กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพทุกท่าน รวมถึงท่านคณะกรรมการกำกับ กิจการพลังงานที่เข้ามาชี้แจงในวันนี้ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิเขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานครับ วันนี้กระผมขอใช้สิทธิอภิปราย ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งวันนี้ได้เข้ามาชี้แจงรายงานประจำปี งบประมาณ พุทธศักราช ๒๕๖๔ ซึ่งผมได้อ่านรายงานฉบับดังกล่าวและมีข้อสงสัย ๓-๔ ประเด็น ขอ Slide ด้วยครับ
ท่านประธานครับ ตาม พ.ร.บ. ประกอบ กิจการพลังงาน พุทธศักราช ๒๕๕๐ กำหนดให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ ๑ ท่าน และกรรมการอีก ๖ ท่าน เป็นผู้กำหนดวาระต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง กับปากท้องของพี่น้องประชาชน เช่น ๑. การปรับขึ้นปรับลงค่าไฟฟ้า ๒. เสนอความเห็น ต่อแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ๓. แผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติ ๔. ตรวจสอบการประกอบ กิจการพลังงานให้โปร่งใส ๕. ส่งเสริมให้ประชาชนและสังคมมีความรู้ด้านพลังงาน เป็นต้น ท่านประธานครับ ภาพนี้ผมได้นำมาจากรายงานงบประมาณ ปี ๒๕๖๔ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพ ของโครงสร้างการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ จากรูป ที่อยู่ด้านบนจะเห็นว่าสัดส่วนในการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยกว่า ๕๕ เปอร์เซ็นต์ เป็นการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วการผลิตไฟฟ้าด้วย ก๊าซธรรมชาติ ต้นทุนหลักก็คือเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติหรือ LNG เมื่อเราพิจารณาจาก โครงสร้างการผลิตไฟจะเห็นว่าประเทศไทยมีการใช้ก๊าซธรรมชาติหลัก ๆ มาจาก ๓ แหล่ง แหล่งแรกมาจากอ่าวไทย ตามที่อยู่บนหน้าจอฝั่งซ้ายมือที่เขียนว่า Gas Supply Gulf of Thailand แหล่งที่ ๒ จากพม่า ซึ่งจะอยู่ด้านบน แหล่งที่ ๓ มาจากการรับซื้อ LNG หรือ Liquefied Natural Gas หรือก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งก็จะมีการซื้อในลักษณะเป็น Spot หรือจะมีการซื้อแบบ Long term ทั้งหมดนั้นจะถูกป้อนเข้ามาในระบบ Pool Gas และนำราคาของทุกแหล่งนำมาถัวเฉลี่ย ก่อนที่จะป้อนให้กับบริษัท ปตท. ซึ่ง ปตท. เองเป็นผู้นำก๊าซจาก Pool Gas มาขายให้กับ ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่หรือ IPP ในขณะที่ ปตท. เองก็ได้ใช้ก๊าซจากอ่าวไทยในการประกอบ ธุรกิจ เมื่อพิจารณาจาก Slide ด้านบนเราจะเห็นว่าโครงสร้างค่าไฟของประเทศไทย ประกอบด้วยหลัก ๆ ๔ อย่าง อย่างแรกภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างที่ ๒ ค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ อย่างที่ ๓ ค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ Ft อย่างที่ ๔ คือค่าไฟฟ้าฐาน ซึ่งค่าไฟฟ้าผันแปรนี่ละครับ ที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากในรอบ ๒ ปีที่ผ่านมาทางรัฐบาลมีการปรับค่า Ft ขึ้น กว่า ๔ รอบจนทำให้ค่าไฟฟ้ามีการปรับเพิ่มกว่า ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสวนทางกับรายได้ของ พี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ขณะนี้กำลังกุมขมับ จากข้อมูลที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้า ทั้งเรื่องต้นทุนในการผลิตไฟ รวมถึงประเด็นเรื่องค่าไฟฟ้า ผมได้นำกราฟราคา LNG หน่วยคือ สกุลเงินดอลลาร์ต่อ MMBtu มา Plot เทียบกับราคาค่าไฟในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ท่านจะเห็นว่า ราคา LNG มีการปรับขึ้นลงอย่างผันผวน สอดคล้องกับค่าไฟฟ้าที่มีการปรับเพิ่มจาก ๓.๖๑ บาทต่อหน่วย ไปจนถึง ๔.๗๐ บาทต่อหน่วยในปัจจุบัน ทั้งในปัจจุบันราคา LNG ได้ปรับลงจนเหลือแทบจะเท่ากับราคาในช่วงปี ๒๕๖๔ ผมจึงมีคำถามต่อท่านคณะกรรมการ และผู้ชี้แจงทุกท่านว่าเมื่อราคา LNG มีการปรับลดลงมาขนาดนี้เมื่อไร ทางรัฐบาลหรือทาง กกพ. จะพิจารณาปรับค่าไฟให้ลงเทียบเท่ากับปี ๒๕๖๔ ที่ราคา ๓.๖๑ บาทต่อหน่วย
ประเด็นถัดมาเมื่อพิจารณาเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างบริษัท เชฟรอน และกระทรวงพลังงานในประเด็นเรื่องสัมปทานอ่าวเอราวัณ เราจะเห็นว่าประเด็นความขัดแย้ง ส่งผลให้ ปตท. สผ. ไม่สามารถเข้าแท่นขุดเจาะ ทำให้การผลิตก๊าซเพื่อป้อนโรงไฟฟ้า ต้องหยุดชะงัก และในที่สุดประเทศจึงต้องซื้อก๊าซ LNG ในราคาที่แพงขึ้น เพราะเป็น ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ราคาก๊าซ LNG พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แน่นอนครับ เมื่อต้นทุน ในการผลิตไฟฟ้าแพงขึ้นรัฐบาลชุดที่แล้วจึงต้องปรับค่า Ft ขึ้น ทำให้ค่าไฟขึ้นไปถึง ๔.๗๒ บาทต่อหน่วย นี่คือตัวอย่างของการจัดซื้อ LNG ในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาที่ผม ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลก็จะเป็นข่าวเดียวที่ผมพบเจอ ท่านประธานครับ ขนาดการจัดซื้อ อาวุธยุทโธปกรณ์ในมูลค่าหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป เรายังมีการตรวจสอบกันอย่างเข้มงวด ผมจึงมีคำถามต่อท่านคณะกรรมการ กกพ. ดังนี้
๑. ผมอยากฝากถึงท่าน กกพ. ให้เร่งตรวจสอบว่าหน่วยงานหรือบริษัทใด เป็นผู้จำหน่าย LNG ให้กับบริษัท ปตท. ซึ่งประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน ทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าของพี่น้องโดยตรง
๒. ผมมองว่าควรนำสัญญาเหล่านี้มาเปิดเผยให้ประชาชนและตัวแทนของ ประชาชนได้ตรวจสอบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการได้เปรียบ เสียเปรียบอย่างไรบ้าง และมีเงื่อนไข ในการลงนามในสัญญาอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขพิเศษอื่นใดที่ประชาชน ควรทราบหรือไม่ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานครับ วันนี้ผมมีประเด็นหารือ ๒ ประเด็นครับ
ประเด็นที่ ๑ เรื่องทางหลวงแผ่นดิน ด้วยได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิว่าได้รับความเดือดร้อนจากการใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินในเขตพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ หมายเลข ๒๐๕๔ จากแยกลาดใหญ่ไปยังแยกช่องสามหมอ และทางหลวง หมายเลข ๒๓๘๙ จากเขตเทศบาลแก้งคร้อไปยังบ้านสัมภาษณ์ อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการใช้ถนนมีจำนวนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งบรรทุกพืชผลทางการเกษตรจำนวนมากทำให้สภาพถนนทางหลวง ๒ เส้นนี้ซึ่งมีอายุการใช้งานมานานเกิดความชำรุดทรุดโทรม และที่สำคัญไม่มีไหล่ทางครับ ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน เป็นอย่างมากในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอฝากท่านประธานนำเรียนไปยัง กรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามว่ากรมทางหลวงมีแผนพัฒนา ทางหลวงแผ่นดินเส้นทางดังกล่าวทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการประชาสัมพันธ์และประสานการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชนให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ประเด็นที่ ๒ ครับ ประเด็นเรื่องที่ดินทำกิน ด้วยได้รับการร้องเรียน จากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ ว่าประสบ ความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เนื่องจากที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน เขตป่าไม้ รวมถึงพื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงาน การปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. และพื้นที่ของรัฐประเภทอื่น ๆ มาเป็นเวลานาน แต่ประชาชน ที่ทำกินและอาศัยอยู่บนที่ดินเหล่านี้ไม่มีเอกสารสิทธิ ประเภทโฉนดที่ดิน หนังสือรับรอง การครอบครองที่ดิน เป็นต้น ทำให้พี่น้องประชาชนเสียโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ทำกิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือสร้างรายได้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ จึงขอหารือไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเร่งรัดในการออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน รวมถึงการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เร่งรัดการรังวัดที่ดินต่าง ๆ ที่มีปัญหาด้านโฉนด ตกหล่น เนื่องจากเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน และยังเป็นนโยบายหลักของ พรรคพลังประชารัฐ และอีกหลายพรรคการเมืองได้หาเสียงเอาไว้ในช่วงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งจะสามารถสร้าง รากฐานทางเศรษฐกิจ ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติโดยรวมอย่างยั่งยืน จึงขอฝาก ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นให้รีบแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยด่วน ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพทุกท่านครับ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานครับ วันนี้ ผมมีข้อหารือหลักๆ ๒ เรื่องครับ
เรื่องแรกครับ ท่านประธานครับ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า
ขอ Slide ถัดไปด้วยครับ ท่านประธานครับ ปัจจุบันเขื่อนลำปะทาวซึ่งเป็น เขื่อนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนนะครับ สังกัดกระทรวง พลังงาน ปัจจุบันนี้เขื่อนลำปะทาวประกอบไปด้วยเขื่อนบน แล้วก็เขื่อนล่างตั้งอยู่บนเขา ภูแลนคาของจังหวัดชัยภูมินะครับ ในส่วนของรูปภาพที่อยู่ด้านบน เขื่อนบนกับเขื่อนล่าง จะอยู่ทางซ้าย ส่วนทางด้านขวานี่จะเป็นตัวเครื่อง GEN นะครับ หรือตัวเครื่องผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นเครื่องที่ตั้งอยู่ตรงตีนเขาของเขาภูแลนคา เพื่อให้กรณีเวลาผลิตไฟฟ้าจะต้องปล่อยน้ำ ลงมาจากบนเขา ส่งไปที่ตัวเครื่อง GEN เพื่อผลิตไฟนะครับ แล้วก็ป้อนไฟเข้าระบบ ในส่วน ของเครื่อง GEN เองนี่จะอยู่ตรงตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอแก้งคร้อ ซึ่งหลังจากที่มี การก่อสร้างเขื่อนนี้นะครับ แล้วก็มีการผลิตไฟฟ้า มีการปล่อยน้ำลงมานี่ก็จะได้ประโยชน์ ๒ เรื่องหลัก ๆ นะครับ เรื่องแรก คือเรื่องไฟฟ้าที่ได้ใช้นะครับ เรื่องที่ ๒ คือเกษตรกรที่อยู่ ในบริเวณตำบลนาหนองทุ่มก็จะได้ใช้น้ำจากการปล่อยน้ำลงมาผลิตกระแสไฟฟ้านะครับ
Slide ถัดไปครับ ท่านประธานครับ ขณะนี้เขื่อนลำปะทาวกำลังพบเจอ ปัญหาวิกฤติหลัก ๆ นะครับ คือเรื่องของการที่ไม่สามารถกักเก็บน้ำในเขื่อนได้นะครับ ปัจจุบันนี้เขื่อนลำปะทาวเขื่อนบนสามารถกักเก็บน้ำได้ ๔๔ ล้านลูกบาศก์เมตรนะครับ ส่วนเขื่อนล่างกักเก็บน้ำได้ประมาณ ๑๔ ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันท่านประธานครับ หลังจากมีการสร้างเป็นระยะเวลายาวนานยังไม่เคยมีการขุดลอกในเขื่อนนะครับ ทำให้เกิด ปัญหาตามที่อยู่บนหน้าจอ ก็คือมีตะกอนดินสะสมอย่างมหาศาล จากการสำรวจพบว่า มีอยู่หลายล้านคิวนะครับ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม หรือเกิดช่วงพายุเข้ามานี่ ก็จะทำให้น้ำที่ อยู่ในเขื่อนนี่ไหลทะลักนะครับ ไหลทะลักก็จะเห็นว่าจะเข้ามาท่วมในจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเทศบาลเมือง ดังที่เห็นในรูปขวามือนะครับ ฝนถล่มสะสมน้ำล้นเขื่อน ผู้ว่าชัยภูมิเตือน ๗ อำเภอเสี่ยงท่วม ซึ่งปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดชัยภูมิมีมาอย่างยาวนาน ๒ ปีติดต่อกันนะครับ ดังนั้นนี่ผมมีข้อเสนอ ๒ ข้อ
ขอ Slide ถัดไปด้วยครับ ข้อแรกนะครับ อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับ ก็คือ ๑. กำจัดตะกอนดิน เพิ่มความจุในเขื่อน ๒. สามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าได้หลังจาก เรากักเก็บน้ำได้มากขึ้นนะครับ ๓. ป้องกันปัญหาน้ำท่วม เมื่อเราเก็บน้ำได้มากขึ้น แล้วปัญหาน้ำที่จะเอ่อล้นไปทั่วเมืองก็จะน้อยลงนะครับ
ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพทุกท่านครับ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ วันนี้กระผมเป็นตัวแทนของท่าน สส. ไผ่ ลิกค์ เพื่อที่จะเสนอญัตติ เรื่องขอให้สภา ผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุม บุหรี่ไฟฟ้า ตรงนี้ต้องขอบพระคุณท่าน สส. ไผ่ ลิกค์ ที่ได้มอบหมาย สส. วัยรุ่นสมัยแรก อย่างผมมานำเสนอในสภานะครับ ขอ Slide ด้วยครับ
ท่านประธานครับ ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่มีการหาซื้อง่ายทั้งช่องทาง Online และ Offline ทุกวันนี้บุหรี่ไฟฟ้าเราสามารถ สั่งซื้อได้ผ่าน Website ชื่อดัง รวมถึง Social Media ต่าง ๆ เนื่องจากเป็นที่นิยมของวัยรุ่น สาเหตุที่มีความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เป็นเพราะว่ามีรูปลักษณ์และกลิ่นที่ทำให้เกิดความนิยม อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของผลไม้หรือเป็นกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็ทำให้ ผู้ใช้มีความชื่นชอบและมีการใช้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประเทศไทยปัจจุบันมีกฎหมายที่ควบคุม บุหรี่ไฟฟ้า หลัก ๆ มี ๔ หน่วยงาน หน่วยงานแรกกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่ ๒ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หน่วยงานที่ ๓ เรื่องของ พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ หน่วยงานที่ ๔ ก็คือกรมศุลกากรซึ่งจะดูในส่วนของการนำเข้า ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ ก็มีการกำกับดูแล มีการออกกฎหมาย มีบทลงโทษที่ชัดเจน หน้าถัดไปครับ จากผลสำรวจพบว่าตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ ๖,๔๘๐ ล้านบาทต่อปี และมีการเติบโตที่ร้อยละ ๑๐๐ ต่อปี นี่เป็นผลสำรวจจากแหล่งหนึ่ง ซึ่งผมได้ใส่ Reference ลงไปใน Slide นี้แล้ว
จากผลสำรวจยังพบว่าปัจจุบันเยาวชนไทยมีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าถึงร้อยละ ๙ และที่สำคัญมีการสูบตามเพื่อนสูงถึง ๙๒.๒ เปอร์เซ็นต์ พูดง่าย ๆ เป็นสิ่งที่วัยรุ่นเมื่อเห็น เพื่อนฝูงใช้กันแล้วก็อยากใช้กัน และที่สำคัญก็ไม่ทราบว่าด้านในมีสารนิโคติน ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า ทุกวันนี้พูดง่าย ๆ คือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้นการนำเข้ามาขายรวมถึง การจัดจำหน่ายก็เป็นการลักลอบเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั่นเอง ส่วนประเทศ ที่ทุกวันนี้มีการอนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้แล้วก็จะมีประมาณ ๖๐ กว่าประเทศ ซึ่งจะอยู่บน Slide ในส่วนที่เป็นแผนที่ที่เป็นสีม่วง ในส่วนที่เป็นสีแดงเองก็จะเป็นประเทศที่ยังไม่ให้ จำหน่าย แล้วก็จะมีบางประเทศที่สามารถจำหน่ายได้เฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีสารนิโคติน เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ศรีลังกา ปัจจุบันงานวิจัยเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าก็มีทั้งในเชิงลบ และเชิงบวก ซึ่งปัจจุบันก็มีการวิจัยที่ผลไปในทิศทางที่ค่อนข้างต่างขั้วมีทั้งผู้ที่สนับสนุนและ ผู้ที่ไม่สนับสนุน ผมได้ศึกษาเบื้องต้นผมได้นำตัวอย่างของประเทศที่มีการอนุญาตให้ใช้ บุหรี่ไฟฟ้าซึ่งผมยกตัวอย่างขึ้นมา ๓ ประเทศ อันนี้ก็จะเป็นตัวอย่างหนึ่งก็คือเป็นประเทศจีน ซึ่งประเทศจีนก็จะมีข้อกำหนด มีกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งผมได้ Highlight เอาไว้ที่มันเป็นสีเหลือง จะมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น การจำกัดอายุขั้นต่ำ ในการสูบ การห้ามขายใกล้สถานศึกษา การห้ามจำหน่ายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและ Internet การห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน โรงเรียนอนุบาล และสถานที่ต่าง ๆ รวมถึง มีกฎหมายการโฆษณายาสูบที่เกี่ยวข้อง มีผลบังคับใช้กับบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ หน้าถัดไปครับ ส่วนอันนี้ก็จะเป็นของประเทศญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นก็จะมีเอกลักษณ์ตรงที่บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีนิโคตินยังไม่สามารถขายได้ ญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ใช้และจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้ความร้อนต่ำ แต่ไม่เผาไหม้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Heat not Burn Product และมีการแบนบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีสารเหลวนิโคติน ส่วนอันนี้ของเกาหลี เกาหลีก็จะมีกฎหมายอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แต่มีการเก็บภาษีที่สูง บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีนิโคตินถือเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค บุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคติน จัดอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์ยาสูบ ห้ามจำหน่ายให้กับผู้เยาว์อายุต่ำกว่า ๑๙ ปี บรรจุภัณฑ์ บุหรี่ไฟฟ้าและโฆษณาควรมีข้อความเตือนด้านสุขภาพที่ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารอันตราย เช่น Nitrosamines เป็นต้น โดยสรุปในต่างประเทศก็จะมีกฎหมายเพื่อเข้ามากำกับดูแล บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ รวมถึงการปราบปราม ในส่วนของต้นน้ำก็จะเป็นเรื่องของ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต กลางน้ำก็จะเกี่ยวข้องกับกฎหมายในการจำหน่าย ในการโฆษณา ปลายน้ำก็จะเกี่ยวข้องกับกฎหมายสำหรับการใช้งาน หน้าถัดไปครับ นี่คือกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งทุกวันนี้ประเทศไทยก็ยังไม่อนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ยังผิดกฎหมายอยู่นะครับ ก็จะมีกฎหมาย ของกระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าบารากุและบุหรี่ไฟฟ้า หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี ปรับเป็นเงิน ๕ เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ มีเรื่องของกฎหมาย จากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ปี ๒๕๖๐ หากฝ่าฝืน ปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มี พ.ร.บ. ศุลกากร ปี ๒๕๖๐ ซึ่งมีการห้ามนำเข้า แล้วก็ลักลอบ หนีพิธีการศุลกากร ห้ามพักสินค้าหรือรับซื้อรับไว้ซึ่งสินค้าหนีพิธีการ มีบทลงโทษชัดเจน แต่ทั้งนี้ประเทศไทยก็ยังผิดกฎหมายอยู่ ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมายครับ ท่านประธานครับ แต่ทุกวันนี้พวกเราที่นั่งกันในสภาแห่งนี้เราต่างทราบกันดีว่าข้อเท็จจริงแล้วสถานการณ์ ในปัจจุบันนั้นกลับไม่สอดคล้องกับเจตนาของกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน นั่นก็คือยังมี การนำเข้า มีการจำหน่าย มีการสูบกันอย่างเปิดเผยในพื้นที่สาธารณะ ทั้งที่กฎหมาย ได้ห้ามเอาไว้ ขอหน้าถัดไปครับ ท่านประธานครับ การที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย แบบผิดกฎหมายทำให้เกิดช่องทางในการเก็บส่วย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งด่าน หรือการจ่ายส่วย เพื่อจำหน่ายหน้าร้าน รวมถึงการเรียกเก็บเงินจากผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างที่เราเห็นกันในข่าว มากมาย หน้าถัดไปครับ นอกจากนี้แล้วตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ พบว่ารายได้ภาษีสรรพสามิตยาสูบ มีแนวโน้มลดลงในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา โรงงานยาสูบและผู้ปลูกยาสูบเองในเกษตรกรก็มีรายได้ ลดลง ในขณะที่ตลาดบุหรี่ไฟฟ้ามีมูลค่ามากขึ้น แต่จำนวนเงินดังกล่าวกลับมิได้รับการเรียก เก็บภาษีสรรพสามิตแต่อย่างใด เหตุดังกล่าวนี้ย่อมก่อให้เกิดการขาดแคลนรายได้ของรัฐ เนื่องจากมิได้นำรายได้จากการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้ามารวมเป็นฐานในการคำนวณภาษียาสูบ ขอหน้าถัดไปครับ ทั้งนี้หากนำมูลค่าตลาดบุหรี่ไฟฟ้าเปรียบเทียบกับมูลค่าของตลาดยาสูบไทย จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ ๓.๗๘-๔.๓๐ จากสัดส่วนดังกล่าวหากประเทศไทย มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากบุหรี่ไฟฟ้าก็จะสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตได้สูงถึง ๒,๗๖๓ ล้านบาทต่อปี นี่เป็นข้อมูลจากบทวิจัยในปี ๒๕๖๐ ซึ่งทุกวันนี้อย่างที่ทราบการใช้ บุหรี่ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโต ดังนั้นหากคิด ๕ ปีถัดมาจำนวนเงินดังกล่าวย่อมสูงกว่า ๒,๗๖๒ ล้านบาทต่อปี ตรงนี้เองผมก็ไปเอามาจากบทวิจัยมี Reference ซึ่งสามารถเปิดดูได้ ท่านประธานครับ บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมาย ถ้ายังผิดกฎหมายอยู่แบบนี้รัฐย่อมไม่สามารถ ใช้ภาษีเป็นเครื่องมือในการกำหนดกลไกราคา ไม่สามารถควบคุมการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขและกำหนดอายุของผู้บริโภค รวมถึง ระบุอัตราโทษของกฎหมายที่ชัดเจน ไม่สามารถกำหนดพื้นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือ E-cigarette smoking area ดังเช่นพื้นที่สูบบุหรี่ทั่วไปที่ทำได้ตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ส่งผลให้มี การสูบในพื้นที่สาธารณะแบบทุกวันนี้ ซึ่งสร้างความรำคาญแก่ผู้ที่ไม่ชื่นชอบ สำคัญที่สุด เป็นสินค้าที่ปราศจากการควบคุมคุณภาพจากรัฐอย่างสิ้นเชิง พูดง่าย ๆ หากยังมีการขาย แบบนี้ มีการเก็บส่วยแบบนี้ ก็จะไม่มีการควบคุมคุณภาพ ประชาชนจะรู้ได้อย่างไรว่า บุหรี่ไฟฟ้าที่สูบกันอยู่มีสารอะไรบ้าง อย่าทำเป็นเล่นนะครับ ถ้าไม่มีการควบคุมคุณภาพ สมมติว่ามีการใส่สารอะไรที่เป็นอันตรายขึ้นมาถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ขอหน้าถัดไปครับ ผมจึงอยากเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อหาข้อสรุปว่า ข้อดีและข้อเสีย และผลกระทบของการออกกฎหมายมาควบคุม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ มาตรฐานที่ก่อให้เกิดอันตรายในบุหรี่ไฟฟ้า หรือกฎหมายควบคุมผู้บริโภค การกำหนดอายุ ของผู้บริโภคที่ชัดเจน รวมถึงการควบคุมผู้บริโภค การกำหนดอายุของผู้บริโภคที่ชัดเจน รวมถึงการจัดเก็บภาษี จากบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้อง เพื่อการลดปัญหาในปัจจุบันและป้องกันปัญหาที่ตามมา ในอนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดครับ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ขอ Slide ด้วยครับ
ท่านประธานครับ อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ๔๘๗ แสดงตนครับ
ท่านประธานครับ ๔๘๗ แสดงตนครับ
กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานครับ เขต ๗ ชัยภูมิประกอบด้วย อำเภอแก้งคร้อและอำเภอคอนสวรรค์ ทั้งนี้อำเภอคอนสวรรค์เป็นอำเภอที่ติดแม่น้ำชี แต่ปัจจุบันนั้นสภาพปัญหาน้ำท่วมถือว่าหนักที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ เพราะว่าเป็นอำเภอ สุดท้ายที่น้ำของทุกอำเภอจากจังหวัดชัยภูมิจะไหลไปลงที่แม่น้ำชีผ่านอำเภอคอนสวรรค์ ในส่วนอำเภอแก้งคร้อนั้นเป็นอำเภอที่ถึงแม้ว่าจะอยู่ติดกับแหล่งเขา แต่เป็นพื้นที่ทางน้ำผ่าน ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ในหลายตำบลยังมีปัญหาแห้งแล้งอยู่ ดังนั้นผมจึงฝากท่านประธาน นำเรียนไปยังทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่กรมชลประทานดังนี้ อยากให้ขยายระบบ ส่งน้ำอ่างเก็บน้ำบ้านนาแก ระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำเหล่าใหญ่ ประตูระบายน้ำบ้านโนนแต้ ประตูระบายน้ำบ้านโนนสงเปลือย ประตูระบายน้ำบ้านโนนพันชาติ สถานีสูบน้ำไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำบ้านเก่าย่าดี สถานีสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้าบ้านนาหนองทุ่ม สถานีสูบน้ำ ไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองรวก สถานีสูบน้ำบ้านโคกก่องไปบ้านโนนทอง สถานีสูบน้ำ ไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำไปบ้านดอนไข่ผำ สถานีสูบน้ำไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านยางหวาย สถานีสูบน้ำบ้านดอนหัน สถานีสูบน้ำบ้านโนนทอง สถานีสูบน้ำบ้านหนองมะกรูด สถานี สูบน้ำบ้านโนนแต้ไปบ้านโคกก่อง สถานีสูบน้ำไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำไปบ้านโนนพันชาติ แก้มลิงหนองน้ำขุ่นพร้อมอาคารประกอบ แก้มลิงหนองแสงพร้อมอาคารประกอบ แก้มลิง หนองทอนพร้อมอาคารประกอบ แก้มลิงหนองอ้อท่าแหพร้อมอาคารประกอบ สุดท้าย แก้มลิงโคกหนองแต้พร้อมอาคารประกอบ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ขอ Slide ด้วยครับ
ท่านประธานครับ วันนี้ผมได้ฟัง ท่านสมาชิกหลาย ๆ ท่านอภิปรายในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ รวมถึงเรื่องของ น้ำบาดาล ผมก็อยากจะอภิปรายร่วมในญัตติดังกล่าว แล้วก็อยากจะนำเสนอแนวทาง การบริหารจัดการให้น้ำบาดาลมีการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ นี่ก็เป็นแผนที่นะครับ เป็นสภาพน้ำบาดาลในจังหวัดชัยภูมิ จากรูปภาพก็จะเห็นว่าบนแผนที่น้ำบาดาลจะมีทั้งสีฟ้า สีเขียว สีแดง สีฟ้าก็จะเป็นปริมาณน้ำจืด สีเขียวก็เป็นน้ำที่สามารถขุดเจาะได้ ส่วนสีแดง ก็จะเป็นน้ำเค็มซึ่งไม่สามารถขุดเจาะน้ำบาดาลได้ จากในรูปก็จะเห็นว่าที่จริงแล้วเรามี ศักยภาพในการใช้น้ำบาดาลอยู่ค่อนข้างหลายที่ แต่ว่าที่ผ่านมาการใช้น้ำบาดาลก็ไม่ได้มี การใช้เท่าที่มีประสิทธิภาพ รูปแบบการใช้น้ำบาดาลในปัจจุบัน ตามหมู่บ้านในหลาย ๆ พื้นที่ เราก็จะเห็นว่ามีหอถังเก็บน้ำ มีแผง Solar Cell มีระบบท่อ มีตัว Submerge ซึ่งหลาย ๆ หมู่บ้านในจังหวัดชัยภูมิ รวมถึงหลาย ๆ พื้นที่ เราก็จะเห็นว่ายังไม่มีระบบกรองน้ำ ซึ่งบางที ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพน้ำ ดังนั้นทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ก็ได้ริเริ่มโครงการหลาย ๆ โครงการขึ้นมา ในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการติดตั้งโครงการดังที่ปรากฏอยู่บน Slide นะครับ ซึ่งก็จะมี ทั้งระบบหอถัง ระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงการนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เป็นน้ำดื่ม ซึ่งอุปสรรคในการบริหารจัดการน้ำบาดาลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เราก็จะเห็นว่าภารกิจของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลผูกพันกับ งบประมาณแผ่นดิน เมื่อกรมใช้งบหมดตามแผน ก็จะส่งผลให้โครงการใหม่ต้องรอ ปีงบประมาณถัดไป อันนี้ก็เหมือนกับของทางการประปาส่วนภูมิภาค แล้วก็การประปา นครหลวง เมื่องบใช้หมดแล้วก็จะต้องรอปีงบประมาณถัดไป
การจัดเก็บค่าน้ำบาดาลจากชุมชนและเกษตรกร และการบริหารจัดการ ค่าน้ำยังไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน จากสภาพปัจจุบันเมื่อทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเข้าไป ดำเนินการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ดังที่ปรากฏอยู่ในรูปเมื่อสักครู่แล้ว ทางกรมทรัพยากร น้ำบาดาลก็จะมีการมอบโครงการดังกล่าวให้กับท้องถิ่น แล้วก็ให้ท้องถิ่นไปบริหารจัดการ กันเอง ซึ่งข้อดีก็คือทางท้องถิ่นที่ผ่านมาก็มีการจัดเก็บค่าน้ำจากชุมชนในอัตราที่ถูกกว่า การประปา อย่างเช่นในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิเขตของผม จะมีหมู่บ้านหนึ่งชื่อหมู่บ้านชนแดน อยู่ที่ตำบลห้วยไร่ ก็มีการจัดเก็บ ก่อนหน้านี้จัดเก็บอยู่ราวหน่วยละ ๑๐ บาท ก็จะถูกกว่า หน่วยของการประปา
ผมมีข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลหรือการประปา เมื่อสักครู่ผมได้ฟังทางท่านสมาชิกจากทาง พรรคก้าวไกลได้พูดถึงเรื่องการใช้งบประมาณ ซึ่งต้องใช้สูงถึง ๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท แล้วก็มี การประมาณการว่าจะใช้เวลาอีก ๖๐ ปี กว่าจะพัฒนาโครงการเสร็จ รวมถึงของ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเอง ซึ่งทุกปีก็จะมีงบประมาณอยู่ประมาณ ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งก็ไม่เพียงพอที่จะเอามาพัฒนาน้ำบาดาลทั้งประเทศ ผมก็มีข้อเสนอ ก็อยากให้มีการเปิด ให้เอกชนเข้ามาร่วมบริหารจัดการกับรัฐในรูปแบบ PPP หรือ Public Private Partnership ซึ่งเอกชนกับรัฐเองก็สามารถจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือที่เขาเรียกว่า Special Purpose Vehicle หรือ SPV แล้วก็ขายน้ำในชุมชนและเกษตรกรในอัตราที่เป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อแก้ไข ปัญหาการจัดเก็บค่าน้ำบาดาล สร้างรายได้ให้กับภาครัฐ สามารถกำกับดูแลให้โปร่งใสดังเช่น รัฐวิสาหกิจที่สามารถตรวจสอบได้ทุกวันนี้ และที่สำคัญเมื่อต้องการงบประมาณเข้าไปลงทุน ในโครงการใหม่ ๆ ทางเอกชนก็สามารถเรียกเพิ่มทุนแล้วก็สามารถเข้าไปลงทุนได้เลย ไม่ต้อง รอเข้าสู่ปีงบประมาณถัดไปของภาครัฐ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ
ท่านประธานครับ ตามที่ทราบครับ ตอนนี้ประเทศไทยมีการปรับขึ้นค่าไฟขึ้นลงหลายระลอกในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยขึ้น สูงสุดไปแตะที่ ๔.๗๘ บาทต่อหน่วยนะครับ ซึ่งล่าสุดเองทาง ครม. ก็ได้อนุมัติตรึงค่าไฟ ไม่เกิน ๔.๒๐ บาทต่อหน่วย แล้วก็ตรึงค่าไฟสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ ๓.๙๙ บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ ผมมีข้อสงสัยและข้อเสนอแนะฝากท่านประธานนำเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ครับ
๑. เรื่องราคาก๊าซที่ประเทศไทยจัดหา ซึ่งเรื่องก๊าซธรรมชาติก็มีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้า ในประเทศไทย ซึ่งกว่า ๕๕ เปอร์เซ็นต์ของโรงไฟฟ้าเป็นโรงไฟฟ้าประเภทก๊าซนะครับ ดังนั้น กพช. หรือคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ ก็ได้สั่งให้ ปตท. ปรับลดค่าก๊าซธรรมชาติ ที่เรียกเก็บจากการผลิตไฟฟ้าจาก ๓๒๓ บาทต่อหน่วย เหลือไม่เกิน ๓๐๔ บาทต่อล้าน BTU ดังนั้นเรื่องนี้เองก็ควรเปิดเผยรายละเอียดต้นทุนการนำเข้าก๊าซ ซึ่งประชาชนก็สามารถรู้ได้ว่า ยังปรับลดราคาก๊าซลงได้อีกหรือไม่ ซึ่งจะสามารถแบ่งเบาลดภาระค่าไฟของประชาชน ได้อีกนะครับ
๒. เรื่องของกลุ่มเปราะบางที่ทาง ครม. ได้อนุมัติให้ตรึงค่าไฟเหลือ ๓.๙๙ บาทต่อหน่วย กลุ่มเปราะบางที่ว่าคืออะไร ก็อยากจะทราบเช่นกันนะครับ เกษตรกร มีสิทธิไหมครับ คนหาเช้ากินค่ำมีสิทธิไหมครับ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ
ท่านประธานครับ วันนี้ผมมีข้อหารือ ๓ ประเด็นหลัก ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในอำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสวรรค์ และท่านสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิในพื้นที่ ฝากท่านประธานนำเรียนไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
๑. ขอให้กรมบัญชีกลางเร่งรัดผลพิจารณาอุทธรณ์การจัดซื้อจัดจ้างปรับปรุง ถนนเส้นบ้านจอกยางหวาย ซึ่งเป็นถนนที่ อบจ. ชัยภูมิ ได้พยายามจัดหาผู้ว่าจ้างมาเป็น ระยะเวลาเกือบ ๒ ปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามผู้ยื่นประมูลได้ร้องเรียนผลการประมูลไปยัง กรมบัญชีกลาง ส่งผลให้การจัดหาผู้ว่าจ้างเป็นไปอย่างล่าช้า ปัจจุบันถนนดังกล่าวเป็นถนน เชื่อมหลายตำบลถนนเสียหายหนัก พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
๒. ขอให้กรมทางหลวงเร่งรัดการขยายถนนเส้นทางหลวง ๒๓๘๙ แก้งคร้อ-บ้านแท่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศบาลหนองสังข์ไปยังช่วงสถานีตำรวจภูธร เทศบาลหนองสังข์ เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางใกล้ชุมชนเป็นถนนสายหลักเชื่อมไปยัง จังหวัดขอนแก่น และยังมีรถบรรทุกอ้อยวิ่งผ่านจำนวนมาก ปัจจุบันถนนคับแคบเกิดอุบัติเหตุ บ่อยครั้ง ฝากท่านประธานนำเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
๓. ขอให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบอุดหนุนเฉพาะกิจให้กับ อบจ. ชัยภูมิ เพื่อพัฒนาถนนเส้นหนองหญ้าขาวเชื่อมทางหลวง ๒๐๕๔ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่พี่น้อง ตำบลช่องสามหมอใช้สัญจรจำนวนมาก ปัจจุบันถนนดังกล่าวยังเป็นถนนลูกรังอยู่ เป็นถนน ในตำนานก็ว่าได้และมีสภาพเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูฝน ฝากท่านประธานนำเรียน ไปยังสำนักงบประมาณด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ กระผมขอเป็นตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อบุคคลในสัดส่วน ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการขอใช้ที่ดิน ราชพัสดุสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ในความครอบครองของกองทัพอากาศ ให้แก่หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๑. นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ๒. นางศรัณยา สุวรรณพรหม ขอผู้รับรอง ด้วยครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ
ท่านประธานครับ จังหวัดชัยภูมิถือเป็น แหล่งกำเนิดแม่น้ำชี ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาอ่างเก็บ น้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ครอบคลุมแทบจะทุกอำเภอในจังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้ที่ผ่าน มาอำเภอที่พบปัญหาน้ำท่วมหนักที่สุดก็คืออำเภอคอนสวรรค์ และแล้งที่สุดก็คืออำเภอ แก้งคร้อ ทั้ง ๒ อำเภอกลับไม่ค่อยได้รับงบประมาณในการพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่ เพียงพอและมีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่กักเก็บน้ำ ผมจึงขอให้กรมชลประทานเร่งพัฒนา อ่างเก็บน้ำช่องสามหมอ ซึ่งจะช่วยกักเก็บน้ำที่ไหลทิ้งไหลขว้างจากการผลิตไฟโดยเขื่อน ลำปะทาว ซึ่งมีน้ำหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตรถูกปล่อยออกมาในช่วงเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายนของทุกปี หากกรมชลประทานพัฒนาแหล่งน้ำดังกล่าว ประโยชน์ที่ได้รับโดยตรง มีถึง ๔ ตำบล สามารถส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรได้ ๓๐,๐๐๐ ไร่ และยังสามารถสูบส่งไปยังพื้นที่แห้งแล้งในอำเภอแก้งคร้อ เช่น ตำบลหนองไผ่ บ้านแก้ง หนองสังข์ แล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ใกล้สนามบินขอนแก่น และเป็นที่พัก Rest Area ที่ดี เพราะอยู่ใกล้ทางหลวงสายหลักมุ่งสู่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาท่าน ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงไปในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ในช่วงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา และผมในฐานะ สส. พร้อมด้วย สจ. สมปอง บัวพิมพ์ สจ. สุธิชัย พรมกุดตุ้ม และท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ช่องสามหมอ นายเสกสรรค์ จอสูงเนิน ได้ร่วมยื่นความต้องการสำหรับโครงการดังกล่าวแล้ว ฝากท่านประธานนำเรียนไปยังกรมชลประทานให้ช่วยนำโครงการดังกล่าวบรรจุในแผน Thai Water Plan และจัดสรรงบประมาณด้วย กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต ๗ พรรคพลังประชารัฐ ท่านประธานครับ วันนี้จะขอหารือท่านประธานถึงแนวทางในการ กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดชัยภูมิผ่านการจัดประเพณีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นการกระตุ้น เศรษฐกิจที่ดีอย่างหนึ่ง และการสร้าง Soft Power ให้กับจังหวัดชัยภูมิ สืบเนื่องจาก ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าให้เร่ง Promote การท่องเที่ยวเมืองรองและได้มีมติ ครม. ให้วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๗ เป็นวันหยุดราชการ เพิ่มเติมอีก ๑ วัน ผมจึงอยากให้จังหวัดชัยภูมิได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินที่จะมีการใช้จ่าย ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ทราบว่าปีนี้จะมีการจัดประเพณีหาบน้ำเขื่อนฮดธาตุ ที่วัดพระธาตุ ชัยภูมิ ตำบลเก่าย่าดี อำเภอแก้งคร้อ ซึ่งจะเป็นการนำน้ำจากเขื่อนลำปะทาวขึ้นมาปลุกเสก และนำไปรดที่พระธาตุชัยภูมิ ซึ่งเป็นการรังสรรค์ประเพณีใหม่ขึ้นมา ผมมองว่าเป็นการสร้าง Soft Power รูปแบบใหม่ให้กับจังหวัดชัยภูมิ และในปีที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ผมจึงอยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงาน ททท. ช่วยสนับสนุน เร่งประชาสัมพันธ์งานดังกล่าวให้จังหวัดชัยภูมิด้วย เพราะที่ผ่านมาจังหวัดชัยภูมิถือเป็น จังหวัดที่มีเอกลักษณ์และมีประเพณีที่ดีงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อัตลักษณ์ของเรายังไม่ได้รับการชูขึ้นมาให้โดดเด่นดังเช่นจังหวัดหนองคาย ที่มีประเพณีบั้งไฟ หรืออุบลราชธานีที่มีประเพณีแห่เทียนพรรษา ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยว เข้ามาร่วมประเพณีที่วัดพระธาตุชัยภูมิ ราววันละ ๖,๐๐๐ คน หากมีการใช้จ่ายหัวละ ๑,๐๐๐ บาท ก็จะมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเวียนในช่วงสงกรานต์ ๒๕๖๗ นี้เกือบ ๔๐ ล้านบาท ในจังหวัดชัยภูมิก็ว่าได้ อันนี้แค่ประเพณีเดียวนะครับ ผมจึงอยากฝากให้หน่วยงาน ททท. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยสนับสนุนงานประเพณีดังกล่าวด้วย กราบขอบพระคุณครับ