ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับคณะ ได้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๓๓ หลักการและเหตุผลในการเสนอพระราชบัญญัติ โดยที่ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ มีการตราขึ้นเพื่อบังคับใช้อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทา ปัญหาอันเนื่องจากผลกระทบที่ร้ายแรงต่อการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การ ถูกขึ้นบัญชีเป็นใบเหลือง หรือของสหภาพยุโรป หรือ EU หรืออาจจะถูกปรับขึ้นเป็นใบแดง จึงจำเป็นต้องดำเนินการต่ออย่างรวดเร็วและตอบสนองให้มีการบังคับใช้ทันที อย่างไรก็ดี พระราชกำหนดดังกล่าวมีบทบัญญัติบางมาตรา ที่อาจขัดต่อหลักการของอนุสัญญา ประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ค.ศ. ๑๙๘๒ ที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก หรือหลักสิทธิมนุษยชน ตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทยในประเด็นเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ ในทรัพย์สินและสิทธิในการประกอบอาชีพของประชาชนคนไทย การเลือกปฏิบัติขาด ความเสมอภาค และบังคับใช้กฎหมายโดยไม่เท่าเทียม รวมทั้งมีบทกำหนดโทษที่ไม่เป็นธรรม ซ้ำซ้อนต่อกฎหมายดังกล่าว รวมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและชาวประมง ผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนส่งเสริมและทำการประมง ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ และเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งจัดให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบ และพิจารณาโทษของคณะกรรมการมาตรการ ทางปกครองในการพิจารณาออกคำสั่ง ตามระดับความรุนแรงของการกระทำความผิด สภาพการกระทำผิดและการกระทำผิดซ้ำ ตลอดจนกำหนดโทษทางประมงและโทษ ทางอาญาที่เหมาะสม ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพและป้องกันการกระทำผิด จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ มันมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนนะครับ ที่ผ่านมาเป็น ๑๐ ปี ที่พี่น้องชาวประมงทั่วประเทศ ครั้งหนึ่งเราเป็นประเทศที่ผลิต สามารถจับสัตว์น้ำ ส่งขายเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อันดับที่ ๑ อันดับที่ ๒ มาโดยตลอด
แต่หลังจากปี ๒๕๕๘ เป็นต้นมา ทำให้อาชีพประมงถูกกฎหมายที่ออกเป็น พระราชกำหนดกดดัน จนทำให้จากเป็นผู้ส่งออกต้องเป็นผู้นำเข้าในขณะนี้ ทำให้เกิดความ เสียหายต่อพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศ ไม่ว่าประมงชายฝั่งหรือประมงน้ำลึก เราเสียหาย ปีหนึ่งคิดเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐-๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท จากการที่ออกกฎหมายที่บังคับใช้ ไม่เท่าเทียม แล้วการออกพระราชกำหนดครั้งนั้นไม่ได้ถามสมาคมประมงใดเลย ไม่ได้ปรึกษา ผู้มีอาชีพด้านการประมง ไม่ว่าชายฝั่งหรือทะเลลึก ก็ออกกฎหมายมาบังคับใช้ มีโทษปรับ บางอย่างปรับไปถึง ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ๑๐๐ ล้านบาทก็มี ดังนั้นพี่น้องชาวประมง ทั้งประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างมากมาย พรรคเพื่อไทยของเราได้รับการร้องเรียนจาก พี่น้องประชาชน แล้วก็นำมาปรึกษาหารือในฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยและสมาชิก ทั้งหมดเลยนำเสนอพระราชบัญญัติเพื่อแก้ไขพระราชกำหนดนี้ ขอบคุณครับ
ท่านประธานสภา ผู้แทนราษฎรที่เคารพ กระผม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียง เศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) สภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นผู้นำเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการต่อสภาผู้แทนราษฎร ในครั้งนี้
ตามที่ที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๕ (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๖ ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) นั้น ตามข้อบังคับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๖๖ ข้อ ๔๙ ซึ่งกำหนดระยะเวลาในการศึกษาไว้ ๙๐ วัน ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการ ๓๕ ท่าน การศึกษาเกี่ยวกับระบบที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ปี ๒๕๖๑-๒๕๘๐ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปี ๒๕๖๑-๒๕๘๐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๖ คณะกรรมาธิการ วิสามัญได้พิจารณาศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ในภาพรวม ทั้งนิยาม รูปแบบโครงการ แลนด์บริดจ์ รูปแบบการลงทุน เหตุผลความจำเป็น ประโยชน์ที่โครงการแลนด์บริดจ์คาดว่า จะได้รับ ตลอดจนโครงการแลนด์บริดจ์ในมิติต่าง ๆ ได้แก่ มิติของความมั่นคงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ความคิดเห็นของภาคเอกชนที่มีและเกี่ยวข้อง มิติด้านอุตสาหกรรม มิติด้านต่างประเทศ ความคิดเห็นของหน่วยงานในพื้นที่และผู้แทนประชาชน ตลอดจนพื้นที่ ที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง ทั้งนี้คณะกรรมาธิการ ได้เสนอข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการเพื่อจะนำไปศึกษาและดำเนินการต่อให้เกิดประโยชน์ ต่อประเทศชาติต่อไป ถ้าดูภาพรวมความสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบแล้วจะเห็นได้ว่าโครงการ แลนด์บริดจ์ก็คือโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจ ภาคใต้เพื่อจะได้มีการเชื่อมโยงระบบการขนส่งด้านอ่าวไทยและอันดามัน ท่าเรือฝั่งอ่าวไทย จังหวัดชุมพร ท่าเรือฝั่งอันดามัน จังหวัดระนอง โดยโครงการแลนด์บริดจ์เป็นการก่อสร้าง ในพื้นที่เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างกันด้วยระบบรถไฟรางคู่และทางหลวงพิเศษ มอเตอร์เวย์ ภายใต้แนวคิดและการพัฒนาด้วยอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกิจการเชิงพาณิชย์ โดยได้คัดเลือก จุดก่อสร้างท่าเรือทั้งสองคือ บริเวณแหลมริ่ว ตำบลบางน้ำจืด อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และแหลมอ่าวนาง ตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง โดยเหตุผลสำคัญที่มีการศึกษา โครงการแลนด์บริดจ์เพราะว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและเป็นประตูสู่การ ขนส่งและแลกเปลี่ยนสินค้าของประเทศในภูมิภาคและระหว่างทวีปของโลก ซึ่งอยู่ ในภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและดำเนินการโครงการแลนด์บริดจ์ โดยเฉพาะทางภูมิศาสตร์ทาง ภาคใต้ของประเทศไทยเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน ภายใต้เขต เศรษฐกิจพิเศษของภาคใต้ ตลอดจนการขนส่งสินค้าของประเทศไทยไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ระหว่างทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน จึงเหมาะสมที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรม ต่าง ๆ ทั้งอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น เพื่อขนส่งและแลกเปลี่ยนสินค้าของประเทศในภูมิภาคระหว่างทวีปต่าง ๆ ของโลกนี้
๒. หลีกเลี่ยงปัญหาการติดขัดในการเดินเรือของช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็น โอกาสของประเทศไทยจะสร้างการเปลี่ยนแปลง แชร์ส่วนแบ่งตลาดการเดินเรือค่าธรรมเนียม ของช่องแคบมะละกา
๓. มีแนวโน้มในการจูงใจให้ผู้ประกอบการขนส่ง นักลงทุน ให้ใช้ประโยชน์ จากเส้นทางแลนด์บริดจ์เส้นนี้ เพราะสามารถย่นระยะเวลาในการเดินทางให้ได้ดีกว่าเดิม
๔. เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย-อันดามัน ซึ่งประเทศไทยตั้งอยู่ ศูนย์กลางคาบสมุทรอินโดจีน ซึ่งถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการคมนาคมขนส่งของเอเชีย
โดยคาดการณ์ว่า ๑. ผลการดำเนินการจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ และการลงทุนระดับนานาชาติ ๒. เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง การอุตสาหกรรม ๓. เป็นการคมนาคมที่สะดวกและมีประสิทธิภาพของการขนส่ง ๔. โอกาส ของการจ้างงาน เพิ่มรายได้ ๕. อุตสาหกรรมหลังท่า ๖. การลงทุนภายใต้เศรษฐกิจพิเศษ ภาคใต้ ตลอดจนการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปสู่ภูมิภาคทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน
ผลลัพธ์ที่จะได้ คนรุ่นใหม่มีงานทำ มีที่อยู่อาศัย มีการพัฒนาแหล่งน้ำ ไฟฟ้า เพียงพอกับความต้องการ เกิดการสร้างงานสร้างรายได้จำนวนประมาณ ๒๘๐,๐๐๐ ตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นจังหวัดระนองประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ ตำแหน่ง จังหวัดชุมพร ๑๕๐,๐๐๐ ตำแหน่ง ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ มีอยู่ มีกิน มีใช้ ทำให้มีตลาดรองรับสินค้าเกษตร ยางพารา และพืชผลต่าง ๆ ของทางภาคใต้ และเมื่อการขนส่งสะดวกก็จะทำให้ได้ราคาเพิ่มขึ้น เปิดการท่องเที่ยวทั้ง ๒ ฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้น ประชาชน ขายสินค้าการเกษตรได้ราคาเพิ่มขึ้น ผลกระทบจะทำให้สร้างความเจริญ พัฒนาคุณภาพชีวิต ทุกพื้นที่ สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ ตลอดจนเพิ่ม GDP ของประเทศ ประเทศไทยจะเป็น จุดศูนย์กลางของภูมิภาค และเป็นประตูสู่การขนส่งสินค้าของภูมิภาคออกไปทวีปต่าง ๆ ทั่วโลก ลดการย้ายถิ่นฐานของคนรุ่นใหม่ สร้างสุขให้กับชุมชนปรับปรุงฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต เป็นต้น
ข้อสังเกต
๑. รัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะและควรออกกฎหมายในรูปแบบ พิเศษที่ยืดหยุ่นและเหมาะสมในบริบทของภาคใต้ ตั้งคณะกรรมการเพื่อมาดำเนินการในส่วน ที่เกี่ยวข้อง
๒. รัฐบาลควรศึกษารายละเอียดโครงการแลนด์บริดจ์ทุกมิติ ทั้งผลกระทบ ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาชน วิถีชีวิต ประมงพื้นบ้าน ตลอดจนตัวอย่าง ต่าง ๆ และสื่อสารต่อประชาชนทุกพื้นที่ให้มีความเข้าใจทุกมิติ
๓. รัฐบาลควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการศึกษาและดำเนินการการเวนคืน ที่ดิน ชดเชยค่าเวนคืนที่ดิน การศึกษาการเตรียมความพร้อมของแรงงานเพื่อรองรับ อุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้น พัฒนาแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคเพื่อการเกษตร เพื่ออุตสาหกรรม ตลอดจนความต้องการไฟฟ้าของประชาชนในพื้นที่ และอุตสาหกรรม ให้เพียงพอ
ซึ่งทุกท่านได้สภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติแห่งนี้สามารถศึกษา รายละเอียดในเล่มรายงานของคณะกรรมาธิการได้ โดยสรุปโครงการแลนด์บริดจ์เป็น เครื่องมือหรือตัวนำที่เป็นแม่เหล็กที่จะดึงดูดการลงทุนให้เกิดอุตสาหกรรมหลังท่าและนิคม อุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้และประเทศไทย ต่อไป ถ้าโครงการแลนด์บริดจ์เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและ ประเทศไทยโดยรวม ซึ่งคณะกรรมาธิการจึงเสนอรายงานและข้อสังเกตต่อสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการพิจารณาเพื่อให้รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปศึกษาและ ดำเนินการต่อไปให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดระบบบูรณาการในการทำงานร่วมกันอันจะเกิด ประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป กระผมในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ แลนด์บริดจ์ จึงขออนุญาตท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรให้คณะกรรมาธิการแต่ละท่าน และผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอผลงานด้านต่าง ๆ ของแต่ละประเด็นเกี่ยวข้องต่อไปครับ
เรียนท่านประธาน ที่เคารพครับ กระผม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมาธิการแลนด์บริดจ์ ผมขอ ชี้แจงประเด็นที่ว่าไม่มีการแจ้งกรรมาธิการทุกท่านให้มาร่วมประชุมในวันนี้ ไม่จริงครับ หนังสือออกจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สผ ๐๐๑๔/ว ๔๓ สำนักการประชุม เรื่อง ระเบียบวาระ จากว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงรายละเอียดทั้งหมดที่ให้มาชี้แจง และหนังสือออกตั้งแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ อันนี้ไม่จริง ที่ท่านบอกไม่มีการชี้แจง ไม่ได้มีการเรียกให้มาชี้แจง ประเด็นที่ ๒ ใน LINE กลุ่มท่านดู นะครับ แลนด์บริดจ์ของท่านก็มี ของผมก็มี ทุกคนที่เป็นกรรมาธิการก็มีการแจ้งไปใน LINE กลุ่มว่าให้มาร่วมประชุมในวันนี้ ชัดเจนครับ ท่านกรุณาดูด้วย ถ้าท่านไม่มีเดี๋ยวมาขอที่ผม ผมส่ง ให้ท่านครับ เดี๋ยวส่ง LINE ให้ท่านดูด้วย ขอชี้แจงในประเด็นนี้ครับ ขอบคุณครับ
ท่านประธานที่เคารพ ผมวิสุทธิ์ครับ
ผมเกรงว่าสมาชิกที่อยู่ ในห้องงบประมาณจะใช้เวลามากกว่า ๒ นาที ขอสัก ๗-๘ นาทีระหว่างเดินทางครับ
ท่านประธานสภาที่เคารพ กระผม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะวิปรัฐบาล คือจริง ๆ แล้วเรื่องมาตอบกระทู้ถามนี้ ผมต้องตำหนิไปยังท่านรัฐมนตรีทั้งหลายนะครับ ได้มีข้อตกลงกันว่าเช้าวันวันพฤหัสบดี ท่านนายกรัฐมนตรีก็บอกว่าถ้าท่านนายกรัฐมนตรีอยู่ท่านจะมาสภา แต่วันนี้เป็นที่ทราบได้ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีอยู่ต่างจังหวัด ไป ๒-๓ วัน ที่ภาคใต้ ก็ไปทำภารกิจ แต่รัฐมนตรีทั้งหลาย นี้ครับ ได้รับมอบ รัฐมนตรีว่าการมอบรัฐมนตรีช่วยว่าการก็ไม่มา เรื่องนี้มันไม่ได้นะครับ ท่านประธาน ผมต้องตำหนิท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย เพราะเวลาวันพฤหัสบดีไหน ท่านนายกรัฐมนตรีมาท่านมากันหมด สภาแห่งนี้ จนพวกผมแทบไม่มีที่เดิน พอวันไหน นายกรัฐมนตรีไม่มาท่านก็ไม่มา ท่านเป็นรัฐมนตรีนะครับ ผมไม่ได้เข้าข้างรัฐมนตรีทั้งหลาย นะครับ ไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลครับ ในฐานะเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเหมือนกับฝ่ายค้าน ช่องทาง ที่เราจะนำเสนอปัญหาเร่งด่วน จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ เราไม่สามารถ ไปแทรกแซงหน่วยราชการได้ทั้งหมด เพราะจะติด ข้อ ๑๔๔ ของรัฐธรรมนูญอีก กับช่องทาง สภานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย เสนาบดีทั้งหลายจะต้องมาตอบ เราก็ขอแค่ เช้าวันพฤหัสบดี ๒-๓ ชั่วโมง ท่านให้โอกาสสภาบ้าง ท่านเป็นฝ่ายบริหาร พวกผม เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ถ้าท่านไม่ให้เกียรติพวกนิติบัญญัติของเราในสภาแห่งนี้ เวลาท่าน ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่ามาขอมือพวกผมนะครับ แจ้งไปยังท่านนายกรัฐมนตรีได้กรุณา เตือนรัฐมนตรีด้วยครับ ส่วนรัฐมนตรีอื่น ๆ ที่ต้องมาตอบกระทู้ถามทั่วไป เขาก็ส่งเรื่องให้ ตั้ง ๒ อาทิตย์แล้ว ท่านก็ต้องเตรียมตัวมาตอบ อย่าเลยครับ วันพฤหัสบดีตอนเช้ากราบเรียน ท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย ฟังทางนี้ด้วยนะครับ ท่านอย่าไปภารกิจอื่นเลย ท่านสามารถ สั่งได้ครับ ให้มันเลื่อนจากเช้าวันพฤหัสบดีได้ไหม แต่ถ้าท่านไม่ทำอย่างนี้ก็ถือว่ามันทำงาน ร่วมกันลำบากนะครับ เราเป็นวิป ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ปรารถนาดี อันไหนที่มี ข้อคับข้องใจ เรื่องไหนที่มันเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน ก็อยากให้ท่านรัฐมนตรีมาตอบ แล้วถ่ายทอดสดออกไปให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบปัญหาต่าง ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ถือ ว่าเป็นปัญหาในการทำงาน ก็เตือนไปยังรัฐมนตรีนะครับ ก็อีกไม่กี่เดือนท่านก็ต้องพิจารณา ตัวเองด้วยนะครับ ถ้าทำงานลำบาก ไม่มีเวลาพวกผมก็ไม่สบายใจในเรื่องนี้ครับ ขอบคุณครับ
ท่านประธานครับ ความจริง ก็อยากประท้วง อยากให้ถอนคำพูดว่า สร้างภาพ ผมทำงานในสภาแห่งนี้ ข้าราชการ ไม่ได้ สร้างภาพอะไร ต้องกราบเรียนว่าผมพูดจริง แล้วเรื่องนี้ก็น่าจะสื่อไปทั่วประเทศ ถึงรัฐมนตรี ทุกคน เพราะฉะนั้นอาทิตย์หน้าถ้ารัฐมนตรีไหนไม่มาตอบกระทู้ ทั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา และกระทู้ถามทั่วไป ไม่มาตอบมันก็ต้องมีปัญหาในการทำงานต่อกัน เพราะฉะนั้น ต้องให้เกียรติกันนะครับ วันนี้ผมเตือนไปยังฝ่ายบริหาร ซึ่งเราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติต้องการ ให้มาตอบ จริง ๆ ไม่มีสร้างภาพ ผมคำไหนคำนั้น เคยนั่งในตำแหน่งที่ท่านประธานนั่งครับ ผมได้รับตำแหน่งดาวสภาในขณะที่ทำหน้าที่ ผมตรงไปตรงมา ไม่มีเข้าข้างใครครับ ต้องกราบเรียนท่านได้เข้าใจตรงกันนะครับ