นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร

  • กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครนายก เขต ๒ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมขอนำความเดือดร้อนใจของชาวจังหวัดนครนายกที่มีต่อการก่อสร้าง เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยถึงขนาด ๒๐ เมกะวัตต์ ที่จะสร้างที่ตำบล ทรายมูล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยจะมีการทำประชาพิจารณ์ครั้งสุดท้าย ในวันที่ ๑๐ กันยายนที่จะถึงนี้ครับ ซึ่งมีข้อสงสัยมากมาย

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๑ สถานที่นี้เหมาะที่จะเป็นที่ตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่สถานที่นี้ผิดมาตรฐาน IAEA ถึง ๕ ข้อด้วยกัน อันได้แก่

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑ สถานที่ตั้งต้องไม่เป็นที่ลุ่มน้ำไม่ท่วมถึง แต่อำเภอองครักษ์ถูกกำหนด เป็นพื้นที่แก้มลิงแปลว่าน้ำท่วมทุกปี ขอ Slide ด้วยนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อที่ ๒ น้ำใต้ดินต้องอยู่ลึก แต่อำเภอองครักษ์เป็นที่ลุ่ม และน้ำใต้ดินอยู่ตื้นมาก ๆ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อที่ ๓ พื้นที่ต้องไม่เป็นดินอ่อน แต่ที่อำเภอองครักษ์เป็นพื้นที่ดินเหนียว และอ่อนมาก

    อ่านในการประชุม

  • ข้อที่ ๔ ต้องไม่มีแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว แต่ที่อำเภอองครักษ์นั้นเป็นพื้นที่ มีรอยเลื่อนแผ่นดินไหวพาดผ่าน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อที่ ๕ ต้องอยู่ห่างไกลชุมชน แต่ตรงนี้มีชุมชนมากมาย เช่น ตลาด โรงเรียน มหาวิทยาลัย ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ สตง. เคยตรวจพบความทุจริตโครงการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาด ๑๐ เมกะวัตต์ ที่อำเภอองครักษ์แห่งนี้มาก่อนแล้วในอดีต โดยได้พบว่าความไม่ถูกต้อง ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง และได้พบว่าบริษัทที่ชนะการประมูลนั้นไม่มีใบอนุญาต ความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์ จาก U.S. NRC จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชน รายนี้ แต่แล้วครั้งนี้จะกลับมาก่อสร้างใหม่ใหญ่กว่าเดิมถึง ๒ เท่า ท่านว่ามันจะเหมาะสม หรือไม่ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๓ ที่ผ่านมามีการทำประชาพิจารณ์ไปแล้วถึง ๒ ครั้ง โดยพากัน มารับสตางค์คนละ ๒๐๐ บาทพร้อมผ้าห่มจนเป็นข่าว ซึ่งการแจกเงินและสิ่งของนั้นถือได้ว่า ผิดต่อหลักการทำประชาพิจารณ์ของ FPIC ถือได้ว่าเป็นการทำลายอิสระทางความคิด ของประชาชน

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๔ เราจะรับความเสี่ยงได้ไหม หากเกิดอุบัติภัยสารกัมมันตภาพรังสี รั่วไหล รัศมีอันตรายถึง ๑๕๐ กิโลเมตรจะส่งผลกระทบถึง ๒๘ จังหวัดนะครับ ท่านเคยเห็น ข่าวเกี่ยวกับการปนเปื้อนในอาหาร น้ำ อากาศ บ้างไหม เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝัน แถมยังส่งผลร้ายสู่พันธุกรรมจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย ผมในฐานะตัวแทนของ พี่น้องชาวจังหวัดนครนายก ขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดพิจารณาพื้นที่ตั้ง เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในอำเภอองครักษ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ และการทำประชาพิจารณ์ ครั้งสุดท้ายในวันที่ ๑๐ กันยายนนี้ขอให้โปร่งใส จริงใจ สะท้อนปัญหาที่แท้จริงของ คนนครนายก ที่แสดงออกทางความคิดในครั้งนี้ และขอให้คำนึงถึงอันตรายต่อการรั่วไหล และปนเปื้อนอย่างจริงจังที่จะมีผลกระทบเป็นวงกว้างในวันข้างหน้าต่อไป ขอขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครนายก เขต ๒ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมขอปรึกษาหารือกับท่านประธานถึงความเดือดร้อน ของพี่น้องชาวจังหวัดนครนายก ทั้งอำเภอองครักษ์และอำเภอบ้านนา จำนวน ๓ ประเด็นด้วยกัน

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๑ ปัญหาผักตบชวา และวัชพืชจำนวนมากและหนาแน่น ทั้งในแม่น้ำในและแม่น้ำนอก จากตำบลโพธิ์แทน ถึงตำบลบางปลากด ระยะทางกว่า ๑๐ กิโลเมตร จากภาพที่ท่านประธานเห็นสีเขียว ๆ ไม่ใช่ทุ่งหญ้านะครับ เป็นวัชพืชผักตบชวาอยู่ในแม่น้ำจำนวนมาก โดยไม่มีหน่วยงานใดเลย เข้ามากำจัดวัชพืชเหล่านี้ให้หมดไป จึงก่อปัญหาต่าง ๆ มากมายดังต่อไปนี้ ปัญหาที่ ๑ ทำให้ เกิดน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ไม่สามารถใช้น้ำในการซักผ้าหรืออุปโภคบริโภคได้เลย ปัญหาที่ ๒ ทำให้เกิดการชะลอตัวในการระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนตลอด ๒ ฝั่งคลองในปัจจุบันนี้ และปัญหาที่ ๓ ไม่สามารถใช้แม่น้ำสายนี้ในการคมนาคมทางน้ำ ได้เหมือนเช่นเคย จากปัญหาต่าง ๆ ที่ผมกล่าวมานั้นดังไปถึงรายการบรรจงชงข่าว ช่องเวิร์คพอยท์ ๒๓ ได้ช่วยสะท้อนปัญหาของพี่น้องประชาชนในตำบลโพธิ์แทน อำเภอองค์รักษ์แห่งนี้ ถึงความเดือดร้อนเกี่ยวกับผักตบชวาและวัชพืชจำนวนมากนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนได้ทราบ ผมจึงขอฝากท่านประธานถึงหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นชลประทานนครนายก หรือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครนายก ให้ช่วยเร่งรัดกำจัดวัชพืชโดยด่วนครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ ปัญหาสะพานข้ามแม่น้ำชำรุดทรุดโทรม หมู่ที่ ๑ และหมู่ที่ ๗ ตำบลโพธิ์แทน มีความยาว ๔๒ เมตร มีสภาพคับแคบและประชาชนไม่สามารถใช้ได้ อย่างสะดวกสบาย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนครนายกช่วยจัดสรรงบประมาณ แก้ไขปัญหานี้ให้เป็นคอนกรีตเพื่อความสะดวกและปลอดภัยด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๓ ประเด็นสุดท้าย ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมเป็นวงกว้างในจังหวัด นครนายก ทั้งอำเภอบ้านนาและอำเภอองครักษ์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน หลายครัวเรือน เนื่องจากอำเภอองครักษ์เป็นพื้นที่รับน้ำจากการบริหารจัดการน้ำไม่ให้เข้าสู่ กรุงเทพมหานคร จึงผันน้ำเข้าสู่คลองสิบสี่ คลองสิบห้า คลองสิบหก สู่คลองสิบเจ็ด และลงสู่แม่น้ำบางปะกงออกสู่อ่าวไทย แต่การระบายน้ำที่ผ่านมาสู่แม่น้ำบางปะกงนั้น มีการชะลอตัวอย่างมาก ประกอบกับระดับน้ำทะเลหนุนสูงทำให้มวลน้ำยังคงอยู่ที่อำเภอ องครักษ์ สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ผมจึงขอฝาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งผันน้ำออกจากพื้นที่และเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ อย่างทั่วถึงทุกครัวเรือนด้วยครับ ขอฝากท่านประธานประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้ง ๓ ปัญหาทั้ง ๓ ประเด็นนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครนายก เขต ๒ พรรคเพื่อไทย วันนี้ผมขอปรึกษาหารือความเดือดร้อนของพี่น้องชาวเกษตรกร ในจังหวัดนครนายก ทั้งในตำบลบางสมบูรณ์ ตำบลบางลูกเสือ และตำบลศรีจุฬา เกี่ยวกับ ปัญหาน้ำกร่อยน้ำคลองชลประทานบางเม่าในขณะนี้

    อ่านในการประชุม

  • ปัญหาน้ำกร่อยเกิดจากปริมาณ น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำเค็มเข้ามาเจือปนกับน้ำในคลองชลประทาน มีระดับความเค็ม เกินมาตรฐานสร้างปัญหาหลัก ๆ ๒ ประเด็นด้วยกันนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๑ สร้างปัญหาให้ชาวนาไม่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ผลผลิตตามที่ ต้องการ เพราะน้ำกร่อยหรือน้ำเค็มในปีนี้หนุนสูงเร็วกว่าปกติ ทำให้เมล็ดข้าวลีบ ไม่ได้ น้ำหนัก ผลผลิตน้อย พี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนเป็นวงกว้าง สร้างความเสียหายให้พื้นที่ เพาะปลูกข้าว มากกว่า ๓,๕๐๐ ไร่ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นที่ ๒ น้ำกร่อยสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ๒ ฝั่งคลอง ไม่สามารถใช้น้ำมาอุปโภคบริโภคได้ เพราะปริมาณความเค็มเกินมาตรฐาน สร้างปัญหา ด้านสุขภาพ ให้กับประชาชน

    อ่านในการประชุม

  • ผมจึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านท่านประธาน เร่งแก้ไขความเดือดร้อน ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนดังต่อไปนี้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑ ขอให้เพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำและเร่งรัดผลักดันน้ำเค็ม ซึ่งปัจจุบันนี้ ชลประทานนครนายกปล่อยน้ำให้เกษตรกรใช้ในคลองชลประทานบางเม่าเพียงสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง จำนวน ๑,๓๐๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่เพียงพอ จึงขอให้เพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำ ในช่วงไม่เกิน ๑ เดือนนับจากนี้ เพราะข้าวกำลังตั้งท้อง ไม่เกินเดือนมีนาคมนี้จะเก็บเกี่ยว ข้าวได้หมด และยังช่วยแก้ปัญหาน้ำกินน้ำใช้อีกด้วยครับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๒ ขอให้เร่งรัดในการซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ซึ่งปัจจุบันนี้เกิดความ ชำรุดเสียหาย ไม่สามารถปิดกั้นน้ำเค็มได้ ซึ่งมีรูรั่วที่ประตูเหล็กหลายจุด เพราะน้ำเค็ม กัดกร่อนจึงขอให้เร่งซ่อมแซมตัวนี้ หรือหาวัสดุอื่นมาทดแทนรูรั่วเป็นการชั่วคราว

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายนี้ ผมขอฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหา เรื่องน้ำเพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ภายในเดือนมีนาคม เพราะปัจจุบันนี้ ราคาข้าวในยุครัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ถือว่าราคาดีมาก ชาวนาขายข้าวได้ เกวียนละ ๑๐,๐๐๐ กว่าบาท จึงขอโอกาสนี้ให้พี่น้องชาวนาได้ปลดหนี้และมีรายได้เพิ่มขึ้น ในโอกาสนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม