่มาเกาที่พุงมันไม่สามารถที่จะหายคันได้ ไม่สามารถแก้ปัญหาของ คนส่วนใหญ่ของประเทศเราได้อย่างแท้จริง สุดท้ายผมขอยืนยันว่าแรงงานเป็นผู้สร้างโลก และแรงงานไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก โจทย์ของเราจึงขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายบริหารและ ฝ่ายนิติบัญญัติจะสามารถทวงคืนชีวิตที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และปลดล็อกหนทางสู่ความเป็น พลเมืองให้มีคุณภาพได้อย่างไร ขอบคุณครับท่านประธาน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปขอเชิญ คุณประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ครับ

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล เขต ๗ อำเภอลำลูกกา ธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ผมขอมีส่วนร่วมอภิปราย ญัตติการสร้างพลเมืองให้มีคุณภาพ ซึ่งผมก็มี ๓ ประเด็นให้ชวนคิด

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ผมอ่านญัตติแล้วผมก็สงสัยประการแรกเลยว่าการที่เราจะสร้าง พลเมืองให้มีคุณภาพเราเองมีคุณภาพแล้วหรือยังครับ ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนี้มีคุณภาพ พอที่จะไปสอนคนอื่นแล้วหรือยัง เรายังมีสิ่งเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะครับ นักการเมือง ขี้โกง ข้าราชการรับเงินใต้โต๊ะ มีนักร้องที่คอยรีดไถ มีตำรวจที่รีดไถประชาชน นักการเมือง ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ผมก็เลยสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเรามีคุณภาพ พอที่จะทำญัตตินี้เพื่อไปสอนคนอื่น ก่อนที่เราจะสอนเยาวชนให้มีคุณภาพเราน่าจะต้อง แก้ปัญหาตัวเองก่อน ทำตัวเองให้มีคุณภาพก่อน ปัจจุบันนี้เยาวชนก็ตาสว่าง ประชาชนก็ตื่นรู้ เขารู้ว่าใครกำลังเอาเปรียบสังคม ใครกำลังขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน ใครทำให้ค่าครองชีพแพง ค่าแรงต่ำ ใครทำให้ค่าไฟแพง เนื้อหมูเนื้อสัตว์ราคาแพง สิ่งเหล่านี้ประชาชนเขารู้กันแล้ว คนจนในประเทศไทยไม่ได้โชคร้ายที่เกิดมาจน มันเป็นการออกแบบให้เขาจน ออกแบบอย่างไร ยกตัวอย่างชาวนา ชาวนาถูกหลอกให้ภูมิใจว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ เวลาเรากินข้าว ต้องรำลึกถึงบุญคุณชาวนา ผมถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแบบนี้เลย เป็นวาทกรรมที่หลอกให้ ชาวนาภูมิใจว่าเขาคือผู้ที่มีบุญคุณ แต่สุดท้ายชาวนาทำงานทั้งปีทั้งชาติทำงานตลอดชีวิต เป็นหนี้ ๆ แล้วก็จนลง ๆ ตลอดเวลา สิ่งที่ชาวนาอยากจะได้จริง ๆ แล้วไม่ใช่บุญคุณนะครับ เขาอยากมีชีวิตที่ดีเหมือนทุก ๆ คน อยากมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัว นอกจาก ชาวนาแล้วก็มีทหาร ก็หลอกทหารอีกว่าเป็นรั้วของชาติ เป็นความภูมิใจของประเทศ เป็นคน รักษาประเทศชาติ แต่สุดท้ายท่านเกณฑ์ทหารไปทำไมครับ เอาไปดายหญ้า เอาไปล้างจาน เอาไปเสิร์ฟน้ำทำงานบ้าน อันนี้หรือครับรั้วของชาติ ถ้ามาพูดถึงกระบวนการยุติธรรม สิ่งที่ ท่านทำตัวอย่างให้เยาวชนเห็นคืออะไร ทายาทเศรษฐีหมื่นล้านขับรถชนตำรวจแต่ไม่ติดคุก แล้วยังมีแก๊งผู้มีอำนาจทั้งอดีตรองอัยการสูงสุด อดีต ผบ.ตร. อาจารย์มหาวิทยาลัย รวมหัวกัน เปลี่ยนความเร็วของรถขณะที่ชนเหลือ ๗๖ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จริง ๆ แล้วมีการพิสูจน์ กันแล้วว่าขณะที่ชนนั้นรถวิ่งสูงกว่า ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วมีหลักฐานพิสูจน์อีกว่า รถวิ่งเร็วถึงขนาด ๑๗๗ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่กระบวนการยุติธรรมของผู้มีอำนาจพยายาม จะเปลี่ยน Speed รถจาก ๑๗๗ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น ๗๖ กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันนี้คือ ความยุติธรรมที่เราแสดงให้เยาวชนเห็นหรือครับ แล้วแบบนี้เรามีหน้าไปสอนเยาวชนได้ อย่างไรให้มีคุณภาพ ถ้าตัวเราเองยังทำตัวแบบนี้ ประเทศไทยเราคนเลวคนชั่วทุกวันนี้ได้ดี เต็มไปหมด แต่ตำรวจน้ำดีกลับอยู่ไม่ได้ พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา สุดท้ายอย่างไรครับ ไปชนตอต้องหนีหัวซุกหัวซุน หนีเอาชีวิตรอดไปอยู่ออสเตรเลีย ไปทำงาน ค่าแรงขั้นต่ำที่ออสเตรเลีย โรงงานเย็บกระดุม ระดับพลตำรวจตรีนะครับต้องหนีไปทำงาน โรงงาน กินแรงงานขั้นต่ำ อันนี้คือสิ่งที่เราแสดงให้ทุกคนเห็นในประเทศนี้ว่าถ้าคุณเป็นคนดี คุณอยู่ไม่ได้

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ เราเอากฎเกณฑ์อะไรมากำหนดว่าคนแบบไหนมีคุณภาพ คนที่ เรียนเก่ง ทำงานเก่ง เอาตัวรอดได้ ไม่สร้างความเดือดร้อนของสังคม แต่ไม่เคยช่วยเหลือสังคมเลย มีคุณภาพไหมครับ หรือว่าคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานไม่เก่ง แต่อุทิศตนช่วยเหลือสังคมตลอดเวลา อันนี้อย่างไหนมีคุณภาพกว่ากัน อันนี้อยากฝากไว้ให้คิดว่าเราเอากฎเกณฑ์อะไรมาพูดถึง คุณภาพของมนุษย์

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ขอไปที่ประเด็นที่ ๓ จริง ๆ ก็ไม่อยากจะเสนอแนะ อะไรนะครับ เพราะผมมองไม่เห็นแนวทางหรือว่าเราจะทำให้มันมีคุณภาพได้อย่างไร ถ้าเรา ยังเป็นแบบนี้กัน ทุกประเทศการร้างพลเมืองให้มีคุณภาพ การศึกษาคือเรื่องสำคัญที่สุด ทุกประเทศที่เจริญแล้วจะมุ่งไปที่การศึกษา แต่การศึกษาของประเทศเรานี้ ทุกท่านคงรู้ นะครับ ผมไม่อยากจะพูดเดี๋ยวหาว่าด้อยค่าประเทศไทยอีก เราอยู่ระดับไหนของ ASEAN เราอยู่ในระดับไหนของภูมิภาคเรารู้อยู่แก่ใจ การศึกษาต้องมีความหลากหลาย มีการทุ่มเท นวัตกรรม มีการลงทุนในการศึกษาทุกระดับ และมีการศึกษาตลอดชีวิต ไม่ใช่ศึกษาแค่ เฉพาะช่วงแล้วก็หยุดไป

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็คือพวกสาธารณสุข ดูแลใส่ใจในการป้องกันสุขภาพประชาชน มีการให้เข้าถึงสาธารณสุข มีการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพได้ สวัสดิการทางสังคม มีส่วนร่วมของประชาชนอย่างสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ก็คือทำให้ประชาชน มีคุณภาพ รวมถึงสื่อมวลชนต้องมีอิสระในการตรวจสอบรัฐบาลด้วย การสร้างสภาพแวดล้อม ที่ดีก็จะสร้างสังคมที่ดีมีคุณภาพ แต่สุดท้ายคือวิสัยทัศน์ของผู้นำที่สำคัญว่าต้องการทำจริง หรือเปล่า หรือทำแค่ปาก สุดท้ายไม่ทำอะไรเลย อย่างไรก็ตามผมขอสรุปตรงนี้เลยว่า ถ้าผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ไม่สามารถแก้ปัญหาตัวเองได้ ทำตัวให้มีคุณภาพไม่ได้ก็อย่าไปสอนเด็ก เลยครับ อย่าตั้งญัตติเลยครับ เสียเวลา ถ้าแม่ปูยังเดินตรงไม่ได้จะไปสอนลูกปูให้เดินตรง ได้อย่างไร ขอบคุณครับท่าน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ต่อไปท่านสุดท้าย ขอเชิญคุณเอกราช อุดมอำนวย ครับ

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ผม จอจาน เอกราช อุดมอำนวย ผู้แทนคนดอนเมือง พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมขออภิปรายสนับสนุนญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการ วิสามัญศึกษาการจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมให้เยาวชน เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในระบอบ ประชาธิปไตย ส่วนจะเป็นกรรมาธิการวิสามัญหรือจะเป็นอนุกรรมาธิการตรงนี้ผมไม่ติดใจ แต่ว่าที่ผมจะต้องลุกขึ้นเพื่ออภิปรายเพราะผมอยากจะทำความเข้าใจ อยากจะสะท้อนให้ เพื่อนสมาชิกได้รับฟังร่วมกัน เรื่องของปัญหาที่อาจจะมีเพื่อนสมาชิกได้พูดถึงเรื่องของการให้ พลเมืองจะต้องมีคุณภาพภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ก่อนอื่นเรานิยามคำว่า พลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศไทยก่อน พลเมืองที่มีคุณภาพ คืออะไรครับ เราจะกำหนดความเป็นคุณภาพด้วยตัวเราเองไม่ได้ แน่นอนครับเราต้องศึกษา แล้วมันมีแบบแผนที่เป็นสากลมาอยู่แล้ว และแน่นอนว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นี่คือการที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นการที่เราจะบอกว่าเราจะต้องสร้างคนคนหนึ่ง แบบไหน อย่างไร แน่นอนมันเป็นสิ่งที่ควรจะศึกษา แต่ผู้ที่ศึกษาจะต้องมีใจเป็นกลาง และมี ทัศนคติที่ดีต่อการเปิดพื้นที่ร่วมกันก่อน ท่านประธานครับ ความเป็นอิสระของความคิดและ การแสดงออกในปัจจุบันนี้การศึกษาหรือว่าโครงสร้างในการสร้างพลเมืองตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน มันอะไร มันจำกัดความเป็นอิสระในความคิดและการแสดงออกหรือเปล่า เรามีแบบแผน มากมายเลยครับ แม้กระทั่งเวทีในสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้เผลอ ๆ เนื้อที่ที่เหลือในการพูดคุย ในมันเล็กลง เล็กลง เล็กลงเรื่อย ๆ แล้วแบบนี้เราบอกว่าเรามีเสรีภาพ แต่มันถูกจำกัดเล็กลง เล็กลงเรื่อย ๆ เราถึงถามหาเสรีภาพที่แท้จริงว่าอะไรคือเสรีภาพในประเทศนี้ที่รัฐธรรมนูญ รองรับเอาไว้กันแน่ ผมยกตัวอย่างสถานการณ์ในเรื่องของการส่งเสริมให้ค่านิยมบางอย่าง ที่มันอาจจะไม่ถูกใจกับวัฒนธรรมไทย อย่างเช่นเรื่องของความเป็น LGBTQ ท่านประธาน รู้ไหมว่ากว่าสังคมไทยจะยอมรับ LGBTQ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถกเถียงกันมาเป็นร้อยปีครับ เมื่อก่อนนักแสดง ดารา ที่เป็น LGBTQ ก็ถูกสร้างมูลค่า Value ในลักษณะของเชิงตลกขบขันบ้าง และไม่แคล้วที่ในสังคมที่เราใกล้ตัวกันก็ยังใช้คำพูดดูถูก และมองคนไม่เท่ากันผ่านสายตาแบบนี้เลย ไอ้นี่ไอ้ตุ๊ด ขออภัย แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอ่ยนะครับ แต่ยกตัวอย่างคำพูดให้ฟังว่าคำพูดเหล่านี้ การเหยียดเหล่านี้ยังมีอยู่ นี่คือความไม่เข้าใจ เรื่องง่าย ๆ แม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่แบบอาวุโสแล้วเรื่องแบบนี้ยังไม่ทำความเข้าใจกันเลยครับ เพราะฉะนั้น เราจะบอกว่าจะต้องสร้างพลเมืองที่คุณภาพ ผมก็เลยเรียกร้องว่าตัวเราเองที่เราจะไปสร้าง กฎเกณฑ์กับคนอื่นเราต้องสำรวจตัวเราเองก่อน ว่าวันนี้เราเข้าใจค่านิยมและหลักการที่เป็น Core Values ของประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้วหรือไม่ แต่ถ้าเรามี Core Values ที่เรารู้ แล้วว่าอันนี้คือการเคารพสิทธิความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศที่ผมยกตัวอย่าง ใกล้ตัวที่สุด เราต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วเคารพก่อน เคารพความเป็นคนก่อน กว่าสภาแห่งนี้ จะผ่านวาระหนึ่ง พ.ร.บ. การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ท่านประธานก็ทราบดี นะครับ ยากเย็นแสนเข็ญกว่าเราจะเข็นกันไปได้ นี่คือการยกตัวอย่างว่าสังคมไทยมันมีเรื่อง อีกหลายเรื่องที่เราจะต้องเปิดเวทีพูดคุย แม้กระทั่งเรื่องเพศก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ เพราะฉะนั้น ผมถึงบอกว่าการพัฒนาพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยมันต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต มันไม่ใช่แค่ จำเพาะ จำกัด อยู่ในเฉพาะโรงเรียน รั้วสถาบัน แม้กระทั่งท่านประธาน ขออภัยนะครับ บางทีท่านอาจจะต้องไปอบรมเพิ่มในเรื่องของการทำความเข้าใจด้วยซ้ำในมิติเรื่องเพศ หรือว่า ความเข้าใจเรื่องอื่น ๆ ที่ท่านอาจอยากจะแสวงหาข้อมูลว่าเรื่องนี้เราด้อยลงไป ต้องตื่นตัว ในการเรียนรู้จะทำอย่างไร ต้องมีแรงจูงใจ มีหลักสูตรที่อยากให้คนเข้าไปเรียนรู้อยู่สม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่ง ขออภัยนะครับ บางทีผู้ที่ใช้อำนาจผ่าน ๓ อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ ผู้ที่อยู่ในอำนาจเองท่านก็ต้องพยายามใฝ่หา เรียนรู้ และเข้าใจ ในวิถีประชาธิปไตยและวิถีในการเคารพความแตกต่างหลากหลาย ผมยกตัวอย่างครับ ผมเรียนกฎหมาย ผมเรียนนิติศาสตร์มาเรื่อย ๆ จนผมห่างไกลความเป็นรัฐศาสตร์ จนวันหนึ่งผมไปนั่งดูอธิบายอรรถคดีในคดีที่เป็นเยาวชนและครอบครัว ผมอาจจะหลงลืม บางครั้งแทนที่จะไกล่เกลี่ยด้วยความเข้าใจในคดีครอบครัวอะไรก็ตาม อาจจะไปกดทับคำพูด คำจาอะไรแบบนี้ก็ได้ นี่คือเรื่องเล็กน้อยที่ผมยกตัวอย่างให้ฟังว่าการเรียนรู้ในเรื่องของวิถี ประชาธิปไตย การเรียนรู้การเปิดพื้นที่คือสิ่งสำคัญจำเป็นที่มันอยู่รอบตัวทุกมิติเลยครับ เพราะฉะนั้นผมฝากกรรมาธิการหรือผู้ที่จะเป็นอนุกรรมาธิการใด ๆ ก็ตามที่จะศึกษา อย่าไป สร้างผลรายงานการศึกษาที่เป็นลักษณะของการ Knowledge เลยครับ แต่อยากให้สร้าง เครื่องมือที่เป็นเวทีที่ทำให้ประชาชนมีพื้นที่ มีข้อเสนอแนะที่ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่ใน ทุกโอกาสที่เราจะได้พูดถึงปัญหา ที่เราจะได้แก้ปัญหาไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเล็ก ที่สุด อย่างเรื่องเพศที่ผมยกตัวอย่างไป หรือปัญหาเรื่องใหญ่แม้กระทั่งถามหาความเป็น ประชาธิปไตยในประเทศไทยต้องพูดได้ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่รบกวนเวลาสภาแห่งนี้มาก และผมก็ฝากความหวังเป็นอย่างยิ่งว่าญัตตินี้จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมที่แท้จริง และไม่ต้อง พูดเรื่องนี้กันอีกในเวทีสภาถัด ๆ ไป แต่หวังว่าเรื่องพวกนี้จะเป็นเรื่องที่ทุกคนตระหนักและ ทุกคนใส่ใจร่วมกันครับท่านประธาน ขอบพระคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ได้อภิปรายจบไป ในญัตตินี้แล้วนะครับ และข้อบังคับ ข้อ ๗๕ เมื่ออภิปรายจบแล้ว ผู้เสนอญัตติมีสิทธิจะสรุป การอภิปรายได้อีกครั้งหนึ่งนะครับ ขณะนี้มีผู้เสนอชื่อขออภิปรายสรุปคือ คุณฉัตร สุภัทรวณิชย์ เชิญครับ

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นครราชสีมา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ฉัตร สุภัทรวณิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต ๑ แม่ย่าโม พรรคก้าวไกลครับ ในญัตตินี้ สส. พริษฐ์ วัชรสินธุ และผม ฉัตร สุภัทรวณิชย์ เป็น ผู้ยื่นญัตตินะครับ ญัตติเรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในระบอบ ประชาธิปไตยครับ ท่านประธานครับ คำสำคัญของญัตตินี้อยู่ที่คำว่า การมีส่วนร่วม แล้วก็อยากจะให้การมีส่วนร่วมนี้ได้มีการส่งเสริมเพิ่มเติมให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วม เพิ่มมากขึ้น การที่มีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นก็จะช่วยส่งเสริมให้การพัฒนาทางด้านต่าง ๆ ซึ่งวันนี้ เราได้รับฟังเพื่อน ๆ สมาชิกจากทุกพรรคได้อภิปรายกันอย่างหลากหลายมิติ ในการที่จะ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมนี้เรามีอีก ๒ หลักที่อยากจะพูดถึงในการยื่นญัตติก็คือ เรื่องของการ เปิดพื้นที่ แล้วก็เรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อม

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องของการเปิดพื้นที่มีอยู่ ๓ ประเด็น ที่ได้นำเสนอก็คือว่าในพื้นที่เดียวกันนั้น เป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนของเราสามารถมีส่วนร่วมในพื้นที่เดียวกัน กับทุก ๆ คนในสังคมได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของเกณฑ์ในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง ส่วนร่วมทางสังคม ส่วนร่วมในโรงเรียน เป็นต้น

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นครราชสีมา ต้นฉบับ

๒. ก็คือเรื่องการสร้างพื้นที่พิเศษ สร้างพื้นที่พิเศษนี้จะช่วยในการผลักดัน นโยบายให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นครราชสีมา ต้นฉบับ

๓. ก็คือการเปิดพื้นที่สถานศึกษา ซึ่งสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือ มหาวิทยาลัย เราส่งเสริมให้เด็กนักเรียน นักศึกษา มีส่วนร่วม ตรงนี้จะเปิดให้เด็กมีทักษะ ทางสังคม ให้มีการพัฒนาการทางด้านต่าง ๆ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นครราชสีมา ต้นฉบับ

ทีนี้ในส่วนของการสร้างสภาพแวดล้อมมีอยู่ ๓ ประเด็นที่อยากจะนำเสนอ สรุปก็คือว่า ๑. คือการเพิ่มทักษะ เพิ่มทักษะให้กับเด็กและเยาวชนเพื่อที่จะส่งเสริมการ ทดลองทำจริง ๒. การสร้างความเข้าใจในหมู่ผู้ปกครอง หน่วยงานรัฐ ครูบาอาจารย์ เพื่อที่จะ ให้มีบทบาทในการที่จะสนับสนุน เปรียบเสมือนเป็นพี่เลี้ยง แล้วก็ไม่ครอบงำเด็กและเยาวชน แล้วก็ประการที่ ๓ คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ในช่วง ๓๐ ปี ๒๐ ปี ๑๐ ปีที่ผ่านมา สังเกต ครอบครัวในระดับกลางของสังคม ทุกคนเริ่มที่จะมองหาโรงเรียนทางเลือก ไม่ใช่ว่า ผู้ปกครองนั้นเรียนมาในโรงเรียนที่คิดว่าตัวเองเรียนในโรงเรียนที่ไม่ดี แต่ทุกคนเริ่มหาโอกาส แล้วก็เริ่มที่จะมองหาโรงเรียนทางเลือก โรงเรียนทางเลือกที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนอินเตอร์หรือโรงเรียนในรูปแบบต่าง ๆ แตกต่างจากโรงเรียนที่เราเคยเรียน โรงเรียนวัด โรงเรียนเอกชนที่เราเคยเรียนมา โรงเรียนเหล่านั้นมักจะมีการมีส่วนร่วมที่มากขึ้น ให้เด็กได้มี ส่วนร่วมในการตัดสินใจ โรงเรียนเหล่านั้นสอนให้เด็กได้ทำงานอย่างเป็นระบบ พร้อม ๆ กับ ให้ความไว้วางใจ ให้พื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ ได้ฝึกฝนการคิด การจินตนาการ แล้วก็มี ส่วนร่วมในการตัดสินใจที่มากขึ้น สูงขึ้นและดีขึ้น ในการนำเสนอญัตติในวันนี้ขอบคุณ เพื่อนสมาชิกทุกท่านที่ได้ร่วมกันอภิปราย และกระผมในฐานะเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ก็ขอกราบเรียน ต่อท่านประธานสภาทางคณะกรรมาธิการมีความพร้อมและมีความยินดี หากสภาจะพิจารณา แล้วก็ยกเรื่องนี้ให้ทางคณะกรรมาธิการได้ตั้งเป็นคณะอนุกรรมาธิการเพื่อที่จะจัดทำแล้วก็ รวบรวมข้อเสนอในการส่งเสริมเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย ขอบพระคุณครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ขอบพระคุณครับ ก็เป็นอันว่าการอภิปรายและการสรุปของญัตตินี้จบแล้วนะครับ เนื่องจากญัตติเรื่องนี้ผู้เสนอ ได้เสนอมาเพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา แต่เนื่องจากได้ฟังผู้อภิปราย และผู้เสนอญัตติแล้วเห็นว่าประเด็นนี้สมควรส่งให้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผู้พิจารณา ท่านสมาชิกผู้ใดจะ ขัดข้องไหมครับ ถ้าไม่ขัดข้องผมก็จะอาศัยข้อบังคับ ข้อ ๘๘ เพื่อว่าจะถามมติว่าจะส่งให้ กรรมาธิการสามัญชุดนี้ ท่านผู้ใดจะเห็นเป็นอย่างอื่นครับ ไม่มีผู้ใดเห็นเป็นอย่างอื่นก็ถือว่า ส่งให้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นผู้รับไปพิจารณานะครับ ขอต่อไปขอเชิญกำหนดเวลาของการพิจารณาในญัตตินี้ครับ

นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ เลย ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ขอเสนอระยะเวลาพิจารณา ๙๐ วัน ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ เสนอ ๙๐ วัน มีผู้ใดเสนอเป็นอย่างอื่นไหมครับ ถ้าไม่มีก็ถือว่าส่งญัตตินี้ให้ คณะกรรมาธิการพิจารณาเป็นเวลา ๙๐ วัน ก็เป็นอันจบเรื่องนี้ไป คุณศรัณย์จะขอหารือ ก่อนปิดประชุม เชิญครับ

นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ เลย ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม ศรัณย์ ทิมสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ผมขอ เสนอเปลี่ยนระเบียบวาระ ตามข้อบังคับการประชุม ข้อ ๕๔ (๒) โดยขอให้นำวาระที่ ๕.๔๑ ถึงวาระที่ ๕.๔๕ ซึ่งก็คือร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ เลื่อนขึ้นมาพิจารณาต่อจากระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานแจ้งต่อที่ประชุม ในวันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอผู้รับรองด้วยครับ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง ก็จะเอาพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พระราชกำหนดประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งมีทั้ง ๕ ร่างจากทุกพรรคการเมือง เพื่อพิจารณาในวันพุธพิจารณากฎหมายนะครับ คุณศรัณย์ จะเปลี่ยนกรรมาธิการไหม เชิญครับ

นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อุบลราชธานี ต้นฉบับ

ท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ๒ ท่านค่ะ จากเดิม นายวัชระพล ขาวขำ เป็น นางสาวขัตติยา สวัสดิผล นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เป็น นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข ขอผู้รับรองด้วยค่ะ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้นฉบับ

ผู้รับรองถูกต้อง นะครับ ไม่มีผู้ใดขัดข้องก็ถือว่าเปลี่ยนแปลงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทาง การตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ๒ ท่านของพรรคเพื่อไทยนะครับ วันนี้ขอขอบคุณ ท่านสมาชิกทุกท่าน เราได้พิจารณาญัตติมาพอสมควรแล้ว ขออนุญาตปิดประชุมครับ