กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ กระผม นายอนันตชัย คุณานันทกุล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ สัดส่วนจากกฎหมาย และการยุติธรรม ผมจะขออนุญาตพูดสั้น ๆ เนื่องจากว่าหลายท่านก็ได้มีการอภิปรายไปแล้ว ก็จะได้สอดคล้องกับที่ท่านประธานได้หารือไว้ว่าขอให้สั้น ๆ ส่วนหนึ่งที่ผมอยากให้สมาชิกได้ศึกษาว่าที่มาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือที่มาของสมาชิก สภาปฏิรูปแห่งชาตินั้น เจตนารมณ์ก็มาจากรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๒ ซึ่งได้กำหนดไว้ว่า จากประธานกรรมาธิการตามที่ คสช. เสนอ ๑ ท่าน จาก คสช. รัฐบาลและ สนช. อีกหน่วยละ ๕ ท่าน แล้วก็สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติอีก ๒๐ ท่าน สิ่งที่ผมอยากจะเรียนท่านประธาน และท่านสมาชิกทุกท่านว่า การที่รัฐธรรมนูญได้ออกแบบไว้ที่จะให้มีสัดส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ คิดถึงเหตุผลความเป็นมาที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้นเรามีหน้าที่ ที่จะต้องรับผิดชอบในการที่จะก่อให้เกิดการออกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้มีความสำเร็จ ผมอยากจะเรียนถึงที่มาของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติว่าแต่ละท่านนั้นที่มานั้นไม่ใช่ สมัครกันมาเอง แต่ว่ามีสมาชิกหรือสมาคมต่าง ๆ รวมทั้งมูลนิธิ หรือหน่วยงานที่ได้เสนอให้ เข้ามาได้รับการสรรหา ฉะนั้นแต่ละท่านนั้นก็มีเบื้องหลังซึ่งมีผู้คาดหวังไว้มากมายว่าจะเข้ามา ทำหน้าที่แทนประชาชนในทุกภาคส่วน ที่สำคัญเหตุผลต่าง ๆ ที่ท่านกรรมาธิการกิจการ สปช. ที่ได้รับการเสนอไปทำหน้าที่ชั่วคราวแทนสมาชิกทั้งหลายนั้นได้มีข้อเสนอเข้ามา แต่สิ่งที่ผมอยากจะกราบเรียนที่ประชุมว่าน่าจะไม่ค่อยเหมาะสม เนื่องจากว่าทางรัฐธรรมนูญ ได้ออกแบบไว้แล้วเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติแห่งนี้ที่จะต้องทำหน้าที่ ฉะนั้น การนำเอาคนนอกเข้ามานั้น โดยเฉพาะได้พูดถึงว่าจะนำเอากลุ่มผู้ขัดแย้งก็ดี กลุ่มสมาชิก พรรคการเมืองก็ดี หรือจะใช้คำว่า สมาชิกพรรคการเมือง ก็ขัดแย้งแล้วว่าขัดบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญที่จะร่างไว้นั้น ทีนี้จะไปแสวงหาจากใคร เราพูดถึงพรรคการเมืองในประเทศไทย เรามีกี่พรรค เรามี ๕ พรรคหรือเรามีเป็นร้อย แล้วคนที่ไม่ได้เข้ามาเขาจะคิดอย่างไร เราจะไป แสวงหามาจากไหน หรือถ้าพูดถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วเอามาจากที่ไหน แล้วพวกเรา ที่ถูกนำเสนอเข้ามา ๒๕๐ ท่านนั้นไม่มีความสามารถหรืออย่างไร ฉะนั้นการที่จะมา ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นเราคาดหวังอะไร คาดหวังถึงกฎหมาย คาดหวังถึงอะไรเป็นหลัก การเมืองหรือ แน่นอนว่าการที่เรายกร่างรัฐธรรมนูญนั้นเราเป็นผู้มาร่างกติกา กติกาให้ผู้เล่น เล่นอย่างเสมอภาคกัน ไม่ใช่เอาผู้เล่นเข้ามาร่างกติกาเหล่านี้ที่เราคิดถึงว่า ถ้าผู้เล่นมาร่าง แน่นอนก็ต้องคิดถึงตัวเองเป็นหลัก เหตุผลที่ทำไมรัฐธรรมนูญถึงจะถูกฉีกแล้วฉีกเล่า นี่ฉบับที่เท่าไร ก็เพราะผู้เล่นมีส่วนร่วม และไม่ใช่ปัญหาที่มาวันนี้นั้นก็เพราะผู้เล่นลงไปเล่น จริงจังไม่ใช่หรือที่ก่อให้เกิดปัญหาข้อขัดแย้งอย่างมากมาย ฉะนั้นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ที่เราจะดึงเอาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาโดยตรง ฉะนั้นจุดนี้เป็นจุดสำคัญครับว่า เราจะเป็นธรรมกันได้อย่างไร สมมุติเราเห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการว่าจะมาจากไหน ก็เป็นปัญหาอีกเหมือนกันว่ามาจากไหนและใครจะเป็นคนเอามา นี่เป็นปัญหาอย่างยิ่งใหญ่ ทีเดียวครับ ฉะนั้นเราไม่เหมาะสมที่จะเอาผู้ขัดแย้งเข้ามาอย่างยิ่ง ฉะนั้นอีกประเด็นหนึ่ง ที่กรรมาธิการได้เสนอว่าให้แต่ละกลุ่มซึ่งขณะนี้มี ๑๑ กลุ่มบวกด้วยอีก ๔ ภาค รวมเป็น ๑๕ กลุ่มใหญ่ ๆ นั้นให้มาเป็นกลุ่มละ ๑ ท่าน ผมเห็นว่าก็ยังเป็นข้อขัดแย้งอยู่ดีนะครับ ซึ่งเราปิดประตูหรือปิดโอกาสสมาชิกที่อยากจะเป็นผู้มีส่วนเข้ามายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ฉะนั้นผมก็ขออนุญาตให้ความเห็นนิดหนึ่งว่าเราไม่ควรจะปิด แต่เราจะให้กรรมาธิการ ในแต่ละกลุ่มนั้นเป็นผู้เสนอมาเบื้องต้น หาจำนวนเข้ามา สมมุติว่าสัก ๓ ท่านต่อ ๑ กลุ่ม แล้วก็เอามาให้สภาเป็นผู้เลือก และสภาเป็นผู้ทรงสิทธิที่จะเลือกคนที่เหมาะสมต่อไป ผมขออนุญาตสรุปง่าย ๆ ครับ ขอบคุณครับท่านประธาน
กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ผม นายอนันตชัย คุณานันทกุล สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หมายเลข ๒๓๑ จากกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ท่านประธานที่เคารพครับ ผมต้องขอขอบคุณ ทางคณะกรรมาธิการยกร่างที่ได้เสียสละที่ทำงานอย่างรวดเร็วที่ทำให้เรามีร่างนี้ขึ้นมา เพื่อพิจารณา ท่านประธานที่เคารพครับ เนื่องจากว่าสภาปฏิรูปแห่งชาติของเรานั้น มีระยะเวลาที่ทำงานอย่างค่อนข้างจะเร่งรัดอยู่หลายประการ
ประการที่ ๑ ทางสภาปฏิรูปเราต้องเสนอให้กับคณะกรรมาธิการยกร่าง ข้อคิดต่าง ๆ ภายใน ๖๐ วัน จากนั้นเราก็มีเวลาอีก ๑๒๐ วันที่เราจะเสนอ หลังจากที่ กรรมาธิการได้ยกร่างกลับมาสู่สภาแห่งนี้แล้ว เราก็มีเวลาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ฉะนั้นเวลาที่เรา ค่อนข้างจำกัดนั้น เนื่องจากปัญหาบ้านเมืองที่ผ่านมาเราก็เข้าใจกันดีว่ามีปัญหาอยู่มากมาย ฉะนั้นระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัดนั้น ผมอยากจะเรียนว่าสภาของเรานั้นมีหน้าที่ในการ เสนอแนะข้อคิดต่าง ๆ ในการปฏิรูป เพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปแนวทางของรัฐธรรมนูญก็ดี กฎหมายก็ดี เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดียิ่ง ที่สำคัญนั้นหลายท่านได้อภิปรายว่า กรรมาธิการวิสามัญที่ท่านกรรมาธิการยกร่างได้กรุณาร่างขึ้นมา ๑๗ คณะ แล้วก็อีก ๑ คณะกรรมาธิการ ทั้งหมดเป็น ๑๘ คณะด้วยกัน ผมอยากจะกราบเรียนท่านประธาน ผ่านไปยังกรรมาธิการว่า ที่สำคัญนั้นเรามีการพูดกันว่าเราไม่อยากให้เรามีภาระของการแบก ภาระที่อุ้ยอ้ายนะครับ ที่อุ้ยอ้ายนี้ผมกลับมองตรงกันข้ามว่าแต่ละคณะกรรมาธิการวิสามัญนั้น ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากว่าเรามีภารกิจมากมายเราจะต้องแยกกันทำ สิ่งที่แยกกันทำที่จะให้คนที่มีความรู้ ความสามารถในแต่ละแขนงนั้นมาพิจารณา แล้วก็สิ่งที่สำคัญนั้นเรายังต้องเชื่อมโยงกับ ประชาชนที่จะทำให้ข้อมูลเหล่านั้นดีที่สุดแล้วก็เป็นที่ยอมรับของภาคประชาชนด้วย สิ่งที่สำคัญนั้นเราจึงต้องเชื่อมโยงกับประชาชน ฉะนั้นในคณะกรรมาธิการซึ่งผมเองนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องมาหลาย ๆ ประการ ผมอยู่ในสังคมธุรกิจ สังคมอุตสาหกรรม มาอย่างยาวนานถึง ๕๐-๖๐ ปี จะเห็นว่านโยบายที่กำกับ หรือกฎหมายที่ออกมานั้นขัดแย้ง กับข้อเท็จจริง หรือขัดแย้งกับสังคมอยู่มากมายทีเดียว ก็เนื่องจากว่าคนที่เข้ามา มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นขาดความเข้าใจในแต่ละประเด็น ฉะนั้นการที่เราแยกคณะกรรมาธิการ วิสามัญให้อย่างทั่วถึงก็จะทำให้การพิจารณานั้นมีประสิทธิภาพแล้วก็รวดเร็ว ผมกลับเห็นว่า เป็นการที่กระจายแล้วทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น สิ่งที่ผมขอสนับสนุนท่านพิสิฐ ลี้อาธรรม ว่าเรื่องของเศรษฐกิจกับเรื่องของการเงิน การคลังนั้นควรจะแยกออกจากกัน ที่สำคัญนั้น คำว่า เศรษฐกิจ เรายังขาดคำว่า อุตสาหกรรม เข้าไปด้วย เพราะปัจจุบันนี้เราเป็นประเทศ ที่พึ่งพาการส่งออกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปัจจุบันนั้นอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นเราจะเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย เรายังก้าวไม่ถึงสักทีหนึ่งเรามีปัญหามากมาย ฉะนั้นผมสนับสนุนว่า เราน่าจะนะครับ แต่ผมไม่ติดใจนะครับถ้าท่านกรรมาธิการจะไม่พิจารณาในประเด็นนี้ ผมอยากให้ท่านกรรมาธิการยกร่างนั้นทำงานอย่างสบาย ๆ แต่ให้คำนึงถึงประสิทธิภาพ ที่จะทำให้พวกเราสามารถทำงานอย่างรวดเร็วได้ นี่เป็นประเด็นที่สำคัญครับ
ท่านประธานครับ เนื่องจากว่าเรามีคณะกรรมาธิการที่เรามีคนนอกอยู่ด้วย และเหตุผลหนึ่งเราก็ต้องการที่จะคำนึงถึงผู้ที่ได้สมัครแล้วก็ไม่สามารถเข้ามาในที่นี้ได้ ซึ่งก็ยังมีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากมาย ถ้าเอาเขาเข้ามาร่วมคิดร่วมกันทำ แล้วก็ช่วยกันกระจายผมว่าน่าจะก่อให้มีประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง อย่างไรก็ตามก็อยากให้ กรรมาธิการวิสามัญแต่ละคณะนั้นมีอิสระส่วนหนึ่งด้วยที่จะสามารถคัดเลือกคนที่มี ความเหมาะสมตรงกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสนอคิดเพื่อจะดำเนินไปด้วย ความราบรื่นแล้วก็อย่างรวดเร็วครับ ขอขอบคุณครับท่านประธาน
ไม่เห็นชอบครับ