ท่านประธานครับ ผม วันชัย สอนศิริ ครับ
ขอแสดงตนด้วยครับ พอดีบัตรอยู่ในระหว่าง ดำเนินการอยู่ครับ
ท่านประธานที่เคารพ
กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานที่เคารพครับ ความเห็นตอนนี้ค่อนข้างจะตรงกัน แล้วผมก็กราบเรียน ท่านประธานและที่ประชุมว่าอาจมิต้องใช้เวลามากเกินไปกว่านี้แล้ว แม้แต่ผมขึ้นมาอภิปรายนี้ ก็ค่อนข้างจะไม่มีความเห็นขัดแย้งกับท่านอื่น ๆ เป็นที่แน่นอนชัดเจนว่าเราเอาจากสมาชิก สภาปฏิรูปแห่งชาติ ๒๐ ท่าน ๑๕ ท่านเดิมทีเดียว ผมคิดว่า ๒๐ ท่านน่าจะสมัครทั้งหมด แล้วพวกเราเลือก แต่มันก็มีปัญหาว่าเราเองมากันเพิ่งเจอกันประมาณสัก ๒ ครั้ง รู้จักกันน้อยเกินไปนัก เพราะฉะนั้นถ้าให้ท่านทั้งหลายสมัครแล้วเราเลือกเราอาจไม่รู้จักกันหมด นั่นเป็นประการที่ ๑
ประการที่ ๒ ถ้าสมัครแล้วเกิดได้ ผมก็มีความคิดว่าอาจจะเป็นการ ร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากปัจเจก คือเป็นความคิดส่วนตนมิได้ยึดโยงกับด้านใดหรือกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วยกับท่านสมาชิกที่อภิปรายมาแล้ว หลายท่าน และผมเชื่อว่าหลายท่านนี้ที่ฟัง ๆ ซุ่มเสียงดูแล้วเห็นว่าวิธีที่เรากำลังพูดนั้น ดีที่สุด คือมีการยึดโยงแต่ละด้าน แต่ละด้าน แต่ละด้าน อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดกลไกและวิธีการแก้ปัญหาของประเทศครอบคลุมทุกด้าน ดังนั้น คนที่จะไปร่างรัฐธรรมนูญควรมาจากทั้งหมด ๑๑ ด้าน บวกจังหวัด จึงได้ ๑๕ ซึ่งเหมาะสม แล้วมีความยึดโยง อันนี้ก็เป็นไปตามกรอบที่คณะกรรมาธิการกิจการ สปช. (ชั่วคราว) ได้วางไว้ในระดับหนึ่ง
ประการต่อมา ก็มีว่าอีก ๕ ท่านจะมาจากไหน น่าคิดครับ ท่านประธานครับ เพราะบางกลุ่มบางด้านนั้นเท่าที่ทราบมีสมัครถึง ๕ คน เพราะบางด้านนั้นบอกว่า ด้านผมทะเลาะกันวงแตกแน่ แต่ถ้าแต่ละด้าน ๆ สมัครกัน ๑ คน ๑ คน แล้วสมัครใจ ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นจากการคะยั้นคะยอ ซึ่งท่านประธานเองได้พูดในวันที่ประชุม ของคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (ชั่วคราว) แล้ว อยากให้เกิดขึ้น จากการสมัครใจและเต็มใจ อยากทำภารกิจนี้ และพวกเราแต่ละด้านเห็นว่าท่านนั้น เหมาะสม และท่านมีใจอยากทำด้วย นี่คือเรื่องสำคัญ ทีนี้ถ้าแต่ละด้าน แต่ละด้าน มีคนสมัครเกินกว่า ๒ คน ๓ คน ๕ คน ท่านจะโหวตกันหรือ ถ้าโหวตก็แปลว่าด้านของท่าน อาจมีปัญหา ท่านอาจจะไม่ปรองดองกันเสียตั้งแต่ก่อนร่างรัฐธรรมนูญแล้ว เพราะฉะนั้น จะเป็นไปได้ไหม ก็ขอหารือต่อท่านประธานว่าถ้าด้านใดมีผู้สมัครเกินกว่า ๑ คน คือถ้า ๑ คน ไม่มีปัญหาทั้งหมด แต่ละด้าน ๆ ๑ คน ๆ แต่ถ้าด้านนั้นเกิดมี ๕ คน เช่น ด้านการเมือง เป็นต้น เกิดมีผู้สมัคร ๕ คน ผมก็คิดว่าน่าจะให้เขาสมัครทั้ง ๕ คน และไม่ควรเป็นการส่งของด้านนั้น และส่วนด้านอื่น ๆ ถ้าเกิดได้ ๑๔ ด้าน หรือได้แค่ ๑๒ ด้าน ด้านอื่นให้สมัครทั้งหมด นั่นส่วนหนึ่งก็แปลว่าจะมีผู้สมัคร และในขณะเดียวกันนั้นผมว่า สมัครแล้วเมื่อกลุ่มอื่น ๆ หรือคนอื่นสมัครด้วย การสมัครนั้นอาจจะเกิดขึ้นจากตัวเองสมัคร ใจเพราะไม่ได้ในกลุ่มแล้ว แล้วก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะมีหลายท่านบอกว่าจะสมัครเอง ก็กระดากอายหรือไม่อยาก ก็ขอให้สมาชิกได้ประสานกับท่านแล้วเสนอแทนท่าน อันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งซึ่งจะทำให้เราได้จำนวนทั้งหมดครบโดยการปรองดองสมานฉันท์ คือถ้าได้ ๑๕ ตกลงกันได้ ๑๕ เอา ๑๕ เหลือนอกนั้นให้มาสมัคร หรือจะสมัคร ๑๐ ๒๐ ก็ได้ แล้วคัดให้เหลือ ๕ ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่น่าจะเป็นไปได้ดีที่สุด และน่าจะดำเนินการ ตามวิธีนี้เสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยน่าจะไม่เกิน ๔ โมงเย็นครับ ท่านประธานครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ ผมอยากจะกราบเรียนท่านประธานว่า จากการประชุมของคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (ชั่วคราว) ในวันนี้ หลังจากที่เรา ได้มีการประชุมกันแล้ว ได้ขอให้ตัวแทนในคณะกรรมาธิการแต่ละท่านไปประชุมแต่ละด้าน แต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของกระผมคือด้านกฎหมาย ได้มีการประชุมและชี้แจง ทำความเข้าใจเป็นที่ชัดเจนแล้ว โดยบอกว่าคณะกรรมาธิการเมื่อวานนี้ได้ประมวลความคิด ของท่านสมาชิกทุกท่านแล้วมารวมเป็นข้อเสนอในวันนี้ ก็คือให้แต่ละด้าน แต่ละกลุ่ม จะเสนอ ๑ ท่าน ๒ ท่าน ๓ ท่าน หรือท่านใดไม่เสนอก็ได้ เป็นความเห็นว่าในที่สุด เราจะเลือกกันได้ ๒๐ คน ซึ่งอันนี้เป็นอิสระ เป็นความเสรีของท่านสมาชิกตามที่ ท่านต้องการ ๒๐ ท่าน เมื่อวานนี้ในส่วนของด้านกฎหมายได้ประชุมและชี้แจงแล้ว ทุกท่านเห็นด้วยกับแนวทางของคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (ชั่วคราว) และพวกเราเองยังได้ทำงานต่อไปด้วย โดยถามว่าแต่ละท่านมีท่านใดสมัครใจที่จะเป็น กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญบ้าง ปรากฏว่าด้านกฎหมายได้ ๔ ท่านครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นทางด้านกฎหมายก็จะส่งเสนอมา ๔ ท่านในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง เสร็จสิ้นครับ ท่านประธาน และในที่สุดที่ประชุมก็จะเลือก จะเลือกด้านกฎหมายทั้ง ๔ ท่านก็ไม่ว่า หรือไม่เลือกเลยก็เป็นสิทธิของท่านสมาชิก ผมว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นไปทั้งความอิสระ ของท่านสมาชิก เพราะฉะนั้นด้วยความเคารพต่อท่านประธานและท่านสมาชิกครับ ถ้าท่านสมาชิกทุกท่านได้เข้าประชุมกลุ่มและประชุมด้านของท่านในวันนี้ในตอน ๑๓.๐๐ นาฬิกา มีการชี้แจงกันในลักษณะดังที่ผมกราบเรียนนี้ เชื่อเหลือเกินว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้ด้านกฎหมาย ๔ ท่านเขียนใบสมัครเสร็จแล้ว ยื่นแล้ว แล้วเจ้าหน้าที่รับไปเรียบร้อยแล้วครับ เพราะฉะนั้นแต่ละด้านถ้าทำเช่นนี้ไม่มีปัญหา อะไรเลยครับท่านประธาน และถ้าเกิดไม่มีด้านของท่านเสนอตัวท่านเอง ใจดำเหลือเกิน ด้านของท่าน ท่านก็สมัครได้ด้วยตัวเอง ง่ายมากเลยครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ประเด็นที่เรากำลังถกแถลงกันนั้น ถ้าท่านประธานและท่านสมาชิกนั้นเห็นเป็นอย่างอื่น นอกเหนือจากนี้ ผมว่านอกเหนือจากนี้ก็ค่อนข้างจะลำบากครับท่านประธาน เพราะนี่ถือว่า เป็นการเปิดฟรีตามที่ท่านสมาชิกต้องการ เพียงแต่ให้ด้านเสนอเท่านั้นเอง ยังเสนอตัวเอง ได้อีกครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นกราบเรียนว่าถ้าท่านประธานจะกรุณาว่าขมวดปมให้สั้น กระชับ และถ้าวันนี้มีมติก่อนสี่โมงเย็น ท่านยังไปประชุมกลุ่มและด้านได้อีก แต่ด้านกฎหมาย กราบเรียนท่านประธานว่าไม่ประชุมแล้วครับ ๔ คนเรียบร้อยแล้วครับท่าน ถ้าทำแบบนี้ ไม่เห็นน่าจะมีปัญหาประการใดเลยครับท่านประธาน กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ เรื่องที่ผมจะหารือต่อท่านประธาน ผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นก็คือเรื่องการปฏิรูปศาสนา พระสงฆ์ และวัด ทราบว่า ท่านประธานเองก็สนใจเรื่องศาสนามากทีเดียว ผมอ่านแนวทางปฏิบัติวัตรปฏิบัติของ ท่านประธานแล้วชื่นใจ แต่ท่านประธานคงทราบนะครับ ท่านประธานก็บวชในวัดแล้วก็ปฏิบัติในหลายที่หลายแห่ง เงิน ผู้หญิง คำสอนที่ผิดเพี้ยนเบี่ยงเบนพระธรรมวินัยถือว่าเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ซึ่งเป็น ตัวแทนของศาสนาอย่างยิ่ง เงินก็อาจเฉพาะองค์ เฉพาะรูป เฉพาะวัด ผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของศาสนาครับท่านประธาน คือคำสอนที่ผิดเพี้ยนเบี่ยงเบน พระธรรมวินัย รวมทั้งการกระทำเชิงพุทธพาณิชย์ด้วย เอาศาสนามาค้าขายทำมาหากินด้วย ระบบการตลาดครับท่านประธาน ผมกำลังจะพูดเรื่องวัดพระธรรมกาย เรื่องธุดงควัตร ที่ออกมาปฏิบัติจาริกในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่เบี่ยงเบน ผิดเพี้ยนคำสอนต่อพระศาสนาเป็นอย่างยิ่ง และเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา ท่านประธานคงทราบนะครับ ถ้าศึกษากันจริง ๆ แล้วคำว่า ธุดงค์ นั้นเป็นองค์คุณ เครื่องกำจัดกิเลสที่ผู้สมัครใจจะพึงสมาทานหรือประพฤติปฏิบัติ อยู่ป่าช้าเป็นวัด ถือโคนต้นไม้เป็นวัด อย่างนี้เป็นต้น แต่การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นลักษณะของการพีอาร์ (PR) การตลาด เป็นลักษณะของการเชิงพาณิชย์ ที่สำคัญที่สุดท่านประธานคงทราบแล้ว คนเขาด่ากันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วขืนทำกันอยู่ได้อย่างไร รถราติดกันมโหฬารมหาวินาศสันตะโร จะพีอาร์ไปหาอะไรกันนักหนา ผมจึงอยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม หยุดการกระทำอย่างนี้ หรือว่าแพ้เงิน แพ้อำนาจ อิทธิพลอื่นใด จนไม่สามารถที่จะกระทำการใด ๆ ได้ ผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องหยุดเสียทีกับคำสอนที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ครับท่านประธานครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ เรื่องที่ผมจะหารือต่อท่านประธาน ผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นก็คือเรื่องการปฏิรูปศาสนา พระสงฆ์ และวัด ทราบว่า ท่านประธานเองก็สนใจเรื่องศาสนามากทีเดียว ผมอ่านแนวทางปฏิบัติวัตรปฏิบัติของ ท่านประธานแล้วชื่นใจ แต่ท่านประธานคงทราบนะครับ ท่านประธานก็บวชในวัดแล้วก็ปฏิบัติในหลายที่หลายแห่ง เงิน ผู้หญิง คำสอนที่ผิดเพี้ยนเบี่ยงเบนพระธรรมวินัยถือว่าเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ซึ่งเป็น ตัวแทนของศาสนาอย่างยิ่ง เงินก็อาจเฉพาะองค์ เฉพาะรูป เฉพาะวัด ผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของศาสนาครับท่านประธาน คือคำสอนที่ผิดเพี้ยนเบี่ยงเบน พระธรรมวินัย รวมทั้งการกระทำเชิงพุทธพาณิชย์ด้วย เอาศาสนามาค้าขายทำมาหากินด้วย ระบบการตลาดครับท่านประธาน ผมกำลังจะพูดเรื่องวัดพระธรรมกาย เรื่องธุดงควัตร ที่ออกมาปฏิบัติจาริกในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่เบี่ยงเบน ผิดเพี้ยนคำสอนต่อพระศาสนาเป็นอย่างยิ่ง และเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนา ท่านประธานคงทราบนะครับ ถ้าศึกษากันจริง ๆ แล้วคำว่า ธุดงค์ นั้นเป็นองค์คุณ เครื่องกำจัดกิเลสที่ผู้สมัครใจจะพึงสมาทานหรือประพฤติปฏิบัติ อยู่ป่าช้าเป็นวัด ถือโคนต้นไม้เป็นวัด อย่างนี้เป็นต้น แต่การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นลักษณะของการพีอาร์ (PR) การตลาด เป็นลักษณะของการเชิงพาณิชย์ ที่สำคัญที่สุดท่านประธานคงทราบแล้ว คนเขาด่ากันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วขืนทำกันอยู่ได้อย่างไร รถราติดกันมโหฬารมหาวินาศสันตะโร จะพีอาร์ไปหาอะไรกันนักหนา ผมจึงอยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม หยุดการกระทำอย่างนี้ หรือว่าแพ้เงิน แพ้อำนาจ อิทธิพลอื่นใด จนไม่สามารถที่จะกระทำการใด ๆ ได้ ผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องหยุดเสียทีกับคำสอนที่ผิดเพี้ยนแบบนี้ครับท่านประธานครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ จะทำอย่างไรให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เป็นไปอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม นั่นหมายความว่ากฎหมายนี่มันใช้ได้ดีอยู่แล้ว แต่การบังคับใช้กฎหมายของเรานั้นมีปัญหา รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจึงกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดและ เป็นธรรม เป็นเรื่องที่สภาปฏิรูปแห่งชาติต้องคิดและต้องทำ ท่านประธานที่เคารพครับ ทุกองค์กรเริ่มตั้งแต่ตำรวจหรือกระบวนการอื่น ๆ ที่มีการสืบสวน สอบสวนและจับกุมคุมขัง ผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะหน่วยงานใดก็ตามที่เกี่ยวกับเรื่องนี้รวมทั้งตำรวจ อัยการ และไปศาล จนกระทั่งสุดท้ายไปเรือนจำ ในสภาปฏิรูปแห่งชาติแม้แต่กรรมาธิการกฎหมายและ กระบวนการยุติธรรม เราพูดกันอยู่ตลอดเวลาครับท่านประธานและท่านสมาชิกที่เคารพครับ ๑. ต้องอิสระ ๒. ปราศจากการแทรกแซง ๓. ต้องไม่ถูกครอบงำ เท่านี้ละครับ การบังคับใช้ กฎหมายหรือการบังคับในเรื่องอื่นใดในบ้านนี้เมืองนี้จะเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม และโปร่งใส ๒ เรื่องครับเป็นตัวแทรกแซงและเป็นเรื่องใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ครับท่านประธาน เงินกับอำนาจครับ เงินกับอำนาจทำให้ไม่มีอิสระ เงินกับอำนาจทำให้มีการแทรกแซง เงินกับอำนาจทำให้เกิดการครอบงำ แม้แต่ในสภานี้ท่านประธานที่เคารพครับ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ส.ว. หรือรัฐมนตรี บางคนนี่ผมรู้จักเป็นข้าราชการดีแสนดี พอมาอยู่ในสภานี้แพ้เงิน แพ้อำนาจครับท่านประธาน ไม่ได้ยุคนี้นะครับ ไม่ใช่สภานี้ เดี๋ยวนี้ บางคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ น่าเคารพนับถือของบ้านของเมือง พอเจอเงินกับอำนาจ เพี้ยนครับท่านประธานครับ เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานที่เคารพว่าถ้าเราจะดูหลักการของข้าราชการ กับการเมืองแล้ว ข้าราชการไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำหรือข้าราชการการเมือง กับพ่อค้านักธุรกิจครับท่านประธาน พ่อค้านักธุรกิจนั้นทำงานเพื่ออะไรครับ เพื่อเงินและ ผลกำไร พ่อค้านักธุรกิจนั้นทำงานเพื่อครอบครัว ตัวเอง วงศ์ตระกูล บริษัท บริวาร พ่อค้านักธุรกิจครับท่านประธาน หาช่องว่างทางกฎหมายทุกรูปแบบ พ่อค้านักธุรกิจครับ ใต้ดิน บนดิน ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ เล่ห์กล มนต์คาถา เพื่อผลกำไร เอาครับ ปัจจุบันอาจจะมี ระบบธรรมาภิบาลมากขึ้นก็ตาม แต่ข้าราชการคืออะไรครับท่านประธาน ทำงาน เพื่อเกียรติยศและศักดิ์ศรีครับ ข้าราชการทำงานเพื่อส่วนรวมเพื่อประชาชนครับ ข้าราชการ ทำงานโดยคุมกฎกติกาและเอากฎหมายเป็นตัวตั้ง สุดท้ายครับข้าราชการยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ๒ องค์กรนี้เขาห้ามลัดวงจรกันครับ แต่ในความเป็นจริงเวลามันมีเงินกันเยอะ ๆ เงินมาก ๆ คนที่มีเงินเยอะ ๆ พ่อค้านักธุรกิจดันไปยืนอยู่สายข้าราชการการเมือง แล้วก็คุมข้าราชการประจำ นี่ละครับจึงทำให้การบังคับใช้กฎหมายของบ้านเรานั้น ไม่เคร่งครัดและไม่เป็นธรรม เพราะเอาแนวคิดของความเป็นพ่อค้านักธุรกิจมายืนอยู่ ซีกข้าราชการประจำครับ เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานที่เคารพว่า กลไกทางการเมืองที่ท่านประธานกำลังเป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องสำคัญครับ ที่จะทำให้ได้คนดีเข้ามามีอำนาจ มาเป็นข้าราชการการเมือง และคนดี พอมามีอำนาจนาน ๆ ก็เพี้ยนเหมือนกันครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นกลไกถ่วงดุลและ การตรวจสอบนี้จึงสำคัญในการที่ว่าเขาใช้อำนาจรัฐนั้นจะต้องเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม ตรงนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายโดยผู้คุมนโยบาย ซึ่งมาจากการเลือกตั้งนั้นสำคัญ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ จะทำอย่างไรให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เป็นไปอย่างเคร่งครัดและเป็นธรรม นั่นหมายความว่ากฎหมายนี่มันใช้ได้ดีอยู่แล้ว แต่การบังคับใช้กฎหมายของเรานั้นมีปัญหา รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจึงกำหนดไว้ว่าจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัดและ เป็นธรรม เป็นเรื่องที่สภาปฏิรูปแห่งชาติต้องคิดและต้องทำ ท่านประธานที่เคารพครับ ทุกองค์กรเริ่มตั้งแต่ตำรวจหรือกระบวนการอื่น ๆ ที่มีการสืบสวน สอบสวนและจับกุมคุมขัง ผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะหน่วยงานใดก็ตามที่เกี่ยวกับเรื่องนี้รวมทั้งตำรวจ อัยการ และไปศาล จนกระทั่งสุดท้ายไปเรือนจำ ในสภาปฏิรูปแห่งชาติแม้แต่กรรมาธิการกฎหมายและ กระบวนการยุติธรรม เราพูดกันอยู่ตลอดเวลาครับท่านประธานและท่านสมาชิกที่เคารพครับ ๑. ต้องอิสระ ๒. ปราศจากการแทรกแซง ๓. ต้องไม่ถูกครอบงำ เท่านี้ละครับ การบังคับใช้ กฎหมายหรือการบังคับในเรื่องอื่นใดในบ้านนี้เมืองนี้จะเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม และโปร่งใส ๒ เรื่องครับเป็นตัวแทรกแซงและเป็นเรื่องใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ครับท่านประธาน เงินกับอำนาจครับ เงินกับอำนาจทำให้ไม่มีอิสระ เงินกับอำนาจทำให้มีการแทรกแซง เงินกับอำนาจทำให้เกิดการครอบงำ แม้แต่ในสภานี้ท่านประธานที่เคารพครับ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ส.ว. หรือรัฐมนตรี บางคนนี่ผมรู้จักเป็นข้าราชการดีแสนดี พอมาอยู่ในสภานี้แพ้เงิน แพ้อำนาจครับท่านประธาน ไม่ได้ยุคนี้นะครับ ไม่ใช่สภานี้ เดี๋ยวนี้ บางคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ น่าเคารพนับถือของบ้านของเมือง พอเจอเงินกับอำนาจ เพี้ยนครับท่านประธานครับ เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานที่เคารพว่าถ้าเราจะดูหลักการของข้าราชการ กับการเมืองแล้ว ข้าราชการไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำหรือข้าราชการการเมือง กับพ่อค้านักธุรกิจครับท่านประธาน พ่อค้านักธุรกิจนั้นทำงานเพื่ออะไรครับ เพื่อเงินและ ผลกำไร พ่อค้านักธุรกิจนั้นทำงานเพื่อครอบครัว ตัวเอง วงศ์ตระกูล บริษัท บริวาร พ่อค้านักธุรกิจครับท่านประธาน หาช่องว่างทางกฎหมายทุกรูปแบบ พ่อค้านักธุรกิจครับ ใต้ดิน บนดิน ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ เล่ห์กล มนต์คาถา เพื่อผลกำไร เอาครับ ปัจจุบันอาจจะมี ระบบธรรมาภิบาลมากขึ้นก็ตาม แต่ข้าราชการคืออะไรครับท่านประธาน ทำงาน เพื่อเกียรติยศและศักดิ์ศรีครับ ข้าราชการทำงานเพื่อส่วนรวมเพื่อประชาชนครับ ข้าราชการ ทำงานโดยคุมกฎกติกาและเอากฎหมายเป็นตัวตั้ง สุดท้ายครับข้าราชการยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ๒ องค์กรนี้เขาห้ามลัดวงจรกันครับ แต่ในความเป็นจริงเวลามันมีเงินกันเยอะ ๆ เงินมาก ๆ คนที่มีเงินเยอะ ๆ พ่อค้านักธุรกิจดันไปยืนอยู่สายข้าราชการการเมือง แล้วก็คุมข้าราชการประจำ นี่ละครับจึงทำให้การบังคับใช้กฎหมายของบ้านเรานั้น ไม่เคร่งครัดและไม่เป็นธรรม เพราะเอาแนวคิดของความเป็นพ่อค้านักธุรกิจมายืนอยู่ ซีกข้าราชการประจำครับ เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนต่อท่านประธานที่เคารพว่า กลไกทางการเมืองที่ท่านประธานกำลังเป็นประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องสำคัญครับ ที่จะทำให้ได้คนดีเข้ามามีอำนาจ มาเป็นข้าราชการการเมือง และคนดี พอมามีอำนาจนาน ๆ ก็เพี้ยนเหมือนกันครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นกลไกถ่วงดุลและ การตรวจสอบนี้จึงสำคัญในการที่ว่าเขาใช้อำนาจรัฐนั้นจะต้องเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม ตรงนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายโดยผู้คุมนโยบาย ซึ่งมาจากการเลือกตั้งนั้นสำคัญ
และประการสุดท้ายครับท่านประธาน กลไกบริหารราชการแผ่นดิน โดยข้าราชการนั้นที่ท่านกำลังร่างรัฐธรรมนูญและพวกเรากำลังปฏิรูปนั้นต้องให้คนดีมีที่ยืน และอยู่ได้ มียศ มีตำแหน่ง มีฐานะ คนชั่วต้องถูกขจัดออกไป เวลาเราปฏิรูปตำรวจครับ ตำรวจเขาบอกมันมีคนไม่ดีอยู่ประมาณแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในวงการเขาครับ แต่คน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ท่านประธานดันมีอำนาจครับ นี่คือความเลวร้ายครับ เพราะฉะนั้น เราจะต้องสร้างกลไกตรงนี้ให้คนดีเข้ามามีอำนาจแล้วเขามีที่ยืน เมื่อนั้นครับผมเชื่อว่า การบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมและสุจริตครับท่านประธาน ขอบพระคุณครับ
และประการสุดท้ายครับท่านประธาน กลไกบริหารราชการแผ่นดิน โดยข้าราชการนั้นที่ท่านกำลังร่างรัฐธรรมนูญและพวกเรากำลังปฏิรูปนั้นต้องให้คนดีมีที่ยืน และอยู่ได้ มียศ มีตำแหน่ง มีฐานะ คนชั่วต้องถูกขจัดออกไป เวลาเราปฏิรูปตำรวจครับ ตำรวจเขาบอกมันมีคนไม่ดีอยู่ประมาณแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในวงการเขาครับ แต่คน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ท่านประธานดันมีอำนาจครับ นี่คือความเลวร้ายครับ เพราะฉะนั้น เราจะต้องสร้างกลไกตรงนี้ให้คนดีเข้ามามีอำนาจแล้วเขามีที่ยืน เมื่อนั้นครับผมเชื่อว่า การบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมและสุจริตครับท่านประธาน ขอบพระคุณครับ
ท่านประธานครับ ขออนุญาตนิดหนึ่งที่ท่านยังไม่ได้ชี้ แต่ผมยืนขึ้นก่อน เป็นไปได้ผมอยากจะขอให้ท่านสมาชิกที่แนะนำตัว หรือแสดงวิสัยทัศน์ ตรงด้านใดด้านหนึ่งจะดีกว่าจะได้เห็นหน้าด้วยครับท่านประธาน ไม่อย่างนั้นผมเห็น แต่ด้านหลังครับ เอาตรงมุมใดมุมหนึ่งข้างหน้านี่นะครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ ผมเองไม่มีประเด็นที่จะแก้ไขหรือเพิ่มเติม แต่ประการใด แต่ผมมีสิ่งที่อยากจะเรียนถามท่านกรรมาธิการยกร่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวรรคเจ็ด ที่ระบุว่า เพื่อช่วยการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมาธิการในการจัดเตรียม รายงานด้านต่าง ๆ อย่างเป็นระบบและมีข้อมูลครบถ้วน คณะกรรมาธิการอาจตั้งผู้เตรียมรายงานคนหนึ่งหรือหลายคนจากผู้สำเร็จการศึกษา ไม่ต่ำกว่าปริญญาโท ซึ่งเคยทำการวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ ประเด็นตรงนี้ครับ ผมอยากขอถามว่า มีเหตุผลประการใด และบุคคลดังกล่าวนั้นจะหาได้จากที่ไหน อย่างไร และมีวิธีการอย่างไร มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ขอรับรู้หน่อยนะครับ ก่อนที่จะใช้ข้อบังคับนี้ครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ ขอบพระคุณครับท่านประธานที่ให้ข้อมูล แต่ประเด็นก็คือว่าคนพวกนี้หาที่ไหนครับ หายาก ไหมครับท่านประธาน ผมก็จะเป็นคณะกรรมาธิการสักชุดหนึ่งนี่ก็เลยว่าใครเป็นคนคัดเลือก เลือกอย่างไร ด้วยวิธีแบบไหน อันนี้ก็ขอสักนิดนะครับท่านประธาน
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ ผมอยากจะหารือท่านประธาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเราอ่านทั้งหมดแล้วบางคนอาจจะอ่านข้อนั้นข้อนี้แล้วก็เจอประเด็นนั้น ประเด็นนี้ แต่ถ้าอ่านโดยรวมแล้วบางทีเราจะรู้ว่าตรงนั้นคำพูดไม่สัมพันธ์กันบ้าง ตรงนั้น ตกบ้าง ตรงนี้หล่นบ้าง ด้วยความเคารพต่อท่านประธานและท่านกรรมาธิการยกร่าง เป็นไปได้ไหมครับ เรามีมติในวาระสามเรียบร้อยแล้ว บางส่วนถ้าอ่านในภายหลัง บางครั้ง เราอ่านในภายหลังจริง ๆ แล้วลองนั่งอ่านบางทีเราจะเจอ แต่มันไม่ใช่เป็นการแก้ ในสาระสำคัญ แก้ตัวบางคำที่อาจจะไม่สัมพันธ์กัน เพราะฉะนั้นให้เป็นอำนาจของ คณะกรรมาธิการยกร่างไปดูไปอ่านในรายละเอียด คือพูดง่าย ๆ ว่าที่ประชุมมีมติว่าเห็นว่า คำใดที่มันไม่สัมพันธ์ หรือมันตก แก่ แต่ ก็ อะไรก็แล้วแต่ อย่างนั้นให้เป็นอำนาจไปเสีย ส่วนประเด็นอื่น ๆ ผมคิดว่าไม่ได้มีอะไร กระทำอย่างนี้น่าจะกระทำได้หรือไม่ นั่นหารือ และถ้าทำได้ขอเป็นมติให้คณะกรรมาธิการยกร่างไปอ่านทวนแล้วก็กรุณาเห็นว่าตรงไหน ที่จะแก้ก็แก้เสีย ผมคิดว่าไม่ได้เสียหายแต่ประการใด จึงกราบเรียนมาเพื่อพิจารณาครับ
ไม่เห็นชอบครับ
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ ที่ผมขออนุญาตเวลาท่านประธานสักเล็กน้อย ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระปกติ เนื่องจากว่าผมเองนั้นเป็นผู้เสนอต่อท่านประธานว่าก่อนเริ่ม การประชุมนั้นควรจะเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือคนละประมาณ ๒ นาที สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ท่านประธานพอเข้าสู่ระเบียบวาระ ท่านประธานก็บอกว่าเนื่องจากเป็นวาระของการหารือ จึงสั่งให้งดการถ่ายทอด และท่านประธานเอง ผมเองได้ประสานกับท่านประธานบอกว่า รวมทั้งท่านสมาชิก รวมทั้งสื่อมวลชนเองได้เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อหารือของเรานั้น กลายเป็นเรื่องถนนบ้าง สะพานบ้าง และเป็นเรื่องอื่น ๆ ในท้องที่บ้าง สื่อมวลชน เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเรากำลังทำหน้าที่เป็น ส.ส. หรือเป็น ส.ว. ในพื้นที่หรืออย่างไร ประกอบกับท่านประธานเองก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป ดังนั้นกระผม ก็เลยจะกราบเรียนต่อท่านประธานว่า กรณีอย่างนี้เพื่อมิให้เกิดปัญหาในลักษณะที่สื่อ หรือพี่น้องประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ ข้อหารือนั้นยังจำเป็นจะต้องมีอยู่ หรือไม่ นั่นประการที่ ๑
ท่านประธานที่เคารพ กระผม วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ท่านประธานครับ ที่ผมขออนุญาตเวลาท่านประธานสักเล็กน้อย ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระปกติ เนื่องจากว่าผมเองนั้นเป็นผู้เสนอต่อท่านประธานว่าก่อนเริ่ม การประชุมนั้นควรจะเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือคนละประมาณ ๒ นาที สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ท่านประธานพอเข้าสู่ระเบียบวาระ ท่านประธานก็บอกว่าเนื่องจากเป็นวาระของการหารือ จึงสั่งให้งดการถ่ายทอด และท่านประธานเอง ผมเองได้ประสานกับท่านประธานบอกว่า รวมทั้งท่านสมาชิก รวมทั้งสื่อมวลชนเองได้เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อหารือของเรานั้น กลายเป็นเรื่องถนนบ้าง สะพานบ้าง และเป็นเรื่องอื่น ๆ ในท้องที่บ้าง สื่อมวลชน เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเรากำลังทำหน้าที่เป็น ส.ส. หรือเป็น ส.ว. ในพื้นที่หรืออย่างไร ประกอบกับท่านประธานเองก็เกรงว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ต่อไป ดังนั้นกระผม ก็เลยจะกราบเรียนต่อท่านประธานว่า กรณีอย่างนี้เพื่อมิให้เกิดปัญหาในลักษณะที่สื่อ หรือพี่น้องประชาชนจะวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ ข้อหารือนั้นยังจำเป็นจะต้องมีอยู่ หรือไม่ นั่นประการที่ ๑
ประการที่ ๒ หากพึงจะมี น่าจะเป็นกรณีเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ หรือการปฏิรูป ด้านใดด้านหนึ่งน่าจะเหมาะสมมากกว่าที่เราจะพูดเรื่องถนนหนทางหรือความเดือดร้อน เพราะเรื่องความเดือดร้อนท่านสามารถที่จะประสานกับส่วนราชการโดยส่วนตัวได้อยู่แล้ว ดังนั้นกระผมด้วยความเคารพต่อท่านทั้งหลายนะครับ มิได้หมายความว่าท่านผิดนะครับ แต่เป็นเรื่องของการที่จะกระทบต่อภาพรวมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ นี่เป็นประการที่ ๑ ที่จะกราบเรียนท่านประธานเป็นเบื้องต้น แต่การถ่ายทอดนั้นสื่อมวลชนเขาสงสัยว่าอยู่ ๆ ก็สั่งปิดไป เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ขอให้ท่านประธานได้โปรดพิจารณาให้มีการถ่ายทอด ตามปกติ นั่นเป็นประการที่ ๑ ที่ผมจะกราบเรียนเป็นเบื้องต้น
ประการที่ ๒ หากพึงจะมี น่าจะเป็นกรณีเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ หรือการปฏิรูป ด้านใดด้านหนึ่งน่าจะเหมาะสมมากกว่าที่เราจะพูดเรื่องถนนหนทางหรือความเดือดร้อน เพราะเรื่องความเดือดร้อนท่านสามารถที่จะประสานกับส่วนราชการโดยส่วนตัวได้อยู่แล้ว ดังนั้นกระผมด้วยความเคารพต่อท่านทั้งหลายนะครับ มิได้หมายความว่าท่านผิดนะครับ แต่เป็นเรื่องของการที่จะกระทบต่อภาพรวมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ นี่เป็นประการที่ ๑ ที่จะกราบเรียนท่านประธานเป็นเบื้องต้น แต่การถ่ายทอดนั้นสื่อมวลชนเขาสงสัยว่าอยู่ ๆ ก็สั่งปิดไป เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ขอให้ท่านประธานได้โปรดพิจารณาให้มีการถ่ายทอด ตามปกติ นั่นเป็นประการที่ ๑ ที่ผมจะกราบเรียนเป็นเบื้องต้น
ประการที่ ๒ ผมอยากจะกราบเรียนท่านประธานผ่านไปยังสมาชิกในฐานะ เป็นกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติด้วย เพราะกรณีที่ท่านประธานแจ้งต่อที่ประชุม เมื่อวานนี้ว่าให้งดการประชุมกรรมาธิการรวมทั้งอนุกรรมาธิการแต่ละคณะ ปรากฏว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์จากท่านสมาชิกเป็นจำนวนมากว่างานเราเยอะเหลือเกิน ปล่อยให้มานั่งอยู่ใน ห้องประชุมในขณะที่พูดกันเรื่องที่รู้อยู่แล้วและถึงเวลาก็วิ่งมาลง มีความเห็นต่างกัน ๒ แนวครับท่านประธาน บางแนวว่าควรจะมานั่งประชุม บางแนวบอกว่าการประชุมก็ว่าไป ให้ไปประชุมได้ มันก็เลยเกิดความอิหลักอิเหลื่อแล้วบอกว่ามีเวลาในการทำงานเฉพาะวันพุธ วันพฤหัสบดีเท่านั้น บางท่านก็เสนอแล้วพูดกับผมมาผ่านมาเพื่อหารือต่อที่ประชุม อยากให้ ที่ประชุมช่วยพิจารณากันโดยรอบด้านด้วยว่า
ประการที่ ๒ ผมอยากจะกราบเรียนท่านประธานผ่านไปยังสมาชิกในฐานะ เป็นกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติด้วย เพราะกรณีที่ท่านประธานแจ้งต่อที่ประชุม เมื่อวานนี้ว่าให้งดการประชุมกรรมาธิการรวมทั้งอนุกรรมาธิการแต่ละคณะ ปรากฏว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์จากท่านสมาชิกเป็นจำนวนมากว่างานเราเยอะเหลือเกิน ปล่อยให้มานั่งอยู่ใน ห้องประชุมในขณะที่พูดกันเรื่องที่รู้อยู่แล้วและถึงเวลาก็วิ่งมาลง มีความเห็นต่างกัน ๒ แนวครับท่านประธาน บางแนวว่าควรจะมานั่งประชุม บางแนวบอกว่าการประชุมก็ว่าไป ให้ไปประชุมได้ มันก็เลยเกิดความอิหลักอิเหลื่อแล้วบอกว่ามีเวลาในการทำงานเฉพาะวันพุธ วันพฤหัสบดีเท่านั้น บางท่านก็เสนอแล้วพูดกับผมมาผ่านมาเพื่อหารือต่อที่ประชุม อยากให้ ที่ประชุมช่วยพิจารณากันโดยรอบด้านด้วยว่า
ประการที่ ๑ ยังให้มีการดำเนินการเหมือนที่ท่านประธานแจ้ง คือวันจันทร์และ วันอังคารงดการประชุมทุกคณะ เว้นไว้แต่จำเป็น เหตุจำเป็นจริง ๆ นั่นเรื่องหนึ่งและไม่ควร จะมีข้อยกเว้น
ประการที่ ๑ ยังให้มีการดำเนินการเหมือนที่ท่านประธานแจ้ง คือวันจันทร์และ วันอังคารงดการประชุมทุกคณะ เว้นไว้แต่จำเป็น เหตุจำเป็นจริง ๆ นั่นเรื่องหนึ่งและไม่ควร จะมีข้อยกเว้น
ประการที่ ๒ มีบางท่านพูดมาครับท่านว่าเช้าปล่อยให้มีการประชุม กรรมาธิการตามปกติทั้งวันจันทร์และวันอังคาร แล้วก็เริ่มประชุมสภาใหญ่คือสภาปฏิรูปแห่งชาติ เริ่มเสียตั้งแต่บ่ายโมงจะเสร็จ ๒ ทุ่ม ๓ ทุ่มว่ากันไป เพราะฉะนั้นงานทุกอย่างก็จะได้ เดินไปได้ด้วย ดังนั้นผมว่าเสียงสะท้อนของท่านสมาชิกจะมีส่วนสำคัญและร่วมกันพิจารณา หาความพอดีให้เกิดในที่ประชุมมากที่สุด ดีกว่าที่จะพูดกันคนละกลุ่มคนละด้าน แล้วหาข้อยุติมิได้ ผมจึงเสนอเป็นประเด็นที่ ๒
ประการที่ ๒ มีบางท่านพูดมาครับท่านว่าเช้าปล่อยให้มีการประชุม กรรมาธิการตามปกติทั้งวันจันทร์และวันอังคาร แล้วก็เริ่มประชุมสภาใหญ่คือสภาปฏิรูปแห่งชาติ เริ่มเสียตั้งแต่บ่ายโมงจะเสร็จ ๒ ทุ่ม ๓ ทุ่มว่ากันไป เพราะฉะนั้นงานทุกอย่างก็จะได้ เดินไปได้ด้วย ดังนั้นผมว่าเสียงสะท้อนของท่านสมาชิกจะมีส่วนสำคัญและร่วมกันพิจารณา หาความพอดีให้เกิดในที่ประชุมมากที่สุด ดีกว่าที่จะพูดกันคนละกลุ่มคนละด้าน แล้วหาข้อยุติมิได้ ผมจึงเสนอเป็นประเด็นที่ ๒
ประเด็นที่ ๓ ครับท่านประธาน ผ่านไปยังเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ มีกรรมาธิการและท่านสมาชิกหลายท่านบอกก็เป็นอนุอยู่ตั้ง ๕-๗ คณะ อนุกรรมาธิการเรามี มากเกินไปครับ จนบางท่านวิ่งประชุมอย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วไม่ได้อะไรเลยนะครับ ประเด็นตรงนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเองก็เห็นว่าเรามีอนุมากเหลือเกินครับ ประเด็นตรงนี้ก็อยากจะหารือต่อท่านประธานผ่านไปยังที่ประชุมว่าเราน่าจะมีการควบรวม หรือมีการบริหารจัดการกันเสีย เพราะเพื่อนสมาชิกเองก็บ่นว่าวันหนึ่งประชุมตั้ง ๔ คณะ ๓ คณะจะประชุมได้อย่างไรไหว แล้วได้อย่างละนิดอย่างละหน่อยไม่เป็นมรรคเป็นผล ในแต่ละประเด็น เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนท่านประธานเพื่อหารือต่อเพื่อนสมาชิก และหาข้อยุติร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินงานนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไปครับ กราบขอบพระคุณครับท่านประธาน
ประเด็นที่ ๓ ครับท่านประธาน ผ่านไปยังเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ มีกรรมาธิการและท่านสมาชิกหลายท่านบอกก็เป็นอนุอยู่ตั้ง ๕-๗ คณะ อนุกรรมาธิการเรามี มากเกินไปครับ จนบางท่านวิ่งประชุมอย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วไม่ได้อะไรเลยนะครับ ประเด็นตรงนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติเองก็เห็นว่าเรามีอนุมากเหลือเกินครับ ประเด็นตรงนี้ก็อยากจะหารือต่อท่านประธานผ่านไปยังที่ประชุมว่าเราน่าจะมีการควบรวม หรือมีการบริหารจัดการกันเสีย เพราะเพื่อนสมาชิกเองก็บ่นว่าวันหนึ่งประชุมตั้ง ๔ คณะ ๓ คณะจะประชุมได้อย่างไรไหว แล้วได้อย่างละนิดอย่างละหน่อยไม่เป็นมรรคเป็นผล ในแต่ละประเด็น เพราะฉะนั้นผมจึงกราบเรียนท่านประธานเพื่อหารือต่อเพื่อนสมาชิก และหาข้อยุติร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินงานนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไปครับ กราบขอบพระคุณครับท่านประธาน