นายประสิชฌ์ วีระศิลป์

  • ซักถามได้เลยครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธาน กระผม ประสิชฌ์ วีระศิลป์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แห่งประเทศไทย ในส่วนของคำถามที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้กรุณาสอบถามแล้วก็ให้ คำแนะนำ จะขอตอบเป็นรวม ๆ นะครับ ประเด็นในส่วนผลประกอบการที่ผ่านมา ของทาง SME Bank เราได้มีการปรับปรุง เนื่องจากว่าเดิมในช่วงปี ๒๕๕๘ ธนาคาร มีผลประกอบการที่เข้าข่ายน่าเป็นห่วงคือเราต้องเข้าแผนฟื้นฟู ในตอนนั้นมีหนี้เสีย ถึงหลายหมื่นล้านบาท เราเข้าแผนฟื้นฟูแล้วก็ใช้เวลาประมาณ ๘ ปีในการที่แก้ไขปัญหา เหล่านี้ แล้วออกมาจากแผนฟื้นฟู แล้วก็ดำเนินการตามพันธกิจที่เราได้รับต่อเนื่องมา โดยตลอดจากปี ๒๕๕๘ ส่วน NPL ที่ท่านสมาชิกได้มีการสอบถามถึงก็คือว่าอันนั้นเป็นหนี้เก่า ตั้งแต่สมัยก่อนที่เราจะเข้าแผนฟื้นฟู ช่วงนั้นมีหนี้ประมาณ ๓๐,๐๐๐-๔๐,๐๐๐ ล้านบาท แล้วเราก็ทยอยแก้ปัญหาลด NPL ตัวนี้มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสุดท้ายนี้เราเหลืออยู่ประมาณ สัก ๙,๐๐๐ ล้านบาท ๙,๐๐๐ ล้านบาทนี้ก็เป็นอะไรที่เราจะต้องแก้ไขต่อไป เพราะว่ามันเป็น หนี้ที่อยู่กับธนาคารเรามาเป็น ๑๐ ปี เกิน ๑๐ ปีในบางราย ส่วนนี้เราก็มีแผนอยู่ว่าสุดท้าย ทรัพย์บางแปลงเราก็ต้องเข้าซื้อเพื่อให้มันเป็นทรัพย์ NPA ของธนาคารหรือการขายหนี้ออกไป หรือการเจรจาปิดหนี้โดยที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยที่เราเป็นเบี้ยปรับ เพื่อให้ลูกค้าเดิม สามารถเอามาชำระหรือมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ ที่สนใจมาเข้าซื้อ ตรงนี้ก็จะลดลงไปได้ ในที่สุด ส่วนหนี้ใหม่ที่เราเกิดขึ้นเราก็พยายามประคอง ในสภาวะที่ผ่านมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ตามที่ทุกท่านทราบก็คือเกิดปัญหาโควิดขึ้น ธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือ ลูกค้าโดยการที่ประคองปรับหนี้ให้จ่ายขั้นต่ำ ยืดระยะเวลาการกู้ออกไป แล้วเราก็เติม เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมให้ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้ยังพอที่จะคงสภาพการจ้างงานเอาไว้โดยที่ ไม่ต้องไล่คนออก ช่วงนี้ที่เราพยายามสู้กันมากับลูกค้าของเราเอง ลูกค้าเก่า แล้วก็ลูกค้าใหม่ บางส่วน โดยที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ออก พ.ร.ก. มาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ แล้วเราก็ถือเป็นพันธกิจหลักในการดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าเหล่านี้ เราก็สามารถที่จะพยุง ลูกค้าเหล่านี้ให้รอดพ้นวิกฤติออกมาได้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในส่วนของการเข้าถึง การเข้าถึงของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างที่เรียนว่า ธนาคารเรามี Outstanding อยู่ประมาณ ๑๐๙,๐๐๐ ล้านบาท อันนั้นหมายถึงยอดสินเชื่อ คงค้าง ณ สิ้นปี ในระหว่างปีลูกค้าก็จะมีเบิกเงินกู้ แล้วก็มีการคืนเงินกู้ ลูกค้าที่เป็นผ่อนชำระ ก็จะผ่อนไปเรื่อย ๆ เงินกู้ก็จะลดลง แล้วก็มีการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าอะไรใหม่ ๆ หรือลูกค้าอะไรเดิมที่มีการขยายตัว ขยายกิจการ แล้วก็เติมเงินให้เขา เพราะฉะนั้นส่วนที่เป็น เรื่องของ ๖๘,๐๐๐ ล้านบาทที่เป็นยอดเบิกจ่ายมันจะเป็นเรื่องของการที่เป็นเงินเบิกจ่าย แล้วก็ชำระคืนในระหว่างปี Net กันออกมา แต่จะไม่ใช่ในส่วนของว่ายอด Outstanding อยู่ที่ ๑๙๐,๐๐๐ ล้านบาท แล้วเบิกไปแค่ ๖๘,๐๐๐ ล้านบาท ต้องขอเรียนทำความเข้าใจ ตรงนี้นิดหนึ่งนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนในเรื่องของรายย่อย จริง ๆ คือตอนนี้ธนาคารเราได้พยายามแบ่งสัดส่วน การตลาดของลูกค้าเราออกเป็น ๔ กลุ่มหลัก ๆ ก็คือกลุ่มที่เป็นขนาดกลางหรือ Medium แล้วก็เป็นกลุ่มขนาดที่เป็น Upper SMEs หรือ SMEs ระดับที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แล้วก็ เป็น Lower SMEs คือ SMEs ที่ขนาดย่อมลงมานิดหนึ่ง แล้วลูกค้ากลุ่มที่ ๔ กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่ม Micro กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มรายย่อยที่เราพยายามเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งเดิมเรา ก็ช่วยเหลือมาตลอดนะครับ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ปรากฏภาพชัดเจนให้เห็น ในส่วนของ Micro อย่างที่ทุกท่านทราบเนื่องจากว่าเป็นรายย่อยความเสี่ยงค่อนข้างสูง เราปล่อยกู้ เราปล่อย ๑๐๐ เราเสียประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ กลุ่มนี้ก็เห็นภาพ แต่เราก็พยุงปรับปรุงนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในส่วนของสินเชื่อบางโครงการที่เราไปกำหนดเรื่องของต้องมีประสบการณ์ ๓ ปี เนื่องจากในการทำธุรกิจบางครั้งเราจะผ่อนปรนในเรื่องของหลักประกันไม่ต้องมีก็ได้ ก็คือเราใช้ บสย. ค้ำประกัน ในส่วนของประสบการณ์อย่างน้อยต้องมี คือในแง่ของคน ทำธุรกิจเขาอาจจะมีประสบการณ์ที่เป็นลูกจ้างมาก่อน แต่อยู่ในสายที่ตรงกัน ทำมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๓ ปี แล้ววันนี้อยากจะเป็นเถ้าแก่เอง อันนี้เราสนับสนุน เราก็นับประสบการณ์ ต่อให้นะครับ ไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่เราตั้งขึ้นเป็นเงื่อนไขเพื่อจะไม่ช่วยเหลือ หลาย ๆ ประเด็น ผมอาจจะข้ามอะไรไปบ้าง ต้องขอกราบประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ในส่วนของคำถามบางส่วน อย่างที่เรียนไปในเรื่องของการช่วยเหลือพวก ลูกหนี้โควิด ในเรื่องของ Credit Bureau อะไรต่าง ๆ อันนี้ Credit Bureau เองเขาก็ พยายามปรับตัว คือข้อมูลที่เป็นหนี้เขาจะคงไว้แค่ ๓ ปี หลังจากนั้นมันก็จะไม่มีข้อมูล ย้อนหลังนะครับ เราก็จะดูได้แค่ใน ๓ ปี แต่ในส่วนอันนี้เราสามารถแยกแยะจากประวัติ การชำระหนี้ได้เช่นกันว่าลูกค้าเหล่านั้นประสบปัญหาจริง ๆ หรือเป็นวินัย เพราะว่าที่ผ่านมา เราจะมีโครงการสินเชื่อที่ช่วยผ่อนปรนให้กับลูกค้ากลุ่มนี้อยู่

    อ่านในการประชุม

  • ในส่วนของสมาชิกท่านหนึ่งได้กล่าวถึงเรื่องของมีการเรียกรับผลประโยชน์ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ โดยการที่ยื่นกู้ครั้งแรก ครั้งที่ ๒ ไม่ผ่าน แล้วก็มากู้ครั้งที่ ๓ อันนี้ผมอาจจะ ต้องขอประสานรายละเอียดไปยังท่านเพื่อขอข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อดำเนินการ เพราะว่าอันนี้ เราไม่ทนไม่ยอมในการที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นนะครับ ประเด็นที่ผ่านมาเราเคยเจอปัญหา ก่อนปี ๒๕๕๘ เป็นลักษณะแบบนั้นด้วยส่วนหนึ่ง แต่ที่ผ่านมาเราแก้ปัญหามาโดยตลอด ในการที่เรามีความโปร่งใสขึ้นในเรื่องของการ Check สอบยันกัน จะมีการ Check Balance กัน ระหว่างกระบวนการอนุมัติสินเชื่อ จะไม่ใช่ทำโดยคนคนเดียวและอนุมัติด้วยคนคนเดียว มีการ Check Balance กันระหว่างสาขาหน้าบ้าน แล้วก็มีการ Check Balance โดยฝ่าย วิเคราะห์สินเชื่อเพื่อสอบยันข้อมูลว่าจริงหรือไม่ อย่างไร เพราะฉะนั้นในส่วนนี้เราจะเป็น การป้องกันในเรื่องของลูกค้าที่เจตนาไม่ดีมานะครับ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เจตนาไม่ดี อันนี้คือกรณีที่ผ่านมาเราก็มีการตรวจสอบกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีการปล่อย แล้วเสียในช่วงแรก ๆ ในช่วงปีแรกหรือปล่อยแล้วเสียโดยการที่ปรับโครงสร้างหนี้ในช่วง ปีแรก อันนี้เราจะเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีประเด็นปัญหาอะไรบ้าง แต่ในเรื่องของ การเรียกรับอันนี้ต้องรบกวนขอประสานงานไปเพื่อขอรายละเอียดที่ชัดเจน ธนาคาร จะดำเนินการให้ครับ

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนข้อแนะนำต่าง ๆ ที่ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้กรุณาให้คำแนะนำ ทางธนาคารถือเป็นพันธกิจหลักอยู่แล้วในการที่จะต้องไปดำเนินการนะครับ หลาย ๆ เรื่อง เราก็พยายามมีสินเชื่อที่เป็นเฉพาะเจาะจง อย่าง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้เราก็มีสินเชื่อ ที่ช่วยเหลืออยู่ ก็มีประมาณนี้ครับ ขอบพระคุณท่านประธานครับ

    อ่านในการประชุม