นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์

  • กราบเรียนท่าประธานที่เคารพ กระผม นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๕ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตเรียนหารือถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผ่านท่านประธานไปยังหน่วยงาน ที่รับผิดชอบดังนี้ ปัญหาการจราจรถนนสายบ้านสิงห์-บ้านแพ้ว ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓๕ เป็นถนนที่เริ่มต้นจากตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ผ่านตำบลหัวโพธิ์ ตำบลโพหัก อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ไปเชื่อมต่อกับถนนสายบ้านแพ้ว-นครปฐม ทางหลวงหมายเลข ๓๗๕ เขตอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันถนนสายดังกล่าว เป็นถนน ๒ ช่องจราจร ความกว้างรวมไหล่ทางประมาณ ๙ เมตร ความยาวตลอดเส้นทาง ๑๗.๖๙๐ กิโลเมตร ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเชื่อมต่อ ๓ จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดราชบุรี จากการสำรวจพบว่ามีผู้ใช้รถสัญจรผ่านไปมาเฉลี่ย ประมาณวันละ ๑๔,๘๐๐ คัน เกิดอุบัติเหตุ ๔๘ ครั้งต่อปี และมีผู้เสียชีวิต ๒ คนต่อปี กรณีดังกล่าวทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ท่านประธานครับ จากข้อมูลที่ผมได้กล่าวไปเบื้องต้นนั้นเป็นข้อมูลจริงที่ผมได้ไปขอรับมาจาก หน่วยงานราชการทั้งสิ้นจึงจะเห็นได้ว่าเป็นถนนที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรใช้ เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางการเกษตรและเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกันถึง ๓ จังหวัด ซึ่งผมเอง ก็แปลกใจนะครับว่าถนนที่มีความสำคัญอย่างนี้ทำไมในยุคปัจจุบันยังเป็นถนนที่เป็น ๒ ช่องทางจราจร วันนี้ผมขออนุญาตเป็นตัวแทนเสียงของพี่น้องประชาชนฝากเรียนผ่าน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โปรดพิจารณาแก้ไขโดยขยายถนนให้เป็น ๔ ช่อง จราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงขออนุญาตกราบเรียนมาด้วย ความเคารพครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๕ พรรคพลังประชารัฐ ผมต้องขออนุญาตท่านประธานที่จะไม่พูดถึงข้อมูลใด ๆ เพราะว่า มีเพื่อน ๆ สมาชิกได้อภิปรายไปมากพอสมควรแล้ว ซึ่งกลัวว่าจะเป็นข้อมูลที่ซ้ำซากกัน จึงขออนุญาตที่จะขอเวลาเพียงนิดเดียว ผมดีใจที่สภาแห่งนี้ได้นำญัตติในเรื่องของราคากุ้ง และพืชผลทางเกษตรตกต่ำเข้ามา เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเองก็รอเวลานี้มานานพอสมควร เนื่องจากว่ามีพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ได้เข้ามาร้องเรียนกับผมมากอย่างต่อเนื่อง มีบางรายถึงขั้นบอกกับผมว่าทรัพย์สินที่เขามีอยู่นั้น ขณะนี้ได้ร่อยหรอจนจะหมดแล้ว ผมเองเคยถามว่าทำไมไม่ลองคิดจะเปลี่ยนอาชีพดูบ้าง แต่คำตอบที่ได้รับนั้นก็คือที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้เพราะจำใจต้องทำ เหมือนกับการขี่หลังเสือแล้ว จะทำอย่างไรได้ เพราะที่ดินที่มีอยู่ก็ได้ลงทุนกับการขุดบ่อกุ้งไปเรียบร้อยแล้ว แต่มีประโยคหนึ่ง ที่ผมฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน ทำไมพวกเขาไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐเลย ปล่อยให้เขาเดินตามวิถียถากรรมของตัวเอง นั่นหมายความว่าพวกเขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกว่าเขาถูกทอดทิ้ง เป็นความเจ็บปวดที่สะสม แล้วก็หมักหมมมานาน หลังจากที่ได้มีญัตติในเรื่องนี้เข้าสู่สภาแล้ว ผมก็ได้ Post ลงไปใน Facebook ของผมนะครับว่าขอให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งนั้นรออีกนิด ทนอีกนิด เพราะว่า ได้มีญัตติในเรื่องราคากุ้งเข้ามาแก้ไขในสภาแล้ว ปรากฏว่ายอด Like ของผมตกฮวบเลยครับ ท่านประธาน ซึ่งผมเองก็แปลกใจว่าเป็นเพราะอะไร จึงได้เข้าไปดูในความคิดเห็น ซึ่งมีบางราย Comment มาว่าแบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ซื้อกุ้งในราคาที่ถูก มีบางราย Comment มาว่าถ้ากุ้งราคาแพง พวกเขารากหญ้าคงเข้าไม่ถึง นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังเข้าใจว่า พวกเราจะโยนภาระไปให้กับพวกเขา พวกเราจะให้เขาเป็นแพะรับบาป กู้สถานการณ์ ของพี่น้องเกษตรกรด้วยการซื้อกุ้งในราคาที่แพง หรือสินค้าเกษตรในราคาที่แพงจากเดิม ผมก็ได้ตอบไปใน Comment ว่าพวกเรามุ่งเน้นไปในทางการลดต้นทุนให้กับผู้ผลิต และในช่องทางอื่น ๆ โดยเฉพาะหาทางส่งออกให้มากขึ้นกว่าเดิม ผมขออนุญาตที่จะฝากเรียน ให้กำลังใจ ฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และทุก ๆ ท่านที่มีส่วนเข้ามา ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย ให้ได้มีโอกาสมีชีวิตที่มีความอยู่ดีกินดี ให้พี่น้องเกษตรกรไทยนั้นได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก โดยไม่ให้มีผลกระทบกับผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ ซึ่งเป็นคนไทยเหมือนพวกเรา กราบขอบพระคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ กระผม นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต ๕ พรรคพลังประชารัฐ ขออนุญาตเรียนชี้แจงในเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ซึ่งผมได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ณ รัฐสภาแห่งนี้ในเรื่องของปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพง ด้วยจังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นศูนย์กลาง ของพืชสวนคุณภาพส่งออกที่มีความสำคัญในระดับต้น ๆ ของประเทศ โดยกลุ่มเกษตรกร ผู้ปลูกมะพร้าว มะนาว ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น และอื่น ๆ ที่จะต้องใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเฉพาะของมัน ในการเร่งดอก เร่งลูก เพื่อให้มีผลผลิตให้ทันต่อความต้องการของท้องตลาด จากข้อมูล ที่ได้รับจากเกษตรกรทราบว่าเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้นกระทรวงพาณิชย์ได้ลดราคา ปุ๋ยเคมีลง ๘ เปอร์เซ็นต์ แต่การลดราคาครั้งนั้นเป็นการลดราคาเฉพาะปุ๋ยเคมีที่ใช้สำหรับ พืชไร่เท่านั้น โดยไม่ได้พิจารณาลดราคาให้กับปุ๋ยเคมีที่ใช้สำหรับพืชสวน ซึ่งในความเป็นจริง ปุ๋ยที่ใช้สำหรับพืชสวนนั้นใช้มากกว่าพืชไร่ เนื่องจากพืชไร่จะใส่ปุ๋ยในปีละ ๑-๒ ครั้ง ส่วนปุ๋ยที่ใส่ในพืชสวนนั้นจะต้องใส่กันทุก ๆ เดือน แต่กระทรวงพาณิชย์กลับลดราคา ให้กับเฉพาะปุ๋ยที่ใช้กับพืชไร่เท่านั้น ทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ผลิตพืชสวนต้องใช้ต้นทุนที่สูง มาโดยตลอดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงขออนุญาตกราบเรียนผ่านท่านประธาน ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โปรดพิจารณาดำเนินการลดราคาปุ๋ยเคมีที่ใช้สำหรับพืชสวนลง ด้วยวิธีการลดราคา ขอให้ลดราคาให้ทั่วถึงในท้องตลาดของร้านค้าทั่ว ๆ ไป จึงขออนุญาต กราบเรียนมาด้วยความเคารพครับ

    อ่านในการประชุม