วาสนา จากธนาคารแห่งประเทศไทย จะขออนุญาตใช้เวลาสั้น ๆ นะคะ ไม่มาบอกว่า พ.ร.ก. นี้มันมีประโยชน์อะไร แต่จะมาบอกว่าถ้าไม่มี พ.ร.ก. นี้ธนาคาร ทำอะไรไม่ได้บ้าง ถ้าวันนี้ไม่ผ่าน สิ่งที่ธนาคารทำไม่ได้เลยก็คือการระงับธุรกรรม การระงับ ธุรกรรมนี่มันเกี่ยวข้องกับมาตรา ๖ และมาตรา ๗ มาตรา ๖ คือธนาคารจับทุจริต หรือธุรกรรมต้องสงสัยได้ ธนาคารขออำนาจในการระงับ ถ้าไม่มี พ.ร.ก. นี้ธนาคารไม่ทำ เพราะว่ามันผิดกฎหมาย PDPA มาตรา ๗ เป็นมาตราที่บอกว่าถ้าประชาชนแจ้งมา แล้วเป็นธุรกรรมทุจริตจริง ๆ ธนาคารขออำนาจในการระงับบัญชีให้ลูกค้า ถ้าไม่มีมาตรา ๖ และมาตรา ๗ ธนาคารระงับธุรกรรมไม่ได้ค่ะ ส่วนมาตรา ๔ ก็คือการแลกเปลี่ยนข้อมูล ในอดีตธนาคารจะแลกเปลี่ยนข้อมูลของลูกค้าระหว่างธนาคารแทบจะไม่ได้เลย ต้องขอ Consent หรือการยินยอมจากลูกค้า ถ้าลูกค้าไม่ยินยอมธนาคารทำไม่ได้ ลองคิดดูนะคะว่า ถ้าโจรได้รับการขอ Consent จากธนาคารหรือขอคำยินยอมจากธนาคารโจรจะยินยอมไหม เขาก็ไม่ยินยอม พอไม่ยินยอมก็จะทำไม่ได้เพราะติดกฎหมาย PDPA เพราะฉะนั้น พ.ร.ก. ฉบับนี้ก็เลยมาแก้ Pain Point หรือจุดเจ็บปวดที่ธนาคารทำไม่ได้ ถ้าไม่มีหรือวันนี้ไม่ผ่าน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปธนาคารก็อาจจะทำไม่ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือประชาชน จะเดือดร้อนค่ะ อันนี้ก็คือ พ.ร.ก.
ส่วนที่เมื่อสักครู่มีหลาย ๆ ท่าน Raise ประเด็นหลาย ๆ เรื่องก็ขออนุญาต ตอบว่าธนาคารแห่งประเทศไทยนี่นอกเหนือจาก พ.ร.ก. แล้วเราก็มีมาตรการที่ออกมา เพื่อแก้ปัญหาให้มันมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาตรการที่ออกมามันมีประมาณ ๑๓ ข้อ แต่ถ้า Group หรือจัดกลุ่มแล้วแบ่งออกเป็น ๓ เรื่องด้วยกัน อันที่ ๑ ก็คือ Protect คือป้องกัน อันที่ ๒ ก็คือ Detect คือการตรวจจับ อันสุดท้ายก็คือ Respond คงไม่ไล่ รายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง แต่ข้อที่ ๑ เรื่อง Protect ก็มีหลาย ๆ ท่านคงเห็นธนาคาร ไล่ Scan หน้าเพื่อเก็บข้อมูลภาพเพื่อที่จะอะไร เพื่อที่จะเวลาโอนเงินวงเงินสูงต้องมี การยืนยันตัวตน การยืนยันตัวตนก็อาศัยเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Biometric Biometric ที่ว่านี่ก็คือการ Scan หน้าที่เราใช้กับธนาคาร หรือ Facial Recognition ตอนนี้ทุกธนาคาร ก็กำลังอยู่ระหว่างการวางมาตรการแล้วก็ดำเนินการมาตรการนี้นะคะ
อีกอันหนึ่งที่เมื่อครู่นี้มีหลายท่านหรือมีบางท่านบอกว่าได้รับ SMS ส่ง Link จากธนาคาร อันนี้ขอเรียนชี้แจงว่า SMS ส่ง Link ถ้าได้รับให้มั่นใจได้ว่าไม่มาจากธนาคารแน่ ๆ เพราะแบงก์ชาติได้วางมาตรการให้แบงก์พาณิชย์ทุกแบงก์ห้ามส่ง SMS แนบ Link ให้กับ ประชาชนหรือลูกค้า เพราะฉะนั้นถ้าได้รับ SMS จากธนาคารที่แนบ Link อย่าอ่าน หรืออย่ากดเลยนะคะ เพราะว่าไม่ใช่จากธนาคารแน่นอน อันนี้ก็เป็นตัวอย่างของการป้องกัน เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกหลอกนะคะ
อันถัดมาก็คือ Detect การตรวจจับ ตอนนี้เราได้รับความร่วมมือจากทั้ง ๕ หน่วยงาน แล้วก็ธนาคารเองเพื่อที่จะดูว่าธุรกรรมต้องสงสัยมันมีมากน้อยแค่ไหน และมีอะไรบ้าง ซึ่งตอนนี้เราอยู่ระหว่างวางเงื่อนไขว่าจะตรวจจับอย่างไร อันนี้ก็เป็น เชิงป้องกันในระยะยาวว่าต่อไปนี้บัญชีม้าที่แอบแฝงตัวอยู่ตามธนาคารต่าง ๆ จะได้รับ การดูแลหรือการตรวจจับอันนี้ก็คือ Detect
ส่วน Respond ก็คือการรับมือกับเรื่องนี้แบงก์ชาติได้บอกให้ทุกธนาคาร มี Call Center ที่จะรับการร้องเรียนจากลูกค้า ๒๔ คูณ ๗ คือทุกวัน ๒๔ ชั่วโมง ถ้าประชาชนหรือลูกค้าเกิดถูกหลอกก็สามารถที่จะโทร Call Center ของธนาคาร ทุกธนาคารได้เลยนะคะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นตัวอย่างมาตรการที่แบงก์ชาติออกไปนอกเหนือจาก พ.ร.ก. นะคะ ทั้งหมดนี้เราทำเพื่ออะไรก็เพื่อลดจำนวนการทุจริตหรือการที่มาหลอก ประชาชน ทีนี้ช่วงนี้อาจจะมีสถิติว่ามันลด อาจจะลดได้น้อยเนื่องจากมันอยู่ในช่วงที่เรา กำลังปรับปรุงอยู่ ถ้า พ.ร.ก. นี้ผ่านมันจะมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่เราต้องดำเนินการต่อ ที่จะเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพให้ตรวจจับแล้วก็จับโจรได้มากขึ้น ก็ขออนุญาตเล่าให้ฟังสั้น ๆ ถึงความคืบหน้าค่ะ