กราบเรียนท่านประธานครับ ผม กงกฤช หิรัญกิจ ขอเสนอชื่อ นายเกริกไกร จีระแพทย์ เป็นผู้แทนครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม กงกฤช หิรัญกิจ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านเศรษฐกิจนะครับ ก็ขอกราบเรียนว่าเป็น ๑ ใน ๑๖ ของกลุ่มเศรษฐกิจนะครับ ในกลุ่มเศรษฐกิจจริง ๆ ก็ดีใจที่เราได้มีการประชุมกัน แล้วก็พบว่า ในทั้ง ๑๖ คนนี้มีที่มาที่ไปแต่ละด้านครบถ้วนทางด้านเศรษฐกิจนะครับ แล้วมีการหารือกันว่า เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗ ประกอบกับผลการศึกษาเรื่องการปฏิรูปที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้จัดทำ แล้วก็ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้แจกให้กับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ก็จะพบว่าในข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วยทุก ๆ ด้าน มีทั้งทรัพยากรธรรมชาติ มีแรงงาน เมื่อมีการประชุม ในกลุ่มเศรษฐกิจเราก็มีการหารือกันนะครับว่ามีกรรมาธิการที่แยกออกไปแล้ว เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงาน ดังที่ท่านกอบศักดิ์ได้เอ่ยไปก่อนหน้านะครับ ทีนี้จาก ความห่วงใยของเพื่อนสมาชิกหลาย ๆ ท่านที่เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งผมเป็นหนึ่งในที่มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยตรงนะครับ มีเพื่อนผู้ประกอบการ หลายท่านในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ฝากที่จะให้ทำการปฏิรูปในหลาย ๆ เรื่อง ก็ดีใจที่เพื่อนสมาชิกได้เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้วก็อยากเห็น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแยกเป็นชื่อเฉพาะในกรรมาธิการชุดใดชุดหนึ่งนะครับ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ได้มีการหารือกันว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวค่อนข้างมาทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าไป ทางด้านสังคม และเพื่อนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ถามผมอยู่เสมอว่า เมื่อไรกระทรวงการท่องเที่ยวจะแยกออกจากกีฬาเสียทีนะครับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ เราถกเถียงกันมานาน ในวงการท่องเที่ยวเองเราก็พูดกันว่ากระทรวงการท่องเที่ยวเป็น กระทรวงที่แปลก มีทีมงานนักข่าวต้องมี ๒ ทีมนะครับ มีทีมนักข่าวจากกีฬาชุดหนึ่ง มีทีมนักข่าวจากท่องเที่ยวชุดหนึ่ง ทั้ง ๒ ชุดนี้ไม่ทราบซึ่งกันและกัน นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้เราเห็นว่าท่องเที่ยวและกีฬามีความเชื่อมโยงกันอยู่บ้าง แต่ค่อนข้างบาง ๆ ไม่ค่อยไป ด้วยกันเท่าที่ควรนะครับ ด้วยเหตุนี้เองก็จึงได้นำเรียนท่านประธานยกร่างข้อบังคับว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวน่าจะขออนุญาตมาทางด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามผมก็เห็นด้วย กับเพื่อนสมาชิกหลาย ๆ ท่านว่า หากเห็นว่าเศรษฐกิจใหญ่เกินไปก็น่าจะแยก คณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจออกเป็น ๒ ด้าน ด้านหนึ่งคือด้านเรียล เซคเตอร์นะครับ อาจจะเรียกว่าคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการเกษตรอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวและ บริการ ซึ่งทั้ง ๔ เรื่องนี่ผมเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกันเพราะเป็นทางด้านภาคเศรษฐกิจ เรียล เซคเตอร์ ส่วนที่ ๒ ก็คงจะเป็นคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจด้านการเงิน การคลัง และการงบประมาณ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดูแลเศรษฐกิจในมหภาค หากเห็นควรที่จะแยกเศรษฐกิจ ออกเป็น ๒ ด้านนะครับ เพื่อจะให้มีการดูแลในรายละเอียดเพิ่มเติม
ในส่วนที่ ๒ ที่ท่านประธานกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับได้สอบถามว่า จะเห็นด้วยกับขนาดของคณะกรรมาธิการว่าให้มีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก โดยส่วนตัวก็เห็นว่า อยากให้มีขนาดเล็กนะครับ เนื่องจากว่าเรามีเวลาที่ทำงานค่อนข้างจำกัดเพียงไม่กี่เดือน เพราะฉะนั้นแต่ละท่านที่อยู่ในกรรมาธิการควรที่จะต้องใช้ความรู้ความสามารถลงไปใน รายละเอียดด้านใดด้านหนึ่งของตัวเองอย่างแท้จริงนะครับ ไม่สามารถที่จะคร่อมอยู่ใน หลายกรรมาธิการได้ นอกจากนั้นยังจะต้องมีอนุกรรมาธิการอีก ซึ่งจะต้องใส่ใจดูแล ในรายละเอียด เพราะฉะนั้นก็เห็นว่าหากสมาชิกจะสมัครเป็นกรรมาธิการได้เพียงชุดเดียว ผมคิดว่าก็น่าจะมีความเหมาะสม และรวมทั้งให้ได้มีส่วนเลือกในกรรมาธิการวิสามัญ ไม่ประจำอื่น ๆ ที่จะมีตามมาในอนาคต
ในเรื่องสุดท้าย ในเรื่องของรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาที่จะเข้ามาเพิ่มเติม ในกรรมาธิการอีก ๑ ใน ๔ นั้นก็เห็นด้วยกับหลาย ๆ ท่านที่อยากจะให้บุคคลในกรรมาธิการ แต่ละคณะเป็นผู้เลือก แต่เลือกแล้วก็อยากจะให้ส่งรายชื่อนี้มาที่คณะกรรมาธิการกิจการ เพื่อรวบรวมอีกครั้งหนึ่ง เพราะอาจจะมีข้อเสนอที่อาจจะเกิดความซ้ำซ้อนระหว่างกันได้ ก็คิดว่าหากว่ามีการเสนอก็จะเป็นการเติมเต็มของความรู้ความสามารถและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องนั้น ๆ มาสู่กรรมาธิการเสียก่อนในชุดนั้น ๆ แล้วก็ค่อยส่งไปรวบรวมที่ คณะกรรมาธิการกิจการสภาครับ ก็ขอเสนอเพียง ๓ ประเด็นครับ