กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ พรรคก้าวไกล ขอ Slide ด้วยครับ
วันนี้ผมจะมาอภิปรายเรื่องของ รายงานข้อมูลสถานการณ์ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ ประจำปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ วัตถุประสงค์ของ ๒ รายงานฉบับนี้ก็คือการมีนโยบาย เร่งด่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ตามอักษรสีแดงนะครับ อาจจะมองไม่ค่อยชัด นโยบายเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ย้ำรอบที่ ๒ แต่ในรายงานผมไม่เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงในการลดความรุนแรงเลย จากสถิติปี ๒๕๕๙-๒๕๖๔ เราจะเห็นว่า มีสถิติ ๒๐,๐๐๐ ๒๑,๐๐๐ ๑๔,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๑๖,๐๐๐ ๑๖,๐๐๐ ความเปลี่ยนแปลง ไม่ได้เห็นอย่างเด่นชัด อันนี้ข้อมูลที่ได้มาก็ได้มาจากหลายแหล่ง อย่างเช่นศูนย์พึ่งได้ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานการแพทย์ สำนักอนามัย โรงพยาบาลตำรวจ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม บ้านพักเด็ก Case ต่าง ๆ เหล่านี้รวมกันน่าจะไม่เกิน ๔๕,๐๐๐ เคส ต่อปีที่ท่านรวบรวมสถิติเข้ามา แต่ปัญหาของสถิติตัวนี้ไม่ได้รวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้าน อันนี้จะรวบรวมจากศูนย์พึ่งพิง โรงพยาบาล ศูนย์ช่วยเหลือ ซึ่งเป็นจุดแทบจะสุดท้ายอยู่แล้ว คือความรุนแรงเกิดขึ้นจนเขาทนไม่ได้ ต้องไปขอความช่วยเหลือ ท่านถึงเก็บสถิติตรงนี้มา แต่ท่านละเลยหลาย ๆ จุดไปนะครับ Violence ในบ้านอันนี้ก็สำคัญหลาย ๆ เรื่อง อันนี้คือสถิติที่ท่านได้มาแบ่งตามช่วงอายุ ท่านก็จะเห็นว่าช่วง ๑๐-๒๐ ปีพุ่งโดดมา ๒๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ๒๕ เปอร์เซ็นต์ ๑ ใน ๔ และในเด็กต่ำกว่า ๑๐ ปี แท่งกราฟแรก ๑,๓๐๐ เคสเท่านั้น ไม่ถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์เพราะอะไรครับ เพราะเด็กเหล่านี้ไม่สามารถ แจ้งความได้ เด็กเหล่านี้ไม่สามารถบอกใครได้สถิติเหล่านี้ถูกละเลยนะครับ ผมถึงอยากให้ ท่านเก็บสถิติที่ตรงความเป็นจริงให้มากที่สุด เดี๋ยวผมจะมีข้อแนะนำอยู่ด้านหลังนะครับ ปัญหาของตรงนี้สถิติสูงที่สุดอันดับ ๙ และอันดับ ๑๐ ก็คือสามีภรรยา แฟน อันนี้เราจะเห็นว่า มีสถิติสูงสุด ๒ อันรวมกัน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ก็อย่างว่านะครับ เป็นสถิติที่เกิดความรุนแรง ขนาดหนักแล้ว ท่านถึงเก็บสถิติตรงนี้มา
ตรงนี้ผมจะยกตัวอย่างความรุนแรงที่หลาย ๆ ท่านก็ได้พูดไปแล้ว ความรุนแรง ที่เราเก็บสถิติมาในรายงาน ๒ ฉบับนี้ส่วนมากจะเป็นความรุนแรงทางด้านร่างกาย Physical Abuse แต่เราละเลยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไปหรือเปล่าความรุนแรงทางด้านอารมณ์หรือจิตใจ Emotional Abuse ข้อ ๒ นะครับ อย่างเช่นการด้อยค่า การด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย การทำร้ายจิตใจ ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ ความรุนแรงทางเพศ หรือ Sexual Abuse ไม่ว่าจะเป็นสามีบังคับภรรยาให้ร่วมหลับนอนก็ถือเป็น Sexual Abuse เหมือนกัน เพราะภรรยาไม่ได้เต็มใจในขณะนั้น การทารุณกรรมทางด้านการเงิน อย่างเช่นการไม่ให้เงิน หรือให้เงินเด็กไปโรงเรียนน้อย อันนี้ก็เป็นการทารุณกรรมอย่างหนึ่งที่เราละเลยไปหรือเปล่า การล่วงละเมิดทางจิตใจอย่าง Spiritual Abuse ซึ่งอันนี้จะเน้นความเชื่อทางด้านศาสนา อันนี้ก็เป็นความรุนแรงอย่างหนึ่ง การบังคับให้มานับถือศาสนา หรือการบังคับไม่ให้ไปปฏิบัติ พิธีกรรมทางศาสนาเป็นความรุนแรงเช่นกัน การสะกดรอย ติด GPS อะไรพวกนี้คือ การ Abuse ทั้งนั้น คือความรุนแรงในครอบครัวเช่นกัน ท่านละเลยสิ่งเหล่านี้หมดเลย
ข้อเสนอแนะของผมอย่างแรกคือเราต้องเก็บสถิติให้ได้ใกล้เคียงความเป็นจริง ให้มากที่สุด เราทำได้อย่างไร เราไปตามสถานีตำรวจทั่วประเทศ ๑,๔๘๒ แห่ง การแจ้งความก็คือ ความรุนแรงในครอบครัวแล้ว รุนแรงถึงขนาดแจ้งความนี่คือรับเป็นสถิติได้เลย โรงพยาบาล ทั่วประเทศนะครับ การที่มารักษาพยาบาล ฟกช้ำดำเขียว เลือดตกยางออกนี่ก็เป็น สอบถามจากหมอพยาบาลได้เพื่อรวบรวมสถิติ การไปถึงชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา เก็บรวบรวม สถิติจากครูอาจารย์ การทำแบบสอบถาม ตัวอย่างสุ่มนะครับ เราโทรศัพท์ไปตามบ้าน สมมุติ เราโทรศัพท์ไปทุกเดือน เดือนละ ๑,๐๐๐ ราย เราก็ดูว่าใน ๑,๐๐๐ รายนี้มีอะไร ที่เข้าข่ายหรือเปล่า เราเก็บสถิติตรงนี้ได้ เราต้องทำงานเชิงรุก ก็โทรศัพท์สอบถามตามบ้าน สมมุติมี ๑,๐๐๐ รายมี Case ที่เข้าข่ายความรุนแรงที่กล่าวมานี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านจิตใจด้าน Spiritual เราสามารถเก็บรวบรวมสถิติได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง มากที่สุด เพราะความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่การทำร้ายร่างกายเพียงอย่างเดียว
ข้อเสนอแนะต่อไปก็คือท่านอาจจะเปิด Hotline ให้คำปรึกษา ๒๔ ชั่วโมง เพราะหลายเรื่องในครอบครัวไม่สามารถปรึกษาใครได้ ทุกคนก็มีความละอายแก่ใจ การเอาเรื่องในครอบครัวไปขายข้างนอก แต่เขาสะดวกใจที่จะโทร Hotline ปรึกษา ท่านก็ให้คำแนะนำได้ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางเพศ หรือแม้แต่เด็ก อันนี้ก็เป็นการป้องกัน อันนี้ผมขอยกตัวอย่างที่สหรัฐอเมริกาจะมีการบรรจุ หลักสูตรในเด็กประถมเลยนะครับ การสอนดีที่สุดคือสอนตั้งแต่เด็ก ให้เด็กรู้ว่าอะไรคือ ความรุนแรง อะไรคือการล่วงละเมิดทางเพศ มีการสอน ผมยกตัวอย่างเพื่อนที่อยู่สหรัฐอเมริกา คนไทยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาประมาณ ๒๐ ปี มีลูก ๑ คน วันดีคืนดีตำรวจมาเคาะหน้าบ้าน ตำรวจถามว่าท่านตีลูกหรือเปล่า แม่คนนั้นตกใจ เป็นคนไทยนะครับ ก็บอกว่าเปล่าไม่ได้ตี ใครไปโทรศัพท์แจ้งหรือ เพื่อนบ้านหรือ อะไรอย่างนี้ ตำรวจบอกว่าไม่ใช่ ลูกของคุณ โทรศัพท์แจ้ง อันนี้อาจจะเป็นการ Surprise ของคุณแม่ที่เพิ่งไปอยู่ที่นั่น แต่จริง ๆ แล้ว เป็นเรื่องปกติมากของที่สหรัฐอเมริกา เขาสอนเด็กตั้งแต่เล็กเลยว่าให้รู้จักร่างกายตนเอง ส่วนไหนเป็นส่วนที่สงวน ไม่ควรให้ใครแตะต้อง ไม่ควรให้ใครถ่ายรูป แตะตรงไหนยอมรับได้ แตะตรงไหนยอมรับไม่ได้ เมื่อเด็กรู้สึกยอมรับไม่ได้ให้ทำอย่างไร ให้พูดอย่างไร ให้ถอย ออกมาอย่างไร แล้วก็ควรสอดส่องดูแลเพื่อน ๆ ด้วย ในกรณีที่เพื่อนบ้านหรือว่าเพื่อนร่วมห้อง มีอะไรที่ผิดปกติ เพื่อนสามารถที่จะให้คำแนะนำกันได้ตั้งแต่เด็กเลย อันนี้จะช่วยให้ลดความรุนแรง ในครอบครัวได้ตั้งแต่ที่บ้านเลยนะครับ ตั้งแต่เด็กเลย เพราะเด็กนี่คืออย่างที่บอกนะครับ ไปแจ้งความก็ไม่ได้ บางครั้งบอกใครก็ไม่ได้ อันนี้ก็จะช่วยให้ลดความรุนแรงในครอบครัวได้ แล้วก็ลดปัญหาล่วงละเมิดทางเพศได้ แล้วก็อย่างน้อยก็คือต้องให้ความรู้คุณครูด้วย คอยสอดส่อง เด็ก ๆ ด้วย เวลาเด็กมาจากบ้านฟกช้ำดำเขียวมา มีโรคซึมเศร้า หรือว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย เสื้อผ้ายับอย่างนี้อาจจะมีปัญหาที่บ้านแล้วให้สอบถามสอดส่องนะครับ อยากจะให้บรรจุ ตรงนี้เป็นหลักสูตรให้กับเด็ก หรือไม่อย่างน้อยปีหนึ่งทาง พม. ก็ไปสอนตามโรงเรียนประถม สักครั้งหนึ่ง ทุกปี ๆ เพื่อให้เด็กได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ติดไปจนโตเพื่อการแก้ปัญหาระยะยาว อย่างไรต้องขอขอบคุณ ฝากท่านประธานส่งข้อความถึงทาง พม. ให้ด้วย ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สส. แบบแบ่งเขต จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ จากงบการเงินที่ผมได้ อ่านทบทวนของประกันสังคม ผมมีความกังวลเรื่องแรก ก็คือว่าในปี ๒๕๖๔ เรามีรายได้ ที่เข้ามา ๑๔๘,๐๐๐ ล้านบาท แต่ว่ามีค่าชดเชยทดแทน ๑๕๙,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งจะเห็น ได้ว่าการชดเชยของปีนี้มากกว่าเงินที่เราได้รับเข้ามา แล้วสิ่งที่เราเอามาทดแทน ก็คือดอกเบี้ยรับแล้วก็เงินปันผลต่าง ๆ จากการลงทุน กำไรต่าง ๆ จากการขายหลักทรัพย์ ซึ่งตรงนี้บางปีเราอาจจะไม่กำไรก็ได้นะครับ ในปีที่เศรษฐกิจตกต่ำเราอาจจะมีปัญหาตรงนี้ แล้วเราก็เข้าใจกันนะครับว่าอย่างที่สมาชิก หลายท่านได้พูดไปแล้วในเรื่องของสังคมผู้สูงวัย ซึ่งตรงนี้คือปัญหาของทุก ๆ ประเทศ ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น ญี่ปุ่น หรือสหรัฐอเมริกา แล้วเมืองไทยก็จะเป็นเช่นนั้น ปีที่ผ่านมา เราก็เห็นแล้วว่าอัตราการเกิดต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิต เราจะกลายเป็นสังคมผู้สูงวัย ก็อยากจะทราบแผนรองรับของประกันสังคมว่าจะหาเงินตรงนี้มาชดเชยทดแทนได้อย่างไร อันนี้เป็นความกังวลของผมกับประชาชนผู้ที่จ่ายเงินประกันสังคม อันนี้คือข้อแรก
ข้อที่ ๒ จะเป็นเรื่องของการกำไรและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศ ถ้าเรามองในปี ๒๕๖๓ นี่ เราขาดทุน ๒,๘๙๐ ล้านบาท ก็น่าตกใจอยู่ แต่พอมา มองปี ๒๕๖๔ เรากำไร ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท เห็นว่าเรากำไรมากขึ้น ตรงนี้บางคนมอง แล้วก็ดีใจที่เราจะมีเงินมากขึ้นจากการกำไร แต่ผมมองเข้าไปในฐานะที่จบทางด้านการเงินมา ก็จะบอกว่าอัตราแลกเปลี่ยนนี่เป็นอะไรที่อันตรายมาก ๆ นะครับ เพราะเราไม่สามารถรู้เลย ว่าเราจะกำไรหรือขาดทุนเมื่อไร เป็นความเสี่ยงแบบว่า ๕๐ ต่อ ๕๐ เลย ผมเข้าใจว่า ท่านก็คงทราบอยู่ว่ามันมีวิธีการบริหารเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการ Hedging หรือการ กระจายความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนตรงนี้นะครับ มันมีการ Hedging ผมว่าท่านเข้าใจตรงนี้อยู่ แต่ว่าอยากจะทราบว่าเหตุใดเราจึงไม่ทำ Hedging ตรงนี้ ไม่ทำการกระจายความเสี่ยงตรงนี้ อันนี้เป็นประเด็นที่ ๒ ที่เรายังมีการขาดทุนและกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน อยากทราบว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นนะครับ
เรื่องที่ ๓ ก็คือเรื่องของการเยียวยาเงินโควิด-๑๙ ๕,๐๐๐ บาท อันนี้อาจจะ ย้อนหลังไปปี ๒๕๖๔ ที่มีการให้ผู้ประกันตน มาตรา ๔๐ ได้รับเงิน ๕,๐๐๐ บาท ก็ช่วงนั้น ผมตั้งกลุ่มอาสาประมาณ ๓๐ กว่าคนช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-๑๙ แล้วก็ได้หาเตียง ส่งยา แล้วก็ทำอาหารแจกจ่ายวันละประมาณ ๕๐๐ กล่อง ซึ่งกำลังของประชาชนธรรมดา ตอนนั้น ผมเป็นประชาชนธรรมดา ก็ช่วยเหลือผู้ป่วยเฉพาะในย่านลำลูกกา เพราะว่าเรามีกำลังแค่นั้น แต่หลังจากที่เราช่วยเหลือคนก็เริ่มรู้จักผมมากขึ้น แล้วก็มาปรึกษาในเรื่องของ มาตรา ๔๐ เรื่องเงินเยียวยา เขาประกันตนแต่ก็ไม่ได้รับชดเชย โทรไปไม่ได้รับสาย พอ Check Website บางที Web ก็ล่ม บางที Check ก็บอกว่ายังไม่ได้รับ ยังไม่มีสิทธิ เขาก็ไม่รู้ว่าผิดเงื่อนไขอะไร มีหลายท่านก็ได้ยื่นทบทวนด้วยก็เสียเวลาไปยื่นทบทวน หลายท่านยังไม่ได้ประกันตน ก็วิ่งไปเซเว่นจ่ายเงิน ๑๐๐ บาท ๒๐๐ บาท เพื่อประกันตน เพราะตรงนั้นเราก็ทราบมาว่า ประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ตอนนั้นเงิน ๑๐๐ บาท ๒๐๐ บาทก็เป็นเรื่องลำบากสำหรับพวก เขาแล้ว แล้วก็มีการตั้งหมายถึงว่ากำหนดระยะเวลา ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ หลังจากนั้น ก็ยื่นไม่ได้อีก หลายคนก็พลาดโอกาสตรงนี้ในการที่จะยื่น แล้วก็หวังว่าท่านจะขยายเวลา เขาก็เลยวันที่ ๑ สิงหาคม วันที่ ๒ สิงหาคม เขาก็ไปประกันตนเพื่อหวังจะได้เงินตรงนี้ แต่ว่าก็ ไม่มีการขยายเวลา หลาย ๆ คนก็ Feedback มาทางผม ใน Line ของผมนี่เต็มไปหมดเลย ผู้ประกันตนที่ส่งมาให้ ๑๐๐ กว่าราย วันนี้ผมจึงต้องมาเป็นปากเป็นเสียงให้กับคนเหล่านั้น ว่าผมได้ช่วยเขาจริง ๆ แต่ว่าไม่สามารถที่จะช่วยได้ตรงนั้น ตอนนั้นผมก็เป็นประชาชน ธรรมดา ไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร แต่วันนี้ผมมาเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน แล้วก็อยาก ให้ท่านคิดถึงประชาชนที่เขาตกข่าว บางครั้งหมดเขตแล้วเขาเพิ่งรู้ บางครั้งอาจจะอยากให้ ท่านขยายเวลา เพราะว่าเมตตาธรรมค้ำจุนโลกนะครับ ขอบคุณมากครับ
ขออนุญาตนะครับ
ผม ประสิทธิ์ จากพรรคก้าวไกล ปทุมธานี เขต ๗ สส. แบบแบ่งเขตนะครับ ก็เมื่อสักครู่ท่านเลขาธิการได้ตอบว่าเรื่องของ การกระจายความเสี่ยง เผอิญว่าที่ผมถามไปจะเป็นเรื่องของการ Aging เป็นการประกัน ความเสี่ยง เมื่อสักครู่ผมอาจจะพูดผิดว่าเป็นกระจาย แต่จริง ๆ แล้วเป็นการประกัน ความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนตรงนี้ได้เห็นตัวเลขแล้วว่าปี ๒๕๖๓ เราขาดทุนไป ๓,๐๐๐ ล้านบาท แต่ปี ๒๕๖๔ นี้เรากำไรมา ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งถ้าเกิดเรามีการประกันความเสี่ยงแล้ว ตัวเลขตรงนี้จะใกล้เคียงกับ ๐ มาก ๆ เลยนะครับ คือผมไม่อยากให้เราเอาเงินไปเสี่ยงกับ อัตราแลกเปลี่ยนตรงนี้ ซึ่งเป็นเหมือนการเรียกว่า ๕๐:๕๐ ครับ เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะกำไร หรือขาดทุนได้เลย เป็นการลงทุนที่เสี่ยงมาก ๆ นะครับ อยากให้ทำ Hedging ประกัน ความเสี่ยงตรงนี้ ทำไมประกันสังคมถึงไม่ทำตรงนี้ อยากทราบตรงนี้ครับ ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานครับ ผมประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ผมมีเรื่องจะปรึกษา ท่านประธาน ๔ เรื่องนะครับ
เรื่องแรกคือสะพานข้ามแยกคลองสิบสามที่ถนนรังสิต-นครนายก ทล.๓๐๕ ถนนตรงนี้จะเป็นทางเชื่อมนะครับ แล้วก็ระหว่างรอยเชื่อมนี่มีรอยแยกขนาด ๑๕ เซนติเมตร กับ ๑๑ เซนติเมตร จะมี ๒ จุดตรงเชิงสะพานทั้ง ๒ ด้าน ตรงนี้เป็นข่าวไปแล้ว แล้วก็มีความ เป็นอันตรายที่ผมเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งนะครับ เนื่องจากรอยแยกนี่กว้างมากถ้าดูจากรูปจาก ฝ่ายโสตจะเห็นรอยแยกกว้างมาก ๆ เลย แล้วอันตรายก็คือว่าเวลาฝนตกถนนจะลื่น แล้วสะพานเส้นนี้มอเตอร์ไซค์ยังสามารถที่จะขึ้นได้ ถ้ามอเตอร์ไซค์ที่ไม่ชินทางขี่ขึ้นมา ก็จะอาจจะตกใจกับรอยแยก แล้วก็หักพวงมาลัยจนเกิดอุบัติเหตุได้ หรือว่าตรงนี้อยากให้ กระทรวงคมนาคมเข้าไปตรวจสอบเรื่องโครงสร้างว่าทำไมถึงมีรอยแยกทั้ง ๒ ด้าน และอยาก ให้พิจารณาอนุมัติงบฉุกเฉินเพื่อให้ซ่อมโดยเร็ว เพราะว่าชีวิตของประชาชนสำคัญที่สุด ความปลอดภัยตรงนี้
เรื่องที่ ๒ จะขอเรียนถึงเรื่องของการทำขยายถนนเลียบคลอง ๗ ลำลูกกา หรือเส้น ทล.๓๐๐๔ มีการก่อสร้างขยายถนนจาก ๒ เป็น ๔ เลน ซึ่งตรงนี้ระยะทาง ๑๐.๔ กิโลเมตร ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น ๘๑๐ วัน แต่ปัญหาคือว่าผ่านมาแล้วประมาณ ๕๐๐ กว่าวัน ตอนนี้เหลือประมาณ ๕ เดือนกว่า ๆ ก็มีการทำกันอย่างเร่งด่วน แล้วที่ผมลงไปดูพื้นที่ ก็คาดว่าไม่น่าจะทำได้เสร็จ ตอนนี้ถนนก็ขรุขระแล้วก็การจราจรติดขัด มีฝุ่นควัน ส่วน ตอนกลางคืนไฟทางก็ถูกถอดออกหมดก็เป็นอันตรายมาก ๆ เลยนะครับ มีทั้งหลุมบ่อ การจราจร ฝุ่น แล้วก็ความมืด ๓ เรื่องที่อยากให้กระทรวงคมนาคมเข้าไปดูแล
เรื่องที่ ๓ ก็จะเป็นทางใกล้ ๆ กับทางลงทางด่วนกาญจนาภิเษกตรงลำลูกกา เช่นกันนะครับ ตรงนั้นถ้ามีภาพประกอบจะเห็นได้ชัดนะครับ มีการปิดถนน ๑ เลน เป็นการปิดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรถสวนกันเยอะมากนะครับ การจราจรหนาแน่นในช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะฉะนั้นอยากจะให้ซ่อมถนนตรงนั้นนะครับ ผมคาดว่าใช้งบไม่เยอะ แต่ว่าตอนนี้ปิดถาวร ชาวบ้านร้องเรียนมาว่ารถติดมาก ๆ อยากให้เปิดใช้ทั้ง ๒ เลน เลยนะครับ
เรื่องที่ ๔ ก็เป็นประชาชนชุมชนเล็ก ๆ ไม่เกิน ๑๐ หลังคาเรือน แต่อยู่ห่าง จากถนนใหญ่ไปประมาณ ๒ กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ ๒๐ ปีที่ผ่านมาไม่มีน้ำไม่มีไฟใช้นะครับ ต้องอาบน้ำจากบ่อดิน ต้องรองน้ำฝนใช้ ต้องโยงสายไฟมา ๒ กิโลเมตรนะครับ ตอนนี้ มีน้ำบาดาลแล้วแต่ว่าเพิ่งมี แล้วก็ไฟยังมีปัญหาว่าไฟตกไฟดับตลอดเวลาเลย แล้วก็ผู้ป่วย ติดเตียงไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ เครื่องใช้ออกซิเจน เครื่องใช้ต่าง ๆ เครื่องดูด เสมหะก็มีปัญหานะครับ อยากให้ท่านผู้เกี่ยวข้องลงมาดูตรงนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ทั้งหมด ๔ เรื่องครับ
เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ หลายท่านก็รู้นะครับว่า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย จริง ๆ แล้วเป็นปัญหา ของทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ปัญหาของ พ.ร.ก. ฉบับนี้สำคัญที่สุดเลยคือมาช้าไป ๙ ปี อันนี้เป็นจุดสำคัญที่ผมมองนะครับ แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีกฎหมายฉบับนี้เข้ามา ซึ่งผมเห็นว่าการมีกฎหมายย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอนนะครับ ทีนี้สิ่งที่ผมจะอภิปรายจะเป็นเรื่อง ของการติเพื่อก่อมากกว่านะครับ ติเพื่อก่อแล้วก็จะให้คำแนะนำในปัญหาของกฎหมาย ฉบับนี้นะครับ อย่างที่บอกว่าทำไมมาช้าไป ๙ ปี เมื่อปี ๒๕๔๘ ปัญหานี้เกิดขึ้นแล้วนะครับ ปี ๒๕๔๘ คือเมื่อไร ๑๘ ปีที่แล้ว ๑๘ ปีที่แล้วมีการก่ออาชญากรรมทำนองนี้ในสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นแห่งแรกของโลกที่เกิดปัญหานี้ ตอนนั้นไม่ใช่ Romance Scams นะครับ ตอนนั้นจะเป็นมรดกนะครับ บอกว่ามีคนตกเครื่องบินเสียชีวิตมีมรดกอยู่ ๒๐ ล้าน US Dollar อะไรอย่างนี้นะครับ ถ้าเกิดคุณอยากจะได้เงินส่วนแบ่งนี้ก็โอนเงินมา แล้วก็ คนสหรัฐอเมริกาเองตกเป็นเหยื่อจำนวนมากนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตกเป็นเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล ที่ผมรู้ตรงนี้เพราะตอนนั้นผมอยู่อเมริกาพอดีมีเพื่อนตกเป็นเหยื่อ เช่นกันนะครับ สูญเสียเงินไปหลายล้านบาททีเดียว เพราะฉะนั้นปัญหาต่าง ๆ มันไม่ได้เกิด ที่เมืองไทย มันเกิดทั่วโลกนะครับ เราสามารถเอาปัญหาเหล่านี้จากทั่วโลกมาและมาหาทาง ป้องกันไว้ก่อนที่เมืองไทยได้นะครับ กว่ามันจะมาถึงเมืองไทยนี่มันใช้เวลาเมื่อไร ก็ปี ๒๕๕๔ ที่ผมเห็น Case ที่เมืองไทยเกิดขึ้นครั้งแรก ปี ๒๕๕๔ คือ ๑๒ ปีที่แล้ว เรามีเวลา ในการร่างกฎหมายเยอะมาก เรามีเวลาเยอะ แต่ไม่มีใครทำอะไรเลยนะครับ ผมเสียดาย เวลาตรงนี้มาก ๆ แล้วคนไทยที่สูญเสียไปนี่ปีหนึ่งกี่หมื่นล้านบาท ไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียวนะครับ หลายครอบครัวสูญเสียชีวิต ที่ไม่เป็นข่าวอีกก็มากต้องเสียจนหมดตัว สุดท้ายอยู่ไป ๒ ปี เป็นโรคซึมเศร้าแล้วก็ฆ่าตัวตายก็ไม่มีใคร Link มาถึงว่าโดน Romance Scam หรือโดน Scam Online นะครับ แต่สูญเสียชีวิตมากกว่านี้แน่นอน เราทำอะไรอยู่ ๙ ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเราทำอะไรอยู่นะครับ
ส่วนที่ ๒ เรื่องของ SIM โทรศัพท์ ผมก็ได้นั่งคุยกับร้านค้าเช่นกันนะครับ ก็ได้ข้อมูลตรงกันว่าแต่ละค่ายจะให้เปิด SIM ได้แค่ ๕ เบอร์ ถ้าเกิดจะเปิดมากกว่านี้ต้องไปที่ศูนย์ แต่ก็ยังมีการเล็ดรอดทำได้อยู่นะครับ มีบางเจ้า บางร้านค้ายังเปิดได้เป็นพันอยู่นะครับ ผมไม่ทราบว่าเขาทำได้อย่างไร แต่ตรงนี้ก็ต้องไปสืบดูอีกทีหนึ่ง จากนั้นร้านค้าเองก็บ่นมา เรื่องการควบรวมกิจการทำให้ Net pro มันแพงมาก ๆ เลยนะครับ ตอนนี้แพงขึ้นเยอะเลย อย่างที่เราเคยพยายามจะต่อต้านกันนะครับ คุณธนาธร คุณศิริกัญญา ขออภัยที่ต้องเอ่ยชื่อ เป็นเพื่อนร่วมงานผมเองนะครับ ก็พยายามต่อต้านแต่ก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้ Pro net ก็แพงขึ้น เลยตามที่เราได้ทราบกัน ทีนี้มาถึงข้อเสนอแนะดีกว่านะครับ
เรื่องที่ ๓ อีกเรื่องหนึ่งนะครับก็คือว่า ยังมี Website หลอกลวงอยู่นะครับ Website หลอกลวงก็คือว่า มีลักษณะของ Phishing การขโมย Log in ขโมย Password เราก็ไม่มีกฎหมายเพื่อมาป้องกันตรงนี้นะครับ เพราะฉะนั้นข้อแนะนำของผมก็คือว่า ข้อที่ ๑ ควรจะมีการอายัด SIM ได้ด้วย เราสามารถอายัดบัญชีได้แล้ว แต่ทำไมเราไม่อายัด SIM โทรศัพท์ด้วยนะครับ อย่างเช่น เปิด Website ให้คนมา Report เบอร์โทรนี้ถ้า Report ๓ คนขึ้นไป ๕ คนขึ้นไปเราอายัดไว้ก่อนเลยแล้วให้เขามาพิสูจน์ตัวตนเอาเองทีหลังนะครับ
อีกเรื่องหนึ่ง ก็คือว่าเบอร์ฉุกเฉินสำหรับเฉพาะอาชญากรรม Online ที่ต้องมีการโอนเงินนี่เราตั้งเบอร์ฉุกเฉินได้ไหม อย่างคล้าย ๆ กับ ๑๖๖๙ ประมาณนี้นะครับ เป็นเบอร์เดียวเลยแล้วประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศเลย ถ้าใครมีปัญหาโทรมาเบอร์นี้กริ๊งเดียว แล้วเจ้าหน้าที่ของเราจะคอยรับสาย แล้วก็ส่งต่อไปยังธนาคารต่าง ๆ ให้อายัดบัญชีได้ทันที เพราะคนส่วนมากจำเบอร์ธนาคารไม่ได้ แต่ถ้าเกิดมีเบอร์ฉุกเฉินสั้น ๆ มันประชาสัมพันธ์ ได้ง่าย แล้วก็ทุกคนจะได้ทราบข้อมูลโดยทั่วกัน ทุกคนจำได้ แนะนำเพื่อนได้ ๒ วันที่แล้ว ก็เพิ่งมีประชาชน จริง ๆ ก็เป็นคนรู้จักกันนี่ล่ะโดน Scam ไปเหมือนกันเขาก็ไม่รู้จะทำ อย่างไรนะครับ ก็เกือบจะโดนหลอกอีกรอบหนึ่งด้วยการไปแจ้งความ Online นะครับ ผมเตือนทันพอดี ก็คือปัญหาที่ประชาชนไม่รู้จริง ๆ เรื่องของการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้มีการ ประชาสัมพันธ์มากขึ้นนะครับ แล้วก็มีการ Pro active อย่างเช่นการตั้งศูนย์ป้องกัน Cybercrime โดยตรงนะครับ เรามีการส่งสายไปล่อซื้อ ทำไมเราถึงไม่มีศูนย์ที่ทำแบบนี้บ้าง คอยตรวจสอบข้อมูล Online เต็มไป หมดเลย Phishing นะครับ Website phishing Website หลอกลวงนี่ เราเข้าไปแล้วเราสามารถที่จะ Enter ข้อมูลเข้าไปได้เราก็รู้แล้วว่า ใครหลอกหรือไม่หลอกก็อายัดบัญชีได้เลย อายัด SIM ได้เลย บล็อก Website ได้เลย ทำได้หมดนะครับ ตรงนี้ต้องขอแนะนำไว้ ๔ ข้อ ขอบคุณมาก ๆ ครับ สวัสดีครับ
ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ๒๑๕ แสดงตนครับ
ท่านประธานครับ ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ๒๑๕ แสดงตนครับ
ท่านประธานครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ๒๑๕ เห็นด้วยครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปทุมธานี เขต ๗ ก่อนอื่นก็ต้อง ขอขอบคุณ ป.ป.ส. ที่ได้ทำหน้าที่ที่เสี่ยงอันตรายอย่างนี้นะครับ แต่ว่าวันนี้เราจะมาพูดคุยกัน ถึงปัญหา แล้วก็แนวทางการแก้ไขเรื่องยาเสพติดของประเทศไทย สิ่งเหล่านี้จะไม่พูดไม่ได้เลย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงกับเยาวชนกับเศรษฐกิจ แล้วก็ความมั่นคง ของประเทศ เห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เวลาที่ผมลงพื้นที่ ผมเข้าไปในชุมชนก็ไปถาม ประธานชุมชนว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าในชุมชนของท่าน ประธานก็บอกว่าไม่มีครับคุณไมค์ ปกติดีมากเลย ผมก็เลยถามไปว่าแล้วเรื่องยาเสพติดล่ะ โอ้โฮ เยอะมากเลย ท้ายซอยไปดูเลย คุณไมค์ คือประมาณว่ามันเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติของครับ มันเกิดขึ้นจนเขาไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา สิ่งเหล่านี้ผมว่าทุกคนเจอเหมือนกันหมด แล้วทุกชุมชนที่ผมไปจะเจอปัญหาเดียวกันหมดเลย ว่ามียาเสพติดอยู่ในหมู่บ้าน แล้วอย่างที่หลายท่านพูดไปแล้วว่ายาบ้าตอนนี้ ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท ก่อนหน้านี้เราก็รู้ว่ายาบ้านั้นแพงขนาดไหน เมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว ๑๕ ปีที่แล้ว อันนี้ คือปัญหาระดับชุมชน ส่วนปัญหาระดับประเทศเราก็มองแล้วว่าคดียาบ้านี่เกิดขึ้นประมาณ ครึ่งหนึ่งของคดียาเสพติดทั้งหมด ถ้าเกิดเราปราบยาบ้าได้คดียาเสพติดจะลดลงเยอะมากเลย
เรื่องต่อมาก็คือปัญหาระดับต่างประเทศ เราก็ได้ยินมาว่าประเทศไทยสินค้า ส่งออก อันนี้พูดกันขำ ๆ คือยาเสพติด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ขำเลยนะครับ ไม่ใช่แค่คนไทยพูด ผมมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติเขาก็พูดเหมือนกันว่าทำไมประเทศไทยยาเสพติดเยอะขนาดนี้ อันนี้ผมยกตัวอย่างเฉพาะปี ๒๕๖๔ เดือนพฤษภาคมที่ฮ่องกงตรวจพบเฮโรอีน ๒๓.๕ กิโลกรัม มูลค่า ๙๐๐ ล้านบาท ๒๗ พฤศจิกายนฮ่องกงเหมือนกันยาไอซ์ ๑๒ กิโลกรัม ๔๓ ล้านบาท ๒๔ พฤศจิกายนไต้หวันพบเฮโรอีน ๔๔๗ กิโลกรัม ๖,๐๐๐ ล้านบาท อันนี้ส่งออกจากประเทศไทย ทั้งหมด ไม่รวมถึงเกาหลีใต้เดือนพฤษภาคมยาไอซ์อีก ๓๗๗ ล้านบาท ๑๘ พฤศจิกายน ออสเตรเลียเจอยาอีก ๓๑๔ กิโลกรัม โอ้โฮ จำนวนมหาศาลเลยนะครับ อันนี้เกือบครึ่งตัน ผ่านไปได้อย่างไร อันนี้ผมสงสัยว่าทาง ป.ป.ส. ปล่อยผ่านไปได้อย่างไรในการส่งออกเยอะ ขนาดนี้
แล้วก็ส่วนต่อมาพูดถึงการเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับ ป.ป.ส. อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี สามารถที่จะยึดทรัพย์ได้เลย แต่ว่าอำนาจมันมาพร้อมกับความรับผิดชอบเช่นกัน ยิ่งท่าน มีอำนาจเยอะการคอร์รัปชันจะยิ่งเยอะมากขึ้น เพราะว่าท่านสามารถเรียกรับสินบน ได้มากขึ้น เพราะท่านมีอำนาจเยอะขึ้น อันนี้ท่านจะมีวิธีกำกับดูแลอย่างไร ขอเป็นคำถาม ข้อนี้
อีกคำถามหนึ่งนะครับ คดียาเสพติดที่เกี่ยวกับเพื่อนบ้านของเรา แล้วก็เกี่ยวกับ สว. ท่านหนึ่ง อันนี้มีการอายัดทรัพย์ ๑,๘๐๐ ล้านบาท ตอนนี้ทรัพย์สินเป็นอย่างไรบ้าง มีการอายัดเพิ่มหรือเปล่า คดีไปถึงไหนแล้ว อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ สถานการณ์ยาเสพติดบ้านเราตอนนี้มันก็มีปัญหาเยอะ แล้วท่านก็ทราบว่าคนที่จะแจ้งปัญหา เกรงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ถึงแม้จะมีค่า Commission หรือว่ารางวัลนำจับ ให้ ๕ เปอร์เซ็นต์ก็ไม่มีคนแจ้ง แต่ผมก็ได้ทราบมาว่าท่านมีระบบ Blockchain ที่ออกแบบมา แล้วก็ประกาศใช้แล้วเมื่อต้นปี ไม่ทราบว่าตรงนี้มีการประชาสัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน แล้วก็หลังจากเปิดใช้แล้วมีประชาชน แจ้งเพิ่มหรือเปล่า ระบบ Blockchain ผมอธิบายเพิ่มเติมนิดหนึ่งก็คือว่าจะไม่เปิดเผยผู้แจ้ง ข้อมูล แค่ส่ง Wallet ไปให้แล้วก็แจ้งข้อมูลเพื่อเป็นการนำจับ เมื่อได้นำจับแล้วก็จะโอนเงิน เข้า Digital Wallet เลย ไม่ทราบว่าใครแจ้ง อย่างนี้นะครับ เป็นการปกปิดผู้แจ้งได้ดีมาก ๆ เลย ก็อยากจะให้ท่านประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น แล้วก็อยากทราบว่ามีคนแจ้งเพิ่มมากน้อยแค่ไหน เพราะคดียาเสพติดแต่ละคดีเงินรางวัลนำจับมหาศาลเลยนะครับ
ข้อต่อไปก็คือว่าการตั้งเป้าหมายของท่าน ผมเห็นในเล่มนี้การตั้งเป้าหมาย ในการทำงาน อย่างเช่น เป้าหมายก็คือว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดลดลง สังคมไทยมี ความปลอดภัยจากยาเสพติด ฟังแล้วมันจับต้องไม่ได้เลย เป็นนามธรรมมาก ๆ นะครับ แล้วตัวชี้วัดอย่างนี้ก็คือระดับความสำเร็จในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด สังคมไทย ปลอดภัยจากยาเสพติด อันนี้จะชี้วัดอย่างไรครับ ผมไม่แน่ใจ เพราะว่ามันเป็นนามธรรม มาก ๆ เลย ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดคือราคายาเสพติด ราคายาเสพติดยิ่งถูกหมายถึงมีการแพร่ระบาด เยอะมากขึ้น มีการขายกันง่ายขึ้น ตำรวจไม่ค่อยจับ ราคามันถึงได้ถูก ถ้าเมื่อไรก็ตามที่มี การกวดขันหนัก ๆ ราคายาบ้าก็จะแพงขึ้น อย่างที่เราเคยเห็นว่าเมื่อก่อนราคา ๓๐๐ บาท เพราะมีการปราบปรามอย่างหนัก แต่ตอนนี้เหลือเม็ดละ ๓๐ บาท อันนี้น่าจะเป็นดัชนีชี้วัด ได้อย่างดีว่าการทำงานของท่านมีประสิทธิภาพแค่ไหน อยากให้ท่านเปลี่ยนตัวชี้วัดให้ดีกว่านี้ แล้วก็ตั้งเป้าหมายให้จับต้องได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ตั้งเป้าว่าสังคมไทยปลอดยาเสพติด อันนี้ยาก มาก ๆ เลยที่จะประเมินนะครับ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธาน หมูกระทะ ประธานสภาที่เคารพนะครับ วันนี้ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรปทุมธานี เขต ๗ พรรคก้าวไกล ก็ขอขอบคุณ สตง. นะครับ ที่ได้ทำงาน อย่างหนัก ตรวจสอบรายงานกว่า ๘,๐๐๐ รายงาน แล้วก็ป้องกันความเสียหายได้ถึง ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท อันนี้ต้องขอชมเชยในการทำงานหนักแล้วก็งานตรวจสอบทางการบัญชี อย่างเข้มข้นนะครับ ขอ Slide ด้วยครับ
หน้าต่อไปนะครับ ผมก็ทราบ มาว่ารายงานอันนี้มีประมาณ ๓๐๐ กว่าหน้า แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผมคือเรื่องของ พ.ร.ก. เงินกู้โควิดนะครับ ซึ่งเราก็ได้ทราบอยู่แล้วว่าปัญหาของโควิดคราวที่แล้วนี่ มีเยอะมาก ๆ เลยนะครับ บางช่วงบางตอนนี่ประเทศไทยเราถึงติดอันดับ Top Ten นะครับ จำนวนผู้ติดโควิดมากที่สุด ผู้ป่วยมากที่สุดนะครับ แล้วปัญหาของเราคืออะไร การจัดซื้อ วัคซีนโควิดที่ล่าช้านะครับ การให้เงินอุดหนุนกับบางบริษัทซึ่งทำให้เราไม่เข้าร่วมโครงการ โคแวกซ์นะครับ โคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกนะครับ มี ๑๘๐ กว่าประเทศที่เข้าร่วม แต่ประเทศไทยไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น อันนี้คือปัญหาของประเทศไทยในช่วงนั้นแล้วทำให้คน เสียชีวิตจำนวนมาก อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจึงต้องมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับโครงการนี้นะครับ แล้วท่านก็ได้บอกแล้วว่าวัตถุประสงค์ของ โครงการนี้คือการแก้ปัญหาการระบาด การช่วยเยียวยา การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม แล้วท่านก็จะมีการชดเชยภาคประชาชน เกษตรกร แล้วก็ผู้ประกอบการ ซึ่งวงเงินตรงนี้ ทั้งหมดคือ ๑ ล้านล้านบาทนะครับเงินกู้ตรงนี้ ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลทีเดียวนะครับ ถ้าเอา แบงก์พันมาต่อกันนะครับจะเรียงได้ ๔ รอบโลกเลยนะครับ เห็นว่าเป็นเงินมหาศาลมาก ๆ ในที่นี้นะครับ สตง. ก็ได้ตรวจสอบ ๓ โครงการดังต่อไปนี้นะครับ ก็คือมีการแพทย์ และสาธารณสุข เรื่องที่ ๒ การช่วยเหลือเยียวยาและชดเชย เรื่องที่ ๓ คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม
Slide ต่อไป ปรากฏว่าสิ่งที่ท่านตรวจเจอคืออะไรบ้าง ด้านประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการใช้จ่ายเงินกู้ปรากฏว่าไม่ผ่านนะครับ พบว่าล่าช้า ไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไป ตามที่กำหนด ด้านการจัดหาก็เช่นกัน การทำ TOR ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เอกสาร จัดซื้อจัดจ้างก็ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และการตรวจรับก็ยังไม่เป็นไปตามกฎหมายอีกนะครับ ด้านการเบิกจ่ายก็เช่นกันไม่เป็นไปตามกฎหมายเช่นกันนะครับ
Slide ต่อไปนะครับ เรื่องตรวจสอบเรื่องที่ ๒ ก็คือการช่วยเหลือเยียวยา งบประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท เยอะมากเลยนะครับ ท่านตรวจไป ๓ โครงการ จากทั้งหมด ๕ โครงการ ก็ไม่ผ่านอีกนะครับ พบว่ามีบางส่วนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้มีสิทธิจริง ๆ ก็ไม่ได้รับสิทธิ ไม่ได้รับเงินชดเชย แล้วก็ตรงกันข้ามคือผู้ไม่มีสิทธิกลับได้รับ เงินชดเชยนะครับ ทำให้การเยียวยาไม่ครอบคลุม เกิดความไม่เป็นธรรมในการให้เงินเยียวยา รัฐก็เสียโอกาสด้วยนะครับ เงินที่ใช้ไปนี่แทนที่จะเอาไปใช้อย่างอื่นก็เสียโอกาสตรงนี้ ส่วนบางโครงการที่บอกว่าถูกก็ไม่รู้ว่าจะมีบางส่วนที่ถูกต้องมากน้อยแค่ไหนนะครับ ผมจึงใส่ Question mark ไว้เมื่อสักครู่นะครับ
อันที่ ๓ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมนะครับ ตรงนี้ก็คือว่าปัญหาเหมือนกัน ไม่มีอะไรผ่านเลย ก็คือไม่ครบถ้วน ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ล่าช้านะครับ ด้านการจัดหา สัญญาข้อตกลงก็ไม่เป็นไปตามกฎหมาย การกำหนดราคากลางไม่เป็นไปตามกฎหมาย การตรวจรับก็ไม่เป็นไปตามกฎหมายนะครับ ไม่มีอะไรถูกต้องเลย ด้านการบริหารพัสดุชำรุด บกพร่อง ไม่มีผู้รับผิดชอบ ไม่จัดทำบัญชีวัสดุ ครุภัณฑ์นะครับ ด้านการเบิกจ่ายก็ไม่เป็นไป ตามกฎหมาย แล้วเงินคงเหลือก็ยังไม่ส่งคืนคลังอีก
ปัญหาต่อไปนะครับ ก็คือเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง การจ้างงาน การใช้ที่ดิน ของประชากรก็ขาดการกำกับควบคุม การเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง ไม่จัดทำหนังสือยินยอมใช้ที่ดิน ปัญหาเต็มไปหมด
Slide ต่อไปได้เลยนะครับ ท่านวิเคราะห์มาว่าสาเหตุคือเจ้าหน้าที่ และประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจ
ขอ Slide ต่อไปนะครับ ขาดการควบคุมดูแล การจัดสรรเงินล่าช้า หน่วยงาน ไม่เตรียมพร้อม ดำเนินการไม่ครบถ้วน ขาดฐานข้อมูลที่จะใช้ในการตัดสินใจอย่างมี ประสิทธิภาพ โครงการ ๑ ล้านล้านบาท ท่านเขียนรายงานมา ๖ หน้า หน้า ๑๓๘-๑๔๓ แค่ ๖ หน้าเท่านั้น ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจในการทำงานของท่านว่าท่านทำงานหนัก แต่รายงาน ที่ท่านออกมามันน้อยมากเลยครับ มันไม่ค่อยจะวิเคราะห์อะไรได้มากเท่าไรนะครับ
หน้าต่อไปนะครับ และอย่างปัญหาที่ผมเห็นก็คือว่าท่านจะเขียนว่า หน่วยงานแห่งหนึ่งนะครับ หน่วยงานแห่งหนึ่งมีปัญหาโน่น นี่ นั่นซึ่งทำให้สภาไม่สามารถ ที่จะไปตรวจสอบต่อได้ อย่างเช่น สำนักปลัดกระทรวงแห่งหนึ่ง หน่วยงานแห่งหนึ่งนะครับ ตรงนี้ผมก็เลยจะมีข้อเสนอแนะให้ท่านว่าอยากจะให้ท่านระบุหน่วยงานที่มีปัญหา มีปัญหา ทางด้านนี้นะครับ เราจะได้ตามไปตรวจสอบต่อได้ โทรศัพท์ไปพูดคุย สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อที่ ๒ ก็คือว่าจำนวนโครงการที่มีปัญหา ท่านบอกแต่มีปัญหา มีปัญหา แต่ท่านไม่บอกว่าตรงไหนไม่มีปัญหาบ้าง ทำให้เราไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าหน่วยงานนี้ มีประสิทธิภาพแค่ไหน สมมุติท่านบอกมีปัญหา ๑๐ อย่าง เขาอาจจะทำดี ๑๐๐ อย่างก็ได้ แต่เราก็จะไปมองว่าเขาทำไม่ดี อันนี้อยากให้ระบุมาด้วยนะครับว่าโครงการที่ไม่มีปัญหา มีเยอะแค่ไหนเปรียบเทียบกัน เราจะได้เห็นภาพรวมโดยชัดเจน
ข้อที่ ๓ ก็คือว่าท่านตรวจพบเรื่องต่าง ๆ อย่างเช่น การทำ TOR ไม่มี ประสิทธิภาพอย่างนี้ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย การไม่คืนเงินท่านมีการดำเนินคดีหรือว่า มีการฟ้องร้องอะไรบ้างหรือเปล่า มีการยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบหรือเปล่าอะไรอย่างนี้ ท่านไม่ได้บอกมานะครับ เราอยากจะให้ท่านบอกข้อมูลตรงนี้แล้วก็ติดตามความคืบหน้า ของคดีด้วยนะครับ แล้วก็ในรายงานนี้ท่านมีแต่เสนอแนะ ๆ แล้วก็เสนอแนะ โดยที่ไม่ได้บอกว่าถ้าเขาไม่ทำตามจะ เกิดอะไรขึ้น แล้วก็อยากให้ติดตามผลด้วยว่าหน่วยงานไหน ขอสักนิดหนึ่งนะครับ ใกล้จบแล้ว แล้วก็หน่วยงานไหนที่ทำตามแล้ว หรือยังไม่ปฏิบัติตาม แล้วท่านมีบทลงโทษอย่างไร
ข้อ ๕ คืออยากให้ระบุจำนวนเงินความเสียหายในแต่ละประเด็นด้วย อย่างท่านบอกมาว่าจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้อง ก็อยากทราบว่าโครงการนี้เป็นมูลค่าเท่าไร ถ้าโครงการมันแค่ล้านเดียวอย่างนี้อาจจะไม่สำคัญมาก แต่ถ้าเกิดมันเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน อย่างนี้มันต่างกันเยอะเลย ทำให้เราเข้าใจรายงานอันนี้ได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
ข้อ ๖ ก็คือการตรวจสอบของท่านนี่ หลายหน่วยงานบอกว่าเข้มข้นมาก จนทำอะไรไม่ได้ สร้างความยุ่งยาก ท่านมีความคิดที่จะแก้ไขระเบียบบ้างหรือเปล่า แล้วก็หน่วยงานต่าง ๆ ที่เขาบ่นมาเขาเคยเสนอแก้ไขหรือเปล่า อยากให้ท่านได้ตอบ ตรงนี้ด้วยนะครับ และปัญหาก็คือว่าถึงแม้ท่านจะทำงานเข้มข้น แต่ก็ยังมีการละเลย ละเลยอะไร เท่าที่เราดูมันยังมีปัญหาเรื่องการ Lock Spec การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจรับ มีปัญหาตลอดเวลาทุกหน่วยงานเลย ก็แสดงว่ามันยังมีการละเลย ถ้าไม่ละเลยหน่วยงาน เหล่านั้นจะไม่กล้าทำแบบนั้น จะต้องทำงานให้ตรงตาม Spec ผมก็เลยแนะนำว่าอาจจะเปิด ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสดีไหม เปิดสายด่วนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสหรือว่าแจ้งเบาะแส แบบว่าไม่เปิดเผยตัวตน เราจะได้มีข้อมูลมากขึ้น ท่านจะได้ตรวจสอบได้เยอะขึ้น แล้วก็ตรงเป้า ตรงประเด็น ก็ช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ ไม่กล้า Lock Spec ไม่กล้าฮั้วประมูล
เรื่องสุดท้ายก็จะเป็นคำถามว่า ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ทาง กทม. ตีว่าเป็น แปลงเกษตร แต่ท่านบอกว่าเป็นที่ดินรกร้างมีปัญหากันเยอะแค่ไหน แล้วก็มีการแก้ไข อย่างไร อยากได้ความชัดเจนตรงนี้ด้วย พอดีมาเห็นพอดีก็ขอบคุณมาก ๆ เลยสำหรับเวลา ของท่านที่มาตรงนี้ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธาน เพื่อให้ สภาเดินหน้าต่อได้นะครับ ผม ประสิทธิ์
ขอบคุณครับ
ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ต้องขออภัยท่านประธานเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็ขออภัยผู้ร่วมสภาด้วยนะครับ ขอถอนคำพูดครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต พรรคก้าวไกล จังหวัด ปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกาบางส่วน ธัญบุรีบางส่วน แล้วก็หนองเสือบางส่วนนะครับ ผมขอมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในญัตติเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้านะครับ วันนี้ผมก็จะไม่พูดถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าหรือมาโต้เถียงกันว่าดีหรือไม่ดีกว่ายาสูบอย่างไร เพราะผลการวิจัยปัจจุบันทั่วโลกยังมีข้อโต้แย้งเยอะมาก ๆ นะครับ แต่ผมขอสนับสนุน ให้มีกฎหมายเพื่อควบคุมกำกับการผลิต การนำเข้า และการครอบครองการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามบริบทของสังคมปัจจุบันที่เรามีการใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยแล้วก็นานาประเทศทั่วโลกนะครับ กฎหมายไทยในปัจจุบันนี้เหมือนจะ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะไปก็ไปไม่สุด จะหยุดก็หยุดไม่ได้ สิ่งที่ผมพูดถึงนี้ก็อย่างผู้เสนอญัตติได้พูดไป เรามีกฎหมาย มีคำสั่ง มีประกาศ หลายฉบับที่ไม่สัมพันธ์กัน อย่างเช่น มีคำสั่งของคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภคที่ ๙/๒๕๕๘ เรื่องการขายหรือให้บริการ บารากุ บารากุไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า เรามีประกาศกระทรวงพาณิชย์ปี ๒๕๕๗ เรื่องการนำเข้า เรามีพระราชบัญญัติศุลกากร ปี ๒๕๖๐ ห้ามนำเข้า ครอบครอง หรือรับฝาก ซึ่งกฎหมาย คำสั่ง แล้วก็ประกาศเหล่านี้มีโทษรุนแรง บ้างก็จำคุกไม่เกิน ๕ ปี บ้างก็จำคุก ไม่เกิน ๑๐ ปี โทษปรับก็หนักนะครับ ๔-๕ เท่า ๕๐๐,๐๐-๖๐๐,๐๐๐ บาท ถือว่าเป็นโทษ ที่รุนแรงมาก ๆ แต่เราก็ยังเห็นบุหรี่ไฟฟ้ามีขายเกลื่อนตลาดนัด มีขายตามโลก Online มีการเสพ มีการใช้ในที่สาธารณะทุกพื้นที่ นี่ละครับที่ผมบอกว่าเป็นกฎหมายที่ยังใช้งาน ไม่ได้จริง ไม่มีการจับกุมจริง จะไปก็ไปไม่สุด จะหยุดก็หยุดไม่ได้ เพราะฉะนั้นกฎหมาย ที่รุนแรงเหล่านี้ก็ยังไม่เหมาะกับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะว่าใช้งานไม่ได้จริง แต่ก่อให้เกิดการคอร์รัปชันนะครับ อย่างที่ท่านผู้เสนอสักครู่ที่บอกว่ามีการจับนักท่องเที่ยว สาวชาวไต้หวัน แล้วก็เรียกรับเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท จริง ๆ เรียก ๖๐,๐๐๐ บาท แล้วก็ ต่อรองกันเหลือ ๓๐,๐๐๐ บาท แต่ที่ข่าวปูดขึ้นมาเพราะว่านักท่องเที่ยวรายนี้เป็นดาราสาว ชาวไต้หวัน ก็เลยทำให้เป็นประเด็นที่โด่งดังไปทั่วโลก Internet เลยนะครับว่าประเทศไทย มีคดีฉาวแบบนี้ เรียกรับเงิน รีดไถ ส่วนนักท่องเที่ยวก็เป็นงงนะครับ ในเมื่อบุหรี่ไฟฟ้ามีขาย เกลื่อนตลาดนัด เขาซื้อมาจากตลาดนัด ทำไมเวลาเขาเสพ เขาครอบครองถึงผิดกฎหมาย อันนี้เราต้องเร่งแก้ไขเพื่อไม่ให้มีผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศของเรานะครับ โทษ ๕ ปี จำคุก ๕ ปี อย่างนี้นักท่องเที่ยวใครเจอก็ต้องรีบจ่ายสตางค์แล้วครับ ไม่อยากมีปัญหาอยู่ใน ประเทศไทย แต่สิ่งที่ได้กลับไปก็คือภาพลักษณ์ที่เสียหายของประเทศ เพราะฉะนั้นเราจึงต้อง เร่งจัดการเรื่องตรงนี้นะครับ เรื่องตัวบทกฎหมายนี่ผมก็อยากจะให้มีการสังคายนากฎหมาย เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นรูปธรรม แล้วก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาพิจารณาเพื่อให้เหมาะ กับบริบทของสังคมในปัจจุบันนี้ ผมจึงฝากให้ กมธ. ชุดนี้ช่วยพิจารณา ๗ ข้อ ดังนี้นะครับ ที่ผมจะเสนอให้ช่วยพิจารณาก็คือว่า
ข้อ ๑ อยากจะให้แก้ไขกฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทสังคมปัจจุบันนี้ ทั้งบารากุ บารากุไฟฟ้าให้สามารถผลิต นำเข้า ครอบครองได้อย่างถูกกฎหมาย
ข้อ ๒ ก็คือจะต้องกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อ ผู้ครอบครอง เพื่อไม่ให้เยาวชน เข้าถึงง่าย
ข้อ ๓ ก็คืออยากจะให้พิจารณาในเรื่องข้อกำหนดในส่วนของกลิ่นรสนะครับ ไม่ให้เกิดการเสพติดได้ง่าย จะได้ช่วยลดจำนวนผู้ที่อยากลองแต่ไม่อยากเสพติดนะครับ ให้ลดจำนวนผู้อยากลองไม่ให้กลายเป็นผู้เสพติดนะครับ
ข้อ ๔ ก็คืออยากจะให้พิจารณาถึงมาตรฐานของบุหรี่ไฟฟ้า แล้วก็กำหนด มาตรฐานของน้ำยาที่ใช้ด้วยนะครับ เพื่อควบคุมปริมาณสารอันตรายที่จะเข้าสู่ร่างกาย จากการสูบ
ข้อ ๕ ก็คือให้พิจารณาด้านเศรษฐกิจ รายได้จากอุตสาหกรรมการผลิตบุหรี่ ไฟฟ้า การผลิตน้ำยา ค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพของผู้เสพติดด้วย เพราะตรงนี้มีค่าใช้จ่าย ทางสังคมและค่ารักษาพยาบาลที่มาจากภาษีของประชาชน รวมไปถึงการสูญเสียรายได้ ของกรมสรรพสามิต จากการที่เราขายบุหรี่ไฟฟ้าได้มาก ยาสูบก็จะขายได้น้อย แล้วก็ การจัดเก็บอัตราภาษีที่เป็นธรรมเพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถมีจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว ก็มีการเก็บภาษีอย่างถูกต้องเพื่อนำรายได้มาจุนเจือในการที่จะต้องไปรักษาสุขภาพของ ผู้เสพติด
ข้อ ๖ ก็คือการพิจารณาในเรื่องของพื้นที่สำหรับสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อคุ้มครอง ไม่ให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับควันมือสองไปด้วยนะครับ ควรจะต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้
ส่วนข้อสุดท้ายนี้ก็ขาดไม่ได้นะครับ เราอาจจะคิดถึงแต่เรื่องกฎหมายนะครับ แต่ควรจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ด้วยว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายนะครับ ตรงนี้ อยากจะให้ประชาสัมพันธ์ถึงโรงเรียนด้วย เยาวชนด้วย แล้วก็ประชาชนทั่วไป ไปพร้อม ๆ กัน กับการพิจารณากฎหมายด้วย ขอบคุณมากครับ
ท่านประธานครับ ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ๒๑๕ แสดงตนครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอ อภิปรายญัตติเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมร่วมกับเพื่อน ๆ รวมทั้งการเยียวยาด้วยนะครับ ท่านประธานครับ ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลาย ๆ ท่านได้พูดถึงน้ำท่วมทาง ภาคเหนือที่มีปัญหาหนักในตอนนี้ แล้วส่วนเพื่อนของผมนะครับ เจษฎา ดนตรีเสนาะ เป็น สส. แบบแบ่งเขต ปทุมธานีเช่นกัน ได้พูดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจนะครับ ปทุมธานี ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเราเลยนะครับ ไม่ค่อยได้รับการดูแล ไม่ค่อยได้ออกข่าว การเยียวยา ก็ไม่ทั่วถึง ปัญหาน้ำท่วมนี้เกิดขึ้นจริง ผมขอภาพให้ดู ขอ Slide ขึ้นด้วยนะครับ
อันนี้เป็นปี ๒๕๖๔ ที่เราลงไป ลุยน้ำ ที่เห็นในเรือคือคุณเจษฎาและผมนะครับ เราไปแจกน้ำ แจก Gel กันยุง แล้วอันนี้ ก็ทีมงานของพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี อันนี้คือหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมขอ แค่ ๒ ภาพเท่านั้น ให้ท่านดูว่าเรามีปัญหาน้ำท่วมจริง เนื่องจากปทุมธานีเป็นเมืองอกแตก ก็คือมีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่ากลาง ทำให้ทุก ๆ ปีน้ำท่วมซ้ำซากทุกปีเลยนะครับ ท่วมจนชิน ท่วมจนไม่มีใครดูแล อันนี้ผมก็จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับชาวปทุมธานีว่าเราต้องการการดูแลเยียวยาเช่นกัน แล้วในวันนี้ปทุมธานีนอกจากพื้นที่ใกล้แม่น้ำแล้ว ยังมีพื้นที่ของหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากว่าในอดีตเป็นพื้นที่นาที่โล่งมีพื้นที่รับน้ำเยอะแยะมากมาย แต่ปัจจุบันนี้ปทุมธานี กลายเป็นปริมณฑล ซึ่งก็มีหมู่บ้านไปสร้างจำนวนมาก เมื่อหมู่บ้านสร้างจำนวนมาก การระบายน้ำก็ไม่สามารถระบายได้อีกต่อไป บางพื้นที่ไม่มีท่อระบายน้ำปล่อยให้น้ำขัง แล้วก็ค่อย ๆ ซึมลงดิน ส่วนพื้นที่ที่มีท่อระบายน้ำก็มีการอุดตัน บางแห่งก็ไม่ได้รับการขุดลอก บางลำน้ำก็มีผักตบชวาเต็มไปหมด ทำให้เกิดน้ำท่วมขังทุกปี บางแห่งก็ท่วมขังกัน ๒ เดือน อันนี้เป็นแค่ ๓ วัน แผ่นนี้คือสิ่งที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ผ่านมา อย่างเช่นชุมชน ในซอยบางบอน ๑๕ ข้างวัดใหม่ คลอง ๙ ซอยใกล้ร้านอาหารทิวไผ่ ถนนหน้าวัดสระบัว คลอง ๑๓ หนองสามวัง คลอง ๑๓ หมู่ที่ ๔ ถนนเลียบคลอง ๑๐ ฝั่งตะวันตกบึงบา-หนองเสือ หมู่ที่ ๑ บึงสนั่น ชายคลองวัดใหม่กลาง คลอง ๑๐ คลอง ๑๔ บึงคอไห บ้านเลขที่ ๑ หมู่ที่ ๑๓ ตำบลลำไทร บ้านเลขที่ ๘/๘ หมู่ที่ ๘ ลำน้ำพัฒนา หมู่ที่ ๒ ซอย ๒ บ่อตกปลา ทั้งพืชอุดม ลำไทร แล้วก็บึงคอไห ทุกพื้นที่จะเห็นว่าน้ำท่วมหมดเลยใน ๒-๓ วันที่ผ่านมา ไม่ใช่เฉพาะ ตรงที่ติดริมน้ำเท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะมาเป็นตัวแทนของชาวปทุมธานี แล้วก็ ประชาชนทั้ง ๗๖ จังหวัด ในการพูดถึงเรื่องระบบเตือนภัย เรื่องแรก คือระบบเตือนภัย เรื่องที่ ๒ คือเรื่องของการเยียวยา วันนี้ผมขอโฟกัสแค่ ๒ เรื่องนี้ ระบบเตือนภัยของเรา ผมอยากจะนำเสนอระบบที่เรียกว่า Cell Broadcasting System หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่า CBS หรือ CB ระบบนี้สามารถส่งเตือนภัยให้กับมือถือของทุกท่านในบริเวณนั้นเป็น ล้าน ๆ เครื่อง ภายในเวลาไม่ถึง ๑๐ วินาที เป็นระบบที่เรียกว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุด ในตอนนี้ ท่านลองสำรวจดูว่าระบบแจ้งเตือนภัยระดับชาติของไทยยังไม่มีทุกวันนี้ เกาหลีใต้ มีตั้งแต่ ๑๘ ปีที่แล้ว ส่วนระบบ CB ในยุโรปก็ใช้มา ๑๑ ปีแล้ว ค่อนข้างจะน่าเชื่อถือ แล้วก็ ใช้งานได้จริง ระบบ CB ถูกพูดถึงครั้งแรกที่เป็นกระแสเหตุการณ์จ่าคลั่งที่กราดยิงที่โคราช ก็มี สส. หลายท่านแนะนำให้ใช้ระบบ CB นี้ในการที่จะแจ้งเตือนประชาชนว่าเมื่อจ่าคลั่งขับรถ ไปห้างสรรพสินค้าแจ้งเตือนประชาชนในละแวกห้างสรรพสินค้าเลยว่ามีอันตราย มีคนกราดยิง กำลังไปที่นั่นจะได้มีการป้องกันอย่างทันท่วงทีได้ แล้วในเหตุการณ์ของน้ำท่วม เราสามารถ แจ้งเตือนประชาชนได้ก่อน อย่างที่คุณเจษฎาเพื่อนของผมได้บอกไปว่าคุณไม่มีการแจ้งเตือน ปทุมธานีเลย ถ้าเกิดเรามีระบบนี้เราจะได้สามารถบอกเฉพาะกลุ่ม สามโคกก็เจาะจงลง ไปเลยอำเภอนี้ บริเวณนี้จะท่วมประมาณ ๑.๕๐ เมตร ก็ว่าไป อย่างภาพที่ผมลุยน้ำตรงนั้น จริง ๆ แล้วประมาณเมตรเดียว แต่ถ้าเกิดลุยต่อไปท่วมหัว ชาวบ้านบอกว่าไม่ควรเข้าไปลึก กว่านั้น แล้วระบบของ CB ก็สามารถที่จะรองรับ 2G 3G 4G 5G ได้หมด มีความเร็วมาก ในการส่งสัญญาณ แล้วก็ไม่ต้องกลัวค่ายมือถือล่ม เพราะไม่ได้ส่งสัญญาณผ่านค่ายมือถือ แต่ส่งสัญญาณผ่านเสาโทรศัพท์ตรงไปที่มือถือทุกเครื่องในละแวกนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศ ไทยหรือคุณมาจากต่างประเทศ เอาโทรศัพท์มาจากต่างประเทศได้รับ Message ได้รับ ข้อความเหมือน ๆ กันได้เลยในเวลาไม่เกิน ๑๐ วินาที ท่านจะรู้เลย ก็คล้าย ๆ กับเหตุการณ์ กราดยิงเมื่อวานนี้ที่สยามพารากอน ตรงนั้นสามารถแจ้งเตือนประชาชนในห้างได้เลย เขาจะ ได้รู้ทั่วถึงกันว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะบางคนอาจจะยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรในสถานการณ์ฉุกเฉิน แบบนั้น อันนี้คือระบบเตือนภัย เคยมีอดีต สส. ของพรรคอนาคตใหม่ คุณไกลก้อง ไวทยากร ได้ยื่นหนังสือถึง กสทช. เสนอระบบนี้ กสทช. บอกว่ากำลังพิจารณาแล้วจะนำมาใช้ น่าจะ ใช้ได้ในปีหน้า ซึ่งก็หมายถึงปีนี้ แต่ปีนี้เกือบจะหมดปีแล้วเหลืออีกเพียง ๓ เดือน ก็อยากฝาก ท่านประธานครับช่วยถาม กสทช. หน่อยครับว่าระบบ Cell Broadcasting นี่เราจะมีโอกาส ได้ใช้หรือเปล่า แล้วก็ฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีด้วยครับ ระบบนี้น่าสนใจมาก ๆ อยากให้ท่านพิจารณา และนำมาใช้เพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้วางใจได้นะครับว่าเรามีระบบเตือนภัย ระดับชาติที่มีประสิทธิภาพสูงจริง ๆ อันนี้คือระบบ CB Cell Broadcasting
ส่วนเรื่องที่ ๒ ที่ผมจะพูดถึงคือการเยียวยา ทุกปีปทุมธานีตกหล่นเยอะมาก ปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมาหลายบ้านยังไม่ได้รับเงินเลย ทั้ง ๆ ที่เราก็ยื่นเอกสารครบถ้วน โดยเฉพาะ เขตของผมก็มีแจ้งเข้ามามีการตกหล่น ยื่นไปตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ พอสอบถามไปก็คือมีผู้ใหญ่บ้าน มาแจ้งเรื่องให้ยื่นเอกสารทั้งหมดเสร็จแล้วก็ส่งไปยังเทศบาล เทศบาลก็เซ็นรับ เซ็นรับเสร็จ ก็ส่งไปที่อำเภอ อำเภอก็เซ็นรับแล้วเรื่องก็ค้างอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าถึงไหนชาวบ้านยังมาตาม ที่ผมอยู่เลย ตรงนี้ต้องฝากด้วยนะครับ ตอนนี้ปี ๒๕๖๖ แล้ว เงินเยียวยาปี ๒๖๖๕ ยังไม่ได้ รับเลย มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทำไมการเยียวยาถึงช้าขนาดนี้ ลองคิดดูตอนเราจ่ายภาษีนี่ ประชาชนก็ต้องไปเตรียมเอกสารเอง ยื่นทุกอย่างเอง เอาเงินไปจ่ายถึงที่ จ่าย Online หรือว่าอะไรก็ตาม แต่เวลาเราจะขอเงินเยียวยานี่เหมือนกับเราต้องไปขอ ๆ ทำไมถึงไม่มายื่น ให้ถึงบ้านบ้างครับ อย่างไรฝากท่านประธานพิจารณาการเยียวยาให้ประชาชนด้วยนะครับ เขาเดือดร้อนก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว อย่าให้เขาต้องไปเสียเวลาตามเงินเยียวยาอีกต่อไป ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขออภิปรายญัตติเกี่ยวกับ ตำรวจด้วย เพื่อสะท้อนเสียงของพี่น้องประชาชนในประเทศไทยที่มีต่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต่อสภาแห่งนี้ ตำรวจทุกวันนี้ก็ตกเป็นข่าวฉาวรายวันอย่างที่เราได้เห็นกันเป็นการเสื่อมเสีย เกียรติยศกับวงการตำรวจเป็นอย่างมาก ทำให้ขาดความเชื่อถือจากประชาชนด้วย ทุกวันนี้ ตำรวจให้ข่าวอะไรประชาชนก็ไม่ค่อยเชื่อแล้ว เมื่อเช้านี้ตำรวจจับยาเสพติด Lot ใหญ่ มูลค่า ๓๐๐ ล้านบาท ประชาชนก็สงสัยว่าจัดฉากหรือเปล่า การเลือกตั้ง ผบ.ตร. เมื่อวานนี้ ประชาชนก็มองว่ามีตั๋วช้าง มีใบสั่งหรือเปล่า การแต่งตั้ง โยกย้ายตำแหน่งต่าง ๆ ประชาชน ก็มองว่ามีการซื้อตำแหน่ง มีตั๋วตำรวจหรือเปล่า ผมนี่ต้องคอยตอบคำถามพี่น้องประชาชน คอยอธิบายว่าตำรวจดี ๆ มีเยอะมาก มีเยอะมาก ๆ เยอะกว่าตำรวจไม่ดีหลายเท่าตัว แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะว่าอาชีพตำรวจถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่จะต้อง จับโจร ไม่ควรจะเป็นโจรเสียเอง จริง ๆ ไม่ควรจะมีคนๆไม่ดีเลยแม้แต่คนเดียว ในวงการ ตำรวจด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเมื่อตำรวจทำผิดควรจะโดนลงโทษหนักกว่าปกติ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อย่างนั้น เลยครับ มีการปกป้องพวกพ้องด้วยกัน ไม่เอาผิด พอผิดจริงก็โดนโทษสถานเบา โดนย้าย ไปที่โน่นที่นี่ ไม่ติดคุก ไม่โดนลงโทษจริง ๆ จัง ๆ ผมก็ขอยกตัวอย่างบางคดีให้ท่านประธาน ได้มองเห็นภาพนะครับ อย่างคดีทายาทเจ้าสัวแสนล้านขับรถชนตำรวจก็หนีไปอยู่ ต่างประเทศ เป็นคดีมหากาพย์ที่ดังไปทั่วโลก ทุกวันนี้ในต่างประเทศก็ยังถามอยู่ เพื่อนที่อยู่ ต่างประเทศก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย แล้วก็ยังมีขบวนการที่พยายามจะสร้าง หลักฐานเท็จเปลี่ยนความเร็ว ๑๗๗ กิโลเมตร ให้เหลือ ๗๙ กิโลเมตร อันนี้ถือเป็น สาระสำคัญของคดีเลย เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไป ๑๕ คน คดีนี้ก็เกี่ยวกับ อดีตนายตำรวจใหญ่ระดับ ผบ.ตร. เลย รวมทั้งอดีตรองอัยการสูงสุด แล้วก็อาจารย์ จากมหาวิทยาลัย ทั้ง ๓ ท่านนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่โดนฟ้องคดีไปแล้วนะครับ นอกจากนี้ก็ยังมี อดีต ผบ.ตร. เคยพูดว่างานตำรวจเป็นงาน Sideline พูดอย่างนี้ได้อย่างไร คนตำแหน่ง ใหญ่โตขนาดนี้ ทำอาชีพตำรวจเป็นงาน Sideline เป็นอาชีพเสริม นั่นหมายถึงอย่างไร หมายถึงว่าไม่ให้ความสำคัญเลย แต่กลับได้เป็น ผบ.ตร. อันนี้น่าแปลกมากเลยประเทศไทย ของเรา ส่วนตำรวจที่ตั้งใจทำงานเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้รับการเลื่อนขั้น บางคนต้องลี้ภัย ไปต่างประเทศ คดีค้ามนุษย์ โรฮิงญา จับไปจับมาไปเจอตอ ถูกข่มขู่คุกคามเอาชีวิต ต้องหนีไปต่างประเทศ นายตำรวจใหญ่ต้องไปทำงานโรงงานรับเงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำ จนป่านนี้ยังไม่กล้ากลับเมืองไทยเลยครับ สิ่งเหล่านี้เรามองเห็นแล้วว่ามันมีปัญหาจริง ๆ แล้วเรื่องที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ผมในลำลูกกามีตำรวจเรียกตบทรัพย์พนัน Online ๑๔๐ ล้านบาท วลีที่ว่าเป้รักผู้การเท่าไรเป้เขียนมา หรือเนียนกริ๊บ ๆ นี่ละครับมาจับกันอยู่ที่ลำลูกกานี่เอง ก็ใกล้เคียงกับพื้นที่ผมมาก ๆ แล้วก็คดีดังเมื่อสักครู่ที่เพื่อนของผมได้พูดไปเกี่ยวกับเรื่องของ กำนันคนดังจังหวัดนครปฐม มีตำรวจหลายนายไปพัวพัน ไปถอดเสื้อกินข้าวกัน ใคร ๆ ก็มองว่าเป็นการสร้างบารมีให้กับกำนันคนดังคนนั้น จนถึงกล้ายิงตำรวจตายต่อหน้า นายตำรวจหลายสิบคนในงาน อันนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ แล้วหัวหน้าของตำรวจที่เสียชีวิตท่านนั้น ก็มาฆ่าตัวตายอยู่ในลำลูกกาอีก พื้นที่ใกล้เคียงของผมเลยนะครับลำลูกกา ประชาชนในพื้นที่ ก็พูดถึงกันหนาหูมาก ๆ ลงพื้นที่เมื่อไรประชาชนก็พูดถึงแต่เรื่องนี้ สร้างความเสื่อมเสีย สั่นสะเทือนไปทั่ววงการตำรวจนะครับ เมื่อวันสองวันที่ผ่านมานายตำรวจระดับ พลตำรวจเอกก็บอกว่าใช้เงินเลี้ยงลูกน้อง เงินส่วนตัวหามาด้วยเงินสุจริตของตัวเอง เลี้ยงลูกน้องเดือนละ ๑-๒ ล้านบาท เอาเงินมาจากไหนครับ ถ้าเป็นเรื่องจริงฟังแล้วน่าตกใจ ถ้าเกิดว่านายตำรวจต้องควักเงินตัวเองมาเลี้ยงลูกน้องเพื่อทำคดีต่าง ๆ ผมก็สงสัยว่า แล้วงบตำรวจเราจัดสรรกันเพียงพอหรือเปล่า อันนี้ยังไม่รวมถึงเรื่องส่วยต่าง ๆ นะครับ รถบรรทุก ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว ลอตเตอรี่ เหล้า เบียร์ การพนัน Online เต็มไปหมด เลย ทั้งการค้ายาเสพติดทุกพื้นที่เลยตอนนี้ไปไหนก็พูดถึงแต่เรื่องยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ไปหมด อันนี้ผมไม่อยากให้เป็นความเคยชินของสังคมไทยที่จะเจอตำรวจแบบนี้เต็มไปหมด ในบ้านเมืองเรา ผ่านมา ๙ ปี คือทุกคนมองแล้วว่าตำรวจมีปัญหาจริง ๆ ต้องมีการปฏิรูป อย่างเช่น Mob ก่อนหน้านี้ Mob ปี ๒๕๕๗ Mob ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แล้วผู้นำรัฐประหาร ปี ๒๕๕๗ ก็บอกเองว่าจะต้องปฏิรูปตำรวจ แต่ผ่านมา ๙ ปีก็ไม่ได้ทำอะไร ก็เป็นลักษณะของ NATO No Action Talk Only ไม่ทำอะไรเลย ผมจึงสนับสนุนให้มีการปฏิรูปตำรวจอย่างที่ เพื่อน สส. ของผมเท่าพิภพพูดไปคือตำแหน่ง ผบ.ตร. จริง ๆ แล้วเราควรมีหรือไม่ เราควรกระจายอำนาจให้กับทางท้องถิ่นหรือเปล่า เหมือนใน NYPD ที่บอกมาตำรวจจะ คลุกคลีกับประชาชนมาก ๆ คนที่เป็นตำรวจก็คือคนในพื้นที่ขึ้นมาเป็นตำรวจ ถ้าคุณทำอะไร ไม่ดีคุณก็จะถูกสังคมประณาม แล้วก็จะถูกถอดออกจากการเป็นตำรวจในพื้นที่ คุณก็จะ ประกอบอาชีพตำรวจไม่ได้อีกต่อไป ไม่ใช่ย้ายไปย้ายมาเหมือนในประเทศไทย ย้ายคน ตรงนี้ ไม่ดีก็ย้ายไปอยู่ตรงนั้นแล้วมันจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ตรงนี้ก็อยากฝากท่านประธานให้ดูแล ตรงนี้ด้วยนะครับ ฝากให้ท่านนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กำกับโดยตรงของตำรวจ ผู้ดูแล ผู้บังคับบัญชาโดยตรงจัดการกับเรื่องตำรวจตรงนี้ เพื่อทำให้ตั๋วตำรวจ ตั๋วช้างหมดไป ส่วยรีดไถหมดไปตามนโยบายที่พรรคก้าวไกลเราได้สนับสนุนไว้ การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ก็เอาคนที่ทำงานจริง ๆ ให้ได้รับเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ไม่ใช่ว่าซื้อตั๋วกันเข้ามา แล้วก็มา เลื่อนขั้นข้ามหัวกันอย่างนี้ ฝากด้วยนะครับอยากให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เป็นพิทักษ์สันติ ราษฎร์จริง ๆ ไม่ใช่พิทักษ์สันติราษฎร์ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขออภิปรายญัตติ เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อราว ๆ ๖ เดือนที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าก็แจ้งปัญหาเรื่องของหุ้นกู้ STARK ตั้งแต่ตอนนั้นยังไม่เป็นข่าวดัง ทางเพื่อนก็บอกว่ามันจะมีปัญหาเรื่องการไม่จ่ายเงิน ตามกำหนดของหุ้นกู้ไม่มาไถ่ถอน ผมก็ได้ศึกษา ค้นหาข้อมูล แล้วก็รับทราบหลักฐาน จากเพื่อนเก่ารายนี้ แล้วก็ทราบว่ามีปัญหาจริง ๆ หลังจากนั้นก็มีการร้องเรียนมาถึง พรรคก้าวไกล เราก็รับหนังสือเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว มูลค่าความเสียหายแล้วก็ การหมกเม็ดบัญชี หรือว่าการทำบัญชีรายได้ รายจ่ายปลอมเพื่อนของเราก็ได้พูดกันหลายคน แล้วผมก็จะข้ามไปเพื่อความรวดเร็ว ตอนนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นว่าเมื่อเจอปัญหานี้ ก.ล.ต. บอกว่า จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อยกระดับกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์ให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผมมองว่าไม่ได้แก้ปัญหาทั้งในปัจจุบันและอนาคต เหมือนการเล่นแมวจับหนู เหมือนเล่นขายของจับเท่าไรก็ไม่หมด เพราะว่าเราจะเปลี่ยนหลักเกณฑ์ไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ไม่ได้ เราควรจะต้องวางหลักเกณฑ์ที่มันถูกต้องตั้งแต่แรก เพื่อจะได้จัดการให้ถูกต้อง และ ก.ล.ต. ไม่เป็นเพียงแค่เสือกระดาษต้องทำงานจริงจังและเด็ดขาด อันนี้ผมก็จะไม่พูด มากถึงเรื่องของ STARK แต่ก็จะพูดในเรื่องของ Case ตัวอย่างในต่างประเทศ เรามาดู ประเทศที่เขาเป็น World Financial คือประเทศที่มีการเงินระดับโลกกันอย่างสหรัฐอเมริกา คดีที่เคยโด่งดังมาก ๆ เลยก็คือคดีของนาง MS ผมขอใช้ตัวย่อนะครับ จริง ๆ คดีนี้ ก็พูดถึงชื่อได้ เพราะว่าเป็น Case study ในแบบเรียนทางเรื่องของธุรกิจมาจำนวนมาก แต่ผมใช้ชื่อย่อ แล้วกัน นาง MS เป็นคนดังมาก ๆ ในสหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่ารู้จักกันทุกคน แล้วเธอเป็น เจ้าของธุรกิจ เป็นเจ้าแม่ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหาร ๓๐ กว่าเล่ม เธอถูกสอบสวน ในคดีของการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้นที่เรียกว่า Insider Trading เหตุการณ์ก็คือว่า เธอขายหุ้นจำนวน ๔,๐๐๐ หุ้นของบริษัทยาแห่งหนึ่ง แล้ววันรุ่งขึ้นหุ้นนั้นก็ตกฮวบเลย ดิ่งฮวบ เนื่องจากว่าบริษัทยาแห่งนี้กำลังขออนุญาตยารักษาโรคมะเร็งเข้าไปกับ FDA หรือว่า องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา แต่เหมือนกับจะรู้ว่ายาตัวนี้จะไม่ผ่านการอนุมัติ เธอจึงขายหุ้นไปก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นหุ้นก็ดิ่งเหวเลย มูลค่าที่เธอขายไปประมาณ ๒๓๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ประมาณ ๘ ล้านบาท แต่จริง ๆ แล้วเป็นจำนวนเพียงน้อยนิดในมูลค่าหุ้น ของเธอ เธอมีเงินใน Port ของเธอจริง ๆ แล้วก็เป็นหลัก Billionaire ก็ ๓๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ถ้าเทียบเป็นเงิน เธอมีเงิน ๓๐๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ขายไปแค่ ๘ ล้านบาท เท่านั้น แล้วระหว่างการสอบสวนเธอถูกจำคุก ติดคุกจริง ๕ เดือนไม่รอลงอาญา ยื่นอุทธรณ์ ก็ไม่ผ่าน ติดคุกจริงนะครับ ไม่ใช่ติดคุกแล้วไปนอนรอในโรงพยาบาล อันนี้ไม่ใช่ เธอติดคุก ไม่ใช่เพราะ Insider Trading ด้วย เธอติดเพราะเธอโกหกระหว่างสอบสวน โกหก ๒ วาระ ติดคุก ๕ เดือน ติดจริง เจ็บจริง ไม่มีตัวแสดงแทน อันนี้จะเห็นว่า ก.ล.ต. ของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เอาจริง แค่โกหกก็เอาติดคุกแล้ว ไม่สนใจว่าคุณจะเป็นดารา เป็นคนดัง เป็นคนรวยระดับประเทศไม่สนใจนะครับ ยิ่งคุณดังเท่าไรยิ่งควรจะต้องติดคุกมากเท่านั้น เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปให้ตัวเล็กตัวน้อยรู้ว่าถ้าคุณโกงคุณไม่รอดแน่นอน
เอาอีกกรณีหนึ่งเป็นบริษัทที่ตรวจสอบบัญชี ชื่อว่า Arthur Andersen ถือว่า เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ เรียกว่า Big five ของบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก มูลค่ารายได้ ปีหนึ่ง ๙,๓๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท Arthur Andersen ตรวจสอบบัญชีให้กับบริษัท Enron ท่านคงเคยได้ยินชื่อนะครับ บริษัทพลังงานรายใหญ่ ของสหรัฐอเมริกา มีรายได้ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญต่อปี หรือ ๓.๖ ล้านล้านบาท ประมาณ GDP ของประเทศไทยเลยทีเดียว ปัญหาก็คือว่าบริษัท Enron มีการทำรายรับ รายจ่าย ปลอมเหมือนกับ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นี้เลยนะครับ แล้วหลังจาก นั้นก็ถูกจับได้ว่ามีการตรวจสอบแล้วพบว่า Arthur Andersen มีส่วนรู้เห็นด้วย หลังจากนั้น บริษัทนี้ก็ถูกยกเลิกการจ้างงานจากบริษัทต่าง ๆ จนสุดท้ายบริษัทนี้ก็คือเจ๊งไปเลย ปิดตำนาน Big five ของโลกไป สิ่งเหล่านี้จะทำให้เห็นว่าบริษัทที่เป็น World Financial เขาเอาจริงเอาจังกับผู้ตรวจสอบบัญชี เอาจริงเอาจังกับคนที่ปั่นหุ้น คนที่หลอกลวงประชาชน สิ่งเหล่านี้ถ้าเกิดว่าประเทศไทยเราทำตามเราก็จะได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเป็นเสือกระดาษ เราไม่เคยจับใครติดคุกเลยเราจะไปได้แค่ไหน เราก็จะอยู่ของเราอยู่อย่างนี้ครับ นักลงทุนก็ไม่ให้ความเชื่อถือทั้งคนไทยคนต่างประเทศ ถามเพื่อนแล้วเพื่อนก็บอกว่าต่อไปนี้ก็จะไม่เล่นหุ้นแล้วเจอมา Case เดียวแทบหมดตัว เพื่อนที่โทรศัพท์มาหาผมตั้งแต่ ๖ เดือนที่แล้วเจอไป Case เดียวแทบหมดตัวบอกว่าไม่เล่น หุ้นแล้วนะครับ นี่คือปัญหาของ Finance ของเมืองไทย ระบบตลาดทุนของเรา ถ้าเรายัง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเราไปไม่ถึงไหนแน่นอน ผมจึงอยากฝากไว้นะครับ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยถ้าคุณไม่ทำจริงจัง คุณไม่จับจริง คุณไม่ให้ติดคุกจริง ไม่มีทางช่วยเหลือ ประชาชนได้เลย แล้วไม่ได้รับความเชื่อมั่นด้วย ฝากท่านประธานไว้เพียงเท่านี้นะครับ ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ อย่าเพิ่งจับเวลานะครับ ผมขอ Slide ขึ้นก่อน คราวที่แล้ว Slide ผมไม่ขึ้น เวลาพูดไป จะไม่เข้าใจ ขอ Slide ขึ้นก่อนนะครับ OK ครับ เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ วันนี้ผมมีเรื่อง ปรึกษาหารือท่านประธาน ๕ เรื่องนะครับ
เรื่องแรก ก็คือประชาชน ขอสัญญาณไฟจราจร จุดที่ผมชี้ก็มีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก ล่าสุดก็เพิ่งเสียชีวิตไป เด็กนักเรียนชั้นมัธยมเสียชีวิตไปเพราะเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีไฟจราจรตรงนี้ ประชาชนขอมา หลายปีมาก ผมไปปรึกษากับทาง อบต. มีการประชุมกัน ผู้ใหญ่บ้านทุกคนเห็นด้วยหมด ทั้ง ๑๔ หมู่ แต่ว่าปัญหานี่ขอมาหลายปีแล้วล่าสุดได้รับอนุญาตจากแขวงทางหลวงนครนายก เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ปรากฏว่าเทศบาลบอกว่าไม่มีงบ ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องรองบจากที่ไหน เพราะว่าปัญหาของประชาชนตายรายวัน งบทั้งหมดประมาณ ๓ ล้านบาท แต่ชีวิตประชาชน แต่ละชีวิตสำคัญกว่า ๓ ล้านบาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งไปดูแลด่วนเลยนะครับ ข้อที่ ๒ ขอดู Clip นะครับ อันนี้จะมี Clip ๙ วินาที ท่านอย่าเพิ่งกระพริบตา อันนี้คืออุบัติเหตุที่นักเรียนเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๖ กันยายนที่ผ่านมา เสียชีวิตไปแล้วรายนี้
เรื่องที่ ๒ โรงพยาบาลลำลูกกา ตรงนี้ประชาชนแจ้งว่า ๓๐ ปีไม่มีการขยายเลย อยากจะให้มีการขยายเพิ่มเติม แล้วก็ประชาชนชาวลำลูกกา ๓๐ ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมาเป็น ๒ เท่า ๓ เท่าแล้ว โรงพยาบาลมีแค่ ๓๐ เตียง เวลาจะขยายตึกตรงนั้น ตึกพระอาจารย์อ๊อด ก็คือรับเงินบริจาคจากวัดมาขยายตึก แต่ไม่มีงบจากรัฐบาลลงไปให้ เวลาจะซ่อมแซมก็มีปัญหาไม่มีเงิน และล่างขวาเป็น รพ.สต. ที่จะสร้าง ก็ขอบริจาค จากประชาชนอีก ที่ดินขอบริจาค ราคาตึก ๑๕ ล้านบาทก็ขอทำผ้าป่ามา และล่าสุด โรงพยาบาลอยากจะสร้างตึก ๕ ชั้น ๑๔๐ เตียง งบประมาณร้อยละ ๑๒๐ ล้านบาท ขอไปทางกระทรวงก็ขอมาหลายปีไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไร อยากจะให้ท่านได้พิจารณาโรงพยาบาลก่อน ถ้าเราไม่ซื้อเรือดำน้ำ ๓๖,๐๐๐ ล้านบาท โรงพยาบาลนี้เราสร้างได้ ๓๐๐ ตึกเลย สร้างได้ ครึ่งประเทศเลยนะครับ อยากจะให้พิจารณาตรงนี้ด้วย
เรื่องที่ ๓ บริเวณใต้ทางด่วน Motorway อยากจะให้เป็น ๒ เลนเหมือนเดิม เมื่อก่อนเป็น ๒ เลน ตอนนี้เหลือเลนเดียว เวลาสวนกันสวนไม่ได้นะครับ
เรื่องที่ ๔ ประชาชนขอไฟส่องทางลำลูกกาเลียบคลอง ๗ ใช้เวลา ๓ ปี ในการซ่อมแซม แต่ไม่มีไฟทางตอนกลางคืนเลยนะครับ อันตรายมาก ๆ แล้วก็ตอนที่ Spec ขยายเส้นทางนี่ไม่ได้ระบุว่าต้องมีไฟส่องทางตอนกลางคืน ผู้รับเหมาก็เลยไม่ติดให้ ตรงนี้ผมติดต่อหลายหน่วยงานมาก แต่แก้ไขไม่ได้เสียที เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็ยังแก้ไขไม่ได้ ฝากด้วยนะครับ
เรื่องสุดท้าย ดอนยอ จังหวัดนครนายก เพื่อนผมเองฝากมา ฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ กลิ่นเหม็นมาก แล้วก็แมลงวันเยอะมาก กินข้าวต้องกางมุ้งกัน ตรงนี้อยากจะให้ดูแลด้วย ตอนนี้หน้าฝน ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรก็ไม่มาช่วยกันเลย อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยกันด้วยนะครับ ประชาชนเดือดร้อนมาก ๆ เลย ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ผมขอร่วมอภิปรายเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ แก้กฎหมายขนส่งทางบกเพื่อความเป็นธรรมแล้วก็ป้องกันส่วยทางหลวง จากที่คุณวีรภัทร คันธะ พูดไปสักครู่ก็ปัญหาเดียวกันเลยกับของอำเภอลำลูกกานะครับ ในอำเภอลำลูกกา อำเภอหนองเสือ อำเภอธัญบุรีจะมีรถบรรทุกพ่วงวิ่ง ขอ Slide หน้าที่ ๒ ครับ
ถนนขรุขระตามที่เห็นในภาพ เกิดจากรถบรรทุกที่เกินน้ำหนัก บรรทุกน้ำหนักเกิน บรรทุกดิน รถพ่วงวิ่งตลอดเวลา ถนนก็ขรุขระตามภาพเลยนะครับ แล้วก็ต้องซ่อมแซมกันตลอดเวลา แล้วกว่าจะซ่อมก็ใช้ เวลานานนะครับ เพราะว่าทางเทศบาลเองก็ดี หรือว่าทางหลวงชนบทเองก็ดี รู้ว่าสร้างไป ซ่อมไปมันก็จะพังอีก เพราะฉะนั้นผมก็ต้องตามเรื่อย ๆ เพื่อให้มาซ่อมสักทีนะครับ แต่ตรงนี้ ผมตามแล้วซ่อมไปเรียบร้อยแล้วนะครับ
ปัญหาต่อไป อันนี้คือป้ายที่ผมไปถ่ายมานะครับ ป้ายห้ามวิ่งในตอนเช้า ช่วงเช้า ๖ โมงเช้า ถึง ๙ โมง แล้วก็ช่วงเย็น ๔ โมงเย็น ถึง ๒ ทุ่ม รถตั้งแต่หกล้อขึ้นไป ห้ามวิ่งบนถนนเส้นนี้นะครับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าเราจะเห็นรถบรรทุกพ่วงวิ่งตลอดเวลาเลย ทั้งรถบรรทุกหนัก รถบรรทุกพ่วงวิ่ง ปัญหาคือการจราจรติดขัดแล้วก็เกิดอุบัติเหตุ ตอนเช้า ก็จะมีนักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน ตอนเย็นก็มีนักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ซึ่งก็อันตราย มาก ๆ เลยนะครับ หลายครอบครัวก็แจ้งร้องเรียนมาที่ผม ผมก็พยายามช่วยนะครับ ดังภาพ ต่อไปเราลองมาดูกันครับ ตรงนี้ผมได้แจ้ง สภ. คูคต และ สภ. ลำลูกกาไป ช่วงนั้นจะเห็นว่า ๕ โมงเย็นถนนโล่งเลยนะครับ ๖ ปีที่ผมอยู่ตรงนี้ไม่เคยมีถนนโล่งขนาดนี้มาก่อนนะครับ ตรงนี้คือหน้าหมู่บ้านบ้านฟ้าปิยรมย์ คลอง หก ถนนลำลูกกา ถนนโล่งมาก ๆ หลังจากที่ผมได้แจ้งทาง สภ. คูคตไป แล้วก็ สภ. ลำลูกกาไปแต่ โล่งได้อยู่ประมาณ ๒ เดือนแล้วก็กลับมาเหมือนเดิม อันนี้คือปัญหาที่ผมบอกนะครับ รถใหญ่วิ่งตลอดเวลา ตรงนี้จะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็มีผู้บาดเจ็บแล้วบางครั้งก็ถึงกับ เสียชีวิต เนื่องจากว่าวิ่งตลอดเวลาแล้วถนนก็เล็ก ก็อยากให้มีการแก้ไขนะครับ ตรงนี้ ผมก็จะแยกเป็น ๒ ประเด็น
ประเด็นแรก คือคนก็สงสัยว่าที่รถวิ่งได้ตลอดเวลานี้เกิดจากส่วยทางหลวง หรือไม่ อันนี้คือประเด็นแรก ซึ่งทุกคนในที่นี้หรือว่าพรรคก้าวไกลเราเองก็พยายามต่อสู้ กับส่วยทางหลวงมานะครับ
อีกประเด็นหนึ่ง ที่ผมก็เห็นใจผู้ประกอบการรถบรรทุกว่าถ้าไม่ให้เขาวิ่งเลย หรือว่าห้ามวิ่งเวลาอย่างนั้นก็อาจจะทำให้ต้นทุนเขาสูงเพิ่มขึ้น การแข่งขันก็จะลำบากขึ้น เพราะฉะนั้นผมก็อาจจะเสนอทางเลือกนะครับ อย่างเช่นเรามาดูกฎหมายกันนะครับ ฝากคณะกรรมการชุดนี้ถ้าตั้งขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นวิสามัญหรืออนุกรรมการนะครับ ฝากพิจารณากฎหมาย อาจจะเพิ่มจากรถหกล้อนะครับ อาจจะเป็นรถสิบล้อขึ้นไปที่ห้ามวิ่ง ในช่วงเร่งด่วน แล้วเวลาเร่งด่วนของเราอาจจะลดเวลาลงมาจากตอนเช้า ๓ ชั่วโมง อาจจะลดลงมาเหลือ ๒ ชั่วโมง ตอนเย็น ๔ ชั่วโมงก็อาจจะลดลงมาเหลือ ๓ ชั่วโมง เพื่อให้มีการเจรจาประนีประนอมกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้ใช้รถใช้ถนน อันนี้ อาจจะเป็นข้อเสนอที่อยากจะให้ศึกษาจะได้ดูความเป็นไปได้นะครับ
ตรงนี้ก็อีกประเด็นหนึ่ง เมื่อสักครู่เพื่อนก็ได้พูดไปแล้วเรื่องของบังโคลนใหญ่ ดูลักษณะนี้นะครับ ถ้าไม่จ่ายส่วยมีสิทธิไหมครับ ลองดูวิ่งได้ขนาดนี้นะครับ กินไป ๓ เลน แล้วรถเล็ก รถใหญ่ก็มีอุบัติเหตุจากการที่บังโคลนใหญ่ขนาดนี้นะครับ มอเตอร์ไซค์วิ่งสวนมา อาจจะชนได้เลยครับ ตรงนี้ผมก็รณรงค์กับใน Page ของผมให้คนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับส่วย Sticker ก็ Add LINE Official มาหาผมได้นะครับ แจ้งข่าวแล้วผมก็จะรวบรวมให้กับดาวเคราะห์น้อย ของพรรคผมนะครับ คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ให้ไปชนกับส่วยต่อไปครับ
เรื่องต่อไปที่ผมจะพูดถึงก็จะเป็นของใบสั่งจราจรนะครับ ใบสั่งจราจรมีสถิติ หลังจากที่เราเปลี่ยนใบสั่งเป็นว่า ถ้าคุณไม่จ่ายค่าปรับนี้ไม่สามารถต่อภาษีได้ อันนี้ถือเป็น ไม้ตายของทางจราจรเลยนะครับ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญนะครับ ลดลงมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มใช้แล้วก็มาพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ๕ เดือนนะครับ กราฟผู้เสียชีวิตลดลงมาโดยตลอด แสดงว่า การทำลักษณะนี้จะช่วยปรามผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังไม่ทำผิดกฎจราจร ซึ่งก็ถือเป็น เรื่องที่ดี แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนศาลปกครองกลางก็บอกว่าขอให้เพิกถอนตรงนี้ เพราะว่า การออกใบสั่งแบบนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกปรับไม่มีโอกาสโต้แย้งนะครับ ตรงนี้ก็เป็น เรื่องที่อาจจะต้องไปหาทางทำให้มันเป็นกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้แล้วก็ไม่ผิดกฎหมาย แล้วก็สามารถที่จะลดอุบัติเหตุได้ ลดการเสียชีวิตได้ อันนี้ฝากไว้อีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนเรื่องที่ ๕ ป้ายจราจรต่าง ๆ เห็นไม่ชัดเจน ตรงนี้บางส่วนก็มีต้นไม้บัง บางส่วนก็เป็นป้ายกลับรถแต่กลับรถไม่ได้ อันนี้ตรงลำลูกกาคลองหกอีกเหมือนกันนะครับ เพราะผมผ่านบ่อย ผมก็ขอยกตัวอย่างหน้าวัดประชุมราษฎร์นะครับ ก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณ ไฟจราจรแล้วก็รถติด การกลับรถลำบากก็มีการศึกษากันอย่างไรไม่ทราบนะครับ ก็เริ่มทำ ไฟสัญญาณจราจรใช้เวลา ๒ ปีในการทำ ติดตั้งแค่ไฟสัญญาณจราจรใช้เวลา ๒ ปี เปิดใช้มา ๒ เดือนปรากฏว่ารถติดหนักกว่าเดิม รถไปติดในซอยก็เลยปิดการทำงานไปจนถึงปัจจุบันนี้ สร้างมา ๒ ปี ใช้งาน ๒ เดือน แล้วก็ปิดใช้ยาวเลย แต่ก็ไม่มีเครื่องหมายอะไรบอกเลยว่า ไม่ใช้งานแล้ว ถนนก็ยังเบี่ยงให้คนเข้าไปกลับรถ พอกลับไม่ได้ก็ต้องเบี่ยงกลับคืนมา ซึ่งเกิดอุบัติเหตุได้ อันตรายมาก ๆ นะครับ ก็ขอฝากท่านประธานไว้เพียงเท่านี้ไว้พิจารณา แล้วก็ทำป้ายจราจรกันให้ถูกต้อง ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ พรรคก้าวไกล อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ เมื่อสักครู่เพื่อนของผม คุณปัญญารัตน์ ได้พูดถึงการซื้อสินค้า Online ของพรรคก้าวไกลไม่สามารถทำได้ ซึ่งตรงนี้ผมอยากฝาก ให้ท่าน กกต. พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากว่าการทำการเมืองต้องใช้เงิน ไม่ว่าเราจะจัด สัมมนาหรืออะไรก็ตาม แล้วถ้าเกิดเราไม่ใช้เงินจากการระดมทุนลักษณะนี้ ก็เท่ากับบังคับ ให้เราไปใช้เงินจากนายทุนซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เราต้องการกัน การมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลย แล้วยุคนี้เป็นยุคที่การซื้อ Online ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ ที่ประชาชนจะซื้อของ Online เพราะฉะนั้นอยากให้ท่านพิจารณาตรงนี้จริง ๆ เพื่อให้เรา จะได้มีทุนในการที่จะทำการเมืองอย่างยั่งยืนสำหรับพรรคก้าวไกลของเราแล้วก็ พรรคอื่น ๆ ด้วย ขอ Slide ด้วยนะครับ
จากรายงานของท่านเล่มนี้ผมก็ได้ เปิดดูหน้ากลยุทธ์ของท่านในการทำยุทธศาสตร์ ๓ ข้อ ผมสนใจข้อที่ ๑ ยุทธศาสตร์ข้อที่ ๑ แล้วก็มาที่กลยุทธ์ที่ ๑ กลยุทธ์ที่ ๑ ของท่านพูดถึงการจัดทำการเลือกตั้งแล้วก็บริการ Digital กลยุทธ์เขียนว่าจะเร่งรัดเปลี่ยนแปลงกระบวนการเลือกตั้ง ออกเสียงประชามติ ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร อ่านดูเหมือนกับว่าท่านจะ เปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งและการลงประชามติให้เป็นแบบ Digital หรือเปล่า ก็อยาก จะทราบความชัดเจนตรงนี้ เพราะว่าผมก็เข้าไปดูโครงการที่ท่านทำสำหรับกลยุทธ์ที่ ๑ อย่างเช่นโครงการที่ ๕ ก็พูดถึงการอบรม ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้ Social media ได้ ให้เจ้าหน้าที่สามารถจะประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทาง Social media โครงการที่ ๘ ให้ติดตามรวบรวมข่าวสารจากสังคม Online วิเคราะห์ข่าว ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับ การเลือกตั้งแบบ Digital แต่อย่างใดเลย ขอความชัดเจนนิดหนึ่งว่าท่านต้องการทำอะไร ตรงนี้
หน้าต่อไป การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ก็เป็นที่กังขาของสังคมไทยมามากมาย เลยหลาย ๆ เรื่อง เพราะว่าตัวท่านเองไม่ค่อยได้ตอบคำถามให้ประชาชนโดยตรง ตลอด ๔ ปี ก่อนเลือกตั้งท่านออกรายการ ออก TV หรือว่าพูดกับประชาชนน้อยมาก ๆ เลย แทบจะ นับครั้งได้ เวลาประชาชนสงสัยอะไร มีคำถามอะไรไม่ได้รับคำตอบ สื่อมวลชนวิธีที่เขาทำ ก็คือเขาต้องไปสัมภาษณ์อดีต กกต. เพื่อเอาข้อมูลมาตอบกับประชาชน ก็พอจะได้รับ ความชัดเจนจากตรงนั้น แต่จริง ๆ แล้วท่านควรจะเป็นผู้สื่อสารเองจะได้ความชัดเจน มากที่สุด
ทีนี้ผมให้ดูงบนิดหนึ่งครับ การใช้งบของ กกต. ในการเลือกตั้งตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ เป็นต้นมา ถึงปี ๒๕๖๖ การใช้งบเมื่อก่อน ๒,๐๐๐ ล้านบาท หรือ ๑,๕๐๐ ล้านบาท แต่อยากให้ดูของปี ๒ ครั้งหลัง ปี ๒๕๖๒ ท่านใช้งบไป ๔,๒๐๐ ล้านบาท แล้วก็ปี ๒๕๖๖ ผ่านมา ๔ ปี ใช้ไปเกือบ ๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวณกลับไปแล้วเท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ ปีละ ๘.๙๕ เปอร์เซ็นต์ อันนี้ก็ถือว่ามากกว่าอัตราเงินเฟ้อ คือการเพิ่มงบประมาณไม่ใช่ ประเด็นที่ผมสงสัย แต่ผมสงสัยว่าท่านได้ตรวจสอบหรือเปล่าว่าการใช้งบที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ มีความสมเหตุสมผลขนาดไหน มีประสิทธิภาพเพิ่มจากเดิมขนาดไหน เพราะประชาชน ทั่ว ๆ ไปอย่างผมก็มองไม่ออกนะครับ จากปี ๒๕๖๒ ท่านก็ทำการเลือกตั้งเหมือนกัน กับปี ๒๕๖๖ เลย แต่ว่าใช้งบมากกว่ากัน มากพอสมควรเลย
ประเด็นของการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า อันนี้เดี๋ยวให้ดูนิดหนึ่งว่า ประชาชนสงสัย ๖,๐๐๐ ล้านบาท ทำไมอุปกรณ์การเลือกตั้งถึงเป็นตะกร้าแบบนั้น อันนี้ ประชาชนสงสัย
อีกประเด็นสำคัญก็คือการดูงานต่างประเทศของท่าน กกต. ก็อยากให้ชี้แจง เช่นกัน ท่านไปสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมนีซ้ำ ๒ ครั้ง อันนี้ทำไมถึงต้องไป ๒ ครั้ง มีประเด็น อะไรบ้าง ประชาชนก็สงสัยมาเช่นกัน ทั้ง ๒ ประเทศนี้ก็ไม่ได้ว่าอะไร สวยงามมาก ๆ เลย ผมก็อยากไปเหมือนกัน แล้วท่านก็ยังไปฮังการีกับสโลวาเนีย ซึ่งคนไทยรวมกันก็ประมาณ ๘,๐๐๐-๙,๐๐๐ คนเท่านั้น อันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไทยน้อยแล้วไม่ควรจะไป แต่อยาก ให้ท่านสรุปมานิดหนึ่งว่าเหตุผลที่ไป ไปเพราะความคุ้มค่าหรือไปดูอะไร เพราะถ้าเกิดว่า จะเอาเรื่องของความคุ้มค่า ผมก็แนะนำไต้หวัน เกาหลีใต้ ประชากรไทยของเราอยู่ที่นั่น ๑๐๐,๐๐๐ กว่าคน ไปตรงนั้นน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าหรือเปล่า หรืออีกอย่างหนึ่ง อาจจะไปเอสโตเนีย เอสโตเนียจัดการเลือกตั้ง Digital มาตั้งแต่ปี ๒๐๐๕ แล้ว ๑๘ ปีที่แล้ว อันนี้น่าไปดูงานมาก ๆ เลย ถ้าท่านมีโอกาสไปดูงานเผื่อนำมาใช้ในประเทศไทย การเลือกตั้ง Digital น่าสนใจมาก ๆ เลย
หน้าต่อไป ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของประชาชนกังวลเรื่องการโกงการเลือกตั้ง แล้วท่านบอกว่าท่านจะไม่แสดงผล Real Time หลังจากนับบัตรเลือกตั้งแล้วจะไม่แสดงผล Real Time ซึ่งตรงนี้ประชาชนก็เป็นกังวลมาก ๆ เพราะว่าทำไมถึงจะไม่ได้แสดงผลอย่างนั้น เรื่องโกงการเลือกตั้งใคร ๆ ก็กลัว ทีนี้ทางภาคเอกชนก็วิ่งกันวุ่นเลย ทั้งนักการเมือง สถาบัน พระปกเกล้า ทั้งเอกชน วุ่นวายหาวิธีที่จะมาช่วยกันนับคะแนนเอง Real Time เพราะไม่เชื่อมั่นในการเลือกตั้งว่าจะโปร่งใส แต่สุดท้าย กกต. ท่านก็ประกาศ Real Time แล้วทำได้ดีมาก ๆ เลย คะแนนออกมาเร็วมาก ๆ ผมนั่ง Key ยังไม่ทันท่านเลย เพราะฉะนั้น ผมก็เสียเวลาไปนั่งหาคนมาช่วย แต่สุดท้ายท่านทำได้ดีกว่าผม อันนี้อยากให้ท่านตอบ นิดหนึ่งว่าทำไมตอนแรกท่านถึงประกาศว่าจะไม่ Real Time แล้วสุดท้ายท่านทำ Real Time ทำให้ประชาชนว้าวุ่น ทำไมผมก็ว้าวุ่นด้วยเช่นกัน และการแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็ช้าไปนิดหนึ่ง ๔๐๐ เขต ท่านประกาศเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ซึ่งทำให้เราเหลือเวลาไม่ถึง ๒ เดือนในการหาเสียงในพื้นที่ แล้วหลายพื้นที่ได้พื้นที่ใหม่ ๆ มาเกินครึ่ง อย่างพื้นที่ผม เปลี่ยนไปกว่าครึ่ง ลงพื้นที่หาเสียงไม่ทัน ๒ เดือนที่เหลือก่อนจะเลือกตั้ง ตรงนี้ก็เป็นการทำ ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นกระดาษหมดเลย ชี้แจงค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นกระดาษ หมดเลย เวลาเปลี่ยนจุดหนึ่งต้องไปเปลี่ยนหลายจุดในแบบฟอร์มเลย ถ้าเกิดเป็นไปได้ อยากให้ท่านทำเป็นแบบ Online กรอกข้อมูล Online ได้เลย เวลาเปลี่ยนปุ๊บก็คำนวณ ให้อัตโนมัติ หรืออย่างน้อย ๆ ท่านทำแบบ Excel ก็ได้ เปลี่ยนจุดหนึ่งก็เปลี่ยน Form อื่น ๆ ตามได้เลย เวลาแก้ไขจุดหนึ่งก็จะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งเขียนแก้ Form ๓-๔ ฟอร์ม กว่าจะเสร็จ อันนี้ก็เสียเวลานิดหนึ่ง อยากให้ท่านเปลี่ยน เพราะการเลือกตั้ง ของ อปท. ๗,๐๐๐ กว่าแห่ง ถ้าเกิดได้ Excel แบบนี้ก็จะดีมาก ๆ เลย ก็ขอแค่นี้แล้วกัน จริง ๆ มีอีกหลายเรื่องแต่ไม่ทัน อย่างไรฝากด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้เสียงไม่ค่อยมีผมขอสั้น ๆ นะครับ ปทุมธานีของเรา มีแรงงานชาวต่างด้าวอยู่เยอะพอสมควร จากที่ผมได้ลงพื้นที่ก็ไปพบลูกหลานของคนต่างด้าว วิธีการเลี้ยงของพวกเขาก็คือจ้างคนชราที่ไม่มีงานทำเลี้ยงอยู่ที่บ้าน วันหนึ่งก็แล้วแต่นะครับ บางที่ก็ ๘๐ บาท ถึง ๑๐๐ บาทต่อวัน บางครั้งมี Promotion ให้ด้วย ๒ คนลดเหลือ ๑๕๐ บาท และท่านคิดว่าการที่เลี้ยงลูกหลานมาในลักษณะที่วันละ ๘๐ บาทนี่ลูกหลานเขา จะเติบโตมาอย่างไร อยู่กับคนชราที่บ้านแคบ ๆ มีเปลอยู่ ๒ หลังในการเลี้ยงเด็ก อันนี้เป็นลักษณะของเศรษฐกิจที่เรียกว่า Pico Finance มาก ๆ เลยนะครับ ระดับเล็กมาก ๆ แล้วก็เป็นการกระจายรายได้ให้กับคนชรา แต่ประเด็นก็คือว่าเด็กเหล่านี้ตั้งแต่เกิด เขาก็ด้อยโอกาสอยู่แล้ว เป็นลูกหลานแรงงานไม่พอ ยังเป็นลูกหลานแรงงานต่างด้าวด้วย ซึ่งไปดูสภาพแล้วก็นึกสภาพไม่ออกเลยว่าโตขึ้นมาเขาจะมีโอกาสมากแค่ไหน ทีนี้เรื่องของ เด็กที่มีรหัส G ก็ต้องใช้เอกสารในการที่จะยื่นขอ ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เราจะได้รหัส G มา หรือบางคนบอกว่าไม่มีเอกสารก็สมัครได้ แล้วแต่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ดุลพินิจคือปัญหา มาก ๆ เลย หลายคนยังไม่ได้รับรหัส G อันนี้เป็นเรื่องประเด็นของเด็กเหล่านี้ ผมจะมอง ในแง่ของ ๒ ประเด็นของเด็กรหัส G วันนี้เรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของสิทธิมนุษยชน การมองในแง่ ของสิทธิมนุษยชน เด็กเหล่านี้ควรจะได้รับการศึกษาเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป เหมือนกับเด็กไทย
ส่วนเรื่องที่ ๒ ในแง่ของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจก็คือว่าแรงงานเด็ก ๆ เหล่านี้ ถ้าเกิดเขาได้รับการศึกษาที่ดีเหมือนกับเด็กไทย ได้รับการศึกษาสูงสุดจนสามารถที่จะทำงานได้ ตรงนี้ก็จะมาเป็นแรงงานให้กับประเทศไทยของเราด้วย ตอนนี้เราก็ขาดแคลนแรงงาน อัตราการเกิดก็น้อยกว่าอัตราการเสียชีวิต เราไม่ได้มองคนว่าเป็นเศรษฐกิจ แต่เรามอง ในแง่ของภาพรวมทั่ว ๆ ไปไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือว่าคนพม่า หรือว่าคนสัญชาติลาว ถ้าเกิดเขาได้มาร่วมงานกับเรา ได้มาทำงานให้กับประเทศชาติของเราก็เป็นการผลักดัน ทางด้านธุรกิจอีกด้านหนึ่งในแง่ของเศรษฐกิจ ขอฝากท่านประธานพิจารณาในสิ่งเหล่านี้ให้ อย่างน้อยการศึกษาควรจะเท่าเทียมกัน อย่างน้อย ๆ ผมคิดว่าอาจจะมีการให้การศึกษา ถึงปริญญาตรี แล้วก็ให้เขาสามารถที่จะได้ออก Work Permit ให้ทำงานในประเทศไทยได้ อย่างต่ำ ๆ นะครับ เพราะว่าเด็กรหัส G หลายคนพอจบ ม. ๓ แล้ว เขาก็ต้องไปเรียนต่อ กศน. ไม่สามารถเรียนต่อปกติได้เนื่องจากการเดินทางลำบาก เวลาจะเดินทางออกนอกพื้นที่ ต้องขออนุญาตทุกครั้ง ทุกคนมีความฝันที่อยากจะทำงานอยู่ในประเทศไทย แต่สุดท้าย เขาทำอะไรไม่ได้ ต้องไปเรียน กศน. ต้องไปเป็นช่างซ่อมรถ ต้องไปเป็นแรงงาน ต้องไป รับแจ้งแบบผิดกฎหมาย อย่างไรก็ฝากตรงนี้ด้วยนะครับ อยากให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญ ชุดนี้จริง ๆ เพื่อจะได้มาศึกษาเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง แล้วก็ทำงานกันอย่างจริงจัง เราจะได้ แรงงานที่มีฝีมือขึ้นมาพัฒนาประเทศไทยของเราด้วย ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายญัตติ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาแรงงาน สิ่งที่ทำให้ผมสนใจปัญหาแรงงาน ก็คือเมื่อไปเทียบกับประเทศที่มีสหภาพแรงงานอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาต่างกันอย่างมาก ผมขอยกตัวอย่างที่ผมอยู่ที่นิวยอร์ก พนักงานโรงแรมไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน Reception หรือ รปภ. สวัสดิการรักษาพยาบาลของเขาครอบคลุมไปถึงสามี ภรรยา และบุตร นอกจากนี้ ยังมีค่าทำฟันด้วยถึงสามี ภรรยา และบุตร แล้วก็ยังมีบำนาญให้หลังเกษียณ อายุ ๖๕ ปี จะได้รับเงินบำนาญ ๑,๕๐๐ เหรียญ ถึง ๒,๔๐๐ เหรียญแล้วแต่อายุการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ในเมืองไทยยังไม่มี ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ยังมีวงเงินสินเชื่อให้กู้ซื้อบ้านด้วย อันนี้ คือพนักงานโรงแรมที่นิวยอร์ก สิ่งที่เขาแตกต่างจากไทยก็คือว่าเขามีสหภาพแรงงาน ที่เข้มแข็ง เป็นสหภาพแรงงานคนทำงานโรงแรม ซึ่งรวมทั้งนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีอยู่ด้วยกันนะครับ สมาชิกตอนนี้น่าจะเกือบ ๑๐๐,๐๐๐ คน เขาจึงมีอำนาจต่อรองกับนายจ้างเพื่อจะเรียก สวัสดิการเหล่านี้ให้กับแรงงานของเขา เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนไทยอาจจะไม่เคย จินตนาการถึงสวัสดิการเหล่านี้สำหรับแรงงานทั่ว ๆ ไปอย่างเช่นพนักงาน รปภ. แต่เมื่อเรามาดูเมืองไทยนะครับ ในเมืองไทยปัจจุบันนี้แรงงานของไทยอยู่ร่วมสหภาพ เพียง ๑.๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไม่ได้อยู่ในสหภาพเลย แล้วเราก็รู้ว่า เมื่อเราพูดถึงนิยามของแรงงานหมายถึงทุก ๆ คนที่รับเงินเดือน ไม่ใช่เฉพาะพนักงานโรงงาน ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนขับแท็กซี่ Rider ก็เป็นแรงงาน ได้รับจ้างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาลก็เป็นแรงงานเช่นกัน เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ก็ควรจะมีสหภาพของตัวเอง เพื่อมีอำนาจในการต่อรอง ปัญหาของประเทศไทยก็คือว่าเรายังไม่ได้ลงนามในอนุสัญญา ILO 87 และ ILO 98 ซึ่งให้สิทธิในการรวมตัวแล้วก็เจรจาต่อรอง
ผมมีเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องเล่าที่ได้ยิน ได้ฟังมาจากเพื่อนในวงการ เคยมีกลุ่มแรงงานกลุ่มหนึ่งจะไปจดจัดตั้งสหภาพของบริษัท เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ระหว่างที่นั่งรอก็นั่งรอประมาณ ๑ ชั่วโมง แล้วเจ้าหน้าที่ก็ออกมาบอกว่าคุณจัดตั้งไม่ได้ เพราะคุณไม่ได้เป็นพนักงานแล้ว คุณเพิ่งถูกไล่ออกไปเมื่อ ๑๐ นาทีที่ผ่านมา ถูกไล่ออก กลางอากาศ ทำให้เราเห็นปัญหาของการจัดตั้งสหภาพ ถ้าบริษัทนั้นไม่เอาด้วย คุณมีสิทธิ ถูกไล่ออก และอย่าง Case นี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนั้น ก็ยังไม่มีสหภาพ แล้วก็ไม่มีใครกล้าตั้งด้วยนะครับ ท่านอาจจะลองถามเจ้าหน้าที่ให้ผมก็ได้ว่า เป็นจริงหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมสนับสนุนอยากให้รัฐไทยของเราร่วมลงนามในอนุสัญญา ILO 87 และ ILO 98
ปัญหาอื่น ๆ ที่เราเห็นนะครับ ค่าแรงไม่เป็นธรรม งานที่มีความเสี่ยงสูง อุปกรณ์ป้องกันไม่เพียงพอ ปัญหาการทำงานเกินเวลา ผมสนใจปัญหาของแรงงาน จนผมต้องไปเรียน Course แรงงานก้าวหน้า แล้วก็ด้วยความสนใจมากก็เลยได้รับเลือก เป็นประธานรุ่น ๑ ด้วยนะครับ ทำให้ผมได้รู้จักกับเพื่อน ๆ ที่ทำแรงงานในหลาย ๆ ภาคส่วน อย่างเช่น กลุ่มแรงงานสร้างสรรค์ก็บ่นอยู่เสมอนะครับว่าทำงานไม่เป็นเวลา หลายครั้ง ทำงาน ๑๖ ชั่วโมงต่อวัน ต่อเนื่องกันหลาย ๆ วัน เวลาถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร ถ่ายกัน ๑๖ ชั่วโมงต่อวัน อันนี้ก็คือปัญหาการทำงานเกินเวลาแล้วก็นายจ้างก็ไม่ได้ให้ค่าตอบแทน ที่สมเหตุสมผล
อีกปัญหาหนึ่งก็คืออาชีพหมอ พยาบาลทำงานกันหนักเช่นกัน โดยเฉพาะ หมอหลาย ๆ คนนี่ คนปกติทำงานกัน ๘ ชั่วโมงต่อวัน แต่หมอไทยเฉลี่ยทำงานกัน ๑๖ ชั่วโมงต่อวัน ท่านทราบกันหรือเปล่าครับว่าหมอไทยทำงานหนักขนาดนั้น แล้วเวลา พักผ่อนเพียง ๓-๔ ชั่วโมง ตรงนี้เวลามารักษาเรานี่ เราจะเชื่อได้อย่างไรครับว่าหมอ จะมีประสิทธิภาพเต็มร้อยในการรักษาแล้วก็หลาย Case วินิจฉัยผิดพลาดนะครับ แต่เราไม่รู้ อันนี้คือเพื่อนหมอบอกกันมาเองผมไม่ได้พูดเอง ท่านสามารถที่จะติดต่อได้ หมอหลาย ๆ ท่าน ก็จะพูดเหมือน ๆ กันตรงนี้นะครับ
เรื่องสุดท้าย ก่อนที่จะจบผมก็จะฝากทุกท่านให้ไปช่วยกันลงทะเบียน เพื่อเลือกตั้ง Board ประกันสังคม Board ประกันสังคมคือคนที่จะบริหารเงินประกันสังคม ให้กับพวกเรา เงินจำนวนมหาศาลหลาย ๆ ล้านล้านบาท ถ้าท่านเคยจ่ายเงินประกันสังคม ท่านควรจะไปเลือกตั้ง อันนี้เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสเลือกตั้ง Board ประกันสังคมด้วยตัวเอง เป็นประวัติศาสตร์ของไทยอย่าลืมไปเลือกตั้งกันแล้วก็ท่านสามารถลงทะเบียน แล้วก็เลือกจุดเลือกตั้งได้ จังหวัดหนึ่งอาจจะมีแค่ ๑ หรือ ๒ จุด เดินทางกันไกลหน่อย แต่ถ้าจะมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ของเราที่จะเลือกตั้ง Board ที่ท่านเลือกมาเอง ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ท่านประธานครับ ผมขอมีส่วนร่วม อภิปรายญัตติเกี่ยวกับหนี้สินครัวเรือนและค่าครองชีพราคาสูงนะครับ
เมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วนะครับ ผมเกิดมาก็ได้ยินว่าประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา ผ่านมา ๔๐ ปีเราก็ยังกำลังพัฒนา แล้วต่อไปอีก ๔๐ ปีข้างหน้าเราก็ยังกำลังพัฒนาอยู่ ถ้าเรายังทำเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวผมจะมีข้อเสนอแนะให้ข้างหลังนะครับ ตอนนี้เราไม่อยากจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาแล้ว กำลังพัฒนาอยู่ กำลังพัฒนาต่อ มันไม่มีประโยชน์เลยนะครับ วันนี้ผมก็จะมาให้ดูก่อน เรื่องของค่าแรงของประเทศที่พัฒนาแล้วว่าเขาเป็นอย่างไร อันนี้ของสหรัฐอเมริกาเฉลี่ย ทั่วประเทศอยู่ที่ ๑๑ เหรียญต่อชั่วโมง หรือชั่วโมงละ ๓๙๖ บาท วันหนึ่งก็ ๓,๑๖๘ บาท เห็นว่ามากกว่าประเทศไทยประมาณ ๙ เท่า ที่นิวยอร์กนี้ ๑๔ เหรียญจะมากกว่าค่าเฉลี่ยของ ทั่วประเทศ หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะค่าแรงเขาสูงสินค้าเขาก็ต้องราคาสูงไปด้วย จะให้ดูว่าจริงหรือเปล่า
อันนี้ยกตัวอย่างแชมพูยี่ห้อดังของที่นั่นนะครับ ขนาด ๒๘ Fluid Ounces ราคา ๖ เหรียญ ซึ่งก็ประมาณ ๘๒๘ มิลลิลิตร ราคา ๒๑๖ บาท ผมเทียบกับ Brand ที่ประเทศไทย Brand ทั่ว ๆ ไปก็อยู่ที่ใกล้เคียงกันขนาด ๘๕๐ มิลลิลิตร ราคา ๒๖๙ บาท ถ้าเทียบต่อหน่วยแล้วของเราแพงกว่าเขา แต่ถ้าเกิดยิ่งเทียบยี่ห้อเดียวกันของไทย จะยิ่งแพงกว่านั้นอีก ๓๐๐ กว่าบาท อันนี้จะให้เห็นว่าแชมพูของเขากับของเรา เราแพงกว่าเขา ค่าน้ำมันเบนซินของที่นั่น Regular เฉลี่ยทั่วประเทศก็อยู่ที่ ๓ เหรียญ ๕๖๕ เซนต์ ก็คืออันนี้ต่อแกลลอน ถ้าเทียบเป็นลิตรอยู่ที่ ๓๓.๙๐ บาทต่อลิตร แต่ประเทศไทย Gasohol อันนี้คือราคาของเมื่อวานนี้เลย ผมไปหาข้อมูลมา ๓๗.๕๘ ค่าน้ำมันเราก็แพง กว่าเขา ค่าเนื้อไก่อันนี้เนื้อสดของเขาก็แพงกว่าเรา อันนี้ของเขาแพงกว่าเราประมาณ ๒ เท่า อันนี้ก็จะให้ดูว่าบางอย่างเขาแพงกว่าเรา บางอย่างเราแพงกว่าเขา ไม่ใช่ว่าเขาแพงกว่าเรา ทุกอย่าง แต่อย่าลืมค่าแรงเขามากกว่าเรา ๙ เท่า อันนี้มาดูค่าเดินทางบ้าง ผมให้ดู ค่าเดินทางของตั๋วที่นิวยอร์ก Metro ทำไมผมถึงยกตัวอย่างนิวยอร์กเพราะว่าผมอยู่ที่นั่นมา ๑๐ ปีผมจะมีข้อมูลที่นั่นมากพอสมควร นิวยอร์ก Subway จะมี ๓๐ วัน คือนั่งเท่าไรก็ได้ ไม่จำกัด ๓๐ วัน อยู่ที่ ๑๓๒ เหรียญ หรืออยู่ที่ ๔,๗๕๒ บาท แต่ถ้าเกิดเรามาดูเมืองไทย ของที่นิวยอร์กค่าเดินทางเขารวมรถเมล์ รถไฟฟ้า รวมหมดทุกอย่างเลย นั่งกี่รอบก็ได้ต่อวัน นั่งได้เต็มที่เลย ของไทยค่าเฉลี่ยเดินทางเที่ยวหนึ่ง ๖๐ บาท ไปกลับ ๑๒๐ บาท หรือ ๓๐ วัน ก็ ๓,๖๐๐ บาท ใกล้เคียงกันมาก แล้วถ้ามาดูปทุมธานีที่เพื่อนผมของผมเชตวันพูดไป เมื่อสักครู่ค่าใช้จ่ายเฉพาะการเดินทางเราเฉลี่ยอยู่ที่ ๙,๒๐๐ บาทต่อเดือน คนปทุมธานี สาเหตุเกิดจากอะไร เพราะเราไม่มีรถไฟฟ้าเข้าถึงครับ รถเมล์สาธารณะก็น้อยมาก คนต้องใช้ รถส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่ เรามาดูว่าถ้าเกิดค่าใช้จ่ายเราสูง หนี้ครัวเรือนเราจะสูงจริงหรือเปล่า อีกแล้วนะครับปทุมธานีของผมอีกแล้ว หนี้ครัวเรือนสูงที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าอะไร เพราะว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนเราก็สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ ๓๐,๐๐๐ กว่าบาทต่อเดือน หนี้ครัวเรือนสูงที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อค่าใช้จ่ายสูง หนี้ก็ต้องสูงตามไปด้วยอันนี้สัมพันธ์กัน แบบว่าเป็นทางตรงเลย สัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนี้ครัวเรือนของปทุมธานีอยู่ที่ ๒๘๘,๑๐๐ บาทต่อครัวเรือน อันนี้ผมจะให้ดูสาเหตุของสินค้าราคาแพงบ้านเราเกิดจากอะไร ผมอยู่นิวยอร์กเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว คือผมกลับมาเมืองไทยแรก ๆ ผมยังซื้อสินค้า จากเมืองไทยกลับไปใช้ที่นิวยอร์กเพราะว่าราคาถูกกว่า จำได้ว่ายาสีฟันหลอดละ ๑๕ บาท ๑๘ บาท แต่หลัง ๆ อยู่ไป ๓-๔ ปีกลับมาเมืองไทยซื้อไม่ไหวแล้วครับ เพียงแค่ ๓-๔ ปี ราคาสูงขึ้นมาก สูงเพราะอะไร เท่าที่ผมสังเกตดูก็คือว่าประเทศไทยเรามีร้านสะดวกซื้อ เยอะมาก ร้านสะดวกซื้อตอนนี้มี ๑๔,๐๔๗ สาขา อันนี้ยี่ห้อเดียว แต่ถ้าดูที่นิวยอร์กจะเป็น Grocery Store ร้านค้าชำอย่างนี้แทบจะทุกหัวมุมตึก เราจะเจอแต่ร้านค้าชำจะไม่ค่อย เจอร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นลักษณะของร้าน Mom and Pop ก็คือลักษณะของ ครัวเรือนทำกันเอง เพราะฉะนั้นมันเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน อันนี้ก็คือจำนวน ของคนไทยที่เป็นหนี้ก็จากปี ๒๕๖๐-๒๕๖๕ ครอบครัวที่เป็นหนี้จาก ๓๐-๓๗ เปอร์เซ็นต์ หนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อันนี้จะให้ดูว่าหนี้คนไทยเยอะมาก ๆ เลย คนไทยมีหนี้หลายบัญชี แต่ละคนมีหนี้ ๔ บัญชีขึ้นไป มีทั้งเครดิตการ์ด มีทั้งผ่อนรถ ผ่อนบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้ต่อ GDP เราเทียบกับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างเรา อย่างเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อินเดียก็สูงเหมือนกันเราสูงที่สุดเลย ประเภทหนี้ ของเราน่ากังวลเป็นประเภทหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ๒ ใน ๓ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อย่างเช่น สินเชื่อส่วนบุคคล ๓๙ เปอร์เซ็นต์ บัตรเครดิต ๒๙ เปอร์เซ็นต์ส่วนหนี้ที่สร้างรายได้เรามี น้อยมากเลย อย่างเช่น สินเชื่อบ้าน ๔ เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจ ๔ เปอร์เซ็นต์ หนี้เสียก็สูง อันนี้ จะให้ดูคนที่เป็นหนี้มาก ๆ ก็คือเกษตรกรกับผู้มีรายได้ต่ำ
แนวทางแก้ไขของเรา ทุกยุค ทุกสมัยมาเราก็จะบอกว่าเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย มะนาวแพงก็ไปปลูกมะนาวเอง หมูแพงก็เลิกกินหมู กินไก่แทนอะไรอย่างนี้ คือการแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยถูกจุด ทุกรัฐบาล ทุกสมัยเราก็ทำอย่างนี้ พัฒนาทักษะอาชีพ มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ มีพักชำระหนี้ ให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ บริหารจัดการน้ำ พยุงราคาสินค้าเกษตรทำกันทุกสมัย เราไม่เคยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และผมมีแนวทาง อย่างไร ผมแนะนำ Slide ถัดไปเลยครับ อันนี้ต้องการให้เป็นรัฐสวัสดิการ เป็นแนวทาง ที่พรรคก้าวไกลเรายึดถือแล้วก็พยายามผลักดันให้ทุกช่วงวัยมีสวัสดิการ คนชราได้ ๓,๐๐๐ บาท ตั้งแต่แรกเกิดตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ทุกคนมีสวัสดิการ ทำให้ทุกคน มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันให้ความรู้ด้านการเงิน ให้กฎหมายแรงงานที่เป็นธรรมอย่างที่ผมพูดไป เมื่อวาน ILO 87 ILO 98 ทลายทุนผูกขาดอันนี้สำคัญ เมื่อสักครู่พูดไปแล้วทลายทุนผูกขาด จะทำให้สินค้าราคาถูกลงอย่างมากเลย ปลดล็อก SMEs ให้ SMEs สามารถมีศักยภาพ ในการแข่งขันได้เต็มที่ กระจายอำนาจเมื่อสักครู่ท่านมานพ คีรีภูวดล ก็ได้พูดไป แล้วก็ เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ให้เกษตรกรที่มีรายได้ต่ำ หนี้สูงได้ปลดหนี้แล้วก็มีรายได้ แล้วก็ สุดท้ายก็คือการกระจายรายได้ ทั้งหมดก็จะทำให้เราแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ ขอบคุณมากครับ ท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ลำลูกกา ธัญบุรี และหนองเสือ พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้ สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการดูแลเด็ก เยาวชนและความมั่นคงของสถาบันครอบครัว คนที่รู้จักเยาวชนดีที่สุดก็คือคนที่อยู่ใกล้ชิด และคลุกคลีกับเยาวชน บางครั้งช่องว่างระหว่างวัยอาจทำให้หลายท่านไม่เข้าใจเยาวชน หลายท่านในที่นี้อายุ ๖๐ ปีแล้ว แต่เยาวชนอายุเพียง ๑๖ ปี เพราะฉะนั้นช่องว่างระหว่างวัย ถ้าท่านไม่พยายามเข้าใจเด็กท่านจะเกิดช่องว่างออกไปเรื่อย ๆ อย่างเช่นกรณีที่ท่านบอกว่า เด็กอายุ ๑๔ ปีกราดยิง อันนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ผมเองก็ตกใจ อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ แต่ท่าน อย่าลืมว่าทหารกราดยิงก็มีเช่นกันนะครับ เพราะฉะนั้นการจะโทษเด็กอย่างเดียวก็ไม่เป็น ที่ยุติธรรม มีทุกอาชีพ ทุกสาขา ทุกอายุ ทุกช่วงวัยที่มีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะเด็ก แล้วการที่เด็ก ติดยาเสพติดเราจะโทษเด็กอย่างเดียวหรือครับ หรือเราจะโทษผู้ใหญ่ดี ทุกวันนี้ยาเสพติด เกลื่อนเมืองแล้วก็หาซื้อกันได้ง่ายมาก ยาบ้า ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท เป็นไปได้อย่างไรครับ สมัย ๑๐-๒๐ ปีที่แล้วยาบ้ายังเม็ดละ ๓๐๐ บาทอยู่เลย แล้วเด็กจะเข้าถึงได้หรือเปล่า ในช่วงนั้นไม่มีทางเข้าถึงได้แน่นอน แต่ตอนนี้ยาบ้า ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท เราจะโทษเด็ก อย่างเดียวหรือครับ อยากฝากให้ท่านคิดด้วยนะครับ และยุคที่ผมเติบโตมาเราไม่มีสื่อ Internet เราฟังแต่วิทยุ TV เราอ่านหนังสือพิมพ์ เราดูละครตบจูบ ทหารเกณฑ์ยอดรัก ละครเหล่านี้บันเทิงปัญญาไหมครับ แล้วสิ่งที่เรารับฟังมาเป็นการสื่อสารทางเดียวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น TV วิทยุ หนังสือพิมพ์ เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็น ไม่สามารถโต้แย้ง ไม่สามารถถกเถียงประเด็นกับใครเลย แต่สื่อทุกวันนี้คือสื่อ Social Media ซึ่งสามารถทำให้ ทุกคนจากทุกมุมโลกสามารถแสดงความคิดเห็นถกเถียงกันอย่างถูกต้อง มีประเด็น สามารถ โต้แย้งได้ ใครส่ง Fake News มาเราก็สามารถโต้แย้งได้ อย่างใน LINE ทุกวันนี้ก็ยังมี Fake News ส่งมาเรื่อย ๆ แล้วผมก็ไม่เคยเห็นเด็กส่งมาเลย เยาวชนไม่เคยส่ง Fake News มาให้ผมเลย ท่านอย่าโทษแต่เด็กนะครับ ท่านต้องดูด้วยว่าสิ่งที่เรารับสารสมัยก่อนนั้น เรารับสารแบบไหน แล้วเยาวชนสมัยนี้เขาโตมากับเทคโนโลยี การพัฒนาสมองของเขา ก็จะไวกว่าเราแน่นอน ถ้าท่านไม่เคยคุยกับเยาวชนนะครับ ลองเข้าไปคุยกับเขา ฟ้งเขาพูดแล้วท่านจะทึ่งในความคิด ความอ่านของเยาวชนยุคนี้จะต่างกับยุคเรามาก ๆ เราฟังสื่อทางเดียว เมื่อก่อนเราก็เอาไป พูดแบบนกแก้วนกขุนทองไม่สามารถที่จะเข้าใจประเด็นได้อย่างลึกซึ้ง แล้วก็ท่านไม่ต้อง กังวลว่าเด็กนี่จะพาประเทศถอยหลัง เพราะเยาวชนยุคนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ประเทศ ทุกวันนี้ก็ถอยหลังอยู่แล้ว ๕๐ ปีที่ผ่านมา เราแข่งขันกับเกาหลีใต้ ๒๐ ปีที่ผ่านมา เราแข่งขันกับ มาเลเซีย แล้ว ๑๐ ปีที่แล้ว เราแข่งขันกับอินโดนีเซีย ตอนนี้สบายใจได้แล้วครับ เราไม่ต้องแข่ง กับใครแล้ว เขาทิ้งเราไปหมดแล้ว เพราะเรา ๙๐ ปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยเราโดนรัฐประหาร ไป ๑๓ รอบ แต่ละครั้งเราฉีกรัฐธรรมนูญ เขียนกฎหมายใหม่ ยึดอำนาจกลับคืนมาที่ทหาร ประชาชนได้อะไร อำนาจเราถูกถอนออกทุกครั้ง ๆ ที่มีการทำรัฐประหาร สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ ทำประเทศถอยหลังมากกว่าเยาวชน เยาวชนเขาแค่เห็นต่างคุณก็จับเขาเข้าคุกแล้ว เขามา ชุมนุมกันยังไม่ทันข้ามวันคุณก็เอาน้ำไปฉีดแล้ว เราไม่ต้องมองไปไกลเลย แล้วทุกวันนี้สิ่งที่ เยาวชนเขาเห็นเราทำ เขาเห็นอะไรบ้าง ยาเสพติดจับได้แต่ละครั้งคนมีสีอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น ทั้งบ่อนการพนัน การพนัน Online ล่าสุดก็กำนันคนดังที่ยิงตำรวจมีภาพตำรวจเข้าไป สวามิภักดิ์กำนันเต็มไปหมด สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เด็กเห็น เด็กเขาไม่ได้ทำประเทศถอยหลังเลย ท่านพิจารณาได้ไหมครับว่าใครทำประเทศถอยหลัง คนที่ติดคุกคดียาเสพติดได้เป็นรัฐมนตรี ทายาทเจ้าสัวชนตำรวจตายก็หนีไปต่างประเทศ มีคนคอยปกป้องเป็นขบวนการเลยครับ และผู้ที่ปกป้องนี่คือใคร อดีต ผบ.ตร. อดีตรองอัยการสูงสุด และคนมีสีระดับสูงจำนวนมาก อันนี้เด็ก เยาวชนทำหรือเปล่าครับ ปัญหาสังคมทุกวันนี้ไม่ได้เกิดจากเยาวชนนะครับท่าน เกิดจากใคร ท่านลองคิดดูสิ่งที่ผมพูดนำไปคิดได้ไหมครับ แล้วตำรวจดี ๆ มีไหมครับ มีครับมี แล้วตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศแล้วครับ พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทำคดีค้ามนุษย์ โรฮิงญา ทำให้นายทหารระดับสูงพลโทท่านหนึ่งติดคุกไปแล้ว ทำเสร็จแล้วเกิดอะไรขึ้น เขาถูกขู่เอาถึงชีวิต ต้องหนีจากนายตำรวจที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ นายตำรวจที่มีอนาคตไกล ต้องหนีไปอยู่ออสเตรเลีย ไปทำงานโรงงานเย็บกระดุมได้ค่าแรงขั้นต่ำ คนทั่วไปเขาจะไป อย่างนั้นไหมครับ แค่นี้ท่านพิจารณาได้ว่าคนดีอยู่ไม่ได้ คนไม่ดีอยู่ในประเทศนี้ได้ แล้วเด็กที่ เขาโตมาตอนนี้เขาอยากจะโตมาในสังคมแบบนี้หรือครับท่าน เขาต้องการเปลี่ยนแปลง เขาต้องการทำประเทศนี้ให้ดีขึ้นเพื่อตัวเขาเองแล้วก็ลูกหลานของเขาครับท่าน ผมเห็น ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมาอภิปรายเลยในประเด็นนี้ แต่เมื่อเห็นผู้ใหญ่พูดอย่างนั้นผมจึงต้องไปลง ชื่ออภิปรายนะครับวันนี้ เพราะผมทนเห็นไม่ได้ที่เด็กถูกประณาม อะไร ๆ ก็โทษแต่เด็ก เยาวชนว่าไม่เห็นด้วย คิดนอกกรอบ ทำตัวแปลกแยก สิ่งเหล่านี้อยากให้ท่านลองพิจารณาว่า เป็นเพราะเด็กหรือเป็นเพราะผู้ใหญ่ที่ทำให้สังคมเราเป็นอย่างทุกวันนี้ครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ขอเสนอรายชื่อ กรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการ Landbridge ในสัดส่วนพรรคก้าวไกล จำนวน ๘ ท่าน ดังนี้ ๑. คุณศิริกัญญา ตันสกุล ๒. คุณจุลพงศ์ อยู่เกษ ๓. คุณประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ๔. คุณศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ๕. รองศาสตราจารย์สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์ ๖. ผู้ช่วยศาสตราจารย์อาทิตย์ เพชรศศิธร ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง ๘. คุณหาญณรงค์ เยาวเลิศ ขอบคุณครับ ขอผู้รับรองครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ท่านประธานครับ เราเคยมี คณะกรรมาธิการที่ศึกษาเรื่อง Entertainment Complex มาแล้ว ผมก็ไม่ทราบว่า เรารออะไรอยู่ อันนี้ผมสนับสนุนเต็มที่เลย แล้วอยากให้คณะกรรมาธิการวิสามัญครั้งนี้ พุ่งเล็งเป้าไปที่การก่อสร้างให้ได้เลย เพราะว่าอันนี้จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ แล้วก็คนในพื้นที่มาก ๆ เลยนะครับผมขอแบ่งการอภิปรายเป็น ๒ ส่วน ส่วนของการพนัน Online และส่วนของ Entertainment Complex
ในเรื่องของการพนัน Online ปัญหาก็คือว่าเยาวชนทุกวันนี้เข้าถึงได้ง่าย มาก ๆ เลย มีการคุ้มครอง Website การพนันโดยคนมีสีแน่นอนเพราะว่า Website เหล่านี้ ไม่ถูกปิดลง ต้องมีการจ่ายส่วยไม่เช่นนั้นโดนปิดแน่นอน Website การพนันเหล่านี้มีเกลื่อน มาก ๆ เลย แล้วก็โกงกันง่ายมาก ๆ เลย แรก ๆ เขาจะหลอกให้ท่านเข้าไปเล่นแล้วก็จะได้เงิน สิ่งที่คนไทยชอบเล่นมากที่สุดคือ Slots กับ Baccarat เข้าไปปุ๊บเขาก็จะเซตค่าว่าคุณจะชนะ ๘ ใน ๑๐ ครั้ง คุณเล่นครั้งละ ๕๐ บาท ๑๐๐ บาทคุณจะชนะบ่อย ๆ เมื่อชนะบ่อย ๆ คุณจะเพิ่มเงินลงไปเรื่อย ๆ แล้วเขาก็จะเซตค่าใหม่เหลือ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ คือชนะบ้าง แพ้บ้าง สุดท้ายคุณก็อยากได้เงินเยอะ ๆ คุณก็เซตลงไปเลยตาละ ๑๐,๐๐๐ บาท เขาก็จะเซต ค่าตรงนี้ให้เหลือชนะประมาณ ๒๐-๓๐ เปอร์เซ็นต์ เมื่อคุณแพ้เขาไปคุณก็อยากได้เงินคืน คุณอยากได้กำไรเยอะ ๆ เหมือนตอนแรก ๆ ที่คุณเล่นนะครับ อันนี้คือการโกงกันง่าย ๆ เลย การพนัน Online นี่น่ากลัวมาก ๆ ถ้ามีการควบคุมอย่างถูกกฎหมายเราจะต้องจำกัดอายุ ของเยาวชน แล้วก็ป้องกันการโกงตรงนี้ และ Website เหล่านี้ก็จะไม่ต้องจ่ายส่วยอีกต่อไป แต่มาจ่ายภาษีให้กับรัฐนะครับ ในเรื่องของการพนัน Online ปัญหาที่ผมบอกก็คือว่าประชาชนนี่ถึงแม้เราจะทำให้ ถูกกฎหมาย ประชาชนอาจจะเข้าถึงง่ายเกินไป กลับมาจากที่ทำงานก็กลับมาเล่น ๆ จะเป็น ปัญหาสังคมและปัญหาครอบครัวด้วยตามมา เมื่อคนติดการพนันปุ๊บก็จะมีปัญหาครอบครัว แน่นอน แล้วก็การพนัน Online เรื่องที่ ๒ ก็คือว่าไม่ได้สร้างธุรกิจด้านท่องเที่ยวเลย ผมจะยกตัวอย่างของสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกามีประมาณ ๕๐ รัฐ เขาจะปล่อยให้แต่ละรัฐ สามารถที่จะออกกฎหมายของตัวเองได้ จะมีอยู่ประมาณ ๓๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ให้มี การพนัน Online ถูกกฎหมาย ที่เหลือจะไม่ถูกกฎหมาย อันนี้ก็ลองศึกษากันดูนะครับว่า เหตุใดถึงไม่ถูกกฎหมาย
เรื่องที่ ๒ Entertainment Complex ที่มีกาสิโนด้วย อันนี้ผมเห็นด้วย แต่สถานที่จะก่อสร้างนี่ผมไม่สนับสนุนให้ก่อสร้างในเมืองหรือว่าในที่ชุมชนนะครับ อยากให้ ท่านไปสร้างในพื้นที่ที่ทุรกันดาร พื้นที่ที่แห้งแล้ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการสร้างพื้นที่ตรงนั้น ให้เป็นย่านธุรกิจ สร้างรายได้ให้กับชุมชนตรงนั้น เพราะถ้าเกิดเราสร้างในเมือง ใน City ในชุมชนก็จะเหมือนกับที่เพื่อนของผมได้พูดมา คุณนนท์ที่บอกว่าจะไปทำลายธุรกิจ ในละแวกนั้นแทนที่จะสร้างธุรกิจ แต่ถ้าเกิดเราไปสร้างในถิ่นทุรกันดารเหมือนที่ลาสเวกัส ที่มีแต่ทะเลทราย พอเข้าไปสร้างปุ๊บกลายเป็นแหล่งรายได้มหาศาลตรงนั้น ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญที่ลาสเวกัสไปมา ๒๐ กว่ารอบแล้ว ไม่ใช่ว่าผมติดการพนันนะครับ แต่ว่าผมอยู่ นิวยอร์กแล้วเวลาเพื่อนมาเที่ยว เขาก็จะให้พาไป ๒ แห่งก็คือลาสเวกัสหรือไม่ก็ไนแองการ่า มีแค่ ๒ ที่เท่านั้นที่เขาอยากจะไปกัน เพราะฉะนั้น Entertainment Complex คือสถานที่ ท่องเที่ยว ผมไม่ได้มองว่าเป็นสถานที่เล่นการพนันเท่านั้น
เรื่องสุดท้ายนะครับ การสร้าง Entertainment Complex ผมไม่คิดว่า สร้างแล้วบ่อนการพนันในเมืองไทยจะหมดไป บ่อนเถื่อนนะครับ เพราะว่าถ้าเกิดเราไปสร้าง ในพื้นที่ทุรกันดารอย่างที่ผมบอก มันจะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายที่คนจะต้อง เสียเวลาไปเล่น เพราะฉะนั้นบ่อนเถื่อนในพื้นที่ก็ยังคงมีอยู่ ผมอยากให้มีหน่วยงานพิเศษ โดยเฉพาะที่จะมาควบคุมดูแล Entertainment Complex ตรงนี้ เนื่องจากเรารู้อยู่แล้วว่า เจ้าหน้าที่ที่เรามีอยู่ปัจจุบันนี้ไม่สามารถปิด Website ได้ ไม่สามารถกำจัดบ่อนเถื่อนได้ เราอาจจะต้องมีองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อมาควบคุมกำกับดูแลตรงนี้ แล้วก็ มีหน่วยงานเฉพาะกิจที่จะสามารถทลายบ่อนเถื่อน หรือว่าสามารถที่จะไปปิด Website ได้ โดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานอื่นของภาครัฐ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ผมขอร่วมอภิปรายญัตติการแก้ปัญหาลิง ให้อยู่ร่วมกับชุมชนได้ ในที่นี้ผมมองเห็นว่าปัญหาของลิงจะคล้าย ๆ กับปัญหาหมาแมวจร เหมือนกับที่เพื่อน สส. ของผมได้พูดไป คุณเท่าพิภพนะครับ ในเรื่องนี้การจะแก้ปัญหาลิง มันเป็นของความ Sensitive ด้วย เราต้องระวังว่าจะมีปัญหากับต่างประเทศอย่างที่เราเคยได้เห็นนะครับว่า เมื่อมีคลิปว่า เราใช้ลิงปีนต้นไม้ ต้นมะพร้าว เกิดปัญหาทันที เราถูกต่างชาติ Brand ไม่ให้มีสินค้าเหล่านี้ ใน Shelf ของต่างชาตินะครับ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาตรงนี้จะ Sensitive มาก ๆ ผมเคย ไปที่บางขุนเทียน ไปบ่อยมาก แล้วก็มีเพื่อน มีญาติพี่น้องอยู่ที่นั่น ปัญหาของที่นั่นก็คือ ก็จะมีลิงประมาณ ๔๐๐ ตัวอยู่ที่บางขุนเทียน ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ลิงเหล่านี้เกิดอะไรขึ้น เขาอยู่ในป่ามานานแล้ว อยู่ในป่ามาสักพักหนึ่งแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คือว่ามีการสร้างโรงงาน สร้างหมู่บ้าน กินพื้นที่ป่าไปเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้ลิงเหลือน้อยลง แล้วก็ไม่มีที่อยู่ แหล่งอาหารก็น้อยลง ทำให้ลิงต้องมาหาอาหารข้างถนน มารอรับอาหาร จากคน แล้วปัญหาก็คือเกิดอุบัติเหตุ มีรถชน ลิงถูกรถชนบ่อยครั้งมากเลยนะครับ ถ้าท่าน ขับรถไปตรงนั้นท่านจะเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แล้วอีกปัญหาหนึ่งก็คือว่าเมื่อลิง ไม่มีอาหารก็จะไปบุกรุกบ้านคน ไปขโมยสิ่งของหรืออาหาร สิ่งของที่คิดว่าเป็นอาหารเขา ก็ขโมยนะครับ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน บางครั้งก็กัดคนด้วย อันนี้คือไม่ใช่ความผิด ของลิงนะครับ แต่เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกันของคนกับลิง นอกจากนี้ปัญหาที่ว่ามีการ ทำหมันลิงแล้วจะช่วยแก้ปัญหาประชากรลิงได้หรือไม่ ตรงนี้เป็นข้อที่ต้องพิจารณาดี ๆ เลย อย่างการทำหมันหมาแมวจรก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจำนวนประชากรนะครับ ผมได้ศึกษา เรื่องของหมาแมวจรอยู่ระยะหนึ่ง บ้านผมเองก็เลี้ยงแมวจรอยู่ประมาณ ๑๔ ตัว แล้วก็ บ้านน้องสาวอีก ๙ ตัว เราเลี้ยงดูอย่างดี แต่ว่าการนำมาเลี้ยงในบ้านก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา เช่นกันนะครับ ปัญหาของหมาแมวจรเกิดจากแหล่งอาหารธรรมชาติหรือแหล่งอาหาร ที่คนให้มานะครับ สมมุติว่าในหมู่บ้านนี้มีแหล่งอาหารสำหรับหมาแมวจร ๑๐๐ ตัว ก็จะมี ประชากรหมาแมวจรประมาณ ๑๐๐ ตัวอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะอยู่ประมาณเท่านี้ เพราะว่าขึ้นอยู่กับแหล่งอาหาร ถ้าคุณจับไปทำหมัน ๑๐๐ ตัว มีการตายเกิดขึ้น ไม่มีการเกิด ในที่นั้น ก็จะมีหมาจรจากที่อื่นวิ่งเข้ามาอยู่ดีจำนวน ๑๐๐ ตัวเท่ากัน ไม่ว่าคุณจะเอากลับบ้าน ไปเลี้ยง ๕๐ ตัว สักพักก็จะกลับมาเป็น ๑๐๐ ตัวเท่าเดิม เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับแหล่งอาหาร จึงอยากให้ท่านพิจารณานะครับ ลิงก็เช่นกัน ลิงก็เกิดจากแหล่งอาหารเหมือนกัน ถ้าเขามี แหล่งอาหารเพียงพอที่จะอยู่ ๑๐๐ ตัวเขาก็จะอยู่ประมาณ ๑๐๐ ตัว จะไม่มากไปกว่านี้ หรืออาจจะมีน้อยลงถ้าเราจับทำหมันเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นปัญหาที่อยากให้พิจารณาก็คือว่า ไม่ใช่ว่าทำหมันอย่างเดียวแล้วจบ ควรจะมีการจัดแหล่งพื้นที่ให้กับลิงเป็นพื้นที่ปิดหรือ พื้นที่ที่ไม่เกิดอันตรายกับสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เพราะถ้าเกิดเราจับลิงจำนวนมากไปไว้ป่า แหล่งใดแหล่งหนึ่งก็จะไปทำลายระบบนิเวศในป่านั้นอีกเช่นกัน ปัญหานี้ค่อนข้าง Sensitive แล้วต้องการคณะวิสามัญเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง ซึ่งเรื่องของลิงบางขุนเทียน ผมขอย้อนกลับ ไปนิดหนึ่ง ตรงนี้ก็ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัชชาติก็ได้ลงมาดูแล้ว แล้วก็กำลังหาทางแก้ไข ปัญหาอยู่ อาจจะมีการศึกษาร่วมกันระหว่างบางขุนเทียนกับลพบุรี หรือว่าที่อื่น ๆ เพื่อจะได้ ป้องกันปัญหาของลิง แล้วก็ในอนาคตผมก็อยากให้แก้ปัญหาของหมาแมวจรด้วย แล้วผม ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในนั้นที่จะช่วยแก้ปัญหา แล้วก็หาทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนโดยที่ ไม่ได้ทำร้ายจิตใจของพุทธศาสนิกชนนะครับ เราไม่ฆ่าสัตว์ แล้วเราก็หาทางออกที่ดีที่สุด ให้กับสุนัข แมวจร ลิงจร หรือแม้แต่ตัวเงินตัวทองที่คุณเท่าพิภพได้พูดไป ก็อยากฝากทุกท่าน ช่วยกันลงมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญในการแก้ปัญหาลิงที่อยู่กับชุมชนด้วย เพื่อจะเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะแก้ปัญหาอื่น ๆ ต่อไป ขอบคุณมากครับท่านประธาน
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอธัญบุรี อำเภอหนองเสือ แล้วก็อำเภอลำลูกกา ขอสไลด์ด้วยครับ
ปัญหาของอำเภอลำลูกกาตอนนี้ ก็คือเรื่องฝุ่นพิษ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย เมื่อวันที่ ๘ มกราคม อากาศมีปัญหา มาก ๆ เลย แล้ววันนี้ก็อยู่อันดับที่ ๓ คลิปต่อไป อันนี้ปัญหาเกิดจากอะไร ลองดูนะครับ เป็นการเผานาอันนี้ถ่ายจากชั้น ๒ ของหมู่บ้าน เผากันติด ๆ กันอย่างนี้เลย แล้วก็อากาศเป็น อย่างนี้ ซึ่งทำให้มีปัญหาตามมาตรา ๒๒๐ ผู้ที่เผา แล้วทำให้น่าจะเกิดอันตรายนี้ มีโทษจำคุก ไม่เกิน ๗ ปี ปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท แต่ปรากฏว่าไม่เคยมีการปรับจริงหรือว่าจำคุกจริง ทำให้เกิดปัญหาอย่างนี้เต็มไปหมดในพื้นที่ภาคกลาง แล้วก็อำเภอลำลูกกา แล้วรวมไปถึง กรุงเทพมหานครด้วย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาทั้งเกษตรกร แล้วก็ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ร่วมกัน
เรื่อง ๒ ก็คือปัญหาของรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ดูสภาพการวิ่งถนนตรงนี้ เป็นถนนเลียบคลอง ถนนเล็ก ๆ เท่านั้นเอง แต่รถบรรทุกดิน รถพ่วงวิ่งขนาดนี้ อบต. ซ่อมเท่าไรก็ไม่อยู่พังขนาดนี้ รถวิ่งไม่ได้ เวลาซ่อมก็ปิดถนนกัน ๒ เดือน ๓ เดือนเลย ประชาชนเดือดร้อน
เรื่องที่ ๓ เป็นเรื่องของการโฆษณา สไลด์ถัดไปการหลอกโฆษณาว่าเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ อันนี้จะเป็นการปลอมว่าเป็นตำรวจรับแจ้งความ Online แล้วก็มี การโฆษณาบนสื่อ Social ขนาดใหญ่ ประชาชนเดือดร้อนอยู่แล้ว ถูกหลอกเงินถูกแก๊ง Call Center หลอกเงิน พอ Search ขึ้นมาปุ๊บก็จะมาเจอแจ้งความ Online แบบนี้ โดนหลอก ซ้ำซ้อนไปอีกมีคนถูกหลอกอย่างนี้เยอะ สื่อ Social ปล่อยให้โฆษณาได้อย่างไร อยากให้ กระทรวง DE เชิญเจ้าของสื่อ Social ขนาดใหญ่ แล้วก็มาพูดคุยกัน เรื่องแบบนี้แก้ไขได้ง่าย มากเลย ยุคนี้เรามี AI แล้ว ใช้ให้เป็นประโยชน์ ตรวจจับได้ไม่ยากเลย หรือแม้แต่ให้คน ช่วยกัน Report ก็ได้ อยากให้ท่านประธานดูแลเรื่องนี้ด้วย แล้วก็ถ้าเกิดว่าท่านไม่มีข้อมูล มาติดต่อผมได้ ผมจบทาง IT มา ผมช่วยได้เยอะเลยตรงนี้ อยากให้จัดการให้เรียบร้อยด้วย ท่านประธาน ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ ผมขอมี ส่วนร่วมอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามพรมแดน พ.ศ. .... ของ พรรคก้าวไกล ที่เสนอโดย นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ กับคณะ รวมทั้งสนับสนุนอีก ๖ ร่าง ไปพร้อม ๆ กัน ท่านประธานครับ จังหวัดปทุมธานีบ้านผมมีสัญลักษณ์เป็นดอกบัวแล้วก็ ต้นข้าว ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ แล้วจังหวัดปทุมธานีก็เป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของ ภาคกลางมาช้านาน จังหวัดปทุมธานีมีพื้นที่ ๙๕๐,๐๐๐ ไร่ ๑ ใน ๔ เป็นพื้นที่ทำนานะครับ ท่านประธาน ข้าวหอมปทุมธานีก็ได้ขึ้นทะเบียนบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือที่เรียกว่า GI ที่มี คุณภาพและมีชื่อเสียง สินค้าเกษตรของเรานอกจากข้าวหอมแล้วเรายังมีกล้วยหอมปทุมธานี แล้วก็ยังมีปลาดุกที่เป็นที่ภูมิใจของคนปทุมธานี ที่ผมกล่าวถึงเรื่องการเกษตรเพราะอะไร เพราะว่าจังหวัดปทุมธานีเรามีความภูมิใจที่เราเป็นพื้นที่เกษตร อุตสาหกรรม แล้วก็มีชุมชน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาช้านานนะครับท่านประธาน แล้วเกิดอะไรขึ้น ขอสไลด์นะครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นคืออำเภอลำลูกกา ขึ้นอันดับต้น ๆ ของประเทศฝุ่นพิษมากที่สุด ในวันที่ ๘ คืออยู่อันดับ ๑ ในวันที่ ๑๑ คืออยู่ อันดับ ๒ ของประเทศไทย ตรงนี้คือปัญหาเกิดจากอะไร ลองดูนะครับ นี่คือการเผานา ที่บอกว่าอยู่ติดกับหมู่บ้าน อันนี้คือหมู่บ้านจัดสรรถ่ายลงไป เผาที่นาประมาณนี้เลยนะครับ ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน ผมจึงอยากจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ฉบับนี้ให้กับการหยุดเผานา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องเห็นใจเกษตรกรด้วย โดยการเยียวยาเขา ให้เหมาะสมนะครับท่านประธาน อันนี้คือโรคที่เกิดจากฝุ่นมลพิษทางอากาศ จะเห็นว่า ปี ๒๕๖๓ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ปี ๒๕๖๖ ขึ้นมาเป็น ๑๖ เปอร์เซ็นต์ อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ ฝุ่นพิษก็เกิดทั้งทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ ตาอักเสบ มะเร็งปอดด้วย อันนี้คือปัญหาของ ประเทศไทยของเรา ตรงนี้ลองดูการเสียชีวิตจากโควิด เราเห็นว่าโควิดนี้อันตรายร้ายแรง ใช่ไหมครับ ในปี ๒๐๑๙ ผู้เสียชีวิตในประเทศไทย ๖๑ ราย แต่ผู้เสียชีวิตจากมลพิษ ในอากาศของประเทศไทย ๓๑,๐๑๘ ราย มากกว่ากันมหาศาลเลย และจำนวนผู้เสียชีวิตจาก โควิดทั้งหมดตั้งแต่มีมาแล้วจนถึงปัจจุบันนี้ในประเทศไทย ๓๔,๐๐๐ ราย ซึ่งพอ ๆ กับ ผู้เสียชีวิตจากปัญหาอากาศแค่ปีเดียว เราลองมาดูนะครับ เราเห็นว่าโควิดอันตรายแล้ว มลพิษในอากาศอันตรายกว่าเยอะครับ แล้วเราใช้เงินในการต่อกรกับโควิดเท่าไร พ.ร.บ. เงินกู้ ๓ ฉบับ ๑.๙ ล้านล้านบาท แล้วเราควรจะใช้งบสู้กับอากาศเท่าไรดีครับ ผมฝากเป็น ข้อคิดนะครับ
ต่อไปผมก็จะพูดถึงกฎหมายของต่างประเทศนะครับท่านประธาน กฎหมาย ของต่างประเทศ ประเทศสหรัฐอเมริกามีกฎหมายมาตั้งแต่ปี ๑๙๗๐ หรือว่า ๕๔ ปีที่แล้ว มีการแก้ไขหลายครั้ง มีการควบคุมให้เข้มข้นขึ้นทุกครั้ง มีการควบคุม ๖ ตัว ก็คือมีโอโซน มี PM มีซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ แล้วก็ตัวตะกั่ว ฝุ่น PM ก็คือตัวปัญหาสำคัญที่สุด แล้วก็ปัจจุบันทางประเทศสหรัฐอเมริกากำลังดูเรื่องของ Greenhouse Gases ก๊าซเรือนกระจกนะครับ ซึ่งกำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะอยู่ใน พ.ร.บ. อากาศสะอาดหรือว่าควรจะแยกไปอีกตัวหนึ่ง ส่วนประเทศจีน เราลองมาดูกันว่าประเทศจีน ทำอย่างไรบ้าง ปี ๒๐๐๐ หรือ ๒๔ ปีที่แล้วก็เริ่มมีการยกระดับคุณภาพอากาศ โดยการ ตรวจสอบ ก็คือ PM2.5 PM10 ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ แล้วก็โอโซน แยกการควบคุมการปล่อยมลพิษจากแหล่งที่อยู่กับที่ กับแหล่งที่เคลื่อนที่ได้ โดยแหล่งที่ เคลื่อนที่ได้ควบคุมตั้งแต่เชื้อเพลิงแล้วก็การปล่อยอากาศพิษซึ่งมีการควบคุมอย่างเข้มข้น จึงไม่แปลกใจว่ารถยนต์ปัจจุบันนี้ของประเทศจีนเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ากันมากมาย ด้วยการ ควบคุมอย่างเข้มข้นนะครับ การกำหนดมาตรฐานเหล่านี้ทำให้เกิดอะไรขึ้น ค่าเฉลี่ย PM2.5 ในเมืองใหญ่ ๆ ตั้งแต่ ปี ๒๐๑๓-๒๐๒๑ ลดลงถึง ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ๔๐ เปอร์เซ็นต์นะครับท่าน แล้วก็จำนวนผู้ป่วย จากระบบทางเดินหายใจแล้วก็มลพิษลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่า PM2.5 จะลดลงแต่เขายังมี ปัญหาเรื่องของก๊าซโอโซนอยู่ แผนในอนาคตของจีนจะทำอย่างไรต่อ ก็จะเพิ่มมาตรการ ควบคุมเข้มข้นกับรถยนต์พาหนะเรื่องการใช้เชื้อเพลิงแล้วก็การปล่อยมลพิษ เข้มข้นขึ้น เรื่อย ๆ อย่างที่ผมได้กล่าวไป การพัฒนายุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องโอโซนที่ประเทศจีน นะครับ และนอกจากนี้ก็จะเพิ่มการลงทุนในพลังงานสะอาดแล้วก็เทคโนโลยีสีเขียว ส่วน ประเทศญี่ปุ่นเราลองมาดูกัน ประเทศญี่ปุ่นจะมีชุดกฎหมายอยู่หลายฉบับเริ่มตั้งแต่ ปี ๑๙๖๘ กฎหมายควบคุมมลพิษในอากาศ แล้วก็มีกฎหมายพื้นฐานสิ่งแวดล้อม ปี ๑๙๙๓ กฎหมายควบคุมเสียงยานยนต์ ปี ๑๙๙๘ ระเบียบยานยนต์ ควบคุมไนโตรเจนไดออกไซด์ และ PM ในปี ๒๐๐๑ และนอกจากนี้ล่าสุดก็มีแผนรับมือโลกร้อนในปี ๒๐๑๖ ตั้งแต่ญี่ปุ่น มีกฎหมายในปี ๑๙๖๘ ก็ส่งผลให้อากาศดีขึ้นอย่างมาก ราคาค่าซัลเฟอร์ ค่าไนโตรเจนลดลง อย่างเห็นได้ชัด ค่าฝุ่น PM2.5 ลดลงด้วยนะครับ แต่ก็ยังมีปัญหามลพิษในเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะย่านอุตสาหกรรม ในอนาคตของญี่ปุ่นทำอย่างไร ก็เหมือนจีนเลยครับ ออกกฎหมายควบคุมเข้มข้นขึ้นแล้วก็เน้นให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งสนับสนุน เรื่องเทคโนโลยีพลังงานสะอาดครับ
ท่านประธานครับ ประเทศไทยของเรามีรายงานวิจัยชื่อว่า ภาระชีวิตจาก มลพิษทางอากาศของประเทศไทย ปี ๒๕๖๔ ประเมินเฉพาะจังหวัดได้ค่าเฉลี่ยที่ประชากร แต่ละคนได้รับจาก PM2.5 คือ ๒๑.๓ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ ประชากรเสียชีวิตจากวัยอันควรถึง ๒๙,๐๐๐ คน แล้วก็มีการเสนอต่อว่าหากเราลดความเข้มข้น ของ PM2.5 นี้ไปได้ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำที่ ๕ ไมโครกรัม จำนวนผู้เสียชีวิตจะ ลดลงถึงร้อยละ ๗๗ หรือเราสามารถรักษาผู้เสียชีวิตได้ถึง ๒๒,๐๐๐ ชีวิตนะครับ
อันสุดท้าย ข้อเสนอแนะของผมก็คือว่าเราก็ดูตามมาตรฐานของประเทศต่าง ๆ ที่เขาเจริญแล้ว ที่เขาได้ทำเรื่องการควบคุมมลพิษที่ได้ผล อย่างเช่น สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ก็คือ ให้ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาดของเราฉบับนี้ให้เราดูเป้าหมายในอนาคตด้วยว่า PM2.5 ปัจจุบันเราจะตั้งค่าที่เท่าไร ในอนาคต ๕ ปี ๑๐ ปีข้างหน้าเราจะตั้งค่าเป็นอย่างไร เตรียมไว้ เลยนะครับ อย่ารอให้เกิดขึ้นแล้วเราค่อยมาแก้ปัญหากัน แล้วนอกจากนี้ควรจะดูถึง การควบคุมสารพิษอื่น ๆ ด้วย เช่น ก๊าซโอโซนแล้วก็ก๊าซเรือนกระจก แล้วก็การวางแผน รับมือกับโลกร้อนด้วย นอกจากนี้ผมก็ยังเสนอให้ท่านลองดูเรื่องของการพัฒนาพลังงาน สะอาดกับเทคโนโลยีสีเขียวด้วย เพราะว่าแต่ละนาทีที่เราเสียไป ทุกนาทีที่รัฐช้าคือทุกราคาที่ ประชาชนต้องจ่ายครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมอภิปราย สนับสนุนญัตติขอให้ ครม. ทำประชามติสอบถามประชาชนในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งฉบับนะครับ รัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ เป็นฉบับที่เราใช้กันปัจจุบันนี้เป็นมรดกที่มาจาก คณะรัฐประหาร คสช. ที่แต่งตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือเรียกว่า กรธ. เขียนใหม่ ทั้งฉบับ หลังจากที่ได้ทำรัฐประหารฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญเก่าทั้งฉบับไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าที่มา อาจจะมาจากคณะ คสช. หรือคณะรัฐประหาร เราก็ไม่ได้ดูที่มาสักเท่าไร เราดูที่เนื้อหา เป็นสำคัญ ถ้าร่างนี้ดีอยู่แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องแก้ใหม่ทั้งฉบับ มีปัญหาตรงไหนก็แก้ตรงนั้น แต่ร่างรัฐธรรมนูญนี้มีปัญหาแทบทุกจุด อย่างที่คุณพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้เสนอญัตติได้อภิปราย ไปแล้วปัญหาเยอะจริง ๆ ท่านประธานครับ ท่านคงจะได้คุ้นเคยกับประโยคนี้ การเลือกตั้ง ครั้งนี้รัฐธรรมนูญเขา Design มาเพื่อพวกเรา ทุกคนคงจำประโยคนี้ได้ มีนักการเมืองซีกรัฐบาล ได้พูดไว้เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ก่อนการเลือกตั้ง ๔ เดือน ท่านลองฟังดูนะครับ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นระบอบการปกครอง ของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน การออกแบบกฎหมายสูงสุดแบบนี้ควรจะ ยึดโยงกับประชาชนเป็นที่ตั้ง และเพื่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชน แล้วนี่อะไรครับ หลุดปากมาได้อย่างไรว่ารัฐธรรมนูญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อพวกเรา ออกแบบมาเพื่อนักการเมือง บางกลุ่ม พรรคการเมืองบางกลุ่ม มันผิดตั้งแต่ต้นแล้ว เรื่อง สว. ๒๕๐ คนที่แต่งตั้งมาจาก คณะ คสช. นี้ แต่งตั้งมาเสร็จก็มาเลือกนายกรัฐมนตรี อันนี้หลายท่านพูดไปแล้ว เรารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นปัญหา แต่แค่นั้นยังไม่พอ สว. เหล่านี้ยังมีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระ ต่าง ๆ อีกมากมาย หลายต่อหลายหน่วยงานก็แต่งตั้งมาจาก สว. ชุดนี้ ทุกวันนี้องค์กรเหล่านี้ ก็ยังสร้างปัญหาอย่างต่อเนื่อง สร้างปัญหาต่อก่อปัญหาใหม่ ผมขอ Slide ด้วยครับ
อันนี้คนที่อยู่ตรงกลางเคยนั่ง ในสภานี้แล้วก็ยกมือด้วยความภาคภูมิใจ ผมเป็นคนทำรัฐประหารเอง แล้วก็ยิ้ม ด้วยความภาคภูมิใจ แต่ไม่รู้หรือว่าคนครึ่งค่อนประเทศเขาด่ากันเต็มไปหมด ท่านไม่กล้าเปิด Comment ใน Facebook หลายคนก็บอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญนี้ทำไม มีการทำประชามติ ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ประชาชนทั้งประเทศเห็นด้วยได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง อันนี้ก็ต้อง บอกว่าย้อนไปเมื่อ ๔ ปีที่แล้ว มีคนหลายกลุ่มเลยที่ออกมารณรงค์คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้แต่ก็ถูกจับ นักกิจกรรม นักศึกษา ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นักศึกษา ม. รามคำแหง พร้อมสมาชิกสหภาพแรงงานไทรอัมพ์รวม ๑๒ คน ไปยืนแจกใบปลิวที่ตลาดเคหะหน้าตายิ้ม แย้มแจ่มใส หนึ่งในนั้นก็คือ สส. ของพรรคอนาคตใหม่ แล้วตอนนี้ก็เป็น สส. พรรคก้าวไกล ไปยืนแจก ตอนนั้นปี ๒๕๕๙ เขายังไม่ได้เป็น สส. ยืนกันอย่างนี้ถูกตำรวจลากคอ ล็อกคอ ขึ้นรถเลย แล้วข้อหาที่โดนก็คือว่ามีการชุมนุมมากกว่า ๕ คนขึ้นไป แล้วก็ก่อความวุ่นวาย สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองในการรณรงค์ต่อต้านการโหวต No ครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า อิทธิฤทธิ์ของ คสช. ยังอยู่ตอนนั้น ไม่สามารถรณรงค์ได้ อำนาจ คสช. ครอบงำในการทำ ประชามติอยู่ทั่วทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ Case นี้ Case เดียว อันนี้เป็น Clip ล็อกคอ ไป Search ใน YouTube กันได้ อีกรายหนึ่งลุง ส. เดินแจกใบปลิวไปเสียบตามรถที่ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจับควบคุมตัวไว้ในเรือนจำประมาณ ๙ วันก่อนจะได้ประกันตัว แค่เดินเสียบใบปลิว เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ ซึ่งเป็นข้อความที่พูดกันมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้ นาน ๆ หลายสิบปีมาก ๆ ก็มีคำพูดนี้อยู่แล้ว อันนี้จะเห็นได้ว่ามีมากกว่า ๑ เคส อันต่อไป ๒ แกนนำอันนี้ก็โดนจับ ๒ แกนนำที่ไปแจกโหวต No อันนี้เป็นที่ สภ. ภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ Case ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้สุดท้ายยกฟ้องนะครับ ส่วน Case นี้ไปถึงศาลอุทธรณ์เลย ศาลชั้นต้นยกฟ้องไปแล้วมีการอุทธรณ์ต่อแล้วก็ยกฟ้องอีก อันนี้ ๕ แกนนำ ข้อหา สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ออกเสียงประชามติตามมาตรา ๖๑ พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียง ประชามติรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๙ ศาลชั้นต้นยกฟ้องแล้วก็มีการอุทธรณ์เช่นกัน ดีนะครับ ยังไม่ดันทุรังไปศาลฎีกา แต่สุดท้ายทุกอย่างยกฟ้องหมด
อันนี้บอกให้เห็นว่ามันมีกระบวนการที่จับกุมคนที่รณรงค์โหวต No จริง ๆ เพราะฉะนั้นที่มาของรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้องแล้ว การทำประชามติคุณปิดเสียงประชาชน คุณปิด Facebook ไม่พอ คุณยังปิดเสียงประชาชนอีก ถ้าคุณจะปิด Comment ใน Facebook ผมแนะนำให้ไป Post ลงหนังสือพิมพ์ ออกรายการวิทยุ TV ดีกว่าครับ โลก Social เขาต้องการการโต้ตอบกัน เขาไม่ต้องการให้คุณมาปิด Facebook สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายเปล่า ๆ แล้วก็ถ้าเกิดรัฐธรรมนูญฉบับนี้มันดีจริง ท่านต้องเปิด โอกาสให้ประชาชนเขาแสดงความเห็นคัดค้าน ประชาชนหลายคนต้องทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาอ่านรัฐธรรมนูญ แล้วเขาอยากเลือกตั้ง เขาจึงไปลงมติเพื่อให้ ผ่าน ๆ ไปนะครับ อย่างที่หลาย ๆ คนพูดมาว่ารับ ๆ ไปก่อน เราได้ยินคำนี้เยอะมาก ในช่วงนั้น รับ ๆ ไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปแก้ทีหลัง แต่แก้ยากมากเลย ๔ ปีที่ผ่านมาเราก็เห็นแล้ว ว่าเราแก้อะไรแทบไม่ได้เลย แก้ได้อยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อันนี้ก็ขอให้ ท่านอย่าปิดปากคนคัดค้านเลย เสียงส่วนน้อยท่านต้องยอมรับฟังในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นผมอยากสนับสนุนให้ ครม. จัดทำ ประชามติโดยเร็ว แล้วก็ สสร. มาจากการเลือกตั้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างที่พรรคก้าวไกล ได้เคยเสนอไว้ในนโยบายครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ จากพรรคก้าวไกล พื้นที่ของผมมีทั้งชุมชนที่หนาแน่น และชุมชนที่กระจาย ก็มีปัญหาเรื่องน้ำบาดาล น้ำประปาทุกพื้นที่เลย ผมจึงขอร่วมอภิปราย ญัตติเกี่ยวกับน้ำบาดาล น้ำประปาในครั้งนี้
ปัญหาของน้ำเท่าที่กล่าวกันมา ก็จะคล้าย ๆ กันน้ำไหลอ่อนถึงไม่ไหล บางที่ไม่ไหล ๒-๓ วัน บางแห่งครึ่งเดือนไม่ไหล มีปัญหา อันนี้จะเป็นทั้งน้ำบาดาลแล้วก็น้ำประปาที่เคยได้รับคำร้องเรียนมา น้ำสกปรก มีตะกอน มีกลิ่น อันนี้เกิดที่หมู่บ้านผมเอง คลองเจ็ด ลำลูกกา เวลาซ่อมท่อ ท่อแตกบ่อยมาก พอซ่อมท่อปุ๊บโคลนก็เข้าไป อันนี้ไปหาเสียงทุกพื้นที่ผมใช้นโยบายน้ำประปาหาเสียงได้เลย ทุกพื้นจะมีปัญหาเหมือนกันหมด ทุกคนจะพูดเหมือนกันหมดเลย อันนั้นคือก๊อกน้ำที่ห้อยคออยู่ อันนี้ผมจะพูดถึงคลองสิบเอ็ด คลองสิบสอง คลองสิบสาม คลองสิบสี่ น้ำบาดาลจะมีตะกอน มีตะกรัน มีกลิ่นตลอดเวลา อันนี้คือตลอดเวลานะครับ ใช้อาบน้ำก็คัน แปรงฟันไม่ได้ หุงข้าว ก็ไม่ได้ ส่วนตำบลบึงคอไห อันนี้จะให้ดูว่าเวลาล้างรถจะมีคราบอย่างนั้นเลย แล้วเวลาล้างรถ เขาทำอย่างไร ก็คือต้องไปจ้างข้างนอกล้าง Car Care หรืออะไรก็ตาม แล้ว Car Care ทำอย่างไร Car Care สูบน้ำจากคลองมาล้างให้ เพราะถ้าเกิดเอาน้ำบาดาลจะเป็นตะกรัน แบบนั้น ต้องสูบน้ำคลองมาล้างรถ อันนั้นคือคราบตะกรันที่เขาสะสมมาแล้วก็เอามือลูบ ตามถังแล้วขึ้นมาอย่างนั้น
ภาพต่อไป อันนี้คือชุมชน ส. พรรณนารา คลองสิบสอง บึงคอไห ลำลูกกา ภาพซ้ายน้ำประปาเข้าถึง แต่ปัญหาคือประชาชนไม่สามารถใช้น้ำประปาได้ เพราะค่าติด มิเตอร์ ๓,๕๐๐ บาท ไม่มีเงินจ่าย ไม่สามารถที่จะเข้าถึงน้ำประปาได้ และหน่วยต่อน้ำประปา ก็ ๑๐-๑๕ บาท แต่น้ำบาดาลหน่วยละ ๔-๕ บาท อันนี้คือคนที่มีปัญหาจริง ๆ แล้วทาง ด้านขวาคือท่อที่แตกบ่อย ผมก็ลงไปดู ทำไมถึงแตกบ่อย บางทีก็มีการก่อสร้าง บางที มีการทำเกษตร รถตักดิน รถขุด Backhoe ทำท่อแตกประจำเลย
ภาพต่อไป อันนี้เป็นลาดสวาย ลำลูกกาเช่นกัน ผมก็ไปลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้ น้ำประปามีปัญหาเช่นกัน เปิด Clip อันนี้ให้ดูปัญหาของประชาชนจริง ๆ เลย ลำบาก มาตลอดเลย คลองสิบสามมีคลองชลประทานและมีท่อประปาผ่าน แต่ไม่สามารถใช้ประปาได้ ยังใช้น้ำบาดาลอยู่ เพราะฉะนั้นก็ต้องซื้อน้ำถังอย่างนั้นมาหุงข้าว แปรงฟัน บางครั้งอาบน้ำ แล้วคันก็ต้องเอาน้ำนี้มาอาบ ส่วนน้ำดื่มไม่ต้องพูดถึง ต้องซื้อน้ำดื่มตลอดเวลา อันนี้คือ น้ำประปาดื่มได้ของต่างประเทศ ถ้าเกิดเราได้อย่างนี้บ้างจะเป็นอย่างไรบ้างในประเทศไทย มันไม่ยากเลยนะครับ จริง ๆ แล้วเราสามารถทำได้ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น นอร์เวย์ และอื่น ๆ ทำได้หมด
ภาพต่อไป อันนี้คือเทศบาลตำบลอาจสามารถที่ผมไปดูงานมา ก่อนหน้านี้ ก็น้ำขุ่นเหมือนกัน นายกเทศมนตรีเทพพร จำปานวน เข้าไปบริหารแค่ ๙๙ วันทำน้ำประปา ดื่มได้ใสสะอาดเลย น้ำประปาตรงนี้ก็ใช้เวลาไม่นานแล้วก็ใช้งบไม่เยอะด้วย เพียงแต่ใช้ เทคนิคและใช้ความรู้เข้าไปผสมผสานก็สามารถทำน้ำประปาดื่มได้ให้กับทุกครัวเรือนแล้ว นอกจากน้ำประปาดื่มได้แล้วทางเทศบาลยังทำ Smart Meter ด้วย อันนี้สามารถตรวจสอบ คุณภาพน้ำ ถ้าเกิดน้ำมีตะกอนมีอะไร ส่งข้อมูลขึ้น Cloud เลยแล้วส่งไปที่ศูนย์ของเทศบาล ตำบลอาจสามารถ อันนี้ติดตั้งตามบ้านเรียบร้อยแล้ว
ภาพต่อไป ทำไมคนไทยต้องซื้อน้ำดื่ม ทำไมเราถึงไม่สามารถเหมือน ต่างประเทศบ้าง เรามีประชาธิปไตยมา ๙๑ ปีแล้ว มีนายกรัฐมนตรีมา ๓๐ คน มี สส. มาแล้ว ๒๖ ชุด แต่คุณภาพน้ำประปา น้ำบาดาลบ้านเราแทบจะไม่ได้ปรับปรุงเลย เรามีความเจริญ ทางเทคโนโลยีทุกอย่าง เรามีตั้งแต่รถไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นเครื่องบิน มีรถเมล์เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า เรามีเรือรบธรรมดาก็กลายเป็นเรือดำน้ำไปแล้วตอนนี้ เรามีเงินกระดาษเราก็ทำเป็นคริปโต ทำเป็นเงินดิจิทัลได้ เรามาไกลกันขนาดนี้ แต่คุณภาพน้ำก๊อกเราไม่ไปไหนเลย ๔๐-๕๐ ปี ที่ผ่านมาคุณภาพเหมือนเดิมแทบจะไม่มีการปรับปรุงเลย การทำน้ำประปาสะอาด นโยบาย พรรคก้าวไกลทำน้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศไทยใช้เงินแค่ ๖๐,๐๐๐ ล้านบาทเท่านั้น ๖๐,๐๐๐ ล้านบาทหมายถึงอย่างไร ถ้าเราแจกเงินดิจิทัลทุกคนตั้งแต่ ๑๖ ปีขึ้นไป เราใช้ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท ผมแล้วก็หลาย ๆ ท่านด้วยเสนอให้แจกเฉพาะคนจนได้ไหม ถ้าเรา แจกเฉพาะคนจนเราจะเหลือเงินประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เรามาทำน้ำประปาดื่มได้ ให้กับประเทศไทยอย่างนี้ Size ขนาดนี้ได้ประมาณ ๗ ประเทศเลย เพราะฉะนั้นผมคิดว่า น้ำประปาเป็นสิ่งสำคัญ น้ำคือชีวิต สุดท้าย อากาศสะอาด น้ำประปาสะอาด ควรเป็นสิทธิ ขั้นพื้นฐานของประชาชน ถ้ารัฐทำไม่ได้แสดงว่ารัฐล้มเหลว และรัฐก็ล้มเหลวมานานแล้ว อยากให้เปลี่ยนแปลงครับ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัด ปทุมธานี เขต ๗ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ท่านมนพร เจริญศรี แล้วก็ผู้นำร่วมรับฟังคุณชาตรีและคุณอินทิราที่มาร่วมรับฟังแล้วก็ ตอบปัญหาของประชาชน ในเรื่องนี้ผมมีคำถามถึงกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการก่อสร้าง โครงการพิเศษสายฉลองรัช–นครนายก-สระบุรี จริง ๆ แล้วคำถามนี้มีมาตั้งแต่ก่อนที่ผม จะเป็น สส. นะครับ เพราะว่าผมอยู่ในพื้นที่ลำลูกกาก็จะได้รับฟังข้อมูลว่าจะมีการสร้าง ทางด่วนเป็นเวลานานมาก ๆ แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้น แล้วล่าสุดผมไปที่ จังหวัดนครนายกพื้นที่ติดต่อกัน พี่น้องจังหวัดนครนายกก็มีคำถามเช่นเดียวกันเลยนะครับ วันนี้ผมจึงมีคำถามมาถึงท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมนะครับ ว่าการก่อสร้าง โครงการพิเศษสายฉลองรัช–นครนายก-สระบุรี ระยะทาง ๑๐๔.๗ กิโลเมตร ได้รับการอนุมัติ ให้เป็นหน้าที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ลักษณะโครงการก็จะเป็นทางยกระดับ ขนาด ๖ ช่องจราจร เริ่มเชื่อมตั้งแต่ทางพิเศษฉลองรัชหรือทางเลียบด่วนที่ด่านจตุโชติ เลียบด่วนรามอินทรา บริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออกหรือที่เรา เรียกว่าถนนกาญจนาภิเษกกันนะครับ ดำเนินการเพื่อรองรับการเดินทางการขนส่งสินค้า ระหว่างพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อบรรเทารถติดบนถนนรังสิต-นครนายก แล้วก็ถนนลำลูกกาโครงข่ายถนนโดยรอบด้วยนะครับ ทั้งนี้โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ ปัจจุบันจะปี ๒๕๖๗ แล้ว ก็เกือบ ๑๐ ปีแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าใด ๆ เลยนะครับ มีการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีการเวนคืนที่ดินมานานแล้ว แต่การดำเนินการ ก็เป็นไปอย่างล่าช้า ล่าสุดก็ทราบมาว่ามีการปรับเปลี่ยนแนวใหม่เพื่อลดผลกระทบ การเวนคืนที่ดิน ทั้งนี้คำถามของประชาชนที่มาอยู่เนิ่นนานก็อยากทราบว่าปัญหานี้แต่ละช่วง จะดำเนินการอย่างไรต่อนะครับ อยากจะทราบแต่ละช่วงเวลาไหน ขอทราบรายละเอียด ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร และมีการแบ่งช่วงการสร้างเท่าไร อย่างไรก็ฝากคำถามถึงท่านรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นคำถามแรกครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ก็ขอบคุณท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคมที่ตอบคำถามเหล่านี้นะครับ แล้วข้อต่อไปก็คืออยากจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมโครงการถึงได้ล่าช้าตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ ถึงเพิ่งเริ่ม เริ่มแผนกันจริง ๆ จัง ๆ ก็ประมาณ ปี ๒๕๖๖ อยากทราบเหตุผลของความล่าช้าด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เดี๋ยวขอใช้เวลาอีกสักครู่นะครับ ก็ต้องขอขอบคุณท่านมนพรจริง ๆ นะครับ ส่วนตัวไม่ได้มีประเด็นอะไรนะครับ แต่ต้องการ คำตอบเพื่อไปตอบให้กับประชาชนได้รับทราบ จริง ๆ แล้วก็ชื่นชมท่านมนพรด้วยนะครับ เนื่องจาก สส. ในพรรคของผมเองก็ชื่นชมท่านให้ฟังอยู่ แล้วก็ได้เจอตัวจริงสวนกันที่ตรงลิฟต์ ท่านอาจจะจำผมไม่ได้ แต่ผมจำท่านได้ เพราะว่าท่านทักว่าวันนี้มีอะไรมาถามพี่ไหม ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่มีอะไรเลย ผมถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำงานแบบนี้ ผมก็ชื่นชมด้วย นะครับ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ครับ ผมขออภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ นี้นะครับ ก่อนอื่นผมมีอยู่ ๔ ประเด็นกับ ๓ ข้อเสนอแนะ ซึ่งประเด็นก็อาจจะ ซ้ำกับท่านผู้ชี้แจงนะครับ แต่ผมก็จะไปเร็ว ๆ นิดหนึ่ง
ประเด็นแรกก็คือว่ากฎหมาย ฉบับนี้ก็มีโทษปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท และจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งก็ ไม่สอดคล้องกับมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญไทยที่โทษอาญาควรจะใช้สำหรับความผิดร้ายแรง เท่านั้น แล้วก็ไม่เป็นไปตามกฎกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมือง แล้วก็สิทธิทางการเมือง ด้วยนะครับ ที่กำหนดว่าบุคคลจะติดคุกเพียงเพราะไม่จ่ายหนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็น การสมควรที่จะยกเลิก พ.ร.บ. ฉบับนี้นะครับ และที่มาของ พ.ร.บ. ฉบับนี้หลายท่านอาจจะ รู้แล้วว่าเกิดจากการเริ่มต้นในอดีตมีการใช้เช็คซึ่งเป็นแค่กระดาษเปล่าเป็นเหมือนตั๋วสัญญา ใช้เงิน ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือเท่าเงินสดนะครับ คนส่วนมากก็ไม่ยอมรับ ทำให้ต้องมี การกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงหากเช็คเด้ง ซึ่งนั่นคือการสร้างความน่าเชื่อถือ แต่การสร้าง ความน่าเชื่อถือครั้งนี้คือการเอาเสรีภาพของคนออกเช็คเป็นประกัน ถ้าคุณออกเช็คแล้วเด้ง คุณติดคุก อันนั้นคือการเอาเสรีภาพไปเป็นประกันซึ่งในอดีตก็ทำกันมา แล้วก็ทำให้ มีการใช้เช็คอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจุบันนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องใช้แบบนั้นแล้วนะครับ
ประเด็นที่ ๒ เช็คเด้งก็เหมือนกับความผิดนัดชำระหนี้ควรจะเป็นคดีแพ่ง อย่างที่ได้พูดไปแล้วนะครับ ไม่ควรเป็นคดีอาญา แล้วก็สามารถฟ้องในคดีแพ่งได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น พ.ร.บ. ฉบับนี้จึงไม่จำเป็นเลยนะครับ ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนคนใช้บัตรเครดิต เป็นการยืมเงินมาใช้ก่อนแล้วก็ใช้คืนเมื่อถึงกำหนด และหากไม่ได้ชำระหนี้ตามกำหนดก็ไม่ถูก คดีอาญาเหมือนกันนะครับบัตรเครดิต ก็เป็นการฟ้องคดีแพ่งเหมือนกัน ความเชื่อมั่นในการ ใช้เช็คนั้นจึงควรจะประเมินจากมูลค่าของธุรกิจหรือหน้าที่การงานของผู้ออกเช็ค ดังนั้น ไม่ควรต้องมีคดีอาญาพ่วงท้ายแล้วนะครับ แล้วก็หากพิสูจน์ได้ว่าการออกเช็คมีเจตนาฉ้อโกง ก็สามารถที่จะฟ้องคดีอาญาได้อยู่แล้วนะครับ จึงไม่จำเป็น โดยรวมนานาอารยประเทศ ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีโทษอาญาในเรื่องของการออกเช็คแล้วเด้ง ในสหรัฐอเมริกาใช้เช็คกัน เป็นเรื่องปกติมาก ซื้อกาแฟ ๓ เหรียญยังใช้เช็คเลยนะครับ แล้วการออกแล้วเช็คเด้ง ก็เป็นเรื่องปกติของพื้นที่นั้นก็ไม่มีการฟ้องร้องกัน ก็เอาเงินไปฝากก็จบ ไม่มีปัญหาบางที ธนาคาร Advance ออกไปก่อนให้ด้วยนะครับ
ประเด็นที่ ๓ คนที่ไม่ควรติดคุกจากสถานการณ์ย่ำแย่จากเศรษฐกิจ ดังที่เห็น สถานการณ์ โควิด-๑๙ มีคนออกเช็คจำนวนมาก แล้วก็เกิดเหตุว่ามีโรคระบาดโดยที่ ไม่ได้คาดคิดขึ้นมาก่อน เพราะฉะนั้นหลายคนก็ไม่สามารถชำระหนี้ตามเช็คได้ก็ถูกดำเนิน คดีอาญาไป ร้านอาหารที่ถูกปิด สถานบันเทิง ไม่สามารถหาเงินได้ตามที่คาดไว้ ไม่ใช่ ความผิดจากการบริหารด้วยซ้ำนะครับ เป็นความผิดที่เดาไม่ได้จริง ๆ แต่ก็ถูกคดีได้นะครับ
ประเด็นที่ ๔ ขอสไลด์เลยครับ คือประเด็นที่ยังไม่มีใครพูดถึงนะครับ ขอสไลด์ที่ ๒ หน้า ๒ เลยครับ อันนี้จะเป็นสถิติการใช้เช็คหน้า ๒ ที่เป็นรูปกราฟนะครับ สถิติ การใช้เช็คจากปี ๒๕๕๗ ไล่ลงมาเราจะเห็นว่าตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ มีการใช้เช็คประมาณ ๑๒๐ ล้าน ฉบับต่อปีจนมาถึงช่วงโควิด ปี ๒๕๖๒ จำนวนการใช้จะลดลงมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้การใช้ เช็คลดลงเหลือเกือบครึ่งนะครับ ลดลงไปเยอะมาก อาจจะเกิดจากธุรกิจมีปัญหาหรือเกิด จากคดีความทางเช็คก็ได้ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ว่ามีการใช้เช็คจำนวนมาก แล้วก็หน้า ต่อไปคดีเช็คเด้งที่ถูกกันตอนนี้ประมาณ ๑ เปอร์เซ็นต์ มูลค่าของเช็คที่เด้งก็ ๐.๒๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แล้วการปิดคดีแต่ละคดีใช้เวลาเฉลี่ยเกือบ ๒ ปีเลยนะครับ เจ้าหนี้ก็ได้รับ เงินคืนเพียง ๖๕ เปอร์เซ็นต์ ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าหน้าเช็คเท่านั้น เนื่องจากคดีเช็ค เด้งเป็นคดีอาญาอัยการก็ดำเนินคดีให้แล้วไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลด้วย ทำให้รัฐเป็นภาระในการใช้จ่ายทั้งต้องใช้พนักงาน แล้วก็ใช้เงินจำนวนมากนะครับ หน้าต่อไป อันนี้ผมจะวิเคราะห์ อันนี้ข้อมูลจาก TDRI แล้วก็วิเคราะห์จากตัวอย่าง ปี ๒๕๕๗ นะครับ จำนวนเช็คที่ออกไปนั้น ๑๒๐ ล้านฉบับ มีจำนวนคดีประมาณ ๑๐,๐๐๐ คดี แล้วก็มูลค่า เช็คเด้งปีนั้นที่ฟ้องกันประมาณ ๑,๒๐๐ ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้รับเงิน ผมตีประมาณ ๗๕ เปอร์เซ็นต์จากข้อมูลเมื่อสักครู่ก็ประมาณ ๙๐๐ ล้านบาท แต่รัฐใช้งบประมาณ ๘๐๐ ล้านบาทในการติดตามคดี แล้วเจ้าหนี้เองก็ต้องใช้ ๒๐๐ ล้านบาทนะครับ ในการ ติดตามคดีเช่นกัน สรุปว่าเราใช้เงินประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อจะทวงเงินคือได้ ๙๐๐ ล้านบาทนะครับ นี่คือปัญหาของค่าใช้จ่ายที่ยังไม่มีใครพูดถึงนะครับ สไลด์ถัดไปเลย โอเคครับจบแล้วครับ เพราะฉะนั้นผมก็มีข้อเสนอ ประเด็นที่จะเสนอก็มีอยู่ ๓ ประเด็น อย่างที่ได้กล่าวไว้ ข้อแรก ก็คือว่าอยากให้ พ.ร.บ. ของ ครม. มีผลบังคับใช้ ๑๘๐ วันหลังจาก ประกาศในพระราชกิจจา เนื่องจากว่าต้องให้ธุรกิจปรับตัวนิดหนึ่งแล้วก็มีข้อเสนอแนะ ต่อไปคือ ข้อที่ ๒ คืออยากจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกกฎเกณฑ์กำหนดให้กับธนาคาร พาณิชย์ใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดนิดหนึ่งนะครับ ในการอนุมัติการใช้เช็ค อย่างเช่น การ Check Credit Bureau หรืออะไรก็ตามเพื่อการออกเช็คคนที่มีอำนาจในการออกเช็คจะได้มีเครดิต ระดับ ๑ แล้วก็ ข้อ ๓ อาจจะมีปัญหาเรื่องการขายลดเช็คในอนาคต เนื่องจากว่าจะทำให้ ขายยากขึ้นเพราะความน่าเชื่อถือจะลดลงนะครับ ก็ขอให้คณะวิสามัญที่จะตั้งขึ้นมาหา มาตรการรองรับอันนี้ด้วยนะครับ ก็ขอขอบคุณมีเท่านี้ครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัด ปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือนะครับ ก่อนอื่นวันนี้ ถือเป็นวันดีของพรรคก้าวไกล ๒ เรื่อง เรื่องแรก คือคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้กลับมา ทำหน้าที่ สส. อันทรงเกียรติในสภาแห่งนี้ และเรื่องที่ ๒ คือคุณรังสิมันต์ โรม ได้คลอดลูก สาวออกมาก็ขอแสดงความยินดีกับ สส. ทั้ง ๒ ท่านนะครับ ทีนี้เรากลับมาเรื่องค่าไฟแพง ประเด็นของเราขอสไลด์ด้วยนะครับ
ผมจะเปรียบเทียบให้ดูนะครับ ค่าไฟของสหรัฐอเมริกา ไทย จีน เวียดนาม ลาว พม่า มีความต่างกันมากเหลือเกิน เราดู ของไทยกับของจีนเราห่างจากประเทศจีนเกือบ ๒ เท่า ในที่นี้คือค่าไฟเฉลี่ยเพราะว่า ประเทศไทยเป็นอัตราก้าวหน้าค่าไฟก็จะเป็นลักษณะนี้ ซึ่งมีราคาแพงมาก ๆ เลย ตรงนี้จะเห็นว่าค่าไฟเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ ๓ บาท ๒๔ สตางค์เท่านั้น แต่ของไทยห่างจาก ค่าเฉลี่ยถึงเกือบ ๒ เท่า ต่อไปคือรายได้ของคนที่จบปริญญาตรีหรือว่าประมาณค่าแรงขั้นต่ำ อยู่ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท แต่เราต้องจ่ายค่าไฟโดยเฉลี่ย ๑ คน ๑,๒๐๐ บาท ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเช่าบ้านและอื่น ๆ คงเหลืออยู่แค่ประมาณ ๓๐๐ บาท บางคนก็ติดลบนะครับถ้าเกิดว่า เราไม่เช่าบ้านเราก็ต้องอยู่กับพ่อแม่เพื่อจะผ่อนรถนะครับ สไลด์ต่อไปจะเห็นว่าคนในสมัยก่อนเราทำงานปริญญาตรีเราสามารถจะซื้อรถได้ แต่ตอนนี้ เราซื้อรถไม่ได้แล้ว เพราะอะไรครับ เราอยู่ในยุคนี้ไม่ใช่ยุคทาสในอดีต แต่สมัยนี้เป็นทาส ของนายทุน เราเรียนจบปริญญาตรีทำงานมีเงินเก็บแค่ ๓๐๐ บาทเท่านั้น เราจบปริญญาตรี ทำงานค่าแรงขั้นต่ำมีเงินเก็บแค่ ๓๐๐ บาท เท่านั้นนะครับ สิ่งนี้บอกอะไรได้บอกว่า เราต้องทำงานเพื่อหาเงินไปให้กับนายทุน ไม่ว่าจะเป็น ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่ารถ ค่าอะไรต่าง ๆ ค่าเดินทาง ค่าเชื้อเพลิง ทุกสิ่งทุกอย่างแพงเกินเหตุ ทำให้ประเทศไทยเราไม่สามารถที่จะ มั่นคงได้ เราจะสร้างประเทศไทยแบบยั่งยืนหรือเราจะสร้างสังคมทาสที่รอวันล่มสลายครับ ตรงนี้ผมเคยนำภาพสไลด์ชุดนี้มาลงแล้วรอบหนึ่งตอนที่เรามีปัญหาเรื่องการแก้หนี้ แล้วก็ ค่าครองชีพแพงนะครับ ประเทศไทยค่าแรง ๓๕๐ บาท สหรัฐอเมริกา ๓,๑๖๘ บาท มากกว่าไทย ๙ เท่า แต่ค่าไฟไล่เลี่ยกันเลย สินค้าต่าง ๆ ของสหรัฐก็ถูกกว่าไทยตามค่า เงินบาทเลย ของไทย ๒๐๐ กว่าบาท ๒๑๖ บาท ของสหรัฐอเมริกาก็ ๒๖๙ บาท ไม่ต่างกันเลยนะครับ ค่าน้ำมันก็เช่นกันของไทยเฉลี่ย ๓๗ บาท ของสหรัฐ ๓๓.๙๐ บาท ค่าเนื้อสัตว์อันนี้คือน่องไก่ของไทย ๗๔ บาทต่อกิโลกรัม สหรัฐอาจจะแพงกว่านิดหนึ่ง ๑๕๗ บาท ทีนี้เรากลับมาพูดถึงเรื่องค่าไฟแพง เรามาดูกันว่าในอดีตค่าไฟของการผลิต จากพลังงานที่มีราคาถูก อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติ แต่พลังงานลมกับพลังงานแสงอาทิตย์ ยังมีค่าใช้จ่ายที่แพง ค่าต้นทุนการผลิตที่แพง แต่ผ่านมาเพียง ๘ ปี ถึงปี ๒๐๒๒ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างมากเหลือ ๑,๐๐๐ กว่าบาท เป็นการใช้พลังงาน ที่ถูกที่สุดตอนนี้ แล้วพลังงานลมบนบกก็ถูกที่สุด ๒ อันนี้เป็นพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ เป็นพลังงานสะอาดด้วย ถูกด้วย อันนี้ก็จะเป็นสาเหตุที่ค่าไฟของเราแพงเกิดจากอะไร เกิดจากหลายสาเหตุมาก ๆ เลยนะครับ พลังงานทั่วโลกปัจจุบันนี้เป็นพลังงาน Fossil ๖๐.๒เปอร์เซ็นต์ พลังงานหมุนเวียน ๒๑.๕ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็พลังงานนิวเคลียร์ ๑๘.๒ เปอร์เซ็นต์ พลังงาน Fossil ก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เนื่องจากว่ามีการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกแล้วก็เป็นสาเหตุที่ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก พลังงาน Fossil มีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งก็คือราคาจะไม่นิ่งจะมีราคาขึ้นลงตลอดเวลา อย่างเช่น เวลาเกิดสงคราม สงครามยูเครนก็ทำให้ Fossil ราคาแพงขึ้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศ ด้วยนะครับ แต่พลังงานทางเลือกของเราดีกว่าเยอะนะครับตอนนี้ เพราะว่าทั้งถูกแล้วก็ เป็นพลังงานสะอาดด้วย แม้ว่าในอดีตจะมีต้นทุนราคาแพง แต่ปัจจุบันนี้ราคาตรงนี้ลดลง เป็นจำนวนมาก แล้วก่อนหน้านี้ประเทศไทยเราทำสัญญาซื้อขายพลังงานในราคาที่ หลายราคามาก อย่างเช่น เราซื้อพลังงานจากน้ำจากประเทศลาวประมาณบาทต้น ๆเท่านั้น แล้วก็มีพลังงานอื่น ๆ ที่ราคา ๓ บาทบ้าง ๔ บาทบ้าง จนแพงที่สุดถึง ๑๑ บาท ๘๐ สตางค์ ต่อหน่วย ซึ่งตรงนี้เป็นสาเหตุให้ต้นทุนของเราแพงมาก ๆ เลยนะครับ เพราะฉะนั้น เมื่อผมได้วิเคราะห์ตรงนี้แล้วให้ดูว่าพลังงานทางเลือกของเรามีอะไรบ้าง ในภาพนี้พลังงาน นิวเคลียร์ สหรัฐอเมริกาจะมีโรงงานผลิตพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดถึง ๙๓ โรง ประเทศจีน มี ๕๔ โรง ตามรูปข้างบน ประเทศอื่นยังใช้พลังงานนิวเคลียร์อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นพลังงานสะอาด แล้วก็ต้นทุนต่ำอยู่เช่นกัน ตรงนี้คือข้อเสนอแนะนะครับ ในเมื่อพลังงานที่ราคาถูกแล้ว ผมก็ขอเสนอให้เราลดการใช้พลังงานจาก Fossil พลังงานจาก Fossil คืออะไรก็คือ พวกถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป แล้วก็ให้พิจารณาพลังงานอื่น ๆ แทน อย่างเช่น พลังงานนิวเคลียร์ โซลาเซลล์ พลังงานลม แล้วก็สนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟใช้เอง อย่างเช่น สนับสนุนการใช้ Solar Rooftop การติดตั้งโซลาเซลล์บนหลังคา ซึ่งตอนนี้ราคาต่ำลงมาก ๆ ถ้ารัฐบาลสนับสนุนเราจะได้ พลังงานราคาถูก แล้วประชาชนก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายขึ้น ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของการวาง กรอบนโยบายในอนาคต ๑๐ ปี ถึง ๒๐ ปี เพื่อความมั่นคงทางพลังงานถ้าเกิดเราใช้พลังงาน ธรรมชาติที่ไม่มีวันหมดไป อย่างเช่น โซลาเซลล์ แล้วก็พลังงานลม ตรงนี้ความมั่นคง ทางพลังงานของเราจะยั่งยืนมากกว่านี้ดีกว่าถ่านหินแล้วก็ก๊าซธรรมชาติมาก ๆ เลย การบริหารสัมปทานการซื้อไฟฟ้าจำนวนโรงงานผลิตที่เรารู้กันอยู่แล้วว่ามีประมาณ ๑๒ โรง แต่ว่าผลิตจริงประมาณครึ่งหนึ่ง อีกที่เหลือครึ่งหนึ่งไม่เคยผลิตเลย ตรงนี้เราต้องมีการเจรจา สัมปทานใหม่ แล้วก็เรื่องของการใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างเป็นธรรม ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ราคาถูกเราแล้วนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แล้วก็นำก๊าซธรรมชาติที่เรานำเข้า จากต่างประเทศซึ่งราคาแพงมาผลิตไฟ ทำให้ต้นทุนไฟราคาแพง แล้วเราก็ไปโทษว่า เพราะค่าไฟต้นทุนแพงจึงต้องเก็บแพงกับประชาชน ตรงนี้อยากให้เห็นใจประชาชนบ้าง ถ้าเกิดท่านมองถึงประชาชนมากกว่านายทุน ท่านจะต้องเปลี่ยนตรงนี้แล้วก็ทำตามที่พวกเรา ได้แนะนำไป ขอบคุณมากครับท่านประธาน
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ครับ วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายสนับสนุนขอให้ตั้ง กมธ. วิสามัญศึกษา เกี่ยวกับการโอนธุรกิจกองทัพให้รัฐบาล เมื่อพูดถึงกองทัพหรือธุรกิจกองทัพ ข้างในเรา เหมือนแดนสนธยา เหมือนเมืองลับแลเลยนะครับ ประชาชนไม่เคยรับรู้เลยว่ากองทัพ ทำอะไรบ้าง บริหารธุรกิจอย่างไร กำไรขาดทุนเท่าไร ไม่เคยต้องทำรายงานส่งใครเลยนะครับ แต่พรรคก้าวไกลของเราก็ได้ประเมินว่ากองทัพจะมีกำไรแต่ละปีประมาณ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ถ้าถามว่าทำไมก้าวไกลถึงมีปัญหากับกองทัพ ถึงคอยจับผิดกองทัพ จริง ๆ แล้วคำตอบง่าย ๆ เลยนะครับ เราไม่ได้จับผิดกองทัพครับ แต่เราต้องการความโปร่งใสในทุก ๆ องค์กร ไม่ใช่ เฉพาะแต่กองทัพ เหมือนท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มีนโยบายสภาโปร่งใส ตรวจสอบได้ เหมือนกันเลยนะครับ ในเรื่องใดที่ไม่โปร่งใสเราก็จะทำให้โปร่งใสสิ้นข้อสงสัยกับประชาชน ในเรื่องของสนามกอล์ฟ ธูปะเตมีย์ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในลำลูกกา เป็นพื้นที่ที่ผมอาศัยอยู่แล้วก็ขับรถผ่านทุกวัน ขณะนี้ เป็นสนามกอล์ฟที่นำมาใช้ประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ถ้าเราเรียกตามภาษาชาวบ้านก็กลุ่ม Elite หรือกลุ่มผู้มีอันจะกินนะครับ เพราะสนามกอล์ฟ แน่นอนว่าชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถเข้าไป จ่ายเงินตีกอล์ฟแน่ ๆ ไม่ใช่กีฬาของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เป็นคนชั้นกลาง เป็นคนรายได้น้อย ไม่ใช่คนมีอันจะกิน เพราะฉะนั้นผมจึงสนับสนุนให้นำ สนามกอล์ฟตรงนี้มาทำเป็นสถานสาธารณะนะครับ สวนสาธารณะ คล้าย ๆ กับสวนลุมพินี ก็ได้ให้ประชาชนเข้าไปออกกำลังกาย เข้าไปวิ่งเป็นปอดของคูคต เป็นปอดของคนลำลูกกา ท่านประธานรู้ไหมครับว่า ลำลูกกาขึ้นชื่อว่ามีฝุ่นพิษเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ๒-๓ อาทิตย์ที่ผ่านมา อำเภอลำลูกกาเรามีฝุ่นพิษเป็นอันดับ ๑ อันดับ ๒ ของประเทศไทย มาโดยตลอด แล้วเราไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ ถ้าเราได้สวนสาธารณะตรงนี้มาทำเป็นต้นไม้ใหญ่ เป็นปอดของคนลำลูกกาก็จะดีมาก ๆ เลยนะครับ สำหรับพวกเราชาวลำลูกกา แล้วเมื่อเรา พูดถึงธุรกิจกองทัพก็ต้องพูดถึงนโยบายของพรรคก้าวไกลที่เราจะให้มีรัฐสวัสดิการ รัฐสวัสดิการของเราต้องใช้เงินประมาณปีละ ๖๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ถ้าเราได้จัดสรรบางส่วน ของธุรกิจกองทัพ กำไรตรงนี้นำมาเป็นรัฐสวัสดิการก็จะช่วยเหลือประชาชนได้มากเลย ท่านประธานครับ ผมเข้าใจดีว่าทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคง ทหารทำงานหนักนะครับ ควรจะได้รับสวัสดิการ สวัสดิการเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของพรรคก้าวไกลเลย แต่ปัญหาคือว่า กำไรของกองทัพควรจะต้องรายงาน ควรจะต้องนำส่งกระทรวงการคลัง และเมื่อจะนำไปใช้ เป็นสวัสดิการก็ทำเรื่องขอเบิกงบประมาณเข้ามาเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เกิดความสง่างาม ในกองทัพ ธุรกิจกองทัพมีหลายแบบอย่างที่ สส. เบญจา แสงจันทร์ ได้พูดไปสนามม้า สนามมวย สนามกอล์ฟ คลื่นทีวี วิทยุ พลังงาน มีมากมายเลยนะครับ แต่ทำเหมือนธุรกิจ ส่วนตัว ทำให้ประชาชนก็สงสัยมาตลอดว่าทำไมจึงต้องมีความลับขนาดนี้ เมื่อพรรคก้าวไกล ต้องการให้มีความโปร่งใสตรงนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทหารและกองทัพก็จะมีความสง่างาม มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีสวัสดิการให้กับทหารชั้นผู้น้อยอย่างเป็นธรรม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดีของ ประเทศไทยไม่ใช่หรือครับ ประชาชนตรวจสอบได้ ประชาชนมีความสุขกับการที่ทหาร สามารถที่จะแจกแจง ชี้แจงรายได้ของตัวเองได้ อันนี้ก็จะเป็นผลประโยชน์กับประชาชน แล้วก็กองทัพเองด้วยนะครับ รัฐสวัสดิการของเรามีอะไรบ้างนะครับ เอาไว ๆ ก็คือว่าคนชรา ๖๐ ปีขึ้นไปได้ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน เด็กเล็กได้ ๑,๒๐๐ บาท มีสิทธิลาคลอด มีศูนย์เด็กเล็ก ใกล้บ้าน มีอาหารฟรี มีรับส่งเด็กนักเรียน คูปองให้เด็กไปเรียนเสริม มีการ Reskill ให้กับ คนทำงาน คนทำงานที่อยากเปลี่ยนงานก็สามารถไปเรียน Reskill ได้ฟรี นอกจากนี้ก็ยังมี สวัสดิการให้กับประกันสังคมทุกอาชีพ สิ่งเหล่านี้นะครับ ถ้าเรานำรายได้จากกองทัพมาช่วย เจียดให้กับประชาชนก็จะทำให้ประชาชนมีความสุขไปด้วยพร้อม ๆ กับกองทัพ แล้วเมื่อเรา ทำสิ่งเหล่านี้ได้สำเร็จ การจัดสรรสวัสดิการทหารชั้นประทวนก็จะได้รับชั้นสัญญาบัตร และนายทหารก็จะได้รับอย่างเท่าเทียมกันอย่างมีความยุติธรรมนะครับ ประชาชนก็ได้ ความเป็นธรรมด้วย ได้เงิน ได้สวัสดิการด้วย ทหารทุกระดับก็จะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปพร้อม ๆ กับประชาชนครับท่านประธาน ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรีและอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอมี ส่วนร่วมอภิปรายสนับสนุนญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ปัญหาการบริหารจัดการ ขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท่านประธานครับ ประเทศไทยเราหลาย ๆ ท่านพูดไปแล้ว ผลิตขยะวันหนึ่ง ๗๘,๐๐๐ ตัน หรือ ๒๘.๕ ล้านตันต่อปี เฉพาะ กทม. เองก็ ๑๐,๐๐๐ ตัน เข้าไปแล้ว กทม. น่าจะผลิตเยอะที่สุด เพราะมีอุตสาหกรรมและมีประชาชนอยู่หนาแน่น ส่วนจังหวัดปทุมธานีของผมก็วันละ ๑,๘๐๐ ตัน บ่อขยะกว่า ๒,๐๐๐ แห่งทั่วประเทศ หลาย ๆ ท่านก็พูดไปอีกแล้วว่ามีแค่ ๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีการจัดการขยะอย่างถูกต้อง มาตรฐาน ๕ เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ถึง ๑๐๐ แห่ง จาก ๒,๐๐๐ แห่ง นอกจากนี้ประเทศไทยเรายังติด ๑ ใน ๑๐ ประเทศ ที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก จริง ๆ แล้วเราอยู่ อันดับที่ ๕ เลย มีขยะพลาสติกในทะเล ถึง ๒๒.๘ ล้านกิโลกรัม เมื่อประมาณ ปี ๒๕๕๗ เดือนสิงหาคม กรมควบคุมมลพิษก็ได้ผลักดันให้การกำจัดขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ แต่ทุกวันนี้เรายังมาพูดถึงปัญหาขยะกันทุกปี ๆ อันนี้วาระแห่งชาติจริงหรือครับ ผมอยากจะ รู้ว่ามันชาตินี้หรือชาติหน้าครับ ปัญหาขยะจังหวัดปทุมธานีครับท่าน จังหวัดปทุมธานีเองมี ขยะมูลฝอยตกค้างสูงสุด ๑ ใน ๖ ของประเทศไทย ครัวเรือนของเราก็ทิ้งขยะมูลฝอย โดยไม่คัดแยก อปท. หลายแห่งก็นำขยะไปกำจัดทิ้งแบบเทกองไม่ได้ถูกสุขลักษณะหรือ ถูกหลักอนามัยเลย ขยะมูลฝอยจึงมีเกลื่อนเมือง แล้วก็ยังมีเศษสวะตามแม่น้ำลำคลอง อย่างที่ สส. เจษฎา ดนตรีเสนาะ ได้พูดไปแล้ว นอกจากนี้ อปท. บางแห่งนี้ก็ยังเก็บขยะแค่ เดือนละครั้งเท่านั้น ส่งกลิ่นเหม็นนะครับ บางพื้นที่รถขยะเข้าไม่ถึง ประชาชนทำอย่างไรครับ ก็รวบรวมกันแล้วก็เผา อาทิตย์ ๑ เผาทีหนึ่ง ๒ อาทิตย์เผาทีหนึ่ง ก็เกิดเป็นมลภาวะมลพิษ ต่อไป ตรงนี้ขยะในเลียบ Motorway หรือ Motorway ถนนกาญจนาภิเษก ตรงคลองห้านี้ มีคนทิ้งเกลื่อนเช่นกันนะครับ ระยะทางประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ เมตร ขยะกองเต็มไปหมดเลย แล้วก็ยังมีการเผากิ่งไม้ ใบไม้อีก แล้วผมก็ได้รับแจ้งจาก อบต. บึงคำพร้อย มีการเผาเฟอร์นิเจอร์ โรงงานเฟอร์นิเจอร์ วัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ไม่หมดไปเขาก็นำมาเผา อันนี้ผมก็ได้วิ่งไปดูรอบหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ ยังมี อบต. บางแห่งก็นำขยะไปเผาเองในที่โล่ง อันนี้เดี๋ยวจะต้องตามดูจะต้องตามจับให้ได้ว่า จริงหรือเปล่า เพิ่งได้รับแจ้งมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว นี่คือปัญหาของจังหวัดปทุมธานีทุกวันนี้ แล้วทางแก้ของจังหวัดปทุมธานีคืออะไร ปัจจุบันนี้เทศบาลเก็บขยะเอง แล้วก็รณรงค์ ให้พ่อค้าแม่ค้า หรือครัวเรือนทำถังขยะเปียก ก็คือให้ขุดแล้วก็ให้ฝังลงดินทำเป็นปุ๋ย ซึ่งบ้านทาวเฮาส์ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีพื้นที่ทำแบบนั้น หรือก็ช่วยได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ที่เหลือ นำไปไหนครับ นำไปบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ขนไปทิ้งที่นั่น ก็สร้างปัญหาให้กับ ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป เนื่องจากว่าจังหวัดปทุมธานีของเรานี้ประชาชนส่วนมาก ก็ไม่ยอมให้สร้างบ่อขยะ หรือไม่ยอมให้สร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ เพราะปัญหาเรื่อง มลพิษนี้ละครับ ประชาชนไม่มั่นใจไม่เชื่อใจว่าเราจะทำได้ถูกมาตรฐาน ก็เลยทำให้ไม่มีใคร อยากจะให้ทำบ่อขยะที่นั่น เราลองมาดูที่ต่างประเทศบ้าง สหรัฐอเมริกามีการให้คัดแยกขยะ ในครัวเรือนทุกระดับ ตั้งแต่บ้านครัวเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงานต่าง ๆ คนเก็บขยะ สามารถที่จะออกใบสั่งปรับได้ถ้าไปเก็บที่บ้านแล้วเจอว่าแยกขยะผิดประเภท ครั้งแรกปรับ ๔๐ เหรียญ ครั้งต่อไป ๘๐ เหรียญ ครั้งที่ ๓ ๑๕๐ เหรียญ โทษก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ท่านเคย ได้ยินคำนี้ไหมครับ One Man's Trash Is Another Man's Treasure ก็คือคนหนึ่งมองว่า เป็นขยะ แต่อีกคนหนึ่งมองว่าเป็นขุมทรัพย์ อันนี้เกิดจากอะไร เกิดจากการที่เราเอาขยะที่ คนมองว่าไม่มีค่านำมาแยกออกมา แยกให้มันมีค่าขึ้นมา เมื่อมันมีมูลค่าสามารถนำไป Recycle ต่อ นำไปขายต่อได้ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีโรงงานขายของเก่ารับซื้อของเก่าเต็มไปหมด อันนี้ก็อยากจะให้ดูประเทศเยอรมนีเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ในเรื่องการแยกขยะ ประเทศเยอรมนีก็ ๗๐ เปอร์เซ็นต์เขาแยกขยะได้ ทำให้ลดขยะได้ ประมาณ ๑ ล้านตันต่อปี แล้วตั้งแต่มีกฎหมาย ตั้งแต่ปี ๑๙๙๑ หรือ ๓๓ ปีที่แล้ว จะให้ ผู้ผลิตจะต้อง Recycle Packaging ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Packaging ชั้นแรกที่ห่อหุ้ม สินค้า ชั้นที่ ๒ ที่ทำให้สินค้าดูสวยงาม ชั้นที่ ๓ ที่ Packaging เพื่อการจัดส่ง ก็จะต้องมี การ Recycle ทั้ง ๓ ชั้น ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้บริโภคก็ต้องรับผิดชอบในขั้นตอนของตัวเอง แล้วก็ นอกจากนี้มีการใช้ถังขยะมากกว่า ๖ สีนะครับ ประเทศเยอรมนี เขาใช้ถังขยะมากกว่า ๖ สี แบ่งเป็นอะไรนะครับ อย่างเช่น สีเหลืองเป็นขยะพลาสติกอลูมิเนียม กระป๋อง สีน้ำเงินเป็น กระดาษ สีเขียวเป็นเศษอาหาร สีดำเป็นขยะทั่วไป สีขาวเป็นขวดแก้วใส สีน้ำตาลเป็น ขวดแก้วสีน้ำตาล มีการแยกย่อยมาก ๆ ถ้าเกิดทิ้งขยะผิดประเภทก็ถูกปรับหลักร้อยยูโร เหมือนกัน ประเทศเยอรมนีใช้วิธีไหนในการให้คนแยกขยะทั้งรณรงค์ จูงใจ ทั้งให้จ่ายค่า มัดจำขวด ขวดหนึ่ง ๕ บาท ๑๐ บาท เพราะฉะนั้นคนก็จะนำขวดไปคืนถึง ๙๘ เปอร์เซ็นต์ จะไม่ทิ้งเกลื่อนกลาด แล้วก็สมมุติว่าเราไม่เราคืนขวดเองก็จะมีคนมาเก็บไปคืนเพราะว่าได้ เงิน นอกจากนี้ก็ยังมีวัน Sperrmull ของประเทศเยอรมนี วัน Sperrmull คืออะไร คือคน ที่มีเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ใช้แล้วก็นำไปทิ้งนอกบ้าน ปีหนึ่งมี ๔ หน นำไปทิ้งนอกบ้าน แล้วเพื่อน บ้านเดินมาเจอเฟอร์นิเจอร์นี้ยังใช้งานได้อยู่ก็เอากลับไปใช้ก็เป็นการ Recycle แบบหนึ่ง ไม่ต้องทำให้ขยะเต็มไปหมดอย่างนี้ เพราะบางชิ้นขยะยังใช้ได้อยู่เฟอร์นิเจอร์ แต่ว่ามันเกะกะ บ้านเขาก็จะเอามาทิ้งกัน นอกจากนี้นโยบายภาครัฐก็ยังส่งเสริมทั้ง Startup โดยเน้น การแยกขยะ ถ้าเกิดเป็น Startup ก็จะส่งเสริมเต็มที่เลย แนวทางการแก้ไขของปทุมธานี ตอนนี้ที่ผมเห็นก็อยากให้มีการสร้างโรงผลิตไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ถ้าเป็นไปได้มันก็จะ ช่วยลดมลพิษในอากาศได้ เราจะไม่ใช้วิธีฝังกลบอีกต่อไปหรือว่าเทกองหรือว่าเผาตามที่โล่ง หรือจะใช้ต้นแบบแบบประเทศญี่ปุ่น รอบโรงเผาขยะก็จะมีที่ออกกำลังกายด้วย มีเครื่องวัด คุณภาพอากาศโดยรอบ ก็จะรู้ว่าอากาศไม่เป็นพิษแน่นอน นอกจากนี้เราก็ควรจะรณรงค์ ปลุกจิตสำนึกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เยาว์วัยเลยนะครับ ให้คนไม่ทิ้งขยะลงคลอง ให้คนรู้จักการคัดแยกขยะนะครับ สอนกันตั้งแต่ประถม เหมือนที่ ทนายแจมได้กล่าวไปนะครับ แล้วผมก็ยังแนะนำนะครับท่าน ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูงาน ที่ประเทศเยอรมนีเลยครับ ส่งเจ้าหน้าที่ของเราทำให้เป็นวาระแห่งชาติจริง ๆ ครับ ให้มันจบ ที่ชาตินี้ ไม่ใช่ชาติหน้า แล้วก็เน้นด้านการให้ทุนนักศึกษาไปเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ การจัดการขยะนะครับ แล้วสิ่งเหล่านี้จาก Trash จะเป็น Treasure นะครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา ธัญบุรีและอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมอภิปรายสนับสนุน พ.ร.บ. การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ท่านประธานครับ ผมอภิปรายมาประมาณ ๓๐ ครั้ง ตั้งแต่เปิดสมัยประชุมคราวที่แล้ว ผมไม่เคยใช้คำนั้นหน้านามเลย ไม่เคยใช้คำว่า นาย นำหน้าคำว่า ประสิทธิ์ เลย อันนี้เป็น เรื่องที่หนึ่ง เพราะว่าผมมีความเข้าใจในส่วนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ท่านประธานครับ วันนี้ผมก็มาทำงานปกติเลย เดินมาทำงานปกติ ร่วมอภิปรายปกติในกฎหมายที่ปกติ ทำไม ผมถึงพูดอย่างนี้ เพราะว่าหลายท่านมองเห็นว่ากฎหมายนี้ไม่ปกติ กฎหมายนี้มีความก้าวหน้า เกินไป กฎหมายนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ผมก็ขอเรียนให้ทราบตรงนี้นะครับว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้แปลก แตกต่างจากหลาย ๆ ประเทศเลยนะครับ มีมากกว่า ๓๐ ประเทศที่ยอมรับความหลากหลาย ทางเพศ และให้มีการระบุเพศหรือว่าระบุเป็นเพศที่สามกว่า ๓๐ ประเทศทั่วโลก เราไม่ใช่ ประเทศแรก แม้แต่ประเทศปากีสถานหรือประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเคร่งครัด ในศาสนามาก ๆ แล้วก็มีกฎหมายที่ต่อต้านการรักร่วมเพศมาเป็นพัน ๆ ปีนะครับ ปัจจุบันนี้ ก็มีการยอมรับเพศที่สามแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของมนุษยชาติในปัจจุบัน เป็นกฎหมาย ระหว่างประเทศ แล้วก็เป็นสิทธิมนุษยชนด้วยนะครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นของบุคคลที่มีความ หลากหลายทางเพศ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะครับ ยกตัวอย่างของรายที่ ๑ นักธุรกิจเจ้าของ คลินิกเสริมความงาม นักธุรกิจรายนี้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก และมีครั้งหนึ่ง Passport ใกล้จะหมดอายุก็เลยเป็นต่อ Passport ก่อนเพื่อจะเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่เมื่อไปถึงกรมการกงสุลของประเทศไทย ไปต่อ Passport กลับถูกเหยียดว่าหน้าไม่ตรงปก เพราะว่านักธุรกิจรายนี้เป็นกระเทยไปทำศัลยกรรมมา แล้วหน้าตาสวยกว่าเดิมก็เลยบอกว่า หน้าไม่ตรงปก ผมขออ่านเลยดีกว่าจะได้ไม่ผิด เจ้าหน้าที่จุดซักฟอกประวัติไม่ให้ผ่านและ บล็อก Passport ของตนเนื่องจากหน้าไม่ตรงปก และใช้คำพูดหยาบคาย เสียดสีว่าเป็น สาวประเภทสองจะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะกลัวข้ามประเทศไปแล้วจะทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศ เมื่อให้เหตุผลแล้วว่าจะยื่นเดินทางไป ต่างประเทศเพื่อไปทำธุรกิจก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง สุดท้ายตนก็ไม่ได้ต่อ Passport ก็เลย ขอ Visa เลยแล้วก็ไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่กลับมีปัญหาที่ กรมการกงสุล อันนี้เป็นเคสที่เกิดขึ้นในข่าวนะครับ ผมอ่านตามข่าวเพื่อป้องกันการผิดพลาด
เรื่องที่ ๒ จะมีนักแสดงโชว์ของประเทศไทย มีความหลากหลายทางเพศ แต่ว่าการแสดงโชว์ของเขาเป็นที่ต้องการของต่างประเทศจึงต้องเดินทางไปโชว์ตัว ไปโชว์ การแสดงหลาย ๆ ประเทศ แล้วบางครั้งเกิดปัญหาว่าไม่สามารถผ่านด่าน ตม. ของ ต่างประเทศได้ เนื่องจากว่า Passport ยังเป็นนายอยู่ แต่รูปร่างเป็นผู้หญิงแล้วนะครับ บางคนถูกตรวจ แม้กระทั่งให้เปลื้องผ้านะครับ เพื่อตรวจดูว่าเพศตรงหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ ก็กลายเป็นปัญหา แทนที่เราจะได้ไปสร้างเม็ดเงินกลับมาประเทศ แต่กลับถูกบล็อกเพราะ เรื่องตรงนี้นะครับ ท่านประธานครับ ผมอยากให้ท่านประธานแล้วก็สมาชิกผู้มีเกียรติ ในสภาเหล่านี้ลองดูไปที่ Monitor ของเรา ดูไปที่หน้าจอมุมล่างขวา ท่านเห็นอะไรไหมครับ ล่ามภาษามือของเรา ทำไมเราจึงต้องมีล่ามภาษามือ เพราะเรามีผู้พิการทางการได้ยิน ในประเทศไทยมีอยู่ ๒ ล้านคน นับเป็น ๓ เปอร์เซ็นต์ของคนไทยทั้งหมด เรายังมีล่ามภาษามือ เพื่อให้คนที่มีความพิการทางการได้ยินได้รับรู้ได้สัมผัสเหมือนกับพวกเรา ให้รู้สึกว่าเป็นคนปกติ และกลุ่ม LGBT มีมากกว่านี้เยอะ มี ๔ ล้านคน อย่างน้อย ๆ ที่ลงบันทึกไว้มี ๔ ล้านคน หรือ ประมาณ ๖ เปอร์เซ็นต์ ทำไมเราถึงไม่ออกกฎหมายเพื่อเอื้อให้เขารู้สึกเป็นปกติเหมือนพวก เราครับ อันนี้คือสิ่งที่เราสามารถทำได้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยนะครับ สมาชิกผู้มีเกียรติ ในสภาเราเข้ามาเพื่ออะไร เพื่อทำงานให้ประชาชนใช่ไหมครับ เพื่อให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมกับเรา รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำไมเราจะต้องแบ่งแยก ทำไมเราจะต้องทำให้ เขารู้สึกว่าเขาถูกเหยียด ไม่ปกติ อันนี้อยากฝากให้ทุกท่านได้คิดดูนะครับ ถ้าท่านคิดไม่ออก ก็ลองมองอีกครั้งหนึ่ง Monitor มุมล่างขวาของเรา สุดท้ายถ้าท่านมีเพื่อนอยู่ในกลุ่ม LGBT ท่านลองไปถามเขาดูถึงกฎหมายฉบับนี้ ท่านลองไปถามเขาดู ผมเคยคุยแล้วเขาบอกว่าเขารอ กฎหมายฉบับนี้มาทั้งชีวิต ทั้งชีวิตนะครับท่าน ไม่ใช่แค่ ๑ ปี หรือ ๒ ปี แต่เขารอมาทั้งชีวิต แล้วเราจะเอาความหวังของเขาออกไปหรือครับ ถ้าท่านมีความรู้สึกเพื่อประชาชนจริง ๆ ถ้าท่านเห็นแก่กลุ่ม LGBT จริง ๆ ท่านต้องยอมรับกฎหมายฉบับนี้ แล้วเราไปแก้ปัญหาที่มี ต่อไปด้วยกันในคณะกรรมาธิการวิสามัญครับท่าน เราไม่ควรปิดโอกาสตั้งแต่ตรงนี้ครับ ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา ธัญบุรี และอำเภอหนองเสือครับ วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมอภิปรายสนับสนุน พ.ร.บ. การจัดสรรที่ดิน ของพรรคก้าวไกลและของพรรคเพื่อไทยร่วมกัน ปัญหาเท่าที่ผม ได้รับฟังมาจากเพื่อนสมาชิกทั้งหมดก็เป็นปัญหาคล้าย ๆ กันเลย ทั้งปัญหาน้ำท่วม ปัญหา ถนนขรุขระปัญหาโจรขโมย ไฟฟ้า ไฟทางมีปัญหา สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาจริง ๆ ในหมู่บ้าน จัดสรรเท่าที่ฟังมาส่วนใหญ่จะเป็นเมืองใหญ่ เมืองที่เป็นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่ของผมก็จะมีบึงคำพร้อย ลำลูกกา บึงทองหลาง ลำไทร บึงคอไห พืชอุดม บึงสนั่น บึงน้ำรักษ์ บึงบอน บึงบา หนองสามวัง ศาลาคลุ ๑๒ ตำบลนะครับท่านมีปัญหาทั้งสิ้นเลย ผมจะยกตัวอย่าง
ปัญหาแรก ก็คือปัญหาของการใช้เวลานานมากในการที่ผู้จัดสรรที่ดินจะโอน ให้กับทางเจ้าของบ้านกว่าจะจัดตั้งได้ อย่างน้อยคือ ๗ ปี อันนี้คือหมู่บ้านที่ขายดีด้วย ขายหมดภายในปี ๒ ปี แต่กว่าเขาจะให้โอนนี่ใช้เวลานานมากนะครับ ใช้เวลาถึง ๗ ปี อันนี้ คือหมู่บ้านที่เป็นปัญหาแรก
ปัญหาที่ ๒ ก็คือไม่สามารถจัดตั้งนิติบุคคลได้ก็คือหมู่บ้านเก่า ๆ ก็คือตั้งแต่ ๑๕ ปี ๒๐ ปีถึง ๓๐ ปี ลำลูกกามีหลายหมู่บ้านเลยที่เป็นเช่นนั้นนะครับ ตอนนี้เมื่อไม่มีการ ตั้งนิติบุคคลปัญหาก็คือว่าไม่มีการดูแลพื้นที่ ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่าง ๒ บ้าน เพราะว่ามีการต่อเติม มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ พื้นที่กลับรถ มีการนำกระถางดอกไม้มาวาง มีปัญหาน้ำท่วม หลาย ๆ อย่าง ยกตัวอย่างหมู่บ้าน ๑ ที่ผมเข้าไปคุยน้ำท่วมถึงเข่าตรงนี้ ร้องเรียนมานานมากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราจะพยายามเข้าไปช่วยก็คือท่อตรงนั้นเป็น ท่อเก่า หมู่บ้านนี้ประมาณ ๒๕ ปี ท่อระบายน้ำก็เล็ก พอฝนตกทีไรน้ำก็ท่วม ทำได้เต็มที่คือ ลอกท่อ แต่เมื่อท่อระบายน้ำมันเล็กลอกไปเท่าไรมันก็ไม่ออก แล้วปัญหาที่ต้องแก้คือจะต้อง รื้อท่อใหม่ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งเทศบาลเข้ามาช่วยไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่ของเอกชน อันนี้คือปัญหาที่ เราเจอแล้วก็พยายามให้เขาจัดตั้งนิติบุคคลก็ไปล่ารายชื่อ ล่าเท่าไรก็ได้ไม่ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นอันนี้ผมถึงสนับสนุนร่างของคุณธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โดยเฉพาะมาตรา ๕ ร่างมาตรา ๕ ที่ว่าให้ที่ประชุมเกินกึ่งหนึ่งก็สามารถที่จะจัดตั้งนิติบุคคลได้แล้ว ไม่ต้องไปล่า รายชื่อทั้งหมู่บ้าน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ของหมู่บ้าน ยากมาก ๆ ครับ เพราะหลายคนทิ้งบ้านไป แล้วตามหาไม่เจอ หลายบ้านก็เป็นบ้านเช่าตามหาไม่เจอจริง ๆ อันนี้เป็นกฎหมายที่ดีมาก ๆ อยากจะสนับสนุนให้ท่านผ่านร่างตรงนี้กันไปเพื่อเราจะได้มาแก้ปัญหาร่วมกัน
ปัญหาที่ ๓ ก็คือว่าเมื่อเทศบาลไม่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้แล้วถูก ลูกบ้านร้องเรียนมา ถูกลูกบ้านด่า เทศบาลไม่รู้จะทำอย่างไร จะเข้าไปช่วยก็อาจจะโดน ตรวจสอบจาก สตง. ป.ป.ช. เพราะฉะนั้นเทศบาลบางคนควักกระเป๋าตัวเองออกไปนะครับ ๑,๐๐๐ ๒,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ บางครั้งเขาก็ออกให้เพื่อไปซ่อมบำรุงให้ อันนี้คือไม่ได้ลงเป็นการทำงานนะครับ แต่ว่าเอาเงิน ส่วนตัวช่วยเหลือเขาไป ตรงนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้อะไรอีก ก็คือยาเสพติด ยาเสพติด ยาบ้า กัญชาก็ไม่มีคนดูแล เพราะว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้มีนิติบุคคลที่จะไปดูแล ไม่มี ตำรวจวิ่งเข้ามาตรวจสอบให้นะครับ เวลาจะติดต่อตำรวจก็จะยากนิดหนึ่ง เพราะว่าไม่มี นิติบุคคลช่วยดูแล ชุมชนต้องดูแลกันเอง ปัญหาลักขโมย การบุกรุก การจี้ปล้นก็เกิดขึ้น อุบัติเหตุต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัญหาที่เป็นเรื่องปกติของหมู่บ้านเก่า ๆ ในเมืองใหญ่ ๆ ที่ผมได้กล่าวมาทั้งสิ้นเลยนะครับ ปัญหาเพิ่มเติมอย่างที่กล่าวไปก็พวกไฟดับไฟทาง เมื่อไฟดับไม่มีคนมาซ่อม โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ต้องขับรถเข้าไปลึกนิดหนึ่งไฟทางไม่มีก็เกิด อุบัติเหตุได้ เกิดการจี้ปล้นได้นะครับ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็อยากให้ร่างนี้ผ่าน โดยขอบคุณ ท่านณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคก้าวไกล แล้วก็คุณธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมกันเสนอร่างนี้มา เพราะฉะนั้นผมก็สนับสนุนร่างนี้แล้วก็อยากให้ผ่าน เราจะช่วยกัน แก้กฎหมายนี้ไปด้วยกันนะครับ ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จังหวัด ปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา ธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ผมขอมีส่วนร่วมอภิปราย ญัตตินี้ สนับสนุนให้ สสร. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ควร มาจากการแต่งตั้งแม้แต่คนเดียว ก่อนอื่นขอขอบคุณท่านคณะกรรมาธิการการพัฒนา การเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ทำรายงานฉบับนี้ละเอียด มาก ๆ ๑๐๒ หน้า มีการเลือกตั้ง แล้วก็มีการให้ทางเลือกด้วยว่าจะเลือกกลุ่มหลากหลาย มาได้อย่างไร ท่านประธานครับ ประเทศไทยของเรามีการร่างรัฐธรรมนูญบ่อยมาก ๆ ประเทศหนึ่งในโลกเลย จากประวัติศาสตร์การเมืองก็ชี้แล้วว่าผู้ที่เข้ามาร่างรัฐธรรมนูญมีผล อย่างยิ่งต่อทิศทางของรัฐธรรมนูญ และการกำหนดวิถีทางและแนวทางการเมืองของ สังคมไทย การออกแบบ สสร. จึงเป็นกระดุมเม็ดแรกในการแก้วิกฤติของเมืองไทยในปัจจุบัน ยิ่งโจทย์ของสังคมไทยมีการเปลี่ยนจากรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นมรดกของรัฐประหารมาสู่ รัฐธรรมนูญของประชาชน เพราะฉะนั้นก้าวแรกของเราสำคัญมาก ๆ คำถามสำคัญที่สังคม ต้องคิดกันต่อก็คือว่า สสร. หรือผู้ร่างรัฐธรรมนูญควรมีที่มาอย่างไร ควรประกอบด้วย กลุ่มบุคคลที่หลากหลายเพียงใด และการออกแบบกระบวนการทำงานอย่างไรเพื่อให้มีการ ร่างรัฐธรรมนูญที่มีประสิทธิภาพ แล้วก็มีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อนำพาสังคมไทยออกจาก วิกฤติการณ์ทางการเมืองในครั้งนี้ คำถามก็คือว่า สสร. ควรมีคุณสมบัติอย่างไร ผมก็ออกมา ได้ ๔ ข้อ ข้อ ๑ คือว่าต้องยึดโยงกับประชาชน ข้อ ๒ ต้องมีความหลากหลายมาจากหลาย กลุ่มวิชาชีพ แล้วก็หลายกลุ่มสถานภาพ ข้อ ๓ คือจะต้องเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็น หลากหลายจากทุกภาคส่วน ข้อ ๔ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ และที่สำคัญคือ สสร. ต้องมีความเป็นอิสระ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนะครับท่านประธาน สสร. ที่มาจากการแต่งตั้งปัญหาคืออาจจะถูกครอบงำจากคนที่แต่งตั้งได้ อาจต้องทำงาน ทดแทนบุญคุณผู้ที่แต่งตั้งมา อาจจะไม่มีความเป็นกลาง ไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่คำนึงถึง ประโยชน์ของประชาชน แล้วก็อาจจะโหวตตามใบสั่ง โหวตตาม Deal ลับ พูดจากลับกลอก แล้วแต่นายสั่ง นี่คือปัญหาของ สสร. ที่มาจากการแต่งตั้ง แต่ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์จะไม่มีนายคอยสั่ง จะมีความเป็นอิสระมากกว่ากันเยอะเลย ข้อเสียของ สสร. ที่มาจากการแต่งตั้ง เดี๋ยวผมจะอธิบายเป็นข้อ ๆ ให้ ข้อเสียของ สสร. ที่มาจาก การแต่งตั้งก็คือ ข้อ ๑ อาจจะขาดความชอบธรรม สสร. ที่มาจากการแต่งตั้งจะไม่ได้รับ การยอมรับจากประชาชน ข้อ ๒ คือขาดความหลากหลาย สสร.ที่มาจากการแต่งตั้งอาจจะ ไม่มีตัวแทนจากหลายกลุ่มของสังคม ข้อ ๓ คือขาดความโปร่งใส คือกระบวนการคัดสรร สสร. ก็อาจจะมีปัญหาอีก ไม่มีความโปร่งใส ข้อ ๔ คือไม่มีความเป็นกลาง อย่างที่ได้ กล่าวไปนะครับ จะต้องทำงานรับใช้คนที่แต่งตั้งมา ไม่ทำงานตามหน้าที่ ไม่มีประสิทธิภาพ คอยยกมือตามคำสั่งเท่านั้น ส่วน สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ มีข้อเสียเช่นกัน อย่างเช่น การเปลืองทรัพยากรในการใช้กำลังคนในการเลือกตั้ง ใช้เวลานานที่จะเลือกตั้ง เข้ามา แล้วก็ข้อ ๒ คือมีการเปลืองค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ข้อ ๓ ก็คืออาจจะถูกครอบงำ จากกลุ่มทุนได้ ซึ่งข้อนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหามาก เพราะว่ากลุ่มทุนอาจจะไม่ได้อยากจะลงทุน ในการที่จะตั้ง สสร. เพื่อมาร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญแค่นั้น คงไม่มีปัญหาเท่าไร แต่ข้อดีของ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งนะครับ มีความชอบธรรมมาก ๆ เลย เพราะว่าได้รับ การยอมรับจากประชาชนเพราะเป็นเสียงของประชาชนโดยตรง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ข้อ ๒ คือ มีความหลากหลาย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นตัวแทนของกลุ่มหลายกลุ่มในสังคม สะท้อนความต้องการของประชาชนที่หลากหลายอย่างแท้จริง มีความโปร่งใส กระบวนการ คัดเลือก สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งก็ตรวจสอบได้ เพราะว่าเป็นการเลือกตั้งเข้ามา ข้อ ๔ ที่สำคัญที่สุดก็คือการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐธรรมนูญที่มาจาก สสร. ที่มาจาก การเลือกตั้งของประชาชน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ประชาชนย่อมรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของ รัฐธรรมนูญที่แท้จริง เพราะเป็นคนเลือกสรร สสร. เข้ามาเอง จะติดตามการทำงานของ สสร. จะให้ความร่วมมือในการแสดงความคิดเห็นของร่างรัฐธรรมนูญนั้น ๆ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสียแล้วผมก็คิดว่า สสร. ควรจะมาจากการเลือกตั้ง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากเรา ต้องการรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงก็ควรจะเริ่มจะก้าวแรกเลยเพื่อความ โปร่งใส ก็คือการเลือกตั้งเพื่อความสง่างาม ไร้ข้อตำหนิ ข้อกังขาของสังคม ท้ายที่สุดสภาของ เราเคยมีตัวอย่างคณะบุคคลคณะหนึ่งที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามา พอโหวตก็โหวตไปทาง เดียวกันทั้งคณะ แต่พอเจ้านายแตกกันเป็น ๒ ฝ่าย คณะนี้ก็แตกเช่นกัน แบ่งโหวตเป็น ๒ ฝ่าย จนประชาชนก็รู้กันหมดว่าใครถูกแต่งตั้งมาจากใคร ระบบแบบนี้ควรจะสูญพันธุ์ ไปจากการเมืองไทยได้แล้ว ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล เขต ๗ อำเภอลำลูกกา ธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ ผมขอมีส่วนร่วมอภิปราย ญัตติการสร้างพลเมืองให้มีคุณภาพ ซึ่งผมก็มี ๓ ประเด็นให้ชวนคิด
ประเด็นแรก ผมอ่านญัตติแล้วผมก็สงสัยประการแรกเลยว่าการที่เราจะสร้าง พลเมืองให้มีคุณภาพเราเองมีคุณภาพแล้วหรือยังครับ ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองนี้มีคุณภาพ พอที่จะไปสอนคนอื่นแล้วหรือยัง เรายังมีสิ่งเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะครับ นักการเมือง ขี้โกง ข้าราชการรับเงินใต้โต๊ะ มีนักร้องที่คอยรีดไถ มีตำรวจที่รีดไถประชาชน นักการเมือง ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ผมก็เลยสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเรามีคุณภาพ พอที่จะทำญัตตินี้เพื่อไปสอนคนอื่น ก่อนที่เราจะสอนเยาวชนให้มีคุณภาพเราน่าจะต้อง แก้ปัญหาตัวเองก่อน ทำตัวเองให้มีคุณภาพก่อน ปัจจุบันนี้เยาวชนก็ตาสว่าง ประชาชนก็ตื่นรู้ เขารู้ว่าใครกำลังเอาเปรียบสังคม ใครกำลังขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน ใครทำให้ค่าครองชีพแพง ค่าแรงต่ำ ใครทำให้ค่าไฟแพง เนื้อหมูเนื้อสัตว์ราคาแพง สิ่งเหล่านี้ประชาชนเขารู้กันแล้ว คนจนในประเทศไทยไม่ได้โชคร้ายที่เกิดมาจน มันเป็นการออกแบบให้เขาจน ออกแบบอย่างไร ยกตัวอย่างชาวนา ชาวนาถูกหลอกให้ภูมิใจว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ เวลาเรากินข้าว ต้องรำลึกถึงบุญคุณชาวนา ผมถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแบบนี้เลย เป็นวาทกรรมที่หลอกให้ ชาวนาภูมิใจว่าเขาคือผู้ที่มีบุญคุณ แต่สุดท้ายชาวนาทำงานทั้งปีทั้งชาติทำงานตลอดชีวิต เป็นหนี้ ๆ แล้วก็จนลง ๆ ตลอดเวลา สิ่งที่ชาวนาอยากจะได้จริง ๆ แล้วไม่ใช่บุญคุณนะครับ เขาอยากมีชีวิตที่ดีเหมือนทุก ๆ คน อยากมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัว นอกจาก ชาวนาแล้วก็มีทหาร ก็หลอกทหารอีกว่าเป็นรั้วของชาติ เป็นความภูมิใจของประเทศ เป็นคน รักษาประเทศชาติ แต่สุดท้ายท่านเกณฑ์ทหารไปทำไมครับ เอาไปดายหญ้า เอาไปล้างจาน เอาไปเสิร์ฟน้ำทำงานบ้าน อันนี้หรือครับรั้วของชาติ ถ้ามาพูดถึงกระบวนการยุติธรรม สิ่งที่ ท่านทำตัวอย่างให้เยาวชนเห็นคืออะไร ทายาทเศรษฐีหมื่นล้านขับรถชนตำรวจแต่ไม่ติดคุก แล้วยังมีแก๊งผู้มีอำนาจทั้งอดีตรองอัยการสูงสุด อดีต ผบ.ตร. อาจารย์มหาวิทยาลัย รวมหัวกัน เปลี่ยนความเร็วของรถขณะที่ชนเหลือ ๗๖ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จริง ๆ แล้วมีการพิสูจน์ กันแล้วว่าขณะที่ชนนั้นรถวิ่งสูงกว่า ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วมีหลักฐานพิสูจน์อีกว่า รถวิ่งเร็วถึงขนาด ๑๗๗ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่กระบวนการยุติธรรมของผู้มีอำนาจพยายาม จะเปลี่ยน Speed รถจาก ๑๗๗ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น ๗๖ กิโลเมตรต่อชั่วโมง อันนี้คือ ความยุติธรรมที่เราแสดงให้เยาวชนเห็นหรือครับ แล้วแบบนี้เรามีหน้าไปสอนเยาวชนได้ อย่างไรให้มีคุณภาพ ถ้าตัวเราเองยังทำตัวแบบนี้ ประเทศไทยเราคนเลวคนชั่วทุกวันนี้ได้ดี เต็มไปหมด แต่ตำรวจน้ำดีกลับอยู่ไม่ได้ พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา สุดท้ายอย่างไรครับ ไปชนตอต้องหนีหัวซุกหัวซุน หนีเอาชีวิตรอดไปอยู่ออสเตรเลีย ไปทำงาน ค่าแรงขั้นต่ำที่ออสเตรเลีย โรงงานเย็บกระดุม ระดับพลตำรวจตรีนะครับต้องหนีไปทำงาน โรงงาน กินแรงงานขั้นต่ำ อันนี้คือสิ่งที่เราแสดงให้ทุกคนเห็นในประเทศนี้ว่าถ้าคุณเป็นคนดี คุณอยู่ไม่ได้
ประเด็นที่ ๒ เราเอากฎเกณฑ์อะไรมากำหนดว่าคนแบบไหนมีคุณภาพ คนที่ เรียนเก่ง ทำงานเก่ง เอาตัวรอดได้ ไม่สร้างความเดือดร้อนของสังคม แต่ไม่เคยช่วยเหลือสังคมเลย มีคุณภาพไหมครับ หรือว่าคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานไม่เก่ง แต่อุทิศตนช่วยเหลือสังคมตลอดเวลา อันนี้อย่างไหนมีคุณภาพกว่ากัน อันนี้อยากฝากไว้ให้คิดว่าเราเอากฎเกณฑ์อะไรมาพูดถึง คุณภาพของมนุษย์
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ขอไปที่ประเด็นที่ ๓ จริง ๆ ก็ไม่อยากจะเสนอแนะ อะไรนะครับ เพราะผมมองไม่เห็นแนวทางหรือว่าเราจะทำให้มันมีคุณภาพได้อย่างไร ถ้าเรา ยังเป็นแบบนี้กัน ทุกประเทศการร้างพลเมืองให้มีคุณภาพ การศึกษาคือเรื่องสำคัญที่สุด ทุกประเทศที่เจริญแล้วจะมุ่งไปที่การศึกษา แต่การศึกษาของประเทศเรานี้ ทุกท่านคงรู้ นะครับ ผมไม่อยากจะพูดเดี๋ยวหาว่าด้อยค่าประเทศไทยอีก เราอยู่ระดับไหนของ ASEAN เราอยู่ในระดับไหนของภูมิภาคเรารู้อยู่แก่ใจ การศึกษาต้องมีความหลากหลาย มีการทุ่มเท นวัตกรรม มีการลงทุนในการศึกษาทุกระดับ และมีการศึกษาตลอดชีวิต ไม่ใช่ศึกษาแค่ เฉพาะช่วงแล้วก็หยุดไป
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็คือพวกสาธารณสุข ดูแลใส่ใจในการป้องกันสุขภาพประชาชน มีการให้เข้าถึงสาธารณสุข มีการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพได้ สวัสดิการทางสังคม มีส่วนร่วมของประชาชนอย่างสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้ก็คือทำให้ประชาชน มีคุณภาพ รวมถึงสื่อมวลชนต้องมีอิสระในการตรวจสอบรัฐบาลด้วย การสร้างสภาพแวดล้อม ที่ดีก็จะสร้างสังคมที่ดีมีคุณภาพ แต่สุดท้ายคือวิสัยทัศน์ของผู้นำที่สำคัญว่าต้องการทำจริง หรือเปล่า หรือทำแค่ปาก สุดท้ายไม่ทำอะไรเลย อย่างไรก็ตามผมขอสรุปตรงนี้เลยว่า ถ้าผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ไม่สามารถแก้ปัญหาตัวเองได้ ทำตัวให้มีคุณภาพไม่ได้ก็อย่าไปสอนเด็ก เลยครับ อย่าตั้งญัตติเลยครับ เสียเวลา ถ้าแม่ปูยังเดินตรงไม่ได้จะไปสอนลูกปูให้เดินตรง ได้อย่างไร ขอบคุณครับท่าน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี และอำเภอหนองเสือ วันนี้ผมขอมีส่วนร่วมอภิปรายสนับสนุน ญัตติแยกกัญชงออกจากกัญชา ทั้ง ๒ ชนิดนี้พืชมีความแตกต่างกันอย่างไร กัญชงและกัญชา เป็นพืชวงเดียวกัน แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งกายภาพและคุณสมบัติอย่างที่เพื่อนสมาชิก หลายท่านได้กล่าวไปแล้วนะครับ กัญชานี้ง่าย ๆ เลย มีสาร THC เป็นหลัก ซึ่งสาร THC ถ้าใช้ปริมาณมากจะทำให้เกิดการ เสพติด แต่ก็ยังสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ ส่วนกัญชงจะมีสาร CBD เป็นหลัก สารนี้ไม่ใช่ สารเสพติดนะครับ แล้วกัญชงก็นำไปใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระดาษ แล้วก็เมล็ดนำไปทำ เครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหารได้ จำแนกกันง่าย ๆ แบบนี้เลย เดิมทีนะครับ คนเข้าใจกัน ว่ากัญชาและกัญชงเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน นิยามยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ ของเรา ไม่เคยมีคำว่า กัญชง อยู่ในกฎหมายฉบับใดเลย ทำให้กัญชงก็ถูกจัดเป็นยาเสพติดพร้อมกับ กัญชาไปโดยปริยาย ไม่แปลกใจนะครับ เพราะเมื่อก่อนนี้ทั่วโลกแล้วก็จัดหมวดหมู่กัน แบบนั้นเหมือนกัน จัดกัญชงไปอยู่กับกัญชา แต่เมื่อปี ๒๕๔๑ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ได้มองเห็นว่ากัญชงกับกัญชาแตกต่างกันนะ ทั้งกายภาพและคุณสมบัติ เพราะฉะนั้นแยก หมวดหมู่ย่อยออกมา กัญชงก็กลายเป็น Sativa แล้วกัญชาก็กลายเป็น Indica เป็นสายพันธุ์ย่อย เมื่อคนไทยได้ทราบตรงนี้แล้วเรามีการนำกัญชงมาใช้เป็นสิ่งทออยู่แล้ว เราก็เรียกร้องด้วย เรียกร้องให้ตรงนี้ควรจะนำมาผลิตเป็นสินค้าได้อย่างถูกกฎหมาย ก็เลยในที่สุดก็ต้องประกาศ เป็นกฎกระทรวงปี ๒๕๕๙ ให้มีการอนุญาตให้ผลิตได้ จำหน่ายได้ หรือมีไว้ครอบครองได้ ซึ่งหมายถึงอะไรนะครับ ในตอนนั้นหมายถึงว่าตีความแบบบ้าน ๆ เลย กัญชงคุณคือยาเสพ ติดนะ แต่ถ้าเกิดคุณจะผลิตคุณก็มาขออนุญาตได้ เพราะจริง ๆ แล้วคุณไม่ใช่ยาเสพติด มันย้อนแย้งนะครับ เพราะฉะนั้นนะครับท่านประธาน ในอดีตองค์ความรู้เรายังไม่เยอะ เราทำอะไรแบบง่าย ๆ ยกตัวอย่างเลยนะครับ อย่างสัตว์น้ำในทะเล เราเรียกว่าปลาหมดเลย วาฬไม่ใช่ปลา เราก็เรียกว่า ปลาวาฬ พะยูนและโลมาก็เช่นกัน เป็นสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนม ไม่ใช่ปลา แต่เราก็เรียกว่า ปลา ซึ่งก็แปลกดีเหมือนกัน โดยเฉพาะหมึก หมึกหน้าตา ไม่เหมือนปลาเลย เราก็เรียกว่า ปลาหมึก เราทำอะไรกันง่าย ๆ แบบนี้ เราจัดหมวดหมู่กัน ง่าย ๆ แบบนี้ แต่ไม่ว่าปลาวาฬหรือปลาหมึกก็ตาม เราจะแยกหรือไม่แยกไม่มีผลกระทบกับ พี่น้องประชาชนเลยนะครับ แต่กัญชงและกัญชามันมีผลมหาศาลเลย ผมจะยกตัวอย่างให้ดู เส้นใยของกัญชงถูกใช้มานานมาก อย่างที่ สส. เลาฟั้งได้พูดไปว่า ชาวม้งใช้มาแต่ในอดีต เป็นนับร้อยปี แต่สุดท้ายเรามาจัดเขาว่าเป็นยาเสพติดทำให้มีปัญหานะครับ แล้วอันนี้คือ พืชเศรษฐกิจของชาวม้งตั้งแต่อดีต เขาปลูกกันมานำมาทำเป็นเส้นใย เอาไปตากแดดแล้วก็ นำมาย้อมสีธรรมชาติ การปลูกกัญชงก็ไม่ได้ใช้สารเคมีด้วย เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เป็น ธรรมชาติมาก ๆ แล้วก็รักษาสิ่งแวดล้อมมาก ๆ เมื่อนำมาผลิตเป็นเส้นใยมาเรียงต่อกัน ผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่บ้านก็นำมาม้วนเป็นใจ ได้มีอาชีพทำ ได้เงินใช้ด้วยนะครับ นำมาทำเป็น ไหมพรม แล้วก็เป็นกระบวนการผลิตของในหมู่บ้านของคนเฒ่าคนแก่ที่ทำให้สร้างงาน สร้างอาชีพกับเขาได้ เมื่อผลิตเสร็จแล้วก็เอาไปส่งให้กับทางสตรีในการที่จะถักทอ เป็นเสื้อกระโปรง แล้วก็จำหน่าย เพราะฉะนั้นในประเทศไทยเราเองมีการพัฒนาสามารถ นำเอาใยของกัญชงไปผสมกับฝ้าย ไปผสมกับไหมได้ แล้วถักทอให้เป็นผ้าที่มีรูปแบบที่นุ่มขึ้น แล้วก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น ส่วนในต่างประเทศเขาพัฒนากันมากกว่าเรา ในต่างประเทศสามารถนำใยตรงนี้ เอาตัว Lignin ออกซึ่งเป็นเส้นใยที่แข็งของกัญชงเอาออก ทำให้ผ้ายิ่งนุ่มเข้าไปอีกนะครับ แล้วก็มีความทนทานเทียบเท่ากับผ้าขนสัตว์เลยนะครับ ด้วยประโยชน์จากเส้นใยเหล่านี้ทั้งดูดซับความชื้นได้ดีกว่า แข็งแรงกว่าผ้าฝ้าย มีความอบอุ่น กว่าผ้าลินิน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ทำให้เป็นที่ นิยมมาก ๆ โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นนะครับ ญี่ปุ่นถือว่ากัญชงเป็นพืชมงคลเลย นำไปตัด ชุดกิโมโนตัวหนึ่งหลักแสนบาทเลยนะครับ ชาวม้งเองก็ถือว่าเป็นพืชมงคลเช่นกัน เพราะใช้ มานานนับร้อยปีนะครับ Brand ดังทั่วโลกก็นำกัญชงไปใช้ อันนี้ไม่ใช่ว่าแต่ประเทศไทยจะใช้นะครับ แล้วเมื่อเราผลิต กัญชงเราก็ยังส่งออกด้วย ๘๐ เปอร์เซ็นต์เราส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ที่เหลือก็ส่งออกไป ที่ยุโรป อย่างเช่น ประเทศสวีเดน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอนาคตเส้นใยกัญชงก็จะมา ทดแทนเส้นใยสารเคมีต่าง ๆ เพราะเราจะไปถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น สุดท้าย ในเรื่องของเศรษฐกิจ นักธุรกิจบางคนเขามองตัวกัญชงเป็น New S-Curve เลยนะครับ มูลค่าปัจจุบันในตลาดที่ผมหาเจอมาคือหลักพันล้านบาทเฉพาะกัญชง แล้วก็คาดการณ์ว่า จะขึ้นหลัก ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท ในอีก ๕ ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดขนาดนี้เราไม่ควรจับกัญชง กลับเข้าไปเป็นยาเสพติดอีกนะครับ เพราะเขาไม่ใช้ยาเสพติด แน่นอนว่าถ้าเกิดเส้นใย ใช้ประโยชน์ได้ขนาดนี้ แล้วตลาดจะกว้างขนาดนี้ ไม่สามารถที่จะเป็นแค่ผ้าอย่างเดียว กัญชง ยังนำไปผลิตเป็นยารักษาโรคด้วย เนื่องจากว่ามีสาร CBD เยอะ และสาร CBD มีประโยชน์ ต่อการนอนหลับ ลดอาการเครียด ลดความเจ็บปวด แล้วก็ไม่ใช่สารเคมี เป็นสารสกัด จากธรรมชาติล้วน ๆ ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการแพ้ หรือว่าต่อต้านของร่างกาย เมื่อเรา ได้พัฒนาถึงขนาดนี้แล้วก็มีบริษัทบางบริษัทได้ลงทุน ๒๐๐ ล้านบาท สร้างโรงงานที่จะผลิต กัญชงผลิตเป็นยา แล้วก็ปัจจุบันนี้ก็ผลิตแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นก็อย่านำกัญชงเข้าไปบรรจุ ในกฎหมายยาเสพติดเลยครับ ยิ่งท่านควบคุมมากเท่าไรการพัฒนาทั้งสายพันธุ์ ทั้งผลิตภัณฑ์ ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดเราปล่อยให้มีอิสระเสรีสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ขอบคุณมากครับ
ขอสไลด์เลยนะครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี เขต ๗ ท่านประธาน ผมมีเรื่องจะปรึกษาหารือกับท่านในระดับประเทศถึงท่านนายกรัฐมนตรีด้วย ค่าฝุ่นพิษในอากาศของอำเภอลำลูกกาสูงลิ่วเลย ทุกวันจะติดอันดับ Top 10 ล่าสุดเมื่อเช้านี้ ผมต้องรีบเปลี่ยนสไลด์เพราะค่าฝุ่นรุนแรงมาก แล้วถ้าท่านจะจัดการเรื่องของชาวนาห้ามเผานา ก็ขอให้เยียวยาชาวนาให้เพียงพอด้วย ผมอยากให้ชุมชนกับชาวนาอยู่ร่วมกันได้ ไม่ต้อง ทะเลาะกัน
เรื่องที่ ๒ ก็คือเรื่องน้ำประปาไม่ไหล ไหลอ่อนแล้วก็สกปรก มีทั้งสีเหลือง มีทั้งกลิ่น ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานีเลย แก้ไขไม่ได้สักทีเป็น ๑๐ ปีแล้ว ทำไมกรุงเทพฯ น้ำไหลแรงได้ครับ คนปทุมธานีก็จ่ายภาษีเหมือนกัน ขอให้ท่านมาหาทาง แก้ไขให้คนปทุมธานีด้วยนะครับ
เรื่องที่ ๓ รถบรรทุกวิ่งทั้งวันทั้งคืน รถบรรทุก รถพ่วง เส้นสีแดงอันนี้เป็น พื้นที่ผม อำเภอลำลูกกา คลอง ๕ ถึงคลอง ๗ ทล.๓๓๑๒ มีการห้ามวิ่งช่วงเร่งด่วน อันนี้ ผมกำชับผู้กำกับ แล้วผู้กำกับก็สามารถที่จะบรรเทาความเดือดร้อนได้ แต่เมื่อเส้นสีแดง วิ่งไม่ได้ เขาก็หันไปวิ่งเส้นสีฟ้ากัน ปท.๕๐๓๑ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เส้นนั้นจะเล็กกว่า อีกแค่ ๒ เลน ทำให้มีปัญหาการจราจรติดขัดมากเลย ส่วนเส้นสีเขียวระหว่างคลอง ๗ ถึง คลอง ๙ ไม่มีการห้ามรถบรรทุกวิ่ง ทำให้มีการวิ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน และปัญหาก็คือว่า ประชาชนเริ่มขยายมาอยู่ตรงนี้เยอะมาก ๆ เลย คลอง ๗ ถึงคลอง ๙ ก็อยากให้มาตรวจสอบ ดูแลกันด้วย หลายหน่วยงานเกี่ยวข้องต้องมาช่วยกันดูแล
ส่วนเรื่องสุดท้าย เรื่องที่ ๔ ก็คืออันนี้ผมพาตำรวจไปจับมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่ ๔ คืองานวัด หลอกลวงประชาชนบอกว่า ๒๐ บาท ๓ ถาด ให้เงินหน้าม้ามาซื้อ ๒๐ บาท ๓ ถาด พอประชาชนไปเล่นจริง ๆ กลายเป็นว่า ๒๐ บาทนี้ต่อลูก ๓ ถาดคือ ๓๐๐ บาท ประชาชนเล่นไป ๖ ถาด ๖๐๐ บาท แล้วก็ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาเล็กเลย เพราะว่าพอผมพาตำรวจไปจับปุ๊บออกข่าวเกือบทุกช่องเลย แล้วถ้าเกิดโกงกันแบบนี้คืนหนึ่ง ๕๐ คนได้ ๓๐,๐๐๐ บาท มี ๑๐ คืน ๓๐๐,๐๐๐ บาท อันนี้คือปัญหาทั่วประเทศเลย แล้วประชาชนเขาจะไปเที่ยวงานวัดเพื่อความสนุกแต่กลับต้องมาเจอแบบนี้ ปัญหายาเสพติด ในประเทศอาจจะแก้ได้ยาก แต่ปัญหานี้ปัญหาเล็ก ๆ แต่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ขอให้ ท่านนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจโดยตรงให้กวดขันตำรวจให้จัดการเรื่องนี้ด้วย อยากให้ประชาชนอยู่กันอย่างมีความสุขไม่ต้องเดือดร้อนแบบนี้ ขอบคุณมาก สวัสดีครับ
ท่านประธานครับ ๒๑๕ แสดงตนครับ