กราบเรียนท่านประธานครับ เรื่องของผมเป็น เรื่องเบา ๆ ครับ คือผมคิดว่าสภาแห่งนี้ค่อนข้างจะเครียดแล้วก็วังเวงสักหน่อย ผมก็เลยเอา เพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พวกเราอาจจะ ไม่ทราบว่าทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ ๓ เพลง ซึ่งเป็นเพลงสำคัญ ซึ่งแสดงถึงพัฒนาการของ ดนตรีไทยด้วยครับ ๓ เพลง คือ ๑. ราตรีประดับดาว ๒. โหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง ๓. เขมรลออองค์ ที่ว่าสำคัญก็คือว่าเพลงเขมรลออองค์นั้นทรงพระราชนิพนธ์แบบขนบเดิม คือหมายความว่า ถ้าร้องก็ร้องเอื้อนแบบเดิม แต่เพลงราตรีประดับดาวนี้เป็นพัฒนาการใหม่ซึ่งใส่คำร้องไปใน ทำนองแบบศัพท์ภาษาสมัยใหม่ที่เรียกว่าเนื้อเต็ม คือหมายความว่าเอื้อนน้อย อันนี้เป็น พัฒนาการมาสู่เพลงไทยสากลปัจจุบัน แล้วก็เพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่งมีนัยที่ส่อเค้าสำคัญ มาก ๆ ทรงใช้เสียงของคลื่นจริง ๆ เข้ามาอยู่ในเพลง แล้วก็เพลงนี้มีประวัติที่น่าสนใจตรงที่ว่า คุณอิงอรหรือคุณศักดิ์เกษม หุตาคม ซึ่งเป็นนักประพันธ์ผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า สมัยท่านเป็นลูกเสืออยู่โรงเรียนมหาวชิราวุธที่สงขลา ท่านมีหน้าที่ไปตั้งแถวเพื่อเฝ้าหาด ซึ่งหาดทรายที่แหลมสน ซึ่งมีพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้า รำไพพรรณีประทับเป็นส่วนพระองค์อยู่ที่นั่น และท่านเล่าให้ฟังว่าแรงบันดาลใจอันนั้น ท่านเลยมาแต่งเรื่องดรรชนีนางครับ ผมคิดว่าอยากให้ฟังเพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง ที่เป็นลีลาสมัยใหม่สักนิดหนึ่งครับ
กราบเรียนท่านประธานครับ เรื่องของผมเป็น เรื่องเบา ๆ ครับ คือผมคิดว่าสภาแห่งนี้ค่อนข้างจะเครียดแล้วก็วังเวงสักหน่อย ผมก็เลยเอา เพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พวกเราอาจจะ ไม่ทราบว่าทรงพระราชนิพนธ์เพลงไว้ ๓ เพลง ซึ่งเป็นเพลงสำคัญ ซึ่งแสดงถึงพัฒนาการของ ดนตรีไทยด้วยครับ ๓ เพลง คือ ๑. ราตรีประดับดาว ๒. โหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง ๓. เขมรลออองค์ ที่ว่าสำคัญก็คือว่าเพลงเขมรลออองค์นั้นทรงพระราชนิพนธ์แบบขนบเดิม คือหมายความว่า ถ้าร้องก็ร้องเอื้อนแบบเดิม แต่เพลงราตรีประดับดาวนี้เป็นพัฒนาการใหม่ซึ่งใส่คำร้องไปใน ทำนองแบบศัพท์ภาษาสมัยใหม่ที่เรียกว่าเนื้อเต็ม คือหมายความว่าเอื้อนน้อย อันนี้เป็น พัฒนาการมาสู่เพลงไทยสากลปัจจุบัน แล้วก็เพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่งมีนัยที่ส่อเค้าสำคัญ มาก ๆ ทรงใช้เสียงของคลื่นจริง ๆ เข้ามาอยู่ในเพลง แล้วก็เพลงนี้มีประวัติที่น่าสนใจตรงที่ว่า คุณอิงอรหรือคุณศักดิ์เกษม หุตาคม ซึ่งเป็นนักประพันธ์ผู้ล่วงลับไปแล้ว ท่านเคยเล่าให้ผมฟังว่า สมัยท่านเป็นลูกเสืออยู่โรงเรียนมหาวชิราวุธที่สงขลา ท่านมีหน้าที่ไปตั้งแถวเพื่อเฝ้าหาด ซึ่งหาดทรายที่แหลมสน ซึ่งมีพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้า รำไพพรรณีประทับเป็นส่วนพระองค์อยู่ที่นั่น และท่านเล่าให้ฟังว่าแรงบันดาลใจอันนั้น ท่านเลยมาแต่งเรื่องดรรชนีนางครับ ผมคิดว่าอยากให้ฟังเพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง ที่เป็นลีลาสมัยใหม่สักนิดหนึ่งครับ
เท่านี้ละครับ คือผมอยากหารือว่าช่วงที่ก่อน เปิดสภามีเวลาว่างอยากให้เปิดเพลงพวกนี้เป็นบรรยากาศ แล้วก็เป็นมงคลแก่หูของชาวสภา ด้วยครับ ขอบคุณครับ
เท่านี้ละครับ คือผมอยากหารือว่าช่วงที่ก่อน เปิดสภามีเวลาว่างอยากให้เปิดเพลงพวกนี้เป็นบรรยากาศ แล้วก็เป็นมงคลแก่หูของชาวสภา ด้วยครับ ขอบคุณครับ
ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการคณะกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา ขอแต่งตั้ง นายประสาร มฤคพิทักษ์ แทนตำแหน่งที่ลาออกคือ คุณกิตติ โกสินสกุล ขอแต่งตั้ง คุณประสาร มฤคพิทักษ์ ครับ
ท่านประธานที่เคารพครับ กระผม เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการคณะกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา ขอแต่งตั้ง นายประสาร มฤคพิทักษ์ แทนตำแหน่งที่ลาออกคือ คุณกิตติ โกสินสกุล ขอแต่งตั้ง คุณประสาร มฤคพิทักษ์ ครับ
กระผม เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ขอเสนอ คุณนิรันดร์ พันทรกิจ ครับ
ท่านประธานที่เคารพ ผม เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ในวาระแรกนี้ผมขอตั้งข้อสังเกตเท่านั้นละครับ ยังไม่ก้าวล่วงไปถึงการแก้ไข โดยเฉพาะ ข้อ ๘๐ (๑๕) ที่ว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญ ปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนานั้น ผมตั้งข้อสังเกตว่าคำว่า ปฏิรูปค่านิยมนี้มันฟังดูทะแม่ง ๆ นิด ๆ นะครับ อย่างไรก็ฝากเป็นข้อสังเกตไว้ครับ เพื่อการแก้ไขหรือจะถกอภิปรายกันในวาระต่อไปครับ ขอบคุณครับ
ท่านประธานครับ ผม เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ หมายเลข ๑๑๗ ขอแก้ถ้อยคำนิดเดียวครับ ข้อบังคับ ๘๐ (๑๕) ที่จริงยกมือจะพูด ตั้งแต่ต้นแล้วแต่ไม่ได้มีโอกาส ที่ว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปค่านิยม ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา นั้น ขอให้ตัดคำว่า ค่านิยม ออกครับ ก็จะเป็นว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา เหตุผลที่ขอตัด ก็เพราะว่าคำว่า ค่านิยม นั้นว่าที่จริงแล้วมันก็เป็นผลที่มาจากวัฒนธรรมบริโภคเท่านั้นเอง วัฒนธรรมของสังคมบริโภค ฉะนั้นค่านิยมมันจึงเป็นผลของวัฒนธรรม ท่านมีคำว่า วัฒนธรรมอยู่แล้วมันก็คลุมอยู่แล้วครับ เราค่อยไปเพ่งพิจารณาว่าวัฒนธรรมนั้นมันเป็น อย่างไรทำให้เกิดค่านิยมอย่างไร ฉะนั้นผมคิดว่าให้มันกระชับและชัดเจนก็เหลือแค่ ศิลปะ วัฒนธรรม จริยธรรมและการศาสนา ก็น่าจะพอครับ