เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ ผมขออนุญาตผ่านความคิดเห็นไปถึงท่านรัฐมนตรี ถึงผู้เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงดิจิทัล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผบ.ตร. ในฐานะของประธาน อนุกรรมาธิการ ไปทั้ง ปปง. ไปทั้ง กสทช. และผู้ที่เกี่ยวข้อง จริง ๆ การอภิปราย ของท่านสมาชิกวันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านสังเกตเห็นไหมครับ วันนี้ใน พ.ร.ก. นี้มีท่านสมาชิก ขึ้นมาอภิปรายเยอะมาก แล้วทุกคนก็พูดถึงข้อห่วงใย ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งหมดที่ปรากฏวันนี้ มันควรจะไปปรากฏอยู่ใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ ไม่ครอบคลุม มีช่องโหว่ และแน่นอน ๔ เดือนผ่านไป การปราบปราม การระงับยับยั้งบัญชี การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบมีน้อยมาก นั่นคือสิ่งที่ท่านต้องคิดแล้วว่าใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ มีจุดบกพร่องอะไร จริง ๆ ไม่ควรจะมี พ.ร.ก. ฉบับนี้ออกมาแบบนี้ ผมรับฟังสิ่งที่ท่านชี้แจง เห็น ผมฟังหมดครับ แต่ผมไม่ได้ถามว่าในส่วนนั้นท่านทำอะไรไปแล้วบ้าง ผมถามว่า แล้วท่านดูไหมครับ ธนาคารหรือผู้ประกอบการที่ประชาชนเอาเงินไปฝากไว้ อาชญากรรม ทางเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มันครอบคลุมคนไทยเกือบทั้งประเทศ พวกเราก็ถูกโทรมา พวก Call Center โทรมาตลอด ติดต่อมาตลอดแล้วมีหลายรูปแบบ ถามว่าแล้วประชาชน เอาเงินไปฝากไว้ธนาคารจะมีส่วนเกี่ยวข้องและรับผิดชอบอย่างไร ที่ผมพูดนี่ผมไม่ได้หมายถึงว่า แล้วจะไปว่าเป็นความผิดของธนาคารนะครับ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้วันหนึ่งประชาชน จะไปใช้ระบบ Blockchain หมด แล้วระบบธนาคารละครับจะล่ม เพราะไม่มีใครไว้ใจ ธนาคารและผู้ประกอบการได้เลย เพราะฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้ถ้าไม่มีมาตรการในการดูแล ในการเยียวยาเหล่านั้นหละหลวมนะครับ วันหนึ่งจะเกิดปัญหาทางการเงินขึ้น บนความไม่ไว้วางใจต่อธนาคารหรือสถานประกอบการ
ในส่วนที่ ๒ ผมถามว่าท่านเห็นยอดไหมครับ ตัวเลขความเสียหายกี่หมื่นล้าน มีระงับยับยั้งได้แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ไม่กี่ร้อยล้าน ถามว่าประชาชนที่เอาเงินไปฝากธนาคารไว้ ได้รับการเยียวยาอย่างไร ถ้ากฎหมายนี้ท่านไม่สร้างเครื่องมือ ไม่สร้างกลไกไม่ออกกฎหมาย เพื่อดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น มันพอไหมครับในการที่ท่าน จะออกเป็นพระราชกำหนดออกมา ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะคุ้มครองป้องกัน พี่น้องประชาชนได้อย่างไร เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุและไม่ได้เยียวยา ณ ต้นเหตุ และผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเลยนะครับ
ประการที่ ๓ ที่ผมอยากจะเรียนบอกว่าทั้งหมดนี้ทางตำรวจ ท่าน ผบ.ตร. ในฐานะที่เป็นประธานอนุกรรมการที่จะต้องลงมาดำเนินการทั้งหมด เมื่อประชาชน ไปแจ้งความเพื่อให้ดำเนินการแล้วสิ่งที่เห็นคือกำลังพลพอไหมครับ งบประมาณพอไหมครับ ท่านทำได้จริงจังไหมครับ ถ้า พ.ร.ก. ฉบับนี้ให้กำลัง ให้งบประมาณ ให้เครื่องมือกับท่าน เพียงพอ ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจะไม่เป็นแบบนี้ นั่นคือข้อบกพร่อง และความไม่ครบถ้วนของ พ.ร.ก. ฉบับนี้ ซึ่งหลังจากนี้ผมอยากให้ทางตำรวจได้บอก ด้วยนะครับว่าจริง ๆ ท่านต้องการการสนับสนุนอะไร เพราะเราคิดว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้อย่างไร สภาต้องมีการยกร่างเพิ่มเติมใหม่อยู่แล้ว เพราะเราเห็นแล้วครับว่าที่ผ่านมานั้นไม่เพียงพอ ขออนุญาตท่านประธานนิดเดียวนะครับ ในการดำเนินการผมก็เข้าใจการทำงาน ของส่วนราชการ ผมถามว่ามีแนวคิดที่จะพัฒนากลไกระบบเครือข่ายของภาคเอกชน เข้ามาร่วมดำเนินการไหมครับ ในเมื่อกำลังของภาครัฐ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เทคโนโลยีที่พัฒนา ไปไกลมากบางทีภาครัฐไปไม่ถึง กำลังคนไม่เพียงพอ องค์ความรู้ไม่เพียงพอ เทคโนโลยี ไม่เพียงพอ มีการคิดจะดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาถือว่าเป็นวิกฤติหรือเปล่าครับ นอกจากนั้นก็ถามต่อไปครับว่า การที่ประชาชนโดนหลอกลวงนั้นบางทีเบอร์โทรศัพท์มาจาก ต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ภายในประเทศ แต่ข้อจำกัดของ พ.ร.ก. ฉบับนี้ยังอยู่ภายในประเทศ ค่อนข้างเยอะ ถามว่ามีแนวทางที่จะทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายในระดับนานาชาติไหมครับ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ ASEAN มีไหมครับ เตรียมหรือยัง ซึ่งถ้ายังไม่มีสิ่งเหล่านั้น เมื่อจะมีการร่าง พ.ร.บ. ใหม่ขอความกรุณาเตรียมสิ่งเหล่านั้นคุยด้วยครับ นอกจากนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานได้สรุปว่ามาตรการเพิ่มเติมหลังจากที่ท่านได้ฟังท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายวันนี้แล้วท่านคิดว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน ท่านจะเพิ่มเติมมาตรการอะไร ท่านโน้ตเอาไว้เรียบร้อยหรือยัง แล้วท่านจะเสนออะไร ถ้าตอนตอบท่านจะได้กรุณาบอกว่า ในส่วนท่านที่เกี่ยวข้องนั้นมีจุดอ่อน จุดบกพร่องอะไรช่วยบอกด้วยครับ เมื่อเราร่าง พ.ร.บ. ใหม่หรือเราทำกฎหมายใหม่เราจะได้เติมสิ่งเหล่านั้นเข้าไป หรือจะได้เพิ่มเติมให้ พ.ร.บ. ที่อาจจะออกไปในอนาคตได้มีความสมบูรณ์ขึ้นนะครับ
ท่านประธานครับ ผมเนื้อทั้งนั้น ไม่มีอภิปรายเป็นอันนี้เลยครับ ขออนุญาตนิดเดียวครับ
ประการที่ ๗ การบูรณาการการทำงาน ของหน่วยงานมีการบูรณาการจริงหรือไม่ แล้วรูปแบบของการบูรณาการไม่เพียงแต่ว่า มีหลายหน่วยงานทำงานในเรื่องนี้ แต่ควรจะเป็นระบบการทำงานที่เป็นระบบจริง ๆ เพราะว่าจริง ๆ แล้วการทำงานในระบบบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ ของรัฐบาลที่ผ่านมานั้น ผมติดตามอยู่นี่การบูรณาการไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลย แต่เรื่องนี้ถือเป็นวิกฤติของประเทศ ถามว่าจะบูรณาการกันจริง ๆ ได้หรือยังครับ
ประการที่ ๘ วิธีการป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำข้อมูลของประชาชน ไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบมีไหมครับ
ประการที่ ๙ เป็นเรื่องของมาตรา ๑๓ ก็คือจะถามว่า อำนาจนายกรัฐมนตรี ในการดำเนินการตาม พ.ร.ก. นี้ไม่ชัดเจนเลยนะครับว่าจะให้ทำอะไร อย่างไร มีแค่กำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปราม การกำหนดแนวทางอย่างนั้น มีผลทางกฎหมายอย่างไร หรือไม่ หรือว่าให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเหตุการณ์อันควรสงสัย ตาม พ.ร.ก. ถามว่าตรงนี้ถือเป็นข้อปฏิบัติที่ต้องปฏิบัติไหมครับ แล้วก็การให้คำแนะนำ ปรึกษาถือว่ามีผลทางกฎหมายไหมครับ แล้วก็อนุกรรมการไปให้มีอำนาจตามคณะกรรมการ ซึ่งไม่ได้มีอำนาจอะไรมากเลย เพียงพอไหมครับ
สุดท้ายท่านประธานครับ ขอความกรุณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กรุณา เก็บข้อมูลของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดที่อภิปรายไปในวันนี้ แล้วก็นำไปสู่ การเตรียมที่จะร่าง พ.ร.บ. ใหม่อีกครั้งหนึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎร ผมถือวันนี้เป็นประโยชน์ จริง ๆ แล้วถามว่า พ.ร.ก. นี้โดนใจไหม เร็วครับ แต่มีจุดอ่อนเยอะ แต่ก็ไม่ปฏิเสธครับ วันนี้จะลงมติรับให้ แต่ขอความกรุณานำไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย ขอบคุณครับ ขอบคุณท่านประธานครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย ท่านประธานครับ น้ำท่วมเป็นปัญหาหลัก เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ผมต้องเรียน ท่านประธานว่าผมตามเรื่องน้ำท่วมมาไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี แล้วผมเรียนท่านประธานด้วยครับว่า ให้เวลาอีก ๒๐ ปี ก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ครับ ไม่มีทางครับ ทำไมผมถึงพูดแบบนั้น ท่านประธานได้ยินคำว่าน้ำเหนือใช่ไหมครับ ท่านสมาชิกอภิปราย น้ำเหนือ ๆ ใช่ครับมันจะมาจากภาคเหนือครับ แต่ภาคเหนือเคยแก้ไขปัญหาน้ำได้ไหมครับ ติดเขตป่า ทำ EIA ขออนุญาตขอกรมป่าไม้ ขออุทยานขอแล้วขออีก ตั้งงบประมาณ ไม่มีทาง ผมตามเรื่องนี้มามากกว่า ๒๐ ปี แก้ไม่ได้ แล้วก็พูดไว้ตรงนี้ในสภาแห่งนี้ อีก ๒๐ ปี ก็แก้ไม่ได้ ท่านประธานครับ ขอ Slide ให้ดูนะครับ
จริง ๆ เรื่องน้ำไม่มีอะไรครับ ก็เกิดจาก ฝนตกหนักในพื้นที่เกินกว่ารับได้ เกิดจากที่น้ำในแม่น้ำสูงเกินกว่าตลิ่ง ตลิ่งรับไม่ได้ ปกติก็แก้ไขโดยไปขุดลอก สูบน้ำออก บางที่ก็ใช้เขื่อนป้องกันตลิ่ง ยกระดับตลิ่งให้สูงขึ้น ก็ทำแค่นั้นละครับ ผมต้องกราบเรียนท่านประธานครับ วันนี้น้ำเหนือที่เราพูดกัน ก็คือ ปิง วัง ยม น่าน ที่ว่านี่ ๓ น้ำ ปิง วัง น่านนี่มีเขื่อน แต่แม่น้ำยมซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก เป็นแม่น้ำที่มี ความชันสูงและเป็นแม่น้ำที่ทำให้เกิดความเสียหาย น้ำท่วมจากแพร่ ฝนตกกระหน่ำจากแพร่ ลงไปสุโขทัย ไปพิษณุโลก ไปพิจิตร ไปนครสวรรค์ มาถึงกรุงเทพมหานคร เกิดจากน้ำสายนี้ ทั้งสิ้นเพราะเป็นแม่น้ำสายหลักที่ทำให้เกิดปัญหา เดี๋ยวผมจะชี้ให้ท่านประธานเห็นว่าทำไม ถึงพูดแบบนั้น ท่านประธานครับ ปีนี้ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่มีปัญหาน้ำท่วมหนัก ผมเรียน ท่านประธานวันที่ ๒๖ ๒๗ ๒๘ เกิดน้ำท่วมฝนตกในเขตของพะเยา แพร่ แต่ว่าน้ำมาท่วม ตรงปลายน้ำก็คืออำเภอลองและอำเภอวังชิ้น แต่พอมาในวันที่ ๒๙ เกิดฝนตกหนักอีก ๑ คืน ท่านประธานครับ จากการที่จังหวัดประกาศภัยพิบัติแค่ ๒ อำเภอ คืออำเภอลอง กับอำเภอวังชิ้น ๙ ตำบล ๗๑ หมู่บ้าน คืนเดียวเท่านั้น วันที่ ๓๐ ต้องประกาศเป็น ๔๐ ตำบล แล้วก็กลายเป็น ๑๙๘ หมู่บ้าน เหตุนี้คือเกิดเหตุที่เกิดปัญหาแล้วครับ และผม เรียนท่านประธานครับ วันนี้พูดไปถึงการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานในจังหวัดด้วย ท่านประธานเชื่อไหมครับ น้ำท่วมแพร่วันแรกวันที่ ๒๙ ผมขอให้จังหวัดประกาศภัยพิบัติ น้ำกำลังมาแล้ว รู้แล้วน้ำกำลังไหลมา กำลังจะบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชน จังหวัดตอบว่า อย่างไรครับ จังหวัดตอบบอกว่าเดี๋ยวขอให้เกิดการท่วมให้หมดก่อนจะได้รู้ว่าท่วมที่ไหน แล้วค่อยประกาศ ท่านประธานครับ ตลกไหมครับ ผมโทรศัพท์ไปถึงท่านเกรียง กัลป์ตินันท์ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอให้ช่วยแจ้ง ปภ. หน่อย ท่านกรุณาโทรศัพท์ ให้ครับ แจ้งไปที่ ปภ. จังหวัดแพร่ เขาบอกว่าอย่างไรครับ ไม่ทันครับ วันนี้วันเสาร์ ขอประกาศวันจันทร์ก็แล้วกัน น้ำกำลังจะท่วม หนักไปกว่านั้นพอวันที่ ๓๐ เกิดน้ำท่วมหนัก ท่วมไปจนถึง ๕ ใน ๘ อำเภอของแพร่ ท่วมไปถึง ๑๙๘ หมู่บ้าน มีอ่างเก็บน้ำอย่างน้อย ๒ ตัว คืออ่างเก็บน้ำแม่แย้ ที่บ้านแม่ยุ้น เด่นชัย แล้วก็ที่ปางงุ้นที่อำเภอวังชิ้น เขื่อนมี แนวโน้มจะแตก กรมชลประทานบอกแตกแน่ ๆ ขนเครื่องจักรไปที่หน้าอ่างครับ แล้วบอกว่า ขอใช้งบภัยพิบัติ จังหวัดตอบว่าอย่างไรรู้ไหม เบิกไม่ได้ ต้องรอวันจันทร์ ผมเรียน ท่านประธานผ่านไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านบอกว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ในกระทรวงมหาดไทย แต่ผมยืนยันครับเรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดแพร่ แล้วก็ใน กระทรวงมหาดไทย ผมแล้วก็ผู้แทนราษฎรจังหวัดสุโขทัย ขอรับความช่วยเหลือ ขอรับ การเยียวยาแต่ยังไม่ได้ วันนี้ท่านประธานไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นนะครับ นี่น้ำป่าไหล แพร่นี่ป่าไหลทะลักพังพินาศหมดครับ ถนนเสียหายพังพินาศหมดครับ สุโขทัยข้าวกล่อง ผมไม่รู้ได้หรือเปล่า ยังไม่ได้เลยกระมัง ขอไปยังไม่ได้เลยครับ ความช่วยเหลืออะไรก็ไม่ได้ วันนี้ต้องกราบเรียนท่านประธานไปถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ต้องซักซ้อมความเข้าใจ ในเรื่องของน้ำท่วมกันใหม่ ซักซ้อมความเข้าใจเรื่องของภัยพิบัติกันใหม่ ถ้าเราทำแบบนี้ไม่มีวันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ปล่อยให้ท่วมไปก่อน เหนื่อยไปก่อน แก้ไขอย่างไร ไม่ทราบ แล้วไปดูว่านี่คือภัยพิบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภานี้พูดถึง ภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งสิ้นแต่ความช่วยเหลือที่ไปมันน้อยมากครับ แล้วก็ไม่ช่วยเหลือจริงจังเลย อันนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจะชี้ให้ท่านประธานเห็น ขอดูตารางน้ำหน่อย ท่านประธานครับ น้ำท่วมที่จังหวัดแพร่ที่อำเภอวังชิ้น ท่าน สส. จักรวาล ท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ไปด้วยกัน ท่านประธานดู Y.37 ที่อำเภอวังชิ้นนี้ จากวันที่ ๒๖ ฝนตกครั้งแรก วันที่ ๒๖ ๒๗ ๒๘ น้ำขึ้นจาก ๒.๘๐ เมตร ขึ้นไป ๓ เมตร ขึ้นไป ๕ เมตรเพิ่มทีละ ๒ เมตร ๕ เมตร ๖ เมตร ขึ้นถึง ๘ เมตร ตรงนั้นลองดูผังของแม่น้ำครับ ขอดูตรงผังของแม่น้ำ บริเวณนั้น ท่านประธานครับ ท่านประธานดูตลิ่งที่แพร่สูง ๑๑ เมตร ความจุน้ำเวลาน้ำผ่าน ผ่านไปถึง ๑,๓๓๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แล้วไปดูที่สุโขทัย สุโขทัยตลิ่งเหลือแค่ประมาณสัก ๘ เมตรเศษ แล้วความจุเท่าไรครับ ความจุอยู่แค่ ๖๙๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อให้สุโขทัยทำกำแพงกั้นน้ำ ต่อให้ทำอย่างไรก็ตาม ไม่มีวันรองรับน้ำป่าจากแพร่ได้ วิธีการแก้ไขทำอย่างไร ท่านประธานครับ ต้องเรียนว่าไม่มีทางที่ไปแก้ไขที่ปลายน้ำ สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือไปกักเก็บน้ำไว้บนภูเขา เราทำเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่ได้ ไปกักเก็บไว้บนภูเขาที่อยู่ทางภาคเหนือมีทั้งหมดแล้วครับ อย่าปล่อยให้น้ำมันไหลลงมาในแม่น้ำ แล้วเกิดเหตุแบบนี้ ไม่มีวันที่จะแก้ไขได้ ก็ต้องอนุญาต เรียนท่านประธานว่าการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม อย่าแก้ตรงปลายน้ำ น้ำมันจะล้นแก้ว น้ำกำลังจะท่วม น้ำจะล้นแม่น้ำ ท่านประธานต้องไปกักน้ำในส่วนที่จะล้นไปอยู่ข้างบน อย่าปล่อยลงมา ซึ่งส่วนนี้คุยกันหน่วยงานน้ำทั้งหมดแล้วไม่ได้ ปีนี้งบประมาณปี ๒๕๖๗ แก้ได้ไหม ไม่ได้ งบประมาณปี ๒๕๖๘ ทันไหม ไม่ได้ ท่านประธาน ไม่มีทางครับ ทั้งหมด จะต้องออกแบบก่อสร้างสำรวจ ขออนุญาตขอ EIA ตั้งงบประมาณอีก ๒๐ ปีก็ไม่สำเร็จครับ ท่านประธานครับ ท่านประธานดูน้ำทั้งหมด แผนงานทั้งหมดอยู่ตรงนี้ผมอธิบายไปทัน แต่ว่ากราบเรียนด้วยว่าทั้งหมดที่เห็นมายังไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้เลย น้ำที่ผ่านมาแพร่มา ปีหนึ่ง ๒,๔๘๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ขอกักไว้แค่ ๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ยังทำไม่ได้เลยครับ ท่านประธาน ทุกคนก็จะมากระจายไปทุกจังหวัด แล้วทำเขื่อนป้องกันตลิ่งพังไปมาจังหวัด ส่วนตอนล่างทั้งหมด สุโขทัยตลิ่งพังหมดแล้ว ฝายพังหมดแล้ว ทุกอย่างพังหมด นี่คือสิ่งที่เกิด ขึ้นกับประเทศไทยครับท่านประธานครับ เพราะฉะนั้นผมอาจจะมีเวลาไม่เพียงพอ แต่ขอ สรุปให้ท่านประธานฟังว่าถ้ารัฐบาลไม่กำหนดมาตรการเด็ดขาด ไม่ออกกฎหมายพิเศษ เพื่อแก้ไขภัยพิบัติทำอย่างไรก็ไม่มีวันที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมประเทศนี้ได้ ขอบคุณ ท่านประธานครับ