นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร แบบแบ่งเขต ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมก็ได้โอกาสมาถามกระทู้ถามทั่วไป เป็นกระทู้ถามแรก นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ซึ่งจริง ๆ แล้วเกียรตินี้ผมไม่อยากรับเลย เพราะทุกครั้งที่มาถามกระทู้ถาม มันหมายถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้มา กล่าวกับผม ในคราวนี้ก็เป็นคราวแรกของผมในสภานี้ ผมเองครั้งก่อนก็ได้ถามกระทู้ถาม ไปเกือบ ๑๐๐ กระทู้ ถือว่าเป็นเจ้ากระทู้ถามของสภานี้ในสมัยก่อนเลย ไม่อยากทำงานนี้ สักเท่าไร ก็หวังว่าการถามกระทู้ถามครั้งนี้จะได้รับการแก้ไข และกระทู้ถามนี้จะไม่วนมาใหม่ อีกครั้ง เรื่องราวครั้งนี้มันเป็นเรื่องราวที่ผมก็ได้เห็นสภาพปัญหาอยู่แล้ว จากการที่ได้ลงพื้นที่ หาเสียง ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ปัญหามันตรงหน้าเลยครับ เรื่องการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่มันสุดทนเหลือเกินครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • เมื่อวันหนึ่งผมได้กลับมาจาก สภาที่ทรงเกียรติแห่งนี้ไปที่สำนักงานของผมที่เขตคลองสาน แล้วก็มีอาเจ็กคนหนึ่งเดินมา ชื่อเจ็กชุ้น เขาเดินมาหาผมแล้วเขาบอกว่า สส. ช่วยหน่อยสิ เรื่องก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำไมเขากั้นหมดเลย ทำไมเขาเดินข้ามไปตรงโน้นไม่ได้ ผมบอกว่าผมเคยคุยกับผู้รับเหมา ให้แล้วนะ วันก่อนเขามาเวนคืนผมเคยไปคุยบอกว่าให้เปิดทางม้าลายให้เขาแล้ว อาเจ็กชุ้นเขาก็บอกว่าเขาก็ไปคุยเหมือนกัน แต่คำตอบที่เขาได้มามันบาดใจผมเหลือเกินครับ ท่านประธาน ท่านรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามทำใจดี ๆ ไว้นะครับ คำตอบนี้ ผมช็อกมาก ผู้รับเหมาบอกว่าอะไรรู้ไหมครับ ผู้รับเหมาบอกว่าไม่สน ไม่สนใจ ไม่ทำ ทำไมล่ะ ไปร้อง สส. เลย ไม่สนหรอก รู้ไหมว่างานนี้งานใคร ใครคุมอยู่ ผมก็เลยแบบขนาดนั้นเลยหรือ ผมก็เลยสงสัยครับท่านประธาน ผมก็เลยมาตั้งกระทู้ถามนี้ เลยเป็นกระทู้ถามแรก อยากจะ มาถามเหมือนกันว่างานนี้ใครคุม งานของใคร ใคร Back กันแน่ ซึ่งจากปัญหาในสภาพพื้นที่ เราจะเห็นได้เลยว่ามีมากมายหลายเขต อย่าง สส. บูม ปารเมศ ที่นั่งอยู่ข้างผม กทม. เขต ๑ ก็โดน หรือว่าเราเดินออกไปหน้าสภานี้เราก็เห็นพื้นที่ของ สส. กานต์ ภัสริน ก็เห็น หลายท่าน ก็มาประชุมช้าเลยนะครับ หลายครั้งก็รถติดมากมีการกั้นทาง กั้น Barrier มากมายมหาศาล คนก็สงสัยมาถามผมประจำว่าเขากั้นทำอะไร จะทำนากันหรือเปล่า บางทีไม่เห็นทำอะไรเลย วัน ๆ ไม่เห็นทำอะไร กั้นอยู่นั่นละ กั้นเยอะมาก รถก็ติดโน่นนี่นั่น ซ้ำร้ายที่ร้ายที่สุดคือผมงง มากเลยว่าแต่ละช่วงมีการจัดการ Site การก่อสร้างไม่เหมือนกันเลย อย่างช่วงวงเวียนใหญ่ ไปตรงแยกตากสิน คือไม่มีทางข้ามเลยครับ ผมลองครับ ผมเคย Live ตอนหาเสียง Live ไปด้วย จะข้ามถนนทีจากตลาดวงเวียนใหญ่ไปอีกฝั่งหนึ่ง ไปรถไฟวงเวียนใหญ่ ต้องเดินไปถึงแยก วงเวียนใหญ่หรือไปทาง BTS กรุงธนบุรีหรือตากสิน วงเวียนใหญ่ตรงนั้น ไม่ทำทางม้าลาย ให้เลย แต่อีกที่หนึ่งพื้นที่ผมเหมือนกัน ตรงแขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กลับมี พนักงานในการมาโบกรถ เจาะช่องทางในการข้ามถนนให้ ผมก็เลยงงครับว่าเป็นไปได้ อย่างไร มีมาตรฐานหรือเปล่าในการจะทำเช่นนี้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลาและกระชับที่สุด ผมเลยอยากจะถามว่าที่กั้นต่าง ๆ นานาที่ทำให้รถติดไปมา การสัญจรลำบาก ซึ่งจริง ๆ ผู้รับเหมาเขาก็ไม่ได้ Care หรอกครับเพราะเขาไม่ได้จ่ายค่าน้ำมันกับประชาชนชาวกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ปริมณฑลด้วย ผมถามครับว่ามีการกั้นโดยเกินความจำเป็นหรือไม่ มีมาตรการ ผ่อนปรนความเดือดร้อนที่จะทำมากดีพอแล้วหรือยัง อันนี้เป็นคำถามแรกครับ อย่างไร ฝากถามท่านประธานผ่านไปยังท่านรัฐมนตรีด้วยครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ ผม เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร แบบแบ่งเขต ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล ได้ฟังคำตอบของท่านรัฐมนตรีก็ชื่นใจนะครับ แล้วก็ ยินดีในการร่วมทำงานกับท่านในการลงพื้นที่ แล้วก็จริง ๆ เดี๋ยวฝากชวนเพื่อน สส. ที่อยู่ ในเขตที่ได้รับผลกระทบในกรุงเทพฯ หลายเขตมากครับ รวมถึงสมุทรปราการ สส. วีรภัทร เขต ๖ สมุทรปราการ พระประแดง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งผลกระทบนอกจาก เรื่องสัญจรมันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กบ้างใหญ่บ้างของหลายคนหรือว่าเป็นการเสียเวลา แต่ผม อยากให้มองเป็นเรื่องของทางเศรษฐกิจด้วย ค่าน้ำมัน รถติด ค่าเสียโอกาสต่าง ๆ ผมเคย พูดไปในหลายโอกาสในการก่อสร้างใน กทม. เช่นอุโมงค์แล้ว

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ที่ผมอยากมาขอความช่วยเหลือเลยแล้วกัน ก็คือมีปัญหา เรื่องการเวนคืนเยียวยา เรื่องนี้จริง ๆ ผมมอบคำถามนี้ให้กับอาม่าที่ขายขนมเปี๊ยะอยู่บริเวณ ทางแยกเข้าถนนเจริญรัถ ปากซอยเลย ซึ่งท่านนี้ผมพูดตามตรงเลยว่าจริง ๆ ไม่ได้ชอบ พรรคก้าวไกลตั้งแต่ต้น แต่ผมไปคุยมาจนแกจะเลือกผมแล้วครับ แต่วันหนึ่งผมเพิ่งมาทราบ ตอนนี้คือบ้านแกโดนเวนคืนรื้อไปหมดโดยจ่ายเงินแค่ ๓๐๐,๐๐๐ บาท เสียใจครับว่า ๑. อุตส่าห์จะให้แกมาเลือกพรรคก้าวไกลได้แล้ว แต่เสียใจมากกว่าคือทำไมแกได้แค่ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ผมก็ไม่แน่ใจว่าการเยียวยา ๓๐๐,๐๐๐ บาทตรงนี้ กับ ๑ ล้านบาทของตึก ข้าง ๆ มันต่างกันอย่างไร มีหลักเกณฑ์อย่างไร ซึ่งอันนี้คือความเสียหายที่เกิดขึ้นที่เขาได้รับ ความเสียหายทางทรัพย์สิน รวมถึงทางกายภาพ สุขภาพกาย ที่ผมรู้สึกว่าเป็นปัญหาอย่างยิ่ง ก็คืออย่างเช่นการก่อสร้างมีแรงสั่นสะเทือน มีเสียง มีฝุ่น ทำลายกายแล้วอย่างหนึ่ง ผมเห็นแล้วป้องกันไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีอะไรมากันฝุ่นเลย และอย่างที่ ๒ สุขภาพจิตด้วยครับ สุขภาพจิตอย่างเช่นการที่บางครั้งมีการก่อสร้างขุดเจาะ กลางคืนสั่นสะเทือน บางคนแถวนั้น ในเขตผมเป็นผู้สูงอายุเยอะเสียด้วย อันนี้ก็ไม่ได้รับการเยียวยาใช่ไหมครับ เศรษฐกิจนี่ เรื่องใหญ่เลยครับท่านประธาน ถ้าไปดูก็เข้าใจว่าหวังดี มี Barrier มีผ้าใบกั้น กั้นเสียสูงแล้วก็ พยายามทำเป็นรูปอะไรแบบหน้าสภาเรา เป็นรูปต้นไม้เหมือนอยู่ในป่า ขับรถไปเหมือนอยู่ ในป่า แต่ทั้งหมดนี้หลอกลวงทั้งนั้น ด้านหลังเป็น Site ก่อสร้าง ซึ่งเหมือนจะดี แต่อย่าลืมว่า หลังป้ายนั้นก็คือมีร้านค้า ร้านรวงอยู่ ผมก็เคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าช่วย ถ้ามาแปะป้าย ไหน ๆ แปะป้ายนั้น Print ชื่อร้านเขาใส่ไปสักหน่อยได้ไหม เขาจะได้รู้ว่าร้านเขาอยู่ตรงนี้อยู่ ยังไม่ได้ปิดกิจการ แต่ผมเชื่อว่ากระทู้ถามนี้กว่าจะเข้าสภา เท่ากับหลายร้านได้เจ๊ง ไปแล้วนะครับท่านประธาน ก็ไม่รู้ว่ามันจะเพียงพอหรือไม่ที่การพูดของวันนี้จะช่วยแก้ปัญหา ในอดีตหรือไม่ ดังนั้นผมเลยอยากจะถามว่าการเยียวยาจากปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นผลกระทบ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมมีเขียนไว้ในข้อสัญญาไหม มีการพูดคุยกันอย่างไรไหม หรือว่า ทางกระทรวงจะมีนโยบายอื่นใด หรือทางรัฐบาลจะ Set มาตรฐานใหม่ของการก่อสร้าง ในโครงการต่าง ๆ โดยคำนึงถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง นายทุนและผู้รับเหมาเป็นรองได้หรือยัง นี่คือคำถามที่ ๒ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านสมาชิกครับ ผม เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ในฐานะ คณะกรรมการพร้อมจะขานคะแนนแล้วนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • บัตรนี้ทางกรรมการให้เป็น บัตรดี เนื่องจากด้านหน้าไม่ได้เขียน แต่ด้านหลังเขียนว่า ปดิพัทธ์ เป็นบัตรดี ปดิพัทธ์ ส่วนกรณีนี้ก็เช่นกันด้านหน้าเขียนผิดฝั่ง ก็คือด้านหลัง งดออกเสียง เป็นบัตรดี งดออกเสียง ถือว่าเป็นการแสดงเจตนา

    อ่านในการประชุม

  • แล้วก็อีกอันหนึ่งแล้วก็เดี๋ยวขอท่านใหม่ งดออกเสียงอีกอันหนึ่ง บัตรเสียไม่ได้ เขียนอะไรมานะครับ อันนี้บัตรเสียนะครับ ส่วนใบนี้ก็บัตรเสีย ไม่ได้เขียนอะไร เรียนท่านประธานครับ ขณะนี้การนับคะแนนเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวขอตรวจสอบ ความถูกต้องสักครู่นะครับ (คณะกรรมการตรวจนับคะแนนได้ทำการตรวจนับคะแนนและเสนอต่อประธาน)

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณท่านประธานครับ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขต ๒๔ ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ วันนี้ก็ขออนุญาตอภิปราย เพื่อเสนอแนวทางให้กับรัฐบาลไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นรัฐบาลใหม่หรือไม่นะครับ แล้วก็ขอเน้นย้ำ อีกครั้งเพราะเรื่องนี้ผมก็เคยพูดในสภาไปแล้ว เคยตั้งกระทู้ถามรัฐบาลที่จะหมดวาระ ในพรุ่งนี้ไปแล้วนะครับว่ามันมีปัญหาในข้อของกฎหมายการบังคับต่าง ๆ แต่ก่อนอื่นเลยครับ ท่านประธาน ในฐานะผู้แทนราษฎรต้องขอบ่นหน่อยครับ เดือนก่อนชาวบ้านก็มาบอกว่า สส. เท่ามาเอาถังดับเพลิงจากที่บ้านไปหน่อย ผมก็เอามาไว้บ้านตัวเองนะครับ สัปดาห์ก่อนไปที่ ห้างใหญ่ในเขตคลองสานของผม ไปเจอชาวบ้านเขาก็บอกว่า สส. เท่าช่วยจับจูงมือผมโดย การขึ้นบันไดเลื่อนหน่อย ล่าสุดครับท่านประธาน ก่อนที่ผมจะมาสภานี้ผมก็ไปร่วมงานใน เขตมาก่อนจะมาสภา ไปเจอชาวบ้านในตลาดบริเวณที่มีการสร้างรถใต้ดินอยู่บอกว่า สส. เท่าช่วยขนดินมาถมรถไฟฟ้าให้หน่อย ผมก็บอกว่าอันนี้มันก็จะเกินไป ซึ่งอันนี้ก็แสดงให้เห็น สะท้อนให้เห็นว่าความกังวลของชาวบ้านและประชาชนคนไทย ในความไม่มั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินมีอยู่มาก สิ่งที่เพื่อนสมาชิกได้พูดไปหลายท่านแล้ว เรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างต่าง ๆ ผมไม่ขอจะพูดในเรื่องของทางวิศวกรรมเพราะไม่ได้จบ วิศวกรรมมา แต่ผมจะพูดในฐานะนักกฎหมายที่ได้ตามประเด็นเกี่ยวกับประกาศของ กรมบัญชีกลาง เรื่อง ระเบียบว่าด้วยการเลื่อนขั้นของผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการของรัฐ หรือถ้าผมเรียกเป็นภาษาชาวบ้านง่าย ๆ ก็คือตั๋วก่อสร้างรับเหมานั่นเอง ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ครับ ท่านประธาน ตั้งแต่ขั้น ๖ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑ ไปจนถึงชั้นพิเศษเลย ซึ่งอันนี้ครับ ถามว่าจะขึ้นขั้นอย่างไร เหมือนเล่นเกม ROV เหมือนเล่น Ragnarok เลย ก็คือค่อย ๆ เก็บ Level ไปเรื่อย ๆ อย่างเช่น ขั้น ๖ รับงานได้ไม่เกิน ๑๐ ล้านบาท จะรับงานขั้น ๕ จะเลื่อนเป็นขั้น ๕ ก็ต้องทำงาน ๕ ล้านบาทก่อนก็คือครึ่งหนึ่งของมูลค่างานสูงสุดที่รับได้ ดังนั้นครับ ไปอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นที่ ๑ พอขั้นที่ ๑ มีความไม่ชอบมาพากลอย่างยิ่งครับ ขั้นที่ ๑ ผู้รับเหมาชั้นที่ ๑ เขารับงานได้สูงสุด ๕๐๐ ล้านบาท แต่การจะขึ้นเป็นชั้นพิเศษได้ ต้องทำงานมูลค่า ๔๕๐ ล้านบาทครับท่านประธาน ซึ่งถามว่ามันก็ได้นี่ รับได้ ๕๐๐ ล้านบาท ทำงาน ๔๕๐ ล้านบาท แต่อันนี้เป็น ๙๐ เปอร์เซ็นต์เลยนะครับ ถึงจะขึ้นชั้นพิเศษที่รับงาน ไม่จำกัดได้ และทีนี้ความไม่ชอบมาพากลนี้ผมไปดูสถิติการประมูลงานย้อนหลังมาพบว่าการ ประมูลงานของชั้น ๑ ที่มีผู้เล่นหลายรายมาก ๆ มีการประมูลแล้วพบว่าราคาลดต่ำกว่าราคา กลางประมาณ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ อันนี้ดูสถิติเฉลี่ยมา ๕ ปีย้อนหลังนะครับ แล้วก็พบว่าปีล่าสุด ที่เราตั้งรัฐบาลเก่าอันใหม่นี่นะครับ กลับกลายเป็นว่างานของชั้น ๑ นี่มีน้อยมาก เหมือนบอกว่าจะไม่มีงานที่มีมูลค่า ๔๕๐ ล้านบาท หรือ ๕๐๐ ล้านบาท ให้ได้ประมูลเพื่อชั้น ๑ จะได้ขึ้นชั้นไม่ได้ ด้วยเหตุผลนี้ครับ ในประเทศนี้ผู้รับเหมาชั้นพิเศษที่รับงาน ตั้งแต่ ๕๐๐ ล้านบาทขึ้นไปได้อย่างไม่จำกัดมีนับสิบรายได้ เป็นหลักสิบครับ ดังนั้น เกิดการฮั้วประมูลกันอย่างหนักครับ ถ้าผมดูสถิติเทียบว่าชั้น ๑ ลดลง ๑๕ เปอร์เซ็นต์แล้ว ชั้นพิเศษไปดูครับ อย่างงานล่าสุดผมเอาง่าย ๆ เลย ๑,๙๐๐ กว่าล้านบาท ท่านประธาน รู้ไหมครับประมูลก่อสร้างเก่งอย่างเดียวไม่พอนะครับ บริษัท ๒ บริษัทนี้ ประมูลเก่งด้วย งาน ๑,๙๐๐ เกือบ ๒,๐๐๐ ล้านบาท ประมูลต่ำกว่าราคากลาง ๕๐๐,๐๐๐ บาท ๕๐๐,๐๐๐ บาท เก่งเหลือเกิน ดังนั้นถ้ามาดูสถิติ การประมูลจากผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ที่มีหลักสิบในประเทศนี้กลายเป็นว่าทำให้ตัวเลขจากราคากลางลดลงคิดเป็น ๐.๐๐๑ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ผมคิดว่าถ้าเราแก้ระเบียบตรงนี้ ถ้ารัฐบาลใหม่แก้ระเบียบตรงนี้ได้ เปิดให้มีการแข่งขันมากขึ้น เปิดให้มีงาน มีการขยับชั้นมากขึ้น ๑. รัฐจะสามารถประหยัด ภาษีได้ไม่ต่ำกว่าปีละ ๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข งบ ๓๐ บาท บัตรทองที่ถูกตัดไปของ กทม. ที่ชาวบ้านชอบมาบ่นกับผมว่าโดนย้ายโรงพยาบาลบ้าง โรงพยาบาลไม่รับบัตรทองบ้าง แทนที่จะเข้าไปสู่กระเป๋าของผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ซึ่งผมขอเปลี่ยนชื่อเป็นชั้นอภิสิทธิ์ ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะครับ แต่เป็นอภิสิทธิ์ชน ซึ่งหลาย ๆ คน ก็อาจจะอยู่ในนี้ก็ได้ ซ่อนตัวอยู่ในพวกเรา มีอาชีพหนึ่ง หน้าหนึ่งเป็นนักการเมือง มีอาชีพหนึ่ง ก็อาจจะเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างก็ได้ กฎเลยออกมาเป็นอย่างนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ของตัวเอง เพื่อนำเงินสกปรกเหล่านี้ที่มาจากความสูญเสียไม่รู้กี่ชีวิตแล้วจากการรับเหมา ที่ฮั้วประมูลกันแล้วก็ตัดซอยให้ผู้รับเหมาชั้นหนึ่งเป็นเศษขนมปัง โดนบีบให้ทำงาน ไม่มีคุณภาพ โดนบีบให้เร่งเวลาแล้วเก็บหัวคิวอย่างที่ท่าน สส. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ได้บอก สุดท้ายครับ มันคือการทุจริตเชิงนโยบายที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว ก็ต้องฝากนะครับ รัฐบาลใหม่เรามาหยุดวงจรนี้ให้ถาวรด้วยกันและสภาแห่งนี้ช่วยตรวจสอบ จับตาการฮั้วประมูลและประกาศต่าง ๆ ที่ทางราชการต่าง ๆ ได้ออกมาในระยะเวลา ๙ ปีนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ วันนี้ก็ยินดีมากครับที่ประกันสังคมได้มาเจอกัน อีกครั้ง ครั้งก่อนผมได้มีโอกาสเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยมี ท่านศิริกัญญา ตันสกุล เป็นประธาน ก็เคยได้พบปะทางประกันสังคมมาแล้วรอบหนึ่งนะครับ ในการที่มาชี้แจงข้อมูล วันนี้ผมก็อยากจะถามคำถามเดิมนะครับ ถ้าหลาย ๆ ท่านก็เคยจำได้ ในห้องนั้น ผมถามว่าเป็นเรื่องปัญหาบ้านแตกครับ เพราะผมเองเคยทะเลาะกับคุณแม่ผม หลายครั้งแล้วครับ แม่ผมก็ยืนยันว่าให้ไปทำประกันสังคมเถอะ โน่นนี่นั่นส่งเถอะจะได้มี บำนาญ ผมเองก็เถียงแม่ครับท่านประธาน ตลอดเลยว่าแม่จะไปทำทำไม เดี๋ยวกองทุน ก็เจ๊งแล้วกระมังกว่าผมจะเกษียณใช่ไหมครับ ก็ได้ข่าวว่าครั้งก่อนได้บอกผมว่าอีก ๓๐ ปี กองทุนก็จะล่มสลายในอัตราที่ประชากร เพราะว่าประชากรเราเกิดน้อยลงใช่ไหมครับ พีระมิดประชากรเรากลายเป็นหัวกลับแล้วเช่นนี้นะครับ คำถามแรกที่ผมจะถามก็เช่นเคย ครับ หลังจากที่เราได้เจอกัน ๒-๓ ปีก่อนได้มีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานหรือว่าตัวเลข ของประกันสังคมที่เคยบอกว่าต้องเก็บเพิ่มนี่ก็ทราบว่ายังเก็บเท่าเดิม มีการหารายได้ จากแหล่งใหม่หรือไม่นะครับ อันนี้เป็นคำถามที่ ๑

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ครับ บังเอิญระหว่างที่ผมไม่ได้เจอพวกท่านมาก็มีโอกาสได้ไป ศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ได้ไปที่หน่วยงานของประเทศสิงคโปร์เรียกว่า CPF นะครับ ไม่ใช่เจริญโภคภัณฑ์ฟู้ดส์ (Foods) นะครับ แต่ย่อมาจาก Central Provident Found ซึ่งก็มีรูปแบบลักษณะหรือจุดประสงค์มุ่งหมายคล้าย ๆ กับทางสำนักงานประกันสังคมเองนะครับ แต่ผมก็อยากจะแนะนำหรือว่าชี้แนะตรงนี้นะครับว่าจริง ๆ แล้วมีอย่างหนึ่งที่ดีมากก็คือ การที่ CPF เขาได้มีการให้เงินของผู้ประกันตนได้มีโอกาสกู้เพื่อไปซื้อบ้าน หลังจากนั้นพอมีบ้าน เป็นทรัพย์สินแล้ว พอจะเกษียณทาง CPF ก็จะรับนะครับ เขาเรียกว่า Reverse Mortgage ก็คือการจำนองแบบย้อนกลับ ก็คือสุดท้ายเอาบ้านไปใช่ไหมครับ ถ้าคุณเกษียณคุณก็เอาบ้านไป แต่คุณก็อยู่บ้านคุณนั่นล่ะ แต่ไปยื่นจำนองคืนให้กับทางกองทุนเพื่อจะได้เงินมาเป็นรายเดือน แล้วก็ใช้ไปจนเกษียณ จนตายก็ว่าได้นะครับ ซึ่งผมว่าการทำอย่างนี้ก็อาจจะเป็นทางที่ดี ในการที่ ๑. ก็คือเพิ่ม Home Ownership หรือว่าการครอบครองบ้านให้กับประชาชน ๒. ก็คือการทำให้มีหลักประกันในวัยเกษียณ ในสังคมผู้สูงอายุที่จะใกล้เข้ามาถึงนี้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายนะครับ ฝากแค่ ๒ คำถามนี้แล้วก็คำแนะนำติชมนะครับ จริง ๆ แล้ว ให้กำลังใจครับ แล้วก็หวังว่าจะได้คำตอบว่าผมควรจะไปตอบแม่ผมอย่างไรนะครับว่า ผมคิดถูกหรือแม่ผมคิดถูกกันแน่นะครับ ขอบพระคุณมากครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ท่านวรภพจริง ๆ เขาจะเป็นผู้สรุปครับท่านประธาน เดี๋ยวข้ามไปก่อนได้ไหมครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายเรื่อง พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งจริง ๆ แล้ว หลายท่านก็พูดถึงเรื่องโอนเงินอะไรไปเยอะแล้วนะครับ ซึ่งผมเองก็พูดในฐานะผู้แทนราษฎร อย่างหนึ่ง แล้วก็พูดในฐานะเหยื่อด้วยเหมือนกันนะครับ เพราะว่า สส. เองเป็นอาชีพ ที่โอนง่ายอยู่แล้ว ผมเชื่อว่า สส. ก็จะโดนบ่อย ซึ่งวันนี้จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากสิ่งที่เกี่ยวกับ โอนเงินและบัญชี ผมว่าหลายคน หรือยังไม่มีใครเท่าที่ผมได้ฟังเพื่อนอภิปรายนะครับ เรื่องเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมอื่น ๆ ที่ผมว่าอันตรายกว่าการโอนหรือการหลอกลวง ทาง Call Center อะไรต่าง ๆ นานามากมาย มันมีเทคโนโลยีเรียกว่า Deepfake ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์โดยการที่สร้างหน้าของผมมา ซึ่งคนที่ดูอยู่ทางบ้านตอนนี้ไม่รู้เลยว่า หน้าผมเป็นหน้าจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าใช้ AI Deepfake มาได้ ทำไมในโลกนี้อาจจะทำให้ ผมดูน่าเกลียดกว่าตัวจริงก็ได้ใช่ไหมครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วผมอาจจะหน้าตาไม่ใช่อย่างนี้ก็ได้ นี่คือความน่ากลัวครับ ความน่ากลัวของมันคืออะไรครับ ทางเศรษฐกิจและสังคม และการเมือง รวมถึงความมั่นคงระหว่างประเทศด้วย เคยมีคนเอารูปของประธานาธิบดีปูติน หรือผู้นำนานาชาติไปพูด หรือว่าแม้กระทั่งสงครามยูเครนเองที่ออกมาให้ประธานาธิบดี ยูเครนพูดว่าเราจะยอมแพ้ นี่อย่างไรครับคือความอันตรายของมัน แล้วผมไม่เห็นเลยครับว่า ใน พ.ร.ก. ฉบับนี้จะมีการแก้ปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องการใช้เทคโนโลยี Deepfake ที่เปลี่ยนรูปหน้าตาทั้ง Video และรูปนี่เพื่อปกป้องตัวตนหรือลงโทษคนที่ทำเช่นนี้นะครับ ซึ่งผมว่ามีการป้องกันได้หลายอย่างครับ อย่างเช่น การพูดของผมวันนี้ก็เป็นการป้องกัน อย่างหนึ่ง ในการพูดถึงว่ามีเทคโนโลยีอย่างนี้ที่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ต่าง ๆ นานา สร้างความขัดแย้งในสังคม หรือว่าหลอกเอาเงินอะไรต่าง ๆ แอบอ้างตัวตนได้ครับ การที่จะ ตั้งกฎออกมานี่ก็อาจจะต้องไปขอความร่วมมือนะครับ ต้องเป็นกฎหมายอยู่แล้ว อย่างเช่น การที่ให้ Creator หรือคนที่ทำ Video Up ลง Platform ต่าง ๆ นี่ ต้อง Declare หรือพูดว่า เขาใช้เทคโนโลยีในการใช้ AI ในการเขาเรียกว่า Alteration ก็คือการที่ทำให้แตกต่างไป จากความเป็นจริงหรือไม่ซึ่งในหลายประเทศก็เริ่มทำกันแล้ว ผมก็อยากวิงวอนนะครับว่า สมาชิกสภาของเราแห่งนี้เราต้องเริ่มมาจับเข่าคุยกันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมาธิการ เกี่ยวกับดิจิทัลสามัญของเรานี่ผมก็วิงวอนนะครับ เพื่อนคนไหนที่เป็นกรรมาธิการชุดนี้ ก็ฝากทำเรื่องนี้ด้วยเพราะว่าอันนี้สำคัญจริง ๆ การใช้ Blockchain มาตรวจสอบแหล่งที่มา Original Content หรือว่า Video เริ่มต้นของนี้ก็เป็นอย่างหนึ่ง การเพิ่ม Media literacy ให้กับทั้งประชาชน และแม้กระทั่งนักข่าวหรือคนที่ผลิตสื่อเองก็สำคัญเช่นกันนะครับ Social Media Policy หรือนโยบายของ Social Media ก็มีความสำคัญในการเพิ่ม ความโปร่งใสหรือไม่ สำหรับคนที่ใช้ต่าง ๆ เพราะว่าตอนนี้เราก็เห็นปัญหาครับ ใน Twitter แอคหลุมต่าง ๆ ก็สร้างความปั่นป่วนมาสู่สภาเรา ไม่รู้ว่าใครเป็นใครครับ ด้อมส้ม ด้อมแดงนี่ ทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าเป็นคนที่เชียร์พรรคเราจริง ๆ หรือเปล่าใช่ไหมครับ สุดท้ายนี่ก็เกิดปัญหา ในเชิงการเมืองบ่อนไชระบบรัฐสภาและประชาธิปไตยของไทยเช่นกันนะครับ รวมถึง ถ้าทางตำรวจจะพัฒนาเรื่องเกี่ยวกับ Digital Forensics หรือว่านิติวิทยาศาสตร์ทาง Digital ขึ้นมาในการสืบหาต้นตอ ในการจับ Deepfake แล้วก็ในการนำผู้กระทำผิดที่แอบอ้าง เอามาทำเข้าสู่กระบวนการให้ได้ แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นมันไม่มีใน พรก. นี้นั่นคือปัญหาครับ ก็เลยอยากสอบถามไปทางผู้เสนอว่า มีความตระหนักถึงเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไรนะครับ แล้วก็ถ้ามีคำตอบว่าอย่างไรหรือกำลังร่างอยู่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าเดี๋ยวแน่นอนครับ ผมแล้วก็พรรคก้าวไกลเดี๋ยวจะร่าง พ.ร.บ. เข้าไปเพื่อแก้ พรก. ฉบับนี้ แล้วก็เพื่อจะใส่เรื่อง Deepfake เข้าไปอยู่แล้ว ผมรับปากครับ ขอบคุณครับ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธาน ที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอร่วมอภิปราย ในญัตติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำนะครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ เป็นญัตติ เขาเรียกว่าเป็น Default ก็คือตั้งทุกครั้งเลยที่มีสภาขึ้นมา ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ก็อยากจะฝากไปยังผู้ที่จะเป็นกรรมาธิการวิสามัญในชุดนี้ด้วย จริง ๆ แล้วเห็นหลายคน ก็ได้อภิปรายในส่วนของเนื้อหาว่าทำไมผลผลิตตกต่ำมาแล้ว แต่ผมอยากให้ช่วยแก้ปัญหา เชิงโครงสร้างเถอะครับ จะได้แก้ไปทีเดียว ไม่ต้องกลับมาตั้งแบบซ้ำซากนี้อีก ซึ่งก็เคารพ ในคำอภิปรายที่เป็นประโยชน์ของเพื่อนทุกคน หลาย ๆ คนเห็นผมขึ้นมาแล้วเท่าพิภพ มันต้องพูดสุราก้าวหน้าแน่เลย แต่ผิดคาดวันนี้ผมจะอภิปรายสิ่งที่ใกล้เคียงกับสุราก้าวหน้า มาก ๆ ครับ ซึ่งเป็นเรื่องคนตัวเล็กกับนายทุน กลุ่มทุนผูกขาดที่ชอนไชอยู่ในโครงสร้างของ เศรษฐกิจไทยทุกวันนี้เองนะครับ ด้วยเวลาอันน้อยนิดครับท่านประธาน ผมจะขอยกตัวอย่างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนไทย ก็คือการปลูกข้าว อุตสาหกรรมการเกษตร การค้าข้าวของไทยมีมาอย่างยาวนานนะครับ ซึ่งก็มีปัญหาอยู่หลัก ๆ ใน ๒ ประเด็นที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง

    อ่านในการประชุม

  • อันแรกเลยครับ ถ้าให้เหมือนสุราก้าวหน้า ก็คือเรื่องใบอนุญาตครับ ท่านประธาน ทราบไหมครับว่าการที่จะขอเป็นผู้ส่งออกข้าวยากมากครับ คือผมดูไปดูมา ผมลองไป Search ใน Website การที่จะเป็นคุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้ครับ ผู้ที่ต้องการ จะส่งออกข้าวต้องได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบการค้าข้าว ตาม พ.ร.บ. การค้าข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ โอ้โฮ ตั้งแต่สมัยไหนแล้ว สงครามโลกหรือเปล่า จากกรมการค้าภายในบอก ก็คือมีใบแรกก่อนก็คือค้าข้าวขายข้าวไปมาได้ ส่วนคนที่จะส่งออกคือต้องจดทะเบียน เป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งข้าวออกไปจำหน่ายต่างประเทศ

    อ่านในการประชุม

  • ๒. อันนี้แปลกมากก็คือต้องมีเหมือนโรงเก็บข้าว ได้รับอนุญาตจาก กรมศุลกากรให้เป็นที่สำหรับตรวจเก็บและบรรทุกข้าวลงเรือเพื่อส่งออก ซึ่งโรงเก็บนี้ ไปเช่าใครไม่ได้นะครับ ต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาเอง ของผู้ขอใบอนุญาต หรือเป็นสิทธิ ครอบครอง คือถ้าเป็นตาสีตาสามีเงินทุนไม่มีที่ดินก็ไม่ได้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ๓. ชัดเจนเลยครับว่าเงินทุนจดทะเบียนต้องเป็นเงินทุนจดทะเบียน ที่ชำระแล้ว ๕ ล้านบาท อันนี้คือโชคดีกว่าเหล้า เบียร์นะ เหล้า เบียร์นี่คือ ๑๐ ล้านบาท แต่ข้าว ๕ ล้านบาท เกษตรกรที่จังหวัดของท่านพิษณุโลกนี่ปลูกข้าวมีทุนเท่านี้ไหมครับ ยังไม่พอครับท่านประธาน ๕ ล้านบาท ทุนจดทะเบียนแล้วต้องมีข้าวสารที่เป็นกรรมสิทธิ์ ของตัวเองไม่น้อยกว่า ๕๐๐ เมตรตริกตัน ๕๐๐ ตันคือเป็น Stock ไว้ก่อนภายใน ๑๕ วัน หลังจากได้ใบอนุญาตครับ หมายความว่าไม่ว่าคุณจะขายข้าวเท่าไรก็ตาม คุณต้องมีข้าว ๕๐๐ ตันเป็นก้นถุงขั้นต่ำในการทำธุรกิจนี้ ใครบ้างในประเทศนี้ทำได้ครับ มีไม่กี่คนใช่ไหม ก็กินเงียบกันไป เรื่องนี้คุ้น ๆ ไม่แปลกใจครับ คล้าย ๆ กับเรื่องของสุราก้าวหน้าที่ผมทำ เป็นข้อสงสัยว่าทำไมเราต้องตั้งให้คนส่งออกข้าวยากขนาดนี้ในการรับใบอนุญาตนะครับ แล้วทำไมต้องมีข้าว ๕๐๐ ตัน ไม่จำเป็นเลยใช่ไหมครับ ถ้าผมจะขายข้าวทั้งหมด ทำไม ผมต้องมี ๕๐๐ ตันอยู่ตลอดเวลา นี่ก็เป็นบทพิสูจน์อีกบทพิสูจน์หนึ่งที่เป็นกฎหมายที่กีดกัน คนตัวเล็กตัวน้อยในการเข้าสู่ระบบ เพื่อคนจำนวนน้อยนิดที่จะกินผลประโยชน์ และทำนา บนหลังคนจริง ๆ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ที่มันจะบ่งเฉพาะว่าชัดเจนขึ้นมา มันมีความไม่ชอบมาพากล ของหลักการปฏิบัติของหน่วยงานรัฐครับ เรื่องการจัดสรรโควตาข้าวว่าเอื้อประโยชน์นายทุน หรือไม่ ผมยกตัวอย่างเลยนะครับ อันนี้ต้องขอบคุณคุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว ขออนุญาต เอ่ยนาม ไม่เสียหายจริง ๆ นะครับ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เคยยกตัวอย่างไว้ในปี ๒๕๖๔ ออกข่าวมติชนเลย เรื่องกรณียกโควตาส่งออกข้าว ๒๐,๐๐๐ ตัน ของกรมการค้าระหว่าง ประเทศ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการค้าข้าวรัฐต่อรัฐ และเป็นผู้จัดโอนโควตาข้าวให้สมาคม ผู้ส่งออกข้าวไทย และผมก็ไปดูมาครับ มีบริษัทใหญ่ ๆ ไม่กี่บริษัท และซ้ำร้ายครับ สมาคมนี้ ก็ไปเก็บเงินค่าดำเนินงาน ๑๕๐ บาทต่อตันอีก คือได้ของหลวงไปฟรี ๆ ทำไมหลวงไม่ยอมไป ประมูลโควตาข้าวนี้ให้คนอื่นมาทำ ใครได้โควตาข้าวนี้ไปได้ราคาสูงสุดก็ว่ากันไป แต่อันนี้คือ ยกให้เปล่า ๆ เลยก็คือยกให้กลุ่มทุน ซึ่งผมก็เชื่อว่าสมาคมนี้ปี ๆ หนึ่งเขาก็มีจัดกินเลี้ยงกัน แล้วก็คุยกันนะครับว่าจะซื้อข้าวจากเกษตรกรราคาเท่าไรดีก็คำนวณได้หมดละครับ ถ้าโชคดี ให้ราคาเยอะ หรือเป็นราคาตลาดโลกก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็เป็น ข้อสงสัยว่าทำไมหน่วยงานรัฐทำเช่นนี้ครับ ต้องขอบคุณคุณหมอชลน่านที่ผมเคารพจริง ๆ ที่ Raise ประเด็นนี้ขึ้นมา แล้วก็หวังว่าประเด็นนี้ในรัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา น่าจะเอาไปแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว เพราะท่านเป็นคนตั้งประเด็นขึ้นมาเองนะครับ ปัญหา เหล่านี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งมันแก้ได้ยากครับ เป็นปัญหาที่เป็นสภาพแวดล้อม แห่งความเป็นจริงที่อุบาทว์ที่สุด ที่กลุ่มทุนและกลุ่มการเมืองอาศัยประโยชน์พึ่งพา อาศัยซึ่งกันและกัน กลุ่มทุนได้ประโยชน์จากนโยบายที่ออกมาโดยกลุ่มการเมือง เพื่อความได้เปรียบทางการค้า และกีดกันคู่แข่งรายใหม่ กลุ่มการเมืองก็ได้ครับ ได้อะไรครับได้ Sponsor ไปทำการเมือง อะไรต่าง ๆ นานามันเลยไม่มีวันจบสิ้นครับ ยกเว้นบ่อน้ำแห่งนี้ที่เป็น Ecosystem นี้จะมี ตัวประหลาดเข้ามา แล้วบังเอิญประเทศไทยวันนี้มีแล้วครับ พวกเราจากพรรคก้าวไกล พวกเราเป็นตัวประหลาด แล้วผมรู้สึกดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่พวกเราโดนกระทำ สาหัสสากรรจ์หลาย ๆ อย่าง เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะผมรู้สึกเลยว่าผมดีใจมาก ๆ เพราะอันนี้พิสูจน์แล้วว่าพวกเรามาถูกทางแล้วครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขตธนบุรี เขตคลองสาน แขวงบางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขออนุญาตมาอภิปราย สรุปเป็นคนสุดท้ายของสมาชิกพรรคก้าวไกล จะได้ชัดเจนถึงจุดยืน แล้วก็สิ่งที่พรรคก้าวไกล และสภาแห่งนี้จะขับเคลื่อนต่อไป ขอ Slide เลยนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องบุหรี่ไฟฟ้ามีข้อสังเกต อยู่หลายข้อสังเกตด้วยกัน ที่บอกว่าทั้งโลกนี้มีประเทศที่ได้อนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้า แล้วกว่า ๗๓ ประเทศด้วยกัน รวมถึงมี ๓๕ ประเทศ ที่มีการห้ามที่เป็นประเภทสารนิโคติน ซึ่งข้อสังเกตที่แต่ละประเทศอนุญาตให้ขายก็มีมากมายหลายอย่าง อย่างที่ใน Slide ที่ ๒ ที่จะแสดงให้เห็น ยกตัวอย่างอย่างประเทศฝรั่งเศสเริ่ม Ban บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ด้วย รวมถึงบางประเทศก็มีห้ามการขายบุหรี่ไฟฟ้า แบบแต่งกลิ่นเป็นรสผลไม้เอย อะไรเอยนี่ เพราะเขาคิดว่ามันจะทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ มากขึ้น ดูอย่างประเทศนิวซีแลนด์เป็นต้นแบนแบบประเภทใช้แล้วทิ้ง ควบคุมไม่ให้โฆษณา บุหรี่แต่งกลิ่นใช้ข้อความดึงดูดให้เยาวชนเข้ามาใช้ ซึ่งอันนี้เป็นแนวทางที่หลาย ๆ ประเทศ ซึ่งคาดว่าทางคณะกรรมาธิการในชุดของเราที่จะตั้งขึ้นหรือไม่ อาจจะนำไปเป็นตัวอย่าง เทียบเคียงระหว่างกฎหมายต่างประเทศได้ แต่ปัญหาที่บุหรี่ไฟฟ้ามีอยู่ ถ้าดู Slide ตามผมต่อไปนะครับ ในประเทศไทยปัจจุบันก็ต้อง ยอมรับเลยว่าผิดกฎหมายทั้งนำเข้า จำหน่าย ครอบครอง ถึงแม้ว่าจะใช้กันโดยเกลื่อนกลาด โดยทั่วไป โดย พ.ร.บ. ที่เพื่อนผมได้พูดไปแล้วก็หลายอย่าง อย่างเช่นคำสั่งของคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค ๙/๒๕๕๘ ซึ่งตอนนั้นก็เหมารวมไปหมดเลยทั้งบารากุ บารากุไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งตัวยาบารากุด้วย ก็รวมไปเลยซึ่งจริง ๆ แล้วมันคนละอย่างกันเลย ประกาศกระทรวงพาณิชย์ก็ห้ามด้วยเช่นกันในปี ๒๕๕๗ รวมถึง พ.ร.บ. ศุลกากร ซึ่งอันนี้ เป็นกรณีของการห้ามนำเข้า พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. ๒๕๖๐ ก็คือผู้ครอบครองก็มีความผิด เหมือนกันในฐานะครอบครองของเถื่อน ซึ่งคณะกรรมาธิการชุดนี้ก็ต้องมาดูว่าถ้าเราแก้ กฎหมายเราไม่ได้แค่ทำ พ.ร.บ. ใหม่ แต่ก็ต้องมาแก้กฎหมายที่เป็นรากของการห้ามไว้ด้วย รวมถึงการจะแก้ พ.ร.บ. ยาสูบไหม ให้ยาสูบประเภทไฟฟ้าหรือทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เหมือน ยาสูบทั่วไป หรือบุหรี่ทั่วไปของเรานะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ปัญหาที่ ๒ ที่เป็นข้อถกเถียงกัน ผมก็ได้ยินเพื่อนสมาชิกของสภาจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลก็บอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าบางคนก็บอกว่าปลอดภัยขึ้น บางคนก็บอกว่าไม่ได้ ปลอดภัยจริง ๆ หรอกครับ เรื่องนี้ผมไม่เถียงครับท่านประธาน ผมเองไม่ใช่หมอ ไม่มีความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ขนาดถกเถียง แต่ก็มี Paper มากมายหลายส่วนบ้าง ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าอันนี้ ก็ Bias ฝั่งโน้นก็บอกว่าอันนั้นก็รับเงินจากบริษัทค้ายาสูบรายใหญ่ของโลก ผมจะไม่ถกเถียง กันในนี้ เราควรจะไปถกเถียงกันในคณะกรรมาธิการ แต่อย่าลืมนะครับว่าถึงแม้มันจะดี ไม่ดี แต่มันมีอยู่แล้วครับ หน้าที่ของสภาของเราไม่ใช่คุณหมอที่บอกว่าดี ไม่ดีอย่างไร แต่หน้าที่ ของสภาของเราคือสร้างกฎหมายเพื่อมาควบคุม เพื่อมาปกป้องสิ่งที่มันอันตราย เพราะว่า ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันอันตรายแล้วเราจะห้ามไปโดยถาวร สุราก็อย่างหนึ่ง บุหรี่ ก็อย่างหนึ่ง ดังนั้นถ้าใครคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ดีจริง ๆ ผมเชิญเลยครับ ช่วยออก พ.ร.บ. ให้ประเทศไทยไม่มีบุหรี่สักมวน สุราสักหยด ก็ลองดูนะครับ ดังนั้นการที่มีกฎหมายเพื่อมา ควบคุมมันก็คือการที่เรามากำหนดกติกากันในสังคมนั่นเอง

    อ่านในการประชุม

  • ปัญหาที่ ๓ ข้อถกเถียงที่ ๓ ครับท่านประธาน ชาวไร่ยาสูบจะได้ประโยชน์ หรือไม่ อันนี้ยังไม่มีข้อสรุปครับ ถ้ามองจาก Slide ฝั่งสนับสนุนเขาก็บอกว่ามองว่า ตลาดบุหรี่ไฟฟ้าประเทศไทย ๘,๖๑๐ ล้านบาทต่อปี ทำอย่างไรให้ชาวไร่ยาสูบที่ตอนนี้ ก็ประสบปัญหาไม่ได้เงินจากโควตายาสูบบ้าง อะไรบ้าง ไม่ได้รับซื้อบ้าง เอามาทำไหม บางคนก็บอกว่าไม่ได้หรอก เพราะว่ายาสูบประเภทนี้ที่ทำกันในประเทศไทย ปลูกกัน ในประเทศไทยเอาไปทำบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ แล้วหลายครั้งก็บอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าใช้ Nicotine salt มันเป็นสารสังเคราะห์บ้างอะไรบ้างซึ่งอันนี้ไม่ต้องห่วง ไปถกเถียงกันต่อในคณะกรรมาธิการ

    อ่านในการประชุม

  • แต่ที่สำคัญที่สุด จุดยืนของพรรคก้าวไกล เราหาเสียงไปแล้วตั้งแต่ครั้งก่อน แล้วเรายืนยันในคำเดิมว่า ต้องผลิต บริโภค นำเข้า จำหน่ายได้ แต่ต้องมีการควบคุม ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ปลดล็อกปุ๊บก็ไปปลูกได้บ้านละ ๖ ต้น อย่างนี้ไม่ใช่ ก็คือต้องมีการขอใบอนุญาต ชัดเจน อนุญาตให้มีการผลิต นำเข้า จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยได้ อันนี้ต้องยอมรับ ว่าคือต้องไม่ควบคุมต่ำกว่าบุหรี่ทั่วไปในปัจจุบัน

    อ่านในการประชุม

  • มีข้อกำหนดเช่นเดียวกับบุหรี่ อายุผู้สูบ ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามโฆษณา หรือจัด Promotion ต่อไปถ้าเรา Regulate กันจริง ๆ ใครขึ้น Website อย่างนี้ไม่ได้ โดนจับ ปรับแพงแน่นอนครับ และที่สำคัญที่สุดที่เป็นข้อห่วงใยก็คือมีมาตรการในการป้องกัน นักสูบหน้าใหม่ ห้ามแต่งกลิ่น รส สีของผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งตรงนี้หลายคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า อย่าเพิ่งตกใจนะครับ มันเป็นมาตรการที่จะช่วยให้นักสูบหน้าใหม่ เด็กและเยาวชนออกห่าง เราต้องเข้าใจว่าเราอยู่ในสังคมนี้มีสิ่งที่เราไม่ชอบ มันมีสิ่งที่เราชอบครับ แต่สุดท้ายผมก็เชื่อ ว่าสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ที่มีตัวแทนพ่อแม่พี่น้องจากทุกที่ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะได้มา ตั้งกฎให้เราทราบได้ว่าเราควรจะเอาอย่างไรกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ ผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขออภิปรายสนับสนุนญัตติในการตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับศึกษาเรื่องสถานบันเทิง ซึ่งจริง ๆ แล้วผมเองก็อยู่ในธุรกิจ แวดวงนี้ ถึงแม้อาจจะไม่เคยทำไปถึงสถานบันเทิงก็อาจจะเป็นผับ บาร์ทั่วไป แต่ผมอยากให้ คณะกรรมาธิการชุดนี้ที่จะเกิดขึ้นก็ศึกษาไปให้ไกลให้กว้างไปถึงร้านอาหาร หรือผับ บาร์ด้วย รวมถึงอาจจะขอแถมไปเรื่องของเวลาขายแอลกอฮอล์ด้วยนะครับ ซึ่งทางพรรคก้าวไกล ตั้งแต่หาเสียงเราก็มีนโยบายที่จะปลดล็อกเวลาการจำหน่ายสุรา ซึ่งปัจจุบันประเทศไทย คือ ๑๑ โมงถึงบ่ายสองเป็นช่วงแรก แล้วก็ฟันหลอเริ่มอีกที ๕ โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ซึ่งตรงนี้เองก็ทำให้เป็นการบังคับที่จะต้องมีใบอนุญาตมากมาย หลายอย่างที่สถานประกอบการต้องไปขอ รวมถึงสถานบันเทิงที่อยากขายเกินเวลาเที่ยงคืน ด้วย ซึ่งทั่วไปแล้วในต่างประเทศไม่ค่อยมีอะไรประเภทนี้หรอก เรื่องการห้ามขาย เวลาแอลกอฮอล์ แต่อาจจะมีบ้างอย่างประเทศเพื่อนบ้านเรา คือเท่าที่เห็นมาใน ASEAN น่าจะมีประเทศไทย แล้วก็ประเทศสิงคโปร์ ที่ผมได้ไปศึกษาดูงานกับท่านประธานมา ซึ่งจริง ๆ แล้วพอไปดูให้ล้วงลึกเข้าไปในการที่ไปสอบถามมาก็ทราบว่าจริง ๆ แล้วเขามี ใบอนุญาตหลายอย่าง แล้วใบอนุญาตที่ห้ามขาย อย่างเช่น ในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ก็คือ ขออนุญาตเอ่ยนามไม่เสียหาย เพราะว่าเป็นสาขาสิงคโปร์ไม่ใช่ที่ประเทศไทย ก็ขายได้ ๔ ทุ่มครึ่ง ส่วนถ้าเป็นร้านบาร์ทั่วไปก็เที่ยงคืนเหมือนบ้านเรา แต่เขาจะไม่มีเวลาในการมา เป็นฟันหลอแล้วครับ ก็คือ ๗ โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ก็จะเป็นอย่างนี้ไป แต่ถ้าหากว่าก็มีร้าน ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าแล้วมันมีร้านอื่นที่เปิดตีสองอย่างนี้ด้วยเขาใช้อะไร ผมก็ลงพื้นที่ไป ตรวจสอบถามว่าอันนี้มันใบอะไร เขาบอกว่ามันก็ต้องขอเพิ่ม แล้วอย่างที่เพื่อนสมาชิกผม ได้พูดว่า จริง ๆ แล้วก็ต้องจ่ายค่าใบอนุญาตเยอะขึ้น รวมถึงต้องผ่านเกี่ยวกับ Public Health การทำเกี่ยวกับคล้าย ๆ EIA ที่จะต้องไปขออนุญาต ไปพิสูจน์ได้ว่าคุณเก็บเสียงดี แล้วก็เป็นสถานบันเทิงที่มีทางหนีทีไล่ การป้องกันไฟ วัสดุที่ใช้ต่าง ๆ นานาเป็น List เลย คือถ้าคุณอยากจะเปิดคุณเปิดได้ แต่คุณต้องไปขออนุญาต ซึ่งผมว่าในสภานี้ทุกคนคง เห็นตรงกันว่าทำไมมันต้องมีกฎหมายนี้ ก็เพราะว่าการที่เปิดดึกเปิดดื่นมันรบกวนชาวบ้าน โดยเฉพาะชุมชนเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร เป็นต้น รวมถึงผมก็เชื่อว่าเพื่อนสมาชิกที่ อาจจะมาจาก ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือพี่น้องชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่มีความคิดใน เรื่องแอลกอฮอล์ไม่เหมือนกันเขาก็อาจจะมองเป็นอย่างอื่น ซึ่งหลายประเทศเขาก็อาศัยกลไก ของท้องถิ่นครับ อย่างสิงคโปร์ก็เช่นกัน เขาก็อนุญาตให้จะเรียกอย่างไรดีก็คล้าย ๆ กับ ผู้บริหารเขตนั้น ๆ ในการกำหนด Zoning ใบอนุญาต ผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น เบื้องต้นที่อยากให้กรรมาธิการนี้ศึกษา เพราะว่ามองอย่างในประเทศไทยครับ ข้าวสาร ถ้าจะเอากฎระเบียบปัจจุบันวัดก็อยู่ด้านหน้าอยู่แล้ว ไม่มีทางเปิดได้อยู่แล้ว ถ้าทำตาม กฎหมายจริง ๆ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าการมีกฎหมายไปแล้วทำไม่ได้ สุดท้ายมันก็ทำลายความเชื่อถือ ของกฎหมายทั้งระบบโดยภาพรวม ดังนั้นถ้ามองอย่างภูเก็ตเพื่อนสมาชิกของผมก็ได้ต่อสู้ มาอย่างยาวนาน บอกว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวควรจะเปิด ๒๔ ชั่วโมง หรือผ่อนผันกันไหม ไม่ต้องเถียงครับรัฐบาล หรือสภาแห่งนี้แค่ตรากฎหมายให้อำนาจ กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น จัดการครับ ถ้าผู้นำท้องถิ่นคนนั้นหรือที่มาจากการเลือกตั้ง นายกอบจ. คนนั้น โอ้โฮสักแต่ว่า จะเปิดโน่นนี่นั่นเดี๋ยวเขารับผิดชอบทางการเมืองเอง รอบหน้าเขาก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ประชาชนก็ไม่สนับสนุนเขา แต่ละพื้นที่ล้วนแล้วแต่มีความหลากหลายและปัญหาที่ต้องการ ดูแลเป็นเฉพาะ และเรื่องที่เล็ก ๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ในวันนี้มันก็เกิดจากสาเหตุที่ประเทศเรา ไม่กระจายอำนาจครับ ไม่มีสภาที่ไหนในโลกมานั่งเถียงกันเรื่องจะเปิดกี่โมง มันเป็นเรื่อง ระดับท้องถิ่นครับท่านประธาน ดังนั้นผมเองจึงฝากเพราะผมเองไม่ได้เป็นกรรมาธิการชุดนี้ ก็ฝากเพื่อนสมาชิก ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ถ้าศึกษามาแล้วอย่างไรฝากในการแก้ปัญหา แนวทางที่ให้ท้องถิ่นได้ตัดสินใจ ไม่ใช่คนจากส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าที่มาเป็น ชั่วครั้งชั่วคราว มารอตำแหน่ง มารอเกษียณ มาตัดสินใจแทนพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ตาม จังหวัดต่าง ๆ ขอบคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขตธนบุรี เขตคลองสาน แขวงบางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมขอเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ จำนวน ๑๕ ท่านด้วยกันครับ พรรคก้าวไกล จำนวน ๖ ท่าน ๑. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ๒. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ๓. นายธัญธร ธนินวัฒนาธร ๔. นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ ๕. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ๖. นางสาวรักชนก ศรีนอก สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จำนวน ๓ ท่าน ๑. นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ ๒. นายพัฒนา สัพโส ๓. นายนิกร โสมกลาง พรรคภูมิใจไทย ๑. นายล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ ๒. นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ พรรคพลังประชารัฐ จำนวน ๑ ท่าน คือนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวน ๑ ท่าน คือนายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน ๑ ท่าน คือนายสรรเพชญ บุญญามณี พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน ๑ ท่าน คือนายอนุรักษ์ จุรีมาศ ขอผู้รับรองด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ ผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ก็ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ที่ท่านรัฐมนตรีได้มา ตอบกระทู้ผมในวันนี้ ท่านเกรียง กัลป์ตินันท์ สส. เบอร์ ๑ ของจังหวัดอุบลราชธานีมาอย่าง ยาวนานนะครับ จริง ๆ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ผมเคยถามกระทู้ไปแล้วหลายครั้งตั้งแต่รัฐบาล ก่อนด้วยนะครับท่านประธาน เนื่องจากว่ามันมีความล่าช้า แล้วก็มีความสงสัยจากประชาชน เป็นจำนวนมากที่สร้างความเดือดร้อนให้ราษฎรในเขตผม เพราะว่าหลายครั้งเหมือนปิดถนน ไปแล้วก็เปิดมาใหม่ ก็เข้าใจว่าตอนนั้นท่านอดีตรัฐมนตรีท่านอนุพงษ์ ขออนุญาตเอ่ยนาม ก็กรุณามาตอบ แล้วก็ได้เร่งดำเนินการ จนตอนนี้ส่วนใหญ่ก็แล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้ว คำถามของผมที่มาตั้งวันนี้ก็สืบเนื่องจากที่การกระทำว่า จริง ๆ แล้วสร้างเสร็จ คนใช้อุโมงค์แล้ว เรียบร้อยแล้ว อุโมงค์นี้ก่อสร้างตั้งแต่กรกฎาคม ปี ๒๕๖๒ สัญญาเสร็จบอกว่าปี ๒๕๖๕ ซึ่งผมเองก็ไปลงพื้นที่หลังจากการเลือกตั้งวันที่ ๒๑ มิถุนายน ซึ่งไปก็เพราะว่าเห็นท่านผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานคร ท่านบอกว่าท่านไปเร่งเลย ผมก็ไปอีกวัน เพราะว่าท่านบอกว่า อีกวันหนึ่งมันหมดสัญญานะครับ ผมไปมองอย่างไรครับท่านประธานก็ยังไม่เสร็จแน่ ๆ ครับ ก็เลยคิดว่าเลยกำหนดสัญญามาแล้ว ก็เลยตั้งข้อสงสัยว่ามันมีการปรับหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันก็เป็นความอยากรู้ของผมในฐานะผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง รวมถึงเป็นการปกป้องสิทธิของ ประชาชนด้วย เพราะว่าถ้าหากไม่มีการปรับหรือบังคับค่าปรับตามสัญญาจากภาครัฐเลยนี่ อย่างที่สภาเราอาจจะเกิดขึ้น มันก็ทำให้สุดท้ายผลประโยชน์ต่อประชาชนได้สูญเสียไปใช่ไหมครับ เนื่องจากว่าอย่างที่ถ้าท่านประธานดูนะครับ เปิด Slide ถัดไป ประชาชนไม่สามารถเดิน ใช้งานหรือสัญจรได้เต็ม เพราะว่าก็ดูจากภาพนี้ Footpath ก็ยังหายไป พื้นถนนอาจจะเสร็จ แล้วเปิด ๑ เลนบ้าง กั้น ๑ เลนบ้างอะไรอย่างนี้นะครับ ก็เดินไม่ได้ ผมลองไปเดินมา ผม Live มาเลยมี Clip อยู่นะครับ วันที่ ๒๑ มิถุนายน ก็ไปมาหน้าห้างใหญ่ตรงนั้น ก็ปิดกั้นไม่แล้วเสร็จ ก็เลยอยากจะถามเป็นคำถามแรกครับ ไม่ต้องเสียเวลามากเพราะจะได้ เผื่อท่านรัฐมนตรีตอบ ก็ถามตรง ๆ ครับว่า โครงการนี้มันผิดสัญญาแล้วหรือไม่ ล่าช้าหรือไม่ แล้วมีการจ่ายค่าปรับแล้วหรือไม่ หรือว่าดำเนินการอย่างไรอยู่ อันนี้เป็นคำถามแรก ขอบคุณครับ ท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ ก็ขอบคุณนะครับ ท่านรัฐมนตรีผมว่าเป็นคำตอบ ที่จริง ๆ แล้ว หลายอย่างอาจจะเป็นคำตอบที่ผมไม่สะใจ แต่เป็นคำตอบที่ดี ที่พอใจ เพราะผมคิดว่าหลายคนคิดว่าเวลาผมตั้งคำถามอย่างนี้ก็คงอยากต้องปรับใช่ไหม ต้องโน่น ต้องนี่นะครับท่านประธาน แต่จริง ๆ แล้วผลประโยชน์ของประชาชนในการมาตั้งกระทู้ถาม ในวันนี้มันก็คือความโปร่งใสของทุกคนที่จะได้มีสิทธิที่จะรู้คำตอบว่าภาครัฐเราทำอะไรอยู่ และผมคิดว่าคำตอบที่ผ่านมามันก็นำไปปรับปรุง ต้องฝากท่านประธานไปยังท่านรัฐมนตรีว่า ให้ไปปรับปรุงขั้นตอนการทำงานของทาง กทม. ว่าต่อไปที่ท่านทำตอนนี้ดีมากเลยในการให้ เวลาเลยสัญญาแล้วต้องทำหนังสือชี้แจงกลับมา ถ้ากระทู้นี้ไม่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่มี กระบวนการนี้ แต่ต่อไปก็อยากให้เป็นขั้นตอนปกติของทาง กทม. หรือหน่วยงานภาครัฐ อื่น ๆ ด้วยว่า คือสุดท้ายก็ต้องชี้แจงมานะครับว่าผู้รับเหมาเป็นอย่างไร คำถามที่ ๒ ของผมนี่ จริง ๆ แล้วก็เคยถามท่านรัฐมนตรีอนุพงษ์ไปก่อน เพราะจริง ๆ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า การก่อสร้างทุกโครงการในประเทศไทย หรือทุกอย่างเลยนี่มันไม่ใช่แค่เงินที่เราเสีย หรือว่า เวลาความเสียหายต่าง ๆ มันไม่ได้เกิดขึ้น แค่ผิดสัญญา แต่จริง ๆ แล้วประชาชนทุกคนได้รับ ผลกระทบทั้งสิ้น การสร้างที่ยาวนานมันก็มักจะมีเขาเรียกว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม ทั้งสุขภาพจิตด้วย อย่างสัปดาห์ก่อนผมได้ถามเรื่องรถไฟฟ้าสายสีม่วงไป ก็ทำให้รถติด ทั้งกรุงเทพฯ ไม่มีใครจ่ายค่าน้ำมันให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ นะครับ แต่ภาครัฐก็ชอบจะทำ สัญญาเยอะ ๆ แล้วก็ผู้รับเหมาในประเทศไทยก็มีไม่พอ หรือน้อยราย หรืออะไรก็ไม่รู้ ก็ทำเหมือนทำอันนี้ Site นี้นิดหนึ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เสร็จกันเสียที ดูตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ครับท่านประธาน เราเคยเห็นที่เขามีถนนถล่ม เขาเรียกว่าเป็น Sinkhole วันหนึ่งเขาเสร็จแล้ว ใช่ไหมครับ บางทีผมก็อยากจะถาม แต่จริง ๆ ท่านรัฐมนตรีก็ตอบมาแล้วบ้างว่ามีขั้นตอน ผมเข้าใจว่าโครงการนี้จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องของการที่หลายหน่วยงานไม่ทำงาน อย่าง Sync กัน ทุกคนเป็น Silo หมด ทุกคนก็ประมูลงาน ฉันจะทำท่อประปา ทำเสร็จ ทำไมไม่ทำทีเดียวกันไปเลย ซึ่งก็เคยเสนอท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ไปแล้วว่าให้ตั้ง คณะกรรมการมาเพื่อมาดูแล้วก็ทำพร้อม ๆ กัน จริง ๆ แล้วกระทรวงมหาดไทยก็น่าจะทำ ทั้งประเทศได้ด้วย ซึ่งตรงนี้เองผมก็ จริง ๆ ท่านก็เหมือนได้ตอบคำถามผมมาแล้ว แต่จริง ๆ ผมก็ต้องถามเป็นมารยาทเพราะว่าตั้งมาแล้ว ก็จะถามท่านอีกครั้งนะครับ อยากให้ท่าน เพิ่มเติมหน่อยว่าในอนาคตกระทรวงมหาดไทยจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานที่ต้องประสานงานกับหลายหน่วยงานหรือไม่ อย่างไร แล้วก็ถ้าท่านจะพูด เพิ่มเติมเมื่อสักครู่นี้ก็ได้ครับ หรือว่าอาจจะเป็นวิธีการในการสร้างที่อาจจะใช้เทคโนโลยี ที่มากขึ้น เราอาจจะยอมจ่ายแพงขึ้น แต่คือพอเราไปคิดคำนวณในทางเชิงเศรษฐกิจจริง ๆ เราอาจจะจ่ายน้อยลงก็ได้นะครับ ในฐานะที่เหมือนว่าเศรษฐกิจทั้งหมด ผมยกตัวอย่าง ให้เห็นภาพก็คือ อย่างถนนเส้นหนึ่งถ้าเราสร้างนานมากเลยรถก็ติดนานใช่ไหมครับ ติดนาน ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าเราสร้างเสร็จ เสร็จเร็วคนได้ใช้เร็ว เศรษฐกิจพลิกฟื้นได้เร็ว คือยิ่งเร็วมันก็ ยิ่งดีใช่ไหมครับ อันนี้ก็อยากจะให้คำนึงถึงผลกระทบแล้วก็เอาตัวเลขนี้ไปประเมินในการทำ โครงการของรัฐต่าง ๆ ด้วยครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายในญัตติเพื่อนำเสนอ ต่อรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งท่านรังสิมันต์ โรม เป็นผู้เสนอ ผมเองครับท่านประธาน จริง ๆ แล้วก็ไม่ทราบมาก่อนว่า จะมีญัตตินี้ขึ้น แต่มันเป็นความรู้สึกในใจผมมาประมาณสัก ๒ สัปดาห์ก่อนที่ผมได้มีโอกาส ไปประชุมกับสำนักงานเขต ซึ่งจะมีหน่วยราชการต่าง ๆ ไฟฟ้า ประปา รวมถึง สน. ในพื้นที่ มาประชุมด้วยเพื่อแจ้งข่าวหรือว่ารับข้อร้องเรียนต่าง ๆ ซึ่งผมบังเอิญก็ได้นั่งคุยกับสารวัตร ท่านหนึ่ง ซึ่งก็จริง ๆ ดูงานสายตรวจ ก็ทราบว่า สน. แห่งนี้มีสายตรวจเพียงแค่สายเดียว ต่อกะต่อเวร ผมก็งงเลยครับ แกก็มาบ่นว่าชาวบ้านโทรศัพท์มาโน่น นี่ นั่น ตำรวจเดี๋ยวนี้ รับเรื่องร้อยแปดพันเก้าแต่มีแค่สายเดียว ผมก็บอกว่าแล้วตำรวจหายไปไหนหมด เขาก็ไม่กล้าจะตอบผมนะครับ แต่จริง ๆ ทุกคนก็รู้อยู่ว่าตำรวจไปไหนหมด เพราะว่าระบบ ตำรวจในประเทศไทยก็มีตามนายอะไรบ้างอยู่แล้ว ตอนแรกผมก็กะไม่อภิปรายครับ แต่ผมก็มาฟังข่าวเช้าช่อง ๓ รายการคุณสรยุทธ แล้วผมก็เห็นว่า อันนี้ผมขออนุญาตอ่าน ตามข่าวเลยนะครับ เรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยนายกรัฐมนตรีให้เหตุผลว่า Candidate ผบ.ตร. ทั้ง ๔ ท่านมีอาวุโสในทางราชการและการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหารที่แตกต่างกันไม่มากนัก ทุกคนมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกัน ผ่านงานมาทุกรูปแบบ แต่ ผบ.ตร. คนใหม่ จะต้องทำงานสนองนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน จึงมั่นใจว่า พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์สามารถทำงานส่วนนี้ได้ดี คือผมก็เออ เป็นความเอ๊ะที่ ๒ ทำให้ผมต้องมาอภิปรายในตอนนี้ครับ ซึ่งที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าประสบการณ์ของ Candidate ทั้ง ๔ ท่านตรงกัน ผมก็จริงหรือครับ เท่า ๆ กันจริงหรือ ผมก็ไปหาข้อมูลมาครับ ผมขอยกตัวอย่าง ๑ ใน ๔ ท่านนี้คนที่อาวุโสที่สุด พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ มีอายุงาน จากการเป็นผู้กำกับมาก่อนจะขึ้นมาถึงทุกวันนี้ ๒๑ ปีครับท่านประธาน ส่วน ผบ.ตร. ปัจจุบัน จากผู้กำกับมาเป็น ผบ.ตร. ใช้เวลาเพียง ๖ ปีเท่านั้น ผมก็ต้องขอบคุณ ท่านนายกรัฐมนตรีจริง ๆ นะครับที่เลือกท่านต่อศักดิ์ เป็นความหวังให้กับตำรวจชั้นผู้น้อย อย่างยิ่งว่าวันหนึ่งเขาจะสามารถเจริญเติบโตได้หน้าที่การงานได้ไวขนาดนี้ ผมขอบคุณ ท่านนายกรัฐมนตรีจริง ๆ ผมก็มองว่าปัญหาที่อยากจะเสนอรัฐบาล สภาพปัญหามันคืออะไร ตำรวจอย่างที่ท่านรังสิมันต์ โรม หรือ สส. หลายท่านได้อภิปราย มีเรื่องตั๋วช้าง ตามนาย ขายเพื่อน ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายละเอียดผมจะไล่เรียงจากข้างบน การที่จะมาเป็น ผบ.ตร. หรือตำรวจที่มีตำแหน่งสูง ๆ ก็ต้องผ่านการตามนายมาก่อน ผ่านการมีตั๋วช้างมาก่อน ผ่านการที่เหยียบหัวเพื่อน ใส่ร้ายเพื่อนขึ้นมาก็มี ไล่เรียงไปจนสุดท้ายชั้นผู้น้อย ก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีเงินก็อยู่อย่างนั้น ถ้าไม่มีเส้น ไม่มีนายให้ตามก็เป็นตำรวจอยู่ สน. ไป เป็นนายดาบจนเกษียณ แล้วลงมาอีกสุดท้ายความกดดันนี้มาเป็นสายเรื่อย ๆ จากชั้นประทวนลงมาสู่ชั้นผู้น้อย สู่ประชาชน ประชาชนไม่อยู่ในสมการนี้เลย ประชาชน ไม่ได้ประโยชน์เลย ก็อย่างที่ผมได้ไล่เรียงจากปัญหาในพื้นที่ผม จาก สน. ในพื้นที่ผมนั่นละครับ ว่าสุดท้ายไม่มีตำรวจที่จะมารับใช้พิทักษ์สันติราษฎร์ประชาชนเลย ผมเลยอยากจะเสนอ อย่างนี้ครับ ถ้าเราจะเริ่มแก้ปัญหานี้เราต้องเอาประชาชนมาเป็นสมการที่ตั้งก่อน อย่างที่ สส. รังสิมันต์ได้พูดไปว่าการที่มีการตรวจสอบตำรวจโดยการให้ตำรวจ ไปเป็นของท้องถิ่น ในความเห็นผมนี้จริง ๆ แล้วผู้บัญชาการตำรวจประจำจังหวัดควรจะเป็น นายก อบจ. หรือคนที่มาจากการเลือกตั้งสูงสุดของจังหวัดด้วยซ้ำ อย่างที่ต่างประเทศเขาทำ อย่างที่เราเห็นในหนังว่าเป็น NYPD LAPD อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งผมเคยถามตำรวจหลายท่าน ชั้นผู้น้อยเขาก็บอกว่าดีครับ อย่างนี้ดี เพราะเขาไม่อยากจะบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องย้ายไปมา โน่น นี่ นั่น ตามที่นายสั่ง เขาก็อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดของเขา อยู่ในชุมชนที่เขาคุ้นเคย อยู่กับสังคมที่เขาคุ้นชิน เพื่อบริการทุกคนในชุมชนของเขา เราต้องสร้าง Sense of Belonging ในท้องถิ่น ถ้าตำรวจไปอยู่ในท้องถิ่นแล้ววันหนึ่งตำรวจ เขารวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาคนในจังหวัดนั้นเขาก็รู้ครับ ถ้าผู้บริหารสูงสุดขององค์กรตำรวจในจังหวัดนั้นเขาไม่ทำอะไร ก็เช่นเดียวกันครับ รอบหน้า เขาไม่ได้รับการเลือกตั้งก็ต้องเปลี่ยนหัวเปลี่ยนหางกันใหม่ทั้งระบบ ดังนั้นผมฝากไว้สั้น ๆ ไม่กินเวลามากก็คือต้องกระจายอำนาจให้ตำรวจเป็นของท้องถิ่น เพราะจะมีการตรวจสอบ มีส่วนร่วมของประชาชนมากขึ้นและวันนี้ผมขอฝากรัฐบาลไว้ว่าที่ส่วนเริ่มต้นสำคัญที่สุดไม่ใช่ คนที่อยู่ระดับหัว ผบ.ตร. หรือผู้มีอำนาจ หรือนักการเมืองที่สามารถโยกย้ายตำรวจ หรือแม้กระทั่งผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่โยกย้ายตำแหน่งได้ แต่ต้องเริ่มจากประชาชน ให้อำนาจประชาชนในการเลือกตำรวจของเขา ให้อำนาจประชาชนกำหนดทิศทางนโยบาย ของตำรวจที่จะมาดูแลเขา ไม่อย่างนั้นปัญหานี้ก็จะคาราคาซังตลอดไป ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขตธนบุรี เขตคลองสาน แขวงบางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมขอร่วมอภิปรายสนับสนุนในญัตติ แล้วก็อยากจะฝากให้เพื่อนที่จะเป็นกรรมาธิการ หรือว่าถ้าเราไม่ตั้งให้คณะกรรมาธิการสามัญ ได้รับข้อเสนอของผมไปพิจารณาด้วย ผมมี ๒ เรื่องด้วยกันที่อยากจะเล่าให้ท่านประธานฟัง แล้วก็เพื่อนสมาชิกฟังครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรก จริง ๆ ทั้ง ๒ เรื่องมันก็เป็นเรื่องเดียวกัน มันเป็นเรื่องของ การที่ทำไมคนเราต้องตกงาน ทำไมคนเราได้ค่าแรงถูกอย่างที่เพื่อนสมาชิกทุกท่านได้พูดไป มันเป็นปัญหา Classic ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ ๒ ที่ประเทศอังกฤษ ก็คือ เกิดชนชั้น Bourgeoisie ชนชั้น Bourgeoisie หรือชนชั้นกระฎุมพีขึ้นมา แล้วก็กดขี่กับไพร่ ที่หลุดออกจากที่ดิน หรือ Serve เก่าก็เป็นอย่างนี้ดำเนินอย่างนี้ตลอดมา แม้กระทั่งประเทศไทย ที่ห่างไปครึ่งโลกก็รับวัฒนธรรมนี้มาด้วย และดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และยิ่งแย่ลง เรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ การจ้างงานครับท่านประธานมันอยู่เหนือกฎแห่งกาลเวลาหรือกฎอะไรทั้งปวง จริง ๆ ครับ ถ้ายกตัวอย่างในเขตผมเขตคลองสานมีชุมชนหนึ่งชื่อ ๒๐๐ ห้อง แถว ๆ ถนนเจริญรัถ ที่นี่มีช่างทำเครื่องหนังมากมาย ทั้งกระเป๋า รองเท้าที่สมาชิกหลาย ๆ ท่านอาจจะสวมใส่ กระเป๋า Brand Name บางอันที่ขายในห้างก็ล้วนแล้วมาจากชุมชนในเขตพื้นที่ผมครับ และเชื่อไหมครับท่านประธานช่วงโควิดมา ก่อนโควิดผมจำได้ตอนผมเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกผมไปเดินทุกบ้านครับบางบ้านทำพื้นรองเท้า อีก ๑ คูหาก็ทำส้นรองเท้า ทำอย่างนี้ไปเป็นกิจการขนาดเล็กเป็นช่างฝีมือ แต่โควิดมาทุกคนหายไปครับ หลายคน ก็กลับบ้านไปเลย แรงงานฝีมือเหล่านี้กลับบ้านไปเลย ไม่มาเลย แล้วผมถามว่าคนที่อยู่ เป็นอย่างไรบ้างพี่ต้องรวยขึ้นแน่เลย เพราะว่าแรงงานฝีมือขาดแคลน เขากลับบอกว่า หลังจากโควิดความมั่นคงในชีวิต เงินเก็บเขาหมดแล้ว ตอนนี้คือแรงงานทุกคนบ้านนั้นบ้านนี้ กลายเป็นศัตรูกันในชุมชน เพราะว่าทุกคนต่างแย่งงานกัน พร้อมที่จะกดค่าแรงเพื่อ ห้ำหั่นกันเอง แล้วก็นายทุนที่อยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็งที่รับเงินทุกอย่างก็หัวเราะเยาะแรงงานเหล่านี้ มิหนำซ้ำยังบอกว่านี่ฉันช่วยพวกแกนะ นี่คือความอยุติธรรมที่มันอยู่เหนือกฎ Supply Demand ท่านประธาน ผมเข้าไปร่วมกับ สส. พรรคก้าวไกลปีกแรงงานพยายามจะจัดตั้ง สหภาพแรงงานคนทำเครื่องหนัง ผมก็หวังว่า ๔ ปีนี้ผมจะทำสำเร็จให้ได้ในสมัยนี้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องที่น่าตลกมากที่เรายังคุยเรื่องนี้กันอยู่ทั้งที่มหันตภัย ในเรื่องการจ้างงาน แรงงานหลาย ๆ อย่างจะเกิดขึ้นภายใน ๒๐ ปีนี้ การเข้ามาของ AI แล้วก็ Automation โลกที่ใช้หุ่นยนต์ โลกที่ใช้ AI คิด กำลังจะเข้ามาครับ ท่านประธาน รู้ไหมสิ่งที่ผมอภิปรายหลาย ๆ ครั้งในสภานี้ข้อมูลผมถามมาจาก ChatGPT แล้วน่ากลัวมาก ChatGPT ตอนนี้คือเด็ก ๑ ขวบสามารถหาข้อมูล สามารถเขียน สามารถทำ e-Mail ภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งร่าง Resolution หรือขอมติที่ผมเอาไปใช้ในการประชุมสภา ASEAN แล้วได้คำชมจากทุกประเทศเลย ทุกคนในที่นี้จะตกงานภายใน ๒๐ ปีครับ ถามว่ารัฐบาลต้องทำอย่างไรครับ ถามว่าตอนนี้รัฐบาลต้องทำอย่างไรครับง่าย ๆ ครับ เราต้องเพิ่มเพิ่มความเข้มแข็งในการต่อรองให้กับแรงงานและพวกเรา ทุกคนในที่นี้ เป็นแรงงานครับ ถ้าได้เงินเดือนจากใคร ผมก็เป็นแรงงานครับ ท่านเลขาธิการสภาก็เป็นแรงงาน เจ้าหน้าที่สภา ข้าราชการ ก็เป็นแรงงานครับ เราจะมั่นใจได้อย่างไรครับว่าอีก ๒๐ ปีต่อไป เราจะมีชีวิตอยู่ได้ รัฐสวัสดิการคือคำตอบครับท่านประธาน ผมจะเฉลยให้ เราต้องเริ่มทำ ตั้งแต่วันนี้ครับ ถ้าเรามีรัฐสวัสดิการได้ดี ผมหรือคนในเขตพื้นที่ผมที่เขาทำงานเขาจะมี อำนาจในการต่อรองกับนายจ้างเขามากขึ้นครับ เขาจะไม่กลัวที่เขาจะต้องถูกไล่ออกหรือเขา จะเปลี่ยนงานเพื่อไปหางานที่ดีขึ้น เขาจะมีความมั่นคงในชีวิตขึ้น กล้าต่อรองกับนายจ้าง มากขึ้นครับ แล้ววันหนึ่งถ้าเราไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ เราไม่เลิกคิดถึง UBI เงินเดือนถ้วนหน้า เราไม่เลิกคิดถึงรัฐสวัสดิการที่ทุกอย่างมันฟรีจริง ๆ ครับ Means of production หรือผลิตภาพทั้งหมดในวันหนึ่งมันจะตกเป็นของนายทุน นายทุนเขาสามารถตั้งโรงงาน เพื่อสร้างหุ่นยนต์ มาปั๊มหุ่นยนต์ได้ หรือเขาสามารถใช้ AI ในการเขียนโปรแกรมเพื่อมา Clone AI ให้ทำทุกอย่างได้ ตอบผมหน่อยครับ วันนั้นทุกคนอยู่ที่ไหน เราจะไม่มีที่อยู่ เราจะไม่มีงานทำ อย่าหางานเลยครับ เพราะไม่มีงานอยู่แล้ว ดังนั้นคำตอบคือรัฐในฐานะประเทศไทย เราจะจัดสรรอย่างไร ทรัพยากรหรือผลิตภาพที่ตอนนี้อยู่กับนายทุน เราจะทำให้นายทุน จ่ายภาษีเพิ่มขึ้นไหม เพื่อมาทำรัฐสวัสดิการให้ทุกคนไหม ลดความเหลื่อมล้ำไหม หรือเราปล่อยอย่างนี้ แล้วก็มีแค่ชื่อประเทศไทย แต่คนที่เป็นเจ้าของจริง ๆ ก็คือเจ้าสัว นี่คือความเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน หรือกฎหมาย หรือนักการเมืองหลาย ๆ พรรคที่เคย รับเงินนายทุน หรือรับอยู่ แล้วออกนโยบายเพื่อเอื้อนายทุน สุดท้ายจุดจบที่ผมอยากชี้ให้เห็น ภายใน ๒๐ ปี ประเทศไทยจะเป็นอย่างนี้ หรือไม่ก็ทั้งโลกจะเป็นอย่างนี้ครับ อย่างไร สิ่งที่ผมอภิปรายไปไม่ใช่ความเพ้อฝัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อยากชวนทุกคนมาคิดอย่างผม และช่วยกันแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นทั้งปัจจุบันและอนาคต เพิ่มความเข้มแข็งให้พี่น้องแรงงาน เพราะทุกคนคือสหายของพวกเรา ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ ผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมขออนุญาตอภิปรายรายงาน ของสถาบันพระปกเกล้าประจำปี ๒๐๒๒ ข้อเท็จจริงอาจจะคล้ายคลึงกับท่านผู้อภิปราย ก่อนหน้า ท่านมานพ คีรีภูวดล แต่ผมก็อยากจะลงรายละเอียดแล้วก็มีรายละเอียดเพิ่มเติม จริง ๆ แล้วก็ขอให้สถาบันพระปกเกล้าอาจจะต้องช่วยเหลือ เพราะว่าเป็นประเด็นที่ยอมรับ ในส่วนตัวสนใจเป็นพิเศษและกำลังขับเคลื่อนอยู่ อันนี้ก็น่าจะตรงภารกิจในการ Support การทำงานของผมนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรก เป็นประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยในเด็กและเยาวชน ซึ่งกระผมเองก็ได้โอกาสจากตัวท่านรองประธานสภา ท่านปดิพัทธ์ สันติภาดา โดยท่านเอง ได้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนสภาโปร่งใสและก้าวหน้าใช่ไหมครับ ถ้าชื่อผิดขออภัย ซึ่งในนั่นเองมีคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ซึ่งผมเอง ก็ได้นั่งทำในจุดนี้ด้วยนะครับ ก็ได้รู้ว่าในประเทศไทยการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเด็ก และเยาวชนค่อนข้างถูกจำกัด อย่างสภาเด็กและเยาวชนกลับดูแลโดย พม. ซึ่ง พม. เอง ก็เห็นเด็กและเยาวชนนี้เป็นคล้าย ๆ กับ อส. เป็นอาสาของ พม. ในระดับโรงเรียนนะครับ ในระดับท้องถิ่น ก็คือเอาไปทำ Event เอาไปออกงานเท่านั้นเอง ไม่มีอำนาจทางการเมือง ใด ๆ ของสภาเด็กเลย แม้กระทั่งจะถามกระทู้รัฐมนตรีหรือเสนอกฎหมายใด ๆ คือเป็น ดอกไม้ประดับตามงานต่าง ๆ เท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้เองผมคิดว่าตัวผมเองแล้วก็ทาง พรรคก้าวไกล รวมถึงน้อง ๆ ได้ทำงานกับทางสภาเด็กหลาย ๆ ท่านก็พยายามแก้ไขกฎหมาย กันอยู่ แต่ถ้าได้สถาบันพระปกเกล้ามาช่วยก็น่าจะกว้างและเร็วขึ้น แล้วก็ง่ายต่อการติดต่อ หน่วยงาน ประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในประเด็นที่ ๒ เกี่ยวกับเยาวชนผมว่าอันนี้ต้องขออนุญาตให้สถาบัน พระปกเกล้าช่วยทำงานกับมหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษา มากขึ้นด้วยนะครับ เพราะผมเชื่อว่า การทำอย่างนี้ การสร้างคนตั้งแต่รุ่นนั้นขึ้นมาเป็นนักการเมืองหรือนักปกครองต่าง ๆ มันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าในการที่อบรมกับผู้ช่วย สส. หรือแม้กระทั่ง สส. เอง ด้วยความเป็นจริง ที่ทุกคนทราบสุภาษิต คำพังเพยไทยว่า ไม้แก่ดัดยาก ไม้อ่อนดัดง่าย ผมว่าอันนี้ก็เป็นส่วน สำคัญ ยกตัวอย่างอย่างประเทศอังกฤษไม่ต้องไปไหนไกล เพื่อนสมาชิกของผมที่จบจาก ประเทศอังกฤษมาก็หลายท่าน ผมไม่มีโอกาสหรอกครับ ผมเป็นคนด้อยโอกาสคนหนึ่ง ก็เรียนจบปริญญาตรีธรรมดา ท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ ไปเรียนมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดมา เขาก็ เคยเล่าให้ผมฟังครับ ที่อังกฤษมันมีสมาคมของพรรคการเมืองอยู่ตามมหาวิทยาลัย ไม่มีความ เกลียดชังหรือเกลียดกลัวการเมืองเหมือนในประเทศไทยครับ สถาบันพระปกเกล้าช่วยไป ปรับทัศนคติด้วย มีการ Debate อย่างเปิดเผย เชิญนักการเมือง เชิญบุคคล ดารานักแสดง ผู้ทรงอิทธิพลมากมาย อย่างคุณพริษฐ์เอง เขาเรียกว่าเป็นประธาน Oxford Union เขาก็ได้เชิญหลายคนมา แล้วก็เป็นประโยชน์กับ นักศึกษาอย่างยิ่งที่ได้เรียนรู้ประชาธิปไตย ผมว่าถ้าเมืองไทยมีอย่างนี้ได้ความคิดของเด็ก และเยาวชนตั้งแต่เด็กก็จะได้มีองค์ความรู้ที่เขาไปคิดต่อยอด เราคงไม่อยากเห็นว่าสถาบัน พระปกเกล้าไปทำแล้วก็ยัดค่านิยมใด ๆ ซึ่งถ้าคิดจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ก็ทำไม่ได้หรอกครับ เพราะเด็กสมัยนี้คงไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ไม่มีใครไปควบคุมเขาได้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ เป็นเรื่องประเด็นของงานวิจัย ที่คือ ผมเป็นแฟนคลับ Website ของ Wiki.kpi และสถาบันพระปกเกล้า ผมก็เอาข้อมูลมาเยอะนะครับ ทั้ง Wikipedia ใหญ่ ทั้ง Wikipedia เล็ก ทั้ง Google ทั้ง Chat GPT ผมก็มีปัญญาหาความรู้แค่นี้ล่ะครับ เพราะจับฉลากไปเรียนกับพวกท่านไม่ได้เลยสักทีเลย ไม่เคยเรียนสักหลักสูตรเลย ผมอยาก ฝากนะครับ ที่หายไปที่ผมเรียนรู้แล้วผมพยายาม Research ด้วยตัวเองอยู่คือเรื่อง Digital Democracy ในประเทศไทยความเป็นไปได้ อันนี้เน้นย้ำนะครับว่าเป็น Near Future แล้วผม ว่าวันหนึ่งไม่เกิน ๒๐ ปี ถ้าสถาบันพระปกเกล้าแล้วก็พวกเราทำงานหนักเพียงพอ อาชีพอย่าง ผู้แทนราษฎรเราไม่ควรจะมีอยู่แล้วครับ ประชาชนควรจะเป็นคนที่ใช้อำนาจประชาธิปไตย โดยตรงผ่านมือถือเขาได้แล้ว ถ้าเรามี Blockchain แล้ว มีอะไรแล้ว ประชาธิปไตยแบบ ตัวแทนแบบนี้ Obsolete หรือภาษาไทยก็แปลว่า ล้าหลัง ไม่มีความหมายอีกต่อไป ผมว่า อันนี้คือเป็น Future ถ้าเราเชื่อในประชาธิปไตยจริงว่าเป็นอำนาจของประชาชน วันนั้น ต้องมาถึงให้ได้ วันนี้เราตกงานครับท่านประธาน วันที่ที่นี่ไม่มีความหมาย ร้าง นั่นแหละคือ เป้าหมายของเรา ท่านประธานครับ อย่างไรผมก็ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งในการที่ได้มาอภิปราย ในวันนี้นะครับ แล้วก็อย่างไรฝากทั้ง ๒ ข้อเสนอ เรื่องของเด็กและเยาวชน แล้วก็เรื่อง ประชาธิปไตยทางตรงด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เป็นเรื่องที่เขาทำมานะครับ อย่างผม ไปกับท่านประธานที่สิงคโปร์ใช่ไหมครับ ลี กวนยู (LEE Kuan Yew) เขาบอกว่าอะไรครับ เกาะเล็ก ๆ ไม่มีอะไรเลย ตอนแยกมาจากมาเลเซียร้องไห้นะ ไม่คิดว่าจะพาประเทศสิงคโปร์ มาขนาดนี้ได้ ๕๐ ปีผ่านไปเขาไปไหนแล้ว แล้วสิ่งที่สำคัญที่ ลี กวนยู (LEE Kuan Yew) ทำ มีเพียงอย่างเดียวเลยครับ พัฒนาทรัพยากรบุคคล เพราะเป็นหนึ่งเดียวที่เขามีอยู่ ที่เขามี ทรัพยากรบุคคล แล้วการ Invest ที่คุ้มที่สุดคือคนที่อายุน้อยใช่ไหมครับ เพราะเราลงเม็ดเงิน ไป เขายังอยู่อีกนาน อย่างไรฝากสถาบันพระปกเกล้าทำงานกับมหาวิทยาลัยและสภาเยาวชน และพยายามแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้เยาวชน กับมหาวิทยาลัยและสภาเยาวชน และ พยายามแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้เยาวชน เพราะผมเชื่อว่าอันนี้จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ เยาวชนได้เข้าสู่อำนาจและมีปากมีเสียงของเขาเอง ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางประกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขอร่วมอภิปรายในญัตติที่จะให้ สภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับการศึกษาการแก้ปัญหาลิงนะครับ ซึ่งหลายคนก็งงครับว่า ทำไมวันนี้ สส. เท่าพิภพมาพูดเรื่องอะไร เกี่ยวอะไรกับลิง ที่คลองสานมีลิงหรือ จริง ๆ มันก็ ไม่อย่างนั้นหรอกครับ เรื่องลิง ๆ อย่างเดียวในเรื่องนี้ก็คือผมซนเองที่มาอภิปรายเรื่องนี้ แต่จริง ๆ แล้วผมก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาของสัตว์ป่าที่อยู่ในเมือง รวมถึง แม้กระทั่งหมาแมวจรจัดที่เป็นปัญหาหลักใหญ่ในเขตผมแล้วก็กรุงเทพมหานคร ซึ่งมันมีจุด เกาะเกี่ยวคล้าย ๆ กันอยู่หลายอย่าง แล้วก็หวังว่าการอภิปรายของผมจะนำเสนอทางแก้ไข น่าจะเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ได้อีกส่วนหนึ่งครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นแรกครับท่านประธาน หลายคนเพื่อนสมาชิกได้อภิปรายไปแล้วว่า ตอนนี้มันติดขัดเรื่องปัญหาทางกฎหมายอยู่ เรื่อง พ.ร.บ. สัตว์ป่าคุ้มครองแห่งชาติ ไม่มีเพียง แค่ลิงเท่านั้นหรือวานรต่าง ๆ แต่ทราบไหมครับว่าในเขตอย่างในกรุงเทพมหานครก็ยังมี สิ่งที่เรียกว่าตัวเงินตัวทอง อันนี้ก็ได้รับการคุ้มครองโดย พ.ร.บ. อันนี้ด้วย ดังนั้นหากวันดีคืนดี มีการแก้ พ.ร.บ. นี้แล้วอย่าแก้แค่ลิงนะครับ แก้สัตว์อื่นด้วย ซึ่งความละเอียดในการแก้ไข พ.ร.บ. ผมว่าเราอาจจำเป็นต้องมี พ.ร.บ. อีกอันหนึ่งขึ้นมา หลายประเทศก็ผ่านเขาเรียกว่า เป็นคลื่นแห่งการอนุรักษ์ที่เกิดหลังจากสึนามิแห่งการทำลายโดยน้ำมือมนุษย์มาก่อน สัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว กำลังจะสูญพันธุ์ และก็ต้องปกป้อง แต่การปกป้องหลายประเทศ ผ่านไป ๕๐ ปีอย่างประเทศญี่ปุ่นหรืออเมริกาจำนวนกวางเยอะมาก เยอะเกินไป ทำลายพืชผล และกระทั่งทำลายป่าที่มันอยู่เอง มีรูปที่ประเทศญี่ปุ่นรูปหนึ่ง จะเล่าให้ฟังว่ามีการกั้นรั้ว ฝั่งหนึ่งคือกวางอยู่ ฝั่งหนึ่งคือป่าที่ไม่มีกวาง ฝั่งนี้แทบจะไม่มีต้นไม้เลย เพราะว่ากวางมันกิน ทุกอย่างเลย และสัตว์นักล่าจำพวกหมาป่าตามธรรมชาติทั้งในอเมริกาหรือที่ญี่ปุ่น รวมถึง ที่ไทยเองสัตว์นักล่ามันหมดไปแล้ว มันจึงไม่มีการควบคุมประชากร เขาควบคุมด้วยอะไร นโยบายของรัฐบาลนี้เอาไปทำได้ผมว่าเป็น Soft Power มันมีการเปิด อย่างเช่นประเทศ แอฟริกาใต้เขาก็เปิดให้ล่าสัตว์ Safari เป็นช่วง ๆ ไป เป็น Hunting Season รวมถึงอเมริกา หรือญี่ปุ่นด้วย ไทยอาจจะต้องมีการพิจารณาอันนี้ เพราะว่าได้ยินเพื่อนสมาชิกหลายท่าน ก็บอกว่าในพื้นที่ก็อาจจะมีหมูป่าที่เยอะเหลือเกิน ทำลายพืชผลก็เป็นได้

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ถ้าเราแก้กฎหมายเสร็จถามว่ากลไกต้องทำอย่างไรต่อ หลายคน ไม่ค่อยได้พูดเลยว่ากลไกทำอย่างไรต่อ แก้กฎหมายเสร็จแล้วถ้าโครงสร้างของรัฐยังเป็น เหมือนเดิมผมเชื่อครับว่าไม่มีโอกาสเลยที่เราจะแก้ปัญหาลิง ตัวเงินตัวทอง หรือแม้กระทั่ง หมาแมวจรจัดได้เลยทุกที่ในประเทศไทยด้วยนะครับ ทุกคนทราบไหมครับว่าตอนนี้เราไม่มี สัตวบาลหรือสัตวแพทย์ประจำตำบล ส่วนใหญ่คนที่ไปจับหมาแมวจรจัดอยู่ต่างจังหวัด ผมทราบจากเพื่อนสมาชิกก็คือปศุสัตว์จังหวัด ซึ่งคนก็น้อยดูทั้งหมู ดูทั้งอะไร แต่ผมไม่ได้ หมายความว่าทุกที่ควรจะมีสัตวบาลหรือสัตวแพทย์ประจำตำบลหรือ อปท. ต่าง ๆ ที่ใดมีการเลี้ยงสัตว์เยอะก็ควรจะมี ที่ใดไม่เยอะก็ควรจะไม่มี หรือว่า Size แตกต่างกันไป อันนี้ควรจะกระจายอำนาจให้เป็นเรื่องของท้องถิ่นจัดการไปดูแลด้วยนะครับ ถ้าพูดถึงปัญหา กทม. คนก็จะเถียงอีกว่า กทม. ก็มีนี่ เห็น กทม. เขาก็จับกันอยู่ ก็เป็นองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น รูปแบบหนึ่ง แต่ปัญหาของ กทม. ถึงบอกว่ากลไกอันเดียวมันใช้ไม่ได้ กลไกของกฎหมาย ที่ต้องมาดูแลเรื่องหมาแมวจรจัด การเป็นเจ้าเข้าเจ้าของหมาแมวอันนี้ก็สำคัญ ต้องมีการ ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงของทุกคน ถ้าปล่อยออกมาก็ต้องจับไป แล้วก็คนที่เป็นเจ้าของก็ควรจะ มีความรับผิดชอบแค่นี้ แต่ไม่เท่านั้นครับ อันนี้เหมือนผลักภาระให้คนเลี้ยงอย่างเดียว คนที่ลอยนวลมาตั้งนานเขาเรียกว่า Pet Dealer Shop หรือว่าคนขายสัตว์เลี้ยง หรือว่า ฟาร์มเพาะเลี้ยง อันนี้ควรจะอยู่ในกฎหมายเป็นลำดับแรก ๆ ใช่ไหมครับ คุณเพาะเลี้ยงขึ้นมา คุณต้องแจ้งเกิดสัตว์เลี้ยงของคุณ คุณเอาไปขายร้านค้าปลีกสัตว์เลี้ยง พอร้านค้าปลีก สัตว์เลี้ยงได้ขาย ผมมีโอกาสไปญี่ปุ่นตอนช่วงปิดสมัยประชุมแล้วผมก็ไปยืน ไม่รู้นะคนอื่น ไปเที่ยวอะไร ผมไปโอซาก้าผมไปยืนอยู่หน้า Pet Shop แล้วผมก็ดูหมาน่ารักดี สุนัขน่ารักดี แต่ผมดูเวลาเขาซื้อครับ เอกสารเขามาเป็นปึ๊งเลย กรอกหมดเลย ผมก็ด้วยใจอันกล้าหาญ แล้วก็ Google Translate ในมือผมก็เดินเข้าไปถามเขาเลยครับว่าอันนี้กรอกอะไรกันบ้าง มีเยอะครับ คนที่จะซื้อต้องไปขอเขตก่อน แล้วแสดงว่าตนเองอยู่อย่างไร อยู่ในเขตพื้นที่ ขนาดเท่าไร เพราะอะไรครับ เพราะ ๑. คุณมีความสามารถในการเลี้ยงสัตว์ประเภทใด สัตว์เลี้ยงของคุณมีความสุขได้หรือไม่ ไม่ใช่คุณอยู่ห้องเล็ก ๆ แล้วคุณเล่นเลี้ยงร็อตไวเลอร์เลย เลี้ยงอัลเซเชี่ยนเลย อย่างนี้สิทธิสัตว์ก็โดนลิดรอนใช่ไหมครับ เพราะเขาไม่มีพื้นที่ในการ ใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ ดังนั้นผมว่ามาตรการหลายอย่างถ้าหากเกิดการตั้งกรรมาธิการชุดนี้แล้ว ผมก็หวังว่าจะรับ ข้อเสนอของผมไปศึกษาด้วยในการที่สร้างกลไกในระดับท้องถิ่นให้เกิดการมีส่วนร่วม แล้วก็ ปรับใช้แต่ละพื้นที่ให้แตกต่างหรือเหมือนกันออกไปนะครับ อย่างไรผมก็หวังว่าสภาของเรา จะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาสัตว์จร สัตว์ป่า ที่อยู่ร่วมกับคนได้อย่างที่ทุกคนพึงพอใจ มากที่สุดนะครับ ขอบคุณมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • ขอบคุณครับท่านประธาน กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ วันนี้ผมขออภิปรายสนับสนุนในร่างของ ข้อบังคับการประชุมสภาที่เสนอโดยท่านพริษฐ์ วัชรสินธุ เพื่อนร่วมสมาชิกของพรรคของผมเอง ท่านประธานครับสภาแห่งนี้หลายคนก็ชอบบอกว่าเป็นที่พึ่งของประชาชน เป็นสิ่งที่ตัวแทน ของประชาชนมาทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเทศครับ ถ้าเปรียบเสมือนง่าย ๆ เหมือนรถยนต์ เราก็เหมือนเครื่องยนต์อันหนึ่งเหมือนกันทีจะพารถ พาคนที่นั่งในประเทศนี้ไปข้างหน้า แต่ผมเองเป็นสมาชิกสมัยที่ ๒ แล้วนะครับท่านประธาน อาจจะไม่นานเหมือนหลาย ๆ ท่าน แต่ครั้งแรกด้วยความไม่รู้ว่าผมเองครับ ผมก็ได้มีโอกาสไปดูสภาหลาย ๆ ประเทศผ่าน YouTube แล้วก็หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ดูการอภิปรายในหลาย ๆ ประเทศ อย่างอังกฤษ หรือว่าแคนาดา ประเทศที่มีระบบรัฐสภาคล้ายคลึงกับไทย หรือแม้กระทั่งสิงคโปร์ครับ ไม่เพียงแค่ผมได้ดูการอภิปรายเนื้อหาของเขา การตอบคำถามหรือลีลาต่าง ๆ แต่ก็ดูครับ ทั้งการแต่งกาย สภาพของสภาของแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป แต่ต้องยอมรับจริง ๆ ครับ หลังจากที่ผมศึกษาหลายประเทศ ต้องยอมรับก่อนว่ารัฐสภาของเราขั้นตอนต่าง ๆ กลไก มันอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง หลาย ๆ อย่างเราก็ครบถ้วนดีกว่าเขา แต่หลาย ๆ อย่างมันก็ เหมือนเครื่องยนต์เก่าครับท่านประธาน ที่มันยังไม่ได้ Redesign ใหม่นะครับ ตอนนี้โลกเขา ไป EV แล้ว เรายังใช้ดีเซลอยู่อย่างนี้ มันทำให้การทำงานมันช้ามาก ดูอย่างการเสนอกฎหมาย ของเรา สส. ตั้งแต่สมัยครั้งก่อนไม่มีร่างใดของ สส. ผ่านเลย หรือว่าครั้งนี้สมัยประชุมที่แล้ว ก็เป็นไปด้วยความล่าช้าและไม่มีร่างเข้ามาพิจารณาเลย ก็หวังว่าสมัยประชุมนี้เราตั้งหลัก กันได้ ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านแล้วก็ทางสภาเราจะได้โดยไวครับ ทั้งนี้นวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกิด ขึ้นมา ครั้งก่อนผมถือว่าดีนะครับ โดยท่านประธานชวน หลีกภัย ประธานสภาท่านก่อน อย่างกระทู้แยกเฉพาะ อันนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีในการให้ สส. โดยเฉพาะ สส. เขตได้นำเสนอ ปัญหาในพื้นที่กับเจ้ากระทรวงของเขา แต่ผมคิดว่าร่างที่ท่านพริษฐ์ได้เสนอมานี้ มีข้อเสนอ หนึ่งที่ผมรู้สึกว่าดีไม่น้อย คือเรื่องของการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะเพิ่มขึ้นมา อีกอัน ซึ่งอันนี้จริง ๆ แล้วผมก็พยายามเทียบเคียง แล้วพูดภาษาอังกฤษผิดหลายครั้งกับ อาคันตุกะหรือเพื่อนสมาชิกประเทศอื่น เรื่องการตั้งกระทู้ เราก็เรียกว่า PMQ หรือว่า Prime Minister’s Question แต่จริง ๆ ประเทศเราไม่มี เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นถามเจ้ากระทรวง ถึงถามนายกรัฐมนตรีมันก็คือถามโดยทั่วไปใช่ไหมครับ ทีนี้ผมก็ไปดูต่างประเทศครับ ผมมอง ว่าจะเป็นโอกาสอันดี โดยเฉพาะกับตัวท่านนายกรัฐมนตรีเอง ในลำดับที่ ๑ ก็คือท่านได้มา แสดงวิสัยทัศน์ ผมดูอย่างผู้นำแคนาดา Justin Trudeau คือเขาไม่ได้ถามเดี่ยว ๆ ครับ ท่านประธาน มันมีช่วงที่สมาชิกทั้งสภาซักถามเขาคนเดียว แล้วก็ตอบฉะฉานโน่นนี่นั่น คนหนึ่งลุกขึ้นถามไม่ถึง ๕ นาทีครับ ๕ วินาทีด้วยซ้ำแล้วก็ลงไป นายกรัฐมนตรีก็อธิบาย ไม่เกิน ๑๕ วินาที เรื่องอย่างนี้ผมเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับพรรคอะไร ผมก็อยากเห็น ผู้นำประเทศมาตอบอย่างฉะฉาน ประเด็นที่ ๒ นอกจากได้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว แน่นอนครับ ได้กับประชาชน ซึ่งประชาชนก็จะเห็นผู้แทนของเขาทำงาน นำปัญหาพื้นที่มา และการตอบ จากปากท่านนายกรัฐมนตรีมันจะมีน้ำหนัก และเขาก็มีความหวังในการที่จะแก้ไขปัญหา นั้นได้ ประเด็นที่ ๓ ในการที่เราจะมีกระทู้เฉพาะของที่นายกรัฐมนตรีจะมาใส่เดี่ยวกับ ผู้นำฝ่ายค้าน แล้วก็ สส. อื่น ๆ อีกท่านหนึ่งตามข้อเสนอของท่านพริษฐ์ ก็คือสภาของเรา โดยรวม นึกสภาพสภาของเราเหมือนสนามมวยลุมพินี อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจผมต่อย เหมือนผม ลุกขึ้นอภิปราย ผมขึ้นชก ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคู่อะไร คู่รอง คู่ไหนอะไรก็ไม่รู้ แต่คิดสภาพว่าถ้าวันหนึ่งเรามีนายกรัฐมนตรีให้เกียรติสภามาทุกสัปดาห์เลย มาโชว์วิสัยทัศน์ ของท่าน มาโชว์ความเก่งกาจของท่าน เพื่อให้ได้รับความยอมรับ ทุกสัปดาห์ กับมวยเด็ด ซึ่งต่อไปยกตัวอย่างปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้านพรรคผม คุณชัยธวัช ตุลาธน คงดีไม่น้อย หรือในอนาคตถ้าหัวหน้าพรรคคนก่อนของเรา คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มา ผมว่า Rating กระฉูดทุกสัปดาห์แน่นอนครับ ผมว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสภาของเราแน่นอน ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ว่าสภาของเราที่ผมได้กล่าวข้างต้นแล้วว่าต้อง Overhaul หรือว่าปรับปรุง เครื่องยนต์ใหญ่ ผมว่าร่างสภาก้าวหน้าอันนี้จะเป็นจุดสำคัญที่เราจะสามารถเป็นแนวทาง ในการที่ทำให้เครื่องยนต์ของเราทันสมัยเพื่อขับเคลื่อนงานของฝ่ายนิติบัญญัติครับ ผมมอง ไม่เห็นเลยว่าจะมีเหตุผลอันใดที่จะไม่รับหลักการในข้อบังคับนี้ ดังนั้นท่านประธานครับ ผมขอสนับสนุนและโหวตให้ร่างฉบับนี้ หลักการนี้ ผ่านเข้าไปพิจารณาในวาระสอง ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตกรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ ผมนำเรื่องหารือท่านประธาน ๓ เรื่องด้วยกันครับ เอาเรื่องซอฟต์ ๆ ก่อนครับท่านประธาน ตามหลักประเพณีนิยมที่เราทำกันคือเรื่องพื้นที่ครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรก เขตคลองสาน บริเวณถนนลาดหญ้ามีการตีเส้นจักรยานอยู่ แต่จักรยานอย่างผมปั่นมาสภาวันนี้ไม่เคยได้ใช้เลยครับ พี่น้องหลายคนก็ร้องเรียนมาว่าไม่ได้ใช้ เลยเนื่องจากมีรถจอดอยู่ ทั้งรถผู้สัญจรไปมา ทั้งรถที่หลาย ๆ คนได้มาจอดเป็นอู่ซ่อมก็มี อันนี้ก็ต้องฝาก สจส. ในการไปควบคุมจราจรด้วย

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ เขตธนบุรี มีเรื่องที่ผมหารือไปหลายรอบ ไฟกลางถนนแยกมไหสวรรย์ ตอนนี้ติดอยู่ ๘ ดวง ดับอยู่ ๑๑ ดวงด้วยกัน ก็อยากให้การไฟฟ้านครหลวงประสานกับ กทม. และทางเขตเข้าไปแก้ไขด้วย

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องสุดท้าย อาจจะพูดไปเตรียมจอดรถทัวร์ได้ แต่ผมว่าจำเป็นต้องพูดเพื่อ เตือนสติคนในชาติ รัฐบาล แล้วก็เพื่อน ๆ สมาชิกสภากันทุกคน เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ภาคใต้เราที่เกิดขึ้นเรื่องชาวต่างชาติทำร้ายคนไทยที่ภูเก็ต จนมากระทั่งเรื่องของ การทะเลาะวิวาทที่สุขุมวิท ซอย ๑๑ มีความพยายามครับ ที่ผมเห็นหลายครั้งมันกลายเป็นว่า ประเด็นที่เป็นปัญหาจริง ๆ ก็คือการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ตรงไปตรงมา การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐที่เลือกปฏิบัติ แม้กระทั่งเพศสภาพ หรือฐานะความร่ำรวย ซึ่งไม่ใช่แค่ ๒ เรื่องนี้ มันคือเรื่องอื่นในประเทศไทยด้วย จะถูกกลบโดยการบอกว่าอันนี้เป็น ชาวต่างชาติที่มาหาประโยชน์อะไรต่าง ๆ ในประเทศไทย ซึ่งจริง ๆ แล้วเอาล่ะครับเขาผิด จริง ๒ เคสนี้เขาผิด แต่สุดท้ายอย่าให้เส้นผมบังภูเขา อยากให้รัฐบาลช่วยตั้งสติให้กับสังคม ด้วยครับว่าเราไม่ควรนำประเด็นระหว่างประเทศอย่างนี้มาเล่นในเรื่องที่จริง ๆ แล้วเป็น ความผิดของทางรัฐบาลเองครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมขอนำเรื่องร้องเรียนของประชาชน ที่ร้องเรียนมาหาผมในช่องทางมากมายทั้งเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว Facebook แล้วก็ Traffy Fondue ในระบบทำงานของผมนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรก ตลาดนัดในแขวงตลาดพลู เขตธนบุรี มีการจัด Concert อยู่บ่อยครั้ง ชาวบ้านอยู่คอนโดมิเนียมแถวนั้นก็ได้ร้องเรียนมาว่าเสียงดังมากนอนไม่ได้ เข้าใจว่า Promote ตลาดใหม่ วันนี้ผมเลย Promote ให้ไปเที่ยวกันเยอะ ๆ ไม่ต้องจัด Concert บ่อย ๆ ก็ได้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ ปัญหาการจอดรถกีดขวางของทั้งแท็กซี่ รถสาธารณะ แล้วก็รถทัวร์ ซึ่งเกิดขึ้นหน้าห้างไอคอนสยาม เขตคลองสาน อย่างไรฝากตำรวจ สน. ในพื้นที่ช่วยไปจัดการด้วย รวมถึงปัญหาเดียวกันในบริเวณปากซอยเทอดไท ๓๐ ตรงตลาดพลูที่มีการจอดแช่ของ รถกระป๋อง อย่างไรฝากช่วยจัดระเบียบการจราจรตรงนั้นด้วย

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๓ นางสาวฝอยทองป่วยเป็นอัมพฤกษ์อาศัยอยู่ในซอยเชียงใหม่ เขตคลองสาน แต่น่าเศร้าไม่สามารถมีบัตรผู้พิการได้หรือรับสิทธิอะไรได้เลย เพราะตกสำรวจ ตามการสำรวจ พ.ศ. ๒๕๐๐ อย่างไรฝากกรมการปกครองช่วยเร่งให้ด้วยนะครับ อายุ ๗๐ ปี อยู่ในเพิงอนาถาอย่างยิ่ง

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๔ การพนัน ร้องเรียนจากพ่อแม่พี่น้องแขวงตลาดพลู แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี ถึงการเข้ามาของผู้มีอิทธิพล แล้วก็เปิดบ่อนการพนันอย่างโจ๋งครึ่ม จับยี่กีเอย อะไรเอย ผมลงพื้นที่ผมยังเห็นเลยครับ ผมว่าตำรวจไม่เห็นเป็นไปไม่ได้นะครับ อย่างไร กวดขันกันนิดหนึ่ง

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๕ ขอติดตามเรื่องที่ได้หารือไป ประชาชนผู้ร้องเรียนยังคงส่งมาให้ผม ทั้งวันทั้งคืน ทุกวันโทรศัพท์มาหาผมบ่นเรื่องโต๊ะสนุ๊กเกอร์ในซอยเจริญรัถ ๑๖/๑ เปิดเกินเวลา เปิด ๒๔ ชั่วโมงเสียงดัง รถมอเตอร์ไซค์จอดเต็ม รถ All-new จอดหน้าปากซอยเต็มไปหมด อย่างไรฝากตำรวจเข้าไปจัดการด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร แบบแบ่งเขต ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล วันนี้ผมขออภิปรายญัตติที่เพื่อนสมาชิกเสนอเกี่ยวกับ น้ำบาดาล ปัญหาน้ำบาดาลคุณภาพต่ำ ซึ่งทุกคนก็คงงง สส. กรุงเทพฯ มาพูดอะไร ยังใช้ น้ำบาดาลอยู่หรือเปล่า จริง ๆ แล้วผมอยากเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศว่าปัญหา น้ำบาดาลมันก็เหมือนปัญหาหลาย ๆ อย่าง ที่ผมเคยได้พูดไปแล้วว่าถ้าเราไม่มองโครงสร้าง ให้ลึกเราจะไม่มีทางแก้ปัญหานี้ได้เลย รวมถึงน้ำประปาดื่มได้ด้วย ท่านประธานทราบไหมว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ก็มีการออกกฎมากมายที่จะมาควบคุม ซึ่งการเจาะ น้ำบาดาลขึ้นอยู่กับขนาดของบ่อ อย่างเช่น บ่อ ๒ นิ้ว เสียค่าธรรมเนียมฉบับละ ๑๐๐ บาท ขนาด ๘ นิ้วขึ้นไป ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท ซึ่งทำไมผมมาพูดอย่างนี้ หลายคนก็คิดว่ามีแต่ ชาวบ้านที่ใช้น้ำบาดาล แต่ท่านประธานทราบไหมครับว่าตอนนี้ข้าง ๆ สภาเราเองก็เป็น แหล่งที่ใช้น้ำบาดาลเยอะครับ นั่นคือบริษัทเครื่องดื่มต่าง ๆ ถ้าคิดว่าน้ำบาดาลที่อภิปรายมา เป็นของทุกคนแล้ว ผมว่าไม่ยุติธรรมเลยที่บริษัทน้ำดื่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะทำเบียร์ ทำสุรา หรือแม้กระทั่งทำน้ำดื่มใส่ขวดนี้จะใช้ทรัพยากรของเราแล้วเอามาขายเรา แทบจะไม่เสีย ค่าน้ำเลยครับ ถามว่าน้ำค่าน้ำ ๑ ลูกบาศก์เมตร ท่านประธานทราบไหมว่าราคา ๘.๕ บาท เท่านั้น ผมลองเอามาคำนวณ ๘.๕ บาท ถ้าคำนวณมาเป็นลิตรละเท่าไร ๐.๐๐๘๕ บาท แล้วผมดูครับ น้ำดื่มนี้ที่ทางสภาเราไปทำมามีปริมาตร ๓๓๐ ซีซี ก็คือ ๑ ส่วน ๓ ของลิตร ดังนั้นต้นทุนในขวดนี้มันจะเท่ากับ ถ้าภาษาโบราณ ผมไปหาหน่วยที่เล็กกว่าสตางค์ จะเรียกว่า ๑ เบี้ย ๑ เบี้ยคือ ๑ ส่วน ๖,๔๐๐ บาท น้ำในนี้จะมีมูลค่าเพียงแค่ ๑.๕ เบี้ย ผมก็ไม่ทราบว่า สภานี้ซื้อมาเท่าไร หรือน้ำที่เราซื้อกัน ๕๐๐ ซีซี ที่มีมูลค่า ๒ เบี้ย หรือ ๐.๐๐๓๕ มาขายเรา ๘ บาทได้อย่างไร แล้วผมก็มองว่านอกจากน้ำนี้จะได้มาเหมือนกับฟรีแล้วมาขาย เอาผลประโยชน์ให้ได้ทุน แล้วขยะพลาสติกพวกนี้ใครรับผิดชอบ เสียภาษีขวดพลาสติก หรือไม่ ในต่างประเทศนี้น้ำดื่มใส่ขวดถือว่าเป็นของฟุ่มเฟือย เป็นของ Luxury มีการเก็บ Tax ท่านประธานลอง Search Bottle Water Tax ที่ชิคาโก ก็มีการเก็บ ๐.๐๕ เหรียญต่อขวด แล้วผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอยู่ดี ๆ ผมเกิดมา ไปที่ไหนน้ำก็มีให้กินฟรี แต่อยู่ดี ๆ มีช่วงหนึ่ง ทุกคนก็ต้องซื้อน้ำกิน แล้วหลังจากนั้นเราสังเกตว่าประปาเราก็ห่วยลงเรื่อย ๆ ผมก็อดคิด ไม่ได้ประเทศนี้ที่นายทุนผู้ร่ำรวย เจ้าของธุรกิจน้ำดื่มที่มีมูลค่า ๕๐,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี จะไม่มีอิทธิพลต่อนโยบายภาครัฐในประเทศที่เราเป็นอย่างนี้มานาน ผมไม่เชื่อครับ แล้วผม คิดว่าถ้าเราไม่แก้ปัญหานี้ ผลประโยชน์ขนาดนี้ สิ่งที่เพื่อนสมาชิกอภิปรายมาทั้งหมด น้ำประปาต้องดื่มได้ เขาไม่ทำให้หรอกครับ ทำทำไมครับ นายทุนเสียผลประโยชน์ ผมก็เลย จะฝากไว้ถึงรัฐบาล ถ้าเรามีการส่งต่อรัฐบาลหรือเพื่อนกรรมาธิการเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ ดูเรื่องนี้เถอะครับ หลายประเทศเริ่มดูเรื่องนี้ แล้วเขารู้แล้วครับว่าน้ำใต้ดิน น้ำผิวดิน หรืออะไรต่าง ๆ ก็เป็นทรัพยากรที่ไม่แตกต่างจากน้ำมันหรือแก๊สธรรมชาติเลย ผมก็ไม่รู้ครับ โลกมันเปลี่ยนไปเร็วเหลือเกิน เด็ก ๆ ผมไม่กินน้ำขวด โตมาทุกคนต้องกินน้ำขวด แม้ในสภา ของเรานี้ แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าในอนาคตอันใกล้ อย่างปัญหา PM2.5 ถ้าไม่แก้ไขแล้วให้ คาราคาซัง เดี๋ยววันหนึ่งบริษัทนายทุนของประเทศนี้ก็เอาอากาศบริสุทธิ์ไปอัดกระป๋อง ขายพวกเราครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกลครับ วันนี้ผมขอนำเรื่องหารือ ๓ เรื่องด้วยกันครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องแรก อยากฝากถึงทาง กทม. นะครับ ได้รับร้องเรียนจากพี่น้องพ่อค้า แม่ขายบริเวณริม Footpath ถนนในเขตคลองสานมากมายเลยครับว่าอาจจะไม่ได้ขายแล้ว อาจจะสูญสิ้นแล้วซึ่งชีวิต ความเป็นอยู่ และหน้าที่การงานต่าง ๆ นะครับ อยากขอความ ชัดเจนในนโยบายนี้จากผู้ว่าชัชชาติ และทาง กทม. ด้วย เพราะไปถามเจ้าหน้าที่เทศกิจ ที่เดินมาตรวจ ตอนผมลงพื้นที่ เขาก็บอกว่าผู้ใหญ่สั่งมา ผมก็งงเหมือนกันครับ ผู้ใหญ่คนนั้น คนไหนกันแน่ อยากทราบว่ามีมาตรการรองรับอย่างไร ถ้าให้ดีอยากให้จัดการประชุมทุกฝ่าย รวมถึงผมด้วย แล้วก็พ่อค้าแม่ขายต่าง ๆ ด้วยนะครับ ให้มีการจัดระเบียบอย่างแท้จริงสักที จัดเก็บค่าเช่าอย่างไร เอาประเมินที่ดินตรงนั้นเลย ก็ได้ครับว่า Footpath เท่าไรแล้วคูณ ๑.๕ ก็ว่ากันไปนะครับ ผมว่ามันมีวิธีตรงกลางระหว่าง คนเดินถนน กทม. แล้วก็ผู้ค้า พ่อค้าแม่ขายได้อยู่

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ ครับท่านประธาน ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็เยอะครับ ปัญหาฝุ่นก่อสร้าง ในเขตผมเยอะกว่า เนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ตั้งแต่สะพาน พระพุทธยอดฟ้าไปจนถึงเขตราษฎร์บูรณะ อยากให้ทาง รฟม. ช่วยกำชับผู้รับเหมาให้ กวาดฝุ่น หรือว่าอาจจะเป็นรดน้ำลดฝุ่นละอองก็ได้ครับ เพราะชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณ Site งานลำบากมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องสุดท้ายครับ ถนนเจริญนคร ซอย ๑-๓๕ มีการลาดยางใหม่ ชาวบ้าน ก็มาบอกผมว่าทำขนาดนี้แล้วถึงซอย ๓๕ ก็อยากให้ทำไปตรงบริเวณสมาคมตระกูลลิ้มเลย จะได้เสร็จในทีเดียว จะได้ไม่ต้องมาปิดถนนหรือกีดขวางจราจรอีก ขอบคุณมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่ พรรคก้าวไกล ผมหวังว่าการที่ผมเรียกชื่อตัวเองว่า นายเท่าพิภพ เมื่อสักครู่นี้จะเป็นหนึ่งในครั้งสุดท้ายที่ผมจำเป็นต้องเรียกคำนำหน้านามของผมว่า นาย ผมเองไม่ใช่เป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ อาจจะเป็นเพศที่ตรงโดยกำเนิด ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าการขึ้นคำนำหน้านามของผมจะมีความสำคัญใด ๆ ถ้าผมได้ละ ๑ คำออกไป ผมก็รู้สึกเป็นคนขี้เกียจ ผมก็สบายขึ้นเท่านั้นเองนะครับ นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่อาจจะดูโง่ ๆ ของผมที่ผมมีความเห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรับรองเพศคำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งผมยืนยันนะครับ ได้ฟังเพื่อนสมาชิก ของทั้ง ๒ ฝั่งของสภาแห่งนี้ ผมว่าสิ่งที่เหมือนกันอย่างเดียวเลยที่เห็นตรงกันแน่นอนนะครับ ก็คือหลักการที่เราเห็นความเท่าเทียมทางเพศเป็นเรื่องหลัก ก็โอเคครับ ก็เห็นมีก่อนหน้า ผู้เสนอจะได้เสนอก็มีเพื่อนสมาชิกได้บอกว่าการที่จะเสนอกฎหมายนี้ อยากให้ผู้เสนอคือ คุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ได้ถอนไปก่อน ซึ่งผมเองคิดว่าจะถอนกันทำไม ถ้าเห็นด้วย ในหลักการก็ควรจะให้ผ่านไปก่อน ซึ่งถ้าผมมาดูในหลักการของกฎหมายนี้ที่แจกให้สมาชิก ได้ดู หลักการในขั้นตอนวาระที่ ๑ เราโหวตเพื่อรับหลักการ จริง ๆ เราไม่ได้โหวตเพื่ออะไร เราโหวตเพื่อ ๑ บรรทัดนี้ครับ หลักการของกฎหมายนี้ก็คือให้มีกฎหมายว่าด้วยการรับรอง เพศคำนำหน้านามและการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ แค่นี้เองครับ เห็นด้วยใช่ไหมครับ เห็นด้วยก็โหวตผ่านใช่ไหมครับ แล้วถามว่าความสำคัญที่เข้าใจว่า มีร่างประชาชนที่จะเข้ามาอยู่ ผมว่าร่างของประชาชนผมไม่แน่ใจว่าเนื้อหาข้างใน ความตั้งใจ จะแตกต่างหลากหลายกันอย่างไร หรือร่างของ ครม. จะเป็นเช่นไร แต่ผมเชื่อว่ามันไม่หนี จากหลักการนี้แน่นอน ก็ยืนยันนะครับว่าอยากให้เพื่อนสมาชิกรัฐสภาแห่งนี้รับหลักการ ในวาระที่ ๑ ไปก่อน เพราะมันเป็นหลักการที่มันเปิดกว้างที่สุดแล้ว ใครจะแก้อย่างไรก็ได้ ผมเชื่อว่าเรามีขั้นตอนในกรรมาธิการที่จะไปแก้ไขได้อย่างที่เพื่อนสมาชิกผู้อภิปรายก่อน หน้าผมได้มีข้อกังวลต่าง ๆ นานา เรามีสภาแห่งนี้เพื่อเรามาคุยกันครับ เห็นตรงกันบ้าง เห็นไม่ตรงกันบ้าง ผมก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าเรามีกระบวนการที่ออกแบบ Design มาเพื่อ การแก้ปัญหาของสังคมอยู่แล้ว กรรมาธิการครับเป็นที่ที่เราไปถกเถียงกันครับ รายมาตรา อะไรก็ว่าได้ว่ามาตรานี้เราจะเอาอย่างไร มาตรานั้นเราจะเอาอย่างไร ปกป้องสิทธิ คนเขา กลัวว่าจะโดนหลอกจากคำนำหน้านามแล้วก็ไปแต่งงานอย่างไร ผมเชื่อว่าถ้าเรามาช่วยกัน คิด ช่วยกันทำในกรรมาธิการได้แน่นอนครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ แน่นอนครับว่าที่เพื่อนสมาชิกกังวลว่าถ้าหากร่างของประชาชน ไม่ได้เข้ามา ณ ตรงนี้จะเป็นการเสียสิทธิของประชาชน ผมไม่รู้นะครับท่านประธานว่า พรรคอื่นเขาทำอย่างไร แต่พรรคก้าวไกลเราปกติแล้วกรรมาธิการต่าง ๆ ทั้งวิสามัญในเรื่อง เกี่ยวกับการศึกษาเองหรือกฎหมายเอง เราจะแบ่งโควตาครึ่ง ๆ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่บางครั้ง ภาคประชาชนที่อยู่ข้างนอกสภาที่ไม่ใช่เป็นสมาชิกเรา ไม่ใช่อดีตผู้สมัครของที่เคยลงกับเรา ก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นประเด็นนั้น ๆ อย่างผมเองกับท่านประธานในสมัยก่อนก็ได้เคยนั่ง อยู่ใน พ.ร.บ. กัญชา กระท่อมด้วยกัน ก็จะสังเกตว่าเพื่อนสมาชิกของผมที่เป็นกรรมาธิการ จากพรรคก้าวไกลก็เป็นบุคคลนอกทั้งนั้น ซึ่งถามว่าถ้าเราตั้ง โควตาของพรรคก้าวไกลคงไม่พอ ที่จะให้ หรือพรรคต่าง ๆ คงไม่พอที่จะให้ภาคประชาชนที่เขาจะเสนอร่างเข้ามา ไม่เป็นอะไร ผมเสนอข้อเสนอนี้ให้เพื่อนสมาชิกเพื่อความสบายใจ เพราะเรารักประชาชนเหมือนกัน ตามข้อบังคับเราสามารถกำหนดกรรมาธิการกี่ท่านก็ได้ เสนอมากกว่าปกติก็ได้ แล้วแบ่ง โควตาไปตามพรรคการเมืองต่าง ๆ แล้วเป็นที่รู้กันครับว่าจะนำภาคประชาชนเหล่านั้นเข้ามา ในสภา อีกทั้งแม้ร่างนี้จะไม่เป็นร่างกฎหมายที่ ครม. ได้เสนอเข้ามาในสภาแห่งนี้ แต่ตาม ข้อบังคับของสภาแล้ว ครม. มีสิทธิที่จะเสนอกรรมาธิการได้ไม่เกิน ๑ ใน ๓ ของสภานี้อยู่แล้ว ผมเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาลซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับ ครม. ก็น่าจะขอท่านได้ เพราะหลายครั้งหลายนามที่ผมเคยเห็นที่ผ่านมาในสภาแห่งนี้จาก ครม. บางครั้งเป็นการเสนอจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐบาลเองด้วยซ้ำ ผมว่าแบ่งโควตาให้ ประชาชนได้อย่างแน่นอนนะครับ ผมเลยเรียนด้วยเหตุผลทั้ง ๓ ข้อเหล่านี้ ผมจึงขอให้เพื่อนสมาชิกทั้งสภาได้สบายใจได้ ไม่ว่า ตอนนี้กระบวนการของทาง ครม. จะเป็นอย่างไร ผมคงไม่ไปว่ากล่าวอีกแล้ว เพราะเพื่อน สมาชิกผมทุกสัปดาห์ก็ได้ว่ากล่าวถึงกระบวนการทำงานทางนิติบัญญัติของทาง ครม. ไว้ เยอะแล้ว รวมถึงหากกังวลว่าประชาชนที่เขามีความเห็นในอีกส่วนหนึ่งจะไม่ได้รับสิทธิ ในการที่เขารวบรวมรายชื่ออยู่ ซึ่งตอนนี้มีแค่ ๖,๐๐๐ รายชื่อเอง ถ้า ครม. เห็นใจก็นำร่างนั้น มาได้เลยนะครับ และจริง ๆ แล้วตามที่ผมเรียนไปว่าเสนอชื่อกรรมาธิการเอาคนเหล่านั้น เข้ามาแล้วก็มาทำงานกันในกรรมาธิการ ผมเชื่อว่า พ.ร.บ. คำนำหน้านามนี้ต้องผ่านให้ได้ เพราะว่ามันเป็นหมุดหมายสำคัญในการแสดงว่าประเทศไทยเราเดินไปข้างหน้า เราก้าวไปได้ ไกลกว่าที่อื่นแล้ว ขอบคุณมากครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมขอนำเรียนปัญหาและปรึกษาหารือ ๑ เรื่องด้วยกัน ขอสไลด์ครับ

    อ่านในการประชุม

  • จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เคยหารือ ในสภาหลายครั้งมากมาย เรื่องอุโมงค์ลอดแยกรัชดา-ท่าพระ บริเวณที่มาจากทางสาทร แล้วก็ตัดไปทางราชพฤกษ์ รวมถึงมันจะคาบเกี่ยวแถว ๆ เดอะมอลล์ ท่าพระ ซึ่งเรื่องนี้ตั้งแต่ การก่อสร้างที่ล่าช้า ช่วงโควิดผมจำได้ว่าผมปรึกษาหารือเกือบ ๑๐ ครั้งแล้วครับ ก็มีปัญหา ไม่เรียบร้อยเรื่อย ๆ ล่าสุดผมผ่านไปแล้วชาวบ้านร้องเรียนมาก็คือมีการสร้างถนนที่ไม่เท่ากัน ถ้าดูสไลด์ถัดไปจะเห็นภาพอย่างชัดเจน นี่คือความล้มเหลวของรัฐไทยที่ไม่มีการกระจาย อำนาจอย่างเต็มที่ ดูจากแยกนี้แยกเดียวได้เลยครับ เส้นแรกก็จะเป็นของ กทม. เป็นผู้รับผิดชอบ อีกเส้นหนึ่งเป็นของกรมทางหลวงชนบทรับผิดชอบ ซึ่งอุโมงค์ที่สร้างปัญหา มากมาย ผู้ว่าชัชชาติท่านก็ไปหลายครั้ง ก็สร้างเหมือนจะเสร็จ แต่บังเอิญไม่รู้เป็นอย่างไร Spec มันเป็นอย่างไร ถนนที่เป็นอุโมงค์ แล้วก็บริเวณเส้นที่ตัดผ่านตรงกลางนี้มันสูงกว่าของ กรมทางหลวงชนบทมาก ๆ ประมาณ ๑๕ เซนติเมตร ถ้าท่านประธานไปยืนดูตรงแยกนี้จะเห็น รถมาเลยครับ ผมนึกว่าเล่น Mario Kart ตอนจะเลี้ยวมีกระดกนิดหนึ่งแล้วก็ไป เพราะว่ามัน ต้องลง วันดีคืนดีก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า ผมยืนอยู่ตำรวจแถวนั้นก็มาบอกว่าเป็น อย่างไรบ้าง ผมถามว่ามีคนตายหรือยัง โชคดีครับว่ายัง แต่ผมคิดว่าไม่มีใครจ่ายค่า Shock ให้ประชาชนที่สัญจรผ่านตรงนั้นแน่ ๆ อย่างไรฝากกรมทางหลวงในการที่จะไปปรับแต่ง แล้วก็เก็บงานให้เรียบร้อยด้วย หรือว่าทาง กทม. คุยกัน รัฐบาลอาจจะตั้งหน่วยงานเฉพาะ กิจเพื่อมาทำโครงการที่มันหลายหน่วยงานอย่างนี้ครับท่านประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล ผมก็ขออภิปรายสั้น ๆ เรื่องนี้นะครับ คือแค่ อยากจะถามจากใจจริง อยากให้ตอบเพราะว่าอ่านรายงาน แล้วก็จริง ๆ ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ เท่าไร แล้วก็ได้ดูตามข่าวบ้าง ซึ่งจริง ๆ ผมเองก็ติดตามเรื่อง Project ของ Belt and Road Initiative ของประเทศจีนอะไรอย่างนี้ หรือว่าการค้าระหว่างประเทศ Geopolitics อยู่บ้าง เพราะสนใจ หลายคนก็อาจคิดว่าผมสนใจแต่เรื่องเบียร์หรือเปล่า แต่จริง ๆ ในบาร์ก็ได้คุยกัน หลายเรื่อง ล่าสุดผมต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับ ผมก็สงสัยในการเติบโตของโลกใบนี้ ไปในอนาคตที่หลายคนบอกว่าอันนี้จะสร้างเศรษฐกิจโน่น นี่ นั่น คือผมว่ามันมีหลายร้อย วิธีการที่จะทำให้เศรษฐกิจมันดีขึ้นได้ การทำ Digital Wallet ก็อย่างหนึ่ง การทำแลนด์บริดจ์ ก็อย่างหนึ่ง แต่ผมอยากจะให้บันทึกไว้ในสภาแห่งนี้ครับ จริง ๆ แล้วจากการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอสในปีนี้ CEO ของ Google ก็ได้บอกเลยครับว่าโลกใบนี้ ในปี ๒๐๑๓ หรือปี ๒๐๑๔ Productivity ทั้งโลกนี้ถ้าเอาเรื่อง Inflation อะไรสักอย่างไป คำนวณ เราไม่โตขึ้นแล้ว หมายความว่าเป็นครั้งแรกที่เรา Stackness โดย Productivity ก็เลยคิดว่า ทั้งหมดในเล่มนี้ที่คำนวณความเป็นไปได้ในอนาคตมันจะเป็นจริงได้หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ ก็อยากให้ทุกคนคิดดี ๆ ว่าในอนาคตมันจะเติบโต เราจะมีตู้เพิ่มขึ้นหรืออาหาร น้อยลงอย่างที่ผู้ชี้แจงว่าผมก็คงไม่ก้าวล่วงเพราะไม่ได้นั่งในกรรมาธิการของท่าน

    อ่านในการประชุม

  • เรื่องที่ ๒ ตอนแรกผมก็ดีใจ เห็นท่านนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ขออนุญาตพาดพิง เพราะออกข่าวไม่ได้เสียหายอะไร ท่านก็ไปที่ประเทศศรีลังกา ผมก็ตาม Project นี้อยู่นานครับ มันชื่อท่าเรือฮัมบันโตตา ประเทศศรีลังกา ผมก็ดูกำหนดการ ท่านนายกรัฐมนตรี ผมว่าเดี๋ยวท่านนายกได้ไปดูท่าเรือนี้แน่เลย พอดู Project นี้แล้วกลับมา น่าจะเปลี่ยนใจไม่ทำแลนด์บริดจ์แล้ว เพราะว่าท่าเรือดังกล่าวตอนนี้แล้วก็ติด Debt-Trap ที่ทางเพื่อนสมาชิกพรรคเป็นธรรมก่อนหน้าได้อภิปรายไป เป็นของจีน ๙๙ ปีไปแล้ว ก็นึกว่า ท่านนายกรัฐมนตรีจะได้ไปครับ บังเอิญทางการประเทศศรีลังกาใจดีครับ หรือว่าพาไป ท่าเรือนั้นไม่ได้เพราะเป็นของจีนไปแล้วก็ไม่ทราบ พาไปดู Colombo Port City ขึ้นภาพ ได้เลยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ซึ่งโครงการนี้ผมจะเล่าเป็น อุทาหรณ์ทั้งท่าเรือและอันนี้ มีนักการเมืองศรีลังกาอยากดัง บอกเป็น Megaproject ภาพ เป็นอย่างนี้ คือจะเป็นดูไบ จะเป็นสิงคโปร์ โน่น นี่ นั่นครับ อันนี้สิ่งฉันคิด ภาพต่อไปครับ สภาพความเป็นจริงครับ อันนี้คือกำหนดการเสร็จปี ๒๐๒๔ ผมว่ารูปจาก BBC แต่ก็อาจจะ ปี ๒๐๒๓ อันนี้ผมว่าเป็นอุทาหรณ์ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีก็น่าจะไปเยี่ยมชมแล้วล่ะ ผมคิดว่า อาจจะมีนำมาคิดไตร่ตรองทบทวนให้ดีก็ได้ ขอบคุณสำหรับภาพครับ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ด้วยความเป็นห่วง แล้วผมเป็นนักกฎหมายไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แล้วผมอ่านรายงานนี้ ด้วยความเคารพ คืออาจจะมีข้อคำนึงถึงเรื่องทางกฎหมายอะไรน้อยมาก แล้วก็สิ่งที่ผมกังวล ได้กล่าวไปข้างต้นมันไม่มีคำตอบในนี้ เข้าใจอยู่ครับ บอกว่าเป็น PPP โน่น นี่ นั่น แต่รายละเอียด ของสัญญานี้ได้มีการพูดคุยหรือศึกษากันแค่ไหน หรือจะศึกษาแค่เรื่องความคุ้ม ไม่คุ้ม ต่าง ๆ นานา ซึ่งถ้าได้เพิ่มเรื่องกฎหมายไปในอนาคต เติมในข้อสังเกตไป ผมก็จะขอบคุณ เป็นอย่างยิ่ง และผมทราบว่ารายงานฉบับนี้ตัวท่านเองก็บอกว่ามันไม่ได้สมบูรณ์อะไร เพราะในรายงานนี้ บอกว่าให้ไปศึกษารายงานเพิ่มเติมอีกใช่ไหมครับ ถ้าคณะไหนหรือใครจะไปทำต่อก็อยากให้ ดูเรื่องสัญญาแล้วก็ข้อกฎหมายดี ๆ เพราะว่าไม่อยากให้ซ้ำรอยที่ประเทศศรีลังกาแล้วก็ หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แล้วผมยืนยันครับว่า Key Success ที่ทางคณะกรรมาธิการ ได้ชี้แจงมาก่อนมีหลายอย่างมาก และผมว่า Key Success แรกคือการทำรายงาน อย่างตรงไปตรงมา แล้ว Key Success ที่ ๒ จริง ๆ มันอาจจะไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขตัวเงิน หรอกครับ คือผมเชื่อว่าโครงการนี้มีโอกาสเดียวที่จะผ่านได้เลยคือเรื่องของ Geopolitics ผมว่า มันขีดเส้นได้ครับ มีไม่กี่ประเทศที่จะทำอันนี้แล้วก็ได้ประโยชน์ที่มันไม่ได้คูณเป็นตัวเงิน อย่างประเทศจีนเป็นต้นที่เขาสามารถมีทางออกอื่นถ้าหากช่องแคบมะละกาโดนมหาอำนาจ ทางตะวันตกปิด เป็นต้น อย่างไรก็เป็นรัฐบาลอยู่ใช่ไหมครับ ก็ให้กำลังใจรัฐบาลครับ หวังว่า ทำผ่านแล้วทุกอย่างจะโอเค แต่เนื่องด้วยเหตุผลที่ผ่านมาผมจึงไม่อาจที่จะให้รายงานเล่มนี้ ผ่านได้เนื่องจากข้อมูลผมว่าไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ ด้วยความเคารพครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานที่เคารพ กระผม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานคร ธนบุรี คลองสาน บางปะกอก พรรคก้าวไกล ท่านประธานครับ ผมขอเริ่มการอภิปรายเกี่ยวกับ บำนาญนี้ด้วยคำที่ ออสการ์ ฟิงกัลป์ โอฟลาเฮอร์ที วิลส์ ไวลด์ (Oscar Fingal O’Flahertie Wills Wilde) นักกวีชาวไอร์แลนด์ได้เคยกล่าวไว้นะว่า เมื่อตอนเด็กเขาคิดว่าเงินเป็นสิ่ง สำคัญที่สุด แต่เมื่อเขาโตแล้วเขาก็ได้ทราบว่า มันเป็นจริงเช่นนั้นจริง ๆ เงินมันเป็นสิ่งที่หลาย คนมีความหมายที่แตกต่างกันครับท่านประธาน จากประสบการณ์ที่ผมเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรมานี้ ผมได้เจอคนในสภานี้มากมายที่ร้อยพ่อพันแม่ เจอคนมาร้องเรียน ฐานะแตกต่างกัน มองเงินแตกต่างกัน บางคนมองว่าการสะสมเงินคือเป้าหมายของชีวิต ยิ่งมีมากก็ยิ่งประสบความสำเร็จมาก บางคนครับ อย่างผมเองสารภาพครับท่านประธาน เงินไม่ค่อยมีหรอกครับ เพราะว่าใช้หมด ไม่เห็นค่าของเงินมันเท่าไร ก็ใช้ไปคิดว่าชีวิตมันก็คง ไม่ได้เก็บหรือสำคัญอะไรกับผมมากมาย ไม่ได้คิดจะหาเพิ่มมาก เงินสำหรับบางคนมันเป็น เส้นที่เขาต้องการจริง ๆ ๑ บาทของเขา ๑๐ บาทเขากับ ๑๐ บาทของคนที่รวยมันไม่เท่ากัน เขาแค่ต้องการเงินมาใช้ในการซื้อปัจจัย ๔ ผมเป็นคนที่โชคดีมากที่คุณแม่ของผม ท่านเป็น พยาบาลทหาร สังกัดกองทัพบก ตอนนี้เกษียณอายุมีบำนาญ ทำให้ผมเองที่เป็นผู้ได้รับ ผลประโยชน์ทางอ้อมจากการที่ได้ทำตามความฝันของตัวเองในการผลิตเบียร์ หรือเป็น Guild จนมาถึงทำงานการเมืองเพื่อประชาชนทุกคน ก็ได้ประโยชน์เนื่องจากว่าผมไม่ได้ มีภาระเหมือนหลาย ๆ คนในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ในรุ่นเดียวกับผม เพื่อนรุ่นเดียวกับผมหลายคนอายุ ๓๐ ปี อายุ ๓๕ ปียังตั้งตัวไม่ได้เลยครับ เพราะว่าเป็นคน เดียวที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัวถึง ๒ ชั้นด้วยกัน คือทั้งชั้นบุพการีของตนเองและชั้นบุตรของ ตัวเอง ซึ่งทำงานตัวเป็นเกลียวอย่างไรก็ไม่ได้ ดังนั้นผมเลยคิดว่า การมีสวัสดิการต่าง ๆ ในประเทศไทยจะแก้ปัญหานี้ได้ และปลดล็อกศักยภาพคนในวัยแรงงานเช่นผมได้ มีวันหนึ่ง ครับท่านประธาน ผมลงพื้นที่ไปในเขตคลองสาน ซอยเชียงใหม่ ผมเจอคุณลุงคุณป้าคนหนึ่ง จะเรียกว่าลุงป้าก็ไม่เชิง เรียกว่าตายายแล้วกัน ๒ ท่านนี้อาศัยอยู่เพิงริมแม่น้ำเจ้าพระยาข้าง โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งคืนละ ๓๐,๐๐๐ กว่าบาท แต่เชื่อไหมว่า ๒ ท่านนี้น่าเวทนา อย่างยิ่ง ผมจะเรียกได้ว่าทั้ง ๒ ท่านเป็นผู้พิการ คุณตายังดีครับ มีบัตรผู้สูงอายุได้ ๖๐๐ บาท แล้วก็บัตรผู้พิการอีก คุณยายสภาพไม่ต่างกันเลย แต่เสียหายหนักกว่า คือเป็นคนไทยแท้ ๆ คนจังหวัดสุพรรณบุรีนี่ละครับ แต่ไม่มีบัตรประชาชน ผมก็ได้บอกทางเขต บอกทางกรมการปกครอง ไปหลายครั้งว่าคนนี้เขาควรจะได้บัตรประชาชน เพราะเขาเป็นคนไทยจริง ๆ เพื่อจะได้รับ สวัสดิการ แต่ถามว่าสวัสดิการนี้ถ้าได้รวมกันมา ๒ คน เดือนละ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ บาทมันจะ ไปพออะไรครับท่านประธาน ดังนั้นผมต้องฝากไปยังเพื่อนกรรมาธิการว่า จริง ๆ แล้วตัวเลข มันไม่ได้สำคัญเลยว่าจะ ๑,๒๐๐ บาท ๓,๐๐๐ บาท หรือใครจะเกทับ ๓๐,๐๐๐ บาทอะไร ก็ว่ากันไป ผมว่าเอาตั้งสติกันครับว่า เราต้องดูเลขที่ให้เป็นบำนาญจากขั้นพื้นฐานของ ค่าครองชีพที่ควรจะอยู่ได้ ซื้ออาหารอยู่รอดได้ไหมตามที่ต่าง ๆ แล้วบำนาญที่ได้มากกว่านั้น ก็อาจจะเป็นบำนาญที่เป็นลักษณะ Top Up จากประกันสังคม หรืออะไรต่าง ๆ ก็ว่ากันไป แล้วแต่บุคคล แต่พื้นฐานต้องเลยเส้นเรื่องค่าครองชีพครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ที่ผมอยากพูดถึงครับ อาจจะดูล้ำไปบ้าง แต่อยากจะอภิปราย ให้ท่านประธานได้ฟังว่าการที่เราให้บำนาญหรืออะไรพวกนี้ ถามว่าบำนาญมันคืออะไรครับ บำนาญมันคือเงินที่ให้กับคนที่เขาไม่สามารถทำงานได้ใช่หรือไม่ เขาแก่เกินไปที่จะทำงาน เลี้ยงตัวเองได้ เราเลยให้บำนาญข้าราชการที่เกษียณเพราะอะไรครับ เขาไม่ได้ทำงานครับ บำนาญคือเงินที่ให้กับคนที่ไม่ได้ทำงานใช่ไหมครับ ผมจะเรียนอย่างนี้ครับท่านประธาน แนวคิดเรื่องบำนาญผู้สูงอายุอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปในปัจจุบันแล้ว ถ้าเราดูจากการเข้า มาของเทคโนโลยี AI Automation ที่ผมได้ยื่นญัตติแล้วสภาแห่งนี้ได้กรุณาตั้งเป็น คณะกรรมาธิการและศึกษากันอยู่นี้จะพบได้เลยว่าอีกภายใน ๑๐ ปีเท่านั้น คนที่จะหลุดออก จากการทำงานมีจำนวน ๔๐ เปอร์เซ็นต์ของประเทศนี้ คนเหล่านี้ไปไหนครับ คนเหล่านี้ต้อง ได้บำนาญไหมครับ คนเหล่านี้จะเป็นคนที่ผมจะเรียกเสมอคือเป็นบุคคลเสมือนต้องได้รับ บำนาญ เพราะว่าเขาไม่สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว อย่าโทษเขาว่าไม่ Reskill เพราะว่า Skill ต่าง ๆ อย่างไรไม่เพียงพอกับโลกอนาคต คนเราต้องตกงานโดยสภาพอยู่แล้ว แต่คำถาม สำคัญก็คือถ้ามี AI หุ่นยนต์ทำแล้ว ทำไมเราต้องทำงานครับท่านประธาน แนวคิดอย่าง UBI เงินเดือนถ้วนหน้าจึงสำคัญมาก ๆ โลกใบนี้จะไม่ศิวิไลซ์ได้เลยครับ โลกนี้สิ่งที่ไม่จำเป็นที่สุด คืออะไรครับ โลกนี้สิ่งที่ไม่จำเป็น ทำไมเราต้องสร้างมหาเศรษฐีหมื่นล้านแสนล้านให้เยอะ ๆ ครับ เราอยู่ในโลกปัจจุบันที่เศรษฐกิจ ผลิตผลของมนุษยชาติสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่กลับกัน เรากลับมีคนจนเยอะสุดในประวัติศาสตร์มันเป็นไปได้อย่างไร พวกเรานักการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเรายังไม่เห็นถึงสิ่งนี้ กว่าเทคโนโลยีที่เราจะเห็นและส่ง ผลกระทบถึงเราจะมามันก็สายไปแล้ว ดังนั้นผมฝากเพื่อนสมาชิกและท่านประธานนะครับ เพื่อนของผมเองที่น่ารัก ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เรื่อง AI จะมาแย่งอาชีพเรา เราควรคิด หาวิธีทางออกนี้ให้ได้ครับ อาจจะเก็บภาษีจากการใช้ AI ใช้หุ่นยนต์มาเป็นกองทุนรองรับ ตรงนี้ก็ได้ เพราะวันหนึ่งบำนาญจะไม่ใช่แค่บำนาญของผู้สูงอายุ แต่มันต้องเป็นบำนาญของ คนทุกคน ไม่หลีกเลี่ยงอายุ แต่เป็นสภาพการจ้างงานและทำงานครับ ท่านประธาน ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม