กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ก่อนอื่นต้องขออนุญาตท่านประธานกราบขอบคุณไปยังพี่น้องประชาชนชาวพะเยาเขต ๓ ที่สนับสนุนให้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในสภาแห่งนี้อีกครั้ง ผมสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ วันนี้มีเรื่องหารือท่านประธานผ่านไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมอยู่ ๒ เรื่อง
เนื่องจากผมได้อภิปรายไปหลายครั้งถึงเส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๑ ซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอเมืองผ่านอำเภอดอกคำใต้ไปอำเภอจุน เส้นทางสายนี้ได้ก่อสร้างเป็น ถนน ๔ ช่องทาง จากอำเภอเมืองมาสิ้นสุดที่หน้าโรงพยาบาลดอกคำใต้มากว่า ๒๐ ปี ซึ่งขณะนี้ทราบว่าได้ผ่านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA ไปแล้ว ท่านประธานครับ ถนนสายนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ สามารถเชื่อมโยงจากอำเภอจุนไปอำเภอเชียงคำ สู่อำเภอเทิง เชื่อมต่อไปยังอำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สายของจังหวัด เชียงราย ก่อนเข้าไปถึงประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศพม่าและลาว ปัจจุบันเส้นทาง ที่เชื่อมระหว่างอำเภอเหล่านั้นได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว คงเหลือเพียงช่วงอำเภอ ดอกคำใต้ไปอำเภอจุน ระยะทางประมาณ ๓๐ กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่มีการใช้รถ ใช้ถนน บนเส้นทางสายนี้หลายพันคันต่อวันทำให้เกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ขอให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้รีบจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วยครับ
อีกเส้นทางหนึ่ง คือเส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๑ ซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอปง ลงไปอำเภอเชียงม่วน ระยะทางประมาณ ๓๘ กิโลเมตร สภาพถนนทั้งโค้งทั้งแคบและชำรุด เสียหายมานานแล้ว ทางสายนี้เป็นเส้นทางหลักที่สำคัญ สามารถเชื่อมไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งมาจากเชียงรายผ่านอำเภอเชียงคำ เข้าอำเภอปง ลงไปอำเภอเชียงม่วน ทางซ้ายแยกไปจังหวัดน่าน ขวาไปอำเภอดอกคำใต้มุ่งสู่ตัวเมืองพะเยา ทางตรงก็ไปจังหวัด แพร่และจังหวัดลำปางก่อนเข้าสู่ภาคกลางของประเทศ หากได้รับการก่อสร้างเป็นถนน ๔ ช่องทาง หรืออย่างน้อยก็ขยายเป็นถนนกว้าง ๑๒ เมตรจะสามารถรองรับทั้งการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า ทำให้ย่นระยะเวลาในการเดินทางได้มาก ผมคาดการณ์ว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อำเภอเชียงม่วนจะเป็นศูนย์กลางของเขตเศรษฐกิจล้านนาตะวันออกอย่างแน่นอน นอกจาก มีภูมิศาสตร์ที่อยู่ตรงกลางสามารถเชื่อมโยงไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้สะดวกแล้ว เส้นทางสายนี้ ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และมีโบราณสถานตั้งอยู่ ๒ ข้างทางเหมาะสม ที่จะเป็นถนนสายธรรมชาติและเป็นเส้นทางสายอารยธรรมล้านนาที่งดงาม รอรับ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนแดนดินถิ่นนี้ได้อีกทาง ขอฝากท่านประธานผ่านไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างทั้ง ๒ เส้นทางนี้ด้วย ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย อยู่ ๒ เรื่อง
เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากท่านณรงค์ นามวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ถึงปัญหาการก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งบ้านฝั่งหมิ่น หมู่ที่ ๔ ตำบลดอกคำใต้ ซึ่งได้ร้องขอต่อกรมโยธาธิการ และผังเมืองไปนานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด หมู่บ้านนี้อยู่หลังสถานีประมง จังหวัดพะเยา ในช่วงฤดูฝนน้ำเอ่อล้นจากกว๊านพะเยาก็ถูกระบายลงสู่แม่น้ำอิง ทำให้บริเวณ บ้านฝั่งหมิ่นซึ่งอยู่ใกล้ชิดติดกับประตูน้ำได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เกิดปัญหาน้ำท่วม ทะลักเข้าสู่บ้านเรือนที่พักอาศัย บางแห่งถูกน้ำกัดเซาะเข้าไปเกือบถึงตัวบ้าน ไม่รู้จะพังลงมา เมื่อไร ยิ่งอยู่ใกล้ประตูระบายน้ำเสียด้วย ทีนี้ก็ลำบากก็ว้าวุ่นเลย ต้องหากระสอบทราย จำนวนมากนำมากั้นน้ำเป็นประจำทุกปี ขอฝากความเดือดร้อนนี้ไปยังกรมโยธาธิการ และผังเมืองซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยครับ
อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้รับการร้องเรียนมามากเช่นกัน นั่นคือปัญหาน้ำท่วมขัง ในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ สถานที่นี้ตั้งอยู่บริเวณ ๒ ฟากฝั่งแม่น้ำร่องช้าง และอยู่ในช่วง ปลายน้ำที่แคบเป็นคอขวด ที่สำคัญปลายน้ำยังไม่ทะลุเชื่อมต่อไปยังแม่น้ำอิงที่ไหลลงไปสู่ แม่น้ำโขง ในช่วงหน้าฝนเกิดน้ำป่าไหลหลากทำให้ไม่สามารถระบายได้ทันก็เอ่อล้นเข้าสู่ บ้านเรือนของพี่น้องชาวบ้าน ต้องขนข้าวของเครื่องใช้ไปที่สูงเพื่อหนีน้ำ บางทีมาไวก็ขนไป ไม่ทัน สร้างความเสียหายอย่างหนักและเกิดขึ้นซ้ำซากมาตั้งแต่ผมจำความได้ ขอฝาก ๒ เรื่องนี้ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้ช่วยไปสำรวจตรวจสอบ หาแนวทางแก้ไข รวมทั้งรีบจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนด้วยครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ ๒ เรื่อง เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญ
คือเหตุการณ์ภัยพิบัติเมื่อคืนวันที่ ๑๔ ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าพัดบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ในหมู่บ้านห้วยก้างปลา ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน ๔ ราย สูญหาย ๑ ราย เป็นเด็กหญิงอายุ ๑๐ ปี ทั้งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครกู้ภัยระดมกำลังค้นหาอย่างหนัก ขณะนี้ก็ยังไม่พบ บรรดารถรา ที่อยู่อาศัย ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสัตว์เลี้ยง พืชผล ทางการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า ๕๐๐ ไร่ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวบ้าน เป็นอย่างมาก ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรีบเร่งดำเนินการช่วยเหลือ เยียวยา อย่างเร่งด่วนด้วยครับ
เรื่องที่ ๒ ฝากไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม คือถนนเลี่ยงเมือง พะเยา จากแยกเกษตรสุข ตำบลแม่กา อำเภอเมือง เชื่อมกับเส้นทางหลวงหมายเลข ๑๐๒๑ บ้านสันป่าเป้า อำเภอดอกคำใต้ ชื่อว่าถนนพระอุบาลีซึ่งแล้วเสร็จมาเกือบ ๓ ปี แต่ช่วงที่ ๒ ซึ่งต่อจากเส้นทางสายนี้ไปทางอำเภอภูกามยาวเข้าไปยังถนนพหลโยธินหรือทางหลวง แผ่นดินหมายเลข ๑ บริเวณตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง ระยะทางประมาณ ๘ กิโลเมตร ทราบว่าได้ทำการศึกษาสำรวจออกแบบไปนานแล้ว สอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่ามีคนคัดค้าน คนนั้นก็อยากให้โผล่ตรงนี้ ส่วนคนนี้ก็อยากให้ไปโผล่ตรงนั้น พูดกันคนละทิศ คิดกัน คนละทาง ก็เพราะแบบนี้บ้านเมืองมันถึงได้พัฒนาได้ล่าช้า วันนี้โครงการไหนมีความพร้อม ก็ทำไป วันหน้าจะเพิ่มเติมอย่างไรก็ว่ากันใหม่ จะทำอะไรก็รีบทำให้มันแล้วเสร็จในชาตินี้ อีกไม่กี่ปีรถไฟสายเด่นชัย-เชียงรายก็จะสำเร็จเสร็จสิ้น หากเริ่มได้ไวก็จะเป็นเส้นทางควบคู่ ไปกับทางรถไฟสายใหม่ สร้างความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ตลอดจนบรรดารถขนส่งสินค้าที่มาจากทั่วทุกสารทิศ ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเร่ง ดำเนินการทั้ง ๒ เรื่องนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม ถึงเรื่อง การก่อสร้างสนามบินพะเยา
เนื่องจากในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ผมได้ อภิปรายในสภาแห่งนี้มา ๒ ครั้ง จนมาถึงวันนี้เรามีรัฐบาลชุดใหม่ ผมจึงแบกความตั้งใจของ พี่น้องประชาชนคนพะเยาเข้ามาทวงถามในสภาแห่งนี้อีกครั้งเป็นครั้งที่ ๓ และจะติดตาม ต่อไปจนกว่าโครงการนี้สำเร็จ ท่านประธานครับ การคมนาคมขนส่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ต่อการพัฒนาในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสัญจร การขนส่งสินค้า ตลอดจนถึงการท่องเที่ยว ซึ่งสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศอย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพะเยา ของผมนั้นหากมองให้ดีจะมีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ตรงกลางของ ๘ จังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยังจังหวัดต่าง ๆ และประเทศเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมา โครงการนี้ได้ทำการศึกษาหาข้อมูลไปแล้ว ทั้งการออกแบบก่อสร้างอาคาร ตลอดจนทำการ สำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งจบลงที่ตำบลดอนศรีชุมเชื่อมตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ โดยใช้งบประมาณเพียง ๔,๔๐๐ ล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ ๒,๘๐๐ ไร่ ขณะนี้เหลือเพียง รอการตัดสินใจจากรัฐบาลที่จะอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างเท่านั้น ตลอดระยะเวลา หลายปีที่ผ่านมาพี่น้องชาวพะเยาได้ออกมาเรียกร้องต้องการมาโดยตลอด เพราะเรารู้ดีว่า หากมีสนามบินจะสามารถยกระดับเศรษฐกิจจังหวัดของเราทั้งระบบให้เติบโตกว่านี้อีก มากมาย จังหวัดพะเยาเป็นเมืองเก่าแก่กว่า ๙๐๐ ปี เรามีแหล่งท่องเที่ยว ทางวัฒนธรรม เรามีความงดงามของธรรมชาติ และเรามีมหาวิทยาลัยซึ่งมีคณะครูและนักศึกษาที่เดินทาง มาจากทั่วทุกจังหวัดนับหมื่นคน ในนามตัวแทนของพี่น้องประชาชนคนพะเยาเมือง ๑ ใน ๘ จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ยังไม่มีสนามบิน ขอฝากท่านประธานผ่านไปยังรัฐบาลว่าขณะนี้ ประชาชนคนพะเยากว่า ๔๘๐,๐๐๐ คนรอการตัดสินใจและฝากความหวังไว้กับท่านอยู่ครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพกระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยถึงระเบียบกฎหมายที่เป็นปัญหา อุปสรรคของกีฬาไก่ชน
ท่านประธานครับ ผมมัน สส. บ้านนอกลูก ชาวบ้านหลานชาวนาเติบโตมาในสังคมชนบทได้เห็นพี่น้องเกษตรกรเมื่อว่างเว้นจากการทำ นาไร่ก็จะหาเวลาผ่อนคลายนำไก่มาประลองสร้างความสุขสนุกสนานเฮฮาตามภาษาชาวบ้าน กีฬาไก่ชนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากสถิติตัวเลขที่รวบรวมไว้ว่าปัจจุบันมี ผู้เกี่ยวข้องกับไก่ชนราว ๓ ล้านคน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท มีการส่งออกปีละหลายร้อยล้าน เห็นตัวเลขขนาดนี้ทำไมภาครัฐไม่ผลักดันเป็นสัตว์เศรษฐกิจ หรือยังติดภาพลบเดิม ๆ มองเป็นการพนันบ้าง ทรมานสัตว์บ้าง แล้วที่เรามนุษย์มาชกมาตีออกทีวีทุกวันถ่ายทอดกันไปทั่วโลก ค่าตั๋วเป็นแสนเป็นล้าน มันต่างกันตรงไหน ทำไมไม่ช่วยสนับสนุนให้เกมกีฬา ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเหมือน มวยไทย ทำไมต้องไปจำกัดเอาระเบียบข้อบังคับกันหลายเรื่อง ทั้งบังคับเรื่องเวลาให้ตีได้แค่ ๗ โมงเช้าถึง ๑ ทุ่มเฉพาะวันเสาร์หรืออาทิตย์เดือนละ ๒ ครั้งเท่านั้น นี่คือปัญหาของ กฎหมายที่ล้าหลังที่ออกมาใช้โดยไม่แก้ไขมากว่า ๖๐ ปี ทำให้เจ้าหน้าที่บางคนหา ผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย รัฐบาลควรสนับสนุนไก่ชนให้ดีมีมาตรฐาน เพื่อให้ ชาวบ้านมาเพิ่มมูลค่า ยิ่งตีดี ตีเก่งยิ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไก่ ท่านทราบไหมว่าราคาไก่ชน ในวันนี้มีราคาตั้งแต่หลักพันยันหลักล้านบาท นี่คือความฝันของเกษตรกรชาวรากหญ้า ท่านประธานครับ กีฬาไก่ชนมีประวัติศาสตร์คู่สังคมไทยมาหลาย ๑๐๐ ปี ดังที่โจษจันจารึก บันทึกไว้ในพงศาวดารไก่เหลืองหางขาวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นอกจากนี้ก็ยังมี ไก่ประดู่หางดำของสมเด็จพะเอกาทศรถ ไก่เทาทองหางขาวของสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช เป็นต้น
สุดท้ายขอฝากท่านประธานผ่านไปยังรัฐบาล หากคิดว่า Soft Power คือการนำ วัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไก่ชนไทยนี่ละ คือ ๑ ใน Soft Power ตัวจริงของจริง ขอให้กระทรวงมหาดไทยได้โปรดทบทวนแก้ไขระเบียบกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้าง โอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงไก่ชน ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทย วันนี้ได้แบกนำปัญหากีฬาไก่ชน เข้ามาพูดกันในสภาแห่งนี้อีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้เกิดความกระจ่าง สร้างความเข้าใจในเรื่อง ที่เป็นปัญหากับกีฬาไก่ชน ท่านประธานครับ สนามไก่ชนได้รับความเดือดร้อนมานาน หลายสิบปี ถึงแม้จะเป็นสนามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย แต่ก็เต็มไปด้วยระเบียบข้อบังคับ ที่ไม่สามารถปฏิบัติได้
ทุกสนามจำเป็นต้องฝ่าฝืนเพื่อความอยู่รอด ทำให้เจ้าหน้าที่สารพัดหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย หลายแห่ง ทนค่าใช้จ่ายไม่ไหวต้องยุบเลิกไป หรือไม่ก็กวดขันจับกุมพี่น้องชาวบ้าน วิ่งกันฝุ่นตลบ แทบทุกวัน สนามไก่ชนก็เหมือนตลาดหุ้นของคนจน เมื่อไม่มีสนามก็ไม่มีที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับไก่ ทำไมกระทรวงมหาดไทยไม่ปรับปรุงแก้ไขให้มันถูกต้อง ให้มันสอดคล้องกับบริบท ความเป็นจริง กฎหมายใดที่ใช้ไม่ได้ เป็นอุปสรรคปัญหาก็มีอยู่ ๒ ทาง ถ้าไม่แก้ไขก็ให้ยกเลิก ท่านทราบไหมครับว่าทั่วโลกให้ความสนใจไก่ชนไทยกันมาก ทั้งจากทวีปเอเชียไปจนถึงยุโรป อเมริกา เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มูลค่าการส่งออกปีละหลายร้อยล้าน วันนี้สนามกีฬาไก่ชน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมกันมาก หากรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างจริงจังให้ Go Inter มีการถ่ายทอดไปทั่วโลกเหมือนมวยไทย กีฬาไก่ชนจะเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวเข้าประเทศภายใต้นโยบาย Soft Power ของรัฐบาลที่ต้องการให้วัฒนธรรม สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ท่านประธานครับ กีฬาไก่ชนเป็นกีฬาพื้นบ้าน เป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดมานานจนกลายเป็น วัฒนธรรม เป็นเกมกีฬาของการต่อสู้ซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั่วไป เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ มันก็ต่อสู้กันอยู่แล้ว มนุษย์จึงคิดพัฒนาให้เป็นเกมกีฬาเพื่อสร้างความสนุกสนานมากว่าพันปี เหรียญมี ๒ ด้าน อย่ามองเป็นแค่การทรมานสัตว์ แล้วการที่มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด ทำลายชีวิตกี่ล้านตัวต่อวันมันไม่บาปกันทั้งโลกหรือ ผมอยากเห็นกีฬาไก่ชนไทยได้รับการ สนับสนุนที่ดีมีมาตรฐานเหมือนมวยไทย เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนชนบท สร้าง ระบบเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง แต่ชะตากรรมของกีฬาไก่ชนในวันนี้กลับซุกอยู่ในมุมมืด ถูกรังแกด้วยระบบกฎหมายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขมากว่า ๖๐ ปี
สุดท้ายขอฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โปรดทบทวน แก้ไขระเบียบข้อบังคับซึ่งอยู่ภายใต้กฎกระทรวง ซึ่งท่านมีอำนาจสามารถแก้ไขได้ทันที ขอความเห็นใจให้กับพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับไก่ชนกว่า ๓ ล้านคน จะได้มีรายได้เสริมเพิ่มอีกทาง ผมจะติดตามทวงถามต่อไปจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ขอบคุณครับ
กราบเรียนประธานสภาที่เคารพกระผม นายจีรเดช ศรีวิราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขต ๓ พรรคพลังประชารัฐ วันนี้ได้แบกนำความหวังของผู้สูงอายุมาฝากท่านประธานผ่านไปยังรัฐบาลและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ท่านประธานครับ ประเทศเรานั้นมีประชากรประมาณ ๗๐ ล้านคน มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่รวมทั้งผู้อยู่ในวัยชราหรือที่เรียกว่าผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนประมาณ ๑๓ ล้านคน ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่ ๖๐๐-๑,๐๐๐ บาท จ่ายเป็นขั้นบันได ก็พอบรรเทาความเดือดร้อนไปบ้าง แต่ทุกวันนี้นับวันเศรษฐกิจยิ่งถีบตัวสูงขึ้น เงินที่ได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ทำให้ผู้สูงอายุ จำนวนมากอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก บางคนไม่มีลูกหลานดูแลก็อาศัยเงินส่วนนี้ประทังชีวิต ไปวัน ๆ ท่านประธานครับทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง บรรดาผู้สมัครต่างก็นำนโยบายของพรรค ไปขายความหวัง สร้างความฝันให้กับพี่น้องชาวบ้าน ไม่ว่าเวทีเล็กเวทีใหญ่ แผ่นป้าย แผ่นพับ บัตรแนะนำตัว รถแห่ประกาศไปทั่วทุกชุมชน ตำบล หมู่บ้าน เพื่อต้องการคะแนนเสียง เมื่อการเลือกตั้งผ่านไปก็รวบรวมเสียงที่ได้มาจัดตั้งรัฐบาลเข้าไปบริหารประเทศ วันนี้ผ่านไป กว่า ๖ เดือน นโยบายหลายเรื่องยังไม่มีใครพูดถึง ท่านทราบไหมครับว่าพวกเราที่นั่งอยู่ ตรงนี้ลงพื้นที่ครั้งใดก็ถูกพี่น้องชาวบ้านทวงถามมาโดยตลอด พวกเราเป็น สส. เป็นฝ่าย นิติบัญญัติ มีหน้าที่พิจารณากฎหมายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น ไม่มี อำนาจหน้าที่ ไม่มีงบประมาณที่จะเข้าไปดูแลแก้ปัญหา มีอย่างเดียวคือแหกปากทวงถาม คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน ขอฝากไปยังรัฐบาลเข้าไปนั่งบริหารประเทศได้โปรด ระลึกนึกถึงนโยบายบนป้ายประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาว่าพรรคนั้นจะให้เท่านี้ ส่วนพรรคนี้จะให้ เท่านั้น อันนั้นดีอันนี้แจ่ม เกทับรับกันอุตลุด นโยบายของทุกพรรคล้วนแล้วแต่เป็นของดี มีประโยชน์ทั้งนั้น ขออย่างเดียวอย่าให้นโยบายกลายเป็นเพียงวาทกรรมที่นำมาหลอก ขอคะแนนเสียงจากพี่น้องชาวบ้าน สุดท้ายขอฝากความหวังไปยังรัฐบาลและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้โปรดพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับผู้สูงอายุด้วยครับ แม้ไม่ได้ ตามที่วาดฝันไว้อย่างน้อยในปีแรกก็ขอได้สักครึ่งราคา ได้คนละ ๑,๐๐๐ บาท ๒,๐๐๐ บาท กันถ้วนหน้าก็ยังดี จะทำอะไรก็รีบทำ ชาวบ้านเขารออยู่ ขอบคุณครับ