เรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคารพ กระผม นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี วันนี้ ผมขออนุญาตท่านประธานอภิปรายในญัตติ เรื่อง ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่มี ส่วนเกี่ยวข้อง การบังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบ แผนและมาตรการรักษาความปลอดภัย ขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัย มีการฝึกซ้อม อีกทั้งประชาสัมพันธ์สื่อสารกับประชาชน เรียนท่านประธานที่เคารพครับ กระผมเกิดและเติบโตมาในจังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่เล็กจนโต จะมีอยู่สถานที่หนึ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่หรือชาวบ้านชาวจังหวัดอุทัยธานีจะชี้ให้พวกผมดูว่านี่คือ บ้านพระสหาย ถึงเวลาสมเด็จพระเทพฯ ท่านจะเสด็จมาที่นี่อยู่เป็นประจำพร้อมกับ พักค้างแรม จวบจนวันหนึ่งมีบุคคลหนึ่งได้ยื่นขอแบบก่อสร้างกับทางเทศบาลเมืองอุทัยธานี บุคคลท่านนั้นคือ กรมสมเด็จพระเทพฯ ครับ ท่านได้ใช้ชื่อของท่านเองในการขออนุญาต ปลูกสร้าง ขอใช้น้ำ ใช้ไฟ พี่น้องประชาชนจังหวัดอุทัยธานีจะเรียกสถานที่นั้นว่าบ้าน ๙๐๕ หรือว่าบ้านพระเทพ แต่ตัวท่านเอง ท่านจะตรัสว่า บ้าน ครับ ท่านประธานครับแน่นอนพื้นที่ จังหวัดอุทัยธานีและพี่น้องประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี เราได้มีการรับเสด็จอยู่เป็นประจำ แล้วพระองค์ท่านเองก็ได้เสด็จมายังจังหวัดอุทัยธานีแทบทุกปีครับ ปีหนึ่ง ๑-๒ ครั้ง และตลอดระยะเวลาที่ท่านพำนักอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ไม่มีความเดือดร้อนใด ๆ เกิดขึ้น ท่านทราบไหมว่าบ้านที่ท่านปลูกนี้ ปลูกติดกับบ้านพี่น้องประชาชนวันดีคืนดีมีน้ำท่วม น้ำก็ท่วมเหมือนกัน ระดับเดียวกัน คนที่เข้าไปช่วยเหลือก็หน่วยงานเทศบาล ทำเหมือนกับ ที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ได้มีความแตกต่าง ไม่ได้มีความแบ่งแยก นี่คือสิ่งที่ท่านดำรัส ให้กระทำ ท่านประธานครับ แล้วระหว่างที่ท่านประกอบพระราชกรณียกิจ ไม่ว่าในจังหวัด อุทัยธานีหรือจังหวัดใกล้เคียง สิ่งที่เราเจอเวลามีขบวนเสด็จก็แค่ไฟแดงนานขึ้น ๑ นาที ไม่เคยเกินกว่านั้นครับท่านประธาน นี่คือสิ่งที่หน่วยงานที่เขาอำนวยความสะดวก หน่วยงาน ที่เขารับผิดชอบ เขากระทำครับท่านประธาน แม้กระทั่งเวลาที่ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปยังริมคลอง ริมแม่น้ำสะแกกรัง ชาวบ้าน ทุกอย่างก็ทำตัวปกติ บางคนยังซักผ้า บางคนตากผ้าอยู่เลย ไม่ต้องใครหรอกครับ เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมเองพร้อมภรรยาแล้วก็ลูกชายวัย ๗ เดือน พาลูกเดินเล่น อยู่ริมแม่น้ำ ถึงเวลาที่พระองค์ท่านเสด็จมา ผมไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่คนไหนบอกว่าให้หยุด อย่าเดิน ให้กลับไปนั่ง ไม่มีครับ ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีการกีดขวาง หรือหยุดให้พี่น้อง ประชาชนกระทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเลยครับ นี่คือสิ่งที่พวกเรารับรู้ นี่คือสิ่งที่พี่น้อง ชาวจังหวัดอุทัยธานีรับรู้ แต่วันนี้บางพื้นที่อาจจะไม่ทราบ หรือบางคนอาจจะทราบ แล้วนับเป็นเกียรติอันสูงส่งครับ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ถวายรักษาความปลอดภัย จะเป็น ทหาร ตำรวจ หน่วยงานราชการต่าง ๆ เขาเฝ้ารอวันนี้ รวมถึงพี่น้องชาวจังหวัดอุทัยธานี รอวันที่พระองค์จะเสด็จกลับมาที่บ้าน ท่านประธานครับ วันนี้ผมเรียนด้วยความเคารพ เจ้าหน้าที่ที่เขาอำนวยความสะดวกและถวายอารักขาความปลอดภัยนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ท่านประธาน ปัญหาคือกลุ่มคนที่มีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบัน ท่านประธานครับ แล้วผมอยากจะ ประกาศบอกกล่าวเป็นตัวแทนของน้อง ๆ เยาวชน เลิกสักทีครับ ไปเรียกกลุ่มนั้นว่าเด็ก ไปเรียกคนกลุ่มนั้นว่าเยาวชน เพราะเด็กและเยาวชนในประเทศไทยทั้งหมดไม่ได้คิดแบบนั้น ครับท่านประธาน วันนี้ที่จังหวัดอุทัยธานีเรามีกิจกรรมเพื่อแสดงถึงจุดยืน ปกป้อง และถวาย กำลังใจให้แก่พระองค์ท่าน ผมไม่รู้ว่าใครจะมองตาใครแล้วนึกถึงอะไร แต่วันนี้ผมมองแววตา ของคนที่มาร่วมกิจกรรมเขามีแต่ความห่วงใย ความพร้อมที่จะปกป้อง ความพร้อมที่จะแสดง จุดยืนที่จะเคียงข้างสถาบัน เราแสดงออกด้วยสันติวิธี แต่สิ่งที่ท่านกระทำมันใช่สันติวิธีหรือ เสรีภาพหรือเปล่า อันนี้ต้องไปพิจารณานะครับ เรียนด้วยความเคารพครับท่านประธาน เหตุการณ์ในวันนั้น เสียงแตรที่บีบออกมา ประดุจดั่งมีดที่กรีดหัวใจคนไทยที่จงรักภักดีครับ ท่านประธาน แล้วจะให้เขาเหล่านั้นแสดงออกอย่างไร เขาก็ต้องแสดงออกในแนวทาง ที่ถูกต้อง สันติวิธี เพื่อประกาศจุดยืนที่จะปกป้อง แต่พวกเราที่อยู่ในห้องนี้ทั้งหมด พวกเรา ยิ่งต้องปกป้องให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข เรียนด้วยความเคารพ ผมไม่รู้ว่าญัตติในวันนี้จะตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณา หรือว่าจะส่งต่อไปยัง ครม. แต่สิ่งที่หน่วยงานที่จะพิจารณาในเรื่องนี้ ผมบอกได้เลยไม่จำเป็น แล้วที่จะให้ทันสมัยกว่านี้ ที่การอารักขาพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์จะทันสมัยกว่านี้ ไม่มีแล้วครับ น้อยกว่านี้ก็ไม่ได้แล้วครับ เราถอยเราปรับเปลี่ยนมาจนสุดท้ายแล้วครับ ปัญหานี้ต้องแก้กับบุคคลที่มีทัศนคติอันเป็นลบครับท่านประธาน ขอขอบพระคุณครับ