ท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๗ อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ดิฉันขออนุญาตร่วมอภิปรายค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องขอบพระคุณทางเพื่อนสมาชิก และขอให้กำลังใจทางคณะผู้ชี้แจง ขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมา ๓ ทุ่มกว่า ๆ แล้ว ก็ขอไม่พูดพร่ำทำเพลง ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยค่ะ ดิฉันขอฝากเพียง ๓ เรื่องที่สำคัญที่คิดว่าประชาชนเกือบทั้ง ประเทศคงจะได้รับผลกระทบและคิดเหมือนกับดิฉัน
เรื่องแรก ขอให้ กกพ. กำกับดูแลการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคอย่างจริงจัง ช่วยทำหน้าที่รักษาสิทธิให้กับประชาชนบ้าง ในปัจจุบันนี้ค่าไฟ แพงมาก ทุกวันนี้เหมือนว่าค่าไฟจะขึ้นตามอุณหภูมิของพระอาทิตย์ขึ้นเอา ๆ อยากจะขึ้น ค่าไฟก็ขึ้นง่าย ๆ ค่ะ คงเพราะรู้ดีว่าต่อให้ไฟแพงอย่างไรประชาชนก็ไม่มีสิทธิที่จะเลือกซื้อไฟ ที่ถูกกว่าได้ เพราะเป็นระบบ Monopoly Market หรือว่าเป็นธุรกิจผูกขาดที่มีระเบียบกันไว้ว่า ไม่ให้ใครมาขายไฟแข่ง แต่ประชาชนยังอุ่นใจว่ายังมี กกพ. คอยกำกับดูแล และ กฟน. กฟภ. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่หมายถึงองค์การซึ่งรัฐบาลกลางควบคุมและเป็นเจ้าของ แล้วตอนนี้ เป็นอย่างไร สำนวนในอดีตพูดกันว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง แต่ปัจจุบันนี้คือยุคที่ค่าไฟ แสนแพงแต่ค่าแรงแสนถูก ตอนนี้พี่น้องประชาชนของดิฉันจะตายกันหมดแล้วค่ะ
เรื่องที่ ๒ ต่อเนื่องจากเรื่องที่ดิฉันพูดไปเมื่อสักครู่นะคะ ถึงแม้ว่าค่าไฟจะแพง แต่ประชาชนไม่สามารถที่จะเปลี่ยนใจไปใช้ไฟที่อื่นได้ เพราะการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐเพียงหน่วยงานเดียวที่สามารถขายไฟฟ้าได้ จึงอยากเสนอให้ กกพ. หารือวิธีการบริหารจัดการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่มีความสามารถในการจ่าย ค่าไฟฟ้าได้ เพราะการบริการไฟฟ้าถือเป็นการบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้แก่พี่น้อง ประชาชน ดิฉันจึงคิดว่าควรจะมีวิธีที่ดีกว่าการยกหม้อไหมคะ ควรที่จะมีวิธีที่ดีกว่าการตัด มิเตอร์ไหมคะ ตัดไฟโดยให้ Outsource มายกหม้อไฟเพียงเพราะการไม่ได้ชำระค่าไฟฟ้า ลองนึกตามดิฉันนะคะ ปัจจุบันแค่ฝนตกไฟดับไม่กี่นาทีพวกเราก็ใช้ชีวิตยากลำบากแล้ว แต่นี่โดนตัดไฟเพราะไม่มีเงินจ่าย กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทนำเงินมาซื้อไฟฟ้าแสงสว่าง ให้ลูกหลานได้ทำการบ้าน อ่านหนังสือ นำเงินมาซื้ออากาศเย็น ๆ พัดลมเย็น ๆ ให้แก่ ผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านได้อยู่อย่างสบาย นำเงินมาซื้อลมหายใจให้ผู้ป่วยติดเตียงได้มีชีวิตอยู่ต่อ ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะอยู่อย่างไรเมื่อถูกตัดไฟ ดิฉันอยากขอสอบถามการยกหม้อไฟ มีกำหนดเวลาที่แน่นอนหรือไม่ อย่างไรคะ เพราะพี่น้องบางคนชำระเงินสวนทางกับการตัด ไฟ บางคนรับ Bill ปุ๊บจ่ายปั๊บ แต่ไม่ทันค่ะถูกตัดไปเสียแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดการแจ้งคำสั่งและการ ชำระไม่ทันกันก็เป็นได้ค่ะ ดิฉันคิดว่ามันควรจะมีหนทางอื่นไหมที่ดีกว่าการตัดไฟ แต่จะเป็น หนทางไหนต้องรบกวนท่าน กกพ. ช่วยพิจารณาด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจพี่น้อง ประชาชนของดิฉันด้วย ถ้าเลือกได้ทุกคนอยากเลือกใช้ไฟที่มีราคาถูก แต่นี่พวกเขาไม่มีสิทธิ แม้แต่จะเลือก เพราะโดนผูกขาดทั้งด้านราคาและการบริการค่ะ ท่านคิดหรือไม่ว่าจะมีชาวบ้าน พี่น้องประชาชนทยอยกันไปที่ศาลปกครองให้คุ้มครองให้ไม่ถูกตัดไฟ ไม่ถูกตัดสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐานที่พวกเขาพึงจะได้รับจากหน่วยงานของรัฐ โดยที่ กกพ. ต้องดำเนินการกำกับ ดูสาธารณูปโภคพลังงานขั้นพื้นฐานที่รัฐจะต้องจัดสรรให้กับประชาชน อยากให้รู้กันค่ะ ว่าท่านมีสิทธิตัดไฟของพี่น้องประชาชนของดิฉันอย่างที่ทำกันอยู่ขณะนี้หรือไม่ เรื่องนี้ดิฉัน ขอติดตามอย่างใกล้ชิด
ต่อมาเรื่องสุดท้าย มีพี่น้องประชาชนร้องเรียนหาดิฉันมากมายเหลือเกินว่า ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง เพียงเพราะไม่มีเงินสมทบในการปักเสาพาดสายให้สายไฟ มีระยะมากพอมาถึงหน้าบ้าน กกพ. ควรจะช่วยกำกับดูแลให้นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อ ประชาชนไทยมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเห็นกำไรสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ พี่น้องของดิฉัน อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอพิบูลมังสาหาร แจ้งปัญหาความไม่เสถียรค่ะ ไฟฟ้าตกบ่อย ส่วนที่อำเภอสิรินธรยิ่งแล้วใหญ่ไม่ต้องพูดถึงเลย บ้านอยู่ติดถนน ๔ เลน ทางไปช่องเม็ก ถ้าประเทศไทยหาทางออกไม่เจอนะคะ ดิฉันแนะนำให้ไปที่ช่องเม็ก ทางออก ประเทศไทยอยู่ที่ช่องเม็กค่ะ มีความต่างศักย์ไฟฟ้าปล่อยมาให้เพียง ๑๙๐ โวลต์เท่านั้น ทั้งที่มาตรฐานที่พวกเราใช้กันอยู่คือ ๒๒๐-๒๓๐ โวลต์ ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของพี่น้อง ประชาชนของดิฉันเสียหายบ่อยมาก ไปแจ้ง กฟภ. ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าต้องเพิ่ม หม้อแปลงไฟ ต้องเพิ่มหม้อแปลงไฟต้องเพิ่มอย่างไรคะ ต้องเสียเพิ่มอีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท พี่น้องของดิฉันจะไปหาเงินจากไหนมาเพิ่มคะ ประสาจะจ่ายแต่ละวันมันก็หายากพอแล้วค่ะ ดิฉันจึงอยากจะสอบถามว่านี่คือหน้าที่ของพี่น้องประชาชนของดิฉัน หรือเป็นหน้าที่ที่ทาง หน่วยงานต้องบริการให้ประชาชนคะ พี่น้องประชาชนคนไทยจะต้องถูกกดขี่ ถูกเอาเปรียบ แบบนี้อีกต่อไปใช่ไหมคะ วันนี้ดิฉันขอฝากไปยังหน่วยงาน กกพ. โปรดช่วยเมตตา และช่วย แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนของดิฉันด้วย ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๗ พรรคเพื่อไทย อุบลราชธานีค่ะ วันนี้ดิฉันมีเรื่องกราบเรียนปรึกษาหารือท่านประธาน ๓ เรื่องค่ะ
เรื่องแรก เป็นปัญหา ของพี่น้องทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ดิฉันอยากขอให้รัฐบาล เร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ทำกินให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเขตพื้นที่ของดิฉันค่ะ คืออำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร และอำเภอพิบูลมังสาหาร ที่มีที่ดินทำกิน อยู่ในเขตป่าไม้เสื่อมโทรม เขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเรียนท่านประธานค่ะว่าพี่น้องประชาชน ได้ตั้งรกรากถิ่นฐานประกอบสัมมาอาชีพตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ตั้งแต่ยังไม่ได้มีการประกาศ เขตอุทยานอย่างชัดเจน มาวันนี้ต้องโดนขับไล่ โดนจับ โดนกระทำด้วยกฎหมาย ดิฉัน ขอเสนอให้พิจารณากำหนดเขตแนวใหม่เพื่อเป็นการจัดสรรและเปิดโอกาสให้พี่น้อง ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินค่ะ ต่อเนื่องเรื่องของปัญหาที่ดินทำกินค่ะ ดิฉันขอฝาก ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้ให้กำลังใจประชาชนในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ที่หนี้สินท่วมตัว หนี้สินท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอดแล้วค่ะ ปัญหามากมายขอให้รัฐเร่งรัด การออกเอกสารสิทธิเพื่อจะได้มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต และยังจะสามารถ สร้างประโยชน์ต่อยอดให้กับครอบครัวได้ในอนาคตค่ะ
เรื่องที่ ๒ ค่ะ ปัญหาราคาวัว ราคาควายตกต่ำอย่างมาก สืบเนื่องมาจาก ดิฉันได้คลุกคลีอยู่กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งตอนนี้ว่าได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดค่ะ ปัญหารุมเร้า รอบด้านทุกทิศทาง สินค้าทางการเกษตรตกต่ำทุกชนิด ซ้ำร้ายค่ะวัว ควาย ที่ถือเป็นตู้ ATM เคลื่อนที่อยากได้เงินเมื่อไรก็ขาย ไม่มีเงินเมื่อไรก็ขาย แต่วันนี้ตู้ ATM มีปัญหาค่ะ เกิดเบิกเงินไม่ได้ กดเงินไม่ออก มีวัวแต่ไม่มีคนซื้อ ราคาถูกยังพอทนค่ะท่านประธาน แต่ปัจจุบันนี้ขายไม่ได้เลย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปพี่น้องประชาชน เกษตรกร นายฮ้อย พี่น้องของดิฉันจะต้องตายสถานเดียวแน่ค่ะ ดิฉันขอฝากท่านประธานไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้หาตลาดส่งออกโค กระบือ และมีมาตรการควบคุมการนำเข้าโค กระบือ จากต่างประเทศ เพื่อต่อชีวิตต่อลมหายใจให้พี่น้องประชาชนค่ะ
และเรื่องสุดท้ายค่ะ ภาพ Video ที่ท่านเห็นนะคะ คือทางหลวง จังหวัดหมายเลข ๒๑๓๔ และหมายเลข ๒๑๓๕ สายอำเภอศรีเมืองใหม่-อำเภอโขงเจียม และ Slide ถัดไปนะคะ คือทางหลวงชนบท หมายเลข ๓๐๖๐ ตำบลนิคม อำเภอสิรินธร ซึ่งถนนที่ดิฉันได้กล่าวมาข้างต้นทั้ง ๓ เส้นเป็นถนนสายหลักที่ใช้ในการสัญจร อีกทั้งยังเป็น เส้นทางที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนใช้ในการขนส่งสินค้าทางการเกษตร ซึ่งสภาพปัจจุบัน มีความเสียหายชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก จากภาพจะเห็นได้ว่าพื้นถนนมีหลุมมีบ่อ เกิดขึ้นมากมายจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน ประกอบกับไม่มีเส้นจราจรทำให้เกิดอุบัติเหตุ บ่อยครั้งค่ะ ดิฉันขอฝากท่านประธานสภาไปยังกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง ได้จัดสรร งบประมาณปรับปรุง ซ่อมแซม และขยายช่องจราจรพร้อมติดตั้งไฟฟ้ารวมทั้งปรับปรุง ผิวจราจรให้พี่น้องประชาชนโดยเร็วค่ะ ท้ายที่สุดเรียนท่านประธานค่ะ ความเดือดร้อน และความปลอดภัยของพ่อแม่พี่น้องประชาชนไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ดิฉันขอฝาก ความหวังไว้กับท่านประธานค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทย อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร อำเภอพิบูลมังสาหาร เฉพาะตำบลระเว และตำบลทรายมูล ดิฉันขอร่วมอภิปรายรายงานการเงินกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร จากที่ดิฉันได้ศึกษาข้อมูลทำให้ดิฉันได้ทราบว่ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกรได้ดำเนินงาน มากว่า ๔๐ ปี ซึ่งทางกองทุนก็มีงบประมาณมากพอสมควร เห็นได้ว่าได้ให้ความช่วยเหลือ พี่น้องเกษตรกรมากมาย ทั้งในรูปของเงินกู้ เงินอุดหนุน เงินสมทบ และโครงการต่าง ๆ ซึ่งทางกองทุนได้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้าน การเงิน ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้การประกันรายได้และลดภาระหนี้สิน ปัญหาภัยพิบัติ ทางกองทุนก็ได้ช่วยเหลือ ทั้งปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม ฝนแล้ง พายุ หรือโรคระบาด และภัย ธรรมชาติอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ได้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาทางด้านการตลาด ไม่ว่าจะหาตลาด หรือส่งเสริมการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร และช่วยจัดจำหน่ายผลผลิต ทางการเกษตรด้วยค่ะ
สุดท้ายค่ะ ทางกองทุนก็ไม่ได้ทิ้งที่จะช่วยพี่น้องเกษตรกรในด้านของการผลิต ได้จัดหาปัจจัยส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ซึ่งดิฉัน ได้เห็นว่าวัตถุประสงค์ของกองทุนได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ซึ่งอาชีพ เกษตรกรก็ถือว่าเป็นอาชีพหลักที่พี่น้องประชาชนได้ทำคู่กับประเทศไทย อยู่คู่กับคนไทย มานาน บางครั้งดิฉันก็ยังสงสัยและถามกับตัวเองเสมอว่าการเป็นกระดูกสันหลังของชาติ มันต้องลำบาก มันต้องยากจนขนาดนี้เลยหรือ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบพระคุณทาง คณะกรรมการกองทุนที่ได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรตลอดมาค่ะ
เรียนท่านประธานค่ะ ดิฉันซึ่งเป็นผู้แทนไทบ้าน ได้คลุกคลีอยู่กับพี่น้องชาวไร่ชาวนาชาวสวนอยู่เป็นประจำ พ่อแม่พี่น้องของดิฉันเป็นคนขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ แต่ด้วยโชคชะตาที่ไม่สามารถ กำหนดได้ ความไม่แน่นอนของปัญหาภัยพิบัติ น้ำท่วม ฝนแล้ง หรือว่าการบริหารจัดการ ของรัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนยากจนข้นแค้นอย่างหนักทำการเกษตรก็ขาดทุน เลี้ยงวัว ทำปศุสัตว์ก็ขาดทุน ปลูกอ้อย ปลูกมัน ปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด ทุกชนิดค่ะ ขาดทุน ทุกอย่าง ทำด้วยความเหนื่อยยากลำบาก แล้วก็โดนกดราคาจนแทบไม่เหลือกำไร อย่าว่า แทบไม่เหลือกำไรเลยค่ะ น่าจะไม่เหลือกำไรเลยจริง ๆ มันไม่มีกำไรเลยค่ะ ซึ่งดิฉันได้เข้าใจ ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนค่ะ ขาดทุนอย่างไรวันนี้ก็ยังคงต้องทำต่อ เพราะนี่คืออาชีพ ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกินนะคะ เพราะเป็นเกษตรกรกันมาทั้งชีวิต จากที่เราดูตาม เอกสารจากตัวเลข พบว่ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกรในปัจจุบันมีปัญหาไม่มีเสถียรภาพ ทางการเงิน เหตุมาจากไม่ได้รับการชำระหนี้จากประชาชน ก็อย่างที่ดิฉันได้กล่าวไปข้างต้น ชาวบ้านทุกข์ซ้ำทุกข์ซ้อน ทำการเกษตรก็ขาดทุน จะหาเงินที่ไหนมาชำระหนี้ใช่ไหมคะ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็นหนี้ค่ะ คงไม่มีใครอยากถูกฟ้องร้อง คงไม่มีใครอยากถูก ดำเนินคดี แต่วันนี้ทำอย่างไรล่ะคะ วันนี้มันไม่มีทางเลือก แค่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว หาเงินมาซื้ออาหารใส่ปากประทังชีวิตในแต่ละวันมันก็ลำบากแล้ว ดิฉันเข้าใจสภาพปัญหา ที่เกิดขึ้นค่ะ ก็มีความเห็นใจทั้งเกษตรกร พี่น้องประชาชน รวมทั้งเห็นใจทางกองทุน เบื้องต้น ดิฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้ทางกองทุนให้มุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้สมกับวัตถุประสงค์ของกองทุน ซึ่งวันนี้ดิฉันมีข้อเสนอฝากทางกองทุนนำไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ที่ดิฉันได้กล่าวไปข้างต้น
อย่างแรก การปล่อยเงินให้กู้ยืมหรือเงินให้ขาดแก่พี่น้องเกษตรกร นอกจาก ให้เงินแล้ว อยากจะฝากทางกองทุนให้ความรู้พี่น้องเกษตรกรไปด้วย ให้เงินพร้อมกับ ให้ความรู้เพื่อนำเอาไปแปรรูป เพื่อนำเอาไปต่อยอดเพื่อที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจาก พี่น้องเกษตรกรบางรายยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง หรือหลาย ๆ ครั้ง บ่อยครั้ง ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง อ้างความชื้นบ้าง ความสะอาดบ้าง อะไรต่าง ๆ นานา เพื่อหาทางเอาเปรียบพี่น้องเกษตรกรค่ะ
ข้อ ๒ กองทุนควรเร่งรัดชำระหนี้โดยการขายทรัพย์สินของกองทุน ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ และหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำมาชำระหนี้สินกองทุน ควรจัดทำ แผนชำระหนี้อย่างรัดกุม และดำเนินการตามแผนอย่างเคร่งครัด ต่อมาดิฉันเห็นว่า การดำเนินงานของกองทุนหรือการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนยังยาก อยากขอให้ทางกองทุน ได้จัดให้มีช่องทางให้ประชาชนสามารถร้องเรียนได้ หรือสอบถาม และให้ประชาชนสามารถ รับรู้การดำเนินงานของกองทุนค่ะ
กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรถือเป็นกองทุนที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชน เกษตรกรคนไทย กองทุนควรเร่งรัดแก้ไขปัญหาเพื่อให้กองทุนสามารถดำเนินการได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง
สุดท้ายขอฝากค่ะ ขอฝากท่านประธานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง กองทุน คนจนไม่ได้จนเพราะขี้เกียจนะคะ แต่บางทีเขาทำสุดความสามารถแล้วแต่มันก็ยังจน วันนี้ก็ขอบพระคุณทางกองทุนที่สละเวลามาในวันนี้ ขอบพระคุณค่ะ
ท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เขต ๗ อุบลราชธานี ดิฉันขออนุญาตร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็นกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ตามที่ดิฉันได้ฟังและดูรายงานของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ดิฉันพบว่ามีการเรียกเก็บเงิน จากพี่น้องเกษตรกรอยู่ ๒ ส่วน ส่วนแรกคือค่าใช้น้ำบาดาลตามมาตรา ๗ (๒) และส่วนที่ ๒ คือค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล มาตรา ๗ (๒/๑) โดยการเรียกเก็บเงินของกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ตามเกษตรกรอยู่ใน ส่วนที่ได้รับยกเว้นการอนุรักษ์น้ำบาดาล โดยการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค เพื่อการเพาะปลูก และเพื่อการเลี้ยงสัตว์ในอัตราไม่เกินวันละ ๕๐ ลูกบาศก์เมตร ในอดีตเวลาพูดถึงภาคอีสาน ทุกคนคงจะนึกถึงความแห้งแล้ง นึกถึงดินที่แตกระแหง และนึกถึงความยากจนใช่ไหมคะ จนถึงปัจจุบันนี้ในหลาย ๆ พื้นที่ก็ยังคงแห้งแล้ง ในหลายพื้นที่ของอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่ ของดิฉันประชาชนยังคงทุกข์ยากลำบาก และชลประทานก็ยังเข้าไม่ถึงในหลาย ๆ พื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานีบ้านเกิดเมืองนอนของดิฉันเองเป็นพื้นที่ที่มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านถึง ๓ สาย แม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล และรวมถึงลำน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านอีกหลาย ๆ สาย ซึ่งย้อนแย้งกับการจัดสรรน้ำเหลือเกินค่ะ เพราะแม้ว่าจะอยู่ติดกับแม่น้ำหลายสาย แต่ระบบ การกระจายน้ำก็ยังไม่ทั่วถึงประชาชน ทุกวันนี้ในเขตพื้นที่ของดิฉัน ยกตัวอย่างเช่น อำเภอสิรินธรพี่น้องประชาชนต้องลุ้นกันทุกวัน เพราะเขาต้องใช้น้ำประปาที่ได้มาจากน้ำผิวดิน นอกจากจะลุ้นกับการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ทุก ๆ วันยังคงต้องลุ้น เปิดก๊อกน้ำแต่ละทียังคง ต้องลุ้นว่าวันนี้น้ำจะขุ่นหรือว่าน้ำจะใส ดิฉันห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชนของดิฉันค่ะ เพราะการเก็บน้ำผิวดินไว้ในบ่อเก็บเช่นนี้มีโอกาสนำเชื้อโรคกลับมากระจายสู่พี่น้อง ประชาชนได้ และในส่วนของภาคการเกษตรตอนฝนตกน้ำก็ท่วมหนัก แต่พอฝนแล้งก็แล้งหนักมากเช่นกัน ไม่รู้จะหาน้ำที่ไหนมาทำการเกษตร ลำพังสินค้าทางการเกษตรตกต่ำก็ลำบากมากพออยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคงต้องเอาเงินเก็บไปจ้างเอกชนมาเจาะน้ำบาดาลอีก ทุกข์อยู่ ทุกข์แล้ว และต้องทุกข์ต่อไปอีก ทุกข์ซ้ำ ทุกข์ซ้อน แต่ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด แต่เจาะแล้วยังไม่จบ ด้วยความที่เขาไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอที่จะไปขอขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพยากร น้ำบาดาล และการขอ นบ.๔ นบ.๕ ก็ต้องใช้เวลาในการพิจารณาเอกสาร หนำซ้ำหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ พี่น้องของดิฉันก็ต้องกระเสือกกระสนทำทุกวิถีทาง เพื่อจะหาน้ำมากิน หาน้ำมาใช้ จากการที่ดิฉันได้ลงพื้นที่ก็ได้รับฟังปัญหานี้มาตลอด ฟังแล้ว อดเห็นใจไม่ได้ กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทต้องแบ่งมาเจาะน้ำบาดาล ต้องทำแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะถ้าหากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลตรวจพบว่าพี่น้องเกษตรกรไปเจาะน้ำบาดาล มาใช้เองก็ต้องโดนปรับภายหลังอีก แค่จะมีน้ำใช้ในแต่ละวันต้องยากลำบากขนาดนี้เลยหรือคะ เมื่อประชาชนต้องเจาะน้ำบาดาลแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ส่งผลถึงการวิเคราะห์การใช้น้ำบาดาล รวมถึงการอ้างอิงถึงพื้นที่เกษตรเพื่อวางแผนและปรับปรุงการใช้น้ำในอนาคต จึงเกิด ความคลาดเคลื่อนหรือใช้การไม่ได้เลย เพราะจำนวนของบ่อบาดาลจริงที่ขึ้นทะเบียน มีในระบบเพียงแค่ ๒๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังมีบ่อบาดาลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีก เป็นจำนวนมาก จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดดิฉันมีข้อแนะนำจึงขอฝากทางคณะกรรมการ กองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ๓ ข้อ
ข้อแรก ดิฉันอยากให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลตั้งโครงการให้หน่วยงาน ท้องถิ่นที่มีความจำเป็นขอให้มาสำรวจและขุดเจาะให้บริการให้ทั่วถึงมากกว่านี้ หากมีติดขัด เรื่องทรัพยากรหรือรถขุดเจาะไม่เพียงพอ ก็ขอให้ท้องถิ่นขอความช่วยเหลือด้านงบประมาณ มาที่กองทุน เพื่อไปแก้ไขปัญหาความลำบากเรื่องน้ำบาดาลให้พี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงทีค่ะ
ข้อ ๒ ดิฉันขอให้หาวิธีการงดเว้นค่าปรับชั่วคราวให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้การบริหารการใช้น้ำบาดาลอย่างเป็นระบบถูกต้องและแม่นยำ นำบ่อน้ำบาดาลทุกบ่อ เข้าสู่ระบบ กระตุ้นให้พี่น้องเกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมในการทำฐานข้อมูล และการมีส่วนร่วม ในการดำเนินการของโครงการน้ำบาดาลในพื้นที่นั้น ๆ ค่ะ
ข้อ ๓ ดิฉันอยากให้ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้วย เช่นระบบ Online ปริมาณ การใช้น้ำบาดาลจะลองติดตั้งแบบสุ่มกระจายตัวอย่างทั่วประเทศก็ได้ เพื่อรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้สามารถมีข้อมูลนำมาวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในอนาคตได้อย่างแม่นยำค่ะ ฝากถึงพี่น้องที่รักของดิฉันทุกคนนะคะ พี่น้องทางบ้านค่ะ สู้เขาเด้อค่ะ บ้านเฮามันแล้ง สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ผู้แทนของพ่อแม่พี่น้องขอสู้ ขอเป็นปากเสียงแทนพ่อแม่พี่น้องบ้านเฮาทุกคนค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๗ พรรคเพื่อไทย วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีเป็นวันที่เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน หลังจากที่พี่น้องรอคอย มานานที่จะได้ยินการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ อย่างมากมายในขณะนี้ค่ะ ทุกครั้งที่ดิฉันได้ยืนอภิปรายในสภาแห่งนี้เป็นทุกครั้งที่ดิฉันภูมิใจ ที่ได้เป็นผู้แทนไทบ้าน ผู้แทนราษฎร ผู้แทนของพี่น้องประชาชน ที่จะได้นำความทุกข์ยาก จากรากหญ้าเข้ามาพูดให้ดังขึ้นในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ เป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องและยัง ช่วยต่อลมหายใจให้เขาได้มีกำลังใจที่จะทำไร่ทำนา หากิน มีชีวิตอยู่ต่อไปค่ะ ที่ดิฉันได้กล่าว แบบนี้หมายถึงสินค้าทางการเกษตรของพี่น้องประชาชน ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง รวมทั้งวัว ควาย สิ่งเหล่านี้คือชีวิต คือทุกสิ่งทุกอย่างของเกษตรกรค่ะ วันนี้พวกเขา ไม่ได้ขอให้สินค้าทางการเกษตรมีราคาสูงมากมายอะไร ขอเพียงแค่ให้ขายได้ไม่ขาดทุน มีรายได้เลี้ยงครอบครัว เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ให้ได้กินอิ่มนอนหลับมีความสุขก็เพียงพอแล้ว ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมายาวนานค่ะ ดิฉันขอเน้นไปที่เรื่องวัว ควาย สินค้าวัว ควายที่ราคา ตกต่ำในปัจจุบันนะคะ ดิฉันเกิดและเติบโตมาในคอกวัวคอกควาย ไม่ได้เกิดในคอกวัว หรอกค่ะ แต่ว่าต้องอาศัยได้เลี้ยงวัวเลี้ยงควายอยู่กับครอบครัวที่เลี้ยงวัวก็เข้าใจหัวอกของ พี่น้องเกษตรกรว่าวัว ควายคือชีวิตคือลมหายใจของพี่น้องเกษตรกร วัว ควายคือธนาคาร เคลื่อนที่ หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจทำไมถึงเป็นธนาคารเคลื่อนที่ เพราะว่าถ้าเวลาที่ไม่มีเงิน เราก็จะขายวัวขายควาย หลาย ๆ ท่าน พี่น้องประชาชนจะจัดงานแต่งลูก จะจัดงานบวช หรือแม้กระทั่งงานศพ ถ้าหาเงินไม่ทันเราก็จะขายวัวเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ดิฉันก็ได้เคย อภิปรายไปแล้วครั้งหนึ่งในสภาแห่งนี้เรื่องของราคาวัว ควายตกต่ำ วันนี้มาขอย้ำอีกครั้งว่า ตอนนี้ราคาวัว ควายของเกษตรกรยังคงย่ำแย่อยู่ ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย ปัจจุบันรับซื้อเพียงแค่ กิโลกรัมละ ๗๐-๘๐ บาทเท่านั้น ซึ่งสวนทางกับค่าใช้จ่ายในเรื่องของอาหาร อดีต ๓๐๐ บาท ปัจจุบันซัดไป ๔๐๐-๕๐๐ บาทแล้วค่ะ ราคา ๗๐-๘๐ บาทถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ พี่น้องเกษตรกรถ้าไม่กัดฟันขายก็ไม่ขายหรอกค่ะ เพราะว่าการเลี้ยงวัวเลี้ยงควายมันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ หลาย ๆ คน อาจจะคิดว่าจูงวัวไปผูกกินหญ้า หรือว่าเอาควายไปนอนน้ำก็เสร็จแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว มันมีค่าใช้จ่ายค่ะ กว่าจะเลี้ยงให้เติบโตต้องใช้เวลา ค่าอาหารทุกวันนี้ก็แพงมากอย่างที่ดิฉัน ได้กล่าวไป พ่อค้าก็ให้ราคาต่ำจนขาดทุนเช่นนี้ พี่น้องเกษตรกรก็ลำบากค่ะ ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะส่วนใหญ่ก็เลี้ยงกันเพื่อนำรายได้มาจุนเจือครอบครัว แต่ในเมื่อราคาต่ำขนาดนี้ก็ต้อง ชะลอการขาย เพราะขายไปก็มีแต่ขาดทุน แต่อยู่ไปเลี้ยงต่อไปก็ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมันก็มี ค่าใช้จ่ายทุกวัน
ต่อมาขอพูดในส่วนของเรื่องยางพารา ชาวสวนยางพาราก็เดือดร้อนไม่ต่างจาก เกษตรตัวอื่น ๆ ต้องเผชิญปัญหาราคายางพาราตกต่ำ หนี้สินล้นพ้นตัว ช่วงนี้เป็นช่วงของ ฤดูฝน ผลผลิตน้อยราคาก็แย่ ตื่นตีหนึ่งตีสองเพื่อไปกรีดยาง สาย ๆ มาไปหยอดน้ำกรด กว่าจะเสร็จก็ค่อนวันไปแล้ว ทุ่มเททั้งวันทั้งคืนแต่ราคาถูกแสนถูก วันนี้ราคาขี้ยางในเขต พื้นที่ของดิฉันตกกิโลกรัมละ ๑๗ บาท ขายยาง ๖ กิโลกรัม ได้เงินแค่ ๑๐๐ บาท แค่หายใจ ก็หมดแล้ว เกษตรกรชาวนาที่ทนสู้อยู่กับการทำนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ยิ่งทำยิ่งทุกข์ ราคาตกต่ำไม่พอยังต้องประสบปัญหากับภัยแล้ง ปัญหาราคาปุ๋ยที่แพงอลังการ เป็นไปได้ อย่างไรคะ ราคาข้าวตกต่ำขนาดนี้ทั้งที่ในปัจจุบันความต้องการการบริโภคทั้งใน และต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นสินค้าราคาตกต่ำสวนทางกับปัจจัยการผลิต ที่ราคาสูงขึ้น น้ำมันก็แพง ปุ๋ยก็แพงอย่างที่ดิฉันได้กล่าวไป แต่วันนี้ประชาชนของดิฉัน เริ่มมีความหวังว่าภายใต้การนำของรัฐบาลเพื่อไทย โดยท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ชุดนี้จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาราคาสินค้า การเกษตรตกต่ำโดยการหาตลาด และจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนได้ ด้วยนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม และเพิ่มรายได้ นอกจากสินค้าจะราคาดีขึ้นแล้ว ขอฝากทางรัฐบาลอีก ๑ ประการที่สำคัญ ขอให้ช่วยพี่น้องประชาชนของดิฉันรวมทั้งพี่น้อง ประชาชนทั่วประเทศให้ฟื้นได้ ซึ่งขณะนี้ประชาชนกำลังป่วยหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจบ้าง บางคนพะงาบใกล้ตายแล้ว ขอให้รัฐบาลพักหนี้ ธ.ก.ส. ทั้งต้นทั้งดอกเพื่อให้ประชาชน หลาย ๆ ท่าน ถอดเครื่องช่วยหายใจ และหลาย ๆ ท่านลืมตาอ้าปากได้สักที เพราะทุกวันนี้ หาเงินลำบากมาก ข้าวของไม่เป็นราคา ค่าใช้จ่ายสูง หนี้สินท่วมตัว งวดรถก็ตามมาติด ๆ ลูกก็ต้องไปโรงเรียน ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้หรอกค่ะ เกษตรกรเป็นอาชีพแห่งความหวัง ปีนี้หวังว่าฝนจะดี หวังว่าสินค้าทางการเกษตรจะมีราคา หวังว่าปีนี้ต้องปลดหนี้ได้แน่ ๆ หวังว่าราคาวัวราคาควายจะสูงขึ้น ตั้งใจทำงานด้วยความหวังมาตลอดค่ะ เรามาเปลี่ยน ความหวังให้เป็นความจริง ให้พี่น้องทำอาชีพเกษตรกรได้อย่างสมศักดิ์ศรีกระดูกสันหลัง ของชาติสักทีค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ วันนี้มีเรื่องปรึกษาหารือท่านประธาน ปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉัน ๓ เรื่อง
เรื่องแรก เป็นปัญหา ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไทยทุกหย่อมหญ้า คือปัญหายาเสพติด ดิฉันอยากฝากวอนไปถึงรัฐบาลให้ยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหา เพราะปัจจุบันนี้ยาบ้าระบาดหนักมาก ยาเสพติดหากินง่ายเหลือเกิน ไม่ไหวแล้วนะคะ พี่น้องประชาชนที่ลูกหลานติดยาเสพติดถือว่าตกนรกทั้งเป็น ลูกฆ่าพ่อ ตีแม่ เผาบ้าน หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ทรมานที่สุดค่ะ
เรื่องที่ ๒ เป็นปัญหาของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธร ได้รับผลกระทบจากการประกาศสร้างเขื่อนตั้งแต่ปี ๒๕๑๑ โดยสำนักงาน คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ก่อนจะส่งมอบให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในปี ๒๕๑๕ มีผู้ได้รับผลกระทบหลายพันราย หลายพัน ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากรุ่นสู่รุ่น และมีผู้ตกหล่นหลายรายที่ไร้ที่อยู่อาศัย หลายรายไม่มีที่ทำกิน ต้องหาเช้ากินค่ำบาง รายเสียชีวิตไปก่อนได้รับการช่วยเหลือ ดิฉันจึงขอฝากให้ภาครัฐช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบในเร็ววันค่ะ
เรื่องที่ ๓ โรงพยาบาลศรีเมืองใหม่ อำเภอศรีเมืองใหม่ เป็นโรงพยาบาลขนาด F2 เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง ซึ่งมีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่า จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้มีเตียงผู้ป่วยเพียง ๖๐ เตียง ซึ่งไม่พอต่อการใช้บริการของพี่น้อง ประชาชน จากที่ทราบตึกผู้ป่วยในภาพมีอายุการใช้งานมาแล้ว ๓๐-๔๐ ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ มีสภาพเสื่อมโทรม แม้จะบำรุงรักษาและซ่อมแซมบ่อยครั้งก็ยังมีเสี่ยงต่อการชำรุดทรุดตัวลงมา อาจจะเกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนได้ตลอดเวลา
อีกประเด็นสำคัญค่ะ คือดิฉันได้พบเห็นระบบน้ำเสียของโรงพยาบาล ศรีเมืองใหม่เป็นแบบบ่อดิน บ่อซึม ซึ่งมีความเสี่ยงที่เชื้อโรคจากโรงพยาบาลจะซึมไปปะปน กับผิวดิน น้ำผิวดินที่พี่น้องประชาชนได้ใช้งานอยู่เกรงจะเป็นปัญหาในอนาคตค่ะ ดังนั้นดิฉัน จึงขอความเห็นใจฝากท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อให้โรงพยาบาลศรีเมืองใหม่ได้มีตึกผู้ป่วยใหม่เพื่อรองรับ พี่น้องของดิฉันค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอภิปรายญัตติ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแนวทางการจัดการศึกษา สำหรับเด็กที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎร์หรือไม่มีสัญชาติไทย สืบเนื่องจากพี่น้องแรงงาน จากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเหล่านั้น เป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของบ้านเรา แต่พวกเขากลับขาดโอกาส หลายอย่างในการดำเนินชีวิตในบ้านเราเพียงเพราะพวกเขาเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ แม้กระทั่ง บางคนเกิดและเติบโตในประเทศไทยก็ไม่ได้รับสัญชาติและไม่มีบัตรประชาชน และเมื่อเขา มีลูก เด็กเหล่านั้นก็มีชีวิตไม่ได้แตกต่างจากผู้เป็นพ่อและเป็นแม่ ยังได้ชื่อว่าเป็นเด็กที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เขาเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่แตกต่างจากคนไทยหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การแจ้งเกิด ก็จะถูกกำหนดเลข ๐ นำหน้าที่แสดงถึงผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือถ้าได้รับ การเข้าโรงเรียนไทย พวกเขาก็จะถูกกำหนดเลขประจำตัวโดยการขึ้นต้นด้วยตัว G เพื่อใช้ เป็นรหัสชั่วคราว ซึ่งรหัส G จะใช้สำหรับแค่เรื่องการศึกษาเท่านั้น มีผลแค่ในโรงเรียนเท่านั้น มีอายุใช้งานเพียงแค่ ๖ ปี ไม่ได้รับสิทธิทางด้านสาธารณสุขต่าง ๆ เช่นถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ นอกโรงเรียน ผู้ปกครองต้องรับภาระในการใช้จ่ายทั้งหมด อำเภอโขงเจียม จังหวัด อุบลราชธานี เป็นเขตพื้นที่ของดิฉัน มีกลุ่มคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ที่เป็นลูกหลานชาวลาวอพยพกว่า ๑๐๐ ชีวิตหรือมากกว่านั้น เป็นเด็กที่เกิดกับคนไร้สัญชาติที่ยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะคนไทย ซึ่งเป็นปัญหา การอนุมัติสัญชาติ ส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงาน เนื่องจากระบบการจัดเก็บข้อมูล ในบ้านเราเพิ่งย้ายฐานข้อมูลจากกระดาษมาเป็น Digital ไม่นานนัก อาจจะมีบางส่วนที่ทำให้ ตกหล่นไปบ้าง ปัญหาในจุดนี้ปรับเปลี่ยนได้โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ชำนาญเรื่องคนในพื้นที่ สามารถขอความ ร่วมมือจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้เพื่อสามารถ Update ข้อมูลได้ค่ะ
ดิฉันเป็นผู้แทนที่มีเขตพื้นที่อยู่ติดชายแดนมีบุคคลไร้รัฐอยู่ ไร้สัญชาติอยู่ เป็นจำนวนมากพอสมควร ได้รับฟังปัญหาจากปากผู้เป็นพ่อเป็นแม่ของเด็ก ๆ อยู่บ่อยครั้ง ก็อดเห็นใจไม่ได้ บางคนมากอด บางคนร้องไห้ บางคนอ้อนวอน ขอให้ดิฉันช่วยผลักดัน ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะอยากให้ลูกได้เรียนหนังสือ อยากให้ลูกได้รับสิทธิ ทางการรักษาพยาบาล มีอิสระในการใช้ชีวิต มีชีวิตเหมือนคนไทยคนอื่น ๆ เพราะพวกเขา ก็ได้เสียภาษีเหมือนคนไทย ทำไมวันนี้ถึงไม่มีสิทธิและไม่ได้รับสวัสดิการเท่าเทียมกับคนไทย แถมยังต้องติดปัญหากับกระบวนการหน่วยงานของภาครัฐซึ่งเป็นกับดักขวางทาง ขวางโอกาส ของเด็ก ถ้ารัฐหรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ สุดท้ายชะตากรรม ของเด็กเหล่านี้ก็หนีไม่พ้นการเป็นแรงงาน มีชีวิตที่ลำบากไม่แตกต่างจากผู้เป็นพ่อและแม่ค่ะ เพราะการศึกษาเป็นสิทธิมนุษยชนและเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ รัฐควรมอบโอกาส และปกป้องสิทธิของพวกเขา เพราะเมื่อเด็กขาดการศึกษาเล่าเรียน เขาจะพัฒนาตัวเอง ไปสู่อนาคตที่ดีได้อย่างไร ดิฉันจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอื่น ๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน และสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดนี้จากพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารงานของ ท่านนายกเศรษฐา ทวีสิน ดิฉันเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ
สุดท้ายที่อยากจะขอฝากค่ะ การศึกษาทำให้เด็กหลุดพ้นจากความทุกข์ ความลำบาก และสามารถตัวเองก้าวข้ามความฝัน ความหวัง และไปสู่ความสำเร็จได้ ในอนาคต และพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวได้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอนค่ะ ผู้แทนคนนี้จะขอเป็นกำลังใจให้เด็ก ๆ ทุกคน ขอให้ฝันเป็นจริง ขอให้ได้สัญชาติไทยในเร็ววัน ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทยค่ะ วันนี้ดิฉันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอภิปราย สนับสนุนญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน หนี้สินครัวเรือนเป็นปัญหาของสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องค่ะ ส่งผลทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่อาจเติบโตได้ เนื่องจากครัวเรือนต้องนำรายได้ ไปชำระหนี้ จำกัดกำลังซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ ของการเงินการคลังของประเทศได้ ปัจจุบันนี้หนี้สินครัวเรือนของไทยมีการเติบโตขึ้น อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้สูงเป็นอันดับต้น ๆ โดยหนี้ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่อาจสร้างรายได้ และเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้โดยเฉพาะ หนี้สินครัวเรือนทางภาคการเกษตรที่พี่น้องเกษตรกรติดหนี้เป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องจนถึง ทุกวันนี้ค่ะ ซึ่งพี่น้องในเขตพื้นที่ของดิฉันประกอบอาชีพเกษตรกรรม มากถึงร้อยละ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ภาพที่เห็นจนชินตาคือภาพที่พี่น้องเขาเหล่านี้ทำงานกันแทบ ตลอดเวลา หนักเอาเบาสู้ อาบเหงื่อต่างน้ำตาหามรุ่งหามค่ำ แต่ทำไมไม่รวยสักที เหตุผล ที่ไม่รวยสักทีก็เพราะพวกเขาต้องแบกรับภาระหนี้สินครัวเรือนในภาคการเกษตร ส่วนใหญ่ มาจากการที่พี่น้องเกษตรกรไม่มีที่ดินถือครองเป็นของตนเอง เขาจึงต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อมาทำการเพาะปลูก และด้วยความจนแร้นแค้น หางานหาเงินที่บ้านก็แสนยากลำบาก จึงต้องจำใจจากลูก จากครอบครัวไปทำงานที่เมืองหลวงเพื่อหาเงิน แล้วส่งกลับมาให้พ่อใหญ่ แม่ใหญ่เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานที่บ้าน ซึ่งนั่นเองก็ส่งผลทำให้ครอบครัวเกษตรกรขาดแรงงาน ที่เป็นกำลังหลักสำคัญ ที่มีเรี่ยวแรงพัฒนาผลผลิต ต่อให้ขายจนหมดก็พอใช้แค่เลี้ยงปาก เลี้ยงท้องไปวัน ๆ ค่ะ ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เขาจึงต้องกู้เงินเพื่อรักษาสิทธิให้เท่าเทียม กับคนอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีบุตรหลานก็อยากเลี้ยงดูให้เขาสุขสบาย และบางรายก็ยืมแทน บุคคลอื่น นอกจากนี้ปัญหาที่ต้องเผชิญโดยที่เขาไม่สามารถควบคุมได้เลยก็คือปัญหาราคา พืชผลทางการเกษตรตกต่ำที่ต้องจำใจยอมรับค่ะ จากข้อมูลสำรวจครัวเรือนเกษตรกรของ สถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ย้อนหลัง ๘ ปี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๔ พบว่าเกษตรกร ๙๐ เปอร์เซ็นต์มีภาระหนี้สิน แต่ละครัวเรือนมีหนี้สินผูกพันมากกว่า ๑ สัญญา เฉลี่ยครัวเรือนละ ๓.๘ สัญญา โดยมียอดหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ๔๕๐,๐๐๐ บาทต่อ ๑ ครัวเรือน จากข้อมูลดังกล่าวกล่าวได้ว่าเกษตรกรส่วนใหญ่แบกภาระหนี้สินมากเกิน ศักยภาพ การชำระหนี้ของตนเอง การแก้ไขปัญหาของเกษตรกรคือการหมุนหนี้โดยการกู้เงิน จากอีกแหล่งหนึ่งไปโปะอีกแหล่งหนึ่ง เมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลกองทุนฟื้นฟูและพัฒนา เกษตรกรจะเห็นภาพใหญ่ของหนี้สินภาคการเกษตรอย่างชัดเจนขึ้น โดยพบว่ามูลหนี้รวม ในปัจจุบัน ข้อมูล ณ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ของเกษตรกร ๕.๖ แสนรายที่ขึ้นทะเบียนกับ กองทุนอยู่ที่ ๑๐๘,๘๑๖ ล้านบาท เจ้าหนี้หลักคือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ที่เกษตรกรกว่า ๓๐๐,๐๐๐ รายมีภาระสินเชื่อผูกพันอยู่คิดเป็นมูลหนี้กว่า ๖๐,๘๖๑ ล้านบาท
อีกทั้งยังมีหนี้สินสำคัญของครัวเรือนของเกษตรกรไทยที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ ในระบบคือหนี้นอกระบบ คือการกู้หนี้ในลักษณะกู้ยืมเงินจากนายทุนในหมู่บ้านหรือเป็น การกู้หนี้จากเถ้าแก่ร้านปุ๋ย ร้านยาที่เกษตรกรจะใช้เครดิตปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตร มาใช้ก่อน เมื่อผลผลิตออกมาแล้วจึงนำเงินไปชำระหนี้ แต่มักปรากฏว่าเกษตรกรไม่สามารถ ชำระหนี้ได้ก็ทำให้ส่งผลเป็นภาระหนี้ที่เพิ่มพูนขึ้น ภาระหนี้สินภาคการเกษตรปัจจุบัน จึงสะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนของระบบการเงินไทย เกษตรกรไทยมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการ ใช้จ่ายหนี้ ต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาเงินใช้หนี้ หาไม่ทันก็ต้องขอยืดหนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ปัญหา มีไว้แก้ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าการแก้ไขจะสามารถทำได้ทันที การพิจารณาการบรรเทาปัญหา เพื่อดึงศักยภาพของผู้มีหนี้สินจึงเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ วันนี้ดิฉันต้อง ขอขอบคุณทางรัฐบาล และ ธ.ก.ส. ที่ได้เดินหน้ามาตรการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกค้า และเกษตรกรไทยรายย่อยกว่า ๒ ล้านรายทั่วประเทศ ให้กับลูกค้าที่มีเงินต้นเป็นหนี้ ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท แต่ถ้าฝนจะตกขอให้ตกให้ทั่วฟ้า ดิฉันเสนอว่า ควรให้มีมาตรการพิจารณาเงื่อนไขสำหรับผู้ที่มีหนี้สินรวมกันเกินกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท ด้วยเช่นกัน ทุกวันนี้พี่น้องเฝ้าตั้งแต่รอ ฝากความหวัง ฝากชีวิตต่อจากนี้กับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และยังฝากกำลังใจให้ดิฉันนำมาส่งต่อให้ทางรัฐบาลให้เร่งผลักดันเดินหน้า มาตรการพักชำระหนี้ให้เร็วที่สุด ดิฉันเชื่อมั่นและสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ภายใต้ การบริหารงานของท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะเข้ามาเปลี่ยนความหวังของพี่น้อง เกษตรกรให้เป็นความจริง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยต่อลมหายใจให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย มีกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อได้อย่างมีความสุข ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงการพักชำระหนี้ แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่าพี่น้องเกษตรกรจะยิ้มได้เต็มแก้ม นอนหลับเต็มตา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุขมากกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๗ จังหวัดอุบลราชธานี ตะวันขึ้นก่อนใครในสยาม อำเภอโขงเจียม ศรีเมืองใหม่ อำเภอสิรินธร อำเภอพิบูลมังสาหาร วันนี้ดิฉันมีเรื่องปรึกษาหารือท่านประธานเป็นเรื่องปัญหาที่สำคัญเร่งด่วนของพี่น้อง ประชาชนในขณะนี้ คือปัญหาข้าวเปลือกหอมมะลิตกต่ำอย่างร้ายแรง ซึ่งในวันนี้เป็นปัญหา ของชาวบ้านพี่น้องเกษตรกร นั่นหมายถึงเป็นความเดือดร้อนของผู้แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าน สส. บุญแก้ว สมวงศ์ จังหวัดยโสธร ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ในช่วงนี้เป็น ฤดูการเก็บเกี่ยว ซึ่งพี่น้องประชาชนตั้งความหวัง ตั้งตารอปีละไม่กี่ครั้ง แต่วันนี้ราคาข้าวตก กิโลกรัมละ ๑๑ บาท ตันละ ๑๑,๐๐๐ บาท เป็นไปได้อย่างไรคะ ชาวนา พี่น้องเกษตรกร ไม่มีโอกาสมายืนพูดอย่างดิฉันได้มาพูดในขณะนี้ มากที่สุดเขาสามารถบ่นได้แค่ที่บ้าน หรือบ่นที่หน้าโรงสี วันนี้ดิฉันจึงขอเอาความหวังของพี่น้องเกษตรกรมาขอความอนุเคราะห์ จากท่านประธาน เร่งประสานกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมาตรการ เร่งช่วยเหลือราคาข้าวเปลือกที่เร่งเก็บเกี่ยวที่ทยอยเก็บเกี่ยวในช่วงนี้ หวังว่าสัปดาห์หน้า ราคาจะดีขึ้นกว่านี้นะคะ อยากให้กระทรวงพาณิชย์ได้ให้กรมการค้าภายในส่งเจ้าหน้าที่ ออกตรวจโรงสี เพื่อให้กำหนดราคาที่เป็นธรรม ตาชั่งที่มีมาตรฐาน และความชื้นที่มีค่า ตรงไปตรงมา ซึ่งชาวบ้านเกษตรกรในปัจจุบันนี้ด้วยภาระ ด้วยความเร่งรีบ หาเงิน หาอยู่ หากิน ทำนาเสร็จปัจจุบันนี้ไม่ได้มีเวลาตากข้าวเหมือนในอดีต เกี่ยวเสร็จนำมาขายโรงสีเลย ในขณะที่ข้าวยังเปียก เครื่องวัดความชื้นเท่าไรไม่รู้ ตาชั่งได้มาตรฐานไหมไม่รู้ ราคา จะถูกต้องไหมไม่รู้ จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเป็นหูเป็นตาปกป้อง การถูกเอารัดเอาเปรียบจากโรงสีให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เป็นชาวนากระดูกสันหลังของชาติ ด้วยค่ะ
เรื่องต่อไปเป็นเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องที่ใช้รถใช้ถนน โดยเส้นทางหลักคือเส้น ทล.๒๑๓๔ ตำบลดอนใหญ่ อำเภอศรีเมืองใหม่ถึงอำเภอโขงเจียม เส้นที่ ๒. ทล.๒๑๑๒ ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ถึงอำเภอโขงเจียม เส้นที่ ๓ ทล.๒๒๒๒ อำเภอโขงเจียมถึงบ้านสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร และเส้นสุดท้าย ทล.๒๑๗ อำเภอพิบูลถึงตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร ซึ่งถนน ๔ สายที่ดิฉันได้กล่าวมานี้ เป็นถนนที่ พี่น้องได้สัญจรไปมาอย่างหนาแน่นและไม่ได้รับการปรับปรุงมาหลายปีแล้ว เรื่องนี้จึงฝาก ท่านประธานถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบทได้เร่งแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันมีเรื่องหารือในปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนในเขตอำเภอสิรินธร อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอ พิบูลมังสาหาร
เรื่องที่ ๑ หารือ ท่านประธานในกรณีก่อสร้างสะพาน ในกรณีก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำมูล ซึ่งเป็นแม่น้ำ สายหลักของจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนช่วง ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหารถึงตำบลคันไร่ อำเภอสิรินธร ซึ่งได้มีการออกแบบตั้งแต่ สมัยของท่าน สส. ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ เมื่อ ๑๐ ปีที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันจึงมาขอเรียน ท่านประธานในความเดือดร้อน ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉัน ในการร่นระยะทางและอำนวยความสะดวกให้มีการสัญจรได้สะดวกขึ้น และพี่น้องประชาชน ได้มีเวลาในการทำสิ่งอื่น ด้านจุดเริ่มต้นของโครงการเริ่มจาก หมู่ที่ ๑๑ บ้านคันไร่เหนือ ตำบลคันไร่ อำเภอสิรินธร ถึงจุดสิ้นสุดโครงการคือ หมู่ที่ ๒ บ้านทรายมูล ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร
เรื่องที่ ๒ ถนน ๒๑๓๔ อำเภอตระการพืชผลถึงอำเภอศรีเมืองใหม่ เรื่องนี้ ดิฉันได้หารือท่านประธานสภาไปตั้งแต่สมัยประชุมครั้งที่ผ่านมา วันนี้มาแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า ถนนสายนี้มีประชากรสัญจรมากถึง ๑๐,๐๐๐ คันต่อวัน ซึ่งกรมทางหลวงและกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่สำรวจแล้ว วันนี้ดิฉันยืนยันอีกครั้งว่าถนนเส้นทางนี้ต้องได้รับการปรับปรุง ต้องได้รับการแก้ไข พิจารณาขอขยายจาก ๒ ช่องจราจร เป็น ๔ ช่องจราจรค่ะ
เรื่องที่ ๓ ถนนสาย อบ.๔๐๓๒ แยก ทล.๒๑๑๒ ถึงบ้านดงแถบ อำเภอ โขงเจียม ถนนสายนี้เป็นถนนสายหลักของพี่น้องตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม ที่สัญจร ไปได้หลายหมู่บ้าน จากบ้านดงแถบ บ้านนาบัว บ้านห้วยยาง ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม และเป็นทางลัดเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๑๓๕ ไป ๒๑๑๒ และ ๒๑๓๔ ซึ่งไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างที่ทุกท่านได้เห็น วันนี้ดิฉันขอเรียนถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปรับปรุงแก้ไข
เรื่องสุดท้าย เรื่องการการพักหนี้ ธ.ก.ส. ดิฉันต้องขอขอบคุณทาง ธ.ก.ส. และรัฐบาลที่ได้พักหนี้ให้เกษตรกรที่เป็นหนี้ยอดต้นรวมไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท แต่ดิฉัน ขอให้พิจารณาเงื่อนไขสำหรับผู้ที่มีหนี้เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาทด้วย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ และปัญหาหลักของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ขอบพระคุณมากค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ขอเสนอชื่อ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. .... ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยจำนวน ๕ คน ๑. นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ๒. นายวิรัช พิมพะนิตย์ ๓. นายบุญแก้ว สมวงศ์ ๔. นายสุรเกียรติ เทียนทอง ๕. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันมีเรื่องปรึกษาหารือท่านประธาน หลายเรื่องด้วยกันค่ะ
เรื่องแรก ปัจจุบันนี้ประชากรไทยของเราได้เพิ่มมากขึ้น บ้านเมืองขยับขยาย พ่อแก่แม่เฒ่าได้พาลูกหลานขยายบ้านไปอยู่อาศัยตามทุ่งนา ดังนั้นความต้องการการใช้ไฟฟ้า ต้องตามมาค่ะ การขยายเขตไฟฟ้าให้ประชาชนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดิฉันจึงอยากขอหารือ ท่านประธานค่ะ ในกรณีขอขยายเขตไฟฟ้าให้พี่น้องประชาชนขอให้ลดขั้นตอน และที่สำคัญ การไฟฟ้าต้องอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเขตพื้นที่ชนบท โดยเฉพาะ เขตพื้นที่ของดิฉัน อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร และอำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งที่ผ่านมา และปัจจุบันปัญหาในการขอขยายเขตไฟฟ้าได้ผ่านการพิจารณายากเย็น เหลือเกินค่ะ
เรื่องที่ ๒ ดิฉันต้องขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และ คณะรัฐมนตรีที่ได้มีนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. ๔-๐๑ ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร แต่ก็ยังมี พี่น้องอีกมากมายที่ยังรอคอยความหวัง ดิฉันขอให้รัฐบาลพิจารณาในกรณีที่พี่น้องประชาชน ที่มีที่ ส.ค. ๑ ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่หัวไร่ปลายนา เขตป่าเสื่อมโทรม ภ.บ.ท. ๕ ให้เป็น โฉนดที่ดิน เพื่อความมั่นคงในชีวิตและอนาคตที่สดใส ขอสไลด์ด้วยค่ะ
เรื่องที่ ๓ จากสไลด์ค่ะ ถนนหมายเลข ๒๑๓๔ จากอำเภอโขงเจียมถึงอำเภอศรีเมืองใหม่ และถนนหมายเลข ๒๒๒๒ จากอำเภอโขงเจียมถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร ปัจจุบันนี้ไหล่ทางแคบ เพียงข้างละ ๑ เมตร เท่านั้น ทำให้พี่น้องประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ หรือรถจักรยานต้องมาวิ่งในถนนเลนใหญ่ ไม่สะดวกต่อการสัญจรไปมาค่ะ
เรื่องถัดไป ขอให้กรมทางหลวงซ่อมแซมหรือบูรณะผิวจราจรที่เสียหาย ทั้งหมด ๔ เส้น ๑. คือถนนทางหลวงหมายเลข ๒๒๒ อำเภอโขงเจียม ถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร ๒. ทางหลวงหมายเลข ๒๑๑๒ จากอำเภอโขงเจียมถึงตำบลหนามแท่ง ๓. ถนนหมายเลข ๒๑๓๔ จากอำเภอโขงเจียมถึงตำบลดอนใหญ่ค่ะ
และเรื่องสุดท้าย ขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้ง ไฟแสงสว่างบนทางหลวงหมายเลข ๒๒๒๒ กิโลเมตรที่ ๑๗ ถึงกิโลเมตรที่ ๒๒ จากบ้านน้ำสร้าง บ้านคันลืม บ้านท่าเสียว บ้านหัวดอน ตำบลทรายมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร ขอบพระคุณค่ะ
เรียนท่านประธาน สภาที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทยค่ะ ดิฉันขอเสนอระยะเวลาในการพิจารณา ๙๐ วัน ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
ท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทยค่ะ ในวันนี้ดิฉันขอยื่นกระทู้ถามสดในปัญหาราคาวัวตกต่ำที่เป็นปัญหา ร้ายแรงในขณะนี้ของพี่น้องประชาชนค่ะ ต้องขอขอบพระคุณท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ได้มาตอบกระทู้สดตั้งแต่เช้าในวันนี้ ซึ่งดิฉันดีใจและถือว่าเป็น ความหวังของพี่น้องประชาชนอย่างมาก ซึ่งท่านเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับด้านการปศุสัตว์ เป็นอย่างมากค่ะ
ปัญหาของพี่น้อง ประชาชนในปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องถนนหนทาง ปัญหาเรื่อง เศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องขยะที่เราได้พูดกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปัญหาเรื่องวัวตกต่ำนี่ก็เป็น ปัญหาที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชน ดิฉันเคยใช้สถานที่สภาแห่งนี้ ในการอภิปรายพูดแทนพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉันรวมถึงพี่น้องทั่วประเทศไทยว่า วัวคือชีวิต วัวคือลมหายใจ พี่น้องประชาชนไม่มีเงินค่ะ ขายวัว พี่น้องประชาชนไม่มีเงิน ค่าเทอมให้ลูก ขายวัวค่ะ วัวคือธนาคาร ตู้ ATM เคลื่อนที่ของพี่น้องประชาชน แต่ใน สถานการณ์ในปัจจุบันในวันนี้ทุกครั้งที่ดิฉันได้เดินทางไปที่บ่อน หรือว่าภาษาไทยเรียกว่า ตลาดนัดโคกระบือ อย่างที่เห็นในภาพ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์นอกจากเว้นว่างจากการประชุมสภา ดิฉันลงไปหาพี่น้องประชาชนที่ตลาดนัดโคกระบือเพื่อดูและให้กำลังใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ปัจจุบันนี้คือราคาวัวเป็นตัวตกต่ำมากที่สุดในประวัติการ วันนี้ราคาวัวลูกผสมจากเดิมในภาพ ที่เห็นเมื่อสักครู่ จากเดิมวัวราคาตัวละ ๕๐,๐๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ตกต่ำเหลือเพียง ๓๐,๐๐๐ บาท วัว ๓๐,๐๐๐ บาทเหลือเพียงตัวละ ๑๐,๐๐๐ บาท มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรคะ และใน วันนี้พี่น้องประชาชนเริ่มหมดความหวัง ทำมาหากินยากลำบาก เลี้ยงวัวเพื่อจะเลี้ยงชีพ เพื่อจะ เป็นกองทุนของตนเองวันนี้หมดความหวังค่ะ แต่สืบเนื่องจากวันที่ ๓ มกราคมที่ผ่านมาที่ รัฐบาลได้เสนอร่าง พ.ร.บ. งบประมาณประจำปี ๒๕๖๗ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ร่างงบประมาณดังกล่าวในวาระที่หนึ่ง ดิฉันเริ่มมีความหวัง เพราะได้ยินท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้กำกับดูแลกองทุนหมู่บ้านได้ขึ้นตอบคำถามแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในโครงการ ที่เรียกว่า วัวแสนล้าน โครงการนี้ดิฉันเชื่อมั่นว่าจะเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน วันนี้ ดิฉันจึงอยากจะมาสอบถามในกรณีโครงการวัวแสนล้านกับท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่าจะ สามารถเป็นทางเลือกและลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้ แต่อยากทราบว่า เมื่อไรโครงการนี้จะเกิดขึ้น เพราะนี่คือความหวังจริง ๆ ของพี่น้องประชาชนค่ะ ขอถาม คำถามแรกก่อนนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านรองนายกรัฐมนตรีที่ได้ตอบคำถาม ซึ่งจากที่ท่านได้ตอบมาตรงใจ ดิฉันที่ดิฉันกำลังจะถามต่อไปทั้งหมดเลยค่ะ ในส่วนของโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีนะคะ เป็นโครงการที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างมากมาย ซึ่งจากที่ท่านได้แถลงเมื่อสักครู่ ก็คือจะให้ประชาชนยืมเงินครอบครัวละ ๕๐,๐๐๐ บาทจากกองทุนหมู่บ้าน และส่งคืน ภายใน ๔ ปี ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ถึง ๒๕๐,๐๐๐ บาทต่อปีต่อครอบครัว ถือว่าเป็นมูลค่า ที่สูงมาก ดิฉันขอเสนอนอกจากจะส่งเสริมให้มีโครงการวัวแสนล้านแล้ว ควรจะต่อยอด อย่างที่ท่านสมศักดิ์ได้กล่าวไปสักครู่คือการพัฒนาสายพันธุ์ เพราะเมื่อสายพันธุ์ดี เนื้อดี ราคาก็ดีตามมา การส่งเสริมนี้ก็ควรจะจัดให้มีการผสมเทียม มีอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน โดยมีน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ดีเพื่อทำให้วัวมีการขยายสายพันธุ์ มีโครงสร้างใหญ่ขึ้น มีเนื้อที่ดีขึ้น และนำสู่ผลผลิตที่ดีตามมาค่ะ
แล้วสุดท้ายดิฉันขอฝากอีกเรื่องหนึ่ง คือปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากโครงการนี้ ได้สำเร็จ คือจะมีวัวเกิดขึ้นมากมาย มีวัวทุกบ้าน แต่ปัญหาที่ตามมาคือปัญหา Lumpy Skin หรือปัญหาโรคปากเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นดิฉันอยากจะฝากท่านขอให้ รัฐบาลมีวิธีการรับมือกับโรคนี้ เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะมีการระบาดอย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงของพี่น้องประชาชนตายได้ แล้วก็ยังไม่สามารถส่งออก ต่างประเทศได้ด้วย และที่ท่านได้กล่าวเรื่องเนื้อเถื่อนที่เป็นปัญหาของราคาวัวตกต่ำ ในปัจจุบันนี้ ดิฉันเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และรัฐบาลก็กำลังพยายามแก้ไขปัญหานี้ ให้พี่น้องประชาชน อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทางบ้าน ขอให้มีความหวังและอดใจรอ รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยที่กำลังทำงานให้ทุกท่านอย่างเต็มที่ อย่างหนัก และโครงการนี้ ดิฉันหวังว่าจะเกิดขึ้นให้กับพี่น้องประชาชนได้ในเร็ววันนี้ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา แนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ๒ ท่านค่ะ จากเดิม นายวัชระพล ขาวขำ เป็น นางสาวขัตติยา สวัสดิผล นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เป็น นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต ๗ พรรคเพื่อไทย วันนี้ดิฉันมีเรื่องหารือท่านประธานในปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉันค่ะ อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร และ อำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งอำเภอที่ดิฉันได้กล่าวมามีพื้นที่ถิ่นฐานอาศัยอยู่ห่างไกลจาก ตัวจังหวัด มีพื้นที่ติดชายแดน ซึ่งเรียนท่านประธานค่ะ พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่เรียบง่าย หาอยู่หากินค่ะ แต่ก็มีไม่น้อยที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล การขึ้นศาลของพี่น้องประชาชนถือเป็น เรื่องใหญ่ แต่เรื่องใหญ่กว่าการขึ้นศาลนั้นคือการเดินทางไปศาล รถที่จะไปก็ต้องเช่า ต้องเหมา ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด ตีสาม ตีสี่ เดินทางร้อยกว่ากิโลเมตร วันนี้ดิฉัน จึงอยากจะปรึกษาท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงยุติธรรม ขอให้มีการจัดตั้งศาลจังหวัด ตระการพืชผลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ขออนุญาตขอสไลด์ค่ะ
จากสไลด์ที่ทุกท่าน ได้เห็น อันนี้คือแผนที่ของจังหวัดอุบลราชธานีค่ะ จังหวัดอุบลราชธานีมีประชากรมาก เป็นอันดับ ๒ ของประเทศ แต่มีศาลจังหวัดเพียงแค่ ๒ แห่ง ตรงสีแดงคือตัวเมือง อุบลราชธานี แล้วก็มีอีกแห่งหนึ่งที่อำเภอเดชอุดม สำหรับพี่น้องประชาชนใน Zone ล่าง แต่ในส่วนของ Zone เหนือ คือที่ดิฉันได้ Highlight ไว้เป็นสีเขียวเข้ม นี่คือเขตพื้นที่ของดิฉัน มีอำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม แล้วก็มีเขตพื้นที่ที่อยู่รอบ ๆ ที่ต้องอาศัยการเดินทาง เข้าตัวเมืองเพื่อไปศาลอีกหลายอำเภอด้วยกันค่ะ มีทั้งอำเภอเขมราฐ อำเภอนาตาล อำเภอ โพธิ์ไทร อำเภอกุดข้าวปุ้น และอำเภอตระการพืชผล วันนี้ดิฉันจึงจะขอเสนอทางท่านประธาน ผ่านไปยังกระทรวงยุติธรรมว่าขอให้มีการจัดตั้งศาลที่อำเภอตระการพืชผล ซึ่งเป็นอำเภอ ที่อยู่ใจกลางและมีความพร้อมที่จะรองรับการตั้งศาลจังหวัดอุบลราชธานี ขอบพระคุณ ท่านประธานเป็นอย่างสูงค่ะ