พลเอก ชูศิลป์ คุณาไทย

  • กราบเรียนท่านประธานครับ กระผม นายแพทย์ชูศิลป์ คุณาไทย สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมนะครับ ผมได้ยกมือขอแสดงความเห็นหรือข้อเสนอแนะตั้งแต่เช้านะครับ แล้วก็ยังข้ามไปข้ามมา ไม่มีโอกาสได้พูดนะครับ ความจริงแล้วผมอยากจะเสนอแนวทางการสรรหากรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นทางสายกลางที่ใช้เหตุใช้ผล ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ แล้วก็ทำให้วิน (Win) ได้ทั้งสองฝ่ายนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • แล้วผมก็เรียนให้ท่านทราบว่าไม่มีโอกาสได้มา แสดงในทางสายกลางนี้ครับ ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ผมขออนุญาตสรุปนิดเดียว นะครับว่า

    อ่านในการประชุม

  • ขั้นตอนที่ ๑ ก็คือการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจำนวน ๑๕ คน ซึ่งจะเป็นจากด้านต่าง ๆ ที่ท่านว่านี่นะครับ รวมแล้ว ๑๕ คน ให้สภาปฏิรูปแห่งชาติลงมติ รับรองเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ

    อ่านในการประชุม

  • ขั้นตอนที่ ๒ ก็คือคัดเลือกจาก สปช. ที่เหลือ ๒๓๕ คน จำนวน ๕ คน ให้ สปช. ที่ประชุมเห็นชอบเท่านั้น

    อ่านในการประชุม

  • ขั้นตอนที่ ๓ คัดเลือกจากบุคคลภายนอกไม่เกิน ๕ คน ให้ที่ประชุม สภาปฏิรูปแห่งชาติเห็นชอบ และ

    อ่านในการประชุม

  • ขั้นตอนที่ ๔ ก็คือนำรายชื่อบุคคลขั้นตอนที่ ๒ และขั้นตอนที่ ๓ รวม ๑๐ คนนี้ มาเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติลงมติเลือก ๕ คน เป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และให้ สำรองไว้ ๕ คน ซึ่งอันนี้ก็จะแก้ปัญหาที่ว่าเขาจะมาหรือไม่มา หรืออะไรต่าง ๆ นี่นะครับ ก็จะมีคนสำรอง ซึ่งอันนี้เป็นข้อคิดเห็นผมที่เป็นทางสายกลางนะครับ ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม

  • ท่านประธานครับ ผมกราบขออนุญาตครับท่าน คือประเด็นนี้แค่ว่าใครเห็นด้วยกับกรรมาธิการชั่วคราวว่า ๑๕ ๕ กดแค่เห็นด้วยพอแล้ว ที่เหลือก็คือไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะท่านประธานพูดอย่างนี้จะสับสน

    อ่านในการประชุม

  • กราบเรียนท่านประธานและท่านสมาชิก สปช. ที่เคารพ กระผม พลเอก ชูศิลป์ คุณาไทย ผมเป็นแพทย์โดยอาชีพ การศึกษาวุฒิบัตร ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedics) ผมมีโอกาสศึกษาต่อต่างประเทศทางด้าน แขนขาเทียม และเครื่องช่วยคนพิการที่สหรัฐอเมริกา ผมได้ใช้ความรู้นั้นมาทำประโยชน์ ให้สังคม ในการออกแบบรถโรงงานแขนขาเทียมเคลื่อนที่ ออกไปบริการทำแขนขาเทียม และเครื่องช่วยคนพิการถึงที่พักอาศัย โดยเฉพาะในโครงการอีสานเขียวช่วยคนพิการ ในภาคอีสานถึง ๓,๐๐๐ กว่าราย การทำงานเป็นแพทย์โดยอาชีพของผมมีโอกาสอยู่ ต่างจังหวัดและอยู่กรุงเทพมหานคร เป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ เป็นหัวหน้าภาควิชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเป็นผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก การเป็นหมอ อาชีพทำให้ผมเข้าใจปัญหาของแพทย์ ปัญหาของผู้ให้บริการ ปัญหาของประชาชน ผู้รับบริการ ปัญหาของความทุกข์ของเขาในยามเจ็บป่วย ผมเข้าใจปัญหาระบบสาธารณสุข ปัญหาของสังคมและประเทศ ผมไม่ใช่หมอการเมืองหรือเอ็นจีโอ ผมขอเสนอตัวเพื่อชาติ ในการยกร่างรัฐธรรมนูญ และผมพร้อมที่จะทำงานเป็นทีม ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านครับ

    อ่านในการประชุม