เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน พรรคภูมิไทยครับ ท่านประธานครับวันนี้ ผมต้องขออนุญาตท่านประธาน เปิด Clip อีกครั้งหนึ่งของเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ที่ผมได้หารือครับ ขออนุญาตชม Clip ครับ เกี่ยวกับชาวไร่อ้อยทั้งประเทศขอเสียงด้วยครับ Clip เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ที่ผมได้หารือไป ผมต้องให้ดู Clip อีกครั้งหนึ่งครับ เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็นแล้วก็เรื่องสำคัญของพี่น้อง ชาวไร่อ้อยทั้งประเทศครับ
ท่านประธานครับและวันนี้ที่ผม จำเป็นต้องขึ้นมาพูดเรื่องนี้อีกทั้งเป็นการเร่งด่วนก็เพราะว่า เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๘ สิงหาคม เมื่อวัน ๒ วันที่ผ่านมานี้เอง พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยนำโดยนายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขต ๗ คุณกำธร กิตติโชติทรัพย์ พร้อมด้วยอีก ๔ องค์กรทั่วประเทศ นำตัวแทนกว่า ๒,๐๐๐ คน มายื่นหนังสือกับพรรคภูมิใจไทยขอดู Clip ครับ เดี๋ยวจะมีเสียงนะครับ
ท่านประธาน จากเสียงแล้วก็สิ่งที่ ตัวแทนของชาวไร่อ้อยมายื่นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้ต้องการย้ายไปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ว่าเขาไม่ได้รับการดูแลก็คือเรื่องของเงินชดเชย เรื่องของ ๑๒๐ บาท ในเรื่องของ จุดไฟเผาอ้อย และที่ผมจำเป็นต้องขึ้นมาพูดในวันนี้เพราะว่าในวันพรุ่งนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ที่เป็นเจ้าภาพก็คือ โดยท่านปลัดกระทรวงเป็นประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย แห่งประเทศไทยจะมีการประชุมชาวไร่ทั้งประเทศไทยบอกว่าไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องนี้เข้าสู่ ที่ประชุมหรือเปล่า วันนี้ผมจึงขอฝากท่านประธานไปยังท่านปลัดกระทรวงครับ
ท่านประธานครับ คำสุดท้ายผมอยากจะฝากท่านประธาน ไปถึงท่าน ปลัดกระทรวงและผู้ที่เกี่ยวข้องว่าอย่าให้ประเทศเราที่เคยเป็นเมืองหลวงแห่งน้ำตาล กลายเป็นเมืองหลวงแห่งน้ำตาของชาวไร่อ้อยเลยครับ ขอบพระคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน พรรคภูมิใจไทย ท่านประธานครับ เมืองกาญจน์ของผมนั้นถือว่า เป็นเมืองหลวงแห่งน้ำตาลทราย เพราะฉะนั้นวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยที่ผมจะเอาปัญหา ของพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยมาถึงท่านประธานสภาผ่านไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงอุตสาหกรรม
ท่านประธานครับ เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา ประเทศเราแล้วก็ทั่วโลกมีปัญหาเกี่ยวกับสภาวะมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะบ้านเรา ก็คือ PM2.5 แล้วส่วนใหญ่จะบอกว่าโดยเฉพาะในฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือว่าฤดูกาล ตัดอ้อยนั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับทางอากาศมาก เพราะว่าต้นทุนที่สูงของการเก็บเกี่ยวผลผลิต ทำให้เกษตรกรชาวไร่จำเป็นจะต้องจุดไฟเผาอ้อย เพื่อที่จะได้ลดค่าใช้จ่ายในต้นทุน เพราะว่า ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีมีรถตัดอ้อย มีรถคีบอ้อย จึงทำให้จำเป็นที่จะต้องลดต้นทุน เพราะว่า มีค่าใช้จ่ายจากพลังงาน ค่าน้ำมันที่สูงขึ้นที่เราไม่เคยปฏิเสธได้เลย ไม่เคยลดครับ แล้วยังจะ รวมถึงค่าปุ๋ย ค่ายา เพราะฉะนั้นทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้ใช้ แต่เมื่อ ๒ ปีนั้นรัฐบาลมีนโยบายขอความร่วมมือที่จะให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยนั้นได้ช่วยลด ปัญหา PM2.5 นั่นก็คือจะชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย แต่วันนี้ความมั่นใจของพี่น้อง ชาวเกษตรกรลดลง เพราะอะไรครับ เมื่อปีงบประมาณปี ๒๕๖๔/๒๕๖๕ เงินเยียวยา ที่ทางรัฐบาลนั้นจะมอบให้กับพี่น้องชาวไร่อ้อยนั้นไม่เป็นไปตามที่ได้พูดเอาไว้ก็คือล่าช้า จึงส่งผลทำให้เกษตรกรนั้นมีต้นทุนที่สูงกว่าเดิม เพราะทุก ๆ รายส่วนใหญ่จะต้องไป กู้จากธนาคาร กู้จากเถ้าแก่ต่าง ๆ มา เพราะฉะนั้นปีนี้ผมจึงฝากท่านประธานไปยัง กระทรวงอุตสาหกรรม แล้วก็โดยเฉพาะคณะ ครม. ให้ช่วยพิจารณา แล้วก็ให้มอบนโยบาย ที่ชัดเจน ไม่ใช่ขอความอนุเคราะห์จากชาวไร่ก่อนและมาให้งบประมาณหรือว่าเงินชดเชย เยียวยาอ้อยทีหลัง ล่าสุดครับ พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยบอกว่าเขาขอไม่ให้เราจุดต้นทุน เราสูงขึ้น เราก็ยินดี แต่หลังจากนั้นนโยบายออกมาบอกว่ารายไหนที่มีอ้อยไฟไหม้จะไม่ให้เงิน เยียวยาเลย แบบนี้เป็นการหักหลังเกษตรกรหรือเปล่าครับ ฝากท่านประธานไปถึง กระทรวงอุตสาหกรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับ ขอบพระคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ท่านประธานครับ ผมมีเรื่องติดตาม ๒ เรื่องด้วยกัน ที่ใช้คำว่า ติดตาม เพราะว่า ๒ เรื่องนี้ได้หารือไปแล้ว ๒ ปีที่ผ่านมาหรือว่าสมัยที่ผ่านมา ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ ๓ ฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ
เรื่องแรกผมได้รับการร้องเรียนจากพ่อแม่พี่น้องชาวตำบลรางหวาย หมู่ที่ ๑๒ บ้านวังกาบก็คือท่านผู้ใหญ่เจษฎา สระทองพรม แล้วก็อีกอำเภอหนึ่งก็คือท่านนายกธนิต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา ซึ่งนายกท่านนี้ไม่ได้อยู่ในเขต ของผมครับ แต่เรื่องนี้ก็คือเรื่องของสะพานข้ามคลอง ซึ่งเป็นสะพานที่พี่น้องประชาชนทั้ง ๒ อำเภอได้ใช้สัญจรมาตลอด แล้วก็มันชำรุด ไม่อยากใช้คำว่าชำรุด มันจะพังแล้วครับดู Clip Video ครับ
ดูนะครับ โค้งงอ อันนี้ไม่ได้ จัดฉาก เขาสัญจรกันทั้งวันจริง ๆ แล้วขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ก็มีฝนตก น้ำเกือบจะท่วม สะพานดูด้านล่างจากคลองของสะพานได้ และมันไม่ได้ชำรุดธรรมดา พื้นชำรุดเป็นรูแล้ว ขอรูปภาพด้วย รูปที่ผมไปลงพื้นที่ด้วยตัวเองมาเพราะฉะนั้นอันนี้คือเรื่องจริงครับ วันนี้ผู้นำ ท้องที่ท้องถิ่น ชาวบ้านก็ได้ใช้ปูนโบกลดความเป็นรูในการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น เพราะฉะนั้นอย่าให้รอจนกระทั่งมีผู้ที่ประสบภัย สะพานพังเลย ฝากท่านประธานไปยัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รอบที่ ๓ ครับ
เรื่องที่ ๒ ก็เป็นเรื่องของถนน เป็นประตูสู่เมืองกาญจน์ ก็คือถนนสาย ตลาดเขตถึงหนองขาวซึ่งเป็นประตูสู่เมืองกาญจน์ถ้ามาจากทางจังหวัดสุพรรณบุรี วันนี้ มีการขยายถนนเสร็จสิ้นจาก ๒ เลน เป็น ๔ เลน แล้วก็มีขยายไหล่ถนนอีกน่าจะประมาณสัก ๖ เลนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงคมนาคมในสมัยที่ผ่านมา แต่วันนี้ที่ผมต้องการเพิ่มเติมนั่นก็คือไฟส่องสว่างครับ ถามว่าทำไมต้องการเพิ่มเติม เพราะว่า Social เมืองกาญจน์ตลอดระยะเวลาที่ทำถนนผ่านมานั้นมีอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้อยู่ตลอด และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีชนกันจนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตถึง ๔ ราย บาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน ผมได้ข้อมูลนี้จาก Facebook Page ของสำนักข่าวกาญจน์ เพราะฉะนั้นฝากท่านประธาน ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
และเรื่องสุดท้าย ผมก็ขออนุญาตอีกเรื่องหนึ่งก็คือผมได้รับการร้องเรียน จากท่านศึกษา บุญประเสริฐ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลตลาดเขต นั่นก็คือปัญหา น้ำท่วมบนถนนทางหลวง สายหน้าเทศบาลเลยเป็นน้ำท่วมที่กินไปมากกว่าเกิน Lane ครับ เพราะฉะนั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุมาโดยตลอดสะสมมานานกว่า ๒๐ ปี ร้องเรียนกับผมมา ผมพูดในสภาแห่งนี้มาแล้ว ๓ ครั้งด้วยกัน เพราะฉะนั้นอย่าต้องรอให้มีคนตาย อย่าให้เป็น ถนน ๑๐๐ ศพเลย ฝากท่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ กราบขอบพระคุณครับ
เรียนท่านประธานสภา ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ท่านประธานครับ วันนี้เรื่องที่ผมจะหารือท่านประธานสภานั้นผมขอหารือไปยัง ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของบ้านเรา ของประเทศเราก็คือท่านเศรษฐา ทวีสิน และเรื่องที่ หารือก็คือเรื่องเก่าที่เป็นเรื่องสำคัญในระดับประเทศ ซึ่งผ่านมาหลายยุคหลายสมัย รวมถึง ในสมัยที่ท่านประธานสภาดำรงตำแหน่งเป็น สส. ตั้งแต่สมัยแรก นั่นก็คือเรื่องของปัญหา ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นเรื่องของการออกเอกสารสิทธิ
ท่านประธานครับ ตั้งแต่สมัย ที่แล้วผมเองแล้วก็พรรคภูมิใจไทยได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด เอาข้อมูลตั้งแต่พิสูจน์สิทธิ ปี ๒๔๘๐ จนกระทั่งในรัฐบาลยุคที่แล้วนั้นได้มีการออกนโยบายใหม่ ๆ มา ไม่ว่าจะเป็น บอกดิน ๑ บอกดิน ๒ บอกดิน ๓ ก็แล้วแต่ แต่ยังแก้ปัญหาเรื่องของที่ดินทำกินให้กับพี่น้อง คนไทยทั้งประเทศได้ โดยเฉพาะเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านการพิสูจน์สิทธิมาแล้วเช่นจังหวัดกาญจนบุรี ถามว่าทำไมวันนี้ จึงต้องขึ้นมาพูดตรงนี้ วันนี้ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านรับทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ท่านเองพร้อมที่จะทำอย่างจริงจังเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่ดิน ให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ผมจึงฝากเรื่องนี้ไปยังท่านนายกรัฐมนตรีให้เอาจริงเอาจัง แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังในเรื่องของที่ดินทำกินให้กับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินและโดนข้อหาบุกรุก ปัญหามันเกิดขึ้นด้านไหนบ้าง ด้านคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ที่ไม่มี ที่ดินที่เป็นของตนเองหรือไม่มีโฉนดที่ดินเป็นของตัวเอง การที่จะไปขอทะเบียนบ้าน ขอปลูกบ้าน แน่นอนครับ บางรายไม่ได้ บางรายได้ทะเบียนบ้านแต่เป็นทะเบียนบ้านชั่วคราว มันส่งผลอย่างไรครับ ค่าไฟตอนนี้แพงมาก ทะเบียนบ้านชั่วคราวนั้นคูณขึ้นอีกเกือบ ๑ เท่าตัว และนอกเหนือจากนั้นระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็คือสิ่งที่ทำให้เขาไม่ได้รับ การเข้าถึงเช่นเดียวกัน แล้วก็นอกเหนือจากนั้น ผมเองเคยได้โอกาสเมื่อการพิจารณา งบประมาณปี ๒๕๖๖ ผมได้อภิปรายขึ้นในสภาว่ากระทรวงมหาดไทยมีงบประมาณเพิ่มขึ้น ในปี ๒๕๖๖ ถึง ๑๐,๐๐๐ กว่าล้านบาท ผมอภิปรายในตอนนั้นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งบประมาณตรงนี้จะไปช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องที่เข้าหลักเกณฑ์ในการพิสูจน์สิทธิ และหลักเกณฑ์อื่น ๆ ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ใช้งบประมาณตรงนี้ในส่วนนี้ เพราะว่า ปัญหาของกรมที่ดินนั้นสิ่งที่ผมทราบคือขาดเจ้าหน้าที่ บุคลากรไม่พอ มันก็คือเจ้าหน้าที่รังวัด เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน ขอฝากท่านประธานไปยังท่านนายกรัฐมนตรีที่มีความเก่ง และชำนาญในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ด้วยครับ กราบขอบคุณครับ
ท่านประธานครับ ๒๘๙ แสดงตนครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขตอำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน พรรคภูมิใจไทย ท่านประธานครับ ในเรื่องราว ของปัญหาที่ดินทำกินแล้วก็ที่อยู่อาศัย ตามที่เพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านได้อภิปรายมานั้น มันเป็นประเด็นที่เหมือนกันในทุก ๆ บริบท ทุก ๆ พื้นที่ของแต่ละแห่ง ซึ่งตัวผมเอง เช่นเดียวกันครับ ก็คงจะเหมือนกับท่านประธานแล้วก็เพื่อน ๆ สมาชิกในที่แห่งนี้ทุก ๆ คน โดยเฉพาะผมเองได้ติดตามมาตั้งแต่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก ก็คือเมื่อสมัย ที่ ๒๕ จนกระทั่งวันนี้พี่น้องประชาชนรวมถึงพวกเราก็ยังคงเฝ้าติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดิน ทำกินและที่อยู่อาศัย เพื่ออะไรครับ ๑. ตามที่พวกเราได้นำเสนอกันว่าประชาชนเขาทุกข์ แน่นอนครับ ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง ถามว่าทุกข์อย่างไรครับ นอกจาก คำว่าไม่มี ทุกข์เพราะว่าตัวของประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่นั้นได้ทำกินกันมาตั้งแต่สมัย บรรพบุรุษ อย่างที่เพื่อนสมาชิกพูดอีกละครับ บางที่ บางครอบครัวทำกินกันมา ๑๐๐ ปี ตั้งแต่บรรพบุรุษ จนกระทั่งมีสภา สส. มีการจัดตั้งสภามากี่ยุคกี่สมัยแล้ว ผมเองพูดและติดตามมาโดยตลอด เมื่อเดือนที่แล้วก็พูดกับท่านประธานวันมูหะมัดนอร์ เช่นเดียวกันว่าในสมัยของท่านประธานวันมูหะมัดนอร์ท่านก็มีดำริ คงมีความต้องการที่จะ แก้ไข วันนี้ผมก็คงไม่อารัมภบทเยอะ แล้วก็คงจะไม่พูดในรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่ผมอยากที่จะมานำเสนอว่าเหตุไฉนเราจึงอยากที่จะร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิก ฝ่ายรัฐบาลหรือสมาชิกฝ่ายค้านในสมัยที่แล้วจนถึงสมัยนี้ ทุกคนอยากให้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ให้จบจริงไหมครับท่านประธาน เพราะฉะนั้นสมัยนี้ก็เช่นเดียวกัน เราถามกลับกันว่า แล้วทำไมในทุก ๆ สมัยเลยถึงแก้กันไม่จบสักที ทั้ง ๆ ที่มีทั้งคณะกรรมาธิการสามัญ และคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทำไมไม่จบ เพราะว่าวนอยู่เดิม ซ้ำอยู่เดิม ผมเคยนำเสนอ แล้วก็อยากจะนำเสนอตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่าวิธีที่เราจะแก้กันง่าย ๆ เราเอาในสิ่งที่เคยศึกษา มาแล้วเอาขึ้นมาเถอะครับ เอาขึ้นมาก่อนเลย ผมยกตัวอย่างในทุก ๆ จังหวัดจะมี กบร.กจ. เพราะฉะนั้นให้เอาส่วนที่ผ่านการพิสูจน์สิทธิขึ้นมาก่อน หยิบยกเลยครับ นอกเหนือจาก การผ่านพิสูจน์สิทธิแล้ว ก็ยังจะมีในอีกหลาย ๆ ส่วนที่ทับซ้อนกัน เพราะว่าที่ดินนั้นไม่ได้มีแค่ ที่ราชพัสดุ ไม่ใช่มีแค่ที่ของทหาร ไม่ใช่มีแค่ที่ของอุทยาน มันเป็นที่ทับซ้อนกันเยอะครับ หลังจากนั้นผมก็อยากจะนำเสนอว่าก็ให้เจ้ากระทรวงแต่ละกระทรวงนั้นมาคุยกัน ในส่วนที่ ประชาชนเขาเข้าไปทำกินอยู่อาศัยกันมานานแล้วเราจะทำอย่างไรกันดี ให้เขาไม่โดนข้อหา บุกรุก วันนี้มันเจ็บเหลือเกินกับที่ดิน ถ้าพูดเป็นภาษาบ้าน ๆ มรดกตกทอดจนมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน แต่เขาโดนคำว่า บุกรุก เพราะฉะนั้นผมอยากจะนำเสนอรัฐบาล ผมเองได้มี โอกาสพูดคุยกับท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งกำกับดูแลกรมที่ดิน ท่านบอกว่าเราพร้อมจะทำ แล้วเราพร้อมทำกัน มานานแล้ว วันนี้ขออย่างเดียว ขอให้เป็นดำริของท่านนายกรัฐมนตรี ให้ฟังเสียงของพวกเรา แทนประชาชน หยิบขึ้นมา ลำดับเลยครับ นอกเหนือจากการพิสูจน์แล้ว ยังจะมีบอกดิน ๑ บอกดิน ๒ บอกดิน ๓ ที่รัฐบาลที่แล้วใช้เทคโนโลยีจับ GPS เข้ามาทำ มันก็มีอยู่ใน Record แล้วท่านประธานครับ
แล้วนอกเหนือจากนั้น ปัญหาและอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งก็คืองบประมาณ เมื่อปีที่แล้วงบประมาณของกรมที่ดินได้รับการจัดสรรเพิ่มขึ้น แต่ไม่เยอะครับ เพียงแค่ ๘๐ กว่าล้านบาท ตัวเลขกลม ๆ ๖,๐๐๐ กว่าล้านบาท ถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิด แล้วถามว่า ๘๐ กว่าล้านบาท จะทำอะไรได้บ้าง วันนี้ปัญหาในฐานะที่ผมเคยนั่งเป็นกรรมาธิการวิสามัญ แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย แล้วบวกกับการได้รับฟังปัญหาของข้าราชการในส่วนของ กรมที่ดิน ไม่มีบุคลากรที่เพียงพอ โดยเฉพาะชุดเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินชุดรังวัด ผมเคยพูด ในสภาแล้วก็ติดตามว่าในสมัยก่อนทั้งประเทศไทยมีชุดเดินสำรวจออกโฉนดเพียง ๑๓ ชุด ยังไม่พอต่อการทำงานเลย และวันนี้ชุดเดินสำรวจผมได้ยินว่าเหลือเพียง ๖ ชุด ผมก็จะ ไม่ก้าวย้อนกลับไปโทษรัฐบาลไหน ๆ ก็แล้วแต่ แต่ผมอยากจะฝากกับทางท่านประธาน โดยสรุปถึงรัฐบาลนี้ แล้วก็ถึงพวกเราทุกคนว่าเราต่างมีหัวใจอันเดียวกันที่จะต้องการให้ พี่น้องประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดินทำกิน และผมขออีกนิดหนึ่งครับ ผมขอพูดอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็จะเสริมจากท่านศักดิ์ดา ซึ่งผมก็พูดในสมัยที่แล้วว่านอกเหนือ จากการที่ถ้าอันไหนเราไม่สามารถออกโฉนดได้ แต่เรายังมีเปิดโอกาสได้ คือให้ประชาชน ที่ทำกินตรงนั้นเช่า วันนี้ผมขอพูดเป็นครั้งที่ ๓ แต่เป็นครั้งแรกของสมัยที่ ๒๖ แห่งนี้ มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว อยู่ที่จังหวัดราชบุรี อยู่ที่สวนผึ้ง เป็นที่ดินของทหารที่ทหารใช้ ในการทหารอยู่ แต่ว่าทหารไม่ได้ใช้อะไรครับ ทหารจึงตกลงในส่วนของพัสดุ กระทรวงการคลัง แล้วก็กระทรวงกลาโหม มาคุยกันกับกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งให้ประชาชนที่ทำกินตรงนั้น ทำกินอย่างถูกต้องโดยการให้เช่า และนอกเหนือจากนั้นเขาไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของนายทุน ในสัญญาเช่า หรือว่านิติกรรมนั้นสามารถเอาไปทำธุรกรรมกับสถาบันทางการเงินได้ ผมหวังว่า ในประเด็นที่ผมพูดนี้จะได้ยินไปถึงคณะผู้บริหาร และพวกเราจะมาช่วยกันไม่ให้พี่น้อง ประชาชนโดนคำว่า บุกรุก อีกต่อไป ขอให้มันจบที่รุ่นเราชุดที่ ๒๖ จริง ๆ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีครับ ท่านประธานครับเมื่อวานนี้ผมเองได้ลงพื้นที่ ในตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เพราะว่าได้รับการร้องเรียนจาก พี่น้องชาวนาในเขตตำบลตะคร้ำเอน ตำบลดอนชะเอม ตำบลสนามแย้
ซึ่งในการร้องเรียนนั้นคือร้องเรียน เกี่ยวกับมหากาพย์ของ Motorway สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ๘๑ ครับเนื่องจากว่าเดิมที ที่ผ่าน ๆ มาตั้งแต่สมัยที่แล้วที่ผมเป็นผู้แทนมา เรื่องของ Motorway มีปัญหาอยู่ต่อเนื่อง มาโดยตลอดโดยเฉพาะการก่อสร้างทำให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะ ในเรื่องของถนน Motorway โครงการนี้ได้ขวางทางน้ำ แล้วต้องกราบขอบพระคุณ ท่านศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการในขณะนั้นที่แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องมาโดยตลอด ในช่วงที่เกิดปัญหา และวันนี้ในบริเวณจุดที่กำลังก่อสร้างด่านเก็บเงินของตอนที่ ๑๘ ถึงตอนที่ ๑๙ ตอนที่ ๒๐ อยู่บริเวณวัดตะคร้ำเอน ก็กำลังก่อสร้างและทำให้ โครงการที่กำลัง ก่อสร้างตรงนี้นั้นขวางทางน้ำ ทางผู้ควบคุมงานแล้วก็หน้างานบอกว่าสร้างท่อแล้วครับ แต่เมื่อวานผมลงไปดูในพื้นที่การสร้างท่อมันสูงกว่าระดับน้ำ ก็เลยไม่ทราบว่าจะสร้างทำไม สร้างให้เกิดปัญหาเพื่ออะไร จึงฝากท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ Project หรือว่าผู้ควบคุมหน้างานช่วยดูและประเมินก่อน แล้วก็ให้แก้ไขปัญหาโดยด่วนครับ เรื่องแรก
แล้วก็เรื่องที่ ๒ ไม่มีรูปครับเป็นเรื่องที่ผมได้รับการร้องเรียนจากนายก องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสา ท่านจำลอง สุวรรณประเสริฐ เรื่องของการให้ในส่วน ของโยธาธิการจังหวัด ได้ช่วยไปดำเนินการสร้างสะพานให้ใหม่ในเส้นข้ามแม่น้ำแม่กลอง ก็คือจากเทศบาลตำบลลูกแก ข้ามไปยังตำบลท่าเสา ที่เรียกว่าสะพานเก่ามีอยู่สะพานเดียว มันพังแล้วครับ ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน พรรคภูมิใจไทย ท่านประธานครับ วันนี้ผมเรื่องเร่งด่วน ที่จะพูดในทุก ๆ ช่วงนี้ในทุก ๆ ปี จริง ๆ แล้วไม่ได้อยากพูดในทุก ๆ ปี แต่เป็นเพราะว่า ได้รับการร้องเรียนจากพ่อแม่พี่น้องชาวนาของจังหวัดกาญจนบุรี ผมต้องนำเรียนอย่างนี้ครับ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีเกษตรกรหรือว่าทำเกษตรกรรมในหลาย ๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอ้อยที่ผมติดตามมาโดยตลอด แต่วันนี้ขอติดตามน้ำให้กับพี่น้องชาวนาครับ เมืองกาญจน์มีเขื่อนใหญ่ด้วยกันอยู่ ๒ เขื่อน ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ์แล้วก็เขื่อนศรีนครินทร์ และนอกเหนือจากนั้นเขื่อน ๒ เขื่อนนี้ไม่ใช่แค่ผลิตน้ำ ไม่ใช่แค่เก็บน้ำ ยังผลิตไฟฟ้า แต่ที่สำคัญมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของชาวนา เพราะว่าวันนี้กำลังที่จะเข้าสู่ฤดูการทำนาปรัง พี่น้องชาวนาได้รับข่าวว่าปีนี้อาจจะไม่ได้น้ำทำนาปรัง มันทำให้พี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีนั้น เกิดความรู้สึกว่า น้ำที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีก็คือน้ำของคนเมืองกาญจน์ที่จะส่งไปยัง จังหวัดต่าง ๆ แต่ทำไมชาวนาของเมืองกาญจน์ถึงจะโดนให้น้ำแค่ผ่านหน้าไป เพราะฉะนั้น ผมพูดในทุกปีผมจึงจะฝากกับท่านประธานไปยังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ โดยเฉพาะที่กำกับดูแลเรื่องของน้ำนั้น ผมคิดว่าท่านสามารถที่จะจัดสรรน้ำ ให้กับพี่น้องชาวจังหวัดกาญจนบุรีในการทำนาปรังได้เหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมาครับ ชาวนา บอกว่าทุก ๆ ครั้งจะต้องพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่า ๘๐๐,๐๐๐ ไร่ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่ไม่อยากให้นำผ่านหน้าไปครับ ฝากท่านประธานไปถึงท่านรัฐมนตรีด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
ท่านประธานครับ ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ๒๘๙ แสดงตนครับ
กราบเรียนท่านประธานสภา ที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน พรรคภูมิใจไทย จังหวัดกาญจนบุรีครับ
เรื่องแรก ผมมีเรื่องที่ปรึกษา ท่านประธานไปยังกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขวงการทางจังหวัดกาญจนบุรีครับ ในช่วงนี้เป็นช่วงสิ้นปี จังหวัดกาญจนบุรีจะมีคนเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวมากมายครับ เพราะว่าเป็นเมืองที่ใกล้ แล้วก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เยอะ สิ่งที่ผมเป็นห่วงครับ ผมเคยร้องขอ ต่อกระทรวงมาโดยตลอด ก็คือถนนหมายเลข ๓๒๓ ทางเข้าจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ที่ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา ชำรุด ยังซ่อมแซมหรือว่ายังปรับปรุงไม่จบมานานแล้ว แล้วก็อย่างที่บอกเมื่อ สักครู่ครับว่าการท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะ ผมเป็นห่วงเรื่อง ความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะไฟส่องสว่าง แล้วก็เส้นของถนนนะครับ
เรื่องที่ ๒ ขอให้ปรับปรุงถนนเลียบคลองสายกระเจาบ่อยา จริง ๆ แล้วขออภัย ใช้คำพูดผิดครับ อยากจะให้ทำใหม่เลย ถนนสายปรับปรุงเลียบคลองกระเจาบ่อยา เชื่อมไปบ่อ สุพรรณ ตำบลทุ่งคอก จังหวัดสุพรรณบุรี ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน แล้วก็ร้องเรียนกับ ผมมาในทุก ๆ ช่องทางนะครับ
เรื่องที่ ๓ เป็นเรื่องที่ติดตามครับ ขอสะพานลอยบริเวณหน้าโรงเรียน วัดพระแท่นดงรังวิทยาคาร ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำตำบล ตำบลใหญ่มาก ๆ แล้วก็มีอุบัติเหตุ บ่อยครั้งนะครับ เพราะว่าเป็นนักเรียนที่มีจำนวนเยอะ แล้วก็ในขณะเดียวกันวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นอารามหลวงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีด้วยครับ
แล้วก็เรื่องสุดท้ายที่ผมจะอดพูดไม่ได้ ก็คือผมจะต้องขอกราบขอบพระคุณ ทางท่านพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนะครับ ผมเอง เป็นตัวแทนชาวไร่อ้อย ซึ่งได้ติดตามปัญหาของชาวไร่อ้อยที่ค้างมาตั้งแต่สมัยที่แล้ว นั่นก็คือ เงินชดเชยไม่ให้จุดไฟเผาอ้อย ๑๒๐ บาท ซึ่งตัวผมเองทราบว่าวันนี้ท่านพิมพ์ภัทรา และคณะรัฐมนตรีดันจนสุดความสามารถ และจะมอบให้เป็นของขวัญให้กับชาวไร่อ้อย ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ผมขอกราบขอบพระคุณรัฐบาล และท่านรัฐมนตรีพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ไว้ด้วยครับ ขอบพระคุณครับ
ที่ดินคือหัวใจ น้ำใช้คือชีวิต เรียนท่านประธานสภาที่เคารพครับ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย เขตที่ ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวนครับ
เรื่องแรก ที่ผมจะขอนำเรียนกับท่านประธานไปยังกรมที่ดิน กระทรวง มหาดไทย นั่นก็คือเรื่องขอให้ทบทวนคำสั่งหนังสือสั่งการของกรมที่ดินที่ลงวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ และขอให้ยกเลิกในข้อ ๑.๑๗ เพราะว่าตามมติ ครม. วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ให้ราษฎรเจ้าของที่ดินนำเจ้าหน้าที่ที่ดินรังวัดได้เดินสำรวจเพื่อจะพิสูจน์สิทธิ ของตนเองว่า ได้ทำประโยชน์มาก่อนพระราชกฤษฎีกาหวงห้าม พ.ศ. ๒๔๘๑ แล้วก็ได้ดำเนินการมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อพิสูจน์สิทธิเสร็จแล้วที่ทำประโยชน์มาก่อน ปี ๒๔๘๑ โดยอาศัยภาพถ่ายทางอากาศในชุดแรก เมื่อปี ๒๔๙๕ รวมทั้งเอกสารสิทธิ รวมถึง พยานบุคคลว่า ที่ดินแปลงที่ได้นำเดินพิสูจน์สิทธินั้นสามารถที่จะออกเอกสารสิทธิได้ ผลปรากฏว่ามีทั้งหมดอยู่ประมาณ ๕๐,๐๐๐ แปลง แต่ว่าใน ๕๐,๐๐๐ แปลงนั้น สิ่งที่ พิสูจน์สิทธิได้ที่สมบูรณ์มีด้วยกันอยู่ทั้งหมด ๓ ประเภทครับ ประเภทแรกอยู่ทั้งหมด ๒๓,๐๐๐ แปลง ประเภทแรก ก็ประกอบไปด้วยที่ดินที่สมบูรณ์ คือผ่านการพิสูจน์สิทธิ ได้อยู่อาศัย และได้ทำกินอยู่ประมาณทั้งหมด ๔,๐๐๐ แปลง แล้วก็บางส่วนอยู่ประมาณ ๗,๐๐๐ แปลง คำว่า บางส่วนอยู่ประมาณ ๗,๐๐๐ แปลง นั่นคือเชื่อได้ว่าอาจจะมีการทำกิน ก่อนปี ๒๔๘๑ และส่วนสุดท้ายครับ ที่ไม่เชื่อว่าได้ทำกินก่อนปี ๒๔๘๑ อยู่ประมาณ ๑๒,๐๐๐ แปลง ท่านประธานครับ ในทั้งหมดนี้ ๒๓,๐๐๐ แปลง มีส่วนที่สามารถที่จะ พิสูจน์สิทธิแล้วก็ออกเอกสารสิทธิได้อยู่ทั้งสิ้น ประมาณ ๑๑,๐๐๐ แปลง แต่ว่าในปัจจุบัน ชุดเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินซึ่งเป็นความหวัง เป็นหัวใจของพี่น้องประชาชนที่รอคอยโฉนด มา ๘๐ กว่าปี ไม่สามารถที่จะดำเนินการเดินออกโฉนดได้ เพราะว่าหนังสือสั่งการฉบับนี้ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในห้วงเวลาที่กำหนด เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ตามที่ผมได้กล่าวกับท่านประธานข้างต้น ได้มีหนังสือออกจากอธิบดีมาว่าให้หยุด และ หลังจากนั้นแปลงที่ยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์สิทธิจะให้ไปร้องต่อศาลปกครอง ถามว่าทำแบบนี้ เพื่ออะไรครับ หลอกให้ประชาชนอยากแล้วจากไปหรือครับ ฝากกรมที่ดินทบทวนและ ดึงมาใช้เพื่อประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ขอบพระคุณครับ
ท่านประธานครับ ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ๒๘๙ แสดงตนครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เขต ๓ พรรคภูมิใจไทย ท่านประธานครับ
เรื่องแรก ผมพูดมานานแล้วก็คือ เรื่องขอให้ซ่อมถนนสาย ๓๒๓ ซึ่งเป็นประตูสู่เมืองกาญจน์ ระยะเวลานานมากแล้ว โดยเฉพาะในส่วนที่เป็น กม. ๒๔ บริเวณทางเข้าวัดดงสัก ซึ่งประกอบไปด้วยผู้สัญจรหลัก ๆ ๔ ตำบลด้วยกัน มีอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก ตามรูปครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งจะเกิดครับ เขาเรียกว่าแยกนี้จะเป็นแยกร้อยศพแล้วครับ แต่ว่ากรมทางหลวงนิ่งนอนใจ เราต้องการ ไฟแดง เพื่อที่จะลดอุบัติเหตุครับ
เรื่องที่ ๒ เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ผมเองให้เวลาในส่วนของชุมชนและ เจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องมาประมาณ ๑ เดือนแล้ว ก็ได้รับการแก้ไข แต่มันยังไม่เป็น รูปธรรมครับ ก็คือเป็นคลองที่น้ำเน่ามีระยะทางกว่า ๑๐ กว่ากิโลเมตรด้วยกัน ในระยะ น้ำเน่าของคลองนะครับ ซึ่งผมได้รับการร้องเรียนจาก Facebook แล้วก็ลงไปดูพื้นที่ จากปลายเหตุหรือจากผู้ที่ร้องเรียน ก็คือบริเวณหลังวัดจันทร์ลาดสุขสุวรรณ พอไปถึงบริเวณ หลังวัดจันทร์ลาดสุขสุวรรณเห็นปลาของวัดเน่าลอยตาย จึงทำให้ได้หาไปยังส่วนของต้นเหตุ ต้นเหตุไปถึงบริเวณตำบลอุโลกสี่หมื่นหลังโรงงาน ขออนุญาตเอ่ยนามครับ หลังโรงงาน ไทยฟู้ดส์ซึ่งเป็นโรงงานไก่ โดยเฉพาะชาวบ้านคนทำไร่ได้ส่งรูปมาให้ผม แล้วผมไปดูเอง เป็นจริงครับ มีน้ำที่อยู่ในบ่อบำบัดที่ยังบำบัดไม่เสร็จ ยังเป็นน้ำเน่า ได้ไหลรั่วซึมออกจากบ่อ ลงสู่ลำคลอง อันนั้นคือต้นเหตุ สิ่งที่ผมต้องพูดตรงนี้เพราะว่าอะไรครับ ถามหาผู้รับผิดชอบ ไม่เจอครับ โรงงานได้รับคุณภาพมาตรฐาน ISO14000 ถามว่า ISO14000 เกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมด้วยไหม เกี่ยวข้องด้วย และในขณะเดียวกันโรงงานแห่งนี้มีแรงงานต่างชาติ เฉพาะที่ถูกต้องและทำอยู่ในโรงงาน ๘,๐๐๐ กว่าคน เพราะฉะนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อบต. ในพื้นที่ ผมสอบถามว่ามีการดูแลบริหารจัดการอย่างไร อบต. บอกว่าไม่มีงบในเรื่องของรถขยะ ไม่มีงบในเรื่องที่จะเอามาขุดลอกคูคลอง และนอกเหนือจากแรงงาน ๘,๐๐๐ คน ที่ผมได้กล่าวถึงไปข้างต้นครับท่านประธาน ถามว่า ครอบครัวเขาที่มาทำงานอยู่ใน Area นั้นอีกเท่าไรครับ ถ้าคูณ ๒ ก็ ๑๐,๐๐๐ กว่าคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแค่โรงงานนั้นโรงงานเดียว จำนวนแรงงานที่มาใช้แรงงานมากกว่าคนที่อยู่ใน ตำบลอีกครับ แต่ทาง อบต. บอกว่าไม่มีงบบริหารจัดการ จึงฝากท่านประธานนำเรียนไปยัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ฝากกำชับดูแลเรื่องนี้ แล้วผมจะคอยติดตามจนกว่าพี่น้องเกษตรกร จะได้น้ำดีคืนกลับมาใช้ กราบขอบพระคุณครับ
เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๓ อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี
ท่านประธานครับ เรื่องแรกที่ผม จะหารือกับเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ก็คือทางหลวงชนบท สายเทศบาลตำบลลุกแก ถึงเทศบาลตำบลห้วยกระบอกเป็นรอยเชื่อมต่อ เส้นเชื่อมต่อของจังหวัดกาญจนบุรี แล้วก็ จังหวัดราชบุรี หมายเลข ๓๓๙๔ ตั้งแต่บริเวณสี่แยกเซเว่น-อีเลฟเว่น ดอนขมิ้น หมู่ที่ ๑ มีปัญหาน้ำท่วมขังมาตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี ผมเองก็ได้มีโอกาสร้องเรียนมาหลายครั้ง แล้วก็ทราบว่าเมื่อสมัยที่ผ่านมามีบรรจุอยู่ในแผนแล้ว แต่ปีนี้ไม่มั่นใจว่าจะโดนตัดทิ้งไป หรือเปล่า ฝากท่านประธานติดตามเพื่อที่จะลดปัญหาที่สะสมมานานแล้ว แล้วก็ที่สำคัญครับ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในตำบลนี้ครับ
เรื่องที่ ๒ ก็เป็นเรื่องที่ติดตามอีกเช่นเคยครับ เป็นเรื่องของถนนสาย ท่าเรือ-พระแท่น ๒ เทศบาลอยู่ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีครับ ถนนมีการขยาย ถนนนั้นเป็น ๔ เลน ตั้งแต่เทศบาลตำบลท่าเรือ แต่พอเข้าสู่เทศบาลตำบลพระแท่นเป็นสาย ของถนนทางหลวงเป็นคอขวดครับ ลดลงเหลือแค่เพียง ๒ เลน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และที่สำคัญครับ ตรงนี้บริเวณที่ติดปัญหาอยู่ในส่วนของอุทยาน ผมเคยมีโอกาสพูดคุยกับ ท่านอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ท่านบอกว่าท่านไม่ขัดข้องอะไร เพราะฉะนั้นปีนี้อยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานแล้วก็ทำให้มันจบสิ้น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ครับ เหลืออีกเพียงแค่ ๑ กิโลเมตรเท่านั้นเอง
สุดท้ายเป็นสี่แยกวัดวัดใจ อยู่บริเวณถนนเส้นสาย ๓๔๖ กม. ที่ ๑๐๒+๕๐๐ บริเวณนี้เป็นสี่แยกวัดใจครับ เกิดอุบัติเหตุทุกเดือน เดือนละหลาย ๆ ครั้ง เป็นถนน ที่เชื่อมต่อระหว่างสายกำแพงแสนถึงสายพนมทวน เป็นเส้นตรงตลอด บริเวณเส้นนี้ นอกเหนือจากต้องการไฟแดงแล้วยังต้องการไฟฟ้าส่องสว่างตลอดทั้งเส้นครับ ประตูสู่เมือง กาญจน์อีกเส้นหนึ่งครับ ขอบพระคุณครับ