กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพอย่างสูงครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เขต ๒ ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนของตำบลห้วยโรง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เป็นเรื่องของปัญหาค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะตอนนี้ถนนของกรมทางหลวง หมายเลข ๑๐๑ สายร้องกวาง จังหวัดแพร่ ไปยังจังหวัดน่าน ตอนบ้านห้วยแก๊ต ตำบลห้วยโรง จังหวัดแพร่ จนถึงบ้านห้วยน้ำอุ่น อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ระยะทาง ๑๖.๑๕ กิโลเมตร ระหว่างกิโลเมตรที่ ๓๐๐-๓๑๖ การสร้างถนนเส้นนี้ทำให้จังหวัดแพร่ไปจังหวัดน่านเป็นถนน ๔ เลน ซึ่งมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม Bigbike ชอบมาก ทำให้การสัญจรไปมาแพร่-น่าน เป็น ๔ เลน ทั้งหมดแล้วตอนนี้ โดยผิวถนน ก็เป็น Asphalt ๔ ช่องจราจรตามมาตรฐานของทางชั้นพิเศษทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือวันนี้พี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับค่าเวนคืนใด ๆ จากโครงการนี้ทั้งเรื่องของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้ไปประสานงานกับทางหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนนะครับ ซึ่งก็ทราบว่างบประมาณในการเวนคืน เหล่านี้ตั้งไว้แล้วในงบประมาณปี ๒๕๖๖ แต่ทางราชการก็ไม่ได้มีคำตอบให้พี่น้องประชาชน ทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนหนึ่งได้ถวายฎีกา ซึ่งวันนี้ผมก็จะฝากเอกสารส่งไปยัง ท่านประธานเพื่อนำไปประสานงานกับทางหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินการและให้มี ความชัดเจนว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับเงินค่าเวนคืนเมื่อไร อย่างไร วันนี้ก็เลยขออนุญาต ที่จะนำเอกสารเหล่านี้นำเรียนให้ทางท่านประธานสภาเพื่อไปประสานงานกับหน่วยราชการ ที่เกี่ยวข้อง กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพนะครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นก็คงต้องขออภัยในการอภิปรายในบางครั้งอาจจะมีการทับศัพท์ เป็นภาษาอังกฤษบ้างนะครับ เพราะว่าในเรื่องของสารต่าง ๆ ในบางครั้งเราก็ไม่มี ภาษาไทยอีก ท่านประธานครับ ท่านก็คงจะทราบดีว่าประเทศไทยวันนี้อะไร ๆ ต่าง ๆ มันก็เสรีขึ้นเยอะ กระท่อมเราก็เสรีไปแล้ว เพราะว่าเรามี พ.ร.บ. พืชกระท่อมที่ผ่านสภา เมื่อคราวที่แล้ว ในขณะที่พืชกระท่อมจริง ๆ ก็มีสารที่ออกฤทธิ์เหมือนกับยาบ้าเหมือนกัน ก็คือสาร Mitragynine นะครับ ส่วนกัญชาเราก็เกือบเสรีแล้ว แต่พอดีกฎหมายเราไม่ผ่านเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ประกาศของ กระทรวงสาธารณสุขก็คือปลดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท ๕ ไปแล้ว ทุกวันนี้ ใครจะปลูกกัญชาก็อาจจะเหมือนปลูกต้นพืชต่าง ๆ จะเหมือนกับการปลูกผักอะไรอย่างนี้ ยังไม่มีกฎหมายที่ควบคุม และนอกจากนั้นสุราเราก็เกือบเสรีตอนนี้นะครับ ก็คิดว่าถ้ามี รัฐบาลใหม่พระราชบัญญัติก็อาจจะถูกเปลี่ยนไปเป็นสุราเสรีอีก เรามาดูกันสิว่าทุกวันนี้ที่มัน ระบาดหนัก ๆ ในสังคมไทยจริง ๆ แล้วก็คือกลุ่มของยาบ้า ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Amphetamine ซึ่งมันก็วิวัฒนาการจากยาบ้าก็คือ Amphetamine จากนั้นก็ออกมาเป็น ยาไอซ์ ก็คือ Methamphetamine แค่นั้นยังไม่พอ เดี๋ยวนี้ก็มีการสังเคราะห์สารใหม่ ๆ ขึ้นไปอีก ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่นยาอีซึ่งอาจจะย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า Ecstasy อันนี้ ก็เรียกว่าเป็น MDMA ก็เป็น Amphetamine แล้วอีกอันหนึ่งก็คือยาเลิฟนะครับ MDA ก็เป็น Amphetamine ปรากฏว่าอีก ๒ ตัวที่ว่าก็คือยาอีกับยาเลิฟมันก็จะมีผลที่มากกว่า ยาบ้าชนิดเดิมถึง ๑๐ เท่า มันมีผลทั้งการกระตุ้น แล้วก็การหลอน ส่วนอีกตัวหนึ่งก็อาจจะ ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักก็คือยาเค ยาเคนี่จริง ๆ ก็คือ Ketamine รายชื่อการค้าทางการแพทย์ ก็คือยา Ketalar ปกติก็ใช้ฉีด สำหรับให้หมอทำหัตถการต่าง ๆ ที่สั้น ๆ เช่น ผ่าตัด หรือทำ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรอย่างนี้ สุดท้ายยาเคก็เอาไปฉีดในร้านเสริมสวย แล้วก็อาจจะทำให้ ผู้เข้าไปเสริมสวยตาย อันนี้ก็เป็นอีกอันหนึ่งนะครับ ผมดูแล้วเวลาก็ค่อนข้างจะสั้น เราก็ต้อง ยอมรับว่าสถานการณ์ของยาบ้าวันนี้ก็เรียกว่าระบาดเยอะ ราคาถูก ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๓๐ บาท แล้วแต่สถานที่ หาซื้อง่าย ส่วนมาตรการในการป้องกันปราบปราม บำบัด หรือว่า ยึดทรัพย์ ทางฝ่ายผู้มีหน้าที่ก็ทำกันอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วผมมองอีกมุมหนึ่งวันนี้นะครับ ราคาถูกสารตั้งต้นมันหาง่าย มีมาก โรงงานผลิตเดี๋ยวนี้เขาบอกว่าเครื่องผลิตในปัจจุบันนี้ ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ เม็ดต่อชั่วโมง แต่ก่อน ๓,๐๐๐ เม็ด ซึ่งเร็วถึง ๑๐๐ เท่า การขนส่ง ก็รวดเร็ว เดี๋ยวนี้ส่งทางพัสดุภัณฑ์ ถูกด้วยนะครับ ๘๐ บาท แต่ก่อนขนยา ๑ กิโลกรัม ต้องใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาท คราวนี้ผมมีมุมมองที่ว่าทั้งป้องกัน ปราบปราม แล้วก็บำบัด ยึดทรัพย์ มันก็ยังไม่ค่อยได้ผล มันทำให้ยาบ้าระบาดอย่างมากมาย เราไปดูที่สารตั้งต้นดีกว่า มันตั้งต้นมาจากอะไร ก็คือต้นน้ำของมันนั่นเอง เราควรจะต้องแก้ไขที่ตรงจุดนี้ด้วยนะครับ คำว่า สารตั้งต้น นี้คงไม่เหมือนกับการตั้งรัฐบาลที่ว่ามีสารตั้งต้น คนละเรื่อง สารตั้งต้นในที่นี้ ก็คือเป็นพวกสารที่ใช้ในการผลิต ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีการควบคุมตามอนุสัญญา ปี ๑๙๘๘ มีอยู่ ประมาณ ๒๒ รายการ มี Slide ไหมครับ ไม่มีไม่เป็นไรนะครับ ๒๒ รายการส่วนใหญ่ก็จะ เป็นพวกกลุ่ม บางชนิดก็เป็นยาทางการแพทย์ เช่นกลุ่มพวก Ephedrine หรือกลุ่ม Ergotamine อะไรอย่างนี้ มันจะมีเยอะหน่อย อีกกลุ่มหนึ่งก็คือเป็นตารางที่ ๒ ในอนุสัญญานี้นะครับ ก็จะเป็นเคมีภัณฑ์ที่จำเป็นมีประมาณ ๘ ชนิด แต่นอกจากนั้นมันยังมีสารเคมีที่ประเทศไทย ทำการควบคุมนอกเหนือจากยา ๒ กลุ่มนี้ ซึ่งตัวหนึ่งที่จะเน้นย้ำแล้วก็ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ตัวนี้ที่สำคัญก็คือ Sodium Cyanide นะครับ ทำไม Sodium Cyanide ตอนนี้สั่งนำเข้า และส่งขายต่างประเทศได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทราบว่าปีที่แล้วข้อมูลของ ป.ป.ส. บอกว่า สั่งนำเข้าถึง ๑,๑๕๐ ตัน แต่ส่งไปที่ประเทศเมียนมาถึง ๘๑๐ ตัน ใช้ในประเทศเพียง ๓๑๐ ตันเท่านั้น ก็แสดงว่าสารตั้งต้นชนิดใหม่นี้ก็คือ Sodium Cyanide ก็ได้ถูกส่งออกไปยัง ประเทศเมียนมาค่อนข้างจะเยอะ เพราะฉะนั้นดั้งเดิมสารตั้งต้นเรามักจะใช้ Pseudoephedrine ซึ่งมันมีโครงสร้างทางโมเลกุลคล้ายกัน นำไปทำเป็นยาบ้าได้ง่ายกว่านะครับ แต่ปัจจุบันนี้ Sodium Cyanide กลายเป็นสารตั้งต้นชนิดใหม่ที่ราคาถูกมาก แล้วก็ผลิตได้เยอะ เขาบอกว่า ที่ส่งไป ๘๑๐ ตันสามารถจะผลิตยาบ้าได้ถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านเม็ด เพราะว่า ๑ กิโลกรัมผลิตได้ ๒๒,๐๐๐ เม็ด ราคาก็ถูกมาก อันนี้ก็คือสารตั้งต้นหาง่าย ราคาถูก แล้วส่งออกจากประเทศไทย แล้วเราจะมีมาตรการควบคุมสารตั้งต้นก็คือ Sodium Cyanide นี้อย่างไรนะครับ อันนี้ก็คง จะต้องฝากไปทาง ป.ป.ส. และกรมโรงงาน เพราะว่าจริง ๆ แล้ว Sodium Cyanide จะใช้ใน เหมืองแร่เป็นส่วนใหญ่ อันนี้ก็คือมุมมองที่ว่าเราจะต้องจัดการที่ต้นน้ำก่อน ซึ่งเป็นต้นตอ ของยาบ้า ซึ่งมันรั่วไหล แล้วก็ลักลอบไปสู่ผู้ผลิต ถ้าหากเราควบคุมตรงจุดนี้ได้มันก็อาจจะ ช่วยลดปริมาณยาบ้า และนอกจากนั้นราคาของยาบ้าก็จะต้องสูงขึ้นเนื่องจากไม่มีสารตั้งต้น เดิมเราใช้ Pseudoephedrine แต่ปัจจุบันเราใช้ Sodium Cyanide ซึ่งราคาถูกและใช้ใน โรงงานอุตสาหกรรม ใช้ในยาฆ่าแมลง อะไรต่าง ๆ ด้วย แล้วก็เหมืองแร่ ก็ขอฝากไปทาง ป.ป.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะเข้มงวดการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเรานะครับ ก็ต้อง ขอขอบคุณนะครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพนะครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๒ จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย วันนี้ก็ต้องขอบคุณทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินนะครับ จากรายงาน ที่ท่านส่งมาในฉบับนี้นะครับ ในหน้า ๒๖๐-๒๖๙ ซึ่งเป็นผลการตรวจสอบที่สำคัญ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นี่นะครับ พอดีเมื่อสักครู่มีเพื่อนสมาชิก ได้อภิปรายไปแล้วส่วนหนึ่งนะครับ ซึ่งจะเป็นเรื่องของโครงการหรือแผนงาน เรื่องของวัคซีน ของ อปท. หรือการช่วยเหลือเยียวยานะครับ แต่จริง ๆ แล้วมันมีอยู่ประเด็นที่สำคัญนะครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็คือเรื่องของการจัดหาวัคซีน เดี๋ยวเราพูดถึงวัคซีนก่อนก็แล้วกันนะครับ ในเรื่อง ของวัคซีนที่ป้องกันโควิด โดยทั่วไปปกติช่วงที่เราระบาด เราก็จะมีอยู่ ๓ ประเภทก็คือ ชนิดเชื้อตายเช่น Sinovac ของจีน ชนิดไวรัสเป็นพาหะ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Viral Vector นะครับ เช่นของ AstraZeneca ซึ่งช่วงนั้นจะผลิตในไทย แล้วก็อันที่ ๓ ชนิด mRNA เช่น Pfizer Moderna นะครับ ในเรื่องการจัดหาวัคซีนในช่วงที่โควิดระบาดนะครับ ซึ่งเราดูจากในรายงานนี้แล้วนะครับ เรื่องของ Sinovac ที่ราคาแพงกว่าปกติอันนี้ไม่เห็นในรายงานของทางสำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินที่เข้าไปตรวจสอบ มันเป็นประเด็นที่เราคลางแคลงใจมาตลอดนะครับ จริง ๆ เรื่องนี้ ท่าน สส. จิราพร สินธุไพร ขออนุญาตเอ่ยนามนะครับ ได้เคยอภิปราย ไม่ไว้วางใจในช่วงสมัยของการประชุมสภาชุดที่แล้ว ซึ่งดูจากความคลางแคลงใจจนเดี๋ยวนี้เรา ก็ยังตอบประชาชนไม่ได้ แม้แต่ สตง. เองก็ไม่เห็นจะมีรายงานที่เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ ประเด็นก็คือเขาก็บอกว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า ก็คือบอกว่าประเทศไทยเรา ตอนนั้นเราซื้อ Sinovac ค่อนข้างเยอะนะครับ ประเทศไทยนี่จะใช้ Sinovac เป็นวัคซีนแก้ขัดนะครับ แต่ว่าแก้ขัดนานไปหน่อย เพราะเรารอ AstraZeneca ไม่มาสักทีนะครับ แก้ขัดแต่ละครั้งก็ซื้อ ค่อนข้างจะเยอะ อย่างเช่นบางครั้งจะซื้อถึง ๑๐ กว่าล้านโดส เป็นเงินถึง ๕,๐๐๐ กว่าล้านบาท แต่ก็เป็นที่สงสัยกันว่ามีความโปร่งใสหรือไม่นะครับ ก็คือ Sinovac ที่ซื้อมาราคาจะสูงกว่า ประเทศเพื่อนบ้านประมาณ ๑๐๐ บาท อันนี้เท็จจริงหรือไม่ เช่นฟิลิปปินส์ซื้อ ๔๒๖ บาทต่อโดส อินโดนีเซีย ๔๔๐ บาทต่อโดส แต่ไทยซื้อ ๕๔๒ บาทต่อโดส เพราะฉะนั้นมันก็จะแพงกว่า ประเทศอื่น ๆ ไปประมาณถึง ๑๐๐ บาทต่อโดส อันนี้จริงหรือไม่ สตง. ได้เข้าไปตรวจสอบ เรื่องนี้ไหม มันจึงเป็นที่คลางแคลงใจของประชาชน จนเดี๋ยวนี้ปริมาณที่ซื้อจากจีนเราก็ทราบ ดีว่าทยอยมาเรื่อย ๆ นะครับ หรือแม้แต่บางครั้งมีวัคซีนอื่นมาช่วยก็ยังซื้อ Sinovac ต่ออีก เดี๋ยวนี้มันจึงเป็นที่สงสัยว่ามีความโปร่งใสหรืออย่างไร หรือไม่นะครับ จริง ๆ แล้วในการใช้ Sinovac เราก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นวัคซีนเชื้อตาย ประสิทธิภาพการป้องกันโรคมันค่อนข้าง สั้นและน้อย จนสุดท้ายเชื้อที่รุนแรงกว่าที่มาก็คือ สายพันธุ์ Delta Sinovac เอาไม่อยู่ถึงต้อง เลิกใช้ แล้วก็มาใช้ mRNA แล้วก็พวก AstraZeneca ซึ่งเป็น Viral Vector ต่อไปนะครับ
อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ที่ซื้อมาทั้งหมด มันเหลือและหมดอายุไปเท่าไรที่ต้องทิ้ง อันนี้คงต้องฝาก ทาง สตง. เข้าไปตรวจสอบนะครับ เพราะหน่วยงานที่ท่านตรวจสอบมันมี ค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงานที่เล็ก ๆ ก็เยอะกว่า ๙,๐๐๐ กว่าหน่วยงาน ที่ท่านตรวจสอบ ท่านตรวจสอบไม่หมดหรอกนะครับ เพราะท่านตรวจสอบหลายด้านไม่ว่า ทางด้านการเงิน ทางด้านการปฏิบัติงานผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งความผิดวินัยการเงินการคลังอะไร ต่าง ๆ ก็น่าเห็นใจนะครับ เพราะฉะนั้นฝากตรวจสอบในหน่วยงานใหญ่ ๆ ในระดับกระทรวง ด้วยนะครับ เพราะว่างบประมาณที่ใช้ค่อนข้างจะเยอะมาก อันนี้ก็ฝากแล้วก็หากท่านมี รายงานหรือว่าเคยตรวจสอบแล้ว ก็ขอกรุณาได้รายงานให้พี่น้องประชาชนได้ทราบเพื่อจะได้ หายคลางแคลงใจว่าการจัดซื้อวัคซีน Sinovac เป็นการจัดซื้อที่ราคาแพงกว่าปกติหรือไม่ มีความโปร่งใสหรือไม่ กราบขอบพระคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เขต ๒ วันนี้ เราก็มาอภิปรายในเรื่องของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ซึ่งเงิน สนับสนุนกองทุนนี้ก็เก็บจากร้อยละ ๒ จากผู้ผลิตและนำเข้าสุราและยาสูบ เป็นการเก็บภาษี เพิ่มจากภาษีสรรพสามิตปกติ เลยเรียกว่าภาษีบาป ซึ่งก็เชื่อว่าสมาชิกหลายท่าน คงจะเป็นเจ้าของกองทุนนี้ เพราะได้เสียภาษีไปแล้ว ซึ่งฟังดูแล้วเป็นภาษีบาปนะครับ ในปี ๒๕๖๔ จากรายงานนี้ก็เห็นว่าได้มาประมาณ ๔,๐๙๖ ล้านบาท ปี ๒๕๖๕ นี้ได้มา ๔,๐๘๑ ล้านบาท บทบาทหลักโดยทั่วไปของ สสส. ก็ทราบกันดีเป็นการสนับสนุน แล้วก็เป็น การร่วมมือระหว่างบุคคล กลุ่ม แล้วก็องค์กร ซึ่งมีถึง ๒๐,๐๐๐ องค์กร ท่านก็เปรียบตัวท่านเองว่า สสส. มีหน้าที่เหมือนน้ำมันหล่อลื่นในการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพให้เข้มแข็ง ในสังคมไทย ก็แสดงว่าท่านไม่ใช่น้ำมันเบนซินหรือน้ำมันดีเซลที่จะขับเคลื่อนเครื่องยนต์ เป็นเพียงน้ำมันหล่อลื่น อันนี้ตอนสุดท้ายเราก็จะมีคำถามต่าง ๆ ที่ยังค้างคาใจเกี่ยวกับ งบประมาณค่อนข้างจะเยอะ ๔,๐๐๐ กว่าล้านบาท อันนี้ก็ต้องขอชื่นชมก่อนแล้วกันว่า รายงานฉบับนี้ที่ท่านทำค่อนข้างละเอียด แล้วก็ดี แล้วก็ให้ข้อมูลที่ชัดเจน แต่อาจจะ ตรงทั้งหมดหรือไม่ คิดว่าน่าจะไม่ตรง แต่ว่าเราก็ดูเรื่องสำคัญก็แล้วกันนะครับ เพราะว่า สสส. เก็บภาษี ๒ เปอร์เซ็นต์ จากยาสูบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรามาดูยาสูบแล้วกัน ทาง สสส. ก็มีการรณรงค์ค่อนข้างจะเยอะในเรื่องของการสูบบุหรี่
ทั้งให้องค์ความรู้ ให้รู้โทษของการสูบบุหรี่ เขตปลอดบุหรี่อะไรต่าง ๆ สสส. ก็ทำก็ได้ผลมาระดับหนึ่ง ดูจากตารางเล็กไปก็ไม่เป็นไร จะเห็นว่าคนสูบบุหรี่ลดลงเรื่อย ๆ ทั้งจำนวนและอัตราการสูบ ในปี ๒๕๖๔ มีคนสูบ ๙.๙ ล้านคน คิดเป็น ๑๗.๔๐ เปอร์เซ็นต์ลดจากปี ๒๕๖๐ ที่มีคนสูบ ๑๐.๗ ล้านคน คิดเป็น ๑๙.๑๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ประเด็นที่สำคัญที่น่าเป็นห่วงที่สุดในเรื่องของการสูบบุหรี่ก็ปรากฏว่า เด็กสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอายุ ๑๓-๑๕ ปี มีการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นค่อนข้างจะเยอะ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าอันนี้เป็นประเด็นที่สำคัญเลยนะครับ มีถึง ๑๓.๖๐ เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกันครับ เยาวชนอายุ ๑๕-๒๔ ปี ก็มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เพราะส่วนใหญ่ ยังเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตราย หรืออันตรายน้อยกว่า หลายท่านคงไม่ทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้า มีองค์ประกอบอะไรบ้าง บุหรี่ไฟฟ้าก็จะมี ๑. Battery ๒. Atomizer เครื่องพ่นควัน ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงเครื่องพ่นควันไล่ยุงที่เทศบาลมาพ่นให้เรา แต่ว่ามันเป็นเครื่องเล็กนะครับ ๓. ก็คือน้ำยา ในน้ำยาก็ยังมี Nicotine ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้คนติดบุหรี่ แล้วก็มีโทษ ต่อร่างกายหลายอย่าง เราก็รู้อยู่อย่าง NCDs หรืออะไรต่าง ๆ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ทั้งหลายก็เกิดจาก Nicotine นี้ละ นอกจาก Nicotine ก็ยังมีสารอื่น เช่น Propylene Glycol หรือ Glycerin ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสารพวกนี้ เข้าไปในร่างกายแล้วในระยะยาวจะเกิด ผลเสียต่อร่างกายขนาดไหน สรุปแล้วก็คือการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีโทษ เพราะว่ายังมีสาร มี Nicotine มีอะไรต่าง ๆ แต่อาจจะดีกว่าหน่อยเพราะบุหรี่ไฟฟ้าอาจจะใช้อุณหภูมิไม่เกิน ๓๐๐ องศาเซลเซียส ในขณะที่การสูบบุหรี่ทั่วไปก็ประมาณ ๖๐๐ องศาเซลเซียส ซึ่งมี การเผาไหม้ อาจจะได้พวก Tar พวกน้ำมันดินเข้าไปและสารอื่น ๆ อีก เพราะฉะนั้นสรุปก็คือ บุหรี่ไฟฟ้ายังมีโทษเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ทั่วไป และที่สำคัญที่สุดในเด็กและเยาวชน ของเรา บุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญเลยนะครับที่จะนำไปสู่การสูบบุหรี่ทั่ว ๆ ไป หรือสูบบุหรี่ธรรมดา แม้ทุกวันนี้การนำเข้าหรือการจำหน่าย หรือการสูบ การครอบครองก็มี ความผิดนะครับ ก็ขอฝากท่าน สส. ทุกท่านที่สูบบุหรี่ระวัง Clip หน่อยนะครับ ใครที่สูบบุหรี่ ไฟฟ้าอาจจะต้องมีโทษทั้งจำและปรับเพราะมันผิดกฎหมาย ทั้งผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้ครอบครอง ผู้สูบ อันนี้ก็ฝากกันไว้ ในเรื่องของบุหรี่ก็ถือว่าเป็นผลงานของ สสส. ได้พอสมควร แต่ว่าไม่ทั้งหมดนะครับ
เรามาดูในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วกันนะครับ คนไทยก็ดื่ม แอลกอฮอล์ค่อนข้างจะคงที่ ลดลงเล็กน้อย ปรากฏว่าผู้ชายดื่มลดลง แต่ว่าผู้หญิงดื่มเพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชนที่ดื่มประจำมีเพิ่มขึ้น ถ้าเราสังเกตเดี๋ยวนี้ หลังจากที่เรามีการคลายกฎกระทรวงในเรื่องของการผลิตเบียร์ก็มี Craft Beer เด็ก ๆ หนุ่ม ๆ ก็จะไปดื่ม Craft Beer กันเยอะ ท่านประธานครับ ปัจจุบันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ห้าม โฆษณา มีความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา ๓๒ มีโทษจำคุก ๑ ปี ปรับไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อันนี้ก็ฝากท่านผู้มีชื่อเสียงจะไปโฆษณาเบียร์ หรืออะไรต่าง ๆ ก็ระมัดระวังนะครับ แต่บริษัทเหล้า เบียร์ เขาไม่โฆษณาเหล้า เบียร์ เขาเรียกว่าโฆษณาตราเสมือน เขาก็จะไปโฆษณาโซดาบ้าง หรือว่าน้ำดื่มบ้าง ซึ่งมีตราเสมือน อยู่ตรงนั้น และยังสนับสนุนการกีฬาหรือสันทนาการต่าง ๆ อันนี้ก็เป็นวิธีการโฆษณา อย่างหนึ่งที่ทำให้การดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ลดลงหรือลดลงเล็กน้อย ก็อย่างที่ว่าในเมื่อท่าน เป็นเพียงน้ำมันหล่อลื่น แต่ว่างบประมาณค่อนข้างเยอะ สิ่งที่จะต้องฝากท่านก็คือ ๑. งบประมาณนี้มันเป็นภาษีของประชาชนอยู่แล้ว การใช้ที่โปร่งใสการตรวจสอบที่ถูกต้อง ถึงแม้ท่านจะ Audit ออกมาอย่างไรก็ตามแต่ท่านไปดูความเป็นจริงเพราะองค์กรเครือข่าย ของท่านเยอะเหลือเกิน เพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณอันนี้ต้องมาประเมินกันอีกทีว่า มันคุ้มค่าขนาดไหนกับที่เราจ่ายไป เพราะหลายแห่งที่เราไปดูมา ก็ไม่ได้ทำตามโครงการ ที่เสนอท่านมา รวมทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่กองอยู่ตามสถาน รพ.สต. อะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ สสส. เยอะแยะมากมาย อันนี้ฝากท่านประธานไปยังผู้บริหาร สสส. ไว้ดูอย่างละเอียด แล้วก็มีการ Audit ที่ถูกต้อง ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพนะครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เขต ๒ พรรคเพื่อไทย ก่อนอื่นก็คงเห็นด้วยที่จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ปกติบุหรี่ไฟฟ้าก็มีส่วนประกอบอยู่ ๓ ส่วน ก็คือเป็นแบตเตอรี่ แล้วก็ Atomizer ที่ทำให้เกิด ไอและความร้อน แล้วก็น้ำยา ซึ่งถูกทำให้เป็นไอ
อันนี้ในแง่ของบุหรี่ไฟฟ้าเราก็คงจะต้อง ดูหลายประเด็นเอาว่าเป็นประเด็นสุขภาพก่อนก็แล้วกัน ไม่ว่าบุหรี่ธรรมดา หรือบุหรี่ไฟฟ้า องค์ประกอบสำคัญ ก็คือนิโคตินซึ่งนิโคตินนี่ละที่เป็นสารเสพติด ผลของนิโคตินต่อร่างกาย เราก็จะมีหลายอย่าง อย่างเช่น กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งทางช่องปาก หลอดอาหาร หรือตับอ่อน ทำให้เส้นเลือดตีบอันนี้ชัดเจนก็จะมีเส้นเลือดตีบในหลายส่วนมันจึงทำให้เกิด โรคเส้นเลือดตีบในหัวใจ เส้นเลือดตีบในสมอง ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เมื่อสูบบุหรี่ก็มีผล ต่อการพัฒนาสมองของเด็กในครรภ์ บุหรี่ทั้ง ๒ แบบก็จะมีนิโคตินเหมือนกัน แล้วตัวนี้ ที่ทำให้เป็นยาเสพติด แต่จริง ๆ แล้วในบุหรี่ไฟฟ้ามันก็ยังมีสารอื่นอีก ตัวที่สำคัญในบุหรี่ ไฟฟ้าก็คือตัวทำละลายที่เขาเรียกว่า Propylene Glycol ซึ่งเป็นสารประเภทแอลกอฮอล์ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมีรสหวาน จริง ๆ Propylene Glycol ก็ใช้ในอาหาร ใช้ในยา บางชนิดได้ แต่ว่าใช้ในการสูบเข้าไปนี้ก็ยังไม่ทราบผลต่อร่างกายเช่นกัน เมื่อเทียบ กับบุหรี่ธรรมดา แล้วก็บุหรี่ไฟฟ้าก็ถือว่าไม่มีการเผาไหม้ก็ใช้อุณหภูมิประมาณสัก ๓๐๐ องศาเซลเซียส ในขณะที่บุหรี่ธรรมดาจะใช้ ๖๐๐ องศาเซลเซียส ๗๐๐ องศาเซลเซียส ๘๐๐ องศาเซลเซียส หรือ ๙๐๐ องศาเซลเซียสซึ่งมีการเผาไหม้ ซึ่งก็อาจจะลดความเสี่ยง ต่อพวกน้ำมันดิน หรือ Tar ที่เกิดจากเผาไหม้ แต่จริง ๆ แล้วสารประกอบที่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้า ก็ยังมีอีกมากมายที่จะเป็นอันตรายได้ไม่แพ้กับบุหรี่ธรรมดา แล้วมีอนุภาคที่ขนาดเล็ก อย่างที่บางท่านได้กล่าวไปแล้ว ทำให้เข้าไปสู่ในส่วนลึกของในปอดและเข้าสู่กระแสโลหิตเรา ได้เร็วขึ้น ทำให้เสพติดไหม อันนี้ก็แน่นอนเพราะการเสพติดนี้เกิดจากการเสพติดจากนิโคติน ไม่ได้ว่าเป็นบุหรี่ชนิดไหน ถ้ามีนิโคตินก็เสพติดเหมือนกัน และอีกอย่างหนึ่งที่เสพติดได้ง่าย ก็คือ รูป รส กลิ่นที่แต่งมาแล้วทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็คือในเด็ก และเยาวชน อันนี้ไปอีกในแง่ของประเด็นทางสุขภาพ โดยสรุปแล้วทางการแพทย์ก็ถือว่า บุหรี่ไฟฟ้าก็มีโทษ หรือว่ามีอันตรายเท่า ๆ กับบุหรี่ธรรมดา
ส่วนในประเด็นข้อกฎหมายก็มีหลายท่านได้พูดไปแล้ว เพราะในประเทศไทย เราก็ถือเป็นสินค้าต้องห้าม ผิดทั้งผู้นำเข้า ผู้ขาย ผู้ใช้ หรือผู้ครอบครอง แต่ปัจจุบัน เราก็ไม่ได้มีกฎหมายที่เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าโดยตรง แต่ก็จะมีกฎหมายอื่น ๆ ที่ใช้บังคับอยู่ เช่น พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค หรือว่าประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ปี ๒๕๕๗ พ.ร.บ. ศุลกากร ปี ๒๕๖๐ ในมาตรา ๒๔๖ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ มีโทษค่อนข้างจะสูง นอกจากนี้เราก็จะมีพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ปี ๒๕๖๐ ห้ามสูบในที่สาธารณะ ก็มีโทษปรับ แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้เกือบไม่ได้บังคับใช้เลย อันนี้ก็เป็นข้อประเด็น ข้อกฎหมาย แต่ว่าเป็นข้อกฎหมายที่อยู่ในกฎหมายฉบับอื่น ๆ ไม่เป็นกฎหมายโดยตรง โดยเฉพาะสำหรับ บุหรี่ไฟฟ้า ในแง่ของบริบทความเป็นจริงในประเทศไทยปัจจุบัน เราก็ต้องยอมรับเลยว่าบุหรี่ไฟฟ้า มีการใช้อย่างแพร่หลาย แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมากโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น นักเรียน เด็ก เยาวชน และมีการนำเสนอออกมาทาง Social ค่อนข้างจะเยอะมากนะครับ มีการโฆษณา ใช้วาทกรรมหลายแบบ อย่างเช่น บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิก บุหรี่ได้อย่างนี้ แต่ว่ากรมควบคุมโรคและทางการแพทย์ส่วนใหญ่ก็ยืนยันว่าอย่างไรบุหรี่ไฟฟ้า ก็ยังมีอันตรายที่ชัดเจน แล้วเราควรจะมีกฎหมายสำหรับควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไหม อันนี้ถ้ามี กฎหมายแล้วก็คือการนำเข้า การขาย การครอบครอง ก็ทำได้ตามกฎหมาย จะเรียกว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสียก็แล้วกัน ยกตัวอย่างข้อดีก็แล้วกัน ก็คือเอาใต้ดินขึ้นมาบนดิน อันนี้ ดีครับ เพราะว่าลดผลประโยชน์ใต้ดินของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่รัฐหรือว่าพ่อค้า รัฐได้ภาษี อันนี้แน่นอนเก็บภาษีได้ การมีกฎหมายควบคุม มีการกำหนดโทษชัดเจนก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อีกด้านหนึ่งก็คือข้อเสีย ซึ่งเราก็ต้องลองตระหนักดูว่าอันไหนจะดีหรือเสียมากกว่ากัน ข้อเสียก็อย่างเช่นว่าการใช้กฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องเหล้า เรื่องบุหรี่ ทุกท่านก็คงจะทราบดีนะครับ กฎหมายรู้สึกว่าจะใช้บังคับไม่ค่อยได้ผล เรื่องเหล้า เรื่องบุหรี่ เพราะฉะนั้นแม้มีกฎหมายก็ยังเชื่อว่าไม่น่าจะใช้บังคับได้จริง การมีกฎหมายก็เหมือนกับให้นำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศได้ หรือว่าขายได้ หรือเสพได้ ก็คงจะ เป็นการเปิดประตูนะครับ เหมือนเป็นการเปิดประตูให้บุหรี่ไฟฟ้ามีการใช้มากขึ้นโดยเฉพาะ กลุ่มเปราะบางก็คือเด็กและเยาวชน รวมทั้งสตรีด้วยนะครับ ก็จะทำให้มีการระบาด อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นบุหรี่ไฟฟ้าอาจจะไปสู่การพัฒนาในการใช้กับยาเสพติด อื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแอมเฟตามีน ไม่ว่าไอซ์หรืออี หรือสารสกัดจากกัญชา อันนี้ เป็นไปได้นะครับ เพราะว่าการพัฒนาเรื่องยาเสพติดค่อนข้างจะเร็ว อีกอย่างหนึ่งเชื่อว่าน่าจะ เสียรายได้มากกว่าเนื่องจากว่าเราต้องซื้อจากต่างประเทศ อย่างเช่นบุหรี่ปัจจุบันของ การยาสูบแห่งประเทศไทยก็สู้บุหรี่ต่างประเทศไม่ได้ เพราะฉะนั้นบุหรี่ไฟฟ้าไม่ว่าทั้งอุปกรณ์ ทั้งน้ำยาก็คงจะต้องใช้ของต่างประเทศ จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ก็สนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนจะทำกฎหมายออกมา ในรูปแบบไหนก็คงจะต้องไปในคณะกรรมาธิการอีกครั้งหนึ่ง ต้องขอขอบคุณท่านประธานครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เขต ๒ ท่านประธานครับ สสช. คือสถานบริการสาธารณสุขชุมชน เป็นหน่วยบริการสุขภาพระดับหมู่บ้าน ซึ่งจัดขึ้น เฉพาะพื้นที่ที่มีความกันดาร ห่างไกล เข้าถึงบริการได้ยาก ก็จะมีพนักงานอยู่เพียงไม่กี่คน เช่น พยาบาล ๑ คน นักวิชาการสาธารณสุข ๑ คน พนักงานช่วยเหลือ ๑ คน ลูกจ้าง ๑ คน ผมได้รับการประสานงานมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ซึ่งมีท่านอนุวัธ วงศ์วรรณ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ซึ่งตอนนี้ได้รับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต. มากว่า ๗๐ แห่งแล้ว และจะถ่ายโอนให้ครบภายใน เร็ววันนี้ประมาณ ๑๒๐ แห่ง แต่ก็ยังมีอีก ๒ แห่งที่ยังมีสภาพเป็น สสช. คือสถานบริการ สาธารณสุขชุมชน ก็คือ ๑. สสช. บ้านแม่แรม ตำบลเตาปูน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ๒. สสช. บ้านห้วยฮ่อม ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ซึ่งจะดูแลพี่น้อง ชนเผ่าม้งที่อยู่บนภูเขาสูง แต่ละแห่งมีประชากรกว่า ๒,๐๐๐ คน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจาก โรงพยาบาลชุมชน การเดินทางก็ลำบากเพราะเป็นภูเขาสูง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกฐานะ สสช. ทั้ง ๒ แห่งที่เหลือในจังหวัดแพร่ไปเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำ ตำบล ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนชนเผ่าของเราจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น จึงขอเรียนไปทางหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โปรดช่วยดำเนินการ กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จังหวัดแพร่ เขต ๒ ซึ่งก็เป็นเขตที่มีการเพาะปลูกใบยาสูบจำนวนมาก ก่อนอื่นก็ต้องขออนุญาตในฐานะ ที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับ บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งกำลังพิจารณากันอยู่ วันนี้ก็คงขอแยกในเรื่องของการอภิปราย ครั้งนี้จะไม่พูดถึงผลกระทบของยาสูบ ซึ่งมีทั้งนิโคตินและสารอื่น ๆ อีกกว่า ๗,๐๐๐ ชนิด ที่มีผลต่อสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ แต่จะขออนุญาตพูดถึงเรื่องผลกระทบที่มีต่อพี่น้อง ประชาชนที่ปลูกยาสูบในเขตพื้นที่จังหวัดแพร่นะครับ ถ้าใครไปจังหวัดแพร่เมื่อประมาณสัก ๔๐ ปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่ามีโรงบ่มใบยาสูบเยอะแยะ มากมายทั่วจังหวัดมีการปลูกยาสูบ พี่น้องประชาชนปลูกกันเป็นหลายหมื่นครอบครัว แม้กระนั้นเอง สส. แพร่ทุกคนในอดีตทั้งแพร่ทั้งน่านก็ล้วนแต่เป็นพ่อเลี้ยงใบยาทั้งสิ้น ท่านไปดูประวัติก็แล้วกันนะครับ เพราะฉะนั้นใบยาสูบถือว่าเป็นรายได้ที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้กับ พี่น้องประชาชนชาวแพร่ แต่ปัจจุบันนี้การปลูกยาสูบที่แพร่ก็เหลือเพียงแค่ ๒ อำเภอ ก็คือ อำเภอร้องกวาง และอำเภอสองเป็นส่วนใหญ่นะครับ พี่น้องประชาชนที่ปลูกยาสูบก็มีไม่ถึง ๒,๐๐๐ ครัวเรือน ยาสูบที่ปลูกกันในจังหวัดแพร่ก็คือพันธุ์เวอร์จิเนีย ก็คือปลูกในภาคเหนือ ตอนบน ส่วนพันธุ์อื่น ๆ อย่างเช่นพันธุ์เบอร์เลย์ก็จะปลูกที่สุโขทัยและเพชรบูรณ์ เตอร์กิซส่วนใหญ่ขจะเป็นการปลูกในอีสานใต้ และยาสูบที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ พันธุ์เวอร์จิเนียนี่เอง เพราะว่าราคาที่ขายก็ลดลง และนอกจากนั้นที่สำคัญก็คือโควตา การรับซื้อของการยาสูบแห่งประเทศไทยได้ลดลงเรื่อย ๆ ลดลงมาหลายปีแล้ว ลดลงประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นฤดูการปลูกปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒ มีการปลูกพันธุ์ เวอร์จิเนียประมาณ ๑๐ ล้านกิโลกรัม เดี๋ยวนี้เหลือเพียง ๕.๖ ล้านกิโลกรัม แล้วถ้าลดอีก ๒๕ เปอร์เซ็นต์ก็อาจจะเหลือเพียง ๔.๒ ล้านกิโลกรัม ซึ่งมันมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่ เป็นชาวไร่ปลูกยาสูบ อันนี้สาเหตุเราก็คงจะทราบกันดีก็คงอภิปรายกันมาแล้ว นั่นก็คือ การยาสูบแห่งประเทศไทยได้ลดโควตาการรับซื้อลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการยาสูบแห่งประเทศไทย ก็อยู่ในสภาวะเดี๋ยวนี้เรียกว่าน่าจะเกือบขาดทุนแล้ว จากมีรายได้เป็นเกือบ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ก็เนื่องจากบุหรี่ของการยาสูบแห่งประเทศไทยก็คงจะขายได้น้อยลง เนื่องจากมาจาก ๑. มาตรการด้านสุขภาพและการปรับภาษีสรรพสามิตร ก็ทำให้ราคาสูงขึ้น ๒. การลักลอบ นำบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ กลุ่มเปราะบางของเรา ก็คือกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน รวมทั้งสุภาพสตรีด้วย มูลค่าของบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ประมาณ ๖,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี ๓. เรื่องบุหรี่เถื่อน อันนี้ละครับก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้บุหรี่ของการยาสูบแห่งประเทศไทยขายได้น้อยลง สิ่งที่ชาวไร่ยาสูบเรียกร้องคืออะไรปัจจุบันนี้ ๑. ขอให้ไม่ลดโควตาลงไปกว่านี้อีกเพราะมันจะ ไม่คุ้มทุนแล้ว ๒. ขอให้รับซื้อใบยาสูบในราคาที่สะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นนะครับ เพราะเรา ก็ทราบว่าทุกอย่างตอนนี้มันสูงขึ้นและมีต้นทุนที่มากขึ้น ๓. ขอสนับสนุนต้นทุนการผลิต อย่างเช่นปุ๋ย ทั้ง ๓ อย่างนี้คือสิ่งที่ชาวไร่ยาสูบต้องการ ตอนนี้เราจะให้พี่น้องประชาชน ที่ปลูกยาสูบเปลี่ยนไปเป็นอาชีพอื่นก็ยากมากนะครับ เพราะด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ ดังนั้นจึงขอฝากทางรัฐบาลได้พิจารณาในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวไร่ยาสูบ ซึ่งมี กระจัดกระจายอยู่หลายจังหวัด และยังต้องอาศัยรายได้จากการปลูกยาสูบเป็นรายได้ที่ใช้เลี้ยงชีพ ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ ก็เป็นที่ทราบกันดี ช่วงนี้ก็เป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวของภาคเหนือ ทั้งข้าวเหนียว ข้าวเจ้า แล้วก็ข้าวโพด แต่ราคา สินค้าการเกษตรพวกนี้ช่วงนี้ผันผวน ที่ว่าผันผวนก็คือลงมาเรื่อย ๆ ปีนี้ข้าวน่าจะราคาแพง ที่สุดในรอบ ๑๖ ปี เพราะว่าอินเดียก็ไม่ส่งออก ผลผลิตก็ต่ำเพราะว่าฝนทิ้งช่วง โรคระบาด แต่ว่าราคาข้าวก็ยังลดลง แต่ก็ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงพาณิชย์ โดยท่านรัฐมนตรีภูมิธรรม ที่ได้มีโครงการพาณิชย์ช่วยชาวนา ซึ่งช่วงนี้ก็จะซื้อข้าวเปลือกเหนียวในราคาที่สูงกว่าตลาด ๒๐๐ บาทต่อตัน โดยการซื้อผ่านสหกรณ์การเกษตรแต่ละอำเภอ เป้าหมายที่ ๗ จังหวัด ภาคเหนือ ๓๐,๐๐๐ ตัน แต่จริง ๆ แล้วก็เป็นจำนวนเพียงน้อยนิด เพราะฉะนั้นจึงขอให้ทาง รัฐบาลรีบออกมาตรการต่าง ๆ ที่จะรองรับข้าวที่จะออกมาทั้งระบบ แล้วก็เช่นเดียวกัน ข้าวโพดช่วงนี้ภาคเหนือเราก็ปลูกกันเยอะ ผลผลิตกำลังจะออก ราคาก็ตกต่ำลง แบบกรณีเดียวกันนะครับ
เรื่องที่ ๒ อันนี้เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนนะครับ เป็นเรื่องที่ ขอเรียกชื่อว่าเรื่องถังเขียวก็แล้วกันของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยเขียนไว้ว่าโครงการ พัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน ปี ๒๕๖๔ (งบกลาง) โดยกรมทรัพยากร น้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีหลายสิบแห่งในจังหวัดแพร่ เร่งสร้างมากในช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่ปัจจุบันนี้ปรากฏว่าบางแห่งใช้ได้ บางแห่งใช้ไม่ได้เลย เรียกว่าใช้ไม่ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นที่ตำบลน้ำเลา อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ตำบลหัวเมือง อำเภอสอง คือไม่มีน้ำเลย ก็คงจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยไปดูด้วย แล้วก็แก้ไขนะครับ ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นอนุสาวรีย์ไว้ให้ลูกหลานไว้ดูต่อไป ขอบพระคุณ ท่านประธานสภาครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ก็เป็นเรื่องของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะปลูกอยู่ในเขตภาคเหนือตอนบน ปีนี้ก็เป็น ปีที่ราคาค่อนข้างจะไม่ดี อาจจะประมาณ ๕.๕๐ บาท จนถึง ๖.๕๐ บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงต้น ๆ ฤดู ก็คือในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม ทำให้เกษตรกรต้อง แบกรับภาระ บางท่านปลูก ๒๐ ไร่ เหลือเงินเพียง ๕,๐๐๐ บาท แล้วปีนี้ก็ไม่มีโครงการ ประกันรายได้ และมาตรการการรักษาเสถียรภาพของราคาก็ค่อนข้างจะไม่ค่อยได้ผล แต่ช่วงนี้ ราคาก็สูงขึ้น แต่จริง ๆ แล้วข้าวโพดไม่ได้อยู่ในมือเกษตรกรแล้ว มันหมดแล้ว พี่น้อง เกษตรกรก็ได้เรียกร้องผ่านผมมานะครับ ขอให้ชดเชยปัจจัยการผลิต ขอให้ทางรัฐบาลชดเชย การผลิตสักประมาณ ๕๐๐ บาท ถึง ๑,๐๐๐ บาทต่อไร่ ไม่เกิน ๒๐ ไร่ก็ได้ แต่ก็น่าเห็นใจ รัฐบาลนี้ที่ปัจจุบันนี้รัฐบาลก็ไม่ค่อยมีเงิน งบกลางก็ไม่ค่อยเหลือ เพราะถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไรครับขอเป็นมติ ครม. ก่อนก็ได้นะครับ แล้วเงินค่อยมาทีหลัง ก็คิดว่าคง นำเรียนให้ทางรัฐบาลไปพิจารณาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งก็คงใช้ เงินจำนวนไม่มาก
เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องฝาก ก็เป็นเรื่องของประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ ๔ ตำบลน้ำรัด อำเภอหนองม่วงไข่ ซึ่งใช้การไม่ได้ ชำรุดมาหลายปี พี่น้องประชาชนก็ไม่มีน้ำประปาใช้ ก็ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมทรัพยากรน้ำบาดาลไปช่วยดูให้ด้วย กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ ผม นายแพทย์นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย จะสังเกตว่าวันนี้รัฐบาลของเราได้เห็นความสำคัญของ ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดทุกฉบับ มีท่านรัฐมนตรีมานั่งฟังท่าน ๒ ท่านเลย คือท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นะครับ เรื่องมลพิษทางอากาศ จริง ๆ สมัยก่อนนี้ สมัยเราเรียนหนังสือ เราก็ไม่รู้จัก PM2.5 เราก็เรียกว่าฟ้าหลัวนะครับ ปัจจุบันนี้ก็เนื่องจากว่ามลพิษทางอากาศมันรุนแรงมากขึ้น เรื่อย ๆ มีผลกระทบต่อสังคม มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและสุขภาพ อันนี้แน่นอนอย่างกว้างขวาง PM2.5 ภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Particulate Matter ซึ่งก็จะมี เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า ๒.๕ ไมครอน เรียกง่าย ๆ ว่าฝุ่นจิ๋วก็แล้วกัน จริง ๆ แล้วมลพิษ มันก็ไม่ได้มีแค่ PM2.5 ถ้าเราไปดูในเรื่องของรายงานอากาศเราก็จะเห็นเขียนว่า AQI ใช่ไหมครับ ก็คือ Air Quality Index ซึ่งก็จะดูสารมลพิษประมาณ ๕ อย่าง ๑. ก็คือ ก๊าซโอโซน ๒. ไนโตรเจนไดออกไซด์ ๓. คาร์บอนมอนอกไซด์ ๔. ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ๕. ก็คือฝุ่นละออง ซึ่งก็จะดูทั้ง PM10 แล้วก็ PM2.5 นะครับ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือฝุ่นละออง ดังกล่าวนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ PM2.5 ซึ่งในวันนี้จริง ๆ ก็คือเพื่อนสมาชิกก็ได้อภิปรายกัน หลายมุมมองมาก ก็คงไม่ต้องลงลึกรายละเอียด แต่ว่ามันจะมีอยู่อย่างหนึ่งที่ยังเป็นข้อสังเกต แล้วก็เป็นข้อกังวลอยู่ ก็คือในเรื่องของระบบภาษีอากรที่จะเก็บจากในเรื่องของอากาศ สะอาด ในร่างของรัฐบาลก็ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเก็บจากส่วนไหน ว่าเก็บจากสินค้า หรือว่ากิจกรรมประเภทใดที่สร้างมลพิษ แต่จะมีในร่างของประชาชน ก็คือของท่านคนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม กับประชาชน ๒๒,๒๕๑ คน ในมาตรา ๗๐ ถึงมาตรา ๗๓ ที่ให้จัดตั้งกองทุน อากาศสะอาดเพื่อสุขภาพขึ้น โดยจะเก็บเป็นเงินบำรุงกองทุนในอัตราร้อยละ ๑๐ และจัดเก็บจากสินค้าหรือบริการที่ก่อให้เกิดหมอกควันพิษ เช่น น้ำมันรถยนต์ น้ำมัน รถจักรยานยนต์ เรือ สุรา ยาสูบ หินอ่อน ซึ่งอันนี้ก็น่าจะขัดกับพระราชบัญญัติวินัยการเงิน การคลังของรัฐในมาตรา ๒๖ ที่จะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์หรือเพื่อการหนึ่งการใดเป็นการเฉพาะจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งอันนี้ถ้าภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Earmarked Tax นะครับ ก็อย่างเช่นภาษีบาปของทาง สุราหรือว่าบุหรี่ที่เก็บให้ สสส. แล้วก็ Thai PBS จึงไม่น่าจะทำได้ในตรงนี้ แต่ถ้าหากมาย้อน ดูถ้าเราจะใช้ร่างของรัฐบาล การเก็บภาษีสินค้าต่าง ๆ นี้ก็ยังไม่ชัดเจน แต่ก็มีข้อกังวล ตรงที่ว่าถ้าการเก็บภาษีที่จะเกิดขึ้นมันอาจจะต้องเก็บจากสินค้าหรือบริการที่ทำให้เกิดมลพิษ ก็อย่างเช่นน้ำมันอย่างที่ดังกล่าว รถยนต์ เรือ สุรา ยาสูบ หรือแม้แต่ว่าไก่ย่างของท่าน คุณหมอภาณุเมื่อสักครู่นะครับ ซึ่งก็ก่อมลพิษเหมือนกัน อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับ ประชาชน เพราะว่าราคาสินค้าซึ่งที่เกี่ยวกับน้ำมันหรือว่าการขนส่งมันอาจจะแพงขึ้น ทำให้ สินค้าอุปโภคบริโภคนี้อาจจะสูงขึ้นก็ได้ อันนี้ก็ขอฝากไว้ในชั้นคณะกรรมาธิการแล้วก็ต่อไป นะครับ และธุรกิจบางประเภทเราก็น่าเป็นห่วงถ้ายังเก็บภาษีตรงนี้ เช่น สุราชุมชน ซึ่งปัจจุบันนี้ก็อยู่ยากอยู่แล้วก็อาจจะล้มหายตายจากไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องชาวไร่ ยาสูบ อันนี้ฝากมาเลยว่าถ้าหากเก็บภาษีตรงนี้ที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ. อากาศสะอาด ชาวไร่ยาสูบ อาจจะต้องล่มสลาย เพราะปัจจุบันนี้ชาวไร่ยาสูบก็อยู่ลำบากอยู่แล้วจากการขึ้นภาษีต่าง ๆ จากโควตาที่ลดลง อันนี้ก็ฝากไว้เป็นประเด็นให้กับทางคณะกรรมาธิการในโอกาสต่อไป นะครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพนะครับ ผม นิยม วิวรรธนดิฐกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ เขต ๒ พรรคเพื่อไทย ก็คงต้องขออนุญาตพูดในนามของกรรมาธิการการสาธารณสุข ซึ่งคงจะต้อง รับเรื่องนี้ไปพิจารณา ก็ขออภัยบางครั้งอาจจะต้องทับศัพท์ภาษาอังกฤษนะครับ เพราะว่า ถ้าเราพูดถึงกัญชง กัญชา เพราะจริง ๆ แล้วก็คงจะต่อเนื่องมาจากสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ ผ่านมานะครับ เมื่อมีการปลดล็อกกัญชง กัญชา ออกจากยาเสพติดประเภท ๕ เราก็พยายาม ทำกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชงกัญชา แต่ก็ไม่เสร็จ ครั้งที่แล้วนะครับ เอาเป็นว่า กัญชง กัญชา ก็แล้วกันนะครับ เพราะว่าตามญัตติของท่านก็คือจะให้แยกออกจากกัน กัญชาและ กัญชงก็เป็นญาติพี่น้องกัน แม่เดียวกันนะครับ ถ้าเป็นพูดภาษาแบบพื้น ๆ นะครับ คือเป็นตระกูล Cannabis เหมือนกันนะครับ เพียงแต่ว่า สายพันธุ์ย่อยอาจจะต่างกันไปนะครับ ก็คือกัญชานี้ก็จะเป็น Sativa ถ้ากัญชงเขาเรียกว่า Indica เดิมแล้วเราก็จะแยกกัญชง กัญชาจากลักษณะข้างนอกโดยทั่ว ๆ ไปนะครับ เช่น ใบของกัญชาก็จะมี ๕-๗ ใบ ใบของกัญชงก็จะมี ๗-๑๑ แฉกอะไรอย่างนี้นะครับ แต่จริง ๆ แล้วการแยกว่าอันไหนเป็นกัญชง กัญชา มันก็จะต้องแยกออกมาเป็นเรื่องของ THC และ CBD ซึ่งเป็นสารสำคัญเป็น Cannabidiol ที่อยู่ในพืชทั้ง ๒ ชนิดนี้นะครับ THC ภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Tetrahydro Cannabinol ตัวนี้ THC ที่มีผลจิตประสาทของเรา ต่ออารมณ์ เมื่อเสพเข้าไปแล้วก็จะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น ก็คือมี Tolerance ส่วน CBD ภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Cannabidiol อันนี้ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ไม่เสพติด ก็เป็นสารที่ มีประโยชน์นะครับ เช่น ลดอาการปวด ลดการอักเสบ ลดความกังวล ลดอาการคลื่นไส้ ก็สามารถจะใช้ยาเป็นอะไรต่าง ๆ ได้ ที่จริงตัวกัญชงก็จะมีประโยชน์ค่อนข้างจะเยอะนะครับ กัญชงภาษาอังกฤษเขาเรียก Hemp กัญชาเขาเรียกว่า Marijuana จริง ๆ แล้วกัญชงก็จะมี ประโยชน์อย่างอื่นอีก เพราะว่าในต่างประเทศเขาก็ปลูกกันเยอะ ในบางประเทศกว่า ๓๐ ประเทศนี้ก็ปลูกออกมาเป็น ๓ ประเภท ประเภทที่ ๑ ก็คือเอาต้นไปทำ Fiber เหมือนที่ ท่าน สส. ท่านได้อภิปรายไปแล้วนะครับ ก็คือเอาเส้นใยมาทำเสื้อผ้า มาทำอะไรต่าง ๆ อันที่ ๒ ก็คือเอาเมล็ดเอา Hemp Seeds มาสกัดเอา Omega 3 ๓ และ Omega 6 ๖ เป็น อาหารเสริมของเรานะครับ อันที่ ๓ ก็คือเอากัญชงที่มี CBD สูง นำมาสกัดเอาสาร CBD เพื่อ เอามาใช้ในทางการแพทย์ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งนะครับ แต่ปัจจุบันนี้เราก็ต้องยอมรับการจะ แยกกัญชง กัญชา ออกจากกันมันต้องแยกด้วยสาร THC และ CBD เท่านั้น ก็คือ THC มากกว่า ๑ ก็เป็นกัญชา THC น้อยกว่า ๑ ก็เป็นกัญชง CBD ในกัญชาก็ต้องน้อยกว่า ๒ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ CBD ในกัญชงก็จะมากกว่า ๒ เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้มันอาจจะเกิดปัญหาใน การที่จะแยก เพราะปัจจุบันสายพันธุ์ของกัญชง กัญชา มีนับหมื่นสายพันธุ์ เพราะมีการผสม ข้ามสายพันธุ์กัน แล้วก็เปรียบเสมือนว่าเราเอาสีขาวกับสีดำมา ๒ สีแค่นั้นเอง เสร็จแล้วมันมาผสมกันมันได้หลายโทนสีมากนะครับ มันก็จะทำให้ปริมาณของ THC แตกต่างกันเยอะแยะมากมายนะครับ อย่างในรูปของท่าน สส. มานพ ผมขออนุญาตเอ่ยนาม อันนั้นก็เป็นกัญชงพันธุ์พื้นเมืองของเราที่สูงและเก็บเส้นใยได้ แต่ว่ากัญชงของ พันธุ์ต่างประเทศสูงแค่เข่าเองนะครับ โดยเฉพาะในสายพันธุ์ของ Cannabis Ruderalis สูงแค่เข่าจริง ๆ ครับ แล้วช่อดอกโตมาก มีกลิ่น Terpenes หอมหวนเลยนะครับ สกัดเอา CBD มีการปลูกกันทางอุตสาหกรรม หรือว่าอะไรต่าง ๆ นี้ค่อนข้างจะเยอะนะครับ เพราะฉะนั้นเราดูจากข้างนอกวันนี้เราดูไม่ออกแล้ว เราแยกไม่ได้ เพราะฉะนั้นการแยก มันต้องแยกจาก THC และ CBD เท่านั้นนะครับ ก็อย่างที่ผมเปรียบเทียบครับ สีขาว สีดำ ใส่สีโน้นนิด ใส่ปริมาณที่ต่างกันมันก็จะมีหลายโทนสีมาก หรือถ้าเปรียบเทียบวันนี้สายพันธุ์ ของกัญชง กัญชา มันผสมข้ามสายพันธุ์กันไปหมดนะครับ เปรียบเสมือนกับสัตว์เลี้ยงของเรา อย่างเช่น สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศ เราเอาสายพันธุ์ต่างประเทศมาเสร็จแล้วมันก็มาผสมกับ พันธุ์พื้นเมืองของเราจนเดี๋ยวนี้เราแยกไม่ออกแล้ว โดยสรุปแล้วก็ทางการแพทย์ก็คงจะต้อง แยกจาก THC และ CBD เท่านั้นนะครับ เพราะฉะนั้นปัญหาการที่มันผสมกันมากมาย มันก็อาจจะเกิดปัญหาในการที่ว่าเราจะแยก กัญชงออกจากกัญชาอย่างไรนะครับ ความยากง่ายในการที่จะต้องสกัดสาร THC และ CBD ออกมา ที่ประชาชนปลูกเราจะต้องมาแยกให้เขา แต่จริง ๆ แล้วโดยความรู้สึกจริง ๆ แล้วก็ อยากจะสนับสนุนให้มีการแยกนะครับ ถ้าเราสามารถทำได้เพราะมันจะเกิดประโยชน์อย่าง มากมาย เพราะว่า CBD ที่อยู่ในกัญชง ประโยชน์ทางการแพทย์ก็ยังค่อนข้างจะเยอะอยู่ แล้วก็ยังสามารถทำเอาเส้นใย หรือว่าเอาเมล็ดมาสกัดเอา Omega 3 Omega 6 ได้ เพราะฉะนั้นในฐานะของกรรมาธิการการสาธารณสุขก็คิดว่าในความต้องการของท่านที่จะให้ แยก เราก็จะพยายามที่จะนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา ถ้าสามารถที่จะทำได้หรือแยกได้นะครับ โดยที่ไม่มีความยุ่งยากมากนัก โดยเฉพาะทางด้านกฎหมายด้วย เราก็จะพยายามอย่างยิ่ง แล้วก็ยินดีที่จะรับไปพิจารณานะครับ อันนี้ก็คงขออนุญาตพูดเป็นตัวแทนของกรรมาธิการ การสาธารณสุขของสภาผู้แทนราษฎรของเรานะครับ กราบขอบพระคุณครับ