กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตหารือท่านประธานใน ๓ หัวข้อ ดังนี้ครับ
๑. ปัญหาไฟส่องสว่างถนน ๒ เส้นทาง รับแจ้งจากนายอุดม แซ่เลี้ยว นายก องค์การบริหารส่วนตำบลกันตังใต้ ถึงปัญหาถนนทางหลวงชนบทตรัง หมายเลข ๒๐๓๒ กันตัง-กันตังใต้ ระยะทางกว่า ๙ กิโลเมตร ซึ่งถนนสายนี้เป็นถนนสายหลักในการสัญจร ของพ่อแม่พี่น้องในเขตพื้นที่รวม ๖ หมู่บ้าน แต่ยังขาดไฟส่องสว่างตลอดเส้นทาง รวมไปถึงถนนทางหลวงหมายเลข ๓๐๑๐ จากสะพานแก้มดำเชื่อมต่อถนนทางหลวงชนบท หมายเลข ๔๐๐๘ ตรัง-บางสัก ระยะทางประมาณ ๑๔ กิโลเมตร ซึ่งได้รับแจ้งจาก นายฉัตรชัย ปัตตานี กำนันตำบลโคกยาง ถึงปัญหานี้เช่นกัน ถนน ๒ สายนี้ครับท่านประธาน มีรถบรรทุกและรถสินค้าเป็นจำนวนมาก เกรงว่าจะเกิดอันตรายในการสัญจร จึงอยากเรียน ผ่านท่านประธานสภาไปยังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ได้ทำการสำรวจและติดตั้ง ไฟส่องสว่าง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อำนวยความสะดวก และเพิ่มศักยภาพในพื้นที่
เรื่องที่ ๒ ปัญหาการขาดแคลนน้ำใน ๓ ตำบล รับแจ้งจากนายสมชาย หอยสังข์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกยาง นายปรีชา ตั้นซ้าย นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลคลองลุ นายเอนก ปรีชา นายกองค์การส่วนตำบลบ่อน้ำร้อน ถึงปัญหาที่ทาง การประปาส่วนภูมิภาคได้เข้ามาขยายเขตประปา จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๘ ปีแล้วครับ แต่ก็ยังไม่สามารถจ่ายน้ำในพื้นที่ได้ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากโครงการเกิดปัญหา จึงอยากเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค ให้เข้ามาเร่งรัดตรวจสอบปัญหา เพื่อให้พี่น้องในพื้นที่ได้มีน้ำใช้ด้วยครับ
เรื่องสุดท้ายครับ รับเรื่องจากนายทรงชัย สวนอินทร์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลควนโพธิ์ ถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ พื้นที่นี้เป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภอนาโยง ลงสู่คลองทุ่งค่าย ทุ่งกระบือ ในช่วงฤดูฝนของทุกปี ระยะทางกว่า ๑๔ กิโลเมตร แต่ปัญหา ที่เกิดขึ้นคือคลองดังกล่าวไม่ได้รับการขุดลอกมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความตื้นเขิน ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบให้ชาวบ้านกว่า ๑๐๐ หลังคาเรือน ได้เกิดความเสียหายในทุก ๆ ปี จึงอยากเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ของบประมาณช่วยเหลือในการดำเนินกิจการให้สำเร็จ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขตที่ ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่อำเภอกันตัง อำเภอสิเกา และอำเภอย่านตาขาว ขออนุญาตหารือท่านประธานใน ๓ หัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ครับ
เรื่องที่ ๑ ปัญหาเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคของ ๗ หมู่บ้านในตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต หรือแม้แต่กระทั่งพะยูนฝูงสุดท้ายก็อยู่แห่งนี้ ท่านประธานครับ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่าย เยี่ยมชม ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาสำคัญเลยคือปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนมาเป็น ระยะเวลานาน จึงอยากขอเรียนผ่านท่านประธานสภาไปยังการประปาส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทยให้ช่วยขยายเขต และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สังกัดกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาศึกษาสำรวจเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ดังกล่าวโดยเร็วด้วยครับ
เรื่องที่ ๒ รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ ๓ บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เช่นเดียวกันถึงปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งจนเป็นเหตุให้เกิด บ้านเรือนเสียหายนับ ๑๐ กว่าหลังคาเรือน ระยะความยาวจากหน้าหาดประมาณ ๓ กิโลเมตร ถ้าไม่รีบแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบ้านมดตะนอยเป็นอย่างมาก จึงอยากกราบเรียนท่านประธานสภาผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า ช่วยเข้าไปเร่งรัดศึกษาผลกระทบ เพื่อเร่งแก้ปัญหา ไม่ให้ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ครับ
เรื่องที่ ๓ เรื่องสุดท้าย ไฟส่องสว่างถนนกะลาเส แหลมไทร ในอำเภอสิเกา ได้ตัดจากเส้นทางหลักสาย ๔๐๔๖ สิเกา-ควนกุน เข้าไปยัง ๔ หมู่บ้าน ระยะทาง ๑๖ กิโลเมตร ได้แก่ หมู่ที่ ๓ บ้านแหลมไทร บ้านบางค้างคาว หมู่ที่ ๕ บ้านแหลมมะขาม และหมู่ที่ ๗ บ้านทุ่งทอง เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่อาศัยดังกล่าวนับ ๑,๐๐๐ กว่าหลังคาเรือน ใช้ถนนสายนี้เป็นถนนสายหลักในการสัญจร แต่ยังขาดไฟส่องสว่างตลอดเส้นทาง ประกอบกับมีโค้งที่อันตรายเยอะ เกรงว่าจะไม่ได้รับความสะดวกสบาย จึงมีความต้องการ ให้ทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบและทำการติดตั้งไฟส่องสว่าง เพื่อป้องกันอันตรายและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สัญจร ขอบคุณมากครับ
ท่านประธานครับ กาญจน์ ตั้งปอง ๐๑๖ แสดงตนครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ ผมขอเสนอรายชื่อ กรรมาธิการวิสามัญในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน ๑ ท่าน คือนางสุพัชรี ธรรมเพชร ขอผู้รับรองด้วยครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตหารือท่านประธานใน ๓ หัวข้อหลัก ๆ ดังนี้
๑. เรื่องไฟส่องสว่างถนนตรัง-กันตัง ทล.๔๐๓ ระยะทาง ๒๑ กิโลเมตร ถนนสายนี้สร้างแล้วเสร็จกว่า ๒๐ ปี และยังเป็นเส้นทางหลักของคนทั้งอำเภอกันตังในการ มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองตรัง แต่น่าแปลกใจมากครับท่านประธาน ที่ไฟส่องสว่างยังมีเพียงในช่วง บ้านคนไม่ตลอดทั้งเส้นทาง จึงอยากวิงวอนไปยังกรมทางหลวงประสานของบประมาณ ในการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่เกิดอันตรายในต่อไปครับ
๒. ขอประสานงบประมาณในการจัดทำโครงการก่อสร้างถนนทางหลวง หมายเลข ๔๐๔๖ สายตรัง-ควนกุน ระยะทาง ๒๒.๕ กิโลเมตร ได้มีการสำรวจไว้แล้วแต่ยัง ขาดงบประมาณ วันนี้มาเป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอสิเกา รวมถึงพี่น้องชาว จังหวัดตรังมาบอกถึงความหวังที่อยากจะให้ถนนเส้นนี้เป็นถนน ๔ เลนพร้อมไฟส่องสว่าง เพราะถนนเส้นนี้เป็นหัวใจหลักในการสัญจรของพ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอสิเกา รวมไปถึง นักท่องเที่ยวในการเดินทางเชื่อมต่อจังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพัทลุง จังหวัดสตูล นี่ยังไม่นับช่วงเทศกาลที่จะมีปริมาณรถที่หนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักในการมุ่งหน้าสู่ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล อันได้แก่ ท่าเรือปากเมงรถจะติดยาวเป็นกิโลเมตร จึงอยากวิงวอน ไปยังกรมทางหลวงช่วยจัดทำโครงการนี้เพื่อเป็นของขวัญให้กับพี่น้องชาวอำเภอสิเกา รวมถึง ชาวจังหวัดตรังด้วยครับ
เรื่องสุดท้าย โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเขาพลู อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ได้รับแจ้งจาก นายโชติ มลยงค์ นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลบางสักถึงโครงการนี้ว่า ได้มีการสำรวจปรับปรุงอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำ แห่งนี้เป็นหัวใจหลักในการจ่ายน้ำให้กับพี่น้องชาวตำบลบางสัก ตำบลนาเกลือ และบางส่วน ของตำบลเกาะลิบง ช่วยให้ชาวบ้านจำนวนกว่าพันหลังคาเรือนได้มีน้ำใช้อย่างยั่งยืน ถ้าโครงการนี้แล้วเสร็จครับท่านประธาน แต่โครงการนี้เกิดความล่าช้า จึงอยากเรียน ผ่านท่านประธานไปยังกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประสานผลักดัน งบประมาณให้แล้วเสร็จ เพื่อให้พี่น้องได้ใช้น้ำอย่างยั่งยืนตลอดปี ขอบคุณมากครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงาน บุคคลส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายทรงศักดิ์ มุสิกอง ขอผู้รับรองด้วยครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ขออนุญาตหารือท่านประธานใน ๒ หัวข้อหลัก ๆ ดังนี้
๑. ได้รับแจ้งจากนายวิวัฒน์ สุนทรนนท์ นายกเทศมนตรีตำบลย่านตาขาว ถึงปัญหาขยะและสถานที่จัดการขยะในพื้นที่เทศบาลตำบลย่านตาขาว จากการลงพื้นที่ สำรวจพบว่า บ่อขยะดังกล่าวที่ใช้มาแล้วอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ จนถึงปัจจุบัน รองรับขยะถึง ๑๐ ตันต่อวัน แล้วเกรงว่าในอนาคตอาจจะเกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศ พื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน จากการหารือร่วมกันพร้อมด้วย นายนันทะ ทองเพ็ง ผู้อำนวยการสาธารณสุขเทศบาลตำบลย่านตาขาว ได้ข้อสรุปว่าหากมี เครื่องผลิตขยะอินทรีย์ ซึ่งเป็นเรื่องนวัตกรรมของไทย จะช่วยในเรื่องของการลดขยะได้มาก และใช้งบประมาณน้อยกว่าการสร้างเตาเผาขยะ จึงอยากกราบเรียนท่านประธานสภา ไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประสานของบประมาณสนับสนุน ในการซื้อเครื่องผลิตขยะอินทรีย์ เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ในระยะยาวต่อไปครับ
๒. เรื่องสุดท้ายครับท่านประธาน เป็นเรื่องสัตว์อนุรักษ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพะยูนเป็นสัตว์ใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นพะยูนฝูงสุดท้ายของประเทศไทย ที่อาศัยอยู่บริเวณเกาะลิบง เกาะมุก ของอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง จากการสำรวจพบว่า ณ ปัจจุบันหญ้าทะเลเป็นอาหารของพะยูนนั้นลดลง สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากน้ำทะเลลดลง มากกว่าปกติ ระยะถอยร่นไปต่ำกว่าเดิมประมาณ ๕-๖ เมตร และลดแห้งเป็นเวลานาน ทำให้หญ้าทะเลผึ่งแห้งตายเป็นวงกว้าง นับเป็นปัญหาสำคัญที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งแก้ไขดำเนินการ ทราบว่าเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ท่านรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดตรังติดตามปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง กระผมในฐานะ สส. ในพื้นที่ขอเป็นตัวแทนของชาวตรังฝากความหวังในการแก้ปัญหา และขอขอบคุณท่านรัฐมนตรี ท่านพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผ่านทางสภาแห่งนี้ ที่ท่านไม่นิ่งนอนใจ รีบลงพื้นที่ติดตามด้วยตนเอง ขอขอบพระคุณอีกครั้ง ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง ขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการ วิสามัญในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ๒ ท่าน ดังนี้ครับ ๑. ท่านพิทักษ์เดช เดชเดโช ๒. ท่านราชิต สุดพุ่ม ขอผู้รับรองด้วยครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา กระผม นายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต ๔ พรรคประชาธิปัตย์ ท่านประธานครับ ขออนุญาตอภิปรายสนับสนุนรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่องการพัฒนา ระบบบำนาญพื้นฐานประชาชน ของคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ก่อนอื่นเลยครับท่านประธาน ก่อนที่ผมจะอภิปรายสนับสนุนก็ต้องเท้าความก่อน อย่างที่ท่านประธานคณะกรรมาธิการและเพื่อนสมาชิกจากพรรคเพื่อไทยได้เท้าความ ไปแล้วว่าปี ๒๕๓๕ สมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งได้มีการอนุมัติโครงการกองทุน ส่งเสริมสวัสดิการผู้สูงอายุและครอบครัวในชุมชนสงเคราะห์เบี้ยยังชีพ ปี ๒๕๓๕ เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเบี้ยผู้สูงอายุนี้ แต่ผมอยากจะย้ำให้เพื่อนสมาชิก รวมถึงท่าน ประธานและผู้ที่ฟังอยู่ ณ ทางบ้านได้ทราบจริง ๆ แล้วว่าการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกเกิดขึ้น เมื่อปี ๒๕๓๖ในรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มจ่ายเงินคนละ ๒๐๐ บาท และเรื่อยมามี การปรับเพิ่มขึ้นจน ปี ๒๕๕๔ มีการปรับเป็นแบบขั้นบันได คือ ๖๐๐ บาท ๗๐๐ บาท ๘๐๐ บาท จนถึง ๑,๐๐๐ บาท ท่านประธานครับ โดยที่มีหลักเกณฑ์คือคนอายุตั้งแต่ ๖๐ ปี ๗๐ ปี ๘๐ ปี ๙๐ ปี ไปเรื่อย ๆ เขาเรียกว่าขั้นบันไดครับท่านประธานที่เคารพ จะเห็นได้ชัดเลยว่า จากที่รัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบันที่มีการปรับแก้กับปรับเพิ่มขึ้นเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุจนมา ปี ๒๕๕๔ จากปี ๒๕๕๔ จนถึงปัจจุบันครับท่านประธาน เป็นเวลา ๑๓ ปีแล้ว ท่านประธานครับ จะเห็นได้ชัดว่า ๑๓ ปีนี้ เบี้ยผู้สูงอายุไม่เคยได้มีการปรับขึ้น กว่า ๑๓ ปี แล้วครับท่านประธาน ที่ไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่ได้รับการเหลียวแลจากคณะรัฐมนตรี ชุดที่ผ่านมา ทั้งที่ทุกวันนี้ครับท่านประธาน ข้าวของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำมัน หรือเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา ๑๓ ปีแล้ว มันสวนทางกับเงินสวัสดิการที่ผู้สูงอายุได้รับ คือ ๖๐๐ บาท ๗๐๐ บาท ๘๐๐ บาท ๙๐๐ บาท จนถึง ๑,๐๐๐ บาท มันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน แล้วหลังจากที่ผมได้ลงพื้นที่ เขต ๓ บ้านกระผมที่จังหวัดตรัง ไม่ว่าจะเป็นอำเภอกันตังก็ดี อำเภอสิเกาก็ดี อำเภอย่านตาขาวก็ดี พ่อแม่พี่น้อง ผู้สูงอายุต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจจริง ๆ ช่วยเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุให้กับเราหน่อย แล้วก็ช่วยปรับแก้อีก สักนิดหนึ่ง ไม่เอาแบบขั้นบันไดได้ไหม อยากจะให้ ๖๐ ปีเป็นต้นไป แล้วรับเท่าเทียมกัน ไปเลยแบบถ้วนหน้า จนเป็นที่มาที่ผมต้องมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะผมรับสายคำมาจากพ่อแม่ พี่น้องประชาชนชาวเขต ๔ จังหวัดตรัง เพื่อมาเป็นตัวแทนสะท้อนในสภาแห่งนี้ เพื่อเป็น การสนับสนุนร่างรายงานฉบับนี้ที่เสนอให้ปรับขึ้นเบี้ยผู้สูงอายุ จาก ๖๐๐ บาท ๗๐๐ บาท ๘๐๐ บาท ๙๐๐ บาทนี้ ร่างท่านกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ เสนอให้ปรับแก้เป็น ๑,๒๐๐ บาทถ้วนหน้า และ ๒,๐๐๐ บาท ๓,๐๐๐ บาท ในอนาคต ด้วยความเคารพครับ ท่านประธาน ๑,๒๐๐ บาท ให้ได้ก่อนเถอะครับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเขต ๔ บ้านผม รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้สูงอายุ เขาจะได้ลืมตาอ้าปาก แล้วเขาจะได้มีความยินดีและดีใจ ท่านประธานที่เคารพครับ ถ้าทำได้จริงจะทำให้ผู้สูงอายุทั่วทั้งประเทศเกิดความสุข ภาคธุรกิจจะมีพลังในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ท่านประธานที่เคารพครับ ที่ผ่านมาประเทศมีงานวิจัยเริ่มศึกษาตั้งแต่ ๑๕ ปีก่อน แต่ยังขาด ความเป็นไปได้ หรือแม้แต่การเสนอร่างพระราชบัญญัติหลายฉบับ ณ สภาแห่งนี้ แต่ก็จบลง หรือไม่เกิดขึ้น เนื่องจากขาดงบประมาณและสถานะทางการคลังของประเทศไม่ดี แต่ไม่เป็นอะไรครับ พอมาในวันนี้หลังจากได้ศึกษารายงานฉบับนี้ ผมเกิดความหวังที่มันมี โอกาสความเป็นไปได้ในอนาคต เพราะรายงานฉบับนี้นอกจากจะศึกษาต่อรายงานในรูปแบบเดียวกัน หมายความว่ารายงาน ฉบับนี้ศึกษาต่อจากรายงานที่ผ่านมา เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว เขายังเพิ่มในส่วนของแหล่งที่มา ของงบประมาณรายได้ในปัจจุบัน รวมถึงในอนาคตเข้าไปในรายงานฉบับนี้ด้วย เป็นแหล่ง ในการนำมาใช้ในกองทุนผู้สูงอายุครับท่านประธาน ขออนุญาตยกตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเงิน ที่ได้มาจากเงินรางวัลค้างจ่ายของสลากกินแบ่งรัฐบาล ภาษีมรดก ภาษีที่เกี่ยวกับสินค้าธุรกิจ ยาสูบ หรือแม้แต่กระทั่งเงินบำรุงที่ได้จากส่วนแบ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมจากการ ออกใบอนุญาตของสถานบันเทิงหรือที่ทุกท่านเรียก Entertainment Complex แล้วผม อยากจะยกตัวอย่างอีก ๑ แหล่งที่มา ที่คณะกรรมการชุดนี้เสนอเข้ามาด้วยก็คือ เงินบำรุง กองทุนจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ภาษีคาร์บอนเครดิต ภาษีสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคตมันคือแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ ท่านประธานที่เคารพครับ สิ่งที่คณะผู้ชี้แจง ได้จัดทำรายงานฉบับนี้ ทำให้เกิดความมั่นใจว่าถ้าเกิดขึ้นจริงจะเป็นของขวัญให้เหล่าผู้สูงอายุ ทั้งประเทศได้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ทำให้พ่อแม่พี่น้องผู้สูงอายุที่พวกเขาเหล่านี้ มีคุณประโยชน์ที่ได้ร่วมสร้างชาติ พัฒนาเมือง ในช่วงวัยกลางคนของเขาให้รู้สึกว่าภาครัฐ ได้ทำการขอบคุณอย่างจริงใจ และเพื่อเป็นการตอบแทนสิ่งที่พวกเขาได้เคยเสียสละมาในวัย กลางคนจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเหตุให้ผมขออนุญาตสนับสนุนผลรายงานพิจารณาศึกษา เรื่อง การพัฒนาระบบบำนาญพื้นฐานของประชาชนฉบับนี้ ขอบคุณมากครับท่านประธาน