นายจเร พันธุ์เปรื่อง

  • เรียนท่านสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติที่เคารพ กระผม นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ ขณะนี้มีสมาชิก ลงชื่อมาประชุมจำนวน ๒๒๕ ท่าน เป็นองค์ประชุมได้แล้ว ตามข้อบังคับ ข้อ ๒๐ วรรคสองครับ ผมขออนุญาตกราบเรียนว่าเนื่องจากมีภารกิจเร่งด่วนนะครับ ประกอบกับได้มีรายงาน ของคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (ชั่วคราว) ได้เสนอรายงานต่อสภาปฏิรูป แห่งชาติ ผมจึงได้ขออนุญาตมีหนังสือเชิญท่านสมาชิกมาประชุมเป็นครั้งที่ ๒ นะครับ ครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๗ วันจันทร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ นะครับ ก่อนที่จะ ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระการประชุม ผมขออนุญาตเรียนต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาปฏิรูป แห่งชาติ ผมจึงต้องขออนุญาตดำเนินการโดยเชิญผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดนะครับ คือขออนุญาต เรียนเชิญท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว เพื่อดำเนินการเลือกประธานเฉพาะคราวนะครับ ผมขออนุญาตให้ท่านรองเลขาธิการ ไปเรียนเชิญท่านพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ขึ้นทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราวครับ

    อ่านในการประชุม

  • ๑. นายกษิดิ์เดชธนทัต เสกขุนทด ๒. นายกาศพล แก้วประพาฬ ๓. นายกิตติ โกสินสกุล ๔. นางกัญญ์ฐญาณ์ ภู่สวาสดิ์ ๕. นายกงกฤช หิรัญกิจ ๖. นายกมล รอดคล้าย ๗. นางกอบกุล พันธ์เจริญวรกุล ๘. นางกอบแก้ว จันทร์ดี ๙. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ๑๐. นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ๑๑. นายกิตติภณ ทุ่งกลาง ๑๒. นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ๑๓. นางกูไซหม๊ะวันซาฟีหน๊ะ มนูญทวี ๑๔. นายเกริกไกร จีระแพทย์ ๑๕. นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง ๑๖. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ๑๗. นายโกเมศ แดงทองดี ๑๘. นายโกวิทย์ ทรงคุณ ๑๙. นายโกวิท ศรีไพโรจน์ ๒๐. นายไกรราศ แก้วดี

    อ่านในการประชุม

  • ๒๑. นายไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ๒๒. นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ ๒๓. พลตำรวจตรี ขจร สัยวัตร์ ๒๔. พลอากาศเอก ขวัญชัย เอี่ยมรักษา ๒๕. นายเขมทัต สุคนธสิงห์ ๒๖. นายเข็มชัย ชุติวงศ์ ๒๗. พลอากาศเอก คณิต สุวรรณเนตร ๒๘. นายคณิศร ขุริรัง ๒๙. นายคำนูณ สิทธิสมาน ๓๐. นายคุรุจิต นาครทรรพ ๓๑. นายจรัส สุทธิกุลบุตร ๓๒. นายจรัส สุวรรณมาลา ๓๓. พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา ๓๔. นายจรูญ จึงยิ่งเรืองรุ่ง ๓๕. พลเอก จิระ โกมุทพงศ์ ๓๖. พลเอก จิรพันธ์ เกษมศานติ์สุข ๓๗. พันตำรวจโท จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ๓๘. ว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ ๓๙. นายจีระรัตน์ นพวงศ์ ณ อยุธยา ๔๐. นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ๔๑. นางจุรี วิจิตรวาทการ ๔๒. นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน ๔๓. นางจุไรรัตน์ จุลจักรวัฒน์ ๔๔. นายจุมพล รอดคำดี ๔๕. นายจุมพล สุขมั่น ๔๖. นายเจน นำชัยศิริ ๔๗. นายเจริญศักดิ์ ศาลากิจ ๔๘. พลอากาศเอก เจษฎา วิจารณ์ ๔๙. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ๕๐. นายจำลอง โพธิ์สุข ๕๑. นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน ๕๒. นายเฉลิมพล ประทีปะวณิช ๕๓. นายเฉลิมศักดิ์ อบสุวรรณ ๕๔. นางชัชนาถ เทพธรานนท์ ๕๕. นายชัย ชิดชอบ ๕๖. นายชัยพร ทองประเสริฐ ๕๗. นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ๕๘. นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ๕๙. นายชาลี เจริญสุข ๖๐. นายชาลี เอียดสกุล ๖๑. นายชาลี ตั้งจีรวงษ์ ๖๒. พลเรือเอก ชาญชัย เจริญสุวรรณ ๖๓. นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ ๖๔. นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ๖๕. นายชิตชัย จิวะตุวินันท์ ๖๖. นายชูชัย ศุภวงศ์ ๖๗. นายชูชาติ อินสว่าง ๖๘. พลเอก ชูศิลป์ คุณาไทย ๖๙. นายเชิดชัย วงศ์เสรี ๗๐. นายเชื้อ ฮั่นจินดา ๗๑. นายฐิติ วุฑฒิโกวิทย์ ๗๒. พลโท ฐิติวัจน์ กำลังเอก ๗๓. นางฑิฆัมพร กองสอน ๗๔. นายณรงค์ พุทธิชีวิน ๗๕. นายณรงค์ วรงศ์เกรียงไกร ๗๖. นายณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ๗๗. นายดิเรก ถึงฝั่ง ๗๘. นายดำรงค์ พิเดช ๗๙. นายดุสิต เครืองาม ๘๐. นายดุสิต ลีลาภัทรพันธุ์ ๘๑. พลโท เดชา ปุญญบาล ๘๒. นายเดชฤทธิ์ ปัญจะมูล ๘๓. นางตรึงใจ บูรณสมภพ ๘๔. นางเตือนใจ สินธุวณิก ๘๕. นางถวิลวดี บุรีกุล ๘๖. นายถาวร เฉิดพันธุ์ ๘๗. นายทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ ๘๘. นายทนงศักดิ์ ทวีทอง ๘๙. นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ ๙๐. นางสาวทัศนา บุญทอง ๙๑. นางทิชา ณ นคร ๙๒. นายทิวา การกระสัง ๙๓. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ๙๔. นายเทียนชัย ปิ่นวิเศษ ๙๕. นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์

    อ่านในการประชุม

  • ๙๖. พันเอก ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ๙๗. นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ๙๘. นายธรรมรักษ์ การพิศิษฎ์ ๙๙. นายธวัช สุวุฒิกุล ๑๐๐. นายธวัชชัย ยงกิตติกุล ๑๐๑. พลเอก ธวัชชัย สมุทรสาคร ๑๐๒. นายธวัชชัย อุ่ยพานิช ๑๐๓. นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ ๑๐๔. นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ ๑๐๕. นายธำรง อัศวสุธีรกุล ๑๐๖. พลโท นคร สุขประเสริฐ ๑๐๗. นางนรีวรรณ จินตกานนท์ ๑๐๘. นายนันทวัฒน์ บรมานันท์ ๑๐๙. พลโท นาวิน ดำริกาญจน์ ๑๑๐. นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ๑๑๑. นายนิคม มากรุ่งแจ้ง ๑๑๒. นายนิพนธ์ คำพา ๑๑๓. นายนิพนธ์ นาคสมภพ ๑๑๔. นายนิมิต สิทธิไตรย์ ๑๑๕. นายนิรันดร์ พันทรกิจ ๑๑๖. นายนิอาแซ ซีอุเซ็ง ๑๑๗. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ๑๑๘. นายนำชัย กฤษณาสกุล ๑๑๙. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ๑๒๐. นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ๑๒๑. นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ๑๒๒. นายบุญถิ่น มั่นเกษวิทย์ ๑๒๓. นายบุญเลิศ คชายุทธเดช ๑๒๔. นางเบญจวรรณ สร่างนิทร ๑๒๕. นายประชา เตรัตน์

    อ่านในการประชุม

  • “พระบรมราชโองการ

    อ่านในการประชุม

  • ประกาศ

    อ่านในการประชุม

  • แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • ________________

    อ่านในการประชุม

  • (พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

    อ่านในการประชุม

  • พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่สภาปฏิรูปแห่งชาติได้ลงมติเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้เป็นประธานและรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คือ

    อ่านในการประชุม

  • ๑. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ เป็นประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • ๒. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่หนึ่ง

    อ่านในการประชุม

  • ๓. นางสาวทัศนา บุญทอง เป็นรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่สอง

    อ่านในการประชุม

  • อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ จึงแต่งตั้งให้ผู้มีนามดังกล่าวเป็นประธาน และรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    อ่านในการประชุม

  • ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นปีที่ ๖๙ ในรัชกาล ปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ”

    อ่านในการประชุม

  • “ร่าง

    อ่านในการประชุม

  • ข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • พ.ศ. ....

    อ่านในการประชุม

  • ____________

    อ่านในการประชุม

  • อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓ วรรคสอง และมาตรา ๓๑ วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ สภาปฏิรูป แห่งชาติจึงตราข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติพ.ศ. ....”

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ มีมติให้ ประกาศใช้เป็นต้นไป

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๓ ในข้อบังคับนี้ คำว่า

    อ่านในการประชุม

  • “ข้อบังคับ” หมายความว่า ข้อบังคับการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ พ.ศ. ....

    อ่านในการประชุม

  • “ประธานสภา” หมายความว่า ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “รองประธานสภา” หมายความว่า รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “สภา” หมายความว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “ประธาน” หมายความว่า ประธานของที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “กรรมาธิการ” หมายความว่า กรรมาธิการสามัญหรือกรรมาธิการวิสามัญ

    อ่านในการประชุม

  • “ร่างพระราชบัญญัติ” หมายความรวมถึง ร่างพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญด้วย

    อ่านในการประชุม

  • “บริเวณสภา” หมายความว่า อาณาบริเวณอันเป็นขอบเขตของสภาปฏิรูป แห่งชาติ และให้หมายความรวมถึงอาคารที่ทำการต่าง ๆ และอาคารที่ทำการสภาปฏิรูป แห่งชาติด้วย

    อ่านในการประชุม

  • “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “การประชุม” หมายความว่า การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ

    อ่านในการประชุม

  • “รัฐธรรมนูญ” หมายความว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔ ให้ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติรักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอำนาจ ออกระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามข้อบังคับนี้

    อ่านในการประชุม

  • หมวด ๑ การเลือกประธานสภาและรองประธานสภา ข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๗

    อ่านในการประชุม

  • หมวด ๒

    อ่านในการประชุม

  • อำนาจและหน้าที่ของประธานสภา

    อ่านในการประชุม

  • รองประธานสภา และเลขาธิการ

    อ่านในการประชุม

  • __________

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑๐ ประธานสภามีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) เป็นประธานของที่ประชุมสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ควบคุมและดำเนินกิจการของสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ควบคุมการรักษาความสงบเรียบร้อยในที่ประชุมสภาตลอดถึง บริเวณสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๔) เป็นผู้แทนสภาในกิจการภายนอก

    อ่านในการประชุม

  • (๕) แต่งตั้งกรรมการเพื่อดำเนินกิจการใด ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อกิจการ ของสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๖) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้หรือตามที่กำหนดไว้ใน ข้อบังคับนี้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑๑ รองประธานสภามีอำนาจและหน้าที่ช่วยประธานสภาในกิจการ อันเป็นอำนาจและหน้าที่ของประธานสภา หรือปฏิบัติการตามที่ประธานสภามอบหมาย

    อ่านในการประชุม

  • เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภา หรือมีแต่ไม่อยู่หรือไม่สามารถ ปฏิบัติหน้าที่ได้ ในกรณีที่มีรองประธานสองคน ให้รองประธานคนที่หนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ประธานสภา ถ้ารองประธานสภาคนที่หนึ่งไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานสภาคนที่สองเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานสภา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑๒ เลขาธิการมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) นัดประชุมสภา และนัดประชุมคณะกรรมาธิการครั้งแรก

    อ่านในการประชุม

  • (๒) เชิญผู้เป็นประธานชั่วคราวของที่ประชุมสภาและที่ประชุม คณะกรรมาธิการเข้าปฏิบัติหน้าที่

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ช่วยประธานในการควบคุมการนับคะแนนเสียง

    อ่านในการประชุม

  • (๔) จัดทำรายงานการประชุมและบันทึกการออกเสียงลงคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • (๕) ยืนยันมติของสภาไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง

    อ่านในการประชุม

  • (๖) รักษาสรรพเอกสารและข้อมูลของสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๗) ควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบที่ประธานสภากำหนดไว้

    อ่านในการประชุม

  • (๘) กำกับดูแลการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตาม กฎหมายและข้อบังคับอย่างมีประสิทธิภาพ

    อ่านในการประชุม

  • (๙) หน้าที่อื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้หรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑๐) ปฏิบัติการอื่นตามที่ประธานสภามอบหมาย

    อ่านในการประชุม

  • หมวด ๓

    อ่านในการประชุม

  • การประชุม

    อ่านในการประชุม

  • __________

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนที่ ๑

    อ่านในการประชุม

  • วิธีการประชุม

    อ่านในการประชุม

  • __________

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑๓ การประชุมย่อมเป็นการเปิดเผย เว้นแต่ประธานสภา คณะรัฐมนตรี หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา ร้องขอให้ประชุมลับ ก็ให้ประชุมลับ

    อ่านในการประชุม

  • การประชุมเปิดเผย ให้บุคคลภายนอกเข้าฟังการประชุมได้ตามระเบียบ ที่ประธานสภากำหนด และประธานสภาต้องจัดให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมทาง เครื่องขยายเสียงและวิทยุโทรทัศน์วงจรปิดภายในบริเวณสภา โดยจัดให้มีล่ามภาษามือด้วย ส่วนการถ่ายทอดสดการประชุมทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือโดยวิธีอื่น ที่ประชาชนทั่วไปสามารถรับได้อย่างทั่วถึง ให้เป็นไปตามที่ประธานสภากำหนด เว้นแต่ เมื่อมีการพิจารณาการปฏิรูปด้านต่าง ๆ หรือการเสนอแนะ พิจารณาและให้ความเห็นชอบ ร่างรัฐธรรมนูญให้มีการถ่ายทอดสด

    อ่านในการประชุม

  • การประชุมลับ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าฟังการประชุม เว้นแต่ผู้ที่ได้รับ อนุญาตจากประธาน และห้ามใช้เครื่องบันทึกเสียง เครื่องบันทึกภาพ หรือเครื่องมือสื่อสาร ใด ๆ ยกเว้นการบันทึกของสภา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๑๔ การประชุมให้เป็นไปตามกำหนดที่สภามีมติไว้ แต่ประธานสภา จะสั่งงดการประชุมครั้งใดก็ได้เมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องที่สมควรจะบรรจุเข้าระเบียบวาระ การประชุม

    อ่านในการประชุม

  • ในกรณีที่ประธานสภาเห็นสมควร หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสี่ ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาเข้าชื่อร้องขอต่อประธานสภาให้เรียกประชุม เป็นพิเศษ ก็ให้เรียกประชุมได้

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนที่ ๒

    อ่านในการประชุม

  • การเสนอญัตติ

    อ่านในการประชุม

  • __________

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๓๘ ญัตติทั้งหลายต้องเสนอล่วงหน้าเป็นหนังสือต่อประธานสภา และต้องมีจำนวนสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่าห้าคน ทั้งนี้ เว้นแต่ข้อบังคับนี้ได้กำหนดไว้ โดยเฉพาะเป็นอย่างอื่น

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๓๙ ญัตติที่เสนอต่อสภาเพื่อพิจารณา ต้องเป็นญัตติที่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของสภาเท่านั้น

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๐ ให้เป็นอำนาจของประธานสภาที่จะวินิจฉัยว่าญัตติใดเป็นญัตติที่ เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของสภาหรือไม่ และเมื่อวินิจฉัยแล้วหากเป็นญัตติที่ไม่เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่ของสภา ให้แจ้งผู้เสนอญัตติทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ประธานสภาวินิจฉัย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๐ วรรคสอง

    อ่านในการประชุม

  • ให้ประธานสภาบรรจุญัตติที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของสภาตามวรรคหนึ่ง เข้าระเบียบวาระการประชุมภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ประธานสภาวินิจฉัย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๑ ญัตติขอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาคณะใดคณะหนึ่ง หรือญัตติขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญหรือคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อกระทำกิจการ พิจารณา หรือศึกษาเรื่องใด ๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภา ถ้าสมาชิก เป็นผู้เสนอต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าสิบคน

    อ่านในการประชุม

  • ญัตติตามวรรคหนึ่ง กรณีขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ หรือคณะกรรมาธิการวิสามัญแล้วแต่กรณีนั้น จะต้องระบุกิจการหรือเรื่องให้ชัดเจนและไม่ซ้ำ หรือซ้อนกัน และจะต้องไม่ซ้ำหรือซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ประจำสภาคณะต่าง ๆ

    อ่านในการประชุม

  • ให้เป็นอำนาจของประธานสภาที่จะวินิจฉัยว่าญัตติใดเป็นญัตติตามวรรคสอง หรือไม่ และเมื่อวินิจฉัยแล้วให้แจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ประธานสภาวินิจฉัย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๒ ญัตติต่อไปนี้ไม่ต้องเสนอล่วงหน้าหรือเป็นหนังสือ

    อ่านในการประชุม

  • (๑) ขอให้ปรึกษาเป็นเรื่องด่วน

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ขอเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุม

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ขอให้ลงมติตามข้อ ๓๐ หรือข้อ ๓๒

    อ่านในการประชุม

  • (๔) ญัตติในข้อ ๔๓ ข้อ ๖๗ ข้อ ๖๘ ข้อ ๖๙ ข้อ ๑๒๖ หรือข้อ ๑๓๑ วรรคสอง

    อ่านในการประชุม

  • (๕) ญัตติที่ประธานอนุญาตตามที่เห็นสมควร

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๓ เมื่อที่ประชุมกำลังพิจารณาญัตติใดอยู่ ห้ามเสนอญัตติอื่นขึ้นมา พิจารณา เว้นแต่ญัตติ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) ขอให้รวมระเบียบวาระการประชุมที่เป็นเรื่องเดียวกัน ทำนองเดียวกัน หรือเกี่ยวเนื่องกันเพื่อพิจารณาพร้อมกัน

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ขอให้ส่งปัญหาไปยังคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณา หรือขอให้บุคคลใด ส่งเอกสารหรือมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ขอให้รวมหรือแยกประเด็นพิจารณาหรือลงมติ

    อ่านในการประชุม

  • (๔) ขอให้เลื่อนการปรึกษาหรือพิจารณา

    อ่านในการประชุม

  • (๕) ขอให้ปิดอภิปราย ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงผู้ยังไม่ได้อภิปรายด้วย

    อ่านในการประชุม

  • (๖) ขอให้ยกเรื่องอื่นขึ้นปรึกษาหรือพิจารณา

    อ่านในการประชุม

  • ญัตติตาม (๒) (๔) (๕) หรือ (๖) เมื่อที่ประชุมลงมติเห็นชอบตามที่เสนอแล้ว ห้ามไม่ให้เสนอญัตติอื่นในข้อนี้อีก

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๔ ญัตติตามข้อ ๔๓ (๕) และ (๖) ห้ามเสนอในคราวเดียวกับ การอภิปรายของตน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๕ ในกรณีที่ที่ประชุมลงมติให้ยกเรื่องอื่นขึ้นปรึกษาหรือพิจารณา ให้ญัตติเดิมเป็นอันตกไป

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๖ ญัตติที่เสนอล่วงหน้าเป็นหนังสือ ผู้เสนอและผู้รับรองต้องลงลายมือชื่อ ในญัตตินั้น

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๗ ญัตติที่ไม่ต้องเสนอล่วงหน้าเป็นหนังสือ ให้ผู้รับรองแสดงการรับรอง โดยวิธียกมือขึ้นพ้นศีรษะ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๘ การแก้ไขเพิ่มเติมญัตติหรือการถอนญัตติที่ประธานสภาสั่งบรรจุ ระเบียบวาระการประชุมและได้ส่งให้สมาชิกแล้ว จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอม ของที่ประชุมสภา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๔๙ การถอนคำแปรญัตติจะกระทำเมื่อใดก็ได้ แต่การขอแก้ไขเพิ่มเติม คำแปรญัตติจะกระทำได้เฉพาะภายในกำหนดเวลาแปรญัตติ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๐ การถอนชื่อจากการเป็นผู้ร่วมกันเสนอญัตติใด หรือจากการเป็น ผู้รับรอง จะกระทำได้เฉพาะก่อนที่ประธานสภาสั่งบรรจุญัตตินั้นเข้าระเบียบวาระ การประชุม ในกรณีที่ประธานสภาสั่งบรรจุญัตตินั้นเข้าระเบียบวาระการประชุมแล้ว จะถอนชื่อได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของที่ประชุมสภา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๑ ญัตติใดถึงวาระพิจารณาในที่ประชุมแล้ว การเสนอญัตติซึ่งมีลักษณะ ทำนองเดียวกันจะกระทำมิได้

    อ่านในการประชุม

  • ญัตติหรือคำแปรญัตติใดถึงวาระพิจารณาในที่ประชุมแล้ว ถ้าผู้เสนอญัตติ หรือผู้แปรญัตติไม่ชี้แจงในที่ประชุม หรือผู้เสนอญัตติหรือผู้แปรญัตติไม่อยู่ในที่ประชุม โดยไม่มีผู้ชี้แจงแทนในฐานะผู้รับมอบหมาย ญัตติหรือคำแปรญัตตินั้นเป็นอันตกไป เว้นแต่ ที่ประชุมสภาจะพิจารณาเห็นเป็นอย่างอื่น

    อ่านในการประชุม

  • การมอบหมายให้ชี้แจงแทนต้องมอบแก่สมาชิกและทำเป็นหนังสือยื่นต่อ ประธานสภา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๒ ญัตติใดตกไปแล้ว ห้ามมิให้นำญัตติซึ่งมีลักษณะทำนองเดียวกัน ขึ้นเสนออีก เว้นแต่ประธานสภาจะอนุญาตในเมื่อพิจารณาเห็นว่าพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนที่ ๓

    อ่านในการประชุม

  • การอภิปราย

    อ่านในการประชุม

  • _________

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๓ ผู้มีสิทธิอภิปรายก่อนคือผู้เสนอญัตติ แต่ถ้าผู้เสนอญัตติมีหลายคน ให้ประธานอนุญาตให้ใช้สิทธิอภิปรายก่อนได้เพียงคนเดียว

    อ่านในการประชุม

  • กรรมาธิการซึ่งได้สงวนความเห็น กรรมาธิการผู้รับมอบหมายจากกรรมาธิการ ซึ่งได้สงวนความเห็น ผู้แปรญัตติซึ่งได้สงวนคำแปรญัตติ หรือสมาชิกผู้รับมอบหมายจาก ผู้แปรญัตติซึ่งได้สงวนคำแปรญัตติไว้ในขั้นคณะกรรมาธิการให้มีฐานะเสมือนเป็นผู้แปรญัตติด้วย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๔ เมื่อผู้อภิปรายก่อนตามข้อ ๕๓ ได้อภิปรายแล้ว การอภิปราย ในลำดับต่อไปจะต้องเป็นการอภิปรายสลับกันระหว่างฝ่ายคัดค้านและฝ่ายสนับสนุน เว้นแต่ในวาระของฝ่ายใดไม่มีผู้อภิปราย อีกฝ่ายหนึ่งจึงอภิปรายซ้อนได้

    อ่านในการประชุม

  • การอภิปรายไม่สนับสนุนและไม่คัดค้านย่อมกระทำได้โดยไม่ต้องสลับ และมิให้นับเป็นวาระอภิปรายของฝ่ายใด

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๔ เมื่อผู้อภิปรายก่อนตามข้อ ๕๓ ได้อภิปรายแล้ว การอภิปราย ในลำดับต่อไปให้คำนึงถึงการอภิปรายสลับกันระหว่างผู้เห็นด้วยและผู้ไม่เห็นด้วย เว้นแต่ ในวาระของฝ่ายใดไม่มีผู้อภิปราย อีกฝ่ายหนึ่งจึงอภิปรายซ้อนได้ ตัดวรรคสองออกนะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๕ ถ้ามีผู้ขออภิปรายหลายคน ประธานจะให้คนใดอภิปรายก็ได้ แต่ให้คำนึงถึงผู้เสนอญัตติ ผู้แปรญัตติ ผู้รับรองญัตติหรือผู้รับรองคำแปรญัตติ และผู้ซึ่ง ยังไม่ได้อภิปรายด้วย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๖ การอภิปรายต้องอยู่ในประเด็นหรือเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังปรึกษา กันอยู่ภายในระยะเวลาที่ประธานกำหนด โดยต้องไม่ฟุ่มเฟือย วนเวียน ซ้ำซาก หรือซ้ำกับ ผู้อื่น หรือใช้ภาษาต่างประเทศโดยไม่จำเป็น และห้ามมิให้นำเอกสารใด ๆ มาอ่าน หรือนำวัตถุใด ๆ มาแสดงในที่ประชุมสภา เว้นแต่ประธานจะอนุญาต

    อ่านในการประชุม

  • ห้ามผู้อภิปรายแสดงกิริยาหรือใช้วาจาอันไม่สุภาพ ใส่ร้าย หรือเสียดสีบุคคลใด และห้ามกล่าวถึงพระมหากษัตริย์หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น

    อ่านในการประชุม

  • หากประธานเห็นว่าผู้อภิปรายฝ่าฝืน ให้ประธานเตือนผู้อภิปรายทราบก่อน หากผู้อภิปรายยังฝ่าฝืนอีก ประธานจะให้ผู้นั้นหยุดอภิปรายก็ได้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๗ ถ้าประธานเห็นว่าผู้ใดได้อภิปรายพอสมควรแล้ว ประธานจะให้ผู้นั้น หยุดอภิปรายก็ได้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๘ สมาชิกผู้ใดต้องการประท้วงว่ามีการฝ่าฝืนข้อบังคับ ให้ยืนและยกมือ ขึ้นพ้นศีรษะ ประธานต้องให้โอกาสผู้นั้นชี้แจง แล้วให้ประธานวินิจฉัยว่าได้มีการฝ่าฝืน ข้อบังคับตามที่ประท้วงหรือไม่ คำวินิจฉัยของประธานถือเป็นเด็ดขาด ให้นำความ ในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่ผู้ถูกอภิปรายพาดพิงถึงเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอื่นใด อันเป็นที่เสียหายแก่ผู้นั้น และเมื่อประธานวินิจฉัยว่าการอภิปรายนั้นเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับ ผู้อภิปรายต้องถอนคำพูดตามคำสั่งของประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๕๙ เมื่อมีผู้ประท้วงตามข้อ ๕๘ ผู้อภิปรายอาจถอนคำพูดของตน หรือตามคำวินิจฉัยของประธานได้

    อ่านในการประชุม

  • ถ้าผู้อภิปรายไม่ถอนคำพูดตามคำวินิจฉัยของประธาน ให้ประธานบันทึก การไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยไว้ในรายงานการประชุม

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๐ การอภิปรายเป็นอันยุติ เมื่อ

    อ่านในการประชุม

  • (๑) ไม่มีผู้ใดอภิปราย

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ที่ประชุมลงมติให้ปิดอภิปราย

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ที่ประชุมลงมติให้ยกเรื่องอื่นขึ้นปรึกษา

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๑ ในกรณีที่ประธานพิจารณาเห็นว่าได้อภิปรายกันพอสมควรแล้ว หรือมีผู้เสนอญัตติตามข้อ ๔๓ (๕) จะขอให้ที่ประชุมวินิจฉัยว่าจะปิดอภิปรายหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงผู้ซึ่งยังไม่ได้อภิปรายด้วย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๒ เมื่อการอภิปรายได้ยุติแล้ว ห้ามผู้ใดอภิปรายอีก เว้นแต่ที่ประชุม จะต้องลงมติในเรื่องนั้น จึงให้ผู้ซึ่งมีสิทธิอภิปรายก่อนคนใดคนหนึ่งในแต่ละญัตติ มีสิทธิอภิปรายสรุปได้อีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ที่ประชุมจะลงมติ เมื่อการอภิปราย ได้สิ้นสุดแล้วให้ประธานให้สัญญาณแจ้งสมาชิกที่มาประชุมทราบก่อนลงมติ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๓ ประธานอาจอนุญาตให้บุคคลใด ๆ ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อที่ประชุมสภาก็ได้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๔ ถ้าประธานให้สัญญาณด้วยการเคาะค้อนหรือยืนขึ้น ให้ผู้ที่กำลังพูด หยุดพูดและนั่งลงทันที และให้ทุกคนนั่งฟังประธาน

    อ่านในการประชุม

  • ในกรณีอ่านพระบรมราชโองการ หรือกระแสพระราชดำรัส ให้ผู้อยู่ใน ที่ประชุมสภายืนฟังด้วยอาการสำรวมตลอดเวลาที่อ่าน

    อ่านในการประชุม

  • ส่วนที่ ๔

    อ่านในการประชุม

  • การลงมติ

    อ่านในการประชุม

  • ___________

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๕ ในกรณีที่จะต้องมีมติของสภา ให้ประธานมีสัญญาณให้สมาชิกทราบ เพื่อแสดงตนก่อนลงมติ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๖ การลงมติต้องมีสมาชิกมาแสดงตนครบองค์ประชุม โดยให้ถือเอา เสียงข้างมาก เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับนี้

    อ่านในการประชุม

  • เสียงข้างมากนั้น ในกรณีมีความเห็นของที่ประชุมสภามีสองฝ่าย ให้ถือเอา จำนวนคะแนนเสียงฝ่ายที่มากกว่า และในกรณีความเห็นของที่ประชุมสภามีเกินสองฝ่าย ให้ถือเอาจำนวนคะแนนเสียงฝ่ายที่มากที่สุด

    อ่านในการประชุม

  • ในกรณีมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง เป็นเสียงชี้ขาด การออกเสียงชี้ขาดของประธาน ให้กระทำเป็นการเปิดเผยโดยจะให้เหตุผล หรือไม่ก็ได้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๗ ภายใต้บังคับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ การออกเสียงลงคะแนน ให้กระทำเป็นการเปิดเผย เว้นแต่เมื่อสมาชิกเสนอญัตติโดยมีผู้รับรองไม่น้อยกว่าสิบคน ขอให้กระทำเป็นการลับจึงให้ลงคะแนนลับ แต่ถ้ามีสมาชิกคัดค้านและมีผู้รับรองมากกว่า หนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกในที่ประชุมสภาก็ให้ลงคะแนนโดยเปิดเผย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๘ การออกเสียงลงคะแนนเปิดเผยมีวิธีปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) ใช้เครื่องออกเสียงลงคะแนนตามที่ประธานสภากำหนด

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ยกมือขึ้นพ้นศีรษะพร้อมกับแสดงบัตรลงคะแนน ผู้เห็นด้วยให้แสดง บัตรลงคะแนนสีน้ำเงิน ผู้ไม่เห็นด้วยให้แสดงบัตรลงคะแนนสีแดง ส่วนผู้ไม่ออกเสียงให้แสดง บัตรลงคะแนนสีขาว โดยบัตรลงคะแนนดังกล่าวให้สมาชิกลงลายมือชื่อและหมายเลข ประจำตัวสมาชิกกำกับไว้ด้วย

    อ่านในการประชุม

  • (๓) เรียกชื่อสมาชิกตามลำดับอักษรให้ออกเสียงลงคะแนนเป็นรายคน ตามวิธีที่ประธานกำหนด

    อ่านในการประชุม

  • (๔) วิธีอื่นใดซึ่งที่ประชุมเห็นสมควรเฉพาะกรณี

    อ่านในการประชุม

  • การออกเสียงลงคะแนนเปิดเผยนั้นให้ใช้วิธีตาม (๑) จะใช้วิธีตาม (๒) (๓) หรือ (๔) ได้ ต่อเมื่อสมาชิกเสนอญัตติและที่ประชุมสภาอนุมัติ หรือเมื่อมีการ นับคะแนนเสียงใหม่ตามข้อ ๗๕

    อ่านในการประชุม

  • การออกเสียงลงคะแนนเปิดเผยตาม (๑) ให้ใช้เครื่องออกเสียงลงคะแนนได้ จนกว่าประธานจะได้สั่งปิดการออกเสียงลงคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • การออกเสียงลงคะแนนเปิดเผยตาม (๒) ให้ประธานสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปรับ บัตรลงคะแนนจากสมาชิกมาเพื่อดำเนินการตรวจนับคะแนนต่อไป

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๖๙ การออกเสียงลงคะแนนลับมีวิธีปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) ใช้เครื่องออกเสียงลงคะแนนตามที่ประธานสภากำหนด

    อ่านในการประชุม

  • (๒) เขียนเครื่องหมายบนแผ่นกระดาษใส่ซองที่เจ้าหน้าที่จัดให้ ผู้เห็นด้วย ให้เขียนเครื่องหมายถูก (√) ผู้ไม่เห็นด้วยให้เขียนเครื่องหมายกากบาท (×) ส่วนผู้ไม่ออกเสียง ให้เขียนเครื่องหมายวงกลม (o)

    อ่านในการประชุม

  • (๓) วิธีอื่นใดซึ่งที่ประชุมเห็นสมควรเฉพาะกรณี

    อ่านในการประชุม

  • การออกเสียงลงคะแนนลับตาม (๑) ให้ใช้เครื่องออกเสียงลงคะแนนได้ จนกว่าประธานจะได้สั่งปิดการออกเสียงลงคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • เมื่อจะมีการออกเสียงลงคะแนนลับตาม (๒) ให้สมาชิกนั่งลงในที่ที่จัดไว้ และให้ประธานสั่งให้เจ้าหน้าที่แจกกระดาษและซองให้แก่สมาชิกทุกคน และเมื่อสมาชิก เขียนเครื่องหมายบนแผ่นกระดาษใส่ซองแล้ว ให้ประธานสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปรับมา เพื่อส่งให้แก่กรรมการตรวจนับคะแนนดำเนินการต่อไป และในการตรวจนับคะแนน ให้ประธานเชิญสมาชิกจำนวนห้าคนเป็นกรรมการตรวจนับคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๐ ก่อนออกเสียงลงคะแนนลับ ให้ประธานให้สัญญาณแจ้งสมาชิกทราบ เพื่อพร้อมที่จะออกเสียงลงคะแนนลับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๑ ลำดับการลงมตินั้นให้ลงมติในญัตติสุดท้ายก่อนแล้วย้อนเป็นลำดับ ไปหาญัตติต้น แต่มิให้ถือว่าความผิดพลาดในการเรียงลำดับดังกล่าวมานี้เป็นเหตุให้มติที่ได้ ลงคะแนนและนับคะแนนเสร็จแล้วเป็นอันเสียไป

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๒ ประธานมีอำนาจสั่งให้รวมหรือแยกประเด็นพิจารณาหรือลงมติ เว้นแต่ที่ประชุมสภาจะมีมติเป็นอย่างอื่น

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๓ สมาชิกซึ่งเข้ามาในที่ประชุมระหว่างการออกเสียงลงคะแนน อาจออกเสียงลงคะแนนได้ก่อนประธานสั่งปิดการนับคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๔ เมื่อได้นับคะแนนเสียงเสร็จแล้ว ให้ประธานประกาศมติต่อที่ประชุม สภาทันที ถ้าเรื่องใดที่รัฐธรรมนูญ หรือข้อบังคับนี้กำหนดไว้ว่ามติจะต้องประกอบด้วย คะแนนเสียงถึงจำนวนเท่าใด ก็ให้ประกาศด้วยว่าคะแนนเสียงถึงจำนวนที่กำหนดไว้นั้น หรือไม่

    อ่านในการประชุม

  • ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าได้ประกาศมติต่อที่ประชุมสภาจากผลการออกเสียง ลงคะแนนด้วยวิธีตามข้อ ๖๙ (๒) และ (๓) แล้ว ให้ประธานสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำลาย บัตรออกเสียงลงคะแนนนั้นด้วย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๕ ในการนับคะแนนเสียงครั้งใด ถ้าสมาชิกเสนอญัตติโดยมีผู้รับรอง ไม่น้อยกว่าสิบคนให้มีการนับคะแนนเสียงใหม่ ก็ให้มีการนับใหม่ เว้นแต่คะแนนเสียง มีความต่างกันเกินกว่าสิบคะแนนจะขอให้มีการนับคะแนนเสียงใหม่มิได้

    อ่านในการประชุม

  • การนับคะแนนเสียงใหม่ดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง ให้เปลี่ยนวิธีลงคะแนน เป็นวิธีดังกล่าวตามข้อ ๖๘ หรือข้อ ๖๙ ซึ่งอยู่ในลำดับถัดไป แล้วแต่กรณี เว้นแต่รัฐธรรมนูญ หรือข้อบังคับนี้กำหนดวิธีลงคะแนนไว้โดยเฉพาะเป็นอย่างอื่น

    อ่านในการประชุม

  • เมื่อได้มีการนับคะแนนเสียงโดยวิธีดังกล่าวในข้อ ๖๘ (๓) แล้ว จะขอให้ มีการนับคะแนนเสียงใหม่อีกมิได้

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๖ ญัตติใดไม่มีผู้คัดค้าน ให้ประธานถามที่ประชุมว่ามีผู้เห็นเป็นอย่างอื่น หรือไม่ เมื่อไม่มีผู้เห็นเป็นอย่างอื่น ให้ถือว่าที่ประชุมลงมติเห็นชอบด้วยกับญัตตินั้น

    อ่านในการประชุม

  • ความในวรรคหนึ่งไม่ให้ใช้บังคับแก่เรื่องอื่นใดที่รัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับนี้ กำหนดให้ที่ประชุมวินิจฉัยโดยการออกเสียงลงคะแนน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๗ ให้เลขาธิการจัดทำบันทึกการออกเสียงลงคะแนนของสมาชิก แต่ละคนและเปิดเผยบันทึกการลงมติดังกล่าวไว้ ณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้ เว้นแต่การออกเสียงลงคะแนนเป็นการลับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๗๘ สมาชิกที่ไม่แสดงตนเพื่อลงมติในที่ประชุมสภาตามข้อ ๖๕ เกินกว่า หนึ่งในสามของจำนวนครั้งที่มีการแสดงตนเพื่อลงมติทั้งหมดในรอบระยะเวลาเก้าสิบวัน ให้สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงตามมาตรา ๒๙ ประกอบมาตรา ๙ (๕) ของรัฐธรรมนูญ วันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของแต่ละรอบระยะเวลาให้เป็นไปตามที่ประธานสภากำหนด

    อ่านในการประชุม

  • กรณีที่สมาชิกไม่แสดงตนเพื่อลงตามวรรคหนึ่งเนื่องจากได้ลาการประชุม โดยได้รับอนุญาตจากประธานสภาหรือสมาชิกไปทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ มิให้ถือว่าสมาชิกผู้นั้นไม่แสดงตนเพื่อลงมติและมิให้นับจำนวนครั้ง ที่มีการแสดงตนเพื่อลงมติ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สมาชิกได้รับอนุญาตให้ลาการประชุม หรือไปทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ รวมเป็นจำนวนครั้งที่สมาชิกผู้นั้น ไม่ได้แสดงตนเพื่อลงมติตามวรรคหนึ่ง

    อ่านในการประชุม

  • การอนุญาตให้ลาการประชุมตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ประธานสภากำหนด

    อ่านในการประชุม

  • เลขาธิการต้องมีหนังสือแจ้งให้สมาชิกแต่ละคนทราบถึงจำนวนครั้งที่สภา มีมติ และจำนวนครั้งที่สมาชิกคนนั้นได้แสดงตนเพื่อลงมติในรอบสามสิบวันที่ผ่านมา และอาจดำเนินการทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่น ด้วยก็ได้

    อ่านในการประชุม

  • ในกรณีที่ปรากฏว่าสมาชิกผู้ใดไม่ได้แสดงตนเพื่อลงมติเกินกว่าจำนวนครั้ง ที่ได้กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้เลขาธิการแจ้งให้ประธานสภาทราบและให้ประธานสภา แจ้งให้สมาชิกผู้นั้นและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทราบถึงการสิ้นสุดสมาชิกภาพโดยเร็ว

    อ่านในการประชุม

  • สมาชิกที่ได้รับแจ้งถึงการสิ้นสุดสมาชิกภาพตามวรรคห้าอาจใช้สิทธิโต้แย้ง เป็นหนังสือถึงความถูกต้องของการบันทึกการแสดงตนเพื่อลงมติได้ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ ได้รับแจ้งตามวรรคห้าเพื่อให้ประธานสภาวินิจฉัย คำวินิจฉัยของประธานสภาถือเป็นที่สุด

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๘๑ การดำรงตำแหน่งกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาตามข้อ ๘๐ ให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมาธิการสามัญขึ้นคณะหนึ่ง และให้สมาชิกแต่ละคนแสดงความจำนง โดยยื่นต่อคณะกรรมาธิการสามัญตามแบบที่คณะกรรมาธิการสามัญกำหนด เพื่อที่จะ ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาได้ไม่เกินสามคณะ โดยเรียงตามลำดับ ความต้องการ ในกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาคณะใดมีสมาชิกยื่นแสดง ความจำนงจะดำรงตำแหน่งไว้น้อยกว่าหรือเกินกว่าจำนวนที่จะมีได้ในคณะกรรมาธิการ คณะนั้น ให้ใช้วิธีเฉลี่ยโดยหารือกับสมาชิกที่เกี่ยวข้องหรือใช้วิธีจับสลาก ทั้งนี้ การบรรจุ สมาชิกในคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภานั้นให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกแก่สมาชิก ที่ได้รับการสรรหามาในด้านนั้น ๆ

    อ่านในการประชุม

  • การเลือกคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภา ให้ที่ประชุมสภาพิจารณา เลือกจากรายชื่อสมาชิกที่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการสามัญตามวรรคหนึ่ง

    อ่านในการประชุม

  • คณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาคณะใดที่มีจำนวนกรรมาธิการ ไม่น้อยกว่าสิบสามคน ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๘๒ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในระหว่างคณะกรรมาธิการ วิสามัญประจำสภาคณะต่าง ๆ ที่อาจมีความไม่ชัดเจนหรืออาจมีความซ้ำซ้อนกันอยู่ และทำให้เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินกิจการตามภารกิจ ให้เป็นอำนาจของ ที่ประชุมร่วมกันของประธานสภาและประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภา ที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาว่าจะให้คณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาคณะใด มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น

    อ่านในการประชุม

  • หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ประธานสภากำหนด

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๘๓ ให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติขึ้น คณะหนึ่งมีจำนวนไม่เกินยี่สิบแปดคน ประกอบด้วยประธานสภาเป็นประธาน คณะกรรมาธิการ รองประธานสภาคนหนึ่งซึ่งประธานสภามอบหมายเป็นรองประธาน คณะกรรมาธิการ ผู้แทนคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาตามข้อ ๘๐ วรรคสาม ทุกคณะ คณะละหนึ่งคน และเลขาธิการเป็นกรรมาธิการ และให้ที่ประชุมสภาเลือกสมาชิกสภาจาก ตัวแทนในแต่ละด้านอีกไม่เกินแปดคน

    อ่านในการประชุม

  • คณะกรรมาธิการวิสามัญตามวรรคหนึ่ง มีอำนาจหน้าที่กระทำกิจการ พิจารณา หรือศึกษาเรื่องใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) พิจารณาเรื่องอื่นใดตามที่สภามอบหมายหรือตามที่ประธานสภา มอบหมาย

    อ่านในการประชุม

  • (๒) ตรวจรายงานการประชุมและพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเปิดเผย รายงานการประชุมลับ

    อ่านในการประชุม

  • (๓) ตรวจสอบการไม่แสดงตนของสมาชิกตามมาตรา ๒๙ ประกอบมาตรา ๙ (๕) ของรัฐธรรมนูญ

    อ่านในการประชุม

  • (๔) กระทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องใด ๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมาธิการอื่นของสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๕) ประสานงานระหว่างสภากับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในกิจการของคณะกรรมาธิการ

    อ่านในการประชุม

  • (๖) ประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาทุกคณะและสมาชิก เกี่ยวกับการพิจารณารายชื่อสมาชิกหรือบุคคลใด ๆ ที่จะเสนอให้ที่ประชุมสภาเลือกเป็น กรรมาธิการสามัญหรือกรรมาธิการวิสามัญตามข้อ ๘๕ ข้อ ๑๐๒ และข้อ ๑๓๑ แล้วแต่กรณี เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสมและเป็นธรรม

    อ่านในการประชุม

  • (๗) การประสานงานระหว่างคณะกรรมาธิการซึ่งจะเรียกบุคคลมาชี้แจงตาม ข้อ ๘๙ และข้อ ๙๐ เพื่อลดภาระของผู้มาชี้แจง

    อ่านในการประชุม

  • (๘) เสนอแนะต่อประธานสภาเกี่ยวกับการพัฒนาระบบงานสภา และการดำเนินกิจการในด้านต่าง ๆ ของสภา

    อ่านในการประชุม

  • (๙) เสนอแนะต่อประธานสภาเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ต่าง ๆ ให้แก่สมาชิก

    อ่านในการประชุม

  • (๑๐) ให้มีการจัดตั้งศูนย์รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชน เกี่ยวกับการปฏิรูปและการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งคณะกรรมาธิการ วิสามัญรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๘๔ ให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • (๑) คณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามและให้ข้อเสนอแนะการยกร่าง รัฐธรรมนูญ

    อ่านในการประชุม

  • (๒) คณะกรรมาธิการวิสามัญจัดทำวิสัยทัศน์และรูปแบบอนาคตประเทศไทย

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๘๔ (๓) นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • (๓) คณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วม ของประชาชน โดยให้พิจารณาจัดตั้งคณะอนุกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชนประจำภาคหรือจังหวัด ตามความเหมาะสม

    อ่านในการประชุม

  • (๔) คณะกรรมาธิการวิสามัญประชาสัมพันธ์เพื่อการปฏิรูป

    อ่านในการประชุม

  • (๕) คณะกรรมาธิการวิสามัญจัดทำจดหมายเหตุและเจตนารมณ์ในการปฏิรูป ของสภา

    อ่านในการประชุม

  • ให้คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติเร่งดำเนินการจัดตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญตามวรรคหนึ่งโดยกำหนดองค์ประกอบ จำนวนกรรมาธิการ และอำนาจหน้าที่ เสนอต่อสภาเพื่อให้ความเห็นชอบโดยเร็ว

    อ่านในการประชุม