กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ กระผม จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วันนี้ได้รับมอบหมายจาก ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้เป็นผู้ตอบกระทู้ถามสดกรณีผลกระทบ ที่เกิดจากเหตุการณ์ในอิสราเอลในวันนี้ ก่อนอื่นเลยผมต้องขอเรียนว่าสงครามความขัดแย้ง ความรุนแรงระหว่างประเทศมิได้ก่อให้เกิดผลดีและประการใด แต่ทำให้เกิดความสูญเสีย ต่อคน ต่อครอบครัว และต่อประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสูญเสียที่เกิดกับผู้ที่ไม่มี ส่วนเกี่ยวข้อง ดังเช่นเหตุการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในครั้งนี้ ในนามของ รัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งคนไทย และคนต่างชาติ และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ขอรายงานสถานการณ์เบื้องต้นว่าปัจจุบันการโจมตีทางอากาศของกลุ่มฮามาสยังคง ดำเนินอยู่ ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ยังได้รับรายงานอยู่ว่ายังมีการยิงจรวดกันอยู่ในอิสราเอล ซึ่งนับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้มีมากกว่า ๔,๐๐๐ ลูกแล้ว มีเป้าหมายโจมตีในพื้นที่ที่เป็น ความเสียหายแก่สาธารณูปโภค เช่น สนามบิน หรือโรงไฟฟ้า กองทัพอิสราเอลสามารถกำจัด กลุ่มฮามาสได้บางส่วน โดยคาดการณ์ว่ามีกลุ่มฮามาสประมาณ ๔๐๐ คน ที่แทรกซึมเข้าไป ก่อเหตุในอิสราเอล และมีกลุ่มอื่นที่แทรกซึมเข้ามาจากชายแดนของเลบานอนเพื่อร่วม สนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ ในฉนวนกาซาด้วย รัฐบาลอิสราเอลตอบโต้ด้วยความรุนแรง โดยเป็น การโจมตีทางอากาศที่มีเป้าหมายที่กลุ่มฮามาส รวมทั้งปิดล้อมฉนวนกาซา สั่งตัดการส่ง ไฟฟ้าและการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่พื้นที่บริเวณฉนวนกาซา ซึ่งปัจจุบันปาเลสไตน์บาดเจ็บ จากการตอบโต้ของอิสราเอลแล้วประมาณ ๕,๑๘๔ คน เสียชีวิตถึง ๑,๐๕๕ คน และมี ผู้พลัดถิ่นปาเลสไตน์ภายในประเทศกว่า ๑๒๓,๐๐๐ คน ในขณะเดียวกันประเทศอิสราเอล ได้เรียกกำลังพลจากทั่วประเทศ ทั่วโลกให้กลับมาประจำการที่อิสราเอลกว่า ๓๐๐,๐๐๐ นาย ไปประจำการภายใต้สถานการณ์ที่อยู่ในภาวะสงครามที่ประชาคม ระหว่างประเทศได้เรียกร้องให้ยุติใช้ความรุนแรงและความขัดแย้ง รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนไม่เป็นคู่ขัดแย้งประการใด และพลเมืองไทยผู้บริสุทธิ์เดินทาง ไปประกอบอาชีพที่อิสราเอลซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการสู้รบใด ๆ ต้องมาเสียชีวิต บาดเจ็บ ตกเป็น ตัวประกัน รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนเฉย และทำทุกวิถีทางอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือ และปกป้องดูแลพี่น้องคนไทยเพื่อให้พ้นจากเหตุการณ์นี้ ภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ของสถานการณ์การสู้รบ
ในส่วนผลกระทบของคนไทย การโจมตีและการสู้รบในเขตฉนวนกาซา ส่งผลกระทบต่อคนไทยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีจำนวน ๕,๐๐๐ คน จาก ๓๐,๐๐๐ คน ที่เป็น แรงงานทั้งหมด ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิต ๒๑ คน ทั้งนี้ต้องเรียนว่าด้วยสถานการณ์การสู้รบ ในอิสราเอล ทางการอิสราเอลไม่สามารถที่จะยืนยันตัวตนได้ ณ ขณะนี้ และมีผู้บาดเจ็บ ๑๔ คน ผู้ถูกลักพาตัว ๑๖ คน สำหรับการดำเนินการของรัฐบาลในการช่วยเหลือคนไทย รวมทั้งการอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล มีดังนี้
รัฐบาลได้ตั้งศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน เรียกว่า Rapid Response Center เป็นกลไกหลักในการพิจารณาเรื่องให้ความช่วยเหลือคนไทยเร่งด่วน ไปจนถึงการอพยพ และการเสนอนายกรัฐมนตรีตัดสินใจเมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา ศูนย์ประสานงาน RRC ทำงานแข่งกับเวลา เราทำงานทุกวินาทีเพราะเราเข้าใจพี่น้อง ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สถานการณ์ในอิสราเอล เราจึงทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด โดยกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดการประชุม ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ภายใน ๒๔ ชั่วโมงแรก และมีการประชุมทุกวันเรื่อยมาจนถึง วันนี้มีการตอบกระทู้ ซึ่งบ่ายวันนี้ผมก็ได้กลับเข้าไปประชุม RRC อีกรอบหนึ่ง รัฐบาลไทย ให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบ แบ่งออกเป็น ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ถูก จับตัวเป็นตัวประกัน และผู้ขออพยพกลับ ในส่วนของผู้เสียชีวิตขณะนี้ ๒๑ คน เป็นตัวเลข ที่ได้รับจากนายจ้าง สำนักงานฝ่ายแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยัน อย่างเป็นทางการ ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตไทยได้มีการติดต่อกับทางกระทรวงการต่างประเทศ ของอิสราเอลแล้ว ได้รับแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ ๒ สัปดาห์ในการยืนยันตัวตน ของผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีจำนวนมาก ทั้งทางอิสราเอลประกาศว่า จะเยียวยาเหยื่อจากภัยสงครามนี้ด้วย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บในชั้นนี้ได้รับแจ้งว่ามีจำนวน ๑๔ คน โดยสถานเอกอัครราชทูตได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่เข้ารับ รักษาตัวที่โรงพยาบาล และจัดส่งผู้บาดเจ็บเล็กน้อยกลับบ้าน ประเทศไทยโดยเที่ยวบิน พาณิชย์ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ซึ่งขณะนี้เครื่องบินกำลังจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีผู้บาดเจ็บแล้วก็แรงงานกลับมา ๑๕ คน ส่วนผู้ถูกจับเป็นตัวประกันขณะนี้มีจำนวน ๑๖ คน โดยขอเรียนว่ากระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีภารกิจหน้าที่ทางการทูตได้ใช้ ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสื่อสารไปยังปาเลสไตน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มฮามาสที่จับ ตัวประกันคนไทยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้เพื่อให้ปล่อยตัวคนไทยทั้ง ๑๖ คน ซึ่งต้องเรียนว่าปาเลสไตน์ไม่ได้มีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย กระทรวง การต่างประเทศจึงได้ประสานสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในไทยที่มีความสัมพันธ์ กับปาเลสไตน์ ขณะเดียวกันได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูตในต่างประเทศรวมถึงการใช้กลไก ASEAN เพื่อพบกับผู้แทนปาเลสไตน์ในการขอให้ปล่อยตัวคนไทยทั้งหมดในโอกาสแรก รวมถึงการประสานงานไปยังองค์กรระหว่างประเทศ คือหน่วยบรรเทาทุกข์และปฏิบัติงาน เพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ตะวันออก หรือ UNRWA สำนักงานเพื่อการประสานงาน ด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ UNOCHA แล้วก็คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ICRC นอกจากนี้หน่วยงานความมั่นคง เช่นสำนักงานความมั่นคงและสำนักงานข่าวกรอง แห่งชาติ ได้พยายามให้ใช้ช่องทางที่มีการช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้เดินทางเยือนประเทศมาเลเซียในระหว่างการหารือกัน ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และหยิบยกประเด็นการช่วยเหลือคนไทยจากเหตุการณ์ ความรุนแรงในตะวันออกกลาง จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือจากประเทศมาเลเซียที่มี ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันซึ่งมาเลเซียที่มีสำนักงานปาเลสไตน์ตั้งอยู่ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน เนื่องจากเป็นเหตุความมั่นคงและอาจไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอย่างเชิงลึกได้ แต่ขอให้มั่นใจ ว่ารัฐบาลได้ทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลพี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ครับ
ขอบคุณครับ สำหรับการติดต่อสถานเอกอัครราชทูตและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดให้พี่น้องประชาชนสามารถโทรศัพท์ติดต่อ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ที่เบอร์ ๐ ๒๕๗๒ ๘๔๔๒ นอกเหนือจากเบอร์โทรศัพท์ของกองคุ้มครอง และดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล เบอร์ ๐๖ ๔๐๑๙ ๘๕๓๐ กระทรวงแรงงานได้เปิดสายด่วนฉุกเฉิน ๑๙๖๔ แล้วยังมีการเปิดช่องทาง Social media อื่น ๆ ก็คือมีทั้ง LINE OpenChat Call center Facebook แล้วก็ e-Mail แล้วในขณะนี้ ได้ทราบว่ามีพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่เยอะ ติดต่อเข้ามาทางช่องทาง ทั้งหลายนี้นะครับ ทางกระทรวงการต่างประเทศที่ประเทศไทยจะเป็นคนประสานงานไปยัง ผู้ได้รับผลกระทบแรงงานทุกคนที่อิสราเอลแทน เพราะว่าสถานการณ์ฉุกเฉินตอนนี้ ในประเทศอิสราเอลมีการสู้รบกันต่อเนื่อง และสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างปกติเพราะเนื่องจากมีระเบิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ส่วนนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศประจำประเทศไทยจะเป็นคนประสานงานเอง แล้วก็แนวทาง ในการเยียวยาคนไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอลก็เป็นไปตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานได้ทำงานในต่างประเทศ โดยคนที่เดินทางกลับมา เนื่องจากภาวะสงครามจะได้รับเงินสงเคราะห์ ๑๕,๐๐๐ บาท กรณีพิการ ๑๕,๐๐๐ บาท กรณีทุพพลภาพ ๓๐,๐๐๐ บาท กรณีเสียชีวิต ๔๐,๐๐๐ บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ ในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนการให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ ผู้อพยพกลับไทยให้สามารถกลับไปทำงานได้ที่อิสราเอลนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของ กระทรวงแรงงาน โดยกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่ให้การสนับสนุนการหารือ ทางการอิสราเอลเกี่ยวกับการส่งแรงงานไทยกลับไปทำงานอิสราเอลอีกครั้งหลังสถานการณ์ กลับมาเป็นปกติ
ส่วนการอพยพตอนนี้ อย่างที่เรียนตอนต้นว่ารอบแรกจะเดินทางมาถึงวันนี้ ตอน ๑๑.๑๖ นาฬิกา ในวันที่ ๑๕ เราจะมีเครื่องบินของกองทัพอากาศไปรับผู้อพยพอีก ๑๒๐ คนในช่วงเช้า แล้วก็อีก ๑๐๐ คนในช่วงเย็น แล้วก็จะมีอีกรอบหนึ่งคือวันที่ ๑๘ แต่ขอเรียนที่ประชุมว่าระหว่างวันเรายังพยายามหาช่องทางอื่น ๆ ที่สามารถจะอพยพ คนออกมาได้เร็วที่สุด เมื่อคืนนี้ทางท่านนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการไปที่ กระทรวงการต่างประเทศแล้วว่าจะต้องเพิ่มเที่ยวบินให้ได้มากที่สุดเพื่อจะไปรับคนไทย ออกมา อาจจะใช้หลายวิธี เพราะว่าเราได้ลองหลายวิธีมาก ๆ ตั้งแต่การเดินทางโดยอากาศ ทางบก ทางน้ำ ก็ต้องเรียนว่าตอนนี้พออิสราเอลอยู่ในภาวะสงคราม การเดินทางทั้งทางน้ำ และทางบกค่อนข้างเป็นไปได้ยาก หรือแม้กระทั่งทางอากาศตอนนี้ในบางช่วงเวลาก็มีการปิด น่านฟ้าแล้วด้วย ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ในส่วนของการเยียวยาทางจิตใจ ทางกระทรวงสาธารณสุข กระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพบ ครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดแล้ว และในส่วนของการเยียวยาที่เป็นจำนวนเงิน ก็อย่างที่เรียนไปข้างต้นว่าจะได้รับเงินสงเคราะห์ ๑๕,๐๐๐ บาท ทุกคนที่กลับมา กรณีพิการ ๑๕,๐๐๐ บาท กรณีทุพพลภาพ ๓๐,๐๐๐ บาท กรณีเสียชีวิต ๔๐,๐๐๐ บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริง หรือไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานครับ ในส่วนของ War room เราได้ตั้งศูนย์ RRC ตั้งอยู่ที่กระทรวง การต่างประเทศ เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานทุกหน่วยงานที่ท่านว่ามา เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กองทัพ ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ แล้วก็ หน่วยข่าวกรอง อันนี้มีอยู่แล้ว แล้วก็ทำงาน ๒๔ ชั่วโมง ในส่วนที่เป็นของ Call Center ทั้งทาง Social Media ทุกอย่าง เราได้เปิด LINE OpenChat เรามี Facebook ที่รับเรื่อง ร้องเรียนทุกอย่าง แล้วก็ขอเรียนท่านว่าจริง ๆ ท่านคุยโทรศัพท์กับทางประชาชนตรงนั้น ผมก็ไม่รู้สึกแตกต่างกัน เพราะผมก็ได้คุยกับท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำเทลอาวีฟ เหมือนกัน เมื่อคืนนี้คุยกันตอนเที่ยงคืนกว่า ท่านก็ยังบอกเลยว่ายังมีจรวด ยังมีการสู้รบ อย่างต่อเนื่อง ทางรัฐบาลเป็นห่วงคนไทยทุกคน เป็นห่วงข้าราชการทุกคนที่ทำงาน อย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่เป็นแบบนี้ แต่ต้องเรียนว่าข้อจำกัดของอิสราเอลตอนนี้คือ ทั้งทางบกก็มีการปิดถนนในหลายพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของทางประเทศอิสราเอลเอง ในทางน้ำเราได้พยายามเจรจา แต่ว่าเส้นทางการเดินทางที่จะอพยพคนจากอิสราเอลจะต้อง ผ่านจุดเสี่ยง เป็นจุดที่มีการสู้รบอย่างหนักอยู่ ก็คงจะเป็นเรื่องยาก ส่วน Option ที่บอกว่า จะไปจอร์แดน ไปอียิปต์ เราก็ดูไว้เหมือนกัน แต่ว่าทางพรมแดนในบางจุดก็มีการปิด เป็นระยะ ๆ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะกำหนดได้เลยว่าช่วงไหนจะมีการเปิด การปิด อย่างเช่น เมื่อวานนี้ตอนที่เครื่องบินที่จะกลับมาประเทศไทย น่านฟ้าก็มีการปิดเป็นระยะ ๆ
ส่วนเรื่องของการกู้หนี้ยืมสิน เรื่องของการเบี้ยวค่าแรงพวกนี้ ทางกระทรวง แรงงานได้มีการคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าจะต้องมีการเยียวยาในกลุ่มคนที่เดินทางไปทำงาน ที่อิสราเอลจะต้องได้รับการชดเชยอะไร อย่างไร อันนี้กำลังจะพิจารณากันอยู่
การขนย้ายคนออก ต้องเรียนตรง ๆ ว่าการที่จะขับรถออกมาได้ ต้องขออนุญาตจากทางการของอิสราเอลก่อน เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่ออกมาโดยที่ไม่ได้ขอ แล้วก็เกิดการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งอันนี้ยิ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะจะกลายเป็นว่า ประชาชนของเราจะได้รับความเสี่ยงในส่วนนี้ ซึ่งทุกครั้งที่มีการเดินทาง ทางกระทรวง การต่างประเทศ ทางสำนักงานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลจะต้องมีการรายงาน กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลทุกครั้ง ต้องเรียนว่าเรามีแรงงานอยู่ทั่วประเทศ ถึง ๓๐,๐๐๐ คน การที่เราจะมีการติดต่อ บางครั้งเราติดต่อไปได้แล้วก็ได้รับทราบกลับมาว่า ทางแรงงานไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เพราะว่าทางการของอิสราเอลต้องเร่ง การอพยพคนออกจากจุดที่มีความเสี่ยงสูงก่อนมายังที่ที่ปลอดภัย ซึ่งที่ที่ปลอดภัย ทางแรงงานเราบางท่านก็สามารถใช้โทรศัพท์เป็น ก็มีการส่ง Location มาให้ได้ แต่ถ้าเกิดท่านใดไม่สามารถทำได้ ก็ต้องมานั่งคุยกับทางล่าม ทางคนแถวนั้น เพื่อจะให้ข้อมูล ได้มากที่สุด ก็ยืนยันอยู่ว่าทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลทำงานอย่างเต็มที่ เราใช้ทั้งล่าม เราใช้ทุกอย่างที่มีอยู่ และด้วยจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีจำกัด ทางกระทรวง การต่างประเทศได้ส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเข้าไปให้แล้วที่อิสราเอล แล้วก็ได้ส่งคนที่อยู่ใน ประเทศรอบ ๆ เพื่อจะเข้าไปช่วยในเหตุการณ์นี้
ส่วนที่เป็นผู้บาดเจ็บ ผู้บาดเจ็บทุกคนตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าเกิด คนไหนมีอาการที่ดีขึ้นแล้วก็จะมีการให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ดูแลทุกคน ได้เข้าไปเยี่ยม ได้เข้าไปพูดคุย แล้วก็การติดต่อ ทุกอย่าง ต้องเรียนอย่างนี้ว่าคน ๓๐,๐๐๐ คน ที่อยู่ที่อิสราเอลเรามีจำนวนค่อนข้างจำกัด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าศูนย์ RRC นี้จะรับเรื่องร้องเรียนทุกอย่างเข้ามาไว้ แล้วจะเป็นคนคอยติดต่อ ไปทางแรงงานทุกคนครับ ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานครับ ในส่วนการเจรจาอย่างที่เมื่อสักครู่เรียนในกระทู้ถามที่แล้ว เราเจรจาประเทศรอบ ๆ ทุกประเทศแล้วว่าถ้าเกิดเราจะขออพยพคนไปทาง ประเทศจอร์แดนหรือประเทศอียิปต์ แต่อย่างที่เมื่อสักครู่ก็เรียนว่าชายแดนตอนนี้ บางชายแดนเริ่มปิดแล้ว เพราะว่าการเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟไปชายแดนมีความเสี่ยง ตลอดเหมือนกัน อันนี้ได้คุยกับทางท่านทูตแล้ว ท่านทูตก็พยายามที่จะหารถจากทางการ ของอิสราเอลเพื่อจะส่งไป แต่ด้วยความที่ตอนนี้อย่างที่เรียนตั้งแต่กระทู้ถามที่แล้วว่ามีจรวด เข้ามาที่อิสราเอลถึง ๔,๐๐๐ กว่าลูกแล้วตอนนี้ ซึ่งเราไม่สามารถที่จะประมาณการเรื่องอะไร ได้เลยนะครับ
ในส่วนของการตั้งศูนย์อพยพ อีกครั้งหนึ่งครับ คือประเทศอิสราเอลมีจำนวน แรงงานของเราถึง ๓๐,๐๐๐ คน ๕,๐๐๐ คน คืออยู่ในส่วนที่เป็นฉนวนกาซา ซึ่งเป็นจุดที่มี ความเสี่ยงสูง Priority ของเราตอนนี้เราจะต้องอพยพคนจากส่วนที่มีความเสี่ยงสูง ออกมาก่อน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทางการของอิสราเอลเป็นคนคอยช่วยเหลือในส่วนนี้ อย่างที่มีภาพออกไปเมื่อ ๒ คืนที่แล้ว ถ้าเกิดสามารถจับกลุ่มได้เราตั้งศูนย์อพยพแน่นอนครับ
ในส่วนของการกลับไปทำงานที่อิสราเอล อันนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้คุยกับทางกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลเรียบร้อยแล้ว และทางกระทรวง การต่างประเทศอิสราเอลให้คำมั่นแล้วว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบในรอบนี้จะได้รับ การพิจารณาเป็นพิเศษนะครับ
เรื่องของการเพิ่มคู่สายใน Call Center อันนี้เราเพิ่มมาตลอด ขอบคุณครับ
เรียนท่านประธานครับ ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ ยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทำงานเต็มที่ที่จะพาคนไทยทุกคนกลับบ้าน แต่เรื่องของศูนย์อพยพ จริง ๆ ได้สั่งการ ไปตั้งแต่วันแรกที่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่อย่างที่เรียนครับว่าด้วยความที่แรงงาน กระจัดกระจาย และจุดที่เสี่ยงตรงนี้ทำให้การอพยพจากพื้นที่เสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พออพยพออกมาได้แล้ว การที่จะมีศูนย์อพยพของไทยเองเลยอันนี้อยากทำมากครับ เรียนตรง ๆ เลย เพราะว่าข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่ทำให้เราส่งคนไทยกลับมาได้เยอะ ๆ ทีเดียว ไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เครื่องบินลงไปรับคนจะต้องรอให้ทางการของอิสราเอลค่อย ๆ พาคน ทีละกลุ่ม ๆ มาที่สนามบินและค่อยขึ้นเครื่องได้ เรามีเครื่องบิน ท่านนายกรัฐมนตรีก็พยายาม หาเครื่องบินเพิ่มเติมให้อยู่ ซึ่งเครื่องบินจะไม่มีประโยชน์ถ้าเกิดไม่มีแรงงานสามารถ ขึ้นเครื่องได้ อันนี้การบริหารจัดการของเรา เราเป็น Matching ทุกครั้งว่าเราทราบอย่างไร ได้บ้างว่ามีแรงงานอยู่ตรงไหน มีจำนวนเท่าไร และพร้อมที่จะขึ้นเครื่องได้เลยเท่าไร และเรา ก็จะจัดการแบบนี้ ถึงได้มีการ Plan มาว่าวันที่ ๑๓ มีเท่านี้ วันที่ ๑๕ มีเท่านี้ วันที่ ๑๘ มีเท่านี้ อันนี้คือการบริหารจัดการของหน้างานด้วย ที่เขาจะต้องคอยดูว่าประชาชนตรงนั้น พร้อมแค่ไหนที่จะเดินทาง และอย่างที่เรียนครับว่าช่วงนี้คงต้องขอกำลังใจจาก สส. ผู้ทรงเกียรติทุกท่านไปยังประชาชนที่อยู่ที่อิสราเอล ประชาชนของเราได้รับความเดือดร้อน จริง ๆ เราใช้ทุกวิถีทางที่จะสามารถทำได้ ทั้งทางการทูต ไม่ว่าจะในประเทศ หรือนอก ประเทศ หรือผ่านองค์การระดับชาติ ขอบคุณครับ