ข้อมูลการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ชุดที่ 26

ปีที่ 1

สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง

ครั้งที่ 5 วันพุธที่ 9 สิงหาคม 2566 เวลา 10.43 - 19.29 นาฬิกา

เอกสารต้นฉบับ: บันทึกการประชุมรายงานการประชุมสรุปการประชุม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรียนท่านสมาชิกนะครับ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมจะมีการหารือทั้งหมด ๓๐ ท่าน ท่านละ ๓ นาที วันนี้เดี๋ยวเราช่วยกันรักษาเวลาด้วยนะครับ วันนี้เรามีรายงานสำคัญการเงิน เข้าถึง ๕ ฉบับ แล้วก็หน่วยงานมาครบเลย เราจะได้ใช้เวลาเริ่มและเลิกตรงเวลา ขอเชิญ ท่านแรกท่านศุภโชค ศรีสุขจร ครับ

นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ แล้วก็ท่านสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติทุกท่านครับ กระผม นายศุภโชค ศรีสุขจร สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ท่านประธานครับ จากการที่ผม ได้ลงพื้นที่สอบถามประเด็นปัญหาต่าง ๆ กับชาวบ้านพ่อแม่พี่น้องจังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ ๑ วันนี้ผมอยากจะขออภิปรายหารือกับท่านประธานด้วยกัน ๒ ประเด็น

นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ

ประเด็นแรก การจราจรถนนเพชรเกษมบริเวณทางแยกเข้าออกวัดไร่ขิง พระ อารามหลวง กม. ที่ ๓๓ หมายเลขถนน ทล.๓๓๑๖ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ แขวงการทางสมุทรสาคร ปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียนมาคือการสัญจรเข้าออกเป็นไป ด้วยความยากลำบากครับ เนื่องจากซุ้มประตูทางเข้าออกของวัดมีขนาดที่เล็กเกินไป ทำให้รถโดยสารประจำทางแล้วก็รถบรรทุกสินค้าขนาดต่าง ๆ ไม่สามารถตีวงเลี้ยวให้อยู่ใน เส้นจราจร ทำให้การสัญจรเกิดการติดขัดแล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ทางองค์การ บริหารส่วนตำบลท่าตลาดได้มีการเชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทาง การแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้มีการเชิญประชุมแขวงการทางสมุทรสาครแล้วก็กรรมการ วัดไร่ขิงจนได้ข้อสรุปในโครงการแก้ไขปัญหาการจราจร อย่างไรก็ตามผมได้สอบถามทางแขวง ทางแขวงยังขาดงบประมาณในการจัดทำโครงการดังกล่าว เช่นเดียวกับทางวัดไร่ขิงการที่จะ มีการรื้อถอนและติดตั้งซุ้มประตูวัดใหม่ก็เป็นงบประมาณที่สูง กระผมจึงอยากขอนำเรียน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนงบประมาณดังกล่าวให้กับทางแขวง แล้วก็ทางวัดเพื่อจะดำเนินโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จครับ

นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ปัญหาการจราจรบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานโพธิ์แก้วช่องที่ ๗ ถนนเพชรเกษม อำเภอสามพราน ปัญหาที่พบในช่วงฤดูฝนและฤดูที่น้ำทะเลหนุนสูงจะทำให้ น้ำท่วมขังบริเวณจุดกลับรถใต้สะพาน เนื่องจากปริมาณน้ำส่วนเกินจากแม่น้ำท่าจีน ที่ไหลหลากเข้ามา ประกอบกับน้ำฝนที่ท่วมขังบริเวณบนผิวจราจรถนนทำให้น้ำไม่สามารถ ระบายออกสู่แม่น้ำท่าจีนได้ ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ไม่สามารถสัญจร ใช้ทางกลับรถบริเวณดังกล่าวได้

นายศุภโชค ศรีสุขจร นครปฐม ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ท้องสะพานมีขนาดที่ต่ำเกินไปทำให้รถโดยสารขนาดใหญ่ ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรได้เช่นกัน ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนใต้ท้องสะพาน อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งผมเกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของโครงสร้างสะพานได้ ทั้งนี้ ผมเองได้ลงพื้นที่สำรวจแล้วก็ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าก่อนทางลอด ใต้สะพานดังกล่าวมีพื้นที่เพียงพอในการก่อสร้างกำแพงคันดิน แล้วก็มีความสูงของท้องสะพาน ที่เพียงพอในการใช้ทำทางกลับรถได้ อย่างไรก็ตามการก่อสร้างดังกล่าวต้องใช้งบประมาณ ที่มาก กระผมจึงอยากขอนำเรียนท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อของบประมาณ สนับสนุนในการสร้างทางกลับรถดังกล่าวครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านเกียรติคุณ ต้นยาง ครับ

นายเกียรติคุณ ต้นยาง นนทบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพครับ กระผม นายเกียรติคุณ ต้นยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี เขตเลือกตั้งที่ ๗ อำเภอบางบัวทอง ตำบลบางบัวทอง ตำบลโสนลอย ตำบลพิมลราช อำเภอไทรน้อย ตำบลไทรน้อย ตำบลคลองขวาง พรรคก้าวไกล วันนี้ผมมีเรื่องที่จะหารือ ท่านประธานจำนวน ๓ เรื่อง ขอภาพด้วยนะครับ

นายเกียรติคุณ ต้นยาง นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องแรก เป็นเรื่องความเดือดร้อนของ พ่อแม่ผู้ปกครองแล้วก็นักเรียนโรงเรียนระดิ่งหินประชาสรรค์ หมู่ที่ ๗ ตำบลพิมลราช อำเภอ บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีผลกระทบจากการที่จะต้องเดินทางไปโรงเรียน เช้าไปเรียน เย็นกลับบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นลักษณะสามแยก แต่ไม่มีทางม้าลาย ไม่มีไฟจราจร แล้วก็มักเกิด อุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง นอกจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กนักเรียนแล้ว ยังมีพี่น้องมุสลิมที่จะต้อง ไปประกอบศาสนกิจที่สุเหร่าโรงกระโจม มีความยากลำบากในการเดินทางไปประกอบ ศาสนกิจนะครับ จึงขอให้ท่านประธานช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ ติดตั้งไฟจราจร แล้วก็ทางม้าลายเพื่อให้เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง แล้วก็พี่น้องมุสลิม ได้เดินทางด้วยความปลอดภัยนะครับ

นายเกียรติคุณ ต้นยาง นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็น จะต้องไปรับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลไทรน้อย ถนนไทรน้อย ตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากบริเวณทางเข้าโรงพยาบาลไทรน้อยมีลักษณะ เป็นสี่แยกมีการจราจรที่คับคั่ง แล้วก็มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง พี่น้องที่เจ็บไข้ได้ป่วย แทนที่จะรักษาโรคภัยไข้เจ็บ กลับจะต้องมารักษาอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุก่อนนะครับ จึงขอให้ท่านประธานช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตั้งไฟจราจรแล้วก็ ทางม้าลาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความปลอดภัยในการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ไทรน้อย

นายเกียรติคุณ ต้นยาง นนทบุรี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เป็นเรื่องความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ชุมชนหลังวัดละหาร หมู่ที่ ๒ ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี แล้วก็พี่น้องที่อยู่ชุมชนพิมลราช ฝั่งเหนือ หมู่ที่ ๑ ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากพี่น้อง ๒ ชุมชนนี้ มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางเข้าออกชุมชนผ่านสะพานข้ามคลองพระพิมลราชา ซึ่งสะพาน ดังกล่าวมีลักษณะสูงลาดชันตามภาพเลย พี่น้องมีความลำบากในการเดินทาง รถจักรยานยนต์ รถจักรยานก็จะลื่นล้มได้ง่าย จึงขอให้ท่านประธานช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการปรับลดสะพานให้สะพานมีความลาดชันและต่ำกว่านี้นะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านกาญจน์ ตั้งปอง ครับ

นายกาญจน์ ตั้งปอง ตรัง ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขตที่ ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่อำเภอกันตัง อำเภอสิเกา และอำเภอย่านตาขาว ขออนุญาตหารือท่านประธานใน ๓ หัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ครับ

นายกาญจน์ ตั้งปอง ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ปัญหาเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคของ ๗ หมู่บ้านในตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต หรือแม้แต่กระทั่งพะยูนฝูงสุดท้ายก็อยู่แห่งนี้ ท่านประธานครับ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่าย เยี่ยมชม ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาสำคัญเลยคือปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนมาเป็น ระยะเวลานาน จึงอยากขอเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังการประปาส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทยให้ช่วยขยายเขต และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สังกัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาศึกษาสำรวจเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ดังกล่าวโดยเร็วด้วยครับ

นายกาญจน์ ตั้งปอง ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ ๓ บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เช่นเดียวกันถึงปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนเป็นเหตุให้เกิด บ้านเรือนเสียหายนับ ๑๐ กว่าหลังคาเรือน ระยะความยาวจากหน้าหาดประมาณ ๓ กิโลเมตร ถ้าไม่รีบแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบ้านมดตะนอยเป็นอย่างมาก จึงอยากกราบเรียนท่านประธานสภาผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า ช่วยเข้าไปเร่งรัดศึกษาผลกระทบ เพื่อเร่งแก้ปัญหา ไม่ให้ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ครับ

นายกาญจน์ ตั้งปอง ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เรื่องสุดท้าย ไฟส่องสว่างถนนกะลาเส แหลมไทร ในอำเภอสิเกา ได้ตัดจากเส้นทางหลักสาย ๔๐๔๖ สิเกา-ควนกุน เข้าไปยัง ๔ หมู่บ้าน ระยะทาง ๑๖ กิโลเมตร ได้แก่ หมู่ที่ ๓ บ้านแหลมไทร บ้านบางค้างคาว หมู่ที่ ๕ บ้านแหลมมะขาม และหมู่ที่ ๗ บ้านทุ่งทอง เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่อาศัยดังกล่าวนับ ๑,๐๐๐ กว่าหลังคาเรือน ใช้ถนนสายนี้เป็นถนนสายหลักในการสัญจร แต่ยังขาดไฟส่องสว่างตลอดเส้นทาง ประกอบกับมีโค้งที่อันตรายเยอะ เกรงว่าจะไม่ได้รับความสะดวกสบาย จึงมีความต้องการ ให้ทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบและทำการติดตั้งไฟส่องสว่าง เพื่อป้องกันอันตรายและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สัญจร ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านประเสริฐ บุญเรือง ครับ

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายประเสริฐ บุญเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ ๖ มีเรื่องหารือกับท่านประธานที่อยู่ใน กรมทางหลวงทั้งหมดทั้ง ๓ เรื่อง

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ขยายช่องทางการจราจร จากสี่แยกบัวขาวที่เรียกว่าสี่แยกอำเภอกุฉินารายณ์ ไปทางอำเภอโพนทอง ไปสุดเขตที่ สะพานแม่น้ำลำพะยัง ระยะทาง ๘ กิโลเมตร ตามถนนหมายเลข ๒๐๔๖ ซึ่งจะมีจุดตัด ตามรูปที่อยู่ใน Board ถนนเส้นนี้จะเป็นจุดตัดของถนน East-West Economic Corridor ที่เรียกว่าถนนยุทธศาสตร์มุกดาหาร-ตราด และถนนเส้นนี้ใน กม. ที่ ๖ จะมีโรงงานน้ำตาล ขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น ให้ท่านประธานคิดดูว่าเวลาถึงฤดูหีบอ้อยปัญหาจะเกิดขึ้นมาก รถจะติด ตั้งแต่สี่แยกบัวขาว ที่สี่แยกกุฉินารายณ์ไปถึงโรงน้ำตาลระยะทาง ๔-๕ กิโลเมตร ทำให้ เกิดปัญหาและทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ได้ปรึกษาหารืออยู่ที่สภาแห่งนี้ และในปี ๒๕๖๖ ได้รับแจ้งจากท่านผู้อำนวยการ แขวงสกลนคร เขต ๑ ของกรมทางหลวง ท่าน ผอ. ประสิทธิ์ว่าแขวงสกลนครได้จัดเข้าแผน ในงบประมาณ ปี ๒๕๖๗ ออกจากสี่แยกกุฉินารายณ์ไป แต่ไม่ถึงจุดตัดถนน East-West Economic Corridor เหลือขาดอยู่ประมาณ ๘๐๐ เมตร ผมว่าในกรณีปี ๒๕๖๖ นี้ถ้ามีเงิน งบประมาณเหลือจ่ายก็เรียนท่านอธิบดีกรมทางหลวงพิจารณาถนนเส้นนี้ให้ด้วย ตาม Slogan ที่บอกว่าสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ คุ้มค่าเศรษฐกิจและสังคม ของกรมทางหลวง

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ขยายช่องทางการจราจรเป็น ๔ ช่องจราจรของถนนหมายเลข ๒๒๙๑ สายอำเภอกุฉินารายณ์-สร้างค้อ จังหวัดสกลนคร ช่วงจากบ้านกุดสิมคุ้มใหม่ออกมาทาง กุฉินารายณ์ด้วยเหตุผล อำเภอเขาวง อำเภอนาคู เป็นอำเภอที่ได้รับการส่งเสริม เป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เรียกกันว่าวัฒนธรรมผู้ไทย สอดคล้องกับนโยบายของ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ตามข้อมูลจังหวัดกาฬสินธุ์ ๖ เดือนแรกมีรายได้เข้ามาอยู่ประมาณ ๑,๐๑๕ ล้านบาท นี่ก็คือ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง แต่ว่าถนนหนทางเข้าสู่เมืองแห่งนี้ ที่เรียกอยู่ว่าเป็นเมืองผู้ไทยของอำเภอเขาวงและอำเภอนาคูนั้นไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ขยายถนนช่องทางการจราจร อำเภอกุฉินารายณ์ไปอำเภอสมเด็จ จราจรคับคั่งมาก ขอรับการสนับสนุน และเรื่องปีงบประมาณ ๒๕๖๗ อยู่ในแผนงบประมาณ ได้รับการสนับสนุนการปรับปรุงจราจร ๔ ช่องจราจร ภายในเขตเทศบาลตำบลกุดหว้า และเขตเทศบาลตำบลนาคู ออกมาทางอำเภอเขาวง ด้วยความเคารพครับ ท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร กระผม นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ เขต ๒ พรรคภูมิใจไทย ขอหารือต่อท่านประธานสภา

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ การจ่ายเวนคืนที่ดิน โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว บนพื้นที่ของพี่น้องประชาชน ๑๒๐ ราย ๒๕๗ แปลง เนื้อที่กว่า ๑,๑๐๐ ไร่ โดย ครม. ได้อนุมัติงบประมาณเวนคืน ๔๐๐ ล้านบาท ปัจจุบันทราบว่ามีการชำระเงินไปแล้วบางราย และยังคงมีผู้ถูกเวนคืนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเงินเวนคืน แต่ทางโครงการได้เข้าไป ดำเนินการก่อสร้างแล้ว จึงขอฝากถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเงินเวนคืนที่เหลือ จะสามารถชำระให้กับผู้เวนคืนได้ครบถ้วนเมื่อไร

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๗ อำเภอเหนือคลอง ควนสว่าง หรือเหนือคลองเขาพนม กม. ๔+๓๑๙ ถึง กม. ๒๑+๓๐๗ ระยะทาง ๑๗ กิโลเมตร โดยถนนเส้นนี้ มีความสำคัญต่อจังหวัดกระบี่เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่ง สินค้าทางการเกษตรและการท่องเที่ยว ปัจจุบันถนนเส้นนี้เป็นถนน ๒ ช่องจราจร มีจำนวน รถสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก รวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปรับปรุง ช่องจราจรและไฟส่องสว่าง เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ขอให้ขยายไหล่ทางบนทางหลวงหมายเลข ๔๐๐๙ อ่าวลึก-พระแสง ตอนบางหล่อ-อ่าวลึก กม. ๑๑๙ ถึง กม. ๑๒๔ ถนนเส้นนี้เป็นถนนขนาด ๒ ช่องจราจร มีไหล่ทางที่แคบมาก มีรถบรรทุกขนาดใหญ่และผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก ทำให้เกิดอุบัติเหตุ บ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน

นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ กระบี่ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๔ ปัญหาจุดกลับรถบนทางหลวงหมายเลข ๔๑๕ พังงา-บ้านตาขุน ตอนนาเหนือ-บางคราม ซึ่งเป็นถนนขนาด ๔ ช่องจราจร มีเกาะกลางถนน โดยจุดกลับรถ แต่ละช่วงมีระยะทางที่ยาวมากทำให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลนาเหนือ ตำบลเขาต่อ ได้รับ ความเดือดร้อนในการเดินทางข้ามฟาก บางรายต้องเดินทางมากกว่า ๑๐ กิโลเมตรเพื่อใช้ จุดกลับรถ จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเพิ่มเติมจุดกลับรถ โดยเฉพาะ ในเขตชุมชนดังกล่าว ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านอิทธิพล ชลธราศิริ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม อิทธิพล ชลธราศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกล วันนี้ผมมี เรื่องหารือท่านประธาน ๔ เรื่องครับ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ บ้านเรือนพี่น้องประชาชน บ้านบึงฉิม ตำบลบึงเนียม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้รับความเดือดร้อนจากการกัดเซาะตลิ่ง จากการไหลของลำน้ำพองครับ ขอ Slide ครับ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

จุดที่ ๑ มีความยาว ๖๐๐ เมตร แล้วก็ จุดที่ ๒ มีความยาว ๔๐๐ เมตร จึงอยากเรียนท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการ และผังเมือง ช่วยสนับสนุนงบประมาณในการสร้างเขื่อนกันตลิ่ง เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจะได้รับ ความเสียหายไปมากกว่านี้ครับ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เรียนท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทย ช่วยสนับสนุนงบประมาณ ในการขยายเขตน้ำประปาภูมิภาคไปยังตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นครับ เนื่องจากปัจจุบันน้ำที่พี่น้องประชาชนตำบลโคกสีใช้เป็นน้ำที่ได้จากการขุดน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ พบว่าคุณสมบัติทางเคมีไม่เหมาะกับการอุปโภคบริโภค มีค่าเคมีสูงเกินไป จึงอยากฝาก ท่านประธานไปยังกระทรวงมหาดไทยช่วยสนับสนุนงบประมาณ ทราบว่าข้อมูลจาก การประปาส่วนภูมิภาค เขต ๖ สามารถขยายแนวจากตำบลบึงเนียมไปยังตำบลโคกสีได้ และจะมีหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลขอนแก่น ๒ มหาวิทยาลัย สถานีตำรวจ โรงเรียน กีฬา และบ้านเรือนพี่น้องประชาชน ตำบลโคกสีกว่า ๒,๕๐๐ ครัวเรือนที่จะได้ใช้น้ำประปา ในการอุปโภคบริโภคที่สะอาดและปลอดภัยครับ

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ฝากท่านประธานไปยังกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง ขอความอนุเคราะห์ในการสำรวจสภาพการจราจรปัจจุบันและออกแบบจุดกลับรถใหม่ ให้สอดคล้องกับการใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน ทั้งจำนวนรถที่ใช้มากขึ้น จุดกลับรถที่ไม่สะดวก ในการขับรถครับ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง จึงอยากฝากท่านประธานเร่งแก้ไข โดยด่วนทั้ง ๔ จุด จุดกลับรถจุดที่ ๑ จุดกลับรถถนนเลี่ยงเมือง หน้าโรงน้ำแข็งกรเดช บ้านหนองหลุบ ตำบลแดงใหญ่ จุดกลับรถที่ ๒ จุดกลับรถถนนมะลิวัลย์ หน้าหมู่บ้านสีวลี ตำบลบ้านทุ่ม จุดกลับรถที่ ๓ จุดกลับรถถนนทางหลวงขอนแก่น-โพนทอง ถนนหมายเลข ๑๒ หน้าหมู่บ้านบึงฉิม ตำบลบึงเนียม และจุดกลับรถที่ ๔ จุดกลับรถถนนมิตรภาพ บ้านหนองกุง ตำบลศิลา หน้าไปรษณีย์ขอนแก่น

นายอิทธิพล ชลธราศิริ ขอนแก่น ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ถนนในเขตตำบลแดงใหญ่ ตำบลสาวะถี ที่ชำรุดเสียหาย อย่างหนัก ฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. ขอนแก่น เทศบาลตำบลสาวะถี อบต. แดงใหญ่ เร่งดำเนินการแก้ไขถนนที่ชำรุด เสียหายอย่างหนัก และไม่มีไฟส่องระหว่างทาง สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ที่ใช้รถใช้ถนนเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งครับ ทั้ง ๖ เส้นทาง ถนนมะลิวัลย์-บ้านแดงใหญ่ ถนนบ้านหนองกอย-บ้านงิ้ว ถนนบ้านหนองปลิง-บ้านโนนรัง ถนนบ้านโนนรัง-บ้านหินขาว ถนนบ้านหินขาว-บ้านโนนกู่ และถนนบ้านม่วง ตำบลบ้านทุ่ม ไปยังบ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี พี่น้องประชาชนทั้ง ๒ ตำบลเดือดร้อนจริง ๆ ครับ ฝากท่านประธานไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ช่วยเอาภาพที่ไม่ได้ขึ้นประกอบเอกสารแล้วก็ส่งถึงหน่วยงานด้วย ตอนนี้กำลัง พยายามแก้ไขอยู่นะครับท่านสมาชิก ให้เวลาเจ้าหน้าที่นิดหนึ่งนะครับ ต่อไปเป็นท่านวรโชติ สุคนธ์ขจร ครับ

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม วรโชติ สุคนธ์ขจร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ เขต ๔ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอวังโป่ง อำเภอชนแดน แล้วก็อำเภอหนองไผ่ วันนี้ขออนุญาตหารือ ท่านประธานสภาเกี่ยวกับเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องอำเภอชนแดน แล้วก็อำเภอวังโป่ง รวมทั้งอำเภอหนองไผ่นะครับ

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

เรื่องไฟฟ้า ด้วยอำเภอวังโป่งเป็นอำเภอที่เล็กแล้วอยู่ปลายสายของไฟฟ้า ซึ่งต้องรับไฟฟ้าจากอำเภอบึงสามพันระยะทางห่างประมาณ ๘๐ กิโลเมตร ทำให้เกิดไฟฟ้าดับ บ่อยครั้งแล้วก็กระแสไฟฟ้าตก มันทำให้เกิดปัญหาคือเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ดูแลช่วยชีวิตของพี่น้องประชาชน รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ เกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้น จะฝากท่านประธานสภาถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเปลี่ยนสายไฟจากสายเปลือย เป็นสายหุ้มฉนวน แล้วก็ถ้าจะให้ดีตั้งสถานีจ่ายไฟฟ้าที่อำเภอวังโป่งอีกแห่งหนึ่ง เพื่อจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอำเภอวังโป่ง ซึ่งทางอำเภอวังโป่ง ได้ทำหนังสือถึงการไฟฟ้าเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน เป็นการขอให้ปรับปรุงไฟฟ้าอำเภอวังโป่ง

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

เรื่องต่อมา ท่านประธานที่เคารพครับ เรื่องขอไฟฟ้าแสงสว่างของเทศบาล ตำบลหนองไผ่ หลัก กม. ที่ ๑๖๗-๑๖๘ เนื่องจากมีอุบัติเหตุบ่อยครั้งทำให้พี่น้องสูญเสีย ทรัพย์สินแล้วก็ชีวิตบ่อยครั้งนะครับ จึงขอไฟฟ้าแสงสว่างของถนนหมายเลข ๒๑ ที่เทศบาล ตำบลหนองไผ่

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

เรื่องต่อไป ท่านประธานสภาครับ เรื่องขอขยายผิวจราจรของเขารัง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ ๐๐๐ ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๑๖+๓๐๐ ซึ่งจะเป็นถนนเชื่อมระหว่าง ๒ อำเภอ คืออำเภอเมืองและอำเภอชนแดน เป็นถนนที่สร้างมานาน ถนนเส้นนี้มันแคบครับ แล้วก็จะฝากท่านประธานถึงกระทรวงคมนาคมช่วยขยายถนนเส้นนี้บนเขารังจากปัจจุบัน ให้เป็น ๗/๑๒ ต้องฝากท่านประธานที่เคารพถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

ต่อไปเรื่องน้ำ ท่านประธานครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของ ๓ อำเภอ เรื่องอ่างเก็บน้ำวันนี้ผมขออนุญาตนำเสนอทั้ง ๓ ลูก คืออ่างเก็บน้ำบ้านโสกซับแดง ของตำบลลาดแค อำเภอชนแดน อ่างเก็บน้ำบ้านคลองกำปางของตำบลซับพุทรา แล้วก็ อ่างเก็บน้ำตำบลยางงาม บ้านคลองยาง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีความสำคัญแล้วก็สมควร ที่จะได้รับงบประมาณอย่างยิ่งนะครับ ซึ่งทั้ง ๓ ลูกนี้ถ้าได้ทำแล้วพี่น้องจะมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แล้วก็ช่วยเหลือด้านเกษตรกรได้อย่างดี

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ ต้นฉบับ

เรื่องต่อไป ท่านประธานครับ เรื่องถนนสายตำบลซับพุทรา อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงตำบลบัววัฒนา อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ถนนสายนี้ได้รับ การถ่ายโอนจากกรมทางหลวงชนบทมาระยะทางประมาณ ๒๓ กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้รับ งบประมาณในการพัฒนาเลย อยากกราบเรียนท่านประธานฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นช่วยจัดสรรงบประมาณซ่อมถนนเส้นนี้ด้วยนะครับ เพราะว่า พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก อีกนิดหนึ่ง สายโคกสำราญ อำเภอชนแดน ตำบลบ้านกล้วย เส้นนี้จะเชื่อมระหว่างหมู่ที่ ๘ และหมู่ที่ ๑๐ ตำบลบ้านกล้วย ระยะทาง ๔ กิโลเมตร ก็เป็นถนนที่ถ่ายโอนมาเหมือนกัน อีกเส้นหนึ่งครับ ขออนุญาต นิดหนึ่ง สายดงขุยถึงหมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านกล้วยถึงหมู่ที่ ๑๒ ตำบลบ้านกล้วย ระยะทาง ๘ กิโลเมตร ซึ่งเป็นถนนถ่ายโอนได้รับความเดือดร้อนมาก ไม่มีสภาพถนนแล้ว ฝากท่านประธาน ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ กราบขอบพระคุณท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านอภิชา เลิศพชรกมล

นายอภิชา เลิศพชรกมล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม อภิชา เลิศพชรกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขตที่ ๑๐ พรรคเพื่อไทย

นายอภิชา เลิศพชรกมล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ วันนี้ผมมี อย่าบอกว่าเรื่องหารือเลยครับ เป็นเรื่องร้องเรียนก็แล้วกันว่าวันนี้พี่น้องชาวอำเภอครบุรี มีปัญหาในเรื่องของการใช้น้ำประปา ซึ่งเป็นความดูแลของการประปาส่วนภูมิภาค ท่านประธานครับ น้ำประปาที่อำเภอครบุรีนั้นประสบปัญหาในเรื่องของน้ำประปาขุ่น ซึ่งปัญหาที่จริงแล้วมันไม่ใช่เป็นปัญหาของคนนะครับ แต่มันเป็นปัญหาของระบบ ซึ่งระบบ กรองน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคนั้นมันไม่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบันนี้ ซึ่งระบบ กรองน้ำจากในภาพที่ท่านประธานเห็นมันเป็นระบบกรองน้ำแบบเร็ว ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้ ระบบกรองน้ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจริง ๆ แล้วทางด้านเทคนิคนั้นเจ้าหน้าที่ของ การประปาส่วนภูมิภาคครบุรีนั้นทราบเป็นอย่างดีว่าจะต้องใช้แบบไหน แต่สิ่งที่ได้รับ งบประมาณในการก่อสร้างในครั้งนี้ก็เพราะด้วยความที่อาจจะเป็นความมักง่ายของ ข้าราชการการประปาส่วนภูมิภาคที่เอาระบบนี้มาใช้ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันจะไปอยู่ที่อำเภอเฉลิม พระเกียรติ แต่ด้วยกลัวงบประมาณจะตกก็เลยมาใช้ที่ครบุรี ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับ พี่น้องชาวอำเภอครบุรีที่ใช้น้ำประปาแล้วขุ่น ไม่สามารถที่จะใช้น้ำประปาที่สะอาดได้ จึงอยากจะฝากการประปาส่วนภูมิภาคช่วยจัดสรรงบประมาณมาให้กับการประปา ส่วนภูมิภาคครบุรี เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ใช้น้ำได้สะอาดนะครับ ซึ่งมีปัญหา ทุก ๆ ปี ทางด้านเทคนิคนั้นผมเชื่อว่าทางการประปาส่วนภูมิภาคทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

นายอภิชา เลิศพชรกมล นครราชสีมา ต้นฉบับ

อีกเรื่องหนึ่งครับท่านประธาน เมื่อ ๓ ปีที่แล้วผมเคยพูดเรื่องนี้ไปในที่ประชุม แห่งนี้ วันนี้พี่น้องชาวอำเภอโชคชัยในตำบลท่าเยี่ยม หมู่ที่ ๔ หมู่ที่ ๕ หมู่ที่ ๖ หมู่ที่ ๙ หมู่ที่ ๑๑ และหมู่ที่ ๑๓ ประสบปัญหาในเรื่องของน้ำประปา ซึ่งอยากจะร้องขอให้ การประปาส่วนภูมิภาคนั้นได้ทำโครงการและขยายเขต เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนทั้งหมดนี้ ได้ใช้น้ำสะอาด ณ วันนี้บริเวณดังกล่าวนี้เป็นจุดที่ก่อสร้างโรงงานซึ่งมีประชากรเข้ามาอยู่มาก ตอนนี้เมืองกำลังขยายขึ้น แต่ว่าน้ำประปาไม่พอใช้ อีกอันหนึ่งก็คือหมู่ที่ ๓ และหมู่ที่ ๑๐ ตำบลด่านเกวียน ซึ่งปัญหาที่พี่น้องประชาชนทั้งหมู่ที่ ๓ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลด่านเกวียนนี้ประสบ ก็คือเรื่องไม่มีน้ำประปาใช้ ดังนั้นจึงอยากจะให้การประปาส่วนภูมิภาคซึ่งรับทราบปัญหานี้ดี อยู่แล้วช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

นายอภิชา เลิศพชรกมล นครราชสีมา ต้นฉบับ

อีกเรื่องหนึ่งเรื่องสุดท้ายนิดเดียว เรื่องที่ ๓ เรื่องโรงสูบน้ำที่ตำบลหนองยาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งได้รับงบประมาณมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ แต่ ณ วันนี้ไม่สามารถ ที่จะใช้งานได้เลย นี่ ๙ ปีแล้วนะครับ เพราะว่าระบบสูบน้ำแบบนี้เป็นระบบแพลอย ซึ่งจะสูบน้ำจากลำน้ำมูลไปให้กับพี่น้องชาวตำบลพระพุทธ ชาวตำบลหนองยาง และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ แล้วก็ตำบลหนองระเวียง อำเภอเมือง ณ วันนี้ยังใช้งานไม่ได้เลยครับ ท่านประธาน เพราะฉะนั้นจึงอยากจะให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่า ๙ ปีแล้ว ยังไม่สามารถส่งมอบโครงการนี้ให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลได้ ดังนั้นจึงอยากจะฝาก ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าช่วยดำเนินการให้กับพี่น้องประชาชนได้ใช้น้ำ ณ วันนี้มันมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง เพราะฉะนั้นอยากจะให้พวกเราได้ตระหนัก โดยเฉพาะ กรมชลประทานได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างจริงจังครับ กราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านถนอมพงศ์ หลีกภัย ครับ

นายถนอมพงศ์ หลีกภัย ตรัง ต้นฉบับ

เรียนประธานสภา กระผม นายถนอมพงศ์ หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต ๑ จังหวัดตรัง ก่อนที่จะ หารือครับท่านประธาน ผมก็ขอขอบพระคุณพี่น้องในเขตจังหวัดตรัง เขต ๑ ที่ได้ให้ฉันทามติ กระผมเข้ามารับใช้พี่น้องในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ผมมีเรื่องหารือกับท่านประธาน เรื่องความล่าช้าของจัตุรัสเมืองตรัง อยู่บริเวณใจกลางเมือง ณ หอนาฬิกาจังหวัดตรัง ในระยะที่ ๑ ในการล่าช้าของผู้รับเหมา ในการล่าช้าของการจัดจ้าง เป็นปัญหากับพี่น้องในเขตเมือง ในท้องที่ของจังหวัดตรังเป็นอย่างมากนะครับ โครงการจัตุรัสเมืองตรังหรือตรังสแควร์ มีการจัดจ้างวงเงิน ๔๓ ล้านบาท ตอนนี้ได้มีการจัดจ้างกันแล้ว แต่ว่าหยุดทำการไป ประมาณ ๓ เดือนแล้ว การจัดจ้างในระยะนี้ผู้ที่จ้างวานคือบริษัท ผมก็ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะอยู่ภายนอกสภา มีการลงมือทำแล้วและมีการรื้อเกาะกลางถนน หยุดการทำมาหลายวัน ทิ้งรกร้างมาหลายวันแล้ว ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสาเหตุอะไร อยากจะฝากผ่านทาง ท่านประธานสภาไปถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้าง แต่ผมก็บอกแล้วครับ ว่าไม่อยากจะเอ่ยนาม

นายถนอมพงศ์ หลีกภัย ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เรื่องไฟฟ้าแสงสว่าง ทางหลวงที่ ๔ จากตำบลนาตาล่วง จากตำบล บ้านโพธิ์จนไปถึงจรดถนนพัทลุง เป็นทางเชื่อม เป็นสาย Bypass ชาวบ้านเดือดร้อนมากครับ ท่านประธาน เพราะกลางคืนไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง ซึ่งเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางหลักจากฝั่ง ตะวันออก ไปอ่าวไทย ไปสู่ฝั่งอันดามัน ทัศนียภาพกลางวันสวยงามมาก แต่กลางคืนมืดมิด อุบัติเหตุเกิดบ่อยครั้ง ทางชาวบ้านก็ได้ร้องเรียนมาถึงกระผมบ่อย อยากจะฝากประธานสภา ไปถึงผู้รับผิดชอบของกรมทางหลวงด้วย

นายถนอมพงศ์ หลีกภัย ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เรื่องสิทธิทำกินในตำบลน้ำผุด ในกรณีนี้เรื่องสิทธิทำกิน เป็นปัญหาหลักนะครับท่านประธาน เป็นปัญหาหลักมาก ผมอยากฝากท่านประธานไปถึง หน่วยงานที่รับผิดชอบ

นายถนอมพงศ์ หลีกภัย ตรัง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ก็คือจะฝากไปถึง สกย. หรือว่าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำ สวนยางก่อนนะครับ ชาวบ้านของพวกผมส่วนมากเป็นเกษตรกร ในอดีตกาลที่ผ่านมา เราไปทำเรื่อง สกย. ขอทุนในการปลูกพืชเราใช้เวลาไม่ถึง ๑ ปี แต่เดี๋ยวนี้ ๑ ปี ไร่ละ ๑๖,๐๐๐ บาทก็ยังไม่ได้ ผมก็อยากจะมีอีกเรื่องหนึ่ง แต่ว่าด้วยเวลาที่กำหนดนะครับ ในนาม ของพรรครวมไทยสร้างชาติเราเข้าใจถึงกฎกติกาของรัฐธรรมนูญ เข้าใจถึงกฎของรัฐสภา ก็ไว้โอกาสหน้าค่อยว่ากันใหม่ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านกัณตภณ ดวงอัมพร ครับ

นายกัณตภณ ดวงอัมพร กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม กัณตภณ ดวงอัมพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพฯ ตัวแทนของพี่น้อง ชาวพญาไท ดินแดง ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ผมมาทำหน้าที่ ตรงนี้ครับ ขอ Slide ครับ

นายกัณตภณ ดวงอัมพร กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ปัญหาจากข้อร้องเรียน ของพี่น้องประชาชนที่อาศัยบริเวณแฟลตดินแดง เรื่องปัญหาไฟส่องสว่างครับ ทีมอาสาจึงได้ ร่วมลงสำรวจบริเวณแฟลตดินแดง รอบตลาดกลางดินแดง และบริเวณหลัง สน. ดินแดง พบไฟดับมากกว่า ๕๐ ดวงมาเป็นเวลานานนับปี การแก้ไขเป็นไปอย่างล่าช้า ประชาชน ต้องอยู่กับความมืดจนกลายเป็นความเคยชินครับ แต่ Case นี้ผมขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ประจำ สำนักงานเคหะดินแดง ๒ ที่พยายามแก้ไขปัญหา แม้ว่าจะขาดการสนับสนุนจากส่วนกลาง ที่เพียงพอ นอกจากเรื่องไฟแล้ว ปัญหาการจัดการขยะ ถนนทรุดโทรม น้ำประปาที่ไม่สะอาด การลอกท่อในพื้นที่ การพัฒนาลานกีฬาต่าง ๆ หลายเรื่องที่ประชาชนร้องไป คำตอบกลับมา Classic มากคือไม่มีงบประมาณ ทั้ง ๆ ที่มีผู้อาศัยอยู่บริเวณนี้หลายหมื่นคน เลยเป็นคำถามด้วย ว่าเคหะส่วนกลางควรดูแลประชาชน ใส่ใจประชาชนให้ดีกว่านี้ใช่หรือไม่ครับ ในฐานะตัวแทน ประชาชนผมขอส่งความเดือดร้อนนี้จากท่านประธานไปถึงการเคหะแห่งชาติภายใต้การดูแล ของกระทรวง พม. ให้พิจารณาข้อร้องเรียนต่าง ๆ ทั้งแฟลตดินแดงและแฟลตห้วยขวาง ให้พิจารณางบประมาณที่เพียงพอกับปัญหาครับ ประเด็นต่อมา เรียนท่านประธานไปถึงผู้ว่า กทม. เรื่องสภาพทรุดโทรมภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง สถานที่นี้มีประชาชนมาใช้ บริการจำนวนมาก และจากข้อร้องเรียนพบว่ามีหลายจุดนะครับ ยกตัวอย่างจาก Slide เป็นภาพสนามเด็กเล่น อันนี้คือสนามบาสเกตบอลและสนามเทนนิสพื้นทรุดโทรมเหมือนอยู่ บนดาวอังคาร ก็ขอฝากความกังวลนี้ของผมว่าเป็นห่วงพี่น้องประชาชนถึงกรุงเทพมหานคร ให้มาทำการแก้ไขด้วยครับ ประเด็นสุดท้าย พื้นที่สี่เหลี่ยมตรงนี้เป็นข้อร้องเรียนจากพี่น้องชาวพญาไท เรื่องสนามฟุตบอล ณ บริเวณแฟลตตำรวจลือชา เรียนผ่านท่านประธานไปยังสำนักงบประมาณและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเรื่องการใช้พื้นที่สนามฟุตบอลที่มีแนวโน้มตอนนี้จะถูกเปลี่ยนจาก พื้นที่สีเขียวตรงนี้ ขึ้นมาเป็นตึกและหอพักราชการแทน สนามกีฬาฟุตบอลแห่งนี้เป็น แห่งสุดท้ายในพญาไทที่เยาวชนและประชาชนทั่วไปจะได้มาใช้ประโยชน์ได้ฟรี รวมถึง กิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนด้วย ลองนึกภาพตามถ้าพื้นที่ตรงนี้ถูกเปลี่ยนเป็นตึก ภูมิทัศน์ และผลกระทบต่อประชาชนทั้งผู้ใช้และผู้อาศัยจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผมจึงขอนำเรียน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน และขอให้ท่านฟังเสียงประชาชนให้มาก และคำนึงถึงประโยชน์ในระยะยาวเป็นที่ตั้งครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านภาคภูมิ บูลย์ประมุข ครับ

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ กระผม นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก พรรคพลังประชารัฐ ผมมีเรื่องหารือท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ ๓ เรื่องด้วยกัน ตั้งแต่ ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจังหวัดตากมีฝนตกชุกหนักมากนะครับ โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ๕ อำเภอชายแดน ขอ Slide ด้วยครับ

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก ต้นฉบับ

ตั้งแต่อำเภออุ้มผาง พบพระ แม่สอด และอำเภอท่าสองยาง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากนะครับ ถนนตัดขาด ดินถล่มเป็นวงกว้าง ทั้ง ๕ อำเภอ ท่านจะเห็นว่าสีแดง ตากกับน่านตอนนี้ยังตกอยู่ วันนี้ก็ยังตกอยู่ ซึ่งช่วง สุดสัปดาห์ที่ผ่านมากระผมได้เข้าไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนร่วมกับ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ท่านสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ให้เร่งรัดช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยรวดเร็ว แล้วก็สั่ง การอย่างเคร่งครัดนะครับ ซึ่งผมมีอยู่ ๓ ประเด็นในการน้ำท่วมครั้งนี้

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก ต้นฉบับ

๑. อุทกภัยครั้งนี้ทำให้ถนนหมายเลข ๑๐๕ เส้นระหว่างอำเภอแม่สอดไปยัง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดตากไปยังแม่ฮ่องสอนถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง รถทุกชนิดไม่สามารถ สัญจรได้ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าแขวงทางหลวงตากที่ ๒ ได้ปรับปรุงซ่อมแซมชั่วคราวนะครับ รถเล็กผ่านได้ ก็อยากจะให้ทางกระทรวงคมนาคมสั่งการเร่งด่วนประมาณการในการเร่ง ก่อสร้างให้เป็นเส้นทางถาวร และอีกทั้งให้สำรวจเส้นทางที่เหลือที่มีความเสี่ยงในการที่ จะขาดในอนาคต เพราะตอนนี้ฝนตกอยู่นะครับ เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อม ระหว่างอำเภอแม่สอดไปอำเภอแม่สะเรียง ๒ จังหวัดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวด้วยนะครับ

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก ต้นฉบับ

๒. ยังมีถนนอีกหลายสายทางที่อยู่บนภูเขาถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง หลายพื้นที่ หลายหมู่บ้านยังไม่ได้ออกจากพื้นที่เป็นอาทิตย์แล้วครับ พวกเขาเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นพวกเราก็ได้ช่วยเหลือเป็นบางส่วน แต่หลาย ๆ ที่ท่านจะเห็นมีฝนตกหนักแล้วก็ มีดินถล่ม ต้องใช้เครื่องจักรกลระดับขนาดใหญ่ ต้องพึ่งหน่วยงานเบื้องบน ขอกระทรวง มหาดไทยหรือว่าหน่วยงานความมั่นคง ทหารต่าง ๆ ช่วยเหลือพวกเขาด้วยรีบโดยเร่งด่วน สาเหตุหลัก ๆ ก็คือการทำงานพวกนี้เป็นปัญหา เพราะว่าเราขออนุญาตใช้พื้นที่ไม่ได้ การจะสร้างถนนหรืออะไรต่าง ๆ สิ่งสาธารณูปโภคที่ถาวรและรองรับ เวลามีผลกระทบ ในอุทกภัยก็ทำไม่ได้นะครับ ขอทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วยเร่งรัด ในการอนุญาตโดยเร็ว และขอทางกระทรวงมหาดไทยโดยเฉพาะกรมส่งเสริมอนุมัติ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการขออนุญาตใช้พื้นที่ และที่สำคัญหน่วยงานตรวจสอบหรือว่า สตง. ป.ป.ช. เวลาท่านจะตัดสินอะไรบางอย่างลงโทษข้าราชการให้ดูผลประโยชน์ประชาชน เป็นที่ตั้งนะครับ ถ้าเขาทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชนควรจะปล่อยเขา ถ้าเป็นเรื่องทุจริต หรือฉ้อราษฎร์บังหลวงผมไม่ว่า ขอให้ท่านพิจารณาในการพิจารณาตัดสินของของท่านด้วย

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก ต้นฉบับ

๓. อุทกภัยครั้งนี้ท่านจะเห็นว่าเป็นแนวตะเข็บชายแดนของจังหวัดตาก ทั้งหมดนะครับ ซึ่งน้ำจะเอ่อจากแม่น้ำเมยขึ้นมาติดประเทศเมียนมา ที่ผ่านมามีการสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งเป็นบางจุด บางจุด บางจุด แต่แนวระยะยาวทำไม่ได้ เพราะแม่น้ำเส้นนี้ เป็นแม่น้ำแบ่งคั่นระหว่างประเทศ ขอทางกระทรวงการต่างประเทศหรือกระทรวงมหาดไทย ท่านประสานงานไปยังเพื่อนบ้านเพื่อจะทำเขื่อนป้องกันตลิ่งตามแนวชายแดนของแม่สอด ให้ดีขึ้น เพื่อจะป้องกันการเกิดอุทกภัยน้ำท่วมชาวบ้านโดยถาวรต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ครับ

นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ถ้าพูดถึงจังหวัดมหาสารคามต้องคิดถึงว่าเป็นเมือง การศึกษา มีคำขวัญว่า พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร แต่เมื่อปี ๒๕๖๕ เดือนตุลาคมเกิดน้ำท่วมใหญ่ ขอ Clip Video ด้วยนะครับ

นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ

มหาสารคามเป็นเมืองการศึกษา แล้วเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นมา จังหวัดมหาสารคามโดยเฉพาะเขตอำเภอเมืองเป็นเขตที่รับน้ำ จากอ่างโคกก่อมาที่แก่งเลิงจาน แล้วมีน้ำอีกฝั่งหนึ่งคือมาจากแม่น้ำชี ทั้ง ๒ ส่วนมาพบกันที่ ในอำเภอเมืองมหาสารคาม แล้วเกิดน้ำท่วมใหญ่ในอำเภอเมืองมหาสารคาม โดยเฉพาะ ในเขตเทศบาล ตำบลตลาด ในตำบลท่าสองคอน ตำบลลาดพัฒนา ตำบลแก่งเลิงจาน พื้นที่ที่ติดแม่น้ำชี แล้วปีที่แล้วเกิดปัญหาขึ้นมาก็คือว่านอกจากน้ำท่วมแล้ว พนังกั้นน้ำ ที่แก่งเลิงจานซึ่งเป็นพนังกั้นน้ำที่ป้องกันน้ำเข้าเมืองมีการขาด พอขาดแล้วเกิดอะไรขึ้น น้ำก็เข้ามาในเมืองเลยครับ ในรอบ ๓๗ ปีที่ทำพนังกั้นน้ำนี้มาไม่เคยมีการขาดเลย แต่ปีที่แล้ว มีการขาดนะครับ ก็นำเรียนว่าสร้างความเสียหายให้กับจังหวัดมหาสารคามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคามซึ่งจะมีมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม แม่น้ำชี ตัดผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยนะครับ ตัดผ่านมหาวิทยาลัยมหาสารคามเลยนะครับ แล้วก็ ตัดผ่านชุมชนศรีสวัสดิ์ ชุมชนตักศิลา หมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่บ้านชิดชล บ้านวังน้ำเย็น ที่วัดป่าวังน้ำเย็น อาจารย์สุริยันต์ที่โด่งดังในระดับชาติก็โดนน้ำท่วมเหมือนกัน ท่านประธานครับ ผมจึงอยากให้มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องก็คือ ๑. อยากให้กรมโยธาธิการและผังเมือง

นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ

๑.๑ ทำเขื่อนป้องกันตลิ่งในลำห้วยคะคาง ในเขตเทศบาล ลำห้วยคะคาง นี่จะเป็นลำห้วยที่รับน้ำจากแก่งเลิงจาน ทะลุเมืองมหาสารคาม แล้วไปเทน้ำออกที่ ตำบลท่าตูม ซึ่งตอนนี้ลำห้วยคะคางมีความตื้นเขินแล้วก็ไม่สามารถจะระบายน้ำได้ ทำให้ การระบายน้ำในเขตเมืองไม่ทันกับการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน ก็อยากให้กรมโยธาธิการ และผังเมืองขุดลอกและทำเขื่อนป้องกันตลิ่งในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งตอนนี้ ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองก็ทำในบางส่วนแล้วนะครับ

นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ

๑.๒ ขอให้กรมชลประทานทำการขุดลอกเสริมคันส่งน้ำอ่างเก็บน้ำ แก่งเลิงจาน ผมได้รับร้องเรียนจากท่านประเด็น พลเหลา นายก อบต. แก่งเลิงจาน ท่านแสงลักษณ์ เหล่าสมบัติ ขออนุญาตนิดหนึ่งนะครับ ฝั่งตรงข้ามของรางส่งน้ำ มันสูงกว่ากัน พอน้ำผ่านตรงนี้มันก็มาฝั่งที่ต่ำกว่า ก็เลยทำให้น้ำท่วมที่ตำบลดอนตูมดอนโด อันนี้ก็ฝากกรมชลประทานได้แก้ไขโดยการขุดลอก แล้วก็ขุดลอกอ่างโคกก่อและแก่งเลิงจาน ด้วยนะครับ

นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ มหาสารคาม ต้นฉบับ

๑.๓ ในส่วนตำบลดอนตูมดอนโด จะมีทางเข้า ก็ฝากว่าตอนนี้ถ้าช่วงฝนตก หมู่บ้านนี้จะตัดขาดจากเมืองเลยนะครับ จึงขอให้ทางจังหวัดมหาสารคามและกรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่นทำถนนซึ่งยกถนนขึ้นมา แล้วก็ส่วนสะพานขอให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ทำการยกถนนโดยเร่งด่วน โดยของบสิ้นปีด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านเกรียงยศ สุดลาภา ครับ

นายเกรียงยศ สุดลาภา แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายเกรียงยศ สุดลาภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เรียนท่านประธานครับ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา ขอ Slide ด้วยครับ

นายเกรียงยศ สุดลาภา แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ได้มีเหตุเกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ใจกลางเมืองสะพานถล่มเป็นสะพานข้ามแยกเขตลาดกระบัง แล้วปัจจุบันเกือบจะ ๓๐ วันแล้ว ทางผู้ประสบภัยทั้ง ๕๗ ราย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงยังไม่ได้รับการเยียวยานะครับ วันนี้ ผมเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงอยากจะฝากไปถึง หน่วยงานที่รับผิดชอบก็คือกรุงเทพมหานครช่วยติดตามความคืบหน้าในการเยียวยาของ ผู้ประสบภัยทั้ง ๕๗ ราย ในจำนวน ๕๗ ราย มีการเสียชีวิตอยู่ ๒ ราย และรับผลกระทบโดยตรง ๕๕ ราย ในส่วนที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ๗ ราย ทั้งหมดปัจจุบัน ณ วันนี้ได้กลับบ้าน ทั้งหมดแล้ว แต่เพียงแค่ว่าสิ่งที่ผมอยากจะหารือผ่านท่านประธานไปยังกรุงเทพมหานคร ก็คือปัจจุบันยังมีประชาชนจำนวนมากได้เข้ามาร้องเรียนผ่านทางศูนย์ประสานงานของ พรรครวมไทยสร้างชาติในเขตลาดกระบังนะครับ โดยมีคุณรณชัย สังฆมิตกุล ขออภัย ที่ต้องเอ่ยนาม เป็นประธานศูนย์ ผ่านเข้ามาให้ผมช่วยติดตามให้ ปัจจุบันนั้นเอง ทางกรุงเทพมหานครได้ให้คำตอบกับทางประชาชนกับผู้ที่ได้รับผลกระทบว่ากำลัง ประสานงานกับทางบริษัทที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันภัยหรือว่าบริษัทรับเหมา ที่ผ่านมาเกือบ ๓๐ วันยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะฉะนั้นอยากให้ท่านประธานช่วยเร่งรัด ทางกรุงเทพมหานครให้รีบดำเนินการ และแจ้งให้ทางหน่วยงานรีบดำเนินการ และให้ทาง พวกเราทราบ

นายเกรียงยศ สุดลาภา แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ส่วนประเด็นที่ ๒ กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องสาเหตุของสะพาน ข้ามแยกลาดกระบังถล่มน่าจะมาจากการแก้ไขรูปแบบการก่อสร้าง ผ่านมาเกือบ ๓๐ วัน ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากกรุงเทพมหานครว่ามีการแก้ไขแบบจริงหรือไม่ และเพราะเหตุใดถึง แก้ไขแบบ เพราะฉะนั้นจากที่ทางกรุงเทพมหานครได้เคยพูดไว้ว่าภายใน ๗ วันจะต้องมีคน รับผิดชอบ ณ ปัจจุบันก็ยังไม่มีท่านใดออกมาให้ข้อมูลกับประชาชน หรือผู้ที่สนใจให้รับทราบ ว่าปัญหาเกิดจากอะไร มีการแก้แบบจริงหรือไม่ ผมขอฝากท่านประธานไปยังกรุงเทพมหานคร ให้ช่วยชี้แจงเรื่องนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านแอนศิริ วลัยกนก ครับ

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน แอนศิริ วลัยกนก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตทุ่งครุ เขตราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ พรรคก้าวไกล ท่านประธานคะ ดิฉันมีเรื่องจะหารือ ๒ เรื่อง

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ การทำสะพานข้ามแยกเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณ แยกทุ่งครุ ดิฉันได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องชาวทุ่งครุเป็นจำนวนมาก เนื่องจากถนนประชาอุทิศ เป็นถนนขนาด ๔ ช่อง ๒ ข้างทางเป็นถนนย่านธุรกิจ สถานศึกษา และมีประชากรประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ คนที่ใช้ถนนประชาอุทิศเป็นเส้นหลัก ข้อมูลจากสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานครระบุว่าค่าเฉลี่ยของรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีประมาณ ๔,๒๑๐ คัน ต่อชั่วโมง สามารถรองรับรถบนถนนได้ ๑,๒๐๐ คันต่อชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ติดต่อกัน ระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันนี้ยังมีหมู่บ้านเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ จึงทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากที่ดิฉันลงพื้นที่ ปัญหาที่ประชาชน ได้ร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้สำนักงานเขตทุ่งครุและสถานีตำรวจนครบาลทุ่งครุ แก้ไขร่วมกับกรมทางหลวง เพื่อทำระบบวงเวียนบริเวณแยกทุ่งครุแก้ปัญหาการจราจรติดขัด แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้เลย จึงยกเลิก ดิฉันลงพื้นที่ได้ศึกษาหารือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและประธานสภาคนเมืองเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาระยะยาว มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะทำสะพานข้ามแยกเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ดิฉันจึงเรียนผ่านท่านประธานไปยัง หน่วยงานกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมด้วยนะคะ

นางสาวแอนศิริ วลัยกนก กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ การพัฒนาพื้นที่ใต้ทางด่วนบริเวณรอบนอกฝั่งใต้เป็นลานกีฬา จากการที่ดิฉันลงพื้นที่แยกสะพานข้ามแยกเห็นบริเวณใต้ทางด่วนเป็นพื้นที่รกร้างมีน้ำท่วม และขยะ หากนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะและเป็นลานกีฬาต้านยาเสพติด ตัวอย่างเช่นลานกีฬาแสงทิพย์ ซอยปรีดีพนมยงค์ ๒ เป็นพื้นที่ที่ถูกนำมาพัฒนา เป็นลานกีฬา ดิฉันคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ ปรับปรุง สภาพแวดล้อมให้มีลักษณะที่ดีขึ้น ถูกสุขภาวะ และทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชน ในพื้นที่ดีขึ้น จึงฝากเรียนท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานครด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านสุวรรณา กุมภิโร ครับ

นายสุวรรณา กุมภิโร บึงกาฬ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ผม นายสุวรรณา กุมภิโร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบึงกาฬ เขต ๒ พรรคภูมิใจไทย ขอ หารือท่านประธานด้วย ๔ ปัญหาที่สร้างความลำบากต่อเนื่องให้กับพี่น้องชาวบึงกาฬ ของเรามาโดยตลอด

นายสุวรรณา กุมภิโร บึงกาฬ ต้นฉบับ

ปัญหาที่ ๑ ปัญหาช้างป่าภูวัวลงมาทำลายทรัพย์สินและทำร้ายชีวิต ของพี่น้องในเขตพื้นที่ ๓ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอบุ่งคล้า โดยมี ๑๘ หมู่บ้าน ๓,๘๘๐ ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรจำนวนเกือบ ๙,๐๐๐ ไร่ ที่ได้รับผลกระทบ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน เนื่องจากเหตุการณ์นี้ได้พรากชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านไปจำนวนมากตลอดหลายปี ที่ผ่านมา

นายสุวรรณา กุมภิโร บึงกาฬ ต้นฉบับ

ปัญหาที่ ๒ ปัญหาอุทกภัยซึ่งได้รับผลกระทบ ๓ อำเภอหลัก ประกอบด้วย อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอพรเจริญ ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย เป็นจำนวนมาก ตลอดจนถนนเพื่อการเกษตรและฝายชะลอน้ำที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ขอฝากท่านประธานนำเรียนไปยัง สทนช. ที่ท่านลงมาสำรวจพื้นที่แล้วก็หารือเพื่อแก้ไขปัญหา ในปีหนึ่งท่านลงมาหารืออยู่ ๔ รอบ แต่ไม่เคยจัดสรรงบประมาณมาแก้ไขในพื้นที่ได้เลย ถ้าท่านแก้ไขตั้งแต่ ๔ ปีที่แล้วปัญหานี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ

นายสุวรรณา กุมภิโร บึงกาฬ ต้นฉบับ

ปัญหาที่ ๓ ปัญหาความเดือดร้อนของนักเรียน คณะครู และผู้ปกครอง เนื่องด้วยถนนหน้าโรงเรียนเป็นถนน ๔ เลน และเป็นถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดจึงทำให้รถ ที่ขับด้วยความเร็วสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดอันตรายและเกิดอุบัติเหตุซึ่งนำไปสู่ การบาดเจ็บของนักเรียน จึงขอสะพานลอยข้ามถนน ๕ จุด ดังนี้ ๑. หน้าโรงเรียน อนุบาลเซกา โรงเรียนมัธยมเซกา อำเภอเซกา ๑ จุด โรงเรียนมัธยมพรเจริญ อำเภอพรเจริญ ๑ จุด โรงเรียนมัธยมศรีวิไลวิทยาและโรงเรียนอนุบาลศรีวิไล อำเภอศรีวิไล ๑ จุด โรงเรียนมัธยมบึงกาฬ อำเภอเมือง ๑ จุด และขอความกรุณาขอสะพานลอยข้ามถนน หน้าโรงพยาบาลเซกาอีก ๑ จุด เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ผู้มาใช้บริการ ในโรงพยาบาล

นายสุวรรณา กุมภิโร บึงกาฬ ต้นฉบับ

ปัญหาที่ ๔ ปัญหาอุบัติเหตุเนื่องจากถนนคับแคบและไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ของทางหลวงสาย ๒๒๒ เชื่อมระหว่างจังหวัดอุดรธานีมาบึงกาฬ ทางหลวงสาย ๒๐๒๖ สกลนคร-บึงกาฬ และทางหลวงสาย ๒๑๒ บึงกาฬ-นครพนม เนื่องจากถนนทั้งสามเป็นถนน เส้นสำคัญเชื่อมระหว่างจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ มีรถสัญจรเป็นจำนวนมาก แต่ยังมีเส้นทางสัญจรเป็น ๒ เลน ทำให้เกิดอุบัติเหตุเนื่องจากถนนคับแคบ จึงอยากขอ ขยายถนนเป็น ๔ เลน และเพิ่มไฟส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ กราบขอบพระคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนประธานสภาที่เคารพ กระผม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๔ จังหวัดกาญจนบุรี วันนี้ผมมีเรื่องที่จะฝากท่านประธานไปยัง ๔ หน่วยงาน

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

หน่วยงานแรก กรมที่ดิน วันนี้จังหวัดกาญจนบุรีได้มีการสำรวจพิสูจน์สิทธิ ในการออกโฉนดที่ดินให้กับราษฎรอำเภอห้วยกระเจา อำเภอบ่อพลอย และอำเภอพนมทวน เสร็จสิ้นแล้ว ๔,๒๑๗ แปลง แต่กรมที่ดินอ้างว่าไม่มีช่างรังวัด ไม่มีงบประมาณ ประชาชน รอคอยมา ๓ ปีแล้ว ฝากท่านประธานไปยังกรมที่ดินช่วยเร่งรัดเกี่ยวกับเรื่องช่างรังวัด และงบประมาณด้วยครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

หน่วยงานที่ ๒ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือ ส.ป.ก. ประกาศเขตปฏิรูปที่ดินตั้งแต่ปี ๒๕๓๑ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเลาขวัญ อำเภอบ่อพลอย และอำเภอหนองปรือ การประกาศเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอทำให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ ที่ถูกประกาศครอบคลุมเสียสิทธิในการออกเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพราะว่า จะออกได้อย่างเดียวคือ ส.ป.ก. เท่านั้น วันนี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมควรเร่งรัด การปรับปรุง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงแนวเขตปฏิรูปที่ดิน วันนี้ประชาชนเดือดร้อนมากครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

หน่วยงานที่ ๓ กรมทางหลวงชนบท ประชาชนเรียกร้องอยากให้ท่านเข้าไป ปรับปรุงถนนเชื่อมต่อระหว่างอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ไปยังอำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี เพราะว่าเวลาฝนตกทีไรถนนขาดทุกครั้ง เพราะไหล่ทางระบายน้ำไม่มีครับ เส้นทางที่ ๒ ของกรมทางหลวงชนบทคือถนนเส้นอ่างหิน ตำบลวังไผ่ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เชื่อมต่อตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี วันนี้ยังเป็น ถนนลูกรังครับ การสัญจรไปมายากลำบากมาก เป็นถนนที่ประชาชนร่วมกันใช้ประโยชน์ ในการขนส่งสินค้าเพื่อการเกษตร

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

หน่วยงานที่ ๔ กรมทางหลวง มีถนนสายที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอเลาขวัญ และอำเภอห้วยกระเจา เป็นถนนที่คับแคบมาก เป็นถนน ๒ เลน ประชาชนเรียกร้องอยากให้ เป็นถนน ๔ เลนหรือ ๔ ช่องจราจร เส้นที่ ๒ ถนนเชื่อมต่ออำเภอบ่อพลอยและอำเภอหนองปรือ ก็เช่นกันเป็นถนน ๒ เลน ประชาชนเรียกร้องอยากให้เป็นถนน ๔ เลน เพราะวันนี้ จังหวัดกาญจนบุรี ถ้าวันหยุดทีไรนักท่องเที่ยวจะมาเป็นอันดับ ๑ ทุกครั้ง ในรอบ ๖ วันที่เป็น วันหยุดยาวมีประชาชนเข้าไปท่องเที่ยวเกือบ ๑ ล้านคน มีรถยนต์เข้าไปในจังหวัดกาญจนบุรี ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คัน เพราะฉะนั้นถนนหนทาง ๔ เลนในจังหวัดกาญจนบุรีแทบจะ ไม่เกิดขึ้นเลยครับ สู้อย่างจังหวัดสุพรรณบุรีและอุทัยธานีไม่ได้เลย แต่ประชากรที่เข้าไป ท่องเที่ยวมากมาย อยากให้กรมทางหลวงเร่งรัดขยายถนนเส้นทางตามที่ผมกล่าวด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านยูนัยดี วาบา ครับ

นายยูนัยดี วาบา ปัตตานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายยูนัยดี วาบา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ ๔ จังหวัดปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตเรียนหารือท่านประธาน ๔ เรื่องด้วยกันนะครับ

นายยูนัยดี วาบา ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ การขาดแคลนน้ำประปาของชาวบ้านตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเลขานายก อบต. กะรุบี นายอาริสมัน อาแวกาเซ็ง ว่าชาวบ้านได้รับ ความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในการใช้อุปโภคบริโภคซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้ ในชีวิตประจำวัน ทาง อบต. ได้แก้ปัญหาโดยการนำรถน้ำไปแจกจ่ายทุกวัน วันละหลายสิบคัน ขอให้ท่านประธานช่วยเร่งรัดงบประมาณประสานงานไปยังการประปาส่วนภูมิภาค

นายยูนัยดี วาบา ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ปัญหาที่ดินทับซ้อนเขตจังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา ได้รับ เรื่องร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓ นายมะสะแลน สามะโต ว่ามีที่ดินทับซ้อน ๖ หมู่บ้าน คือ ๓ หมู่บ้านในอำเภอกะพ้อ ประกอบด้วยหมู่ที่ ๒ หมู่ที่ ๕ หมู่ที่ ๘ และอำเภอรามัน ประกอบด้วยหมู่ที่ ๓ หมู่ที่ ๕ และหมู่ที่ ๖ ไม่สามารถทำการรังวัดออกโฉนดได้ และไม่ได้รับ การช่วยเหลือจาก อบต. ในกรณีที่มีเหตุการณ์หรือภัยต่าง ๆ ได้ จึงขอให้ท่านประธาน ประสานงานไปยังกรมที่ดินและกรมการปกครองด้วยครับ

นายยูนัยดี วาบา ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ขอขยายผิวจราจรย่านชุมชน ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ขอให้กรมทางหลวง ได้เร่งอนุมัติการขยายผิวจราจรทางหลวงหมายเลข ๔๐๖๐ ตอนสายบุรี-กระบุรี กม. ๑๔+๕๐๐ ถึง กม. ๑๖+๘๗๕ จากโรงพยาบาลกะพ้อถึงหน้าที่ว่าการอำเภอกะพ้อ ขอให้ ท่านประธานประสานงานไปยังกรมทางหลวงด้วยครับ

นายยูนัยดี วาบา ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ขอทางแยกและสัญญาณไฟจราจร ซึ่งได้รับการร้องเรียนจาก นายมูฮำหมัด ดะกา นายก อบต. มะนังดาลำ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางระหว่างอำเภอสายบุรี และอำเภอกะพ้อ มีการจราจรคับคั่ง มีนักเรียนและพี่น้องประชาชนใช้เป็นเส้นทางหลัก เพื่อเข้าตัวเมืองสายบุรี มีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และจุดกลับรถเดิมมีเหตุการณ์ลอบทำร้าย เจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ความไม่สงบอยู่หลายครั้ง จึงขอการสนับสนุนงบประมาณจาก กรมทางหลวงในการก่อสร้างทางแยกทางหลวงหมายเลข ๔๒ ตอนปาลัส-กอตอ ช่วง กม. ๑๕๓+๐๐๐ แยกมะนังดาลำ ระหว่างทางหลวงหมายเลข ๔๐๖๐ ตอนสายบุรี-กะรุบี ขอให้ท่านประธานประสานงานไปยังกรมทางหลวงด้วยครับ ขอบคุณท่านประธาน มาก ๆ ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านชวาล พลเมืองดี ครับ

นายชวาล พลเมืองดี ชลบุรี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวนิคมอมตะซิตี้ อำเภอพานทอง อำเภอบ้านบึง อยู่ ๔ เรื่องดังนี้ครับท่านประธาน ขอ Slide ด้วยครับ

นายชวาล พลเมืองดี ชลบุรี ต้นฉบับ

เรื่องแรกครับ พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ที่มีผู้ใช้น้ำกว่า ๔๓,๑๙๐ รายได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการหยุดจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค โดยใน ๗ เดือนที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำไปแล้วกว่า ๓๕ ครั้ง แต่ละครั้ง น้ำไม่ไหลกันข้ามวันข้ามคืน จนกลายเป็นปัญหาซ้ำซากไปแล้วครับท่านประธาน จึงอยากจะ ขอให้ท่านประธานทำหนังสือถึงการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง อำเภอบ้านบึง เพื่อให้ การประปาส่วนภูมิภาคเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาซ้ำซากนี้อย่างยั่งยืนและเร่งด่วนครับ

นายชวาล พลเมืองดี ชลบุรี ต้นฉบับ

ขอ Slide ถัดไปครับ เรื่องที่ ๒ ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเข้ามาแก้ไข พื้นผิวถนนและเพิ่มช่องทางการจราจรในบริเวณทางข้ามรถไฟ ถนนหมายเลข ๓๔๖๖ บ้านเก่า-พานทอง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสภาพพื้นผิวถนนที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีการบีบช่องทางการจราจรจาก ๔ เลน เหลือเพียง ๒ เลน มีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดอย่างรุนแรงในช่วงเวลาเร่งรีบ

นายชวาล พลเมืองดี ชลบุรี ต้นฉบับ

Slide ถัดไปครับ เรื่องที่ ๓ ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ามานำลิงแสมที่เป็นสัตว์ป่าในพื้นที่หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ไปปรับปรุงพฤติกรรมตามอำนาจที่ท่านมี เนื่องจากลิงมีนิสัยดุร้ายได้เข้ามาสร้างความเสียหาย ต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง

นายชวาล พลเมืองดี ชลบุรี ต้นฉบับ

Slide ถัดไปครับ เรื่องสุดท้ายครับท่านประธาน ขอให้ทางอำเภอพานทอง เข้ามาตรวจสอบโครงการวางท่อน้ำดิบในพื้นที่ตำบลหนองกะขะ และตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากพบว่าการดำเนินโครงการทั้งโครงการไม่ได้ตรง เป็นตามแบบวิศวกรรมที่ได้แจ้งขออนุญาตไว้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังและสร้างผลกระทบ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยหวังอย่างยิ่งว่าทั้ง ๔ เรื่องที่กล่าวมาจะได้รับการแก้ไข โดยเร็ว ขอบคุณครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านชูกัน กุลวงษา ครับ

นายชูกัน กุลวงษา นครพนม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานด้วยความเคารพ ผม ชูกัน กุลวงษา นครพนม เขต ๔ พรรคภูมิใจไทย วันนี้ผมต้องขอนำเรียนท่านประธานว่า เรื่องถนนหมายเลข ๒๒๓ สกลนคร-บ้านต้อง ก่อนอื่นนั้นต้องขอขอบคุณ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ที่ได้อนุมัติงบประมาณในปี ๒๕๖๔ ขยายถนน ๒ ช่องจราจรให้เป็น ๔ ช่องจราจรจากสกลนครถึงนาแก แต่ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหลักจากสกลนครเชื่อม มุกดาหาร และขนถ่ายสินค้าไปยังต่างประเทศ สู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว สะหวันนะเขต มุกดาหาร และยังเป็นถนนที่จะต้องไปชมวิวแม่น้ำโขง อำเภอธาตุพนม กราบไหว้ องค์พระธาตุพนม แต่ถนนเส้นนี้ยังไม่แล้วเสร็จในการที่จะขยาย ยังไม่มีงบประมาณในช่วงที่ อำเภอนาแกไปยังบ้านต้อง ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จึงกราบเรียนท่านประธานว่า เป็นถนนเส้นหลักที่สำคัญ เกิดอุบัติเหตุบ่อยเพราะถนนเป็นคอขวดที่ยังไม่ได้ขยาย ก็ขอ ความกรุณาว่าพี่น้องชาวอำเภอนาแก อำเภอธาตุพนม หลายอำเภอก็ให้ผมนั้นได้นำเรียน ท่านประธานสู่สภาแห่งนี้เพื่อไปยังผู้ที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับถนนทางหลวงแผ่นดิน ได้ดำเนินการขยายถนนให้เป็น ๔ เลนสุดสาย พี่น้องก็จะได้สัญจรไปมาสะดวก ขนถ่ายสินค้า ข้ามฝั่งประเทศลาวก็สะดวกสบาย

นายชูกัน กุลวงษา นครพนม ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ก็คือเรื่องน้ำท่วมนาข้าวของพี่น้องชาวจังหวัดนครพนม จะเห็นว่า สื่อต่าง ๆ ได้ออกข่าวกันมากมายว่านครพนมอ่วมแล้ว น้ำท่วมแล้ว โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้ประกาศภัยพิบัติแล้ว จึงนำเรียนว่าน้ำท่วมไร่นาพี่น้องประชาชนนั้น อำเภอธาตุพนม อำเภอนาแก และหลาย ๆ อำเภอ อำเภอบ้านแพง อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอนาทม ทำให้พี่น้องชาวนาจังหวัดนครพนมนั้นต้องหดหู่ เพราะการทำนานั้นเป็น การทำที่ยากลำบาก และลงทุนแล้วไม่ได้รับกำไร และรอผลจากการเก็บเกี่ยวข้าว ถ้าน้ำท่วม อย่างนี้ใส่ปุ๋ยลงไปแล้ว ลงทุนลงไปแล้ว ชาวนาจะหวังพึ่งใครครับ เพราะน้ำมาท่วมแล้ว ข้าวก็จะเสียหาย เพราะฉะนั้นก็ขอกราบเรียนท่านประธานว่าได้กรุณาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ลงไปดู สภาพพี่น้องประชาชนที่ถูกน้ำท่วม ต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมที่ได้ ลงมาดูพี่น้องน้ำท่วม โดยเฉพาะศูนย์ปลูกหญ้าของกรมปศุสัตว์ก็ได้นำหญ้ามอบให้กับพี่น้อง ที่ถูกน้ำท่วม วัวควายไม่มีหญ้ากิน อันนี้ก็ต้องขอกราบขอบคุณผ่านไปยังท่านประธาน เพื่อให้รับทราบนะครับ อันนี้ขอกราบเรียน ๒ เรื่องนี้แค่นี้ก่อน ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านณัฐจิรา อิ่มวิเศษ ครับ

นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นครราชสีมา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพค่ะ ดิฉัน ดอกเตอร์ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัด นครราชสีมา เขต ๔ อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอโนนไทย ๗ ตำบล ท่านประธานคะ วันนี้ดิฉันขอปรึกษาหารือความเดือดร้อนในพื้นที่จำนวน ๓ เรื่อง

นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องแรก เนื่องจากโรงพยาบาลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จากที่ผ่านมามีผู้ป่วย เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก และปัจจุบันมีผู้ป่วยนอนรักษาจำนวนมากกว่า ๙๐ คนต่อวัน แต่จำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยได้เพียงแค่ ๙๐ เตียง ทำให้เตียงที่โรงพยาบาลไม่เพียงพอ และต่อไปมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นค่ะ ตอนนี้มีอาคารพักผู้ป่วยจำนวน ๒ อาคาร และมีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า ๔๒ ปี มีสภาพเสื่อมโทรม ถึงแม้จะได้รับการบำรุงรักษา ซ่อมแซมแล้ว แต่ก็ยังเสี่ยงต่อการทรุดตัวตลอดเวลาค่ะ อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วย ได้ตลอดเวลา ดังนั้นเห็นควรก่อสร้างอาคารพักผู้ป่วยทดแทนอาคารเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม และแออัด จึงนำเรียนท่านประธานไปยังกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยสนับสนุนจัดสรรงบประมาณการสร้างอาคารผู้ป่วย โรงพยาบาลสูงเนิน เพื่อให้พี่น้อง ชาวสูงเนินและอำเภอใกล้เคียงได้รับการบริการที่เพียงพอและบริการที่ดีขึ้นค่ะ

นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ดิฉันได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องชาวอำเภอขามทะเลสอ เรื่องปัญหาไฟแสงสว่างเส้นทางจราจรบริเวณอุโมงค์ บ้านโนน ตำบลโป่งแดง อำเภอ ขามทะเลสอ ทางลอดถนนวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา หมายเลข ๒๙๐ อุโมงค์ดังกล่าว เป็นถนนสัญจรเชื่อมระหว่างอำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ มีชาวบ้านสัญจรไปมา ตลอดเวลา และทางลอดอุโมงค์ในช่วงเวลากลางคืนไม่มีแสงสว่างของไฟฟ้าที่เพียงพอ ทำให้ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาค่ะ ดิฉันขอวิงวอนกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้ผู้ขับขี่สัญจรมีวิสัยทัศน์ที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยต่อชีวิตและมีความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ค่ะ

นางสาวณัฐจิรา อิ่มวิเศษ นครราชสีมา ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ เนื่องจากตอนนี้ปัญหาฝนทิ้งช่วงเกิดภัยแล้ง ได้รับเรื่องร้องเรียน จากพ่อแม่พี่น้องในเขต ๔ จังหวัดนครราชสีมามาเกือบทุกตำบลเลยค่ะ เกษตรกรร้องขอให้ รัฐบาลช่วยขุดลอกสระน้ำและทำฝายชะลอน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในยามวิกาล และขอให้ รัฐบาลมีมาตรการควบคุมราคาปุ๋ยซึ่งปัจจุบันมีราคาที่สูงมาก ส่งผลให้ต้นทุนการผลิต ของชาวบ้านสูงขึ้นซึ่งไม่สมดุลกับราคาพืชผลทางการเกษตร ณ ปัจจุบัน จึงขอให้รัฐบาล เยียวยาเร่งแก้ไขกับเกษตรกรที่ประสบปัญหาอยู่ขณะนี้ด้วยค่ะ ขอขอบคุณท่านประธานค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ครับ

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาค่ะ พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ดิฉันอยากจะมานำเรียนท่านประธานถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างซ้ำซากและต้องการ การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบค่ะ ในพื้นที่ของบริเวณตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัด นครศรีธรรมราช ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะเจอปัญหาเรื่องของภัยพิบัติซ้ำซากตลอดเวลา ในพื้นที่ หมู่ที่ ๑ บ้านน้ำร้อน หมู่ที่ ๒ บ้านสี่ขีดและหมู่ที่ ๑๑ บ้านเขาพับผ้า ขออนุญาตนำภาพค่ะ ท่านประธาน

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

พื้นที่ดังกล่าวนี้มีพี่น้อง ประชาชนกว่า ๑,๐๒๘ ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ทั้งบริเวณ ๓ หมู่บ้าน ทุก ๆ ครั้งที่ฝนตกหนัก ทุก ๆ ครั้งที่เกิดเหตุภัยพิบัติพื้นที่ทั้ง ๓ หมู่บ้านจะเจอปัญหาเรื่องของเส้นทางคมนาคม โดนตัดขาดค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ดังกล่าวมีโรงเรียนตั้งอยู่คือโรงเรียนบ้านน้ำร้อน ปัญหาที่เราเจอทุก ๆ ครั้งก็คือเส้นทางโดนตัดขาด พี่น้องประชาชนต้องไปตัดต้นหมาก มาทำเป็นพื้นที่สำรองในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เดินทางไปโรงเรียน หรือแม้แต่เดินทางเพื่อที่จะขนส่งสินค้าที่อยู่ภายในหมู่บ้านดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นปาล์มน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน พื้นที่ดังกล่าวเจอปัญหาที่ดิฉันบอกก็คือภัยพิบัติซ้ำซาก แล้วก็ได้มี การร้องขอจากหน่วยงานหลักก็คือทางกรมชลประทาน เพื่อที่จะออกแบบแก้ไขปัญหา เพราะว่าโดยตำบลสี่ขีดเองงบประมาณที่มีอยู่ก็ไม่มากนัก ก็เลยต้องร้องขอทางสำนักงาน ชลประทานที่ ๑๕ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการขอให้เข้าไปออกแบบ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ออกแบบในการป้องกันตลิ่งพัง ออกแบบในการสร้างทำนบน้ำ เพื่อใช้ในยามแล้ง และแก้ไขปัญหาเวลาที่เกิดภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่วงคอสะพาน ของคลองน้ำใส หมู่ที่ ๑ บ้านน้ำร้อน และหมู่ที่ ๑๑ ของบ้านเขาพับผ้าบริเวณเส้นทาง ดังกล่าวเป็นช่วงของคลองท่าเรือรีที่คลองน้ำใสและคลองน้ำขุ่นมาเจอกัน พอทั้ง ๒ สายคลอง มาเจอกันกระแสน้ำที่ค่อนข้างแรงมากค่ะ มันก็เลยทำให้มีมวลน้ำมาก แต่สายคลองค่อนข้างเล็ก เลยจะเจอปัญหาก็คือบริเวณตลิ่งทั้ง ๒ ฝั่งเกิดการกัดเซาะ สายทางโดนตัดขาดทุกครั้งที่มี ฝนตกหนัก และเป็นแบบนี้ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า ๑๐ ปีแล้ว ทางองค์การบริหาร ส่วนตำบลสี่ขีดจึงได้ทำหนังสือเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณให้เข้าไปออกแบบและแก้ไข ปัญหาอย่างถาวร ๓ โครงการด้วยกันคือ

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

โครงการที่ ๑ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองน้ำใส หมู่ที่ ๑ ตำบลสี่ขีด

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

โครงการที่ ๒ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองท่าโคกหมู่ที่ ๑ หมู่ที่ ๑๑ ตำบลสี่ขีด

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

โครงการที่ ๓ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองท่าเรือรี หมู่ที่ ๑ และหมู่ที่ ๑๑ ขอบคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ครับ

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี เขต ๕ อำเภอยะหริ่ง อำเภอมายอ พรรคประชาชาติ กระผมขอหารือ ๒ เรื่องครับ

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ปัญหาวิกฤติ อ่าวปัตตานีซึ่งถือว่าเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติแห่งเดียว เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิต เศรษฐกิจฐานรากของผู้คนรอบอ่าวปัตตานี มากกว่า ๕๐,๐๐๐ คน ที่ปัจจุบันมีความเสื่อมโทรมจนถึงขั้นวิกฤติ จากการลงพื้นที่รับทราบ ปัญหาด้วยตนเอง และข้อมูลวิจัยของนักวิชาการในพื้นที่พบว่าปัจจุบันพี่น้องประมงพื้นบ้าน รอบอ่าวปัตตานีมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องดังกราฟที่ผมนำมาให้ดูครับ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ แหลมโพธิ์เดิม ปี ๒๕๔๒ มีรายได้ ๘๑ ล้านบาท แต่ปี ๒๕๖๓ ลดลงเพียง ๙ ล้านบาทเท่านั้น และอีกพื้นที่คืออ่าวตอนในจาก ๑๒๙ ล้านบาท ในปี ๒๕๔๒ คงเหลือ ๒๕ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๓ ลดลงถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นขอให้กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง กรมประมง ตามการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ๑. ขอให้ทำการขุดลอกร่องน้ำชุมชนที่มีความตื้นเขินในหลายร่องน้ำ เพราะขณะนี้กระแส น้ำเค็มไม่สามารถเข้าไปหมุนเวียนและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนได้ครับ ๒. ขอให้ การศึกษาวิธีการเปิดอ่าวปัตตานี แหลมตาชีให้คงสภาพเช่นเดิม ซึ่งในอดีตอ่าวปัตตานี มีความกว้างประมาณ ๓ กิโลเมตร แต่ปัจจุบันนี้เหลืออยู่ประมาณ ๑.๙ กิโลเมตรเท่านั้นเอง ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนระดับกระแสน้ำเค็มขึ้นลงยังก้นอ่าวไปไม่ถึง เกิดภาวะความเค็ม ของน้ำลดลง จากปัญหาดังกล่าวถ้าหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความล่าช้าในการแก้ปัญหา ดังนั้นหมายถึงว่าชาวบ้านรอบอ่าวปัตตานีจำเป็นต้องทิ้งอาชีพประมง ต้องขายเรือ ขายอวนครับ

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงตั้งแต่พื้นที่ตำบลตะโละกาโปร์ พื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี มีการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี และชาวบ้านกำลังหาหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไขปัญหาอยู่ ซึ่งตลอด ๓ ปีที่ผ่านมามีทั้ง หน่วยงานภาครัฐ และกรรมาธิการกัดเซาะ สภาผู้แทนราษฎร ลงมาทราบปัญหา แต่ไม่มี การแก้ปัญหาที่ชาวบ้านสามารถจับต้องได้ เพราะทุกวันนี้ชายหาดตะโละกาโปร์ ชายหาด ตะโละสะมิแลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดปัตตานีมีแต่ซากปรักหักพังครับ ดังนั้น กระผมขอหารือผ่านท่านประธานยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณ และดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนครับ ท่านประธาน ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านลัทธชัย โชคชัยวัฒนากร ครับ

นายลัทธชัย โชคชัยวัฒนากร มหาสารคาม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายลัทธชัย โชคชัยวัฒนากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคาม เขต ๓ พรรคภูมิใจไทย วันนี้กระผมขอนำเรียนความเดือดร้อนของ พี่น้องในพื้นที่ต่อท่านประธานสภาผ่านไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข โดยเร่งด่วนดังนี้

นายลัทธชัย โชคชัยวัฒนากร มหาสารคาม ต้นฉบับ

ความเดือดร้อนแรก ก็คือความเดือดร้อนของถนนเส้น มค.๓๐๔๑ เส้นบ้านอีเม้ง-บ้านโนนยาง ระยะทาง ๑๒ กิโลเมตร ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจร ของพี่น้อง ๓ ตำบล ๑๙ หมู่บ้าน ปัจจุบันถนนเส้นนี้ชำรุดทรุดโทรมตลอดเส้นทาง พี่น้อง ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรปลูกผัก ปลูกแตงโม เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สินค้าเหล่านี้ได้รับ ความเสียหายเวลาขนส่งไปยังแหล่งรับซื้อเกษตรกรหลายรายต้องเลี่ยงผ่านไปทาง ตำบลเวียงสะอาด ทำให้ระยะทางและต้นทุนในการขนส่งเพิ่มเป็นเท่าตัว อีก ๑ เส้นทาง ที่พี่น้องได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรก็คือเส้น มค.๑-๐๐๘๗ บ้านปะหลาน-บ้านดอนหลี่ ถนนเส้นนี้พี่น้อง ๓ ตำบล ๑๕ หมู่บ้านมีความลำบากในการสัญจรไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า เส้นแรกที่กระผมนำเสนอ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ศิลปาชีพบ้านดอนหลี่ซึ่งมีความสำคัญของจังหวัด เป็นศูนย์ เรียนรู้ สาธิต และฝึกอาชีพการทอผ้าไหม และการเกษตรพอเพียง กระผมขอกราบเรียน ผ่านไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อจัดสรรงบประมาณแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของถนนทั้ง ๒ เส้นด้วยครับ ถนน ๒ เส้นที่ผมกล่าวถึงนั้นอยู่ในความรับผิดชอบขององค์การ บริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งได้รับการถ่ายโอนมาจากสำนักงาน รพช. เป็นระยะทางกว่า ๘๖๔ กิโลเมตร กระผมได้ทำการสอบถามไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด และได้รับการแจ้งว่า งบประมาณในการสร้างและซ่อมแซมได้รับการจัดสรรเพียงปีละ ๔๐-๕๐ ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ในการสร้างและซ่อมแซมถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบกว่า ๘๐๐ กิโลเมตร และผมก็เชื่อมั่นว่า อีกหลายพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน กระผมได้ปรึกษาหารือกับ เพื่อนสมาชิกแล้วว่าถนนที่ถ่ายโอนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วนั้นสามารถโอนให้กับ หน่วยงานที่มีความพร้อมได้ แต่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้ระยะเวลาที่นานมาก ฉะนั้นแล้ว กระผมอยากให้สภาแห่งนี้ช่วยกันแก้ไขตัวบทกฎหมายและขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินการ ถ่ายโอนสามารถทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาค่ะ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วันนี้ธัญ ก็จะขอฝากท่านประธานผ่านไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจากสถานการณ์ COVID-19 อาชญากรเครือข่ายการค้ามนุษย์นั้นใช้โอกาสนี้ในการแฝงเข้ามาในพฤติกรรมการใช้ Social Media ที่มากขึ้น ประกอบกับคนในสังคมต่างหาโอกาสในการทำงานมากขึ้นค่ะ ท่านได้รับแจ้ง ข้อความจากแหล่งข่าวว่ามีกลุ่มผู้หญิง ๔ คนได้ถูกล่อลวงไปที่ประเทศเมียนมา โดยอาชญากร แรกเริ่มก็บอกว่ามีงานรายได้ดีทำงานเป็น PR แล้วก็นำพาให้หญิงสาวทั้ง ๔ คนนั้นเชื่อ และเดินทางออกนอกประเทศไปโดยไม่มีเอกสาร ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเดินทางก็มีการโอน ค่าเดินทางมาให้ด้วย และการออกนอกประเทศนั้นก็เป็นการออกนอกประเทศด้วยช่องทาง ธรรมชาติค่ะ พอไปถึงปุ๊บก็ไม่ได้เป็นงาน PR อย่างที่คิด มีการกักขังไม่ให้รับประทานอาหาร ถ้าต้องการทานอาหารก็ต้องเซ็นรับสภาพหนี้ แล้วก็มีการบังคับค้าประเวณีค่ะ เบื้องต้นธัญได้ ปรึกษาหารือ ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน หรือกองคุ้มครอง ดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างแดน ก็ได้หารือกับพวกท่าน ซึ่งก็ได้รับทราบมาว่าไม่มีข้อ กฎระเบียบใด ๆ ที่จะช่วยเหลือได้ ประกอบกับการเจรจาในพื้นที่ของเมียนมา เมืองป๊อก ก็เป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งซึ่งยากเหลือเกินที่จะเจรจาค่ะ สถานการณ์ล่าสุดมีคนได้ช่วยเหลือ ผู้หญิงทั้ง ๔ คน แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะเดินทางกลับประเทศได้เพราะไม่มีค่าเดินทาง ธัญอยากจะฝากท่านประธานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมหารือแก้ไขและนำพาพวกเขา กลับบ้าน และที่สำคัญก็คือต้องมีมาตรการป้องกันการค้ามนุษย์อย่างเข้มงวดค่ะ

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ธัญอยากจะฝากท่านประธานไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนะคะ ถึงผู้บริหารกระทรวงการอุดมศึกษาแล้วก็ผู้บริหารของราชภัฏ ธัญขอขอบคุณมากที่ในปี ที่ผ่านมาปีล่าสุดนี้ท่านได้อนุมัติการแต่งกายเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรตามเพศสภาพ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ตามทางกลุ่มเครือข่ายผู้มีความหลากหลายทางเพศก็อยากจะให้สิ่งนี้ มันเกิดขึ้นเป็นนโยบายและมีความยั่งยืนถาวรค่ะ ธัญได้รับเรื่องดังกล่าวมาจากนักศึกษา นักเคลื่อนไหวของนิสิตที่ต้องการที่จะผลักดันให้เกิดขึ้น ธัญจึงฝากท่านประธานไปถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบาย ขอบคุณค่ะท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ครับ

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สงขลา ต้นฉบับ

ขออนุญาตท่านประธานครับ เรียนประธานที่เคารพ กระผม นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๔ จังหวัดสงขลา พรรคพลังประชารัฐ วันนี้อยากจะหารือท่านประธานในประเด็นเรื่องปัญหา น้ำกัดเซาะชายฝั่งของพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ที่ผ่านมาปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ ของเขตผมเกิดปัญหาน้ำรุกขึ้นมาบนบ้านแล้วก็ที่ดินทำกินของประชาชน แล้วยิ่งในช่วง เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคมเป็นช่วงมรสุม เป็นช่วงเวลาที่เกิดปัญหาหนักมาก หลังจากหน้ามรสุมทุก ๆ ครั้งที่มันเกิดปัญหา หลังจากนั้นดินแดนพื้นที่ก็จะหายไป ก่อนหน้า มรสุมในช่วงนี้เรายังพอมีเวลาเตรียมตัวที่จะแก้ไขปัญหาทัน อยากฝากท่านประธานสภา ประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้ช่วยลงไปดูปัญหาตรงนี้ด้วย ส่วนปัญหาเหล่านี้เรื่องน้ำ กัดเซาะชายฝั่งมันเป็นปัญหาที่ทุกพื้นที่เกิดเหมือนกันหมด ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทาง ท่านประธานประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อยากให้ทำการแก้ไขปัญหาไปพร้อมกันทีเดียว ส่วนพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระมีระยะทาง ๗๐ กิโลเมตร ตรงนี้ปัจจุบันในพื้นที่ตำบลคลองแดน เป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำกัดเซาะชายฝั่งเป็นอย่างมาก แล้วก็สุดท้ายนี้ผมได้ทำการปรึกษากับชาวบ้าน ขอ Slide แนวกั้นคลื่นครับ

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สงขลา ต้นฉบับ

ผมได้ปรึกษากับชาวบ้านแล้ว ชาวบ้าน มีความต้องการที่อยากจะได้แนวกั้นคลื่นที่ในพื้นที่ผมเรียกว่าเขื่อนหินทิ้งกลางทะเล เพราะมันจะทำให้เกิดแนวชายหาดใหม่ และชาวประมงยังสามารถจอดเรือประมงได้ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ครับ

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นครสวรรค์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่ เคารพ ผม นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ นครสวรรค์

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สมาคมการค้าพืชไร่ โดยนายพรเทพ ปู ประเสริฐ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนมาที่ผมถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาด ปัจจุบันนี้โรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้ประกาศหยุด รับซื้อข้าวโพดที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดโดยไม่มีเหตุผลและไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ เกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวโพดไม่มีที่ขาย หรือมีที่ขาย แต่ก็ขายได้ในราคาถูก ทำให้ เกษตรกรเกิดการเสียหายหรือขาดทุนในการทำการเกษตร สาเหตุเกิดจากการนำเข้าวัตถุดิบ ทดแทน เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ DDGS หรือที่เรียกกันว่ากากข้าวโพด การนำเข้าข้าวโพด จากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมากในช่วงที่เกษตรกรกำลังเก็บเกี่ยว เป็นสาเหตุให้โรงงาน อุตสาหกรรมอาหารสัตว์หยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรที่กำลังออกสู่ตลาด ทำให้ราคา ตกต่ำและขาดทุน เหตุการณ์การนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านจากอดีตเป็นการนำเข้า ของผู้ประกอบการรายย่อย หรือตามตะเข็บชายแดน หรือการค้าแบบบ้านพี่เมืองน้อง แต่ปัจจุบันเป็นการนำเข้าจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ครั้งละเป็นจำนวนมาก ๆ ทำให้ โรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์หยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรภายในประเทศ

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ถนนตั้งแต่ 7-ELEVEN แยกตำบลบางประมุงถึงตำบลโกรกพระ โรงเรียนโกรกพระ ตำบลบางมะฝ่อ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ไม่มีไฟส่องสว่าง ถนน ๔ เลนสร้างเสร็จมาเป็นเวลานาน แต่ไฟส่องสว่างไม่มีเลย ช่วงอื่น ๆ ติดตั้งหมดแล้ว ประชาชนพี่น้องกลับบ้านกลางค่ำกลางคืนเกิดอันตราย แสงสว่างไม่มีตลอดทาง พี่น้องฝาก ขอความช่วยเหลือมาครับ

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ พี่น้องหมู่ที่ ๘ ตำบลยางตาล อำเภอโกรกพระ ได้ร้องเรียนมาว่า ถนนหมู่ที่ ๘ ตำบลยางตาล พังเสียหายมาเป็นเวลานานมากแล้ว พี่น้องประชาชนสัญจร ไปมาทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอุบัติเหตุเกิดกับประชาชนบาดเจ็บ สาหัส พี่น้องได้ฝากร้องเรียนมานะครับ

นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นครสวรรค์ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ พี่น้องประชาชนหมู่ที่ ๒ ตำบลโกรกพระ อำเภอโกรกพระ ต้องฝาก ขอบพระคุณการประปาส่วนภูมิภาค จังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้ขยายเขตให้เรียบร้อยแล้ว และจัดเสร็จภายใน ๑๒๐ วัน ผมขอขอบคุณแทนพี่น้องหมู่ที่ ๒ ตำบลโกรกพระ อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง ปัญหาทั้งหลายที่กล่าวมาข้างต้นฝากประธานสภานำปัญหา ที่เกิดขึ้นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้รีบแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน เพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่มีผลกระทบดังที่กล่าวมา รวมถึงพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในจังหวัดนครสวรรค์ และทั่วประเทศโดยด่วนครับ กราบขอบพระคุณท่านประธานมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านปทิดา ตันติรัตนานนท์

นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สุรินทร์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ปทิดา ตันติรัตนานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย เขต ๘ อำเภอกาบเชิง อำเภอบัวเชด อำเภอพนมดงรัก ตำบลตาตุม ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ ตำบลโชคนาสาม อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ถือเป็นความโชคดีของพี่น้องชายแดนและตัวดิฉันเอง ที่ได้มีโอกาสนำปัญหาในพื้นที่เข้ามาหารือในสภา เพื่อจะผ่านไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับการแก้ปัญหาต่อไป วันนี้มีปัญหา ๒ ประเด็นค่ะท่านประธาน

นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สุรินทร์ ต้นฉบับ

ในข้อแรก ปัญหาจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศเป็นจุดผ่านแดนมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เป็นจุดผ่านแดนที่มีมูลค่า การค้าชายแดนปีละไม่ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท มีการท่องเที่ยวที่เป็นเส้นทางจากชายแดน ไปยังนครวัด นครธม เมืองเสียมเรียบ กัมพูชา บนเส้นหลวงหมายเลข ๖๘ ระยะทาง ๑๕๔ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒ ชั่วโมงเศษ ๆ เป็นที่น่าเสียดายว่าจุดผ่านแดน ที่มีมูลค่าการค้าขายเป็นหมื่นล้าน แต่กลับถูกเพิกเฉยละเลยไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา วันนี้ขอหยิบยกมา ๑ ประเด็น ประเด็นก็คือการขอใช้พื้นที่ในการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวร ช่องจอม ตำบลด่าน ก่อนถึงด่านชายแดนประมาณ ๓๐๐ เมตรเรื่อยลงมาจนถึงชุมชน จะเป็นพื้นที่ ๒ ฝั่งถนนลาดยางอยู่ในเขตของกรมทางหลวงจำนวนฝั่งละ ๔๒ ไร่ พื้นที่ทั้งหมด ๘๔ ไร่ แต่ปัญหาคือพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทับซ้อนถึง ๓ หน่วยงาน คือ ๑. พื้นที่ของกรมทางหลวง ๒. พื้นที่ของกรมป่าไม้ เขตป่าสงวนแห่งชาติ ๓. พื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ จากที่ไม่มีเจ้าภาพที่แน่นอน ทำให้เราสูญเสียโอกาส ๒๑ ปี เราเสียทั้งเรื่องการค้า การลงทุน การสร้างงาน การสร้าง รายได้ เราไม่อยากรออีกต่อไปค่ะท่านประธาน ดิฉันเชื่อว่าการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ได้มุ่งหวังเรื่องกำไรหรือขาดทุน แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนที่จะนำเม็ดเงิน มาลงทุนในด่านชายแดนจุดนี้ ดิฉันขอเรียนผ่านท่านประธานสภาไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยริเริ่มดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง โดยเฉพาะพื้นที่ปัญหาทับซ้อนขอให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ชัดเจนขึ้น

นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สุรินทร์ ต้นฉบับ

ส่วนประเด็นปัญหาที่ ๒ อ่างกักเก็บน้ำเขื่อนขยอง เขื่อนบน หมู่ที่ ๕ บ้านขยอง ตำบลตาตุม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ชำรุดนะคะ ปัญหาคือขอรับงบประมาณ ในการสนับสนุนขุดลอกพื้นที่ ๙๕ ไร่ ความลึก ๒ เมตร เสริมทำนบดินความยาว ๖๐๐ เมตร ก่อสร้างฝายน้ำล้น ก่อสร้างท่อส่งน้ำ เพื่อประโยชน์ให้กับพี่น้อง ๓ ตำบล จำนวน ๔๒ หมู่บ้าน คือ ตำบลตาตุม ตำบลบ้านจารย์ ตำบลบ้านชบ ดิฉันเชื่อว่าการลงทุนของภาครัฐ ถ้าพวกเรา มีโอกาสตามยุทธศาสตร์ของชาติคือมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน พวกเราจะมาขอบคุณท่านประธาน ถึงสภา ขอบพระคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านชัชวาล แพทยาไทย ครับ

นายชัชวาล แพทยาไทย ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขต ๗ พรรคไทยสร้างไทย ขออนุญาตหารือท่านประธานถึงความทุกข์ร้อนของพี่น้องในพื้นที่ครับ กระผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องชาวบ้านศรีสุข หมู่ที่ ๒ ตำบลกกกุง อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด ๑๑๖ หลังคาเรือน จำนวนประชากร ๔๑๐ คน มีความเดือดร้อนน้ำประปา หมู่บ้านไม่ไหลมาเป็นระยะเวลาเกือบ ๖ เดือนครับท่านประธาน เนื่องจากหมู่บ้านศรีสุข ไม่มีระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านใช้เอง ต้องอาศัยใช้น้ำประปาจากหมู่บ้านอื่นมาโดยตลอด แต่ปีนี้หมู่บ้านใกล้เคียงต้องหยุดจ่ายน้ำประปามายังบ้านศรีสุข เพราะปริมาณน้ำที่ผลิตได้ ไม่เพียงพอ ทำให้บ้านศรีสุขขาดแคลนน้ำอย่างหนัก หน่วยงานในพื้นที่นั่นก็คือเทศบาลกกกุง ต้องนำรถขนน้ำมาแจกจ่ายให้พี่น้องวันละ ๑ เที่ยว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของพี่น้อง

นายชัชวาล แพทยาไทย ร้อยเอ็ด ต้นฉบับ

และอีก ๑ ปัญหาครับ ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องชาวคูเมือง หมู่ที่ ๑ หมู่ที่ ๓ หมู่ที่ ๙ ตำบลคูเมือง อำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงปัญหาน้ำประปาขุ่นเหลือง และไม่พอใช้ เนื่องจากคุณภาพน้ำดิบที่ใช้ในการผลิตน้ำประปามีคุณภาพต่ำ ระบบประปา หมู่บ้านผิวดินมีอายุการใช้งานเกิน ๒๐ ปี สภาพชำรุดทรุดโทรม มีกำลังผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของชุมชน ที่มีครัวเรือน เกือบ ๕๐๐ ครัวเรือน ประชากร ๑,๗๐๐ คน ท่านประธานครับ วันนี้ผมไม่ได้มามือเปล่า ผมนำหลักฐานมาด้วยนั่นก็คือน้ำ ๒ ขวด ขวดแรกคือน้ำที่ใช้หุงข้าว ล้างหน้า แปรงฟัน อีกขวดหนึ่งเป็นน้ำที่ใช้รดต้นไม้ ท่านประธานลองทายดูว่า ขวดไหนที่ใช้รดน้ำต้นไม้ ขวดไหน ใช้แปรงฟัน ถ้าคนทั่วไปก็คงจะคิดว่าขวดนี้ใช้ล้างหน้า แปรงฟัน แต่ผิดครับ ขวดนี้ผมเปิดจาก สวนหน้าอาคารรัฐสภาแห่งนี้ ส่วนอีกขวดหนึ่งนี่คือน้ำที่พี่น้องชาวคูเมือง ๓ หมู่บ้าน ใช้อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันมาตลอดระยะเวลาเกือบ ๒๐ กว่าปี ผมเป็นผู้แทนสมัยแรก ปัญหาเยอะแยะมากมาย แต่นี่เห็นแล้วหดหู่ ภาษาอีสานคือเบิดคำสิเว้าครับ ปัญหานี้โรคนิ่ว โรคไตที่พี่น้องชาวอีสานได้รับผลกระทบร้อยละ ๖๕ เกิดจากการดื่มน้ำไม่สะอาด ทั้ง ๒ ปัญหา ท่านประธานครับ อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาลกกกุง เทศบาลคูเมือง ผมได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้านผิวดิน เพื่อช่วยเหลือพี่น้อง เพราะพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่น้ำเค็ม ไม่สามารถนำน้ำบาดาลใต้ดินมาใช้ได้ และลำพังงบประมาณของท้องถิ่น คงไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องได้ ผมขอฝากท่านประธานไปยังรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยดำเนินแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้อง ในพื้นที่ด้วยครับ ด้วยความเคารพครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายอดิพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ ๓ อำเภอกระสัง อำเภอห้วยราช ตำบลป่าชัน ตำบลโคกขมิ้น ของอำเภอพลับพลาชัย พรรคภูมิใจไทย กระผม ขออนุญาตปรึกษาหารือเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนใน ๓ ประเด็นดังต่อไปนี้ครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๑. ทางหลวงท้องถิ่น หมายเลข บร.ถ.๑-๐๐๓๔ สายกระสัง-เมืองโพธิ์ ต่อเนื่องไปยังทางหลวงชนบท หมายเลข บร.ถ.๖๕๐๒ เป็นถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่าง ตำบลกระสัง ผ่านตำบลเมืองไผ่ ตำบลห้วยสำราญของอำเภอกระสัง และไปยังอำเภอห้วยราช ของอำเภอสตึก มีประชากรใช้สัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางสามารถ เชื่อมต่อไปยังหลาย ๆ อำเภอ เดินทางไปยังสนามบินสตึกของจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัด มหาสารคาม โดยได้ผ่านตัวเมืองของอำเภอเมืองบุรีรัมย์และอำเภอบ้านด่าน แต่ปัจจุบันนี้ มีสภาพคับแคบ ชำรุด ทรุดโทรม เป็นหลุมขนาดใหญ่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินบ่อยครั้ง จึงขอนำเรียนไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้โปรดช่วยเหลือทำการปรับปรุง ซ่อมแซมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนด้วยครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๒. ได้รับแจ้งจากนายสิริวัฒน์ สวัสดิกิจจานนท์ นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบล ศรีภูมิ อำเภอกระสัง ว่าทางหลวงชนบท หมายเลข บร.ถ.๑๕๙๐๐๑ เริ่มจาก แยกบ้านไผ่ลวก ตำบลชุมแสง เชื่อมระหว่างตำบลชุมแสงและตำบลศรีภูมิ ของบ้านห้วยแสนสุข ของตำบลห้วยสำราญ อำเภอกระสัง มีระยะทาง ๖ กิโลเมตร แล้วก็กว้าง ๖ เมตร ประสบปัญหาทางสัญจรไปมาไม่สะดวก เป็นหลุมเป็นบ่อ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประชาชน ได้รับความเดือดร้อน ถนนสายดังกล่าวนั้นเป็นถนนหลักที่ใช้ในการคมนาคมและขนพืชผล ทางการเกษตรในพื้นที่ จึงขอนำเรียนไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดให้ความช่วยเหลือทำการปรับปรุง ซ่อมแซม และบรรเทา ความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนด้วยครับ

นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา บุรีรัมย์ ต้นฉบับ

๓. ได้รับแจ้งจากนายมานพ จูประโคน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล โคกขมิ้น ว่าทางหลวงชนบท หมายเลข บร.๓๒๓๘ เนื่องจากตำบลโคกขมิ้นเชื่อมตำบลป่าชัน ของอำเภอพลับพลาชัย และตำบลไพศาลของอำเภอประโคนชัย ระยะทาง ๑๙.๕๐ กิโลเมตร ประสบปัญหาการสัญจรไปมาไม่สะดวก ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากอุบัติเหตุ และจากฝุ่นที่ถนนพัดเข้าบ้านเมืองและสถานที่ราชการ ซึ่ง ถนนสายดังกล่าวนั้นเป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมขนพืชผลทางการเกษตร จึงขอนำเรียน ไปยังกรมทางหลวงชนบทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดให้การช่วยเหลือซ่อมแซม และปรับปรุงถนนสายดังกล่าวด้วยครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านสุดท้ายท่านสมดุลย์ อุตเจริญ ครับ

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม สมดุลย์ อุตเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๗ พรรคก้าวไกล ผมมีข้อหารือผ่านท่านประธานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้ครับ

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ ขอติดตามโครงการซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำโป่งน้ำดัง ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านแม่สูนน้อย หมู่ที่ ๓ ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ทางอำเภอได้ส่งเรื่อง ถึงสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค ๑ จังหวัดลำปาง สืบเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อปี ๒๕๖๔ ทำให้เกิดการพังทลายของอ่างเก็บน้ำ อ่างเก็บน้ำแห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งที่ใช้เพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภคแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ขอติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับกลุ่มเกษตรกร ที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สาวร้องเรียนมา ตั้งอยู่บริเวณบ้านแม่ฮ่าง หมู่ที่ ๖ ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และได้ยื่นหนังสือถึงสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ ๑ จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๔๙ ตามหนังสือ ชม ๘๒๙๐๑/๖๐๔

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ ความล่าช้าของการขยายเขตไฟฟ้าในหลายหมู่บ้านที่เสนอโดย สส. เบญจา แสงจันทร์ พรรคก้าวไกล ในสมัยที่แล้วดังนี้ คือบ้านจะโต๊ะ ตำบลบ้านหลวง อำเภอแม่อาย หมู่บ้านทรัพย์ตะเคียน ตำบลเวียง อำเภอฝาง ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการและมีความพร้อมทุกอย่างในการดำเนินการ แต่ยังคงค้างการอนุมัติ จากกรมป่าไม้ จึงฝากเรียนท่านประธานไปยังกรมป่าไม้ด้วยครับ

นายสมดุลย์ อุตเจริญ เชียงใหม่ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๔ ได้รับการร้องเรียนจากนายพิรุณ ธงชัยสุวรรณ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลแม่อาย เรื่องขอความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยงานหมวดการทาง จังหวัด เชียงใหม่ สาขาฝาง ตามหนังสือที่ ชม ๕๓๔๐๓/๗๐๓ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เพราะการระบายน้ำไม่ทันจำนวนหลายแห่ง โดยการขุดลอกพร้อมวางท่อระบายน้ำบริเวณ ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๑๐๗ รวมทั้งหมด ๖ จุด ๑. บริเวณสำนักงานเกษตร อำเภอแม่อาย ๒. บริเวณหน้าตลาดมีศรี ๓. บริเวณหน้าวัดแม่อายหลวง ๔. บริเวณหน้าไปรษณีย์แม่อาย ๕. บริเวณหน้าร้านครัวคุณแม่ และ ๖. บริเวณข้างปั๊ม PT บ้านสันป่าเหียว ตามเอกสาร ที่ส่งแนบถึงท่านประธานถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณครับ ท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ตอนนี้ทั้ง ๓๐ ท่านได้หารือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ ในการรักษาเวลานะครับ แล้วก็ขออภัยสมาชิก ๒ ท่านที่ภาพของท่านไม่ได้ขึ้นบนหน้าจอ เดี๋ยวให้เจ้าได้แนบภาพเหล่านี้ส่งถึงหน่วยงานที่ท่านได้เอ่ยถึงด้วยนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

จำนวนสมาชิกที่มาประชุมทั้งหมดที่ลงชื่อไว้เมื่อเลิกประชุม ๔๖๕ คน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรียนสมาชิกครับ ตอนนี้สมาชิกลงชื่อประชุมทั้งหมด ๓๗๓ คน ครบองค์ประชุมครับ ผมขอเปิดการประชุมนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๑ กระทู้ถาม ไม่มี

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ตอนนี้มีทั้งหมด ๔ เรื่อง ทางสำนักงานได้พัฒนาระบบติดตามสถานะ ความคืบหน้าการเสนอกฎหมายและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งตอนนี้เราทำเป็นดราฟต์ ที่อยู่ใน Application TRELLO หรือว่าเข้าใน Browser ของ TRELLO ก็ได้ เดี๋ยวจะให้ดู ตัวอย่าง ขอเจ้าหน้าที่โชว์ให้ดูนะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

อันนี้ก็จะเป็นกระดานที่เป็นสาธารณะ ทางสมาชิก ทางสื่อมวลชน แล้วก็ทางพี่น้องประชาชน สามารถ Join Board นี้ได้นะครับ แล้วก็ติดตามสถานะของกฎหมายตั้งแต่กฎหมายค้าง กฎหมายในการเข้าชื่อเสนอร่วมกัน แล้วก็ขั้นตอนต่าง ๆ จนไปจบ ถึงมีการประกาศใช้ใน ราชกิจจานุเบกษา อันนี้เป็นหน้าตาของการติดตามร่างกฎหมายทั้งหมดนะครับ สมาชิก ที่เป็นเจ้าของร่างก็จะได้ทราบด้วยว่าตอนนี้ร่างของท่านนั้นอยู่ในขั้นตอนไหน ได้รับ การวินิจฉัยอย่างไร แล้วก็กระดานนี้จะเป็นสาธารณะให้พี่น้องประชาชนได้รู้ด้วย ขั้นตอน ต่อมานะครับ การที่เราพัฒนาเรื่องนี้จะเข้าไปอยู่ใน Website ของรัฐสภา ซึ่งก็จะทำให้ เข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีก แต่ถ้าช่วงนี้ท่านใดสนใจที่จะเข้ามาลองใช้ระบบนี้ก็ Scan QR Code ได้ อันนี้พี่น้องประชาชนก็สามารถ Scan ได้เช่นเดียวกันผ่านโปรแกรม TRRELLO ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ด้วยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้พัฒนาระบบ การเข้าชื่อเสนอกฎหมายแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้ประชาชนสามารถใช้งานได้ ในการเข้าชื่อร่วมกันไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนอีกแล้ว คือจะใช้สำเนาบัตรประชาชนก็ได้ หรือใช้การยืนยันตัวตนผ่านระบบ Digital ของ DOPA ก็ได้นะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้ Application : ThaiID ก็สามารถตรวจสอบความถูกต้องในการเช้าชื่อได้ผ่านระบบ OTP แล้วก็จะทำให้ประหยัดต้นทุนในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายได้อย่างมากเลย ถ้าท่านใด สนใจจะเข้าไปดูเรื่องนี้ก็เข้าไปที่ e-Initiative.parliament.go.th หรือเข้าไปที่ Website รัฐสภา เข้าไปตรงเข้าชื่อเสนอกฎหมายได้ครับ แล้วก็อันนี้เป็นผลงานของ ผบ. สมพงษ์ รัตนวรรณ แล้วก็ ผอ. สินี เผื่อท่านใดไม่ทราบ ผบ. สมพงษ์ก็คือเจ๊ไฝนี้เอง สามารถ ไปตบมือให้กำลังใจที่ข้างหลังได้นะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๓ รับทราบการส่งผู้แทนพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ ในคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรรถนะสูง

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ด้วยดำริของท่านประธานได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใส และสมรรถนะสูง ก็จะมีหนังสือถึงทุกพรรคการเมืองนะครับ ให้เห็นถึงขอบเขตหน้าที่ ของอนุกรรมการทั้ง ๔ ชุดที่เราตั้งขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอนุกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภา เพื่อประชาชน อนุกรรมการขับเคลื่อนฐานข้อมูลรัฐสภาเพื่อประชาชน อนุกรรมการ ขับเคลื่อนการสื่อสารเชิงกลยุทธ์เพื่อประชาชน และอนุกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม ของเด็กและเยาวชน อันนี้ก็ไม่ได้เป็น Fight บังคับนะครับ แต่อยากให้แต่ละพรรค ได้มีโอกาสรับทราบด้วยว่าสมาชิกของท่านสามารถเข้าร่วมในอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเข้าร่วมในฐานะอนุกรรมการ หรือว่าจะเข้าร่วมในฐานะของผู้สังเกตการณ์ เข้าร่วมตามวาระที่น่าสนใจก็ได้ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เรื่องสุดท้าย ด้วยสหภาพรัฐสภาหรือ IPU ได้มีกำหนดให้จัดกิจกรรมการ บรรยายสรุปผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของยุวสมาชิกรัฐสภา ซึ่งจะจัดในเรื่องของสิทธิมนุษยชนของเยาวชนผ่านโปรแกรม Zoom ในวันศุกร์ที่ ๑๑ สิงหาคม อันนี้เพื่อความเข้าใจของสมาชิกนะครับ เวลาพูดถึงยุวสมาชิกรัฐสภาตอนนี้ทั่วโลก ใช้เกณฑ์ที่ ๔๕ ผมก็ยังยุวอยู่นะครับ แต่เนื่องจากว่าในสภาแห่งนี้มีสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดคือ ๒๗ ปี ทั้งหมด ๕ ท่านด้วยกัน เพราะฉะนั้นเราก็จะให้สิทธิในการเข้าร่วมงานนี้กับสมาชิก ที่อายุน้อยที่สุดซึ่งเป็นสมาชิกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้าท่านไม่สะดวกเข้าร่วม ลำดับ ก็จะเลื่อนไปถึงสมาชิกที่มีอายุน้อยถัดมา เรื่องให้ทราบมีเท่านี้นะครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องที่สมาชิกได้หารือเรื่องของการตั้งกรรมาธิการสามัญนะครับ ตอนนี้ ทางฝ่ายเลขาก็ได้คำนวณสัดส่วนของแต่ละพรรคในเรื่องของการเป็นประธานกรรมาธิการ เรียบร้อยแล้ว แล้วก็นำเรียนให้ถึงรองประธานท่านที่ ๒ ซึ่งมีความรับผิดชอบในเรื่องงาน ด้านกรรมาธิการ ก็จะมีความคืบหน้ามารายงานต่อสมาชิกต่อไป

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๒.๑ รับทราบการพิจารณารายงานของวุฒิสภา

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ด้วยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามีหนังสือแจ้งว่าที่ประชุมวุฒิสภา ได้พิจารณารายงานดังนี้ ในวันอังคารที่ ๑๘ กรกฎาคม ได้รายงานของผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ และในการประชุมวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่ประชุมรับทราบรายงาน ๒ เรื่อง คือรายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำนักงานศาลยุติธรรม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ จึงขอแจ้งให้ที่ประชุมทราบ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ต่อไปจะเป็นการพิจารณารับทราบรายงานของหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ จากการหารือกับสมาชิกก็คือเราต้องการความชัดเจนว่าหน่วยงานไหน จะมาหรือไม่มาใช่ไหมครับ ซึ่งตรงนี้เราก็มีการร่วมมือที่ดีขึ้นว่าหน่วยงานที่ยืนยัน ในการเข้าร่วมทุกพรรคก็จะได้รับรายนามของหน่วยงานต่าง ๆ เพราะฉะนั้นก็จะมี เรื่องพิจารณารับทราบขึ้นมาตามลำดับ ดังนี้

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๒.๕ รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ และรายงานการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สิน สำหรับปี ๒๕๖๓ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอเชิญผู้ชี้แจงครับ วันนี้เราได้รับคำแนะนำ แล้วพี่น้องประชาชนก็อยากให้ หน่วยงานได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ๕ นาที โดยการ Highlight ว่าในรายงานนั้นมีความสำคัญ หรือมีเรื่องที่ควรจะต้องทราบเรื่องอะไรบ้างไม่เกิน ๕ นาที แล้วต่อมาก็จะเป็นคิวของสมาชิก ที่ได้ลงชื่อหารือไว้ ซึ่งตอนนี้มีผู้ที่ลงชื่อไว้ทั้งหมด ๙ ท่าน ถ้าหน่วยงานพร้อมแล้ว ผมขอเชิญเลยครับ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดิฉัน เกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะผู้สอบบัญชี ของสำนักงาน กสทช. นะคะ ขออนุญาตนำเรียนสรุปสาระสำคัญของรายงานการตรวจสอบ จากประเด็นการตรวจสอบที่กฎหมายของ กสทช. มาตรา ๖๙ วรรคสอง กำหนดให้ผู้สอบบัญชี ต้องตรวจสอบรายงานการเงินและประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงาน กสทช. ในรอบรายงานครั้งนี้เป็นการรายงานสำหรับงวดปี ๒๕๖๓ ประเด็น การรายงาน มี ๒ ส่วนหลัก ๆ ก็คือในเรื่องของการตรวจสอบรายงานการเงินของสำนักงาน กสทช. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ และในส่วนของรายงานการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงาน กสทช. สำหรับปีสิ้นสุด ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ เช่นกันนะคะ ลำดับแรก ขออนุญาตนำเรียนในเรื่องของรายงานการเงินของทาง กสทช. งบแสดงสถานะการเงิน ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ของสำนักงาน กสทช. มีรายการ สินทรัพย์รวมทั้งสิ้น ๒๔๙,๖๒๖.๓๕ ล้านบาท หนี้สินรวม ๒๒๕,๔๑๖.๖๒ ล้านบาท แล้วก็ ส่วนของทุน ๒๔,๒๐๙.๗๒ ล้านบาท ส่วนของงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสำหรับปี ๒๕๖๓ จำนวน ๒๓,๖๑๙.๕๗ ล้านบาท สำหรับการแสดง ความเห็นของผู้สอบบัญชีต่อรายงานการเงินของสำนักงาน กสทช. ได้แสดงความเห็น ต่อรายงานการเงินไว้อย่างไม่มีเงื่อนไขนะคะ แต่ว่าได้แสดงวรรคเน้นขอให้ผู้ใช้งบการเงิน ได้สังเกตตามหมายเหตุประกอบงบการเงินใน ๒ ข้อหลัก ๆ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ข้อแรก ก็คือเรื่องของเกณฑ์การจัดทำรายงานการเงิน ด้วยเหตุที่รายงาน การเงินของสำนักงาน กสทช. ในงวดปี ๒๕๖๓ เป็นการจัดทำรายงานการเงินตามมาตรฐาน การบัญชีภาครัฐ ซึ่งจะต้องไม่นำรายงานการเงินของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรคมนาคมและกิจการโทรทัศน์เข้าไปรวมนะคะ จึงได้มีวรรคเน้นไว้ว่า รายงาน การเงิน กสทช. ฉบับนี้ไม่ได้นำเอารายงานการเงินของกองทุนมารวมไว้ และหมายเหตุ ข้อ ๔๙ ก็คือเรื่องของคดีพิพาท ข้อพิพาทและคดีสำคัญ ซึ่งปัจจุบันนี้สำนักงาน กสทช. ที่เป็นผู้ฟ้องมีทุนทรัพย์ของคดีความ ทั้งหมด ๔,๗๙๒.๘๔ ล้านบาท และที่สำนักงาน กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้อง จำนวนทุนทรัพย์รวม ๑๒๖,๕๐๙.๔๓ ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนความเห็น ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเนื่องจากเรื่องที่แสดงไว้ในวรรคเน้น

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ลำดับที่ ๒ เป็นสาระสำคัญของรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินสำหรับปี ๒๕๖๓ ดังที่ได้นำเรียนว่าพระราชบัญญัติ กสทช. มาตรา ๖๙ วรรคสอง ได้กำหนดให้มีการจัดทำรายงานฉบับนี้ขึ้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจึงได้ จัดทำรายงานแล้ว ก็เพื่อแสดงความเห็นเป็นข้อวิเคราะห์ประสิทธิผลของการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และได้ผลตามเป้าหมายที่ กสทช. กำหนดไว้เพียงใด ขอบเขตการประเมินมีด้วยกัน ๓ ส่วน

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนแรก ประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนที่ ๒ การประเมินผลการจัดการทรัพย์สิน

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนที่ ๓ การประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ของ สำนักงาน กสทช.

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ลำดับแรก ในส่วนของการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินนะคะ สำนักงาน กสทช. ได้รับอนุมัติงบประมาณรายจ่าย จำนวนทั้งสิ้น ๖,๕๔๘.๓๒ ล้านบาท ในส่วนนี้ก็จะมีเงินที่มาจากส่วนของเงินเบิกเหลื่อมปี จำนวน ๑,๒๓๖.๖๔ ล้านบาท ทำให้ งบประมาณรวมของ กสทช. รวมเงินกันเหลื่อมปีแล้ว ๗,๖๕๘.๔๔ ล้านบาท ในจำนวนนี้ ในการบริหารการใช้จ่ายเงินของสำนักงาน กสทช. ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาก็ถือว่าสำนักงาน สามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นนะคะ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ เราพบก็คือ แม้ว่าจะมีการเบิกจ่ายได้ดีขึ้นก็พบว่ายังมีเงินที่จะต้องมีการกันไว้เหลื่อมปี ยังคงมีอยู่จำนวนมาก จึงสะท้อนถึงเรื่องของการตั้งงบประมาณที่อาจจะยังไม่เหมาะสม การบริหารงบประมาณที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ แล้วก็ควรที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามแผน ที่กำหนดไว้ ในลำดับที่ ๒

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านรองครับ รอบแรกเป็น ๕ นาทีก่อน จะได้ไม่กินเวลาในการอภิปราย แล้วเดี๋ยวถ้ามีประเด็น ซักถามเพิ่มเติม ท่านมีโอกาสอีกรอบหนึ่งนะครับ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ได้ค่ะ ก็ขออนุญาต สรุปในส่วนของการรายงานการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินนะคะ หลัก ๆ ก็คือในเรื่องของการใช้จ่ายที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แล้วก็เรื่องของการปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ

นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านอดิศรครับ

นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ ผม นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผมเคยลุกขึ้นพูดเรื่องการรับทราบกับ ท่านประธานคงจำได้ว่ามันควรจะเป็นปัจจุบันนะครับ นี่ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ คือเรามาสภาชุดนี้ไม่ใช่ไปตรวจโน่นปี ๒๕๖๓ ก็อยากขอความร่วมมือผ่านท่านประธาน มาวันนี้ก็ปี ๒๕๖๓ อีกแล้ว ไม่ทราบว่าจะเป็นปัจจุบันเพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในการตรวจสอบตามกฎหมาย ไม่ทราบว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า ผมขอรบกวนเวลา ยังติดใจ เรื่องนี้อยู่ครับ ท่านประธานครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านอดิศรนะครับ ก็เป็นเรื่องจริงทั้งหน่วยงานเอง แล้วก็ทางสมาชิก แล้วก็พี่น้อง ประชาชนก็อยากให้รายงานต่าง ๆ เป็นปัจจุบันมากที่สุดนะครับ ทีนี้เนื่องจากลำดับ ในการประชุมมันต้องดำเนินการไปตามระเบียบ ทีนี้เราก็พยายามจะให้งานค้างนี้จบให้ได้ ตอนนี้มีรายงานที่เข้ามาค้างอยู่อีก ๒๙ ฉบับ แล้วกว่าจะได้พิจารณารายงานฉบับก่อนหน้านั้น มันก็จะทยอย Delay ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถ Clear พูดง่าย ๆ ก็คือว่า รายงานทั้งหมดได้ รายงานที่พร้อมรายงานแล้วก็ไม่สามารถเข้าสภาได้อยู่ดี เพราะฉะนั้น ก็ต้องขอความร่วมมือสมาชิกว่า ๒ วันนี้เราตั้งเป้าอยู่ที่ ๑๐ รายงาน ถ้าเราควบคุมเวลาได้ดี เราชี้แจงแล้วก็มีประเด็นที่ชัดพอแล้วเราก็จะสามารถควบคุมได้แล้วก็ทำให้ภายใน การประชุมประมาณสัก ๔ ครั้งนี้เราสามารถ Clear รายงานทั้งหมดได้ แล้วก็จะเริ่ม Update มากขึ้น ขอบคุณท่านอดิศรนะครับ ผมขอเชิญสมาชิกที่เข้าชื่อได้มีโอกาสอภิปรายซักถามทาง รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต่อไปจะเป็นท่านพลากร พิมพะนิตย์ จากพรรคเพื่อไทย ๗ นาทีครับ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย จากรายงานของ กสทช. กระผมตั้งข้อสังเกตต่อรายงานการเงินของ กสทช. ซึ่งสำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานที่มีรายได้สูงมาก โดยรายได้หลัก ๆ มาจากต่อไปนี้ ขอ Slide ด้วยครับ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

๑. ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในการใช้ คลื่นความถี่และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ ๒. รายได้หรือผลประโยชน์อันได้ มาจากการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ กสทช. รายได้จากทรัพย์สินของสำนักงาน กสทช. เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้เงินอุดหนุนทั่วไป กระผมได้หยิบประเด็นที่ วิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ของ กสทช. นะครับ ที่จะพูดคือ กสทช. เป็นหน่วยงานที่ใช้จ่าย งบประมาณเกินความจำเป็นหรือไม่ ที่เขาบอกว่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย จากเงินภาษีของประชาชน มาจ่ายเป็นค่าตอบแทนคณะกรรมการ ซึ่งล่าสุดมีมติรับหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา ค่าตอบแทนค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการทำงานไปปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและประธาน คณะกรรมการ ซึ่งแสดงให้เห็นโชว์ต่อไปว่าค่าตอบแทนของประธานคณะกรรมการและ กรรมการของคณะ กสทช. เป็นอย่างไร ขอ Slide ต่อไปเลยครับ ค่าตอบแทนเหมาจ่าย รายเดือนของประธาน กสทช. เดิมที ๓๓๕,๘๕๐ บาทต่อเดือน ปัจจุบัน ๓๖๑,๑๖๗ บาท ต่อเดือน สูงกว่านายกรัฐมนตรี ตีเป็นเงินเดือน ๒๖๙,๐๐๐ บาทต่อเดือน ผลประโยชน์อื่น ๖๗,๒๕๐ บาทต่อเดือน ค่าบำเหน็จ ค่าตอบแทน ๒๒,๔๑๗ บาทต่อเดือน ค่าเสียโอกาส ๘๙,๖๖๗ บาทต่อเดือน กรรมการ กสทช. ค่าตอบแทนรายเดือน ๒๘๙,๑๖๗ บาทต่อเดือน เงินเดือน ๒๑๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน ผลประโยชน์อื่น ๕๓,๗๕๐ บาทต่อเดือน ค่าบำเหน็จ ค่าตอบแทน ๑๗,๙๑๗ บาทต่อเดือน และค่าเสียโอกาส ๗๑,๖๖๗ บาทต่อเดือน คำพูด ที่ฟังดูแล้วเจ็บปวดที่สุดเรื่องค่าตอบแทนของ กสทช. และพนักงาน กสทช. รวมทั้งค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ของสำนักงาน กสทช. ที่บอกไว้ว่าค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ได้นำมาจาก ภาษีของพี่น้องประชาชน แต่หักมาจากการเก็บค่าธรรมเนียมของผู้ประกอบการ ในทาง ตรงกันข้ามเงินที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายของ กสทช. ส่งเป็นรายได้แผ่นดินแต่ละปี ฟังดูกี่ทีก็ไม่สบายใจครับท่านประธาน โดยรายได้ทั้งหมดในแต่ละปีมีมูลค่าเป็นแสนล้าน แต่เมื่อหักรายจ่ายสำหรับดำเนินงานและสมทบกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และทุน SMART Digital เพื่อเศรษฐกิจและสังคม เหลือนำรายได้ส่งแผ่นดินไม่มาก อาทิเช่น รายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ ๗๐๐ เมกะเฮิรตซ์ ๕๒,๗๕๒ ล้านบาท นำส่งคลัง ๓๑,๓๑๐ ล้านบาท หรือรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ ๒,๖๐๐ เมกะเฮิรตซ์ รายได้ ๓๗,๔๓๓ ล้านบาท นำส่งคลัง ๖,๑๕๕ ล้านบาท ผมจึงมีข้อสังเกตและอยากทราบว่าสัดส่วน การหักรายจ่ายสำหรับการดำเนินงานเพื่อนำส่งคลังมีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้อย่างไรครับ และการสมทบเงินทุนเข้ากองทุนทั้ง ๒ กองทุนมีการกำหนดเพดานการสมทบหรือไม่ อย่างไร และอีกข้อหนึ่งครับ ข้อสังเกตจากหมายเหตุ ข้อ ๔๙ ของสำนักงาน กสทช. มีข้อพิพาท และคดีความที่สำคัญที่สำนักงาน กสทช. ถูกฟ้องในฐานะความผิดเกี่ยวกับการออกคำสั่ง และการดำเนินการประกาศ กสทช. โดยมีคดีที่ถูกฟ้องจำนวนมาก และมีทุนทรัพย์ตามฟ้อง สูงมาก อยากให้ผู้สอบบัญชีได้ให้คำแนะนำสำนักงาน กสทช. ได้มีการจัดทำสรุปแนวทาง การแก้ไขปัญหาเพื่อลดข้อพิพาทและคดีความต่าง ๆ กระผมจึงฝากท่านประธานไปยัง หน่วยงานที่รับผิดชอบศึกษาหาแนวทางในการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมต่อไป ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอนุชา บูรพชัยศรี ครับ

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพ ผม อนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทย สร้างชาติ ในเบื้องต้นก็คงจะคล้ายกับที่ท่านสมาชิกได้กล่าวมาก่อนหน้านี้เรื่องของความเป็น ปัจจุบันเรื่องของการ Update ก็อยากจะเรียนท่านประธานว่าถ้าหากเป็นไปได้เมื่อมี การบรรจุเข้ามาแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นการรับทราบรายงานเมื่อปี ๒๕๖๓ ถ้าหากหน่วยงาน ที่จะเข้ามารายงานสามารถที่จะรวมในส่วนของปี ๒๕๖๔ หรือถ้าหากเป็นไปได้ปี ๒๕๖๕ เข้ามาด้วยเลย ในวาระเดียวกันตรงนี้ผมคิดว่าเขาจะได้ประโยชน์ แล้วก็จะสามารถ ดำเนินการอย่างที่ท่านประธานได้กล่าวถึงในการที่จะเรียกว่า Clear ของเก่าที่อยู่ในคิวอยู่ ถ้าเป็นหน่วยงานเดียวกันสามารถเอาเข้ามาเลย ซึ่งผมก็เห็นมีอยู่ในส่วนของที่เราจะมี การอภิปรายกันพรุ่งนี้เรื่องของ กอช. ก็เห็นว่ามีการเข้ามามากกว่า ๑ ปี เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ในส่วนตรงนี้ผมมั่นใจเหลือเกินว่าในส่วนของทางด้าน กสทช. คงมีปี ๒๕๖๔ อยู่ในมือแล้วด้วย และดีไม่ดีอาจจะมีปี ๒๕๖๕ ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้อยากจะ ขออนุญาต ท่านประธานได้พิจารณาในอนาคตการบรรจุถ้านำปีต่อ ๆ มาที่เป็นปัจจุบัน ให้มากที่สุดเข้ามา ถึงแม้ว่าจะเข้ามาหลังก็ตาม แต่ว่าถ้าเป็นวาระเดียวกันก็เข้ามา พร้อมกันเลยครับท่านประธาน

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องต่อมาครับ ท่านประธาน ผมอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางด้านงบประมาณ เกี่ยวกับในส่วนของที่รายงานฉบับนี้โดยตรง แต่มันเป็นภารกิจที่ต้องเรียนว่าในส่วนของ กสทช. เองอาจจะมีเรื่องของงบประมาณ หรือการประสานงานที่ผมมีโอกาสได้ทราบข้อมูลมา แล้วก็ปัญหาและอุปสรรคในหน่วยงานของ กสทช. เลยอยากจะขออภิปรายเพื่อที่จะให้ หน่วยงานได้รับไปพิจารณาด้วยครับ ท่านประธานครับ

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องแรก ก็คือเรื่องของการที่เกี่ยวข้องกับการที่ทาง กสทช. มีภารกิจ ในการที่จะกำกับดูแล ในการที่จะนำสายสื่อสารลงใต้ดิน เรื่องนี้ก็คล้าย ๆ กับที่การไฟฟ้า นครหลวงหรือว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องนำสายไฟลงดิน แต่ว่าเท่าที่ผ่านมาจะเห็นว่า หลายหน่วยงานทั้งในส่วนของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือว่าในส่วนของ กสทช. เองก็อาจจะไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นรูปธรรมในการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ นึกภาพสมัยก่อนครับท่านประธาน คงจำได้ว่าเราเคยมีการพูดกันว่าเวลามีถนนเส้นหนึ่ง หน่วยงานหนึ่งไม่อยากจะเอ่ยชื่อนะครับ มาขุด ขุดเสร็จแล้วก็ฝัง อีกหน่วยงานหนึ่งมาถึง ก็มาขุดใหม่แล้วก็ฝัง แล้วก็มีหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งหมดโดยไม่มีการพูดคุยกันว่าจะกลบจะฝังกัน เมื่อไร แล้วก็ทำทีเดียวพร้อมกันไปเลยนะครับ ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ครม. เคยมีมติ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ให้ทางด้าน กสทช. ไปร่วมกับทางด้านการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมถึงบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ไปพูดคุย กับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมแล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่จะจัดทำแผนบูรณาการ ในการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ต้องบอกว่าสายส่วนใหญ่เป็นสายไฟที่ทาง หน่วยงานเกี่ยวกับทางด้านประกอบกิจการโทรคมนาคมไปฝากเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสาย เมื่อก่อนนี้ถ้าเป็น Analog ก็คือสายเคเบิลต่าง ๆ สายโทรศัพท์ แต่ในปัจจุบันก็คือพวก Fiber Optic อะไรต่าง ๆ ก็ไปอยู่บนเสานั้นทั้งหมดครับ อย่างไรก็ดีในปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่า ผู้ประกอบการเองยังไม่ได้รับข้อมูลมาทั้งหมดจากหน่วยงานอื่น ๆ เพราะว่าเขาอยู่ภายใต้ กำกับของทางด้าน กสทช. นั่นหมายถึงว่าบริษัทเคเบิลอะไรต่าง ๆ ทั้งหมดนี้เขาก็จะประสาน ไปที่ กสทช. แต่ข้อมูลในเรื่องของการที่จะเกี่ยวข้องกับการนำสายไฟฟ้าลงดินข้อมูลไปไม่ถึงเขา เพราะฉะนั้นการดำเนินการในการที่จะวางแผนร่วมกันอย่างที่ผมเกริ่นในตอนต้นไม่ต้อง เอาออก เอาลง เอาออก เอาลง คนละทีกัน ทำทีเดียวให้พร้อมกันไปเลย เพราะเราทราบกันดี อยู่ว่าการที่จะนำสายไฟฟ้าลงดินก็คือการร้อยท่อลงใต้ดิน แล้วท่อตรงนี้ก็คือเข้าใจว่าเป็นของหน่วยงานที่เป็นคนดูแลในพื้นที่นั้น อย่างเช่นในส่วนของ กรุงเทพมหานครก็เป็นของ กทม. ในส่วนของต่างจังหวัดก็คงจะเป็นของเทศบาลเมือง เทศบาลนครอะไรต่าง ๆ เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้ในส่วนของ กสทช. ถ้าจะเป็นตัวกลางในการที่จะประสานงานกับทุกหน่วยงานในการที่จะดำเนินการให้มี การนำสายไม่ใช่เฉพาะสื่อสาร สายสื่อสารอย่างที่ผมบอกมันคนละส่วนกับสายไฟฟ้านะครับ เอาสายไฟฟ้าลงดินพร้อมกับสายสื่อสารทั้งหมดไปในคราวเดียวกันงบประมาณมันก็น้อยลง แล้วเรื่องของการที่ในอดีตที่ผ่านมาการที่เราจะไปเส้นไหนก่อน เส้นไหนหลัง มันมีเรื่องของ การจัดลำดับความสำคัญ จะได้ดำเนินการพร้อม ๆ กันไปในทีเดียวกัน ผมมีโอกาสได้ไป สอบถามหลาย ๆ ส่วนว่าเหตุใดทำไมบางเส้นมีการนำสายไฟฟ้าลงดินไปแล้วบางส่วน แต่ว่าเสาไฟฟ้าก็ยังมีอยู่ นั่นเหตุผลที่ได้ยินแล้วที่ได้รับคำตอบขึ้นมาก็คือว่า ผู้ประกอบการ ระบบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารก็คือเขาเพิ่งจะ Lay สายเคเบิลใหม่ ก็คือเพิ่งจะทำ Fiber Optic เส้นใหม่ไปพาดบนสายไฟฟ้าแนวนั้น แล้วการที่จะให้เขาเอาสายเคเบิลใยแก้ว Fiber Optic ลงใต้ดินอีกเขาต้องทำใหม่หมดเลยนะครับ เพราะฉะนั้นถามว่าแล้วทำไม ไม่คุยกันตั้งแต่แรก นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมได้รับคำตอบมาเหมือนกันว่าถ้าหากทางด้าน กสทช. มีโอกาสที่จะพูดคุยกับหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นเทศบาล ไม่ว่าจะเป็น กทม. หน่วยงาน การไฟฟ้านครหลวง หรือหน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่าง ๆ ก็จะทำให้งบประมาณ น้อยลงในการที่จะต้องจัดสรร ซึ่งมันก็เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการที่จะต้องมารายงานในเรื่อง ของการที่จะมีงบประมาณประจำปีต่าง ๆ ด้วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

อีกส่วนหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นส่วนสำคัญนะครับ ก็คือปัจจุบันนี้ในส่วนของ กสทช. เองมีอำนาจในการที่จะเชิญหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามา ผมคิดว่าเรามาจัดสรรกันใหม่ ได้หรือไม่ ณ ตอนนี้เรื่องของแผนงานในการที่จะวางระบบสายไฟฟ้าลงดินเขาก็จะมี แผนงานของเขาแผนหนึ่ง อีกส่วนงานหนึ่งก็จะมีในส่วนของการที่นำสายเคเบิลต่าง ๆ ลงดิน ก็จะมีแผนอีกแห่งหนึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเอา ๒ แผนนี้ ทั้งไฟฟ้า ทั้งสายสื่อสารมา Merge กัน มาบูรณาการกัน แล้วก็เป็นแผนแม่บทแผนเดียวเลย ผมเข้าใจว่าการไฟฟ้า ก็มีหน่วยงานที่ดำเนินการไปจนถึงปี ๒๕๗๐ ด้วยซ้ำไป กสทช. ก็มีอีกแผนหนึ่ง อยากให้ หน่วยงานนี้มารวมกัน มา Merge กัน แล้วก็ทำเป็นแผนแม่บทอันเดียวเลย แล้วจากนี้ไป ก็เดินหน้า บอกประชาชนเลยว่าปีนี้ ปีหน้า อีก ๒ ปี อีก ๓ ปี อีก ๕ ปี เรามีงบประมาณ จะทำเส้นไหน ทำอย่างไร แล้วก็ทำพร้อมไปเลยครับ ย้ำครับ สายไฟฟ้าแล้วก็สายเคเบิล สื่อสารทำพร้อมกันลงไป ลงใต้ดินไปพร้อม ๆ กัน จะได้ลดงบประมาณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งไฟฟ้า แล้วก็สายสื่อสารด้วย ฝากท่านประธานในประเด็นนี้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ครับ

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขออภิปรายเกี่ยวกับรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงาน กสทช. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ครับ เนื่องจากท่านผู้ชี้แจงที่มาในวันนี้คือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ตรวจสอบบัญชี ผมจึงมี ๓ ประเด็นคำถามสั้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงบการเงินและการตรวจสอบบัญชี เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของสภา ผมจึงขอตรงเข้าประเด็นเลยนะครับ

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ตามหมายเหตุประกอบงบการเงิน หมายเหตุที่ ๓๐ รายได้ การประมูลคลื่นความถี่ที่ระบุรายได้จากการประมูลคลื่นในย่านความถี่ ๒๖๐๐ เมกะเฮิรตซ์ เป็นจำนวนเงิน ๓๗,๔๓๓ ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายแสดงอยู่ในหมายเหตุที่ ๓๘ ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการประมูลคลื่นความถี่ย่าน ๒๖๐๐ เมกะเฮิรตซ์ เป็นจำนวนเงิน ๓๐,๑๗๔ ล้านบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้คิดเป็นสัดส่วนถึง ๘๐.๖ เปอร์เซ็นต์ คำถามคือ ๒ รายการนี้ เป็นรายการของรายรับและเป็นรายการค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกันในการประมูลคลื่นความถี่ ย่าน ๒๖๐๐ เมกะเฮิรตซ์ใช่หรือไม่ และค่าใช้จ่ายตามหมายเหตุที่ ๓๘ ที่มีสัดส่วนถึง ๘๐.๖ เปอร์เซ็นต์ มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายของรายการนี้เป็นอย่างไร เป็นปกติหรือไม่ ที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการประมูลสูงถึงกว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของรายรับ นี่คือคำถามที่ ๑

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ตามหมายเหตุที่ ๓๔ ในงบการเงินนะครับ สำนักงาน กสทช. มีรายได้จากกองทุน กทปส. ๔๙๙ ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณ โทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม แต่ทั้งนี้เมื่อเราไปดูงบการเงินของกองทุน กทปส. กลับไม่พบตัวเลขเดียวกันในรายจ่ายของกองทุน กทปส. กล่าวคือตัวเลข ในหมายเหตุที่ ๒๑ และหมายเหตุที่ ๒๓ ในงบการเงินของกองทุน กทปส. ที่เกี่ยวข้องกับ ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมและสนับสนุนตามภารกิจของกองทุน และค่าใช้จ่ายตามแผนจัดการ ให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง ที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรทัศน์นะครับ ของงบ การเงิน กทปส. ไม่ตรงกับรายได้ ๔๙๙ ล้านบาทที่ปรากฏอยู่ในงบการเงินของสำนักงาน กสทช. คำถามคือตัวเลขรายได้ ๔๙๙ ล้านบาทนี้ไปปรากฏอยู่ในงบรายจ่ายของกองทุน กทปส. ที่ตรงไหน อย่างไร ได้โปรดกรุณาให้คำตอบชี้แจงด้วยนะครับ

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ขอสอบถามถึงภาพรวมในการตรวจสอบแบบ Performance Audit ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใดสำหรับ การตรวจสอบและประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงาน กสทช. มีเพียง ๓ ประเด็นสั้น ๆ นี้นะครับ จึงขอเรียนผ่านท่านประธานไปยังท่านผู้ชี้แจงให้ช่วยชี้แจง และกรุณาตอบคำถามในรายละเอียดของ ๓ ประเด็นดังกล่าวนะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านสรรเพชญ บุญญามณี ครับ

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ครับ กระผมขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายต่อรายงานของผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ท่านประธานครับ ต่อรายงานของ กสทช. ที่เสนอเข้ามาเป็นรายงานสิ้นปี ๒๕๖๓ ซึ่งปัจจุบันปี ๒๕๖๖ ซึ่งการเสนอเข้ามาได้รับการพิจารณาล่าช้ามาเกือบ ๓ ปี ซึ่งกระผมเห็นด้วยกับท่านสมาชิก อาวุโส ท่านอดิศร เพียงเกษ ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม คือพวกเรามีความคิดเห็นตรงกันว่า รายงานควรจะทำให้เป็นปัจจุบันมากที่สุดครับ กระผมจึงขอแสดงความเป็นห่วง ต่อการดำเนินงานของ กสทช. ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีข้อสังเกตกับงบการเงิน โดยเฉพาะหมายเหตุที่ ๒ ข้อที่ ๔๙ เรื่องข้อพิพาทและคดีความสำคัญที่สำนักงาน กสทช. เป็นผู้ยื่นฟ้อง จำนวนทุนทรัพย์รวมกว่า ๔,๗๐๐ ล้านบาทครับท่านประธาน และที่สำนักงาน กสทช. เป็นผู้ฟ้องจำนวนทุนทรัพย์กว่า ๑๒๖,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งข้อพิพาท เหล่านี้ก็เป็นไปตามสิ่งที่สำนักงาน กสทช. จะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์รักษาไว้ ผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งขอให้สำนักงาน กสทช. ได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และหวังว่าท่าน จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน อีกทั้ง กสทช. ก็เป็นหน่วยงานนิติบุคคล เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติ โดยมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ หรือวิธีการต่าง ๆ ในการจัดการ จัดสรร เรื่องคลื่นความถี่ การประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม การใช้หมายเลขต่าง ๆ ซึ่งประชาชนจะได้รับผลประโยชน์มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ ความพยายามและการทำหน้าที่ของท่านทั้งหลายครับ

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

สืบเนื่องจากการประชุมรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระผมได้มีส่วนร่วม ในการอภิปราย ซึ่งได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์เกี่ยวกับมิจฉาชีพ Online หรือแก๊ง Call Center ที่กำลัง ระบาดอยู่ในปัจจุบัน ในฐานะที่ท่านเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลบริษัทผู้ที่ให้บริการเครือข่าย โทรศัพท์มือถือในการออกหมายเลขโทรศัพท์ วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่กระผมในฐานะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงขอถามไปยังสำนักงาน กสทช. ๒ ประเด็นครับ

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ประเด็นแรก จากปัญหาการระบาดของแก๊ง Call Center ที่เกิดขึ้น ท่านมี มาตรการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ความเสียหายของพี่น้องประชาชนอย่างไร เพราะปัญหา ที่มีที่เขาเรียกว่าปัญหา SIM ม้า ท่านประธานครับ ที่ล่าสุดมีการจับกุมโดยตำรวจ Cyber กว่า ๑๐๘,๐๐๐ SIM เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาท่านมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุม หรือจำกัดหมายเลข ท่านได้กำหนดให้มีการพิสูจน์ตัวตนของเจ้าของ SIM หรือไม่ รวมถึง ปัญหาสัญญาณ Internet ชายแดน หรือ Operator ท่านมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ท่านประธานครับ เป็นประเด็นที่ทราบกันดีว่าสำนักงาน กสทช. เป็นองค์กรของรัฐที่ทำรายได้ให้กับรัฐมูลค่ามหาศาล ซึ่งรายได้มหาศาลเหล่านี้พี่น้อง ประชาชนต่างตั้งความหวังไว้ว่า ท่านจะสามารถทำงานเพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการ ของพี่น้องประชาชนให้ทันกับยุคสมัย ให้ทันกับเทคโนโลยีที่มันเปลี่ยนแปลงไป ท่านจะ เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงให้ทันยุค ทันสมัย ให้รอบคอบ รัดกุม และเกิดประโยชน์ กับพี่น้องประชาชนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างไร และท่านมีแนวทางที่จะขยายโครงข่าย ของสัญญาณ Internet เพื่อให้ครอบคลุมการทำงานการใช้งานของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ห่างไกลของประเทศไทยได้อย่างไร กระผมจึงกราบเรียนท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงาน ที่ตอบชี้แจงในวันนี้ได้ช่วยกรุณาตอบข้อซักถามของกระผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านฐากร ตัณฑสิทธิ์ ครับ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพอย่างยิ่งครับ กระผม นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ผมขออนุญาตอย่างนี้ว่าวันนี้เป็นรายงานผลการตรวจสอบบัญชี ของสำนักงาน กสทช. ซึ่งผู้ที่มาชี้แจงวันนี้ก็คือ สตง. ผมเข้าใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ กสทช. มาชี้แจง คำถามที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติถามไปผมคิดว่าคงไม่มีใครในที่นี้ตอบได้ เพราะว่า เป็นรายงานที่ สตง. มาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการเงินของ กสทช. ผมอยากจะเรียนอย่างนี้ครับ อย่างที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติเมื่อสักครู่ท่านอดิศรได้บอกว่ารายงานผลการตรวจสอบ ด้านการเงินปี ๒๕๖๓ ซึ่งมันล่าช้าไปแล้ว ผมเรียนอย่างนี้ว่าถูกต้องเลยครับ ถ้าท่านอยากจะเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กสทช. มันจะมีรายงานของผลการดำเนินงานของ กสทช. ที่กฎหมายบังคับไว้ ดังนั้น ผมอยากจะให้ ผลการตรวจของสำนักงาน กสทช. ปี ๒๕๖๓ คู่ขนานกับรายงานผลการดำเนินงานของ กสทช. ที่จะเข้าไปที่ประชุม ดังนั้นจะทำให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่านสามารถที่จะเปรียบเทียบ รายงานของ กสทช. เองกับรายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินคู่ขนานกันไปได้ ดังนั้นผมเห็นภาพว่าวันนี้เราเปรียบเทียบไม่ได้ครับ เนื่องจากว่า รายงานผลการดำเนินงานของ กสทช. ให้ความเห็นชอบไปแล้วในวันนั้น เข้าใจว่าถึงปี ๒๕๖๕ ไปแล้ว แต่วันนี้เรายังมาเดินอยู่บนรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจการเงิน แผ่นดินในปี ๒๕๖๓ ดังนั้นมันไม่คู่ขนานกันเลยในการที่จะสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ในการที่จะตรวจสอบการดำเนินการของ กสทช. ผมขออนุญาตตอบคำถามในหลายเรื่อง ผมในฐานะที่มีส่วนเกี่ยวข้องครึ่งปีในรายงานฉบับนี้ ต้องเรียนบอกว่าขณะนั้นผมเป็นอดีต เลขาธิการ กสทช. วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ปี ๒๕๖๓ เรียนอย่างนี้ครับ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๑ คำตอบนะครับ เรื่องการประมูลคลื่นความถี่ต่าง ๆ ถ้ามีการประมูล คลื่นความถี่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วเงินรายได้ทั้งหมดจะต้องส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ไม่ได้เข้า กสทช. แต่อย่างใด ถ้าท่านจะสอบถาม ขอให้ท่านสอบถามในรายละเอียดที่ตรง เพราะกฎหมาย บังคับว่าเมื่อมีการประมูลคลื่นความถี่ที่เกิดขึ้นรายได้ทั้งหมดหัก ๑๕ เปอร์เซ็นต์ ส่งกองทุน DE ไม่ได้ส่งกองทุน กสทช. ส่งกองทุน DE อีก ๘๕ เปอร์เซ็นต์นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ทั้งหมดนะครับ เพราะฉะนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับรายได้ของ กสทช. ที่เกิดขึ้น ท่านอาจจะเห็นว่า ที่ผ่านมารายได้มี ๓๐๐,๐๐๐-๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ไม่ใช่รายได้ของ กสทช. รายได้ที่ต้อง นำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน ๘๕ เปอร์เซ็นต์ อีก ๑๕ เปอร์เซ็นต์นำส่งเข้ากองทุน DE ในการบริหารจัดการ ส่วนรายได้ของสำนักงาน กสทช. เองเป็นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการที่ จัดเก็บกำหนดไว้ร้อยละ ๒ บ้าง ร้อยละ ๑.๕ บ้าง ที่เป็นรายได้ประจำของ กสทช. ที่เกิดขึ้น ดังนั้นทุกคนอาจจะมองเห็นภาพที่เกิดขึ้นว่าเห็นรายได้ของ กสทช. เกิดขึ้นเยอะ คงไม่ใช่ครับ มันเป็นรายได้ที่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน คราวนี้ผมขออนุญาตมาสู่เรื่องที่อยาก เสนอแนะทาง สตง. ว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่ารายงานผลการตรวจการดำเนินงานและรายงานของ สตง. ให้ตรงกันกับการที่ กสทช. และ สตง. จะได้มาชี้แจงร่วมกันในครั้งต่อ ๆ ไป คราวนี้ มาเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ของประชาชนนะครับ เมื่อสักครู่ได้มีการอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับ การนำสายสื่อสารลงดินและการจัดระเบียบสายสื่อสารลงดิน ผมอธิบายอย่างนี้ว่าจัดระเบียบ สายสื่อสารลงดินคือเอาสายสื่อสารที่อยู่บนอากาศที่มีจำนวนเยอะมาก เรามีการจัดสายตาย ที่ไม่ใช้งานแล้วเอาออก แล้วก็มีการจัดระเบียบ หลังจากนั้นก็นำท่อร้อยสายต่าง ๆ มัดรวมไว้ อันนี้เราเรียกว่าเป็นการจัดระเบียบสายสื่อสารนะครับ อันที่ ๒ เป็นการนำสายสื่อสารลงดิน นำสายสื่อสารลงดินหมายถึงว่าเราต้องมีการลงทุนสร้างท่อร้อยสายใต้ดิน ดังนั้นเอาไปปนกันไม่ได้ ผมเสนอแนะอย่างนี้ครับ ในกรุงเทพมหานครทั้งหมดตอนนี้จะดำเนินการโดยที่ไม่เป็น การผลักภาระให้กับประชาชน ข้อที่ ๑ ขอเสนอแนะให้มีการจัดระเบียบสายสื่อสารทั้งหมด ในกรุงเทพมหานครลงทุนไม่เยอะไม่ถึง ๑,๐๐๐ ล้านบาท ผมเรียนได้เลยว่าไม่ถึง ๑,๐๐๐ ล้านบาท สามารถที่จะจัดระเบียบสายสื่อสารทั่วทั้งกรุงเทพมหานครให้เป็นระเบียบได้ ท่านประธาน ทราบไหมว่าสายสื่อสารที่ลอยอยู่บนอากาศในขณะนี้ชั้นล่างเขาเรียกว่าสายสื่อสาร ชั้นบนสุด ก็คือเป็นสายไฟฟ้า เราอย่าไปแตะต้องสายไฟฟ้าเลยครับ สายสื่อสารที่ระเกะระกะอยู่ในวันนี้ ท่านประธานครับ เขาเรียกว่าเป็นสายตาย ๖๐-๗๐ เปอร์เซ็นต์ สายที่ใช้งานมีอยู่แค่ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นสายตายคืออะไร ในอดีตที่ผ่านมาสายเคเบิลทีวี ทางด้าน โทรคมนาคม Packlink Phone Link ผมไม่ทราบว่ารุ่นท่านประธานเกิดทันหรือเปล่า ขออนุญาตท่านประธานนะครับ แต่รุ่นผมนี่เกิดทัน สายพวกนี้ในขณะนี้ Packlink Phone Link ในอดีตยังแขวนลอยอยู่ ทั้ง ๆ ที่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเลิกประกอบ กิจการไปนานแล้วครับ แต่ไม่มีใครที่จะนำสายพวกนี้ที่เราเรียกกันว่าสายตายเอาออกจาก เสาไฟฟ้า ผมเรียนท่านประธานได้เลยว่าการให้บริการทางด้านเคเบิลทีวีในขณะนี้ก็ยุติ การให้บริการไปแล้วเนื่องจากขาดทุน สายพวกนี้เป็นสายที่หนักมากลอยอยู่บนอากาศ ถ้าเรามีการจัดระเบียบสายพวกนี้มัดรวมให้ดีนะครับ ดึงสายตายพวกนี้ลงหมดจะทำให้ เกิดประโยชน์ แล้วก็สามารถที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ทั่วทั้งกรุงเทพมหานครจะมีความเป็น ระเบียบเรียบร้อย แล้วก็ไม่ผลักภาระในการที่จะเพิ่มต้นทุนในการให้บริการกับพี่น้อง ประชาชน ขอเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง ท่านประธานครับ เรื่องที่ ๒ เรื่องแก๊ง Call Center เมื่อสักครู่ผมเรียนอย่างนี้ว่าขอให้ กสทช. ดำเนินการให้สอดคล้องว่า SIM เรากำหนดไว้แล้วว่า บุคคลหนึ่งจะสามารถลงทะเบียน SIM ได้ไม่เกิน ๕ SIM ต่อ ๑ คน ขอให้กำหนดระเบียบนี้ โดยเคร่งครัด ถ้าใครมาซื้อ SIM เกินกว่านี้ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น เราจะป้องกัน SIM ม้าได้อย่างแน่นอน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ ที่เราบอกว่ามีการตั้ง Server นอกประเทศในการที่ทำแก๊ง Call Center ผมเรียนท่านประธานครับระบบโทรทัศน์โทรคมนาคมของประเทศไทย เป็นระบบโทรคมนาคมที่ดีที่สุดในกลุ่มประเทศของพวกเรา เพราะฉะนั้นในประเทศ เพื่อนบ้านของเราไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา ลาว ถ้าไปตั้ง SIM Server อยู่ใช้สัญญาณ ของประเทศไทยทั้งนั้นครับ ไม่มีใครหรอกเขาใช้สัญญาณของประเทศเขา เพราะว่าสัญญาณ ของประเทศไทยดีที่สุด ดังนั้นผมอยากให้หน่วยงานตรวจสอบให้ดีนะครับ ในขณะที่ผม ดำรงตำแหน่งอยู่มีการใช้ Server ก็คือมีการลากสายออกนอกประเทศ สายของประเทศไทยเอง ลากสายออกนอกประเทศแล้วก็ไปตั้ง Server อยู่รอบรอยตะเข็บของประเทศไทยทั้งหมด ดังนั้นขอให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ถ้าตรวจสอบเรื่องนี้ได้ก็จะสามารถป้องกันระบบสัญญาณต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ก็ขออนุญาตท่านประธานเพราะว่ามีเวลาจำกัด จริง ๆ ผมมีข้อมูลที่จะต้อง นำเรียนให้เกิดประโยชน์กับสภาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เพียงแต่ว่าเวลามีแค่นี้ ไม่อยาก รบกวนท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติคนอื่นครับ ขอกราบขอบพระคุณท่านประธานมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไป ท่านพงษ์มนู ทองหนัก เชิญครับ

นายพงษ์มนู ทองหนัก พิษณุโลก ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม พงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดพิษณุโลก ต้องขอบคุณท่านประธาน ที่ให้โอกาสนะครับ วันนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะมารายงานผลดำเนินงานของ กสทช. ซึ่งล่าช้ามาเป็นเวลาหลายปี กสทช. เป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่มีงบประมาณ มหาศาลจำนวนมาก ดังนั้นอยากจะขอถามเป็นข้อ ๆ สัก ๒-๓ ประเด็นให้ท่านได้ตอบใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับว่า

นายพงษ์มนู ทองหนัก พิษณุโลก ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ งบประมาณของ กสทช. ที่มีจำนวนมากนั้นได้ลงไปถึงทุก ๆ พื้นที่ในประเทศไทย ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ทุกพื้นที่หรือไม่ อย่างไร ถ้ายังไม่ครอบคลุม ทุกพื้นที่อย่างไรแล้ว อยากจะถาม กสทช. ว่างบประมาณต่าง ๆ ที่ท่านลงไปนั้นจะครอบคลุม ทุกพื้นที่ของประเทศไทยได้เมื่อใด อย่างไร

นายพงษ์มนู ทองหนัก พิษณุโลก ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ อยากจะถามอีกว่าการแก้ไขปัญหาของ กสทช. ในเรื่องที่เกิดจาก การจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ที่ไม่มีคุณภาพนั้นท่านจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร และดำเนินการแก้ไข ไปในรูปแบบใด และแก้ไขไปได้มากน้อยเท่าใดแล้ว

นายพงษ์มนู ทองหนัก พิษณุโลก ต้นฉบับ

ประการที่ ๓ ปัญหาการแก้ไขการทุจริตในโครงการของ กสทช. ที่มีมา อย่างต่อเนื่อง ไม่ทราบว่าทาง กสทช. นั้นได้แก้ไขไปกี่เรื่อง กี่อย่างแล้วในขณะนี้ และสามารถ ดำเนินการแก้ไขได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ และส่วนใหญ่แล้วในงบประมาณต่าง ๆ ที่ท่าน ได้ทำลงไปนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลกที่เป็นพื้นที่ห่างไกล อย่างเช่น ตำบลบ่อโพธิ์ ตำบลน้ำกุ่มของอำเภอนครไทย รวมทั้งตำบลบ้านกลางของอำเภอวังทองนั้น มีความยากลำบากในการใช้การสื่อสารเป็นอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าทาง กสทช. ดำเนินการ ได้ครอบคลุมหรือไม่ ถ้าไม่อย่างไร ท่านจะสามารถดำเนินการให้ครอบคลุมพื้นที่เหล่านี้ได้ ในเมื่อใด หวังว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ผมได้สอบถามไปเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ท่านจะสามารถดำเนินการได้ ภายในปีงบประมาณ ๒๕๖๖ นี้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านเอกราช อุดมอำนวย ครับ

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

กราบเรียนประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ผม เอกราช อุดมอำนวย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตดอนเมือง พรรคก้าวไกล รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้อภิปรายในวันนี้ โดยเฉพาะ ในเรื่องของการตรวจสอบรายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับ กสทช. ก็ต้องขอ ชื่นชม สตง. ที่ได้ทำรายงานชิ้นนี้แบบละเอียด แต่ว่าผมก็ได้ไปตรวจสอบดูจากรายงานที่ได้ส่งสภา มีข้อสังเกต อยากจะขอ Slide ขึ้นเพื่อจะได้เห็นภาพพร้อมกันนะครับ

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สำหรับหน่วยงาน กสทช. ในงบการเงินเล่มนี้มีข้อมูลที่แสดงถึงรายงานที่ขัดต่อข้อเท็จจริงจำนวน ๓๖ รายการ ตัวอย่าง ข้อสังเกตผลต่างจากการตรวจสอบ คือผลต่างรวมรายได้และรวมรายจ่าย รวม ๒ ส่วนนี้ถือเป็น มูลค่าหลักพันล้านบาท ส่งผลประโยชน์ต่อการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใสและส่อถึง พฤติกรรมวินัยการเงินของหน่วยงานหรือไม่ อย่างไร อยากจะให้ สตง. ลองชี้แจงดูนะครับ อีกข้อสังเกตหนึ่ง ก็คือการใช้จ่ายเกี่ยวกับคดีความ เหตุใดจึงไม่มีรายงานในส่วนของค่าใช้จ่าย ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ตามรายงานประจำปี แล้วก็หมายเหตุ ข้อ ๔๙ ข้อพิพาท และคดีความสำคัญ พบว่า กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้อง ๓๐ คดี รวมเป็นทุนทรัพย์ ๑.๒ แสนล้านบาท เกิดอะไรขึ้นกับแนวทางการดำเนินงานของ กสทช. จึงมีมูลค่าทุนทรัพย์ที่สูง แต่ถึงอย่างไรก็ดี ตัวเลขพวกนี้ส่งผลต่องบการเงินอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ครับ

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ผมพาให้มาดูสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๓ กว่า ๖,๕๐๐ ล้านบาท จากรายงานภาษีพี่น้องประชาชนถูกใช้จ่ายอย่างเหมาะสมหรือไม่ ก่อนอื่นผมขอยก ให้เห็นภาพรวมว่าเขาแบ่งออกเป็น ๕ ส่วน คือมีส่วนของการดำเนินงานของ กสทช. เอง เป็นพวกค่าจ้าง บุคลากร เงินเดือน แล้วก็ส่วนที่ ๒ เป็นเรื่องของโครงการ จำนวน ๙๔ โครงการ งบ ๑,๖๐๐ กว่าล้านบาท แล้วกองทุนประมาณ ๘๐๐ กว่าล้านบาท Slide ถัดไปท่านจะเห็นว่า ในโครงการที่ผมเลือกมาที่อยู่ในรายงานชิ้นนี้จาก ๑,๖๔๗ ล้านบาท มีงบในการรักษา ความปลอดภัย Cyber ๘.๗ ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการยกระดับสถานภาพดัชนีของสหภาพ โทรคมนาคมระหว่างประเทศ ผมอยากสอบถามว่าการรักษาความปลอดภัย Cyber ท่านให้งบ ๘.๗ ล้านบาท แต่ว่าก็ยังมีหน่วยงานราชการถูก Hack ข้อมูล ถูกเจาะข้อมูลอยู่ และอีก ๒ โครงการที่ผมสงสัยมาก ก็คือมีงบประมาณ ๓ ล้านบาทในการกำกับดูแลสื่อและปราบปราม แนวคิดสุดโต่ง มันคืออะไรครับ ผมขอเรียกมันเป็น IO กสทช. แล้วกันนะครับ

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตในเรื่องการจัดสรรเงินเข้ากองทุน ๘๓๕ ล้านบาท เงินส่วนนี้ถูกนำไปใช้อะไร เพราะขึ้นชื่อว่ากองทุนวิจัยและพัฒนา มันมีอะไรที่เป็นตัวชี้วัดว่า เป็นการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และเผยแพร่ที่โปร่งใสหรือไม่ การตั้งงบประมาณ ส่วนนี้ไว้สูงมันจะเป็นช่องทางในการใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า อยากให้ สตง. ลองไปล้วงโครงการพวกนี้มาดูซึ่งมันสอดคล้องกัน

นายเอกราช อุดมอำนวย กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ข้อสังเกตอีกอันหนึ่ง ก็คือการนำส่งรายได้ภายใต้ กทปส. เหตุใดไม่ถูก ตรวจสอบโดย สตง. สตง. จะบอกว่าไปตรวจสอบแล้ว แต่อยู่ในรายงานอีกเล่มหนึ่ง ฉบับหนึ่ง เดี๋ยวเข้ามาในสภาก็จะได้พิจารณาดูกันต่อไป แต่ผมตั้งข้อสังเกตแบบนี้ว่า รายละเอียดของงบ กสทช. ข้อ ๒.๒ ท่านระบุไว้ว่าจะไม่รวมบัญชีของ กทปส. ผมก็สงสัยว่า เหตุใดมันจะต้องไปแยกอีกฉบับหนึ่ง การจัดสรรงบประมาณจะต้องถูกต้องตามวัตถุประสงค์ และโปร่งใส อย่างไรก็ตามอยากให้ท่านไปตรวจสอบให้ละเอียด และการใช้เงินภายใต้ USO ในปี ๒๕๖๓ ๑๒.๘๖ ล้านบาท มันมีโครงการอย่างผลิตภาพยนตร์ ๘ เรื่อง ตัวชี้วัดคือ การรับรู้ไม่น้อยกว่า ๑,๑๑๑ คน เฉลี่ยออกมาจากงบประมาณตก ๑๑,๕๗๕ บาทต่อคน นี่คือดัชนีชี้วัดมันมีเป้าหมายที่จะเผยแพร่มันหวังผลน้อยไปหรือไม่ มันส่อถึงประสิทธิภาพ ในการใช้จ่ายที่แทบจะไม่คาดหวังผลลัพธ์อะไรเลย และยังมีโครงการที่ไปซ้ำซ้อนกับ หน่วยงานราชการอีก Slide ถัดไปก็จะเห็นว่ากองทุนของ กทปส. หรือตัว กสทช. ก็มี การจัดการที่ซ้ำซ้อน ไปสนับสนุนหน่วยงานราชการอื่น ๆ ผมจึงตั้งข้อสังเกตว่าการจัดสรร พวกนี้ สตง. ได้ไปดูโครงการไหมว่าเป็นการเบิกซ้ำซ้อนหรือทำโครงการรายจ่ายที่ทับซ้อนกัน หรือเปล่า เพื่อป้องกันการทุจริต และผมอยากจะบอกว่าการใช้เงินของ กสทช. มีพฤติกรรม ที่อนุมัติการใช้จ่ายมูลค่าหลักพันล้านบาท แต่ว่าไปจ่ายโครงการที่ไม่ใช่ภาระของตัวเอง แต่ที่เพื่อนสมาชิกหลายคนอภิปรายมาเรื่องของสายสื่อสาร วันนี้ผมให้ดูตัวเลขเลยว่าสายสื่อสาร สำเร็จไปตามแผนเพียง ๑๓ เปอร์เซ็นต์กว่าเท่านั้นเอง จากงบประมาณที่ท่านได้ทำเอาไว้ เพราะฉะนั้นการจัดระเบียบสายสื่อสารท่านต้องเอาลงดินให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดอันตราย กับพี่น้องประชาชนนะครับ เพราะฉะนั้นก็ฝากว่าการดำเนินงานของ กสทช. ขออย่าให้มี หน่วยงานหรือกลไกอื่นมาล้วงลูก จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติมีความครอบงำองค์กรนี้หรือไม่ มันจะทำให้ กสทช. ที่จะต้องเป็นอิสระตามหลักการ พ.ร.บ. ที่สภาแห่งนี้ได้ออกไป แต่สุดท้ายมันอิสระจริงอยู่หรือเปล่า เพราะมีคณะกรรมการ ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติซึ่งมาจากภาคการเมือง หวังว่าในการรายงานต่อไป ของ สตง. จะได้ไปตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นนะครับ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ เชิญครับ

นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สวัสดีท่านประธานที่เคารพ ผม อ.เอท กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต เขตมีนบุรี เขตสะพานสูง วันนี้ต้องขอบคุณท่านประธานอีกครั้งที่ให้โอกาส อ.เอท ได้เข้ามาอภิปราย เรื่องเกี่ยวกับงบการเงินของ กสทช. ซึ่งตรงนี้เป็นงบการเงินที่ อ.เอท อยากที่จะพูดอยู่แค่ ๒ ประเด็นเท่านั้นเองนะครับ

นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ก็คือประเด็นของการที่ใช้งบตัวนี้ตามหลักธรรมาภิบาลหรือไม่ ซึ่งตรงตามหลักของคำว่า ธรรมาภิบาล อ.เอท ก็เคยได้ศึกษามาบ้าง ก็คือมันเป็น การบริหารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการใช้งบให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ให้งบมันมี ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการตอบสนองต่อทุกภาคส่วน และที่สำคัญ อ.เอท อยากจะเน้น ตรงนี้ก็คือเรื่องของการที่เป็นการกระจายอำนาจ ซึ่งตรงนี้พอพูดถึงคำว่า กระจายอำนาจ ก็มี Slide ที่อยากจะให้ท่านได้เห็น

นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

วันที่ ๒๐ ตุลาคม เมื่อปีที่แล้ว ทาง กสทช. ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งซึ่งเป็นการพิจารณาเรื่องของการควบรวม True กับ DTAC นะครับ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กับพ่อแม่พี่น้อง กับประชาชนทุกคนว่าเป็นการทำให้ การแข่งขัน ในตลาดมีผู้ให้บริการน้อยรายอยู่แล้วตอนนี้ ยิ่งน้อยรายเข้าไปใหญ่เลย ซึ่งตรงนี้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้วที่เป็นการเกี่ยวข้องกับหลักของธรรมาภิบาล ซึ่งพอเราหันไปดูอีก ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ประมาณสัก ๒ เดือนที่แล้ว ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ ก็ได้มี การตั้งอีก ๑ คณะกรรมการซึ่งเป็นการที่จะเอามาตรวจสอบเรื่องของการรวมหรือการควบ หรือมีโอกาสที่จะควบรวมของ ๒ บริษัท นั่นได้แก่ AIS หรือ 3BB ที่รวมกัน ๒ บริษัทนี้ ซึ่งถามว่ามีความแตกต่างไหม คำตอบครับ มีแน่นอน เรื่องของการที่เขารวบ True กับ DTAC เป็นการให้บริการในลักษณะของการใช้เครือข่ายของมือถือ แต่พอ AIS มารวมกับ 3BB เป็นเรื่องของการให้บริการ Internet ที่เป็นแบบ Internet บ้านนะครับท่านประธาน ซึ่ง Internet บ้านเป็นการใช้แบบเขาเรียกว่าเป็นระบบสาธารณูปโภคที่เป็นขั้นพื้นฐาน ของปัจจุบันนี้ ซึ่งเรากำลังนำไปสู่ยุค 5G เพราะฉะนั้นตรงนี้มันก็เลยเป็นสิ่งหนึ่งที่อยากจะ บอกกับทางท่านประธาน แล้วก็ฝากไปถึงพี่น้องว่าในการกระทำหรือการที่จะตัดสินใจของ กสทช. มันเป็นการตรงตามหลักธรรมาภิบาลที่ อ.เอท ได้ขีดเส้นใต้คำแรกไว้แล้วก็คือ เรื่องของการกระจายอำนาจหรือเปล่า

นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ทีนี้พอเราเข้าไปสู่งบประมาณตามที่ สตง. ได้มีการตรวจ งบประมาณ อ.เอท ก็ได้ทำแบบย่อ ๆ ให้เห็นแบบง่าย ๆ เลยครับท่าน ก็คืองบประมาณ รายจ่ายของปี ๒๕๖๓ ขีดเส้นใต้อีกคำก็คือปี ๒๕๖๓ หลายท่านได้พูดแล้วว่าเป็นงบประมาณ ปีที่อาจจะล้าหลังไปนิดหนึ่ง แต่ไม่เป็นไรครับ ไหน ๆ ก็ทำแล้ว ในปี ๒๕๖๓ เรามีรายจ่ายของ กสทช. ถึง ๖,๕๐๐ กว่าล้านบาท ซึ่งตรงนี้ อ.เอท ก็ได้เจาะเข้าไป ลองมองลึก ๆ เข้าไปอีก นิดหนึ่งก็จะเห็นว่ามันจะมีงบอยู่ประมาณ ๑,๒๓๖ ล้านบาท ซึ่งตรงนี้เป็นงบประมาณที่ทาง กสทช. ได้จัดสรรไว้เพื่อใช้ใน ๔ โครงการหลัก ๆ ของ กสทช. ซึ่ง อ.เอท ก็อยากรู้อีก ก็เข้าไปดู อีกรอบ โครงการหลักของ กสทช. จะมีอยู่ ๑ โครงการเป็นงบประมาณยุทธศาสตร์หรือ Strategy ที่ ๑ เลย ซึ่งเขาเขียนไว้ว่าเป็นงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาล และเรื่อง ของสมรรถนะอย่างยั่งยืน ซึ่งมันก็ตรงกับปัจจัยแรกหรือประเด็นแรกที่ อ.เอท ได้แนะนำ เมื่อสักครู่นี้ก็คือเกี่ยวข้องกับเรื่องของธรรมาภิบาล ซึ่งเขาใช้งบประมาณในการที่จะ ทำเกี่ยวกับโครงการนี้ถึง ๗๖๕ ล้านบาท อ.เอท ก็เข้าไปดูครับ มันมีอะไรไหมที่อยู่ใน โครงสร้างที่ ๑ นี้ พอเข้าไปดูก็จะเห็นว่าใน ๗๖๕ ล้านบาท จะมีอยู่ประมาณ ๖๒๐ ล้านบาท ๖๓๐ ล้านบาทนี้ถูกใช้ไปกับงบก่อสร้าง ท่านครับ งบก่อสร้างอะไรบ้าง ก็เป็นสร้างบ้าน สร้างหอประชุมอะไรต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้มันก็เลยสะท้อนกับทาง สตง. เมื่อสักครู่ท่าน สตง. ท่านเกล็ดนที อ.เอท ได้ฟังท่านชัดเจนมากครับ คืองบประมาณที่ท่านบอกนี่ การที่ทำ งบประมาณของ กสทช. เป็นงบประมาณที่ซ้ำซ้อนหรือเปล่า ประเด็นแรกที่อยากจะฝาก ท่าน สตง. ไปช่วยกันดูนะครับ เป็นงบประมาณที่ซ้ำซ้อนหรือเปล่า เมื่อสักครู่นี้ท่านเกล็ดนที ได้บอกอีกแล้วว่าเป็นงบเหลื่อมของปี อันนี้ก็สำคัญ งบเหลื่อมของปีเป็น ๑,๐๐๐ กว่าล้านบาท ถามว่ามันใช้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพตามหลักของธรรมาภิบาลหรือไม่ และจุดถัดไป เรื่องของการใช้งบที่เรียกว่าเป็นการเจาะจงครับ ถ้าเข้าไปดูหลาย ๆ โครงการ ทาง กสทช. มีการเจาะจงผู้ซื้อหรือผู้ที่เอามารับเหมาต่อหลายโครงการเลย เพราะฉะนั้นทำให้การแข่งขัน ในการที่จะให้พี่น้องเข้ามาร่วมกิจกรรมของ กสทช. น้อยลง เพราะฉะนั้นการแข่งขันก็เป็น ส่วนหนึ่งของหลักธรรมาภิบาลที่ อ.เอท อยากจะเน้น เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทาง สตง. สามารถที่จะเข้าไปเสริม เข้าไปอ่าน แล้วก็เข้าไปแนะนำทาง กสทช. ได้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนนะครับ และก่อนที่ อ.เอท จะจบการอภิปราย ในวันนี้หรือในครั้งนี้ก็อยากที่จะฝากคำพูดสักนิดหนึ่ง ประเด็นแรก อยากจะให้มีการกระจาย อำนาจ ลดทุนผูกขาด เพื่อประเทศชาติที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ขอบคุณครับ Respect ครับ ท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปคุณรวี เล็กอุทัย เชิญครับ

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพครับ กระผม นายรวี เล็กอุทัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต ๓ พรรคเพื่อไทย สำหรับการอภิปรายรายงานการสอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับ ปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ และรายงานการตรวจสอบการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินสำหรับปี ๒๕๖๓ ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. นะครับ ขอ Slide ขึ้นด้วยครับ

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ผมขอแบ่งประเด็นคำถามครับ เพื่อให้ทาง กสทช. ได้โปรดชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง โดยแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนดังนี้ ๑. ประเด็น ด้านการดำเนินงานเชิงนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อประโยชน์ของสาธารณะ ๒. ประเด็น ความชัดเจนของรายงบการเงิน

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ถึงแม้ว่าวันนี้ทางผู้ชี้แจงจะเป็นทางท่าน สตง. กสทช. อาจจะไม่ได้มา แต่ผมขอฝากประเด็นไปถึงทาง กสทช. ด้วยว่า สืบเนื่องจากพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อตั้งแต่ วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖ และได้ผ่านการพิจารณา และมีการลงมติเห็นชอบจากสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเป็นเรียบร้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง กสทช. ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญ ในการขับเคลื่อนมาตรการออกกฎหมายฉบับนี้ ท่านได้เตรียมการอย่างไรเพื่อปกป้อง ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่นขบวนการแก๊ง Call Center อย่างที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้อภิปรายไป โดยเฉพาะการวางแนวปฏิบัติ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรัดกุมและความปลอดภัย มากที่สุด

นายรวี เล็กอุทัย อุตรดิตถ์ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ Slide ถัดไปด้วยครับ เกี่ยวกับความชัดเจนของรายงาน ของงบการเงิน ก็เหมือนที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านได้อภิปรายไปเช่นเดียวกันว่าทำไมถึงมี ความล่าช้าในการเสนอรายงานของงบการเงินนี้ซึ่งเป็นการรายงานของปี ๒๕๖๓ ซึ่งก็ล่วงเลย ระยะเวลามาหลายปีแล้วครับ ณ ปัจจุบันนี้ปี ๒๕๖๖ แล้ว แล้วส่วนต่อมาก็คือเมื่อพิจารณา ถึงรายได้และรายจ่ายจากการดำเนินงาน ในส่วนของรายได้ในปี ๒๕๖๓ จะเป็นจำนวนเงิน ๑๐๔,๘๒๑,๕๙๒,๓๑๒.๑๐ บาท ในขณะที่มีรายจ่ายอยู่ที่ ๘๒,๔๐๒,๙๒๒,๕๕๗.๑๓ บาท ซึ่งเมื่อพิจารณาในส่วนของรายจ่าย โดยเฉพาะหมวดของค่าใช้จ่ายในการประมูล หมวดของ ค่าทดแทนชดใช้ หรือค่าตอบแทนตามคำสั่งหัวหน้า คสช. และหมวดค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษา ศาลปกครองสูงสุด ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็นประมาณ ๓๘ เปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายจาก การดำเนินการทั้งหมดนะครับ มีประเด็นที่ผมอยากจะขอเรียนถามทางผู้ชี้แจงเกี่ยวกับ รายจ่ายทั้ง ๓ ส่วนนี้ เนื่องจากตัวผมเองนั้นไม่ได้มีความรู้เรื่องของการดำเนินงานด้านการ จัดการประมูล และผมก็เชื่อว่าพี่น้องประชาชนทางบ้านอยากทราบ เช่นเดียวกันถึงวิธีการ ดำเนินงานของ กสทช. โดยเฉพาะการจัดการประมูลว่าเหตุใดจึงมีค่าใช้จ่ายในการจัดประมูล สูงถึงกว่า ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ ๓๗ เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายจาก การดำเนินงานทั้งหมด จึงอยากรบกวนให้ทางผู้ชี้แจงช่วยอธิบายให้เกิดความเข้าใจด้วย ในส่วนต่อไปเป็นประเด็นค่าใช้จ่ายที่อยากจะรบกวนให้ทาง กสทช. ช่วยชี้แจงนั้นก็คือ ค่าทดแทน ชดใช้ หรือค่าตอบแทนตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ซึ่งเป็นตัวเลขกว่า ๙๓๐ ล้านบาท ว่าตัวเลขนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะ คสช. นั้นถูกยุบไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ ดังนั้นทำไม ถึงยังมีค่าใช้จ่ายหรือภาระผูกพันก้อนนี้ตามมาอยู่อีกจนถึงปี ๒๕๖๓ และในส่วนค่าใช้จ่าย สุดท้ายที่อยากให้ชี้แจงนั่นก็คือค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า ๗๗๑ ล้านบาท ทาง กสทช. ได้ดำเนินการไปแล้วหรือไม่ อย่างไร กับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายนี้ครับ และเมื่อพิจารณาประกอบกับหมายเหตุที่ ๔๙ ตามรายงานของชุดนี้ กรณีข้อพิพาทและคดีที่สำคัญจะพบว่า กสทช. ถูกฟ้องเป็นจำนวน รวมทั้งสิ้น ๓๐ คดี ซึ่งมีทุนทรัพย์รวมถึง ๑๒๖,๕๐๙.๔๓ ล้านบาท ในขณะที่ กสทช. เอง เป็นโจทก์ทั้งหมด ๗ คดี คิดเป็นทุนทรัพย์ ๔,๗๙๒.๘๔ ล้านบาท จึงอยากทราบว่าทาง กสทช. ได้มีแนวทางในการแก้ไขลดข้อพิพาทและคดีความต่าง ๆ นี้อย่างไร เพื่อไม่ให้มีข้อพิพาท หรือคดีความเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคตครับ จึงเรียนมาผ่านท่านประธานไปยังผู้ชี้แจงเพื่อกรุณา ตอบข้อซักถามทั้งหมดนี้ต่อไปด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบพระคุณครับ ต่อไปคุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ เชิญครับ

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาค่ะ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนอื่นธัญ ก็คงต้องขอบคุณ สตง. ที่ท่านได้ทำงานอย่างหนักแล้วก็ตรวจเงินแผ่นดินอย่างยอดเยี่ยมนะคะ ธัญก็มีความยินดีมากที่ได้พบเจอท่านในสภาแห่งนี้ ก็คงมีคำถามเพิ่มเติมจากในสิ่งที่ท่าน ได้รายงาน แล้วก็รวมถึงงบการเงิน ปี ๒๕๖๓ งบนี้ได้ตั้งสูงขึ้น กสทช. ได้ของบสูงขึ้น ๙๙๘.๔๘ ล้านบาท นั่นหมายถึงว่าสูงขึ้น ๑๗.๙๙ เปอร์เซ็นต์ ถ้าเทียบจากปี ๒๕๖๒ แต่การเบิกจ่ายนี่ก็เบิกจ่ายไม่ถึง ก็คือมีเงินเหลือถึง ๑,๑๘๙ ล้านบาท เพราะฉะนั้นการตั้งงบ หรือขอนี้เป็นการตั้งงบที่สูงเกินไป ก็อยากจะเรียนถามท่านเพิ่มเติมว่ามีโครงการใด ๆ ที่ไม่ได้ ดำเนินการ มีสาเหตุอะไร อยากให้ท่านเจาะรายละเอียดหรือยกตัวอย่างที่มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะการตั้งงบประมาณนี่ก็มีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณที่เหมาะสมนะคะ

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ก็คือในเล่มสีฟ้านี้ในรายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีและรายงาน การเงิน ธัญเปิดมาตรงงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน สำหรับปีที่สิ้นสุด วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ รายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ ๙๒,๙๑๒,๐๔๗,๗๘๗ บาท ทีนี้พอเราดู ในเรื่องของรายได้ปุ๊บเรามาดูค่าใช้จ่ายในการประมูลด้วยหมายเหตุ ๓๘ ของงบการเงิน มีงบค่าใช้จ่ายในการประมูลถึง ๓๐,๒๑๔,๕๑๓,๖๘๕ บาท ทำไมถึงมีค่าใช้จ่ายในการประมูล สูงขนาดนั้น เวลาธัญติดตามข่าวก็จะเห็น กสทช. มีนัดการประมูลวันไหน ที่ไหน ธัญไม่แน่ใจว่า อันนี้คือมีค่าใช้จ่ายบินไปที่ดาวอังคารหรืออะไร ก็ฝาก สตง. ลองว่าเขาเป็นประมูลกันที่ไหน ช่วยแจ้งมาด้วยนะคะ

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ส่วนประเด็นที่ ๓ งบประมาณ ๔,๐๐๐ กว่าล้านบาท ก็เป็นในเรื่องของ การจ้างที่ปรึกษาโครงการสำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือนะคะ ก็ไม่เข้าใจว่า เป้าหมายของโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายอะไร และต้องการที่จะแก้ปัญหาอะไร ธัญเข้าใจว่า การสำรวจพฤติกรรมต่าง ๆ ในแง่ของ Marketing หรือการตลาดก็เข้าใจได้ แต่นี้เป็น Policy Brief กำหนดประเด็นที่สังคมสนใจ สำรวจพฤติกรรมการใช้ แต่ผลก็คือมีความซ้ำซ้อน ไม่มีอะไรที่เป็นคำตอบแน่ชัด ไม่มีบทสรุปอะไรที่เป็นพฤติกรรมที่ได้จากการใช้งบก้อนนี้ นี่คือการทำงานแล้วก็สร้างโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ก็อยากให้ท่านชี้แจงในเรื่องโครงการ ดังกล่าวนี้ว่า ท่านได้ตรวจสอบแล้วนี่เขาพยายามจะทำอะไรหรือคะ ใช้เงินไปตั้งเยอะขนาดนี้

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ในประเด็นสุดท้ายนะคะ ก็คือการจัดหาพัสดุ ในปี ๒๕๖๓ สำนักงาน กสทช. ได้จัดซื้อจัดจ้างวัสดุ จำนวน ๗๒๙ รายการ รวมเป็นเงิน ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท โดยการจัดซื้อจัดจ้างนี่เป็นการเจาะจง ๕๗๙ รายการ คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๔๒ ลำดับต่อมาคือ วิธีการเปิดประกาศและเชิญชวนประชาชนทั่วไป จำนวน ๗๖ รายการ คิดเป็นร้อยละ ๑๐ แบบ Lock Spec ๘๐ เปอร์เซ็นต์ อีก ๑๐ เปอร์เซ็นต์คือประกาศทั่วไป แล้วก็วิธีคัดเลือกอีก ๗๔ รายการ ซึ่งท่านก็ได้ชี้แจงว่า กสทช. ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างเฉพาะเจาะจงมากที่สุด แล้วก็เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ก็เลยต้องถามว่า เวลาที่ท่านได้ชี้แจงกับ กสทช. หรือทำรายงานเวลาท่านบอกว่าความไม่เป็นธรรม การจัดซื้อ จัดจ้างไม่เป็นธรรม ไม่เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปของประชาชน และเวลาที่เราบอกว่า ไม่เป็นธรรม KPI ของเขาตกไหมคะ หรือมีโทษใด ๆ ปีต่อไปเธอต้องทำให้เป็นธรรมกว่านี้ เพราะฉะนั้นเวลาที่ท่านได้พูดคุยกับ กสทช. แล้ว ในปีต่อ ๆ ไปเขาจะมีการปรับเปลี่ยนไหมคะ เพราะนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่อยากจะตั้งคำถาม ก็มีประมาณ ๔ ประเด็น ขอบคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านนิคม บุญวิเศษ ครับ

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายนิคม บุญวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กระผมขออภิปรายรายงานของผู้สอบบัญชีและการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปี ๒๕๖๓ ถึงแม้จะล่าช้า ก็ตามครับ ผมก็มีคำถามเหมือนกัน มีข้อสงสัยว่าทำไมผู้ตรวจการแผ่นดินจึงรายงาน ผลการตรวจบัญชีของ กสทช. ล่าช้า ในเมื่อ กสทช. ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติงาน เรียบร้อยแล้วถึงปี ๒๕๖๕ หรือเป็นเพราะท่านไม่สามารถตรวจได้เนื่องจากว่าการเงินนั้น ปิดไม่ลงหรืออย่างไร มีการทุจริต ไม่โปร่งใส หรืออย่างไร อยากจะทราบคำตอบตรงไปตรงมา เพราะผมเองได้ดูในหน้าที่ ๔ งบแสดงผลการดำเนินงานทางด้านการเงินท่านระบุว่าค่าใช้จ่าย รายงานประจำปี ค่าใช้สอย ๑,๔๒๒.๙๗ ล้านบาท แต่พอมีการรายงานและตรวจสอบแล้ว มันเป็น ๑,๑๑๘.๒๓ ล้านบาท ซึ่งมีผลต่าง ผลคลาดเคลื่อน ๓๐๔ ล้านบาทเศษ ค่าวัสดุ ๔๙ ล้านบาทเศษ มีการตรวจสอบแล้วเป็น ๔๘ ล้านบาทเศษ คลาดเคลื่อนไป ๑ ล้านบาทเศษ แล้วมาดูอีกอันหนึ่งครับ รวมค่าใช้จ่าย อันนี้ผมพูดสั้น ๆ เพราะเวลามันน้อย รวมค่าใช้จ่าย ๘๐,๙๖๑.๑๗ ล้านบาท แต่พอไป ๆ มา ๆ การตรวจสอบแล้ว ๘๒,๔๐๒.๙๒ ล้านบาท มีผลต่าง หรือความคลาดเคลื่อน ๑,๔๔๑.๗๕ ล้านบาท รายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ ๒๓,๖๑๙.๕๖ ล้านบาท พอมาตรวจสอบเป็น ๒๒,๔๐๖.๕๙ มีความคลาดเคลื่อน ๑,๒๐๐ กว่าล้านบาท อันนี้ผมชี้ให้เห็น อย่างนี้ครับ แสดงว่าการทำงานของ กสทช. หรือฝ่ายตรวจสอบมาตรวจสอบแล้วไม่ตรงกัน ท่านก็เลยไม่สามารถที่จะปิดงบลงหรือไม่ อย่างไร พอมาดูบรรทัดถัดไปครับ สำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินท่านบอกว่าได้สื่อสารเรื่องดังกล่าวให้กับผู้บริหารให้มีการแก้ไข ให้ถูกต้องแล้ว แต่ผู้บริหารยังไม่ได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ผมอยากจะถามว่าในเมื่อผู้บริหาร ไม่ดำเนินการ ท่านมีวิธีการตรวจสอบ หรือเร่งรัด หรือมีการลงโทษหรือไม่ อย่างไร หรือปล่อยไป ตามนั้น ซึ่งความรับผิดชอบของผู้บริหารนั้นจะต้องมีความรับผิดชอบในการเสนอรายงาน การเงินเหล่านี้ให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถจัดทำรายงานการเงินที่ปราศจากการแสดงข้อมูล ที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ไม่ว่าจะเกิดจากการทุจริตหรือข้อผิดพลาดนะครับ เว้นแต่มีข้อกำหนดในกฎหมาย หรือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะเลิกสำนักงาน กสทช. หรือหยุดการทำงาน หรือไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ถ้าทำไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใส ใช้งบประมาณคลาดเคลื่อน รัฐบาลก็สามารถหยุดได้นะครับ จริง ๆ แล้ว กสทช. นี่เป็น หน่วยงานที่ดี ตั้งขึ้นมามีวัตถุประสงค์ที่ดีมาก เป็นหน่วยงานที่เป็นกลางมาควบคุมการใช้สื่อ โดยที่เขาไม่ต้องการให้รัฐบาลมาควบคุมสื่อ ก็เลยต้องตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาก็คือ กสทช. ตามรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๔๐ ให้ตั้งสำนักงานที่มีความเป็นกลางขึ้นมา แต่ผมถามว่าสำนักงานนี้ ได้ทำหน้าที่หรือไม่ อย่างไร โดยเฉพาะทุกวันนี้สื่อสาร ลองไปดูเถอะข่าวสารบ้านเมือง บางสำนักก็เป็นข่าวที่มีสำนัก บางคนก็เป็นข่าวที่ไม่มีสำนัก ตั้งตนขึ้นมาเป็นข่าว เล่นข่าวกัน ทำให้ประเทศชาติ ทำให้พี่น้องประชาชนขัดแย้งกัน เสี้ยมกันไปเสี้ยมกันมา อันนี้ก็คือ เป็นหน้าที่ของ กสทช. ที่จะทำหน้าที่ในการกำกับ แต่ถ้าท่านไม่ทำหน้าที่ผมว่าหน่วยงานนี้ ยุบไปเถอะ ไม่มีประโยชน์ครับ ท่านขึ้นมาแล้วก็มีการประมูลคลื่น ซึ่งอำนาจหน้าที่ ในการประมูลคลื่นท่านมีหรือเปล่า ในรัฐธรรมนูญท่านก็ไม่ได้เขียนไว้ มาประมูลคลื่นปีแรก กระทรวงการคลังไม่รับเงิน และมีการแก้ไข แก้ไขกันไปแก้ไขกันมา โดยเฉพาะที่ท่านมาร่าง ข้อกำหนดต่าง ๆ ของท่านเองที่บอกว่า กสทช. สามารถกำหนดอัตราเงินเดือนตัวเองได้ กสทช. สามารถแต่งตั้งตำแหน่งตัวเองได้ ตรงนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเคยเข้าไปดู หรือยังว่าเขาตั้งเงินเดือนของตัวเองนี่เงินจำนวน ๓๐๐,๐๐๐-๔๐๐,๐๐๐ บาท และมี ค่าใช้จ่ายอื่นเยอะแยะมากมายเลย เคยไปตรวจสอบไหมครับ แล้วที่สำคัญมีเงินกองทุน ที่ควรจะตรวจสอบ และผมคิดว่าไม่มีการโปร่งใสก็คือกองทุน USO ที่ไปทำ Internet ต่าง ๆ ในหมู่บ้านชายขอบก็ดี ตามโรงเรียน ตามหมู่บ้านที่ห่างไกลก็ดี เราเคยไปตรวจสอบแล้ว การใช้งบประมาณเหล่านี้ไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ แล้วก็ไม่มีการรายงานมา

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

อีกอันหนึ่ง คือกองทุนวิจัยพัฒนา วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม ซึ่งมีเงินกองทุนส่วนหนึ่ง ท่านเอาไปวิจัยพัฒนาอย่างไรครับ ทำให้วิทยุที่มี จำนวนมากมันสูญพันธุ์แล้วตอนนี้ ท่านวิจัยอย่างไรครับ ทำให้โทรทัศน์แต่ละช่อง แต่ละคลื่น ขาดทุนกันยับเยิน ผมเลยอยากให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินลงไปตรวจสอบด้วยว่า การใช้เงินพวกนี้ใช้จริงหรือไม่ ใช้ตามจำนวนจริงหรือไม่ ใช้แล้วเกิดผลคุ้มค่าอย่างไร นี่คือ งบประมาณของแผ่นดินนะครับ ถึงแม้ท่านบอกว่าท่านไม่ได้เก็บมาจากภาษี ท่านเก็บมาจาก ค่าธรรมเนียม ค่าใบประกอบกิจการ หรือเก็บมา ๒ เปอร์เซ็นต์จากค่าดำเนินกิจการของ บริษัทต่าง ๆ โดยยังไม่หักค่าใช้จ่าย นี่คือค่าใช้จ่ายของบริษัทต่าง ๆ ที่เขาดำเนินการ ท่านเก็บมาแล้วนี่ท่านก็ต้องใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุดครับ เพราะอะไร เพราะท่านไม่ได้ส่งเข้าคลัง ทั้งหมด ท่านยังเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในสำนักงาน กสทช. ก็เลยขอฝากด้วยว่าผู้ตรวจการ แผ่นดินช่วยตรวจสอบหน่อยครับ ถึงแม้คณะกรรมการชุดเก่าอาจจะหมดอำนาจแล้ว หมดอายุแล้วก็ตาม ตอนนี้ก็เป็นชุดใหม่ แต่ผมคิดว่าสำนักงาน กสทช. ควรจะทำงาน ให้ประสบความสำเร็จและให้เกิดผลคุ้มค่ามากกว่านี้ครับ ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านสุดท้ายนะครับ ท่านจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ เชิญครับ

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จากจังหวัดศรีสะเกษ ท่านประธานครับ แต่เดิมผมไม่ได้คิดว่าจะอภิปราย เกี่ยวกับเรื่องรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีเกี่ยวกับ กสทช. แต่พอได้เห็น เอกสารก็ค่อนข้างจะตกใจเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลที่ผมตกใจ ก็เพราะว่า กสทช. เป็นหน่วยงาน เป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์ระดับหลายแสนล้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อทำบัญชีมาแล้ว ผู้ตรวจสอบบัญชีกลับมีปัญหาในการตรวจสอบบัญชีเป็นอย่างยิ่งนะครับ ต้องขออนุญาตใช้คำว่า มีปัญหาเป็นอย่างยิ่ง ที่ว่ามีปัญหาเป็นอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของ เวลาครับ การตรวจสอบบัญชีความจริงแล้วใช้เวลาไม่เกิน ๑๒๐ วัน ถ้าเป็นบริษัทเอกชนปกติ ก็ให้ ๕ เดือน หรือประมาณ ๑๕๐ วัน แต่ถ้าเป็น กสทช. ให้เพิ่มอีก ๑ เดือน เป็น ๑๘๐ วัน แต่ปรากฏว่าครบ ๖ เดือนแล้วผู้ตรวจสอบบัญชีก็ยังตรวจไม่เสร็จครับท่านประธาน ตรวจเสร็จ ก็ต้องข้ามมาอีกปีหนึ่งเป็นปี ๒๕๖๕ ในเดือนกันยายน ใช้เวลากว่า ๒๑ เดือน จากเดิมที่ต้อง ใช้เวลาแค่ ๖ เดือน แสดงให้เห็นว่าต้องมีอุปสรรคอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเข้าถึงข้อมูลหรืออุปสรรคอื่น ๆ จึงมีอุปสรรคในการตรวจสอบบัญชี เพิ่งมาตรวจสอบ บัญชีแล้วเสร็จในเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕ และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีการตรวจสอบพบ ข้อบกพร่อง เมื่อมีการแจ้งต่อผู้บริหาร ผู้บริหารก็ยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จนะครับ และโดยทาง ผู้สอบบัญชีมีเขียนหมายเหตุไว้ว่า ณ วันที่มีการรายงานแจ้งผู้บริหารไปแล้ว แต่ผู้บริหาร ก็ยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จ ผมก็ไม่มั่นใจว่าจนถึงวันที่พวกเราอภิปรายอยู่นี้ทาง กสทช. ได้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จหรือยัง หรือมีอุปสรรคอะไร ก็จะฝากทาง สตง. ช่วยแจ้ง พวกเราด้วยว่า ณ วันนี้ทาง กสทช. ได้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จแล้วหรือไม่ และเมื่อดู รายละเอียดของรายงานนะครับ ผมขออนุญาตไปแค่บางประเด็น แล้วก็จะพยายามไม่ให้ซ้ำ กับทางท่านผู้อภิปรายผู้อื่น มี ๓-๔ ประเด็น แต่ผมขออนุญาตกล่าวถึงในหน้า ๓ และหน้า ๔ ปรากฏว่ารายงานประจำปีที่ กสทช. ยื่นต่อสภาแห่งนี้ภายใน ๑๒๐ วัน และยื่นต่อ ครม. ด้วย มีส่วนแตกต่างจากรายงานการเงินที่ผู้สอบบัญชีสอบแล้วที่ยื่นให้พวกเราพิจารณาวันนี้อย่างมี นัยสำคัญจำนวนมากอยู่ในหน้า ๓ และหน้า ๔ นะครับ ซึ่งผมก็ขออนุญาตกล่าวถึงเฉพาะ ๓ ประเด็นก็แล้วกันเป็นตัวอย่าง ประเด็นหนึ่งที่มีความแตกต่างก็คือค่าใช้จ่ายตามคำสั่ง ศาลปกครองสูงสุด ในการรายงานประจำปีของ กสทช. ที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบบัญชี กล่าวว่าไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ของผู้สอบบัญชีสอบแล้วมีค่าใช้จ่าย ๗๗๑.๖๗ ล้านบาท แต่ส่วนนี้ สามารถอธิบายได้ครับ เนื่องจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเพิ่งมีคำพิพากษา ในปี ๒๕๖๔ เมื่อมีคำพิพากษาในปี ๒๕๖๔ ก็คงจะต้องใช้เวลา วันที่ลงวันที่ในคำพิพากษา กับวันที่อ่านคำพิพากษาอาจจะไม่ใช่วันเดียวกัน เมื่อมีคำพิพากษาในปี ๒๕๖๔ ย่อมไม่ปรากฏ ในรายงานการเงินของ กสทช. ก่อนที่จะมีการตรวจสอบบัญชี ส่วนนี้ผมคิดว่าให้ความเป็นธรรมกับ กสทช. สามารถอธิบายได้เนื่องจากคำพิพากษายังไม่ออกครับ แต่อีก ๒ ประเด็น ผมเห็นแล้ว ผมก็ตกใจมาก อย่างเช่นในหน้า ๔ ค่าสาธารณูปโภค รายงานประจำปีก่อนตรวจสอบบัญชี ๘๑.๘๖ ล้านบาท ขณะที่ สตง. ตรวจสอบแล้วบอกว่าลงบัญชีได้แค่ ๗๘.๗๕ ล้านบาท ถามว่าสาธารณูปโภคนี่เป็นค่าใช้จ่ายอะไรครับท่านประธาน เป็นเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ส่วนนี้ยังมีปัญหาความคลาดเคลื่อนในการลงบัญชี ผมก็รู้สึกแปลกใจมาก เพราะจริง ๆ เท่าที่เคยตรวจสอบบัญชี เคยอ่านบัญชีจำนวนมาก ยังไม่ค่อยเคยเห็นว่ามีบริษัทไหน หรือองค์กรใดมีปัญหาในการลงบัญชีค่าสาธารณูปโภคนะครับ อันนี้เป็นเรื่องที่แปลกมาก ๆ ก็อยากจะให้ทาง สตง. ให้ข้อมูลกับเราเพิ่มเติมว่าคลาดเคลื่อนตรงไหน ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง เรื่องของค่าใช้สอยครับท่านประธาน กสทช. บอกว่ามีค่าใช้จ่าย ๑,๔๒๒.๙๗ ล้านบาท ในขณะที่ สตง. ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าค่าใช้จ่ายจริง ๆ ควรจะเป็น ๑,๑๑๘.๒๓ ล้านบาท หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ กสทช. ลงค่าใช้จ่ายเกินไป ๓๐๔.๗๔ ล้านบาท ซึ่งถามว่าค่าใช้สอย เป็นอะไร ก็อยู่ในหมายเหตุที่ ๔๓ ในหน้า ๔๒ ท่านประธานครับ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในประเทศ มีเรื่องของค่าเช่า มีค่าใช้จ่ายของการจ้างที่ปรึกษา การบริจาคการกุศล ค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ความจริงแล้วไม่น่าจะมีความคลาดเคลื่อน แต่สุดท้ายก็คลาดเคลื่อนไปถึง ๓๐๔.๗๔ ล้านบาทเศษ ซึ่งก็น่าเสียดายที่ในรายงานการตรวจสอบ บัญชีนี้มีหมายเหตุลงเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ผู้ตรวจสอบบัญชีก็คือ สตง. คิดว่าสมควรจะลงหรือว่า ลงได้ แต่ส่วนที่ลงไม่ได้ไม่ได้นำข้อมูลมาใส่ ถ้าในคราวหน้าท่านได้นำข้อมูลมาแจ้งต่อเราว่า ค่าใช้จ่ายที่ สตง. เห็นว่าลงไม่ได้มีอะไรบ้าง ก็จะเป็นประโยชน์ครับ ก็ฝากทาง สตง. ให้ข้อมูล กับเราว่าประสบปัญหาอะไรในการตรวจสอบบัญชี เพื่อที่สภาแห่งนี้จะช่วยผลักดัน ให้การตรวจสอบบัญชีของ กสทช. สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลา ๖ เดือนหลังจาก ที่สิ้นงวดบัญชี เพื่อให้การพิจารณาของสภาเป็นไปอย่างทันเหตุการณ์และสามารถแก้ไข ปัญหาให้พ่อแม่ พี่น้องประชาชนได้ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ก็จบ หมดผู้อภิปรายนะครับ เชิญท่านผู้ชี้แจงครับ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนะคะ ดิฉัน เกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขออนุญาต ประการแรกก็ต้องกราบขอบพระคุณท่านสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างสูงที่ให้ความสนใจ แล้วก็ให้ความสำคัญกับการนำเสนอรายงาน ของผู้สอบบัญชีและรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินในส่วนนี้นะคะ ก็ต้อง ขออนุญาตนำเรียนในเรื่องของคำถามที่มีการสอบถามมาในหลาย ๆ ประเด็น ในส่วนของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ขออนุญาตกราบเรียนตอบในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในส่วนที่เป็น เรื่องของการบริหารจัดการของทาง กสทช. ก็ขออนุญาตรับไป แล้วก็ทาง กสทช. ไปพิจารณา ดำเนินการต่อไปนะคะ นำเรียนอย่างนี้ค่ะ ในส่วนของรายการที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขในรายงาน การเงิน ตั้งแต่ท่านพลากรได้กล่าวถึงในเรื่องของรายได้ค่าธรรมเนียม แล้วก็การใช้จ่าย รวมทั้งค่าตอบแทนของคณะกรรมการ กสทช. และผู้บริหาร ในส่วนนี้การตรวจสอบเราก็ ตรวจสอบตามกฎหมายระเบียบที่ทาง กสทช. ด้วยความที่ กสทช. เป็นองค์กรที่เป็นลักษณะ ขององค์กรอิสระ เพราะฉะนั้นการบังคับใช้กฎระเบียบต่าง ๆ ก็จะเป็นกฎระเบียบที่ทาง คณะกรรมการ กสทช. ดำเนินการเอง แต่อย่างไรก็ตามกฎระเบียบเหล่านั้นก็จะต้องผ่าน การพิจารณาจากในส่วนของกระทรวงการคลังถ้าเป็นเรื่องของการใช้จ่ายเงิน แล้วก็มี การประกาศราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบทาง สตง. เองก็ได้มี การเปรียบเทียบหรือเทียบเคียงกับองค์กรอิสระ รวมทั้งองค์การมหาชนอื่น ๆ แล้วก็ให้ ข้อสังเกตในภาพรวมของหน่วยงานในลักษณะนี้เกี่ยวกับค่าตอบแทนและค่าเบี้ยประชุมนะคะ ซึ่งเราก็มีการรายงานไปที่ทางสำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อให้เป็นข้อมูลสะท้อนภาพของ ความสอดคล้อง หรือความเป็นไปเกี่ยวกับเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณว่าควรจะต้อง เป็นไปอย่างคุ้มค่าแล้วก็มีประสิทธิภาพสูงที่สุดนะคะ เพราะฉะนั้นในเรื่องของค่าตอบแทน ก็จะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ ในเรื่องของการประมูลคลื่น จัดสรรคลื่นต่าง ๆ เช่นกันก็มีกฎ ในส่วนของ พ.ร.บ. กสทช. เองก็ได้กำหนดไว้ในเรื่องของการประมูลแล้วก็มี การหักค่าใช้จ่าย แล้วก็นำส่ง แล้วก็จะตรวจสอบว่าการดำเนินการรายได้ที่เกิดขึ้นจาก การประมูลคลื่นนั้นเป็นรายได้ที่พึงต้องรับรู้หรือไม่ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว ในรายละเอียดเดี๋ยวขออนุญาตตอบ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปนะคะ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

สำหรับในเรื่องของข้อพิพาทนะคะ อันนี้ก็เป็นประเด็นที่เราได้พูดคุยกับทาง ผู้บริหารของ กสทช. เสมอมาว่าก็ควรจะต้องดำเนินการ เพราะถ้าท่านได้อ่านตัวหมายเหตุ ก็จะเห็นว่าในส่วนของคดีความและข้อพิพาทมันจะมีประเด็นที่อยู่ระหว่างการบังคับคดีตรงนี้ อยู่ระหว่างการบังคับเป็นความเสียโอกาสของ กสทช. ที่จะได้รับเงิน เพราะฉะนั้นเราก็ได้ให้ ข้อเสนอแนะในการเร่งรัดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการจัดการเกี่ยวกับการบังคับคดี แล้วก็คดีความ เพื่อให้นำเงินที่เกิดขึ้นนั้นมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการให้มากที่สุดนะคะ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของท่านชัยวัฒน์นะคะ ก็จะเป็นประเด็นของหมายเหตุเกี่ยวกับ เรื่องของการประมูลคลื่น ในส่วนนี้เมื่อเราดูรายได้ที่เกิดขึ้นจากการประมูลคลื่น ๒๖๐๐ เมกะเฮิรตซ์กับรายจ่าย ก็จะมีรายจ่ายอยู่ใน ๒ หมายเหตุ คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ในยอด ๓๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ยอดนี้ไม่ใช่เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการให้มีการประมูลคลื่น เป็นเงินที่จะต้องรอเพื่อชดเชยให้กับผู้รับใบอนุญาตที่ถูกเรียกคืนคลื่น อันนี้เป็นไปตามมติ กสทช. ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการในส่วนนี้นะคะ แล้วก็สำนักงาน กสทช. เองก็นำเงินส่งไปที่ กองทุน การชดเชยก็เป็นการชดเชยให้กับ บมจ. อสมท แล้วก็กรมการทหารสื่อสาร ในอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นส่วนของการนำส่งคลังนะคะ อันนี้จากการตรวจสอบแล้วก็จะมีตัวเลข ปรากฏตามที่เราได้รายงาน

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของหมายเหตุที่ ๓๔ เรื่องของรายได้ กทปส. ๔๙ ล้านบาท ก็จะเป็น ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ เพื่อใช้บริการเป็นการทั่วไปผ่านดาวเทียม อันนี้ปิดยอดแล้วก็นำส่งเงิน กสทช. ได้นำเงินดังกล่าวนั้นส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ปรากฏตามงบการเงินที่ตรวจสอบแล้ว อันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการบันทึกรายการแล้วก็นำส่ง รับรู้ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายถูกต้องแล้วนะคะ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของท่านฐากรแล้วก็อีกหลาย ๆ ท่านที่ได้กล่าวถึงในเรื่องของ การนำเสนอรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. ล่าช้า แล้วก็ไม่ทันกับรายงานประจำปี ก็ต้องขออนุญาตนำเรียนอย่างนี้ว่าในส่วนของกฎหมายเขียนแยกกันนะคะ รายงานประจำปี กสทช. จะต้องนำเข้าสภาให้ทันภายใน ๑๕๐ วันนับจากวันสิ้นปี สิ้นปีบัญชีของเขาคือ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ก็ประมาณเดือนพฤษภาคมนะคะ ในขณะที่ส่วนของรายงานการเงิน กสทช. กับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวินัยการเงิน การคลังของรัฐ คือ กสทช. เขาก็จัดทำรายงานการเงินภายใน ๙๐ วัน แล้วก็สำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินมีเวลาในการตรวจสอบตามกฎหมายคือ ๑๘๐ วัน เพราะฉะนั้นกว่า กสทช. จะส่งรายงานการเงินให้เราก็เข้าไป ๓ เดือนแล้ว ถ้าเป็นทางปฏิบัติคือเรามีเวลาจาก ๑๕๐ วัน เราเหลือเวลาอีกประมาณ ๖๐ วันในการที่ตรวจทั้งเรื่องของรายงานการเงิน แล้วก็รายงานประเมินผล อันนี้เป็นไปได้ค่อนข้างยากแน่ ๆ นะคะ เพราะว่าในส่วนที่ สตง. รับผิดชอบไม่ได้มีเพียงแค่ กสทช. หน่วยเดียว เพราะหน่วยอื่นก็ต้องถูกเร่งรัดในเรื่อง ของการตรวจสอบให้ทัน ๑๘๐ วันเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่ กสทช. ณ ปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาระบบ ERP ซึ่งเป็นระบบของการประมวลผลในเรื่องของ การเงินบัญชีแล้ว อันนี้เราก็มาคุยกันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะส่งรายงานการเงินให้เรา ได้เร็วขึ้น แล้วในเรื่องของการตรวจสอบเราก็สามารถที่จะดูข้อมูลจากระบบ ERP นั้นได้เลย โดยที่ไม่ต้องรอให้มีการส่งรายงานการเงินอย่างเป็นทางการนะคะ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราได้ ดำเนินการกับฝ่ายบริหารของ กสทช. แต่อย่างไรก็ตามก็อาจจะต้องมีเวลาที่มันเหลื่อมกัน สำหรับในส่วนของการตรวจสอบรายงานการเงินเราตรวจเสร็จทันเวลาที่กำหนดไว้อยู่แล้ว ทีนี้ในเรื่องของการตรวจสอบรายการเงินเมื่อทำเสร็จกฎหมายวินัยการเงินการคลังบอกให้ เผยแพร่ เพราะฉะนั้น กสทช. ก็จะเผยแพร่รายงานการเงินที่ผ่านการตรวจสอบไว้ใน Website ของ กสทช. เอง แต่ว่าด้วยเหตุที่เวลาของการจัดทำรายงานประจำปีเหลื่อมกัน ทำให้ ในรายงานของผู้สอบบัญชีจะต้องนำประเด็นเรื่องของความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น หลังการตรวจสอบมาแสดงให้ผู้ใช้รายงานการเงินได้เห็นว่า รายงานประจำปีที่จัดพิมพ์ เผยแพร่ไปนั้นตัวเลขในรายงานการเงินถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการตรวจสอบนะคะ อันนี้ ก็เป็นเรื่องที่หลาย ๆ รัฐวิสาหกิจหรือหลาย ๆ หน่วยงานภาครัฐที่มีการจัดทำรายงาน ประจำปีก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน เพราะด้วยความที่ระยะเวลา เงื่อนเวลามันเหลื่อมกัน อันนี้ก็ต้องขออนุญาตนำเรียน แต่ในส่วนของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเราให้ความสำคัญ กับทุก ๆ หน่วยงานที่จะต้องมีการตรวจสอบรายงานการเงินนะคะ แต่ว่าพอพ่วงด้วยรายงาน ประเมินผลมันอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น เพราะว่าจะต้องตรวจงบประมาณทั้งหมด ประมาณ ๗,๐๐๐ กว่าล้านบาทของ กสทช. ก็ต้องขออนุญาตกราบเรียนไว้นะคะ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนอื่น ๆ ก็น่าจะเป็นประเด็นที่คล้าย ๆ กัน ทางสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินก็ขอน้อมรับในข้อเสนอแนะ ข้อสังเกตของทุก ๆ ท่านเลย เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการพัฒนาในเรื่องของการตรวจสอบ แล้วก็การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร หน่วยงาน กสทช. เองก็จะต้องกลับไปทบทวนในหลาย ๆ ประเด็นที่เราให้ข้อเสนอแนะนะคะ ซึ่งข้อเสนอแนะที่ได้นำเรียนไว้ในรายงานประเมินผลส่วนใหญ่ทาง กสทช. ก็ได้มีการดำเนินการ ปรับปรุงแก้ไข อย่างเช่นในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างที่ใช้วิธีการในเรื่องของการเจาะจงมาก จนเป็นที่สังเกตได้ว่าลักษณะของการขาดความเป็นธรรมในเรื่องของการแข่งขัน อันนี้ กสทช. ก็ได้มีการปรับ แต่ก็ค่อย ๆ ปรับนะคะ

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนในเรื่องของประเด็นโครงการที่มีความซ้ำซ้อน ก็ต้องนำเรียนในภาพที่เรา ตรวจสอบว่าในโครงการใดที่มีความซ้ำซ้อนเราก็จะให้ข้อสังเกต แล้วก็ไปดำเนินการเสียให้ ถูกต้อง แล้วก็โครงการใดที่ไม่ได้มีการดำเนินการเลย อันนี้เราก็สะท้อนไว้ในรายงาน ซึ่งนี่คือ สิ่งที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพของการใช้จ่ายเงินของ กสทช. นะคะ ในขณะเดียวกัน เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ผลการตรวจสอบที่เกิดขึ้นนอกจาก สตง. จะสื่อสารกับทางผู้บริหารของ กสทช. เองด้วยแล้ว ในปีนี้และต่อ ๆ ไปก็จะได้นำเรียนทางคณะกรรมการตรวจสอบ แล้วก็ คณะกรรมการบริหารของ กสทช. ให้ได้รับทราบ แล้วก็เร่งในเรื่องของการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การใช้จ่ายเงินนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในส่วนนี้ก็ขออนุญาตนำเรียน

นางเกล็ดนที มโนสันติ์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

แล้วก็รายการที่เกิดขึ้นจากความคลาดเคลื่อนของรายงานประจำปีไม่ว่า จะรายได้ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ บางส่วนเกิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่ท่านสมาชิกได้นำเรียนแล้ว ว่าเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วบางรายการก็เกิดขึ้นจากการจัดประเภท รายการ อันนี้ไม่ได้เป็นประเด็นผิดอย่างมีสาระสำคัญ สตง. ก็เลยไม่ได้มีการออกรายงาน ที่มีเงื่อนไขหรืองบไม่ถูก อันนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีทั้งหมด ก็ขออนุญาตสรุป ในประเด็นภาพรวมตามนี้นะคะ กราบขอบพระคุณท่านสมาชิกทุกท่านค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ยังมีผู้สงสัยอยู่นะครับ จะเพิ่มเติมอะไร เชิญครับ

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ กระผม นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จากจังหวัดศรีสะเกษ ตามที่ท่านผู้ชี้แจงได้ชี้แจงกระผมมีข้อสงสัย เนื่องจาก ในพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ หรือ กสทช. กำหนดว่าในการรายงานของ กสทช. จะต้องมีรายงานของผู้สอบบัญชีเสนอต่อสภาและเสนอต่อ ครม. ภายใน ๑๒๐ วัน ใช่ไหมครับ แต่ทาง สตง. แจ้งว่าทาง สตง. ไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับในส่วนนี้ ผมก็เลย สงสัยว่าถ้าเช่นนั้นแสดงว่าต่อไปนี้งบสอบบัญชีที่ผ่านการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีแล้ว ต่อไปอย่างไรก็ตามจะไม่มีทางทำได้ตามกำหนดเวลาตามมาตรา ๗๖ ใช่หรือไม่ ซึ่งตามความเห็นของผมนะครับ เมื่อมีกฎหมาย ๒ ฉบับ ถ้ามีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. แจ้งว่าต้องได้รายงานการสอบบัญชีมารายงานต่อสภา ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา ๗๖ ย่อมมีความสำคัญ ย่อมเหนือกว่าข้อกำหนด ตามกฎหมายทั่วไปของ สตง. ที่บอกว่าตรวจให้เสร็จภายใน ๑๘๐ วัน ก็จะขออนุญาต ฝากความกังวลไปนะครับ เพราะว่าจริง ๆ แล้วการปฏิบัติตามกฎหมายต้องปฏิบัติให้ชอบด้วย กฎหมายทุกฉบับ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ก็ฝากนะครับ ถือว่าที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ และรายงานการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สิน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมขออนุญาต เพิ่มเติมนิดหนึ่ง นิดเดียวครับ ผม ฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ขออนุญาตว่าสิ่งที่ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านได้อภิปรายไปทั้งหมดอยากให้รวบรวม แล้วก็ส่งรายละเอียดพวกนี้ให้กับทางสำนักงาน กสทช. ได้ชี้แจง แล้วก็ตอบมาที่ทางสภาด้วยครับ ขออนุญาตแค่นี้ครับท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

หมดแล้วนะครับ ก็ถือว่ารับทราบรายงานการสอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ และรายงานการตรวจสอบการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินสำหรับปี ๒๕๖๓ ของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติแล้ว ขอบคุณผู้ชี้แจงครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๒.๗ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี ๒๕๖๔

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เสนอ รายงานพร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทราบตามมาตรา ๑๑/๑ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๐ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ และมาตรา ๑๔ วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๔๕ รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่ได้จัดวางให้ ท่านสมาชิกแล้วนะครับ ในการนี้ผมได้อนุญาตให้ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมตามข้อบังคับ ข้อ ๗๖ ขอเชิญผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้เข้าร่วมชี้แจง ในที่ประชุม ๑. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ๒. นางสาวจิตติมา อุดมกุศลศรี นิติกรชำนาญการพิเศษ ๓. นายธนาวิช ลิ้มวัฒนา นิติกรชำนาญการ เชิญผู้ชี้แจง ประจำที่นะครับ มีผู้อภิปรายเยอะมาก ก็พยายามกระชับให้อยู่ใน ๗ นาที เดี๋ยวผู้ชี้แจง ได้ชี้แจงสัก ๕ นาทีก่อน เชิญครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระผม นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ขอนำเสนอรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการจัดทำรายงานตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๑๙ ซึ่งเป็นกฎหมายเดิม ก่อนที่จะมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ในปี ๒๕๖๔ นั้นเรามีเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทั่วประเทศในสังกัดของหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับกรมและกองบัญชาการ ทั้งตำรวจ และทหารจำนวน ๑๗ หน่วยงาน รวมทั้งสิ้นประมาณ ๑๔,๕๘๒ นาย ต่อมาเรามีการยกเลิก การแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในจำนวนนี้ เนื่องจากมีการเกษียณอายุราชการ เรื่องเสียชีวิต แล้วก็ไม่มีการต่ออายุบัตรเกินกว่า ๖ เดือน ไม่มีการรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ แล้วก็ พ้นจากหน้าที่นะครับ รวมทั้งสิ้นเราก็จะเหลือเจ้าพนักงานอยู่ประมาณ ๗,๔๗๔ นาย จากผลการดำเนินการดังกล่าวของเจ้าพนักงานก็มีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ๒๔๔,๐๐๐ คดี ในส่วนของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แล้วก็มีจำนวนของการที่เป็นสำคัญ ๆ ก็คือยาบ้า ๓๗๔ ล้านเม็ด ไอซ์ ๑๑,๘๐๗ กิโลกรัม แล้วก็มีเฮโรอีนอีก ๒,๒๐๐ กิโลกรัมเศษ มีโคเคนอยู่ประมาณ ๑๘ กิโลกรัม

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ส่วนที่ ๑ นอกจากนี้ในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน จากการสืบสวนสอบสวนของการดำเนินการเจ้าพนักงานในปี ๒๕๖๔ ก็มีการดำเนินการ ขยายผลสืบสวนไปสู่การริบทรัพย์สิน มีมูลค่าทรัพย์สินที่มีการยึดอายัดในปี ๒๕๖๔ จำนวน ๗,๓๔๖ ล้านบาท แล้วก็มีการดำเนินคดีในข้อหาสมคบสนับสนุนช่วยเหลือกับผู้ที่ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน ๓,๔๗๔ ราย ส่วนของการยกเลิกบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่มีการดำเนินการที่เรียกว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่มิชอบหรือมีการเรียกรับสินบน รางวัลอะไรต่าง ๆ กับผู้กระทำความผิดก็มีอยู่ ๑๑ ราย เมื่อเราตรวจพบเราก็มีการยกเลิก การเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ไปโดยทันทีนะครับ ในส่วนเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นั้น จากการรายงานทั้งหมดที่ ๗,๐๐๐ กว่าราย ก็มีการรายงานมาทั้งหมด ๗๗,๒๔๔ ครั้ง ในระบบเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ของเรา ปัญหาอุปสรรคที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ปฏิบัติงานได้ รายงานให้ทราบมาก็พบว่าในการเข้าตรวจค้นในเวลากลางคืนนั้นมีปัญหาที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการกำหนดระดับของผู้ปฏิบัติงานซึ่งเป็นระดับสารวัตรนะครับ แต่จากข้อเท็จจริง ในการปฏิบัติงานในระดับสารวัตรต่าง ๆ ที่อยู่ในภูมิภาคก็อาจจะมีจำนวนที่ไม่เพียงพอ ก็อยากจะให้มีการทบทวนในการกำหนดระดับที่ให้ลดลง

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ส่วนที่ ๒ ก็คือเรื่องของการใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการยึดหรืออายัด ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งไม่ใช่ของกลางในคดียาเสพติด หรือทรัพย์สินที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดนั้น มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการ เพื่อป้องกันการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินดังกล่าวนั้น อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เอง ตามมาตรา ๑๔ (๔) ไม่สามารถที่จะดำเนินการในการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการทำความผิด ยาเสพติดได้ ก็อยากให้มีการแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้นะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

จาก ๒ ประเด็นของปัญหาอุปสรรคดังกล่าวทางสำนักงาน ป.ป.ส. ก็มา ดำเนินการในเรื่องนี้ ก็โดยที่เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้นในเวลากลางคืนนั้น ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ต้องถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง มีการมุ่งเน้นในการดำเนินการ ที่ต้องปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นการกำหนดที่เป็นเจ้าพนักงาน ระดับสารวัตรซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหน่อย ก็ถือว่ามีเหตุเหมาะสมแล้วก็มีเหตุอันสมควร เพราะฉะนั้นจุดประเด็นนี้ก็ยังคิดว่ายังคงต้องใช้เจ้าหน้าที่ในระดับสูงในการที่จะเป็นผู้มีอำนาจ ในการตรวจหรือค้นในเวลากลางคืนอยู่นะครับ ส่วนประเด็นที่ ๒ นั้นก็เรียกว่ามีการปรับปรุง แก้ไขไว้แล้วในการจัดทำประมวลกฎหมายยาเสพติด ทั้งหมดก็เป็นสาระสำคัญที่อยู่ในรายงาน ผลการปฏิบัติงานที่จะนำเสนอที่ประชุมในวันนี้ครับ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ท่านแรกที่จะอภิปราย เชิญท่านสรรเพชญ บุญญามณี ครับ

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ต่อรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ อย่างที่ทราบกันดีว่าปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศ รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่ท่านประธานครับ ท่านประธานก็คงเห็นเหมือนกับผมว่าจากการที่เราปราบปราม จากการที่เราป้องกันอย่างไรก็ตาม แต่ปัญหายาเสพติดในภาพรวมนั้นแทบจะไม่ได้ บรรเทา เบาบางลง ผมเชื่อเหลือเกินว่าโทษและพิษภัยจากยาเสพติดที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ดังที่มีการรายงานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างปัญหาต่าง ๆ ทั้งการก่ออาชญากรรม ฆาตกรรม ทารุณกรรมต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่หลายรัฐบาล หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าปัญหาเหล่านี้จะหายไปจาก สังคมไทย ท่านประธานที่เคารพครับ ตามรายงานของ ป.ป.ส. ที่ได้เสนอมานี้จะเห็นได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดนับวันยิ่งรุนแรง ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ในอดีต ยาเสพติดหรือว่ายาบ้าหาได้ยาก ท่านประธานครับ ราคาเคยขึ้นไปถึงเม็ดละ ๓๐๐ บาท ๔๐๐ บาท ๕๐๐ บาท แต่ในปัจจุบันนี้ยาบ้า ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท เป็นที่เข้าใจกันว่าสถานการณ์ ปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น การปั๊มยาหรือยาเสพติดต่าง ๆ ก็ง่ายขึ้น รวมถึงการหา สารตั้งต้นยาเสพติดก็ทำได้ง่ายขึ้น และผลผลิตก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ผลผลิตที่ออกมาสร้างความเสียหาย สร้างผลกระทบต่อสังคมเพิ่มสูงยิ่งขึ้นรวมถึง สร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งทำให้ปัจจุบันการใช้ชีวิต ของพี่น้องประชาชนเต็มไปด้วยความหวาดระแวงจากพิษภัยของยาเสพติด ไม่คิดว่า คนใช้ชีวิตปกติเดินไปบนท้องถนนไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบจากยาเสพติดไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง จากรายงานสถานการณ์ยาเสพติดโลกที่ท่านเสนอมากระผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและบน Website Online ย่อลงมาในประเทศไทย ท่านประธานครับ สถานการณ์ยาเสพติดในขณะนี้กำลังแพร่ระบาด และมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่ไม่ลดระดับความรุนแรงลงเลย โดยเฉพาะในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือที่มีการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามามาก ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศไทยสูงขึ้นด้วย ผมมีสถิติที่จะเรียนท่านประธานว่าปีงบประมาณ ๒๕๖๓ การจับกุมคดียาเสพติดทั้งหมด ๓๒๔,๕๕๒ คดี ผู้ต้องหา ๓๓๘,๕๖๐ คน ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ มีการจับกุมคดียาเสพติด ทั้งหมด ๓๓๗,๑๘๖ คดี ผู้ต้องหา ๓๕๗,๐๕๘ คน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เป็นความสามารถในการจับกุมคดียาเสพติดได้เพิ่มสูงขึ้น นับเป็นผลงาน และความสามารถของหน่วยงาน ป.ป.ส. ครับท่านประธาน แต่กระผมก็ขอแสดงความห่วงใย กับสถานการณ์ที่ยาเสพติดสามารถเข้าไปถึงชุมชนต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชน ในกลุ่มเปราะบางที่อาจได้รับผลกระทบจากพิษภัยของยาเสพติด ทุกวันนี้ยาเสพติด มันหาง่ายเกินไปครับ มีการซื้อขายในช่องทาง Online เพื่อกระจายไปสู่ผู้เสพมากยิ่งขึ้น เช่น ทาง Application LINE Twitter Facebook Instagram ซึ่งช่องทาง Online เหล่านี้ เด็กและเยาวชนมักจะใช้เป็นช่องทางในการหาข้อมูลเป็นส่วนใหญ่ ผมกังวลว่าถ้าเด็ก เยาวชนจะเข้าถึงตลาดยาเสพติดได้ง่ายขนาดนี้ ต่อไปบุคคลเหล่านี้จะกลายเป็นเหยื่อ ของยาเสพติด นอกจากนี้ข้อมูลงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๔-๒๕๖๖ ของ ป.ป.ส. ที่ผ่านมาได้รับงบประมาณเฉลี่ยปีละกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท ทั้งในแง่ของ การจับกุมและการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด กระผมขอเสนอ ๓ มาตรการที่ไม่อาจ มองข้ามได้ เพื่อให้การทำงานของท่านลุล่วงตามวัตถุประสงค์ คือมาตรการป้องกัน มาตรการปราบปราม และมาตรการฟื้นฟูครับ

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

มาตรการแรก ท่านประธานครับ การป้องกันคือกระบวนการในการปลูก จิตสำนึกให้กับเด็กและเยาชนให้เห็นถึงพิษภัยของยาเสพติด วันนี้เราโชคดีเรามีสื่อ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Instagram ไม่ว่าจะเป็น TikTok ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถที่จะนำ เครื่องมือเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น เป็นการส่งเสริมให้เด็กเยาวชนยามว่าง มีกิจกรรมให้เป็นประโยชน์นะครับ ในชุมชนเองก็จะมีการส่งเสริมกีฬา ในตำบลเอง หรือในจังหวัดของท่านเอง รวมไปถึงแม้กระทั่งการจัดกิจกรรม e-Sport และอยากให้ท่าน ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากขึ้น การศึกษา ชุมชน พื้นที่ท้องถิ่นนั้น อย่างถ่องแท้ การเข้าใจท้องถิ่นและการให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันปราบปราม ยาเสพติดนั้น ผมคิดว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเอาท้องถิ่นมาเป็นพวกกับท่าน แล้วท่านจะทำงาน ได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

มาตรการที่ ๒ มาตรการการปราบปราม ซึ่งผมก็เชื่อว่าท่านมีบุคลากรและมี ความสามารถในเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมก็เป็นกำลังใจให้ท่านทำงานในลักษณะนี้ต่อไป

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

มาตรการที่ ๓ มาตรการฟื้นฟู จากข้อมูลเราจะเห็นได้ว่าปี ๒๕๖๔ ผู้รับ การบำบัดจากยาเสพติด ๑๕๕,๕๐๐ ราย ซึ่งลดจากปี ๒๕๖๓ อยู่ที่ ๒๑๒,๖๔๖ ราย ซึ่งถือว่า ผู้เสพเป็นผู้ป่วย

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมอยากจะฝากท่านประธานไปยังผู้ชี้แจง ๓ ประเด็น

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ที่รองรับฟื้นฟูผู้ป่วยที่มาจากกลุ่มยาเสพติดเป็นอย่างไร พอเพียงหรือไม่ ทั้งในสถานบริการ บุคลากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอ เจ้าหน้าที่ งบประมาณ ต่าง ๆ เพียงพอกับการดำเนินการของท่านหรือไม่

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ท่านมีแนวทางในการป้องกันผู้ที่บำบัดแล้วไม่ให้กลับไป ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้อย่างไร

นายสรรเพชญ บุญญามณี สงขลา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ ท่านมีแนวทางในการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้ผู้ที่ได้รับ การบำบัดแล้วสามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยไม่พึ่งยาเสพติด ต่อไปได้อย่างไร จึงกราบเรียนท่านประธานไปยังหน่วยงานที่ตอบชี้แจงในประเด็น ดังกล่าวด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านต่อไปท่านณกร ชารีพันธ์

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม ณกร ชารีพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร เขต ๒ พรรคก้าวไกล ก่อนอื่นเลย ผมขอชื่นชมเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่ให้ความสำคัญกับสภาแห่งนี้ แล้วก็มาชี้แจงด้วยตัวเอง ขอ Slide ด้วยครับ

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

แต่เดิมผมเชื่อมาเสมอว่าคำขวัญของเราคือ คนเสพตาย คนขายติดคุก แต่ปัจจุบันเปลี่ยนใหม่แล้วครับท่านประธาน คนเสพตาย คนขาย เป็นใหญ่เป็นโต ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่มาก ๆ ในปัจจุบัน แล้วก็ส่งผลกระทบต่อพี่น้อง ลูกหลาน โดยเฉพาะพี่น้องจังหวัดมุกดาหาร เขต ๒ ผมอ่านรายงานของ ป.ป.ส. ผมอยาก ฝากไปทั้งหมด ๕ ประเด็นคำถาม

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ เสรีกัญชาและเสรีกระท่อมส่งผลต่อการเข้าถึงยาเสพติดชนิดอื่น มากน้อยแค่ไหนโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ แนวทางป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทาง Online มีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ แนวทางการป้องกันการแปรรูปและส่งออกยาเสพติดไปสู่ ต่างประเทศของท่านเป็นอย่างไร

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๔ บทลงโทษเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่กระทำความผิดเองทั้งทางด้าน คดีอาญาและทางวินัยสอดคล้องกันมากแค่ไหน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๕ แนวทางการดำเนินงานยุทธศาสตร์ ๒๐ ปีที่ท่านวางไว้ ตอบสนอง ต่อปัญหายาเสพติดที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้ดีแค่ไหนในปัจจุบัน

นายณกร ชารีพันธ์ มุกดาหาร ต้นฉบับ

ใน Slide ท่านจะเห็นว่าปี ๒๕๖๖ แนวโน้มเยาวชนคนใช้ยาเสพติดอายุ ๑๘-๑๙ ปีสูบกัญชาเพิ่มเกือบ ๑๐ เท่า ปัจจุบันเยาวชนอายุ ๑๘-๑๙ ปี ๑.๕ ล้านคน สัดส่วน การสูบกัญชาอยู่ที่ ๙ เปอร์เซ็นต์ คือ ๑๔๐,๐๐๐ กว่าคน ๘ เปอร์เซ็นต์ติดกัญชาอยู่ที่ ๑๑,๓๖๔ คน พ.ร.บ. ที่ท่านออกมาไม่ว่าจะเป็นห้ามจำหน่ายช่อดอกหรือการแปรรูป ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร นิสิต นักศึกษา ห้ามจำหน่ายผ่านเครื่องอัตโนมัติหรือ Online ห้ามจำหน่ายในวัด ห้ามจำหน่ายตามหาบเร่แผงลอย ห้ามโฆษณาดอกกัญชาในทุกช่องทาง และห้ามใส่ดอกกัญชาในอาหาร ด้วยความเคารพท่านประธาน ภรรยาของผมแพ้กัญชา อย่างรุนแรง ทุกวันนี้ไม่กล้าไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านอื่นครับ เพราะไม่รู้ว่าร้านไหนบ้างหรือไม่ใส่บ้าง กินไปเวียนหัว อ้วก คลื่นไส้ อาเจียน รุนแรงมาก ๆ แล้วมันเกี่ยวอย่างไรว่านำไปสู่ยาเสพติด ชนิดอื่นหรือไม่ อันนี้เป็นรายงานจากสาธารณสุขนะครับ กัญชาส่งผลกระทบต่อสมอง เด็กวัยรุ่นอย่างไรบ้าง ๑. พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรมเชาว์ปัญญาลดลง เสี่ยงต่อ การป่วยเป็นจิตเภท และเสียงต่อภาวะฆ่าตัวตายครับท่านประธาน และข้อนี้สำคัญมาก เสี่ยงต่อการเกิดการเสพติดยาเสพติดชนิดอื่น และสุดท้าย ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกาย ในระยะสั้นและระยะยาว อยู่บ้านผมมุกดาหาร เขต ๒ ตอนเช้าต้มกระท่อม ตอนเที่ยง ตอนเย็นสูบกัญชา ดึก ๆ ยาบ้า อันนี้คือเรื่องจริงของสังคมที่เราเผชิญอยู่ในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากจะถามตัวโต ๆ ไปยัง ป.ป.ส. ว่าท่านได้ทำงานวิจัยไหมว่าการที่ท่าน เสรีกัญชาและกระท่อมนำไปสู่การที่เยาวชนไปเสพยาเสพติดชนิดอื่นมากน้อย แค่ไหนครับ เรื่องที่ ๒ แนวทางในการปราบปรามยาเสพติด Online ท่านมีมือถือไหมครับตอนนี้ หยิบมือถือของท่านขึ้นมาได้เลย เข้าไปที่ Application แต่ก่อนเป็นนกสีฟ้า ตอนนี้ เปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย x แล้ว ลองพิมพ์ Hashtag เข้าไปเลยว่า สายดีด กัญชา กระท่อม สายไฮ แล้วดูว่าล่าสุดเขา Post ขายกันเมื่อไร ท่านมีแนวทางแก้ไขปราบปรามเรื่องนี้อย่างไร แนวทางในการป้องกันและแปรรูปส่งออกต่างประเทศอันนี้รายงานจาก UNODC สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันเรามีการผลิตรูปแบบเม็ดเพิ่มถึง ๑๖ เปอร์เซ็นต์ ประเทศไทยที่ผ่านมาอาจจะตัวเล็ก นิดหนึ่ง เพิ่มขึ้นอยู่ที่ ๒๙.๔ เปอร์เซ็นต์ อันนี้คือแผนการนำเข้า นำเข้ามาในรูปแบบเม็ด และส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย เกาหลีในรูปแบบเม็ด ขอเวลาอีกไม่นานครับ และรูปแบบผง นำเข้ารูปแบบเม็ด และส่งออกไปในรูปผง ออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น คำถามคือประเทศเรา จะมีแนวทางป้องกันปราบปรามการส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศได้อย่างไร ข้อ ๔ ก็คือบทลงโทษของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เองที่กระทำความผิดในด้านของคดีอาญา และวินัยสอดคล้องกันแค่ไหน ที่ผมวงกลมไว้ก็คือมีผู้ที่กระทำความผิด อันนี้จากรายงาน ของท่านเลย อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล อันนี้เป็นของคดีอาญา แต่คดีทางวินัย ท่านบอกว่าท่านลงโทษกักยาม ๓ วัน ผมถามว่ามันสอดคล้องกันแค่ไหนครับ สุดท้ายนะครับ แนวทางในการดำเนินงานยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีเอามาจากของท่านที่ไปเสนอในพื้นที่ต่าง ๆ เลย ท่านบอกว่าเรามี Big Data สกัดกั้นและปราบปรามจากพรมแดน แก้ปัญหาผู้เสพ ผู้ติด และแก้ปัญหาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง แล้วบอกประชาชนว่า Just say no ผมว่าเรามียุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีในการป้องกันยาเสพติดแค่นี้จริง ๆ หรือครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากจะ ตั้งคำถามตัวโต ๆ ไปที่ ป.ป.ส. ว่าในคำถาม ๕ ประเด็นที่ผมถามมานี้ สุดท้ายนี้นะครับ สมัยที่แล้วผมเห็นท่านประธานเอาข้าวสารมาหว่านในสภาเพราะว่ามันถูกมาก ๆ สมัยนี้ อย่าให้ผมต้องเอายาบ้ามาหว่านในสภาเลย อย่างไรก็ฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่า จะเป็น ป.ป.ส. และผู้มีอำนาจทุกท่าน ขอบคุณมากครับท่านประธาน สวัสดีครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

พยายามรักษาเวลานะครับ ต่อไปท่านประเสริฐ บุญเรือง เชิญครับ

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายประเสริฐ บุญเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ ๖ ท่านประธานครับ วันนี้ก็ถือว่าขอขอบคุณ คณะ ป.ป.ส. ที่ได้มารายงานการปฏิบัติการการป้องกันปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นปัญหา ระดับชาติ จนรัฐบาลถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ ปัญหาและอุปสรรคที่มันเกิดขึ้นถือว่าหนักหนา สาหัสเอาเรื่องนะครับ ในปัจจุบันนี้ยาเสพติดไม่ว่าทั้งไอซ์ ยาบ้า กัญชา กระท่อม ล้วนทำให้ เกิดปัญหาของสังคม ไม่ต่างกับปัญหาเศรษฐกิจที่มันเกิดขึ้นในปัจจุบัน ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่า เป็นป่าล้อมเมืองหรือเมืองออกสู่ป่า เพราะแทบทุกตรอกซอกซอย ทั้งบ้านนอก ในเมือง มีแต่เภสัชกรที่ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ว่าไปค้ายาทุกตรอกซอกซอย นี่คือเหตุผลที่เกิดขึ้น ทำให้ บ้านเมืองเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงในปัจจุบันในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ในระยะเวลาอันสั้น ในสมัยที่ถูกรัฐประหารท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่พอได้รับรู้ข้อมูลที่มันเกิดขึ้นในสังคมของประเทศไทย ปัญหาหนักหนาสาหัสที่ ป.ป.ส. ป.ป.ส. ก็มีปัญหาในการดำเนินการ เพราะ ป.ป.ส. ก็คือมีเจ้าหน้าที่จำนวนน้อยประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าคนเศษ แต่ว่า ป.ป.ส. ก็ได้รับการสนับสนุนโดย ป.ป.ส. รับรององค์กรก็คือ ให้ตำรวจมาเป็นเจ้าหน้าที่ร่วมในการดำเนินการ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นผู้ร่วมดำเนินการ ปรากฏว่ายาบ้าปัจจุบันนี้จับทีละ Lot ครั้งละ ๑๐-๒๐ ล้านเม็ด เพราะอะไร เพราะว่า ต้นทุนจากสารตั้งต้นอะไรต่าง ๆ ในการผลิตยาบ้านั้นต้นทุนมันต่ำมาก ต้นทุนต่ำมาก แค่เม็ดละ ๕๐ สตางค์ ในตะเข็บชายแดนของประเทศไทยของเรามีโรงงานอยู่ประมาณ ๖๐๐-๑,๐๐๐ โรงงาน ผลิตโรงงานละสี่หมื่น ๆ ท่านคิดว่าเขาจะระบายยาเสพติดไปที่ไหน สิ่งที่เขาระบายออกมามากที่สุดก็คือประเทศไทยของเราที่มันเกิดขึ้น เมื่อเหตุการณ์ มันเกิดขึ้นมาในสังคมปัจจุบันนี้พี่น้องประชาชนก็เห็น ผมฝากกับ ป.ป.ส. ไปบอกว่า เขาถามว่าจับยาแล้วเอาไปที่ไหน ทำไมไม่เห็นทำลาย

นายประเสริฐ บุญเรือง กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ป.ป.ส. ก็ทำลายมาก ดูตามภาพจับยาเสพติดมากมายมหาศาล จับยาแล้วไม่เห็นทำลาย ไม่เหมือนยุคก่อน ๆ ผมบอกว่าถ้าเป็นการประชาสัมพันธ์ ยาเสพติดที่ไปเก็บไว้ในสำนักงาน ป.ป.ส. เอาออกมา ทำลายให้คนเห็น ให้สื่อเขาดำเนินการ ตำรวจเอายามาเวียนเทียนขายไหม นี่คือคำถาม พี่น้องประชาชนถาม แล้วก็เรื่องยัดยากับพี่น้องประชาชนหลายรูปแบบที่มันเกิดขึ้นจาก การดำเนินการหรือการมีส่วนเกี่ยวพันกับ ป.ป.ส. หน่วย ป.ป.ส. ปัจจุบันนี้ผมเข้าใจ และเห็นใจว่าบุคลากรมีจำนวนน้อย แต่ว่ามาตรการต่าง ๆ ของมาตรการที่ดำเนินการที่ ป.ป.ส. ดำเนินการอยู่ ๖ ข้อ ๖ ข้อที่ ป.ป.ส. ได้ดำเนินการก็คือมาตรการป้องกันปราบปราม ปัญหาที่เกิดขึ้นยากนะครับ ยากเพราะอะไร ยากเพราะว่าการหาแนวร่วมของพี่น้อง ประชาชนในการที่จะให้พี่น้องประชาชนมาแจ้งเบาะแสการค้ายาเสพติด ตั้งแต่ ป.ป.ส. ตั้งมานะครับ ปีเมื่อครู่นี้แค่ ๑๖,๐๐๐ ราย เขาไม่กล้าที่จะนำเรื่องอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับ การค้ายาเสพติดมาแจ้ง เพราะว่าแจ้งไปแล้วความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเขา จะมีผลกระทบหรือไม่ แต่ว่าสิ่งที่สำคัญ Slide อีกอันหนึ่งนะครับ ที่เป็น ๖ ข้อขึ้นมา ๕ ข้อ ที่ได้ดำเนินการผ่านมาแล้วนั้น เรื่องมาตรการการปราบปรามยาเสพติด มาตรการต่าง ๆ ก็เห็นเป็นหลักการปฏิบัติธรรมดา ๑ ใน ๕ ข้อ แต่ผมยังขอบคุณ ขอบคุณอะไร ขอบคุณ ท่านรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงยุติธรรม แล้วก็ดูแล ป.ป.ส. ได้ไปออกกฎหมาย พ.ร.บ. ฉบับหนึ่ง พ.ร.บ. ยึดทรัพย์ขึ้นมา คือท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ดำเนินการในปี ๒๕๖๕ ออก พ.ร.บ. ขึ้นมา อยากเรียนให้ท่านประธานและ ป.ป.ส. ทราบว่าคนที่ค้ายาเสพติด เขาไม่ได้กลัวเรื่องคุกเรื่องตะราง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเขากลัวเรื่องของการยึดทรัพย์ ยึดทรัพย์เข้ามาแล้วประกาศให้คนรับรู้ ถ้าเกิดการยึดทรัพย์ขึ้นมา ผมบอกว่าเขากลัวเรื่องนี้ มากกว่า เพราะว่าทรัพย์สินที่เขาไปทำมาค้าขายเกี่ยวกับค้ายาเสพติดขึ้นมา ปีหนึ่งเราต้องใช้ งบประมาณอยู่ในงบของบูรณาการทั้งหมด ในงบของบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติด ๗,๐๐๐ ล้านบาท แต่ละปีต้องตั้งงบประมาณ ๗,๐๐๐ ล้านบาท ๗,๐๐๐ ล้านบาทอยู่ในแค่ งบบูรณาการ ไม่ใช่อยู่ในกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นี่สิ่งที่มันเกิดขึ้น ผมว่าต้องปฏิวัติการทำงานทั้งรูปแบบให้ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลไหนมาก็ถือว่าดำเนินการ เรื่องของยาเสพติดถือว่าเป็นปัญหา เป็นภัยร้ายแรง ของสังคม ณ ปัจจุบัน UNODC เขาประเมินเรื่องการค้าขายยาเสพติดจากข้อมูลของ สำนักงานที่อยู่ในประเทศไทย เขาบอกว่าการค้าขายยาเสพติดมีมูลค่าทั้งหมด ๖๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ถ้าเอา ๓๕ ไปคูณเท่ากับว่ามีการค้าขายในจำนวน วงเงิน ๒.๑ ล้านล้านบาท ตะเข็บชายแดนแถวสามเหลี่ยมทองคำ ขออนุญาตท่านประธานแป๊บหนึ่ง ผมเป็น Thyroid ท่านประธานโปรดเข้าใจ แล้ว ๖๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ๒.๑ ล้านล้านบาท ที่เกี่ยวกับเงินธุรกิจค้าขายยาเสพติด ที่จับได้ ป.ป.ส. ทำงานก็ถือว่าสุดยอดนะครับ แต่ว่าสิ่งที่ ๑ ใน ๑๐ นั่นคือจับได้ อีก ๙ ส่วนไปไหน มันก็อยู่แถวของเรานี่ อยู่แถวสังคมของเรา เราถึงได้เกิดเหตุการณ์อะไรต่าง ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ปิตุฆาต ฆ่า ข่มขืน เดี๋ยวนี้ ถ้ามองดู บ้านท่านประธานเข้าไปดูนะครับ เข้าไปดูว่าเดี๋ยวนี้จะเห็นคนบ้า จะเห็นคนบ้า ถือค้อน ถือมีด ถืออะไรต่าง ๆ เดินอยู่ตามถนนหนทาง ฉะนั้นวิธีการดำเนินการผมเลย ขอแนะนำกับ ป.ป.ส. ว่าวิธีการดำเนินการที่เราจะทำแล้วให้เกิดความชัดเจนเป็นรูปธรรมได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือจัดตั้งหน่วยงานที่บริหารจัดการขึ้นมา ให้กระทรวงสาธารณสุข ให้ทหาร ให้หน่วยงาน สถาบันฝีมือแรงงานเข้ามาดำเนินการ เข้ามาดำเนินการโดยเอาเม็ดเงินมาตั้งไว้ เอาเงินที่ไหน เอาเงิน ๗,๐๐๐ ล้านบาทตรงนี้มาตั้งไว้กับหน่วยงานอื่น ๆ มาแก้ไขปัญหา เรื่องยาเสพติด ไปตั้งสำนักงาน อย่าเอาไปให้มันเป็นงูกินหาง งูกินหางแบบไหน เอาไปขังคุก ขังคุกออกมา จากผู้เสพนะครับ จากผู้เสพถือว่าเป็นผู้ป่วย ออกมาปุ๊บเป็นผู้ค้าเลย เอาออกมา แล้วมาเป็นผู้ค้า ดังนั้นเราต้องทำเรื่องที่มันให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สมมติว่าอยู่ในแต่ละพื้นที่ ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โรงเรียน หรืออะไรต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ สำนักงานจัดทำเป็นศูนย์ฝึก การเรียนรู้ เราอย่าไปพูดว่าศูนย์คุมขังก็แล้วกัน ศูนย์การเรียนรู้ เอาสาธารณสุข ส่งเข้าไป ศาลตัดสินแล้วเอาไปอยู่ ๕-๖ เดือน เอาสถาบันฝีมือแรงงาน แล้วก็เอาสาธารณสุข แล้วเอาหมอ เอาอะไรไปต่าง ๆ เอาตำรวจ ทหารเข้าไปดำเนินการ ไปดำเนินการฝึกอบรม คนไหน มีความรู้ความสามารถที่จะฝึกอบรม ส่วนไหนไปได้ให้เขาทำ ใครชอบตัดผมไปตัดผม ใครชอบทำอาหารไปทำอาหาร เรื่องอย่างนี้ แล้วก็ส่งคืนกลับ เมื่อส่งคืนกลับแล้วให้แพทย์ เขาไปประเมินเรื่องจิตวิทยา ส่งคืนให้แก่สังคมของครอบครัว นี่คือฝากไว้แล้ว และสิ่งที่สำคัญ ที่สุดต้องเอาอย่างที่ท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ทำมาแล้วนะครับ ทำมาแล้วเห็นผลอย่างชัดเจน ผมไม่ได้ยอท่าน เพราะว่าแต่ก่อนท่านก็อยู่กับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ว่าเดี๋ยวนี้ท่านก็มาอยู่พรรคเพื่อไทย รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่กำจัดปัญหายาเสพติด ที่พี่น้องประชาชนเชื่อถือและมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยเข้ามาแล้วยาเสพติดต้องหมดไป เรื่องอย่างนี้ก็เลยฝากท่านไว้ว่าไปดำเนินการตรงนี้ข้อมูลต่าง ๆ ระยะเวลาอันน้อยนิดนั้น เกินมา ๒ นาทีแล้ว ผมคุยท่านรองนิยมก็ได้นะครับ เพราะว่าคุ้นเคยกันอยู่ก็สามารถที่จะ ปรึกษาหารือกันได้ นี่ก็คือฝากกันไว้ว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องเอาให้มัน ชัดเจน แน่นอน แล้วต้องเอาคนที่กล้าหาญชาญชัยเข้ามาบริหารดำเนินการจัดการ เพื่อขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่านต่อไป เดี๋ยวขออนุญาตเอ่ยชื่อก่อนนะครับ ขออนุญาตไปที่คุณนิยม วิวรรธนดิฐกุล คนที่ ๑ แล้วก็ท่านที่ ๒ ท่านปิยรัฐ จงเทพ ท่านที่ ๓ ท่านสัญญา นิลสุพรรณ เชิญท่านนิยมครับ

นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล แพร่ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพนะครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นก็คงต้องขออภัยในการอภิปรายในบางครั้งอาจจะมีการทับศัพท์ เป็นภาษาอังกฤษบ้างนะครับ เพราะว่าในเรื่องของสารต่าง ๆ ในบางครั้งเราก็ไม่มี ภาษาไทยอีก ท่านประธานครับ ท่านก็คงจะทราบดีว่าประเทศไทยวันนี้อะไร ๆ ต่าง ๆ มันก็เสรีขึ้นเยอะ กระท่อมเราก็เสรีไปแล้ว เพราะว่าเรามี พ.ร.บ. พืชกระท่อมที่ผ่านสภา เมื่อคราวที่แล้ว ในขณะที่พืชกระท่อมจริง ๆ ก็มีสารที่ออกฤทธิ์เหมือนกับยาบ้าเหมือนกัน ก็คือสาร Mitragynine นะครับ ส่วนกัญชาเราก็เกือบเสรีแล้ว แต่พอดีกฎหมายเราไม่ผ่านเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ประกาศของ กระทรวงสาธารณสุขก็คือปลดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท ๕ ไปแล้ว ทุกวันนี้ ใครจะปลูกกัญชาก็อาจจะเหมือนปลูกต้นพืชต่าง ๆ จะเหมือนกับการปลูกผักอะไรอย่างนี้ ยังไม่มีกฎหมายที่ควบคุม และนอกจากนั้นสุราเราก็เกือบเสรีตอนนี้นะครับ ก็คิดว่าถ้ามี รัฐบาลใหม่พระราชบัญญัติก็อาจจะถูกเปลี่ยนไปเป็นสุราเสรีอีก เรามาดูกันสิว่าทุกวันนี้ที่มัน ระบาดหนัก ๆ ในสังคมไทยจริง ๆ แล้วก็คือกลุ่มของยาบ้า ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Amphetamine ซึ่งมันก็วิวัฒนาการจากยาบ้าก็คือ Amphetamine จากนั้นก็ออกมาเป็น ยาไอซ์ ก็คือ Methamphetamine แค่นั้นยังไม่พอ เดี๋ยวนี้ก็มีการสังเคราะห์สารใหม่ ๆ ขึ้นไปอีก ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่นยาอีซึ่งอาจจะย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า Ecstasy อันนี้ ก็เรียกว่าเป็น MDMA ก็เป็น Amphetamine แล้วอีกอันหนึ่งก็คือยาเลิฟนะครับ MDA ก็เป็น Amphetamine ปรากฏว่าอีก ๒ ตัวที่ว่าก็คือยาอีกับยาเลิฟมันก็จะมีผลที่มากกว่า ยาบ้าชนิดเดิมถึง ๑๐ เท่า มันมีผลทั้งการกระตุ้น แล้วก็การหลอน ส่วนอีกตัวหนึ่งก็อาจจะ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักก็คือยาเค ยาเคนี่จริง ๆ ก็คือ Ketamine รายชื่อการค้าทางการแพทย์ ก็คือยา Ketalar ปกติก็ใช้ฉีด สำหรับให้หมอทำหัตถการต่าง ๆ ที่สั้น ๆ เช่น ผ่าตัด หรือทำ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรอย่างนี้ สุดท้ายยาเคก็เอาไปฉีดในร้านเสริมสวย แล้วก็อาจจะทำให้ ผู้เข้าไปเสริมสวยตาย อันนี้ก็เป็นอีกอันหนึ่งนะครับ ผมดูแล้วเวลาก็ค่อนข้างจะสั้น เราก็ต้อง ยอมรับว่าสถานการณ์ของยาบ้าวันนี้ก็เรียกว่าระบาดเยอะ ราคาถูก ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๓๐ บาท แล้วแต่สถานที่ หาซื้อง่าย ส่วนมาตรการในการป้องกันปราบปราม บำบัด หรือว่า ยึดทรัพย์ ทางฝ่ายผู้มีหน้าที่ก็ทำกันอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วผมมองอีกมุมหนึ่งวันนี้นะครับ ราคาถูกสารตั้งต้นมันหาง่าย มีมาก โรงงานผลิตเดี๋ยวนี้เขาบอกว่าเครื่องผลิตในปัจจุบันนี้ ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ เม็ดต่อชั่วโมง แต่ก่อน ๓,๐๐๐ เม็ด ซึ่งเร็วถึง ๑๐๐ เท่า การขนส่ง ก็รวดเร็ว เดี๋ยวนี้ส่งทางพัสดุภัณฑ์ ถูกด้วยนะครับ ๘๐ บาท แต่ก่อนขนยา ๑ กิโลกรัม ต้องใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาท คราวนี้ผมมีมุมมองที่ว่าทั้งป้องกัน ปราบปราม แล้วก็บำบัด ยึดทรัพย์ มันก็ยังไม่ค่อยได้ผล มันทำให้ยาบ้าระบาดอย่างมากมาย เราไปดูที่สารตั้งต้นดีกว่า มันตั้งต้นมาจากอะไร ก็คือต้นน้ำของมันนั่นเอง เราควรจะต้องแก้ไขที่ตรงจุดนี้ด้วยนะครับ คำว่า สารตั้งต้น นี้คงไม่เหมือนกับการตั้งรัฐบาลที่ว่ามีสารตั้งต้น คนละเรื่อง สารตั้งต้นในที่นี้ ก็คือเป็นพวกสารที่ใช้ในการผลิต ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีการควบคุมตามอนุสัญญา ปี ๑๙๘๘ มีอยู่ ประมาณ ๒๒ รายการ มี Slide ไหมครับ ไม่มีไม่เป็นไรนะครับ ๒๒ รายการส่วนใหญ่ก็จะ เป็นพวกกลุ่ม บางชนิดก็เป็นยาทางการแพทย์ เช่นกลุ่มพวก Ephedrine หรือกลุ่ม Ergotamine อะไรอย่างนี้ มันจะมีเยอะหน่อย อีกกลุ่มหนึ่งก็คือเป็นตารางที่ ๒ ในอนุสัญญานี้นะครับ ก็จะเป็นเคมีภัณฑ์ที่จำเป็นมีประมาณ ๘ ชนิด แต่นอกจากนั้นมันยังมีสารเคมีที่ประเทศไทย ทำการควบคุมนอกเหนือจากยา ๒ กลุ่มนี้ ซึ่งตัวหนึ่งที่จะเน้นย้ำแล้วก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตัวนี้ที่สำคัญก็คือ Sodium Cyanide นะครับ ทำไม Sodium Cyanide ตอนนี้สั่งนำเข้า และส่งขายต่างประเทศได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทราบว่าปีที่แล้วข้อมูลของ ป.ป.ส. บอกว่า สั่งนำเข้าถึง ๑,๑๕๐ ตัน แต่ส่งไปที่ประเทศเมียนมาถึง ๘๑๐ ตัน ใช้ในประเทศเพียง ๓๑๐ ตันเท่านั้น ก็แสดงว่าสารตั้งต้นชนิดใหม่นี้ก็คือ Sodium Cyanide ก็ได้ถูกส่งออกไปยัง ประเทศเมียนมาค่อนข้างจะเยอะ เพราะฉะนั้นดั้งเดิมสารตั้งต้นเรามักจะใช้ Pseudoephedrine ซึ่งมันมีโครงสร้างทางโมเลกุลคล้ายกัน นำไปทำเป็นยาบ้าได้ง่ายกว่านะครับ แต่ปัจจุบันนี้ Sodium Cyanide กลายเป็นสารตั้งต้นชนิดใหม่ที่ราคาถูกมาก แล้วก็ผลิตได้เยอะ เขาบอกว่า ที่ส่งไป ๘๑๐ ตันสามารถจะผลิตยาบ้าได้ถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านเม็ด เพราะว่า ๑ กิโลกรัมผลิตได้ ๒๒,๐๐๐ เม็ด ราคาก็ถูกมาก อันนี้ก็คือสารตั้งต้นหาง่าย ราคาถูก แล้วส่งออกจากประเทศไทย แล้วเราจะมีมาตรการควบคุมสารตั้งต้นก็คือ Sodium Cyanide นี้อย่างไรนะครับ อันนี้ก็คง จะต้องฝากไปทาง ป.ป.ส. และกรมโรงงาน เพราะว่าจริง ๆ แล้ว Sodium Cyanide จะใช้ใน เหมืองแร่เป็นส่วนใหญ่ อันนี้ก็คือมุมมองที่ว่าเราจะต้องจัดการที่ต้นน้ำก่อน ซึ่งเป็นต้นตอ ของยาบ้า ซึ่งมันรั่วไหล แล้วก็ลักลอบไปสู่ผู้ผลิต ถ้าหากเราควบคุมตรงจุดนี้ได้มันก็อาจจะ ช่วยลดปริมาณยาบ้า และนอกจากนั้นราคาของยาบ้าก็จะต้องสูงขึ้นเนื่องจากไม่มีสารตั้งต้น เดิมเราใช้ Pseudoephedrine แต่ปัจจุบันเราใช้ Sodium Cyanide ซึ่งราคาถูกและใช้ใน โรงงานอุตสาหกรรม ใช้ในยาฆ่าแมลง อะไรต่าง ๆ ด้วย แล้วก็เหมืองแร่ ก็ขอฝากไปทาง ป.ป.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะเข้มงวดการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเรานะครับ ก็ต้อง ขอขอบคุณนะครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปคุณปิยรัฐ จงเทพ ครับ

นายปิยรัฐ จงเทพ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพครับ ผม ปิยรัฐ จงเทพ สมาชิกผู้แทนราษฎร เขตบางนา พระโขนง กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกลครับ กรณีรายงานของ ป.ป.ส. ในครั้งนี้เราจะชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องปัญหา ยาเสพติด หลายท่านได้พูดไปแล้วว่าปัญหายาเสพติดนั้นเป็นปัญหาใหญ่หลวงสำหรับประเทศไทย ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรามีผู้ต้องขังหรือจำนวนนักโทษในเรือนจำที่มี การจับกุมไปเป็นจำนวนนับแสนราย โดยมีงบประมาณที่ทาง ป.ป.ส. ได้มีการใช้จ่ายรายปีไป นับ ๓,๑๒๘ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา โดยเป็นงบปราบปรามยาเสพติดถึง ๔๖ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๑,๔๓๘ ล้านบาท ซึ่งงบประมาณมูลค่านี้ยังมีงบในการบำบัดอีก ๒๘๗ ล้านบาท ตีเป็น ๙ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็มีงบการป้องกันอีก ๒๓ เปอร์เซ็นต์ กว่า ๗๑๖ ล้านบาท ฉะนั้นแล้ว แผนป้องกันและปราบปรามของ ป.ป.ส. นี้ถือว่าใช้งบประมาณเป็นส่วนใหญ่ของงบประมาณ ทั้งหมดในการจัดการหรือแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทยนะครับ ซึ่งเมื่อไปดูแผน การป้องกันในเล่มที่ท่านได้นำรายงานมา ในหน้าที่ ๒๐ นี้ เป็นแผนปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๔ ใช้แนวคิดการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนแม่บทย่อย การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง กล่าวคือมุ่งยึดแนวคิดการแก้ไข ปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ซึ่งนี่คือ ข้อความในบทบัญญัติที่ท่านได้ระบุไว้ในแผนปฏิบัติงานนะครับ ซึ่งแน่นอนในนั้นจะมีข้อที่ ๓ ที่ท่านเน้นย้ำว่าเป็นการปราบปรามกลุ่มค้ายาเสพติด โดยมุ่งเน้นการทำลายโครงสร้างการค้ายาเสพติด ย้ำนะครับ การมุ่งเน้นทำลายโครงสร้าง การค้ายาเสพติด ผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปล่อยปละละเลยการทุจริตและเข้าไปมี ส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ผ่านทางการบูรณาการการข่าว การสืบสวน และการใช้ เทคโนโลยี นี่คือสิ่งที่ท่านได้ระบุไว้ในแผนปฏิบัติการ ซึ่งแน่นอนพอไปดูที่ปัญหาที่ผมกำลัง จะชี้ให้เห็นคือจำนวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีในกระบวนการที่ผ่านมานั้น ทั้งที่เป็นผู้ต้องขัง และผู้ต้องโทษในเรือนจำของประเทศไทยนั้นมีกว่า ๒๗๙,๐๐๐ กว่าคน ซึ่งคิดเป็นคดียาเสพติด ๘๑ เปอร์เซ็นต์ คือ ๒๒๗,๐๐๐ คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งประเทศ ๒๗๐,๐๐๐ คน คิดเป็น เปอร์เซ็นต์กว่า ๘๑ เปอร์เซ็นต์นั้น คิดเป็นผู้เสพรายใหม่ ๑๒๑,๖๔๑ คน คิดเป็นผู้กระทำผิด ซ้ำซากจากจำนวนนี้ถึง ๖,๐๓๔ คน แสดงว่ามีผู้กระทำผิดรายใหม่ ๑๒๐,๐๐๐ กว่าคน ในแต่ละปี โดยล่าสุดนี้เป็นสถิติในปี ๒๕๖๔ มีผู้เข้าบำบัด ซึ่งไม่เกี่ยวกับผู้ต้องโทษ ผู้บำบัด แยกไปต่างหากอีก ๑๕๕,๐๐๐ กว่าราย ในปี ๒๕๖๔ นี้ สิ่งที่ผมอยากจะสอบถามไปทาง ป.ป.ส. ผ่านท่านประธานว่า ท่านทราบหรือไม่ว่าในแผนป้องกันของท่านนั้นที่เกี่ยวกับ เรื่องของการทำลายโครงสร้างการค้ายาเสพติดนั้น สิ่งที่น่ากังวลที่สุดที่สำคัญและไม่มี ในรายงานของท่านคือการที่เครือข่ายยาเสพติดที่อยู่ภายในเรือนจำนั่นละ จำนวนคนที่มี ส่วนเกี่ยวข้องทั้งโทษทางตรงคือมีผู้ค้าและผู้เสพนั้น และผู้ที่กระทำผิดทางอาญาที่มีผลจาก ยาเสพติดนั้นไปรวมตัวกันอยู่ที่เรือนจำของประเทศไทย ที่ผมกล้าพูดอย่างนี้นะครับ ผมมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาดูงาน เพราะศาลไม่ให้ประกันตัวบ้าง ฝากขังผมบ้าง อยู่หลายรอบ หลายครั้ง ก็ถือโอกาสศึกษาดูงาน เพราะเรียกร้องประชาธิปไตยไปในตัวด้วย ก็ได้รับทราบว่า ผู้ต้องขังและนักโทษในเรือนจำนั้นส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดและเขามีเครือข่ายในการขยาย เครือข่ายของพวกเขา และที่สำคัญขออนุญาตเอ่ยชื่อ ท่านประเสริฐ บุญเรือง ได้พูดไว้แล้วว่า ผู้ค้ายาเสพติดทั้งหลายนั้นเขาไม่ได้เกรงกลัวต่อการติดคุก ฉะนั้นการติดคุกของเขาก็คือ การเข้าไปแลกเปลี่ยน Connection การเข้าไปสร้างเครือข่าย ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าทุก คนที่ถูกจับติดคุกนั้นออกมาแล้วจะมาค้ายาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง หรือจะมาทำธุรกิจเกี่ยวกับยา เสพติด แต่ผมกำลังบอกว่านั่นคือการเพิ่มโอกาสในการขยายการกระทำผิดในเรื่องยาเสพติด ที่สำคัญก็คือว่าพอผมได้มีการสอบถามว่าถ้าคุณออกมาแล้วทำไมคุณถึงกลับเข้ามา อีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่เขาตอบผมคือเขาไม่มีโอกาสในการกลับตัวกลับใจ หมายความว่าเมื่อมี ความด่างพร้อย มีคดีความติดตัว และพ้นโทษออกไปนั้น แม้จะมีใบปลดจากการเป็นนักโทษ หรือผู้ต้องโทษแล้ว หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนไม่สามารถที่จะรับรองการทำงานของ พวกเขาได้ เนื่องจากว่าเป็นผู้ต้องโทษคดียาเสพติด ไม่มีหน่วยงานไหนรับพวกเขาเข้าทำงาน ทำให้พวกเขาต้องกลับไปวนเวียนอยู่ในธุรกิจหรืออาชีพในลักษณะเดิมที่เคยเป็นมานะครับ นั่นก็ไม่จบไม่สิ้นในเรื่องปัญหายาเสพติด ที่สำคัญคือมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจากผู้เสพกลายเป็น ผู้ค้า จากผู้ค้ากลายเป็นผู้ค้ารายใหญ่ นั่นคือแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ดังนั้นผมจึงขอฝาก ท่านรองเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ได้มาตอบในวันนี้ว่า อยากจะให้มีการศึกษาแผนการรับรอง การส่งคืนผู้พ้นโทษคุมขังคดียาเสพติดกลับคืนสู่สังคม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคม และให้พวกเขาได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ รวมถึงแผนการที่จะเข้าไปดูแลกำกับ ในการดำเนินการด้านการข่าวในเรือนจำ หากมีการขยายเครือข่ายกันเกิดขึ้น สำหรับข้อมูล ทั้งหมดที่ผมมีการสอบถามเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านสัญญา นิลสุพรรณ แล้วก็ตามด้วยท่านจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล นะครับ

นายสัญญา นิลสุพรรณ นครสวรรค์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม นายสัญญา นิลสุพรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ เขต ๓ พรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านประธานครับ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสอภิปราย เกี่ยวกับเรื่องของ ป.ป.ส. ซึ่งจากที่ผมฟังเพื่อนสมาชิกได้อภิปรายกันมาหลายท่าน หลายประเด็นซ้ำกัน ผมคงจะไม่ไปอภิปรายซ้ำ แล้วก็คิดว่าทาง ป.ป.ส. ได้รับฟัง แล้วก็น่าจะ ได้นำไปปฏิบัติได้อย่างดีแล้ว แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากจะเสริมประเด็นก็คงจะน้อยลง สิ่งที่ผม ได้เห็นในรายงานแล้วก็เห็นว่าในข้อ ๓.๓ ผมคงจะมุ่งเน้นไปเรื่องของมาตรการการป้องกัน ยาเสพติด เพราะทุก ๆ หน่วยงานที่เราได้ฟังมาก็คงทราบอยู่แล้วว่าเราเต็มที่กับการกวดขัน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเต็มที่ แต่เป็นปัญหาใหญ่มากจริง ๆ ไม่ใช่วาระแห่งชาติอย่างเดียว เป็นวาระของโลกด้วยซ้ำไป แล้วก็สั่งสมมานานหลายปี หลายปัญหาก็ได้นำมาถกเถียง แล้วก็พยายามแก้ไขกัน แต่สิ่งที่ผมอยากจะฝากไปนะครับ หลายมาตรการเราทำจากใหญ่มาเล็กตลอด สิ่งที่ผมอยากจะฝากคืออยากจะให้เราเริ่มจาก เล็กไปใหญ่ดูบ้าง ในเรื่องของการป้องกันนี้ เราดูจากครอบครัวเรา เราเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ผมเองลงพื้นที่จะพบเห็นปัญหา เกือบทุกครั้งที่ลงมีพ่อแม่พี่น้องมาปรึกษาว่า ลูกหลานติดยาเสพติด ไม่รู้จะทำอย่างไร บำบัดมาก็เหมือนเดิม ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ได้รับ การประสานงานแล้วก็นำไปดูแลต่อ อันนี้ก็ต้องขอบคุณ แต่ผมอยากจะให้มองเรื่องของ เด็กแล้วตอนนี้ วันนี้ผู้ใหญ่เอง OK เราแก้ไขไป เราก็พูดเองเขาก็ฟังเราบ้าง แต่ส่วนใหญ่ เขาก็จะมีความคิดเป็นของตัวเองนะครับ แต่สิ่งที่เราก็ต้องสร้างต้นกล้าที่มีคุณภาพขึ้นมา ก็คือเด็กระดับกำลังโตเลย ตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา ผมอยากจะให้ทาง ป.ป.ส. เข้าไป มีส่วนในเรื่องของการให้ความสำคัญ ให้ความรู้ถึงโทษ ยาเสพติดบางอย่างก็มีคุณ อย่างเช่น กัญชา กระท่อม ที่เราได้อภิปรายกัน ก็ให้เขาเห็นทั้ง ๒ ด้านว่าด้านไหนเป็นคุณ ด้านไหน เป็นโทษ ยาเสพติดประเภทไหนที่เราโตขึ้นมาแล้ว ถ้าเราไปยุ่งเกี่ยวกับมันแล้วจะทำให้ ครอบครัว สิ่งต่าง ๆ ในชีวิตเราจะเปลี่ยนไปแบบไหน บางคนเรียนดีขึ้นมา พอเข้าช่วงสู่วัยรุ่น เจอเพื่อนชักชวนหลงทางไปเสียคน อันนี้ผมอยากจะฝากไปว่าเราอาจจะบูรณาการร่วมกันเลย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์เอง ในการที่ร่วมกันป้องกันเยาวชนที่จะโตขึ้นมา เราคงต้องเริ่ม ตรงนี้ให้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหลังจากผู้ที่เสพไปแล้ว ชื่อก็บอก อยู่แล้วยาเสพติด เสพไปแล้วอย่างไรก็ติด ติดแล้วก็เลิกยาก เลิกมาแล้วก็ปัญหาตามมาอีก ไม่รู้เท่าไร ครอบครัวสูญเสียกันมากมาย เรามาเริ่มสร้างต้นกล้าที่จะเติบโตขึ้นมาในสังคมกัน ดีไหมครับ อยากให้ทาง ป.ป.ส. ท่านมีงบประมาณในส่วนนี้ในการที่จะมาช่วยกันป้องกัน ผมคิดว่าส่งเสริมไปเลยในเรื่องการศึกษา เรามาทำให้ต้นกล้าที่เติบโตขึ้นมาแข็งแรง วันพรุ่งนี้เอง ผมก็เรียนเลยว่าวันกำนันผู้ใหญ่บ้านก็มีการแข่งขันกีฬากัน ทุกหมู่บ้านแข่งขันกีฬาต้านภัย ยาเสพติด เราลงพื้นที่กันท่านสมาชิกทุกคนก็เห็นอยู่แล้ว ผมว่าเราแทบจะทุกคนเห็นด้วย ในเรื่องนี้กันเรื่องปัญหายาเสพติด ประเด็นผมก็คงจะพูดสั้น ๆ แล้วก็เน้นแค่เรื่องนี้ ฝากไว้ให้ท่าน ได้นำไปพิจารณาในเรื่องของมาตรการป้องกันในอนาคตในปีต่อ ๆ ไป ฝากทางสำนักงาน ป.ป.ส. ไว้เท่านี้ครับ ขอบคุณท่านประธานครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล เชิญครับ

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สุโขทัย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต ๔ ในฐานะ สมาชิกรัฐสภา ท่านประธานครับ ท่าน สส. ทรงเกียรติหลาย ๆ ท่านได้อภิปรายก็คงจะ ซ้ำกันพอสมควรนะครับ วันนี้เรามาอภิปรายเรื่องผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดคือ ป.ป.ส. นั้น ผมขอชื่นชมที่ผ่านมานั้น ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่วันนี้ยาเสพติดเป็นภัยมหันต์ของประเทศ จะให้แต่สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นสำนักงานเดียวในการดูแลควบคุมนั้น เป็นไปไม่ได้ ประเทศไทยคือบ้านหลังหนึ่งของคนไทย สิ่งที่ต้องทำบูรณาการไปพร้อมกันก็คือ ๖ ขั้นตอน ขอแผ่น Slide ด้วยครับ

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สุโขทัย ต้นฉบับ

ที่กระทรวงยุติธรรมโดยเฉพาะ ฯพณฯ สมศักดิ์ได้กำหนดไว้ ๑. การป้องกัน การป้องกันนั้นคือทำอย่างไรให้ยาเสพติด ไม่เข้าประเทศ ทำให้ยาเสพติดนั้นไม่กระจายสู่พื้นที่ของประเทศไทย ไม่ให้เยาวชน เด็ก วัยรุ่นได้สัมผัสกับยาเสพติดให้มากที่สุด ทำอย่างไรครับ วันนี้หน่วยงานที่เห็น ๆ อยู่ ในการปราบปรามยาติดนั้นคงไม่พ้นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แล้วก็ทหารตามชายแดน แล้วก็ตำรวจในพื้นที่ ตราบใดยังไม่มีความเข้มแข็งและเข้มข้น ในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน สถานศึกษา จนถึงครอบครัว ท่านประธานครับ วันนี้ยาเสพติดจะเบิกบานมากกว่านี้ตลอดไป การป้องกันสำคัญที่สุดคือถ้าหากว่า เราสามารถทำให้คนในครอบครัวนั้นไม่ติดยา ในสถานศึกษาให้ความรู้ ตลอดจนสังคม ช่วยกันดูแล เมื่อไม่มีคนเสพถามว่าอยากจะขายได้มากไหม เป็นเรื่องแปลกวันนี้ยิ่งปราบ ยิ่งเยอะ ยิ่งขายยิ่งมีเยอะ ยิ่งถูก แล้วก็มาตรการรัฐผู้เสพเพิ่มจาก ๒ เม็ดเป็น ๑๕ เม็ด เป็นที่งงของผู้นำท้องที่ท้องถิ่นที่จะจับกุม ผมถึงฝากไปว่าการป้องกันเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อป้องกันไม่ไหว ทะลักเข้ามาก็ต้องปราบปราม ฯพณฯ สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ตัดสินใจ ลงมาตรการยึดทรัพย์ ๓ ชั่วโคตร จากเราขึ้นไปอีก ๓ ตายาย จากเราลงไปลูกหลาน ที่เกี่ยวข้องในทรัพย์สินกับยาเสพติด ทำให้ตัดตอนในเรื่องเส้นทางการเงินนั้นลดน้อยลง ตลอดจนที่พักยาน้อยลงเพราะกลัว อย่างที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติว่าวันนี้ผู้ค้ายา ไม่ได้กลัวการจับยาแต่กลัวถูกยึดทรัพย์ อันนี้เป็นเรื่องถูกต้อง เมื่อปราบปรามแล้ว ได้คนมาแล้ว เราก็ต้องมาบำบัดให้กลับไปเป็นคนในสังคมที่ดี แต่ที่ผ่านมานั้นหน่วยงาน ที่รับผิดชอบในการบำบัดนั้นคือกระทรวงยุติธรรมมีหน่วยหรือศูนย์ที่จะบำบัดนั้นน้อยมากครับ ทำให้การต่อเนื่องในการที่จะพาผู้บำบัดไปศูนย์ที่จะรักษานั้นเดินทางมีค่าใช้จ่ายสูง จึงทำให้ การบำบัดไม่ต่อเนื่อง แล้วก็กลับมาเสพยาอีก อีกทั้งเมื่อบำบัดเสร็จแล้วไม่ได้กลับมาติดตาม ประเมินผลว่าคนเหล่านั้นเลิกยาจริงหรือไม่ คนเหล่านั้นมีรายได้หรือไม่ คนเหล่านั้นเขาทำมาหากิน ถูกต้องสุจริต และอยู่ในสังคมนั้นได้หรือไม่ ออกมาแล้วปล่อยแล้วปล่อยเลย สิ่งเหล่านี้ ฝากไปว่าเราต้องหาวิธีการให้เขาฝึกอาชีพให้มีรายได้จนได้ จนเขาสามารถเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้ เขาก็จะหลุดพ้นจากยาเสพติด อันนี้ฝากไปที่สำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่าเราต้องหางบประมาณตรงนี้ สื่อไปถึงกระทรวง สาธารณสุขว่าเมื่อบำบัดแล้วต้องดูแลต่อ

นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สุโขทัย ต้นฉบับ

มาตรการต่อไป ก็คือเมื่อปราบปรามแล้วมันรุนแรง เราต้องมาใช้การยึดทรัพย์ เพื่อตัดตอนผู้ค้ารายใหญ่ ตลอดจนผู้ผลิตไม่ให้มีสายทางการเงินและการพักยาในส่วนต่าง ๆ เพราะกลัวการยึดเงิน อันนี้เป็นสิ่งสำคัญทำให้ทรัพย์ที่กลับคืนมาใช้ประโยชน์ในการบำบัด ผู้ที่ติดยา ๒๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ที่ทางกระทรวงยุติธรรมแล้วก็ทางสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้กลับคืนมา ๒๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท อันนี้ชื่นชมว่า เป็นผลงานที่ดีนะครับ การทำงานนั้นไม่ให้ทำงานแต่ในประเทศไทย ยานั้นพูดง่าย ๆ ว่ามีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ที่เราผลิตเอง มันมาจากต่างประเทศข้าง ๆ บ้านเราที่ริมโขง สามเหลี่ยมทองคำ เราต้องมี สัมพันธ์ไมตรีกับต่างประเทศ ไปพูดคุยกันว่ามาตรการนี้เราจะทำอย่างไรที่จะให้ยาหมดไป ท่านประธานครับ วันนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีบุคลากรน้อย ประมวลกฎหมายต่าง ๆ ที่ทำมา ๒ ปีนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เข้าใจในการใช้ หน่วยงานยังไม่เข้าใจในการใช้ อยากให้ไปนำประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เอามาใช้ ๒ ปี ที่ผ่านมานั้นไปทบทวนแก้ไขให้สอดคล้องกับปัญหาจริง จะได้สอดคล้องแล้วก็มีความคล่องตัว โดยเฉพาะในเรือนจำทุกวันนี้ ๘๕ เปอร์เซ็นต์นั้น ท่านประธานครับ เป็นผู้ติดยาเสพติด ผิดทางด้านยาเสพติดทั้งนั้น ขั้นตอนในการดำเนินคดีนั้นต้องไปรอการสอบสวนของตำรวจ ผมอยากเพิ่มเสรีภาพให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ให้มีอำนาจในการสอบสวน และที่สำคัญวันนี้ ศาลเราตั้งมามากมาย ศาลอาญา ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาเยอะแยะ อยากให้ตั้งอีกศาลหนึ่ง ศาลยาเสพติด เอาไว้เฉพาะในการพิจารณาเรื่องยาเสพติด มีขั้นตอนโดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. นั้นเป็นผู้สอบสวน ไม่ต้องรอตำรวจ เรามีเทคโนโลยี แต่เราทำเทคโนโลยีไม่ทันผู้ค้ายา ทำไม เราไม่ทำเครื่องเอกซเรย์คร่อมถนนตามสายทางต่าง ๆ ที่สายหลัก อย่างน้อยก็ปรามว่าวิ่งผ่าน ตรงนี้มีข้อสังเกต มีข้อมูลที่จะ Run ไปให้เจ้าหน้าที่ข้างหน้ารู้ว่ารถคันนี้มียาเสพติด ไม่ใช่ตั้งด่าน ทีละคันแล้วก็ตรวจ อันนี้โบราณมากครับ ก็ฝากไปที่ ป.ป.ส. ว่างบประมาณต่าง ๆ ผมคิดว่า สมาชิกสภาในที่นี้ถ้าท่านสามารถจะดำเนินงานเรื่องอุโมงค์เอกซเรย์ให้กับยาเสพติดตัวนี้ จับกุมยาเสพติดได้ผมว่าเป็นเรื่องดีให้ทันสมัย วันนี้ต้องกราบเรียนว่าเรามียาเสพติดเป็นปัญหา ใหญ่หลวง เพราะประเทศชาติเรายังเดินไม่ได้ ถ้าช้ากว่านี้จะย่ำแย่ โดยเฉพาะปัญหาใหญ่กว่า ยาเสพติดคือปัญหาตั้งรัฐบาล ไม่มีนายกรัฐมนตรี ถ้าหากวันนี้ท่านยังเล่นเกมการเมืองไม่จบสิ้น ทำให้การตั้งนายกรัฐมนตรีและการมีนายกรัฐมนตรีช้าไปประเทศชาติจะล่มจม แล้วก็ยาเสพติด จะเบิกบาน ก็ฝากไปที่ทั้งหน่วยงานแล้วก็ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ทุกท่านว่าเดินหน้ากันเถอะครับ ลูกหลานเราจะติดยากันหมดแล้ว ลูกหลานเราจะตายกัน หมดแล้ว แล้วก็ฝากไปถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดว่า กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย แล้วก็กระทรวงยุติธรรมเป็นหลัก ก็กราบเรียนท่าน ประธานว่าเป็นกำลังใจให้กับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดและหน่วยงานที่กระทรวงยุติธรรมให้ดำเนินการตรงนี้ให้สำเร็จ แล้วก็ทำงานอย่างเข้มแข็งครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ผมจะอ่านรายชื่ออีก ๓ ท่านต่อไปนะครับ ท่านที่ ๑ ท่านเฉลิมพงศ์ แสงดี ท่านที่ ๒ ท่านวิรัช พิมพะนิตย์ แล้วท่านที่ ๓ ท่านปรเมษฐ์ จินา เชิญท่านเฉลิมพงศ์ครับ

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม เฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกล ยกเกาะครับ ผมต้องขอขอบคุณท่านประธานที่เปิดโอกาสให้ผมได้ร่วมอภิปรายนะครับ รับทราบรายงาน ผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ เท่าที่ผมได้ศึกษารายงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผมต้องขอชื่นชมที่ท่านได้รายงานแผน การปฏิบัติงานการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมถึงสถานการณ์ยาเสพติด ในปี ๒๕๖๔ ในประเทศไทย รูปเล่มรายงานสวยงามสีส้มนะครับ เนื่องจากกฎหมาย กำหนดให้ต้องมีการรายงานใช้อำนาจต่อสภาผู้แทนราษฎร รายงานฉบับนี้จึงเป็นรายงาน เฉพาะการใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่ทำหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็น การรวบรวม ประมวล สังเคราะห์รายงานการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทั่วประเทศ แต่ท่านประธานครับ เนื่องจากเป็นรายงานภาพรวมจึงเป็นที่น่าเสียดายว่า ทำให้สภาแห่งนี้อาจไม่ได้รับข้อมูลบางเรื่อง เช่น สถิติการจับกุม การครอบครอง การบำบัด ในส่วนภูมิภาคต่าง ๆ หรือในจังหวัดต่าง ๆ หากในปีต่อไปท่านจะสามารถรวบรวมข้อมูลสถิติ เหล่านี้ไว้ในรายงาน จะทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับทราบสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ของตัวเอง เพราะว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สำคัญในทุกพื้นที่ ท่านประธานครับ โดยเฉพาะ ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ หากเราไม่สามารถจัดการปัญหายาเสพติดได้ โดยเด็ดขาด นอกจากกระทบกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน เยาวชนชาวไทยแล้ว อาจยังกระทบ ต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ผมได้ทราบข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๕ ถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ จังหวัดภูเก็ตมีสถิติ การจับกุมยาเสพติดทั้งหมด ๒,๐๐๙ คดี เป็นคดียาบ้า ๑,๕๐๕ คดี คดียาไอซ์ ๔๗๒ คดี คดีเฮโรอีน ๑๓ คดี พอลองดูไปในรายละเอียดเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ พบว่ายาไอซ์คดีจำหน่าย ๓ คดี ผู้ต้องหา ๔ คน ครอบครองเพื่อเสพ ๑๒ คดี ผู้ต้องหา ๑๒ คน จำหน่ายยาบ้า จำหน่าย ๑๗ คดี ผู้ต้องหา ๑๗ คน ครอบครองเพื่อเสพ ๓๙๘ คดี ผู้ต้องหา ๔๐๔ คน คดียาเสพติด ๕๕ คดี ผู้ต้องหา ๕ คน ครอบครองเพื่อจำหน่าย ๑๙ คดี ผู้ต้องหาอีก ๒๗ ราย ส่วนใหญ่จับได้แต่ผู้เสพ แต่ผู้ค้าไม่สามารถจับได้เลยหรือจับได้น้อย อันนี้เป็นตัวเลขนะครับ ท่านประธาน แต่สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่บนเกาะภูเก็ตที่ผมเคยหารือไปแล้วว่า เป็นแหล่งจำหน่ายขนาดใหญ่ในพื้นที่ ยืนขายเกลื่อนริมถนนไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่อย่างใด ให้เด็กเล็กวิ่งส่งยาหรือวิ่งนำยาไปให้ผู้เสพ เวลามีการจับกุมก็จับได้เฉพาะผู้เสพ หรือให้รายย่อย ๆ แต่ไม่ได้จับถึงรายใหญ่ในพื้นที่ เดี๋ยวผมมี Clip Slide ให้ท่านประธาน ได้ทราบนะครับ ขอ Clip ครับ

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ภูเก็ต ต้นฉบับ

นี่คือ Clip การยืนขายอยู่ริมถนนที่ตำบลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต หมู่บ้านนั้นเป็นหมู่บ้านชาวไทยใหม่ จะยืนขายกับริมถนน จะเห็นผู้ขายเดินข้ามถนน มาส่งยาเสพติดให้กับผู้เสพ แล้วก็เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมทันที แต่จับกุมได้แต่ผู้เสพ ทำไมผู้ค้า ไม่ไปจับ ปล่อยให้มีการยืนขายกันอยู่ริมถนนอยู่ได้ จะให้เป็น OTOP ของตำบลเลยหรืออย่างไร อันนี้ Clip แรกจะเห็นได้ชัด แล้วขอ Clip ที่ ๒ ครับ การจับกุมในพื้นที่ชุมชนเสี่ยงต่ออันตราย ของพ่อแม่ พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยการจับกุมไล่ล่าระโหด แต่เมื่อจับกุมได้ ตรวจค้นมียาบ้า พบยาบ้าอยู่ ๒ เม็ด ดูการจับกุมครับ เห็นไหมเป็นพื้นที่ชุมชนอันตราย ต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ประชาชนก็ฝากมาว่าเขาหวาดระแวงในการใช้รถใช้ถนนว่า จะมีการจับกุมกันเมื่อไร ทำให้ประชาชนเกิดอันตรายได้ นี่คือ ๒ คลิป ผมขอฝาก ท่านประธานไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส. นะครับ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและ เยาวชนของเราไปมากกว่านี้ ขอให้ท่านได้ช่วยชี้แจงว่าจังหวัดภูเก็ตหรือในเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ท่านมีสถานการณ์เพิ่มเติมหรือมีแผนดำเนินงานอย่างไรในพื้นที่พิเศษอย่างนี้ในปีต่อ ๆ ไป ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านปรเมษฐ์ จินา อยู่ไหมครับ ถ้ายังไม่พร้อม ก็เชิญท่านวิรัช พิมพะนิตย์ ครับ

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ท่านประธานประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระผม นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากจังหวัดกาฬสินธุ์ ต้องกราบเรียนว่าขอบคุณ ป.ป.ส. ที่ปราบปรามยาเสพติด และขอบคุณ ลามไปถึงตำรวจ ป.ป.ส. แล้วก็ ศอ.ปส. ของกระทรวงมหาดไทย วันนี้เราต้องยอมรับว่าวิกฤติ ของยาบ้าเป็นยาเสพติดที่ระบาดมากที่สุดในประเทศไทย มีการลำเลียงจากต่างประเทศ จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีการลำเลียงผ่านจังหวัด กาฬสินธุ์ทั้งจากฝั่งสามเหลี่ยมทองคำแล้วก็จากฝั่งลาว ผมกราบเรียนว่าวันนี้สถิติการจับกุม ก็น่าพอใจอยู่ เพราะเห็นบอกว่าจับได้ทั้งหมด ๓๓๗,๑๘๖ คดี เป็นยาบ้า ๕๕๕.๗ ล้านเม็ด ยาไอซ์ ๒๖,๖๖๒ กิโลกรัม เฮโรอีน ๔,๕๒๐ กิโลกรัม Ketamine ๑,๓๕๐ กิโลกรัม โคเคน ๔๕ กิโลกรัม Ecstasy ๔๔๗,๒๑๓ เม็ด และกัญชา ๔๑,๕๗๓ กิโลกรัม ที่ต้องเอาสถิติมาให้ดู ผมว่ามันไม่ถึง ๕ เปอร์เซ็นต์ของที่มันหลุดรอดเข้าประเทศไทย ผมจึงกราบเรียนว่าวันนี้ เราปราบปรามยาเสพติด ผมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่นะครับ แต่วันนี้นโยบายหลัก ๆ ของประเทศ โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรีครองอำนาจมา ๘-๙ ปีมีอำนาจเต็ม ผมบอกว่าวันนี้ทุกอย่าง แพงขึ้นหมด ในรัฐบาลนี้ มียาบ้าถูกที่สุด จากเม็ดละ ๓๐๐ บาท เหลือเม็ดละ ๒๐ บาท แต่เป็นความถูกที่ไม่มีใครอยากได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจึงกราบเรียนท่านประธานที่เคารพว่า ถึงเวลาหรือยังที่เราจะปราบให้จริง ๆ จัง ๆ สมัยนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๓ ขออนุญาตที่เอ่ยชื่อ พันตำรวจโท ดอกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร ทำ มอเตอร์ไซค์อยู่ใต้ถุนบ้านจอดเสียบกุญแจไว้ ยังไม่หาย เดี๋ยวนี้เอาถังแก๊สขึ้นไว้ล่าม ๘๘ โซ่มันยังหายอยู่เลย เพราะฉะนั้นวันนี้ถึงเวลาหรือยัง ที่จะต้องทำ ผมว่าวันนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง รัฐบาลปราบยาบ้าไม่ได้ แล้วประชาชน คนไทย เด็กนักเรียน เด็กที่อยู่ตามหมู่บ้าน จังหวัดผมมีผู้วิกลจริตจากยาบ้า ๒๘,๖๖๒ คน ผมบอกว่า วันนี้คน ๑ ล้านคนป่วยทางจิตไป ๒๖,๐๐๐ คน ผมว่ามากเกินไปแล้ว เดี๋ยวนี้ ป.ป.ส. วันนี้ อย่าเอาแบบปราบปรามอย่างเดียวเลยครับ ช่วยป้องกันด้วย เด็ก ๆ เดี๋ยวนี้ตามหมู่บ้าน ติดยาเสพติดค่อนข้างมาก มากถึงมากที่สุด จนผมเองเดินออกไปหาเสียงตามบ้านนอก มี ๑ คนวิ่งมากอด ผมก็ดีใจที่เขากอดผม แต่มันเสื้อไม่ใส่ แล้วถือมีดมาด้วย ผมก็เสียว ๆ ในชีวิตเหมือนกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ผมกราบเรียนท่านประธานที่เคารพว่าเรือนจำจังหวัด กาฬสินธุ์มีนักโทษอยู่ประมาณ ๒,๗๐๐ กว่าคน แต่เป็นคดียาเสพติดอยู่ ๒,๒๐๐ กว่าคน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะทำอย่างไรที่จะทำบ้านเมืองให้ดีขึ้น เหมือนที่ ท่าน สส. บอก ที่ท่านพูดก่อนหน้านี้บอกว่าเข้าไปไปเรียนวิชา ไปเรียนเครือข่าย ผมสงสาร เจ้าหน้าที่นะครับ เพราะว่าเจ้าหน้าที่เวลาจับเสร็จปุ๊บก็ต้องส่งตำรวจ ส่งเจ้าพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนบางทีเวลาไปให้การที่ชั้นศาล เขาบอกว่าคุณเดินเข้าไปจับนี่ประตูอยู่ข้างซ้าย หรือไปข้างขวา ข้างขวาหรือข้างซ้าย บางทีมันก็จำไม่ได้หรอก จับมาเป็นวันหนึ่ง ๓-๔ คดี พอบอกไม่ได้ ไปดูข้อเท็จจริงเป็นประตูทางตัน ศาลยกฟ้อง ผมอยากเรียนกับท่านประธานว่า หาวิธีแก้ไขให้คนอีสานหน่อย ผมว่าทั้งประเทศละครับ ไม่ใช่เฉพาะคนอีสาน วันนี้พ่อ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ยายเลี้ยงมา เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่วันนี้เองเลี้ยงมาตลอด ขอเงินไม่ได้ฆ่าเอามีดฟัน แล้วไปยัดไว้ในท่อ ยังไปทำงานเฉยอยู่ แล้วอีกคดีหนึ่ง กำลังสับ ๆ มันสำปะหลังอยู่เดินเข้าไป แย่งมีด ทั้งแม่ที่เป็นผู้หญิงและลูกที่เป็นเด็กถูกฟันยับเลย เพราะฉะนั้นวันนี้ชีวิตความเป็นอยู่ ของคนลำบากมากครับ ท่านลองดูสิครับว่าวันนี้ ๒๐,๐๐๐ กว่าคน คนที่วิกลจริตจากยาบ้านี่ ถ้าสมมุติว่าหมู่บ้านหนึ่งมีสัก ๓ คน ไม่ต้องเอาเยอะหรอก หมู่บ้านนั้นก็ลำบากแล้วครับชีวิต การดำรงชีพไม่รู้จะอยู่อย่างไร จะล็อกประตูอย่างไร ถ้าจับไปปุ๊บวันนี้แจ้งตำรวจจับไป ถึงเวลาพรุ่งนี้ก็ต้องปล่อยมา เพราะฉะนั้นวันนี้ ท่านประธานที่เคารพครับ ท่าน ป.ป.ส. หาวิธีแก้ให้ผมหน่อย ผมถามนะครับ หาวิธีแก้ พวกนี้หน่อย จะหวังพึ่งกับนายก จะหวังพึ่งกับผู้ใหญ่ที่บ้านเมืองก็ไม่ค่อยได้เห็นความสำคัญ คนวันนี้ผู้ที่จะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้ที่จะเป็น อบต. ผู้ที่จะเป็น สท. ถ้าวันนี้เขาได้คนแบบนี้ ไม่มีคุณภาพ วันนี้เราจะอยู่กันอย่างไร เอาละครับ ขอบคุณสำหรับการที่ตั้งใจจะทำ ขอบคุณ ท่านประธานและขอบคุณทุกคน แต่ว่าพูดแล้วต้องแก้นะครับ ต้องหาวิธีแก้ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านปรเมษฐ์ จินา

นายปรเมษฐ์ จินา สุราษฎร์ธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ ปรเมษฐ์ จินา พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ต้องขอขอบคุณทาง ป.ป.ส. ที่ได้ให้ข้อมูล นำเข้า แล้วก็จากประสบการณ์ จะได้นำมาผนวกกันแล้วก็เป็นข้อเสนอแนะที่จะให้มี การปรับปรุงรูปแบบใหม่ ๆ ในเรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด สืบเนื่องจากว่าหลายกิจกรรม ที่เราทำมา ๓๐ ปี แต่ว่าเราก็ยังทำแบบเดิมมาตลอดนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถ ที่จะแก้ไข ปรับปรุง แล้วก็หานวัตกรรมที่คิดว่ามันเหมาะสมแต่ละพื้นที่ได้ ก็น่าจะเป็นการดี ในเรื่องของการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งก็คงจะไม่ง่ายเช่นกัน ก็มองว่าปัญหาการพนัน ปัญหายาเสพติด แล้วก็ปัญหาเรื่องโสเภณีมันอยู่คู่กับสังคมมานานช้านาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำอย่างไรให้เราสามารถที่จะ Console ในส่วนของยาเสพติดไม่ให้เป็นพิษเป็นภัยกับ ลูกหลานของเรานะครับ ทีนี้มาดูในเรื่องของมาตรการที่ผ่าน ๆ มา เหมือนที่หลาย ๆ ท่าน ได้นำเรียนเมื่อสักครู่ว่าไม่ว่าจะเป็น ๖ มาตรการหลัก หรือว่า ๔ ด้าน ด้านป้องกัน ด้านปราบปราม แล้วก็ด้านบริหารจัดการ ด้านบำบัดรักษา อันนี้เราก็ทำมาโดยตลอดนะครับ แต่ที่สำคัญที่สุดนั้น ณ วันนี้ที่ผมเข้าไปในพื้นที่ แล้วก็โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ผ่านมา เนื่องจากว่า อดีตก็เป็นหมออนามัย แล้วก็เป็นรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเขาก็จะไว้ใจ เวลามีปัญหา ในพื้นที่เขาก็จะแจ้งตรงมา เพราะว่าบางครั้งเขาแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบปกติ เขาเอาแต่ รับฟังนะครับ ไม่ได้รับไปแก้ไขปัญหา เนื่องจากว่าจุดอ่อนของทางราชการก็ต้องรองบประมาณ แล้วก็รอในส่วนของหนังสือสั่งการหรือว่าแนวปฏิบัติของผู้บังคับบัญชา ทีนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ถ้าไปแจ้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในเรื่องของการปราบปราม บางครั้งเราก็คงจะได้ยินคำว่าในเรื่องของการเรียกผลประโยชน์ ในเรื่องของการยัดยา ก็เลยทำให้เขามีความกังวล ปัญหาก็ลงมาที่ผู้แทนอย่างพวกเราที่จะต้องรับปัญหาเข้ามา นำเสนอเพื่อที่จะปรับปรุงรูปแบบวิธีการให้เหมาะสม ทีนี้ถ้าเรามาดูว่าในเรื่องของการบำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการบำบัดที่ผ่านมาเราจะใช้วิธีการแจ้งไปที่ผู้นำในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายอำเภอว่าจะต้องเข้าบำบัดค่ายละ ๕๐ คน ทีนี้ด้วยความที่เป็นระบบบังคับบัญชาก็ต้องหาให้ได้ค่ายละ ๕๐ คน ทำให้มีการปะปนกัน ในแต่ละระดับ ไม่มีการแยกระดับว่าคนไหนเป็นผู้เสพ คนไหนเป็นผู้ติด คนไหนเป็นผู้ที่มี ปัญหาทางจิต ไม่มีการแยกแยะตรงไหน เหมือนมะเร็งก็เช่นกัน มะเร็งเรามี ๔ ระยะ อันนี้ ยาเสพติดเราก็ต้องมีการคัดกรอง ผู้ที่เสพทำอย่างไรที่จะไปเข้าค่ายที่เป็นในส่วนของการที่จะ หลีกมาจากสังคมปกติของเขา ในส่วนของผู้ที่ติดมันก็จะมีระบบการบำบัด ในส่วนของผู้ที่มี ปัญหาทางจิตอันนี้ก็ค่อนข้างที่จะมีปัญหาเช่นกันนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของพื้นที่ ในจังหวัดเขาจะไม่มีโรงพยาบาลจิตเวชโดยเฉพาะ ทีนี้โรงพยาบาลจิตเวชโดยเฉพาะก็จะมี ปัญหาเช่นกัน เพราะเขาจะต้องให้ผ่านโรงพยาบาลประจำอำเภอรักษาโรคทางกายก่อน แล้วก็จึงจะมารักษาโรคทางจิต ทำให้มีปัญหากับผู้ปกครอง แล้วก็ผู้ป่วยที่จะบำบัด เกิดความสับสน เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะทำนวัตกรรมด้านนี้ โดยการสนับสนุนงบ แบบ Lump Sum ให้แต่ละพื้นที่ ให้แต่ละจังหวัดเขาไปพิจารณาเองว่าเขาจะทำอะไร ในพื้นที่จังหวัดเขาให้มันเหมาะสม แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือการที่จะใส่องค์ความรู้ในเรื่องของ การแก้ปัญหายาเสพติด แต่ละวัยมันก็ไม่เหมือนกัน เช่น วัยเด็กอาจจะให้พ่อแม่แนะนำ เพราะว่าเขายังเชื่อผู้ปกครอง แต่พอมาในวัยรุ่นเขาเชื่อเพื่อนแล้ว มันก็ต้องมีกิจกรรม ในส่วนของการที่จะ Young Smart Camp หรือว่าในส่วนของการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในกลุ่มของวัยรุ่นนะครับ ในส่วนของผู้ใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา ถ้าเขาผ่านระดับเด็กมาได้ ผ่านระดับวัยรุ่นมาได้ เขาก็รอดปากเหยี่ยวปากกามาแล้ว เพราะว่ายาเสพติดส่วนมาก มันอยู่ที่วัยคน เป็นเรื่องของความคึกคะนอง ถ้าทะลุวัยที่เขาเป็นผู้ใหญ่มาแล้วมันก็หมดปัญหา ในเรื่องของการที่จะเข้าไปทดลองในส่วนของยาเสพติดนะครับ ทีนี้ในส่วนของการที่เรา จะแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องอันนี้ก็สำคัญเช่นกัน ผมมองว่า ป.ป.ส. ก็คงจะมีข้อมูล ยกตัวอย่าง เท่าที่ประสบการณ์ที่เขาไม่มีทางไปแล้ว เขาให้ผมพาไปบำบัดรักษาที่เขาเรียกว่าฟ้าใหม่ แถวสวนผึ้ง ผมต้องพาวัยรุ่นที่ติดยาจากสุราษฎร์ธานีแล้วก็เข้ามาบำบัดของเอกชน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้รูปแบบแต่ละจังหวัด ป.ป.ส. ลองดูระเบียบ ไม่จำเป็นที่จะต้อง ให้ส่วนราชการ เราต้องยอมรับว่าบางทีเอกชนเขาทำได้ดี แล้วก็ทำในเรื่องของคุณภาพได้ผล เราก็ต้องสนับสนุนในส่วนของเอกชน เพื่อมองเป้าหมายด้านคุณภาพ อย่ามองเฉพาะปริมาณ อย่างเดียว ปริมาณอย่างเดียวเราก็ทำมาทุกปี ทำมาทุกปี ทำมาทุกปี แล้วก็ที่จะเสนออีกส่วนหนึ่ง ก็คือในเรื่องของการเข้าค่ายบำบัด ๙ วัน ๘ คืนที่เราทำกันมาเยอะ แล้วก็ทำมาไม่น้อยกว่า ๓๐ ปี ผมมองว่าย้อนหลังไปสัก ๕ ปี หรือว่า ๑๐ ปี เราลองติดตามแล้วก็ดูว่าเขามีปัญหา อะไรบ้าง มีปัญหาในเรื่องของการประกอบอาชีพ ก็จะต้องมีการติดตามแล้วก็สนับสนุน มีหลายหน่วยงานที่เขามีงบประมาณในการที่จะติดตามสนับสนุน เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถ ที่จะเปิดโอกาสให้มีนวัตกรรม เปิดโอกาสให้มีการป้องกันตั้งแต่ตอนต้นนะครับ ครู D.A.R.E. แบบนี้ที่เขาเป็นตำรวจสนับสนุนเลยงบประมาณ ครู D.A.R.E. นี้รับรองว่าเขาไม่เป็นการหา ผลประโยชน์ ไม่มีการยัดยาอยู่แล้ว เพราะว่าจิตใจเขาอยากเป็นครู และเขาอยากจะไป แนะนำ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถป้องกันได้ แล้วอีกส่วนหนึ่งก็คือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การสร้างเวทีให้กับวัยรุ่น กิจกรรม To Be Number One มองว่าอยากจะให้มีการสนับสนุน งบประมาณ แล้วก็อีกส่วนหนึ่งที่ประสบปัญหามาก็คือในเรื่องชุดตรวจสารเสพติดนะครับ ท่านต้องสนับสนุนตำรวจ ท่านต้องสนับสนุนกับเรือนจำให้เขาทำงานได้อย่างคล่องตัว อันนี้ ก็ฝากในเรื่องของนวัตกรรม แล้วก็ในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ให้ปรับไป ในส่วนของการแก้ปัญหาในอนาคตข้างหน้าด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ อีก ๓ ท่าน ท่านแรกท่านประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ท่านที่ ๒ ท่านอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ แล้วก็ตามด้วยท่านวิทยา แก้วภราดัย เชิญท่านประสิทธิ์ครับ

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปทุมธานี เขต ๗ ก่อนอื่นก็ต้อง ขอขอบคุณ ป.ป.ส. ที่ได้ทำหน้าที่ที่เสี่ยงอันตรายอย่างนี้นะครับ แต่ว่าวันนี้เราจะมาพูดคุยกัน ถึงปัญหา แล้วก็แนวทางการแก้ไขเรื่องยาเสพติดของประเทศไทย สิ่งเหล่านี้จะไม่พูดไม่ได้เลย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงกับเยาวชนกับเศรษฐกิจ แล้วก็ความมั่นคง ของประเทศ เห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เวลาที่ผมลงพื้นที่ ผมเข้าไปในชุมชนก็ไปถาม ประธานชุมชนว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าในชุมชนของท่าน ประธานก็บอกว่าไม่มีครับคุณไมค์ ปกติดีมากเลย ผมก็เลยถามไปว่าแล้วเรื่องยาเสพติดล่ะ โอ้โฮ เยอะมากเลย ท้ายซอยไปดูเลย คุณไมค์ คือประมาณว่ามันเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติของครับ มันเกิดขึ้นจนเขาไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา สิ่งเหล่านี้ผมว่าทุกคนเจอเหมือนกันหมด แล้วทุกชุมชนที่ผมไปจะเจอปัญหาเดียวกันหมดเลย ว่ามียาเสพติดอยู่ในหมู่บ้าน แล้วอย่างที่หลายท่านพูดไปแล้วว่ายาบ้าตอนนี้ ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท ก่อนหน้านี้เราก็รู้ว่ายาบ้านั้นแพงขนาดไหน เมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว ๑๕ ปีที่แล้ว อันนี้ คือปัญหาระดับชุมชน ส่วนปัญหาระดับประเทศเราก็มองแล้วว่าคดียาบ้านี่เกิดขึ้นประมาณ ครึ่งหนึ่งของคดียาเสพติดทั้งหมด ถ้าเกิดเราปราบยาบ้าได้คดียาเสพติดจะลดลงเยอะมากเลย

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

เรื่องต่อมาก็คือปัญหาระดับต่างประเทศ เราก็ได้ยินมาว่าประเทศไทยสินค้า ส่งออก อันนี้พูดกันขำ ๆ คือยาเสพติด แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ขำเลยนะครับ ไม่ใช่แค่คนไทยพูด ผมมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติเขาก็พูดเหมือนกันว่าทำไมประเทศไทยยาเสพติดเยอะขนาดนี้ อันนี้ผมยกตัวอย่างเฉพาะปี ๒๕๖๔ เดือนพฤษภาคมที่ฮ่องกงตรวจพบเฮโรอีน ๒๓.๕ กิโลกรัม มูลค่า ๙๐๐ ล้านบาท ๒๗ พฤศจิกายนฮ่องกงเหมือนกันยาไอซ์ ๑๒ กิโลกรัม ๔๓ ล้านบาท ๒๔ พฤศจิกายนไต้หวันพบเฮโรอีน ๔๔๗ กิโลกรัม ๖,๐๐๐ ล้านบาท อันนี้ส่งออกจากประเทศไทย ทั้งหมด ไม่รวมถึงเกาหลีใต้เดือนพฤษภาคมยาไอซ์อีก ๓๗๗ ล้านบาท ๑๘ พฤศจิกายน ออสเตรเลียเจอยาอีก ๓๑๔ กิโลกรัม โอ้โฮ จำนวนมหาศาลเลยนะครับ อันนี้เกือบครึ่งตัน ผ่านไปได้อย่างไร อันนี้ผมสงสัยว่าทาง ป.ป.ส. ปล่อยผ่านไปได้อย่างไรในการส่งออกเยอะ ขนาดนี้

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

แล้วก็ส่วนต่อมาพูดถึงการเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับ ป.ป.ส. อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี สามารถที่จะยึดทรัพย์ได้เลย แต่ว่าอำนาจมันมาพร้อมกับความรับผิดชอบเช่นกัน ยิ่งท่าน มีอำนาจเยอะการคอร์รัปชันจะยิ่งเยอะมากขึ้น เพราะว่าท่านสามารถเรียกรับสินบน ได้มากขึ้น เพราะท่านมีอำนาจเยอะขึ้น อันนี้ท่านจะมีวิธีกำกับดูแลอย่างไร ขอเป็นคำถาม ข้อนี้

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

อีกคำถามหนึ่งนะครับ คดียาเสพติดที่เกี่ยวกับเพื่อนบ้านของเรา แล้วก็เกี่ยวกับ สว. ท่านหนึ่ง อันนี้มีการอายัดทรัพย์ ๑,๘๐๐ ล้านบาท ตอนนี้ทรัพย์สินเป็นอย่างไรบ้าง มีการอายัดเพิ่มหรือเปล่า คดีไปถึงไหนแล้ว อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับ สถานการณ์ยาเสพติดบ้านเราตอนนี้มันก็มีปัญหาเยอะ แล้วท่านก็ทราบว่าคนที่จะแจ้งปัญหา เกรงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ถึงแม้จะมีค่า Commission หรือว่ารางวัลนำจับ ให้ ๕ เปอร์เซ็นต์ก็ไม่มีคนแจ้ง แต่ผมก็ได้ทราบมาว่าท่านมีระบบ Blockchain ที่ออกแบบมา แล้วก็ประกาศใช้แล้วเมื่อต้นปี ไม่ทราบว่าตรงนี้มีการประชาสัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน แล้วก็หลังจากเปิดใช้แล้วมีประชาชน แจ้งเพิ่มหรือเปล่า ระบบ Blockchain ผมอธิบายเพิ่มเติมนิดหนึ่งก็คือว่าจะไม่เปิดเผยผู้แจ้ง ข้อมูล แค่ส่ง Wallet ไปให้แล้วก็แจ้งข้อมูลเพื่อเป็นการนำจับ เมื่อได้นำจับแล้วก็จะโอนเงิน เข้า Digital Wallet เลย ไม่ทราบว่าใครแจ้ง อย่างนี้นะครับ เป็นการปกปิดผู้แจ้งได้ดีมาก ๆ เลย ก็อยากจะให้ท่านประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น แล้วก็อยากทราบว่ามีคนแจ้งเพิ่มมากน้อยแค่ไหน เพราะคดียาเสพติดแต่ละคดีเงินรางวัลนำจับมหาศาลเลยนะครับ

นายประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์ ปทุมธานี ต้นฉบับ

ข้อต่อไปก็คือว่าการตั้งเป้าหมายของท่าน ผมเห็นในเล่มนี้การตั้งเป้าหมาย ในการทำงาน อย่างเช่น เป้าหมายก็คือว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดลดลง สังคมไทยมี ความปลอดภัยจากยาเสพติด ฟังแล้วมันจับต้องไม่ได้เลย เป็นนามธรรมมาก ๆ นะครับ แล้วตัวชี้วัดอย่างนี้ก็คือระดับความสำเร็จในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด สังคมไทย ปลอดภัยจากยาเสพติด อันนี้จะชี้วัดอย่างไรครับ ผมไม่แน่ใจ เพราะว่ามันเป็นนามธรรม มาก ๆ เลย ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดคือราคายาเสพติด ราคายาเสพติดยิ่งถูกหมายถึงมีการแพร่ระบาด เยอะมากขึ้น มีการขายกันง่ายขึ้น ตำรวจไม่ค่อยจับ ราคามันถึงได้ถูก ถ้าเมื่อไรก็ตามที่มี การกวดขันหนัก ๆ ราคายาบ้าก็จะแพงขึ้น อย่างที่เราเคยเห็นว่าเมื่อก่อนราคา ๓๐๐ บาท เพราะมีการปราบปรามอย่างหนัก แต่ตอนนี้เหลือเม็ดละ ๓๐ บาท อันนี้น่าจะเป็นดัชนีชี้วัด ได้อย่างดีว่าการทำงานของท่านมีประสิทธิภาพแค่ไหน อยากให้ท่านเปลี่ยนตัวชี้วัดให้ดีกว่านี้ แล้วก็ตั้งเป้าหมายให้จับต้องได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ตั้งเป้าว่าสังคมไทยปลอดยาเสพติด อันนี้ยาก มาก ๆ เลยที่จะประเมินนะครับ ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านต่อไปท่านอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ เชิญครับ

นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ กระผม นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัด กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นเลยครับท่านประธานปัญหายาเสพติดส่วนใหญ่ ทุก ๆ รัฐบาลก็จะบอกว่าเป็นปัญหาวาระระดับชาติ แต่สิ่งที่มันย้อนแย้งในวาระระดับชาติ ก็คือยาเสพติดถูกลง ความรุนแรงมากขึ้น ทุก ๆ ครั้งที่ผมไปพบปะประชาชนในพื้นที่เขต ๑ จังหวัดกาญจนบุรี ชาวบ้านก็จะเข้ามาหาผม แล้วก็อยากให้ผมช่วยกระตุ้นรัฐบาล ในการแก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ซึ่งต้องบอกกับท่านประธานว่าปัจจุบันนี้ปัญหายาเสพติด รุนแรงมากครับ นอกจากยาเสพติดจะถูกแล้วนะครับท่านประธาน ยาเสพติดยังหาง่าย ในทุกบ้าน ในทุกหลังคาเรือน มันง่ายจนมีราคาถูก วันนี้ผมต้องขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. ที่เข้ามารายงานผลการปฏิบัติงาน ซึ่งผมได้อ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว อยากให้เพื่อนสมาชิก ทุกท่านดูในหน้าที่ ๔๒ ขอ Slide ด้วยนะครับ

นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

ก่อนที่จะไปหน้า ๔๒ นะครับ ตามที่รายงานการค้ายาเสพติดฉบับใหม่ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติหรือ UNODC ระบุชัดเลยว่าประเทศไทยตอนนี้เป็นอันดับ ๑ ของ ASEAN ที่มีการจับกุมทั้งยาบ้าและยาไอซ์มากที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณที่อันตรายมาก ๆ ครับ พอเรา มาดูรายงานของ ป.ป.ส. ในหน้าที่ ๔๒ เราก็จะเห็นเลยว่าในปี ๒๕๖๓ มีการดำเนินคดีไป ๓๒๔,๕๕๒ คดี ในปี ๒๕๖๔ มีการดำเนินคดีไป ๓๓๗,๑๘๖ คดี แต่เมื่อลงลึกครับท่านประธาน เราจะเห็นว่ามาตรการการยึดทรัพย์กลับมีมาตรการการยึดทรัพย์ได้เพียง ๒,๐๐๐ คดี ใน Slide ต่อไปครับ และในปีที่แล้ว ป.ป.ส. ยึดทรัพย์ได้เพียง ๙๓๔ ล้านบาท ซึ่งถือว่า น้อยมาก ๆ และปัจจุบันเป็นเรื่องที่หนักเอามากเลยที่กลุ่มนักค้ายาเสพติดเปลี่ยนวิธีการฟอกเงิน เป็นวิธีการโอนผ่าน Cryptocurrency เพื่อฟอกเงินให้ง่ายที่สุด และการอายัดของ ป.ป.ส. ก็จะยากเข้าไปอีก ดังนั้นผมเองอยากเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกท่านช่วยกันต่อสู้ ผมรับรู้ได้ว่านี่คืออำนาจมืดที่เจ้าหน้าที่รัฐทุกท่านจะต้องใช้ความกล้าหาญสักเพียงใดครับ แต่เพื่ออนาคตลูกของพวกเรา ดังนั้นนี่คือสิ่งที่ข้าราชการโดยเฉพาะ ป.ป.ส. ควรจะกระทำ และมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ต่อไปเชิญท่านวิทยา แก้วภราดัย ครับ

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กระผม วิทยา แก้วภราดัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้พวกเรามีโอกาสในสภานะครับ มีโอกาสมาฟังรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งจริง ๆ พ.ร.บ. ว่าด้วยการปราบปรามยาเสพติดให้โทษมันเกิดมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ มาถึงวันนี้ ๕๐ ปีแล้ว จะโทษว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. มีผลงานน้อยก็ไม่ใช่ เมื่อสักครู่เพื่อนสมาชิกก็ฉาย Spotlight ให้ดูแล้วว่าเราปราบปรามยาเสพติด จับคดียาเสพติดมาก มากติดอันดับโลกเลย เพราะฉะนั้น การทำงานของ ป.ป.ส. จะว่าไปด้อยเรื่องการปราบปรามจับกุมก็คงไม่ได้ ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าเดี๋ยวนี้เรือนจำเราทั่วประเทศเกินครึ่งเป็นผู้ต้องหา เป็นผู้ต้องขังเกี่ยวกับ ยาเสพติด ๗๐ เปอร์เซ็นต์ของคดีอาญาที่ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด การปราบปรามเราได้ผลครับ แต่ขณะเดียวกันตั้งแต่เราอภิปรายเรื่องนี้มา ผมเชื่อว่า ท่านรองเลขาธิการก็ทราบพอ ๆ กับ สส. ว่าทุกวันนี้จำนวนผู้ติดยาเสพติดระบาดไปมาก ทั่วประเทศ ยาเสพติดกลายเป็นสิ่งที่ระบาดไปทั่วทุกหมู่บ้านในชนบท กลายเป็นเรื่องใหญ่ เด็กหนุ่ม เด็กสาวในหมู่บ้านชนบทเกินครึ่งหนึ่งที่ตกเป็นภัยของยาเสพติด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ ผมคิดว่าพวกเราอยากรู้ก็คือมันเกิดปัญหาอุปสรรคอะไรในการทำงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ระดับปฏิบัติการ ผมก็อยากรู้แต่ละคำตอบว่าเราจะช่วยกันแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นปัญหา เรื้อรังของชาติ ไม่ใช่เป็นปัญหาของใครคนใดคนหนึ่งครับ ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ใครจะมาเป็นรัฐบาล ทุกคนต้องเผชิญกับปัญหานี้แน่ แล้วไม่ใช่เพิ่งเกิดวันสองวัน มันเกิดมา เป็นสิบ ๆ ปี เราเคยตามล้างกันถึงกับตายไป ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ คน เราจับกันมาหลายแสนคน แต่ปัญหาไม่จบ เพราะฉะนั้นในแนวนโยบายที่ท่านเขียนมาในยุทธศาสตร์ของท่านก็คือ ป้องกันและปราบปราม ผมขออนุญาตเรียนถามทางท่านรองเลขาธิการซึ่งจะเป็นผู้มาชี้แจง

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ ท่านทราบไหมว่าแหล่งผลิตยาเสพติดที่อยู่รายรอบประเทศเรา ที่เพื่อนสมาชิกกล่าวเมื่อสักครู่นี้มีทั้งหมดกี่แห่ง ผมคิดว่าเรามีหน่วยงาน ป.ป.ส. ซึ่งมี คณะกรรมการระดับนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วย ข้อมูลตรงนี้ต้องมีครับ เพราะว่า เราป้องกันการนำเข้าและปราบปรามการส่งออก เรามีทั้งการนำเข้าจากต่างประเทศ และมีการส่งออก ปัญหาว่าผมต้องการทราบว่าเดี๋ยวนี้แหล่งผลิตยาเสพติด เอาเรื่องง่าย ๆ ที่กระทบทุกหมู่บ้าน แหล่งผลิตยาบ้ามันมีที่ไหนบ้าง ท่านมีข้อมูลหรือยังครับ ส่วนผู้ขาย ค่อยให้ตำรวจตามหมู่บ้านไล่ก็แล้วกัน แต่ ป.ป.ส. ควรจะรู้แหล่งผลิตมีกี่แห่ง ในต่างประเทศ มีสักกี่แห่ง ในประเทศมีสักกี่แห่ง เพื่อท่านจะได้หามาตรการในการจัดการได้

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ ให้เรียนถามและต้องการคำตอบนะครับ ก็คือเวลาทำงาน ของคณะกรรมการ ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ป.ป.ส. เรามีปัญหาอุปสรรคในเรื่องกฎหมาย อะไรบ้าง ที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะยุติการแพร่ระบาดของยาเสพติดไปสู่ลูกหลาน ในหมู่บ้านในชนบทได้ ถ้าท่านมีรบกวนท่านช่วยแจ้งกับพวกเราในสภาด้วยนะครับ เพราะหลายท่านในนี้ผมคิดว่าไม่กี่วันอาจจะขึ้นไปนั่งตำแหน่งรัฐมนตรี ช่วยท่านได้ครับ ก็เป็นกรรมการ คณะกรรมการในระดับชาติเขาก็ช่วยในการแก้ไขปัญหาของท่านได้

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๓ สิ่งที่ผมอยากจะเสนอแนะว่า ผมกำลังถามถึงผู้ผลิต ผู้ค้า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันจับกุมผู้ค้า แต่ปัญหาผู้เสพครับ ผู้เสพที่วันนี้เราถือว่าเป็นผู้ป่วย ปัญหาเราเคยคิดไหมว่าเราจะเอาผู้ป่วยเข้ากระบวนการในการรักษาโดยไม่จำเป็นต้องไป ไล่จับผู้ป่วยมาเข้าสู่กระบวนการบำบัด ผมฟังเพื่อนสมาชิกที่เคยเป็นสาธารณสุข ท่านสาธารณสุขอำเภอ รองสาธารณสุขจังหวัดมานี่ ท่านรู้ว่าการเรียกระดมพลเพื่อไปอบรม เอาทั้งคนติดยา ทั้งไม่ติดยาปน ๆ แล้วไปอบรม ปัญหาว่าทางเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. คิดไหมว่า เราเปิดขึ้นทะเบียนผู้เสพติดยาเสียทีได้ไหม คือเรากันไม่ได้เลยวันนี้ ยาเสพติดลดราคาลง เรื่อย ๆ ผมเชื่อว่ายาเสพติดกับกระท่อมราคาเริ่มจะใกล้เคียงกันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราเกิด หาทางออกโดยวิธี ผมเสนอแนะว่ารับขึ้นทะเบียนผู้ติดยาเสพติดทั้งหมดทั่วประเทศ ขึ้นทะเบียนเสร็จแล้วก็เอาทะเบียนทางท่านมอบไว้กับสาธารณสุขตำบลทุกตำบล ที่สถานีอนามัยทุกตำบล เพราะเพื่อนสมาชิกหลายคนอภิปรายบอกแล้วว่ายาบ้าเม็ดไม่เกิน ๕๐ สตางค์ แล้วถ้า ป.ป.ส. ผลิตเสียเองผมคิดว่าไม่เกินสลึงหนึ่ง ถ้าเขาเป็นผู้ป่วยจริง ตามเจตนารมณ์กฎหมายเราก็ไปรับยาแก้ป่วยที่สถานีอนามัย จะเอาวันละ ๑ เม็ด แล้วค่อย ๆ ลดปริมาณลงเรื่อย ๆ จะเอาวันละ ๒ เม็ด ลดปริมาณลงเรื่อย ๆ ตามการควบคุม ผมก็คิดว่าเราเริ่มต้นที่จะได้ผู้ป่วยที่แน่นอน ไม่ต้องเอาไปขังแล้ว ไม่ต้องไปอบรม เอาไว้ใน หมู่บ้านนั่นละให้ประชาคมเป็นคนควบคุม ถ้าได้อย่างนี้ผมก็จะเห็นว่าวันที่ผู้ติดยาเสพติด ยาบ้าอยู่ในหมู่บ้านจ่ายวันละบาทเดียวแล้วก็อยู่กับสถานีอนามัยได้ ผมคิดว่าผู้ค้ายาเสพติด ในหมู่บ้านจะหายไปนะครับ เพราะมันจะค้าแข่งกับ ป.ป.ส. ไม่ได้ เรามีเครือข่ายอนามัย ทั่วประเทศที่จะบำบัดเขา อันนี้เป็นข้อที่ผมคิดว่าฝากท่านไปหารือกันดู เมื่อเราเอาชนะมัน ไม่ได้เราก็บำบัดคนของเรา เพื่อส่งคนเหล่านั้นเข้าสู่สังคมได้

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการสุดท้าย ผมคิดว่าผมมีข้อเรียนถามท่านนะครับ ซึ่งผมติดใจมาตั้งแต่ วันเลือกตั้งวันที่ ๑๔ พฤษภาคม เช้าตรู่ของวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ป.ป.ส. ได้บุกเข้าจับกุม ผู้ส่งออกยาเสพติดรายใหญ่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อำเภอท่าศาลา แป๊บเดียว ท่านประธานครับ ได้ยาเสพติดเป็นยาไอซ์ประมาณ ๑,๔๐๐ กิโลกรัม ได้ผู้ต้องหาไป ๙ คน จับคาเรือที่กำลังขนออกต่างประเทศ แต่คนนครศรีธรรมราชก็สงสัยครับ มันเงียบกริบ เพราะช่วงนั้นเราชุลมุนเลือกตั้งข่าวเรื่องนี้ก็ไม่ออก ขออนุญาตเรียนถามท่านรองเลขาธิการ เดี๋ยวท่านโทรศัพท์ตามให้ผมหน่อยนะครับ ยาเสพติดที่จับกันในเช้าตรู่วันเลือกตั้ง ที่นครศรีธรรมราชได้ผู้ต้องหาไป ๙ คน ขยายผลไปถึงไหน อย่าให้คนที่นครศรีธรรมราช รู้สึกว่ามันหายไปพร้อมกับการซื้อขายเสียงในการเลือกตั้ง ฝากท่านช่วยรายงานต่อสภา วันนี้ด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญท่านเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล ครับ

นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ผม เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนชาติพันธุ์ ขอ Slide ด้วยนะครับ

นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ก่อนอื่นผมอยากจะเรียน ท่านประธานไปยังผู้รายงานว่าในการพูดของผมอาจจะมีบางส่วนที่เป็นการวิพากษ์ ผมไม่ได้มี เจตนาที่จะกล่าวหานะครับ ผมเพียงแต่ว่าพูดอย่างตรงไปตรงมาเพื่อที่จะให้ทุกส่วนได้ข้อมูล ในการไปแก้ไขปัญหา ต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่กัดกร่อนความสงบเรียบร้อย ของสังคมเรา แต่อย่างไรก็แล้วแต่ในทางกลับกันเราก็กลับเจอสถานการณ์ที่ทำให้ชวนสงสัย ว่าการปราบยาเสพติดนี่ยิ่งปราบยิ่งเพิ่มขึ้น แล้วกลไกรัฐที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาในทางตรงกันข้าม มันเป็นการพยายามเลี่ยงปัญหา แล้วก็ใช้สถานการณ์การระบาดของปัญหายาเสพติด แสวงหาผลประโยชน์อย่างชอบด้วยกฎหมาย ถึงที่สุดแล้วกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อ กลุ่มคน ได้รับผลกระทบก็คือคนชายขอบ โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์อย่างคนของผมเป็นกลุ่มคนที่ได้รับ ผลกระทบมากที่สุดนะครับ

นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรื่องสถิติคดียาเสพติด ที่ทางเพื่อนสมาชิกหลายคนได้พูดถึงไปแล้ว แล้วก็ อยู่ในรายงานชิ้นนี้อยู่แล้ว สิ่งที่ผมอยากจะให้ดูก็คือว่าสถิติปัญหาคดียาเสพติด นับตั้งแต่ ปี ๒๕๕๑ เป็นต้นมาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งแท่งก็คือสถิติผู้ต้องขังในคดี สีน้ำเงินก็คือคดียาเสพติด เฉลี่ยแล้วร้อยละ ๗๒ ของผู้ต้องขังทั้งประเทศคือคดียาเสพติด แล้วจำนวนคดีที่มากมาย เหล่านี้ สถิติคดีเหล่านี้มันสะท้อนอะไรบ้าง ผมอยากจะโฟกัสไปที่เรื่องปัญหายาเสพติด ถึงที่สุดแล้วมันสามารถสร้างประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมายให้แก่หน่วยงานรัฐทุกระดับ หน่วยงานรัฐทุกระดับที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดจากการปราบปราม ยาเสพติด ผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือคนชายขอบ ผลประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อาจจะออกมาในรูปของโครงการ การรณรงค์ การปราบปรามอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้องกับ การปราบปรามยาเสพติด แล้วก็ไม่มีการตรวจสอบด้วยว่าโครงการเหล่านั้นได้มีการทำจริง ขนาดไหน ประสบผลสำเร็จขนาดไหน แม้กระทั่งศาลยุติธรรมเองก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ในการแสวงหาผลประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมายเหล่านี้

นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ปัญหายาเสพติดเชื่อมโยงกับความเหลื่อมล้ำอย่างมีนัยสำคัญ จากจำนวน ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการทำผิดจริง เป็นเหยื่อ เป็นแพะก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่ เป็นผู้ชายอายุต่ำกว่า ๓๐ ปี จากการวิจัยนะครับ ซึ่งก็สอดคล้องกับรายงานฉบับนี้ ในหน้า ๓๕ แล้วก็ร้อยละ ๓๑ เป็นกลุ่มคนที่มีระดับการศึกษาต่ำ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แล้วก็ รายได้ต่ำกว่า ๑๐,๐๐๐ บาท อย่างนี้นะครับ ต่อไปก็คือว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดียาเสพติด ส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในชนบท เกินกว่า ๖๐ เปอร์เซ็นต์เป็นคนที่อยู่ในชนบท ตรงนี้บ่งบอก ว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดคือคนชนบท ซึ่งไม่ใช่ถิ่นที่อยู่ของชนชั้นกลาง ในเมื่อชนชั้นกลางเดือดร้อนจากเรื่องนี้น้อยกว่า ความใส่ใจที่จะแก้ไขปัญหาก็มีน้อยกว่า

นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ด้านกลับของปัญหายาเสพติด ผมอยากจะชี้ตรงนี้ว่าเมื่อทุกคนรู้ว่ายาเสพติด เป็นสิ่งที่เลวร้าย รัฐพยายามที่จะประกอบสร้างแบบเหมารวมว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทุกคนเป็นคนเลวร้าย สิ่งที่เป็นปัญหาตามมาก็คือว่ามีกฎหมายสร้างสภาวะยกเว้นสิทธิ ที่สำคัญบางประการของประชาชนไป ตามกฎหมายเลยก็คือให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจควบคุมตัวได้ ไม่เกิน ๓ วัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทั่วไปมีอำนาจควบคุมได้ ไม่เกิน ๑๒ ชั่วโมงหรือ ๒๔ ชั่วโมง แล้วที่สำคัญก็คือว่าอำนาจในการค้นและยึดทรัพย์สิน เจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ยาเสพติดมีอำนาจที่จะค้นสถานที่ ค้นตัว ค้นรถได้โดยไม่ต้องมีหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหา ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาการใช้อำนาจค้นโดยไม่มีหมายจากศาลนำไปสู่การใช้เป็น เครื่องมือในการข่มขู่ ปราบปรามประชาชน ผู้นำชุมชน คนที่เห็นต่างทางการเมืองด้วย จากสถิติการใช้อำนาจค้นนะครับ การใช้อำนาจค้น ๑๗,๐๐๐ กว่าครั้ง ที่น่าสังเกตก็คือว่า กองทัพบกได้ใช้อำนาจในการค้น ๑,๐๐๐ กว่าครั้ง แล้วก็กรมการปกครอง ๓,๐๐๐ กว่าครั้ง ตั้งแต่หลังปี ๒๕๕๗ เป็นต้นมาสิ่งที่เป็นปัญหาก็คือว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนได้พยายามที่จะไป ข่มขู่ แล้วก็ปราบปรามผู้นำชุมชนที่เห็นต่างทางการเมือง โดยใช้ช่องทางนี้ในการไปค้นบ้าน ของผู้นำ ของแกนนำที่เห็นต่างทางการเมือง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้คน ด้านมืดของ กระบวนการยุติธรรมในคดียาเสพติดมีหลายด้าน ผมอยากจะโฟกัสไปที่เรื่องของสิ่งที่เป็น สาระสำคัญ สิ่งที่เป็นสาระสำคัญก็คือว่าเรื่องของการสอบสวน แล้วก็การสั่งฟ้อง ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องของการซื้อขายคดี ที่เข้าใจกันในเรื่องของมาตรา ๑๐๒ หรือที่เป็นประมวล กฎหมายยาเสพติดใหม่คือมาตรา ๑๕๓ เรื่องนี้ทำให้คนที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในฝ่าย ของเจ้าหน้าที่ก็คือเป็นขุมทรัพย์ ในฝ่ายของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาจำเลยก็ตกเป็นเหยื่อนะครับ คำถามที่โต ๆ ก็คือว่าทาง ป.ป.ส. ทางเจ้าหน้าที่รัฐจะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาด้านมืด ของการดำเนินคดียาเสพติดได้อย่างไร โดยเฉพาะในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิด ขอบคุณมากเลยครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปเชิญท่านนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล ครับ

นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน สภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต จังหวัดนครราชสีมา อำเภอปักธงชัยและอำเภอวังน้ำเขียว พรรคเพื่อไทย กระผมได้รับฟังและได้อ่านรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ในการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ ทำให้ได้ทราบถึงเนื้อหาทั้ง ๖ ส่วน มีทั้งแผนและผลการปฏิบัติงานต่าง ๆ มากมาย แต่กระผมก็ยังมีความกังวลและมี ข้อเสนอแนะอยู่ ๒ ประการด้วยกันครับท่านประธาน จึงจะขออนุญาตเรียนถามท่านประธาน ผ่านไปยังหน่วยงานนะครับ

นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ ในหัวข้อสถานการณ์ของยาเสพติดในประเทศ สถานการณ์การเพิ่ม ปริมาณยาเสพติดทั่วโลกมีแนวโน้มที่พุ่งสูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือประเทศ ที่กำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา ก็มีการขยายตัวของยาเสพติดที่เพิ่มมากขึ้นนะครับ ข้อมูลจาก สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติระบุไว้เมื่อปี ๒๕๖๕ จำนวนยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีการขยายตัว อย่างต่อเนื่อง ส่วนของในประเทศไทยในปี ๒๕๖๖ นี้จำนวนยาเสพติดที่ถูกจับกุมมีเพิ่มเติม มากขึ้นกว่าปี ๒๕๖๕ ถึง ๓ เท่า จำนวนยาเสพติดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีสาเหตุ มีปัจจัยจากหลาย ๆ อย่างครับท่านประธาน เช่นผู้ผลิตที่อยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งตอนนี้มีการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ขายไปยัง ประเทศที่สองหรือประเทศที่สาม ซึ่งสามเหลี่ยมทองคำก็เป็นแหล่งที่ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ รายหนึ่งที่ส่งยาเสพติดมาให้กับประเทศไทยนะครับ อีกปัจจัยหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเศรษฐกิจที่ถดถอยลงมา ที่พี่น้องประชาชนเราอาจจะหันมา พึ่งยาเสพติดกันเพิ่มมากขึ้น ผมเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครอยากจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนี้ แต่ว่าเมื่อมีปัญหา ไม่มีเงิน ไม่มีงาน และไม่มีทางออก บางครั้งชีวิตก็ต้องคิดผิด แล้วก็หันไปพึ่ง ยาเสพติดซึ่งเป็นวิธีที่สามารถหาเงินได้ง่ายและไว อีกประเด็นก็คือราคา ที่ตอนนี้ราคาของ ยาเสพติดที่เขาพูดกันเม็ดละ ๓๐ บาท ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท ทุกวันนี้ต้องบอกอย่างนี้ว่าเทคโนโลยี สมัยนี้พัฒนามากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ๆ นะครับ ทำให้ในระยะเวลาที่เท่ากันเราสามารถ ผลิตยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าเมื่อก่อนมาก เพราะฉะนั้นในอนาคตข้างหน้าอีก ๓-๕ ปีเราอาจเจอสถานการณ์ที่ยาบ้าอาจจะถูกลงเหลือเม็ดละ ๒๕ บาท หรือเม็ดละ ๒๐ บาท หรือต่ำกว่านั้นก็เป็นไปได้ ตอนนี้ยาบ้าเป็นสิ่งที่ระบาดหนักที่สุดในประเทศไทย แต่ยาเสพติด ประเภทอื่นที่เคยเป็นยาเสพติด อย่างเช่นกัญชาและใบกระท่อมตอนนี้ก็เริ่มเข้ามามีบทบาท ในชุมชนเพิ่มมากขึ้นครับท่านประธาน ผมเองได้มีโอกาสลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เคยไปเจอ คุณยายอยู่ท่านหนึ่ง คุณยายท่านหนึ่งบอกว่าไอ้นายเอ๊ยนี่ลูกยายดื่มแต่น้ำกระท่อม ดื่มทุกวัน ตกเย็นมันก็สูบกัญชา ผมก็ไม่รู้จะตอบพี่น้องประชาชนว่าอย่างไร ก็มีแต่บอกว่า คุณยาย คุณยายก็ต้องดูแลให้ความรักความอบอุ่นกับลูกคนนี้ให้มาก ๆ นะครับคุณยาย และอีกอย่างหนึ่งครับท่านประธาน ตอนนี้ในช่องทางของโลก Online ก็เป็นอีก ๑ สิ่ง ที่ปัจจุบันนี้การค้าการขายยาเสพติดใช้ช่องทางนี้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มเติมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น LINE จะเป็น Twitter Instagram ต่าง ๆ หรือว่าการส่งยาเสพติดโดยการใช้ พัสดุไปรษณีย์ของภาครัฐหรือว่าเอกชนก็มีให้เห็นมาโดยตลอดนะครับ ล่าสุดเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ เมื่อ ๓ วันที่ผ่านมาสถานีตำรวจภูธรสีดา จังหวัดนครราชสีมา ก็ได้มี การจับกุมการลักลอบขนยาบ้าจากจังหวัดนครพนมเพื่อกำลังจะไปส่งจุดถ่ายที่จังหวัดสระบุรี เป็นการตรวจสอบพบกระสอบปุ๋ยที่บรรจุยาบ้าถึง ๑,๒๐๐,๐๐๐ เม็ด ท่านประธานครับ เป็นตัวเลขที่มากจนน่าตกใจ ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าถ้าเกิดยาบ้า Lot นี้หลุดไปได้ถึงมือผู้บริโภค ถึงมือผู้เสพ หรือว่าผู้ค้ายารายย่อย ก็จะมีพี่น้องประชาชนคนไทยเราอีกจำนวนไม่น้อยเลย ที่ตกเป็นทาสของยาเสพติดครับ กระผมก็กังวลกับคุณภาพชีวิตของลูกหลาน แล้วก็พ่อแม่ พี่น้องชาวไทยทุกคน ท่านประธานครับ จากแนวโน้มของยาเสพติดที่เพิ่มเติมมากขึ้น แผนการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของ ป.ป.ส. ที่มีอยู่ในขณะนี้ ผมเชื่อว่าในปีถัด ๆ ไปก็จะส่งผลให้เราสามารถจับกุมยาเสพติดได้เพิ่มเติมมากขึ้น แต่มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่สิ่งที่เราทำกันอยู่ตอนนี้ปัญหายาเสพติดมันจะลดน้อย ถอยไปอย่างแท้จริงครับท่านประธาน

นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ การกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เอง สาเหตุของ ปัญหาของยาเสพติดมีหลายปัจจัย แล้วหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ปัจจัยที่สำคัญ อย่างหนึ่งก็คือเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ เข้าใจ แล้วก็บังคับใช้กฎหมายเป็นอย่างดี ในรายงาน ของปี ๒๕๖๔ ที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่มีการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ๑๑ ราย มีการเรียกรับ ผลประโยชน์ส่วนตน สิ่งเหล่านี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ลง กระผมจึงมีข้อซักถามว่าในปัจจุบันคดีเหล่านี้ โดยเฉพาะคดีทางอาญามีความคืบหน้าของคดี เป็นอย่างไร ถึงแม้ว่า ป.ป.ส. ปัจจุบันนี้จะมีการกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา ของการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ไว้แล้ว แต่ว่าแนวทางเหล่านี้จะสามารถแก้ไขปัญหา การประพฤติผิดของเจ้าหน้าที่แบบนี้ได้มากน้อยเพียงใดครับท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ต่อไปเชิญท่านราชิต สุดพุ่ม ครับ

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม ราชิต สุดพุ่ม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ต้องขอขอบคุณทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ได้ รายงานผลการทำงานที่ผ่านมาให้ทางสภาได้รับทราบ ท่านประธานครับ วันนี้ผมจะขอนำเรียน เพียงเรื่องเดียวคือเรื่องน้ำพืชกระท่อม ผมนั่งฟังทาง ป.ป.ส. ก็ดี สมาชิกทุกท่านก็ดีที่ได้พูดมา มีคนพูดถึงน้ำกระท่อมน้อยมาก ทำไมผมถึงเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแล้วก็ให้ความสำคัญ หลังจากที่ได้เอาพืชกระท่อมออกจาก บัญชียาเสพติดก็พบว่าน้ำกระท่อมนั้นมีการระบาดมากมาย ถ้าท่านเดินทางไปทางสายใต้ ถนนทางหลวงจะเห็นว่าตลอดริมถนนจะมีการจำหน่าย ในภาคกลางก็มีการจำหน่ายมาก แล้วผมว่าอีกไม่นานก็จะแพร่ไปทั้งประเทศ ในการจัดงานประเพณีต่าง ๆ แถวภาคใต้ น้ำกระท่อมเกือบจะเป็นน้ำดื่มชนิดหนึ่งที่มีการแจกกันในงาน ในครัวเรือน ในบ้านเรือน ก็มีการต้มและดื่มกัน โดยเฉพาะในพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ขวดหนึ่งก็ตกประมาณ ๕๐ บาท ก็สูงมากกับพี่น้อง เพราะฉะนั้นในการที่ระบาดมากอย่างนี้ ท่านประธานครับ ถ้าท่านรับทราบว่าในการระบาดยาเสพติด ในการติดยาเสพติดนั้นก็จะเริ่มจาก เบาบางแล้วไปสู่ยาเสพติดที่หนักมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยบุหรี่ แล้วก็ไปใบกระท่อม ใบน้ำกระท่อม เดี๋ยวก็ขยับไปเป็นยาบ้า แล้วก็ยาไอซ์ในที่สุด เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะป้องกันเพื่อไม่ให้เยาวชน พี่น้องประชาชนได้ดื่มน้ำกระท่อม ผมคิดว่าหลักสำคัญอยู่ ๒ อย่าง

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

อย่างที่ ๑ กระบวนการในการป้องกัน ผมไม่เคยเห็นว่าทางราชการที่เป็น หน่วยงานรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุขก็ดี สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดก็ดีที่ได้นำส่วนผสมของน้ำกระท่อมไปวิเคราะห์ ไปสังเคราะห์ แล้วประกาศออกมาเป็นทางการว่าน้ำต้มกระท่อมนั้นมีโทษอย่างไร สร้างองค์ความรู้ สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน ท่านประธานครับ ผมเคยรับราชการเดิมเป็น นายอำเภอ เป็นรองผู้ว่า แล้วก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ในการประชุม ผมเสนอทุกครั้งผ่านทาง ป.ป.ส. แล้วก็ให้ช่วยดำเนินการประกาศเป็นทางการ เป็นที่เชื่อถือของพี่น้องประชาชนว่า โทษของน้ำกระท่อมเป็นอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อต้องการที่จะสร้างความตระหนักการรับรู้ และเป็นการป้องกัน

นายราชิต สุดพุ่ม นครศรีธรรมราช ต้นฉบับ

อย่างที่ ๒ ในการมาวิเคราะห์ สังเคราะห์นั้น มีการพูดว่าน้ำกระท่อม มีหลายสูตร แต่ผมอยากฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานครับ เราใช้สูตรหลักอย่างเดียวพอ มี ๔ อย่าง อันแรก ใบกระท่อม อันที่ ๒ น้ำในการต้ม อันที่ ๓ น้ำอัดลม ท่านไปสืบก็แล้วกันว่า เป็นชนิดไหน แล้วก็ยาแก้ไอ ท่านก็ไปสืบดูแล้วกันว่าเป็นยี่ห้ออะไร เอาสูตรนี้เป็นสูตรหลักครับ แล้วก็ท่านเอาไปวิเคราะห์ ไปสังเคราะห์ดูว่ามีธาตุ มีสารอาหาร มีอะไรบ้างที่เป็นโทษ แล้วก็ เมื่อเสพแล้วมันจะมีผลต่อร่างกายอย่างไร ผมว่าอันนี้เป็นวิธีการที่จะป้องกัน ทีนี้ในเรื่องของ การปราบปรามนะครับ ผู้ค้าผู้ขายก็ฉลาด ใบกระท่อมไม่เป็นยาเสพติด เพราะฉะนั้น ถ้าท่านต้มใบกระท่อมขายก็ไม่ผิด แต่ทีนี้ในการขายก็แยกขาย เพราะฉะนั้นฝ่ายปราบปราม ก็จับไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะมีการแพร่หลายมาก สิ่งที่ผมเป็นห่วงก็คือขณะนี้ถ้าท่านเห็นนะครับ เห็นว่าหน้าสถานศึกษาก็ดี ริมถนนที่ชุมชนก็ดีมีการจำหน่วยกันมาก เพราะฉะนั้น ผมขออนุญาตนะครับ ผมขออนุญาตท่านประธานฝากไปยังหน่วยงานว่าขอให้ท่านได้เอาสูตร ที่ผมว่าไปวิเคราะห์ ไปสังเคราะห์ แล้วประกาศออกมาเป็นของกระทรวงสาธารณสุขก็ดี ของสำนักงาน ป.ป.ส. ก็ดี เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้เชื่อถือ แล้วก็ตระหนัก ผมคิดว่าสามารถที่จะ ลดปัญหาในการดื่มน้ำกระท่อมลงไปได้มาก แล้วก็จะเป็นการลดในการที่จะแพร่ไปสู่ยาเสพติด ชนิดอื่น ก็ขอนำเรียนท่านประธานฝากไปยังหน่วยงานด้วยนะครับ ขอกราบขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านนิคม บุญวิเศษ

นายนิคม บุญวิเศษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายนิคม บุญวิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กระผมขออภิปรายรายงานผลปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๔ ผมได้อ่านรายงานนี้แล้วครับ อ่านแล้วเหมือนกับว่าเจ้าหน้าที่มีผลงาน ในการปราบปรามมากขึ้น เจ้าหน้าที่มีผลงานในการยึดทรัพย์มากขึ้น ดูแล้วเหมือนกับว่า ยาเสพติดหรือยาบ้ามันจะหมดไปจากประเทศไทย คือถ้าอ่านนะครับ แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่เป็นอย่างนั้น ท่านประธานครับ มันกลับตรงข้ามกัน ป.ป.ส. ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี คือไม่ได้โทษ ป.ป.ส. นะครับ ท่านมีหน้าที่แค่นี้ ท่านทำได้แค่นี้ แต่สิ่งที่ผมจะโทษก็คือ ผมโทษรัฐบาล รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจมามีอำนาจ คสช. มีมาตรา ๔๔ อยู่ในมือ ก่อนที่ท่านจะมาเป็นรัฐบาลยาเสพติดมันไม่มีมากขนาดนี้ แล้วมีอำนาจเต็ม แล้วมาเป็นรัฐบาลอีก ๔ ปี แต่ไฉนยาเสพติดมันมากขึ้น ๆ ถ้าเราจะโทษหน่วยงานที่อยู่ เบื้องล่างโทษไม่ได้หรอกครับ ผมอยู่คณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน และยาเสพติดเคยคุยกับเจ้าพนักงาน บางท่านไม่กล้าจับ เพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง หรือไม่ รัฐบาลไม่เคยประกาศเอาจริงเอาจัง ไม่เคยประกาศสงครามกับยาเสพติด จึงมีคำถาม จากชาวบ้านว่าสงสัยมันได้ประโยชน์ร่วมกันหรือเปล่า เป็นคำถามที่ชาวบ้านเขาอยากรู้ นี่คือข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านเขารู้เองว่าสงสัยผู้หลักผู้ใหญ่นั่นเป็นผู้มีอิทธิพลจริง ก็เลยไม่กล้า ปราบให้สิ้นซาก การควบคุมปราบปรามยาบ้าเท่าที่ทราบจากรายงาน ป.ป.ส. ทราบว่ายาบ้า มันมาจากฝั่งตรงข้าม จากประเทศเพื่อนบ้าน ก็แสดงว่าการจับ การปิดเส้นทางเราไม่ได้ผล หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ใช่เฉพาะ ป.ป.ส. นะครับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ กองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ ทุกหน่วยงานครับ บางคนก็อ้างว่างบประมาณ ไม่เพียงพอ แต่สิ่งที่ประชาชนเขาได้มีคำถาม ผมคิดว่าเป็นคำถามที่ตรงไปตรงมา ว่ารัฐบาล ไม่เอาจริงเอาจังเพราะอาจจะมีประโยชน์ร่วมด้วยช่วยกันก็ได้ ท่านต้องตอบนะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเอาจริงเอาจังยาบ้ามันหมดไปตั้งนานแล้ว การปราบปรามเช่นกันตำรวจ ในท้องที่ต่าง ๆ ก็ไม่กล้า เพราะว่าผู้ค้าเขามีเงิน พอมีเงินเสร็จแล้วก็มีค้ามากขึ้น ๆ แล้วสุดท้ายสังคมก็จะยอมรับกลาย ๆ ท่านประธานครับว่าคนค้ามันก็เดินปกติ จะแจ้ง ก็ไม่กล้าแจ้ง เพราะไม่ทราบว่าไปแจ้งใคร เกิดไปแจ้งเจอคนที่ค้าด้วยกัน เกิดไปแจ้ง เจอตำรวจที่ค้าด้วยกันขึ้นมา เขาก็ไม่กล้า เขากลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะฉะนั้นรัฐบาล ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ท่านต้องเอาจริงเอาจัง ดีครับลูกหลานท่านไม่ได้ติด ท่านไปดู เถอะครับ ผมยกตัวอย่างจังหวัดกาฬสินธุ์ สมัยพรรคไทยรักไทย ท่านทักษิณ ชินวัตร ปราบยาเสพติด กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดแรกที่ประกาศเป็นจังหวัดปลอดยาเสพติด วันนี้ ท่านไปดูเถอะมีทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะกาฬสินธุ์ อำเภอกมลาไสยบ้านผม แล้วเจ้าหน้าที่ ก็ไม่กล้าด้วย เพราะอะไรครับ เพราะคนที่ขายก็คือใส่เสื้อสีกากี ก็คือเจ้าหน้าที่ขาย รู้แม้กระทั่งว่าใครขาย แล้วถามว่าไปจับได้ไหมครับ ผมเคยแจ้งไปครั้งหนึ่งว่ามีคนเสพแล้วไปทำร้ายร่างกาย ผู้ใหญ่บ้าน แล้วจับไปไม่นาน ไปขังแป๊บเดียวก็ปล่อยออกมา ก็มาอาละวาดอีกเหมือนเดิม แล้วประชาชนจะต้องก้มรับกรรมอีกต่อไปนานเท่าไร ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคง ของชาติ ใหญ่กว่าทุกเรื่อง ถ้ายาเสพติดเข้าสู่เยาวชนแล้วประเทศไม่ต้องพัฒนาหรอกครับ เยาวชนติดยาเสพติด ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ฉะนั้นเรื่องสำคัญคือเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ผมอยากให้เอาจริงเอาจัง แล้วก็ดีใจที่เราได้มีการแก้ไขกฎหมายเมื่อธันวาคม ปี ๒๕๖๔ ท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านบอกว่ามีการแก้กฎหมายเอาจริงเอาจัง เพราะที่ผ่านมา ไม่สามารถแก้ได้ ท่านบอกว่าจะต้องยึดทรัพย์เป็นหลัก ใครค้า ใครขาย ยึดทรัพย์ให้หมด เจอทรัพย์สินยึด เงินเข้าบัญชีเท่าไร เบิกจ่ายแล้วเหลือเท่าไรก็ช่าง เข้าเท่าไรยึดเท่านั้น แล้วยึดล่วงหน้าไปอีก ๑๐ ปี ต้องเอาจริงเอาจังแบบนี้ครับ ผู้ค้ารายใหญ่เขาถึงจะไม่กล้า แต่ที่สำคัญอีกประการหนึ่งตอนนี้มีปัญหาเรื่องสังคม ปัญหาเรื่องครอบครัว เพราะลูกหลาน ติดยา ท่านจะแก้ไขอย่างไรครับ แต่ละคนต้องแก้ไขด้วยตัวเอง พ่อแม่ต้องหาที่บำบัด ด้วยตัวเอง เพราะไม่รู้จะไปบำบัดที่ไหน ไปหาแล้วกาฬสินธุ์ไม่มี บอกให้ไปขอนแก่น บางคน บอกให้ไปเชียงราย ที่ไหนเขาก็อยากไปทั้งนั้นขอให้มีที่ แต่พอไปแล้วมันไม่ว่าง มันไม่เพียงพอ ฉะนั้นรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังในการแก้ไขเรื่องนี้ เรื่องการบำบัดครับ ต้องหาที่บำบัด ให้ทุกชุมชน ทุกหมู่บ้าน เพื่อจะได้ลูกหลานกลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องจำเป็น เร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ใครไม่โดนกับตัวไม่รู้สึกหรอกครับ พ่อแม่บางคนต้องไปแจ้ง ให้ตำรวจมาจับลูกตัวเองเข้าคุก เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร มันไปขโมยของ มันไปทำร้าย ร่างกายคนอื่น ไปลักทรัพย์ญาติพี่น้อง ใครมีลูกมีหลานติดยาเสพติด ฟังแล้วท่านจะรู้สึก แต่ไม่รู้รัฐบาลชุดนี้รู้สึกหรือเปล่า จึงอยากจะฝากทุกหน่วยงานช่วยกันครับ ตั้งแต่โรงเรียน วัด บ้าน ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เรามาร่วมด้วย ช่วยกันปราบยาเสพติดครับ ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ สมาชิกครับ ผมขอปิดการลงชื่ออภิปรายในรายงานนี้ก่อน เพื่อเราจะเข้า รายงานที่ ๓ ได้ในช่วงเวลาประมาณ ๔ โมงครึ่ง ท่านจะได้ประมาณการของการประชุมถูก ต่อไปเชิญท่านณพล เชยคำแหง ครับ

นายณพล เชยคำแหง หนองบัวลำภู ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระผม นายณพล เชยคำแหง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดหนองบัวลำภู เขต ๓ พรรคเพื่อไทย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของชาติ แล้วก็ สำคัญอย่างนี้มาเนิ่นนานแล้ว เหตุที่สำคัญก็อย่างที่ได้มีผู้อภิปรายได้พูดถึงโทษพิษภัยของยา มามากแล้ว ขณะเดียวกันที่รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยก็ได้มีมาตรการป้องกันแก้ไขต่าง ๆ นานา แต่นับวันเท่าที่ผมเห็นยังไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปได้เลยครับ เพราะฉะนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะต้อง มีวิธีการที่จะบูรณาการให้เกิดการป้องกันยาให้มันน้อยลงในพื้นที่ประเทศไทยของเราได้ อย่างไร ตอนนี้อย่างที่หลายท่านอภิปรายครับ การนำเข้าของยาเสพติดที่แพร่ระบาด ในประเทศไทยของเรามาหลายช่องทาง โดยเฉพาะแนวตะเข็บชายแดน ภาคเหนือ ภาคอีสาน อีสานค่อนข้างจะมาเยอะหน่อย และมันก็ส่งผลให้เมื่อมี Supply ที่มากขนาดนี้ ราคามันก็เลยจะต้องถูกลง ความต้องการมีมากขึ้น โดยเฉพาะทุกวันนี้เทคโนโลยีเรื่องของ สื่อต่าง ๆ ไปทั่วถึงแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Facebook เป็น LINE IG รวมไปถึง Twitter เชื่อไหมครับ ท่านประธานทุกวันนี้มีการขายผ่านสื่อ Online นะครับ แล้วก็มี Promotion กันแหลกลาญ เอากันว่าที่ไหน จำหน่ายอย่างไร ที่ไหน แล้วก็มุ่งไปที่ ผู้เสพรายใหม่ จากสถิติของ ป.ป.ส. เองในปี ๒๕๖๔ บอกว่ามีผู้เสพเข้ามาเสพใหม่ ถึง ๗๐.๓๔ เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเห็นว่านี่คือตลาดใหม่เลยครับ แล้วก็เป็นตลาดของเยาวชน บ้านเรา ปัญหาของผู้เสพหน้าใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนทุกวันนี้ เมื่อก่อนเรายังบอกว่า กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มมัธยม ทุกวันนี้ไประดับประถมแล้ว แล้วก็ไม่ใช่แค่ผู้ชาย ผู้ใช้ผู้หญิงก็เสพด้วย ป. ๕ ป. ๖ เรานี่ละครับ ในพื้นที่อย่างบ้านผม ผมผู้แทนหนองบัวลำภู เมื่อก่อนหน้านี้ จังหวัดหนองบัวลำภูเราคนรู้จักไม่มากเท่าไร แต่วันนี้หนองบัวลำภูเราโด่งดังไปทั้งโลก เกิดจากเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่กราดยิง ๓๘ ศพ ที่ตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ ตอนนั้นหนองบังลำภูดังไปทั้งโลกครับ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง ๓๘ ศพ แล้วใน ๓๘ ศพเป็นเด็ก ๒๔ คน เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจในพื้นที่จำนวนมาก ผมอยู่ ณ ที่นั้นตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนกระทั่งฌาปนกิจศพครบทั้งหมด เราผ่านเห็นหยาดน้ำตา เห็นความเศร้าโศกเสียใจของผู้สูญเสียจำนวนมาก แล้วทุกคนก็ผู้ใหญ่ คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ วิ่งมากอดผมบอกว่าปัญหาเหล่านี้เราจะหมดไปได้อย่างไร เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นอีกไหม ในประเทศของเรา ในบ้านของเรา ทุกคนกังวลอย่างนี้หมดครับ สิ่งที่ผมรับปากได้ว่า มันจะต้องน้อยลง มันจะต้องหมดไป ถ้าเลือกเราเป็นรัฐบาล ตอนนั้นเราก็บอกกับชาวบ้านไป แบบนั้น ในความเศร้าโศกเสียใจตรงนี้มันก็เป็นคำถามตามมาเยอะว่ายาเสพติดทำไมไม่หมด จากประเทศนี้เสียที จากบ้านเราเสียที

นายณพล เชยคำแหง หนองบัวลำภู ต้นฉบับ

ดูจาก Slide นะครับ ผมเป็น ตัวแทนของชาวบ้านที่เขาฝากให้มาถามว่ายาเสพติดที่มีสถิติในการจับกุมทุกปี ยาบ้า เป็นหลายร้อยล้านเม็ดเอาไปเก็บไว้ที่ไหน แล้วสถานที่เก็บปลอดภัยเพียงใด เพราะในพื้นที่ มันมีการกล่าวขวัญกันอย่างนี้ว่าจับแล้วมันไปหมุนเวียนกันต่อ อันนี้ผมก็เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ในดี มีเสีย เราคงไม่สรุปทั้งหมดว่าทุกคนจะไม่ดี แต่ว่ามันเป็นอย่างนี้จริง ๆ ในพื้นที่ จะรู้ดีว่าใครค้า ค้าอะไรถ้าต้องการได้ ไปหาใครที่ไหน นั่นคือในพื้นที่ชุมชนเป็นอย่างนี้เลยครับ แล้วสิ่งที่เกิดตามมาก็คือว่าเป็นปัญหากระทบต่อความปลอดภัยของสังคมในแต่ละชุมชน ผู้เสพวันหนึ่งเมื่อเสพแล้วก็ติด เมื่อติดแล้วก็จะหลอน เมื่อหลอนแล้วก็จะคลั่ง คลั่งเสร็จฆ่า อย่างที่เป็นข่าวทุกวันนี้ที่เราเห็นกันในหน้าหนังสือพิมพ์หรือใน TV ทั่วไป ลูกฆ่าพ่อ ลูกฆ่าแม่ ลูกเผาบ้าน ตีแม่เพราะขอเงินซื้อยาบ้าเพียง ๑๐๐ บาทไม่ได้ อันนี้ก็เกิดเหตุให้เราเห็นกันอยู่ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าความรุนแรงมันมีขึ้นทุก ๆ วัน จากปัญหาของความปลอดภัยในสังคม ที่ไม่มี ผู้เสพวันนี้ก็คือเราให้เป็นผู้ป่วยนำไปบำบัด แต่ต่อไปผมอยากจะฝากว่าช่วยพิจารณา ศูนย์บำบัดให้เพียงพอด้วยนะครับ เพราะว่าพอเอาไปบำบัดปุ๊บเตียงเต็ม สถานที่รองรับไม่มี ทางออกก็คือเอากลับไปดูแลที่บ้านแล้วเอายาไปกิน ผู้ป่วยเหล่านี้ฉลาดเวลาไปโรงพยาบาลปุ๊บ ทำตัวน่ารักไม่มีปัญหา ไม่หลอน ไม่คลั่ง แต่กลับมาบ้านไม่กินยา แล้ววันหนึ่งก็คลั่งขึ้นมา เหตุการณ์เหล่านี้เราไม่รู้ว่าผู้ป่วยที่มาอยู่กับชุมชนในพื้นที่แบบนี้แล้วไม่กินยา วันหนึ่ง เขาจะคุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไร ไม่ต่างกับระเบิดเวลาครับ หากว่าคุ้มคลั่งขึ้นมาเมื่อไรเหตุการณ์ ที่ไม่คาดคิดก็จะเกิดขึ้น เหตุฆาตกรรมหมู่ก็จะตามมา ซึ่งผมวิงวอนว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ในขณะที่เราเห็นความสูญเสีย เห็นความโศกเศร้าของพี่น้องประชาชน ผมก็ได้แต่บอกว่าในตอนนี้จังหวัดหนองบัวลำภูเรามีมาตรการที่รณรงค์ผ่านจังหวัดนะครับ โดยท่านผู้ว่า โดยท่านผู้บังคับการตำรวจ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด ๓ หน่วยงานร่วมกัน รณรงค์ในการที่จะสำรวจ แล้วก็ปราบปรามยาเสพติดให้มากขึ้น แต่เชื่อไหมว่าการสำรวจ ของเราในพื้นที่จริง ๆ ตัวเลขที่เกิดขึ้นแตกต่างกับ ป.ป.ส. ที่สำรวจมาก มันมากกว่ากัน หลายเท่าเลย นั่นก็คือพอเราเข้าสำรวจจริง ๆ รณรงค์จริง ๆ เข้าไปถึงพื้นที่หมู่บ้านจริง ๆ ผู้เสพคือผู้ป่วยเขาก็ไม่กลัว เขาก็นำเสนอตัวออกมาแจ้งกับเราว่าเสพอยู่ จำนวนจะเห็นว่า เยอะมาก แต่ปัญหาก็จะไปติดขัดที่ตอนบำบัดว่าจะบำบัดอย่างไร ตามมาด้วยงบประมาณ ที่ไม่เพียงพอนะครับ ผมก็จะฝากท่านเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณนะครับ ผมเข้าใจว่าท่านทำงานหนักมาก เพียงแต่ว่าสถานการณ์ปัญหามันหนักหน่วงมากกว่า ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ครับ

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง กระบี่ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ พรรคภูมิใจไทย เขต ๓ ท่านประธานที่เคารพครับ ในเรื่องของยาเสพติด ในสมัยที่ผ่านมานั้นผมในฐานะเป็น ผู้ยื่นญัตติในส่วนของคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด เป็นประธานอนุกรรมาธิการ ต้องยอมรับว่าหน่วยงานที่สำคัญที่สุดก็คือหน่วยงาน ป.ป.ส. ถือว่าเป็นหัวใจหลักในเรื่องของยาเสพติด ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่เอาจริงเอาจังว่า เราจะแก้ปัญหาในเรื่องของยาเสพติดให้เบาบางลงหรือว่าลุล่วงไปได้อย่างไรนะครับ ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้ปัญหาในเรื่องของยาเสพติดนั้นการที่จะพูดทุกปีทุกสมัยว่า เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ งบประมาณน้อย อันนี้มันเป็นประเด็นที่พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เราก็คง จะต้องมาพิจารณาในประเด็นว่าเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในภาครัฐเรามีเท่านี้ และงบประมาณ เรามีเท่านี้ เราจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนับวันที่จะกระจายลุกลามบานปลายไปสู่สังคม ในครอบครัว สถาบันครอบครัว สถาบันโรงเรียน ทุกสถาบัน แม้กระทั่งวัด ศาสนา มีครบหมด วันนี้เราจะต้องทำกันอย่างไรบ้าง

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง กระบี่ ต้นฉบับ

ประเด็นเบื้องต้น ผมคิดว่าสำคัญที่สุดตัวเลขของ ป.ป.ส. ผมคิดว่าน่าจะมี ในรายงานที่อุตส่าห์ทำมาอย่างดีรายงานการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. แล้วก็ ในตอนท้ายปัญหาอุปสรรค ผมดูแล้ว ๒-๓ หน้า ก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่ที่จริงแล้วปัญหาที่ ลึกซึ้งเข้าไปมากกว่านี้ก็ยังมีอยู่นะครับ ก็ขออนุญาตกำหนดประเด็นอย่างนี้ว่าปัญหายาเสพติด วันนี้ที่มันเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนในชนบท ผมคิดว่าถ้าเป็นอันดับ ๑ เลย ก็น่าจะเป็นยาบ้า เพื่อนสมาชิกหลายคนก็พูดแล้วว่ายาบ้าวันนี้นับวันราคามันก็ถูกเหลือเกิน ก็เป็นโจทย์ที่จะต้องฝากรัฐบาล ฝาก ป.ป.ส. ว่าวันนี้ถ้าเราทำยาที่มีคุณภาพเหมือนยาบ้า แต่ภาครัฐหรือว่าหน่วยงานของ ป.ป.ส. เข้าไปผลิตแล้วก็ควบคุมเพื่อจะให้คนเสพติดได้บรรเทา อาการไม่ต้องไปซื้อ ไม่ต้องไปหา ไม่ต้องไปรีดทรัพย์กับพ่อแม่ ไม่ต้องไปลักเล็กขโมยน้อย แล้วเพื่อที่จะไปซื้อยาบ้า ท่านประธานครับ วันนี้น่าเป็นห่วงมาก ในเรื่องของยาบ้าเข้าไปสู่ เด็กวัยรุ่น เด็กมัธยม เด็กประถม เด็กที่ไม่ได้เรียน แล้วก็อยู่ในชุมชนที่ยากจน เข้าไปในวัด เข้าไปในมัสยิด โดยเฉพาะที่จังหวัดผมนี่ผมเข้าไปหาโต๊ะอิหม่าม เข้าไปหาผู้นำศาสนา เข้าไปหา ผอ. โรงเรียน ได้รับการร้องเรียน ได้รับการกระซิบว่าปัญหาเรื่องยาเสพติด ท่าน สส. จะมีนโยบายแก้ปัญหาอย่างไร จะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะให้ผู้มีอำนาจการกำกับ ดูแลแก้ปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จลุล่วงไปได้สักที ท่านประธานครับ วันนี้เราจัดหน่วยของ ป.ป.ส. จะต้องนำเรียน ป.ป.ส. ผ่านไปยังท่านประธานว่า การใช้งบประมาณที่จะไปอบรม อย่างเดียวนั้น ผมคิดว่ามันค่อนข้างที่จะมีผลประโยชน์น้อยมาก ในผลลัพธ์ที่ผ่านมานั้น ผมคิดว่าคงจะต้องจัดสรรงบประมาณมีอันจำกัดนั้น เพื่อที่จะลงลึกเข้าไป ถ้าในกรณี งบประมาณไม่เพียงพอ ผมคิดว่าน่าจะต้องบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่ หลายหน่วยงานที่มี ความพร้อมในการที่จะจับมือกัน เช่นไปเอกซเรย์ในเรื่องของสถาบันครอบครัวในหมู่บ้านว่า ในครอบครัวนี้มีลูกหลานเราติดยากี่คนก็จดชื่อมา แล้วก็เข้าไปอบรม แล้วก็ให้ผู้ปกครอง เข้ามามีส่วนร่วม แล้วก็ตรวจปัสสาวะ ตรวจฉี่กันทุกวัน หรือ ๒-๓ วัน แล้วก็มีการสุ่มตรวจ มีเพื่อนผม ท่านวิชาสรรค์ก็ทำได้ดีแล้วก็ได้รางวัลที่บ้านบ่อม่วงพร้อมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน โต๊ะอิหม่ามในมัสยิด ก็เป็นบทเรียนที่ดี ก็น่าที่จะมีหน่วยบำบัด เรื่องนี้ต้องการพูดให้เห็นภาพว่า ป.ป.ส. คงจะต้องไปจับมือบูรณาการกับท้องถิ่น เช่นในเรื่องของอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุข ตำรวจ แล้วก็ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ เพื่อที่จะตกลงกันแล้วก็บูรณาการกัน เมื่อไม่มี ตลาดให้ขาย ผมถามว่าวันนี้ที่ผลิตกัน เดี๋ยวนี้พัฒนาผลิตกันในรถตู้นะครับ ในรถตู้แล้วก็ ขายกันเป็นจุดเพื่อที่จะจัดส่ง เพราะฉะนั้นการที่จะดำเนินการป้องกันยากมาก เพราะฉะนั้น เราก็จะต้องไปดูปลายเหตุด้วยว่ากลุ่มผู้ใช้ ลูกค้าของยาบ้ามันอยู่กลุ่มไหนบ้าง ที่ใดก็ตาม ที่มียาบ้ามาก ที่นั่นมีการลักเล็กขโมยน้อย เช่น ขโมยปาล์ม ขโมยของในบ้าน พืชเกษตร อุปกรณ์ ขโมยหมดนะครับ เพราะฉะนั้นนำมาซึ่งในเรื่องของปัญหาต่าง ๆ อีกมากมาย เมื่อพัฒนาจากยาบ้า ต่อไปเป็นยาไอซ์ เมื่อเป็นยาไอซ์แก้ยากมากครับ ท่านประธานครับ เพราะฉะนั้นในประเด็นนี้ผมคิดว่าในเรื่องของพื้นที่การตัดตอนหรือกระบวนการใช้ ป.ป.ส. คงจะต้องไปทบทวน เราใช้มาตรการเดิม ๆ ทุกปีที่สภานี้มาเรารับฟังรายงานการประชุมนั้น เราก็จะเห็นว่าสถิติการใช้ การขายเพิ่มขึ้น และรุนแรงขึ้นอยู่ทุกปี เพราะฉะนั้นอันนี้ ก็ขอฝากนะครับ แล้วก็ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ทุกท่านว่าได้ไปทบทวน

นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง กระบี่ ต้นฉบับ

อีกส่วนหนึ่งผมได้รับการรับฝากมาจากท่านศาสตราจารย์ดอกเตอร์โกวิทย์ พวงงาม ว่าขอฝากในเรื่องของการ Coaching เรื่องของเจ้าหน้าที่ในการไปอบรมนะครับ ถือว่าเป็นการใช้กฎหมายพิเศษ ไม่ว่าในการจับกุม ในการตรวจค้น ในการยึดทรัพย์ และกระบวนการทางกฎหมายมันถือว่าเป็นกระบวนการทางพิเศษ แล้วก็ต้องใช้บุคคล ที่มีความเชี่ยวชาญ มีความเข้าใจเป็นมืออาชีพ เพราะฉะนั้นการ Coaching ในเรื่องของ การถ่ายทอดอะไรต่าง ๆ นั้นต้องให้ได้มาตรฐาน แล้วก็พัฒนาตามให้ทันกับกลุ่มผู้นำ ของการค้ายาเสพติดด้วย เพราะฉะนั้นการค้ายาเสพติด การนำยาเสพติดเข้าไปสู่สังคม เป็นสงครามยาเสพติดในวันนี้ไม่ใช่มีแต่เฉพาะยาบ้า ยาไอซ์ ยังมียาเสพติดอีกหลายประการ แล้วก็มีการพัฒนา มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่น่ากลัวนะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ก็ขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ป.ป.ส. ถือว่าเป็นองค์กรแม่ข่าย องค์กรหลัก ในเรื่องของการแก้ปัญหาสังคม ในเรื่องของยาเสพติด หวังว่าในการรับฟังรายงานในปีต่อไปนั้น สถิติในเรื่องของยาบ้าน่าจะลดลงนะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านรัฐ คลังแสง ครับ

นายรัฐ คลังแสง มหาสารคาม ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม รัฐ คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม เขต ๖ อำเภอกันทรวิชัย อำเภอเชียงยืน และอำเภอชื่นชม ขออนุญาตอภิปรายรายงานผลการปฏิบัติงาน ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ รบกวนขอ Slide ด้วยครับ

นายรัฐ คลังแสง มหาสารคาม ต้นฉบับ

ผมขออนุญาตเกริ่นสักครู่นะครับไปเร็ว ๆ แหล่งต้นน้ำคือในกระบวนการค้ายาเสพติดนั้นก็มาจากประเทศเพื่อนบ้านเราไม่ใกล้ไม่ไกล นั่นก็คือประเทศเมียนมา แล้วสถานการณ์ในการผลิตก็ดูจะมีแนวโน้มที่มากขึ้น เนื่องด้วย เทคโนโลยีที่สูงขึ้น แล้วก็อุตสาหกรรมในการผลิตก็ถือว่ามีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ปริมาณ การผลิตมีมากขึ้น ในส่วนกระบวนการลักลอบนำเข้าก็ถือว่าได้มีการเปลี่ยนแปลง มีการ Adapt ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ใช้รถ เรือ เครื่องบิน และไปรษณีย์มาเพื่อเลี่ยงการจับกุม ในส่วนกลางน้ำและปลายน้ำก็ไม่ต่างกัน มีการลักลอบขนส่งไปกับสินค้าอุปโภคบริโภค แล้วก็ สินค้าเกษตร มีการจัดรูปขบวนในการลำเลียงสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม อย่างน้อย ๆ ต้องมีรถ ๓ คัน ๑. รถนำขบวน ๒. รถขนสินค้าที่มียาเสพติด ๓. รถตามขบวน มีช่องทาง ในการขายหลากหลายขึ้น ใช้ Social Media ในการขาย ทำให้ผู้เสพสามารถเข้าถึงช่องทางการขายได้ง่ายขึ้น ทำให้ ราคาถูก เกิดเป็นปัญหาสังคมและอาชญากรรม นี่คือปัญหาหลัก ๆ ที่ผมลงพื้นที่ไปพบเจอ พี่น้องประชาชน เป็นปัญหาหลักรองจากปัญหาเศรษฐกิจ พี่น้องบอกว่าฝากให้รัฐบาลใหม่นี้ ช่วยแก้ปัญหายาเสพติดให้พี่น้องประชาชนด้วย ส่วนมาตรการจากภาครัฐที่ผมได้ดูจาก รายงานผลการปฏิบัติงานของ ป.ป.ส. เท่าที่ดูก็มีอยู่ ๕-๖ มาตรการ ในส่วนมาตรการ ที่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ส. นั้นก็คงจะเป็นมาตรการที่ ๒ ในตัว Highlight สีเขียว นั่นก็คือ การปราบปราม บังคับใช้กฎหมาย สกัดกั้น แล้วก็จับกุม ส่วนมาตรการที่ ๖ นั้นเพิ่มเข้ามาใน กฎหมายตัวใหม่ที่เพิ่งออกมาในปลายปี ๒๕๖๔ นั่นก็คือเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่สามารถ ยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์ได้มากขึ้น ได้ตามมูลค่าของกลางที่จับกุมได้ ซึ่งตัวนี้จะเอื้อ ประโยชน์นะครับ ในเมื่อเราดำเนินการจับกุมสินค้ามันทำได้ยากกว่าเดิม เราเปลี่ยนมาจับกุม เส้นทางการเงิน ตัวนี้จะช่วยลดปัญหายาเสพติดได้มากขึ้น ต่อประเด็นในรายงานผล การปฏิบัติงานของ ป.ป.ส. นั้นมีการรายงานจำนวนคดีและปริมาณยาเสพติดที่จับกุมจำนวน มากขึ้น แต่ว่าการจับกุมได้มากขึ้นนั้นสื่อถึงผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้นหรือไม่ อันนี้เป็นประเด็น คำถามที่ผมสงสัย แต่ผมกลับคิดในทางตรงกันข้ามครับ ผมกลับมองว่าประเด็นหรือว่าตัวชี้วัด ในการปฏิบัติงาน มันคือจำนวนผู้ร้ายหรือปริมาณยาเสพติดที่จับกุมไม่ได้ต่างหาก ก็คือ ยาเสพติดที่เล็ดลอดไปยิ่งมีจำนวนมาก นั่นหมายความว่าผลการปฏิบัติงานนั้นไม่เป็น ที่น่าพอใจ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าสินค้านั้นเล็ดลอดไปน้อย หมายความว่าผลการปฏิบัติการนั้น เป็นที่น่าพึงพอใจ ผมขอเปรียบเทียบในกรณีนี้เพื่อให้เห็นภาพสักเล็กน้อย ตัวหนังสืออาจจะเล็ก มี ๒ กรณี คือ A และ B ตัวสีเขียว ๆ จุดวงกลมนั้นคือจำนวนยาเสพติดที่จับกุมได้ ส่วนสีแดงนั้น คือส่วนที่เล็ดลอดหรือจับกุมไม่ได้ ในกรณี A นั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่าการจับกุมนั้นมีจำนวนน้อย ดูประหนึ่งว่าผลงานนั้นไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะจับกุมได้น้อย แต่ในขณะที่ B จะมีการจับกุม ได้มากกว่า แต่ท่านลองดูตัวสีแดงนั่นสิครับ สีแดงนั่นคือปริมาณยาเสพติดที่เล็ดลอดไปได้ นั่นหมายความว่าถึงแม้ว่าในกรณี B มีการจับกุมได้มากขึ้น แต่ว่าปริมาณยาเสพติดที่เล็ดลอดไป หรือกระจายอยู่ในประเทศมันกลับมากกว่าในกรณี A นั่นหมายความว่าสิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัด การทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จริง ๆ แล้วคือสินค้ายาเสพติดที่เล็ดลอดไปต่างหาก ทีนี้เราจะทำอย่างไรที่สามารถเอาตัวชี้วัดหรือว่าปริมาณนี้มาชี้แจงในรายงานได้ คงเป็นเรื่อง ที่ยาก ผมเลยมีแนวคิดอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการสำรวจราคาของราคายาเสพติด ราคาขาย ในท้องตลาดนี่ละครับ ก็เอามาแสดงเสียในรายงาน สำคัญอย่างไรครับ ก็ในเมื่อเรา ไม่สามารถวัดปริมาณที่มันเล็ดลอดไปได้ เราก็มาดูราคาขาย สัมพันธ์อย่างไรกับปริมาณ ก็ตามกลไกราคาตามหลักเศรษฐศาสตร์เลย ง่าย ๆ คืออุปสงค์ Demand และอุปทาน Supply จุดสีแดง ๆ หมายความว่าสินค้ายาเสพติดมีเยอะ มันมีมากส่งผลให้อุปทานมีสูง ทำให้ราคานั้นถูก ในทางกลับกันถ้าจุดสีแดง ๆ มีน้อยหรือสินค้าที่เล็ดลอดไปมีน้อย ทำให้ ราคายาเสพติดนั้นมีราคาแพงนะครับ ง่าย ๆ ในอดีตที่ผ่านมาเราจะเห็นการปฏิบัติจับกุม ยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพในสมัยพรรคไทยรักไทย สมัยพรรคพลังประชาชน ดูได้ จากอะไร ดูได้จากราคายาเสพติดที่มีราคาสูง ในขณะนั้นยาบ้าราคาหลักร้อย ทุกวันนี้ราคา หลักหน่วย หลักสิบ เพราะฉะนั้นผมจึงเสนอว่ารายงานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นี้ควรจะมีการนำราคา ขายยาเสพติดในท้องตลาดมาชี้แจง บอกไปเลยว่าในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยตรงไหน ราคาเท่าไร ตัวนี้ถึงจะได้เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจน มีประเด็นอีกเล็กน้อย ในส่วนของการชี้แจง ในรายงานผมเห็นจำนวนของเจ้าหน้าที่พนักงาน ป.ป.ส. ในปี ๒๕๖๔ ในช่วงต้นปี หรือการแต่งตั้งมีจำนวนเจ้าหน้าที่ ๑๔,๐๐๐ กว่าอัตรา แต่ในวันที่ ๒๗ ตุลาคม เจ้าหน้าที่ กลับลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่งเหลือ ๗,๐๐๐ กว่าตำแหน่งเท่านั้น ตรงนี้ผมจึงมีคำถามว่า ทำไมในรายงานไม่มีการสรุปรายละเอียดชัดเจนว่าในกรณีที่ยกเลิกแต่ละกรณีนั้นซึ่งเขียนไว้ ว่ามี ๑. พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ๒. ถูกดำเนินคดี ๓. ไม่ต่ออายุบัตรประจำตัวเกินกว่า ๖ เดือน ๔. ไม่รายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้หัวหน้าผู้บังคับบัญชาทราบ ตรงนี้รบกวน ถ้าเป็นไปได้อยากให้ชี้แจงเพื่อที่จะได้วิเคราะห์ประเด็นปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จำนวนลดลงถึงครึ่งต่อครึ่ง สุดท้ายผมขอเสนอแนะต่อ ป.ป.ส. และรัฐบาล ๑. ขอให้ เพิ่มข้อมูลราคาขายยาเสพติดในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศเข้าไปในรายงาน เพื่อเป็นหนึ่ง ในตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน ๒. เพื่อแก้ปัญหาเรื่องจำนวนเจ้าพนักงานที่มีจำกัด ควรส่งเสริม และให้ความรู้แก่ภาคประชาชน ผู้นำชุมชน ซึ่งอยู่ใกล้ชิดปัญหาได้ร่วมป้องกันและเฝ้าระวัง ๓. ถ้าเป็นไปได้ก็ตั้งคณะกรรมการในระดับชุมชน ให้ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้านหรือ คนในชุมชน จัดการปัญหายาเสพติดในชุมชน เพราะผู้นำแล้วก็คนในชุมชนจะทราบดีว่า ใครเสพ ใครค้า ใครติด ไม่ติด ขอฝากสภาไว้เพียงเท่านี้ครับ กราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ครับ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธาน ที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนแบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคเพื่อไทย เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหายาเสพติดในช่วง ๒-๓ ปีมีการแพร่ระบาด อย่างรุนแรง เพราะมันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการซื้อง่าย ขายคล่อง ราคาถูก และสามารถ ส่งตรงถึงบ้านคุณค่ะ ดังนั้นปัญหายาเสพติดที่เพื่อนสมาชิกหลายคนได้พูดไปมันได้สะท้อน ออกมา ขอ Slide แผ่นแรกค่ะ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

สะท้อนให้เห็นว่า ปริมาณการเกิดขึ้นของยาเสพติดในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการขยายตัว เพิ่มสูงขึ้น และมันก็สอดรับกับปริมาณทั้งยาบ้าและยาไอซ์ที่มีสูงจนประเทศไทย ติดอันดับ ๑ ใน ASEAN แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดก็คือปัญหาเรื่องของการลักลอบนำเข้ายาเสพติดซึ่งยังคง เป็นปัญหาที่ไม่ใช่เพียงหน่วยงาน ป.ป.ส. เท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ และการบูรณาการจากหลายหน่วยงานถึงจะแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนของประเทศไทยได้ จากข้อมูลการรายงานผลของ ป.ป.ส. ในปี ๒๕๖๔ เราพบว่าจำนวนคดียาเสพติดที่เกิดขึ้น ประมาณ ๓๓๗,๑๘๖ คดี มีมูลค่าของการอายัดทรัพย์สินตั้งแต่เกิดขึ้นของ ป.ป.ส. ในการอายัดทรัพย์สินได้อยู่ประมาณ ๗.๓ พันล้านบาท แต่ถ้าเทียบกับคดีที่มีการดำเนินคดี เราจะพบว่าอัตราส่วนของการอายัดทรัพย์สินนั้นอาจจะน้อยเกินไปกว่าเป้าหมายที่ ป.ป.ส. จัดตั้งค่ะ นอกจากนี้ในรายงานของ ป.ป.ส. ฉบับปี ๒๕๖๔ รายงานผล ดิฉันยังมีข้อสังเกต ที่น่าสนใจก็คือความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เนื่องจากมี การรายงานผลในส่วนที่ ๕ การกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หน้า ๔๗ ดิฉันพบว่า มีการกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือประพฤติมิชอบ หรือได้กระทำความผิดทางอาญา โดยได้รับการร้องเรียนว่า เป็นการกระทำความผิดทั้งสิ้น ๑๑ ราย แต่เมื่อเข้าไปตรวจสอบในเอกสารกลับพบว่า ส่วนใหญ่เป็นการดำเนินความผิดทางวินัย และไม่มีการชี้แจงในลักษณะของความผิด หรือโทษในทางวินัยที่ได้รับ เราต้องไม่ลืมว่าหน่วยงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานในการสืบสวน ดังนั้นการลงโทษผู้กระทำผิดทั้งทางวินัย ทางอาญาต้องมีความชัดเจน เพื่อให้ ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานที่มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชน ประเด็นที่ ๓ เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าปัจจุบันเราใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ปี ๒๕๖๔ ที่ได้มีการประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ผลของการบังคับใช้กฎหมาย ฉบับดังกล่าวอาจมีอุปสรรคอยู่หลายประการที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะปัญหายาเสพติด อย่างที่กล่าวตอนต้นว่า ป.ป.ส. ไม่ใช่หน่วยงานเดียว จำเป็นต้องใช้การบูรณาการ จากหน่วยงานในทุกภาคส่วน และที่สำคัญที่สุดจำเป็นที่ผู้บริหารหรือนายกรัฐมนตรี จะต้องจริงใจติดตามและใส่ใจในปัญหาอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาการดำเนินงานของ ป.ป.ส. ถึงแม้จะมีกฎหมายผ่านมาแล้วปีกว่า แต่เรายังไม่ค่อยเห็นการดำเนินการที่รวดเร็ว เพราะอะไรคะ เพราะมีแต่คำสั่งการ มีแต่ตั้งคณะกรรมการ และมีแต่วาระแห่งชาติ แต่ไม่เคยมีตัวชี้วัดที่เป็นเป้าประสงค์ที่ชัดเจน จากรายงานทั้งหมดดิฉันจึงอยากขอเสนอแนะ เป็นข้อสังเกตให้กับหน่วยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ๓ ประการดังนี้ค่ะ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการแรก อยากให้มีการกำหนดตัวชี้วัดจำนวนทรัพย์สินที่มีการตรวจยึด และอายัดที่ศาลสั่งริบ ควบคู่ไปกับตัวชี้วัดด้านปริมาณยาเสพติด ที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะปกติ เวลาที่ตำรวจจับยาเสพติดก็จะเอาของกลางมาแสดงโชว์ แต่สิ่งที่ประชาชนอยากรู้ในวันนี้ ก็คือจับแล้วในหมู่บ้านนั้น ในสถานีตำรวจแห่งนั้น มีการอายัดทรัพย์สินได้เท่าไร เพราะว่า การอายัดทรัพย์ของผู้ค้าคือต้นตอและเป็นการหยุดชะงัก และทำลายวงจรของยาเสพติดค่ะ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ ดิฉันอยากให้มีการพัฒนาระบบการสร้างแรงจูงใจในการสร้าง ขวัญกำลังใจของประชาชนในการให้เบาะแส ที่ผ่านมาเข้าไปสำรวจดูสายด่วน ป.ป.ส. ๑๓๘๖ มีปริมาณการโทรเข้ามาแจ้งยาเสพติดประมาณ ๑๖,๐๐๐ สาย ตัวเลขกลม ๆ แต่เรามี หมู่บ้านอยู่ ๗๐,๐๐๐ กว่าหมู่บ้าน ๗๕,๐๐๐ หมู่บ้าน หมายความว่าถ้ายาเสพติดเป็นปัญหา ที่ลงไปในทุกชุมชนอย่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนรับทราบ การรายงานผลเข้ามา ยังมีน้อยอยู่ นั่นคืออะไรคะ ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัยในการแจ้งเบาะแส ดังนั้น จึงอยากให้มีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ โดยการนำเอา Blockchain เข้ามาใช้ เพื่อใช้ในการแจ้งเบาะแสให้กับภาคประชาชน และยังเป็นการคุ้มครองภาคประชาชนให้มี ความปลอดภัยสูงขึ้นด้วยค่ะ

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๓ เป้าหมายในการยึดทรัพย์ยาเสพติดของ ป.ป.ส. ตามประมวล กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่นี้ ตั้งเป้าไว้ว่าปี ๒๕๖๖ จะยึดได้ประมาณ ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่เชื่อไหม UN ประเมินว่าทรัพย์สินและมูลค่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในประเทศไทย ณ ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า ๖๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า ๒ ล้านล้านบาทไทย ดังนั้น เป้าที่ ป.ป.ส. ตั้ง ๔๐,๐๐๐ ล้านบาทอาจเป็นเป้าหมายที่ต่ำกว่าความเป็นจริงในการยึด และอายัดทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติด สุดท้ายค่ะท่านประธาน ขอ Slide แผ่นสุดท้ายเลยค่ะ ไม่ว่าเราจะมีมาตรการในการแก้ไขยาเสพติดใน ๖ มาตรการที่ครอบคลุมอย่างไรก็ตาม ถ้าเรามีมาตรการเหล่านี้ แต่เราไม่มีนายกรัฐมนตรีที่ดี ไม่มีรัฐบาลที่คอยจี้และคอยติดตาม ผลงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและจริงใจ และอย่างเอาเป็นเอาตายค่ะ ต้องพูด อย่างนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้อนาคตของลูกหลานไทยคงเป็นไปได้ยาก ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านพลากร พิมพะนิตย์ ครับ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายพลากร พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขต ๒ อำเภอยางตลาด อำเภอฆ้องชัย พรรคเพื่อไทย ตามที่ได้รับฟังรายงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ในวันนี้ได้รับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงหลายเรื่อง หน่วยงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานที่สำคัญ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาของสังคม ปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ได้รับ ผลกระทบเกี่ยวกับยาเสพติดในประเทศ เหตุใดจึงปราบไม่หมดเสียทีครับ หน่วยงาน ป.ป.ส. เป็นหลักที่ทำหน้าที่ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ปัญหายาเสพติด ปัจจุบันซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนควรนำเข้าสู่วาระแห่งชาติ โดยกระผมมีข้อสังเกต เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. อยู่ ๒ ประการ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ เรื่องการตรวจของกลางเพื่อตรวจสอบเมื่อกระทำความผิด โดยเมื่อจับกุมผู้กระทำความผิดในที่เกิดเหตุมักมีทรัพย์สิน โทรศัพท์ รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ของผู้กระทำความผิดจอดอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเมื่อสันนิฐานว่าสงสัย เป็นของใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาจากการกระทำความผิดที่ยึดไว้ในเหตุ ส่งไปยัง สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันสามารถอายัดที่ดินและบ้านได้ ก่อให้เกิดปัญหา อันนี้คือในมุมมองของผู้บริสุทธิ์นะครับ ก่อให้เกิดปัญหาการติดตามเอาคืนยาก หรืออาจโดน กลั่นแกล้ง หรือเป็นช่องทางหาผลประโยชน์ กว่าจะพิสูจน์ทราบได้ต้องผ่านกระบวนการยื่นศาล เพื่อขอของกลางคืน เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการขอริบของของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ใช้เวลาเป็นปี ตรงนี้ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. อยากให้ โปรดช่วยพิจารณาปรับปรุงวิธีการยึดทรัพย์ให้เกิดความโปร่งใส รวดเร็ว และเป็นธรรม กับพี่น้องประชาชนด้วยครับ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ที่ผ่านมามักมีการแอบอ้างแสดงตนเข้าเป็น เจ้าหน้าที่เพื่อเข้าจับกุมค้นหายาเสพติดต่อผู้บริสุทธิ์บางคน ซึ่งจริง ๆ แล้วประชาชน ไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. แต่ก็เห็นข่าวในหลาย ๆ ช่องทางว่า มีการแอบอ้างมิจฉาชีพ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่พนักงาน ป.ป.ส. เพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน อาชญากรรมอื่น ๆ กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดความรัดกุมรอบคอบของการทำงาน ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และความปลอดภัยของประชาชนเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ของประชาชนควรได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ผมเลยอยากให้หน่วยงานของ ป.ป.ส. หาแนวทางแก้ไขปัญหาใน ๒ ประเด็นนี้ด้วย และสิ่งสำคัญสุดท้ายที่เพื่อนสมาชิกได้พูดไปแล้ว ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าพูดถึงเรื่องสารตั้งต้นนะครับ ปัจจุบันประเทศไทยมีการสั่งนำเข้า สารเคมีมาจำนวน ๑,๑๕๐ ตัน ขอ Slide ด้วยครับ

นายพลากร พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

๑,๑๕๐ ตัน และส่งออกไป ประเทศเมียนมา ๘๑๐ ตัน เหลือใช้เพียง ๓๑๐ ตันในกลุ่มโรงงานชุบโลหะ ซึ่งสารตั้งต้น ๘๑๐ ตันที่เราส่งไปประเทศเมียนมานี่สามารถผลิตยาบ้าได้ ๑๖,๐๐๐ ล้านเม็ดครับ ท่านประธาน โดยเฉพาะสาร Sodium Cyanide ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ ๓ ในการผลิตยา โดยสาร Sodium Cyanide ๑ กิโลกรัม ถ้าเล็ดลอดออกจากโรงงานสามารถผลิตยาบ้าได้ ๒๒,๐๐๐ เม็ด โดยที่ผ่านมามีการควบคุมเพื่อไม่ให้มีการนำไปผลิตยาเสพติดนั้น ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ป.ป.ส. เป็นเจ้าภาพเพื่อบูรณาการเกี่ยวกับ การกำหนดสารเคมีต่าง ๆ เหล่านี้ว่าทำไมเราใช้แค่ ๓๑๐ ตัน เราถึงต้องสั่งนำเข้า เพื่อไปส่งออกให้ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อไปผลิตยา แล้วย้อนกลับเข้ามาประเทศไทย ของเรา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ผมอยากให้แก้ที่ต้นเหตุ ที่กระผมได้กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับหน่วยงานของท่าน และเกิดประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อป้องกัน ปราบปรามต้นเหตุอีกทางหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์

นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ อุดรธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๖ อุดรธานี พรรคไทยสร้างไทย ท่านประธานครับ จากการสอบถามพี่น้องประชาชน นอกจากปัญหาของเศรษฐกิจซึ่งว่า เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ปัญหายาเสพติดเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่เช่นเดียวกันครับ วันนี้แนวทางของพรรคไทยสร้างไทยนำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เรามีนโยบาย แล้วก็อยากฝากไปยังท่านประธานถึงสำนักงาน ป.ป.ส. ด้วยยุทธศาสตร์การปราบยาบ้า ยาเสพติดคืนลูกหลานสู่อ้อมอกของพ่อแม่ด้วย ๓ ยุทธศาสตร์ดังนี้

นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ อุดรธานี ต้นฉบับ

ยุทธศาสตร์ที่ ๑ ให้เร่งดำเนินการในเชิงรุก เร่งนำผู้เสพมาบำบัดให้หายขาด โดยเร็วครับ

นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ อุดรธานี ต้นฉบับ

ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ให้ดำเนินการปราบยาเสพติดอย่างจริงจัง ลากตัวผู้ค้า สายยา และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รู้เห็นเป็นใจปล่อยให้การค้ายาเสพติดซึ่งทำลายอนาคต ของชาติมารับโทษในขั้นสูงสุด

นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ อุดรธานี ต้นฉบับ

ยุทธศาสตร์ที่ ๓ ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ คือการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง โดยจัดตั้งสภาชุมชนในทุกหมู่บ้าน แล้วใช้สภาชุมชนเป็นกลไกดึงให้ผู้คนในหมู่บ้านมาร่วม สร้างกฎกติกาและลงมติ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดด้วยเข็มมุ่งที่ตรงกัน ทำให้หมู่บ้าน ของตนปลอดจากยาเสพติดและอาชญากรรมร้ายแรง พร้อมทั้งมีระบบการติดตาม และประเมินผลจากภาครัฐซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนด้วยตัวของพี่น้องประชาชนเอง ขอฝากนโยบายยาเสพติดของพรรคไทยสร้างไทยถึงท่านประธานไปยังสำนักงาน ป.ป.ส. ให้รับพิจารณาเรื่องนี้ไปดำเนินการด้วยครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านรังสรรค์ มณีรัตน์ ครับ

นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูน ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาที่เคารพ ผม รังสรรค์ มณีรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลำพูน พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ยาเสพติด ที่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ร้อยละ ๗๙.๒ เปอร์เซ็นต์เป็นยาบ้า อีก ๘.๓ เปอร์เซ็นต์ เป็นยาไอซ์ แล้วก็เป็นการแพร่ระบาดมากที่สุดในย่าน ASEAN เราไม่อยากถูกตราหน้าว่า เป็นขี้ยาแห่งเอเชียครับ ดังนั้นผมขอให้กำลังใจทาง ป.ป.ส. ที่จะดำเนินการปราบปราม ยาเสพติดอย่างเข้มข้นและจริงจังต่อไป นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ประกาศ สงครามกับยาเสพติดเมื่อปี ๒๕๔๖ ในขณะนั้นผู้ค้ายา ผู้ขายยาแทบจะหมดออกไปจาก แผ่นดินไทยแล้ว ยาบ้าเม็ดละ ๓๐๐ บาท ๕๐๐ บาทไม่มีขาย แต่ปรากฏว่าพอเปลี่ยนรัฐบาลมา ท่านประธานครับ จนมาถึงรัฐบาลชุดนี้รัฐบาลรักษาการ นำโดย ท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา ยาบ้าเหลือ ๒๐ บาท ๓๐ บาท แพร่ระบาดมาก ซื้อขายได้ง่าย เมื่อเช้าก่อนที่ผมจะมา อภิปรายผมกดไปใน Google ใน Social ขอ Slide ด้วยครับ

นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูน ต้นฉบับ

กดเข้าไปครับ มีขายใน Social 1G ๑,๑๐๐ บาท 2G ๒,๑๐๐ บาท G ละ ๑,๐๐๐ บาท น้ำหนัก ๑.๕๐ กรัม แถมงานดี ส่งฟรี ค่ารถจ่ายเอง มีภาพยาเสพติด มีตัวรูปม้า ๒ ตัว ยาว ๆ ไปจ้า สายไฮ สายไฮพัทยา ท่านประธานครับ ฝากไปยังผู้ชี้แจงที่นั่งอยู่ ๓ คน ถ้าอยากจะปราบยาบ้า ยาม้า ยาเสพติดจริง ๆ ยกโทรศัพท์มือถือท่านขึ้นมาตอนนี้สั่งการให้ลูกน้องไปดำเนินการ หาใน Social Network ได้เลยในตอนนี้ถ้ามีความจริงใจที่จะปราบปรามยาเสพติด อย่างจริงจัง ผมเข้าใจนะครับ เข้าใจดีว่าท่านทั้งหลายมีความปรารถนาดีต่อประเทศไทย แต่ยาบ้ามันมากมายเสียเหลือเกิน ผลิตได้ชั่วโมงไหน ๓๐๐,๐๐๐ เม็ด มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ผลิตได้วันไหน ชั่วโมงไหนแค่ ๒,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ เม็ด ดังนั้นผมจึงเป็นกำลังใจให้ ป.ป.ส. ช่วยกันปราบปรามอย่างเข้มข้นและจริงจัง และขอชมเชยที่เรามีกฎหมายยาเสพติดใหม่ ประกาศใช้เมื่อปี ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา และสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ของผู้ค้ายาเสพติดได้ จำนวนมากมาย อย่างเช่นไตรมาสแรก ปี ๒๕๖๖ ยึดได้ ๒๐,๐๐๐ กว่าล้านเม็ด แต่ราย ที่ยึดได้ผมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นรายใหญ่ ๆ แล้วใช่ไหม แต่รายเล็กรายน้อยที่อยู่ในชุมชน อยู่ในหมู่บ้าน ทาง ป.ป.ส. ดำเนินการอย่างไรบ้าง ป.ป.ส. เดินเข้าไปในหมู่บ้านท่านครับ ไปถามกำนัน ถามผู้ใหญ่บ้าน ท่านเหล่านั้นชี้ได้เรียงตัวเลยว่าใครค้า ใครเสพยาบ้า ยาม้า หรือมีพฤติกรรมการขายอย่างไร ท่านลองทำประเด็นนี้ให้พวกเราได้ไหม เราจะปราบได้ถึง รากหญ้า

นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูน ต้นฉบับ

อีกประเด็นหนึ่ง ที่มีผู้อภิปรายหลายคนแล้วนะครับ Sodium Cyanide ที่ประเทศไทยเราสั่งเข้ามาใช้ในกิจการปีละ ๑,๐๐๐ ตันเศษ แต่ปรากฏว่าเมื่อนำเข้ามาแล้ว ได้ส่งออกไปนอกประเทศ ๘๐๐ ตันเศษ ทาง ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบไหมว่าปลายทางที่ส่งไป นอกประเทศนั้นเขาเอาไปทำอะไร ถ้าเขาเอาไปทำเกี่ยวกับยาเสพติด ถ้าเราบล็อกไม่ให้มี การส่งออกมันอาจจะลดปริมาณยาเสพติดที่จะส่งเข้ามาในประเทศไทยบ้างก็ได้ อันนี้ ฝากเป็นข้อสังเกตท่านไป

นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ลำพูน ต้นฉบับ

อีกประเด็นหนึ่ง ผมได้รับข้อร้องเรียนจากข้าราชการที่ทำงานอย่างหนัก เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบในกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ด้านยาเสพติด คือเลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษให้แก่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ผมทราบข่าวว่า แต่ละปีทางจังหวัดจะได้อัตราขั้นพิเศษนี้ประมาณ ๘๐ อัตราต่อจังหวัด แต่ผมได้รับเรื่อง ร้องเรียนจากข้าราชการตัวเล็กตัวน้อยที่มีผลงานในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง จับมาก็มาก จับได้ก็หลาย แต่ปรากฏว่าพอถึงการพิจารณาขั้นแล้ว ตำรวจเอย ข้าราชการ การปกครองตัวเล็กเอย ไม่เคยได้รับขั้นพิเศษตรงนี้เลย ผมจึงอยากถามทาง ป.ป.ส. ว่าแต่ละปี ๆ ที่ท่านจัดขั้นพิเศษไปยังแต่ละจังหวัดทั่วประเทศไทยนั้น ทางคนที่มีหน้าที่ จัดการที่จะอนุมัติว่าใครสมควรที่จะได้ขั้นพิเศษนั้นเขามีมาตรการวัดอะไรบ้าง เพราะผม ได้รับคำกระซิบกระซาบว่าถ้าใครหิ้วกับข้าวอร่อย ๆ ไปให้คนที่พิจารณาก็จะได้ขั้น ใครหิ้ว สิ่งของนั้นหน่อย นี้หน่อย เอาไปกำนัล เอาไปฝาก ก็จะได้ขั้นพิเศษนี้ ผมขอรายชื่อได้ไหม ย้อนไป ๒ ปี ปี ๒๕๖๕ กับปี ๒๕๖๖ ทั้ง ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศไทย ขอรายชื่อบุคคลที่ได้รับ เงินเดือนเลื่อนขั้นพิเศษนี้มาให้ผมหน่อยได้ไหม พวกผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งประเทศไทยจะได้ช่วยกันตรวจสอบว่า คุณสมบัติที่เขาได้รับเขาสมควรได้รับจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าสมควรได้รับแล้ว ทำไมข้าราชการตัวเล็กตัวน้อยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เอาตัวเข้าเสี่ยงภัย เอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อการปราบยาถึงไม่ได้รับการตอบแทนครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ครับ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ต่อรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปราม ยาเสพติด ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๔ ผมมีข้อสังเกตอยู่ ๖ ประการด้วยกัน ประการที่ ๑ ผมตั้งคำถามวางไว้บนโต๊ะก่อนว่าทำไมเราถึงไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องของยาเสพติด ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำไมเราไม่เอาจริงเอาจังในการประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ แล้วก็ไม่ปล่อยให้เป็นภาระของชาติเหมือนช่วงที่ผ่านมา ท่านที่เคารพครับ ผู้บริหาร ป.ป.ส. ที่มานั่งรับฟัง ผมต้องขอชื่นชมและขอให้กำลังใจ ความจริงเป็นงานของท่านที่ท่านทำมา อย่างต่อเนื่องตลอดมา ท่านเป็นผู้ที่อ่านปัญหายาเสพติดรู้ ดูปัญหายาเสพติดเป็น แต่ว่า ก็สละเวลามารับฟังอีกหนึ่งมุมมองจากผู้แทนของพี่น้องประชาชน ผลสำรวจพบว่าแนวโน้ม ของผู้ติดยาเสพติดจะมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ยาบ้ายังคงเป็นยาเสพติดยอด Hit อันดับต้น ๆ UNODC สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติได้ประมาณการ เอาไว้น่าสนใจครับ บอกว่าในภูมิภาคนี้การค้ายาเสพติด การผลิตยาเสพติดในภูมิภาคนี้ สร้างกำไรได้อย่างน้อย ๗๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๒.๒ ล้านล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ในอดีตเฉพาะวงจรการผลิตของยาบ้าสามารถผลิตได้เต็มที่ประมาณ ๒,๗๐๐ เม็ด ต่อชั่วโมง แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตมันไปไกลด้วยระบบ Hydraulic สามารถผลิตได้ ๒๘๘,๐๐๐ เม็ดต่อชั่วโมง หรือมีศักยภาพการผลิตเพิ่มสูงขึ้นถึง ๑๐๐ เท่า แต่ว่าการจับกุม ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเป็นเพียงการจับกุมในลักษณะของรายเล็ก ๆ เต็มที่ก็เป็นขนาดกลาง เราไม่สามารถที่จะไปกระชากเอากระบวนการโครงข่ายที่เชื่อมโยงของผู้ผลิต ผู้ค้ายาเสพติด รายใหญ่ได้บ่อยครั้งนัก เพราะอะไรครับ เพราะโลกก้าวไว เทคโนโลยีก็ไปไกล แต่ถ้าเรา ก้าวไม่ทัน วันนี้ผู้ผลิต ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่เขาใช้เทคโนโลยีในการจะพัฒนาทั้งเรื่องการผลิต เรื่องการขาย รวมถึงการฟอกเงิน มีการนำเงินไปลงทุนในสกุลเงิน Digital ไปลงทุนใน Cryptocurrency ในขณะที่ถ้าเราใช้วิธีการแบบ Analog เราไม่สามารถจะไล่ตามจับได้ทัน ผมตั้งข้อสังเกตนะครับ ที่ผ่านมาเรื่องของการยึดทรัพย์ในกระบวนการผู้ค้าและผู้ผลิตยาเสพติด รายใหญ่ยังเป็นปัญหา รัฐบาลที่ผ่านมาในช่วงต้น ๆ สถิติการจับกุมและนำไปสู่การยึดทรัพย์ ค่อนข้างน้อย แต่ว่าในปีหลังก็ต้องยอมรับว่าตัวเลขยอดของการจับกุม รวมถึงการยึดทรัพย์นั้น ก็สูงขึ้นมา แต่ยังไม่พอ ท่านที่เคารพครับ สหรัฐอเมริกานั้นเคยประกาศสงครามกับยาเสพติด เขาเป็นประเทศมหาอำนาจ มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีเทคโนโลยีมากมาย เขาใช้เงินไปจำนวน มากกว่า ๑ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาไป ๕๐ ปี แต่เขายังทำไม่สำเร็จ ดังนั้นประเทศไทย วันนี้ถ้าไปเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาเราจะได้เห็นครับ เพราะมองต่ำเราเหลือ มองเหนือ เราขาด ๕๐ ปีของสหรัฐอเมริกายังคลำไม่ถูกเป้ามากนัก แต่ถ้าไปดูงบประมาณของประเทศไทย ในการใช้เพื่อบริหารจัดการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดนั้น เราจะพบว่างบหลายงบชื่อดี ท่านประธานครับ เช่นงบบูรณาการ ฟังดูเหมือนจะดี แต่พอไปดูเป็นงบบูรณาการที่ไม่ค่อยจะได้ บูรณาการครับ มีการตัดงบออกไปให้โรงเรียนก็ได้ทำ จังหวัดก็ได้ทำ ต่างคนต่างทำ ก็เลย ไม่ทราบว่าเป้าหมายหลักหรือผลสัมฤทธิ์ที่จะวัดผลงานอย่างเป็นเอกภาพนั้นคืออะไร วันนี้ ต้องกลับมาตั้งข้อสังเกตว่าการบริหารจัดการงบประมาณ โดยเฉพาะงบที่เอาไปฝากไว้ในหน่วยงานอื่น ๆ ไปไว้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ส่งต่อไปยังจังหวัด ไปไว้กระทรวงศึกษาธิการ ไปไว้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการไปติดตาม ตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานมากน้อยแค่ไหน อย่างไร ในตอนจบผมสรุปไว้ ๒ เรื่องที่อยากจะฝากไว้ก็คือเรื่องของการยึดทรัพย์ครับ วันนี้ถ้าข้าราชการเกียร์ว่างก็ถือว่า ประเทศเสียโอกาส แต่บางช่วงบางตอนมันหนักกว่าเกียร์ว่าง สภาพคล้าย ๆ กับล็อกเกียร์ เพราะว่าแผนปฏิบัติการในการไปยึดทรัพย์เราไม่ค่อยได้เห็น และเราไม่ค่อยได้ใช้เทคโนโลยี ที่จะทำให้ผู้แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การยึดทรัพย์นั้นได้รับความปลอดภัย เขาเอาเงินที่ได้จาก การขายยาเสพติดไปลงทุน Cryptocurrency เราควรจะมีเทคโนโลยีประเภทแบบ Blockchain เพื่อที่จะให้ความปลอดภัย ให้ความมั่นใจกับผู้แจ้งเบาะแส เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น วันนี้ ถ้าแจ้งเบาะแสแล้วสามารถนำไปสู่การจับกุมได้และเขาก็ปลอดภัย และได้รับเงินรางวัล ในการนำจับ เพื่อเข้าสู่กระบวนการของการยึดทรัพย์ ผมว่าจะเกิดกระบวนการมีส่วนร่วม และพี่น้องประชาชนจะเข้าสู่กระบวนการในการช่วยภาครัฐช่วย ช่วย ป.ป.ส. ในการทำหน้าที่ ส่วนที่ ๒ ที่ฝากไว้ก็คือเรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณ วันนี้งบประมาณ ป.ป.ส. มาก อยู่แล้ว แต่ว่าในช่วงที่ผ่านมามีการบริหารจัดการที่ขาดเอกภาพอย่างที่ผมได้ตั้งข้อสังเกต ถ้าเราจะใช้โอกาสนี้รวบรวมประมวลความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ตั้งข้อสังเกต ที่แล้วมา เราก็พยายามพัฒนาปรับปรุงยกระดับเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการงบประมาณ ในครั้งต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ กราบขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ครับ

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม นายสาเหะมูหามัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๕ ปัตตานี อำเภอยะหริ่ง และอำเภอมายอ หากพูดถึงปัญหายาเสพติดแล้วปัญหาสำคัญของประเทศไทยอันดับ ต้น ๆ เลยทีเดียว รัฐบาลเกือบทุกยุคทุกสมัยพยายามแก้ไขปัญหายาเสพติดหลากหลายวิธี โดยเฉพาะวิธีการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวข้องยาเสพติด ซึ่งถือว่า เป็นมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยภายใต้บัญญัติแห่งกฎหมายได้กำหนดให้มี การแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่จะทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง และหมดสิ้นจากประเทศไป จากการที่กระผมได้ติดตามสถานการณ์ รัฐบาลพยายามแก้ไข ปัญหายาเสพติดพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์ การป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และกรอบงบประมาณถึง ๑,๙๐๐ กว่าล้านบาท ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยมี แม่ทัพภาคที่ ๔ เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดระยะเวลา ๒ ปีที่ผ่านมายาเสพติดไม่มีแนวโน้มดีขึ้นเลย การค้าและแพร่ระบาดของยาเสพติดใน ๓ จังหวัดภาคใต้ จากการรายงานสถานการณ์ ยาเสพติดในพื้นที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค ๙ พบว่าในช่วงปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๔ มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ ได้แก่ กัญชา ยาบ้า ไอซ์ เฮโรอีน พืชกระท่อม นอกจากนั้นยังรวมถึงประเภทต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในทางที่ผิด เช่นยาแก้ไอ และส่วนผสมต่าง ๆ โดยนำเป็นส่วนผสมหลัก ๔ คูณ ๑๐๐ เป็นยาเสพติดชนิด ๑ ที่ส่วนผสมของน้ำต้มจากใบกระท่อม ยาแก้ไอ และตัวยาอื่น ๆ มีฤทธิ์ต่อประสาท ทั้งนี้ยาหลักที่การค้าและแพร่ระบาดมากที่สุด ได้แก่ พืชกระท่อม ยาบ้า และยาแก้ไอ ปัญหาการค้าและการแพร่ระบาดยาเสพติดยังมีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นอย่างปฏิเสธ ไม่ได้เลย หากดูข้อมูลจากสถิติการจับกุมยาเสพติดในปี ๒๕๖๐ และปี ๒๕๖๔ มีการจับกุม ประมาณ ๑๕,๐๐๐ คดี ผู้ต้องหาจำนวน ๑๗,๐๐๐ กว่าคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลา เมื่อ ๓ ปีที่ผ่านอย่างหดหู่ นอกจากนี้ผมขอการสำรวจของศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กองอำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า พบว่า ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหายาเสพติด ๘๐,๐๐๐-๑๐๐,๐๐๐ คน จากประชากรแค่ประมาณ ๒ ล้านคน หรือประมาณร้อยละ ๕ ของประชากร ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว กระผมจึงขอตั้งคำถามผ่านท่านประธานไปยังหน่วยงาน ที่รับผิดชอบ ๒ ประเด็น

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

๑. การปราบปรามสกัดยาเสพติดในชายแดนประเทศมาเลเซีย การแก้ไข ปัญหายาเสพติดตามแผนงานด้านปราบปรามยาเสพติดในด้านสกัดยาเสพติดจากภายนอก ประเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. แต่งตั้งเอกอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านแก้ไขปัญหายาเสพติด ในประเทศจีน ลาว กัมพูชา แต่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซียกลับไม่มี เอกอัครราชทูตที่ปรึกษาด้านแก้ปัญหายาเสพติด สะท้อนมุมมองของรัฐในการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด ท่านประสงค์แก้ปัญหาต้นเหตุจากประเทศนำเข้ายาเสพติด แต่ปลายทาง ยาเสพติดมุ่งหน้าลงพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อขายเอากำไรจำนวนมาก โดยการส่งออกไปยังประเทศที่ ๒ ประเทศที่ ๓ ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งการแก้ไขปัญหา ในลักษณะนี้ย่อมไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะมันไม่สามารถตัดวงจรค้ายาเสพติดทั้งหมดได้ ท่านตัดอุปทานจากระบบ แต่ไม่ได้ตัดอุปสงค์ออกจากการแก้ปัญหายาเสพติด สถานการณ์ การค้ายาเสพติดจึงไม่ได้ลดลงตามที่ประชาชนต้องการ สิ่งเหล่านี้สะท้อนการแก้ไขปัญหา ยาเสพติดในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญในการจัดการ แก้ไขปัญหาที่เป็นระบบ

นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส ปัตตานี ต้นฉบับ

๒. การใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการดำเนินการผู้เสพและผู้ติด ยาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๑๖๒ ประกอบมาตรา ๑๖๕ โดยสรุป กฎหมายในหมวดดังกล่าวให้โอกาสผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดให้โอกาสได้รับปรับปรุงนิสัย รวมทั้งให้การเข้าบำบัดรักษาอย่างเท่าเทียมกัน โดยหวังให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นำผู้เสพ ผู้ติดเข้าสู่ระบบการดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผู้เสพคือผู้ป่วย ตามเจตนารมณ์ประมวลกฎหมายยาเสพติดต้องนำผู้เสพ ผู้ติดเข้ารับการบำบัดรักษา ปรับปรุงนิสัยการสามารถใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติโดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด คำถามคือ บำบัดรักษาที่ไหน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบ ต่อประชาชนอย่างมาก คือผู้เสพระดับกลุ่มที่ติดรุนแรงและมีอาการทางจิตอยู่ด้วย แต่ปัญหา การนำตัวไปเข้ารับการบำบัดรักษาแน่นอนในทฤษฎีมี คือมีศูนย์บำบัดยาเสพติดตั้งอยู่ที่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี แต่ผมทราบว่าจริง ๆ แล้วมีอาการทางจิตที่รุนแรง และอาการทางจิตร่วมด้วย ต้องรักษาอาการจิตเวชที่สงขลาหรือถอนพิษที่ธัญญารักษ์ ปัตตานีก่อน เรื่องนี้สะท้อนว่าภาครัฐทราบปัญหาและกำลังมีแนวทางแก้ไขปัญหา ๑ ๒ ๓ และ ๔ แต่ประชาชนในพื้นที่เขาจะรอไม่ได้ เขาทราบเพียงว่านาย ก นาย ข คนนี้กำลัง มีอาการทางจิตจากการใช้ยาเสพติดออกจากพื้นที่เมื่อใด เขาจะได้ไม่เดือดร้อน นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มผู้ติดยาเสพติดและผู้ค้าอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ในการแก้ไข ปัญหายาเสพติดจะเป็นพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือทางประเทศรัฐบาลจำเป็น ต้องมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มีกลไกในการเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ให้ไปสู่ การปฏิบัติ เหตุผลเป็นรูปธรรม จริงจัง และมีความต่อเนื่อง และมีการตรวจสอบงบประมาณ และปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วยความโปร่งใส เป็นต้น ขอขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ๒ ท่านสุดท้าย เป็นท่านอดิศร เพียงเกษ แล้วก็เป็นท่านวันนิวัติ สมบูรณ์ แล้วหน่วยงานได้จะมีโอกาสชี้แจง เชิญครับ

นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายอดิศร เพียงเกษ สส. แบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคเพื่อไทย ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคมที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าแต่ละพรรคการเมืองก็ไปรณรงค์หาเสียงปราศรัย ทั่วประเทศอย่างหนัก ผลเลือกตั้งก็ออกมาปรากฏให้ท่านเห็น ผมอยู่ในหน่วยปราศรัย ของพรรคเพื่อไทย นโยบายที่พวกเราไปปราศรัยแล้วประชาชนสนใจให้พรรคเพื่อไทย นี่พูดเฉพาะเอาตัวอย่างมาแก้ไข อันดับ ๑ คือเรื่องยาเสพติดครับ เขาคิดย้อนถึงสมัย พรรคไทยรักไทย ย้อนคิดถึง พันตำรวจโท ดอกเตอร์ทักษิณ ชินวัตร อันนั้นเป็นความทรงจำ ของพี่น้อง จับได้ ๒ โมงเช้า บ่ายสองส่งวัด สมัยนั้นยาบ้าเม็ดละ ๔๐๐ บาท สมัยนายกรัฐมนตรีปู ยิ่งลักษณ์ เม็ดละ ๓๐๐ บาท ทุกวันนี้ ๓ เม็ด ๑๐๐ บาท ขายพวงมาลัยแถมยาบ้า ขายยาบ้า แถมพวงมาลัย ปัญหาต่อมาที่ประชาชนสนใจนอกจากยาเสพติดก็เงิน Digital ๑๐,๐๐๐ บาท สินค้าเกษตรตกต่ำ ราคาแก๊ส น้ำมันสูง ปัญหาเรื่องปากท้อง จบปริญญาตรี ๒๕,๐๐๐ บาท เราเห็น Slogan ติดไปหมดตาม อบต. ตามที่สำคัญ ๆ ตามสี่แยก เราเห็น Slogan ที่ฝ่ายรัฐบาลหรือทางราชการได้ขึ้นไว้สวยหรูคล้องจองครับ รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ต่อต้านยาเสพติด นั่นคือเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายเห็นกันว่ามีความสำคัญ แต่แก้เท่าไร มันก็แก้ไม่ได้ ผมไม่ได้โทษ ป.ป.ส. นะครับ กฎหมายยาเสพติดมาตรา ๕ มีคณะกรรมการ ปราบปรามยาเสพติด เอามาทุกกระทรวง ทบวง กรม มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รัฐมนตรี ประจำสำนักนายก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวง แรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวง ผู้อำนวยการสำนัก งบประมาณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมสรรพากร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน อัยการสูงสุด เป็นกรรมการโดยตำแหน่งมาหมดทั้งประเทศเลยครับ ถ้าดูตาม เฉพาะมาตรา ๕ โล่งใจ มันจะได้บูรณาการแก้ไขปัญหากัน แต่ท่านครับ ประชุมกันแล้ว เราตามยาบ้าไม่ทัน เราตามยาเสพติดไม่ทัน ผมรู้ว่าท่านรู้ จับกุมคุมขัง โชว์กัน สมัย จอมพล สฤษดิ์ ผมยังเด็กอยู่เผาฝิ่นอยู่สนามหลวง นั้นเด็ดขาดประหารชีวิต สมัยที่ผมพูดมาและสมัยที่ผ่านมา ๙ ปี ความเอาจริงเอาจังของหัว หัวไม่กระดิก หางไม่กระดิก หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิกอะไร ทำนองนั้นครับ เมื่อวานนี้พรรคเพื่อไทยจัดประชุมเรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ขออนุญาตเอ่ยนาม ท่านเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปบรรยายเรื่องยาเสพติด ผมก็มีส่วนร่วมในการพูด ผมว่าในทุกจังหวัดของประเทศไทย ถ้า ๓ คนนี้ไม่รู้ว่ายาเสพติดมี ไม่มีมนุษย์ตัวไหนรู้ เช่นขอนแก่นบ้านผมถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่ง ผู้การตำรวจหนึ่ง และผู้การทหารหนึ่ง ๓ คนนี้ไม่รู้จะไม่มีแมวตัวไหนรู้เลยว่ายาเสพติดมีหรือเปล่า ผมกำลัง ถามที่ประชุมว่าที่ผ่านมาท่านเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ผมไม่เชื่อว่าผู้ว่าไม่ทราบ ผมไม่เชื่อว่า ผู้การตำรวจไม่ทราบ ผมยิ่งไม่เชื่อว่าทางทหารเขาไม่รู้ ท่านทำอะไรอยู่ครับ ถึงเวลาหรือยังทุกคนไม่ว่าพรรคใด ๕๐๐ คนนี่เรายกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง ไม่แบ่งท่าน แบ่งเขา แบ่งเรา ถ้าไม่จับไม้จับมือ ถ้าไม่กระดิก ถ้าไปหมุนเอากรรมการ มาตรา ๕ ทั้งหมดทำงานร่วมกัน ยาเสพติดยังลอยนวลอยู่ครับ ขายลอตเตอรี่แถมยาบ้า ขายพวงมาลัยแถมยาบ้าจะปรากฏขึ้นในสภาชุดของเรา ท่านครับ แต่จะแก้ปัญหาที่ผม พูดมานี้ได้ก็ต้องมีนายกรัฐมนตรีครับ ก็ไม่ทราบว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีจนป่านนี้แล้ว ยาเสพติด สถานะของท่านประธานไม่รู้จะเป็นอย่างไร ผมก็เป็นห่วงนะครับ การบ้าน การเมืองมันหมุนเวียนอย่างนี้ แต่ว่าปัญหายาเสพติดมันไม่รอการเมืองเรา ผมถึงอยากให้ เรียกร้องว่าเรื่องยาเสพติดสละเรื่องความเป็นพรรคการเมืองออก และมาร่วมทำงานกัน ให้ความเห็น ยกย่อง ป.ป.ส. ซึ่งเป็นหนังหน้าไฟนะครับ ท่านทำคนเดียว ท่านไม่รอดหรอก ท่านจะไปสู้กับพ่อค้ายาบ้าได้อย่างไร ตามไม่ทันหรอกครับ ผมยังเชื่อมั่นว่าการปราบปราม ที่เด็ดขาดและควบคู่กับการป้องกัน เอาผู้เสพเป็นผู้ป่วย เอาผู้ป่วยเป็นผู้เสพ ลักษณะอย่างนี้ ถ้าเอาจริงเอาจังอนาคตลูกหลานของเรายังมีนะครับ เด็กมันเหมือนผ้าขาวอยากลอง มีอะไร ลองหมดครับ โชคดีสมัยผมจะสอบพรุ่งนี้ก็อ่านถึงตี ๒ ตี ๓ เป็นยาขยัน ยาม้าก็เปลี่ยนเป็น ยาบ้าโดยท่านเสนาะ เทียนทอง ที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข เราก็แก้ไขกันเป็นขั้นเป็นตอนมา ผมจึงอยากให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติครับท่านประธาน ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ต่อไปเชิญท่านวันนิวัติ สมบูรณ์ ท่านสุดท้ายนะครับ

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันนิวัติ สมบูรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ขอร่วมอภิปราย ผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในวันนี้ ท่านประธานครับ จากการลงพื้นที่ แทบทุกอำเภอ จากการรับฟังพี่น้องสมาชิกที่ได้พูดกันในวันนี้ถึงปัญหายาเสพติด พวกเรา ล้วนเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่ายาเสพติดควรจะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขได้เสียที ทุกพื้นที่ที่ผมลงไป ผมดูแลพี่น้อง ๕ อำเภอ หนองสองห้อง เปือยน้อย โนนศิลา ชนบท และโคกโพธิ์ไชย ทุกอำเภอขอให้พรรคใดก็ตามที่เข้าไปเป็นรัฐบาลได้เข้ามาเร่งปราบปราม ยาเสพติด ดีที่สุดขอให้เป็นพรรคเพื่อไทยครับ เพราะในอดีตเคยทำมาแล้วตั้งแต่สมัย พรรคไทยรักไทย การระบาดของยาเสพติดในประเทศวันนี้ประชาชนต้องการที่จะแก้ไข มากที่สุด ๘ ปีที่เราอยู่กับรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา และขณะนี้ ก็ยังอยู่ในรัฐบาลรักษาการของท่านนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ๘ ปีนี้มีการเสนอให้ ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แต่ก็น่าเสียดายที่เป็นได้แค่วาระแห่งชาติหน้า เราอาจจะไม่ได้ เห็นการแก้ไขยาเสพติดที่บูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ มีการเจรจากับต่างประเทศ ทำอย่าง จริงจัง ปราบปรามอย่างเด็ดขาดเหมือนสมัยเมื่อครั้งในอดีต ท่านประธานครับ ผมอยากให้ ท่านสมาชิก ท่านประธานได้ชม Video Clip สั้น ๆ สักประมาณ ๒๐ วินาที ขออนุญาต ขอ Clip ขอความกรุณาเจ้าหน้าที่โสตนะครับ

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ

ที่ที่ผมไปนี้คืออำเภอโนนศิลา ตำบล หนองปลาหมอ คุณตาท่านนี้พาหลาน ๒ คนมา ไม่ใช่แค่อำเภอนี้อำเภอเดียว แล้วก็ยังมี อีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน เดี๋ยวรบกวนขอภาพต่อไปเลย หลายข่าว หลายคดีที่เราได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นลูกฆ่าพ่อ พ่อฆ่าลูก เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ในสังคมวันนี้ส่วนใหญ่ ล้วนเกิดจากยาเสพติดทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทยเองพวกเรามีนโยบาย มีมาตรการ ๆ ที่จะต้อง เน้นย้ำ แล้วก็หากแม้แต่เป็นพรรคร่วมหรือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ตามอยากให้เกิดขึ้น ได้จริงคือนโยบายปราบปรามยาเสพติด ทำสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ

มาตรการแรก นายกรัฐมนตรีหรือผู้นำประเทศต้องนั่งหัวโต๊ะ ทำการบูรณาการ การแก้ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกมิติ ร่วมกันกับทางส่วนราชการทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นปราบปราม อย่างเต็มรูปแบบ เร่งรัดให้มีกระบวนการยึดทรัพย์ เจรจาประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตาม รวมทั้งพัฒนาการค้าชายแดน ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ท่านประธานครับ นี่คือภาวะผู้นำ ที่ผู้นำประเทศควรจะทำ แต่ ๘ ปีที่ผ่านมาเรามองไม่เห็นครับ เราเห็นแต่เพียงการสั่งงาน แบบส่ง ๆ

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ

มาตรการที่ ๒ การบำบัด การบำบัดผู้ติดสารเสพติดหรือที่เป็นผู้ป่วยก็ยัง ไม่เห็นการทำงานอย่างจริงจัง ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ หลาย ๆ หน่วยงาน ก็เรียกร้องโดยเฉพาะงบประมาณที่ขาดอย่างมาก ทางเราเองคิดว่าการนำการบำบัด ด้วยจิตวิทยาที่ทันสมัยเข้ามาร่วมด้วยจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยไม่หันกลับไปใช้ ยาเสพติดอีก รวมถึงการพัฒนาดูแลเรื่องเศรษฐกิจปากท้องให้ดีขึ้น นี่จะเป็นอีกเหตุผลสำคัญ ไม่ใช่เพียงปราบปราม แต่อย่างเดียว

นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ขอนแก่น ต้นฉบับ

สุดท้ายครับท่านประธาน ใกล้จะถึงหน้าแต่งตั้งโยกย้ายแล้วผมก็ขอเป็น กำลังใจให้ทาง ป.ป.ส. ทุกท่าน เจ้าหน้าที่ทุกนาย ข้าราชการทุกท่านที่ยืนหยัดอยู่กับ ความถูกต้อง อยู่ในสิ่งที่ควรกระทำ พยายามอยู่ในกรอบวินัย ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี แม้จะถูกโยกย้ายตกต่ำไปบ้าง ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร แต่เชื่อเถอะสวรรค์มีตา ขอให้ท่านทำดีนะครับ แล้วก็สุดท้ายจริง ๆ ยาเสพติดจะไม่สามารถแก้ได้และไม่สามารถ หมดไปจากประเทศไทยได้ ถ้าผู้นำไม่ได้เป็นผู้นำ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผู้อภิปรายก็ได้อภิปรายครบถ้วนแล้ว จะให้ทางหน่วยงานมีโอกาส ชี้แจง ตอบคำถามเพื่อนสมาชิก เชิญครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติทุกท่านครับ วันนี้ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ได้มีความห่วงใยในเรื่องของปัญหายาเสพติดที่อยู่กับประเทศไทย แล้วก็กระทบต่อเยาวชน หรือประชาชนทั้งในหมู่บ้านหรือชุมชนของเรา วันนี้ท่านสมาชิกได้อภิปรายกันเกือบ ๓๐ ท่าน ได้ทั้งข้อมูล คำถาม ได้ทั้งสิ่งที่ท่านให้คำแนะนำอะไรต่าง ๆ สิ่งที่เป็นคำถาม ผมก็ขออนุญาต ที่จะนำเรียนท่านประธานไปยังสมาชิกทุกท่านในเรื่องของการบำบัดรักษา ตามประมวล กฎหมายยาเสพติดในขณะนี้เรามอบหมายภารกิจหลักให้กับทางกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ หลายท่านกำลังเป็นห่วงเรื่องของกระบวนการบำบัด รวมถึงสถานบำบัดรักษาว่ามีจำนวนจะเพียงพอหรือไม่ อย่างไร ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ก็ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด ในขณะนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะตั้งศูนย์คัดกรองมีประมาณ ๑,๐๐๐ แห่งอยู่ใน รพ.สต. ด้วย แล้วก็ใกล้บ้านอยู่ในพื้นที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ ในขณะเดียวกันก็มีสถานพยาบาล ก็คือโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลอำเภอต่าง ๆ จะทำหน้าที่ในการรักษาพยาบาลมีอยู่ ประมาณ ๑,๐๐๐ แห่งเศษ แล้วก็มีเรื่องของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมที่กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้ดำเนินการอีก ๓,๐๐๐ แห่งเศษ อันนี้ก็จะเรียนตอบว่ามีความเชื่อมั่น อยากให้ ความเชื่อมั่นว่าในเรื่องของการดำเนินการ ในเรื่องของการบำบัดรักษา ในการใช้ประมวล กฎหมายยาเสพติดในโอกาสต่อไป ในปีถัดไปก็น่าจะมีผลสำเร็จหรือบรรลุผลตามที่ท่านมี ความห่วงใยไว้อยู่ด้วย สถานบำบัดก็น่าจะมีความเพียงพอ ในขณะเดียวกันเรื่องของการนำ ชุมชนบำบัดเข้ามาช่วยเพื่อให้การดูแลผู้เสพผู้ติดที่อยู่ในหมู่บ้าน ชุมชน ในกระทรวงสาธารณสุขเอง ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ก็ร่วมมือกับทางกระทรวงสาธารณสุข แล้วก็สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดในเรื่องของการดำเนินการในการบำบัดรักษาเรียกว่า การบำบัดในชุมชนหรือ CBTx ก็จะทำให้การบำบัดรักษาอยู่ใกล้กับคนที่เกี่ยวข้องมากที่สุด แล้วก็มีชุมชนเป็นศูนย์กลางในการที่จะช่วยเหลือในการส่งเสริม ในขณะเดียวกันการบำบัด เสร็จแล้วเราก็มีมาตรการในเรื่องของการที่จะป้องกันการกระทำความผิดหรือกลับไปเสพซ้ำ ก็มีศูนย์ฟื้นฟูที่จะช่วยเหลือในเรื่องของการดูแล เรื่องของการส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ นะครับ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมโดยการนำของท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ทำเรื่องนี้ อย่างจริงจัง ในเรื่องการจัดการกับการแก้ไขปัญหาของผู้เสพ โดยเฉพาะในเรื่องของ การปราบปรามด้วย อันนั้นเป็นประเด็นที่ ๑ เรื่องของการบำบัดรักษา

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

เรื่องที่ ๒ เรื่องของการปราบปราม ในเรื่องการปราบปรามมีท่านสมาชิก สอบถามว่าแหล่งผลิตของประเทศเราตอนนี้มันมีแหล่งผลิตอยู่ที่ไหน ยาบ้าจำนวนมากมาย เข้ามาในประเทศไทย ก็ขอเรียนว่าแหล่งผลิตยาเสพติดเรายังไม่พบอยู่ในประเทศไทย เราพบ แหล่งผลิตที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเราก็มีอยู่ ๖ แห่ง ๖ แหล่งที่สำคัญ แล้วก็มีอีก ๑ Zone หรือ ๑ พื้นที่ที่ใกล้ตะเข็บชายแดนของบ้านเรา แหล่งผลิตที่เป็นระดับสารตั้งต้น ในระดับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของผลิตสารตั้งต้น ผลิตเฮโรอีน ส่วนใหญ่อยู่ใน รัฐฉานเหนือ อยู่ในเมืองป่างซาน อยู่เมืองกุตไก ส่วนแหล่งผลิตที่เป็นเรื่องของ การผลิตหัวเชื้อยาบ้าหรือไอซ์ แล้วก็แหล่งผลิตของการอัดเม็ดส่วนใหญ่อยู่ในรัฐฉานตอนกลาง ที่เมืองน้ำป่าง เมืองกุนฮิง แล้วก็อยู่ในรัฐฉานใต้ด้วยบ้านปากแกง แล้วดอยแหลบ อันนี้คือ แหล่งผลิตใหญ่ ๆ ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา อยู่ในรัฐฉานทั้งเหนือ ทั้งกลาง แล้วก็ใต้ ส่วนแหล่งผลิตที่เรียกว่าเป็นแหล่ง Kitchen Lab เป็นแหล่งผลิตเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะอยู่ใน Zone พื้นที่ที่กระจัดกระจายอยู่ตามแนวชายแดนของประเทศไทย ตรงข้ามกับทางจังหวัดเชียงรายบ้าง เชียงใหม่บ้าง แม่ฮ่องสอนบ้าง อันนี้ก็คือเป็นแหล่งผลิตที่เป็นตัวเริ่มต้นที่ทำให้ยาเสพติดนั้น เข้ามาในประเทศไทย ถามว่าแล้วสารตั้งต้นที่หลายท่านเป็นห่วงในเรื่องของการดำเนินการ กับสารตั้งต้น ไม่ว่าจะเป็น Sodium Cyanide เอง หรือ Pseudoephedrine ซึ่งที่ผ่านมา มีการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างมากมายอยู่แล้วนะครับ โดยเฉพาะเรื่องของ Sodium Cyanide เราเองกับกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการดำเนินการในเรื่องของการระงับการนำเข้า รัฐบาล ก็ระงับการนำเข้าชั่วคราว แล้วตอนนี้ก็การจะนำเข้าก็จะต้องเพื่อประโยชน์ในประเทศไทย แล้วก็งดการส่งออกไปด้วยนะครับ อันนั้นก็เป็นส่วนของการสกัดกั้นเรื่องของสารเคมี หรือสารตั้งต้น นอกจากนี้มีสารอีกตัวหนึ่งที่กำลังจะเข้ามา อาจจะต้องขอรบกวนท่านสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในการช่วยผลักดันด้วยในการควบคุมสารอีกตัวหนึ่งก็คือ Aniline ก็เป็น สารตั้งต้นที่สามารถนำไปผลิต Fentanyl ได้ ซึ่ง Fentanyl เป็นยาอันตรายที่มีโทษรุนแรง ตรงนี้เราก็กำลังประสานงานกับทางกระทรวงอุตสาหกรรมในเรื่องของการที่จะควบคุมต่อไป

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

เรื่องถัดไปครับ เป็นเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อแหล่งผลิต เราอยู่ต่างประเทศในขณะเดียวกัน หลายท่านพบว่ามีการส่งยาเสพติดออกไปยังต่างประเทศ แล้วก็มีการจับกุมได้ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ อย่างนี้เป็นต้น อันนี้ต้องเรียนว่าที่มีการจับกุมได้หลายคดีเกือบทั้งหมดก็เป็นความร่วมมือที่เราได้ดำเนินการ กับประเทศต่าง ๆ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยเฉพาะกับออสเตรเลียเรามีการดำเนินการ ค่อนข้างใกล้ชิด ในขณะนี้เราก็ไปดำเนินการใกล้ชิดกับทางไต้หวันด้วย แล้วก็ทางเกาหลีใต้ ซึ่งเราก็ส่งผู้แทนของเราไปพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของเรา

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ถัดมาในเรื่องของการยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด ในปี ๒๕๔๖ มีการยึดได้ ๗,๐๐๐ กว่าล้านบาทเศษตามที่ท่านสมาชิกได้อภิปราย ปี ๒๕๖๔ เราได้ ๗,๐๐๐ กว่าล้านบาท พอปี ๒๕๖๕ มีการเพิ่มขึ้นของมูลค่าทรัพย์สินที่มี การยึดได้ ๑๑,๐๐๐ ล้านบาทเศษ แล้วก็ในปีนี้ซึ่งไม่กี่เดือนถึงเมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ก็ได้ ๒๑,๐๐๐ ล้านบาทเศษ อันนี้เป็นส่วนของการริบทรัพย์ ถามว่าการริบทรัพย์นี้ก็จะเป็น ส่วนสำคัญที่จะทำให้การปราบปรามยาเสพติดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะว่าคนที่ค้า คนที่ขายยาเสพติดก็ต้องการทรัพย์สินไปใช้ เงินหรือรายได้ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการดำเนินการ ที่ผ่านมาเราก็มุ่งเน้นในเรื่องของการริบทรัพย์สินเป็นหลักนะครับ หลายท่านเป็นห่วงว่าการจับกุมผู้กระทำความผิดทำไมมีแต่รายย่อยที่เราจับกุมได้ จริง ๆ แล้ว การที่เราจับคดียาเสพติดสิ่งสำคัญคือพยานหลักฐาน ก็คือตัวยาเสพติด เพราะฉะนั้นการจับ ส่วนใหญ่ก็จะจับเริ่มต้นจากการที่มีคนขนบ้าง รายย่อยบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่นำมาในขณะนี้ ก็คือการขยายผลไปยังเครือข่ายการค้ายาเสพติด ในขณะนี้ปี ๒๕๖๖ เราตั้งเครือข่ายที่มี การสืบสวนไว้ ป.ป.ส. ตั้งไว้ทั้งหมดกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ๔๓๘ เครือข่าย แล้วก็มี การจับกุมได้ไปแล้วด้วยในบางส่วน บางส่วนก็มีการตั้งข้อหาสมคบสนับสนุน ๒๗๘ ราย อันนี้ก็เป็นตัวอย่างเบื้องต้นที่ว่ามีการดำเนินการ มีการขยายผล มีการจับกุมผู้กระทำความผิด ต่าง ๆ นะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ในส่วนข้อแนะนำ หลายท่านที่แนะนำว่าแล้วปัญหาที่ยังคงอยู่จะมีอะไรบ้าง ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมาย ต้องเรียนว่าเรื่องของการปราบปรามการค้ายาเสพติดเป็นเรื่องที่ ผู้กระทำความผิดเขามักจะซุกซ่อน หรือพยานหลักฐานที่จะใกล้ตัวนี้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะ เมื่อเรามีกฎหมายที่คุ้มครองสิ่งต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพก็ตาม คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับทางการสืบสวน และกำลังสอบสวน การค้ายาเสพติดผ่าน Social Media ต่าง ๆ ตอนนี้สำนักงาน ป.ป.ส. เอง ก็ร่วมกับทางกระทรวง DE แล้วก็ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดำเนินการ แต่ว่าการที่เราจะไปจับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เราก็ตามอยู่ทั้งหมด ถ้าพบเห็นการกระทำความผิดกระทรวง DE ก็จะปิดให้ ทางศูนย์ปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศก็ดำเนินการสืบสวนแล้วจับกุมผู้กระทำความผิด มาลงโทษอย่างต่อเนื่อง อันนี้ก็เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามที่ท่านมีคำถาม สอบถามมานะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติดมีโทษ ๓ เท่า ส่วน ๑๑ รายที่ปรากฏในส่วนนี้ในรายงานไม่ใช่เรื่องของ การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด บางเรื่องก็เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบหรือข้อบังคับที่เรากำหนดไว้ เราก็มีการยกเลิกบัตรของเจ้าพนักงานนั้นไปนะครับ ส่วนที่ยกเลิกไปเยอะจำนวน ๗,๐๐๐ กว่ารายนั้นก็เนื่องจากว่าเราต้องการที่จะประเมิน ตรวจสอบข้อมูลแล้วก็จะแต่งตั้งเข้าไปใหม่ จะได้มีการควบคุมตามกฎหมายใหม่ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่มีการออกไว้เมื่อปลายปี ๒๕๖๔

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

เรื่องที่ท่านนำเสนอแนะว่าควรจะเป็นวาระแห่งชาติเอาจริงเอาจังทั้งหมด กระผมขออนุญาตนำเรียนว่าสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข้อสังเกต คำแนะนำ หรือแม้กระทั่ง คำถามที่ท่านได้กรุณาอภิปรายกันในวันนี้ ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ก็จะรับข้อมูลทั้งหมดนี้ ทั้งที่ผมตอบไปแล้ว ยังไม่ได้ตอบ ไปนำเสนอกับทางท่านผู้บริหารหรือรัฐบาลที่จะเข้ามา บริหารประเทศในโอกาสถัดไป แล้วก็จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในโอกาสถัดไป ได้รับทราบแล้วก็นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประกอบในการจัดทำนโยบาย แล้วก็เร่งรัดการดำเนินการ ในเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ มีสมาชิกท่านใดติดใจ เชิญท่านนพพลครับ

นายนพพล เหลืองทองนารา พิษณุโลก ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม นพพล เหลืองทองนารา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทย คนพรหมพิราม ผมเองติดใจในผลการดำเนินงานของ ป.ป.ส. พอดีจริง ๆ แล้ว ผมก็จะมาพูดตั้งแต่ตอนที่ท่านประธานได้เปิดโอกาสให้พูด แต่พอดีว่าผมมัวค้นหาเอกสาร ผมก็ขอใช้เวลานี้ในการที่จะสอบถามท่านรองเลขา ป.ป.ส. ท่านครับ เอกสารเล่มที่ท่านให้มารายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ เล่มนี้ที่ท่านให้กับเล่มนี้มันเป็นของ หน่วยงานเดียวกันหรือเปล่า เหตุผลที่ผมถามอย่างนั้นก็เพราะว่าในผลการปฏิบัติงานของท่าน มันต่างกันสิ้นเชิง อย่างในปี ๒๕๖๔ ท่านเองบอกว่ามีจำนวนคดีทั้งหมด ๓๓๗,๑๘๖ คดี แต่ตารางนี้ที่อยู่ในหนังสือเล่มสีฟ้าสักครู่บอกว่ามีอยู่ ๑๓๐,๕๔๓ คดี จำนวนผู้ต้องหา ท่านบอกมาในหนังสือเล่มสีน้ำตาลคือ ๓๕๐,๐๐๐ กว่าคดี แต่อีกเล่มหนึ่งใน Website ของท่านคือ ๑๓๒,๐๐๐ คดี มันคืออย่างไร ผมเองก็งง ผมก็พยายามที่จะเปิดดูในเล่ม สีน้ำตาลให้รอบคอบ ผมเองก็อยากจะทราบเหมือนกันเป็นเพราะอะไร อันนั้นคือจำนวนคดี และผู้ต้องหา ผมยกตัวอย่างนิดหน่อย อย่างยาบ้าท่านเองรายงานมาในหนังสือเล่มสีน้ำตาล ก็คือ ๕๕๔.๗ ล้านเม็ด แต่ว่าในหนังสือที่ลงใน Website ของท่านคือ ๕๑๕ ล้านเม็ด ไอซ์ท่านบอก ทางผู้แทนไว้ว่า ๒๖,๖๖๒ กิโลกรัม แต่ในนั้นเขียน ๑๙,๐๐๐ กิโลกรัม เหตุผลเพราะอะไร นอกจากตัวเลขที่ผิดพลาดกันแล้ว มันยังส่อถึงนัยบางนัยนะครับ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะบอก นัยไหน ก็ขอที่จะสอบถามท่านว่ามันคืออะไร ทำไมตัวเลขผิดกันอย่างนี้ อันนั้นคือปี ๒๕๖๔ ที่ท่านรายงาน แต่ถ้าเอากันให้ดีอีกอย่างหนึ่ง ย้อนไปปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๓ ในหนังสือ เล่มสีน้ำตาลที่ท่านวงเล็บไว้ ที่ท่านมาเสนอสภา ท่านบอกว่ามีคดีทั้งหมดจับกุม ๓๒๔,๕๕๒ คดี แต่ตารางในหนังสือของท่านเขียนไว้ว่า ๑๖๕,๐๐๐ กว่าคดีเท่านั้นเอง เฮโรอีนท่านเสนอเรามา บอกว่าจับได้ ๕๙๗ กิโลกรัม แต่ใน Website ของท่านคือ ๑,๘๗๗ กิโลกรัม ต่างกัน ๑,๓๐๐ กิโลกรัมสำหรับเฮโรอีน ยาบ้า ๓๘๔ ล้านเม็ดที่ใน Website ของท่าน แต่ท่าน บอกเรามาแค่ ๓๑๙ ล้านเม็ด แล้วมันหายไปไหนอีก ๖๐-๗๐ ล้านเม็ด ผมเองจึงสงสัย ก็ขออนุญาตที่สอบถามว่าตกลงแล้วท่านจะให้ผมดูตัวเลขไหนกันแน่ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ มีสมาชิกท่านใดจะซักถามประเด็นไหนอีกไหม อย่างนั้นขอเชิญผู้ชี้แจงครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิกครับ ขออนุญาตชี้แจงนิดเดียว พอดีเอกสารที่เรานำเสนอเป็นรายงานผลการปฏิบัติงานเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี ๒๕๖๔ อันนี้จะเป็นการรวบรวมตั้งแต่ต้นปี เป็นรายงานผลการปฏิบัติประจำปี โดยคิดจากปีปฏิทินก็คือ ๑ มกราคมถึง ๓๑ ธันวาคม ของปี ๒๕๖๔ ส่วนที่ท่านนำเสนอหรือที่ปรากฏใน Website ของ ป.ป.ส. อันนั้นจะเป็น รายงานการดำเนินการด้านปราบปรามยาเสพติด ซึ่งใช้รายงานเป็นประจำปีงบประมาณ ก็คือมีการเหลื่อมกันอยู่ ๓ เดือน ตัวเลขอาจจะไม่ตรงกัน เพราะว่าเป็นส่วนที่ระยะเวลา ไม่เท่ากันครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญท่านนพพลครับ

นายนพพล เหลืองทองนารา พิษณุโลก ต้นฉบับ

ก็เป็นไปได้ตามที่ท่านบอกนะครับ เพราะผมเองก็นึกไว้แล้วเหมือนกันว่าอาจจะปีปฏิทินกับปีงบประมาณก็เข้าใจอยู่ แต่ทีนี้ปัญหา ที่ทำให้ผมแม้ว่าจะยกเหตุผลนั้นมาพูดกับใจตัวเองแล้ว แต่ผมก็ยังคาใจตรงที่ว่ากระจุกตรงนั้น ที่ต่างกันอยู่ ๓-๔ เดือน ทำไมตัวเลขคดีกับตัวเลขผู้ต้องหาต่างกันเท่าตัว มันขนาดนั้นเชียวหรือ อย่างนั้นก็แสดงว่าในระบบยุติธรรมนี่ห่วยแตกมาก ขอใช้คำบ้าน ๆ นี่ละครับ ใช่ไหมครับ ตรรกะนี้ผมว่ามันไม่ถูก ถ้าอย่างนี้มันต้องยกเค้ากันใหม่เลยนะครับ ถ้าอย่างนั้นไม่ได้พูดถึง ในส่วนที่ว่า OK อะไรทำไหม ไม่เรียบร้อยหรืออะไรพรรค์นี้ ทำไมท่านวงเล็บไว้หน่อย ไม่ได้หรือในนี้ว่าอะไรคือปีงบประมาณ อะไรคือปีปฏิทิน แล้วผมจะไปตรัสรู้ได้อย่างไร ผมเองก็เป็นมนุษย์เดินดินกินข้าวแกง แล้วก็ไม่ใช่ว่าล่องหนได้ อะไรได้ เป็นเทวดามาจากไหน ผมไม่รู้ ผมขออนุญาตตำหนิท่านอย่างแรงครับ แต่ว่าผมก็ยังไม่ Clear พูดถึงนี่ ผมก็ยัง ไม่สบายใจอยู่ดีสำหรับประเด็นที่ท่านบอกว่าอันนั้นคือปีงบประมาณ อันนี้คือปีปฏิทิน แต่ว่าตัวเลขที่ฟ้องอยู่มันต่างกันเยอะ ผมถึงบอกว่าขณะนี้ผมใช้คำว่า นัย นั่นหมายความว่า ประการหนึ่งก็คือว่าถ้าปีปฏิทินกับปีงบประมาณ แสดงว่าหน่วยงานทำงานของกระทรวง ยุติธรรมหลาย ๆ ส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องคดี รวมทั้งตำรวจด้วยแย่มาก แย่ถึงแย่ที่สุดเลยนะครับ ถ้ามันสอดคล้องกับจำนวนสิ่งที่จับได้ของ ป.ป.ส. กับจำนวนคดี จำนวนผู้ต้องหา ผมจะไม่ว่า อันนี้ท่านลองใช้บัญญัติไตรยางค์ก็ได้ จำนวนคดี จำนวนเม็ด เป็นเหมือนกันแทบจะทุกปีเลย เพราะฉะนั้นนั่นหมายความว่า ๓-๔ เดือนสุดท้ายท่านจับอะไรไม่ค่อยได้ใช่ไหม หรือมัน อย่างไร หรือถ้าจับได้ทางผู้ค้ายาเสพติดก็ใช้นโยบายปีปฏิทินกับปีงบประมาณเหมือนกัน ถ้ามันเลยปีงบประมาณแล้ว OK จับน้อย ๆ หรือผลิตน้อย ๆ จะได้โดนจับน้อย ๆ ผมเอง งงมากตัวเลขเหล่านี้นะครับ ขอบคุณมากครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ประเด็นของท่านนพพลก็สำคัญ แต่ขอเป็นประเด็นสุดท้ายแล้วในการชี้แจงนะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิกครับ ตามที่ท่านนพพลเป็นห่วงในเรื่องของตัวเลขที่ผมกราบเรียนไปแล้ว ในส่วนของการที่จะไป กำกับว่าเป็นเรื่องของตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม ปีปฏิทินก็จะรับไปดำเนินการ ส่วนในตัวเลขต่าง ๆ เหล่านี้ผมก็อยากกราบเรียนว่าเป็นตัวเลขที่ออกมาจากในระบบ ของสำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งเป็นตัวเลขจากผลการจับกุมที่ส่งมาตามระบบของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติที่เราเชื่อมโยงข้อมูลกันอยู่ อย่างไรก็จะไปตรวจสอบให้ชัดเจนนะครับ แต่ว่าทั้งหมดที่ผมได้กราบเรียนเป็นตัวเลขที่อยู่ในระบบข้อมูลของสำนักงาน ป.ป.ส. แล้วก็ อาจจะถ้ามีข้อสงสัยอะไรต่าง ๆ ก็จะกลับไปตรวจสอบ แล้วก็ทบทวนในเรื่องของการพัฒนา ระบบให้มีความเที่ยงตรง ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงใยในเรื่องนี้ครับ ขอบพระคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ผมคิดว่าประเด็นนี้มันเสร็จสิ้นแล้วนะครับ

นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นนิดเดียวครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

เชิญครับ

นายอดิศร เพียงเกษ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ผม อดิศร เพียงเกษ ผมถาม ทาง ป.ป.ส. ด้วยความเคารพอย่างยิ่งนะครับ เราอภิปรายมาถึงเวลาขณะนี้ท่านมีความมั่นใจว่า จะปราบยาเสพติดได้ไหมให้หายจากผืนแผ่นดินนี้ ให้ความมั่นใจต่อสภาได้ไหมครับ เพราะแต่ละปีก็ต้องวนมาเจอกัน วันนี้อภิปรายถึงจุดนี้ก็ชี้จุดถูกจุดผิด ท่านให้ความมั่นใจ ต่อสภาได้ไหม ต่อประเทศนี้ ต่อประชาชนที่กำลังดูถ่ายทอดสด ว่าปัญหายาเสพติด ภายใต้การทำงานของ ป.ป.ส. ของท่านจะทำให้ยาเสพติดหายไปจากผืนแผ่นดินไทย ลองให้ความมั่นใจต่อสภา ต่อประชาชนหน่อยนะครับ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ท่านทวีครับ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ ผม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ไหน ๆ ก็มีคำถาม อยากจะถามคำถามสุดท้าย คือเราเคยมีความหวังว่า เมื่อเราได้ประมวลยาเสพติดที่ออกไปเมื่อปี ๒๕๖๔ แล้วปัญหายาเสพติดเราจะแก้ได้ แต่ว่า ประมวลยาเสพติดเป็นประมวลที่จะต้องมีกฎหมายระดับรองเพื่อไปบูรณาการจำนวนมาก ถ้าจำไม่ผิดเราจะมีกฎหมายระดับรองอยู่ประมาณเกือบ ๓๐ ฉบับกระมังในหน่วยงานต่าง ๆ ถ้ากฎหมายระดับรองไม่เสร็จ อย่าหวังเลยจะแก้ปัญหายาเสพติด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจมารับสารภาพต่อหน้าสภานี้ว่ากฎหมายระดับรองยังออกได้ ไม่มากนัก จึงถามว่าวันนี้ผ่านมาสัก ๑ ปีแล้วกฎหมายระดับรองปัจจุบันออกครบหรือยังครับ อยากให้ตัวแทน ป.ป.ส. ได้ตอบด้วยครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

มีท่านใดอีกไหมครับ จะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว เชิญครับ

นายณพล เชยคำแพง หนองบัวลำภู ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรครับ ผม ณพล เชยคำแพง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองบัวลำภู เขต ๓ มีข้อความชัดเจน อีกนิดหนึ่งที่อยากจะได้ทราบคำตอบ ในอดีตเราเห็นการปราบปรามยาเสพติด เราจับยาเสพติดได้จำนวนมาก เราก็นำมาเผาทำลายผ่านสื่อมวลชนที่มาถ่ายทำ แล้วก็ให้ ประชาชนเห็นกันทั้งประเทศครับ ณ ปัจจุบันนี้ภาพนั้นไม่เห็นแล้ว ไม่ทราบว่าตรงนี้ เราจะดำเนินการเช่นเดิมได้ไหม หรือว่ามีวิธีการที่เป็นปัญหาอะไรอยู่บ้าง เท่านี้ครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ขอเชิญผู้ชี้แจงเลยครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกผู้ทรงเกียรติ ขออนุญาตตอบย้อนไปแล้วกันนะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ที่ท่านเพิ่งถามไปเสร็จเมื่อสักครู่เรื่องของการทำลาย ยาเสพติดให้โทษ จริง ๆ แล้วทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้เก็บรักษายาเสพติดให้โทษ แต่เนื่องจากว่าที่ผ่านมามีปริมาณยาเสพติดอยู่พอสมควรที่อยู่ในคลังก็จะมีความแออัดอยู่ ตอนนี้ก็ขยายให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นหน่วยงานที่เก็บรักษาด้วย แล้วก็เผาทำลาย ที่ผ่านมา มีการเผาทำลายนะครับ ปี ๒๕๖๔ มีการเผาทำลายไป ๒ ครั้ง แล้วก็มีการเชิญผู้แทน หน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปชมการเผาทำลาย แต่เนื่องจากว่าการเผาทำลาย ในปัจจุบันเราไม่ได้เผาทำลายกลางแจ้งนะครับ ก็อาจจะไม่ได้เป็นข่าวมากนัก แต่ว่า เป็นการเผาทำลายในเตาเผาขยะที่เก็บมลพิษ ตอนนี้เราใช้ที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) ที่สมุทรปราการ ปี ๒๕๖๔ เผาไป ๒ ครั้ง ๔๓ ตันเศษ ปี ๒๕๖๕ มีการเผาไป ทั้งหมด ๓ ครั้ง ๖๙ ตัน ปี ๒๕๖๖ เพิ่งเผาทำลายไปประมาณ ๒๐ ตัน แล้วก็เดี๋ยวประมาณ วันที่ ๑๙ วันที่ ๒๑ แล้วก็วันที่ ๒๓ สำนักงาน ป.ป.ส. จะเผาอีกประมาณ ๑๐ กว่าตัน เช่นเดียวกันนะครับ อันนี้เป็นเรื่องของการเผาทำลาย

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

ส่วนที่ ๒ ที่ท่านทวีได้กรุณาสอบถามว่ายังมีอยู่ไหมที่ยังไม่เสร็จ เนื่องจากว่า มีบางฉบับที่ต้องเข้า ครม. แล้วก็ยังไม่ได้ผ่านเข้าไปมีอยู่ ๓ ฉบับ แต่ว่าอยู่ระหว่างเร่งรัด ในการดำเนินการ แล้วก็ทางกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายใน เดือนธันวาคมนี้ ก็จะสมบูรณ์ทั้งหมดนะครับ

นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ต้นฉบับ

สุดท้าย ตามที่ท่านอดิศร เพียงเกษ ได้กรุณาสอบถามเรื่องจะให้คำสัญญา ได้อย่างไรว่ายาเสพติดจะหมดไป ถ้าผมบอกว่าถ้าเป็น ๐ ในประเทศไทยคงอาจจะ เป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ร่วมกันในเรื่องของการบูรณาการทั้งหน่วยงานต่าง ๆ กระทรวงต่าง ๆ ๙ กระทรวง แล้วก็ ๒๐ กว่าหน่วยงานที่ดำเนินการกันอยู่ในขณะนี้ เป็นการบูรณาการ แล้วก็แก้ไขปัญหาใหม่ภายใต้ประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ท่านกรุณาได้ผ่านไป มีทั้งมาตรการ ต่าง ๆ มากมายอยู่ในพระราชบัญญัติฉบับนี้ ก็มั่นใจนะครับ ถ้าทำงานด้วยการเต็มที่ ของทุกหน่วยงานเกิดการบูรณาการโดยการสนับสนุนของทางรัฐบาลที่มุ่งมั่งเอาจริง ตามที่หลายท่านได้มีการอภิปรายให้ข้อสังเกต ให้ข้อเสนอแนะไว้ ผมคิดว่าการควบคุม ในระดับที่ยาเสพติดไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตโดยปกติของประชาชน อันนั้นน่าจะเป็น จุดหมายสำคัญหรือจุดสูงสุดที่น่าจะทำให้ประชาชนหรือชุมชนอยู่ได้อย่างมีความสุข เป็นปกติสุขนะครับ ประมาณนี้ครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

ขอบคุณนะครับ เนื่องจากเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องที่สำคัญมากในประเทศตอนนี้ ทำให้เรา ต้องใช้เวลาในการอภิปรายให้ได้ครบถ้วนประเด็น แล้วก็ขอบคุณทางผู้ชี้แจงที่ชี้แจงกับ ทางสภานะครับ แล้วก็ฝากความหวังไว้กับพวกท่านด้วย ตามที่ท่านสมาชิกหลายท่าน ได้ให้ความคาดหวังไว้เพื่ออนาคตของประเทศเรานะครับ ขอบคุณครับ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

๒.๒ รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ต้นฉบับ

สมาชิกครับ ตอนนี้เราเหลืออีก ๓ รายงาน ซึ่งทาง สตง. ก็เตรียมตัวมาที่จะ ชี้แจงในทุกรายงาน เพราะฉะนั้นผมขอจำกัดเวลาในการอภิปราย เพื่อเราจะใช้เวลารายงาน ประมาณรายงานละไม่เกิน ๑ ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้มีผู้ที่อภิปรายแล้ว ๙ ท่าน สำหรับรายงาน ของทาง กกต. แล้วก็คาดว่าอีก ๒ รายงานเราจะใช้เวลาไม่มากนัก ก็จะทำให้เราสามารถ พิจารณาครบทั้ง ๕ รายงานได้ ถ้าหน่วยงานได้มีโอกาสชี้แจงเบื้องต้น ๕ นาทีแล้ว แล้วก็ พอท่านแรกคือท่านภัณฑิล น่วมเจิม ได้อภิปราย ผมก็จะขอปิดการลงชื่อในการอภิปราย ในรายงานนี้ครับ เดี๋ยวจะเป็นหน่วยงานก่อน ๕ นาที

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เราได้อนุญาตให้เชิญผู้ชี้แจงที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงตามข้อบังคับ ข้อ ๓๑ ท่านผู้ชี้แจง มาพร้อมแล้ว มีท่านพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ท่านที่ ๒ คุณศิริเกษ วาทยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการเงินและการบริหารพัสดุที่ ๑๘ ท่านที่ ๓ คุณนาตยา ธนิทธิพันธ์ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษ คุณเกศิณี โกมลหิรัญ นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการพิเศษ คุณธยานิษฐ์ จันทรศิริโสภณ นักวิชาการ ตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ คุณพัชรินทร์ โสภา นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ คุณทิพย์สุดา โหลยา นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดินชำนาญการ เชิญตัวแทนผู้ชี้แจงได้แถลง ต่อสภาหน่อยครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพอย่างสูง ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ ทุกท่านครับ กระผม นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดิน ขอรายงานงบการเงินของคณะกรรมการการเลือกตั้งและการประเมิน การใช้จ่ายเงินของคณะกรรมการการเลือกตั้งสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ โดยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดทำงบดุล งบการเงิน และทำบัญชี สำหรับสิ้นสุดบัญชี ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ส่งผู้สอบบัญชีภายใน ๙๐ วัน นับแต่ วันสิ้นปีบัญชี และให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอรายงานผลการสอบบัญชี และการประเมินผลการใช้จ่ายเงินทรัพย์สินของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งดังนี้ครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

รายงานผู้สอบบัญชี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงาน การเงินของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดง การเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิส่วนทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน และหมายเหตุประกอบ งบการเงิน รวมถึงสรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นว่า รายงานการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงินของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้อง ตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ ที่กระทรวงการคลังกำหนด มีผลการตรวจสอบปรากฏตามรายงานของผู้สอบบัญชี โดยแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข ในส่วนของรายงานการเงินครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

สำหรับการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งสำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เป็นเงินอุดหนุน จำนวนทั้งสิ้น ๑,๗๖๖.๐๓ ล้านบาท ประกอบด้วย ๓ แผนงานคือ ๑. แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน ๑,๓๗๓ ล้านบาท ๒. แผนงานพื้นฐานความมั่นคง จำนวน ๓๔๕.๕๐ ล้านบาท ๓. แผนงาน ยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านความมั่นคง จำนวน ๔๗.๕๓ ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งมีเงินเหลือจ่ายตามแผนงานที่จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เป็นจำนวน ๑,๓๒๙.๑๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๒๕ ของแผนใช้จ่าย เงินที่ เหลือจ่ายส่วนใหญ่แยกประเภทดังนี้ ๑. เป็นเงินที่จัดกิจกรรมเรื่องการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ซึ่งจะต้องยกเลิกไปบางรายการ เพื่อไปดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เนื่องจาก ในขณะนั้นเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส COVID-19 ๒. เรื่องของ การบรรจุและแต่งตั้งบุคลากรตามตำแหน่งที่ว่าง ทำให้ไม่สามารถบรรจุได้เนื่องจากสถานการณ์ โควิดเช่นเดียวกัน จึงต้องมีการปรับแผนดำเนินการ ๓. กิจกรรมที่มีการกำหนดขอบเขตงาน หรือ TOR ที่เกี่ยวข้องกับหลายส่วนงาน และต้องกำหนดขอบเขตงานย่อยแต่ละส่วนงาน ซึ่งมีปริมาณงานซับซ้อน เช่นโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานและกิจการ จึงทำให้มีงบประมาณใน ๓ ส่วนที่กล่าวข้างต้นเหลือจากการใช้จ่าย ทำให้มีเงินเหลือจ่าย โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีแผนปฏิบัติงานประจำปี จำนวน ๒๖ โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ ๗ โครงการ ยกเลิก ๒ โครงการ และยกไป ดำเนินการในปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๗ โครงการ และยกเลิกโครงการแล้ว ๒ โครงการ ส่วนการบริหารจัดการทรัพย์สิน ในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีสัดส่วนสินทรัพย์ หมุนเวียนต่อหนี้สินทุนหมุนเวียน ๓๕.๐๓ เท่า โดยเพิ่มจากปีงบประมาณ ๒๕๖๓ จำนวน ๗.๒๗ เท่า โดยมีทรัพย์สินหมุนเวียนสูงกว่าหนี้สินหมุนเวียนเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นสภาพ คล่องทางการเงินที่สูง เนื่องจากมีเงินเหลือจ่ายจากการใช้จ่ายเงินตามแผนใช้จ่าย ปี ๒๕๖๔ ตามที่กล่าวแล้วข้างต้นของสำนักงาน กกต.

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนเรื่องของการจัดหาครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง มีแผนการใช้จ่าย เป็นค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง จำนวน ๒๘๐.๓๔ ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น เรื่องของงานก่อสร้างอาคารสำนักงาน และการก่อสร้างอื่น ๆ ในส่วนภูมิภาค ซึ่งค่าใช้จ่าย ทั้งสิ้น ๒๔๐.๔๙ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๒๗.๒ ล้านบาท มีเหลือจ่าย จำนวน ๒๑๓.๔๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๗๖ ของแผน ซึ่งการที่ไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ของสำนักงาน กกต. ก็เนื่องมาจากสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในช่วงปี ๒๕๖๔ ทำให้จัดหาแรงงานในการดำเนินการ ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นปัญหาเรื่องของ แรงงาน ส่วนเรื่องของการควบคุมครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ในการสุ่มตรวจของครุภัณฑ์ ในปี ๒๕๖๔ จำนวน ๑๐ รายการ เป็นเงิน ๓๘๘,๔๑๐ บาท พบว่ามีการจัดทำทะเบียน ครุภัณฑ์ถูกต้องครบถ้วนในการระบุของทะเบียนครุภัณฑ์และการจัดหาที่เหมาะสม

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของข้อเสนอแนะ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เสนอแนะ การดำเนินการดังนี้ ๑. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ และดำเนินการโครงการให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายเงิน และแผนปฏิบัติการเหลื่อมปี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์และเงินงบประมาณภายในปีงบประมาณ ๒. ให้ควบคุม กำกับ ติดตาม เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายเงิน ระเบียบการและแผนดำเนินงานโครงการพันธกิจให้เหมาะสม กับสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคำนึงถึงการดำเนินการให้สอดคล้องกับ งบประมาณรายจ่ายประจำปี และผลตามเป้าหมาย ตามภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพในโอกาสต่อไป ส่วนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะในปี ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีการแจ้งผลการดำเนินการในการตรวจสอบ ของปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ว่าอยู่ในระหว่างดำเนินการ แล้วปัจจุบันนี้ก็ได้มีการดำเนินการ มีความคืบหน้าตามที่ได้มีการแจ้งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบ จึงกราบเรียนมา เพื่อโปรดทราบครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปเชิญสมาชิกได้อภิปรายนะครับ ท่านแรก ท่านภัณฑิล น่วมเจิม เชิญครับ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานที่เคารพครับ ภัณฑิล น่วมเจิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. เขตคลองเตย เขตวัฒนา ก็จะเป็นในเรื่อง การรับทราบรายงานของทาง กกต. ก็ผ่านไปทาง สตง. ขอ Slide แรกเลยครับ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเด็นแรก ก็จะเป็นในเรื่อง ของเงินนอกงบประมาณ เข้าใจว่าอยู่ในรายงานประจำปี ๒๕๖๕ ในรายงานประจำปีจะมี การระบุเงินนอกงบประมาณ ๑,๘๑๕ ล้านบาท ก็เป็นคำถามผ่านทาง สตง. กลับไปทาง กกต. ว่ามันมีได้อย่างไร เพราะพันธกิจหลักของ กกต. ก็คือการจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส ยุติธรรม กกต. เป็นหน่วยงานรับงบประมาณ จริง ๆ ควรจะทำ Budgeting หรือทำเงินให้อยู่ ในงบประมาณให้ได้ทั้งหมดเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อ่านรายงานประจำปีกับตัวรายงาน ทางการเงินแล้ว คือในรายงานบัญชีมีเงินรับงบประมาณมา ๑,๗๐๐ กว่าล้านบาท แต่มี เงินนอกงบประมาณอีก ๑,๘๐๐ ล้านบาท อันนี้ก็คือตรวจสอบไม่ได้ว่าเอาเงินตรงนี้มาแล้วใช้ ทำอะไร ในงบดุลก็จะมีเรื่องของการถือครองที่ดินและอาคาร ๑,๐๐๐ กว่าล้านบาท อันนี้ ก็เป็นคำถามเหมือนกันว่าหน่วยงานอย่าง กกต. มีที่ดินหรืออาคาร ผมเข้าใจว่าส่วนใหญ่ ต้องไปเช่าหรืออยู่กับหน่วยงานราชการอื่น ก็ไม่แน่ใจครับ เมื่อสักครู่นี้มีการพูดถึงเรื่อง การสร้างตึกเหมือนกันนะครับ ก็ไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องกับพันธกิจหลักของ กกต. อย่างไร อันนี้ก็เป็นการตั้งคำถามว่ามันควรจะมีสินทรัพย์มูลค่าเป็น ๑,๐๐๐ กว่าล้านบาทอยู่ในงบดุล ด้วยหรือเปล่า มีงบขาดทุนสะสมต่อเนื่อง พูดภาษาชาวบ้านง่าย ๆ คือรายจ่ายมากกว่ารายได้ เนื่องจากเป็นหน่วยรับงบประมาณก็ต้องมีการประเมินว่าตัวเองจะใช้จ่ายปีหนึ่งเท่าไร จริง ๆ ไม่ควรขาดทุนนะครับ ควรจะรู้ว่าปีนี้ ๆ มีการจัดการเลือกตั้งเท่านี้ ๆ จะต้องใช้เงินเท่าไร ไม่ควรจะต้องมีการทำ Budgeting หรือการประเมินที่ผิดพลาด

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีกประเด็นหนึ่งที่ฝากไว้นะครับ ผมไปดูงบเงินฝากกับสถาบันการเงิน รวมถึง เงินลงทุนอื่น ๆ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว ๑,๙๐๐ ล้านบาท เป็นคำถามว่าทำไม กกต. ต้องมีเงิน ติดเก๊ะหรือเอาเงินไปทำอะไร ๑,๙๐๐ ล้านบาท มัน Plan ได้นี่ครับ จะมีจัดการเลือกตั้ง มีเลือกตั้งซ่อมเท่าไร อย่างไร ต้องมีบุคลากรในการส่งเสริมการเรียนรู้ประชาธิปไตยอะไร อย่างไร ทำไมต้องใช้เงินถึง ๑,๙๐๐ ล้านบาท แล้วแถม ๑,๙๐๐ ล้านบาทเอาไปฝาก ดอกเบี้ยนะครับ รายได้จากดอกเบี้ย ๑๐ กว่าล้านบาท ผมว่าคืนคลังไปดีกว่าไหมครับ แล้วให้เขาไปบริหาร จะเก็บเงินไว้ทำไมตั้งเกือบ ๒,๐๐๐ ล้านบาท แล้วรายได้ออกมาก็ ๑๐ กว่าล้านบาท ผลตอบแทนระดับแย่มาก ๑-๒ เปอร์เซ็นต์ ถือว่าบริหารเงินที่ติดเก๊ะอยู่ ผิดพลาดนะครับ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีกประเด็นหนึ่งนะครับ ภาระผูกพันจากการถูกฟ้อง และเป็นผู้ฟ้องเอง ถูกฟ้อง ๒๐๐ กว่าล้านบาท เป็นผู้ฟ้องเอง ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาท ก็ตั้งคำถามเหมือนกันว่า มันก็เป็นอะไรที่ทำให้ Balance Sheet หรือว่างบดุลมันงอกออกไปโดยไม่จำเป็น แล้วมี ผู้ฟ้องเป็นสิบ ๆ รายเลย เป็นกรรมการการเลือกตั้งไม่ใช่หรือครับ แล้วเที่ยวไปทะเลาะกับชาวบ้าน ไปสร้าง Liability มีคนฟ้อง คนถูกฟ้อง เข้าใจแล้วบางทีเป็นเรื่องกฎหมายมันต้องไปฟ้อง แต่ก็โดนฟ้องกลับ เหมือนกัน อันนี้ก็ฝากทาง สตง. ไป Comment ทาง กกต. นิดหนึ่งอย่าไปเที่ยวทะเลาะ กับคนอื่นเขา มันไม่ Work ครับ ยอดคงเหลือที่ไม่ได้เบิกจ่ายเมื่อสักครู่นี้มีพูดไปแล้วบางส่วน แสดงว่าอะไร ประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายงบประมาณ หมายความว่าอย่างไรเมื่อสักครู่นี้ ท่านบอกต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้หมด ก็คือต้องเอาเงินออกไปใช้ทั้ง ๆ ที่ตัวเองวางงบประมาณ ไว้ไม่เป๊ะ เบิกไปเบิกไม่หมด ก็นี่คือตั้งคำถามกลับไปในเรื่องของประสิทธิภาพการวางงบประมาณ แล้วเบิกจ่ายไม่หมด เข้าใจแล้วมีเรื่องโควิดเข้ามาแทรกนะครับ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

หน้าถัดไปครับ ในงบดุลบอกมีเจ้าหนี้ระยะสั้น ผมก็ไปดูในหมายเหตุบอกเป็น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๒๐๐ กว่าล้านบาท ก็ไม่รู้ไปค้างจ่ายใคร กกต. นี่ก็ขยันมาก ทำ Application Smart Vote ตาสับปะรด Civic Education THAIVOTE ทำ Website ทำอะไร เยอะมาก แต่หลายท่านกดเข้าไปดู Invalid HTTP 404 ไม่เจออะไรเลย กดเข้าไปมีแต่ PDF เอาพวกกระดาษมา Scan ใส่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันไปจ้างใครมาทำตั้งเยอะแยะ ข้อมูลก็ข้อมูล เดียวกัน เสียสตางค์ไป ๒๐๐ กว่าล้านบาท แล้วยังค้างไม่ยอมจ่ายเขาอีก ก็ไม่แน่ใจ Credit Term หรือเปล่า ก็ฝากไปตรวจดูแล้วกันว่า ๒๐๐ ล้านบาท ไปจ้าง Software อะไรวิลิศมาหราขนาดนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ประมวลผลออกมากว่าจะรู้ผลก็ตั้ง ๒ เดือนช้ามาก วิเคราะห์อะไรก็ไม่มีเลย ใช้เงินทำอะไร๒๐๐ กว่าล้านบาท

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

อีกอันหนึ่งนะครับ ผมก็เข้าไปดูพนักงานประเภทวิชาการ เข้าใจเป็นคำศัพท์ มันเป็น Pillar เป็นหมวด มันก็มีพนักงานระดับปฏิบัติการ มีอะไรอย่างนี้ ๑,๕๕๓ คน เพิ่งรู้ กกต. จ้างคนมาวิเคราะห์ มาทำวิจัยอะไรกันตั้ง ๑,๕๐๐ กว่าคนทั่วประเทศ มีผลงานอะไร วิเคราะห์อะไรกันครับ อยากจะรู้เหมือนกัน อยากจะอ่าน แทนที่คุณจะไปทำเรื่องคุณภาพ การอบรม กปน. หรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง พวกเรารู้ดีที่สุดเพราะเราเป็น สส. ไปดู Procedure Layout เวลาจัดวางขานคะแนนเละตุ้มเป๊ะได้หมดเลย ไม่มีคุณภาพเลย การเอาเงินไปใช้แทนที่จะเอาไปใช้ให้มันตรงจุด เพราะตัวเองมีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้มัน โปร่งใส ยุติธรรม แต่กลับเอาไปทำอะไรครับ ไปดูงาน ผมไปดูงาน OK ก็มี เขาก็อยากไป เที่ยวกัน ไปนอร์เวย์บ้าง สวิตเซอร์แลนด์บ้าง ไปโอซาก้า ก็ OK อ้างว่าเป็นประเทศที่เจริญแล้ว แต่อันหนึ่งตกใจไปจอร์แดน ไม่รู้ไปทำไม จะไปดู World Heritage ไปดู Petra หรืออย่างไร จอร์แดนเขามีระบบการเลือกตั้งที่มันก้าวหน้าขนาดนั้นเลยครับ งงมากเลยไปจอร์แดน ไปทำไม

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สุดท้ายนะครับ ความจริงมีอีกเยอะ คู่มือประชาชนพลเมืองคุณภาพ ๒๐๐,๐๐๐ กว่าเล่ม เป็น Booklet เล่มเล็ก ๆ เล่มหนึ่งก็คงไม่แพง ๓ บาท ๕ บาท ก็พิมพ์ ออกไปเยอะมาก ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันเอาไปแจกใคร หมดสตางค์ไปตั้งเยอะ โค่นต้นไม้ ไปกี่ต้น ไปทำรายงานพวกนี้ มันได้ประโยชน์อะไรครับ พลเมืองมันมีคุณภาพมากขึ้น หรือเปล่าครับ จากรายงานพวกนี้ที่พนักงานประเภทวิชาการ ๑,๕๐๐ คนมานั่งเขียน ผลิตอะไรพวกนี้ออกมา

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

KPI ของ กกต. มันคือการให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเยอะ ๆ แต่ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ มีเลือกตั้ง อบต. เทศบาลนคร ปรากฏก็มีตัวเลขแปลก ๆ ออกมา อย่างเทศบาลนคร ๒๙.๕ เปอร์เซ็นต์ แต่แปลก อบต. ได้ตั้ง ๗๕ เปอร์เซ็นต์ นี่จะมาอ้างอะไร อ้างว่าถ้าเผื่อ เลือกตั้งท้องถิ่นมันไกลตัวคนไม่ไปเลือก เดี๋ยวคนจะมาเลือก มันเป็นหน้าที่ตัวเองจะต้องดูแล ต้องทำ บริหารจัดการการเลือกตั้ง ประชาสัมพันธ์อะไรให้มีคุณภาพ

นายภัณฑิล น่วมเจิม กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

หน้าสุดท้าย ก็คงต้องขอตำหนิผ่านไปในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้ งบประมาณ มีข้อร้องเรียนเยอะมาก แต่วันนี้ไม่อยากพูดเยอะ เพราะต้องการจะอยู่กับตัวเลข ทั้งการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มีปัญหาเยอะมาก ลงทะเบียนไปแล้วก็ปรากฏเลือกไม่ได้ วันสุดท้าย หรือ Mailing ไป ไปรษณีย์วันสองวัน ที่อังกฤษก็มีข้อร้องเรียนเข้ามา เลือกตั้ง ล่วงหน้านอกเขตไปดูสิครับ กล่อง เงื่อนไขในการปฏิบัติการ บางทีตัวเองก็เซ็นผิดบ้าง ผมไปเลือกล่วงหน้า ผมยังต้องดูเลยว่าบัตรถูกต้องไหม กล่องถูกต้องไหม ทำไมไม่เอา งบประมาณไปจัดการเลือกตั้งให้มันมีประสิทธิภาพ ก็ฝากไว้แค่นี้ครับ ผ่านไปทาง สตง. ว่า KPI ของ กกต. ผมว่าล้มเหลวครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านต่อไปท่านเทอดชาติ ชัยพงษ์ ครับ

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพครับ ผม เทอดชาติ ชัยพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เขต ๕ พรรคเพื่อไทย วันนี้ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มาชี้แจงในฐานะผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน ให้กับ กกต. ซึ่งการทำหน้าที่ของ กกต. ในการใช้งบประมาณก็จะเกี่ยวข้องกับภารกิจครับ พี่น้องครับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ หมวด ๑๒ องค์กรอิสระ ส่วนที่ ๒ มาตรา ๒๒๒ นั้นให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

โดยให้มี ๗ คนทำหน้าที่ตามมาตรา ๒๒๔ หลัก ๆ ๓ ประการก็คือ การจัดการเลือกตั้ง การสืบสวน ไต่สวนวินิจฉัย และออก กฎระเบียบ นี่เป็นภารกิจหลัก เพราะฉะนั้นภารกิจหลักที่เกิดขึ้นนี้จะสอดคล้องกับการใช้ งบประมาณที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ชี้แจงมา เพราะฉะนั้น กกต. ยุคแรก จึงเป็นองค์กรอิสระที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ ประชาชนเองก็ชื่นชม มีความหวังว่า ท่านจะทำหน้าที่ในการเลือกตั้งอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งบทบาทนี้ก็เปลี่ยนแปลงมาจาก การที่ให้หน่วยงานภาครัฐนั้นดำเนินการ ก็เป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ในการเลือกตั้งตรงนี้ โดยตรง วันเวลาเปลี่ยนผ่านมา ๒๖ ปี วันนี้ภารกิจสำคัญของการดำเนินการใน ๓ ส่วนหลัก ที่พูดถึง ซึ่งมาตรา ๒๒๔ นั้นกำหนดให้หน้าที่ ๖ ข้อก็ยังคงอยู่ อย่างไรก็ตามพัฒนาการของ กกต. นั้นก็เกิดความเข้มแข็งขึ้นมาก แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่หลายประการ เช่น เรื่องความล่าช้า ของการประกาศผลการเลือกตั้ง ความล่าช้าของการรับรองผลสมาชิก ความไม่แน่นอน ของการคำนวณคะแนนของสมาชิกแบบบัญชีรายชื่ออะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ดังที่เป็นข่าว ในสังคม นี่คือภารกิจสำคัญแรกที่ประชาชนอยากเห็นในการทำงานของ กกต. นอกจากนั้น ยังมีภารกิจอื่นที่สำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีส่วนร่วม หรือการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้พลเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเดี๋ยวผมจะได้พูดกันต่อนะครับ อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักงาน กกต. ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ที่ได้รับทราบ ในรายงานนั้น ในงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน รายได้ปี ๒๕๖๓ ตัวเลขกลม ๆ ๑,๘๕๗ ล้านบาท แต่ปี ๒๕๖๔ นั้นแสดงให้เห็นว่ามีรายได้ลดลงอยู่ที่ ๑,๗๙๓ ล้านบาทกว่า ๆ อันนี้คืองบประมาณที่ดำเนินงานในปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ซึ่งแสดงให้เห็นว่างบประมาณ ที่ดำเนินการนั้นลดลง ส่วนรายจ่ายในปี ๒๕๖๓ กลับพบว่ามีรายจ่ายในปี ๒๕๖๓ นั้น ๒,๓๗๙ ล้านบาท ตัวเลขกลม ๆ ปี ๒๕๖๔ ประมาณ ๒,๔๕๖ ล้านบาท รายได้ต่ำกว่า ค่าใช้จ่ายสุทธิในตัวเลขกลม ๆ ปี ๒๕๖๓ ประมาณ ๕๒๒ ล้านบาท ปี ๒๕๖๔ ๖๖๓ ล้านบาท ฉะนั้นสำนักงาน กกต. นั้นแสดงว่ามีการบริหารจัดการรายได้เพื่อให้เกิดความสมดุลของ งบประมาณ ฉะนั้นทางผู้สอบบัญชีพอมีที่ไปที่มาได้หรือไม่ว่ามีการจัดการรายได้ตรงนี้อย่างไร ในการที่จะบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลในประมาณปี ๒๕๖๔ ท้ายนี้ก็อยากจะฝาก กกต. ไป ๒ ประเด็นหลักผ่านทางผู้สอบบัญชีครับ เพราะว่าภารกิจนั้นจะสัมพันธ์กับการใช้ งบประมาณ

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

ประการแรก ก็คือการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมือง ยังมีการดำเนินงาน ในรอบปีประมาณ ๒๕๖๔ น้อยมาก คงเหลืองบประมาณถึง ๗๒ กว่าล้านบาท อันนี้ก็แสดง ให้เห็นว่า กกต. ยังไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้อย่างเต็มที่ในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เกี่ยวกับการดำเนินการทางการเมือง

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

ประการที่ ๒ งบประมาณของการให้ความรู้ด้านพลเมืองศึกษาและการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในปี ๒๕๖๔ มีเงินคงเหลือ ๖๓ ล้านบาท ใช้งบไปเพียง ๗,๕๐๐,๐๐๐ กว่าบาท จากงบประมาณ ๗๑ กว่าล้านบาท ซึ่งโครงการเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากที่สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน เยาวชน ในด้านการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเรื่องสำคัญครับ เป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการจัดการเลือกตั้งอีก เพราะฉะนั้นงบประมาณ ก้อนนี้จึงเป็นเรื่องที่ทาง กกต. เองนั้นจะต้องรับไปพิจารณาว่าในช่วงที่ผ่านมาตั้งงบประมาณ ไว้เยอะ แต่ใช้ไปน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสูญเปล่าของงบประมาณ ส่วนการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ นั้นก็มีผู้อภิปรายไปแล้ว

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ เชียงราย ต้นฉบับ

อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้เป็นภารกิจหน้าที่หลักของพวกเราโดยตรง ที่จำเป็นจะต้องสร้างการรับรู้การมีส่วนร่วมในเรื่องทางการเมืองและการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย ก็ขอให้ทาง กกต. ได้ดำเนินการในปีงบประมาณต่อไป ฝากทาง ผู้สอบบัญชีครับ และขอให้กำลังใจคนทำงานทุก ๆ ท่านในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ องค์กรอิสระให้มีความอิสระ ให้สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นที่พึ่ง เป็นความหวัง ของประชาชน ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปคุณธิษะณา ชุณหะวัณ เชิญครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

สวัสดีประธานที่เคารพ ดิฉัน ธิษะณา ชุณหะวัณ สส. แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต ๒ หรือเขตปทุมวัน เขตสาทร และเขตราชเทวี วันนี้ดิฉันมาอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณของ กกต. นะคะ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ประเทศไทยของเรา ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน หนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง การเลือกตั้งเป็นการเปิดโอกาส ให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย ในการเลือกตัวแทนของเขาเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภา เข้าไปแก้ไขกฎหมายและวางกฎระเบียบ แนวทางของสังคม เพื่อดำเนินกิจการใด ๆ ของรัฐที่จะส่งผลต่อการพัฒนาชีวิต สังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประชาชนในประเทศไทย การเลือกตั้งจึงถือเป็นเครื่องมือ แสดงออกถึงเจตนารมณ์ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเป็นเจตนารมณ์ที่ Free and Fair หรืออิสระ และยุติธรรม ปราศจากการแทรกแซงกระบวนการตัดสินใจหรือบิดเบือนเจตนารมณ์ และจิตสำนึกของประชาชน แต่ทว่าที่ผ่านมากระบวนการเลือกตั้งกลับพบปัญหาหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการรายงานว่ามีการซื้อเสียงหรือเกิดบัตรเขย่ง เกิดปัญหาไฟดับที่หน่วย นับคะแนนเลือกตั้ง กลับกลายเป็นว่าคนที่ ๒ กระโดดคะแนนนำขึ้นมาบ้าง หรือบัตรเสียกว่า ๒ ล้านใบในปี ๒๕๖๒ และ ๓ ล้านใบในปี ๒๕๖๖ ปัญหาเหล่านี้เรามักจะได้เห็นกันทุกครั้ง เมื่อมีการเลือกตั้ง การเลือกตั้งจะไม่สามารถสะท้อนเจตนารมณ์และจิตสำนึกของพี่น้อง ประชาชนหากไม่เข้ากับหลักเกณฑ์การเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ในกระบวนการขั้นพื้นฐานยังคงประสบปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เป็นคำถามต่อสังคมในวงกว้าง วันนี้ดิฉันจึงจะอภิปราย หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการเลือกตั้งนั่นคือเครื่องลงคะแนนเสียง เลือกตั้งค่ะ ก่อนจะเข้าประเด็นดิฉันขออ้างอิงตัวเลขงบประมาณการจัดการเลือกตั้งซ่อม ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ในรายงานนี้ระบุว่าการเลือกตั้งในปี ๒๕๖๔ มีการใช้งบประมาณ ซึ่งมาจากภาษีของประชาชนกว่า ๙ ล้านบาทในการเลือกตั้งซ่อม โดยคิดเป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าพิมพ์บัตรเลือกตั้ง รวมถึงค่าใช้สอยต่าง ๆ เป็นเงินเกือบ ๔ ล้านบาทค่ะท่านประธาน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงทีเดียวสำหรับการเลือกตั้งเมื่อเทียบกับสากลโลก ดิฉันจะขอ อธิบายถึง e-Voting สั้น ๆ ระบบการลงคะแนนเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ คือนำระบบ อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการลงคะแนนหรือนับคะแนนเสียงทดแทนบัตรคะแนนเสียง เพื่อช่วยปรับปรุงการเลือกตั้ง ลดต้นทุนในการผลิต ลดระยะเวลาในการลงคะแนนเสียง เพิ่มความสะดวกสบายในการนับคะแนนเสียงและการลงคะแนนเสียงที่ถูกต้อง ไม่มีบัตรเสียค่ะ นับคะแนนได้อย่างโปร่งใส ถูกต้อง และรวดเร็ว ทำให้สามารถทราบผลเลือกตั้งได้ภายในทันที ค่ะทุกท่าน E-Voting ได้ใช้ในหลาย ๆ ประเทศ อย่างเช่น ประเทศอินเดียมีประชากรเยอะ ที่สุดในโลกตอนเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมาแซงจีนไปแล้ว เอสโตเนีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และนอร์เวย์ เป็นต้นค่ะ การลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์แบ่งได้เป็น ๒ ประเภท หลัก ๆ คือการลงคะแนนเสียงด้วยเครื่องเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าใช้เครื่องเลือกตั้ง ไม่สามารถที่จะแทรกแซงได้ เพราะว่าไม่ได้เชื่อมต่อกับ Internet ทำให้เครื่องลงคะแนนเสียงนั้น ปลอดภัยจากการแทรกแซงหรือการ Hack จากภายนอก และแหล่งที่ ๒ ก็คือ E-Voting หรือการลงคะแนนเสียงผ่าน Internet แต่ดิฉันขอเน้นประเภทลงคะแนนเสียงผ่าน อิเล็กทรอนิกส์นะคะ เพราะว่า I-Voting หรือผ่าน Internet นี่ก็ยังมีข้อครหาหรือว่า ข้อวิพากษ์วิจารณ์มากมายเนื่องจากความเป็นส่วนตัวในการลงคะแนนเสียงด้วย การลงคะแนนเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Voting Machine หรือที่เรียกว่า EVM ในหน่วยเลือกตั้งเครื่องดังกล่าวยังได้ใช้ในการลงคะแนนและนับคะแนน เลือกตั้งอีก สำหรับการใช้งานเพื่อให้เห็นภาพจะขอยกตัวอย่างคืออินเดีย ซึ่งดิฉันบอกไปแล้วว่า ขณะนี้มีประชากร ๑.๔ พันล้านคน คนมากเป็นอันดับ ๑ แซงจากประเทศจีนนะคะ เขาจึง ต้องทำการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบายสำหรับประชากรที่มากขนาดนี้ อินเดียเป็นตัวอย่างประเทศที่ขึ้นชื่อในการใช้ EVM ในการเลือกตั้งโดยเริ่มตั้งแต่ปี ๑๙๗๗ และ EVM ตั้งอยู่ในหน่วยเลือกตั้งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยการกดปุ่ม มีความโปร่งใส ในการตรวจสอบ แล้วก็เครื่องพิมพ์ผลการเลือกตั้งด้วยกระดาษโดยทันทีเมื่อเลือกตั้งเสร็จ เชื่อมต่อเข้ากับระบบ EVM เพื่อให้ผู้ลงคะแนนเสียงสามารถตรวจสอบได้ว่าผลโหวตของตน ถูกต้องตามที่ลงคะแนนได้แล้วหรือไม่ และเมื่อเสร็จแล้วจะมีการ Print slip ออกมาเป็น หลักฐานว่าได้ลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้วนะคะ นอกจากนี้อินเดียยังมีกฎหมายที่ระบุว่า จะต้องมีเครื่องลงคะแนนเสียงในทุก ๆ ๒ กิโลเมตรจากบ้านเรือนของผู้คนที่มีประชากร อินเดียมากกว่า ๑,๓๐๐ ล้านคน ในการเลือกตั้งทั่วไปใน ค.ศ. ๒๐๑๙ ที่ผ่านมามีผู้สิทธิ เลือกตั้งกว่า ๙๐๐ ล้านคน มากกว่าจำนวนประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งของไทยหลายเท่าตัว แต่ทว่าก็ยังสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งที่ Free and Fair จนได้รับขนานนามว่าเป็นประเทศ ที่มีประชาธิปไตยที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนะคะ แล้วตัวแปรสำคัญก็คือเครื่อง EVM นั่นเอง จากการสืบค้นข้อมูลพบว่าเครื่อง EVM ในประเทศเราหรือที่เรียกว่า Thai Voting Machine มีการทำการศึกษาอยู่หลายครั้งถึงความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ และแผนการนำมาใช้ และยังได้มี การทดลองใช้กับการเลือกตั้งขนาดย่อมตามหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และการเลือกตั้ง ภายในของพรรคการเมือง และในปัจจุบันเครื่อง TVM ของ กกต. ถูกนำมาพัฒนาจนมี ทั้งหมด ๔ รุ่น แต่ทว่ายังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการกับการเลือกตั้งระดับชาติ เพราะเหตุใดคะ จากข้อมูลของอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและประสิทธิภาพการเลือกตั้ง ในปี ๒๕๖๓ ที่ดิฉันนั่งเป็นที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการได้ไปสำรวจเครื่อง TVM มีราคาอยู่ที่ ๔๐๐,๐๐๐ บาทต่อเครื่อง หากนำมาใช้ในการเลือกตั้งของไทยโดยการวางไว้ ในทุก ๆ หน่วยจะเป็นหน่วยละ ๑-๒ เครื่อง จะมีจำนวนงบประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาท ในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ งบประมาณ ๑,๕๐๐ ล้านบาท และวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ งบประมาณ ๒,๑๕๙ ล้านบาท วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ งบประมาณ ๒,๕๒๑ ล้านบาท และในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ มีงบประมาณ ๔,๒๒๐ ล้านบาท วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ งบประมาณ ๕,๙๔๕ ล้านบาท ดังกราฟที่เห็นนะคะ จะเห็นว่า เราสามารถที่จะนำงบประมาณบางส่วนมาลงทุนกับเครื่อง EVM เพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว เมื่อเทียบกันกับเครื่อง EVM ในราคาที่ของไทยผลิตได้ ๔๐๐,๐๐๐ บาทต่อเครื่อง ตอนนี้ เรามีอยู่เพียง ๒๐๐ เครื่อง แต่ดิฉันได้สอบถามกับวิทยุการบินแล้ว เขาก็แจ้งว่าถ้าเราผลิต ๑,๐๐๐ เครื่องขึ้นไปจะได้ราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท แต่เมื่อเทียบกับประเทศอินเดียแล้ว เขาได้ราคาการผลิต ๗,๒๐๐ บาทต่อเครื่อง ในขณะที่เครื่อง EVM ของไทยที่ผลิตโดย วิทยุการบิน ๔๐๐,๐๐๐ บาทต่อเครื่องอย่างที่ดิฉันแจ้งให้ฟังข้างต้น ซึ่งถ้าเราต้องการ ปริมาณมากที่สุดถึง ๑๐๐,๐๐๐ เครื่อง สำหรับ ๑๐๐,๐๐๐ หน่วยเลือกตั้ง ราคาจะตกที่ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท และเมื่อเทียบกับราคาผู้ผลิตที่อินเดียอยู่ที่เครื่องละ ๗,๒๐๐ บาท จะเป็นเงินสูงสุดเพียง ๗๒๐ ล้านบาทเท่านั้น สำหรับ ๑๐๐,๐๐๐ หน่วยทั่วประเทศ และราคาถูกกว่าวิทยุการบินถึง ๑,๓๘๙ เปอร์เซ็นต์ หมายเหตุนะคะ ราคาของวิทยุการบิน ที่ดิฉันยกตัวอย่างมาเป็นราคาที่ผูกขาดโดยผู้ผลิตแต่เพียงเจ้าเดียว ไม่มีการเปิดประกวดราคา ที่ต่ำที่สุดกับบริษัทเอกชน นั่นหมายความว่าหากมีการประมูลราคาอย่างโปร่งใส มีการสรรหา ผู้เสนอราคาที่ต่ำกว่านี้ย่อมประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากกว่าเดิม หากพิจารณาราคา ดูแล้วมีจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับผู้ผลิตต่างประเทศ ก็สามารถนำเข้าจากต่างประเทศได้ เช่นเดียวกันนะคะ ในส่วนที่ดิฉันจะฝากคำถาม ๒ ข้อ ก็คือ ๑. เหตุใดจึงไม่มีการเปิดเผย ข้อมูลการประมูลราคาเพื่อหาผู้ผลิตฝั่งเอกชนที่เปิดเผยสู่สาธารณชน ๒. ทำไมราคาผู้ผลิต ในไทยจึงสูงกว่าผู้ผลิตในต่างประเทศถึง ๑,๓๐๐ เท่า เมื่อนำงบประมาณที่ต้องการใช้ซื้อ เครื่อง EVM มาเทียบกับจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในปี ๒๕๖๖ ประมาณค่าไปเลยว่า ๑๐๐,๐๐๐ หน่วย ใช้หน่วยละ ๑ เครื่อง ก็จะเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๗,๒๐๐-๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ในส่วนอุปกรณ์ ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายเลือกตั้งในปี ๒๕๖๖ ภารกิจจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็จะอยู่ที่ ๒,๙๐๐ กว่าล้านบาท อ้างอิงจากค่าใช้จ่ายในการควบคุม และจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ดำเนินการโดย กกต. นะคะ พบว่ามีจำนวน เพียง ๒๕ เปอร์เซ็นต์ในกรณีนำเข้า ๗,๒๐๐ บาทต่อเครื่อง และแพงกว่า ๓ เท่าตัวของงบ ส่วนนี้ในการเลือกตั้ง หากผลิตในราคาที่สูงที่สุดสำหรับวิทยุการบินก็คือ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ต่อเครื่องนั่นเองค่ะ เพื่อให้ภาพความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นจึงอยากยกตัวอย่างสถานการณ์จำลอง ถ้าการเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ มีงบสำหรับภารกิจจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๒,๙๐๐ ล้านบาท จำนวนเงินในก้อนนี้มีส่วนที่ใช้ไปกับค่าอุปกรณ์ เช่น กระดาษ ค่า Print สี ค่าพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ค่าคูหา ค่ากล่อง หากลงทุนซื้อเครื่อง EVM มามากที่สุด ๑๐๐,๐๐๐ เครื่อง เครื่องละ ๒๐,๐๐๐ บาท จากการประมาณค่ายื่นซองจะคิดเป็น ๒,๐๐๐ ล้านบาท เมื่อพิจารณาอายุการใช้งานสมมุติว่า ๒๐ ปี จำนวนเลือกตั้ง ๕ ครั้งตามครรลอง ประชาธิปไตยปกติจะเท่ากับว่างบประมาณที่ใช้ไปกับลงทุนเครื่อง EVM บวกลบเท่ากับ ๔๐๐ ล้านบาทต่อปีเพียงเท่านั้น และหากนำเข้าจากผู้ผลิตที่สามารถผลิตได้ราคาถูกกว่า อินเดียก็คือ ๗,๐๐๐ บาทต่อเครื่อง เครื่อง EVM ๑๐๐,๐๐๐ เครื่องจะมีจำนวนเพียง ๗๒๐ ล้านบาทต่อปีเพียงเท่านั้นนะคะ และเมื่อพิจารณาอายุการใช้งาน ๒๐ ปีตามครรลอง ประชาธิปไตยจะเท่ากับว่างบประมาณที่ใช้ไปกับการลงทุนซื้อเครื่อง EVM จะเป็นบวกลบ ๑๔๕ ล้านบาทต่อปี หมายเหตุนะคะ จำนวนเต็มอาจจะน้อยกว่านี้มากถ้าเกิดถูกกว่า ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง นี่ก็ยังไม่รวมกับการนำมาใช้สำหรับการเลือกตั้ง ท้องถิ่นจำนวนมาก และไม่คิดถึงความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับอายุการใช้งานระยะยาวค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขออนุญาตครับ เลยมา ๕ นาทีแล้วครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

OK อันสุดท้ายแล้วค่ะ ท่านประธาน จริงอยู่ว่ามูลค่าอาจจะสูงในการลงทุนซื้อครั้งแรก แต่ถ้าเกิดประกอบกับสถิติ จำนวนงบประมาณเลือกตั้งที่สูงมาก ๆ ในทุก ๆ รอบ เปรียบเทียบกับงบประมาณที่ต้อง จัดสรรมาเพื่อลงทุนกับอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าที่จะได้มาทั้งเรื่องความโปร่งใส เป็นธรรมตรงไปตรงมา รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพนะคะ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แม้กระทั่ง ผู้พิการมีอักษร Braille แล้วก็มีสำหรับคนหูหนวกสามารถใช้ได้ ซึ่งเข้ากับหลัก Universal Design สรุปได้ว่าการลงทุนนำ EVM มาใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และควรนำมาแก่การพิจารณา กราบขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ข้อมูลดีนะครับ อย่างไรก็เลยมา ๖ นาที ต่อไปเชิญท่านธีระชัย แสนแก้ว ครับ

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายธีระชัย แสนแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พรรคเพื่อไทย เขต ๗ ประกอบไปด้วยอำเภอกุมภวาปี อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และอำเภอเมือง ๑ ตำบล คือตำบลหนองไผ่ ท่านประธานครับ ก่อนที่ผมจะมีข้อสอบถามหรือตั้งข้อสังเกต ท่านประธาน จำได้ไหมก่อนที่จะการเลือกตั้งในช่วงเดือนเมษายน คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เดินทางไป ต่างประเทศ ไปดูงานหลายประเทศ ฮังการี สโลวาเกีย แอฟริกาใต้ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ท่านใช้งบประมาณใช้จ่ายไปเท่าไร ผมเป็นห่วง งบประมาณท่านวางไว้เพียงพอหรือไม่ครับ ขณะที่พวกเรา ท่านประธาน รวมทั้ง ท่านประธานด้วย เดินหาเสียงกับพี่น้องประชาชน ตากแดด ตากลม ตากฝน นำเสนอ นโยบายเพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้เข้าใจ เพื่อที่จะเข้ามาเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้อง ประชาชนในสภาแห่งนี้ กว่าจะได้มาพูดในวันนี้เลือดตาแทบกระเด็นนะครับ ในช่วงเวลานั้น เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องการเลือกตั้งมากมายในช่วงที่ท่านไปดูงาน ไม่ว่าจะเป็น Website ล่ม Website ของ กกต. การลงทะเบียนล่วงหน้าก็ไม่สามารถที่จะลงได้ทัน เหตุการณ์ ปัญหาการลงทะเบียน ปัญหาเกี่ยวกับการสอบนโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมือง เยอะแยะไปหมด พี่น้องประชาชนเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากว่าในช่วงขณะนั้น แม้กระทั่งสมัครผู้แทนราษฎรแล้วการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ยังตรวจสอบไม่ทันเลย ตรวจสอบไม่เป็นเลย ก็ไม่รู้ตรวจสอบอย่างไรครับ ใช้งบประมาณ ไปเยอะแยะไม่สามารถตรวจสอบผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือผู้มีสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งได้ อย่างนี้เป็นปัญหา ด้วยเหตุประการนี้ผมอยากจะขออนุญาตท่านประธานผ่านไปยังผู้ชี้แจง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก โดยมีข้อสังเกตที่เกี่ยวข้อง ๓ ประเด็นด้วยกัน

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประเด็นแรก จากรายงานฉบับนี้แจ้งว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นหน่วยงานที่รับงบประมาณในปี ๒๕๖๔ และรายได้อื่นรวมกันแล้ว ๑,๗๙๓ ล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายในปี ๒๕๖๔ ประมาณ ๒,๔๕๖ ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งมีการใช้งบประมาณมากกว่ารายได้ ๖๖๓ ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งก็นำเงินเหลือสะสมมาจัดทำแผนการใช้จ่าย ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ในประเด็นนี้ผมขอเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้ชี้แจง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าท่านมีหลักเกณฑ์ในการใช้งบประมาณจาก เงินใช้จ่ายสะสมแต่ละปีอย่างไร และหากในปีใดที่เงินเหลือจ่ายสะสมมีไม่เพียงพอ ท่านมี การวางแผนแนวการบริหารงบประมาณอย่างไร

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ จากรายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าถึงงบประมาณด้านบุคลากร พ.ศ. ๒๕๖๔ มีไว้ถึง ๑,๖๗๓ ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ ๙๓ ของงบประมาณที่ได้จาก การจัดสรรทั้งหมด นั่นแสดงว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเหลืองบประมาณที่จะไป ใช้ในการดำเนินงานตามแผนโครงการเพียงเล็กน้อย หรือไม่ก็ต้องดึงเงินเหลือจ่ายสะสม การใช้งบประมาณซึ่งมันขัดกับหลักการบริหารงานภาครัฐใหม่ คือต้องทำให้หน่วยงาน ขนาดเล็กลดจำนวนคนลง แต่ได้ค่าประสิทธิภาพและงานมากขึ้น และพัฒนาคุณภาพ การบริหารประชาชนดีขึ้น ประเด็นนี้ผมขอเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้ชี้แจง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า ท่านได้กำหนดแนวทางในการบริหารงบประมาณ ของบุคลากรไว้เหมาะสมกว่านี้หรือไม่ และท่านจะมีวิธีการในการลดปรับสมดุลด้านค่าใช้จ่าย ในด้านบุคลากรอย่างไร

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

ประเด็นสุดท้าย ในรายงานแสดงถึงเงินสำรองบำเหน็จที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งตั้งไว้ทุกปี โดยอิงกับระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย บำเหน็จพนักงาน ลูกจ้าง พ.ศ. ๒๕๕๑ ตามข้อ ๑๖ ตามระเบียบฉบับนี้ระบุว่าสำนักงาน จัดเป็นเงินสำรองเงินบำเหน็จ โดยคำนวณจากเงินเดือนพนักงานและลูกจ้างที่ได้รับ ปีงบประมาณในปี ๒๕๖๔ มีงบประมาณ ๘๘๖ ล้านบาท และในปี ๒๕๖๓ มีเงินตรงนี้ ๘๕๕ ล้านบาท จะเห็นได้ว่าการตั้งงบสำรองบำเหน็จสูงเกิน สูงขึ้นตามเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นถึง ๓๑ ล้านบาท ข้อ ๙ ตามระเบียบฉบับนี้ที่ผมได้ไปอ่านดูได้จ่ายเงินบำเหน็จแก่พนักงาน และลูกจ้างที่ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๓ ปี ด้วยเหตุ ๑. ครบกำหนดออกตามวาระ เกษียณอายุ ตาย ลาออก ถูกสั่งให้ออก ประเด็นนี้ผมเห็นว่าการตั้งเงินสำรองบำเหน็จที่สูง เกินไป จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ สตง. จะแนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแก้ไข ระเบียบนี้ เพื่อจะได้นำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ดำเนินการตามแผนโครงการ ซึ่งน่าจะเกิด ประโยชน์ในการบริหารราชการมากกว่านี้

นายธีระชัย แสนแก้ว อุดรธานี ต้นฉบับ

สุดท้ายผมขออนุญาตฝากท่านประธานผ่านไปยังสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าท่านเป็นองค์กรหลัก เป็นองค์กรเดียวที่มีหน้าที่ในการจัดให้มีการเลือกตั้ง ทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น เป็นผู้จัดให้ออกเสียงประชามติในเรื่องสำคัญต่าง ๆ ของประเทศนี้ และยังมีอำนาจให้คุณให้โทษพรรคการเมือง นักการเมือง และพี่น้องประชาชน ดังนั้น ผมขอให้ท่านดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ให้คุ้มค่ากับเงินภาษี ของพี่น้องประชาชนด้วยครับ ขอขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ครับ

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

เรียนประธานสภาที่เคารพ กระผม พริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคก้าวไกล ผมขออนุญาต มีส่วนร่วมในการอภิปรายรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือว่า กกต. ท่านประธานครับ แต่ก่อนที่ผมจะลงรายละเอียด อภิปรายเนื้อหาสาระของรายงานนั้น ผมจะขออนุญาตตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนั้นไม่ได้กำหนดให้ กกต. ต้องมาชี้แจงรายงานการเงินด้วยตัวเอง แต่ผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากในอนาคต กกต. จะมาชี้แจงด้วยตัวเองนั้น การตัดสินใจ ในลักษณะนั้นจะเป็นการแสดงให้เห็นชัดว่า กกต. นั้นพร้อมจะให้เกียรติกับพี่น้องประชาชน ที่ผมจำเป็นต้องพูดแบบนี้เป็นพิเศษกับ กกต. เพราะว่า กกต. นั้นมีสถานะเป็นองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ ซึ่งนับวันนั้นก็จะมีความห่างเหินจากประชาชนมากขึ้นเรื่อย ๆ กระบวนการสรรหาและรับรองคนที่จะมาเป็นกรรมการ กกต. ก็ไม่ได้มีประชาชนหรือว่าผู้แทน ของประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม กระบวนการถอดถอนที่เคยเปิดให้ประชาชนนั้นสามารถ เข้าชื่อได้ ณ ปัจจุบันก็หายไปในรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ ดังนั้นทเวทีชี้แจงและซักถาม ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้จึงเป็นกลไกที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่กลไกเท่านั้น ที่จะเปิดให้ประชาชนนั้น สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมิน ทักท้วง และเสนอแนะต่อการทำงานของ กกต. ผมเข้าใจดีว่าท่านถูกออกแบบมาให้มีความเป็นอิสระในการตรวจสอบฝ่ายการเมือง แต่ผม ก็อยากจะย้ำว่านั่นไม่ได้หมายความว่าท่านควรจะมีความเป็นอิสระจากการถูกตรวจสอบ โดยประชาชน ดังนั้นในเมื่อวันนี้ทาง กกต. ไม่ได้มาชี้แจงด้วยตนเอง ผมจะขออนุญาตมุ่งเป้า ไปที่ ๒ ประเด็นที่อยู่ในรายงานการเงินฉบับนี้ และที่ผมหวังว่า สตง. ในฐานะผู้ชี้แจงนั้น จะสามารถกรุณาให้ความเห็นได้

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ การไม่ปรากฏอยู่ของงบการเงินของกองทุนเพื่อการพัฒนา พรรคการเมือง ซึ่งผู้สอบบัญชีก็ได้ชี้แจงไว้ในหมายเหตุในหน้าที่ ๑ ถึงหน้าที่ ๒ ผมเข้าใจดีว่า มาตรฐานการบัญชีของภาครัฐฉบับที่ ๓๕ นั้นก็เพิ่งจะบังคับใช้ ก็เลยอาจจะทำให้ไม่สามารถ รวมงบการเงินกองทุนนั้นเข้ามาอยู่ในรายงานการเงินฉบับนี้ได้ แต่ผมอยากจะใช้เวทีนี้ ในการย้ำกับพี่น้องประชาชนถึงความสำคัญของการที่ประชาชนนั้นจะสามารถเข้าถึง งบการเงินของกองทุนพรรคการเมืองได้ ที่มันมีความสำคัญครับท่านประธาน เพราะว่า ในขั้นพื้นฐานสภาวะทางการเงินของกองทุนพรรคการเมืองนั้นเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ ถึงสุขภาพของประชาธิปไตยในประเทศไทย เพราะยิ่งกองทุนมีรายได้เยอะเท่าไร จากการที่ ประชาชนนั้นสนับสนุนพรรคการเมืองและสมทบผ่านแบบ Form ภาษีประจำปีก็ยิ่งสะท้อน ให้เห็นว่าประชาชนนั้นมีความศรัทธา และพร้อมจะสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีอยู่ แล้วเช่นเดียวกันยิ่งกองทุนนี้สามารถจัดสรรงบประมาณให้กับพรรคการเมืองได้เยอะเท่าไร ก็ยิ่งจะทำให้พรรคการเมืองนั้นสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องหวังพึ่ง แหล่งทุนที่อาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง แต่ยิ่งไปกว่านั้นความสำคัญของการที่ประชาชน จะเข้าถึงงบประมาณกองทุนนี้ มันมีอยู่ว่า หาก กกต. ไม่เปิดเผยให้ประชาชนเข้าถึงงบ กองทุนนี้ได้ ผมก็มีความกังวลว่าประชาชนจะตั้งคำถามว่า กกต. นั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความย้อนแย้งหรือไม่ ที่ผมใช้คำว่าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความย้อนแย้ง มันมีความหมายว่า ถ้าหาก กกต. นั้นไม่เปิดเผยให้ประชาชนเข้าถึงงบกองทุนนี้ได้ มันหมายความว่าอะไร หมายความว่าในขณะที่ กกต. นั้นไม่พร้อมจะเปิดเผยให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบ การบริหารกองทุนนี้ แต่ กกต. กลับไปออกระเบียบที่ไปเพิ่มเงื่อนไขอย่างมหาศาล กับพรรคการเมืองว่าสามารถนำเงินจากกองทุนนี้ไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ถ้าผมจะขออนุญาต ขยายภาพให้เห็นเพิ่มเติม สิ่งที่ผมกำลังพูดถึงนั้นหมายความว่าในขณะที่ กกต. นั้นไม่พร้อม จะเปิดเผยให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มข้นว่า เขากำลังบริหารกองทุนที่มีสินทรัพย์ หมุนเวียนอยู่เป็นหลายร้อยล้านบาทอย่างไร แต่หากประชาชนคนหนึ่งตัดสินใจจะสนับสนุน พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งด้วยเงินเพียง ๕๐๐ บาท ผ่านการกรอกแบบ Form ภาษี ประจำปี เงิน ๕๐๐ บาทนั้นกลับถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากว่าสามารถนำไปใช้อะไรได้ ถ้าหากพรรคการเมืองต้องการจะนำไปใช้ทำอะไรก็ต้องกรอกหรือว่าชี้แจงเขียนโครงการ เข้าไป กกต. อย่างน้อย ๑๕ วันก่อน หรือหากพรรคการเมืองต้องการจะนำเงินก้อนนั้น ไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนก็ปรากฏว่าทำไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้อยู่ใน List ของกิจกรรมที่ กกต. อนุญาต ดังนั้นเพื่อให้ผมและประชาชนมีความมั่นใจว่า กกต. นั้นไม่ได้ ดำเนินการด้วยความย้อนแย้งในลักษณะนี้ ผมเลยอยากจะฝากท่านประธานครับ ถามท่านประธานผ่านไปยัง สตง. ว่าในปีล่าสุดนี้ กกต. ได้ให้ความร่วมมือกับ สตง. ในการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนอย่างเต็มที่และตรงต่อเวลาหรือไม่ และหากใช่ สตง. นั้นพึงพอใจหรือยังกับมาตรฐานความโปร่งใสและมาตรฐานทางบัญชีของกองทุน พรรคการเมือง

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ที่ผมอยากจะอภิปรายเกี่ยวกับงบการเงินในวันนี้ คือความเสี่ยง ต่อสภาวะทางการเงินของ กกต. จากการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าใบส้ม อย่างที่เราทราบดีครับ ๑. ผลงานของรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๖๐ นั้นคือนวัตกรรมทางการเมืองที่เรียกว่าใบส้ม ซึ่งเป็นการเพิ่มอำนาจใหม่ให้กับ กกต. อำนาจนี้ได้กำหนดไว้ว่าหาก กกต. มีความเชื่อว่า ผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งนั้นได้กระทำการทุจริต ถึงแม้จะยังไม่ได้พิสูจน์ในชั้นศาล กกต. นั้นก็มีอำนาจในการขับคน ๆ นั้นออกจากตำแหน่ง สส. ได้ และให้มีการจัด การเลือกตั้งใหม่โดยไม่เปิดสิทธิให้ผู้สมัครคนนั้นสามารถกลับมาแข่งขันได้ นวัตกรรมนี้ มีความอันตรายอย่างมากครับ เพราะหากในที่สุดแล้วศาลพิพากษาว่าผู้สมัครดังกล่าว ไม่ได้กระทำผิดตามที่ กกต. สันนิษฐาน การแจกใบส้มของ กกต. นั้นไม่เพียงแต่จะเป็น ความอยุติธรรมที่ทำให้ผู้แทนคนนั้นต้องเสียโอกาสในการเข้ามาทำงานตามเจตจำนง ของประชาชน แต่การแจกใบส้มของ กกต. ยังทำให้ กกต. มีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องให้ชดเชยค่าเสียหาย ที่เกิดขึ้น อย่างเช่นที่ปรากฏแล้วในกรณีของคุณสุรพล เกียรติไชยากร พรรคเพื่อไทย ที่ถูกแจกใบส้มหลังชนะการเลือกตั้งในเชียงใหม่ เขต ๘ เมื่อปี ๒๕๖๒ ก่อนที่ในที่สุดนั้น ศาลจะตัดสินว่าคุณสุรพลไม่ผิด แล้วทำให้ กกต. นั้นต้องจ่ายเงินเยียวยาถึง ๖๒ ล้านบาท ดังนั้นผมเลยอยากจะถามท่านประธานผ่านไปยัง สตง. ว่าในบรรดาคดีที่ กกต. กำลัง ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอยู่นั้นมีคดีไหนไหมที่เกี่ยวข้องกับการแจกใบส้ม ทั้งในการเมือง ระดับชาติ การเลือกตั้งระดับชาติ และการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และแม้จะไม่มี ผมอยากจะ ถามว่า สตง. มีความกังวลหรือไม่ว่าการเปิดช่องให้มีการแจกใบส้มในลักษณะนี้จะเป็น การเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นต่อสภาวะทางการเงินของ กกต. ในเมื่อ กกต. ไม่มา ชี้แจงด้วยตัวเองในวันนี้ครับ ผมก็หวังว่า สตง. จะช่วยให้ความชัดเจนใน ๒ ประเด็นนี้ กับพี่น้องประชาชนได้ ขอบคุณมากท่านประธาน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านฐิติมา ฉายแสง ครับ

นางฐิติมา ฉายแสง ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน ฐิติมา ฉายแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ท่านประธานคะ วันนี้ดิฉันขออภิปรายในเรื่องเกี่ยวกับรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงาน การเงินของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งรายงานนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็จะเสนอต่อเลขาธิการ กกต. แล้วก็จะเสนอมา ในลักษณะของเป็นความเห็น เป็นเกณฑ์ในการแสดงความเห็น เป็นข้อมูลเหตุการณ์ที่จะเน้น เป็นข้อมูลอื่นอะไรก็แล้วแต่เขาก็จะมีมา ดิฉันสนใจอย่างนี้ค่ะ ในเรื่องรายงานของผู้สอบบัญชี ตรงข้อมูลและเหตุการณ์ที่เน้น ขอใช้คำว่าเหตุการณ์ที่เน้น ขอให้สังเกตในหมายเหตุประกอบ งบการเงินหมายเหตุที่ ๒ เขาบอกว่าเกณฑ์การจัดทำรายงานการเงิน ซึ่งระบุว่ารายงานการเงิน ของสำนักงาน กกต. ไม่ได้รวมรายการบัญชีของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ซึ่งเป็น กองทุนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน ทีนี้การที่งบการเงินนี้ไม่ได้ถูกรวมไปอยู่ใน รายการบัญชีของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง แสดงว่างบการเงินนี้ไม่ได้สะท้อน ผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินที่แท้จริง การไม่นำมารวมจึงทำให้มองไม่เห็น หรือมองไม่รู้ว่าทำอะไรไป หรือมีประสิทธิภาพแค่ไหน อย่างไร เปรียบเทียบ เทียบเคียงกับ ธุรกิจทั่วไปว่าบริษัทจะมีบริษัทย่อย บริษัทลูก ต้องนำผลประกอบการทั้งหมดมารวมกัน หรือเรียกว่า Consolidate แล้ว กกต. ก็มีกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่มีเงินเป็นพันล้าน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบริษัทลูกของ กกต. แล้วทำไมไม่เอาตัวเลขผลการดำเนินงานของ กองทุนมารวมด้วย จึงขอให้ผู้ชี้แจงได้โปรดชี้แจงให้ด้วยว่าเพราะอะไร เพราะดิฉันอยากรู้ว่า ภารกิจก็ดีของกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองในปีนี้ทำอะไร อย่างไรบ้าง ท่านประธานคะ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับหมายเหตุซึ่งเป็นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้นำเสนอมา ดิฉันก็สนใจในหมายเหตุที่ ๒๗ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีฟ้องร้อง ซึ่งเขาก็จะทำเป็น ๒ อย่าง เป็นคดีฟ้องร้อง เรียกว่าถูกร้องเรียกค่าเสียหายกับไปฟ้องเขา คดีที่ กกต. และสำนักงาน กกต. เป็นโจทก์ไปฟ้องเรียกค่าเสียหายรวมทั้งสิ้น ๒๐ คดี อันนี้ดิฉันสนใจ ในวงเงินที่ฟ้อง คือ ๓,๑๕๗ ล้านบาท ไปฟ้องเขาแสดงว่า กกต. เสียหาย ดิฉันเลยอยากจะทราบว่า ไปทะเลาะอะไรกับใครเขา และมีโอกาสจะชนะไหมคะ โปรดชี้แจงด้วยค่ะ

นางฐิติมา ฉายแสง ฉะเชิงเทรา ต้นฉบับ

เรื่องต่อไป ท่านจำได้ไหมว่าตอนที่พวกเราสมัคร สส. ตอนนั้นมันจะมี ข้อกำหนด ๑๘๐ วันก่อนที่จะออกประกาศกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง เราก็ถกเถียงกัน เยอะแยะมากเลยว่าก่อนประกาศกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใน ๑๘๐ วัน เราจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ มันจะนับเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งหรือเปล่า เราพบว่า กกต. มีงบประมาณ ในการที่จะเป็นด้านบุคลากรเยอะมากเลย ๑,๖๐๐ กว่าล้านบาท ปีที่แล้วก็ ๑,๖๙๕ ล้านบาท ปี ๒๕๖๔ ๑,๖๗๕ ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่สูงเพื่อให้ บุคลากรไปทำหน้าที่ต่าง ๆ นานาเต็มไปหมด แต่ปรากฏว่าเรื่องแบบนี้บุคลากรของท่าน ก็อธิบายไม่ได้ หรือ กกต. เองก็อธิบายได้ว่าอะไรควรทำหรืออะไรไม่ควรทำ ซึ่งพวกเรา เป็นผู้สมัครเราจะไปพบเจอในรายละเอียดเยอะมาก เช่นส่งพวงหรีดได้ไหม ก็มีการพูดกัน บอกว่าส่งพัดลมไม่ได้ ส่งดอกไม้สดได้แล้วกันเพราะมันสดเดี๋ยวก็เหี่ยวแห้งไป นี่คือคำตอบ จาก กกต. ถามว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ในงานของ กกต. เขา ซึ่งน่าจะต้องให้คำชี้แจงกับผู้สมัคร มากกว่านี้ ในขณะเดียวกันงบประมาณกำลังพลทาง กกต. ก็ตอบมา อย่างที่ฉะเชิงเทราเอง เราก็อยากที่จะได้มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจดูโน่นตรวจดูนี่ เขาก็บอกว่าเขาไม่มีกำลังพลเพียงพอ ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะไปดูหรอกว่าผู้สมัครติดป้ายไปกี่ป้าย อย่างไร ก็ขอให้ผู้ที่ แข่งขันกันเองมาฟ้องแล้วกัน ปรากฏว่าในพื้นที่ติดป้ายเกิน กกต. กำหนดกฎเกณฑ์เยอะมาก ละเอียดเยอะมาก แม้กระทั่งว่าป้ายต้องขนาดเท่าไร กี่มิลลิเมตร กี่เซนติเมตรอะไรกัน แต่ปรากฏว่าเราทำตาม แต่มันก็จะมีคนที่ไม่ทำตามด้วย เช่นไม่ให้ติดป้ายเกิน ๒ เท่า ของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง สมมุติว่ามีหน่วยเลือกตั้ง ๒๐๐ ก็ห้ามเกิน ๔๐๐ ปรากฏว่าบางที่ ติดไป ๕๐๐-๖๐๐ เราก็ไปแจ้ง กกต. กกต. ก็อาจจะบอกว่าเขาไม่มีเจ้าหน้าที่ในการที่จะไป ทำหน้าที่อย่างนี้ค่ะ งบประมาณตั้ง ๑,๖๐๐ กว่าล้านบาทแล้วไปทำอะไรคะ อยากจะฝากให้ ท่านประธานบอก ทาง กกต. เขาอาจจะได้ยินอยู่ตอนนี้ก็ได้ เพื่อที่จะได้มีข้อมูลช่วยกันว่า การทำงานในครั้งต่อไปก็ขอให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนะคะ ขอบพระคุณท่านประธานค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านพชร จันทรรวงทอง เชิญครับ

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายพชร จันทรรวงทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครราชสีมา เขต ๑๓ อำเภอสีคิ้ว อำเภอปากช่อง ตำบลวังไทร ตำบลวังกะทะ ตำบลโป่งตาลอง แล้วก็ตำบลคลองม่วง ขอ Slide ด้วยครับ

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ จากที่ผม ได้ตรวจสอบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งหรือ กกต. ก็ได้พบ ๓ ประเด็นดังนี้

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๑ ในปี ๒๕๖๔ กกต. มีรายได้ประมาณ ๑,๗๐๐ ล้านบาท แต่มีรายจ่ายถึง ๒,๔๐๐ ล้านบาท ซึ่งมีรายได้นี่ถือว่าต่ำกว่ารายจ่ายประมาณ ๖๓๓ ล้านบาท รวมถึงปีก่อน ๆ ก็ทราบมาว่าขาดทุนมาโดยตลอด แสดงว่าสำนักงาน กกต. ได้มีการใช้เงิน เหลือจ่ายสะสมใช่ไหมครับ จึงขอฝากผ่านท่านประธานไปถาม กกต. ว่าปัจจุบันนี้ กกต. มีเงินสะสมอยู่ที่เท่าไร และมีหลักเกณฑ์ในการใช้จ่ายเงินสะสมอย่างไร ในเมื่อเรา ก็ทราบอยู่แล้วว่าในแต่ละปีกิจกรรมการเลือกตั้งมีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ แต่ทำไม กกต. ถึงไม่ของบอุดหนุนให้สอดคล้องกับรายจ่าย หรือหาวิธีลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อย่างเช่นขอนำเสนอเป็นการใช้ระบบเลือกตั้งแบบ E-Voting หรือว่า Electronic Voting แต่อย่างที่เพื่อนสมาชิกก่อนหน้าได้อภิปรายเมื่อสักครู่ ผมจึงจะขอไม่ลงรายละเอียด ซึ่งจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ ค่ากระดาษ หรือค่าบุคลากร ในการเลือกตั้ง แล้วก็สามารถใช้ได้กับทุกสนามเลือกตั้ง และเชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพ ที่ดียิ่งขึ้น

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ประเด็นเรื่องบัตรเสีย ก่อนอื่นต้องเป็นเรื่องความปัจจุบัน ของข้อมูล อย่างที่เพื่อนสมาชิกอภิปรายนะครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนต้องการทราบข้อมูล ที่เป็นปัจจุบันของรายงาน ไม่ใช่ข้อมูลเมื่อ ๒-๓ ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีการใช้งบประมาณ ของ กกต. เมื่อปี ๒๕๖๓ และปี ๒๕๖๔ ประมาณปีละ ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท และในปี ๒๕๖๖ ที่มีการเลือกตั้งใหญ่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กกต. ได้ใช้งบประมาณกว่า ๖,๐๐๐ ล้านบาท ท่านประธานครับ ไหน ๆ เราก็ใช้เงินกันหลัก หลายพันล้านในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ผมจึงอยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ไม่อยากให้มีบัตรเสียครับ ขอยกตัวอย่างการเลือกตั้งวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เลือกผู้แทนครั้งที่ผ่านมาพบว่ามีบัตรเสียจำนวนประมาณ ๑,๕๐๐,๐๐๐ ใบ เขตเลือกตั้ง ของเรามี ๕๐๐ เขต ถ้าคิดเฉลี่ยจะพบว่ามีบัตรเสียเฉลี่ย ๓,๐๐๐ ใบต่อเขต ผมถือว่า เป็นความเสียหายอย่างมาก เพราะว่าในการเลือกตั้ง ๓,๐๐๐ คะแนนถือว่าสามารถ ชี้ผลแพ้ชนะได้เลยในหลาย ๆ เขตเลือกตั้ง หรือแบบบัญชีรายชื่อนะครับ ถ้าดูจาก ผลเลือกตั้งพรรคอันดับ ๔ ไม่ได้เป็นพรรคใครที่ไหน แต่เป็นบัตรเสียที่ได้คะแนนไปถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ คะแนน ซึ่งคิดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้ประมาณ ๕ คน ท่านประธานครับ ผมจึงรู้สึกถึงความไม่คุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณที่มาจากภาษี ของพี่น้องประชาชน ผมเข้าใจว่าการที่จะไม่มีบัตรเสียเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าถ้ามี การบริหารจัดการที่ดีจะสามารถลดจำนวนบัตรเสียลงได้ อย่างเช่น E-Voting เป็นต้น

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ เรื่องการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขต จากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาทาง กกต. ให้ระยะเวลาลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ๑๕ วัน ซึ่งก็คือวันที่ ๒๕ มีนาคม ถึงวันที่ ๙ เมษายน ซึ่งผมมองว่าระยะเวลา ๑๕ วัน ก็เป็น ระยะเวลาที่ค่อนข้างพอดี แต่ว่าการประชาสัมพันธ์เรื่องเลือกตั้งล่วงหน้าว่าจะเปิดให้ ลงทะเบียนวันโน้นวันนี้นะครับ ผมอยากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้นานยิ่งขึ้น

นายพชร จันทรรวงทอง นครราชสีมา ต้นฉบับ

อีกเรื่องนะครับ ในเรื่องของการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันท้าย ๆ ของการลงทะเบียนพบว่าระบบล่ม Website ล่ม ทำให้ประชาชนคาดว่าหลายแสนคนเสียสิทธิ ในการลงเลือกตั้งล่วงหน้า จึงอยากจะเสนอให้ทาง กกต. ปรับปรุงหรือจัดสรรงบประมาณ เพื่อมาเพิ่มการประชาสัมพันธ์ และการพัฒนาระบบเลือกตั้งล่วงหน้าให้เพียงพอต่อที่ประชาชน จะมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยทั้งหมดที่ผมได้อภิปรายมาเพื่อฝากท่านประธานไปถึง กกต. เพื่อให้ ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ต่อไปท่านประภาพร ทองปากน้ำ ครับ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานที่เคารพค่ะ ดิฉัน นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย เขต ๓ พรรคเพื่อไทย ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตต่อการจัดสรรงบประมาณของคณะกรรมการการเลือกตั้ง จากรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำนักงาน กกต. มีปัญหาค่ะ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ

มีแผนการจัดซื้อจัดจ้างในหมวด ครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ได้มีการกำหนดวงเงินอนุมัติกว่า ๒๔๐ ล้านบาท แต่มีข้อมูลจัดทำแผนจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณและเบิกจ่ายได้เพียง ๒๗ ล้านบาท คงค้างกว่า ๒๑๓ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนของการค้างจ่ายถึง ๘๘.๗๖ เปอร์เซ็นต์ โดย กกต. ให้เหตุผลว่าไม่สามารถแจ้งรายงานงบประมาณที่ค้างจ่ายได้ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ ข้อแรก กกต. จังหวัดส่งแผนงานล่าช้า ข้อที่ ๒ ศูนย์ส่งเสริมการศึกษาและการมีส่วนร่วม ของพลเมืองส่งแผนงานล่าช้า ทำให้ กกต. ต้องใช้เวลาในการรวบรวมเอกสารจึงกลายเป็น ภาระเงินค้างจ่ายตามที่ท่านประธานได้ทราบค่ะ ปี ๒๕๖๔ ขอรับการจัดสรรงบประมาณ จัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างจำนวนถึง ๒๘๐ ล้านบาท มีข้อมูลทำแผนเพียง ๒๗ ล้านบาท คงเหลือรอรวบรวมแผนถึง ๒๓๘ ล้านบาท ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตดังนี้ค่ะ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ

ข้อแรก ในส่วนการทำแผนโครงการถูกต้องหรือไม่ อย่างไรคะ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ

ข้อ ๒ ถ้าท่านยังไม่ได้จัดทำแผนแล้วยอดเงินของการขอรับการจัดสรร มีที่มาอย่างไรคะ และถ้าการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการก่อสร้างล่าช้าตามที่ท่านได้นำเรียน แจ้งข้างต้น กกต. ได้ส่งเงินค้างจ่ายคืนกลับกระทรวงการคลังหรือไม่ อย่างไร และเมื่อดิฉัน ได้ย้อนกลับไปดูรายงานผู้สอบบัญชีปี ๒๕๖๓ ดิฉันกลับพบว่าในส่วนของงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างมีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ จัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลังค่ะ และมียอดเงินถึง ๘๘ ล้านบาท และจนถึง วันที่ทำรายงานเล่มนี้ มิถุนายน ปี ๒๕๖๕ ก็ยังรายงานผลตามแผนดังกล่าวไม่แล้วเสร็จ ดิฉันจึงขอตั้งเป็นข้อสังเกต กกต. ของบประมาณมากกว่าความสามารถในการบริหารจัดการ ใช่หรือไม่ อย่างไร เพราะตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ จนถึงปี ๒๕๖๔ ท่านก็ยังส่งแผนการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่แล้วเสร็จค่ะ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สุโขทัย ต้นฉบับ

สุดท้าย อย่างที่เพื่อน ๆ สมาชิกได้พูดและอภิปรายไป ปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา กกต. ทราบอยู่แล้วว่าอายุของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดในวันที่ ๒๓ มีนาคม ซึ่งท่านจะต้อง จัดให้มีการเลือกตั้งภายใน ๔๕ วันนับตั้งแต่วันครบวาระ แต่ท่านกลับไม่ได้เตรียมการ ตั้งงบประมาณการเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ และที่สำคัญมากไปกว่านั้นท่านยังใช้งบประมาณ ในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงถึง ๕.๙ พันล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในรอบ ๒๐ ปี แต่กลับไม่มีการจัดการ ระบบรายงานผลการเลือกตั้งแบบ Real time และยังมีปัญหาอีกมากมายที่เพื่อนสมาชิก ได้พูดเยอะแยะเต็มไปหมด ดิฉันจึงขอตั้งคำถามงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน ควรมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพื่อให้ กกต. เป็นหน่วยงานที่คุ้มค่ากับภาษี ประชาชนหรือไม่คะ ขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านสุดท้ายท่านเทียบจุฑา ขาวขำ เชิญครับ

นางเทียบจุฑา ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน นางเทียบจุฑา ขาวขำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต ๑๐ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานคะ ดิฉันขอมีส่วนร่วมอภิปรายรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สินสำหรับการสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่ผู้ชี้แจงโดยสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดิน แล้วก็ตัวแทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ชี้แจง ดิฉันมีข้อสังเกต ๒-๓ ประเด็น ดังนี้ค่ะ

นางเทียบจุฑา ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

ดิฉันเข้าไปดูกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่จัดสรรให้พรรคการเมือง ดำเนินการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือ สนับสนุน และพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบัน ทางการเมืองที่ยั่งยืน แล้วก็สร้างพรรคการเมืองและสาขาให้มีความเข้มแข็ง ให้มีเครือข่าย สถาบันพรรคการเมืองมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเห็นว่ากองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีภารกิจ ที่สำคัญจะต้องสร้างการปกครอง การดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นระบอบประชาธิปไตย ดิฉันเห็นว่าการจัดสรรงบประมาณนี้ ยังไม่ค่อยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ดิฉันจึงขอเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้ที่ชี้แจง และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ว่าจะมีทางเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพิ่ม งบประมาณให้กับกองทุนพัฒนาการเมือง เพื่อจัดสรรให้พรรคการเมืองต่าง ๆ ได้ดำเนินการ อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง เพื่อสามารถทำตามอุดมการณ์ ที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่นะคะ แล้วท่านจะนำงบประมาณรายจ่ายแต่ละปีของ กกต. มาใช้สนับสนุนพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นอีกไหมคะ

นางเทียบจุฑา ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

อีกเรื่องหนึ่ง ดิฉันจะขอเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้ที่ชี้แจงนะคะ เกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาคภาษีที่พี่น้องประชาชนตั้งใจจะบริจาคสมทบและช่วยเหลือ พรรคการเมือง ที่เขารักถึงบริจาคให้พรรคการเมืองของเขา โดยไม่ผ่านพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นอยากจะถามว่าถ้าการบริจาคไม่ผ่าน กกต. จะมีเงื่อนไขอย่างอื่นได้หรือไม่ ไม่ผ่าน กกต. จะมาผ่านบริจาคพรรคการเมืองโดยตรงนี้ได้ไหม มีเงื่อนไขอย่างไร ดิฉันก็ขอฝากทางท่าน สตง. ได้แนะนำให้ กกต. ได้เสนอแก้ไขกฎหมาย หรือระเบียบ การปฏิบัติ หรือเงื่อนไขการใช้ลดลงได้ไหม เพื่อให้มันสอดคล้องของพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนได้อย่างอิสระนะคะ

นางเทียบจุฑา ขาวขำ อุดรธานี ต้นฉบับ

อีกประเด็นหนึ่ง จากรายงานฉบับนี้ดิฉันได้เข้าไปดูหมายเหตุที่ ๒๗ คดีฟ้องร้อง โดยเฉพาะส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ที่ถูกฟ้อง ซึ่งท่านได้ตั้ง งบประมาณในส่วนนี้ไว้ ๒๓๗ ล้านบาท ทั้งคดีการปกครอง ๕ คดี และคดีแพ่งอีก ๕ คดี ดิฉันขออนุญาตเรียนถามท่านประธานผ่านไปยังผู้ที่ชี้แจงและสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งหรือ กกต. ว่าคดีต่าง ๆ ที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แล้วก็แพ้คดีแล้วนะคะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. วางแนวทางการฟ้องหรือไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติที่เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะกระทำแบบจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ตามพระราชบัญญัติความรับผิดชอบและละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ไว้อย่างไร และที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ไล่เบี้ยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ เกิดความเสียหายมาแล้วจำนวนเท่าไรคะ รวมคดีการเลือกตั้งที่เป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ทั้งหมด ๒๐ คดี มีทุนทรัพย์ตามที่ฟ้อง ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาท ดังนั้นดิฉันก็ขอฝากท่านประธาน ผ่านไปยังผู้ชี้แจงหรือสำนักงาน กกต. ด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญผู้ชี้แจงครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพอย่างสูง ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ทุก ๆ ท่านครับ ผม นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอกราบ ขอบคุณท่านสมาชิกที่ได้ให้ข้อเสนอแนะ ให้คำแนะนำ แล้วก็มีข้อสอบถาม ผมขออนุญาต ชี้แจงในส่วนการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ในรายงานการเงิน และการประเมินการใช้จ่ายเงินสำหรับสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ในส่วนของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดังนี้

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในเรื่องของงบประมาณที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับ จะเป็นเงินอุดหนุน จากรัฐบาลในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีแต่ละปี โดยก็จะขอผ่านทาง สำนักงบประมาณไป แล้วก็จะไปมีการพิจารณาโดยกรรมาธิการงบประมาณในแต่ละปี ซึ่งงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนในแต่ละปีอาจจะได้รับไม่เท่ากันนะครับ อันนี้อยู่ที่ว่าในเรื่องของงบประมาณที่ได้รับจัดสรรสามารถอุดหนุนได้เท่าไร แต่งบประมาณ ด้านบุคลากรจะเป็นงบประมาณซึ่งอาจจะต้องรับจัดสรรให้เพียงพอกับบุคลากรที่มีอยู่ อัตรากำลังที่มีอยู่ ส่วนอย่างอื่นเช่นงบก่อสร้างจะเป็นตัวแปรตัวหนึ่งที่ทำให้งบประมาณ อุดหนุนที่ได้รับของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในแต่ละปีอาจจะสูงต่ำไม่เท่ากัน รวมถึงงบดำเนินงานหรืองบเรื่องการสนับสนุนอื่น ๆ ที่ได้รับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของงบประมาณที่ได้รับในปี ๒๕๖๔ ทั้งหมด ๑,๗๐๐ กว่าล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าปี ๒๕๖๓ ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นงบที่ได้รับการสนับสนุน เป็นเงินอุดหนุนในงบประมาณ รายจ่ายประจำปี ๒๕๖๔ มีบางรายการซึ่งอาจจะได้รับอุดหนุนมาก ก็ทำให้งบประมาณ ของปี ๒๕๖๓ มากกว่าปี ๒๕๖๔ ในส่วนของที่ได้นำเรียน เงินเหลือจ่ายจะเป็นตามกฎหมาย ก็คืองบเงินอุดหนุนที่รับไปแล้วแต่ละปีถ้าทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งใช้ไม่หมด ก็ไม่ต้องนำส่งคืนกระทรวงคลัง ก็ให้เป็นเงินที่เก็บไว้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็สามารถนำมาใช้จ่ายในกรณีที่เงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอนะครับ อันนี้ นำเรียน แต่จะใช้เท่าไรเขาจะมีแผนการใช้จ่าย ซึ่งอาจจะต้องขอไปที่คณะกรรมการ การเลือกตั้งตามระเบียบที่กำหนดไว้

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนส่วนของทรัพย์สิน ในเรื่องของที่ดิน ครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง จะเป็น เรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้งมีการก่อสร้างสำนักงานในต่างจังหวัด อันนี้ก็จะมี การประเมินราคาค่าทรัพย์สินไว้ ซึ่งในแต่ละปีก็อาจจะมีการก่อสร้างมากขึ้น ก็ประเมิน ราคาไว้ พอปีถัดไปก็จะมีการลดมูลค่าทรัพย์สินลงไปตามสัดส่วน ตามระเบียบที่กำหนดไว้

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของคอมพิวเตอร์ เป็นงบประมาณซึ่งตั้งไว้โดยยังไม่มีการเบิกจ่าย ในปีนั้นในการที่ตรวจสอบยังไม่ได้เบิกจ่าย ก็เลยทำให้มีเงินงบประมาณที่ยังค้างจ่าย เป็นลูกหนี้อยู่ ๒๐๐ กว่าล้านบาท

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนอื่น ผมกราบเรียนว่าอันนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งอันนี้อาจจะไม่สามารถไปก้าวล่วงในส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ทำไว้ อย่างเช่น เรื่องของพนักงานหรือเรื่องของคู่มือ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ต่อมาเรื่องของการฟ้องคดี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบที่ลง ในรายการไว้ก็คือเป็นเรื่องที่ศาลได้มีการประทับรับฟ้องแล้ว แล้วก็ดูจากยอดของจำนวน ทุนทรัพย์ที่มีการฟ้อง รวมถึงที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ไปฟ้อง อันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้บันทึกไว้ในการตรวจสอบ แต่สำหรับเรื่องว่าคดีแพ้ชนะ อะไร อันนี้ต้องสอบถามกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของรายได้ปี ๒๕๖๓ มากกว่าปี ๒๕๖๔ อันนี้ก็ได้นำกราบเรียน ว่าเป็นการรับเงินอุดหนุนมา เงินอุดหนุนที่ได้รับมาไม่เพียงพอ ทางคณะกรรมการ การเลือกตั้งก็เอาเงินคงเหลือจากที่สะสมตั้งแต่เป็นหน่วยงานอิสระที่เหลือจ่ายจากเงิน อุดหนุนทุกปี ก็สะสมไม่ต้องส่งคืนการคลัง ก็สามารถที่เอามาใช้จ่ายในปีงบประมาณนั้นได้ โดยในปีงบประมาณที่ตั้งไว้ ถ้าท่านสังเกตว่าทำไมมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก แล้วเหตุใด ถึงใช้จ่ายมากถึง ๖๐๐ กว่าล้านบาท อันนี้นำเรียนว่าเป็นการนำเงินเหลือจ่ายมาตั้งทั้งหมด ๒,๐๐๐ ล้านบาท ที่มีเงินเหลือจ่ายอยู่ประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาท ณ ขณะนั้น แต่เบิกจ่าย ใช้ได้ไม่หมด ทำให้มีเงินใช้จ่ายเกินกว่าเงินที่ตั้งไว้ ใช้จ่ายไป ๒,๔๕๐ กว่าล้านบาท ในปี ๒๕๖๔ ทำให้ติดลบอยู่ ๖๐๐ กว่าล้านบาท เป็นเงินที่เกินกว่าเงินงบประมาณที่ได้รับ อุดหนุนในปี ๒๕๖๔

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของงบประมาณการเลือกตั้งหรือเรื่องการซื้อเครื่อง EVM อันนี้ก็ต้อง กราบเรียนว่าเป็นเรื่องที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องมานำเรียนเสนอ ท่านสมาชิกในส่วนเรื่องของการจัดเลือกตั้งนะครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนงบที่ไปต่างประเทศเป็นงบของที่ผ่านมา อันนี้ยังไม่ได้ตรวจ อันนี้ก็อาจจะ ใช้เงิน อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ใช้เงินโดยของบประมาณ อุดหนุนหรือใช้เงินที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีอยู่เป็นเงินเหลือจ่าย

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนในงบประมาณเรื่องของการกำหนดแนวทางบุคลากร อันนี้ผมกราบเรียน เบื้องต้นแล้วเวลาในการของบประมาณรายจ่ายประจำปี ทางสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งก็จะต้องมีกรอบอัตรากำลังเพื่อขอสำนักงบประมาณในการจ่ายค่าตอบแทน เงินเดือนให้แก่บุคลากรตามอัตรากำลังที่มีอยู่นะครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องของบำเหน็จ ซึ่งดูแล้วมี ๘๐๐ กว่าล้านบาท เป็นบำเหน็จซึ่งตั้ง สำหรับจ่ายให้กับพนักงานตามระเบียบ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งตัวบุคลากรไม่ได้เป็น ข้าราชการ จะไม่ได้มีบำเหน็จบำนาญที่เข้าเหมือนอย่างสมาชิก กบข. ข้าราชการในปัจจุบัน ก็เลยมีการจ่ายเป็นเงินบำเหน็จให้ ก็ตั้งไว้สำหรับอัตรากำลังที่มีอยู่ แล้วก็รวมถึงที่จะต้องจ่าย หากมีการลาออก โดยในปี ๒๕๖๔ ก็ตั้งไว้เป็นเงินอยู่ไม่ได้สูง ประมาณ ๘๐ กว่าล้านบาท ซึ่งทำให้ตั้งแต่ตั้งมาทั้งหมดบุคลากรมีเป็นพัน ตั้งมาแล้วก็คือตั้งสำรองไว้ เผื่อหากมี การลาออกก็ตั้งสำรองไว้ ๘๐๐ กว่าล้านบาท ในปี ๒๕๖๔ ตั้งไว้เพิ่มอีก ๘๕ ล้านบาท

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ในส่วนของเงินกองทุน กราบเรียนอย่างนี้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตามกฎหมายให้ตรวจรายงานการเงินประจำปี เงินกองทุนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ก็มีการตรวจสอบ แต่ไม่ได้มีการนำมารวมไว้ในรายงานการเงิน เนื่องจากว่าในการตรวจสอบ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก็จะตรวจตามที่มาตรฐานการบัญชีภาครัฐซึ่งกระทรวงการคลัง กำหนด ทีนี้ในส่วนของกองทุนมีการจัดทำรายงานแยกจากกัน กรมบัญชีกลางซึ่งเป็น ผู้ดำเนินการในเรื่องของการจัดทำรายงานมาตรฐานบัญชีภาครัฐก็ยังไม่ได้ประกาศให้ใช้ มาตรฐานบัญชีภาครัฐ ฉบับที่ ๓๕ เรื่องการรวมงบการเงิน แต่ สตง. ก็ตรวจนะครับ สตง. ตรวจแล้วก็ส่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง อันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งน่าจะมี การไปเปิดเผยที่ Website ผมกราบเรียน อันนี้นำเรียนเรื่องของกองทุนที่ไม่รวมกองทุนแล้ว

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

เรื่องของการฟ้องคดี ก็เป็นเฉพาะเรื่องที่มีการประทับฟ้องนะครับ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้นำลงไว้ในรายงาน

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องของการเลือกตั้ง อันนี้ก็ต้องขออนุญาต ทางสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินคงจะไม่สามารถตอบได้ คงต้องไปสอบถามทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนในเรื่องของงบประมาณ ที่สอบถามว่างบประมาณเงินครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้าง ๒๐๐ กว่าล้านบาท เบิกจ่ายได้เพียง ๒๗ ล้านบาท อันนี้ขอกราบเรียนอย่างนี้ว่า จากการตรวจสอบในขณะนั้นมีรายการที่ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ เฉพาะของการจัดซื้อจัดจ้างส่วนกลาง ก็คือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในกรุงเทพฯ มีการจัดซื้อจัดจ้าง ๒๗ ล้านบาท แล้วก็ไปอยู่ที่ภาคจำนวน ๒๓๘ ล้านบาทเศษ อันนี้ไม่มีเอกสารให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบว่ามีการเบิกจ่ายหรือยัง อันนี้เราก็เลยทำเหตุผลไว้ว่าเราไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้นะครับ ก็เลยทำให้มีเงินที่ยัง ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบว่าจ่ายไปหรือยัง ๒๓๘ ล้านบาทเศษ เราก็มีการติดตาม ให้ดำเนินการจัดส่งเอกสารให้เรา แต่ ณ บัดนั้นที่ตรวจของปี ๒๕๖๔ ไม่มี ก็เลยต้องลงใน รายงานว่าไม่สามารถตรวจสอบได้นะครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนของการเพิ่มงบกองทุน อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องให้ผู้เสียภาษีลงในช่อง ที่ประสงค์จะสนับสนุนให้พรรคการเมือง กรมสรรพากรก็จะดำเนินการโอนไปให้กองทุน เพื่อการพัฒนาการเมือง อันนี้เป็นส่วนที่ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะดำเนินการ ในเรื่องของการสนับสนุนพรรคการเมืองนะครับ ในส่วนอื่นถ้าเป็นเรื่องของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องกราบขออภัยที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คงไม่สามารถให้ความเห็นได้นะครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ไม่มีท่านอื่นตั้งข้อสังเกตนะครับ ก็ถือว่าที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงาน การเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เชิญท่านวิทยา แก้วภราดัย ครับ

นายวิทยา แก้วภราดัย บัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานครับ ผมมีข้อสังเกต ฝากทาง สตง. ไว้นิดหนึ่งครับ เนื่องจาก กกต. จัดให้มีการเลือกตั้งในปี ๒๕๖๖ นี้ เพราะผม อยากเห็นการทำรายงานของปี ๒๕๖๖ ในครั้งต่อไปท่านช่วยทำเรื่องสัมฤทธิผลของ การใช้จ่ายงบประมาณด้วยนะครับ ว่าด้วยการให้เงินงบประมาณของ กกต. ไปสำหรับ การเลือกตั้ง ๖,๐๐๐ ล้านบาท รายจ่ายประจำบ้าง ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ล้านบาท ผลจาก การเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ ปรากฏว่าภารกิจของ สตง. ก็คือจัดการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม เลือกตั้งเสร็จไปแล้วปรากฏว่าสิ่งที่ กกต. ประกาศก็คือรับรองผลการเลือกตั้ง หมดทุกประการ ไม่ได้สะท้อนเลยว่าท่านทำอะไรบ้าง หรือถือว่าการเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมที่สุดแล้ว เพราะตามระยะเวลากฎหมายทาง กกต. รับรองหมด เพราะฉะนั้นฝากท่านไปหน่อยว่าท่านตรวจสอบ กกต. เรื่องการใช้จ่าย งบประมาณในครั้งต่อไปช่วยตรวจสอบประสิทธิผลในการทำงานด้วยว่าคุ้มค่ากับเงินหรือเปล่า ถ้าไม่คุ้ม เพราะว่าบางประการ ผมดูท้ายของรายงานของท่านนะครับ ข้อเสนอแนะที่ท่านให้ กกต. ดำเนินการ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ผลการดำเนินการก็คือไม่ดำเนินการ ท่านก็มีข้อเสนอแนะ ซ้ำไปอีกให้ดำเนินการ สุดท้ายกลายเป็นองค์กรที่ค่อนข้างจะดื้อกับ สตง. สักนิด ผมก็เลยคิดว่า ท่านก็ประเมินผลเขาหน่อยนะครับ เพื่อเวลาพวกผมพิจารณาในสภาจะได้พิจารณาต่อว่า กับ กกต. ควรจะมีมาตรการอย่างไร ซึ่งท่านประธานคงทราบดีว่าท่านรู้สึกอย่างไรกับ กกต. ฝากท่าน สตง. ไปช่วยตรวจด้วยครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ไม่เป็นไร ท่านฝาก หรือท่านจะตอบ เชิญครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

รับทราบครับ ขอกราบเรียนท่านประธาน ท่านสมาชิกครับ ในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณการเลือกตั้ง ปี ๒๕๖๖ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีนโยบายในการตรวจสอบการเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ ซึ่งก็จะได้นำผลการตรวจสอบมากราบเรียนท่านสมาชิกในโอกาสต่อไปครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ไม่มีท่านใดแล้วนะครับ ถือว่าที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องขอบคุณทาง สตง. ผู้แทนหน่วยงานครับ ขอบคุณมากครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๒.๓ รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงาน ของการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทราบ ตามมาตรา ๑๕๖ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ และเพื่อให้การเสนอรายงานเป็นไปตามระเบียบ ของรัฐสภาว่าด้วยการเสนอข้อมูลข่าวสารลับต่อสภา พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๖ วรรคสอง ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการยกเลิกชั้นความลับของรายงานการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เฉพาะเพื่อใช้ ในการพิจารณาของสภาเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดของรายงานดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้จัดวาง ให้ท่านสมาชิกแล้ว ดังนั้นจึงขอให้สมาชิกใช้รายงานดังกล่าวเฉพาะในห้องประชุม สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นนะครับ เนื่องจากมีผู้ประสงค์จะอภิปราย ทางคณะชี้แจงเป็นชุดเดิม เชิญท่านได้ให้ข้อคิดเห็นสัก ๕ นาที

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพครับ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระผม นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน ขอนำเสนอรายงานของผู้สอบบัญชี ในการตรวจสอบสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำหรับ สิ้นสุดปีบัญชี ณ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ โดยในการตรวจสอบได้ตรวจสอบรายงานการเงิน ของสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิส่วนทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน แล้วก็หมายเหตุ ประกอบงบการเงิน รวมถึงนโยบายการบัญชีที่สำคัญ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เห็นว่ารายงานการเงินข้างต้นที่แสดงฐานะการเงินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และผลการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชี ภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด มีผลตรวจสอบปรากฏ ตามรายงานของผู้สอบบัญชี โดยแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข ขออนุญาตเรียนในส่วน รายงานของผู้สอบบัญชีนะครับ ในส่วนถัดไปจะเป็นเรื่องของรายงานการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้รับอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ ๒๕๖๔ เป็นเงินอุดหนุน จำนวนทั้งสิ้น ๒,๓๖๕.๔๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ๓ แผนงานคือ แผนงานด้านบุคลากร จำนวน ๑,๔๗๗.๒๖ ล้านบาท แล้วก็แผนงาน ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จำนวน ๕๗๕.๖๕ ล้านบาท และแผนบูรณาการการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จำนวน ๓๑๒.๔๙ ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจัดทำแผนปฏิบัติการ และแผนใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ จากงบประมาณที่ได้รับจัดสรร จำนวน ๒,๓๖๕.๔๐ ล้านบาท และจากเงินสะสมเหลือจ่าย จำนวน ๒๘๓.๑๗ ล้านบาท รวมแผนการใช้จ่ายในปี ๒๕๖๔ จำนวน ๒,๕๑๘.๕๗ ล้านบาท ผลการตรวจสอบปรากฏ โดยสรุปดังนี้ การดำเนินงานเพื่อดำเนินการตามโครงการตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย งบประมาณ ๑. โครงการภายใต้แผนงานพื้นฐาน จำนวน ๑๑ โครงการ ดำเนินการเบิกจ่าย แล้วเสร็จ จำนวน ๙ โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ ๒ โครงการ ๒. โครงการภายใต้ แผนงานบูรณาการ จำนวน ๓๒๑ โครงการ มีผลการใช้จ่ายรวมเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี แบบมีหนี้ จำนวน ๑๑๒.๓๙ ล้านบาท ดำเนินการเบิกจ่ายแล้วเสร็จ จำนวน ๒๗๖ โครงการ ยกเลิกโครงการตามมติกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน ๓ โครงการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ ๔๒ โครงการ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินสำนักงาน ป.ป.ช. มีสภาพคล่องทางการเงินสูง เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นเงินสดแล้วก็เงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์นะครับ ในส่วน ของการบริหารจัดการครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับจัดสรร งบประมาณตามแผนที่จ่ายงบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลงเป็นค่าครุภัณฑ์และกันเงินไว้ เบิกเหลื่อมปีแบบมีหนี้ที่มีจำนวนสูง จำนวน ๑๘๕.๙๗ ล้านบาท ส่วนการควบคุม และการจัดเก็บสำนักงาน ป.ป.ช. มีการจัดทำทะเบียนทรัพย์สิน บัญชีพัสดุ ดำเนินการ เป็นไปตามคู่มือการบริหารพัสดุของหน่วยงาน แล้วก็มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พัสดุประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารงานพัสดุภาครัฐ ปี ๒๕๖๐ แสดงว่าสำนักงาน ป.ป.ช. มีการควบคุมและดูแล ทรัพย์สินที่อยู่ในครอบครองอย่างเพียงพอในระดับหนึ่งนะครับ โดยสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติดำเนินการในส่วนที่ได้นำกราบเรียนแล้วก็คือ ในโครงการที่อยู่ระหว่าง ดำเนินการก็ให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน รวมถึงพิจารณาแก้ไขปัญหาอุปสรรค ที่เกิดขึ้น แล้วก็นำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการจัดทำโครงการ หรือการก่อสร้าง หรือการใช้จ่ายงบประมาณในปีถัดไปนะครับ ส่วนในด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน ก็แนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาตินำเงินใช้จ่าย ที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับแผนการใช้จ่ายประจำปีนะครับ ส่วนเรื่องของการใช้จ่ายที่ได้มีการเสนอแนะไปแล้วในปีที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินได้ดำเนินการประเมินการใช้จ่ายและทรัพย์สิน เห็นว่าสำนักงาน ป.ป.ช. ก็ได้มี การดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินบ้างแล้ว แต่ก็ยังมี ข้อเสนอแนะบางอย่างที่ดำเนินการแจ้งไปแล้ว ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ สำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดินก็ได้มีการติดตามให้มีการดำเนินการตามที่มีเสนอแนะไว้อย่างเป็นระยะนะครับ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดทราบครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ท่านสมาชิกครับ พอดีมีท่านสมาชิกมีข้อติดใจสงสัยที่จะถาม ดังนั้นก็จะขอเรียนเชิญ ผู้มีรายชื่อต่อไปนี้จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เข้าร่วมชี้แจงในที่ประชุมนะครับ ท่านที่ ๑ ท่านนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ท่านประสพสุข ทรงผาสุก ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์ ท่านสุชาวลี คุ้มพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคลัง ท่านบดินทร์ กรีธาธร ผู้อำนวยการสำนักคดี ท่านจารุณี ชูโชค ผู้อำนวยการกลุ่มจัดซื้อจัดจ้าง ท่านธิลิน จรูญพร สำนักงานไต่สวนระดับสูง เชิญท่านประจำที่ครับ ท่านสมาชิกจะมีข้อซักถามตอนนี้ มีอยู่ ๑ ท่าน คือท่านศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เชิญท่านศักดิ์ดาครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ผม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๔ จังหวัดกาญจนบุรี ขอกราบเรียนท่านประธานว่าหน่วยงาน ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานที่สำคัญยิ่งในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตของข้าราชการ นักการเมือง และยังดูแลทรัพย์สินของทางราชการ ที่เป็นภาระอันยิ่งใหญ่ของประเทศ หน่วยงาน ป.ป.ช. นั้นได้รับงบประมาณในปี ๒๕๖๔ ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท ซึ่งไปใช้จ่ายในการปกป้องทรัพย์สินเงินทองหรืองบประมาณแผ่นดิน จำนวนมหาศาล ในส่วนตัวผมไม่ติดใจหรอกว่างบประมาณแค่ ๒,๓๐๐ กว่าล้านบาทเศษ ที่ไปใช้จ่าย กลับมองเห็นว่าอาจจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ น่าจะได้มากกว่านี้นะครับ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. มีข้าราชการหรือบุคลากรเกือบ ๓,๐๐๐ นาย ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค วันนี้หน่วยงาน ป.ป.ช. มีสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัด ใน ๗๖ จังหวัดมีข้าราชการเท่าที่ผมสืบทราบมาประมาณ ๑๕ นายบวกลบ บางจังหวัด ต้องดูแลพื้นที่อย่างกว้างใหญ่มหาศาล อย่างจังหวัดกาญจนบุรีที่ผมเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรอยู่มีข้าราชการอยู่ประมาณ ๑๕ นาย ซึ่งดูแลหน่วยงานมากมายครับ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คนที่จะไปตรวจสอบและจับผิดเขาผมมองดูแล้วว่า น่าจะมีข้าราชการหรือมีเครื่องไม้เครื่องมือให้ได้มากกว่านี้ ก็ฝากท่านประธานไปยังท่านเลขา ว่าเราต้องช่วยกันส่งเสริมให้หน่วยงานของ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานผมเชื่อว่าพวกเรา ที่อยู่ในห้องนี้ทั้ง ๕๐๐ ท่านก็ต่างเกรงกลัวมาตรา ๘๗ ของพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. คือมาตราเกี่ยวกับจริยธรรมของนักการเมือง เพราะฉะนั้นเราก็อยากให้หน่วยงานนี้เข้มแข็ง กับการทุจริตในภูมิภาคด้วยนะครับ แต่ผมมีประเด็นที่จะฝากท่านประธานไปยังท่านเลขาธิการอยู่ ซึ่งมันเกิดขึ้นจริงแล้วผมคิดว่า ท่านเลขาธิการอาจจะทราบมาแล้วบ้างก็ได้ว่ามาตรา ๙๘ หลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนและสอบสวนเสร็จสิ้นกระบวนความแล้ว ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ข้าราชการหรือพนักงานกระทำความผิดอยู่ หน่วยงานนั้นจะต้องลงโทษทางวินัยภายใน ๓๐ วัน หลังจากที่ ป.ป.ช. ชี้มูล โดยไม่ต้องสอบสวนกระบวนการของข้าราชการอีก ให้ลงโทษเลย แต่ประเด็นมันมีปัญหาอยู่ว่าถ้าข้าราชการท่านนั้นเกษียณหรือลาออกไปก่อน มีอายุมากกว่า ๓ ปี ไม่มีกฎหมายใด ๆ ที่จะไปลงโทษข้าราชการผู้นั้นที่พ้นราชการไปมากกว่า ๓ ปี แต่ถ้าน้อยกว่า ๓ ปี คือ ๒ ปี ๑ ปี หรือยังอยู่ ลงโทษได้ครับ ตามพระราชบัญญัติ ข้าราชการพลเรือน มาตรา ๑๐๐ ลงโทษได้ทันที แต่ถ้าเกิน ๓ ปีลงโทษไม่ได้ วันนี้ ความไม่เป็นธรรมมันเกิดขึ้น เพราะถ้ามี นาย ก นาย ข ไปร่วมกันกระทำความผิด นาย ก พ้นไปก่อนมากกว่า ๓ ปี ก็ไม่ต้องถูกลงโทษทางวินัยครับ ส่วนคดีอาญาผมไม่ติดใจ เพราะเรา ส่งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีอาญา อันนี้มันแยกกัน ผมเข้าใจว่าทาง สำนักงาน ป.ป.ช. อาจจะเร่งรัดเพื่อจะแก้ไขมาตรานี้อยู่ ผมอยากจะฝากท่านช่วยดำเนินการ เพราะมันเป็นปัญหาของระบบราชการอยู่เกี่ยวกับเรื่องการลงโทษนะครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ หน่วยงานที่ถูกลงโทษมากที่สุดในการชี้มูลของสำนักงาน ป.ป.ช. พวกเราก็ทราบดีคือหน่วยงานท้องถิ่น อบต. กับเทศบาลทำไมเขาถึงถูกชี้มูลมาก เพราะเขา กระทำผิด การกระทำผิดของหน่วยงานหรือบุคคลท้องถิ่นมีอยู่ ๒ กรณีเท่านั้น ตั้งใจ กระทำความผิดหรือทุจริตต่อหน้าที่ อันนี้ผมก็ไม่ติดใจครับ เพราะว่าท่านตั้งใจจะกระทำ แต่บางคนกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่ได้ตั้งใจ ขาดองค์ความรู้ นายก อบต. นายก เทศบาล หรือนายกเทศมนตรีในต่างจังหวัด ผมว่าเขาขาดองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ผมอยากจะเสนอทางสำนักงาน ป.ป.ช. ว่าถ้าเรามีการฝึกอบรม หรือให้ความรู้ หรือใช้วิธี การป้องปราม เราจะลดการสูญเสียงบประมาณ ลดการสูญเสียของการทุจริต แล้วภาระหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ที่อยู่ในต่างจังหวัดและส่วนกลางผมเชื่อว่างานท่านจะน้อยลงครับ คดีท่านจะไม่ค้าง ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ คดีที่ค้างอยู่ ณ ทุกวันนี้ อันนี้ผมก็ขอฝากประธาน ไปยังท่านเลขาธิการด้วยนะครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๓ มีคดีที่ผมพบเห็นในช่วงหาเสียง บางเทศบาลถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ภายใน ๑ เดือนหรือ ๒ เดือนทันทีเลย แต่บางเทศบาลที่อยู่ติดกันผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลไป ๒-๓ ปีแล้ว เห็นไหมประชาชนเขาไม่เข้าใจกฎหมายหรอกว่านายกตำบล A ไม่ถูกชี้มูล นายกตำบล B ถูกชี้มูล เขาจะมองว่ามีการวิ่งเต้น มีการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกัน อันนี้ผมก็อยากจะ ฝากท่านประธานไปยังท่านเลขาธิการว่าทำอย่างไร ผมเข้าใจว่ามีเรื่องเทคนิคทางกฎหมาย เกี่ยวกับศาลปกครองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ทำอย่างไรให้มันเสมอภาค ผมเชื่อว่าทำได้นะครับ ถ้าเราเลือกปฏิบัติอย่างนี้สังคมมันจะไม่เป็นธรรมครับ

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ กาญจนบุรี ต้นฉบับ

ประเด็นสุดท้าย ผมอยากจะฝากท่านประธานไปยังท่านเลขาธิการครับ ในเขตการเลือกตั้งผม คือเขต ๔ จังหวัดกาญจนบุรี ประกอบไปด้วยอำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือ อำเภอเลาขวัญ และอำเภอห้วยกระเจา ก่อนที่ผมจะไปลงสมัครผู้แทน มีการร้องเรียนหรือมีการตรวจสอบคดีความของ สำนักงาน ป.ป.ช. ผมไม่แน่ใจว่าของ ป.ป.ช. จากส่วนกลางหรือเขต หรือของ ป.ป.ช. จังหวัดอยู่หลายคดี แต่คดีช้าอยู่นะครับ ถ้านายก อบต. หรือเจ้าหน้าที่ถูกไต่สวนจากสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนใหญ่แล้วจะเกียร์ว่าง จะหยุด ปฏิบัติหน้าที่ จะทำงานไปวันต่อวันเลย ไม่ได้ขวนขวายที่จะทำอะไร เพราะว่ามีเรื่อง รอการตัดสินของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผมอยากจะฝากท่านประธานไปยังเลขาธิการ ช่วยเร่งรัดคดีให้ด้วยครับ เพื่อจะได้รู้ว่าเขาถูกหรือเขาผิด ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เหลืออีกท่านหนึ่ง ท่านวิทยา แก้วภราดัย เชิญครับ

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม วิทยา แก้วภราดัย สมาชิกผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ ผมไม่ทราบว่า ท่านคณะกรรมการจะเดินทางมาด้วย ต้องขอบพระคุณท่านมากครับ เมื่อสักครู่รายงาน ของ กกต. ก็ไม่มีตัวแทนกกต. มา วันนี้ก็รู้สึกว่าสภาได้รับเกียรติจากทาง ป.ป.ช. ผมมี ข้อคิดเห็นบางประการในการที่จะเรียนถามกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประการที่ ๑ ผมเข้าใจว่าเนื่องจากเราขยายกฎหมาย ป.ป.ช. ในการดูแล ผู้บริหารทั้งทางการเมือง ทั้งระดับชาติ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับ ท้องถิ่น เพราะฉะนั้นงานที่ขยายออกไประดับท้องถิ่น ช่วงหลังนี้เราเกิดท้องถิ่นขึ้นมากหลาย พันท้องถิ่นทีเดียว ผมเลยไม่ทราบว่าขณะนี้ในช่วงระยะเวลามาถึงวันนี้มีคดีที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช. สักกี่คดี ค้างมาตั้งแต่ปีไหน ปิดบัญชีได้ถึงปีไหน มาถึงปีนี้ค้างกี่คดี การที่ค้าง หลาย ๆ คดีท่านมีแนวทางอย่างไรที่จะสะสางคดีที่ค้าง อาจจะหมายถึงการแก้กฎหมาย บางประการเพื่อแบ่งอำนาจให้ ป.ป.ท. ไป หรือกับว่ามีช่องทางใดนะครับ อยากฟัง ข้อเสนอแนะ เผื่อว่าสภาแห่งนี้จะได้พิจารณาหาทางออกให้กับท่านถ้าคดีมันค้างเยอะมาก

นายวิทยา แก้วภราดัย แบบบัญชีรายชื่อ ต้นฉบับ

ประเด็นที่ ๒ ผมเห็นด้วยกับเพื่อนสมาชิกซึ่งได้อภิปรายไปเมื่อสักครู่ ก็คือ ผู้บริหารการเมืองระดับท้องถิ่นค่อนข้างจะมีความรู้ทางกฎหมายนี้ต่ำ อันนี้เราปฏิเสธ ไม่ได้นะครับ ผู้บริหารบางท่านมาก็อาศัยหน้าที่ของปลัดกับข้าราชการ เขาเสนอมาอย่างไร ก็เซ็นอย่างเดียวเสร็จไป แล้วก็เสร็จจริง ๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากจะให้ข้อสังเกตฝากกับ ท่านผู้บริหารฝากไปถึง ป.ป.ช. ทุกจังหวัดด้วยครับ เส้นแบ่งของการทุจริตกับการบกพร่อง ในหน้าที่มันบางมาก คือถ้าแค่การบกพร่องของผู้บริหารบางประการแล้ว ป.ป.ช. วินิจฉัยว่า ทุจริตไปไกลเลย หรือหมายถึงทุกอย่างจบหมด แล้วผมเรียนกับท่านเลยว่าสิ่งที่ ป.ป.ช. ชี้มูลไป แล้วส่งอัยการฟ้อง อัยการท่านอาจจะมีความเห็นว่าเป็นบกพร่อง แต่ ป.ป.ช. ด้วยความตั้งใจดี ในการทำงานก็อาจจะมาตัดสินฟ้องดำเนินคดีเอง ผมมีอาชีพทนายความ แล้วเรียนกับท่าน ได้เลยว่าคดีที่ฟ้องคดีศาลอาญาทุจริตนี่หนักมากครับ โอกาสสู้รอดยากมาก เพราะผมบอกว่า เส้นแบ่งระหว่างการบกพร่องกับการทุจริตบางครั้งมันบางมาก ถ้าเราตีความว่าทุจริตเมื่อไร มันก็ไปทันที บางเรื่องผมก็ดูข้อเท็จจริง มันมีเงินความเสียหาย ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ บาท แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เราชี้มูลทุจริตเตรียมติดคุกเลยครับ แต่การเสียเงินงบประมาณ หายไป ๔๐ ล้านบาท ๒๐ ล้านบาท เป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ก็ว่าไปทางวินัยจบ คราวนี้เส้นบาง ๆ ตรงนี้ผมเคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากพนักงานอัยการคดีอาญาทุจริต หลาย ๆ ท่าน ผมบอกท่านต้องใช้ความระมัดระวังในการที่จะวินิจฉัยคดี ไม่เช่นนั้นแล้ว นักการเมืองท้องถิ่นหลายคนจะเป็นเหยื่อของข้าราชการประจำแล้วก็ติดคุกแทน แล้วลาก ข้าราชการประจำเหล่านั้นไปติดคุกกันด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ผมอยากท่านวางกรอบ อันนี้ พร้อม ๆ กับที่เพื่อนสมาชิกเสนอแนะก็คือจัดอบรมอย่างเข้มข้นให้กับผู้บริหารท้องถิ่น ทุกคนที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นคนพวกนี้ตราบใดที่ไม่แม่นข้อกฎหมาย ไม่แม่นระเบียบ ทำตามข้าราชการ เท้าแหย่ตะรางไปครึ่งแล้วเสี่ยงมาก ก็ฝากเรียนท่าน ไว้เท่านี้ครับ ถือว่าต้องขอบพระคุณท่านอีกครั้งที่ให้พวกผมได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ผ่านท่าน ไม่ต้องผ่านทาง สตง. ไปครับ ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านวิทยา แก้วภราดัย คงเป็นทาง ป.ป.ช. เชิญทางท่านเลขาธิการตอบข้อซักถามครับ

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงเกียรติ ผม นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก่อนอื่นก็ขอกราบ ขอบพระคุณท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้มองเห็นความสำคัญการดำเนินงานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณนะครับ ซึ่ง เราได้รับประมาณปีละแค่ ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท ทั้ง ๆ ที่มีการดำเนินการในคดีต่าง ๆ รับภารกิจหลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน การดำเนินการด้านป้องกัน รวมทั้งงานด้านอื่น ๆ ที่กฎหมายรวมทั้งที่รัฐธรรมนูญ ได้บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่างบประมาณ แผ่นดินของประเทศเองก็มีจำกัดในเรื่องนี้ แล้วก็ในงบประมาณที่เราได้รับมาทาง ป.ป.ช. เอง ก็นำมาใช้ในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพแล้วก็เต็มที่นะครับ ส่วนในการดำเนินการ ของทาง ป.ป.ช. ผมอาจจะมีประเด็นปัญหาข้อกฎหมายซึ่งอาจจะมีความทับซ้อนกับกฎหมาย การบริหารงานบุคคลของหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของข้าราชการพลเรือน หรือ ข้าราชการในหน่วยงานอื่น ๆ ที่อาจจะยังไม่สอดคล้องกัน รวมทั้งมีความเห็นของทาง คณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีการตีความเกี่ยวกับเรื่องการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และได้มีการส่งเรื่องไปยังต้นสังกัด หรือผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการทางวินัย หรือดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากว่าในกฎหมาย บริหารงานบุคคลโดยเฉพาะข้าราชการพลเรือนจะต้องมีการดำเนินการภายในกรอบ ระยะเวลาที่กำหนดถ้าเขาพ้นไปแล้ว ถ้าดำเนินการไม่ทันก็ไม่สามารถดำเนินการลงโทษ ทางวินัยได้ ซึ่งอาจจะขัดหรือแย้งกับกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญที่กำหนดว่า ถ้าชี้มูลไปแล้วในการดำเนินการทางวินัยทางต้นสังกัดต้องดำเนินการ ลงโทษภายใน ๓๐ วัน เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาสามารถที่จะ อุทธรณ์ความเห็นหรือขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ อันนี้ก็ได้มีการหารือกัน ในหลายประเด็น รวมทั้งในเรื่องของ ก. ต่าง ๆ ก็ได้มีการประชุมนะครับ ก็พยายามปรับแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งคงต้องพุ่งเป้าไปที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่อาจจะยัง ไม่ชัดเจนเพียงพอที่จะมีการดำเนินการ ส่วนหน่วยงานที่ถูกลงโทษมากที่สุดใช่ครับ เพราะว่า เป็นหน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหตุที่มีการถูกลงโทษมากเพราะว่าหน่วยงานนี้ มีจำนวนมาก ๗,๐๐๐ กว่าแห่ง มีผู้บริหารซึ่งต้องยอมรับว่าผู้บริหารที่เข้ามาบางครั้ง มีการกระทำโดยไม่รู้นะครับ ปัจจุบัน ป.ป.ช. เราไม่ได้เน้นที่จะลงไปดำเนินการปราบปราม หรือลงไปจับผิด เราเน้นในเชิงการป้องปราม ป.ป.ช. เรามีการจัดตั้งศูนย์ CDC ขึ้น เพื่อเฝ้าระวัง เนื่องจากวันนี้ พ.ร.บ. ป.ป.ช. ในมาตรา ๓๕ กำหนดว่ากรณีที่อาจจะมีเหตุ อันควรสงสัยหรืออาจจะมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ป.ป.ช. จะต้องมีหน้าที่ลงไป เพื่อตรวจสอบ ให้คำแนะนำหรือให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ในวันนี้ในการรับข้อมูลข่าวสารของ ศูนย์ CDC เรารับฟังจากสื่อต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. รวมทั้งข่าวสารในพื้นที่ มีทางประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนเข้ามา เราก็จะมีการแจ้งไปยัง ป.ม.จ. รวมทั้งในส่วนกลาง ให้ลงไปดูเลย แล้วก็ลงไปสังเกตการณ์ รวมทั้งนำภาคีเครือข่ายประชาชนเข้าไปช่วยเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้การกระทำนั้นสำเร็จ และก่อให้เกิดการกระทำความผิดต้องมีผู้ที่ต้อง รับผิดชอบงบประมาณต้องสูญเสียไป อย่างไรก็ดีในเรื่องท้องถิ่นเราก็มีตัวชี้วัดอย่างหนึ่งก็คือ ITA ซึ่ง ITA สามารถที่จะชี้วัดได้ว่าในท้องถิ่นใดมีการบริหารงานที่มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้ไหม หรือยังมีข้อบกพร่องในเรื่องใด รวมทั้งสถิติเรื่องกล่าวหาร้องเรียนในพื้นที่ ต่าง ๆ ซึ่งเราได้มอบหมายให้ทางจังหวัด รวมทั้งภาค มีการวิเคราะห์ข้อมูล แล้วก็กำหนด พื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจนว่าในจังหวัดนั้นควรจะต้องไปแก้ไขปัญหาอะไร ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย ได้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการ ขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ โดยมีทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีทั้ง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เป็นฝ่ายเลขานุการ นำประเด็นปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งนำข้อมูลที่เกิดขึ้น จากการดำเนินการ หรือการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงไปให้ทางท่านผู้ว่าดู และช่วยในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท้องถิ่นซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญนะครับ ส่วนในการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องการให้ความรู้ ป.ป.ช. เราก็ได้มีการดำเนินการ ให้ความรู้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ไม่เฉพาะทางด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะส่วนราชการอื่น ๆ เองก็ประสบปัญหาเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมาย การจัดซื้อจัดจ้างซึ่งก็เป็นปัญหา และทำให้ผู้ปฏิบัติมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดการละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ได้นะครับ ในคดีเกี่ยวกับเรื่องเทศบาลที่ถูกชี้มูลและบางแห่ง ไม่ถูกชี้มูล ที่ผมได้เรียนไปแล้วว่าเมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลไปแล้วอำนาจในการดำเนินการ จะเป็นไปตามกฎหมายบริหารงานบุคคลของหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งก็จะมีผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเป็นผู้รักษาการ ป.ป.ช. เองก็ได้มีการเฝ้าติดตามแค่นั้นเอง ว่าได้มีการดำเนินการลงโทษไหม แล้วก็ให้มีการรายงาน Feedback กลับมา ถ้าไม่ได้มี การลงโทษ เราก็จะมีการเตือนไปนะครับ แต่อย่างไรก็ดีบางครั้งอาจจะมีการดำเนินการ ที่อาจจะล่าช้าเกินกว่ากรอบระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถ้า ป.ป.ช. ไปเอาผิดกับผู้บังคับบัญชา ทั้งหมดมันก็จะกลายเป็นว่าผู้บังคับบัญชาไปละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เราก็ใช้ ในลักษณะแนวทางการปกครองหรือการบริหารก็คือว่าอะลุ่มอล่วย และรวมทั้งติดตาม กำกับดูแล พร้อมกับขอทราบข้อมูลข้อเท็จจริงในการดำเนินการลงโทษว่ามีเหตุอะไรถึงล่าช้า หรืออย่างไร ซึ่งอันนี้เราก็พยายามทำให้ดีที่สุดนะครับ ส่วนในเรื่องการตรวจสอบประวัติ อันนี้เดี๋ยวอาจจะต้องขอไปตรวจสอบดูนิดหนึ่ง แต่การดำเนินการของ ป.ป.ช. วันนี้เรามี ภารกิจจำนวนมากพอสมควร เรามีเรื่องค้างที่กำลังดำเนินการในเฉพาะคดีไต่สวน ประมาณ ๔,๐๐๐ กว่าเรื่องที่ค้างถึง ณ ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าการดำเนินการไต่สวน ที่ยังค้างอยู่นี้มันอาจจะเกิดขึ้นกับกฎหมาย เพราะคดีการทุจริตเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งในส่วนกลางมีจำนวนมาก มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาสู่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประมาณปีละเกือบ ๗,๐๐๐-๘,๐๐๐ กว่าเรื่องต่อปี เพราะฉะนั้น ในการคัดกรองเรื่องต่าง ๆ เราก็มีหลักเกณฑ์ในการคัดกรองเรื่อง แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้อง เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้อง เพราะถ้าปฏิเสธคำร้องเราก็จะกลายเป็น คนที่ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ไปและถูกกล่าวหาได้ ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหลายคดีเกี่ยวกับเรื่องการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกรณี ที่ไปชี้มูลเขานะครับ อันนี้ก็เป็นประเด็น อย่างไรก็ดีในการดำเนินการวันนี้เรามีการจัดตั้ง ศูนย์ Command ซึ่งประธานกรรมการ ป.ป.ช. ทุกอาทิตย์เลยในวันพฤหัสบดีท่านจะลงมา บริหาร แล้วก็จะมาช่วยดู แล้วก็มาช่วยกำหนดแนวทาง โดยเรานำเทคโนโลยีสารสนเทศ เกี่ยวกับเรื่องการประมวลข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ในการตรวจสอบ รวมทั้งสถิติ เรายอมรับว่า การดำเนินการที่ผ่านมามีความล่าช้าพอสมควร แต่ปัจจุบันกฎหมาย ป.ป.ช. ปี ๒๕๖๑ มีการกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการให้ประชาชนต้องทำภายใต้กรอบ นอกเหนือ จากกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดกรอบระยะเวลาในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ปัจจุบัน ในเรื่องคดีที่เกิดขึ้นก่อน พ.ร.บ. ปี ๒๕๖๑ เรามีอยู่ไม่กี่ร้อยเรื่องแล้ว จาก ๑,๐๐๐ กว่าเรื่อง เราพยายาม Clear ตั้งแต่มี พ.ร.บ. ป.ป.ช. ปี ๒๕๖๑ มา มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการ มีการติดตาม กำกับดูแล เพราะฉะนั้นคดีเรื่องทุจริตจะมีการดำเนินการไต่สวนได้รวดเร็วขึ้น ถ้าเป็นคดีเรื่องเล็กประมาณสัก ๑-๒ ปีก็แล้วเสร็จ แต่ถ้าเป็นคดีใหญ่ ๆ ซึ่งอาจจะหา พยานหลักฐานยากอาจจะต้องใช้ระยะเวลา แต่อย่างไรก็ดีกฎหมายกำหนดว่าต้องให้แล้วเสร็จ ภายใน ๒ ปี ขยายได้ไม่เกิน ๑ ปี รวมทั้งปัจจุบันเวลาที่มีการส่งเรื่องไปยังอัยการสุดก็ได้มี การพิจารณาภายใต้กรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด และปัจจุบันศาลเอง โดยเฉพาะศาลอาญา คดีทุจริตได้มีการพิพากษาคดีแบบต่อเนื่อง คดีทุจริตปกติท่านจะพิพากษาใช้ระยะเวลา เดี๋ยวนี้ไม่เกิน ๑ ปีสามารถตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิดได้เลย อันนี้ก็เป็นอีกอันหนึ่ง ที่เป็นนวัตกรรมของกฎหมาย ป.ป.ช. ในฉบับปัจจุบัน ผมก็ขออนุญาตกราบเรียนนำเสนอทาง ที่ประชุมนี้ครับ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณท่านเลขาธิการครับ ไม่มีสมาชิกท่านใดมีข้อสงสัยซักถาม ก็ถือว่ารับทราบรายงาน ของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงาน การประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว ต้องขอขอบคุณ ท่านเลขาธิการที่ให้เกียรติมาชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎร ขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

๒.๔ รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ด้วยผู้ว่าการผู้ตรวจเงินแผ่นดินได้เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงาน การเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทราบ ตามมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๐ และเพื่อให้การเสนอรายงานเป็นไปตามระเบียบ รัฐสภาว่าด้วยการเสนอข้อมูลข่าวสารลับต่อสภา พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๖ วรรคสอง ทางสำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการยกเลิกชั้นความลับของรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงิน และทรัพย์สิน สำหรับปีสิ้นสุดในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ เฉพาะเพื่อใช้ในการพิจารณา ของสภาเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดของรายงานดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้จัดวางไว้ให้ท่านสมาชิกแล้ว ดังนั้นจึงขอเชิญสมาชิกได้ใช้รายงานดังกล่าวเฉพาะในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น พอดีว่าสมาชิกได้มีข้อซักถามหลายท่าน การนี้ผมขออนุญาตให้หน่วยงานมาร่วมชี้แจง อีกชุดหนึ่งนะครับ ขอเชิญผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นชุดเดียวกับผู้ชี้แจง ตามระเบียบวาระที่แล้ว และขอเชิญผู้มีรายชื่อดังต่อไปนี้จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมชี้แจงในที่ประชุมเพิ่มเติม ๑. นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดิน ๒. ท่านคมขวัญ กาญจนกุญชร รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ๓. ท่านสุปรีชา ศิริเอี่ยม ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์และงบประมาณ สำนักนโยบายและแผน ๔. ท่านสุทัศนา จงสมจิตต์ ผู้อำนวยการส่วนการเงินและบัญชี สำนักบริหารการคลัง ขอเชิญ เข้าประจำที่ครับ ท่านใดจะนำเสนอสัก ๕ นาที เชิญครับ

นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพอย่างสูง ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ ทุกท่านครับ ผม นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ขอนำเสนอ รายงาน โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรายงานการเงินของสำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน และงบแสดงการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์สุทธิส่วนทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน และหมายเหตุประกอบงบการเงิน รวมถึงสรุปนโยบายการบัญชี ที่สำคัญ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นว่ารายงานการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และผลการดำเนินงาน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกัน โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐ และนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด มีผลการตรวจสอบปรากฏ ตามรายงานของผู้สอบบัญชีโดยแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข ในส่วนของการประเมินผล การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำหรับสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ ๒๕๖๔ เป็นเงินอุดหนุนจำนวนทั้งสิ้น ๓๒๐.๘๙ ล้านบาท ประกอบด้วย ๓ แผนงาน ได้แก่ แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน ๒๓๙.๙๐ ล้านบาท แผนงานพื้นฐาน ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารการจัดการภาครัฐ จำนวน ๗๘.๑๘ ล้านบาท และแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จำนวน ๓.๔๑ ล้านบาท ผลการตรวจสอบโดยสรุปปรากฏดังนี้ ในการดำเนินงานของงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ ๒๕๖๔ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีการใช้จ่ายงบประมาณคงเหลือ จำนวน ๗๙.๖๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๙.๕๕ ของแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณทั้งหมด ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีเรื่องร้องเรียนที่ดำเนินการ จำนวน ๔,๘๖๖ เรื่อง มีผลการดำเนินการโดยเป็นเรื่องที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน ๒,๖๗๕ เรื่อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน ๒,๑๙๑ เรื่อง คิดเป็นร้อยละ ๕๔.๙๗ และร้อยละ ๔๕.๐๓ ตามลำดับ ส่งผลให้การดำเนินการตามตัวชี้วัดให้บริการของสำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดินต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งกำหนดไว้จำนวนร้อยละ ๖๐ เพียงเล็กน้อย ในส่วนของการบริหาร จัดการทรัพย์สิน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีการจัดทำทะเบียนคุมทรัพย์สินและบัญชี ครุภัณฑ์เพื่อควบคุมพัสดุและการเบิกจ่ายพัสดุ มีหลักฐานการรับจ่าย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบพัสดุประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เพื่อทำการตรวจสอบการรับจ่ายพัสดุ และการตรวจนับพัสดุคงเหลือ และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รายงานผลการตรวจสอบแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ แสดงให้ว่าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีการควบคุม และดูแลทรัพย์สินที่อยู่ในการครอบครองอย่างเพียงพอ ในส่วนของปัญหาอุปสรรค ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ชี้แจงในส่วนของการดำเนินการที่ต่ำกว่าเป้า เนื่องจาก การแพร่ระบาดสถานการณ์ COVID-19 ส่วนหนึ่ง และการขาดอัตรากำลังที่ไม่ครบ ตามกรอบอัตรากำลังบุคลากร ปัญหาสะสมอีกส่วนหนึ่งคือร้องเรียนเข้ามาค่อนข้างมาก หลังจากการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญเมื่อปลายปี ๒๕๖๐ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้จัดทำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในขั้นตอนการแถลงข้อเท็จจริงที่กฎหมาย กำหนดจะมีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดเรื่องสะสมมากขึ้น ในส่วนของข้อเสนอแนะ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีข้อเสนอแนะให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ใช้งบประมาณให้เร่งรัดดำเนินการไปตามแผนการปฏิบัติงาน รวมถึงให้มีการดำเนินการ คัดเลือกและบรรจุบุคลากรให้ครบตามกรอบอัตรากำลังที่ยังขาดอยู่ แล้วก็ให้สำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดินควรจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานและแผนสำรองฉุกเฉินในช่วงสถานการณ์ โควิด รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ เกิดสถานการณ์ดังกล่าวในอนาคต นอกจากนี้ยังได้มีการแนะนำให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการใช้งบประมาณให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์และตามระเบียบกฎหมายที่กำหนด ส่วนของการติดตามข้อเสนอแนะในปีก่อน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๓ สำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดินได้แจ้งประเมินผลการใช้จ่ายให้สำนักงานการตรวจเงินการแผ่นดินนำไปดำเนินการแล้ว โดยจะมีข้อเสนอแนะที่ดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จบ้าง และได้มีการควบคุมแล้วก็ติดตาม การดำเนินการ เพื่อดำเนินการเป็นไปตามข้อเสนอแนะให้ครบถ้วนต่อไป จึงกราบเรียนมา โปรดทราบ ขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ท่านสมาชิกครับ มีท่านสมาชิกที่สนใจจะอภิปรายอยู่ ๔ ท่าน ท่านแรก ท่านวิรัช พิมพะนิตย์ เชิญครับ

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ท่านประธานสภาที่เคารพ ท่านสมาชิก กระผม นายวิรัช พิมพะนิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ เขตเลือกตั้งที่ ๑ จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ติดใจเรื่องงบประมาณของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผมเห็นบอกว่า วันนี้หน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นหน่วยงานซึ่งมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แต่งบประมาณ ได้น้อยนิดเหลือเกิน ผมบอกว่าวันนี้อำนาจหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินตามที่ ส่งมาบอกว่า ๑. รับผิดชอบงานธุรการและดำเนินการเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินบรรลุ ภารกิจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และกฎหมายอื่น ๒. อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนการปฏิบัติงาน ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ๓. ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล แล้วสนับสนุนให้มีการวิจัย เกี่ยวกับงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ๔. ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน หรือประสานงาน กับหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับ การดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ๕. ปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ตามที่ กฎหมายกำหนด หรือผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติมอบหมาย

นายวิรัช พิมพะนิตย์ กาฬสินธุ์ ต้นฉบับ

ท่านประธานที่เคารพครับ ผมบอกว่าวันนี้ประชาชนหลายคนยังไม่รู้เลยว่า อำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินทำอะไร มีหน้าที่อย่างไร มีบทส่งเสริมอย่างไร มีบทลงโทษ อย่างไร ผมอยากกราบเรียนว่าเป็นหน่วยงานที่ชื่อผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ไม่เห็นมีอะไร ที่บอกว่าจะเป็นหน้าที่โดยตรง หน้าที่ ๕ วนเวียนอยู่กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ผู้ตรวจการ แผ่นดิน หน่วยงานขนาดนี้ชื่อเสียงขนาดนี้ แต่ว่าหน้าที่ไม่ชัดเจน ผมจึงกราบเรียนว่า วันนี้ผมถามหน่อยว่าหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินทำอะไร ถ้าทำเพื่อประโยชน์แล้วก็ดี ต้องส่งเสริมงบประมาณ กราบเรียนท่านประธานให้มากกว่านี้ แต่ถ้าไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นเลย ก็ควรยุบ ผมกราบเรียนว่าวันนี้สิ่งต่าง ๆ ที่ประชาชนต่างจังหวัดยังไม่ทราบเลยว่าผู้ตรวจการ แผ่นดินทำอะไร ผมสนิทกับท่านประธาน ท่านเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวานท่านก็ไปมอบ ผมก็เรียนถามอยู่ว่าท่านทำอะไร ท่านก็คงตอบผมไม่ได้ แต่วันนี้ ผมจะถามกับท่านประธานเพื่อให้กราบเรียนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่า อำนาจหน้าที่ ประชาชนหวังพึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างไรได้บ้าง ผมด้วยความเคารพนะครับ ไม่ได้มีอคติ ไม่ได้มีอะไร แต่อยากให้หน่วยงานที่เกิดขึ้นมีอำนาจและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เต็มที่ สภาแห่งนี้ออกกฎหมายมาหลายอย่าง วันนี้กฎหมายค่อนข้างจะเต็มบ้านเต็มเมือง ผมว่าวันนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาร่วมกันช่วยยกเลิกกฎหมายบ้าง กฎหมายบางอย่างออกมา ผิดอย่างเดียว วันนี้ประชาชนเดินทางเป็นอย่างไร มีความผิดทุกอย่าง ที่เป็นบทบัญญัติ บางอย่างที่เขาไม่รู้ ผมด้วยความเคารพและความรัก อยากให้องค์กรของผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถจะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอีกแรงหนึ่ง พรุ่งนี้ก็เหมือนกัน วันพรุ่งนี้ไม่รู้ มีกฎหมายอะไรเข้ามาบ้าง แต่สิ่งนั้นเกิดประโยชน์กับประชาชนเท่าที่หน่วยงานมี ประชาชนได้รับหรือไม่ วันนี้ก็กราบเรียนด้วยความเคารพนะครับ ผู้ตรวจการแผ่นดินครับ ผมอยากจะให้ยืนยันกับผมหน่อย วันนี้ผมจะได้บอกประชาชนในเขตเลือกตั้งหรือประชาชน ทั่วไปว่าผู้ตรวจการแผ่นดินทำอย่างนี้ ทำอย่างนี้ได้ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับประชาชน ต่อไป ก็ขอขอบคุณครับ ขอพูดแค่นี้ สวัสดีครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ เชิญท่านกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ครับ

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ นราธิวาส ต้นฉบับ

เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๕ จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ และอำเภอศรีสาคร พรรคประชาชาติ ท่านประธานที่เคารพครับ วันนี้เราได้มีการอภิปรายรับทราบรายงานหลายฉบับ ผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะอภิปราย รายงานของผู้ตรวจการแผ่นดินจนถึงเย็น มันมีประเด็นที่เกี่ยวข้องแล้วก็จะฝากไปยัง ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นเรื่องสำคัญครับ แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นก็ขออนุญาตอภิปรายตั้งคำถาม เกี่ยวกับรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ของปี ๒๕๖๔ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ในเล่มสีชมพูผมได้อ่านก็มีประเด็นคำถาม ๒-๓ คำถาม ก็เข้าใจว่าผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับงบประมาณน้อย ๔๐๐ กว่าล้านบาท ได้อ่านดูแล้ว งบบุคลากรอย่างเดียวก็ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนึ่งในองค์กรอิสระภายใต้ รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ ผมว่าผู้ตรวจการแผ่นดินยังเป็นที่รู้จักน้อยกว่าเพื่อน จะดังหน่อย เมื่อ ๒-๓ อาทิตย์ที่แล้วที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความ ข้อบังคับการประชุมสภาเรา ข้อ ๔๑ แล้วก็มีการขอคุ้มครองชั่วคราวเลื่อนการโหวต นายกรัฐมนตรี นั่นคือท่านปฏิบัติตามพระราชบัญญัติผู้ตรวจการแผ่นดิน ปี ๒๕๖๐ มาตรา ๒๓ แต่ดูอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้ตรวจการแผ่นดินภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ ตามมาตรา ๒๓๐ และ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ แล้ว ผมว่าท่านอยู่ข้างประชาชนครับ หลายเรื่องอำนาจหน้าที่ของท่านคืออยู่เคียงข้างประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ประชาชนยังไม่รู้จักท่าน และยังไม่มีความรู้สึกว่าผู้ตรวจการ แผ่นดินเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้ง ๆ ที่ท่านคือที่พึ่งของประชาชนเวลาได้รับ ความเดือดร้อน ท่านจะเป็นผู้บรรเทาเพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานรัฐ เป็นข้อเสนอแนะ จะมีกี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าไปเทียบเปอร์เซ็นต์ถามผู้ตรวจการแผ่นดินผมว่า มีไม่ถึงร้อยละ ๕๐ หรอกที่รู้จักอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือเวลาเดือดร้อน จะนึกถึงท่าน ผมดูในตารางรายงานงบประมาณปี ๒๕๖๔ นี่ปี ๒๕๖๖ รายงานการใช้จ่ายเงิน ปี ๒๕๖๔ เป็นของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ ๒๕ ในขณะนั้น ปรากฏว่าผมนั่งอ่านดูปี ๒๕๖๔ แผนยุทธศาสตร์ของท่านในการปฏิบัติงานลดลงกับปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๓ ก็มีสถานการณ์โควิด แล้วก็มาลดลงจากการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเหลือร้อยละ ๕๐ กว่า ลดลงมากครับ ก็เลย มีคำถามว่างบปี ๒๕๖๔ ลดลงโดยท่านอ้างสถานการณ์โควิดกับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้าน พอปี ๒๕๖๕ มันขยับขึ้นหรือมีวิธีการอย่างไร เมื่อสักครู่ผมฟังทาง สตง. บอกว่าเนื่องจาก ขาดบุคลากร เรื่องร้องเรียนมันเยอะก็เลยทำให้การปฏิบัติงานล่าช้า ก็เลยอยากทราบว่า ท่านได้แก้ไขข้อบกพร่องตรงนี้อย่างไร แล้วในปี ๒๕๖๕ ท่านได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือเท่าเดิมกับปี ๒๕๖๔ ท่านประธานที่เคารพครับ ประเด็นใหญ่ที่ผมเรียนตั้งแต่ต้นว่า ผมรอที่จะขอฝากไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินในเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นั่นก็คือเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดเมื่อวันที่ ๒๙ ปี ๒๕๖๖ ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ นราธิวาส ต้นฉบับ

ท่านอาจจะถามว่าแล้วมันเกี่ยวอะไร กับผู้ตรวจการแผ่นดิน วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สภาเราได้ยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา เพราะถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโกดังพลุระเบิดที่มูโนะมีผู้เสียชีวิต ๑๒ ราย บาดเจ็บ ๑๐๐ กว่าราย บ้านเรือนเสียหายเกือบ ๖๐๐ หลังคาเรือน ท่านเพื่อนสมาชิกที่อยู่ในพื้นที่ หลายท่านได้อภิปราย ผมก็เป็นหนึ่งในเจ้าของญัตติด้วยวาจาพรรคประชาชาติเรา เราก็ได้ เสนอแนะไปยังนายกรัฐมนตรีรักษาการและคณะรัฐมนตรีรักษาการให้หันลงไปดูแล อย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นายกรัฐมนตรีรักษาการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินทางไปมอบเงินเยียวยาตามระเบียบของกองทุนบรรเทาสาธารณภัย ตามจำนวนศพละ ๕๐,๐๐๐ บาท ค่าเสียหายตามจำนวนที่ชาวบ้านบอกว่าก็ยังไม่พอ ที่จะบรรเทา ผมสรุปอย่างนี้แล้วกัน วันที่ ๗ สิงหาคม เมื่อไม่กี่วันนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เดินทางลงไป ผมก็ดีใจถือว่าญัตติด่วนด้วยวาจาของเรานี้ได้ผล ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการ เข้าไปดูแล แล้วก็ได้มอบถุงยังชีพ แล้วก็ไปกำชับหน่วยงานเอาสถาบันการเงินไป ปรากฏว่า อย่างไรครับ มันมีภาพสะท้อนตามภาพที่ผมให้ดู ตอนนี้มีเงินบริจาคกองทุนดูแลผู้บรรเทา ความเดือดร้อน มีคนบริจาคแล้ว ๒๖ ล้านบาทเศษถ้าผมจำไม่ผิด บัญชีนี้เป็นบัญชีดูแล โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และมีคนเอกชนเข้าไปบริจาคเยอะมาก ท่านประธานครับ แต่ปรากฏว่าอย่างไรครับ ผ่านมาเกือบ ๒ อาทิตย์ชาวบ้านยังไม่ได้รับเงินบริจาค ยังไม่ได้รับ เงินบริจาคเลยนะครับ ขออนุญาตต่อนิดหนึ่งเพราะว่ามันเป็นประเด็นสำคัญ ยังไม่ได้รับ เงินบริจาค ตามภาพ Slide ที่ผมให้ดูนี้เที่ยวไปตั้งกล่อง ตั้งอะไรขอรับบริจาคหน้าบ้าน ตัวเอง ตามซากปรักหักพัง เป็นภาพที่มันย้อนแย้งกับคนที่มีใจที่จะบริจาค แต่ยังไม่ได้รับเงิน เขาต้องการบรรเทาความเดือดร้อนโดยการไปประกอบอาชีพบ้าง ถ้ารอบ้านเสร็จไม่รู้เมื่อไร สิ่งที่ผมอยากเรียนเสนอทางผู้ตรวจการแผ่นดินตามอำนาจหน้าที่ของท่าน ก็คือในมาตรา ๒๒ ของ พ.ร.บ. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ผมอยากให้ท่านลงมาดูเรื่องนี้ ผมดูตามรัฐธรรมนูญก็เป็น อำนาจหน้าที่ของท่านนะครับ ให้ประชาชนมูโนะ คน ๓ จังหวัดได้รู้จักผู้ตรวจการแผ่นดินหน่อย นี่คือความเดือดร้อน ทำไมผมถึงยังพูดอย่างนั้น ก็รัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๓๐ (๒) เขาบอกว่า ให้ท่านผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง เมื่อเห็นว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่ และอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเสนอแนะ ต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ขจัด หรือระงับความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรม ท่านประธานครับ กรณีมูโนะมันไม่ใช่เฉพาะเหตุพลุโกดังระเบิดกับเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิด มันมีประเด็นที่สะท้อนให้เห็นถึงการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน เหมือนที่ เพื่อนสมาชิกได้อภิปรายก่อนนี้ หรือก็ได้นำเสนอก่อนนี้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการละเว้น ปฏิบัติหน้าที่นั่นคือเก็บส่วย จนเป็นเหตุให้โกดังตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ผมอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอแนะการเยียวยาเพิ่มเติม ขออนุญาตเรียนท่านประธานถึงผู้ตรวจการแผ่นดินนะครับ มันอย่างนี้ครับ ท่านมีอำนาจหน้าที่อยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๒ (๒) ท่านเสนอไปยัง ศอ.บต. หน่อย ศอ.บต. ถ้าท่านเป็นคนเสนอเขาจะมี ความมั่นใจในการเสนอ เพราะกรณี ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้มันจะมีคณะกรรมการ ด้านยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าด้วยการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากการกระทำของเจ้าหน้าเกี่ยวกับความไม่สงบ ตรงนี้คณะกรรมการ กพต. โดยมี รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งหัวโต๊ะ แต่เขาจะต้องฟังความเห็น เสนอของ ศอ.บต. เสนอชงขึ้นไป ชงขึ้นไปแล้วถ้าได้รับเข้าเงื่อนไขตรงนี้มันจะได้เงินศพละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท แล้วก็จะได้ครอบครัวละไม่เกิน ๗ ล้านบาท ฝากท่านไปดูข้อกฎหมาย เพราะว่าคำว่าสถานการณ์ความไม่สงบไม่เฉพาะแต่การกระทำของผู้ก่อการร้าย การกระทำ ของเจ้าหน้าที่ การละเว้นปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรณีกรือเซะ-ตากใบก็ถือเป็นการกระทำ ของเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. เคยจ่ายโดยเอาระเบียบ กพต. ไปจ่ายแล้ว ------------------------------- กรณีนี้ก็เช่นกันผมถือว่าเหตุตรงนั้นมันเกิดขึ้นจากการละเว้น ถึงไม่ใช่ผลโดยตรงจาก การกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่ถือว่าเป็นการละเว้น อยากให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งคณะกรรมการไปแสวงหาข้อเท็จจริงในพื้นที่ ท่านจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงตอนนี้ หลายประเด็น หลายเรื่อง ผมไม่มีเวลาที่จะอภิปรายตรงนี้ แล้วคน ๓ จังหวัดจะรู้จัก ผู้ตรวจการแผ่นดินมากกว่านี้ ฝากด้วยนะครับ ผมใช้เวลาของสภาเกินไป ๔ นาที ถ้าท่าน ดำเนินการไปแสวงข้อเท็จจริง ท่านเสนอไปยัง ศอ.บต. แล้วก็นำเสนอข่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ ผมจะตบมือดัง ๆ แทนพี่น้อง ๓ จังหวัด แทนพี่น้องชาวมูโนะให้ดังยิ่งกว่าพลุระเบิดอีกครับ ขอขอบคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ขอบคุณครับ ต่อไปท่านธิษะณา ชุณหะวัณ เชิญครับ ท่านสุดท้ายนะครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

กราบสวัสดีประธานที่เคารพ ดิฉัน ธิษะณา ชุณหะวัณ สส. แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต ๒ หรือเขตปทุมวัน เขตสาธร และเขตราชเทวีค่ะ วันนี้ดิฉันมาอภิปรายเรื่องรายงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน ปี ๒๕๖๕ เริ่มต้นก็จะพูดถึงอำนาจและหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติ อย่างเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญ ก็คือหน้าที่ตามมาตรา ๒๒ หมวด ๒ ในการรับเรื่องร้องเรียน แสวงหาข้อเท็จจริง และเสนอแนะต่อหน่วยงานรัฐให้แก้ไขความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชน และหน่วยงานรัฐจะต้องปฏิบัติตามภายในระยะเวลาที่กำหนด มีสายด่วน ๑๖๗๐ สำหรับประชาชนโทรศัพท์ร้องเรียน แล้วก็เรื่องที่ได้รับร้องเรียนจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ๕,๒๕๐ เรื่อง จัดการเสร็จแล้ว ๒,๘๓๙ เรื่อง ซึ่งก็นับเป็น ๕๔ เปอร์เซ็นต์ของการแก้ไขปัญหา ส่วนมากจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน ผลกระทบจากโควิด เช่น กรณีช่วยเหลือโกดังเก็บ น้ำมันไฟไหม้ ปัญหาโรงเรียนเอกชนได้รับผลกระทบจากโควิด แล้วก็ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ในปี ๒๕๖๕ มีกฎหมายที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมด ๓๔ เรื่อง เสนอเรื่องต่อศาล ๑ เรื่อง ยุติการพิจารณา ๓๓ เรื่อง การกระทำของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ รัฐ ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ๔๖ เรื่อง เสนอเรื่องต่อศาล ๓ เรื่อง ยุติการพิจารณา ๔๓ เรื่อง ๙๙ เปอร์เซ็นต์ที่ยุติการพิจารณาไป การถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพที่ขัดหรือแย้งกับ รัฐธรรมนูญ รับเรื่อง ๖๒ เรื่องยุติการพิจารณา ๖๒ เรื่อง ข้อสังเกตรายงานของผู้ตรวจการ แผ่นดินมีลักษณะที่จะต้องเป็นศูนย์ดำรงธรรมตามรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการควรที่จะทำ เฉพาะงานที่เป็นเรื่องที่สำคัญกับประชาชน เป็นการละเมิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ หรือจาก หน่วยงานรัฐ หรือจากภาครัฐที่กระทำต่อประชาชน ดิฉันและประชาชนคนไทยจึงหวัง เป็นอย่างยิ่งที่ท่านจะเป็นเสาหลักในการธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมแก่ประชาชนไทย ตามสิทธิเสรีภาพที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องส่วนใหญ่ที่ผู้ตรวจการหยิบยกมา ดำเนินการเป็นเรื่องที่ประชาชนสามารถนำมาร้องเรียนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขต ของตน และตอนนี้ก็มี สส. ที่จะปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ข้อสังเกตของดิฉันคือประเด็น เรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมือง และเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจ กดขี่ข่มเหงประชาชนจนเกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐและประชาชนค่ะ กรณีตัวอย่างที่อยากจะ ยกมาเข้าเกณฑ์เรื่องดังกล่าว เป็น Case ที่เกี่ยวกับผู้อยู่อาศัยภายในเขตของดิฉันหรือ เขตราชเทวีนั่นเองค่ะ คือกรณีกระทรวงกลาโหมและสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ดูแลการระงับ เหตุทางการเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี ๒๕๕๓ ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งว่าได้มีการประสาน ไปยังทุกหน่วยงานรัฐเพื่อให้ดำเนินการ รวมทั้งติดต่อไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินหลายปีแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นเพียงหนังสือราชการที่ระบุว่าจะแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบ การพิจารณาโดยตลอด แบบนี้ถือเป็นการให้คำสัญญาเพียงลมปากหรือไม่คะ กรณีที่ ยกตัวอย่างมาเมื่อเปรียบเทียบกับรายงานที่ได้ค้นหา จะเห็นได้ว่าสำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดินมีแนวโน้มที่จะหยิบเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ น้ำไหลไฟดับ ชีวิตประจำวันมาดำเนินการ แต่เรื่องใหญ่ ๆ ที่ส่งผลกระทบกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เชิงการเมือง หรือสิทธิพลเมือง สิทธิมนุษยชน สำนักงานกลับไม่มีท่าทีว่าจะเร่งดำเนินการพิจารณาข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไข ปัญหาคลายทุกข์ คืนสุขให้แก่ผู้ร้องเรียนมาแต่อย่างใด แบบนี้หน่วยงานของท่านจะเป็นเพียง แค่หน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะน้ำไหลไฟดับทำนองนี้หรือไม่ จึงอยากขอ ชี้แจง ณ จุดนี้นะคะ ดิฉันขอรูปภาพประกอบด้วยค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ท่านผู้อภิปรายครับ ภาพที่ท่านขออนุญาตนั้นมันหมิ่นเหม่นะครับ เป็นภาพที่ฝ่ายโสตไม่ได้ อนุญาต ต้องขออภัยด้วยนะครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

มันเป็นภาพเหตุการณ์จริง ที่ผู้ร้องเรียนได้ส่งมาให้ดิฉันนะคะ เป็นภาพหลักฐานที่กองทัพไทยใช้ปลอกกระสุนยิ่งใส่เข้าสู่ บ้านเรือนของพลเรือนที่อยู่ในเขตของดิฉัน แล้วเขาได้รับอนุญาตจากผู้ร้องเรียนเรียบร้อย แล้วให้เผยแพร่ภาพดังกล่าวค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

แต่ว่าทางสภาผู้แทนได้พิจารณาว่าไม่สามารถที่จะเอามานำแสดงในห้องประชุมได้นะครับ ต้องขออภัยครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

คุณภัทเป็นผู้อยู่อาศัย ในเขตราชเทวี ปัจจุบันเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิงจากการสลายการชุมนุม ขณะที่อาศัยอยู่ใน บ้านพักและมองผ่านช่องประตูบ้าน หลังถูกยิงคุณภัทต้องปีนตึกขึ้นหลังบ้านออกไปหาหมอ ด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากบริเวณหน้าบ้านของเธอนั้นรถพยาบาลไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะเป็นพื้นที่สีแดงนะคะ คุณภัทเข้ารับรักษาพยาบาลหมดค่ารักษาไปเหยียบ ๓ ล้านบาท เธอได้รับผลกระทบด้านสุขภาพระยะยาวหลายประการ โดยเฉพาะระบบเส้นประสาท จุดที่ถูกยิง การรับรู้ร้อนหนาวผิดปกติ ได้รับผลกระทบกับระบบ Thyroid เกิดอาการบ้านหมุน ขาอยู่ไม่สุข ตัวกระตุก เวลานอนก็คือกระตุก ทำให้ต้องกินยารักษาที่ส่วนใหญ่มีผลกระทบ กับระบบประสาท คุณภัทต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายพยาบาลทุกวันนี้ที่มาจากผลกระทบ ในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐประมาณเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท ภายหลังการรักษา คุณภัทได้รวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนจริง ๑๐ นัด จะเป็นหลักฐานที่จริง ๆ แล้วดิฉันมีรูปประกอบ แล้วก็ด้านหลังกระสุนปืนสลักไว้ว่า Royal Thai Army หรือว่า กองทัพไทยนั่นเองภายหลัง ซึ่งเป็นปลอกกระสุน M16 ๑๐ นัด และกระสุนยางอีก ๒ นัด คุณภัทเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจ ร้องต่อศาล ป.ป.ช. DSI กระทรวงต่าง ๆ รวมถึง ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งถึงตอนนี้คุณภัท ได้ร้องเรียนมายังแก้ว แล้วได้พูดคุยอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่เรียกร้องคือการชดเชยอย่างเหมาะสม จากการที่คนพิกลพิการในระยะยาว ไม่ใช่การเยียวยาเพียงระยะสั้นเท่านั้นนะคะ เพราะว่า ค่าใช้จ่ายก็ทวีคูณขึ้นจากผลกระทบที่ได้รับผลข้างเคียงจากการถูกยิงคราวนั้น ทั้งนี้การรื้อฟื้น คดีการสลายการชุมนุมเมื่อปี ๒๕๕๓ เรื่องราวของคุณภัทจะเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกนำมา เป็นหลักฐานพยานเพื่อสืบค้นหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การแสวงหาความจริง ความรับผิดชอบ การละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือที่เรียกว่า Accountability ความโปร่งใส และความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อที่จะนำคนผิดมารับโทษ ยุติวงจรวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ และคืนความยุติธรรมให้แก่เหยื่อความรุนแรงของรัฐค่ะ สิ่งนี้เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องที่ดิฉัน อยากจะเสนอแนะให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทำการแสวงหาข้อเท็จจริงและทำการใส่ใจมากยิ่งขึ้น ในประเด็นที่กระทบกับสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง หรือเรียกได้ว่าเป็นอาชญากรรม ต่อมนุษยชาติที่บัญญัติอยู่ในธรรมนูญกรุงโรม อยากให้ทุกท่านได้ให้ความสำคัญกับ เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ส่งผลกับประชาชนไทยหลาย ๆ คน นอกจากนั้นก็ยังมีข้อเสนอแนะที่จะรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Internet เมื่อเปรียบเทียบ กับระบบของประเทศนิวซีแลนด์ที่จะสามารถทำได้ครอบคลุมและง่ายดายกว่า จริง ๆ แล้ว ดิฉันจะต้องมีเปรียบเทียบระบบด้วย แต่ว่าตอนนี้เวลาไม่พอ ข้อสังเกตถึงปริมาณเรื่องร้องเรียน ที่ดำเนินการเสร็จแล้วของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่พูดมาข้างต้นแทบจะมีการยุติเรื่องร้องเรียน แทบทั้งสิ้นเลย แล้วก็ข้อสังเกตเรื่องร้องเรียนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการเสร็จแล้ว โดยมากจะเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจและหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

เชิญท่านรองเลขาธิการครับ เชิญชี้แจง

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

กราบเรียนท่านประธานสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพทุกท่านครับ กระผม นายฑิฆัมพร ยะลา ตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินครับ ก่อนอื่น ก็ต้องขอขอบคุณทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่กรุณาได้ทำการตรวจประเมิน การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมทั้งให้ข้อแนะนำ และข้อสังเกตต่าง ๆ ซึ่งทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้นำข้อสังเกต ความเห็นต่าง ๆ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไปปรับปรุงแก้ไข ซึ่งบางเรื่องก็ดำเนินการแก้ไขเสร็จแล้ว บางเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอยู่นะครับ แล้วก็ต้องขอขอบคุณ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กรุณาให้คำแนะนำแล้วก็สอบถามเกี่ยวกับประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ท่านวิรัชได้กรุณาสอบถามถึง หน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจอะไรบ้าง ที่ทาง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้เขียนไว้ในรายงานนี้จะเป็นหน้าที่ของสำนักงาน ซึ่งมีหน้าที่ ในการสนับสนุนงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน จริง ๆ แล้วถ้าเราไปดูเรื่องหน้าที่และอำนาจ ของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ระบุไว้ในมาตรา ๒๓๐ มาตรา ๒๓๑ ของรัฐธรรมนูญ แล้วก็ดู พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินปี ๒๕๖๐ ในมาตรา ๒๒ จะระบุหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้อย่างชัดเจน ผู้ตรวจการแผ่นดินถ้าดูแล้ว มันจะระบุไว้ในมาตรา ๒๒ มีหน้าที่และอำนาจที่อยู่ ๔ ประการ หน้าที่แรก เสนอให้มี การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง ขั้นตอนการปฏิบัติงานใด ๆ ที่ก่อให้เกิด ความเดือดร้อน ความไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระแก่ประชาชน หน้าที่ที่ ๒ ให้มีการแสวงหา ข้อเท็จจริงในกรณีที่หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏิบัติ หรือปฏิบัตินอกเหนือ หน้าที่และอำนาจแล้วก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน เราก็เข้าไปแสวงหา แล้วก็มีการเสนอให้มีการขจัดปัดเป่าความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนหน้าที่ที่ ๓ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงกรณีที่หน่วยงานของรัฐยังปฏิบัติไม่ครบถ้วน ถูกต้องตามหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ ส่วนหน้าที่ที่ ๔ เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย อื่น อันนี้ก็เป็นหน้าที่ ๔ ประการที่ระบุไว้ในมาตรา ๒๒ นอกจากจะระบุไว้ในมาตรา ๒๒ ในมาตรา ๒๓ ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินก็ยังให้หน้าที่ และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่พระราชบัญญัติ มีความขัดแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ แล้วก็อันนี้ให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ส่วนกฎ คำสั่ง ระเบียบต่าง ๆ ถ้ามีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือว่ามีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมาย ก็ให้เสนอต่อศาลปกครอง อันนี้เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินในประการถัดมา ส่วนที่ ระบุไว้ในประเด็นที่ ๔ ในกรณีที่ ๔ คือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายอื่น ขณะนี้ก็มี การเขียนไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๑ ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าไปมีอำนาจในการที่จะเสนอ ประการแรก คือระบุไว้ใน มาตรา ๔๕ ของ พ.ร.ป. ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่ร้องเรียนเกี่ยวกับหมวด ๘ เสนอต่อ ครม. ก่อนที่ทางผู้ร้องจะไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อันนี้ผมพูดถึงคร่าว ๆ คงจะไม่ลง รายละเอียด

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนในมาตรา ๔๖ จะเป็นเรื่องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๑๓ ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องสิทธิและเสรีภาพที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ อันนี้ก็ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา ก่อนเสนอทางศาลรัฐธรรมนูญ อันนี้เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินครับ ทีนี้ที่ท่านบอกว่า กฎหมายต่าง ๆ ที่ล้าสมัย ไม่เป็นธรรม ขณะนี้จริง ๆ แล้วมันอยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ผู้ตรวจการแผ่นดินในมาตรา ๒๒ (๑) ที่ผมกล่าวไว้ในตอนต้น ซึ่งขณะนี้ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการจัดตั้งหน่วยที่เข้าไปพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายที่มีความล้าสมัยหรือว่าไม่เป็นธรรม แก่ประชาชน อันนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งเพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจำเป็น ต้องใช้เวลาในการพิจารณา แล้วก็จำเป็นจะต้องใช้บุคลากร ซึ่งจริง ๆ แล้วบุคลากรเรามี จำนวนน้อย เกี่ยวกับเรื่องสอบสวนมี ๑๐๐ กว่าท่าน ถ้าเกิดมีการเข้าไปทำเต็มรูปแบบ ในเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอาจจะต้องมีการเพิ่มจำนวนบุคลากร ซึ่งอาจจะต้องขอรับ การสนับสนุนงบประมาณ ก็ขอฝากไปยังท่านสมาชิกช่วยผลักดันเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ กรณีที่ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอขอจากสำนักงบประมาณด้วยนะครับ

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนถามว่าประชาชนไม่รู้จักผู้ตรวจการแผ่นดิน จริง ๆ แล้วผู้ตรวจการ แผ่นดินได้พยายามที่จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งทำโครงการ อย่างเช่นโครงการผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจร ซึ่งเราได้ดำเนินการปีละ ๖ ครั้ง ผู้ตรวจการ แผ่นดินสัญจรวิธีการก็คือเราจะออกไปยังพื้นที่ที่มีความเชื่อมั่นของประชาชนน้อย เราเข้าไป ชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยงานและประชาชน ซึ่งเราทำครั้งละประมาณ ๔๐๐-๕๐๐ คน ประชาชนรวมทั้งหน่วยงานที่เข้ามาร่วม นอกจากนี้เรายังมีการจัดรถ Mobile เคลื่อนที่ หรือเรียกว่า Ombudsman Care ไปรับเรื่องร้องเรียนพร้อมกับมีการให้ความรู้แก่ประชาชน อันนี้เราทำรูปแบบขนาดเล็ก เพราะว่าถ้าใช้ขนาดใหญ่จะเป็นการใช้งบประมาณค่อนข้างมาก อนาคตอาจจะมีการของบประมาณเช่นเดียวกัน ก็ขอให้ท่านช่วยสนับสนุนผลักดันงบประมาณ เกี่ยวกับเรื่องการประชาสัมพันธ์ของผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยนะครับ นอกจากนี้ทางผู้ตรวจการ แผ่นดินขณะนี้ได้ทำลักษณะที่ว่าเครือข่าย เราทำเครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งขณะนี้ เราทำไปแล้วประมาณ ๔๐ จังหวัด เพื่อเราเผยแพร่บทบาท หน้าที่ อำนาจ แล้วก็ให้ความรู้ แล้วก็รวมทั้งให้เขาเป็นมือในการที่ว่าเข้ามาช่วยสนับสนุน แล้วก็ให้คำแนะนำแก่ประชาชน เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจ รวมทั้งสิ่งที่เขาได้รับความเดือดร้อนจากหน่วยงานก็สามารถ ที่จะมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้ ซึ่งขณะนี้ที่ผมกล่าวไปในตอนแรกเราทำไปแล้ว ๔๐ กว่าจังหวัด มีกำนันผู้และใหญ่บ้านเป็นเครือข่าย ๔๐,๐๐๐ กว่าคน รวมทั้งจะมีส่วนที่ เป็นแขวง เช่นส่วนราชการต่าง ๆ ที่เข้าร่วม รวมทั้งท้องถิ่นต่าง ๆ ที่เข้าร่วม อันนี้ก็คาดว่า จะเป็นประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ กว่ารายแล้ว ซึ่งเรากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาลงไป เพื่อที่จะไปประเมินสิ่งที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินทำไปแล้วว่าได้ผลตอบแทนมาลักษณะไหน อันนี้ก็เป็นหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมทั้งช่องทางต่าง ๆ ที่เรานำไปเสนอต่อ ประชาชนให้ทราบถึงบทบาท หน้าที่และอำนาจ แล้วก็ขณะเดียวกันในฐานะที่ท่านเป็น ผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนทั่วประเทศ ตรงนี้ผมอยากจะขอฝากทางท่านไปเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่และอำนาจ รวมทั้งการที่จะเป็น กระบอกเสียงในการที่จะให้ทางประชาชนได้รับความเดือดร้อนเข้ามาใช้บริการของสำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน ช่องทางแรกจะเป็นเรื่องสายด่วน ๑๖๗๖ ของสำนักงานผู้ตรวจการ แผ่นดิน อันนี้โทรฟรีได้ทุกเวลานะครับ นอกจากนี้เรายังมี Application Ombudsman ซึ่งสามารถที่จะร้องเรียนผ่านช่องทางนี้ก็ได้ แล้วยังมีทางไปรษณีย์สามารถจะส่งมาทาง ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ นอกจากนี้เรายังมี Website www.ombudsman.go.th ที่ว่าสามารถ จะร้องผ่านช่องทางนี้ได้ ขณะเดียวกันถ้าไม่สะดวกอยากจะมาพบเจ้าหน้าที่ ปรึกษาเจ้าหน้าที่ ก็สามารถที่จะมาร้องเรียนได้ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการ เฉลิมพระเกียรติ หลักสี่ แจ้งวัฒนะ อันนี้ก็เป็นเรื่องหน้าที่ แล้วก็เป็นช่องทางต่าง ๆ ในการที่ประชาชนสามารถจะเข้าถึงทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้ ก็น่าจะตอบคำถาม ไปถึงยังของท่านกมลศักดิ์ด้วยเกี่ยวกับเรื่องเมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินยังไม่เป็นที่รู้จักนะครับ

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องที่ว่าแผนลดลงจากปี ๒๕๖๓ ในปี ๒๕๖๔ นี้ก็อย่างที่ท่านว่าคงจะ หลีกเลี่ยงไม่ได้กับคำว่ามีสถานการณ์โควิด ซึ่งขณะนั้นสถานการณ์โควิดต้น ๆ ปีรุนแรง ซึ่งห้ามมีการจัดประชุมใหญ่ ซึ่งโครงการเราส่วนใหญ่แผนงานก็จะเป็นเรื่องการจัดประชุม เช่นผู้ตรวจการแผ่นดินสัญจร อย่างนี้ก็ทำให้แผนงานต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ อันนี้ก็เป็นสาเหตุที่แผนงานเราลดลงจากปีก่อนนะครับ

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนเรื่องการขาดบุคลากร จริง ๆ แล้วทางสำนักงบก็ให้งบประมาณมา ในการบรรจุบุคลากร แต่ทว่าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็ได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐาน ในการที่จะรับบุคคลเข้ามาค่อนข้างสูงมากนะครับ อันนี้ก็ทำให้บุคลากรที่ได้รับมีการสอบ ได้มาจำนวนน้อย ซึ่งต่อมาเราได้พยายามลดเกณฑ์ลงนิดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ไม่ต่ำกว่า มาตรฐาน เพื่อที่จะให้มีการบรรจุบุคลากรเข้ามาปฏิบัติงาน ช่วยเหลือบุคลากรที่เรามี ปฏิบัติอยู่ในด้านการสอบสวนประมาณ ๑๐๐ กว่าคน ถ้าได้เข้ามาก็สามารถที่จะช่วยเหลือ ในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นประมาณปีละ ๓,๐๐๐ กว่าเรื่องสามารถ จะพิจารณาด้วยความรวดเร็ว สาเหตุที่ค้างก็คืออย่างที่ว่าบุคลากรเราน้อย โดยเฉพาะ สายสอบสวนซึ่งทำเรื่องการสอบสวน แล้วหน้าที่และอำนาจต่าง ๆ นอกจากการรับ เรื่องร้องเรียน เราจะทำเรื่องเชิงระบบซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดต่าง ๆ สามารถที่จะไปแก้ไขได้ ในภาพรวมทั้งประเทศเราก็ดำเนินการด้วย ในขณะเดียวกันก็มีการหยิบยกของผู้ตรวจการ แผ่นดินในการดำเนินการเกี่ยวกับหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องสิทธิพื้นฐานแล้วก็ สิทธิขั้นต้นที่ประชาชนจะได้รับ ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นหน้าที่หน่วยงานของรัฐ ที่ต้องจัดให้ เราต้องใช้กำลัง ใช้งบประมาณไปในหลาย ๆ ด้าน ก็จึงทำให้งานของเราเกิด ความล่าช้าครับ อันนี้ก็เป็นส่วนที่ชี้แจงทางท่านวิรัชกับท่านกมลศักดิ์

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ของท่านกมลศักดิ์อย่างเรื่องมูโนะซึ่งท่านได้กรุณาฝากไว้ ซึ่งเมื่อสักครู่นี้ ผมได้ทำการประสานกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบแล้ว ก็ทราบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ ได้พิจารณาที่จะเสนอผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อหยิบยกขึ้นมา เพราะว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถที่จะรับเรื่องได้อยู่ ๒ อย่าง ก็คือ ๑. มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ๒. เป็นเรื่องหยิบยก ซึ่งขณะนี้ทางผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาจะหยิบยกอยู่นะครับ ซึ่งเรื่องทางภาคใต้ผู้ได้รับ ผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรง เรื่องการจ่ายเงินเยียวยาทางท่านผู้ตรวจการแผ่นดิน คือท่านทรงศักดิ์ สายเชื้อ ก็ได้ลงไปดูเรื่องนี้เหมือนกันเรื่องเงินเยียวยา พบว่ามันมีปัญหา เรื่องระเบียบการจ่ายเงิน ก็ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ โดยเฉพาะ ศอ.บต. ให้เป็นเจ้าภาพหลักในการออกระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชย ขณะนี้อยู่ระหว่าง การติดตามจาก ศอ.บต. ว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว อันนี้ก็เป็นส่วนที่ทางท่านกมลศักดิ์ ได้กรุณาสอบถามมาครับ

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนกรณีของท่านธิษะณา ก็ขอกราบเรียนอย่างนี้ครับ กรณีเรื่องสิทธิมนุษยชน จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบก็คือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่งรับผิดชอบอยู่แล้ว ในส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินก็เป็นเรื่องการปฏิบัติ การไม่ปฏิบัติ การปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่ ของพนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานของรัฐ อันนี้เราเข้าไปดำเนินการตรวจสอบแสวงหา ข้อเท็จจริง

นายทิฑัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้นฉบับ

ส่วนประเด็นที่ท่านได้กรุณาพูดถึงเรื่องผู้อยู่อาศัยที่ว่าได้รับความเดือดร้อน จากการสลายการชุมนุม ซึ่งเราเองก็ได้ทำการประสานกับผู้เกี่ยวข้องแล้วก็พบว่าเรื่องนี้ เรารับไว้เมื่อปี ๒๕๖๕ ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วในเรื่อง การแสวงหาข้อเท็จจริงไม่ใช่เพียงแต่ว่าเราสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เรายังมี การเรียกประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งในเรื่องที่ท่านกล่าวถึงนี้อยู่ระหว่าง การพิจารณาอยู่ว่าจะมีการจัดประชุมอะไร เมื่อไร อย่างไร เพื่อเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับ ความเดือดร้อนหรือผลกระทบจากการสลายชุมนุมที่ท่านกล่าวถึงเมื่อครู่นี้ครับ อันนี้ก็เป็น เรื่องที่กระผมขอชี้แจงให้ท่านประธานแล้วก็ที่ประชุมรับทราบครับ ขอกราบขอบพระคุณครับ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ท่านธิษะณายังติดใจอยู่ เชิญครับ

นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ กรุงเทพมหานคร ต้นฉบับ

ขออนุญาตนะคะ กราบเรียนท่านประธานนะคะ ที่ท่านพูดว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ มันเป็น การละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แล้วก็ผู้ร้องเรียนสามารถที่จะร้องเรียนการละเมิด ของเจ้าหน้าที่รัฐไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินได้ หากมันขัดกับสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลักฐานของดิฉันเป็นหนังสือที่ส่งให้กับผู้ตรวจการแผ่นดิน เลขที่ ผผ ๑๑๐๓/๕๖๗ เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาของผู้ได้รับความเสียหายจากความไม่สงบ ทางการเมืองในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ บริเวณปากซอยเพชรบุรี ๒๙ ตรงสะพานชิดลม ก็เป็นเรื่องที่ดิฉันได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ หนังสือนี้ถูกส่งถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว ในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกสารที่ดิฉันไม่สามารถที่จะขึ้นหน้าจอได้ เมื่อสักครู่น่าเสียดาย แต่ว่าผู้ร้องเรียนก็ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องขออนุญาตชี้แจงมา ณ ที่นี้ เนื่องจากเมื่อสักครู่ไม่ได้มีโอกาสที่จะเปิดเลขหนังสือ ให้ท่านดูถึงผู้ร้องเรียน กราบขอบพระคุณค่ะ

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ต้นฉบับ

ท่านรองรับไปตรวจสอบก็แล้วกันนะครับ มีท่านอื่นอีกไหม ถ้าไม่มีท่านใดยังติดใจสงสัยนะครับ ก็ถือว่าที่ประชุมรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน สำหรับ ปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินนะครับ ก็ต้องขอบคุณ ทั้ง ๒ หน่วยงานที่ได้ให้เกียรติกับสภา ขอบคุณมากครับ ท่านสมาชิกครับ วันนี้เราพิจารณา มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ผมขอปิดการประชุมครับ