เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ผมขอแสดง ความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออภิปรายปัญหาภาพรวมทั้งประเทศ และข้อเสนอ ท่านประธานครับ เหตุการณ์การระเบิดของโกดังดอกไม้ไฟที่จังหวัดนราธิวาส ไม่ได้เกิดขึ้น เพียงครั้งแรก และผมเชื่อว่าคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ขึ้นอีก ขอ Slide ด้วยครับ
ผมขอทบทวนความจำเหตุการณ์ที่สร้าง ผลกระทบเป็นวงกว้างต่อพี่น้องประชาชนดังนี้ครับท่านประธาน ขอ Slide ถัดไปครับ เดือนตุลาคม ปี ๒๕๖๐ เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลในนิคมอมตะนคร เนื่องจากกรดไนตริก ได้หยดลงไปในหม้อต้มทำให้เกิดความร้อนขึ้นสูงและเกิดปฏิกิริยา ส่งผลให้พนักงาน ๕ คน ได้รับบาดเจ็บ เดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๖๑ มีการตรวจพบกากกัมมันตรังสี และสารปนเปื้อน ในตู้สินค้าขาออกที่ท่าเรือแหลมฉบัง เดือนพฤษภาคม ปี ๒๕๖๒ เกิดเหตุที่ท่าเรือแหลมฉบัง อีกครั้ง แต่เป็นการระเบิดของตู้ Container บนเรือส่งสินค้า มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นลูกเรือ และผู้อยู่อาศัยโดยรอบรัศมีกว่า ๕ กิโลเมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย เดือนกันยายน ปี ๒๕๖๒ มีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมบริเวณอ่างเก็บน้ำในโครงการ พระราชดำริเขาหินซ้อน ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่งผลให้ น้ำทั้งอ่างมีสภาพเป็นกรดเข้มข้นสูงเป็นพิษต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ การแก้ปัญหา เดือนตุลาคม ปี ๒๕๖๓ เกิดเหตุท่อแก๊สธรรมชาติระเบิดที่บ้านเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิต ๕ ราย บาดเจ็บ ๕๒ ราย และ ทรัพย์สินเสียหายมากมาย ภายในรัศมีความรุนแรง ๕๐๐ เมตร ถึงเวลานี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ เดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๖๔ เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเม็ดพลาสติกอย่างรุนแรงกลางพื้นที่ เศรษฐกิจและชุมชนหนาแน่นในซอยกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ๑ ราย และผู้บาดเจ็บ ๔๐ ราย นอกจากนี้ไฟไหม้และแรงระเบิดยังทำให้บ้านเรือนประชาชน เสียหายกว่า ๑๐๐ หลัง และประชาชนในรัศมีกว่า ๙ กิโลเมตร กว่า ๑,๑๒๐ คนต้องอพยพ ออกจากพื้นที่ เดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๖ ซีเซียม-๑๓๗ มีการสูญหายในพื้นที่ จังหวัดปราจีนบุรี ถึงเวลานี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของซีเซียมก้อนนั้น เหลือเพียงฝุ่นแดง ที่เป็น By product ถูกจัดเก็บอย่างตามมีตามเกิดในโรงงานเหล็ก แต่ตัว Product หลัก คงเข้าสู่กระบวนการผลิต Recycle เหล็กเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอันตราย รวมถึงจะมีการพยายามสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงกากอุตสาหกรรม ๓ โรงติด ๆ กัน ในพื้นที่ ตำบลลาดตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี นี่เป็นเพียงเหตุการณ์บางตัวอย่าง ท่านประธานครับ ท่านประธานจะเห็นครับว่าเหตุการณ์พวกนี้มักจะเกิดขึ้นจากวัตถุและสารเคมีอันตราย วัตถุระเบิดที่อยู่รอบ ๆ ตัวของพี่น้องประชาชนทั้งนั้น แต่ท่านลองไปถามคนในพื้นที่สิครับ ถามเขาว่ารู้ไหมว่ามีวัตถุที่พร้อมปลิดชีพอยู่รอบ ๆ ตัวเขา ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยไม่มีใครทราบ ทั้ง ๆ ที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เขาควรจะต้องรู้ ท่านประธานครับ นับตั้งแต่มีการปฏิวัติ รัฐประหารเหตุการณ์ข้างต้นดังกล่าวไม่ใช่เหตุการณ์ที่ไม่อาจประเมินได้ว่ามันจะเกิด เป็นสิ่ง ที่ผู้มีอำนาจ หน้าที่ทราบดี และมีข้อมูลอยู่ในมือเพียงแต่ไม่เคยสนใจ หรือมุ่งแต่จะหา ผลประโยชน์จากการปิดบังข้อมูล เพื่อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่สอดคล้อง และไม่เหมาะสม อาศัยอำนาจมาจากกลไกเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นการออกมาตรา ๔๔ การออกกฎหมาย หรือแก้กฎหมายโดยสภาที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐบาลทหาร แก้กฎหมายและปิดบังข้อมูล เพื่อประโยชน์ของกลุ่มตัวเองและพวกพ้อง และไม่มีวี่แวว จะเห็นหัวประชาชน ท่านประธานครับ ถึงเวลาแล้วหรือยังครับที่อย่างน้อยประชาชนจะรู้ ข้อมูลว่าตนและครอบครัวอยู่ในเงื้อมือมัจจุราชชนิดไหน อำมหิตอย่างไร โดนบีบ โดนยัดเยียดให้อยู่ ให้ทำมาหากินบนพื้นที่ซึ่งอาจตายเมื่อไรก็ได้ บ้างก็ตายแบบผ่อนส่ง ท่านคงไม่มีความคิดที่จะเยียวยาบนความเสี่ยงภัยของผู้คนเหล่านี้ หรือครอบครัวเหล่านี้เลย ได้โปรดเถอะครับ อย่างน้อยให้เขามีสิทธิรู้ และควรมีสิทธิตัดสินใจว่าจะปกป้อง ดูแลครอบครัวเขา และเฝ้าระวังสถานการณ์อันอาจจะเกิดขึ้นกับการหาอยู่หากินของเขา ได้บ้าง
Slide ถัดไปเลยครับ ผมไม่อยากเห็นการทำงานแบบวัวหายล้อมคอกอีกแล้ว นอกจากเหตุการณ์ล่าสุดทั้งที่นราธิวาสและเชียงใหม่ พื้นที่ของผมจังหวัดชลบุรี และพื้นที่รอบ ๆ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกก็เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยระเบิด เวลาที่รอเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น เพราะล้วนเต็มไปด้วยพื้นที่เสี่ยงภัยนานัปการ ทั้งพื้นที่ เสี่ยงภัยท่อแก๊สระเบิด วัตถุระเบิด วัตถุอันตราย ข้อมูลเหล่านี้ ย้ำนะครับ ข้อมูลเหล่านี้ พวกท่านในฐานะผู้มีอำนาจท่านมีอยู่ในมืออยู่แล้วทั้งสิ้น ขอความกรุณาเถอะครับ นำส่ง ข้อมูลนี้เพื่อให้พี่น้องประชาชนอย่างน้อย ๆ ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวได้รู้ชะตากรรมตัวเอง ได้มีสิทธิที่จะหาทางปกป้องครอบครัวตัวเอง ได้มีสิทธิที่จะรู้ว่าตัวเองควรอยู่ หรือควรย้าย ออกไปจากที่นี่ อย่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างซ้ำ ๆ ซาก ๆ ควรเปลี่ยนมุมมอง ใหม่ มุมมองที่มองชีวิตประชาชนสำคัญกว่าความสะดวกสบายของนายทุนดีกว่าครับ สุดท้าย แล้วผมขอเสนอต่อท่านประธานดังนี้ครับ ๑. นำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยท่อแก๊สระเบิด วัตถุระเบิด วัตถุอันตรายที่มีอยู่แล้วในมือของท่านเปิดเผยต่อสาธารณะ อำนวยการ ให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึงและประชาชนมีส่วนร่วมตามมาตรการที่มีอยู่แล้ว ๒. ส่งเสริม ให้ท้องถิ่นสำรวจพื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง แล้วแปลงข้อมูลไปสู่การใช้งานจริง เฝ้าระวังจริง พร้อมติดตั้งสัญลักษณ์ชนิด และระดับความเสี่ยงให้ชัดเจน ๓. หลังจากนี้กลไกการออก ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร หรือใบอนุญาตประกอบกิจการใด ๆ รวมไปถึงการออกแบบ ข้อกำหนดใช้ประโยชน์ที่ดินควรเป็นไปตามหลักวิชาการ และการมีส่วนร่วม โดยนำพื้นที่ เสี่ยงภัยต่าง ๆ มาใช้ในการพิจารณาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน ฝากท่านประธานไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณมากครับท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวนิคมอมตะซิตี้ อำเภอพานทอง อำเภอบ้านบึง อยู่ ๔ เรื่องดังนี้ครับท่านประธาน ขอ Slide ด้วยครับ
เรื่องแรกครับ พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ที่มีผู้ใช้น้ำกว่า ๔๓,๑๙๐ รายได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการหยุดจ่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค โดยใน ๗ เดือนที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำไปแล้วกว่า ๓๕ ครั้ง แต่ละครั้ง น้ำไม่ไหลกันข้ามวันข้ามคืน จนกลายเป็นปัญหาซ้ำซากไปแล้วครับท่านประธาน จึงอยากจะ ขอให้ท่านประธานทำหนังสือถึงการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง อำเภอบ้านบึง เพื่อให้ การประปาส่วนภูมิภาคเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาซ้ำซากนี้อย่างยั่งยืนและเร่งด่วนครับ
ขอ Slide ถัดไปครับ เรื่องที่ ๒ ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเข้ามาแก้ไข พื้นผิวถนนและเพิ่มช่องทางการจราจรในบริเวณทางข้ามรถไฟ ถนนหมายเลข ๓๔๖๖ บ้านเก่า-พานทอง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสภาพพื้นผิวถนนที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีการบีบช่องทางการจราจรจาก ๔ เลน เหลือเพียง ๒ เลน มีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การจราจรติดขัดอย่างรุนแรงในช่วงเวลาเร่งรีบ
Slide ถัดไปครับ เรื่องที่ ๓ ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ามานำลิงแสมที่เป็นสัตว์ป่าในพื้นที่หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ไปปรับปรุงพฤติกรรมตามอำนาจที่ท่านมี เนื่องจากลิงมีนิสัยดุร้ายได้เข้ามาสร้างความเสียหาย ต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง
Slide ถัดไปครับ เรื่องสุดท้ายครับท่านประธาน ขอให้ทางอำเภอพานทอง เข้ามาตรวจสอบโครงการวางท่อน้ำดิบในพื้นที่ตำบลหนองกะขะ และตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากพบว่าการดำเนินโครงการทั้งโครงการไม่ได้ตรง เป็นตามแบบวิศวกรรมที่ได้แจ้งขออนุญาตไว้ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังและสร้างผลกระทบ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยหวังอย่างยิ่งว่าทั้ง ๔ เรื่องที่กล่าวมาจะได้รับการแก้ไข โดยเร็ว ขอบคุณครับท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมขอร่วมตั้งข้อสังเกตผ่านท่านประธานไปยังผู้ชี้แจงเกี่ยวกับพันธกิจของโครงการ EEC ตามรายงานฉบับนี้ในหน้า ๑๐ โครงการ EEC ดำเนินโครงการไปแล้วกว่า ๖ ปี แต่ผล การดำเนินงานทั้งตามรายงานของท่านรวมถึงความเป็นจริงกลับไม่มีอะไรเลยที่ประชาชน จับต้องได้ รบกวนฝ่ายโสตขึ้น Slide ด้วยครับ
อย่างนั้นผมอภิปรายต่อนะครับ
ท่านได้วาดฝันเป้าหมายโครงการของท่าน ผ่านการเขียนพันธกิจอย่างสวยหรู แต่ผลการดำเนินงานของท่านตามความเป็นจริงแล้ว กลับไม่สอดคล้องและยังขัดแย้งต่อพันธกิจของท่านเสียเอง อีกทั้งยังส่งผลกระทบ และสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่นานัปการ เหตุเพราะที่มาของโครงการดังกล่าว ไร้ความชอบธรรม และโครงสร้างของคณะกรรมการ EEC ไม่ได้ยึดโยงกับพื้นที่ ๓ จังหวัด อย่างแท้จริง โดยตั้งแต่ประธานกรรมการจนถึงสัดส่วนอนุกรรมการทุกคณะในแต่ละตำแหน่ง ไม่มีสัดส่วนของคนในพื้นที่ ๓ จังหวัด EEC เลยสักคนเดียว หมายความว่าคนในพื้นที่เหล่านี้ ไม่สามารถที่มีสิทธิแม้กระทั่งจะร่วมสะท้อนปัญหากำหนดการใช้ทรัพยากรและความเป็น วิถีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่ ๓ จังหวัด EEC ได้เลย แต่ให้คนจากที่ไหนไม่รู้เข้ามากำหนดชะตากรรม ของคนในพื้นที่ แต่พอจะมีเวทีรับฟังความคิดเห็นท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนในพื้นที่ เท่าที่ควร นี่เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างแผนภาพรวมในวันที่ ๓ สิงหาคม ปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมานี้เองตามพันธกิจของท่าน แต่ปรากฏว่าจากเวทีรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนกลายเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นของข้าราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เพราะผมได้รับรายงานมาว่าทั้งเวทีเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ข้าราชการและชนชั้นนำในพื้นที่ ชลบุรี ประชาชนมาเพียงไม่กี่คนจากสัดส่วนคนเป็นร้อยในวันนั้น และพอถึงเวลาเลิกงานข้าราชการผู้คนร่วมเวทีหายไปกว่าครึ่งห้องทั้ง ๆ ที่เวทียังไม่จบ แสดงว่าท่านไม่ได้เปิดพื้นที่รับฟังเสียงของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เท่าที่ควร ท่านพอจะชี้แจงได้ไหมว่าองค์กรที่ท่านเชิญมาร่วมเวทีทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในพื้นที่มีสัดส่วนเท่าไรในเวทีดังกล่าว ท่านประธานครับ ถ้าการพัฒนาขาดการมีส่วนร่วม ของประชาชนในพื้นที่ ผลที่ประชาชนในพื้นที่จะได้รับก็คือการเพิกเฉยต่อปัญหาและ ผลกระทบของคนในพื้นที่จากผู้มีอำนาจนอกพื้นที่ ดังตัวอย่าง ท่านเพิกเฉยต่อปัญหา การใช้ประโยชน์ที่ดิน เพราะอยู่ดี ๆ ท่านอยากเปลี่ยนผังเมืองเมื่อไรก็เปลี่ยน ยกตัวอย่าง เช่นท่านเปลี่ยนผังเมืองให้สามารถสร้างนิคมในพื้นที่เขียวทแยงขาวได้ ซึ่งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ในพื้นที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งขัดกับพันธกิจของท่านว่า จะพัฒนา EEC ให้เป็นต้นแบบพื้นฐานทั้งในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ขีดเส้นใต้ย้ำ ๆ สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ท่านเพิกเฉย ต่อผลกระทบที่ตามมาจากการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีปัญหาซ้ำซาก และเรื้อรังคือการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอันตรายอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่รอบ ๆ เขต EEC และภาคตะวันออก ท่านลองดูจากภาพครับ จากปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ปัญหา การทิ้งน้ำเสียและกากอุตสาหกรรมเกิดขึ้น ๒๘๐ ครั้ง และในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งใน และรอบ ๆ EEC การลักลอบปล่อยมลพิษและกากอุตสาหกรรมปาไปแล้ว ๘๓ ครั้ง คิดเป็น ๒๙.๖ เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศ ปัญหาเหล่านี้ที่ผ่านมาไร้การเหลียวแล จากคณะกรรมการ EEC ทั้งสิ้น เพราะท่านไม่เคยสนใจที่จะออกมาตรการแก้ปัญหา เหล่านี้เลย เนื่องจากท่านไม่ได้ยึดโยงต่อพื้นที่มากพอที่จะมาสนใจความเป็นความตาย ของคนในพื้นที่ ท่านทำเพียงแต่กวาดเอาปัญหาเหล่านี้ซุกไว้ใต้พรม ทำเหมือนไม่มีอะไร เกิดขึ้น แล้วท่านมาพูดปาว ๆ กล่าวแถลงอย่างสวยหรูเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่า โครงการของท่านไร้ที่ติ จากภาพครับ อ่างเก็บน้ำโครงการหลวงเขาหินซ้อนต้นฉบับ การพัฒนาอย่างยั่งยืน มรดกของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ปัจจุบันมีความเป็นกรดเข้มข้นสูง ทั้งอ่างเก็บน้ำไร้ซึ่งชีวิตและเป็นพิษต่อผู้คน นี่ใช่ไหมคือการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการกำกับ ของคณะกรรมการ EEC ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ล้วนเต็มไปด้วยผู้จงรักภักดี นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่จงรักภักดีอย่างไรไม่รู้ถึงปล่อยให้โครงการในพระราชดำริ ถูกย่ำยีเยี่ยงนี้ และไม่เพียงแต่มีปัญหาเรื่องกากอุตสาหกรรมที่มันเกลื่อนกลาด ทั่วภาคตะวันออก แต่ปัญหาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่เช่นเคย แม้พันธกิจ ของท่านจะบอกว่าจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก แต่ท่านรู้ไหมอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี น้ำประปา หยุดไหลเป็นว่าเล่น ผมลืมไปท่านไม่ใช่คนพื้นที่ ท่านอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ แต่ใน ๗ เดือนที่ผ่านมา การประปาส่วนภูมิภาคสาขาบ้านบึงมีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำไปแล้วกว่า ๓๕ ครั้ง โดยอ้างว่าท่อชำรุดต้องหยุดจ่ายน้ำเพื่อซ่อมแซมจนกลายเป็นปัญหาไปแล้ว และผมมีข้อมูล อีกหลายพื้นที่ที่เป็นเช่นนี้ ขออีก ๑ นาทีครับท่านประธาน ทั้งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ประปาน้ำก็เค็ม จังหวัดระยองก็ไม่ต่างกัน น้ำไหลบ้าง ไม่ไหลบ้าง บางที่ก็มีกลิ่น มีสีขุ่น แต่โรงงานอุตสาหกรรมในนิคมกลับมีน้ำใช้ไม่เว้นวัน แบบนี้ประชาชนจะสามารถเข้าถึง สาธารณูปโภคอย่างสะดวกได้อย่างไร ยังไม่ได้พูดถึงพระเอกของโครงการนี้ อย่างเช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบินที่จะอยู่ในแนวพื้นที่เสี่ยงภัยท่อแก๊สระเบิดในระยะ ประชิดยาว ๘ กิโลเมตร ซึ่งเจ้าของอย่างบริษัท ปตท. ก็มั่นใจว่าท่อแก๊สของเขาไม่มีวันระเบิด แต่ผมคนในพื้นที่จะเชื่อได้อย่างไรครับ ในเมื่อเหตุการณ์ระเบิดที่ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ ก็ไม่ไกลจากแนวรถไฟฟ้าความเร็วสูงนี้ และถ้าเป็นปัญหาเช่นนี้ท่านก็ไม่บรรลุพันธกิจ ในการพัฒนาเมืองให้มีความทันสมัยระดับนานาชาติที่เหมาะสมต่อการอาศัยอย่างสะดวก และปลอดภัยได้อย่างแน่นอนครับท่านประธาน ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ก่อนอื่นต้องขอ ขอบคุณรัฐมนตรีที่ได้ให้ความสำคัญเข้ามาตอบกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องการให้บริการ น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค แม้ว่าในสายตาของคนทั่วไปที่ไม่ได้ประสบพบเจอ กับปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งผู้มีอำนาจอาจจะมองว่าเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย ท่านประธานครับ แต่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตรับผิดชอบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ที่มีผู้ใช้น้ำกว่า ๔๓,๗๑๗ ราย ต้องจมอยู่กับปัญหา ที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง มีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำไม่เว้นวัน ประชาชน ไม่มีน้ำใช้กันข้ามวันข้ามคืน โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำ ไปแล้วทั้งสิ้น ๑๒ ครั้ง แยกเป็นปัญหาเรื่องท่อชำรุดหรือท่อแตกไปแล้ว ๙ ครั้ง ระบบขัดข้อง ๒ ครั้ง ปรับปรุงระบบ ๑ ครั้ง และตลอดปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำไปแล้วทั้งสิ้น ๖๗ ครั้ง เป็นปัญหาเรื่องท่อแตกไปแล้วกว่า ๔๐ ครั้ง ระบบขัดข้อง ๑๐ ครั้ง ปรับปรุงระบบ ๑๗ ครั้ง นี่เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับประชาชนกว่า ๔๓,๗๑๗ รายที่รอคอยน้ำไปใช้ เพื่ออุปโภคบริโภค โดยพวกเขาต้องเผชิญปัญหาอยู่ซ้ำ ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เราได้มีการถาม ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบนั่นก็คือการประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง ก็ให้ข้อมูลมาว่า ปัญหาเรื่องท่อแตกเป็นเรื่องปกติ เป็นงานประจำไปแล้ว เพราะท่อน้ำมันเก่า มีอายุ การใช้งานมานาน มาตรการเดียวที่พวกเขาทำอยู่ก็คือการผลักภาระให้ประชาชน คอยสำรองน้ำไว้ใช้กันเอง สรุปง่าย ๆ ก็คือหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบมีหน้าที่เพียงตาม แก้ปัญหาจุดโน้นทีจุดนี้ทีไม่มีที่สิ้นสุด จนกลายเป็นงานประจำของการประปาและกลายเป็น ปัญหาซ้ำซากไปแล้วครับ ท่านประธานครับ การไม่มีน้ำใช้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ลูกจะไปโรงเรียน พ่อแม่จะไปทำงาน จะอาบน้ำเอาน้ำที่ไหนใช้ ชักโครกจะเอาน้ำที่ไหนล้าง หรือจะต้องให้เขาหอบผ้าหอบผ่อนไปใช้ห้องน้ำที่โรงเรียน ไปใช้ห้องน้ำในที่ทำงาน เราจะอยู่กันแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหมครับ นี่เรายังไม่รวมถึงสภาพของน้ำที่มีคุณภาพต่ำ มีสีขุ่น มีกลิ่นเหม็นด้วยนะครับ สรุปแล้วนี่เรากำลังย้อนกลับไปสู่ยุคกรุงศรีอยุธยาที่ต้องเอาน้ำ ในคลองมาใช้อุปโภคบริโภคกันแล้วหรือ เพราะน้ำที่มีคุณภาพก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ หรือพอได้ใช้ ก็มีสีขุ่น มีกลิ่นเหม็น ไม่ต่างจากน้ำในคลองที่คนสมัยก่อนเขาใช้กัน และไม่ใช่เพียงแค่ พื้นที่บ้านบึงเพียงพื้นที่เดียว แต่ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด หรือทั่วทั้งประเทศ เป็นปัญหาเดียวกันหมด ระบบท่อเก่าผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานย่อมมีความเสื่อม เป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่คนทั่วไปย่อมรู้ แล้วผมเชื่อว่าท่านก็ย่อมรู้ ผู้บริหารการประปาก็ย่อมรู้ แต่ถ้ามัวรอให้เกิดปัญหาก่อนแล้วค่อยตามมาแก้ปัญหา ผมว่านี่ไม่ใช่แนวทางหรือวิธีการทำงาน ของผู้บริหารที่ดีเขาทำกันหรอก ท่านประธานครับ เมื่อเราไปดูที่ต่างประเทศ ทั้งสวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น หรือแม้เพื่อนบ้านเราใน ASEAN อย่างบรูไนเองก็ตาม ประชาชนเขา ไม่ต้องมานั่งกังวลกันวันต่อวันหรอกว่าวันนี้จะมีน้ำใช้หรือไม่ น้ำจะไหลออกมามีสีขุ่น มีกลิ่นเหม็นหรือเปล่า เพราะน้ำประปาเขากินได้กันหมดแล้ว แต่ประเทศไทยผมไม่ได้หวังว่า ท่านจะทำให้น้ำประปากินได้หรอกนะครับ แต่ขอให้มันไหลออกมาและมีคุณภาพมาตรฐาน ให้ประชาชนได้ใช้อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน โดยประชาชนไม่ต้องมานั่งกังวลปัญหาเหล่านี้ ในทุก ๆ วันที่เขาตื่นนอนมา เพราะฉะนั้นคำถามที่ ๑ ขอฝากท่านประธานถามไปยัง ท่านรัฐมนตรีว่าปัญหาซ้ำซากพวกนี้ที่ประชาชนกำลังเผชิญชะตากรรมอยู่และไม่รู้ว่าจะต้อง เผชิญชะตากรรมไปอีกนานแค่ไหน ท่านจะมีมาตรการอย่างไรในการแก้ปัญหาซ้ำซากเหล่านี้ โดยมุ่งเน้นไปที่ต้นตอของปัญหาเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
คำถามที่ ๒ ผมอยากจะถามถึงความเป็นธรรมในการจัดสรรน้ำว่าท่านได้จัด ลำดับความสำคัญในการจัดสรรน้ำอย่างไร ระหว่างจัดสรรน้ำเพื่อให้ประชาชนอุปโภคบริโภค กับจัดสรรน้ำเพื่อให้แก่นิคมอุตสาหกรรม เพราะทุก ๆ ครั้งที่มีการประชาสัมพันธ์หยุดจ่ายน้ำ คนที่ได้รับผลกระทบก็คือประชาชนชาวบ้านผู้ใช้น้ำอุปโภคบริโภค แต่ในขณะเดียวกันกลับไม่มี ข่าวปรากฏเกี่ยวข้องกับการขาดแคลนน้ำหรือคุณภาพน้ำของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม หรือโรงงานอุตสาหกรรมเลย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันแท้ ๆ ถ้าท่านจะบอกว่าท่อที่แตก เป็นคนละท่อที่โรงงานในนิคมเขาใช้กัน แล้วทำไมท่านไม่ทำท่อของชาวบ้านให้เป็นเหมือนกับ ท่อที่ใช้แล้วไม่มีปัญหาเหมือนกับในนิคมละครับ หรือแม้กระทั่งตอนที่การประปา ประชาสัมพันธ์ว่ามีเหตุขัดข้องที่ระบบจ่ายน้ำต้นทางทำให้ไม่สามารถผลิตและสูบจ่าย น้ำประปาได้ ซึ่งต้นทางนั้นก็คืออ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร ซึ่งเป็นต้นทางเดียวกันกับที่ จ่ายน้ำให้กับนิคมอุตสาหกรรม แต่ทำไมไม่เห็นมีปรากฏข่าวคราวเลยว่าขาดแคลนน้ำ หรือคุณภาพน้ำของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมหรือโรงงานอุตสาหกรรมเลย น้ำถือเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต โดยหลักแล้วการจัดสรรน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องสำคัญเป็นอันดับแรกของการจัดสรร แต่ในความเป็นจริงจากข้อสังเกตกล่าวมาข้างต้น
ใกล้จบแล้วครับ จากการจัดสรรน้ำ ที่กล่าวมาข้างต้น การจัดสรรน้ำเป็นเพื่อทำกำไรให้นายทุนหรือไม่ เพราะการประปา ส่วนภูมิภาค สาขาบ้านบึง ก็อยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเช่นเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรม แต่ทำไมกลับไม่ได้เผชิญปัญหาเหมือนกัน ทำไมคนที่ได้รับผลกระทบกลับกลายเป็น ประชาชน ไม่ใช่นายทุน
คำถามที่ ๓ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการน้ำ ได้อย่างไร ประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดสรรปันส่วนน้ำใน Keyman Water Volume หรือศูนย์ปฏิบัติการน้ำ หรือพื้นที่ประชุมใดที่ทางกรมชลประทานตั้งขึ้นมา เพื่อบริหารจัดการน้ำได้หรือไม่ ขอบคุณครับทั้ง ๓ คำถาม
คำถามหมดแล้วครับ แต่ว่าก็ขอขอบคุณ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการชาดาที่ให้ความห่วงใยเรื่องน้ำประปาด้วย อย่างไรก็ฝากย้ำปัญหา เรื่องท่อประปาแตกที่ท่านชาดาได้แจ้งว่าท่อเก่าเป็นเรื่องปกติที่จะแตก แต่ขอบข่าย ของการประปาบ้านบึงที่ท่านชาดาได้ให้ข้อมูลว่ามีความกว้างถึง ๑,๙๗๒ กิโลเมตร ผมอยาก ตั้งคำถามว่าถ้ากว้างมากขนาดนี้การประปาในสัดส่วนของบ้านบึงดูแลได้ทั่วถึงหรือไม่ แล้วสามารถทำให้โครงข่ายเล็กลงกว่านี้ได้หรือไม่ เพื่อให้ดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนขาวนิคมอมตะซิตี้ อำเภอพานทอง และอำเภอ บ้านบึง ร้องเรียนต่อท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดให้เกิด การแก้ปัญหาอยู่ ๕ เรื่อง ดังนี้
เรื่องแรก พี่น้องที่พักอาศัยอยู่ในซอย เทศบาล ๓/๒ ตำบลหนองตำลึง ที่ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องพนักงานในนิคมอมตะซิตี้จำนวนมาก ต้องข้ามถนนหมายเลข ๓๑๕ มารอรถรับส่งเพื่อเดินทางไปทำงานและกลับบ้านอยู่ เป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยจุดดังกล่าวเคยเกิด อุบัติเหตุจากการข้ามถนนแล้วถูกรถชนจนเสียชีวิตมาแล้ว จึงอยากจะขอให้มีการสร้าง สะพานลอยเพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องมาเสี่ยงอันตรายจากการข้ามถนน
เรื่องที่ ๒ พี่น้องที่ใช้ถนนบนเส้น ๓๔๖๖ ซอยบ้านเก่า ๑๒ ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีลักษณะเป็น ทางแยกรูปตัว T ไม่มีสัญญาณไฟจราจร สร้างความไม่ปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนระหว่าง เข้าออกซอย จึงขอพิจารณาติดตั้งสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกดังกล่าวเพื่อสร้าง ความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนครับ
เรื่องที่ ๓ พี่น้องที่สัญจรผ่านถนนเลียบคลองหนองตะกาด บริเวณสามแยก โรงไม้หลังหมู่บ้านโชติกา ต้องหวาดผวาต่อสภาพผิวถนนที่ชำรุดและทรุดโทรม พร้อมทรุดตัว ได้ตลอดเวลาดังภาพครับท่านประธาน จึงอยากจะขอท่านประธานเร่งรัดไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาโดยทันทีครับ
เรื่องที่ ๔ ผมได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการส่งกลิ่นเหม็นของสารเคมี ในที่ดินที่เคยเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการรับซื้อของเก่า น้ำมันเครื่องเก่า รวมถึงอาจจะมี สารเคมีอื่นที่ใช้ในอุตสาหกรรม ในพื้นที่หมู่ที่ ๖ ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่เคยปรากฏว่ามีข่าว มีรถสารเคมีรั่วไหลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๖๓ โดยปัจจุบันมีการย้ายสถานประกอบการออกจากนอกพื้นที่ไปแล้วประมาณ ๑ เดือน แต่ได้มีการนำดินมาไถกลบพื้นที่ที่เคยเป็นบ่อทิ้งเก่าก่อนออก เมื่อฝนตกเกิดน้ำขัง ปรากฏน้ำขังที่มีสีดำแดงตามภาพ และส่งกลิ่นเหม็นฉุน เมื่อสูดดมเข้าไปมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ กระทบต่ออนามัย ร่างกาย และคุณภาพชีวิตที่ปกติสุขของพี่น้องประชาชน ขอความอนุเคราะห์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมพิจารณาสั่งการหน่วยงานภายใต้การบังคับบัญชาของกท่านเข้าไปดำเนินการ ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยครับ ในประเด็นที่เหลือขอส่งเป็นเอกสารครับ ขอบคุณมากครับ
ท่านประธานครับ ๐๘๐ ชวาล พลเมืองดี แสดงตนครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ปัญหาการจ้างงานและการเพิ่มทักษะได้สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยของเราต้องการ การเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ทั่วโลกกำลังผ่านเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมใหม่ ๆ โดยที่เขากำลังทิ้งระยะห่างจากประเทศไทยออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งปัญหา ที่ทำให้เราไม่สามารถตาม Trend โลกได้ทันไม่ใช่เรื่องอะไรเลย นอกเสียจากเรื่องของ วิสัยทัศน์ ความสามารถของผู้นำและผู้มีอำนาจที่ไม่สามารถพาประเทศขึ้นไปอยู่ในขบวน เดียวกันกับทั่วโลกได้ และเนื่องจากขณะนี้สภาวะสังคมและรัฐไทยมีค่านิยมที่ไม่ได้ตอบสนอง ความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งขยายความได้ว่าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันค่านิยม ของสังคมและรัฐไทยมักจะส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อใช้ใบปริญญาเป็นใบผ่านทางไปสู่อาชีพข้าราชการ ประกอบกับรัฐไทยมีระบบราชการ ที่ใหญ่โตเกินความจำเป็น มีหลาย ๆ หน่วยงานที่ทำงานซ้ำซ้อนกัน จึงดึงดูดให้นักศึกษาเหล่านี้ เข้าไปสู่ระบบอุดมศึกษาได้เป็นจำนวนมาก และในช่วงสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา มีสภาวะตกต่ำ หลาย ๆ ธุรกิจในไทยเน้นรับจ้างการผลิต ต้องจ้างแรงงานที่ไม่มีทักษะ ค่าแรงถูก เมื่อค่าแรงถูกคนไทยจำนวนมากต้องหันไปหาใบปริญญา เพื่อหวังว่าจะได้ เงินเดือนที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดสภาวะการว่างงานอย่างรุนแรงของเด็กจบใหม่
โดยจากข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติพบว่าผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนหรือเด็กจบใหม่จำนวน ๓๘๐,๐๐๐ คน ๔๙.๓ เปอร์เซ็นต์เป็นคนที่จบในระดับอุดมศึกษา ในขณะที่ระดับอาชีวศึกษา ทั้ง ปวส. และ ปวช. มีเพียง ๗ เปอร์เซ็นต์ และ ๒.๙ เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานไทยไม่ได้ต้องการคนจบปริญญามากมายขนาดนั้นจึงเกิดคำถามที่ว่าทำไม การศึกษาไทยไม่สามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานได้ แล้วก็พบคำตอบ ๓ ข้อหลัก ๆ ดังนี้ ๑. สถาบันการศึกษามีรายได้ส่วนใหญ่จากรัฐ จึงทำให้ไม่ต้องผูกพันและรับผิดชอบ กับการมีงานทำของผู้ที่จบการศึกษาไป ๒. การอุดหนุนงบประมาณของรัฐไทยแก่สถานศึกษา ส่งอิทธิพลให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนตามความพร้อม และความต้องการของรัฐ มากกว่าความต้องการของตลาดแรงงาน ๓. ผู้เรียนไม่มีข้อมูลมากพอในการประกอบการ ตัดสินใจที่จะเข้าเรียนในสาขาหรือสถานศึกษาใด เมื่อเราไปดูนโยบายที่ต่างประเทศ ซึ่งอาจจะนำมาปรับใช้ในบริบทปัญหาดังกล่าวได้ ยกตัวอย่างที่สหรัฐอเมริกา เขาสร้าง หลักประกันแก่นักเรียน นักศึกษาว่าหากจบการศึกษาไปแล้วมีงานทำตอนไหนสามารถจ่าย ค่าศึกษาเล่าเรียนย้อนหลังได้ นี่จะยิ่งทำให้มหาวิทยาลัยตื่นตัวและใส่ใจกับการพัฒนา หลักสูตรให้สามารถตอบสนองกับความต้องการของตลาดแรงงานและอีกข้อเสนอหนึ่ง จาก TDRI แต่ละสถานศึกษาควรเปิดเผยข้อมูลค่าเฉลี่ยฐานเงินเดือนของนักศึกษาจบใหม่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเข้ารับการศึกษาของผู้เรียน ในขณะเดียวกัน นอกจาก Heavy Industry หรืออุตสาหกรรมหนักแล้ว เรายังมีอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่รัฐไทย จำเป็นต้องสนับสนุนให้เกิดการเติบโตให้ได้ เช่น อุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่พึ่งพา Soft Power เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก รวมไปถึง ส่งเสริมสนับสนุนให้กับการศึกษาวิชาชีพเฉพาะหรืออาชีวศึกษา เพื่อยกระดับศักยภาพ ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้กับนักเรียน นักศึกษาได้เข้าไป ศึกษาต่อ แต่ในปัจจุบันเรามีกระทรวงการอุดมศึกษาที่แยกออกมาบริหารงานโดยเฉพาะ แต่หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบการศึกษาด้านอาชีวศึกษากลับเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัด กระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น งบประมาณในแต่ละปีต่างกันลิบลับ แล้วรัฐไทยก็ละเลย การเข้ามาพัฒนาอาชีวศึกษา จนทำให้อาชีวศึกษามีลักษณะเป็นเหมือนลูกเมียน้อยไปแล้ว การละเลยของรัฐที่ได้กล่าวมาทำให้อาชีวศึกษาไทยประสบปัญหาในด้านต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้ อาชีวศึกษาไทยไม่สามารถยกระดับศักยภาพแรงงานในตลาดได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Trend อุตสาหกรรมโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตลาดแรงงานต้องการ ทักษะจำเป็นต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากทักษะวิชาชีพเฉพาะแล้ว ตลาดแรงงานต้องการทักษะ ภาษาต่างประเทศ ทักษะ Digital ทักษะ STEM และทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ บวกกับ ทักษะ Soft Skill ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่เมื่อย้อนกลับมาดู การศึกษาในระดับอาชีวศึกษากลับพบปัญหาหลาย ๆ ประการที่ทำให้ไม่สามารถยกระดับ ศักยภาพของนักศึกษาที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานได้ เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้านคุณภาพของแต่ละสถานศึกษาที่ยังขาดเครื่องไม้เครื่องมือ เทคโนโลยี ครุภัณฑ์ที่จำเป็น สำหรับอุตสาหกรรมใหม่ ๆ บุคลากรที่ก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ขาดทักษะ ที่จำเป็นในโลกยุคสมัยใหม่ เช่น ทักษะ Coaching ทักษะ Facilitator รวมถึงหลักสูตร ที่ล้าหลัง ซึ่งหลาย ๆ ประเทศเขาให้สถานศึกษาออกแบบและปรับปรุงหลักสูตรการอบรม ร่วมกันกับนายจ้างกันแล้ว เพื่อให้ตรงกับความต้องการของนายจ้างมากที่สุด และเพื่อจะ สร้างทักษะที่ใช้ได้จริง และหลายสถานศึกษาในไทยก็มีแล้วแต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก นอกจากระบบที่เป็นกระบวนการขั้นปฐมภูมิในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา นอกระบบหรือ Lifelong Leaning ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่สามารถยกระดับศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ในประเทศ ที่สามารถเป็นจุดแข็งในการแข่งขันของตลาดแรงงานไทย กับต่างประเทศได้โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านเรา ซึ่งในปัจจุบันเรามีพื้นที่หลักสูตร Reskill Upskill มากมายหลายแห่ง ทั้งในรูปแบบของ University Degree Credit Bank Thai MOOC Workshop หรือหลักสูตรระยะสั้น Coverage Training หรือแม้แต่กระทั่ง Boot Camp แต่พี่น้องประชาชนก็ยังประสบปัญหาในการเข้าถึง Reskill Upskill อยู่ดีด้วย เหตุผลปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเรื่องที่ไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานตามระยะเวลาที่กฎหมาย กำหนดคือ ๔๘ ชั่วโมงหรือ ๖ วันต่อสัปดาห์ จะเอาเวลาที่ไหนไปพัฒนาตัวเองกัน หรือเรื่อง ทุนทรัพย์ที่มีไม่มากพอ ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ผมขอ Slide สุดท้าย ยกตัวอย่าง นโยบายที่สิงคโปร์ เขามีโครงการที่น่าสนใจคือ Skill Future ที่จะให้คูปองเป็นเงิน ๕๐๐ เหรียญแก่ประชาชนอายุ ๒๕ ปีขึ้นไปในการไปเรียน Course ต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ตัวเองหรือ Skill Future Top Up ที่จะให้เงินเพิ่ม ๕๐๐ เหรียญเพื่อเรียน Course ที่ได้รับรองจาก Skill Future และโครงการ Additional Skill Future Credit ที่จะให้เงิน เพิ่มอีก ๕๐๐ เหรียญแก่ประชาชนอายุ ๔๐-๖๐ ปีเพื่อเรียน Course ที่เขากำหนด หรือที่ประเทศอังกฤษเขามีโครงการ LifeTime Skill Guarantee ที่รัฐบาลจะช่วย ให้ประชาชนมีทักษะที่ต้องการในทุกช่วงทุกวัยของชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ประเทศไทย จะต้องนำมาปรับใช้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐไทยให้ความสำคัญกับ Lifelong Learning จริง ๆ ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายที่ใช้เพื่อการหาเสียง ขอบคุณมากครับท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ สถานการณ์มลพิษทางอากาศที่จังหวัดชลบุรีอยู่ในขั้นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ไม่ได้ต่างจาก จังหวัดอื่น ๆ เลยประชาชนในพื้นที่นอกจากไม่มีแม้แต่อากาศบริสุทธิ์ให้หายใจแล้ว ยังต้อง อยู่กับอากาศที่เป็นพิษกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง โดยหากท่านประธานดูจากกราฟ บนสไลด์ ขอสไลด์ด้วยครับ
ท่านประธานดูจากกราฟบนสไลด์จะเห็นได้ ว่าจำนวนผู้ป่วยจากโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดชลบุรี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมี นัยสำคัญ จะมีก็เพียงแต่ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่มีสถานการณ์โควิด-๑๙ ทำให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมลดกิจกรรมลง จำนวนตัวเลขของผู้ป่วยก็ลดลง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นมาตัวเลขของผู้ป่วยกลับทะยานสูงขึ้นอย่างน่าตกใจครับ ท่านประธาน หรือตั้งแต่ที่มีการเก็บข้อมูลจำนวนการป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ ในจังหวัดชลบุรีมารวมกันก็พบว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้น เรื่อย ๆ โดยปีล่าสุดยอดการป่วยปาไปแล้วกว่า ๒๙๕,๐๐๐ กว่าครั้ง ตัวเลขขนาดนี้ไม่แน่ใจ ว่าทางรัฐบาลจะนับว่าเป็นเรื่องวิกฤติได้แล้วหรือยัง เพราะว่าเมื่อไปดูจากงบประมาณที่ สส. ภัทรพงษ์ ได้อภิปรายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังไม่เห็นถึงความใส่ใจที่อยากจะแก้ปัญหา เหล่านี้เลยครับท่านประธาน รวมไปถึงสิ่งที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีอำนาจป้องกันและกำกับดูแลได้เลย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะใช้อำนาจนั้นเลย ยกตัวอย่างเช่น ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบาย ออกจากโรงงานกลับกำหนดแต่ค่าของฝุ่นละอองแบบรวม ไม่ได้แยกออกตาม Size ขนาดของฝุ่นว่ามี PM2.5 เท่าไร PM10 เท่าไร ทุกวันนี้เราไม่เคยรู้เลยว่าโรงงานแต่ละโรงงาน ปล่อย PM2.5 ออกมาเท่าไร เกินค่ามาตรฐานหรือไม่ เอาละครับท่านประธาน ผมจะขอ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาในจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงว่าทุกวันนี้มีอะไรอยู่ใน อากาศให้กับพวกเราคนจังหวัดชลบุรีและชาวภาคตะวันออกได้หายใจกันอยู่บ้าง เหตุการณ์ แรกเลยครับ เป็นเหตุการณ์ที่โด่งดังช่วงหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรีเป็นแท่ง Cesium-137 ได้หายจากการกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ ซึ่งมาทราบอีกทีแท่ง Cesium-137 ก้อนนั้นก็ถูก หลอมกลายเป็นฝุ่นแดงลอยสู่อากาศให้คนจังหวัดปราจีนบุรีได้สูดลมหายใจกันไปเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว จนถึงทุกวันนี้เป็นระยะเวลาเกือบจะครบปีแล้วยังไม่สามารถที่จะระบุ ผลกระทบที่แท้จริงออกมาได้เลย ต่อมาที่ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โรงงาน Recycle ขยะทุนจีนเทาประกอบกิจการอยู่เหนือกฎหมายไทย นำเข้าขยะจากจีนมา Recycle มาเผา มาหลอม ซึ่งจากภาพในสไลด์ท่านจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีกลุ่มควันสีเหลือง ลอยออกจากท่อเกิดละอองไอกรดที่ลอยสู่อากาศ จนถึงทุกวันนี้โรงงานดังกล่าวยังประกอบ กิจการได้อย่างปกติ ทั้งที่สร้างผลกระทบให้กับชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างมหาศาล แล้วก็ใช่ว่าชาวบ้านจะไม่เคยร้องเรียน ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายต่อหลายครั้ง โดยเรื่องนี้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบของหน่วยงานรัฐมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ อุตสาหกรรมจังหวัดก็เคยออกคำสั่งให้หยุดการประกอบกิจการและแก้ไขปรับปรุงและมี การแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจกว่า ๒๔ คดี จนถึงทุกวันนี้ปาไปแล้วกว่า ๒ ปีไร้วี่แวว ที่โรงงานดังกล่าวจะได้หยุดประกอบกิจการหรือถูกดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยให้ โรงงานยังคงประกอบกิจการปล่อยมลพิษกระทบต่อชีวิตชุมชนและสิ่งแวดล้อมเรื่อยมาจนถึง ทุกวันนี้ หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีความคืบหน้าจากหน่วยงานรัฐเลย ผมก็จะพาไปดู ในออฟฟิศของโรงงานดังกล่าวท่านก็อาจจะหายสงสัย เพราะในออฟฟิศมีรูปถ่ายของบุคคล ลึกลับยืนคู่กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และอดีตรองนายกรัฐมนตรีติดฝาผนังอยู่ นี่อาจจะเป็น การตั้งข้อสังเกตว่านายทุนจีนเทาที่มาก่อเกิดมลพิษพวกนี้ ทำไมยังลอยนวลอยู่ได้และปล่อย ให้นายทุนเถื่อนเหล่านี้ประกอบกิจการพร้อมที่จะคร่าชีวิตคนไทยได้ทุกเมื่อ เหตุการณ์ ที่กล่าวมาเหล่านี้และอีกหลาย ๆ เหตุการณ์ล้วนอยู่ในอำนาจของผู้กำกับดูแลรับผิดชอบของ หน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐทั้งสิ้น และปัญหาด้านมลพิษล้วนขึ้นอยู่กับท่านผู้มีอำนาจด้วยกันทั้งนั้น ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ท่านไม่รู้ปัญหา ไม่รู้ถึงสาเหตุพวกนี้ที่แท้จริงหรือท่านแกล้งปิดตาแกล้งหลับเท่านั้น วันนี้ผม จึงเอาตัวอย่างอากาศของคนในพื้นที่ EEC เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกมามอบ ให้สภาผู้ทรงเกียรติแห่งนี้ส่งให้ท่านประธานเพื่อส่งต่อให้กับรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรมใน ฐานะเป็นเจ้าหน้าที่กำกับตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย เพื่อขอให้ท่านได้เห็นความสำคัญและ รีบเร่งแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องรอร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ และผมขออนุญาตเปิดให้ท่านดมได้ไหม ครับ จะได้รู้ว่าชาวบ้านในพื้นที่ EEC ทุกข์ทรมานกันแค่ไหนกับลมอากาศเหล่านี้ เพราะนี่คือ อากาศที่เต็มไปด้วยแหล่งก่อสารมะเร็ง โลหะหนัก อากาศที่พร้อมทำลายสุขภาพ อากาศ ที่พร้อมคร่าชีวิตคนที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นทุกเมื่อ ผมมีข้อสังเกตต่อร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ของ ครม. เพราะหลาย ๆ อำนาจที่อยู่ในร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ก็มีอยู่แล้วใน พ.ร.บ. ฉบับอื่น ๆ เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างมาตรา ๗๕ ของร่าง ครม. ก็เป็นอำนาจเดียวกันกับมาตรา ๖๙ ของ พ.ร.บ. วัตถุอันตรายที่มีหลักการในการให้อำนาจรัฐเข้าจัดการออกค่าใช้จ่ายแล้วค่อยมา ไล่เบี้ยกับผู้ก่อเกิดมลพิษ แต่ในความเป็นจริงรัฐไม่เคยใช้อำนาจดังกล่าวนี้ได้เลยครับ ท่านประธาน ผมไปถามทีไรก็มักจะบอกว่าไม่มีงบประมาณ ไม่ได้จัดสรรงบประมาณไว้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ จนถึงวันนี้ปัญหาการลักลอบปล่อยมลพิษทั่วประเทศไทยนับ ร้อยยังไม่ถูกแก้ไข และท่านคิดว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ผ่านออกไปมันจะได้รับการแก้ปัญหาเหล่านี้ จริง ๆ ใช่ไหมครับ หรือมาตรา ๗๑ ของร่างฉบับ ครม. ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานอากาศ สะอาดสั่งยุติการกระทำ การก่อเกิดมลพิษทางอากาศก็ไม่ต่างจากอำนาจเจ้าหน้าที่พนักงาน ตาม พ.ร.บ. โรงงานที่ทำได้เพียงแค่สั่งการ แต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ปล่อยให้โรงงาน ยังคงประกอบกิจการแล้วปล่อยมลพิษต่อไป เหมือนอย่างโรงงาน Recycle ทุนจีนเทา ข้างต้นที่ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ผมจึงอยากจะขอให้นำเรื่องเหล่านี้ เข้าพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ หากว่ากฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับหลักการเพื่อหาแนวทางใน การปิดช่องว่างช่องโหว่อำนาจของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐครับ สุดท้ายครับท่านประธาน ผมเชื่อว่าสิทธิในการที่จะมีชีวิตอยู่อย่างปกติสุข มีอากาศที่จะหายใจอย่างบริสุทธิ์ มีสุขภาพ ที่ดี เป็นสิ่งที่รัฐควรจะคุ้มครองสิทธิเหล่านี้ไว้ เพราะชาวบ้านเพียงแค่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ เหมือนกับที่พวกท่านต้องการและท่านสามารถให้เขาได้ คำถามคือในฐานะผู้ทรงเกียรติจะทำ ให้เขาได้หรือไม่ ขอบคุณมากครับท่านประธาน
เดี๋ยวเอาไปมอบให้ท่านประธานครับ
ขอบคุณมากครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนต่อท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดให้เกิดการแก้ปัญหาอยู่ด้วยกัน ๓ เรื่องครับ
เรื่องแรก ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้อง ประชาชนเกี่ยวกับปัญหาจุดตัดทางข้ามทางรถไฟ ถนนหมายเลข ๓๔๖๖ พานทอง-บ้านเก่า ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ที่มีสภาพที่ชำรุด พื้นผิวขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ และมีลักษณะเป็นคอขวด เนื่องจากจุดตัดดังกล่าวบีบช่องทางการจราจรจาก ๔ ช่องทาง เหลือเพียง ๒ ช่องทาง ซึ่งจุดตัดดังกล่าวเป็นถนนที่ประชาชนใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีการจราจรติดขัดอย่างรุนแรงในช่วงเวลาเร่งรีบ ปัญหาดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแล ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งผมได้มีการดำเนินการประสานงานไปแล้ว แต่ก็ทำได้เพียง เพิ่มช่องทางการเดินรถไปเบื้องต้นเท่านั้น ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเร่งดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วนครับ
เรื่องต่อมา ผมได้รับรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากรถบรรทุกดินของโครงการ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี (โครงการ ๒) ทำดินร่วงหล่นบนถนนที่ประชาชนใช้สัญจร ไปมาในพื้นที่ตำบลบางนาง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากไม่ได้มีผ้าหรือพลาสติก ในการปิดปกคลุมในระหว่างการขนส่ง ทั้งยังพบพฤติกรรมอื่นๆ ที่อาจจะผิดต่อกฎหมายอีก เช่นรถบรรทุกน้ำหนักเกินตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รวมถึงมีการกระทำที่ไม่ได้เป็นไปตาม มาตรการตามที่ได้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ไว้ ด้วยเหตุนี้เนื่องจาก โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่ และเป็นโครงการที่จัดว่ามีความเสี่ยงที่จะสร้าง ผลกระทบอย่างสูง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเร่งด่วน
เรื่องต่อมา เป็นเรื่องถนนชำรุดในพื้นที่ซอยวิลล่าโคโม่ ตำบลหนองหงส์ หมู่ที่ ๒ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ถนนชำรุดมาแล้ว ๒-๓ ปี หลังจากมีบริษัทเอกชน ได้เข้าไปวางท่อน้ำดิบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕๐๐ มิลลิเมตรในพื้นที่ดังกล่าว ลักษณะถนน เป็นหลุมบ่อและมีทรุดตัวตลอดเส้นทาง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะหน่วยงานที่ให้อนุญาตโครงการดังกล่าวเข้าไปหาแนวทาง ปรับปรุงแก้ไขโดยด่วน
แล้วก็มีอีกที่หนึ่งคือ ถนนเทศบาล ๓ ตำบลหนองตำลึง อำเภอพานทอง ถนนชำรุดมาแล้วประมาณ ๑ ปี เนื่องจากถนนทำเสร็จเพียงแค่ ๓ เดือน แล้วก็มีโครงการ วางท่อน้ำดิบ ขุดถนนจนพังเป็นหลุมเป็นบ่อทั้งเส้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเช่นเดียวกันครับ ในฐานะหน่วยงานที่อนุญาตโครงการ ดังกล่าวเข้ามาปรับปรุงแก้ไขถนนดังกล่าว และเพิ่มไฟส่องสว่างในยามค่ำคืนด้วยครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ชวาล พลเมืองดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อตอนที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรั่วไหลของน้ำมัน ในหลายต่อหลายครั้งในประเทศไทยของเรา ไม่มีความพยายามจากภาครัฐที่จะมาสร้าง มาตรการใด ๆ ในการแก้ไข ป้องกัน เยียวยา และฟื้นฟู หรือเอาผิดอย่างจริง ๆ จัง ๆ กับ ผู้ที่ก่อเกิดมลพิษหรือผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้เลยสักรายเดียวครับท่านประธาน ผมลองมาเทียบการรับผิดชอบและการชดเชยค่าเสียหายของบริษัทที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิด การรั่วไหลของน้ำมันที่ต่างประเทศ อย่างที่สเปนเรือบรรทุกน้ำมัน Prestige อับปางทำให้ น้ำมันรั่วไหลลงทะเลกว่า ๗๗ ล้านลิตร บริษัทน้ำมัน Prestige ต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวน มากในการทำความสะอาดคราบน้ำมันออกจากทะเล ตั้งแต่ชายฝั่งตอนเหนือไปจนถึง ตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส หรือที่อเมริกาเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมัน Exxon Valdez มีน้ำมันดิบรั่วออกมาถึงขนาด ๔๑.๖ ล้านลิตร หลังจากเกิดเหตุบริษัท ExxonMobil ก็ได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมูลค่า ๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ๘๐๐ ล้านบาทไทย และเหตุการณ์ ที่โด่งดังไปทั่วโลกครับท่านประธานอย่างแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ระเบิด ทำให้มีน้ำมันดิบปริมาณ ๗๐๐ ล้านกว่าลิตรรั่วไหลลงสู่ทะเล ทางบริษัท BP ก็ต้องยอมจ่าย ค่าเสียหาย เป็นมูลค่ากว่า ๑.๘ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ๖.๓ แสนล้านบาทไทย ทำให้บริษัท พวกนี้ประสบปัญหาทางการเงินและเกือบถึงขั้นล้มละลายกันเลยครับท่านประธาน แต่ท่าน ประธานครับ ทีนี้ประเทศไทยเกิดเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากผู้ที่เป็นต้นเหตุหน้าเดิม ๆ แต่กลับมี กำไรรวยขึ้นเป็นกอบเป็นกำ อย่างเหตุการณ์ปี ๒๕๕๖ ที่จังหวัดระยอง บริษัท PTTGC ทำน้ำมันรั่วไหลกว่า ๕๐,๐๐๐ ลิตร ทรัพยากรธรรมชาติเสียหาย เกาะเสม็ดเต็มไปด้วย คราบน้ำมัน ประชาชนและแหล่งท่องเที่ยวเสียหายเป็นล้านล้านบาท ผู้เสียหายต้องไปรวมตัว กันฟ้องร้องกันเอง และได้มาเพียงคนละ ๖๐,๐๐๐-๙๐,๐๐๐ บาทเท่านั้นเองครับ ท่านประธาน แต่ในขณะเดียวกัน บริษัท PTTEP ไปทำน้ำมันรั่วไหลที่ทะเลติมอร์ เจอรัฐบาล อินโดนีเซียฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายไปกว่า ๗๐,๐๐๐ ล้านบาท จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่แหล่ง มอนทารา อีกทั้งยังถูกคำสั่งยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการ และถูกยึดทรัพย์ นี่สะท้อนให้ เห็นถึงความขาดของรัฐไทย ที่ไม่กล้าเข้าไปแตะต้องกับกลุ่มนายทุนพลังงานยักษ์ใหญ่ของ ประเทศ แม้ในปี ๒๕๖๕ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้ออกระเบียบสำนัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ขึ้นมา ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการหนึ่ง คือ กจน. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการทำหน้าที่ในการจัดทำแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจาก น้ำมันแห่งชาติขึ้น จนถึงทุกวันนี้ท่านประธานยังไม่มีแผนการป้องกันและขจัดคราบมลพิษ ทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันแห่งชาติขึ้นเลยสักฉบับเดียว ไม่มีขั้นตอน ไม่มีลำดับในการปฏิบัติการ เมื่อเกิดเหตุก็มีหน่วยงานจากหลาย ๆ ภาคส่วนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเป็น การทำงานที่ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ แล้วก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการรับมือที่ถูกต้องตามหลักวิชาการหรือ ตามหลักมาตรฐานสากลหรือไม่ อย่างเหตุการณ์ล่าสุดที่จังหวัดชลบุรีก็แสดงให้เห็นถึง หน่วยงานที่เข้ามาแก้ไขปัญหายังขาดความรู้ ไร้มาตรการในการควบคุมแก้ไขสถานการณ์ โดยการเอาข้าราชการระดับสูง นายทหารเรือยศใหญ่ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญเรื่องนี้เข้า มานั่งเป็นหัวเรือในการแก้ปัญหา ผลก็คือ ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบผิด ๆ เช่นนำสารเคมีมากด คราบน้ำมันลงจมสู่ใต้ท้องทะเลในพื้นที่ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งครับท่านประธาน รวมถึงการเอานักวิชาการที่เป็นกรรมการของบริษัทผู้ถือหุ้น ของบริษัทที่เป็นต้นเหตุมาออก ความคิดเห็นโน้มน้าวประชาชน โดยพยายามใส่ร้ายโทษไปที่ Plankton Bloom ว่าเป็น สาเหตุที่ทำให้ปลาตาย อีกทั้งหากมาดูตามแผนจัดการมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันและ เคมีภัณฑ์ที่กำหนดให้ศูนย์ประสานงานมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษให้ชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการขจัดครบน้ำมัน ดูเหมือนว่าทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนจากภาครัฐดำเนินคดี ดำเนินการฟ้องร้องกับบริษัทที่เป็นต้นตอก่อให้เกิด ความเสียหายเลยสักรายเดียว โดยที่ผ่านมาเมื่อบริษัทที่เป็นตัวต้นเหตุก่อให้เกิดความเสียหาย ได้รับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เรื่องก็เงียบหายไม่มีการฟ้องร้องใด ๆ ตามมา ในภายหลัง รวมไปถึงความไม่ชัดเจนของข้อมูลในการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการจัดการ มลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไม่ได้อำนวย ความสะดวกข้อเท็จจริงหรือข้อมูลทั้งหมดแก่สาธารณะ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงประกอบการเรียกร้องค่าเสียหายเยียวยาหรือ หาแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืนเลยสักครั้งครับ ท่านประธานครับมันเป็นอย่างนี้เพราะอะไรครับ หรือว่าเพราะรัฐไทยไม่มีความพยายามที่จะออกตัวปกป้องผู้เสียหาย เรียกร้องความ รับผิดชอบหรือเอาผิดกับผู้ที่ก่อเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ หรือเรากลัวนายทุนพลังงานยักษ์ใหญ่จะเสียผลประโยชน์ หรือกลัวนักการเมืองในประเทศนี้ จะขาดอู่ข้าวอู่น้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราเสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการศึกษาข้อเท็จจริงและ หามาตรการในการรองรับ เพราะผมไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่จะ เกิดขึ้นในประเทศนี้ แล้วผมไม่เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในสภาแห่งนี้จะเพิกเฉยต่อชะตากรรมของ ผู้ที่ได้รับผลกระทบเหตุโศกนาฏกรรมทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเรามาร่วมกันหาแนวทางหา มาตรการมาป้องกันดูแลแก้ไขฟื้นฟูเยียวยาและเอาผิดกับต้นเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหาย อย่างจริง ๆ จัง ๆ กันสักครั้งครับท่านประธาน ขอบคุณมากครับ