นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล

  • ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธาน ผมขอ ใช้สิทธิพาดพิงท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานระหว่าง แสดงตนผมขอใช้สิทธิพาดพิงครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมจะได้ใช้สิทธิ พาดพิงไหมท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมขอใช้สิทธิพาดพิงเนื่องจากว่าเมื่อสักครู่มีเพื่อนสมาชิกที่พูดถึงเรื่อง การประสานงานในการเลื่อนระเบียบวาระในวันนี้ว่าไม่ได้มีการพูดคุยกัน ผมในฐานะ ที่ทางพรรคได้มอบหมายให้เป็น Whip หลักของพรรคนะครับ ผมต้องแจ้งว่าในสัปดาห์ที่แล้ว ผมเดินอยู่ในห้องประชุมนี้แม้เราจะไม่มี Whip อย่างเป็นทางการก็ตาม ผมเดินไปคุยกับ ทุกพรรคการเมืองครับ ผมเดินไปคุยกับคุณอรรถกร ผมเดินไปคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมได้คุยกับพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย แม้กระทั่งญัตติเรื่องสินค้าเกษตรตกต่ำ ผมก็ได้รับทราบแล้วว่าจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ดังนั้นผมคิดว่าการพูดว่าไม่มีการตกลงกันล่วงหน้า แล้วมาทำกันแบบนี้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้ผมและพรรคเสียหายเป็นอย่างยิ่งครับ แล้วผมคิดว่าจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ท่านประธานมันไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องลงมติกันด้วยซ้ำ ผมก็ถามแบบนี้เลยครับ เรื่องนี้มันจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นถ้าพรรคก้าวไกลรวมกับ พรรคเพื่อไทยทำสิ่งเดียวกันกับที่เราเคยทำเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตอนสภาสมัย ๒๕ ทุกอย่าง ก็จะเป็นไปได้อย่างราบรื่น ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมขอหารือเรื่องในการอภิปรายรับทราบรายงานนะครับ ผมต้องแจ้ง แบบนี้ว่าในสมัยที่แล้วในสภาชุดที่ ๒๕ ปกติแล้วท่านอดีตประธานชวน หลีกภัย ก็ได้ดำริเอาไว้ว่าจะให้เวลาประมาณท่านละ ๗ นาที ท่านสมาชิกท่านละประมาณ ๗ นาที ซึ่งจะได้ไม่เสียเวลาของทั้งผู้ชี้แจงด้วย แล้วก็ของทั้งสภาด้วยจนมากเกินไป เพราะ เดี๋ยวหลังจากอภิปรายแล้วทางผู้ชี้แจงก็ต้องตอบคำถามที่ท่านสมาชิกได้เรียนถาม และท่านสมาชิกอาจจะมีคำถามเพิ่มเติมหรือมีการทวงถามซ้ำอีกครั้ง หากว่ายังไม่ได้รับ คำตอบ ในวันนี้เรามีรายงานเพียงแค่ฉบับเดียวก็จริงนะครับ แต่ ณ ตอนนี้ก็มีสมาชิกลงชื่อ แล้วประมาณ ๑๐ ท่าน และคาดว่าจะมีเพิ่มอีกนะครับ ไม่แน่ใจว่าอาจจะถึง ๒๐ ท่านด้วยซ้ำ แต่ผมเข้าใจดีครับว่า ๗ นาทีมันอาจจะสั้นเกินไปนะครับ ผมเสนอท่านประธานแบบนี้ครับว่า เราตั้งเวลาไว้ที่ ๗ นาทีก็ได้ แต่หากว่าสมาชิกท่านใดจะเกินไปเป็น ๙ นาที ๑๐ นาที ก็ถือว่าเป็นการอนุโลมไป เพราะว่าในวันนี้มีรายงานเพียงแค่ฉบับเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ถ้าท่านประธานอยากจะเปิดโอกาสให้ท่านสมาชิกได้อภิปรายนานกว่านั้น ผมก็ถือว่าเป็น คำวินิจฉัยของท่านประธาน เป็นข้อเสนอไว้ครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณ ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็จริง ๆ ผมก็แล้วแต่ท่านประธานเห็นสมควรนะครับ แต่ผมก็เห็นด้วยเช่นกัน เพราะว่าคำถามค่อนข้างเยอะ แล้วก็คำถามที่ผมเตรียมไว้ผมคิดว่าถ้าท่านผู้ชี้แจงได้ตอบ รอบแรก แล้วตอบได้ชัดเจนผมจะได้ไม่ถามซ้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมมีคำถามถึงท่านผู้ชี้แจงใน ๔ ประเด็นด้วยกันวันนี้สั้น ๆ นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๑ ประเด็นนี้อยู่ในมาตรา ๔ นะครับ มาตรา ๔ นี้เป็นมาตราที่เป็น การให้อำนาจรัฐในการเรียกข้อมูลในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการก่ออาชญากรรม ทางเทคโนโลยีเกิดขึ้น โดยแบ่งข้อมูลเป็น ๒ ส่วนก็คือข้อมูลจากสถาบันการเงิน แล้วก็ ข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ๆ หากจะขอให้ เปิดเผยข้อมูลบัญชีหรือธุรกรรมจากสถาบันการเงินตามมาตรานี้จะระบุไว้ว่าต้องใช้ กระทรวง DE ใช้ กสทช. ใช้ DSI ใช้ ปปง. แล้วก็ใช้แบงก์ชาติเห็นชอบร่วมกันนะครับ แต่ถ้าเป็นข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์แล้วก็ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่นนี่ จะใช้ความเห็นชอบเพียงแค่กระทรวง DE แล้วก็ กสทช. เท่านั้นนะครับ ข้อสังเกต มีเพื่อนสมาชิกกล่าวไปแล้วก็คือข้อมูลทั้ง ๒ ส่วนนี่มันเป็นการให้อำนาจโดยที่ ไม่จำเป็นต้องใช้หมายศาลแต่อย่างใด ซึ่งอันนี้มันก็เป็นข้อกังวลที่ ๑ ของผมนะครับ เพราะว่า เมื่อสัก ๒ ปีแล้วผมก็เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจไปในกรณีที่มีการออกประกาศกระทรวงดิจิทัล ในการขอข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์โดยที่ไม่จำเป็นต้องขอหมายศาล ซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยง กับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน ดังนั้นเมื่อมีข้อกังวลแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ผมจึงต้องถามให้ชัดเจนใน ๒ ประเด็น คือข้อมูลของผู้ให้บริการโทรศัพท์ และโทรคมนาคมอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในมาตรา ๔ ว่าเป็นข้อมูลการให้บริการที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน ข้อมูลให้บริการที่เกี่ยวข้องระหว่างกันนั้นคืออะไรบ้าง แล้วก็เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ใน Case ที่กระทรวง DE กับ กสทช. เห็นชอบร่วมกันมันจะเป็นเหตุอันควรสงสัยได้ว่า อาจมีการกระทำผิด ตามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเท่าที่ถูกนิยามไว้ใน พ.ร.ก. ฉบับนี้จริง ๆ และมันจะไม่มีการละเมิดสิทธิอันเกินควรแบบที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือไม่ ตัวผมเองไม่ได้ ระแวงจนเกินเหตุนะครับท่านประธาน ที่ผ่านมา สส. พรรคผมก็โดน Pegasus สอดแนม มาแล้ว และในการใช้อำนาจโดยที่ไม่ได้หมายศาลแบบนี้โดยการใช้การเห็นชอบเฉพาะ ๒ หน่วยงานเท่านั้นแบบนี้มันอาจจะสุ่มเสี่ยงให้เกิดการละเมิดสิทธิของประชาชนหรือไม่ อย่างไร วันนี้ผมต้องการคำตอบที่ชัดเจนก่อนที่จะลงมติเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ในมาตรา ๙ นะครับ มาตรา ๙ ก็เป็นเรื่องของโทษ หลาย ๆ ท่านก็พูดแล้วเช่นกันนะครับ สิ่งที่ผมกังวลก็คือวรรคที่บอกว่า การยินยอม ให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมหมายเลขโทรศัพท์โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด อันนี้ผมว่า ถ้าอ่านเฉพาะตัวอักษรผมว่ามีปัญหามากเลย ยืมโทรศัพท์ไปใช้กระทำความผิดทางอาญาอื่นใด ผมยกตัวอย่างอันที่ผ่านมาที่มีคนโดนบ่อย ๆ ก็คือโดนจับบุหรี่ไฟฟ้า และตำรวจก็อ้าง พ.ร.บ. นั้น พ.ร.บ. โน้น พ.ร.บ. นี้ สุดท้ายก็รีดไถประชาชน คือถ้าเรามองกันแค่ตัวอักษรแบบนี้ ผมว่ามันเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบสามารถเรียกแล้วก็รีดไถจากประชาชน ได้อีกหลาย ๆ Case กลายเป็นว่าเราพยายามจะระงับอาชญากรรมประเภทหนึ่ง แต่อาจเกิด อาชญากรรมที่ก่อขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐอีกประเภทหนึ่งขึ้นมาแทน อันนี้ผมก็ต้องขอคำชี้แจงว่า เราจะอุดช่องว่างตรงนี้ได้อย่างไรในการระบุถ้อยคำทางกฎหมายที่เป็นแบบนี้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในประเด็นที่ ๓ ก็คือประเด็นในมาตรา ๑๒ ในประเด็นมาตรา ๑๒ ก็คือเกี่ยวกับ PDPA ที่หลาย ๆ ท่านก็พูดแล้วเช่นกันนะครับ คำถามผมก็ขอถามย้ำอีกรอบหนึ่งครับว่า ถ้ามีการกระทำผิดโดยเจ้าหน้าที่มีการเปิดเผยให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องทราบนี่ เขาจะได้รับโทษอย่างไร รวมถึงกรณีมาตรา ๔ ที่ผมพูดเมื่อสักครู่นี้ถ้ามีการเห็นชอบร่วมกัน เพื่อละเมิดสิทธิของประชาชนโดยที่ไม่มีเหตุอันควรสงสัยเขาจะได้รับโทษอย่างไรนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นสุดท้ายครับ ประเด็นสุดท้ายนี่คือตอนที่ชี้แจงท่านรัฐมนตรีชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่เคารพรักของผมก็ได้กรุณาบอกเอาไว้ว่า หลังจากที่ พ.ร.ก. นี้บังคับใช้ สถิติการเกิดอาชญากรรม Online นี่มันลดลงนะครับ สิ่งที่ผมถามนี่คืออยากจะให้ ท่านรัฐมนตรีตอบว่าปัจจัยอะไรที่บ่งชี้ได้ว่าผลที่เกิดขึ้นในมันลดลงเพราะ พ.ร.ก. ฉบับนี้จริง ๆ ผมยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยว่าถ้าผม Google search ตอนนี้นะ แล้วถ้าผมเอาข้อมูล หลัง พ.ร.ก. บังคับใช้เทียบกับข้อมูลของเดือนมีนาคมกับเมษายนของ ปี ๒๕๖๕ เราจะพบว่า หลัง พ.ร.ก. บังคับใช้นี่มันสูงกว่าเดือนมีนาคม เมษายน ของปี ๒๕๖๕ ดังนั้นผมก็อยากจะ ทราบว่ามันมีการพิสูจน์ทางสถิติหรือไม่ มีการใช้การตัด Seasonal Effect ทางสถิติไปหรือไม่ หรือมีปัจจัยที่จะยืนยันใด ๆ ว่าสถิติที่ลดลงนั้นมันลดเพราะมีการบังคับใช้ พ.ร.ก. นี้จริง ๆ เท่านี้ครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาต ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาตหารือ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมขอไปอีกประเด็นหนึ่งก่อน พอดีว่าเมื่อสักครู่นี้ได้หารือกับทางเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ แล้วก็ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งนะครับว่าตามข้อบังคับก่อนอื่นเราควรจะต้องให้เจ้าของญัตติ ทั้ง ๘ ท่านลุกขึ้นมานำเสนอหัวข้อญัตติของตัวเอง แล้วก็ขอผู้รับรองเพื่อให้ถูกรับรอง เป็นญัตติที่ถูกต้องก่อน แล้วจึงอภิปรายนำเสนอญัตติไปตามลำดับในขั้นตอนต่อไปนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนในกรณีของท่านอามินทร์ขอให้อภิปรายเป็นท่านแรกนะครับ จริง ๆ แล้ว ผมก็เห็นใจ แล้วก็ได้คุยกับท่านอรรถกรเมื่อสักครู่นี้เรียบร้อยแล้วนะครับ ในแง่หนึ่งผมต้องแจ้งว่า การนำเสนอเมื่อเช้ายังไม่ใช่เป็นการรับรองญัตติอย่างเป็นทางการนะครับ แล้วก็ในช่วงนี้ด้วยความเรายังไม่ได้มี Whip อย่างเป็นทางการก็เข้าใจดีว่าการสื่อสารบางครั้ง อาจจะมีขลุกขลักกันไปบ้างนะครับ อาจจะเป็นแค่การยกหูต่อสายหากันตัวต่อตัว ต่างคนต่างคุยบางทีมันก็อาจจะเข้าใจไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งอันนี้ไม่มีปัญหานะครับ ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ ผมก็ได้คุยกับท่านรอมฎอนเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ท่านรอมฎอนไม่ได้ขัดข้อง แต่อย่างใดที่จะให้ท่านอามินทร์เป็นผู้นำเสนอก่อนนะครับ แต่อย่างไรก็ฝากท่านประธาน เรียนให้เจ้าของญัตติทั้ง ๘ ท่านลุกขึ้นนำเสนอหัวเรื่องของตนเอง และขอผู้รับรอง เพื่อให้บรรจุเป็นญัตติอย่างถูกต้องก่อนครับ ขอขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลครับ ท่านประธาน ก่อนที่จะเข้า ระเบียบวาระ ผมมีเรื่องที่จะหารือท่านประธานนะครับ เกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุม ของสภาผู้แทนราษฎรของเรา ๒ เรื่อง ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลได้เคย หารือไปก่อนหน้านี้แล้วในสภานะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรกสั้น ๆ นะครับ ก็คือผมขอความกรุณาให้ท่านประธานบรรจุวาระ กระทู้ถามสดด้วยวาจาในสัปดาห์หน้านะครับ แม้ว่าจะยังเป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ก็ตาม ในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่านใด พรรคการเมืองใดก็ตาม มีเรื่องที่จะถามคำถาม ต่อท่านรัฐมนตรีที่ใช้อำนาจบางอย่างที่กระทบต่อสังคมจะได้มีโอกาสนั้น ก่อนที่จะ Form รัฐบาลใหม่เสร็จสิ้นนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ ครับ หลังจากที่ท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ได้หารือเรื่องการตั้ง คณะกรรมาธิการมาแล้ว ๒ ครั้งนะครับ แล้วก็ในการประชุมตัวแทนพรรคการเมืองครั้งที่แล้ว หลังจากที่จบการประชุม Whip ๓ ฝ่ายนะครับ ตัวแทนพรรคการเมืองได้นั่งพูดคุยกัน แล้วก็ผมได้รับคำยืนยันจากตัวแทนพรรคการเมืองนะครับว่าเราจะมาคุยเรื่องการตั้ง คณะกรรมาธิการสามัญหลังเสร็จสิ้นการโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้เสร็จสิ้นไปเมื่อวานแล้ว เพื่อให้การทำงานร่วมกันของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เราสามารถ เดินหน้าตั้งคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง ๓๕ คณะได้อย่างรวดเร็วครับท่านประธานเพราะเรา ต้องยอมรับว่าในบางขั้นตอนนี่แต่ละพรรคการเมืองอาจจะต้องใช้เวลาในการตกลงกันภายใน อยู่พอสมควร ผมขอยืนยันตรงนี้ก่อนที่จะพูดต่ออีกครั้งหนึ่งนะครับว่าไม่ได้เป็นการกดดัน ใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ แต่ผมคิดว่าเป็นการแสดงความร่วมมือกันในฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านว่าเราพร้อมที่จะเดินหน้าทำงานในสภานี้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากภายในสัปดาห์นี้ทุกพรรคการเมืองสามารถมาตกลงกันเรื่องประธานคณะกรรมาธิการ ทั้งหมดได้ เพื่อให้ทุกพรรคมีเวลาอย่างน้อย ๔-๕ วันในการจัดสรรว่าสมาชิกภายในพรรค ของตนเองแต่ละท่านจะไปนั่งในคณะกรรมาธิการใดบ้าง และสัปดาห์หน้าเราอาจจะสามารถ มาแต่งตั้งกรรมาธิการทั้ง ๕๒๕ ตำแหน่งใน ๓๕ คณะได้ในสภาแห่งนี้ภายในวันพฤหัสบดีหน้า และเรียกประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน หากท่านประธาน จะกรุณาเรียกเชิญประชุมตัวแทนพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ โดยระบุวัน เวลา ที่ ชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นวันพรุ่งนี้หรือเป็นวันศุกร์ทางพรรคก้าวไกลก็ไม่ขัดข้องครับ ผมขอขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมเข้าใจดีนะครับในการที่จะจัดสรรเกี่ยวกับโควตาประธานคณะกรรมาธิการว่าอยากเป็น กรรมธิการคณะไหน เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งรัฐบาล และรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง ทีนี้ผมขออย่างเดียวครับ ผมขอยืนยันในวันที่ชัดเจนว่าสัปดาห์หน้าหมายถึงวันไหน แล้วขอให้ไม่มีการเลื่อนอีกแล้ว ที่ผมต้องลุกขึ้นพูดในสภาเพื่อที่จะให้ประชาชนรับทราบครับ ว่ามีการรับปากกันว่าจะคุยเรื่องนี้กันวันไหนอย่างแน่นอน และจะไม่มีการเลื่อนอีกแล้วครับ ท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน เรียนท่านประธานสภาผู้แทนที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลครับ ผมใช้เวลาไม่มากขอถามคำถาม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาตินะครับ ผมพบว่าในรายงาน การดำเนินงานรายงานประจำปีของงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ถ้าเราดูตั้งแต่ประมาณ หน้า ๕๓ เป็นต้นไป ไปจนถึงประมาณ ๑๐๐ กว่าหน้าก็จะมีผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการรับเรื่องร้องเรียนทั้งการรับเรื่องร้องเรียนเรื่องทุจริต เรื่องร้องเรียน การยื่นทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ และยื่นร้องเรียนความร่ำรวยผิดปกติของผู้ดำรงตำแหน่ง มีการแบ่งประเภทหลาย ๆ แบบ อย่างอันหนึ่งที่ผมดูในหน้า ๗๓ ผมก็ตกใจนิดหน่อยนะครับ เพราะว่าจำนวนเรื่องที่กล่าวหา และจำนวนเรื่องคงค้าง จากปี ๒๕๕๘ มีเรื่องรับใหม่อยู่ ๓,๐๐๐ เรื่อง สรุปสิ้นปีแล้วมีคงค้างอยู่ ๑๐,๙๐๐ เรื่อง พอมาถึงปี ๒๕๖๕ จำนวนเรื่อง คงค้างจาก ๑๐,๙๐๐ เรื่อง เพิ่มเป็น ๑๒,๗๙๒ เรื่อง แต่ละปีนี่บางปีพิจารณาได้ ไม่เท่ากับเรื่องที่รับใหม่ในปีนั้น ๆ ด้วยซ้ำ สิ่งที่ผมจะถามก็คือที่ผมไม่เจอเลยในการประเมินผล ในการดำเนินงาน ก็คือมีการวัดผลหรือไม่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วทางหน่วยงานใช้เวลา การดำเนินงานในแต่ละเรื่องยาวนานเท่าไรนับตั้งแต่วันที่รับเรื่องไปจนถึงวันที่มีการชี้มูล ความผิดหรือมีการยกคำร้อง โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลายาวนานแค่ไหน ให้ความสำคัญ กับกรอบเวลาในการพิจารณาเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของหน่วยงานอย่างไรบ้าง ผมเข้าใจดีว่าความซับซ้อนของเรื่องร้องเรียนแต่ละเรื่องนี่มันอาจจะไม่เท่ากัน บางเรื่องนี่มันก็ อาจจะซับซ้อนมาก บางเรื่องก็อาจจะซับซ้อนน้อย ไม่ได้จำเป็นต้องใช้เวลายาวนานสักเท่าไร แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญก็คือผู้ร้องเรียนเองหรือว่าประชาชนทั่วไปเองเขาก็ติดตามว่าเรื่องที่ เป็นที่สนใจของสังคมนี่มันดำเนินงานไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ถ้าผมจะอ้างอิงจาก พระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมซึ่งมีผลบังคับใช้ ไปแล้ว ผมก็มีคำถามต่อไปที่จะถามว่าทางหน่วยงานเองนี่ได้มีการออกระเบียบมาหรือยังว่า การร้องเรียนในประเภทต่าง ๆ นั้นทางหน่วยงานได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้กี่วัน กี่เดือน ในเรื่องต่าง ๆ และมีการแจ้งความคืบหน้าต่อผู้ร้อง หรือว่าต่อสาธารณะอย่างไรบ้างว่า แต่ละเรื่องอาจจะผ่านไป ๖๐ วันแล้ว ๙๐ วันก็แล้ว ๑๒๐ วันก็แล้ว แต่มีความซับซ้อน ผมก็อยากให้มีการแจ้งอย่างน้อย ๆ แจ้งไปที่ผู้ร้อง หรือแจ้งผ่านทาง Website ก็ได้ ทางสาธารณะว่ากรณีนี้มันต้องใช้เวลาต่อไปอีกเพราะมีความซับซ้อน มีการประชุมกัน เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กันกี่ครั้งแล้ว และมีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลาย ๆ เรื่อง ผมก็ต้องพูดตามตรงว่าผมก็ยื่นร้องไปแล้วด้วยตนเอง แล้วผมก็ยังไม่ทราบเลยจนถึงว่า ทุกวันนี้เรื่องนี้ได้มีการหยิบขึ้นมาพิจารณาบ้างหรือยัง OK ในเรื่องของที่ผมอยากจะทราบ จากหน่วยงานเองก็มีเท่านี้นะครับ แต่ว่ามีเพื่อนสมาชิกที่ไม่อยากจะเสียเวลาในสภาแห่งนี้ ก็ฝากผมมาถามคำถามอีก ๒ คำถามสั้น ๆ นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • คำถามแรก ในฐานะที่ทางหน่วยงานเองนี่เป็นเจ้าภาพในแผนงานบูรณาการ ด้านการต่อต้านทุจริตและประพฤติมิชอบ มีเพื่อนสมาชิกตั้งข้อสังเกตมาว่ามีความแปลกอยู่ นิดหนึ่งว่าแผนงานบูรณาการนี้ไม่มีกรมบัญชีกลางอยู่ด้วย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วกรมบัญชีกลาง เป็นเจ้าของข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ผมคิดว่า ถ้าเราใช้เทคโนโลยีหรือว่า อาศัยการทำงานของกรมบัญชีกลางที่มีประสิทธิภาพจะสามารถตรวจจับการทุจริตได้อีก เป็นจำนวนมาก และน่าจะอำนวยความสะดวกให้ทาง ป.ป.ช. เองสามารถทำงานได้สะดวก ยิ่งขึ้น ผมก็ขอเสนอแนะจากเพื่อนสมาชิกท่านอื่นผ่านไปยังท่านประธานไปยังหน่วยงานนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • อีกเรื่องหนึ่งที่มีเพื่อนสมาชิกฝากถามมาเข้าใจว่ามีการก่อสร้างอาคารใหม่อีก ๒ หลังของสำนักงาน ป.ป.ช. และมีประชาชนเขาก็ฝากร้องมาว่าพบว่ามีการตั้งงบ ติดกล้องวงจรปิด ๑๐๐ กว่าตัว ผมก็ต้องถามตรงนี้ว่ามีเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นประการใด และคิดว่าจำนวนเท่านี้เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร เท่านี้ท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตจริง ๆ ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ มีสิ่งที่ผมไม่สบายใจมาก ๆ ครับ ผมขออนุญาตจริง ๆ ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ได้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ได้ครับ ขอบคุณ ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขออนุญาตท่านประธานครับ ที่ท่านผู้ชี้แจงพูดเรื่องการถมดำ เนื่องจากกังวล ว่าเจ้าหน้าที่อาจจะถูกคุกคามได้จากการตรวจสอบ ผมขอเรียนอย่างนี้นะครับ สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรอย่างผมก็มีหน้าที่ตรวจสอบคล้าย ๆ กับท่าน และผมเปิดหน้าตัวเองทุกคน อาชีพนักการเมืองเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามจากการเปิดโปงการทุจริต ต่าง ๆ ทีนี้ครับถ้าท่านจะถมดำชื่อของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในเอกสาร ผมตรวจสอบเอกสาร การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเราครับ นอกจากชื่อ สมาชิกครับ ชื่อภรรยาสมาชิก ชื่อพ่อแม่สมาชิก ชื่อพ่อแม่ภรรยาสมาชิก รวมถึงชื่อลูก ของสมาชิก ผมเปิดดูมีบุตรของ สส. ท่านหนึ่งอายุ ๑๐ ขวบ มีทั้งชื่อ ทั้งนามสกุล มีทั้งสถานศึกษา ท่านคิดว่าข้อมูลตรงนี้เป็นข้อมูลที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว และอาจ เกิดความเสี่ยงกับครอบครัวของผู้ที่เปิดเผยทรัพย์สินหรือไม่ ท่านจะให้ความคุ้มครอง กับบุคคลเหล่านี้เท่าที่ท่านให้ความคุ้มครองกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้กับหน่วยงานของท่าน หรือไม่ อย่างไรในอนาคตครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธาน จะกรุณาให้ท่านผู้ชี้แจงตอบคำถามผมด้วยได้ไหมครับ ผมคิดว่านี้เรื่องใหญ่นะครับ เรื่องของ สิทธิของเด็กอายุ ๑๐ ขวบ ที่ถูกเปิดเผยสถานศึกษา ชื่อ นามสกุลจริงในบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผมว่านี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าท่านให้ความสำคัญ กับการคุ้มครองบุคคลที่อาจจะถูกคุกคามนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ผมต้องขออนุญาตจริง ๆ ครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกลครับ คืออย่างนี้ท่านปิดชื่อของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในรายงานที่เปิดเผย ต่อสาธารณะ และท่านก็บอกว่าระมัดระวังภัยในการที่จะถูกคุกคามต่าง ๆ บัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ผมทราบดีว่าบุตรผู้ไม่บรรลุนิติภาวะต้องแจ้ง แต่ท่านสามารถที่จะถมดำข้อมูล ส่วนบุคคล อย่างเช่นสถานศึกษาผมคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นเลยที่จะต้องเปิดเผยว่า บุตรของ สส. คนนี้ชื่อจริงอะไร นามสกุลจริงอะไร และเรียนอยู่ที่ไหน ผมว่าเป็นข้อมูลที่เป็น อันตรายอย่างมาก นี่ผมเปิดดูจาก Website ของท่านเมื่อสักครู่นี้เลยนะครับ เมื่อครึ่งชั่วโมง ที่แล้วนี้เลย กดเข้าไปแล้วเจอเลยครับ ชื่อเด็กชายอะไร เด็กหญิงอะไร เรียนที่ไหน เป็นบุตร ของ สส. คนไหน ผมเข้าใจว่าต้องแสดงตามกฎหมาย แต่หลาย ๆ ข้อมูลท่านก็ปิด ปกปิด เป็นสีดำที่ไม่ให้เปิดเผยต่อสาธารณะได้ ผมคิดว่าเหตุผลเมื่อสักครู่ที่ท่านบอกว่าเป็นไปตาม กฎหมายผมว่ายังไม่ดีพอครับ ขอบคุณครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ก่อนที่ท่านประธานจะสรุป

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนที่ท่านประธานจะสรุปว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรในสัปดาห์หน้านะครับ ผมต้องขอแย้ง ท่านประธานสักครู่หนึ่งนะครับ ผมเข้าใจดีว่าท่านประธานเองไม่ได้อยู่ในห้องประชุมตัวแทน พรรคการเมืองวันก่อน เพราะว่าประธานในที่ประชุมคือท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทีนี้ผมจะแจ้งแบบนี้ครับ ผมไม่ทราบว่าท่านประธานได้รับข้อมูลมาว่าอย่างไร แต่เรื่องนี้ไม่มีการตกลงกันแล้ว ถ้าจะบอกว่าตกลงกันแล้วโดยที่ทางผมไม่ได้รับทราบเลย ว่าตกลงกันแบบนี้ ไม่เรียกว่าตกลงกันแล้วครับท่านประธาน อันนี้เป็นประเด็นที่ ๑ นะครับ ข้อมูลข่าวสารใด ๆ ก็ตามที่ท่านประธานได้รับมาว่ามีการตกลงกันระหว่าง ๒ ฝ่ายแล้ว ไม่มีการตกลงกันนะครับ ผมแจ้งชัดเจนวันนั้นว่าผมมีประชุมที่พรรค และต้องรีบเดินทาง ออกจากห้องประชุม และบอกว่าให้มาพูดคุยกันวันนี้ แต่แทนที่จะมาพูดคุยกันวันนี้กลับมี การบอกว่ามีการตกลงกันแล้ว และให้ท่านประธานออกเอกสารมาตั้งแต่เมื่อวาน เพื่อที่จะ บอกว่าจะเอาแบบนี้โดยที่ผมยังไม่เคยเห็นชอบด้วย ไม่เคยตกลงด้วย ผมคิดว่าเรื่องนี้ ไม่เป็นธรรมกับพรรคฝ่ายค้านเลยแม้แต่นิดเดียว

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ประเด็นเรื่องปี ๒๕๖๒-๒๕๖๖ มีการแบ่งกันระหว่าง ฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลครึ่ง ๆ ฝั่งละ ๑๕ คน ครั้งนั้นมีดำริท่านประธานชวน หลีกภัย ให้เป็นแบบนี้ ซึ่งถ้าท่านภราดร ขออภัยที่เอ่ยนามนะครับ จะบอกว่า ณ ตอนนั้นเสียงมัน ปริ่มน้ำ ๒๕๐ กว่ากับ ๒๔๐ กว่า ผมอยู่มา ๔ ปี ผ่านไปปีเดียวนี่ฝ่ายรัฐบาลก็มีสัก ๒๗๐-๒๘๐ ไปตอนท้าย ๆ ก็เฉียด ๆ จะ ๓๐๐ ฝั่งฝ่ายค้านก็ ๒๑๐ ผมก็ไม่ได้เห็นว่ามันจะมี ความไม่เป็นธรรมอย่างไร ประเด็นก็คือหลักคิดแบบนี้ผมคิดว่าเป็นหลักคิดที่ว่า ฝ่ายค้านนี่แน่นอนครับว่าแขนขา หรือ Connection ต่าง ๆ มันต่างกับฝ่ายรัฐบาลโดยสิ้นเชิง ขออะไรไปก็ไม่ได้ อยู่ในสภาก็เป็นเสียงส่วนน้อย การปรึกษาหารือในสภานี้มันก็เป็นช่องทาง ระบายช่องทางหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ของ สส. พรรคฝ่ายค้าน ได้บรรเทาความเดือดร้อน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ก็จะดำเนินการไปตามนั้นได้ ถ้าจะมาพูดกันเรื่องความชอบธรรมท่านประธาน ความชอบธรรมมันหมดไปตั้งแต่พรรค ที่ชนะเลือกตั้งไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ต่อการขอเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุมที่ทางพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาเป็นญัตติที่ค้าง พิจารณา ก็คือญัตติที่องค์ประชุมล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ญัตติเกี่ยวกับราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ในกรณีนี้เมื่อวานนี้จริง ๆ มีการโทรศัพท์พูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง Whip แต่ละพรรคนะครับ ซึ่งผมก็ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และผมก็มองว่าในญัตตินี้น่าจะใช้เวลา ค่อนข้างยาวนาน พรุ่งนี้ก็อาจจะมีรายงานสัก ๓ ฉบับซึ่งคิดว่าน่าจะจบได้ในเวลาที่ไม่นานนัก ผมก็เลยเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน และรอคอยการแก้ปัญหา จากรัฐบาลชุดใหม่อยู่นะครับ ผมเองไม่ได้เห็นแย้งแต่อย่างใด แต่ผมก็ขอย้ำเตือนอีกครั้งครับ ท่านประธาน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญผมหวังว่าจะเห็นองค์ประชุมอยู่กันครบถ้วนไม่เหมือนกับ ครั้งที่แล้วครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ Whip ฝ่ายค้าน ขอเรียนให้ท่านประธานทราบนะครับว่าเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการ เราก็ได้เห็นแล้วว่ามีการบรรจุในวาระเรื่องอื่น ๆ แต่เมื่อวานนี้ทั้งวันผมก็ได้ประสานกับทาง Whip รัฐบาลหลาย ๆ พรรคนะครับ แล้วก็ได้ข้อสรุปในช่วงเย็นตรงกันแล้วว่าการเลือกตั้ง คณะกรรมาธิการสามัญทั้ง ๓๕ คณะนั้นจะเกิดขึ้นในวันพุธหน้า เนื่องจากตอนนี้ยังมีตำแหน่ง Seat ในคณะกรรมาธิการแต่ละคณะ ๑๕ ที่นั่งว่าแต่ละคณะจะเป็นพรรคไหนกี่คน ๆ ก็ยัง ไม่ลงตัว แล้วก็ยังมีเรื่องของ ๒ คณะกรรมาธิการที่อาจจะมีการขอเปลี่ยนภารกิจ ซึ่งยังไม่ได้มี การยืนยันอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ ทำให้ภายในวันพุธ วันพฤหัสบดีนี้คิดว่าไม่น่าจะทัน ผมก็ขอยืนยันกับ Whip รัฐบาลอีกรอบหนึ่งแล้วกันนะครับ แต่การที่ผมได้รับประสานมา ก็คือจะเป็นวันพุธหน้าครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ Whip ฝ่ายค้าน ต่อเรื่องที่ท่านอดิศร เพียงเกษ ขออนุญาตเอ่ยนามนะครับ ได้พูดถึง ญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกิดขึ้น ทาง Whip รัฐบาลแล้วก็ Whip ฝ่ายค้านได้พูดคุยกันแล้ว ก็เป็นข้อตกลงทำตามที่ท่านอดิศรได้แจ้งไว้ ก็คือในวันพรุ่งนี้หลังจากที่จบกระทู้ทั้งหมดแล้วก็รายงาน ๑ ฉบับ ก็จะมีการเสนอญัตติด่วน ด้วยวาจาในเรื่องนี้ ซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านก็ได้แจ้งไว้แล้วว่าจะขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ประกบเช่นเดียวกันครับ ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขออภิปรายเป็นคนสุดท้ายในญัตตินี้ แล้วก็ดีใจ มาก ๆ ที่วันหนึ่งผมก็ได้มาพูดเรื่องนี้ในสภาเสียที ผมขอพูดในฐานะคนที่มีโอกาสได้ทำงาน ในสถานบันเทิงมาไม่ต่ำกว่า ๑๖ ปี ใน ๑๖ ปีนั้นก่อนที่ผมจะมายืนอยู่ในสภาแห่งนี้ ผมมีโอกาสได้ทำงานเป็นนักดนตรีประจำในสถานบันเทิงไม่ต่ำกว่า ๕๐ แห่งทั้งใน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้เดินทางไปแสดงดนตรีในสถานบันเทิงต่าง ๆ ทั่วประเทศ มาแล้วทุกภูมิภาค เหตุการณ์ที่ผมเจอเป็นประจำในช่วงที่ผมทำงานอยู่ในสถานบันเทิงก็คือ เล่นดนตรีอยู่ดี ๆ ไฟก็เปิด เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาตรวจ ใช้เวลาสักพักหนึ่งแล้วก็กลับออกไป โดยที่ในร้านนั้นไม่ได้มีการกระทำอะไรที่ผิดกฎหมายเลย อีกสักอาทิตย์หนึ่งกลับมาใหม่ครับ วนไปวนมาซ้ำ ๆ แบบนี้ ในบางช่วงร้านที่ผมเล่นรอบดึกเลิกหลังเที่ยงคืนอยู่ดี ๆ ผมก็โดน ยกเลิก และทางร้านก็บอกว่าช่วงนี้ร้านต้องปิด ๕ ทุ่ม บางร้านที่อยู่ ๆ สักประมาณ ๕ ทุ่มกว่า ก็จะมีรถตำรวจมาจอดอยู่หน้าร้าน ไม่ทำอะไรครับ ไม่ได้เดินลงมาด้วย จอดเฉย ๆ จอดอยู่ จนกระทั่งลูกค้าเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ Check bill แล้วก็กลับบ้านไป เวลาเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ผมก็มักจะไปถามเจ้าของร้านครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกร้านก็ตอบคล้าย ๆ กันครับว่า พอดีคุยกันไม่ลงตัวนิดหน่อย ผมคงไม่ต้องบอกว่าคุยอะไรกันไม่ลงตัว ปัญหาส่วย หรือการเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบันเทิง ผมว่าบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ไม่สุจริต เป็นเรื่องของคนส่วนน้อย เป็นเรื่องของคนไม่ดีไม่กี่คน เราไม่ต้องสังคายนามันก็ได้ มีปัญหาอะไรก็แก้มันเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่ผมมองต่างจากนั้นครับท่านประธาน ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ได้รับมอบอำนาจนิติบัญญัติ จากประชาชน ผมคิดว่าปัญหาที่มันเกิดขึ้นแบบนี้เป็นเพราะว่ากฎหมายมันไม่รัดกุม มันไม่ทันยุคสมัย และเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ทำการทุจริตได้ ผมจึงเห็นด้วยที่จะตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อมาศึกษาเป็นรายประเด็นที่เราควรจะต้องมาแก้ไขกัน ใน ๓ ประเด็นหลักดังนี้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นแรก ก็คือประเภทสถานบริการที่อยู่ในมาตรา ๓ ของ พ.ร.บ. สถานบริการ ผมถามจริง ๆ ครับ สถานเต้นรำ รำวง รองเง็งนี่มันคืออะไร ตอนนี้เรา อยู่ในยุคไหนกันแล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าสถานบันเทิงประเภทนี้มันคืออะไร และมันอยู่ที่ไหน กันบ้าง สถานที่ที่มีอาหาร สุรา น้ำชา โรงน้ำชานี่ผมยังเกิดไม่ทันนะครับ ผมอยู่มา ๔๐ กว่าปี ผมก็ยังไม่เคยเห็นว่าโรงน้ำชามันหน้าตาเป็นอย่างไร ผมคิดว่าปัญหาพวกนี้มันควรจะต้อง มาปรับให้ทันกับยุคสมัย สถานบันเทิงที่เราเห็นทุกวันนี้ประเภทมันก็หลากหลายมาก ๆ ครับ และมันก็มีการหลบเลี่ยงกฎหมายเดิม เพื่อที่จะไม่ต้องขอใบอนุญาตที่จะเป็นสถานบันเทิง แล้วก็ไปเปิดเป็นแบบอื่น แต่สุดท้ายก็ขายเหล้า มีดนตรีอยู่ดี แต่ไม่ต้องขออนุญาตทำแบบนี้ ก็ได้นะครับ ถ้าเราไม่แก้กฎหมายปัญหานี้ก็จะยังไม่หมดไป

    อ่านในการประชุม

  • ปัญหาต่อไป ก็คือปัญหาเรื่อง Zoning ซึ่งอยู่ในมาตรา ๗ ของ พ.ร.บ. นี้ ก็จะมีการระบุว่าใกล้วัดไม่ได้ ใกล้ชุมชนไม่ได้ ใกล้สถานศึกษาไม่ได้ แต่ความชัดเจนไม่มีครับ ไม่รู้ว่าใกล้นี่มันคือใกล้ขนาดไหน สมมุติว่าถ้าเราระบุรัศมี ผมเอาแค่ใกล้วัด ใกล้โรงเรียน เราไม่รู้ว่ามีกี่วัด เราไม่รู้ว่ามีกี่โรงเรียน ผมท้าให้เอา Google Map มาวงเลยครับ ผมว่า ทั้งประเทศเหลือพื้นที่ที่เปิดสถานบริการได้อยู่นิดเดียวครับ บางอันอาจจะต้องไปเปิด กลางทุ่งนาถึงจะไม่อยู่ใกล้วัด สถานบริการถึงจะไปเปิดได้ แต่ถ้าเราไม่ระบุ ใครจะเป็น คนบอกครับว่าคำว่า ใกล้ ขนาดที่เห็นได้ว่าก่อความเดือดร้อนรำคาญนี่มันใกล้แค่ไหน เพราะในขณะที่บางห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ข้างวัด แต่มันมีสถานบันเทิงตั้งอยู่ใน ห้างสรรพสินค้านั้นตกลงแค่นั้นมันใกล้พอหรือเปล่าที่จะบอกว่าก่อความเดือดร้อนรำคาญได้ นี่ละครับมันก็เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่จะสามารถเรียกรับผลประโยชน์ได้ว่า ใกล้ ๕๐ เมตร คุณก็เปิดได้ถ้าคุณจ่ายเงิน ไกลออกมา ๕๐๐ เมตรถ้าคุณไม่จ่ายสตางค์ เขาอาจจะบอกว่านี่ใกล้เกินไปก่อความเดือดร้อนรำคาญได้ ผมว่าแค่ ๒ เรื่องนี้เราก็รู้แล้วว่า กฎหมายมันมีปัญหาและเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการได้ ถ้าเรามีนิยามคำว่า สถานประกอบการที่คล้ายสถานบันเทิงได้ ผมว่าเราควรจะกลับมาคุยกัน ได้แล้วครับว่ากฎหมายมันมีปัญหาแน่นอน คำคำนี้มันไม่ควรจะมีนิยามอยู่ในโลกนี้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • อีกปัญหาหนึ่งนะครับ Zoning ผมก็งงนิดหนึ่งเหมือนกัน พูดคำว่าใกล้วัด ใกล้โรงเรียน ใกล้ชุมชนนี่ผมก็เข้าใจได้ว่าบางทีมันก็ก่อมลภาวะทางเสียงได้นะครับ แต่ใกล้วัด ใกล้โรงเรียนนี่ผมคิดว่าบางทีเราไปใช้กรอบเรื่องของศีลธรรมแฝงอยู่ในกฎหมาย ผมยกตัวอย่างถ้าเราจะบอกว่าไม่ให้ใกล้สถานศึกษาเพราะว่ากลัวนักศึกษาไปดื่มเหล้า เราลองไปมองมหาวิทยาลัยระดับโลกที่ต่างประเทศ เขามีผับ บาร์อยู่ใน Campus ขอให้นักศึกษาสามารถดื่มกินกันได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องขับรถออกไปไหน ไม่ต้องออกไป ไกล ๆ ไกลผู้ไกลคน คุณดื่มกันอย่างรับผิดชอบแล้วก็อยู่ใน Campus ดูแลกันเองได้ ผมคิดว่า เราควรจะคิดมุมกลับให้มันทันกับยุคสมัยได้แล้วครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๓ ก็คือประเด็นการให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป แต่ให้อำนาจท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของประชาชนน้อยเกินไป สส. หลายท่านก็พูดไปแล้ว สส. ปรเมษฐ์ สส. ยอดชายก็พูดไปแล้วนะครับ มันมีสิ่งที่ทับซ้อนกันอยู่อย่างเช่น ประกาศคณะปฏิวัติ พ.ศ. ๒๕๐๒ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๒๒/๒๕๕๘ ซึ่งมันก็ยังมีผลบังคับใช้ อยู่จนถึงวันนี้ทั้งหมด การให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ตำรวจพื้นที่ก็มาลงได้ ตำรวจส่วนกลาง ก็มาลงได้ ตำรวจท่องเที่ยวก็ลงได้ เจ้าหน้าที่ปกครองก็ลงได้ ไม่รู้เจ้าของสถานบริการ เขาจ่ายส่วยไม่รู้กี่ต่อ ไม่รู้ต้องจ่ายกี่หน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ก็มีอำนาจที่จะเข้าไปเมื่อไรก็ได้ แต่ท้องถิ่นกลับมีอำนาจน้อยมาก ๆ ที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับบริบท ของพื้นที่ตัวเอง ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก ๆ ในการสะท้อนผลกระทบของพวกเขา เพื่อร่วมกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ร่วมกัน แต่ทั้งหมดนี้แน่นอนว่าสถานบันเทิงก็มีผลกระทบในเชิงลบ เราก็ต้องยอมรับกันว่ามีกรณี เมาแล้วขับเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งผมคิดว่ามันต้องแก้ปัญหาที่จุดอื่นคู่ขนานกันไปนะครับ สถานประกอบการหลาย ๆ ที่คุยกับผมก็บอกว่าเขายินดีมากเลย ถ้าจะบอกว่าถ้าลูกค้าเมา แล้วห้ามเสิร์ฟ หรือถ้ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันก็คือยกออกไปเลยครับ แล้วก็แจ้งตำรวจ มาจับได้เลย ผมคิดว่ามันก็สามารถทำงานร่วมกันได้ระหว่างกฎหมายกับผู้ประกอบการ ที่จะทำงานร่วมกัน แล้วก็รณรงค์การดื่มอย่างรับผิดชอบซึ่งผมคิดว่าทั่วโลกเขาก็ไปในทางนั้น กันแล้ว และแน่นอนมลภาวะทางเสียงแล้วก็ความปลอดภัยของอาการก็จำเป็นที่จะต้อง มีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายครับท่านประธาน ผมคิดว่าเราต้องมาพูดคุยกันได้แล้วว่า สถานบริการไม่ใช่ธุรกิจสีเทา เรามีกฎหมายที่เรียกว่า พ.ร.บ. สถานบริการ แต่ว่าเราอนุญาต ให้เขาทำธุรกิจตามกฎหมายตามที่ทางรัฐได้ควบคุม ฉะนั้นเขาเป็นผู้ประกอบการสุจริต เขาไม่ใช่ธุรกิจสีเทา ในสถานบริการต่าง ๆ มีทั้งความฝันของนักดนตรีหลาย ๆ คนที่อยากจะ เข้าวงการบันเทิง แต่อาจจะต้องใช้สถานบันเทิงยามค่ำคืนเหล่านี้ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตของ พวกเขาไปได้ ถ้าไม่มีสถานบริการเหล่านี้เราไม่มีทางได้เห็นวงดนตรีดัง ๆ ที่เราเสพดนตรีเขา อย่างบันเทิงในทุกวันนี้ได้อย่างแน่นอน มันยังมีอาชีพที่เขาสามารถสร้างได้ มีพนักงานเสิร์ฟ มีแม่ครัวต่าง ๆ ที่เขาฝันใหญ่อยากที่จะส่งเงินไปให้ครอบครัวของเขาที่ต่างจังหวัด ที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย เขาก็คือส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนสังคม ขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศนี้ไม่ต่างจากอาชีพอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้นผมก็ขอสนับสนุนที่จะตั้ง คณะกรรมาธิการนี้เพื่อแก้กฎหมายให้การดำเนินธุรกิจของพวกเขาเหล่านี้สามารถเป็นไปได้ อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นและอยู่ร่วมกันกับสังคมได้อย่างยั่งยืน ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาต ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จำนวน ๖ ท่าน ๑. นางสาวเบญจา แสงจันทร์ ๒. นายธีรัจชัย พันธุมาศ ๓. นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร ๔. นางสาวพนิดา มงคลสวัสดิ์ ๕. นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ๖. นายรัชต์พงศ์ สร้อยสุวรรณ ขอผู้รับรอง ด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ Whip ฝ่ายค้าน ผมต้องขออนุญาตที่จะลุกขึ้นถามท่านประธานอีกครั้งจริง ๆ ต่อคำถามของท่านรังสิมันต์ โรม ที่ได้ถามไปเมื่อสักครู่นะครับ ผมขอความชัดเจนในเรื่อง การถามกระทู้สดนี้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประการแรก ก็คือตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ ที่ท่านรังสิมันต์ โรม ได้กล่าวไป ผมต้องขอความกรุณาท่านประธานจริง ๆ ว่าในครั้งต่อ ๆ ไปถ้าหากท่านรัฐมนตรีไม่สามารถ มาตอบได้ด้วยตนเอง ต้องขอให้ระบุว่าจะมาตอบกระทู้นั้นได้เมื่อใด เพื่อให้เป็นไปตาม ข้อบังคับอย่างเคร่งครัดนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประการที่ ๒ เมื่อสักครู่นี้ท่านประธานได้แจ้งว่าหากครั้งหน้าท่านรังสิมันต์ โรม ถามกระทู้นี้อีก แล้วท่านรัฐมนตรีไม่มาก็จะอนุญาตให้ท่านรังสิมันต์ โรม ถามโดยไม่มีผู้ตอบ ทีนี้ข้อกังวลของผมมันเป็นแบบนี้ครับท่านประธาน สมัยประชุมหนึ่งเรามีเวลาอยู่ประมาณ ๑๖-๑๗ สัปดาห์ เว้นไปบางสัปดาห์ ผมคิดว่าเราน่าจะมีกระทู้สดที่เป็นโควตาของฝ่ายค้าน สักประมาณ ๓๐ ครั้งโดยประมาณ ถ้าท่านรังสิมันต์ โรม ถามอีกครั้งหนึ่งแล้วไม่มีผู้มาตอบ และท่านประธานบอกว่าจะให้ถามโดยไม่มีผู้ตอบ นั่นหมายความว่าจะให้กระทู้นั้นตกไป โดยไม่ได้ให้ใช้โควตาฝ่ายค้านในอีกครั้งหรือไม่ อันนี้มันกลายเป็นว่าท่านรัฐมนตรี ถ้าไม่อยากตอบท่านก็ไม่มา อีกกระทู้หนึ่งคนอื่นถาม ท่านไม่อยากตอบท่านก็ไม่มา กลายเป็นว่า ฝ่ายค้านแทนที่จะได้ถามสมัยประชุมละประมาณ ๓๐ กระทู้ อาจจะเหลือแค่สักประมาณ ๒๐ กระทู้ทั่วไป ถ้าหากว่าคณะรัฐมนตรีใช้วิธีแบบนี้นะครับ ครั้งที่แล้วผมได้ให้สมาชิก หารือไปครั้งหนึ่งแล้วว่าถ้าหากว่าท่านรัฐมนตรีไม่มาตอบกระทู้สดในครั้งต่อไปควรจะต้อง เพิ่มโควตาให้กับทางฝ่ายค้านได้ถามซ้ำอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ไปทับกับโควตาของสัปดาห์ถัดไป ผมต้องขอคำยืนยันท่านประธานเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ Whip ฝ่ายค้านนะครับ ผมขอให้ข้อสรุปแบบนี้เลยครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • อันดับแรก ก็คือเหตุการณ์ในวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีไม่สามารถมาตอบกระทู้ ได้เองทางพวกเราพรรคก้าวไกล พรรคฝ่ายค้านเข้าใจดีครับว่าท่านติดภารกิจที่ต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่ได้กล่าวโทษท่านแต่อย่างใดนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นต่อไปก็คือประเด็นสำคัญนะครับ หนังสือที่ชี้แจงมาถึงท่านรังสิมันต์ โรม วันนี้ไม่เป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนะครับ เพราะว่าไม่ได้ระบุ ว่าจะมาตอบได้เมื่อใด ดังนั้นผมคิดว่าผมหาทางออกให้แบบนี้เลยครับ ทุกครั้งผมขอให้ ท่านประธานกำชับนะครับ กำชับทางรัฐบาลนะครับว่าหากไม่สามารถมาตอบกระทู้ได้ หนังสือชี้แจงต้องแจ้งว่าจะมาตอบได้วันไหนนะครับ ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ข้อ ๑๕๑ และผมสมมุตินะครับ สมมุติว่าวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีส่งหนังสือมาใหม่ และบอกว่าสามารถ ตอบได้ในวันพฤหัสบดีหน้า แปลว่าในวันพฤหัสบดีหน้าโควตากระทู้ถามสดของฝ่ายค้าน จะต้องเป็นของท่านรังสิมันต์ โรม และบวกอีก ๒ กระทู้ เพื่อไม่ให้สภาแห่งนี้เสียโอกาสใน การสอบถามปัญหาต่าง ๆ ต่อท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ผมขอสรุปให้หากว่า เป็นไปตามนี้ผมคิดว่าทุกฝ่ายน่าจะเห็นพ้องต้องกัน แล้วก็ไม่เห็นแย้ง แล้วก็เป็นโอกาสให้ สภาแห่งนี้ได้ตรวจสอบรัฐมนตรี แล้วก็รัฐบาลอย่างเต็มที่ครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็น้อมรับตามที่ท่านประธานได้นำเสนอไว้นะครับ ก็คิดว่าน่าจะเป็นลักษณะ เดียวกับเมื่อสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ก็คือวันพุธนี้เราจะพิจารณาเฉพาะกฎหมาย ไม่ว่า จะเป็นร่างของ ครม. หรือว่าร่างของ สส. ที่จะต่อคิวกันมานะครับ ในกรณีของการนัดเพิ่ม อีก ๑ วันก็ตั้งแต่การพูดคุยกันในสมัยการประชุมที่แล้วนี้ผมคิดว่าทางพรรคฝ่ายค้านและ ทางพรรคร่วมรัฐบาลเองก็พูดคุยกันค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ได้จำเป็นที่จะต้องเป็นทุกสัปดาห์ แต่ว่านัดเมื่อจำเป็น แต่เมื่อจำเป็นนี้ก็คือเมื่อไรนะครับ ผมก็พบว่าปัญหาจากสภาชุดที่แล้ว ปรากฏว่าเรามานับกันได้เลยว่ากฎหมายจาก ครม. เราพิจารณากี่ฉบับ และกฎหมายจาก สส. และภาคประชาชนตลอด ๔ ปีเราได้พิจารณากันกี่ฉบับ เราจะพบกันเลยว่าสภาแห่งนี้ กลายเป็นเหมือนตรายางให้ ครม. นะครับ กฎหมายของ สส. ที่เข้ามาทำหน้าที่นิติบัญญัติเอง แทบจะไม่ได้เข้าพิจารณาเลย กฎหมายของภาคประชาชนก็แทบจะไม่เคยได้เข้าพิจารณาเลย ดังนั้นผมเลยเห็นความจำเป็นว่าหาก ครม. ส่งกฎหมายเข้ามาเรื่อย ๆ แล้วเข้ามาเป็นเรื่อง ด่วนนี้มันก็จะแทรกคิวกฎหมายของ สส. อยู่ตลอดนะครับ ถ้าหากมีความจำเป็นก็ขอให้ เปิดอีก ๑ วันในบางสัปดาห์เพื่อที่จะพิจารณาร่างกฎหมายของ สส. และของภาคประชาชน จะได้ทำให้เราสามารถพิจารณากฎหมายที่มาจากผู้แทนประชาชน ๕๐๐ คนที่ได้รับ การเลือกตั้งมาจริง ๆ แล้วก็ยินดีนะครับ แล้วก็พร้อมที่จะพูดคุยในพรรคร่วมอีกครั้ง หากท่านประธานนัดหมายครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ขออนุญาตนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่าน ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยากจะสอบถามถึงนโยบายของท่านประธานเกี่ยวกับ รายงานรับทราบเรื่องต่าง ๆ จากหน่วยงานนะครับ ผมเข้าใจว่าถ้าหน่วยงานเดินทางมาแล้ว แล้วอาจจะมีการเตรียมที่จะอภิปรายสรุปรายงาน ผมคิดว่าจริง ๆ แล้วมันอาจจะเป็นประโยชน์ กับสมาชิกที่ได้รับฟังหน่วยงานได้สรุปรายงานให้ฟังเช่นกันนะครับ ก็อาจจะฝากท่านประธาน ลองพิจารณาดูครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ขออนุญาตท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณ ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนที่จะเข้าระเบียบวาระถัดไปผมขอใช้ข้อบังคับ ข้อ ๕๔ ในการขอเปลี่ยน ระเบียบวาระการประชุม ให้วาระการประชุมที่ ๕.๒๑ คือร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของท่านธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ หรือที่เรียกว่า สมรสเท่าเทียม ขึ้นมาต่อจากวาระที่ ๕.๔ คือร่างพระราชบัญญัติควบคุม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยคุณเจริญ เจริญชัย นะครับ ก็จะมีผลในการ ประชุมครั้งถัดไป ผมขอผู้รับรองด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมขออภิปรายสั้น ๆ นิดเดียวถึงสาเหตุที่ผมขอเปลี่ยนระเบียบวาระนะครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • หลังอันนี้ครับ หลังพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครับท่านประธาน เพราะว่าการเลื่อน ร่างพระราชบัญญัติไม่สามารถมีผลในวันนี้ได้ ก็อาจจะมีผลในการประชุมครั้งถัดไปนะครับ ก็ ๒ สาเหตุที่ผมต้องขอเลื่อนวาระนี้ เพราะว่าอย่างที่คุยกันไปเมื่อเช้า มีการหารือกันเมื่อเช้า เรื่องการพิจารณากฎหมายร่างกฎหมายของ สส. ซึ่งอาจจะมีการแยกออกมาต่างหาก เมื่อเรามีการแยกวันพิจารณาวันพุธเป็นกฎหมายโดยเฉพาะ แล้ววันพฤหัสบดีเป็นวาระอื่น ๆ แต่ใน ณ ขณะนี้ยังไม่มีการแยกอย่างเป็นทางการแบบนั้นนะครับ ผมเลยคิดว่าอยากจะ ขอให้ร่างกฎหมายที่เสนอโดย สส. ขึ้นมาจ่อคิวรอไว้ก่อนเลยในกรณีที่ยังไม่มีการแยกวัน แล้วก็ไม่อยากที่จะแทรกร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยภาคประชาชน จึงขอให้มาอยู่หลัง ๕.๕ ซึ่งเป็นร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยภาคประชาชนครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อย่างที่ทางฝั่งรัฐบาลแจ้งนะครับ สมาชิกอยู่ในห้องกรรมาธิการ กันเยอะพอสมควร ก็ไม่มีปัญหาครับ รอได้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลครับ ท่านประธานครับ ในร่างข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎรในร่างแก้ไขฉบับนี้ของท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ผมก็ได้ฟังสมาชิกหลาย ๆ ท่าน อภิปรายนะครับ แล้วก็ตั้งแต่อ่านร่างนี้ตั้งแต่ต้นตอนที่ยื่นเสนอก็มีแก้อยู่ ๓๐ กว่าข้อ แล้วก็ผมเองก็เข้าใจดีถึงหลาย ๆ ข้อที่น่าจะมีความเห็นต่างกัน แน่นอนครับมันแก้มาตั้ง ๓๐ กว่าข้อ คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเห็นด้วยกันทั้งหมดทุกข้อนะครับ ผมก็เข้าใจดีว่าในหลาย ๆ ประเด็นมันก็อาจจะยังเป็นประเด็นที่อ่อนไหวแล้วก็เป็นที่กังวลว่า จะใช้บังคับได้จริงหรือไม่นะครับ อย่างเช่นประเด็นเรื่องประธาน กมธ. ประธานกรรมาธิการ บางคณะที่จะให้เป็นของสัดส่วนพรรคฝ่ายค้าน หรือว่าการถ่ายทอดสดกรรมาธิการผมก็ ได้เห็นถึงความกังวลตั้งแต่สมัยสภาชุดที่แล้วนะครับ ผมก็ได้เห็นหลายท่านที่แสดงความกังวล ถึงในเรื่องนี้ ซึ่งหลาย ๆ ท่านผมก็ต้องบอกตามตรงว่ามีเหตุผลที่สมเหตุสมผลแล้วก็พอ เข้าใจได้ เราอาจจะแค่คิดไม่ตรงกันเท่านั้นเองนะครับ หรือแม้กระทั่งเรื่องกระทู้สดที่หลาย ๆ ท่านก็อธิบายว่ามันอาจจะไม่สามารถใช้ได้จริง แล้วมันก็อาจจะเป็นการเสียเวลาของ ฝ่ายบริหาร ซึ่งผมเข้าใจดีครับ เรื่องแบบนี้เห็นต่างกันได้แน่นอน กลับมาอีกทีหนึ่งครับว่า ตอนนี้เราอยู่ในวาระรับหลักการ หลักการง่าย ๆ สั้น ๆ มาก ๆ คือแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ การประชุมเพื่อให้การทำงานของสภามีประสิทธิภาพมีความโปร่งใส ยึดโยงกับประชาชน มากขึ้น หลักการมีเท่านี้ครับ วันนี้เป็นการรับหลักการครับ หลายท่านอภิปรายออกมาเอง ด้วยซ้ำว่าเห็นด้วยกับหลาย ๆ ข้อที่ท่านพริษฐ์เสนอมา ในเมื่อท่านเห็นด้วยกับหลาย ๆ ข้อ ทำไมเราถึงจะรับหลักการนี้ไม่ได้ ท่านเปิดไปดูที่ข้อ ๓ ที่บอกว่าให้ร่างพระราชบัญญัติ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเสนอต่อสภาเป็นเรื่องด่วน ถ้าประชาชนมาถามท่านว่าอยากให้เป็นแบบนี้ ท่านจะตอบปฏิเสธไหมครับ ท่านจะบอกประชาชนไหมครับ อ๋อ ไม่ ไม่ด่วน ร่าง ครม. ด่วนกว่า หรือข้อ ๔ บอกให้ท่านประธานสภาจัดข้อมูลเกี่ยวกับสถานะความคืบหน้าของการ ปรึกษาหารือที่ทุกท่านทราบดีว่ามันเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่สำคัญมาก ๆ เป็นเครื่องไม้ เครื่องมือที่ทุกท่านนี่ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อให้ราชการปฏิบัติตาม ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้น ๆ การให้เผยแพร่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการให้ เผยแพร่ให้ประชาชนเข้าถึงตลอดเวลา นั่นก็แปลว่าเป็นการกดดันให้ราชการทำงานแก้ไข ปัญหาของพี่น้องประชาชนให้เร็วขึ้น ท่านมองว่านี่เป็นหลักการที่ไม่ถูกต้องหรือครับ ท่านจะยกเรื่องกระทู้สด ท่านจะยกเรื่องประธานกรรมาธิการ ท่านจะยกเรื่องการถ่ายทอดสด เพื่อที่จะมาปัดทุกข้อนี้ตกทิ้งทั้งฉบับหรือครับ ตอนนี้เราอยู่ในวาระรับหลักการครับ เราไม่ได้ อยู่ในวาระ ๒ ในวาระ ๓ หรือแม้กระทั่งในกรรมาธิการครับ ตั้งกรรมาธิการไปนั่งคุย กันไป ท่านพริษฐ์เสนอมา ๓๒ ข้อ ท่านเห็นด้วยแค่ ๕ ข้อ ท่านตัดทิ้งทั้งหมดก็ได้ครับ แล้วหลักการกว้างขนาดนี้ท่านเห็นว่าข้ออื่น ๆ ที่ท่านพริษฐ์ไม่ได้แก้แล้วมันอาจจะมีประโยชน์ ถ้าจะแก้ไข ท่านเพิ่มเติมได้ครับ แล้วท่านก็เป็นเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการอยู่แล้ว ท่านแก้ ได้ทุกอย่างครับ นี่ท่านกำลังจะบอกว่าข้อบังคับการประชุมสภาที่เราใช้กันอยู่ มันไม่จำเป็นต้อง แก้ไขเลยเพื่อให้ก้าวหน้าขึ้นแม้แต่ข้อเดียว มันไม่สามารถที่จะแก้ไขเพื่อให้สภามีประสิทธิภาพ มากกว่านี้ได้เลย แม้แต่ข้อเดียว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่สภาไทยนี้เคยมีมาในความเห็นของท่าน หรือครับ ผมเสียดายเสียดายโอกาสมาก ๆ ยิ่งผมได้รับทราบมาว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็น สส.หลายสมัยมีความเชี่ยวชาญและเข้าใจระบบสภาดีกว่าทางพรรคของผมเยอะ ท่านก็ได้เตรียมร่างข้อบังคับเอาไว้แล้ว เพียงแต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์และไม่สามารถ ยื่นประกอบได้ทัน แต่การคว่ำร่างข้อบังคับวันนี้ไปเลย ก็อาจจะเสียโอกาสที่จะทำให้เรา ได้แก้ไขข้อบังคับในหลาย ๆ ประการที่ทุกพรรคอาจจะเห็นตรงกันก็เป็นได้ ผมเข้าใจดีและ ผมก็เคารพในมติวิปรัฐบาลครับ ผมคงไม่ไปก้าวก่ายอะไรครับ แต่ในหลาย ๆ โอกาสผมก็เห็น สส. ฝ่ายรัฐบาลหรือแม้แต่รัฐมนตรีเองก็มักจะออกมาพูดครับว่า เราไม่อยากเห็นฝ่ายค้าน ที่ค้านตะพึดตะพือ รัฐบาลอ้าปากพูดอะไรก็พร้อมจะค้านตลอดเวลา ผมเห็นด้วยครับ เพราะผมก็คิดว่าวิธีการทำงานการเมืองแบบนี้ มันไม่ใช่วิธีการทำงานการเมืองแบบที่ ประชาชนเลือกเราเข้ามานั่งในสภาแห่งนี้คาดหวังให้เป็น เช่นเดียวกันครับ ผมก็ไม่อยากเห็น รัฐบาลที่พอเห็นฝ่ายค้านยื่นอะไรมาก็ตกใจกลัวเหมือนเห็นผีคว่ำมันให้หมด ผมก็คิดว่า นั่นไม่ใช่การเมืองที่ประชาชนเลือกเรามาคาดหวังให้เป็นเช่นกัน หรือหากว่าท่านเห็นว่า เป็นแบบนั้นก็แล้วแต่ครับ

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายครับท่านประธาน ผมก็ยังเสียดายโอกาสในการแก้ไขข้อบังคับเพื่อให้ สภาแห่งนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใสมากขึ้น ยึดโยงกับประชาชนเจ้าของอำนาจที่แต่งตั้ง ทุกท่านเข้ามานั่งในสภาแห่งนี้มากขึ้น เสียดายโอกาสที่เราจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของ ประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยที่ผมก็คิดว่าทุกท่านน่าจะคิดตรงกันว่าเราควรที่จะ เรียกว่าความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยนี้เช่นกัน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ขออนุญาตครับ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ต้องขออนุญาตนะครับ ขออนุญาตท่านสมาชิกฝั่งรัฐบาลด้วยนะครับ ผมก็เข้าใจดีนะครับ แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างก็น่าจะชัดเจนนะครับว่าเมื่อสักครู่นี้ในการลงมตินั้นองค์ประชุมไม่ถึง กึ่งหนึ่ง จริง ๆ แล้วเจตนาของผมเองวันนี้เป็นวันแรกในสมัยประชุมที่สอง แล้วก็เป็น ครั้งแรกที่เราได้พิจารณาร่างกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. จริง ๆ ผมก็เลยอยากจะทราบว่า จริง ๆ แล้วฝั่งรัฐบาลที่มีอยู่ ๓๒๐ คน วันนี้ให้ความสำคัญกับการพิจารณากฎหมายมาก สักแค่ไหน ในความเป็นจริงตอนแรกผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำให้องค์ประชุมล่มนะครับ เพียงแต่ว่า ผมเข้าใจดีว่าเมื่อสักครู่มันอาจจะทอดเวลาระยะเวลายาวนาน ท่านประธานจึงได้ปิด การลงมติ ผมเองก็ตั้งใจว่าเดี๋ยวก็จะมีการแสดงตนครับ เพียงอยากจะทราบว่าฝั่งรัฐบาลนั้น มีความตั้งใจในการมาประชุมและทำหน้าที่ของตนเองมากแค่ไหนเท่านั้นเองครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานครับ เดี๋ยวขยายเวลาของกรรมาธิการก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะมีเรื่องหารือสั้น ๆ ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรียนท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในเรื่องระยะเวลา ๒ วันหรือ ๓ วัน หรือว่ากี่ชั่วโมง แบ่งกันฝ่ายละกี่ชั่วโมง ผมคิดว่าเดี๋ยวจะ เป็นการพูดคุยระหว่างวิปล่วงหน้าก่อนนะครับ เพื่อที่ไปคุยกับท่านประธานหรือท่านรองเอง จะได้ไม่เสียเวลามากจนเกินไปนะครับ แต่เรื่องที่ผมลุกขึ้นหารือก็คือเรื่องวันที่เราจะเริ่ม พิจารณาวาระ ๑ ผมคิดว่าอันนี้ก็เป็นอำนาจของท่านประธานครับ ผมจึงขอหารือให้ ท่านประธาน ถ้าท่านประธานจะพิจารณาให้การพิจารณา พ.ร.บ. งบประมาณเป็นไปอย่าง รอบคอบ ท่านประธานสามารถใช้อำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเพื่อให้สมาชิกมีเวลาที่จะ ศึกษาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณได้ก่อนครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านนะครับ ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีที่ขึ้นมาชี้แจง แล้วก็จริง ๆ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้เมื่อเช้านี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้ลงนามเซ็น แล้วก็ได้ สามารถนำเข้ามาพิจารณาได้ครบทั้ง ๗ ร่าง

    อ่านในการประชุม

  • อีกเรื่องหนึ่งที่ผมก็จะต้องขอเรียกร้องไปในอนาคตในการทำงานเองของทุกฝ่าย ในสภาผู้แทนราษฎรนะครับ วาระที่เรามาพิจารณากันวันนี้ผมก็ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง อีกเรื่องหนึ่งว่า มีการส่ง SMS ยืนยันว่ามีวาระนี้เมื่อ ๒ ทุ่ม ๒๐ นาทีของคืนวันอังคารนะครับ มีเวลาเพียงแค่ ๔๐ ชั่วโมงเท่านั้นที่ สส. รู้ตัวว่ามีวาระนี้เข้าสภาแล้วพิจารณากันตอนนี้ ผมต้องเรียกคิวนี้ว่าคิวแทรกนะครับ แต่ว่าไม่มีปัญหาครับ ถ้าเรื่องแทรกเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ผมไม่มีปัญหาทั้งสิ้นนะครับ แต่ประเด็นก็คือเมื่อวันจันทร์ที่มี การประชุมวิปรัฐบาลกัน ทางวิปรัฐบาลรับทราบอยู่แล้วว่ามี ๓ ร่างที่ยังไม่ได้มีความเห็นจาก หน่วยงานและท่านนายกรัฐมนตรียังได้เซ็นได้รับรอง หากจะเข้ามาขอคิวแทรกที่เร่งด่วน ขนาดนี้ ผมคิดว่าทางวิปรัฐบาลก็ควรจะต้องรอบคอบตั้งแต่ ณ วินาทีนั้นที่ตกลงกันว่าแล้วอีก ๓ ร่างที่เหลือจะทำอย่างไรให้เสร็จสิ้นทันเวลาในการเข้าวันพฤหัสบดี เพราะถ้าหากมีร่างใด ตกค้างมันจะมีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลังอย่างแน่นอน ถ้าหากไม่มั่นใจและคิดว่าอาจจะต้องใช้ เวลาผมคิดว่าเราทำตามวาระปกติที่เราทำกันมาตลอดครับ คือประชุมวิปวันจันทร์นี้ แล้วก็ บรรจุเข้าวาระเสร็จแล้ว ประกาศระเบียบวาระวันศุกร์ และพิจารณาในวันพุธต่อไป แล้วก็เป็น ประโยชน์ที่ สส. ทุกคนทั้ง ๕๐๐ คนจะได้มีเวลาอ่านร่าง ๑ สัปดาห์แล้วไปประชุม สส. หารือ กันว่าจะลงมติในร่างนั้นอย่างไร ไม่ใช่วาระที่เข้ามาเร่งด่วนแล้วมีเวลาอันจำกัดขนาดนี้ครับ อย่างไรต้องขอบคุณทุกฝ่ายวันนี้เป็นไปด้วยดีครับ บรรยากาศตอนนี้เป็นไปด้วยดีมาก ขอบคุณทุกฝ่ายจริง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างราบรื่นครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ก่อนอื่นขอบคุณท่านประธานที่ได้ลงนามแต่งตั้งวิปร่วม แล้วก็ ให้ท่านพิเชษฐ์รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เรียกประชุมภายในสัปดาห์นี้ แล้วผมเห็นด้วยกับท่านประธานในการนัดเพิ่มก็น่าจะมีการพูดคุยกันล่วงหน้า เพราะเข้าใจดีว่า บางพรรคการเมืองพอวันประชุมประจำเป็นวันพุธ วันพฤหัสบดี แล้วบางพรรคการเมือง ก็อาจจะมีนัดประชุมภายในพรรค หรือว่านัดภารกิจอะไรในบางวันศุกร์ล่วงหน้าไปนานแล้ว อันนี้ผมเห็นด้วยว่าควรจะเป็นการพูดคุยร่วมกันว่าวันศุกร์ใดบ้าง ที่เราจะเปิดประชุมสภา เพิ่มเติม อาจจะไม่ใช่แค่ชดเชย อาจจะเป็นการเพิ่มเติมด้วย เพื่อที่จะ Clear ญัตติต่าง ๆ วาระต่าง ๆ ที่ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ ๑ เรื่องที่ผมคิดว่าไม่ควรจะเป็นการหารือร่วมกัน ว่าแต่ละพรรคการเมืองสะดวกหรือไม่ คือเรื่องกำหนดวันให้เป็นการพิจารณากฎหมาย โดยเฉพาะ อย่างที่ท่านณัฐวุฒิบอกไปแล้วว่า ชุดที่ ๒๕ เราใช้วันพุธเป็นการพิจารณา กฎหมายโดยเฉพาะ เพราะสภาผู้แทนราษฎรเราเป็นอำนาจนิติบัญญัติ เราถูกได้รับการเลือก จากประชาชนมา เพื่อให้มาตรากฎหมาย มาออกกฎหมาย มาเสนอกฎหมาย ที่ผ่านมาตอนนี้ เราผ่านวาระ ๑ ไป โอเคครับ มีร่างจากที่ สส. เสนอ แต่เราได้พิจารณาเพราะอะไรครับ ท่านประธาน เราได้พิจารณาเพราะฝ่ายบริหารส่งร่างกฎหมายมาด้วย เราถึงได้พิจารณา ร่าง สส. ที่มีหลักการเดียวกัน ผมไม่เชื่อว่ามันจะสง่าผ่าเผยครับ หากสภานี้ตั้งขึ้นมา เพียงเพื่อมารอลงมติร่างกฎหมายที่ ครม. ส่งมา ณ ตอนนี้ ๒๐ กว่าร่างคาอยู่ในสภาครับ ครั้งก่อนที่ผมหารือทางวิปรัฐบาลบอกว่ามันแทบไม่มีกฎหมายในสภาเลยที่ สส. ยื่นไป แล้วเข้าไปอยู่ในระเบียบวาระ ดังนั้นพอแยกวันไป แล้วพอมันไม่มีวาระให้พิจารณาเดี๋ยวมัน จะมีปัญหาขึ้นมาทีหลัง ตอนนี้มีแล้วครับ ๒๐ กว่าร่าง รอรับฟังความคิดเห็นอยู่อีก ๑๐ ร่าง ผมว่าถึงเวลาแล้วครับ และนี่ผมคิดว่าไม่ใช่การพูดคุยกัน เจรจากันครับ ผมคิดว่าควรจะเป็น ดำริจากท่านประธานที่จะแยกวันเลย ให้วันพุธเป็นพิจารณากฎหมายเพื่อความสง่างาม แล้วเพื่อการทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ขอบคุณท่านรองประธานวิปรัฐบาลนะครับ เกือบเรียกผิดเป็น ท่านประธานวิปรัฐบาลนะครับ ก็ขอบคุณนะครับ ผมกลัวว่าเราจะเข้าใจผิดกันนะครับ ผมเองไม่ได้มีเจตนาที่จะบอกว่าจะต้องให้มาประชุมสภากันทุกวันศุกร์นะครับ เมื่อสักครู่ ผมก็พูดชัดเจนว่าก็มาหารือกันก่อนนะครับว่าศุกร์ไหนที่สะดวกก็มาว่ากัน เดือนละครั้ง ๒ เดือน ๑ ครั้ง ๓ เดือน ๒ ครั้ง แบบนั้นก็ได้ ก็เข้าใจดีครับ พรรคผมเองก็มี สส. เขต ๑๑๐ คน ก็เข้าใจครับว่าทุกคนก็ต้องลงพื้นที่ แต่ถ้าเรามาพูดคุยกันล่วงหน้า นัดล่วงหน้า ผมคิดว่า ภารกิจต่าง ๆ ก็สามารถ Clear ได้ครับ เลื่อนวันใดบ้าง วันไหนที่ไม่สะดวกจริง ๆ ก็ไม่เป็นอะไรครับ มาพูดคุยกันอย่างฉันมิตรยินดีเสมอนะครับ แต่ผมว่าปัจจัยสำคัญในวันนี้ที่พูดก็คือการแยกวัน พิจารณากฎหมายเพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติครับท่านประธาน ก็ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาต ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมไม่แน่ใจนะครับว่าธรรมเนียมปฏิบัติ หรือว่าข้อบังคับในเรื่องรายงานรับทราบเป็นอย่างไร แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ท่านพิเชษฐ์รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง นั่งบนบัลลังก์ แล้วก็มีผู้ชี้แจงมาในวาระรับทราบรายงาน แต่ว่าไม่มีผู้อภิปรายซักถาม ไม่มีผู้ลงชื่อ อภิปรายซักถามนะครับ อย่างนี้ครับท่านประธาน ผมอยากให้ผู้ชี้แจงขึ้นมาอย่างน้อย ๆ สรุปรายงานให้เราฟังสักไม่เกิน ๕ นาทีก็ได้ และไม่แน่ครับ ระหว่างฟังแล้วสมาชิกก็อาจจะ มีคำถามขึ้นมาก็ได้ครับท่านประธาน ผมคิดว่าไหน ๆ มาแล้วอย่างน้อยเราได้รับทราบข้อมูล ที่หน่วยงานสรุปมาให้ว่า ในรายงานการปฏิบัติงานหรือว่าการตรวจสอบการเงินนั้น เป็นอย่างไรบ้างครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ขออนุญาตนะครับท่านประธาน คือตอนนี้ก็มีญัตติของท่านเอกราช อุดมอำนวย แล้วก็มีผู้เห็นต่างก็คือท่านอรรถกร ศิริลัทธยากร นะครับ ผมขอเวลาสักครู่เดียว ในการอภิปรายสนับสนุนญัตติของท่านเอกราช อุดมอำนวย ในการเลื่อนวาระร่างกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการประมงตั้งแต่ ๕.๕๓-๕.๕๗ เพื่อให้มาต่อจากญัตติ ๕.๕ และจะพิจารณา ในวันพรุ่งนี้ครับ อย่างที่ผมได้หารือกับท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไปเมื่อเช้านี้ ก็คือเรื่องการหารือในการแยกวันพิจารณากฎหมายให้ชัดเจน เพื่อให้ สภานิติบัญญัติของเราทำหน้าที่ที่ประชาชนมอบหมายมา คือการออกกฎหมายและพิจารณา กฎหมาย อีกครั้งครับผมเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ และรายงานของกรรมาธิการวิสามัญทุกคน ในสภาแห่งนี้ก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีการแก้ไขกฎหมายประมงทั้งระบบ แล้วก็ควรจะ เริ่มต้นมาจากร่างที่ สส. ยื่นกันแล้วครับ สส. ที่มีหน้าที่นิติบัญญัติยื่นกันมาแล้วกว่า ๕ ร่าง แล้วเราก็คิดว่า ถ้าการพิจารณาร่างกฎหมายเหล่านี้เป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วก็จะ เป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวประมงเช่นกัน แต่อีกครั้งครับที่ทางพรรคฟากฝั่งรัฐบาลก็ให้รอ อีกนิดหนึ่ง รออีกสักสัปดาห์หนึ่ง และเหตุผลที่รอคืออะไร รอให้ฝ่ายบริหารอนุมัติร่างของ ตัวเองมาก่อน ตกลงต้องให้สภามานั่งเรียกร้องทุกอาทิตย์ว่าเมื่อไรฝ่ายบริหารจะยื่นร่างอะไรมา แล้วเราก็จะพิจารณาเฉพาะร่างที่ฝ่ายบริหารยื่นมา และมีร่างที่เป็นหลักการเดียวกันที่ สส. ยื่นเท่านั้น ส่วน สส. ที่ยื่นมาก็รอไปครับ แล้วก็ไม่แยกวันพิจารณาสักที เราก็พูดกันแต่ญัตติ พูดกันแต่ รับทราบรายงานกันเป็น Week ไป อย่างที่ท่านณัฐวุฒิบอกเมื่อเช้าครับ ประชุมกันแบบ ตะมุตะมิ มีแต่ญัตติอะไรเต็มไปหมด กฎหมายรออยู่ ๒๐ กว่าฉบับ รับฟังความเห็นอยู่อีก ๑๐ ฉบับ ที่เตรียมบรรจุเข้าวาระ อีกไม่นานนี้ก็จะบรรจุเข้าวาระแล้วครับ ดังนั้นผมคิดว่า ถ้ายังไม่มีการแยกวันอย่างชัดเจน ผมก็จะเลื่อนแบบนี้ล่ะครับ แล้วญัตติอะไรเข้ามาลงมติกัน ทุกญัตติครับ ดังนั้นผมคิดว่ามาเจรจากันให้เรียบร้อย ถ้ามีการแยกแต่ผมคิดว่าการทำงาน ก็จะราบรื่นกว่านี้ครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับ ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ จริง ๆ อีก ๑ ชั่วโมงก็ได้นะครับ บ่ายสองโมง ผมก็ว่างแล้วครับ พรุ่งนี้เช้าก็ได้ วันศุกร์เช้าก็ได้ ผมคิดว่าแล้วแต่ทางวิปรัฐบาลเลยครับ แต่ขอภายในสัปดาห์นี้ ถ้าพรุ่งนี้ได้เลยยิ่งดีครับ แต่เดี๋ยวมา Conference กันอีกทีหนึ่งครับ นิดเดียวครับ เมื่อสักครู่นี้ที่ท่านครูมานิตย์ได้กล่าวถึงว่าเรื่องร่างกฎหมายนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ เราจะมาทำกันเองแล้วก็ไม่เข้าใจฝ่ายบริหารนี้ไม่ได้ คือด้วยความเคารพจริง ๆ ครับ ร่างที่ยื่นเข้ามามีร่างของท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ร่างของท่านวิสุทธิ ไชยณรุณ ครับ ท่านกำลัง จะบอกว่า ๒ ท่านนี้ไม่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลหรือครับ กำลังจะบอกว่าไม่เข้าใจ หรือครับว่าจริง ๆ แล้วประมงมันควรแก้อย่างไร ต้องรอรัฐบาลส่งเข้ามาอีกทีอย่างนั้น หรือครับ ตกลงเรามีสภาไว้ทำไมครับ สส. มีหน้าที่แล้วก็มีอำนาจในการยื่นกฎหมาย และพิจารณากันได้ทันที โดยไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านฝ่ายบริหาร นี่เป็นอำนาจที่แยกขาดจากกัน ท่านกำลัง จะบอกว่าเราต้องอยู่ภายใต้ฝ่ายบริหาร รอให้ฝ่ายบริหารส่งร่างกฎหมายมาก่อนเราถึงจะ พิจารณาได้อย่างนั้นหรือครับ เท่านี้ล่ะครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลครับ ต้องขออนุญาตท่านประธาน จริง ๆ แล้วต้องขออภัยที่ประชุมด้วยนะครับ ต้องขอมีการเปลี่ยนแปลงชื่อคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนภารกิจของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของ หน่วยงานอื่น หรือย้ายไปในสถานที่อื่นที่เหมาะสม ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล ๑ ท่าน เปลี่ยนจาก นาวาโท กิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ เป็น นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ขอผู้รับรอง ด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ขอหารือนิดหนึ่งครับ คือตอนนี้จอภาพที่แสดงว่ามีผู้แสดงตนแล้วทั้งหมดกี่ท่าน ด้านหน้า บัลลังก์นี้ไม่สามารถใช้งานได้ ผมก็อาจจะมีความสงสัยนิดหน่อยครับว่า ตกลงเรา Check ได้ไหมครับว่าตัวเลขที่โชว์กับตัวเลขที่กดจริงมันตรงกันหรือไม่ เพราะว่าปกติมันก็ใช้ได้ อยู่ตลอด แล้วก็สามารถเดินไปตรวจสอบได้ตลอดว่ามีผู้แสดงตนกี่คนครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ปกรณ์วุฒิ ๒๐๒ แสดงตนครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ปกรณ์วุฒิ ๒๐๒ เห็นด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาตหารือ ท่านประธานสั้น ๆ ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมคิดว่าในช่วง ๒-๓ สัปดาห์ที่ผ่านมาผมสังเกตหลายครั้งนะครับ โดยเฉพาะในช่วงที่สมาชิก เดินเข้าห้องเยอะ ๆ หรือว่าโหวตเสร็จแล้วเดินออกจากห้อง เสียงไมโครโฟนของผู้ที่อภิปราย ท่านสุดท้ายของญัตติที่แล้วกับท่านแรกของญัตติถัดไปแทบไม่ได้ยินเลยครับ ผมต้องบอก อย่างนี้ว่าผมเข้าใจนะครับว่า ไม่ได้กล่าวหาว่าท่านสมาชิกมีเจตนาที่จะพูดคุยเสียงดังเพื่อ รบกวนท่านอื่น เพียงแต่ว่าสภาพของห้องนี้เวลาพูดคุยกันแม้ว่าจะเบาก็ตามมันจะสะท้อน ค่อนข้างดังมาก ดังนั้นผมคิดว่าท่านประธานอาจจะต้องกำชับเพื่อนสมาชิกด้วยว่าเวลา เดินเข้าเดินออกอาจจะต้องออกไปคุยกันด้านนอกก่อน เพราะว่าถ้าเพื่อนสมาชิกหลายท่าน คุยกันเองเบา ๆ เสียงเบา ๆ หลาย ๆ คนรวมกันมันก็รบกวนเสียงของผู้อภิปรายได้เช่นกัน แล้วก็เข้าใจดีอีกครั้งนะครับ ผมก็ไม่ได้กล่าวหา ผมก็เข้าใจดีว่าทุกท่านก็พูดเสียงดังครับ แต่ด้วยสภาพห้องมันทำให้เสียงทั้งหมดรวมกันแล้วมันดังรบกวนครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้านครับ ต้องเรียนท่านประธานแบบนี้ครับว่าเรื่องที่ผมกำลังจะหารือ ก่อนหน้านี้ได้หารือกับท่านประธานวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไปแล้ว ๒ ครั้ง แล้วก็เมื่อวานนี้ ได้มีการหารือในขณะที่ ท่านพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ วันนี้ผมได้หารือกับท่านปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็ครบแล้ว ๓ ท่าน ผมคิดว่าในการประชุมครั้งหน้าหากท่านประธานและท่านรองประธานทั้ง ๓ ท่านมีโอกาส ได้ประชุมร่วมกันคงได้มีการหารือกันเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่งนะครับ เหตุผลที่ผมหารือ ในวันนี้คือเรื่องแบบนี้ครับท่านประธาน ก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกัน แล้วก็อาจจะมีการบ่น กันบ้างเล็กน้อยว่าการประสานงานกันระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายค้านค่อนข้างมีความ ขลุกขลัก แล้วผมก็ได้เอ่ยไปแล้วในหลาย ๆ ท่านของฟากฝ่ายค้านก็ได้เคยหารือไปแล้วว่า เหตุผลหนึ่ง โดยปกติแล้วในสภา ชุดที่ ๒๕ เราจะมีห้องประสานงานของวิปรัฐบาลอยู่ทาง ซ้ายมือสุดหลังบัลลังก์ แล้วก็ห้องประสานงานวิปฝ่ายค้านจะอยู่ห้องขวามือสุดด้านนี้ แต่ในขณะนี้ห้องซ้ายมือสุดเป็นของวิปรัฐบาล แต่ห้องขวามือสุดเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคหนึ่งนะครับ แล้วก็ได้หารือไปแล้วว่าให้ท่านประธานออกคำสั่งว่าให้ห้องซ้ายสุดเป็น ห้องของวิปรัฐบาล แล้วห้องขวาสุดเป็นห้องของวิปฝ่ายค้าน ส่วนห้องอื่นจะเป็นของใคร พรรคใดจะใช้ห้องไหนก็ว่ากันไปตามกรณีครับ ผมก็เข้าใจดีว่าบางท่านก็มีข้อจำกัดหรือ มีความต้องการที่จะใช้ห้องบางห้อง แต่ผมคิดว่า ณ ตอนนี้มันเกิดความไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่ง สส. ด้วยกันเองครับ เพราะว่าก่อนหน้านี้มีคนมา เจรจาครับ บอกว่าขอใช้ห้องข้าง ๆ แทนได้ไหม ถ้าอยากได้อะไรก็บอกมา อยากจะตกแต่ง แบบไหนก็บอกมา ผมบอกแบบนี้ครับว่าขนาดเล็กใหญ่ไม่สำคัญนะครับ ผมสามารถใช้งานได้ โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ แต่ผมกังวลว่าบรรทัดฐานของสภาแห่งนี้กำลังจะเสียไป เพราะอาจจะไม่ใช่แค่การให้สิทธิพิเศษกับพรรคการเมืองเดียว แต่มันเป็นการให้สิทธิพิเศษ กับ สส. ๑ คนที่ต้องการมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเองอยู่หลังบัลลังก์พร้อมผู้ที่ติดตาม ผมต้อง ฝากท่านประธานจริง ๆ ว่าต้องพูดคุยกันเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้คือบรรทัดฐานของสภาผู้แทนราษฎร แล้วเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎรทั้ง ๕๐๐ คนที่จำเป็นต้องมีบรรทัดฐานที่ชัดเจนและยุติธรรม กับทุกฝ่าย แล้วไม่ใช่แค่ห้องหลังบัลลังก์นะท่านประธาน ตอนนี้ผมได้ยินมาครับว่าชั้น ๔ ที่เป็น Zone ของห้องประธานกรรมาธิการผมเข้าใจว่ามีเกิน ๓๕ ห้องแน่ ๆ น่าจะมีอยู่ ประมาณ ๔๐ ห้อง เพราะผมก็ได้ ๑ ห้องมาที่ท่านประธานได้มอบให้เป็นห้องของประธาน วิปฝ่ายค้าน ผมทราบมาว่าก็มีห้องบางห้องที่มอบให้ท่านสมาชิกที่อาจจะเป็นผู้อาวุโส แล้วก็ มีอายุค่อนข้างมากซึ่งอันนี้ผมเข้าใจได้ ไม่มีปัญหาใด ๆ เลยครับ แต่ ณ ตอนนี้ผมได้ยินครับ ว่ามีสมาชิกบางท่านไปยึดห้องที่ว่างอยู่โดยไม่ได้มีการขออนุญาตและไม่มีการได้รับอนุญาต จากทางประธานแต่อย่างใด ผมก็อยากทราบว่าตกลงสภาแห่งนี้เรามีสิทธิการครอบครอง ปรปักษ์กันได้ด้วยหรือครับ ใครมาก่อนเปิดห้องว่างเข้าไป ไม่มีใครใช้ก็เข้าไปวางของแล้วก็ ใช้งาน แล้วก็ยึดเป็นของตัวเองได้ด้วยหรือ กรณีห้องขวามือตอนนี้ก็เป็นกรณีการครอบครอง ปรปักษ์นะครับ เข้ามาแล้วพอมีการสลับฝั่งของพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านก็ไม่ยอมออก แล้วกลายเป็นว่าทั้ง ๒ ฝั่งเป็นของพรรครัฐบาล โดยที่พรรคฝ่ายค้านไม่มีห้องที่จะประสานงาน กันเลย ผมต้องฝากเรื่องนี้กับท่านประธานทั้ง ๓ ท่านจริง ๆ ครับ ต้องดูแลให้สถานที่แห่งนี้ มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกันของทุกฟากฝั่ง ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธาน ผมขออนุญาตให้วิป ๒ ฝ่าย ขึ้นพูดหน่อยครับ ขอเชิญท่านครูมานิตย์ก่อนก็ได้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านนะครับ ก่อนอื่นผมมี ๒ ประเด็น

    อ่านในการประชุม

  • ผมขอย้อนไปประเด็นแรกก่อน เมื่อสักครู่ผมไม่อยากยกมือประท้วงนะครับ แต่ผมต้องขออนุญาตเอ่ยนามท่านอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ อีกครั้งจริง ๆ ในครั้งแรกผมก็ เข้าใจแบบที่ท่านชุติพงศ์ประท้วง ท่านกำลังบอกว่าร่างของพรรคร่วมรัฐบาลหลาย ๆ พรรค ไม่รอบคอบ สุกเอาเผากิน แต่สิ่งที่ท่านอัครเดชพูดเมื่อสักครู่นี้ผมคิดว่าหนักกว่าเดิมครับ ผมคิดว่านี่คือการดูถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๕๐๐ คน ดูถูกอำนาจนิติบัญญัติ ที่ประชาชนมอบให้สภาแห่งนี้ ตกลงแล้วอำนาจนิติบัญญัติออกกฎหมายเป็นของ ครม. ฝ่ายเดียวหรือครับ สส. เสนอมากี่ร่างก็ตาม ถ้าไม่มีร่าง ครม. แปลว่าสุกเอาเผากินหรือครับ ผมว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่นะครับ เรากำลังดูถูกอำนาจที่ประชาชนมอบให้เรามากับมือในการ เลือกตั้ง ผมคงไม่ขอให้ท่านถอน แต่ถ้าท่านถอนได้ผมคิดว่าก็จะเป็นการดีและเป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีแก่สภาผู้แทนราษฎรของเรา

    อ่านในการประชุม

  • อีกเรื่องหนึ่งครับท่านประธาน การพูดคุยเรื่อง พ.ร.บ. ประมง ไม่ได้เริ่มคุยกัน วันนี้ ไม่ได้เริ่มคุยกันในการเลื่อนวาระการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยซ้ำ แต่เราคุยกันมา ตั้งแต่ ๒ สัปดาห์ก่อน ในการประชุมวิปร่วมที่ท่านประธานนั่งเป็นหัวโต๊ะ วันนั้นผมก็อยู่ วันนั้นท่านครูมานิตย์ก็อยู่หลาย ๆ ท่านก็อยู่ รัฐบาลรับรู้ตั้งแต่วันนั้น ว่าวันที่ ๗ นี้ ร่าง พ.ร.บ. ประมงทุกร่างของ สส. จะเข้ามา และรัฐบาลก็มีร่าง พ.ร.บ. ประมงอยู่แล้ว แต่ผลปรากฏที่ผมทราบมาก็คือเพิ่งจะส่งให้กฤษฎีกาไปเมื่อ ๔-๕ วันที่แล้วเอง นี่ทำงาน กันแบบไหนครับ แล้วผมไม่กล่าวโทษวิปรัฐบาลเลยนะครับ ผมเข้าใจความหนักใจ ของทุกท่านดี ผมเข้าใจดีว่าท่านก็อยากให้ทาง ครม. ส่งมาให้เร็วที่สุด แต่นี่คือการทำงาน ของ ครม. ที่ไม่ละเอียดรอบคอบอะไรทั้งสิ้นครับ แล้วผมยืนยันว่าไม่ละเอียดรอบคอบจริง ๆ เพราะเมื่อวานนี้ในการประชุมวิปฝ่ายค้าน ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้ามา ในที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน เพื่อที่จะชี้แจงเรื่อง พ.ร.บ. ประมง ผมถามคำถามด้วยตัวเองครับว่า ณ ตอนนี้ทุกคน ทุกท่าน ทราบอยู่แล้วว่าตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป วันพุธจะเป็นการ พิจารณากฎหมายอย่างเดียว ดังนั้นทุกร่างกฎหมายที่ สส. เสนอที่อยู่ในระเบียบวาระ จะถูกนำขึ้นมาพิจารณาก่อน ผมถามทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าใน ๒๐ กว่าร่างนี้ ครม. ได้มอบหมายให้ทางกฤษฎีกาไปศึกษาหรือยังว่าจะยื่นประกบหรือไม่ มีความเห็นว่า จะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ ทางกฤษฎีกาตอบว่าไม่มีการมอบหมายใด ๆ ทั้งสิ้น เจตนาของ ครม. ตอนนี้คือรอให้สภาพิจารณาแล้วก็มาขออุ้มไป ๖๐ วัน ร่างไหนเข้าสภา เมื่อไร ค่อยเริ่มทำงานเมื่อนั้น เลิกเรียกตัวเองว่าเป็นรัฐบาลมืออาชีพครับ แบบนี้เป็นได้แค่ รัฐบาลเช้าชามเย็นชามครับ งานมาถึงมือเมื่อไรแล้วเดี๋ยวค่อยทำ ระเบียบวาระระบุมา ๓-๔ เดือน ไม่เคยเอาไปศึกษาครับ

    อ่านในการประชุม

  • ดังนั้นผมขอฝาก ท่านประธานครับ ผมก็คงไม่มีโอกาส ไม่ได้มีวาสนาถึงขั้นไปนั่งคุยกับ ครม. เป็นการส่วนตัว ผมฝากทั้งวิปรัฐบาล ฝากท่านประธานครับ ครม. ครับ ตั้งใจทำงานมากกว่านี้ ผมขอร้องนะครับ ให้เกียรติอำนาจนิติบัญญัติที่เป็นอำนาจที่อยู่ในระนาบเดียวกับท่านมากกว่านี้เถอะครับ ให้เกียรติประชาชนที่เลือกท่านมาใช้อำนาจให้มากกว่านี้เถอะครับ ท่านประธานขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ หารือนิดหน่อยครับ ไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอโทษครับ ไม่ใช่ประเด็น พ.ร.บ. ประมงแล้วครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีราย ชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านครับ ต่อเนื่องจากที่ผมอภิปรายไปเมื่อสักครู่ครับท่านประธาน แต่จริง ๆ แล้ว ไม่เป็นอะไรครับ ท่านรัฐมนตรียังอยู่ก็คงได้ยินที่ผมพูด ณ ตอนนี้ จริง ๆ ผม อยากได้ความชัดเจนจากท่านประธานเองด้วย แล้วก็จาก ครม. เองด้วย ไม่ว่าใครที่จะสามารถ รับปากได้หรือไม่ครับว่า ตกลงแล้วต่อจากนี้ไปถ้าเป็นร่างที่ สส. ยื่นกันเอง ร่างที่ สส. เจ้าของ อำนาจนิติบัญญัติยื่นกันเอง แต่ไม่มีร่าง ครม. ตกลงว่า ครม. จะอุ้มทุกร่างใช่ไหมครับ หรือว่าจะมีการรับหลักการ แล้วให้ฝ่ายนิติบัญญัติทำงาน ทำหน้าที่ในอำนาจของตัวเอง อย่างที่ควรจะเป็น ท่านประธานอาจจะยังไม่ต้องตอบวันนี้ก็ได้ครับ แต่ถ้าตอบวันนี้ได้ก็ดีครับ ผมอยากให้มีกระบวนการหารือเรื่องการแบ่งแยกอำนาจและการถ่วงดุลซึ่งกันและกันจริง ๆ ว่ามันจะเป็นจริงตามเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ถ้าแบบนี้ผมยืนยันโหวตเลยครับ ขอลงมติครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ขออนุญาตครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน ผมแค่อยากจะลุกขึ้นมาหารือเพื่อที่จะให้การประชุมในวันนี้ เป็นไปด้วยความราบรื่น ผมสังเกตเห็นว่ามีการประท้วงขึ้นมาแล้ว ๒-๓ ครั้งที่เกิดขึ้น แล้วผมก็อยากให้ราบรื่น แล้วไม่อยากให้มีการประท้วงอีก ผมก็ต้องขอแจ้งท่านประธานนะครับ ว่าญัตติในวันนี้ไม่ได้มีญัตติเดียว มีญัตติของท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ซึ่งมีการระบุไว้ค่อนข้าง ชัดเจน อย่างที่ท่านผู้ประท้วงบอกว่าญัตตินี้ระบุถึงเรื่องอะไรบ้าง แล้วเรื่องไหนที่ท่านอาจจะ มองว่านอกประเด็นของญัตตินั้น แต่ญัตติของท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ขออภัยที่เอ่ยนาม ท่านนะครับ ก็เป็นญัตติที่ตั้งชื่อไว้ค่อนข้างกว้าง และเนื้อหาในการอภิปรายนี้ก็ไม่ได้อยู่ใน เฉพาะเนื้อหาในญัตติของท่านเอกนัฏ แต่เป็นเนื้อหาที่กว้างขวางไปกว่านั้น อยากให้ ท่านประธานวินิจฉัยในลำดับต่อไป หากมีการประท้วงเกิดขึ้นอีก ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธาน ผมขอประท้วงท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมขอประท้วง ข้อ ๙ ท่านประธานต้องควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ และผมต้องย้ำอีกครั้งว่าญัตติ วันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ญัตติของท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เพียงท่านเดียว และมียังมีญัตติของ ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ด้วย และด้วยทั้งชื่อและเนื้อหาที่ทางท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้อภิปรายเอง ผมต้องขออภัยที่เอ่ยนามครับ แล้วก็ท่านจุรินทร์ได้อภิปรายเปิดญัตติเอง ผมคิดว่าถ้าท่านประธานจะเคร่งครัดขนาดนี้ ผิดข้อบังคับตั้งแต่ผู้ที่เสนอญัตติอภิปราย แล้วครับ แล้วคำว่า เกี่ยวข้องกับขบวนเสด็จที่ท่านจุรินทร์ได้ตั้งชื่อญัตติไว้แล้วอภิปราย ถ้าท่านประธานได้ฟังการอภิปราย ไม่ว่าจะเป็นของทางท่านเอกนัฏ แล้วก็ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์มันกว้างขวางครับ ไม่ได้อยู่แค่ชื่อญัตติเท่านั้น เนื้อหามันก็เกี่ยวข้องกันได้หมด รวมไปถึงการปกป้องสถาบันหรือว่าอะไรก็ตามที ก็มีเนื้อหาที่เกินไปกว่าชื่อญัตติอยู่แล้ว ท่านประธาน ขอให้ท่านประธานวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผมขอประท้วงท่านประธานนะครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมขอประท้วงท่านประธานตามข้อ ๙ เช่นเดิมครับ การควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ ผมขอย้ำอย่างเดิมนะครับ วันนี้ไม่ได้มี ญัตติเดียว ไม่ได้มีเพียงแค่ญัตติของท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ยังมีอีกญัตติซึ่งได้ตั้งชื่อไว้ อย่างกว้างขวาง แล้วถ้าจะให้ผมอธิบายว่าญัตติที่เกี่ยวข้องกับขบวนเสด็จ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ขบวนเสด็จไม่ใช่แค่การอารักขาครับ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับขบวนเสด็จคือที่มาว่าเหตุการณ์เกิดขึ้น อย่างไร แล้วหลังจากเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้อย่างไร ผมย้ำอีกครั้งหนึ่งท่านประธานครับ รัฐสภาคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่เราจะต้องมา คุยเรื่องความเห็นต่างของคนในสังคมและหาทางออกร่วมกัน นี่ไม่ใช่การทะเลาะครับ นี่คือ การเห็นต่างกัน แล้วเราก็มาคุยว่าเราจะจัดการกับความเห็นต่างที่เกิดขึ้นในสังคมนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดิมขึ้นอีกในอนาคต หากพูดกันได้อย่างเดียว ท่านประธานปล่อย ให้ฝั่งรัฐบาลลุกขึ้นมาด่าคนว่าหนักแผ่นดินได้ แต่ฝั่งผมไม่สามารถหาทางออกได้ว่าแล้วเราจะ อยู่ร่วมกันด้วยความคิดที่แตกต่างในสังคมได้อย่างไร ผมว่ารัฐสภามันจะไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัย อีกต่อไปครับ ผมขอร้องนะครับ ผมขอร้องเพื่อนสมาชิกนะครับ เราอดทนร่วมกันครับ อดทน อดกลั้นร่วมกัน เมื่อสักครู่นี้ผมไม่ประท้วงนะครับ อยู่ ๆ ลุกขึ้นมาด่าประชาชนว่า หนักแผ่นดินนี้ผมก็อดทนอดกลั้นในการฟังนะครับ ผมก็เข้าใจความรู้สึกว่าทุกคนก็มี ความรู้สึกเช่นกัน เรามารับฟังแล้วพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะครับท่านประธาน ผมขอร้องให้ วันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขออนุญาตครับ ท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับ ท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนที่จะสรุปว่าเรื่องในญัตติวันนี้ที่อภิปรายกันอย่างกว้างขวางนี้จะส่งไปที่ ใดบ้าง ผมขอตั้งข้อสังเกตสั้น ๆ ว่าผมมีความกังวลเล็กน้อยในการส่งเนื้อหาไปยังไม่ว่าจะเป็น ครม. หรือคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรืออาจจะมีคณะกรรมาธิการสามัญด้วยใด ๆ ก็ตาม ผมกังวลอย่างนี้ครับท่านประธาน ถ้าเราลองไปย้อนฟัง ผมพบว่าวันนี้มีเนื้อหาที่เป็นไปทาง Hate Speech ค่อนข้างเยอะ ผมเองไม่อยากประท้วงนะครับ ผมก็เดินพูดคุยกับหลาย ๆ พรรคว่าขอให้การดำเนินงานของสภาเป็นไปอย่างราบรื่น แล้วก็อดทนอดกลั้น แล้วก็รับฟัง ซึ่งกันและกัน แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะพบว่าในหลาย ๆ ครั้งมันเป็น Hate Speech แล้วก็ ในหลาย ๆ ครั้งจริง ๆ ก็มีการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี เสียดสีบุคคลภายนอกโดยที่เขาไม่มี โอกาสที่จะมาชี้แจงในนี้ ผมจึงกังวลมากว่าเนื้อหาทั้งหมดจะออกมาเป็นอย่างไร เนื้อหา ทั้งหมดนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ที่ผมไม่ประท้วง ๑. ผมก็อยากจะให้การประชุมเป็นไปด้วย ความราบรื่น แล้วผมก็ขออนุญาตจริง ๆ ครับ ถ้ามีการใส่ร้ายป้ายสีกันว่าการกระทำทั้งหมด มีขบวนการอยู่เบื้องหลังมีการสนับสนุนการเงิน ผมคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้ ว่าถ้ามีการส่งเอกสารหลักฐานที่ท่านมี ถ้าท่านเชื่อมั่นว่า ท่านไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีใครนี้ ท่านมีเอกสารหลักฐานส่งไปทาง ครม. หรือว่าทาง คณะกรรมาธิการด้วยก็อาจจะเป็นประโยชน์นะครับ และอาจจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่านั้นถ้า เราอาจจะส่งไปให้คณะกรรมาธิการสามัญคณะอื่น ๆ ด้วยก็ได้ อย่างเช่น คณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ประเทศ เพราะหลาย ๆ ท่านก็ได้เอ่ยว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ เช่นเดียวกันครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ด้วยความเคารพท่านประธาน ก็ทราบดีว่าคงจะไม่ได้ละเอียดถึงขั้นว่าใครอภิปรายว่า อะไรบ้างนะครับ แต่ผมคิดว่าเนื้อหาที่มีแน่ ๆ เพราะว่ามีการพูดกันหลายท่าน ก็คือสิ่งที่ เกิดขึ้นนั้นมีคนที่อยู่เบื้องหลัง มีการให้การสนับสนุนการเงินไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ ผมคิดว่าอาจจะดีถ้าท่านประธานได้ตรวจสอบก่อนที่จะส่งไป ไม่ว่าจะส่งไปที่ไหนก็ตาม ก็สอบถามท่านผู้ที่อภิปรายเลยครับว่ามีเอกสารหลักฐานใด ๆ บ้าง จะได้ส่งประกอบไปด้วย ในการพิจารณาจะได้รอบคอบขึ้น แล้วก็จะได้เป็นการยืนยันว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นมันไม่ใช่การ ใส่ร้ายป้ายสีหรือกล่าวหากันลอย ๆ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ครับ แล้วผมก็ยังยืนยัน ผมคิดว่าเรื่องนี้มีบางท่านที่ได้อภิปรายว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องความมั่นคงของชาติ จะส่งให้ คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป ประเทศไปพิจารณาด้วยก็อาจจะเป็นประโยชน์ครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ผมประท้วง ท่านประธานครับ ข้อบังคับ ข้อ ๙ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลครับ ผมขอประท้วงท่านประธานในข้อ ๙ ในการควบคุม การประชุมนะครับ แล้วผมขอยืนยันนะครับว่าเมื่อสักครู่ผมไม่ได้พาดพิง แล้วก็ผมไม่เอ่ยชื่อ แน่นอน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ผมไม่ได้เอ่ยชื่อท่านใดเลยแม้แต่นิดเดียว ก็ขอให้ท่านประธาน วินิจฉัยด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยากจะขอหารือท่านประธานเรื่องการถามกระทู้ ผมพบว่าในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา บางครั้งท่านผู้ถามกระทู้ก็จะค่อนข้างบริหารเวลาได้ดี อาจจะใช้เวลาในคำถามแรกประมาณ ๖ นาที ๗ นาทีเพื่อเหลือเผื่อไว้อีก ๒ คำถาม และในหลาย ๆ ครั้งก็มอบเวลาที่เหลือให้กับ ท่านรัฐมนตรีในการชี้แจงด้วยซ้ำ แต่ผมพบจริง ๆ ว่าในหลาย ๆ ครั้งตั้งแต่คำตอบแรก บางที หลาย ๆ ครั้งรัฐมนตรีใช้เวลาจนหมด ซึ่งผมคงไม่ได้กล่าวหาว่าจะเจตนาหรือว่าอะไร แต่ผม ก็อยากจะให้สภาแห่งนี้มีการถามตอบกันอย่างเต็มที่ให้ครบถ้วนทุกประเด็น ผมคิดว่า การบริหารเวลาก็เป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็ท่านประธานอาจจะหารือกับท่านประธานอีก ๒ ท่าน ว่าเรื่องการบริหารจัดการเวลาในการตอบท่านรัฐมนตรีจะทำอย่างไรดี ในบางสัปดาห์ที่อาจจะ มาครบกันทุกกระทู้และไม่สามารถชดเชยเวลาแบบนี้ได้ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธาน ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ๒๐๒ ไม่เห็นด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ๒๐๒ ไม่เห็นด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธาน ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนที่จะเข้าระเบียบวาระถัดไปผมขออนุญาตท่านประธานนิดเดียวครับ ผมเห็นว่าช่างภาพ น่าจะถ่ายรูปไว้เยอะตอนที่ลงมติ แล้วผมอยากจะแจ้งแบบนี้ครับว่าผมไม่มั่นใจจริง ๆ ว่า เมื่อสักครู่นี้เรามีสมาชิกอยู่ในห้องนี้ถึง ๔๐๐ ท่านจริงหรือเปล่า ผมอยากได้ภาพที่ ช่างภาพถ่ายไว้ในช่วงนี้ลงมติ เดี๋ยวนี้ AI มันนับหัวได้ว่าภาพที่ถ่ายมานั้นมีทั้งหมด กี่หัว เดี๋ยวเราลองมาดูกันว่ามีสมาชิกอยู่ครบจริงตามจำนวนที่ลงมติหรือไม่ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ ๒๐๒ ไม่เห็นด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เนื่องจากว่า สส. ทิสรัตน์ เลาหพล ได้ลาออกจากคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการอยู่ ร่วมกันในยุคปัญญาประดิษฐ์ ผมขอเป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล แต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ในตำแหน่งที่ว่างลง ๑ ท่าน คือท่านธัญธร ธนินวัฒนาธร ขอผู้รับรองด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ได้ครับท่านประธาน ท่านสยาม หัตถสงเคราะห์ เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้อยู่แล้ว อีกครั้งหนึ่งนะครับ แต่งตั้งกรรมาธิการวิสามัญการอยู่ร่วมกันในยุคปัญญาประดิษฐ์ ในตำแหน่งที่ว่างลง สัดส่วน ของพรรคก้าวไกล ธัญธร ธนินวัฒนาธร ขอผู้รับรองด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณ ท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านครับ ในกรณีของกระทู้ถามสด ผมก็ต้องขอลุกขึ้นมาหารือท่านประธานก่อนที่จะเข้าสู่กระทู้ถามทั่วไปนะครับ เพราะว่า กระทู้ถามสดก็มีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับกระทู้ถามทั่วไป กระทู้ทั่วไปบางครั้งท่านรัฐมนตรี ติดภารกิจก็อาจจะไม่มา แล้วก็ขอเลื่อนนะครับ ซึ่งมันไม่ได้เสียโควตานะครับ ต่างกัน ตรงกระทู้ถามสด เวลาท่านรัฐมนตรีเขียนในเอกสารว่าขอเลื่อน แต่จริง ๆ แล้วเลื่อนไป คือการกินโควตาของเพื่อน สส. ไม่ใช่การเลื่อนครับ มันคือการตัดโควตาของเพื่อน สส. ในสัปดาห์นี้ทิ้ง สัปดาห์หน้าถ้าท่านมาอยากจะใช้ใหม่ต้องใช้โควตาครับ ไม่ใช่เอาโควตาเดิม นี่คือการหนีกระทู้ครับ เลื่อนนี่ของกระทู้ถามทั่วไป เลื่อนบางทีติดภารกิจพอเข้าใจได้ เพราะสุดท้ายท่านก็ต้องมาตอบอยู่ดี แต่อันนี้คือการหนีกระทู้ครับ ถ้าฝ่ายค้านอยากจะถาม ก็ต้องกินโควตาของตัวเองไปเรื่อย ๆ ครั้งหน้าถ้าเลื่อนอีกก็ต้องกินโควตาของตัวเองเข้าไปอีก แล้วผมจะบอกว่ากระทู้ถามสดทุกวันนี้วิป ๒ ฝ่าย พยายามนะครับ พยายามทำให้ทุกอย่าง มันราบรื่น ผมจะถามวิปรัฐบาลไปตั้งแต่วันอังคารครับ ว่ารัฐมนตรีท่านนี้สะดวกมาตอบ กระทู้ถามสดไหม ถ้าไม่สะดวกผมหลีกให้ครับ รอสัปดาห์หน้าก็ได้ ลองหาประเด็นอื่นเพื่อให้ ท่านรัฐมนตรีมาตอบ แล้วสภาจะไม่เสียโอกาส นี่เมื่อวานบอกจะมา ตื่นเช้ามาบอกไม่มาแล้ว บางท่านตื่นเช้ามาเหมือนเพิ่งนึกได้ว่ามีบินครับ เมื่อวานบอกจะมาวันนี้บอก อ๋อ มีบิน เพิ่งซื้อ ตั๋วเมื่อสักครู่หรือครับ ตกลงเราจะทำงานกันอย่างไร ท่านรัฐมนตรีที่ขยันมาก็มาอยู่นั่นครับ คนที่ไม่มาอย่างไรก็ไม่มาครับ ผมก็สงสารท่านรัฐมนตรี ๔-๕ ท่าน ถามอย่างไรท่านก็มา ที่เหลือนั้นถามอย่างไรก็ไม่มา บางคนวันพุธกลางคืนบอกว่ามา วันพฤหัสบดีเช้าบอกไม่มา ตกลงอยากทำงานไหมครับ ลาออกไปไหมครับ ผมหารือวิปรัฐบาลตรงนี้เลยว่าจะเอาอย่างไร กับเรื่องนี้ดีครับ ผมเริ่มไม่ไหวแล้ว ผมให้ความร่วมมือมาตลอดเพื่อให้สภามันราบรื่น ขอบคุณ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณ ท่านประธานครับ ผม ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ก่อนที่จะเข้าระเบียบวาระถัดไป คือเรื่องที่ คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ผมก็ขอหารือในเวลาสั้น ๆ นะครับ จริง ๆ เรื่องนี้ ท่านประธานน่าจะรับทราบอยู่แล้ว เพราะว่าเราได้ไปพูดคุยร่วมกัน ก็คือเรื่อง ห้องประสานงานของวิปฝ่ายค้านหลังบัลลังก์นะครับ ซึ่งหลังจากครั้งนั้นที่ผมได้ไปหารือ กับท่านประธานหลังบัลลังก์ ผมได้ไปอีกรอบหนึ่งกับท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ท่านพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ซึ่งครั้งนั้นผมก็ต้องเอ่ยชื่อตามตรงเลยว่า พรรคพลังประชารัฐที่กำลังยึดครองห้องหลังบัลลังก์โดยพลการอยู่ ณ ตอนนี้นั้น ได้ให้สัญญา ว่าจะย้ายออกภายใน ๑ สัปดาห์ นี่คือเมื่อ ๒ สัปดาห์ที่แล้ว ที่มีการพูดคุยกันพร้อมกับ ท่านพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน นะครับ จนถึงปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐก็ยังคงยึดครอง ห้องหลังบัลลังก์และไม่ยอมย้ายออกอยู่ แล้ววันนั้นที่เราเข้าไปด้วยกันครับท่านประธาน ก็คงเห็นแล้วว่ามีการเอาชั้นหนังสือเหล็กมากั้น เพื่อให้ครึ่งหนึ่งของห้องน่าจะเป็นห้องส่วนตัว ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ไม่เคยเข้ามานั่งในสภานี้เลยด้วยซ้ำ ผมก็ไม่แน่ใจว่า ห้องนั้นท่านพลเอก ประวิตร เคยได้เข้าไปนั่งจริง ๆ หรือเปล่า สิ่งที่แย่กว่านั้นครับ ท่านประธาน ท่านประธานก็เป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์ การเข้าไปพูดคุยวันนั้นพรรค พลังประชารัฐโดย สส. ภาคภูมิ บูลย์ประมุข บอกว่าไม่มีระเบียบว่าห้องหลังบัลลังก์คือห้อง ประสานงานของวิปฝ่ายค้าน ซึ่งท่านประธานก็ได้บอกครับ ว่ามันก็ไม่มีระเบียบว่าห้องนั้น เป็นของพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน สส. ภาคภูมิ บูลย์ประมุข บอกว่า แต่ผมขอยึด ผมก็ต้อง ขอถามไปถึงท่านประธานและท่านรองประธานอีกทั้ง ๒ ท่าน ว่าจะปล่อยให้มีพฤติกรรม แบบนี้ในสภาหรือไม่ และจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร ณ ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่มี สส. ๓๖ คน ยึดห้องหลังบัลลังก์เป็นของพรรคตัวเองโดยพลการ ไม่มีระเบียบใด ๆ รองรับ และไม่ ยอมย้ายออก เพื่อที่จะทำห้องส่วนตัวให้กับหัวหน้าพรรคที่ไม่เคยเข้ามานั่งในสภานี้ด้วยซ้ำ ผมขอความเห็นท่านประธานครับ ว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม